91
3.3) ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาดาเนินการเย่ียมบ้านเพ่ือให้ความชว่ ยเหลือ
นักเรยี นรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน พรอ้ มท้งั อธิบายใหค้ วามรเู้ พมิ่ เตมิ เก่ียวกับเนอ้ื หาใน
ใบความร้แู ละใบงาน
3.4) จัดหาทนุ การศกึ ษา มอบเงนิ คา่ อาหารกลางวัน แจกอาหารเสรมิ (นม)
เพอื่ ให้ความชว่ ยเหลอื นักเรยี นและผ้ปู กครองในเบื้องตน้
3.5) มีการกากับติดตาม ชว่ ยเหลือนกั เรยี นอย่างต่อเนอื่ ง หากนักเรียนขาดเรียน
หรือขาดส่งใบงาน ครคู วรติดตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการแกไ้ ขรว่ มกบั ผ้ปู กครองอย่างทันท่วงที
3.6) มกี ารตดิ ต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนเพื่อช่วยกันดแู ลสอดส่อง
ปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ดว้ ยการส่งตอ่ ข้อมูลข่าวสารท่ีเป็นปจั จุบนั
3.7) ประสานงานกับเจ้าหน้าท่ีสาธารณสขุ องคก์ ารบริหารส่วนตาบล (อบต.)
แจง้ ข่าวสารประชาสมั พนั ธก์ ารป้องกันตัวเองตามช่องทางต่าง ๆ ให้คาปรึกษาแก่ทกุ คนในวธิ กี ารและ
แนวทางการปฏิบตั ติ น และประสานงานหน่วยงานทร่ี บั ผดิ ชอบเพ่ือให้ความช่วยเหลือต่อไป
1.4 สถานศกึ ษาขนาดใหญพ่ ิเศษ
1) ดา้ นการบรหิ ารจัดการ
1.1) ดา้ นบคุ คล (Man)
1.1.1) เนน้ การบริหารแบบมีส่วนร่วม มีการกระจายอานาจหน้าที่
รบั ผิดชอบภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ โดยเปิดโอกาสใหค้ รแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาทกุ คนได้
แสดงความคิดเห็นกวา้ งขวาง
1.1.2) มีการจัดประชุมชี้แจงใหค้ รแู ละบคุ ลากรปฏบิ ัตงิ านตามมาตรการ
ป้องกนั และควบคมุ สถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
อย่างเคร่งครัด มกี ารดาเนนิ การตามนโยบายของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจงั หวัดเชียงใหม่
และร่วมมือกบั สานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาในการวางแผนและบรหิ ารจดั การใหเ้ ปน็ ไปอย่าง
มปี ระสทิ ธิภาพ
1.1.3) คณะครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษารว่ มกนั พิจารณาจัดรปู แบบ
การสอนใหน้ ักเรยี นสามารถเข้าถึงการเรียนการสอนทีม่ ีคุณภาพ เหมาะสมตามบริบทไดอ้ ย่างต่อเน่ือง
1.1.4) มอบหมายให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดการเรยี นการสอน
โดยใชร้ ูปแบบการเรียนการสอนแบบผสมผสาน ทั้งรปู แบบ ONLINE และรปู แบบ ON-HAND เพอ่ื ให้
นกั เรยี นเขา้ ถึงการเรียนรูใ้ ห้มากทส่ี ุด
1.1.5) ทีมงานบรหิ ารและทีมงานวิชาการวางแผน สนับสนนุ สง่ เสรมิ
อานวยความสะดวกให้กับครูผูส้ อนและผู้ปกครองทางานร่วมกันอยา่ งมคี วามสุข
1.1.6) สง่ เสรมิ ใหค้ รูและบคุ ลากรทางการศึกษาเขา้ รบั การพฒั นาตนเอง
ดา้ นการนาแพลตฟอร์มและโปรแกรมประยกุ ตต์ ่าง ๆ มาใช้ผลิตส่ือการเรียนการสอนที่หลากหลาย
บรหิ ารจดั การช้นั เรียนออนไลนใ์ ห้มีประสทิ ธภิ าพ
1.1.7) ใช้กระบวนการ PLC ในการสรปุ ปญั หาและประเมนิ ผลรว่ มกัน
ระหว่างครูและนกั เรียน ครแู ละครู ครูและผู้บริหาร โดยดาเนนิ การอยา่ งเป็นระบบและรายงานผล
การดาเนินการใหผ้ ูบ้ ริหารสถานศึกษาทราบเปน็ ระยะ
92
1.2) ดา้ นงบประมาณ (Money)
1.2.1) มกี ารประชมุ ช้ีแจงงบประมาณ เพื่อรว่ มกนั ปรบั แผนการใชจ้ า่ ย
งบประมาณและขออนุมัติการใช้งบประมาณจากคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พื้นฐาน
1.2.2) ใช้เงนิ อุดหนุนหมวดกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนและเงนิ ค่าจดั การเรยี น
การสอน (รายหวั ) มาใชจ้ ่ายเป็นค่าจัดซือ้ ส่ือ วัสดอุ ปุ กรณ์ ฯลฯ ให้ถูกต้องตามระเบียบของทาง
ราชการ
1.2.3) มกี ารกากบั ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณใหเ้ ป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์
เกดิ ความค้มุ คา่ และมีประสทิ ธภิ าพที่สุด
1.2.4) ประสานขอรับความช่วยเหลอื จากชมรมผ้ปู กครอง ศิษย์เก่า ชุมชน
หน่วยงานอนื่ หรอื องค์กรเอกชนต่างๆ เพื่อใหก้ ารสนบั สนนุ และชว่ ยเหลือสถานศึกษา
1.3) ดา้ นวสั ดุ อปุ กรณ์ และสง่ิ อานวยความสะดวก (Material)
1.3.1) มกี ารประชุมชีแ้ จงกบั คณะครู ผ้ปู กครอง และคณะกรรมการ
สถานศึกษาข้นั พื้นฐานเกี่ยวกับวสั ดุ อุปกรณ์ท่ีต้องใช้การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนในสถานการณ์
ท่ไี ม่ปกติ เพ่ือหาแนวทางรว่ มกัน
1.3.2) สารวจความพร้อมของอุปกรณ์การสอื่ สารและอนิ เทอรเ์ น็ตของ
นกั เรยี น ผปู้ กครอง ครู เพื่อจัดสรรงบประมาณและส่งิ อานวยความสะดวกตามความจาเปน็
1.3.3) จดั สรรงบประมาณในการจดั ซอ้ื ส่ือ วัสดุ อุปกรณ์เกีย่ วกบั การ
จดั การเรียนการสอนเท่าทจี่ าเป็นกอ่ น
1.3.4) ขอรบั การสนบั สนุนเพิ่มเตมิ จากองค์กรภายนอก เช่น เทศบาลตาบล
โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพหรือองค์กรเอกชน ในเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ทจี่ าเปน็ ต้องใชใ้ นการดาเนนิ งาน
ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.4) ดา้ นการบรหิ ารจดั การ (Management)
1.4.1) เน้นการบรหิ ารแบบมีส่วนรว่ ม มกี ารกระจายอานาจหน้าทรี่ บั ผิดชอบ
ภายในองค์กรอย่างเป็นระบบ มกี ารแบง่ การบรหิ ารจัดการเป็นระดับสายช้นั
1.4.2) มกี ารประชมุ ชแ้ี จงนโยบายการจัดการศึกษา แนวปฏบิ ตั ิ/หนงั สือ
สั่งการ คาสัง่ ศนู ย์ควบคมุ โรคติดต่อจงั หวดั ขา่ วคราวความเคลอื่ นไหวตา่ ง ๆ เก่ยี วกับสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ท้ังรูปแบบการประชมุ รวมกันใน
ห้องประชุมโดยปฏิบตั ิตามมาตรการการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา
2019 (COVID - 19) อยา่ งเคร่งครัด การประชมุ รปู แบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Meet,
Line, Facebook ฯลฯ
1.4.3) มกี ารประชาสัมพันธ์ แนะนาและเชญิ ชวนให้ครูและบุคลากรทาง
การศึกษาทุกคนเขา้ รับวคั ซีนปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.4.4) ส่งเสริม สนับสนุนใหค้ รูและบคุ ลากรเข้ารับการอบรมพัฒนาตนเอง
อย่างต่อเน่ือง
1.4.5) มีการนิเทศ กากบั ตดิ ตาม ช่วยเหลือการดาเนนิ งานของครผู ู้สอน
โดยผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาและทมี งานวิชาการ
93
1.4.6) สนับสนุนส่ือ วสั ดุ อุปกรณใ์ นการจัดการเรียนการสอนสาหรับครู
และนักเรียน
1.4.7) ครผู ู้สอนรายงานผลการจัดการเรยี นการสอนรายสัปดาห์ เพ่อื ทราบ
ถึงความกา้ วหน้า อปุ สรรคและหาแนวทางปรบั ปรุงพัฒนาใหด้ ีขึน้ อย่างต่อเน่ือง
2) ด้านการจัดการเรียนการสอน
สถานศกึ ษามีการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) รูปแบบ ON-HAND ON-DEMAND และ ON-LINE โดยมี
รายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้
2.1) การจดั การเรียนการสอนรูปแบบ ON-HAND
2.1.1) ระดับปฐมวัย เนน้ การจดั ทาใบงานเพอื่ ฝึกพฒั นาการทง้ั 4 ด้านของ
นกั เรยี นอย่างต่อเน่ือง
2.1.2) มีการปรับใช้สอ่ื Learning box ของมูลนธิ สิ ตาร์ฟิช ในระดบั ปฐมวัย
ใหม้ ีความเหมาะสมกับบรบิ ทของสถานศึกษา
2.1.3) ครผู ้สู อนระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1-3 ควรออกแบบและจัดทา
ใบงานโดยวิเคราะห์เชื่อมโยงตวั ชีว้ ัดที่ต้องรแู้ ละควรรู้ เนน้ สาระการเรียนรภู้ าษาไทยและคณิตศาสตร์
เปน็ หลกั เพอ่ื ให้นักเรียนอ่านออก เขียนได้และคดิ เลขเปน็
2.1.4) ครูผสู้ อนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4-6 ควรออกแบบและจดั ทาใบงาน
โดยวเิ คราะหเ์ ช่ือมโยงตวั ชว้ี ัดทตี่ ้องรู้และควรรู้ เน้นสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย คณติ ศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษาและภาษาอังกฤษ
2.1.5) ครผู สู้ อนในแต่ละระดับชนั้ ร่วมกันวางแผนวเิ คราะห์ตวั ช้ีวดั ในแต่
ละสาระการเรียนรู้และจดั ทาใบงานแบบบูรณาการ ใหน้ ักเรียนเรียนรู้ผา่ นกิจกรรมตา่ งๆ ทบี่ า้ นแทน
การทาใบงาน ซง่ึ ถือว่าเป็นการจดั กิจกรรมการเรียนรูเ้ ชิงรกุ (Active Learning)
2.1.6) มีการนัดหมายมารบั และสง่ ใบงานตามวนั เวลาที่ผู้ปกครองสะดวก
โดยนดั หมายแบบสลบั ช้ัน เพ่ือเว้นระยะห่างตามมาตรการการป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
2.1.7) มกี ารโทรศัพท์ติดตามงานหรือตั้งกล่มุ ไลน์ของห้องเรยี น เพอื่ เพม่ิ
ชอ่ งทางการตดิ ต่อส่ือสารระหว่างผปู้ กครองและครผู ้สู อน
2.1.8) มกี ารออกเยย่ี มบ้านนักเรยี นหรือออกไปจัดการเรยี นการสอนตาม
หยอ่ มบ้านเพอ่ื ช่วยอธิบายความรู้เพิ่มเติมเกีย่ วกบั การทาใบงาน
2.2) การจดั การเรียนการสอนรปู แบบ ON-DEMAND
2.2.1) ครผู ูส้ อนสรา้ งชอ่ งทางการติดต่อสื่อสารของแต่ละห้องเรียน เพื่อเป็น
ช่องทางติดต่อสื่อสารระหว่างครูกับผู้ปกครองและนักเรียนและเป็นช่องทางในการนาคลิปการสอน
ต่างๆ อพั โหลดเข้าไปในกลุ่มเพือ่ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รยี นร้เู พิ่มเติม
2.2.2) ครูผู้สอนคัดเลือกคลิปการสอนจาก Youtube หรือคลิปที่ครูผู้สอน
สร้างขึ้นเอง โดยวิเคราะห์เช่ือมโยงตัวช้ีวัดท่ีต้องรู้และควรรู้ก่อนอัพโหลดเข้าไปในกลุ่ม Facebook
หรอื Line
94
2.2.3) ครผู ูส้ อนออกแบบใบความรู้และใบงานประกอบการเรยี นรู้จากคลปิ
การสอน
2.2.4) เน้นยา้ ผปู้ กครองไม่ควรใหเ้ ดก็ ปฐมวัยอยู่หนา้ จอนานเกิน 1 ชว่ั โมง
และตอ้ งอยใู่ นความดูแลของผู้ปกครอง
2.2.5) ส่งเสริมและสนับสนนุ ใหค้ รผู สู้ อนพฒั นาตนเองเกีย่ วกบั การผลิตสื่อ
ออนไลน์
2.3) การจดั การเรียนการสอนรปู แบบ ON-LINE
2.3.1) สารวจความพร้อมของนักเรยี นและผู้ปกครองก่อนจัดการเรยี น
การสอนรปู แบบ ON-LINE เพอื่ ให้ความช่วยเหลือตามความตอ้ งการจาเป็น
2.3.2) จดั การเรียนการสอนรูปแบบ ON-LINEใหก้ ับนักเรยี นควบคไู่ ปกับ
การเรียนการสอนรูปแบบ ON-HAND โดยจัดเป็นการเรียนการสอนเสรมิ ให้กบั นกั เรียนทมี่ คี วามพร้อม
ตามวนั เวลาทีน่ กั เรียนสว่ นใหญ่สะดวก เช่น เวลาค่าท่ีผปู้ กครองกลับมาจากการทางาน
2.3.3) ครูผ้สู อนควรจัดตารางเรยี นท่ีมคี วามยืดหยนุ่ เพื่อให้นกั เรียนเข้าถึง
การเรยี นแบบ ON-LINE ให้มากท่ีสดุ
2.3.4) สง่ เสรมิ และสนับสนุนใหค้ รเู ข้ารบั การพฒั นาตนเองเกี่ยวกบั
การจดั การเรยี นการสอน ON-LINE
3) ดา้ นการดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน
3.1) มกี ารประชุมครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาเพ่อื สร้างความตระหนักใน
การดูแลช่วยเหลือนักเรยี นดา้ นการเรยี นรูใ้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา
2019 (COVID - 19)
3.2) จัดทาแบบคดั กรอง วิเคราะหน์ ักเรยี น จัดกลุ่ม วิเคราะหน์ ักเรียนเปน็
รายบคุ คล นามาสงั เคราะห์และแกป้ ญั หาใหแ้ กน่ ักเรยี นเป็นรายบุคคล หาวธิ ีการแนวทางใน
การสง่ เสรมิ นักเรียน
3.3) ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาดาเนินการเย่ียมบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลอื
นักเรยี นรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน พรอ้ มทัง้ อธบิ ายให้ความรู้เพม่ิ เติมเก่ียวกับเน้ือหาใน
ใบความร้แู ละใบงาน
3.4) จดั หาทุนการศึกษา มอบเงนิ คา่ อาหารกลางวัน แจกอาหารเสริม (นม)
เพอ่ื ให้ความชว่ ยเหลอื นกั เรียนและผู้ปกครองในเบื้องต้น
3.5) มีการกากบั ติดตาม ชว่ ยเหลือนกั เรยี นอย่างต่อเนอ่ื ง หากนกั เรยี นขาดเรยี น
หรอื ขาดส่งใบงาน ครคู วรตดิ ตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการแกไ้ ขร่วมกับผปู้ กครองอย่างทันท่วงที
3.6) มีการตดิ ต่อประสานงานกบั หน่วยงานในชุมชนเพ่ือชว่ ยกนั ดูแลสอดส่อง
ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ดว้ ยการส่งตอ่ ข้อมูลข่าวสารท่ีเปน็ ปจั จบุ นั
3.7) ประสานงานกบั เจา้ หนา้ ท่สี าธารณสขุ องค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.)
แจ้งข่าวสารประชาสมั พนั ธก์ ารป้องกันตวั เองตามชอ่ งทางต่าง ๆ ใหค้ าปรึกษาแก่ทุกคนในวิธกี าร
และ แนวทางการปฏิบตั ิตน และประสานงานหน่วยงานที่รับผดิ ชอบเพื่อให้ความช่วยเหลือตอ่ ไป
95
1.5 สถานศกึ ษาท่เี ป็นโรงเรยี นคุณภาพ ระดบั ประถมศึกษา
1) ดา้ นการบริหารจัดการ
1.1) ด้านบุคคล (Man)
1.1.1) มกี ารบรหิ ารจัดการด้านบุคคลโดยเน้นการบรหิ ารแบบมีส่วนร่วม
เปดิ โอกาสให้ครูและบุคลากรทางการศกึ ษาทกุ คนแสดงความคิดเหน็ อย่างกวา้ งขวาง
1.1.2) มกี ารจดั ประชมุ ชี้แจงใหค้ รูและบุคลากรปฏบิ ัตงิ านตามมาตรการ
ป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)
อย่างเคร่งครดั มีการดาเนนิ การตามนโยบายของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่
และร่วมมือกบั สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาในการวางแผนและบริหารจัดการให้เป็นไปอยา่ ง
มีประสิทธภิ าพ
1.1.3) คณะครแู ละบุคลากรทางการศึกษาในแตล่ ะระดบั สายชนั้ รว่ มกัน
พจิ ารณาจัดรปู แบบการสอนให้นกั เรยี นสามารถเข้าถงึ การเรยี นการสอนท่ีมคี ุณภาพ เหมาะสม
ตามบรบิ ทได้อย่างต่อเนื่อง
1.1.4) มอบหมายให้ครูและบุคลากรจัดการเรียนการสอนโดยใช้รปู แบบ
การเรียนการสอนแบบผสมผสาน ทั้งรปู แบบ ON-LINE ON-DEMAND และรปู แบบ ON-HAND
ใหน้ กั เรียนเข้าถึงการเรียนรใู้ ห้มากทสี่ ุด
1.1.5) ทมี งานบริหารและทีมงานวิชาการร่วมวางแผน สนบั สนุน ส่งเสริม
อานวยความสะดวกใหก้ ับครูผู้สอนและผูป้ กครองทางานร่วมกันอย่างมีความสุข
1.1.6) ทีมงานบรหิ ารและทีมงานวชิ าการ กากับ ตดิ ตาม และให้
คาปรึกษาในลกั ษณะของการนเิ ทศออนไลน์ โดยไมส่ ร้างภาระเพ่ิมเติม
1.1.7) มีการประชุม Plc เพอื่ สรุปปญั หา ประเมินผลและหาแนวทางแก้ไข
ปญั หาร่วมกันระหว่างครูและนักเรยี น ครูในแตล่ ะสายชั้น และครูในแตล่ ะสาระการเรยี นรูร้ วมทงั้ ครู
และผ้บู รหิ ารสถานศึกษาอยา่ งสม่าเสมอ และดาเนนิ การอย่างเป็นระบบ
1.1.8) ส่งเสรมิ ให้ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรมพัฒนา
ตนเองด้านการนาแพลตฟอร์มและโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ มาใชผ้ ลิตสอื่ การเรียนการสอนท่ี
หลากหลาย ทง้ั การอบรมออนไลนแ์ ละการอบรมท่สี ถานศึกษาจดั ขนึ้ โดยให้ครูและบุคลากรทาง
การศึกษาแกนนาของโรงเรียนทีม่ ีความรู้ความสามารถด้านคอมพวิ เตอร์มาร่วมแลกเปลี่ยนเรยี นรู้
และช่วยครูสรา้ งส่ือการเรยี นการสอนออนไลนร์ ว่ มกนั
1.2) ด้านงบประมาณ (Money)
1.2.1) ประชมุ ชแี้ จงงบประมาณรว่ มกนั เพื่อปรับแผนการใช้จา่ ย
งบประมาณและขออนุมัติการใช้งบประมาณจากคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน
1.2.2) ใช้เงินอดุ หนุนหมวดกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี นและเงนิ ค่าจดั การเรียน
การสอน (รายหวั ) รวมท้งั ไดร้ ับการจดั สรรงบประมาณ(งบดาเนนิ งานจากโครงการโรงเรยี นคุณภาพ)
มาใช้จ่ายเป็นค่าจัดซ้ือสอื่ วัสดอุ ปุ กรณ์ ฯลฯ ท่จี าเปน็ ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนใหก้ ับ
นักเรียนในสถานการณ์ที่ไมป่ กติ
96
1.2.3) ดาเนินการเบิกจา่ ยงบประมาณต่างๆ ให้ถูกต้องตามระเบยี บของทาง
ราชการ
1.2.4) มกี ารกากับติดตามการใชจ้ า่ ยงบประมาณให้เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์
เกิดความคุ้มคา่ และมปี ระสทิ ธิภาพท่ีสดุ
1.2.5) ประสานขอรับความช่วยเหลอื จากชมรมผปู้ กครอง ศษิ ยเ์ ก่า ชมุ ชน
หนว่ ยงานอ่ืนหรอื องค์กรเอกชนต่างๆ
1.3) ด้านวสั ดุ อุปกรณ์ และสิ่งอานวยความสะดวก (Material)
1.3.1) มกี ารประชมุ ชแ้ี จงกบั คณะครู ผปู้ กครอง และคณะกรรมการ
สถานศึกษาข้ันพ้นื ฐานเกยี่ วกับวัสดุ อปุ กรณ์ทตี่ ้องใชก้ ารจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนในสถานการณ์
ทไี่ ม่ปกติ เพ่ือหาแนวทางร่วมกนั
1.3.2) สารวจความพรอ้ มของอุปกรณ์การสอื่ สารและอนิ เทอรเ์ นต็ ของ
นักเรียน ผูป้ กครอง ครู เพ่ือจัดสรรงบประมาณและสิ่งอานวยความสะดวกตามความจาเป็น
1.3.3) จัดสรรงบประมาณในการจัดซอ้ื สื่อ วสั ดุ อุปกรณเ์ กย่ี วกับ
การจดั การเรยี นการสอนเทา่ ท่ีจาเป็นก่อน
1.3.4) ขอรับการสนับสนนุ เพิ่มเตมิ จากองคก์ รภายนอก เชน่ เทศบาลตาบล
โรงพยาบาลสง่ เสริมสขุ ภาพหรอื องคก์ รเอกชน ในเรื่องวสั ดุ อุปกรณ์ทีจ่ าเป็นต้องใชใ้ นการดาเนินงาน
ตามมาตรการการป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.4) ด้านการบรหิ ารจดั การ (Management)
1.4.1) สถานศกึ ษามีการกระจายอานาจหน้าทร่ี ับผดิ ชอบภายในองค์กร
อยา่ งเปน็ ระบบ มกี ารแบง่ การบรหิ ารจัดการเปน็ ระดบั สายชน้ั
1.4.2) มกี ารประชุมชีแ้ จงนโยบายการจัดการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ิ/หนังสือ
สง่ั การ คาส่ังศนู ย์ควบคุมโรคตดิ ตอ่ จงั หวัด ขา่ วความเคลื่อนไหวตา่ ง ๆ เกยี่ วกับสถานการณก์ ารแพร่
ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ทั้งรปู แบบการประชุมรวมกนั ในห้องประชมุ
โดยปฏิบัตติ ามมาตรการการเฝา้ ระวงั ปอ้ งกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID - 19) อยา่ งเครง่ ครดั การประชุมรปู แบบออนไลน์ด้วยโปรแกรม Google Meet, Line,
Facebook ฯลฯ
1.4.3) มกี ารประชุมออนไลน์ผ้ปู กครองในแตล่ ะระดบั ชั้นเป็นประจาทุก
เดอื น เพื่อสรา้ งความเขา้ ใจร่วมกนั ระหวา่ งครูและผปู้ กครองในการจดั การเรียนการสอนใน
สถานการณ์ท่ีไม่ปกติ
1.4.4) มีการประชาสมั พันธ์ แนะนาและเชิญชวนให้ครูและบุคลากรทาง
การศึกษาทุกคนเข้ารับวคั ซนี ปอ้ งกันการแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.4.5) สง่ เสริม สนบั สนุนให้ครูและบคุ ลากรพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เน่ือง
1.4.6) มกี ารนิเทศภายใน กากบั ติดตาม ช่วยเหลือการดาเนนิ งานของ
ครูผสู้ อนจากทีมบริหารและทีมวชิ าการของสถานศึกษา
1.4.7) ครูผ้สู อนรายงานผลการจัดการเรยี นการสอนรายสัปดาห์ เพอ่ื ทราบ
ถงึ ความกา้ วหนา้ อปุ สรรคและหาแนวทางปรบั ปรุงพัฒนาให้ดีขนึ้ อย่างต่อเน่ือง
97
2) ด้านการจัดการเรยี นการสอน
สถานศกึ ษามกี ารจัดการเรยี นการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) รูปแบบ ON-HAND ON-DEMAND และ ON-LINE โดยมี
รายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปน้ี
2.1) การจัดการเรยี นการสอนรปู แบบ ON-HAND
2.1.1) ครผู สู้ อนระดับปฐมวัย ออกแบบและจดั ทาใบงานท่ีเนน้ การฝกึ
พัฒนาการทัง้ 4 ดา้ นของนักเรยี นอย่างต่อเนื่อง จดั ทาใบความรู้ และมอบหมายใบงานประจาหน่วย
การเรยี น จัดกจิ กรรมการเสริมทกั ษะ ระดบั ปฐมวัย ฝกึ อ่านพยญั ชนะไทย และฝึกคัดพยัญชนะไทย
ฝึกนับเลข และฝึกคัดเลขไทยและเลขอารบกิ ฝกึ อา่ น A-Z และฝึกคดั พยัญชนะภาษาอังกฤษ
2.1.2) ครูผู้สอนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 1-3 ออกแบบและจดั ทาใบงานโดย
วิเคราะหเ์ ชื่อมโยงตวั ช้ีวดั ท่ีต้องรแู้ ละควรรู้ เน้นสาระการเรยี นรู้ภาษาไทยและคณติ ศาสตร์เปน็ หลัก
2.1.3) ครูผู้สอนช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4-6 ออกแบบและจดั ทาใบงาน
โดยวิเคราะหเ์ ช่ือมโยงตัวชว้ี ดั ทตี่ อ้ งรู้และควรรู้ เน้นใบงานสาระการเรียนรภู้ าษาไทย คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ สังคมศกึ ษาและภาษาอังกฤษ
2.1.4) ครูผสู้ อนระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ออกแบบและจัดทาใบงาน
โดยวิเคราะหเ์ ช่อื มโยงตวั ชี้วดั ทีต่ ้องรแู้ ละควรรู้ เนน้ ใบงานสาระการเรียนรู้พ้ืนฐาน
2.1.5) สารวจความพรอ้ มในการจดั การเรียนการสอนในรปู แบบตา่ งๆ
จดั การเรยี นการสอนในรปู แบบ ON-HAND สาหรบั นักเรียนกลุม่ ทไ่ี ม่มีความพร้อมและอุปกรณ์ใน
การเรียน
2.1.6) นดั หมายให้ผู้ปกครองมารบั เอกสารใบงานในรูปแบบ Drive True
เพ่อื ลดความแออดั และการสัมผัส เพอ่ื ป้องกนั การแพร่ระบาดของเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
2.1.7) จดั ตารางสอนและตารางเรยี น โดยยดึ แนวทางตามนโยบายของ
สพฐ. ท่ไี ม่ต้องการใหน้ ักเรียนหรือผปู้ กครองเครยี ดมากเกนิ ไป และมอบหมายงานหรือกจิ กรรมให้
สอดคล้องกบั กจิ วตั รประจาวันของนักเรยี น
2.1.8) ครผู ู้สอนรว่ มกนั วางแผนวิเคราะห์ตวั ช้ีวดั ในแต่ละสาระการเรยี นรู้
และจัดทาใบงานเชงิ บูรณาการ ให้นกั เรียนเรียนรผู้ า่ นกิจกรรมตา่ งๆ ท่บี ้านแทนการทาใบงาน ซึ่งถือ
วา่ เป็นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning)
2.1.9) มกี ารโทรศัพท์ติดตามงานหรือตงั้ กลมุ่ ไลน์ของห้องเรยี น เพ่อื เพิ่ม
ช่องทางการติดต่อสื่อสารระหวา่ งผู้ปกครองและครผู ูส้ อน
2.1.10) ครผู สู้ อนประชุมออนไลน์ผ้ปู กครองอย่างสม่าเสมอเพือ่ ชแี้ จงทา
ความเข้าใจกบั ผูป้ กครองและชว่ ยอธิบายความรู้เพ่มิ เติมเกี่ยวกบั การทาใบงาน
2.2) การจดั การเรยี นการสอนรูปแบบ ON-DEMAND
2.2.1) ครูผู้สอนแต่ละระดับช้ันสร้างช่องทางการติดต่อส่ือสาร ระหว่าง
ครูกับผู้ปกครองและเด็ก เพ่ือนาคลิปการสอนต่างๆ ทั้งจาก Youtube หรือคลิปที่คุณครูสร้างขึ้นเอง
อพั โหลดเข้าไปในกล่มุ เพื่อให้นักเรียนไดเ้ รยี นรูเ้ พ่มิ เติม
98
2.2.2) ครผู ู้สอนคัดเลือกคลปิ การสอนจาก Youtube หรือคลปิ ทีค่ รผู ูส้ อน
สร้างข้นึ เอง โดยวิเคราะหเ์ ชอื่ มโยงตัวชว้ี ดั ท่ตี อ้ งรแู้ ละควรรกู้ อ่ นอัพโหลดเข้าไปในกลุม่ Facebook
หรอื Line
2.2.3) ครูผู้สอนออกแบบใบความรแู้ ละใบงานประกอบการเรยี นรู้จากคลิป
การสอน
2.2.4) เนน้ ย้าผปู้ กครองไม่ควรให้เด็กปฐมวัยอยหู่ น้าจอนานเกิน 1 ช่วั โมง
และต้องอยู่ในความดแู ลของผู้ปกครอง
2.2.5) สง่ เสรมิ และสนับสนนุ ให้ครูผู้สอนพัฒนาตนเองเก่ยี วกับการผลิต
ส่อื ออนไลน์
2.3) การจดั การเรยี นการสอนรูปแบบ ON-LINE
2.3.1) สารวจความพรอ้ มของนักเรียนและผปู้ กครองก่อนจัดการเรยี น
การสอนรปู แบบ ON-LINE เพื่อให้ความชว่ ยเหลอื ตามความต้องการจาเป็น
2.3.2) จดั การเรียนการสอนรูปแบบ ON-LINEใหก้ ับนักเรียนควบคู่ไปกบั
การเรยี นการสอนรปู แบบ ON-HAND โดยจัดเป็นการเรียนการสอนเสรมิ ให้กับนกั เรยี นที่มีความพรอ้ ม
2.3.3) ครผู ้สู อนในแตล่ ะรายวิชาจัดทาสอ่ื การสอนในรูปแบบ Online ทง้ั ที่
เปน็ เนื้อหาในบทเรยี น เกมต่างๆ รวมทั้งใบกจิ กรรมและใบงานโดยวิเคราะหเ์ ชอื่ มโยงตวั ชวี้ ัดทีต่ อ้ งรู้
และควรรู้
2.3.4) เปิดโอกาสให้ครผู สู้ อนเลือกใช้โปรแกรมตา่ งๆ ในการจดั กิจกรรม
การเรียนการสอน ON-LINE ไดต้ ามความถนดั ของตนเอง
2.3.5) ครผู ูส้ อนควรจดั ตารางเรยี นท่ีมคี วามยืดหยุ่นเพ่ือให้นักเรียนเขา้ ถึง
การเรยี นแบบ ON-LINE ใหม้ ากทีส่ ุด
2.3.6) เปดิ โอกาสให้นักเรยี นทม่ี ีปัญหา ติดขัด สงสัย หรอื อยากสะท้อนผล
จากการเรียนไดแ้ สดงความคิดเหน็ และหาแนวทางแก้ไขปัญหารว่ มกันกบั ครผู ้สู อน
2.3.7) สง่ เสริมและสนบั สนนุ ใหค้ รเู ขา้ รับการพัฒนาตนเองเก่ยี วกบั
การจัดการเรยี นการสอน ON-LINE
3) ดา้ นการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรยี น
3.1) มีการประชมุ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาเพ่อื สรา้ งความตระหนักใน
การดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี นดา้ นการเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา
2019 (COVID - 19)
3.2) จัดทาแบบคดั กรอง วิเคราะห์นกั เรียน จัดกลุ่ม วิเคราะหน์ กั เรยี นเปน็
รายบคุ คล นามาสงั เคราะห์และแกป้ ัญหาใหแ้ ก่นักเรียนเป็นรายบคุ คล หาวธิ กี ารแนวทางใน
การสง่ เสรมิ นักเรียน
3.3) ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาดาเนนิ การเยีย่ มบา้ นเพ่ือให้ความชว่ ยเหลอื
นกั เรยี นรายบคุ คล แจกใบความรู้ ใบงาน พรอ้ มทงั้ อธบิ ายให้ความรเู้ พิ่มเตมิ เกี่ยวกับเนอ้ื หาใน
ใบความรู้และใบงาน
99
3.4) จัดหาทนุ การศกึ ษา มอบเงนิ ค่าอาหารกลางวนั แจกอาหารเสริม (นม)
เพอ่ื ให้ความชว่ ยเหลือนกั เรยี นและผปู้ กครองในเบอ้ื งต้น
3.5) มีการกากับติดตาม ชว่ ยเหลือนักเรยี นอย่างต่อเนือ่ ง หากนกั เรียนขาดเรยี น
หรือขาดสง่ ใบงาน ครคู วรตดิ ตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการแก้ไขรว่ มกบั ผู้ปกครองอย่างทันทว่ งที
3.6) มีการจัดประชมุ ผู้ปกครองออนไลน์ อยา่ งสมา่ เสมอ เพื่ออัพเดตแจ้งข่าวสาร
กบั ผปู้ กครองและนกั เรยี นในแต่ละระดับช้ัน แจ้งสถิติการเขา้ ชัน้ เรยี น และการส่งงานในรายวิชาตา่ งๆ
ของนักเรยี น เพื่อให้ผปู้ กครองได้กาชบั ดแู ล นักเรยี นในการเข้าชน้ั เรียนและการส่งงาน ตลอดจน
สะท้อนผลปัญหาท่เี กิดขน้ึ ของผ้ปู กครอง และหาทางแกไ้ ขปัญหาต่างๆร่วมกัน
3.7) มกี ารตดิ ต่อประสานงานกบั หน่วยงานในชุมชนเพื่อช่วยกันดูแลสอดส่อง
ป้องกนั การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 ดว้ ยการสง่ ตอ่ ข้อมลู ข่าวสารที่เป็นปจั จุบนั
3.8) ประสานงานกบั เจา้ หน้าท่ีสาธารณสขุ องค์การบริหารสว่ นตาบล (อบต.)
แจ้งข่าวสารประชาสมั พนั ธก์ ารป้องกนั ตวั เองตามช่องทางต่าง ๆ ใหค้ าปรึกษาแกท่ ุกคนในวิธีการและ
แนวทางการปฏิบตั ิตน และประสานงานหนว่ ยงานท่ีรบั ผิดชอบเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
ตอนที่ 3 ผลการจัดทาข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในระดับสานักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID - 19)
คณะผู้วิจัยได้นาผลการวิเคราะห์ในตอนที่ 2 มาจัดทาเป็น(ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบายการ
สง่ เสริมการจดั การศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อเสนอให้
ผู้เช่ียวชาญพิจารณาวิพากษ์และให้ข้อเสนอแนะ โดยการสัมมนาอิงผู้เช่ียวชาญ (Connoisseurship)
จานวน 15 คน คณะผู้วิจัยขอนาเสนอนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
เขต 3 ดงั รายละเอียด ตอ่ ไปน้ี
1. นโยบายและแนวทางการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาในสถานการณ์การ
แพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.1 ดา้ นบคุ คล (Man)
1.1.1 สร้างความตระหนักให้กับครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาโดยการสื่อสาร
ให้มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(COVID - 19) นโยบายการจัดการศึกษา แนวปฏิบัติ หนงั สอื ส่ังการ คาสงั่ ศนู ยค์ วบคุมโรคติดต่อ
จังหวัด ข่าวความเคลอื่ นไหวต่าง ๆ โดยใชว้ ิธกี ารท่ีหลากหลายภายใต้มาตรการของสาธารณสุข
เชน่ ประชมุ รวมกันในห้องประชมุ การประชมุ ออนไลน์ เป็นตน้
1.1.2 กาหนดมาตรการในการปฏิบัติงานของครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา
ตามความเหมาะสม ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสุขและศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่
ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา2019 (COVID - 19) ของจังหวดั
1.1.3 ประชาสมั พนั ธแ์ ละเชญิ ชวนให้ครูและครูและบุคลากรเข้ารบั วคั ซีน
ปอ้ งกันโรคระบาดโควิด 19 ให้ครบตามท่ีกระทรวงสาธารณสุขกาหนด
100
1.1.4 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ และพัฒนาให้ครูและบุคลากรทางการศกึ ษามีทักษะ
ดา้ นการใชเ้ ทคโนโลยี เพื่อการจดั การเรยี นรู้
1.1.5 ส่งเสริม สนับสนนุ และพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศึกษาด้าน
การสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมการจัดการเรียนรู้ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั
โคโรนา 2019 (Covid-19)
1.1.6 กาหนดให้ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษารายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน
เป็นระยะ ร่วมกิจกรรม PLC เพื่อวเิ คราะหป์ ัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหารว่ มกนั อย่างสม่าเสมอ
1.2 ดา้ นงบประมาณ (Money)
1.2.1 ประชมุ ชแี้ จงกรอบแนวทางการใชจ้ ่ายงบประมาณ เพ่อื ร่วมกันปรบั
แผนการใช้จ่ายงบประมาณและขออนุมัติการใช้งบประมาณจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพืน้ ฐาน
1.2.2 ควรดาเนนิ การเบิกจา่ ยงบประมาณต่างๆ ให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบ
ของทางราชการ
1.2.3 กากับติดตามการใช้จา่ ยงบประมาณให้เป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ เกิด
ความค้มุ คา่ และมีประสิทธิภาพทีส่ ุด
1.2.4 ส่งเสรมิ การระดมทรัพยากรจากชุมชน หน่วยงานอืน่ หรอื องคก์ รเอกชน
1.2.5 สง่ เสริมการสร้างเครือข่ายกับหนว่ ยงานภายนอกใหเ้ ข้ามามสี ่วนรว่ ม ใน
การพัฒนาและแลกเปลี่ยนเรยี นรู้วธิ ีการดาเนินการจัดการเรียนรู้
1.3 ดา้ นวัสดุ อุปกรณแ์ ละส่งิ อานวยความสะดวก (Material)
1.3.1 วางแผนการบรหิ ารจัดการด้านวัสดุ อุปกรณ์ และสง่ิ อานวยความสะดวก
ให้เพียงพอกบั ความตอ้ งการ
1.3.2 จัดหาและพัฒนาส่ือ วสั ดุ อุปกรณเ์ ก่ยี วกบั การจดั การเรยี นการสอน
ภายใตส้ ถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) อย่างมีประสิทธิภาพ
และเพยี งพอต่อความต้องการ
1.3.3 ส่งเสรมิ การระดมทรพั ยากรจากชุมชน หนว่ ยงานอน่ื หรือองคก์ รเอกชน
1.4 ดา้ นการบรหิ ารจดั การ (Management)
1.4.1 ควรกาหนดนโยบาย แผน มาตรการ ส่งเสรมิ การจดั การเรยี นรู้ภายใต้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) อยา่ งเปน็ ระบบและ
เหมาะสมกบั บรบิ ทของสถานศึกษา
1.4.2 เปดิ โอกาสใหค้ ณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พ้นื ฐานเขา้ มามสี ่วนร่วม
ในการจัดการและแกไ้ ขปัญหาในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(Covid-19)
1.4.3 ควรสร้างเครือขา่ ยความรว่ มมอื กับภาครฐั หน่วยงาน เอกชน ผปู้ กครอง
ชุมชนเพอื่ การสนับสนนุ การจัดการเรยี นรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา
2019 (Covid-19)
101
1.4.4 พัฒนารปู แบบการนเิ ทศ ตดิ ตาม เพ่อื การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอน
ในช่วงสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามบริบทของ
สถานศกึ ษา
2. นโยบายและแนวทางการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของสถานศึกษา
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
2.1 สถานศึกษาควรชแ้ี จงทาความเข้าใจกบั ผู้ปกครองในการจัดการเรยี นรู้ภายใต้
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) และจัดทาคมู่ ือการเรยี น
และการปฏบิ ัตติ นสาหรับนักเรียน และผปู้ กครอง เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบตั ิ
2.2 สารวจความพรอ้ มของนักเรยี นและผปู้ กครองในการจดั การเรียนการสอนใน
รูปแบบต่างๆ และจัดการเรยี นการสอนในรูปแบบ ON-HAND สาหรบั นกั เรยี นกล่มุ ที่ไม่มคี วามพร้อม
และอปุ กรณใ์ นการเรียน
2.3 ควรจัดสรรงบประมาณและสนับสนนุ ทรัพยากรการจดั การเรยี นรู้ ให้เพียงพอ
เหมาะสมกบั บริบท ความตอ้ งการจาเปน็ ของสถานศกึ ษาให้ครอบคลุม เพ่อื ลดความเหล่ือมล้าใน
การเขา้ ถึงการศกึ ษา
2.4 วิเคราะหเ์ ชือ่ มโยงตวั ช้วี ดั ท่ีต้องร้แู ละควรรูต้ ามมาตรฐานของหลกั สูตร โดย
เนน้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิชาหลัก
2.5 ส่งเสรมิ การบรู ณาการภาระงาน/ชนิ้ งาน/การบ้านและมอบหมายภาระงาน/
ชิน้ งาน/การบา้ นใหเ้ หมาะสม
2.6 จดั การเรยี นร้แู บบผสมผสานตามความเหมาะสมและบริบทของนักเรยี น
2.7 ควรมคี วามยดื หยุน่ ท้งั รปู แบบการจัดการเรยี นรู้และการวดั ประเมนิ ผล โดย
เนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง
2.8 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ให้ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาเขา้ รับการอบรมพฒั นา
ตนเองเกีย่ วกบั การผลิตสอ่ื การสอนและการจดั การเรียนการสอน ON-LINE
2.9 ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหผ้ ู้บรหิ ารสถานศกึ ษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้
แลกเปลย่ี นเรียนรู้ ในการพฒั นานวัตกรรมการจัดการศึกษาอยา่ งต่อเนือ่ ง
2.10 สง่ เสริม สนับสนนุ ใหผ้ ูบ้ รหิ ารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา
จัดทาสื่อนวตั กรรมผา่ นกระบวนการชุมชนแหง่ การเรียนรูท้ างวิชาชพี (Professional Learning
Community: PLC)
2.11 ส่งเสริมให้ครูใช้กระบวนการวิจยั ในการพฒั นานวัตกรรมการจัดการศึกษา
2.12 สนับสนุนเครอื่ งมือหรือปัจจยั ใหก้ ับครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาตามความ
เหมาะสม และจดั สวสั ดกิ ารในการประกันความปลอดภัย ทัง้ จากการติดเชื้อโรคและอุบัติเหตใุ ห้กบั
ครูที่ออกปฏบิ ตั ิงานนอกพ้นื ที่
2.13 ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนมวี นิ ัยในการเรียนรดู้ ้วยตนเอง เสรมิ สร้างเจตคตติ ่อ
การเรยี นรู้แบบพึ่งพาตนเอง และนกั เรยี นมีอสิ ระทางความคิด สามารถออกแบบการจัดการเรียนร้ไู ด้
ด้วยตนเอง
102
2.14 ส่งเสรมิ ให้นกั เรียนมีความฉลาดร้ใู นการใช้ส่อื เทคโนโลยี (Digital Literacy)
เพ่ือการแสวงหาความรู้ใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพ โดยการสอนให้มีความรู้ ความเขา้ ใจในการใช้และ
การเข้าถึงสื่อเทคโนโลยี รวมท้ังสทิ ธแิ ละความปลอดภัยในการใช้สื่อเทคโนโลยี
2.15 สง่ เสรมิ สนบั สนนุ การรวบรวมสือ่ นวตั กรรม และเทคโนโลยีเปน็ ศูนย์สอ่ื
นวัตกรรมการเรยี นการสอนที่ครูสามารถนามาเผยแพร่ และนาไปแลกเปลยี่ นและแบง่ ปันกันใชใ้ น
การจดั การเรียนรู้ไดอ้ ย่างกวา้ งขวางตามบรบิ ทของสถานศึกษา
2.16 ควรอานวยความสะดวกแกผ่ ู้ปกครองในการติดต่อ ประสานงานและการเขา้
รบั การบรกิ ารต่าง ๆ และการตดิ ตามการเรยี นของนกั เรียนในระหวา่ งการจดั การเรยี นรู้
2.17 พฒั นารปู แบบการนิเทศ ติดตาม เพื่อการพฒั นาการจัดการเรียนการสอน
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามบรบิ ท
ของสถานศึกษา
3. นโยบายและแนวทางการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาในสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
3.1 ประชุมครูและบคุ ลากรทางการศึกษาเพ่ือสรา้ งความตระหนกั ในการดูแล
ช่วยเหลือนกั เรียนด้านการเรยี นรู้ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019
(COVID - 19)
3.2 ควรแตง่ ตัง้ คณะกรรมการดาเนินงานการดูแลช่วยเหลอื นักเรียน โดยมภี าคี
เครือข่ายรว่ มดาเนนิ งาน เชน่ เจา้ หน้าท่ตี ารวจ เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่
ในพน้ื ท่ี เป็นต้น
3.3 ควรดาเนินการคัดกรองนักเรยี นและจดั ทาข้อมลู สารสนเทศโดยการสงั เคราะห์
และแยกกลมุ่ นักเรยี นใหช้ ัดเจน เพือ่ แยกปัญหาและร่วมกันหาทางชว่ ยเหลอื นกั เรียนที่มปี ัญหาแตล่ ะ
ดา้ น เปน็ รายกรณี
3.4 ดาเนนิ การเยย่ี มบ้านเพ่ือใหค้ วามชว่ ยเหลอื นกั เรียนรายบคุ คล แจกใบความรู้
ใบงาน พร้อมทงั้ อธบิ ายให้ความรู้เพมิ่ เตมิ เกีย่ วกบั เนือ้ หาในใบความรแู้ ละใบงาน
3.5 ส่งเสริม สนบั สนุนทุนและปจั จยั พื้นฐานทีจ่ าเป็นเพื่อช่วยเหลอื นกั เรียนที่ได้
รับผลกระทบในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
3.6 ควรให้ครมู ีการติดตามการเรยี น/ตรวจสอบการเรยี น ของนักเรียนทุกวัน
หากพบว่านกั เรียนไมส่ ามารถเรยี นไดอ้ ย่างต่อเน่ืองหลายวนั ซง่ึ ผิดปกตใิ ห้รีบดาเนนิ การแก้ไขปัญหา
อย่างทนั ท่วงที
3.7 ตัง้ กลมุ่ ไลนห์ รือช่องทางอื่น ๆ ร่วมกันระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครอง
เพื่อให้มีสว่ นรว่ มในการสงั เกตพฤติกรรมการเรียน และประเมนิ ผลการเรียนรู้
3.8 มกี ารตดิ ต่อประสานงานกบั หน่วยงานในชมุ ชนเพื่อช่วยกันดแู ลสอดส่องป้องกัน
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยการสง่ ตอ่ ข้อมูลขา่ วสารท่เี ป็นปัจจบุ นั
3.9 ประสานงานกับเจ้าหนา้ ท่ีสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.)
เพ่อื ดูแลความปลอดภัยของนักเรียนทมี่ ผี ู้ปกครองหรือญาติทใ่ี กลช้ ิดเป็นกล่มุ ผู้สมั ผัสโรค กลมุ่ เสย่ี ง
หรอื ติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เพ่ือใหค้ วามชว่ ยเหลอื ต่อไป
บทที่ 5
สรปุ ผล อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ
การวิจยั “ข้อเสนอเชิงนโยบายการจดั การศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3” มีวัตถุประสงค์ดังนี้
1) เพ่ือวิเคราะห์สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต 3 2) เพื่อพฒั นาแนวทางการจดั การศกึ ษาของโรงเรียนในสังกัดสานักงาน
เขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 3) เพือ่ จัดทาข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาใน
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา
ประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 3
การวจิ ยั ครั้งนี้ ศกึ ษาเฉพาะโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา
เชียงใหม่ เขต 3 โดยมกี ารแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ
ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์สภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 (COVID - 19) โดยคณะผู้วิจัยดาเนินการสอบถามผู้บริหารสถานศึกษา นาข้อมูลมาวิเคราะห์
จัดทาเป็นสารสนเทศการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในเขตพ้ืนที่การศึกษา ด้านการบริหารจัดการ
การจดั การเรยี นรู้ และการดูแลช่วยเหลอื นักเรียน
ขั้นตอนท่ี 2 การพัฒนาแนวทางการจัดการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสานักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID - 19) โดยการประชุมระดมความคิด (Brainstorming) นาผลการวเิ คราะห์ในข้ันตอนที่
1 มาประชมุ ระดมความคิดของคณะวิจยั เพ่อื กาหนดแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาสถานศึกษา
ทกุ ลักษณะ ในดา้ นการบริหารจัดการเรยี นรู้ และการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน
ข้ันตอนที่ 3 การจัดทาข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในระดับสานักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 (COVID - 19) โดยการสัมมนาอิงผู้เช่ียวชาญ (Connoisseurship) ดาเนินการจัดประชุมเพ่ือ
ยืนยัน (รา่ ง) ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัส
โคโรนา 2019 ท่คี ณะผู้วจิ ัยไดร้ ่างขนึ้ เพ่ือจดั ทาขอ้ เสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ในระดับสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต 3
104
สรปุ ผลการวจิ ัย
1. สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนลักษณะต่าง ๆ ด้านการบริหารจัดการ ด้านการ
จดั การเรยี นรู้ และด้านการดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น
1.1 สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนขนาดเล็ก คือ โรงเรียน
ท่ีมีจานวนนักเรียนน้อยกว่า 120 คน สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
มีโรงเรียนขนาดเล็ก จานวน 42 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 27.27 ของโรงเรียนท้ังหมด เป็นโรงเรียน
คณุ ภาพ ระดบั ประถมศกึ ษา จานวน 1 โรงเรยี น เปน็ โรงเรยี นทัว่ ไป 41 โรงเรียน
1.1.1 การบริหารจัดการ พบว่า โรงเรียนขนาดเล็ก ส่วนใหญ่บุคลากรมีความ
มุ่งม่ันในการจัดการศึกษา แต่จานวนครูไม่ครบช้ัน และไม่ได้รับผิดชอบงานตามวิชาเอกในช่วง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โรงเรียนมีการเปล่ียนวิถี
การบรหิ ารจัดการ บุคลากร มีการปรับเปล่ียนวิธีการสอน รวมถึงการพัฒนาตนเองให้สามารถจัดการ
เรียนการสอน และดาเนนิ งานใหส้ อดคลอ้ งกับบรบิ ทของโรงเรียน โรงเรียนมีการระดมทรัพยากรจาก
ชุมชน และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ทั้งทรัพยากรบุคคลเข้ามาร่วมวางแผนการจัดการศึกษา และ
สนับสนุนอปุ กรณ์ งบประมาณท่ีจาเปน็
1.1.2 การจัดการเรียนการสอน พบว่า โรงเรียนได้ดาเนินการจัดการเรียนการ
สอนตามทส่ี านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กาหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ทั้งน้ี ด้วยความ
แตกต่างของสภาพบริบทของพื้นที่ และความพร้อมด้านบุคลากรท่ีไม่ครบช้ัน รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ใน
การจัดการเรียนรขู้ องโรงเรียนขนาดเลก็ การเข้าถึงสญั ญาณอินเทอร์เน็ต อีกทั้งเม่ือนักเรียนต้องเรียน
อยทู่ ่บี ้าน ผู้ปกครองส่วนใหญก่ ็ไมเ่ ขา้ ใจในเนอื้ หาจงึ ไม่สามารถแนะนาหรืออธิบายให้นักเรียนเข้าใจได้
ประกอบกบั ไมม่ ีเวลาทจ่ี ะดแู ลการเรียนรู้ของนกั เรียน
1.1.3 การดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า นักเรียนในโรงเรียนขนาดเล็ก มี
ขอ้ จากดั ในการเข้าถงึ การเรยี นรู้ ครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาจึงจาเปน็ ท่จี ะต้องดาเนินการเยี่ยมบ้าน
เพื่อให้ความช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน พร้อมท้ังอธิบายให้ความรู้เพิ่มเติม
เกี่ยวกับเนื้อหาในใบความรู้และใบงาน มอบเงินค่าอาหารกลางวัน แจกอาหารเสริม (นม) และมีการ
กากับติดตาม ช่วยเหลืออย่างต่อเน่ือง หากนักเรียนขาดเรียนหรือขาดส่งใบงาน ครูติดตามหาสาเหตุ
เพื่อหาทางการแก้ไขร่วมกับผู้ปกครอง นอกจากน้ียังมีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชน
เพ่ือช่วยกันดูแลสอดส่องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 โดยส่งต่อข้อมูล
ข่าวสารทเี่ ป็นปจั จบุ ัน
1.2 สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขนาดกลาง โรงเรียนขนาดกลาง คือ
โรงเรียนทม่ี จี านวนนักเรียน 120 – 719 คน สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต
3 มีโรงเรียนขนาดกลาง จานวน 101 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 65.58 ของโรงเรียนท้ังหมด เป็น
โรงเรียนคณุ ภาพ ระดับประถมศึกษา จานวน 9 โรงเรียน เป็นโรงเรียนทัว่ ไป 92 โรงเรียน
1.2.1 การบริหารจัดการ พบว่า โรงเรียนขนาดกลาง มีบุคลากรครบชั้น และ
ส่วนใหญ่มีการทางานเป็นทีม แต่บุคลากรส่วนใหญ่ยังขาดทักษะด้านเทคโนโลยีในการจัดการเรียน
การสอน และการบริหารจัดการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
105
โรงเรียนมีการเปลี่ยนวิถีการบริหารจัดการ บุคลากรมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน รวมถึงการพัฒนา
ตนเองใหส้ ามารถจัดการเรียนการสอน และดาเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน โรงเรียนมี
การระดมชมุ ชน และหนว่ ยงานที่เกีย่ วข้องเขา้ มารว่ มวางแผนการจัดการศึกษา และสนับสนุนอุปกรณ์
งบประมาณ ทจ่ี าเปน็ อยา่ งไรก็ตามการสนบั สนนุ งบประมาณจากหนว่ ยงานภายนอกยังไม่เพียงพอ
1.2.2 การจัดการเรียนการสอน พบว่า โรงเรียนได้ดาเนินการจัดการเรียนการ
สอนตามทีส่ านกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กาหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 เน่ืองจากโรงเรียนขนาดกลางมี
บุคลากรครบชั้น มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On Line On Hand และOn Demand โดย
จัดการเรียนการสอนรูปแบบ ON-LINE ให้กับนักเรียนควบคู่ไปกับการเรียนการสอนรูปแบบ ON-
HAND ซึ่งจดั เปน็ การเรยี นการสอนเสริมให้กับนักเรียนท่ีมีความพร้อมตามวันเวลาที่นักเรียนส่วนใหญ่
สะดวก มีการบูรณาการตัวชี้วัดระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ และบุคลากรบางส่วนยังไม่สามารถใช้
เทคโนโลยใี นการสอนออนไลน์ได้เท่าท่ีควร ซ่ึงทางโรงเรียนก็มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูเข้ารับ
การพฒั นาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง
1.2.3 การดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า โรงเรียนมีการดาเนินการคัดกรอง
แบ่งกลุ่มหรือประเภทนักเรียน มีการเยี่ยมบ้านเพ่ือให้ความช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคล แจกใบ
ความรู้ ใบงาน พร้อมทั้งอธิบายให้ความรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับเนื้อหาในใบความรู้และใบงาน มอบเงิน
ค่าอาหารกลางวัน แจกอาหารเสริม (นม) และมีการกากับติดตาม ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หาก
นักเรยี นขาดเรยี นหรือขาดส่งใบงาน ครูติดตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการแก้ไขร่วมกับผู้ปกครองอย่าง
ทันท่วงที นอกจากน้ียังมีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนเพื่อช่วยกันดูแลสอดส่อง
ปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 โดยส่งต่อข้อมลู ข่าวสารท่เี ปน็ ปจั จบุ ัน
1.3 สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนขนาดใหญ่ โรงเรียนขนาดใหญ่ คือ
โรงเรยี น ท่ีมจี านวนนักเรยี น 720 – 1,680 คน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
เขต 3 มีโรงเรียนขนาดใหญ่ 10 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 6.49 ของโรงเรียนทั้งหมด เป็นโรงเรียน
คณุ ภาพ ระดบั ประถมศึกษา จานวน 2 โรงเรียน เป็นโรงเรียนท่ัวไป 8 โรงเรียน
1.3.1 การบริหารจัดการ พบว่า โรงเรียนขนาดใหญ่ มีบุคลากรครบช้ัน
ครบทุกวิชาเอก มีการบริหารจัดการเป็นสายชั้น บุคลากรมีความมุ่งม่ันในการพัฒนาตนเอง แต่ยัง
ขาดความพร้อมด้านทักษะการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน มีการนิเทศภายในท่ีเข้มแข็ง
เน่ืองจากบุคลากรมีจานวนมาก ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ สัญญาณอินเทอร์เน็ตในโรงเรียนยังไม่
ครอบคลุม วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนออนไลน์ไม่เพียงพอ ขาดงบประมาณในการจัดหาวัสดุ
อุปกรณ์ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนมีการเปลี่ยน
วิถีการบริหารจัดการ บุคลากรมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน รวมถึงการพัฒนาตนเองให้สามารถ
จัดการเรียนการสอน และดาเนินงานให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน โรงเรียนมีการระดมชุมชน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมวางแผนการจัดการศึกษา และสนับสนุนอุปกรณ์ งบประมาณท่ี
จาเป็น
106
1.3.2 การจัดการเรียนการสอน พบว่า โรงเรียนได้ดาเนินการจัดการเรียนการ
สอนตามทส่ี านกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้กาหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เนื่องจากโรงเรียนขนาดใหญ่มี
บุคลากรครบชั้น ครบทุกวิชาเอก มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On Line On Hand On
Demand มีการบูรณาการตัวชี้วัดระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีการโทรศัพท์ติดตามงานหรือต้ัง
กลมุ่ ไลนข์ องหอ้ งเรียน เพ่ือเพม่ิ ชอ่ งทางการติดตอ่ สอื่ สารระหว่างผู้ปกครองและครูผู้สอน วัสดุอุปกรณ์
ในการจัดการเรียนรู้ค่อนข้างจากัด ส่วนใหญ่ครูใช้อุปกรณ์ส่วนตัว อีกท้ัง เม่ือนักเรียนต้องเรียนอยู่ท่ี
บ้าน ส่งผลให้มขี อ้ จากัดในเร่ืองอุปกรณ์ส่ือสารที่นักเรียนต้องใช้ของผู้ปกครองซ่ึงบางคร้ังก็ไม่สามารถ
รองรับแอพพลิเคช่ันหรือสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร ประกอบกับต้องรอเวลาท่ีผู้ปกครอง
กลับมาจากการทางาน นกั เรยี นจงึ จะสามารถใชโ้ ทรศัพท์ในการเรยี นได้
1.3.3 การดูแลช่วยเหลือนักเรียน พบว่า โรงเรียนมีการประชุมครูและบุคลากร
ทางการศึกษาเพอื่ สรา้ งความตระหนักในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการเรียนรู้ในสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) มีการดาเนินการคัดกรอง แบ่งกลุ่มหรือ
ประเภทนักเรียน มีการเย่ียมบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน
พร้อมทั้งอธิบายให้ความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับเนื้อหาในใบความรู้และใบงาน มอบเงินค่าอาหารกลางวัน
แจกอาหารเสริม (นม) และมีการกากับติดตาม ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากนักเรียนขาดเรียนหรือ
ขาดส่งใบงาน ครูตดิ ตามหาสาเหตุ เพอ่ื หาทางการแกไ้ ขร่วมกบั ผู้ปกครองอย่างทันท่วงที นอกจากน้ียัง
มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนเพื่อช่วยกันดูแลสอดส่องป้องกันการแพร่ระบาดของ
โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 โดยส่งต่อขอ้ มูลข่าวสารท่ีเป็นปัจจุบัน
1.4 สภาพการจัดการศึกษาของโรงเรยี นขนาดใหญพ่ เิ ศษ โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ
คือ ที่มีจานวนนักเรียน ต้ังแต่ 1,681 คน ขึ้นไป สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
เขต 3 มีโรงเรยี นขนาดใหญ่พิเศษ 1 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 0.65 ของโรงเรียนทั้งหมด จัดการศึกษา
ตง้ั แต่ระดับปฐมวยั – ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6
1.4.1 การบริหารจัดการ พบว่า โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ มีบุคลากรครบชั้น
ครบทุกวิชาเอก มีการบริหารจัดการเป็นสายช้ัน และกลุ่มสาระการเรียนรู้บูรณาการกันไป
มีรองผู้อานวยการ กากับดูแลแต่ละสายชั้น บุคลากรมีความมุ่งมั่นในการพัฒนานักเรียน แต่ยังขาด
ความพร้อมด้านทักษะการใช้เทคโนโลยีในการจัดการเรียนการสอน มีการนิเทศภายในท่ีเข้มแข็ง
ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ มีความพร้อมสูง สัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั้งโรงเรียน
วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนออนไลน์มีครบทุกห้องเรียน ชมรมศิษย์เก่า และครูโรงเรียนรวมถึง
คณะกรรมการสถานศึกษา สนับสนุนงบประมาณ และวัสดุอุปกรณ์ท่ีจาเป็นอย่างเพียงพอในช่วง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนมีการเปลี่ยนวิถีการบริหาร
จัดการ บุคลากรมีการปรับเปลี่ยนวิธีการสอน รวมถึงการพัฒนาตนเองให้สามารถจัดการเรียนการ
สอน และดาเนินงานใหส้ อดคล้องกับบริบทของโรงเรียน
107
1.4.2 การจัดการเรียนการสอน พบว่า โรงเรียนได้ดาเนินการจัดการเรียนการ
สอนตามทส่ี านกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กาหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการจัดการเรียนการสอนใน
รูปแบบ On Line On Hand และOn Demand ทุกระดับชั้นผสมผสานกัน มีการบูรณาการ
ตัวช้ีวัดระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ และบุคลากรบางส่วนยังไม่สามารถใช้เทคโนโลยีในการสอน
ออนไลน์ซ่ึงอยู่ในระหว่างพัฒนาการจัดการเรียนการสอน และยังมีข้อจากัดอยู่บ้างในเร่ืองอุปกรณ์
ส่ือสารท่ีนักเรียนต้องใช้ของผู้ปกครองซ่ึงบางคร้ังก็ไม่สามารถรองรับแอพพลิเคชั่นหรือสัญญาณ
อินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร ประกอบกับต้องรอเวลาที่ผู้ปกครองกลับมาจากการทางาน นักเรียนจึงจะ
สามารถใช้โทรศัพทใ์ นการเรยี นได้
1.4.3 การดูแลชว่ ยเหลือนกั เรียน พบวา่ โรงเรียนมีการประชุมครูและบุคลากร
ทางการศึกษาเพ่ือสรา้ งความตระหนกั ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการเรียนรู้ในสถานการณ์การ
แพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) มีการดาเนินการคัดกรอง แบ่งกลุ่มหรือ
ประเภทนักเรียน มีการเยี่ยมบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน
พร้อมท้ังอธิบายให้ความรู้เพ่ิมเติมเกี่ยวกับเนื้อหาในใบความรู้และใบงาน มอบเงินค่าอาหารกลางวัน
แจกอาหารเสริม (นม) และมีการกากับติดตาม ช่วยเหลืออย่างต่อเน่ือง หากนักเรียนขาดเรียนหรือ
ขาดสง่ ใบงาน ครูติดตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการแก้ไขรว่ มกับผู้ปกครองอยา่ งทันท่วงที นอกจากนี้ยัง
มีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนเพื่อช่วยกันดูแลสอดส่องป้องกันการแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 โดยส่งต่อข้อมลู ขา่ วสารทีเ่ ปน็ ปัจจุบนั
1.5 สภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นคุณภาพ ระดับประถมศึกษา สานักงานเขต
พื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 มีโรงเรียนคุณภาพ ระดับประถมศึกษา จานวน 12
โรงเรียน คิดเป็นรอ้ ยละ 7.79 ของโรงเรียนทง้ั หมด
1.4.1 การบริหารจัดการ พบว่า โรงเรียนคุณภาพ ระดับประถมศึกษา มี
บุคลากรครบช้ัน ครบทุกวิชาเอก มีการบริหารจัดการเป็นสายชั้น บุคลากรมีความมุ่งม่ันในการ
พัฒนานักเรียน มีการนิเทศภายในท่ีเข้มแข็ง ในส่วนของวัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ มีความพร้อม
สัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั้งโรงเรียน ชมรมศิษย์เก่า และครูโรงเรียนรวมถึงคณะกรรมการ
สถานศกึ ษา สนับสนุนงบประมาณ และวัสดอุ ปุ กรณท์ ่จี าเปน็ อยา่ งเพียงพอในช่วงสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนมีการเปล่ียนวิถีการบริหารจัดการ บุคลากรมีการ
ปรับเปล่ียนวิธีการสอน รวมถึงการพัฒนาตนเองให้สามารถจัดการเรียนการสอน และดาเนินงานให้
สอดคลอ้ งกบั บรบิ ทของโรงเรยี น
1.4.2 การจัดการเรียนการสอน พบว่า โรงเรียนได้ดาเนินการจัดการเรียนการ
สอนตามทีส่ านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ได้กาหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอน
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการจัดการเรียนการสอนใน
รูปแบบ On Line On Hand และOn Demand ทุกระดับชั้นผสมผสานกัน มีการบูรณาการ
ตวั ชี้วัดระหวา่ งกลุ่มสาระการเรียนรู้ มกี ารโทรศัพทต์ ิดตามงานหรือตง้ั กลมุ่ ไลนข์ องหอ้ งเรียน เพื่อเพิ่ม
ช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างผู้ปกครองและครูผู้สอน มีการประชุมออนไลน์ผู้ปกครองอย่าง
สม่าเสมอเพื่อชีแ้ จงทาความเข้าใจกับผ้ปู กครองและช่วยอธบิ ายความรเู้ พ่มิ เติมเก่ียวกบั การทาใบงาน
108
1.4.3 การดูแลช่วยเหลือนักเรยี น พบว่า โรงเรียนมีการประชุมครูและบุคลากร
ทางการศึกษาเพ่อื สรา้ งความตระหนักในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการเรียนรู้ในสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) มีการดาเนินการคัดกรอง แบ่งกลุ่มหรือ
ประเภทนักเรียน มีการมอบเงินค่าอาหารกลางวัน แจกอาหารเสริม (นม) และมีการกากับติดตาม
ชว่ ยเหลืออย่างต่อเนอื่ ง หากนกั เรียนขาดเรยี นหรือขาดส่งใบงาน ครูติดตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการ
แก้ไขร่วมกับผู้ปกครองอย่างทันท่วงที โดยมีการจัดกิจกรรมคลินิกครูสัญจรออนไลน์ ในทุกๆสัปดาห์
เพือ่ แจ้งขา่ วสารกับผู้ปกครองและนักเรียนในแต่ละระดับชั้น เพื่อให้ผู้ปกครองได้กาชับ ดูแล นักเรียน
ในการเข้าชัน้ เรียนและการส่งงาน ตลอดจนสะทอ้ นผลปัญหาทีเ่ กดิ ข้ึนของผู้ปกครอง และหาทางแก้ไข
ปัญหาต่างๆร่วมกัน นอกจากน้ียังมีการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนเพ่ือช่วยกันดูแล
สอดส่องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยส่งต่อข้อมูลข่าวสารที่เป็น
ปัจจบุ ัน
2. แนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาโรงเรียนทุกลักษณะในการบริหารจัดการ การจัด
การเรยี นรู้ และการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรยี น
2.1 ดา้ นการบริหารจัดการ
2.1.1 ดา้ นบุคคล (Man)
1) มกี ารบรหิ ารจัดการด้านบุคคลโดยเน้นการบริหารแบบมีส่วนร่วม
เปดิ โอกาสใหค้ รูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนแสดงความคดิ เหน็ อย่างกว้างขวาง
2) มกี ารจัดประชุมชี้แจงให้ครูและบคุ ลากรปฏบิ ัตงิ านตามมาตรการ
ปอ้ งกันและควบคุมสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
อยา่ งเคร่งครัด มีการดาเนนิ การตามนโยบายของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดเชยี งใหม่
และรว่ มมือกับสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาในการวางแผนและบริหารจัดการใหเ้ ป็นไปอย่าง
มีประสิทธภิ าพ
3) คณะครูและบคุ ลากรทางการศึกษาร่วมกันพจิ ารณาจัดรูปแบบการสอน
ใหน้ ักเรยี นสามารถเขา้ ถึงการเรยี นการสอนที่มคี ุณภาพ เหมาะสมตามบริบทได้อย่างต่อเน่ือง
4) มีการนเิ ทศ กากับ ติดตาม และให้คาปรึกษา โดยไม่สรา้ งภาระเพ่ิมเติม
เพือ่ อานวยความสะดวกให้กบั ครผู สู้ อน
5) มกี ารประชุม Plc เพ่อื สรปุ ปญั หา ประเมนิ ผลและหาแนวทางแก้ไข
ปญั หาร่วมกนั ระหวา่ งครแู ละนักเรียน และครูในแต่ละสาระการเรยี นรู้ รวมทัง้ ครูและผู้บรหิ าร
สถานศกึ ษาอยา่ งสมา่ เสมอ และดาเนินการอยา่ งเปน็ ระบบ
6) ส่งเสรมิ ให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาเขา้ รบั การอบรมพัฒนาตนเอง
ด้านการนาแพลตฟอร์มและโปรแกรมประยกุ ต์ต่าง ๆ มาใช้ผลติ สอ่ื การเรียนการสอนทหี่ ลากหลาย
ท้ังการอบรมออนไลน์และการอบรมท่สี ถานศึกษาจัดข้ึน โดยให้ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาแกนนา
ของโรงเรยี นท่ีมคี วามรู้ความสามารถด้านคอมพวิ เตอรม์ ารว่ มแลกเปลยี่ นเรยี นร้แู ละช่วยครูสร้างสื่อ
การเรียนการสอนออนไลน์รว่ มกัน
109
2.1.2 ด้านงบประมาณ (Money)
1) ประชุมชี้แจงงบประมาณร่วมกนั เพื่อปรบั แผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณ
และขออนุมัติการใช้งบประมาณจากคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พืน้ ฐาน
2) ใชเ้ งินอุดหนนุ หมวดกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี นและเงินค่าจัดการเรยี น
การสอน (รายหวั ) มาใชจ้ ่ายเป็นคา่ จดั ซอื้ สื่อ วสั ดอุ ปุ กรณ์ ฯลฯ ท่ีจาเปน็ ในการจดั กิจกรรมการเรียน
การสอนให้กบั นกั เรยี นในสถานการณท์ ี่ไมป่ กติ
3) ดาเนินการเบิกจา่ ยงบประมาณต่างๆ ใหถ้ ูกต้องตามระเบียบของ
ทางราชการ
4) มกี ารกากบั ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณให้เปน็ ไปตามวัตถปุ ระสงค์
เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธภิ าพท่ีสุด
5) ประสานขอรบั ความชว่ ยเหลือจากชมรมผ้ปู กครอง ศษิ ย์เกา่ ชุมชน
หน่วยงานอ่ืนหรอื องค์กรเอกชนต่างๆ
2.1.3 ด้านวสั ดุ อุปกรณ์ และส่งิ อานวยความสะดวก (Material)
1) มกี ารประชุมช้แี จงกับคณะครู ผูป้ กครอง และคณะกรรมการสถานศึกษา
ขน้ั พน้ื ฐานเกยี่ วกบั วสั ดุ อปุ กรณ์ทตี่ อ้ งใชก้ ารจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในสถานการณ์ทีไ่ ม่ปกติ
เพื่อหาแนวทางร่วมกนั
2) สารวจความพร้อมของอุปกรณ์การสื่อสารและอนิ เทอร์เนต็ ของนักเรยี น
ผปู้ กครอง ครู เพื่อจดั สรรงบประมาณและส่งิ อานวยความสะดวกตามความจาเปน็
3) จดั สรรงบประมาณในการจดั ซอื้ สอื่ วัสดุ อปุ กรณเ์ ก่ยี วกบั การจัด
การเรียนการสอนเทา่ ท่ีจาเป็นกอ่ น
4) ขอรับการสนับสนนุ เพ่ิมเติมจากองค์กรภายนอก เชน่ เทศบาลตาบล
โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพหรือองค์กรเอกชน ในเรื่องวสั ดุ อุปกรณ์ที่จาเปน็ ต้องใชใ้ นการดาเนนิ งาน
ตามมาตรการการป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
2.1.4 ดา้ นการบรหิ ารจดั การ (Management)
1) สถานศึกษามีการกระจายอานาจหน้าทรี่ บั ผดิ ชอบภายในองค์กรอยา่ ง
เปน็ ระบบ เน้นการบรหิ ารแบบมีส่วนร่วม
2) มกี ารประชมุ ชี้แจงนโยบายการจัดการศกึ ษา แนวปฏบิ ตั ิ/หนังสอื สัง่ การ
คาสั่งศนู ยค์ วบคุมโรคตดิ ต่อจังหวัด ขา่ วความเคล่อื นไหวตา่ ง ๆ เกยี่ วกับสถานการณ์การแพรร่ ะบาด
ของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ท้งั รูปแบบการประชมุ รวมกนั ในห้องประชมุ
โดยปฏบิ ัติตามมาตรการการเฝ้าระวงั ป้องกนั การแพรร่ ะบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019
(COVID - 19) อยา่ งเคร่งครดั การประชุมรูปแบบออนไลน์ดว้ ยโปรแกรม Google Meet, Line,
Facebook ฯลฯ
3) มกี ารประชาสัมพนั ธ์ แนะนาและเชญิ ชวนให้ครแู ละบุคลากรทาง
การศึกษาทุกคนเข้ารบั วคั ซนี ปอ้ งกนั การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
110
4) สง่ เสริม สนับสนนุ ใหค้ รูและบุคลากรพฒั นาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง
5) มีการนเิ ทศภายใน กากับ ติดตาม ช่วยเหลือการดาเนินงานของครูผู้สอน
อยา่ งตอ่ เน่อื งและเป็นระบบ
6) ครูผู้สอนรายงานผลการจัดการเรียนการสอนรายสัปดาห์ เพ่ือทราบถึง
ความก้าวหนา้ อุปสรรคและหาแนวทางปรบั ปรุงพัฒนาใหด้ ขี ้ึนอยา่ งตอ่ เนื่อง
2.2 ด้านการจัดการเรยี นการสอน
สถานศกึ ษามกี ารจดั การเรยี นการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) รูปแบบ ON-HAND ON-DEMAND และ ON-LINE โดยมี
รายละเอยี ดดังต่อไปนี้
2.2.1 การจดั การเรียนการสอนรูปแบบ ON-HAND
1) ครูผ้สู อนระดบั ปฐมวยั ออกแบบและจัดทาใบงานทีเ่ น้นการฝกึ
พัฒนาการท้ัง 4 ด้านของนักเรยี นอยา่ งต่อเนือ่ ง
2) ครูผู้สอนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1-3 ออกแบบและจัดทาใบงานโดย
วิเคราะห์เชอ่ื มโยงตัวชี้วดั ท่ตี ้องรู้และควรรู้ เน้นสาระการเรียนรูภ้ าษาไทยและคณิตศาสตร์เปน็ หลกั
3) ครผู ู้สอนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 4-6 ออกแบบและจดั ทาใบงานโดย
วิเคราะห์เชื่อมโยงตวั ชี้วัดทต่ี ้องรู้และควรรู้ เน้นใบงานสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย คณิตศาสตร์
วิทยาศาสตร์ สงั คมศกึ ษาและภาษาอังกฤษ
4) ครูผสู้ อนระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ออกแบบและจัดทาใบงานโดย
วิเคราะห์เช่ือมโยงตัวชี้วัดทต่ี ้องรูแ้ ละควรรู้ เนน้ ใบงานสาระการเรยี นรพู้ ้นื ฐาน
5) สารวจความพร้อมในการจัดการเรยี นการสอนในรปู แบบตา่ งๆ จดั การ
เรียนการสอนในรปู แบบ ON-HAND สาหรบั นักเรยี นกลุม่ ที่ไมม่ ีความพร้อมและอปุ กรณ์ในการเรยี น
6) นัดหมายใหผ้ ปู้ กครองมารับเอกสารใบงานตามเวลาทผ่ี ู้ปกครองสะดวก
7) จัดตารางสอนและตารางเรียน โดยยึดแนวทางตามนโยบายของ สพฐ.
ที่ไม่ต้องการให้นักเรยี นหรือผู้ปกครองเครยี ดมากเกินไป และมอบหมายงานหรือกจิ กรรมใหส้ อดคล้อง
กับกิจวตั รประจาวันของนักเรียน
8) ครผู ู้สอนร่วมกันวางแผนวิเคราะหต์ ัวชี้วัดในแต่ละสาระการเรยี นรู้และ
จัดทาใบงานเชิงบูรณาการ ให้นกั เรยี นเรยี นรู้ผา่ นกจิ กรรมต่างๆ ที่บา้ นแทนการทาใบงาน ซึง่ ถอื ว่า
เป็นการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning)
9) มีการโทรศพั ท์ตดิ ตามงานหรอื ตั้งกลมุ่ ไลน์ของห้องเรียน เพ่ือเพิม่ ชอ่ ง
ทางการตดิ ต่อส่ือสารระหวา่ งผู้ปกครองและครผู ู้สอน
2.2.2 การจัดการเรียนการสอนรูปแบบ ON-DEMAND
1) ครผู ู้สอนแต่ละระดับช้นั สรา้ งชอ่ งทางการตดิ ต่อสอื่ สาร ระหวา่ งครู
กับผปู้ กครองและเด็ก เพ่ือนาคลปิ การสอนตา่ งๆ ท้งั จาก Youtube หรอื คลิปท่คี ุณครูสร้างข้นึ เอง
อพั โหลดเข้าไปในกลุม่ เพื่อให้นกั เรียนได้เรียนรเู้ พ่มิ เติม
111
2) ครูผ้สู อนคัดเลอื กคลปิ การสอนจาก Youtube หรอื คลิปทคี่ รผู ูส้ อนสรา้ ง
ขึน้ เอง โดยวเิ คราะห์เช่ือมโยงตวั ชว้ี ัดทต่ี ้องรู้และควรรกู้ อ่ นอัพโหลดเขา้ ไปในกลมุ่ Facebook หรือ
Line
3) ครูผสู้ อนออกแบบใบความรู้และใบงานประกอบการเรยี นรู้จากคลิป
การสอน
4) เน้นยา้ ผูป้ กครองไม่ควรให้เดก็ ปฐมวยั อย่หู น้าจอนานเกิน 1 ช่ัวโมง
และต้องอยู่ในความดแู ลของผู้ปกครอง
5) ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ ให้ครูผ้สู อนพฒั นาตนเองเกย่ี วกบั การผลิตสื่อ
ออนไลน์
2.2.3 การจัดการเรยี นการสอนรูปแบบ ON-LINE
1) สารวจความพร้อมของนักเรยี นและผปู้ กครองกอ่ นจัดการเรยี นการสอน
รปู แบบ ON-LINE เพ่ือให้ความชว่ ยเหลือตามความต้องการจาเปน็
2) จัดการเรียนการสอนรปู แบบ ON-LINEใหก้ ับนกั เรียนควบคไู่ ปกับ
การเรียนการสอนรปู แบบ ON-HAND โดยจดั เปน็ การเรยี นการสอนเสริมให้กับนักเรยี นท่มี ีความพรอ้ ม
3) ครผู ู้สอนในแตล่ ะรายวชิ าจัดทาสอ่ื การสอนในรปู แบบ Online ทง้ั ที่
เปน็ เน้ือหาในบทเรยี น เกมต่างๆ รวมท้งั ใบกจิ กรรมและใบงานโดยวเิ คราะห์เชื่อมโยงตวั ช้ีวดั ที่ตอ้ งรู้
และควรรู้
4) เปดิ โอกาสใหค้ รผู สู้ อนเลือกใช้โปรแกรมตา่ งๆ ในการจัดกจิ กรรมการ
เรยี นการสอน ON-LINE ไดต้ ามความถนัดของตนเอง
5) ครผู ู้สอนควรจดั ตารางเรียนที่มีความยืดหยุ่นเพ่ือให้นักเรียนเขา้ ถึง
การเรียนแบบ ON-LINE ใหม้ ากที่สุด
6) เปดิ โอกาสให้นักเรียนที่มปี ัญหา ติดขัด สงสัย หรอื อยากสะท้อนผล
จากการเรียนไดแ้ สดงความคิดเห็นและหาแนวทางแก้ไขปัญหารว่ มกนั กบั ครูผสู้ อน
7) สง่ เสริมและสนบั สนนุ ให้ครูเข้ารบั การพฒั นาตนเองเก่ียวกับการจดั
การเรยี นการสอน ON-LINE
2.3 ด้านการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียน
2.3.1) มกี ารประชมุ ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาเพื่อสร้างความตระหนักใน
การดูแลชว่ ยเหลือนกั เรยี นด้านการเรียนร้ใู นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา
2019 (COVID - 19)
2.3.2) จัดทาแบบคัดกรอง วเิ คราะห์นักเรียน จัดกลุม่ วเิ คราะห์นกั เรียนเป็น
รายบุคคล นามาสังเคราะห์และแกป้ ญั หาให้แก่นักเรยี นเป็นรายบคุ คล หาวิธีการแนวทางใน
การส่งเสริมนกั เรยี น
2.3.3) ครูและบุคลากรทางการศึกษาดาเนนิ การเยีย่ มบา้ นเพ่ือให้ความชว่ ยเหลือ
นกั เรียนรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน พร้อมทง้ั อธบิ ายให้ความรู้เพม่ิ เติมเกี่ยวกบั เนอื้ หาใน
ใบความรแู้ ละใบงาน
112
2.3.4) จัดหาทุนการศกึ ษา มอบเงินค่าอาหารกลางวัน แจกอาหารเสริม (นม)
เพอื่ ใหค้ วามช่วยเหลือนักเรยี นและผปู้ กครองในเบอ้ื งต้น
2.3.5) มีการกากับตดิ ตาม ชว่ ยเหลอื นักเรียนอยา่ งต่อเนื่อง หากนักเรียนขาด
เรยี นหรอื ขาดสง่ ใบงาน ครคู วรติดตามหาสาเหตุ เพ่ือหาทางการแก้ไขรว่ มกบั ผปู้ กครองอยา่ งทนั ทว่ งที
2.3.6) มีการจดั ประชมุ ผูป้ กครองออนไลน์ อยา่ งสมา่ เสมอ เพอ่ื อัพเดตแจง้
ขา่ วสารกับผปู้ กครองและนักเรยี นในแตล่ ะระดับช้ัน แจง้ สถิติการเข้าชนั้ เรยี น และการสง่ งานใน
รายวชิ าตา่ งๆของนักเรยี น เพ่ือให้ผปู้ กครองไดก้ าชบั ดแู ล นักเรยี นในการเข้าชัน้ เรยี นและการสง่ งาน
ตลอดจนสะท้อนผลปญั หาท่ีเกดิ ข้ึนของผู้ปกครอง และหาทางแก้ไขปัญหาตา่ งๆรว่ มกนั
2.3.7) มกี ารติดต่อประสานงานกับหนว่ ยงานในชุมชนเพ่ือช่วยกนั ดูแลสอดส่อง
ป้องกันการแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ดว้ ยการส่งต่อข้อมูลขา่ วสารท่เี ป็นปจั จบุ นั
2.3.8) ประสานงานกับเจา้ หน้าท่ีสาธารณสขุ องคก์ ารบรหิ ารส่วนตาบล (อบต.)
แจง้ ขา่ วสารประชาสัมพันธ์การปอ้ งกนั ตวั เองตามช่องทางต่าง ๆ ใหค้ าปรกึ ษาแก่ทุกคนในวิธกี ารและ
แนวทางการปฏบิ ตั ิตน และประสานงานหน่วยงานทีร่ บั ผิดชอบเพ่ือใหค้ วามชว่ ยเหลอื ต่อไป
3. ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต 3
1. นโยบายและแนวทางการบริหารจัดการศึกษาของสถานศึกษาในสถานการณ์การ
แพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
1.1 ดา้ นบคุ คล (Man)
1.1.1 สร้างความตระหนักให้กับครแู ละบุคลากรทางการศึกษาโดยการสื่อสาร
ให้มคี วามรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID
- 19) นโยบายการจัดการศกึ ษา แนวปฏิบตั ิ หนังสือสัง่ การ คาสั่งศูนยค์ วบคุมโรคตดิ ต่อจังหวัด ข่าว
ความเคล่อื นไหวตา่ ง ๆ โดยใชว้ ิธีการท่ีหลากหลายภายใต้มาตรการของสาธารณสุข เช่น ประชุม
รวมกันในหอ้ งประชมุ การประชุมออนไลน์ เป็นตน้
1.1.2 กาหนดมาตรการในการปฏิบตั ิงานของครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
ตามความเหมาะสม ภายใต้มาตรการของกระทรวงสาธารณสขุ และศูนยบ์ รหิ ารสถานการณ์แพร่
ระบาดของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา2019 (COVID - 19) ของจังหวดั
1.1.3 ประชาสมั พันธ์และเชญิ ชวนใหค้ รแู ละครแู ละบุคลากรเข้ารบั วคั ซีน
ป้องกันโรคระบาดโควิด 19 ให้ครบตามที่กระทรวงสาธารณสุขกาหนด
1.1.4 ส่งเสรมิ สนบั สนุน และพัฒนาให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีทกั ษะ
ดา้ นการใช้เทคโนโลยี เพื่อการจัดการเรยี นรู้
1.1.5 ส่งเสริม สนับสนนุ และพัฒนาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาด้านการ
สรา้ งสรรค์นวตั กรรมการจดั การเรียนรู้ภายใต้สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนา
2019 (Covid-19)
113
1.1.6 กาหนดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษารายงานผลการปฏิบัติงานเป็น
ระยะ รว่ มกิจกรรม PLC เพ่อื วิเคราะหป์ ัญหาและหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันอย่างสมา่ เสมอ
1.2 ด้านงบประมาณ (Money)
1.2.1 ประชมุ ช้ีแจงกรอบแนวทางการใชจ้ า่ ยงบประมาณ เพ่ือรว่ มกนั ปรบั
แผนการใช้จา่ ยงบประมาณและขออนุมตั ิการใชง้ บประมาณจากคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
1.2.2 ควรดาเนินการเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆ ให้ถกู ต้องเปน็ ไปตามระเบียบ
ของทางราชการ
1.2.3 กากบั ติดตามการใชจ้ า่ ยงบประมาณใหเ้ ป็นไปตามวัตถปุ ระสงค์ เกิด
ความคุ้มค่าและมีประสิทธภิ าพทีส่ ดุ
1.2.4 สง่ เสริมการระดมทรัพยากรจากชุมชน หน่วยงานอื่นหรือองคก์ รเอกชน
1.2.5 ส่งเสรมิ การสรา้ งเครือข่ายกบั หนว่ ยงานภายนอกใหเ้ ข้ามามีสว่ นร่วม ใน
การพฒั นาและแลกเปลีย่ นเรยี นรู้วิธกี ารดาเนินการจัดการเรยี นรู้
1.3 ดา้ นวสั ดุ อปุ กรณ์และส่ิงอานวยความสะดวก (Material)
1.3.1 วางแผนการบรหิ ารจัดการด้านวสั ดุ อปุ กรณ์ และสิง่ อานวยความสะดวก
ให้เพียงพอกบั ความตอ้ งการ
1.3.2 จดั หาและพฒั นาสื่อ วัสดุ อปุ กรณเ์ ก่ียวกับการจัดการเรยี นการสอน
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) อย่างมี
ประสิทธิภาพและเพยี งพอต่อความต้องการ
1.3.3 สง่ เสรมิ การระดมทรพั ยากรจากชุมชน หน่วยงานอนื่ หรอื องค์กรเอกชน
1.4 ดา้ นการบรหิ ารจดั การ (Management)
1.4.1 ควรกาหนดนโยบาย แผน มาตรการ สง่ เสริมการจัดการเรยี นรู้ภายใต้
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) อยา่ งเป็นระบบและ
เหมาะสมกบั บรบิ ทของสถานศึกษา
1.4.2 เปดิ โอกาสให้คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพน้ื ฐานเขา้ มามีส่วนร่วม
ในการจดั การและแก้ไขปัญหาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019
(Covid-19)
1.4.3 ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมอื กบั ภาครัฐ หน่วยงาน เอกชน ผู้ปกครอง
ชมุ ชนเพ่ือการสนับสนุนการจัดการเรยี นร้ใู นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา
2019 (Covid-19)
1.4.4 พฒั นารปู แบบการนิเทศ ตดิ ตาม เพ่อื การพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
ในชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามบรบิ ทของ
สถานศกึ ษา
114
2. นโยบายและแนวทางการจัดการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาคุณภาพผู้เรียนของสถานศึกษา
ในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
2.1 สถานศึกษาควรช้ีแจงทาความเขา้ ใจกับผปู้ กครองในการจัดการเรียนรู้ภายใต้
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และจัดทาคู่มือการเรียน
และการปฏบิ ตั ิตนสาหรับนักเรยี น และผปู้ กครอง เพื่อเปน็ แนวทางในการปฏบิ ตั ิ
2.2 สารวจความพรอ้ มของนักเรยี นและผู้ปกครองในการจัดการเรียนการสอนใน
รูปแบบตา่ งๆ และจดั การเรียนการสอนในรปู แบบ ON-HAND สาหรับนักเรยี นกลมุ่ ที่ไม่มีความพร้อม
และอปุ กรณ์ในการเรียน
2.3 ควรจัดสรรงบประมาณและสนบั สนุนทรพั ยากรการจดั การเรยี นรู้ ให้เพยี งพอ
เหมาะสมกบั บริบท ความต้องการจาเปน็ ของสถานศึกษาให้ครอบคลุม เพือ่ ลดความเหลื่อมล้าใน
การเข้าถึงการศกึ ษา
2.4 วเิ คราะห์เชื่อมโยงตัวชีว้ ัดที่ต้องรูแ้ ละควรรู้ตามมาตรฐานของหลกั สตู ร
โดยเน้นกลุม่ สาระการเรยี นรู้วชิ าหลกั
2.5 ส่งเสริมการบรู ณาการภาระงาน/ช้ินงาน/การบ้านและมอบหมายภาระงาน/
ชิน้ งาน/การบ้านให้เหมาะสม
2.6 จดั การเรียนร้แู บบผสมผสานตามความเหมาะสมและบรบิ ทของนกั เรยี น
2.7 ควรมีความยืดหย่นุ ทั้งรูปแบบการจัดการเรียนรู้และการวัดประเมนิ ผล
โดยเนน้ การประเมนิ ตามสภาพจริง
2.8 สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเขา้ รับการอบรมพฒั นา
ตนเองเกี่ยวกับการผลติ สื่อการสอนและการจัดการเรียนการสอน ON-LINE
2.9 สง่ เสริม สนับสนุนใหผ้ ูบ้ ริหารสถานศึกษา ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาได้
แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ในการพฒั นานวตั กรรมการจดั การศึกษาอย่างต่อเน่อื ง
2.10 ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหผ้ ูบ้ ริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษา
จดั ทาสอ่ื นวัตกรรมผา่ นกระบวนการชมุ ชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพ (Professional Learning
Community: PLC)
2.11 สง่ เสรมิ ให้ครใู ช้กระบวนการวิจัยในการพัฒนานวตั กรรมการจดั การศึกษา
2.12 สนับสนุนเคร่อื งมือหรือปัจจยั ใหก้ บั ครูและบุคลากรทางการศึกษาตามความ
เหมาะสม และจัดสวสั ดิการในการประกันความปลอดภยั ทั้งจากการติดเช้ือโรคและอุบัติเหตุให้กบั
ครทู ี่ออกปฏบิ ตั ิงานนอกพื้นท่ี
2.13 สง่ เสริมใหน้ กั เรียนมีวนิ ัยในการเรียนรดู้ ้วยตนเอง เสรมิ สรา้ งเจตคตติ ่อการ
เรยี นรูแ้ บบพงึ่ พาตนเอง และนกั เรยี นมอี สิ ระทางความคิด สามารถออกแบบการจัดการเรยี นรู้ได้
ด้วยตนเอง
2.14 สง่ เสริมให้นกั เรยี นมีความฉลาดร้ใู นการใชส้ ่ือเทคโนโลยี (Digital Literacy)
เพอื่ การแสวงหาความรู้ให้เกดิ ประสทิ ธภิ าพ โดยการสอนให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจในการใช้และ
การเข้าถึงส่ือเทคโนโลยี รวมทั้งสทิ ธิและความปลอดภัยในการใช้สอื่ เทคโนโลยี
115
2.15 ส่งเสรมิ สนับสนุนการรวบรวมสือ่ นวัตกรรม และเทคโนโลยีเป็นศนู ย์สอ่ื
นวตั กรรมการเรียนการสอนท่ีครสู ามารถนามาเผยแพร่ และนาไปแลกเปลยี่ นและแบ่งปันกนั ใชใ้ น
การจดั การเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวางตามบรบิ ทของสถานศกึ ษา
2.16 ควรอานวยความสะดวกแกผ่ ู้ปกครองในการติดต่อ ประสานงานและการเขา้
รับการบรกิ ารต่าง ๆ และการตดิ ตามการเรยี นของนักเรียนในระหว่างการจัดการเรยี นรู้
2.17 พฒั นารูปแบบการนิเทศ ตดิ ตาม เพื่อการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน
ในชว่ งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามบรบิ ท
ของสถานศกึ ษา
3. นโยบายและแนวทางการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษาในสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19)
3.1 ประชุมครแู ละบุคลากรทางการศึกษาเพ่ือสร้างความตระหนกั ในการดูแล
ชว่ ยเหลือนักเรียนด้านการเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรัสโคโรนา 2019
(COVID - 19)
3.2 ควรแตง่ ตั้งคณะกรรมการดาเนนิ งานการดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น โดยมีภาคี
เครือข่ายร่วมดาเนนิ งาน เชน่ เจ้าหน้าที่ตารวจ เจ้าหนา้ ทสี่ าธารณสุข องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ
ในพนื้ ที่ เป็นตน้
3.3 ควรดาเนินการคดั กรองนักเรียนและจัดทาข้อมลู สารสนเทศโดยการสงั เคราะห์
และแยกกลมุ่ นักเรยี นให้ชดั เจน เพ่อื แยกปญั หาและร่วมกนั หาทางชว่ ยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาแตล่ ะ
ดา้ น เป็นรายกรณี
3.4 ดาเนนิ การเย่ยี มบ้านเพื่อให้ความช่วยเหลือนกั เรียนรายบุคคล แจกใบความรู้
ใบงาน พร้อมทงั้ อธบิ ายให้ความร้เู พ่มิ เตมิ เกี่ยวกับเนื้อหาในใบความรู้และใบงาน
3.5 ส่งเสริม สนบั สนุนทนุ และปัจจัยพน้ื ฐานทีจ่ าเป็นเพื่อช่วยเหลือนักเรียนทีไ่ ด้
รบั ผลกระทบในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 (COVID - 19)
3.6 ควรใหค้ รมู กี ารตดิ ตามการเรียน/ตรวจสอบการเรียน ของนักเรียนทุกวัน
หากพบว่านกั เรยี นไมส่ ามารถเรียนได้อยา่ งตอ่ เน่ืองหลายวัน ซึ่งผิดปกตใิ หร้ บี ดาเนนิ การแก้ไขปัญหา
อย่างทันทว่ งที
3.7 ตัง้ กลมุ่ ไลนห์ รือชอ่ งทางอื่น ๆ รว่ มกันระหวา่ งครู นกั เรียน และผูป้ กครอง
เพอ่ื ใหม้ ีสว่ นรว่ มในการสงั เกตพฤติกรรมการเรยี น และประเมินผลการเรียนรู้
3.8 มกี ารตดิ ต่อประสานงานกบั หนว่ ยงานในชุมชนเพื่อชว่ ยกนั ดูแลสอดส่องป้องกนั
การแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยการส่งต่อข้อมูลขา่ วสารท่เี ป็นปจั จุบัน
3.9 ประสานงานกับเจ้าหนา้ ที่สาธารณสขุ องค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.)
เพ่ือดูแลความปลอดภัยของนักเรียนที่มีผู้ปกครองหรือญาติทีใ่ กลช้ ดิ เปน็ กล่มุ ผสู้ มั ผัสโรค กลุ่มเสยี่ ง
หรือติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) เพ่ือให้ความช่วยเหลอื ตอ่ ไป
116
อภิปรายผล
จากผลการวิจัยครง้ั น้ี คณะผวู้ ิจัยไดอ้ ภิปรายผลตามความมงุ่ หมายของการวจิ ยั ดังน้ี
1. ผลจากการวิเคราะห์สภาพการจัดการศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา
2019 (Covid - 19) พบว่า สถานศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่
เขต 3 มี 5 ลักษณะ ได้แก่ สถานศึกษาขนาดเล็ก สถานศึกษาขนาดกลาง สถานศึกษาขนาดใหญ่
สถานศึกษาขนาดใหญ่พิเศษและสถานศึกษาที่เป็นโรงเรียนคุณภาพ ระดับประถมศึกษา ในภาพรวม
สถานศึกษาบริหารจัดการปัจจัยด้านบุคคล ด้านงบประมาณ ด้านวัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งอานวยความ
สะดวก และด้านการจัดการสถานศึกษา ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามบริบท โดยคานึงถึงความ
ปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากรเป็นสาคัญ สถานศึกษาส่วนมากใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ
ON-HAND เป็นหลัก ในกรณีที่ผู้เรียนมีความพร้อม ครูจัดการเรียนการสอนเสริมด้วยรูปแบบอ่ืนๆ
ได้แก่ ON-DEMAND และ ON-LINE และให้การดูแลช่วยเหลือเท่าที่จาเป็นตามงบประมาณเงิน
อุดหนุนของสถานศึกษาที่มีอยู่ โดยหน่วยงานภายนอกก็ให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ในการระวัง
ป้องกันโรคติดต่อเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ตามสภาพ ซ่ึงสอดคล้องกับ Lichtenstein
et al. (1994) ท่ีได้เสนอรูปแบบการป้องกันและดูแลในสถานการณ์วิกฤติ โดยการกาหนดแผนและ
แนวทางเป็นระดับ 3 ระดับ ต้ังแต่ระดับกระทรวง/ภาค ระดับเขตพ้ืนที่ และระดับของโรงเรียน โดย
ทมี ทางานแกว้ ิกฤตริ ะดบั โรงเรียน ถือเปน็ ความรบั ผดิ ชอบสูงสุดของโรงเรียนในการนาแผนการจัดการ
ในภาวะวิกฤติไปปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้น ผู้บริหารโรงเรียนจะต้องมีหน้าท่ีในการคัดสรรคนที่มี
ความสามารถในการกาหนดทิศทางและสนับสนุนให้บุคลากรในโรงเรียนรวมท้ังชุมชนแก้ไข ปัญหา
วิกฤติไปด้วยกัน ซ่ึงทีมทางานแก้วิกฤติระดับโรงเรียนจะมีบทบาทสาคัญในการประสานการให้
คาแนะนาการเตรยี มการกบั ส่อื การติดต่อส่ือสารกับบุคลากรในโรงเรียนและชุมชน และยังสอดคล้อง
กับกระทรวงศึกษาธิการ(กระทรวงศึกษาธิการ, 2563) ที่ได้มีการกาหนดแนวนโยบายเพ่ือให้บริหาร
จัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ให้สามารถ
เกิดขน้ึ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพสูงสุดเท่าท่ีสภาพแวดล้อมจะอานวยให้บนพ้ืนฐาน 6 ข้อ คือ 1) จัดการ
เรยี นการสอน โดยคานงึ ถงึ ความปลอดภัยสูงสุดของทุกคนท่ีเก่ียวข้อง “การเปิดเทอม” หมายถึง การ
เรียนท่ีโรงเรียนหรือการเรียนท่ีบ้าน ทั้งน้ีการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลการประเมินสถานการณ์ อย่าง
ใกล้ชิด 2) อานวยการให้นักเรียนทุกคน สามารถเข้าถึงการเรียนการสอนได้ แม้จะไม่สามารถไป
โรงเรียนได้ 3) ใช้ส่ิงที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การเสนอขอช่องดิจิทัล TV จาก กสทช. 4)
ตดั สินใจนโยบายต่าง ๆ บนพ้นื ฐานของการสารวจความต้องการ ท้ังจากนักเรียน ครู และโรงเรียน ไม่
คิดเอง โดยให้การจัดการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพสูงสุดเป็นที่ต้ัง และกระทรวง จะสนับสนุน
เคร่ืองมือและอุปกรณ์ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ 5) ปรับปฏิทินการศึกษาของไทยให้เอื้อต่อ
การ “เรียนเพ่ือรู้” ของเด็กมากข้ึน รวมท้ังมีการปรับตารางเรียนตามความเหมาะสม โดยเวลาที่
ชดเชยจะคานงึ ถงึ ภาระของทุกคนและการได้รับความรู้ ครบตามช่วงวัยของเด็ก 6) บุคลากรทางการ
ศึกษาทุกท่าน จะได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง และทาให้ได้รับผลกระทบเชิงลบจากการเปล่ียนแปลง
นอ้ ยทสี่ ดุ
117
2. ผลการพัฒนาแนวทางการจัดการศึกษาของสถานศึกษาสังกัดสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID - 19) พบว่า แนวทางการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทุกลักษณะในสังกัดสานักงาน
เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารจัดการ
ด้านการจัดการเรียนรู้ และด้านการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เป็นไปในแนวทางเดียวกันทุกลักษณะ
สถานศกึ ษา
ด้านการบริหารจัดการ บุคลากรท้ังในสถานศึกษาและชุมชนต่างก็มีความตระหนักถึง
อันตรายและความปลอดภัยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อที่เกิดข้ึน จึงให้ความร่วมมือ
ในการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สถานศึกษาได้ปรับ
แผนการใช้จ่ายงบประมาณ ซึ่งสอดคล้องกับ ชาญชัย อาจินสมาจาร (2545, อ้างถึงใน พระครูและ
บุคลากรสังฆรักษ์ไชยรัตน์ชยรตโน, 2558, หน้า 324) ได้กล่าวว่า ผู้บริหารจะต้องสามารถใช้
ทรัพยากรหรือปัจจัยทางการบริหาร (Administrative Resources) ท่ีสาคัญมีอยู่อย่างน้อย 4
ประการ คือ คน (Man) เงิน (Money) วัสดุ (Materials) และวิธีปฏิบัติงาน (Management) ไม่ว่า
จะเป็นองค์กรใด ๆ ย่อมมีความจาเป็นต้องใช้ทรัพยากรหรือปัจจัยน้ีเป็นเครื่องมือในการบริหารหรือ
จัดการ ซ่ึงนิยมเรียกว่า หลัก 4M’s โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางภาคธุรกิจ ทรัพยากรทางการบริหาร หรือ
ปัจจัยทางการบริหารท่ีนิยมกันมี 7 ประการ คือ คน(Man) เงิน (Money) วัสดุ (Materials) วิธี
ปฏิบัติงาน (Management of Method) ตลาด (Market) เครื่องจักร (Materials) และขวัญและ
กาลงั ใจ (Morale) ซงึ่ เรียกว่า 7M’s สอดคล้องกับ สมคิด บางโม (2546, หน้า 60) ได้กล่าวว่า ปัจจัย
การบริหาร ซ่ึงมีองค์ประกอบท่ีสาคัญ คือ 1) คนหรือบุคคล (Man) เป็นปัจจัยสาคัญของการ
บริหารงาน หน่วยงานหรือองค์การต่าง ๆ จาเป็นต้องมีคนท่ีปฏิบัติงาน ผลงานที่ดีจะออกมาได้ต้อง
ประกอบด้วยบุคคลท่ีมีคุณภาพและมีความรับผิดชอบต่อองค์การหรือหน่วยงานน้ัน ๆ 2) เงิน
(Money) หน่วยงานจาเป็นที่จะต้องมีงบประมาณเพ่ือการบริหารงานหากขาดงบประมาณการ
บริหารงานของหน่วยงานก็ยากท่ีจะบรรลุเป้าหมาย 3) ทรัพยากรหรือวัตถุ (Material) การบริหาร
จาเป็นต้องมีวัสดุอุปกรณ์หรือทรัพยากรในการบริหาร หากหน่วยงานขาดวัสดุอุปกรณ์หรือทรัพยากร
ในการบริหารแล้วก็ย่อมจะเป็นอุปสรรคหรือก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารงาน และ 4) การบริหาร
จัดการ (Management) เป็นภารกิจของผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาโดยตรง คือเป็นกลไกและตัว
ประสานที่สาคญั ทีส่ ดุ ในการประมวล ผลกั ดันและกากับปัจจัยต่าง ๆ ทั้ง 3 ประการให้สามารถดาเนิน
ไปได้โดยมีประสิทธิภาพจนบรรลุเป้าหมายของหน่วยงานตามที่ต้องการ และยังสอดคล้องกับ เสกสิฐ
เล้ากิจเจริญ (2550, หน้า 7 – 8) ได้กล่าวว่า หลักการ 4M’s เป็นปัจจัยที่สาคัญต่อการบริหารจัด
การศึกษา ไดแ้ ก่ 1) ดา้ นบุคลากร 2) ด้านงบประมาณ 3) ด้านวัสดุ และ 4) ด้านการจดั การ
ด้านการจัดการเรยี นรู้ ครูปรบั รูปแบบการเรียนการสอน เน้นที่รูปแบบ ON-HAND เป็น
หลัก และเสริมด้วยรูปแบบอื่นๆ ได้แก่ ON-DEMAND และ ON-LINE ตามความพร้อมของผู้เรียน
ผ่านระบบ Web Conference เป็นการจัดการเรียนการสอนแบบสองทาง ท่ีนิยมใช้กันในปัจจุบัน
โดยใช้ Google App For Education , Microsoft Office 365 For Education , Zoom , MS
TEAM , Google Classroom , Google Meet และโปรแกรมประยกุ ตอ์ ่ืน ๆ ตามความเหมาะสม แต่
ก็พบปัญหาในเร่ืองอุปกรณ์ส่ือสารของผู้ปกครองที่ไม่สามารถรองรับแอพพลิเคชั่นหรือสัญญาณ
118
อินเทอร์เน็ตท่ีไม่เสถียร ซ่ึงสอดคล้องกับมนธิชา ทองหัตถา (2564, หน้า 43 - 52) ได้กล่าวว่า สภาพ
การจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
(COVID - 19) ของครูและบุคลากรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ สถานศึกษาปากพนัง
จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า 1) แอปลิเคชันท่ีครูและบุคลากรนิยมใช้ในการจัดการเรียนรู้แบบ
ออนไลน์มากที่สุด คือ แอปลิเคชันไลน์ (Line) และ Google Meet และ 2) ปัญหาท่ีครูและบุคลากร
พบในการจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์คือ ปัญหาด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สัญญาณอินเทอร์เน็ต
และโปรแกรมที่ใช้สาหรับการเรียนแบบออนไลน์ถูกพบมากที่สุด ปัญหาทางด้านการเงิน ปัญหาด้าน
พฤติกรรมของนักเรียน และยังสอดคล้องกับภูมิศรัณย์ ทองเลี่ยมนาค (2563, หน้า 56) ได้กล่าวถึง
ผลกระทบของ COVID-19 ต่อระบบการศึกษาของโลกและประเทศไทยในมุมมองทางเศรษฐศาสตร์
โดยพบว่า การเรียนรู้ที่เป็นท่ีนิยมของสถานศึกษาในยุค COVID-19 คือการ เรียนผ่านระบบออนไลน์
แต่ก็มีปัญหาในบางมิติ ในด้านของความเหล่ือมล้าดิจิทัล (digital divide) ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง
อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทักษะความรู้ของครูและผู้ปกครองในการช่วย สนับสนุน
ปัญหาการใชเ้ วลาหน้าจอมากเกินไป ข้อมูลจากการสารวจของ OECD ต่อเด็กกลุ่มอายุ 15 ปี ท่ัวโลก
ในปี 2018 พบว่า ในประเทศไทย นักเรียนอายุ 15 ปีมากกว่าร้อยละ 30 ไม่มีห้องส่วนตัวหรือพ้ืนที่
เงียบๆ ในการทาการบ้าน (ประเทศพัฒนาแล้วมีเด็กที่ขาดแคลนพื้นที่เรียนน้อยกว่าร้อยละ 15) ท้ังน้ี
นักเรยี นไทยเพียงรอ้ ยละ 59 มีเครื่องคอมพิวเตอร์สาหรับใช้ในบ้าน (ในขณะท่ีสหรัฐฯ ยุโรป นักเรียน
มากกว่าร้อยละ 85 มีคอมพิวเตอร์) โดยเฉพาะเด็กไทยที่กลุ่มที่อยู่ในเศรษฐกิจฐานะยากจนที่สุด มี
เพียงรอ้ ยละ 55 ท่มี ีพนื้ ท่ีทางานในบ้าน และเพียงแค่ร้อยละ 17 มีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้งาน แต่อย่างไรก็
ตาม รอ้ ยละ 86 ของเดก็ ไทยมโี ทรศพั ท์สมาร์ตโฟน แม้แต่เด็กไทยกลุ่มยากจนท่ีสุด ยังมีถึงร้อยละ 79
ที่มีมือถือแบบใช้ อินเทอร์เน็ตได้ ดังน้ัน การถ่ายทอดความรู้ผ่านทางมือถืออาจจะเป็นอีกช่องทางที่
เหมาะสมกับเด็กไทย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรคาดหวังว่าการเรียนแบบออนไลน์จะสามารถมาช่วยเติม
เต็มได้อย่างสมบูรณ์แบบมากนัก เพราะมีงานวิจัยว่าแม้แต่โรงเรียนท่ีเน้นเฉพาะทางออนไลน์ใน
สหรัฐอเมรกิ า (virtual charter school) ยังมีผลลัพธข์ องการจัดการศึกษาท่ีไม่น่าพอใจเท่าไรนักหาก
เทียบกับการเรียนแบบผสมผสานหรือใช้ ห้องเรียนเป็นหลัก ในกรณีของไทยอาจจะใช้ช่องทางอ่ืน ๆ
เช่น โทรทัศน์การศึกษา วิทยุการศึกษา การจัดสรรวัสดุอุปกรณ์เพ่ือการเรียน (box set) เป็น
ทางเลือกที่อาจจะสามารถเขา้ ถึงเด็กกลมุ่ ด้อยโอกาส ได้เช่นกนั
ด้านการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน สถานศึกษามีการประชุมครูและบุคลากรทางการศึกษา
เพื่อสร้างความตระหนักในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ซ่ึงสอดคล้องกับสานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ชั้นพื้นฐาน (2547, หน้า 5) ท่ีได้ให้แนวทางการดาเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ไว้ว่า ต้องมี
การสร้างความรู้ความเขา้ ใจในกระบวนการของระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรียนให้กับครูและบุคลากร
ในสถานศกึ ษาเพอ่ื วางแผนการดาเนนิ การ สถานศกึ ษามีการจัดทาแบบคดั กรอง วิเคราะห์นักเรียน จัด
กลุ่ม เยี่ยมบ้านเพ่ือให้ความช่วยเหลือนักเรียนรายบุคคล แจกใบความรู้ ใบงาน พร้อมทั้งอธิบายให้
ความรเู้ พมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั เนือ้ หาในใบความรู้และใบงาน จัดหาทุนการศึกษา มอบเงินค่าอาหารกลางวัน
แจกอาหารเสริม (นม) เพื่อให้ความช่วยเหลือนักเรียนและผู้ปกครองในเบื้องต้น กากับติดตาม
ช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเน่ือง หากนักเรียนขาดเรียนหรือขาดส่งใบงาน ครูควรติดตามหาสาเหตุ
119
เพื่อหาทางการแก้ไขร่วมกับผู้ปกครองอย่างทันท่วงที ติดต่อประสานงานกับหน่วยงานในชุมชนเพ่ือ
ช่วยกันดูแลสอดส่องป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ด้วยการส่งต่อข้อมูล
ขา่ วสารทเ่ี ปน็ ปจั จุบัน ซ่ึงสอดคล้องกับกรมสุขภาพจิต (2547, หน้า 132-155) ท่ีกล่าวว่า การสื่อสาร
กับผู้ปกครอง เป็นการช่วยเหลือนักเรียนโดยอาศัยความร่วมมือจากผู้ปกครองด้วยวิธีการต่างๆ เช่น
โทรศัพท์สนทนา การเชิญผู้ปกครองมาพบเพื่อปรึกษาหารือร่วมกัน การส่งหนังสือแจ้งทางไปรษณีย์
เป็นต้น ซ่ึงล้วนต้องอาศัยทักษะการสื่อสาร ดังนั้น ครูจึงจาเป็นต้องมีทักษะการส่ือสารที่มี
ประสิทธิภาพ ทราบถึงจิตวิทยาการส่ือสารหรือเทคนิคการส่ือสารที่เหมาะสมกับสาระหรือ
วัตถุประสงค์ท่จี ะส่ือใหผ้ ปู้ กครองทราบหรือเขา้ ใจ ส่วนการปอ้ งกนั ช่วยเหลือและแก้ไขปัญหานักเรียน
โดยครูประจาช้ัน/ครูที่ปรึกษาตามกระบวนการป้องกันและช่วยเหลือนักเรียนนั้น ในกรณีที่มีปัญหา
ยากต่อการช่วยเหลือนักเรียนแล้วนักเรียนมีพฤติกรรมไม่ดีขึ้น ก็ควรส่งต่อนักเรียนไปให้ผู้เชี่ยวชาญ
เฉพาะด้าน
3. ผลการจดั ทาข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศกึ ษาของสถานศึกษาในสถานการณ์การ
แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 พบว่า ได้ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต 3 จากกระบวนการศึกษาปัญหาพ้ืนฐานทางสังคมเพื่อให้ได้ข้อเสนอท่ีเน้นการปฏิบัติท่ี
เป็นไปได้ (possible action oriented recommendations) ท่ีผู้กาหนดนโยบายสามารถใช้
ประกอบการตัดสินใจเพ่ือแก้ปัญหาท่ีมีประสิทธิผล และนาไปสู่อนาคตท่ีดีข้ึนกว่าในปัจจุบัน ซ่ึง
สอดคล้องกับ วิโรจน์ สารรัตนะ (2550, หน้า 3 - 22) ได้กล่าวว่า การวิจัยเชิงนโยบายเป็น
กระบวนการ วิเคราะห์ปัญหาของสังคม เพ่ือนาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้กับผู้ที่วางนโยบายและ
ข้อเสนอแนะ เหล่านั้นต้องเน้นไปที่การปฏิบัติได้จริง เพ่ือเป็นการแก้ปัญหาหรือลดปัญหานั้นๆ และ
กมลพร กัลยาณมิตร (2564, หน้า 402 - 422) ได้กล่าวว่า การนากลยุทธ์การบริหารสู่การปฏิบัติใน
รูปแบบความปกติใหม่ (New Normal) พบว่า 1) กลยุทธ์ ด้านวิสัยทัศน์ผู้นา โดยผู้นาองค์การต้องมี
วิสัยทัศน์และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง 2) กลยุทธ์การบริหารการเปล่ียนแปลง
โดยสร้างความม่ันคงทางอารมณ์มาเป็นแรงขับเคล่ือนในการสร้างผลงาน 3) กลยุทธ์การสร้างความ
ได้เปรียบในการแข่งขัน โดยใช้ความอุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย มาเป็นโอกาสและปัจจัยเสริมให้
ผู้บริหารนามาสร้างความได้เปรียบ 4) กลยุทธ์การสร้างความสุขในการทางาน โดยผู้บริหารต้อง
สามารถสร้างความสมดุลและความสุขให้บุคลากร 5) กลยุทธ์การรักษาความสามารถในการแข่งขัน
โดยผู้บริหารสามารถรับมือกับการเปล่ียนแปลงอย่างฉับพลันของเทคโนโลยีดิจิทัลแล้วนามาสร้าง
ความได้เปรียบทางการแข่งขัน 6) กลยุทธ์การสร้างคุณค่า โดยผู้บริหารต้องสร้างคุณค่าให้แก่สินค้า
และบรกิ ารในการเขา้ ถึงและสร้างความไว้วางใจแกผ่ บู้ ริโภคผา่ นเทคโนโลยีด้านแนวทางการนากลยุทธ์
การบริหารสู่การปฏิบัติในรูปแบบความปกติใหม่ พบว่า องค์การต้องปรับเปล่ียนนาเทคโนโลยีเข้ามา
ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ ดาเนินธุรกิจแบบสร้างพันธมิตร การตัดสินใจต้องฉับไวและยืดหยุ่น
พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ มองหาช่องทางธุรกิจใหม่ ๆ เพ่ิมช่องทางความหลากหลายทาง
การตลาด เน้นคุณภาพ สร้างความแตกต่าง ความปลอดภัยจากโรคระบาด และมีการวางแผนเพ่ือ
เตรียมรับมือความไม่แน่นอนในปัจจุบันและอนาคต พัชราภรณ์ ดวงช่ืน (2020, หน้า 783-795) ได้
120
กล่าววา่ การบรหิ ารจดั การศกึ ษารับความปกตใิ หม่หลังวิกฤตโควิด – 19 ผู้บริหารจึงต้องมีการบริหาร
จดั การศกึ ษาทส่ี อดคล้องกบั ความปกตใิ หม่โดยมีแนวทางในการบริหาร ได้แก่ การเตรียม ความพร้อม
ในการเรียนการสอนออนไลน์ด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี การออกแบบหลักสูตรโดย คานึงถึงความ
แตกต่างของนักเรียนแต่ละคน การบริหารจัดการสถานศึกษาและครูและบุคลากรให้ประสบ
ความสาเร็จ ในการจัดการเรียนรูม้ กี ารหารอื และวางแผนรว่ มกันของบุคคลท่มี สี ว่ นเก่ียวข้องในทุกภาค
ส่วน ต้งั แต่ผู้กาหนดนโยบาย ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ครูและบุคลากร บุคลากรทางศกึ ษา ผู้ประกอบการ
ในภาคธรุ กจิ และภาคประชาสังคม พอ่ แม่ ผูป้ กครอง รวมถึงการเตรยี มความพรอ้ มท้ังทางด้านร่างกาย
และจิตใจของครูและบุคลากรและนักเรียน นอกจากน้ี สุวิมล มธุรส (2564, หน้า 33 - 42) ยังได้
กล่าวถึงการจัดการศึกษาในระบบออนไลน์ในยุค NEW NORMAL COVID - 19 ประกอบด้วย 1)
แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนหลังโควิด - 19 (Social Distancing) 2) แนวคิดเก่ียวกับ
การบริหารจัด การศึกษาที่สอดคล้องกับความปกติใหม่ (New Normal) และ 3) แนวคิดเกี่ยวกับการ
ปรับเปล่ียนรูปแบบการเรียนรู้ (Change Learning) และผู้บริหารต้องมีการบริหารจัดการศึกษาที่
สอดคล้องกับความปกติใหม่โดยมีแนวทางในการบริหาร ได้แก่ การเตรียมความพร้อมในการเรียนการ
สอนออนไลน์ด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี การออกแบบหลักสูตรโดยคานึงถึงความแตกต่างของ
นักเรียนแต่ละคน การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ที่ส่งผลกระทบให้
สถาบนั การศึกษาทัว่ ประเทศถูกสั่งปิด เพือ่ ปอ้ งกันการแพรร่ ะบาดของโรค ทาให้ท้ังนักเรียน นักศึกษา
และอาจารย์ผู้สอน ต้องปรับตัวเข้าสู่การเรียนการสอนแบบออนไลน์ เพ่ือให้หลักสูตรยังคงดาเนิน
ตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งไมข่ าดตอน การบริหารจัดการต่อการเรียนการสอนสามารถเข้าถึงของนักเรียนทุกคนได้
อย่างมีประสิทธิภาพ และให้อาจารย์ประสบความสาเร็จในการจัดการเรียนรู้ โดยมีการหารือและ
วางแผนร่วมกันของบคุ คลท่ีมีส่วนเกย่ี วขอ้ งในทกุ ภาคส่วน เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง นักศึกษา รวมไปถึง
คณาจารย์ในการเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจตอ่ ไป
ขอ้ เสนอแนะ
ข้อเสนอแนะในการนาผลการวิจัยไปใช้
ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ควรใช้ประโยชน์จากผลการวิจัย และข้อเสนอเชิงนโยบาย
การจัดการศึกษาในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 ประกอบการตัดสินใจวาง
แผนการดาเนินงาน ดงั น้ี
1) กาหนดนโยบาย แผน มาตรการ ส่งเสรมิ การจัดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีความชัดเจน
ทันต่อสถานการณ์ COVID 19 และควรเป็นนโยบาย ท่ีเอื้อให้สถานศึกษาสามารถปรับได้ตามบริบท
ของสถานศึกษาและมีบทบาทในการตัดสนิ ใจไดด้ ว้ ยตวั เอง
2) จดั ทาแผนดาเนินการในระยะยาวเพ่ือเตรียมรับสถานการณ์ วิกฤติและทาความเข้าใจกับ
ระดับปฏิบัติสาหรบั การเตรียมความพร้อมในการปรบั ใช้ตามบริบทของสถานศึกษา
3) จัดต้ังศูนย์ส่ือสารและประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานนโยบายและหน่วยงานปฏิบัติ
เพ่ือการบูรณาการข้อมลู ที่จาเปน็ และจดั ทาเปน็ ฐานขอ้ มูลกลางเพื่อลดภาระของสถานศึกษาที่มีภาระ
งานเพม่ิ มากข้ึนอยูแ่ ลว้ ในสถานการณ์ COVID 19
121
4) ควรพฒั นาโครงสรา้ งพื้นฐานเพ่ือสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีเพ่ือการจัดการเรียนการสอน
ในสถานการณ์วิกฤติ เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ให้ครอบคลุมพื้นท่ีสถานศึกษาทุกแห่งอย่างทั่วถึง มี
ประสทิ ธภิ าพ และไมเ่ สยี ค่าใช้จา่ ย
5) สนับสนุนให้มีการจัดต้ังศูนย์ส่ือ อุปกรณ์ เทคโนโลยีทางการเรียนการสอนเพื่อสนับสนุน
และช่วยเหลอื การจดั การเรยี นการสอนของสถานศึกษา รวมทั้งจัดระบบการนิเทศ ติดตามการจัดการ
เรียนการสอนสถานการณ์ COVID 19 อย่างมีประสิทธภิ าพ
6) มีมาตรการ และการดาเนินส่งเสริมการพัฒนาครูให้มีสมรรถนะในการจัดการเรียนรู้
โดยใช้สอ่ื เทคโนโลยีในยคุ ดจิ ทิ ัลได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ
7) ควรประสานความรว่ มมือกบั หน่วยงานท่เี ก่ยี วขอ้ ง เชน่ ศูนย์ชว่ ยเหลือ เด็กและเยาวชนใน
ภาวะวกิ ฤตทิ างการศึกษา กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย และ
หนว่ ยงานในระดับจังหวัด เพ่ือสารวจความต้องการความช่วยเหลือสาหรับกลุ่มเด็กที่ได้รับผลกระทบ
จากสถานการณ์ COVID 19 และกลุ่มเด็กด้อยโอกาสต่าง ๆ ให้ได้รับ ความช่วยเหลือเป็นพิเศษเพื่อ
ลดความเหล่อื มล้าทางโอกาสในการเขา้ ถึงการศึกษา
ระดับสถานศึกษา ควรใช้ประโยชน์จากผลการวิจัย และข้อเสนอเชิงนโยบายการจัด
การศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อประกอบการตัดสินใจ
วางแผน การดาเนินงานดังนี้
1) ปรับหลักสูตร ให้มีความยืดหยุ่น ปรับโครงสร้างเวลาเรียน สามารถบูรณาการในการ
จัดการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-
19)
2) สง่ เสรมิ สนับสนุนการรวบรวมสอื่ นวตั กรรม และเทคโนโลยเี ป็นศูนย์สื่อ นวัตกรรมการ
เรยี นการสอน
3) กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ ให้มีความยืดหยุ่น และ
สอดคล้องกับวิธีการจัดการเรียนรู้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019
และร่วมกันสร้างเคร่ืองมือวัด และประเมินผลท่ีมีความหลากหลาย เหมาะสม และสอดคล้องกับ
รปู แบบการเรยี นรู้
4) ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสารวจความต้องการช่วยเหลือเด็กทุก
กลมุ่ เปา้ หมาย
5) ส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตนเอง และมีความฉลาดรู้ในการใช้สื่อ
เทคโนโลยี (Digital Literacy) เพือ่ แสวงหาความรู้ใหเ้ กิดประสทิ ธิภาพ
ข้อเสนอแนะสาหรบั การศกึ ษาวจิ ัยในคร้ังตอ่ ไป
1) สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสถานศึกษา ควรมีวิจัย ติดตามผลการจัดการศึกษา
อย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้ได้ข้อมูลสารสนเทศประกอบการตัดสินใจ ส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้
ของสถานศกึ ษาได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพยิ่งข้นึ
2) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา หรือสถานศึกษา ควรมีการวิจัยถอดบทเรียนการจัดการ
เรียนรู้ของสถานศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อพัฒนา
เปน็ รูปแบบการจัดการเรียนรใู้ นสถานการณว์ กิ ฤตตอ่ ไป
122
3) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา หรือสถานศึกษา ควรวิจัยและพัฒนาสื่อ นวัตกรรมสาหรับ
การจัดการเรียนรู้แบบออนไลน์
4) สานักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษา หรอื สถานศึกษา ควรวิจยั เพ่อื พฒั นารปู แบบเครือข่ายความ
ร่วมมือในการจัดการเรียนรู้ ในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโคนา 2019
5) สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา หรือสถานศึกษา ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปัจจัย
ความสาเร็จ และปัจจัยอุปสรรคหรือการวิจัยเพ่ือค้นหาวีการปฏิบัติท่ีดี (Best practice) ในการ
จดั การเรียนรใู้ นสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019
6) สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา สถานศึกษา ควรศึกษาวิจัยเก่ียวกับผลกระทบจาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) และแนวทางการส่งเสริม
สนับสนุน การจัดการเรียนรู้ท่ีมีต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนกลุ่มเด็กด้อยโอกาส และกลุ่มเด็กพิเศษ
เพ่อื ให้ได้ขอ้ มูลสารสนเทศท่ีจะนาไปใชเ้ พื่อส่งเสริมพัฒนาการจัดการเรียนรู้ ซ่ึงจะช่วยลดปัญหาความ
เหล่อื มลา้ ทางการศึกษา
123
บรรณานุกรม
กชกร ม่นั คงเจรญิ กิจ. (2562). ครูผูส้ รา้ งการเรียนร้ใู นสถานการณ์แห่งชวี ิต. สืบค้นจาก :
https://www.educathai.com/knowledge/articles/83 (2564, 11 ธนั วาคม)
กมลพร กัลยาณมติ ร. (2564). การนากลยทุ ธก์ ารบริหารสกู่ ารปฏิบตั ิ ในรูปแบบความปกตใิ หม่
(New Normal). วารสารสงั คมศาสตรแ์ ละมานุษยวิทยาเชิงพทุ ธ, 6(4), 402-422.
กรมสุขภาพจิต. (2547). คณุ ภาพชีวิตและความเครียดของนักเรียนมธั ยมศกึ ษาในประเทศไทย.
กรุงเทพฯ: บียอนด์พับลสิ ซิง่ จากดั .
กรมสุขภาพจิต. (2547). ค่มู ือการบริหารระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรยี น ช่วงช้ันท่ี 1-2 ชั้นประถม
ศกึ ษา ปีที่ 1-6. กรุงเทพฯ: สานกั งานกิจการโรงพิมพ์ องค์การสงเคราะหท์ หารผ่านศึก.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พุทธศกั ราช 2542 (ฉบับที่ 2)
และทแี่ กไ้ ขเพิม่ เตมิ พุทธศกั ราช 2545. กรงุ เทพฯ: บริษทั สยามสปอรต์ ซินดเิ คจากดั .
______. (2563). แนวทางการจดั การเรียนการสอนของโรงเรยี นสงั กัดสานกั งาน คณะกรรมการ
การศกึ ษาข้ันพื้นฐานในสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรัสโค โรนา 2019
(COVID - 19) ปกี ารศกึ ษา 2563. กรงุ เทพฯ: สานักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขนั้ พ้ืนฐาน.
จอมพงศ์ มงคลวนชิ . (2555). การบริหารองคก์ ารและบคุ ลากรทางการศกึ ษา. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั วี
พริน้ (1991) จากัด.
จริ าภา สขุ เกษม. (2547). การดาเนนิ ธรุ กจิ ขนาดย่อม. กรุงเทพฯ: ศูนยร์ วมหนงั สือกรงุ เทพ.
ณิชกานต์ แก้วจนั ทร์. (2564). ความพร้อมในการจัดการเรียนการสอน และความคาดหวงั
ประสทิ ธผิ ล การศึกษาในระบบการเรียน การสอนออนไลน์ในทรรศนะของนกั ศึกษา
คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลยั ศิลปากร. เอกสารประกอบการประชุมวิชาการ
ระดบั ชาตวิ จิ ยั ครงั้ ที่ 9 (หนา้ 138-148). ราชบรุ :ี ราชภฎั หม่บู า้ นจอมบึง.
ทิพยว์ รรณ สขุ ใจร่งุ วัฒนา. (2557). การพัฒนาขอ้ เสนอเชิงนโยบายในการเสริมสร้างภาวะ ผูน้ า
เชิงสรา้ งสรรค์ สาหรับผนู้ าองคก์ รนิสิต/นักศกึ ษาในสถาบนั อดุ มศึกษาในทศวรรษหนา้
(พ.ศ.2557 - 2566). (ปริญญานพิ นธ์ปรัชญาดุษฎบี ัณฑติ ไมไ่ ดต้ ีพิมพ์). มหาวทิ ยาลยั
ศลิ ปากร, นครปฐม.
ธนพงษ์ ศักดิ์ศรีวัน. (2558). การพฒั นาศกั ยภาพครู ในการดาเนนิ งานระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น
โรงเรียนอุดม พัฒนศึกษา สังกัด สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 22.
วทิ ยานพิ นธ์ ค.ม. สกลนคร: มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสกลนคร.
พระครสู งั ฆรักษไ์ ชยรัตน์ ชยรตโน. (2558). การบรหิ ารการศกึ ษา. วารสารมหาวทิ ยาลยั มหามกุฎราช
วทิ ยาลัยวทิ ยาเขตรอ้ ยเอด็ , 4(2), 320-325.
พริ้มเพรา วราพันธพ์ ิพิธ. (2556). ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อความเป็นเลศิ ของสถานศึกษา
ขนั้ พนื้ ฐาน สังกดั องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ . ปริญญานิพนธป์ รชั ญาดุษฎีบณั ฑิต.
มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น, ขอนแก่น.
124
พชั ราภรณ์ ดวงช่ืน. (2563). การบรหิ ารจัดการศกึ ษารับความปกตใิ หม่หลังวกิ ฤตโควิด – 19.
วารสาร ศิลปะการ จดั การ, 4(3), 783–795.
ภารดี อนันตน์ าวฬี . (2555). หลักการแนวคดิ ทฤษฎที างการบริหารการศึกษา. (พมิ พ์ครั้งที่ 4).
ชลบรุ :ี มนตรีการพมิ พ์.
ภษู ิมา ภิญโญสนิ วัฒน์. (2563). จัดการเรยี นการสอนอยา่ งไรในสถานการณโ์ ควิด-19 : จาก
บทเรยี นตา่ งประเทศสู่การจดั การเรียนรขู้ องไทย. สบื ค้นจาก tdri.or.th
ภูมิศรณั ย์ ทองเลี่ยมนาค. (2563). ผลกระทบของ COVID-19 ตอ่ ระบบการศกึ ษาของโลก และ
ประเทศไทยในมมุ มองทางเศรษฐศาสตร์. สืบค้นจาก http://thaipublica.org/2020/19-
economists-with-covid-19-15/
มนธชิ า ทองหตั ถา. (2564). สภาพการจัดการเรยี นรแู้ บบออนไลน์ในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ของครูกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษา
ต่างประเทศ โรงเรยี นปากพนงั . วารสารลวะศรีมหาวิทยาลยั ราชภฎั เทพสตรี, 5(1), 43-52.
รตั นาภรณ์ สมบรู ณ.์ (2556). ขอ้ เสนอเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาคณุ ภาพชีวิตนกั เรยี นโรงเรียนศกึ ษา
สงเคราะห์. (ปริญญานิพนธป์ ริญญาปรัชญาดุษฎบี ณั ฑติ ไมไ่ ดต้ พี ิมพ์). มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น.
วโิ รจน์ สารรัตนะ. (2556). การวิจยั เชิงนโยบายแบบมสี ว่ นร่วม Participatory Policy
Research. เอกสารการบรรยาย หลกั สูตรศกึ ษาศาสตรดุษฎบี ัณฑติ สาขาวิชาการบรหิ าร
การศกึ ษามหาวทิ ยาลยั มหามกุฎราชวทิ ยาลยั .
ศราวุฒิ แก้วอาจ. (2558). การพฒั นาการดาเนนิ งานระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น โรงเรยี นโพธช์ิ ยั
ทองพทิ ยาคม สงั กดั สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 23. วทิ ยานพิ นธ์ ค.ม.
สกลนคร: มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สกลนคร.
ศริ ิพงษ์ ลดาวัลย์ ณ อยธุ ยา. (2540). หนา้ ท่ที างการบรหิ าร. เชยี งใหม:่ โรงพมิ พด์ าว.
ศิรพิ ร พงศ์ศรีโรจน.์ (2540). องค์การและการจดั การ. (พิมพค์ รง้ั ที่ 6). กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลัย
ธรุ กิจบณั ฑติ ย์.
สมคดิ บางโม. (2546). องคก์ ารและการจัดการ. กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั จูนพบั ลชิ ชงิ่ จากดั .
สมยศ นาวีการ. (2540). การบรหิ ารและพฤตกิ รรมองคก์ าร เร่อื งการจงู ใจ:จากแนวความคดิ ไปสู่
การประยุกต์ใช้. กรงุ เทพฯ: สานกั พิมพ์บรรณกจิ .
สุวิทย์ บึงบวั .(2564). รปู แบบการจัดการเรยี นการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติด
เชอ้ื ไวรสั โคโรนา2019. สบื ค้นจาก https://www.obec.go.th
สานกั งานเลขาธิการวุฒิสภา. (2563). รายงานการพิจารณาการศกึ ษา เรอ่ื ง ข้อเสนอแนะเชิง
นโยบายเร่งด่วน ว่าด้วยการบริหารจดั การศึกษาในชว่ งสถานการณ์การระบาดของโรคตดิ
เชอ้ื ไวรัส โคโรนา 2019 (COVID-19) ท่เี หมาะสมกับสังคมไทย. กรุงเทพฯ: สานกั
กรรมาธิการ 3 สานกั งานเลขาธิการวฒุ สิ ภา.
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2563). รายงานการศึกษารูปแบบการจดั การเรียนรสู้ าหรับ
นักเรียนระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานทีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์Covid-19.
กรงุ เทพมหานคร: สานักมาตรฐานการศกึ ษาและพัฒนาการเรยี นรู้.
125
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน. (2547). การดาเนนิ งานระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรียน
ในสถานศึกษาสาหรับสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาและสถานศกึ ษา สังกัดสานกั งาน
คณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน. กรงุ เทพ: องค์การรับส่งสนิ ค้าและพสั ดุภัณฑ.์
_______. (2552). ระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น เอกสารสรุปย่อยองค์ความรู้ สาหรับการพฒั นา
ทมี งานขบั เคลอื่ นระบบการดูแลชว่ ยเหลอื นักเรียนเพื่อการกา้ วยา่ งอยา่ งยั้งยืน. ม.ป.ท.
. (2563). แนวทางการจัดการเรยี นการสอนของ โรงเรยี นสงั กดั สานกั งาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐานในสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชือ้ ไวรัส
โคโรนา 2019 (COVID-19) ปีการศึกษา 2563. กรงุ เทพฯ: กระทรวงศกึ ษาธกิ าร.
อานาจ ชนะวงศ์. (2552). ขอ้ เสนอเชิงนโยบายเพื่อความมี ประสิทธิผลเชิงระบบในการดาเนนิ งาน
ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาในจังหวดั กาฬสนิ ธ์ุ. ปริญญานิพนธ์ปรชั ญาดษุ ฎี
บัณฑิต. มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.
Good., C.V. (1973). Dictionary of Education. New York : MC Graw-Hill. Publishers.
Havighurst, R. J. (1953). Human Development and Education. Oxford: Longmans.
Hoy, W.K. and Miskel, C.G. (2001). Education and Administration Theory, Research ,
and Practice. 6 th ed. New York : McGraw Hill.
Lichtenstein, R., Schonfeld, D. J. & Kline, M. (1994). Special Topic / School crisis
response: Expecting the unexpected. Educational Leadership, 52(3), 79-83.
People for Education. (2020). Tracking Canada’s education system’response
to COVID-19. Retrieved from https://peopleforeducation.ca/our-
work/tracking-canadas-education-systems-response-to-covid-19/
Rogers, B. (1972). Human personality: Towards a unified theory. Massachusetts:
Vantage.
Roy, C. & Andrews, H. A. (1999). The Roy adaptation model (2nded.). Stamford,
CT:Appleton & Lange.
United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization. (2020). China ECE
policy response to COVID-19. Retrieved from
https://planipolis.iip.unesco.org/en/2020/chaina-ece-policy-response-covid-
19-6865
Williamson, E. G. (1950). A concept of counseling. Occupations, 29, 182-189.
126
ภาคผนวก
127
ภาคผนวก ก
รายชือ่ ผเู้ ชย่ี วชาญและหนงั สือขอความอนุเคราะห์
128
รายชอื่ ผเู้ ช่ียวชาญที่เรยี นเชิญสัมมนาองิ ผูเ้ ชย่ี วชาญ (Connoisseurship)
ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการจดั การศึกษาในสถานการณก์ ารแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19)
สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
1. ผเู้ ช่ยี วชาญด้านการบรหิ ารจดั การศกึ ษา
เป็นผู้บรหิ ารการศึกษาและผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษา ทม่ี วี ฒุ กิ ารศกึ ษาไม่ตา่ กวา่ ปริญญาโท ด้าน
การบริหารการศึกษา จ่านวน 5 คน ดังน้ี
1.1 ดร.พเิ ศรษฐ์ ไชยสภุ า รองผู้อ่านวยการส่านักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา
ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
1.2 ดร.เจตนพิ ิฐ รอบคอบ ผู้อ่านวยการโรงเรยี นบา้ นเวยี งฝาง
1.3 ดร.พงค์ธนั ย์ ณ เชยี งใหม่ ผู้อา่ นวยการโรงเรยี นบ้านแม่สาว
1.4 ดร.วิภาดา วริ ะกลุ ผู้อา่ นวยการโรงเรยี นบา้ นรนิ หลวง
1.5 นางวราลักษณ์ อุดมทรัพย์ ผู้อา่ นวยการโรงเรยี นบ้านเวียงหวาย
2. ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้
เปน็ ศกึ ษานเิ ทศก์ท่ีมีประสบการณด์ ้านการบริหารจัดการหลกั สตู รและการจดั การเรียนรู้ และ
ครูผู้สอนท่ีมผี ลงานการจัดการเรียนการสอนที่เป็นเลิศ จ่านวน 5 คน
2.1 นางมาลี บุญเทพ ครูเชี่ยวชาญโรงเรยี นบา้ นเวียงหวาย
2.2 นางก่งิ กาญจน์ กันนาง ครูเช่ยี วชาญโรงเรียนไทยรฐั วทิ ยา 12(บา้ นเอก)
2.3 นางสาวสายสนุ ี อินจนั ทร์ ครชู ่านาญการพเิ ศษโรงเรยี นบา้ นสนั ทรายคองนอ้ ย
2.4 นางสาวศพิ าณัฏฐ์ ใจสตั ย์ ศกึ ษานิเทศก์ชา่ นาญการพิเศษ
2.5 นางสาวหทัยวรรณ สิงห์ใจ ศกึ ษานิเทศกช์ า่ นาญการพเิ ศษ
3. ผ้เู ชี่ยวชาญดา้ นการดแู ลชว่ ยเหลือนักเรียน
เปน็ ศึกษานเิ ทศก์ท่ีมีประสบการณ์ด้านระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียนและผบู้ ริหารสถานศึกษา
ท่มี ผี ลงานเป็นเลศิ ดา้ นการดแู ลและช่วยเหลือนกั เรยี น จ่านวน 5 คน
3.1 นางสาวสายใจ สวุ รรณ์ ผอู้ า่ นวยการโรงเรยี นเพยี งหลวง 1
3.2 นางสมยั คจั ฉะภา ผอู้ ่านวยการโรงเรียนบา้ นใหม่หนองบวั
3.3 นางอารยี ์ โยธา ผอู้ ่านวยการโรงเรียนบา้ นสันตน้ หม้อื
3.4 นางรชั นี อุดทา ผู้อา่ นวยการกลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผล
การจัดการศกึ ษา สพป.เชยี งใหม่ เขต 3
3.5 นางสาวสกั การะ ทนนั ชัย ศึกษานเิ ทศกช์ า่ นาญการพเิ ศษ
129
ที่ ศธ ๐๔๐๔๙ /ว๖๓๓๕ ส่านักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษา
เชียงใหม่ เขต ๓ ต่าบลแมส่ นู
อา่ เภอฝาง จงั หวัดเชียงใหม่ ๕๐๑๑๐
๒๘ กันยายน ๒๕๖๔
เร่ือง ขอความอนุเคราะหเ์ ปน็ ผเู้ ชี่ยวชาญเพือ่ จัดท่าขอ้ เสนอเชงิ นโยบายการจดั การศึกษาในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเชอื้ ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-๑๙) สา่ นักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๓
เรยี น ................................................................................................................
ด้วย ส่านักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ด่าเนินงานโครงการการยกระดับคุณภาพการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐานด้านการวิจัย เพ่ือสร้างองค์ความรู้ และเพ่ิมศักยภาพด้านการวิจัยของบุคลากรในสังกัด โดยใช้การวิจัยเป็นฐานขับเคล่ือน
คณุ ภาพการจัดการศกึ ษา เนน้ การใช้กระบวนการวิจยั สรา้ งการเปล่ียนแปลงในห้องเรยี นและโรงเรยี น เนน้ ผู้เรียนเป็นสา่ คัญ จึงไดด้ ่าเนิน
โครงการส่งเสริมการทา่ วจิ ัยเชิงพ้นื ทเี่ พอื่ การจดั ท่านโยบายการจัดการเรียนรู้วิถีใหม่ โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพนักวิจัยระดับส่านักงานเขต
พืน้ ที่การศึกษาและด่าเนนิ การทา่ วจิ ยั เชิงพน้ื ที่เพอ่ื การจดั ทา่ นโยบายการจัดการเรยี นรูว้ ิถีใหม่ เพ่อื น่ามาใชเ้ ปน็ ข้อมูลในการวางแผนและ
จดั ทา่ นโยบายการจดั การเรียนรู้วถิ ีไหมให้เปน็ ไปในทศิ ทางทีต่ อบสนองตอ่ การจัดการเรียนรู้ให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียน เพ่ือให้
การจดั การเรยี นการสอนเกิดประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลสูงสุดตามบรบิ ทพ้นื ท่ีของโรงเรียนและส่านักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา น้นั
ในการน้ี สา่ นกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๓ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าท่านเป็นผู้มีความรู้
ความสามารถและเชี่ยวชาญในเร่ืองดงั กลา่ ว จงึ ขอความอนเุ คราะห์ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อพิจารณา(ร่าง) ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัด
การศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-๑๙) ส่านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต ๓
จงึ เรยี นมาเพ่อื โปรดพิจารณา หวงั เปน็ อย่างยิง่ วา่ จะไดร้ บั ความอนุเคราะหจ์ ากท่านดว้ ยดี และขอขอบคณุ
มา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนบั ถอื
กลมุ่ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษา
โทร. ๐๕๓- ๓๔๖-๖๖๐ ตอ่ ๒๐๙ หรือ 08๒-1๙๔๖๒๑๙
“ใช้พ้ืนทเ่ี ปน็ ฐาน สรา้ งนวตั กรรม นา่ เทคโนโลยี”
130
ท่ี ศธ ๐๔๐๔๙ /ว๖๓๓๖ ส่านักงานเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษา
เชยี งใหม่ เขต ๓ ต่าบลแม่สนู
อ่าเภอฝาง จงั หวัดเชยี งใหม่ ๕๐๑๑๐
๒๘ กนั ยายน ๒๕๖๔
เรื่อง ขอเชิญประชุมเพอื่ พิจารณา (ร่าง)ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการจดั การศึกษาในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-๑๙) ส่านกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต ๓
เรียน ……………………………………………………………………………………………..
ส่ิงที่ส่งมาด้วย ๑. (รา่ ง)ข้อเสนอเชิงนโยบายการจดั การศึกษาฯ จ่านวน ๑ ชดุ
ด้วย ส่านักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้ด่าเนินงานโครงการการยกระดับคุณภาพการศึกษาข้ัน
พื้นฐานด้านการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ และเพ่ิมศักยภาพด้านการวิจัยของบุคลากรในสังกัด โดยใช้การวิจัยเป็นฐานขับเคลื่อน
คุณภาพการจัดการศกึ ษา เนน้ การใชก้ ระบวนการวิจัยสร้างการเปลี่ยนแปลงในห้องเรยี นและโรงเรียน เนน้ ผูเ้ รียนเปน็ ส่าคญั จงึ ได้ด่าเนิน
โครงการสง่ เสริมการท่าวิจยั เชิงพน้ื ทเ่ี พ่ือการจดั ท่านโยบายการจดั การเรียนรู้วิถีใหม่ โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพนักวิจัยระดับส่านักงานเขต
พน้ื ท่กี ารศึกษาและดา่ เนนิ การท่าวจิ ัยเชิงพน้ื ทเ่ี พ่อื การจดั ท่านโยบายการจัดการเรียนรู้วิถใี หม่ เพ่อื น่ามาใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนและ
จัดท่านโยบายการจัดการเรยี นรู้วถิ ีไหมให้เป็นไปในทิศทางท่ตี อบสนองตอ่ การจัดการเรียนรู้ให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียน เพ่ือให้
การจัดการเรยี นการสอนเกิดประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลสูงสุดตามบริบทพ้ืนทขี่ องโรงเรยี นและสา่ นักงานเขตพนื้ ที่การศึกษา น้ัน
เพ่ือให้การด่าเนินงานวิจัยเชิงพ้ืนที่เพื่อการจัดท่านโยบายการจัดการเรียนรู้วิถีใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สา่ นักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต ๓ จึงขอความอนุเคราะห์ท่านเปน็ ผู้เชย่ี วชาญและเข้าร่วมประชุมเพื่อพิจารณา
(รา่ ง) ขอ้ เสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (Covid-๑๙) ส่านักงาน
เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๓ ในวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๐๙.๓๐ น.เป็นต้นไป ณ ห้องประชุม ช้ัน ๒
สพป.เชียงใหม่ เขต ๓ รายละเอียดตามสิ่งท่สี ่งมาดว้ ยพร้อมกับหนงั สอื ฉบับน้ี
จงึ เรียนมาเพ่อื ทราบและดา่ เนนิ การตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
กลมุ่ นิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจดั การศึกษา
โทร. ๐๕๓- ๓๔๖-๖๖๐ ตอ่ ๒๐๙ หรอื 08๒-1๙๔๖๒๑๙
“ใช้พ้นื ทเี่ ป็นฐาน สร้างนวัตกรรม นา่ เทคโนโลยี”
131
ภาคผนวก ข
รายช่ือผเู้ ข้าร่วมประชมุ ระดมความคิด (Brainstorming)
และหนงั สือเชิญเขา้ รว่ มประชมุ
132
รายช่อื ผเู้ ขา้ รว่ มประชุมระดมความคดิ (Brainstorming)
เพอื่ กาหนดแนวทางการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19)
สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 3
1. นายพเิ ศรษฐ์ ไชยสุภา รอง ผอ.สพป.เชียงใหม่ เขต 3
2. นางรชั นี อุดทา ผอ.กลุ่มนิเทศฯ
3. นางสาวพสิ มัย อะโน ศกึ ษานิเทศก์ชานาญการพเิ ศษ
4. นางสาวสกั การะ ทนนั ชยั ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการพิเศษ
5. นางสาวหทัยวรรณ สงิ หใ์ จ ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ
6. นายเจษฎา กอ้ งสาคร ศึกษานิเทศก์ชานาญการ
7. นางอลสิ ตรา อ่อนอัด ศึกษานิเทศก์ชานาญการ
8. นางสาวกิ่งกาญจน์ อินตะ๊ ปัญญา ศกึ ษานเิ ทศก์ชานาญการ
9. นางพรกมล เกศามูล ศกึ ษานิเทศกช์ านาญการ
10. นางสาวจตุพร ปญั โญใหญ่ ศกึ ษานิเทศกช์ านาญการ
11. นายวรกนั ต์ ศรวี ิชัย ศกึ ษานเิ ทศก์
12. นายเจตพินฐิ รอบคอบ ผอู้ านวยการโรงเรียนบ้านเวยี งฝาง
13. นายพงค์ธนั ย์ ณ เชยี งใหม่ ผอู้ านวยการโรงเรยี นบา้ นแม่สาว
14. นายปิยะ เงาสอ่ ง ผูอ้ านวยการโรงเรียนไทยรฐั วิทยา 12 (บ้านเอก)
15. นางรตั นาภรณ์ วงศพ์ ิพัฒนธาดา ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นปางสัก
16. นางนงเยาว์ เพชรคงเทพ ครชู านาญการพเิ ศษ รร.ไทยรัฐวิทยา 12 (บา้ นเอก)
17. นางสาวดลยา เป็กธนู ครู รร.ไทยรัฐวิทยา 12 (บา้ นเอก)
18. นายพศิ ณุ รอตโกมลิ ครู รร.บา้ นเวียงฝาง
19. นางสาวศิรนิ ทรท์ ิพย์ ไขค่ า ครู รร.บา้ นเวียงฝาง
20. นางสาวศพิ าณัฏฐ์ ใจสตั ย์ ศกึ ษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ
21. นางสาวพัชรดิ า ลานกั เนตร ศึกษานิเทศก์ชานาญการพิเศษ
133
ท่ี ศธ ๐๔๐๔๙ /ว๔๗๒๑ สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษา
เชียงใหม่ เขต ๓ ตาบลแม่สนู
อาเภอฝาง จงั หวัดเชยี งใหม่ ๕๐๑๑๐
๑๓ กันยายน ๒๕๖๔
เรอื่ ง ขอเชิญประชมุ เชิงปฏิบตั ิการคณะวจิ ยั โครงการส่งเสริมการทาวิจัยเชงิ พ้ืนทีเ่ พื่อการจดั ทานโยบาย
การจดั การเรียนรู้วิถใี หม่
เรียน ผอู้ านวยการโรงเรยี นบ้านเวยี งฝาง, โรงเรยี นบา้ นปางสกั , โรงเรียนไทยรัฐวิทยา ๑๒(บ้านเอก) และโรงเรยี นบ้านแมส่ าว
สงิ่ ท่สี ง่ มาด้วย ๑. คาสง่ั แตง่ ตง้ั คณะวจิ ยั ของสานกั งานเขตพ้นื ท่ีฯ จานวน ๑ ชดุ
ด้วย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ได้ดาเนินงานโครงการการยกระดับคุณภาพการศึกษาขั้น
พ้ืนฐานด้านการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ และเพ่ิมศักยภาพด้านการวิจัยของบุคลากรในสังกัด โดยใช้การวิจัยเป็นฐานขับเคลื่อน
คุณภาพการจัดการศึกษา เนน้ การใช้กระบวนการวิจัยสร้างการเปลยี่ นแปลงในห้องเรยี นและโรงเรียน เน้นผู้เรียนเปน็ สาคัญ จงึ ได้ดาเนิน
โครงการสง่ เสรมิ การทาวิจยั เชงิ พืน้ ที่เพอื่ การจัดทานโยบายการจัดการเรยี นรู้วิถีใหม่ โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพนักวิจัยระดับสานักงานเขต
พืน้ ท่ีการศึกษาและดาเนินการทาวจิ ยั เชงิ พ้ืนทเี่ พอื่ การจดั ทานโยบายการจดั การเรียนรวู้ ถิ ีใหม่ เพื่อนามาใช้เปน็ ข้อมลู ในการวางแผนและ
จดั ทานโยบายการจัดการเรียนรู้วถิ ีไหมใหเ้ ปน็ ไปในทศิ ทางที่ตอบสนองต่อการจดั การเรียนรู้ให้ตรงตามความต้องการของผู้เรียน เพื่อให้
การจดั การเรียนการสอนเกิดประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลสงู สดุ ตามบรบิ ทพืน้ ที่ของโรงเรียนและสานกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษา นัน้
เพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานวจิ ยั เชงิ พ้นื ที่เพ่อื การจดั ทานโยบายการจัดการเรยี นร้วู ถิ ีใหม่เป็นไปด้วยความเรยี บร้อย
สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต ๓ จึงขอเรยี นเชญิ ท่านเข้าร่วมประชุมเชิงปฏบิ ตั ิการการจัดทานโยบายการ
จัดการเรยี นรูว้ ิถใี หม่ ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๐-๒๑ กันยายน ๒๕๖๔ เวลา ๐๘.๓๐ น.เป็นต้นไป ณ หอ้ งประชุม ชั้น ๒ สพป.เชยี งใหม่
เขต ๓ รายละเอยี ดตามสิ่งที่ส่งมาด้วยพรอ้ มกับหนังสือฉบับนี้
จงึ เรยี นมาเพอื่ ทราบและดาเนินการตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
กล่มุ นเิ ทศ ติดตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา
โทร. ๐๕๓- ๓๔๖-๖๖๐ ตอ่ ๒๐๙ หรอื 08๒-1๙๔๖๒๑๙
“ใชพ้ นื้ ท่เี ป็นฐาน สรา้ งนวัตกรรม นาเทคโนโลยี”
134
ภาคผนวก ค
เครอ่ื งมอื ในการเกบ็ รวบรวมข้อมลู
135
แบบสอบถามเพ่ือการวจิ ยั
เรอ่ื ง ข้อเสนอเชิงนโยบายการจดั การศึกษาในสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาด
ของโรคติดเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19)
ของสถานศกึ ษาในสังกดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 3
คาชี้แจง
1. แบบสอบถามฉบบั น้เี ปน็ ส่วนหนึ่งของงานวิจัยของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา
เชียงใหม่ เขต 3 เร่อื ง ข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของสถานศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
เชยี งใหม่ เขต 3 โดยมวี ัตถุประสงคก์ ารวิจัยเพ่ือวิเคราะห์สภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในสังกัด
สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดการศึกษาของ
สถานศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 และเพ่ือจัดทาข้อเสนอ
เชิงนโยบายการจัดการศึกษาในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-
19) ระดบั สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
2. แบบสอบถาม แบง่ เปน็ 4 ตอน คอื
ตอนท่ี 1 ข้อมูลพน้ื ฐาน
ตอนท่ี 2 การดาเนนิ งานด้านการบรหิ ารจัดการ ด้านการจดั การเรยี นรู้ และดา้ นการดูแล
ชว่ ยเหลือนักเรียน
ตอนท่ี 3 ความต้องการของสถานศึกษาในการได้รับการส่งเสริมสนบั สนนุ จาก
หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้อง ในกรณีทไ่ี มส่ ามารถจัดการเรียนการสอนในโรงเรยี นแบบปกติได้ (ON-SITE)
ตอนที่ 4 ข้อเสนอแนะอื่น ๆ
3. การให้ข้อมูล ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของท่านจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยในครั้งนี้
เปน็ อย่างย่ิงและคณะผวู้ จิ ยั จะเก็บรกั ษาข้อมลู ของท่านเพ่ือใชป้ ระโยชน์เฉพาะงานวิจยั น้ีเท่านั้น
ผวู้ ิจัยหวงั เป็นอย่างยิ่งวา่ จะได้รับความอนุเคราะห์จากทา่ นในการสัมภาษณ์คร้ังนี้ และ
ขอขอบคุณ ในความร่วมมือมา ณ โอกาสนี้
คณะวจิ ัย
สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3
136
ตอนที่ 1 ขอ้ มลู พนื้ ฐานทัว่ ไป
1.1 ช่อื โรงเรียน…………………………………………………………………………………………………..………..………
ตาบล……………………………อาเภอ………………………ศูนยพ์ ฒั นาคณุ ภาพ........................................
1.2 ขนาดโรงเรียน
ขนาดเล็ก (มนี กั เรียนตง้ั แต่ 119 คน ลงมา)
ขนาดกลาง (มนี ักเรียนต้ังแต่ 120 คน – 719 คน)
ขนาดใหญ่ (มนี ักเรียนตง้ั แต่ 720 – 1,679 คน)
ขนาดใหญ่พิเศษ (มนี กั เรียนตง้ั แต่ 1,680 คน ขนึ้ ไป)
1.3 ประเภทโรงเรยี น (สามารถเลอื กตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ )
โรงเรียนคุณภาพระดับประถมศึกษา
โรงเรยี นคณุ ภาพระดบั มธั ยมศกึ ษา
โรงเรยี น Stand Alone
โรงเรยี นประจาพักนอน
ไม่อยใู่ นประเภทขา้ งตน้
1.4 บทบาทของโรงเรียนที่มีต่อชุมชนและให้ความร่วมมือในการจัดการช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 พื้นท่โี รงเรียนใช้เป็น (สามารถเลือกตอบไดม้ ากกว่า 1 ขอ้ )
โรงพยาบาลสนาม (จานวนเตียง…………)
โรงพยาบาลสนาม (สารอง) (จานวนเตยี ง…………)
โรงพยาบาลสนาม และสถานท่ีกักตวั (จานวนเตยี ง…………)
สถานทกี่ ักตัว (จานวนเตยี ง……………)
สถานที่พักคอย (จานวนเตียง…………)
อ่นื ๆ (โปรดระบุ) …………………………………………………………………………………………………..
ไมไ่ ดใ้ ชพ้ นื้ ท่ีในการดาเนนิ การใด ๆ
1.5 บทบาทของโรงเรียนทีม่ ีต่อชมุ ชนและให้ความรว่ มมือในการจัดการช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนมกี ารจัดบรรเทาสถานการณ์
สถานที่ปลกู สมุนไพรทางเลือก
สถานท่ผี ลติ เจลแอลกอฮอล์
ดาเนนิ งานจติ อาสา
อนื่ ๆ (โปรดระบ)ุ ………………………………………………………………………………………………….
ไม่มี
137
ตอนที่ 2 การดาเนินงานด้านการบรหิ ารจัดการ การจัดการเรยี นรู้ และการดูแลช่วยเหลือนักเรยี น
2.1 การดาเนินงานดา้ นการบรหิ ารจัดการของโรงเรยี นในสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019
1) ด้านบุคคล (Man)
1.1 โรงเรียนมีรูปแบบหรือแนวทางในการบริหารจัดการด้านบุคคลในช่วงสถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.2 ผู้บริหารสถานศึกษา /ครูผู้สอน มีบทบาทในการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์
การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.3 โรงเรียนมีรูปแบบหรือแนวทางการส่งเสริมพัฒนาครูในการจัดการศึกษาในช่วงสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา 2019 อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
1.4 โรงเรยี นมีครพู อเพียงในการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
ตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรอื ไม่ และโรงเรยี นมรี ูปแบบหรือแนวทางในการจดั การอยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2) ด้านงบประมาณ (Money)
2.1 โรงเรียนมรี ูปแบบหรือแนวทางในการบรหิ ารจดั การดา้ นการงบประมาณ (Money) ในชว่ ง
สถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชื้อไวรสั โคโรนา 2019 อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.2 โรงเรียนมีงบประมาณเพยี งพอในการจดั การเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา (COVID 19) หรอื ไม่ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3 โรงเรียนมีปัญหาและอุปสรรคการบริหารจัดการงบประมาณ ในการจัดการเรียนการสอน
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 หรือไม่ และโรงเรียนมีแนวทาง
การแก้ไขปญั หาอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.4 โรงเรียนได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพ่ิมเติมในการจัดการเรียนการสอนในช่วง
สถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 หรือไม่ จากทใ่ี ด อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
138
3) ด้านวัสดุ อุปกรณ์ และสิง่ อานวยความสะดวก (Money)
3.1 โรงเรียนมีรปู แบบหรอื แนวทางในการบรหิ ารจัดการด้านการวัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งอานวย
ความสะดวก (Material) ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.2 โรงเรียนมีวัสดุ อุปกรณ์ และส่ิงอานวยความสะดวก ในการจัดการเรียนการสอน
ในชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 เพียงพอหรือไม่ อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.3 โรงเรียนไดร้ ับการสนับสนนุ วสั ดุ อุปกรณ์ และส่ิงอานวยความสะดวก ในการจัดการเรียน
การสอนในช่วงสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรสั โคโรนา 2019 หรอื ไม่ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4) ดา้ นการบรหิ ารจัดการ (Management)
4.1 โรงเรียนมีการบริหารจัดการ (Management) ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 อยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4.2 โรงเรยี นมรี ปู แบบ วธิ กี าร หรอื กระบวนการ ในการพฒั นาการจดั การเรยี นการสอน
ในชว่ งสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคตดิ เชอื้ ไวรัสโคโรนา 2019 ท่ีประสบผลสาเรจ็ หรือเปน็ Best
Practice ของโรงเรยี น หรือไม่ อยา่ งไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
139
2.2 การดาเนนิ งานด้านการจดั การเรียนร้ขู องโรงเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
โรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019
2.2.1 แต่ละชัน้ เรียนจัดการเรียนรู้ตามรูปแบบใด (สามารถเลือกตอบ ได้มากวา่ 1 ข้อ)
ชัน้ On Site On Air On On Online รปู แบบอื่นๆ ปัญหา วิธีแกไ้ ข
Demand Hand (โปรดระบุ) อุปสรรค
อบ.1
อบ.2
อบ.3
ป.1
ป.2
ป.3
ป.4
ป.5
ป.6
ม.1
ม.2
ม.3
2.2.2 จากขอ้ 2.1 ทา่ นมวี ธิ ีการ หรือแนวทางในการพิจารณาเลือกรปู แบบการจัดการเรียนรู้
อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.2.3 โรงเรียนมีรูปแบบ หรือแนวทางในการวัดและประเมินผลจากการจัดการเรียนการสอน
ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3 การดาเนนิ งานดา้ นการดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรียนของโรงเรียนในชว่ งสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019
2.3.1 โรงเรยี นมีรปู แบบหรือแนวทางในการให้ความช่วยเหลือนักเรยี นดา้ นการเรยี นรู้อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3.2 กรณีนักเรยี นขาดเรยี นโรงเรยี นมรี ะบบติดตาม ให้ความช่วยเหลอื นักเรียนอยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
140
2.3.3 โรงเรียนมีรูปแบบหรือแนวทางในการด้านการติดตามส่งต่อการเรียนรู้จากระดับ
ประถมศึกษามธั ยมศึกษาตอนตน้ อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3.4 โรงเรยี นมีมาตรการดา้ นความปลอดภยั ในชว่ งสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคติดเชื้อ
ไวรัสโคโรนา 2019 อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3.5 โรงเรียนมแี นวทางในการตดิ ตาม ช่วยเหลอื นักเรยี นท่ีผปู้ กครองหรือญาติทีใ่ กลช้ ดิ
เป็นกลมุ่ ผสู้ มั ผัสโรค กลุ่มเส่ียง หรอื ตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 หรือไมอ่ ยา่ งไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.3.6 โรงเรยี นมีแนวทาง หรือนโยบายให้เครือข่ายผู้ปกครอง หรือญาติท่ีใกล้ชิดของนักเรียน
มสี ว่ นรว่ มในการสงั เกตพฤติกรรมการเรียน และประเมินผลการเรยี นรรู้ ว่ มกันหรอื ไม่ อยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
2.3.7 ด้านอ่ืน ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
ตอนท่ี 3 ความต้องการของโรงเรยี นในการได้รับการส่งเสรมิ สนบั สนนุ จากหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้อง
ในกรณีทีไ่ มส่ ามารถจดั การเรยี นการสอนในโรงเรยี นแบบปกตไิ ด้ (On Site)
สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเชียงใหม่ เขต 3
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ตอนท่ี 4 ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ
ข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
*************************************
ขอขอบคุณในความร่วมมือ ณ โอกาสน้ี