The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 2 (2-65)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siripa_26, 2023-03-18 04:22:49

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 2 (2-65)

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 2 (2-65)

เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การประเมินคุณค่างานเขียน ๑. ข ๒. ง ๓. ค ๔. ก ๕. ก ๖. ง ๗. ข ๘. ค ๙. ก ๑๐. ข


ใบงาน เรื่อง สรุปความรู้การประเมินคุณค่าเรื่องสั้น ตอนที่ ๑ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ แนวคิดหรือแก่นเรื่องมีความสำคัญต่องานเขียนอย่างไร ตอนที่ ๒ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด สรุปการประเมินคุณค่างานเขียน


ใบงาน เรื่อง สรุปความรู้การประเมินคุณค่าเรื่องสั้น ตอนที่ ๑ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ แนวคิดหรือแก่นเรื่องมีความสำคัญต่องานเขียนอย่างไร แนวคิดหรือแก่นเรื่องเป็นสิ่งที่ผู้เขียนกำหนดไว้เพื่อช่วยในการวางโครงเรื่อง สร้างตัวละคร กำหนดฉาก และกลวิธีการเล่าเรื่อง ซึ่งทำให้งานเขียนนั้นมีความชัดเจนและผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ว่า ผู้เขียนต้องการ นำเสนอเรื่องใด แนวคิดหรือแก่นเรื่องจึงเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของเรื่องนั่นเอง ตอนที่ ๒ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด สรุปการประเมินคุณค่างานเขียน (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน)


ใบงาน เรื่อง สรุปความรู้การประเมินคุณค่ากวีนิพนธ์ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด สรุปแนวทางการประเมินคุณค่ากวีนิพนธ์


เฉลยใบงาน เ รื่อง สรุปความรู้การประเมินคุณค่ากวีนิพนธ์ คำชี้แจง ให้นักเรียนเขียนแผนผังความคิด สรุปแนวทางการประเมินคุณค่ากวีนิพนธ์ (พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน) แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล พิจารณาคำตอบของนักเรียน


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่องการอ่านฉันท์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชาภาษาไทย ๖ รหัส ท ๓๓๑๐๒ ชื่อหน่วย สามัคคีเภทคำฉันท์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง การอ่านฉันท์ เวลา 1 คาบ สอนวันที่ 10 มกราคม 2566 ผู้สอน นางสาวสิริภา แสงสมัคร ๑. สาระที่ 1 การอ่าน 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน 3. ตัวชี้วัด ม. ๔-๖/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้อย่างถูกต้อง ไพเราะ และเหมาะสมกับเรื่องที่อ่าน 4. สาระสำคัญ การอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ต้องอ่านออกเสียงให้ถูกต้องตามลักษณะคำประพันธ์ ที่มีการบังคับฉันท์ลักษณของคำครุและคำลหุอย่างไพเราะและเหมาะสม ผู้อ่านจำเป็นต้องรู้จักลักษณะบังคับ ทั่วไปของของคำฉันท์ และลักษณะเฉพาะของคำฉันท์แต่ละชนิด รวมถึงมีลักษณะการอ่านเหมือนคำประพันธ์ ทั่วไป เช่น การอ่านทอดจังหวะคำแต่ละวรรคตามแต่ชนิดของฉันท์ อ่านออกเสียงคำให้ถูกต้องตามลักษณะ บังคับลหุครุของฉันท์แต่ละชนิด และคำสุดท้ายวรรคที่ใช้คำเสียงจัตวาต้องอ่านให้เสียงสูงเป็นพิเศษ เพื่อความไพเราะ ใช้คำเสียงจัตวาตรงท้ายคำบาทแรก 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ ( K ) - นักเรียนบอกหลักการอ่านออกเสียงร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ ด้านกระบวนการ ( P ) - นักเรียนอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง ไพเราะและเหมาะสมกับเรื่องที่อ่านได้ ด้านคุณลักษณะ ( A ) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน - รักความเป็นไทย 6. สาระการเรียนรู้ หลักการการออกเสียงบทร้อยกรองประเภทฉันท์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๗.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๗.๒ ความสามารถในการคิด ๗.๓ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขั้นที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ (Engagement) ๑. นักเรียนดูตัวอย่างฉันท์ที่ครูกำหนด จากนั้นให้นักเรียนลองอ่านออกเสียงธรรมดาพร้อมกันแล้วให้ นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่าคำประพันธ์ที่นักเรียนอ่านนั้น เป็นคำประพันธ์ประเภทใด ๒. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าคำประพันธ์ที่ครูให้นักเรียนดูและอ่านนั้นเรียกว่าคำประพันธ์ประเภท ฉันท์ซึ่งในระดับชั้น ม.๖ นักเรียนต้องเรียนรู้วรรณคดีเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ และในคาบนี้นักเรียนจะได้ เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการอ่านคำประพันธ์ประเภทฉันท์ก่อน ขั้นที่ ๒ สำรวจค้นหา (Exploration) 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง ปานกลางค่อนข้างอ่อน และอ่อน 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายทบทวนความรู้เกี่ยวกับหลักการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ ประเภทฉันท์ตามที่เคยได้เรียนมา ขั้นที่ ๓ อธิบายความรู้(Explanation) 5. ครูให้นักเรียนฟังวิดีโอการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ จากนั้นร่วมกันวิเคราะห์ว่า เหมือนกับที่นักเรียนเคยเรียนมาหรือไม่ อย่างไร 6. ครูสุ่มนักเรียน ๒-๓ คน อ่านออกเสียงบทร้อยกรองเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ ตามหลักที่เคยเรียนมา ให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรียน โดยครูและเพื่อนนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและให้ข้อเสนอแนะ 7. ครูเปิดวิดีโอการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ให้นักเรียนฟัง อีกครั้ง พร้อมอธิบายวิธีการ อ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ให้นักเรียนฟังอย่างละเอียด เพื่อให้นักเรียนสามารถอ่านออกเสียงได้ อย่างถูกต้อง ขั้นที่ ๔ ขยายความเข้าใจ (Elaboration) 8. นักเรียนแต่ละคนฝึกอ่านออกเสียงบทอาขยานหลักเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ ตามที่ได้ฟังจากวิดีโอ 9. นักเรียนจับคู่กับเพื่อนในกลุ่ม ผลัดกันอ่านออกเสียงบทอาขยานหลักเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ ให้คู่ ของตนเองฟัง และผลัดกันวิจารณ์แสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำแก้ไขในกรณีที่ยังอ่านไม่ถูกต้อง โดยครูคอยสังเกตการอ่านออกเสียงของนักเรียน และให้คำแนะนำเพิ่มเติมเพื่อให้นักเรียนสามารถอ่าน ออกเสียงได้อย่างถูกต้อง ขั้นที่ ๕ ตรวจสอบผล (Evaluation) 10. นักเรียนนำคำแนะนำที่ได้จากครูและเพื่อนมาปรับปรุงการอ่านออก-เสียงคำประพันธ์ประเภท ฉันท์ของตนเองให้ดียิ่งขึ้น แล้วครูนัดหมายการอ่านออกเสียงเป็นรายบุคคล (นอกเวลาเรียน) และร่วมกันสรุป ความรู้เรื่องการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ๒. ตัวอย่างคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ๓. แบบทดสอบก่อนเรียน ๔. วิดีโอการอ่านฉันท์ ๕. ห้องสมุด


๖. อินเทอร์เน็ต 10. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ วิธีการวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. แบบประเมินการอ่านออกเสียง 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน รายบุคคล 3. แบบสังเกตการทำงานกลุ่ม 4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน 1. ประเมินการอ่านออกเสียง 2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 3. สังเกตการทำงานกลุ่ม 4. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. ประเมินสมรรถนะของผู้เรียน 1. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 2. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 3. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 4. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 5. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป ๑1. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ..................................................ผู้ตรวจ (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/1) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...จากการทำกิจกรรมนักเรียนทุกคนบอกหลักการอ่านออกเสียง ร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง 1.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทฉันท์นักเรียน ร้อยละ 95 ผ่านการประเมินในระดับดีแต่ต้องใช้เวลาในการอ่าน ฟังตัวอย่างจากครู วิดีโอ และต้องเรียนรู้ เรื่องฉันทลักษณ์เพิ่มเติมจึงอ่านคำได้ถูกต้อง ในส่วนของความไพเราะและน้ำเสียงนั้นต้องใช้ทักษะการฝึกฝน ซึ่งเรื่องของเวลาในการฝึกเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญการอ่านเป็นอย่างมาก 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนผ่านการประเมินอยู่ในระดับดีมาก มีความพยายามที่จะ อ่านออกเสียงให้ถูกต้อง 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...- 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ - 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ....................... ...........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/2) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.2 ความรู้ความสามารถ ...จากการทำกิจกรรมนักเรียนทุกคนบอกหลักการอ่านออกเสียง ร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง 1.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการประเมินการอ่านออกเสียงบทร้อยกรองประเภทฉันท์นักเรียน ร้อยละ 95 ผ่านการประเมินในระดับดีแต่ต้องใช้เวลาในการอ่าน ฟังตัวอย่างจากครู วิดีโอ และต้องเรียนรู้ เรื่องฉันทลักษณ์เพิ่มเติมจึงอ่านคำได้ถูกต้อง ในส่วนของความไพเราะและน้ำเสียงนั้นต้องใช้ทักษะการฝึกฝน ซึ่งเรื่องของเวลาในการฝึกเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญการอ่านเป็นอย่างมาก 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนผ่านการประเมินอยู่ในระดับดีมาก มีความพยายามที่จะ อ่านออกเสียงให้ถูกต้อง 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...- 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ - 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ....................... ...........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/3) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...จากการทำกิจกรรมนักเรียนทุกคนบอกหลักการอ่านออกเสียง ร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียน ผ่านการประเมินในเรื่องการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภท ฉันท์ในระดับดีและพอใช้ต้องเรียนรู้เรื่องฉันทลักษณ์เพิ่มเติมจึงอ่านคำได้ถูกต้อง ในส่วนของความไพเราะและ น้ำเสียงนั้นต้องใช้ทักษะการฝึกฝนซึ่งเรื่องของเวลาในการฝึกเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญของการอ่าน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนผ่านการประเมินอยู่ในระดับดีมาก มีความพยายามที่จะ อ่านออกเสียงให้ถูกต้อง... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนหลายคนยังอ่านออกเสียงฉันท์ไม่ถูกต้องตามลักษณะของฉันท์ แต่ละชนิด ทั้งนี้ต้องฝึกฝนเพิ่มเติม... 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...การอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน การให้นักเรียนฟังบ่อย ๆ จากสื่อที่ครูให้ก็สามารถพัฒนาการอ่านได้ และในการประเมินการอ่านนี้ครูใช้เวลา ของการเรียนเกี่ยวกับเนื้อเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์เพื่อประเมินการอ่านควบคู่กัน 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ....................... ...........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/8) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...จากการทำกิจกรรมนักเรียนทุกคนบอกหลักการอ่านออกเสียง ร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียน ผ่านการประเมินในเรื่องการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภท ฉันท์ในระดับดีและพอใช้ ต้องเรียนรู้เรื่องฉันทลักษณ์เพิ่มเติมจึงอ่านคำได้ถูกต้อง ในส่วนของความไพเราะและ น้ำเสียงนั้นต้องใช้ทักษะการฝึกฝนซึ่งเรื่องของเวลาในการฝึกเป็นปัจจัยที่มีส่วนสำคัญของการอ่าน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนผ่านการประเมินอยู่ในระดับดีมาก มีความพยายามที่จะ อ่านออกเสียงให้ถูกต้อง... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนหลายคนยังอ่านออกเสียงฉันท์ไม่ถูกต้องตามลักษณะของฉันท์ แต่ละชนิด ทั้งนี้ต้องฝึกฝนเพิ่มเติม... 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...การอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน การให้นักเรียนฟังบ่อย ๆ จากสื่อที่ครูให้ก็สามารถพัฒนาการอ่านได้ และในการประเมินการอ่านนี้ครูใช้เวลา ของการเรียนเกี่ยวกับเนื้อเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์เพื่อประเมินการอ่านควบคู่กัน 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ........................... .......................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/10) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...จากการทำกิจกรรมนักเรียนทุกคนบอกหลักการอ่านออกเสียง ร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนผ่านการประเมินในเรื่องการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภท ฉันท์จำนวน 35 คน ส่วนอีก 6 คนไม่ได้ปฏิบัติกิจกรรม แต่ยังให้โอกาสนักเรียนในการซ่อมเสริมเพิ่มเติม... 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนจำนวน 11 คนผ่านการประเมินอยู่ในระดับดีมาก และ อีก 30 คน มีผลการประเมินอยู่ในระดับพอใช้เนื่องจากไม่เข้าร่วมกิจกรรม เข้าสาย 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การฝึกการอ่านในเวลาที่จำกัดค่อนข้างประสบปัญหา ประกอบกับการ อ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉัน์ค่อยข้างยาก จึงปรับลดเกณฑ์การประเมินลงให้คงอยู่ในเรื่องการอ่านคำ ให้ถูก 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์...นักเรียนกลุ่มอ่อนไม่เข้าเรียน ไม่ได้รับการฟัง การฝึกฝนการอ่าน 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...การอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน การอ่านให้นักเรียนฟังบ่อย ๆ การที่นักเรียนไม่เข้าเรียนก็ทำให้ไม่ได้รับการฝึกฝน ทั้งนี้ได้ลงวิดีโอให้นักเรียน ฝึกฝนเพิ่มเติม 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนักให้นักเรียนมีวินัยในการเรียน มุ่งมั่นตั้งใจใน การเรียนต่อไป ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/12) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...จากการทำกิจกรรมนักเรียนทุกคนบอกหลักการอ่านออกเสียง ร้อยกรองประเภทฉันท์ได้ถูกต้อง 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนผ่านการประเมินในเรื่องการอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภท ฉันท์ จำนวน 17 คน ส่วนอีก 3 คนไม่ได้ปฏิบัติกิจกรรม แต่ยังให้โอกาสนักเรียนในการซ่อมเสริมเพิ่มเติม... 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนจำนวน 17 คน ผ่านการประเมิน และอีก 3 คน ยัง ไม่ได้รับการประเมิน 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การฝึกการอ่านในเวลาที่จำกัดค่อนข้างประสบปัญหา ประกอบกับการ อ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ค่อนข้างยาก จึงปรับลดเกณฑ์การประเมินลงให้คงอยู่ในเรื่องการอ่าน คำให้ถูก 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์...นักเรียนที่ไม่เข้าเรียน ไม่ได้รับการฟัง การฝึกฝนการอ่าน 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...การอ่านออกเสียงคำประพันธ์ประเภทฉันท์ต้องใช้เวลาในการฝึกฝน การอ่านให้นักเรียนฟังบ่อย ๆ การที่นักเรียนไม่เข้าเรียนก็ทำให้ไม่ได้รับการฝึกฝน ทั้งนี้ได้ลงวิดีโอให้นักเรียน ฝึกฝนเพิ่มเติม 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนักให้นักเรียนมีวินัยในการเรียน มุ่งมั่นตั้งใจใน การเรียนต่อไป ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ความเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ......................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (นางสาวเพริศพิศ คูหามุข) รองผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (นายนพปฎล มุณีรัตน์) ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ภาคผนวก


บทอ่าน สามัคคีเภทคำฉันท์ พึงมรรยาทยึด สุประพฤติสงวนพรรค์ รื้อริษยาอัน อุปเฉทไมตรี ดั่งนั้น ณ หมู่ใด ผิ บ ไร้สมัครมี พร้อมเพรียงนิพัทธ์นี รวิวาทระแวงกัน หวังเทอญมิต้องสง สยคงประสบพลัน ซึ่งสุขเกษมสันต์ หิตะกอบทวีการ ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ หักล้าง บ แหลกลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรียงกัน ป่วยกล่าวอะไรฝูง นรสูงประเสริฐครัน ฤาสรรพสัตว์อัน เฉพาะมีชีวีครอง แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ลอง มัดกํากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน เหล่าไหนผิไมตรี สละลี้ ณ หมู่ตน กิจใดจะขวายขวน บ มิพร้อมมิเพรียงกัน อย่าปรารถนาหวัง สุขทั้งเจริญอัน มวลมาอุบัติบรร ลุไฉน บ ได้มี ปวงทุกข์พิบัติสรร พภยันตรายกลี แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม ควรชนประชุมเช่น คณะเป็นสมาคม สามัคคิปรารม ภนิพัทธรําพึง ไป่มีก็ให้มี ผิวมีก็คํานึง เนื่องเพื่อภิยโยจึง จะประสบสุขาลัย ชิต บุรทัต


แบบประเมินการอ่านบทร้อยกรอง คำชี้แจง : ให้ผู้สอนประเมินการอ่านบทร้อยกรองแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน การออกเสียง การเว้นวรรค ความไพเราะ การสอดแทรก อารมณ์ ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การให้คะแนนการอ่านบทร้อยกรอง ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ การออกเสียง เสียงดังฟังชัดมี อักขรวิธีที่ถูกต้อง เสียงดังฟังชัดมี อักขรวิธีที่ถูกต้อง บ้าง เสียงดังฟังชัดมี อักขรวิธีไม่ถูกต้อง เสียงไม่ค่อยดัง ชัดเจนมีอักขรวิธี ไม่ถูกต้อง การเว้นวรรค อ่านเว้นวรรคได้ ถูกต้อง อ่านเว้นวรรคผิด บ้างเป็นบางครั้ง อ่านเว้นวรรคผิด ขาดการอ่าน เว้นวรรค อ่านผิด ทั้งหมด ความไพเราะ ใช้น้ำเสียงชัดเจน ไพเราะเหมาะสม กับคำประพันธ์ น้ำเสียงเหมาะสม บ้างเป็นบางครั้ง มีน้ำเสียงไม่ เหมาะสมกับเรื่อง ที่อ่าน อ่านเพี้ยน ไม่ถูกต้องตามคำ ประพันธ์ การสอดแทรกอารมณ์ ความรู้สึก สอดแทรกอารมณ์ เหมาะสมในการ อ่านอย่างชัดเจน ยิ่งขึ้น สอดแทรกอารมณ์ เหมาะสมในการ อ่านอย่าง เหมาะสม สอดแทรกอารมณ์ เหมาะสมในการ อ่านเป็นบางครั้ง ขาดอารมณ์ ในการอ่าน ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน


แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความ รับผิดชอบ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานเป็นรายบุคคล ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ความรับผิดชอบ ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา และมี ผลงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา แต่ผลงานยังไม่ดี เท่าที่ควร ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้แต่ไม่ ตรงต่อเวลาและ ผลงานยังไม่ดีนัก ทำงานที่ได้รับ มอบหมายได้แต่ ต้องอาศัยคำสั่ง และผลงานไม่ดี การรับฟังความคิดเห็น เคารพ การตัดสินใจ ให้เกียรติในความ คิดเห็นและรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่นทุกครั้ง เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์ทุกครั้ง แสดงความ คิดเห็นต่อที่เป็น ประโยชน์สำหรับ การเรียนและมี ความสร้างสรรค์ อย่างสม่ำเสมอ แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์บ้าง แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน บ้าง ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นและปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ สามารถเป็น แบบอย่างที่ดีแก่ ผู้อื่น มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นและปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นแต่ยังปฏิบัติ ไม่สม่ำเสมอ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละ ต่อผู้อื่นบ้าง


แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน กระบวนการ ทำงานกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความสามัคคี ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ กระบวนการทำงานกลุ่ม วางแผน การทำงานตามที่ ได้รับมอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา และมี ผลงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ วางแผน การทำงานตามที่ ได้รับมอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา แต่ผลงานยังไม่ดี เท่าที่ควร ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ แต่ไม่ตรงต่อเวลา และผลงาน ยังไม่ดีนัก ขาดการวางแผน ในการทำงาน และผลงานไม่ดี เท่าที่ควร การรับฟังความคิดเห็น เคารพ การตัดสินใจ ให้เกียรติในความ คิดเห็นและรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่นทุกครั้ง เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์ทุกครั้ง แสดงความ คิดเห็นที่เป็น ประโยชน์สำหรับ การเรียนและมี ความสร้างสรรค์ อย่างสม่ำเสมอ แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์บ้าง แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน บ้าง ความสามัคคี มีความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ โดยยุติธรรม มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อกัน มีความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ค่อนข้าง ขาด ความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่ทั่วถึง ขาดความเป็น อันหนึ่งอัน เดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่เสมอภาค


แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความสามาร ถในการ สื่อสาร ความสมารถ ในการคิด ความสามาร ถในการใช้ ทักษะชีวิต ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ เกณฑ์การประเมิน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ ………….


ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน รายการประเมิน ๓ ๒ ๑ ความสามารถ ในการสื่อสาร พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง ดู ด้วยภาษาของตนเอง ได้อย่างคล่องแคล่ว ชัดเจน พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง หรือ ดู ด้วยภาษาของ ตนเองได้อย่างชัดเจน แต่ขาดความคล่องแคล่ว พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง หรือ ดู ด้วยภาษา ของตนเองได้บ้าง ความสามารถ ในการคิด ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วน ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่ครบถ้วน ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง เป็นบางส่วนและ ไม่ครบถ้วน ความสามารถ ในการใช้ทักษะชีวิต นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น ระบบและ มีประสิทธิภาพ นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น ระบบแต่ขาด ประสิทธิภาพ นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานได้ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สำเร็จในเวลา ที่กำหนด


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ๑ นางสาวชญานิษฐ์ เทียนจู ๒ นางสาวณัฐธิดา เพ็ชรมณี ๓ นางสาวอานีต้า ยะยี ๔ นายอิรฟาน สาบา ๕ นางสาวธันวาทิพย์ ไชยชะนะ 6 นางสาวณัฐธิดา สุวรรณชาตรี 7 นางสาวนาเดียร์ พูนภักดี 8 นางสาวฟาติล สัสดีวงศ์ 9 นางสาววรรณพร แก้วหมั่น 10 นางสาววรัญญา คงนวล 11 นางสาวศิริพร นุ่นแก้ว 12 นางสาวอิงครัตน์ สิทธิศักดิ์ 13 นางสาวนิชาภา พิศวง 14 นางสาวภูริพงศ์ อ่อนทอง 15 นายยศกร ฮิ่นเซ่ง 16 นางสาวกนกพรคงแก้ว 17 นายธนพัฒน์บัวตูม 18 นางสาววิอัญชณุ พรมจินโน 19 นางสาวอรวรรณ ดำแดง 20 นางสาวรัตนาวดีเปรมรัชชานนท์


21 นางสาวอัยซะห์จะปะกียา 22 นางสาวตัสนีซา ดีดิ 23 นางสาวสุวนัน โทโม 24 นางสาวศิญาม บำรุงเชื้อ ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ 25 นางสาวต่วนฟิตเราะห์ ดาโอ๊ะ 26 นางสาวนิสรีน ลำเลียงพล 27 นางสาวนาเดีย หิเล 28 นางสาวณัฏฐณิชา ตั้งสกุลเจริญ 29 นางสาวชลชนก เณรจาที 30 นายอาร์นาซ วาอายีตา 31 นายนพรัตน์ ดาวกระจาย 32 นายอะหมัด ดอเล๊าะ เกณฑ์การประเมิน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ ………….


ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ๓ ๒ ๑ มีวินัย ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของห้องเรียน ไม่รบกวนบุคคลอื่น มีสมาธิในการปฏิบัติงาน ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กติกาที่ได้ตกลงกัน ไม่รบกวนบุคคลอื่น ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กติกาที่ได้ตกลงกันบ้าง ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ บางครั้ง มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจ อดทน พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย และไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค เพื่อให้งานสำเร็จ มีความตั้งใจ อดทน พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้งานสำเร็จ มีความตั้งใจ พยายาม ในการทำงานที่ได้รับ มอบหมาย


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ สามัคคีเภทคำฉันท์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชาภาษาไทย ๖ รหัส ท ๓๓๑๐๒ ชื่อหน่วย สามัคคีเภทคำฉันท์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง การวิเคราะห์ วิจารณ์ เวลา 2 คาบ สอนวันที่ 15-19 มกราคม 2566 ผู้สอน นางสาวสิริภา แสงสมัคร ๑. สาระที่ 1 การอ่าน 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน 3. ตัวชี้วัด วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่อ่านในทุก ๆ ด้านอย่างมีเหตุผล 4. สาระสำคัญ การอ่านเพื่อการวิเคราะห์วิจารณ์เป็นการอ่านเพื่อแยกแยะข้อความที่อ่านอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ ทราบถึงโครงสร้าง องค์ประกอบ หลักการและเหตุผลของเรื่อง จนสรุปได้ว่าแต่ละส่วนเป็นอย่างไร สัมพันธ์กัน อย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้เห็นความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งนี้ในการอ่าน วรรณคดีเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์นี้ต้องมีการวิเคราะห์วิจารณ์จากเรื่องที่อ่านอย่างถูกต้อง 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ ( K ) - บอกความหมายและหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ ด้านกระบวนการ ( P ) - วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ ด้านคุณลักษณะ ( A ) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน 6. สาระการเรียนรู้ หลักการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๗.๑ ความสามารถในการสื่อสาร ๗.๒ ความสามารถในการคิด ๗.๓ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คาบที่ ๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูแจกบทความเกี่ยวกับการวิจารณ์วรรณกรรมให้นักเรียนอ่าน จากนั้นร่วมกันแสดงความคิดเห็น ต่อบทความที่อ่าน ๒. ครูแจ้งให้นักเรียนทราบว่าเมื่ออ่านวรรณกรรมเรื่องใด ๆ แล้วจะมีประเด็นของการวิเคราะห์ วิจารณ์ว่างานนั้น ๆ มีคุณค่าอย่างไร ซึ่งนักเรียนจะได้เรียนรู้ในคาบนี้ ๓. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการวิเคราะห์ วิจารณ์ ขั้นสอน ๑. นักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษา ความรู้เรื่อง การอ่านเพื่อการวิเคราะห์วิจารณ์ จากหนังสือเรียน และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ ๒. สมาชิกแต่ละกลุ่มนำผลการศึกษาความรู้มาถ่ายทอดแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในกลุ่ม จากนั้นร่วมกัน สรุปองค์ความรู้เรื่อง การอ่านเพื่อการวิเคราะห์วิจารณ์ ๓. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำแบบฝึกทักษะ เรื่อง หลักการอ่านเพื่อการวิเคราะห์วิจารณ์ ๔. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน ๑-๒ กลุ่ม นำเสนอคำตอบในแบบฝึกทักษะ จากนั้นสุ่มนักเรียนกลุ่มอื่น ตรวจสอบความถูกต้อง ๕. ครูตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นให้ตัวแทนนักเรียนเก็บรวบรวมใบงานส่งครู ขั้นสรุป ครูและนักเรียนสรุปความรู้เรื่องวิเคราะห์ วิจารณ์ ร่วมกันอีกครั้ง คาบที่ ๒ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ครูสุ่มเรียกนักเรียนสองคนเพื่อตอบคำถามทบทวนความรู้เรื่องการวิเคราะห์ วิจารณ์ไปในคาบที่ผ่านมา จากนั้นทบทวน เนื้อหาให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ขั้นสอน ๑. นักเรียนจัดกลุ่ม จากนั้นให้แต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เรื่องการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ วรรณคดีและวรรณกรรมและตัวอย่างการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีในบทเรียนจากหนังสือเรียน ๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ จากหนังสือเรียน ๓. ครูสนทนากับนักเรียนเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ จากนั้นถามนักเรียนว่าเป็นวรรณกรรมประเภทใด ใครเป็นผู้แต่ง และมีจุดมุ่งหมายในการแต่งอย่างไร ๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นว่า เมื่ออ่านเรื่องนี้แล้วมีความรู้สึกอย่างไร เหตุใดจึง รู้สึกเช่นนั้น ๕. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ มีรูปแบบ คำประพันธ์เหมาะสมกับเนื้อหาหรือไม่ เนื้อหาสาระของเรื่องมีคุณค่า ให้ความรู้ ข้อคิด คติเตือนใจหรือไม่ อย่างไร ๖. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันพูดคุยในประเด็นของโทษของการแตกความสามัคคีว่าหากบ้านเมืองเรา ไร้ความสมัครสมานสามัคคีจะมีผลเสียอย่างไร ๗. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทำแบบฝึกทักษะ เรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีในบทเรียน เรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ เมื่อทำเสร็จแล้วให้นำส่งครูตรวจ


ขั้นสรุป นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีในบทเรียน เรื่องสามัคคีเภท คำฉันท์และให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน พร้อมมอบหมายชิ้นงานเรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์จาก การอ่านเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน หลักภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ๒. บทความเกี่ยวกับการวิจารณ์วรรณกรรม ๓. แบบฝึกทักษะหลักการอ่านเพื่อการวิเคราะห์วิจารณ์ ๔. แบบฝึกทักษะเรื่อง การวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีในบทเรียน เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ ๖. แบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน ๗. ห้องสมุด ๘. อินเทอร์เน็ต 10. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ วิธีการวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน 2. แบบฝึกทักษะเรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์ 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน รายบุคคล 4. แบบสังเกตการทำงานกลุ่ม 5. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน 1. ตรวจแบบทดสอบ 2. ตรวจแบบฝึกทักษะ การวิเคราะห์วิจารณ์ 3. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 4. สังเกตการทำงานกลุ่ม 5. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ประเมินสมรรถนะของผู้เรียน 1. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 2. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 3. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 4. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 5. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป ๖. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป ๑1. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ....................................................................................................... ....................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ..................................................ผู้ตรวจ (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/1) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนทั้ง 31 คนบอกความหมายและหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ได้ ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก... 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง สามารถอธิบาย ยกตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นตามหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ได้ ปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกทักษะได้รับ คะแนนผ่านในระดับดีมาก 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน จำนวน 31 คน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้าน การมีวินัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมไม่เพียงพอ ครูต้องใช้เวลาเพิ่มโดยนำสื่อให้ นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมใน Google Classroom แล้วมาพูดคุยรายละเอียด ประเด็นที่นักเรียนยังไม่กระจ่างที่ ต้องการให้อธิบายเพิ่มเติม... 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการที่ใช้เวลาในการเรียนเรื่องนี้เกินที่จัดสรรในคาบครูจึงให้ นักเรียนเรียนรู้จากสื่อเพิ่มเติมใน Google Classroom และ พูดคุยเพิ่มเติมนอกเวลา 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครู โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/2) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนจำนวน 31 คน บอกความหมายและหลักการวิเคราะห์ วิจารณ์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก... 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนจำนวน 29 คน วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง สามารถ อธิบาย ยกตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นตามหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ ปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกทักษะ ได้รับคะแนนผ่านในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 2 คน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน จำนวน 36คน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้าน การมีวินัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมไม่เพียงพอ ครูต้องใช้เวลาเพิ่มโดยนำสื่อให้ นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมใน Google Classroom แล้วมาพูดคุยรายละเอียด ประเด็นที่นักเรียนยังไม่กระจ่างที่ ต้องการให้อธิบายเพิ่มเติม... 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการที่ใช้เวลาในการเรียนเรื่องนี้เกินที่จัดสรรในคาบครูจึงให้ นักเรียนเรียนรู้จากสื่อเพิ่มเติมใน Google Classroom และ พูดคุยเพิ่มเติมนอกเวลา 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ......................... .........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/3) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนจำนวน 35 คน บอกความหมายและหลักการวิเคราะห์ วิจารณ์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก... 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนจำนวน 30 คน วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง สามารถ อธิบาย ยกตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นตามหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ ปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกทักษะ ได้รับคะแนนผ่านในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 5 คน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน จำนวน 30 คน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้าน การมีวินัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 5 คนผ่านเกณฑ์ใน ระดับดี 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...เวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมไม่เพียงพอ ครูต้องใช้เวลาเพิ่มโดยนำสื่อให้ นักเรียนศึกษาเพิ่มเติมใน Google Classroom แล้วมาพูดคุยรายละเอียด ประเด็นที่นักเรียนยังไม่กระจ่างที่ ต้องการให้อธิบายเพิ่มเติม... 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดี จำนวน 2 คน เนื่องจากยังขาดวินัย และต้องมุ่งมั่นในการเรียนให้มากเนื่องจากไม่ได้เข้าเรียน มาปฏิบัติ กิจกรรมย้อนหลังซึ่งเกิดจากการที่เพื่อนๆ ช่วยกันติดตามงานให้ 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการที่ใช้เวลาในการเรียนเรื่องนี้เกินที่จัดสรรในคาบ ครูจึงให้ นักเรียนเรียนรู้จากสื่อเพิ่มเติมใน Google Classroom และสอนซ่อมเสริม 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์...สร้างความตระหนัก ติดตามการเรียนของนักเรียนโดยให้เป็นไป ในลักษณะของเพื่อนช่วยเพื่อนซึ่งถือว่าได้ผลเนื่องจากนักเรียนห้องนี้จะช่วยกันติดตามงานอย่างสม่ำเสมอ ลงชื่อ......................... .........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/8) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.2ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนจำนวน 36 คน บอกความหมายและหลักการวิเคราะห์ วิจารณ์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก... 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนจำนวน 30 คน วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง สามารถ อธิบาย ยกตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นตามหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ ปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกทักษะ ได้รับคะแนนผ่านในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 6 คน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน จำนวน 32 คน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้าน การมีวินัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 4 คนผ่านเกณฑ์ใน ระดับพอใช้ 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ - 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะผ่านเกณฑ์อยู่ในพอใช้คือ นางสาวธัญญพร เนื่องจากยังขาดวินัย และต้องมุ่งมั่นในการเรียนให้มากเนื่องจากไม่ได้เข้าเรียน มาปฏิบัติ กิจกรรมย้อนหลังซึ่งเกิดจากการที่เพื่อนๆ ช่วยกันติดตามงานให้ 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ - 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนัก ติดตามการเรียนของนักเรียนโดยครูได้ พูดคุยถึงปัญหาของนักเรียนกับผู้ปกครองอยู่เสมอ ลงชื่อ........................ ..........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/10) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนบอกความหมายและหลักการวิเคราะห์ วิจารณ์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก จำนวน 35 คน ผ่านเกณฑ์ในระดับดี 6 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนจำนวน 15 คน วิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง สามารถ อธิบาย ยกตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นตามหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ ปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกทักษะ ได้รับคะแนนผ่านในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 20คน ผ่านเกณฑ์ในระดับดีและนักเรียนจำนวน 6 คน อยู่ในระดับพอใช้ 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน จำนวน 35 คน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้าน การมีวินัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก และนักเรียนจำนวน 6 คน ผ่านเกณฑ์ ในระดับพอใช้ 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การจัดกิจกรรมในเรื่องนี้ค่อยข้างใช้เวลามากเนื่องจากนักเรียนยังไม่ ค่อยเข้าใจบทเรียน ครูต้องใช้เวลาในการอธิบาย ทำกิจกรรมจากแบบฝึกทักษะอย่างช้า ๆ เพื่อให้นักเรียน เข้าใจเนื้อหาที่ถูกต้อง 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนจำนวน 6 คนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอยู่ใน ระดับพอใช้ เนื่องจากยังขาดวินัยและความมุ่งมั่นในการเรียน ไม่เข้าเรียน ไม่ทำกิจกรรม ส่งผลให้มีภาระงาน ที่ค้างจำนวนมาก 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการที่ใช้เวลาในการเรียนเรื่องนี้เกินที่จัดสรรในคาบครูจึงให้ นักเรียนเรียนรู้จากสื่อเพิ่มเติมใน Google Classroom และพูดคุยเพิ่มเติมนอกเวลาในกลุ่มไลน์ 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนัก ติดตามการเรียนของนักเรียน ทั้งนี้ครูให้ โอกาสในการติดตามงานของนักเรียนและมีการสอนซ่อมเสริม ลงชื่อ......................... .........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/12) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนบอกความหมายและหลักการวิเคราะห์ วิจารณ์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก จำนวน 20 คน 1.2 ทักษะกระบวนการ ...นักเรียนวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องที่อ่านได้ถูกต้อง สามารถอธิบาย ยกตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นตามหลักการวิเคราะห์วิจารณ์ ปฏิบัติกิจกรรมในแบบฝึกทักษะได้รับคะแนน ผ่านในระดับดีมาก จำนวน 12 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับดี จำนวน 8 คน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้านการมีวินัย ใฝ่ เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก จำนวน 15 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ นักเรียนจำนวน 5 คน 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การจัดกิจกรรมในเรื่องนี้ค่อยข้างใช้เวลามากเนื่องจากนักเรียนยังไม่ ค่อยเข้าใจบทเรียน ครูต้องใช้เวลาในการอธิบาย ทำกิจกรรมจากแบบฝึกทักษะอย่างช้า ๆ เพื่อให้นักเรียน เข้าใจเนื้อหาที่ถูกต้อง 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนจำนวน 5 คนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอยู่ใน ระดับพอใช้ เนื่องจากยังขาดวินัยและความมุ่งมั่นในการเรียน ไม่เข้าเรียน ไม่ทำกิจกรรม ส่งผลให้มีภาระงาน ที่ค้างจำนวนมาก 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...จากการที่ใช้เวลาในการเรียนเรื่องนี้เกินที่จัดสรรในคาบครูจึงให้ นักเรียนเรียนรู้จากสื่อเพิ่มเติมใน Google Classroom และพูดคุยเพิ่มเติมนอกเวลาในกลุ่มไลน์ 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนัก ติดตามการเรียนของนักเรียนทั้งนี้ได้ ติดตามให้นักเรียนทำงานส่งย้อนหลังจากเพื่อนและครูที่ปรึกษา ลงชื่อ......................... . ........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ความเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. (นางสาวเพริศพิศ คูหามุข) รองผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. (นายนพปฎล มุณีรัตน์) ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ภาคผนวก


แบบทดสอบก่อนเรียน คำชี้แจง นักเรียนอ่านข้อคำถาม และคำตอบให้ละเอียด แล้วทำเครื่องหมายกากบาท ( ) ทับอักษร ก, ข, ค หรือ ง ลงในกระดาษคำตอบที่ตรงกับตัวเลือกที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้อง ที่สุด เพียงข้อเดียว (๑๐ คะแนน) ๑. ข้อใดเป็นความหมายของการวิเคราะห์ ก. การพยายามหาคำตอบว่าเรื่องที่อ่านั้นให้ความรู้อะไรบ้าง ข. การอ่านเพื่อแยกแยะรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน ค. การอ่านเพื่อให้เกิดจินตนาการตามบทที่อ่าน ง. การอ่านเพื่อประเมินค่างานเขียนประเภทนั้น ๆ ๒. ข้อใดเป็นความหมายของวรรณคดี ก. หนังสือที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ ข. หนังสือที่แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง ค. หนังสือที่แต่งขึ้นจากประสบการณ์ตรง ง. หนังสือที่แต่งดีทั้งเนื้อเรื่องและศิลปะการประพันธ์ ๓. ข้อใดเป็นความหมายของบันเทิงคดี ก. เรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ เน้นสาระความรู้ ข. เรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ ไม่เน้นสาระความรู้ ค. แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง เน้นสาระความรู้ ง. แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง ไม่เน้นสาระ ๔. ข้อใดเป็นความหมายของ “วรรณกรรม” ก. หนังสือทั่วไปทุกชนิด ทุกประเภท ข. หนังสือที่แต่งได้ดีเป็นที่ยอมรับ ขายได้ ค. หนังสือที่แต่งดีทั้งเนื้อและศิลปะการกระพันธ์ ง. หนังสือที่แต่งมานานแล้ว เป็นของเก่า ๕. ข้อใดไม่ใช่หลักการวิจารณ์และประเมินค่าวรรณกรรม ก. พิจารณารูปแบบคำประพันธ์ ข. ศึกษาประวัติผู้แต่ง และจุดมุ่งหมาย ค. พิจารณาแก่นเรื่อง ง. อ่านหนังสือเรื่องนั้นอย่างคร่าวๆ


๖. ข้อใดกล่าวถึงการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ได้ถูกต้อง ก. เป็นการอ่านเพื่อจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่าน ข. เป็นการอ่านเพื่อพัฒนาจิตใจและก่อให้เกิดความจรรโลงใจ ค. เป็นการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์และประเมินค่าอย่างมีเหตุผล ง. เป็นการอ่านเพื่อขยายความจากเรื่องที่อ่านให้ครอบคลุมมากขึ้น ๗. สารใดควรใช้หลักการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์มากที่สุด ก. แผ่นพับหน่วยงานราชการ ข. ข่าวประชาสัมพันธ์ ค. หนังสือเรียน ง. กวีนิพนธ์ ๘. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการวิเคราะห์วิจารณ์ ก. ดึงเฉพาะจุดเด่นของเรื่องเพื่อวิจารณ์ ข. อ่านเรื่องที่ต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด ค. มีประเด็นเพื่อตั้งคำถามกับเรื่องที่อ่าน ง. เรียงลำดับประเด็นสำคัญให้เหมาะสม ๙. ทักษะการอ่านใดไม่ใช่ทักษะสำคัญสำหรับการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ ก. การอ่านจับใจความ ข. การอ่านขยายความ ค. การอ่านถอดความ ง. การอ่านตีความ ๑๐. ข้อใดไม่ใช่บันเทิงคดี ก. เรื่องสั้น ข. นวนิยาย ค. ชีวประวัติดารา ง. สามก๊ก ฉบับการ์ตูน


ใบความรู้ เรื่อง หลักการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์เบื้องต้น ความหมายของงานประพันธ์ งานประพันธ์ หมายถึง งานสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ได้แต่งขึ้น อาจเป็นลายลักษณ์อักษร หรือไม่ก็ได้โดยคัดเลือกถ้อยคำที่สละสลวยไพเราะมารวมเป็นเรื่องราวขึ้น อาจจะ สร้างสรรค์ขึ้นแบบร้อยแก้วหรือร้อยกรองก็ได้ แล้วแต่ความเหมาะสมและความต้องการ ของผู้เขียนเอง ระดับของงานประพันธ์ ๑. วรรณคดี หมายถึง วรรณกรรมหรืองานเขียนที่ยกย่องกันว่าดี มีสาระและมีคุณค่า ทางวรรณศิลป์ สามารถทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์สะเทือนใจ มีความคิดเป็นแบบแผน ใช้ภาษา ที่ไพเราะ เหมาะแก่การให้ประชาชนได้รับรู้เพราะสามารถยกระดับจิตใจให้สูงขึ้น ๒. วรรณกรรม หมายถึง งานเขียนที่แต่งขึ้นหรืองานศิลปะ ที่เป็นผลงานอันเกิดจาก การคิดและจินตนาการ แล้วเรียบเรียง นำมาบอกเล่า บันทึก ขับร้อง หรือสื่อออกมาด้วย กลวิธีต่าง ๆ โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งวรรณกรรมเป็น ๒ ประเภท คือ วรรณกรรมลายลักษณ์ คือวรรณกรรมที่บันทึกเป็นตัวหนังสือ และวรรณกรรมมุขปาฐะ อันได้แก่ วรรณกรรม ที่เล่าด้วยปาก ไม่ได้จดบันทึก องค์ประกอบของงานประพันธ์ งานประพันธ์ประกอบด้วยส่วนสำคัญ ๒ ประการ คือ ๑. เนื้อหา หมายถึง เรื่องราวที่ผู้ประพันธ์แต่งขึ้นจากจินตนาการ โลกทัศน์ ประสบการณ์หรือจากความรู้สึกของผู้ประพันธ์เอง รวมถึงสารที่ผู้ประพันธ์ต้องการส่งให้ผู้อ่าน ๒. รูปแบบ หมายถึง ลักษณะรวมของประเภทงานประพันธ์ที่ผู้แต่งใช้ อาจเป็น ร้อยแก้ว ซึ่งเป็นทั้งสารคดี เช่น บทความ จดหมายเหตุ และบันเทิงคดี ได้แก่ นวนิยาย นิทาน หรืออาจเป็นร้อยกรอง เช่น นิราศ โคลง คำฉันท์ ลิลิต


การแบ่งรูปแบบของงานประพันธ์ ๑. แบ่งตามลักษณะการแต่ง แบ่งเป็น ๒ ประเภท ดังนี้ ๑.๑ ร้อยแก้ว คือ งานประพันธ์รูปแบบหนึ่งซึ่งใช้โครงสร้างไวยากรณ์ปกติและการไหล ของถ้อยคำอย่างเป็นธรรมชาติ แทนที่จะใช้โครงสร้างเป็นจังหวะดังในกวีนิพนธ์ ๑.๒ ร้อยกรอง คือ งานประพันธ์ที่ผสมผสานระหว่างแนวความคิดและศิลปะการใช้คำ มีลักษณะบังคับในการแต่งที่เรียกว่า “ฉันทลักษณ์” คือ โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ๒. แบ่งตามลักษณะเนื้อเรื่อง มี ๒ ประเภท คือ ๒.๑ สารคดี (Non- fiction) เป็นงานเขียนหรือวรรณกรรมร้อยแก้วในลักษณะตรงข้าม กับบันเทิงคดี (Fiction) ที่มุ่งให้ให้สาระความรู้แก่ผู้อ่านเป็นเบื้องต้น มีความเพลิดเพลินเป็นเบื้องหลัง ที่มุ่งแสดงความรู้ ความคิด ความจริง ความกระจ่างแจ้ง และเหตุผลเป็นสำคัญ อาจจะเขียนเชิง อธิบาย เชิงวิจารณ์เชิงแนะนำสั่งสอน เป็นต้น ซึ่งสารคดีมีหลายประเภท ดังนี้ ๒.๑.๑ หนังสือตำราวิชาการ (Textbook) เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นตามหลักสูตรใน สถาบันการศึกษาระดับต่าง ๆ โดยเล่มหนึ่งๆ อาจจะเขียนครอบคลุมเนื้อหาในรายวิชาใดวิชาหนึ่ง อย่างครบถ้วน หรืออาจเขียนเจาะเฉพาะหัวข้อใหญ่ ๆ หัวข้อใดหัวข้อหนึ่งก็ได้ ๒.๑.๒ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ (Supplementary Reading) เป็น หนังสือที่เขียนขึ้นเพื่อใช้อ่านประกอบในเนื้อหาวิชาต่าง ๆ ที่เล่าเรียนอยู่ในสถานศึกษา โดยมี เนื้อหาละเอียดขึ้น พิสดารขึ้น เจาะลึกขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมให้ได้ความรู้ที่ กว้างขวางไปอีก ๒.๑.๓ หนังสือความรู้ทั่วไป เป็นหนังสือที่ผู้เขียนต่างๆ เรียบเรียงขึ้นตามที่ตน สนใจศึกษาค้นคว้าหรือที่รวบรวมได้ มิได้มุ่งหวังจะให้เป็นตำราสำหรับวิชาหนึ่งวิชาใด แต่เป็นการ เสนอความรู้ในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ๒.๑.๔ หนังสืออ้างอิง (Reference Book) เป็นหนังสือที่มีลักษณะพิเศษ ทำขึ้นเพื่อเป็นการรวบรวมความรู้หลากหลายสาขาเอาไว้รวมกัน หรืออาจรวบรวมความรู้ที่เป็น พื้นฐานสำคัญของแต่ละสาขาเอาไว้ หนังสือพวกนี้จะมีลักษณะหนาหลายหน้า หรือเป็นชุดหลาย เล่มจบ เวลาใช้ไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งหมด เพียงค้นหาคำตอบเฉพาะที่ต้องการใช้ก็พอ เช่น สารานุกรม พจนานุกรม หรือหนังสือคู่มือสาขาวิทยาศาสตร์ นามานุกรม เป็นต้น ๒.๑.๕ รายงานวิจัย เป็นรายงานการศึกษาค้นคว้าในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง มีการ จัดทำตามลำดับขั้นตอนวิธีวิจัยแบบต่างๆ นำข้อมูลมาวิเคราะห์ใช้สถิติต่างๆ ประกอบ และสรุปผล วิจัยออกมา เขียนอย่างมีระเบียบแบบแผน ๒.๑.๖ ปริญญานิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ (Theses or Dissertation) เป็นบทนิพนธ์ ที่เรียบเรียงขึ้นประกอบการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ทั้งระดับปริญญาโท และปริญญา เอกเนื้อหาเป็นผลการวิจัยในเรื่องที่ผู้ศึกษาสนใจ ส่วนใหญ่จะเป็นการค้นพบ สิ่งใหม่ ๆ หรือ


เป็นการพิสูจน์ทฤษฎีที่มีผู้กล่าวไว้หรือเป็นการพิสูจน์สมมุติฐานในเรื่องที่เป็น ข้อสงสัย ซึ่ง รูปแบบอาจจะแตกต่างกันไปแต่ละสถาบัน ๒.๑.๗ คู่มือสถานศึกษา เป็นหนังสือที่สถาบันการศึกษาต่างๆ ทำขึ้นเพื่อบอก รายละเอียดเกี่ยวกับสถาบันนั้นๆ นับแต่ ประวัติ คณะวิชาที่เปิดสอน รายวิชาของคณะวิชาต่างๆ ระเบียบการเรียน ค่าธรรมเนียมต่างๆ รายชื่อคณาจารย์ ๒.๑.๘ สิ่งพิมพ์รัฐบาล เป็นหนังสือ เอกสารที่ผลิตโดยหน่วยงานราชการ และ รัฐวิสาหกิจ อาจจะเป็นการรายงานกิจการประจำปีของหน่วยงาน อาจจะเป็นรายงาน การ ประชุมทางวิชาการที่หน่วยนั้นขึ้น อาจจะเป็นสถิติข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง ที่ หน่วยงานนั้นรับผิดชอบอยู่ หรืออาจจะเป็นเอกสารเผยแพร่เชิงวิชาการในเรื่องที่หน่วยงานนั้น เชี่ยวชาญ ๒.๒ หนังสือบันเทิงคดี (Fiction Book) เป็นหนังสือที่เขียนขึ้นจากจินตนาการ มุ่งให้ ความบันเทิงเป็นสำคัญ แบ่งย่อยได้ดังนี้ ๒.๒.๑ หนังสือนวนิยาย ๒.๒.๒ หนังสือรวมเรื่องสั้น ๒.๒.๓ หนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน ส่วนใหญ่เป็นหนังสือภาพ หรือเป็นเรื่อง สั้นๆ เขียนเพื่อสอนจริยธรรมแก่เด็ก หรือให้ความรู้ที่เด็กควรรู้ มักจะมีขนาดบาง หน้าไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม หนังสือเด็กและเยาวชนที่มีชื่อเดียว อาจเป็นการบันเทิงล้วน ๆ แต่แทรก คติ สอนใจไว้อย่างแนบเนียน


ความหมายของการอ่านวิเคราะห์ การอ่านวิเคราะห์ หมายถึง การอ่านเพื่อแยกแยะข้อความที่อ่านอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ ทราบถึงโครงสร้าง องค์ประกอบ หลักการและเหตุผลของเรื่อง จนสรุปได้ว่าแต่ละส่วนเป็นอย่างไร สัมพันธ์กันอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการอ่านวิเคราะห์นั้นช่วยให้เห็นภาพรวม และรายละเอียดของเรื่องที่อ่าน ฝึกให้อ่านอย่างรอบคอบ ช่วยให้เข้าใจเรื่องนั้นอย่างแท้จริง ช่วย พัฒนาสติปัญญาเพราะต้องใช้เหตุผลในการอธิบายแง่มุมต่าง ๆ ซึ่งทักษะใน การอ่านนี้สามารถ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และจะนำไปใช้ในการอ่านประเมินค่าต่อไป หลักการอ่านวิเคราะห์ ๑. พิจารณาว่าเรื่องนั้นใช้รูปแบบใด เช่น เป็นงานประพันธ์ประเภทร้อยแก้ว ร้อยกรอง เป็นสารคดีหรือบันเทิงคดี ๒. แยกเนื้อเรื่องให้ได้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ๓. แยกพิจารณาให้ละเอียดว่า เนื้อหาประกอบด้วยอะไรบ้าง ๔. พิจารณาว่าใช้กลวิธีในการนำเสนอเรื่องอย่างไร ๕. ลำดับเหตุการณ์ ตามเหตุผลคือ ลำดับจากเหตุไปหาผล หรือจากผลไปหาเหตุ หรือตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหลัง ความสำคัญมากไปหาความสำคัญน้อย ๖. พิจารณาความคิดที่ผู้เขียนต้องสื่อให้ผู้อ่านทราบและความหมายที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่อง หรือข้อความนั้น เมื่ออ่านพิจารณาข้อความ บทความ หรือเนื้อเรื่องเสร็จแล้วจึงตอบคำถาม


ความหมายของการอ่านวิจารณ์ การอ่านวิจารณ์ หมายถึง การพิจารณาเทคนิคหรือกลวิธีการนำเสนอเนื้อหาของ เรื่อง ให้เห็นว่าน่าคิด น่าสนใจ น่าติดตาม มีชั้นเชิงยอกย้อนหรือตรงไปตรงมา องค์ประกอบใดมีคุณค่าน่าชมเชย องค์ประกอบใดน่าท้วงติงหรือบกพร่องอย่างไร หลักการอ่านวิจารณ์ ๑. พิจารณาองค์ประกอบของเรื่องว่าสอดคล้องเหมาะสมกันหรือขัดแย้งกัน เช่นการ วิจารณ์ร้อยแก้วประเภทบันเทิงคดี ต้องพิจารณาถึงโครงเรื่อง ตัวละคร ฉาก การดำเนินเรื่องปม ขัดแย้ง การคลี่คลายเรื่อง และการจบเรื่อง รวมถึง พิจารณาเนื้อเรื่องอย่างละเอียดถึงคุณค่า พฤติกรรมตัวละคร เหมาะสมกับเนื้อเรื่อง การใช้ภาษาเหมาะสมกับระดับบุคคล ส่วนร้อยกรองจะพิจารณาถึงรูปแบบ คำประพันธ์ว่า มีรูปแบบที่เหมาะสมกับเนื้อหา เนื้อหาสาระของเรื่องมีคุณค่าในการสร้างความเพลิดเพลิน ประเทืองปัญญา สะเทือนอารมณ์ สะท้อนสังคม ให้ความรู้ ข้อคิด คติเตือนใจ มีความงามด้าน วรรณศิลป์ คือ การใช้ถ้อยคำ สำนวนโวหารที่ไพเราะ คมคาย มีกลวิธีในการสร้างภาพพจน์ การใช้คำและเสียงสัมผัสที่ไพเราะ ๒. พิจารณาเนื้อหา การนำเสนอและพฤติกรรมของตัวละครว่ามีความสอดคล้องกัน หรือไม่ สะท้อนภาพชีวิต สะท้อนสภาพสังคมในสมัยที่แต่งอย่างไร ๓. พิจารณาแก่นเรื่องว่าผู้แต่งตั้งใจที่จะสื่อเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ผู้แต่งแสดงความคิดเห็น รสนิยม และค่านิยมอย่างไร ๔. การวิจารณ์สรุปด้วยความคิดเห็นของผู้วิจารณ์เอง โดยยกข้อดีให้เห็นก่อนว่าดีอย่างไร แล้วจึงยกข้อบกพร่องว่าบกพร่องอย่างไร จะแก้ไขอย่างไร การวิจารณ์ควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เป็นธรรมมีใจเป็นกลางไม่มีอคติแล้วประเมินคุณค่าในภาพรวมว่าวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่ วิจารณ์นั้นมีคุณค่าควรแก่การอ่านหรือควรค่าแก่การศึกษาอย่างไร ผู้อ่านสามารถนำคุณค่าที่ ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร วรรณกรรมบางเรื่องอาจมีคุณสมบัติที่ไม่ครบถ้วนตามหลักดังกล่าว ผู้อ่านสามารถวิจารณ์ ทั้งจุดเด่นและจุดด้อยได้เต็มที่ ส่วนวรรณคดีที่มีผู้วิจารณ์มาแล้วและตัดสินแล้วว่าแต่งดี ผู้วิจารณ์ อาจเห็นพ้องด้วยหรือไม่ก็ได้ แต่ทั้งนี้ผู้วิจารณ์ต้องชี้ให้เห็นว่าดีเด่นหรือบกพร่องอย่างไร


แบบฝึกเสริมทักษะที่ ๑ คำชี้แจง นักเรียนพิจารณาข้อความต่อไปนี้แล้วทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูก และทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ผิด ................. ๑. งานประพันธ์คืองานสร้างสรรค์ทุกชนิดที่มีการใช้ถ้อยคำภาษาที่ไพเราะ ................. ๒. วรรณคดีเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรม ................. ๓. วรรณกรรมมุขปาฐะเป็นเรื่องเล่าที่มีการบันทึกเป็นตัวหนังสือ ................. ๔. เนื้อหาและรูปแบบเป็นองค์ประกอบของงานประพันธ์ ................. ๕. ร้อยแก้วเป็นงานประพันธ์ที่มีศิลปะในการใช้คำที่เรียกว่าฉันทลักษณ์ ................. ๖. งานประพันธ์รูปแบบหนึ่งซึ่งใช้โครงสร้างไวยากรณ์ปกติและการไหลของถ้อยคำ อย่างเป็นธรรมชาติเรียกว่าร้อยแก้ว ................. ๗. สารคดีเป็นงานเขียนที่มุ่งให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านเป็นหลัก ................. ๘. พจนานุกรมหรือหนังสือคู่มือ จัดเป็นหนังสืออ่านประกอบ ................. ๙. บันเทิงคดีเป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นตามจินตนาการ มุ่งให้เกิดความบันเทิง เป็นสำคัญ ................ ๑๐. นวนิยาย เรื่องสั้น สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน นิทาน ถือเป็นบันเทิงคดีทั้งหมด เกณฑ์การให้คะแนน


ข้อ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๒ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๓ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๔ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๕ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๖ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๗ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๘ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๙ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๑๐ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน แบบฝึกเสริมทักษะที่ 2


คำชี้แจง นักเรียนนำชื่อหนังสือที่เป็นวรรณคดี สารคดีและบันเทิงคดีต่อไปนี้ แยกลงในตารางให้ถูกต้อง พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง พุทธธรรมฉบับเดิม เปิดตำนานผ่านอักษรจีน กาพย์เห่เรือ นิทานอีสป พระอภัยมณี เบื้องหลังการปฏิวัติ ๒๔๗๕ ขุนช้างขุนแผน นวนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาส สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน เจ้าชายน้อย ไตรภูมิพระร่วง เที่ยวทะเลใต้ โดเรมอน ลิลิตพระลอ วรรณคดี สารคดี บันเทิงคดี ๑. ๑. ๑. ๒. ๒. ๒. ๓. ๓. ๓. ๔. ๔. ๔. ๕. ๕. ๕. เกณฑ์การให้คะแนน


ข้อ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๑ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๒ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๓ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๔ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๕ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๖ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๗ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๘ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๙ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน ๑๐ ๑ คะแนน - ตอบถูกต้องได้ ๑ คะแนน - ตอบไม่ถูกต้องได้ ๐ คะแนน แบบฝึกเสริมทักษะที่ 3


Click to View FlipBook Version