The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 2 (2-65)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siripa_26, 2023-03-18 04:22:49

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 2 (2-65)

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 2 (2-65)

คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. การอ่านวิเคราะห์ หมายถึงอะไร ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ๒. จงบอกหลักในการอ่านวิเคราะห์ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ๓. การอ่านวิจารณ์ หมายถึง อะไร ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ๔. จงบอกหลักในการอ่านวิจารณ์ ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................


เกณฑ์การให้คะแนน ข้อ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ๑ 2 คะแนน - บอกความหมายได้ถูกต้องได้ใจความต่อเนื่อง ๒ คะแนน - บอกความหมายได้แต่ไม่ถูกต้อง ๑ คะแนน - บอกความหมายไม่ได้เลย ๐ คะแนน ๒ 3 คะแนน - บอกหลักการวิเคราะห์ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ ๓ คะแนน - บอกหลักการวิเคราะห์ได้ถูกต้องแต่ไม่สมบูรณ์ ๒ คะแนน - บอกหลักการวิเคราะห์ได้บ้าง ๑ คะแนน - บอกหลักการวิเคราะห์ไม่ได้เลย ๐ คะแนน 2 คะแนน - บอกความหมายได้ถูกต้องได้ใจความต่อเนื่อง ๒ คะแนน - บอกความหมายได้แต่ไม่ถูกต้อง ๑ คะแนน - บอกความหมายไม่ได้เลย ๐ คะแนน 3 คะแนน - บอกหลักการวิจารณ์ได้ถูกต้อง สมบูรณ์ ๓ คะแนน - บอกหลักการวิจารณ์ได้ถูกต้องแต่ไม่สมบูรณ์ ๒ คะแนน - บอกหลักการวิจารณ์ได้บ้าง ๑ คะแนน - บอกหลักการวิจารณ์ไม่ได้เลย ๐ คะแนน


แบบทดสอบหลังเรียน คำชี้แจง นักเรียนอ่านข้อคำถาม และคำตอบให้ละเอียด แล้วทำเครื่องหมายกากบาท ( ) ทับอักษร ก, ข, ค หรือ ง ลงในกระดาษคำตอบที่ตรงกับตัวเลือกที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้อง ที่สุด เพียงข้อเดียว (๑๐ คะแนน) ๑. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของงานประพันธ์ ก. งานสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่ได้แต่งขึ้นอาจเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ก็ได้ ข. งานเขียนที่คัดเลือกถ้อยคำที่สละสลวยไพเราะมารวมเป็นเรื่องราว ค. งานเขียนที่มีความหลากหลายอันเกิดจากกวีที่แต่งผลงานร่วมกัน ง. งานประพันธ์อาจเป็นได้ทั้งร้อยแก้วและร้อยกรอง ๒. ข้อใดไม่ใช่ความหมายของวรรณคดี ก. หนังสือที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ ข. หนังสือที่แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง ค. หนังสือที่แต่งขึ้นจากประสบการณ์ตรง ง. หนังสือที่แต่งดีทั้งเนื้อเรื่องและศิลปะการประพันธ์ ๓. ข้อใดเป็นความหมายของบันเทิงคดี ก. เรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ เน้นสาระความรู้ ข. เรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการ ไม่เน้นสาระความรู้ ค. แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง เน้นสาระความรู้ ง. แต่งขึ้นจากข้อเท็จจริง ไม่เน้นสาระ ๔. ข้อใดเป็นความหมายของ “วรรณกรรม” ก. หนังสือทั่วไปทุกชนิด ทุกประเภท ข. หนังสือที่แต่งได้ดีเป็นที่ยอมรับ ขายได้ ค. หนังสือที่แต่งดีทั้งเนื้อและศิลปะการกระพันธ์ ง. หนังสือที่แต่งมานานแล้ว เป็นของเก่า


๕. ข้อใดไม่ใช่หลักการวิจารณ์และประเมินค่าวรรณกรรม ก. พิจารณารูปแบบคำประพันธ์ ข. ศึกษาประวัติผู้แต่ง และจุดมุ่งหมาย ค. พิจารณาแก่นเรื่อง ง. อ่านหนังสือเรื่องนั้นอย่างคร่าวๆ ๖. ข้อใดกล่าวถึงการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ได้ถูกต้อง ก. เป็นการอ่านเพื่อจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่าน ข. เป็นการอ่านเพื่อพัฒนาจิตใจและก่อให้เกิดความจรรโลงใจ ค. เป็นการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์และประเมินค่าอย่างมีเหตุผล ง. เป็นการอ่านเพื่อขยายความจากเรื่องที่อ่านให้ครอบคลุมมากขึ้น ๗. สารใดควรใช้หลักการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์มากที่สุด ก. แผ่นพับหน่วยงานราชการ ข. ข่าวประชาสัมพันธ์ ค. หนังสือเรียน ง. กวีนิพนธ์ ๘. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการวิเคราะห์วิจารณ์ ก. ดึงเฉพาะจุดเด่นของเรื่องเพื่อวิจารณ์ ข. อ่านเรื่องที่ต้องวิเคราะห์อย่างละเอียด ค. มีประเด็นเพื่อตั้งคำถามกับเรื่องที่อ่าน ง. เรียงลำดับประเด็นสำคัญให้เหมาะสม ๙. ทักษะการอ่านใดไม่ใช่ทักษะสำคัญสำหรับการอ่านเพื่อวิเคราะห์วิจารณ์ ก. การอ่านจับใจความ ข. การอ่านขยายความ ค. การอ่านถอดความ ง. การอ่านตีความ ๑๐. ข้อใดไม่ใช่บันเทิงคดี ก. เรื่องสั้น ข. นวนิยาย ค. ชีวประวัติดารา ง. สามก๊ก ฉบับการ์ตูน


บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๑).หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระภาษาไทย.กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.


ภาคผนวก


เฉลยแบบฝึกเสริมทักษะที่ ๑ คำชี้แจง นักเรียนพิจารณาข้อความต่อไปนี้แล้วทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูก และทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ผิด ........✓......... ๑. งานประพันธ์คืองานสร้างสรรค์ทุกชนิดที่มีการใช้ถ้อยคำภาษาที่ไพเราะ ........✓........ ๒. วรรณคดีเป็นส่วนหนึ่งของวรรณกรรม ................ ๓. วรรณกรรมมุขปาฐะเป็นเรื่องเล่าที่มีการบันทึกเป็นตัวหนังสือ ........✓......... ๔. เนื้อหาและรูปแบบเป็นองค์ประกอบของงานประพันธ์ ................. ๕. ร้อยแก้วเป็นงานประพันธ์ที่มีศิลปะในการใช้คำที่เรียกว่าฉันทลักษณ์ ........✓......... ๖. งานประพันธ์รูปแบบหนึ่งซึ่งใช้โครงสร้างไวยากรณ์ปกติและการไหล ของถ้อยคำอย่างเป็นธรรมชาติเรียกว่าร้อยแก้ว ................. ๗. สารคดีเป็นงานเขียนที่มุ่งให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านเป็นหลัก ................. ๘. พจนานุกรมหรือหนังสือคู่มือ จัดเป็นหนังสืออ่านประกอบ .......✓.......... ๙. บันเทิงคดีเป็นเรื่องราวที่เขียนขึ้นตามจินตนาการ มุ่งให้เกิดความบันเทิง เป็นสำคัญ ............ ๑๐. นวนิยาย เรื่องสั้น สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน นิทาน ถือเป็นบันเทิงคดีทั้งหมด


เฉลยแบบฝึกเสริมทักษะที่ 2 คำชี้แจง นักเรียนนำชื่อหนังสือที่เป็นวรรณคดี สารคดีและบันเทิงคดีต่อไปนี้ แยกลงในตารางให้ถูกต้อง พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง พุทธธรรมฉบับเดิม เปิดตำนานผ่านอักษรจีน กาพย์เห่เรือ นิทานอีสป พระอภัยมณี เบื้องหลังการปฏิวัติ ๒๔๗๕ ขุนช้างขุนแผน นวนิยายเรื่องบุพเพสันนิวาส สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน เจ้าชายน้อย ไตรภูมิพระร่วง เที่ยวทะเลใต้ โดเรมอน ลิลิตพระลอ วรรณคดี สารคดี บันเทิงคดี ๑. กาพย์เห่เรือ ๑. พุทธธรรมฉบับเดิม ๑. พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ๒. พระอภัยมณี ๒. เปิดตำนานผ่านอักษรจีน ๒.โดเรมอน ๓. ขุนช้างขุนแผน ๓. เที่ยวทะเลใต้ ๓. นิทานอีสป ๔. ลิลิตพระลอ ๔. เบื้องหลังการปฏิวัติ ๒๔๗๕ ๔. นวนิยายเรื่องนาคี ๕. ไตรภูมิพระร่วง ๕. สารานุกรมไทยฉบับเยาวชน ๕. เจ้าชายน้อย


เฉลยแบบฝึกเสริมทักษะที่ 3 คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. การอ่านวิเคราะห์ หมายถึงอะไร การอ่านวิเคราะห์ หมายถึง การอ่านเพื่อแยกแยะข้อความที่อ่านอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้ทราบถึง โครงสร้าง องค์ประกอบ หลักการและเหตุผลของเรื่อง จนสรุปได้ว่าแต่ละส่วนเป็นอย่างไร สัมพันธ์กันอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งการอ่านวิเคราะห์นั้นช่วยให้เห็นภาพรวมและรายละเอียดของเรื่องที่อ่าน ฝึก ให้อ่านอย่างรอบคอบ ช่วยให้เข้าใจเรื่องนั้นอย่างแท้จริง ช่วยพัฒนาสติปัญญาเพราะต้องใช้เหตุผลในการ อธิบายแง่มุมต่าง ๆ ซึ่งทักษะในการอ่านนี้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ และจะนำไปใช้ในการอ่าน ประเมินค่าต่อไป ๒. จงบอกหลักในการอ่านวิเคราะห์ ๑. พิจารณาว่าเรื่องนั้นใช้รูปแบบใด เช่น เป็นงานประพันธ์ประเภทร้อยแก้ว ร้อยกรอง เป็นสารคดี หรือบันเทิงคดี ๒. แยกเนื้อเรื่องให้ได้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ๓. แยกพิจารณาให้ละเอียดว่า เนื้อหาประกอบด้วยอะไรบ้าง ๔. พิจารณาว่าใช้กลวิธีในการนำเสนอเรื่องอย่างไร ๕. ลำดับเหตุการณ์ ตามเหตุผลคือ ลำดับจากเหตุไปหาผล หรือจากผลไปหาเหตุ หรือตามเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นก่อนหลัง ความสำคัญมากไปหาความสำคัญน้อย ๖. พิจารณาความคิดที่ผู้เขียนต้องสื่อให้ผู้อ่านทราบและความหมายที่แฝงอยู่ในเนื้อเรื่องหรือข้อความ นั้น เมื่ออ่านพิจารณาข้อความ บทความ หรือเนื้อเรื่องเสร็จแล้วจึงตอบคำถาม


๓. การอ่านวิจารณ์ หมายถึงอะไร การอ่านวิจารณ์ หมายถึง การพิจารณาเทคนิคหรือกลวิธีการนำเสนอเนื้อหาของเรื่อง ให้เห็นว่าน่าคิด น่าสนใจ น่าติดตาม มีชั้นเชิงยอกย้อนหรือตรงไปตรงมา องค์ประกอบใดมีคุณค่าน่าชมเชย องค์ประกอบใด น่าท้วงติงหรือบกพร่องอย่างไร ๔. จงบอกหลักในการอ่านวิจารณ์ ๑. พิจารณาองค์ประกอบของเรื่องว่าสอดคล้องเหมาะสมกันหรือขัดแย้งกัน เช่นการวิจารณ์ร้อยแก้ว ประเภทบันเทิงคดี ต้องพิจารณาถึงโครงเรื่อง ตัวละคร ฉาก การดำเนินเรื่องปมขัดแย้ง การคลี่คลายเรื่อง และการจบเรื่อง รวมถึง พิจารณาเนื้อเรื่องอย่างละเอียดถึงคุณค่า พฤติกรรมตัวละครเหมาะสมกับเนื้อ เรื่อง การใช้ภาษาเหมาะสมกับระดับบุคคล ส่วนร้อยกรองจะพิจารณาถึงรูปแบบคำประพันธ์ว่า มีรูปแบบที่เหมาะสมกับเนื้อหา เนื้อหาสาระของเรื่องมีคุณค่าในการสร้างความเพลิดเพลิน ประเทืองปัญญา สะเทือนอารมณ์ สะท้อนสังคม ให้ความรู้ ข้อคิด คติเตือนใจ มีความงามด้านวรรณศิลป์ คือ การใช้ ถ้อยคำ สำนวนโวหารที่ไพเราะ คมคาย มีกลวิธีในการสร้างภาพพจน์ การใช้คำและเสียงสัมผัสที่ไพเราะ ๒. พิจารณาเนื้อหา การนำเสนอและพฤติกรรมของตัวละครว่ามีความสอดคล้องกันหรือไม่ สะท้อน ภาพชีวิต สะท้อนสภาพสังคมในสมัยที่แต่งอย่างไร ๓. พิจารณาแก่นเรื่องว่าผู้แต่งตั้งใจที่จะสื่อเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ผู้แต่งแสดงความคิดเห็น รสนิยม และค่านิยมอย่างไร ๔. การวิจารณ์สรุปด้วยความคิดเห็นของผู้วิจารณ์เอง โดยยกข้อดีให้เห็นก่อนว่าดีอย่างไร แล้วจึงยก ข้อบกพร่องว่าบกพร่องอย่างไร จะแก้ไขอย่างไร การวิจารณ์ควรเป็นไปอย่างสร้างสรรค์เป็นธรรมมีใจเป็นกลาง ไม่มีอคติแล้วประเมินคุณค่าในภาพรวมว่าวรรณคดีหรือวรรณกรรมที่วิจารณ์นั้นมีคุณค่าควรแก่ การอ่านหรือควรค่าแก่การศึกษาอย่างไร ผู้อ่านสามารถนำคุณค่าที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร (พิจารณาคำตอบของนักเรียน) เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียนแบบฝึกเสริมทักษะที่ ๑


1. ข 2. ง 3. ข 4. ก 5. ง 6. ง 7. ง 8. ก 9. ค 10. ค เฉลย


แบบทดสอบหลังเรียนแบบฝึกเสริมทักษะที่ ๑ ๑. ก ๒. ง ๓. ก ๔. ง ๕. ค ๖. ข ๗. ข ๘. ค ๙. ง ๑๐. ค


แบบทดสอบหลังเรียน เรื่องการวิเคราะห์ วิจารณ์ คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว ๑.การอ่านเพื่อการวิเคราะห์วิจารณ์ เราสามารถพัฒนาไปสู่การอ่านขั้นตอนใด ก. การวิพากษ์ ข. การนำไปใช้ ค. การสรุปความ ง. การประเมินค่า ๒. การศึกษาประวัติผู้แต่ง มีความจำเป็นอย่างไรต่อการศึกษาวรรณคดีและวรรณกรรม ก. ช่วยให้เข้าใจเรื่องที่อ่านชัดเจนยิ่งขึ้น ข. ช่วยให้ทราบความเป็นมาของเรื่องมากขึ้น ค. ช่วยให้วิเคราะห์แนวคิดของผู้แต่งได้ง่ายขึ้น ง. ช่วยให้วิเคราะห์จุดมุ่งหมายในการแต่งเรื่องได้ง่ายขึ้น ๓. ข้อใดเป็นการพิจารณารูปแบบการประพันธ์ ก. ดอกไม้สดแต่งเรื่องผู้ดี ข. เรื่องผู้ดีเป็นนวนิยายไทย ค. นวนิยายไทยเรื่องแรกคือเรื่องความไม่พยาบาท ง. การเขียนนวนิยายไทยได้รับอิทธิพลมาจากยุโรป ๔. ข้อใดเป็นขั้นตอนแรกในการวิเคราะห์วิจารณ์ ก. หาความรู้และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นให้ มากที่สุด ข. อ่านเรื่องนั้นอย่างถี่ถ้วน แล้วหาแนวคิดหลัก หรือแก่นของเรื่อง ค. หาความรู้เกี่ยวกับประเภทและลักษณะของ หนังสือเรื่องนั้นให้เข้าใจ


ง. ตั้งคำถามเกี่ยวกับองค์ประกอบหรือข้อเท็จจริงในเรื่องแล้วหาคำตอบ ๕.“ทุกวันนี้คนที่ตำน้ำพริกกินนั้นน้อยลงไปทุกทีแล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะรักษาวัฒนธรรมเรื่องน้ำพริกเอาไว้ ในครอบครัวก็เห็นจะยากเข้าทุกวัน ผมจึงเห็นว่าทางที่ดีที่สุดต้องเขียนไว้เป็นหนังสือแทนที่จะต้องจดจำ กันไว้ด้วยสมอง เพราะจะลืมง่าย” ข้อความนี้บอกอะไรแก่ผู้อ่าน ก. แก่นของเรื่อง ข. รูปแบบการประพันธ์ ค. จุดมุ่งหมายในการแต่ง ง. องค์ประกอบของเรื่อง ๖.การเขียนบันเทิงคดี มีจุดมุ่งหมายอย่างไร ก. เพื่อความสนุก ข. เพื่อให้เกิดจินตนาการ ค. เพื่อให้ข้อคิดคติเตือนใจ ง. เพื่อเสริมสร้างคุณธรรมและจริยธรรม ๗. ผู้วิจารณ์หนังสือ ควรแสดงความคิดเห็นอย่างไร ก. วิจารณ์ตามข้อเท็จจริง ข. วิจารณ์เพื่อให้เห็นข้อบกพร่องอย่างชัดเจน ค. วิจารณ์ในแง่ลบไม่ต้องแสดงความคิดเห็นในแง่บวก ง. วิจารณ์ในแง่บวกเพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนหนังสือ ๘.ข้อใดกล่าวถึงวรรณคดีได้ถูกต้องที่สุด ก. หนังสือที่แต่งดีด้วยเนื้อเรื่องและศิลปะการประพันธ์ ข. หนังสือที่สะท้อนภาพชีวิตของคนในสังคมแต่ละสมัย ค. หนังสือที่แต่งดีตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 ง. หนังสือทั่วไปทุกชนิดที่แต่งดี มีคุณค่าช่วยยกระดับจิตใจผู้อ่าน เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน 1. ง 2. ก 3. ข 4. ค 5. ค 6. ก 7. ข 8. ค


แบบประเมินรายงานการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีในบทเรียน เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ รายการประเมิน คำอธิบายระดับคุณภาพ / ระดับคะแนน ดีมาก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรับปรุง (๑) ๑.การจับใจความ สำคัญของเรื่อง จับใจความสำคัญ ของเรื่องได้ถูกต้อง ครอบคลุม ทุกประเด็นสำคัญ จับใจความสำคัญ ของเรื่องได้ถูกต้อง ครอบคลุมประเด็น สำคัญเกือบทุก ประเด็น จับใจความสำคัญ ของเรื่องได้ถูกต้อง ครอบคลุมประเด็น สำคัญบางประเด็น จับใจความสำคัญ ของเรื่องไม่ค่อย ถูกต้อง และไม่ ครอบคลุมประเด็น สำคัญ ๒.การวิเคราะห์และ วิจารณ์เรื่องที่อ่าน ในทุก ๆ ด้าน อย่างมีเหตุผล วิเคราะห์และวิจารณ์ เรื่องที่อ่านในทุก ๆ ด้าน ได้ถูกต้อง และมี เหตุผลประกอบ ชัดเจน วิเคราะห์และวิจารณ์ เรื่องที่อ่านในทุก ๆ ด้านได้ถูกต้อง และมี เหตุผลประกอบ ชัดเจน เป็นส่วนใหญ่ วิเคราะห์และวิจารณ์ เรื่องที่อ่านในทุก ๆ ด้านได้ถูกต้อง และมี เหตุผลประกอบ ชัดเจน เป็นบางส่วน วิเคราะห์และวิจารณ์ เรื่องที่อ่านในทุก ๆ ด้านได้ถูกต้อง แต่ เหตุผลประกอบไม่ ชัดเจน ๓.การวิเคราะห์ วิจารณ์ แสดง ความคิดเห็น โต้แย้งเรื่องที่อ่าน และเสนอความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเรื่องที่อ่าน ได้ถูกต้อง และเสนอ ความคิดใหม่อย่างมี วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเรื่องที่อ่าน ได้ถูกต้อง และเสนอ ความคิดใหม่อย่างมี วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเรื่องที่อ่าน ได้ถูกต้อง และเสนอ ความคิดใหม่อย่างมี วิเคราะห์ วิจารณ์ แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเรื่องที่อ่าน ได้ไม่ค่อยถูกต้อง และเสนอความคิด


ใหม่อย่างมีเหตุผล เหตุผล มีตัวอย่าง ชัดเจน เหตุผล มีตัวอย่าง ชัดเจนเป็นส่วนใหญ่ เหตุผล มีตัวอย่าง ชัดเจนเป็นบางส่วน ใหม่อย่างไม่มีเหตุผล และมีตัวอย่างไม่ ชัดเจน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความ รับผิดชอบ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ๑ น.ส. ชญานิษฐ์ เทียนจู ๒ น.ส. ณัฐธิดา เพ็ชรมณี ๓ นา.ส. อานีต้า ยะยี ๔ นายอิรฟาน สาบา ๕ น.ส.ธันวาทิพย์ไชยชะนะ 6 น.ส.ณัฐธิดา สุวรรณชาตรี 7 น.ส. นาเดียร์ พูนภักดี 8 น.ส. ฟาติล สัสดีวงศ์ 9 น.ส. วรรณพร แก้วหมั่น 10 น.ส.วรัญญา คงนวล 11 น.ส. ศิริพร นุ่นแก้ว 12 น.ส. อิงครัตน์ สิทธิศักดิ์ 13 น.ส. นิชาภา พิศวง 14 น.ส. ภูริพงศ์ อ่อนทอง ๑๑ – ๑๒ ๙- ๑๐ ๖ – ๘ ต่ำกว่า ๖ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง


15 นายยศกร ฮิ่นเซ่ง 16 น.ส. กนกพร คงแก้ว 17 นายธนพัฒน์บัวตูม 18 น.ส. วิอัญชณุพรมจินโน 19 น.ส. อรวรรณ ดำแดง 20 น.ส.รัตนาวดีเปรมรัชชานนท์ 21 น.ส. อัยซะห์จะปะกียา 22 น.ส. ตัสนีซา ดีดิ 23 น.ส. สุวนัน โทโม 24 น.ส. ศิญาม บำรุงเชื้อ 25 น.ส. ต่วนฟิตเราะห์ ดาโอ๊ะ 26 น.ส. นิสรีน ลำเลียงพล 27 น.ส. นาเดีย หิเล 28 น.ส. ณัฏฐณิชา ตั้งสกุลเจริญ 29 น.ส. ชลชนก เณรจาที ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความ รับผิดชอบ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 30 นายอาร์นาซ วาอายีตา 31 นายนพรัตน์ ดาวกระจาย 32 นายอะหมัด ดอเล๊าะ ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน


สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานเป็นรายบุคคล ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ความรับผิดชอบ ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา และมี ผลงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา แต่ผลงานยังไม่ดี เท่าที่ควร ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้แต่ไม่ ตรงต่อเวลาและ ผลงานยังไม่ดีนัก ทำงานที่ได้รับ มอบหมายได้แต่ ต้องอาศัยคำสั่ง และผลงานไม่ดี การรับฟังความคิดเห็น เคารพ การตัดสินใจ ให้เกียรติในความ คิดเห็นและรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่นทุกครั้ง เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน แสดงความ คิดเห็นต่อที่เป็น ประโยชน์สำหรับ การเรียนและมี แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน บ้าง


และมีความ สร้างสรรค์ทุกครั้ง ความสร้างสรรค์ อย่างสม่ำเสมอ และมีความ สร้างสรรค์บ้าง ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นและปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ สามารถเป็น แบบอย่างที่ดีแก่ ผู้อื่น มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นและปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นแต่ยังปฏิบัติ ไม่สม่ำเสมอ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละ ต่อผู้อื่นบ้าง แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน กระบวนการ ทำงานกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความสามัคคี ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ๑ น.ส. ชญานิษฐ์ เทียนจู ๒ น.ส. ณัฐธิดา เพ็ชรมณี ๓ นา.ส. อานีต้า ยะยี ๔ นายอิรฟาน สาบา ๕ น.ส.ธันวาทิพย์ไชยชะนะ 6 น.ส.ณัฐธิดา สุวรรณชาตรี 7 น.ส. นาเดียร์ พูนภักดี 8 น.ส. ฟาติล สัสดีวงศ์ 9 น.ส. วรรณพร แก้วหมั่น 10 น.ส.วรัญญา คงนวล 11 น.ส. ศิริพร นุ่นแก้ว 12 น.ส. อิงครัตน์ สิทธิศักดิ์ 13 น.ส. นิชาภา พิศวง


14 น.ส. ภูริพงศ์ อ่อนทอง 15 นายยศกร ฮิ่นเซ่ง 16 น.ส. กนกพร คงแก้ว 17 นายธนพัฒน์บัวตูม 18 น.ส. วิอัญชณุพรมจินโน 19 น.ส. อรวรรณ ดำแดง 20 น.ส.รัตนาวดีเปรมรัชชานนท์ 21 น.ส. อัยซะห์จะปะกียา 22 น.ส. ตัสนีซา ดีดิ 23 น.ส. สุวนัน โทโม 24 น.ส. ศิญาม บำรุงเชื้อ 25 น.ส. ต่วนฟิตเราะห์ ดาโอ๊ะ 26 น.ส. นิสรีน ลำเลียงพล 27 น.ส. นาเดีย หิเล 28 น.ส. ณัฏฐณิชา ตั้งสกุลเจริญ 29 น.ส. ชลชนก เณรจาที ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน กระบวนการ ทำงานกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความสามัคคี ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 30 นายอาร์นาซ วาอายีตา 31 นายนพรัตน์ ดาวกระจาย 32 นายอะหมัด ดอเล๊าะ ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ ………….


ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ กระบวนการทำงานกลุ่ม วางแผน การทำงานตามที่ ได้รับมอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา และมี ผลงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ วางแผน การทำงานตามที่ ได้รับมอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา แต่ผลงานยังไม่ดี เท่าที่ควร ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ แต่ไม่ตรงต่อเวลา และผลงาน ยังไม่ดีนัก ขาดการวางแผน ในการทำงาน และผลงานไม่ดี เท่าที่ควร การรับฟังความคิดเห็น เคารพ การตัดสินใจ ให้เกียรติในความ คิดเห็นและรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่นทุกครั้ง เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ แสดงความ คิดเห็นที่เป็น แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์


สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์ทุกครั้ง ประโยชน์สำหรับ การเรียนและมี ความสร้างสรรค์ อย่างสม่ำเสมอ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์บ้าง สำหรับการเรียน บ้าง ความสามัคคี มีความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ โดยยุติธรรม มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อกัน มีความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ค่อนข้าง ขาด ความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่ทั่วถึง ขาดความเป็น อันหนึ่งอัน เดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่เสมอภาค แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความสามาร ถในการ สื่อสาร ความสมารถ ในการคิด ความสามาร ถในการใช้ ทักษะชีวิต ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ๑ นางสาวชญานิษฐ์ เทียนจู ๒ นางสาวณัฐธิดา เพ็ชรมณี ๓ นางสาวอานีต้า ยะยี ๔ นายอิรฟาน สาบา ๕ นางสาวธันวาทิพย์ ไชยชะนะ 6 นางสาวณัฐธิดา สุวรรณชาตรี 7 นางสาวนาเดียร์ พูนภักดี


8 นางสาวฟาติล สัสดีวงศ์ 9 นางสาววรรณพร แก้วหมั่น 10 นางสาววรัญญา คงนวล 11 นางสาวศิริพร นุ่นแก้ว 12 นางสาวอิงครัตน์ สิทธิศักดิ์ 13 นางสาวนิชาภา พิศวง 14 นางสาวภูริพงศ์ อ่อนทอง 15 นายยศกร ฮิ่นเซ่ง 16 นางสาวกนกพร คงแก้ว 17 นายธนพัฒน์ บัวตูม 18 นางสาววิอัญชณุ พรมจินโน 19 นางสาวอรวรรณ ดำแดง 20 นางสาวรัตนาวดี เปรมรัชชา นนท์ 21 นางสาวอัยซะห์ จะปะกียา 22 นางสาวตัสนีซา ดีดิ 23 นางสาวสุวนัน โทโม 24 นางสาวศิญาม บำรุงเชื้อ ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ 25 นางสาวต่วนฟิตเราะห์ ดาโอ๊ะ 26 นางสาวนิสรีน ลำเลียงพล 27 นางสาวนาเดีย หิเล 28 นางสาวณัฏฐณิชา ตั้งสกุลเจริญ 29 นางสาวชลชนก เณรจาที 30 นายอาร์นาซ วาอายีตา 31 นายนพรัตน์ ดาวกระจาย 32 นายอะหมัด ดอเล๊าะ เกณฑ์การประเมิน


๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน รายการประเมิน ๓ ๒ ๑ ความสามารถ ในการสื่อสาร พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง ดู ด้วยภาษาของตนเอง ได้อย่างคล่องแคล่ว ชัดเจน พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง หรือ ดู ด้วยภาษาของ ตนเองได้อย่างชัดเจน แต่ขาดความคล่องแคล่ว พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง หรือ ดู ด้วยภาษา ของตนเองได้บ้าง ความสามารถ ในการคิด ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วน ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่ครบถ้วน ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง เป็นบางส่วนและ


ไม่ครบถ้วน ความสามารถ ในการใช้ทักษะชีวิต นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น ระบบและ มีประสิทธิภาพ นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น ระบบแต่ขาด ประสิทธิภาพ นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานได้ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สำเร็จในเวลา ที่กำหนด แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ ๑ นางสาวชญานิษฐ์ เทียนจู ๒ นางสาวณัฐธิดา เพ็ชรมณี ๓ นางสาวอานีต้า ยะยี ๔ นายอิรฟาน สาบา ๕ นางสาวธันวาทิพย์ ไชยชะนะ 6 นางสาวณัฐธิดา สุวรรณชาตรี


7 นางสาวนาเดียร์ พูนภักดี 8 นางสาวฟาติล สัสดีวงศ์ 9 นางสาววรรณพร แก้วหมั่น 10 นางสาววรัญญา คงนวล 11 นางสาวศิริพร นุ่นแก้ว 12 นางสาวอิงครัตน์ สิทธิศักดิ์ 13 นางสาวนิชาภา พิศวง 14 นางสาวภูริพงศ์ อ่อนทอง 15 นายยศกร ฮิ่นเซ่ง 16 นางสาวกนกพรคงแก้ว 17 นายธนพัฒน์บัวตูม 18 นางสาววิอัญชณุ พรมจินโน 19 นางสาวอรวรรณ ดำแดง 20 นางสาวรัตนาวดีเปรมรัชชานนท์ 21 นางสาวอัยซะห์จะปะกียา 22 นางสาวตัสนีซา ดีดิ 23 นางสาวสุวนัน โทโม 24 นางสาวศิญาม บำรุงเชื้อ ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ 25 นางสาวต่วนฟิตเราะห์ ดาโอ๊ะ 26 นางสาวนิสรีน ลำเลียงพล 27 นางสาวนาเดีย หิเล 28 นางสาวณัฏฐณิชา ตั้งสกุลเจริญ 29 นางสาวชลชนก เณรจาที 30 นายอาร์นาซ วาอายีตา 31 นายนพรัตน์ ดาวกระจาย


32 นายอะหมัด ดอเล๊าะ เกณฑ์การประเมิน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ๓ ๒ ๑ มีวินัย ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของห้องเรียน ไม่รบกวนบุคคลอื่น มีสมาธิในการปฏิบัติงาน ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กติกาที่ได้ตกลงกัน ไม่รบกวนบุคคลอื่น ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กติกาที่ได้ตกลงกันบ้าง ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ บางครั้ง


มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจ อดทน พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย และไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค เพื่อให้งานสำเร็จ มีความตั้งใจ อดทน พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้งานสำเร็จ มีความตั้งใจ พยายาม ในการทำงานที่ได้รับ มอบหมาย


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๕ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ สามัคคีเภทคำฉันท์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชาภาษาไทย ๖ รหัส ท ๓๓๑๐๒ ชื่อหน่วย สามัคคีเภทคำฉันท์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง วรรณศิลป์ เวลา 3 คาบ สอนวันที่ 17-18 มกราคม 2566 ผู้สอน นางสาวสิริภา แสงสมัคร ๑. สาระที่ 1 วรรณคดีและวรรณกรรม 2. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น คุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 3. ตัวชี้วัด ม. ๔-๖/๓ วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดี และวรรณกรรมในฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ 4. สาระสำคัญ สามัคคีเภทคำฉันท์ เป็นบทประพันธ์ที่มีคุณค่าทั้งด้านเนื้อหา ซึ่งการที่จะเข้าใจเนื้อหาของเรื่องได้นั้น จำเป็นต้องรู้และเข้าใจความหมายของคำศัพท์ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง เพื่อจะได้ถอดความบทประพันธ์และเข้าใจ เนื้อหาของเรื่องได้อย่างถูกต้องอีกทั้งความงามด้านวรรณศิลป์เป็นที่ปรากฏ เนื้อเรื่องใช้คำประพันธ์ประเภท ฉันท์ที่อ่านแล้วไพเราะ ใช้ภาษาอย่างสละสลวย รังสรรค์ชนิดของฉันท์มาแต่งตามเนื้อหา ฉากได้อย่างลงตัว 5. จุดประสงค์การเรียนรู้ ด้านความรู้ ( K ) - นักเรียนบอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ ด้านกระบวนการ ( P ) - นักเรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ ด้านคุณลักษณะ ( A ) - มีวินัย - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน 6. สาระการเรียนรู้ 6.1 หลักการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ 6.2 การวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 7.๑ ความสามารถในการสื่อสาร 7.๒ ความสามารถในการคิด ๗.๓ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คาบที่ ๑ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔ คน แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันอ่านนิทานเรื่อง พ่อกับลูก ที่ครูแจกให้ และช่วยกันตอบคำถาม เช่น - นิทานเรื่องนี้มีเนื้อหาสำคัญเกี่ยวกับอะไร - ถ้านักเรียนเป็นชายแก่ในนิทานเรื่องนี้ นักเรียนจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาไม่ให้ลูกๆ ทะเลาะกันได้ อย่างไร อธิบายเหตุผล ๒. ครูสุ่มนักเรียนตอบคำถามเป็นรายกลุ่ม โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นช่วยกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม แล้วครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจถึงความสำคัญของความสามัคคี ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนพิจารณาคำประพันธ์เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ แล้วให้นักเรียนถอดความบทประพันธ์ ดังกล่าวตามความเข้าใจของนักเรียน 4. ครูสุ่มนักเรียนถอดความบทประพันธ์ โดยครูและเพื่อนเป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง แล้วครูอธิบาย วิธีการถอดความคำประพันธ์ให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจมากยิ่งขึ้น 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มจับคู่กันเป็น ๒ คู่ แล้วให้แต่ละคู่ร่วมกันอ่าน เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ จาก หนังสือเรียน แล้วช่วยกันถอดความ พร้อมทั้งหาความหมายของคำศัพท์เพิ่มเติม จากหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ 6. นักเรียนทำแบบฝึกทักษะเรื่อง ค้นคำไขความจากเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ 4. นักเรียนผลัดกันอธิบายความรู้ที่ได้ จากการศึกษาและการทำแบบฝึก ให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง ผลัดกัน ซักถามหากมีข้อสงสัยและอธิบายจนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน 8. ตัวแทนนักเรียนนำเสนอผลงานในแบบฝึกโดยครูและเพื่อนนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง 9. นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด เช่น วัสสการพราหมณ์ใช้อุบายใดทำให้กษัตริย์ ลิจฉวีแตก ความสามัคคี ซึ่งมีแนวการตอบคือ (วัสสการพราหมณ์ออกอุบายโดยการเรียก พระกุมารแต่ละพระองค์เข้าไป สนทนากับตนเองตามลำพัง โดยทำทีเป็นความลับ ทำให้พระกุมารแต่ละพระองค์รู้สึกระแวง สงสัย ไม่ไว้ใจซึ่ง กันและกัน และนำไปทูลพระบิดาของตนเองทำให้เหล่ากษัตริย์ลิจฉวีหมางใจกันในที่สุด ขั้นสรุป 10. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาและคำศัพท์จากเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ 11. ครูแนะนำให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปประยุกต์ใช้ในการศึกษาความรู้ เรื่อง เภทคำฉันท์ ในด้านอื่น ๆ ต่อไป คาบที่ ๒-๓ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. นักเรียนพิจารณาคำประพันธ์ที่ครูกำหนดและช่วยกันสังเกตบทประพันธ์ที่ครูนำมาให้ดูว่า มีลักษณะการใช้ ภาษาอย่างไร ภาษาที่ใช้มีความไพเราะหรือไม่ ๒. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์บทประพันธ์ที่ครูนำมาให้ดู แล้วสรุปผล จากนั้นครูสุ่มนักเรียนตอบคำถาม โดยครูและ เพื่อนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ๓. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า วรรณคดีแต่ละเรื่องมีคุณค่าด้านวรรณศิลป์ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับคุณค่า ด้านวรรณศิลป์จากเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์นั้นนักเรียนจะได้ศึกษาในคาบนี้


ขั้นสอน 4. ครูกำหนดบทประพันธ์เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ ให้นักเรียนแต่ละคน 5. นักเรียนแต่ละคนอ่านบทประพันธ์ที่ของตนได้รับจากหนังสือเรียน แล้วร่วมกันวิเคราะห์คุณค่าด้าน วรรณศิลป์ของบทประพันธ์ดังกล่าว หากมีข้อสงสัยให้ศึกษาความรู้ จากหนังสือค้นคว้าเพิ่มเติม ห้องสมุด และ แหล่งข้อมูลสารสนเทศ 6 นักเรียนแต่ละคนผลัดกันอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน 7. นักเรียนแต่ละคนนำเสนอผลงาน โดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและให้ ข้อเสนอแนะ 8. นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกทักษะ เรื่อง พินิจค่าภาษาศิลป์จากเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เรื่อง คุณค่าด้านวรรณศิลป์ของเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์และร่วมกัน พูดคุยเกี่ยวกับบทที่นักเรียนประทับใจใดมากที่สุดพร้อมอธิบายเหตุผล 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน หลักภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ๒. เอกสารประกอบการสอน นิทานเรื่อง พ่อลูก ๓. แบบฝึกทักษะเรื่องค้นคำไขความจากเรื่อง ๔. แบบฝึกทักษะเรื่องพินิจค่าภาษาศิลป์จากเรื่อง ๖. แผนผังและตัวอย่างคำประพันธ์ ๗. บัตรคำประพันธ์ ๘. ห้องสมุด ๙. อินเทอร์เน็ต 10. การวัดและประเมินผล เครื่องมือ วิธีการวัด เกณฑ์การประเมิน ๑. แบบฝึกทักษะ 2. แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียน รายบุคคล 3. แบบสังเกตการทำงานกลุ่ม 4. แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน 1. ตรวจแบบฝึกทักษะ 2. สังเกตพฤติกรรมการเรียนรายบุคคล 3. สังเกตการทำงานกลุ่ม 4. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 5. ประเมินสมรรถนะของผู้เรียน 1. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 2. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 3. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 4. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป 5. ได้ระดับ “ดี”ขึ้นไป


๑1. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................... ........................... ....................................................................................................... ....................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ..................................................................................................................................... ......................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ..................................................ผู้ตรวจ (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/1) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ …นักเรียนจำนวน 30 คน บอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีมาก นักเรียน 1 คน ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากไม่ เข้าเรียน 1.2 ทักษะกระบวนการ ..นักเรียนจำนวน 30 คน สามารถวิเคราะห์คุณค่าด้าน วรรณศิลป์ได้ผ่านเกณฑ์โดยพิจารณาจากคะแนนการทำแบบฝึกทักษะ นักเรียน 1 คน ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจาก ไม่เข้าเรียน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนจำนวน 30 คนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดับดีมาก นักเรียน 1 คน ไม่ผ่านเกณฑ์เนื่องจากไม่เข้าเรียน 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ... มีนักเรียนจำนวน 1 คนที่ขาดเรียน ไม่มาติดต่อเรื่องการเรียน ทำให้ไม่ ผ่านตัวชี้วัดนี้ 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...ปัญหาการขาดเรียนของนักเรียนจำนวน 1 คน ติดต่อ ประสานงานจากครูประจำชั้นแต่นักเรียนก็ไม่มาเรียน... 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...นำสื่อการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพิ่มเติมให้นักเรียนศึกษาเพื่อ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องวรรณศิลป์ต่อไป 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...พยายามติดต่อประสานงานกับครูประจำชั้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ทราบว่านักเรียนมีปัญหาทางสุขภาพและครอบครัว จึงยังให้โอกาสให้นักเรียนมาติดต่อขอเรียนซ่อมเสริม ลงชื่อ......................... .........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/2) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ …นักเรียนจำนวน 31 คน บอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีมาก 1.2 ทักษะกระบวนการ ..นักเรียนจำนวน 31 คน สามารถวิเคราะห์คุณค่าด้าน วรรณศิลป์ได้ผ่านเกณฑ์โดยพิจารณาจากคะแนนการทำแบบฝึกทักษะ 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนจำนวน 31 คนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดับดีมาก 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเรื่องการพิจารณาคุณค่าด้าน วรรณศิลป์นี้ใช้เวลาค่อนข้างมากเพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจยิ่งขึ้น.. 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...นำสื่อการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพิ่มเติมให้นักเรียนศึกษาเพื่อ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องวรรณศิลป์ต่อไป และใช้เวลาเสริมความรู้ให้นักเรียน 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ....................... ...........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/3) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.3 ความรู้ความสามารถ …นักเรียนจำนวน 35 คน บอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีมาก 1.4 ทักษะกระบวนการ ..นักเรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ใน ระดับดีมาก จำนวน 30 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับดี จำนวน 5 คน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียนจำนวน 30 คนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์ อยู่ในระดับดีมาก และผ่านเกณฑ์ในระดับดี จำนวน 5คน 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การจัดกิจกรรมในเรื่องนี้ดำเนินการไม่เป้นไปตามเวลาที่กำหนด ต้องใช้ เวลาอื่นในการสอนชดเชยให้แก่นักเรียน 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...นำสื่อการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพิ่มเติมให้นักเรียนศึกษาเพื่อ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องวรรณศิลป์ต่อไป นัดหมายสอนชดเชยในคาบโฮมรูมซึ่ง นักเรียนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ......................... .........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/8) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ …นักเรียนจำนวน 36 คน บอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีมาก 1.2 ทักษะกระบวนการ ..นักเรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ใน ระดับดีมาก จำนวน 29 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับดี จำนวน 6 คน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับ ดีมาก และดี 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การจัดกิจกรรมในเรื่องนี้ดำเนินการไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด ต้องใช้ เวลาอื่นในการสอนชดเชยให้แก่นักเรียน 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...นำสื่อการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพิ่มเติมให้นักเรียนศึกษาเพื่อ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องวรรณศิลป์ต่อไปและนัดหมายสอนชดเชยในคาบโฮมรูม 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/10) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.3 ความรู้ความสามารถ …นักเรียน บอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่า ด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีมาก จำนวน 30 คน และอยู่ในระดับดี จำนวน 11 คน 1.4 ทักษะกระบวนการ ..นักเรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ใน ระดับดีมาก จำนวน 20 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับดี จำนวน 21 คน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียนกลุ่มเก่งและกลุ่มปานกลางมีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก และดี ส่วนนักเรียนกลุ่มอ่อนมีผลการประเมินคุณลักษณะอยู่ในระดับ พอใช้ 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การจัดกิจกรรมในเรื่องนี้ดำเนินการไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด ต้องใช้ เวลาอื่นในการสอนชดเชยให้แก่นักเรียน 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียนกลุ่มอ่อนไม่เข้าเรียนและไม่ส่งงาน 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...นำสื่อการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพิ่มเติมให้นักเรียนศึกษาเพื่อ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องวรรณศิลป์ต่อไปและนัดหมายสอนชดเชยในคาบประชุม ระดับ ม.6 และอธิบายในกลุ่มไลน์ 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนักในการเรียนให้แก่นักเรียน ให้โอกาสใน การทำงานส่งย้อนหลัง ลงชื่อ.................... ..............................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/12) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ …นักเรียน บอกลักษณะของการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมินอยู่ในระดับดีมาก จำนวน 20 คน และอยู่ในระดับดี จำนวน 6 คน 1.2 ทักษะกระบวนการ ..นักเรียนสามารถวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ใน ระดับดีมาก จำนวน 20 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับดี จำนวน 6 คน 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียน ผ่านการประเมินคุณลักษณะในด้านการมีวินัย ใฝ่เรียนรู้มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับดีมาก จำนวน 20 คน และผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้ นักเรียนจำนวน 6 คน 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ ...การจัดกิจกรรมในเรื่องนี้ดำเนินการไม่เป็นไปตามเวลาที่กำหนด ต้องใช้ เวลาอื่นในการสอนชดเชยให้แก่นักเรียน 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ..นักเรียน 6 คนที่มีผลการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์อยู่ ในระดับพอใช้คือยังขาดวินัย ใฝ่เรียนรู้ในการเรียน กล่าวคือไม่เข้าเรียน ไม่ดำเนินกิจกรรมที่กำหนดซึ่งการไม่ เข้าเรียน ไม่เรียนรู้เพิ่มเติมในสื่ออื่น ๆ ทำให้ไม่เข้าใจบทเรียน 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...นำสื่อการวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์เพิ่มเติมให้นักเรียนศึกษาเพื่อ เป็นตัวอย่างในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในเรื่องวรรณศิลป์ต่อไปและนัดหมายสอนชดเชยในคาบประชุม ระดับ ม.6 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...สร้างความตระหนักในการเรียนให้แก่นักเรียน ให้โอกาสใน การทำงานส่งย้อนหลัง ลงชื่อ........................ ..........................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ...................................................................................................................................................................... ........ .......................................................................................................................... .................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................................... ..................... (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ความเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. (นางสาวเพริศพิศ คูหามุข) รองผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (นายนพปฎล มุณีรัตน์) ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ภาคผนวก


เอกสารประกอบการสอน นิทาน เรื่อง พ่อกับลูก ชายแก่คนหนึ่งมีลูกหลายคน ลูกเหล่านั้นทะเลาะกันวุ่นวายอยู่เสมอมิได้ขาด พ่อสั่งสอนเท่าใด ลูก เหล่านั้นก็ไม่เลิกทะเลาะกัน วันหนึ่งพ่อจึงบอกให้ลูกทุกคนไปหาแขนงไม้ไผ่มาคนละสองสามอันตามแต่จะหา ได้ เมื่อทุกคนได้แขนงไม้ไผ่มาแล้ว พ่อก็เอาแขนงไม้ไผ่เหล่านั้นมามัดรวมกันเข้าเป็นกำเดียวกัน จากนั้นจึงส่งให้ ลูกหักแขนงไม้ไผ่ทั้งกำโดยเต็มกำลังทีละคน ก็ไม่มีลูกคนไหนหักได้สักคนเดียว พ่อจึงแก้มัดแขนงไม้ไผ่ออกแล้ว ยื่นให้ลูกแต่ละคนหักทีละอัน ลูกก็หักได้โดยง่าย พ่อจึงพูดให้ฟังว่า “นี่แหละลูก ถ้าพวกเจ้ารักกัน พร้อมใจกัน ช่วยธุระกัน ไม่ว่างานใดๆ ให้กลมเกลียวเป็นอันเดียวกัน พวกเจ้าก็จะมีกำลังมั่นคงเหมือนกับแขนงไผ่ทั้งมัด ถึง ใครจะคิดร้ายก็จะทำร้ายแก่พวกเจ้ามิได้ แต่ถ้าเจ้าทะเลาะวิวาทกัน แตกกันเป็นต่างคนต่างใจแล้ว ก็จะเป็น เช่นเดียวกับแขนงไผ่เป็นอัน ๆ ใครเขาจะทำร้าย ก็ทำไปทีละคนๆ ก็จะหมดพวกเจ้าทุกคนในไม่ช้านานเท่าใด” ที่มา : คัดลอกจาก “นิทานอีสป” เรียบเรียงโดย มหาอำมาตย์ พระยาเมธาธิบดี


คำประพันธ์ พร้อมเบญจางคประดิษฐ์สฤษฎิสดุดี กายจิตวจีไตร ทวาร ๏ ไหว้คุณองค์พระสุคตอนาวรณญาณ ยอดศาสดาจารย์ มุนี ๏ อีกคุณสุนทรธรรมคัมภิรวิธี พุทธพจน์ประชุมตรี ปิฎก ๏ ทั้งคุณสงฆพิสุทธศาสนดิลก สัมพุทธสาวก นิกร ๏ ขอน้อมคุณพระคเณศวิเศษศิลปธร เวทางคบวร กวี ๏ เป็นเจ้าแห่งวิทยาวราภรณศรี สุนทรสุวาที วิธาน ๏ สรวมชีพหัตถประณาม ณ เบื้องพระบทมาลย์ หมายโพธิสมภาร พระองค์ ๏ สมเด็จอัครมหาจุฑาธิปพระมง กุฎเกล้าพิสิฐพงศ์ กษัตริย์ ๏ บานบำเทิงพระเถลิงถวัลยอธิปัตย์ ที่หกดิลกรัฐ ประชา


แบบฝึกทักษะ เรื่อง รู้คำไขความจากเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ คำชี้แจง ให้นักเรียนบอกความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ และสรุปสาระสำคัญของบทประพันธ์ที่ยกมา ๑. อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู กลกะกากะหวาดขมังธนู บ่ ห่อนจะเห็นธวัชริปู สิล่าถอย ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๒. เสร็จกิจประการกัล ปนพลันประกาศทำ ปัพพาชนียกรรม ดุจราชโองการ ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๓. ทิชงค์เจาะจงเจตน์ กลห์เหตุยุยงเสริม กระหน่ำและซ้ำเติม นฤพัทธก่อการณ์ ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๔. พลหัยพิศเห็นเช่นเหิน หาวเหาะเหยาะเดิน เดาะเตือนก็เต้นตีนซอย ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๕. ต่างก็ตระหนก มนอกเต้น ตื่น บ มิเว้น ตะละผู้คน ทั่วบุรคา มจลาจล เสียงอลวน อลเวงไป ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์


๖. มาคธไผทรฐนิกร พลอ่อน บ ชำนาญ ทั้งสิ้นจะสู้สมรราญ ริปุนั้นไฉนไหว ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๗. พราหมณ์หนึ่งซึ่งเขา เป็นเปาโรหิต พวกปัจจามิตร มาคธเขตไกร ต้องราชอาญา หนีมาอาศัย จำไล่ให้ไป ฤๅรับเลี้ยงดู ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๘. เมตตาทยาลุศุภกรรม อุปถัมภการุณย์ สรรเสริญเจริญพระคุณสุน ทรพูนพิบูลงาม ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ สาระสำคัญของบทประพันธ์


เฉลยแบบฝึกทักษะ เรื่อง รู้คำไขความจากเรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ คำชี้แจง ให้นักเรียนบอกความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ และสรุปสาระสำคัญของบทประพันธ์ที่ยกมา ๑. อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู กลกะกากะหวาดขมังธนู บ่ ห่อนจะเห็นธวัชริปู สิล่าถอย ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ ธงของศัตรู (ธวัช หมายถึง ธง, ริปู หมายถึง ศัตรู) สาระสำคัญของบทประพันธ์ พระเจ้าอชาตศัตรูทรงตำหนิวัสสการพราหมณ์ว่า อวดฉลาดและมีใจขลาด กลัวข้าศึก ศัตรู ยังไม่ทันเห็นธงทัพของศัตรูก็ล่าถอยเสียแล้ว ประหนึ่งนกกาที่หวาดกลัวขมังธนู ๒. เสร็จกิจประการกัล ปนพลันประกาศทำ ปัพพาชนียกรรม ดุจราชโองการ ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ การเนรเทศขับไล่ออกจากหมู่ สาระสำคัญของบทประพันธ์ พระเจ้าอชาตศัตรูมีราชโองการให้ขับไล่วัสสการพราหมณ์ออกจากเมือง ๓. ทิชงค์เจาะจงเจตน์ กลห์เหตุยุยงเสริม กระหน่ำและซ้ำเติม นฤพัทธก่อการณ์ ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ พราหมณ์ สาระสำคัญของบทประพันธ์ วัสสการพราหมณ์จงใจยุยงส่งเสริมให้เหล่ากุมารลิจฉวีระแวงกัน ๔. พลหัยพิศเห็นเช่นเหิน หาวเหาะเหยาะเดิน เดาะเตือนก็เต้นตีนซอย ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ ม้า สาระสำคัญของบทประพันธ์ เหล่ากองทัพม้าซอยเท้าย่างเหยาะเดินอย่างปราดเปรียว ๕. ต่างก็ตระหนก มนอกเต้น ตื่น บ มิเว้น ตะละผู้คน ทั่วบุรคา มจลาจล เสียงอลวน อลเวงไป ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ ใจ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ราษฎรต่างพากันตื่นตระหนก ใจเต้น แตกตื่น เมื่อเห็นข้าศึกบุกมาถึงเมือง ต่างเกิดจลาจลอลวนอลเวงไปทั่งทั้งเมือง


๖. มาคธไผทรฐนิกร พลอ่อน บ ชำนาญ ทั้งสิ้นจะสู้สมรราญ ริปุนั้นไฉนไหว ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ การรบ การสงคราม สาระสำคัญของบทประพันธ์ กองทัพของเมืองมคธนั้นอ่อนด้อยและไม่ชำนาญการศึก คงยากจะสู้และ ต้านทานการสงครามได้ ๗. พราหมณ์หนึ่งซึ่งเขา เป็นเปาโรหิต พวกปัจจามิตร มาคธเขตไกร ต้องราชอาญา หนีมาอาศัย จำไล่ให้ไป ฤๅรับเลี้ยงดู ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ ข้าศึก ศัตรู สาระสำคัญของบทประพันธ์ พราหมณ์ปุโรหิตแห่งเมืองมคธซึ่งเป็นเมืองศัตรู ถูกเนรเทศและมาขออาศัย ที่เมืองของเรา (วัชชี) เราจะไล่ไปหรือจะรับเลี้ยงดูไว้ดี ๘. เมตตาทยาลุศุภกรรม อุปถัมภการุณย์ สรรเสริญเจริญพระคุณสุน ทรพูนพิบูลงาม ความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ ความเอ็นดู ความกรุณา สาระสำคัญของบทประพันธ์ วัสสการพราหมณ์สรรเสริญกษัติรย์วัชชีว่ามีเมตตากรุณาอย่างยิ่ง


แผนภูมิตัวอย่างบทประพันธ์ พึงมรรยาทยึด สุประพฤติสงวนพรรค์ รื้อริษยาอัน อุปเฉทไมตรี ดั่งนั้น ณ หมู่ใด ผิ บ ไร้ สมัครมี พร้อมเพรียงนิพัทธ์นี รวิวาทระแวงกัน หวังเทอญมิต้องสง สยคงประสบพลัน ซึ่งสุขเกษมสันต์ หิตะกอบทวีการ ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ หักล้าง บ แหลกลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรียงกัน ป่วยกล่าวอะไรฝูง นรสูงประเสริฐครัน ฤๅสรรพสัตว์อัน เฉพาะมีชีวีครอง แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ลอง มัดกำกระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน เหล่าไหนผิไมตรี สละลี้ ณ หมู่ตน กิจใดจะขวายขวน บ มิพร้อมมิเพรียงกัน อย่าปรารถนาหวัง สุขทั้งเจริญอัน มวลมาอุบัติบรร ลุไฉน บ ได้มี ปวงทุกข์พิบัติสรร พภยันตรายกลี แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม ควรชนประชุมเช่น คณะเป็นสมาคม สามัคคิปรารม ภนิพันธรำพึง ไป่มีก็ให้มี ผิวมีก็คำนึง เนื่องเพื่อภิยโยจึง จะประสบสุขาลัย


แบบฝึกทักษะ เรื่อง พินิจค่าภาษาศิลป์ เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ คำชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาความงามด้านวรรณศิลป์ในบทประพันธ์ต่อไปนี้ ๑. ราชามาคธภูบาล เถลิงหลังคชาธาร ประเสริฐสง่างามทรง ควรขัตติยยานยรรยง เพียงพาหนาสน์องค์ สหัสนัยน์ใดปาน ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่ ๒. บงเนื้อก็เนื้อเต้น พิศเส้นสรีร์รัว ทั่วร่างและทั้งตัว ก็ระริกระริวไหว แลหลังละลามโล หิตโอ้เลอะหลั่งไป เพ่งผาดอนาถใจ ระกะร่อยเพราะรอยหวาย ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่ ๓. พลหัยพิศเห็นเช่นเหิน หาวเหาะเหยาะเดิน เดาะเตือนก็เต้นตีนซอย ต่างตัวดีดโลดโดดลอย เริงเล่นเผ่นคอย จะควบประกวดอวดพล ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่ ๔. อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ ขยาดขยั้นมิทันอะไร ก็หมิ่นกู กลกะกากะหวาดขมังธนู บ ห่อนจะเห็นธวัชริปู สิล่าถอย ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่


๕. ทิชงค์ชาติฉลาดยล คะเนกลคะนึงการ กษัตริย์ลิจฉวีวาร ระวังเหือดระแวงหาย ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่


เฉลยแบบฝึกทักษะ เรื่อง พินิจค่าภาษาศิลป์เรื่อง สามัคคีเภทคำฉันท์ คำชี้แจง ให้นักเรียนพิจารณาความงามด้านวรรณศิลป์ในบทประพันธ์ต่อไปนี้ ๑. ราชามาคธภูบาล เถลิงหลังคชาธาร ประเสริฐสง่างามทรง ควรขัตติยยานยรรยง เพียงพาหนาสน์องค์ สหัสนัยน์ใดปาน ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่ - การเล่นสัมผัสใน (สัมผัสพยัญชนะ) เช่น (ขัตติ) ย-ยาน-ยรร-ยง / เถลิง-หลัง / สง่า-งาม ทำให้เกิด เสียงไพเราะ - การเล่นสัมผัสใน (สัมผัสสระ) เช่น ราชา-มาคธ / สหัสนัยน์-ใด ทำให้เกิดเสียงไพเราะ - การใช้อุปมา เปรียบว่าช้างพระที่นั่งของพระเจ้าอชาตศัตรูงดงามยิ่งใหญ่ราวกับช้างพาหนะของ พระอินทร์ (ที่ชื่อว่าช้างเอราวัณ) อันเป็นการสื่อนัยว่า พระเจ้าอชาตศัตรูมีความสง่างามยิ่งใหญ่ประดุจพระ อินทร์ด้วยนั่นเอง ๒. บงเนื้อก็เนื้อเต้น พิศเส้นสรีร์รัว ทั่วร่างและทั้งตัว ก็ระริกระริวไหว แลหลังละลามโล หิตโอ้เลอะหลั่งไป เพ่งผาดอนาถใจ ระกะร่อยเพราะรอยหวาย ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่ - การเล่นสัมผัสใน (สัมผัสพยัญชนะ) เช่น เส้น-สรีร์ / สรีร์-รัว / ระ-ริก-ระ-ริว / หลัง-ละ-ลาม-โล ทำให้ เกิดเสียงไพเราะ - การเล่นสัมผัสใน (สัมผัสสระ) เช่น ผาด-อนาถ / ร่อย-รอย ทำให้เกิดเสียงไพเราะ - การใช้คำอัพภาส ได้แก่ ระริก / ระริว ช่วยเพิ่มความไพเราะของเสียง ทำให้เกิดจังหวะหนักเบา และช่วยทำให้เห็นภาพความสั่นกระตุกของผิวเนื้อวัสสการพราหมณ์ตามรอยหวายที่เฆี่ยนลงมา - การซ้ำคำว่า “เนื้อ” ในวรรค “บงเนื้อก็เนื้อเต้น” ทำให้เสียงไพเราะ และเน้นให้เห็นภาพว่า รอยหวายที่ เฆี่ยนไปบนเนื้อ ทำให้เนื้อของวัสสการพราหมณ์สั่นระริกด้วยความเจ็บปวด ๓. พลหัยพิศเห็นเช่นเหิน หาวเหาะเหยาะเดิน เดาะเตือนก็เต้นตีนซอย ต่างตัวดีดโลดโดดลอย เริงเล่นเผ่นคอย จะควบประกวดอวดพล ความงามของบทประพันธ์ข้างต้น ได้แก่ - การเล่นสัมผัสใน (สัมผัสพยัญชนะ) เช่น พลหัย-พิศเห็น / หาว-เหาะ / เตือน-เต้น-ตีน / ดีดโลด-โดด ลอย ทำให้เกิดเสียงไพเราะ


Click to View FlipBook Version