The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 1 (2-65)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siripa_26, 2023-03-18 04:21:19

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 1 (2-65)

แผนการสอน ท33102 หน่วยที่ 1 (2-65)

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชาภาษาไทย ๖ รหัส ท ๓๓๑๐๒ ชื่อหน่วย กาพย์เห่เรือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดี เวลา 4 คาบ สอนวันที่ ๗-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ผู้สอน นางสาวสิริภา แสงสมัคร ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๒. ตัวชี้วัด ม.๔-๖/๑ วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น ม. ๔-๖/๒ วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดีเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของสังคมในอดีต 3. สาระสำคัญ กาพย์เห่เรือเป็นวรรณคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับกระบวนเรือ ความรู้ที่แฝงอยู่ในเรื่องอย่างครบถ้วน การอ่านและศึกษาวรรณคดีจึงต้องวิเคราะห์เรื่องโดยละเอียดทั้งนี้ต้องเริ่มจากการเข้าใจและต้องรู้จัก ความเป็นมาของเรื่อง ประวัติผู้แต่งตลอดจนทำความเข้าใจเรื่องอย่างครบถ้วนโดยเฉพาะประวัติศาสตร์และวิถี ชีวิตของคนในสังคมอดีตจึงจะสามารถเห็นลักษณะเด่นที่ปรากฏอยู่ในเรื่องนี้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 นักเรียนอธิบายความเป็นมาของเรื่องกาพย์เห่เรือได้(K1) 4.2 นักเรียนบอกประวัติผู้แต่งเรื่องกาพย์เห่เรือได้(K1) 4.3 นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ได้(K2) 4.4 นักเรียนถอดความเรื่องกาพย์เห่เรือได้(P) 4.5 นักเรียนสรุปคุณค่าด้านสังคมจากเรื่องกาพย์เห่เรือได้(P) 5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 5.๑ ความสามารถในการสื่อสาร 5.๒ ความสามารถในการคิด 5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 6. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6.๑ ซื่อสัตย์สุจริต 6.๒ มีวินัย 6.๓ ใฝ่เรียนรู้ 6.4 มุ่งมั่นในการทำงาน


๗. สาระการเรียนรู้ ๗.1 ความเป็นมาของเรื่องกาพย์เห่เรือได้ ๗.2 ประวัติผู้แต่งเรื่องกาพย์เห่เรือได้ ๗.3 ความหมายของคำศัพท์จากเรื่องกาพย์เห่เรือได้ ๗.4 การถอดความเรื่องกาพย์เห่เรือได้ 8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คาบที่ ๑ : วิธีสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Method : 5E) ขั้นนำ ขั้นที่ ๑ กระตุ้นความสนใจ ๑. นักเรียนดูวิดีโอเกี่ยวกับกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค หรือภาพริ้วกระบวนเรือพระที่นั่ง แล้วครูถามคำถามเพื่อกระตุ้นความสนใจของนักเรียน เช่น - กระบวนพยุหยาตราทางชลมารคมีความเป็นมาอย่างไร - กระบวนเรือพระที่นั่ง มีความสำคัญอย่างไร - ในการเห่เรือสามารถใช้บทร้อยกรองบทอื่นได้หรือไม่ เพราะเหตุใด - หากกล่าวถึงบทเห่เรือ นักเรียนจะนึกถึงใคร เพราะเหตุใด 2. ครูคอยกระตุ้นให้นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น 3. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี ในส่วนของแบบทดสอบ ก่อนเรียน ขั้นสอน ขั้นที่ ๒ สำรวจค้นหา 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มโดยคละความสามารถกลุ่มละ ๔ คน จับคู่กันเป็น ๒ คู่ ให้แต่ละคู่ร่วมกันศึกษา ความรู้เรื่องกาพย์เห่เรือจากหนังสือเรียน แบบฝึกทักษะเรื่องการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี “ใบความรู้ เรื่องกาพย์เห่เรือ” เอกสารประกอบการสอนเรื่องกาพย์เห่เรือ และค้นคว้าเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตในหัวข้อ ที่กำหนดให้ ดังนี้ - คู่ที่ ๑ ศึกษาความรู้เรื่องความเป็นมา - คู่ที่ ๒ ศึกษาความรู้เรื่องประวัติผู้แต่ง ขั้นที่ ๓ อธิบายความรู้ 5. นักเรียนแต่ละคู่นำความรู้ที่ได้จากการศึกษามาอธิบายให้เพื่อนอีกคู่หนึ่งฟัง ผลัดกันซักถาม หากมีข้อสงสัย และร่วมกันอธิบายจนทุกคนมีความเข้าใจชัดเจนตรงกัน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปความรู้เป็นองค์ความรู้ของกลุ่ม ขั้นที่ ๔ ขยายความเข้าใจ 7. นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกทักษะเรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี“สรรพสารน่ารู้จากเรื่อง กาพย์เห่เรือ” เมื่อทำเสร็จแล้วผลัดกันอภิปรายคำตอบในใบงานแล้วร่วมกันสรุปเป็นคำตอบของกลุ่ม ขั้นที่ ๕ ตรวจสอบผล 8. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลงานในใบงานโดยครูและเพื่อนกลุ่มอื่นร่วมกัน แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะ


ขั้นสรุป 9. นักเรียนและครูสรุปเนื้อหาร่วมกันอีกครั้ง คาบที่ ๒ ขั้นนำ นักเรียนและครูร่วมกับทบทวนความรู้เรื่องกาพย์เห่เรือในประเด็นความเป็นมาของเรื่องและประวัติผู้แต่ง ที่ได้เรียนรู้ไปเมื่อคาบที่ผ่านมาโดยครูสุ่มให้นักเรียนหยิบสลากคำถามแล้วตอบร่วมกัน ขั้นสอน ๑. นักเรียนแบ่งกลุ่มโดยคละความสามารถเป็น ๕ กลุ่ม เพื่อศึกษาเนื้อหาจากแบบฝึกทักษะเรื่อง การวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีโดยอธิบายคำศัพท์และถอดความ ดังนี้ กลุ่มที่ ๑ บทชมกระบวนเรือ กลุ่มที่ ๒ บทชมปลา กลุ่มที่ ๓ บทชมไม้ กลุ่มที่ ๔ บทชมนก กลุ่มที่ ๕ บทเห่ครวญ ๒. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำงานตามที่ได้รับมอบหมายโดยครูคอยเดินสังเกตการทำงานและเสนอแนะ เพิ่มเติมรวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องของการทำงาน ขั้นสรุป ครูสรุปเนื้อหาแต่ละตอนคร่าวๆ ให้นักเรียนฟัง และและให้นักเรียนเตรียมนำเสนอเนื้อหาที่ทาง กลุ่มรับผิดชอบในคาบต่อไป คาบที่ ๓ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ตัวแทนนักเรียนของแต่ละกลุ่มหยิบซองคำถามทบทวนความรู้เรื่องความรู้เบื้องต้นของกาพย์เห่เรือ จากนั้น ร่วมกันถามตอบเพื่อทบทวนความรู้ ขั้นสอน 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับการถอดความและอธิบายคำศัพท์ที่รับผิดชอบ ๒. นักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ฟังและตั้งคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาและเล่นเกมแข่งบอกความหมายของคำ โดยครูเปิดคำ ให้นักเรียนดูจากนั้นให้แข่งกันยกมือเพื่อบอกความหมายของศัพท์นั้นๆ และหาผู้ชนะ 3. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี “เรื่องถอดความเรื่องกาพย์เห่เรือ” จากนั้นเฉลย ร่วมกัน ขั้นสรุป ครูสุ่มตัวแทนของแต่ละกลุ่มสรุปเนื้อหาในเพื่อนฟังอีกครั้งเพื่อเป็นการทบทวนและตรวจสอบความเข้าใจ คาบที่ ๔ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน นักเรียนดูภาพเกี่ยวกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมที่ปรากฏในเรื่องกาพย์เห่เรือจากกนั้นให้นักเรียนบอกลักษณะของสิ่ง ที่เห็นและร่วมพูดคุยถึงภาพที่ปรากฏว่าวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้นซึ่งสามารถถ่ายทอดออกมาผ่านคำประพันธ์ เรื่องกาพย์เห่เรือที่เรียกว่า “คุณค่าด้านสังคม”


ขั้นสอน ๑. นักเรียนนั่งเป็นกลุ่มโดยใช้กลุ่มเดิมจากคาบที่แล้ว จากนั้นช่วยกันรวบรวมศิลปะการประพันธ์ในกาพย์เห่เรือ แยกประเภทและยกตัวอย่างให้ชัดเจน ๒. นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง คุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรมที่ปรากฏในกาพย์เห่เรือจากหนังสือเรียน จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติมและยกตัวอย่างเพื่อให้นักเรียนเข้าใจได้อย่างชัดเจน ๓. นักเรียนพิจารณาตัวอย่างคำประพันธ์ที่ครูกำหนดจากนั้นแข่งขันกันตอบว่าคำประพันธ์ ที่ยกตัวอย่างแสดงคุณค่าด้านสังคมและวัฒนธรรมเรื่องใด กลุ่มใดตอบได้มากที่สุดเป็นผู้ชนะ 4. ขั้นสรุป นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสรุปความรู้เรื่องประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตที่ปรากฏอยู่ในเรื่องกาพย์เห่เรือ เป็นแผนที่ความคิดร่วมกันและนำส่งเป็นรายบุคคลในคาบถัดไป 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ ๑. หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทยวรรณคดีวิจักษ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ๒. แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี 3. ภาพ/คำ สำหรับการเล่นเกม 4. วิดีโอการเสด็จทางชลมารคและกระบวนเรือ 5. ห้องสมุด 6. อินเทอร์เน็ต 10. หลักฐานการเรียนรู้(ภาระงาน) 1. แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี ๒. แผนที่ความคิดสรุปความรู้เรื่องกาพย์เห่เรือ 11. การวัดและประเมินผล วิธีการวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน - นักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 แสดงว่าผ่าน - การบันทึกผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - แบบประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ - นักเรียนผ่านเกณฑ์ การประเมินคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ระดับ “ดี” แสดงว่าผ่าน - การบันทึกผลสมรรถนะของผู้เรียน - แบบประเมินสมรรถนะของ ผู้เรียน - นักเรียนผ่านเกณฑ์สมรรถนะ สำคัญของผู้เรียนระดับ “ดี” แสดงว่าผ่าน - ตรวจแบบฝึกทักษะ - แบบฝึกทักษะ - นักเรียนได้คะแนนร้อยละ 70 แสดงว่าผ่าน


11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... ลงชื่อ..................................................ผู้ตรวจ (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/1) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนบอกความเป็นมาของเรื่องกาพย์เห่เรือ ประวัติผู้แต่ง และ คำศัพท์จากเรื่องกาพย์เห่เรือได้... 1.2 ทักษะกระบวนการ ....นักเรียนถอดความเรื่องกาพย์เห่เรือผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก และสรุป คุณค่าของเรื่องได้ สามาถทำแบบฝึกทักษะได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก... 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...ในภาพรวมนักเรียนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติกิจกรรม ผ่านเกณฑ์อยู่ในระดับมาก และมี 2 คนที่ผ่านเกณฑ์ในระดับดี 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ - 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ ...ในการจัดการเรียนการสอนเรื่องของการถอดความครูใช้เวลาหลาย คาบในการปฏิบัติกิจกรรม ทั้งนี้ต้องใช้สื่อประกอบที่หลากหลายควบคู่กัน เช่น สื่อนำเสนอเนื้อหา เกม วิดีโอ ตลอดจนการอธิบายพร้อม ๆ กับการทำแบบฝึกทักษะเรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีเพื่อให้นักเรียนเข้าใจ เนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น... 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/2) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ...นักเรียนบอกความเป็นมาของเรื่องกาพย์เห่เรือ ประวัติผู้แต่ง และ คำศัพท์จากเรื่องกาพย์เห่เรือได้ 1.2 ทักษะกระบวนการ ....นักเรียนถอดความเรื่องกาพย์เห่เรือผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก และสรุป คุณค่าของเรื่องได้ สามาถทำแบบฝึกทักษะได้ถูกต้อง ผ่านเกณฑ์ในระดับดีมาก 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...นักเรียนมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติกิจกรรม ในภาพรวม ทำงานได้ตรงตามเวลาที่กำหนด 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ - 2.2 ทักษะกระบวนการ - 2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ - 3.2 ทักษะกระบวนการ - 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/3) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ .............................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ................................................ 1.2 ทักษะกระบวนการ.................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... 1.3คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ........................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... 2.2 ทักษะกระบวนการ......................................................................................................... ...... ........................................................................................................................................................................... 2.3คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ........................................................................................... ........ ........................................................................................................................................................................... 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................ 3.2 ทักษะกระบวนการ.................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................ 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ................................................................................................. ... .............................................................................................................................................................. .............. ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/8) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.4 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... ..... ........................................................................................................................... .................................................. 1.5 ทักษะกระบวนการ............................................................................................................... ..... ............................................................................................................................................................................ 1.6คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...................................................................................................... .. ....................................................................................................................................................... ..................... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.4 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... .. ............................................................................................................................. ................................................ 2.5 ทักษะกระบวนการ............................................................................................................... .. ............................................................................................................................................................................. 2.6คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ............ 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.4 ความรู้ความสามารถ ............................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ 3.5 ทักษะกระบวนการ.................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................... 3.6 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/10) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.7 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... ..... ......................................................................................................... .................................................................... 1.8 ทักษะกระบวนการ............................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ............................................... 1.9คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ........................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.7 ความรู้ความสามารถ ............................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................ 2.8 ทักษะกระบวนการ............................................................................................................... . ............................................................................................................................................................................ 2.9คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.7 ความรู้ความสามารถ ............................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ 3.8 ทักษะกระบวนการ.................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................... 3.9 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ (ม.๖/12) 1. ผลการจัดการเรียนการสอน 1.1 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... .... .......................................................................................................... .................................................................. 1.2 ทักษะกระบวนการ............................................................................................................... .... ............................................................................................................................................................................ 1.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ...................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................... 2. ปัญหาและอุปสรรค 2.1 ความรู้ความสามารถ ........................................................................................................... . ............................................................................................................................. ................................................ 2.2 ทักษะกระบวนการ........................................................................................................... ...... ............................................................................................................................................................................ 2.2คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............. 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข 3.1 ความรู้ความสามารถ ............................................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................ 3.2 ทักษะกระบวนการ.................................................................................................................. ............................................................................................................................. ............................................... 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ .................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ลงชื่อ..................................................ผู้สอน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร) ครูโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (นายไพโรจน์ ขวัญคง) หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ความเห็นของรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. (นางสาวเพริศพิศ คูหามุข) รองผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................................... ........... (นายนพปฎล มุณีรัตน์) ผู้อำนวยการโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา


ภาคผนวก


ภาพประกอบการสอน : กระบวนเรือพระที่นั่ง ภาพที่ ๑ ภาพที่ ๒ ภาพที่ ๓ ภาพที่ ๔ ภาพที่ 5 ภาพที่ 6


แบบฝึกทักษะการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดี เรื่องกาพย์เห่เรือ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ชุดที่ ๑ สืบค้นเรื่องราว โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษายะลา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน


สาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อย่างเห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัด ม.๔-๖/๑ วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมตามหลักการวิจารณ์เบื้องต้น ม.๔-๖/๓ วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีในฐานะที่เป็น มรดกทางวัฒนธรรมของชาติ


คำชี้แจงการใช้แบบฝึกทักษะ (สำหรับครู) ก่อนให้นักเรียนใช้แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เรื่องการวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีกาพย์เห่เรือ ชุดสืบค้นเรื่องราว ครูควรอ่านคำชี้แจงในการใช้แบบฝึกทักษะ แต่ละเล่มอย่างละเอียด และปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้ ๑. แบบฝึกทักษะนี้ใช้เวลา ๔ ชั่วโมง ๒. ครูเตรียมแบบฝึกให้เพียงพอกับจำนวนนักเรียน ๓. ครูศึกษาเนื้อหาและลำดับขั้นตอนของแบบฝึกให้เข้าใจชัดเจน ๔. ครูอธิบายให้นักเรียนทราบวัตถุประสงค์ในการทำแบบฝึกทักษะ เพื่อให้นักเรียน เห็นประโยชน์และคุณค่าของการทำแบบฝึกทักษะ ๕. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน ๑๐ ข้อ ก่อนศึกษาเนื้อหา ๖. การทำแบบฝึกทักษะแต่ละครั้งนักเรียนควรมีส่วนร่วม เช่น อภิปรายร่วมกัน ตรวจผลงานและ สรุปองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๗. ครูบันทึกผลคะแนนทุกครั้งที่นักเรียนทำแบบฝึกทักษะ เพื่อสังเกตพัฒนาการของนักเรียน ๘. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน จำนวน ๑๐ ข้อ


คำชี้แจงการใช้แบบฝึกทักษะ (สำหรับนักเรียน) แบบฝึกทักษะ เรื่องการอ่านวิเคราะห์วิจารณ์วรรณคดีกาพย์เห่เรือ ชุด สืบค้นเรื่องราว กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ที่นักเรียนจะได้ศึกษาต่อไปนี้ เป็นแบบฝึกที่นักเรียนสามารถศึกษา ได้ด้วยตนเองโดยปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้ ๑. แบบฝึกทักษะ ชุด สืบค้นเรื่องราว นี้ใช้เวลา ๔ ชั่วโมง ๒. ศึกษาสาระ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และจุดประสงค์การเรียนรู้ให้เข้าใจ ๓. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน ๑๐ ข้อ ใช้เวลา ๑๐ นาที ลงในกระดาษคำตอบ ๔. ศึกษาใบความรู้ เรื่องวิเคราะห์วรรณคดีกาพย์เห่เรือ ทำแบบฝึกทักษะที่ ๑ – ๓ หากนักเรียน ไม่เข้าใจให้ย้อนกลับไปอ่านเนื้อหาแบบฝึกใหม่อีกครั้ง หรือขอคำแนะนำจากครูผู้สอน ๕. ตรวจคำตอบด้วยตนเองหรือแลกเปลี่ยนกันตรวจโดยครูเป็นผู้แนะนำ ๖. ทำแบบทดสอบหลังเรียน จำนวน ๑๐ ข้อ ใช้เวลา ๑๐ นาที ลงในกระดาษคำตอบ


แบบทดสอบก่อนเรียนแบบฝึกทักษะ ชุด สืบค้นเรื่องราว คำชี้แจง นักเรียนอ่านข้อคำถาม และคำตอบให้ละเอียด แล้วทำเครื่องหมายกากบาท ( ) ทับอักษร ก, ข, ค หรือ ง ลงในกระดาษคำตอบที่ตรงกับตัวเลือกที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้องที่สุด เพียงข้อเดียว ๑. ข้อใดกล่าวถึงเรื่องกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้ากุ้งไม่ถูกต้อง ก. คนไทย เห่เรือเพื่อบูชาเทพเจ้า คือพระราม ข. เรือพระที่นั่ง ที่พระเจ้าอยู่หัวประทับ ชื่อ เรือกิ่งแก้ว ค. ลำดับเนื้อเรื่องคือ ชมเรือ ชมปลา ชมไม้ ชมนก ง. ฉันทลักษณ์ที่ใช้แต่งคือ กาพย์ห่อโคลง ๒. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ก. กวีทรงนิพนธ์วรรณคดีเรื่องนี้ระหว่างเสด็จไปอยุธยาโดยทางเรือ ข. ลักษณะคำประพันธ์ประกอบด้วย โคลงสี่สุภาพ กาพย์ยานี ๑๑ และร่ายยาว ค. เนื้อหาประกอบด้วยบทพรรณนาชมเรือและชมธรรมชาติโดยไม่มีการรำพึงรำพันถึงนางอันเป็นที่รัก ง. กวีทรงพระนิพนธ์เพื่อใช้เห่เรือพระที่นั่งของพระองค์เองแต่ในยุคต่อมาวรรณคดีเรื่องนี้ใช้ใน การเห่เรือหลวง ๓. ข้อใดมีคำที่ไม่เข้าพวกปนอยู่ด้วย ก. สัตวา ดุเหว่า แขกเต้า โนรี ข. รำเพย กาหลง สุกรม นางแย้ม ค. มังกร เลียงผา อินทรี วาสุกรี ง. แก้มช้ำ น้ำเงิน หวีเกศ สร้อยทอง ๔. ลักษณะคำประพันธ์ของกาพย์เห่เรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร คืออะไร ก. กาพย์ห่อโคลง ข. โคลงห่อกาพย์ ค. กลอนสุภาพ ง. อินทรวิเชียรฉันท์ ๕. ข้อใดไม่ปรากฏชื่อเรือ ก. สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร ข. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ค. สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน ง. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี


๖. ข้อใดเรียงลำดับเนื้อหาในกาพย์เห่เรือได้ถูกต้อง ก. ชมเรือ ชมปลา ชมไม้ ชมนก ข. ชมเรือ ชมนก ชมไม้ ชมปลา ค. ชมเรือ ชมไม้ ชมนก ชมปลา ง. ชมเรือ ชมปลา ชมนก ชมไม้ ๗. ข้อใดกล่าวถึงสัตว์ต่างชนิดกับสัตว์อื่น ก. สาลิกามาตามคู่ ชมกันอยู่สู่สมสมร ข. แมลงภู่คู่เคียงว่าย เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม ค. นางนวลนวลน่ารัก ไม่นวลพักตร์เหมือนงามสงวน ง. โนรีสีปานชาด เหมือช่างฉลาดวาดแต้มลาย ๘. ข้อใดเป็นพาหนะของพระพรหม ก. นาคาหน้าดังเป็น ข. เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ค. เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ ง. สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย ๙. ข้อใดมีชื่อปลามากที่สุด ก. แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม ข. ปลาสร้อยลอยล่องชล ว่ายเวียนวนปนกันไป ค. ชะแวงแฝงฝังแนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม ง. ปลาเสือเหลือที่ตา เลื่อมแหลมกว่าปลาทั้งปวง ๑๐. คำประพันธ์ในข้อใดที่ใช้เห่ยามสาย ก. เรือชายชมมิ่งไม้ มีพรรณ ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเกลี้ยง เพล็ดดอกออกแกมกัน ชูช่อ หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง กลิ่นเนื้อนวลนาง ข. พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา ค. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอกโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล ง. ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล


ใบความรู้ เรื่องวิเคราะห์วรรณคดีกาพย์เห่เรือ ผู้แต่ง เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์(เจ้าฟ้ากุ้ง) เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระราชมารดาคือพระพันวษาใหญ่ กรมหลวงอภัยนุชิต ประสูติเมื่อ พ.ศ. ๒๒๕๘ ได้รับสถาปนาเป็นเจ้าฟ้ากรม ขุนเสนาพิทักษ์ ทรงเป็นกวีเอกในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายถือได้ว่าเป็นยุคทองของวรรณคดีที่สำคัญอีกยุค หนึ่ง พระองค์ทรงมีความสามารถในเชิงอักษรศาสตร์เป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะในด้านนิรุกติศาสตร์และ ฉันทศาสตร์พระนิพนธ์ของพระองค์มีทั้งที่เกี่ยวกับทางโลกและทางธรรม ทางธรรมได้แก่ นันโทปนันทสูตรคำ หลวงและพระมาลัยคำหลวง ทางโลกได้แก่ กาพย์เห่เรือ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง กาพย์ห่อโคลงนิราศพระบาท กาพย์เห่เรื่องกากี ความเป็นมา กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร เป็นบทเห่เรือฉบับเก่าแก่ที่สุดที่มีต้นฉบับหลงเหลืออยู่ เป็นบท เห่เรือที่เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศรทรงพระราชนิพนธ์เพื่อใช้เป็นบทเห่เรือพระที่นั่งส่วนพระองค์เมื่อคราวตามเสด็จ สมเด็จพระราชบิดาไปนมัสการและสมโภชพระพุทธบาทสระบุรี โดยพระองค์เสด็จทางชลมารคไปตาม ลำน้ำธารโศกขึ้นที่ตำหนักเจ้าสนุกและเสด็จทางชลมารคไปจนถึงสระบุรี กาพย์เห่เรือของพระองค์จัดเป็น บทเห่เรือเล่น ต่อมาภายหลังในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ทรงนำมาเป็นบทเห่เรือหลวง การเห่เรือ มีต้นกำเนิดขึ้นโดยพวกพราหมณ์จากอินเดียและบทเห่ที่ใช้ในกระบวนเรือหลวง ก็สันนิษฐานว่า เป็นคำสวดสำหรับการเห่เรือเล่น เป็นการเล่นอย่างหนึ่งในฤดูน้ำหลาก เช่นเดียวกับเพลงเรือ และดอกสร้อยสักวาซึ่งเป็นของพราหมณ์ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ จึงนำบทเห่เรือเล่นมาใช้ในการเห่เรือหลวง ซึ่งมีลักษณะบทประพันธ์เป็นบทร้อยกรอง ที่ประกอบด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บทนำกับมีบทร้อยกรองเป็น กาพย์ยานี และเป็นบทพรรณนาตามอีกหลายบท


ลักษณะคำประพันธ์ รูปแบบ : กาพย์เห่เรือเป็นรูปแบบคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง ใช้คำประพันธ์ ๒ ชนิด คือ โคลงสี่สุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ กลวิธีการแต่ง : กาพย์เห่เรือ ประกอบด้วย โคลงสี่สุภาพนำ ๑ บท แล้วกาพย์ยานี ๑๑ ไม่จำกัด จำนวนบท โดยให้กาพย์ยานี ๑๑ บทแรกมีเนื้อความเดียวกันกับโคลงสี่สุภาพที่นำกาพย์ยานี ๑๑ และมีทำนอง การแต่งเหมือนนิราศ คือเดินทางไปพบเจอสิ่งใดก็จะหวนนึกถึงนางอันเป็นที่รัก ตัวอย่างจากเรื่องกาพย์เห่เรือ โคลงสี่สุภาพ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่ เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพรายทอง กาพย์ยานี ๑๑ พระเสด็จโดยแดนชล ทรงเรือต้นงามเฉิดฉาย กิ่งเเก้วแพร้วพรรณราย พายอ่อนหยับจับงามงอน นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง


จุดมุ่งหมายของการแต่ง เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศรทรงพระราชนิพนธ์กาพย์เห่เรือขึ้นเพื่อใช้เป็นบทเห่เรือพระที่นั่งส่วนพระองค์ เมื่อ คราวตามเสด็จสมเด็จพระราชบิดาไปนมัสการและสมโภชพระพุทธบาทสระบุรี บทเห่เรือเล่น ต่อมาภายหลังใน สมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ทรงนำมาเป็นบทเห่เรือหลวง เนื้อเรื่องย่อ กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร จะทรงบรรยายชมความงามของกระบวนเรือพระที่นั่งและการ เคลื่อนกระบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารค ทรงพรรณนารำพึงรำพันถึงนางอันเป็นที่รัก และถ่ายทอด ความรู้สึกเป็น ทุกข์ เศร้าโศก ยามเมื่อพบเห็นสิ่งต่างๆที่ชวนให้คิดถึงนาง ตามธรรมเนียมของการแต่งนิราศ การใช้ภาษาของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรจะมีความไพเราะสละสลวยจับใจผู้อ่าน คนไทยจำนวนมากที่ได้ศึกษา วรรณคดีเรื่องนี้จะซาบซึ้งและจดจำได้อย่างขึ้นใจและนำบทประพันธ์เป็นบทเพลงร้องต่อๆ มาจนถึง ทุกวันนี้เนื้อหาในกาพย์เห่เรือจะแบ่งเนื้อความออกเป็น ๕ ตอน ได้แก่ ตอนที่ ๑ เห่ชมเรือกระบวน (เห่ตอนเช้า) ตอนที่ ๒ เห่ชมปลา (เห่ตอนสาย) ตอนที่ ๓ เห่ชมไม้ (เห่ตอนบ่าย) ตอนที่ ๔ เห่ชมนก (เห่ตอนเย็น) ตอนที่ ๕ เห่ครวญ (เห่ตอนค่ำ) ตอนที่ ๑ เห่ชมเรือกระบวน จะบรรยายให้เห็นภาพหรือชนิดต่างๆที่อยู่ในกระบวนพยุหยาตรา ทางชลมารค โดยขึ้นต้นด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท แล้วตามด้วยกาพย์ยานี ๑๑ จำนวน ๓๔ บท โดยมีเรือ ทั้งสิ้น ๑๓ ลำ ดังนี้ - เรือต้น มีชื่อเรือ ๔ ลำ คือ เรือครุฑ เรือไกรสรมุข เรือสมรรถชัย และเรือสุพรรณหงส์ - เรือชัย เป็นเรือในกระบวนเรือที่มีการกระทุ้งเส้าตามจังหวะพาย - เรือรูปสัตว์ จะกล่าวถึงเรือรูปสัตว์ต่างๆ จำนวน ๘ ลำ คือ คชสีห์ ราชสีห์ ม้า สิงห์ นาค มังกร เลียงผา อินทรีย์ ตอนที่ ๒ เห่ชมปลา เป็นการชมความงามของปลาชนิดต่างๆ นำมาสัมพันธ์กับนางอันเป็นที่รัก เป็นการเขียนทำนองนิราศ ๑๗ ชนิด คือ ปลานวลจันทร์ ปลาคางเบือน ปลาตะเพียนทอง ปลากระแห ปลาแก้มช้ำ ปลาทุก ปลาน้ำเงิน ปลากราย ปลาหางไก่ ปลาสร้อย ปลาเนื้ออ่อน ปลาเสือ ปลาแมลงภู่ ปลาหวีเกศ ปลาชะแวง ปลาชะวาด ปลาแปบ ตอนที่ ๓ เห่ชมไม้ จะเป็นการชมพันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ มีพันธ์ไม้และดอกไม้ต่างๆ เปรียบเทียบกับ ความงามและความคิดถึงต่อนางอันเป็นที่รัก เป็นการเขียนทำนองนิราศ จำนวน ๑๗ ชนิด คือ ดอกนางแย้ม ดอกจำปา ดอกประยงค์ ดอกพุดจีบ ดอกพิกุล ดอกสาวหยุด ดอกพุทธชาด ดอกบุนนาค ดอกเต็ง ดอกแต้ว ดอกแก้ว ดอกกาหลง ดอกมะลิวัลย์ ดอกจิก ดอกจวง ดอกลำดวน ดอกรำเพย


ตอนที่ ๔ เห่ชมนก จะเป็นการชมนกต่างๆ ให้สัมพันธ์กับนางอันเป็นที่รัก เขียนเป็นทำนองนิราศ กล่าวถึงนก จำนวน ๑๐ ชนิด คือ นกยูง นกสร้อยฟ้า นกสาลิกา นกนางนวล นกแก้ว นกไก่ฟ้า นกแขกเต้า นกดุเหว่า นกโนรี นกสัตวา ตอนที่ ๕ บทเห่ครวญ เป็นบทเห่คร่ำครวญถึงนางอันเป็นที่รักที่ต้องจากมา โดยมีเนื้อความว่า ยินเสียงหัวเราะว่ามา คิดว่าเป็นเสียงของนางตามมา ลมพัดกลิ่นหอมโชยมาก็คิดว่าเป็นกลิ่นเนื้อนาง ครั้นถึง ยามสามยังนอนไม่หลับ จนไก่ขันใกล้สว่างแล้วจึงเผลหลับไปและฝันถึงนางแต่ต้องรีบตื่นเพราะสว่างแล้ว ให้รู้สึกทุกข์แสนสุดทนเพราะคิดถึงนางผู้งดงามทั้งร่างกาย มารยาท อัธยาศัยและคำพูด ในแผ่นดินนี้คงไม่มีใคร จะมีความทุกข์เท่าที่พี่ต้องจากน้องมา พี่ขากน้องมาเพียงวันเดียวพี่มีความทุกข์เหมือนพี่จากน้องมาเป็นปี


แบบฝึกที่ ๑ วิเคราะห์เรื่องราวกาพย์เห่เรือ ตอนที่ ๑ จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้แล้วทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูก และทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ผิด ................. ๑. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเป็นกวีในยุคทองของวรรณคดี .................. ๒. นันโทปนันทสูตรคำหลวงและพระมาลัยคำหลวง จัดเป็นวรรณคดีทางพุทธศาสนา ................... ๓. การที่เจ้าฟ้ากุ้งทรงนิพนธ์กาพย์เห่เรือขึ้นเพื่อใช้เป็นบทเห่เรือหลวง ....................๔. การเห่เรือ มีต้นกำเนิดขึ้นจากคนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา .................. ๕. การเห่เรือมี ๒ ประเภท คือการเห่เรือหลวงและการเห่เรือเล่น ................. ๖. กาพย์เห่เรือแต่งโดยใช้คำประพันธ์ ๒ ชนิด คือโคลงสองสุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ .................. ๗. เนื้อความบทแรกของกาพย์จะเป็นเนื้อความเดียวกับโคลงบทนำ ................... ๘. การที่พระองค์ทรงพรรณนารำพึงรำพันถึงนางอันเป็นที่รักและถ่ายทอดความรู้สึกเป็น ทุกข์ เศร้าโศก หลังจากพบเห็นสิ่งใดขณะเดินทางแล้วนำมากล่าวไว้ในบทประพันธ์ เรียกว่าทำนองการแต่งแบบนิราศ ................... ๙. เนื้อหาของบทเห่ครวญเป็นบทที่กวีกล่าวถึงความทุกข์ระทมที่ต้องสูญเสียนางอันเป็น ที่รักไป ............... ๑๐. กาพย์เห่เรือแบ่งเนื้อความออกเป็น ๕ ตอน แต่ละตอนจะกล่าวถึงสิ่งต่าง ๆ ที่กวีพบเจอไป ตามช่วงเวลา


แบบฝึกที่ 2 รู้เฟื่องเรื่องกาพย์เห่เรือ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับที่นำมาให้นักเรียนศึกษานี้คือใคร ๒. วรรณคดีเรื่อง กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีในสมัยใด ๓. พระอิสริยยศสูงสุดของกวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับนี้ คือพระอิสริยยศใด ๔. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์เรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ทรงบูรณะซ่อมสร้างวิหารของวัดใด ๕. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ กวีทรงพระนิพนธ์ขึ้นเพื่อจุดประสงค์ใดและแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางไปที่ใด ๖. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ได้เป็นต้นแบบให้กวีรุ่นหลังแต่งกาพย์เห่อีกหลายสำนวน ได้แก่กาพย์เห่ เรื่องอะไรบ้าง ๗. เนื้อหาของกาพย์เห่เรือฉบับนี้มีกี่ตอน แต่ละตอนประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง ๘. กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีร้อยกรองประเภทใด และแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทใดบ้าง


แบบฝึกที่ 3 รู้คำ ถอดความเรื่องกาพย์เห่เรือ คำชี้แจง ให้นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ที่กำหนด และสรุปสาระสำคัญของบทประพันธ์ให้ถูกต้อง ๑. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี นาเวศ หมายถึง สาชล หมายถึง หื่น หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๒. ปักษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขันเพรียกไพร ยิ่งฟังวังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา ปักษี หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๓. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล เพรางาย หมายถึง กำสรด หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๔. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม สินธุ์ หมายถึง พรหมินทร์ หมายถึง ลินลาศ หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์


๕. รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว อัสดง หมายถึง เมรุ (อ่านว่า “เมน”) หมายถึง เรียม หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๖. พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา มัตสยา หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๗. โนรีสีปานชาด เหมือนช่างฉลาดวาดแต้มลาย ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา ชาด หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์ ๘. นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง นาวา หมายถึง สาคร หมายถึง สาระสำคัญของบทประพันธ์


แบบทดสอบหลังเรียนแบบฝึกทักษะ ชุดสืบค้นเรื่องราว คำชี้แจง นักเรียนอ่านข้อคำถาม และคำตอบให้ละเอียด แล้วทำเครื่องหมายกากบาท ( ) ทับอักษร ก, ข, ค หรือ ง ลงในกระดาษคำตอบที่ตรงกับตัวเลือกที่นักเรียนเห็นว่าถูกต้องที่สุด เพียงข้อเดียว ๑. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือ พระนิพนธ์ในเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร ก. กวีทรงนิพนธ์วรรณคดีเรื่องนี้ระหว่างเสด็จไปอยุธยาโดยทางเรือ ข. ลักษณะคำประพันธ์ประกอบด้วย โคลงสี่สุภาพ กาพย์ยานี ๑๑ และร่ายยาว ค. เนื้อหาประกอบด้วยบทพรรณนาชมเรือและชมธรรมชาติโดยไม่มีการรำพึงรำพันถึงนางอันเป็นที่รัก ง. กวีทรงพระนิพนธ์เพื่อใช้เห่เรือพระที่นั่งของพระองค์เองแต่ในยุคต่อมาวรรณคดีเรื่องนี้ใช้ใน การเห่เรือหลวง ๒. ข้อใดกล่าวถึงเรื่องกาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้ากุ้งไม่ถูกต้อง ก. คนไทย เห่เรือเพื่อบูชาเทพเจ้า คือพระราม ข. เรือพระที่นั่ง ที่พระเจ้าอยู่หัวประทับ ชื่อ เรือกิ่งแก้ว ค. ลำดับเนื้อเรื่องคือ ชมเรือ ชมปลา ชมไม้ ชมนก ง. ฉันทลักษณ์ที่ใช้แต่งคือ กาพย์ห่อโคลง ๓. ข้อใดไม่ปรากฏชื่อเรือ ก. สรมุขมุขสี่ด้าน เพียงพิมานผ่านเมฆา ม่านกรองทองรจนา หลังคาแดงแย่งมังกร ข. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม ค. สมรรถชัยไกรกาบแก้ว แสงแวววับจับสาคร เรียบเรียงเคียงคู่จร ดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน ง. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี ๔. ข้อใดมีคำที่ไม่เข้าพวกปนอยู่ด้วย ก. สัตวา ดุเหว่า แขกเต้า โนรี ข. รำเพย กาหลง สุกรม นางแย้ม ค. มังกร เลียงผา อินทรี วาสุกรี ง. แก้มช้ำ น้ำเงิน หวีเกศ สร้อยทอง ๕. ลักษณะคำประพันธ์ของกาพย์เห่เรือเจ้าฟ้าธรรมธิเบศร คืออะไร ก. กาพย์ห่อโคลง ข. โคลงห่อกาพย์ ค. กลอนสุภาพ ง. อินทรวิเชียรฉันท์


๖. ข้อใดเป็นพาหนะของพระพรหม ก. นาคาหน้าดังเป็น ข. เรือครุฑยุดนาคหิ้ว ค. เรือม้าหน้ามุ่งน้ำ ง. สุพรรณหงส์ทรงพู่ห้อย ๗. ข้อใดมีชื่อปลามากที่สุด ก. แก้มช้ำช้ำใครต้อง อันแก้มน้องช้ำเพราะชม ข. ปลาสร้อยลอยล่องชล ว่ายเวียนวนปนกันไป ค. ชะแวงแฝงฝังแนบ ชะวาดแอบแปบปนปลอม ง. ปลาเสือเหลือที่ตา เลื่อมแหลมกว่าปลาทั้งปวง ๘. ข้อใดกล่าวถึงสัตว์ต่างชนิดกับสัตว์อื่น ก. สาลิกามาตามคู่ ชมกันอยู่สู่สมสมร ข. แมลงภู่คู่เคียงว่าย เห็นคล้ายคล้ายน่าเชยชม ค. นางนวลนวลน่ารัก ไม่นวลพักตร์เหมือนงามสงวน ง. โนรีสีปานชาด เหมือช่างฉลาดวาดแต้มลาย ๙. ข้อใดเรียงลำดับเนื้อหาในกาพย์เห่เรือได้ถูกต้อง ก. ชมเรือ ชมปลา ชมไม้ ชมนก ข. ชมเรือ ชมนก ชมไม้ ชมปลา ค. ชมเรือ ชมไม้ ชมนก ชมปลา ง. ชมเรือ ชมปลา ชมนก ชมไม้ ๑๐. คำประพันธ์ในข้อใดที่ใช้เห่ยามสาย ก. เรือชายชมมิ่งไม้ มีพรรณ ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเกลี้ยง เพล็ดดอกออกแกมกัน ชูช่อ หอมหื่นรื่นรสเพี้ยง กลิ่นเนื้อนวลนาง ข. พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา ค. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอกโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล ง. ดนตรีมี่อึงอล ก้องกาหลพลแห่โหม โห่ฮึกครึกครื้นโครม โสมนัสชื่นรื่นเริงพล


เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนแบบฝึกทักษะ ๑. ก ๒. ง ๓. ง ๔. ก ๕. ง ๖. ก ๗. ข ๘. ง ๙. ค ๑๐.ข


เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนแบบฝึกทักษะ ๑. ง ๒. ก ๓. ง ๔. ง ๕. ก ๖. ง ๗. ค ๘. ข ๙. ก ๑๐.ข


เฉลยแบบฝึกที่ ๑ วิเคราะห์เรื่องราวกาพย์เห่เรือ ตอนที่ ๑ จงพิจารณาข้อความต่อไปนี้แล้วทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูก และทำเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ผิด ........ .......... ๑. เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรเป็นกวีในยุคทองของวรรณคดี ......... ......... ๒. นันโทปนันทสูตรคำหลวงและพระมาลัยคำหลวง จัดเป็นวรรณคดีทางพุทธศาสนา ................... ๓. การที่เจ้าฟ้ากุ้งทรงนิพนธ์กาพย์เห่เรือขึ้นเพื่อใช้เป็นบทเห่เรือหลวง ....................๔. การเห่เรือ มีต้นกำเนิดขึ้นจากคนไทยในสมัยกรุงศรีอยุธยา .................. ๕. การเห่เรือมี ๒ ประเภท คือการเห่เรือหลวงและการเห่เรือเล่น ......... ........ ๖. กาพย์เห่เรือแต่งโดยใช้คำประพันธ์ ๒ ชนิด คือโคลงสองสุภาพและกาพย์ยานี ๑๑ .......... ........ ๗. เนื้อความบทแรกของกาพย์จะเป็นเนื้อความเดียวกับโคลงบทนำ ................... ๘. การที่พระองค์ทรงพรรณนารำพึงรำพันถึงนางอันเป็นที่รักและถ่ายทอดความรู้สึกเป็น ทุกข์ เศร้าโศก หลังจากพบเห็นสิ่งใดขณะเดินทางแล้วนำมากล่าวไว้ในบทประพันธ์ เรียกว่าทำนองการแต่งแบบนิราศ ......... .......... ๙. เนื้อหาของบทเห่ครวญเป็นบทที่กวีกล่าวถึงความทุกข์ระทมที่ต้องสูญเสียนางอันเป็น ที่รักไป .......... ..... . ๑๐. กาพย์เห่เรือแบ่งเนื้อความออกเป็น ๕ ตอน แต่ละตอนจะกล่าวถึงสิ่งต่างๆ ที่กวีพบเจอไป ตามช่วงเวลา


เฉลยแบบฝึกที่ 2 เรื่องรู้เฟื่องเรื่องกาพย์เห่เรือ คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับที่นำมาให้นักเรียนศึกษานี้คือใคร เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือ เจ้าฟ้ากุ้ง ๒. วรรณคดีเรื่อง กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีในสมัยใด สมัยอยุธยาตอนปลาย ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๓. พระอิสริยยศสูงสุดของกวีผู้ทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือฉบับนี้ คือพระอิสริยยศใด เจ้าฟ้ากรมขุนเสนาพิทักษ์ พระมหาอุปราชเสวยบวรราชสมบัติ ในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ๔. กวีผู้ทรงพระนิพนธ์เรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ทรงบูรณะซ่อมสร้างวิหารของวัดใด วัดมงคลบพิตร ซึ่งถูกฟ้าผ่าตรงยอดมณฑป ๕. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ กวีทรงพระนิพนธ์ขึ้นเพื่อจุดประสงค์ใดและแต่งขึ้นเพื่อใช้ในการเดินทางไปที่ใด เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรทรงพระนิพนธ์กาพย์เห่เรือนี้ขึ้น เพื่อใช้เห่เรือเล่นในคราวที่พระองค์ตามเสด็จ พระราชบิดา (สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) ทางชลมารคไปนมัสการพระพุทธบาท ที่จังหวัดสระบุรี ๖. วรรณคดีเรื่องกาพย์เห่เรือนี้ ได้เป็นต้นแบบให้กวีรุ่นหลังแต่งกาพย์เห่อีกหลายสำนวน ได้แก่กาพย์เห่เรื่อง อะไรบ้าง กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๒ บทเห่พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๕ และ กาพย์เห่เรือ พระราชนิพนธ์ ในรัชกาลที่ ๖ ๗. เนื้อหาของกาพย์เห่เรือฉบับนี้มีกี่ตอน แต่ละตอนประกอบด้วยเนื้อหาอะไรบ้าง กาพย์เห่เรือพระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศร มี ๒ ตอน ดังนี้ - ตอนที่ ๑ กล่าวชมกระบวนเรือ ชมปลา ชมไม้ ชมนก และบทครวญถึงนางอันเป็นที่รัก - ตอนที่ ๒ ประกอบด้วย บทเห่กากี และบทเห่สังวาส (เนื้อหาที่ตัดมาให้เรียนในแบบเรียน มีเฉพาะตอนแรก) ๘. กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีร้อยกรองประเภทใด และแต่งด้วยคำประพันธ์ประเภทใดบ้าง กาพย์เห่เรือ เป็นวรรณคดีประเภทกาพย์เห่แต่งด้วยคำประพันธ์ประเภท โคลงสี่สุภาพ กับกาพย์ยานี ๑๑ เนื้อหาแต่ละตอนจะขึ้นต้นด้วยโคลงสี่สุภาพ ๑ บท ตามด้วยกาพย์ยานี ๑๑ ไม่จำกัด จำนวน โดยกาพย์ยานีบทแรกจะมีเนื้อความตรงกับเนื้อความในโคลงสี่สุภาพ


เฉลยแบบฝึกทักษะที่ 3 รู้คำถอดความจากเรื่องกาพย์เห่เรือ คำชี้แจง ให้นักเรียนบอกความหมายของคำศัพท์ที่กำหนดและสรุปสาระสำคัญของบทประพันธ์ให้ถูกต้อง ๑. กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหื่นชื่นกระมล ยลมัจฉาสารพันมี นาเวศ หมายถึง เรือ สาชล หมายถึง สายชล สายน้ำ แม่น้ำ หื่น หมายถึง ทะยานใจ เหิมใจ มีความปรารถนาอย่างแรงกล้า สาระสำคัญของบทประพันธ์ กระบวนเรือได้แล่นออกจากพระนครโดยทางน้ำ (กวี) รู้สึกยินดีและชื่น ใจเป็นอย่างยิ่ง พลางชื่นชมหมู่ปลาที่แหวกว่ายในลำน้ำ ๒. ปักษีมีหลายพรรณ บ้างชมกันขันเพรียกไพร ยิ่งฟังวังเวงใจ ล้วนหลายหลากมากภาษา ปักษี หมายถึง นก สาระสำคัญของบทประพันธ์ นก (ที่กวีเห็น) มีหลากหลายชนิด นกเหล่านี้ต่างพากันขันและส่งเสียงร้อง ไปทั่วทั้งป่า ฟังเสียงนกแล้ว (กวี) รู้สึกวังเวงใจ ๓. เพรางายวายเสพรส แสนกำสรดอดโอชา อิ่มทุกข์อิ่มชลนา อิ่มโศกาหน้านองชล เพรางาย หมายถึง เวลาเช้า มื้อเช้า กำสรด หมายถึง โศกเศร้า คร่ำครวญ ร้องไห้ สาระสำคัญของบทประพันธ์ ในเวลาเช้า (หรือมื้อเช้า) กวีไม่อาจเสวยอาหารได้ เพราะกวีอิ่มจากความทุกข์ อิ่มจากน้ำตาและอิ่มจากความโศกเศร้า ๔. สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม สินธุ์ หมายถึง ลำน้ำ สายน้ำ พรหมินทร์ หมายถึง พระพรหม ลินลาศ หมายถึง การเยื้องกราย ท่าทางอันสง่า สาระสำคัญของบทประพันธ์ เรือสุพรรณหงส์ที่แล่นมาอย่างช้าๆ มีความงดงามมาก ประดุจหงส์ ของพระพรหมความสง่างามของเรือสุพรรณหงส์นี้ตรึงตาอย่างยิ่ง


๕. รอนรอนสุริยโอ้ อัสดง เรื่อยเรื่อยลับเมรุลง ค่ำแล้ว รอนรอนจิตจำนง นุชพี่ เพียงแม่ เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียมเหลียว อัสดง หมายถึง ตกไป (ใช้กับพระอาทิตย์) เมรุ (อ่านว่า “เมน”) หมายถึง ภูเขา เรียม หมายถึง คำใช้แทนตัวผู้พูด เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ใช้สำหรับผู้ชายพูดกับผู้หญิงที่รัก สาระสำคัญของบทประพันธ์ เมื่อพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขา เข้าสู่เวลาค่ำ พี่ (หมายถึงตัวกวี) ก็เฝ้า คะนึงหาแต่นางอันเป็นที่รัก เมื่อเห็นใครที่คลับคล้ายว่าจะเป็นนาง ก็รีบเหลียวหันมองไปทันที ๖. พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คิดถึงเจ้าเศร้าอารมณ์ มัตสยายังรู้ชม สมสาใจไม่พามา มัตสยา หมายถึง ปลา สาระสำคัญของบทประพันธ์ (กวี) มองดูฝูงปลาแหวกว่ายในน้ำ ก็รู้สึกคิดถึงนางอันเป็นที่รัก หมู่ปลา ยังรู้จักแหวกว่ายคลอเคลียกัน แต่ตัวกวีกลับไม่มีนางอยู่เคียงข้าง ๗. โนรีสีปานชาด เหมือนช่างฉลาดวาดแต้มลาย ไม่เท่าเจ้าโฉมฉาย ห่มตาดพรายกรายกรมา ชาด หมายถึง วัตถุสีแดงสดชนิดหนึ่ง เป็นผงก็มี ใช้ทำยาไทยหรือประสมกับน้ำมันสำหรับประทับตรา หรือทาสิ่งของ มักเรียกสีที่แดงสดว่า สีแดงชาด สาระสำคัญของบทประพันธ์ นกโนรีมีแดงสดเหมือนสีชาด สวยงามราวกับมีจิตรกรมาวาดแต้มสีไว้ แต่ถึงกระนั้น นกโนรี ก็ยังงดงามไม่เท่ากับนางอันเป็นที่รัก (ของกวี) ที่ห่มตาดพรายเดินอย่างแช่มช้อย ๘. นาวาแน่นเป็นขนัด ล้วนรูปสัตว์แสนยากร เรือริ้วทิวธงสลอน สาครลั่นครั่นครื้นฟอง นาวา หมายถึง เรือ สาคร หมายถึง ลำน้ำ สายน้ำ สาระสำคัญของบทประพันธ์ เรือในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคนี้มีมากจนแน่นเต็มลำน้ำ ทั้งเรือ รูปสัตว์ต่างๆ และบรรดาเรือริ้วซึ่งมีทิวธงสะบัด เรือเหล่านี้แล่นเรียงกัน ทำให้น้ำในลำน้ำกระฉอกเป็นฟอง ตามการแล่นของเรือ


ผลการประเมินการทำแบบทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน เรื่องกาพย์เห่เรือ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ - สกุล คะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน ระดับ ผลการประเมิน คะแนนที่ได้ ผ่าน ไม่ผ่าน เกณฑ์การประเมิน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานรายบุคคล คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความ รับผิดชอบ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16


ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความ รับผิดชอบ การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน …………. คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานเป็นรายบุคคล ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ ความรับผิดชอบ ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา และมี ผลงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา แต่ผลงานยังไม่ดี เท่าที่ควร ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้แต่ไม่ ตรงต่อเวลาและ ผลงานยังไม่ดีนัก ทำงานที่ได้รับ มอบหมายได้แต่ ต้องอาศัยคำสั่ง และผลงานไม่ดี การรับฟังความคิดเห็น เคารพ การตัดสินใจ ให้เกียรติในความ คิดเห็นและรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่นทุกครั้ง เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์ทุกครั้ง แสดงความ คิดเห็นต่อที่เป็น ประโยชน์สำหรับ การเรียนและมี ความสร้างสรรค์ อย่างสม่ำเสมอ แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์บ้าง แสดงความคิดเห็น ต่อที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน บ้าง ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ เสียสละ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นและปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ สามารถเป็น แบบอย่างที่ดีแก่ ผู้อื่น มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นและปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อ ผู้อื่นแต่ยังปฏิบัติ ไม่สม่ำเสมอ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละ ต่อผู้อื่นบ้าง


แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับรายการประเมิน ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน กระบวนการ ทำงานกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความสามัคคี ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16


ที่ ชื่อ รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน กระบวนการ ทำงานกลุ่ม การรับฟัง ความคิดเห็น การแสดง ความคิดเห็น ความสามัคคี ผ่าน ไม่ผ่าน 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 4 3 2 1 16 ระดับคุณภาพ เป็นดังนี้ คะแนน ๑๓ - ๑๖ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๙ - ๑๒ หมายถึง ดี คะแนน ๕ - ๘ หมายถึง พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดีมาก จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ประเด็นการประเมิน พฤติกรรม/ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ กระบวนการทำงานกลุ่ม วางแผน การทำงานตามที่ ได้รับมอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา และมี ผลงานที่ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ วางแผน การทำงานตามที่ ได้รับมอบหมายได้ สำเร็จตาม วัตถุประสงค์ ตรงเวลา แต่ผลงานยังไม่ดี เท่าที่ควร ทำงานตามที่ได้รับ มอบหมายได้ แต่ไม่ตรงต่อเวลา และผลงาน ยังไม่ดีนัก ขาดการวางแผน ในการทำงาน และผลงานไม่ดี เท่าที่ควร การรับฟังความคิดเห็น เคารพ การตัดสินใจ ให้เกียรติในความ คิดเห็นและรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่นทุกครั้ง เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น เคารพ การตัดสินใจ ในความคิดเห็น และรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น บ้าง ไม่ค่อยรับฟัง ความคิดเห็น ของผู้อื่น การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์ทุกครั้ง แสดงความ คิดเห็นที่เป็น ประโยชน์สำหรับ การเรียนและมี ความสร้างสรรค์ อย่างสม่ำเสมอ แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน และมีความ สร้างสรรค์บ้าง แสดงความคิดเห็น ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการเรียน บ้าง ความสามัคคี มีความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ โดยยุติธรรม มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ และเสียสละต่อกัน มีความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ มีน้ำใจ เอื้อเฟื้อ ค่อนข้าง ขาด ความเป็น อันหนึ่ง อันเดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่ทั่วถึง ขาดความเป็น อันหนึ่งอัน เดียวกัน แบ่งหน้าที่ ความรับผิดชอบ ไม่เสมอภาค


แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน ความสามารถ ในการสื่อสาร ความสมารถ ในการคิด ความสามารถ ในการใช้ ทักษะชีวิต ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙


ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ เกณฑ์การประเมิน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน รายการประเมิน ๓ ๒ ๑ ความสามารถ ในการสื่อสาร พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง ดู ด้วยภาษาของตนเอง ได้อย่างคล่องแคล่ว ชัดเจน พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง หรือ ดู ด้วยภาษาของ ตนเองได้อย่างชัดเจน แต่ขาดความคล่องแคล่ว พูดถ่ายทอดความรู้ความ เข้าใจจากสารที่อ่าน ฟัง หรือ ดู ด้วยภาษา ของตนเองได้บ้าง ความสามารถ ในการคิด ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง และครบถ้วน ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง แต่ไม่ครบถ้วน ระบุหลักการสำคัญ แนวคิดหรือความรู้ที่ ปรากฏในข้อมูลต่าง ๆ ที่พบเห็นได้อย่างถูกต้อง เป็นบางส่วนและ ไม่ครบถ้วน ความสามารถ ในการใช้ทักษะชีวิต นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น ระบบและ มีประสิทธิภาพ นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานอย่างเป็น ระบบแต่ขาด ประสิทธิภาพ นำความรู้/ทักษะและ เทคนิควิธีต่าง ๆ มาใช้ สร้างสรรค์งานได้ แต่ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สำเร็จในเวลา ที่กำหนด


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนแล้วขีด ✓ ลงในช่องคะแนนที่ตรงกับ พฤติกรรมตามรายการที่สังเกต ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙


ที่ ชื่อ-สกุล รายการประเมิน รวม ผลการ ประเมิน มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่น ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๓ ๒ ๑ ๙ เกณฑ์การประเมิน ๗ – ๙ คะแนน หมายถึง ดี ๔ – ๖ คะแนน หมายถึง พอใช้ ๑ – ๓ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ผลการประเมิน ระดับดี จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับพอใช้ จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ระดับปรับปรุง จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. เกณฑ์การประเมิน ระดับ “ดี” ขึ้นไป คือ ผ่าน สรุปผลการประเมิน ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ไม่ผ่าน จำนวน ………….คน คิดเป็นร้อยละ …………. ลงชื่อ ..................................................... ผู้ประเมิน (นางสาวสิริภา แสงสมัคร)


เกณฑ์การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ๓ ๒ ๑ มีวินัย ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบของห้องเรียน ไม่รบกวนบุคคลอื่น มีสมาธิในการปฏิบัติงาน ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กติกาที่ได้ตกลงกัน ไม่รบกวนบุคคลอื่น ขณะเรียนปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ กติกาที่ได้ตกลงกันบ้าง ใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ บ่อยครั้ง ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการเรียนรู้ ต่าง ๆ บางครั้ง มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจ อดทน พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย และไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรค เพื่อให้งานสำเร็จ มีความตั้งใจ อดทน พยายามในการทำงาน ที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้งานสำเร็จ มีความตั้งใจ พยายาม ในการทำงานที่ได้รับ มอบหมาย


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ เรื่อง วิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชาภาษาไทย ๖ รหัส ท ๓๓๑๐๒ ชื่อหน่วย กาพย์เห่เรือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง วิเคราะห์ลักษณะเด่นของวรรณคดี เวลา 4 คาบ สอนวันที่ ๒๒ -๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๕ ผู้สอน นางสาวสิริภา แสงสมัคร ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคุณค่าและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง 2. ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ม. ๔-๖/๓ วิเคราะห์และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดีและวรรณกรรมใน ฐานะที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ 3. สาระสำคัญ กาพย์เห่เรือเป็นวรรณคดีที่ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกระบวนเรือ มีบทชมปลา ช มนก ชมไม้ และบทเห่ครวญซึ่งเนื้อหาของเรื่องถูกถ่ายทอดผ่านเป็นภาษาที่มีความงดงามเรียกว่าคุณค่าด้านวรรณศิลป์ อันประกอบด้วยโวหารภาพพจน์รสวรรณคดี กลวิธีการแต่งตลอดจนการสรรคำอยู่หลายตอน ดังนั้นในการอ่าน จึงควรวิเคราะห์ให้เข้าใจอย่างชัดเจนจึงจะประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์ได้อย่างครบถ้วน 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4.1 ด้านความรู้ความสามารถ 4.1.1 นักเรียนบอกความหมายของวรรณศิลป์ได้ 4.1.2 นักเรียนอธิบายลักษณะของวรรณศิลป์ได้ 4.2 ด้านทักษะกระบวนการ 4.2.1 นักเรียนยกตัวอย่างคุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องกาพย์เห่เรือได้ถูกต้อง 4.2.2 นักเรียนวิเคราะห์คุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องกาพย์เห่เรือได้ 4.3 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4.3.1 ใฝ่เรียนรู้ 4.3.2 มุ่งมั่นในการทำงาน 4.3.3 รักความเป็นไทย ๕. สาระการเรียนรู้ 5.1 ความหมายของวรรณศิลป์จากเรื่องกาพย์เห่เรือได้ 5.2 ลักษณะของวรรณศิลป์แต่ละชนิดได้ 5.3 คุณค่าด้านวรรณศิลป์จากเรื่องกาพย์เห่เรือ


Click to View FlipBook Version