แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 4 การดำรงชีวิตของพืช

แผนการจดั การเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้

วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ว21101 วิทยาศาสตรพ์ ้นื ฐาน

ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 โรงเรยี นบ้านหมากแขง้

สํานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษาอุดรธานี เขต1
สาํ นักงานคณะกรรมการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ

นางสาวสุดารตั น์ ปิยะนนั ท์

-61100147110-

สาขาวชิ าวทิ ยาศาสตร์(ชีววิทยา) คณะครศุ าสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั อุดรธานี

แผนการจดั การเรียนรู้
วิชาวทิ ยาศาสตร์พืน้ ฐาน ว21101
กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การดำรงชวี ิตของพชื
ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 โรงเรยี นบ้านหมากแข้ง

นางสาวสดุ ารตั น์ ปยิ ะนนั ท์
รหสั ประจำตวั นกั ศึกษา 61100147110

สาขาวิชาวทิ ยาศาสตร์(ชีววทิ ยา)

การฝกึ ปฏบิ ตั ิการสอนในสถานศกึ ษา 1
รหัสวชิ า ED18501 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1)

คณะครศุ าสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั อุดรธานี
ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2565

ก

คำนำ

แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาวทิ ยาศาสตรพ์ ืน้ ฐาน รหสั วชิ า ว21101 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 เล่ม 1 นี้
จัดทำข้ึนเพือ่ ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรยี นการสอนให้มีประสิทธภิ าพ และให้นักเรียนบรรลตุ ามมาตรฐาน
การเรียนรู้/ตัวชี้วัด ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พุธศักราช 2560) ผู้จัดทำจึงได้ศึกษาสาระการเรียนรู้ เทคนิค วิธีการสอน การวัดและประเมินผล มาทำ
แผนการจดั การเรยี นร้ใู นครั้งนี้

แผนการจัดการเรียนรู้ในเล่มที่ 1 นี้ ประกอบไปด้วย แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยที่ 4 การดำรงชีวติ
ของพืช เพื่อให้นักเรียนมีพัฒนาการและศักยภาพการเรียนรู้ได้บรรลุเป้าหมายตามมาตรฐานการเรียนรู้และ
ตัวชี้วัดได้อย่างครบถ้วน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จะสามารถนำไปใช้ประกอบการ
จัดการเรียนการสอนในรายวิชาวทิ ยาศาสตร์พืน้ ฐาน นำไปสู่การพัฒนาท่ีถกู ต้องและเกดิ ผลตอ่ ผเู้ รียนเปน็ อย่างดี

สดุ ารัตน์ ปิยะนนั ท์
17 ตุลาคม 2565

ข

สารบัญ

เร่ือง หน้า
คำนำ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ก
สารบญั …………………………………………………………………………………………………………………………………. ข
แผนการจดั การเรยี นร้หู นว่ ยท่ี 4 การดำรงชวี ิตของพชื ……………………………..………………………..…… 1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 การสืบพนั ธแุ์ บบอาศัยเพศ………..…………………..…………………… 1
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 14 การสืบพนั ธุแ์ บบไม่อาศยั เพศ………………..……………………………. 23
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 15 การขยายพันธพุ์ ืช…………………………………………………..………….. 40
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 ปัจจัยทจ่ี ำเป็นต่อกระบวนการสงั เคราะห์ดว้ ยแสง
ของพืช…………………………………………………………………………………………………………………….. 57
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 17 ความสำคญั ของกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสง…………………… 73
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 18 ธาตอุ าหารของพชื ………………………………………………….…………. 88
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 19 การลำเลยี งในพืช………………………………………………………………. 101

1

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 13

กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหสั วิชา ว 21101

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การดำรงชวี ิตของพชื ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

เร่ืองการสืบพันธแุ์ บบอาศัยเพศ เวลา 3 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผสู้ อน นางสาวสุดารตั น์ ปยิ ะนนั ท์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 1.2 ม.1/11 อธิบายการสืบพนั ธ์ุแบบอาศัยเพศและไมอ่ าศยั เพศของพชื ดอก
มาตรฐาน ว 1.2 ม.1/12 อธิบายลักษณะโครงสร้างของดอกที่มีส่วนทำให้เกิดการถ่ายเรณู
รวมทั้งบรรยายการปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดผลและเมล็ด การกระจายเมล็ด และการงอกของ
เมลด็
มาตรฐาน ว 1.2 ม.1/13 ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ที่ช่วยในการถา่ ยเรณูของพืชดอก
โดยการไมท่ ำลายชีวิตของสตั วท์ ีช่ ่วยในการถา่ ยเรณู
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

พืชดอกมีดอกเป็นอวัยวะสบื พันธ์ุ ภายในมีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่สร้างเซลลส์ ืบพันธุ์เพศผู้
(สเปิร์ม) และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย (เซลล์ไข่) ซึ่งการปฏิสนธิระหว่างสเปิร์มกับเซลล์ไข่จะเกิดขึ้น
ภายในรังไข่ แล้วเจริญเป็นเมล็ดอยู่ภายในผล เมื่อถึงเวลาขยายพันธุ์เมล็ดที่อยู่ภายในผลจะแตกออก
และกระจายไปยังท่ีต่างๆ เมอ่ื อยู่ ในสภาวะแวดลอ้ มและมีปัจจยั ที่เหมาะสม

การสืบพนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศ เปน็ การสบื พนั ธ์ทุ ี่เกดิ การปฏสิ นธริ ะหว่างเซลลส์ ืบพันธุ์เพศผู้และ
เซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอกเกิดขึ้นที่ดอก โดยทั่วไปดอก
ประกอบดว้ ย กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมีย ภายในอับเรณูของเกสรเพศผูม้ เี รณู
ทำหนา้ ทสี่ ร้างสเปิร์ม ภายในออวุลของเกสรเพศเมยี มีถุงเอ็มบริโอทำหน้าท่ีสร้างเซลล์ไข่ ซึง่ ตอ้ งมีการ
ถ่ายเรณจู ากอับเรณูไปยังยอดเกสรเพศเมยี นำไปสูก่ ารปฏิสนธริ ะหว่างสเปิร์มกับเซลลไ์ ข่ และระหว่าง
สเปิร์มกับโพลาร์นิวคลีไอในถุงเอ็มบริโอ หลังการปฏิสนธิจะได้ ไซโกตและเอนโดสเปิร์ม ไซโกตจะ
พัฒนาตอ่ ไปเป็นเอม็ บรโิ อ โดยมีเอนโดสเปริ ์มเป็นอาหารสะสมสำหรบั เลีย้ งเอม็ บรโิ อ ส่วนออวุลพัฒนา
ไปเป็นเมล็ด และรงั ไข่พัฒนาไปเปน็ ผล

2

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1) นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการสบื พนั ธ์ุแบบอาศยั เพศของพชื ดอกได้ (K)
3.2) นกั เรยี นสามารถอธิบายลกั ษณะโครงสร้างของดอกทม่ี สี ่วนทำให้เกิดการถ่ายเรณูได้ (K)
3.3) นกั เรยี นสามารถสืบคน้ รวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกับวธิ กี ารถ่ายเรณขู องพืชดอกได้ (P)
3.4) นักเรียนตระหนักถึงประโยชน์ของการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศและนำความรู้ไป

ประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ (A)
4. สาระการเรียนรู้
สาระการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (Knowledge)
- การถ่ายเรณู
- การปฏิสนธิ
- สเปริ ม์
- เซลล์ไข่
- เอ็มบริโอ
- การกระจายผลและเมลด็
- การงอกของเมลด็

ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process)
- ทกั ษะการสงั เกต

5. สมรรถนะสำคญั
5.1) ความสามารถในการคดิ วิเคราะห์
5.2) ความสามารถในการสอื่ สาร
5.3) ความสามรถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5.4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1) มีวนิ ัย
6.2) ไฝเ่ รียนรู้
6.3) มงุ่ มั่นในการทำงาน

3

7. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
1-2 ช่วั โมงแรก
ข้ันท่ี 1 ขน้ั สรา้ งความสนใจ (Engagement)

1) ครูนำรูปดอกไม้ให้นักเรียนดูแล้วถามคำถามนักเรียนเพื่อกระตุ้นความสนใจ
นักเรยี นวา่ “พชื มีอวัยวะทใ่ี ชส้ ืบพันธห์ุ รือไม่ อวัยวะนั้นคอื อะไร” (แนวคำตอบ มีเกสรเพศผู้และเกสร
เพศเมยี )

2) ครูทบทวนความรู้กอ่ นเรยี น โดยใหน้ กั เรียนเขียนชือ่ และหน้าที่ของส่วนประกอบ
ของดอก จากรปู โครงสร้างของดอกต่อไปน้ี

ขั้นท่ี 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครูให้นักเรยี นทบทวนความร้เู ก่ียวกบั สว่ นประกอบของดอก และหน้าที่ของแต่ละ

สว่ นประกอบ โดยอาจนำดอกพืชมาให้ดแู ละสังเกตส่วนประกอบแต่ละสว่ น เพ่อื ใหเ้ ห็นอยา่ งชดั เจนว่า
เรณูกับถุงเอม็ บริโออยู่คนละส่วนกัน ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนคิดวิเคราะห์และหาคำตอบจดลงใน
สมดุ ดงั น้ี

- ส่วนใดของดอกที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก
เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ ส่วนของเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย เพราะวา่ เกสรเพศผ้เู ป็นส่วนท่ีสร้าง
เซลล์สืบพนั ธุ์เพศผู้ และเกสรเพศเมียเป็นส่วนทีส่ ร้างเซลลส์ บื พันธุเ์ พศเมีย)

- การถา่ ยเรณูเกิดขนึ้ ไดอ้ ย่างไร มีปัจจยั ใดบ้างท่ชี ว่ ยในการถ่ายเรณู (แนวคำตอบ
การถ่ายเรณูเกิดขึน้ เมือ่ ละอองเรณูหลดุ ออกจากอับละอองเรณู ปัจจัยที่ช่วยในการถ่ายเรณู เช่น ลม
น้ำ มนษุ ย์ ผง้ึ แมลงตา่ ง ๆ เป็นต้น)

2) ครูนำนกั เรียนเข้าสู่กิจกรรมท่ี 4.1 การถ่ายเรณเู กดิ ข้ึนได้อย่างไร
3) ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ เดมิ จากชั่วโมงที่แลว้ เพ่อื ทำกิจกรรม
4) ครูให้นักเรียนอ่านจุดประสงค์ของการทดลอง จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำ
กิจกรรมด้วยตนเอง โดยมีครูคอยแนะนำตลอดระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม ครูให้นักเรียนทำ

4

กิจกรรมตามขัน้ ตอน โดยแนะนำใหน้ ักเรยี นในกลุ่มสงั เกตดอกพชื ทีละชนดิ ไปพร้อมกนั ทัง้ กลุ่ม เพอื่ ให้
มีการลงความเหน็ กนั ในกล่มุ และบันทกึ ผลการทำกจิ กรรมลงในสมุดบนั ทึก

5) ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 4.1 เรอื่ ง การสบื พันธ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก
ขน้ั ที่ 3 ขั้นอภิปรายและลงขอ้ สรปุ (Explain)

1) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรม และให้แต่ละกลุ่มร่วมกัน
แลกเปลี่ยนผลการทำกิจกรรม อภปิ รายร่วมกันเพ่ือใหไ้ ดข้ ้อสรุปว่า การถ่ายเรณู เป็นการเคล่ือนย้าย
เรณจู ากอบั เรณูไปยังยอดเกสรเพศเมีย เพือ่ ให้เซลล์สบื พันธุ์เพศผู้มีโอกาสไปผสมกับเซลล์สืบพันธุ์เพศ
เมยี นอกจากนี้วธิ ีการถ่ายเรณูของพืชแต่ละชนิดเกีย่ วขอ้ งกับลักษณะ รูปร่างของดอก โดยมีส่ิงท่ีช่วย
ถา่ ยเรณู เช่นลม นำ้ สตั ว์

2) ครอู ธบิ ายเน้ือหาในเรื่องของการถ่ายเรณู และการปฏสิ นธิของพืชดอกโยใช้สไลด์
PPT.ประกอบการอธิบาย เพอ่ื ใหน้ กั เรียนเห็นภาพและเข้าใจเนื้อหามากขึน้

ช่ัวโมงที่ 3
ข้ันท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaborate)

1) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ระดมความคดิ ว่า หากไม่มีการถา่ ยเรณูจะส่งผล
กระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไรบ้าง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันนำคำตอบของแต่ละกลุ่มที่ได้
มาอภปิ รายในการถ่ายเรณูทจี่ ะส่งผลกระทบต่อสงิ่ มีชีวิต เพ่ือใหน้ กั เรยี นเข้าใจมากยิง่ ขน้ึ

3) ครอู ภิปรายเก่ียวกบั การเกดิ เมล็ดของพชื ดอกเพม่ิ เตมิ ให้กับนักเรียน
ข้ันที่ 5 ขน้ั ประเมนิ (Evaluation)

1) ตรวจสอบความถูกต้องของสมุดบันทึกกิจกรรม และใบงานที่ 4.1 เรื่องการ
สบื พันธ์แบบอาศัยเพศของพชื ดอก

2) ประเมินพฤติกรรมของนักเรยี นโดยใชแ้ บบประเมนิ พฤติกรรมนักเรียน
8. สอ่ื การสอน/อปุ กรณ/์ แหล่งเรยี นรู้

สอ่ื 1) Power Point เร่อื ง การดำรงชวี ติ ของพืช การสบื พันธโ์ุ ดยอาศยั เพศ
และไม่อาศยั เพศของพชื ดอก
2) หนังสอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 สสวท.
3) ใบความรู้ เร่อื ง การสบื พันธ์แบบอาศยั เพศของพืชดอก

แหลง่ เรยี นรู้ 1) การสบื คน้ ขอ้ มลู แหล่งเครือขา่ ย Internet สืบค้นข้อมูลในหัวข้อ หวั ขอ้
การสบื พนั ธ์ุโดยอาศัยเพศ

9. การวดั ผลและประเมินผลการเรยี นรู้

5

จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธวี ดั เครื่องมือท่ีใช้ เกณฑก์ ารประเมิน

ดา้ นความรู้ (K)

1) นักเรียนสามารถอธบิ าย - ตรวจสอบความถูก - ใบงานที่ 4.1 เรอื่ ง นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
การสืบพันธ์แบบอาศยั การประเมินร้อยละ
การสบื พนั ธแุ์ บบอาศยั เพศของ ตอ้ งของใบงานที่ 4.1 เพศของพืชดอก
60
พชื ดอกได้ เรื่อง การสืบพันธแ์ บบ

2) นกั เรยี นสามารถอธบิ าย อาศัยเพศของพืชดอก

ลักษณะโครงสรา้ งของดอกทม่ี ี

สว่ นทำให้เกิดการถา่ ยเรณไู ด้

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

3) นกั เรยี นสามารถสบื ค้น - สงั เกตพฤตกิ รรมการ - แบบประเมนิ ทักษะ นักเรียนผา่ นเกณฑ์
การทดลองทาง การประเมินร้อยละ
รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับวธิ กี าร ทำกิจกรรม 4.1 การ วทิ ยาศาสตร์
60
ถ่ายเรณูของพืชดอกได้ ถ่ายเรณูเกดิ ขน้ึ ได้

อยา่ งไร

ด้านคุณลักษณะ (A) นกั เรียนผ่านเกณฑ์
การประเมนิ รอ้ ยละ
4) นักเรยี นตระหนักถงึ - ตรวจสอบความถกู - ใบงานท่ี 4.1 เรื่อง
การสบื พันธแ์ บบอาศยั 60
ประโยชนข์ องการสบื พนั ธแุ์ บบ ตอ้ งของใบงานที่ 4.1 เพศของพืชดอก

อาศัยเพศและนำความรูไ้ ป เรื่อง การสืบพันธแ์ บบ

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ อาศัยเพศของพืชดอก

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20

21

22

23

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 14

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 21101

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 การดำรงชวี ิตของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

เรอื่ งการสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศ เวลา 3 ชั่วโมง

ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครูผู้สอน นางสาวสดุ ารัตน์ ปิยะนนั ท์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ว 1.2 ม.1/11 อธบิ ายการสบื พนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศและไมอ่ าศยั เพศของพชื ดอก
มาตรฐาน ว 1.2 ม.1/12 อธิบายลักษณะโครงสร้างของดอกที่มีส่วนทำให้เกิดการถ่ายเรณู
รวมท้งั บรรยายการปฏิสนธิของพชื ดอก การเกดิ ผลและเมลด็ การกระจายเมลด็ แลการงอกของเมลด็
มาตรฐาน ว 1.2 ม.1/13 ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ที่ชว่ ยในการถา่ ยเรณูของพืชดอก
โดยการไม่ทำลายชีวติ ของสัตวท์ ชี่ ่วยในการถ่ายเรณู
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
พชื ดอกมีดอกเป็นอวัยวะสืบพนั ธุ์ ภายในมีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้ (สเปิร์ม)
และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย (เซลล์ไข่) ซึ่งการปฏิสนธิระหวา่ งสเปิร์มกับเซลล์ไข่จะเกิดขึน้ ภายในรังไข่
แล้วเจริญเป็นเมล็ดอยู่ภายในผล เมื่อถึงเวลาขยายพันธุ์เมล็ดที่อยู่ภายในผลจะแตกออกและกระจาย
ไปยังที่ต่าง ๆ เม่อื อยู่ ในสภาวะแวดล้อมและมีปจั จยั ทเ่ี หมาะสม
การสืบพันธ์ุแบบไมอ่ าศัยเพศของพืชดอก (Asexual reproduction) เป็นการสืบพันธุ์ที่ไม่มี
การผสมระหว่างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมีย แบ่งได้ 2 ประเภทคือ การสืบพันธุ์ที่
เกดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ เชน่ การแตกหนอ่ หรือเหงา้ การสร้างสปอร์ เปน็ ต้น และเกดิ จากการกระทำ
ของมนษุ ย์ เป็นการนำเอาสว่ นใดส่วนหนงึ่ ของพืชต้นเดิมไปสร้างเป็นพชื ต้นใหม่ท่ีมีลักษณะเหมือนต้น
เดิม ซึง่ ทำได้หลายวิธี เชน่ การขยายพนั ธด์ุ ้วยลำตน้ การขยายพนั ธ์ุด้วยก่ิง การเพาะเลี้ยงเน้อื เยอื่ เป็น
ต้น
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

3.1) นกั เรียนสามารถอธบิ ายการสืบพนั ธ์แุ บบไม่อาศัยเพศของพชื ดอกได้ (K)
3.2) นักเรียนสามารถยกตวั อย่างการสืบพันธแุ์ บบไม่อาศัยเพศของพืชดอกได้ (P)
3.3) นักเรียนสามารถนำความรู้ในการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืชดอกไปประยุกต์ใน
ชวี ติ ประจำวันได้ (A)

24

4. สาระการเรียนรู้
ด้านความรู้ (Knowledge)
- การสืบพันธุ์แบบไมอ่ าศยั เพศ
- การถ่ายละอองเรณู
- การงอกของเมลด็
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process)
- ทักษะการสงั เกต

5. สมรรถนะสำคญั
5.1) ความสามารถในการคิดวิเคราะห์
5.2) ความสามารถในการส่ือสาร
5.3) ความสามรถในการใชท้ ักษะชีวติ
5.4) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
6.1) มีวินัย
6.2) ไฝ่เรียนรู้
6.3) มุ่งมน่ั ในการทำงาน

7. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1-2
ข้นั ท่ี 1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1) ครูทบทวนความรู้เดิมในชั่วโมงที่แล้วว่าการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอก

เป็นอย่างไร (แนวคำตอบ เป็นการที่เซลล์สืบพันธเ์ พศผู้และเซลล์สืบพันธ์เพศเมียมาปฏิสนธิกัน
โดยพชื ดอกจะอาศยั ดอกเปน็ อวัยวะในการสืบพนั ธ์ุ เรียกว่า การสืบพันธ์แุ บบอาศยั เพศ ประกอบด้วย
ขั้นตอนที่สำคัญ 2 ขัน้ ตอน การถ่ายละอองเรณู และการปฏิสนธ)ิ

2) ครูถามคำถามนกั เรยี นเพื่อกระตุ้นความสนใจนกั เรยี นวา่ “พชื ดอกท่ีมกี ารสืบพันธ์ุ
แบบอาศัยเพศ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยอะไร และสามารถขยายพนั ธุ์ด้วยวธิ ีอนื่ ๆ หรือไม่”
(แนวคำตอบ พืชดอกที่มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยเมล็ด ไม่สามารถ
ขยายพันธุ์ได้แตถ่ ้าสืบพนั ธุ์แบบไม่อาศัยเพศสามารถขยายพนั ธุ์ได้)

25

3) ครูให้นักเรียนดูรูป จากนั้นช่วยกันอภิปรายว่าพืชดอกต่อไปนี้คืออะไร มีการ
สืบพันธุ์แบบใด และสามารถขยายพันธ์ุได้ด้วยวิธีใด (แนวคำตอบ ดอกกล้วยไม้ พืชดอกที่มีการ
สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการตัดแยกทำได้หลายวิธี เช่น การเพาะเลี้ยง
เนอื้ เยอื่ )

ขน้ั ที่ 2 ขั้นสำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครูให้นกั เรยี นศึกษาใบความรู้ เร่อื ง การสืบพันธ์แบบไมอ่ าศัยเพศของพชื ดอก
2) ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ เปน็ 9 กลุ่ม โดยครคู ละความสามารถ เกง่ กลาง อ่อนจาก

การสุ่มอย่างงา่ ยเพ่ือทำกจิ กรรม
3) ครูให้นกั เรียนอา่ นจดุ ประสงค์ของกิจกรรม และใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรมด้วยตนเอง

จากนน้ั จับฉลากรูปภาพของพืชดอกเพ่ือสืบคน้ และทำกิจกรรม และให้นกั เรียนลงความเห็นพืชดอกที่
จบั ฉลากได้ เปน็ พชื ชนดิ ใด ตัวอยา่ งคำตอบ เช่น

- การปักชำก่งิ ไมด้ อกไมป้ ระดบั ท่นี ิยมทำ ได้แก่ กุหลาบ เข็ม เฟอื่ งฟ้า จำปี ลีลา
วดี ชบา ฤาษผี สม โปย๊ เซยี น มะเขอื

- การติดตา ไมด้ อกไมป้ ระดับที่นิยมทำ ได้แก่ กหุ ลาบ ชบา
- การตอนก่ิง ไม้ดอกไม้ประดับท่ีนิยมทำ ได้แก่ กุหลาบ เข็ม มะลิ มะม่วง
- การโนม้ ก่งิ ไมด้ อกไม้ประดบั ท่ีนยิ มทำ ไดแ้ ก่ มะลิ
4) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสืบคน้ พืชดอกท่ีกลุ่มของตนเองจับฉลากได้ โดยให้ศึกษา
วธิ กี ารสืบพันธข์ องดอกไม้นนั้ ๆ ด้วยการวาดภาพและเขยี นนำเสนอในรูปแบบต่างลงในกระดาษที่ครู
แจกใหท้ กุ กลุ่ม

ข้ันที่ 3 ขัน้ อภปิ รายและลงข้อสรุป (Explain)

26

1) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรม
2) ครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายเกยี่ วกบั ผลที่ไดจ้ ากกจิ กรรม
3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยอภิปรายให้กับนักเรียนเพิ่มเติมเพื่อให้
นกั เรยี นเข้าใจ
4) ครูอธบิ ายเน้ือหาเพิ่มเติมเรอ่ื งการสบื พนั ธ์ุแบบไม่อาศยั เพศโดย Power Point

ขน้ั ที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaborate)
1) ครูให้นักเรียนตอบคำถามท้ายกิจกรรมในหนังสือเรียนและร่วมกันอภิปราย

คำตอบเพื่อสรุปให้ไดว้ ่า พืชที่ไม่มีเมล็ดหรอื พืชบางชนิดมีเมล็ดก็สามารถขยายพันธุโ์ ดยไมใ่ ช้เมล็ดได้
ซึ่งเราเรยี กวา่ การสบื พันธ์ุแบบไม่อาศัยเพศ การสบื พนั ธุ์แบบไมอ่ าศัยเพศ เปน็ การนำเอาส่วนใดส่วน
หนง่ึ ของพชื ตน้ เดิมไปสร้างเป็นพืชต้นใหมท่ ี่มลี กั ษณะเหมอื นต้นเดมิ ซง่ึ ทำได้หลายวธิ ี ดงั น้ี

- การขยายพันธุด์ ้วยลำต้น เช่นพืชทีม่ ีลำต้นใตด้ นิ ทำหน้าท่ีสะสมอาหาร ได้แก่
ขงิ ขา่ ขมิ้น แหว้ เผอื ก หอม กระเทียม มันฝรง่ั วา่ นสี่ทิศ

- การขยายพันธุ์ด้วยกิ่ง โดยการปักชำ ตอน ติดตา ทาบกิ่ง หรือเสียบยอด
เชน่ ชบา พรู่ ะหง มะละ โกสน กหุ ลาบ พุทรา มะมว่ ง ดาวเรือง ฤาษีผสม

- การขยายพันธุด์ ้วยราก มกั เปน็ รากชนิดท่ีสะสมอาหาร เช่น มันเทศ
- การขยายพันธ์ุดว้ ยใบ เช่น ใบควำ่ ตายหงายเป็น ใบตน้ ทองสามย่าน ใบของต้น
โคมญ่ปี ุน่
ข้นั ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ (Evaluation)
1) ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของสมุดบนั ทึกกจิ กรรม
2) ประเมินพฤติกรรมของนกั เรยี นโดยใชแ้ บบประเมินพฤตกิ รรม
ชัว่ โมงท่ี 3
ขน้ั ที่ 1 ข้นั สร้างความสนใจ (Engagement)
1) ครูทบทวนความรู้ของคาบที่แล้วให้กบั นักเรียนโดยการถามคำถามว่าการสืบพันธุ์
แบบไมอ่ าศยั เพศ เป็นการนำเอาสว่ นใดส่วนมาขยายพันธ์ุ (แนวคำตอบ เช่น ใบ กิง่ เปน็ ต้น)
ขนั้ ที่ 2 ข้นั สำรวจและคน้ หา (Exploration)
1) ครูให้นักเรยี นทำใบงานท่ี 4.2 เรื่อง การสืบพันธแ์ บบไม่อาศัยเพศของพืชดอก
2) ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืชดอกเพิ่มเติม
จากแหลง่ เรียนรู้ต่าง ๆ ทนี่ า่ เชื่อถอื ได้
ขัน้ ท่ี 4 ข้นั ขยายความรู้ (Elaborate)

27

1) ครูให้นักเรียนสำรวจพืชรอบบริเวณโรงเรียนว่ามีพืชดอกชนิดใดบ้างที่มีการ
สบื พนั ธ์ุแบบไมอ่ าศยั เพศ

2) ครูสุ่มตัวแทนนักเรียน 3 – 4 คนเพื่อมาอภิปรายหน้าห้องเรียน โดยครูอภิปราย
ความเขา้ ใจท่คี ลาดเคล่อื นของนกั เรยี น

ข้ันท่ี 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation)
1) ตรวจใบงานท่ี 4.2 เร่ืองการสบื พนั ธแ์ บบไมอ่ าศยั เพศของพชื ดอก
2) ประเมนิ การนำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น

8. สอื่ /วัสดอุ ุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้

ส่ือ 1) Power Point เรื่อง การดำรงชวี ติ ของพืช การสบื พันธ์ุโดยอาศัยเพศ
แหลง่ เรยี นรู้ และไม่อาศยั เพศของพืชดอก
2) หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ม.1 สสวท.
3) ใบความรู้ เรื่อง การสบื พนั ธแ์ บบไม่อาศยั เพศของพืชดอก
1) การสบื คน้ ข้อมูลแหลง่ เครอื ข่าย Internet สืบคน้ ขอ้ มูลในหวั ขอ้ หวั ข้อ
การสืบพนั ธุโ์ ดยอาศยั เพศ

9. การวัดผลและประเมลิ ผลการเรยี นรู้

28

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีวัด เครอื่ งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์การประเมิน

ด้านความรู้ (K) นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ ร้อยละ
1) อธบิ ายการสืบพันธ์แุ บบไม่ - การตรวจใบงานท่ี 4.2 - ใบงานที่ 4.2 เร่ือง
60
อาศัยเพศของพชื ดอกได้ เรือ่ ง การสบื พันธแ์ บบ การสืบพันธแ์ บบไม่
นักเรียนผ่านเกณฑ์
ไม่อาศยั เพศของพชื ดอก อาศยั เพศของพืชดอก การประเมนิ ร้อยละ

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) 60

2) นกั เรยี นสามารถ - สงั เกตการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ

ยกตัวอยา่ งการสืบพนั ธแ์ุ บบไม่ ผลงานหน้าช้นั เรยี น นำเสนอผลงานหน้า

อาศยั เพศของพชื ดอกได้ ช้นั เรยี น

ด้านคณุ ลักษณะ (A) - สงั เกตการนำเสนอ - แบบประเมนิ การ นักเรียนผ่านเกณฑ์
ผลงานหนา้ ชัน้ เรียน นำเสนอผลงานหน้า การประเมนิ รอ้ ยละ
3) สามารถนำความร้ใู นการ ช้นั เรยี น
สืบพนั ธแ์ุ บบไม่อาศัยเพศของ 60
พชื ดอกไปประยุกต์ใน
ชีวติ ประจำวนั ได้

29

30

31

32

33

34

35

36

37

38

39

40

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 15

กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว 21101

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การดำรงชีวติ ของพืช ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

เรอ่ื งการขยายพนั ธุ์พชื ดอก เวลา 3 ชว่ั โมง

ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2565 ครผู ้สู อน นางสาวสดุ ารัตน์ ปิยะนันท์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.2 ม 1/16 เลือกวิธกี ารขยายพันธพ์ุ ืชให้เหมาะสมกับความต้องการของมนุษย์

โดยใชค้ วามรเู้ กีย่ วกบั การสบื พันธ์ขุ องพืช
มาตรฐาน ว 1.2 ม 1/17 อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยี การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชใน

การใชป้ ระโยชน์ดา้ นต่าง ๆ
มาตรฐาน ว 1.2 ม 1/18 ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการขยายพนั ธุ์พืช โดยการนำความรูไปใช้

ในชวี ิตประจำวนั
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

พืชมีประโยชน์ต่อมนุษย์มากเพราะเป็นที่มาของปัจจัยสี่ ได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย
เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรคและยังเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ เมื่อประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้น ความ
ตอ้ งการใชป้ ระโยชน์จากพืชกม็ ีมากขึ้นดว้ ย จึงต้องมีการขยายพันธุพ์ ชื (plant propagation)

การขยายพันธุ์พืช หมายถึง การทำให้พชื มจี ำนวนเพิม่ มากขึ้น ปัจจุบันการขยายพันธ์ุพืชเรา
สามารถทำได้ 2 วธิ ีดว้ ยกันคอื 1. การขยายพันธพุ์ ืชโดยใช้เมล็ด (ใชเ้ พศ) เชน่ การเพาะเมล็ด 2. การ
ขยายพันธุ์พืชโดยใช้ส่วนต่างๆของพืช ซึ่งเป็นการสืบพันธุ์ของพืชแบบไม่อาศัยเพศ เช่น การแยกหัว
และหนอ่ การปกั ชำ การติดตาต่อก่งิ การตอนกงิ่ และการเพาะเลย้ี งเนอื้ เยื่อ มนุษย์สามารถนำความรู้
เรอ่ื งการสืบพนั ธ์ุแบบอาศยั เพศและไม่อาศยั เพศมาใช้ในการขยายพนั ธ์ุเพื่อเพมิ่ จำนวนพชื เชน่ การใช้
เมล็ดที่ได้จากการสืบพันธ์ุแบบอาศัยเพศมาเพาะเลี้ยง วิธีการนี้จะได้พืชในปริมาณมาก แต่อาจมี
ลักษณะที่แตกต่างไปจากพ่อแม่ ส่วนการตอนกิ่ง การปักชำ การต่อกิ่ง การติดตา การทาบกิ่ง การ
เพาะเลีย้ งเนอื้ เย่อื เปน็ การนำความรู้เร่อื งการสืบพันธ์ุแบบไม่อาศยั เพศ ของพชื มาใช้ในการขยายพันธ์ุ
เพ่อื ใหไ้ ด้พชื ท่ีมีลกั ษณะเหมอื นต้นเดิม ซ่งึ การขยายพนั ธุ์แตล่ ะวธิ ีมีขนั้ ตอนแตกตา่ งกัน

41

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1) นักเรียนสามารถอธิบายความสำคัญของการขยายพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับชนิดของพืชและ

ความต้องการของมนุษยไ์ ด้ (K)
3.2) นกั เรียนสามารถอธบิ ายความสำคญั ของการใช้เทคโนโลยีในการเพาะเล้ียงเน้ือเยือ่ ในการ

ขยายพนั ธ์ไุ ด้ (K)
3.3) นกั เรยี นสามารถเลอื กวิธีการขยายพนั ธ์ุพชื ได้อยา่ งเหมาะสม (P)
3.4) นกั เรยี นสามารถอภิปรายหรือการนำเสนอข้อมูลในการขยายพนั ธุพ์ ชื ในชีวิตประจำวนั ได้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (Knowledge)
- การขยายพนั ธุ์พชื
- การเพาะเลีย้ งเนือ้ เย่ือพชื
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process)
- ทกั ษะการสังเกต

5. สมรรถนะสำคัญ
5.1) ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์
5.2) ความสามารถในการสือ่ สาร
5.3) ความสามรถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5.4) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
6.1) มีวนิ ยั
6.2) ไฝเ่ รยี นรู้
6.3) มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

7. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1-2
ข้นั ท่ี 1 ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement)
1) ครูใหน้ กั เรียนนัง่ เปน็ กลุ่มหมอื นเดิม จากน้ันครแู จกป้าย ถกู ผดิ นักเรียนทกุ กลมุ่
2) ครูทบทวนความรขู้ องนักเรียน โดยเลน่ เกม “ถกู หรอื ไม่ ใชห่ รอื ม่วั ” ถา้ หากคิดว่า

ถกู ใหช้ ูปา้ ยถกู ข้นึ แตถ่ า้ ผดิ ใหช้ ูปา้ ยผิดขน้ึ

42

3) ครูนำเลน่ เกม “ถกู หรอื ไม่ ใชห่ รอื มัว่ ”
- การสืบพันธุ์แบบอาศยั เพศของพชื ดอกมีการปฏสิ นธซิ ้อนเสมอ (ถกู )
- การปฏสิ นธิของพชื ดอกทำใหเ้ กดิ เมลด็ และผล (ถูก)
- เมล็ดของพชื จะไมส่ ามารถงอกได้ถา้ ไม่ไดร้ บั แสงแดด (ผดิ )
- พชื ดอกทกุ ชนดิ สามารถสืบพันธแ์ุ บบไม่อาศยั เพศได้โดยใช้ ดอก ราก ลำต้น ใบ (ผดิ )
- พชื สามารถเพ่ิมจำนวนจากเมล็ดเท่าน้นั (ผิด)
- สง่ิ มีชวี ิตอ่นื ๆ สามารถช่วยเพม่ิ จำนวนพืชได้ (ถูก)

4) ครใู ห้นกั เรยี นดรู ปู ภาพ ต้นเฟอื่ งฟ้า โดยให้นักเรยี นชว่ ยกนั อภิปรายวา่ “มนุษยท์ ำ
ให้ต้นเฟื่องฟ้ามีดอกหลายสีในต้นเดียวได้อย่างไร จะใช้วิธีเดียวกันนี้กับพืชชนิดอื่นได้หรือไม่ ”
(แนวคำตอบ ใหน้ กั เรียนตอบตามความเขา้ ใจ)

ข้ันที่ 2 ขน้ั สำรวจและค้นหา (Exploration)
1) ครูใหน้ กั เรยี นแบง่ กลุม่ โดยใช้กลมุ่ เดมิ
2) ครูให้นักเรียนอ่านจุดประสงค์ วิธีการทำกิจกรรม จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลมุ่

เร่ิมทำกจิ กรรม รวบรวมขอ้ มูลวิธขี ยายพันธ์ุพชื เปรยี บเทียบข้อดี ข้อจำกัดของแต่ละวิธี เลือกพืชดอก
ที่สนใจและเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการขยายพันธุ์พืชดอกชนิดนั้น แล้วจึงจัดทำเป็นแผนภาพ
เพื่ออธิบาย

ขัน้ ท่ี 3 ขั้นอภปิ รายและลงขอ้ สรุป (Explain)
1) ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอ โดยให้ตัวแทนนักเรียน 2 - 3 คน นำเสนอ

ผลการทำกิจกรรม และร่วมกนั เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกดั ของการขยายพันธ์ุพืชแต่ละวธิ ี
2) ครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ รายเกย่ี วกบั ผลทไ่ี ด้จากกจิ กรรม

43

1) ครูอธบิ ายเรอื่ งการขยายพนั ธุ์พืชด้วยวธิ ีต่าง ๆ จาก Power Point
2) ครูอธิบายเพิ่มเติมถึงวิธีการขยายพันธุ์พืชว่ามีอะไรบ้าง (การเพาะเมล็ด ติดตา
ปกั ชำ ต่อกง่ิ ทาบก่งิ ตอนกิ่ง และเพาะเลยี้ งเนื้อเย่อื )
3) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในกิจกรรมที่ทำ โดยอภิปรายให้กับ
นกั เรียนเพิม่ เตมิ เพือ่ ให้นกั เรยี นเขา้ ใจ
ขั้นที่ 4 ข้ันขยายความรู้ (Elaborate)
1) ครูให้นักเรียนตอบคำถามท้ายกิจกรรมในหนังสือเรียนและร่วมกันอภิปราย
คำตอบเพื่อให้นักเรียนสรุปได้ว่า มนุษย์มีความจำเป็นต้องขยายพันธุ์พืชให้เพิ่มจำนวนมากขึ้นให้
เพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการใช้ประโยชน์ของตนเอง การขยายพันธพุ์ ชื มีหลายวธิ ี แต่ละวธิ ีมขี ั้นตอน ข้อดี
และข้อจำกดั ท่ีแตกต่างกนั บางวธิ ีมหี ลักการที่คล้ายคลึงกนั ซ่ึงเหมาะกับพชื ต่างชนดิ กัน การเลือกวิธี
ขายาพันธุ์พืชกับพืชที่ต้องการขยายพันธุ์ควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับชนิดของพืช จำนวนและ
ลักษณะท่ตี อ้ งการ
ข้ันท่ี 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation)
1) ตรวจสอบความถูกตอ้ งของแผนภาพและแบบฝกึ หัด เรอ่ื ง การเพาะเลี้ยงเน้อื เย่อื
2) ประเมินการนำเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรยี น
ชวั่ โมงที่ 3
ขั้นท่ี 1 ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement)
1) ครูทบทวนความรู้ในคาบที่แล้วโดยใช้คำถามวิธีการขยายพันธุ์พืชว่ามีอะไรบ้าง
(แนวคำตอบ การเพาะเมล็ด ติดตา ปกั ชำ ตอ่ ก่งิ ทาบกิ่ง ตอนกง่ิ และเพาะเล้ยี งเนอ้ื เยือ่ )
ขน้ั ที่ 2 ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
1) ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาและสบื ค้นข้อมูลทำใบงานที่ 4.3 เรอื่ ง การขยายพนั ธ์ุพชื ดอก
ขน้ั ที่ 3 ข้นั อภิปรายและลงขอ้ สรปุ (Explain)
1) ครูและนักเรียนร่วมกันเลยใบงานที่ 4.3 เรื่อง การขยายพนั ธ์พุ ชื ดอก
2) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัยในกิจกรรมที่ทำ โดยอภิปรายให้กับ
นักเรียนเพมิ่ เตมิ เพ่อื ให้นกั เรียนเข้าใจ
ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaborate)
1) ครูสนทนาร่วมกับนักเรียนเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องในบทเรียนการสืบพันธุ์และการ
ขยายพันธุ์ของพืชดอก จากนั้นครูให้นักเรียนทำกิจกรรมตรวจสอบตนเอง เพื่อสรุปองค์ความรู้ที่ได้
เรยี นรู้จากบทเรยี น โดยการเขียนบรรยาย วาดภาพหรอื เขยี นผงั มโนทัศนส์ ิง่ ท่ีได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้

44

ให้นักเรียนนำเสนอผลงาน โดยอาจออกแบบให้นักเรียนนำเสนอและอภิปรายภายในกลุ่ม หรือ
อภิปรายร่วมกนั ในชั้นเรียน จากนั้นครูและนกั เรยี นอภปิ ราย

2) ครูให้นักเรยี นขยายพันธพุ์ ืชด้วยวิธกี ารตา่ ง ๆ ตามความสนใจของนกั เรยี น โดยให้
นักเรยี นศกึ ษาการขยายพันธุ์เพม่ิ เติมจากหนงั สอื เรยี นหรอื แหล่งเรียนร้อู นื่ ๆ

ข้นั ที่ 5 ขน้ั ประเมิน (Evaluation)
1) ตรวจใบงานที่ 4.3 เรื่อง การขยายพนั ธพุ์ ชื ดอก
2) ประเมินการนำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน

8. สื่อ/วัสดุอุปกรณ์/แหลง่ เรียนรู้

สือ่ 1) Power Point เรื่อง การขยายพนั ธ์พุ ืช
แหล่งเรยี นรู้ 2) หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ม.1 สสวท.
1) การสืบคน้ ขอ้ มลู แหลง่ เครือขา่ ย Internet สืบค้นขอ้ มูลในหัวข้อ หวั ขอ้
การขยายพนั ธพ์ุ ืช

45

9. การวัดผลและประเมิลผลการเรยี นรู้

จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ วี ัด เครอ่ื งมอื ที่ใช้ เกณฑ์การประเมนิ

ด้านความรู้ (K) - การตรวจใบงานท่ี 4.3 - ใบงานที่ 4.3 เรือ่ ง นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
1) อธิบายความสำคญั ของการ เรอ่ื ง การขยายพนั ธ์ุพชื การขยายพันธุพ์ ืชดอก การประเมนิ ร้อยละ
ขยายพนั ธ์พุ ชื ทเ่ี หมาะสมกบั ดอก - แบบฝกึ หัด เรอ่ื ง
ชนดิ ของพืชและความตอ้ งการ - การตรวจแบบฝึกหดั การเพาะเลยี้ งเน้อื เยอ่ื 60
ของมนษุ ยไ์ ด้ เรื่อง การเพาะเลีย้ ง
2) อธบิ ายความสำคญั ของการ เนื้อเยอ่ื - ใบงานท่ี 4.3 เร่ือง นกั เรียนผา่ นเกณฑ์
ใช้เทคโนโลยใี นการเพาะเล้ยี ง การขยายพันธ์ุพชื ดอก การประเมินร้อยละ
เนือ้ เย่ือในการขยายพันธ์ไุ ด้ - การตรวจใบงานที่ 4.3
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) เรอ่ื ง การขยายพันธุ์พืช - แบบประเมินการ 60
3) นกั เรียนสามารถเลอื ก ดอก นำเสนอผลงานหน้าชั้น
วธิ กี ารขยายพนั ธพ์ุ ืชได้อย่าง เรยี น นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์
เหมาะสม - การนำเสนอผลงาน การประเมนิ ร้อยละ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ (A) หนา้ ช้ันเรียน
4) อภปิ รายหรือการนำเสนอ 60
ข้อมูลในการขยายพันธ์พุ ชื ใน
ชีวิตประจำวนั ได้

46