The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน-ภาษาอังกฤษ-ป6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jakkritg816, 2021-03-16 06:48:29

แผนการสอน-ภาษาอังกฤษ-ป6

แผนการสอน-ภาษาอังกฤษ-ป6

51

2. นกั เรยี นทากจิ กรรมจับคู่ศพั ท์กบั ความหมาย
3. นกั เรยี นทากิจกรรมเรียงประโยค
4. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เฉลยคาตอบ หากมขี ้อสงสัยใหย้ อ้ นกลบั ไปตรวจทานในเน้ือหาบน

โปรแกรม
5. ครูแจกใบกจิ กรรมท่ี 10 ให้นักเรียนวาดภาพประกอบประโยคลาดับสรุปเรอ่ื งทีอ่ ่าน

ขั้นนาไปใช้ (Production)

เพราะอะไร 1. ใหน้ ักเรยี นนาภาพที่วาดมาอา่ นประโยคสรปุ ให้เพื่อนฟงั พร้อมบอกว่า ชอบเร่ืองนีห้ รือไม่
2. ครเู สนอแนะเพิ่มเติม หากมขี ้อบอกพร่องหรือควรเสรมิ รายละเอยี ด

ขั้นสรุป (Wrap up)

1. สรปุ ขอ้ คิดทไ่ี ด้จากนทิ านเรื่องท่ีอา่ น
3) สอ่ื และแหล่งเรียนรู้

1. วีดีโอการ์ตูนอะนิเมชัน่ เร่อื ง ลกู หมู 3 ตัว
http://www.dlit.ac.th/pages/resources/viewdoc.php?rloid=000028&subjectid=08&gr
adeid=06&standardid=&title=The%20Three%20Little%20Pigs
(ดาวนโ์ หลดและทาตามชัน้ ตอนใน ไฟล์ zip)

2. ใบกิจกรรมท่ี 9
3. ใบกิจกรรมที่ 10
4) การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้

วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารผ่าน

ตรวจใบกจิ กรรมท่ี 9 ใบกจิ กรรมท่ี 9 ผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

ตรวจใบกจิ กรรมที่ 10 ใบกิจกรรมที่ 10 ผา่ นเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

52

ใบกจิ กรรมท่ี 9

Part 1 Directions: Match words and their meanings
puff   คลาน
huff   ฟางขา้ ว
blow   หม้อตม้ น้า
  เป่า
kettle   ปล่องไฟ
chimney   พดู อย่างขนึ้ เคอื ง
  สดู ลมหมายใจ
crawl
straw

part 2 Directions: Number the events in the order they happened in the story.
………… The wolf climbed up on the roof to look for a way into the brick house.

………… The wolf finally found the hole in the chimney. It jumped into the large
kettle of water and died.

………… The first little pig built his house out of straw. The second little pig built his
house out of sticks and the third one built his house out of bricks.

………… The little pig lit a roaring fire in the fireplace and placed on a large kettle of
water.

………… The wolf blew the house made of straw in and ate the first little pig.

………… There were three little pigs and the time came for them to leave home and
seek their fortune.

………… The wolf also blew the house make of sticks and ate the second little pig.
ท่มี าภาพ :
http://www.dlit.ac.th/pages/resources/viewdoc.php?rloid=000028&subjectid=08&gradeid=06&
standardid=&title=The%20Three%20Little%20Pigs

53

ใบกจิ กรรมท่ี 10

Directions: Draw and write sentences to retell the story.
The first little pig built his house out of straw. The second little pig
built his house out of sticks and the third one built his house out of
bricks.

54

ชั่วโมงท่ี 10 My free time projects

1) จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถพดู และเขยี นเพ่อื ขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับกิจกรรมยามวา่ ง กีฬา รายการ
โทรทศั น์ของเพ่ือนได้
2. นักเรียนสามารถนาเสนอโครงงานการสารวจกจิ กรรมยามว่างหรือกีฬาท่ีนา่ สนใจหนา้ ชนั้
เรยี นได้

2) กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นา (Warm up)
1. ทบทวนบตั รภาพ บตั รคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั งานอดิเรกและกีฬา
2. ใหน้ กั เรียนเลน่ เกมปรศิ นาอักษรไขว้ คาศัพท์เกี่ยวกับงานอดิเรกและกฬี า โดยแบ่งเป็นกล่มุ
5 กลมุ่ ให้นกั เรียนแขง่ ขันกัน กลุม่ ใดหาคาศัพทไ์ ด้เสร็จก่อนเป็นผชู้ นะ
ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครเู สนอคาศัพทเ์ กย่ี วกบั adverbs of frequency เชน่ every day, once a

week/month, twice a week/month, every morning/afternoon/evening/night, every
Monday/Friday, etc.

2. ครอู ธิบายการต้งั คาถามด้วย How often ซ่ึงมีความหมายวา่ บอ่ ยแค่ไหนโดยมี รูปแบบ
การใช้ ดังนี้

How often + do/does + Subject + v.1 ?
……………………….?

ซึ่งการตอบ ต้องตอบดว้ ยคาแสดงความถ่ีของการกระทากจิ กรรมนน้ั ๆ เช่น
A: How often do you watch game show?
B: Twice a week. How about you?
A: Every day.

ขนั้ ฝกึ (Practice)
1. ให้นักเรยี นออกเสยี ง adverbs of frequency จากบัตรคาจนคลอ่ ง
2. ครูแจกบัตรภาพเก่ยี วกับกิจกรรมยามว่าง/ รายการโทรทัศน์ และบัตรคา adverbs of

frequency ใหน้ กั เรยี น เพอ่ื ฝึกถาม-ตอบด้วย How often do you……..? โดยฝกึ กนั เป็นกลมุ่ เปน็ คู่
3. สุ่มนักเรียน 2-3 คูอ่ อกมานาเสนอ ครูคอยตรวจสอบความถูกต้องของประโยคพูด
4. ให้นกั เรยี นจบั คู่กนั ทาใบกจิ กรรมที่ 11 สารวจความถี่ในการทากจิ กรรมตา่ งๆ ของเพ่อื น

โดยใช้คาถาม How often do you…………………? พรอ้ มเขยี นรายงาน
5. ให้นักเรยี นอาสาสมคั รออกมานาเสนอผลงานของตนหน้าช้ันเรยี น ครูชมเชย เสนอแนะ

เติมเตม็

55

ข้ันนาไปใช้ (Production)
1. นักเรยี นทาใบกจิ กรรมที่ 10 โครงงานสารวจงานอดเิ รก กีฬา และรายการโทรทัศน์ที่เพอ่ื น

ชื่นชอบ โดยใช้รูปแบบโครงสร้างประโยคทเ่ี รยี นมา
ตัวอย่าง
Ann: Joy, what do you do in your free time?
Joy: I like fishing. It makes me relax.
Ann : How often do you go fishing?
Joy : ……………………………………………………………………..

2. นกั เรียนพูดนาเสนอโครงงานสารวจ และนาผลงานตดิ ป้ายนิเทศเพื่อแลกเปลยี่ นเรยี นรู้
ขั้นสรปุ (Wrap up)

1. นักเรียนชว่ ยกนั สรปุ คาศัพท์ และประโยคตา่ งๆ
3) ส่อื และแหล่งเรียนรู้

1. ปริศนาอกั ษรไขว้
2. ใบกจิ กรรมท่ี 10
3. โครงงานสารวจ
4) การวัดผลและประเมินผลการเรยี นรู้

วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารผา่ น
ประเมินการพดู นาเสนอ แบบประเมินโครงงาน ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ในระดับดขี ึ้นไป
โครงงาน
ตรวจใบกจิ กรรมที่ 11 ใบกจิ กรรมที่ 11 ผ่านเกณฑ์การประเมินรอ้ ยละ 70 ข้นึ ไป

ปริศนาอักษรไขว้

B U E I L GQ L I SS
P R O G R A MM E PD
U E J O L MO P R OI
D O C UME N T A RY
A D MK L S E H F TA

56

F I L MG HWU I SP
Z E B O D O S G E EQ
F Y U U RWA T C HY

เฉลยปริศนาอกั ษรไขว้

B U E I L GQ L I SS
P R O G R A MM E PD
U E J O L MO P R OI
D O C UME N T A RY
A D MK L S E H F TA
F I L MG HWU I SP
Z E B O D O S G E EQ
F Y U U RWA T C HY

ใบกจิ กรรมที่ 11

Directions : Find 5 friends and ask them about their free time activities then fill the answers
in the box, and write a report.

Ex. Your friend’s name is Jack.
You: Joy, what do you do in your free time?
Jack: I like fishing. It makes me relax.
You : How often do you go fishing?
Jack : I go fishing once a month.

Your Activities Every once a once a twice a twice a Every never

57

friend’s go fishing day week month week month week
name 
1. Jack

2.

3.

4.

5.

6.

Report 1. Jack is my friend. He likes fishing in his free time, because it makes him relax.
He goes fishing once a month.

……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..

………………………………แ……บ……บ…………ส……ังเ……ก……ต……พ……ฤ……ต……ิก……ร……ร……ม……ต……า่……ง……ๆ…………แ……ล……ะ……เก……ณ…………ฑ……ก์ ……า……ร……ป……ร……ะ……เม……ิน……………………………………………………………………....

แบบสงั เกตการพดู ถาม-ตอบ
คาชี้แจง สงั เกตการพูดถาม-ตอบในขณะปฏิบตั กิ ิจกรรมของผเู้ รียน โดยเขียนระดับคะแนนลงในตารางที่

ตรงกบั ความสามารถของผเู้ รียน

เลขท่ี ชื่อ- นามสกุล ความถูก ้ตองของเนื้อหา รวม สรุป
การออกเสียง คะแนน ระดับ
ความค ่ลองแค ่ลว
คะแนน
การแสดงท่าทาง ้นาเ ีสยง ประกอบ
คา ูพด

8 8 8 4 28

58

เกณฑก์ ารประเมินการพูดถาม-ตอบ

ระดับคะแนน / ระดับคณุ ภาพ น้าหนกั คะแนน
รายการการประเมนิ ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง (1) ความสาคัญ รวม
ความถูกตอ้ งของเน้ือหา (4) (3) (2) 8
8
การออกเสียง ใชค้ าศัพท์สอ่ื ใชค้ าศพั ทส์ อื่ ใช้คาศัพทส์ อื่ ใช้คาศพั ท์ส่อื 2
ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมายไม่ 8
ความคลอ่ งแคลว่ ตรงกบั เนอ้ื หา ตรงกับเน้อื หา ตรงกบั เนอ้ื หา ตรงกบั เนอ้ื หา
และไวยากรณ์ และไวยากรณ์ และไวยากรณ์ และไวยากรณ์
ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ งเปน็ ถูกตอ้ งเป็น ไมถ่ กู ต้องเปน็
ทกุ ประโยค สว่ นใหญ่ บางส่วน สว่ นใหญ่

ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสยี ง 2
คาศพั ท์ คาศพั ท์ คาศัพท์ คาศพั ท์
ประโยค ประโยค ประโยค ประโยค
ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้ถกู ตอ้ ง ไดถ้ ูกต้อง ไม่ถูกตอ้ ง
ตามหลกั การ ตามหลักการ ตามหลักการ ทาใหส้ ื่อสาร
ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ไม่ได้
เนน้ หนักคา/ เน้นหนกั คา/ แต่สว่ นใหญ่
ประโยคได้ ประโยคเปน็ ขาดการ
สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ ออกเสยี ง
เนน้ หนกั

พูดต่อเนอื่ ง พูด พูดเป็นคาๆ พดู ได้บางคา 2
ไมต่ ดิ ขัด ตะกุกตะกัก หยุดเปน็ ทาให้ส่อื
พูดชดั เจน บ้าง แต่ยัง ช่วงๆ ทาให้ ความหมาย

การแสดงท่าทาง นา้ เสยี ง ทาใหส้ ือ่ สาร พอส่ือสารได้ ส่ือสารได้ ไม่ได้ 1 59
ประกอบการพูด ไดด้ ี พดู ด้วย ไมช่ ัดเจน พูดได้นอ้ ย
แสดงท่าทาง นา้ เสยี ง พดู เหมือน มาก 4
และพดู ด้วย เหมาะสมกับ อ่าน ไม่เปน็
น้าเสียง สถานการณ์ ธรรมชาติ
เหมาะสมกับ แตไ่ มม่ ีท่าทาง ขาดความ
สถานการณ์ ประกอบ นา่ สนใจ

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ตา่ กวา่ 14 ปรบั ปรุง

60

แบบประเมนิ การทาแผนผังความคิด
คาชี้แจง ประเมินการทาแผนผงั ความคดิ โดยเขยี นระดบั คะแนนลงในตารางท่ีตรงกับความสามารถของผู้เรียน

เลขที่ ชื่อ- นามสกลุ การรวบรวม ้ขอมูล รวม สรปุ
การสรุปความรู้ที่ได้ คะแนน ระดบั
ความ ูถกต้องของภาษา
ความสวยงามและความคิด คะแนน

สร้างสรรค์
ความร่วม ืมอในการทางาน

8 8 8 4 4 32

เกณฑก์ ารประเมินการทาแผนผังความคดิ (Mind Mapping)

รายการการประเมนิ ระดับคะแนน / ระดับคุณภาพ นา้ หนัก คะแนน
การรวบรวมข้อมูล รวม
ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสาคญั
เก็บขอ้ มลู โดยใช้ เกบ็ ขอ้ มลู โดยใช้ เก็บขอ้ มูลโดยใช้ เกบ็ ข้อมลู โดยใช้ 8
โครงสร้างภาษาที่ โครงสรา้ งภาษา โครงสร้างภาษา โครงสรา้ งภาษา 2

กาหนดอย่าง ท่กี าหนด ทก่ี าหนด ทีก่ าหนด 61
ครบถว้ นและ คอ่ นขา้ ง ไม่คอ่ ยครบถว้ น ไมค่ รบถ้วน
สม่าเสมอ ครบถ้วนและ และสม่าเสมอ และสมา่ เสมอ 8
สม่าเสมอ 8
การสรุปความรู้ สรปุ ความรูต้ รง สรปุ ความรตู้ รง สรุปความรู้ตรง สรุปความรไู้ ม่ 4
ทีไ่ ด้จากการเกบ็ ตามจดุ ประสงค์ ตาม ตาม ตรง 2 4
รวบรวมขอ้ มลู ของช้นิ งาน จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ จดุ ประสงค์ 2
ความถกู ต้อง อย่างละเอียด ของช้นิ งาน ของชิน้ ของชนิ้ งาน 1
ครบถ้วนดีมาก คอ่ นขา้ ง แต่ไมล่ ะเอยี ด 1
ของภาษา ละเอยี ด
ความสวยงาม ตัวสะกดและ ตวั สะกดและ ตัวสะกดและ ตวั สะกดและ
และความคิด ไวยากรณม์ ีความ ไวยากรณ์ผดิ 1- ไวยากรณ์ผดิ ไวยากรณผ์ ดิ
สรา้ งสรรค์ ถกู ต้องสมบรู ณ์ 2 จดุ อ่านเขา้ ใจ 3-4 จุด 5 จุดขน้ึ ไป
ความร่วมมือ อา่ นเขา้ ใจงา่ ย งา่ ย
ในการทางาน เป็นผลงานท่ี เป็นผลงานที่ เปน็ ผลงานที่ เป็นผลงานท่ี
ดงึ ดดู ความ ดึงดดู ความ ปรบั ปรุง เหมอื น
สนใจ สนใจแต่ เลก็ นอ้ ยจาก ตัวอยา่ ง
แปลกใหมแ่ ละ บางส่วน ตวั อยา่ ง
คิดข้ึนเอง เหมือน
ตวั อยา่ ง
เอาใจใสแ่ ละ เอาใจใสแ่ ละ เอาใจใสแ่ ละ เอาใจใส่และ
รว่ มมือในการ รว่ มมือในการ รว่ มมอื ในการ ร่วมมือในการ
ทางานอย่าง ทางานดแี ละ ทางาน ทางานน้อย
เต็มท่แี ละ คอ่ นขา้ ง ค่อนข้างดี แต่ และไม่
สม่าเสมอ สม่าเสมอ ไมส่ มา่ เสมอ สม่าเสมอ

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
27-32 ดีมาก
21-26 ดี
16-20 พอใช้

ต่ากวา่ 16 ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ การทาสมดุ ภาพ ระดับ
รายการประเมนิ ุคณภ
าพ

ที่ 1. ความ ูถกต้องของเน้ือหา (4) 62
ชือ่ – สกลุ 2. ความ ิคดสร้างสรรค์ (3)
3. ความสวยงาม2เรียบร้อย(3) รวม
1. คะแนน
2. (10)
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10

เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ

คะแนน 9 – 10 คะแนน ระดับดมี าก คะแนน 7 – 8 คะแนน ระดับดี

คะแนน 5 – 6 คะแนน ระดับพอใช้ คะแนน 1 – 4 คะแนน ระดบั ปรบั ปรุง

63

แบบประเมนิ การพดู นาเสนอโครงงาน
คาชี้แจง ประเมนิ การพูดนาเสนอโครงงานโดยเขยี นระดบั คะแนนลงในตารางท่ีตรงกบั ความสามารถของผู้เรียน

เลขท่ี ชื่อ- นามสกลุ ความ ูถกต้องของเ ื้นอหา รวม สรปุ
การออกเ ีสยง คะแนน ระดับ
ความค ่ลองแค ่ลว
คะแนน
การแสดงท่าทาง ้นาเ ีสยง
ประกอบคาพูด

888 4 28

เกณฑก์ ารประเมินการพดู นาเสนอโครงงาน

รายการการประเมนิ ระดบั คะแนน / ระดับคณุ ภาพ นา้ หนกั คะแนน
ความถูกต้องของเนอ้ื หา ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสาคัญ รวม
ดมี าก (4) 8
ใชค้ าศพั ทส์ ื่อ ใช้คาศัพท์สื่อ ใชค้ าศพั ทส์ ่ือ ใช้คาศพั ท์สื่อ 2
ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมายไม่

การออกเสยี ง ตรงกบั เน้อื หา ตรงกบั เนือ้ หา ตรงกบั เนอ้ื หา ตรงกบั เนอ้ื หา 2 64
และไวยากรณ์ และไวยากรณ์ และไวยากรณ์ และไวยากรณ์
ความคล่องแคล่ว ถูกต้องทกุ ถกู ตอ้ งเปน็ ถกู ตอ้ งเป็น ไม่ถกู ตอ้ งเป็น 2 8
การแสดงท่าทาง น้าเสยี ง ประโยค ส่วนใหญ่ บางส่วน สว่ นใหญ่ 1
ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสยี ง 8
ประกอบการพดู คาศพั ท์ คาศพั ท์ คาศพั ท์ คาศัพท์ 4
ประโยค ประโยค ประโยค ประโยค
ไดถ้ ูกตอ้ ง ได้ถกู ต้อง ได้ถกู ตอ้ ง ไมถ่ กู ต้อง
ตามหลักการ ตามหลกั การ ตามหลกั การ ทาให้สื่อสาร
ออกเสียง ออกเสียง ออกเสียง ไม่ได้
เน้นหนกั คา/ เนน้ หนกั คา/ แตส่ ่วนใหญ่
ประโยคได้ ประโยคเปน็ ขาดการ พดู ได้บางคา
สมบูรณ์ สว่ นใหญ่ ออกเสยี ง ทาใหส้ อ่ื
เน้นหนัก ความหมาย
พดู ต่อเนอื่ ง พูด ไม่ได้
ไม่ตดิ ขดั ตะกุกตะกัก พูดเปน็ คาๆ พูดไดน้ อ้ ย
พดู ชดั เจน บ้าง แต่ยงั หยดุ เปน็ มาก
ทาใหส้ ื่อสาร พอส่ือสารได้ ชว่ งๆ ทาให้
ไดด้ ี สื่อสารได้
แสดงท่าทาง พูดด้วย ไมช่ ัดเจน
และพดู ด้วย น้าเสียง พูดเหมอื น
นา้ เสียง เหมาะสมกับ อา่ น ไมเ่ ป็น
เหมาะสมกับ สถานการณ์ ธรรมชาติ
สถานการณ์ แต่ไมม่ ีทา่ ทาง ขาดความ
ประกอบ นา่ สนใจ

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
24-28 ดีมาก
19-23 ดี
14-18 พอใช้
ปรับปรุง
ต่ากวา่ 14

1

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง Going Shopping
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ รายวชิ าภาษาอังกฤษ รหัส 16101

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 10 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้วี ัด

สาระ
สาระที่ 1 ภาษาเพ่ือการสือ่ สาร
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
สาระท่ี 3 ภาษากับความสมั พันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื

มาตรฐาน
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทีฟ่ ังและอา่ นจากส่อื ประเภทต่างๆและแสดงความ
คดิ เห็นอย่างมเี หตุผล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรู้สึก
และความคิดเห็นอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูล ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่อื งต่างๆโดย
การพูดและการเขยี น
มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้
ได้อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เขา้ ใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทยและนามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชือ่ มโยงความรกู้ ับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อน่ื และเปน็
พนื้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชนและสังคม

ตัวชี้วดั อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ นิทานและบทกลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.6/2 เลือก/ระบุ ประโยคหรือข้อความส้ันๆ ตรงตามภาพ สัญลักษณ์ หรือเครื่องหมายท่ี
ต 1.1 ป.6/3 อา่ น
บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา นิทานง่ายๆ
ต 1.1 ป.6/4 หรือเร่อื งเลา่
พดู /เขียนโต้ตอบในการสื่อสารระหวา่ งบุคคล
ต 1.2 ป.6/1 พูด/เขียนแสดงความต้องการ ขอความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้
ต 1.2 ป.6/3 ความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ เพ่ือขอและให้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เพ่ือน
ครอบครวั และเรื่องใกลต้ วั
ต 1.3 ป.6/2 เขียนภาพ แผนผัง แผนภมู ิ และตารางแสดงขอ้ มูลต่างๆ ท่ฟี ังหรืออ่าน
ต 2.1 ป.6/1 ใช้ถ้อยคา น้าเสียง และกิริยาท่าทางอย่างสุภาพเหมาะสมตามมารยาทสังคม
และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา

2

ต 2.2 ป.6/1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนิดต่างๆ การ
ใช้เครื่องหมายวรรคตอนและการลาดับคาตามโครงสร้างประโยคของ
ต 3.1 ป.6/1 ภาษาองั กฤษ
ต 4.1 ป.6/1 คน้ ควา้ รวบรวมคาศพั ทท์ ีเ่ กย่ี วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ นื่ จากแหลง่ เรยี นรู้
และนาเสนอด้วยการพดู /การเขียน
ใช้ภาษาสื่อสารในสถานการณ์ตา่ งๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ ในห้องเรยี นและสถานศกึ ษา

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การซื้อขาย เป็นทักษะพื้นฐานของการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจาวัน ดังน้ัน

นักเรยี นควรไดร้ ับการฝกึ ฝนทกั ษะพน้ื ฐานทง้ั 4 ทักษะ ในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น การแลกเปล่ียนข้อมูล
การแสดงความตอ้ งการ/ความคิดเห็น ดว้ ยถอ้ ยคา นา้ เสียง และกิริยาท่าทางอย่างเหมาะสม สามารถเขียน
ภาพ/ตารางแสดงข้อมูล รู้จักค้นคว้า รวบรวมและนาเสนอคาศัพท์ด้วยการพูด/การเขียน เพื่อให้นักเรียน
สามารถนาความรู้และทักษะท่ีได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์
เกดิ เจตคตทิ ี่ดใี นการเรียนภาษาอังกฤษ และเป็นพ้นื ฐานในการศึกษาต่อไป

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 ความรู้ (Knowledge)

Vocabulary :

Shops : toys shop, clothes shop, butcher's shop, bakery,

stationary shop, grocery store, canteen, shopping

mall, fruit shop

Collective noun: loaf, carton, bottle, can, bottle, bag, kilogram, dozen,

piece

Food & Drink : milkshake, fruit juice, noodle, fried rice, fried chicken,

french-fries, green tea, water, yoghurt, ice-cream, cola

Toys shop : robot, yo-yo, kite, chess, doll, ball

Clothes shop : cap, t-shirt, shorts gloves, scarf, skirt

Butcher's shop : beef, pork, fish, sausage, ham

Bakery : bread, cookie, jam, cake, pie

Stationery shop : pencil, sharpener, eraser, stapler, crayon, ruler

Grocery store : garlic, fish sauce, chili, flour, butter, salt, sugar,

cheese

Fruits shop : papaya, strawberry, banana, apple, watermelon,

pineapple

Structure :

- Where can I buy a/an/ …(s) ?

You can buy a/an/ …(s) at the…….

- Do you have a/an/any … ?

Yes I do. I have a/an/some … .

No, I don’t. I don’t have a/an/any … .

3

- How much/many … do you want/need?

I want/need a/an/some … .

I want/need two … (cans) of … (cola).

- How much is it?/ How much are they?

It is … (baht)./ They are … (baht).

Here is … (baht)./ Here is … (baht) change.

- How much does it cost?/ How much do they cost?

It costs … (baht)./ They cost … (baht).

- Excuse me, can I help you?

Yes, please./ No, thanks.

- Thank you.

You’re welcome.

Function :

- Identifying things in the shop

- Asking and answering about the price

- Buying and selling things

- Naming the shop

- Talking about a shopping list

- Talking about going shopping

- Expressing need

- Writing a shopping list

- Culture

3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ (Process)

1. ทักษะการสือ่ สาร

2. ทกั ษะกระบวนการกลุม่

3. ทักษะกระบวนการคิด

3.3 เจตคติ (Attitude)

1. มีความมนั่ ใจในการใชภ้ าษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร

2. มคี วามกระตอื รือรน้ ในการทากจิ กรรม

3. มีความสนุกสนานในการเรียน

4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้ เกณฑ์การผา่ น
3. อยู่อยา่ งพอเพยี ง ผา่ นเกณฑ์การประเมินในระดับดขี ้ึนไป
4. มุง่ มั่นในการเรียน ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป
5. มจี ิตสาธารณะ มีผลการประเมินในระดบั ดีขึ้นไป

6. ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. Leaflet
2. A shopping list
3. Picture Dictionary
4. ใบกจิ กรรม

7. การวดั ผลและประเมินผล

วิธีการ เคร่อื งมือ
สงั เกตการพูดถาม-ตอบ แบบสงั เกตการพดู ถาม-ตอบ
ตรวจใบกจิ กรรม ใบกจิ กรรม
ประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน แบบประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน

8. กิจกรรมการเรียนรู้

1

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง Season and Weather
กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ รหสั อ 16101

ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6 เวลา 6 ชัว่ โมง

________________________________________________________________________

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั

สาระที่
สาระท่ี 1 ภาษาเพ่ือการสื่อสาร
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อ่ืน

มาตรฐาน
มาตรฐาน ต. 1.1 เข้าใจและตีความเรือ่ งทฟ่ี งั และอ่านจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความ
คดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต. 1.2 มที ักษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นขอ้ มลู ข่าวสารแสดงความรสู้ ึก
และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ
มาตรฐาน ต. 1.3 นาเสนอขอ้ มลู ข่าวสารความคิดรวบยอดและความคิดเห็นในเร่อื งต่างๆ โดย
การพดู และการเขยี น
มาตรฐาน ต. 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทยและนามาใช้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความร้กู บั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และ
เป็นพน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้และเปิดโลกทศั น์ของตน
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ตัวชว้ี ัด
ต 1.1 ป 6/1 ปฏบิ ัติตามคาส่ัง คาขอร้อง และคาแนะนาท่ีฟงั และอา่ น
ต 1.1 ป 6/2 อา่ นออกเสียงประโยค ขอ้ ความ นิทาน และบทกลอนส้นั ๆ ถูกต้องตามหลักการอา่ น
ต 1.1 ป 6/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยค หรอื ขอ้ ความส้นั ๆ ตรงตามภาพ สัญลกั ษณ์ หรือเครื่องหมาย
ที่อ่าน
ต 1.1 ป 6/4 บอกใจความสาคญั และตอบคาถามจากการฟังและอ่านบทสนทนานิทานงา่ ยๆ
และเร่ืองเลา่
ต 1.2 ป 6/1 พูด/เขียนโต้ตอบในการสอ่ื สารระหว่างบุคคล

ต 1.2 ป 6/3 พูด/เขียนแสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความ
ชว่ ยเหลอื ในสถานการณ์งา่ ยๆ

ต 1.2 ป 6/4 พูดและเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกลต้ ัว
ต 1.3 ป 6/1 พดู /เขียนให้ข้อมูลเก่ยี วกบั ตนเองและส่งิ แวดลอ้ มใกลต้ ัว

2

ต 1.3 ป 6/2 เขียนภาพ แผนผัง แผนภูมิ และตารางแสดงขอ้ มลู ต่าง ๆ ท่ีฟงั หรืออ่าน
ต 1.3 ป 6/3 พูด/เขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว
ต 2.2 ป 6/1 บอกความเหมือน/ความแตกต่างระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ ง ๆ การใช้

เคร่อื งหมายวรรคตอน และการลาดบั คาตามโครงสรา้ งประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
ภาษาไทย
ต 2.2 ป 6/2 เปรยี บเทียบความเหมือน/ความแตกต่างระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง ประเพณี
ของเจา้ ของภาษากับของไทย
ต 3.1 ป 6/1 ค้นควา้ รวบรวมคาศัพท์ท่เี กยี่ วข้องกับกลุม่ สาระการเรียนรู้อน่ื และนาเสนอด้วย
การพูด/การเขยี น
ต 4.1 ป 6/1 ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณต์ า่ งๆ ทีเ่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

2. สาระสาคญั

การใช้ภาษาเก่ียวกับเวลา สภาพอากาศ ฤดูกาล เป็นการฝึกใช้ภาษาอังกฤษในเรื่องการฟัง พูด อ่าน
เขียน รวมท้ังการได้เรียนรู้เก่ียวกับสภาพอากาศ ฤดูกาลของเจ้าของภาษา ทาให้ทราบถึงความแตกต่างของ
สภาพอากาศและฤดูกาลท่สี ง่ ผลต่อสภาพความเปน็ อยู่และวัฒนธรรมระหว่างของไทยกับเจ้าของภาษา เพ่ือจะ
ได้นาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้ : rainy , sunny , windy , cloudy , snowy, foggy, hot , cool,
3.1 ความรู้ (Knowledge) cold, warm
Vocabulary weather forecast, tomorrow
Weather
Seasons : rainy season, hot season, cold season, summer , winter
Structure autumn, spring

Function :
- What is the weather like ?

It is …………………………… . ( คาศัพท์สภาพอากาศ )
- What was the weather like yesterday?
It was ………………………… . ( คาศัพทส์ ภาพอากาศ )
- How is/was the weather?
It is/was………………………..
- What will be the weather tomorrow?

It will be …………….
- Asking for information
- Giving for information

3

3.2 ทกั ษะ / กระบวนการ ( Process )
1. ทักษะการสื่อสาร
2. ทกั ษะกระบวนการกลมุ่
3. ทกั ษะการคิด

3.3 เจตคติ ( Attitude )
1. มีความมน่ั ใจในการใช้ภาษาเพือ่ การส่อื สาร
2. มีความมน่ั ใจในการใชภ้ าษาอังกฤษ
3. มใี จรกั ในการเรียนภาษาอังกฤษ

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ซ่อื สัตยส์ จุ รติ
2. มีวนิ ยั
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. มงุ่ มัน่ ในทางาน
5. มีจติ สาธารณะ

6. ชิน้ งาน/ภาระงาน
1. ใบกิจกรรม
2. สมดุ ภาพ pop up

7. การวดั และประเมินผลรวบยอด

วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
1. สังเกตพฤติกรรมการฟัง พูด อ่าน
- แบบสังเกตพฤตกิ รรมการฟัง ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดขี ้นึ
เขยี น
2. ตรวจใบกจิ กรรม พดู อา่ น เขยี น ไป

3. ตรวจสมดุ ภาพ pop up - ใบกจิ กรรม ผ่านเกณฑ์การประเมินร้อยละ 70

ขึ้นไป

- แบบประเมนิ การเขียน ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดขี ึน้

ไป

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้

4

ชั่วโมงที่ 1 What is the weather like ?

1) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถอา่ นออกเสียงคาศัพท์ ประโยคได้อย่างถกู ต้อง
2. นกั เรยี นสามารถระบุประโยคตรงตามภาพได้ถกู ต้อง
3. นักเรียนสามารถสนทนาเกี่ยวกบั สภาพอากาศได้

2) กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั นา (Warm up)
1. ครถู ามนกั เรียนว่า ประเทศไทยมสี ภาพอากาศแบบใดบา้ ง ให้นกั เรยี นชว่ ยกันตอบ จากน้นั

ครถู ามนักเรียนวา่ คาวา่ weather นา่ จะมีความหมายว่าอยา่ งไร นักเรียนชว่ ยกนั คิด แล้วตอบว่า “ สภาพ
อากาศ ”

ขั้นนาเสนอ (Presentation)
1. ครนู าเสนอคาศพั ทท์ ่เี ก่ยี วกับสภาพอากาศ คือ rainy, sunny, windy, cloudy, snowy,

foggy, hot, cool, cold, warm โดยใชบ้ ัตรภาพและบัตรคา
2. ครนู าเสนอการต้ังคาถามเก่ยี วกบั สภาพอากาศ 2 แบบในรปู ของปจั จบุ ันและอดีต โดยใช้

แถบประโยค และบตั รภาพสภาพอากาศต่างๆ เช่น

1) รูปปจั จุบนั กาล
 What is the weather like today?

It is sunny/ rainy/windy/…..
 How is the weather?

It is hot/ cool/warm/…..
2) รูปอดีตกาล
 What was the weather like yesterday?

It was sunny/ rainy/windy/…..
 How was the weather?

It was hot/ cool/warm/…..
3. ให้นักเรยี นสังเกตความแตกตา่ งระหว่างการถามสภาพอากาศทั้ง 4 ประโยค ครูอธิบาย
เพิม่ เติม และสรุป

 คาถาม-คาตอบในรูปปัจจบุ ัน ใช้ Verb to be (is) และ Adverb of time (today)
ส่วนคาถาม-คาตอบในรูปอดีต ใช้ Verb to be (was) และ Adverb of time
(yesterday)

5

ขนั้ ฝึก (Practice)
1. ใหน้ ักเรียนฝึกออกเสยี งคาศัพท์ ประโยคทใ่ี ชใ้ นการถามเกี่ยวกับสภาพอากาศท้ัง 2 แบบ
ในรปู ของปัจจบุ ันและอดตี
2. ให้นกั เรยี นทาใบกิจกรรมที่ 1 จับคปู่ ระโยคกับภาพ จากน้นั ครูกบั นักเรยี นรว่ มกันเฉลย
พร้อมทง้ั ใหน้ ักเรยี นอา่ นคาถาม คาตอบในใบกิจกรรม
3. ใหน้ กั เรียนฝึกการตั้งคาถามเกย่ี วกบั สภาพอากาศ โดยแบ่งนกั เรียนเปน็ 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่ง
เปน็ ผตู้ งั้ คาถามจากแถบประโยคท่ีครูหยิบขนึ้ มา และอีกกล่มุ หนงึ่ เป็นผูต้ อบจากบตั รภาพท่ี
ครูหยิบขน้ึ มาเช่นกนั จากนั้นผลัดกนั เป็นผู้ถาม-ตอบจนคล่อง
4. แจกบัตรภาพให้นักเรียน จบั คู่ฝกึ สนทนาเก่ียวกับสภาพอากาศในกลุ่มยอ่ ยของตัวเอง
5. ครสู ุ่มนักเรียนออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน 2-3 ครู พร้อมชมเชย และเติมเต็ม

ขัน้ นาไปใช้ (Production)
1. ใหน้ ักเรียนสนทนากนั เก่ียวกับสภาพอากาศจริงในวนั นัน้ ว่าเป็นอยา่ งไร และเม่ือวานเปน็

อย่างไร โดยใชร้ ปู แบบประโยคที่เรียนไปแลว้ จากน้นั ใหว้ าดรปู และเขยี นลงในสมุด

ขั้นสรปุ (Wrap up)
1. ให้นกั เรียนช่วยกนั สรปุ ความรู้ทไ่ี ด้จากการเรียนวันนอ้ี ีกคร้งั พรอ้ มกบั การนาไป
ประยกุ ต์ใช้

3) สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. บัตรคาศัพท์
2. บัตรภาพคาศัพท์
3. แถบประโยค
4. ใบกจิ กรรมที่ 1

4) การวดั ผลและประเมินผล

วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการถาม-ตอบ แบบสงั เกตพฤติกรรมการฟัง-พดู ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ดี
ขน้ึ ไป
ตรวจใบกจิ กรรม ใบกิจกรรมที่ 1 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขึ้นไป

6

บตั รคาศพั ท์ / บตั รภาพคาศพั ท์

rainy sunny

windy cloudy

7

บตั รคาศพั ท์ / บัตรภาพคาศัพท์

hot cool

cold warm

8

snowy foggy

ทม่ี าของภาพ

http://www.clipartoday.com/_thumbs/022/Nature/climate_males_198930_tnb.png
http://previews.123rf.com/images/clairev/clairev1011/clairev101100084/8195502-Cartoon-clouds-
collection-illustration--Stock-Vector-cloud.jpg
http://st.depositphotos.com/2400497/2930/v/950/depositphotos_29309543-Cartoon-Man-in-Hot-
Weather.jpg
http://www.hortgro-science.co.za/chilling-report-may-to-august-2015/
http://www.cliparthut.com/warm-weather-clipart-Ouk0GB.html
http://www.wsaz.com/blogs/chrisbaileysblog/March_Winds_Roaring_Early_This_Year_116098254.html
www.bogglesworldesl.com

9

ใบกจิ กรรมที่ 1

Directions Match the pictures to the correct sentences, then trace the sentences.

What is the weather like?

10

How is the weather?

ภาพและประโยคจาก www.bogglesworldesl.com

11

ชวั่ โมงท่ี 2 The Weather forecast

1) จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถอ่านออกเสยี งคาศัพท์ ประโยคได้อยา่ งถกู ต้อง
2. นกั เรียนสามารถสอบถามเก่ียวกบั สภาพอากาศได้
3. นักเรียนสามารถบอกข้อความตรงตามสญั ลักษณ์ของสภาพอากาศในแผนภาพการ
พยากรณ์อากาศได้
4. นกั เรียนสามารถให้ขอ้ มูลเกยี่ วกับการพยากรณ์อากาศได้

2) กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขัน้ นา (Warm up)
1. ครถู ามนักเรยี น What’s the weather like today? และ What was the weather

yesterday? นักเรยี นตอบ It’s…………./It was………ตามความเปน็ จริง
2. ครทู บทวนคาศัพท์เกยี่ วกบั สภาพอากาศและประโยคท่ีใชใ้ นการถามสภาพอากาศ โดยใช้

บัตรภาพและแถบประโยคเป็นสอื่

ขั้นนาเสนอ (Presentation)
1. ครสู นทนากับนักเรยี นเกีย่ วกับการพยากรณ์อากาศ ซ่ึงในภาษาองั กฤษเรยี กวา่ weather
forecast
2. ให้นักเรียนดู Clip VDO การบอกสภาพอากาศในประเทศตา่ งๆ ท่ี เว็บไซต์

https://learnenglishkids.britishcouncil.org/th/fun-games/whats-the-weather เพอ่ื ศึกษาสญั ลักษณ์
ต่างๆ ท่ีใชแ้ ทนสภาพอากาศ ให้นักเรยี นศึกษาเพิ่มเตมิ ในใบความรูท้ ่ี 1

3. ใหน้ กั เรยี นดภู าพการพยากรณ์อากาศของกรงุ เทพ ครนู าเสนอบทสนทนาโดยเขียนบน
กระดาน

A : How is the weather in Bangkok today?
B : It is partly cloudy.
A: Do you know the weather forecast for tomorrow?
B: Yes, it will be rainy.
A: O.K. then take care of yourself.
B: Thanks, goodbye. See you soon.
A: Good bye. See you soon.

ขน้ั ฝกึ (Practice)
1. ให้นักเรยี นฝึกออกเสยี งคาศัพทส์ ภาพอากาศต่างๆ
2. ใหน้ ักเรียนฝึกสนทนาตามบทสนทนาเปน็ กลมุ่ ใหญ่ กล่มุ ย่อย เปน็ คจู่ นคล่อง
3. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสง่ ตัวแทนมาสนทนากันหนา้ ช้นั เรียน ครูชมเชย เติมเต็ม
4. ครตู ัง้ คาถามจากบทสนทนา ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันหาคาตอบ

12

- What will be the weather on Friday?
- What day is it warm?...etc.
ข้ันนาไปใช้ (Production)
1. ให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ ทาแผนภูมิสภาพอากาศในท้องถน่ิ แลว้ สนทนากนั เกีย่ วกบั สภาพ
อากาศในรอบสัปดาห์
ขน้ั สรปุ (Wrap up)
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปคาศัพทต์ ่างๆ ท่ีได้เรยี นรู้อีกคร้ัง นกั เรียนจดบันทึกลงในสมดุ

3) ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1. บัตรภาพคาศัพท์
2. แถบประโยค
3. ใบความรู้

4) การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการถาม-ตอบ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการฟงั -พดู ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ

ระดบั ดขี ้ึนไป

13

ใบความรู้ท่ี 1

ทีม่ า http://dreamatico.com/data_images/weather/weather-7.jpg

14

แผนภูมกิ ารพยากรณ์อากาศ
This is a weather forecast of Bangkok. Today is Tuesday.

ท่มี าของภาพ http://hswd.wpengine.netdna-cdn.com/wp-content/uploads/forecast.jpg

15

ชวั่ โมงที่ 3 Seasons (1)

1) จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถจาแนกสภาพอากาศใหเ้ หมาะสมกับฤดูกาลได้ถูกต้อง
2. นักเรยี นสามารถพูดให้ข้อมูลเกยี่ วกับฤดูกาลและสภาพอากาศได้
3. นักเรยี นสามารถบอกความรู้สึกของตนเกี่ยวกบั ฤดูกาลต่างๆ พร้อมทั้งให้เหตุผลประกอบ
ได้

2) กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นา (Warm up)
1. ครูกล่าวทกั ทายนักเรียน และทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สภาพอากาศดว้ ยบทเพลง
The Weather
ข้ันนาเสนอ (Presentation)
1. ครูนาเสนอคาศัพท์ท่ีเกี่ยวกับฤดกู าล คือ rainy season , hot season , cool season
โดยใชบ้ ัตรภาพและบัตรคา
2. ครนู าเสนอบทสนทนาเกย่ี วกบั ฤดกู าลในประเทศไทย ดังนี้
A: How many seasons are there in Thailand?
B : There are three seasons in Thailand.
They are rainy season , hot season and cool season.
A : What season do you like most?
I like cool season, because the weather is cool./
I like rainy season, because trees are growth and green.
ข้นั ฝกึ (Practice)

1. ให้นักเรยี นฝึกสนทนากันเป็นกลุ่มใหญ่ กล่มุ ย่อย และเปน็ คู่ จนคลอ่ ง

ขั้นนาไปใช้ (Production)
1. ใหน้ กั เรียนสัมภาษณ์กนั ในกล่มุ ว่าใครชอบฤดูกาลใด เพราะอะไร
2. ให้นักเรียนทากจิ กรรม Brain storm โดยแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน เพ่ือชว่ ยกันระดม

สมองจัดทาแผนผงั Mind mapping สภาพอากาศ “ Season and weather in Thailand ” โดยวิเคราะห์
สภาพอากาศในฤดูกาลต่าง ๆ โดยเขยี นบนกระดาษที่ครูแจกให้ แลว้ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม

3. แตล่ ะกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอหน้าชนั้ เรียนทีละกลมุ่ โดยพูดบรรยายสภาพอากาศ
ในแต่ละฤดูกาลเปน็ ภาษาองั กฤษ พร้อมทั้งบอกวา่ แต่ละคนในกลมุ่ ชอบฤดูกาลไหนมากทีส่ ดุ เพราะอะไร

ขน้ั สรุป (Wrap up)
1. ครูและนกั เรียนช่วยกนั สรุปเน้อื หาอีกคร้ังเกี่ยวกับสภาพอากาศในแตล่ ะฤดูกาล

3) สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
1. บัตรคา – บตั รภาพศัพท์ Season ( rainy season , hot season , cool season )
2. กระดาษ A4

16

4) การวัดผลและประเมินผล เครอื่ งมอื เกณฑ์

วธิ กี าร แบบประเมนิ การพูดสนทนา ผ่านเกณฑ์ระดบั ดีข้ึนไป
สงั เกตพฤตกิ รรมการพดู สนทนา

17

บตั รคาศพั ท์ / บตั รภาพคาศัพท์

hot season

18

บตั รคาศพั ท์ / บตั รภาพคาศัพท์

rainy season

19

บตั รคาศัพท์ / บัตรภาพคาศัพท์

cool season

20

ตวั อย่างช้นิ งาน mind mapping

rainy windy warm hot

Rainy Hot Season
cloudySeason
Season sunny

Season & Weather in Thailand

cool Cool Season cold

There are three seasons in Thailand. They are hot season, rainy season and
cool season.

…………… likes …………………, because………………………………..
…………….likes…………………., because………………………………….
…………… likes …………………, because………………………………..
…………….likes…………………., because………………………………….
…………… likes …………………, because………………………………..

หมายเหตุ อาจให้นักเรียนวาดภาพประกอบตามความเหมาะสม

21

ชวั่ โมงท่ี 4 Seasons (2)

1) จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรยี นสามารถออกเสยี งคาศัพทไ์ ด้ถูกตอ้ ง
2. นักเรียนสามารถเปรียบเทียบความแตกต่างของฤดูกาลของเจา้ ของภาษากับของไทยได้
3. นักเรียนสามารถนาเสนอข้อมูลเกย่ี วกับฤดูกาลได้ถูกต้อง

2) กจิ กรรมการเรียนรู้

ขัน้ นา (Warm up)
1. ครแู ละนักเรยี นกล่าวทกั ทายเกีย่ วกับสภาพอากาศในวนั นี้
2. ทบทวนคาศัพทเ์ กีย่ วกับฤดูกาลของประเทศไทย ด้วยการส่มุ นักเรียนมาแสดงทา่ ทาง

แลว้ ใหเ้ พื่อนชว่ ยกนั บอกวา่ คือฤดูกาลใด

ขั้นนาเสนอ (Presentation)
1. ครูนาเสนอคาศัพทท์ ี่เกยี่ วกับฤดูกาลของประเทศอังกฤษ โดยใชบ้ ัตรคา บัตรภาพ ไดแ้ ก่

summer, winter , autumn , spring
2. ครนู าเสนอเนื้อหาเก่ยี วกับ Seasons of England ทง้ั 4 ฤดกู าล โดยใชโ้ ปรแกรม

PowerPoint หรอื เขียนบน Chart โดยอ่านข้อมลู ใหน้ กั เรียนฟังทลี่ ะ season

ขนั้ ฝึก (Practice)
1. แบง่ นักเรียนเปน็ 4 กลมุ่ ตัวแทนกลมุ่ จับฉลากเนื้อหา วา่ กลมุ่ ของตนจะไดเ้ น้ือหาใน

ฤดูกาลใด แตล่ ะกลุ่มอ่านทาความเขา้ ใจกับเน้อื หาทีไ่ ดร้ ับ และตอบคาถาม
2. ครสู นทนากบั นกั เรียนแต่ละกลุ่มเพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจในเนอื้ หาท่แี ต่ละกลมุ่ ไดร้ ับ

ขัน้ นาไปใช้ (Production)
1. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั เขียนเนือ้ หาตามฤดูกาลทไ่ี ด้รับลงในกระดาษบรู๊ฟ วาด

ภาพประกอบ พรอ้ มสรุปคาศัพท์จากเน้ือหาที่อ่าน ครคู อยใหค้ วามชว่ ยเหลอื และแนะนา
2. ให้นักเรยี นทากจิ กรรม Walk gallery โดยแตล่ ะกลุ่มติดผลงานไว้รอบห้องเรยี น แล้ว

หมนุ เวยี นกันเข้าไปศึกษาเรยี นรู้ เพ่อื ตอบคาถามเก่ียวกบั ฤดูกาลในใบกจิ กรรมที่ 3

ข้นั สรุป (Wrap up)
1. ครนู ักเรยี นร่วมกนั สรุปคาศัพท์โดยใช้บัตรคา
2. ให้นกั เรียนช่วยกนั เปรียบเทียบฤดกู าลของประเทศไทย และประเทศองั กฤษ ดงั นี้
ฤดูกาลในประเทศอังกฤษ แบ่งออกเปน็ 4 ฤดูกาล คือ

ฤดูใบไมผ้ ลิ ( Spring ) เดอื นมีนาคม-พฤษภาคม อากาศจะเปล่ยี นแปลงบ่อยมาก บางวนั อากาศ
อบอนุ่ มีแสงแดดจดั ใน ตอนเช้า และเปล่ียนแปลงได้อย่างรวดเรว็ เป็นหนาวเย็นหรือ ฝนตกในช่วงบา่ ย

ฤดูร้อน ( Summer ) เดือนมถิ ุนายน-สงิ หาคม อากาศส่วนใหญ่จะอบอนุ่ และแสงแดดจัดจา้
ฤดใู บไมร้ ่วง ( Autumn ) เดอื นกนั ยายน-พฤศจกิ ายน อากาศจะเยน็ ขึน้ เรื่อย ๆ ใบไมเ้ ร่มิ เปล่ยี นสี
สวยงามและร่วงหล่น

22

ฤดูหนาว ( Winter ) เดอื นธันวาคม-กุมภาพันธ์ อากาศชว่ งนี้จะหนาวมากท่สี ดุ มหี มิ ะตกในบางพื้นท่ี
กลางคืนจะยาวกว่ากลางวัน และมืดเร็วกว่าปกติ

ฤดกู าลในประเทศไทย แบ่งออกเปน็ 3 ฤดกู าล คือ
ฤดฝู น จะเร่มิ ตง้ั แตช่ ว่ งกลางเดอื นพฤษภาคมของทุกปไี ปจนถงึ สิ้นเดอื นตุลาคม
ฤดหู นาว จะเรมิ่ ต้งั แตต่ ้นเดือนพฤศจกิ ายนจนถงึ ปลายเดือนกุมภาพันธ์
ฤดูร้อน จะเริม่ ตั้งแตต่ น้ เดือนมนี าคมของทุกปีไปจนถึงกลางเดอื นพฤษภาคม

3) สือ่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. บัตรคาศพั ท์
2. บตั รภาพ
3. Chart/ สไลด์ PowerPoint เนือ้ หา Season of England
4. ฉลาก Season of England
5. ใบกิจกรรมท่ี 2

4) การวัดผลและประเมินผล

วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
1. ตรวจชน้ิ งาน แบบประเมนิ ชิน้ งาน

23

ฉลากเนอ้ื หา Seasons of England

Spring
Spring months from March to May. The climate is changing
very frequently. Some days are warm weather. There is sunshine
in the morning and change quickly. A cold or rain in the
afternoon. The day s are very pleasant. Tree and plants are full
of fresh leaves and colorful flowers in Spring.

Summer
Summer months from June to August . Most weather are
warm and bright sunshine. People like to stay indoors and use
fans , coolers , or air conditioners. People like to have cold water
, cold drinks and ice cream.

Autumn
Autumn months from September to November. The air
grew cold. In many place , the leaves of the tree begin to change
color . Turn to yellow as they dry up and fall during autumn.

Winter
Winter months from December to February. Most weather
are cold. There is snow in some areas. The night is over than day
and dark earlier than usual. People wear woolen clothes. They
light fires and heaters to keep warm.

24

ใบกจิ กรรมที่ 2

Directions : Please answer these questions.

1. How many seasons are there in England?
_______________________________________________________________

2. What are they?
_______________________________________________________________

3. When is spring?
_______________________________________________________________

4. What season do people wear woolen clothes?
_______________________________________________________________

5. How is the weather in summer?
_______________________________________________________________

25

บตั รคาศพั ท์ / บตั รภาพคาศัพท์

summer

26

บัตรคาศพั ท์ / บตั รภาพคาศัพท์

winter

27

บตั รคาศพั ท์ / บัตรภาพคาศพั ท์

spring

28

บตั รคาศพั ท์ / บตั รภาพคาศพั ท์

autumn

29

บัตรคาศัพท์

frequently
pleasant
winter
autumn

areas
air conditioners

sunshine

30

summer
spring
colorful flowers
clothes
heaters

31

ชัว่ โมงที่ 5-6 Season and Weather Pop up

1) จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถออกเสยี งคา ประโยค ข้อความส้ันๆ ได้ถูกต้อง
2. นกั เรยี นสามารถอา่ นข้ันตอนการทา pop-up แลว้ ปฏบิ ตั ติ ามได้
3. นักเรียนสามารถเขยี นบรรยายฤดกู าลและสภาพอากาศของประเทศไทยและ/หรือ
ประเทศอังกฤษได้

2) กิจกรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นา (Warm up)
1. ทบทวนคาศัพท์เกีย่ วกบั สภาพอากาศและฤดูกาลโดยใช้บตั รคา บตั รภาพ
2. แจกฉลากใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ ช่วยกนั เรยี งขั้นตอนการทา Pop-up ครยู ังไมเ่ ฉลย
3. ใหน้ กั เรียนดู Pop-up ตัวอย่าง และบอกนกั เรียนถึงวัตถุประสงค์บทเรียนว่า นักเรยี นจะ
ไดเ้ รยี นร้ขู ั้นตอนการทา Pop-up ท่ใี ห้นักเรยี นเรียงลาดับประโยคไปแลว้ เดี๋ยวจะมา
ตรวจสอบกนั วา่ นกั เรียนเรยี งลาดับขนั้ ตอนการทา Pop-up ถูกหรือไม่

ขน้ั นาเสนอ (Presentation)
1. ครสู าธิตขน้ั ตอนการทา Pop-up เป็นภาษาอังกฤษ นกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบประโยคท่ี
เรยี งลาดับไว้

ขั้นฝกึ (Practice)
1. ให้นักเรยี นศึกษาใบความรทู้ ี่ 2 ขน้ั ตอนการทา Pop-up ทาความเข้าใจในเนื้อหาและ
คาศัพท์ตา่ งๆ
2. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ วางแผนการทา Pop-up โดยกาหนดชอื่ เร่ือง จานวนหนา้ เนอ้ื หา
ในแต่ละหนา้ วัสดุอุปกรณ์ท่ีต้องใช้

3. นักเรยี นจดั ทาร่างเนื้อหา ครคู อยใหค้ าแนะนาและความชว่ ยเหลือแก่นักเรยี น
4. นักเรยี นจดั ทา Pop-up ตามทวี่ างแผนไว้

ขั้นนาไปใช้ (Production)
1. ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมาพูดนาเสนอเนื้อหาในหนงั สือของตนหน้าช้นั เรียน

ขั้นสรุป (Wrap up)
1. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ ข้ันตอนการทา pop-up

3) สือ่ และแหล่งการเรียนรู้
1. ใบความรู้ท่ี 2
2. กระดาษปอนด,์ กระดาษแขง็
3. สีไม้, สเี ทยี น
4. กรรไกร
5. กาว

4) การวัดผลและประเมนิ ผล เครือ่ งมือ 32
แบบประเมินช้ินงาน
วธิ กี าร เกณฑ์
ตรวจชิ้นงาน Pop-up ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดขี ึ้น
ไป
สงั เกตพฤตกิ รรมการพูด แบบประเมินการพดู ผ่านเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ 70


Click to View FlipBook Version