The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สงขลา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimkun02, 2022-03-04 09:49:10

เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สงขลา

เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สงขลา

เส้นทางท่องเท่ยี ว

ทางวัฒนธรรม

@เมือสงงสขอลงเาล

ส�ำนกั งานวฒั นธรรมจงั หวดั สงขลา : จดั พมิ พ์
ช่อื หนงั สือ : เสน้ ทางทอ่ งเท่ียวทางวัฒนธรรมเมอื งสองเล@สงขลา

ทปี่ รกึ ษา วฒั นธรรมจงั หวดั สงขลา
นางเลขา สวุ รรณชาตรี ผทู้ รงคุณวฒุ ิทางดา้ นวัฒนธรรม
นายวุฒชิ ัย เพช็ รสวุ รรณ

คณะทำ� งาน
น.ส.นิภาวรรณ กาญจนพิทกั ษ ์ นกั วิชาการวฒั นธรรมชำ� นาญการพเิ ศษ คณะทำ� งาน
นายบญุ นอง ชายแก้ว นกั วิชาการวฒั นธรรมช�ำนาญการพเิ ศษ คณะทำ� งาน
นายกติ ตพงษ์ แก้วยอดทอง นักวิชาการวฒั นธรรมชำ� นาญการพิเศษ คณะทำ� งาน
นางศศปิ ระภา จันทรโชตะ นักวชิ าการวัฒนธรรมช�ำนาญการ คณะท�ำงาน
นางจไุ รรัตน์ จนั ทรวงศ ์ นักวิชาการวัฒนธรรมช�ำนาญการ คณะทำ� งาน
นางอบุ ลวรรณ อนสุ า นักวิชาการวัฒนธรรมช�ำนาญการ คณะท�ำงาน
นายทรงราชย์ สวุ ลกั ษณ ์ นักวชิ าการวัฒนธรรมช�ำนาญการ คณะทำ� งาน
นางอินทิรา แก้วขาว นักวชิ าการวัฒนธรรมช�ำนาญการ คณะท�ำงาน/
เลขานุการ
น.ส.ปัทมา เส้งแก้ว เจา้ หนา้ ท่บี ันทกึ ขอ้ มลู คณะท�ำงาน/
ผ้ชู ่วยเลขานุการ

ปที พ่ี มิ พ์ ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕



คำ� นำ�

จังหวดั สงขลา เป็นจงั หวดั ท่ีมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มที ง้ั ชาวไทยพุทธ จนี
และมุสลิม ท�ำให้เกิดการผสมผสานทางวัฒนธรรม กอ่ ก�ำเนดิ เป็นความเช่อื ประเพณี วิถีชีวติ
และสงิ่ ปลกู สรา้ งอนั เปน็ เอกลกั ษณเ์ หมาะแกก่ ารทอ่ งเทยี่ วเพอ่ื สมั ผสั ความหลากหลายทง้ั ทาง
ธรรมชาตแิ ละวัฒนธรรม และยังเปน็ ศนู ยก์ ลางการทอ่ งเทย่ี วของภาคใตต้ อนลา่ ง เป็นจังหวัด
ที่มีแหล่งท่องเท่ียวที่หลากหลาย เป็นเมืองสองทะเลและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่
ยาวนาน มที งั้ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วทางวฒั นธรรมและประวตั ศิ าสตร์ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทางธรรมชาติ
แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเชงิ นเิ วศน์ และสนิ คา้ พน้ื เมอื งเปน็ ทส่ี นใจของนกั ทอ่ งเทย่ี ว อกี ทงั้ จงั หวดั สงขลา
มชี ายแดนตดิ ตอ่ กบั ประเทศมาเลเซยี และมเี สน้ ทางการคมนาคมทส่ี ะดวก ทำ� ใหน้ กั ทอ่ งเทย่ี ว
ทง้ั ชาวไทยและตา่ งประเทศ โดยเฉพาะชาวมาเลเซยี และสงิ คโปรน์ ยิ มเดนิ ทางมาทอ่ งเทย่ี วใน
จังหวัดสงขลาเปน็ จ�ำนวนมาก
สำ� นักงานวฒั นธรรมจงั หวัดสงขลา

สารบญั ๖

ค�ำขวญั ๘
ภูมิศาสตร ์ ๔๒
อ�ำเภอเมืองสงขลา ๔๘
อ�ำเภอสิงหนคร ๖๒
อำ� เภอสทิงพระ ๖๖
อำ� เภอกระแสสนิ ธ์ ุ ๗๒
อำ� เภอระโนด ๗๙
อำ� เภอหาดใหญ่ ๘๔
อำ� เภอสะเดา ๘๗
อำ� เภอรัตภมู ิ ๙๒
อ�ำเภอบางกล�ำ่ ๙๕
อำ� เภอควนเนยี ง ๙๙
อ�ำเภอจะนะ ๑๐๕
อ�ำเภอนาทวี ๑๑๒
อ�ำเภอเทพา ๑๑๙
อ�ำเภอสะบา้ ยอ้ ย ๑๒๑
อ�ำเภอนาหมอ่ ม ๑๒๖
อ�ำเภอคลองหอยโขง่
ขนมพน้ื บา้ นอาหารพ้ืนเมือง

6

คำขวัญ

นกน้ำเพลนิ ตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล
เสน่หส์ ะพานปา๋ ศนู ยก์ ารคา้ แดนใต้

การเดินทาง

การเดินทางโดยอากาศยาน ผา่ นทางท่าอากาศยานนานาชาตหิ าดใหญ่ จังหวัดสงขลา
การเดินทางโดยรถไฟ หรอื รถโดยสารสาธารณะ
การเดินทางโดยรถยนตส์ ว่ นบคุ คล
การเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ ผ่านทาง The Seahorse Ferry

7

ภูมิศาสตร์

เมืองสงขลา ฝ่งั เขาแดง

เมืองสงขลา ฝง่ั แหลมสน

เมืองสงขลา ตั้งอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทยทางด้านชายฝัง่ ทะเลอ่าวไทย
เป็นเมืองหนึง่ ทีม่ ีประวัติการตั้งถิ่นฐานเป็นเวลานานตั้งแตส่ มัยโบราณ ทั้งนี้ ก่อนการก่อต้ัง
เมืองสงขลาบอ่ ยาง ในปจั จุบนั เมืองสงขลาเดิมสองแห่งนี้ มีที่ตงั้ อยู่ในพ้นื ที่อำเภอสิงหนคร
จังหวดั สงขลา คือ เมืองสงขลาฝง่ั เขาแดง และเมืองสงขลาฝ่ังแหลมสน

8

9

ตั้งอยู่ใน ต. บ่อยาง อ. เมืองสงขลา มีถนนสาย
สำคัญน่าเดินเที่ยว ๓ สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน
และถนนนางงามย่านการค้าทีส่ ำคัญในอดีตของเมืองสงขลา
เป็นถนนทีป่ ระกอบไปด้วยอาคารและสถาปัตยกรรมที่งดงาม
ยังคงเอกลักษณด์ ั้งเดิมเอาไว้ ต้ังเรียงรายตอ่ เนื่องกันไป ตาม
ถนนแทรกตัวไปพร้อมกับธุรกิจสมัยใหม่ ทั้งร้านอาหาร
ดั้งเดิม ผสมกับร้านอาหารฟิวชั่น แถมมีการเพิ่มสีสันด้วย
ภาพวาด Street Art สุดน่ารักตามผนงั อาคารบ้านเรือนตา่ งๆ
ทีส่ ะท้อนเรื่องราววิถีชีวิตและวฒั นธรรมของคนสงขลา ทำให้
การเดินเที่ยวชมย่านเมืองเก่าสงขลาไม่ได้เพียงแต่จะได้ชม
ความงามของตึกโบราณเหล่านี้ แตย่ งั ไดส้ นุกสนานไปกับการ
ถา่ ยภาพโพสตท์ ่ากบั ภาพวาดตามถนนสายต่างๆ อกี ด้วย

10

เป็นถนนที่ติดกับฝั่งทะเลสาบสงขลา ในอดีตบริเวณนี้เป็นท่าเทียบเรือ
เพื่อการค้าขายและขนส่งสินค้าจากต่างประเทศ เห็นไดจ้ ากการมีโรงสีข้าวขนาดใหญ่
ชื่อว่า หับ โห้ หิ้น หรือที่ชาวสงขลาเรียกกันว่า “โรงสีแดง” นอกจากนี้ ยังมีบ้าน
สงครามโลก ซึ่งเป็นอาคารหลังเดียวที่รอดเหลือจากการทิ้งระเบิดในช่วงสมัย
สงครามมหาเอเชียบูรพา ปี พ.ศ. ๒๔๘๔ - ๒๔๘๘ และท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์พิทักษ์ ซึ่ง
เป็นสถานที่นิยมไปถ่ายภาพที่มีฉากด้านข้างเป็นกำแพงฉาบปูนเก่าๆ หน้าต่างไม้
เกา่ ๆ รวมถึง Street Art และชมพระอาทิตยต์ กได้อกี ด้วย

11

ถนนนครใน เป็นถนนทีอ่ ยู่ตรงกลางระหวา่ ง
ถนนนครนอกและถนนนางงาม มีสถานทีส่ ำคญั ไดแ้ ก่
บ้านนครใน เปน็ บ้านเกา่ ทรงจีน และอาคารตึกขาวทรง
ชิโนยูโรเปียนสูง ๔ ชั้น ที่ปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์จัด
แสดงของใช้โบราณสะท้อนวิถีชีวิตคนสงขลาในอดีต
ภายในจะเป็นการจัดแสดงของเก่า เช่น เตียงโบราณ
แบบจีน ตู้โบราณ ถ้วยชามจีน เพื่ออนุรักษ์ของเก่าให้
ได้ชม นอกจากนี้ ยังมีร้านคาเฟ่กาแฟ และ Street Art
ให้นักทอ่ งเที่ยวได้แวะตลอดสาย

12

เป็นถนนเก่าแกส่ ายเลก็ ๆ ใจกลางเมืองเกา่ สงขลา ซึ่ง
มีประวตั ิยาวนานกวา่ ๑๘๐ ปี เดิมเรียกว่า “ถนนเก้าห้อง” ถนน
นางงามเป็นศูนย์กลางย่านอาหารพื้นเมืองของสงขลา ตั้งแต่
อดีตจนถึงปัจจุบัน มีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทาน
ตลอดทั้งวัน มากกว่า ๓๐ ร้าน สามารถเลือกชิมอาหาร ที่มีให้
รับประทานหลากหลายไมว่ ่าจะเป็นของคาวของหวาน พร้อมซื้อ
ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝาก

13

ถนนนางงามเปน็ ทีต่ งั้ ศาลเจ้าพอ่ หลักเมืองสงขลา อันเปน็ ที่เคารพ
สกั การะของชาวสงขลาและผมู้ าเยือน เมือ่ มาเยือนถนนนางงาม แวะสกั การะ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เดินชมบ้านเรือนสองข้างถนนที่ยังมีร่องรอยของตึก
แบบชิโนยูโรเปียนให้ชม

14

อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
สงขลา เป็นโบราณสถานของชาติ มีลักษณะ
สถาปัตยกรรมแบบจีนผสมตะวันตก อายุกว่า
๑๐๐ ปี ภายในจัดแสดงศิลปวัตถุที่เป็นมรดก
ทางวัฒนธรรม อันเป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้
ตอนล่าง

15

พระยาสุนทรานรุ กั ษ์ (เนตร ณ สงขลา) เจ้าพระยายมราช (ปั้น สขุ ุม)

อาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เดิมเป็นคฤหาสน์
ของพระยาสุนทรานุรักษ์ (เนตร ณ สงขลา) ผู้ช่วยราชการเมืองสงขลา
ต่อมาใช้เป็นสถานที่ของหน่วยงานต่างๆ อาทิ ใช้เป็นที่พำนักและ
ว่าราชการของพระวิจิตรวรสาสน์ ข้าหลวงพิเศษตรวจราชการเมือง
สงขลา ก็คือ เจ้าพระยายมราช (ป้ัน สุขมุ )

16

อาคารจัดแสดงมี ๒ ชั้น

ชน้ั ที่ ๑ แบง่ การจดั แสดงเปน็ ๘ ส่วน

๑. วิถีชีวิตสงขลา
๒. ภมู ิลกั ษณ์คาบสมทุ รสงขลา
๓. สงขลายุคกอ่ นประวตั ิศาสตร์
๔. ประวัติศาสตรแ์ รกเริ่มบนคาบสมทุ รสทิงพระ
๕. สงขลาหวั เขาแดง
๖. สงขลาแหลมสน
๗. สงขลาบอ่ ยาง
๘. สงขลายอ้ นยุค

17

ชน้ั ที่ ๒ แบ่งการจดั แสดงเป็น ๖ สว่ น

๑. ความสมั พนั ธก์ ารค้ากับต่างประเทศ
๒. บันทึกสงขลา
๓. ศิลปกรรมสงขลา
๔. ประวัติศาสตร์โบราณคดีภาคใตต้ อนลา่ ง
๕. สนุ ทรียภาพในชวี ิตของชาวภาคใตต้ อนล่าง
๖. ศาลากลางแจง้

18

ค่าเข้าชม

ชาวไทย ๓๐ บาท
ชาวต่างชาติ ๑๕๐ บาท
นกั เรียน นกั ศึกษาในเครื่องแบบ ภิกษุ สามเณร นกั บวชในศาสนาตา่ งๆ และ
ผู้สงู อายุ ๖๐ ปี ขึน้ ไป ไมเ่ สียค่าธรรมเนียมเข้าชม
เลขที่ ๑๓ ถ. วิเชียรชม ต. บ่อยาง อ. เมืองสงขลา จ. สงขลา
โทรศพั ท์ ๐ ๗๔๓๑ ๑๗๒๘
ทุกวนั พธุ - วันอาทิตย์ เวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น.

19

20

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของสงขลา อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ไปเที่ยว
สงขลา แต่ถ้าไม่ได้ไปเยือนทีห่ าดสมิหลาแห่งนี้ ก็เหมือนกับไปไม่ถึงสงขลา เพราะเป็น
เหมือนแลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัด หาดสมิหลามีโขดหินขนาดย่อมๆ ยื่นลงทะเล
หาดทรายขาวละเอียด ที่เรียกว่า “ทรายแก้ว” มีต้นสนรม่ ร่นื จากหาดสมิหลาสามารถ
มองเห็นทิวทัศน์ อันงดงามของเกาะหนูและเกาะแมว มีสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียง คือ
“นางเงือกทอง” ตั้งอยู่บนโขดหิน

21
บริเวณโดยรอบได้จัดสวนหย่อมไว้ ดูร่มรื่นเหมาะเป็นที่นั่งพักผ่อน
ยามเยน็ เมื่อมองออกไปในทะเลจะเหน็ เกาะหนู เกาะแมว อนั เปน็ อกี สัญลักษณ์
หนึ่ง หาดสมิหลาเป็นชายหาดที่มีบรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับมาพักผ่อน
ชมวิว มีชายหาดต่อเนื่องกัน เรียกว่า แหลมสนอ่อน อยู่เลยหาดสมิหลาไปทาง
ตะวันตก ช่วงของแหลมสนออ่ นจะยาวไปจนถึงสนั เขือ่ นในทะเล

กระโจมแตร คือ ปสรถะาเปทัตศยสกเปรนรมรูปทรงแปดเหลีย่ ม สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมของ

22

เขาตังกวน อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา
มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ ๑๐๕ เมตร
บนยอดเขาตังกวน เป็นที่ประดิษฐานโบราณสถาน
สำคัญประกอบด้วย พระเจดีย์หลวง เป็นพระเจดีย์
ก่ออิฐถือปูนทรงระฆังคว่ำ ศาลาพระวิหารแดง
ประภาคาร รวมถึงให้บรกิ ารลิฟต์เพื่อพานักทอ่ งเที่ยว
ขึน้ ไปยงั ยอดเขาตังกวนอีกด้วย

23

ในทกุ ๆ ปี ชว่ งเดือนตุลาคมจะมีงานพิธีหม่ ผา้ องค์พระเจดีย์หลวงเขาตงั กวน
และประเพณีตกั บาตรเทโวและลากพระของจังหวัดสงขลา เขาตังกวนสามารถ
ขึน้ ได้ ๒ ทาง คือ ขึน้ ลิฟต์และบันได ซึ่งทางขนึ้ อยูฝ่ ั่งตรงกนั ข้ามด้านทิศตะวนั ตก
เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาตังกวนแล้ว สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลา
ไดโ้ ดยรอบ ๓๖๐ องศา คา่ บรกิ าร ผู้ใหญ่ ๓๐ บาท เดก็ ๒๐ บาท

ถ. สุขมุ ต. บ่อยาง อ. เมืองสงขลา จ. สงขลา
โทรศพั ท์ ๐ ๗๔๓๑ ๖๓๓๐
เปิดบริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๑๐.๐๐ น. - ๑๙.๐๐ น. และ
วนั เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนกั ขัตฤกษ์ ๐๘.๐๐ น. - ๑๙.๐๐ น.

24

25

26

วัดมัชฌิมาวาส ตั้งอยู่ที่ถนนไทรบุรี เป็นวัดใหญ่
และสำคัญที่สุดในจังหวดั สงขลา อายไุ ม่ต่ำกวา่ ๒๐๐ ปี สร้าง
ตอนปลายอยุธยา เดิมทีเรียกว่าวัดยายศรีจันทร์ กล่าวกันว่า
ยายศรีจันทร์ คหปตานีผู้ใจบญุ ในเมืองสงขลาได้อุทิศเงินสร้าง
ขึน้ ตอ่ มามีผู้สร้างวดั เลียบ ทางทิศเหนือ และวัดโพธ์ิปฐมาวาส
ทางทิศใต้ ชาวสงขลาจึงเรียกวัดยายศรีจันทร์ว่า "วัดกลาง”
และได้เปลี่ยนชื่อเปน็ "วดั มชั ฌิมาวาส” โดยพระเจ้าน้องยาเธอ
กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส คราวเสด็จเมืองสงขลาเมื่อ พ.ศ.
๒๔๓๑

เจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสงั ข)์ 27

ในสมัยรัตนโกสินทร์ วัดนี้
ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง
ครั้งสำคัญ คือ ในสมัยรัชกาลที่ ๔
ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๙๐ - พ.ศ. ๒๔๐๓
เมื่อเจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสังข์)
ผู้สำเร็จราชการเมืองสงขลา ได้สร้าง
พระอุโบสถหลังปัจจุบันพร้อมด้วย
ศาลาการเปรียญ หอไตรพระจอม
ศาลาฤาษีและกำแพงวัด ในครั้งน้นั ยงั
ได้ช่างหลวงมาช่วยเขียนจิตรกรรม
ฝาผนงั ภายในพระอโุ บสถด้วย

28

วัดมัชฌิมาวาสเป็นวัดใหญ่ที่สุดใน
สงขลา ซึ่งใช้เป็นสถานที่ประกอบพิ ธี
ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาในสมัยรัตนโกสินทร์
เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ยกวัดใหญ่ในแต่ละจังหวัด
ขึ้นเป็นพระอารามหลวง วัดมัชฌิมาวาส จึง
ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวง
ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ และ
ไดร้ บั การประกาศขนึ้ ทะเบียนเป็นโบราณสถาน
เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๘

29

โบราณสถาน/โบราณวัตถุวัดมัชฌิมาวาส มีสถาปัตยกรรมเด่น ๆ ได้แก่
พระวิหาร พระเจดีย์แบบจีน (ถะ) เสาตะเกียบคู่ของเสาธง ใบเสมา ๘ ทิศ กําแพง
แก้วรอบ พระอุโบสถ ศาลาฤาษี หอพระไตรปิฎก (หอไตรพระจอม) กุฏิแบบเก๋งจีน
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติมัชฌิมาวาส "ภัทรศิลป” เป็นที่เก็บพระพุทธรูป วัตถุ
โบราณ ซึ่งรวบรวมมาจากอำเภอเมืองสงขลา อำเภอสทิงพระ และอำเภอระโนด ซึ่ง
เป็นหลักฐานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ควรค่าแก่การศึกษา เปิดให้เข้าชมทุกวัน
เว้นวนั จนั ทร์-อังคาร และวนั หยดุ ราชการ เวลา ๑๓.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น.

30

ต้ังอยูบ่ รเิ วณเชิงสะพานติณสลู านนท์ ฝ่งั ต.พะวง อ.เมืองสงขลา จัดสร้างขึ้นเพื่อ
เชิดชูเกียรติแด่พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อให้เป็น
สวนสาธารณะ เปน็ สถานทีพ่ กั ผ่อนหยอ่ นใจ เป็นแหล่งการเรียนรู้ ภายในสวนประวัติศาสตร์
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ แห่งนี้ จุความเพลิดเพลินที่น่าเรียนรู้ไว้มากมาย โดยมีการแบ่ง
พนื้ ที่ได้อยา่ งเปน็ สัดส่วนที่เปิดโอกาสให้นกั ทอ่ งเที่ยวได้เลือกชมตามความสนใจเฉพาะตัว

31

จดุ ที่ ๑

หอประวัติ

เพื่อเชิดชเู กียรติคุณความดขี อง
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

อดีตประธานองคมนตรีและรฐั บุรษุ

32

จดุ ที่ ๒

ประกอบด้วยสวนสาธารณะ
ประติมากรรมกลางแจ้ง สวนพฤกษศาสตร์
สวนตาลโตนด แหลง่ น้ำกลางสวน เวทีเปิด
อัฒจันทร์ธรรมชาติ ลานวัฒนธรรม
กลางแจ้ง ศูนย์จำหน่ายเครื่องดื่ม อาคาร
บริการท่าเทียบเรือ และศูนย์บริการ
ท่องเทีย่ วทางน้ำ

จุดที่ ๓

บริเวณที่ ๓ ประกอบด้วย ศูนย์บริการ
การเรียนรู้ระบบนิเวศปา่ ชายเลน ที่มีสะพานทางเดิน
ศึกษาธรรมชาติชีวภาพป่าชายเลน (Walk way)
ความยาว ๘๐๐ เมตร และมีศาลานิทรรศการ
๔ ศาลา

สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เปิดให้เข้าชม
ทุกวนั องั คาร-วันเสาร์ เวลา ๐๙.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น.

เลขที่ ๘๘๘ ม. ๒ ต. พะวง อ. เมืองสงขลา จ. สงขลา
หอประวัติ โทรศัพท์ ๐ ๗๔๓๓ ๐๒๖๘
ที่พัก/หอประชุม ๐ ๗๔๓๓ ๐๓๐๐
สำนักงาน ๐ ๗๔๓๓ ๐๒๖๗

33

สถาบันแห่งนี้ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๑ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับ
ศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ และมีการจัด นิทรรศการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม
ของภาคใต้ไว้ เช่น ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน จิตรกรรมฝาผนัง เครื่องดนตรี
พื้นบ้านตลอดจนผลิตภัณฑ์งานฝีมือต่างๆ สถาบันทักษิณคดีศึกษา
ประกอบด้วยสว่ นสำคัญ ๕ ส่วน คือ พิพิธภัณฑค์ ติชนวิทยา อุทยานวัฒนธรรม
ศูนยว์ ิทยบรกิ ารด้านวฒั นธรรม งานสง่ เสรมิ และเผยแพร่และหม่บู ้านวัฒนธรรม
สาธิต ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ ๒๐ บาท เด็ก ๑๐ บาท ชาวต่างประเทศยโุ รป ๕๐ บาท
เอเชีย ๓๐ บาท

ม. ๑ บ. อา่ วทราย ต. เกาะยอ อ. เมืองสงขลา จ. สงขลา
โทรศัพท์ ๐ ๗๔๕๙ ๑๖๑๑ ๒
เปิดให้ผู้สนใจชมทกุ วัน ระหวา่ งเวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๗.๓๐ น.

34

พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยาเริ่มเปิดเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๓๔ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศ
ในขณะน้ัน) เสดจ็ พระราชดำเนินทรงเปิดอาคารกลุม่ บ้านหลังคาจั่ว อาคารกลมุ่
บ้านหลงั คาปั้นหยา และอาคารกลุ่มบ้านหลงั คาบลานอ

ต่อมา เมื่อวันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๙ พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรม
โอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกมุ าร (พระยศในขณะน้ัน) เสดจ็ พระราชดำเนิน
แทนพระองค์ทรงเปิดอาคารนวมภมู ินทร์

35

การจัดพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ใช้วัตถุของจริง ประมาณ ๔๙,๐๐๐ ชิ้น
นอกจากนีย้ งั มีหุ่นจำลอง เสียง ภาพ วีดิทศั น์และมลั ติมีเดีย (Multimedia) แสดงประกอบ
เนื้อหา เป็นแบบนิทรรศการถาวรในอาคาร ๔ กลุ่ม ซึ่งจัดแสดงเรื่องราวทางทักษิณคดี
ศึกษาโดยจดั แบ่งเปน็ ห้องตา่ งๆ

- ห้องกระตา่ ยขูดมะพร้าว (Coconut Graters)
- ห้องวฒั นธรรมโลหะและโลหัช (Metalware)
- ห้องอสิ ลามศึกษา (Islam Studies)
- ห้องการละเล่นพื้นเมือง (Folk Plays and Music Instruments)
- ห้องเหรียญและเงินตรา (Coins and Currencies)
- ห้องศาสนา (Religion)
- ห้องสงขลาศกึ ษา (Songkhla Studies)
- ห้องวรรณกรรมท้องถิน่ (Local Literature)
- ห้องเอกสารท้องถิน่ (Local Documentation) เป็นต้น

36

วัดแหลมพ้อ เป็นวัดเก่าแก่กว่า ๒๐๐ ปี
ครั้งหนึ่งในอดีตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสทางน้ำ ขึ้นที่ท่าเรือหน้าวัด
อีกทั้งมีประติมากรรมที่เก่าแก่ที่กรมศิลปากรขึ้น
ทะเบียนเป็นโบราณสถาน และมีพระพุทธรูปปาง
ปรินิพพานองค์ใหญ่ คือ พระนอนแหลมพ้อ
ประดิษฐานบนฐานที่ไม่สูงมากนักอยู่ใกล้เชิงสะพาน
ติณสูลานนทฝ์ ง่ั เกาะยอ

พระพทุ ธรูปปางปรนิ ิพพานนี้ เปน็ ประติมากรรมใหมท่ ี่สร้างขึ้นเมือ่ ปี พ.ศ. ๒๕๓๗
องค์พระนอนวัดแหลมพ้อนี้ เป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปลักษณะบรรทม (นอน) ตะแคง
เบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตาม
พระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา ส่วน
ของพระบาทจะมีลวดลายภาพศิลปะของภาพมงคล ๑๐๘ ประการที่สวยงาม

37

38

เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบสงขลาโดยมีสะพานติณสูลานนท์เชื่อมระหว่าง
ถนนบนฝ่งั สะพานมี ๒ ช่วง

ช่วงที่ ๑ เชื่อมระหวา่ งอำเภอเมืองไปยงั เกาะยอ
ชว่ งที่ ๒ จากเกาะยอไปยังอำเภอสงิ หนคร
เกาะยอมีภูมิทัศน์ที่สวยงามมีทั้งภูเขา ที่ราบ แหลม อ่าว ซึ่งเป็นลักษณะที่
โดดเด่นกว่าตำบลอื่นๆ และมีสะพานติณสูลานนท์ เชื่อมระหว่างเกาะยอกับตำบลใกล้เคียง
ทำให้มีทิวทศั น์ที่สวยงาม พื้นที่สว่ นใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบตามเชิงเขา เหมาะแก่การทำ
เกษตรกรรม จึงมีการทำสวนผลไม้แบบสมรม หมายถึง ผลไม้ จะผลดั กันให้ผลผลิตตลอดปี
เช่น ส้มโอ มะพร้าว ขนุน ผลไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ จำปาดะ ซึ่งสามารถนำไปทอดเหมือน
กล้วยแขก หรือจะกินเป็นผลไม้แบบขนนุ ก็ได้

39

นอกจากน้ัน เกาะยอมี “ผ้าทอเกาะยอ” ซึ่งเป็นผ้าพ้ืนเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รบั
ความนิยมจากผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายราชวัตถ์ ดอกพิกุล
ดอกพะยอม เป็นต้น

ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ เกาะยอ
เป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังใน
ทะเลสาบสงขลา ทำให้บนเกาะ ยอมี
ร้านอาหาร รวมถึงอาหารทะเลแห้ง
มากมาย และตำบลเกาะยอเป็นตำบลหนึ่ง
ที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว ได้รับ
รางวัลหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP Village
Champion ปี พ.ศ. ๒๕๔๙

40

เป็นวัดเก่าแก่ของตำบลเกาะยอ ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมล้ำค่า
ควรคา่ แก่การอนุรกั ษ์และหวงแหน “กุฏิแบบเรือนไทยภาคใต”้ อายุกวา่ ๒๐๐ ปี
หลังคาใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า มีจุดเด่นที่เป็น
เอกลักษณ์ คือ เสาเรือนกุฏิจะไม่ฝังลงในดินแต่จะตั้งอยู่บนเสาปูน ซึ่งเป็นที่
รองรับเสาอันเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านทรงไทยในภาคใต้ บรรยากาศของวัด
โดยรอบร่มรื่น เงียบสงบ มีลมทะเลพัดเข้ามาตลอด เพราะตั้งอยู่ชิดติดกับ
ทะเลสาบสงขลา

ม. ๘ ต. เกาะยอ อ. เมืองสงขลา จ. สงขลา

41

กุฏิเรือนไทย เป็นกุฏิเรอื นหมู่ ๓ หลัง สำหรับเจ้าอาวาส ๑ หลงั สำหรบั พระภิกษุ
๒ หลัง ลักษณะของกุฏิจดั เปน็ เรอื นไทยภาคใตท้ ีถ่ ึงพร้อมด้วย “มงคลสูตร” “มาตราสูตร”
คือการสร้างบ้านตามลักษณะโครงสร้างของผู้อยู่อาศัย (Human Skill) ด้านหน้าหันออกสู่
ทะเลสาบสงขลามีลานกว้าง ส่วนด้านหลังเป็นเขาเรียกว่า “เขาเพหาร” หมายถึง “วิหาร”
ลักษณะเด่นของกุฏิเป็นเรือนหมู่ ๓ หลัง เรียกตามลักษณะมงคลสูตรว่า แบบพ่อแม่พาลกู
สนั นิษฐานวา่ นา่ จะสรา้ งขึน้ ในช่วงรชั กาลที่ ๓ แห่งกรงุ รัตนโกสินทร์

นอกจากนั้น วดั ท้ายยอยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถคุ วรค่าแก่การศึกษา
และเรียนรู้ อาทิ พระอโุ บสถแบบโบราณ บอ่ น้ำโบราณ หอระฆัง โรงเรือพระ สถูป และมี
รอ่ งรอยของทา่ เรือโบราณ ซึ่งเคยเป็นศนู ยก์ ลาง การคมนาคม ของชาวเกาะยอ

42

43

กำแพงเมืองเกา่ เปน็ หลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ของเมืองสงขลาฝั่งเขาแดง เป็น
กำแพงที่ก่อด้วยอิฐและหินโบกปูน มีทั้งหมด ๓ ด้าน คือด้านทิศตะวันออก ทิศตะวันตก
และทิศเหนือ ส่วนทางทิศใต้ มีป้อมปราการตามธรรมชาติ (เขาค่ายม่วง) จากการศึกษา
พบว่ามีทั้งหมด ๑๔ ป้อม เริ่มจากป้อมหมายเลข ๑ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือถึงป้อม
หมายเลข ๑๓

44

เป็นที่ฝังศพสุลต่านสุไลมาน
เจ้าเมืองสงขลาคำว่า “มรหุ่ม” หรือ
“มะระหุ่ม” มาจากคำว่า “บาระหุม” ซึ่ง
เป็นคำเรียกหลุมฝังศพของสุลต่านหรือ
เจ้าเมืองมลายูตามคติศาสนาอิสลาม

ม. ๑ ต. หัวเขา อ. สิงหนคร ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๔๐๘ (สงขลา-ระโนด)

45

ตั้งอยู่บนเขาแดงบริเวณเดียวกันกับป้อมปืน นิยมเรียกกันว่า “เจดีย์องค์ดำ
เจดีย์องค์ขาว” เจดีย์องค์ดำ (องค์พี่) เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ บุนนาค) เป็นผู้สร้างไว้
เพื่อเป็นอนุสรณเ์ มือ่ ครั้งมาปราบกบฏไทรบุรี ปี พ.ศ. ๒๓๗๓ เจดีย์องค์ขาว (องค์น้อง)
พระยาศรีพพิ ัฒน์รัตนราชโกษา (ทัด บนุ นาค) เปน็ ผู้สร้างไว้เพ่อื เป็นอนุสรณ์เมื่อครั้งมา
ปราบกบฏไทรบุรี ปตั ตานี ปีนงั และมาลายู ปี พ.ศ. ๒๓๘๑ กรมศิลปากรไดข้ ึน้ ทะเบียน
เปน็ โบราณสถานของชาติ ต้ังแต่วนั ที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘

46

เป็นวัดสำคัญประจำเมืองสงขลา
ฝั่งแหลมสน มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่
สวยงาม อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของ
พระพทุ ธรปู ปางมารวิชัย มีหอระฆงั และเจดีย์
หินสถาปัตยกรรมแบบจีน (ถะ) วัดแห่งนี้
สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่ใช้ทำ
พิธีถือน้ำสาบาน หรือ น้ำพิพัฒน์สัตยา ของ
บรรดาเหล่าข้าราชการเมืองสงขลา ในช่วงปี
พ.ศ. ๒๓๗๙

ม. ๒ ต. หัวเขา อ. สิงหนคร จ. สงขลา

47

“ประตูบ่อเก๋ง” หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า
“บ่อเก๋ง” มีอายุราว ๑๐๐ กว่าปี เป็นปราการ
รักษาด้านหน้าของเมืองสงขลาเก่า ที่ตั้งอยู่ฝั่ง
แหลมสน สร้างขึ้นปลายพุทธศตวรรษ ที่ ๒๔
ประกอบด้วยเชิงเทิน ทีต่ ้ังปืนใหญ่ อาคารที่พักของ
ผู้รักษาป้อม บ่อน้ำ และซุ้มประตู ปัจจุบันภายใน
บริเวณ “บ่อเก๋ง” ยังมีซากโบราณสถานสิ่งหนึ่งที่
ยงั คงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ นัน่ คือ “ซุ้มประต”ู ซึ่ง
กรมศิลปากรประกาศขึ้นเป็นโบราณสถานของชาติ
เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๒

ต. หัวเขา อ. สงิ หนคร จ. สงขลา

48

49

เป็นวัดคู่เมืองสทิงพระมาแต่โบราณ เดิมเรียก “วัดสทิงพระ” ต่อมาได้มีการ
เรียกชื่อเป็นวัด “จะทิ้งพระ” เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งต่อการศึกษาด้านโบราณคดีและ
ประวตั ิศาสตร์ในแหล่งโบราณคดีคาบสมุทรสทิงพระ วัดจะทิ้งพระในอดีตแยกออกเป็น
๒ วดั คือ “วัดจะทิ้งพระ” กบั “วัดพระมหาเจดีย์องคใ์ หญ่” วัดทั้ง ๒ นี้ เรียกอกี ชื่อหนึ่ง
ว่า “วัดเจ้าพี่วัดเจ้าน้อง” และได้รวมเป็นวัดเดียวอีกครั้งหนึ่งในสมัยพระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ โบราณวัตถุที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ เจดีย์
พระมหาธาตุ เจดีย์องค์เล็ก วิหารพระพุทธไสยาสน์ หรือวิหาร พ่อเฒ่านอน หอระฆัง
กำแพงวดั และมีประเพณีแหผ่ ้าขึน้ ธาตุ เพือ่ หม่ พระธาตุเจดียเ์ ป็นพุทธบชู าทกุ ปี

ม. ๔ ต. จะทิง้ พระ อ. สทิงพระ จ. สงขลา


Click to View FlipBook Version