The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ยุทธภูมิ ดวงสุภา, 2023-09-02 10:07:17

แผนการจัดการเรียนรู้ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

แผนการจัดการเรียนรู้ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1

บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑ อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ พิเศษ/2566 วันที่ 1๕ พฤษภาคม 256๖ เรื่อง ขออนุมัติใช้แผนการจัดการเรียนรู้ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 256๖ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑ ด้วยข้าพเจ้า นายยุทธภูมิ ดวงสุภา ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑ ปฏิบัติหน้าที่ครูผู้สอนกลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความประสงค์ขออนุญาตใช้แผนการจัดการเรียนรู้ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 256๖ รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา ว16101 เวลา 1 ชั่วโมง/สัปดาห์ (20 ชั่วโมง/ภาคเรียน) จำนวนแผนการจัดการเรียนรู้ 1๘ แผน จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุญาตให้ใช้ประกอบการเรียนการสอนต่อไป (ลงชื่อ) ............................................... (นายยุทธภูมิดวงสุภา) ตำแหน่ง ครูโรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑ ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑ ❑ อนุมัติ ❑ ไม่อนุมัติ เพราะ ………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ) ............................................... (นางกรวรรณ นวลมะ) ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยโรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑


ก หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดให้นักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกคนต้องเรียนรายวิชาวิทยาการคำนวณ เพื่อให้มีความรู้ ทักษะเกี่ยวกับการพัฒนา โครงงาน นวัตกรรม พร้อมกับรู้เท่าทันสื่อ เทคโนโลยี โดยใช้เทคโนโลยีในการทำงานอย่างสร้างสรรค์และเกิด ประโยชน์ หลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนจริมอนุสรณ์ ๑ ได้กำหนดให้จัดการเรียนการสอนรายวิชา วิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา ว16101 ซึ่งทำการสอนในเนื้อหาเกี่ยวกับ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน ออกแบบและเขียน โปรแกรมอย่างง่ายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ต ในการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตนเคารพในสิทธิของผู้อื่น แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา ว16101 นี้สามารถอำนวยความสะดวกในการสอนแก่ครูผู้สอนและเป็นเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพของ นักเรียนได้ตามความแตกต่างตามที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดไว้ (ลงชื่อ) .............................................. (นายยุทธภูมิดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนสรณ์ ๑ คำนำ


ข เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข สรุปหลักสูตรฯ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2 คำอธิบายรายวิชา ๔ โครงสร้างรายวิชา ๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน ๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ๑๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ตามล่าหาสมบัติ ๑๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ตราชั่งแสนกล ๒๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ภารกิจพิชิตฝั่งแม่น้ำ ๓๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ๔๐ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมิดหรือไม่ ถามใจเธอดู ๔๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน รายงานผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ๕๑ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดความเป็นส่วนตัว ๕๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 เดินตามเส้น เล่นตามสคริปต์ ๖๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 เดินตามเส้น เล่นตามสคริปต์ ตอน เจ้าจ๋อนักคิด ๗๐ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 สิงสยอง สำรองอิ่ม ๗๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 13 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน คลาวด์แอนด์คอม ๘๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 14 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน สำรองไว้ก่อน ๘๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 15 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน กำหนดสิทธิ์ ๙๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 16 ค้างคาวกินกล้วย ๑๐๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 17 ค้างคาวกินกล้วย ตอน โค้ดไม่ดีเลยมีบัก ๑๐๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 ค้างคาวกินกล้วย ตอน กระต่ายหมายจันทร์ ๑๑๖ ภาคผนวก ก ใบงาน ๑๒๓ ภาคผนวก ข แบบวัดและประเมินผล ๑๓๕ สารบัญ


๑ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับ ปรับปรุงพ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ ได้กำหนดสาระการ เรียนรู้ออกเป็น 4 สาระ ได้แก่ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ และสาระที่ 4 เทคโนโลยี มีสาระเพิ่มเติม 4 สาระ ได้แก่ สาระชีววิทยา สาระ เคมี สาระฟิสิกส์ และสาระโลกดาราศาสตร์ และอวกาศ องค์ประกอบของหลักสูตรทั้งในด้านของเนื้อหา การจัดการเรียนการสอน และการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้นั้น มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของผู้เรียนในแต่ละ ระดับชั้นให้มีความต่อเนื่องเชื่อมโยงกันตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สำหรับกลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้กำหนดตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางที่ผู้เรียนจำเป็นต้อง เรียนเป็นพื้นฐาน เพื่อให้สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ในการดำรงชีวิต หรือศึกษาต่อในวิชาชีพที่ต้องใช้ วิทยาศาสตร์ได้ โดยจัดเรียงลำดับความยากง่ายของเนื้อหาในแต่ละระดับชั้นให้มีการเชื่อมโยงความรู้กับ กระบวนการเรียนรู้ และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาความคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็น ผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะที่สำคัญ ทั้งทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะใน ศตวรรษที่ 21 ในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สามารถแก้ปัญหาอย่าง เป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหลากหลายและประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 นี้ ได้ปรับปรุงเพื่อให้ มีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกันภายในสาระการเรียนรู้เดียวกัน และระหว่างสาระการเรียนรู้ในกลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ตลอดจนการเชื่อมโยงเนื้อหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์กับคณิตศาสตร์ด้วย นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงเพื่อให้มีความทันสมัยต่อการเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าของวิทยาการต่าง ๆ ให้ ทัดเทียมกับนานาชาติ ซึ่งสรุปได้ดังแผนภาพ สรุปหลักสูตรฯ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


๒ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้ อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง ป.6 1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะการอธิบายและ ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน การแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้แก้ปัญหา ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เหตุผลเชิงตรรกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรือ เงื่อนไข ที่ครอบคลุมทุกกรณีมาใช้พิจารณาในการ แก้ปัญหา แนวคิดของการทำงานแบบวนซ้ำ และเงื่อนไข การพิจารณากระบวนการทำงานที่มีการทำงานแบบ วนซ้ำหรือเงื่อนไขเป็นวิธีการที่จะช่วยให้การออกแบบ วิธีการแก้ปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างปัญหา เช่น การค้นหาเลขหน้าที่ต้องการให้ เร็วที่สุด การทายเลข 1-1,000,000 โดยตอบให้ถูก ภายใน 20 คำถาม การคำนวณเวลาในการเดินทาง โดยคำนึงถึงระยะทาง เวลาจุดหยุดพัก 2.ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่าง ง่ายเพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรมและ แก้ไข การออกแบบโปรแกรมสามารถทำได้โดยเขียน เป็นข้อความหรือผังงาน การออกแบบและเขียนโปรแกรมที่มีการใช้ตัวแปร การวนซ้ำ การตรวจสอบเงื่อนไข หากมีข้อผิดพลาดให้ตรวจสอบการทำงานทีละคำสั่ง เมื่อพบจุดที่ทำให้ผลลัพธ์ไม่ถูกต้อง ให้ทำการแก้ไข จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง การฝึกตรวจหาข้อผิดพลาดจากโปรแกรมของผู้อื่น จะช่วยพัฒนาทักษะการหาสาเหตุของปัญหาได้ดี ยิ่งขึ้น ตัวอย่างโปรแกรม เช่น โปรแกรมเกม โปรแกรมหา ค่า ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี


๓ 3.ใช้อินเทอร์เน็ตในกรค้นหาข้อมูล อย่างมีประสิทธิภาพ การค้นหาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการค้นหาข้อมูล ได้ตรงตามความต้องการในเวลาที่รวดเร็วจาก แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายแหล่ง และข้อมูลที่มีความ สอดคล้องกัน การใช้เทคนิคการค้นหาขั้นสูง เช่น การใช้ตัว ดำเนินการการระบุรูปแบบของข้อมูลหรือชนิดของไฟล์ การจัดลำดับผลลัพธ์จากการค้นหาของโปรแกรม ค้นหา การเรียบเรียง สรุปสาระสำคัญ (บูรณาการกับวิชา ภาษาไทย) 4.ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกัน อย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของ ตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้ง ผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่ เหมาะสม อันตรายจากการใช้งานและอาชญากรรมทาง อินเทอร์เน็ต แนวทางในการป้องกัน วิธีกำหนดรหัสผ่าน การกำหนดสิทธิ์การใช้งาน (สิทธิ์ในการเข้าถึง) แนวทางการตรวจสอบและป้องกันมัลแวร์ อันตรายจากการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่อยู่บน อินเทอร์เน็ต


๔ คำอธิบายรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ศึกษาและฝึกทักษะเกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่ พบในชีวิตประจำวัน ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหา ข้อผิดพลาดของโปรแกรมและแก้ไข ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้อง เมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม ตัวชี้วัด ว. 4.2 เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างง่าย เพื่อแก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน ตรวจหาข้อผิดพลาด ของโปรแกรมและแก้ไข 3. ใช้อินเทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเคารพใน สิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งหมด 4 ตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา


๕ รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา ว16101 จำนวน 40 ชั่วโมง/ปี หน่วยการเรียนรู้ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด จำนวนชั่วโมง 1 ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน - 1 2 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ว 4.2 ป.6/1 1 3 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ตามล่าหาสมบัติ ว 4.2 ป.6/1 1 4 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ตราชั่งแสนกล ว 4.2 ป.6/1 1 5 รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ภารกิจพิชิตฝั่งแม่น้ำ ว 4.2 ป.6/1 2 6 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ว 4.2 ป.6/4 1 7 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมิดหรือไม่ ถามใจเธอดู ว 4.2 ป.6/4 1 8 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน รายงานผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ว 4.2 ป.6/4 1 9 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมิดลิขสิทธิ์ ละเมิดความเป็นส่วนตัว ว 4.2 ป.6/4 1 10 เดินตามเส้น เล่นตามสคริปต์ ว 4.2 ป.6/1-2 2 11 เดินตามเส้น เล่นตามสคริปต์ ตอน เจ้าจ๋อนักคิด ว 4.2 ป.6/1-2 1 12 สิงสยอง สำรองอิ่ม ว 4.2 ป.6/4 1 13 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน คลาวด์แอนด์คอม ว 4.2 ป.6/4 1 14 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน สำรองไว้ก่อน ว 4.2 ป.6/4 1 15 สิงสยอง สำรองอิ่ม ตอน กำหนดสิทธิ์ ว 4.2 ป.6/4 1 16 ค้างคาวกินกล้วย ว 4.2 ป.6/1-2 1 17 ค้างคาวกินกล้วย ตอน โค้ดไม่ดีเลยมีบัก ว 4.2 ป.6/1-2 1 18 ค้างคาวกินกล้วย ตอน กระต่ายหมายจันทร์ ว 4.2 ป.6/1-2 1 ทดสอบกลางปี ว 4.2 ป.6/1-4 1 19 ค้างคาวกินกล้วย ตอน หนูน้อยหมวกแดงเก็บแอปเปิล ว 4.2 ป.6/1-2 2 20 เรื่องวุ่น ๆ หนังสือรุ่นออนไลน์ ว 4.2 ป.6/4 2 21 เรื่องวุ่น ๆ หนังสือรุ่นออนไลน์ ตอน ทำงานร่วมกัน ว 4.2 ป.6/4 1 22 รวบรวม ร่วมแรง จัดแจงข้อมูล ว 4.2 ป.6/4 1 23 รวบรวม ร่วมแรง จัดแจงข้อมูล ตอน กลั่นกรองข้อมูล ว 4.2 ป.6/4 2 24 รวบรวม ร่วมแรง จัดแจงข้อมูล ตอน โปรแกรมจัดให้ ว 4.2 ป.6/4 1 โครงสร้างรายวิชา


๖ รายวิชาวิทยาศาสตร์ (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รหัสวิชา ว16101 จำนวน 40 ชั่วโมง/ปี หน่วยการเรียนรู้ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด จำนวนชั่วโมง 25 รวบรวม ร่วมแรง จัดแจงข้อมูล ตอน ทัศนศึกษา ว 4.2 ป.6/4 1 26 น้ำนองเต็มตลิ่ง ค้นความจริงให้กระจ่าง ว 4.2 ป.6/3 2 27 น้ำนองเต็มตลิ่ง ค้นความจริงให้กระจ่าง ตอน ชานมไข่มุก ว 4.2 ป.6/3 1 28 น้ำนองเต็มตลิ่ง ค้นความจริงให้กระจ่าง ตอน วัตถุปริศนา ว 4.2 ป.6/3 1 29 ลงเรือลำใหญ่ ท่องไปในโลกกว้าง ว 4.2 ป.6/4 1 30 ลงเรือลำใหญ่ ท่องไปในโลกกว้าง ตอน ปลอดภัยไว้ก่อน ว 4.2 ป.6/4 1 31 ลงเรือลำใหญ่ ท่องไปในโลกกว้าง ตอน ใช้งานสื่อสังคมอย่างปลอดภัย ว 4.2 ป.6/4 2 สอบปลายปี ว 4.2 ป.6/1-4 1 รวม 1 มฐ. 4 ตชว. 40 ชั่วโมง โครงสร้างรายวิชา (ต่อ)


๗ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง ปฐมนิเทศและข้อตกลงในการเรียน เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด - 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. มีความรู้ความเข้าใจแนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (เทคโนโลยี) และการวัดและประเมินผลวิชาวิทยาศาสตร์ 2. ชี้แจงเจตคติที่มีต่อวิทยาศาสตร์ได้ 3. สื่อสารและนำความรู้ความเข้าใจเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ การปฐมนิเทศเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างครูกับนักเรียน เป็นการตกลงกันใน เบื้องต้นก่อนที่จะเริ่มการเรียนการสอน ครูได้รู้จักนักเรียนดียิ่งขึ้น รับทราบความต้องการ ความรู้สึก และเจต คติต่อวิชาที่เรียน ในขณะเดียวกันนักเรียนได้ทราบความต้องการของครู แนวทางในการจัดการเรียนการสอน และการวัดและประเมินผล สิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวจะนำไปสู่การเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ครูสามารถจัด กิจกรรมการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้นักเรียนคลายความวิตกกังวล สามารถเรียนได้อย่างมี ความสุข อันจะส่งผลให้นักเรียนประสบความสำเร็จบรรลุตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ 4. สาระการเรียนรู้ การปฐมนิเทศ – แนวทางการจัดการเรียนรู้รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) – เจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ – การวัดและประเมินผลวิชาวิทยาศาสตร์ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 6. ชิ้นงานหรือภาระงาน - 7. กิจกรรมการเรียนรู้


๘ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูแนะนำตนเองแล้วให้นักเรียนในห้องเรียนแนะนำตนเองทุกคน 2. ครูอาจให้นักเรียนแนะนำทีละกลุ่มตัวอักษร หรือตามลำดับหมายเลขประจำตัว หรือตาม แถวที่นั่ง ตามความเหมาะสม 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูอธิบายข้อตกลงในการเรียนรายวิชาพื้นฐาน รวมถึงคำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน โครงสร้าง รายวิชาพื้นฐาน และเนื้อหาที่ต้องเรียนรู้ในรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ว่ามีอะไรบ้าง 2. ครูถามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับขั้นตอนการรีดชุดนักเรียน 3. ให้นักเรียนอภิปรายร่วมกันว่า การเรียนด้วยวิธีการ ให้นักเรียนค้นคว้าด้วยตนเอง จากการ ทดลองและปฏิบัติจริงเหมือนนักวิทยาศาสตร์ นักเรียนคิดว่ามีประโยชน์หรือไม่ 4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามปัญหาเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน 5. ครูแนะนำวิธีการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ว่านักเรียนมีวิธีการเรียนรู้หลายแบบ เช่น – ลงมือปฏิบัติกิจกรรมที่บ้านและที่โรงเรียน – ค้นข้อมูลจากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ – อภิปรายกลุ่มย่อย – แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 6. ครูถามความคิดเห็นของนักเรียนเกี่ยวกับการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ว่า การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ให้ประสบความสำเร็จต้องมีลักษณะนิสัยอย่างไร 7. ครูให้นักเรียนร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็น (แนวคำตอบ 1. ช่างสังเกต เพราะ การสังเกตทำให้ค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ 2. อยากรู้อยากเห็น เพราะการเป็นคนอยาก รู้อยากเห็น ช่างคิดช่างสงสัย มักคิดตั้งคำถามเพื่อค้นหาคำตอบ ลักษณะนิสัยแบบนี้นำไปสู่การค้นพบความรู้ ใหม่เสมอ 3. มีเหตุผล เพราะความรู้ทางวิทยาศาสตร์ต้องอธิบายด้วยเหตุและผล เมื่อได้ความรู้ใหม่ต้องอธิบาย ได้ว่าผลที่ได้เกิดจากสาเหตุใด เมื่อทราบสาเหตุแล้วก็อธิบายได้ว่าผลเป็นอย่างไรโดยเชื่อในหลักฐานที่สนับสนุน 4. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพราะผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์เป็นผู้ที่อยากคิดอยากทำในสิ่งใหม่ ๆ อยู่ เสมอ ซึ่งนำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ได้ 5. มีความพยายามและความอดทน เพราะผลของคำตอบไม่ใช่ได้มา โดยการค้นคว้าและทดลองเพียงครั้งเดียว แต่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนในการผ่านอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้ได้คำตอบ) 8. ครูแนะนำวิธีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของนักเรียน ซึ่งมีอัตราส่วนคะแนน ดังนี้ (1) การวัดและประเมินผลด้านความรู้ (K) 60 คะแนน สอบกลางปี (ตามกำหนดการของโรงเรียน) 30 คะแนน สอบปลายปี (ตามกำหนดการของโรงเรียน) 30 คะแนน (2) การวัดและประเมินผลด้านทักษะ/กระบวนการ (P) 30 คะแนน – การประเมินการสังเกต – การประเมินการสำรวจ


๙ – การประเมินการสืบค้นข้อมูล – การประเมินโครงงานวิทยาศาสตร์ – การประเมินแฟ้มสะสมผลงาน – การประเมินด้านทักษะ/กระบวนการ – การประเมินด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน (3) การวัดและประเมินผลด้านคุณธรรม จริยธรรมและจิตวิทยาศาสตร์ (A) 10 คะแนน – การประเมินด้านเจตคติทางวิทยาศาสตร์ 10 คะแนน คะแนนรวม 100 คะแนน 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เจต คติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ และการวัดและประเมินผลวิชาวิทยาศาสตร์ 2. ครูมอบหมายให้นักเรียนไปศึกษาค้นคว้าเนื้อหาของบทเรียนชั่วโมงหน้า เพื่อจัดการเรียนรู้ ครั้งต่อไป โดยให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าล่วงหน้าในหัวข้อนักเรียนมีวิธีการรีดชุดนักเรียนอย่างไร โดยใช้ใบงาน สังเกตก่อนเรียน 1 ที่ครูจัดเตรียมไว้ให้ประกอบการศึกษาค้นคว้า 3. ครูอธิบายขั้นตอนการปฏิบัติกิจกรรมและมอบหมายให้นักเรียนไปปฏิบัติกิจกรรมที่บ้าน พร้อมทั้งให้นักเรียนเตรียมประเด็นคำถามที่สงสัยมาอย่างน้อยคนละ 1 คำถาม เพื่อนำมาอภิปรายร่วมกันใน ห้องเรียนครั้งต่อไป 7. กระบวนการวัดและประเมินผล การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก กิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม ของนักเรียน การประเมินจากการทำกิจกรรม ระดับคะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง รหัส สิ่งที่ประเมิน ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ


๑๐ 8. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นายยุทธภูมิ ดวงสุภา แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางกรวรรณ นวนมะ) ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๑๑ 9. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นายยุทธภูมิ ดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๑๒ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา 2. นักเรียนสามารถใช้ผังงานแสดงขั้นตอนในการทำงานหรือการแก้ปัญหาได้ 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ การเปรียบเทียบสิ่งของสามารถทำได้หลายวิธี เช่น เปรียบเทียบทีละชิ้น หรือแบ่งสิ่งของออกเป็นกลุ่ม แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา ได้เช่นเดียวกัน การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน (flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานที่ ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/ จบ การปฏิบัติงาน การตัดสินใจ ทิศทาง 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 2. การเขียนผังงานเพื่อแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา


๑๓ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่อง การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคําถามในสำรวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้ คำถามอื่น ๆ เช่น - ส้ม 2 ผล กับส้มโอ 2 ผล อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน (ส้มโอ) - มะพร้าว 1 ผล กับ ส้มโอ 1 ผล อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน (อาจต้องชั่งน้ำหนักเพื่อ เปรียบเทียบ) 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูนำอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 1 รับน้องใหม่หัวใจปิ้ง ๆ หน้า 3 – 14 (ถึง ภาพที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวัญและแกะกระดาษ เพื่อนำยางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิด รูป หรือคลิปเกี่ยวกับเครื่องชั่ง 2 แขน ให้นักเรียนดู (อาจไม่ต้องให้ดู เนื้อหาทั้งหมด ในคลิป และเลือกเฉพาะ การแสดงตัวอย่างในการชั่ง) ตัวอย่างคำถามระหว่างการศึกษาเนื้อหา เช่น - เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจึงค้างอยู่ที่เดิม (เพราะผู้เล่นน้ำหนักตัวต่างกันมาก) - มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร (ให้คนน้ำหนักใกล้เคียงกันเล่นด้วยกัน) - ถ้าต้องแกะกล่องของขวัญทั้งหมดเพื่อค้นหายางลบต้องแกะทั้งหมดกี่ครั้ง - ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาวาดแผนภาพตามวิธีการค้นหากล่อง ที่ไม่มียางลบของก้อย โป้ง และป้อม ที่แตกต่างจากภาพที่อธิบายในหนังสือเรียน 2. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน หน้า 14 (เริ่มที่บทสนทนาด้านล่าง) ถึงหน้า 16 (ถึง ภาพที่คุณครูอธิบายสัญลักษณ์ที่ใช้ ในการเขียนผังงาน) จากนั้นครูยกตัวอย่างการเขียนผังงานจากสถานการณ์ ในชีวิตประจำวันโดยให้นักเรียนช่วยกันเขียนเป็น รหัสลำลองก่อน เช่น ซื้อขนม (ควรใช้ขั้นตอนที่กระชับเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจได้ง่าย) ดังตัวอย่าง 1. เริ่มต้น 2. เลือกขนม 3. ตรวจสอบว่ามีเงินเพียงพอหรือไม่ 3.1 ถ้าจริง ซื้อขนม 3.2 ถ้าเท็จ ย้อนกลับไปทำ ข้อ 2. 4. จ่ายเงิน 5. จบ


๑๔ 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขั้นตอนจากรหัสลำลอง และครูช่วยแนะนำโดยตั้งคําถาม เช่น - การเริ่มต้น ควรใช้สัญลักษณ์ใด - การแสดงให้เห็นถึงลำดับของการทำงานควรใช้สัญลักษณ์ใด - สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2 ทางเลือก ทางเลือกในกรณีที่เป็นจริง กับทางเลือกในกรณีที่เป็นเท็จ) - เขียนข้อความ “จริง” และ “เท็จ” ไว้ที่ตำแหน่งใดบ้าง - การจ่ายเงินใช้สัญลักษณ์อะไร - เมื่อจบขั้นตอนการทำงานใช้สัญลักษณ์ใด ตัวอย่าง ผังงานที่สอดคล้องกับกิจกรรม “ซื้อขนม” 4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration) ครูให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา และร่วมกันอภิปรายความ คิดเห็น ประเด็น การอภิปราย เช่น - นักเรียนคิดว่าการอธิบายวิธีการชั่งถุงขนมด้วยการเล่าปากเปล่ากับการอธิบายด้วย การเขียนผังงานมีข้อดีข้อเสียต่างกัน อย่างไร การเล่าอาจไม่เห็นรายละเอียดและขั้นตอนที่เป็นลำดับ ชัดเจน และการเขียนเป็นผังงานสามารถตรวจสอบข้อผิดพลาด ได้ง่ายกว่า) - การเขียนผังงานมีความยาก-ง่าย อย่างไร จุดใดที่ยาก จุดใดที่ง่าย และจะมีวิธีเขียนให้ เข้าใจง่ายๆ ได้อย่างไร (เขียนข้อความให้กระชับ มีลำดับการทำงานที่ชัดเจน) 5. ขั้นประเมิน (evaluation) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด ใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ 2. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ แก้ไขอย่างไรบ้าง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ กิจกรรม และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์


๑๕ 7. กระบวนการวัดและประเมินผล การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก กิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม ของนักเรียน การประเมินจากการทำกิจกรรม ระดับคะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง รหัส สิ่งที่ประเมิน ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6191 - เรียนรู้ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192 - การเปรียบเทียบน้ำหนัก oho.ipst.ac.th/im/6193


๑๖ 9. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นายยุทธภูมิ ดวงสุภา แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางกรวรรณ นวนมะ) ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๑๗ 10. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นายยุทธภูมิ ดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๑๘ แนวคําตอบแบบฝึกหัดท้ายบท ข้อ 1. อิ่มจะหยุดอยู่ที่ช่อง E2 ข้อ 2. นักเรียนจะไม่ต้องทำขั้นตอน รับเงินทอนและตรวจนับ ข้อ 3. กระปุกออมสิน E หนักที่สุด


๑๙ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ตามล่าหาสมบัติ เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา 2. นักเรียนสามารถใช้ผังงานแสดงขั้นตอนในการทำงานหรือการแก้ปัญหาได้ 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ การเปรียบเทียบสิ่งของสามารถทำได้หลายวิธี เช่น เปรียบเทียบทีละชิ้น หรือแบ่งสิ่งของออกเป็นกลุ่ม แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา ได้เช่นเดียวกัน การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน (flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานที่ ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/ จบ การปฏิบัติงาน การตัดสินใจ ทิศทาง 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 2. การเขียนผังงานเพื่อแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา


๒๐ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 1.1 ตามล่าหาสมบัติ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคําถามในสำรวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้ คำถามอื่น ๆ เช่น - สำลี 1 กิโลกรัม กับ ผ้าพันแผล 1 กิโลกรัม อะไรมีน้ำหนักมากกว่ากัน (หนักเท่ากัน) - นักเรียนรู้จักไม้กระดกหรือไม่ มีลักษณะอย่างไร - นักเรียนเคยเล่นไม้กระดกหรือไม่ เวลาเล่นสามารถสลับขึ้นลงกับเพื่อนได้หรือไม่ - นักเรียนคิดว่าถ้าไม้กระดกไม่สามารถสลับ ขึ้นลงได้เป็นเพราะอะไร (เสีย จังหวะไม่พอดี) ไม้กระดกที่มีผู้เล่น 2 คน ถ้าคนหนึ่งผอมมากและอีกคนน้ำหนัก เยอะมากจะสลับขึ้นลงได้สะดวกหรือไม่เพราะ อะไร (สลับขึ้นลงได้ยาก เพราะด้านที่มีคนน้ำหนักเบาจะยกขึ้นตลอดและไม่มีแรงกดกระดานลงด้านล่าง) 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูนำอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 1 รับน้องใหม่หัวใจปิ้ง ๆ หน้า 3 – 14 (ถึง ภาพที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวัญและแกะกระดาษ เพื่อนำยางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิด รูป หรือคลิปเกี่ยวกับเครื่องชั่ง 2 แขน ให้นักเรียนดู (อาจไม่ต้องให้ดู เนื้อหาทั้งหมด ในคลิป และเลือกเฉพาะ การแสดงตัวอย่างในการชั่ง) ตัวอย่างคำถามระหว่างการศึกษาเนื้อหา เช่น - เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจึงค้างอยู่ที่เดิม (เพราะผู้เล่นน้ำหนักตัวต่างกันมาก) - มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร (ให้คนน้ำหนักใกล้เคียงกันเล่นด้วยกัน) - ถ้าต้องแกะกล่องของขวัญทั้งหมดเพื่อค้นหายางลบต้องแกะทั้งหมดกี่ครั้ง - ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาวาดแผนภาพตามวิธีการค้นหากล่อง ที่ไม่มียางลบของก้อย โป้ง และป้อม ที่แตกต่างจากภาพที่อธิบายในหนังสือเรียน 2. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน หน้า 14 (เริ่มที่บทสนทนาด้านล่าง) ถึงหน้า 16 (ถึง ภาพที่คุณครูอธิบายสัญลักษณ์ที่ใช้ ในการเขียนผังงาน) จากนั้นครูยกตัวอย่างการเขียนผังงานจากสถานการณ์ ในชีวิตประจำวันโดยให้นักเรียนช่วยกันเขียนเป็น รหัสลำลองก่อน เช่น ซื้อขนม (ควรใช้ขั้นตอนที่กระชับเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจได้ง่าย) ดังตัวอย่าง 1. เริ่มต้น 2. เลือกขนม 3. ตรวจสอบว่ามีเงินเพียงพอหรือไม่


๒๑ 3.1 ถ้าจริง ซื้อขนม 3.2 ถ้าเท็จ ย้อนกลับไปทำ ข้อ 2. 4. จ่ายเงิน 5. จบ 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขั้นตอนจากรหัสลำลอง และครูช่วยแนะนำโดยตั้งคําถาม เช่น - การเริ่มต้น ควรใช้สัญลักษณ์ใด - การแสดงให้เห็นถึงลำดับของการทำงานควรใช้สัญลักษณ์ใด - สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2 ทางเลือก ทางเลือกในกรณีที่เป็นจริง กับทางเลือกในกรณีที่เป็นเท็จ) - เขียนข้อความ “จริง” และ “เท็จ” ไว้ที่ตำแหน่งใดบ้าง - การจ่ายเงินใช้สัญลักษณ์อะไร - เมื่อจบขั้นตอนการทำงานใช้สัญลักษณ์ใด ตัวอย่าง ผังงานที่สอดคล้องกับกิจกรรม “ซื้อขนม” 2. ครูนำนักเรียนอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 21-26 โดยในส่วนของแบบฝึกหัด ท้ายบทอาจให้นักเรียนทำในชั่วโมงที่มีการสอนและอภิปรายความรู้ร่วมกัน 3. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 1.1 เรื่อง ตามล่าหาสมบัติ โดยครูอธิบายสถานการณ์ใน แต่ละกิจกรรมให้นักเรียน เข้าใจก่อนลงมือทำ จากนั้นให้นักเรียนออกมานำเสนอคำตอบ และแนวคิดในการหา คำตอบ จากนั้นร่วมกันอภิปรายความคิดเห็น ในกรณีที่คําตอบแตกต่างกัน ในกรณีที่นักเรียนตอบเหมือนกันครู อาจให้นักเรียนช่วยกันนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาแบบอื่น ๆ ที่แตกต่าง 4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration) 1. ครูนำนักเรียนอภิปรายสรุปความรู้ที่ได้รับ ในประเด็นต่อไปนี้ - นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (รู้จักตาชั่งสองแขน การเขียนคำสั่ง ลำลอง สัญลักษณ์ในผังงาน การเขียน ผังงาน การอธิบายวิธีการแก้ปัญหา วิธีการชั่งของแบบต่าง ๆ)


๒๒ - นักเรียนสามารถบอกขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบ ใดบ้าง (เขียนเป็นความเรียง เขียนรหัสลำลอง เขียนผังงาน) - การเขียนวิธีการทำงานหรือการแก้ปัญหาในรูปของรหัสลำลองหรือผังงานมีข้อดี อย่างไร (เข้าใจง่าย เห็นลำดับที่ชัดเจน ค้นหา ข้อผิดพลาดได้ง่าย) - นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอย่างไร (เขียนลำดับการทำกิจกรรม แสดงวิธีการแก้ปัญหาให้ชัดเจน) 5. ขั้นประเมิน (evaluation) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด ใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ 2. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ แก้ไขอย่างไรบ้าง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ กิจกรรม และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ 7. กระบวนการวัดและประเมินผล การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก กิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม ของนักเรียน การประเมินจากการทำกิจกรรม ระดับคะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง รหัส สิ่งที่ประเมิน ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ


๒๓ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6191 - เรียนรู้ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192 - การเปรียบเทียบน้ำหนัก oho.ipst.ac.th/im/6193 9. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นายยุทธภูมิ ดวงสุภา แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางกรวรรณ นวนมะ) ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๒๔ 10. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นายยุทธภูมิ ดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๒๕ แนวคําตอบแบบฝึกหัดท้ายบท ข้อ 1. อิ่มจะหยุดอยู่ที่ช่อง E2 ข้อ 2. นักเรียนจะไม่ต้องทำขั้นตอน รับเงินทอนและตรวจนับ ข้อ 3. กระปุกออมสิน E หนักที่สุด


๒๖ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ตราชั่งแสนกล เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา 2. นักเรียนสามารถใช้ผังงานแสดงขั้นตอนในการทำงานหรือการแก้ปัญหาได้ 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ การเปรียบเทียบสิ่งของสามารถทำได้หลายวิธี เช่น เปรียบเทียบทีละชิ้น หรือแบ่งสิ่งของออกเป็นกลุ่ม แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา ได้เช่นเดียวกัน การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน (flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานที่ ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/ จบ การปฏิบัติงาน การตัดสินใจ ทิศทาง 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 2. การเขียนผังงานเพื่อแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา


๒๗ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 1.2 ตราชั่งแสนกล 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมโดยให้นักเรียนตอบคําถามในสำรวจความรู้ก่อนเรียน และอาจใช้ คำถามอื่น ๆ เช่น - นักเรียนรู้จักไม้กระดกหรือไม่ มีลักษณะอย่างไร - นักเรียนเคยเล่นไม้กระดกหรือไม่ เวลาเล่นสามารถสลับขึ้นลงกับเพื่อนได้หรือไม่ - นักเรียนคิดว่าถ้าไม้กระดกไม่สามารถสลับ ขึ้นลงได้เป็นเพราะอะไร (เสีย จังหวะไม่พอดี) ไม้กระดกที่มีผู้เล่น 2 คน ถ้าคนหนึ่งผอมมากและอีกคนน้ำหนัก เยอะมากจะสลับขึ้นลงได้สะดวกหรือไม่เพราะ อะไร (สลับขึ้นลงได้ยาก เพราะด้านที่มีคนน้ำหนักเบาจะยกขึ้นตลอดและไม่มีแรงกดกระดานลงด้านล่าง) 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูนำอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 1 รับน้องใหม่หัวใจปิ้ง ๆ หน้า 3 – 14 (ถึง ภาพที่เด็ก ๆ ช่วยกันชั่งของขวัญและแกะกระดาษ เพื่อนำยางลบออกมา) โดยระหว่างการอภิปราย ครูอาจเปิด รูป หรือคลิปเกี่ยวกับเครื่องชั่ง 2 แขน ให้นักเรียนดู (อาจไม่ต้องให้ดู เนื้อหาทั้งหมด ในคลิป และเลือกเฉพาะ การแสดงตัวอย่างในการชั่ง) ตัวอย่างคำถามระหว่างการศึกษาเนื้อหา เช่น - เพราะอะไรในตอนแรกไม้กระดกจึงค้างอยู่ที่เดิม (เพราะผู้เล่นน้ำหนักตัวต่างกันมาก) - มีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร (ให้คนน้ำหนักใกล้เคียงกันเล่นด้วยกัน) - ถ้าต้องแกะกล่องของขวัญทั้งหมดเพื่อค้นหายางลบต้องแกะทั้งหมดกี่ครั้ง - ให้นักเรียนส่งตัวแทนออกมาวาดแผนภาพตามวิธีการค้นหากล่อง ที่ไม่มียางลบของก้อย โป้ง และป้อม ที่แตกต่างจากภาพที่อธิบายในหนังสือเรียน 2. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในบทเรียน หน้า 14 (เริ่มที่บทสนทนาด้านล่าง) ถึงหน้า 16 (ถึง ภาพที่คุณครูอธิบายสัญลักษณ์ที่ใช้ ในการเขียนผังงาน) จากนั้นครูยกตัวอย่างการเขียนผังงานจากสถานการณ์ ในชีวิตประจำวันโดยให้นักเรียนช่วยกันเขียนเป็น รหัสลำลองก่อน เช่น ซื้อขนม (ควรใช้ขั้นตอนที่กระชับเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจได้ง่าย) ดังตัวอย่าง 1. เริ่มต้น 2. เลือกขนม 3. ตรวจสอบว่ามีเงินเพียงพอหรือไม่ 3.1 ถ้าจริง ซื้อขนม


๒๘ 3.2 ถ้าเท็จ ย้อนกลับไปทำ ข้อ 2. 4. จ่ายเงิน 5. จบ 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขั้นตอนจากรหัสลำลอง และครูช่วยแนะนำโดยตั้งคําถาม เช่น - การเริ่มต้น ควรใช้สัญลักษณ์ใด - การแสดงให้เห็นถึงลำดับของการทำงานควรใช้สัญลักษณ์ใด - สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2 ทางเลือก ทางเลือกในกรณีที่เป็นจริง กับทางเลือกในกรณีที่เป็นเท็จ) - เขียนข้อความ “จริง” และ “เท็จ” ไว้ที่ตำแหน่งใดบ้าง - การจ่ายเงินใช้สัญลักษณ์อะไร - เมื่อจบขั้นตอนการทำงานใช้สัญลักษณ์ใด ตัวอย่าง ผังงานที่สอดคล้องกับกิจกรรม “ซื้อขนม” 2. ครูนำนักเรียนอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 21-26 โดยในส่วนของแบบฝึกหัด ท้ายบทอาจให้นักเรียนทำในชั่วโมงที่มีการสอนและอภิปรายความรู้ร่วมกัน 3. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 1.2 เรื่อง ตราชั่งแสนกล โดยครูอธิบายสถานการณ์ใน แต่ละกิจกรรมให้นักเรียน เข้าใจก่อนลงมือทำ จากนั้นให้นักเรียนออกมานำเสนอคำตอบ และแนวคิดในการหา คำตอบ จากนั้นร่วมกันอภิปรายความคิดเห็น ในกรณีที่คําตอบแตกต่างกัน ในกรณีที่นักเรียนตอบเหมือนกันครู อาจให้นักเรียนช่วยกันนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาแบบอื่น ๆ ที่แตกต่าง 4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration) 1. ครูนำนักเรียนอภิปรายสรุปความรู้ที่ได้รับ ในประเด็นต่อไปนี้ - นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (รู้จักตาชั่งสองแขน การเขียนคำสั่ง ลำลอง สัญลักษณ์ในผังงาน การเขียน ผังงาน การอธิบายวิธีการแก้ปัญหา วิธีการชั่งของแบบต่าง ๆ)


๒๙ - นักเรียนสามารถบอกขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบ ใดบ้าง (เขียนเป็นความเรียง เขียนรหัสลำลอง เขียนผังงาน) - การเขียนวิธีการทำงานหรือการแก้ปัญหาในรูปของรหัสลำลองหรือผังงานมีข้อดี อย่างไร (เข้าใจง่าย เห็นลำดับที่ชัดเจน ค้นหา ข้อผิดพลาดได้ง่าย) - นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอย่างไร (เขียนลำดับการทำกิจกรรม แสดงวิธีการแก้ปัญหาให้ชัดเจน) 5. ขั้นประเมิน (evaluation) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด ใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ 2. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ แก้ไขอย่างไรบ้าง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ กิจกรรม และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ 7. กระบวนการวัดและประเมินผล การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก กิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม ของนักเรียน การประเมินจากการทำกิจกรรม ระดับคะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง รหัส สิ่งที่ประเมิน ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ


๓๐ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6191 - เรียนรู้ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192 - การเปรียบเทียบน้ำหนัก oho.ipst.ac.th/im/6193 9. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นายยุทธภูมิ ดวงสุภา แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางกรวรรณ นวนมะ) ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๓๑ 10. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นายยุทธภูมิ ดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๓๒ แนวคําตอบแบบฝึกหัดท้ายบท ข้อ 1. อิ่มจะหยุดอยู่ที่ช่อง E2 ข้อ 2. นักเรียนจะไม่ต้องทำขั้นตอน รับเงินทอนและตรวจนับ ข้อ 3. กระปุกออมสิน E หนักที่สุด


๓๓ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง รับน้องใหม่ หัวใจปิ๊งๆ ตอน ภารกิจพิชิตฝั่งแม่น้ำ เวลา 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.6/1 ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการอธิบายและออกแบบวิธีการแก้ปัญหาที่พบใน ชีวิตประจำวัน 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา 2. นักเรียนสามารถใช้ผังงานแสดงขั้นตอนในการทำงานหรือการแก้ปัญหาได้ 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ การเปรียบเทียบสิ่งของสามารถทำได้หลายวิธี เช่น เปรียบเทียบทีละชิ้น หรือแบ่งสิ่งของออกเป็นกลุ่ม แล้วนำมาเปรียบเทียบกัน วิธีการแก้ปัญหาหนึ่ง ๆ มีได้หลายวิธี แต่ละวิธีอาจมีจำนวนขั้นตอนที่ไม่เท่ากัน แต่สามารถแก้ปัญหา ได้เช่นเดียวกัน การแสดงขั้นตอนในการแก้ปัญหาสามารถทำได้โดยเขียนรหัสลำลอง หรือเขียนผังงาน ผังงาน (flowchart) ใช้ออกแบบหรือวางแผนขั้นตอนการทำงาน ช่วยให้เข้าใจขั้นตอนและเห็นภาพการทำงานที่ ชัดเจนขึ้น และสามารถตรวจสอบ ย้อนกลับเมื่อพบข้อผิดพลาดในการทำงานได้ นอกจากนี้เราสามารถใช้ผัง งาน แสดงขั้นตอนการทำงานต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วย สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเขียน ผังงาน เช่น เริ่มต้น/ จบ การปฏิบัติงาน การตัดสินใจ ทิศทาง 4. สาระการเรียนรู้ 1. การใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 2. การเขียนผังงานเพื่อแสดงขั้นตอนการแก้ปัญหา


๓๔ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 1.3 ภารกิจพิชิตฝั่งแม่น้ำ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูทบทวนความรู้เดิมเกี่ยวกับการเขียนผังงานจากสถานการณ์ในชีวิตประจำวันโดยให้ นักเรียนช่วยกันเขียนเป็น รหัสลำลองก่อน เช่น ซื้อขนม (ควรใช้ขั้นตอนที่กระชับเพื่อให้ นักเรียนเข้าใจได้ง่าย) ดังตัวอย่าง 1. เริ่มต้น 2. เลือกขนม 3. ตรวจสอบว่ามีเงินเพียงพอหรือไม่ 3.1 ถ้าจริง ซื้อขนม 3.2 ถ้าเท็จ ย้อนกลับไปทำ ข้อ 2. 4. จ่ายเงิน 5. จบ 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูอธิบายเกี่ยวกับคำว่า “จริง” หรือ “เท็จ” ครูอาจยกตัวอย่าง โดยเชื่อมโยงกับ คำว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” โดยให้นักเรียน ตอบคำถามและกำหนดเงื่อนไขว่า ถ้าใช่ ให้พูดว่า “จริง” ถ้า ไม่ใช่ ให้พูดว่า เท็จ” - นักเรียนเรียนอยู่ชั้น ป.6 ใช่หรือไม่ - นักเรียนเป็นเด็กผู้หญิงใช่หรือไม่ - นักเรียนชอบทำงานบ้านใช่หรือไม่ - คุณครูเป็นคนน่ารักใช่หรือไม่ 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. จากนั้นครูทบทวนเกี่ยวกับสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนผังงาน และให้นักเรียนช่วยกันเขียนผัง งานบนกระดานโดยเทียบเคียงขั้นตอนจากรหัสลำลอง และครูช่วยแนะนำโดยตั้งคําถาม เช่น - การเริ่มต้น ควรใช้สัญลักษณ์ใด - การแสดงให้เห็นถึงลำดับของการทำงานควรใช้สัญลักษณ์ใด


๓๕ - สัญลักษณ์ที่ใช้ในขั้นตอนการเลือกขนมควรเป็นสัญลักษณ์ใด ขั้นตอนการตรวจสอบว่ามี เงินเพียงพอหรือไม่ ควรใช้สัญลักษณ์ใด สัญลักษณ์ที่เป็นการตัดสินใจ จะได้ทางเลือกที่ทาง อะไรบ้าง (2 ทางเลือก ทางเลือกในกรณีที่เป็นจริง กับทางเลือกในกรณีที่เป็นเท็จ) - เขียนข้อความ “จริง” และ “เท็จ” ไว้ที่ตำแหน่งใดบ้าง - การจ่ายเงินใช้สัญลักษณ์อะไร - เมื่อจบขั้นตอนการทำงานใช้สัญลักษณ์ใด ตัวอย่าง ผังงานที่สอดคล้องกับกิจกรรม “ซื้อขนม” 2. ครูนำนักเรียนอภิปรายเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 21-26 โดยในส่วนของแบบฝึกหัด ท้ายบทอาจให้นักเรียนทำในชั่วโมงที่มีการสอนและอภิปรายความรู้ร่วมกัน 3. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 1.3 เรื่อง ภารกิจพิชิตฝั่งแม่น้ำ โดยครูอธิบาย สถานการณ์ในแต่ละกิจกรรมให้นักเรียน เข้าใจก่อนลงมือทำ จากนั้นให้นักเรียนออกมานำเสนอคำตอบ และ แนวคิดในการหาคำตอบ จากนั้นร่วมกันอภิปรายความคิดเห็น ในกรณีที่คําตอบแตกต่างกัน ในกรณีที่นักเรียน ตอบเหมือนกันครูอาจให้นักเรียนช่วยกันนำเสนอวิธีการแก้ปัญหาแบบอื่น ๆ ที่แตกต่าง 4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration) 1. ครูนำนักเรียนอภิปรายสรุปความรู้ที่ได้รับ ในประเด็นต่อไปนี้ - นักเรียนได้รับความรู้อะไรจากการทำกิจกรรมนี้ (รู้จักตาชั่งสองแขน การเขียนคำสั่ง ลำลอง สัญลักษณ์ในผังงาน การเขียน ผังงาน การอธิบายวิธีการแก้ปัญหา วิธีการชั่งของแบบต่าง ๆ) - นักเรียนสามารถบอกขั้นตอนในการแก้ปัญหาหรือการทำงาน ต่าง ๆ ในรูปแบบ ใดบ้าง (เขียนเป็นความเรียง เขียนรหัสลำลอง เขียนผังงาน) - การเขียนวิธีการทำงานหรือการแก้ปัญหาในรูปของรหัสลำลองหรือผังงานมีข้อดี อย่างไร (เข้าใจง่าย เห็นลำดับที่ชัดเจน ค้นหา ข้อผิดพลาดได้ง่าย) - นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการแก้ปัญหาหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวันอย่างไร (เขียนลำดับการทำกิจกรรม แสดงวิธีการแก้ปัญหาให้ชัดเจน) 5. ขั้นประเมิน (evaluation) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด ใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ


๓๖ 2. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ แก้ไขอย่างไรบ้าง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ กิจกรรม และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ 7. กระบวนการวัดและประเมินผล การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก กิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม ของนักเรียน การประเมินจากการทำกิจกรรม ระดับคะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง รหัส สิ่งที่ประเมิน ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - แบบฝึกทักษะรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท. - ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6191 - เรียนรู้ผังงาน oho.ipst.ac.th/im/6192 - การเปรียบเทียบน้ำหนัก oho.ipst.ac.th/im/6193


๓๗ 9. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นายยุทธภูมิ ดวงสุภา แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางกรวรรณ นวนมะ) ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๓๘ 10. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นายยุทธภูมิ ดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๓๙ แนวคําตอบแบบฝึกหัดท้ายบท ข้อ 1. อิ่มจะหยุดอยู่ที่ช่อง E2 ข้อ 2. นักเรียนจะไม่ต้องทำขั้นตอน รับเงินทอนและตรวจนับ ข้อ 3. กระปุกออมสิน E หนักที่สุด


๔๐ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของ ผู้อื่น 2. นักเรียนสามารถบอกวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของผู้อื่นได้ 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหาใน ชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ หากต้องการนําภาพ ข้อความ หรือผลงานของผู้อื่นไปใช้เพื่อการศึกษา ควรบอกที่มาของข้อมูลเพื่อให้ เกียรติแก่เจ้าของข้อมูล การปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเองทำได้โดยใส่ชื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้ ชัดเจน การคัดลอก ผลงานผู้อื่นไปเป็นผลงานของตนเองเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมี ความผิดตามกฎหมาย การนําภาพหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ในที่สาธารณะหรือบนสื่อสังคมโดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็น การละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ไม่ควรบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาลเพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิ ของผู้ป่วย และอาจกีด ขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 4. สาระการเรียนรู้ 1. การละเมิดลิขสิทธิ์ 2. การปกป้องสิทธิ์ของตนเอง 3. การไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว


๔๑ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบงาน เรื่อง คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูทบทวนความรู้จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บทที่ 5 เรื่อง ไลฟ์สาระ โดยเล่าให้นักเรียนฟังแล้วตั้งคําถามให้นักเรียนอภิปราย ร่วมกันเกี่ยวกับการถ่ายทอดสด (Live) เช่น สถานการณ์การใด ควรถ่ายทอดสด สถานการณ์ใดที่ไม่ควร ถ่ายทอดสด และการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยมีข้อควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูนำอภิปรายโดยตั้งคำถามในประเด็นต่อไปนี้ - เคยมีผู้อื่นถ่ายภาพของนักเรียนแล้วนำไปโพสต์ในสื่อสังคมหรือไม่ ภาพนั้นเป็นภาพอะไร นักเรียนรู้สึกอย่างไร - นักเรียนคิดว่าเราสามารถโพสต์ภาพผู้อื่นบนสื่อสังคมได้หรือไม่ เพราะอะไร 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 2 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อนหน้า 30-38 จากนั้นครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติม เช่น - โป้งกับก้อยไปถ่ายรูปแมวที่ไหน (สวนสาธารณะ) - เพราะเหตุใดคุณพ่อจึงอนุญาตให้โป้งและก้อยอัปโหลดวิดีโอ น้องแมวบนสื่อสาธารณะได้ (เพราะไม่มีภาพโป้งและก้อย อยู่ในคลิปวิดีโอนั้น) - ก่อนถ่ายคลิปวิดีโอแมว โป้งและก้อยได้ขออนุญาตเจ้าของ แมวหรือไม่ (ขออนุญาต) 2. ครูชี้แจงการทำใบงาน เรื่อง คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน จากนั้นสุ่มนักเรียนมานำเสนอคำตอบ 4. ขั้นขยายความรู้ (elaboration) 1. ครูนำนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ที่ได้จากการำกิจกรรมในประเด็นต่อไปนี้ - ควรปฏิบัติอย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้เป็นการละเมิดสิทธิความ เป็นส่วนตัวของผู้อื่น - นักเรียนคิดว่าการเผยแพร่ภาพถ่ายของตนเองบนสื่อสังคม มีผลดีและผลเสียอย่างไร (ข้อดีหรือข้อเสียจะขึ้นอยู่กับภาพ นั้นว่าเป็นภาพเกี่ยวกับอะไร) 5. ขั้นประเมิน (evaluation) 1. ครูให้นักเรียนแต่ละคนพิจารณาว่า จากหัวข้อที่เรียนมาและการปฏิบัติกิจกรรม มีจุด ใดบ้างที่ยังไม่เข้าใจหรือยังมีข้อสงสัย ถ้ามี ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ


๔๒ 2. นักเรียนร่วมกันประเมินการปฏิบัติกิจกรรมกลุ่มว่ามีปัญหาหรืออุปสรรคใด และได้มีการ แก้ไขอย่างไรบ้าง 3. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการปฏิบัติ กิจกรรม และการนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ 7. กระบวนการวัดและประเมินผล การประเมินการเรียนรู้ของนักเรียนทำได้ ดังนี้ 1. ประเมินความรู้เดิมจากการอภิปรายในชั้นเรียน 2. ประเมินการเรียนรู้จากคำตอบของนักเรียนระหว่างการจัดการเรียนรู้และจากแบบบันทึก กิจกรรม 3. ประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 จากการทำกิจกรรม ของนักเรียน การประเมินจากการทำกิจกรรม ระดับคะแนน 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ควรปรับปรุง รหัส สิ่งที่ประเมิน ระดับคะแนน ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ S1 การสังเกต S8 การลงความเห็นจากข้อมูล S13 การตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุป ทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 C4 การสื่อสาร C5 ความร่วมมือ 8. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สสวท.


๔๓ 9. ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา/ผู้ที่ได้รับมอบหมาย ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ นายยุทธภูมิ ดวงสุภา แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ 4. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................. (นางกรวรรณ นวนมะ) ตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๔๔ 10. บันทึกผลหลังการสอน ด้านความรู้ ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์ ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี)) ปัญหา/อุปสรรค แนวทางการแก้ไข ลงชื่อ...............................................ครูผู้สอน (นายยุทธภูมิ ดวงสุภา) ตำแหน่ง ครู โรงเรียนจริมอนุสรณ์ 1 วันที่..........เดือน....................พ.ศ............


๔๕ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 เรื่อง คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อน ตอน ละเมิดหรือไม่ ถามใจเธอดู เวลา 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยุทธภูมิ ดวงสุภา 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตัวชี้วัด ป.6/4 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานร่วมกันอย่างปลอดภัยเข้าใจสิทธิและ หน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่เหมาะสม 2. จุดประสงค์การเรียนรู้ (ความรู้, ทักษะ, เจตคติ) 1. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของ ผู้อื่น 2. นักเรียนสามารถบอกวิธีปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเอง และเคารพสิทธิของผู้อื่นได้ 3. นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาวิทยาศาสตร์และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ 3. สาระสำคัญ หากต้องการนําภาพ ข้อความ หรือผลงานของผู้อื่นไปใช้เพื่อการศึกษา ควรบอกที่มาของข้อมูลเพื่อให้ เกียรติแก่เจ้าของข้อมูล การปกป้องสิทธิ์ในผลงานของตนเองทำได้โดยใส่ชื่อแสดงความเป็นเจ้าของให้ ชัดเจน การคัดลอก ผลงานผู้อื่นไปเป็นผลงานของตนเองเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งมี ความผิดตามกฎหมาย การนําภาพหรือข้อมูลของผู้อื่นไปเผยแพร่ในที่สาธารณะหรือบนสื่อสังคมโดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็น การละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น ไม่ควรบันทึกภาพหรือวิดีโอในสถานพยาบาลเพราะอาจเป็นการละเมิดสิทธิ ของผู้ป่วย และอาจกีด ขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ 4. สาระการเรียนรู้ 1. การละเมิดลิขสิทธิ์ 2. การปกป้องสิทธิ์ของตนเอง 3. การไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว


๔๖ 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. อยู่อย่างพอเพียง 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 5. ชิ้นงานหรือภาระงาน ใบกิจกรรมที่ 2.1 ละเมิดหรือไม่ ถามใจเธอดู 6. กิจกรรมการเรียนรู้ แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ดำเนินการเรียนการสอนดังต่อไปนี้ 1. ขั้นสร้างความสนใจ (engagement) 1. ครูทบทวนความรู้จากหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บทที่ 5 เรื่อง ไลฟ์สาระ โดยเล่าให้นักเรียนฟังแล้วตั้งคําถามให้นักเรียนอภิปราย ร่วมกันเกี่ยวกับการถ่ายทอดสด (Live) เช่น สถานการณ์การใด ควรถ่ายทอดสด สถานการณ์ใดที่ไม่ควร ถ่ายทอดสด และการใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างปลอดภัยมีข้อควรปฏิบัติอย่างไรบ้าง 2. ขั้นสำรวจและค้นหา (exploration) 1. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสือเรียน บทที่ 2 คลิปซ้อน ซ่อนเงื่อนหน้า 30-38 จากนั้นครูตั้งคำถามให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายเพิ่มเติม เช่น - โป้งกับก้อยไปถ่ายรูปแมวที่ไหน (สวนสาธารณะ) - เพราะเหตุใดคุณพ่อจึงอนุญาตให้โป้งและก้อยอัปโหลดวิดีโอ น้องแมวบนสื่อสาธารณะได้ (เพราะไม่มีภาพโป้งและก้อย อยู่ในคลิปวิดีโอนั้น) - ก่อนถ่ายคลิปวิดีโอแมว โป้งและก้อยได้ขออนุญาตเจ้าของ แมวหรือไม่ (ขออนุญาต) - นักเรียนคิดว่าเราสามารถถ่ายภาพผู้อื่นแล้วนำไปเผยแพร่ บนสื่อสังคมได้หรือไม่ (เราไม่ ควรถ่ายภาพผู้อื่นไปเผยแพร่ บนสื่อสังคมก่อนได้รับอนุญาตจากเจ้าของ) - นักเรียนคิดว่าเพราะเหตุใดคลิปวิดีโอต้นฉบับของโป้งจึงถูก ผู้อื่นนำไปเผยแพร่ต่อ (โป้ง โพสต์คลิปนั้นไว้บนสื่อสาธารณะ) - เพราะเหตุใดพี่พิงก์จึงเชื่อว่าวิดีโอที่โพสต์เป็นของร้าน ขายอาหารสัตว์ (เพราะวันที่โพสต์ วิดีโอนั้นโพสต์ก่อนวิดีโอ ที่โป้งตัดต่อใหม่ และไม่ได้แสดงชื่อเจ้าของ) - เราสามารถนำข้อมูลที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตไปใช้ทาง การศึกษาได้หรือไม่ (สามารถทำ ได้ แต่ควรมีการอ้างอิงแหล่ง ที่มาของข้อมูล เพื่อให้เกียรติแก่เจ้าของข้อมูล) - การกระทำของเจ้าของร้านขายอาหารสัตว์ที่นำคลิปของโป้ง ไปใช้ในการโฆษณาแล้ว เผยแพร่บนสื่อสังคม เป็นการละเมิด ลิขสิทธิ์หรือ ละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวผู้อื่น (เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์) 3. ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป (explanation) 1. ครูชี้แจงและให้นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 2.1 ละเมิดหรือไม่ ถามใจเธอดู จากนั้นสุ่มนักเรียน นำเสนอคำตอบ แล้วร่วมกัน อภิปรายด้วยคำถาม เช่น


Click to View FlipBook Version