แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 นายอำนาจ กล่ำป่วน ครู โรงเรียนวัดบ่อ (นันทวิทยา) นครปากเกร็ด ๑ กองการศึกษา เทศบาลนครปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวัน เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร : 1 เวลา 1 ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทําให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ 2. สาระสำคัญ สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว ของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว ของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสารได้ (K) 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ ปฏิบัติกิจกรรม การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจได้ (P) 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความรับผิดชอบ (A) 3.4 สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียน 2. ความสามารถในการคิด - การสังเกต การสำรวจ การคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสร้างคำอธิบาย การอภิปราย
การสื่อความหมาย การทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - การแก้ปัญหาขณะปฏิบัติกิจกรรม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการกลุ่ม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - การนำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.5 ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3Rs&8Cs) - การอ่านออก - การเขียนได้ - การคิดคำนวณ - มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ - มีความร่วมมือ ทำงานเป็นทีม - มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย 4. สาระการเรียนรู้ การเปลี่ยนสถานะของสสาร เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสาร ถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่มความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อลดความร้อนลงถึงระดับหนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สารสามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ผันกลับได้ แต่สารบางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ ชิ้นงาน / ภาระงาน ชิ้นงาน - ใบงานที่ 13 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร
ภาระงาน - ทำแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรียนสังเกตภาพไอศกรีมที่เริ่มหลอมเหลว และน้ำในช่องแช่แข็งของตู้เย็นกลายเป็นน้ำแข็ง ไอศกรีมที่เริ่มหลอมเหลว น้ำในช่องแช่แข็งของตู้เย็นกลายเป็นน้ำแข็ง แล้วร่วมกันสนทนากระตุ้นนักเรียนเกิดความสงสัยและต้องการหาคำตอบด้วยกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ โดยร่วมกันตอบคำถามสำคัญ ดังนี้ 1.1 การเปลี่ยนแปลงของสสารมีกี่แบบ อะไรบ้าง (การเปลี่ยนแปลงของสสารมี 3 แบบ ได้แก่ การเปลี่ยนสถานะ การละลาย และการเกิดสารใหม่) 1.2 ถึงแม้สสารแต่ละชนิดจะมีสมบัติเฉพาะตัว แต่สมบัติของสสารก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ นักเรียนทราบหรือไม่ว่า สสารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ สสารมีการเปลี่ยนแปลงจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่งได้ และทำให้กลับคืนมาอยู่ในสถานะเดิมได้ โดยการเปลี่ยนสถานะของสสารมีพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ) 1.3 อะไรทำให้สสารมีการเปลี่ยนแปลงโดยเปลี่ยนสถานะ (ตัวอย่างคำตอบ พลังงานทำให้สสารมีการเปลี่ยนแปลงโดยเปลี่ยนสถานะ) 1.4 สสารเปลี่ยนสถานะได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปยังสถานะหนึ่งได้ เมื่อสสารได้รับความร้อน) 2. นักเรียนร่วมกันคาดคะเนคำตอบ 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน (หรือจะแบ่งกลุ่มด้วยวิธีการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้) โดยแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาวิธีทำและปฏิบัติกิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร ในใบงานที่ 13 ตามขั้นตอน ดังนี้ 3.1 ทบทวนบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่มว่าต้องทำหน้าที่อย่างไรบ้างในการดำเนินการ
ด้วยกระบวนการทำงานกลุ่ม เช่น หัวหน้ากลุ่ม มีหน้าที่ .................. ผู้จดบันทึก มีหน้าที่ ......................... ผู้เสนอรายงาน มีหน้าที่ .............. อื่น ๆ ................................. 3.2 ตรวจสอบความพร้อมของสื่อ วัสดุอุปกรณ์ สำหรับการปฏิบัติกิจกรรมว่าครบถ้วน เหมาะสม ที่จะใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมเพียงใด 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านและฟังอธิบายขั้นตอนวิธีทำกิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร ให้เข้าใจอย่างชัดเจน โดยเขียนขั้นตอนลงในกระดาษฟลิปชาร์ต และนำขึ้นหน้ากระดาน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นก่อนทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามก่อนทำ กิจกรรม ดังนี้ 5.1 คำถามสำคัญในการทำกิจกรรมคืออะไร (สสารเปลี่ยนสถานะได้อย่างไร) 5.2 สสารมีกี่สถานะ อะไรบ้าง (สสารมี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส) 5.3 สสารแต่ละชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะได้หรือไม่ อย่างไร (สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปยังสถานะหนึ่งได้ เช่น น้ำแข็งเปลี่ยนเป็นน้ำ เมื่อได้รับความร้อน) 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอย่างรวมพลังทำกิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร และบันทึกผลการทำกิจกรรมในใบงานที่ 13 7. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ และอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามหลังทำกิจกรรม ดังนี้ 1.1 น้ำแข็งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (น้ำแข็งที่อยู่ในบีกเกอร์เกิดการหลอมเหลวและเปลี่ยนเป็นน้ำ โดยปัจจัยที่ทำให้น้ำแข็ง เกิดการเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำ คือ การได้รับพลังงานความร้อน) 1.2 เมื่อนำน้ำในบีกเกอร์ไปต้มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ดังกล่าว (น้ำในบีกเกอร์เกิดการกลายเป็นไอน้ำ โดยปัจจัยที่ทำให้น้ำแข็งเกิดการเปลี่ยนสถานะเป็นน้ำ คือ การได้รับพลังงานความร้อน) 1.3 สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร (สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่งได้ โดยการเพิ่มความร้อน ให้แก่สสารหรือทำให้สสารเย็นลง เช่น เมื่อเพิ่มความร้อนให้แก่น้ำแข็งจะทำให้น้ำแข็งเกิดการหลอมเหลว เปลี่ยนเป็นน้ำ ซึ่งมีสถานะของเหลว เรียกกระบวนการนี้ว่า การหลอมเหลว เมื่อให้ความร้อนต่อไปเรื่อย ๆ น้ำจะเกิดการกลายเป็นไอน้ำ ซึ่งมีสถานะแก๊ส เรียกกระบวนการนี้ว่า การกลายเป็นไอ
แต่เมื่อทำให้ไอน้ำเย็นตัวลงโดยการลดความร้อน ไอน้ำซึ่งมีสถานะแก๊สจะเปลี่ยนเป็นน้ำ ซึ่งมีสถานะของเหลว เรียกกระบวนการนี้ว่า การควบแน่น แล้วหากลดความร้อนต่อไปอีก น้ำซึ่งมีสถานะ ของเหลวจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง ซึ่งมีสถานะของแข็ง เรียกกระบวนการนี้ว่า การแข็งตัว) จากนั้นฝึกนักเรียนถามคำถามที่สงสัยด้วยการถามเพื่อน โดยไม่จำเป็นต้องถามครูอย่างเดียว 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันคิดวิเคราะห์ เพื่อเพิ่มสมรรถนะการคิด โดยสังเกตการเปลี่ยนแปลง ของสาร แล้ววิเคราะห์กระบวนการเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงของสสาร ชื่อกระบวนการ 2.1 ลูกเหม็นที่ทิ้งไว้ในตู้เสื้อผ้ามีขนาดเล็กลง (การระเหิด) 2.2 น้ำในอ่างที่บ้านมีปริมาณลดลง (การระเหย) 2.3 การเกิดหยดน้ำค้างบนใบไม้ในตอนเช้า (การควบแน่น) 2.4 ช็อกโกแลตที่ซื้อมาเริ่มละลาย (การหลอมเหลว) 2.5 แม่ซักผ้าแล้วตากทิ้งไว้ (การระเหย) 2.6 เมื่อจุดเทียนไขมีหยดน้ำตาเทียนเกิดขึ้น (การหลอมเหลว) 2.7 ไอการบูรกลายเป็นเกล็ดการบูร (การระเหิดกลับ) 3. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการ เปลี่ยนแปลงสถานะของสสารว่า สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่งได้ โดยการ เพิ่มความร้อนให้แก่สสารหรือทำให้สสารเย็นลง เช่น เมื่อเพิ่มความร้อนให้แก่น้ำแข็ง จะทำให้น้ำแข็งเกิดการหลอมเหลวเปลี่ยนเป็นน้ำ ซึ่งมีสถานะของเหลว เรียกกระบวนการนี้ว่า การหลอมเหลว เมื่อให้ความร้อนต่อไปเรื่อย ๆ น้ำจะเกิดการกลายเป็นไอน้ำ ซึ่งมีสถานะแก๊ส เรียกกระบวนการนี้ว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อทำให้ไอน้ำเย็นตัวลงโดยการลดความร้อน ไอน้ำซึ่งมีสถานะแก๊สจะเปลี่ยนเป็นน้ำ ซึ่งมีสถานะของเหลว เรียกกระบวนการนี้ว่า การควบแน่น แล้วหากลดความร้อนต่อไปอีก น้ำซึ่งมีสถานะ ของเหลวจะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง ซึ่งมีสถานะของแข็ง เรียกกระบวนการนี้ว่า การแข็งตัว 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 2. แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.)
4. ภาพไอศกรีมที่เริ่มหลอมเหลว 5. ภาพนํ้าในช่องแช่แข็งของตู้เย็นกลายเป็นนํ้าแข็ง 6. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร 1 ใบ 7. นํ้าแข็งบด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 8. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อมที่กั้นลม 1 ชุด 9. ใบงานที่ 13 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต 7. การวัดและประเมินผล แนวทางการประเมิน ผลการเรียนรู้ น้ำหนัก คะแนน น้ำหนักคะแนน วิธีประเมิน เครื่องมือประเมิน K P A อธิบายการเปลี่ยนสถานะของ สสารได้ (K)) 10 10 - - - สังเกตการทำใบงานที่ 13 เรื่อง การเปลี่ยนแปลง สถานะของสสาร - ใบงานที่ 13 เรื่อง การ เปลี่ยนแปลงสถานะของ สสาร ปฏิบัติกิจกรรม การ เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจได้ (P 10 - 10 - - สังเกตการปฏิบัติการทำ กิจกรรม - แบบประเมินการ ปฏิบัติการทำกิจกรรม มีความรับผิดชอบ (A) 10 - - 10 - สังเกตคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน รวม 30 10 10 10 - -
8. บันทึกผลหลังการสอน 8.1 ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 8.2 ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8.3 แนวทางแก้ไขปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ) ..................................................... ครูผู้สอน (นายอำนาจ กล่ำป่วน) วันที่………………….……………….. 9. ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นางวราภรณ์ กอสันเทียะ) วันที่………………….……………….. 10. ความคิดเห็นของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นายเกษมสินธุ์ สอนสุข) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
ใบงานที่ 13 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร วันที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ ชื่อ_____________________________เลขที่______ชั้น__________ คำชี้แจง นักเรียนแต่ละกลุ่มปฏิบัติ ดังนี้ 1. อ่านวิธีทำกิจกรรมการทดลองให้เข้าใจ 2. ตอบคำถามก่อนทำกิจกรรม 3. ทำกิจกรรมและบันทึกผล 4. ตอบคำถามหลังทำกิจกรรม กิจกรรมที่ 3.1 การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร 1. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร 1 ใบ 2. นํ้าแข็งบด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 3. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อมที่กั้นลม 1 ชุด วิธีทำ 1. นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกันนำน้ำแข็งใส่ในบีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร ประมาณ ของบีกเกอร์ แล้วตั้งทิ้งไว้ สังเกตการเปลี่ยนแปลง และบันทึกผล 2. นำบีกเกอร์ในข้อที่ 1 ต้มด้วยตะเกียงแอลกอฮอล์ สังเกตการเปลี่ยนแปลง และบันทึกผล การทดลอง การเปลี่ยนสถานะของสสาร วัสดุอุปกรณ์ 1 4
1. สสารมีกี่สถานะอะไรบ้าง (สสารมี 3 สถานะ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส) 2. สสารแต่ละชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะได้หรือไม่ อย่างไร (สสารสามารถเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปยังสถานะหนึ่งได้ เช่น น้ำแข็งเปลี่ยนเป็นน้ำ เมื่อได้รับความร้อน) ตาราง ผลการสังเกตการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การทดลอง การเปลี่ยนแปลงที่สังเกตได้ 1. น้ำแข็งในบีกเกอร์ (น้ำแข็งที่อยู่ในบีกเกอร์เกิดการหลอมเหลวแล ะเปลี่ยนเป็นน้ำ)4 (น้ำแข็งที่อยู่ในบีกเกอร์เกิดการหลอมเหลวแล ะเปลี่ยนเป็นน้ำ) 2. น้ำในบีกเกอร์ เมื่อนำไปต้ม (น้ำในบีกเกอร์เกิดการกลายเป็ นไอน้ำ (น้ำแข็งที่อยู่ในบีกเกอร์เกิดการหลอมเหลวแล ะเปลี่ยนเป็นน้ำ) บันทึกผลการทำกิจกรรม คำถามก่อนทำกิจกรรม
1. น้ำแข็งเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (น้ำ แขง็ที่อยใู่นบีกเกอร์เกิดกำรหลอมเหลวและเปลี่ยนเป็นน้ำ โดยปัจจยัที่ทำ ใหน้ ้ำ แขง็เกิดกำรเปลี่ยนสถำนะเป็นน้ำ คือ กำรได้รับพลังงำนควำมร้อน) 2. เมื่อนำน้ำในบีกเกอร์ไปต้มเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ปัจจัยใดที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว (น้ำ ในบีกเกอร์เกิดกำรกลำยเป็นไอน้ำ โดยปัจจยัที่ทำ ใหน้ ้ำ แขง็เกิดกำรเปลี่ยนสถำนะเป็นน้ำ คือกำรไดร้ับ พลังงำนควำมร้อน) 3. สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร (สสำรสำมำรถเปลี่ยนสถำนะจำกสถำนะหน่ึงไปเป็นอีกสถำนะหน่ึงได้โดยกำรเพิ่มควำมร้อนใหแ้ก่สสำร หรือทำ ใหส้ สำรเยน็ลง เช่น เมื่อเพิ่มควำมร้อนใหแ้ก่น้ำ แขง็จะทำ ใหน้ ้ำ แขง็เกิดกำรหลอมเหลวเปลี่ยนเป็นน้ำ ซ่ึงมีสถำนะของเหลวเรียกกระบวนกำรน้ีวำ่การหลอมเหลวเมื่อใหค้วำมร้อนต่อไปเรื่อย ๆ น้ำ จะเกิดกำรกลำยเป็นไอน้ำ ซ่ึงมีสถำนะแก๊ส เรียกกระบวนกำรน้ีวำ่ การกลายเป็ นไอ แต่เมื่อทำ ใหไ้อน้ำ เยน็ลงโดยกำรลดควำมร้อน ไอน้ำ ซ่ึงมีสถำนะแก๊สจะเปลี่ยนเป็นน้ำ ซ่ึงมีสถำนะของเหลว เรียกกระบวนกำรน้ีวำ่ การควบแน่น แลว้หำกลดควำมร้อนต่อไปอีก น้ำ ซ่ึงมีสถำนะของเหลวจะเปลี่ยนเป็นน้ำ แขง็ ซ่ึงมีสถำนะของแขง็เรียกกระบวนกำรน้ีวำ่ การแข็งตัว) คำถามหลังทำกิจกรรม จงทำกิจกรรมอย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ
แบบประเมินการปฏิบัติการทำกิจกรรมการทดลอง รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1. การทำกิจกรรม การทดลอง ตามแผนที่กำหนด ทำกิจกรรมการทดลอง ตามวิธีการและขั้นตอน ที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง ด้วยตนเอง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทำกิจกรรมการทดลอง ตามวิธีการและขั้นตอน ที่กำหนดไว้ด้วยตนเอง มีการปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทำกิจกรรมการทดลอง ตามวิธีการและขั้นตอน ที่กำหนดไว้ โดยมีครูหรือ ผู้อื่นเป็นผู้แนะนำ ทำกิจกรรมการทดลองไม่ ถูกต้องตามวิธีการ และขั้นตอนที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข 2. การใช้อุปกรณ์ และ/หรือเครื่องมือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ได้อย่างถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ และคล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ได้อย่างถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ แต่ไม่คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ได้อย่างถูกต้อง โดยมีครู หรือผู้อื่นเป็นผู้แนะนำ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ไม่ถูกต้อง และไม่มีความคล่องแคล่ว ในการใช้ 3. การบันทึกผล การทำกิจกรรม การทดลอง บันทึกผลเป็นระยะ อย่างถูกต้อง มีระเบียบ มีการระบุหน่วย มีการ อธิบายข้อมูลให้เห็น ความเชื่อมโยงเป็นภาพรวม เป็นเหตุเป็นผล และเป็นไป ตามการทดลอง บันทึกผลเป็นระยะ อย่างถูกต้อง มีระเบียบ มีการระบุหน่วย มีการ อธิบายข้อมูลให้เห็นถึง ความสัมพันธ์เป็นไป ตามการทำกิจกรรม การทดลอง บันทึกผลเป็นระยะ แต่ไม่เป็นระเบียบ ไม่มีการระบุหน่วย และไม่มีการอธิบายข้อมูล ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ของการทำกิจกรรม การทดลอง บันทึกผลไม่ครบ ไม่มีการระบุหน่วย และไม่เป็นไปตาม การทำกิจกรรม การทดลอง 4. การจัดกระทำข้อมูล และการนำเสนอ จัดกระทำข้อมูล อย่างเป็นระบบ มีการเชื่อมโยงให้เห็น เป็นภาพรวม และนำเสนอ ด้วยแบบต่าง ๆ อย่างชัดเจน ถูกต้อง จัดกระทำข้อมูล อย่างเป็นระบบ มีการ จำแนกข้อมูลให้เห็น ความสัมพันธ์ นำเสนอ ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ แต่ยังไม่ชัดเจน จัดกระทำข้อมูล อย่างเป็นระบบ มีการยกตัวอย่างเพิ่มเติม ให้เข้าใจง่าย และนำเสนอ ด้วยแบบต่าง ๆ แต่ยังไม่ชัดเจน และไม่ถูกต้อง จัดกระทำข้อมูลอย่าง ไม่เป็นระบบ และมีการ นำเสนอไม่สื่อความหมาย และไม่ชัดเจน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 5. การสรุปผล การทำกิจกรรม การทดลอง สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลอง ได้อย่างถูกต้อง กระชับ ชัดเจน และครอบคลุม ข้อมูลจากการวิเคราะห์ ทั้งหมด สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลองได้ถูกต้อง แต่ยังไม่ครอบคลุมข้อมูล จากการวิเคราะห์ทั้งหมด สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลองได้ โดยมีครูหรือ ผู้อื่นแนะนำบ้าง จึงสามารถสรุปได้ถูกต้อง สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลองตามความรู้ ที่พอมีอยู่ โดยไม่ใช้ข้อมูล จากการทำกิจกรรม การทดลอง 6. การดูแลและการเก็บ อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือ ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง และมีการทำความสะอาด และเก็บอย่างถูกต้อง ตามหลักการ และแนะนำ ให้ผู้อื่นดูแลและเก็บรักษา ได้ถูกต้อง ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง และมีการทำความสะอาด อย่างถูกต้อง แต่เก็บไม่ถูกต้อง ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง มีการทำความสะอาด แต่เก็บไม่ถูกต้อง ต้องให้ครูหรือผู้อื่น แนะนำ ไม่ดูแลอุปกรณ์และ/ หรือเครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง และไม่สนใจทำความ สะอาด รวมทั้งเก็บ ไม่ถูกต้อง
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว 15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวัน เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่2 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร : 2 เวลา 1 ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทําให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ 2. สาระสำคัญ สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว ของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว ของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสารได้ (K) 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ จัดทำแผ่นพับ ภูมิปัญญาชาวบ้านเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะของสสารในชุมชน อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจได้ (P) 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ (A) 3.4 สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียน 2. ความสามารถในการคิด
- การสังเกต การสำรวจ การคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสร้างคำอธิบาย การอภิปราย การสื่อความหมาย การทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - การแก้ปัญหาขณะปฏิบัติกิจกรรม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการกลุ่ม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - การนำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.5 ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3Rs&8Cs) - การอ่านออก - การเขียนได้ - การคิดคำนวณ - มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ - มีความร่วมมือ ทำงานเป็นทีม - มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย 3. สาระการเรียนรู้ การเปลี่ยนสถานะของสสาร เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสาร ถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่มความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อลดความร้อนลงถึงระดับหนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สารสามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ผันกลับได้ แต่สารบางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้
ชิ้นงาน / ภาระงาน ชิ้นงาน - แผ่นพับ ภูมิปัญญาชาวบ้านเกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะของสสารในชุมชน ภาระงาน - ทำแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ(Applying and Constructing the Knowledge) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผน สำรวจในท้องถิ่นของนักเรียนว่ามีภูมิปัญญาท้องถิ่นเกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงสถานะของสารอย่างไรบ้าง แล้วรวบรวมข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสถานะของสารที่คนในชุมชน รู้จักนำมาใช้ประโยชน์ไว้อย่างเป็นระบบ แล้วช่วยกันจัดทำเป็นแผ่นพับ โดยใช้ซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ออฟฟิศ เวิร์ด จัดทำเป็นชิ้นงาน 2. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • การเปลี่ยนสถานะของสสาร เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพิ่มความร้อน ให้กับสสารถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่มความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อลดความร้อนลงถึงระดับหนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว • สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การ ระเหิดกลับ • เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สารสามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ผันกลับได้ แต่สารบางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill) 3. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดและนำเสนอแผ่นพับภูมิปัญญาชาวบ้านเกี่ยวกับการเปลี่ยน สถานะของสสารในชุมชนหน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เพื่อน ๆ ร่วมกันตรวจสอบและแก้ไข ให้ถูกต้อง 4. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 5. นักเรียนร่วมกันคัดเลือกผลงานที่ดีเด่นจัดทำเป็นนิทรรศการ หรือจัดแสดงผลงาน หรือเผยแพร่ใน
เว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก (facebook) ของโรงเรียน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ให้นักเรียนชั้นอื่น ๆ 6. นักเรียนตรวจสอบหรือประเมินขั้นตอนต่าง ๆ ที่เรียนมาในวันนี้มีจุดเด่น จุดบกพร่องอะไรบ้าง มีความสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องใด ให้ระบุ 7. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 2. แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
7. การวัดและประเมินผล แนวทางการประเมิน ผลการเรียนรู้ น้ำหนัก คะแนน น้ำหนักคะแนน วิธีประเมิน เครื่องมือประเมิน K P A อธิบายการเปลี่ยนสถานะของ สสารได้ (K) 10 10 - - - ประเมินชิ้นงาน แผ่น พับภูมิปัญญาชาวบ้าน เกี่ยวกับการเปลี่ยน สถานะของสสารใน ชุมชน - แบบประเมินชิ้นงาน การจัดกระทำและ นำเสนอแผ่นพับ จัดทำแผ่นพับ ภูมิปัญญา ชาวบ้านเกี่ยวกับการเปลี่ยน สถานะของสสารในชุมชน อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจได้ (P) 10 - 10 - - สังเกตการปฏิบัติการ ทำกิจกรรม - แบบประเมินการ ปฏิบัติการทำกิจกรรม มีความมุ่งมั่นตั้งใจ (A) 10 - - 10 - สังเกตคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ด้านใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รวม 30 10 10 10 - -
8. บันทึกผลหลังการสอน 8.1 ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 8.2 ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8.3 แนวทางแก้ไขปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ) ..................................................... ครูผู้สอน (นายอำนาจ กล่ำป่วน) วันที่………………….……………….. 9. ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นางวราภรณ์ กอสันเทียะ) วันที่………………….……………….. 10. ความคิดเห็นของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นายเกษมสินธุ์ สอนสุข) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
แบบประเมินชิ้นงาน การจัดกระทำและนำเสนอแผ่นพับ รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 การจัดกระทำ และนำเสนอ แผ่นพับ จัดกระทำแผ่นพับ อย่างเป็นระบบ และนำเสนอด้วยแบบ ที่ชัดเจน ถูกต้อง ครอบคลุม และมีการ เชื่อมโยงให้เห็นเป็น ภาพรวม จัดกระทำแผ่นพับ อย่างเป็นระบบ มีการจำแนกข้อมูล ให้เห็นความสัมพันธ์ และนำเสนอด้วยแบบ ที่ถูกต้องครอบคลุม จัดกระทำแผ่นพับได้ มีการยกตัวอย่างเพิ่มเติม และนำเสนอด้วยแบบ ต่าง ๆ แต่ยังไม่ครอบคลุม จัดกระทำแผ่นพับ อย่างไม่เป็นระบบ และนำเสนอ ไม่สื่อความหมาย และไม่ชัดเจน
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวัน เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่3 เรื่อง การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ การแข็งตัว และการควบแน่น : 1 เวลา 1 ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทําให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ 4. สาระสำคัญ ในธรรมชาติ สสารแต่ละชนิดจะปรากฏอยู่ในสถานะใดสถานะหนึ่ง คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส เราสามารถทําให้สสารเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่ง และทําให้กลับคืนมาอยู่ใน สถานะเดิมได้ การเปลี่ยนสถานะของสารมีพลังงานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ การเปลี่ยนสถานะเมื่อสสารได้รับความร้อน (เพิ่มอุณหภูมิ) • ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว • ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ • ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การระเหิด การเปลี่ยนสถานะเมื่อสสารคายความร้อน (ลดอุณหภูมิ) • แก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น • ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว • แก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การระเหิดกลับ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (K) 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ ปฏิบัติกิจกรรม การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจได้ (P)
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ (A) 3.4 สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียน 2. ความสามารถในการคิด - การสังเกต การสำรวจ การคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสร้างคำอธิบาย การอภิปราย การสื่อความหมาย การทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - การแก้ปัญหาขณะปฏิบัติกิจกรรม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการกลุ่ม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - การนำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.5 ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3Rs&8Cs) - การอ่านออก - การเขียนได้ - การคิดคำนวณ - มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ - มีความร่วมมือ ทำงานเป็นทีม - มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย 4. สาระการเรียนรู้ การเปลี่ยนสถานะของสสาร เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสาร ถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่มความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อลดความร้อนลงถึงระดับหนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สารสามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลง
ที่ผันกลับได้ แต่สารบางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ ชิ้นงาน / ภาระงาน ชิ้นงาน - ใบกิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร ภาระงาน - ทำแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรียนร่วมกันศึกษาความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสสารในสถานะต่าง ๆ คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส แล้วร่วมกันตอบคำถาม ดังนี้ แผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร 1.1 น้ำแข็งเปลี่ยนเป็นน้ำได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ น้ำแข็งได้รับความร้อน จะเปลี่ยนเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว) 1.2 น้ำเปลี่ยนเป็นไอน้ำได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ น้ำได้รับความร้อน จะเปลี่ยนเป็นไอน้ำ เรียกว่า การกลายเป็นไอ) 1.3 ไอน้ำเปลี่ยนเป็นน้ำได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ไอน้ำคายความร้อน จะเปลี่ยนเป็นน้ำ เรียกว่า การควบแน่น) 1.4 น้ำเปลี่ยนเป็นน้ำแข็งได้อย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ น้ำคายความร้อน จะเปลี่ยนเป็นน้ำแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว) 1.5 การเปลี่ยนสถานะของสสารเกี่ยวข้องกับสิ่งใด (การได้รับหรือคายความร้อน) น้ำแข็ง ของแข็ง หลอมเหลว แข็งตัว น้ำ ของเหลว กลายเป็นไอ ควบแน่น ไอน้ำ แก๊ส
2. นักเรียนร่วมกันคาดคะเนคำตอบ 3. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน (หรือจะแบ่งกลุ่มด้วยวิธีการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้) โดยแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาวิธีทำและปฏิบัติกิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร ในใบกิจกรรม ตามขั้นตอน ดังนี้ 3.1 ทบทวนบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่มว่าต้องทำหน้าที่อย่างไรบ้างในการดำเนินการ ด้วยกระบวนการทำงานกลุ่ม เช่น หัวหน้ากลุ่ม มีหน้าที่ .................. ผู้จดบันทึก มีหน้าที่ ......................... ผู้เสนอรายงาน มีหน้าที่ .............. อื่น ๆ ................................. 3.2 ตรวจสอบความพร้อมของสื่อ วัสดุอุปกรณ์ สำหรับการปฏิบัติกิจกรรมว่าครบถ้วน เหมาะสม ที่จะใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมเพียงใด 4. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านและฟังอธิบายขั้นตอนวิธีทำกิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร ให้ เข้าใจอย่างชัดเจน โดยเขียนขั้นตอนลงในกระดาษฟลิปชาร์ต และนำขึ้นหน้ากระดาน 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นก่อนทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามก่อนทำ กิจกรรม ดังนี้ 5.1 คำถามสำคัญในการทำกิจกรรมคืออะไร (สสารมีการเปลี่ยนสถานะได้อย่างไร) 5.2 ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน (ตัวอย่างคำตอบ น้ำแข็งหลอมเหลวเป็นน้ำ น้ำในหม้อเดือดกลายเป็นไอน้ำ) 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอย่างรวมพลังทำกิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร เพื่อบ่งชี้การเปลี่ยนสถานะของสสาร และบันทึกผลการทำกิจกรรมในใบกิจกรรม 7. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ และอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามหลังทำกิจกรรม ดังนี้ 1.1 ขณะที่เป็นน้ำแข็ง วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (0 ๐C) 1.2 ขณะที่เป็นน้ำ วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (30 ๐C) 1.3 ขณะน้ำเดือด วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (100 ๐C) 1.4 จากการทดลองสิ่งใดทำให้น้ำเกิดการเปลี่ยนสถานะ (อุณหภูมิ) 1.5 ขณะที่น้ำกำลังเดือด นักเรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น
(ควันสีขาวลอยขึ้นจากผิวน้ำ มีสถานะเป็นแก๊ส) 1.6 ขณะอังหลอดทดลองเหนือบีกเกอร์ขณะน้ำเดือด นักเรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น (เกิดละอองน้ำเล็ก ๆ เกาะอยู่ข้างหลอดทดลอง) 1.7 สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร (ขณะที่น้ำแข็ง (ของแข็ง) หลอมเหลวเป็นน้ำ (ของเหลว) ค่าอุณหภูมิจะมีค่าคงที่ และเมื่อน้ำแข็ง หลอมเหลวเป็นน้ำจนหมด ค่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นและเมื่อเพิ่มอุณหภูมิจนถึงระดับหนึ่ง น้ำในสถานะของเหลว จะเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส) จากนั้นฝึกนักเรียนถามคำถามที่สงสัยด้วยการถามเพื่อน โดยไม่จำเป็นต้องถามครูอย่างเดียว 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน เกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะของสสารว่า สสารจะเปลี่ยนสถานะเมื่อได้รับความร้อนหรือสูญเสียความร้อน 3. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มอธิบายความหมายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร ได้แก่ การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ การควบแน่น จุดเดือด จุดหลอมเหลว โดยนักเรียนบันทึก องค์ความรู้ลงในสมุดบันทึก 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 2. แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 4. แผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร 5. เทอร์มอมิเตอร์ 1 อัน 6. แท่งแก้วคนสาร 1 แท่ง 7. ขาตั้งพร้อมที่จับเทอร์มอมิเตอร์ 1 ชุด 8. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร 2 ใบ 9.ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ใบ 10. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 หลอด 11. นํ้ากลั่น 150 ลูกบาศก์เซนติเมตร 12. นํ้าแข็งป่น 13. ใบกิจกรรม เรื่อง การเปลี่ยนสถานะของสสาร
แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต 7. การวัดและประเมินผล แนวทางการประเมิน ผลการเรียนรู้ น้ำหนัก คะแนน น้ำหนักคะแนน วิธีประเมิน เครื่องมือประเมิน K P A อธิบายการเปลี่ยนสถานะของ สสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขึ้น หรือเย็นลง โดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ (K) 10 10 - - - สังเกตการทำใบ กิจกรรม เรื่อง การ เปลี่ยนสถานะของสสาร - ใบกิจกรรม เรื่อง การ เปลี่ยนสถานะของสสาร ปฏิบัติกิจกรรม การ เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจได้ (P) 10 - 10 - - สังเกตการปฏิบัติการ ทำกิจกรรม - แบบประเมินการ ปฏิบัติการทำกิจกรรม มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ (A) 10 - - 10 - สังเกตคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ด้านใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รวม 30 10 10 10 - -
8. บันทึกผลหลังการสอน 8.1 ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 8.2 ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8.3 แนวทางแก้ไขปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ) ..................................................... ครูผู้สอน (นายอำนาจ กล่ำป่วน) วันที่………………….……………….. 9. ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นางวราภรณ์ กอสันเทียะ) วันที่………………….……………….. 10. ความคิดเห็นของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นายเกษมสินธุ์ สอนสุข) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
วัสดุอุปกรณ์ 1. เทอร์มอมิเตอร์ 1 อัน 2. แท่งแก้วคนสาร 1 แท่ง 3. ขาตั้งพร้อมที่จับเทอร์มอมิเตอร์ 1 ชุด 4. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร 2 ใบ 5. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ใบ 6. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 หลอด 7. นํ้ากลั่น 150 ลูกบาศก์เซนติเมตร 8. นํ้าแข็งป่น วิธีทำ 1. แบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกันใส่น้ำแข็งลงในบีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร ให้มีปริมาตร ของบีกเกอร์ 2. เสียบเทอร์มอมิเตอร์ลงในน้ำแข็ง ให้ปลายกระเปาะเทอร์มอมิเตอร์อยู่ตรงกลางน้ำแข็ง และยึดเทอร์มอมิเตอร์ไว้ด้วยขาตั้ง อ่านและบันทึกค่าอุณหภูมิ 3. ใช้แท่งแก้วคนน้ำแข็งให้ทั่วจนน้ำแข็งหลอมเหลวหมด อ่านและบันทึกค่าอุณหภูมิ ขณะน้ำแข็งหลอมเหลวหมด 4. นำน้ำที่ได้จากการหลอมเหลวของน้ำแข็งในข้อ 3 ตั้งทิ้งไว้จนมีอุณหภูมิห้อง บันทึกผล จากนั้นนำน้ำในบีกเกอร์ดังกล่าวไปให้ความร้อน อ่านและบันทึกค่าอุณหภูมิขณะน้ำเดือด 5. นำเทอร์มอมิเตอร์ออก นำหลอดทดลองขนาดกลางเปล่าไปอังเหนือบีกเกอร์ขณะน้ำเดือด สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น 6. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง กิจกรรมเสนอแนะ กิจกรรม การเปลี่ยนสถานะของ สสาร 3 4
1. คำถามสำคัญในการทำกิจกรรมคืออะไร (สสารมีการเปลี่ยนสถานะได้อย่างไร) 2. ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน (ตัวอย่างคำตอบ น้ำแข็งหลอมเหลวเป็นน้ำ น้ำในหม้อเดือดกลายเป็นไอน้ำ) ตาราง ค่าอุณหภูมิที่วัดได้ ขณะน้ำมีการเปลี่ยนแปลงสถานะ การทดลอง ขณะเป็นน้ำแข็ง ขณะน้ำแข็ง หลอมเหลวหมด ขณะเป็นน้ำ ขณะน้ำเดือด ค่าอุณหภูมิ (๐C) 0 0 30 100 ตอบคำถามและเขียนเครื่องหมาย ใน หน้าคำตอบที่ถูกต้อง 1. ขณะที่เป็นน้ำแข็ง วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (0๐C) 2. ขณะที่เป็นน้ำ วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (30๐C) 3. ขณะน้ำเดือด วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (100๐C) 4. จากการทดลอง สิ่งใดที่ทำให้น้ำเกิดการเปลี่ยนสถานะ อุณหภูมิ เทอร์มอมิเตอร์ การคนด้วยแท่งแก้วคนสาร 5. ขณะที่น้ำกำลังเดือด นักเรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น น้ำในบีกเกอร์มีปริมาตรเพิ่มขึ้น และมีหยดน้ำเกาะด้านนอกบีกเกอร์ ควันสีขาวลอยขึ้นจากผิวน้ำ มีสถานะเป็นแก๊ส 6. ขณะอังหลอดทดลองเหนือบีกเกอร์ขณะน้ำเดือด นักเรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น เกิดละอองน้ำเล็ก ๆ เกาะอยู่ข้างหลอดทดลอง เกิดของเหลวอยู่ภายในหลอดทดลอง คำถามหลังทำกิจกรรม ✓ คำถามก่อนทำกิจกรรม บันทึกผลการทำกิจกรรม
7. สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร (ขณะที่น้ำแข็ง (ของแข็ง) หลอมเหลวเป็นน้ำ (ของเหลว) ค่าอุณหภูมิจะมีค่าคงที่ และเมื่อน้ำแข็ง หลอมเหลวเป็นน้ำจนหมด ค่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น และเมื่อเพิ่มอุณหภูมิจนถึงระดับหนึ่ง น้ำในสถานะ ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส) จงทำกิจกรรมอย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ
วัสดุอุปกรณ์ 1. เทอร์มอมิเตอร์ 1 อัน 2. แท่งแก้วคนสาร 1 แท่ง 3. ขาตั้งพร้อมที่จับเทอร์มอมิเตอร์ 1 ชุด 4. บีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร 2 ใบ 5. ตะเกียงแอลกอฮอล์ 1 ใบ 6. หลอดทดลองขนาดกลาง 1 หลอด 7. นํ้ากลั่น 150 ลูกบาศก์เซนติเมตร 8. นํ้าแข็งป่น วิธีทำ 1. แบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกันใส่น้ำแข็งลงในบีกเกอร์ขนาด 250 ลูกบาศก์เซนติเมตร ให้มีปริมาตร ของบีกเกอร์ 2. เสียบเทอร์มอมิเตอร์ลงในน้ำแข็ง ให้ปลายกระเปาะเทอร์มอมิเตอร์อยู่ตรงกลางน้ำแข็ง และยึดเทอร์มอมิเตอร์ไว้ด้วยขาตั้ง อ่านและบันทึกค่าอุณหภูมิ 3. ใช้แท่งแก้วคนน้ำแข็งให้ทั่วจนน้ำแข็งหลอมเหลวหมด อ่านและบันทึกค่าอุณหภูมิ ขณะน้ำแข็งหลอมเหลวหมด 4. นำน้ำที่ได้จากการหลอมเหลวของน้ำแข็งในข้อ 3 ตั้งทิ้งไว้จนมีอุณหภูมิห้อง บันทึกผล จากนั้นนำน้ำในบีกเกอร์ดังกล่าวไปให้ความร้อน อ่านและบันทึกค่าอุณหภูมิขณะน้ำเดือด 5. นำเทอร์มอมิเตอร์ออก นำหลอดทดลองขนาดกลางเปล่าไปอังเหนือบีกเกอร์ขณะน้ำเดือด สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้น 6. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง กิจกรรมเสนอแนะ กิจกรรม การเปลี่ยนสถานะของสสาร 3 4
1. คำถามสำคัญในการทำกิจกรรมคืออะไร (สสารมีการเปลี่ยนสถานะได้อย่างไร) 2. ยกตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน (ตัวอย่างคำตอบ น้ำแข็งหลอมเหลวเป็นน้ำ น้ำในหม้อเดือดกลายเป็นไอน้ำ) ตาราง ค่าอุณหภูมิที่วัดได้ ขณะน้ำมีการเปลี่ยนแปลงสถานะ การทดลอง ขณะเป็นน้ำแข็ง ขณะน้ำแข็ง หลอมเหลวหมด ขณะเป็นน้ำ ขณะน้ำเดือด ค่าอุณหภูมิ (๐C) 0 0 30 100 ตอบคำถามและเขียนเครื่องหมาย ใน หน้าคำตอบที่ถูกต้อง 1. ขณะที่เป็นน้ำแข็ง วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (0 ๐C) 2. ขณะที่เป็นน้ำ วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (30 ๐C) 3. ขณะน้ำเดือด วัดอุณหภูมิได้เท่าไร (100 ๐C) 4. จากการทดลอง สิ่งใดที่ทำให้น้ำเกิดการเปลี่ยนสถานะ อุณหภูมิ เทอร์มอมิเตอร์ การคนด้วยแท่งแก้วคนสาร 5. ขณะที่น้ำกำลังเดือด นักเรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น น้ำในบีกเกอร์มีปริมาตรเพิ่มขึ้น และมีหยดน้ำเกาะด้านนอกบีกเกอร์ ควันสีขาวลอยขึ้นจากผิวน้ำ มีสถานะเป็นแก๊ส 6. ขณะอังหลอดทดลองเหนือบีกเกอร์ขณะน้ำเดือด นักเรียนสังเกตเห็นสิ่งใดเกิดขึ้น เกิดละอองน้ำเล็ก ๆ เกาะอยู่ข้างหลอดทดลอง เกิดของเหลวอยู่ภายในหลอดทดลอง คำถามหลังทำกิจกรรม ✓ คำถามก่อนทำกิจกรรม บันทึกผลการทำกิจกรรม ✓ ✓ ✓
7. สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร (ขณะที่น้ำแข็ง (ของแข็ง) หลอมเหลวเป็นน้ำ (ของเหลว) ค่าอุณหภูมิจะมีค่าคงที่ และเมื่อน้ำแข็งหลอมเหลวเป็นน้ำจนหมด ค่าอุณหภูมิจะเพิ่มขึ้น และเมื่อเพิ่มอุณหภูมิจนถึงระดับหนึ่ง น้ำในสถานะของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส) จงทำกิจกรรมอย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ
แบบประเมินการปฏิบัติการทำกิจกรรมการทดลอง รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 1. การทำกิจกรรม การทดลอง ตามแผนที่กำหนด ทำกิจกรรมการทดลอง ตามวิธีการและขั้นตอน ที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง ด้วยตนเอง มีการปรับปรุง แก้ไขเป็นระยะ ทำกิจกรรมการทดลอง ตามวิธีการและขั้นตอน ที่กำหนดไว้ด้วยตนเอง มีการปรับปรุงแก้ไขบ้าง ทำกิจกรรมการทดลอง ตามวิธีการและขั้นตอน ที่กำหนดไว้ โดยมีครูหรือ ผู้อื่นเป็นผู้แนะนำ ทำกิจกรรมการทดลองไม่ ถูกต้องตามวิธีการ และขั้นตอนที่กำหนดไว้ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข 2. การใช้อุปกรณ์ และ/หรือเครื่องมือ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ได้อย่างถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ และคล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ได้อย่างถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติ แต่ไม่คล่องแคล่ว ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ได้อย่างถูกต้อง โดยมีครู หรือผู้อื่นเป็นผู้แนะนำ ใช้อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง ไม่ถูกต้อง และไม่มีความคล่องแคล่ว ในการใช้ 3. การบันทึกผล การทำกิจกรรม การทดลอง บันทึกผลเป็นระยะ อย่างถูกต้อง มีระเบียบ มีการระบุหน่วย มีการ อธิบายข้อมูลให้เห็น ความเชื่อมโยงเป็นภาพรวม เป็นเหตุเป็นผล และเป็นไป ตามการทดลอง บันทึกผลเป็นระยะ อย่างถูกต้อง มีระเบียบ มีการระบุหน่วย มีการ อธิบายข้อมูลให้เห็นถึง ความสัมพันธ์เป็นไป ตามการทำกิจกรรม การทดลอง บันทึกผลเป็นระยะ แต่ไม่เป็นระเบียบ ไม่มีการระบุหน่วย และไม่มีการอธิบายข้อมูล ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ ของการทำกิจกรรม การทดลอง บันทึกผลไม่ครบ ไม่มีการระบุหน่วย และไม่เป็นไปตาม การทำกิจกรรม การทดลอง 4. การจัดกระทำข้อมูล และการนำเสนอ จัดกระทำข้อมูล อย่างเป็นระบบ มีการเชื่อมโยงให้เห็น เป็นภาพรวม และนำเสนอ ด้วยแบบต่าง ๆ อย่างชัดเจน ถูกต้อง จัดกระทำข้อมูล อย่างเป็นระบบ มีการ จำแนกข้อมูลให้เห็น ความสัมพันธ์ นำเสนอ ด้วยแบบต่าง ๆ ได้ แต่ยังไม่ชัดเจน จัดกระทำข้อมูล อย่างเป็นระบบ มีการยกตัวอย่างเพิ่มเติม ให้เข้าใจง่าย และนำเสนอ ด้วยแบบต่าง ๆ แต่ยังไม่ชัดเจน และไม่ถูกต้อง จัดกระทำข้อมูลอย่าง ไม่เป็นระบบ และมีการ นำเสนอไม่สื่อความหมาย และไม่ชัดเจน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
รายการการประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 5. การสรุปผล การทำกิจกรรม การทดลอง สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลอง ได้อย่างถูกต้อง กระชับ ชัดเจน และครอบคลุม ข้อมูลจากการวิเคราะห์ ทั้งหมด สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลองได้ถูกต้อง แต่ยังไม่ครอบคลุมข้อมูล จากการวิเคราะห์ทั้งหมด สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลองได้ โดยมีครูหรือ ผู้อื่นแนะนำบ้าง จึงสามารถสรุปได้ถูกต้อง สรุปผลการทำกิจกรรม การทดลองตามความรู้ ที่พอมีอยู่ โดยไม่ใช้ข้อมูล จากการทำกิจกรรม การทดลอง 6. การดูแลและการเก็บ อุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือ ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง และมีการทำความสะอาด และเก็บอย่างถูกต้อง ตามหลักการ และแนะนำ ให้ผู้อื่นดูแลและเก็บรักษา ได้ถูกต้อง ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง และมีการทำความสะอาด อย่างถูกต้อง แต่เก็บไม่ถูกต้อง ดูแลอุปกรณ์และ/หรือ เครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง มีการทำความสะอาด แต่เก็บไม่ถูกต้อง ต้องให้ครูหรือผู้อื่น แนะนำ ไม่ดูแลอุปกรณ์และ/ หรือเครื่องมือในการทำ กิจกรรมการทดลอง และไม่สนใจทำความ สะอาด รวมทั้งเก็บ ไม่ถูกต้อง
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวัน เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่4 เรื่อง การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ การแข็งตัว และการควบแน่น : 2 เวลา 1 ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 5. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ว 2.1 ป.5/1 อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทําให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้ หลักฐานเชิงประจักษ์ 6. สาระสำคัญ ในธรรมชาติ สสารแต่ละชนิดจะปรากฏอยู่ในสถานะใดสถานะหนึ่ง คือ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส เราสามารถทําให้สสารเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่ง และทําให้กลับคืนมาอยู่ใน สถานะเดิมได้ การเปลี่ยนสถานะของสารมีพลังงานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ การเปลี่ยนสถานะเมื่อสสารได้รับความร้อน (เพิ่มอุณหภูมิ) • ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว • ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ • ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การระเหิด การเปลี่ยนสถานะเมื่อสสารคายความร้อน (ลดอุณหภูมิ) • แก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น • ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว • แก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การระเหิดกลับ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ อธิบายการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ได้(K) 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ เขียนแผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจได้ (P)
3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ (A) 3.4 สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียน 2. ความสามารถในการคิด - การสังเกต การสำรวจ การคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสร้างคำอธิบาย การอภิปราย การสื่อความหมาย การทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - การแก้ปัญหาขณะปฏิบัติกิจกรรม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการกลุ่ม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - การนำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 4. สาระการเรียนรู้ การเปลี่ยนสถานะของสสาร เป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เมื่อเพิ่มความร้อนให้กับสสาร ถึงระดับหนึ่งจะทำให้สสารที่เป็นของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว และเมื่อเพิ่มความร้อนต่อไปจนถึงอีกระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ แต่เมื่อลดความร้อนลงถึงระดับหนึ่งแก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดับหนึ่งของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะจากของแข็งเป็นแก๊สโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิด ส่วนแก๊สบางชนิดสามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็งโดยไม่ผ่านการเป็นของเหลว เรียกว่า การระเหิดกลับ เมื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สารสามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลง ที่ผันกลับได้ แต่สารบางอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วไม่สามารถเปลี่ยนกลับเป็นสารเดิมได้ เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับไม่ได้ ชิ้นงาน / ภาระงาน ชิ้นงาน - แบบบันทึกกิจกรรม สัตว์ออกลูกเป็นไข่ ลูกหน้าตาเหมือนใคร
ภาระงาน - ทำแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ(Applying and Constructing the Knowledge) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผน ออกแบบ และเขียนแผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร ที่สนใจ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ จัดทำเป็นชิ้นงาน (ตัวอย่างแผนภาพ) 2. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดังนี้ • ในธรรมชาติ สสารแต่ละชนิดจะปรากฏอยู่ในสถานะใดสถานะหนึ่ง คือ ของแข็ง ของเหลว และ แก๊ส เราสามารถทําให้สสารเปลี่ยนสถานะจากสถานะหนึ่งไปเป็นอีกสถานะหนึ่ง และทําให้กลับคืนมาอยู่ในสถานเดิมได้ การเปลี่ยนสถานะของสารมีพลังงานเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ การเปลี่ยนสถานะเมื่อสสารได้รับความร้อน (เพิ่มอุณหภูมิ) • ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การหลอมเหลว • ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การกลายเป็นไอ • ของแข็งเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส เรียกว่า การระเหิด การเปลี่ยนสถานะเมื่อสสารคายความร้อน (ลดอุณหภูมิ) • แก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า การควบแน่น • ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การแข็งตัว ของแข็ง ของเหลว แก๊ส การหลอมเหลว การแข็งตัว การกลายเป็นไอ การควบแน่น ลดอุณหภูมิให้สสาร เพิ่มอุณหภูมิให้สสาร แผนภาพ การเปลี่ยนสถานะของสสาร การระเหิด การระเหิดกลับ
• แก๊สเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียกว่า การระเหิดกลับ ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนำเสนอ (Applying the Communication Skill) 3. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาพูดและนำเสนอแผนภาพการเปลี่ยนสถานะของสสาร หน้าชั้นเรียน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน เพื่อน ๆ ร่วมกันตรวจสอบและแก้ไขให้ถูกต้อง 4. นักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเกี่ยวกับวิธีการทำงานให้เห็นการคิดเชิงระบบและวิธีการทำงาน ที่มีแบบแผน ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ (Self-Regulating) 5. นักเรียนร่วมกันคัดเลือกผลงานที่ดีเด่นจัดทำเป็นนิทรรศการ หรือจัดแสดงผลงาน หรือเผยแพร่ใน เว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก (facebook) ของโรงเรียน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ให้นักเรียนชั้นอื่น ๆ 6. นักเรียนตรวจสอบหรือประเมินขั้นตอนต่าง ๆ ที่เรียนมาในวันนี้มีจุดเด่น จุดบกพร่องอะไรบ้าง มีความสงสัย ความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องใด ให้ระบุ 7. นักเรียนประเมินตนเอง โดยเขียนแสดงความรู้สึกหลังการเรียน ในประเด็นต่อไปนี้ • สิ่งที่นักเรียนได้เรียนรู้ในวันนี้คืออะไร • นักเรียนมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • เพื่อนนักเรียนในกลุ่มมีส่วนร่วมกิจกรรมในกลุ่มมากน้อยเพียงใด • นักเรียนพึงพอใจกับการเรียนในวันนี้หรือไม่ เพียงใด • นักเรียนจะนำความรู้ที่ได้นี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง ครอบครัว และสังคมทั่วไป ได้อย่างไร จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบขั้นตอนการทำงานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมในขั้นตอนใดบ้าง สำหรับการทำงานในครั้งต่อไป 6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 2. แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
7. การวัดและประเมินผล แนวทางการประเมิน ผลการเรียนรู้ น้ำหนัก คะแนน น้ำหนักคะแนน วิธีประเมิน เครื่องมือประเมิน K P A อธิบายการเปลี่ยนสถานะของ สสาร เมื่อทำให้สสารร้อนขึ้น หรือเย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิง ประจักษ์ได้(K) 10 10 - - - ประเมินชิ้นงาน แผนภาพ การเปลี่ยน สถานะของสสาร - แบบประเมินชิ้นงาน เขียนแผนภาพ การเปลี่ยน สถานะของสสาร อย่างรวม พลัง ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ ได้ (P) 10 - 10 - - สังเกตการปฏิบัติการ ทำกิจกรรม - แบบประเมินการ ปฏิบัติการทำกิจกรรม มีความมุ่งมั่นและตั้งใจ (A) 10 - - 10 - สังเกตคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ด้านใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รวม 30 10 10 10 - -
8. บันทึกผลหลังการสอน 8.1 ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 8.2 ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8.3 แนวทางแก้ไขปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ) ..................................................... ครูผู้สอน (นายอำนาจ กล่ำป่วน) วันที่………………….……………….. 9. ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นางวราภรณ์ กอสันเทียะ) วันที่………………….……………….. 10. ความคิดเห็นของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นายเกษมสินธุ์ สอนสุข) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
แบบประเมินชิ้นงาน การจัดกระทำและนำเสนอแผนภาพ รายการการ ประเมิน ระดับคุณภาพ 4 3 2 1 การจัดกระทำ และนำเสนอแผนภาพ จัดกระทำแผนภาพ อย่างเป็นระบบ และนำเสนอด้วยแบบ ที่ชัดเจน ถูกต้อง ครอบคลุม และมีการ เชื่อมโยงให้เห็นเป็น ภาพรวม จัดกระทำแผนภาพ อย่างเป็นระบบ มีการจำแนกข้อมูล ให้เห็นความสัมพันธ์ และนำเสนอด้วยแบบ ที่ครอบคลุม จัดกระทำแผนภาพได้ มีการยกตัวอย่างเพิ่มเติม และนำเสนอด้วยแบบ ต่าง ๆ แต่ยังไม่ครอบคลุม จัดกระทำแผนภาพ อย่างไม่เป็นระบบ และนำเสนอ ไม่สื่อความหมาย และไม่ชัดเจน แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รหัสวิชา ว15101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของสารในชีวิตประจำวัน เวลา 10 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ที่5 เรื่อง การละลายของสารในน้ำ : 1 เวลา 1 ชั่วโมง …………………………………………………………………………………………………………………………………………. 7. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น/ตัวชี้วัด มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติ ของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะ ของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏิกิริยาเคมี ตัวชี้วัด ว 2.1 ป.5/2 อธิบายการละลายของสารในน้ำ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ว 2.1 ป.5/4 วิเคราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ และการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับ ไม่ได้ 8. สาระสำคัญ สารละลาย (solution) หมายถึง สารที่ประกอบด้วยอนุภาคของสารบริสุทธิ์ (ธาตุหรือสารประกอบ) ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ตัวทำลาย และตัวถูกทำลาย โดยตัวถูก ละลายจะมีสัดส่วนจำกัดในระดับใดระดับหนึ่ง หากมีสัดส่วนมากเกินพอจะเกิดการตกผลึกกลายเป็นของแข็ง ทั้งนี้ สารละลายจะมีอัตราส่วนการรวมตัวของตัวทำลาย และตัวถูกทำลายที่ไม่คงที่ ทำให้สารละลายมีจุดเดือด และจุดหลอมเหลวไม่คงที่ตามมา องค์ประกอบของสารละลาย 1. ตัวทำละลาย (Solvent) ตัวทำละลาย คือ สารที่ให้อนุภาคของสารอื่นสามารถแทรกกระจายตัวอยู่ได้ และเป็นสารที่มีปริมาตร มากกว่าตัวถูกละลาย ซึ่งเป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว และก๊าซ แต่ที่พบ และถูกใช้ประโยชน์มากจะเป็น ของเหลว โดยเฉพาะน้ำสำหรับทำละลาย และของแข็งจากการทำโลหะผสม 2. ตัวถูกละลาย (Solute) ตัวถูกละลาย เป็นได้ทั้งของแข็ง ของเหลว และก๊าซ ที่ละลายกระจายตัวอยู่ได้ทั้งในสารทั้ง 3 ชนิด แต่ ตัวถูกละลายมีขนาดอนุภาคเล็กกว่า 0.001 ไมครอน จึงสามารถกระจายตัวแทรกอยู่กับตัวทำละลายเป็นเนื้อ เดียวกันอย่างสมบูรณ์
3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้านความรู้ อธิบายการละลายของสารในน้ำ (K) 3.2 ด้านทักษะ/กระบวนการ ปฏิบัติกิจกรรม การละลายของสารในน้ำ อย่างรวมพลัง ด้วยความมุ่งมั่นและรับผิดชอบได้ (P) 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความมุ่งมั่นและรับผิดชอบ (A) 3.4 สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสื่อสาร - การอธิบาย การเขียน การพูดหน้าชั้นเรียน 2. ความสามารถในการคิด - การสังเกต การสำรวจ การคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบ การสร้างคำอธิบาย การอภิปราย การสื่อความหมาย การทำกิจกรรมโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา - การแก้ปัญหาขณะปฏิบัติกิจกรรม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - กระบวนการกลุ่ม 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - การนำเสนอผลงานโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 3.5 ทักษะในศตวรรษที่ 21 (3Rs&8Cs) - การอ่านออก - การเขียนได้ - การคิดคำนวณ - มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ - มีความร่วมมือ ทำงานเป็นทีม - มีคุณธรรม มีเมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย 4. สาระการเรียนรู้ เมื่อใส่สารลงในน้ำแล้วสารนั้นรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับน้ำทั่วทุกส่วน แสดงว่าสารเกิดการละลาย เรียกสารผสมที่ได้ว่า สารละลาย
ชิ้นงาน / ภาระงาน ชิ้นงาน - ใบงานที่ 14 เรื่อง การละลายของสารในน้ำ ภาระงาน - ทำแบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 5. กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรียนสังเกตโอวัลติน (ผง) ผู้แทนนักเรียนเทน้ำร้อนลงในแก้วที่มีผงโอวัลตินแล้วคน จากนั้นถามนักเรียนว่าผงโอวัลตินหายไปไหน นักเรียนร่วมกันตอบคำถามจนกระทั่งได้คำว่า การละลาย แล้วร่วมกันตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้ 1.1 นอกจากการเปลี่ยนแปลงสถานะแล้ว นักเรียนทราบหรือไม่ว่าสารมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรได้อีกบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ สารยังมีการเปลี่ยนแปลงได้อีกโดยการละลาย) 2. นักเรียนร่วมกันสนทนา โดยตั้งประเด็นปัญหาเพื่อให้นักเรียนเกิดความสงสัยและต้องการ หาคำตอบด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยร่วมกันตอบคำถามสำคัญ ดังนี้ 2.1 เมื่อนำสารบางชนิดใส่ลงไปในน้ำ สารนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไรบ้าง (ตัวอย่างคำตอบ สารนั้นอาจจะเกิดการละลายน้ำหรือไม่ละลายน้ำก็ได้ ขึ้นอยู่กับสมบัติของสาร ชนิดนั้น ๆ) 3. นักเรียนร่วมกันคาดคะเนคำตอบ 4. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน คละเพศ และคละนักเรียนเก่ง ปานกลาง และอ่อน (หรือจะแบ่งกลุ่มด้วยวิธีการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้) โดยแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาวิธีทำและปฏิบัติกิจกรรมที่ 3.2 เรื่อง การละลายของสารในน้ำ ในใบงานที่ 14 ตามขั้นตอน ดังนี้ 4.1 ทบทวนบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในกลุ่มว่าต้องทำหน้าที่อย่างไรบ้างในการดำเนินการ ด้วยกระบวนการทำงานกลุ่ม เช่น หัวหน้ากลุ่ม มีหน้าที่ .................. ผู้จดบันทึก มีหน้าที่ ......................... ผู้เสนอรายงาน มีหน้าที่ .............. อื่น ๆ ................................. 4.2 ตรวจสอบความพร้อมของสื่อ วัสดุอุปกรณ์ สำหรับการปฏิบัติกิจกรรมว่าครบถ้วน เหมาะสม ที่จะใช้ในการปฏิบัติกิจกรรมเพียงใด 5. นักเรียนแต่ละกลุ่มอ่านและฟังอธิบายขั้นตอนวิธีทำกิจกรรมที่ 3.2 เรื่อง การละลายของสารในน้ำ ให้ เข้าใจอย่างชัดเจน โดยเขียนขั้นตอนลงในกระดาษฟลิปชาร์ต และนำขึ้นหน้ากระดาน 6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันแสดงความคิดเห็นก่อนทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถามก่อนทำ กิจกรรม ดังนี้
6.1 คำถามสำคัญในการทำกิจกรรมคืออะไร (เมื่อนำสารบางชนิดใส่ลงไปในน้ำ สารนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ อย่างไรบ้าง) 6.2 เมื่อใส่น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำมันพืชลงในน้ำ นักเรียนคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง อย่างไร (น้ำตาลทราย เกลือ จะละลายรวมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ ส่วนน้ำมันพืช จะไม่ละลายน้ำ และอยู่แยกชั้นกับน้ำ) 7. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอย่างรวมพลังทำกิจกรรมที่ 3.2 เรื่อง การละลายของสารในน้ำ และบันทึกผลการทำกิจกรรมในใบงานที่ 14 8. ผู้แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทำกิจกรรมหน้าชั้นเรียน เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 1. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์ และอภิปรายผลการทำกิจกรรม โดยร่วมกันตอบคำถาม หลัง ทำกิจกรรม ดังนี้ 1.1 เมื่อเติมเกลือลงในน้ำ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง (เกลือละลายรวมตัวกับน้ำเป็นของเหลวใส) 1.2 เมื่อเติมน้ำตาลทรายลงในน้ำ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง (น้ำตาลทรายละลายรวมตัวกับน้ำเป็นของเหลวใส) 1.3 เมื่อเติมน้ำมันพืชลงในน้ำ สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง (น้ำมันพืชไม่ละลายน้ำและอยู่แยกชั้นกับน้ำ) 1.4 สารใดละลายน้ำ สารใดไม่ละลายน้ำ (เกลือ น้ำตาลทรายละลายน้ำ ส่วนน้ำมันพืชไม่ละลายน้ำ) 1.5 เมื่อนำสาร 2 ชนิด มาผสมกันแล้วรวมตัวเป็นเนื้อเดียวกัน เราเรียกสารผสมนั้นว่าอะไร (สารละลาย) 1.6 เมื่อนำบีกเกอร์ที่เติมเกลือและน้ำตาลทรายไปต้ม สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง (มีคราบเกลือและน้ำตาลทรายติดที่ก้นบีกเกอร์) 1.7 สรุปผลการทดลองได้ว่าอย่างไร (เมื่อเติมเกลือและน้ำตาลทรายลงไปในน้ำจะเกิดการละลายรวมตัวกันเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ และเมื่อนำไปต้มจะพบเกลือและน้ำตาลทรายติดที่ก้นบีกเกอร์ ส่วนน้ำมันพืชเมื่อเติมลงในน้ำพบว่า น้ำมันพืชไม่ละลายน้ำและอยู่แยกชั้นกับน้ำ) จากนั้นฝึกนักเรียนถามคำถามที่สงสัยด้วยการถามเพื่อน โดยไม่จำเป็นต้องถามครูอย่างเดียว 2. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสรุปผลการทำกิจกรรมและสรุปสิ่งที่เข้าใจเป็นความรู้ร่วมกัน เกี่ยวกับการละลายของสารในน้ำว่า สารแต่ละชนิดมีการละลายน้ำได้แตกต่างกัน สารบางชนิดละลายน้ำ ได้มาก บางชนิดละลายน้ำได้น้อยบางชนิดไม่ละลายน้ำ
6. สื่อและแหล่งเรียนรู้ สื่อ 1. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 2. แบบฝึกหัด รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ของบริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 3. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้พัฒนาการคิดวิเคราะห์ รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บริษัทอักษรเจริญทัศน์ (อจท.) 4. ผงโอวัลติน 5. น้ำร้อน 6. ช้อน 7. แก้ว 8. เกลือ 2 ช้อนเบอร์ 2 9. นํ้าตาลทราย 2 ช้อนเบอร์ 2 10. นํ้ามันพืช 10 ลูกบาศก์เซนติเมตร 11. นํ้า 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 12. บีกเกอร์ขนาด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 3 ใบ 13. กระบอกตวง ขนาด 100 ลูกบาศก์เซนติเมตร 1 ใบ 14. แท่งแก้วคนสาร 1 แท่ง 15. ช้อนตักสารเบอร์ 2 2 คัน 16. ตะเกียงแอลกอฮอล์พร้อมที่กั้นลม 1 ชุด 17. ใบงานที่ 14 เรื่อง การละลายของสารในน้ำ 18. ใบกิจกรรม เรื่อง การละลายของสารในน้ำ แหล่งเรียนรู้ 1. ห้องสมุด 2. อินเทอร์เน็ต
7. การวัดและประเมินผล แนวทางการประเมิน ผลการเรียนรู้ น้ำหนัก คะแนน น้ำหนักคะแนน วิธีประเมิน เครื่องมือประเมิน K P A อธิบายการละลายของสารใน น้ำ (K) 10 10 - - - สังเกตการทำใบงานที่ 14 เรื่อง การละลายของ สารในน้ำ - ใบงานที่ 14 เรื่อง การ ละลายของสารในน้ำ ปฏิบัติกิจกรรม การละลายของ สารในน้ำ อย่างรวมพลัง ด้วย ความมุ่งมั่นและรับผิดชอบได้ (P) 10 - 10 - - สังเกตการปฏิบัติการ ทำกิจกรรม - แบบประเมินการ ปฏิบัติการทำกิจกรรม มีความมุ่งมั่นและรับผิดชอบ (A) 10 - - 10 - สังเกตคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ด้านใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมั่นในการ ทำงาน - แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุ่งมั่นใน การทำงาน รวม 30 10 10 10 - -
8. บันทึกผลหลังการสอน 8.1 ผลการจัดการเรียนรู้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… 8.2 ปัญหา/อุปสรรค ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 8.3 แนวทางแก้ไขปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ) ..................................................... ครูผู้สอน (นายอำนาจ กล่ำป่วน) วันที่………………….……………….. 9. ความคิดเห็นของหัวหน้างานวิชาการ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นางวราภรณ์ กอสันเทียะ) วันที่………………….……………….. 10. ความคิดเห็นของผู้บริหาร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (ลงชื่อ) ............................................................ (นายเกษมสินธุ์ สอนสุข) รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
วัสดุอุปกรณ์ 1. น้ำกลั่น 50 ลูกบาศก์เซนติเมตร 2. ช้อนตักสารเบอร์ 2 1 คัน 3. หลอดทดลองขนาดใหญ่ 5 หลอด 4. หลอดฉีดยาขนาด 10 ลูกบาศก์เซนติเมตร 1 อัน 5. สารที่ต้องการทดสอบ ได้แก่ แป้งมัน ดิน ทราย น้ำตาลทราย และเกลือ วิธีทำ 1. แบ่งกลุ่ม แต่ละกลุ่มร่วมกันใส่น้ำกลั่นปริมาตร 10 ลูกบาศก์เซนติเมตร ลงในหลอดทดลองขนาดใหญ่ 5 หลอด จากนั้นเติมแป้งมัน ดิน ทราย น้ำตาลทราย และเกลือ อย่างละ 1 ช้อนเบอร์ 2 ลงใน หลอดทดลองที่ใส่น้ำไว้แล้วหลอดละ 1 ชนิด เขียนป้ายชื่อบอกชนิดของสารบนหลอดทดลอง 2. เขย่าสารในหลอดทดลองนานประมาณ 1 นาที จากนั้นตั้งทิ้งไว้ 2 นาทีสังเกตการละลายของสาร บันทึกผล 3. แต่ละกลุ่มนำเสนอผลการทดลอง กิจกรรมเสนอแนะ กิจกรรม การละลายของสารในน้ำ แป้งมัน ดิน ทราย น้ำตาลทราย เกลือ วิธีการเขย่าสารในหลอดทดลอง สารที่ใช้ในการทดลอง การละลายน้ำของสาร