The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กาญจนา เทียนลาย, 2020-05-04 03:03:07

Thaihealth 2563 - Thai

Thaihealth 2563 - Thai

ข้อมูลทางบรรณานุกรม

สุขภาพคนไทย 2563 : สองทศวรรษ ปฏริ ปู การศึกษาไทย ความล้มเหลวและความสําเรจ็ / สถาบันวจิ ยั ประชากรและสงั คม
มหาวิทยาลยั มหดิ ล. -- พมิ พ์ครงั้ ที่ 1. -- นครปฐม : สถาบนั วิจัยประชากรสังคม มหาวทิ ยาลัยมหิดล, 2563.
(เอกสารทางวิชาการ / สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสังคม มหาวิทยาลยั มหิดล ; หมายเลข 509)

ISBN: 978-616-443-426-4
1. ประชากรและคณุ ภาพชวี ติ . 2. วยั รนุ่ กับสขุ ภาพ. 3. กจิ กรรมทางกาย. 4. พฤติกรรมทางเพศ--ในวัยรนุ่ . 5. พฤติกรรมเส่ียงในวยั ร่นุ .

6. ดัชนสี ุขภาพ. 7. ภาวะสุขภาพ--ดัชนีชวี้ ดั . 8. ส่อื สงั คมออนไลน์. 9. ครอบครัว. 10. เยาวชน--การศึกษา. 11. เยาวชน--การท�ำงาน. I. มหาวิทยาลยั มหดิ ล.
สถาบนั วิจยั ประชากรและสงั คม. II. ส�ำนกั งานกองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ สุขภาพ. III. สำ� นกั งานคณะกรรมการสขุ ภาพแห่งชาติ. IV. ชือ่ ชดุ .
WA100 ส743 2563

จัดท�ำเนื้อหาและจัดพมิ พโ์ ดย สถาบันวิจยั ประชากรและสังคม มหาวิทยาลยั มหิดล
ร่วมกับ สำ� นกั งานกองทุนสนบั สนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ (สสส.)
ร่วมจัดพิมพ์โดย สำ� นกั งานคณะกรรมการสุขภาพแหง่ ชาติ (สช.)
พมิ พ์ครง้ั ที่ 1 เมษายน 2563
จ�ำนวนพิมพ์ 7,500 เล่ม
ออกแบบและศลิ ปกรรม
ออกแบบปก ดร.นภิ าภรณ์ ฮวบเจรญิ
ณัฐพงษ์ รจุ ิรงคน์ างกุล
บริษัทอมรนิ ทรพ์ ร้ินติ้ง แอนด์พับลชิ ชงิ่ จ�ำกัด (มหาชน)
พิสูจน์อักษร 376 ถ.ชยั พฤกษ์ แขวงตล่งิ ชัน เขตตลิ่งชนั กรงุ เทพฯ 10170
ส�ำนักพมิ พ ์


สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล
เลขท่ี 999 ถนนพทุ ธมณฑล สาย 4 ต�ำบลศาลายา อ�ำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม 73170
โทรศพั ท์ 0-2441-0201-4 โทรสาร 0-2441-9333
เว็บไซต์ www.ipsr.mahidol.ac.th

ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เลขท่ี 99/8 อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ ซอยงามดพู ลี แขวงทงุ่ มหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120
โทรศัพท์ 0-2343-1500 โทรสาร 0-2343-1551
เว็บไซต์ http://www.thaihealth.or.th

ส�ำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.)
เลขที่ 88/39 ชน้ั 3 อาคารสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข ตำ� บลตลาดขวญั อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั นนทบุรี 11000
โทรศัพท์ 0-2832-9000 โทรสาร 0-2832-9001-2
เวบ็ ไซต์ www.nationalhealth.or.th

ข้อมูลในหนงั สอื เลม่ นี้ไม่สงวนสิทธ์ิ สามารถน�ำไปเผยแพร่เพ่อื ประโยชน์ต่อสังคมได้ ขอให้อา้ งองิ ที่มาด้วย



บอกกล่าว

รายงานสุขภาพคนไทยฉบับปี 2563 นี้ นับเป็นฉบับที่ 17
หากเปรียบตามช่วงชีวิตของคนก็ถือว่าก�ำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น
ทกี่ ำ� ลงั เตบิ โตตอ่ ไปเพอ่ื เปน็ ผใู้ หญเ่ ตม็ ตวั รายงานฉบบั นี้ ทำ� หนา้ ที่
บนั ทกึ เหตกุ ารณส์ ำ� คญั ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในแตล่ ะปี นำ� เสนอขอ้ มลู ตวั ชว้ี ดั
ที่เป็นประโยชน์ และหยิบยกประเด็นสุขภาพและสังคมท่ีเป็น
เรอ่ื งเดน่ มานำ� เสนอในแตล่ ะฉบบั หากมองยอ้ นกลบั ไปจะเหน็ วา่
บางสถานการณท์ เ่ี คยเปน็ ปญั หา อาจกำ� ลงั มกี ารเปลย่ี นแปลงไป
ในทิศทางที่ดีข้ึน ขณะท่ีบางสถานการณ์ก็ยังคงเป็นปัญหา
ท่ียงั แก้ไมต่ ก หรอื อาจจะก�ำลงั ยอ้ นกลบั มาเป็นปญั หาใหม่

ในฉบบั น้ี สว่ นตวั ชว้ี ดั นำ� เสนอ 12 หมวดตวั ชวี้ ดั “สขุ ภาพ
วัยรุ่นและเยาวชนไทย” โดยแบ่งหมวดตัวช้ีวัดออกเป็นหมวดท่ี
1-3 สถานะสุขภาพ ทางกาย จิต และสังคม หมวดที่ 4-8
ปจั จยั กำ� หนดสขุ ภาพดา้ นพฤตกิ รรม เกย่ี วกบั การบรโิ ภคอาหาร
การมีกิจกรรมทางกาย พฤติกรรมทางเพศ พฤติกรรมเส่ียงทาง
สุขภาพอ่ืน ๆ และพฤติกรรมเสี่ยงทางสังคม หมวดที่ 9-11
ปัจจัยก�ำหนดสุขภาพด้านสภาพแวดล้อม เก่ียวกับสื่อออนไลน์
ครอบครัว การศึกษาและการท�ำงาน และหมวดท่ี 12 นโยบาย
ของไทยที่มีต่อวัยรุ่นและเยาวชน โดยวัยรุ่นและเยาวชนในท่ีน้ี
ครอบคลุมประชากรในช่วงอายุ 10-24 ปี

ส่วน 10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ ได้คัดเลือก 10 เรื่องราวส�ำคัญในรอบปีที่ผ่านมา เช่น ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ท่ีก�ำลัง
ทวีความรุนแรงข้ึนทุกปี การต่อสู้เพ่ือแบนสารก�ำจัดศัตรูพืช 3 ชนิดที่มีทีท่าไม่ง่าย ภาวะซึมเศร้าของเด็กและเยาวชนไทย
นโยบายการใชก้ ญั ชาทางการแพทยท์ ตี่ อ่ เนอ่ื งมาจากปี 2561 อสี ปอรต์ กฬี าชนดิ ใหมห่ รอื เกมออนไลน์ เปน็ ตน้ พรอ้ มกบั นำ� เสนอ
ผลงานดี ๆ ท่ีเกดิ ข้ึนในรอบปี จำ� นวน 4 เร่อื ง

ส�ำหรับเรื่องพิเศษประจ�ำฉบับ รายงานสุขภาพคนไทย 2563 ได้สะท้อนภาพการศึกษาของไทยที่มีการปฏิรูปมาหลาย
ทศวรรษ โดยแตล่ ะครงั้ มที ง้ั ความสำ� เรจ็ และความลม้ เหลวทเี่ ปน็ บทเรยี น แมท้ ผ่ี า่ นมาไทยจะลงทนุ กบั การศกึ ษาเปน็ จำ� นวนมาก
แตผ่ ลลพั ธท์ ่ไี ดก้ ลบั ตรงกบั ขา้ ม ศกั ยภาพในการแขง่ ขันของเดก็ ไทยยังด้อยกว่าประเทศอื่น ๆ เน้ือหาภายใน มีการยกตวั อยา่ ง
ข้อมูลคะแนน PISA ของเด็กไทยเปรียบเทยี บกับประเทศต่าง ๆ นอกจากน้ี ไดไ้ ล่เรยี งปญั หาของการศกึ ษาในทุกระดบั ต้งั แต่
ระดับอนุบาลจนถึงระดับมหาวิทยาลัย รวมถึงได้ยกประเด็นความเหล่ือมล้�ำที่เป็นอุปสรรคสำ� คัญในการศึกษาของเด็กไทย
พรอ้ มทง้ั ยกตวั อยา่ งประเทศฟนิ แลนดแ์ ละสงิ คโปร์ ทรี่ ะบบการศกึ ษามคี ณุ ภาพสงู ซง่ึ มปี รชั ญาการศกึ ษา วธิ คี ดิ ตอ่ การพฒั นาคน
ผลลัพธ์และประสิทธิภาพการศึกษาท่ีแตกต่างจากไทย เป็นไปได้หรือไม่ท่ีไทยจะได้เรียนรู้เพื่อพัฒนาการศึกษาในบ้านเราท่ี
เหมาะสมในบรบิ ทของเราเอง อนั ทจี่ รงิ แลว้ การศกึ ษาไทยยงั มเี รอื่ งดี ๆ ทงั้ ในดา้ นกฎหมายทจี่ ะบงั คบั ใชเ้ พอ่ื พฒั นาการศกึ ษา
โรงเรยี นทางเลอื ก โครงการสนบั สนนุ การศกึ ษาระดบั ตา่ ง ๆ แนวคดิ การปฏริ ปู การศกึ ษาจากลา่ งขน้ึ บนทเี่ นน้ การปฏริ ปู การเรยี น
การสอนระหว่างครกู บั นักเรยี นท่ีหากท�ำไดอ้ ยา่ งจรงิ จงั กจ็ ะสามารถแก้ปญั หาการศกึ ษาไดใ้ นหลายมติ ิ สง่ิ เหลา่ นี้ จะเป็นไปได้
มากน้อยเพียงใด เกิดได้จริง จะย่ังยืน และเป็นค�ำตอบของสังคมไทยหรือไม่ ขอเชิญท่านผู้อ่านร่วมหาค�ำตอบและวิเคราะห์
ไปพร้อมกบั เรา

คณะท�ำงานจัดท�ำรายงานสุขภาพคนไทย หวังเป็นอย่างย่ิงว่า “สุขภาพคนไทย 2563” จะเป็นหนังสือที่ยังประโยชน์
ใหก้ ับสงั คมไทย และก่อใหเ้ กดิ การเรยี นรูจ้ ากอดีต เพอื่ น�ำไปสู่สงั คมท่ีเปน็ สุขรว่ มกนั ไดต้ อ่ ไป

สารบัญ

12 หมวดตวั ช้วี ดั “สขุ ภาพวัยรุน่ และเยาวชนไทย”

1. สุขภาพกาย 10

2. สุขภาพจติ 12

3. สขุ ภาพสงั คม 14

4. พฤติกรรมการบรโิ ภคอาหาร 16

5. กิจกรรมทางกาย 18

6. พฤติกรรมทางเพศ 20

7. พฤตกิ รรมเส่ยี งทางสขุ ภาพอนื่ ๆ 22

8. พฤติกรรมเสยี่ งทางสงั คม 24

9. ส่ือสงั คมออนไลน์ 26

10. ครอบครัวกบั วัยรุ่นและเยาวชน 28

11. การศึกษาและการทำ� งาน 30

12. นโยบายของไทยตอ่ วัยรุ่นและเยาวชน 32

10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ 4 ผลงานดี ๆ เพอื่ สุขภาพคนไทย

1. ฝ่นุ PM 2.5 มหนั ตภัยสุขภาพของไทย 36 1. หมอวิโรจน์ ต้งั เจริญเสถียร 88

2. แบนสามสารเคมีการเกษตร: 41 กบั รางวัลอนั ทรงเกียรตจิ าก WHO

การตอ่ ส้ทู ย่ี ดื เย้ือ 2. ระบบสุขภาพไทยติดอันดับนำ� 89

3. วกิ ฤตขยะพลาสติกในทะเล 47 ของเอเชียและของโลก

ปลกุ คนไทยลดขยะพลาสติก 3. UNESCO ยกย่องหลวงปมู่ ่ันและสมเด็จ 90

4. ภาวะซึมเศรา้ ของเด็กและเยาวชน: 53 พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส

จะช่วยอยา่ งไร? เปน็ บคุ คลส�ำคัญของโลกสาขาสันติภาพ

5. จับตานโยบายกัญชาเสรี ขายฝนั หรอื ทำ� จริง? 58 4. “1 วดั 1 โรงพยาบาล” ขบั เคลื่อน 91

6. การควบคุมโรงพยาบาลเอกชน: 63 ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆแ์ หง่ ชาติ

นโยบายสขุ ภาพปะทะทนุ นยิ มการแพทย ์

7. บุหร่ีไฟฟา้ : มหนั ตภัยยุค 4.0 69 เร่อื งพเิ ศษประจ�ำฉบบั

ทีค่ กุ คามสขุ ภาวะคนไทย สองทศวรรษ ปฏริ ูปการศกึ ษาไทย 94

8. รับมอื สงั คมสงู วัย: ไทยต้งั ศูนย์อาเซียน 74 ความลม้ เหลวและความส�ำเรจ็

เพอ่ื สงั คมสงู อายอุ ยา่ งมศี กั ยภาพและนวตั กรรม (ACAI)

9. กระแสนิยมเดนิ -วงิ่ เพอ่ื สุขภาพ 79 ภาคผนวก

สู่ยุคเฟอ่ื งฟูของธรุ กิจกีฬา เกณฑ์ในการจัดท�ำรายงาน 118

10. อสี ปอรต์ : กฬี าหรอื เกมกลธุรกิจขา้ มชาต?ิ 83 “สุขภาพคนไทย 2563”

รายชื่อคณะกรรมการชท้ี ิศทาง 121

รายชอ่ื ผทู้ รงคุณวุฒ ิ 122

รายช่อื คณะทำ� งานจดั ทำ� รายงานสขุ ภาพคนไทย 123

บรรณานุกรม 124

ส�ำหรบั การอา้ งองิ บทความ
โครงการสุขภาพคนไทย. 2563. ชอื่ บทความ. สุขภาพคนไทย 2563 (เลขหน้าของบทความ).
นครปฐม: สถาบันวจิ ัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล.

ตวั อย่าง
โครงการสขุ ภาพคนไทย. 2563. สขุ ภาพกาย. สขุ ภาพคนไทย 2563 (หนา้ 10-11).
นครปฐม: สถาบนั วจิ ัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลยั มหิดล.



12 หมวดตัวชี้วัด

“สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

วยั รุนและเยาวชนไทย (อายุ 10-24 ป)

รอยละของประชากรทั้งหมด 21.2% 19.1% 16.7% 15.2% ปจรําะนชวากนร พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ.
14.1% 13.3% 11.4% 10.5% (ลานคน) 2553 2563 2573 2583
5.3% 10-14 4.5 3.9 3.5 3.0
7.1% 5.8% 4.7% 8.8 7.7 6.9
2573 พ.ศ. 15-24 9.0 12.7 11.2 9.9
66.5 67.1 65.4
15-24 ป 2583 10-24 13.5

2553 2563 10-24 ป ประชากรไทย 63.8
ทงั้ หมด
10-14 ป

ทมี่ า : การคาดประมาณประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2553 – 2583 (ฉบบั ปรับปรุง), ส�ำนกั งานสภาพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ (2562)

“วัยรุ่นและเยาวชน” เป็นกลุ่มประชากรในช่วงวัย ทั้ง 2 กลุ่มเข้าด้วยกัน “วัยรุ่นและเยาวชน” จึงครอบคลุม
ที่ก�ำลังเปล่ียนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ ภายใต้ ประชากรในช่วงอายุ 10-24 ปี ภายใต้การเปล่ียนแปลง
การเปล่ียนแปลงทั้งทางร่างกายและจิตใจน้ี ปัจจัย โครงสร้างประชากรของประเทศไทย จ�ำนวนประชากร
สภาพแวดลอ้ ม ครอบครวั และบคุ คลรอบขา้ ง รวมถงึ สงิ่ เรา้ วัยรุ่นและเยาวชนไทยอายุ 10-24 ปี ลดลงต่อเนื่องในช่วง
และส่ิงกระตุ้นรอบด้าน เป็นท้ังปัจจัยบวกและปัจจัยเสี่ยง ทผี่ า่ นมา โดยมจี �ำนวน 12.7 ลา้ น ในปี 2563 หรือ รอ้ ยละ
ทส่ี งั คม โดยเฉพาะ ครอบครวั และหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งตอ้ ง 19.1 ของประชากรท้ังหมด โดยทั้งจ�ำนวนและสัดส่วนนี้
ทำ� ความเขา้ ใจ ใหค้ วามสำ� คญั และการสนบั สนนุ ทเี่ หมาะสม มแี นวโนม้ ลดลงต่อไปในอีก 10-20 ปขี า้ งหน้า

รายงานสุขภาพคนไทย 2563 น้ี น�ำเสนอ 12 หมวด แม้วัยรุ่นและเยาวชนจะเป็นกลุ่มที่มีสุขภาพกาย
ตัวช้ีวัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย” โดยหมวดที่ 1-3 แข็งแรงกว่าประชากรในวัยอื่น แต่ปัจจัยเสี่ยงท่ีส�ำคัญต่อ
เป็นข้อมูลสถานะสุขภาพทางกาย จิต และสังคม หมวดท่ี การบาดเจบ็ ทางกายและการตายกอ่ นวยั อนั ควร ยงั คงเปน็ เรอื่ ง
4-8 เปน็ ขอ้ มลู ปจั จยั กำ� หนดสขุ ภาพดา้ นพฤตกิ รรม เกยี่ วกบั อุบัติเหตุทางท้องถนน ซ่ึงผู้ชายมีความเสี่ยงมากกว่าผู้หญิง
การบรโิ ภคอาหาร การมกี จิ กรรมทางกาย พฤตกิ รรมทางเพศ ปัญหาสุขภาพจิตและโรคซึมเศร้า ที่เกิดจากความเครียด
พฤติกรรมเส่ียงทางสุขภาพอ่ืน ๆ และพฤติกรรมเสี่ยงทาง ปัญหาสว่ นตวั หรอื การถกู กล่ันแกลง้ จากเพื่อนหรอื คนรู้จกั
สงั คม หมวดท่ี 9-11 ปจั จยั กำ� หนดสขุ ภาพดา้ นสภาพแวดลอ้ ม ท่ีอาจเป็นสาเหตุน�ำไปสู่การฆ่าตัวตายและปัญหาสุขภาพ
เก่ียวกับสื่อออนไลน์ ครอบครัว การศึกษาและการท�ำงาน อื่น ๆ ที่ตามมา เป็นอีกเร่ืองที่ต้องเฝ้าระวัง จากการท่ี
และหมวดที่ 12 นโยบายของไทยทม่ี ตี อ่ วยั รนุ่ และเยาวชน สภาพสังคมและวิถีชีวิตในปัจจุบันมีความเป็นอยู่ที่เป็น
ปัจเจกมากข้ึน ความใกล้ชิดกับชุมชน การมีความสัมพันธ์
องคก์ ารอนามยั โลก ใหน้ ยิ าม “วยั รนุ่ ” (Adolescents) ทางสังคมและการมีเพ่ือนสนิทของวัยรุ่นและเยาวชนไทย
หมายถึง ประชากรในช่วงอายุ 10-19 ปี และ “เยาวชน” พบว่ามีแนวโน้มลดลง ระบบการเก้ือหนุนทางสังคม
(Youth) หมายถึงประชากรในช่วงอายุ 15-24 ปี เม่ือรวม

8 สุขภาพคนไทย 2563

การให้ค�ำปรึกษาสายด่วน หรอื ทางออนไลน์ อาจมีบทบาท การเล่นหรือติดพนัน ที่ปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลายและ
เพมิ่ ขน้ึ ในการสนบั สนนุ เพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพสงั คมทด่ี ขี อง ชอ่ งทางการเขา้ ถึงออนไลน์ไดง้ า่ ยขน้ึ
วยั รุ่นและเยาวชนได้
วัยรุ่นและเยาวชนไทยเกือบทุกคนมีโทรศัพท์มือถือใช้
การบริโภคอาหารของวัยรุ่นและเยาวชนมีเทคโนโลยี และมากกว่าร้อยละ 90 เข้าถึงอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม
และแอปพลิเคชันส่ังซื้ออาหารเข้ามามีบทบาทเพิ่มข้ึน แต่ การใช้ประโยชน์ส่วนใหญ่ยังเป็นไปเพื่อการส่ือสารและ
การเลือกส่วนใหญ่ยังข้ึนอยู่กับ ความชอบและความอยาก ความบันเทิง มากกว่าเพื่อการเรียนรู้และการศึกษา
เป็นปัจจัยหลัก มากกว่าค�ำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ ขณะที่สื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทเพ่ิมมากข้ึนใน
ท�ำให้จ�ำนวนมากยังคงเลือกกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ชีวิตเกือบทุกด้าน แต่ความสัมพันธ์ของวัยรุ่นและเยาวชน
ขณะทีก่ ารบรโิ ภคผกั และผลไมย้ ังอย่ใู นระดบั ทีต่ ำ�่ เกย่ี วกบั ไทยกับครอบครัวดูเหมือนจะห่างเหินมากขึ้น การใช้เวลา
กิจกรรมทางกาย การส�ำรวจในปี 2562 พบวัยรุ่นและ ท�ำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันในครอบครัว การปรึกษาปัญหา
เยาวชนเพศหญิง 1 ใน 3 มีกิจกรรมทางกายทไี่ มเ่ พยี งพอ และเปิดใจคุยกันในเรื่องต่าง ๆ กลับมีน้อยลง ซ่ึงเป็นสิ่งที่
ซ่ึงเป็นสัดส่วนท่ีสูงกว่าเพศชาย การออกก�ำลังกายและ ทุกคนในครอบครัวที่มีวัยรุ่นและเยาวชนเป็นสมาชิก
เล่นกีฬา รวมถึงการมีกิจกรรมทางกายจากการสัญจร ตอ้ งหนั กลบั มาพจิ ารณาชว่ ยกนั สานสมั พนั ธใ์ หแ้ นบแนน่ ขน้ึ
และเดินทางในชีวิตประจ�ำวัน เป็นเรื่องที่ควรรณรงค์
และสนบั สนุนเพิม่ มากขึ้น ในด้านการศึกษาและการท�ำงาน การพัฒนาคุณภาพ
ประสิทธิภาพ รวมถึง ความเสมอภาคของการศกึ ษาใหก้ บั
ปญั หาแมว่ ยั รนุ่ แมม้ แี นวโนม้ ลดลง แตพ่ ฤตกิ รรมเสยี่ ง ประชากรวยั เรยี นทกุ คน ทกุ กลมุ่ การสง่ เสรมิ พฒั นาการเรยี นรู้
ทางเพศจากการมจี ำ� นวนคนู่ อนทเ่ี พม่ิ ขนึ้ การไมใ่ ชถ้ งุ ยางอนามยั ตลอดชีวิต ทักษะและศักยภาพในการท�ำงานที่จ�ำเป็น
ในการป้องกนั โรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์ และจ�ำนวนผปู้ ่วย ในอนาคต ให้กับวัยรุ่นและเยาวชน โดยเฉพาะกลุ่ม
โรคซิฟิลิสในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนท่ีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กลุ่ม NEET ซ่ึงมีประมาณ 1 ใน 8 ของวัยรุ่นและเยาวชน
เป็นปัญหาที่ยังต้องเฝ้าระวัง เช่นเดียวกับพฤติกรรมเสี่ยง ไทยทง้ั หมด โดยเปน็ กลมุ่ ทไ่ี มอ่ ยทู่ ง้ั ในระบบการศกึ ษา และ
ทางสุขภาพอ่ืน ๆ ท้ัง การสูบบุหร่ีและด่ืมสุรา ซ่ึงพบว่ามี ในระบบการจ้างงาน เป็นความท้าทายและข้อพิจารณา
สัดส่วนของวัยรุ่นและเยาวชนท่ีสูบและด่ืมค่อนข้างทรงตัว ที่ส�ำคัญในการก�ำหนดนโยบายของประเทศไทย ในการ
ไม่ลดลงเท่าที่ควร พฤติกรรมการขับข่ีในขณะมึนเมา สง่ เสรมิ และพฒั นาประชากรวยั รนุ่ และเยาวชนใหม้ คี ณุ ภาพ
และการไม่สวมหมวกนิรภัยเมื่อใช้รถจักรยานยนต์ รวมถึง ชวี ติ ทดี่ ี เปน็ พลเมอื งสรา้ งสรรค์ ทม่ี สี ว่ นรว่ มในฐานะภาคที มี่ ี
พฤตกิ รรมเสยี่ งทางสงั คม เชน่ ปญั หายาเสพตดิ ใหโ้ ทษ หรอื พลงั ในกระบวนการพฒั นาของประเทศในระยะยาว

912 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

1 สุขภาพกาย
รอยละ 91.5 88.3
รอยละ
ในปี 2560 อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนของวัยรุ่นและเยาวชน
อยูท่ ี่ 40.9 ตอ่ 100,000 ประชากร
8.6 11.7

ชาย หญิง
วทยัางรถนุ่ นแลนะทเย่ยี างั วเชปนน็ โสดายเหรตวมกุ มารสี บขุ าภดาเพจกบ็ าแยลทะเแี่ส9ขีย1ง็ .ช5แีวรติงแอลนั ะดยับงั หหา่นงง่ึ ไก88ล.3จากโรคตา่ ง ๆ แตม่ มคีอี าวกาารปมว ยเส/ไมยี่ สงบาจย ากอไบุ มมตั อี าเิกหารตปวุย/ไมส บาย
89.9

วยั รนุ่ และเยาวชนในชว่ งอายุ 10-24 ปี เปน็ ชว่ งทสี่ ขุ ภาพกาย 5 อันดับสาเหตุการป่วย/
โดยรวมแขง็ แรง การเจบ็ ปว่ ยจากโรคประจำ� ตวั หรอื โรคเ8ร.อ้ื6รงั ยงั มนี อ้ ย 1ไม1.่ส7บายของวัยรุ่นและเ1ย0า.1วชน (อายุ 10-24 ปี)
โดยมากเปน็ การเจบ็ ปว่ ยเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ในปี 2560 มเี ชพายยี ง 1 ใน 10 หญงิ ครั้งสุดท้ายในรว1ม เดือนที่ผ่านมา
ทม่ี กี ารเจบ็ ปว่ ยหรอื รสู้ กึ ไมส่ บายใน 1 เดอื นทผ่ี า่ นมา โดกมยาีอทารกร่ีเาขารปวา ว พคย/รกั ไง่ึมรหสกับนาษยงึ่ าตัวใไนมมสีอถากาานรปพว ยย/ไามบสบาาลยใน 12 เดือนทผ่ี านมา
ของผู้เจ็บปว่ ยหรอื ไมส่ บาย มอี าการเปน็ หวดั ไอ หร1อื 0ม0 ีนำ้� มกู
ชาย
90 รอ ยละ
วัยรุ่นและเยาวชน (อายุ 10-24 ป80ี)
ที่ป่วย/ไม่สบายใน 1 เดือนที่ผ่านม7า0 1. หวัด/ไอ/มนี ำ้ มูก 54.5 1. หวดั /ไอ/มีน้ำมกู
2. ไขตัวรอน
60 96.336. โรคเร้อื รัง/โรคประจำ9ต4วั .14 10.8 หญ2ิง. ไขต ัวรอ น
50
8.4 935..2ป7วดทอ ง/ทอ งอดื /ทองเ

40 4. อนื่ ๆ 5.9 4. ความเครียด/นอนไมหลบั

ชาย 30 5. ไข ไอและหอบ ปอดบวม 4.6 5. ทอ งรวง/ทองเสีย/อาหา

รอยละ 91.5 88.3 20 89.9 รอยละ รอ ยละ
10
1. หวัด/ไอ/มีน้ำมกู 0 54.5 3.614. หวัด/ไอ/มนี ำ้ มกู 5.86 524..773

2. ไขต วั รอ น 10.8 ชา2ย. ไขตัวรอ น หญิง 12ร.ว1ม

3. โรคเรอ้ื รัง/โรคประจำตัว 8.4 เคยเ3ขา.พปกั รวักดษทา อ ง/ทองอืด/ไทมเอคงยเเขฟา พอ กั /รโกั รษคากระเพาะ 7.4
8.6 11.7 ท่มี า: ก1รา0วร.มส1ำรว5จอ.9นามัยและสว4สั ด. ิกคาวราม25เค6ร0ยี ด/นอนไมหลับ/ปวดหวั
4. อื่นๆ 5.5
ชาย หญงิ
มีอาการปว ย/ไมส บา5ย . ไข ไอไมแม ีอลาะกหารอปบวย/ปไมอสดบาบยวม 4.6 5. ทอ งรวง/ทองเสยี /อาหารเปนพิษ 5.4

หมายเหตุ : เฉพาะการปว่ ยทีไ่ มต่ ้องนอนในสถานพยาบาล หมายเหตุ : ถามเฉพาะผทู้ มี่ กี ารปว่ ยทไี่ มต่ อ้ งนอนในสถานพยาบาลใน 1 เดอื นทผ่ี า่ นมา
ที่มา : การส�ำรวจอนามัยและสวสั ดิการ พ.ศ. 2560, ส�ำนักงานสถิติแห่งชาติ ทีม่ า : การสำ� รวจอนามัยและสวัสดกิ าร พ.ศ. 2560, ส�ำนกั งานสถิตแิ หง่ ชาติ

สำ� หรบั การเขา้ พกั รกั ษาตวั ในสถาน สาเหตุการเข้าพักหรญักงิ ษาตัวในสถานพยาบาลครั้งสุดท้าย
พยาบาล พบว่าผู้หญิงมีการเข้าพักรักษา ใน 12 เดือนที่ผ่านมา วัยรุ่นและเยาวชน (อายุ 10-24 ปี)
ตวั ในสถานพชายยาบาลใน 12 เดอื นทผ่ี า่ นมา
ชาย 5.8 หญงิ

มากกว่าผู้ชายเล็กน้อยรอย(รล้ะอยละ 5.9 รอยละ

1. หวดั เ/ปไอร/ียมีนบ้ำมเูกทียบกับร้อยละ543.5.6) อย่า1ง. หไวรัด/ไอ/มีนำ้ มูก 52.7 39.0
3.8 7.2
2. ไโไอขขรื่นคต ไๆกใใเอวั รนนรแ็ตอื้ อลรโขะานงัรหณม/องโบพระคคปทยปรอรา่ีดผ่ึงะบบจหู้ชวำานตมาัวลยึ่งเขรปอ้อ็นงยผเลพู้หะรญา61ิงะ58450ท...ไ649..8ป่ีเ0ขค้าเลขรอัก้าดรษ3254ักบา....ษตุตคไทปขัอวววารตดางัวมทรรเวอคองงรน//ยี ททดอ อ/งงนเอโอสอรนุ่บืืดยีนคๆตั//ไมเิทอหหอาตลหงุ บัาเฟร/เอปป/วน โดพร2หคษิ ัว9ก.ร2ะเพาะ 12.1 50.0 โรค
3. 657..04 อุบัตเิ หตุ
4. ตัวด้วยโรค ตามด้วยร้อยละ 29.2 ท่ีเข้า
5. รักษาตวั เนอ่ื งจากอบุ ตั ิเหตุ 5.5 อื่นๆ
คลอดบตุ ร
5.4

หมายเหตุ : ถามเฉพาะผู้ทเ่ี ข้าพักรักษาตัวในสถานพยาบาลใน 12 เดือนทผ่ี า่ นมา
ทีม่ า : การสำ� รวจอนามยั และสวัสดกิ าร พ.ศ. 2560, ส�ำนกั งานสถติ แิ ห่งชาติ

10 สุขภาพคนไทย 2563

ตอประชากร 1,0 0.5 0.5 0.5 ตอประชากร 1,0
0.4 0.4 0.5

ที่มา: หนว ยเฝา ระวังและสะทอ นสถานการณค วามปลอดภัยทางถนน (Thailand Road Safety Observatory, TRSO) 0.3 0.3 0.3 0.4 1.0 1
โดยมลู นิธิไทยโรดส (http://trso.thairoads.org/statistic/national/N-SPI-B/N-SPI-B3/N-SPI-B3-02) 0.5 0
0.3 0.3 2557 2

อัตราตายตอ ประชากรในชอวัตงรอาาตยาุเยดตีย่วอกปนั ระ1ชา,0ก0รใ0นชค่วนงอจาำแยนุเดกียตวามกกันล1มุ อ,0าย0ุ 0ป ค2น55จ7ำ�แ-น2ก5ต265า5ม17 กลุ่ม25อ58ายุ 2559 2560 พ.ศ.

2561

ชาย หญงิ รวม 10-14 ป ชาย หญิง รวม 15-19 ป ชาย หญิง รวม 20-24 ป
1.7 1.8 1.8
ตอประชากร 1,000 คน 0.5 0.6 0.6 ตอประชากร 1,000 คน 1.7 1.7 1.6 1.8 1.7
0.5 0.5 0.5 1.5 1.5 ตอประชากร 1,000 คน
0.4
0.4 0.5 1.0 1.1 1.1 1.0 1.2 1.2 1.2 1.1
0.4 0.5 0.5
0.3 0.3 0.3 1.0 1.1
0.3 0.3 0.5 0.5
2557 2557
0.5 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5
2560 2561 2560 2561
พ.ศ. พ.ศ. พ.ศ.

2557 2558 2559 2560 2561 2558 2559 2558 2559

ทีม่ า : สถติ ิสาธารณสุข พ.ศ. 2561, กระทรวงสาธารณสขุ

5ชาอย ันดับ5หสญงิอาเันหดตับุกสราาวเมรหสตกุูญารเสส2ูญี0ย-ปเ2สีส4ยี ุขปปภสุขาภวาะวจะาจกากกกาารรเเสสยีียชชวี ีวิติตกกอ น่อวนัยวอัยันคอวันรคปว ร25ป5ี 72557 วัยรุ่นและเยาวชนเพศชาย

1. อุบ1ัต.7ิเหตทุ างถ1น.8น 1.8 2. เอด1ส.8 1.7 3. การถูกทำราย 4. การทำรายตนเอง 5. อบุ ตั เิ หตุอน่ื ๆ อายุ 15-24 ปี มีอัตราตายสูงกว่า
ตอประชากร 1,000 คน
HIV1.1 1.2 1.2 1.2 1.1 ผ้หู ญิงถึงกวา่ 3 เทา่ โดยอบุ ัติเหตุ
ทางถนนเป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง
ของการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
จำนวนปที่เสียไปเพราะเสียชีวิตกอนวัยอันควร (‘000 ป)
หมว19ด7 1 57 37 2325570.5 0.5 0.5 0.5 0.5 ของวัยรุ่นและเยาวชน ตามด้วย
17 เอดส์ การถูกท�ำร้าย การท�ำร้าย
พ.ศ.

2558 2559 2560 2561

หหมายเหตุ::ออาายยุ ุ1155--2299ปป ี ตัวเอง และอบุ ัติเหตุอน่ื ๆ
ททมี่ ี่มาา:: BราuยrdงาeนnภoารfะDโiรsคeแaลseะกRาeรsบeาaดrเcจhบ็ ขPอroงปgrรaะmชา(กBรOไทDยTพh.aศi.la2n5d5)7, สำ� นกั งานพฒั นานโยบายสขุ ภาพระหวา่ งประเทศ
อตั ราการบาดเจบ็ และ เสียชวี ิตจากอบุ ัตเิ หตุทางถนนของวยั รนุ และเยาวชน (15-24 ป)
อตั ราการบาดเจบ็ และ เสจยี ำนชววี นิตผจูเ าสปกีย อ2ชวีุบ5ิตัต5จเิ4าหก-ตอ2ทุบุ 5าัต5งเิ ห9ถตนทุ นางขถอนงนวัยรุน่ และเยาวชน (15-24 ป)ี

6000 511.8 5,292 บาดเจ็บ เสยี ชวี ิต

5000 435.2 4,43428 9.4 4,474 4,407

4000 3,752 3,624 367.2

417.8ตอ 100,000 ประชากร 335.5 315.5
2,399
3000 2,057 2,058

2000 1,710 1,763 2,080342.8 1,843 3011,8.004 2,208302.4
1000 1,521 574
1,424 1,741 545 685
521 437 527

0 2555 2556 2557 2558 2559
2554

32.710-142ป 9.6 271.53-19 ป 25.0 2230-.254 ป 34.4 32.7รวมอายุ 10-24 ป 32.4 33.5 18.5 20.6 22.4 40.9

ท่ีมา: ระบบบูรณาการขอมูลการตายจากอุบตั เิ หตุทางถนน กรมควบคมุ โรค สำนักโรคไมติดตอ กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ.

2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560

ในป 255ท9ีม่ า : หนว่ ยเฝา้ ระวังและสะท4อ้ นใสนถาน5การณค์ วามปลอดภยั ทางถนน มลู นิธไิ ทยโรดส์
มวี ยั รนุ และเยาวชน ของวยั รนุ และเยาวชน
ท่ีมคาว:าหมในปนว ลปยอีเฝด2าภ5รัย6ะใ0วนังกแพาลบรเะเสฉใแสียชลชนะ้ถีย่ีวทวิตนวจอโันนานนกลจอ้สมะึงบุ ถอตัเ1ปาิเัตห4น็นตรกุท.ป5าาางกรรถคะาณนนเนรดค เ็นสวาทียม่ีตชป้ีอวลิงตอใจหดาภ้คเกปทวัยนอี่เาสทผุียบมาชชูัสงตวี าถิต�ำิเยนหคนัญตุท(ผTา่hางนaทiมl้อaางnตถdรนกRนาoรขaทอd่ีคงSรวaบัยfดeร้าุt่นyนแOลทbะ้ังsกเeยาrารvวใaหชto้คนrวทyา,่ีเมพTรRิ่มู้ SดสO้าูงน)ขวึ้นิศวดกังรนร้ันม
เศรษโดฐยกมิจูลกนาธิ รไิ ทบยงั คโรับดใสช ก้(hฎtหtpม:า//ยtrแsoล.ะthกaารirสoนadบั sส.oนrนุ gต/sา่ tงatๆistเiพc/ื่อnลaดtกioาnรaบlา/Nด-เจSP็บIแ-Bล/ะNเส-SียPชI-ีวBิต3ก/่อNน-SวPัยIอ-Bัน3ค-0ว2ร)

อตั ราตายตอประชากรในชวงอายุเดยี วกัน 1,000 คน จำ1แ2นหกมตวดาตมัวกชี้วลัดมุ “อสุขาภยาุพปวัย ร2ุ่น5แล5ะเย7าว-ชน2ไท5ย6” 111

2 สุขภาพจิต

วยั รนุ่ และเยาวชน มคี ะแนนสขุ ภาพจติ ตำ�่ กวา่ คนกลมุ่ อนื่ ๆ และภาคเหนอื มคี ะแนนตำ่� ทส่ี ดุ

การฆ่าตัวตายของนักเรียนนักศึกษา ยังคงเป็นข่าวในทุกปี ย�้ำให้เห็นความส�ำคัญของประเด็นสุขภาพจิต
ในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน อาจเพราะปัจจุบันสังคมเต็มไปด้วยการแข่งขัน ท�ำให้วัยรุ่นและเยาวชนไทย
มคี วามเครียดสงู

คะแนนสุขภาพจิต จำ�แนกตามภาคและกลุ่มอายุ ปี 2561

15-24 ป 25-59 ป 60 ปข นึ้ ไป

31.6 15-24 ป3 1.6 25-59 ป 31.660 ปข 3้ึนไ1ป.7 คะแนนเฉลยี่ 31.6
31.6(ทกุ 3ก1ล.ุม7อายุ)
31.1 31.1 313.21.6 31.6 คะแนนเฉลยี่ 31.6
(ทุกกลมุ อายุ)

คะแนน (15-45) 31.1 31.1 31.2

คะแนน (15-45)30.4
30.4

กรุงเทพฯ กลาง เหนอื กรุงเทตพะวฯันออกเกฉลียางงเหนอื เใหตน อื ตะวนั อรอกวเมฉยี ทงวั่เหปนือระเทศใต รวมท่วั ประเทศ

หมายเหตุ : สำ� รวจสขุ ภาพจติ เปน็ การประเมนิ ตนเองในประเดน็ ตา่ ง ๆ จำ� นวน 15 ขอ้ ใน 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ความรสู้ กึ ทด่ี ี การไมม่ คี วามรสู้ กึ ไมด่ ี
สมรรถภาพจติ ใจ คณุ ภาพจติ ใจ และปจั จยั สนบั สนนุ

ทม่ี า : การสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

วัยรุ่นและเยาวชนอายุ 15-24 ปี มีระดับ ร้อยละของระดับคะแนนสุขภาพจิต
(อายุ 15-24 ปี)

สุ ข ภ า พ จิ ต ต�่ ำ ที่ สุ ด เ มื่ อ เ ป รี ย บ เ ที ย บ กั บ
กลุ่มช่วงอายุอื่น ซโ่ึงดตย�่ำรกววม่าคมะีคแะนแนนเ2ฉน5ล.่ีย34ข1อ.2ง 19.8
(เต็ม 45 คะแนน) 25.4 291.79.8

29.7

ประเทศที่ 31.6 วยั รนุ่ และเยาวชนในภาคเหนอื
รอยละ

รอยละ
มีคะแนนสุขภาพจิตต่�ำท่ีสุดท่ี 30.4 และเม่ือดู 56.9 536.82.7 62.7

แนวโนม้ ของคะแนนสขุ ภาพจติ พบวา่ 5สดั6ส.9ว่ นผู้ 53.8
ทม่ี คี ะแนนสขุ ภาพจติ ตำ�่ กวา่ คนทวั่ ไปมแี นวโนม้
ดีขึ้นในปี 2554 แต่กลบั แย่ลงในปี 2562 และ
จพาบกวร่าอ้ คยะลแะน2น9ส.ุข7ภใานพปจี 2ิต5ส5ูง4กวเป่าคน็ นรอ้ทย่ัว1ลไป7ะล.71ด9ล.8ง 17.7 16.5 17.5
พ.ศ.
12565.51 255147.5 2561

ในปี 2561 2551 (สคูงะแกนวนา 2ค354น.5ท0ั่ว14ไ-ป45.00) เ(คทะาแกนับน ค2น72ท.05่วั 16ไ-ป134.00) พ.ศ. ต่ำกวาคนทั่วไป

(คะแนน > 27)

สงู กวา คนทวั่ ไป ทมี่ า : การ(เสคทำ� ะารแกวนจบันสคภ2าน7วท.ะ0ว่ัท1ไา-ปง3สงั4ค.0ม0ว)ฒั นธรรม และสขุ ภาต(คพำ่ะจแกติ นวนพา.ค>ศ.น22ท75วั่)5ไ1ป2554 และ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

(คะแนน 34.01-45.00)

12 สุขภาพคนไทย 2563

ทมี่ า: รายงานประจำปก รมสุขภาพจติ พ.ศ. 2561

ประเภทปญ หา จำนวนครั้ง รอ ยละ

1. มีความเครยี ดหรือวติ กกงั วล 10 อนั ดบั ปญั ห6า,ส4ุข0ภ5าพจิตท่ีโทรปร4ึก6ษ.8าสายด่วน 1323

2. ปญหาความรัก 2,6ปร5ะ9เภทปญหา 19.4 จำนวนครงั้ รอยละ
1,497 10.9
3.ปซัมึญเศหราาท่ีวัยรุ่นและเยาวชน 1. มีความเครียดห1ร,อื3ว2ิต7กกังวล 6,405 46.8
พบ4จ. ปาญกหปารทาะงเจดิตเ็นวชท่ีโทรปรึกษา 2. ปญ หาความรกั 739 9.7 2,659 19.4
บร5ิก.าปรญ ห1า3คร2อ3บคซรัวึ่งเป็นสายด่วน 1,497 10.9
บร6ิก.าปรญปหราะเรชอ่ื งาเพชศนปรึกษาปัญหา 3. ซึมเศรา 5.4 1,327 9.7
สุข7ภ. าปพญหจาิตพฤตโกิดรยรมมากเป็นเรื่อง 739 5.4
ค ว8า. มมีคเวคามรคี ยิดอดยหากรฆื าอตวัวติ ตายก/กทำั งราวยลตนเอง 523 3.8 523 3.8
เกือ9บ. ปคญ ร่ึงหากแาลรเะรียรนาว 1 ใน 5 เป็น 4. ปญ หาทางจิตเว1ช73 173 1.3
เรื่อ1ง0ป. ปัญญ หหาากคารวทาำงมารนัก ตามด้วย 5. 1.3 152 1.1
ปัญหาซึมเศร้าราว 1 ใน 10 6. ปปปมีคญญญ วหหหามาาาคพเครรฤอื่ดิ อตงอบเิกยพคราศรกร11วัมฆ735า 3ต52ัวตาย/ทำรายตนเอ110ง ...105 135 1.0
7. 0.5
8.

9. ปญหาการเรยี น

10. ปญหาการทำงาน 73

จำ�นวนผู้ป่วยโรคซึมเศร้าอายุ 15-24 ปีที่เข้าถึงบริการ หมายเหตุ : อายุ 15-21 ปี
ทมี่ า : รายงานประจำ� ปกี รมสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2561,
กระทรวงสาธารณสขุ

131,260 ปัจจุบันโรคซึมเศร้าเร่ิมเป็นที่

99,049 รู้จักในสังคมไทยมากขึ้น และมีการ
ถกู กลน่ั แกลง อมเยขี จา้าง� ถำนึงนอบวยรนิก1ผารู ้ คปมร่วา้ังกยขซ้ึน1ึ ม3เ1ในศ,2ปร60ี้ า2อ5า5ย6ุ
จำนวน (คน) 70,825 ใน 30 1ว5นั -ท2ผ่ี4าปนที มเ่ี9ขา9า้ ,ถ0งึ4บ9รกิ าร 18,628 คน
จำนวน (คน) จ า ก ค ว า ม ต่ื น ตั ว ใ น ป ร ะ เ ด็ น น้ี
52,469

39,548 7พ0,บ8ว2า่5การเขา้ ถงึ เพม่ิ ขนึ้ อยา่ งรวดเรว็
18,628 52,469 เป็น 131,260 คนในปี 2561

2556 2557 2558 2559 2560 39,5482561 พ.ศ.

ทมี่ า : รายงานประจำ� ปกี รมสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2561, กระทรวงสาธารณสขุ 18,628

2556 2557ถูกกลั่น2แ5ก5ล8้งอย่าง2น55้อ9ย 1 คร2ั้ง56ใ0น 30 ว2ัน5ท6ี1่ผ่านพม.ศา.

ความเครียดจากการเรียนหนังสือและ โดน
การถูกล้อเลียนกลั่นแกล้งจากเพื่อนเป็นตัว กลน่ั แแกลง
กระตุ้นให้วัยรุ่นและเยาวชนหลายคนเครียด รอยละ 8.5 รอ ยละ 20.6
จนคดิ ฆา่ ตวั ตาย การสำ� รวจในกลมุ่ เดก็ นกั เรยี น 29.3%
มธั ยมศกึ ษาในปี 2558 พบวา่ ผทู้ โ่ี ดนกลน่ั แกลง้ คิดฆา ตัวตาย คิดฆาตวั ตาย
มแี นวโนม้ คดิ ฆา่ ตวั ตายมากกวา่ คอื 1 ใน 5 ของ ไมโ ดนกล่นั แแกลง
ผู้ท่ีถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนคิดฆ่าตัวตายใน ใน 12 เดอื นที่ผานมา ใน 12 เดอื นทผ่ี า นมา
70.7%
12 เดือนท่ีผ่านมา เปรียบเทียบกับร้อยละ 8.5
ของผ้ทู ี่ไม่ได้โดนกลั่นแกลง้ หมายเหตุ : สำ� รวจในเดก็ นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษา 1-6
ทมี่ า : การสำ� รวจภาวะสขุ ภาพนกั เรยี นในประเทศไทย พ.ศ. 2558, กระทรวงสาธารณสขุ

1312 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

3 หมวด 3

สุขภาพสังคม

สรอ้ัดยสล่วะน1วัย2รุ่เนปแน็ ลระอ้ เยยาลวะชป7น 2ทใ5นี่เ5ขช1้าว่ รง่วปมี 2กิจ5ก5ร1รม–ปท 22ี่เป555็น68ป1ระโยชน์เปป็น 2ป5ร5ะ1จ�ำ ลดลงจาก ป 25

สใสนุัขงเภมคือามพงไแสทลังยะคชมมนีคทบวี่ลทาดลมลดเงปล็งนในปขัจไณมเจะมก3ทเี พ่ีมเข.า่ือ5ตกนเมข%สือ้ึนนงิทมมีแีกนาวรไโนมพ้มมึ่ง6ดีเพพีข.า่ือ6ึ้นกนัน%ทสล�ำนใดหทิ ล้คงวามโดแตยกเฉตรพ่าูสงากึ ขะเใอพนงื่อ7ชมสนนนีุข8ชบภ้ำวใทา%จยพทเสี่หเหังล็คนอื มแ/รนะวหโวน่าร้มงูสกึ เพ่อื6มนีน1ช้ำวใ%จยเ

มากขส้ึนงั คใมนทหปด่ี ีมเี2ป5วน็ 5สด1ว่ นมห3ีเพนียง่ึ ขงรอ้องกยาลระมสี3ขุ.5ภาขวอะงทนดี่ ักี เทรกุียวนนั มนัธแ้ียนมวทโ่ีไนมม้ ่มสีเขุ พภื่อานพสสนงั ิคทมแขลอะงวไดยั ้เรพนุ่ ิ่มแขลึ้นะเเยกาือวบชเนทม่าคี ตวัวาเมปต็นา่ รง้อคยนลตะา่ ง6อ.ย6ู่

ในปี 2558 ในขณะเดียวกัน สัดสว่ นของนกั เรียนมธั ยมทีร่ ูส้ กึ วา่ เพื่อนชว่ ยเหลือหรอื มนี �้ำใจลดลงจากรอ้ ยละ 78 ในปี 2551
เป็นรอ้ ยละ 61 ในปี 2558

ป 2551 ป 2558 ป 2551 ป 2558

3.5% 6.6% 78% 61%

ไมมีเพ่อื นสนิท ไมมเี พือ่ นสนิท รสู ึกเพ่อื นชวยเหลือ/ รูส ึกเพ่อื นชวยเหลือ/
มีนำ้ ใจ มนี ้ำใจ

หมายเหตุ : สำ� รวจในเดก็ นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษา 1-6
ทม่ี า : การสำ� รวจภาวะสขุ ภาพนกั เรยี นในประเทศไทย พ.ศ. 2551 และ 2558, กระทรวงสาธารณสขุ

สดั สว่ นทม่ี น่ั ใจวา่ ชุมชนทอ่ี าศยั อยูม่ ีความปลอดภยั (อายุ 15-24 ป)ี

มิ ติ ท่ี ส� ำ คั ญ ข อ ง ก า ร มี 2554 79.9 91.3 87.4
สุขภาพสังคมที่ดี คือความ
รู้สึกว่าชุมชนที่ตนอาศัยอยู่มี 2561
ความปลอดภัย ซ่ึงวัยรุ่นและ
เยาวชนในเขตเทศบาลมีแนว 70.0
โน้มดีขึ้น โดยมีสัดส่วนที่มั่นใจ
ว่าชุมชนปลอดภัยเพ่ิมขึ้นจาก รอยละ
ร้อยละ 70.0 ในปี 2554 เป็น
รอ้ ยละ 79.9 ในปี 2561 แตย่ งั ในเขตเทศบาล นอกเขตเทศบาล
คงนอ้ ยกวา่ ผทู้ อ่ี าศยั อยนู่ อกเขต
เทศบาล แม้จะมแี นวโนม้ ลดลง หมายเหตุ : ผทู้ ตี่ อบเหน็ ดว้ ยในระดบั มากถงึ 9มา1ก.ท3ส่ี ดุ 87.4
8จ7าก.4ร้ใอนยชลว่ ะงเ9วล1า.3เดเียปว็นก2ร2นั 5้5อ56ย41ละ ทมี่ า7:9ก.า9รสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2554 และ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

70.0รอยละ

14 สุขภาพคนไทย 2563

80

70

60

50 สดั ส่วนที่เชอ่ื ม่ันว่าเมอ่ื เดอื ดรอ้ นมหี น่วยงานในชุมชนชว่ ยเหลือ (อายุ 15-24 ปี)

40 66.4 68.4 70.5
30
59.2 57.1 62.1 60.8 60.3 58.0

20 หมวด 3 54.6

10 รอยละ 36.2
80 0 รอยละ รอยละ 30.6
70
ป 2551 ป 2558 ป 2551 ป 2558
60
3.5% 6.6% 78% 61%
50
ไมม ีเพ่อื นสนทิ ไมม ีเพื่อนสนทิ รสู ึกเพื่อนชว ยเหลอื / รสู กึ เพ่อื นชวยเหลอื /
มนี ้ำใจ มีน้ำใจ

40 กรุงเทพฯ กลาง 66.4 เ6ห8นือ.4 ตะว7นั อ0อ.5กเฉยี งเหนือ ใต รวม
30 2554 25626.11
20 59.2 57.1 60.8 60.3 58.0
54.6
หมายเหตุ : ผทู้ ตี่ อบเหน็ ดว้ ยในระดบั มากถงึ มากทส่ี ดุ
ทหม่ีมาา:ยกเหารตส:ุำ� ร-วผจูทสภีต่ าอวบะทเหางน็ สดงั คว มยใวนฒั รนะธดรรบั มมแาลกะถสึงขุ มภาากพทจติ่สี ุดพ.ศ. 2554 และ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ
กเตเเเเ2ชชชหป5ับ่อ1่ือ่น่นล็น006ภชมือร1ุมควากัน่121111้อ426080คัดวชใาตเยนพาอนราลชมภ่ืนริม่มหะมูค้สาขลรรใพุ้ึมกน้ึ5ื�ำอนมรคเ8ดจหขชวร.าับหมณ0ื่อมทหกอรม่ีมู่มบคระงแแืาอาทั่นท้อว้าย:ทตตมีม่ เสานยวาห่ี่กยา่ใำูลม:ลง่ตานม3รังาสนุ:สวรถะ0คีรแกำ-จ-ู้สกิธัง.ร้เา6อสงนรผ3วรขคิตึก2ภาเอ-3ทูจุุงง0ว5ยด้ามาเ่าอสเ6ตี่เยทชุ5วโ.รภาทือง1อ.เ6พะ2ู1น่ใยื่อา่วป5ๆบทดพนุฯว-้1มมมเเ2ะ็านหรป5รมงทจ4กั่นลน็-้อสอะน็2าหะปดิจดงัลง4ีดกนควสยากดล23ปยัมมบงันื่น5ครใ6ลแงหิตนน5มครลมใ.งร4แนก2ิขะน้อมรจืะอลลวอ่ดวมยททะาฒัใามับวงยงนีกแทุ่ีเนกาฒัมสปงปนรธี่สใาภน2ุขรากห้อ็นีธวุดร5าน2ถภรยม้คโ6ปเงึรค5นใ1มามลมวพรน5าพ้มื่อะ.าพะ1ยกศ4ช8ม.สคเท.โกศท6ุ.มเย12ส่ีัแ.ชงวห2เ50ดุ2ียชช1นควาล5่ว558.ือบ้นมนนม4ย3ะ55.141์4แ0แล.3ละตะ2ะ25ว156ัน661อช1.ทอ12ใ่ออเค1กขอ้5งอด0เร้าฉง6ท.นท3ังถยี ไใ1ากงเรนมไงึ1รงลเ0าลวหปพ่อื่กบ.นน1ัยา่ีงราอืว2์22รรท5อ้เ5โชุ่น5ด6ช51อ้ไ4ม1่นดไ0ว่ยงด6.ยแ้87เทได้ฉก0ก0มใเ8.ีม่ตห0พีชา่พ่.8รวีล1่อามรตยัือะง6วีอ้หรง้ัวทยั ม7า6ุน่คยั า9รกแรง.3ร9นุ่มเลรหปุ่น1แาะภ2นน็ทสลกเ.ย0ใ์ึ่งปมี่าะกนาเรย9ีปัญยววววค.ด6ญัายั่าชมือหวว่นเร2าหชนใสทยีนาช5ปาีว่ทนโ้บรย9ท,ยั่ีม01รึกดรต.รีป3ิก0ษมนุ่่วัวราาาน0ไอระมปเสหจยออ่รทิ8สำร่าด�7กึยนธงาือ.4สษาิภบยวรแ์กนาราะลใพิกมบหะแาาบม้ กรลี ะ
รอยละ

กรงุ เท68พมหานคร 4.7 5.2 6.2 ในเขตเทศบาล 7.0
4.7
นอกเขตเทศบาล
4 สัดสว่ นท2.4่ีเข้ารว่ มกิจกรรมทเ่ี ป3น็.6ประโยชนต์ อ่ ชมุ ชน/หมบู่ า้ นเป็นประจำ�2(.อ8ายุ 15-24 ปี)
2

0 2551 2554 2561
20 กลาง เหนือ
กรุงเทพฯ ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ใต รวม
18 18.1 18.1

16.1

16

14 หมายเหตุ: อายุ 15-24 ป 12.0
ท่ีมา: สำรวจสภาวะทางสังคมและวัฒนธรรม พ.ศ. 2551 2554 และ 2561
12 รอยละ
10 10.3 10.3 10.1 10.8 9.6
8.8

8 6.2 7.0
2.8
6 4.7 5.2 4.7

4 3.6
2.4
2

0 รวม

กรุงเทพฯ กลาง เหนอื ตะวันออกเฉยี งเหนอื ใต

หมายเหตุ : กจิ กรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ เชน่ ปลกู ปา่ ชว่ ยคนเดอื ดรอ้ น กจิ กรรมรณรงคต์ อ่ ตา้ นยาเสพตดิ เปน็ ตน้ 15
ทม่ี า : การสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2551 2554 และ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

หมายเหต:ุ อายุ 15-24 ป
ทมี่ า: สำรวจสภาวะทางสังคมและวฒั นธรรม พ.ศ. 2551 2554 และ 2561

12 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

5 อนั ดับแรกกอ นเลอื กซอ้ื อาหาร

อายุ 10-24 ป

4 พฤติกรรมการบริโภคอาหาร2. ความอยากรับประทาน 18.8%
1. ความชอบ 27.7%

อาหารฟาสต์ฟู้ดย3ัง. ครสงชาเตปิ ็นท่ีนิยมในก18ล.8ุ่ม%วัยรุ่นและเยาวชนไทย ในกรุงเทพมหานคร
มากกว่า 2 ใน 34.ขคอณุ งควา ทัยางรอุ่นาหแาลร ะเยาว8.ช1%นรับประทานฟาสต์ฟู้ดอย่างน้อย 1 คร้ังต่อ
สปั ดาห์ 5. ความสะดวก
6.5%

เทคโนโลยีทุกวันนี้ส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของวัยรุ่นและเยาวชนไทยมากขึ้น ท้ังเพจรีวิว
อาหาร ฟู้ดบล็อกเกอร์ และท่ีส�ำคัญ คือ แอปพลิเคชันสั่งซื้ออาหาร ท่ีมีบทบาทส�ำคัญในการก�ำหนด
เทรนดอ์ าหาร และการเขา้ ถึงรา้ นอาหารงา่ ยดายอยา่ งท่ไี ม่เคยเปน็ มากอ่ น

จำ�นวนมือ้ หลัก การกนิ เปน็ ปจั จยั กำ� หนดสขุ ภาพ
และสาเหตทุ ่ที านไมค่ รบม้ือ ท่ีส�ำคัญ วัยรุ่นและเยาวชนไทย
(อายุ 10-24 ป)ี
6.1% ส่วนใหญ่รับประทานอาหารครบ
สาเหตุ ชาย หญงิ 3 มื้อต่อวัน มีเพียงบางส4่5วนที่รับ

93.9% ไมมีเวลา 74.7% 55.5% ประทานไม่ครบ โดยผู้ชาย403 ใน 4
ลดน้ำหนกั 2.7% 24.4% ที่งดมื้ออาหารเป็นเพราะไ3ม5 ่มีเวลา
ในขณะท่ีผู้หญิงกว่าคร่ึงง3ด0เพราะ
อ่ืน ๆ 22.6% 20.1% ไม่มีเวลา และอีก 1 ใน 4 ง2ด5อาหาร
เพื่อลดน�้ำหนกั
รบั ประทานอาหารครบ 3 มอ้ื หรอื มากกวา 20
ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ 15
รับประทานอาหารไมค รบ 3 มอื้ หมวด 4 10

การเลือกซ้ืออาหารส�ำหรับวัยรุ่นและเยาวชนไทย สงิ่ ทีค่ ำนึงถงึ 5
ยังเป็นไปตามความชอบ (ร้อยละ 27.7) ความอยาก 5 อนั ดบั แรกกอนเลือกซื้ออาหาร
0

รับประทาน (ร้อยละ 18.8) และรสชาติ (ร้อยละ 18.8) อายุ 10-24 ป
เป็นหลัก มีเพียงร้อยละ 8.1 ท่ีค�ำนึงถึงคุณค่าทางอาหาร
ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมการบริโภคอาหารด้านอ่ืนๆ
ท่ีพบ เช่น การรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดจากประเทศ 1. ความชอบ 27.7%

ตะวันตกท่ีอาจมีรสชาติถูกปาก แต่ให้พลังงานและไขมัน 2. ความอยากรับประทาน 18.8%
ในสัดส่วนที่สูง ในปี 2560 ร้อยละ 47.8 ของวัยรุ่นและ
เยาวชนท่ัวประเทศรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง 3. รสชาติ 18.8%

น้อยสัปดาห์ละคร้ัง ในขณะท่ีพฤติกรรมการกินผักผลไม้ 4. คณุ คาทางอาหาร 8.1%
ในกลมุ่ นย้ี งั อยใู่ นระดบั ทต่ี ำ่� โดยเฉพาะในชว่ งอายุ 10-14 ปี
ท่ีไม่ถงึ 1 ใน 4 ท่ีบรโิ ภคผักผลไมส้ ดเป็นประจำ� ทกุ วนั
5. ความสะดวก 6.5%

ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

16 สุขภาพคนไทย 2563

สดั สว่ นวัยรุน่ และเยาวชน (อายุ 10-24 ปี)
ท่บี รโิ ภคอาหารฟาสต์ฟู้ดจากประเทศตะวนั ตก
69.2 อย่างนอ้ ย 1 วนั ตอ่ สัปดาห์ จำ�แนกตามภูมิภาค

69.524.6 48.7 47.8

รอยละ 5348..76 41.9 48.7 47.8
รอยละ
38.7 41.9

กรุงเทพ กลาง เหนือ เตฉะยี วงนั เอหอนกือ ใต รวม

กรุงเทพ กลาง เหนอื เตฉะียวงันเอหอนกอื ใต รวม

ทม่ี า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

สดั สว่ นวยั รนุ่ และเยาวชน (อายุ 10-24 ป)ี ทบ่ี รโิ ภคผกั ผลไมส้ ดเปน็ ประจำ�ทกุ วนั

40.8 ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท
ในการเช่ือมต่อระหว่างร้านอาหารและ
รอยละ 32.6 35.2 40.ผป8ู้ัจบจรุบิโภันคมีหแลอาปยแพพลลิเคตฟชันอรส์มั่งใซห้ือ้เอลาือหกาใชร้
รอยละ23.4 32.6 35.2
และหากพจิ ารณาจากอตั ราการเตบิ โตของ
ตลาดแลว้ คงปฏเิ สธไมไ่ ดว้ า่ แอปพลเิ คชนั
23.4 เหล่าน้ีได้รับความนิยม และย่อมส่งผล
ต่อพฤติกรรมการกินของวัยรุ่นและ
เยาวชนไทยตอ่ ไปในอนาคต
10-14 ป 15-19 ป 20-24 ป รวมทุกกลุมอายุ
ตัง้ แต 6 ปขึน้ ไป

ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารของประชากร พ.ศ. 2560, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

Food Delivery Application10-14 ป
15-19 ป 20-24 ป รวมทุกกลุมอายุ
ตงั้ แต 6 ปขน้ึ ไป

การสัง่ ซอื้ อาหารผา นแอปพลิเคชันเริ่มเปน ทีแ่ พรห ลายโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร
และเมืองใหญ การสัง่ ซื้ออาหารผานแอปสรางความสะดวกสบายใหผบู ริโภค
ทำใหก ารเขา ถงึ รานทีต่ องใชเวลาเดนิ ทางนาน รถติด ไมม ที จ่ี อด แดดรอน
หรอื รอคิวนาน เปน ไปไดอยางงา ยดายยิ่งข้ึน

ป 2557-2561 รอยละ 63 คาดการณมูลคา ตลาดป 2562

การขยายตัวเฉลีย่ อยูท ี่ ของกลุม ตัวอยางคิดวา จะ ราว 3.3 – 3.5 หมืน่ ลา นบาท
สัง่ ผานแอปพลิเคชันมากขนึ้ และ
รอ ยละ 11 ตอป รับประทานอาหารนอกบา นนอยลง เวลายอดนยิ มในการสัง่ อาหาร ไดแ ก

ทม่ี า : K SME Analysis อยากกนิ ตอ้ งไดก้ นิ SME รา้ นอาหารปรบั รบั Food Delivery, ศนู ยว์ จิ ยั กสกิ รไทย ชว งเย็นของวันศกุ รและเสาร

1712 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

5 กิจกรรมทางกาย
วัยรุ่นแหลมะวเดยา5วชนชาย ร้อยละ 79.8 มีกิจกรรมทางกายเพียงพอ เปรียบเทียบกับ
ผหู้ ญงิ ทรี่ อ้ ยละ 66.6

ความแตกตา่ งขอหงมกวารดมกี 5จิ กรรมทางกายทเี่ พยี งพอ ไมไ่ ดเ้ ปน็ เรอ่ื งเฉพาะของแตล่ ะบคุ คล แตม่ ปี จั จยั กำ� หนด

จำ� นวนมาก เชน่ บรบิ ททางสภาพแวดลอ้ ม สงั คม และวฒั นธรรม การสนบั สนนุ ใหก้ ลมุ่ วยั รนุ่ และเยาวชน
มกี ิจกรรมทางกาย7ใ2ห.1้มา7ก0ข.7้นึ 62จ.3งึ จำ� เปน็76ต.8อ้ สง7ัดเ0ขส.5า้ ว่ ใ6นจ4วบยั.9รริบนุ่ แทลแะ7วเย1ดา.8ลวชอ้ 6นม9ท.8่มี ีก7จิ5ก.3รรมทา7ง8ก.า9ยท7่เี0พ.1ีย7ง0พ.อ0

ส� ำ ห รั บ วั ย รุ ่ น แ ล ะ รอยละ 72.1 70.7 76.8 71.8 69.875.3 78.9
เยาวชนไทย กลุ่มอายุ รอยละ 62.3 70.564.9 70.170.0
10-14 ปีเป็นกลุ่มท่ีมี
สัดส่วนกิจกรรมทางกาย 2559 2560 2561 2562 พ.ศ.
เพียงพอสูงสุด และโดยมาก
จ ะ มี แ น ว โ น ้ ม ล ด ล ง เ ม่ื อ 10-14 ป 15-19 ป 20-24 ป 2562
อายุมากขึ้น (ยกเว้นในปี
2561) ในปี 2562 กลุ่มอายุ พ.ศ.
10-14 ปีร้อยละ 78.9
มกี จิ กรรมเพยี งพอ เทยี บกบั 2559 2560 2561
ประมาณรอ้ ยละ 70 ในกลมุ่
อายุ 15-24 ปี 10-14 ป 15-19 ป 20-24 ป

ทมี่ า : โครงการตดิ ตามเฝา้ ระวงั พฤตกิ รรมดา้ นกจิ กรรมทางกายของประชากรไทย พ.ศ. 2562, สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล

สัดส่วนวัยรนุ่ และเยาวชนท่ีมีกิจกรรมทางกายเพยี งพอ ปี 2562

83.2 74.1 78.4 76.5 79.8
83.2 74.1 60.2 66.6
รอยละ 78.4 63.2 79.8
รอยละ 60.2 76.5 66.6

63.2

10-14 ป 15-19 ป 20-24 ป รวม 10-24 ป

ชาย หญิง รวม 10-24 ป
ทม่ี า : โครงการตดิ ตามเฝ1า้ ร0ะว-งั 1พฤ4ตกิ รปรมดา้ นกจิ กรรมทางกายของป1ระ5ชา-ก1รไท9ย พป.ศ . 2562, สถาบนั วจิ ยั ประชากรแ2ล0ะส-งั ค2ม4มหปาว ทิ ยาลยั มหดิ ล

ชาย หญงิ

18 สุขภาพคนไทย 2563

30.4% 12.1% 6.2% 4.7% 3.2%

เพศชาย กิจกรรมทางกายยอดนยิ มจากการทำ�งาน และการออกกำ�ลงั กาย/เล่นกฬี า เพศหญิง
ระดบั ปานกลาง 5 อนั ดบั จำ�แนกตามเพศ
การเคล่อื นไหวรา งกาย
ของนักเรยี นในวชิ าพลศกึ ษา/ จากการทำงาน จากการทำงาน
ลกู เสือเนตรนาร/ี เกษตรกรรม
ยกสิง่ ของ/ กวาดบา น/ถูบา น/ งานอาชพี ทำสวน ตดั ตน ไม การเคลอื่ นไหวรางกาย กวาดบา น/ถูบาน/ ยกส่งิ ของ/ ลางทำความสะอาด ซกั ผา /
เขน็ สิ่งของ/ ทำความสะอาดบาน/ ตดั หญา ของนกั เรยี นในวิชาพลศกึ ษา/ ทำความสะอาดบาน/ เข็นสิ่งของ/ อปุ กรณเครอื่ งใชต า งๆ รดี ผา
เคล่อื นยายสง่ิ ของ ลูกเสอื เนตรนาร/ี เกษตรกรรม เคลือ่ นยายส่ิงของ
ลางหองนำ้ ลางหอ งนำ้

26.8% 12.1% 6.2% 4.7% 3.2% 25.6% 10.6% 5.1% 4.4% 3.7%

จากการออกกำลงั กาย เลน กฬี า จากการออกกำลงั กาย เลนกฬี า

ฟุตบอล วง่ิ /วง่ิ เพอ่ื สขุ ภาพ/วง่ิ บนลวู ง่ิ วงิ่ เลน ตะกรอ ปนจักรยานเพื่อสุขภาพ วง่ิ /วง่ิ เพอ่ื สขุ ภาพ/วง่ิ บนลวู ง่ิ วิง่ เลน แบดมินตัน วอลเลยบ อล เดนิ เลน /เดินเพอื่ สขุ ภาพ

0 30.4% 12.1% 6.2% 4.7% 3.2% 8.4% 7.0% 6.4% 5.8% 4.3%

0 หมายเหตุ : อายุ 10-24 ปี 11.8 22.0 17.5

0 ทม่ี า : โครงการตดิ ตามเฝา้ ระวงั พฤตกิ รรมดา้ นกจิ กรรมทางกายของประชากรไทย พ.ศ. 2562, สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล
เพศหญงิ0
การเล่นกีฬาหรอื ออกกำ�ลังกาย (อายุ 13-24 ป)ี0

ด้วยลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมของ00
ประเทศไทย วัยรุ่นและเยาวชนเพศหญิงมีกิจกรรม00
รอยละการเคลอ่ื นไหวรางกาย 11ท.ก86ำวค2าวลดา.าบม1งาสหนะอ อ/งาถนดูบ้ำบาจานาน/ก/การทเคำงลเยขื่อากน็นนสสย2ิ่งิ่งา ขขย2ออส.งงง่ิ0//ขอ6ง7.อ3ุปลกางรทณำเคควรา่อื มงสใะชอต าาดงๆ ซกั ผา/ 63.7
ของนักเรยี นในวิชาพลศกึ ษา/
ลูกเสอื เนตรนารี/เกษตรกรรม รีด1ผา7.5

00 ทางกายน้อยกว่าเพศชายอย่างเห็นได้ชัดในทุกช่วง00
0 อายุ โดยความแตกต่างหลักเกิดจากการท่ีผู้หญิงมี
0 รอยละ25.6% 62.1261.10.6% 5.167%.3 10.7 4.4% 3.763%.7 18.8 กิจกรรมการออกก�ำลังกายและเล่นกีฬาน้อย ในปี
0 2561 พบว่าวัยรุ่นและเยาวชนหญิงกว่า 1 ใน 5
0 ชจาายกการออกกำลังกาย เลน กฬี าหญิง รวม ไมเ่ ลน่ กฬี าหรอื ออกกำ� ลงั กายเลย กจิ กรรมทางกาย
0 วง่ิ /วง่ิ เพอ่ื สขุ ภาพท/ำวปง่ิ บรนะลจวู ง่ิำ วงิ่ เลน ทำบางคแบรด้ังมนิ ตัน ไมวท อลำเเลลยยบ อล เดินเลน/เดินเพอื่ สุขภาพ

0

0

0 26.1 6.4% 10.7 5.8% 18.8 ของผู้หญิงโดยมากมาจากวิชาในโรงเรียนเท่าน้ัน
0 ในขณะท่ีผู้ชทาม่ี ยา:มGlีกobาalรrเeลco่นmmกeีฬndาatนioอnsกonเหphนysือicaจl aาcกtivวityิชfoาrใhนealth 2010
8.4%ทำประจำ ชาย7.0% หญิง 4.3%รวม โรงเรยี น เชน่ การเลน่ ฟุตบอล เปน็ ตน้

ทำประจำ ทำบางครงั้ ไมท ำเลย

ทมี่ า :ทกำาปรสรสัดะำ� จรสำวว จนสกภาาวระมทีกาจิงสกงั รครมมวทฒั านงธกรารยมจแาลกะกสาขุ รภสาญัพจจติ รพจ.ศำ.แ2น5ก61ต,าสมำ� ภนูมกั งิภาานคสถติ แิ หง่ ชาติ

การมีกจิ กรรมทางกายจากการเดินทางสัญจร การมีกิจกรรมทางกายเพยี งพอของแตล่ ะกล่มุ อายุ

สดั สวนการมีกจิ กรรมทางกายจากการสญั จร จทำม่ีแนา:กGตloามbaภlูมrภิecาoคmmendations on physical activity for health 2010 อายุ 5-17 ป: อายุ 18
เหนอื 18.6 ตองมกี จิ กรรมทางกาย
ระดบั หนัก
ตะวนั ออก 17.4 ทีร่ ะดับความหนกั ปานกลาง หรือระดบั
เฉียงเหนือ ถึงระดบั หนักทุกประเภท ตอสัปดาห
ไมต ำ่ กวา
เหนกือลาง 1168..26 รวมสะสมไมนอ ยกวา 60 นาทตี อ วัน

ตะวนั ออก ใต 171.54.7 อายุ 18-64 ป: ตอ งมีกจิ กรรมทางกาย
เฉียงเหนอื
อายุ 5-17 ป: ระดบั หนกั สะสมอยา งนอย 75 นาทีตอ สปั ดาห
กรกุงลเาทงพฯ 31.4 หรอื ระดับปานกลางสะสมอยางนอย 150 นาที
16.2 ตองมกี จิ กรรมทางกาย ตอ สปั ดาห โดยในแตล ะครั้งตอ งปฏบิ ัตติ อเนอื่ ง
ไมต ำ่ กวา 10 นาที
เฉลี่ยปรใะตเท ศ 15.7 ท1่รี 8ะด.2บั ความหนักปานกลาง
กรงุ เทพฯ รอยละ รถวึงมรสะดะสับมหไนมักนทอกุ ยปกรวะาเภ6ท03น1า.4ทีตอ วนั ทมี่ า : Global Recommendations on Physical Activity for Health 2010,
World Health Organization
เฉทหลมม่ี ีย่ าาปย:รเหโะคเตทรุศง:กอาารยตุ ดิ10ต-า2ม4เฝปา้ ีระวงั พฤตกิ รรมดา้ นกจิ กรรมทางก1าย8ข.2องประชากรไทย พ.ศ. 2562,
สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม มหาวทิ ยารลอยั มยหลดิ ะล

กจิ กรรมทางกายทเี่ กดิ จากการสญั จร ไมว่ า่ จะเปน็ การเดนิ หรอื การปน่ั จกั รยาน สะทอ้ นใหเ้ หน็ บรบิ ททแี่ ตกตา่ งของพนื้ ท่ี
ส�ำหรับวัยรุ่นและเยาวชนไทย พบว่าท้ังประเทศร้อยละ 18.2 มีกิจกรรมทางกายจากการสัญจร โดยวัยรุ่นและเยาวชน
ในกรงุ เทพมหานครมสี ดั สว่ นการมกี จิ กรรมทางกายจากการสญั จรทร่ี อ้ ยละ 31.4 ซงึ่ สงู กวา่ ภมู ภิ าคอน่ื ๆ เกอื บเทา่ ตวั

1912 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

6 พฤติกรรมทางเพศ

จ�ำนวนวัยรุ่นและเยาวชนป่วยด้วยโรคซิฟิลิสพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเน่ือง ในปี 2562
สงู ถงึ เกอื บ 4,000 คน

ความเส่ียงด้านพฤติกรรมทางเพศอาจน�ำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตของวัยรุ่นและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็น

หมวด 6 พดปฤลา้ นตกู สฝกิ ขุ งัรภทราศั พมนทคหตารงิอื คเกพา่ านรศยิ เปมลทยี่ ถ่ี นกู แตปอ้ ลงงออนั นนาำ� คไปตสเกู่ ชาน่ รปกฏาบิรตตั งท้ัิ คเ่ี หรมราภะสก์ มอ่ นเปวยัน็ อเรนั อื่ คงวทรตี่ อ้ ดงงั ในหนั้ค้ กวาามรใสหำ� ค้ควญั ามรู้ พรอ้ มทงั้

จำ�นวนวยั รนุ่ และเยาวชนป่วยด้วยโรคซิฟิลสิ ประเทศไทยแม้จะประสบความส�ำเร็จในการรณรงค์เกี่ยวกับ
การลดจ�ำนวนผู้ติดเช้ือเอชไอวีซึ่งเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทาง
10-14 ป 15-19 ป เพศสัมพันธ์ลงได้ แต่กลับพบว่าวัยรุ่นและเยาวชนป่วยเป็นซิฟิลิส

3,735

รอยจละำนวน (คน)60 จำนวนคนู อนของนกั เรยี นใน2ช,8ว1ง8ชีวิตที่ผานมา ปี 2562 วยั รนุ่ และ เพิ่มสูงข้ึนอย่างมาก เป็นภาพสะท้อน
50 (เฉพาะนักเรยี นท่เี คยมีเพศสัมพนั ธ) เยาวชนปว่ ยดว้ ยโรคตดิ ตอ่ ว่าการรณรงค์ให้ความรู้เก่ียวกับการ
40 ทางเพศสมั พนั ธร์ วมทกุ โรค ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
50.8 อาจยังเข้าไม่ถึงวัยรุ่นและเยาวชน
(ไมร่ วมเอชไอว/ี เอดส)์
42.0 1,989 ป 2551

ป 2558

30 1,377 จำ�นวน 16,262 คน หรือยังไม่สามารถปรับเปล่ียนทัศนคติ
20 1,09168.5 20.0 11ก.2ล1มุ่ 1อ.8ายุ 10-14 ปี เกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยเพ่ือการ
10 802 12.1 6.3 9.0 4.3 5.3 มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย หรืออาจเป็น
7.9 จำ�นวน 687 คน เพราะพฤตกิ รรมทางเพศทเี่ ปลยี่ นแปลงไป
6 คจนกหำร�ลนือมมุ่ วากอนกวาาย+1ุ 155,5-7159คปนี
0 25 41 84 108
3 คน
29 1 คน 23 2 คน 4 คน 5พค.นศ.
2560 2561 2562
2557 2558 2559

ท่มี า : กทามี่ ราสำ: รวาจยภงานวะผสลุขกภาราเพฝน้ากัระเรวียงั นพใฤนตปิกรระรเมททศี่สไทมั ยพันพธ.ศ์ก.ับ2ก5า5ร1ต,ดิ 2เช5ือ้6เ2อ,ชกไรอมวอี ปนราะมเยัทศกไรทะยทรปวี ง2ส5า5ธ7าร–ณ2ส5ขุ 6.2, ส�ำนกั ระบาดวทิ ยา กรมควบคุมโรค

แตก่ ็พพบฤวต่าิกจร�ำรนมวทนทามี่คงาูน่เ:พอสรศำานนยขขงักอาอรนงะงผปบปลารรกดะะาวชรทิชเายฝากาากรรกระวรววมัยังยั คพเนรวฤียบมี้ตคนกิแี ุมรดนรโรูเมวหคทโนมี่สกมัรือ้มะพนเทพันจรธ่ิมวะกงจดบัสำ�กาีขนธา้ึนารวรตนณเิดชมเสช่นุขาอื้ กเปกอขชา2ึน้ไร5อทม5ว7ีเีง้ั ปพใ–รนศะ2เสเ5พท6ัมศศ2พไชทันายยธ์เแพล่ือะแเพลศกหกับญเิงงินหรือส่ิงของท่ีลดลง

สัดส่วนประชากรวัยเรียนมเี พศสัมพันธเ์ พื่อแลกกับเงินหรอื สิ่งของ จำ�นวนคนู่ อนของประชากรวยั เรยี นในชว่ งชวี ติ ทผ่ี า่ นมา

3.3 เฉลย่ี เฉลีย่ เฉลย่ี เฉลีย่ 6 คนหรือ
2.5 คน 2.8 คน 1.6 คน 2.1 คน มากกวา่
2.3 13.1 5 คน
16.1 2.3 2.2 6.0 4 คน
55..30 6.4 6.9 3.7 3 คน
12.5 9.9 6.9 7.8 2 คน
12.9 9.9 10.8
27.8
รอยละ รอยละ 1.6 ร้อยละ 20.4 19.4

1.5 1.5 1.1 1.3 1.0 71.8 52.2 1 คน
0.9
1.060.0 05.66.1 05.63.1 10.1.755.1 0.6
0.3
0.6 0.3 36.3 34.3
พ.ศ.
0.3 0.3 2560
2561
2557 2558 2559 นกั เรียนหญงิ 2551 2558 2551 2558 พ.ศ.
ปวช.2
นกั เรยี นนักชเรายียนชาย ม.5นักเรียนหญิง นักเรยี นนหักญเรงิ ยี มน.5ชาย ชาย หญิง
ม.5นักเรยี นชาย ปวช.2 ม.5 นกั เรียนหญปงิวชป.2วช.2

ทมี่ า : รายงานผลการเฝา้ ระวงั พฤตกิ รรมทส่ี มั พนั ธก์ บั การตดิ เชอ้ื เอชไอวปี ระเทศไทย ปี 2557 – 2562, หมายเหตุ : นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1-มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
สำ� นกั ระบาดวทิ ยา กรมควบคมุ โรค ทมี่ า : การสำ� รวจภาวะสขุ ภาพนกั เรยี นในประเทศไทย พ.ศ. 2551 และ 2558,
กระทรวงสาธารณสขุ
20 สุขภาพคนไทย 2563

50 29 23 25 41 84 108
พ.ศ.
รอยละ 2557 2558 2559 2560 2561 2562
40

30

20

ในร100อสบำ� ปหีทรบั ่ีผก่าานรมใชาถ้มงุ ีเยพาียงงอปนราะมมยั นใากันณเรกียคลนรชมุ่ า่ึงวยหยั มนร.5นุ่ึ่งเแทล่าะนนกัเยเั้นรายี วนขหชญณนิงทะมเที่ .ป5่ีกน็ านรกั ใชเนรัก้ถยี เรุงนียยนพาชางบยอวปนา่วชกา.2มารัยใคชท้รนัก้ังกุ เทแรคีย่มีรรนากงั้ห: ทญใสรนำามิง่ี นยกเีงปกั พาวารนชะศร.ผบ2มสลากมดัีเพาวพรทิ ศเนัยฝสาาธรัมกก์ะรวบัพมงั คคพันวฤนธบตอ์คคกิ ุมนื่ร่อรโทรมนคทไี่ ขม่ีสก้าัมรใ่ ชะงพทดแ่ันรธฟีขวกงึ้นนับสกาธาารรตณดิ เสชขุ้อื เปอช2ไ5อ5ว
เชน่ เดยี วกับการใช้ถงุ ยางอนามัยคร้งั ล่าสดุ กบั คนอืน่ 2ข5อ5ง7กล่มุ นกั เร2ยี 5น6ห1ญิง

ใชถ้ ุงยางอนามัยทกุ ครั้งที่มเี พศสมั พนั ธ์
ใชถ้ ุงยางอนามยั เมื่อมเี พศสกมั พารันใธช์คถร้งัุงแยรกางอนามัยทุกคร้งั กบั กคบั นคนออืน่ นื่ ทในีไ่ มรอใบชแ 1ฟ2นเ/ดือนทผี่ ่านมาปี 2561
คนรักพบวามีเพยี งประมาณ รอ ยละ 50 เทานน้ั64.2
75.0 79ป.0ระสบการณม ีเพศ7ส1ัม.4พันธก บั คนอ่ืนท7ี่ไ5ม.1ใชแฟน/ ประสบการณม เี พศสมั พันธกบั คนอ่นื ท่ไี มใ ชแ ฟน/
65.2 คน6ร1กั .ใ2นกลุมนักเรยี น6ช2ั้น.3 ม.5 คนรักในกลมุ นกั เรยี น ช้ัน ปวช. 2

8 15.0 14.0 11.9 5612.1.3 11.9

6 4.7 60.0 5.4 53.1
รอยละ 6.5 5.8 11.3 55.1

รอยละ
4.7 5.5 10.0

5.4 6.6
4

รอ ยละของคนู อนท่ีเปน ผูชายดว ยกนั2 1.3 14.4 2.1 1.9 2.1
5.0 4.8 4.5

นกั เรยี นชาย ม.5 3.5นักเรียนชาย ปว3ช.2.4 นักเรยี นหญิง ปวช.2
น0กั เรยี นหญิง ม.5

ในรอบ 12 เดอื นท่ผี านมาของนักเรยี นชาย2ป5255577
ป 25528561 ป 2559 ป 2560 ป 2561 0.0

ปน2ัก55เรม7ีย.5นชายป 2558 นกั เรมียป.น52ห55ญ9งิ ป 2น5กั6ป0เรวียชน.2ชายป 2561นกั เปรวียชน.ห2ญิง
ทม่ี า : รายงานผลการ3เฝา้ รชะาวยงั พฤตกิ รรมทสี่ หมั ญพิงนั ธก์ บั การตดิ เชอ้ื เอชไอวี ประเทศไทย ปี 25572, .27561, สำ� นกั รชะาบยาดวทิ ยา กรมหคญวบงิ คมุ โรค
2.5 2.5 2.5 2.5

ประสบการณมเี พศสมั พันธก ับคนอื่นทไี่ มใ ชแฟน/ ก2ารใชถ งุ ยาใปงนร1อนะส.นกั9บาเรกมคยีานัยรรนคณกั ชรใม้นันัง้ ีเมกลพล.าศ5สุมสนุดมั กัพกเนับัรียธคกนนับ2อชค.้ัน่นื3นอป่ืนวทชไ่ี.ม2ใ ชแ ฟน/ 2ก.3ารใชถ งุ ยางอนามยั คร2งั้ .3ลา สดุ กับคนอ่นื 2.2
คนรกั ในกลุม นกั เรยี น ช้นั ม.5 ในนักเรยี นชัน้ ปวช.2

8 4.7 5.5 6.5 895..80 1.5 14.0 11.988.9 12.3 11.9 11.387.4 88.2 85.5 87.9 88น.4กั เรียน ม.5
1.4 2.1 66.7 75.0 77.2 84น.ัก2เรยี น ปวช.2
6 4.7 15.0 86.0 84.2

4 84.6
1 10.0
2 1.3 6.6
1.9รอยละ 2.1 0.5 715..04 4.878.9 4.583.3 5.4 78.2 5.4 รอยละ
76.4
68.3

0 ป 2558 ป 2559 ป 2560 ป 2561 0.0 ป 2557 ป 2558 ป 2559 ป 2560 ป 2561
ป 2557
0

ชาย หญงิ ป 2557 ชาย ป ห2ญ5พงิ .5ศ.8 ป 2559 ป 2560 พ.ศ. ป 2561

2557 2558 2559 2560 2561 2557 2558 2559 2560 2561

การใชถุงยางอนามัยคร้งั ลาสดุ กับคนอ่นื ชาย การใชหถญุงยงิ างอนามัยครง้ั ลา สดุ กับคนอ่นื ชาย หญิง

ในนักเรยี นช้นั ม.5ทม่ี า : รายงานผลการเฝา้ ระวงั พฤตกิ รรมทสี่ ใมั นพนนั ักธเก์รียบั นกชาร้ันตดิปเวชชอ้ื .2เอชไอวี ประเทศไทย ปี 2557 – 2562, สำ� นกั ระบาดวทิ ยา กรมควบคมุ โรค

89.0 84.6 86.0 88.9 84.2 87.4 88.2 85.5 87อ.9ัตรา8ค8.ล4 อดมชี ีพในหญงิ อายุ 15-19 ปี

รอยละ 84.2
รอยละ
ตอประชากรหญิงอายุ 15-19 ป 1,000 คน 511.100.0
68.3 7ต1ง้ั.4แตป่ 7ี82.955683เ.3ปน็ ต7น้ 8ม.2 า 76.4 50.166.7 537.54.0 757.32 .4 47.9
อั ต ร า ค ล อ ด มี ชี พ ใ น ห ญิ ง
80.0 44.8 42.5 39.6
2557วัยร2ุ่น55ม8ีแนว25โ5น9 ้มล2ด56ล0 งช2ัด5เ6จ1 นพ.ศ.
ซึ่งสวชนาย ทางกับหญโงิ รคติดต่อ 2557 2558 2559 2560 พ.ศ. 60.0 35.4
ทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะ 2561 40.0 27.6
ชาย หญงิ
20.0

0.0

ซิฟิลิสท่ีมีแนวโน้มเพ่ิมสูงข้ึน 100.0 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 พ.ศ.
การทว่ี ยั รนุ่ ไทย “ทอ้ งนอ้ ยลง 2562

แต่เส่ียงโรคเพ่ิมข้ึน” ย่อม 80.0 ทมี่ า : รายงานสถานการณด์ า้ นอนามยั การเจรญิ พนั ธ์ุ 2562, สำ� นกั อนามยั การเจรญิ พนั ธ์ุ กระทรวงสาธารณสขุ

เก่ียวข้องกับพฤติกรรมการมีเพศส64ั00ม..00พันธ์ การป้องกันการต้ังครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นและเยาวชน
ทเี่ ปลยี่ นแปลงไป จากขอ้ มลู ทพ่ี บวา่20จ.0ำ� นวนคนู่ อนของวยั รนุ่ และเยาวชนมแี นวโนม้ เพม่ิ ขน้ึ การใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั การปอ้ งกนั
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ควบคู่กับ0ก.0 ารป้องกันการตั้งครรภ์ รวมไปถึงการสร้างความตระหนักรู้ถึงความส�ำคัญของการใช้
ถุงยางอนามัย ให้กับกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนเป็นเร่ืองท่ีต้องให้ความส�ำคัญ เพราะนอกจากถุงยางอนามัยจะป้องกันในเร่ือง
การตัง้ ครรภก์ อ่ นวัยอันควรแล้ว ขณะเดียวกันยงั สามารถป้องกนั โรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธไ์ ด้อกี ด้วย

2112 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

7 พฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพอื่น ๆ

ในปี 2560 วัยรุ่นและเยาวชนไทย (15-24) ปี ร้อยละ 15.4 สูบบุหรี่ท่มี า: ขอมลู พ.ศ.2547, 2550, 2554, 2557 และ 2560 จากการสำรวจพฤตกิ รรมการสบู บุหร่แี ละการดื่มสุราของประชากร
ขอมูล พ.ศ.2549, 2552, 2556 และ 2558 จากการสำรวจอนามัยและสวัสดิการ สำนักงานสถติ ิแหง ชาติ

และรอ้ ยละ 23.9 ดม่ื สรุ า

ปซึ่งัจมจีผัยเลสก่ียรงะสทุขบภโดาพยทตี่สรง�ำคตัญ่อสในุขกภลาพุ่มวแัยลระุ่นยแังลมะีผเยลาตว่อชนเนไื่อทงยไปยสังู่พคฤง%ตเปิก็นผรสูเรรบู ่ือมบงเุหสบรี่ย่ี ุหแงลรอะี่ ่ืนแผลทูสะูบ่ีอเบคาุหจรรน่ือีเ่ ป�ำงนไดปปื่มรสะแู่กจอําาลรกสูญอฮเสอียล์
จากการบาดเจ็บและเสยี ชวี ติ โดยเฉพาะจากอบุ ตั ิเหตบุ 2น3.ท0 อ้ งถนน21.2
21.4 20.7
19.1
อายเุ ฉลี่ยทเ่ี ริ่ม... ครง้ั แรกของคนไทย 18.4 18.2
การสบู บหุ รแี่ ละดม่ื สรุ าเปน็ พฤตกิ รรม
ท่ีส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ ท้ังทาง 16.8
ร่างกาย จิตใจ และสังคม การป้องกัน
อา ุยท่ีเ ่ิรม... (ป) 20.4 15.1 20.5 15.2 20.3 162.60.8 1240.7.3 15.4
รอยละ 13.4
11.5 12.3
การเขา้ สกู่ ารเปน็ นกั สบู และนกั ดม่ื หนา้ ใหม่ 18.4 18.5 17.9 17.8 18.0
ซงึ่ สว่ นใหญเ่ กดิ ขนึ้ ในชว่ งวยั รนุ่ และเยาวชน
เป็นเรื่องท่ีมีความส�ำคัญ การส�ำรวจใน
ปี 2560 พบอายุเฉล่ียที่เร่ิมสูบบุหรี่และ
ดื่มสุราคร้ังแรกของคนไทย คือ 18.0 ปี พ.ศ. พ.ศ.
และ 20.3 ปี ตามล�ำดับ โดยการสูบบุหรี่ 2547 2547 2550 25502554 25524557 2560
25527560

อายุ 15-24 ป เริ่มสบู บหุ อราี่ ยุ 15-24เรปิ่ม ดมื่ สุรา ทกุ กลุมอายุ
และด่ืมสุรามีแนวโน้มเร่ิมในอายุท่ีน้อยลง ทมี่ า : การสำ� ร%วจพผฤสู ตบู กิ บรหุ รรม่ีการสบู บหุ%รแ่ี ผลสูะบูกาบรุหดรม่ื เ่ี ปสนรุ าปขรอะงจปำระชากร, %สำ� นผกั ูส งูบานบสหุ ถรติ่ี แิ หง่ ชา%ติ ผสู บู บหุ ร่ีเปนประจำ
ทกุ กลุมอายุ

เลก็ น้อยทีม่ า: ขอ มลู พ.ศ.2547, 2550, 2554, 2557 และ 2560 จากการสำรวจพฤตกิ รรมการสูบบหุ รีแ่ ละการดมื่ สุราของประชากร
ขอมลู พ.ศ.2549, 2552, 2556 และ 2558 จากการสำรวจอนามัยและสวสั ดิการ สำนกั งานสถิตแิ หงชาติ

การสบู บุหรี่ของคนไทย การดืม่ สุราของคนไทย

% ผสู บู บหุ รี่ และ ผสู บู บหุ รีเ่ ปน ประจํา % ผดู ่ืมสรุ า

23.0 21.4 20.7
21.2 18.4 18.2

รอยละ 19.1 32.7 31.5 32.3
16.8 30.0 28.4
รอยละ
15.1 15.2 16.6 15.4 23.5 22.2 23.7 25.0 23.9
13.4 14.7 12.3

11.5

2547 2550 2554 2557 พ.ศ. พ.ศ.
2560
2560
อายุ 15-24 ป อายุ 15-24 ป ทกุ กลมุ อายุ ทุกกลุม อายุ 2547 2550 2554 2557
% ผูส บู บหุ รี่ % ผสู บู บุหรเี่ ปนประจำ % ผูสบู บหุ ร่ี % ผูสบู บหุ รี่เปน ประจำ

หมายเหตุ : ผสู้ บู บหุ ร่ี หมายถงึ ผทู้ ม่ี พี ฤตกิ รรมการสบู บหุ ร่ี ณ ชว่ งเวลาของการสำ� รวจ อายุ 15-24 ป ทุกกลมุ อายุ
ซง่ึ ประกอบดว้ ย ผทู้ ่ี “สบู นาน ๆ ครงั้ ” และ ผทู้ ี่ “สบู เปน็ ประจำ� ”
ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการสบู บหุ รแ่ี ละการดม่ื สรุ าของประชากร, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ
ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการสบู บหุ รแี่ ละการดม่ื สรุ าของประชากร, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

22 สุขภาพค%นไผทูดยมื่ ส2รุ า563 32.3

32.7

1.2

15.1 8.3 14.1 14.0 13.5 16.3 17.0
4.2
28.7
แต่สัดแสม่ว้ภนาวพัยร14ร3ว.0.6ุ่นมแกลาระ1สเ8ย.7ูบาบวุหชรน่ีข(อ1ง5ค-น2ไ41ท40.ป4ย.8ีโ)ดทย่ีสเ1ฉ4ูบ0.4ล.8บ่ียุหทรุก่ีย1กัง59.ลค3.9ุ่ม่ออนาขย้า1ุจง36.ะท9.7ลรดงตลัวง6.8 1.9 การสบู บหุ รใี่ นวยั รุน่ ไทยอายุ 13-15 ปี
ขอออายยงู่ทวุน่ีปยั ้อรรยะุน่ มแ(ตาล่�ำณ6ะก7เร.3วย้อ่าายว1ลช54ะน38.9.ป71เปี)5น็ซโก่ึ8งด6ยล.ย3ังุม่ ใขนนาักปดสีข2บู ้อ750ปม.66รูล0ะแจลรำ� ้อะ70กกย.8าลารระสสูบ1�ำร26บ1ว.ุห.32จรอหใ่ี ยนร่ากืองล6ต31มุ่ .่อ2วเใัยนนรื่อนุ่8ง74.2
รอยละ เพศ สบู บหุ ร่ี 3.3 11.3 รวม
รอยละ ไฟฟา 1.9 หญงิ
(e-cigarettes) ชาย
เพศ 4.7
รอยละ
สูบหรือด่มื ประจำ สูบบหุ ร่ี 5.2

สบู หรือด่ืมนานๆ ครรั้งวมถึง การเข้ามาของบุหร่ีรูปแบบใหม่ หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งในปี 2558 มวน
เไคมยเ คสยบู สหูบรบอื ุหเครยห่ี ดรือ่ืมดตพม่ื ้อบเลงยวใพน่าชิจมีวาิตวี รัยณรนุ่ ารชแวมาลยะอตาิดชยตายุ า1เมพ3ศ-1ห5ญงิ ปี ถึงปรกะทมม. าณรกอ้ลายงลภะาค5เหนทือี่สูบ เเตฉปะยี วง็นนั เอหเอนรกอื ่อื งที่ใต
17.2

รอยละของวยั รนุ

ทม่ี า : Global Youth Tobacco Survey 2015, World Health Organization

สถานการณ์ในส่วนของสุรา พฤติกรรมสบู บุหรี่และดมื่ สรุ าของวยั ร่นุ และเยาวชน (15-24 ป)ี
นักดื่มวัยรุ่นและเยาวชน (15-24 ปี)
แมจ้ ะลดลงจากรอ้ ยละ 25.0 ในปี 2557 15.1 28.7 1.2 14.1 14.0 13.5 16.3 17.0
เป็นร้อยละ 23.9 แต่นับว่ายังสูงกว่า 13.6 19.9 6.8
สัดส่วนนักด่ืมในปี 2547-2554 4.0 8.3 10.8 10.8 5.3 16.7
อยเู่ ลก็ นอ้ ย เมอื่ พจิ ารณาทง้ั พฤตกิ รรม 4.2 4.4 4.4 3.9 1.9
การสูบบุหรี่และการด่ืมสุราร่วมกัน 67.3
พบวา่ วยั รนุ่ และเยาวชนไทยทรี่ ายงานวา่ 18.7 86.3
3.9

70.6 70.8 61.2 74.2

63.2

48.7

สูบหรือด่มื ประจำ
สบู หรอื ดมื่ นานๆ ครง้ั

ไมเ่ คยทงั้ สบู บหุ รหี่ รอื ดมื่ สรุ าเลยมากอ่ น เคยสูบหรือเคยดื่ม รวม ชาย หญงิ กทม. กลาง เหนอื ตะวนั ออก ใต
ในชีวิต มีสดั สว่ นประมาณ 2 ใน 3
ไมเคยสบู บุหรี่หรือด่ืมเลยในชีวิต เพศ ภาค เฉียงเหนือ

ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการสบู บหุ รแี่ ละการดม่ื สรุ าของประชากร พ.ศ. 2560, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

การดม่ื สุราแลว้ ขับขย่ี านพาหนะ การด่ืมสุราหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ของวัยรุ่นและเยาวชน (15-24 ป)ี ของวัยรุ่นและเยาวชนไทยยังคงเป็นเร่ืองที่สังคม
และทุกฝ่ายควรต้องจับตาและเฝ้าระวังเพราะเป็น
หญิง 30.0 ปัจจัยเสี่ยงที่น�ำไปสู่พฤติกรรมเส่ียงอื่นของวัยรุ่น
ชาย 53.2 และเยาวชนได้ จากสาเหตุการขาดสติและความ
รวม 48.8 ประมาทท่ีอาจน�ำไปสู่การบาดเจ็บและเสียชีวิต
โดยเฉพาะจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ซ่ึงส่วนหน่ึง
รอยละของผูท ี่เคยด่มื สรุ า และดม่ื กอ นหรอื ระหวางขับขี่ เป็นผลมาจากการไม่ตระหนักและให้ความส�ำคัญ
ในการปฏิบัติตามกฎจราจร ในกลุ่มวัยรุ่นและ
ทมี่ า : การสำ� รวจพฤตกิ รรมการสบู บหุ รแ่ี ละการดม่ื สรุ าของประชากร พ.ศ. 2560, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ เยาวชนที่เป็นน3ัก0ด.0่ืมปี 2560 พบว่า ถึงเกือบครึ่ง
เคยดื่มสุราก่อนหรือระหว่างการ53ข.2ับขี่ยานพาหนะ
อัตราการสวมหมวกนริ ภัยของผ้ใู ชร้ ถจกั รยานยนต์ ขณะท่ี ข้อมูลพฤติกรรมคว4า8ม.8ปลอดภัยในการ
รอสยลวะขมองผหทู เี่มคยวดื่มกสุรนา แิรลภะด่มื ัยกอเนมหรื่อือรใะหชวา้รงขถับขจ่ี ักรยานยนต์ในปี 2561
47 47 47 46 48 พบว่า สัดส่วนผู้ใหญ่คนไทยที่สวมหมวกนิรภัย
หญงิ มีเพียงร้อยละ 48 หรือไม่ถึงคร่ึง แต่สัดส่วนนี้
กลับน้อยลงไปอีกเม่ือพิจารณาในกลุ่มวัยรุ่นและ
ชาย เยาวชนซึ่งมเี พยี งรอ้ ยละ 22 เทา่ นัน้

24 22 26 รวม
19 22

67 8 8 8

2557 2558 2559 2560 พ.ศ.
ผูใ หญ (25 ปขึ้นไป)
วยั รุน (15-24 ป) 2561

เดก็ (ตำ่ กวา 15 ป)

ทมี่ า : อตั ราการสวมหมวกนริ ภยั ของผใู้ ชร้ ถจกั รยานยนตใ์ นประเทศไทย พ.ศ. 2557 - 2561, มลู นธิ ไิ ทยโรดส์

2312 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

8 พฤตกิ รรมเสย่ี งทางสงั คม

เดก็ และเยาวชนถกู จบั กมุ สง่ สถานพนิ จิ ฯ ในปี 2562 ทงั้ สน้ิ 20,003 คดี ครงึ่ หนง่ึ
เปน็ ฐานความผดิ เกย่ี วกบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ
44,057

ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่ การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ความคิด ความอยากรู้35,049 34,276 37,433 36,537 33,121 29,293
และอยากลองสิ่งใหม่ ๆ ท่ยี งั ขาดความเข้าใจ ความตระหนกั และการควบคุมตนเองท่เี หมาะสมของวยั ร่นุ 24,760
จำนวนค ีด
และเยาวชน อาจนำ� ไปสู่การประพฤติและพฤตกิ รรมเสีย่ งทางสังคมที่ไม่ถกู ต้อง หรอื เปน็ อันตราย 18

จากขอ้ มลู กรมพนิ จิ และคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชน แมจ้ ำ� นวนคดรี บั ใหมใ่ นสถาน ฐานคว2า5ม53ผิด2ข55อ4 งค2ด55ที5 ่ีเด2ก็ 55แ6ละเ2ย55า7วชน2558 2559 2560 2
พินิจฯ ท่ัวประเทศ จะมีแนวโน้มลดลงจากท่ีเคยสูงถึง 4.4 หมื่นคดีในปี 2553 แต่ (อายุไม่ถึง 18 ปี)
“ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ” ยงั คงเปน็ สาเหตกุ ารกระทำ� ผดิ ของเดก็ และเยาวชนไทยทส่ี งู สดุ ถกู จบั กมุ ฯ ปี 2562

ในอนั ดบั แรก โดยนบั เปน็ ทง้ั ปญั หาทางสงั คมและปญั หาทางสขุ ภาพทม่ี คี วามรนุ แรง
ในกลมุ่ วยั รนุ่ และเยาวชนมากทส่ี ดุ เมอ่ื เทยี บกบั กลมุ่ ประชากรในชว่ งวยั อนื่ ในจำ� นวน
ผตู้ อ้ งหาคดเี สพและผรู้ บั การบำ� บดั รกั ษาปญั หายาเสพตดิ ทง้ั หมดในปี 2561 ถงึ ประมาณ 4.3% 14.7% 13.1%

รอ้ ยละ 40 พบวา่ เปน็ กลมุ่ ทม่ี อี ายตุ ำ่� กวา่ 25 ปี โดยสว่ นใหญอ่ ยใู่ นชว่ งอายุ 20-24 ปี 10.4%

จำ�นวนคดีท่เี ดก็ และเยาวชน (อายุไม่ถงึ 18 ป)ี ถกู จับกมุ ส่งสถานพนิ จิ ฯ 4.4%

44,057 2.5%

ที่มา: รา3ย5ง,0า4น9ผล3ก4า,2ร7ด6ำเ3น7ิน,4ง3า3นปอ 3ง6ก,5ัน3แ7ละแ3ก3ไ,1ข2ป1ญ 2ห9า,2ย9า3เสพตดิ ประจำปง บประมาณ 2561 50.4%
สำนกั งานคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปรามยาเสพ2ต4ดิ ,7(6ป0.ป.ส.)
จำนวนค ีด ความผิดเก่ียวกบั ทรพั ย ความผดิ เกีย่ วกบั ยาเสพติดใหโ ทษ
18,831 20,003 ความผิดเก่ียวกบั ชวี ติ และรางกาย ความผดิ เกย่ี วกับอาวุธและวตั ถรุ ะเบดิ

ความผดิ เกยี่ วกบั เพศ อืน่ ๆ รวม ไมระบุ

ความผิดเก่ยี วกับความสงบสขุ
เสรภี าพ ชอื่ เสยี ง และการปกครอง

2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 พ.ศ. ทม่ี า : รายงานจำ� นวนคดเี ดก็ และเยาวชนอายตุ ำ่� กวา่ 18 ปี พ.ศ. 2562,
กรมพนิ จิ และคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชน
2562

ทม่ี า : รายงานจำ� นวนคดเี ดก็ และเยาวชนอายตุ ำ่� กวา่ 18 ปี พ.ศ. 2553-2562, กรมพนิ จิ และคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชน

ผูต้ ้องหาคดเี สพ และผรู้ บั การบำ�บดั รกั ษาปญั หายาเสพติด จำ�แนกตามกลุม่ อายุ ปี 2561

30 รอยละของ ผูตองหาและ ผูเขาบำบัด 23.1 25.3 ผตู องหา ผูเขา บำบดั
25 14.8 15.0
14.7% 13.1% 20.3
20 4.3% 17.6
13.9 15.0 15.7 14.1
15 12.1 11.8
10 10.4%

5 0.4 1.1 4.4%
0
นอ ยกวา 15 ป 2.5% กลุมอายุ
15-19 ป 20-24 ป 25-29 ป 30-34 ป 35-39 ป 40 ปข้ึนไป

50.4%ทม่ี า : รายงานผลการดำ� เนนิ งานปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพตดิ ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2561, สำ� นกั งานคณะกรรมการปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ (ป.ป.ส.)
24 สุขภาพคนไทย 2563
ความผิดเกี่ยวกบั ทรพั ย ความผิดเกี่ยวกับยาเสพตดิ ใหโ ทษ

ความผดิ เก่ยี วกับชวี ิตและรา งกาย ความผดิ เกี่ยวกบั อาวุธและวตั ถุระเบิด

ประมาณการวยั รนุ่ และเยาวชนท่เี ลน่ การพนัน พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง การเล่นหรือ
ท่มี า: รสาำยนงักางนาผ(นหลรคกือณ4า3ะร6.ดก0ำร5.เร3นลมินากนงาคารนนป)ปอ องกงกันันแวทแลัยเ่ี ลละรนะปนุ พแแรกนลาบไะนั ขเป.ย.ป.ราญวาชมหนยาาย(เ1าสเ5พสพ-ต2ิดต5ิด(ปปปร.ป)ะ.จสำ.)ปง บประมาเตสณปิ่วด็นน2พป5หน6ัญนัน1หึ่งเเปาปเ็นพ็นอ่ิมผีกขลก้ึนมลใานุ่มจกพาลกฤุ่มลตวักิกัยษรรณรุ่นมแะเลกสะาี่ยเรงยเทลาวี่อ้ียชางนดจู
และ บทบาทความสัมพันธ์ในครอบครัวไทย
- สลากกนิ แบงรัฐบาล: 2.2 ลา นคน ท่ีเปล่ียนแปลงไป รวมถึง พฤติกรรมการใช้
อินเทอร์เน็ตหรือสื่อสังคมออนไลน์ที่เพ่ิม
20.9 - หวยใตด นิ : 1.8 ลา นคน มากขน้ึ ในยคุ ปจั จบุ นั ในปี 2562 ศนู ยศ์ กึ ษา
- ทายผลฟตุ บอล: 0.9 ลานคน
(หรือ 0.73 ลานคน)
รอยละ
รอยละของ ูผตองหาและ ูผเขาบำบัด ปัญหาการพนัน ประมาณการจ�ำนวน
30 วยั รนุ่ และเยาวชนไทย (อายุ 15-25 ป)ี ทเี่ ลน่
พนันผวตู ่าอ มงหีมาากถึงเกือบผ4เู ขาบลำ้าบนัด คน ส่วนใหญ่
25 15-18 ป 19-25 ป 23.1 25.3 เปน็ การเลน่ สลากกนิ แบง่ รฐั บาล หวยใตด้ นิ
20 20.3
15 ทมี่ า : ประมวลขอ้ มลู จาก รายงานสถานการณก์ ารพนนั ในส1งั 3คม.9ไทย1ป5ี .20562, ศนู ยศ์ กึ ษาปญั หาการพนนั 17.6 และทายผลฟุตบอล ต14าม.8ล1ำ� 5ด.0ับ
15.7
14.1 12.1 11.8

10 สำ� หรบั พฤตกิ รรมทางสงั คมในดา้ นอนื่
เกทา่ียรสวเ�ำตรรว่จเใลน่นปเีก2ม56น1อนพ0ดบ.4ึกพต1ฤ.่ืน1ตสิการยรมแกลาะร การศึกษากบั ผูป กครองของผูปว ยจิตเวชเด็กและวัยรนุ
5 ท่รี ับการรักษากับโรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ ใน พ.ศ. 2560 กลุมอายุ
0
จํา2น0ว-2น4 ป1 17 2ค5น-29พปบ วา พฤ30ต-ิก34รรปม กา วรา3ว5ร-3นุ 9แรปง 40 ปข ้นึ ไป
เที่ยวกลางคืนของวัยนอ รยุ่กนวาแ1ล5ะปเยาวชน15-19 ป ของเด็กและวยั รุน มคี วามสัมพันธก บั พฤตกิ รรม
มีแนวโน้มเพ่ิมขึ้น ขณะเดียวกันการ การใชอ นิ เตอรเ นต็ ลกั ษณะการเลีย้ งดูทีต่ ามใจบาง
เล่นกีฬาออกก�ำลังกาย และเล่นดนตรี เขมงวดบาง และ การไมไดอยดู ว ยกันของพอแม
ร้องเพลงก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน แต่ท่ี กบั เด็กและวัยรนุ (ที่มา: วรรณวิสา นากสขุ และคณะ, 2562)
เพิ่มขึ้นชัดเจนที่สุดเป็นพฤติกรรมการ
สื่อสารทางอินเทอร์เน็ตผ่านส่ือสังคม
ออนไลนต์ า่ ง ๆ เชน่ ทวติ เตอร์ ไลน์ หรอื เฟซบกุ๊ ทเ่ี พมิ่ ขน้ึ เกอื บ 2 เทา่ จากรอ้ ยละ 49.9 เปน็ 93.5 ระหวา่ งปี 2554-2561

พฤตกิ รรมทางสงั คมของวัยรุ่นและเยาวชนไทย (อายุ 13-24 ปี)

50% 79.5 73.5รอยละของวัย ุรนและเยาวชนท่ีปฏิ ับติเปนประจำห ืรอบางค ัร้ง 46.3 93.5
รอยละ
(หรอื 834.0.058ล2าน.6คน7) 6.1 8ว2ยั .5รุน และเยาวชน (15-25 ป)

40% 63.8 ท-ีเ่ ลสลน5าพก0นก.นั8นิ ..แ.5บง7ร.6ัฐบ4าล9:.92.2 ลานคน
53.3

30%40.5 43.7 20.919.5 2(6หร.4อื 0.73 ลา นคน) - หวยใตดนิ : 1.8 ลา นคน
- ทายผลฟุตบอล: 0.9 ลา นคน

20% 11.9 10.7

10%

0% เที่ยวเตร เลนเกมส นอนดกึ เท่ยี ว 1ตเ5ลสู น-ล1กอ8าดรปพห นวนัย 19ห-นอ2งัา 5นสือป เลนกฬี า/ เลนดนตรี สอ่ื สารทาง
2554 2561 ตืน่ สาย กลางคนื ออกกำลังกาย รอ งเพลง อินเทอรเนต็
บอล เชน ทวติ เตอร...

ทม่ี า : การสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ พ.ศ. 2554 และ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

2512 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

9 สื่อสังคมออนไลน์

วยั รนุ่ และเยาวชนไทยมากกวา่ รอ้ ยละ 90 เขา้ ถงึ อนิ เทอรเ์ นต็ สว่ นใหญใ่ ชเ้ พอ่ื การสอ่ื สาร
บนเครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์

บนโลกออนไลน์ที่เปิดกว้างและสามารถเข้าถึงได้เกือบทุกสถานท่ี ทุกเวลา ผ่านอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่
โดยเฉพาะโทรศพั ทม์ อื ถอื ทป่ี จั จบุ นั วยั รนุ่ และเยาวชนไทยเกอื บทกุ คนเปน็ เจา้ ของ การพฒั นาทกั ษะในการใช้
และการร้เู ทา่ ทันสอ่ื อินเทอรเ์ น็ต และสงั คมออนไลน์เปน็ เรือ่ งทต่ี ้องส่งเสริม

สัดส่วนวัยรนุ่ และเยาวชน (15-24 ปี) ท่ีใชอ้ ินเทอรเ์ นต็ โทรศัพท์มอื ถอื และคอมพวิ เตอร์

78.6 83.7 86.9 89.7 92.8 94.3 95.5 97.3
97.369.7 85.9 89.8
686.89.7 72.5 92.8 94.3 95.5 9766.8.9 59.4 57.7

รอยละ 78.6 83.7 86.9 54.7 55.5 57.1 58.8 59.6 61.0 6931.2.4
57.1 58.8 59.6
66.8 รอยละ72.550.351.954.84641.6.047.3 69.7 50.3 76.8 54.885.9 58.4 89.867.1
54.7 55.5
47.3 58.4 67.1 51.9 59.4 57.7 54.3
44.6
2551 2552 2553 63.2 2555 2556 2557 2558 2559 2560

2554

อนิ เทอรเนต็ โทรศพั ทม อื ถือ คอมพวิ เตอร

2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 2560 พ.ศ.

2561

อนิ เทอรเ น็ต โทรศัพทม อื ถือ คอมพิวเตอร

ทม่ี า : การสำ� รวจการมกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในครวั เรอื น พ.ศ. 2551-2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

ปัจจุบัน วัยรุ่นและเยาวชนไทยเกือบทุกคน การใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตของคนไทย จำ�แนกตามกลุ่มอายุ ปี 2561
(ร้อยละ 96.9) มีโทรศัพท์มือถือใช้ และมีการใช้
อินเทอร์เน็ตเพิ่มข้ึนกว่าเท่าตัว จากไม่ถึงร้อยละ 45 91.4
ในปี 2551 เปน็ รอ้ ยละ 91.4 ในปี 2561 โดยมสี ดั สว่ น 84.4

ของผู้ใช้ที่สูงท่ีสุดเม่ือเปรียบเทียบกับประชากร 69.6

ในกลมุ่ อายอุ น่ื กจิ กรรมบนโลกอนิ เทอรเ์ นต็ อนั ดบั 1 56.8 51.2
เป็นการเข้าใช้เพ่ือส่ือสารบนเครือข่ายสังคมออนไลน์
รอยละ

รอยละ
(social network) อนั ดบั 2 และ 3 เปน็ การใชง้ านสว่ นตวั
ส่วนใหญ่เพื่อความบันเทิงในการดาวน์โหลดและ
อัพโหลดข้อมูลรูปภาพ วิดีโอ เพลง ห9ร1ือ.4ภาพยนตร์
10.3

ในลกั ษณะการแบง่ ปนั หรอื การ “share” บนเวบ็ ไซต8์ 4.4 รวม 6-14 ป 15-24 ป 25-34 ป 35-59 ป 60 ปข นึ้ ไป
ขณะท่ี กจิ กรรมเพอื่ การศกึ ษาเรยี นรู้ มีสดั สว่ นการใช้
ไม่ถงึ รอ้ ยละ 30 โดยอยใู่6น9อ.6ันดับที่ 9 ทมี่ า : การสำ� รวจการมกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในครวั เรอื น พ.ศ. 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

26 56.8 51.2
สุขภาพคนไทย 2563

5 อนั ดบั กิจกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตท่สี งู ที่สดุ ในกลุ่มวยั รนุ่ และเยาวชน (อายุ 15-24 ปี) ปี 2561

อันดับ 5 โทรศพั ทห รอื Video call อนั ดบั 5 โทรศพั ทหรือ Video call 45.2
ผา น Internet (VoIP) และ Webcam ผาน Internet (VoIP) และ Webcam 49.6

อนั ดบั 4 รับ-สงอเี มล 45.2

อันดับ 4 รับ-สง อีเมล
49.6

อันดับ 3Soอพัftโwหaลrดeขอ เพมื่อลู กรปูารภแาบพง/ปภนาพ(Sถhา ยaอ/reวัน)ดิ ดีโบอับน/เเวพ3บ็ Sลไซงoอต/พัftโwหaลrดeขอ เพมือ่ลู กรปูารภแาบพง/6ปภ1นา.8พ(Sถhา ยa/reว)ิดีโบอน/เเวพบ็ ลไซงต/ก ารใชอ ินเทอรเ น็ต 61.8 การใชอินเทอรเนต็
เพอ่ื การศึกษาเรียนรู
ออนั นัดดบั บัT1wเก2iมใtชดtสe า/Srวเ,oลนGนcโหiเoaกลolมดgสN/l/eรeดูปPtwูหภluนาosพังr,/k/LฟหเIนงชNเนังพE/ล,FวงIaิดn/cโี sอวetอทิ/baยเอนัgoพุroันดลฯakลงดmบั ,/ฯบั 1เก2มใชดส า/ Sวเoลนนcโ หiเaกลlมดสN// รeดูปtwหูภนาoพังr/k/ฟหเนงชเนงั9พ9/4ลFว8.ง5aดิ .0/cโี อวeทิ/bยเoพุ oลฯมโkลงดเี ,/ฯเพพยยีอ่ื อกงยารูใรอนศยอกึ ษันลาะดเรับ2ียทน8ี่ร.9ู5 94.5
98.0 มเี พยี งรอ ยละ 28.5
Twitter, GooglรeอPยลluะ s, LINE, Instagram โดยอยใู นอันดับท่ี 9

รอยละ
ทมี่ า : การสำ� รวจการมกี ารใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารในครวั เรอื น พ.ศ. 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

การทำ�กจิ กรรมท่เี ป็นความเสี่ยงออนไลน์ การเขา้ ถงึ และการใชง้ านอนิ เทอรเ์ นต็ ทเี่ พมิ่ มากขน้ึ น้ี
ของเดก็ วัยรุ่นและเยาวชนไทย แม้จะเป็นประโยชน์และเพ่ิมโอกาสในการพัฒนาทักษะ
และความรู้ในโลกกว้างให้กับวัยรุ่นและเยาวชนไทย
73.8 72.2 ขณะเดียวกัน ก็มาพร้อมกับความเส่ียงและภัยออนไลน์

รอยละของผู ่ที "เคย" 51.7 ในลักษณะต่าง ๆ ที่ทุกฝ่ายควรเฝ้าระวัง ช่วยกันส่งเสริม
และพฒั นาใหว้ ยั รนุ่ และเยาวชนมที กั ษะและความรเู้ ทา่ ทนั
รอยละของผู ่ที "เคย" 33.6 7231.2.1 สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากอนิ เทอรเ์ นต็ และสอ่ื สงั คมออนไลน์

73.8

พบเห็นส่อื ลามก เลน เกม พูดคยุ กับคนทไี่ มร ูจกั ผกูอลทห่นื่นั ทแม่มี ากงาาลองย:อรนเรังใหไแาลนกนตยก ง:ุ ถาาผกู รนกทลใลาผชงจัน่ อแลสาอกสอ่ืกนลไงำอกลรนรงัาอแวรนกจสไสำลฟถรนุตพวาบนนจ(อนั2Cลเกทด.อO8า5ายอก็ รนผP1ไลณAลว.นT7ัยเ ด)ร็กุนกแบัลใปชะภห้ันี เัย2เย้ ปกอ5าอวดิรร63นชะาค23นไยถลณุ.ใ6พนนงมไราบศปดะนวดึกม้2ผา่ับ5ษาลช6เกาดั้น2กกถปก็าศว3รึงรไนู ะา่มท1สยถเัธ.ยปกำ�ม1ยรรศดิ ซะกึวมโสงึ่ษจทศาราสนษึกวถงถึงมษามานวาัธนขยัยตบักมรอเตาคนุ่ นอรลแนณปอ่ื ลปนลเ์ะลกดาาาเก็ยยยรสกาจงเวำบัเกสนชภือรวนิมนยับแอใ1ลน35อะ,ปร3นใก1ะไนป8ดลอคบัน4งนค์ มุ ในคพรอ.ศง.เด2็ก5แ6ล2ะเ
อนาจารทางออนไลน ออนไลน ผา นส่ือออนไลน

หมายเหตุ : รอ้ ยละของผทู้ ่ี “เคย” ทำ� กจิ กรรม หรอื ประสบสถานการณน์ นั้ จากการสำ� รวจนกั เรยี น เคยพบเหน็ สอื่ ลามกอนาจารทางออนไลน์ หรอื เคยเลน่ เกม
ในระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาถงึ มธั ยมตอนปลาย จำ� นวน 15,318 คน พ.ศ. 2562 ออนไลน์ ขณะทีป่ ระมาณถึง 1 ใน2.83 เคยมปี ระสบการณ์

ทมี่ า : รายงานผลการสำ� รวจสถานการณเ์ ดก็ กบั ภยั ออนไลน์ ปี 2562, ศนู ยป์ ระสานงานขบั เคลอ่ื น
การสง่ เสรมิ และปกปอ้ งคมุ้ ครองเดก็ และเยาวชนในการใชส้ อ่ื ออนไลน์ (COPAT) เกย่ี วกบั การกลนั่ แกลง้ รงั แกผอู้ น่ื ทางออนไลน์ ทง้ั ในฐานะ

ตัวอย่างหนึ่งของประอเนดพา็นบจาเหรยน็ทุคสางือ่ ใอลหอามนมกไล่ น อเกลอน นาเไกรลมนร จู้ กั แพลดู ผะคามุยนกมุสับ่อื มคอนออทนงี่ไไมลขรนจูอ ักถงกูผเกดูอกล่ืนก็่นั รทแะากวงลทอัยงอำ�รรนังไแนุ่หลกนแร ลอื ถะูกเเปกทยลาน็งนั่าอแวผอกชนกู้ลไงนลรรนไะังท แทกยำ� ทฟ่มี ตุพีเบกนอัน่ยี ลทอวาอยกนผไบัลลน“e-sport”
ท่ีมีการถกเถียงกันมาก เก่ียวกับการใช้
อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์ว่า ไมรูจ กั รูจักวา เปนการแขงขนั วิดโี อเกมส/ เกมสออนไลนชงิ รางวัล

จะเป็นคุณหรือเป็นโทษมากกว่ากัน คือ รอยละ รอ ยละ ในกลมุ ทีร่ จู กั e-sport
e-sport ซ่ึงในมุมหน่ึง ถูกมองเป็นเร่ือง สว นใหญม มี มุ มองเกย่ี วกับ
ของการติดเกมออนไลน์ แต่อีกมุมหน่ึง 37.8 28.3 "ผลกระทบของ e-sport" ในเชงิ "บวก"

ก็มองได้เป็นเรื่องของทักษะการกีฬา รอยละ รไไมมูจชถักดัูกแเตบจอบนงนหักรือ สรางงาน สรางอาชพี เชน นักแขง เกม 64.1%,
ทสี่ ามารถสรา้ งรายไดแ้ ละพฒั นาเปน็ อาชพี ทาํ ใหรจู ักทาํ งานเปน ทมี 50.1%
ในอนาคต ท้ังนี้ท้ังน้ัน คงต้องขึ้นอยู่กับ 33.9
การตคี วาม การรเู้ ทา่ ทนั และการกำ� หนด สรา งกลมุ /พ้ืนท่ใี หค นท่ชี อบเลน เกมไดรวมตวั กัน
เป้าหมายของวัยรุ่นและเยาวชนซึ่งเป็น มเี ปาหมายและกิจกรรมรว มกนั 45.6%
ผใู้ ชห้ รอื ผเู้ ลน่ เอง ในทา้ ยทส่ี ดุ สรา งชอ่ื เสยี งและรายได 40.8% เปนตน

หมายเหตุ : ผลจากการสำ� รวจนกั เรยี นในระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาถงึ มธั ยมตอนปลาย จำ� นวน 15,318 คน พ.ศ. 2562
ทมี่ า : รายงานผลการสำ� รวจสถานการณเ์ ดก็ กบั ภยั ออนไลน์ ปี 2562, ศนู ยป์ ระสานงานขบั เคลอื่ นการสง่ เสรมิ และปกปอ้ งคมุ้ ครองเดก็
และเยาวชนในการใชส้ อ่ื ออนไลน์ (COPAT)

2712 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

ค1ว0า0มอยดู มี สี ขุ ของครอบครัวไทย
90 (คะแนนเตม็ 5 คะแนน)

510 ครอบครัวกับวัยรุ่นและเยาวชน3.5 80 N = 6,158 ราย 70.1 68.6
4.5 3 70
2.5 66.4
4
2
3.84 3.73 3.72 603.80 เท่าน3้ัน.59ท่ีได้ใช3.้7เว4 ลาท�ำกิจกรรมพร้อมหน้ากันในบ้าน
รอยละ
ใน50 2
รอยละ
วัยรุ่นและเยาวชน 1
กับสมาชิกในครอบครัวอ40ย่างมีความสุขเป3็น0ป.2ระจ�ำ และไม่ถึง ำ12ค6ัญ.3ในขอ3งคทรี่ไดอ้พบูดคครุยัว27.9
1.5 ปรึกษาหารือ หรือตัดส3ิน0 ใจร่วมกันด้วยเหตุผล ในเรื่องส�
1

0.5

0 เใปต ็นประจเห�ำนอื 20
กลาง ตะวนั ออก กรุงเทพฯ รวม
มา: รุจา ภเหูไพมือบนูลหยรแอื ลแม“ะตคคกสี ณตรมั ะา องพพอบนัย.ศคา ธ.งร2ไภร5ัว.า6”พ2,ทเคปวด่ี า็นตีมสออ่ ยถกูดามี นั บสี ุขันรขจู้อฐง1กัเาคฉ00นยีรบงอรทเบหานคบกอื ราวั ททไ0ที่ใหยก.2นในลา้ ้ช35ท15ิ.ดภข่ี3-ูมอก1ภิ 9งับาคตปว: นัยเรอุ่นงแแลละเะยสาาวมช0ารน.2ถมพา31กงึ่ .64ต-ท2นี่ส4เุดอป งกไดาร้ เทปี่สน็ มปาจั ชจิกยั 0ใส.น2ำ� คค3รญั .อ4ใรบนวมคกราัวร
สร้างภูมคิ ้มุ กนั พฤตกิ รรมเสี่ยงตา่ ง ๆ ใหก้ ับวยั รไม่นุ เลแยละเยาวเชลก็นนอ ย มาก มากทีส่ ดุ

ครอบครัวส�ำหรับวัยรุ่นและเยาวชนไทย พบว่า เป็นที่ที่มั่นคงปลอดภัย โดยวัยรุ่นและเยาวชนเกือบทั้งหมดรู้สึกมั่นคง
ปลอดภัยมากถึงมากที่สุดเมื่ออยู่ในครอบครัวตัวเอง พบเพียงส่วนน้อยเท่านั้นท่ีรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยเม่ืออยู่ในครอบครัว
นอกจากน้ียังพบอีกว่าวัยรุ่นและเยาวชนกวา่ 3 ใน 4 รสู้ ึกอบอุน่ และมีความสุขเปน็ ประจ�ำเม่อื อยู่ในครอบครวั ตัวเอง

วัยรุ่นและเยาวชนอายุ 15-24 ปี มีความรูส้ ึกอบอุ่น และมีความสขุ
รู้สึกมัน่ คงปลอดภัยเม่อื อยู่ในครอบครัว เมอ่ื อยู่ในครอบครวั ตวั เอง

เล็กนอย 3.4% 2.4 1.2
20.8
มากที่สดุ
27.9% 75.6

มาก เปนประจำ
บางคร้ัง
68.6% นาน ๆ ครัง้
ไมเ ลย

ทมี่ า : การสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

ในเร่ืองของความสัมพันธ์ในครอบครัว พบว่า มีวัยรุ่นและเยาวชนประมาณเพียงคร่ึงหน่ึงเท่าน้ัน ที่ได้ใช้เวลาทำ�กิจกรรม
พร้อมหน้ากนั ในบา้ นกบั สมาชกิ ครอบครัวอย่างมีความสขุ เป็นประจำ� ในเร่อื งการพูดคุยสื่อสารกัน ปรกึ ษาหารอื การตัดสนิ ใจ
รว่ มกันด้วยเหตุผล ซึง่ เป็นหวั ใจสำ�คัญสำ�หรบั ครอบครัวกบั เยาวชน พบว่ามีเพยี งประมาณ 1 ใน 3 เท่านนั้ หากครอบครวั ไทย
สามารถพฒั นาความสมั พนั ธใ์ นครอบครวั ใหด้ ขี น้ึ มกี ารสอ่ื สารกนั มากขนึ้ เยาวชนไดม้ สี ว่ นรว่ มคดิ รว่ มตดั สนิ ใจในประเดน็ สำ�คญั
ของครอบครวั กจ็ ะสามารถนำ�ไปสคู่ วามสขุ ของครอบครวั ได้ ยง่ิ ไปกวา่ นน้ั ยงั อาจชว่ ยลดพฤตกิ รรมเสยี่ งของเยาวชนไดอ้ กี ดว้ ย

28 สุขภาพคนไทย 2563

การดืม่ เหลา สบู บหุ รี่ และยาเสพตดิ การมีแฟน การมเี พศสัมพนั ธ ประเดน็ สำคัญท่ีควรมีการสื่อสารในครอบครวั

วยั ร่นุ และเยาวชนทีท่ ำ�กิจกรรม ประเดน็ สำ�คญั ทว่ี ยั รนุ่ และเยาวชนควรมกี ารสอ่ื สารในครอบครวั
กับครอบครวั อย่างมคี วามสุขเป็นประจำ�
นักเรยี นชั้น ม.1*
จำนวน 401 ราย

ใชเวลาทำกิจกรรม 18.3 50 46.6 43.6 40.9
รว มกันนอกบา นกับครอบครวั 22.245 41.9 32.2
22.2
อยา งมีความสุขเปน ประจำรอยละ12.8 40
ใชเ วลาทำกิจกรรม 19.335 48.1
รอยละ253.0245.3
พรอมหนากนั ในบา นกบั ครอบครวั 19.825 47.4
อยา งมคี วามสุขเปน ประจำ
20 49.4
53.1
15
48.5
10

5

0

ครอบครวั คุย เด็กตองการใหค ุย
การดม่ื เหลา สบู บุหรี่ และยาเสพตดิ การมแี ฟน การมเี พศสมั พนั ธ

กรุงเทพ ภาคกลาง ภาคเหนอื หมายเหตุ : * จากจงั หวดั สระบรุ ี ลำ� พนู สตลู และอบุ ลราชธานี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต รวมทุกภาค ทมี่ า : โครงการการสรา้ งครอบครวั อบอนุ่ ในจงั หวะหวั เลย้ี วหวั ตอ่ ของเยาวชนในครอบครวั เปราะบาง
ผา่ นการใชค้ มู่ อื Thai Family Matters (TFM) 2562, สถาบนั วจิ ยั ประชากรและสงั คม
ทมี่ า : การสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล

การสื่อสารในโลกปัจจุบันเปล่ียนแปลงไปเป็นผ่านทางสื่อออนไลน์มากข้ึน ท�ำให้การสื่อสารในครอบครัวในประเด็น
เเทพก่ีส่ียร�ำาวคะกัญนับั่นเพเคพื่ออื ศปสส้อ่ิงัมงทตกพ่แี ัดันันสสพธดนิ ์ฤงใออตจาอิกรจกว่รลวมรถดัยมกงึ นรคันเสุ่น้วอดี่ยแาย้วลมงลยตะรงเเักห่ายไงปตคาววผุ ๆชซาลนม่ึงขบทหภอ่พีาว่างงยงูดวคใใัยคยนรรยุรข้ังุ่นะปผอหแรู้ปงวลึกคกา่ะษรคงเาอกยรหบอันาาควงรอรชอื ัวานเจปเห็นชรลวปอ่นมยงรกาลใันงกะชนมจืมเวาอคี ลำกไวร�าบาปทดมาำสนวกื่มุขกจิ่าเับเกปเคหรน ดรรปลอมร็กบะ้าจคำรๆสวั ูบกบ็ตุห้อหภรงูมากี่ ิภรกา1ือเาาร2มครใ.ใ18่ื1อ1นหมเ8299รเ.ี2แ้3ผป2..ปื่อ835.ฟู้2ปรงร.2นกกะียาคเบหรดรเพร็อทน4ือูดงีย5ส4แพ.ค83บ�ำม.ูดุย1คร้แคปะัญตุยรห่เึขกดวรษ้วอ่ือ่ายางงง
27.331.1 กคันรอหบรคือรแัวมก้แาตร่คตวัด44า7ส95ม.4.ิ43นส.1ใัมจพรัน่วมธ์
26.7 26.4 27.9 ใชเวลาทำกิจกรรม กับครอบครัว เห็น4ว8่า.5เยาวชน

24.5 พรอมหนากันในบา นกับครอบครวั
อยางมีความสขุ เปนประจำ

กรุงเทพ ภาภาคคกใลตาง้มีสัดส่วนภใาคนเหเนรอื ื่องเหล่านี้
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื สูงภากคใวต่า ภาคอ่ืน รๆวมทเุกรภาาคอาจต้อง
หันกลับมามองว่าเพราะเหตุใด
ค ร อ บ ค รั ว ค น ไ ท ย ภ า ค ใ ต ้
จึงมีความสัมพันธ์กับวัยรุ่น
และเยาวชนดีกว่าภาคอื่น ๆ
เพ่ือเป็นแบบอย่างเรียนรู้ให้กับ
พื้นทอ่ี นื่
รวม
กรุงเทพ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวนั ออก ภาคใต
เฉยี งเหนือ

ทม่ี า : การสำ� รวจสภาวะทางสงั คม วฒั นธรรม และสขุ ภาพจติ 2561, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

2912 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

11หมวดก11า. รการศศึกึกษาแษละกาารแทำลงานะการทำ�งาน

1 ใน 8 ของวัยรุ่นและเยาวชนไทย จัดอยู่ในกลุ่มที่เรียกว่า NEET (Not in
Education, Employment, or Training) หรือ กลุ่มท่ีท้ังไม่ก�ำลังศึกษาและ
ไมท่ ำ� งาน
105 105 104 104 104 104 103 102 102 103 102

หมวด 11. กาขกรอาศรงึกเมขษา้าถาตแงึรลกฐะาากรนาศครกึ ณุทษำภางใาานพนรกะ6ด779า46รบั ศอึกดุ 6ษม897าศ64ใกึนษทาุกข779ร40อ5ะงดไบั ทย977เ82ปย6 ็นงั คคอ่ว977น782ามขทา้ ง้า77จท973ำ�8ากยดัสำ� 77ก9ค567าัญรพข7ฒัอ3797ง7นปารแ7ะล47เ9ทะ89ลศดค77ว599า7มแตก9769ต8า่ 0งเหลอ่ื มลำ�้
รอยละ
รอยละอตั ราการเข้าเรียนอยา่ งห6ย1าบของ6ป1ระชา5ก8รไทย 4ใ6นแตล่ 4ะร7ะดับก5า2รศึกษ47า 46 48 49 49

105 105 104 104 104 104 103 102 102 103 102 ปจั จบุ นั กลา่ วไดว้ า่ เดก็ ไทย
เ กื อ บ ทุ ก ค น ส า ม า ร ถ เ ข ้ า ถึ ง
96 96 95 98 98 98 97 97 99 97 96
การศึกษาภาคบังคับในระดับ74
74 74 76 77 77 76 77 78 79 80 พ.ศ.
ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา67 68
70 2550 2551 ป2ร5ะถ57ม25ศกึ ษา257533 มัธ27ย54ม5ศ4ึกษาตอ27น55ต5น 5 257596 2557 2558 2559 2560
7ก2อนประถม7ศ2กึ ษา 73 มัธยมศึกษาตอนปลาย ปรญิ ญตรแี ละตำ่ กวา
ต3อในนต้น4ไดแ้ แลตะ่มเพีเพียียงงป1ระใมนาณ261 61 58 46 47 52 47 46 48 49 49
เท่าน้ัน ท่ีเข้าถึงการศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
และระดบั อดุ มศกึ ษา ตามลำ� ดบั
2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 พ.ศ.

2560

กอนประถมศกึ ษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนตน มธั ยมศึกษาตอนปลาย ปรญิ ญตรีและตำ่ กวา

หมายเหตุ : เนอ่ื งจาก อตั ราการเขา้ เรยี นอยา่ งหยาบ คำ� นวณจากจำ� นวนนกั เรยี นและนกั ศกึ ษา หารดว้ ยจำ� นวนประชากรในวยั เรยี นตามแตล่ ะระดบั การศกึ ษา
dex) ป 256 ท1ม่ี า : ระบบใฐนาบนาขงอ้ รมะลู ดดบั า้ กนาสรงั ศคกึ มษแาลจะงึ คเปณุ น็ ภไาปพไชดวีท้ ติ จี่ ะสมศอีชตั. รปารมะามกวกลวจา่ ารกอ้ สยถลติ ะกิ า1ร0ศ0กึ ษา
ASEAN สำ� นกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร และ ขอ้ มลู สำ� นกั บรหิ ารการทะเบยี นกรมการปกครอง

ดัชนีทนุ มนุษย์ (Human Capital Index) ด้านการศึกษา

13.9 12.9 12.3 12.2 12.4 12.8 12.3 10.8
10.2 9.1 8.6 8.4 7.9 6.4
9.5 9.9
จำนวน ป 6.9 6.7
จำนวน ป
13.9 12.9 12.3 จำ1น2วนส.2ปิงท ค9คี่ โา.1ปดวรา จะได1รับ2ก.เา4วรียศ8กึด.ท6ษนามี่ าา(มe:xดpชั e1นc2ทีte.นุ8dมม8yนาeเ.ษุ4ลaยเr์ซ(oHียfums1cah2no.3oCla)7p.9iไtทalยIndex9).5ปจีำ2น6ฟ5ว.69นล 1ปปิ ท ดปไี่ า้ดนนร กบัส9าก รา.9ศรศกึ กึษ6ษาอา.ใ7ปนินรกโับดลดมุ่นวปยเิ ซรค1ะยีุณ0เทภ.8ศาพA6เรS.4ียEกนAรNัมูข ,พอธงชูนผาาูเรคยี านรโล(leกarเnมinยี gน-มadาjusted ลาว
10.2
year of school)

ในปี 2561 ธนาคารโลกรายงานจ�ำนวนปเี ฉล่ียของการเข้าเรยี นในระบบโรงเรยี นของคนไทยท่ีประมาณ 12.4 ปี แตห่ าก
พิจารณาถึงคุณภาพการเรียนรู้ร่วมด้วย กลับพบว่า คนไทยมีความสามารถเทียบเท่ากับการเข้าเรียนหนังสือโดยเฉล่ียเพียง
จำนวนสปงิ ท คคี่ โาปดวราจะไ8ขดร ้.อบั 6กเมาวรียศูลปึกดษนนีาา้ีส(ตมexะ�่ำpทeกc้tอวedนม่าyาเใeเลมหaเrซื่อ้เoยี หfเsท็นchียถooึบงl)ปกไัญทับยหมาาคเลุณจำเนฟซภวนล ียปาปิ ท พแปไ่ี ดนรลขับสกอะ ารเงศวึกกษียอาาปนิ ดรรโับดจนดนวัดยาเิ ซคกมียณุ าภทารพ่ีมศเรยีีจึกกน�รำัมษขู พอนางูชผวขาเู รนอยี นงป(ปleีทaรrเี่nคมะinยี าเgนท-ดมadศาวjuท่าsteจ่ีตdะ้อyeไงaดลปr าo้รรวfับับschกปooารl)รุงศเึชก่นษเาดใียกวลก้เับคียผงลกคับะปแรนะนเ ทศไทย
ของนักเรยี นไทยในระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษาทย่ี ังคงมคี ่าเฉล่ยี อยู่ในเกณฑ์ทตี่ ำ�่ O-Net

30 สุขภาพคนไทย 2563

อัตราการวางงาน กลุมวยั รุนและเยาวชน (15-24 ป) เปร

100

90

100 ค่าเฉลีย่ คะแนน O-Net ของนกั เรยี นชนั้ ป.6 ม.3 แ80ละ ม.6 ความไม่เท่าเทียมของการเข้าถึงการศึกษาและคุณภาพ

90 คะแนน 39.8 42.2 8.0 70 คะแนน ขในอ3ป9ง.ร8กะาเรทจศัดเกป4า2น็ .2รอศกี ึกปษราะใเ44ดน25.น็.51แทตมี่ ่ลคี ะวพา้ืนม4357สท..09ำ�่ีหค6รญั .ือ1กจลา3กุ4่ม73ก.5.ส1าถราวนเิ คศรึกาะษหา์
80 60 คส37่าา.34ค4ก.7ะลแนหนรืเอฉ33ล5P4ี่.ย.25IผS5ลA.ก0าแรยป3ก6ร.ต7ะาเมมินกสลมุ่มร3ห4ร.8รถือนสะังนกักัดเ3ร5ขีย.0อนงมโารตงรเรฐียานน4.7
70 37.4 35.2 45.1 45.0 50 รอยละพบความแตกต่างของค่าคะแนนในแต่ละกลุ่มโรงเรียน
60 34.7 34.5 42.5 37.9 ค่อนข้างมาก ภาพรวมคะแนนเฉล่ีย PISA ของประเทศ
50 36.7 34.8 4043.1
40 3307.5
2305.0
30 อาจจะต�่ำ แต่พบว่าคะแนนเฉล่ียของกลุ่มโรงเรพ.ียศ. นท่ีเน้น
20 10
10
0 2552 2555 2558 2561
0 มธั ยมศึกษาปที่ 3
พ.ศ. วิทย์และโรงเรียนสาธิตนั้น ค่อนข้างสูงกว่ามาก และสูงกว่า2549
4.0 2561 ประถมศกึ ษาปท่ี 6 มธั ยมศกึ ษาปท ี่ 6

2549 2552 2555 2558 คะแนนเฉลีย่ ของ0นกั.5เรียนในกลมุ่ ประเท0ศ.6OECD 0.5

ประถมศกึ ษาปท่ี 6 มธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 มธั ยมศกึ ษาปท ่ี 6 คะแนนเฉลย่ี PISA 2015 แต่ละดา้ น

อตั รากาทรม่ี วาา:งรงะาบนบฐกาลนมุ ขวอ้ ยัมลูรดุนา้ แนลสะงั เคยมาแวลชะนคณุ(1ภ5าพ-ช2วี 4ติ สปศ)ชเ.ปปรรียะมบวเทลจยี าบกผขอู้ใหมลูญสถ(า2บ5นั ทปดสข อนึ้ บไป) ตามกลมุ่ โรงเรียนของไทย เทียบประเทศ OECD
ทางการศกึ ษาแหง่ ชาติ (องคก์ ารมหาชน)
ไตรมาส 3 ไตรมาส 3 ไตรมาส 3
อตั ราการวา่ งงาน
2559วทิ ยาศาสตร ก2าร5อา6น0 คณติ ศาสตร 2561
6.1 05.0.8
วยั 4ร0ุน9 และเยาวช4น15
0 4.7 JOB เฉลย่ี ของประเทศไทย (15537-24 ป) 556
WANTED
5.0 วทิ ยาศาสตร 421 494 503 วัยผ
(25
โรงเรยี นเนน วทิ ย 567

รอยละ การอาน คณิตศาสตรโรงเรียนสาธติ 510

0 เฉล่ียของประเทศไทย 421 409 415 กลมุ โรงเรียนอ่นื ๆ 374-438 369-426 372-431
0.โโ5รรงงเเรรียยี นนสเนาน ธวติ ิทย0 .6 0.4 537 556 เฉล่ียประเทศ OECD 493 493 490
0.5567 503
510 494 372-43ท 1มี่ า : ผลการประเมนิ PISA 2015 วทิ ยาศาสตร์ การอา่ น และคณติ ศาสตร์ ความเปน็ เลศิ และ
ความเทา่ เทยี มทางการศกึ ษา โดย สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (สสวท.)
ไตรมกาสล3ุมโรงเรยี นไอต่ืนรมๆาส 3 ไตร3ม7าส4-3438 ไตรมาส3269-426
25เ5ฉ9ล่ยี ประเทศ O25E6C0D
0 2564193 2562 493 490 กระทรวงศึกษาธกิ าร ร่วมกับ Organisation for Economic Co-operation and
Development (OECD)
วยั รุนและเยาวชน วัยผใู หญ
(15-24 ป) (25 ปข้นึ ไป)

หมายเหตุ : อตั ราการวา่ งงานแตล่ ะกลมุ่ อายุ = ผวู้ า่ งงาน แตล่ ะกลมุ่ x 100 วัยรนุ่ และเยาวชน (15-24 ป)ี กลุ่ม NEET
กำ� ลงั แรงงานรวมแตล่ ะกลมุ่ อายุ
ทม่ี า: ประมวลผลจากขอ้ มลู การสำ� รวจ​ภาว​​ ะการทำ� ​งานของประชากร พ.ศ​ . 2​5​ 60-2562 (ไตรมาส 3), 17.9 17.1 17.1 ชาย
สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

17.9 ปัญหา17.1 คุณภาพแ17.1 ละคชาย วามไม่เท่าเทียมที่สะท้อนจาก รอยละ 13.4 12.5 12.8 รวม
13ข.4้อมูลข้าง12ต.5 ้น หาก1ไ2ม.8 ่ไดร้รวมับการปฏิรูปหรือปรับปรุงให้ดีข้ึน
รอยละ 8จ.9 ะกลายเ8ป.1 ็นรากเห8ง.6้าขอหญงิงความไม่เท่าเทียมทางสังคมและ 8.9 8.1 8.6 หญิง

25ป60ัญหาคว25า61มด้อยคุณ256ภ2 าพพ.ศข. องประชากร ในด้านการทำ� งาน 2560 2561 พ.ศ.
กลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนไทยเหตผุ ลของกลมุ NEET (15-24 ป) ป 2562 (อายุ 15-24 ปี) มีอัตราการ
เหตุผลอน่ื ๆ 2562

ว่างงานท่ีสูงปว ย (ป1ร4.5ะ1%1ม.8%าณร้อยละ 4-6) เมื่อเทียบกับอัตราการ เหตุผลของกลมุ NEET (15-24 ป) ป 2562
พกิ าร
จนทำงานไมไ ด
วา่ งงานในกลมุ่ ประชากรอายุพกั ผอ น ทำงานบาน 25 ปขี นึ้ ไป (ตำ�่ กวา่ รอ้ ยละ 1)
19.7% เหตผุ ลอืน่ ๆ
54.0%

ขณะเดยี วกนั มกี ลมุ่ ทเี่ รยี กวา่ “NEET” (not in education, ปวย 11.8%
พิการ
employment and training) สงู ถงึ รอ้ ยละ 12.8 โดยวยั รนุ่ จนทำงานไมไ ด 14.5% ทำงานบาน
และเยาวชนกลมุ่ นี้ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นระบบการศกึ ษา ไมพ่ รอ้ มทำ� งาน 19.7%
พักผอ น 54.0%

และไมอ่ ยใู่ นระบบการจา้ งงานใด ๆ  ซงึ่ นบั เปน็ การสญู เสยี โอกาส
ในการได้รับการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของทรัพยากร
บคุ คล และกำ� ลงั แรงงานในอนาคตของประเทศ ทม่ี า : ประมวลผลจากขอ้ มลู การสำ� รวจภาวะการทำ� งานของประชากร พ.ศ. 2560-2562
(ไตรมาส 3), สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ

3112 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

12 นโยบายของไทยต่อวยั ร่นุ และเยาวชน

ปี 2562 ภาพรวมดชั นคี วามสามารถในการแขง่ ขนั ระดบั โลกของไทยอยอู่ นั ดบั ท่ี 40
ใน 141 ประเทศ แตก่ ารพฒั นาทนุ มนษุ ยด์ า้ นทกั ษะยงั อยตู่ ำ่� กวา่ โดยอยทู่ อี่ นั ดบั 73

การพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และศกั ยภาพของวยั รนุ่ และเยาวชนไทย ใหม้ คี วามรแู้ ละทกั ษะเทา่ ทนั ในศตวรรษที่ 21
มสี ขุ ภาพทด่ี ี มคี ณุ ธรรมและจติ สำ� นกึ มศี กั ยภาพทางเศรษฐกจิ ทกั ษะทางสงั คมและการพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม
เป็นเง่อื นไขและปัจจยั ที่สำ� คญั ต่อการพฒั นาประเทศ

กรอบนโยบายหลกั ของไทยทใี่ ชก้ ำ� หนดทศิ ทางการพฒั นาประชากรวยั รนุ่ และเยาวชนในปจั จบุ นั ไดแ้ ก่ แผนพฒั นาเดก็ และเยาวชน
ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2560-2564 โดยมยี ทุ ธศาสตรส์ ำ� คญั 5 ดา้ น เพอ่ื บรรลวุ สิ ยั ทศั นท์ กี่ ำ� หนดไว้ คอื “เดก็ และเยาวชนไทย มคี ณุ ภาพ
ชีวิตที่ดี มีพัฒนาการเหมาะสมตามช่วงวัย เป็นพลเมืองสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมในฐานะภาคีท่ีมีพลังในกระบวนการพัฒนา”
ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน การพัฒนาวัยรุ่นและเยาวชนของไทยยังมีประเด็นและความท้าทายที่ต้องพิจารณาในหลายเร่ือง
จากการจัดอันดับดัชนีการพัฒนาเยาวชนของกลุ่มประเทศอาเซียน (ASEAN Youth Development Index) ท่ีเผยแพร่ใน
ปี 2560 คา่ ดชั นขี องไทยถกู จดั อยใู่ นอนั ดบั ท่ี 8 จาก 10 ประเทศ โดยดา้ นทย่ี งั ตอ้ งปรบั ปรงุ เปน็ เรอ่ื ง “สขุ ภาพและความเปน็ อยทู่ ด่ี ”ี
และ “การมีสว่ นร่วมทางสังคม” ของเยาวชนในประเทศ

วิสัยทัศน์ กรอบแนวคิด และยทุ ธศาสตร์ภายใต้แผนพัฒนาเด็กและเยาวชนฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2560-2564

วิสยั ทัศน:
เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชวี ิตท่ีดี มพี ฒั นาการเหมาะสมตามชว งวยั
เปนพลเมืองสรา งสรรคและมีสวนรว มในฐานะภาคีทมี่ พี ลังในกระบวนการพฒั นา

เดก็ และเยาวชน สถาบัน เด็กและเยาวชน ภาคสวน ปจจัย

1.1 คณุ ภาพชวี ติ 2.1 สถาบันครอบครวั 3.1 สงเสริมความรูดา น 4.1 อปท. 5.1 ศกั ยภาพ สถานการณโลก/ประเทศ
1.2 กฬี า 2.2 สถาบนั ศาสนา การมสี วนรว ม 4.2 ระดมความ บุคคลากร
1.3 คุมครองเดก็ 2.3 สถาบันการศกึ ษา
1.4 ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 2.4 ชมุ ชน 3.2 สรา งระบบเพอ่ื รวมมือ 5.2 ระบบ
(IT. STEM. etc) 2.5 สอื่ ปลอดภยั การพัฒนาศกั ยภาพ ทกุ ภาคสว น ฐานขอมลู และ
1.5 ศักยภาพทางเศรษฐกจิ สรา งสรรค (Gov., CY, การจัดการขอ มูล
1.6 คณุ ธรรมทักษะทางสังคม 2.6 พืน้ ทสี่ รา งสรรค 3.3 สนับสนนุ การรวมกลุม Bus, NGOs,
1.7 จติ สำนกึ และการพฒั นา เพื่อการพัฒนาสงั คม Medic, 5.3 กฎหมาย
สิง่ แวดลอ ม Religious, มาตรการ
3.4 สรางระบบการ School) นโยบาย
สนับสนุนทรัพยากร 4.3 ภาคธรุ กิจ
สำหรับกลมุ เด็ก เยาวชน และธรุ กจิ 5.4 การติดตาม
เพ่อื สงั คม ประเมนิ ผล
3.5 เสรมิ พลังและสถานะ และการวิจัย
เครอื ขา ยเดก็ เยาวชน สรางองค
ความรู
3.6 เสรมิ ความเขมแข็ง
กลไกในการสง เสรมิ
การมีสว นรวม

พฒั นา เสริมสราง สง เสรมิ บทบาท/ความรว มมือ นวตั กรรมการ
ความเขม แข็ง บริหารจดั การ

ยทุ ธศาสตร 1 ยทุ ธศาสตร 2 ยทุ ธศาสตร 3 และ 4 ยทุ ธศาสตร 5

หมายเหตุ : เดก็ หมายถงึ บคุ คลซง่ึ อายตุ ำ�่ กวา่ 18 ปบี รบิ รู ณ์ และ เยาวชน หมายถงึ บคุ คลซงึ่ มอี ายตุ งั้ แต่ 18 ปบี รบิ รู ณถ์ งึ 25 ปบี รบิ รู ณ์
ทม่ี า : แผนพฒั นาเดก็ และเยาวชนแหง่ ชาตฉิ บบั ท่ี 2 พ.ศ. 2560 - 2564 (ผนวกรวมแผนปฏบิ ตั กิ ารพฒั นาเดก็ และเยาวชนแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 2 พ.ศ. 2560 - 2564)
คณะกรรมการสง่ เสรมิ การพฒั นาเดก็ และเยาวชนแหง่ ชาติ (2561)

32 สุขภาพคนไทย 2563

ดชั นีการพัฒนาเยาวชน (15-35 ปี) ดัชนีความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศไทย
ของกลุ่มประเทศ ASEAN

0.940 ASEAN Youth Development Index ดัชนีรวม ทุนมนษุ ย:**
(Overall Global การพัฒนาดานทักษะ
0.758 0.729 0.667 Competitiveness Index (GCI))
0.560 0.554 0.533 0.481 (Skill)
0.383 0.365
Overall YDI 2015 (0-1) พ.ศ. คะแนน อนั ดับ* คะแนน อนั ดบั *
“ความเสมอภาคทางการศกึ ษา”
(0-100) (0-100)

2560 66.3 อันดับที่ 40 62.8 อนั ดับท่ี 66

หมายถึง การทปี่ ระชาชนมสี ทิ ธทิ ่จี ะไดร ับ 2561 67.5 อนั ดบั ที่ 38 63.0 อนั ดับที่ 66

สิงคโปร 2562 68.1 อันดับที่ 40 62.3 อนั ดับที่ 73
บรูไน

มาเลเเ ีซย
เวียดนาม
เ ีมยนมา
ิอ ฟนโลิดป ินปเ ีซนยส

ไทย
ักม ูพชา

ลาว
และเขาถึงการศึกษาและพัฒนาอยางเสมอภาค

และทัว่ ถงึ โดยใหความชวยเหลอื ผูข าดแคลน หมายเหตุ : * การจดั อนั ดบั จาก 135 ประเทศ พ.ศ. 2560 140 ประเทศ พ.ศ. 2561 และ 141 ประเทศ
รทวุนมททร้งััพที่มเยสา: รส รทห ลมิปุ มมี่ จดสาาา กยค:รเAหFาsวiตsrงosาุ ct:แมiaดAสเtลศชัเiSขุoรหนEภะnษAกพีาลoฐNพาfก่ือรฒั แSจิYพoลมสouฒัะนงัtuhลคคนteาวhมาำ้aาคเsยใDมtนาุณเeAปวsvกiชน็aeภนnอlาoยNราคpท่aู ำ�พtศmดี่iนoีแneกึวกsณnลาษ(tรAจะมSIาาnปEสีกdAว่ตรNeนวั)xะ,รช2สว่2ว้ี0มด0ั1ทิ 71ทแ,7ธเ่ีล“ก,Fะภิ ยี่AiกrวssาาtขsรพAoอ้ จScงาE้คiใaAงนงNtรiาo4Yูนnoดแuาo้ลthนfะDไโSดอeoแ้vกueกาltสo่hกpทeาmาaรงesศntกึt ษ Inาdex” พ.ศ. 2562; ** คา่ คะแนน GCI คำ� นวณจากคา่ คะแนนองคป์ ระกอบใน 4 ดา้ น ไดแ้ ก่
ดา้ นสภาพแวดลอ้ มทเ่ี ออื้ อำ� นวย ดา้ นทนุ มนษุ ย์ ดา้ นตลาดและ ดา้ นระบบนเิ วศนวตั กรรม
Asian Nations (ASEAN) โดยการพฒั นาดา้ นทกั ษะ (Skills) เปน็ องคป์ ระกอบยอ่ ยหนง่ึ ดา้ นทนุ มนษุ ย์
ทมี่ า : The Global Competitiveness Report 2019, The World Bank

ภายใตย้ ทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) แผนแมบ่ ทในการพฒั นาศกั ยภาพคนตลอดชว่ งชวี ติ กำ� หนดแผนยอ่ ย
ในการพัฒนาคนในช่วงวัยเรียนและวัยรุ่น โดยมีตัวช้ีวัดในการติดตามผล ได้แก่ คะแนนความสามารถในการแข่งขันการ
พัฒนาด้านทักษะ (skills) ของทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นองค์ประกอบหน่ึงในดัชนีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก (Global
Competitiveness Index:AGSCEIA)NขอYoงuWthoDreldveElocpomneontmInicdeFxorum
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการจัดตัง้ (WEF) อยา่ งไร0ก.9ต็ 4า0ม จากรายงานลา่ สดุ ในปี 2562 คะแนนตวั ชว้ี ดั
กองทนุ เพอ่ื ความเสมอภาคทางการศึกษา ดขในงัอปกงีลป2า่ 5รว6ะข1เอทไงศปไใเทปนยน็ออพงนัคบด์ป0วบั.า่7ร5ะ7ม8ก3ีคอา่(0จบล.า7ดมก2ลิต9ทงินงั้ 0หี้ทเ.6มช่ีข6ดน่ย7เับ1ด04ถีย.51อว6ปยก0บัลระง0กเจ.า5ทาร5ศกถ4)ูกอช0จันใี้ .หัด5ด3อเ้ ับห3นั น็ ด60วบั.64า่ 81
ศักยภาพของวัยรุ่นและเยาวชนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชากรOverall YDI 2015 (0-1)
สงเสริมเดก็ ปฐมวัยใหม ีพัฒนาการสมวยั
และพรอมเขา สูร ะบบการศกึ ษา

0.383 0.3

ชวยเหลอื และสนับสนนุ ใหเด็ก B ในวยั เรยี น ยงั คงเปน็ ปญั หาและเรอ่ื งทปี่ ระเทศตอ้ งใหค้ วามสำ� คญั
และเยาวชนผขู าดแคลนทนุ ทรพั ยแ ละผดู อ ยโอกาส โดยหนง่ึ ในนนั้ เปน็ เรอื่ งการสรา้ งโอกาสและพฒั นาความเสมอภาค

ใหส ำเรจ็ การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน

ทางการศึกษาให้แกป่ ระชากรวยั เรยี นทุกกลุม่ ในประเทศ
สิงคโป ร
บ ูรไน

มาเลเเซีย
เ ีวยดนาม
เมียนมา
ิอฟนโลิดป ินปเซีนยส

ไทย
ักมพูชา


สนับสนุนและชว ยเหลือผูข าดแคลนทนุ ทรพั ย ภายใต้การประกาศบังคับใช้ พ.ร.บ.กองทุนเพ่ือความเสมอ
และผดู อยโอกาสทกุ ชวงวัย ใหไ ดรับการศกึ ษา ภาคทางการศึกษา พ.ศ.2561 ประเทศไทยได้มกี ารจัดต้งั กองทุน
B และพฒั นาศกั ยภาพ ทักษะในการประกอบอาชพี ตามความถนัด

เพ่ือความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ขึ้น โดยมีจุดมุ่งหมาย
หลักทเีม่พา:ื่อสรแปุ กจา้ปก ัญAssหocาiaขtio้าnงoตf ้นSouใthหea้เsดt ็กAsแianลNะaเtยionาsว(AชSนEAทN)ุก, 2ค01น7,ไ“ดFi้มrstีโAอSกEAาNสYouth Developme
สง เสริมสถานศึกษาใหมกี ารเรยี น ได้รบั และเขา้ ถงึ การศกึ ษาที่มคี ณุ ภาพทดั เทยี มกัน ซง่ึ เปน็ เงอื่ นไข
การสอนท่ีเอ้อื ตอ การพฒั นาผูเรยี น
ตามความถนดั และศกั ยภาพของตน

ที่ส�ำคัญในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์และคุณภาพ
ประชากรของประเทศได้ในระยะยาว
เสรมิ สรางและพฒั นาคุณภาพครูให มีความสามารถ
จัดการเรียนการสอน พัฒนาเดก็ และเยาวชน “ความเสมอภาคทางการศึกษา”
ตามพ้ืนฐานศกั ยภาพทีแ่ ตกตา งกัน

ศึกษาวิจยั แนวทางการพฒั นาครูตน แบบ หมายถึง การทีป่ ระชาชนมีสทิ ธิท่จี ะไดร บั
ท่มี ีความสามารถในการจัดการเรยี นการสอน และเขาถึงการศกึ ษาและพฒั นาอยางเสมอภาค
สามารถพฒั นาผเู รยี นเพ่อื ลดความเหลื่อมลำ้ ในการศกึ ษา และท่วั ถึง โดยใหค วามชวยเหลือผูขาดแคลน

ทุนทรัพย ลดความเหล่อื มลำ้ ในการศกึ ษา

ศึกษาวิจยั และพฒั นาองคค วามรเู พื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย รวมท้ังเสรมิ สรางและพัฒนาคุณภาพและประสทิ ธิภาพครู
และลดความเหลือ่ มล้ำในการศึกษา สนองความตอ งการ ทมี่ า : พ.ร.บ. กองทนุ เพอื่ ความเสมอภาคทางการศกึ ษา พ.ศ. 2561, กองทนุ เพอ่ื ความเสมอภาคทางการศกึ ษา (กสศ.)

ทางดา นกำลงั แรงงานและยกระดับความสามารถของคนไทย

3312 หมวดตัวชี้วัด “สุขภาพวัยรุ่นและเยาวชนไทย”

สำ�หรบั การอา้ งองิ บทความ
โครงการสุขภาพคนไทย. 2563. ช่อื บทความ. สุขภาพคนไทย 2563 (เลขหน้าของบทความ).
นครปฐม: สถาบันวจิ ัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลยั มหิดล.

ตวั อยา่ ง
โครงการสขุ ภาพคนไทย. 2563. ฝุ่น PM 2.5 มหันตภัยสขุ ภาพของไทย. สุขภาพคนไทย 2563 (หน้า 36-40).
นครปฐม: สถาบันวิจยั ประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล.



1

ฝุ่น PM 2.5 ภาพ : https://www.thairath.co.th
มหันตภัยสขุ ภาพของไทย https://www.posttoday.com

ม่านหมอกยามเช้าที่ดุจดั่งบรรยากาศอันสดช่ืนตามประเทศในเขตหนาว ทำ�ให้รู้สึกได้ว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่ดีอีกวัน
แต่ในความเป็นจริง มันคือฝันร้ายที่เพิ่งเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพที่มาจากฝุ่น PM 2.5 และปัญหาน้ีเป็นปัญหา
สุขภาพที่จะเวียนกลบั มาทกุ รอบปี จนกว่าจะมกี ารแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ระบบและตอ่ เนือ่ งจนเกิดผลอยา่ งเปน็ รปู ธรรม

ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM 2.5 ฝุ่น PM 2.5: สถานภาพและขอบเขต
เป็นปัญหาที่แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนประเทศไทยทุกปี ของปญั หา
ในชว่ งหนา้ แลง้ โดยเฉพาะฤดหู นาวจนถงึ ตน้ ฤดรู อ้ น จากเดมิ ที่
เปน็ ปญั หาหนกั ทางภาคเหนอื ของประเทศไทย แตป่ จั จบุ นั มี ปัญหาความเส่ือมโทรมของคุณภาพสิ่งแวดล้อมและ
การแพรก่ ระจายทว่ั ประเทศมากขนึ้ ทงั้ ในกรงุ เทพมหานคร มลพิษทางอากาศเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจาก
และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย ประชาชนมากขึ้นเร่ือย ๆ เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผล
จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของมนุษย์ในรูปแบบต่าง ๆ กระทบตอ่ สุขภาพ ประเทศไทยไดร้ ับผลกระทบจากมลพษิ
แม้พ้ืนท่ีภาคใต้เองซ่ึงไม่ค่อยมีการเผาป่าหรือเผาพื้นที่ ทางอากาศซ่ึงมาจากกิจกรรมของมนุษย์ไม่ว่าจากการ
เกษตร ก็ประสบปัญหาหมอกควันจากประเทศเพ่ือนบ้าน คมนาคม อุตสาหกรรมและการเกษตร นอกจากนี้
ในบางฤดกู าล ปญั หาฝนุ่ PM 2.5 สง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพ สภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของบางพื้นที่ยังเอื้อ
และการใชช้ วี ติ ประจำ� วนั ของมนษุ ยแ์ ละสตั ว์ และสง่ ผลเสยี ใหม้ ลพษิ เหลา่ นคี้ งคา้ งอยใู่ นอากาศเปน็ เวลายาวนานมากขน้ึ
ทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ปัญหานี้ต้อง ส�ำหรับปัญหาหมอกควันทางภาคเหนือ ผศ.ดร.
อาศยั ความรว่ มมอื ของทกุ ภาคสว่ นเพอื่ แกไ้ ขปญั หาทงั้ ระยะ สมพร จันทระ ได้กล่าวว่าโดยมากเกิดจากการเผาในที่
ส้ันและระยะยาว บทความน้ีเป็นการอภิปรายถึงปัญหา โล่งแจ้ง ทั้งพื้นท่ีป่าและพ้ืนที่การเกษตร ประกอบกับพื้นที่
มลพิษทางอากาศโดยเน้นท่ีฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทย ของบางจงั หวดั เชน่ เชยี งใหม่ และลำ� พนู มสี ภาพภมู ปิ ระเทศ
ในเรื่องสภาพปัญหา ผลกระทบด้านสุขภาพ และแนวทาง ท่ีมีลักษณะคล้ายแอ่งกะทะท�ำให้ในช่วงปลายฤดูหนาว
การจดั การเพือ่ แกไ้ ขปญั หาให้เกดิ ผลเปน็ รปู ธรรม ที่มีการเผาในที่โล่งมาก จะส่งผลให้ค่าหมอกควันท่ีเข้า
ปกคลุมในพ้ืนที่มีปริมาณสูง1 ที่ส�ำคัญ พ้ืนที่ทางภาคเหนือ
36 สุขภาพคนไทย 2563

ภาพที่ 1 ความเขม้ ขน้ ฝนุ่ ละออง PM 2.5 รายวัน ในพนื้ ท่กี รุงเทพมหานคร ปี 2554-2561
ที่มา : สพุ ฒั น์ หวงั วงศ์วฒั นา (2561)

เปน็ แหลง่ สำ� คัญของการปลกู ขา้ วโพด ท�ำให้เกดิ ปญั หาการ จนเกิดการรับรู้อย่างกว้างขวางและกดดันภาครัฐให้ตอบ
เผาไร่ข้าวโพดอย่างกว้างขวาง โดยภาคเหนือมีอัตราการ สนองต่อปัญหาดังกล่าว อันท่ีจริงแล้ว ปัญหา PM 2.5 นี้
ขยายพน้ื ทเ่ี ชงิ เกษตรเพมิ่ มากขน้ึ ในชว่ ง 10 ปี (2549-2558) เกิดข้ึนในกรุงเทพฯ มาเป็นเวลานานแล้ว เม่ือพิจารณา
สวนทางกับพ้ืนท่ีป่าที่ลดลงจ�ำนวนมาก ปัญหาการเผาเพ่ือ ภาพที่ 1 จะพบว่าแนวโน้มของปริมาณฝุ่นท่ีตรวจวัดได้
ท�ำไร่ทางภาคเหนือจัดได้ว่าเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน มีค่าเพ่ิมข้ึนทุกปี4 ซึ่งสาเหตุของการเกิดปัญหาฝุ่นน้ีมาจาก
แต่ยังคงหาทางแก้ไขไม่ได้ หลายสาเหตุ ได้แก่ การคมนาคมขนส่งโดยเฉพาะพาหนะ
สถานการณไ์ ฟปา่ และการเผาพนื้ ทเ่ี กษตรในภาคเหนอื ทใี่ ชเ้ ครอื่ งยนตด์ เี ซล การเผาพน้ื ทเี่ กษตรโดยเฉพาะออ้ ยและ
ช่วงต้นปี 2563 มีความรุนแรงกว่าหลาย ๆ ปีท่ีผ่านมา ข้าวโพดในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง การเผาวัชพืช และควัน
ท้ังในเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดในภาคเหนือตอนบน จากโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่รอบกรุงเทพฯ ท่ีเคลื่อน
อนื่ ๆ สง่ ผลใหค้ ณุ ภาพอากาศของหลายพ้นื ท่เี ปน็ อันตราย เขา้ มาครอบคลมุ พน้ื ทก่ี รงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล ประกอบกบั
ต่อสุขภาพและติดอันดับต้น ๆ ของเมืองท่ีมีมลพิษทาง ในช่วงเวลาดังกล่าวสภาพอากาศค่อนข้างนิ่ง ความเร็วลม
อากาศมากท่ีสุดในโลก หน่วนงานภาครัฐ เอกชน และ ค่อนข้างต�่ำ ส่งผลให้การพัดฝุ่นออกจากพื้นท่ีมีน้อย กอปร
ประชาชน ได้ร่วมมือในการช่วยดับไฟป่า มีการบริจาค กับมลพิษที่สร้างข้ึนทุกวันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
อุปกรณ์ดับไฟป่า ระดมทุน และจิตอาสาเข้าร่วมดับไฟป่า เกิดการสะสมเพิ่ม ท�ำให้เกิดเป็นกลุ่มหมอกควันปกคลุม
จ�ำนวนมาก แต่ด้วยความรุนแรงของไฟป่าท่ีกระจายใน ทว่ั ทัง้ เมือง5
หลายพ้ืนที่ ท�ำให้เจ้าหน้าที่ท้องถ่ิน พลทหาร และอาสา ขณะท่ีภาคเหนือ กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีปัญหา
สมคั รเสยี ชวี ติ หลายราย2 ทา่ มกลางเสยี งเรยี กรอ้ งใหภ้ าครฐั มลพษิ จากกจิ กรรมภายในประเทศเปน็ สว่ นใหญ่ แตภ่ าคใต้
ทมุ่ เทความพยายามเพื่อแกไ้ ขปญั หาดงั กล่าวอย่างเร่งดว่ น กลบั ไดร้ บั ผลกระทบจากมลพษิ ทเี่ กดิ จากประเทศเพอื่ นบา้ น6
ฝุ่น PM 2.5 เป็นประเด็นท่ีได้รับความสนใจในพื้นที่ โดยเฉพาะอินโดนีเซียซ่ึงมีการเผาพื้นที่เกษตรเพื่อเก็บ
กรุงเทพมหานคร นับต้ังแต่ข่าวการตรวจพบปริมาณ ผลผลิต และเผาป่าเพ่ือปรับพ้ืนท่ีส�ำหรับการท�ำการเกษตร
ฝุ่น PM 2.5 ในระดับท่ีเป็นอันตรายต่อสุขภาพในพื้นท่ี แปลงใหญ่ โดยเฉพาะอย่างย่ิงปาล์มน้�ำมัน7 ท�ำให้เกิด
กรุงเทพฯ และปริมณฑล3 เช่น ในช่วง 4-11 มกราคม ปัญหาหมอกควันข้ามแดนไปยังหลายประเทศ เช่น ไทย
2563 ค่าเฉลี่ยของ PM 2.5 เกิน 180 ไมโครกรัม มาเลเซยี สงิ คโปร์ ปญั หานเ้ี ปน็ ปญั หาสำ� คญั ในระดบั ภมู ภิ าค
ต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม หรือ µg/m3) ขณะที่ จนเกดิ เปน็ ความตกลงอาเซยี นวา่ ดว้ ยมลพษิ จากหมอกควนั
ค่ามาตรฐานของไทยไม่ควรเกนิ 50 ไมโครกรมั ต่อลูกบาศก์ ขา้ มแดนซง่ึ เปน็ ปจั จยั หนง่ึ ทผ่ี ลกั ดนั ใหม้ กี ารออกกฎหมายบาง
เมตรเท่าน้ัน ประเด็นนี้ได้สร้างความกังวลให้กับประชาชน ฉบับในประเทศไทย8 เช่น พระราชบัญญัติการสาธารณสุข
และเกิดกระแสตอบรับบนสื่อออนไลน์เป็นอย่างมาก พ.ศ. 2535 หมวดที่ 5 เหตรุ ำ� คาญ เปน็ ต้น

3710 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

ผลกระทบดา้ นสขุ ภาพของฝุน่ PM 2.5 ภาพ : thestandard.co

ปญั หา PM 2.5 น้ี สง่ ผลกระทบโดยตรงตอ่ ระบบทางเดนิ จนเกิดเป็นความเครียดสะสม จนต้องหาทางออกใน
หายใจของมนษุ ยแ์ ละสตั วต์ า่ ง ๆ9 ผลตอ่ สขุ ภาพในมนษุ ยน์ นั้ ลักษณะต่าง ๆ เช่น ในประเทศอินเดียซึ่งมีปัญหา PM 2.5
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รายงานว่าปริมาณของฝุ่น มากประเทศหนึ่ง มีการเปิดร้านขายอากาศบริสุทธ์ิ
(PM 2.5 และ PM 10) มีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตรา แม้แพทย์จะออกมาเตือนว่าเป็นส่ิงไม่จ�ำเป็น และการได้รับ
การเจ็บป่วยและเสียชีวิต เม่ือปริมาณของฝุ่นในพ้ืนท่ีลดลง มากไปอาจส่งผลเสียตามมา แต่ผู้คนท่ีเผชิญหน้ากับปัญหา
รายงานการเจ็บป่วยและเสียชีวิตก็มีค่าท่ีลดลงด้วยเช่นกัน มลพิษยังคงไปใช้บริการโดยไม่สนใจค�ำเตือนของแพทย์13
ซ่ึง WHO ได้ก�ำหนดค่าเฉล่ียตลอด 24 ชั่วโมงของ PM 2.5 ในประเทศไทยเอง ก็เริ่มมีการออกมาเรียกร้องสิทธิของการ
ไวท้ ไ่ี มเ่ กนิ 25 มคก./ลบ.ม หรอื เฉลย่ี รายปไี มเ่ กนิ 10 มคก./ มีอากาศท่ีดีหายใจ ทั้งการรวมตัวกันของนิสิตนักศึกษา14
ลบ.ม10 เท่าน้ัน ซงึ่ ต�่ำกวา่ คา่ มาตรฐานที่ประเทศไทยกำ� หนด และประชาชนและองคก์ รทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง เพอ่ื ร่วมกันกดดนั ให้มี
ไว้ท่ี 50 มคก./ลบ. ค่อนขา้ งมาก การแก้ไขปัญหาจรงิ จงั มากขึน้ 15
อาการเจบ็ ปว่ ยจาก PM 2.5 นน้ั มที ง้ั สว่ นทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั
โรคระบบทางเดินหายใจ และระบบอ่ืน ๆ เน่ืองจากฝุ่น ภาพ : https://www.thaihealth.or.th
มขี นาดเลก็ อาจผา่ นเขา้ สกู่ ระแสเลอื ดทำ� ใหเ้ กดิ การอกั เสบ
ในอวัยวะต่าง ๆ ได้ รวมถึงอาจมีแนวโน้มท่ีก่อให้เกิด
อาการทางสมองอ่ืน ๆ เช่น โรคพาร์กินสัน11 นอกจากน้ี
อนุภาคขนาดเล็กของ PM 2.5 อาจท�ำหน้าที่เป็นแหล่ง
ยึดเกาะของมลพิษอ่ืน ๆ เช่น โลหะหนัก สารโพลีไซคลิก
อะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (PAHs) จากการจราจร หรือ
แหล่งก่อมลพิษ ซึ่งส่งผลต่อการเกิดมะเร็งในระยะยาว
ได้อีกด้วย ซึ่งการจัดการแก้ไขปัญหาที่แหล่งก�ำเนิด
ยงั เปน็ ไปไดย้ าก หรอื ยงั ไมไ่ ดร้ บั การแกไ้ ข สง่ิ ทจ่ี ะชว่ ยลดความ
เสยี่ งได้ คอื ลดการเขา้ ถงึ เชน่ การสวมหนา้ กาก ตดิ ตง้ั เครอื่ ง
กรองอากาศในบ้าน ฯลฯ แต่ส�ำหรับผู้ที่ไม่รู้เรื่องอันตราย
ผทู้ ไี่ มส่ ามารถเขา้ ถงึ อปุ กรณเ์ หลา่ นี้ และผทู้ ร่ี แู้ ตย่ งั คงไมใ่ สใ่ จ
ในการปอ้ งกนั ตวั เองแลว้ ความเสย่ี งทเี่ กดิ ขนึ้ อาจลงเอยดว้ ย
ปญั หาดา้ นสุขภาพและการเจ็บป่วยในท่สี ดุ
นอกจากปัญหาสุขภาพกายแล้ว ยังมีรายงานว่าปัญหา
PM 2.5 อาจสง่ ผลกระทบตอ่ สขุ ภาพจติ ดว้ ย มรี ายงานระบุ
ถงึ อตั ราการเพม่ิ ขนึ้ ของปรมิ าณมลพษิ ทางอากาศกบั ความผดิ
ปกติทางจิตของผู้ใหญ่และเด็กที่เพิ่มข้ึน12 ท้ังนี้อาจเกิดจาก
ภาวะการตระหนักรู้ถึงพิษภัยของ PM 2.5 ต่อสุขภาพ
การทตี่ อ้ งออกไปทำ� งาน หรอื ใชช้ วี ติ ประจำ� วนั กบั สง่ิ ทตี่ นเอง
รบั รวู้ า่ จะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี ทกุ วนั ยง่ิ เพม่ิ ความวติ กกงั วลใหม้ ากขนึ้

นอกจากประเทศไทยแล้ว หลายประเทศก็ประสบ เปน็ ละอองนน้ั หากใชแ้ หลง่ นำ�้ ทไี่ มส่ ะอาดกอ็ าจกอ่ ใหเ้ กดิ โรค
ปัญหา PM 2.5 เช่น เกาหลีใต้ อินเดีย เวียดนาม ทั้งนี้ จากเชอ้ื แบคทเี รยี แกผ่ ทู้ ส่ี ญั จรไปมาได้ แมว้ า่ จะมกี ารประกาศ
จีนเองก็เป็นหน่ึงในประเทศที่เกิดปัญหามลพิษทางอากาศ มาตรการระยะยาวบางประการออกมา เชน่ การจำ� กดั การวงิ่
จนมีผู้ป่วยและเสียชีวิตเป็นจ�ำนวนมาก โดยมีรายงาน ของรถยนตท์ ม่ี อี ายกุ ารใชง้ านนานบนทอ้ งถนน และการตรวจ
ข่าวว่า จีนมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศถึง 1 ล้านคน วัดควันด�ำ เป็นต้น แต่มาตรการดังกล่าวยังมีปัญหาในการ
คดิ เปน็ มลู คา่ ความเสยี หายถงึ 267 ลา้ นลา้ นหยวนในปี 256116 บงั คบั ใช้ ทำ� ใหไ้ มเ่ กดิ ผลสมั ฤทธต์ิ ามทค่ี าดหวงั 21
สว่ นอนิ เดยี กไ็ ดป้ ระกาศภาวะฉกุ เฉนิ ดา้ นมลพษิ จาก PM 2.5 จากบทเรียนที่ผ่านมา ประเทศไทยและหลายประเทศ
ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 หลังพบค่าฝุ่น PM 2.5 ทปี่ ระสบปญั หามลพษิ ทางอากาศลว้ นมแี นวทางแกไ้ ขปญั หา
ในกรุงนิวเดลีมีปริมาณสูงจนเป็นอันตราย17 นอกจากนี้ ในเชงิ รบั มากกวา่ เชงิ รกุ กลา่ วคอื เปน็ การแกไ้ ขปญั หาทป่ี ลาย
ช่วงปลายปี 2562 ประชาชนของออสเตรเลียได้กลายเป็น เหตุ ขณะที่สาเหตหุ ลกั ของการเกดิ มลพษิ ทางอากาศเหลา่ น้ี
ผปู้ ระสบภยั จากปญั หามลพษิ ทางอากาศจากปญั หาไฟปา่ จน มกั เกดิ จากกจิ กรรมของมนษุ ยเ์ ปน็ หลกั มาตรการตา่ ง ๆ ตงั้ แต่
มีการประกาศสถานการณ์ฉกุ เฉิน และอพยพประชาชนออก การขอความร่วมมือ ไปจนถึงการออกกฎหมายในประเทศ
จากพ้ืนท่ี ควันไฟดังกล่าวยังส่งผลกระทบไปถึงนิวซีแลนด์ หรือความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมากเป็นการควบคุม
โดยกลมุ่ เขมา่ ควนั ไดป้ นเปอ้ื นหมิ ะทย่ี อดเขา Southern Alps การปลดปลอ่ ยมากกวา่ การไปจดั การทแี่ หลง่ กำ� เนดิ ถงึ แมจ้ ะ
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมเป็นอย่างมากเมื่อน้�ำแข็ง มพี ระราชบญั ญตั ิ กฎหมายและขอ้ บงั คบั ตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั
ละลาย18 องค์การนาซ่า (NASA) เองได้ออกแถลงการณ์ว่า มลพษิ ทางอากาศอยแู่ ลว้ กต็ าม22 การจะแกไ้ ขปญั หา PM 2.5
กลุ่มควันจากไฟป่าของออสเตรเลียท่ีได้ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ นั้นจ�ำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการปรับ
สตราโตสเฟยี ร์จะลอยไปทว่ั โลก19 เปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ซ่ึงเป็นผู้ก่อให้เกิดปัญหามลพิษ
ตง้ั แตต่ น้ ทาง23 จากปญั หาความไรป้ ระสทิ ธภิ าพของภาครฐั ใน
การแกไ้ ขปัญหามลพิษทางอากาศ การแกไ้ ขปัญหา PM 2.5 ส่วนหนงึ่ มาจากความลา่ ชา้ ในการ
และฝุน่ PM 2.5 ตอบสนองปัญหาท่ีเกิดขึ้น อีกทั้งหลายหน่วยงานมีข้อจ�ำกัด
ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู เชงิ ลกึ ถงึ ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ และปญั หาใน
ในตา่ งประเทศนน้ั มคี วามพยายามทจี่ ะแกไ้ ขปญั หามลพษิ การสื่อสารกับประชาชนในยุคดิจิทัลท่ีต้องการความฉับไว24
ทัง้ เชิงรกุ และเชิงรบั ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นเทคโนโลยีบ�ำบัด ทำ� ใหภ้ าคประชาชนเรมิ่ ออกมาเรยี กรอ้ งสทิ ธใ์ิ นการมอี ากาศ
อากาศ เชน่ หอคอยฟอกอากาศในจนี การออกมาตรการจำ� กดั บรสิ ทุ ธหิ์ ายใจ รวมทง้ั แสวงหาวธิ ดี แู ลสขุ ภาพและแกไ้ ขปญั หา
การใชร้ ถยนตห์ รอื การเขา้ พน้ื ทค่ี วบคมุ ของฝรง่ั เศสและสเปน ฝุ่นเทา่ ท่ีทำ� ไดด้ ว้ ยตนเองควบค่กู ัน25
การสง่ เสรมิ ใหใ้ ชร้ ถสาธารณะในเนเธอรแ์ ลนด์ และฟนิ แลนด์ กระแสกดดนั ทเี่ กดิ ขนึ้ ทำ� ใหภ้ าครฐั ตอ้ งออก 12 มาตรการ
การใช้จักรยานเป็นทางเลือกในการสัญจรของเดนมาร์ก20 เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาตามมา26 ซง่ึ ประกอบดว้ ยมาตรการระยะสน้ั
และการก�ำหนดระยะเวลาท่ีชัดเจนในการเลิกใช้รถยนต์ที่ใช้ และระยะยาว ได้แก่
เครอ่ื งยนตแ์ บบสนั ดาปในองั กฤษและฝรงั่ เศส
ส�ำหรับประเทศไทย ได้ออกมาตรการเบื้องต้นหลาย 1. ขยายเขตพน้ื ที่จำ� กัดรถบรรทกุ เข้ากรงุ เทพฯ
มาตรการ เช่น การห้ามปิ้งย่าง การพ่นละอองน�้ำในอากาศ 2. ห้ามรถบรรทุกเข้าพ้ืนที่ชั้นในของกรุงเทพฯ ในวันค่ี
หรือการรณรงค์ให้สวมหน้ากากลดความเส่ียงจาก PM 2.5
เปน็ ตน้ แมม้ าตรการเหลา่ นอ้ี าจชว่ ยบรรเทาความวติ กกงั วลให้ ระหวา่ งเดือนมกราคมถงึ กุมภาพนั ธ์ 2563
กบั ประชาชนไดบ้ า้ ง แตใ่ นความเปน็ จรงิ แลว้ การพน่ ละอองนำ�้ 3. ตรวจวดั ควันด�ำรถโดยสาร (ไม่ประจำ� ทาง) ทุกคัน
นน้ั แทบจะไมม่ ผี ลในการลดฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ ไดเ้ ลย เนอื่ ง 4. ตรวจสอบ ตรวจจบั รถควนั ดำ� สำ� หรบั รถโดยสารและ
ดว้ ยขนาดของอนภุ าคทเี่ ลก็ ทำ� ใหไ้ มส่ ามารถจบั ตวั กบั ละออง
นำ้� แลว้ ตกลงมาได้ นอกจากนี้ มาตรการนยี้ งั อาจสง่ ผลกระทบ รถบรรทกุ เพ่อื ออกค�ำส่ังหา้ มใชร้ ถ
ทางลบจากปญั หานำ�้ เสยี ทเ่ี กดิ ขน้ึ จากละอองนำ�้ ควบตวั นำ� ฝนุ่ 5. ตรวจสอบโรงงานท่ที �ำให้เกิดฝ่นุ ละออง
และมลพษิ อนื่ ๆ ตกลงมา อกี ทง้ั แหลง่ นำ�้ ทนี่ ำ� มาใชใ้ นการฉดี 6. ก�ำกับให้กิจกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้าและการ

กอ่ สรา้ งอนื่ ๆ ไมท่ ำ� ใหเ้ กดิ ฝนุ่ และปญั หาการจราจร
บรเิ วณรอบพนื้ ท่กี ่อสร้าง

3910 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

7. ไม่ให้มีการเผาในที่โล่งในพ้ืนที่กรุงเทพฯ ภาพ : https://researchcafe.org
และปรมิ ณฑล

8. จังหวัดและอปท. มีอ�ำนาจควบคุมการ
เผาในท่ีโล่ง และเขม้ งวดการควบคมุ ยาน
พาหนะ โรงงานอุตสาหกรรม และการ
ก่อสรา้ งได้

9. ลดราคาน้�ำมันเชื้อเพลิงท่ีมีปริมาณ
ก�ำมะถันไม่เกิน 10 ppm เป็นน้�ำมันท่ี
กอ่ ใหเ้ กิดฝ่นุ ละอองน้อย

10. ขอความร่วมมือลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว
มาท�ำงาน และรถยนต์ของส่วนราชการ
ตอ้ งผ่านมาตรฐานควันด�ำทกุ คนั

11. สนับสนุนการจัดโครงการเปลี่ยนถ่าย
น�้ำมันเครื่องส�ำหรับรถยนต์ดีเซลที่มีอายุ
เกิน 5 ปี เพือ่ ช่วยลดฝุ่นละออง

12. สร้างการรับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับ
สถานการณ์ปัญหาฝุ่นละออง

แมบ้ างมาตรการ เชน่ การจำ� กดั พน้ื ทจ่ี ำ� เพาะ สรปุ
ที่รถสามารถเข้าถึงได้ในตัวเมือง จะประสบความ
ส�ำเร็จในต่างประเทศ แต่อีกหลายมาตรการยังมี ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นหน่ึงในปัญหามลพิษใหญ่ของไทย
ความนา่ กงั ขาในการบงั คบั ใช้ เชน่ การควบคมุ การ ในปัจจุบัน และมีแนวโน้มท่ีจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ใน
เผาในทโี่ ลง่ แจง้ มลพษิ จากกจิ กรรมโรงงาน และการ อนาคต ท้ังจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ รวมไปจนถึงผล
ก่อสร้าง เน่ืองจากท่ีผ่านมาการบังคับใช้กฎหมาย กระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลก (Climate
หรือการจับกุมผู้ที่ละเมิดกฎหมายเป็นสิ่งท่ีเกิด change) การเจรญิ เตบิ โตของเมอื งและกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ทเี่ กดิ ขนึ้
ข้ึนน้อยมาก ส่วนการขอความร่วมมือภาคเอกชน ตามมา ปญั หาฝนุ่ เหลา่ นจี้ ะกลบั มาเกดิ อยา่ งเดน่ ชดั ทกุ ปใี นชว่ งปลายปี
และประชาชนในการเปลย่ี นยานยนต์ และเปลย่ี น และตน้ ปซี ง่ึ เปน็ ชว่ งเวลาทอ่ี ากาศมกี ารไหลเวยี นตำ่� ทผี่ า่ นมา สงั คมไทย
ประเภทน้�ำมันก็เป็นไปได้ยาก เน่ืองจากแรงจูงใจ มุ่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าโดยสวมอุปกรณ์ลดความเส่ียงจาก PM 2.5
ทางเศรษฐศาสตรท์ จี่ ะชว่ ยผลกั ดนั ใหส้ ำ� เรจ็ มนี อ้ ย และติดตั้งเคร่ืองกรองอากาศในบ้าน แต่ในความเป็นจริงปัญหาน้ี
มากเมอ่ื เทยี บกบั ตน้ ทนุ ทตี่ อ้ งเสยี ไป สว่ นการสรา้ ง จ�ำเป็นต้องได้รับความร่วมมือในการแก้ไขตั้งแต่ระดับชาติลงมา
ความตระหนกั รับรใู้ หก้ บั ประชาชนนนั้ นับวา่ เปน็ จนถึงระดับบุคคล ทั้งจากภาครัฐ เอกชนและภาคประชาสังคม
มาตรการที่ยากท่ีสุด เนื่องจากประชาชนมีความ โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในทุกระดับพื้นที่ของประเทศ
หลากหลาย และคนทใี่ หค้ วามสำ� คญั กบั สงิ่ แวดลอ้ ม หากประเทศไทยไม่มีการด�ำเนินการอย่างต่อเนื่องที่เปน็ รูปธรรม และ
เองกม็ จี ำ� กดั อยา่ งไรกต็ าม ประชาชนในทกุ ชว่ งวยั ขับเคล่ือนมาตรการต่าง ๆ อย่างจริงจังทุกองคาพยพแล้ว ปัญหา
ควรไดร้ บั การปลกู ฝงั ใหม้ บี ทบาทในการปรบั เปลย่ี น PM 2.5 ก็มีแนวโน้มท่ีจะอยู่คู่กับสังคมไทยไปยาวนาน จนเกิดต้นทุน
พฤติกรรมเพื่อลดการก่อมลพิษและสร้างกระทบ ทางสุขภาพและเศรษฐกิจในระดับวิกฤตที่ไม่อาจรับได้อีกต่อไป
ด้านส่ิงแวดล้อม ถึงแม้จะเป็นการกระท�ำเพียง หวังว่าเราคงไม่ไปถึงจุด ๆ นั้น ที่จะมีผู้เสียชีวิตจ�ำนวนมากทุกปี
เลก็ นอ้ ยแตเ่ มอื่ รว่ มมอื กนั กย็ อ่ มทจ่ี ะขบั เคลอื่ นไปสู่ จากปัญหาฝนุ่ พษิ ทัว่ ประเทศ
การเปลยี่ นแปลงทดี่ ขี นึ้ ในระยะยาวได้

40 สุขภาพคนไทย 2563

2 แบนสามสารเคมีการเกษตร:
การต่อสู้ที่ยืดเยื้อ

ภาพ : https://www.newtv.co.th

มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ “ให้มีการแบน 3 สารพิษ ได้แก่ ไกลโฟเซต พาราควอต คลอร์ไพริฟอส
ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 62 เป็นต้นไป” กลับล้มพับลง โดยมีมติการประชุมอีกครั้ง ให้เลื่อนกำ�หนดห้ามใช้
สารเคมีกำ�จัดศัตรูพืช 2 ชนิด คือพาราควอตและคลอร์ไพริฟอสไปอีก 6 เดือน ส่วนไกลโฟเซตเปลี่ยนจาก
การห้ามใช้เป็นเพียงการจำ�กัดการใช้ นโยบายที่เปลี่ยนแปลงไปมาดังกล่าวสะท้อนการต่อสู้ของฝ่ายที่ต้องการ
แบนสารเคมีการเกษตรกับกลุ่มที่สนับสนุนการใช้สารเคมีการเกษตรซึ่งดำ�เนินมาเป็นเวลานานหลายปี และยัง
ไม่มีท่าทีว่าจะยุติลงในเวลาอันใกล้

บทนำ� วตั ถอุ นั ตราย ใหร้ ัฐมนตรวี ่าการกระทรวงอตุ สาหกรรมเป็น
ประธาน และลดสดั สว่ นกรรมการจากกระทรวงสาธารณสขุ
เมื่อวันท่ี 22 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการวัตถุ เหลอื เพียง 2 คน1
อนั ตรายมมี ตใิ หแ้ บน 3 สารเคมกี ารเกษตร ไดแ้ ก่ ไกลโฟเซต การเปลี่ยนแปลงมติดังกล่าว ถูกแย้งจากกรรมการ
พาราควอต คลอร์ไพริฟอส โดยให้ยกเลิกการจ�ำหน่าย ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุขที่ร่วมอยู่
และยกเลิกการใช้สารเคมีดังกล่าวในประเทศตั้งแต่วันท่ี ในคณะกรรมการฯ รวมถึงได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จาก
1 ธันวาคม 62 เป็นต้นไป แต่การประชุมคณะกรรมการฯ นักกฎหมายและภาคประชาสังคมจ�ำนวนมาก และ
ชุดใหม่วันท่ี 27 พฤศจิกายน 2562 ได้พลิกมติดังกล่าว ส ว น ท า ง กั บ แ น ว ท า ง ข อ ง ส ภ า ผู ้ แ ท น ร า ษ ฎ ร ท่ี มี ม ติ
เป็นเล่ือนก�ำหนดห้ามใช้สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช 2 ชนิด คือ เป็นเอกฉันท์สนับสนุนให้แบนสารท้ัง 3 ชนิดโดยเร็ว
พาราควอตและคลอร์ไพริฟอสไปอีก 6 เดือน เป็นวันที่ นโยบายท่ีเปลี่ยนแปลงไปมาสะท้อนการต่อสู้ของฝ่าย
1 มิถุนายน 2563 ส่วนไกลโฟเซตเปลี่ยนจากการห้ามใช้ ที่ต้องการแบนสารเคมีการเกษตรดังกล่าวกับกลุ่มที่
เปน็ เพยี งการจำ� กดั การใช้ ทง้ั น้ี การประชมุ ดงั กลา่ ว เกดิ ขน้ึ สนบั สนนุ การใชส้ ารเคมกี ารเกษตรซง่ึ ดำ� เนนิ มาเปน็ เวลานาน
ภายหลังจาก พ.ร.บ.วัตถุอันตราย (ฉบับท่ี 4) พ.ศ. 2562 หลายปี และยงั ไม่มีท่าทวี า่ จะยุติลงในเวลาอนั ใกล้
มผี ลบงั คบั ใช้ โดยมกี ารปรบั เปลย่ี นโครงสรา้ งคณะกรรมการ
4110 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

การใช้สารเคมีกำ� จดั ศตั รพู ืชของไทย
ประเทศไทยมีการใช้สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชมายาว
นานพรอ้ ม ๆ กบั การสง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรปลกู พชื เศรษฐกจิ
เชงิ เดย่ี วในพนื้ ทข่ี นาดใหญเ่ พอ่ื การสง่ ออก และเปน็ วตั ถดุ บิ
ของอุตสาหกรรมหลายประเภท อาทิ น�้ำตาล อาหารสัตว์
และโรงไฟฟา้ ชวี มวล การขยายตวั ของพชื เศรษฐกจิ เชงิ เดยี่ ว
ทำ� ใหเ้ กดิ การพง่ึ พาสารเคมกี ำ� จดั ศตั รพู ชื เพมิ่ มากขน้ึ เรอ่ื ย ๆ
โดยปริมาณน�ำเข้าสารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชระหว่างปี
2548-2560 เพ่ิมขึ้นจาก 75,473 ตัน เป็น 197,758 ตัน
หรือเพิ่มข้ึนกว่า 2.6 เท่า ในระยะเวลาเพียง 12 ปี2
ทั้ง ๆ ท่ีพ้ืนท่ีการเกษตรไม่ได้เพ่ิมมากข้ึน โดย 75% เป็น ภาพ : https://market-comms.co.th

สารเคมกี �ำจัดวชั พืช กอ่ นทีค่ ณะกรรมการขับเคล่ือนปัญหา ลดลงจาก 241 เหลือ 224 กิโลกรัมต่อไร่ อ้อยลดลงจาก
สารเคมีป้องกันก�ำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูงจะมีมติ 11,157 เหลอื 9,152 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ปาลม์ นำ้� มนั จาก 3,214
ยกเลิกสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชท่ีมีความเสี่ยงสูงในปี 2560 เหลอื 2,409 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ ยกเวน้ ขา้ วโพดเลยี้ งสตั วเ์ ทา่ นน้ั
ท�ำให้ปริมาณการน�ำเข้าลดลงหลังจากน้ัน จากสถิติการ ทีผ่ ลผลติ ตอ่ ไรเ่ พิม่ ขึ้นเล็กนอ้ ยจาก 652 เปน็ 654 กิโลกรมั
น�ำเข้าปี 2560 พบว่ามีการน�ำเข้าสารพาราควอต ต่อไร่
44,501 ตัน ไกลโฟเซต 59,872 ตัน และคลอร์ไพริฟอส ในทางกลับกัน การใชเ้ คมีก�ำจดั ศัตรูพืชที่มากขึน้ อยา่ ง
3,325 ตัน รวมสาร 3 ชนิดนี้มากถึง 54.5% ของปริมาณ ไมเ่ หมาะสมกลับทำ� ให้เกดิ ปญั หาการระบาดของแมลงศตั รู
การน�ำเขา้ สารเคมกี ำ� จัดศตั รพู ืชทัง้ หมด 267 ชนดิ พืช เช่น การระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน�้ำตาล3 ท่ีท�ำลาย
แม้ว่าปริมาณการใช้สารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชจะเพ่ิม พื้นที่ปลูกข้าวนับล้านไร่ โดยพบว่ายิ่งมีการใช้สารเคมีเพ่ือ
มากขึ้นกว่า 2 เท่า แต่ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของพืชเศรษฐกิจ กำ� จัดแมลง เพลยี้ ก็จะพัฒนาตวั เองให้ตา้ นทานเพมิ่ มากขึ้น
สว่ นใหญก่ ลบั ไมไ่ ดเ้ พมิ่ ขน้ึ จากการเปรยี บเทยี บผลผลติ ตอ่ ไร่ เป็นล�ำดับ ปัจจุบัน ประเทศไทยพบเพลี้ยกระโดดสีน้�ำตาล
ของพชื เศรษฐกจิ สำ� คญั เมอ่ื ปี 2551 กบั ปี 2559 ขอ้ มลู จาก มากถงึ 9 ชนดิ ทต่ี า้ นทานสารเคมกี ำ� จดั แมลงในนาขา้ ว และ
สำ� นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร และสำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ การตา้ นทานของวชั พชื 4 รายงานการสำ� รวจภายใตโ้ ครงการ
พบว่า ผลผลิตต่อไร่ส่วนใหญ่ลดลง เช่น ผลผลิตยางพารา International Survey of Herbicide-Resistant Weeds
ได้เผยแพร่ข้อมูลล่าสุด
พบวัชพืชที่ต้านทานสาร
พิษก�ำจัดวัชพืชแล้วถึง 259
ชนิด ครอบคลุมสารพิษ
ก�ำจัดศัตรูพืช 167 ชนิด
ปริมาณ ( ัตน) (26 กลุ่มฤทธิ์การท�ำลาย)
โ ด ย ร ะ บ า ด ใ น พื้ น ที่ ก า ร
ปลูกพืช 93 ชนิดใน 70
ประเทศ เช่น มีวัชพืชที่
ตา้ นทานไกลโฟเซต 43 ชนดิ
ตา้ นทานพาราควอต 31 ชนดิ
เปน็ ตน้ ทน่ี า่ สนใจคอื มวี ชั พชื
มติคณะกรรมการขบั เคลือ่ นปัญหาสารเคมี มากกวา่ 100 ชนดิ ทต่ี า้ นทาน
ที่มา : ส�ำนักควบคมุ พืชและวสั ดุการเกษตร (2563) ป้องกันก�ำจดั ศตั รูพืชทม่ี คี วามเส่ยี งสูง สารพิษได้มากกว่า 2 กลุ่ม

42 สุขภาพคนไทย 2563

ข้ึนไป และมากกว่า 20 ชนิดท่ีต้านทานสารพิษได้มากกว่า พาราควอต รู้จักในช่ือการค้า “กรัมม็อกโซน”
4 กลมุ่ ดงั นน้ั การใชส้ ารพษิ กำ� จดั วชั พชื จงึ เปน็ การแกป้ ญั หา เป็นสารเคมีก�ำจัดวัชพืชชนิดเผาไหม้ ท�ำลายส่วนที่เป็น
เกษตรกรรมท่ีไม่ย่ังยืนอีกท้ังน�ำปัญหาใหม่ ๆ มาสู่ระบบ สีเขียว ออกฤทธ์ิเร็ว จึงได้รับความนิยมใช้อย่างแพร่หลาย
เกษตรกรรมและความม่นั คงด้านอาหารของมนุษย์ มีผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม อาทิ 1) เป็นสารท่ี
งานศึกษาของคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย มีพิษเฉียบพลันต่อมนุษย์สูง ไม่มียาถอนพิษ การสัมผัสโดย
เกษตรศาสตร์ได้ประเมินผลกระทบภายนอกต่อสุขภาพ ไม่ต้ังใจทางผิวหนังแม้เจือจางก็มีพิษถึงตาย 2) เป็นสาเหตุ
แ ล ะ สิ่ ง แ ว ด ล ้ อ ม ข อ ง ก า ร ใ ช ้ ส า ร เ ค มี ก� ำ จั ด ศั ต รู พื ช หน่ึงของการก่อโรคพาร์กินสัน และส่งผลกระทบต่อระบบ
โดยวิเคราะห์ด้วยวิธี PEA (Pesticide Environmental ประสาท 3) ส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ การต้ังครรภ์
Accounting)5 จากข้อมูลปริมาณการน�ำเข้าสารเคมีก�ำจัด และพัฒนาการของตัวอ่อนในครรภ์ 4) พบการตกค้างใน
ศัตรูพืชในประเทศไทยในปี 2561 พบว่า มีต้นทุนผล ส่ิงแวดล้อม พืชอาหาร ผักผลไม้ และสัตว์ที่เป็นอาหาร
กระทบภายนอกตอ่ สขุ ภาพและสงิ่ แวดลอ้ มมากถงึ 21,266 5) พบการตกค้างในมนุษย์ สามารถส่งผ่านจากมารดา
ลา้ นบาท นอกจากน้ี สารเคมเี หลา่ นไี้ ดร้ บั การยกเวน้ ไมต่ อ้ ง สู่ตัวอ่อนในครรภ์ 6) เป็นสารท่ีมีความเสี่ยงสูงเกินกว่าจะ
เสียภาษีน�ำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่มมานับต้ังแต่ปี 2535 นำ� มาใชง้ านได้อยา่ งปลอดภยั แม้จะมกี ารป้องกนั ทด่ี กี ็ตาม
คดิ เปน็ จำ� นวนเงนิ ประมาณ 10,000 ลา้ นบาทตอ่ ปที ภ่ี าครฐั ไกลโฟเซต รู้จักกันในชื่อการค้า “ราวด์อั้พ” เป็นสาร
ต้องสูญเสียไป เพ่ือลดภาระให้กับเกษตรกร แต่นโยบาย เคมกี ำ� จดั วชั พชื ชนดิ ดดู ซมึ ทำ� ลายพชื ถงึ ราก เปน็ สารกำ� จดั
ดังกล่าวเป็นการเพิ่มแตม้ ต่อให้กบั การใชส้ ารเคมีก�ำจัดศตั รู วัชพืชท่ีนิยมใช้มากท่ีสุดในประเทศไทย รวมถึงประเทศ
พืชมากกว่าการใช้วิธีการอื่น ๆ เช่น การใช้เครื่องตัดหญ้า ท่ีปลูกพืช GMO ชนิดต้านทานไกลโฟเซต จนท�ำให้เกิด
วัสดุคลุมดิน ซ่ึงต้องเสียภาษีเต็มเม็ดเต็มหน่วย นโยบายท่ี ซุปเปอร์วัชพืชท่ีต้านทานสารพิษนี้มากข้ึนเรื่อย ๆ เดิมเช่ือ
ผา่ นมาจงึ เปน็ การสนบั สนนุ ใหใ้ ชส้ ารเคมกี ำ� จดั ศตั รพู ชื อยา่ ง กันว่าเป็นสารท่ีมีความปลอดภัยสูงจากค�ำโฆษณาท่ีอ้างว่า
ชัดเจนโดยไม่ค�ำนึงถึงต้นทุนผลกระทบทางสุขภาพและ ปลอดภัยย่ิงกว่าเกลือแกง แต่ภายหลังจากท่ีสถาบันวิจัย
สงิ่ แวดลอ้ มอย่างท่คี วรเป็น มะเร็งระหว่างประเทศ (IARC) ภายใต้องค์การอนามัยโลก
(WHO) ประกาศวา่ ไกลโฟเซตเปน็ สารกอ่ มะเรง็ ในมนษุ ยเ์ มอื่
ผลกระทบด้านสุขภาพจาก 3 สารเคมี เดอื นมนี าคม 2558 ทำ� ใหท้ ว่ั โลกตนื่ ตวั และสมุ่ ตรวจอาหาร
การเกษตร และผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู และเนอ้ื สตั ว์ งานวจิ ยั จำ� นวนมากชใ้ี ห้
เหน็ ผลกระทบจากสารพษิ ชนดิ น้ี อาทิ 1) เปน็ สารกอ่ มะเรง็
เม่ือเดือนสิงหาคม 2562 มแี พทยท์ ่ีจังหวัดตากไดอ้ อก ในมนษุ ย์ 2) เพมิ่ ความเสยี่ งการเปน็ มะเรง็ ตอ่ มนำ้� เหลอื งชนดิ
มาโพสต์เตือนกรณีเด็กหนุ่มคนหน่ึงเสียชีวิตหลังจากถังฉีด Non-Hodgkin Lymphoma และเหน่ียวน�ำมะเร็งเต้านม
พาราควอตรว่ั 6 และเมอื่ เดอื นธนั วาคม 2562 ศ.นพ.ธรี ะวฒั น์ ชนิดอาศัยฮอร์โมนเอสโตรเจนให้เจริญเร็วข้ึน 3) เป็นสาร
เหมะจุฑา ได้เผยแพร่ข่าวเด็กหนุ่มอีกคนที่ฉะเชิงเทราท่ี ท่ีรบกวนการท�ำงานของระบบต่อมไร้ท่อ 4) เป็นสารต้าน
ผิวหนังถูกท�ำลายต้ังแต่กลางหลังไปจนถึงสะโพก7 จาก
อบุ ตั เิ หตใุ นลกั ษณะเดยี วกนั นอกจากเกษตรกรแลว้ กลมุ่ คน ภาพ : https://news.thaipbs.or.th
ทไ่ี ดร้ บั ความเสย่ี งรองลงมากค็ อื คนในครอบครวั และสมาชกิ
ในชุมชนนั้นเอง งานศึกษาของวิทยาลัยแพทยศาสตร์และ
การสาธารณสขุ มหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี พบวา่ ชาวไรอ่ อ้ ย
ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื มคี วามวติ กกงั วลตอ่ พษิ ของสาร
เคมีดังกล่าว โดยร้อยละ 91 เกรงว่าลูกหลานตนเองจะเดิน
เข้าไปในพ้ืนท่ีฉีดพ่น ร้อยละ 81 กลัวเพ่ือนบ้านจะต่อว่า
เมื่อมีการฉีดพ่นสารเคมี ทั้งน้ี พาราควอต คลอร์ไพริฟอส
และไกลโฟเซต มีผลกระทบตอ่ สุขภาพ ดังน8้ี

4310 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

จลุ ชพี และมผี ลท�ำใหเ้ กดิ เช้อื ดื้อยา 5) รวมตัวกบั โลหะหนกั ไอรแ์ ลนด์ อิตาลี สาธารณรฐั ลตั เวีย ลิธัวเนีย ราชรัฐลักเซม
ในนำ�้ บาดาล กอ่ ใหเ้ กดิ โรคไตเรอ้ื รงั 6) ถา่ ยทอดจากมารดา เบิร์ก สาธารณรัฐมอลตา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส
สู่ทารกในครรภ์ และท�ำให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์รก โรมาเนีย สโลเวเนีย สโลวาเกีย สเปน สวีเดน สหราช
7) พบการตกคา้ งในอาหาร ผลติ ภณั ฑแ์ ปรรปู และเครอ่ื งดมื่ อาณาจกั ร เบลเยย่ี ม ไซปรสั สาธารณรฐั เชค็ เดนมารก์ เอส
คลอร์ไพริฟอส รู้จักกันในชื่อการค้า “ลอร์สแบน” โตเนยี ฟนิ แลนด์ ฝรงั่ เศส เยอรมนี กรซี ออสเตรยี โครเอเชยี
เปน็ สารเคมกี ำ� จดั แมลงกลมุ่ ออรแ์ กโนฟอสเฟต นยิ มใชใ้ นผกั บุลกาเรีย นอร์เวย์ สวิสเซอร์แลนด์ รัสเซีย เอเชีย: จีน
ผลไม้ มงี านวจิ ยั จำ� นวนมากชใี้ หเ้ หน็ ผลกระทบจากการสมั ผสั ไต้หวนั สาธารณรฐั เกาหลี ศรลี ังกา เวียดนาม ลาว กัมพชู า
คลอรไ์ พรฟิ อส อาทิ 1) ผลกระทบตอ่ สมอง ความจำ� IQ การ ซเี รยี คเู วต สหรฐั อาหรบั เอมเิ รตส์ มาเลเซยี แอฟรกิ า: เบอร์
ควบคุมกล้ามเน้ือ แม้จะได้รับต้ังแต่อยู่ในครรภ์มารดาใน กนิ าฟาโซ เคปเวอรด์ ชาด แกมเบยี กนิ น-ี บซิ โซ มอรทิ าเนยี
ปรมิ าณทตี่ ำ่� มาก 2) รบกวนการทำ� งานของระบบตอ่ มไรท้ อ่ ไนเจอร์ เซเนกัล ไอวอร่ีโคสต์ มาลี โตโก โอเชียเนีย : ฟิจิ
ไทรอยด์ Neuroendocrine estrogenic และ Androgenic อเมรกิ าใต้: บราซลิ
effect 3) กระตุ้นการเจริญของเซลล์มะเร็งล�ำไส้ สำ� หรบั ไกลโฟเซต ประเทศทหี่ า้ มใช้ และยตุ กิ ารนำ� เขา้
4) พบการตกค้างในผักผลไม้ น�้ำนมแม่ และซีรั่มใน ได้แก่ โอมาน ซาอุดอี าระเบยี คเู วต สาธารณรฐั อาหรับเอมิ
สายสะดือของทารก เรตส์ บาหเ์ รน กาตาร์ ออสเตรยี เยอรมนี มาลาวี เวยี ดนาม
และลักเซมเบิร์กเป็นประเทศล่าสุดที่ประกาศห้ามใช้วันที่
การแบนสารเคมีทัง้ 3 ชนิดในต่างประเทศ 1 มกราคม 2564 ประเทศทจ่ี ำ� กดั การใช้ ไดแ้ ก่ อารเ์ จนตนิ า
เบลเยี่ยม เบอร์มิวดา แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส อิตาลี
จากผลกระทบทางลบต่อสุขภาพและความปลอดภัย มอลตา เนเธอรแ์ ลนด์ สเปน โปรตเุ กส โคลอมเบยี ศรลี งั กา
ของมนุษย์และสัตว์ ท�ำให้ปัจจุบันหลายประเทศได้ยกเลิก สว่ นคลอรไ์ พรฟิ อส องคก์ ารความปลอดภยั อาหารแหง่
หรือจำ� กดั การใช้สารเคมกี ารเกษตรท้ัง 3 ชนิดแล้ว ดงั นี้ ยุโรป (EFSA) ได้ออกค�ำแถลงยืนยันเมื่อวันท่ี 31 สิงหาคม
ประเทศทห่ี า้ มใชแ้ ละประกาศหา้ มใชพ้ าราควอตมี 55 2562 ว่า คลอร์ไพริฟอสส่งผลกระทบต่อพัฒนาการต่อ
ประเทศ (ขอ้ มลู ณ วนั ที่ 30 ธนั วาคม 2562) อาทิ องั กฤษ ระบบประสาทและสมองของเด็กแม้จะมีปริมาณน้อยที่สุด
(ผู้คิดค้น) สวิตเซอร์แลนด์ (เจ้าของตลาด) จีน (ผู้ผลิตและ ก็ตาม โดยมีหลักฐานยืนยันท้ังในสัตว์ทดลองและข้อมูล
ส่งออกรายใหญ่) บราซิล (หน่ึงในประเทศที่เคยใช้มาก ระบาดวิทยา อีกทั้งมีผลต่อระบบสืบพันธุ์ โดยสรุปว่า
ท่ีสุดของโลก) มาเลเซีย (ท่ีเคยห้ามใช้ แล้วกลับมาอนุญาต “ไม่สามารถก�ำหนดระดับการได้รับสารคลอร์ไพริฟอสที่
ให้ใช้เฉพาะในปาล์มน�้ำมัน และประกาศแบนอีกครั้งใน ปลอดภัยได้ และไม่เข้าหลักเกณฑ์ส�ำหรับการต่ออายุการ
เดือนมีนาคม 2562) แบ่งตามทวีปได้ดังน้ี ยุโรป: ฮังการี ใชไ้ ด้อกี ”
ค�ำประกาศของ EFSA ท�ำให้การใช้คลอร์ไพริฟอส
ภาพ : https://www.newtv.co.th ในสหภาพยโุ รปซง่ึ ทะเบยี นจะหมดอายใุ นวนั ท่ี 31 มกราคม
2563 จะถกู แบนโดยสนิ้ เชงิ โดยกอ่ นหนา้ นปี้ ระเทศในยโุ รป
จ�ำนวนมาก เช่น เดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี ไอร์แลนด์
ลัตเวีย ลิธัวเนีย สโลวีเนีย สวีเดน นอรเวย์ ไอซ์แลนด์
สวสิ เซอรแ์ ลนด์ ไดแ้ บนสารพษิ นไี้ ปกอ่ นแลว้ (สว่ นประเทศ
อ่ืน ๆ ในยุโรปก็เข้มงวดในการใช้มาก เช่น อังกฤษอนุญาต
แค่พืชเพียงชนิดเดียวเท่านั้น เป็นต้น) นอกเหนือจาก
ยุโรป หลายประเทศได้ทยอยแบนคลอร์ไพริฟอสแล้ว เช่น
จีน (ห้ามใช้ในผักผลไม้) เยเมน แอฟริกาใต้ มอลต้า และ
เวยี ดนาม เป็นตน้

การตอ่ สทู้ ี่ยดื เยื้อเพื่อแบน ภาพ : https://www.thaipost.net
3 สารเคมกี ารเกษตรในไทย
ในทางกลบั กนั เมอื่ วนั ที่ 27 พฤศจกิ ายน 2562 ทปี่ ระชมุ
นั บ ตั้ ง แ ต ่ ภ า ค ป ร ะ ช า สั ง ค ม นัดแรกของคณะกรรมการวัตถุอันตรายชุดใหม่ได้เผยแพร่
นั ก วิ ช า ก า ร แ ล ะ ห น ่ ว ย ง า น ข อ ง รั ฐ เอกสารวา่ ปลดั กระทรวงเกษตรฯ ไดเ้ สนอใหค้ ณะกรรมการฯ
ท่ีเกี่ยวข้องกับระบบสุขภาพเรียกร้องให้ พจิ ารณา “ทบทวน” มติท่ีให้แบน 3 สารเคมี เม่ือวันที่ 22
คณะกรรมการวัตถุอันตรายยกเลิกการ ตลุ าคม 2562 ทต่ี งั้ ใจจะใหม้ ผี ลบงั คบั ใชต้ ง้ั แตว่ นั ที่ 1 ธนั วาคม
ใช้ 3 สารเคมกี ารเกษตรดังกล่าวมานาน 2562 โดยคณะกรรมการฯ ชุดใหม่ได้มีมติให้ “ขยาย
หลายปี สถานการณ์ได้เริ่มเปล่ียนแปลง ระยะเวลาการแบน” พาราควอต คลอร์ไพริฟอส ออกไป
เม่ือเดือนเมษายน 2560 เมื่อกระทรวง 6 เดือน จนถึงวันท่ี 1 มิถุนายน 2563 ส่วนไกลโฟเซตน้ัน
สาธารณสขุ และคณะกรรมการขบั เคลอื่ น ให้ใช้ “มาตรการจ�ำกัดการใช้”แทน13 ซึ่งต่างจากการลง
ปญั หาสารเคมปี อ้ งกนั กำ� จดั ศตั รพู ชื ทมี่ คี วามเสย่ี งสงู มมี ตใิ ห้ มติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อ 22 ตุลาคม 2562
แบนพาราควอต คลอรไ์ พรฟิ อสและจ�ำกดั การใชไ้ กลโฟเซต ภายใต้การผลักดันจากนางมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรี
ภายในส้ินปี 2562 พร้อมเรียกร้องให้กรมวิชาการเกษตร ชว่ ยวา่ การกระทรวงเกษตรฯ ประธานคณะทำ� งานหารอื 4 ฝา่ ย
ยุติการต่อทะเบียนใหม่และจ�ำกัดการน�ำเข้าสารเคมีท้ัง การ “กลบั มต”ิ ของคณะกรรมการวตั ถอุ นั ตรายดงั กลา่ ว
3 ชนดิ โดยทนั ที แตก่ รมวชิ าการเกษตรเหน็ วา่ ควรเลอ่ื นระยะ สร้างความพิศวงให้กับคนจ�ำนวนมาก รศ.ภญ.จิราพร
เวลาออกไปอีก เน่ืองจากไม่สามารถก�ำจัดสต็อกสารเคมี ลม้ิ ปานานนท์ นายกสภาเภสชั กรรม ได้ใหส้ มั ภาษณ์วา่ การ
ดงั กลา่ วไดท้ นั จากการหารอื กบั ผปู้ ระกอบการ สว่ นใหญร่ ะบุ ลงมติดังกล่าวเป็นภาวะจ�ำยอม ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น
ว่าการจะให้ส่งออกไปประเทศต้นทาง หรือประเทศท่ีใช้อยู่ “มตเิ อกฉนั ท”์ และประกาศลาออกจากคณะกรรมการวตั ถุ
อาจมปี ญั หาในทางปฏบิ ตั ิ เนอื่ งจากหากเปน็ สารทผี่ สมแลว้ อันตราย14 สอดคล้องกับตัวแทนจากกระทรวงสาธารณสุข
กจ็ ะสง่ ออกยากเพราะแตล่ ะประเทศใชส้ ดั สว่ นไมเ่ หมอื นกนั ทย่ี นื ยนั วา่ ท่ีประชมุ ไม่ไดใ้ ห้มีการลงคะแนนดว้ ยการยกมอื
จึงขอเวลาในการจัดการออกไปอกี 6 เดือน9 หรือลงคะแนนรายบุคคลแต่อย่างใด15 ทางด้าน ผศ.ดร.
การผลกั ดนั ของกลมุ่ ตา่ ง ๆ เพอ่ื แบน 3 สารเคมดี งั กลา่ ว10 ปรญิ ญา เทวานฤมิตรกุล อาจารยป์ ระจ�ำภาควิชากฎหมาย
น�ำไปสู่การเผชิญหน้าของกลุ่มที่คัดค้านและสนับสนุนการ มหาชน ออกมาใหค้ วามเห็นวา่ เม่อื ไมม่ กี ารนบั องค์ประชมุ
ใช้สารเคมีท้ัง 3 ชนิด11 จนกลายเป็นประเด็นทางการเมือง ตอนลงมติ และไม่มีการให้กรรมการแต่ละคนออกเสียงใน
ท่สี ำ� คัญ เมือ่ ประเทศไทยมีรฐั บาลท่มี าจากการเลอื กตงั้ ในปี เรอ่ื งทขี่ อมตแิ ลว้ มตขิ องคณะกรรมการวตั ถอุ นั ตรายทเี่ ลอ่ื น
2562 กระแสเรียกร้องดังกล่าวท�ำให้สภาผู้แทนราษฎรตั้ง การแบนสามสารพิษ จึงไม่ใช่มติที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ
“คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการ อีกนัยหน่ึง เท่ากับยังไม่มีมติใหม1่ 6 ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดิน
ควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทน ซึ่งเคยมีมติให้แบนท้ัง 3 สารเคมีภายในวันที่ 1 มกราคม
ราษฎร” จนนำ� ไปสกู่ ารพจิ ารณาเรอื่ งนโ้ี ดยสภาผแู้ ทนราษฎร 2563 ก็ได้แสดงท่าทีว่า คณะกรรมการวัตถุอันตรายต้องมี
เม่ือวันท่ี 21 พฤศจิกายน 2562 และได้ลงมติด้วยเสียง ค�ำตอบใหก้ บั เรอื่ งน1้ี 7
เอกฉันท์ 423 ต่อ 012 เห็นชอบรายงานและข้อเสนอของ
คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั ฯ ยนื ยนั การแบนสารเคมกี ำ� จดั ศตั รู 4510 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ
พืชความเสี่ยงสูง 3 ชนิด และเสนอให้จัดตั้งกองทุนเยียวยา
เกษตรกรในระยะเปล่ียนผ่าน ส่งเสริมจักรกลอัจฉริยะ การ
พัฒนาสารชีวภัณฑ์ สร้างระบบเฝ้าระวังสารพิษตกค้างใน
ผลผลติ ทางการเกษตร และเดนิ หนา้ ปรบั เปลย่ี นประเทศไทย
ไปสู่การพัฒนาเกษตรกรรมย่ังยืนให้ได้ 100% ของพ้ืนที่
เกษตรกรรมทั้งหมดภายในปี 2573 ซึ่งเป็นปีเป้าหมายการ
พฒั นาท่ียั่งยนื (SDGs) ขององคก์ ารสหประชาชาติ

ส่วนเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษร้ายแรง 686 2. เก็บภาษีสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช โดยคิดอัตราตาม
องคก์ ร18 และเครอื ขา่ ยองคก์ รผบู้ รโิ ภคจงึ ไดอ้ อกแถลงการณ์ ระดบั ความเปน็ อนั ตรายและผลกระทบ จะทำ� ใหโ้ ครงสรา้ ง
ยืนยันให้ทุกฝ่ายเคารพมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ราคาสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช สะท้อนภาพใกล้เคียงราคาท่ี
เมอื่ วนั ที่ 22 ตลุ าคม 2562 และประกาศจะพจิ ารณาดำ� เนนิ แท้จริงท่ีประเทศไทยต้องจ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลและ
การฟอ้ งศาลปกครอง และศาลอาญาคดที จุ รติ และประพฤติ ฟื้นฟูส่ิงแวดล้อม ในกรณีนี้สารก�ำจัดแมลง เช่น คลอร์
มิชอบต่อนายสรุ ยิ ะ จึงรุ่งเรอื งกิจ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวง ไพริฟอสจะแพงข้ึน 10 เท่า โดยภาษีท่ีได้ควรน�ำไปใช้เพ่ือ
อตุ สาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถอุ นั ตราย เยียวยาผลกระทบจากสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชจากกรณีท่ี
ในการประชมุ เมอ่ื วนั ท่ี 27 พฤศจกิ ายน 2562 และเรยี กรอ้ ง ไม่ได้ใช้เองแต่ได้รับจากช่องทางอ่ืน และเพื่อเป็นกองทุน
ใหร้ ฐั บาลสนบั สนนุ เกษตรกรในชว่ งเปลยี่ นผา่ น โดยดำ� เนนิ สนับสนุนให้เกิดการวิจัยพัฒนาสารชีวภัณฑ์ หรือวิธีการ
การตามมติและข้อเสนอของกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ทดแทนในการจัดการแมลง วชั พชื และโรคพืช
ศกึ ษาแนวทางการควบคมุ การใชส้ ารเคมใี นภาคเกษตรกรรม 3. มีเกณฑ์ท่ีชัดเจนในการยกเลิกสารเคมีก�ำจัดศัตรู
ของสภาผ้แู ทนราษฎร พชื ท่ีมอี นั ตรายรา้ ยแรง เช่น ประเทศต้นทางยกเลกิ การใช้
ด้วยเหตุผลทางสุขภาพ หรือมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า
ทางออกของไทยในการจดั การสารเคมกี ำ� จดั ก่อผลกระทบในประเทศ โดยต้องพิจารณาควบคุมการ
ศัตรพู ชื ทมี่ ีความเสี่ยงสูง ใช้อย่างเขม้ งวดไปจนถึงยกเลิกการใช้
4. สรา้ งระบบการเฝา้ ระวงั และแจง้ เตอื นสารเคมตี กคา้ ง
ความยืดเยื้อของการยกเลิกสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชที่มี ในอาหารระดบั ประเทศ โดยการมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคสว่ น
ความเสยี่ งสงู ทงั้ 3 ชนดิ สะทอ้ นปญั หาโครงสรา้ งการกำ� กบั และประชาชนทว่ั ไปสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู เพอ่ื ใชใ้ นการจดั การ
ดแู ลสารเคมกี ำ� จดั ศตั รพู ชื อยา่ งชดั เจน และชใี้ หเ้ หน็ วา่ ระบบที่ ปญั หา ซง่ึ ตน้ แบบทน่ี า่ จะเปน็ คอื ระบบ RASFF (Rapid Alert
มอี ยู่ ไมต่ อบโจทยก์ ารคมุ้ ครองสขุ ภาพของประชาชนได้ ดงั นนั้ System for Food and Feed) ของสหภาพยโุ รป ทเ่ี มอ่ื ดา่ น
ทางออกของประเทศไทยในการจดั การสารเคมกี ำ� จดั ศตั รพู ชื ของประเทศไหนพบปัญหาความไม่ปลอดภัย จะกักสินค้า
ทม่ี คี วามเสย่ี งสงู มี 4 เรอ่ื งหลกั ทตี่ อ้ งดำ� เนนิ การ ไดแ้ ก่ เพ่ือส่งกลับหรือท�ำลาย แต่หากสินค้าไปสู่ตลาดแล้วภายใน
1. ให้มีกฎหมายควบคุมสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช 24 ชั่วโมงทุกประเทศสมาชิกจะได้รับแจ้งและแจ้งไปยัง
เปน็ การเฉพาะ แยกออกจาก พ.ร.บ. วตั ถอุ นั ตราย ตามขอ้ ผู้ประกอบการเพื่อน�ำสินค้าล็อตที่พบปัญหาออกจากตลาด
เสนอของคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ19 เนอื่ งจาก ทนั ที และประชาชนทวั่ ไปกส็ ามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู เหลา่ นไ้ี ด้
การควบคมุ การโฆษณา การจำ� หนา่ ย ผใู้ ช้ ผสู้ มั ผสั ของสาร
เคมีเกษตรแตกต่างจากสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมอีก บทส่งท้าย
ท้ังยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง และการควบคุมควรยึด
หลักการระวังไว้ก่อน (Precautionary Principle) การมี ความยืดเย้ือของการยกเลิกสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชที่มี
ส่วนร่วม และโปร่งใส โดยการพิจารณาว่าควรยกเลิกหรือ ความเส่ียงสูงทั้ง 3 ชนิด สะท้อนปัญหาของโครงสร้างการ
อนุญาตให้ใช้สารเคมีเกษตรชนิดใด ต้องดูผลกระทบต่อ กำ� กบั ดแู ลสารเคมกี ำ� จดั ศตั รพู ชื อยา่ งชดั เจน และชใี้ หเ้ หน็ วา่
สุขภาพและสิ่งแวดล้อมเป็นส�ำคัญ และควรให้เป็นอ�ำนาจ ระบบทมี่ อี ยไู่ มต่ อบโจทยก์ ารคมุ้ ครองสขุ ภาพของประชาชน
ของคณะกรรมการที่มีสัดส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยจงึ ควรออกกฎหมายควบคมุ สารเคมกี ำ� จดั ศตั รู
และกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มเปน็ หลกั พืชเป็นการเฉพาะ เก็บภาษีสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืช ก�ำหนด
หลักเกณฑ์ท่ีชัดเจนในการยกเลิกสารเคมีก�ำจัดศัตรูพืชท่ีมี
อนั ตรายรา้ ยแรง และสรา้ งระบบการเฝา้ ระวงั และแจง้ เตอื น
สารเคมีตกค้างในอาหารระดับประเทศ ท่ีส�ำคัญการต่ืนตัว
ของผบู้ รโิ ภคและประชาชนทวั่ ไปคอื ปจั จยั สำ� คญั ทจ่ี ะรว่ มมอื
กันผลกั ดันให้เกิดระบบเกษตรกรรมและอาหารท่เี ปน็ ธรรม
เทา่ เทยี ม อกี ทงั้ คำ� นงึ ถงึ ชวี ติ และสง่ิ แวดลอ้ มเปน็ สำ� คญั

ภาพ : http://news.agropages.com
http://www.dextrainternational.com

3

วิกฤตขยะพลาสติกในทะเล
ปลุกคนไทยลดขยะพลาสติก

ภาพ : https://www.technologychaoban.com

ปัจจุบัน มีสัตว์ทะเลและสัตว์ป่าจำ�นวนมากที่สังเวยชีวิตให้ขยะพลาสติก การพบขยะพลาสติกจำ�นวนหลาย
กิโลกรัมในท้องของกวางป่าที่เสียชีวิตที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ. นครราชสีมา และอุทยานแห่งชาติขุนสถาน
จ. น่าน เมื่อปี 2562 ได้ปลุกคนไทยให้ตระหนักถึงวิกฤตขยะพลาสติก มาตรการงดแจกถุงพลาสติกหูหิ้วของ
ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา นับเป็น
ก้าวสำ�คัญของการลดขยะพลาสติกในประเทศ ก่อนที่จะมีการห้ามใช้พลาสติก 7 ชนิดภายในปี 2564 โดย
จะใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะของรัฐ

พลาสติกเป็นวัสดุที่มหัศจรรย์ ด้วยคุณสมบัติของ ปญั หาขยะพลาสตกิ ทว่ มโลก ปญั หาสุขภาพ
พลาสตกิ ทม่ี นี ำ้� หนกั เบา มคี วามยดื หยนุ่ สงู และราคาถกู ทำ� ให้
มีการใช้พลาสติกในผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ อย่าง การผลติ พลาสตกิ เชงิ อตุ สาหกรรมเกดิ ขน้ึ ตงั้ แตท่ ศวรรษ
แพร่หลาย น�ำมาซ่ึงการใช้พลาสติกท่ีมากเกินความจ�ำเป็น ที่ 1950 และมีการผลิตถุงพลาสติกเป็นครั้งแรกโดยวิศวกร
มีการผลิตพลาสติกแบบใช้แล้วท้ิง (Single-used plastic) ชาวสวีเดน ใน ค.ศ. 19651 หลังจากน้ัน ปริมาณการผลิต
เพ่ิมขึ้นอย่างมากเพ่ือสร้างความสะดวกสบายในการบริโภค พลาสติกก็เพิ่มสูงข้ึนอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องมาโดยตลอด
ของมนุษย์ แต่ข้อเสียของพลาสติก คือ มันไม่ย่อยสลาย ไม่นอ้ ยกว่า 8,300 ล้านตนั (เทยี บเท่าน�้ำหนักของชา้ ง 1 พนั
เมอื่ ผนวกกบั พฤตกิ รรมการใชค้ รงั้ เดยี วทง้ิ ของมนษุ ยจ์ งึ กอ่ ให้ ล้านเชอื ก) มกี ารประเมนิ ว่าทกุ ๆ 1 นาที ทัว่ โลกมกี ารใชถ้ ุง
เกิดปัญหาส่ิงแวดล้อมท้ังบนบกและในทะเล จนท่ัวโลกต้อง พลาสตกิ 1-2 ลา้ นใบ และมกี ารใชข้ วดพลาสตกิ 1 ลา้ นขวด2
เร่งรีบออกมาตรการเพ่ือลดการผลิตและใช้พลาสติกแบบ มีสถิติระบุว่า มีการใช้หลอดพลาสติกในสหรัฐอเมริกาสูงถึง
ใช้ครั้งเดียวทิ้งและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะของ 500 ลา้ นหลอดตอ่ วนั เลยทเี ดยี ว3 หากยงั ปลอ่ ยใหม้ กี ารผลติ
ภาครัฐ บทความน้ีเป็นการน�ำเสนอสถานการณ์ปัญหาขยะ พลาสติกไปเรื่อย ๆ คาดว่าภายใน ค.ศ. 2050 โลกจะมีขยะ
พลาสตกิ และความพยายามในการแกป้ ญั หาของประเทศไทย พลาสตกิ มากถงึ 12,000 ลา้ นตัน4

4710 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

ภาพ : https://www.chiangmainews.co.th

พลาสติกช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับมนุษย์จน สายพันธุ์ได้รับผลกระทบจากขยะพลาสติกในทะเล9 แม้ว่า
หลงลืมคณุ สมบตั ิอีกอย่างของพลาสตกิ คอื มันไมย่ อ่ ยสลาย พลาสตกิ จะไมย่ อ่ ยสลาย แตม่ นั สามารถแตกตวั เปน็ ชน้ิ เลก็ ๆ
ทางธรรมชาติ ถุงพลาสติกและหลอดพลาสติกที่ถูกใช้งาน ที่เรียกว่า “ไมโครพลาสติก” ขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร
เพียง 10 นาที อาจอยูก่ บั โลกไปหลายรอ้ ยปี แมพ้ ลาสติกจะ ไปจนถงึ ระดบั นาโนเมตร ตกคา้ งในสง่ิ แวดลอ้ มและเขา้ สหู่ ว่ งโซ่
มีคุณสมบัติด้านการใช้งานที่เป็นเลิศ แต่เม่ือกลายเป็นขยะ อาหารของมนุษย์ นักวิทยาศาสตร์ได้รายงานการพบไมโคร
กลับไม่สามารถน�ำกลับมารีไซเคิลได้เท่าท่ีควร นักวิจัย พลาสติกในทุกสภาพแวดล้อม ต้ังแต่ในน�้ำทะเล หาดทราย
ประเมินว่า มีพลาสติกเพียงร้อยละ 9 เท่านั้นท่ีถูกน�ำกลับ ดนิ โคลน ใตม้ หาสมทุ รทล่ี กึ ทส่ี ดุ รวมถงึ นำ�้ แขง็ ในเขตขวั้ โลก10
มารีไซเคิล ร้อยละ 12 ถูกก�ำจัดโดยเตาเผา และส่วนใหญ่ ด้วยความท่ีไมโครพลาสติกมีขนาดอนุภาคเล็ก เบา
(ร้อยละ 79) ถูกก�ำจัดโดยการฝังกลบหรือตกค้างใน และลอยน้�ำได้จึงแพร่กระจายไปตามกระแสน�้ำได้โดยง่าย
สิ่งแวดล้อม5 ทีมนักวิจัย น�ำโดย Jenna Jambeck และสามารถหลุดรอดจากกระบวนการบ�ำบัดน�้ำไปยังแหล่ง
ได้ประเมินปริมาณขยะพลาสติกจากประเทศต่าง ๆ ที่ไหล น้�ำธรรมชาติหรือน�้ำประปาเพ่ือการบริโภคได้ นอกจากน้ี
สู่ทะเล พบว่า ในปี 2553 มีขยะพลาสติกประมาณ 5–13 ยังเป็นสารตกค้างในสิ่งแวดล้อม สะสมในห่วงโซ่อาหาร
ล้านตัน ได้ถูกพัดพาลงสูท่ ะเล เทยี บเทา่ กบั รถบรรทกุ 1 คนั เน่ืองจากอนุภาคไมโครพลาสติกสามารถดูดซับมลสารชนิด
ขนพลาสติกลงทะเลทุก ๆ นาที6 มีการคาดการณว์ า่ มขี ยะ อ่ืนท่ีปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้�ำได้ อาทิ โลหะหนัก สารมลพิษ
พลาสตกิ กระจายอยใู่ นมหาสมทุ รทว่ั โลกประมาณ 300 ลา้ นตนั ที่ตกค้างยาวนานในส่ิงแวดล้อม (Persistent organic
รวมถึงพลาสติกช้ินเล็ก ๆ กว่า 5 ล้านล้านช้ิน หนักรวมกัน pollutants: POPs) เป็นต้น ดังน้ันการรวมตัวกันของ
กวา่ 250,000 ตนั ที่ลอยอยู่บนผวิ น้ำ� 7 อนุภาคไมโครพลาสติกและมลสารที่มีความเป็นพิษก่อให้
ขยะพลาสติกท่ีตกค้างในสภาพแวดล้อมได้ส่งผล เกดิ ความเสยี่ งตอ่ สขุ ภาพอนามยั รบกวนระบบฮอรโ์ มน การ
กระทบต่อระบบนิเวศ สัตว์ทะเล สัตว์บกและมนุษย์อย่าง เปลย่ี นแปลงของยนี และระบบพนั ธกุ รรม รวมไปถงึ ศกั ยภาพ
มหาศาล เม่ือขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเลมากข้ึนเร่ือย ๆ ในการก่อใหเ้ กดิ โรคมะเร็ง เป็นตน้ 11
ท�ำให้เกิดปัญหาการสะสมของขยะทะเล จนกลายเป็น ปัญหาขยะพลาสติกในทะเลได้กลายเป็นระเบียบวาระ
มลพิษขยะพลาสติก ส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลและปะการัง เร่งด่วนของประชาคมโลก โครงการส่ิงแวดล้อมแห่ง
นกั วทิ ยาศาสตรค์ าดการณว์ า่ ในแตล่ ะปี มนี กทะเล 1 ลา้ นตวั สหประชาชาติ (United Nations Environment
ตายจากการกลืนกินพลาสติก8 สัตว์ทะเลประมาณ 700 Programme: UNEP) ประกาศให้ปี 2561 เป็นปีแห่งการ

48 สุขภาพคนไทย 2563


Click to View FlipBook Version