The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก65 pdf

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jeeraporn.boo, 2022-05-12 04:28:11

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก65 pdf

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก65 pdf

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

หลกั สูตรสถานศึกษา
โรงเรียนสนวนโคกเม็ก

พุทธศกั ราช ๒๕๖๕

ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑

สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาสรุ นิ ทร์ เขต 2
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน

กระทรวงศึกษาธกิ าร

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

ประกาศโรงเรยี นสนวนโคกเมก็
เรอ่ื ง ใหใ้ ชห้ ลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก พทุ ธศักราช ๒๕๖๕

ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑
---------------------------------------------------------

โรงเรียนสนวนโคกเม็ก สังกัดสานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาสรุ นิ ทร์ เขต ๒ ได้ดาเนนิ การ
พฒั นาหลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก พทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั
พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และเอกสารประกอบหลกั สูตรขึน้ เพ่อื กาหนดใช้เป็นกรอบและทิศทางในการ
จดั การเรียนการสอนของโรงเรียนสนวนโคกเม็ก

โดยโรงเรียนได้จัดทาและพัฒนาหลักสูตรตามแนวคิดหลักสูตรอิงมาตรฐาน คือ กาหนดมาตรฐาน
การเรยี นร้เู ปน็ เป้าหมายในการพัฒนาผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมคี ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ทกี่ าหนดใน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน มุ่งพัฒนาผเู้ รยี นทกุ คนให้มีความสมดุลทั้งดา้ นรา่ งกาย ความรู้
คณุ ธรรม มจี ติ สานึกในความเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่นั ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมี
พระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ มคี วามร้แู ละทกั ษะพนื้ ฐาน รวมทัง้ เจตคตทิ ่ีจาเปน็ ต่อการศึกษาตอ่ การ
ประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชวี ติ โดยม่งุ เน้นผูเ้ รียนเปน็ สาคญั บนพนื้ ฐานความเช่ือว่า ทกุ คนสามารถ
เรียนรแู้ ละพัฒนาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ

ทัง้ น้ี หลักสูตรโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
เมอ่ื วนั ที่ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงประกาศใหใ้ ชห้ ลักสตู รโรงเรียนต้ังแต่บดั นเี้ ป็นต้นไป

ประกาศ ณ วนั ที่ เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕

ลงช่ือ. ลงชอ่ื
(นายจกั รพันธ์ แสงแก้ว) (นางกุลยา ลอดสุโข)

ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ผ้อู านวยการโรงเรยี นสนวนโคกเมก็
โรงเรยี นสนวนโคกเม็ก
หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

คานา

กระทรวงศึกษาธิการไดป้ ระกาศใช้มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตวั ชว้ี ดั กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ และสาระภมู ิศาสตร์ในกลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ฉบบั ปรบั ปรงุ
พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาสง่ั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ท่ี สพฐ.๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวันท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๐ และคาส่งั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน ที่
๓๐/๒๕๖๑ ลงวนั ที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้เปลย่ี นแปลงมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัด กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
คณติ ศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) โดยมีคาส่งั ให้โรงเรียนดาเนินการใชห้ ลักสตู รใน
ปีการศกึ ษา ๒๕๖๑ โดยใหใ้ ชใ้ นช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑ และ ๔ ต้ังแตป่ ีการศกึ ษา ๒๕๖๑ เปน็ ต้นมา ให้เป็น
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรยี นรู้เปน็ เป้าหมายและกรอบทศิ ทาง
ในการพฒั นาคุณภาพผู้เรียนมพี ฒั นาการเต็มตามศกั ยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรยี นรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑
เพ่ือให้สอดคล้องกบั นโยบายและเป้าหมายของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน

โรงเรียนสนวนโคกเม็ก จงึ ไดท้ าการปรบั ปรุงหลักสูตรสถานศกึ ษา พุทธศักราช ๒๕๖๕ ในกลุ่มสาระ
การเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมศิ าสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรูส้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและ
วฒั นธรรม ใชใ้ นทุกระดับชนั้ เพ่อื นาไปใชป้ ระโยชน์และเปน็ กรอบในการวางแผนและพฒั นาหลักสตู รของ
สถานศกึ ษาและจัดการเรียนการสอน อีกทั้งในปีการศึกษา ๒๕๖๕ โรงเรยี นสนวนโคกเม็ก ได้จดั การเรียนการ
สอนโดยเนน้ ใหผ้ ู้เรยี น เกดิ ความรู้ มีคุณธรรมและเสรมิ สร้างทักษะอาชพี โดยมีเปา้ หมายในการพัฒนาคุณภาพ
ผ้เู รยี น ใหม้ ีกระบวนการนาหลักสูตรไป สกู่ ารปฏิบัติ โดยมีการกาหนดวิสยั ทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญ
ของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ มาตรฐานการเรยี นร้แู ละตัวช้ีวดั โครงสร้างเวลาเรยี น ตลอดจนเกณฑ์
การวัดประเมินผล ใหม้ ีความสอดคล้องกบั มาตรฐานการเรียนรู้ เปิดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทาง
ในการจัดทาหลกั สตู รการเรยี นการสอนในแต่ละระดับตามความพร้อมและจุดเนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเปน็
แนวทางทีช่ ัดเจนเพอื่ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการก้าวส่สู ังคมคุณภาพ มคี วามรู้
อย่างแท้จริง และมที กั ษะในศตวรรษที่ ๒๑

การจดั หลกั สูตรการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายที่คาดหวังได้ ทุกฝ่าย
ท่เี กี่ยวข้องท้งั ระดับชาติ ชมุ ชน ครอบครัว และบคุ คลต้องร่วมรบั ผดิ ชอบ โดยรว่ มกันทางานอย่างเปน็ ระบบ
และต่อเน่อื ง ในการวางแผน ดาเนนิ การ ส่งเสริมสนบั สนนุ ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไข เพ่อื พฒั นา
เยาวชนของชาติไปสู่คณุ ภาพตามมาตรฐานการเรยี นร้ทู ่กี าหนดไว้

งานวิชาการ
โรงเรยี นสนวนโคกเมก็

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

สารบญั หน้า

เรอื่ ง ๑
ประกาศโรงเรยี น ๑
คานา 2
ความนา 3
วิสยั ทศั น์ 4
สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 11
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 12
โครงสร้างเวลาเรยี น 19
คาอธบิ ายรายวิชา 2๗
3๘
กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาไทย 68
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ 76
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 83
กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 95
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (ประวัติศาสตร)์ 102
กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา 144
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ 109
กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี 1๒๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ 1๓๐
คาอธิบายรายวิชา (เพิม่ เตมิ ) ระดับชน้ั ประถมศกึ ษา 1๓๙
วชิ า หน้าท่พี ลเมือง 14๒
กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน
คาอธบิ ายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น
คาอธบิ ายรายวิชากิจกรรมชมุ นมุ
เกณฑ์การจบการศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑



ความนา

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เป็นแผนหรอื แนวทาง หรือข้อกาหนดของการจัดการศกึ ษาของ
โรงเรียนสนวนโคกเมก็ ทจี่ ะใช้ในการจัดการเรยี นการสอนเพ่ือพัฒนาผู้เรียนใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานที่
กาหนดมุ่งพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ป็นคนดี มีปัญญา มีความสขุ มีศักยภาพในการศกึ ษาตอ่ และประกอบอาชพี ที่
สจุ ริต ตลอดจนการรู้จักอนรุ ักษ์วัฒนธรรม ประเพณที อ้ งถน่ิ โดยม่งุ หวังให้มคี วามสมบรู ณ์ทงั้ ดา้ นรา่ งกาย
จติ ใจ และสตปิ ญั ญา อีกทั้งมีความรู้และทกั ษะท่ีจาเปน็ สาหรบั การดารงชีวติ และมีคุณภาพได้
มาตรฐานสากลเพ่อื การแขง่ ขนั ในยุคปัจจบุ นั ดังน้นั หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็
พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ จงึ ประกอบดว้ ย
สาระสาคัญของหลกั สูตรแกนกลาง สาระความร้ทู ี่เกีย่ วขอ้ งกบั ชุมชนท้องถิ่น และสาระสาคญั ท่โี รงเรียน
พัฒนาเพ่ิมเตมิ โดยจดั เป็นสาระการเรียนรรู้ ายวชิ าพื้นฐานตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ดั และสาระ
การเรียนรู้เพ่มิ เติม จัดกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียนเปน็ รายปใี นระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศกึ ษาตอนต้น
กาหนดคณุ ลักษณะอันพึงประสงคข์ องโรงเรียนสนวนโคกเม็ก ตามหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคก
เม็ก พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

วสิ ัยทัศน์(Vision)

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ พุทธศกั ราช 256๕ จดั การศึกษาอยา่ งมีคุณภาพ
มาตรฐาน มคี ุณธรรมนาวิชาการ บริหารจัดการแบบมสี ว่ นรว่ ม ยึดหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง”

พนั ธกจิ (Mission)

1 . พฒั นาผเู้ รียนให้มีคณุ ภาพตามเกณฑม์ าตรฐาน มีคุณธรรม รักษาประเพณีท้องถิน่ อนุรักษ์
สง่ิ แวดลอ้ ม ดาเนินชวี ติ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

2. ส่งเสริม สนบั สนนุ พัฒนาศกั ยภาพครูบคุ ลากร ใหม้ ีความรู้ความสามารถ ด้านเทคนคิ การ
จัดการเรยี นการสอน ท่ีหลากหลาย

3 . สง่ เสรมิ การใช้นวตั กรรมและเทคโนโลยใี นการเรยี นการสอน และการบรหิ ารจดั การ บน
พ้ืนฐานของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

4. สง่ เสรมิ และประสานความรว่ มมอื จากหน่วยงานตน้ สงั กัด กบั ชมุ ชนและองคก์ รต่างๆ ให้มีส่วน
ร่วมในการพฒั นาการศกึ ษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑



เป้าประสงค์ (Goal)

1. ผูเ้ รยี นระดบั ก่อนประถมศกึ ษาและระดับการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐานทุกคน มพี ัฒนาการเหมาะสม
ตามวยั และมคี ุณภาพ

2. ประชากรวยั เรยี นทุกคนไดร้ บั โอกาสในการศึกษาขนั้ พน้ื ฐานอยา่ งทวั่ ถึง มีคุณภาพ
และเสมอภาค

3. ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา มสี มรรถนะตรงตามสายงาน และมวี ัฒนธรรมการทางานที่
มุง่ เนน้ ผลสมั ฤทธิ์

4. สถานศึกษามีประสิทธิภาพ และเป็นกลไกขบั เคล่อื นการศึกษาขน้ั พ้นื ฐานสู่คณุ ภาพตาม
มาตรฐานการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน

5. สถานศกึ ษาเน้นการทางานแบบบูรณาการ มีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมจากชุมชน
และองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลกั สตู ร พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้
พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ มุ่งเนน้ พฒั นาผ้เู รยี นใหม้ ีคณุ ภาพตามมาตรฐานที่กาหนด ซงึ่ จะช่วยให้ผู้เรยี น
เกดิ สมรรถนะสาคญั และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั นี้

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

หลกั สูตร โรงเรียนสนวนโคกเมก็ พุทธศักราช ๒๕๖๕ มุ่งใหผ้ ูเ้ รียนเกดิ สมรรถนะสาคญั ๕
ประการ ดังน้ี

๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร เป็นความสามารถในการรบั และส่งสาร มวี ฒั นธรรม
ในการใช้ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง เพ่ือแลกเปลี่ยน
ข้อมูลข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจา
ต่อรองเพือ่ ขจัดและลดปัญหาความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ การเลือกรับหรือไมร่ บั ข้อมลู ข่าวสารด้วยหลกั เหตผุ ลและ
ความถูกต้อง ตลอดจนการเลือกใช้วิธีการส่ือสารท่ีมีประสิทธิภาพ โดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเอง
และสังคม

๒. ความสามารถในการคิด เปน็ ความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสงั เคราะห์
การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองค์
ความรู้ หรอื สารสนเทศเพอื่ การตดั สนิ ใจเก่ยี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
ท่ีเผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจ
ความสมั พนั ธ์และการเปลีย่ นแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์ความร้มู าใช้ใน
การป้องกันและแก้ไขปัญหา และมีการตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ โดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อ
ตนเอง สงั คม และสงิ่ แวดล้อม

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑


๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เปน็ ความสามารถในการนากระบวนการตา่ ง ๆ
ไปใช้ในการดาเนนิ ชีวติ ประจาวัน การเรียนรูด้ ้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนื่อง การทางาน และการอยู่
รว่ มกนั ในสังคมดว้ ยการสร้างเสรมิ ความสัมพนั ธอ์ นั ดรี ะหว่างบุคคล การจดั การปญั หาและความขัดแย้งต่าง
ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จัก
หลกี เล่ียงพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงค์ทีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใชเ้ ทคโนโลยีด้านตา่ ง
ๆ และมที ักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่อื การพัฒนาตนเองและสังคมในด้าน การเรยี นรู้ การ
ส่อื สาร การทางาน การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถูกต้อง เหมาะสม และมีคุณธรรม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

หลักสูตรสถานศึกษา มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับ
ผู้อื่นในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ในฐานะเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก ดังน้ี

๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. มงุ่ มนั่ ในการทางาน
๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑



โครงสรา้ งเวลาเรียนระดบั ประถมศกึ ษา

โครงสรา้ งเวลาเรียน
หลักสูตรโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ กาหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรยี น ดงั นี้

กลุม่ สาระการเรยี นร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรียน
ระดบั ประถมศกึ ษา
 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ป. ๑ ป. ๒ ป. ๓ ป. ๔ ป. ๕ ป. ๖
ภาษาไทย
คณติ ศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐
สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม 40 40 40 ๘๐ ๘๐ ๘๐
40 40 40 80 80 80

ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ศลิ ปะ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

การงานอาชพี ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐

ภาษาตา่ งประเทศ 200 200 200 ๘๐ ๘๐ ๘๐

รวมเวลาเรยี น (พน้ื ฐาน) ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐

รายวิชาเพมิ่ เตมิ

หนา้ ทพี่ ลเมือง 40 ๘๐ ๘๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

การปอ้ งกนั การทุจรติ **

รวมเวลาเรยี น (เพมิ่ เติม) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

 รวมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน

 กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

 กิจกรรมนกั เรียน

- ลกู เสอื -เนตรนารี 40 ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐

- ชุมนุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/ 30 ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
เศรษฐกิจพอเพียง/อ่นื ๆ

 กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐

รวมเวลากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 120 120 120 120 120 120

รวมเวลาเรียนทง้ั หมด 1,0๐๐ ช่ัวโมง/ปี 1,0๐0 ชั่วโมง/ปี

หมายเหตุ รายวชิ าการป้องกนั การทจุ รติ บูรณาการการเรียนรูใ้ นรายวิชาในกลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

(วดั ผลรวมในรายวชิ าน้ันๆ)

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑



ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั น้ี

รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพ้ืนฐาน ๘๔๐
ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐
ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40
ส ๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม 40
ส ๑๑๑๐๒ ประวัติศาสตร์ ๔๐
พ ๑๑๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ ๑๑๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๑๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
อ ๑๑๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ 200
รายวิชาเพิม่ เติม 40
ส ๑๑231 หน้าที่พลเมอื ง 40
การป้องกันการทุจรติ *
 รวมกจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รยี น ๑๒๐
กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
 กิจกรรมนกั เรียน
- ลูกเสือ-เนตรนารี ๔๐
- ชมุ นุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกจิ พอเพยี ง/อน่ื ๆ ๓๐
 กจิ กรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐

รวมเวลาเรียนท้งั สิ้น ๑,๐00

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑



ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒

หลกั สตู รโรงเรียนสนวนโคกเม็ก กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดังน้ี

รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน (ชม./ป)ี
รายวิชาพื้นฐาน ๘๔๐
ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐
ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 40
ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 40
ส ๑๒๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๒๑๐๑ สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ๔๐
ศ ๑๒๑๐๑ ศิลปะ ๔๐
ง ๑๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๔๐
อ ๑๒๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ 200
รายวชิ าเพมิ่ เตมิ 40
ส ๑๑232 หนา้ ทพ่ี ลเมือง 40

การปอ้ งกันการทจุ รติ * ๑๒๐
 รวมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น ๔๐

 กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
 กจิ กรรมนักเรยี น ๓๐
- ลกู เสือ-เนตรนารี ๑๐
- ชมุ นมุ ตามความสนใจ/ลดเวลาเรียน/เศรษฐกจิ พอเพยี ง/อนื่ ๆ
 กจิ กรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมเวลาเรยี นท้งั สิน้ ๑,๐00

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑



ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓

หลักสตู รโรงเรียนสนวนโคกเม็ก กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดังนี้

รายวิชา/กจิ กรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพื้นฐาน ๘๔๐
ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย ๒๐๐
ค ๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๒๐๐
ว ๑๓๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 40
ส ๑๓๑๐๑ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม 40
ส ๑๓๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐
พ ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐
ศ ๑๓๑๐๑ ศลิ ปะ ๔๐
ง ๑๓๑๐๑ การงานอาชพี ๔๐
อ ๑๓๑๐๑ ภาษาอังกฤษ 200
รายวิชาเพ่ิมเติม 40
ส ๑๑233 หน้าทีพ่ ลเมอื ง 40

การปอ้ งกันการทจุ รติ * ๑๒๐
 รวมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ๔๐

 กิจกรรมแนะแนว ๔๐
 กจิ กรรมนกั เรยี น ๓๐
- ลูกเสือ-เนตรนารี ๑๐
- ชุมนุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกิจพอเพียง/อน่ื ๆ
 กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์

รวมเวลาเรยี นทัง้ สิน้ ๑,๐00

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑



ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔

หลักสูตรโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก กาหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดงั นี้

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวิชาพน้ื ฐาน ๘๔๐
ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๔๑๐๑ คณิตศาสตร์ ๑๖๐
ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
ส ๑๔๑๐๑ สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส ๑๔๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ ๔๐
พ ๑๔๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา ๘๐
ศ ๑๔๑๐๑ ศิลปะ ๘๐
ง ๑๔๑๐๑ การงานอาชพี ๘๐
อ ๑๔๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๘๐
รายวิชาเพิ่มเตมิ ๔0
ส ๑๑234 หนา้ ท่พี ลเมอื ง ๔๐

การปอ้ งกนั การทุจรติ * ๑๒๐
 รวมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๔๐

 กิจกรรมแนะแนว ๔๐
 กจิ กรรมนักเรยี น ๓๐
- ลกู เสือ-เนตรนารี ๑๐
- ชมุ นมุ ตามความสนใจ/ลดเวลาเรียน/เศรษฐกิจพอเพียง/อน่ื ๆ
 กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมเวลาเรยี นท้งั สิน้ ๑,๐0๐

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑



ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๕

หลกั สูตรโรงเรียนสนวนโคกเมก็ กาหนดกรอบโครงสรา้ งเวลาเรียน ดงั นี้

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพ้นื ฐาน ๘๔๐
ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว ๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
ส ๑๕๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส ๑๕๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๕๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐
ศ ๑๕๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐
ง ๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ ๘๐
อ ๑๕๑๐๑ ภาษาต่างประเทศ ๘๐
รายวชิ าเพิม่ เตมิ 40
ส ๑๑235 หน้าที่พลเมือง ๔๐

การปอ้ งกนั การทจุ ริต* ๑๒๐
 รวมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๔๐

 กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
 กจิ กรรมนักเรียน ๓๐
- ลูกเสือ-เนตรนารี ๑๐
- ชมุ นุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรยี น/เศรษฐกิจพอเพียง/อน่ื ๆ
 กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมเวลาเรยี นทง้ั สนิ้ ๑,๐0๐

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๐

ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖

หลกั สตู รโรงเรียนสนวนโคกเม็ก กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั น้ี

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น (ชม./ป)ี
รายวชิ าพนื้ ฐาน ๘๔๐
ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย ๑๖๐
ค ๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๑๖๐
ว ๑๖๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๘๐
ส ๑๖๑๐๑ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐
ส ๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ ๔๐
พ ๑๖๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา ๘๐
ศ ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ ๘๐
ง ๑๖๑๐๑ การงานอาชพี ๘๐
อ ๑๖๑๐๑ ภาษาตา่ งประเทศ ๘๐
รายวชิ าเพ่ิมเติม 40
ส ๑๑236 หน้าทพ่ี ลเมอื ง ๔๐

การป้องกันการทุจริต* ๑๒๐
 รวมกจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ๔๐

 กจิ กรรมแนะแนว ๔๐
 กจิ กรรมนกั เรียน ๓๐
- ลกู เสอื -เนตรนารี ๑๐
- ชุมนุมตามความสนใจ/ลดเวลาเรียน/เศรษฐกิจพอเพยี ง/อน่ื ๆ
 กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์

รวมเวลาเรยี นทงั้ สน้ิ ๑,๐0๐

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑

คาอธิบายรายวิชา
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒

คาอธิบายรายวชิ า

รหสั วชิ า ท ๑๑๑๐๑ ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความส้ันๆ บอกความหมายของคาและข้อความ ตอบ

คาถาม เล่าเร่อื งย่อ คาดคะเนเหตุการณ์ เลอื กอา่ นหนังสือตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอ นาเสนอเรื่องท่ี

อา่ น บอกความหมายของเครอื่ งหมายหรือสญั ลักษณ์สาคัญทม่ี กั พบเห็นในชีวิตประจาวัน มมี ารยาทในการ

อา่ น ฝกึ คัดลายมือดว้ ยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขยี นส่ือสารดว้ ยคาและประโยคง่ายๆ มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทกั ษะในการฟัง ฟังคาแนะนา คาสั่งงา่ ยๆและปฏิบตั ิตาม ตอบคาถาม เลา่ เร่อื ง พูดแสดงความ

คิดเห็นและความร้สู ึกจากเรอื่ งที่ฟังและดู พูดส่ือสารได้ตามวตั ถุประสงค์ เน้นมารยาทในการฟัง การดูและ

การพดู

ฝึกทักษะการเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของ

คา เรยี บเรยี งคาเป็นประโยคง่ายๆ ต่อคาคลอ้ งจองง่ายๆ

บอกขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากการอา่ นหรอื การฟังวรรณกรรมร้อยแกว้ และร้อยกรองสาหรับเด็ก ฝึกท่องจาบท

อาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน

กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ การฝึกปฏบิ ตั ิ อธิบาย บนั ทึก การตง้ั คาถาม

ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบ

ยอด

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเขา้ ใจ สอื่ สารไดถ้ ูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยุกตใ์ ชก้ บั ชีวติ ประจาวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔

ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒

รวมทั้งหมด ๒๒ ตัวชี้วัด

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหัสวิชา ท ๑๒๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง ขอ้ ความ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ อธบิ ายความหมายของคา

และขอ้ ความท่ีอา่ น ต้ังคาถาม ตอบคาถาม ระบุใจความสาคัญและรายละเอียด แสดงความคิดเหน็ และ

คาดคะเนเหตุการณ์ เลอื กอา่ นหนังสอื ตามความสนใจอยา่ งสมา่ เสมอและนาเสนอเรอ่ื งทอ่ี ่าน อา่ นข้อเขยี น

เชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคาสง่ั หรือข้อแนะนา มมี ารยาทในการอา่ น

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเรื่องสั้นๆ เก่ียวกับประสบการณ์ เขียนเรื่องส้ันๆ

ตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทักษะการฟัง ฟังคาแนะนา คาส่ังที่ซับซ้อนและปฏิบัติตาม เล่าเร่ือง บอกสาระสาคัญของ

เร่ือง ตั้งคาถาม ตอบคาถาม พดู แสดงความคดิ เห็น ความรสู้ ึก พดู ส่อื สารไดช้ ัดเจนตรงตามวตั ถุประสงค์

มีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู

ฝึกทกั ษะการเขยี นพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนสะกดคาและบอกความหมาย

ของคา เรียบเรียงคาเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสื่อสาร บอกลักษณะคาคล้องจอง เลือกใช้

ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิน่ ไดเ้ หมาะสมกับกาลเทศะ

ฝึกจบั ใจความสาคญั จากเรือ่ ง ระบุขอ้ คิดท่ไี ดจ้ ากการอ่านหรือการฟงั วรรณกรรมสาหรบั เดก็ เพ่ือ

นาไปใช้ในชีวิตประจาวัน ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบท

ร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหา

ความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ วิเคราะห์ กระบวนการสอ่ื ความ กระบวนการแกป้ ัญหา การ

ฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดง

ความคิดเห็น กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพอ่ื ใหเ้ กิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถกู ตอ้ ง รกั การเรยี นภาษาไทย เห็นคณุ คา่ ของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ชีวติ ประจาวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด

ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕ ป.๒/๖, ป.๒/๗

ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓

รวมท้งั หมด ๒๗ ตัวชี้วัด

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๔

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ท ๑๓๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา ๒๐๐ ชัว่ โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียงคา ข้อความ เรือ่ งส้นั ๆ และบทรอ้ ยกรองง่ายๆ อธิบายความหมายของคาและ

ข้อความท่ีอ่าน ต้ังคาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้

ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน เพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอ่านหนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและ

นาเสนอเร่ืองท่ีอ่าน อ่านข้อเขียนเชิงอธิบาย และปฏิบัติตามคาสั่งหรือข้อแนะนา อธิบายความหมายของ

ข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภมู ิ มมี ารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย เขียนบันทึกประจาวัน เขียนเรื่องตาม

จินตนาการ มีมารยาทในการเขยี น

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด เล่ารายละเอียด บอกสาระสาคัญ ต้ังคาถาม ตอบคาถาม

พูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดส่ือสารได้ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ มีมารยาทในการฟัง การดู

และการพดู

ฝึกเขียนตามหลักการเขียน เขียนสะกดคาและบอกความหมายของคา ระบุชนิด หน้าท่ีของคา

ใช้พจนานกุ รมคน้ หาความหมายของคา แต่งประโยคงา่ ยๆ แต่งคาคล้องจองและคาขวัญ เลอื กใช้ภาษาไทย

มาตรฐานและภาษาถิ่นได้เหมาะสมกบั กาลเทศะ

ระบุข้อคิดที่ได้จากการอ่านวรรณกรรม เพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน รู้จักเพลงพื้นบ้าน เพลง

กล่อมเด็ก เพ่ือปลูกฝังความชื่นชมวัฒนธรรมท้องถิ่น แสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับวรรณคดีที่อ่าน ท่องจา

บทอาขยานตามที่กาหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการ

เขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการสื่อความ

กระบวนการแกป้ ญั หา การฝกึ ปฏบิ ตั ิ อธิบาย บันทกึ การตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟงั การดูและ

การพดู พดู แสดงความคดิ เหน็ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เหน็ คณุ ค่าของ

การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙
ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔

รวมทง้ั หมด ๓๑ ตัวชี้วัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕

คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วิชา ท ๑๔๑๐๑ ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและสานวน

จากเรื่องท่ีอ่าน อ่านเรื่องส้ัน ๆ ตามเวลาท่ีกาหนดและตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน แยกข้อเท็จจริงและ

ข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องท่ีอ่าน โดยระบุเหตุผลประกอบ สรุปความรู้และ

ข้อคิดจากเร่ืองท่ีอ่าน เพ่ือนาไปใช้ในชีวิตประจาวัน เลือกอ่านหนังสือที่มีคุณค่าตามความสนใจอย่าง

สม่าเสมอและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทอ่ี ่าน มีมารยาทในการอ่าน ฝึกคดั ลายมือดว้ ยตัวบรรจงเต็ม

บรรทดั และคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสารโดยใชค้ าไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจนและเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเรื่องและ

แผนภาพความคิดเพื่อใช้พัฒนางานเขยี น เขียนย่อความจากเรื่องสน้ั ๆ เขียนจดหมายถงึ เพื่อนและมารดา

เขยี นบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้ เขยี นเร่ืองตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขียน

ฝึกทกั ษะการฟงั การดูและการพูด จาแนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คดิ เห็นเร่อื งท่ฟี ังและดู พูดสรปุ จาก

การฟังและดู พูดแสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรู้สกึ เกีย่ วกับเร่อื งที่ฟังและดู ตั้งคาถามและตอบ

คาถามเชิงเหตุผลจากเรอื่ งทฟ่ี งั และดู พูดรายงานเรือ่ งหรือประเด็นท่ศี กึ ษาค้นควา้ จากการฟัง การดูและการ

สนทนา มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพดู ฝกึ เขียนตามหลกั การเขยี น เขยี นสะกดคาและบอก

ความหมายของคาในบริบทต่าง ๆ ระบชุ นดิ และหนา้ ท่ีของคาในประโยค ใชพ้ จนานุกรมค้นหาความหมาย

ของคา แตง่ ประโยคได้ถูกตอ้ งตามหลกั ภาษา แตง่ บทร้อยกรองและคาขวัญ บอกความหมายของสานวน

เปรียบเทยี บภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นได้

ระบุข้อคิดจากนิทานพ้ืนบ้านหรือนิทานคติธรรมอธบิ ายข้อคิดจากการอา่ นเพ่ือนาไปใช้ในชีวติ จริง

ร้องเพลงพื้นบ้านท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้

กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิด

วิเคราะหแ์ ละสรุปความ กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการสอ่ื ความกระบวนการแก้ปัญหา

การฝึกปฏิบัติอธิบาย บันทึกการต้ังคาถา ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูดพูดแสดงความ

คดิ เห็นกระบวนการสร้างความคิดรวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ส่ือสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่า

ของการอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของ

เศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กับชวี ิตประจาวันได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔

รวมทง้ั หมด ๓๓ ตัวชี้วดั

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๖

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหัสวิชา ท ๑๕๑๐๑ ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและข้อความ

ที่เป็นการบรรยายและการพรรณนา อธิบายความหมายโดยนัย แยกข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น วิเคราะห์

แสดงความคิดเห็น อ่านงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง ข้อแนะนา และปฏิบัติตาม เลือกอ่านหนังสือท่ีมี

คุณค่าตามความสนใจ มมี ารยาทในการอา่ น

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนสื่อสาร เขียนแผนภาพโครงเรื่อง

แผนภาพความคิด เขียนย่อความ เขียนจดหมายถึงผู้ปกครองและญาติ เขียนแสดงความรู้สึกและความ

คิดเห็น กรอกแบบรายการตา่ ง ๆ เขียนเร่ืองตามจินตนาการ มีมารยาทในการเขยี น

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความคิดเห็นและความรู้สึก ต้ังคาถาม

ตอบคาถาม วเิ คราะหค์ วาม พดู รายงาน มีมารยาทในการฟงั การดูและการพูด

ระบุชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยค จาแนกส่วนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทย

มาตรฐานและภาษาถนิ่ ใช้คาราชาศพั ท์ บอกคาภาษาตา่ งประเทศในภาษาไทย แต่งบท

ร้อยกรอง ใช้สานวนไดถ้ กู ต้อง

สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่าน ระบุความรู้ ข้อคิดจากการอ่านวรรณคดีและ

วรรณกรรมท่ีสามารถนาไปใช้ในชีวติ จรงิ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรม ท่องจาบทอาขยาน

ตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน

กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดวเิ คราะห์และสรุปความ กระบวนการคิด

อย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การ

ตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความคิดเห็น กระบวนการสร้าง

ความคิดรวบยอด

เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สื่อสารได้ถูกต้อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณค่า

ของการอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้วิธีการของ

เศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกตใ์ ช้กับชีวติ ประจาวันได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด

ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙
ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕

ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔

รวมทง้ั หมด ๓๓ ตัวชี้วัด

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๗

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหสั วิชา ท ๑๖๑๐๑ ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ช่ัวโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝกึ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธบิ ายความหมายของคา ประโยคและขอ้ ความ

ที่เป็นโวหาร อ่านเร่ืองส้ัน ๆอย่างหลากหลาย แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นจากเรื่องที่อ่าน วิเคราะห์

และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่อื งทีอ่ ่านเพอื่ นาไปใชใ้ นการดาเนินชีวิต อา่ นงานเขียน เชิงอธบิ าย คาสั่ง

ข้อแนะนา และปฏบิ ตั ิตาม อธบิ ายความหมายของข้อมูลจากการอ่านแผนผัง แผนที่ แผนภูมิและกราฟ

เลือกอ่านหนงั สอื ตามความสนใจและอธบิ ายคุณค่าที่ได้รับ มีมารยาทในการอ่าน

ฝึกคัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดและครึ่งบรรทัด เขียนส่ือสารโดยใช้คาได้ถูกต้อง ชัดเจน

และเหมาะสม เขียนแผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใช้พัฒนางานเขียน เขียนเรียงความ

เขียนย่อความจากเรื่องอ่าน เขียนจดส่วนตัว กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเร่ืองตามจินตนาการและ

สรา้ งสรรค์ มีมารยาทในการเขยี น

ฝึกทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดงความรู้ ความเข้าใจจุดประสงค์ของเรื่องท่ฟี งั และดู

ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเร่ืองที่ฟังและดู วิเคราะห์ความน่าเช่ือถือจากเรื่องที่ฟังและดสู อ่ื

โฆษณาอย่างมีเหตผุ ล พูดรายงานเรื่องหรอื ประเด็นที่ศกึ ษาคน้ คว้าจากการฟงั การดแู ละการสนทนา พูด

โน้มน้าวอยา่ งมเี หตผุ ลและน่าเช่อื ถือ มมี ารยาทในการฟัง การดูและการพูด

ฝึกวเิ คราะหช์ นิดและหนา้ ทีข่ องคาในประโยค ใชค้ าไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะและบุคคล รวบรวม

และบอกความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย ระบุลักษณะของประโยค แต่งบทร้อย

กรอง วิเคราะห์เปรยี บเทียบสานวนท่เี ป็นคาพงั เพยและสุภาษติ

ฝึกแสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีหรือวรรณกรรมท่ีอ่าน เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่นตนเองและ

นิทานพ้ืนบ้านของท้องถ่ินอ่ืน อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านและนาไปประยุกต์ใช้ใน

ชีวิตจริง ท่องจาบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อย โดยใช้กระบวนการอ่าน กระบวนการเขียน

กระบวนการแสวงหาความรู้ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคดิ วิเคราะห์และสรุปความ กระบวนการคิด

อย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการสื่อความ กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการสังเกต กระบวนกรแยก

ข้อเท็จจริง กระบวนการคน้ ควา้ กระบวนการใช้เทคโนโลยใี นการส่ือสาร กระบวนการใช้ทักษะทางภาษา

การฝกึ ปฏบิ ตั ิ อธบิ าย บันทึก การตง้ั คาถาม ตอบคาถาม ใช้ทักษะการฟงั การดูและการพูด พูดแสดงความ

คดิ เห็น กระบวนการสรา้ งความคิดรวบยอด

เพอ่ื ให้เกดิ ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ สอ่ื สารไดถ้ กู ต้อง รกั การเรียนภาษาไทย เหน็ คณุ คา่ ของ

การอนุรกั ษภ์ าษาไทย และตวั เลขไทย สามารถนาความรู้ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชนโ์ ดยใช้วิธีการของเศรษฐกิจ

พอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๘
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั

ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวมทั้งหมด ๓๔ ตัวช้ีวัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๙

คาอธิบายรายวชิ า
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๐

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวชิ า ค ๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นร้คู ณติ ศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงส่ิงต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทย แสดงจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ เปรียบเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ โดยใช้

เครื่องหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐ และ ๐ ตั้งแต่ ๓ ถึง ๕ จานวน หาค่าของตัวไม่

ทราบคา่ ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการลบของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐

และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบของจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐

และ ๐

ระบุจานวนทห่ี ายไปในแบบรปู ของจานวนทเ่ี พม่ิ ขน้ึ หรือลดลงทีละ ๑ และทลี ะ ๑๐ และระบุรูปท่ี

หายไปในแบบรูปซา้ ของรูปเรขาคณติ และรูปอื่น ๆ ทส่ี มาชกิ ในแตล่ ะชดุ ท่ีซา้ มี ๒ รปู

วัดและเปรียบเทียบความยาวเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนกั เป็นกโิ ลกรมั

เปน็ ขีด และใช้หน่วยทีไ่ ม่ใชห่ น่วยมาตรฐาน

จาแนกรปู สามเหลยี่ ม รปู ส่ีเหลย่ี ม วงกลม วงรี ทรงสเี่ หลยี่ มมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และ

กรวย

ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เมื่อกาหนดรูป ๑ รูป แทน ๑

หนว่ ย

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
ค ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕

ค ๑.๒ ป.๑/๑
ค ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒

ค ๒.๒ ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑

รวมทง้ั หมด ๑๐ ตัวชี้วัด

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๑

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ค ๑๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๒ เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บอกจานวนของส่ิงต่าง ๆ แสดงสิ่งต่าง ๆ ตามจานวนที่กาหนด อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทย ตวั หนังสอื แสดงจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ เปรยี บเทียบจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐

โดยใช้เคร่ืองหมาย = ≠ > < เรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ ต้ังแต่ ๓ ถึง ๕ จานวนจาก

สถานการณต์ า่ ง ๆ หาคา่ ของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์แสดง

การลบของจานวนนับไม่เกนิ ๑,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณแ์ สดงการคณู

ของจานวน ๑ หลักกับจานวนไม่เกิน ๒ หลัก หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารที่ตัว

ตั้งไมเ่ กิน ๒ หลกั ตัวหาร ๑ หลกั โดยที่ผลหารมี ๑ หลัก ท้ังหารลงตัวและหารไม่ลงตวั หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ

คูณ หารระคน ของจานวนนับไม่เกิน ๑,๐๐๐ และ ๐ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขั้นตอน ของ

จานวนนับไมเ่ กิน ๑,๐๐๐ และ ๐

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเวลาที่มีหน่วยเดี่ยวและเป็นหน่วยเดียวกัน วัดและ

เปรียบเทียบความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร พร้อมท้ังแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การ

ลบเก่ยี วกบั ความยาวที่มีหน่วยเป็นเมตรและเซนติเมตร วัดและเปรียบเทียบน้าหนักเป็นกิโลกรัมและกรัม

กิโลกรัมและขีด พร้อมทั้งแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบเกยี่ วกับน้าหนักท่มี ีหน่วยเปน็

กโิ ลกรมั และกรมั กิโลกรัมและขดี วดั และเปรยี บเทียบปรมิ าตรและความจุเปน็ ลติ ร

จาแนกและบอกลักษณะของรูปหลายเหล่ยี มและวงกลม

ใชข้ ้อมลู จากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเมือ่ กาหนดรปู ๑ รปู แทน ๒ หน่วย ๕

หนว่ ย หรือ ๑๐ หนว่ ย

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘

ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑

รวมท้ังหมด ๑๖ ตัวชี้วัด

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๒

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวชิ า ค ๑๓๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เวลา ๒๐๐ ชั่วโมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านและเขยี น ตวั เลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ แสดงจานวนนับไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐

และ ๐ เปรียบเทียบและเรียงลาดับจานวนนับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่าน

และเขียนเศษส่วนท่ีแสดงปรมิ าณส่งิ ต่าง ๆ และแสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามเศษสว่ นทีก่ าหนด เปรียบเทียบเศษสว่ นที่ตัว

เศษเท่ากนั โดยท่ีตวั เศษนอ้ ยกว่าหรอื เท่ากับตวั สว่ น หาค่าของตัวไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการ

บวกและการลบของจานวนนบั ไม่เกนิ ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลกั ษณ์แสดง

การคณู ของจานวน ๑ หลักกบั จานวนไมเ่ กนิ ๔ หลัก และจานวน ๒ หลักกับจานวน ๒ หลัก หาค่าของตวั ไม่

ทราบค่าในประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตง้ั ไม่เกิน ๔ หลกั ตัวหาร ๑ หลกั และหาผลลพั ธ์การบวก

ลบ คูณ หารระคน และแสดงวธิ ีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา ๒ ขน้ั ตอน ของจานวนนบั ไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐

และ ๐ หาผลบวกและแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวกของเศษส่วนท่มี ีตัวสว่ นเท่ากนั และผลบวก

ไม่เกิน ๑ และหาผลลบพรอ้ มท้งั แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาการลบของเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ากัน

ระบุจานวนทีห่ ายไปในแบบรูปของจานวนที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทีละเท่า ๆ กัน แสดงวิธหี าคาตอบ

ของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงนิ เวลา และระยะเวลา เลือกใช้เคร่ืองมือความยาวที่เหมาะสม วดั และบอกความยาว

ของสิ่งต่าง ๆ เป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเป็นเมตรและเป็น

เซนติเมตร เปรียบเทียบความยาวระหว่างเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร

จากสถานการณ์ต่าง ๆ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวที่มีหน่วยเป็นเซนติเมตรและ

มิลลเิ มตร เมตรและเซนติเมตร กิโลเมตรและเมตร เลือกใช้เคร่ืองชั่งท่ีเหมาะสม วัดและบอกนา้ หนักเป็น

กิโลกรัมและขีด กิโลกรมั และกรัม คาดคะเนน้าหนกั เป็นกิโลกรมั และเป็นขีด เปรยี บเทียบน้าหนกั และแสดง

วิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับน้าหนักที่มีหน่วยเป็นกิโลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม จาก

สถานการณ์ต่าง ๆ เลือกใช้เคร่ืองตวงที่เหมาะสม วัดและเปรียบเทียบปริมาตรความจุเป็นลิตรและ

มิลลิลิตร คาดคะเนปริมาตรและความจุเป็นลิตร และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ยี วกับปริมาตร

และความจุท่มี หี นว่ ยเปน็ ลติ รและมิลลิเมตร

ระบรุ ูปเรขาคณิตสองมิติทีม่ ีแกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร เขียนแผนภูมิรูปภาพ และใช้

ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปญั หา เขียนตารางทางเดียวจากข้อมูลท่ีเปน็ จานวน

นบั และใชข้ ้อมูลจากตารางทางเดยี วในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๒๓
มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด

ค ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑
ค ๑.๒ ป.๓/๑
ค ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙, ป.๓/๑๐, ป.๓/๑๑

ป.๓/๑๒, ป.๓/๑๓
ค ๒.๒ ป.๓/๑
ค ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒
รวมทัง้ หมด ๒๘ ตวั ช้ีวัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๔

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรูค้ ณิตศาสตร์

ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ เวลา ๑๖๐ ช่วั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย และตัวหนังสือแสดงจานวนนับท่ีมากกว่า

๑๐๐,๐๐๐ เปรยี บเทียบและเรยี งลาดับจานวนนับทมี่ ากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐ จากสถานการณ์ต่าง ๆ บอก อ่าน

และเขียนเศษส่วน จานวนคละแสดงปริมาณส่ิงต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามเศษส่วน จานวนคละท่ี

กาหนด เปรียบเทียบ เรียงลาดับเศษส่วนและจานวนคละท่ีตัวส่วนตัวหน่ึงเป็นพหุคูณของอีกตัวหน่งึ อ่าน

และเขยี นทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ ตาแหน่ง แสดงปริมาณของส่ิงต่าง ๆ และแสดงส่ิงต่าง ๆ ตามทศนิยมท่กี าหนด

เปรียบเทียบและเรียงลาดับทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่งจากสถานการณ์ต่าง ๆ ประมาณผลลัพธ์ของการ

บวก การลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ อย่างสมเหตสุ มผล หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยค

สัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบของจานวนนับที่มากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หาค่าของตวั ไม่ทราบคา่

ในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคูณของจานวนหลายหลกั ๒ จานวน ท่ีมีผลคูณไม่เกิน ๖ หลัก และประโยค

สัญลักษณ์แสดงการหารท่ีตัวต้ังไม่เกิน ๖ หลัก ตัวหารไม่เกิน ๒ หลัก หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน

ของจานวนนับ และ ๐ แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หา ๒ ขั้นตอนของจานวนนบั ท่ีมากกวา่ ๑๐๐,๐๐๐

และ ๐ สร้างโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอนของจานวนนับ และ ๐ พร้อมท้ังหาคาตอบ หาผลบวก ผลลบของ

เศษส่วนและจานวนคละทีต่ วั ส่วนตัวหนึง่ เป็นพหุคูณของอกี ตัวหนงึ่ แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาการ

บวกและการลบเศษส่วนและจานวนคละที่ตัวส่วนตัวหนึ่งเป็นพหุคูณของอีกตัวหนึ่ง หาผลบวก ผลลบของ

ทศนยิ มไมเ่ กนิ ๓ ตาแหน่ง และแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ ๒ ขนั้ ตอนของทศนยิ มไม่

เกิน ๓ ตาแหนง่

แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลา วัดและสร้างมุมโดยใช้โพรแทรกเตอร์ แสดงวิธีหา

คาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพื้นที่ของรูปสี่เหลี่ยมมุมฉาก จาแนกชนิดของมุม

บอกชื่อมุม ส่วนประกอบของมุมและเขียนสัญลักษณ์แสดงมุม สร้างรูปสี่เหล่ียมมุมฉากเมื่อกาหนดความ

ยาวของด้าน

ใช้ข้อมลู จากแผนภมู ิแทง่ ตารางสองทางในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

ค ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘, ป.๔/๙, ป.๔/๑๐,
ป.๔/๑๑, ป.๔/๑๒, ป.๔/๑๓, ป.๔/๑๔, ป.๔/๑๕, ป.๔/๑๖

ค ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓

ค ๒.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒
ค ๓.๑ ป.๔/๑

รวมทง้ั หมด ๒๒ ตัวช้ีวัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๒๕

คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหัสวชิ า ค ๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๕ เวลา ๑๖๐ ชัว่ โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เขยี นเศษส่วนท่ีมตี ัวสว่ นเป็นตัวประกอบของ ๑๐ หรอื ๑๐๐ หรือ ๑,๐๐๐ ในรูปทศนิยม แสดงวิธี

หาคาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้บัญญัติไตรยางศ์ หาผลบวก ผลลบ ผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและ

จานวนคละ แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารเศษส่วน ๒ ข้ันตอน หา

ผลคณู ของทศนยิ ม ท่ผี ลคณู เปน็ ทศนยิ มไม่เกิน ๓ ตาแหนง่ หาผลหารท่ตี วั ตั้งเป็นจานวนนับหรือทศนิยมไม่

เกิน ๓ ตาแหน่ง และตัวหารเป็นจานวนนับ ผลหารเป็นทศนิยมไม่เกิน ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของ

โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู การหารทศนิยม ๒ ข้นั ตอน และแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา

รอ้ ยละไมเ่ กนิ ๒ ข้ันตอน

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาว นา้ หนกั ท่ีมกี ารเปลย่ี นหนว่ ยและเขยี นในรูป

ทศนิยม แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรของทรงส่ีเหล่ียมมุมฉากและความจุของ

ภาชนะทรงสี่เหล่ียมมุมฉาก ความยาวรอบรูปของรูปสี่เหลี่ยมและพื้นท่ีของรูปส่ีเหล่ียมด้านขนานและรูป

สี่เหล่ียมขนมเปียกปูน สร้างเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงให้ขนานกับเส้นตรงหรือส่วนของเส้นตรงท่ี

กาหนดให้ จาแนกรูปส่เี หลี่ยมโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรปู สรา้ งรปู สีเ่ หลีย่ มชนิดต่าง ๆ เมอ่ื กาหนดความ

ยาวของด้านและขนาดของมุมหรือเมือ่ กาหนดความยาวของเส้นทแยงมมุ และบอกลกั ษณะของปรซิ ึม

ใช้ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา และเขียนแผนภูมิแท่งจากข้อมูลท่ีเป็น

จานวนนบั

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ค ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔ , ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘, ป.๕/๙

ค ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๒.๒ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ค ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒

รวมทั้งหมด ๑๙ ตัวช้ีวดั

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๒๖

คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ค ๑๖๑๐๑ คณิตศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์

ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๖ เวลา ๑๖๐ ชั่วโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปรียบเทียบ เรียงลาดับ เศษส่วนและจานวนคละจากสถานการณ์ต่าง ๆ เขียนอัตราส่วนแสดงการ

เปรียบเทียบปริมาณ ๒ ปริมาณจากข้อความหรือสถานการณ์ โดยท่ีปริมาณแต่ละปริมาณเป็นจานวนนับ

หาอตั ราส่วนที่เท่ากับอัตราสว่ นทกี่ าหนดให้ หา ห.ร.ม. และ ค.ร.น. ของจานวนนับไมเ่ กิน ๓ จานวน แสดง

วิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาโดยใช้ความรู้เก่ียวกับ ห.ร.ม. และ ค.ร.น. หาผลลัพธ์ของการบวก ลบ คูณ

หารระคนของเศษสว่ นและจานวนคละ แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเศษส่วนและจานวนคละ ๒ – ๓

ขั้นตอน หาผลหารของทศนยิ มที่ตัวหารและผลหารเปน็ ทศนิยมไมเ่ กนิ ๓ ตาแหน่ง แสดงวิธีหาคาตอบของ

โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ การหารทศนิยม ๓ ข้ันตอน แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา

อัตราสว่ น ปญั หารอ้ ยละ ๒ – ๓ ข้ันตอน แสดงวธิ คี ิดและหาคาตอบของปญั หาเกยี่ วกบั แบบรปู

แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรของรูปเรขาคณิตสามมิติท่ีประกอบด้วยทรง

ส่ีเหล่ียมมุมฉาก และแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรูปและพ้ืนที่ของรูปหลาย

เหล่ียม ความยาวรอบรูปและพื้นที่ของวงกลม จาแนกรูปสามเหล่ียมโดยพิจารณาจากสมบัติของรูป สร้าง

รูปสามเหลี่ยมเมื่อกาหนดความยาวของด้านและขนาดของมมุ บอกลักษณะของรปู เรขาคณิตสามมิตชิ นิด

ต่าง ๆ ระบุรปู เรขาคณติ สามมิตทิ ป่ี ระกอบจากรปู คล่ีและระบุรูปคล่ีของรปู เรขาคณิตสามมติ ิ

ใชข้ อ้ มูลจากแผนภมู ิรูปวงกลมในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา

มาตรฐาน/ตัวชี้วดั
ค ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙, ป.๖/๑๐
ป.๖/๑๑ , ป.6/12

ค ๑.๒ ป.๖/๑
ค ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓
ค ๒.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
ค ๓.๑ ป.๖/๑

รวมทง้ั หมด ๒1 ตัวชี้วัด

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๒๗

คาอธบิ ายรายวิชา

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๒๘

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ว ๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ เวลา 4๐ ช่ัวโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษา วิเคราะห์ ระบุช่ือพืชและสัตว์ท่ีอาศัยอยู่บริเวณต่างๆ จากข้อมูลที่รวบรวมได้ บอก

สภาพแวดล้อมทเ่ี หมาะสมกับการดารงชีวิต ของสัตว์ในบรเิ วณท่ีอาศัยอยู่ บรรยายลกั ษณะและบอกหน้าท่ี

ของ ส่วนต่างๆของร่างกายมนุษย์สัตว์ และพืช รวมทั้งบรรยายการทาหน้าท่ีร่วมกันของ ส่วนต่างๆ ของ

ร่างกายมนษุ ย์ในการทากิจกรรมต่าง ๆจากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ ตระหนักถึงความสาคัญของส่วนต่างๆ ของ

ร่างกายตนเอง โดยการดูแลส่วนต่างๆ อย่าถูกต้องให้ปลอดภัย และรักษาความสะอาดอยู่เสมอ อธิบาย

สมบัติที่สงั เกตไดข้ องวสั ดทุ ีใ่ ช้ทาวัตถุ ซึ่งทาจากวัสดุชุนเดียวหรอื หลายชุนประกอบกัน โดยใช้หลักฐานเชงิ

ประจักษ์ ระบุชนิดของวัสดุและจัดกลุ่มวัสดุตามสมบัติที่สังเกตได้ บรรยายการเกิดเสียงและทิศทางการ

เคล่ือนที่ ของเสยี งจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ระบดุ าวทป่ี รากฏบนทอ้ งฟา้ ในเวลากลางวนั และกลางคืนจาก

ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ อธิบายสาเหตุท่ีมองไม่เห็นดาวส่วนใหญ่ในเวลากลางวันจากหลักฐานเชิงประจักษ์

อธบิ ายลักษณะภายนอกของหนิ จากลักษณะ เฉพาะตวั ท่สี ังเกตได้

แก้ปญั หาอยา่ งง่ายโดยใชก้ ารลองผดิ ลองถกู การเปรยี บเทยี บ แสดงลาดับขนั้ ตอนการทางานหรือ

การแกป้ ญั หา อย่างงา่ ยโดยใชภ้ าพสญั ลักษณห์ รอื ข้อความ เขยี นโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์ หรอื

สือ่ ใช้เทคโนโลยีในการสร้าง จดั เกบ็ เรยี กใชข้ อ้ มูล ตามวัตถุประสงค์ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ ง

ปลอดภัยปฏิบัติ ตามขอ้ ตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกันดแู ล รกั ษาอปุ กรณเ์ บื้องต้น ใชง้ านอย่าง

เหมาะสม

เพอื่ ให้รักการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ มที กั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เกิดความรู้ ความคดิ ความ

เข้าใจ มีจิตวิทยาศาสตร์ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู้ สามารถตัดสินใจ มีทักษะในการดารงชีวิต และนา

ความรู้วิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือในการเรียนรู้วิชาอื่นและนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างถูกต้องและ

เหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั

วทิ ยาศาสตร์
ว ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒

ว ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๒.๓ ป.๑/๑

ว ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ว ๓.๑ ป.๑/๑

วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕

รวมทง้ั หมด ๑๔ ตวั ชีว้ ดั

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๒๙

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหัสวชิ า ว ๑๒๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๒ เวลา 4๐ ช่วั โมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ระบุว่าพืชต้องการแสงและน้า เพื่อการเจริญเติบโต โดยใช้ข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์

ตระหนักถงึ ความจาเปน็ ทพี่ ืชต้องการได้รับนา้ และแสงเพ่ือการเจริญเติบโต โดยดแู ลพชื ให้ไดร้ ับส่ิงดังกล่าว

อย่างเหมาะสม สร้างแบบจาลองที่บรรยายวัฏจักรชีวิตของพืชดอก เปรียบเทียบลักษณะสิ่งมีชีวิตและ

สิง่ ไม่มีชวี ติ จากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้

เปรียบเทียบสมบัติการดูดซับน้าของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และระบุการนาสมบตั กิ าร

ดูดซับนา้ ของวัสดุไปประยุกต์ใช้ในการทาวัตถุในชวี ิตประจาวัน อธบิ ายสมบัติท่ีสังเกตได้ของวัสดุท่ีเกิดจากการ

นาวัสดุมาผสมกันโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ เปรียบเทียบสมบัติท่ีสังเกตได้ของวัสดุ เพื่อนามาทาเป็นวัตถุใน

การใช้งานตามวัตถุประสงค์ และอธิบายการนาวัสดุท่ีใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์

ตระหนักถงึ ประโยชน์ของการนาวสั ดทุ ใี่ ชแ้ ลว้ กลบั มาใชใ้ หม่ โดยการนาวัสดทุ ใี่ ช้แลว้ กลับมาใช้ใหม่

บรรยายแนวการเคลื่อนท่ีของแสงจากแหล่งกาเนิดแสง และอธิบายการมองเห็นวัตถุจากหลักฐานเชงิ

ประจกั ษ์ ตระหนักในการเหน็ คุณค่าของความรู้ของการมองเห็นโดยเสนอแนะแนวทางการปอ้ งกนั อันตราย

จากการมองเหน็ วตั ถุในท่ีมีแสงสว่างไม่เหมาะสม

ระบุสว่ นประกอบของดนิ และจาแนกชนดิ ของดินโดยใชล้ กั ษณะเน้ือดนิ และการจับตวั เป็นเกณฑ์

อธบิ ายการใชป้ ระโยชนจ์ ากดนิ จากขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้

แสดงลาดับขั้นตอนการทางานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือ

ข้อความ เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือส่ือ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้

เทคโนโลยีในการสร้าง จัดหมวดหมู่ ค้นหา จัดเก็บ เรียกใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกัน ดูแลรักษาอุปกรณ์เบ้ืองต้น ใช้งานอย่าง

เหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
วิทยาศาสตร์

ว ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓
ว ๑.๓ ป.๒/๑

ว ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ว ๒.๓ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ว ๓.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒

วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔

รวมทัง้ หมด ๑๖ ตวั ช้ีวัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๐

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหสั วิชา ว ๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ เวลา 4๐ ชั่วโมง

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายส่ิงที่จาเป็นต่อการดารงชีวิต และการเจริญเติบโตของมนุษย์และสัตว์โดยใช้ข้อมูลท่ี

รวบรวมได้ ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องอาหาร นา้ และอากาศโดยการดูแลตนเองและสัตว์ให้ไดร้ ับสง่ิ เหล่านี้

อย่างเหมาะสม สร้างแบบจาลองท่ีบรรยายวัฏจักรชีวิตของสัตวแ์ ละเปรยี บเทียบวฏั จักรชีวิตของสัตวบ์ าง

ชนดิ ตระหนักถงึ คุณคา่ ของชวี ิตสัตว์โดยไม่ทาใหว้ ัฏจกั รชวี ิตของสัตว์เปล่ยี นแปลง

อธิบายว่าวัตถุประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนย่อย ๆ ซึ่งสามารถแยกออกจากกันได้และประกอบกัน

เป็นวัตถุชิน้ ใหม่ได้โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงของวสั ดุเม่ือทาให้รอ้ นขึ้นหรือทาให้

เย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุผลของแรงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุจาก

หลักฐานเชิงประจักษ์ เปรียบเทียบและยกตัวอย่างแรงสัมผัสและแรงไม่สัมผัสท่ีมีผลต่อการเคล่ือนท่ีของ

วัตถุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ จาแนกวัตถุโดยใช้การดึงดูดกับแม่เหล็กเป็นเกณฑ์จากหลักฐานเชิง

ประจกั ษ์ ระบุขวั้ แมเ่ หล็กและพยากรณ์ผลท่ีเกิดขึ้นระหว่างขั้วแม่เหล็กเมื่อนามาเข้าใกลก้ ันจากหลักฐานเชิง

ประจกั ษ์ ยกตวั อยา่ งการเปล่ียนพลงั งานหน่ึงไปเป็นอีกพลังงานหน่ึงจากหลักฐานเชิงประจักษ์ บรรยายการ

ทางานของเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้าและระบุแหล่งพลังงานในการผลิตไฟฟ้าจากขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ ตระหนักใน

ประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟา้ โดยนาเสนอวธิ กี ารใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัด และปลอดภัย

อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ อธิบายสาเหตุ

การเกิดปรากฏการณ์การขึ้นและตกของดวงอาทิตย์ การเกิดกลางวันกลางคืน และการกาหนดทิศโดยใช้

แบบจาลอง ตระหนกั ถึงความสาคญั ของดวงอาทิตย์ โดยบรรยายประโยชนข์ องดวงอาทติ ยต์ ่อส่งิ มชี วี ติ ระบุ

สว่ นประกอบของอากาศ บรรยายความสาคัญของอากาศ และผลกระทบของมลพิษทางอากาศตอ่ ส่ิงมีชีวิต

จากขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของอากาศ โดยนาเสนอแนวทางการปฏบิ ัตติ นในการลดการ

เกิดมลพิษทางอากาศ อธิบายการเกิดลมจากหลักฐานเชิงประจักษ์ บรรยายประโยชน์และโทษของลมจาก

ข้อมูลทีร่ วบรวมได้

แสดงอัลกอริทึมในการทางานหรือการแก้ปัญหาอย่างง่ายโดยใช้ภาพ สัญลักษณ์ หรือข้อความ เขียน

โปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดของโปรแกรม ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหา

ความรู้ รวบรวม ประมวลผล และนาเสนอข้อมูล โดยใช้ซอฟต์แวร์ตามวัตถุประสงค์ ใช้เทคโนโลยี

สารสนเทศอย่างปลอดภัย ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลงในการใชอ้ ินเทอร์เน็ต

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๓๑

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
วทิ ยาศาสตร์

ว ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ว ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ว ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓, ป.๓/๔
ว ๒.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ว ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ว ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔

วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒, ป.๓/๓ , ป.๓/๔, ป๓/๕

รวมทงั้ หมด ๒๕ ตวั ช้ีวดั

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๒

คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหัสวชิ า ว ๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ เวลา 8๐ ชว่ั โมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายหน้าท่ีของราก ลาต้น ใบ และดอกของพืชดอกโดยใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้ จาแนกส่ิงมีชีวิต

โดยใช้ความเหมือน และความแตกต่างของลักษณะของสิ่งมีชีวิตออกเป็นกลุ่มพืช กลุ่มสัตว์ และกลุ่มที่ไม่ใช่

พืชและสัตว์ จาแนกพืชออกเป็นพืชดอกและพืชไม่มีดอกโดยใช้การมีดอกเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวม

ได้ จาแนกสัตว์ออกเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังโดยใช้การมีกระดูกสันหลังเป็น

เกณฑ์ โดยใชข้ อ้ มูลท่รี วบรวมได้ บรรยายลกั ษณะเฉพาะท่ีสังเกตได้ของสัตว์มีกระดูกสันหลงั ในกลุ่มปลา กลุม่

สัตว์สะเทินน้าสะเทินบก กลุ่มสัตว์เล้ือยคลาน กลุ่มนก และกลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้านม และยกตัวอย่าง

สงิ่ มีชีวิตในแตล่ ะกลุ่ม

เปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า

ของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์จากการทดลองและระบุการนาสมบัติเรื่องความแข็ง สภาพยืดหยุ่น

การนาความร้อน และการนาไฟฟา้ ของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจาวันผ่านกระบวนการออกแบบชิ้นงาน

แลกเปลี่ยนความคิดกับผู้อื่นโดยการอภิปรายเกี่ยวกับสมบัติทางกายภาพของวสั ดอุ ย่างมีเหตุผลจากการ

ทดลอง เปรียบเทียบสมบัติของสสารทั้ง ๓ สถานะ จากข้อมูลท่ีได้จากการสังเกตมวล การตอ้ งการทีอ่ ยู่ รูปรา่ ง

และปรมิ าตรของสสาร ใช้เครอ่ื งมือเพอื่ วัดมวล และปรมิ าตรของสสารทงั้ ๓ สถานะ ระบผุ ลของแรงโนม้ ถ่วงที่

มีตอ่ วตั ถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ ใชเ้ ครอ่ื งช่ังสปรงิ ในการวัดน้าหนักของวัตถุ บรรยายมวลของวัตถุท่ีมีผล

ต่อการเปล่ียนแปลงการเคลื่อนที่ของวัตถุจากหลักฐานเชิงประจักษ์ จาแนกวัตถุเป็นตัวกลางโปร่งใส

ตัวกลางโปรง่ แสง และวตั ถุทบึ แสง จากลกั ษณะการมองเห็นสง่ิ ต่าง ๆ ผา่ นวัตถุนน้ั เปน็ เกณฑ์โดยใช้หลกั ฐาน

เชงิ ประจักษ์

อธบิ ายแบบรูปเสน้ ทางการข้นึ และตกของดวงจันทร์ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ สรา้ งแบบจาลองที่

อธิบายแบบรูป การเปลี่ยนแปลงรูปร่างปรากฏของดวงจันทร์ และพยากรณ์รูปร่างปรากฏของดวงจันทร์

สร้างแบบจาลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธิบายเปรียบเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะห์

ต่าง ๆ จากแบบจาลอง

ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทางาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหา

อย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและ

แก้ไข ใชอ้ ินเทอรเ์ น็ตค้นหาความรู้ และประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของข้อมูล รวบรวม ประเมิน นาเสนอขอ้ มูลและ

สารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพ่ือแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง

ปลอดภัย เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตน เคารพในสิทธิของผู้อ่ืน แจ้งผู้เกี่ยวข้องเมื่อพบข้อมูลหรือบุคคลที่ไม่

เหมาะสม

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๓

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด ป.๔/๑
วทิ ยาศาสตร์ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
ว ๑.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๑.๓ ป.๔/๑
ว ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒, ป.๔/๓
ว ๒.๒
ว ๒.๓
ว ๓.๑

วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕

รวมท้ังหมด ๒๑ ตวั ช้ีวัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๔

คาอธิบายรายวชิ าพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ว ๑๕๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕ เวลา ๘๐ ช่วั โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

บรรยายโครงสร้างและลักษณะของส่ิงมีชีวิตที่เหมาะสมกับการดารงชีวิต ซึ่งเป็นผลมาจากการ

ปรับตัวของสิ่งมีชีวิตในแต่ละแหล่งท่ีอยู่ อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับส่ิงมีชีวติ และความสมั พนั ธ์

ระหว่างส่งิ มชี ีวติ กับส่งิ ไม่มีชวี ติ เพ่ือประโยชน์ตอ่ การดารงชวี ิต เขยี นโซอ่ าหารและระบุบทบาทหน้าท่ีของสงิ่ มีชีวิต

ทเ่ี ป็นผู้ผลิตและผู้บริโภคในโซ่อาหาร ตระหนักในคุณค่าของสงิ่ แวดล้อมที่มีต่อการดารงชีวิตของสิง่ มีชีวิต โดย

มีส่วนรว่ มในการดูแลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม อธิบายลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีมีการถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกของพืช

สัตว์ และมนุษย์ แสดงความอยากรู้อยากเหน็ โดยการถามคาถามเกยี่ วกบั ลกั ษณะทีค่ ลา้ ยคลึงกันของตนเองกับ

พอ่ แม่

อธิบายการเปล่ียนสถานะของสสาร เม่ือทาให้สสารร้อนขึ้นหรือเย็นลงโดยใช้หลักฐานเชิง

ประจักษ์ อธิบายการละลายของสารในนา้ โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ วเิ คราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงของสารเม่ือเกิด

การเปลี่ยนแปลงทางเคมีโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ วิเคราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงท่ีผันกลับได้และ

การเปลยี่ นแปลงที่ผนั กลบั ไม่ได้ อธิบายวธิ กี ารหาแรงลัพธ์ของแรงหลายแรงในแนวเดียวกนั ที่กระทาต่อวัตถุ

ในกรณีท่ีวัตถุอยู่นิ่งจากหลักฐานเชิงประจักษ์ เขียนแผนภาพแสดงแรงที่กระทาต่อวัตถุท่ีอยู่ในแนวเดียวกนั

และแรงลัพธ์ที่กระทาต่อวัตถุ ใช้เคร่ืองชั่งสปริงในการวัดแรงที่กระทาต่อวัตถุ ระบุผลของแรงเสียดทานที่มีต่อ

การเปล่ียนแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงท่ี

อยู่ในแนวเดียวกันที่กระทาต่อวัตถุ อธิบายการได้ยินเสียงผ่านตัวกลางจากหลักฐานเชิงประจักษ์ ระบุตัว

แปร ทดลอง และอธิบายลักษณะและการเกดิ เสียงสูง เสียงตา่ ออกแบบการทดลองและอธิบายลักษณะและ

การเกิดเสียงดัง เสียงค่อย วัดระดับเสียงโดยใช้เคร่ืองมือวัดระดับเสียง ตระหนักในคุณค่าของความรู้เรื่อง

ระดับเสียงโดยเสนอแนะแนวทางในการหลกี เลีย่ งและลดมลพิษทางเสยี ง

เปรียบเทียบความแตกต่างของดาวเคราะห์และดาวฤกษ์จากแบบจาลอง ใช้แผนที่ดาวระบุ

ตาแหน่งและเส้นทางการข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า และอธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขนึ้ และ

ตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนทอ้ งฟ้าในรอบปี เปรียบเทียบปริมาณน้าในแต่ละแหล่ง และระบปุ ริมาณน้าที่มนุษย์

สามารถนามาใช้ประโยชน์ได้จากขอ้ มูลทร่ี วบรวมได้ ตระหนักถงึ คณุ ค่าของน้าโดยนาเสนอแนวทางการใช้น้า

อย่างประหยัดและการอนุรักษ์น้า สร้างแบบจาลองที่อธิบายการหมุนเวียนของน้าในวัฏจกั รน้า

เปรียบเทียบกระบวนการเกิดเมฆ หมอก นา้ ค้าง และน้าคา้ งแข็งจากแบบจาลอง เปรยี บเทยี บกระบวนการ

เกดิ ฝน หิมะ และลูกเหบ็ จากขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้

ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การอธิบายการทางาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหา

อย่างง่าย ออกแบบ และเขียนโปรแกรมทม่ี ีการใช้เหตุผลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหาข้อผดิ พลาดและแก้ไข

ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูล ติดต่อสื่อสารและทางานร่วมกัน ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล รวบรวม

ประเมิน นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่

หลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาในชวี ิต ประจาวัน ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เขา้ ใจสิทธิ

และหนา้ ที่ของตน เคารพในสิทธขิ องผู้อื่น แจง้ ผเู้ กย่ี วข้องเม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลทไี่ ม่เหมาะสม

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๕

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
วิทยาศาสตร์

ว ๑.๑ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔
ว ๑.๓ ป๕/๑, ป๕/๒
ว ๒.๑ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔
ว ๒.๒ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕
ว ๒.๓ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕
ว ๓.๑ ป๕/๑, ป๕/๒
ว ๓.๒ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕

วทิ ยาศาสตร์เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ป๕/๑, ป๕/๒, ป๕/๓, ป๕/๔, ป๕/๕

รวมท้งั หมด ๓๒ ตวั ช้วี ัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๖

คาอธบิ ายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหัสวิชา ว ๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๘๐ ช่ัวโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ศึกษา วิเคราะห์ สารอาหารประโยชน์ของสารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ีตนเอง

รับประทานเพ่ือการเลือกรับประทานอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดส่วนท่ีเหมาะสมกบั เพศและวัย

รวมทั้งความปลอดภัยต่อสุขภาพ โดยมีแบบจาลอง ระบบย่อยอาหาร อวัยวะในระบบย่อยอาหารมหี น้าที่

สาหรับการยอ่ ยอาหารและการดดู ซึมสารอาหาร ความสาคัญของระบบยอ่ ยอาหาร การดูแลรักษาอวยั วะ

ในระบบย่อยอาหารใหท้ างานเป็นปกติ มกี ารแยกสารผสม โดยการหยิบออก การร่อน การใช้แมเ่ หลก็ ดึงดูด

การรินออก การกรอง และการตกตะกอน สามารถหาวิธีการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวันเก่ียวกับการแยก

สาร การเกดิ ผลของแรงไฟฟา้ ซ่ึงเกดิ จากวัตถทุ ีผ่ ่านการขัดถู จากสว่ นประกอบ หนา้ ท่ี ของวงจรไฟฟ้าแต่ละ

ส่วนอยา่ งงา่ ย โดยมีแผนภาพการตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน สามารถใช้การต่อหลอดไฟฟ้า

แบบอนุกรมและขนานด้วยวิธีการท่เี หมาะสม มปี ระโยชน์ ข้อจากดั ของการเกิดเงามืด เงามัว จากแผนภาพ

รังสีของแสงแสดงการเกิดเงามืดเงามัว จากแบบจาลองปรากฏการณ์สุริยุปราคา และจันทรุปราคา มีการ

พัฒนาของเทคโนโลยีอวกาศและการใช้ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน ส่วนกระบวนการเกิดหินอัคนี หิน

ตะกอน และหินแปร ดูจากแบบจาลองวัฏจักรหิน เพ่ือหาประโยชน์ของหินและแร่ในชีวิตประจาวัน มี

แบบจาลองการเกิดของซากดึกดาบรรพ์สภาพแวดล้อมในอดีต ท่ีเกิดจากลมบก ลมทะเล และมรสุม จาก

แบบจาลอง สามารถส่งผลต่อการเกิดของมรสุมในฤดูต่างๆ ของประเทศไทย เกิดผลกระทบของ น้าท่วม

การกัดเซาะชายฝงั่ ดนิ ถลม่ แผ่นดินไหว สึนามิ รว่ มถงึ ผลกระทบของภัยธรรมชาติและธรณีพบิ ัตภิ ัย เพื่อ

หาแนวทางการเฝ้าระวงั และปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั จากภยั ธรรมชาติ จากแบบจาลองเพื่ออธบิ ายการเกิดและ

ผลของปรากฏการณ์เรือนกระจก กิจกรรมท่ีก่อให้เกิดแก๊สเรือนกระจกที่มีทาให้เกิดปรากฏการณ์เรือน

กระจกลูกเหบ็

ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปัญหา การทางาน การคาดการณ์ผลลัพธ์ จากปัญหาอย่างง่าย
ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือสื่อ และตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขใช้
อินเทอรเ์ นต็ คน้ หาความรู้ รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ โดยใช้ซอฟต์แวร์ท่ีหลากหลาย
เพือ่ แก้ปัญหาในชวี ติ ประจาวนั ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั เข้าใจสทิ ธิและหนา้ ที่ของตน เคารพ

ในสทิ ธขิ องผู้อืน่

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการสืบเสาะหาความรู้ การสารวจตรวจสอบ การสืบค้น

ข้อมูล การเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานเชิงประจักษ์ และการอภิปรายเพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด
ความเข้าใจสามารถสือ่ สารส่ิงท่เี รียนรู้ มีความสามารถในการตัดสนิ ใจ

เกิดการรับรู้ และเห็นคุณค่าของการนาความรู้ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจาวัน มีจิตวิทยาศาสตร์
จรยิ ธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยมทเ่ี หมาะสมท่ีพงึ ประสงค์ต่อการดาเนนิ ชวี ิตในปจั จบุ นั

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๓๗

มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั

วิทยาศาสตร์
ว ๑.๒ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕

ว ๒.๑ ป.๖/๑
ว ๒.๒ ป.๖/๑
ว ๒.๓ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/

ว ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ว ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป’๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙

วทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ)
ว ๔.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวมท้ังหมด ๓๐ ตวั ช้ีวัด

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๘

คาอธบิ ายรายวิชา

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๓๙

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน

รหสั วิชา ส ๑๑๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ เวลา 4๐ ช่ัวโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สังเกต ศกึ ษาค้นควา้ รวบรวมข้อมลู อภิปราย ความหมาย ความสาคัญ องคป์ ระกอบเบ้อื งตน้ ของ

ศาสนา ประโยชน์ ประวัติ ศาสดาของศาสนา สรุปใจความสาคัญของคัมภรี ์ ความคดิ หลักของศาสนา สรปุ

หลักจริยธรรม การบาเพ็ญประโยชน์ วิธีปฏิบัติ การใช้ภาษาเก่ียวกับศาสนพิธี พิธีกรรมในวันสาคัญ ฝึก

ปฏิบัติการบริหารจิต การเจริญปัญญาเบื้องต้น เปรียบเทียบ การทาความดี ปฏิบัติตนตามคาแนะนา

รวบรวมขั้นตอน ของศาสนพิธี คุณลักษณะของการเป็นพลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตยมีความรับผิดชอบ

ความซอ่ื สตั ย์ ความกล้าหาญ ความเสยี สละ การเคารพสทิ ธแิ ละหน้าที่ วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ การ

แก้ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว กฎ กติกา ความหมาย ความสาคัญของรัฐธรรมนูญ ประโยชน์ของ

รายรับ-รายจ่าย ต้นทุนผลประโยชน์ท่ีได้รับทรัพยากรในท้องถ่ิน ระบบเศรษฐกิจพอเพียง อาชีพของ

ครอบครวั และชุมชน การซื้อขายแลกเปล่ยี นสนิ คา้ และบรกิ าร ในชีวิตประจาวัน ลักษณะทางกายภาพของ

บา้ น โรงเรียน และชมุ ชน องคป์ ระกอบของ แผนผงั การเขยี นแผนทเี่ บือ้ งตน้ อย่างงา่ ย ทรพั ยากรธรรมชาติ

การพ่ึงพาอาศัยซึ่งกันและกัน ผลเสียการทาลายทรัพยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมทางสังคม การ

สร้างสรรค์ ส่ิงแวดลอ้ ม การอนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ และทางสงั คม โดยใช้กระบวนการทางสังคม

กระบวนการสบื ค้น กระบวนการกล่มุ และกระบวนการแกป้ ัญหา

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนนิ ชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคมโลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด

ประโยชนโ์ ดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวิตประจาวันได้อย่าง

ถูกตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ส ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔
ส ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ส ๒.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๓.๒ ป.๑/๑
ส ๕.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ส ๕.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔

รวมทง้ั หมด ๒๓ ตวั ชีว้ ัด

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๔๐

คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหัสวิชา ส ๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๒ เวลา 4๐ ชั่วโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สังเกต ศึกษาคน้ ควา้ การรวบรวมขอ้ มูล อภปิ ราย ความหมาย ความสาคัญ องคป์ ระกอบเบอ้ื งต้น

ของศาสนา ประวัติศาสนา ศาสดาของศาสนา คัมภีร์ และการใช้ภาษาของศาสนา รวบรวมหลักจรยิ ธรรม

การบาเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน และชุมชน หลักปฏิบัติการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ศาสนพิธี

และพิธีกรรมในวันสาคัญของศาสนา การบรหิ ารจติ การเจรญิ ปญั ญาเบ้อื งต้น การทาความดีของบุคคลใน

ครอบครัว และโรงเรียน การปฏิบัติตนตามคาแนะนาเกยี่ วกบั ศีลธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม การเป็น

พลเมืองดี ในสังคมประชาธิปไตย การยอมรับ การเคารพสิทธิ และหน้าท่ีของตนเอง เป็นสมาชิกที่ดีของ

ครอบครัว สิทธิของบุคคลท่ีพึงได้รับการคุ้มครอง การขัดเกลาของสังคม ค่านิยม ความเช่ือ ประเพณี

วัฒนธรรม และภูมิปัญญาของท้องถ่ิน ความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัว บทบาทหน้าที่ของตนเอง

การแก้ปัญหาความขัดแย้ง ข้อตกลง กฎ กติกา ระเบียบในโรงเรียน ความหมาย และความสาคัญของ

รัฐธรรมนญู ประโยชนข์ องรายรับ–รายจา่ ยของครอบครัว ตดั สนิ ใจเลือกอย่างเหมาะสม เศรษฐกิจพอเพียง

อาชีพของชุมชน การซ้ือขาย แลกเปล่ียนสินค้าและบริการ ประโยชน์ของธนาคาร ภาษีท่ีเก่ียวข้องใน

ชีวิตประจาวันลักษณะทางกายภาพ องค์ประกอบของแผนผังแผนท่ี ตาแหน่ง ระยะทิศทาง

ทรัพยากรธรรมชาติร้คู ุณค่าของธรรมชาติ การสร้างสรรค์ส่ิงแวดล้อมทางสังคม การเปรียบเทียบประชากร

กับส่ิงแวดล้อม การฝึกสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว โดยใช้กระบวนการสังคม กระบวนการสืบค้น กระบวนการ

กลุม่ กระบวนการแกป้ ญั หา

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคมโลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด

ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ ับชีวิตประจาวนั ได้อย่าง

ถกู ต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ส ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ส ๑.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๒.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ส ๓.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒
ส ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
ส ๕.๒ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔

รวมทง้ั หมด ๒๘ ตวั ชว้ี ัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๔๑

คาอธิบายรายวชิ าพนื้ ฐาน

รหสั วิชา ส ๑๓๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ เวลา 4๐ ช่ัวโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สงั เกต ศึกษาค้นควา้ รวบรวมข้อมลู อภิปราย แสดงความคิดเหน็ สรุปใจความสาคัญความหมาย

ความสาคญั องค์ประกอบของศาสนา ประโยชน์ ประวัติศาสดาของศาสนา ภาษา ท่ีใชใ้ นคมั ภรี ข์ องศาสนา

ท่ีตนนับถือ หลักจริยธรรมในการพัฒนาตน การบาเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน วิธีปฏิบัติ

เก่ียวกับ ศาสนาพิธี พิธีกรรมในวันสาคัญของศาสนา การบริหารจิต การเจริญปัญญา สติ สัมปชัญญะ

ความราลึกได้ ความรู้ตัว ชื่นชมการทาความดีของบุคคลในครอบครัว และโรงเรียน ศีลธรรม

จริยธรรม คา่ นยิ มทีด่ ีงาม การเปน็ พลเมืองดีในสงั คม ประชาธปิ ไตย การเคารพสิทธแิ ละหน้าท่ีของ ตนเอง

บทบาทสิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ สถานภาพ สิทธิของบุคคลที่พึงได้รับการคุ้มครอง การขัดเกลาของสังคม

ค่านิยม ความเช่ือ ประเพณี การอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ของท้องถิ่น การสร้างความดี การ

แก้ปัญหาความขัดแย้ง กฎ กติกา ระเบียบในชุมชน ความสาคัญของกฎหมายรัฐธรรมนูญ รายรับ–

รายจ่าย ผลประโยชน์ท่ีผู้บริโภคได้รับการตัดสินใจเลือกอยา่ งเหมาะสม ระบบเศรษฐกิจพอเพียง อาชีพใน

ชุมชนการแลกเปลี่ยน สินค้าและบริการความสาคัญของธนาคาร ภาษีที่เก่ียวข้องในชีวิตประจาวัน

องค์ประกอบทางกายภาพ ลักษณะ ความเก่ียวข้องแผนผัง แผนท่ี ตาแหน่ง ระยะทิศทาง เครื่องมือทาง

ภูมิศาสตร์ ทรัพยากรธรรมชาติ การพ่ึงพาอาศัยกัน ส่ิงแวดล้อมทางสังคม การอนุรักษ์ การใช้พลังงาน

การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม การรู้จักสังเกตสิ่งต่างๆรอบตัว โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิด

วิเคราะห์ กระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแกป้ ญั หา

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนนิ ชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม

มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคมโลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด

ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวิตประจาวนั ได้อย่าง

ถกู ตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
ส ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗
ส ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ส ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ส ๕.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖

รวมท้งั หมด ๓๑ ตวั ชี้วัด

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๔๒

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหัสวชิ า ส ๑๔๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ เวลา ๘๐ ชัว่ โมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สังเกต ศึกษาค้นคว้า อภิปราย ซักถาม แสดงความคิดเห็น รวบรวมข้อมูล สืบค้น ข้อมูลสรุป

ใจความสาคัญเก่ียวกับความสาคัญทางศาสนา และศาสดาของศาสนาพุทธ คัมภีร์ทางศาสนาท่ีตนนับถือ

หลักธรรมของศาสนา การบริหารจิตและเจริญปัญญา ช่ืนชมการทาความดีของบุคลากรในสังคม แปล

ความหมายในคมั ภีร์ ศาสนาทต่ี นนบั ถอื เสนอแนวทางการกระทาของตนเองและผอู้ น่ื ในฐานะพลเมืองดขี อง

สงั คม สิทธเิ ดก็ เพอื่ ป้องกันตวั เองและสังคม เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของวัฒนธรรมในทอ้ งถ่ินการยอมรบั

คุณค่าของกันและกัน การรวมกลุ่มทั้งภาครัฐและเอกชน ช่ืนชมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี

พระมหากษัตริยเ์ ปน็ ประมขุ การรวมกลมุ่ ภาครฐั และเอกชนเพื่อพัฒนาท้องถ่ิน อานาจอธิปไตย ปฏบิ ตั ิตาม

กฎหมายในชีวิตประจาวัน วิเคราะห์ ผู้ผลิต ผู้บริโภค วิธีการของเศรษฐกิจ การหารายได้ การออม การ

ลงทุน ผลผลิตทางด้านเศรษฐกิจ การตลาด การธนาคาร สถาบันการเงินอื่น ๆ ภาษีที่เกี่ยวข้องใน

ชีวิตประจาวัน การพึ่งพา การแข่งขันทางด้านเศรษฐกิจ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ แผนท่ีและเคร่ืองมือทาง

ภูมิศาสตร์ ความแตกต่างของส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิด

วเิ คราะห์ กระบวนการกลมุ่ กระบวนการเผชิญสถานการณแ์ ละแก้ปญั หา

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคมโลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด

ประโยชนโ์ ดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวติ ประจาวันได้อย่าง

ถูกตอ้ งเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด

ส ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗, ป.๔/๘
ส ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ส ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕

ส ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ส ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

ส ๓.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ส ๕.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ส ๕.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓

รวมทงั้ หมด ๓๐ ตวั ชี้วดั

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๔๓

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วิชา ส ๑๕๑๐๑ สงั คมศึกษาฯ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๕ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สงั เกต ศึกษาคน้ คว้า วิเคราะห์ อภิปราย สนทนาซกั ถาม แสดงความคดิ เห็น รวบรวมขอ้ มูล สืบคน้

ข้อมูล สรุปใจความสาคัญเก่ียวกับเร่ืองราวพื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความสาคัญของศาสนา ศาสดา

และคัมภีร์ทางศาสนาท่ีตนนับถือ หลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ เพื่อเข้าใจในการพัฒนาตนและ

สังคม ความหมาย การบริหารจิต และเจริญปัญญา ชื่นชมการทาความดีของตนเองและบุคคลใน

สงั คม และแนวปฏิบัตใิ นการชื่นชม การทาความดขี องบคุ คลสาคัญกล่มุ เพ่อื น ประโยชน์ของการบรหิ ารจิต

และเจริญปัญญาของศาสนาที่ตนนับถือ กระบวนการประชาธิปไตยในการทางานร่วมกันในครอบครัว

โรงเรียน ชุมชน การปฏิบัติตน ตามสิทธิ หน้าท่ี เสรีภาพในฐานะพลเมืองดีของประเทศ การดาเนิน

ชีวิต ความแตกต่างของวัฒนธรรมในกลุ่มคนในภูมิภาค การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมี

พระมหากษัตริยเ์ ปน็ ประมุขโครงสร้างการปกครองประเทศ ซง่ึ มีทั้งสว่ นกลาง ส่วนภมู ิภาค และส่วนทอ้ งถิ่น

เพื่อเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่าง คนกับการปกครองประเทศ ความสาคัญในกฎหมายในชีวิตประจาวนั

หน้าที่ของผู้ผลิต และผู้บริโภค ความหมายของระบบสินเชื่อ ผลดีผลเสียต่อภาวะ การเงิน การเลือกของ

ผู้บรโิ ภค ผลกระทบต่อทรัพยากรท่ีมีอยู่ ระบบสหกรณ์ การบริหารทางดา้ นเศรษฐกิจ บทบาทการใช้เงินใน

ท้องถิ่นการบริการต่างๆ ของธนาคารและสถาบันการเงินในต่างประเทศ ผู้บริโภค ผู้ยืมและนักธรุ กจิ การ

จัดหาแหล่งรายได้ของรัฐ ความเชี่ยวชาญ ชานาญด้านจานวนปริมาณสินค้ารวมท้ังท่ีผลิตการซอ้ื มาทาง

เศรษฐกิจ การใช้แผนที่ในท้องถิ่นต่างๆ ลักษณะความแตกต่าง ผลกระทบของสิ่งแวดล้อมทาง

สังคม วัฒนธรรม วิถีชีวิตในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยกับส่ิงแวดล้อมทางธรรมชาติ ผลกระทบจากการ

กระทาของมนุษย์ที่มีต่อส่ิงแวดล้อม การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และรักษาสมดุลในระบบนิเวศน์

โดยใช้กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลุ่ม กระบวนการเผชิญสถานการณ์

และแก้ปัญหา

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคมโลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด

ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้กับชีวติ ประจาวันได้อย่าง

ถกู ต้องเหมาะสม

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๔๔

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
ส ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗
ส ๑.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป. ๕/๔
ส ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส.๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
ส ๕.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓
ส ๕.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓

รวมทั้งหมด ๒๘ ตวั ช้ีวดั

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๔๕

คาอธิบายรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วชิ า ส ๑๖๑๐๑ สังคมศกึ ษาฯ กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๘๐ ชั่วโมง

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สงั เกต ศกึ ษาค้นคว้า วิเคราะห์ อภปิ ราย สนทนา ซักถาม แสดงความคิดเหน็ รวบรวมข้อมูลสบื ค้น

ข้อมูลความสาคัญหลักธรรมพระรัตนตรัย ไตรสิกขา หลักธรรมโอวาท ๓ การทาความดีของบุคคลใน

ประเทศ การสวดมนต์ แผ่เมตตาของศาสนาที่ตนนบั ถือ สรุปใจความสาคัญเกี่ยวกับพุทธประวตั ิตั้งแต่ปลง

อายุสังขารจนถึงสังเวชนียสถาน ประวัตศิ าสดา ข้อคิดจากประวตั ิสาวก ชาดก เรื่องเล่า ศาสนิกชนตวั อยา่ ง

ศาสนพธิ ี สถานทใี่ นศาสนสถาน ศาสนิกชนท่ดี ี ประโยชน์ของการเข้าร่วมในศาสนพิธี พธิ ีกรรม กจิ กรรมใน

วันสาคัญทางศาสนา การบริหารจิตและเจริญปัญญาวันสาคัญทางศาสนา การกระทาที่แสดงถึง

คณุ ลกั ษณะของการเปน็ พลเมืองดีในสังคมประชาธิปไตย สทิ ธเิ ด็กทพ่ี งึ ได้รับการคุ้มครองตามสทิ ธมิ นุษยชน

บทบาทหน้าท่ีความรับผิดชอบของตนเอง บรรทัดฐานทางสังคมและวัฒนธรรม สัญลักษณ์ เอกลักษณ์

ค่านิยม ประเพณี วัฒนธรรมในท้องถ่ิน อานาจอธิปไตยและการมีส่วนร่วมในการปกครองระบอบ

ประชาธิปไตย กฎหมายในชีวิตประจาวัน การเลือกใช้ทรัพยากรท่ีมีผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อม การเพ่ิม

รายได้เงินออมจากการลงทุน สิทธิและการคุ้มครองผู้บริโภค เศรษฐกิจพอเพียง ระบบสหกรณ์ การ

บริหาร ด้านการผลิต และการพ่ึงพาทางเศรษฐกิจ บทบาทการใช้เงินและการบริการด้านการเงิน

ตา่ งประเทศ การจัดเก็บภาษี การกู้ยมื เงินจากต่างประเทศ แผนท่ีชนิดตา่ งๆ การกระทาท่ีสง่ ผลดแี ละผลเสีย

ตอ่ ส่ิงแวดล้อมทางสงั คม วัฒนธรรม รวมทง้ั ผลกระทบจากการที่มนษุ ยเ์ ปลี่ยนแปลงส่ิงแวดล้อมในด้านบวก

และด้านลบ การกระทาท่ีมีส่วนช่วยแก้ปัญหา และเสริมสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น โดยใช้กระบวนการ

ปฏิบตั ิ กระบวนการคิดวเิ คราะห์ กระบวนการกลุม่ กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแก้ปญั หา

เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนาไปปฏิบัติในการดาเนินชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม มี

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซ่ือสัตย์ มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ รักความเป็นไทย มีจิต

สาธารณะ สามารถดาเนินชีวิตอย่างสันติสุขในสังคมไทย และสังคมโลก สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิด

ประโยชน์โดยใช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใชก้ ับชีวิตประจาวันได้อย่าง

ถูกต้องเหมาะสม

มาตรฐาน/ตัวช้วี ดั
ส ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/๗ , ป.๖/๘ , ป.๖/๙

ส ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔
ส ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕

ส ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ส ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ส ๓.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒

ส ๕.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ส ๕.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓

รวมทั้งหมด ๓๑ ตัวช้ีวัด

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑


Click to View FlipBook Version