The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก65 pdf

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jeeraporn.boo, 2022-05-12 04:28:11

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก65 pdf

หลักสูตรโรงเรียนสนวนโคกเม็ก65 pdf

๑๑๘

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพิม่ เติม

ส๑๕๒๐๑ หนำ้ ท่ีพลเมอื ง ๕ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ งั คมศึกษำ ศำสนำ และ
วฒั นธรรม เวลำ ๔๐

ชั้นประถมศึกษำปที ่ี ๕
ชัว่ โมง

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทยในการสนทนา การปฏิบัติตนตามกาลเทศะ และการ
ต้อนรับผู้มาเยือน รคู้ ุณคา่ ใช้อยา่ งประหยดั ค้มุ คา่ และบารุงรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม มีส่วน
รว่ มในศิลปวัฒนธรรมไทย ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจรติ ตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ี และ
ยอมรับผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง
เห็นคุณค่าและแสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทิดทูนสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ ด้วยการใช้สินค้า
ไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุและสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี ปฏิบัติตนตาม
พระราชจริยวัตรและพระจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเร่ืองความเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่และความ
สามัคคี หลักการทรงงาน ในเร่ืองการทาตามลาดับข้ันและทางานอย่างมีความสุข และหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หา
ความรู้ ตั้งใจปฏิบตั ิหน้าท่ี และยอมรบั ผลที่เกิดจากการกระทาของตนเอง
มีส่วนร่วมในการสร้างและปฏิบัติตนตามกฎ ระเบียบของโรงเรียน ในการรักษาความสะอาด การรักษาของใช้
ร่วมกันและการดูแลพ้ืนที่ท่ีได้รับมอบหมาย โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมในการสร้างกฎ ระเบียบ ด้วยหลัก
เหตุผลและยึดถือประโยชน์ส่วนรวม ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าท่ีของการเป็นสมาชิกท่ีดีของห้องเรียน และ
โรงเรียน ในเร่ืองการยึดถือหลักความจรงิ ความดีงาม ความถูกต้องและหลักเหตุผล การยึดถือประโยชน์ ของ
ส่วนรวมเปน็ สาคัญ การยดึ หลกั ความเสมอภาคและความยุติธรรม มีส่วนรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตัดสินใจ ใน
กิจกรรมของหอ้ งเรยี นและโรงเรียน ปฏิบัตติ นเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซ่อื สัตย์สุจริต ขยนั หม่ันเพียร
อดทน ใฝห่ าความรู้ ตง้ั ใจปฏิบัตหิ นา้ ท่ี และยอมรบั ผลทีเ่ กดิ จากการกระทาของตนเอง
ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในท้องถ่ิน ในเร่ืองวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และส่ิงแวดล้อม อยู่
รว่ มกับผอู้ ่นื อย่างสันติและพ่ึงพากนั ดว้ ยการเคารพซ่ึงกนั และกัน ไม่แสดงกิริยาวาจาดหู ม่ินผู้อ่ืน ชว่ ยเหลือซึ่งกัน
และกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคของตนเอง ในเร่ืองการจัดการทรัพยากรและการ

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๑๙
ขัดแย้งทางความคิด และเสนอแนวทางการแก้ปัญหาโดยสันติวิธี ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความ
ซอ่ื สตั ย์สุจรติ ความอดทน และยอมรับผลท่เี กดิ จากการกระทาของตนเอง
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และกระบวนการ
แกป้ ญั หา
เพ่ือให้ผู้เรียนมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซึ่งความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด
มั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ
สามารถจัดการความขดั แยง้ ดว้ ยสันติวิธี และมวี นิ ัยในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. เห็นคุณค่าและปฏบิ ัติตนเป็นผู้มีมารยาทไทย
๒. รคู้ ณุ ค่าและบารงุ รกั ษาทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
๓. มีส่วนรว่ มในศิลปวฒั นธรรมไทย
๔. เหน็ คุณค่าและแสดงออกถงึ ความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์
๕. ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๖. มสี ่วนรว่ มในการสรา้ งและปฏิบตั ิตามกฎ ระเบียบของโรงเรียน
๗. ปฏิบตั ิตนตามบทบาทหนา้ ท่ี มสี ว่ นรว่ มและรบั ผดิ ชอบในการตดั สนิ ใจในกจิ กรรมของหอ้ งเรียนและโรงเรียน
๘. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คม วัฒนธรรมในทอ้ งถ่ิน และอยูร่ ว่ มกับผู้อน่ื อย่างสนั ติ และพง่ึ พาซงึ่ กนั
และกนั
๙. วเิ คราะหป์ ัญหาความขัดแยง้ ในภูมภิ าคของตนเองและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาโดยสนั ตวิ ธิ ี
๑๐. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้มู ีวินัยในตนเอง
รวมทงั้ หมด ๑๐ ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๐

คำอธบิ ำยรำยวิชำเพ่มิ เติม

ส๑๖๒๐๑ หนำ้ ทพ่ี ลเมอื ง ๖ กลุ่มสำระกำรเรยี นรสู้ ังคมศึกษำ ศำสนำ และ
วฒั นธรรม เวลำ ๔๐

ชัน้ ประถมศึกษำปที ี่ ๖
ชว่ั โมง

คำอธิบำยรำยวิชำ

ปฏิบัตติ นและชักชวนผอู้ นื่ ให้มีมารยาทไทย ในเรือ่ งการแสดงความเคารพ การสนทนา การปฏิบัติตน
ตามกาลเทศะ และการต้อนรับผู้มาเยือน มีส่วนร่วมและชักชวนผู้อื่นให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและ
สง่ิ แวดล้อม มีสว่ นรว่ มในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภมู ิปัญญาไทย ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้มวี นิ ยั ใน
ตนเอง ในเรื่องความซื่อสตั ยส์ จุ ริต ตง้ั ใจปฏิบตั ิหน้าท่ี และยอมรับผลทเี่ กิดจากการกระทาของตนเอง
เห็นคุณค่าและแนะนาผู้อ่ืนให้แสดงออกถึงความรกั ชาติ ยึดมั่นในศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วย
การใช้สินค้าไทย ดูแลรักษาโบราณสถาน โบราณวัตถุ และสาธารณสมบัติ ปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนท่ีดี
ปฏิบัติตนตามพระราชจริยวัตรและพระจริยวัตร ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท ในเร่ืองความใฝ่รู้ ความ
กตัญญู หลักการทรงงาน ในเรื่ององค์รวมและทาให้ง่าย และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติตน
เป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเรื่องความซอ่ื สัตย์สุจรติ ขยันหม่ันเพียร อดทน ใฝ่หาความรู้ ต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ี และ
ยอมรับผลท่ีเกดิ จากการกระทาของตนเอง
ปฏบิ ตั ิตนและแนะนาผ้อู ่นื ใหป้ ฏิบตั ิตามข้อตกลง กติกา กฎ ระเบียบของหอ้ งเรียนและโรงเรยี น ในการใชแ้ ละดแู ล
รักษาสิ่งของเคร่อื งใช้ วัสดุอุปกรณ์ และสถานท่ีของส่วนรวม เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามบทบาทหนา้ ที่ของ
การเป็นสมาชิกท่ีดีของห้องเรียนและโรงเรียน ด้วยการเป็นผู้นาและการเป็นสมาชิกท่ีดี การยึดถือประโยชนข์ อง
ส่วนรวมเป็นสาคัญ การใช้สิทธิและหน้าที่ การใช้เสรีภาพอย่างรับผิดชอบ มีส่วนร่วมและรับผิดชอบในการ
ตัดสินใจในกิจกรรมของห้องเรียนและโรงเรียน ปฏิบัติตนเป็นผู้มีวินัยในตนเอง ในเร่ืองความซื่อสัตย์สุจริต
ขยนั หมน่ั เพียร อดทน ใฝห่ าความรู้ ต้ังใจปฏิบัติหน้าท่ี และยอมรับผลทเี่ กิดจากการกระทาของตนเอง
ยอมรับความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมในประเทศไทย ในเร่ืองวิถีชีวิต วัฒนธรรม ศาสนา และ
ส่ิงแวดล้อม อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติและพ่ึงพากัน ในเร่ืองการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่แสดงกิริยา วาจาดูหมิ่น
ผู้อื่น ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และแบ่งปัน วิเคราะห์ปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย ในเรื่องการการ

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๒๑
ละเมิดสิทธิ การรักษาสิ่งแวดล้อม และเสนอแนวทางการแก้ปญั หาโดยสันตวิ ิธี ปฏิบตั ิตนเป็นผูม้ ีวนิ ัยในตนเอง ใน
เรอ่ื งความซ่อื สัตย์สุจรติ อดทน และยอมรบั ผลท่เี กิดจากการกระทาของตนเอง
โดยใช้กระบวนการคิด กระบวนการกลุ่ม กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการเผชิญสถานการณ์ และกระบวนการ
แก้ปัญหา
เพื่อให้ผู้เรียนมีลักษณะท่ีดีของคนไทย ภาคภูมิใจและรักษาไว้ซ่ึงความเป็นไทย แสดงออกถึงความรักชาติ ยึด
ม่ันในศาสนา เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ดาเนินชีวิตตามวิถีประชาธิปไตย อยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างสันติ
สามารถจดั การความขัดแย้งดว้ ยสนั ติวิธี และมีวนิ ยั ในตนเอง

ผลกำรเรยี นรู้

๑. ปฏบิ ัติตนและชกั ชวนผอู้ น่ื ใหม้ มี ารยาทไทย
๒. มสี ว่ นรว่ มและชักชวนผ้อู นื่ ให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
๓. มสี ่วนร่วมในขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปวฒั นธรรม และภูมปิ ัญญาไทย
๔. เห็นคุณค่าและแนะนาผอู้ ืน่ ให้แสดงออกถึงความรักชาติ ยดึ มั่นในศาสนา และเทดิ ทูนสถาบนั
พระมหากษัตรยิ ์
๕. ปฏิบัติตนตามพระบรมราโชวาท หลกั การทรงงาน และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๖. ปฏิบัตติ นและแนะนาผอู้ ื่นให้ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กตกิ า กฎ ระเบียบของห้องเรยี นและโรงเรียน
๗. เหน็ คุณค่าและปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าที่ มีสว่ นร่วมและรบั ผิดชอบในการตัดสินใจในกิจกรรม ของ
หอ้ งเรียนและโรงเรยี น
๘. ยอมรับความหลากหลายทางสงั คมวฒั นธรรมในประเทศไทย และอยรู่ ่วมกบั ผู้อื่นอย่างสนั ติ และพ่งึ พา ซ่งึ กัน
และกนั
๙. วเิ คราะหป์ ญั หาความขัดแยง้ ในประเทศไทยและเสนอแนวทางการแก้ปญั หาโดยสนั ติวิธี
๑๐. ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้มีวนิ ยั ในตนเอง
รวมทั้งหมด ๑๐ ผลกำรเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๒

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๓

กิจกรรมพฒั นาผู้เรียน

โรงเรียนสนวนโคกเม็ก ไดจ้ ัดกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี นโดยมงุ่ ให้ผูเ้ รยี นเกดิ การเรยี นรู้จากประสบการณ์
ตรง ได้ฝกึ ปฏบิ ตั ิจรงิ และค้นพบความถนัดของตนเอง สามารถค้นคว้าหาความร้เู พ่ิมเตมิ ตามความสนใจจาก
แหลง่ เรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย บาเพ็ญประโยชน์เพือ่ สังคม มีทักษะในการดาเนินงาน ส่งเสริมใหม้ ีวุฒภิ าวะทาง
อารมณ์ สงั คม ศีลธรรม จริยธรรม ให้ผเู้ รยี นร้จู ักและเข้าใจตนเอง สามารถวางแผนชีวิตและอาชีพไดอ้ ย่าง
เหมาะสม

กจิ กรรมพฒั นาผูเ้ รียนเป็นกจิ กรรมที่ม่งุ ให้ผ้เู รียนพฒั นาตนเองตามศกั ยภาพ พัฒนาการเรยี นรู้อยา่ ง
รอบดา้ นเพ่ือความเป็นมนุษย์ท่ีสมบรู ณท์ ง้ั ร่างกาย สตปิ ัญญา อารมณ์ และสงั คม เสริมสร้างใหเ้ ปน็ ผู้มศี ีลธรรม
จรยิ ธรรม มีระเบยี บวนิ ยั ปลกู ฝงั ใหส้ ร้างจิตสานกึ ของการทาประโยชน์เพือ่ สังคม สามรถจักการตนเองไดแ้ ละ
อย่รู ว่ มกบั ผูอ้ ่นื อย่างมีความสุข โรงเรยี นสนวนโคกเม็ก ไดจ้ ดั กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน โดยแบ่งออกเปน็ ๓
ลักษณะ ดงั น้ี

๑. กิจกรรมแนะแนว เป็นกจิ กรรมท่สี ่งเสริมและพฒั นาผู้เรียนใหร้ ู้จักตนเอง รรู้ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ ม
สามารถตัดสินใจ คดิ แกป้ ญั หา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชวี ติ ทง้ั ดา้ นการเรยี น และอาชีพ สามารถปรบั ตนได้
อยา่ งเหมาะสม นอกจากน้ยี งั ช่วยใหค้ รรู จู้ ักและเข้าใจผู้เรยี น ทั้งยงั เปน็ กจิ กรรมทช่ี ว่ ยเหลือและให้คาปรึกษาแก่
ผปู้ กครองในการมีส่วนร่วมพฒั นาผเู้ รียน โดยนักเรยี นทุกคนตอ้ งเข้าร่วมกจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ชั่วโมงตอ่ ปี
การศกึ ษา

๒. กจิ กรรมนกั เรียน เป็นกิจกรรมทม่ี ุ่งพฒั นาระเบยี บวนิ ยั ความเป็นผนู้ า ผ้ตู ามที่ดี ความ
รบั ผิดชอบ การทางานร่วมกนั รจู้ ักแกป้ ัญหา การตดั สินใจทเ่ี หมาะสม ความมเี หตุผล การชว่ ยเหลอื
แบ่งปันเอ้ืออาทรและสมานฉนั ท์ โดยจัดใหส้ อดคล้องกบั ความสามารถ ความถนัด และความสนใจของ
ผู้เรยี น ให้ไดป้ ฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเองในทกุ ขัน้ ตอน ได้แก่ การศึกษาวเิ คราะห์ วางแผน ปฏบิ ัตติ ามแผนประเมิน
และปรับปรุงการทางานเน้นการทางานรวมกนั เปน็ กลุม่ ตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกับวฒุ ิภาวะของ
ผเู้ รียนและบริบทของสถานศึกษาและท้องถนิ่ กิจกรรมนกั เรยี น ประกอบดว้ ย กจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี
นกั เรียนทุกคนต้องเข้ารว่ ม กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ๔๐ ชัง่ โมงต่อปกี ารศกึ ษา กิจกรรมชมุ นุม นักเรยี น
ทกุ คนตอ้ งเขา้ ร่วมกิจกรรม ชมรม ๓๐ ชั่งโมงตอ่ ปกี ารศึกษา

๓. กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ เป็นกจิ กรรมท่สี ่งเสรมิ ให้ผู้เรยี นบาเพญ็ ตนให้เป็น
ประโยชนต์ อ่ สังคม ชุมชนและท้องถ่ินตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพ่ือแสดงถึงความรับผิดชอบ
ความดงี าม ความเสยี สละการมจี ิตสาธารณะ เช่น กจิ กรรมอาสาพัฒนาตา่ งๆ กจิ กรรมสร้างสรรคส์ งั คม
นกั เรยี นทกุ คนต้องเข้ารว่ มกจิ กรรมเพือ่ สงั คมและสาธารณประโยชน์ ๑๐ ชั่วโมงต่อปีการศกึ ษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๔

โครงสรา้ งและอตั ราเวลาการจดั กจิ กรรม

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน ระดับประถมศกึ ษา ป.๖
ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ๔๐
๑. กจิ กรรมแนะแนว ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐
๒. กจิ กรรมนกั เรยี น ๔๐
๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๓๐
๒.๑ ลกู เสือ-เนตรนารี ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
๒.๒ กิจกรรมชมุ นมุ ๑๐
๓. กจิ กรรมเพือ่ สังคม ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
และสาธารณประโยชน์ ๑๒๐
๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
เวลาเรยี นรวม

๑. กิจกรรมแนะแนว
วตั ถปุ ระสงค์

๑. เพื่อผู้เรียนค้นพบความถนัด ความสามารถ ความสนใจของตนเอง รักละเห็นคุณค่าในตนเอง
และผอู้ นื่

๒. เพ่ือให้ผู้เรียนแสวงหาความรูจ้ ากข้อมูล ข่าวสาร แหล่งเรียนรู้ ทั้งด้านการศึกษา อาชีพส่วนตวั

สังคม เพ่อื นาไปใชใ้ นการวางแผน เลือกแนวทางการศกึ ษาอาชีพได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับศกั ยภาพของ
ตนเอง

๓. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นไดพ้ ฒั นาบคุ ลกิ ภาพ และรับตัวอยูใ่ นสังคมได้อย่างมีความสุข
๔. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะ มีความคิดสร้างสรรค์ ในงานอาชีพและมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ
สุจริต

๕. เพ่ือให้ผู้เรียนมีค่านิยมท่ีดีงามในการดาเนินชีวิต สร้างเสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมแก่
นักเรียน

๖. เพ่ือใหผ้ เู้ รยี นมจี ติ สานกึ ในการรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั สังคม และประเทศชาติ

แนวการจัดกิจกรรม โรงเรียนสนวนโคกเม็ก ได้จัดกิจกรรมแนะแนวเพื่อช่วยเหลือและพัฒนา
ผ้เู รยี น ดังนี้

๑. จัดกิจกรรมเพ่ือให้ครูได้รู้จักและช่วยเหลือผู้เรียนมากขึ้น โดยใช้กระบวนการทางจิตวิทยา
การจัดบริการสนเทศ โดยใหม้ ีเอกสารเพ่ือใชใ้ นการสารวจข้อมลู เก่ียวกับตวั ผู้เรียน ดว้ ยการสังเกต สมั ภาษณ์
การใชแ้ บบสอบถาม การเขียนประวตั ิ การพบผู้ปกครองก่อนและระหว่างเรยี น การเยยี่ มบ้านนกั เรยี น การ
ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผเู้ รียนเร่ืองสขุ ภาพจิต เศรษฐกจิ การจัดทาระเบียนสะสม สมุดรายงานประจาตัวนักเรียน
และบัตรสขุ ภาพ

๒. การจัดกิจกรรมพัฒนาวุฒภิ าวะทางอารมณ์ โดยทาแบบทดสอบเพ่ือรู้จักและเข้าใจตนเอง มี
ทกั ษะในการตัดสินใจ การปรบั ตวั การวางแผนเพือ่ เลือกศกึ ษาตอ่ เลือกอาชีพ

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๕

๓. การจัดบริการให้คาปรกึ ษาแก่ผู้เรียนรายบุคคล และรายกลมุ่ ในด้านการศกึ ษา อาชพี และ
ส่วนตัว โดยมีผู้ให้คาปรึกษาที่มีคุณวุฒิ และมีความเช่ียวชาญในเร่ืองการให้คาปรึกษา ตลอดจนมีห้องให้
คาปรกึ ษาทเ่ี หมาะสม

๓.๑ ชว่ ยเหลือผเู้ รียนท่ีประสบปัญหาด้านการเงิน โดยการให้ทุนการศึกษาแกผ่ ้เู รยี น
๓.๒ ตดิ ตามเก็บข้อมูลของนักเรียนทส่ี าเรจ็ การศกึ ษา

๒. กจิ กรรมนักเรียน
๑. กิจกรรมลกู เสือ
กิจกรรมลูกเสอื - เนตรนารี
ผู้เรียนในระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑-ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 ทุกคน ไดฝ้ ึกอบรมวชิ าลูกเสือ -

เนตรนารี เพอ่ื ส่งเสรมิ หลักการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุข สง่ เสริมความ
สามคั คี มวี นิ ยั และบาเพ็ญประโยชนต์ อ่ สงั คม โดยดาเนนิ การจัดกจิ กรรมตามข้อกาหนดของคณะกรรมการ
ลกู เสอื แหง่ ชาติ

วัตถปุ ระสงค์
พระราชบญั ญตั ิลกู เสือ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๘ ไดก้ าหนดวัตถุประสงค์ของการฝกึ อบรม เพ่ือพัฒนา
ลูกเสือทั้งทางกาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรมใหเ้ ป็นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ และช่วยสร้างสรรค์
สังคม เพื่อให้เกิดความสามัคคี และความเจริญก้าวหน้า ท้ังนี้เพ่ือความสงบสุข และความมั่งคงของ
ประเทศชาติตามแนวทางดงั ตอ่ ไปน้ี

๑. ใหม้ ีนิสยั ในการสังเกต จดจา เชอ่ื ฟงั และพึ่งตนเอง
๒. ใหม้ ีความซ่ือสัตยส์ ุจริต มรี ะเบยี บวนิ ัย และเห็นอกเหน็ ใจผอู้ ่นื
๓. ใหร้ ู้จักบาเพญ็ ตนเพ่ือสาธารณประโยชน์
๔. ให้ร้จู ักทาการฝีมือและฝกึ ฝนการทากิจกรรมต่างๆตามความเหมาะสม
๕. ใหร้ จู้ กั รักษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม และความม่ังคงชองชาติ

แนวการจัดกจิ กรรม
กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๑-6

เปดิ ประชมุ กอง ดาเนินการตามกระบานการของลูกเสอื และจดั กิจกรรมให้ศึกษาวิเคราะห์ วางแผน
ปฏิบัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเน้นระบบหมู่ สรุปผลการปฏิบัติกิจกรรม ปิดประชุมกอง โดยให้ผู้เรียน
ศึกษาและฝึกปฏิบัติดังน้ี

๑. เตรียมลูกเสือสารอง นิยายเรื่อเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจกรรมลูกเสือสารอง การทาความ
เคารพเป็นหมู่ (แกรนด์ฮาวล์) การทาความเคารพเป็นรายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถวเบ้ืองต้น คา
ปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ องลูกเสือสารอง

๒. ลกู เสอื สารองดาวดวงท่ี ๑ , ๒ และ ๓ อนามัย ความสามารถเชิงทกั ษะ การสารวจ การ
คน้ หาธรรมชาติ ความปลอดภยั บริการ ธง และประเทศต่างๆ การฝมี อื กจิ กรรมกลางแจ้ง การบันเทิง
การผูกเงื่อน คาปฏิญาณ และกฎของลูกเสือสารองโดยใช้กระบานการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๖

กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบัติ ทาง
ลูกเสอื กระบวนการทางเทคโนโลยี และภมู ปิ ัญญาท้องถ่ินไดอ้ ย่างเหมาะสม

เพ่ือใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลกู เสอื สามารถปฏบิ ัตติ ามคาปฏิญาณ กฎ และคติ
พจนข์ องลกู เสือสารอง มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจา เช่อื ฟงั และพง่ึ ตนเอง ซอื่ สตั ย์ สจุ รติ มีระเบียบวินัย
และเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ่นื บาเพญ็ ตนเพื่อสาธารณประโยชน์ รูจ้ กั ทาการฝมี ือ พัฒนากาย จติ ใจ และศีลธรรม
ทั้งนี้โดยไม่เก่ียวข้องกับลัทธิทางการเมืองใดๆ สนใจและอนุรักษ์ธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม นาไปใช้ใน
ชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ

กิจกรรมลูกเสอื - เนตรนารี ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖
เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสอื และจดั กิจกรรมใหศ้ ึกษา วิเคราะห์
วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมตามมาตรฐาน โดยเนน้ ระบบหมู่ สรุปการปฏิบตั ิกจิ กรรม ปดิ ประชมุ กอง โดยให้
ผเู้ รียนศึกษาและปฏบิ ตั ใิ นเร่อื ง
๑. ลูกเสอื ตรี ความรู้เก่ยี วกับขบวนการลูกเสือ คาปฏญิ าณและกฎของลูกเสือสามัญ กจิ กรรม
กลางแจ้ง ระเบียบแถว
๒. ลูกเสือโท การรู้จักดูแลตนเอง การช่วยเหลือผู้อื่น การเดินทางไปยังสถานท่ีต่างๆ ทักษะ
ทางวชิ าลูกเสือ งานอดเิ รกและเรอื่ งที่นา่ สนใจ คาปฏญิ าณ และกฎของลูกเสือ ระเบียบแถว
๓. ลูกเสือเอก การพึ่งพาตนเอง การบริการ การผจญภัย วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว
โดยใชก้ ระบวนการทางาน กระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการกลุ่ม กระบวนการจัดการ กระบวนการคดิ
รเิ ริ่ม สรา้ งสรรค์ กระบวนการฝึกปฏิบตั ทิ างลูกเสือ กระบวนการทางเทคโนโลยี และภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นได้
อย่างเหมาะสม
เพอ่ื ใหม้ คี วามรูค้ วามเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือ สามารถปฏบิ ตั ติ ามคาปฏิญาณ กฎ และคตพิ จน์
ของลูกเสือสามญั มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจา เชอ่ื ฟัง และพ่ึงตนเอง ซ่ือสัตย์ สุจรติ มีระเบียบวินัย และ
เห็นอกเห็นใจผู้อื่น บาเพ็ญตนเพื่อสารธารณประโยชน์ รู้จักทาการฝีมือ พัฒนากาย จิตใจ และศีลธรรม
ทั้งนี้โดยไม่เก่ียวข้องกับลัทธทิ างการเมอื งใดๆ สนใจและอนุรกั ษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนาไปใช้ใน
ชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๒๗

๒. กจิ กรรมชุมนุม
วตั ถปุ ระสงค์
๑. เพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นไดป้ ฏิบตั กิ จิ กรรมตามความสนใจ ความถนดั และความตอ้ งการของตน
๒. เพ่ือให้ผู้เรียนได้พัฒนาความรู้ ความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ให้เกิด
ประสบการณ์ทัง้ ทางวิชาการและวิชาชีพตามศกั ยภาพ
๓. เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นใช้เวลาให้เกดิ ประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม
๔. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนทางานรว่ มกับผอู้ ื่น ไดต้ ามวิถปี ระชาธิปไตย

แนวการจัดกจิ กรรม
การจัดกิจกรรมตามความสนใจ (ชุมนุม) ผู้เรียนสามารถเลือกเข้าเป็นสมาชิกชมรม วางแผนการ

ดาเนินกิจกรรมร่วมกัน โดยมีชมรมท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับเพศ วัย และความสนใจของผู้เรียน
ประกอบด้วยกจิ กรรมด้านคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม ส่งเสริมประชาธปิ ไตย ส่งเสริม
การเรยี นรู้ และค่ายวิชาการ การศึกษาดงู าน การฝึกปฏิบตั ิ การบรรยายพเิ ศษดงั ตัวอย่างพอสงั เขปตอ่ ไปน้ี

๑. กิจกรรมพัฒนาวุฒภิ าวะทางอารมณ์ ศีลธรรมและจริยธรรม จัดสอนจริยธรรมในห้องเรียน จัด
ให้มีการปฏิบัติกิจกรรมเนื่องในวนั สาคัญทั้งทางชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์ โดยผู้เรียนมีส่วนรว่ มในการจดั
กจิ กรรมท้ังในดา้ นวัฒนธรรม ประเพณี กีฬา และศีลปะ

๒. กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต จัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีทุกช่วงช้ัน โดยผู้เรียนได้ฝึกทักษะการ
ทางาน และการแก้ปญั หาทกุ ขัน้ ตอน

๓. กิจกรรมส่งเสริมนสิ ัยรักการทางาน จัดกิจกรรมวันวิชาการโดยผู้เรยี นมีโอกาสปฏิบัติจริง และ
ฝกึ ทกั ษะการจดั การ

๔. กิจกรรมเพ่ืออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม โดยจัดกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทย เช่น
ประเพณีไหวค้ รู ประเพณีลอยกระทง

๕. กิจกรรมส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตย จัดให้มีการเลือกคณะกรรมการนักเรียน
โดยใหน้ ากระบวนการประชาธิปไตยไปใชใ้ นการรว่ มวางแผนดาเนนิ งานพฒั นาโรงเรียน

๖. กิจกรรมคนดีของสังคม จัดให้มีการบรรยายให้ความรู้ เพ่ือป้องกันปัญหาโรคติดต่อร้ายแรง
ปัญหายาเสพตดิ ปัญหาวัยรนุ่ ให้ความร้เู พ่อื ปลูกฝงั ให้เป็นสภุ าพบุรษุ สภุ าพสตรี

๗. กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยจัดแหล่งเรียนรู้ ได้แก่ ห้องสมุด ห้องปฏิบัติการทางภาษา
ห้องปฏิบัตกิ ารทางวิทยาศาสตร์ หอ้ งเทคโนโลยีสารสนเทศ

๘. กิจกรรมส่งเสรมิ สุขภาพและอนามัย ให้บริการห้องพยาบาล มีบริการให้ความรู้แก่ผู้เรียน เพ่ือ
ป้องกันโรคระบาดอยา่ งทนั เหตกุ ารณ์

๓. กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
วัตถปุ ระสงค์
๑. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นบาเพ็ญตนใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ ครอบครัว โรงเรียน ชมุ ชน และประเทศชาติ

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๒๘

๒. เพื่อใหผ้ ูเ้ รียนออกแบบกิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารประโยชนอ์ ย่างสรา้ งสรรค์ตามความถนัด
และความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร

๓. เพื่อให้ผู้เรียนพัฒนาศักยภาพในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ

๔. เพือ่ ให้ผู้เรยี นปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชนจ์ นเกดิ คุณธรรม จรยิ ธรรมตาม
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

๕. เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี นมีจิตสาธารณะและใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์

แนวการจดั กิจกรรม
การจัดกจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เปน็ กจิ กรรมทสี่ ่งเสรมิ ใหผ้ ้เู รยี นได้ทาประโยชน์

ตามความสามารถ ความถนัดและความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถงึ ความรับผิดชอบ ความดีงาม
ความเสียสละต่อสังคม มีจิตใจมุ่งทาประโยชน์ต่อครอบครัว ชุมชนและสังคมกิจกรรมสาคัญ ได้แก่ กิจกรรม
บาเพ็ญประโยชน์ กิจกรรมสร้างสรรค์สังคม กิจกรรมดารงรักษา สืบสาน ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม
กจิ กรรมพัฒนานวตั กรรมและเทคโนโลยี

เวลาเรียนสาหรับกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน์ จดั สรรเวลาให้ผู้เรยี นระดบั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ รวม ๖ ปี จานวน ๖๐ ชัว่ โมง (เฉลย่ี ปีละ
๑๐ ชวั่ โมง) และผู้เรียนระดับมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1-3 รวม ปี จานวน 3๐ ช่วั โมง (เฉลีย่ ปลี ะ ๑๐ ชว่ั โมง)

การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ในระดับประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ เป็นการจัด
กิจกรรมภายในเวลาเรยี น โดยให้ผู้เรียนรายงานแสดงการเข้ารว่ มกิจกรรมลงในสมุดบันทึก และมีผู้รับรองผล
การเข้าร่วมกิจกรรมทกุ คร้งั

แนวทางการประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
โรงเรยี นสนวนโคกเม็ก กาหนดแนวทางในการประเมนิ กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นดงั น้ี
๑. การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นรายกิจกรรม มแี นวทางปฏิบตั ดิ ังน้ี
๑.๑ การตรวจสอบเวลาเข้าร่วมกิจกรรมของผู้เรียน ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียน

ตลอดปีการศกึ ษา
๑.๒ ประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนจากการปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ช้ินงานของผู้เรียน

ผู้เรยี นต้องได้รับการประเมนิ ทกุ ผลการเรียนรู้ และผา่ นทุกผลการเรยี นรู้ โดยแต่ละผลการเรียนรู้ผ่านไม่น้อย
กล่าร้อยละ ๕๐ หรือมีคุณภาพในระดบั ๑ ขึน้ ไป

๑.๓ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติกิจกรรมและผลงาน/ชิ้นงานของผู้เรียนตาม
เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “ผ” ผ่านการประเมินกิจกรรมและนาผลการ
ประเมนิ ไปบนั ทกึ ในระเบยี นแสดงผลการเรียน

๑.๔ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น การปฏิบัติกิจกรรมและผลงานไม่เป็นไปตาม
เกณฑ์ ข้อ ๑.๑ และข้อ ๑.๒ ถือว่าผู้เรียนมีผลการเรียน “มผ” โรงเรียนต้องจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทา
กิจกรรมในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้เข้าร่วมหรือไม่ได้ทาจนครบถ้วน แล้วจึงเปล่ียนผลการเรียนจาก “มผ” เป็น
“ผ” และนาผลการประเมินไปบันทกึ ในระเบียนแสดงผลการเรียน

หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๒๙
๒. การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียนเพ่อื การตัดสนิ มแี นวปฏิบตั ดิ ังน้ี

๒.๑ กาหนดให้ผู้รับผิดชอบในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ
ผู้เรียนทุกคนตลอดระดับการศกึ ษา

๒.๒ ผู้รับผิดชอบสรุปและตัดสินการร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของผู้เรียนเป็นรายบุคคลตาม
เกณฑ์ที่โรงเรียนกาหนด ผู้เรียนจะต้องผ่านกจิ กรรม ๓ กจิ กรรมสาคัญดังน้ี

๒.๒.๑ กิจกรรมแนะแนว
๒.๒.๒ กจิ กรรมนกั เรียน ไดแ้ ก่

๑. กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี
๒. กจิ กรรมชมุ นุม
๒.๒.๓ กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
๒.๓ การนาเสนอผลการประเมินต่อคณะกรรมการกลุ่มสาระการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนา
ผ้เู รียน
๒.๔ เสนอผูบ้ ริหารโรงเรียนพิจารณาอนุมัติผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนผ่านเกณฑ์การ
จบแต่ละระดับการศึกษา

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๓๐

คาอธิบายรายวิชา
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๑

คาอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน กิจกรรมแนะแนว

ช้ันประถมศกึ ษาปีที ๑ - ๖ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

รู้จักและเข้าใจตนเอง รักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อ่ืน มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ มีเจตคติที่ดีต่อ

การมชี ีวติ ทีด่ ีมีคุณภาพ มที ักษะในการดาเนินชีวติ สามารถปรับตวั ใหด้ ารงชีวติ อยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมีความสุข

รู้จักตนเองในทุกด้าน รู้ความถนัด ความสนใจ และบุคลิกภาพของตนเอง รู้และเข้าใจโลกของงานอาชีพ

อย่างหลากหลาย มีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพสุจรติ รู้ข้อมูลอาชีพ สามารถเลือกตนแนวทางในการประกอบอาชีพ

ได้อย่างเหมาะสม มีการเตรียมตัวสู่อาชีพ สามารถวางแผนเพอ่ื ประกอบอาชีพตามท่ีตนเองมีความถนดั และ

สนใจ มีคุณลกั ษณะพืน้ ฐานท่ีจาเป็นในการประกอบอาชพี และพฒั นางานใหป้ ระสบความสาเร็จเพือ่ สร้างฐานะ

ทางเศรษฐกจิ ใหก้ ับตนเอง ครอบครัว ชุมชนและประเทศชาติ

พัฒนาตนเองในดา้ นการเรียนอย่างเต็มศกั ยภาพ รูจ้ ักแสวงหาความรู้ใฝร่ ู้ใฝ่เรยี นใหเ้ ป็นคนดมี ีความรู้

และทักษะทางวิชาการ รู้จักแสวงหาและใช้ข้อมูลประกอบการวางแผนการเรียนหรือการศึกษาต่อได้อย่างมี

ประสิทธิภาพ มีวิธีการเรียนรู้ มีทักษะการคิด แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คิดเป็น ทาเป็น มีคุณธรรม

จรยิ ธรรม เอื้ออาทรและสมานฉนั ท์ เพ่อื ดารงชวี ิตอยู่รวมกันอย่างสงบสขุ ตามวิถีชวี ติ เศรษฐกิจพอเพียง

เพือ่ ให้ผเู้ รยี นเกดิ การเรียนรู้ รจู้ กั เขา้ ใจ รกั และเหน็ คุณค่าในตนเองและผู้อ่นื เกดิ การเรยี นรสู้ ามารถ

วางแผนการเรียนรู้ อาชีพ รวมทั้งการดาเนินชีวิตและมีทักษะทางสังคม เกิดการเรียนรู้สามารถปรับตัวได้

อย่างเหมาะสม อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข พ่ึงตนเองได้มีทักษะในการเลือกแนวทางการศึกษา การ

งานและอาชีพ ชีวิตและสังคม มีสุขภาพจิตท่ีดีและจิตสานึกในการทาประโยชน์ต่อครอบครัว สังคมและ

ประเทศชาติตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรียนรู้
๑. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นเกิดการเรียนรู้ รจู้ ัก เขา้ ใจ รกั และเหน็ คณุ ค่าในตนเองและผูอ้ นื่

๒. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นเกดิ การเรียนรู้ สามารถวางแผนการเรียน การศกึ ษาต่อ อาชพี รวมทงั้ การดาเนิน
ชวี ติ และมที กั ษะทางสงั คม

๓. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นเกิดการเรียนรู้ สามารถปรับตัวไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และอยรู่ ว่ มกับผอู้ ื่นได้อย่าง
เหมาะสม

๔. สามารถประยกุ ต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้

รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๒

คาอธบิ ายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน กจิ กรรมนักเรยี น (เตรียมลกู เสอื สารองและลกู เสือสารองดาวดวงท่ี ๑)

ชั้นประถมศกึ ษาปีที ๑ เวลา ๔๐ ชวั่ โมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปดิ ประชมุ กอง ดาเนนิ การตามกระบวนการของลกู เสือและจัดกจิ กรรมโดยให้ศกึ ษา วิเคราะห์

วางแผน ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่และปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามคาปฏญิ าณและกฎของ

ลกู เสอื สารอง เรียนรู้จากการคดิ และปฏบิ ัติจรงิ ใช้สัญลักษณ์สมาชกิ ลกู เสือสารองทม่ี ีความเป็นเอกลักษณ์

ร่วมกนั ศกึ ษาธรรมชาติในชมุ ชนดว้ ยความสนใจ ใฝร่ ตู้ ามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สรุปผลการ

ปฏิบตั กิ ิจกรรม ปดิ ประชมุ กอง ในเร่อื งต่อไปนี้

๑. เตรียมลูกเสอื สารอง นยิ ายเมาคลี ประวัติการเรมิ่ กจิ การลกู เสอื การทาความเคารพหมู่

(แกรนดฮ์ าวล์) การทาความเคารพเป็นรายบคุ คล การจบั มอื ซา้ ย ระเบียบแถว เบ้ืองต้น คาปฏิญาณ กฎ

และคติพจน์ของลูกเสอื สารอง

๒. ลกู เสอื สารองดาวดวงท่ี ๑ อนามัย ความสามารถเชิงทักษะ การสารวจ การคน้ หาธรรมชาติ

ความปลอดภัย บริการ ธงและประเทศตา่ ง ๆ การฝมี อื กจิ กรรมกลางแจง้ การบนั เทิง การผกู เง่ือน คา

ปฏิญาณและกฎของลูกเสือสารอง

เพื่อให้มคี วามรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสอื สารองดาวดวงท่ี ๑ สามารถปฏิบตั ิตามคา

ปฏญิ าณ กฎ และคติพจนข์ องลกู เสือสารอง มนี ิสัยในการสงั เกต จดจา เชอื่ ฟงั และพง่ึ ตนเอง มีความ

ซือ่ สัตย์ สุจริต มีระเบยี บวนิ ัย และเหน็ อกเห็นใจผอู้ นื่ รู้จักบาเพ็ญตนเพอ่ื สงั คมและสาธารณประโยชน์ รู้จัก

ทาการฝมี ือและฝกึ ฝนทากิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม รกั ษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม

และความมัน่ คงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. มีนิสัยในการสงั เกต จดจา เชือ่ ฟังและพ่งึ พาตนเองได้
๒. มคี วามซอื่ สัตย์ สุจรติ มีระเบยี บวนิ ัยและเหน็ อกเห็นใจผู้อน่ื
๓. บาเพญ็ ตนเพอื่ สงั คมและสาธารณะประโยชน์

๔. ทาการฝมี อื และฝึกฝนการทากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม
๕. รกั ษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรมประเพณี ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ และ ความมัน่ คง
๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อมและลดภาวะโลกรอ้ น

๗. สามารถประยกุ ต์ใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้

รวมทัง้ หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๓

คาอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน กิจกรรมนกั เรียน (ลกู เสอื สารองดาวดวงท่ี ๒)

ชนั้ ประถมศึกษาปีที ๒ เวลา ๔๐ ชว่ั โมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์

วางแผน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏบิ ตั ติ ามคาปฏิญาณ คติพจน์และกฎ

ของลูกเสือสารอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสารองที่มีความเป็น

เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพยี ง สรุปผลและปฏิบัติ

กิจกรรม ปิดประชมุ กองในเรื่องตอ่ ไปน้ี

ลูกเสือสารองดาวดวงที่ ๒ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทาความเคารพหมู่

(แกรนฮาวล์) การทาความเคารพเปน็ รายบุคคล การจับมือซ้าย ระเบียบแถว คาปฏญิ าณ กฎ และคติพจน์

ของลกู เสอื สารอง อนามยั ความสามารถเชิงทกั ษะ การสารวจ การคน้ หาธรรมชาติการอนุรักษ์ทรพั ยากรใน

ชุมชนท้องถ่ิน ความปลอดภัย บริการ การผูกเงื่อน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือที่ใช้วัสดุเหลือใช้ใน

ท้องถนิ่ กจิ กรรมกลางแจง้ การบนั เทงิ ทส่ี ่งเสริมสขุ ภาพกายสขุ ภาพจิตและอนุรักษ์ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ อนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติสิง่ แวดล้อมลดภาวะโลกรอ้ น

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสารองดาวดวงที่ ๒ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ

กฎและคติพจน์ของลูกเสือสารอง มีนิสัยในการสังเกต จดจา เชื่อฟังและพ่ึงตนเอง มีความซ่ือสัตย์สุจริต

มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบาเพ็ญเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทาการฝีมือและฝึกฝน

ทากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น

อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ความม่ันคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพยี ง

ผลการเรยี นรู้
๑. มนี สิ ยั ในการสังเกต จดจา เช่ือฟงั และพ่งึ ตนเองได้

๒. มีความซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวนิ ยั และเหน็ อกเหน็ ใจผู้อน่ื
๓. บาเพญ็ ตนเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
๔. ทาการฝมี อื และฝึกฝนทากิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม

๕. รักษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ และความมนั่ คงของชาติ
๖. อนุรกั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น สามารถ

ประยุกตใ์ ชห้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงได้

รวมทั้งหมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๔

คาอธบิ ายรายวชิ ากิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น กจิ กรรมนกั เรียน (ลูกเสอื สารองดาวดวงท่ี ๓)

ช้ันประถมศึกษาปีที ๓ เวลา ๔๐ ช่ัวโมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมให้ศึกษา วิเคราะห์

วางแผน ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏบิ ตั ติ ามคาปฏญิ าณ คติพจน์และกฎ

ของลูกเสือสารอง ศึกษาเรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริงใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสารองท่ีมีความเป็น

เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจใฝ่รู้ตามวิถีเศรษฐกิจพอเพยี ง สรุปผลและปฏิบัติ

กิจกรรม ปิดประชมุ กองในเร่อื งตอ่ ไปนี้

ลูกเสือสารองดาวดวงที่ ๓ นิยายเมาคลี ประวัติการเริ่มกิจการลูกเสือ การทาความเคารพหมู่

(แกรนฮาวล์) การทาความเคารพเปน็ รายบุคคล การจบั มือซา้ ย ระเบยี บแถว คาปฏิญาณ กฎ และคติพจน์

ของลูกเสือสารอง อนามยั ความสามารถเชิงทักษะ การสารวจ การค้นหาธรรมชาติการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรใน

ชุมชนท้องถิ่น ความปลอดภัย บริการ การผูกเง่ือน ธง และประเทศต่าง ๆ การฝีมือท่ีใช้วัสดุเหลือใช้ใน

ท้องถนิ่ กจิ กรรมกลางแจง้ การบันเทิงทส่ี ง่ เสริมสขุ ภาพกายสขุ ภาพจิตและอนุรกั ษภ์ ูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ อนรุ ักษ์

ทรพั ยากรธรรมชาติสง่ิ แวดล้อมลดภาวะโลกร้อน

เพอื่ ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจในกิจกรรมลูกเสือสารองดาวดวงท่ี ๓ สามารถปฏบิ ัติตามคาปฏญิ าณ กฎ

และคตพิ จนข์ องลูกเสือสารอง มีนสิ ยั ในการสังเกต จดจา เชื่อฟังและพึง่ ตนเอง มีความซ่อื สัตยส์ ุจริต มีระเบียบ

วินัย และเห็นอกเห็นใจ รู้จักบาเพ็ญเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ รู้จักทาการฝีมือและฝึกฝนทากิจกรรม

ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน อนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อม ความมั่นคงของชาติ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจ

พอเพยี ง

ผลการเรยี นรู้
๑. มนี สิ ัยในการสงั เกต จดจา เชอ่ื ฟงั และพง่ึ ตนเองได้

๒. มคี วามซือ่ สตั ย์ สจุ ริต มีระเบยี บวินัย และเหน็ อกเหน็ ใจผูอ้ ื่น
๓. บาเพญ็ ตนเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์
๔. ทาการฝีมือและฝกึ ฝนทากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม

๕. รักษาและส่งเสรมิ จารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาท้องถิน่ และความมน่ั คงของชาติ
๖. อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน สามารถประยกุ ตใ์ ช้

หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงได้

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๓๕

คาอธิบายรายวิชากจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน กจิ กรรมนกั เรียน (ลกู เสอื สามญั (ลูกเสอื ตรี) )

ชน้ั ประถมศึกษาปีที ๔ เวลา ๔๐ ชัว่ โมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปิดประชุมกอง ดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์

วางแผน ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรยี นรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคาปฏิญาณ คติพจน์

และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญท่ีมีความเป็น

เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้และมีจิตสานึกในการอนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ลดภาวะโลกร้อนและประยุกต์ใช้ปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพยี ง ความร้เู กี่ยวกบั กระบวนการลกู เสอื ประวตั ขิ อง Load Baden Powell พระราชประวัติ

สังเขปของพระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั วิวัฒนาการของกระบวนการ ลกู เสือไทยและลูกเสือโลก

การทาความเคารพ การแสดงรหัส การจับมือซ้าย กิจกรรมกลางแจ้ง ระเบียบแถวท่ามือเปล่า ท่ามือไม้

พลวง การใชส้ ัญญามือและนกหวีด การตั้งแถวและการเรียนแถว

เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎ และคติ

พจน์ของลูกเสือสามัญ มีนิสัยในการสังเกต จดจา เชื่อฟัง และพึ่งตนเอง มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีระเบียบ

วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อื่น บาเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทาการฝีมือและฝึกฝนการทา

กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม

และความมั่นคง ประโยชน์และสามารถประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. มนี ิสัยในการสังเกต จดจา เช่ือฟังและพึ่งตนเองได้
๒. มีความซือ่ สัตย์สุจริต มรี ะเบยี บ วินยั และเหน็ อกเห็นใจผอู้ ื่น

๓. บาเพ็ญตนเพ่อื สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทาการฝีมือและฝกึ ฝนทากิจกรรมต่าง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ

๕. รักษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ และความมั่นคงของชาติ
๖. อนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ลดภาวะโลกรอ้ น
๗. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รวมทั้งหมด ๗ ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๖

คาอธิบายรายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น กิจกรรมนักเรยี น ( กิจกรรมลกู เสอื สามัญ (ลกู เสอื โท) )

ช้นั ประถมศึกษาปีที ๕ เวลา ๔๐ ช่วั โมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปิดประชุมกองดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์

วางแผน ปฏบิ ัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติกิจกรรมตามคาปฏิญาณ คติพจน์

และกฎของลูกเสือสามัญ เรียนรู้จากคิดและปฏิบัติจริง ใช้สัญลักษณ์สมาชิกลูกเสือสามัญท่ีมีความเป็น

เอกลักษณ์ร่วมกัน ศึกษาธรรมชาติในชุมชนด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ มีจิตสานึกในการอนุรักษ์

ทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน ลดภาวะโลกร้อนและการประยุกต์ใช้ปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ทักษะในทางวชิ าลูกเสอื การรจู้ ักดแู ลตนเอง การชว่ ยเหลือผู้อน่ื การเดินทางไปยัง

สถานที่ตา่ ง ๆ ทางานอดิเรก และเรื่องท่สี นใจ

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎ และคติ

พจนข์ องลูกเสอื สามญั มีนสิ ยั ในการสงั เกต จดจา เช่ือฟงั และพ่งึ ตนเอง มคี วามซ่ือสัตย์ สจุ รติ มรี ะเบียบ

วินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน บาเพ็ญตนเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ทาการฝีมือและฝึกฝนการทา

กิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนดั และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรม

และความมน่ั คง ประโยชน์และสามารถประยุกตใ์ ช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรียนรู้

๑. มนี ิสัยในการสังเกต จดจา เชื่อฟังและพงึ่ ตนเองได้
๒. มีความซอ่ื สตั ยส์ ุจรติ มีระเบยี บ วินัยและเห็นอกเห็นใจผอู้ น่ื

๓. บาเพญ็ ตนเพือ่ สง่ เสริมและสาธารณะประโยชน์
๔. ทาการฝมี อื และฝกึ ฝนทากิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถน่ิ และความมั่นคงของชาติ

๖. อนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน
๗. สามารถประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๗

คาอธบิ ายรายวิชากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน กจิ กรรมนกั เรยี น ( กจิ กรรมลกู เสอื สามญั (ลกู เสอื เอก) )

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี ๖ เวลา ๔๐ ชั่วโมง/ปี

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เปดิ ประชุมกองดาเนนิ การตามกระบวนการของลกู เสอื และจดั กจิ กรรมโดยใหศ้ ึกษา วิเคราะห์ วางแผน

ปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเนน้ ระบบหมู่ และปฏบิ ตั ิตามคาปฏญิ าณ คตพิ จน์ และกฎของลูกเสือ

สามัญ วชิ าการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพง่ึ ตนเอง การผจญภยั การใช้สญั ลักษณ์ สมาชกิ ลูกเสือสามัญ

ท่ีมีความเป็นเอกลักษณ์ร่วมกัน เรียนรู้จากการคิดและปฏิบัติจริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณี ภูมิ

ปัญญาท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการปฏิบัติกิจกรรม

เพ่ือการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกร้อน

เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจในกิจกรรมลูกเสือสามัญ สามารถปฏิบัติตามคาปฏิญาณ กฎ และคติพจน์

ของลกู เสอื สามญั มีนสิ ัยในการสงั เกต จดจา เช่อื ฟงั และพึง่ ตนเอง มคี วามซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต มรี ะเบียบวินัย

และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน บาเพ็ญตนเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ ทาการฝีมือและฝึกฝนการทากิจกรรม

ต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและ

ความม่นั คง ประโยชนแ์ ละสามารถประยุกต์ใชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรียนรู้

๑. มนี ิสยั ในการสงั เกต จดจา เช่อื ฟงั และพึ่งตนเองได้
๒. มีความซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบ วินยั และเห็นอกเห็นใจผอู้ น่ื

๓. บาเพญ็ ตนเพ่ือส่งเสรมิ และสาธารณะประโยชน์
๔. ทาการฝีมอื และฝึกฝนทากิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความถนดั และความสนใจ
๕. รกั ษาและสง่ เสรมิ จารีตประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น และความม่ันคงของชาติ

๖. อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ลดภาวะโลกรอ้ น
๗. สามารถประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

รวมทง้ั หมด ๗ ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๘

คาอธิบายรายวิชากจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์

ชั้นประถมศกึ ษาปีที ๑– ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา ๑๐ ชว่ั โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ฝึกปฏิบัติกิจกรรมด้วยความสมัครใจผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย ฝึกการทางานท่ีสอดคล้องกับชีวิต

จริง ตลอดจนสะท้อนความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ สารวจและใช้ข้อมลู ประกอบการวางแผนอยา่ งเปน็

ระบบ เน้นทักษะการคิดวิเคราะห์ และใช้ความคิดสร้างสรรค์ การบริการด้านต่าง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ต่อ

ตนเองและส่วนรวม เสริมสร้างความมีน้าใจ เอื้ออาทร ความเป็นพลเมืองดีและความรับผิดชอบต่อตนเอง

ครอบครัวและสงั คม คิดออกแบบกิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ในลกั ษณะอาสาสมคั ร จิตอาสา เพ่อื แสดงความ

รับผดิ ชอบต่อสังคมตามแนวทางวถิ ีชวี ิตเศรษฐกจิ พอเพียง

เพ่ือให้ผู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สังคมและประเทศชาติ

สามารถออกแบบการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ตามความถนัดและความ

สนใจในลักษณะอาสาสมัคร พัฒนาศักยภาพตนเองในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ได้

อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคุณธรรม จริยธรรม ตามคุณลักษณะอันพึง

ประสงค์ มีจิตสาธารณะและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และสามารถประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพยี งได้

ผลการเรยี นรู้
๑. บาเพญ็ ตนใหเ้ ปน็ ประโยชนต์ ่อครอบครัว โรงเรียน ชุมชน สงั คมและประเทศชาติ

๒. ออกแบบการจัดกจิ กรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชนอ์ ย่างสร้างสรรค์ ตามความถนัดและความ
สนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร

๓. สามารถพัฒนาศกั ยภาพในการจดั กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชนไ์ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

๔. ปฏบิ ตั กิ จิ การเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์จนเกิดคณุ ธรรม จรยิ ธรรมตามคุณลกั ษณะอนั พงึ
ประสงค์

๕. สามารถประยุกตใ์ ชห้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งได้

รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๓๙

คาอธบิ ายรายวิชา
กิจกรรมชมุ นุม

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๐

คาอธบิ ายรายวิชากิจกรรมชมุ นุม
กิจกรรมชมุ นมุ รักการอ่าน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลกั การและเหตุผล

อา่ นและเขา้ ใจความหมายของคา ประโยค ข้อความและจัดทาแบบฝึกเปน็ รูปเล่ม จัดทาพจนานุกรม
ฉบับจิว๋ ศึกษา ค้นคว้าเกยี่ วกับ ขา่ ว บทความจากส่งิ ตีพมิ พ์ประเภทต่างๆ และประดษิ ฐท์ ี่ค่ันหนงั สอื ประเภท
ตา่ งๆ

เพ่ือให้มีความรู้ความเข้าใจและเห็นคุณค่าเก่ียวกับการจัดทาแบบฝึกเป็นรูปเล่ม จัดทาพจนานุกรม
ฉบบั จ๋ิว และประดษิ ฐท์ ่คี ั่นหนังสือประเภทตา่ งๆ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้

เพ่ือให้สมาชิกมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ รู้จักค้นคว้า และแก้ปัญหาในการทางานอย่างมีระบบ
เพ่ือให้สมาชิกเป็นผู้มีระเบียบวินัยเพื่อให้สมาชิกมีความเข้าใจและเลื่อมใสการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตริยเ์ ป็นประมุขเพ่ือให้สมาชิกมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่และสิทธิภายในขอบเขต
ของกฎหมายเพอื่ ใหส้ มาชิกมคี วามสงบซาบซ้ึงในคณุ คา่ ดารงไวแ้ ละส่งเสรมิ เอกลกั ษณว์ ฒั นธรรมอนั ดงี ามของ
ชาติไทยเพื่อให้สมาชิกเกิดความรักและสามัคคีในหมู่คณะเพื่อให้สมาชิกได้รับการส่งเสริมการพัฒนาทาง
ร่างกาย จิตใจ และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์เพอื่ ให้สมาชิกรู้จักบาเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และสร้าง
เสรมิ ความมนั่ คงของชาติเพ่ือให้สมาชิกมีคุณธรรมและจริยธรรม เพ่ือใหส้ มาชกิ พฒั นาตนเองตามวัตถุประสงค์
ของการจัดการศึกษา สามารถนาความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและ
สามารถนาไปประยกุ ต์ใชก้ บั ชีวติ ประจาวนั ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

ผลการเรยี นรู้
๑ ปฏิบตั ิกจิ กรรมตามความสนใจ ความถนัดและความตอ้ งการของตน
๒ มคี วามรู้ ความสามารถดา้ นการคิดวิเคราะห์ สงั เคราะห์ใหเ้ กิดประสบการณ์ ทัง้ ทางวิชาการ

และวิชาชพี ตามศักยภาพ
๒ ใชเ้ วลาว่างใหเ้ กิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและสว่ นรวม
๔ ม่งุ มั่นในการทางานและทางานร่วมกับผูอ้ นื่ ไดต้ ามวิถีประชาธิปไตย
๕ ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งได้อยา่ งเหมาะสม

รวมท้งั หมด ๕ ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๑

คำอธิบำยรำยวิชำกจิ กรรมชมุ นมุ
กจิ กรรมชมุ นมุ เศรษฐกิจพอเพียง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หลักกำรและเหตผุ ล

ฝึกทักษะนักเรียนเรียนรู้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งใน 3 หลกั การ คอื ความพอประมาณ
ความมีเหตุผล และการสร้างภูมคิ มุ้ กันในตวั ทดี่ ี และ 2 เงอื่ นไข คือ คณุ ธรรมและความรู้ โดยนักเรียนฝกึ เรยี น
เกษตรพอเพยี ง ได้แก่ การเพาะเห็ดนางฟ้า การเลี้ยงไก้พนื้ เมือง การเล้ยี งปลาดกุ ในบ่อซีเมนต์ และการ
ปลูกพชื ผกั สวนครวั เพ่อื สามารถนาความร้ไู ปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันและส่งเสริมอาชพี ในอนาคต
ผลกำรเรยี นรู้

๑. เพอ่ื ฝึกทกั ษะการเรยี นร้เู ศรษฐกิจพอเพยี ง ได้แก่ การเพาะเห็ดนางฟา้ การเลยี้ งไก่พื้นเมอื ง การ
เลีย้ งปลาดุกในบ่อซเี มนต์ และการปลูกพชื ผักสวนครัว

๒. เพอ่ื ฝึกนสิ ัยรักการทางาน อยู่อย่างพอเพียง ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๓. เพือ่ ส่งเสริมและปลูกฝังวธิ กี ารคดิ ในการปฏิบัตติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
รวมทง้ั หมด ๓ ผลกำรเรยี นรู้

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๒

เกณฑ์การจบการศึกษา

หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษา
ขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดเกณฑ์สาหรบั การจบการศึกษา ไวด้ ังนี้

เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศกึ ษา
๑. ผเู้ รียนเรยี นรายวิชาพื้นฐานและรายวชิ าเพิ่มเติมตามทก่ี าหนด และมผี ลการประเมนิ รายวิชา

พน้ื ฐานผา่ นทกุ รายวิชา
๒. ผู้เรียนต้องมีผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน ระดับ “ผ่าน” ขนึ้ ไป
๓. ผู้เรียนมีผลการประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั “ผ่าน” ขนึ้ ไป
๔. ผ้เู รียนตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นและไดร้ ับการตัดสินผลการเรยี น “ผ่าน” ทกุ กจิ กรรม

การจัดการเรยี นรู้
การจดั การเรยี นรเู้ ป็นกระบวนการสาคญั ในการนาหลกั สูตรสู่การปฏบิ ัติ หลกั สูตรแกนกลาง

การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน เปน็ หลกั สูตรท่มี ีมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ของผู้เรียน เปน็ เปา้ หมายสาหรับพฒั นาเด็กและเยาวชน

ในการพฒั นาผ้เู รียนใหม้ ีคุณสมบัติตามเป้าหมายหลกั สตู ร ผสู้ อนพยายามคัดสรรกระบวนการเรียนรู้
จดั การเรยี นรูโ้ ดยชว่ ยใหผ้ ู้เรยี นเรียนรู้ผา่ นสาระทก่ี าหนดไว้ในหลกั สตู ร ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมท้ังปลูกฝงั
เสริมสร้างคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ พัฒนาทักษะต่าง ๆ อนั เป็นสมรรถนะสาคัญใหผ้ ู้เรยี นบรรลตุ ามเป้าหมาย

๑. หลกั การจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนร้เู พอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามรู้ความสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรสู้ มรรถนะสาคัญและ
คณุ ลักษณะอันพึงประสงคต์ ามทีก่ าหนดไว้ในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน โดยยึดหลักว่า ผ้เู รียนมี
ความสาคญั ที่สดุ เชอื่ วา่ ทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ ยดึ ประโยชน์ทีเ่ กิดกับผู้เรียน
กระบวนการจดั การเรียนร้ตู อ้ งส่งเสริมให้ผเู้ รียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพ คานงึ ถงึ
ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลและพัฒนาการทางสมอง เน้นให้ความสาคญั ท้งั ความรู้ และคุณธรรม
๒. กระบวนการเรยี นรู้

การจัดการเรียนรู้ทเี่ นน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ ผู้เรยี นจะตอ้ งอาศัยกระบวนการเรียนรทู้ ี่
หลากหลาย เปน็ เครอ่ื งมือท่ีจะนาพาตนเองไปสู่เป้าหมายของหลักสูตร โดยกระบวนการเรียนรูท้ ่จี าเปน็ สาหรบั
ผ้เู รยี น อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสรา้ งความรู้ กระบวนการคิด กระบวนการทาง
สังคม กระบวนการเผชญิ สถานการณแ์ ละแก้ปญั หา กระบวนการเรียนรจู้ ากประสบการณจ์ ริง กระบวนการ
ปฏิบัติ ลงมอื ทาจริงกระบวนการจดั การ กระบวนการวิจัย กระบวนการเรียนร้กู ารเรียนรู้ของตนเอง
กระบวนการพฒั นาลักษณะนสิ ัย

หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๓

กระบวนการเหล่านี้ จัดเป็นแนวทางในการจดั การเรยี นรูท้ ี่ผู้เรยี นควรไดร้ บั การฝึกฝนและพัฒนา
เพราะจะสามารถชว่ ยให้ผ้เู รียนเกิดการเรียนรไู้ ดด้ ี บรรลเุ ปา้ หมายของหลักสูตร ดงั นนั้ ผู้สอนจึงจาเป็นต้อง
ศึกษาทาความเข้าใจในกระบวนการเรียนรตู้ า่ ง ๆ เพือ่ ใหส้ ามารถเลอื กใชใ้ นการจดั กระบวนการเรียนรู้ได้อยา่ งมี
ประสิทธิภาพ

๓. การออกแบบการจัดการเรียนรู้
ผ้สู อนต้องศกึ ษาหลักสูตรสถานศกึ ษาใหเ้ ขา้ ใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ัด สมรรถนะ

สาคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และสาระการเรียนรูท้ ่เี หมาะสมกบั ผเู้ รยี น แล้วจึงจะพจิ ารณา
ออกแบบการจัดการเรียนรูโ้ ดยเลอื กใช้วิธีสอนและเทคนิคการสอน ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ การวัดและประเมนิ ผล
เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ัฒนาเต็มตามศักยภาพ และบรรลตุ ามเป้าหมายทีก่ าหนด

๔. บทบาทของผ้สู อนและผเู้ รยี น
การจัดการเรยี นรเู้ พ่อื ใหผ้ ู้เรียนมคี ณุ ภาพตามเป้าหมายของหลักสูตร ท้ังผู้สอนและผเู้ รียนควร

มีบทบาท ดงั น้ี
๔.๑ บทบาทของผ้สู อน

๑) ศกึ ษาวเิ คราะห์ผเู้ รยี นเป็นรายบคุ คล แล้วนาข้อมลู มาใช้ในการวางแผนการจดั การเรยี นรู้ ที่ทา้
ทายความสามารถของผู้เรยี น

๒) กาหนดเปา้ หมายทต่ี อ้ งการให้เกดิ ขึ้นกับผ้เู รยี น ดา้ นความรูแ้ ละทกั ษะกระบวนการ ในท่ีเป็น
ความคิดรวบยอด หลกั การ และความสัมพันธ์ รวมทั้งคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรียนร้ทู ต่ี อบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคลและพัฒนาการ
ทางสมอง เพื่อนาผเู้ รยี นไปสู่เปา้ หมาย

๔) จัดบรรยากาศทีเ่ อื้อต่อการเรยี นรู้ และดแู ลช่วยเหลอื ผู้เรยี นใหเ้ กิดการเรยี นรู้
๕) จัดเตรียมและเลือกใชส้ ่อื ให้เหมาะสมกับกิจกรรม นาภมู ปิ ัญญาทอ้ งถิ่น เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมมา
ประยุกตใ์ ชใ้ นการจดั การเรยี นการสอน
๖) ประเมินความก้าวหน้าของผู้เรียนดว้ ยวิธีการทีห่ ลากหลาย เหมาะสมกบั ธรรมชาติของวิชาและ
ระดบั พัฒนาการของผู้เรียน
๗) วเิ คราะหผ์ ลการประเมินเพอื่ นามาใชใ้ นการซอ่ มเสริมและพฒั นาผเู้ รยี น รวมท้งั ปรับปรงุ การ
จดั การเรยี นการสอนของตนเอง

๔.๒ บทบาทของผ้เู รียน
๑) กาหนดเปา้ หมาย วางแผน และรับผดิ ชอบการเรยี นรขู้ องตนเอง
๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถงึ แหล่งการเรียนรู้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ข้อความรู้ ตั้งคาถาม คดิ หา
คาตอบหรือหาแนวทางแก้ปญั หาดว้ ยวิธกี ารตา่ ง ๆ
๓) ลงมอื ปฏบิ ัติจรงิ สรปุ ส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ด้วยตนเอง และนาความรไู้ ปประยุกตใ์ ชใ้ นสถานการณ์ตา่ ง ๆ
๔) มปี ฏิสมั พันธ์ ทางาน ทากจิ กรรมร่วมกบั กลมุ่ และครู
๕) ประเมินและพฒั นากระบวนการเรยี นรู้ของตนเองอย่างต่อเนื่อง

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๔

ส่ือการเรยี นรู้
สือ่ การเรยี นรเู้ ปน็ เคร่อื งมือสง่ เสรมิ สนับสนุนการจดั การกระบวนการเรยี นรู้ ให้ผู้เรยี นเขา้ ถงึ ความรู้

ทักษะกระบวนการ และคุณลกั ษณะตามมาตรฐานของหลกั สูตรไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ สื่อการเรยี นรมู้ ี
หลากหลายประเภท ท้ังสื่อธรรมชาติ สือ่ สงิ่ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครอื ข่ายการเรียนรตู้ า่ ง ๆ ท่ีมีในท้องถ่นิ
การเลือกใช้ส่ือควรเลือกให้มคี วามเหมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการ และลลี าการเรียนร้ทู ี่หลากหลายของผู้เรียน

การจัดหาสอ่ื การเรยี นรู้ ผู้เรยี นและผ้สู อนสามารถจดั ทาและพฒั นาข้นึ เอง หรอื ปรบั ปรุงเลือกใช้
อยา่ งมคี ุณภาพจากส่อื ตา่ ง ๆ ท่ีมีอยู่รอบตวั เพ่อื นามาใช้ประกอบในการจดั การเรียนรู้ทีส่ ามารถสง่ เสรมิ และ
สอื่ สารให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้ โดยสถานศกึ ษาควรจดั ใหม้ ีอยา่ งพอเพียง เพอื่ พฒั นาให้ผเู้ รียนเกดิ การเรียนรู้
อยา่ งแท้จรงิ สถานศึกษา เขตพน้ื ทีก่ ารศึกษา หนว่ ยงานทเี่ ก่ียวขอ้ ง และผูม้ หี น้าท่จี ัดการศึกษาขนั้ พ้ืนฐานควร
ดาเนินการ ดังนี้

๑. จดั ให้มีแหลง่ การเรยี นรู้ ศนู ยส์ ่อื การเรยี นรู้ ระบบสารสนเทศการเรยี นรู้ และเครอื ขา่ ยการเรียนรู้
ท่ีมีประสทิ ธภิ าพ ท้งั ในสถานศึกษาและในชมุ ชน เพ่อื การศกึ ษาค้นคว้าและการแลกเปลีย่ นประสบการณ์การ
เรียนรู้ ระหว่างสถานศกึ ษา ท้องถ่นิ ชุมชน สังคมโลก

๒. จัดทาและจดั หาสื่อการเรียนรู้สาหรับการศึกษาค้นคว้าของผเู้ รียน เสรมิ ความรใู้ ห้ผู้สอน รวมท้งั
จดั หาส่ิงทม่ี ีอยู่ในท้องถ่นิ มาประยุกตใ์ ช้เป็นส่ือการเรยี นรู้

๓. เลือกและใชส้ ่ือการเรยี นรูท้ ม่ี ีคุณภาพ มีความเหมาะสม มคี วามหลากหลาย สอดคล้องกบั วธิ ีการ
เรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน

๔. ประเมินคณุ ภาพของส่ือการเรียนรู้ทเ่ี ลอื กใช้อย่างเปน็ ระบบ
๕. ศกึ ษาค้นคว้า วจิ ัย เพ่ือพฒั นาส่ือการเรียนรใู้ ห้สอดคลอ้ งกับกระบวนการเรยี นรขู้ องผเู้ รยี น
๖. จดั ใหม้ กี ารกากับ ติดตาม ประเมนิ คุณภาพและประสทิ ธภิ าพเก่ียวกบั สอ่ื และการใช้สอื่ การ
เรยี นร้เู ปน็ ระยะ ๆ และสม่าเสมอ
ในการจัดทา การเลอื กใช้ และการประเมนิ คุณภาพสือ่ การเรียนรู้ท่ีใชใ้ นสถานศึกษา ควรคานงึ ถึง
หลักการสาคัญของส่ือการเรียนรู้ เชน่ ความสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตร วตั ถปุ ระสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ
กจิ กรรมการเรยี นรู้ การจดั ประสบการณใ์ ห้ผู้เรยี น เนือ้ หามคี วามถูกต้องและทนั สมยั ไม่กระทบความม่นั คง
ของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรมมกี ารใชภ้ าษาท่ถี กู ต้อง รปู แบบการนาเสนอท่ีเขา้ ใจงา่ ยและนา่ สนใจ

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
การวดั และประเมินผลการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น ตอ้ งอย่บู นหลักการพน้ื ฐานสองประการคือ การ

ประเมนิ เพ่อื พฒั นาผ้เู รียน และเพอ่ื ตัดสนิ ผลการเรยี น ในการพฒั นาคุณภาพการเรียนรู้ของผ้เู รยี นใหป้ ระสบ
ผลสาเร็จนนั้ ผเู้ รยี นจะตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาและประเมนิ ตามตวั ชีว้ ัด เพ่ือใหบ้ รรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้
สะทอ้ นสมรรถนะสาคัญ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรยี น ซึ่งเปน็ เป้าหมายหลกั ในการวดั และ
ประเมินผลการเรียนรูใ้ นทกุ ระดับ ไมว่ า่ จะเปน็ ระดบั ชัน้ เรียน ระดับสถานศึกษา ระดบั เขตพ้นื ที่การศึกษา และ
ระดบั ชาติ การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ เปน็ กระบวนการพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น โดยใช้ผลการประเมนิ เป็น
ขอ้ มลู และสารสนเทศท่ีแสดงพฒั นาการ ความก้าวหน้า และความสาเร็จทางการเรียนของผูเ้ รยี น ตลอดจน
ข้อมลู ท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ การสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การพัฒนา และเรยี นรอู้ ย่างเต็มตามศกั ยภาพ

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๕

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ แบ่งออกเปน็ ๔ ระดับ ประกอบดว้ ย ระดับชัน้ เรียน ระดบั
สถานศึกษา ระดบั เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา และระดบั ชาติ โดยมีรายละเอียดดังน้ี

๑. การประเมินระดบั ชน้ั เรียน เปน็ การวดั และประเมินผลที่อยู่ในกระบวนการจดั การเรยี นรู้
ครูผูส้ อนดาเนนิ การเปน็ ปกตแิ ละสมา่ เสมอ ในการจดั การเรียนการสอน ใชเ้ ทคนิคการประเมนิ อย่าง
หลากหลาย เชน่ การซกั ถาม การสงั เกต การตรวจการบา้ น การประเมนิ โครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ภาระ
งาน แฟม้ สะสมงาน การใช้แบบทดสอบ ฯลฯ โดยผสู้ อนเปน็ ผ้ปู ระเมินเองหรือเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นประเมิน
ตนเอง เพอื่ นประเมนิ เพ่ือน ผูป้ กครองร่วมประเมนิ ในกรณที ่ีไมผ่ ่านตัวช้ีวัดใหม้ ีการสอนซอ่ มเสรมิ
การประเมนิ ระดบั ชัน้ เรียนเปน็ การตรวจสอบวา่ ผูเ้ รียนมพี ฒั นาการความก้าวหนา้ ในการเรยี นรู้อันเป็นผลมา
จากการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากนอ้ ยเพยี งใด มสี ่งิ ทจ่ี ะตอ้ งไดร้ ับการพฒั นาปรบั ปรงุ และ
ส่งเสริมในดา้ นใด นอกจากน้ียงั เป็นขอ้ มลู ให้ผู้สอนใช้ปรบั ปรงุ การเรียนการสอนของตนดว้ ย ท้ังน้ีโดยสอดคล้อง
กบั มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้ีวดั

๒. การประเมินระดับสถานศกึ ษา เป็นการประเมินทีส่ ถานศึกษาดาเนินการเพอ่ื ตัดสินผลการเรยี น
ของผูเ้ รยี นเปน็ รายป/ี รายภาค ผลการประเมนิ การอ่าน คดิ วเิ คราะหแ์ ละเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และ
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน นอกจากน้ีเพื่อใหไ้ ด้ขอ้ มูลเกี่ยวกบั การจัดการศึกษาของสถานศึกษา ว่าส่งผลตอ่ การ
เรยี นรู้ของผเู้ รียนตามเป้าหมายหรอื ไม่ ผ้เู รียนมจี ุดพฒั นาในด้านใด รวมทงั้ สามารถนาผลการเรียนของผู้เรียน
ในสถานศกึ ษาเปรยี บเทยี บกับเกณฑ์ระดบั ชาติ ผลการประเมินระดบั สถานศึกษาจะเป็นข้อมูลและสารสนเทศ
เพ่อื การปรับปรงุ นโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจดั การเรียนการสอน ตลอดจนเพื่อการจดั ทา
แผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษาตามแนวทางการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา และการรายงานผล
การจัดการศึกษาตอ่ คณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สานักงานคณะกรรมการ
การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน ผูป้ กครองและชมุ ชน

๓. การประเมินระดับเขตพน้ื ท่กี ารศึกษา เปน็ การประเมนิ คณุ ภาพผเู้ รียนในระดับเขตพืน้ ที่การศึกษา
ตามมาตรฐานการเรยี นรู้ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน เพ่ือใช้เป็นข้อมลู พืน้ ฐานในการพัฒนา
คุณภาพการศึกษาของเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา ตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดาเนนิ การโดยประเมินคุณภาพ
ผลสัมฤทธ์ขิ องผเู้ รยี นด้วยข้อสอบมาตรฐานท่จี ัดทา และดาเนนิ การโดยเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา หรอื ดว้ ยความ
ร่วมมอื กับหนว่ ยงานตน้ สังกดั ในการดาเนนิ การจดั สอบ นอกจากนยี้ งั ไดจ้ ากการตรวจสอบทบทวนข้อมูลจาก
การประเมินระดบั สถานศกึ ษาในเขตพน้ื ท่ีการศึกษา

๔. การประเมินระดบั ชาติ เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรยี นในระดบั ชาตติ ามมาตรฐานการเรยี นรู้
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน สถานศึกษาตอ้ งจัดให้ผู้เรยี นทุกคนท่ีเรยี นในชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี
๓ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ เข้ารบั การประเมนิ ผลจากการประเมนิ ใชเ้ ป็นข้อมูลในการเทียบเคยี งคุณภาพ
การศกึ ษาในระดบั ตา่ ง ๆ เพื่อนาไปใช้ในการวางแผนยกระดบั คณุ ภาพการจดั การศึกษา ตลอดจนเป็นขอ้ มูล
สนับสนุนการตัดสนิ ใจในระดบั นโยบายของประเทศ

ข้อมูลการประเมนิ ในระดบั ตา่ ง ๆ ขา้ งตน้ เปน็ ประโยชน์ตอ่ สถานศกึ ษาในการตรวจสอบ ทบทวน
พัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ถือเป็นภาระความรบั ผิดชอบของสถานศึกษาที่จะตอ้ งจัดระบบดแู ลช่วยเหลอื ปรบั ปรงุ
แก้ไข สง่ เสริมสนับสนนุ เพื่อให้ผ้เู รียนไดพ้ ฒั นาเตม็ ตามศกั ยภาพบนพ้นื ฐานความแตกต่างระหว่างบุคคล ที่
จาแนกตามสภาพปญั หาและความต้องการ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ผูเ้ รียนทว่ั ไป กลมุ่ ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุม่
ผู้เรยี นทีม่ ีผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนต่า กลุ่มผ้เู รยี นทม่ี ปี ัญหาด้านวนิ ยั และพฤตกิ รรม กลมุ่ ผเู้ รียนทปี่ ฏเิ สธ

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๖

โรงเรยี น กลมุ่ ผ้เู รียนทม่ี ปี ญั หาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุม่ พกิ ารทางรา่ งกายและสติปญั ญา เป็นตน้ ขอ้ มูล
จากการประเมนิ จึงเปน็ หวั ใจของสถานศกึ ษา ในการดาเนนิ การชว่ ยเหลอื ผู้เรียนไดท้ ันทว่ งที เปน็ การเปดิ
โอกาสให้ผเู้ รียนได้รับการพฒั นาและประสบความสาเรจ็ ในการเรียน

สถานศึกษาในฐานะผูร้ บั ผดิ ชอบจัดการศกึ ษา จะต้องจัดทาระเบยี บวา่ ด้วยการวดั และประเมนิ ผล
การเรียนของสถานศกึ ษา ให้สอดคลอ้ งและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ ทีเ่ ป็นขอ้ กาหนดของ
หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน เพ่ือให้บุคลากรท่เี กี่ยวขอ้ งทกุ ฝา่ ยถือปฏิบตั ริ ว่ มกัน

เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรยี น
๑. การตดั สิน การให้ระดบั และการรายงานผลการเรียน
๑.๑ การตัดสนิ ผลการเรยี น
ในการตดั สนิ ผลการเรยี นของกลุ่มสาระการเรยี นรู้ การอ่าน คดิ วเิ คราะห์และเขยี น คุณลักษณะอนั

พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผู้เรียนนนั้ ผู้สอนต้องคานึงถงึ การพฒั นาผเู้ รยี นแต่ละคนเปน็ หลกั และต้องเก็บ
ข้อมลู ของผูเ้ รยี นทุกด้านอยา่ งสมา่ เสมอและต่อเนอื่ งในแตล่ ะภาคเรยี น รวมท้ังสอนซอ่ มเสริมผู้เรียนใหพ้ ฒั นา
จนเตม็ ตามศักยภาพ

(๑) ผูเ้ รียนต้องมีเวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้ังหมด
(๒) ผูเ้ รียนต้องไดร้ บั การประเมนิ ทกุ ตัวช้วี ดั และผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษากาหนด
(๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตดั สินผลการเรียนทุกรายวิชา
(๔) ผู้เรียนต้องได้รบั การประเมนิ และมผี ลการประเมินผา่ นตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากาหนด ในการ
อ่าน คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น
การพจิ ารณาเลื่อนชัน้ ถ้าผู้เรยี นมขี อ้ บกพร่องเพยี งเลก็ น้อย และสถานศึกษาพิจารณาเหน็ ว่าสามารถ
พฒั นาและสอนซ่อมเสรมิ ได้ ใหอ้ ยใู่ นดลุ พินจิ ของสถานศึกษาท่ีจะผ่อนผนั ใหเ้ ล่อื นชนั้ ได้ แต่หากผู้เรียนไมผ่ ่าน
รายวชิ าจานวนมาก และมแี นวโนม้ ว่าจะเป็นปัญหาตอ่ การเรยี นในระดับชน้ั ทสี่ ูงขน้ึ สถานศึกษาอาจตงั้
คณะกรรมการพจิ ารณาให้เรยี นซา้ ชั้นได้ ท้งั นีใ้ หค้ านงึ ถงึ วฒุ ิภาวะและความรู้ความสามารถของผู้เรยี นเป็น
สาคัญ

๑.๒ การให้ระดบั ผลการเรียน
ระดับประถมศึกษา ในการตดั สนิ เพอ่ื ให้ระดับผลการเรียนรายวชิ า สถานศึกษาสามารถให้ระดบั ผล
การเรยี นหรือระดับคณุ ภาพการปฏิบตั ิของผเู้ รยี น เป็นระบบตวั เลข ระบบตวั อักษร ระบบรอ้ ยละ และระบบที่
ใช้คาสาคัญสะท้อนมาตรฐาน
การประเมินการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์นน้ั ให้ระดบั ผล การ
ประเมินเปน็ “ดเี ย่ียม ดี และ ผ่าน”
การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น จะตอ้ งพจิ ารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกจิ กรรม การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
และผลงานของผเู้ รียน ตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากาหนด และให้ผลการเข้าร่วมกจิ กรรมเปน็ “ผา่ น และ ไม่
ผ่าน”

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๗

๑.๓ การรายงานผลการเรียน
การรายงานผลการเรยี น เปน็ การสือ่ สารให้ผ้ปู กครองและผู้เรยี นทราบความก้าวหนา้ ในการเรียนรู้

ของผูเ้ รยี น ซง่ึ สถานศกึ ษาต้องสรปุ ผลการประเมินและจัดทาเอกสารรายงานใหผ้ ู้ปกครองทราบเป็นระยะ ๆ
หรอื อย่างนอ้ ยภาคเรียนละ ๑ ครั้ง

การรายงานผลการเรยี น สามารถรายงานเปน็ ระดับคณุ ภาพการปฏิบัตขิ องผ้เู รยี นที่สะทอ้ น
มาตรฐานการเรยี นรกู้ ลมุ่ สาระการเรียนรู้

๒. เกณฑก์ ารจบการศึกษา
หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน กาหนดเกณฑก์ ลางสาหรบั การจบการศกึ ษาเปน็ ๑ ระดับ คือ ระดับ
ประถมศึกษา

๒.๑ เกณฑ์การจบระดับประถมศึกษา
(๑) ผู้เรียนเรยี นรายวิชาพื้นฐาน และรายวชิ า/กจิ กรรมเพ่มิ เติม ตามโครงสร้างเวลาเรยี นที่หลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐานกาหนด
(๒) ผ้เู รยี นตอ้ งมผี ลการประเมินรายวชิ าพื้นฐาน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ตามท่สี ถานศึกษากาหนด
(๓) ผู้เรียนมีผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะห์และเขียน ในระดับผ่านเกณฑก์ ารประเมินตามที่
สถานศกึ ษากาหนด
(๔) ผูเ้ รียนมีผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ในระดับผา่ นเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศึกษากาหนด
(๕) ผูเ้ รียนเข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียนและมผี ลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์การประเมินตามที่
สถานศกึ ษากาหนด

สาหรบั การจบการศึกษาสาหรับกลมุ่ เปา้ หมายเฉพาะ เช่น การศกึ ษาเฉพาะทาง การศกึ ษาสาหรบั ผู้
มคี วามสามารถพิเศษ การศกึ ษาทางเลอื ก การศกึ ษาสาหรับผดู้ ้อยโอกาส การศึกษาตามอธั ยาศัย ให้
คณะกรรมการของสถานศึกษา เขตพ้นื ท่ีการศึกษา และผู้ท่ีเก่ยี วขอ้ ง ดาเนนิ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ตามหลกั เกณฑ์ในแนวปฏบิ ัติ การวัดและประเมินผลการเรียนรขู้ องหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
สาหรบั กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ

เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
เอกสารหลักฐานการศึกษา เป็นเอกสารสาคญั ทบี่ ันทึกผลการเรยี น ขอ้ มูล และสารสนเทศท่ี

เก่ียวข้องกับพฒั นาการของผเู้ รยี นในดา้ นตา่ ง ๆ แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท ดงั น้ี
๑. เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่กี ระทรวงศึกษาธิการกาหนด
๑.๑ ระเบยี นแสดงผลการเรียน เป็นเอกสารแสดงผลการเรยี นและรบั รองผลการเรยี นของ

ผู้เรยี นตามรายวชิ า ผลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์และเขยี น ผลการประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ของสถานศึกษา และผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน สถานศึกษาจะตอ้ งบันทึกข้อมูลและออกเอกสารน้ี

หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๔๘

ใหผ้ ูเ้ รยี นเป็นรายบคุ คล เมอ่ื ผู้เรยี นจบการศกึ ษาระดบั ประถมศกึ ษา (ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖) และมัธยมศกึ ษา
ตอนต้น (ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3)

๑.๒ แบบรายงานผสู้ าเร็จการศึกษา เป็นเอกสารอนมุ ัติการจบหลกั สูตร โดยบนั ทกึ รายชอ่ื
และขอ้ มลู ของผู้จบการศึกษาระดับประถมศกึ ษา (ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖)

๒. เอกสารหลักฐานการศึกษาท่สี ถานศึกษากาหนด
เปน็ เอกสารท่ีสถานศกึ ษาจัดทาข้นึ เพือ่ บันทกึ พฒั นาการ ผลการเรียนรู้ และข้อมูลสาคัญเกีย่ วกับผู้เรยี น เชน่
แบบรายงานประจาตัวนักเรียน แบบบันทึกผลการเรยี นประจารายวชิ า ระเบียนสะสม ใบรบั รองผลการเรียน
และเอกสารอน่ื ๆ ตามวตั ถปุ ระสงค์ของการนาเอกสารไปใช้

การเทียบโอนผลการเรยี น
สถานศึกษาสามารถเทยี บโอนผลการเรียนของผูเ้ รียนในกรณตี า่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การยา้ ยสถานศกึ ษา การ

เปลีย่ นรูปแบบการศกึ ษา การย้ายหลกั สูตร การออกกลางคันและขอกลบั เขา้ รบั การศกึ ษาตอ่ การศึกษาจาก
ต่างประเทศและขอเข้าศึกษาต่อในประเทศ นอกจากน้ี ยังสามารถเทยี บโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณจ์ าก
แหลง่ การเรยี นร้อู ่นื ๆ เชน่ สถานประกอบการ สถาบันศาสนา สถาบนั การฝึกอบรมอาชพี การจดั การศกึ ษา
โดยครอบครัว

การเทียบโอนผลการเรยี น ควรดาเนนิ การในชว่ งกอ่ นเปดิ ภาคเรยี นแรก หรอื ต้นภาคเรยี นแรกท่ี
สถานศกึ ษารับผู้ขอเทียบโอนเป็นผู้เรียน ท้งั นี้ ผเู้ รียนที่ไดร้ ับการเทียบโอนผลการเรยี นต้องศึกษาตอ่ เน่ืองใน
สถานศึกษาท่ีรบั เทียบโอนอยา่ งนอ้ ย ๑ ภาคเรียน โดยสถานศึกษาท่ีรบั ผู้เรยี นจากการเทียบโอนควรกาหนด
รายวชิ า/จานวนหน่วยกติ ที่จะรบั เทียบโอนตามความเหมาะสม

การพจิ ารณาการเทยี บโอน สามารถดาเนินการได้ดงั น้ี
๑. พิจารณาจากหลักฐานการศกึ ษา และเอกสารอื่น ๆ ที่ให้ขอ้ มูลแสดงความรู้ ความสามารถของ
ผูเ้ รียน
๒. พิจารณาจากความรู้ ความสามารถของผูเ้ รยี น โดยการทดสอบด้วยวธิ กี ารต่าง ๆ ทั้งภาคความรู้
และภาคปฏิบัติ
๓. พจิ ารณาจากความสามารถและการปฏิบตั ิในสภาพจรงิ
หมายเหตุ : การเทยี บโอนผลการเรยี นให้เปน็ ไปตามประกาศ หรือแนวปฏิบัตขิ องกระทรวงศึกษาธกิ าร

การบรหิ ารจดั การหลักสตู ร
ในระบบการศกึ ษาท่ีมกี ารกระจายอานาจให้ทอ้ งถ่ิน และสถานศกึ ษามีบทบาทในการพฒั นา

หลักสตู รน้ัน หนว่ ยงานต่าง ๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องในแตล่ ะระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ ระดับทอ้ งถน่ิ จนถึงระดับ
สถานศึกษา มบี ทบาทหน้าท่ี และความรับผิดชอบในการพัฒนา สนบั สนุน สง่ เสริมการใช้ และพฒั นาหลักสูตร
ใหเ้ ป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ เพือ่ ใหก้ ารดาเนนิ การจดั ทาหลักสูตรสถานศึกษา และการจัดการเรยี นการสอน
ของสถานศกึ ษามีประสทิ ธภิ าพสงู สดุ อันจะสง่ ผลใหก้ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน บรรลุตามมาตรฐานการเรยี นรู้ท่ี
กาหนดไวใ้ นระดบั ชาติ

หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๔๙
ระดับท้องถนิ่ ได้แก่ สานกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศกึ ษา หน่วยงานตน้ สงั กดั อน่ื ๆ เป็นหน่วยงานท่มี ี
บทบาทในการขบั เคลอ่ื นคุณภาพการจัดการศกึ ษา เปน็ ตัวกลางทีจ่ ะเชือ่ มโยงหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้น
พ้ืนฐานทีก่ าหนดในระดับชาติ ให้สอดคลอ้ งกับสภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถิ่น เพอื่ นาไปสกู่ ารจดั ทา
หลกั สูตรของสถานศกึ ษา สง่ เสรมิ การใช้และพัฒนาหลักสูตรในระดับสถานศกึ ษา ใหป้ ระสบความสาเร็จ โดยมี
ภารกิจสาคัญคือ กาหนดเป้าหมายและจดุ เน้นการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนในระดับท้องถิน่ โดยพิจารณาให้
สอดคลอ้ งกับสงิ่ ท่เี ปน็ ความตอ้ งการในระดับชาติ พัฒนาสาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิน่ ประเมินคุณภาพการศกึ ษาใน
ระดับท้องถน่ิ รวมทงั้ เพิ่มพูนคุณภาพการใช้หลกั สูตรดว้ ยการวิจยั และการพัฒนาบุคลากร สนบั สนนุ สง่ เสรมิ
ตดิ ตามผล ประเมนิ ผล วเิ คราะห์ และรายงานผลคณุ ภาพของผู้เรยี น
สถานศกึ ษามีหนา้ ท่สี าคัญในการพัฒนาหลักสตู รสถานศกึ ษา การวางแผนและดาเนินการใช้หลกั สตู ร
การเพม่ิ พูนคุณภาพการใชห้ ลักสูตรดว้ ยการวิจยั และพฒั นาการปรับปรงุ และพฒั นาหลักสตู ร จัดทาระเบยี บ
การวดั และประเมินผล ในการพัฒนาหลักสูตรสถานศกึ ษา ต้องพจิ ารณาใหส้ อดคลอ้ งกับหลักสตู รแกนกลาง
การศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน และรายละเอยี ดท่ีเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา หรือหนว่ ยงานสงั กดั อน่ื ๆ ในระดบั ทอ้ งถ่ินได้
จัดทาเพิ่มเติม รวมทงั้ สถานศกึ ษาสามารถเพิ่มเติมในส่วนทีเ่ ก่ียวกบั สภาพปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมปิ ญั ญา
ทอ้ งถิ่น และความต้องการของผเู้ รียน โดยทุกภาคส่วนเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการพัฒนาหลกั สูตรสถานศกึ ษา

หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๐

ภาคผนวก

หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนสนวนโคกเมก็ ) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑

๑๕๑

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕๒

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕๓

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑

๑๕๔

หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนสนวนโคกเม็ก) พทุ ธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑


Click to View FlipBook Version