แผนการจัดการเรยี นรู้
วิชา วทิ ยาศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา
กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2564
ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 - 6
โรงเรยี นบ้านหาดสองแคว
ตาบลหาดสองแคว อาเภอตรอน จงั หวดั อุตรดิตถ์
สพป. อตุ รดติ ถ์ เขต 1
นายอนุพงศ์ พมิ แสน
นักศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
uuvtfltJoa?1il
dru:rtnr: T:.r rB uuriruuln60 d LrFr? o.sr : ou Ad
Q.0n?FlFlil
$.,1 tqyy'l oSo+ ?uiuvr { 5
VI
t:o.i4 qe u 4 y
rl00uru1Fl LtLrr{un'tTann''}:L5-uu5-€
Ie
tBuu fsrtirurunr:T:.ruTuurjruralnd-o.run? 0.a:ou a-..oai-oad-'
nttzru:ufoifnf iriqgu9rfrili'l1u5faituTdsUgrurruululvfrl-LfTAluu.:-ulvfriEfutyiul'4LfluT:-lUr:truJrdtirUu2uu5oar5tiu1Fruor(fvirJ._lJFl_nYt.'_aur-Lr.o-.f-{lr{:,?l-r_fr6l.?r0'nl)torrnf.ryn'aa:alrr:luv'rn{olJT4u.rei1Erqjum-:uuefirifuulrnrijuo-lifrliifrrfiulr{auy1FuirnluFtfdlr-'{nnfl:a6uumuin-r:Inu; unduqrn-v--rpaurr,tid'.-1r'
u'luoU1T-,Ut'llri tfirLrtau sfrruillflnfiflurTlnil:uflrnr:d?rr611n: nd:.rfi'l:vnr:rtuuiiyturFnaaiLras
U
uvrn1uTnB filtfid'erviruruurr'lrttuuf:ruitrivrurfllafl{ nraLtuufi z flnr:finu 1 2564 siru.lu
U
rarjrunr:ttuuf + rarjru :vnludur.l:vnrfinrgrflfr' E dTu:u g ehhJr :yfr'rEYurJ:vailfinrcrflfi 4 q;ruru
e ?Yr1xrl :spi-lt1"J:vnerfinrcrtlfi 5 qiruru B trrTrruas:sfi'rrYurJ:snilfinrcrflfi 6 druru 8 r-rIur
Yt
:?rrvr-{1,lrJFr 3z d'rhl rrrilr'rflnura^flpl?0.il[zuur]r:q-flnr:rBuufrflufil3ur_rfrou
tunr:durl'otrl'nr:t-qfion::rnr:uBuuir-uL::nfrlulimrir.iJ:yarri fur'lEsufin-rr-l-rcil n'rrerurirto
1ua.:rinruittavn:vlrunr:6'qnrnrrllnr:rEuuf;r.rowr: drur{rdrtori{ruzuilar:{-Frnr:riuufo'rneirr
uas"L{aaulu"rirl:yra'jr{{ufi ts nqoin x)u 2564 ficiufi 10 ffu.:rnr:r 2564
d qv u d y
ui+ 4
c{ LT ar uil"t rrx a tt 0 0 UI IU6_u n Lt uii u n'l r0 Fl a r : $ u -U
(n?!..gltvn.{......
I
uu a u dv
,{ Q Ay'} tLzuU fl I : q Fl fl ',] T L:UU T
U
Fr'l'rl.rF^tFdvtwtx4u14't141.t't.1'tuuT141:'1fl r fl 15
(,uuil6rtarronauuvr udu) Guronqrgua lt{'u)
UV (tirur u n r:I:r Guurirural qfi 0{ uFr'l
fi "l 1,1U'.).1 1 UU T14 1 T?"dl n'l T
q -ash, - C qFeC-
F
q(f) FC udrFE=SrF lf="e e
Gt {e urEF=tF
\o EP EttnP=HF€ il c.
FFeFE"{e ai-t
oI F=" = ? 3F
tGFe (C'
cO aa )#5CA
tG
tr; ?
F E ncD(atr-)ac("-p((s- =D f"(JCG ap
G(- c i=
auo) co trirE\o ail
(-) Ge
I C- E .u:
(c'FD!
cOl 6 ,6E
si D(-
(G
+cO=l 6 a -it@F roca
oI
(-)l(G- La) rrtes\o i3a
(f) TG
ce; (F(D- C! (G
-; 6
n(o.) (G
6 I e
E
O
(=gF06 6 cn (G6q-i \O .Eg6(C-JJ st 6 G5 li'!
c.i c-J -d-
NE il SiE 9 IDrJ
J rj (cDF- (F(-
(DF(c--) (lrD
Es
"5E (cDt" ece
q" EH"P IG =N 7
@
bFr U:j ao
@g gtktLGruLl^Bs[LnFU]r G;3
d6 H
0=-<CJJ
GCl/Ao\?o $ @ I FEG r=a
= RFrCGApc?= O ? Ule
h FF:DnCC(d(6 cO
-oca
6flP: ip(- O
.?CFJ
(qD;l oo(.) E
rir (G
07 o G(_ rr]
oco ;o
l/. c.l (-J 7
D
oi (Fc' 15 - lr'
d-tGGcc
-; cr0Jed
tGs
(-o 6
lg(E-: cO -
cO
-?CFd
oi
sO E ") (G
cc) ((-
d
j
cO 9'F LrullBruXeut uloorouloH
oct
,
Lr)
oct
*F C Tp6 c
,E G
)d) UC .IG
G-
=
แผนการจดั การเรียนรู้
วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 3
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1
รหัส-ช่ือรายวชิ า วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้เรือ่ ง วัสดนุ า่ รู้ ระดับชั้น ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
ภาคเรยี นท่ี 2 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
เรอื่ ง วัสดแุ ละวตั ถุ เวลา 2 คาบ
ชอ่ื ผูส้ อน นาย อนพุ งศ์ พิมแสน วันท.่ี .....17,19.......เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
โรงเรียนบา้ นหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จังหวัด อุตรดิตถ์ คะแนนเกบ็ .........คะแนน
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ว 2.1 เข้าใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบชองสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบัติของสสารกับโครงสร้าง
และยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี
2. ตวั ช้ีวัด
ป.3/1 อธิบายว่าวัตถปุ ระกอบขึน้ จากชน้ิ ส่วนย่อย ๆ ซึ่งสามารถแยกออกจากกนั ไดแ้ ละประกอบกนั เป็น
วตั ถชุ นิ้ ใหม่ โดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
3. สาระสำคัญ
- วัตถุอาจทำจากชิ้นส่วนย่อย ๆ ซึ่งแต่ละชิ้นมีลักษณะเหมือนกันมาประกอบเข้าด้วยกัน เมื่อแยกชิ้น
สว่ นย่อย ๆ แต่ละช้นิ ของวตั ถุออกจากกันสามารถนำช้ินส่วนเหล่านน้ั มาประกอบเปน็ วตั ถุช้นิ ใหมไ่ ด้
- วสั ดุ คือ สงิ่ ทน่ี ำมาใช้ทำสิ่งของตา่ ง ๆ เช่น ไม้ ยาง พลาสติก กระดาษ แก้ว เปน็ ต้น
- วัตถุ คอื สิง่ ทที่ ำมาจากวสั ดุชนิดต่าง ๆ ประกอบกนั ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้
4. สาระการเรียนรู้(เนอ้ื หา)
- วัสดแุ ละวัตถุ
5. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นสามารถ:
1.1 อธบิ ายความแตกต่างของวสั ดุและวตั ถไุ ด้
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) นกั เรียนสามารถ:
2.1 ประกอบวสั ดุชิ้นย่อย ๆ ให้เป็นวัตถุช้นิ ใหม่ได้
3. ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี น:
3.1 ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
6. สมรรถนะนักเรียน
1. ด้านการส่ือสาร
2. ด้านการคิด
3. ด้านการแกป้ ัญหา
4. ดา้ นทกั ษะชีวิต
7. รูปแบบวธิ ีการจดั ประสบการเรียนรู้ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดบั ขน้ั การจัดประสบการณ์เรยี นรู้
1. ขนั้ สร้างความสนใจ (10 นาที)
1.1 ครแู นะนำตวั และให้นกั เรียนทกุ คนคนแนะนำตวั เอง และทำกิจกรรมนทั นาการละลายพฤตกิ รรม
1.2 ครูต้งั คำถามเพอ่ื กระต้นุ ความสนใจ และวัดความร้เู ดมิ ของนักเรียน “วสั ดุกบั วตั ถุเหมือนหรือต่างกัน
อย่างไร” (แนวคำตอบ ขน้ึ อยู่กบั ความรู้เดมิ )
1.3 ใหน้ กั เรียนร่วมกันตอบแสดงความคิดเหน็
1.4 ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
2. ขนั้ ขั้นสำรวจและคน้ หา (30 นาท)ี
2.1 ครูอธบิ ายความแตกตา่ งของวสั ดุและวัตถุ (วัสดแุ ละวตั ถแุ ตกต่างกัน วัสดุ คือ สิ่งท่ีนำมาใช้ทำสิ่งของ
ต่าง ๆ เชน่ ไม้ ยาง พลาสติก กระดาษ แกว้ เปน็ ตน้ และวตั ถุ คอื สิ่งทที่ ำมาจากวัสดุชนดิ ต่าง ๆ ประกอบกัน
ซงึ่ เราสามารถนำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้)
2.2 ครูตั้งคำถามเพ่อื ทบทวนความเขา้ ใจ “วสั ดุ คอื อะไร และวัตถุ คอื อะไร”
(แนวคำตอบ ตามความเข้าใจของนักเรียน)
2.3 ในนักเรยี นนกั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเหน็
2.4 ครูเปิดภาพตัวอย่างการประกอบวัตถุชิ้นใหม่จากชิ้นส่วนย่อย พร้อมตั้งคำถาม “นักเรียนสามารถ
แยกช้นิ ย่อย ๆ อะไรไดบ้ ้างจากภาพตัวอยา่ ง และสามารถประกอบข้ึนเป็นอะไรได้บ้าง”
2.5 นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น
3. ขั้นอธบิ ายและลงสรปุ (20 นาที)
3.1 ครูใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งของวสั ดุ และวสั ดนุ ้ันสามารถประกอบเป็นของชนิ้ ใหมใ่ ดได้บา้ ง
3.2 ครยู กตัวอย่างวตั ถุ และให้นักเรียนแยกชนิ้ สว่ นประกอบย่อย ๆ
3.3 ใหน้ กั เรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น
3.4 ครใู ห้นักเรียนบันทกึ ความรูล้ งสมุดบนั ทกึ
4. ขน้ั ขยายความรู้ (40 นาท)ี
4.1 ครใู ห้นักเรียนประดษิ ฐก์ ระทงจากวสั ดธุ รรมชาติ และวสั ดทุ ค่ี รูเตรยี มให้
5. ข้นั ประเมนิ ผล (10 นาท)ี
5.1 ครตู รวจดูผลงานของนักเรยี น
8. สอ่ื / แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1
2. PowerPoint วสั ดุและวัตถุ
9. การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารผ่าน
จุดประสงค์
1.1 อธิบายความแตกต่างของวสั ดุและ ถาม - ตอบ คำถาม ร้อยละ 60 ขึ้นไป
วัตถไุ ด้ (K)
2.1 ประกอบวัสดุชน้ิ ยอ่ ย ๆ ให้เปน็ กิจกรรมสังเกตหินตัวอย่าง ใบกิจกรรม คะแนน Rubric ระดบั
วตั ถชุ ิน้ ใหมไ่ ด้ (P) 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดบั
3.1 มุ่งมั่นในการทำงาน (A) สังเกตพฤตกิ รรมการ แบบประเมิน คะแนน Rubric ระดบั
ทำงานกล่มุ พฤติกรรม 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ
10. เกณฑก์ ารประเมิน 4 (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง)
3 (ด)ี 2 (พอใช้)
ประเด็นการประเมิน - มีคุณสมบัติ - มี
4 ใน 4 ของ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขึ้นไป คุณสมบตั ิ 1
1. อธิบายความแตกต่างของวัสดแุ ละวัตถุ ระดับคุณภาพ ใน 4 ของ
ได้ (K) - มีคุณสมบตั ิ 3 - มีคณุ สมบัติ ระดับ
2. ประกอบวัสดชุ ิน้ ย่อย ๆ ให้เป็นวตั ถชุ นิ้ - มีคุณสมบตั ิ คุณภาพ
ใหมไ่ ด้ (P) 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ
คุณภาพ ระดบั คุณภาพ - มี
- ประกอบกระทงได้อย่างน้อย 1 ใบ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ คุณสมบัติ 1
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ไม่ซำ้ กับเพื่อน ใน 4 ของ
- เลอื กใช้วสั ดุทห่ี ลากหลาย - มคี ุณสมบตั ิ 3 - มีคุณสมบตั ิ ระดบั
- บอกวสั ดุทใ่ี ช้ประกอบกระทงจากของ คุณภาพ
เพอ่ื นได้ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน (A)
คณุ ภาพ คุณภาพ ระดับคุณภาพ
- รว่ มด้วยช่วยกันทำงานกลุ่ม
- ต้งั ใจทำงานกลมุ่
- ทำงานเสร็จตามเวลาท่กี ำหนด
- ช้ินงานมีความสมบรู ณ์
แบบประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้
(K) (P) (A) คะแนน
ผา่ นร้อยละ 60 เกบ็
เลขที่ ชอ่ื - สกลุ ผ่านระดบั 2 ขึน้ ไป ผา่ นระดับ 2 ขึ้นไป (10)
คะแนน ผ/
1 ด.ช.กฤษณะ ดิษฐทมิ (10) มผ 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/
2 ด.ช.ณัฐพงศ์ เดือนแจม่ มผ มผ
3 ด.ช.ทณิ ภัทร พุฒพวง
4 ด.ช.ธนดล แสงทรพั ย์ 7 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
5 ด.ช.นนั ทโชติ โสคำ
6 ด.ญ.กมลวรรณ ตรีพงษ์ 8 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
7 ด.ญ.นวพร คำนึงควร 7 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
8 ด.ญ.วิภาวิณี เหล่ยี มมา 8 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
9 ด.ญ.สุชญา เกตอุ ำพร
10 ด.ญ.ชนกเนตร ศรีสันต์ 7 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
11 ด.ญ.ชลธชิ า สีน่วม 8 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
12 ด.ช.ปริพฒั น์ เม่นแต้ม 8 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
7 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
u4u
uuvlflua{rt[9'ru
t,{ afi 186'nil Tr6u ft1: oirl1 :rEu u t
2. frruvr-nuy./n:suaunrt (p)
a. frrun nr#nucusd'ufi.rr-l:va.rri (n)
flry, . v- rfili
. nHX.tr**5i.qrn. ?r.0 t.l**n.e
{atauauus y' uuemlruffls
...1.3...t ....n.,.1,!......t ....h.?....
u_vu<ilCnYBu?.a,'glti tl,tlJs0 {EUlqO5?a6au ufllufl ,teofi fl 't5t5uu€
n{4tia
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2
รหสั -ช่ือรายวิชา วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรเู้ รอ่ื ง วัสดนุ า่ รู้ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3
ภาคเรยี นที่ 2 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
เรื่อง การเปล่ยี นแปลงของวสั ดุ เวลา 2 คาบ
ช่ือผ้สู อน นาย อนุพงศ์ พมิ แสน วันท่.ี .....24,26.......เดือน พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564
โรงเรียนบ้านหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จังหวดั อุตรดติ ถ์ คะแนนเก็บ.........คะแนน
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบชองสสาร ความสัมพันธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสารกบั โครงสรา้ ง
และยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี
2. ตวั ช้วี ัด
ป.3/2 อธิบายการเปลี่ยนแปลงของวสั ดุเมอื่ ทำให้รอ้ นขน้ึ หรือเยน็ ลง โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์
3. สาระสำคัญ
- เมื่อให้ความร้อนหรือทำให้วัสดุร้อนขึ้น และเมื่อลดความร้อนหรือทำให้วัสดุเย็นลง วัสดุจะเกิดการ
เปลยี่ นแปลงได้ เช่น สเี ปลยี่ น รปู รา่ งเปลยี่ น
4. สาระการเรยี นรู(้ เนือ้ หา)
- การเปล่ยี นแปลงของวสั ดเุ มอื่ ทำใหว้ สั ดุรอ้ นข้นึ หรือทำใหว้ ัสดุเยน็ ลง
5. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. ด้านความรู้ (K) นกั เรียนสามารถ:
1.1 อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงของวัสดุเม่ือทำใหร้ อ้ นขนึ้ หรอื เย็นลงได้
2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถ:
2.1 สามารถปฏิบัตกิ ิจกรรมได้
3. ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) ส่งเสรมิ ใหน้ กั เรยี น:
3.1 มุ่งม่นั ในการทำงาน
6. สมรรถนะนกั เรียน
1. ดา้ นการสื่อสาร
2. ด้านการคดิ
3. ด้านการแก้ปญั หา
4. ดา้ นทักษะชีวิต
7. รปู แบบวธิ ีการจัดประสบการเรียนรู้ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดบั ขน้ั การจดั ประสบการณเ์ รยี นรู้
1. ขัน้ สร้างความสนใจ (10 นาที)
1.1 ครูทำกจิ กรรมนทั นาการละลายพฤตกิ รรม
1.2 ครูให้นักเรียนดูรูปคนถือไอศกรีมกลางแสงแดด จากนั้นตั้งคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์เดิมของ
นักเรียนวา่ เม่อื เวลาผ่านไปไอศกรมี จะเปลยี่ นแปลงอยา่ งไร (แนวตอบ ไอศกรมี ละลาย)
1.3 นักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับคำตอบของคำถามเพือ่ เชื่อมโยงไปสู่การ
เรียนรเู้ รอ่ื ง การเปลี่ยนแปลงของวัสดุเมอื่ ทำให้รอ้ นขึ้นหรอื ทำใหเ้ ยน็ ลง
1.4 ครตู ้งั นกั เรียนวา่ เมื่อทำให้วสั ดุร้อนขึ้นหรือเยน็ ลงวสั ดจุ ะเกิดการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไรบ้าง
1.5 นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็น และครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเพื่อเข้าสู่กิจกรรม “การเปลี่ยนแปลง
ของวสั ด”ุ
2. ขน้ั ขั้นสำรวจและคน้ หา (40 นาท)ี
2.1 ครูเตรียมอุปกรณ์ทใ่ี ชใ้ นการทดลองดงั น้ี
1) น้ำแข็ง 2) เกลือป่น 3) น้ำผลไม้ 4) ชาม,ขนั สแตนเลส 5) กะละมงั
2.2 ครูสาธิตการทำกิจกรรม “การเปลี่ยนแปลงของวสั ดุ” และให้นักเรียนปฏิบัติไปพร้อมกับครู โดยมี
ขน้ั ตอนดงั นี้
1) นำนำ้ แขง็ เทลงในกะละมงั แลว้ เทเกลือป่นลงในน้ำแข็ง
2) นำชาม,ขนั สแตนเลสวางลงบนกะละมงั น้ำแข็ง จากน้ันเท่น้ำผลไมล้ งในชาม,ขนั สแตนเลส
3) หมุนชาม,ขันสแตนเลส กลบั ไปมา ลักษณะคลา้ ยทำไอตมิ โบราณ
4) สังเกตการเปล่ยี นแปลงของนำ้ ผลไม้
2.3 นกั เรียนและครูรว่ มกนั อภปิ รายและสรุปผลการทำกิจกรรมเกีย่ วกับการเปลยี่ นแปลงของวัสดุ
3. ข้ันอธบิ ายและลงสรุป (30 นาที)
3.1 นกั เรียนนำเสนอผลการทำกิจกรรมของกล่มุ ตนเองหนา้ ชัน้ เรียน
3.2 ครูอธิบาย เมื่อให้ความร้อนหรือทำใหว้ ัสดุร้อนข้ึน และเมื่อลดความร้อนหรือทำใหว้ สั ดเุ ยน็ ลง วัสดุ
จะเกดิ การเปลย่ี นแปลงได้ เชน่ สเี ปลย่ี น รูปร่างเปลีย่ น
4. ขนั้ ขยายความรู้ (30 นาที)
4.1 ครูตั้งคำถามหากครูน้ำหวามเย็นที่นักเรียนทำจากกิจกรรม “การเปลี่ยนแปลงของวัสดุ” ไปตั้งไว้
กลางแดด หรอื นำไปใหค้ วามร้อน หวานเย็นของนกั เรยี นจะเป็นอยา่ งไร
4.2 นักเรียนรว่ มกนั ตอบและแสดงความคิดเห็น
4.3 ครูอธิบายเนื้อหาเพิ่มเติม เมื่อเราให้ความร้อนแก่วัสดุหรือทำให้วสั ดุเยน็ ลง วัสดุต่าง ๆ จะเกิดการ
เปล่ียนแปลงได้ เชน่ สีเปลี่ยน รูปร่างเปลย่ี น
- การให้ความร้อนแก่วัสดุ คือ การเพิ่มอุณหภูมิหรอื การทำให้วัสดุร้อนขึ้น สามารถทำได้หลายวธิ ี เช่น
การเผาดว้ ยไฟ การแชน่ ำ้ รอ้ น การอบด้วยความรอ้ น การนำไปตากแดด เช่น การเผากระดาษ ทำใหก้ ระดาษมี
สแี ละรปู รา่ งเปล่ยี นไป
- การทำให้วัสดเุ ย็นลง คือ การลดอุณหภูมิหรือทำให้วัสดุเย็นลง สามารถทำได้หลายวธิ ี เช่น การทิ้งไว้
ในอุณหภูมิห้องปกติโดยไม่ได้รับความรอ้ นเพิ่ม การแช่ในถังน้ำแข็งหรือตูเ้ ย็น การแช่แข็งในช่อง แช่แข็งของ
ตู้เย็น เชน่ การแช่น้ำไว้ในชอ่ งแชแ่ ข็งของตู้เย็น ทำให้นำ้ มอี ณุ หภมู ิตำ่ จนกลายเป็นน้ำแขง็
5. ขั้นประเมินผล (10 นาที)
5.1 ครใู หนกั เรียนทำแบบฝกึ หดั ลงสมุดบันทึก
5.2 ครูตรวจงานนักเรยี น
8. สอ่ื / แหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เล่ม 1
2. วสั ดอุ ปุ กรณ์การทำกิจกรรม
9. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์ วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
คำถาม จุดประสงค์
1.1 อธบิ ายการเปลี่ยนแปลงของวสั ดุ ถาม - ตอบ รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป
เม่ือทำใหร้ อ้ นขึน้ หรือเย็นลงได้ (K)
2.1 สามารถปฏิบตั ิกิจกรรมได้ (P) ทำการเปลีย่ นแปลงของ การเปล่ียนแปลง คะแนน Rubric ระดบั
วัสดุ ของวสั ดุ 2 ขน้ึ ไปจาก 4 ระดบั
3.1 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A) สังเกตพฤติกรรมการ แบบประเมิน คะแนน Rubric ระดับ
ทำงานกลุ่ม พฤติกรรม 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดับ
10. เกณฑ์การประเมนิ
ประเดน็ การประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
1. อธบิ ายการเปลย่ี นแปลงของวสั ดเุ ม่ือทำ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป
ให้ร้อนขน้ึ หรือเยน็ ลงได้ (K)
2. สามารถปฏิบัติกจิ กรรมได้ (P) - มคี ุณสมบตั ิ - มคี ณุ สมบตั ิ 3 - มีคณุ สมบัติ - มี
คณุ ภาพ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- ปฏบิ ัติกิจกรรมตามขัน้ ตอน ระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ใน 4 ของ
- บรรยายสง่ิ ทสี่ งั เกตได้ ระดับ
- ใช้วัสดุอปุ กรณไ์ ดถ้ กู ต้อง คุณภาพ
- บรรยายผลการทำกิจกรรมได้
4. มุ่งม่นั ในการทำงาน (A) - มีคณุ สมบัติ - มีคณุ สมบัติ 3 - มคี ณุ สมบตั ิ - มี
คุณภาพ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- ร่วมดว้ ยช่วยกันทำงานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ ใน 4 ของ
- ต้งั ใจทำงานกล่มุ ระดับ
- ทำงานเสร็จตามเวลาทก่ี ำหนด คุณภาพ
- ชิ้นงานมคี วามสมบูรณ์
แบบประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรู้
(K) (P) (A) คะแนน
ผา่ นร้อยละ 60 เกบ็
เลขที่ ชอ่ื - สกลุ ผ่านระดบั 2 ขึ้นไป ผา่ นระดับ 2 ขึ้นไป (10)
คะแนน ผ/
1 ด.ช.กฤษณะ ดิษฐทมิ (10) มผ 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/
2 ด.ช.ณัฐพงศ์ เดือนแจม่ มผ มผ
3 ด.ช.ทณิ ภัทร พุฒพวง
4 ด.ช.ธนดล แสงทรพั ย์ 8 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
5 ด.ช.นนั ทโชติ โสคำ
6 ด.ญ.กมลวรรณ ตรีพงษ์ 7 ผ ✓ - ✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ด.ญ.นวพร คำนึงควร 7 ผ ✓ - ✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
8 ด.ญ.วิภาวิณี เหล่ยี มมา 7 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
9 ด.ญ.สุชญา เกตอุ ำพร
10 ด.ญ.ชนกเนตร ศรีสันต์ 8 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
11 ด.ญ.ชลธชิ า สีน่วม 8 ผ ✓ - ✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
12 ด.ช.ปริพฒั น์ เม่นแต้ม 7 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
fromuauus / uuaurrufftr
hrl
ngfJltJau.l
..2.1 r ...y:. ;. ?!... ...r....b..1....
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3
รหสั -ช่ือรายวิชา วทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรเู้ รอื่ ง แรงและการเปล่ยี นแปลงการเคลอื่ นที่ของวตั ถุ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3
ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
เรอ่ื ง การเปล่ียนแปลงการเคลอื่ นทขี่ องวัตถุ เวลา 2 คาบ
ชอ่ื ผ้สู อน นาย อนพุ งศ์ พมิ แสน วันที่......1,3.......เดือน ธนั วาคม พ.ศ. 2564
โรงเรยี นบ้านหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จังหวดั อุตรดิตถ์ คะแนนเกบ็ ..........คะแนน
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตแิ รงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุลกั ษณธการเคลอ่ื นท่แี บบต่าง ๆ
ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
2. ตัวช้วี ัด
ป.3/1 ระบผุ ลของแรงท่ีมผี ลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนทข่ี องวตั ถุจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
3. สาระสำคัญ
- เม่อื มแี รงมากระทำต่อวัตถุ วัตถบุ างชนดิ จะเปลี่ยนแปลงการเคลือ่ นที่ โดยเปล่ียนตำแหน่งจากท่ีหน่ึง
ไปอีกที่หนงึ่ โดยแรงท่มี ผี ลตอ่ การเคลือ่ นที่ของวตั ถุมีท้ังแรงสัมผสั และแรงไมส่ มั ผสั
4. สาระการเรียนรู้(เนื้อหา)
- แรงและการเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ
5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) นักเรียนสามารถ:
1.1 ระบผุ ลของแรงท่ีมผี ลตอ่ การเปลี่ยนแปลงการเคล่ือนทข่ี องวัตถุได้
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) นกั เรยี นสามารถ:
2.1 สามารถปฏบิ ตั ิกจิ กรรมได้
3. ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ส่งเสรมิ ให้นักเรียน:
3.1 มุ่งมั่นในการทำงาน
6. สมรรถนะนกั เรียน
1. ด้านการสื่อสาร
2. ด้านการคิด
3. ดา้ นการแก้ปญั หา
4. ดา้ นทกั ษะชีวติ
7. รูปแบบวธิ กี ารจดั ประสบการเรยี นรู้ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดบั ขน้ั การจดั ประสบการณ์เรยี นรู้
1. ขน้ั สรา้ งความสนใจ (10 นาท)ี
1.1 ครูทำกิจกรรมนัทนาการละลายพฤตกิ รรม
1.2 ครใู ห้นักเรยี นดูรปู คนคนเข็นรถเข็น และคนเลน่ สเก็ตบอร์ด จากน้นั ครูต้งั คำถามเพอ่ื สร้างความสนใจ
- จากภาพ มกี ารออกแรงกระทำตอ่ วตั ถุอยา่ งไร
- การออกแรงในภาพมผี ลตอ่ การเคล่ือนที่ของวัตถุหรือไม่ อยา่ งไร
1.3 นกั เรียนรว่ มกันตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกับคำตอบของคำถามเพอ่ื เชื่อมโยงไปสู่การ
เรยี นรู้เรอื่ ง การเปลยี่ นแปลงการเคลือ่ นทขี่ องวัตถุ
1.4 ครูแจง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้ใู ห้นกั เรยี นทราบ
2. ขน้ั ขั้นสำรวจและคน้ หา (40 นาที)
2.1 ครูใหน้ ักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน จากนนั้ ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มปฏิบัตกิ ิจกรรมท่ี 1 ช่วยกัน
ดึง ช่วยกันผลกั คอื
- ดันโต๊ะเรยี น
- ดึงโตะ๊ เรยี น
- ดนั กลอ่ งใสข่ อง
- ดงึ กลอ่ งใสข่ อง
- ปดิ หนา้ ตา่ งห้องเรียน
- เปิดหนา้ ตา่ งหอ้ งเรยี น
2.2 นกั เรียนสงั เกตลกั ษณะการออกแรงและการเคลอ่ื นทข่ี องวัตถุว่ามีทิศทางการเคลอ่ื นท่เี ปน็ อย่างไร
2.3 ให้นักเรียนจำแนกระหว่างการดึงและการผลกั โดยใชท้ ศิ ทางการออกแรงกระทำต่อวัตถเุ ปน็ เกณฑ์
3. ขัน้ อธิบายและลงสรุป (30 นาท)ี
3.1 นกั เรยี นนำเสนอผลการทำกิจกรรมของกล่มุ ตนเองหน้าช้ันเรียน
3.2 ครตู ง้ั คำถาม แลว้ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามลงสมุดบนั ทึก
- การออกแรงดึงหรอื ผลกั มผี ลต่อการเคล่ือนท่ีของวตั ถุเหมือนหรือแตกต่างกนั หรอื ไม่ อย่างไร
- ยกตัวอย่างกิจกรรมท่ตี อ้ งออกแรงดงึ หรือผลักมาอยา่ งละ 2 กจิ กรรม โดยไมซ่ ้ำกับการททำกิจกรรมไป
เมอ่ื ตน้ คาบเรียน
- กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน นกั เรยี นจะใช้แรงดงึ หรอื แรงผลกั มากกว่ากนั เพราะเหตใุ ด
3.3 ใหน้ กั เรยี นนำเสนอคำตอบของตนเองหนา้ ชนั้ เรียน
3.4 ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายคำตอบของเพอ่ื น
3.5 ครูอธบิ ายและสรุปความรูเ้ กย่ี วกับการเปลยี่ นแปลงการเคลอื่ นทขี่ องวตั ถุ
4. ข้นั ขยายความรู้ (30 นาที)
4.1 ครสู อบถามนกั เรยี นเคยเล่นกีฬาฟุตบอลหรือไม่ ครอู ธิบายลักษณะการเลน่ ฟุตบอล มีทัง้ การส่งบอล
รบั บอล
4.2 ครตู งั้ คำถาม “การเลน่ ฟตุ บอลมกี ารออกแรงหรือไม่”
4.3 นกั เรยี นร่วมกันตอบ
4.4 ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าการส่งลูกฟุตบอลให้เพื่อน ลักษณะการออกแรง “แรงผลัก” ส่วนการรับลูก
ฟุตบอลจากเพอื่ น ลักษณะการออกแรง “แรงดงึ ”
4.5 นักเรียนและครูร่วมกันสรุปได้ข้อสรุปว่า แรง หมายถึง สิ่งที่กระทำต่อวัตถุ แล้วทำให้วัตถุ
เปลี่ยนแปลงสภาพไป
- การดงึ เปน็ การออกแรงกระทำตอ่ สง่ิ ใดสิง่ หนึ่ง แลว้ ทำให้ส่ิงนน้ั เคลือ่ นท่เี ขา้ หาตัว
- การผลัก เปน็ การออกแรงกระทำต่อสิง่ ใดสง่ิ หนงึ่ แล้วทำให้สิง่ น้นั เคล่อื นทอี่ อกจากตัวเรา
5. ข้นั ประเมินผล (10 นาที)
5.1 ก่อนปล่อยออกจากชั้นเรียน ครูให้นักเรียนแต่ละคนยกตัวอย่างกิจกรรมที่ต้องออกแรงคนละ 1
กิจกรรม
8. ส่ือ/ แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 เลม่ 1
2. วสั ดอุ ุปกรณ์การทำกจิ กรรม
9. การวัดและประเมินผล
จุดประสงค์ วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารผา่ น
คำถาม จดุ ประสงค์
1.1 ระบุผลของแรงทมี่ ผี ลต่อการ ถาม - ตอบ รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป
เปล่ียนแปลงการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุได้ กจิ กรรม
(K) ทำกจิ กรรมออกแรงดึง แบบประเมนิ คะแนน Rubric ระดับ
2.1 สามารถปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ (P) และผลกั พฤติกรรม 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดบั
สังเกตพฤติกรรมการ คะแนน Rubric ระดบั
3.1 ม่งุ มนั่ ในการทำงาน (A) ทำงานกลุ่ม 2 ขน้ึ ไปจาก 4 ระดับ
10. เกณฑก์ ารประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
ประเด็นการประเมนิ
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป
1. ระบุผลของแรงท่ีมีผลต่อการ
เปลี่ยนแปลงการเคล่อื นที่ของวัตถไุ ด้ (K) - มีคณุ สมบตั ิ - มคี ณุ สมบตั ิ 3 - มคี ุณสมบัติ - มี
2. สามารถปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ (P)
คณุ ภาพ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- ปฏิบัติกิจกรรมตามขนั้ ตอน
- บรรยายสิง่ ทส่ี ังเกตได้ ระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ใน 4 ของ
- ใช้วัสดุอุปกรณ์ได้ถูกตอ้ ง
- บรรยายผลการทำกิจกรรมได้ ระดับ
4. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A)
คุณภาพ คุณภาพ
- รว่ มด้วยชว่ ยกันทำงานกลมุ่
- ตงั้ ใจทำงานกลมุ่ - มคี ณุ สมบัติ - มีคุณสมบัติ 3 - มีคณุ สมบตั ิ - มี
- ทำงานเสร็จตามเวลาท่กี ำหนด
- ช้นิ งานมคี วามสมบรู ณ์ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
ระดบั คณุ ภาพ คุณภาพ ระดับคุณภาพ ใน 4 ของ
ระดับ
คุณภาพ
แบบประเมนิ ผลการจัดการเรยี นรู้
(K) (P) (A)
ผา่ นร้อยละ 60 ผ่านระดับ 2 ขึ้นไป ผา่ นระดับ 2 ขึ้นไป คะแนน
เลขท่ี ชอื่ - สกลุ เกบ็
คะแนน ผ/ 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/ (10)
1 ด.ช.กฤษณะ ดิษฐทิม (10) มผ มผ มผ
2 ด.ช.ณฐั พงศ์ เดอื นแจม่
3 ด.ช.ทิณภัทร พุฒพวง
4 ด.ช.ธนดล แสงทรพั ย์
5 ด.ช.นนั ทโชติ โสคำ
6 ด.ญ.กมลวรรณ ตรพี งษ์
7 ด.ญ.นวพร คำนึงควร
8 ด.ญ.วิภาวิณี เหลี่ยมมา
9 ด.ญ.สชุ ญา เกตุอำพร
10 ด.ญ.ชนกเนตร ศรสี นั ต์
11 ด.ญ.ชลธชิ า สนี ว่ ม
12 ด.ช.ปรพิ ัฒน์ เมน่ แตม้
uvu4umnua{ur,tu
E{afn :doilTgau n 1 :aifl 1:r5uu$.u
z. #ru#nuv/n:vurunr: (p)
a. frruqruf,nr*euydufi .:rJ:ya.ri (R)
{orauauuv y' uueututilr
... 9-...2....F., .fi.......t ....h.y...
u4d9ud9
uilu nn?.r3i [ffiuer0 €f,tufr 51afi ou u9,tufl 15-e-en1E-t-5--uu-5{
d
a{?,0..............
d!
F|TV{tAU{
U
......J....t tfl.,......t....h.!t.....
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4
รหสั -ชื่อรายวิชา วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนร้เู ร่อื ง แรงและการเปลยี่ นแปลงการเคล่อื นท่ีของวัตถุ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 3
ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
เร่อื ง แรงและผลของการออกแรงท่ีกระทำต่อวตั ถุ เวลา 2 คาบ
ช่ือผสู้ อน นาย อนพุ งศ์ พมิ แสน วนั ท.ี่ .....8,10.......เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
โรงเรยี นบ้านหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จังหวดั อตุ รดิตถ์ คะแนนเกบ็ ...........คะแนน
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติแรงในชวี ิตประจำวนั ผลของแรงท่ีกระทำต่อวตั ถลุ ักษณธการเคลอื่ นที่แบบตา่ ง ๆ
ของวัตถุ รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
2. ตวั ชว้ี ัด
ป.3/1 ระบผุ ลของแรงที่มีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงการเคล่อื นทีข่ องวัตถจุ ากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์
3. สาระสำคัญ
- เมื่อมีแรงมากระทำต่อวัตถุ วัตถุบางชนิดจะเปล่ยี นแปลงการเคลื่อนท่ี โดยเปล่ียนตำแหน่งจากที่หน่ึง
ไปอีกทหี่ นงึ่ โดยแรงท่มี ผี ลต่อการเคลอ่ื นทข่ี องวตั ถุมที ้ังแรงสมั ผสั และแรงไม่สมั ผัส
4. สาระการเรยี นร(ู้ เนอื้ หา)
- ผลของแรงทมี่ ีผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงการเคลอ่ื นที่ของวัตถุ
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) นกั เรยี นสามารถ:
1.1 อธิบายลกั ษณะของการออกแรงท่ีมีผลตอ่ การเคลื่อนท่ีของวตั ถไุ ด้
2. ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถ:
2.1 สามารถปฏิบตั กิ จิ กรรมได้
3. ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) ส่งเสริมใหน้ กั เรยี น:
3.1 ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
6. สมรรถนะนักเรยี น
1. ด้านการสอื่ สาร
2. ด้านการคิด
3. ดา้ นการแก้ปญั หา
4. ด้านทักษะชีวิต
7. รูปแบบวิธกี ารจดั ประสบการเรยี นรู้ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดับขัน้ การจัดประสบการณ์เรยี นรู้
1. ข้ันสรา้ งความสนใจ (10 นาท)ี
1.1 ครูทำกจิ กรรมนัทนาการละลายพฤติกรรม
1.2 ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นโดยตัง้ คำถามกบั นักเรียนว่า ถ้าจะทำให้กล่องเคลื่อนที่จะต้องทำ
อยา่ งไร
1.3 นักเรยี นร่วมกันตอบคำถามและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคำตอบของคำถาม เพือ่ เชื่อมโยงไปสู่การ
เรยี นรู้ เร่อื ง แรงและผลของการออกแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุ
1.4 ครูตั้งคำถามเพื่อเชื่อมโยงเข้าส่บู ทเรียน ดงั นี้
- รถยนต์เคล่ือนท่ีไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ แรงขับเคล่ือนจากเครื่องยนต์)
- ขณะรถยนตเ์ คลอื่ นทเ่ี กดิ การเปล่ยี นแปลงอะไรบ้าง
(แนวตอบ ความเรว็ ของรถยนต์)
1.5 ครแู จ้งจุดประสงค์การเรียนรูใ้ หน้ กั เรยี นทราบ
2. ข้นั ข้ันสำรวจและคน้ หา (30 นาท)ี
2.1 นกั เรียนจบั คกู่ ับเพื่อน แลว้ ปฏบิ ตั กิ ิจกรรม การเคลื่อนทข่ี องวัตถุ ดงั นี้
1) วางลูกฟตุ บอลไวบ้ นพ้ืน โดยไมอ่ อกแรงกระทำต่อลูกฟุตบอล
2) วางลกู ฟตุ บอลไวบ้ นพืน้ ใชม้ ือผลักลกู ฟตุ บอลไปขา้ งหนา้
3) ขณะทล่ี กู บอลกำลังเคลอื่ นที่ ใหใ้ ช้มอื ออกแรงผลักลูกบอลไปในทิศทางเดียวกับที่ลูกบอลกำลงั เคล่ือนที่
4) ขณะทีล่ กู ฟตุ บอลกำลังเคลอื่ นที่ ให้ออกแรงผลกั ลกู ฟุตบอลไปทางดา้ นขวา
5) ขณะที่ลูกฟุตบอลกำลังเคลื่อนที่ ให้ใช้มือออกแรงผลักลูกฟุตบอลไปในทิศทางตรงกันข้ามกับท่ี
ลูกฟตุ บอลเคลอื่ นท่ี
2.2 นกั เรียนสงั เกตการเปลยี่ นแปลงการเคล่อื นท่ขี องลูกฟตุ บอล
3. ข้นั อธบิ ายและลงสรปุ (50 นาท)ี
3.1 นักเรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายและสรุปเก่ียวกับการเปลยี่ นแปลงการเคลอื่ นท่ีของวัตถุเม่ือมีแรงมา
กระทำ
3.2 ครตู ้งั คำถาม แล้วใหน้ กั เรียนตอบคำถามลงสมดุ บนั ทกึ ดังนี้
- หากนักเรียนต้องการเตะส่งลูกฟุตบอลให้เพื่อน นักเรียนจะเลือกเตะไปทางข้างหน้าหรอื เตะไปทาง
ดา้ นขา้ ง เพราะอะไร
(แนวตอบ เตะไปข้างหน้า เพราะลูกฟุตบอลจะเคลื่อนที่ไดเ้ รว็ และแรงเพื่อส่งให้เพื่อนไดอ้ ยา่ งแม่นยำ
เตะไปดา้ นขา้ ง เพราะหลบเล่ียงจากฝา่ ยตรงข้ามเพื่อให้ลกู ฟตุ บอลเปลีย่ นทิศทางการเคล่ือนที่)
3.3 ครูอธิบายเพิ่มเติม เมื่อเราออกแรงกระทำต่อวัตถุนั้นจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนที่ของ
วตั ถใุ นลักษณะต่าง ๆ
- วตั ถเุ คลือ่ นทช่ี า้ ลงหรอื หยดุ นงิ่ เช่น การหยดุ ลูกบอลทีก่ ำลงั เคลื่อนท่ีดว้ ยเท้า
- วตั ถกุ ำลังเคลือ่ นทีอ่ ยูแ่ ล้วเคลอื่ นท่ีเรว็ ขนึ้ เชน่ การป่นั จักรยานเพ่อื เพ่มิ ความเรว็
- วัตถทุ ่หี ยดุ น่ิงเกิดการเคลอื่ นที่ เชน่ การตลี กู ขนไกท่ ่ีหยุดนงิ่ ให้เคล่ือนที่
- วัตถุเคลือ่ นท่ีอยูแ่ ล้วเกดิ การเปลย่ี นทิศทาง เช่น การเขย่ี ส่งลูกบอลเพอื่ หลบคู่แข่งขนั
4. ขั้นขยายความรู้ (20 นาที)
4.1 ครูให้ความรู้เพิ่มเตมิ เกี่ยวกับแรงกับการเปลี่ยนทิศทาง โดยยกตัวอย่างการเดินทางในอวกาศทีไ่ ม่มี
แรงจากภายนอกมากระทำ มีแตแ่ รงขับดนั ของยานอวกาศ เม่อื นกั บนิ อวกาศกำหนดทศิ ทางแล้วกจ็ ะเดินเครื่อง
ขับดันจนยานอวกาศมีความเร็วตามที่ต้องการแล้วจึงดับเครื่อง ยานอวกาศก็จะเคลื่อนไปด้วยความเร็วคงที่
เท่ากบั ความเรว็ สุดท้ายกอ่ นท่ีจะหยดุ แรงขบั ดนั นักบนิ จะเดนิ เครื่องอีกครง้ั ก็ตอ่ เมือ่ ต้องการเปล่ียนทิศทางหรือ
เปลี่ยนความเร็ว โดยปรับทิศทางของแรงขับดันให้พน่ ไปทางด้านข้างหรือพ่นไปในทิศทางตรงกันขา้ มกับทิศที่
เคลื่อนที่เพื่อให้ความเร็วลดลง และในการลงจอดบนพื้นดาวเคราะห์ก็ต้องใช้จรวดยั้งความเร็วเพื่อต้านแรง
ดงึ ดูดของดาวนัน้ ๆ ดว้ ย
5. ข้นั ประเมินผล (10 นาที)
5.1 ก่อนปล่อยออกจากช้นั เรียน ครตู ้งั คำถามใหน้ กั เรียนตอบท่ีละคน “ยกตัวอย่างการใช้ประโยชน์ของ
แรงในชวี ิตประจำวันมาคนละ 1 อยา่ ง”
8. สอ่ื / แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 3 เลม่ 1
2. วัสดุอปุ กรณก์ ารทำกจิ กรรม
9. การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์ วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์การผา่ น
คำถาม จดุ ประสงค์
1.1 อธบิ ายลักษณะของการออกแรงที่ ถาม - ตอบ ร้อยละ 60 ขนึ้ ไป
มีผลตอ่ การเคลือ่ นทข่ี องวัตถุได้ (K) กิจกรรม
2.1 สามารถปฏิบัตกิ จิ กรรมได้ (P) ทำกิจกรรมการเคลือ่ นที่ คะแนน Rubric ระดบั
ของวตั ถุ แบบประเมิน 2 ขน้ึ ไปจาก 4 ระดับ
3.1 มุ่งมน่ั ในการทำงาน (A) สงั เกตพฤตกิ รรมการ พฤติกรรม คะแนน Rubric ระดับ
ทำงานกลุ่ม 2 ขึน้ ไปจาก 4 ระดับ
10. เกณฑก์ ารประเมนิ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ประเด็นการประเมนิ
ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป
1. อธบิ ายลักษณะของการออกแรงทีม่ ผี ล
ต่อการเคล่ือนท่ีของวัตถุได้ (K) - มีคณุ สมบตั ิ - มคี ณุ สมบตั ิ 3 - มีคณุ สมบัติ - มี
2. สามารถปฏิบัติกิจกรรมได้ (P)
คณุ ภาพ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- ปฏิบัติกิจกรรมตามข้ันตอน
- บรรยายสิ่งทส่ี งั เกตได้ ระดับคุณภาพ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ใน 4 ของ
- ใช้วัสดอุ ุปกรณ์ได้ถูกตอ้ ง
- บรรยายผลการทำกิจกรรมได้ ระดับ
4. มุ่งมนั่ ในการทำงาน (A)
คณุ ภาพ คุณภาพ
- รว่ มด้วยชว่ ยกนั ทำงานกลุ่ม
- ตงั้ ใจทำงานกลมุ่ - มคี ุณสมบตั ิ - มีคณุ สมบัติ 3 - มคี ณุ สมบตั ิ - มี
- ทำงานเสรจ็ ตามเวลาทกี่ ำหนด
- ชิ้นงานมคี วามสมบูรณ์ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
ระดบั คณุ ภาพ คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ ใน 4 ของ
ระดับ
คุณภาพ
แบบประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้
(K) (P) (A) คะแนน
ผา่ นร้อยละ 60 เกบ็
เลขที่ ชอ่ื - สกลุ ผ่านระดบั 2 ขึน้ ไป ผา่ นระดับ 2 ขึ้นไป (10)
คะแนน ผ/
1 ด.ช.กฤษณะ ดิษฐทมิ (10) มผ 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/
2 ด.ช.ณัฐพงศ์ เดือนแจม่ มผ มผ
3 ด.ช.ทณิ ภัทร พุฒพวง
4 ด.ช.ธนดล แสงทรพั ย์ 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
5 ด.ช.นนั ทโชติ โสคำ
6 ด.ญ.กมลวรรณ ตรีพงษ์ 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
7 ด.ญ.นวพร คำนึงควร 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
8 ด.ญ.วิภาวิณี เหล่ยี มมา 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
9 ด.ญ.สุชญา เกตอุ ำพร
10 ด.ญ.ชนกเนตร ศรีสันต์ 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
11 ด.ญ.ชลธชิ า สีน่วม 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
12 ด.ช.ปริพฒั น์ เม่นแต้ม 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
{amuauuv / uurmrrurits OlD c,q )4 r., o Y) dma
. JulJd'-?- %.,
a{dto .
...5...2.. fi" .fl.......r. .h..r.. .
v<CYvdr) tl4uQto {tFt{ofr 5,ta60u ur,lufl,'t gton15lguuE
uuylflft ?,'t3.t
JJ
n5fltau{
.... 3...2.....h ;. A. "..../ ..h.*......
แผนการจดั การเรียนรู้
วชิ าวทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1
รหัส-ชื่อรายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรเู้ ร่อื ง แรงโนม้ ถว่ งของโลกและตวั กลางของแสง ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
เรอื่ ง ตวั กลางของแสง เวลา 2 คาบ
ช่ือผู้สอน นาย อนพุ งศ์ พมิ แสน วันที่......16,18.......เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
โรงเรียนบ้านหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จงั หวัด อตุ รดิตถ์ คะแนนเกบ็ .........คะแนน
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง
สสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติ ของคลื่น ปรากฏการณ์ที่เก่ียวข้องกับเสยี ง แสง และ
คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมท้ังนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
2. ตัวชีว้ ัด
ป.4/1 จำแนกวัตถุเป็นตัวกลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง และวัตถุทึบแสง จากลักษณะ การมองเห็น
ส่ิงตา่ ง ๆ ผา่ นวตั ถุน้นั เปน็ เกณฑ์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
3. สาระสำคญั
- เมื่อมองส่งิ ต่าง ๆ โดยมีวัตถตุ า่ งชนิดกันมากั้นแสง จะทำให้มองเห็นส่งิ นัน้ ๆ ชดั เจนไดแ้ ตกต่างกันไป
จึงจำแนก วตั ถทุ ่กี นั้ แสงไดเ้ ปน็ ตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปรง่ แสง และวัตถุทบึ แสง
- ตัวกลางของแสง คอื วตั ถุท่กี นั้ ทางเดินของแสง แลว้ แสงสามารถเดินทางผ่านไปได้ ส่วนวัตถุทึบแสง
คือ วัตถุที่เมื่อนำมากั้นแสงแล้วมองไม่เห็นแสงทีผ่ ่านมาได้ และไม่สามารถมองเห็นสิ่งท่ีอยูด่ ้านหลังวัตถทุ ี่
นำมากน้ั แสงน้ันได้
4. สาระการเรยี นรู้ (เน้ือหา)
- ตวั กลางโปร่งใส ตวั กลางโปรง่ แสง และวตั ถทุ บึ แสง
5. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ (K) นักเรยี นสามารถ :
1.1 จำแนกวตั ถุเปน็ ตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง และวัตถุทบึ แสงได้
2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถ :
2.1 สังเกตและอธิบายการมองเห็นแสงผ่านวตั ถุต่าง ๆ
3. ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) เพื่อใหน้ กั เรียนเปน็ ผู้ที่ :
3.1 มีนิสัยใฝ่เรยี นรู้
6. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
7. รูปแบบวิธีการจดั ประสบการณ์เรยี นรู้ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดับขน้ั การจัดประสบการณ์เรยี นรู้ 5 Es
กจิ กรรมกอ่ นเรยี น : นันทนาการฝกึ สมาธกิ อ่ นเรียน (ปรบมือลบ 1)
1. ข้นั สร้างความสนใจ (20 นาที)
1.1 ครูแนะนำตวั และใหน้ ักเรยี นทกุ คนคนแนะนำตัวเอง และทำกิจกรรมนทั นาการละลายพฤติกรรม
1. ตงั้ คำถามกระตุ้นความสนใจของนกั เรียน
- นกั เรยี นคิดว่าแสงมปี ระโยชน์อยา่ งไร
(ให้นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
- นักเรยี นคดิ ว่าแสงมีตัวกลางหรอื ไม่
(ให้นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
- นกั เรียนคดิ วา่ เราใช้ประโยชนจ์ ากตัวกลางของแสงอยา่ งไรบา้ ง
(ให้นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
2. ครูนำผา้ เช็ดหน้ามา 1 ผนื จากนนั้ กางผา้ เช็ดหนา้ ใหน้ กั เรียนดแู ละบอกนกั เรียนให้คาดเดาว่า
หากครูใช้ไฟฉายส่องผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ แสงจะสามารถเคลื่อนที่ผ่านทะลุผ้าได้หรือไม่ เพราะอะไร แล้วให้
นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งอิสระ
(แนวตอบ : คำตอบขนึ้ อยู่กับนิดและความหนาของผา้ ทค่ี รูนำมาใช)้
3. เชือ่ มโยงคำถามเข้าสเู่ น้ือหาในบทเรยี น
2. ขน้ั ขั้นสำรวจและคน้ หา (20 นาที)
1. ครูให้นักเรียนศึกษาข้อมูลและสังเกตภาพจากหนังสือเรียนหน้า 69 จากนั้นครูสุ่มถาม
นกั เรยี น 4 - 5 คน วา่ วตั ถุในภาพใดบ้างเปน็ ตัวกลางของแสงและวัตถุใดเป็นวัตถทุ บึ แสง
2. ครถู ามคำถามนักเรยี นว่า ตัวกลางของแสงแตกตา่ งจากวัตถุทึบแสงอย่างไร สุม่ นกั เรยี นตอบ
(แนวตอบ : ตัวกลางของแสง คือ วัตถุที่กัน้ ทางเดินของแสง แล้วแสงสามารถเดินทางผ่านไปได้
ส่วนวัตถุทึบแสง คือ วัตถุที่เมื่อนำมากั้นแสง แล้วมองไม่เห็นแสงที่ผ่านมาได้ และไม่สามารถมองเห็นสิง่ ท่อี ยู่
ด้านหลงั วัตถทุ ี่นำมากนั้ แสงน้นั )
3. ให้นักเรียนสังเกต แสงที่ผ่านตัวกลาง ต่าง ๆ ที่ครูกำหนดให้ แล้วอธิบายสิ่งที่นักเรียน
สงั เกตเห็น
3. ขั้นอธิบายและลงสรปุ (20 นาที)
1. ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมเก่ียวกับวัตถุตา่ งๆ ท่นี ำมาใช้ในการกัน้ แสง (วตั ถุบางชนิดเมื่อนำมาก้ัน
แสงแล้วทำให้มองไม่เห็นแสงหรือไมส่ ามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ด้านหลังวัตถุนั้นได้ เรียกวัตถุนั้นวา่ วัตถุทึบแสง
เชน่ ผนงั ปูน แผ่นไม้ กล่องลงั วตั ถบุ างชนิดเมือ่ นำมากน้ั แสงแล้วมองเหน็ แสงหรือมองเห็นสิง่ ทอี่ ยู่ด้านหลังวัตถุ
นั้นไมช่ ดั เจน เรียกวตั ถนุ ้ันว่าตวั กลางโปร่งแสง เช่น กระจกฝ้า กระดาษไข หมอกควัน วตั ถุบางชนิดเม่ือนำมา
ก้ันแสงแลว้ มองเหน็ แสงหรือมองเหน็ สิ่งท่ีอยดู่ ้านหลังวัตถุนน้ั ได้ชัดเจน เรยี กวัตถนุ นั้ ว่า ตัวกลางโปร่งแสง เช่น
กระจกใส แกว้ ใส อากาศ น้ำ)
4. ข้ันขยายความรู้ (30 นาที)
1. ครใู หน้ ักเรียนดภู าพ ตัวกลาง แลว้ ให้นกั เรยี นกันตอบว่า ตวั กลางโปร่งใส ตัวกลางโปร่งแสง หรอื
วตั ถทุ บึ แสง
2. ครสู ่มุ เรียกนกั เรยี นทลี ะคนเพ่ือใหย้ กตวั อย่างวัตถทุ ่เี ปน็ ตวั กลางโปร่งใส ตวั กลางโปร่งแสง หรือ
วัตถุทบึ แสงมาคนละ 1 ตวั อย่าง โดยตอ้ งไมซ่ ำ้ กบั ตัวอย่างทอ่ี ยใู่ นหนงั สือเรียน
3. ร่วมกันแสดงความคดิ เห็นกบั คำตอบของเพอ่ื น
5. ขนั้ ประเมินผล (30 นาท)ี
1. ครูสุม่ ตวั กลางท่ใี หน้ ักเรียนสังเกตเมื่อนตน้ ช่ัวโมง เพ่ือใหน้ ักเรียนบอกว่าสิง่ ทคี่ รูยกขึน้ คอื ตัวกลาง
ของแสงประเภทใด
2. ครูเรยี กนักเรยี นทีละคนเพอ่ื ตอบว่าตัวกลางทคี่ รูสุ่มคือ ตัวกลางโปร่งแสง ตวั กลางโปร่งใส หรือ
วัตถทุ ึบแสง
3. หากตอบไดถ้ กู ต้องและครบถ้วน ปล่อยออกจากห้องเรยี น
8. สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรียนรายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เล่ม 1
2. วสั ดุอุปกรณ์การทำกิจกรรม
- แผ่นไม้ จำนวน 1 แผน่ - กระจกใส จำนวน 1 บาน
- กระดาษแขง็ ขนาด A4 จำนวน 1 แผน่ - กระดาษไขขนาด A4 จำนวน 1 แผ่น
- แผน่ พลาสติกใสขนาด A4 จำนวน 1 แผน่ - แผน่ พลาสติกฝ้าขนาด A4 จำนวน 1 แผน่
- ไฟฉาย จำนวน 1 กระบอก
9. การวัดและประเมนิ ผล
จุดประสงค์การเรียนรู้ วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารผ่าน
คำถาม จดุ ประสงค์
1. จำแนกวัตถเุ ปน็ ตวั กลาง ถาม – ตอบ รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป
โปรง่ ใส ตัวกลางโปรง่ แสง และ แบบสังเกต
วัตถุทบึ แสงได้ กจิ กรรมสังเกต แบบสังเกต คะแนน Rubric ระดับ
2. สังเกตและอธบิ ายการ สงั เกตพฤติกรรม 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดบั
มองเห็นแสงผา่ นวตั ถุตา่ ง ๆ ได้ คะแนน Rubric ระดบั
2 ข้ึนไปจาก 4 ระดบั
3. มีนสิ ยั ใฝ่เรียนรู้
เกณฑ์การประเมินผล (รบู ริคส)์
ประเด็นการประเมิน 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ
3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
1. จำแนกวตั ถุเปน็ ตวั กลางโปรง่ ใส จำแนกตวั กลางของแสงได้ถูกตอ้ งร้อยละ 60
ตวั กลางโปร่งแสง และวัตถทุ ึบแสงได้ (K) จากตวั อยา่ งทั้งหมดที่กำหนดให้
2. สงั เกตและอธิบายการมองเหน็ แสงผ่าน - มีคณุ สมบตั ิ - มีคณุ สมบตั ิ 3 - มีคณุ สมบัติ - มี
วัตถุต่าง ๆ (P) 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
คุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ ใน 4 ของ
- สังเกตตัวกลางของแสงได้ครบทุก ระดับ
ตวั อย่าง คุณภาพ
- อธบิ ายลกั ษณะของแสงทผี่ ่านตัวกลางที่
สังเกตได้
- บอกได้วา่ เป็นตวั กลางประเภทใด
- ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นกบั คำตอบของ
เพอ่ื น
4. มีนิสัยใฝเ่ รยี นรู้ (A) - มีคณุ สมบตั ิ - มีคุณสมบัติ 3 - มีคณุ สมบตั ิ - มี
คณุ ภาพ 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- สนใจรว่ มกิจกรรมในชนั้ เรียนและ ระดับคุณภาพ คุณภาพ ระดับคุณภาพ ใน 4 ของ
ค้นควา้ หาความรู้ ระดับ
- รบั ผิดชอบตอ่ งานไดร้ บั มอบหมาย คุณภาพ
- รับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น
- สง่ งานครบตรงตามเวลากำหนด
แบบประเมนิ ผลการจัดการเรียนรู้
เลขที่ ช่อื - สกลุ (K) (P) (A) คะแนน
ผ่านรอ้ ยละ ผา่ นระดบั 2 ขน้ึ ไป ผา่ นระดบั 2 ขึน้ ไป เกบ็
1 ด.ช.กรวิชญ์ เกตุสวุ รรณ์ (10)
2 ด.ช.ธนภูมิ เมน่ ตน้ สาย 60
3 ด.ช.ธีรภทั ร ฉายยา 7
4 ด.ช.ปิยะ ศรีสงวน คะแนน ผ/มผ 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/ 7
5 ด.ช.วฒุ กิ ร บญุ ทะเล (10) มผ มผ 7
6 ด.ญ.กวินธดิ า ธรรมรชั พมิ ล 7
7 ด.ญ.ขวญั เรือน ผันเขียว 7 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
8 ด.ญ.คุณิตา ศรสี นธิ์ 8
9 ด.ญ.จรรยาภรณ์ คงนวล 7 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
10 ด.ญ.พรประภา ลินศรี 8
11 ด.ญ.ไอยรา น่ิมนอ้ ย 7 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
12 ด.ญ.นาราชา เกตกุ อ 7
7 ผ ✓✓ - - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
8
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ
8 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ
8 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ
8 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ
7 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ
8 ผ ✓✓ - ✓ ผ ✓✓✓✓ ผ
U€9
ulJ?lflxEa{ur'Ju
:. frruqcufi'nurusd'ufi {d:ca rd (R)
*:... J t.* 5.*. ei *. v 7*}-i.,.Ver*#.r* . f.*.{.
flalur.roda::n
ria mua uus .z uuaurr urTtn I
vadguqrt ti4ufl a €EUJfr geofi au BBIIJ ft,l5afi n15tguu5
IJI
uiJil nn')ifli
JJ
n:fl[au.t
....{.5.2.....r.,.1t-....../ ....b.k ...
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2
รหัส-ชอื่ รายวิชา วิทยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรู้เรื่อง ระบบสรุ ิยะและการปรากฏของดวงจันทร์ ระดับชั้น ประถมศกึ ษาปที ่ี 4
ภาคเรียนท่ี 2 จำนวน 2 คาบ/สปั ดาห์
เรือ่ ง ระบบสุริยะ (1) เวลา 2 คาบ
ชอื่ ผสู้ อน นาย อนพุ งศ์ พมิ แสน วนั ท่.ี .....23,25.......เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2564
โรงเรียนบ้านหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จงั หวดั อตุ รดิตถ์ คะแนนเก็บ........คะแนน
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์
และระบบสรุ ยิ ะ รวมท้งั ปฏสิ มั พนั ธ์ภายในระบบสรุ ิยะทส่ี ง่ ผลตอ่ สงิ่ มีชีวิต และการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ
2. ตัวช้วี ัด
ป.4/3 สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธบิ ายเปรียบเทียบคาบการโคจรของ
ดาวเคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง
3. สาระสำคญั
- ระบบสุริยะเปน็ ระบบของดวงดาวท่ตี ้ังอยู่ในดาราจักรทางชา้ งเผอื ก ซึ่งมดี วงอาทติ ย์เป็นศูนยก์ ลาง
- ดวงอาทิตยม์ ีดาวเคราะห์ 8 ดวงเป็นบรวิ าร
4. สาระการเรยี นรู้ (เนื้อหา)
- องคป์ ระกอบของระบบสุรยิ ะ
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) นกั เรียนสามารถ :
1.1 บอกองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของระบบสุริยะได้
2. ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถ :
2.1 เขียนแผนภาพแสดงองคป์ ระกอบของระบบสุริยะได้
3. ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A) เพ่ือให้นกั เรยี นเป็นผทู้ ี่ :
3.1 มนี ิสัยใฝ่เรยี นรู้
6. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
7. รูปแบบวิธกี ารจดั ประสบการณ์เรียนรู้ กระบวนการสบื เสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดับขัน้ การจัดประสบการณ์เรียนรู้ 5 Es
กจิ กรรมก่อนเรยี น : นันทนาการฝกึ สมาธกิ อ่ นเรียน (ปรบมือลบ 1)
1. ขัน้ สรา้ งความสนใจ (10 นาที)
1.1 ครูสนทนาร่วมกบั นักเรยี นเกี่ยวกบั ดวงอาทติ ยแ์ ละดวงดาว
1.2 ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้
2. ข้ันขน้ั สำรวจและคน้ หา (50 นาท)ี
2.1 ครูเปดิ ภาพระบบสรุ ยิ ะให้นักเรียนดู
2.2 ครตู ้งั คำถาม “นกั เรยี นรู้จกั ดาวเคราะห์ใดบ้างในระบบสุรยิ ะ”
2.3 นักเรียนรว่ มกันตอบแสดงความคดิ เหน็
(แนวตอบ : เช่น ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ โลก ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส
ดาวเนปจนู เป็นต้น)
2.4 ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจถึงระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และมีดาวบริวาร
โคจรโดยรอบ ได้แก่ ดาวเคราะห์แปดดวง ดาวเคราะห์แคระ ดาวเคราะห์น้อย ดาวหาง อุกกาบาต
และวตั ถขุ นาดเล็กอนื่ ๆ
2.5 ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาภาพจำลองของระบบสรุ ยิ ะ
2.6 ให้นกั เรียนวาดภาพระบายสีองคป์ ระกอบของระบบสรุ ิยะตามแผนภาพ หรอื สร้างแผนภาพขึ้นเองได้
ถกู ตอ้ งตามหลกั วิทยาศาสตร์ ลงในใบงานระบบสรุ ิยะ
3. ข้นั อธิบายและลงสรุป (30 นาท)ี
3.1 ครูให้นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงแผนภาพของตนเองหนา้ ชัน้ เรยี น
3.2 ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกันอภิปรายคำตอบ จากคำถามในใบงาน ระบบสุริยะ
3.3 ครูนำเปิดภาพระบบสุริยะให้นักเรียนดูอีกครั้ง และอธิบายเพิ่มเติม เพื่อให้นักเรียนเกิดความรู้
ความเขา้ ใจมากย่งิ ขนึ้
4. ขั้นขยายความรู้ (20 นาที)
1. ครูต้งั คำถามเพอื่ ขยายความรู้ ใหน้ ักเรียน โดยถามคำถามนกั เรียน ดังนี้
- ดวงอาทิตย์มีความสำคญั ต่อระบบสรุ ิยะหรือไม่ อย่างไร
(แนวตอบ : ดวงอาทติ ยม์ ีความสำคญั ต่อระบบสรุ ิยะ เน่อื งจากดวงอาทติ ย์เป็นแหลง่ พลงั งาน ความ
รอ้ นและแสงสว่างแก่ดาวเคราะหด์ วงอ่ืน ๆ)
- เพราะเหตใุ ดเราจึงมองเห็นดวงอาทิตย์เป็นวงกลมโตอยู่บนทอ้ งฟา้
(แนวตอบ : เพราะดวงอาทิตย์เปน็ ดาวฤกษ์ท่อี ยู่ใกล้โลกมากท่สี ุด)
2. ใหน้ กั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็
5. ข้ันประเมินผล (10 นาท)ี
1. ครสู ุม่ ถามนกั เรียนที่ละคนก่อนปลอ่ ยออกจากห้องเรียน
“บอกดาวเคราะหใ์ นระบบสุรยิ ะมา 1 ดวง โดยห้ามซ้ำกบั 2 คนกอ่ นหนา้ ”
2. ครตู รวจใบงานระบบสรุ ิยะ
8. สื่อการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ 2
2. ใบงานระบบสรุ ยิ ะ
9. การวัดและประเมินผล
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี าร เครื่องมอื เกณฑก์ ารผ่าน
คำถาม จดุ ประสงค์
1. บอกองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของ ถาม – ตอบ ใบงานระบบสุรยิ ะ ร้อยละ 60 ข้ึนไป
แบบสงั เกต
ระบบสุรยิ ะได้ (K) คะแนน Rubric ระดับ
2 ขน้ึ ไปจาก 4 ระดับ
2. เขยี นแผนภาพแสดง ทำใบงาน คะแนน Rubric ระดบั
2 ขนึ้ ไปจาก 4 ระดบั
องค์ประกอบของระบบสรุ ยิ ะได้ (P)
3. มีนสิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ สังเกตพฤติกรรม
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รูบริคส์) 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ
3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ประเด็นการประเมิน
ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60
1. บอกองคป์ ระกอบต่าง ๆ ของระบบ
สรุ ยิ ะได้ (K) - มคี ณุ สมบตั ิ - มีคุณสมบตั ิ 3 - มีคุณสมบัติ - มี
2. เขยี นแผนภาพแสดงองคป์ ระกอบของ
ระบบสรุ ยิ ะได้ (P) 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ คุณสมบัติ 1
คุณภาพ
- องคป์ ระกอบครบถว้ น ระดับคณุ ภาพ คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ ใน 4 ของ
- ตกแต่งสวยงาม
- ความคิดสรา้ งสรรค์ ระดบั
- ชนิ้ งานสะอาดไมเ่ ลอะเทอะ
4. มีนิสยั ใฝ่เรียนรู้ (A) คุณภาพ
คณุ ภาพ
- สนใจรว่ มกจิ กรรมในชน้ั เรียนและ - มคี ุณสมบัติ - มีคณุ สมบัติ 3 - มคี ณุ สมบัติ - มี
คน้ คว้าหาความรู้
- รับผิดชอบต่องานไดร้ ับมอบหมาย 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดบั 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- รบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อน่ื
- ส่งงานครบตรงตามเวลากำหนด ระดับคุณภาพ คุณภาพ ระดับคณุ ภาพ ใน 4 ของ
ระดบั
คุณภาพ
แบบประเมินผลการจัดการเรยี นรู้
เลขท่ี ช่ือ - สกลุ (K) (P) (A) คะแนน
ผา่ นรอ้ ยละ ผ่านระดบั 2 ขึน้ ไป ผา่ นระดับ 2 ขน้ึ ไป เกบ็
1 ด.ช.กรวชิ ญ์ เกตุสุวรรณ์ (10)
2 ด.ช.ธนภมู ิ เมน่ ต้นสาย 60 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/
3 ด.ช.ธรี ภทั ร ฉายยา มผ มผ
4 ด.ช.ปยิ ะ ศรสี งวน คะแนน ผ/
5 ด.ช.วฒุ กิ ร บุญทะเล (10) มผ
6 ด.ญ.กวนิ ธิดา ธรรมรัชพิมล
7 ด.ญ.ขวญั เรือน ผนั เขยี ว 7 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓ - ผ 7
8 ด.ญ.คุณติ า ศรสี นธ์ิ
9 ด.ญ.จรรยาภรณ์ คงนวล 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
10 ด.ญ.พรประภา ลินศรี
11 ด.ญ.ไอยรา น่ิมน้อย 6 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓ - ผ 6
12 ด.ญ.นาราชา เกตุกอ
7 ผ - ✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
8 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
8 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
8 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
7 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓ - ผ 7
7 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
u4v
uuytflMa{u9{u
,{a n''r16'0il Ts du n 1 tflifl r : Gtru gff
z. drufrnr*u/n:uu?uflr: (P)
dauaua uus,z uuamrt u#[s
""""""v"""
rps it-or
....?.5.t .....r.,.?......t ....b. t....
e4dYu<rt tt4il{Ja € Eutfor g?tflou H9,t1ln.l5qlfl ft.iEtSSJug
lrufl fln't.l3.t
arJil0...,.... ............({mrm)
jj
n5?{tau{
... 2.9r ....n.,.r)......./ ....b-+ . .
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3
รหสั -ชื่อรายวชิ า วิทยาศาสตร์ กลุม่ สาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรูเ้ รอื่ ง ระบบสรุ ยิ ะและการปรากฏของดวงจนั ทร์ ระดับช้ัน ประถมศึกษาปที ี่ 4
ภาคเรียนที่ 2 จำนวน 2 คาบ/สัปดาห์
เรอื่ ง ระบบสุริยะ (2) เวลา 2 คาบ
ชื่อผู้สอน นาย อนุพงศ์ พิมแสน วันที่...30...เดอื น พฤศจกิ ายน และ วนั ท่ี...2...เดอื น ธันวาคม พ.ศ. 2564
โรงเรยี นบ้านหาดสองแคว ตำบล หาดสองแคว อำเภอ ตรอน จงั หวดั อุตรดิตถ์ คะแนนเกบ็ .........คะแนน
1. มาตรฐานการเรียนรู้
ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ กาแลก็ ซี ดาวฤกษ์
และระบบสรุ ยิ ะ รวมทัง้ ปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสรุ ิยะท่สี ง่ ผลต่อสง่ิ มีชวี ติ และการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยีอวกาศ
2. ตวั ชวี้ ัด
ป.4/3 สรา้ งแบบจำลองแสดงองค์ประกอบของระบบสุริยะ และอธบิ ายเปรียบเทยี บคาบการโคจรของ
ดาวเคราะหต์ ่าง ๆ จากแบบจำลอง
3. สาระสำคัญ
- ระบบสรุ ยิ ะเปน็ ระบบของดวงดาวท่ีตง้ั อยู่ในดาราจกั รทางชา้ งเผือก ซ่ึงมีดวงอาทิตยเ์ ป็นศนู ย์กลาง
- ดวงอาทติ ยม์ ีดาวเคราะห์ 8 ดวงเป็นบริวาร
4. สาระการเรียนรู้ (เนอื้ หา)
- ดาวเคราะห์บริวารของระบบสุรยิ ะ
5. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. ด้านความรู้ (K) นกั เรียนสามารถ :
1.1 อธิบายเปรยี บเทียบคาบการโคจรของดาวเคราะหต์ า่ ง ๆ ในระบบสรุ ยิ ะได้
2. ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรยี นสามารถ :
2.1 เขยี นแผนภาพดาวเคราะหท์ ต่ี นเองสนใจได้
3. ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) เพอื่ ใหน้ กั เรียนเป็นผ้ทู ี่ :
3.1 มนี ิสยั ใฝเ่ รียนรู้
6. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
7. รปู แบบวธิ ีการจัดประสบการณเ์ รยี นรู้ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5Es Instructional Model
ลำดับขัน้ การจัดประสบการณ์เรียนรู้ 5 Es
กิจกรรมกอ่ นเรยี น : นันทนาการฝึกสมาธิก่อนเรียน (ปรบมอื ลบ 1)
1. ขั้นสร้างความสนใจ (10 นาท)ี
1.1 ครทู บทวนความรู้เกยี่ วกับส่วนประกอบของระบบสุริยะ โดยถามคำถามนักเรยี นวา่
- ดาวฤกษท์ ีม่ ีขนาดใหญแ่ ละสว่างมากคือดาวฤกษด์ วงใด
(แนวคำตอบ ดวงอาทิตย์)
- ดาวเคราะหท์ มี่ ีนำ้ หรือของเหลว และอาจมสี ่ิงมชี วี ิตอาศัยอยไู่ ด้คือดาวเคราะหด์ วงใด
(แนวคำตอบ ดาวอังคาร)
1.2 นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั คำตอบของคำถาม เพอ่ื เชื่อมโยงไปสู่
การเรียนรูเ้ รอื่ ง ส่วนประกอบของระบบสุริยะ
1.3 ครแู จง้ จุดประสงค์การเรียนรู้
1.4 ครนู ำรูประบบสุรยิ ะมาใหน้ กั เรยี นดู จากน้นั ครูถาม คำถามกับนักเรียนดงั น้ี
- ดาวเคราะห์ทม่ี ีวงแหวนล้อมรอบคอื ดาวเคราะหว์ งใด
(แนวคำตอบ ดาวเสาร)์
- ดาวเคราะห์ท่อี ย่ถู ดั จากดาวศกุ ร์คอื ดาวเคราะห์ดวงใด
(แนวคำตอบ โลก)
1.5 นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายเกี่ยวกบั คำตอบจากคำถามของครตู ามประสบการณ์ของนักเรยี น
2. ขน้ั ขัน้ สำรวจและค้นหา (50 นาท)ี
2.1 ครูให้นักเรียนศกึ ษารายละเอยี ดเกยี่ วกบั ดาวเคราะห์แต่ละดวงในระบบสุรยิ ะจากหนังสอื เรยี น
2.2 ครใู ห้นักเรียนวาดภาพดาวเคราะห์ท่ีนกั เรียนสนใจ มาคนละ 1 ดวง พรอ้ มเขียนอธิบายรายละเอียด
ใตภ้ าพวาด
2.3 ใหน้ กั เรยี นนำเสนอผลงานของตนเองหนา้ ชัน้ เรยี น
3. ขน้ั อธบิ ายและลงสรุป (30 นาท)ี
3.1 ครูอธิบายรายละเอียดของดาวเคราะหแ์ ตล่ ะดวงเพม่ิ เติมให้กบั นักเรียน
3.2 ครใู ห้นักเรียนสรปุ ความรลู้ งสมดุ บันทึก
4. ข้นั ขยายความรู้ (20 นาที)
1. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าหากนักเรียนต้องการสังเกตดาวเคราะห์ท้องฟ้า สามารถสังเกตได้ด้วยกล้อง
โทรทรรศน์
2. ครเู ปดิ ซอฟแวร์ Stellarium ให้กบั นักเรยี นดูเพอ่ื จำลองภาพดวงดาวในยามคำ่ คืน
5. ขน้ั ประเมนิ ผล (10 นาท)ี
1. ครูตรวจแผนภาพของนักเรียน
2. ครตู ้งั คำถามเพอื่ ประเมินความรกู้ อ่ นออกจากชนั้ เรียน
- ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะมี ดาวเคราะหด์ วงใดบาง
- ดาวเคราะห์ดวงใด มชี อื่ อีกอยา่ งงว่า ฝาแฝดของโลก
8. ส่ือการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 เลม่ 2
9. การวดั และประเมินผล วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์การผา่ น
ถาม – ตอบ คำถาม จดุ ประสงค์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป
ทำใบงาน ใบงานระบบสรุ ยิ ะ
1. อธบิ ายเปรยี บเทียบคาบการ คะแนน Rubric ระดบั
โคจรของดาวเคราะหต์ ่าง ๆ ใน สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต 2 ขึ้นไปจาก 4 ระดบั
ระบบสรุ ยิ ะได้ (K) คะแนน Rubric ระดบั
2. เขยี นแผนภาพดาวเคราะห์ท่ี 2 ขน้ึ ไปจาก 4 ระดับ
ตนเองสนใจได้ (P)
3. มนี ิสยั ใฝเ่ รยี นรู้
10. เกณฑก์ ารประเมนิ ผล (รบู ริคส)์ 4 (ดีมาก) ระดับคณุ ภาพ
3 (ดี) 2 (พอใช)้ 1 (ปรับปรุง)
ประเดน็ การประเมิน
ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60
1. อธบิ ายเปรยี บเทยี บคาบการโคจรของ
ดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในระบบสุรยิ ะได้ (K) - มคี ณุ สมบัติ - มคี ณุ สมบัติ 3 - มีคณุ สมบัติ - มี
2. เขยี นแผนภาพดาวเคราะห์ท่ตี นเอง
สนใจได้ (P) 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
คณุ ภาพ
- รายละเอยี ดครบถว้ น ระดับคุณภาพ คุณภาพ ระดับคุณภาพ ใน 4 ของ
- ตกแต่งสวยงาม
- ความคดิ สรา้ งสรรค์ ระดับ
- ชน้ิ งานสะอาดไมเ่ ลอะเถอะ
4. มีนิสยั ใฝ่เรียนรู้ (A) คุณภาพ
คณุ ภาพ
- สนใจรว่ มกจิ กรรมในช้นั เรยี นและ - มคี ณุ สมบัติ - มคี ุณสมบตั ิ 3 - มคี ุณสมบตั ิ - มี
ค้นควา้ หาความรู้
- รบั ผิดชอบตอ่ งานได้รบั มอบหมาย 4 ใน 4 ของ ใน 4 ของระดับ 2 ใน 4 ของ คณุ สมบัติ 1
- รับฟังความคิดเห็นของผ้อู นื่
- ส่งงานครบตรงตามเวลากำหนด ระดบั คุณภาพ คณุ ภาพ ระดับคณุ ภาพ ใน 4 ของ
ระดับ
คุณภาพ
แบบประเมินผลการจัดการเรยี นรู้
เลขท่ี ชื่อ - สกุล (K) (P) (A) คะแนน
ผา่ นรอ้ ยละ ผ่านระดบั 2 ขึน้ ไป ผา่ นระดับ 2 ขน้ึ ไป เกบ็
1 ด.ช.กรวชิ ญ์ เกตสุ ุวรรณ์ (10)
2 ด.ช.ธนภมู ิ เม่นตน้ สาย 60 1 2 3 4 ผ/ 1 2 3 4 ผ/
3 ด.ช.ธรี ภทั ร ฉายยา มผ มผ
4 ด.ช.ปยิ ะ ศรสี งวน คะแนน ผ/
5 ด.ช.วฒุ กิ ร บุญทะเล (10) มผ
6 ด.ญ.กวนิ ธดิ า ธรรมรัชพิมล
7 ด.ญ.ขวญั เรือน ผนั เขยี ว 7 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓ - ผ 7
8 ด.ญ.คุณติ า ศรีสนธ์ิ
9 ด.ญ.จรรยาภรณ์ คงนวล 9 ผ ✓✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 9
10 ด.ญ.พรประภา ลินศรี
11 ด.ญ.ไอยรา น่มิ นอ้ ย 6 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓ - ผ 6
12 ด.ญ.นาราชา เกตุกอ
7 ผ - ✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
8 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
8 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
8 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 8
7 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓ - ผ 7
7 ผ - ✓✓✓ ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7
7 ผ ✓✓✓ - ผ ✓✓✓✓ ผ 7