เรื่อง การพัฒนาการเขียนสะกดค าของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) โดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนสะกดค า ปีการศึกษา ๒๕๖6
ชุมการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ Active Learning โดยการเสริมแรงทางบวก ประจำปีการศึกษา ๒๕๖6 จัดทำโดย นายยธนา โยทาวัน โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองลำสามแก้ว
ก ชื่อเรื่อง การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึกของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โดยใช้ กระบวนการสอนแบบ Active Learning โดยการเสริมแรงทางบวก ปีการศึกษา ๒๕๖6 ผู้จัดทำ นายยธนา โยทาวัน บทคัดย่อ การเข้าร่วมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ กลุ่มพัฒนาการเขียนสะกดคำ ในครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ซึ่งเป็นการ ดำเนินการกึ่งการวิจัย กลุ่มตัวอย่าง คือ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในครั้งนี้ คือ แผนการจัดการเรียนรู้ Active Learning โดยการเสริมแรงทางบวก วิเคราะห์ ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ ผลการดำเนินการพบว่า ผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของ ผล การประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 พบว่าครั้งที่ ๒ มี ค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 12 และครั้งที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๑5
ข สารบัญ เรื่อง หน้า บทคัดย่อ ก สารบัญ ข สารบัญตาราง ค บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1 ขอบเขตการดำเนินงาน 2 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 กรอบแนวคิด 2 บทที่ ๒ แนวคิด ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เอกสารที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย 4 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้า 5 งานวิจัยที่เกี่ยวของกับการศึกษาค้นคว้า 6 ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย 6 บทที่ ๓ วิธีการดำเนินการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 7 การเก็บรวบรวมข้อมูล 7 การสร้างเครื่องมือในการวิจัย 7 วิธีการดำเนินการ 8 สถิติที่ใช้ในการวิจัย 8 บทที่ ๔ ผลการดำเนินการ ประเด็นการสะท้อนผลการสอน/ปฏิบัติ/ฝึกปฏิบัติ/กิจกรรม 9 ผลการประเมินทักษะการเขียน 11 บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ผลการดำเนินการ 12 อภิปรายผล 12 ข้อเสนอแนะ 13 บรรณานุกรม ภาคผนวก
ค สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ ๑ ค่าเฉลี่ยการเปรียบเทียบคะแนนการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 11
1 บทที่ ๑ บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ภาษานับว่าเป็นสิ่งสำคัญในการเขียน องค์ประกอบของภาษาคือ การฟัง การพูด การอ่านและ การ เขียน เพื่อเป็นเครื่องช่วยให้คนในสังคมมีความเข้าใจที่ดีต่อกันและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข การเรียนการ สอนภาษาไทยในระดับประถมศึกษามุ่งให้ผู้เรียนมีพัฒนาการทางภาษาทั้งทางด้านการฟัง การ พูด การอ่าน และการเขียนสามารถใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารถึงการรับรู้ และถ่ายทอดความรู้สึกนึก คิดได้อย่างมี ประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักการศึกษายังเห็นความสำคัญของวิชาภาษาไทยเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพื้นฐาน ของการเรียนวิชาอื่น ๆ อีกด้วย การเขียนนับเป็นการสื่อสารที่มีวิธีการที่ซับซ้อนกว่าทักษะอื่น เพราะผู้ที่สามารถฟัง พูดอ่าน ได้ดีจึง จะช่วยให้สามารถถ่ายทอดความเข้าใจ ความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการออกมาทางการเขียนเพื่อสื่อ ความหมายให้ผู้อื่นเข้าใจ ทักษะการเขียนจึงเป็นเครื่องมือในการสื่อความหมายที่คงทนถาวรเป็น หลักฐานที่ ดีกว่าทักษะอื่น ฉะนั้นผู้เขียนจึงต้องพยายามเขียนคำให้ถูกต้อง ใช้ภาษาที่ถูกต้องเพื่อสื่อความหมายให้ผู้อื่น เข้าใจ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นการเขียนที่มีประสิทธิภาพ ในการเขียนนอกจากต้อง คำนึงถึงเนื้อความตาม วัตถุประสงค์ สำนวนที่สละสลวยถูกต้องตามหลักภาษาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการ สะกดคำด้วย เพราะการ เขียนสะกดคำที่ถูกต้องนอกจากจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย และรวดเร็วแล้วยัง ช่วยให้ผู้เขียนเกิดความมั่นใจ ตนเองในการเขียนทุกครั้งอีกด้วย ปัจจุบันพบว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่งมีความบกพร่องทางการเรียนรู้เรื่องการเขียน ซึ่งเกิดจาก นักเรียนเขียนช้า เขียนอักษรกลับหลัง วนหันพยัญชนะหลายรอบสะกดคำผิดบ่อยแม้แต่คำง่าย ๆ เขียนแล้ว ลบบ่อยเขียนแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง เขียนเพิ่มหรืออาจเขียนตกหล่น วางสระและวรรณยุกต์ไม่ถูกที่เขียนตัวอักษร สลับกันซึ่งเป็นสาเหตุให้ ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่การพัฒนาทักษะการเขียน ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ที่บกพร่องทางการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการพัฒนาชุมชนทางวิชาชีพ (PLC) (กลุ่มพัฒนาการเขียนสะกดคำ) เพื่อพัฒนาศักยภาพผู้เรียน ให้สามารถเขียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นแนวทางในการสอนการเขียน สำหรับนักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้ต่อไป วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1. เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เทศบาลเมืองลำสามแก้ว จังหวัดปทุมธานี
2 ขอบเขตการวิจัย ขอบเขตด้านประชากร 1. ประชากร - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 จำนวน 33 คน - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ จำนวน 32 คน - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 26 คน - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ จำนวน 31 คน 2. กลุ่มตัวอย่าง - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 จำนวน 28 คน - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ จำนวน ๓0 คน - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 26 คน - นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ จำนวน 31 คน ขอบเขตด้านเนื้อหา 1. แบบประเมินทักษะการเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 ๒. แบบประเมินทักษะการเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ ๓. แบบประเมินทักษะการเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ๔. แบบประเมินทักษะการเขียนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/1 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 จำนวน 33 คน มีทักษะการเขียนที่ มีอย่างมีประสิทธิภาพ ๒. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ จำนวน 30 คน มีทักษะการเขียนที่ มีอย่างมีประสิทธิภาพ ๓. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 26 คน มีทักษะการเขียนที่ มีอย่างมีประสิทธิภาพ ๔. นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ จำนวน 31 คน มีทักษะการเขียนที่ มีอย่างมีประสิทธิภาพ กรอบแนวคิด การทำวิจัย (PLC) ในครั้งนี้ เป็นการศึกษาเพื่อส่งเสริมทักษะการเขียน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 จำนวน 33 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ จำนวน ๓2 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 26 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ จำนวน 31 คน ผู้วิจัยได้จัดทำแบบฝึกทักษะ การ เขียน เกี่ยวกับวิชาภาษาไทยซึ่งมีความยากง่ายแตกต่างกันจำนวน 3 ชุด ประกอบด้วย และการสอนด้วย เทคนิค Model แบบ Active Learning 1. ทดสอบความสามารถในการเขียนผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 20 ข้อก่อนทำแบบฝึก 2. แบบทดสอบทักษะการเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 ๓. แบบทดสอบทักษะการเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ ๔.แบบทดสอบทักษะการเขียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ๕.แบบทดสอบทักษะการเขียนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑
3 กระบวนการเรียนรู้ แบบ Active Learning ภาพที่ ๑ กระบวนการเรียนรู้ Active Learning
4 บทที่ ๒ แนวคิด ทฤษฎีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นแนวทางในการทำวิจัย (PlC) กลุ่มพัฒนาการ เขียนสะกดคำ เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) 1. เอกสารที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย 1.๑ เอกสารเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย 2. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้า 2.1 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเขียนสะกดคำ ๒.๒ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับแบบฝึก 3. งานวิจัยที่เกี่ยวของกับการศึกษาค้นคว้า 3.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ (PLC) 1. เอกสารที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย 1.๑ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย วิเศษ ชินวงศ์ (2545) ได้รวบรมแนวคิดเกี่ยวกับการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1. สมองของมนุษย์มีศักยภาพในการเรียนรู้ที่สูงสุด ผู้เรียนต้องอาศัยระบบประสารทสัมผัส คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ กระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ผู้สอนต้องสนใจและให้ผู้เรียนได้พัฒนา ความสัมพันธ์ระหว่างสมอง จิตใจ และสุขภาพองค์รวม 2. ความหลากหลายของสติปัญญา หรือพหุปัญญา จัดกระบวนการเรียนรู้ควรจัดกิจกรรม ที่หลากหลายเพื่อส่งเสริมศักยภาพความเก่ง ความสามารถของผู้เรียนเป็นรายบุคคลเพื่อให้แต่ละคนได้ พัฒนาความถนัด ความเก่งตามศักยภาพ นงเยาว์ แขงเพ็ญแข (2540) กล่าวว่า การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้จะต้องปรับเปลี่ยนอยู่ อย่างจริงจังโดยเน้นให้ผู้เรียนเป็นสำคัญ เน้นการคิด การวิเคราะห์ การวิจัย สร้างองค์ความรู้ได้และพัฒนา อย่างต่อเนื่อง แฮลมัท แลงค์ (1995) ได้เสนอหลักในการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ว่าเป็น แนวทางที่จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้เนื้อหาครบถ้วน ด้วยวิธีการของแต่ละบุคคลที่อาจแตกต่างกันไปเป็นการ ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เข้าร่วมในการเรียนรู้อย่างกระตือรือร้น และมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งกันและกัน
5 ๒. เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาค้นคว้า 2.1 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเขียนสะกดคำ สุกัญญา ศรีณะพรหม (2541: 19) ได้กล่าวว่า การเขียนสะกดคำเป็นการจำตัวอักษรตาม ความหมายของรูปคำนั้น ๆ เมื่อออกเสียงเป็นคำๆหนึ่งที่เข้าใจความหมายของคำศัพท์นั้นร่วมกัน ณัฐชา เรืองเกษม (2547: 25) ได้กล่าวว่า การเขียนสะกดคำเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ กำหนด ตัวอักษรหรือสัญลักษณ์แทนเสียง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เขียนสามารถถ่ายทอดความคิดของตนเองออกมา เป็น ตัวหนังสือ และให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจได้ตรงตามจุดมุ่งหมายที่ผู้เขียนต้องการ สมพงษ์ ศรีพยาต (2553: 35) ได้กล่าวว่า การเขียนสะกดคำ คือ การเขียนเรียงลำดับ อักษร ได้แก่ พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ตัวสะกดและตัวการันต์เรียบเรียงเป็นคำได้ถูกต้อง เขียนถ่ายทอด ความรู้สึกนึกคิดของจนเอง เขียนตอบคำถาม เขียนเล่าเรื่องและใช้เครื่องหมายวรรคตอนได้ถูกต้อง กล่าวโดยสรุป การเขียนสะกดคำ นั้นผู้เรียนต้องสามารถจำตัวอักษรตามความหมายของ รูป นั้นๆได้และสามารถถ่ายทอดความคิดของตนเองออกมาเป็นตัวหนังสือ อีกทั้งสามารถเรียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ได้อย่างถูกต้อง ๒.๒ เอกสารที่เกี่ยวข้องกับแบบฝึก ความหมายและความสำคัญของแบบฝึก แบบฝึก หรือแบบฝึกหัด หรือแบบฝึกเสริม ทักษะ เป็นสื่อการเรียนประเภทหนึ่งสำหรับ ให้นักเรียนฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและ ทักษะเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่หนังสือเรียนจะมี แบบฝึกหัดอยู่ท้ายบทเรียน ในบางวิชาแบบฝึกหัดจะมีลักษณะ เป็นแบบฝึก ปฏิบัติ สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์ (2540:106) กล่าวว่า แบบฝึก หมายถึง การจัดประสบการณ์ ฝึกหัด เพื่อให้ผู้เรียนศึกษาและเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและสามารถแก้ปัญหาได้ถูกต้องอย่างหลากหลายและ แปลก ใหม่ สุกิจ ศรีพรหม (2541:68) ได้ให้ความหมายไว้ว่า แบบฝึก หมายถึง การนำสื่อประสมที่ สอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์ของวิชามาใช้ในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้เรียนเพื่อให้เกิด การ เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ถวัลย์ มาศจรัล (2546:18) ได้ให้ความหมายไว้ว่า แบบฝึก หมายถึง กิจกรรมพัฒนา ทักษะ เรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสม มีความหลากหลาย และปริมาณเพียงพอที่สามารถ ตรวจสอบและพัฒนาทักษะกระบวนการคิด กระบวนการเรียนรู้ สามารถนำผู้เรียนสู่การสรุปความคิด รวบ ยอดและหลักการสำคัญของสาระการเรียนรู้ รวมทั้งทำให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบความเข้าใจใน บทเรียน ด้วยตนเองได้ ๖
6 ปรัชวี สวามิวัศดุ์ (2555) ได้ให้ความหมายของแบบฝึกไว้ว่าเป็นสื่อหรือนวัตกรรมที่จัดทำ ขึ้น เพื่อใช้ฝึกทักษะให้กับผู้เรียนหลังจากเรียนจบเนื้อหาในช่วงๆหนึ่งๆ เพื่อฝึกฝนให้เกิดความรู้ความเข้าใจ รวมทั้งเกิดความชำนาญในเรื่องนั้นๆอย่างกว้างขวางแบบฝึกจึงมีความสำคัญต่อผู้เรียนในการที่จะช่วย เสริม ทักษะให้กับผู้เรียน ทำให้การสอนของ ครู อาจารย์ และการเรียนของนักศึกษาประสบผลสำเร็จ อย่างมี ประสิทธิภาพ อภิภู สิทธิภูมิมงคล (2545) ได้ให้ความหมายของแบบฝึกไว้ว่า เป็นสื่อการศึกษาประเภท หนึ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นชุดประสบการณ์สำหรับการฝึกอบรมแบบฝึกอาจจะประกอบด้วยสื่อเดี่ยว หรือ สื่อประสมที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยผู้ให้การฝึกอบรมใช้ประกอบกิจกรรมในการฝึกอบรม หรือช่วย ผู้รับการฝึกอบรมสามารถที่จะศึกษาหาความรู้ได้ด้วยตนเอง จากแนวคิดของนักการศึกษาข้างต้น สรุปได้ว่า แบบฝึก คือ งานและนวัตกรรมที่ ครูผู้สอน มอบหมายให้ผู้เรียนกระทำเพื่อฝึกทักษะและทบทวนความรู้ที่ได้เรียนไปแล้วให้เกิดความ ชำนาญ ถูกต้อง คล่องแคล่ว จนสามารถนำความรู้ไปแก้ปัญหาได้โดยอัตโนมัติ ในการศึกษาครั้งนี้ผู้วิจัย เลือกใช้คำว่าแบบฝึก ๓. งานวิจัยที่เกี่ยวของกับการศึกษาค้นคว้า 3.1 งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับทำ (PLC) สุชาติ สวรรณ์เจริญ (2537) วิจัยเรื่องการใช้คอมพิวเตอร์เสริมทักษะการเขียนสะกดคำ ภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ทดลองกับนักเรียนจำนวน 60 คน โดยแบงออกเป็น 2 กลุ่ม เป็นกลุ่มทดลอง จำนวน 3 คน เรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์เสริมทักษะ ส่วนกลุ่มควบคุมจำนวน 30 คน สอน โดยวิธีสอนแบบปกติ ผลวิจัยปรากฏว่า เกมคอมพิวเตอร์เสริมทักษะการเขียนสะกดคำภาษาไทย ที่สร้างขึ้นมี ประสิทธิภาพ 85.48/79.78 คือ ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ส่วนผลการ เปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของ คะแนนผลสัมฤทธิ์การเขียนสะกดคำก่อนเรียนและหลังเรียนของกลุ่มทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุม ทศพร จันทนราช (2534 : 58 – 60) ได้ศึกษาเปรียบเทียบผลการเสริมแรงด้วยเบี้ย อรรถกร และการใช้แรงเสริมทางสังคมที่มีต่อการเขียนสะกดคำ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 2 การศึกษา 2533 โรงเรียนบ้านหัวทานบ อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 16 คน ผล ปรากฏว่านักเรียนที่ได้รับการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกรและนักเรียนที่ได้รับการใช้แรงเสริมทางสังคม เขียน สะกดถูกต้องแตกต่างกันอย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .01
7 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ ๓.๑ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร : นักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) กลุ่มตัวอย่าง : นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 จำนวน 33 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ จำนวน 32 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 34 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/1 จำนวน 31 คน รวมทั้งสิ้น 122 คน ๓.๒ ระยะเวลาที่ใช้ ดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๖6 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖7 ภาคเรียนที่ ๑ ครั้งที่ ๑ – 13 สมาชิกร่วมกันค้นหาปัญหา วิเคราะห์สาเหตุ หาเทคนิคการ สอน และ ทฤษฎีทางการศึกษามาสร้างเครื่องมือในการแก้ปัญหาของนักเรียน และดำเนินการตามวงรอบ ทั้งหมด 2 วงรอบ รวม 24 ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๒ ครั้งที่ ๑3 - 18 ดำเนินการต่ออีก 2 วงรอบ และถอดบทเรียนหลัง ปฏิบัติการ(AAR) กลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ รวม 13 ชั่วโมง ตลอดปีการศึกษา ๒๕66 สมาชิกร่วมกัน ค้นหาปัญหา วิเคราะห์สาเหตุ หาเทคนิคการ สอน และ ทฤษฎีทางการศึกษามาสร้างเครื่องมือในการแก้ปัญหาของนักเรียน และดำเนินการตามวงรอบ และถอดบทเรียนหลังปฏิบัติการ (AAR) กลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ กลุ่มอ่านคล่อง เขียนคล่อง รวมทั้งสิ้น 37 ชั่วโมง ๓.๓ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบทดสอบทักษะการเขียนโดยใช้แบบฝึก 1. วิธีการสร้างเครื่องมือ 1.1 ศึกษาจากผู้รู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง 1.2 วางแผนสร้างเครื่องมือ (แบบสอบถามพฤติกรรม) 1.3 จัดพิมพ์แบบทดสอบ 1.4 ตรวจสอบความถูกต้องก่อนใช้ 1.5 นำเครื่องมือผ่านผู้เชี่ยวชาญตรวจหาค่าความเที่ยงตรงเนื้อหา แล้วนำมาปรับปรุง แก้ไข 1.6 นำแบบทดสอบมาใช้กับกลุ่มตัวอย่าง 2. นวัตกรรมที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์การเขียนสะกดคำ 2.1 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกคำตอบ 4 ตัวเลือกให้ ครอบคลุมเนื้อหาและจุดประสงค์ 10 ข้อ 2.2 เกณฑ์การประเมินมีดังนี้ให้คะแนน 1 คะแนนเมื่อตอบถูก ให้คะแนน 0 คะแนน เมื่อตอบผิด
8 2.3 นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์เสนอต่อหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและ ผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบเพื่อ ตรวจแก้ไข 3. ส่วนประกอบ / เนื้อหาสาระของเครื่องมือ ส่วนที่ ๑ แบบทดสอบความสามารถในการเขียนสะกดคำ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน ๒๐ ข้อ ส่วนที่ 2 แบบฝึกทักษะการแต่งคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา จำนวน ๔ ชุด วิธีการดำเนินการ 1. ทดสอบความสามารถในการเขียนสะกดคำ โดยการทำแบบทดสอบความสามารถในการเขียน สะกดคำ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 20 ข้อ ก่อนทำแบบฝึก/หลังทำแบบฝึก 2. แบบทดสอบทักษะการเขียนสะกดคำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 ๓. แบบทดสอบทักษะการเขียนสะกดคำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ ๔. แบบทดสอบทักษะการเขียนสะกดคำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ๕. แบบทดสอบทักษะการเขียนสะกดคำ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ สถิติที่ใช้ในการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติร้อยละการอภิปรายผลร้อยละแบ่งช่วงคะแนนดังนี้0 – ๔ หมายถึง ต้อง ปรับปรุง 50 – 69 หมายถึง พอใช้70 – 79 หมายถึง ดี80 – 10 หมายถึง ดีมาก
9 บทที่ ๔ ผลการดำเนินการ การดำเนินการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพนี้ เป็นการดำเนินการของกลุ่ม พัฒนาการเขียน สะกดคำ ปีการศึกษา ๒๕๖5 โดยร่วมกันสร้าง และจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ แบบActive Learning ร่วมกับทฤษฎีการเสริมแรง ของสกินเนอร์เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาทักษะการเขียน สะกดคำ ของนักเรียน โดยกลุ่มพัฒนาการเขียนสะกดคำ ขอนำเสนอผลการวิเคราะห์ ๒ ตอน ดังนี้ ตอนที่ ๑ ประเด็นการสะท้อนผลการสอน / ฝึกปฏิบัติ / กิจกรรม สมาชิกในกลุ่มได้วิเคราะห์ข้อมูลหลังจากการสังเกตการสอนของครู ผู้ร่วมเรียนรู้สามารถวิเคราะห์ ประเด็นต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้ ๑.๑ ประเด็นด้านผู้เรียน - เมื่อใช้การเสริมแรงเข้าร่วมกับการจัดการเรียนการสอนช่วยให้ผู้เรียนเกิดความสนุกสนาน รวมถึงช่วยให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ - นักเรียนมีทักษะการเขียนสะกดคำดีขึ้น ในทุกระดับชั้น - นักเรียนเขียนหนังสือได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ๑.๒ ประเด็นด้านกิจกรรม - การเสริมแรงทำให้นักเรียนสนใจในบทเรียนได้ดียิ่งขึ้น - การเสริมแรงช่วยให้ได้ผลงานที่บรรลุวัตถุประสงค์ - การเสริมแรงทำให้ผู้เรียนเกิดความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ - การมีปฏิสัมพันธ์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียน และครูกับผู้เรียน มี ปฏิสัมพันธ์ที่ดี ครู เปิดโอกาสให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมในการคิด และการตอบคำถามผ่านกิจกรรมที่ได้ลง มือกระทำ - มีการจัดลำดับขั้นตอน และความต่อเนื่องของกิจกรรมดี และสามารถปฏิบัติกิจกรรมได้อย่าง ลื่นไหลทำให้การจัดการเรียนการสอนมีความชัดเจน เรียนรู้ง่ายมากยิ่งขึ้น - กิจกรรมมีความเหมาะสม สอดคล้องกับจุดประสงค์ กิจกรรมการเรียนรู้และการวัดและ ประเมินผล ๑.๓ ประเด็นด้านครูผู้สอน - ครูผู้สอนมีวิธีการควบคุมชั้นเรียนได้เหมาะสมกับการเรียนการสอน - ครูผู้สอนมีน้ำเสียงชวนฟัง และมีจังหวะในการพูด - ผู้สอนมีกำหนดเวลา โครงสร้าง เหมาะสมกับเนื้อหา บทเรียน และระดับความสามารถของ ผู้เรียน - ครูผู้สอนมีการเสริมแรงนักเรียน และชื่นชมนักเรียน - ครูผู้สอนมีการจัดเรียงลำดับขั้นตอนการนำเสนอการเรียนรู้ให้กับนักเรียนอย่างเป็นระบบ
10 ๑.๔ ประเด็นสื่อการสอน - สื่อการสอนมีขนาดใหญ่ เหมาะสมกับผู้เรียน - สื่อการสอบมีความหลากหลาย แปลกใหม่ - สื่อการสอนมีสีสัน - นักเรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ๑.๕ ประเด็นด้านบรรยากาศ - ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิดตัดสินใจ และกล้าแสดงออก - มีข้อตกลงร่วมกันระหว่างครูกับนักเรียน - บรรยากาศสนุกสนาน มีเกม กิจกรรม และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ กระตุ้นผู้เรียน ๑.๖ จุดแข็งจุดอ่อนของการสอน On Line : เรียนที่บ้าน จุดแข็ง - การสอนมีเนื้อหาครอบคลุม - มีการจัดกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจของผู้เรียน - นักเรียนได้ลงมือทำกิจกรรมด้วยตนเอง - นักเรียนรู้จักนำเสนอความคิด และรู้จักการรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น - ริเริ่มในความคิดสร้างสรรค์ - การเสริมแรงทางบวกส่งผลให้การพัฒนาทักษะการเขียนสะกดคำของนักเรียนดีขึ้น - การใช้สื่อเทคโนโลยีช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายยิ่งขึ้น จุดอ่อน - นักเรียนที่อ่อนจะทำกิจกรรมไม่ทันเพื่อน - นักเรียนขาดความพร้อมในด้านอุปกรณ์ และ Internet ตอนที่ ๒ ผลการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำ สมาชิกในกลุ่มได้วิเคราะห์ผลการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำของนักเรียนระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๒/2 ,2/๓, 3/4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ โดยเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยการประเมิน ๓ ครั้ง ได้ดังนี้
11 ตารางที่ ๑ ค่าเฉลี่ยการเปรียบเทียบคะแนนการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำ ครั้งที่ ๑ ,๒ และ ๓ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 ระดับชั้น ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 ร้อยละ ๕๔ ร้อยละ ๖6 ร้อยละ ๗9 จากตารางที่ ๑ ผลการประเมินทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๒/๓ พบว่า ครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๙ และครั้งที่ ๓ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิด เป็นร้อยละ ๑๒ ตารางที่ ๒ ค่าเฉลี่ยการเปรียบเทียบคะแนนการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำ ครั้งที่ ๑ ,๒ และ ๓ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ ระดับชั้น ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๓ ร้อยละ ๕4 ร้อยละ ๖3 ร้อยละ ๗5 จากตารางที่ ๒ ผลการประเมินทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2/๓ พบว่า ครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๑๐ และครั้งที่ ๓ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ ๑๓ ตารางที่ ๓ ค่าเฉลี่ยการเปรียบเทียบคะแนนการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำ ครั้งที่ ๑ ,๒ และ ๓ ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ระดับชั้น ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ร้อยละ ๕8 ร้อยละ ๖9 ร้อยละ 73 จากตารางที่ ๓ ผลการประเมินทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3/4 พบว่า ครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๑๑ และครั้งที่ ๓ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ ๑๔ ตารางที่ ๓ ค่าเฉลี่ยการเปรียบเทียบคะแนนการประเมินทักษะการเขียนสะกดคำ ครั้งที่ ๑ ,๒ และ ๓ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ ระดับชั้น ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ ครั้งที่ ๓ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒/๑ ร้อยละ ๖๐ ร้อยละ ๗๒ ร้อยละ ๘๗ จากตารางที่ ๓ ผลการประเมินทักษะการอ่าน และการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๒/๑ พบว่า ครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๑๒ และครั้งที่ ๓ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ ๑๕
12 บทที่ ๕ สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ผลการดำเนินการ ผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 , 2/3 , 3/4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โดยการพัฒนารูปแบบการสอนในการแก้ไขปัญหานักเรียนเขียนสะกดคำได้ ตามรูปแบบ Active Learning โดยใช้ทฤษฎีการเรียนรู้แบบเสริมแรง สกินเนอร์ (Skinner) ไปสู่การเรียนรู้ ดังนี้ ผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/2 พบว่าครั้งที่ 2 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 9 และครั้งที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๑๒ ผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 พบว่าครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 10 และครั้งที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๑3 ผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 พบว่าครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 11 และครั้งที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๑4 ผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 พบว่าครั้งที่ ๒ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 12 และครั้งที่ 3 มีค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ ๑5 อภิปรายผล จากผลการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/2 , 2/3 , 3/4, และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โดยการพัฒนารูปแบบการสอนได้ ตามกระบวนการเรียนรู้ Active Learning โดยใช้ทฤษฎีแบบเสริมแรง สกินเนอร์ (Skinner) จะเห็นได้ว่าคะแนนการประเมินทักษะการเขียนภาษาไทย ครั้งที่ ๓ คิดเป็นค่าเฉลี่ยรวมทั้งหมดร้อยละ 53.16 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์พอใช้ หมายความว่า นักเรียนเมื่อ แบบทดสอบการเขียนแล้วมีทักษะการเขียนภาษาไทยได้อย่างชัดเจน ข้อเสนอแนะ ๑. ข้อเสนอแนะในด้านการจัดการเรียนการสอน ๑.๑ จากผลการวิจัย พบว่า การสอนโดยใช้ทฤษฎีแบบเสริมแรง สกินเนอร์ (Skinner) เกิดการ เรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงควรได้รับการส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้มี การสร้างแบบประเมินทักษะการ เขียนภาษาไทย ฝึกโดยการวิเคราะห์แบบฝึกมีความยากสำหรับนักเรียนและใช้แบบฝึกเข้าช่วยใน การสอน การเขียนคำศัพท์ จะเป็นการช่วยลดภาระและเวลาในการสอนของครูลงไปได้เพราะแบบประเมินทักษะการ เขียนลักษณะนี้สามารถใช้สอนนอกเวลาได้และเด็กสามารถเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นรายบุคคล ได้อีกด้วย 1.2 การจัดทำแผนการสอนที่เน้นกระบวนการเรียนรู้แบบ รูปแบบ Active Learning เป็นกิจกรรม การเรียนรู้ที่ครูผู้สอน จัดกิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ของแต่ละชั้นเรียนที่มีความแตกต่างกันไป ตามรูปแบบ
13 และหลักสูตร ซึ่งเน้นตัวผู้เรียนเป็นหลักซึ่งบางกิจกรรมนั้นอาจส่งผลกระทบต่อผู้เรียนบางคนในห้องเรียนที่มี ทักษะด้านการเขียนที่ปานกลาง จึงทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องที่เด็กไม่ค่อยชอบเรียนโดยเฉพาะนักเรียนที่มี ปัญหาด้านการเขียน ดังนั้นครูจึงต้องหาวิธีและรูปแบบที่จะทำให้กระบวนการจัดการเรียนรู้ใหม่ ๆ ที่ เหมาะสมกับนักเรียนมาประกอบอยู่เสมอ 1.3 ในการสอนเขียนคำศัพท์ภาษาไทย ครูควรเน้นที่การอ่านคำศัพท์ และความหมายบริบทของคำ ก่อนเพราะจะช่วยให้นักเรียนเขียนคำศัพท์ภาษาไทยได้ดีขึ้น โดยเฉพาะคำศัพท์ที่มีในหนังสือเรียน ควรเสริม ด้วยสื่อการสอน เช่น บัตรคำ บัญชีคำพื้นฐาน เปิดโอกาสให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการสอนด้วย จากการที่ผู้วิจัยสังเกตพบในกลุ่มควบคุม ถ้าครั้งใดครูใช้สื่อหรือการเสริมแรงนักเรียนจะสนใจในการเรียน และสนุกสนานที่จะได้เข้าร่วมกิจกรรมกับครูผู้สอน ดังนั้นครูไม่ควรสอนการเขียนสะกดคำและวิธีการให้ นักเรียน เขียนตาม คำบอกหรือแบบทดสอบเท่านั้น ควรสอนคำและความหมายของคำ ก่อนทุกครั้งที่จะมี การเขียน จะช่วยให้นักเรียนเขียนสะกดคำได้ดีขึ้น 1.4 ในการทำแบบฝึกหัดแต่ละครั้งของนักเรียน ครูผู้สอนจะต้องเฉลยทันทีและชี้แจงข้อบกพร่อง ข้อสังเกตในการที่จะแก้ไขและจดจำ เพื่อให้นักเรียนทราบความสามารถของตน พร้อมทั้งแนวทางแก้ไขและ พัฒนาความสามารถในการเขียนของตน ให้ดียิ่งขึ้นในครั้งต่อไปได้ 2. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรศึกษาผลความก้าวหน้าในการเขียนจากการสอนซ่อมเสริมเด็กที่อ่อนทางด้านการเขียน โดยใช้แบบฝึกหัดทักษะการเขียนภาษาไทย 2.2 ควรศึกษาผลของการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนภาษาไทยโดยเปรียบเทียบกับการใช้ เกม หรือ กิจกรรมอื่น ๆ ในการสอนเขียนสะกดคำที่ส่งผลต่อ การพัฒนาการเขียนภาษาไทยของนักเรียน
14 บรรณานุกรม กรมวิขาการ กระทรวงศึกษาธิการ.2543. เอกสารชุดเทคนิคการสอนการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้ เรียนรู้แบบร่วมมือ. โรงพิมพ์การศาสนากรมศาสนา.กรุงเทพ ฯ. ไชยยศ เรืองสุวรรณ .2546. กระบวนการจัดการเรียนแบบActive Learning. กรุงเทพ ฯ : ไทยวัฒนา พาณิชย์. ชัยวัฒน์ เหล่าสืบสกุลไทย.2560. เอกสารประกอบการฝึกเขียนสะกดคำ. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2564. จาก(https://innovation.Kpru.ac.th) ณัฐนี เกิดธรรม. ๒๕๖๑. รูปแบบการจัดการเรียนรู้. สืบค้นเมื่อ วันที่ 3 กันยายน 2564. จาก (https://edu.vru.ac.th) ณัฐธิดา แย้มยิ้ม. 2555. รูปแบบการเสริมแรงสำหรับการเรียนการสอน. สิบค้นเมื่อ วันที่ 9 กันยายน 2564. จาก (https://www.educathai.com) ปรียพัศ มุงการนา. 2549. การแกปญหาการเขียนคําภาษาไทยไมถูกตองของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปที่ ๔ โรงเรียนบ านหนองไผ โดยใช แบบฝ กทักษะการเขียนคําตามมาตราตัวสะกด (รายงานผลการวิจัย). อุทัยธานี: โรงเรียนบานหนองไผ่. ทศพร จันทนราช. 2534. การศึกษาเปรียบเทียบผลการเสริมแรงด้วยเบี้ยอรรถกร และการใช้แรงเสริม ทางสังคมที่มีต่อการเขียนสะกดคำ (พิมพ์ครั้งที่ 2). (น. 47-68) พิษณุโลก: สำนักพิมพ์ลาดพร้าว. วรรณี โสมประยูร.2542. การวิจัยและพัฒนาการศึกษา. วารสารวิชาการ. 6,6 (มิถุนายน): 10-14. วารินทร รัศมีพรหม. 2542. การออกแบบและพัฒนาระบบการสอน. กรุงเทพ ฯ : ภาควิชาเทคโนโลยีทาง การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.(เอกสาร)
15 ภาคผนวก
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียน เทศบาล (๑) ขจรเนติยุทธ โทร. ๐๒-๙๘๗๕๘๗๘ ที่ ปท ๕๓๓๐๕.๑ /๔๖๓ วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เรื่อง ขอจัดตั้งกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๖ เรียน ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ด้วยข้าพเจ้า นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ตำแหน่ง ครูชำนาญการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีความประสงค์ขอจัดตั้งกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ปีการศึกษา ๒๕๖๖ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ๑. ชื่อกลุ่มกิจกรรม “การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก” ๒. จำนวนสมาชิกทั้งหมด ๕ คน ดังนี้ ๑) ครูผู้สอน (Model teacher) และครูเพื่อนร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) จำนวน ๕ คน ที่ ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ระดับชั้น ที่สอน รายวิชาที่ สอน หน้าที่ ๑ นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ครูชำนาญการ ภาษาไทย ป.๒/๓ ภาษาไทย ประธานกลุ่ม ๒ นายยธนา โยทาวัน ผู้ช่วยครู ภาษาไทย ม.๑-๓ ภาษาไทย รองประธาน ๓ นายสุรศักดิ์ สุวรรณัง ผู้ช่วยครู ภาษาไทย ป.๒/๒ ภาษาไทย สมาชิก ๔ นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ผู้ช่วยครู การงาน ฯ ป.๓/๔ ภาษาไทย สมาชิก ๕ นางสาวพัชรานันท์ วะราหะ ผู้ช่วยครู ภาษาไทย ป.๖ ภาษาไทย เลขานุการ ๒) ครูพี่เลี้ยง (Mentor) ชื่อ นางสาวศิวพร ศรีคราม ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ครูที่มีความเชี่ยวชาญด้าน การใช้ภาษา การอ่าน และการเขียน ครูที่มีผลงานดีเด่นด้าน ….……………………………………. อื่นๆ (ระบุ) ……….……………………………………. ๓) ผู้บริหารสถานศึกษา (Administrator) ชื่อ นายเดช จงรักพงศ์เผ่า ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษา อื่นๆ (ระบุ) …………………………….. แบบ PLC ๐๒
๔) ผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ชื่อนายนที ศรีแย้ม ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ ศึกษานิเทศก์สังกัด …………………………………… อาจารย์มหาวิยาลัย สังกัด …………………………………… อื่นๆ (ระบุ) ครูเชี่ยวชาญ ด้านการจัดการเรียนการสอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๓. สถานที่ประชุมกลุ่ม โรงอาหารหน้าอาคาร ๔ ๔. วันเวลาประชุมกลุ่ม วันอังคาร และวันศุกร์เวลา ๑๕ . ๓0 - ๑๖ . ๓0 น. โดยได้แนบหลักฐานบันทึกเชิญบุคลากรเป็นครูพี่เลี้ยงและหนังสือเชิญเป็นผู้เชี่ยวชาญมาพร้อมกับบันทึกนี้ จึงเรียนมาเพื่อทราบและพิจารณา ลงชื่อ ประธานกลุ่ม ( นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ)
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนเทศบาล (๑) ขจรเนติยุทธ โทร. ๐๒-๙๘๗๕๘๗๘ ที่ ปท ๕๓๓๐๕.๑ /๔๗๖ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เรื่อง ขอเชิญบุคลากรเป็นครูพี่เลี้ยง (Mentor) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เรียน ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) เนื่องด้วยในปีการศึกษา ๒๕๖๖ ครูผู้สอน (Model teacher) และครูเพื่อนร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) จำนวน ๕ คน มีความประสงค์ขอจัดตั้งกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ชื่อกลุ่มกิจกรรม การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก โดยกำหนดวันเวลาประชุมกลุ่ม ในวันอังคาร และวันศุกร์ เวลา ๑๕.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ของทุกสัปดาห์ณ โรงอาหาร หน้าอาคาร ๔ ในการนี้จึงขอความอนุเคราะห์ ครูศิวพร ศรีคราม ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการ ซึ่งเป็นผู้ที่ มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในด้านทักษะการอ่าน และการเขียน เป็นครูพี่เลี้ยง (Mentor) ของ กลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ดังกล่าวตลอดภาคเรียน เพื่อพัฒนา การจัดการเรียนการสอน และ การเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้กระบวนการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ตามบริบทการทำงานจริง ในชั้นเรียนและในโรงเรียนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ลงชื่อ (นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์) ประธานกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) “พัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก” (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) แบบ PLC 03
แบบตอบรับเป็นครูพี่เลี้ยง (Mentor) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามที่กลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ชื่อกลุ่มกิจกรรม พัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ได้ขอความอนุเคราะห์ ข้าพเจ้า นางสาวศิวพร ศรีคราม ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ เป็นครูพี่เลี้ยง (Mentor) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในภาคเรียนที่ ๑ - ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๖ นั้น ข้าพเจ้า ยินดีเป็นครูพี่เลี้ยง (Mentor) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ได้ ไม่สามารถเป็นครูพี่เลี้ยง (Mentor) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ได้ เนื่องจาก………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ (นางสาวศิวพร ศรีคราม) ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการ วันที่ ๑๙ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนเทศบาล (๑) ขจรเนติยุทธ โทร. ๐๒-๙๘๗๕๘๗๘ ที่ ปท ๕๓๓๐๕.๑ /๔๗๗ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖ เรื่อง ขอเชิญเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) เรียน ผู้อำนวยการสถานศึกษา เนื่องด้วยในปีการศึกษา ๒๕๖๖ ครูผู้สอน (Model teacher) และครูเพื่อนร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) จำนวน ๕ คน มีความประสงค์ขอจัดตั้งกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ชื่อกลุ่มกิจกรรม การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก โดยกำหนดวันเวลาประชุมกลุ่ม ในวันอังคาร และ วันศุกร์เวลา ๑๕.๓๐ – ๑๖.๓๐ น.ของทุกสัปดาห์ณ โรงอาหาร หน้าอาคาร ๔ ในการนี้จึงขอความอนุเคราะห์ ครูนที ศรีแย้ม ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นผู้ที่มี ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในด้านทักษะการอ่าน และการเขียน เป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ของ กลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ดังกล่าวตลอดภาคเรียน เพื่อพัฒนา การจัดการเรียนการสอน และ การเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้กระบวนการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ตามบริบทการทำงานจริง ในชั้นเรียนและในโรงเรียนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ลงชื่อ (นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์) ประธานกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) “การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก” (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) แบบ PLC 04
แบบตอบรับเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ตามที่กลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ชื่อกลุ่มกิจกรรม การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ)ได้ขอความอนุเคราะห์ ข้าพเจ้า นายนที ศรีแย้ม ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ เป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในภาคเรียนที่ ๑ - ๒ ปี การศึกษา ๒๕๖๖ นั้น ข้าพเจ้า ยินดีเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ได้ ไม่สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) (Mentor) ของกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ได้ เนื่องจาก………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ (นายนที ศรีแย้ม) ตำแหน่ง ครูวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญ วันที่ ๑๙ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖
ปฏิทินการดำเนินงานชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลุ่ม “พัฒนาการเขียนสะกดคำ” ปีการศึกษา 2566 ช่วงเวลา กิจกรรมครั้งนี้อยู่ความสอดคล้อง กับการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ประเด็นปัญหา / สิ่งที่ต้องการ พัฒนา ผู้รับผิดชอบ ก่อนเปิดภาคเรียน -แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน กระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ (PLC) ระดับ สถานศึกษา - ประชุมคณะกรรมการ ฯ ฝ่ายบริหาร/ คณะกรรมการ สัปดาห์ที่ 1-2 (19 พ. ค. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) -งาน/กิจกรรม ตั้งชื่อกลุ่ม และสร้าง ชุมชนแห่งการเรียนรู้ ประธานกลุ่ม PLC / สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 3 (23 พ.ค. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัด การเรียนรู้ (Analyze & Plan) - งาน/กิจกรรม สมาชิกเลือกปัญหา ที่จะนำมาแก้ไขร่วมกัน จำนวน 1 ปัญหา สมาชิกกลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 4 (26 พ.ค. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) -งาน/กิจกรรม แนวทางการแก้ไข ปัญหาและ การออกแบบกิจกรรม -สมาชิกร่วมกันออกแบบกิจกรรมใน การแก้ไขปัญหา หรือพัฒนาผู้เรียน สมาชิกกลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 5 (2 มิ.ย.66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) - งาน/กิจกรรม การเลือกรูปแบบ กระบวนการ/นวัตกรรม - สมาชิกในกลุ่มร่วมกันเลือกรูปแบบ กระบวนการ/นวัตกรรม/ชื่อรูปแบบ ที่กลุ่มเลือก สมาชิกกลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 6 (6 มิ.ย. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) - งานกิจกรรม การออกแบบแนว ทางการปฏิบัติ - สมาชิกในกลุ่มร่วมกันหารือหรือ วิธีการเพิ่มเติม -ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำเกี่ยวกับ นวัตกรรม สมาชิกกลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 7 (9 มิ.ย. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) - งาน/กิจรรม นำสู่การปฏิบัติ - สมาชิกจับคู่ Model-Buddy teacher สมาชิกกลุ่ม PLC แบบ PLC 05
ช่วงเวลา กิจกรรมครั้งนี้อยู่ความ สอดคล้องกับการพัฒนา บทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ประเด็นปัญหา / สิ่งที่ต้องการ พัฒนา ผู้รับผิดชอบ สัปดาห์ที่ 8 (13 มิ.ย. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) - งาน/กิจกรรม (วางแผนกิจกรรม 1) - สมาชิกในกลุ่มจัดทำแผนกิจกรรม ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 9 (20 มิ.ย. 66) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกต การเรียนรู้ (Do & See) - งาน/กิจกรรม (เยี่ยมชั้นเรียนครั้งที่ ๑) -ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) สังเกตการสอน ครูต้นแบบ Model Teacher/ครูร่วม เรียนรู้ (Buddyteacher) สัปดาห์ที่ 10 (4 ก.ค. 66) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิด และปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) - งานกิจกรรม/กิจกรรม (การสะท้อนผลการปฏิบัติครั้งที่ ๑) - ประเด็นจากการสังเกตการสอน ของครูร่วมเรียนรู้ ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 11 (14 ก.ค. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze Plan) - งาน/กิจกรรม (วางแผนกิจกรรม 2) - สมาชิกในกลุ่มจัดทำแผนกิจกรรม ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 12 (21 ก.ค. 66) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกต การเรียนรู้ (Do & See) - งาน/กิจกรรม (เยี่ยมชั้นเรียนครั้งที่ 2) -ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) สังเกตการสอน ครูต้นแบบ Model Teacher/ครูร่วม เรียนรู้ (Buddyteacher) สัปดาห์ที่ 13 (4 ส.ค. 66) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิด และปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) - งานกิจกรรม/กิจกรรม (การสะท้อนผลการปฏิบัติครั้งที่ 2) - ประเด็นจากการสังเกตการสอน ของครูร่วมเรียนรู้ ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 14 (14 พ.ย. 66) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze Plan) - งาน/กิจกรรม (วางแผนกิจกรรม 3) - สมาชิกในกลุ่มจัดทำแผนกิจกรรม ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 15 (21 พ.ย. 66) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกต การเรียนรู้ (Do & See) - งาน/กิจกรรม (เยี่ยมชั้นเรียนครั้งที่ 3) -ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) สังเกตการสอน ครูต้นแบบ Model Teacher/ครูร่วม เรียนรู้ (Buddyteacher) สัปดาห์ที่ 16 (19 ธ.ค. 66) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิด และปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) - งานกิจกรรม/กิจกรรม (การสะท้อนผลการปฏิบัติครั้งที่ 3) - ประเด็นจากการสังเกตการสอน ของครูร่วมเรียนรู้ ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 17 (19 ม.ค. 67) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวาง แผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze Plan) - งาน/กิจกรรม (วางแผนกิจกรรม 4) - สมาชิกในกลุ่มจัดทำแผนกิจกรรม ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC
ช่วงเวลา กิจกรรมครั้งนี้อยู่ความ สอดคล้องกับการพัฒนา บทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ประเด็นปัญหา / สิ่งที่ต้องการ พัฒนา ผู้รับผิดชอบ สัปดาห์ที่ 18 (2 ก.พ. 67) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกต การเรียนรู้ (Do & See) - งาน/กิจกรรม (เยี่ยมชั้นเรียนครั้งที่ 4) -ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) สังเกตการสอน ครูต้นแบบ Model Teacher/ครูร่วม เรียนรู้ (Buddyteacher) สัปดาห์ที่ 19 (9 ก.พ. 67) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิด และปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) - งานกิจกรรม/กิจกรรม (การสะท้อนผลการปฏิบัติครั้งที่ 4) - ประเด็นจากการสังเกตการสอน ของครูร่วมเรียนรู้ ครูต้นแบบ Model Teacher/สมาชิก กลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 20 (1 มี.ค. 67) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิด และปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) - ถอดบทเรียนหลังปฏิบัติการ After Action Review (AAR) สมาชิกกลุ่ม PLC สัปดาห์ที่ 21 (25 มี.ค. 67) จัดทำรูปเล่ม
-๒- บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) โทร. ๐-๒๙๘๗-๕๘๗๘ ที่ ปท ๕๓๓๐๕.๑ / ๑๕๙ วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ เรื่อง ประชุมถอดบทเรียน (AAR) กลุ่มชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) กลุ่มพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก เรียน ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ด้วยงานบริหารวิชาการ และงานบริหารบุคคล โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ได้ ขับเคลื่อน กระบวนการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) เพื่อพัฒนาสื่อ/นวัตกรรมทางการศึกษาในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้มีคุณภาพอย่าง ยั่งยืน และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับครูผู้สอนทั้งในและนอกโรงเรียนได้ โดยกลุ่ม พัฒนาการเขียนโดยใช้ แบบฝึก ได้พัฒนาผู้เรียน เรื่อง การพัฒนาการเขียนสะกดคำของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) โดยใช้รูปแบบการสอน Active Learning โดยการเสริมแรงทางบวก คิดเป็นร้อยละ ๗๕ ซึ่งมีคะแนนเฉลี่ยสูง กว่าค่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด บัดนี้การพัฒนาผู้เรียนสำเร็จเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้จึงขอเชิญประชุมผู้ร่วม PLC ในการถอดบทเรียนหลังปฏิบัติการ (AAR) ในวันศุกร์ที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗ ผ่านรูปแบบออนไลน์ ดังรายชื่อต่อไปนี้ ๑. นายเดช จงรักพงศ์เผ่า ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา ๒. นายนที ศรีแย้ม ตำแหน่ง คณะกรรมการกลั่นกรอง และ ผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ๓. นางวัชยา บุรานนท์ ตำแหน่ง คณะกรรมการกลั่นกรอง ๔. นางอมราภรณ์ บริหาร ตำแหน่ง คณะกรรมการกลั่นกรอง ๕. นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ ๖. นางสาวนันท์นิชา ดิษฐ์พาณิชย์ ตำแหน่ง หัวหน้าโครงการ PLC ๗. นางสาวศิวพร ศรีคราม ตำแหน่ง พี่เลี้ยง(Mentor) ๘. นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ตำแหน่ง ประธานกลุ่ม ๙. นายยธนา โยทาวัน ตำแหน่ง สมาชิกกลุ่ม ๑๐.นายสุรศักดิ์ สุวรรณัง ตำแหน่ง สมาชิกกลุ่ม ๑๑.นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ตำแหน่ง เลขานุการ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา (นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์) ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ ประธานกลุ่ม พัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก
-๒- -๒- (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครูวิทยฐานะ ครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ)
บันทึกกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) -------------------------- ชื่อกลุ่ม การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก ครั้งที่ 7 การวางแผนกิจกรรมครั้งที่ 1 วัน เดือน ปี ที่ PLC เวลาที่เริ่ม – สิ้นสุด จำนวน ชม : นาที สถานที่ 13 มิถุนายน 2566 15.30 น. – 17.30 น. 2 ชม. ณ อาคาร 4 จำนวนครูที่เข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้ ชื่อ-สกุล บทบาทหน้าที่ ลายมือชื่อ 1. นายเดช จงรักพงศ์เผ่า ผู้อำนวยการโรงเรียน (Administrator) ๒. นายนที ศรีแย้ม ผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ๓. นางสาวศิวพร ศรีคราม ครูพี่เลี้ยง (Mentor) ๔. นายยธนา โยทาวัน ครูต้นแบบ (Model Teacher) ๕. นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) ๖. นายสุรศักดิ์ สุวรรณัง ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) ๗. นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) กิจกรรมครั้งนี้อยู่ความสอดคล้องกับการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกตการเรียนรู้ (Do & See) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิดและปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) 1. งาน/กิจกรรม การนำสู่การปฏิบัติ การสะท้อนผล และ การวางแผนกิจกรรม ครั้งที่ 1 PLC 07/7
2. ประเด็นปัญหา / สิ่งที่ต้องการพัฒนา ปัญหานักเรียนเขียนสะกดคำได้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากนักเรียนไม่รู้จักเสียงในภาษาไทย เช่นเสียง พยัญชนะต้น เสียงสระ เสียงวรรณยุกต์ และเสียงตัวสะกดรวมไปถึงนักเรียนบางส่วนยังสับสนในรูปของสระ ประสม และที่พบเป็นปัญหามากที่สุดคือการเขียนสะกดคำที่ไม่ตรงมาตรา เนื่องจากนักเรียนยังจดจำมาตรา ตัวสะกดทั้งหมดไม่ได้ และขาดทักษะด้านเสียงของตัวสะกดแต่ละมาตรา จึงทำให้ครูในกลุ่มร่วมกันวางแผน กิจกรรมร่วมกันในการประชุม PLC นี้ 3. ตั้งวงสนทนา / แลกเปลี่ยนแผน (Plan) จากการประชุมกลุ่มในกิจกรรม PLC ในสัปดาห์ที่ผ่านมาได้หัวข้อการพัฒนานักเรียน Modelการสอน แบบ Active Learning บันได ๓ ขั้น เพื่อจัดทำแผนกิจกรรมดังนี้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๙ เรื่อง บันทึกท่องโลก เวลา ๔ ชั่วโมง แผนการสอนที่ ๓ เรื่อง เขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์เรื่อง เวลา ๑ ชั่วโมง ครูผู้สอน นายยธนา โยทาวัน __________________________________________________________________________________ 1. สาระสำคัญ การเขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์มีความหมาย และมีประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น ช่วยให้จดจำ เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้ดี ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด สาระที่ ๑ การอ่าน มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจแก้ปัญหา การดำเนินชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐานที่ ท ๒.๑ ใช้กระบวนการเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบต่างๆ เขียนรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๒/๒ จับใจความสำคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอียด จากเรื่องที่อ่าน ท ๒.๑ ม.๒/๔ เขียนย่อความ ท ๒.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการเขียน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.1 ความรู้ ๑. การเขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์มีความหมาย ๒. การตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง
๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (P) กระบวนการทำงาน กระบวนการกลุ่ม และกระบวนการนำเสนอผลงาน ๔. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซื่อสัตย์สุจริต 3. มีวินัย 4. ใฝ่เรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ ๕. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๖. วัดและเครื่องมือวัด ๖.๑ วิธีการวัดและเครื่องมือวัด เป้าหมายการเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด ๑. การเขียนบันทึก ๒. การแสดงความคิดเห็นเชิง วิเคราะห์ และประเมินค่า ๓. ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่อง ๑. ประเมินจากชิ้นงาน ๒. ตรวจใบงาน ๑. แบบประเมินชิ้นงาน ๒. แบบประเมินใบงาน ๖.๒ เกณฑ์การประเมินผล ชื้นงาน / ภาระงาน ระดับคุณภาพ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง ๑. ใบงาน คะแนน ๙ - ๑๐ คะแนน ๗ - ๘ คะแนน ๕ - ๖ คะแนน ๐ - ๔ ๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำ ๑.ครูและนักเรียนช่วยกันทบทวนบทเรียนที่ผ่านมา เรื่องการเขียนบันทึก ขั้นกระบวนการเรียนรู้ ๒.นำทฤษฏีเศรษฐกิจพอเพียงและหนังสือซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เช่น สิงคโปร์ สัญจร ( เสด็จ ฯ เยือนสิงคโปร์) ช่อมะละดี ( เสด็จ ฯ เยือน อินโดนีเซีย ) เบิ่งบ่ทันเบิ่งบ่หมด ( เสด็จ ฯ เยือนลาว ) ฯ ล ฯ มาให้นักเรียนอ่านข้อความบางตอนให้เพื่อน ๆ ฟัง แล้วสนทนากับนักเรียนเรื่องการเขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์
๓ .แจกบัตรความรู้ เรื่อง “ การเขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์” ให้นักเรียนศึกษาด้วยตนเอง ๔ .นำตัวอย่างการเขียนบันทึกประจำวันของสมเด็จพระรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มาให้ นักเรียนอ่าน แล้วให้ช่วยกันสรุปถึงวิธีการเขียน ๕ .ให้นักเรียนทุกคนเขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์ของนักเรียนที่ประสบมา เสร็จแล้วจับคู่กันเพื่อแลก บันทึกกันอ่าน ก่อนส่งครูตรวจ ๖ .คัดเลือกบันทึกเล่าเหตุการณ์ของนักเรียนทั้งที่ดีและไม่ดี มาให้เจ้าของบันทึกอ่านให้เพื่อน ๆ ฟัง แล้วช่วยกันวิจารณ์แลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าผลงานของแต่ละคน มีข้อดีและข้อบกพร่องอย่างไร เพื่อให้ทุกคนนำ ข้อดีไปใช้และนำข้อบกพร่องไปแก้ไข ในการเขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์ของตนซึ่งจะต้องเขียนมาส่งครูทุกวัน ๗. ครูให้นักเรียนทำบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นสรุป ๘. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียนและพฤติกรรมความพอเพียงที่นักเรียนนำปฏิบัติใน ชีวิตประจำวัน 8. แหล่งการเรียนรู้ ๑. บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ ๒. หนังสือเรียน ชุด วิวิธภาษา ชั้น ม. ๒ ๓. เฉลยบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ ๔. แบบประเมินการสังเกตพฤติกรรม ๕. หนังสือซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 4. การปรับปรุง / พัฒนา การสอน (Do) สิ่งที่ทำได้ดีครูผู้สอนจัดกิจกรรมได้ ตรงตามกับวัตถุประสงค์ในการจัดการเรียนการสอน และ กิจกรรมของนักเรียนมีความเหมาะสม เป็นไปได้ ส่วนตัวของครูก็มีบทบาทที่ชัดเจนสอนตรงตามวัตถุประสงค์ที่ กำหนดไว้ ทั้งยังมีการใช้สื่อรูปภาพเพื่อนักเรียนได้เห็นภาพและเรียนรู้ตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงมีการวัดและประเมินผลที่ชัดเจนและสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ ในส่วนของกิจกรรมขั้นนำ ขั้น สอน ขั้นสรุป มีการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับรูปแบบกระบวนการแก้ปัญหาตามแนวคิด ของโพลยา (Polya) นักเรียนได้เรียนรู้แบบร่วมมือ ปัญหาและอุปสรรค นักเรียนไม่สามารถอ่านได้ทุกคำตามที่ครูกำหนดให้ในทันทีเนื่องจากยังไม่รู้จักการ แจกรูป ควรพัฒนา ทำการพัฒนาและปรับปรุงแผนครั้งที่ 1 โดยนางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy Teacher) แนะนำให้ ควรจัดทำตัวอย่างให้หลากหลายรูปแบบประกอบแผนการจัดการเรียนรู้ ข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ (นายนที ศรีแย้ม) ผู้เชี่ยวชาญได้ให้ความเห็นของแผนการจัดการเรียนรู้ไว้ดังนี้ ควรเพิ่มคำให้มีความหลากหลายเพื่อที่จะให้นักเรียนได้วิเคราะห์การแจกรูป เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ เทคนิคในการฝึกการอ่านในรูปแบบต่างๆ ได้ดี 5. ประเด็น/ความรู้และข้อเสนอแนะที่ได้รับจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครั้งนี้ ชื่อรูปแบบการสอน/สื่อ/นวัตกรรมและเทคโนโลยีการพัฒนากิจกรรมที่ใช้ในการแก้ปัญหานักเรียน ขาดทักษะการแจกรูปคำ รูปแบบกระบวนการการพัฒนานักเรียน Modelการสอนแบบ Active Learning
บันได ๓ ขั้น นำไปใช้ในรายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 22101 เรื่อง เขียนบันทึกเล่าเหตุการณ์เรื่อง ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 2 ชั่วโมง ใช้วิธีการสอนแบบ ทั้งนี้ได้นัดหมายสังเกตการณ์การสอนของครูต้นแบบ ในวันที่ 21 มิถุนายน 2565 คาบเรียนที่ 5 รายวิชา ท16101 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 6. ผลที่ได้จากการจัดกิจกรรม นำผลการประชุมไปบันทึกใน PPR และบันทึกการเสวนา ของตนเอง เพื่อเก็บเป็นหลักฐานในการ รายงานต่อไป เลิกประชุมเวลา 17.30 น.
ภาพ/ร่องรอย/หลักฐานประกอบ PLCครั้งที่ 7 ( บัตรภาพ/ใบงาน/ชิ้นงาน/ภาพถ่ายประกอบ ) ภาพการจัดกิจกรรม PLC ของกลุ่ม “พัฒนาการเขียนสะกดคำ” ขั้นที่ ๑ วิเคราะห์และวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) สมาชิกในกลุ่มเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา โดยหาทฤษฎีและกระบวนการต่าง ๆ มาปรับใช้ โดยได้ออกมาเป็น เทคนิคการสอนแบบการสอนบันได ๓ ขั้น แบบ Active Learning ประยุกต์เข้าด้วยกัน และมีการปรึกษาหารือ ร่วมกันในการออกแบบกิจกรรมในการแก้ไขปัญหาของนักเรียนเขียนสะกดคำ โดยดำเนินการในวันที่ 13 มิถุนายน 2566 เวลา ๑๕.๓๐ – ๑๗.๓๐ น. ประชุม ณ อาคาร 4 ณ ห้อง ม.๑/๑ โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ)
ลงชื่อ .............................................. ผู้บันทึก (นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง) เลขานุการกลุ่ม ขอรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นเป็นจริงทุกประการ ลงชื่อ.................................................... (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ผู้รับรอง ลงชื่อ.................................................... (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
บันทึกกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) -------------------------- ชื่อกลุ่ม การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก ครั้งที่ 8 เยี่ยมชั้นเรียนครั้งที่ 1 วัน เดือน ปี ที่ PLC เวลาที่เริ่ม – สิ้นสุด จำนวน ชม : นาที สถานที่ 4 กรกฎาคม 2566 13.30 น. – 14.30 น. 1 ชม ห้อง ป.3/4 จำนวนครูที่เข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้ ชื่อ-สกุล บทบาทหน้าที่ ลายมือชื่อ 1. นายเดช จงรักพงศ์เผ่า ผู้อำนวยการโรงเรียน (Administrator) ๒. นายนที ศรีแย้ม ผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ๓. นางสาวศิวพร ศรีคราม ครูพี่เลี้ยง (Mentor) ๔. นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ครูต้นแบบ (Model Teacher) ๕. นายยธนา โยทาวัน ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) ๖. นายสุรศักดิ์ สุวรรณัง ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) ๗. นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) กิจกรรมครั้งนี้อยู่ความสอดคล้องกับการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกตการเรียนรู้ (Do & See) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิดและปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) 1. งาน/กิจกรรม เยี่ยมชั้นเรียน ครั้งที่ 1 PLC 07/8
2. ประเด็นปัญหา / สิ่งที่ต้องการพัฒนา ปัญหานักเรียนเขียนสะกดคำได้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากนักเรียนไม่รู้จักเสียงในภาษาไทย เช่นเสียง พยัญชนะต้น เสียงสระ เสียงวรรณยุกต์ และเสียงตัวสะกดรวมไปถึงนักเรียนบางส่วนยังสับสนในรูปของสระ ประสม และที่พบเป็นปัญหามากที่สุดคือการเขียนสะกดคำที่ไม่ตรงมาตรา เนื่องจากนักเรียนยังจดจำมาตรา ตัวสะกดทั้งหมดไม่ได้ และขาดทักษะด้านเสียงของตัวสะกดแต่ละมาตรา จึงทำให้ครูในกลุ่มร่วมกันวางแผน กิจกรรมร่วมกันในการประชุม PLC นี้ 3. สังเกตการณ์สอน / เยี่ยมชั้นเรียน (see) แบบสังเกตการสอน ชื่อแผนการสอน/แบบฝึกปฏิบัติเรื่อง เขียนสะกดคำจากคำที่สะกดไม่ตรงตามมาตรา แม่กน ชื่อ Model Teacher สอน/ฝึกปฏิบัติ นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง สถานที่สอน/ฝึกปฏิบัติห้อง ป.3/4 วันที่สังเกตการสอน/ฝึก/กิจกรรม 19 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.30- 14.30 น. จำนวน 1 ชั่วโมง รายการสังเกตการสอน/การฝึก/จัดกิจกรรม ปฏิบัติ ไม่ ปฏิบัติ 1. การให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ของผู้เรียน 2. การร่วมมือรวมพลังของครูผู้สอน ผู้บริหารศึกษานิเทศก์ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 3. การทำงานร่วมกันด้วยความสัมพันธ์แบบกัลยาณมิตรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเดียวกัน 4. นำแนวทางการแก้ไขปัญหาสู่การปฏิบัติในชั้นเรียน 5. การนำสื่อ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนตามบริบท ของสถานศึกษา 6. สมาชิกร่วมสังเกตการสอนและเก็บข้อมูล 7. อภิปรายผลการสังเกตการสอนและปรับปรุงแก้ไข 8. การตรวจสอบการปฏิบัติงานของครูกับผลการเรียนรู้ของผู้เรียน 9. สรุปผลวิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลดีต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน 10. การเรียนรู้ทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องระหว่างการปฏิบัติงาน 11. บันทึกทุกขั้นตอนการทำงานกลุ่ม: ระบุปัญหา วิธีแก้การทดลองใช้ ผลที่ได้ 12. การปรับปรุงการเรียนการสอนในชั้นเรียน 13. แบ่งปันประสบการณ์ 14. การสร้างขวัญและกาลังใจในการปฏิบัติงานข้อเสนอแนะเพิ่มเติม
ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ............................................................................................................................. ................................. ............................................................................................................................. ................................. ๕. ผลที่ได้จากการจัดกิจกรรม นำผลการสังเกตการสอนไปบันทึกการเสวนา ของตนเอง เพื่อเก็บเป็นหลักฐานในการรายงานต่อไป เลิกประชุมเวลา 17.30 น. ลงชื่อ..................................................... นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ตำแหน่ง ผู้ช่วยครู ผู้สอน ลงชื่อ..................................................... นายยธนา โยทาวัน ตำแหน่ง ผู้ช่วยครู ผู้สังเกตการสอน
ภาพ/ร่องรอย/หลักฐานประกอบ PLCครั้งที่ 8 ( บัตรภาพ/ใบงาน/ชิ้นงาน/ภาพถ่ายประกอบ ) ภาพการจัดกิจกรรม PLC ของกลุ่ม “พัฒนาการเขียนสะกดคำ” ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกตการเรียนรู้ (Do & See) การเยี่ยมชั้นเรียนของครูผู้ร่วมเรียนรู้ ครูยธนา โยทาวัน ในการจัดการเรียนการสอน เรื่อง เขียนสะกดคำจาก คำที่สะกดไม่ตรงตามมาตรแม่กน โดยดำเนินการในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.30 น.–14.30 น. สังเกตการสอนห้องเรียน ป.3/4
ลงชื่อ .............................................. ผู้บันทึก (นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง) เลขานุการกลุ่ม ขอรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นเป็นจริงทุกประการ ลงชื่อ.................................................... (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ผู้รับรอง ลงชื่อ.................................................... (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ
บันทึกกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) -------------------------- ชื่อกลุ่ม การพัฒนาการเขียนโดยใช้แบบฝึก ครั้งที่ 9 สะท้อนผลการปฏิบัติครั้งที่ 1 วัน เดือน ปี ที่ PLC เวลาที่เริ่ม – สิ้นสุด จำนวน ชม : นาที สถานที่ 4 กรกฎาคม 2566 15.30 น. – 18.30 น. 3 ชม. ณ โรงอาหาร จำนวนครูที่เข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้ ชื่อ-สกุล บทบาทหน้าที่ ลายมือชื่อ 1. นายเดช จงรักพงศ์เผ่า ผู้อำนวยการโรงเรียน (Administrator) ๒. นายนที ศรีแย้ม ผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ๓. นางสาวศิวพร ศรีคราม ครูพี่เลี้ยง (Mentor) ๔. นายยธนา โยทาวัน ครูต้นแบบ (Model Teacher) ๕. นางเพียงจันทร์ โพธิ์สังข์ ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) ๖. นายสุรศักดิ์ สุวรรณัง ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) ๗. นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง ครูร่วมเรียนรู้ (Buddy teacher) กิจกรรมครั้งนี้อยู่ความสอดคล้องกับการพัฒนาบทเรียนร่วมกัน (Lesson study) ขั้นที่ 1 วิเคราะห์และวางแผนการจัดการเรียนรู้ (Analyze & Plan) ขั้นที่ 2 ปฏิบัติและสังเกตการเรียนรู้ (Do & See) ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิดและปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) 1. งาน/กิจกรรม การนำสู่การปฏิบัติ / เยี่ยมชั้นเรียน ครั้งที่ 1 PLC 07/9
2. ประเด็นปัญหา / สิ่งที่ต้องการพัฒนา ปัญหานักเรียนเขียนสะกดคำได้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากนักเรียนไม่รู้จักเสียงในภาษาไทย เช่นเสียง พยัญชนะต้น เสียงสระ เสียงวรรณยุกต์ และเสียงตัวสะกดรวมไปถึงนักเรียนบางส่วนยังสับสนในรูปของสระ ประสม และที่พบเป็นปัญหามากที่สุดคือการเขียนสะกดคำที่ไม่ตรงมาตรา เนื่องจากนักเรียนยังจดจำมาตรา ตัวสะกดทั้งหมดไม่ได้ และขาดทักษะด้านเสียงของตัวสะกดแต่ละมาตรา จึงทำให้ครูในกลุ่มร่วมกันวางแผน กิจกรรมร่วมกันในการประชุม PLC นี้ 3. สะท้อนผลการปฏิบัติ (Reflection) ประเด็นจากการสังเกตการสอน 1) ประเด็นด้านผู้เรียน นักเรียนมีความสนใจและกระตือรือร้นในการเรียน มีปฏิกิริยาการเขียน 2) ประเด็นด้านกิจกรรม กิจกรรมในครั้งนี้มีการจัดลำดับขั้นตอนและความต่อเนื่องของกิจกรรมได้เป็นอย่างดี และสามารถ ปฏิบัติกิจกรรมได้อย่างลื่นไหล มีความเหมาะสม สอดคล้องกับจุดประสงค์ของการเรียนรู้ และการวัดและ ประเมินผล โดยครูผู้ร่วมเรียนรู้ได้แนะนำให้เพิ่มการจัดการทดสอบเพิ่มเติมจากกิจกรรมในครั้งนี้ 3) ประเด็นด้านครู ครูผู้สอนมีการจัดเรียงลำดับขั้นตอนการนำเสนอการเรียนรู้ให้กับนักเรียนอย่างเป็นระบบ มีคำถาม เพื่อให้นักเรียนได้มีช่วงเวลาในการหาคำตอบอย่างเหมาะสม ครูผู้สอนมีการเสริมแรงนักเรียน และชื่นชม นักเรียนเป็นระยะ จากการถามตอบของนักเรียน 4) ประเด็นสื่อการสอน สื่อการสอนที่คุณครูผลิตขึ้นมีความน่าสนใจ มีรูปภาพขนาดที่นักเรียนมองเห็นชัดเจน 5) ประเด็นด้านบรรยากาศ นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้และสร้างความสนใจให้กับผู้เรียน ซึ่งครูผู้สอนสามารถ จัดทำออกมาได้เป็นอย่างดี 6) จุดแข็งจุดอ่อนของการสอน - ข้อดีขั้นตอนการสอนพัฒนานักเรียน Modelการสอนแบบ Active Learning บันได ๓ ขั้น ทำ ให้นักเรียนเขียนได้อย่างง่าย นักเรียนสามารถบอกเกี่ยวกับสิ่งที่อ่านได้ - ปัญหาหรืออุปสรรค นักเรียนบางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเขียนและจำขั้นตอนการแจกรูป 4. ผลที่ได้จากการจัดกิจกรรม นำผลการประชุมไปบันทึกใน PPR และบันทึกการเสวนา ของตนเอง เพื่อเก็บเป็นหลักฐานในการ รายงานต่อไป เลิกประชุมเวลา 18.30 น.
ภาพ/ร่องรอย/หลักฐานประกอบ PLCครั้งที่ 9 ( บัตรภาพ/ใบงาน/ชิ้นงาน/ภาพถ่ายประกอบ ) ] ภาพการจัดกิจกรรม PLC ของกลุ่ม “พัฒนาการเขียนสะกดคำ” ขั้นที่ 3 สะท้อนความคิดและปรับปรุงใหม่ (Reflect & Redesign) ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และ สมาชิกในกลุ่ม ร่วมกันสะท้อนความคิดเกี่ยวกับ การจัดการเรียนการสอน เรื่อง การเขียนบันทึกเหตุการณ์ ของคุณครูยธนา โยทาวัน โดยดำเนินการในวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา เวลา 15.30 – 17.30 น. ประชุม ณ โรงอาหาร
ลงชื่อ .............................................. ผู้บันทึก (นางสาวธวัลรัตน์ เดชาจันทร์แวง) เลขานุการกลุ่ม ขอรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นเป็นจริงทุกประการ ลงชื่อ.................................................... (นายเดช จงรักพงศ์เผ่า) ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) ผู้รับรอง ลงชื่อ.................................................... (นางธิดารัตน์ วุฒิสิวะชาติกุล) ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานวิชาการ