338
339
340
341 โครงงาน 1 ห้องเรียน 1 แปลงผัก ชื่อโครงาน 1 ห้องเรียน 1 แปลงผัก ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. เด็กหญิงรินระดา จันทร์หอม หัวหน้าห้อง 2. เด็กชายพิชชากร ยิ่งดำนุ่น รองหัวหน้าฝ่ายการเรียน 3. เด็กหญิงธีมาพร พิมพ์พันธ์ รองหัวหน้าฝ่ายการงาน 4. เด็กชายพิทวัส สาปสัง รองหัวหน้าฝ่ายกิจกรรม 5. เด็กหญิงวรินทร์ลิภัทร คงเมือง รองหัวหน้าฝ่ายสารวัตรนักเรียน 6. เด็กชายวีริศ จันธำรงค์ กรรมการ 7. เด็กหญิงอัญชิษฐา หนูทิ่ม กรรมการ 8. เด็กหญิงธาราทิพย์ พุ่มพัว กรรมการ 9. เด็กหญิงสลิลทิพย์ ทวีวงศ์ กรรมการ 10.เด็กชายจิตติพัฒน์ เครืออนันต์ กรรมการ 11. เด็กชายณัฐิวุฒิ อินทร์เอียด กรรมการ 12. เด็กหญิงอริณรฎา จำเริญ กรรมการ 13. เด็กชายธนาธิป สารานนท์ กรรมการ 14. เด็กหญิงณัฐณชา ปาละวงค์ กรรมการ 15. เด็กหญิงธัญวรัตน์ ชูอินทร์ กรรมการ 16. เด็กชายสุภกิณห์ ทองพุฒ กรรมการ 17. เด็กหญิงธนัชชา สุวิทยาภรณ์ กรรมการ 18. เด็กชายพงษ์พิชญ์ โรจนหัสดิน กรรมการ 19. เด็กหญิงรัชฎาภรณ์ วรพันธ์ กรรมการ 20. เด็กหญิงปภาวรินทร์ พิทยากุลพงศ์กรรมการ 21เด็กชายปกรณ์เทพ สงเล็ก. กรรมการ 22. เด็กหญิงจิรวดี บัวมา กรรมการ 23.เด็กหญิงณัฐธิดา ทองสง กรรมการ 24.เด็กชายณัฐนนท์ อินทรศรี กรรมการ 25. เด็กหญิงภัทรวดี หนูพลอย กรรมการ 26. เด็กหญิงฐิติชญา นนทโชติ กรรมการ 27. เด็กชายชนาธิป ยายมาก เลขานุการ ระยะเวลาดำเนินงาน 16 พฤษภาคม 25565 - 15 มีนาคม 2566 โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕65 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1
342 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ผัก หมายถึง พืชที่ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากใบ ราก ดอก หัว หรือล าตันเป็นอาหาร ผักที่ นำมาใช้ เป็นอาหาร นี้สามารถจะรับประทานสดๆ หรือท าให้สุก เช่น แกง ต้ม นึ่ง ตุ๋น เป็นต้น พืชผัก เป็นอาหารที่คน ต้องรับประทานอยู่เป็นประจ า ถ้ามีเวลาและมีที่ว่างเหลืออยู่ที่บ้าน หรือโรงเรียน ควร ปลูกพืชผักไว้สำหรับ รับประทานเอง เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดค่าจ่ายของครอบครัวแล้ว ยังทำให้ได้รับประทานผักสดที่มี คุณค่าทางอาหารสูงและถ้าปลูกจำนวนมากก็ สามารถนำไปจำหน่ายหารายได้ให้กับครอบครัวได้ด้วย พืชผัก ที่ปลูกสำหรับรับประทานเองที่บ้าน หรือโรงเรียนตามลักษณะที่กล่าว เรียกว่า พืชผักสวนครัว การปลูกผัก สวนครัว มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้นักเรียนได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และยังได้ผักไว้รับประทานซึ่งเป็นผัก ปลอดสารพิษเป็นผักสวนครัวที่นักเรียนเป็นคนปลูกเอง นักเรียนจะมีความ ภูมิใจในการปลูกผักและยังช่วย ลดค่าใช้จ่ายในบ้านในการซื้อผักส่วนครัวมารับประทานอีกด้วย วัตถุประสงค์ 1. เพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในบ้านของนักเรียน 2. เพื่อใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 3. เพื่อฝึกทักษะในการปลูกผักสวนครัว ให้นักเรียนได้มีความรับผิดชอบ ความเข้าใจใส่ ความ อดทน อดกลั้น เป้าหมาย ด้านคุณภาพ 1. เพื่อฝึกทักษะวิชาชีพให้กับนักเรียนในระดับชั้น ป.4 ทุกคน ปลูกผักได้ทุกคน ด้านปริมาณ 1. นักเรียนระดับชั้น ป.4 ทุกคน สามารถปลูกผัก เพื่อไว้รับประทานในครัวเรือนได้ เพื่อลด ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน วิธีการดำเนินงาน กิจกรรม ระยะเวลาการดำเนินงาน ผู้รับผิดชอบ 1. ประชุมคณะกรรมการดำเนินการ 2. จัดทำโครงการ/อนุมัติโครงการ 3. ดำเนินโครงการตามปฏิทินการ ปฏิบัติงาน 4. ติดตามการปฏิบัติงานตามโครงการ 5. ประเมินผลโครงการ 6. รายงานผลการดำเนินงาน พ.ค. 65 พ.ค. 65 พ.ค. 65 ตลอดภาคเรียนที่ 1 และ 2 3 มีนาคม 2566 3 มีนาคม 2566 นักเรียน ป.4 ทุกคน
343 ผลการดำเนินงาน นักเรียนได้นำหลักการนี้ไปใช้ในการคำรงชีวิตโรงเรียนจึงได้นำหลักการปรับใช้เพื่อเป็นแหล่ง เรียนรู้กับนักเรียนด้านทักษะอาชีพทางเกษตรพื้นฐานที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี โรงเรียนจึงได้วางโครงงาน เพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพและความปลอดภัยรู้จักเลือกการบริโภคอาหารที่ปลอดสารพิษและส่งเสริม นักเรียนปลูกผักและผลิตปุ๋ยชีวภาพแทนปุ๋ยเคมีเพื่อเพิ่มรายได้แก่ครอบครัว
344 ภาคผนวก
345
346
347
348 โครงงาน เรื่อง วัยใส เรียนรู้สู่ช่างศิลป์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ปีการศึกษา 2565 ครูที่ปรึกษา 1. นางสาววลัยลักษณ์พวงแก้ว ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1.เด็กหญิงอาภัสรา ศรีทวี หัวหน้าห้อง 2. เด็กชายธนภัทร เพชรพิมาย รองหัวหน้าฝ่ายการเรียน 3. เด็กชายปรินทร วงศ์ชนะ รองหัวหน้าฝ่ายการงาน 4. เด็กชายภูมิภัทร ด้วงทอง รองหัวหน้าฝ่ายกิจกรรม 5. เด็กชายกฤติเดช ชูดำ รองหัวหน้าฝ่ายสารวัตรนักเรียน 6. เด็กหญิงปรียาภา ชุมเชื้อ กรรมการ 7. เด็กหญิงอัครภา ราชสงค์ กรรมการ 8. เด็กชายติณห์พัฒน์ ทวีเศรษฐ กรรมการ 9. เด็กชายภีมเดช ภิรมย์ กรรมการ 10.เด็กหญิงอัญมณี สงแช้ม กรรมการ 11.เด็กหญิงณภัทร เต็มบางงอน กรรมการ 12.เด็กชายพงศกร ทองสวัสดิ์ กรรมการ 13.เด็กหญิงนริศา บัวมา กรรมการ 14.เด็กชายฐปนวัชร หอยมณี กรรมการ 15.เด็กหญิงศิริพิชชา ฤทธิ์ชู กรรมการ 16.เด็กชายตั้งปณิธาน เพ็งหนู กรรมการ 17.เด็กชายธาวิน ตันติสุโชติ กรรมการ 18.เด็กชายทัษไณย ขุนเจริญ กรรมการ 19.เด็กชายภวินทร์ ขุนคต กรรมการ 20.เด็กชายภูมิภัทร ปัญจพรอุดมลาภ กรรมการ 21.เด็กชายคฑาวุธ ขาวนุ้ย กรรมการ 22.เด็กหญิงอโรชา อินฉ่ำ กรรมการ 23.เด็กชายธนพันธุ์ ศิริพันธุ์ กรรมการ 24.เด็กหญิงฑฤตมณ จันทรคุณากร กรรมการ 2๕.เด็กชายภูทนนท์ สวัสดิสาร กรรมการ 2๖.เด็กหญิงสุทธิดา เรืองรอด กรรมการ โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕65 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/2
349 1. สภาพปัญหา ด้วยโรงเรียนเรวดีพัทลุง ได้กำหนดนโยบายให้นักเรียนมีความรู้ รู้จักโทษ และตระหนักถึงโทษของ อบายมุข ในสภาพปัจจุบันห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ได้พบปัญหาว่านักเรียนไม่ตระหนักถึงปัญหาที่ จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับอบายมุขเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อเป็นการปลูกฝังให้ความรู้ และตระหนักถึงโทษของอบายมุขที่ มีการขยายตัวอยู่ในสังคมปัจจุบันให้ลดน้อยลง จึงใช้วิธีการรณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกในห้องเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ คณะกรรมการห้องเรียนสีขาวจึงจัดโครงงาน เรื่อง วัยใส เรียนรู้ สู่ช่างศิลป์ขึ้นซึ่งเป็น การส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ด้านทัศนศิลป์สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนไม่ไปสนใจ และรู้จัก หลีกเลี่ยงอบายมุขตลอดจนสร้างความตระหนักให้กับครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด 2. วัตถุประสงค์ ในการทำโครงงาน เรื่อง วัยใส เรียนรู้ สู่ช่างศิลป์มีวัตถุประสงค์ในการทำโครงงาน ดังนี้ 1. เพื่อป้องกันและลดปัญหาการแพร่กระจายของอบายมุข 2. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตสำนึกร่วมกันในการดูแลเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่กระจายของอบายมุข และอบายมุขเกิดกำลังใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขทุกชนิด 3. เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์โดยรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 4. เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้สามารถป้องกันตัวเองจากอบายมุขต่างๆได้ 5. เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของนักเรียนภายในชั้นเรียน 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ จำนวน 2๖ คน 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ได้ร่วมกิจกรรม ตั้งใจประพฤติดี ไม่ยุ่ง เกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุข 4. วิธีดำเนินงาน กิจกรรม/ขั้นตอน/วิธีปฏิบัติ ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผิดชอบ ขั้นเตรียม 1. ประชุมวางแผน 2. เขียนโครงงาน 1.18 พฤษภาคม 256๕ 2.22 พฤษภาคม 256๕ นางวลัยลักษณ์ พวงแก้ว/ คณะกรรมการห้องเรียนสีขาว ขั้นดำเนินงาน 1. เสนออนุมัติโครงงาน 2. ดำเนินงานตามกิจกรรม กิจกรรมที่ 1 จัดตกแต่งห้องเรียน ทำป้ายนิเทศ กิจกรรมที่ 2 เดินรณรงค์ต้านยาเสพติด กิจกรรมที่ 3 เพื่อนช่วยเพื่อน กิจกรรมที่ 4 จิตอาสา กิจกรรมที่ 5 ปลูกฝังพัฒนาคุณธรรม 1. 25 พฤษภาคม 2565 2. 27 พฤษภาคม 2565 หัวหน้าฝ่ายกิจกรรม คณะกรรมการห้องเรียนสีขาว
350 กิจกรรม/ขั้นตอน/วิธีปฏิบัติ ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมที่ 6 กิจกรรมตามความสนใจศิลปะ ดนตรี กีฬา งานประดิษฐ์ ปลูกผัก และอื่น ๆ ขั้นสรุป 1. สังเกต/แบบสอบถาม 2. รายงานผลต่อผู้บริหาร 1. 15 มิถุนายม 2564 2. 20 กันยายน 2565 นางวลัยลักษณ์ พวงแก้วและ คณะกรรมการห้องเรียน 5. สถานที่ดำเนินงาน ห้องเรียนและห้องทัศนศิลป์ โรงเรียนเรวดีพัทลุง 6. ระยะเวลาดำเนินงาน 16 พฤษภาคม 256๕ – 15 มีนาคม 256๖ 7. การวัดและประเมินผล ตัวบ่งชี้ความสำเร็จ วิธีการประเมิน เครื่องมือ 1. ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้ร่วมกิจกรรม ปลูกฝังสร้าง จิตสำนึก ส่งเสริมให้ความรู้ด้านทัศนศิลป์ 1. สำรวจการเข้า ร่วมกิจกรรม 1. แบบสำรวจการเข้า ร่วมกิจกรม 2. ผู้เรียนร้อยละ 100 เป็นผู้ตระหนักรู้งานทัศนศิลป์ 1. สังเกต 2. ประเมิน 1. แบบสังเกต พฤติกรรม 2. แบบประเมินผลการ จัดกิจกรรม 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับภัยของทัศนศิลป์ 2. นักเรียนมีส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอบายมุข 3. ห้องเรียน มีความสงบเรียบร้อยนักเรียนตระหนักรู้ถึงโทษของอบายมุข และมีจิตอาสา รู้จักใช้ เวลาว่างให้สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ (ลงชื่อ).......................................ผู้เสนอโครงงาน (ลงชื่อ).................................ผู้เห็นชอบ โครงการ (เด็กชายภูมิภัทร ด้วงทอง) (เด็กหญิงอาภัสรา ศรีทวี ) หัวหน้าฝ่ายกิจกรรม หัวหน้าห้องชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/๒ (ลงชื่อ).....................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางวลัยลักษณ์ พวงแก้ว) ครูที่ปรึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒
351 1. ฝ่ายการเรียน (วิชาการ) กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 ตรวจสอบการเข้าเรียน ดำเนินการตรวจสอบการเข้าเรียนของเพื่อนๆ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ จำนวน 2๖ คน ทุกวัน พบว่า 1. เพื่อนๆ ทุกคนเข้าเรียนทุกรายวิชา ไม่ขาดเรียน หนีเรียน /มีขาดเรียน หนีเรียน ร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 2 การส่งงานในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการทำงานส่งงานครูเป็นไป ด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 2๖ คน คิดเป็นร้อยละ๑ 00 กิจกรรมที่ 3 การช่วยเหลือเพื่อนในการ เรียน เพื่อนๆให้ความช่วยเหลือกันและกันในการทำงาน ช่วย อธิบาย เสนอแนะและร่วมมือกันทำงานจนเสร็จลุล่วง ไปด้วยความเรียบร้อย คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 4 ติดตามการดำเนินงาน นักเรียนมีส่วนรวมและมีความสามัคคีในการทำ กิจกรรมบรรลุตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 100 สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายการเรียน ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59) ผลการดำเนินงานตามโครงการห้องเรียนสีขาว
352 ภาพกิจกรรมฝ่ายการเรียน
353 2. ฝ่ายการงาน กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 จัดบอร์ด/ป้ายนิเทศให้ความรู้ เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการจัดบอร์ด/ป้ายนิเทศทุก ครั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 2 การดูแลรักษาความสะอาด ห้องเรียน ได้จัดเวรประจำวันในการดูแลรักษาความสะอาด ห้องเรียน เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการทำงานเป็น อย่างดี ร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 3 การช่วยกันดูแลรักษา ทรัพย์สินของห้องเรียน เพื่อน ๆ ได้ช่วยกันดูแล รักษาทรัพย์สินของห้อง ไม่ให้ เกิดการเสียหาย/สูญหา ตลอดจนทะนุบำรุงรักษาให้อยู่ ในสภาพการใช้การตลอดเวลา คิดเป็นร้อยละ 100 สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายการงาน ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59)
354 ภาพกิจกรรมฝ่ายการงาน
355 3. ฝ่ายสารวัตรนักเรียน กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 การปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน เช่น การแต่งกาย ทรงผม การมาโรงเรียน เป็นต้น เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรียน เช่น การแต่งกาย ทรงผม การมาโรงเรียน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 2๖ คน คิดเป็นร้อย ละ 100 กิจกรรมที่ 2 เพื่อนเตือนเพื่อน นักเรียนในห้องได้ช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดการเล่น อบายมุข ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข หลีกเลี่ยง ชักชวน เพื่อนให้ห่างไกลจากอบายมุข ด้วยการการทำกิจกรรม เล่นกีฬา ดนตรี ปลูกผัก คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 3 การรณรงค์ความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน นักเรียนป.๔/๒ จำนวน 2๔ คน ดูแลความปลอดภัย ของนักเรียนในการข้ามถนนโดยใช้ทางม้าลายในการ ข้ามถนนจำนวน 2๖ คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 4 ติดตามนักเรียนที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมใน ตอนเช้า นักเรียนชั้นป.๔/๒ จำนวน 2๖ คน ดูแลนักเรียนที่ไม่ เข้าร่วมกิจกรรมในตอนเช้า สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายสารวัตรนักเรียน ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59)
356 ภาพกิจกรรมฝ่ายสารวัตรนักเรียน
357 4. ฝ่ายกิจกรรม กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 วาดภาพระบายสี เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการวาดภาพระบายสีเป็นไปด้วย ความเรียบร้อยทุกครั้ง 2๖ คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 2 งานจักรสานจากกระดาษแข็ง เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการ สร้างงานจักรสานจาก กระดาษแข็งเป็นพัดลมมือถือ เพื่อประโยชน์แก่ห้องเรียน โรงเรียน และชุมชน เป็นอย่างดี คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 3 ผ้าเช็ดมัดย้อม เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการสร้างผลงานผ้าเช็ดมัดย้อม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 2๔ คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 4 เทียนเจล เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการสร้างผลงานเทียนเจล เป็น ของที่ระลึก คิดเป็นร้อยละ 100 สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายกิจกรรม ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59)
358 ภาพกิจกรรมฝ่ายกิจกรรม
359 โครงงาน หนูน้อยชุบชีวิตผัก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ปีการศึกษา 2565 ชื่อโครงงาน หนูน้อยชุบชีวิตผัก ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. ด.ญ. อริยา สุดจันทร์ 2. ด.ญ. กวินธิดา ชูจันทร์ 3. ด.ญ. ชาลิศา เพชรน้อย+ ๔. ด.ญ. ดุษฎี สมานอมตกุล ๕. ด.ญ. ณัฏฐกันย์ หนูนิ่ม ระยะเวลาดำเนินงาน ปีการศึกษา 2565 1. ที่มาและความสำคัญของโครงงาน ด้วยโรงเรียนเรวดีพัทลุง ได้กำหนดนโยบายให้นักเรียนรู้จักการประหยัด อดออม ใช้วัสดุเหลือมาทำ ให้เกิดประโยชน์ ให้นักเรียนใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด ในสภาพปัจจุบันห้องเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4/3 ได้พบปัญหาว่านักเรียนไม่ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวยาเสพติดเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อเป็นการปลูกฝังให้ความรู้ ตระหนักถึงการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงให้ คณะกรรมการห้องเรียนสีขาวจัดโครงงาน เรื่อง หนูน้อยชุบชีวิตผัก ขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนไม่ไปสนใจ รู้จักหลีกเลี่ยงยาเสพติดตลอดจนการใช้ทรัพยากรให้เกิด ประโยชน์ สูงสุดอย่างคุ้มค่า ลดขยะในโรงเรียน และช่วยลดโลกร้อน 2. จุดประสงค์ ในการทำโครงงาน เรื่อง หนูน้อยชุบชีวิตผัก มีวัตถุประสงค์ในการทำโครงงาน ดังนี้ 1. เพื่อให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์เพื่อให้นักเรียนห่างไกลยาเสพติด 2. เพื่อการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างคุ้มค่า ลดขยะในโรงเรียน และช่วยลดโลกร้อน 3. เพื่อหลีกเลี่ยงการบริโภคพืชผักที่มีสารพิษตกค้าง และเพื่อสุขภาพพลานามัยที่ดี 4. เพื่อพัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และเกิดการต่อยอดนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 5. เพื่อช่วยลดขยะในชุมชน สังคม และช่วยลดโลกร้อน 6. เพื่อสำรองอาหารไว้บริโภคในยามฉุกเฉิน และลดค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 จำนวน 23 คน 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ได้ร่วมกิจกรรม ตั้งใจประพฤติดี ไม่ยุ่ง เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด และเป็นผู้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕65 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3
360 4. วิธีการดำเนินงาน วิธีการดำเนินงาน การวางแผนในการดำเนินงาน คณะผู้จัดทำโครงการกำหนดแผนปฏิบัติงาน ดังนี้ ลำดับ ขั้นตอนการศึกษา ระยะเวลาดำเนินการ 1. กำหนดหัวข้อเรื่อง 1 มิ.ย. 65 2. ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ เรื่อง การปลูกผักในขวดพลาสติก และเกษตรเขตเมือง และเศรษฐกิจพอเพียง 2 มิ.ย. 65 3. รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการ สัมภาษณ์ ชาวบ้านหมู่บ้าน ใกล้เคียง เช่น บ้านหนองกง บ้านเสม็ด เป็นต้น 13 มิ.ย. 65 4. ศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต เกี่ยวกับเรื่องเกษตรเขตเมือง และ ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงทั้งเรื่องการปลูกผักเหลือใช้ในน้ำ ด้วย ขวดพลาสติก 14 มิ.ย. 65 5. รวบรวมข้อมูลที่ได้ 15 มิ.ย. 65 6. จัดทำรูปเล่มรายงาน 16 มิ.ย. 65 7. นำความรู้ที่ได้มา ดำเนินโครงงาน 17 มิ.ย. - 1๙ ก.ค. 65 8. ฝึกซ้อมการนำเสนอโครงงาน เรื่อง หนูน้อยชุบชีวิตผัก ๒๐ ก.ค. 65 9. นำเสนอโครงงาน ๖ ส.ค. 65 ขั้นตอนและวิธีการดำเนินงาน ๑. สมาชิกในกลุ่มประชุมวางแผน พูดคุยสภาพปัญหา และความสนใจ ต้องการจะทำโครงงาน คุณธรรมของเพื่อนภายในกลุ่ม ๒. สมาชิกในกลุ่มดำเนินการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต จากเอกสารและการสัมภาษณ์ สอบถาม กับ ผู้ชำนาญการในชุมชนของตนเอง โดยภูมิปัญญาของ ท้องถิ่นแบ่งความรับผิดชอบ การดำเนินการดังนี้ 2.1. ด.ญ. อริยา สุดจันทร์ 2.2. ด.ญ. กวินธิดา ชูจันทร์ 2.3. ด.ญ. ชาลิศา เพชรน้อย 2.๔. ด.ญ. ดุษฎี สมานอมตกุล 2.๕. ด.ญ. ณัฏฐกันย์ หนูนิ่ม ๓. กำหนดระยะเวลาในการศึกษา ๑๐ วัน ๔. สมาชิกในกลุ่มไปศึกษาและรวบรวมข้อมูลการปลูกผักเหลือใช้ ตามข้อตกลงในข้อ ๑-๒ ๕. สมาชิกในกลุ่มนำข้อมูลที่ได้จากข้อ ๒ การปลูกผักเหลือใช้ปลูกในขวดพลาสติก โดยปลูกในขวด พลาสติกที่ประดิษฐ์ไว้ ๖. ดำเนินการปลูกผักเหลือใช้ในน้ำ จากนั้นย้ายไปปลูกในขวดพลาสติก และนำมาประกอบอาหาร
361 วัสดุอุปกรณ์ 1. ผักเหลือใช้ที่แช่ในน้ำ เป็นเวลา ๑ สัปดาห์ 2. ขวดพลาสติก 3. กรรไกร มีดสำหรับตัดขวดพลาสติก 4. ปืนกาว 5. ลวด และตะปูสำหรับเจาะรูขวด 6. ดินสำหรับปลูกพืช วิธีการชุบชีวิตผักเหลือใช้ในขวดพลาสติก 1.ปลูกผักแครอท ตัดส่วนหัวที่เราตัดออกก่อนทำอาหาร แช่ไว้ในน้ำ วางไว้ในขวดพลาสติกแบนๆ ที่ ใส่น้ำพอปริ่มไม่ท่วมส่วนหัวที่จะงอกเป็นใบ ไม่นานก็จะแตกยอดให้นำไปประกอบอาหารได้ หรือจะนำไปลง ดิน จะแตกรากเล็กๆ เกิดเป็นต้นเป็นใบ แต่จะไม่สร้างหัวใหม่ แล้วต้นจะออกดอกติดผล มีเมล็ด เพื่อน สามารถนำไปเพาะได้ 2.ปลูกผักบุ้ง เรียงให้รากอยู่เสมอกัน ก็ตัดตรงก้าน นับจากรากขึ้นมา 2-3 นิ้ว นำรากไปแช่น้ำไว้ 1-2 วัน ก็จะแตกยอดอ่อนขึ้นมา ผ่านไป 7 วัน ก็สามารถปลูกลงดินได้เลย เมื่อครบ ๑๐ วัน ก็สามารถเอามา ผัดไฟแดงกินได้แล้ว 3.ปลูกผักชีใช้ส่วนโคนของต้นผักชีที่มีรากติด แช่ไว้ในขวดน้ำ ก็จะแตกยอดใหม่เรื่อยสามารถย้าย ลงปลูกลงดินในขวดพลาสติกที่เรานำมาทำเป็นกระถางได้ 4.ปลูกผักน้ำ นำก้านไปแช่น้ำ ให้น้ำสูงครึ่งแก้ว แช่ไว้ 3-4 วัน รากจะงอกยาวออกมาตามข้อ นำลง กระถางปลูกได้เลย โดยใส่ดินไว้ที่ก้นกระถางเล็กน้อยก่อน แล้วนำก้านผักน้ำที่มีรากงอกมาวางตั้งขึ้น ใส่ดินลง ไปเพิ่มให้เกือบเต็มกระถาง รดน้ำเช้าเย็น ผ่านไป 1 อาทิตย์ ใบจะเริ่มแตกยอดอ่อนขึ้นมา ประมาณ 7 วัน สามารถนำยอดมารับประทานได้ 5.ปลูกผักชีฝรั่ง ตัดจากโคนขึ้นมาสัก 2-3 นิ้ว แช่น้ำไว้ให้ท่วมราก ใช้เวลาประมาณ 3 วัน จะมีราก ใหม่งอกออกมา นำลงปลูกในกระถางได้เลย 6.ปลูกต้นหอม เลือกต้นอวบๆ ตัดเอาเฉพาะส่วนหัวที่มีรากติดใส่ในแก้วก้นลึก หรือขวดโหล น้ำ สะอาดให้พอท่วมราก แล้ววางไว้ในห้องที่มีแสงสว่าง หรือริมหน้าต่างที่มีแดดรำไร เขาจะงอกใบให้เราเก็บกิน ได้เรื่อยๆ ๗. ปลูกต้นผักกาดขาว เลือกต้นอวบๆ ตัดเอาเฉพาะส่วนโคนของต้นผักกาดประมาณ2-3 นิ้ว ใส่ ในขวดพลาสติก ก้นลึก ใส่น้ำสะอาดให้พอท่วมราก แล้ววางไว้ในห้องที่มีแสงสว่าง หรือริมหน้าต่างที่มีแดด รำไร เขาจะงอกใบให้เราเก็บกินได้เรื่อย ๆ วิธีการนำผักมาปลูกในขวดพลาสติก 1. นำขวดน้ำดื่มมาตัดครึ่ง 2. เจาะรูที่ฝาปิด 3. นำส่วนบนที่มีฝาปิดพลิกลงด้านล่าง ใส่เข้าไปตรงส่วนก้นขวด 4. ใส่ดินลงไป 5. นำผักเหลือใช้ที่เตรียมไว้ ปลูกลงไป 6. รดน้ำพรวนดิน
362 งบประมาณ ๑๕๐ บาท (ดินปลูก , ลวด) แหล่งที่มาของงบประมาณ ๑. ผักเหลือใช้ในครัว ที่แม่ครัว ใช้ทำกับข้าวในโรงเรียนเรวดีพัทลุง และผักเหลือใช้ที่คุณแม่ ใช้ ทำกับข้าวที่บ้านนักเรียน ๒. ขวดพลาสติก ในโรงเรียนเรวดีพัทลุง และที่บ้านนักเรียน ๓. จากงบประมาณโรงเรียนเรวดีพัทลุง อุปสรรคความผิดพลาดและการแก้ไข ๑. ผักบางชนิดไม่เจริญเติบโต และเน่าเสีย ๒. รูปทรงของขวดพลาสติกบางชนิด ไม่เหมาะสมต่อการนำมาปลูกผัก วิธีการแก้ไขความผิดพลาด ๑. เลือกผักที่สดใหม่ ปลูกง่าย และเจริญเติบโตเร็ว ๒. เลือกขวดพลาสติกที่มีขนาดเหมาะสมกับผักที่นำมาปลูก 5. ผลการดำเนินงาน จากการการศึกษาค้นคว้า และผลการดำเนินงาน โครงงานหนูน้อยชุบชีวิตผัก การนำไปใช้จากการศึกษา ค้นคว้ารวบรวมข้อมูลต่างๆผู้จัดทำ ได้นำเอาข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ โดย นำเอาเศษผักเหลือใช้ มาปลูกซ้ำ ด้วยวิธีการนำเศษผักเหลือใช้ มาแช่ในน้ำ ประมาณ ๑ สัปดาห์ จากนั้นก็ย้ายไปปลูกในขวดพลาสติก จากการ สังเกตเห็น ผู้คนส่วนใหญ่จะนำขวดพลาสติกไปทิ้ง การนำขวดพลาสติกมาทำเป็นกระถางปลูกผักเพื่อช่วยลด ปริมาณการทิ้งขยะ และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าซื้อผัก ค่าน้ำมันรถหรือค่ารถไปตลาด และยัง สามารถนำไปใช้จริงในการใช้ชีวิตแบบหอพัก ซึ่งมีพื้นที่แคบ ๆให้สามารถปลูกผักเหลือใช้ไว้กินเองได้อีกด้วย 5.1 ผลการศึกษาค้นคว้า ผลการดำเนินงาน จากการศึกษาค้นคว้าด้วยวิธีการ สัมภาษณ์ แม่ครัวในโรงเรียนเรวดีพัทลุง ชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียง และจากอินเทอร์เน็ต พบว่า แม่ครัวในโรงเรียนเรวดีพัทลุง ชาวบ้านในหมู่บ้าน ใกล้เคียง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในบริเวณรอบๆ โรงเรียน ที่นำเศษผักเหลือ และขวดพลาสติก ใช้ ไปทิ้ง กัน โดย เปล่าประโยชน์ และส่วนใหญ่พากันซื้อผักจากตลาดมาบริโภค นอกจากนั้นแล้วยังมีชาวบ้านบางครอบครัว ที่ นำผักเหลือใช้มาปลูกไว้กินเอง 5.2 ผลการศึกษาค้นคว้า จากการสังเกตเห็นแม่ครัว ในโรงเรียนเรวดีพัทลุง ชาวบ้านในชุมชนใกล้เคียง นำผักมาใช้ในการ ประกอบอาหารให้กับนักเรียน และครอบครัว รับประทาน เมื่อนำผักมาใช้ประกอบอาหาร เช่น แครอท ผักบุ้ง ผักกาด ต้นหอม ผักชี และ ผักชีฝรั่ง ส่วนที่เป็นหัวของแครอท และโคนของผัก ก็จะนำไปทิ้งกันเป็น ส่วนใหญ่ โดยไม่ได้คิดว่าผักเหลือใช้เหล่านี้ สามารถที่จะนำมาปลูกใหม่ได้อีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถเก็บมา รับประทานใหม่ได้เร็วกว่าปกติ เพราะโคนของผัก และรากของผักแต่ละชนิด สามารถเจริญเติบได้โดยวิธีการ แช่น้ำทิ้งไว้ และจะมียอดอ่อนงอกขึ้นมาใหม่ จากนั้นเราก็สามารถย้ายมาปลูกในดิน รอประมาณ 2-๓ สัปดาห์ เราก็สามารถเก็บมารับประทาน หรือนำไปประกอบอาหาได้อีกครั้ง
363 5.3 ผลการศึกษาค้นคว้า การประดิษฐ์ขวดพลาสติกเป็นแก้ว ในรูปแบบต่างๆ การเลือกขวดพลาสติกที่จะใช้ รวมทั้งเลือกชนิดของพืชผัก ที่เหมาะสมด้วยไม่ว่าสวนของคุณจะ เป็นแบบไหน การปลูกในขวดพลาสติกนั้นทางเลือกที่ดี เพราะจะช่วยแก้ปัญหาวัชพืช และปัญหารากชอนไช ได้ไปในตัว สิ่งสำคัญคือ ขวดพลาสติกที่จะนำมาใช้ ต้องมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะรองรับพืช หรือผักที่เรา ต้องการจะปลูก ผักส่วนมากต้องการพื้นที่ประมาณ 15-18 นิ้ว ทั้งความกว้างและความลึกสำหรับในเขต ร้อน หรือในช่วงฤดูร้อน การเลือกสีของขวดพลาสติกเป็นสีอ่อน จะช่วยเรื่องการรักษาอุณหภูมิให้กับรากพืช สีอ่อน จัดสวนผักในขวดพลาสติก เป็นทางเลือกที่ลงตัว สำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัด วิธีการนี้ จะทำให้เราสามารถ มีผักสวนครัวไว้รับประทานเองได้สบาย ๆ นอกจากจะได้ทั้งความประหยัด ได้ผักปลอดสารพิษไว้รับประทาน แล้ว ยังทำให้พื้นที่น้อย ๆ ในบ้าน คอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ ของเราดูสดชื่นขึ้นมาได้อีกด้วย สวนผักใน กระถางนี้ เราสามารถปลูกได้ ไม่ว่าพื้นที่จะจำกัดแค่ไหนก็ตาม การประดิษฐ์ขวดพลาสติก สามารถประดิษฐ์ ได้หลายรูแบบ โดยขวดพลาสติกที่นำมาใช้ในการประดิษฐ์แก้ว หรือกระถาง สำหรับปลูกผักเหลือใช้นั้น จะมี รูปร่างและขนาดที่แตกต่างกัน เช่น ขวดน้ำดื่มขวดน้ำอัดลม และ ขวดน้ำผลไม้ จึงสามารถประดิษฐ์แก้ว หรือกระถางได้หลายรูปแบบที่สวยงาม และต่อยอดไปยังแบบอื่นๆได้ จะช่วยให้ไม่ร้อนจนเกินไป แต่ถ้าหาก คุณอยู่ในเขตหนาวเย็น หรือช่วงฤดูหนาว ก็ให้เลือกขวดพลาสติกสีเข้ม เพราะจะช่วยรักษาอุณหภูมิที่อบอุ่น ให้กับดินและรากพืชได้ 5.4 ผลการดำเนินงานของโครงงาน จากการศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลต่างๆผู้จัดทำ ได้นำเอาข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ โดย นำเอาเศษผัก เหลือใช้ มาปลูกซ้ำ ด้วยวิธีการนำเศษผักเหลือใช้ มาแช่ในน้ำ ประมาณ ๑ สัปดาห์ จากนั้นก็ย้ายไปปลูกใน ขวดพลาสติก จากการสังเกตเห็น ผู้คนส่วนใหญ่จะนำขวดพลาสติกไปทิ้ง การนำขวดพลาสติกมาทำเป็น กระถางปลูกผักเพื่อช่วยลดปริมาณการทิ้งขยะ และยังสามารถลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าซื้อผัก ค่าน้ำมันรถ หรือค่ารถไปตลาด และยังสามารถนำไปใช้จริงในการใช้ชีวิตแบบหอพัก ซึ่งมีพื้นที่แคบๆ ให้สามารถปลูกผัก เหลือใช้ไว้กินเองได้อีกด้วย 6. ปัญหาและอุปสรรค เนื่องจากในภาวะปัจจุบันด้วยความเจริญทางวัตถุ เทคโนโลยี ก้าวล้ำไปมาก ทำให้เยาวชนส่วนใหญ่ ไม่สนใจทางด้านการเรียนดังนั้น กลุ่มคณะกรรมการโรงเรียนสีขาว โรงเรียนเรวดีพัทลุง จึงได้จัดทำโครงงาน หนูน้อยชุบชีวิตผัก ขึ้น เพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้เกิดขึ้นในตัวเยาวชน ให้รู้จักใช้เวลาว่างให้ เกิดประโยชน์ และห่างไกลยาเสพติด ผู้ซึ่งจะเป็นกำลังเป็นอนาคตของประเทศชาติให้เป็นผู้มีจิตใจเป็นสมาธิ อันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา และรู้จักประหยัด รู้จักใช้ อันจะยังประโยชน์ให้เกิดแก่ตัวนักเรียนเอง ต่อไป ปัญหาและสาเหตุ ๑. นักเรียนจำนวน 23 คนไม่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รับประทานอาหารไม่หมด เนื่องจากไม่รู้คุณค่าของ ทรัพยากรธรรมชาติ ๒. นักเรียนจำนวน 23 คนไม่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพราะห่วงเล่น ไม่สนใจในการช่วยประหยัด ทรัพยากรธรรมชาติ และลดขยะ ลดโลกร้อน ๓. นักเรียนบางคนขาดความสามัคคี และขาดความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
364 วิธีการแก้ไขปัญหา ๑.จัดกลุ่มนักเรียน ร่วมกันทำกิจกรรม การปลูกผักเหลือใช้ เพื่อเอาไว้รับประทาน และใช้ทำกับข้าว ๒.ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ให้มีพอเพียง มีความประหยัด ใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างคุ้มค่า ๓.นำหลักธรรมหรือพุทธสุภาษิต เกี่ยวกับความสามัคคี และความรับผิดชอบ มาเสริมแรง เพื่อกระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการทำงานร่วมกัน การศึกษาวิเคราะห์ ๑.ปัญหาและสาเหตุ เนื่องจากในภาวะปัจจุบันด้วยความเจริญทางวัตถุ เทคโนโลยี ก้าวล้ำไปมาก ทำให้เยาวชนส่วนใหญ่ ไม่สนใจทางด้านการเรียนดังนั้น กลุ่มเยาวชนจิตอาสา โรงเรียนเรวดีพัทลุง จึงได้จัดทำโครงงาน หนูน้อยชุบ ชีวิตผัก ขึ้น เพื่อเป็นการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ให้เกิดขึ้นในตัวเยาวชนผู้ซึ่งจะเป็นกำลังเป็นอนาคตของ ประเทศชาติให้เป็นผู้มีจิตใจเป็นสมาธิ อันเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง และส่วนรวม และรู้จักควบคุมจิตใจให้รู้จักคิดและทำในสิ่งที่ดีงาม อันจะยังประโยชน์ให้เกิดแก่ตัวนักเรียน เอง ต่อไป ๒.เป้าหมาย นักเรียนโรงเรียนเรวดีพัทลุง ป.๓ จำนวน ๘๙ คน ได้รับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม อันดีงาม สามารถนำประโยชน์จากการทำเหรียญโปรยทาน ไปบริจาคในงานบุญต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นฝึก จิต ให้เกิดสมาธิ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ให้กับตัวเอง ชื่อผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. ด.ช. พีร์ภากร เจนสาธิต 2. ด.ญ. ณัฏฐกันย์ หนูนิ่ม 3. ด.ญ. ชาลิศา เพชรน้อย 4. ด.ญ. กวินธิดา ชูจันทร์ 5. ด.ช. อัครณัฐฏ์ ปักษีสิงห์ 6. ด.ช. พีรพัฒน์ ชาวสวน 7. ด.ช. พีรวิชญ์ ชูช่วย 8. ด.ช. พงศกร เสนชู 9. ด.ญ. อริยา สุดจันทร์ 10. ด.ช. ภณคร เพ็งหนู 11. ด.ช. อภินัทธ์ มูลโกภาศ 12. ด.ช. รชณกร จันทร์ศรี 13. ด.ช. ศุภณัฐ สงด้วง 14. ด.ช. ชลกร ชูสง 15. ด.ช. กันตพัฒน์ หนูแสง 16. ด.ช. วชิรวิทย์ ขุนแสง 17. ด.ช. ณกรณ์ สังข์ทอง
365 18. ด.ช. ภัทรพงษ์ แซ่โฟ้ง 19. ด.ญ. นัชชา เอียดผอม 20. ด.ช. ศิวกร ทองเกิด 22. ด.ช. จิรัฏฐ์ จังจาตุพร 23. ด.ญ. บัญจรัตน์ ตั่นซุ้นหิ้น
366 ภาคผนวก
367
368
369
370 ชื่อโครงงาน เด็กรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด ครูที่ปรึกษา 1. นางสาวสุชาดา เรืองแก้ว ผู้รับผิดชอบโครงงาน 1. เด็กชายสุพีพัฒน์ สังข์ทอง หัวหน้าห้อง 2. เด็กหญิงนันท์นภัส รักนุ้ย รองหัวหน้าฝ่ายการเรียน 3. เด็กชายพัชรพล ชูประสูติ รองหัวหน้าฝ่ายการงาน 4. เด็กชายยศวีย์ ฤทธิช่วย รองหัวหน้าฝ่ายกิจกรรม 5. เด็กชายสิรวิชญ์ ศรียวง รองหัวหน้าฝ่ายสารวัตรนักเรียน 6. เด็กหญิงโชติกา นวลกลับ กรรมการ 7.เด็กหญิงอมลวรรรณ จันทร์ขุน กรรมการ 8.เด็กชายชนกันต์ มากมา กรรมการ 9.เด็กหญิงธนิดา ซิวเตี้ย กรรมการ 10.เด็กหญิงพิชญาภา บุญวิสูตร กรรมการ 11.เด็กชายศตวิชญ์ สังข์ทอง กรรมการ 12.เด็กหญิงรุจิราภา เกลี้ยงแก้ว กรรมการ 13.เด็กชายรฐนนท์ ชูแก้ว กรรมการ 14.เด็กหญิงกัญญาอร มานะทวี กรรมการ 15.เด็กชายปุณมนัส นะมาก กรรมการ 16.เด็กหญิงวรรณิดา ชอบอารมณ์ กรรมการ 17.เด็กหญิงนงนภัส เรืองพุฒ กรรมการ 18.เด็กหญิงดารากานต์ หนูกลับ กรรมการ 19.เด็กชายธัญชนิต ทองหยู กรรมการ 20.เด็กชายกรวิชญ์ เรืองรักษ์ กรรมการ 21.เด็กชายพิชญุตม์ ปลอดภัย กรรมการ 22.เด็กหญิงสมสิริ เกตสระ กรรมการ 23.เด็กชายคณัสนันท์ จันทร์ไตร กรรมการ โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕65 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4
371 1. สภาพปัญหา ด้วยโรงเรียนเรวดีพัทลุง ได้กำหนดนโยบายให้นักเรียนมีความรู้ รู้จักโทษ และตระหนักถึงโทษของยา เสพติด ในสภาพปัจจุบันห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 ได้พบปัญหาว่านักเรียนไม่ตระหนักถึงปัญหาที่จะ เกิดขึ้นเกี่ยวกับยาเสพติดเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อเป็นการปลูกฝังให้ความรู้ และตระหนักถึงโทษของยาเสพติดที่มี การขยายตัวอยู่ในสังคมปัจจุบันให้ลดน้อยลง จึงใช้วิธีการรณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกในห้องเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4/4 คณะกรรมการห้องเรียนสีขาวจึงจัดโครงงาน เรื่อง เด็กรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด ขึ้นซึ่ง เป็นการส่งเสริมให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนไม่ไปสนใจ แลรู้จักหลีกเลี่ยงยาเสพติด ตลอดจนสร้างความตระหนักให้กับครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด 2. วัตถุประสงค์ ในการทำโครงงาน เรื่อง เด็กรุ่นใหม่ห่างไกลยาเสพติด มีวัตถุประสงค์ในการทำโครงงาน ดังนี้ 1. เพื่อป้องกันและลดปัญหาการแพร่กระจายของยาเสพติด 2. เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนมีจิตสำนึกร่วมกันในการดูแลเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่กระจายของยาเสพ ติดการเกิดแรงจูงใจที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด 3. เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์โดยรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 4. เพื่อให้นักเรียนได้รับความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้สามารถป้องกันตัวเองจากยาเสพติดชนิด ต่างๆได้ 5. เพื่อเสริมสร้างความรักความสามัคคีของนักเรียนภายในชั้นเรียน 3. เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 จำนวน 27 คน 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 ได้ร่วมกิจกรรม ตั้งใจประพฤติดี ไม่ยุ่ง เกี่ยวกับยาเสพติดและอบายมุข 4. วิธีดำเนินงาน กิจกรรม/ขั้นตอน/วิธีปฏิบัติ ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผิดชอบ ขั้นเตรียม 1. ประชุมวางแผน 2. เขียนโครงงาน 1. 18 พฤษภาคม 2564 2.22 พฤษภาคม 2564 นางสาวสุชาดา เรืองแก้ว / คณะกรรมการห้องเรียนสีขาว ขั้นดำเนินงาน 1. เสนออนุมัติโครงงาน 2. ดำเนินงานตามกิจกรรม กิจกรรมที่ 1 จัดตกแต่งห้องเรียน ทำป้ายนิเทศ กิจกรรมที่ 2 เดินรณรงค์ต้านยาเสพติด กิจกรรมที่ 3 เพื่อนช่วยเพื่อน กิจกรรมที่ 4 จิตอาสา 1. 25 พฤษภาคม 2564 2. 27 พฤษภาคม 2564 หัวหน้าฝ่ายกิจกรรม คณะกรรมการห้องเรียนสีขาว
372 กิจกรรม/ขั้นตอน/วิธีปฏิบัติ ระยะเวลาดำเนินการ ผู้รับผิดชอบ กิจกรรมที่ 5 ปลูกฝังพัฒนาคุณธรรม กิจกรรมที่ 6 กิจกรรมตามความสนใจศิลปะ ดนตรี กีฬา งานประดิษฐ์ และอื่น ๆ ขั้นสรุป 1. สังเกต/แบบสอบถาม 2. รายงานผลต่อผู้บริหาร 1. 15 มิถุนายม 2564 2. 20 กันยายน 2565 นางสาวสุชาดา เรืองแก้วและ คณะกรรมการห้องเรียน 5. สถานที่ดำเนินงาน ห้องเรียนชั้นป.4/4 อาคารใฝ่รู้ โรงเรียนเรวดีพัทลุง 6. ระยะเวลาดำเนินงาน 16 พฤษภาคม 2564 – 15 มีนาคม 2565 7. การวัดและประเมินผล ตัวบ่งชี้ความสำเร็จ วิธีการประเมิน เครื่องมือ 1. ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้ร่วมกิจกรรม ปลูกฝังสร้าง จิตสำนึก ส่งเสริมให้ความรู้ห่างไกลยาเสพติด 1. สำรวจการเข้า ร่วมกิจกรรม 1. แบบสำรวจการเข้า ร่วมกิจกรม 2. ผู้เรียนร้อยละ 100 เป็นผู้ตระหนักรู้และห่างไกลยา เสพติด 1. สังเกต 2. ประเมิน 1. แบบสังเกต พฤติกรรม 2. แบบประเมินผลการ จัดกิจกรรม 8. ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. นักเรียนได้รับความรู้เกี่ยวกับภัยของอบายมุข 2. นักเรียนมีส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอบายมุข 3. ห้องเรียน มีความสงบเรียบร้อยนักเรียนตระหนักรู้ถึงโทษของอบายมุข และมีจิตอาสา รู้จักใช้ เวลาว่างให้สร้างสรรค์และประโยชน์ต่อสังคม (ลงชื่อ).......................................ผู้เสนอโครงงาน (ลงชื่อ).................................ผู้เห็นชอบ โครงการ (เด็กชายยศวีย์ ฤทธิช่วย) (เด็กชายสุพีพัฒน์ สังข์ทอง) หัวหน้าฝ่ายกิจกรรม หัวหน้าห้องชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4 (ลงชื่อ).....................................ผู้อนุมัติโครงการ (นางสาวสุชาดา เรืองแก้ว) ครูที่ปรึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/4
373 1. ฝ่ายการเรียน (วิชาการ) กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 ตรวจสอบการเข้าเรียน ดำเนินการตรวจสอบการเข้าเรียนของเพื่อนๆ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2/3 จำนวน 23 คน ทุกวัน พบว่า 1. เพื่อนๆ ทุกคนเข้าเรียนทุกรายวิชา ไม่ขาดเรียน หนีเรียน /มีขาดเรียน หนีเรียน ร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 2 การส่งงานในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการทำงานส่งงานครูเป็นไป ด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 27 คน คิดเป็นร้อยละ ....... กิจกรรมที่ 3 การช่วยเหลือเพื่อนในการ เรียน เพื่อนๆให้ความช่วยเหลือกันและกันในการทำงาน ช่วย อธิบาย เสนอแนะและร่วมมือกันทำงานจนเสร็จลุล่วง ไปด้วยความเรียบร้อย คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 4 ติดตามการดำเนินงาน นักเรียนมีส่วนรวมและมีความสามัคคีในการทำ กิจกรรมบรรลุตามเป้าหมาย คิดเป็นร้อยละ 100 สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายการเรียน ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59) ผลการดำเนินงานตามโครงการห้องเรียนสีขาว
374 ภาพกิจกรรมฝ่ายการเรียน
375 2. ฝ่ายการงาน กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 จัดบอร์ด/ป้ายนิเทศให้ความรู้ เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการจัดบอร์ด/ป้ายนิเทศทุก ครั้ง เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 2 การดูแลรักษาความสะอาด ห้องเรียน ได้จัดเวรประจำวันในการดูแลรักษาความสะอาด ห้องเรียน เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการทำงานเป็น อย่างดี ร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 3 การช่วยกันดูแลรักษา ทรัพย์สินของห้องเรียน เพื่อน ๆ ได้ช่วยกันดูแล รักษาทรัพย์สินของห้อง ไม่ให้ เกิดการเสียหาย/สูญหา ตลอดจนทะนุบำรุงรักษาให้อยู่ ในสภาพการใช้การตลอดเวลา คิดเป็นร้อยละ 100 สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายการงาน ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59)
376 ภาพกิจกรรมฝ่ายการงาน
377 3. ฝ่ายสารวัตรนักเรียน กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 การปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียน เช่น การแต่งกาย ทรงผม การมาโรงเรียน เป็นต้น เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรียน เช่น การแต่งกาย ทรงผม การมาโรงเรียน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 27 คน คิดเป็นร้อย ละ 100 กิจกรรมที่ 2 เพื่อนเตือนเพื่อน นักเรียนในห้องได้ช่วยกันเฝ้าระวัง ไม่ให้เกิดการเล่น อบายมุข ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข หลีกเลี่ยง ชักชวน เพื่อนให้ห่างไกลจากอบายมุข ด้วยการการทำกิจกรรม เล่นกีฬา ดนตรี ปลูกผัก คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 3 การรณรงค์ความปลอดภัยของผู้ใช้ถนน นักเรียนป.2/3 จำนวน 27 คน ดูแลความปลอดภัย ของนักเรียนในการข้ามถนนโดยใช้ทางม้าลายในการ ข้ามถนนจำนวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 4 ติดตามนักเรียนที่ไม่เข้าร่วมกิจกรรมใน ตอนเช้า นักเรียนชั้นป.2/3 จำนวน 27 คน ดูแลนักเรียนที่ไม่ เข้าร่วมกิจกรรมในตอนเช้า สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายสารวัตรนักเรียน ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59)
378 ภาพกิจกรรมฝ่ายสารวัตรนักเรียน
379 4. ฝ่ายกิจกรรม กิจกรรม ผลการดำเนินงาน กิจกรรมที่ 1 เดินรณรงค์ต่อต้านอบายมุข เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการเดินรณรงค์ต่อต้านอบายมุข เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 27 คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมจิตอาสาสาธารณประโยชน์ เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ แก่ห้องเรียน โรงเรียน และชุมชน เป็นอย่างดี คิดเป็นร้อย ละ 100 กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมวันสำคัญต่าง ๆ เพื่อน ๆ ให้ความร่วมมือในการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่ โรงเรียนได้จัดขึ้น ได้แก่ วันเข้าพรรษา วันแม่ วันออก พรรษา วันสุนทรภู่ ทำบุญตักบาตรวันขึ้นปีใหม่ การทำบุญ ในวันต่าง ๆ เป็นต้น เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทุกครั้ง 27 คน คิดเป็นร้อยละ 100 กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมยามว่าง กิจกรรมยามว่าง พบว่าใช้เวลาว่างในการอ่านหนังสือ เล่น กีฬา ดนตรี และศิลปะ ปลูกผัก ตลอดจนทำการบ้าน เป็น ต้น คิดเป็นร้อยละ 100 สรุป ผลการประเมินการปฏิบัติงานฝ่ายกิจกรรม ( ) ระดับดีมาก (ร้อยละ 80 – 100) ( ) ระดับดี (ร้อยละ 70 – 79) ( ) ระดับพอใช้ (ร้อยละ 60 – 69) ( ) ระดับปรับปรุง (ร้อยละ 0 – 59)
380 ภาพกิจกรรมฝ่ายกิจกรรม
381 โครงงาน เครื่องดูดฝุ่นขนาดจิ๋ว ผู้รับผิดชอบโครงการ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 เด็กชาย ศิวัช จันธำรงค์ เด็กหญิงนิรดา ไชยวงษ์ เด็กชาย ปิยังกูร รักษ์แก้ว เด็กชาย ธนเดช ช่วยคุณูปการ เด็กหญิงณัฐวรา เกื้อสุวรรณ เด็กหญิงณิชาภัทร ศรีสุวอ เด็กหญิงป่านเพชร ปานนุ้ย เด็กหญิงพัชรธิดา สังข์ชู เด็กชาย ณฐพงศ์ อ่อนเกลี้ยง เด็กชาย ชวัลวิทย์ บุญทิพย์ เด็กชาย วุฒิภัทร ยิ้มแก้ว เด็กชาย สิทธินัถ รอดเนียม เด็กหญิงพรปวีย์ เกตุหนู เด็กหญิงธัญญรัตน์ สังข์ทิพย์ เด็กหญิงพัสตราภรณ์ จันทสุวรรณ เด็กชาย วิรุฬห์ สังข์แก้ว เด็กหญิงนัสรีน เหตหาก เด็กหญิงปริยาภัทร ประเสริฐ เด็กหญิงสิริกานต์ อนันต์เพชร เด็กหญิงนพภัสสร พลอยดำ เด็กชาย กฤษณพงศ์ ชูขาว เด็กหญิงพิชญธิดา ชายเกลี้ยง เด็กชาย ชนนน พรหมรัตน์ เด็กหญิงณัฐณิชา เกิดชู เด็กหญิงพิชญา วรพรรณ์ โครงงานห้องเรียนสีขาว ปีการศึกษา ๒๕65 ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1
382 คำนำ ด้วยโรงเรียนเรวดีพัทลุง ได้กำหนดนโยบายให้นักเรียนมีความรู้ รู้จักโทษ และตระหนักถึงโทษของยา เสพติดไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในสภาพปัจจุบันห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1ได้พบปัญหาว่านักเรียนไม่ ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวยาเสพติดเท่าที่ควร ดังนั้นเพื่อเป็นการปลูกฝังให้ความรู้ และตระหนักถึง โทษยาเสพติดที่มีการขยายตัวอยู่ในสังคมปัจจุบันให้ลดน้อยลง จึงใช้วิธีการรณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกใน ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่5/1 คณะกรรมการห้องเรียนสีขาวจึงจัดโครงงาน เรื่อง เยาวชนรุ่นใหม่ห่างไกล ยาเสพติด ขึ้นซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนไม่ไปสนใจ และรู้จัก หลีกเลี่ยงยาเสพติดตลอดจนสร้างความตระหนักให้กับครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด โครงงานเครื่องดูดฝุ่น ขนาดจิ๋ว เป็นกิจกรรมที่สงเสริมให้นักเรียนให้นักเรียนได้แสดงความสามารถในการใช้ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ การนำหลักการทางวิทยาศาสตร์มาใช้ประโยชน์และตอบคำถามกับสิ่งสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ อย่างไร โดยนักเรียนโรงเรียนเรวดีพัทลุง ระดับชั้น ป.๕ ขอขอบพระคุณ ผอ.ระเริง รัตนเกษร และคุณครู มณฑิรา รักขพันธ์ โรงเรียนเรวดีพัทลุง ที่ให้ความรู้ และคอยแนะนำ จนกิจกรรมลุล่วงไปด้วยดีและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานนี้จะได้รับความรู้และเป็น ประโยชน์สำหรับนักเรียนและผู้สนใจ คณะผู้จัดทำ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1
383 กิตติกรรมประกาศ โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง เครื่องดูดฝุ่นขนาดจิ๋ว จัดทำขึ้นเพื่อลดปริมาณขยะที่อยู่ในโรงเรียน เรวดีพัทลุง โดยเรวดีได้รับการสนับสนุนจากท่านคุณครู มณฑิรา รักขพันธ์ ครูประจำวิชาและได้รับการ สนับสนุนจาก ผู้อำนวยการโรงเรียนเรวดีพัทลุง โรงเรียนเรวดีพัทลุงและขอขอบพระคุณที่ได้ให้คำปรึกษาในการจัดทำโครงงานและได้รับความ อนุเคราะห์จากพ่อแม่ผู้ปกครองที่ได้ให้ข้อเสนอแนะ แนะนำเอกสารตำราต่างๆให้ศึกษาค้นคว้า คณะผู้จัดทำ ขอขอบพระคุณทุกท่านดังที่ได้กล่าวถึงมาข้างหน้าและที่ไม่ได้กล่าวถึงไว้ ณ ที่นี้เป็นอย่างสูง คณผู้จัดทำ
384 บทคัดย่อ โครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง เครื่องดูดฝุ่น มีที่มาและความสำคัญเนื่องด้วยในปัจจุบัน ปัญหาขยะจาก เศษวัสดุต่างๆเป็นปัญหาระดับชาติที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้อย่างถาวรเพราะการกำจัดขยะด้วยวิธีการใดก็ตามย่อม มีผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศดังนั้นทางกลุ่มผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิดที่จะนำขวดพลาสติกที่มีอยู่ ภายในโรงเรียนกลับมาใช้ประโยชน์แทนการที่จะนำขวดพลาสติกเหล่านี้ไปทำลายโดยทางกลุ่มผู้จัดทำได้ ร่วมมือในการประดิษฐ์ชิ้นงานชิ้นนี้ขึ้นมา
385 บทที่1 บทนำ ที่มาและความสำคัญ เนื่องจากในปัจจุบันมีสิ่งของเหลือใช้ถูกในไปทิ้งเป็นขยะมากมาย จึงมีผู้ให้ความสนใจนำขยะเหล่านั่น มาแปรรูปใหม่ซึ่งบางอย่างนำมาประดิษฐ์เป็นสิ่งอื่นได้ใหม่วัสดุต่างๆมีมากมายหลายประเภท เช่น วัสดุจาก เครื่อง ใช้ไฟฟ้า วัสดุประเภทพลาสติกต่างๆเป็นต้น วัสดุเหล่านี้หลังจากการนำมาใช้แล้วอาจเกิดการชำรุด เสียหาย หรือเป็นสิ่งของเหลือใช้ไร้ค่า แต่สิ่งของบางชนิดเมือไม่สามารถ ใช้งานได้แล้วอุปกรณ์บางอย่างเรา สามารถนำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อีก โดยนำมาประดิษฐ์ เป็นของเล่น ของใช้หรือของประดับ ตกแต่ง ตามความรู้ความสามารถของแต่ละบุคคลและลักษณะคุณภาพของวัสดุเหลือใช้แต่ชนิด วัตถุประสงค์ 1. เพื่อประยุกต์ใช้สิ่งของหรือเศษวัสดุที่ไม่ใช้มารีไซเคิลใหม่ 2. ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซื้ออุปกรณ์ทำความสะอาดบ้าน 3. เพื่อทดลองประดิษฐ์อุปกรณ์ตามความคิดแบบเป็นกลุ่ม 4. ลดต้นทุนการนำเข้าให้ประเทศในอนาคต เป้าหมาย 3.1 เป้าหมายเชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 25 คน 3.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ได้ร่วมกิจกรรม ตั้งใจประพฤติดี ไม่ยุ่ง เกี่ยวกับยาเสพติดทุกชนิด และเป็นผู้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. ได้อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านในราคาประหยัดจากสิ่งของเหลือใช้ 2. ได้อุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านด้วยฝีมือตนเอง 3. สามารถต่อยอดและดัดแปลงเป็นสินค้าได้ในอนาคต 4. ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องการซื้ออุปกรณ์ดูดฝุ่นไฟฟ้าและค่านำเข้าสินค้า ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า 1. ศึกษาเพื่อลดปริมาณขยะในโรงเรียน 2. ศึกษาเพื่อให้มีเครื่องตุ้นแรงให้กับบุคคลทำงาน
386 สมมุติฐานของการศึกษา 1. เพื่อความสะดวกสบายในการพกพา 2. สามารถต่อยอดได้ในอนาคต 3. มีกำลังดูดที่สูง 4. มีอุปกรณ์ที่สามารถประดิษฐ์ได้ด้วยตนเอง 5. มีอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านจากฝีมือตนเอง
387 บทที่2 ความเป็นมาของเครื่องดูดฝุ่น เนื่อ ง จ า ก ท า ง โ ร ง เรียนของเราได้มีขยะที่เป็นพลาสติกเป็นจำนวนมาก ในสภาพดีและสามารถ นำมากลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์การศึกษา เราพบว่าเครื่องดูดฝุ่นใช้พัดลมและมอเตอร์เป็นอุปกรณ์หลัก ในการทำงานจึงเกิดแนวความคิดว่าเราสามารถนำพลาสติกโดยนำมาประกอบกับขวดนำ อัดลมขนาด 1.25 ลิตร และใช้หม้อแปลงไฟฟ้า หรือ มอเตอร์ที่มีค่าความต่างศักย์220 โวลต์ให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่มี ค่าความต่างศักย์13.5 โวลล์เพื่อให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับพัดลมระบายความร้อนประดิษฐ์เป็น เครื่องดูดฝุ่นได้พวกเราจึงได้รวมกลุ่มช่วยกันคิดประดิษฐ์“ตัวดูด2 R 2Way ” เป็นเครื่องดูดฝุ่นเพื่อ ใ ช้ประโยชน์ในการดูดฝุ่นทั่วและประโยชน์อย่างอื่ น อีกได้นอกจากนี้เรายังได้ศึกษาว่า พัดลมระบายความ ร้อนเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ ที่มีมอเตอร์ติดอยู่กับตัวพัดลมที่ไม่ใช้แล้ว ก็ยังสามารถนำมาประดิษฐ์เป็น เครื่องดูดฝุ่นและประโยชน์อย่างอื่นได้จึงเป็นที่มาของโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสิ่งประดิษฐ์