The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

Keywords: คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

๓๔ นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปข้อมูลทั่วไปของพนทื้ี่การศึกษา น้อยที่สุด คือ อําเภอเวียงเก่า มีจํานวน ๑๙,๙๕๐ คน จากการศึกษาข้อมูลทั่วไปของพื้นที่การศึกษาทําให้ผู้วิจัยได้นํามาใช้ในการกําหนด ขอบเขตพื้นที่ในการทําวิจัยในครั้งนี้ ๒.๖ หลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องกับทรรศนะของประชาชนต่อนักการเมืองท้องถิ่น การปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยและประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นั้นถือ พระพุทธศาสนานักการเมืองทั้งหลายก็ควรได้ตระหนักเพื่อนําเอาหลักธรรมขององค์สมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าไปใช้ในการปกครองบ้านเมืองให้มีความสงบร่มเย็นเป็นสุข สัปปุริสธรรมเป็น หลักธรรมที่ทําให้รู้จักเหตุรู้จักผลรู้จักตนรู้จักประมาณรู้จักกาลรู้จัก บริษัท หรือชุมชนและรู้จักบุคคล ซึ่งเป็นหลักธรรมที่นักปกครองและบุคลากรในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนํามาประยุกต์ใช้ใน การปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างมากแม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระเจ้าจักรพรรติทั้งหลายก็ ทรงประกอบด้วยธรรมเหล่านี้ ๒.๖.๑ สัปปุริสธรรม สัปปุริสธรรม หมายถึง ธรรมของสัตบุรุษ ธรรมที่ทําให้เป็นสัตบุรุษ คุณสมบัติของคนดี ธรรมของผู้ดีประกอบด้วย ๑) ธัมมัญญุตา ความรู้จักธรรมรู้หลักหรือรู้จักเหตุคือรู้หลักความจริงรู้หลักการรู้ หลักเกณฑ์รู้กฎแห่งธรรมดารู้กฎเกณฑ์แห่งเหตุผลและรู้หลักการที่จะทําให้เกิดผลเช่นภิกษุรู้ว่า หลักธรรมข้อนั้น ๆ คืออะไรมีอะไรบ้างพระมหากษัตริย์ทรงทราบว่าหลักการปกครองตามราช ประเพณีเป็นอย่างไรมีอะไรบ้างรู้ว่าจะต้องกระทําเหตุอันนี้ๆ หรือกระทําตามหลักการข้อนี้ๆ จึงจะ ให้เกิดผลที่ต้องการหรือบรรลุจุดมุ่งหมายอันนั้น ๆ เป็นต้น ๒) อัตถัญญุตา ความรู้จักอรรถรู้ความมุ่งหมายหรือรู้จักผลคือรู้ความหมายรู้ความมุ่ง หมายรู้ประโยชน์ที่ประสงค์รู้จักผลที่จะเกิดขึ้นสืบเนื่องจากการกระทําหรือความเป็นไปตามหลักเช่นรู้ ว่าหลักธรรมหรือภาษิตข้อนั้น ๆ มีความหมายว่าอย่างไรหลักนั้น ๆ มีความมุ่งหมายอย่างไรกําหนดไว้ หรือพึงปฏิบัติเพื่อประสงค์ประโยชน์อะไรการที่ตนกระทําอยู่มีความมุ่งหมายอย่างไรเมื่อทําไปแล้วจะ บังเกิดผลอะไรบ้างดังนี้เป็นต้น ๓) อัตตัญญุตา ความรู้จักตนคือรู้ว่าเรานั้นว่าโดยฐานะภาวะเพศกําลังความรู้ ความสามารถความถนัดและคุณธรรมเป็นต้นบัดนี้เท่าไรอย่างไรแล้วประพฤติให้เหมาะสมและรู้ที่จะ แก้ไขปรับปรุงต่อไป ๔) มัตตัญญุตา ความรู้จักประมาณคือความพอดีเช่นภิกษุรู้จักประมาณในการรับ และบริโภคปัจจัยสี่คฤหัสถ์รู้จักประมาณในการใช้จ่ายโภคทรัพย์พระมหากษัตริย์รู้จักประมาณในการ ลงทัณฑ์อาชญาและในการเก็บภาษีเป็นต้น


๓๕ ๕) กาลัญญุตา ความรู้จักกาลคือรู้กาลเวลาอันเหมาะสมและระยะเวลาที่จะต้องใช้ ในการประกอบกิจทําหน้าที่การงานหรือปฏิบัติการต่าง ๆ เช่นให้ตรงเวลาให้เป็นเวลาให้ทันเวลาให้พอ เวลาให้เหมาะเวลาเป็นต้น ๖) ปริสัญญุตา ความรู้จัก บริษัท คือรู้จักชุมชนและรู้จักที่ประชุมรู้กิริยาที่จะ ประพฤติต่อชุมชนนั้น ๆ ว่าชุมชนนี้เมื่อเข้าไปหาจะต้องทํากิริยาอย่างนี้จะต้องพูดอย่างนี้ชุมชนนี้ควร สงเคราะห์อย่างนี้เป็นต้น ๗) ปุคคลัญญุตา หรือ ปุคคลปโรปรัญญุตาความรู้จักบุคคลคือความแตกต่างแห่ง บุคคลว่าโดยอัธยาศัยความสามารถและคุณธรรมเป็นต้นใคร ๆ ยิ่งหรือหย่อนอย่างไรและรู้ที่จะปฏิบัติ ต่อบุคคลนั้น ๆ ด้วยดีว่าควรจะคบหรือไม่จะใช้จะตําหนิยกย่องและแนะนําสั่งสอนอย่างไรเป็นต้น ภิกษุผู้ประกอบด้วยสัปปุริสธรรม ๗ ข้อนี้ชื่อว่าเป็นผู้ประกอบด้วยสังฆคุณครบ ๔ แม้พระ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระเจ้าจักรพรรดิก็ทรงประกอบด้วยธรรมเหล่านี้ ๓๘ พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ให้ความหมายและแสดง องค์ประกอบของสัปปุริสธรรมไว้คือ สัปปุริสธรรม หมายถึง บุคคลผู้รู้ธรรม มี๗ ประการได้แก่ ๓๙ ๑) เป็นธัมมัญญู (ผู้รู้จักเหตุ) ๒) เป็นอัตถัญญู (ผู้รู้จักผล) ๓) เป็นอัตตัญญู (ผู้รู้จักตน) ๔) เป็นมัตตัญญู (ผู้รู้จักประมาณ) ๕) เป็นกาลัญญู (ผู้รู้จักกาลเวลา) ๖) เป็นปริสัญญู (ผู้รู้จักชุมชน) ๗) เป็นปุคคลัญญู (ผู้รู้จักบุคคล) สรุปการปกครองด้วยหลักสัปปุริสธรรมทั้งกล่าวมา คือ รู้เหตุรู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้ กาลเวลา รู้บุคคล รู้ชุมชนพระพุทธศาสนาสอนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของการปกครองโดยคํานึงถึง คุณธรรมและจริยธรรมที่มีคุณค่าในสังคมมนุษย์หรือปัจจัยแห่งสังคมในกระบวนการอาศัยซึ่งกันและ กันการพิจารณาด้วยเหตุด้วยผลรู้จักโลกรู้จักธรรมชาติเพราะมนุษย์เท่านั้นที่มีการปกครองได้หากจะ นําหลักการปกครองเชิงพุทธศาสตร์เข้ามาประกอบหรือบูรณาการให้เข้ากับการปกครองส่วนท้องถิ่นก็ ถือว่าเป็นแนวทางใหม่หรือเข้าสู่มิติของการปกครองที่ยั่งยืนมีความมั่นคงและสร้างความเป็นธรรมต่อ บุคคลหรือสังคมที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอย่างชาญฉลาดรวมทั้งสร้างประสิทธิภาพประสิทธิผลต่อการ ปกครองอย่างยั่งยืนและมั่นคงรวมทั้งจะเป็นหลักการของนักปกครองของตนอย่างมีระบบด้วย หลักการปกครองที่มีปรากฏในพุทธศาสนานั้นโดยที่ยังมีคุณธรรมมาประกอบในการพิจารณาการ ปกครองด้วย ๓๘ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต), พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม, พิมพ์ครั้งที่ ๑๖, (บริษัท เอส.อาร์พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์จํากัด, ๒๕๕๑), หน้า ๑๖. ๓๙ องฺ.สตฺตก. (ไทย) ๒๓/๖๘/๑๔๓.


๓๖ ตารางที่๒.๖ สรุปหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่น นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปแนวคิดหลักพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องกับ นักการเมืองทองถ้ ิ่น พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต). สัปปุริสธรรม หมายถึง ธรรมของสัตบุรุษ, ธรรมที่ ทําให้เป็นสัตบุรุษ, คุณสมบัติของคนดี, ธรรมของ ผู้ดีประกอบด้วย ๑) ธัมมัญญตาุ๒) อัตถัญญุตา ๓) อัตตัญญุตา ๔) มัตตัญญุตา ๕) กาลญญัตาุ๖) ปริสัญญุตา ๗) ปุคคลญญัุตา พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลัย สัปปุริสธรรม หมายถึง บุคคลผู้รู้ธรรม มี๗ ประการได้แก่๑) เป็นธัมมญญัู (ผู้รู้จักเหตุ) ๒) เป็นอัตถัญญู (ผู้รู้จักผล) ๓) เป็นอัตตัญญู (ผรูู้้จัก ตน) ๔) เป็นมตตั ัญญู (ผู้รู้จักประมาณ) ๕) เป็น กาลัญญ ( ูผู้รู้จกกาลเวลาั ) ๖) เป็นปรสิัญญ ( ูผู้รู้ จักชุมชน) ๗) เป็นปุคคลัญญู (ผู้รู้จักบุคคล) จากการทบทวนแนวคิดเกี่ยวกับพุทธธรรมที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองท้องถิ่นทําให้ผู้วิจัย ได้นํามาใช้ในการกําหนดตัวแปรตามในด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริสธรรม ๒.๗ งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง สมศักดิ์หัทยานนท์ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อการตัดสินใจ เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของประชาชนในเขตเทศบาลตําบลคลองแงะอําเภอสะเดาจังหวัดสงขลา” ผลการวิจัยพบว่า๔๐ ๑) ระดับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ๒) คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อการตัดสินใจเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลของประชาชนในด้านต่าง ๆ ของประชาชน พบว่า ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ประชาชนให้ความสําคัญในระดับมาก ๓) เปรียบเทียบคุณลักษณะ ที่พึงประสงค์ต่อการตัดสินใจ เลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของประชาชนในค้านต่าง ๆ พบว่า คุณลักษณะที่พึงประสงค์ในด้าน ต่าง ๆ ของประชาชนที่มีเพศ ศาสนา และอาชีพต่างกัน มีการตัดสินใจไม่แตกต่างกัน ด้านสถานภาพ อายุระดับการศึกษาและรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน มีการตัดสินใจแตกต่างกัน ๔) คุณลักษณะที่พึง ประสงค์ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของประชาชนในด้านต่าง ๆ พบว่า คุณลักษณะที่ พึงประสงค์ด้านวิสัยทัศน์และด้านบุคลิกภาพ ไม่มีความสัมพันธ์กับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ ๔๐ สมศักดิ์หัทยานนท์, “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของ ประชาชนในเขตเทศ บาลตําบลคลองแงะอําเภอสะเดาจังหวัดสงขลา”, วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๑).


๓๗ กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล เพราะว่า สมาชิกสภาเทศบาลต้องมีคุณลักษณะที่ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง รณกฤต ทะนิต๊ะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวัง ของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์” ผลการวิจัยพบว่า๔๑ ๑) คุณลักษณะ นักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความรู้ความสามารถและด้าน บุคลิกภาพ อยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอื่น ๆ อยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงไป หาต่ําได้ดังนี้ด้านความรู้ความสามารถ ด้านบุคลิกภาพ ด้านการปฏิบัติงานและด้านธรรมาภิบาล ตามลําดับ ๒) ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอื่น ๆ พบว่ามีจํานวนมากที่สุดคือ ต้องการให้ นักการเมืองร่วมมือกันปฏิบัติงาน ไม่ควรแบ่งฝ่ายทางการเมือง รองลงมาคือ ควรพัฒนาชุมชนทุก ชุมชนให้ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน และควรจัดสรรงบประมาณลงสู่ชุมชนให้มากกว่านี้ตามลําดับ ธวัชชัย วงศ์สังยะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติ : กรณีศึกษา ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ” ผลการวิจัยพบว่า๔๒ ความคิดเห็นของ ประชาชนที่มีต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติโดยรวมอยู่ในระดับสูง และเมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าด้านสมรรถนะ อยู่ในระดับสูงมาก ประเด็นที่ประชาชนให้ความสําคัญสูง ได้แก่ความกระตือรือร้นและตื่นตัวในการทํางาน การเป็นตัวแทนของประชาชนในการแก้ไขปัญหา ของท้องถิ่นและความสามารถในการกําหนดนโยบายเพื่อสร้างความเจริญให้ท้องถิ่นได้รองลงมา ได้แก่ด้านจริยธรรม ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง ประเด็นที่ประชาชนให้ความสําคัญสูง ได้แก่การยึดมั่น ในความถูกต้องตามหลักกฎหมายและศีลธรรม การมีความรับผิดชอบต่อผลที่เกิดจากการตัดสินใจของ ตนเอง และต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย และด้านสังคม ในภาพรวมอยู่ในระดับสูงประเด็นที่ ประชาชนให้ความสําคัญสูง ได้แก่การเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีการมีตําแหน่งทางสังคมและต้องเป็น คนท้องถิ่นนั้น ๆ ส่วนด้านความสําเร็จเป็นด้านมีมีระดับความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ประเด็นที่ ประชาชนให้ความสําคัญสูง ได้แก่การมีความสามารถในการสนับสนุนปัจจัยต่าง ๆ ให้กับชุมชน การ เป็นผู้มีประวัติดีในการทํางานด้านการเมือง และต้องมีครอบครัวที่ปกติสุขส่วนปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ กับการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ได้แก่ระดับการศึกษา รายได้การรับรู้ข่าวสาร ส่วนปัจจัยที่ ไม่มีความสัมพันธ์กับการแสดงความคิดเห็นของประชาชนได้แก่เพศ อายุอาชีพและประสบการณ์ ทางการเมือง ๔๑ รณกฤต ทะนิต๊ะ, “คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาล เมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์”, วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์, (บัณฑิต วิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์, ๒๕๕๓). ๔๒ ธวัชชัย วงศ์สังยะะ, “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติ: กรณีศึกษา ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ, วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์การเมืองและการ บริหารจัดการ, (คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๕๔).


๓๘ พรเพชร์สุดถิ่น ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะที่คาดหวังของนายกเทศมนตรีของ เทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์จังหวัดชลบุรี” ผลการวิจัยพบว่า๔๓คุณลักษณะที่คาดหวังของ นายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์จังหวัดชลบุรีพบว่า ด้านบุคลิกภาพ ประชาชนมีความคาดหวังอยู่ในระดับมาก ด้านความรู้ความสามารถ ประชาชนมีความคาดหวังอยู่ใน ระดับมาก คุณลักษณะด้านสังคม ประชาชนมีความคาดหวังอยู่ในระดับมาก และคุณลักษณะด้าน กายภาพ พบว่า ภาพรวมประชาชนมีความคาดหวังอยู่ในระดับมากที่สุดเมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่มี ความสัมพันธ์ต่อคุณลักษณะที่คาดหวังของนายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะ จันทร์จังหวัดชลบุรีจําแนกตามเพศ อายุสถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ระยะเวลาที่ อยู่อาศัยในตําบลเกาะจันทร์ความสัมพันธ์กับนายกเทศมนตรีและพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการ เลือกตั้งผู้นํา จะพบผลดังนี้ประชาชนที่มีเพศ อายุระยะเวลาที่อยู่อาศัยในตําบลเกาะจันทร์และ พฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งผู้นําต่างกัน มีความคาดหวังที่ไม่แตกต่างกัน สําหรับประชาชน ที่มีสถานภาพสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้และความสัมพันธ์กับนายกเทศมนตรีต่างกัน มี ความคาดหวังที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ พระจํารัส ฐิตธมฺโม (สวาส โพธิ์กลาง) ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริส ธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชน กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร” ผลการวิจัยพบว่า๔๔ ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร โดยรวม อยู่ใน ระดับมากค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๘๐ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ ในระดับมาก การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร โดยจําแนกตามปัจจัย ส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีสถานภาพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร แตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ และบุคคลที่มีอายุอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้ หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนประชาชนที่มี เพศ ระดับการศึกษา รายได้รวมต่อเดือนต่างกัน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้ ๔๓ พรเพชร์สุดถิ่น, “คุณลักษณะที่คาดหวังของนายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้าอําเภอเกาะ จันทร์จังหวัดชลบุรี”, วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาเศรษฐศาสตร์การเมืองและการบริหารจัดการ, (คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๕๕). ๔๔ พระจํารัส ฐิตธมฺโม (สวาสโพธิ์กลาง), “การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการ ชุมชน กรณีศึกษาชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร”, วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๕).


๓๙ ชนนาถ เจริญรักษ์ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนต่อผลการปฏิบัติงาน ของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี” ผลการวิจัยพบว่า๔๕ ความคิดเห็นของ ประชาชนต่อผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีทั้ง ๖ ด้าน ใน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อแยกเป็นรายด้านอันดับแรกคือด้านโครงสร้างพื้นฐาน รองลงมาคือ ด้าน การพัฒนาแหล่งน้ํา ด้านคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างสังคมให้เข้มแข็ง ด้านทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม ด้านการปกครองและการบริหารจัดการที่ดีและด้านเศรษฐกิจพอเพียงและยั่งยืน เป็น อันดับสุดท้าย ผลการทดสอบสมมติฐานเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อผลการ ปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีจําแนกตามคุณลักษณะส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุระดับการศึกษาและรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีความคิดเห็นต่อผลการ ปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธ สมมติฐานการวิจัย ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ของประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว” ผลการวิจัยพบว่า๔๖ ๑) คุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ใน ภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ คุณลักษณะ ด้านงาน มีคําเฉถี่ยอยู่ในระดับปานกลาง คุณลักษณะด้านจิตใจ มีค่าเฉถี่ยอยู่ในระดับปานกลาง คุณลักษณะทางกาย มีค่าเฉถี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และ คุณลักษณะด้านสังคม มีค่าเฉถี่ยอยู่ใน ระดับปานกลาง ส่วนด้านที่มีคําเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ คุณลักษณะทางสติปัญญา มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ ปานกลาง ตามลําคับ ๒) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต อําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลพบว่า ประชาชนที่มีอาชีพและ รายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ในเขตอําเภออรัญประเทศแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ส่วนประชาชนที่มีเพศ อายุสถานภาพสมรส และระดับการศึกษาที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนัก การ เมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตอําเภออรัญประเทศ ไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติที่ .๐๕ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ตามทัศนะของประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” ผลการวิจัยพบว่า๔๗ ๑) ความ ๔๕ ชนนาถ เจริญรักษ์, “ความคิดเห็นของประชาชนต่อผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี”, วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต, (วิทยาลัยการบริหารรัฐกิจ: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๕๖). ๔๖ ไชโย ขนบบวรกุล, “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภอ อรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว”, งานนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, (คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์: มหาวิทยาลัย บูรพา, ๒๕๕๗). ๔๗ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล, “คุณลักษณะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามทัศนะของ ประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่”, วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, (มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา, ๒๕๕๘).


๔๐ คิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคุณลักษณะของผู้นําทางการเมืองที่พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชน ตําบลเหมืองแก้ว อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยรวมทั้ง ๔ ด้าน อยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็น รายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยเรียงตามลําดับจากมากไปหาน้อย ได้แก่ด้านความรู้ความสามารถ มี ค่าแปลผลอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือ ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านสติปัญญาและ ด้านบุคลิกภาพ มี ค่าแปลผลอยู่ในระดับมากตามลําดับ ๒) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหา ดังนั้น ผู้นําทางการเมืองท้องถิ่น พัฒนาท้องถิ่นให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีเศรษฐกิจดีเกิดความอุดมสมบูรณ์โจรผู้ร้ายก็อาจลดลงได้ และหายจาท้องถิ่นไปในที่สุด ควรศึกษาจากประสบการณ์ของผู้นําที่ประสบความสําเร็จเพื่อศึกษาถึง แนวคิด กระบวนการ ขั้นตอน ในการทํางานให้ประสบความสําเร็จเพื่อนํามาพัฒนาท้องถิ่นของตนเอง ให้เจริญก้าวหน้า ๓) แนวทางแก้ไขปัญหา ผู้นําท้องถิ่นควรพัฒนาคุณลักษณะในด้านสติปัญญา บุคลิกภาพ ความสามารถและคุณธรรมจริยธรรมให้เหมาะสมกับบทบาทของการเป็นผู้นําที่ดีและ พัฒนาศักยภาพของตนเองให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนในท้องถิ่น และสร้างความเชื่อมั่นให้กับ ประชาชนในพื้นที่๔) ควรส่งเสริมให้แสดงออกต่อหน้าชุมชนมากขึ้น ควรส่งเสริมให้ชุมชนได้เสนอ ความคิดเห็นใหม่ๆ ควรติดตามข่าวสารทางการเมืองให้ทันเหตุการณ์ตลอดเวลา ควรส่งเสริมให้มี กระบวนการตรวจสอบการทํางานมากขึ้น ไพสิน นกศิริได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชน ในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว” ผลการวิจัยพบว่า๔๘ ๑) คุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว พบว่า คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลตําบลคลอง หาด จังหวัดสระแก้ว ในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ามีค่าคะแนน เฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือคุณลักษณะด้านสังคม รองลงมาคือ คุณลักษณะทางสติปัญญา คุณลักษณะด้านงาน คุณลักษณะด้านจิตใจ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือคุณลักษณะทางกาย ตามลําดับ ๒) ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว จําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุสถานภาพการสมรส ระดับการศึกษา และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่าง กัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ไม่แตกต่างกัน ที่ระดับ นัยสําคัญทางสถิติที่ .๐๕ อัญธิชา มั่นคง ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรีเทศบาลตําบลเกาะ คา อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง” ผลการวิจัยพบว่า๔๙ ระดับคะแนนภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรี ๔๘ ไพสิน นกศิริ, “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาล ตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว”, วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, (คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๕๘). ๔๙ อัญธิชา มั่นคง, “ภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรีเทศบาลตําบลเกาะคา อําเภอเกาะคา จังหวัด ลําปาง”, การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ครั้งที่๒, “งานวิจัยเพื่อพัฒนาท้องถิ่น” ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราชสมบัติ๖๐ ปีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์, (๒๕๕๙): ๙๐๖-๙๑๔.


๔๑ คิดเป็นร้อยละ ๘๒.๘๐ โดยมีภาวะผู้นํานายกเทศมนตรีด้านการใช้ภาวะผู้นํา มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับ มาก ภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรีด้านคุณลักษณะ มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับมาก ภาวะผู้นําของ นายกเทศมนตรีด้านการจูงใจ มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับมาก ภาวะผู้นํานายกเทศมนตรีด้านการตัดสินใจ มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับมาก ภาวะผู้นํานายกเทศมนตรีด้านการกําหนดนโยบาย มีภาวะผู้นําอยู่ใน ระดับมาก ภาวะผู้นํานายกเทศมนตรีด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับมาก และภาวะผู้นํานายกเทศมนตรีด้านการควบคุมการปฏิบัติงาน มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับมาก ธีระศักดิ์บึงมุม และคณะ๕๐ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาบุคลากรตามหลักสัปปุริส ธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔” ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาบุคลากรตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔ โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้านพบว่า ธัมมัญญุตา (ด้าน การฝึกอบรม) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ อัตถัญญุตา (ด้านการศึกษาดูงาน) อยู่ในระดับมาก และน้อยที่สุดคือ ปริสัญญุตา (ด้านการสับเปลี่ยนหมุนเวียน)การเปรียบเทียบการพัฒนาบุคลากรตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต ๔ เมื่อจําแนกตามสถานภาพของบุคลากร และขนาดสถานศึกษา ทั้ง ๗ ด้าน พบว่ามี ความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ วัชรีพรรณ จันทร์หอม ได้ทําการวิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการบริหารที่ส่งผลต่อวิสัยทัศน์ ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงราย” ผลการวิจัยพบว่า๕๑ ๑) พฤติกรรมการบริหารของ ผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงรายเมื่อพิจารณาในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และ เมื่อพิจารณารายด้านเรียงลําดับจากมากไปหาน้อย คือ แบบพฤติกรรมการบริหารการเปลี่ยนแปลง แบบพฤติกรรมทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์และแบบพฤติกรรมผู้นําทางวิชาการ ตามลําดับ ๒) วิสัยทัศน์ ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงราย เมื่อพิจารณาในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้านเรียงลําดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ด้านการ เผยแพร่วิสัยทัศน์และด้านการสร้างวิสัยทัศน์และ ๓) พฤติกรรมการบริหารที่ส่งผลต่อวิสัยทัศน์ของ ผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงราย คือ พฤติกรรมผู้นําทางวิชาการ พฤติกรรมทักษะด้าน มนุษย์สัมพันธ์และพฤติกรรมการบริหารการเปลี่ยนแปลง ๕๐ ธีระศักดิ์บึงมุม และคณะ, “การพัฒนาบุคลากรตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔”, วิชาการมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, ปีที่๖ ฉบับที่๑ (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๐): ๔๙-๖๐. ๕๑ วัชรีพรรณ จันทร์หอม, “พฤติกรรมการบริหารที่ส่งผลต่อวิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงเรียนขยาย โอกาส จังหวัดเชียงราย”, Veridian E-Journal,Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ, ปีที่๑๐ ฉบับที่๑ (มกราคม-เมษายน ๒๕๖๐): ๑๒๙๕-๑๓๐๔.


๔๒ สุคนธ์เถาทอง ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขต เทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา”๕๒ ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็น ต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัด สงขลา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า คุณลักษณะด้านคุณธรรมและ จริยธรรมมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา คือ คุณลักษณะด้านภาวะผู้นําและด้านคุณลักษณะด้านวิสัยทัศน์ และคุณลักษณะด้านเฉพาะส่วนบุคคล มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน และการเปรียบเทียบความคิดเห็นของ ประชาชนต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังจําแนกตาม ปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุระดับการศึกษา รายได้ (ต่อเดือน) ที่ต่างกันมีความ คิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังแตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนประชาชนที่มีอาชีพและระยะเวลาการอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างกันมี ความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังไม่แตกต่าง กันการศึกษาความพึงพอใจและความคิดเห็นของประชาชนในความต้องการนายกเทศมนตรีที่พึง ประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง จากการศึกษาพบว่า ประชาชนมีความต้องการนายกเทศมนตรีที่ มีคุณธรรมและจริยธรรมมากที่สุด สุชานุช พันธนียะ และคณะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ พึงประสงค์ในทัศนะของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง” ผลการวิจัยพบว่า๕๓ ๑) ระดับความ คิดเห็นของประชาชนในเขตเทศบาลนครตรังจังหวัดตรัง ที่มีต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ พึงประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยด้านคุณธรรมและจริยธรรมมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมา ด้านบุคลิกภาพ ด้านประสบการณ์ในการทํางาน และด้านการบริหารกับด้านวิสัยทัศน์มีค่าเฉลี่ย เท่ากัน ๒) ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรังที่มีอายุระดับการศึกษาสูงสุด และรายได้ต่อ เดือนที่แตกต่างกันจะมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคญทางสถั ิติที่ระดับ .๐๕ วีณา พึงวิวัฒน์นิกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อพฤติกรรม ของนักการเมืองท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีศึกษาภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้” ผลการวิจัยพบว่า๕๔ ประชาชนที่มีภูมิหลังด้านอายุระดับการศึกษา อาชีพ และภูมิภาคที่แตกต่างกันจะมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นแตกต่างกันอย่างมี ๕๒ สุคนธ์เถาทอง, “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอ หาดใหญ่จังหวัดสงขลา”, วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, ๒๕๖๑). ๕๓ สุชานุช พันธนียะ และคณะ, “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในทัศนะของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง”, วารสารสถาบันพระปกเกล้า, ปีที่๑๘ ฉบับที่๓ (กันยายน-ธันวาคม ๒๕๖๓): ๑๗-๒๕. ๕๔ วีณา พึงวิวัฒน์นิกุล, “ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีศึกษาภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลางและภาคใต้”, วารสารการเมือง การบริหาร และกฎหมาย, ปีที่๑๒ ฉบับที่๑ (๒๕๖๓): ๖๓-๙๒.


๔๓ นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ยกเว้นด้านเพศไม่แตกต่างกัน อย่างไม่มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนคุณสมบัติคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่น และสาเหตุการคอร์รัปชั่นส่งผลต่อ พฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ และประชาชนในแต่ละภาคมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นโดยภาพรวมอยู่ ในระดับมากรวมทั้งงานวิจัยนี้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับคุณสมบัติคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่คือ ความซื่อสัตย์ซึ่งเป็นจริยธรรมที่นักการเมือง ท้องถิ่นจะต้องมี พระยุรนันท์ภทฺทธมฺโม และคณะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การบริหารงานตามหลักสัปปุริส ธรรม ๗ ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านวัง อําเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา” ผลการวิจัย พบว่า๕๕ ๑) การบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ปัจจัยการบริหาร โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก และการบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ อยู่ในระดับมาก ๒) ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยด้านการบริหารกับหลักสัปปุริสธรรม ๗ ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านวัง อําเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา โดยภาพรวม มีโดยมีระดับความสัมพันธ์เชิงบวกกันข้อเสนอแนะ องค์การบริหาร ส่วนตําบลต้องพัฒนาและจัดองค์กรที่ทันสมัย ให้สอดคล้องกับยุคที่มีความเจริญก้าวหน้าทาง เทคโนโลยีซึ่งยังขาดการประชาสัมพันธ์ที่มีความรวดเร็วให้ประชาชนได้เข้าถึงอย่างรวดเร็ว และ องค์กรต้องได้รับข่าวสารจากประชาชนอย่างรวดเร็ว ในทุกเหตุการณ์องค์การบริหารส่วนตําบล ตารางที่๒.๗ สรุปงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปแนวคิดงานวิจัยทเกี่ี่ยวข้อง สมศักดิ์หทยานนทั ์. คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อ การตัดสินใจเลอกตื ั้งสมาชิกสภาเทศบาลของ ประชาชนในเขตเทศ บาลตาบลคลองแงะอํ ําเภอ สะเดาจังหวัดสงขลา. คุณลักษณะทพี่ึงประสงค์ในด้านต่าง ๆ ของ ประชาชนที่มีเพศ ศาสนา และอาชีพต่างกัน มี การตัดสินใจไม่แตกต่างกัน ด้านสถานภาพ อายุ ระดับการศึกษาและรายได้ต่อเดือนแตกต่างกัน มี การตัดสินใจแตกต่างกัน รณกฤต ทะนิตะ๊. คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่น ตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาล เมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์. ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะนักการเมือง ท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขต เทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความรู้ความสามารถและด้านบุคลิกภาพ อยู่ ในระดับมาก ส่วนด้านอื่น ๆ อยู่ในระดับปาน กลาง โดยเรียงจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงไปหาต่ําได้ ๕๕ พระยุรนันท์ภทฺทธมฺโม และคณะ, “การบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ขององค์การบริหาร ส่วนตําบลบ้านวัง อําเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา”, วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, ปีที่ ๗ ฉบับที่๔ (เมษายน ๒๕๖๔).


๔๔ นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปแนวคิดงานวิจัยทเกี่ี่ยวข้อง ดังนี้ด้านความรู้ความสามารถ ด้านบุคลิกภาพ ด้านการปฏิบัติงานและด้านธรรมาภิบาล ตามลําดับ ธวัชชัย วงศ์ลังฮะ. คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นในอุดมคติ : กรณีศึกษา ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ. ผลการศึกษาพบว่าความคิดเห็นของประชาชนที่มี ต่อคุณลักษณะโดยรวมของประชาชนโดยรวมอยู่ ในระดับสูง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านสมรรถนะ อยู่ในระดับสูงมาก รองลงมา ได้แก่ด้านจริยธรรม ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง และด้านสังคม ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง ด้าน ความสําเร็จเป็นด้านมีมีระดับความคิดเห็นอยู่ใน ระดับปานกลาง พรเพชร์สุดถิ่น. คุณลักษณะที่คาดหวังของ นายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้าอําเภอ เกาะจันทร์จังหวัดชลบุรี. ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะที่คาดหวังของ นายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอ เกาะจันทร์จังหวัดชลบุรีพบว่า ด้านบุคลิกภาพ ประชาชนมีความคาดหวังอยู่ในระดับมาก ด้าน ความรู้ความสามารถ ประชาชนมีความคาดหวัง อยู่ในระดับมาก คุณลักษณะด้านสังคม ประชาชนมีความคาดหวังอยู่ในระดับมาก และ คุณลักษณะด้านกายภาพ พระจํารัส ฐิตธมฺโม(สวาส โพธิ์กลาง). การ ประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหาร จัดการชุมชน กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร. ผลการวิจัยพบว่าประชาชนมีความคิดเห็นต่อการ ประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหาร จัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อ พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนมีความ คิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากทุกข้อ ชนนาถ เจริญรักษ์. ความคิดเห็นของประชาชน ต่อผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี. ผลการวิจัยพบว่าความคิดเห็นของประชาชนต่อ ผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีจาแนกตามํ คุณลักษณะส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุระดับการศึกษาและรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีความคิดเห็นต่อผลการปฏิบัติงานของเทศบาล ตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีไม่ แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย ไชโย ขนบบวรกุล. คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภอ ผลการวิจัยพบว่าคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภอ


๔๕ นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปแนวคิดงานวิจัยทเกี่ี่ยวข้อง อรัญประเทศจงหวั ัดสระแก้ว. อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว จําแนกตามปัจจัย ส่วนบุคคลพบว่า ประชาชนที่มีอาชีพและรายได้ เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ในเขตอําเภออรัญประเทศแตกต่างกัน อย่างมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ส่วนประชาชนที่มี เพศ อายุสถานภาพสมรส และระดับการศึกษาที่ แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนัก การ เมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตอําเภออรัญ ประเทศ ไม่แตกต่างกันที่ระดับนัยสําคัญทางสถิติ ที่ .๐๕ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล. คุณลักษณะผู้นําทาง การเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามทัศนะของ ประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. ผลการวิจัยพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่มี ต่อคุณลักษณะของผู้นําทางการเมืองที่พึง ประสงค์ตามทัศนะของประชาชนตําบลเหมือง แก้ว อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยรวมทั้ง ๔ ด้าน อยู่ในระดับมากเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยเรียงตามลําดับจากมากไป หาน้อย ได้แก่ด้านความรู้ความสามารถ ด้าน คุณธรรมจริยธรรม ด้านสติปญญาและัด้าน บุคลิกภาพ ไพสิน นกศิริ. คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขต เทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว. ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขต เทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว พบว่า ภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็น รายด้านพบว่ามีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับปาน กลางทุกด้าน โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ คุณลักษณะด้านสังคม รองลงมาคือ คุณลักษณะ ทางสติปัญญา คุณลักษณะด้านงาน คุณลักษณะ ด้านจิตใจ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คอื คุณลักษณะทางกาย ตามลําดับ อัญธิชา มั่นคง. ภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรี เทศบาลตําบลเกาะคา อําเภอเกาะคา จังหวัด ลําปาง. ผลการวิจัยพบว่า ระดับคะแนนภาวะผู้นําของ นายกเทศมนตรีโดยมีภาวะผู้นํานายกเทศมนตรี ด้านการใช้ภาวะผู้นํา มีภาวะผู้นําอยู่ในระดับมาก ธีระศักดิ์บึงมุมและคณะ. การพัฒนาบุคลากร ตามหลักสัปปรุิสธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้น ผลการวิจัยพบว่าการพัฒนาบุคลากรตามหลกั สัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาประถมศึกษา


๔๖ นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปแนวคิดงานวิจัยทเกี่ี่ยวข้อง ฐานสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต ๔. ขอนแก่น เขต ๔ โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ใน ระดับมาก เมื่อพิจารณาในแต่ละด้านพบว่า ธัมมัญญุตา (ด้านการฝึกอบรม) อยู่ในระดับมาก ที่สุด รองลงมาคือ อัตถัญญุตา (ด้านการศึกษาดู งาน) อยู่ในระดับมาก และนอยท้ ี่สุดคือ ปรสิัญญุ ตา (ด้านการสับเปลี่ยนหมุนเวียน) วัชรีพรรณ จันทร์หอม. พฤตกรรมการบริ ิหารที่ ส่งผลต่อวิสัยทศนั ์ของผู้บริหารโรงเรียนขยาย โอกาส จังหวัดเชียงราย. ผลการศึกษาพบว่า วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร โรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงราย เมื่อ พิจารณาในภาพรวมมีค่าเฉลยอยีู่่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้านเรียงลําดับจากมากไป หาน้อย คือ ด้านการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ด้านการ เผยแพร่วิสัยทศนั ์และด้านการสร้างวิสัยทัศน์ สุคนธ์เถาทอง, คุณลักษณะของนายกเทศมนตรี ที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอ หาดใหญ่จังหวัดสงขลา. ความคิดเห็นของประชาชนต่อคุณลักษณะของ นายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมือง ควนลังจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุระดับการศึกษา รายได้ (ต่อเดือน) ที่ต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณ ลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึ่งประสงค์ในเขต เทศบาลเมืองควนลังแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญ ทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ สุชานุช พันธนียะและคณะ. คุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในทัศนะของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง. ผลการศึกษาพบว่า ระดับความคิดเห็นของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง จังหวัดตรัง ที่มี ต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยด้าน คุณธรรมและจริยธรรมมีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมาด้านบุคลิกภาพ ด้านประสบการณ์ใน การทํางาน และด้านการบริหารกับด้านวิสัยทัศน์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากนั วีณา พึงวิวัฒน์นิกุล. ความคิดเห็นของประชาชน ที่มีต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นใน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรณีศึกษาภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือภาคกลางและภาคใต้. ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนที่มีภูมิหลังด้านอายุ ระดับการศึกษาอาชีพ และภูมิภาคที่แตกต่างกัน จะมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมือง ท้องถิ่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิตทิี่ ระดับ ๐.๐๕ ยกเว้นด้านเพศไม่แตกต่างกัน อย่าง ไม่มีนัยสําคญทางสถั ิติที่ระดับ ๐.๐๕


๔๗ นักวิชาการหรอแหลื ่งข้อมูล สรุปแนวคิดงานวิจัยทเกี่ี่ยวข้อง พระยุรนันท์ภทฺทธมฺโมและคณะ. การบริหาร งานตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ขององค์การบริหาร ส่วนตําบลบ้านวัง อําเภอโนนไทย จังหวัด นครราชสีมา ผลการวิจัยพบว่า ๑) การบรหารงานตามหลิ ักสัป ปุริสธรรม ๗ ปจจั ัยการบริหารโดยภาพรวม อยู่ ในระดับมากและการบริหารงานตามหลักสัปปุริส ธรรม ๗ อยในระดู่ ับมาก ๒.๘ กรอบแนวคิดในการวิจัย งานวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น” ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิด และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยกําหนดกรอบแนวคิดการ วิจัย (Con ceptual Framework) ประกอบด้วยตัวแปรต้น (Independent Variables) และตัวแปร ตาม (Dependent Variables) ดังนี้ ตัวแปรต้น (Independent Variables) คือ ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบ แบบสอบถามได้แก่เพศ อายุระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่นและคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่นตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ตัวแปรตาม (Dependent Variables) คือ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นประกอบด้วย ๖ ด้าน ดังนี้๑) ด้านความรู้ ความสามารถ ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์๔) ด้านความเป็นผู้นํา ๕) ด้าน อุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน๕๖ ๖) ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมดังแผนภาพที่๒.๑ ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม (Independent Variables) (Dependent Variables) แผนภาพที่๒.๑ กรอบแนวคดในการว ิ ิจัย ๕๖ สาโรช บัวศรี, จริยธรรมศึกษา, (กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๒๖), หน้า ๑๔. - เพศ - อายุ - ระดับการศึกษา - อาชีพ - รายได้เฉลี่ยตอเด่ ือน ๑) ด้านความรความสามารถู้ ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์ ๔) ด้านความเป็นผู้นํา ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ๖) ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตาม หลักสัปปุริสธรรม


บทที่๓ วิธีดําเนินการวิจัย งานวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น” เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) โดยใช้วิธี การศึกษาด้วยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research) และวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative research) ซึ่งผู้วิจัยได้กําหนดวิธีการดําเนินการวิจัยตามลําดับ ๕ ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ ๓.๑ รูปแบบการวิจัย ๓.๒ ประชากร กลุ่มตัวอย่างและผู้ให้ข้อมูลสําคัญ ๓.๓ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ๓.๔ การเก็บรวบรวมข้อมูล ๓.๕ การวิเคราะห์ข้อมูล ๓.๑ รูปแบบการวิจัย งานวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น”เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) ซึ่งใช้การวิจัยทั้ง การวิจัย ในเชิงปริมาณ(Quantitative research) และการวิจัยในเชิงคุณภาพ (Qualitative research) เพื่อการวิเคราะห์มีความครอบคลุมรอบด้าน ๓.๒ ประชากร กลุ่มตัวอย่าง และผู้ให้ข้อมูลสําคัญ ๓.๒.๑ ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ๑) ประชากร (Population) ได้แก่ ประชาชนทั่วไป ที่มีสิทธิเลือกตั้งที่อาศัยอยู่ใน เขตเทศบาลนครขอนแก่นจํานวน ๙๑,๖๕๐ คน๑ ๒) กลุ่มตัวอย่าง ๒.๑ การคํานวณขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมสําหรับใช้ในการวิจัย โดยใช้สูตรของ ทาโร่ยามาเน่ (Taro Yamane) ทําการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified random sampling) โดย เลือก ๑ สํานักทะเบียนเทศบาลนครขอนแก่น, สถิติประชากร, (เอกสารอัดสําเนา).


๔๙ จากผู้นํา บุคลากร และประชาชนทั่วไปที่มีมีสิทธิเลือกตั้งที่อาศัยในเขตเทศบาล นครขอนแก่นซึ่งจะทําการสุ่มตัวอย่างแบบสัดส่วนดังต่อไปนี้ ๒ จากสูตร เมื่อ n = ขนาดกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการ N = ขนาดของประชากร e = ความคลาดเคลื่อนของการสุ่มตัวอย่างที่ยอมรับได้ แทนค่าจากสูตร ๒ สุรพล พรมกุล, ระเบียบวิจัยทางรัฐศาสตร์, พิมพ์ครั้งที่๑, (กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์, ๒๕๕๔), หน้า ๗๙.


๕๐ ตารางที่๓.๑ การสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ ชั้นภูมิ ประชากรในหมู่บ้าน จํานวน ประชากร ชาย จํานวน ประชากร หญิง จํานวน ประชากร รวมทั้งหมด สูตร ขนาดกลุ่ม ตัวอย่าง (n) รายการข้อมูลชุมชนเขต ๑ ๑ โนนชัย ๑ ๕๑๖ ๖๕๘ ๑,๑๗๔ ๔๐๐ × ๑,๑๗๔ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๒ โนนชัย ๒ ๔๕๓ ๖๕๒ ๑,๑๐๕ ๔๐๐ × ๑,๑๐๕ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๓ โนนชัย ๓ ๓๒๖ ๓๙๑ ๗๑๗ ๔๐๐ × ๗๑๗ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๔ ดอนหญ้านาง ๑ ๕๐๗ ๕๘๕ ๑,๐๙๒ ๔๐๐ × ๑,๐๙๒ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๕ ดอนหญ้านาง ๒ ๗๙๐ ๘๖๐ ๑,๖๕๐ ๔๐๐ × ๑,๖๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๗ ๖ ดอนหญ้านาง ๓ ๕๔๐ ๔๒๐ ๙๖๐ ๔๐๐ × ๙๖๐ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๗ หลังศูนย์ราชการ ๑ ๖๖๒ ๕๘๓ ๑,๒๔๕ ๔๐๐ × ๑,๒๔๕ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๘ หลังศูนย์ราชการ ๒ ๒๓๐ ๒๗๒ ๕๐๒ ๔๐๐ × ๕๐๒ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๙ เทพารักษ์๑ ๒๕๙ ๓๑๐ ๕๖๙ ๔๐๐ × ๕๖๙ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๑๐ เทพารักษ์๒ ๒๗๐ ๓๒๐ ๕๘๐ ๔๐๐ × ๕๘๐ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๑๑ เทพารักษ์๓ ๑๗๓ ๒๓๗ ๔๑๐ ๔๐๐ × ๔๑๐ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๑๒ เทพารักษ์๔ ๑๖๐ ๒๐๙ ๓๖๙ ๔๐๐ × ๓๖๙ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๑๓ เทพารักษ์๕ ๑๕๐ ๒๑๐ ๓๖๐ ๔๐๐ × ๓๖๐ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๑๔ พัฒนาเทพารักษ์๒๑๐ ๒๗๐ ๔๘๐ ๔๐๐ × ๔๘๐ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๑๕ เจ้าพ่อเกษม ๓๒๙ ๓๗๒ ๗๐๑ ๔๐๐ × ๗๐๑ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๑๖ เจ้าพ่อทองสุก ๖๒๐ ๘๓๐ ๑,๔๕๐ ๔๐๐ × ๑,๔๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๑๗ บขส. ๑๙๓ ๒๑๘ ๔๐๙ ๔๐๐ × ๔๐๙ ๙๑,๖๕๐ ๒


๕๑ ชั้นภูมิ ประชากรในหมู่บ้าน จํานวน ประชากร ชาย จํานวน ประชากร หญิง จํานวน ประชากร รวมทั้งหมด สูตร ขนาดกลุ่ม ตัวอย่าง (n) รายการข้อมูลชุมชนเขต ๒ ๑๘ หนองใหญ่๑ ๓๗๑ ๔๘๓ ๘๕๔ ๔๐๐ × ๘๕๔ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๑๙ หนองใหญ่๒ ๕๕๓ ๕๙๒ ๑,๑๔๕ ๔๐๐ × ๑,๑๔๕ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๒๐ หนองใหญ่๓ ๓๖๙ ๕๑๖ ๘๘๕ ๔๐๐ × ๘๘๕ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๒๑ หนองใหญ่๔ ๑๕๐ ๑๔๐ ๒๕๐ ๔๐๐ × ๒๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๑ ๒๒ ธารทิพย์๒๙๗ ๕๗๘ ๘๗๕ ๔๐๐ × ๘๗๕ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๒๓ บะขาม ๕๒๔ ๕๖๘ ๑,๐๙๒ ๔๐๐ × ๑,๐๙๒ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๒๔ ศรีจันทร์ประชาฯ ๓๖๙ ๖๕๔ ๑,๐๒๓ ๔๐๐ × ๑,๐๒๓ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๒๕ นาคะปะเวศน์๔๘๐ ๖๑๒ ๑,๐๙๒ ๔๐๐ × ๑,๐๙๒ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๒๖ ชัยณรงค์สามัคคี๕๐๐ ๗๐๐ ๑,๒๐๐ ๔๐๐ × ๑,๒๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๒๗ คุ้มพระลับ ๖๙๖ ๑,๑๔๙ ๑,๘๔๕ ๔๐๐ × ๑,๘๔๕ ๙๑,๖๕๐ ๘ ๒๘ หลักเมือง ๒๘๐ ๓๔๔ ๖๒๔ ๔๐๐ × ๖๒๔ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๒๙ ทุ่งเศรษฐี ๓๗๒ ๔๖๑ ๘๓๓ ๔๐๐ × ๘๓๓ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๓๐ มิตรสัมพันธ์๑ ๒๗๔ ๓๒๔ ๕๙๘ ๔๐๐ × ๕๙๘ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๓๑ มิตรสัมพันธ์๒ ๓๒๙ ๕๗๑ ๙๐๐ ๔๐๐ × ๙๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๓๒ โพธิบัลลังก์ทอง ๓๑๕ ๗๑๕ ๑,๐๓๐ ๔๐๐ × ๑,๐๓๐ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๓๓ บ้านพัก ต.ช.ด. ๑๘๔ ๘๒ ๒๖๖ ๔๐๐ × ๒๖๖ ๙๑,๖๕๐ ๑ ๓๔ ทุ่งสร้างพัฒนา ๕๔๙ ๘๕๑ ๑,๔๐๐ ๔๐๐ × ๑,๔๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๓๕ ศิริมงคล ๖๔๗ ๕๙๕ ๑,๒๔๒ ๔๐๐ × ๑,๒๔๒ ๙๑,๖๕๐ ๕


๕๒ ชั้นภูมิ ประชากรในหมู่บ้าน จํานวน ประชากร ชาย จํานวน ประชากร หญิง จํานวน ประชากร รวมทั้งหมด สูตร ขนาดกลุ่ม ตัวอย่าง (n) ๓๖ ศรีจันทร์พัฒนา ๒๕๕ ๓๗๕ ๖๓๐ ๔๐๐ × ๖๓๐ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๓๗ หน้า ร.พ.ศูนย์๘๐๓ ๑,๒๔๓ ๒,๐๔๖ ๔๐๐ × ๒,๐๔๖ ๙๑,๖๕๐ ๙ ๓๘ บ้านเลขที่๓๗ ๒๒๙ ๑๙๑ ๔๒๐ ๔๐๐ × ๔๒๐ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๓๙ หัวสะพาน ๙๕ ๑๗๕ ๒๙๐ ๔๐๐ × ๒๙๐ ๙๑,๖๕๐ ๑ ๔๐ ชลประทาน ๓๔๙ ๖๐๙ ๙๕๘ ๔๐๐ × ๙๕๘ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๔๑ เจ้าพ่อขุนภักดี๓๓๖ ๒๒๘ ๕๖๔ ๔๐๐ × ๕๖๔ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๔๒ ธนาคร ๓๐๐ ๔๑๔ ๗๑๔ ๔๐๐ × ๗๑๔ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๔๓ คุ้มหนองคู๕๔๔ ๕๗๒ ๑,๑๑๖ ๔๐๐ × ๑,๑๑๖ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๔๔ ศรีจันทร์๓๑๗ ๓๘๑ ๖๙๘ ๔๐๐ × ๖๙๘ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๔๕ ตรีเทพนครขอนแก่น ๒๑๖ ๒๒๑ ๔๓๗ ๔๐๐ × ๔๓๗ ๙๑,๖๕๐ ๒ รายการข้อมูลชุมชนเขต ๓ ๔๖ บ้านตูม ๘๕๘ ๑,๐๘๙ ๑,๙๕๖ ๔๐๐ × ๑,๙๕๖ ๙๑,๖๕๐ ๙ ๔๗ โนนทัน ๑ ๗๑๙ ๘๓๕ ๑,๕๕๔ ๔๐๐ × ๑,๕๕๔ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๔๘ โนนทัน ๒ ๖๔๐ ๘๓๐ ๑,๔๗๐ ๔๐๐ × ๑,๔๗๐ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๔๙ โนนทัน ๓ ๗๔๑ ๑,๖๓๒ ๒,๓๗๓ ๔๐๐ × ๒,๓๗๓ ๙๑,๖๕๐ ๑๐ ๕๐ โนนทัน ๔ ๕๔๗ ๖๒๕ ๑,๑๗๒ ๔๐๐ × ๑,๑๗๒ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๕๑ โนนทัน ๕ ๔๐๖ ๔๓๒ ๘๓๘ ๔๐๐ × ๘๓๘ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๕๒ โนนทัน ๖ ๕๕๐ ๖๘๔ ๑,๒๓๔ ๔๐๐ × ๑,๒๓๔ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๕๓ โนนทัน ๗ ๖๘๗ ๘๑๗ ๑,๕๐๔ ๔๐๐ × ๑,๕๐๔ ๙๑,๖๕๐ ๖


๕๓ ชั้นภูมิ ประชากรในหมู่บ้าน จํานวน ประชากร ชาย จํานวน ประชากร หญิง จํานวน ประชากร รวมทั้งหมด สูตร ขนาดกลุ่ม ตัวอย่าง (n) ๕๔ โนนทัน ๘ ๓๑๒ ๓๕๒ ๖๖๔ ๔๐๐ × ๖๖๔ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๕๕ โนนทัน ๙ ๒๒๐ ๔๕๓ ๖๗๓ ๔๐๐ × ๖๗๓ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๕๖ หนองแวงเมืองเก่า ๑ ๕๑๐ ๕๙๐ ๑,๑๐๐ ๔๐๐ × ๑,๑๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๕๗ หนองแวงเมืองเก่า ๒ ๑๘๖ ๒๗๘ ๔๖๔ ๔๐๐ × ๔๖๔ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๕๘ หนองแวงเมืองเก่า ๓ ๓๑๙ ๓๔๕ ๖๖๔ ๔๐๐ × ๖๖๔ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๕๙ หนองแวงเมืองเก่า ๔ ๓๒๖ ๔๙๐ ๘๑๖ ๔๐๐ × ๘๑๖ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๖๐ หลังสนามกีฬา ๑ ๑,๐๐๐ ๙๙๘ ๑,๙๙๘ ๔๐๐ × ๑,๙๙๘ ๙๑,๖๕๐ ๙ ๖๑ หลังสนามกีฬา ๒ ๓๓๒ ๓๔๕ ๖๗๗ ๔๐๐ × ๖๗๗ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๖๑ วัดกลาง ๙๗๕ ๑,๑๗๕ ๒,๑๕๐ ๔๐๐ × ๒,๑๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๙ ๖๒ คุ้มวัดธาตุ๑,๖๖๙ ๑,๐๐๙ ๒,๖๗๘ ๔๐๐ × ๒,๖๗๘ ๙๑,๖๕๐ ๑๑ ๖๓ แก่นนคร ๔๔๕ ๕๑๒ ๙๕๗ ๔๐๐ × ๙๕๗ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๖๔ กศน. ๑๙๘ ๒๙๐ ๔๘๘ ๔๐๐ × ๔๘๘ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๖๕ โนนหนองวัด ๑ ๔๓๒ ๕๑๘ ๙๕๐ ๔๐๐ × ๙๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๖๖ โนนหนองวัด ๒ ๒๗๘ ๔๑๔ ๖๙๒ ๔๐๐ × ๖๙๒ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๖๗ โนนหนองวัด ๓ ๖๔๙ ๘๓๘ ๑,๔๘๗ ๔๐๐ × ๑,๔๘๗ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๖๘ โนนหนองวัด ๔ ๖๒๐ ๖๓๐ ๑,๒๕๐ ๔๐๐ × ๑,๒๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๖๙ หนองวัดพัฒนา ๒๐๗ ๒๙๑ ๔๙๘ ๔๐๐ × ๔๙๘ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๗๐ คุ้มวัดวุฒาราม ๔๓๔ ๖๘๖ ๑,๑๒๐ ๔๐๐ × ๑,๑๒๐ ๙๑,๖๕๐ ๕


๕๔ ชั้นภูมิ ประชากรในหมู่บ้าน จํานวน ประชากร ชาย จํานวน ประชากร หญิง จํานวน ประชากร รวมทั้งหมด สูตร ขนาดกลุ่ม ตัวอย่าง (n) ๗๑ การเคหะ ๓๗๓ ๔๓๐ ๘๐๓ ๔๐๐ × ๘๐๓ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๗๒ เหล่านาดี๑๒ ๑๗๓ ๑๗๘ ๓๕๑ ๔๐๐ × ๓๕๑ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๗๓ พระนครศรีบริรักษ์๑๗๙ ๒๑๓ ๓๙๒ ๔๐๐ × ๓๙๒ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๗๔ พิมานชลร่วมใจ ๑๑๐ ๑๕๐ ๒๖๐ ๔๐๐ × ๒๖๐ ๙๑,๖๕๐ ๑ ๗๕ ๙๕ ก้าวหน้านคร ๑๙๗ ๒๐๗ ๔๐๔ ๔๐๐ × ๔๐๔ ๙๑,๖๕๐ ๒ รายการข้อมูลชุมชนเขต ๔ ๗๖ ศรีฐาน ๑ ๖๙๕ ๘๒๓ ๑,๕๑๘ ๔๐๐ × ๑,๕๑๘ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๗๗ ศรีฐาน ๒ ๖๐๐ ๑๑๐ ๑,๗๐๐ ๔๐๐ × ๑,๗๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๗ ๗๘ ศรีฐาน ๓ ๓๑๒ ๔๗๗ ๗๘๙ ๔๐๐ × ๗๘๙ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๗๙ ศรีฐาน ๔ ๓๐๒ ๒๘๗ ๕๘๙ ๔๐๐ × ๕๘๙ ๙๑,๖๕๐ ๓ ๘๐ เทคโนภาค ๑๙๒ ๓๑๘ ๕๑๐ ๔๐๐ × ๕๑๐ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๘๑ สามเหลี่ยม ๑ ๑,๓๒๕ ๑,๒๖๕ ๒,๕๙๐ ๔๐๐ × ๒,๕๙๐ ๙๑,๖๕๐ ๑๑ ๘๒ สามเหลี่ยม ๒ ๖๑๙ ๖๓๐ ๑,๒๔๙ ๔๐๐ × ๑,๒๔๙ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๘๓ สามเหลี่ยม ๓ ๕๖๖ ๖๑๕ ๑,๑๘๑ ๔๐๐ × ๑,๑๘๑ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๘๔ สามเหลี่ยม ๔ ๔๙๐ ๖๔๐ ๑,๑๓๐ ๔๐๐ × ๑,๑๓๐ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๘๕ สามเหลี่ยม ๕ ๖๔๙ ๗๘๓ ๑,๔๓๒ ๔๐๐ × ๑,๔๓๒ ๙๑,๖๕๐ ๖ ๘๖ ไทยสมุทร ๒๗๐ ๒๓๐ ๕๐๐ ๔๐๐ × ๕๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๘๗ หนองแวงตราชู๑ ๔๐๗ ๔๖๑ ๘๖๘ ๔๐๐ × ๘๖๘ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๘๘ หนองแวงตราชู๒ ๘๐๐ ๓๒๐ ๑,๑๐๐ ๔๐๐ × ๑,๑๐๐ ๙๑,๖๕๐ ๕


๕๕ ชั้นภูมิ ประชากรในหมู่บ้าน จํานวน ประชากร ชาย จํานวน ประชากร หญิง จํานวน ประชากร รวมทั้งหมด สูตร ขนาดกลุ่ม ตัวอย่าง (n) ๘๙ หนองแวงตราชู๓ ๙๐๘ ๑,๐๗๖ ๑,๙๘๔ ๔๐๐ × ๑,๙๘๔ ๙๑,๖๕๐ ๙ ๙๐ หนองแวงตราชู๔ ๑๒๒ ๑๕๒ ๒๗๔ ๔๐๐ × ๒๗๔ ๙๑,๖๕๐ ๑ ๙๑ คุ้มวัดป่าอดุลยาราม ๕๐๕ ๕๖๐ ๑,๐๖๕ ๔๐๐ × ๑,๐๖๕ ๙๑,๖๕๐ ๕ ๙๒ ตะวันใหม่๒๐๖ ๒๔๘ ๔๕๖ ๔๐๐ × ๔๕๖ ๙๑,๖๕๐ ๒ ๙๓ มิตรภาพ ๕๑๐ ๔๗๐ ๙๘๐ ๔๐๐ × ๙๘๐ ๙๑,๖๕๐ ๔ ๙๔ ตลาดต้นตาล ๙๖ ๑๕๔ ๒๕๐ ๔๐๐ × ๒๕๐ ๙๑,๖๕๐ ๑ รวม ๔๑,๙๕๗ ๔๙,๖๙๓ ๙๑,๖๕๐ กลุ่มตัวอย่าง n = ๔๐๐ ๒.๒ วิธีการสุ่มตัวอย่าง เลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นการเลือก ตัวอย่างโดยผู้วิจัยพยายามเก็บตัวอย่างเท่าที่จะทําได้ตามที่มีอยู่หรือได้รับความร่วมมือตัวอย่างที่ได้จึง เป็นกรณีที่บังเอิญหรือยินดีให้ความร่วมมือหรืออยู่ในสถานที่หรือตกอยู่ในสภาวะดังกล่าวตามจํานวน ที่ต้องการ ๓.๒.๒ ผู้ให้ข้อมูลสําคัญ ผู้วิจัยทําการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-dept Interview) และได้กําหนดผู้ให้ข้อมูลสําคัญโดยใช้ วิธีเลือกแบบสุ่ม (Random sampling) จํานวน ๑๐ รูป/คนประกอบด้วย ดังนี้ ๑) พระครูอรรถสารเมธี เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น ๒) พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒ ๓) พระมหาเกรียงศักดิ์ธมฺมวิจาโร,ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ๔) พระประเสริฐศักดิ์รตนญาโณ,ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ ๕) นายวิทยา ภูโยสาร ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น ๖) ดร.วรวุฒิอันปัญญา ผู้อํานวยการโรงเรียนเทศบาล บ้านโนนทัน ๗) นางสาวนันทวัลย์ไกรศรีวรรธนะ ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น ๘) นางกุลิสรา วงค์เครือสร หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการ สํานักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น ๙) นางอัศรา เอกวิเศษ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานัก สวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น ๑๐) ร.อ.สระจิตร สีดาทัน ประธานชุมชนโนนทัน ๑


๕๖ ๓.๓ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย งานวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศ บาลนครขอนแก่น” งานวิจัยฉบับนี้ใช้เครื่องนี้ใช้เครื่องมือในการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) คือ แบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์ (Interview) ๓.๓.๑ แบบสอบถาม (Questionnaire) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้น ตามกรอบของ “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น” โดยแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนดังนี้ ส่วนที่๑ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามส่วน บุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ได้แก่เพศ อายุระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน โดย มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check List) จํานวน ๕ ข้อ ส่วนที่๒ เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยได้กําหนดให้ผู้ที่ตอบแบบสอบถาม ทําเครื่องหมาย () ลงในช่องปริมาณความคิดเห็นที่ผู้ตอบเห็นว่าตรงกับตนเองเพียงระดับเดียวลักษณะของข้อคําถามเป็น แบบมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) ๕ ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อย ที่สุด ประกอบด้วย ๖ ด้านดังนี้ ๑) ด้านความรู้ความสามารถ จํานวน ๗ ข้อ ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม จํานวน ๗ ข้อ ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์ จํานวน ๗ ข้อ ๔) ด้านภาวะความเป็นผู้นํา จํานวน ๗ ข้อ ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน จํานวน ๗ ข้อ ๖) ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม จํานวน ๓๕ ข้อ ๑. ธัมมัญญุตา (ความรู้จักเหตุ) จํานวน ๕ ข้อ ๒. อัตถัญญุตา (ความรู้จักผล) จํานวน ๕ ข้อ ๓. อัตตัญญุตา (ความรู้จักตน) จํานวน ๕ ข้อ ๔. มัตตัญญุตา (ความรู้จักประมาณ) จํานวน ๕ ข้อ ๕. กาลัญญุตา (ความรู้จักกาล) จํานวน ๕ ข้อ ๖. ปริสัญญุตา (ความรู้จักชุมชน) จํานวน ๕ ข้อ ๗. ปุคคลัญญุตา (ความรู้จักบุคคล) จํานวน ๕ ข้อ โดยคําถามในส่วนที่๒ มีลักษณะแบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า (Likert Scale) แบ่งเป็น ๕ ระดับดังนี้


๕๗ ๕ หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มากที่สุด ๔ หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ มาก ๓ หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ ปานกลาง ๒ หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ น้อย ๑ หมายถึง มีความคิดเห็นอยู่ในระดับ น้อยที่สุด การแปลผล เกณฑ์ที่ใช้ในการแปรผลข้อคําถามที่ได้จากการประเมินผล ดังนี้ ช่วงค่าเฉลี่ย การแปรผล และแปรผลของค่าเฉลี่ย โดยใช้เกณฑ์ ๓ ดังนี้ ค่าเฉลี่ย ๔.๕๐ - ๕.๐๐ แปลผลว่า อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ๓.๕๐ – ๔.๔๙ แปลผลว่า อยู่ในระดับมมาก ค่าเฉลี่ย ๒.๕๐ - ๓.๔๙ แปลผลว่า อยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย ๑.๕๐ - ๒.๔๙ แปลผลว่า อยู่ในระดับน้อย ค่าเฉลี่ย ๑.๐๐ - ๑.๔๙ แปลผลว่า อยู่ในระดับน้อยที่สุด ๓.๓.๒ การสร้างแบบสอบถาม (Questionnaire) ผู้วิจัยดําเนินการสร้างแบบสอบถามดังนี้ ๑) ศึกษาหลักการและทฤษฎีศึกษาเอกสาร ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในเขต เทศบาลนครขอนแก่น จากเอกสารและผลงาน การวิจัยที่เคยมีผู้ดําเนินการวิจัยเอาไว้ ๒) กําหนดกรอบแนวคิด ในการสร้างเครื่องมือการวิจัย ๓) กําหนดวัตถุประสงค์ในการสร้างเครื่องมือการวิจัยโดยขอคําปรึกษาจากอาจารย์ ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ๔) สร้างเครื่องมือวิจัยโดยกําหนดให้ประเด็นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ๕) นําเสนอร่างเครื่องมือการวิจัยต่ออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไข ๖) นําเสนอเครื่องมือการวิจัยไปทดลองใช้กับประชากรที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่ม ตัวอย่างประชากรที่จะดําเนินการวิจัยเพื่อหาความเที่ยงตรงของเครื่องมือ ๗) ปรับปรุงแก้ไขเครื่องมือวิจัย ๘) จัดพิมพ์แบบสอบถามฉบับสมบูรณ์และนําไปใช้จริงเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลกับ กลุ่มตัวอย่าง ๓ ชูศรีวงศ์รัตนะ, เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย, พิมพ์ครั้งที่๗, (กรุงเทพมหานคร: เทพเนรมิตร, ๒๕๔๑), หน้า ๗๕.


๕๘ ๙) รวบรวมแบบสอบถาม แล้วนํามาวิเคราะห์ ๓.๓.๓ การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือวิจัย ผู้วิจัยได้นําเสนอแบบสอบถามเพื่อหาคุณภาพแบบสอบถามโดยความเที่ยงตรง (Validity) และความเชื่อมั่น (Reliability) ดังนี้ ๑) ขอคําแนะนําจากอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และผู้เชี่ยวชาญ ตรวจสอบ เครื่องมือที่สร้างไว้ ๒) หาค่าเที่ยงตรง (Validity) โดยกําหนดแบบสอบถามที่สร้างเสร็จเสนอต่อประธาน และกรรมการที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์เพื่อขอความเห็นชอบและนําเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ แล้วนํามา ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทั้ง ๕ ท่าน ประกอบด้วย (๑) พระมหาสําราญ กมฺมสุทฺโธ ผศ.ดร. อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐศาสตร บัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น (๒) ผศ.ดร.วิทยา ทองดีผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไปมหาวิทยาลัยมหาจุฬา ลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น (๓) ผศ.ดร.บุรินทร์ภู่สกุลอาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น (๔) ดร.สุธิพงษ์สวัสดิ์ทา อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น (๕) ดร.สมควร นามสีฐาน กรรมการหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น แล้วนํามาหาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อคําถามและวัตถุประสงค์ (Index of Item Objective Congruence) ซึ่งคํานวณจากสูตร ดังนี้ เมื่อ IOC แทน IOC = ∑R ดัชนีความตรงเชิงเนื้อหา (Index of Item-Objective Congruence) N ∑R แทน ผลรวมของคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ N แทน จํานวนผู้เชี่ยวชาญ กําหนดคะแนนของผู้เชียวชาญเป็น +๑ หรือ ๐ หรือ -๑ ดังนี้ +๑ คือ ถ้าข้อคําถามวัดได้ตรงจุดประสงค์ ๐ คือ ถ้าไม่แน่ใจว่าข้อความนั้นตรงจุดประสงค์หรือไม่ -๑ คือ ถ้าข้อคําถามวัดได้ไม่ตรงจุดประสงค์ ๓) หาความเชื่อมั่นของเครื่องมือ (Reliability) ผู้วิจัยนําแบบสอบถามที่ปรับปรุง แก้ไขแล้วไปทดลองใช้ (Try out) กับกลุ่มตัวอย่างที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยนี้ แต่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างจํานวน ๓๐ คนแล้วนํามาหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามโดยใช้วิธีการ


๕๙ วิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา (Alpha Coeficient) ตามวิธีการของครอนบาค (Cronbach)๔ ได้ค่า ความเชื่อมั่นเท่ากับ .๙๐๘ แสดงให้เห็นว่าแบบสอบถามมีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับสูงสามารถนําไป แจกกับกลุ่มตัวอย่างได้จริง ๔) นําแบบสอบถามที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขเสนอต่ออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ เพื่อขอความเห็นชอบและจัดพิมพ์แบบสอบถามเป็นฉบับสมบูรณ์ในการนําไปใช้แจกกลุ่มตัวอย่างใน การวิจัยต่อไป ๓.๓.๔ แบบสัมภาษณ์ (Interview) ผู้วิจัยได้ดําเนินการสร้างแบบสัมภาษณ์ดังนี้ ๑) ศึกษาวิธีการสร้างแบบสัมภาษณ์ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสาร ตํารา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นแนวทางในการกําหนดกรอบความคิดในการสัมภาษณ์ ๒) ศึกษาแนวคิด ทฤษฎีและเอกสารการวิจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยพิจารณาถึง รายละเอียดต่าง ๆ เพื่อให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการวิจัยที่กําหนดไว้ ๓) ขอคําแนะนําจากอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการสัมภาษณ์ ๔) สร้างแบบสัมภาษณ์ให้ครอบคลุมวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อใช้เป็นเครื่องมือใน การเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) เพื่อนํามาวิเคราะห์ ๓.๔ การเก็บรวบรวมข้อมูล ๓.๔.๑ การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถาม (Questionnaire) ๑) ขอหนังสือจากศูนย์บัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยา เขตขอนแก่นเพื่อขออนุญาตเข้าทําการเก็บข้อมูลกับประชากรกลุ่มตัวอย่างในเขตอําเภอเมืองจังหวัด ขอนแก่น ๒) นําแบบสอบถามที่ผ่านการปรับปรุงแก้ไขแล้วไปเก็บข้อมูลโดยนําแบบสอบถาม ไปแจกให้กับกลุ่มตัวอย่างจํานวน ๔๐๐ คน ๓) เมื่อได้แบบสอบถามกลับคืนมาแล้วนํามาตรวจสอบความสมบูรณ์จัดระเบียบ ข้อมูลนําข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์และประมาณผลในโปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติต่อไป ๓.๕ การวิเคราะห์ข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลของงานวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น” ผู้วิจัยมีขั้นตอนการวิเคราะห์จากแบบสอบถาม (Questionnaire) และแบบสัมภาษณ์ (Interview) ดังนี้ ๔ บุญชม ศรีสะอาด, การวิจัยเบื้องต้น, พิมพ์ครั้งที่๗, (กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น, ๒๕๔๕), หน้า ๑๐๒.


๖๐ ๓.๕.๑ การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถาม (Questionnaire) สถิติพรรณนา (Descriptive Statistics) สําหรับอธิบายลักษณะสําคัญทั่วไปของกลุ่ม ตัวอย่างและพรรณนาปัจจัยส่วนบุคคลสถิติที่ใช้คือ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) และอธิบายถึงคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เกณฑ์การพิจารณาค่าเฉลี่ย ดังนี้ เกณฑ์ที่ใช้แปรผลข้อคําถามที่ได้จากการประเมินผล ดังนี้ ค่าเฉลี่ย การแปลความหมาย แปลความหมายของค่าเฉลี่ย โดยใช้เกณฑ์ ดังนี้ ค่าเฉลี่ย ๔.๕๐ – ๕.๐๐ หมายความว่า ระดับความคิดเห็นมากที่สุด ค่าเฉลี่ย ๓.๕๐ – ๔.๔๙ หมายความว่า ระดับความคิดเห็นมาก ค่าเฉลี่ย ๒.๕๐ – ๓.๔๙ หมายความว่า ระดับความคิดเห็นปานกลาง ค่าเฉลี่ย ๑.๕๐ – ๒.๕๙ หมายความว่า ระดับความคิดเห็นน้อย ค่าเฉลี่ย ๑.๐๐ – ๑.๔๙ หมายความว่า ระดับความคิดเห็นน้อยที่สุด สถิติอนุมาน (Inferential Statistics) ใช้สถิติที-เทส (t-test) และ เอฟ-เทส (F-test) เพื่อเพื่อเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ๓.๕.๒ การวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์ (Interview) ผู้วิจัยวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสัมภาษณ์โดยวิธีการดังนี้ ๑) นําข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์มาถอดเสียงและบันทึกเป็นข้อความ ๒) นําข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์และการจดบันทึกมาจําแนกเป็นประเด็นและ เรียบเรียงเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับวัตถุประสงค์การวิจัย ๓) วิเคราะห์คําให้สัมภาษณ์ของผู้ให้ข้อมูลสําคัญตามวัตถุประสงค์การวิจัยโดยใช้ เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis Technique) ประกอบบริบท ๔) สังเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์การวิจัยและนําเสนอต่อ


บทที่๔ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น” มีวัตถุประสงค์๑) เพื่อศึกษาระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๒) เพื่อเปรียบเทียบระดับคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๓) เพื่อศึกษา ข้อเสนอแนะคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น ผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่แบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ โดยแจก แบบสอบถามให้กับประชากรกลุ่มตัวอย่างจํานวน ๔๐๐ ฉบับและได้รับแบบสอบถามที่มีความถูกต้อง และสมบูรณ์กลับจํานวน ๔๐๐ ฉบับ คิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ ของแบบสอบถามทั้งหมด แล้วจึงนํามาทํา การวิเคราะห์ข้อมูลโดยโปรแกรมสําเร็จรูปทางสังคมศาสตร์ในส่วนแบบสัมภาษณ์ได้นําไปสัมภาษณ์ เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสําคัญที่กําหนดไว้จํานวน ๑๐ ฉบับ แล้วนํามาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาต่อไป ๔.๑ การวิเคราะห์ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๔.๑.๑ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคล ๔.๑.๒ ผลการวิเคราะห์ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๔.๒ ผลการเปรียบเทียบระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๔.๓ ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๔.๑ การวิเคราะห์ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๔.๑.๑ ผลการวิเคราะห์ความถี่และร้อยละปัจจัยส่วนบุคคลของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ผลการวิเคราะห์สถานภาพส่วนบุคคลของประชาชน จากการแจกแบบสอบถามความ คิดเห็นของประชาชน จํานวน ๔๐๐ คน จําแนกตาม เพศ อายุระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ เฉลี่ยต่อเดือน รายละเอียดดังแสดงใน ตารางที่๔.๑


๖๒ ตารางที่๔.๑ แสดงจํานวนและร้อยละ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จําแนกตามเพศ (n = ๔๐๐) เพศ จํานวน ร้อยละ ชาย ๓๑๙ ๗๙.๘๐ หญิง ๘๑ ๒๐.๒๐ ภาพรวม ๔๐๐ ๑๐๐.๐๐ จากตารางที่๔.๑ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยจําแนกตามเพศดังนี้ เพศ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศ ชาย จํานวน ๓๑๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๘๐ รองลงมา คือ เพศหญิง จํานวน ๘๑ คน คิดเป็น ร้อยละ ๒๐.๒๐ ตามลําดับ ตารางที่๔.๒ แสดงจํานวนและร้อยละ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จําแนกตามอายุ (n = ๔๐๐) อายุจํานวน ร้อยละ ๑๘ - ๒๙ ปี ๓๐ - ๓๙ ปี ๔๐ - ๔๙ ปี ๕๐ - ๕๙ ปี ๖๐ ปีขึ้นไป ๕๔ ๙๔ ๑๓๓ ๕๒ ๖๗ ๑๓.๕๐ ๒๓.๕๐ ๓๓.๓๐ ๑๓.๐๐ ๑๖.๗๐ ภาพรวม ๔๐๐ ๑๐๐.๐๐ จากตารางที่๔.๒ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยจําแนกตามอายุ ดังนี้ อายุพบว่าประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี จํานวน ๑๓๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๓๐ รองลงมาระหว่างอายุ๓๐ - ๓๙ ปีจํานวน ๙๔ คน คิดเป็น ร้อยละ ๒๓.๕๐ ระหว่างอายุ๖๐ ปีขึ้นไป จํานวน ๖๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๖.๗๐ ระหว่างอายุ๑๘ - ๒๙ ปีจํานวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๓.๕๐ และระหว่างอายุ๕๐ - ๕๙ ปีจํานวน ๕๒ คน คิดเป็น ร้อยละ ๑๓.๐๐ ตามลําดับ


๖๓ ตารางที่๔.๓ แสดงจํานวนและร้อยละ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จําแนกตาม ระดับการศึกษา (n = ๔๐๐) ระดับการศึกษา จํานวน ร้อยละ ประถมศึกษา ๑๓๔ ๓๓.๕๐ มัธยมศึกษาตอนต้น ๔๐ ๑๐.๐๐ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. ๑๒๐ ๓๐.๐๐ อนุปริญญา, ปวส. ๕๓ ๑๓.๓๐ ปริญญาตรี๔๐ ๑๐.๐๐ สูงกว่าปริญญาตรี๑๓ ๓.๒๐ ภาพรวม ๔๐๐ ๑๐๐.๐๐ จากตารางที่๔.๒ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยจําแนกตามระดับ การศึกษาดังนี้ ระดับการศึกษา พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นส่วนใหญ่มีระดับการศึกษา ในระดับประถมศึกษาจํานวน ๑๓๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๕๐ รองลงมา คือ ระดับมัธยมศึกษาตอน ปลาย, ปวช.จํานวน ๑๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๐๐ ระดับอนุปริญญา, ปวส.จํานวน ๕๓ คน คิด เป็นร้อยละ ๑๓.๓๐ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นจํานวน ๔๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๐๐ ระดับปริญญา ตรีจํานวน ๔๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๐.๐๐ และระดับสูงกว่าปริญญาตรีจํานวน ๑๓ คน คิดเป็นร้อย ละ ๓.๒๐ ตามลําดับ ตารางที่๔.๔ แสดงจํานวนและร้อยละ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จําแนกตามอาชีพ (n = ๔๐๐) อาชีพ จํานวน ร้อยละ พนักงานบริษัทเอกชน ๑๖๑ ๔๐.๒๐ ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ ๑๐๖ ๒๖.๕๐ เกษตรกรรม (ทําไร่ทํานา) ๑๐๖ ๒๖.๕๐ ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ๒๗ ๖.๘๐ ภาพรวม ๔๐๐ ๑๐๐.๐๐ จากตารางที่๔.๒ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยจําแนกตามอาชีพ ดังนี้ อาชีพ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นส่วนใหญ่มีอาชีพพนักงาน บริษัทเอกชนจํานวน ๑๖๑ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๐.๒๐ รองลงมา คือ อาชีพข้าราชการ,พนักงาน รัฐวิสาหกิจจํานวน ๑๐๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๕๐ อาชีพเกษตรกรรม (ทําไร่ทํานา) จํานวน ๑๐๖


๖๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๕๐ และ อาชีพค้าขาย รับจ้าง และอื่น ๆ จํานวน ๒๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๘๐ ตามลําดับ ตารางที่๔.๕ แสดงจํานวนและร้อยละ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จําแนกตาม รายได้เฉลี่ยต่อเดือน (n = ๔๐๐) รายได้เฉลี่ยตอเด่ ือน จํานวน ร้อยละ ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๒๗ ๖.๘๐ ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๕๒ ๑๓.๐๐ ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๒๒๗ ๕๖.๘๐ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๖๘ ๑๗.๐๐ ๒๐,๐๐๑ บาทขึ้นไป ๒๖ ๖.๔๐ ภาพรวม ๔๐๐ ๑๐๐.๐๐ จากตารางที่๔.๕ พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยจําแนกตามรายได้ เฉลี่ยต่อเดือน ดังนี้ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นส่วนใหญ่มีรายได้ ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาทจํานวน ๒๒๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๖.๘๐ รองลงมา คือ รายได้๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาทจํานวน ๖๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๗.๐๐ รายได้๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาทจํานวน ๕๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๑๓.๐๐ รายได้ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาทจํานวน ๒๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๘๐ และ รายได้๒๐,๐๐๑ บาทขึ้นไปจํานวน ๒๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๖.๔๐ ตามลําดับ ๔.๑.๒ ผลการวิเคราะห์ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผลการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยรวมและรายด้าน ได้แก่๑) ด้านความรู้ ความสามารถ ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์๔) ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ๕) ด้าน อุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ๖) ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม รายละเอียดดังแสดงในตาราง ที่๔.๖ - ๔.๑๒


๖๕ ตารางที่๔.๖ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณ ลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น โดยรวม (n = ๔๐๐) ระดับคณลุักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑) ด้านความรู้ความสามารถ ๔.๒๙ ๐.๗๑ มาก ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ๔.๒๘ ๐.๗๖ มาก ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์๔.๐๓ ๑.๐๐ มาก ๔) ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ๓.๖๔ ๑.๐๖ มาก ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ๔.๑๗ ๐.๘๒ มาก ๖) ด้านคุณลกษณะตามหลักสั ัปปุริสธรรม ๓.๙๒ ๐.๙๘ มาก ภาพรวม ๔.๐๖ ๐.๘๙ มาก จากตารางที่๔.๖ พบว่า คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นทั้ง ๕ ด้าน คือ ๑) ด้านความรู้ความสามารถ ๒) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์๔) ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ๖) ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๔.๐๖) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้านโดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมากไปหา น้อย พบว่า คุณลักษณะด้านความรู้ความสามารถมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๒๙) รองลงมา คือ คุณลักษณะด้านคุณธรรมจริยธรรม (xത = ๔.๒๘) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน (xത = ๔.๑๗) คุณลักษณะด้านมนุษยสัมพันธ์ (xത = ๔.๐๓) ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม (xത = ๓.๙๒) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ คุณลักษณะด้านภาวะความเป็นผู้นํา (xത = ๓.๖๔) ตามลําดับ


๖๖ ตารางที่๔.๗ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และ การแปลผลระดับ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น ด้านความรู้ความสามารถ (n = ๔๐๐) ด้านความรู้ความสามารถ ܠത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ มีวิสัยทัศน์นโยบาย กลยุทธในการพ ์ ัฒนาองค์กร ชุมชน ๔.๓๗ ๐.๖๐ มาก ๒ มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานด้านการเมืองการ ปกครอง ๔.๒๗ ๐.๕๗ มาก ๓ สามารถให้คําปรึกษาในการปฏิบัติงานทั้งในองค์กรและนอก องค์กรได้ ๔.๒๔ ๐.๘๐ มาก ๔ มีไหวพริบปฏิภาณในการแกไขป ้ ัญหาเฉพาะหน้าได้๔.๓๓ ๐.๕๔ มาก ๕ มีเหตุผลในการสั่งการสามารถนําไปปฏิบัติได้๔.๒๓ ๐.๙๒ มาก ๖ มีเป้าหมายในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน ๔.๑๖ ๐.๙๔ มาก ๗ มีความมุ่งมั่นทจะนี่ําพาชุมชนไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบใหม่๔.๔๓ ๐.๖๒ มาก ภาพรวม ๔.๒๙ ๐.๗๑ มาก จากตารางที่๔.๗ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ความสามารถ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (xത = ๔.๒๙) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสาม ลําดับแรก พบว่า ข้อ ๗ มีความมุ่งมั่นที่จะนําพาชุมชนไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบใหม่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๔๓) รองลงมา คือ ข้อ ๑ มีวิสัยทัศน์นโยบาย กลยุทธ์ในการพัฒนาองค์กร ชุมชน (xത = ๔.๓๗) และ ข้อ ๔ มีไหวพริบปฏิภาณในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ (xത = ๔.๓๓) ตามลําดับ


๖๗ ตารางที่๔.๘ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน คุณธรรมจริยธรรม (n = ๔๐๐) ด้านคุณธรรมจริยธรรม xത S.D. ระดับ ความคิดเห็น ๑ ปฏิบัติหน้าที่ดวยความซ้อสื่ัตย์สุจริต ๔.๔๑ ๐.๖๖ มาก ๒ ให้บรการติ อประชาชนด ่ ้วยความเสมอภาคและมีมาตรฐานเดยวกี ัน ๔.๐๙ ๐.๙๑ มาก ๓ ปฏิบัติหน้าที่อยางเป ่ ิดเผย โปรงใส่๔.๓๗ ๐.๗๕ มาก ๔ ยึดมั่นในจรยธรรมิและยืนหยดกระทั าในส ํ ิ่งที่ถกตูองและเป ้นธรรม็๔.๕๑ ๐.๖๒ มาก ๕ เป็นผู้มีทัศนคตทิี่ดีตอการท่ ํางาน มงมุ่ ั่น ขยนัหมั่นเพยรี๔.๓๐ ๐.๕๙ มาก ๖ มีวินัย เคารพกฎระเบียบ ขอบ้งคั ับขององค์กร ๔.๔๐ ๐.๗๒ มาก ๗ สร้างความสามคคั ีและมีทัศนคติที่ดีตอองค่กร์๓.๙๐ ๑.๐๘ มาก ภาพรวม ๔.๒๘ ๐.๗๖ มาก จากตารางที่๔.๘ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านคุณธรรมจริยธรรม โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (xത = ๔.๒๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ข้อ ๔ ยึดมั่นในจริยธรรม และยืนหยัดกระทําในสิ่งที่ถูกต้อง และเป็นธรรม มี ค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๕๑) รองลงมา คือ ข้อ ๑ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต (xത = ๔.๔๑) และ ข้อ ๖ มีวินัย เคารพกฎระเบียบ ข้อบังคับขององค์กร (xത = ๔.๔๐) ตามลําดับ ตารางที่๔.๙ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านมนุษยสัมพันธ์ (n = ๔๐๐) ด้านมนุษยสัมพันธ์ xത S.D. ระดับ ความคิดเห็น ๑ ประชาชนรู้จกและให ั ้การยอมรบันับถือ ๔.๖๙ ๐.๔๖ มาก ๒ มีมนุษยสัมพันธท์ ี่ดีปฏิสัมพันธก์ ับผู้อื่นด้วยความเป็นมิตรเสมอ ๔.๓๐ ๐.๕๓ มาก ๓ มีความสุขุมเยือกเย็น พดจาสู ุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใส ๓.๙๔ ๑.๐๙ มาก ๔ มีจิตสาธารณะ ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วยความเต็มใจเสมอ ๔.๑๗ ๑.๐๓ มาก ๕ สามารถประสานงานกบหนั วยงานภายในและภายนอกองค ่ กรได ์ ้ดี๓.๒๖ ๑.๔๔ มาก ๖ ยอมรับฟงความคั ิดเห็นของผู้อนประสานความเข ื่้าใจอันดระหวี ่างผู้ ทํางานร่วมกัน ๔.๐๐ ๑.๑๘ มาก ๗ เคารพและให้เกยรตี ิแก่บุคคลทกระดุับ ๓.๘๖ ๑.๒๖ มาก ภาพรวม ๔.๐๓ ๑.๐๐ มาก


๖๘ จากตารางที่๔.๙ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านมนุษยสัมพันธ์โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (xത = ๔.๐๓) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ข้อ ๑ ประชาชนรู้จักและให้การยอมรับ นับถือ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๖๙) รองลงมา คือ ข้อ ๒ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นด้วยความเป็นมิตรเสมอ (xത = ๔.๓๐) และ ข้อ ๕ สามารถประสานงานกับหน่วยงานภายในและภายนอกองค์กรได้ดี (xത = ๔.๒๖) ตามลําดับ ตารางที่๔.๑๐ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน ภาวะความเป็นผู้นํา (n = ๔๐๐) ด้านภาวะความเป็นผู้นาํ xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ เสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพอผลประโยชน ื่ส์ ่วนรวม ๔.๑๔ ๐.๗๖ มาก ๒ ประพฤติปฏิบตัิตตนเป็นแบบอย่างที่ดี๓.๕๖ ๑.๓๑ มาก ๓ สามารถสรางความเช้ ื่อมั่นศรทธาและเป ั ็นทยอมรี่ับของ ผู้ร่วมงาน ๓.๙๖ ๐.๘๔ มาก ๔ มีการส่งเสริมและสนับสนุนใหผู้้ร่วมงานแสดงความคดเหิ ็นใน แง่มุมในการทํางาน อย่างเตมท็ ี่๓.๕๖ ๑.๐๒ มาก ๕ มีความตั้งใจในการทํางานอย่างแน่วแน่๓.๒๖ ๑.๒๙ ปานกลาง ๖ เป็นผู้ที่รทู้ ันต่อเหตุการณ์หรอสภาวการณื ์ทเปล ี่ี่ยนแปลง ๓.๓๕ ๑.๒๙ ปานกลาง ๗ เป็นบุคคลทมี่แนวคี ิดก้าวหน้าและทันสมยั๓.๖๕ ๐.๙๕ มาก ภาพรวม ๓.๖๔ ๑.๐๗ มาก จากตารางที่๔.๑๐ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านภาวะความเป็นผู้นําโดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๖๔) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากและปานกลาง เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหา น้อย สามลําดับแรก พบว่า ข้อ ๑ เสียสละผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผล ประโยชน์ส่วนรวม มีค่าเฉลี่ย สูงสุด (xത = ๔.๑๔) รองลงมา คือ ข้อ ๓ สามารถสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาและเป็นที่ยอมรับของ ผู้ร่วมงาน (xത = ๓.๙๖) และ ข้อ ๗ มีเป็นบุคคลที่มีแนวคิดก้าวหน้าและทันสมัย (xത = ๓.๖๕) ตามลําดับ


๖๙ ตารางที่๔.๑๑ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน อุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน (n = ๔๐๐) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบตัิงาน ࢞ഥ S.D. ระดับ ความ คิดเหน็ ๑ มีการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน ๔.๓๗ ๐.๖๐ มาก ๒ ปฏิบัติงานงานด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้๔.๒๗ ๐.๕๗ มาก ๓ ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและมีจิตสาธารณะ ๔.๓๗ ๐.๗๕ มาก ๔ เปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนรวมในการบร ่ ิหารจัดการ ๔.๕๑ ๐.๖๒ มาก ๕ มีการกระจายอํานาจในการบริหารงานลงสู่ระดับรองลงมา ๔.๑๗ ๑.๐๓ มาก ๖ มีความยุติธรรมในการบริหารงานและไม่เลอกปฏ ื ิบัติ๓.๕๖ ๑.๓๑ มาก ๗ การตัดสินใจในการบริหารงานโดยยึดหลักการเห็นพ้องของคน ส่วนใหญ่ ๓.๙๖ ๐.๘๔ มาก ภาพรวม ๔.๑๗ ๐.๘๒ มาก จากตารางที่๔.๑๑ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับ มาก (xത = ๔.๑๗) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สาม ลําดับแรก พบว่า ข้อ ๔ เปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๕๑) รองลงมา คือ ข้อ ๑ มีการตอบสนองความต้องการและความคาดหวังของประชาชน (xത = ๔.๓๗) ข้อ ๓ ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและมีจิตสาธารณะ (xത = ๔.๓๗) และ ข้อ ๒ ปฏิบัติงาน งานด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ (xത = ๔.๒๗)ตามลําดับ


๗๐ ตารางที่๔.๑๒ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักสปปัุรสธรรมิ xത S.D. ระดับความคดเหิ ็น ๑) ธัมมญญัุตา - รู้จักเหตุ๓.๗๐ ๑.๐๕ มาก ๒) อัตถัญญุตา - รู้จักผล ๓.๙๔ ๐.๙๓ มาก ๓) อัตตัญญุตา - รู้จักตน ๔.๑๓ ๐.๙๒ มาก ๔) มัตตัญญุตา - รู้จักประมาณ ๓.๙๒ ๐.๙๑ มาก ๕) กาลญญัุตา - รู้จักกาล ๓.๘๘ ๑.๐๒ มาก ๖) ปริสญญัุตา - รู้จักเข้าหาชุมชน ๓.๙๒ ๑.๐๗ มาก ๗) ปุคคลัญญตาุ - รู้จักบคคลุ๓.๙๔ ๐.๙๕ มาก ภาพรวม ๓.๙๒ ๐.๙๘ มาก จากตารางที่๔.๑๒ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทั้ง ๗ ด้าน คือ ๑) ธัมมัญญุตา ๒) อัตถัญญุตา ๓) อัตตัญญุตา ๔) มัตตัญญุตา ๕) กาลัญญุตา ๖) ปริสัญญุตา ๗) ปุคคลัญญุตา โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๙๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สามลําดับ แรก พบว่า ด้านอัตตัญญุตา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๑๓) รองลงมา คือ ด้านอัตถัญญุตา (xത = ๓.๙๔) ด้านปุคคลัญญุตา (xത = ๓.๙๔) ด้านมัตตัญญุตา (xത = ๓.๙๒) และด้านปริสัญญุตา (xത = ๓.๙๒) ตารางที่๔.๑๓ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณ ลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น ด้านหลักธัมมัญญุตา (รู้จักเหตุ) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักธมมั ัญญุตา (รจู้ักเหตุ) xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ ส่งเสริมใหม้ีการตรวจสอบการทํางานในเขตการปกครอง ๔.๒๕ ๐.๙๔ มาก ๒ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้วนําไปประยุกต์ใช้๓.๖๓ ๑.๐๒ มาก ๓ ส่งเสริมใหม้ีการค้นหาปัญหาในเขตการปกครอง ๓.๘๐ ๐.๙๔ มาก ๔ มีนโยบายให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ต่อการทํางาน ๓.๔๗ ๑.๑๔ ปานกลาง ๕ กําหนดแผนการทํางานในองค์กรและในเขตการปกครอง ๓.๓๓ ๑.๒๒ ปานกลาง ภาพรวม ๓.๗๐ ๑.๐๕ มาก


๗๑ จากตารางที่๔.๑๓ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านธัมมัญญุตา - รู้จักเหตุโดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๗๐) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สาม ลําดับแรก พบว่า ข้อ ๑ ส่งเสริมให้มีการตรวจสอบการทํางานในเขตการปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๒๕) รองลงมา คือ ข้อ ๓ ส่งเสริมให้มีการค้นหาปัญหาในเขตการปกครอง (xത = ๓.๘๐) และ ข้อ ๒ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้วนําไปประยุกต์ใช้ (xത = ๓.๖๓) ตามลําดับ ตารางที่๔.๑๔ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่นด้านหลักอัตถัญญุตา (รู้จักผล) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักอัตถัญญุตา (รจู้ักผล) xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ มีนโยบายให้ประชาชนรับรู้แผนการดําเนินงาน ๓.๔๖ ๑.๑๘ ปานกลาง ๒ เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารการดําเนินงาน ๓.๘๓ ๑.๑๘ มาก ๓ เปิดโอกาสให้ประชาชนมสี่วนร่วมในการกําหนดแผนการ ดําเนินงาน ๔.๑๔ ๐.๗๒ มาก ๔ เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการ ดําเนินงาน ๔.๑๐ ๐.๗๕ มาก ๕ มีนโยบายในการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน ๔.๑๗ ๐.๘๒ มาก ภาพรวม ๓.๙๔ ๐.๙๓ มาก จากตารางที่๔.๑๔ พบว่า พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านอัตถัญญุตา - รู้จักผล โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๙๔) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สาม ลําดับแรก พบว่า ข้อ ๕ มีนโยบายในการประเมินผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๑๗) รองลงมา คือ ข้อ ๓ เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนดแผนการดําเนินงาน (xത = ๔.๑๔) และ ข้อ ๔ เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการดําเนินงาน (xത = ๔.๑๐) ตามลําดับ


๗๒ ตารางที่๔.๑๕ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน หลักอัตตัญญุตา (รู้จักตน) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักอัตตัญญุตา (รจู้ักตน) xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ ส่งเสริมให้องคกรปกครองเป ์ ็นไปเพื่อตอบสนองความ ต้องการของประชาชน ๓.๙๗ ๑.๐๒ มาก ๒ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีวิสัยทัศน์และริเริ่มสร้างสรรค์๔.๑๗ ๐.๙๗ มาก ๓ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีความรับผิดชอบต่อการทํางาน ๔.๑๗ ๐.๘๙ มาก ๔ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีความสามารถในการทํางาน อย่างเหมาะสม ๔.๐๗ ๐.๙๒ มาก ๕ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีความเสีย สละตอการท่ ํางาน สาธารณะต่อประชาชน ๔.๒๙ ๐.๘๓ มาก ภาพรวม ๔.๑๓ ๐.๙๒ มาก จากตารางที่๔.๑๕ พบว่า พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านอัตตัญญุตา - รู้จักตน โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๔.๑๓) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ข้อ ๕ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีความเสีย สละต่อการทํางานสาธารณะต่อ ประชาชน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๒๙) รองลงมา คือ ข้อ ๒ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีวิสัยทัศน์ และริเริ่มสร้างสรรค์ (xത = ๔.๑๗) ข้อ ๓ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีความรับผิดชอบต่อการทํางาน (xത = ๔.๑๗) และ ข้อ ๔ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีความสามารถในการทํางานอย่างเหมาะสม (xത = ๔.๐๗) ตามลําดับ


๗๓ ตารางที่๔.๑๖ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน หลักมัตตัญญุตา (รู้จักประมาณ) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักมัตตัญญุตา (รจู้ักประมาณ) ࢞ഥ S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการ กําหนดแผนหรือนโยบาย หรือโครงการที่สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่ ๓.๙๙ ๐.๘๗ มาก ๒ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการจัดสรรงบประมาณให้คุ้มคา่ และเกิดประโยชน์สูงสุด ๓.๘๐ ๐.๙๑ มาก ๓ ส่งเสริมให้การทํางานขององค์กรปกครองเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ๓.๘๓ ๐.๘๒ มาก ๔ ส่งเสริมให้องคกรปกครองจ ์ ัดการทรัพยากรได้อย่าง เหมาะสม ๓.๘๓ ๑.๐๓ มาก ๕ ส่งเสริมให้องคกรปกครองเป ์ ็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนร่วม ๓.๖๗ ๐.๙๔ มาก ภาพรวม ๓.๘๒ ๐.๙๑ มาก จากตารางที่๔.๑๖ พบว่า พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านมัตตัญญุตา - รู้จักประมาณ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๘๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ข้อ ๑ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการ กําหนดแผนหรือนโยบายหรือโครงการที่ สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๓.๙๙) รองลงมา คือ ข้อ ๓ ส่งเสริมให้ การทํางานขององค์กรปกครองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล (xത = ๓.๘๓) ข้อ ๔ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดการทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม (xത = ๓.๘๓) และ ข้อ ๒ ส่งเสริมให้ องค์กรปกครองมีการจัดสรรงบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด (xത = ๓.๘๐) ตามลําดับ


๗๔ ตารางที่๔.๑๗ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่นด้านหลักกาลัญญุตา (รู้จักกาล) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักกาลัญญุตา (รู้จกกาลั ) xത S.D. ระดับความ คิดเหน็ ๑ ส่งเสริมให้องคกรปกครองจ ์ ัดทํานโยบายเหมาะสมกับจังหวะ และเวลา ๓.๕๐ ๑.๑๖ มาก ๒ ส่งเสริมให้องคกรปกครองจ ์ ัดลําดับความสําคัญของปัญหา ก่อนและหลัง ๓.๕๐ ๑.๒๑ มาก ๓ ส่งเสริมให้องคกรปกครองแก ์ ้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันต่อ เหตุการณ์และเวลาที่เหมาะสม ๔.๓๒ ๐.๘๐ มาก ๔ ส่งเสริมให้องคกรปกครองจ ์ ัดเวลาให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กร และประชาชน ๔.๐๗ ๑.๐๐ มาก ๕ ส่งเสริมให้องคกรปกครองจ ์ ัดสรรเวลาในการรับฟังปัญหาจาก ประชาชน ๔.๐๓ ๐.๙๖ มาก ภาพรวม ๓.๘๘ ๑.๐๒ มาก จากตารางที่๔.๑๗ พบว่า พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านกาลัญญุตา - รู้จักกาลโดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๘๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สาม ลําดับแรก พบว่า ข้อ ๓ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันต่อเหตุการณ์และเวลาที่ เหมาะสม มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๓๒) รองลงมา คือ ข้อ ๔ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดเวลาให้เกิด ประโยชน์ต่อองค์กรและประชาชน (xത = ๔.๐๗) และ ข้อ ๕ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้ว นําไปประยุกต์ใช้ (xത = ๔.๐๓) ตามลําดับ


๗๕ ตารางที่๔.๑๘ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านหลักปริสัญญุตา (รู้จักชุมชน) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักปริสัญญุตา (รู้จกชัุมชน) xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการทํางานที่เข้าใจ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม ๓.๘๗ ๑.๒๓ มาก ๒ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีมนุษยสัมพันธ์ทดี่ีกับประชาชน ๓.๘๗ ๑.๐๐ มาก ๓ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการประสานงานที่ดีกับประชาชน ๔.๐๑ ๑.๑๕ มาก ๔ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีนโยบายที่ยกระดับมาตรฐานชีวิต ความเป็นอยู่ของชุมชน ๓.๙๗ ๑.๑๑ มาก ๕ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการรับฟังปัญหาและความ ต้องการของชุมชน ๓.๘๘ ๐.๘๖ มาก ภาพรวม ๓.๙๒ ๑.๐๗ มาก จากตารางที่๔.๑๘ พบว่า พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านธัมมัญญุตา - รู้จักชุมชน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๙๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ข้อ ๓ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการประสานงานที่ดีกับประชาชน มีค่าเฉลี่ย สูงสุด (xത = ๔.๐๑) รองลงมา คือ ข้อ ๔ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีนโยบายที่ยกระดับมาตรฐานชีวิต ความเป็นอยู่ของชุมชน (xത = ๓.๙๗) และ ข้อ ๕ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการรับฟังปัญหาและ ความต้องการของชุมชน (xത = ๓.๘๘) ตามลําดับ


๗๖ ตารางที่๔.๑๙ แสดงค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการแปลผลระดับคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน หลักปุคคลัญญุตา (รู้จักบุคคล) (n = ๔๐๐) ด้านคณลุักษณะตามหลักปคคลุัญญุตา (รู้จักบุคคล) xത S.D. ระดับ ความคิดเหน็ ๑ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการจัดสรรบุคคลให้เหมาะสมกับ การทํางาน ๔.๑๑ ๐.๙๔ มาก ๒ ส่งเสริมให้องคกรปกครองให ์ ้โอกาสและสนับสนุนส่งเสริมให้ ประชาชนที่มีความรู้ความสามารถให้ดํารงตําแหน่งที่เหมาะสม ๓.๙๓ ๑.๐๓ มาก ๓ ส่งเสริมให้องคกรปกครองสามารถส ์ ื่อสารและแลกเปลี่ยน ความคิดเพิ่มพูนความรู้ ๓.๗๐ ๐.๙๓ มาก ๔ ส่งเสริมให้องคกรปกครองสามารถส ์ ื่อสารและประสานงานกับ ประชาชนได้ดี ๔.๐๓ ๐.๘๓ มาก ๕ ส่งเสริมให้องคกรปกครองม ์ ีการมอบงานให้กับบุคคลที่ เหมาะสมกับงาน ๓.๙๔ ๑.๐๒ มาก ภาพรวม ๓.๙๔ ๐.๙๕ มาก จากตารางที่๔.๑๙ พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านปุคคลัญญุตา - รู้จักบุคคล โดย ภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๙๔) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย สาม ลําดับแรก พบว่า ข้อ ๑ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการจัดสรรบุคคลให้เหมาะสมกับการทํางาน มี ค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๑๑) รองลงมา คือ ข้อ ๔ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองสามารถสื่อสารและ ประสานงานกับประชาชนได้ดี (xത = ๔.๐๓) และ ข้อ ๕ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการมอบงาน ให้กับบุคคลที่เหมาะสมกับงาน (xത = ๓.๙๔) ตามลําดับ ๔.๒ ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น สมมติฐานที่๑ ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกัน การวิเคราะห์ใช้สถิติ t-test คือ กลุ่มตัวอย่าง ๒ กลุ่ม มีความเป็นอิสระต่อกันใช้ระดับ ความเชื่อมั่น ๙๕% ดังนั้น จะเป็นไปตามสมมติฐานก็ต่อเมื่อค่า Sig. น้อยกว่า ๐.๐๕ และนําเสนอใน รูปตารางประกอบการบรรยาย


๗๗ ตารางที่๔.๒๐ ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จําแนกตามเพศ (n = ๔๐๐) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่น ชาย (คน) หญิง (คน) ࢞ഥ S.D. ࢞ഥ S.D. t Sig. ๑) ด้านความรู้ความสามารถ -๑.๘๔ ๐.๒๖ -๑.๘๔ ๐.๑๘ -๗.๐๖ ๐.๐๐* ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม -๐.๘๒ ๐.๒๘ -๐.๘๒ ๐.๓๐ -๒.๙๓ ๐.๑๒ ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์๑.๑๕ ๐.๕๒ ๑.๑๕ ๐.๓๓ ๒.๒๐ ๐.๐๐* ๔) ด้านภาวะความเป็นผู้นํา -๐.๖๘ ๐.๗๒ -๐.๖๘ ๐.๗๔ -๐.๙๖ ๐.๐๓* ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ๑.๑๐ ๐.๒๕ ๑.๑๒ ๐.๓๒ ๒.๓๔ ๐.๐๓* ๖) ด้านคุณลกษณะตามหลักสั ัปปุริสธรรม -๑.๖๔ ๒.๒๒ -๑.๖๔ ๑.๔๖ -๐.๗๔ ๐.๐๐* รวม -๐.๔๖ ๐.๗๑ -๐.๔๕ ๐.๕๖ -๑.๑๙ ๐.๐๓* *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๐ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามเพศ พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง สถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ความสามารถ ด้าน มนุษยสัมพันธ์ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน และด้านคุณลักษณะตาม หลักสัปปุริสธรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ สมมติฐานที่๒ ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกัน การเปรียบเทียบใช้สถิติ F-test (One-way ANOWA) ในการทดสอบความแปรปรวน แบบทางเดียวเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยที่มากกว่าสองกลุ่ม ใช้ระดับความเชื่อมั่น ๙๕% จะยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ก็ต่อเมื่อค่า Sig. น้อยกว่า ๐.๐๕


๗๘ ตารางที่๔.๒๑ ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จําแนกตามอายุ คุณลักษณะของนักการ เมืองท้องถิ่น แหล่งความ แปรปรวน SS df MS F Sig. ด้านความรู้ความ สามารถ ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๘๐๖.๕๗ ๑๑๕๔.๑๒ ๑๙๖๐.๗๐ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๒๐๑.๖๔ ๒.๙๒ ๖๙.๐๑ ๐.๐๐* ด้านคุณธรรมจริยธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๓๔๘.๕๖ ๑๗๐๒.๒๔ ๒๐๕๐.๘๐ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๘๗.๑๔ ๔.๓๑ ๒๐.๒๒ ๐.๐๐* ด้านมนุษยสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๑๔๐๒.๓๙ ๕๗๐๙.๑๒ ๗๑๑๑.๕๑ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๓๕๐.๖๐ ๑๔.๔๕ ๒๔.๒๖ ๐.๐๐* ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๙๙๖.๑๕ ๑๒๑๘๓.๖๙ ๑๓๑๗๙.๘๔ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๒๔๙.๐๔ ๓๐.๘๕ ๘.๐๗ ๐.๐๐* ด้านอุดมการณ์ในการ ปฏิบัติงาน ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๓๕๓.๗๙ ๒๐๐๓.๗๒ ๒๓๕๗.๕๑ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๘๘.๔๕ ๕.๐๗ ๑๗.๔๔ ๐.๐๐* ด้านคุณลักษณะตาม หลักสัปปุริสธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๖๔๒๐.๒๐ ๑๒๐๒๗๑.๙๖ ๑๒๖๖๙๒.๑๖ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๑๖๐๕.๐๕ ๓๐๔.๔๙ ๕.๒๗ ๐.๐๐* รวม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๑๗๒๑.๒๘ ๒๓๘๓๗.๔๘ ๒๕๕๕๘.๗๕ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๔๓๐.๓๒ ๖๐.๓๕ ๒๔.๐๕ ๐.๐๐* *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๑ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามอายุพบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความ คิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมตฐานทิ ี่ตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในด้านความรู้ความสามารถ ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านมนุษยสัมพันธ์ด้านภาวะความเป็นผู้นําด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน และด้าน


๗๙ คุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้ ดังนั้น จึงทําการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวม และ ๖ ด้านด้วยวิธีผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) รายละเอียดดังแสดงในตารางที่๔.๒๒-๔.๒๘ ตารางที่๔.๒๒ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตาม อายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - -.ี๔๑ -๔.๑๙* -๑.๐๗ -.๘๕ ๓๐ - ๓๙ ป - -ี๓.๗๘* -.๖๖ -.๔๔ ๔๐ - ๔๙ ป - ี๓.๑๒* ๓.๓๔* ๕๐ - ๕๙ ป - .ี ๒๒ ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๒ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกัน มีคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่าง กันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๔ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชน ที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีและอายุ๖๐ ปี ขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๘๐ ตารางที่๔.๒๓ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านความรู้ความสามารถผลต่างนัยสําคัญน้อย ที่สุด (LSD.) จําแนกตามอายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - -.ี๔๔ .๖๘* ๑.๔๘* ๓.๘๒* ๓๐ - ๓๙ ป - ี๑.๑๓* ๑.๙๓* ๔.๒๖* ๔๐ - ๔๙ ป - .ี๘๐* ๓.๑๔* ๕๐ - ๕๙ ป - ี ๒.๓๔* ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๓ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ ความสามารถ ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จํานวน ๙ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถ แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี และประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีและประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถ แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี และประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีและประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถ แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปี และประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถ แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๘๑ ตารางที่๔.๒๔ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านคุณธรรมจริยธรรมผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - .ี๑๕ -.๘๙* ๑.๗๒* -๑.๒๙* ๓๐ - ๓๙ ป - -ี๑.๐๔* ๑.๕๗* -๑.๔๔* ๔๐ - ๔๙ ป - ี ๒.๖๒* -.๔๐ ๕๐ - ๕๙ ป - -ี๓.๐๒* ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๔ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๘ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี และประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีและประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี และประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีและประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปี และประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๘๒ ตารางที่๔.๒๕ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านมนุษยสัมพันธ์ผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - ี๑.๓๐* -๓.๒๕* .๙๔ -.๗๑ ๓๐ - ๓๙ ป - -ี๔.๕๔* -.๓๕ -๒.๐๐* ๔๐ - ๔๙ ป - ี๔.๑๙* ๒.๕๔* ๕๐ - ๕๙ ป - -ี๑.๖๕* ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๕ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านมนุษยสัมพันธ์ใน ภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๗ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีและ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีและ ประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีและ ประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๘๓ ตารางที่๔.๒๖ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านภาวะความเป็นผู้นําผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - -ี๑.๔๑ -.๗๓ -๕.๒๒* -๒.๖๗* ๓๐ - ๓๙ ป - .ี๖๘ -๓.๘๑* -๑.๒๖ ๔๐ - ๔๙ ป - -ี๔.๔๙* -๑.๙๔* ๕๐ - ๕๙ ป - ี ๒.๕๕* ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๖ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นํา แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปี และประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นํา แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นํา แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปี และประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นํา แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


Click to View FlipBook Version