The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

Keywords: คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น THE DESIRABLE CHARACTERISTICS OF THE LOCAL POLITICIANS IN KHON KAEN MUNICIPALITY พระพรหมวิหาร อติธมฺโม (แดนดงยิ่ง)

๘๔ ตารางที่๔.๒๗ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานผลต่างนัยสําคัญ น้อย (LSD.) จําแนกตามอายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - ี ๒.๒๗* .๖๕ ๒.๘๑* ๑.๓๖* ๓๐ - ๓๙ ป - -ี๑.๖๒* .๕๔ -.๙๑ ๔๐ - ๔๙ ป - ี ๒.๑๖* .๗๒ ๕๐ - ๕๙ ป - ี -๑.๔๔* ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๗ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านอุดมการณ์ในการ ปฏิบัติงาน ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีและ ๕๐ - ๕๙ ปีและประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัตงานิแตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๐ - ๕๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุ๖๐ ปีขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๘๕ ตารางที่๔.๒๘ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริส ธรรมผลต่างนัยสําคัญน้อย (LSD.) จําแนกตามอายุ อายุอายุ ๑๘ - ๒๙ ปี๓๐ - ๓๙ ปี๔๐ - ๔๙ ปี๕๐ - ๕๙ ปี๖๐ ปีขึ้นไป ๑๘ - ๒๙ ป - ี๗.๑๘* -๒.๖๑ -.๕๒๘ ๔.๙๗ ๓๐ - ๓๙ ป - -ี๙.๗๙* -๗.๗๑* -๒.๒๑ ๔๐ - ๔๙ ป - ี ๒.๐๘ ๗.๕๘* ๕๐ - ๕๙ ป - ี๕.๕๐ ๖๐ ปีขึ้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๘ พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านคุณลักษณะตาม หลักสัปปุริสธรรม ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จํานวน ๔ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ - ๒๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๐ - ๓๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีและ ๕๐ - ๕๙ ปี ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๖๐ ปีขึ้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน สมมติฐานที่๓ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกัน การเปรียบเทียบใช้สถิติ F-test (One-way ANOWA) ในการทดสอบความแปรปรวน แบบทางเดียวเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยท่ีมากกว่าสองกลุ่ม ใช้ระดับความเชื่อมั่น ๙๕% จะยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ก็ต่อเมื่อค่า Sig. น้อยกว่า ๐.๐๕


๘๖ ตารางที่๔.๒๙ ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จําแนกตามระดับการศึกษา คุณลักษณะของ นักการเมืองทองถ้ ิ่น แหล่งความ แปรปรวน SS df MS F Sig. ด้านความรู้ความ สามารถ ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๓๘๕.๕๘ ๑๕๗๕.๑๒ ๑๙๖๐.๗๐ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๗๗.๑๒ ๔.๐๐ ๑๙.๒๙ ๐.๐๐* ด้านคุณธรรมจริยธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๙๐.๒๑ ๑๗๖๐.๕๙ ๒๐๕๐.๘๐ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๕๘.๐๔ ๔.๔๗ ๑๒.๙๙ ๐.๐๐* ด้านมนุษยสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๓๐๑.๖๓ ๖๘๐๙.๘๘ ๗๑๑๑.๕๑ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๖๐.๓๓ ๑๗.๒๙ ๓.๔๙ ๐.๐๐* ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๓๖๕๘.๐๘ ๙๕๒๑.๗๗ ๑๓๑๗๙.๘๔ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๗๓๑.๖๒ ๒๔.๑๗ ๓๐.๒๗ ๐.๐๐* ด้านอุดมการณ์ในการ ปฏิบัติงาน ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๔๙๖.๓๙ ๑๘๖๑.๑๒ ๒๓๕๗.๕๑ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๙๙.๒๘ ๔.๗๒ ๒๑.๐๒ ๐.๐๐* ด้านคุณลักษณะตาม หลักสัปปุริสธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๑๐๘๘๙.๘๐ ๑๑๕๘๐๒.๓๖ ๑๒๖๖๙๒.๑๖ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๒๑๗๗.๙๖ ๒๙๓.๙๒ ๗.๔๑ ๐.๐๐* รวม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๖๗๐.๒๘ ๒๒๘๘๘.๔๗ ๒๕๕๕๘.๗๕ ๕ ๓๙๔ ๓๙๙ ๕๓๔.๐๖ ๕๘.๑๐ ๑๕.๗๕ ๐.๐๐* *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๒๙ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษา พบว่า ประชาชนที่มีระดับ การศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ความสามารถ ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านมนุษยสัมพันธ์ด้านภาวะความเป็นผู้นํา


๘๗ ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน และด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ดังนั้น จึงทําการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวม และ ๖ ด้านด้วยวิธีผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) รายละเอียดดังแสดงในตารางที่๔.๓๐-๔.๓๖ ตารางที่๔.๓๐ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตาม ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - ๗.๐๙* -๔.๘๖* ๑.๗๑ -๒.๓๘ -๕.๒๓ มัธยมศึกษาตอนต้น - -๑๑.๙๖* -๕.๓๘* -๙.๔๘* -๑๒.๓๓* มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. - ๖.๕๘* ๒.๔๘ -.๓๗ อนุปริญญา, ปวส. - -๔.๐๙* -๖.๙๔* ปริญญาตร - -ี ๒.๘๕ สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๐ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๙ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษา มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. และอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา อนุปริญญา, ปวส.


๘๘ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรี และสูงกว่าปริญญาตรี นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๓๑ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านความรู้ความสามารถผลต่างนัยสําคัญน้อย ที่สุด (LSD.) จําแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึก ษาตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - -.๙๘* -.๖๘* ๑.๐๓* ๒.๓๗* -.๙๓ มัธยมศึกษาตอนต้น - .๓๐ ๒.๐๑* ๓.๓๕* .๐๕ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. - ๑.๗๑* ๓.๐๕* -.๒๕ อนุปริญญา, ปวส. - ๑.๓๔ -๑.๙๖ ปริญญาตร - -ี๓.๓๐ สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๑ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้าน ความรู้ความสามารถ ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๘ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. และอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษาระหว่างมัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษาอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษาระหว่างมัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชน ที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี


๘๙ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๓๒ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านคุณธรรมจริยธรรมผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - .๒๔ -๑.๕๗* .๘๙* -.๔๖ -.๔๑ มัธยมศึกษาตอนต้น - -๑.๘๑* .๖๕ -.๗๐ -.๖๕ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. - ๒.๔๖* ๑.๑๑* ๑.๑๖ อนุปริญญา, ปวส. - -๑.๓๕* -๑.๓๐* ปริญญาตร - .ี๐๕ สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๒ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้าน คุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๗ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. และอนุปริญญา, ปวส. ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษาอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส.มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี


๙๐ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๓๓ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านมนุษยสัมพันธ์ผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - .๒๐ -.๙๘ -๒.๖๑* -.๕๘ -.๔๘ มัธยมศึกษาตอนต้น - -๑.๑๘ -๒.๘๑* -.๗๘ -.๖๘ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. - -๑.๖๓* .๔๐ .๕๐ อนุปริญญา, ปวส. - ๒.๐๓* ๒.๑๓ ปริญญาตร - .ี๑๐ สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๓ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้าน มนุษยสัมพันธ์ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๔ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา อนุปริญญา, ปวส. ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช.มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา อนุปริญญา, ปวส. ประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส.มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปริญญาตรี นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๙๑ ตารางที่๔.๓๔ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านภาวะความเป็นผู้นําผลต่างนัยสําคัญน้อย ที่สุด (LSD.) จําแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - ๗.๖๔* -๑.๖๔* ๒.๔๐* -๓.๗๑* -๓.๔๑* มัธยมศึกษาตอนต้น - -๙.๒๘* -๕.๒๔* -๑๑.๓๕* -๑๑.๐๕* มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. - ๔.๐๔* -๒.๐๘* -๑.๗๘ อนุปริญญา, ปวส. - -๖.๑๑* -๕.๘๑* ปริญญาตร - .ี๓๐ สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๔ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้าน ภาวะความเป็นผู้นํา ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๑๓ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. และอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรีและสูง กว่าปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. และอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช.มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษาอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส.มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษาปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๙๒ ตารางที่๔.๓๕ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานผลต่างนัยสําคัญ น้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - ๑.๕๔* -๑.๓๗* -.๐๔ ๑.๐๙ ๓.๑๖* มัธยมศึกษาตอนต้น - -๒.๙๑* -๑.๕๘* -.๔๕ ๑.๖๓ มัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. - ๑.๓๓* ๒.๔๖* ๔.๕๓* อนุปริญญา, ปวส. - ๑.๑๓ ๓.๒๑* ปริญญาตร - ี ๒.๐๘* สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๕ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้าน อุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ในภาพรวมจําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง สถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๑๐ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. และสูงกว่าปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. และอนุปริญญา, ปวส. ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช.มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มี ระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรีและสูงกว่าปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี


๙๓ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับการศึกษาสูง กว่าปริญญาตรี นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๓๖ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริส ธรรมผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ระดับการศึกษา ประถม ศึกษา มัธยมศึกษา ตอนต้น มัธยมศึกษา ตอนปลาย, ปวช. อนุปริญญา, ปวส. ปริญญาตรีสูงกว่า ปริญญาตรี ประถมศึกษา - ๙.๔๗* ๑.๕๙ ๗.๖๘* -๑๐.๖๘* ๔.๑๕ มัธยมศึกษาตอนต้น - -๗.๘๘* -๑.๘๐ -๒๐.๑๕* -๕.๓๓ มัธยมศึกษาตอน ปลาย, ปวช. - ๖.๐๙* -๑๒.๒๗* ๒.๕๖ อนุปริญญา, ปวส. - -๑๘.๓๕* -๓.๕๓ ปริญญาตร - ี๑๔.๘๓* สูงกว่าปริญญาตรี - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๖ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้าน คุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม ในภาพรวมจําแนกตามระดับการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญ ทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๙ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น และอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้นมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี ระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. และปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย, ปวช. มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชน ที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. และปริญญาตรี


๙๔ ประชาชนที่มีระดับการศึกษาอนุปริญญา, ปวส. มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี ระดับการศึกษาปริญญาตรี ประชาชนที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีระดับ การศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน สมมติฐานที่๔ ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกัน การเปรียบเทียบใช้สถิติ F-test (One-way ANOWA) ในการทดสอบความแปรปรวน แบบทางเดียวเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยที่มากกว่าสองกลุ่ม ใช้ระดับความเชื่อมั่น ๙๕% จะยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ก็ต่อเมื่อค่า Sig. น้อยกว่า ๐.๐๕ ตารางที่๔.๓๗ ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จําแนกตามอาชีพ คุณลักษณะของนักการ เมืองท้องถิ่น แหล่งความ แปรปรวน SS df MS F Sig. ด้านความรู้ความสามารถ ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๑๒๓.๔๔ ๑๘๓๗.๒๖ ๑๙๖๐.๗๐ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๔๑.๑๕ ๔.๖๔ ๘.๘๖ ๐.๐๐* ด้านคุณธรรมจริยธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๑๓๗.๕๕ ๑๙๑๓.๒๕ ๒๐๕๐.๘๐ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๔๕.๘๕ ๔.๘๓ ๙.๔๙ ๐.๐๐* ด้านมนุษยสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๓๐๖.๑๐ ๔๘๐๕.๔๑ ๗๑๑๑.๕๑ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๗๖๘.๗๐ ๑๒.๑๔ ๖๓.๓๕ ๐.๐๐* ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๐๑๙.๙๗ ๑๑๑๕๙.๘๘ ๑๓๑๗๙.๘๔ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๖๗๓.๓๒ ๒๘.๑๘ ๒๓.๘๙ ๐.๐๐* ด้านอุดมการณ์ ในการปฏิบัติงาน ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๓๗๑.๔๙ ๑๙๘๖.๐๒ ๒๓๕๗.๕๑ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๑๒๓.๘๓ ๕.๐๒ ๒๔.๗๐ ๐.๐๐* ด้านคุณลักษณะ ตามหลักสัปปุริสธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๑๒๐๕๘.๖๙ ๑๑๔๖๓๓.๔๗ ๑๒๖๖๙๒.๑๖ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๔๐๑๙.๕๖ ๒๘๙.๔๘ ๑๓.๘๙ ๐.๐๐* รวม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๘๓๖.๒๑ ๒๒๗๒๒.๕๕ ๒๕๕๕๘.๗๕ ๓ ๓๙๖ ๓๙๙ ๙๔๕.๔๐ ๕๗.๓๘ ๒๔.๐๓ ๐.๐๐* *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕


๙๕ จากตารางที่๔.๓๗ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามอาชีพ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความ คิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเปนไปตามสมมต ็ ิฐานที่ตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ความสามารถ ด้าน คุณธรรมจริยธรรม ด้านมนุษยสัมพันธ์ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน และ ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไป ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ดังนั้น จึงทําการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวม และ ๖ ด้านด้วยวิธีผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) รายละเอียดดังแสดงในตารางที่๔.๓๘-๔.๔๔ ตารางที่๔.๓๘ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉล่ียรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตาม อาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงาน บริษัทเอกชน ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษัทเอกชน - -๖.๐๒* ๑.๕๗ -๙.๖๕* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ - ๗.๕๙* -๓.๖๔* เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - -๑๑.๒๒* ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๘ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นในภาพรวม จําแนกตาม อาชีพแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๕ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ,พนักงานรัฐวิสาหกิจ และ ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ,พนักงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ


๙๖ ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๓๙ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านด้านความรู้ความสามารถผลต่างนัยสําคัญ น้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงาน บริษทเอกชนั ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษทเอกชนั - ๑.๑๖* .๘๑* ๑.๖๒* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกจิ - -.๓๔๙ .๔๖ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - .๘๑ ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๓๙ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้านความรู้ความสามารถ ในภาพรวม จําแนกตามอาชีพแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๓ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๔๐ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านคุณธรรมจริยธรรมผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงาน บริษทเอกชนั ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษทเอกชนั - .๖๗* -.๗๖* ๑.๐๖* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกจิ - -๑.๔๒* .๔๐ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - ๑.๘๒* ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕


๙๗ จากตารางที่๔.๓๘ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้านคุณธรรมจริยธรรมใน ภาพรวม จําแนกตามอาชีพแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๕ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๔๑ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านมนุษยสัมพันธ์ผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงาน บริษัทเอกชน ข้าราชการ, พนักงานรัฐ วิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษัทเอกชน - -๔.๕๓* -.๒๗ -๗.๐๕* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ - ๔.๒๖* -๒.๕๒* เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - -๖.๗๘* ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๑ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้านมนุษยสัมพันธ์ใน ภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ


๙๘ ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทํา ไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๔๒ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านภาวะความเป็นผู้นําผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงาน บริษัทเอกชน ข้าราชการ, พนักงานรัฐ วิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษัทเอกชน - -๓.๓๑* ๑.๗๙* -๕.๒๘* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ - ๕.๐๙* -๑.๙๗ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - -๗.๐๗* ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๒ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้านภาวะความเป็นผู้นํา ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๕ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ,พนักงาน รัฐวิสาหกิจ และเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๙๙ ตารางที่๔.๔๓ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานผลต่างนัยสําคัญ น้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงาน บริษัทเอกชน ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษัทเอกชน - -๑.๓๙* -.๐๒ -๓.๓๙* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ - ๑.๓๙* -๑.๙๙* เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - -๓.๓๘* ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๓ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้านอุดมการณ์ในการ ปฏิบัติงานในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๕ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพ ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๐ ตารางที่๔.๔๔ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริส ธรรมผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามอาชีพ อาชีพ อาชีพ พนักงานบริษัท เอกชน ข้าราชการ,พนัก งานรัฐวิสาหกิจ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ พนักงานบริษัท เอกชน - -๔.๑๘ ๖.๑๕* -๑๕.๘* ข้าราชการ, พนักงานรัฐวิสาหกิจ - ๑๐.๓๓* -๑๑.๑๐* เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) - -๒๑.๔๓* ค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๔ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้านคุณลักษณะตาม หลักสัปปุริสธรรมในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จํานวน ๕ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพ เกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ,พนักงานรัฐวิสาหกิจมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี อาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) และค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกร (ทําไร่ทํานา) มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี อาชีพค้าขาย รับจ้าง และอื่นๆ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน สมมติฐานที่๕ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นแตกต่างกัน การเปรียบเทียบใช้สถิติ F-test (One-way ANOWA) ในการทดสอบความแปรปรวน แบบทางเดียวเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยที่มากกว่าสองกลุ่ม ใช้ระดับความเชื่อมั่น ๙๕% จะยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ก็ต่อเมื่อค่า Sig. น้อยกว่า ๐.๐๕


๑๐๑ ตารางที่๔.๔๕ ผลการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน คุณลักษณะของ นักการเมืองทองถ้ ิ่น แหล่งความ แปรปรวน SS df MS F Sig. ด้านความรู้ความ สามารถ ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๔๑๘.๗๙ ๑๕๔๑.๙๑ ๑๙๖๐.๗๐ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๑๐๔.๗๐ ๓.๙๐ ๒๖.๘๒ ๐.๐๐* ด้านคุณธรรมจริยธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๔๖๘.๒๙ ๑๕๘๒.๕๑ ๒๐๕๐.๘๐ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๑๑๗.๐๗ ๔.๐๑ ๒๙.๒๒ ๐.๐๐* ด้านมนุษยสัมพันธ์ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๔๑๔.๑๑ ๖๖๙๗.๔๐ ๗๑๑๑.๕๑ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๑๐๓.๕๓ ๑๖.๙๖ ๖.๑๑ ๐.๐๐* ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๘๓๘.๕๓ ๑๐๓๔๑.๓๑ ๑๓๑๗๙.๘๔ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๗๐๙.๖๓ ๒๖.๑๘ ๒๗.๑๐ ๐.๐๐* ด้านอุดมการณ์ในการ ปฏิบัติงาน ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๕๖๐.๖๐ ๑๗๙๖.๙๑ ๒๓๕๗.๕๑ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๑๔๐.๑๕ ๔.๕๕ ๓๐.๘๑ ๐.๐๐* ด้านคุณลักษณะตาม หลักสัปปุริสธรรม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๒๙๒๒๖.๖๖ ๙๗๔๖๕.๕๐ ๑๒๖๖๙๒.๑๖ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๗๓๐๖.๖๗ ๒๔๖.๗๕ ๒๙.๖๑ ๐.๐๐* รวม ระหว่างกลุ่ม ภายในกลุ่ม รวม ๕๖๕๔.๕๐ ๑๙๙๐๔.๒๖ ๒๕๕๕๘.๗๕ ๔ ๓๙๕ ๓๙๙ ๑๔๑๓.๖๓ ๕๐.๓๙ ๒๔.๙๕ ๐.๐๐* *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๕ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ประชาชนที่มีรายได้ เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตาม สมมติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ ความสามารถ ด้านคุณธรรมจริยธรรม ด้านมนุษยสัมพันธ์ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ด้านอุดมการณ์ใน


๑๐๒ การปฏิบัติงานและด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ดังนั้น จึงทําการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวม และ ๖ ด้านด้วยวิธีผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) รายละเอียดดังแสดงในตารางที่๔.๔๖-๔.๕๒ ตารางที่๔.๔๖ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตาม รายได้เฉลี่ยตอเด่ ือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑- ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑- ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑- ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - ๒.๑๒ ๙.๑๑* ๒.๘๔ ๑๑.๓๗* ๕,๐๐๑-๑๐,๐๐๐ บาท - ๖.๙๙* .๗๒ ๙.๒๕* ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - -๖.๒๗* ๒.๒๖ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - ๘.๕๓* ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๖ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นใน ภาพรวม จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จานวนํ๖ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อ เดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อ เดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในภาพรวมแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อ เดือน ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป


๑๐๓ นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน ตารางที่๔.๔๗ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านความรู้ความสามารถต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - -.๒๕ .๖๔ ๒.๖๒* ๓.๐๐* ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท - .๘๙* ๒.๘๗* ๓.๒๕* ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - ๑.๙๗* ๒.๓๖* ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - .๓๘ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๗ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน ความรู้ความสามารถในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๗ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อ เดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชนที่ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านความรู้ความสามารถแตกต่างจากประชาชนที่ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๔ ตารางที่๔.๔๘ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านคุณธรรมจริยธรรมต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - ๑.๗๙* ๒.๕๒* .๖๑ ๔.๕๔* ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท - .๗๔* -๑.๑๘* ๒.๗๕* ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - -๑.๙๑* ๒.๐๒* ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - ๓.๙๓* ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๘ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน คุณธรรมจริยธรรมในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จานวนํ๙ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อ เดือน ๕,๐๐๑ -๑๐,๐๐๐ บาท และ ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณธรรมจริยธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๕ ตารางที่๔.๔๙ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านมนุษยสัมพันธ์ต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - -.๖๙ -๑.๐๐ -๒.๙๕* -๓.๖๙* ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท - -.๓๒ -๒.๒๗* -๓.๐๐* ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - -๑.๙๕* -๒.๖๘* ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - -.๗๔* ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๔๙ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน มนุษยสัมพันธ์ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จํานวน ๗ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านมนุษยสัมพันธ์แตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๖ ตารางที่๔.๕๐ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านภาวะความเป็นผู้นําผลต่างนัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - ๑.๒๗ ๖.๙๖* ๒.๕๖* ๗.๕๒* ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท - ๕.๖๙ ๑.๒๙ ๖.๒๕ ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - -๔.๔๐* .๕๖ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - ๔.๙๖* ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๕๐ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน ภาวะความเป็นผู้นําในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มี จํานวน ๕ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อ เดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านภาวะความเป็นผู้นําแตกต่างจากประชาชนที่ มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๗ ตารางที่๔.๕๑ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานผลต่างนัยสําคัญ น้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - ๓.๕๔* ๔.๓๓* ๓.๒๐* ๕.๕๔* ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท - .๘๐ -.๓๔ ๒.๐๐* ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - -๑.๑๓* ๑.๒๐ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - ๒.๓๔* ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๕๑ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน อุดมการณ์ในการปฏิบัติงานในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๗ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้ เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ -๑๐,๐๐๐ บาท และ ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจาก ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจาก ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท เป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานแตกต่างจาก ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๘ ตารางที่๔.๕๒ แสดงผลการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยรายคู่คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมผลต่าง นัยสําคัญน้อยที่สุด (LSD.) จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป ไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท - ๙.๓๙* ๒๗.๘๔* ๒๑.๔๓* ๒๔.๓๙* ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท - ๑๘.๔๕* ๑๒.๐๔* ๑๕.๐๐* ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท - -๖.๔๑* -๓.๔๕ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท - ๒.๙๖ ๒๐,๐๐๑ บาท เป็นต้นไป - *มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จากตารางที่๔.๕๒ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นด้าน คุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม ในภาพรวม จําแนกตามอายุแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๘ คู่ดังนี้ ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่างจากประชาชนที่มี รายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ -๑๐,๐๐๐ บาท และ ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่าง จากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท และ ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ ๒๐,๐๐๑ บาทเป็นต้นไป ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรมแตกต่าง จากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท เป็นต้นไป นอกนั้นคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ไม่แตกต่างกัน


๑๐๙ ๔.๓ ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มีดังนี้ ๔.๓.๑ ด้านความรู้ความสามารถ พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีความรู้ความเข้าใจสามารถอธิบายได้ถึงปัญหาหรือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทํางานที่ผิดพลาดรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงระบบ หรือขั้นตอนการทํางาน ใหม่ๆ๑ มีความรู้ในมาตรฐานการปฏิบัติงานมีการซักถามหัวหน้างานผู้ใต้บังคับบัญชา หรือสมาชิกใน ทีมอยู่เสมอ ทําความเข้าใจในระบบหรือขั้นตอนการทํางานใหม่ๆ๒ เข้าใจ และสามารถอธิบายได้ถึง กระบวนการ ระบบ ขั้นตอนหรือมาตรฐานการปฏิบัติงานที่รับผิดชอบประยุกต์ใช้ความรู้ที่มีในการ ปฏิบัติงานให้สําเร็จได้ตามวัตถุประสงค์หรือแผนงานที่วางไว้ ๓ มีความรู้ความชํานาญในงานที่ รับผิดชอบเป็นอย่างดีสามารถนําความรู้ประสบการณ์มาพัฒนาและปรับปรุงการทํางานได้ ๔ สามารถ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมงานได้เข้าใจปัญหาและผลที่เกิดขึ้นในการ ทํางานของหน่วยงานที่มีผลต่อความสําเร็จขององค์กร๕ ประยุกต์ใช้หลักหรือวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม ในการทํางาน ให้คําปรึกษาและแนะนํา และเป็นแบบอย่างแก่เพื่อนร่วมงานได้ ๖ มีการวางแผนและ กําหนดมาตรฐานการทํางาน ตลอดจนประเมินสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า๗ เสนอความคิดเห็นคําแนะนํา และแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนมีส่วนช่วยในการให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจ๘ รู้จัก วางแผนเป็นที่ปรึกษาแบบอย่างของหน่วยงานทั้งภายในและหรือภายนอก๙ สามารถวางแผนและตั้ง ข้อสังเกตให้คําปรึกษาแนะนําและถ่ายทอดความรู้ตลอดจนเป็นแบบอย่างแก่คนในองค์กร๑๐ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรอธิบายได้ถึงปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทํางานที่ ผิดพลาดเพื่อหาแนวทางแก้ไขที่จะนําไปสู่ขั้นตอนการทํางานสามารถถ่ายทอดความรู้และ ประสบการณ์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมงานได้ให้คําปรึกษาแนะนําตลอดจนเป็นแบบอย่างแก่คนในองค์กร ๑ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๕ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๗ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๘ สัมภาษณ์นันทวัลย์ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๙ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๑๐ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๐ ๔.๓.๒ ด้านคุณธรรมจริยธรรม พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และงานที่ได้รับมอบหมาย ปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ และไม่คดโกงหรือหลอกลวงผู้อื่นจึงจะได้รับความไว้วางใจจากผู้ร่วมงาน๑๑ จะต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่เห็นแก่ตัว รู้จักการให้ช่วยเหลือผู้อื่น โดยไม่หวังผลตอบแทนเสียสละความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์ส่วนรวม อุทิศตนเพื่อการทํางาน๑๒ ใน การทํางานต้องไม่ลําเอียงหรือยืดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อต้องมีความเป็นกลาง ยึดถือความถูก ต้องเป็นหลัก ไม่มีอคติกับเรื่องต่าง ๆ๑๓ จะต้องคํานึงถึงความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร โดยการนําสิ่ง ที่เหลือใช้หรือสิ่งที่เลิกใช้แล้วมาดัดแปลง ซ่อมแซม หรือแก้ไขเพื่อใช้ในการทํางาน๑๔ ในการทํางานเรา จะต้องมีความมุ่งมั่นต่องานที่เราได้รับมอบหมาย เพื่อให้งานนั้นบรรลุเป้าหมายตามที่ได้ตั้งไว้ ๑๕ เมื่อ พบปัญหาหรืออุปสรรคในการทํางานให้นําปัญหาหรืออุปสรรคนั้นมาปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ซึ่ง ปัญหาหรืออุปสรรคเหล่านั้นจะเป็นบทเรียนที่ทําให้แข็งแกร่งและพร้อมที่จะก้าวสู่งานต่อไปได้อย่าง มั่นคง๑๖ มีความตรงต่อเวลา ประกอบอาชีพด้วยความสุจริต๑๗ ควบคุมตนเองได้มีความตื่นตัวฉับไว ในการรับรู้ใช้ปัญญาและเหตุผลในการตัดสินใจที่ในเรื่องต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบ เหมาะสม และถูกต้ อง๑๘ มีความพยายามในการทํางานหรือหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน ด้วยความมุ่งมั่นเอาใจใส่อย่าง จริงจังจนกว่างานจะสําเร็จ๑๙ มีความปรารถนาดีมีไมตรีจิตต้องการช่วยเหลือให้ประชาชนประสบ ความสุข๒๐ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ของตนเองและผู้อื่น ปฏิบัติงานด้วย ความจริงใจ และไม่คดโกงหรือหลอกลวงผู้อื่นจะต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วน ตนอุทิศตนเพื่อการทํางาน ในการทํางานต้องไม่ลําเอียงหรือยืดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อต้องมี ความเป็นกลาง ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก ๑๑ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๒ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๓ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๔ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๕ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ธมฺมวิจาโร, ดร, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๖ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๗ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๑๘ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๑๙ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๒๐ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๑ ๔.๓.๓ ด้านมนุษยสัมพันธ์พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอใช้วาจา ที่ไพเราะและเหมาะสมยกย่องชมเชยผู้อื่นอย่างจริงจังรับฟังความคิดเห็นเพื่อร่วมงาน ช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อมีโอกาส๒๑ มีการชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนประนีประนอม ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา๒๒ ต้อง รู้จักประสานความคิด ประสานประโยชน์สามารถทํางานร่วมกับคนทุกเพศทุกวัย ทุกระดับการศึกษา ได้ผู้นําที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีจะช่วยให้ปัญหาใหญ่เป็นปัญหาเล็กได้ ๒๓ เคารพในความเป็นมนุษย์ของทุก คน โดยไม่มีชั้นวรรณะปฏิบัติต่อกันในลักษณะของคนกับคนโดยมีความคิดว่าบุคคลอื่นคือมนุษย์ร่วม โลกและสังคมเดียวกันกับเรา มีเกียรติมีค่า และมีสิทธิเท่าเทียมกับเรา เราจึงควรให้เกียรติเกรงใจ และไม่ล่วงเกินสิทธิของผู้อื่น๒๔ รับฟังความคิดเห็นของบุคคลอื่น แม้ว่าความคิดเห็นนั้นอาจจะขัดหรือ ตรงกันข้ามกับความคิดเห็นของเรา โดยเปิดโอกาสให้มีการอภิปราย ซักถามและเสนอแนะ ซึ่งจะ ก่อให้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจว่ามีบทบาทสําคัญ๒๕ ชี้แจงนโยบายแผนงานและปัญหาต่าง ๆ ให้เป็นที่ เข้าใจอย่างชัดเจนและทันต่อเหตุการณ์หากสิ่งใดไม่สามารถปฏิบัติได้ก็ให้อธิบายให้ฟังด้วยเหตุผลจน เข้าใจ ตลอดจนสนับสนุนให้บุคคลอื่นมีบทบาทร่วมในการกําหนดนโยบายวางแผนและตัดสินใจ เกี่ยวกับการแก้ปัญหา เป้าหมายและการดําเนินการขององค์การ๒๖ ใจกว้าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เอาใจใส่ ต่อการทํางานของบุคคลอื่น ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันเมื่อมีทุกข์ก็ช่วยเหลือให้กําลังใจและคําปรึกษา แนะนําแนวทางและวิธีแก้ไข ปัญหาที่กําลังประสบเท่าที่จะทําได้อย่างเห็นใจ จริงใจและเสมอต้นเสมอ ปลาย๒๗ เอาใจใส่และสนองความต้องการของบุคคลอื่น ทั้งในด้านวัตถุและจิตใจเท่าที่จะทําได้โดย พยายามผสมผสานความต้องการของสมาชิกแต่ละคนให้สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายของ องค์กร เพื่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันภายในองค์กร๒๘ พบว่า สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีรู้จักยกย่องชมเชยผู้อื่นอย่างจริงใจ รับฟังความคิดเห็นเพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาสให้ความยุติธรรมและปฏิบัติต่อทุกคน อย่างเสมอภาคในทุก ๆ ด้านไม่ลําเอียง ตลอดจนแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นประสบความสําเร็จไม่ว่าผู้ นั้นจะเป็นใครก็ตาม ๒๑ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒๒ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒๓ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒๔ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒๕ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒๖ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๒๗ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๒๘ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๒ ๔.๓.๔ ด้านภาวะความเป็นผู้นํา พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรสร้างพลังใจในการทํางาน มุ่งมั่นสู่เป้าหมาย เพื่อขับเคลื่อน ทีมให้กระตือรือร้นไปพร้อม ๆ กัน๒๙ สื่อสารได้ตรงประเด็น แม่นยํา ไม่อ้อมค้อม ไม่ว่าจะเป็นการ ชมเชย วิจารณ์เชิงสร้างสรรค์การบอกเป้าหมายและสิ่งที่ควรทําอย่างชัดเจน และควรสื่อสารอย่าง พอเหมาะพอดีมีการลําดับความสําคัญอย่างเหมาะสม๓๐ ต้องฟังเป็นและถามเป็น เพื่อที่จะได้ข้อมูล และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นช่วยตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพเข้าถึงประเด็นต่าง ๆ ได้รวดเร็วขึ้น๓๑ มี ระบบและระเบียบจะช่วยทําให้ทุกอย่างชัดเจน ไม่วุ่นวายไม่สับสนช่วยให้ทีมงานได้อย่างราบรื่นและมี ประสิทธิภาพ๓๒ มีส่วนร่วมกับทีม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทีมมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ และที่สําคัญคือต้องแน่ใจว่า ทีมเข้าใจสิ่งที่กําลังทําอยู่ร่วมกัน๓๓ ต้องรู้จักจุดเด่นจุดด้อยของทีมงาน และรู้ว่าว่าอะไรบ้างที่ทําให้ทีมทํางานดีกล้าหาญและตรงไปตรงมากล้าเผชิญกับปัญหา๓๔ มีเป้าหมาย ที่ชัดเจน มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลนําพาผู้ตามให้ก้าวไปข้างหน้า และสร้างความร่วมมือให้ทุกคนสามารถ บรรลุเป้าหมายสู่ความสําเร็จได้ ๓๕ มีทัศนคติเชิงบวกมองเห็นโอกาสที่เป็นไปได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ สามารถยืนหยัดอยู่บนหนทางไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้พร้อมสร้างความเปลี่ยนแปลงที่จําเป็นเพื่อ เอาชนะปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับองค์กร๓๖ มีความมั่นใจในสิ่งที่ตนเองคิดหรือทํา เมื่อผู้นําแสดงออก ด้วยความมั่นใจ ลูกน้องหรือผู้ตามย่อมรู้สึกถึงความมั่นคงและเชื่อมั่นที่จะปฏิบัติตาม๓๗ จะต้อง มองเห็นภาพรวมและสามารถวางแผนว่าจะแบ่งงานให้ลูกทีมแต่ละคนอย่างไร โดยพิจารณาเลือกคนที่ มีความสามารถให้เหมาะสมกับงานนั้น ๆ รวมถึงเตรียมทรัพยากรต่าง ๆ สนับสนุนเพื่อสนับสนุนการ ทํางานให้เสร็จตามแผน๓๘ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีภาวะผู้นํามีส่วนร่วมกับทีม มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลนําพา องค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า และสร้างความร่วมมือให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมาย ควรมีความคิดริเริ่ม มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความรับผิดชอบวางตัวเป็นกลางเสมอต้นเสมอปลาย ๒๙ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓๐ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓๑ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓๒ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓๓ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓๔ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๓๕ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๓๖ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔ . ๓๗ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๓๘ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์ รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๓ ๔.๓.๕ ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการตอบสนอง ความต้องการและความคาดหวังของประชาชน๓๙ ปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบ ได้ ๔๐ ปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบและมีจิตสาธารณะ๔๑ เปิดโอกาสให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการ บริหารจัดการ๔๒ มีการกระจายอํานาจในการบริหารงานลงสู่ระดับรองลงมา๔๓ มีความยุติธรรมในการ บริหารงานและไม่เลือกปฏิบัติ ๔๔ มีการศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกที่มี อิทธิพลต่อการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น๔๕ มีการกําหนดนโยบายและเป้าหมายองค์การ ที่ชัดเจนร่วมกัน๔๖มีการจัดทําแผนกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการขององค์กรที่ชัดเจน๔๗ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการศึกษาวิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งภายในและ ภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือนํามากําหนดนโยบายและ เป้าหมายองค์การที่ชัดเจนร่วมกัน ๔.๓.๖ ด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริสธรรม ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ มีดังนี้ ๑) ด้านธัมมัญญุตา – รู้จักเหตุพบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้มีการตรวจสอบ การทํางานในเขตการปกครอง๔๘ เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของประชาชนแล้วนําไปประยุกต์ใช้ ๔๙ ส่งเสริมให้มีการตรวจสอบปัญหาในเขตการปกครอง๕๐ มีนโยบายให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดง ความคิดเห็นต่อการทํางานในองค์กรและในเขตการปกครอง๕๑ มีการบริหารงานที่ก่อให้เกิดการพัฒนา ได้อย่างแท้จริงผู้บริหารจะต้องเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานเป็นไปตามการวางแผนที่ถูกต้องและมุ่งเน้นการ ๓๙ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๐ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๑ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๒ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๓ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๔ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๕ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๔๖ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๔๗ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์ รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๔๘ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๔๙ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๕๐ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๕๑ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔.


๑๑๔ ประสานงานซึ่งถือว่าเป็นสิ่งเป็นสําคัญ๕๒ มีการสร้างวินัยในตนเองและปฏิบัติงานโดยมีการพัฒนาอยู่ ตลอดเวลา๕๓ ควรแก้ไขปัญหาในขณะปฎิบัติงานอย่างรอบคอบมีการวางแผนการทํางานอย่าง รอบคอบทุกครั้งก่อนตัดสินใจมอบหมายงาน๕๔ และเปิดโอกาสให้บุคลากรในองค์กรเข้ามามีส่วนร่วม ในการวางแผนการทํางาน๕๕ มีการประชุมปรึกษาหารือในการบริหารงานกับบุคลากรเป็นประจํา๕๖ และรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ในการปฏิบัติงานของบุคลากร๕๗ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนให้ประชาชนมีส่วน ร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการทํางานกําหนดแผนการทํางานในองค์กรและในเขตการปกครอง แก้ไขปัญหาในขณะปฎิบัติงานอย่างรอบคอบ ควรกําหนดแผนหรือนโยบายให้สอดคล้องกับปัญหาที่ เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม ๒) อัตถัญญุตา – รู้จักผล พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีนโยบายให้ประชาชนรับรู้ถึง แผนการดําเนินงาน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารการดําเนินงาน๕๘ และส่วนร่วมในการ กําหนดแผนการดําเนินงาน๕๙ รวมไปถึงในการตรวจสอบการดําเนินงาน๖๐ มีนโยบายในการ ประเมินผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน๖๑ ซึ่งผู้บริหารงานต้องมีวิสัยทัศน์มองกาลไกล๖๒ กําหนด เป้าหมายและสั่งการบุคคลเพื่อนําพาองค์กรไปสู่ความสําเร็จตามเป้าหมาย๖๓ ควรมีการยึดเอา ผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง๖๔ และมีการปรับปรุงวิธีการทํางานที่สามารถยืดหยุ่นได้ตาม สถานการณ์ ๖๕ และให้คําแนะนําแก่บุคลากรในการปฏิบัติงานที่ตรงกับเป้าหมาย๖๖ มีการปรับปรุง แก้ไขงานที่เคยทําผิดพลาดมาแล้วพร้อมทั้งมองเห็นคุณค่าความสําคัญของงานที่ได้รับผิดชอบ๖๗ ๕๒ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๕๓ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๕๔ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๕๕ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๕๖ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๕๗ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์ รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๕๘ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๕๙ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖๐ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖๑ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖๒ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖๓ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖๔ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๖๕ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๖๖ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๖๗ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์ รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๕ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารการ ดําเนินงาน เปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนดแผนการดําเนินงานกําหนดเป้าหมายและ สั่งการบุคคลเพื่อนําพาองค์กรไปสู่ความสําเร็จตามเป้าหมาย ๓) อัตตัญญุตา – รู้จักตน พบว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรส่งเสริมให้นักการเมืองท้องถิ่น มีวิสัยทัศน์และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ๖๘ มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย๖๙ และมี มนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในการเชื่อมโยงระหว่างบุคคล ชุมชน และองค์กร๗๐ มีการสร้างกรอบในการสร้าง ความสัมพันธ์ที่ดีในการบริหารเน้นไปที่กฎระเบียบที่จําเป็นแก่องค์กร๗๑ วางตัวให้เหมาะสมกับวุฒิ ภาวะของตนเอง๗๒ มีความสุขุมรอบคอบในสถานการณ์ต่าง ๆ๗๓ และมีการปฏิบัติตนให้แบบอย่างที่ดี แก่บุคลากรภายในองค์กร๗๔ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรทํางานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน รู้จัก มอบหมายงานให้เหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ของบุคลากร ๔) มัตตัญญุตา – รู้จักประมาณ พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรกําหนดแผนหรือนโยบาย หรือโครงการที่สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่ ๗๕ ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการจัดสรร งบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด๗๖ มีการทํางานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล๗๗ อีกทั้งควรจัดสรรงบประมาณให้คุ้มค่ากับทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม๗๘ และมีการบริหาร จัดการพร้อมที่จะพัฒนาไปสู่มาตฐานสากลต่อไป๗๙ ให้ความร่วมมือด้วยความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลด้วย ความสัมพันธ์อันดีสามารถใช้แรงจูงใจ ให้มีจิตใจโอบอ้อมอารีและเสียสละ๘๐ ๖๘ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๖๙ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ฃ. ๗๐ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๗๑ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๗๒ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๗๓ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๗๔ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๗๕ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๗๖ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๗๗ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๗๘ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๗๙ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๐ สัมภาษณ์นันทวัลย์ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๖ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการกําหนดแผนหรือนโยบายหรือโครงการที่ สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่มีการจัดสรรงบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ๕) กาลัญญุตา – รู้จักกาล พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรทํางานให้ตรงต่อเวลาจัดลําดับ ความสําคัญของงานก่อนและหลัง ๘๑ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันต่อเหตุการณ์และเวลาที่เหมาะสม๘๒ จัดเวลาให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรและประชาชน๘๓ มีการส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดสรรเวลาใน การรับฟังปัญหาจากประชาชน๘๔ มีการกําหนดว่าต้องปฏิบัติงาน ตามวันเวลาที่กําหนดทั้งในสถานที่ และนอกสถานที่ ๘๕ และต้องทันต่อข่าวสารบ้านเมือง๘๖ ให้ความสําคัญกับกรอบเวลาของการทํางาน เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายที่ได้ตั้งไว้ ๘๗ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดทํานโยบายให้เหมาะสมกับ เวลาจัดลําดับความสําคัญของปัญหาก่อนและหลัง จัดสรรเวลาในการรับฟังปัญหาจากประชาชน กําหนดนโยบายว่าต้องปฏิบัติงาน ตามวันเวลาที่กําหนดทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ ๖) ปริสัญญุตา – รู้จักเข้าหาชุมชน พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการทํางานที่เข้าใจ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงาม๘๘ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับประชาชน๘๙ มีการ ประสานงานที่ดีกับประชาชน๙๐ รวมทั้งมีนโยบายที่ยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน๙๑ รับฟังปัญหาและความต้องการของชุมชน๙๒ ช่วยเหลือสังคมตามโอกาสอันควร๙๓ รู้จักอนุรักษ์ ๘๑ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๒ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๓ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๔ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๕ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๖ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๘๗ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์ รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๘๘ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๘๙ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๙๐ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๙๑ สัมภาษณ์วรวุฒิ อันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๙๒ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๙๓ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔.


๑๑๗ วัฒนธรรมของชุมขน๙๔ และมีการปฏิบัติตนได้สอดคล้องกับขนบธรรมเนียมประเพณีไทย๙๕ รวมทั้งมี การส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมของชุมชน๙๖ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรทํางานเพื่อให้เกิดความเจริญแก่ชุมชนต้องรู้และเข้าใจปัญหา ของท้องถิ่นมีนโยบายที่ยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนมีการรับฟังปัญหาและความ ต้องการของชุมชน ๗) ปุคคลัญญุตา – รู้จักบุคคล พบว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการจัดสรรบุคคลให้ เหมาะสมกับการทํางาน๙๗ ส่งเสริมให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถดํารงตําแหน่งที่เหมาะสม๙๘ แลกเปลี่ยนความคิดเพิ่มพูนความรู้ ๙๙ สามารถสื่อสารและประสานงานกับประชาชนได้ดี ๑๐๐ มีการ มอบหมายงานให้กับบุคคลที่เหมาะสมกับงาน๑๐๑ ควรเน้นย้ําให้ทุกฝ่ายเข้าใจในจุดมุ่งหมายของ องค์กร เพื่อทําความเข้าใจทิศทางการปฏิบัติงาน๑๐๒ และคัดเลือกบุคคลเข้าทํางานต้องเน้นเรื่องของ ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์การในทํางานที่เหมาะสมสอดคล้องกับการดําเนินงานของ องค์กร๑๐๓ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด๑๐๔ ควรมีการพัฒนาตามแผนงานที่สามารถนําไป ปฏิบัติใช้ได้จริงเพื่อการบริหารจัดการให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง๑๐๕ และเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับงาน เพื่อให้การทํางานนั้นมีประสิทธิภาพ๑๐๖ สรุป นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการจัดสรรบุคคลให้เหมาะสมกับการทํางานต้องพยายาม ศึกษาเรียนรู้อุปนิสัยของผู้คนเพื่อจะสามารถบูรณาการการทํางานได้อย่างมีประสิทธิผล ๙๔ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๙๕ สัมภาษณ์นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๙๖ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๙๗ สัมภาษณ์พระครูอรรถสารเมธี, เจ้าคณะอําเภอเมืองขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๙๘ สัมภาษณ์พระครูมัชฌิมธรรมโสภณ, เจ้าคณะตําบลในเมือง เขต ๒, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๙๙ สัมภาษณ์อัศรา เอกวิเศษ, หัวหน้าฝ่ายพัฒนาชุมชนสํานักสวัสดิการสังคมเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๐๐ สัมภาษณ์วรวุฒิอันปัญญา, ผู้อํานวยการ โรงเรียนเทศบาลบ้านโนนทัน, ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๐๑ สัมภาษณ์พระมหาเกรียงศักดิ์ธมฺมวิจาโร, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๐๒ สัมภาษณ์สระจิตร สีดาทัน, ประธานชุมชนโนนทัน ๑, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔. ๑๐๓ สัมภาษณ์วิทยา ภูโยสาร, ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๑๐๔ สัมภาษณ์นันทวัลย์ไกรศรีวรรธนะ, ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๑๐๕ สัมภาษณ์กุลิสรา วงค์เครือสร, หัวหน้าฝ่ายแผนงานและโครงการสํานักการศึกษาเทศบาลนคร ขอนแก่น, ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๔. ๑๐๖ สัมภาษณ์พระประเสริฐศักดิ์รตนญาโณ, ดร., ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิ์, ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๔.


๑๑๘ ๔.๔ องค์ความรู้ที่ได้จาการวิจัย จากการวิจัยเรื่อง คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ผู้วิจัยได้รับองค์ความรู้จากการวิจัยในครั้งนี้คือ ๑) ผลการวิจัย พบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวมและรายด้าน อยู่ในระดับมาก ๒) ผลการวิจัย พบว่า ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ประชาชนที่มีเพศ อายุระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ของประชาชน ในภาพรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ๐.๐๕ ๓) ผลการวิจัย พบว่า ข้อเสนอแนะคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ควรมีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ควรมีการเปิด โอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารการดําเนินงาน ควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไปเพื่อตอบสนอง ความต้องการของประชาชน ควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการกําหนดแผนหรือนโยบายให้ สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สามารถสรุปเป็นแผนภาพได้ดังนี้ แผนภาพที่๔.๑ สรุปองค์ความรู้ที่ได้รับจากการวิจัย


บทที่๕ สรุปผล อภิปรายและข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศ บาลนครขอนแก่น” สามารถสรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ตามลําดับ ดังนี้ ๕.๑ สรุปผลการวิจัย ๕.๒ อภิปรายผลการวิจัย ๕.๓ ข้อเสนอแนะ ๕.๑ สรุปผลการวิจัย ๕.๑.๑ ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่นประชากรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จํานวน ๓๑๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๙.๘๐ มีอายุระหว่าง ๔๐ - ๔๙ ปีจํานวน ๑๓๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๓๐ มีระดับการศึกษาในระดับประถมศึกษาจํานวน ๑๓๔ คนคิดเป็นร้อยละ ๓๓.๕๐ มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชนจํานวน ๑๖๑ คนคิดเป็นร้อยละ ๔๐.๓๐ มีรายได้๑๐,๐๐๑ - ๑๕,๐๐๐ บาทจํานวน ๒๒๗ คนคิดเป็นร้อยละ ๕๖.๘๐ ๕.๑.๒ ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่น ทั้ง ๕ ด้าน คือ คือ ๑) ด้านความรู้ความสามารถ ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ๓) ด้านมนุษย สัมพันธ์๔) ด้านความเป็นภาวะผู้นํา ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก (xത = ๔.๐๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้านโดยเรียงค่าเฉลี่ยจากมาก ไปหาน้อย พบว่า คุณลักษณะด้านความรู้ความสามารถมีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๒๙) รองลงมา คือ คุณลักษณะด้านคุณธรรมจริยธรรม (xത = ๔.๒๘) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน (xത = ๔.๑๗) คุณลักษณะด้านมนุษยสัมพันธ์ (xത = ๔.๐๓) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ คุณลักษณะด้านความ เป็นภาวะผู้นํา (xത = ๓.๖๔) ตามลําดับ


๑๒๐ ๕.๑.๓ ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริสธรรม ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริสธรรมของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทั้ง ๗ ด้าน คือ ๑) ธัมมัญญุตา ๒) อัตถัญญุตา ๓) อัตตัญญุตา ๔) มัตตัญญุตา ๕) กาลัญญุตา ๖) ปริสัญญุตา ๗) ปุคคลัญญุตา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๙๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ด้านอัตตัญญุตา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๑๓) รองลงมา คือ ด้านอัตถัญญุตา (xത = ๓.๙๔) ด้าน ปุคคลัญญุตา (xത = ๓.๙๔) ด้านมัตตัญญุตา (xത = ๓.๙๒) และด้านปริสัญญุตา (xത = ๓.๙๒) ๕.๑.๔ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาล นครขอนแก่น จําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ตามหลักสัปปุริสธรรมของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า ๑) ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๒) ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๓) ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๔) ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๕) ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ดังนั้นจึงยอมรับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ๕.๑.๕ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาล นครขอนแก่น สรุปได้ดังนี้ ๑) ด้านความรู้ความสามารถ นักการเมืองท้องถิ่นควรมีความรู้ความเข้าใจสามารถ อธิบายได้ถึงปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทํางานที่ผิดพลาดรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงระบบ หรือขั้นตอนการทํางานสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมงานได้ให้ คําปรึกษาแนะนําตลอดจนเป็นแบบอย่างแก่คนในองค์กร ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม นักการเมืองท้องถิ่นควรมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และ งานที่เราได้รับมอบหมาย ปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ และไม่คดโกงหรือหลอกลวงผู้อื่นจะต้องเห็นแก่ ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตนอุทิศตนเพื่อการทํางาน ในการทํางานต้องไม่ลําเอียงหรือ ยืดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อต้องมีความเป็นกลาง ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก


๑๒๑ ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์นักการเมืองท้องถิ่นควรมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดียิ้มแย้มแจ่มใส อยู่เสมอใช้วาจาที่ไพเราะและเหมาะสมยกย่องชมเชยผู้อื่นอย่างจริงจังรับฟังความคิดเห็นเพื่อร่วมงาน ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาสให้ความยุติธรรมและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคในทุก ๆ ด้าน และให้ เกียรติผู้ที่ทําความดีตลอดจนแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นประสบความสําเร็จไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม ๔) ด้านความเป็นภาวะผู้นํา นักการเมืองท้องถิ่นควรมีภาวะความเป็นผู้นํา มีส่วน ร่วมกับทีม โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทีมมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ และที่สําคัญคือต้องแน่ใจ ว่า ทีมเข้าใจสิ่งที่กําลังทําอยู่ร่วมกันมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล นําพาผู้ตามให้ก้าวไปข้างหน้า และสร้าง ความร่วมมือให้ทุกคนสามารถบรรลุเป้าหมายสู่ความสําเร็จได้ ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการศึกษาวิเคราะห์ ปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรมีการการกําหนดนโยบายและเป้าหมายองค์การที่ชัดเจนร่วมกัน ๕.๑.๖ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาล นครขอนแก่นตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ สรุปได้ดังนี้ ๑) ด้านธัมมัญญุตา – รู้จักเหตุนักการเมืองท้องถิ่นควรมีการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการทํางานกําหนดแผนการทํางาน ในองค์กรและในเขตการปกครองการแก้ไขปัญหาในขณะปฎิบัติงานอย่างรอบคอบ ๒) อัตถัญญุตา – รู้จักผล นักการเมืองท้องถิ่นควรมีการเปิดโอกาสให้ประชาชน เข้าถึงข่าวสารการดําเนินงานเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนดแผนการดําเนินงาน กําหนดเป้าหมายและการสั่งการบุคคลเพื่อนําพาองค์กรไปสู่ความสําเร็จตามเป้าหมาย ๓) อัตตัญญุตา – รู้จักตน นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไป เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน มีความเสียสละต่อการทํางานสาธารณะต่อประชาชน มนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในการเชื่อมโยงบุคคล ชุมชน และองค์กร ๔) มัตตัญญุตา – รู้จักประมาณ นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้องค์กรปกครอง มีการกําหนดแผนหรือนโยบายหรือโครงการที่สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่มีการจัดสรร งบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ๕) กาลัญญุตา – รู้จักกาล นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดทํา นโยบายเหมาะสมกับจังหวะและเวลาจัดลําดับความสําคัญของปัญหาก่อนและหลังจัดสรรเวลาในการ รับฟังปัญหาจากประชาชนมีการกําหนดนโยบายว่าต้องปฏิบัติงาน ตามวันเวลาที่กําหนดทั้งในสถานที่ และนอกสถานที่ ๖) ปริสัญญุตา – รู้จักเข้าหาชุมชน นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้องค์กร ปกครองมีการทํางานที่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามส่งเสริมให้องค์กร ปกครองมีนโยบายที่ยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนมีการรับฟังปัญหาและความ ต้องการของชุมชน


๑๒๒ ๗) ปุคคลัญญุตา – รู้จักบุคคล นักการเมืองท้องถิ่นควรส่งเสริมให้องค์กรปกครองมี การจัดสรรบุคคลให้เหมาะสมกับการทํางานองค์กรปกครองให้โอกาสและสนับสนุนส่งเสริมให้ ประชาชนที่มีความรู้ความสามารถให้ดํารงตําแหน่งที่เหมาะสม ๕.๒ อภิปรายผลการวิจัย การอภิปรายผลในครั้งนี้ผู้วิจัยจะได้นําประเด็นที่มีความสําคัญคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น มีประเด็นที่น่าสนใจ สามารถนํามาอภิปรายผลได้ดังนี้ ๕.๒.๑ ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น จากการศึกษาพบว่า ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะนักการเมือง ท้องถิ่นมีความรู้ความเข้าใจสามารถอธิบายได้ถึงปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทํางานที่ ผิดพลาดรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงระบบ หรือขั้นตอนการทํางานสามารถถ่ายทอดความรู้และ ประสบการณ์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมงานได้ให้คําปรึกษาแนะนําตลอดจนเป็นแบบอย่างแก่คนในองค์กร มีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และงานที่เราได้รับมอบหมาย ปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ และไม่คดโกงหรือ หลอกลวงผู้อื่นจะต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตนอุทิศตนเพื่อการทํางาน ใน การทํางานต้องไม่ลําเอียงหรือยืดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เราเชื่อต้องมีความเป็นกลาง ยึดถือความถูก ต้องเป็นหลัก มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดียิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอใช้วาจาที่ไพเราะและเหมาะสมยกย่องชมเชย ผู้อื่นอย่างจริงจังรับฟังความคิดเห็นเพื่อร่วมงาน ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาสให้ความยุติธรรมและ ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคในทุกๆด้าน และให้เกียรติผู้ที่ทําความดีตลอดจนแสดงความยินดีเมื่อ ผู้อื่นประสบความสําเร็จไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม มีภาวะความเป็นผู้นํา มีส่วนร่วมกับทีม โดยเฉพาะ ในช่วงเวลาที่ทีมมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ และที่สําคัญคือต้องแน่ใจว่า ทีมเข้าใจสิ่งที่กําลัง ทําอยู่ร่วมกันมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล นําพาผู้ตามให้ก้าวไปข้างหน้า และสร้างความร่วมมือให้ทุกคน สามารถบรรลุเป้าหมายสู่ความสําเร็จได้ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัย ของ รณกฤต ทะนิต๊ะ ได้วิจัยเรื่อง “คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัด บุรีรัมย์” ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขต เทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากและสอดคล้องกับ ธวัชชัย วงศ์สัง ยะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติ : กรณีศึกษาตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ” ผลการศึกษาพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติโดยรวมอยู่ในระดับสูง ซึ่งสอดคล้องกับ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” ผลการศึกษาพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคุณลักษณะของ ผู้นําทางการเมืองที่พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชนตําบลเหมืองแก้ว อําเภอแม่ริม จังหวัด เชียงใหม่ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับ สุคนธ์เถาทอง ได้ทําการวิจัยเรื่อง


๑๒๓ “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัด สงขลา”ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และไม่ สอดคล้องกับ ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ใน ภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน สามารถอภิปรายได้ดังนี้ ๑) ด้านความรู้ความสามารถ ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความรู้ความสามารถ โดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า นักการเมืองท้องถิ่นควรมีความรู้ความเข้าใจสามารถอธิบายได้ถึง ปัญหาหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทํางานที่ผิดพลาดรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงระบบ หรือขั้นตอน การทํางานสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ที่มีให้กับเพื่อนร่วมงานได้ให้คําปรึกษาแนะนํา ตลอดจนเป็นแบบอย่างแก่คนในองค์กร ดังนั้นแสดงให้เห็นว่านักการเมืองท้องถิ่นในเขตเทศบาลนคร ขอนแก่นมีคุณลักษณะด้านความรู้ความสามารถ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พรเพชร์สุดถิ่น ได้ ทําการศึกษาเรื่อง “คุณลักษณะที่คาดหวังของนายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะ จันทร์จังหวัดชลบุรี” ผลการวิจัยพบว่า คุณลักษณะที่คาดหวังของนายกเทศมนตรีของเทศบาลเมือง ปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์ด้านความรู้ความสามารถ ประชาชนมีความคาดหวังอยู่ในระดับมาก แม้ว่า ปัจจุบันจะมีกลไกตรวจสอบการทํางานของนักการเมืองท้องถิ่นหลายรูปแบบ แต่คุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่ดีนั้นก็ย่อมมีผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง จึงจําเป็นที่จะต้องเป็นผู้นําที่มี ความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ในการทํางาน คุณสมบัติดังกล่าวหากผู้ที่เข้ามาบริหารท้องถิ่นมี ครบถ้วนก็จะทําให้การดําเนินงานต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่นและสอดคล้องกับงานวิจัยของ รณกฤต ทะนิต๊ะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขต เทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์” ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความ คาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์ด้านความรู้ความสามารถอยู่ใน ระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะ ผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” ผล การศึกษาพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคุณลักษณะของผู้นําทางการเมืองที่พึงประสงค์ตาม ทัศนะของประชาชนตําบลเหมืองแก้ว อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ด้านความรู้ความสามารถอยู่ใน ระดับมาก และไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ ไพสิน นกศิริได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว” ผลการวิจัยพบว่า คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาล ตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว ด้านคุณลักษณะทางสติปัญญา อยู่ในระดับปานกลาง และไม่ สอดคล้องกับงานวิจัยของ ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า


๑๒๔ คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัด สระแก้ว คุณลักษณะด้านสติปัญญา อยู่ในระดับปานกลาง ๒) ด้านคุณธรรมจริยธรรม ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านคุณธรรมจริยธรรม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่า นักการเมืองท้องถิ่นมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และงานที่เราได้รับมอบหมาย ปฏิบัติงานด้วยความจริงใจ และไม่คดโกงหรือหลอกลวงผู้อื่นจะต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่า ประโยชน์ส่วนตนอุทิศตนเพื่อการทํางาน ในการทํางานต้องไม่ลําเอียงหรือยืดถือสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่เรา เชื่อต้องมีความเป็นกลาง ยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ธวัชชัย วงศ์สังยะได้ทําการศึกษาเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติ : กรณีศึกษา ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ” ผลการวิจัยพบว่าคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นในอุดมคติ : กรณีศึกษา ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการด้านจริยธรรม ใน ภาพรวมอยู่ในระดับมากประเด็นที่ประชาชนให้ความสําคัญสูง ได้แก่การยึดมั่นในความถูกต้องตาม หลักกฎหมายและศีลธรรม การมีความรับผิดชอบต่อผลที่เกิดจากการตัดสินใจของตนเอง และต้องไม่ ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฎหมาย และสอดคล้องกับงานวิจัยของ สมศักดิ์หัทยานนท์ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของประชาชนในเขตเทศบาล ตําบลคลองแงะอําเภอสะเดา จังหวัดสงขลา” ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อการ ตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของประชาชน ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ประชาชนให้ ความสําคัญในระดับมากและสอดคล้องกับงานวิจัยของ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัด เชียงใหม่” ผลการศึกษาพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อคุณลักษณะของผู้นําทางการเมืองที่ พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชนตําบลเหมืองแก้ว อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ด้านคุณธรรม จริยธรรมอยู่ในระดับมาก ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุคนธ์เถาทอง ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัด สงขลา”ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา ด้านคุณธรรมและจริยธรรมอยู่ในระดับ มาก ซึ่งไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุชานุช พันธนียะและคณะ ได้ทําการศึกษาเรื่อง “คุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในทัศนะของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง” ผลการวิจัย พบว่า ระดับความคิดเห็นของประชาชนในเขตเทศบาลนครตรังจังหวัดตรัง ที่มีต่อคุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ด้านคุณธรรมและจริยธรรม อยู่ในระดับมากที่สุด ๓) ด้านมนุษยสัมพันธ์ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านมนุษยสัมพันธ์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็น เพราะว่า นักการเมืองท้องถิ่นมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดียิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอใช้วาจาที่ไพเราะและ เหมาะสมยกย่องชมเชยผู้อื่นอย่างจริงจังรับฟังความคิดเห็นเพื่อนร่วมงาน ช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อมีโอกาส ให้ความยุติธรรมและปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคในทุกๆด้าน และให้เกียรติผู้ที่ทําความดีตลอดจน แสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นประสบความสําเร็จไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นใครก็ตาม ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ


๑๒๕ วรยุทธ สถาปนาศุภกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะผู้นําทางการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตาม ทัศนะของประชาชน อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่” ผลการวิจัยพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่ มีต่อคุณลักษณะของผู้นําทางการเมืองที่พึงประสงค์ตามทัศนะของประชาชนตําบลเหมืองแก้ว อําเภอ แม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ด้านบุคลิกภาพ โดยภาพอยู่ในระดับมาก ผู้นําควรมีความเป็นผู้ที่มีความ เชื่อมั่นในตนเอง กล้าคิดกล้าทํา เป็นคนกว้างขวาง มีน้ําใจให้ความช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอทําให้ ประชาชนรู้สึกว่าตนเองได้รับความเอาใจใส่จากผู้นําเพราะผู้นํารู้จักมักคุ้นกันดีจึงก่อให้เกิดความ เชื่อมั่นในตัวผู้นําทําให้มีความเห็นว่าผู้นําท้องถิ่นควรมีความเป็นมิตรกับทุกคน และสอดคล้องกับ ธวัชชัย วงศ์สังยะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติ : กรณีศึกษา ตําบลบางโปรง อําเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ” ผลการศึกษาพบว่า ความคิดเห็นของประชาชนที่ มีต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นในอุดมคติด้านสังคม ได้แก่ การเป็นผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี และสอดคล้องกับ วัชรีพรรณ จันทร์หอม ได้ทําการวิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการบริหารที่ส่งผลต่อ วิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงราย” ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการบริหาร ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงรายด้านแบบพฤติกรรมทักษะด้านมนุษย์สัมพันธ์อยู่ใน ระดับมากและไม่สอดคล้องกับ ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัด สระแก้ว ด้านคุณลักษณะด้านสังคม มีค่าเฉถี่ยอยู่ในระดับปานกลาง ๔) ด้านภาวะความเป็นผู้นํา ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึง ประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านความเป็นภาวะผู้นํา โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า นักการเมืองท้องถิ่นมีภาวะความเป็นผู้นํา มีส่วนร่วมกับองค์กรโดยเฉพาะ ในช่วงเวลาที่องค์กรมีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือ และที่สําคัญคือต้องแน่ใจว่าองค์กรเข้าใจสิ่ง ที่กําลังทําอยู่ร่วมกันมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล นําพาผู้ตามให้ก้าวไปข้างหน้า และสร้างความร่วมมือให้ทุก คนสามารถบรรลุเป้าหมายสู่ความสําเร็จได้ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ อัญธิชา มั่นคง ได้ทําการวิจัย เรื่อง “ภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรีเทศบาลตําบลเกาะคา อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง” ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นําของนายกเทศมนตรีเทศบาลตําบลเกาะคา อําเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง ในด้านการใช้ภาวะผู้นํา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากและสอดคล้องกับ สุคนธ์เถาทอง ได้ ทําการศึกษาเรื่อง “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอ หาดใหญ่จังหวัดสงขลา”ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาด้านภาวะ ผู้นําอยู่ในระดับมากและไม่สอดคล้องกับ รณกฤต ทะนิต๊ะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะ นักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์” ผลการวิจัยพบว่า คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาล เมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์ด้านบุคลิกภาพอยู่ในระดับปานกลาง


๑๒๖ ๕) ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงาน ระดับคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่ พึงประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ด้านอุดมการณ์ในการปฏิบัติงานโดยภาพ รวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่านักการเมืองท้องถิ่นมีความยุติธรรมในการบริหารงานและ ไม่เลือกปฏิบัติมีการตัดสินใจในการบริหารงานโดยยึดหลักการเห็นพองของคนส้ ่วนใหญ่มีการศึกษาวิ เคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกที่มีอิทธิพลต่อการบริหารงานองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น มีการกําหนดนโยบายและเป้าหมายองค์การที่ชัดเจนร่วมกัน มีการจัดทําแผนกลยุทธ์และ แผนปฏิบัติการขององค์กรที่ชัดเจน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ วัชรีพรรณ จันทร์หอม ได้ทําการ วิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการบริหารที่ส่งผลต่อวิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัด เชียงราย” ผลการวิจัยพบว่า วิสัยทัศน์ของผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาส จังหวัดเชียงราย เมื่อ พิจารณาในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้านเรียงลําดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการปฏิบัติตามวิสัยทัศน์ด้านการเผยแพร่วิสัยทัศน์และด้านการสร้างวิสัยทัศน์และไม่ สอดคล้องกับ รณกฤต ทะนิต๊ะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะนักการเมืองท้องถิ่นตามความ คาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์” ผลการศึกษาพบว่า คุณลักษณะ นักการเมืองท้องถิ่นตามความคาดหวังของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์จังหวัดบุรีรัมย์ด้าน การปฏิบัติงานอยู่ในระดับปานกลาง ๖) ด้านคุณลักษณะตามหลักสัปปุริสธรรม ระดับคุณลักษณะของนักการเมือง ท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุริสธรรมของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า เนื่องจากนักการเมืองท้องถิ่นมีการรับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการทํางานกําหนดแผนการทํางานใน องค์กรและในเขตการปกครองการแก้ไขปัญหาในขณะปฎิบัติงานอย่างรอบคอบ มีการเปิดโอกาสให้ ประชาชนเข้าถึงข่าวสารการดําเนินงานเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนดแผนการ ดําเนินงานกําหนดเป้าหมายและการสั่งการบุคคลเพื่อนําพาองค์กรไปสู่ความสําเร็จตามเป้าหมาย ส่งเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน มีความเสียสละต่อการ ทํางานสาธารณะต่อประชาชนมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในการเชื่อมโยงบุคคล ชุมชน และองค์กร ส่งเสริมให้ องค์กรปกครองมีการกําหนดแผนหรือนโยบายหรือโครงการที่สอดคล้องกับทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่มี การจัดสรรงบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไปเพื่อประโยชน์ ส่วนรวม ส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดทํานโยบายเหมาะสมกับจังหวะและเวลาจัดลําดับความสําคัญ ของปัญหาก่อนและหลังจัดสรรเวลาในการรับฟังปัญหาจากประชาชนมีการกําหนดนโยบายว่าต้อง ปฏิบัติงาน ตามวันเวลาที่กําหนดทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการ ทํางานที่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีนโยบายที่ ยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนมีการรับฟังปัญหาและความต้องการของชุมชน ส่งเสริม ให้องค์กรปกครองมีการจัดสรรบุคคลให้เหมาะสมกับการทํางานองค์กรปกครองให้โอกาสและ สนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนที่มีความรู้ความสามารถให้ดํารงตําแหน่งที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับ งานวิจัยของ พระยุรนันท์ภทฺทธมฺโม และคณะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การบริหารงานตามหลักสัปปุริส ธรรม ๗ ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านวัง อําเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา” ผลการวิจัย พบว่า การบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านวัง อําเภอโนนไทย


๑๒๗ จังหวัดนครราชสีมา โดยภาพรวมอยฎในระด ู่ ับมาก ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระจํารัส ฐิตธมฺโม (สวาสโพธิ์กลาง) ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการ ชุมชน : กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร” ผลการวิจัยพบว่า การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชน : กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ธีระศักดิ์บึงมุม และคณะ ได้ทํา การวิจัยเรื่อง “การพัฒนาบุคลากรตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสํานักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔” ผลการศึกษาพบว่า การพัฒนาบุคลากรตามหลักสัปปุ ริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ๕.๒.๓ เปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น จากการเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๕ ด้าน คือ เพศ อายุระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามเพศ พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวมแตกต่างกัน ซึ่งเป็นไป ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าประชาชนไม่ว่าจะมีเพศใดก็ตามต่างก็มีทรรศนะหรือ ความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป มีอิสระภาพภายใต้การตัดสินใจไม่ว่าเพศใดก็สามารถแสดงความ คิดเห็นได้โดยไม่มีการบังคับขู่เข็ญซึ่งกันและกันซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุคนธ์เถาทอง ได้ทํา การวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอ หาดใหญ่จังหวัดสงขลา”ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังแตกต่างกัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับงานวิจัย ของ ไพสิน นกศิริได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชน ในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีเพศ แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ไม่แตกต่างกันและไม่ สอดคล้องกับงานวิจัยของ วีณา พึงวิวัฒน์นิกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนที่มี ต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาภาคเหนือ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันจะมี ความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นไม่แตกต่างกัน ๒) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามอายุพบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็น ต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า ประชาชนท่ีมีอายุที่ต่างกันทําให้มี กระบวนการทางความคิดที่แตกต่างกันออกไปตามช่วงอายุเพราะอาจมีประสบการณ์หรือความรู้ ความสามารถรวมถึงอุดมการณ์ในการทํางานที่ได้สั่งสมมานานได้มีการค้นคว้าความรู้อยู่เสมอทําให้มี


๑๒๘ มุมมองที่หลากหลาย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุคนธ์เถาทอง ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะ ของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา”ผล การศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึง ประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังแตกต่างกัน สอดคล้องกับงานวิจัยของ วีณา พึงวิวัฒน์นิกุลได้ทํา การวิจัยเรื่อง “ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นในองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางและภาคใต้” ผลการศึกษา พบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันจะมีความคิดเห็นต่อพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นแตกต่างกัน ซึ่ง ไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ พรเพชร์สุดถิ่น ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะที่คาดหวังของ นายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์จังหวัดชลบุรี” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะที่คาดหวังของนายกเทศมนตรีของเทศบาล เมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์จังหวัดชลบุรีไม่แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีเพศแตกต่างกันมีความ คิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตอําเภออรัญประเทศไม่แตกต่างกัน ๓) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามระดับการศึกษา พบว่า ประชาชนที่มีระดับ การศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาล นครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า คนที่มี ระดับการศึกษามากจะให้ความสําคัญเกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวและ อาจมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานซึ่งแตกต่างจากบุคคลที่มีระดับการศึกษาที่น้อยก็จะไม่ค่อยสนใจ เกี่ยวกับเรื่องทางการเมืองเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่อยู่ไกลตัวไม่มีความเกี่ยวข้องหรือไม่มีผลกระทบต่อ ตนเอง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุชานุช พันธนียะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของ นักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในทัศนะของประชาชนในเขตเทศบาลนครตรัง” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความต้องการเกี่ยวกับคุณลักษณะต่าง ๆ ของนักการเมือง ท้องถิ่นแตกต่างกัน และสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุคนธ์เถาทอง ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะ ของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา” ผล การศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของ นายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับ พระจํารัส ฐิตธมฺโม (สวาสโพธิ์กลาง) ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การประยุกต์ใช้ หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชน กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อการ ประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานครไม่แตกต่างกัน และมาสอดคล้องกับ ไพสิน นกศิริได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะ ของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ไม่แตกต่างกัน


๑๒๙ ๔) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามอาชีพ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความ คิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวม แตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า บุคคลที่มีอาชีพแตกต่างกันย่อมมี ความรู้สึกนึกคิดรวมทั้งมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป บุคคลมักจะให้ความสนใจและให้ ความสําคัญพร้อมทั้งติดตามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสาขาอาชีพของตนเป็นสําคัญจะเห็นได้ว่า บุคคลที่มี อาชีพที่เกี่ยวข้องกับทางราชการหรือทางการเมืองก็จะให้ความสําคัญกับเหตุการณ์ทางการเมือง มากกว่าอาชีพอื่น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ พรเพชร์สุดถิ่น ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะที่ คาดหวังของนายกเทศมนตรีของเทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์จังหวัดชลบุรี” ผล การศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกัน มีความคาดหวังต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองปรกฟ้า อําเภอเกาะจันทร์จังหวัดชลบุรีที่แตกต่างกัน และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีอาชีพที่ แตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขตอําเภออรัญ ประเทศ จังหวัดสระแก้วแตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ สมศักดิ์หัทยานนท์ได้ทําการ วิจัยเรื่อง “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ต่อการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลของประชาชนในเขต เทศบาลตําบลคลองแงะ อําเภอสะเดา จังหวัดสงขลา” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีระดับ การศึกษาแตกต่างกันมีการตัดสินใจเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลในเขตเทศบาลตําบลคลองแงะ อําเภอสะเดา จังหวัดสงขลาไม่แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ สุคนธ์เถาทอง ได้ทํา การวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอ หาดใหญ่จังหวัดสงขลา”ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีอาชีพและระยะเวลาการอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังไม่ แตกต่างกัน ๕) คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขต เทศบาลนครขอนแก่น ในภาพรวม จําแนกตามรายได้เฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ประชาชนที่มีรายได้ เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขต เทศบาลนครขอนแก่น โดยภาพรวมแตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า ประชาชนที่มีรายได้น้อยมักให้ความสําคัญกับการหาเลี้ยงชีพมากกว่าที่จะให้ความสนใจกับเรื่อง ทางการเมือง ซึ่งประชาชนที่มีรายได้น้อยมองว่าการเมืองเป็นเรื่องของคนเพียงบางกลุ่มหรือเป็นเรื่อง ของอํานาจที่บางครั้งมีการผูกขาดตามฐานคะแนนนิยม ผู้ที่จะดํารงตําแหน่งทางการเมืองได้ต้องเป็นผู้ ที่มีอิทธิพล มีฐานะที่มั่นคง และเป็นบุคคลที่เป็นที่ยอมรับในสังคมซึ่งไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน ทั่วไปที่มีรายได้น้อย ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุคนธ์เถาทอง ได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะ ของนายกเทศมนตรีที่พึงประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลัง อําเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา”ผล การศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนายกเทศมนตรีที่พึง ประสงค์ในเขตเทศบาลเมืองควนลังแตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับ ไชโย ขนบบวรกุล ได้ทําการวิจัย เรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศ


๑๓๐ จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนที่แตกต่างกันมีความคิดเห็น ต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนในเขตอําเภออรัญประเทศจังหวัด สระแก้วแตกต่างกัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ ชนนาถ เจริญรักษ์ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ความ คิดเห็นของประชาชนต่อผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยที่ต่างกันมีความคิดเห็นของประชาชนต่อผลการ ปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรีไม่แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับ งานวิจัยของ ไพสิน นกศิริได้ทําการวิจัยเรื่อง “คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของ ประชาชน ในเขตเทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้ว” ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนที่มีรายได้ เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน มีความคิดเห็นต่อคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ในเขต เทศบาลตําบลคลองหาด จังหวัดสระแก้วไม่แตกต่างกัน ๕.๒.๔ ผลเปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุ ริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ๑) เปรียบเทียบคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ตามหลักสัปปุ ริสธรรม ๗ ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จําแนกตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในภาพรวม พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (xത = ๓.๙๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับจากมากไปหาน้อย สามลําดับแรก พบว่า ด้านอัตตัญญุตา มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (xത = ๔.๑๓) รองลงมา คือ ด้านอัตถัญญุตา (xത = ๓.๙๔) ด้านปุคคลัญญุตา (xത = ๓.๙๔) ด้านมัตตัญญุตา (xത = ๓.๙๒) และด้านปริสัญญุตา (xത = ๓.๙๒) ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า นักการเมืองท้องถิ่นมีการรับฟังความ คิดเห็นของประชาชนให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการทํางานกําหนดแผนการ ทํางานในองค์กรและในเขตการปกครองการแก้ไขปัญหาในขณะปฎิบัติงานอย่างรอบคอบมีการเปิด โอกาสให้ประชาชนเข้าถึงข่าวสารการดําเนินงานเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกําหนด แผนการดําเนินงานกําหนดเป้าหมายและการสั่งการบุคคลเพื่อนําพาองค์กรไปสู่ความสําเร็จตาม เป้าหมาย ส่งเสริมให้องค์กรปกครองเป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน มีความ เสียสละต่อการทํางานสาธารณะต่อประชาชนมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในการเชื่อมโยงบุคคล ชุมชน และ องค์กร ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการกําหนดแผนหรือนโยบายหรือโครงการที่สอดคล้องกับ ทรัพยากรในชุมชนที่มีอยู่มีการจัดสรรงบประมาณให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดส่งเสริมให้องค์กร ปกครองเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ส่งเสริมให้องค์กรปกครองจัดทํานโยบายเหมาะสมกับจังหวะ และเวลาจัดลําดับความสําคัญของปัญหาก่อนและหลังจัดสรรเวลาในการรับฟังปัญหาจากประชาชนมี การกําหนดนโยบายว่าต้องปฏิบัติงาน ตามวันเวลาที่กําหนดทั้งในสถานที่และนอกสถานที่ส่งเสริมให้ องค์กรปกครองมีการทํางานที่เข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามส่งเสริมให้องค์กร ปกครองมีนโยบายที่ยกระดับมาตรฐานชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนมีการรับฟังปัญหาและความ ต้องการของชุมชน ส่งเสริมให้องค์กรปกครองมีการจัดสรรบุคคลให้เหมาะสมกับการทํางานองค์กร ปกครองให้โอกาสและสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนที่มีความรู้ความสามารถให้ดํารงตําแหน่งที่ เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับ พระยุรนันท์ภทฺทธมฺโมและคณะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การบริหารงานตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ขององค์การบริหารส่วนตําบลบ้านวังอําเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา”


๑๓๑ ผลการวิจัยพบว่า การบริหารงานตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ปัจจัยการบริหารโดยภาพรวมอยู่ ่ในระดับ มาก และสอดคล้องกับ ธีระศักดิ์บึงมุมและคณะ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาบุคลากรตาม หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔”ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาบุคลากรตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต ๔ โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ใน ระดับมาก ๕.๓ ข้อเสนอแนะ จากการศึกษาวิจัยเรื่อง คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังนี้ ๕.๓.๑ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย ๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการกําหนดนโยบายให้นักการเมืองท้องถิ่นเป็นผู้นํา ทางด้านความคิด คือ ประสานงานให้ประชาชนทํางานเป็นทีมโดยตั้งเป้าหมายในการทํางานให้ชัดเจน ประกาศเป้าหมายร่วมกันกับประชาชน ๒) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการกําหนดนโยบายให้นักการเมืองท้องถิ่นปฏิบัติตน ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชน ๕.๓.๒ ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติ ๑) นักการเมืองท้องถิ่นในเขตเทศบาลนครขอนแก่นควรนําหลักสัปปุริสธรรม ๗ ไป ใช้อย่างเป็นรูปธรรมให้ชัดเจน มีโครงการตรงตามความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนได้รับ ประโยชน์สูงสุด ๒) ผลการวิจัยพบว่าคุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นค่าเฉลี่ยในการปฏิบัติงาน ด้านการตรงต่อเวลาน้อยกว่าด้านอื่น ดังนั้นนักการเมืองท้องถิ่นควรปรับปรุงตนเองใหม่ด้วยการเตรียม ตัวอยู่เสมอมีสมุดโน้ตเพื่อบันทึกการทํางานและต้องมาถึงที่ทํางานก่อนผู้อื่นเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดี ๕.๓.๓ ข้อเสนอแนะสําหรับการวิจัยครั้งต่อไป ผลการศึกษาวิจัยเรื่อง คุณลักษณะของนักการเมืองท้องถิ่นที่พึงประสงค์ของประชาชนใน เขตเทศบาลนครขอนแก่น ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อ ดังนี้ ๑) ควรมีการทําวิจัยเรื่อง การส่งเสริมคุณลักษณะของนักการเมืองระดับชาติที่พึง ประสงค์ของประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นในเชิงลึก


๑๓๒ บรรณานุกรม ๑. ภาษาไทย ก. ข้อมูลปฐมภูมิ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙. ข. ข้อมูลทุติยภูมิ (๑) หนังสือ: เกรียงศักดิ์เจริญวงศ์. แนวคิดการปฏิรูปการเมืองไทย. กรุงเทพมหานคร: เอเชียเพรซ, ๒๕๓๙. ชูวงศ์ฉายะบุตร. การปกครองท้องถิ่นไทย. กรุงเทพมหานคร: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๓๙. ชูศรีวงศ์รัตนะ. เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่๗. กรุงเทพมหานคร: เทพเนรมิตร, ๒๕๔๑. โชคสุข กรกิตติชัย. ทิศทางการปกครองส่วนท้องถิ่นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐. กรุงเทพมหานคร: กลุ่มงานบริการวิชาการ ๑ สํานักวิชาการ, ๒๕๖๐. ธีรภัทร์เสรีรังสรรค์. ปัญหาการเมืองไทยในปัจจุบัน. พิมพ์ครั้งที่๓. กรุงเทพมหานคร. สํานักพิมพ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๓๒. นรนิติเศรษฐบุตร และคณะ. การเสริมสร้างสมรรถนะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. รายงานวิจัย ร่วมกันระหว่างไทย-ญี่ปุ่น. กรุงเทพมหานคร: มิสเตอร์ก๊อปปี๊, ๒๕๔๕. บุญชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่๗. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น, ๒๕๔๕. ปธาน สุวรรณมงคล. การเมืองท้องถิ่น : การเมืองของใครโดยใครเพื่อใคร. กรุงเทพมหานคร: จตุพร ดีไซด์, ๒๕๕๔. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่๑๖. บริษัท เอส.อาร์พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์จํากัด, ๒๕๕๑. เรวัตร์ชาตรีวิศิษฎ์. ภาวะผู้นํา. กรุงเทพมหานคร: อิน เฮาส์โนวเลจ, ๒๕๕๔. ลิขิต ธีรเวคิน. การเมืองการปกครองของไทย. พิมพ์ครั้งที่๕. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๓. วุฒิสาร ตันไชย. การกระจายอํานาจสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. พิมพ์ครั้งที่๖. กรุงเทพมหานคร: บริษัท เอ.พี. กราฟิค ดีไซน์และการพิมพ์จํากัด, ๒๕๔๘. เวียงรัฐ เนติโพธิ์. การกระจายอํานาจกับแบบแผนใหม่ของเครือข่ายอิทธิพล. กรุงเทพมหานคร: เอดิ สันเพรส โปรดักส์, ๒๕๕๑.


๑๓๓ สนธิเตชานันท์. แผนพัฒนาการเมืองไปสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยตามแนวพระราชดําริ ของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ไทยเขษม, ๒๕๑๙. สาโรช บัวศรี. จริยธรรมศึกษา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภา, ๒๕๒๖. สํานักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. ระบบสถิติทางการทะเบียน : รายงานสถิติจํานวนประชากรและบ้านประจําปีพ.ศ. ๒๕๖๒. กรุงเทพมหานคร: สํานัก บริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๖๒. สุรพล พรมกุล. ระเบียบวิจัยทางรัฐศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่๑. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์, ๒๕๕๔. อภิชาต สถิตนิรามัย. รัฐธรรมนูญ การกระจายอํานาจและการมีส่วนร่วมของประชาชน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์เดือนตุลา, ๒๕๕๕. อุดม ทุมโฆษิต. การปกครองท้องถิ่นสมัยใหม่ : บทเรียนจากประเทศพัฒนาแล้ว. กรุงเทพมหานคร: โครงการเอกสารและตํารา คณะรัฐประศาสนศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, ๒๕๕๐. เอนก เหล่าธรรมทัศน์. แปรถิ่น เปลี่ยนฐาน: สร้างการปกครองท้องถิ่นให้เป็นรากฐานของ ประชาธิปไตย. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๕๒. (๒) ดุษฎีนิพนธ/์วิทยานพนธิ /์สารนิพนธ:์ กาญจนา แสงสารพันธ์. “การศึกษาภาวะผู้นํากับการบริหารคุณภาพทั้งองค์การของโรงเรียนจุฬาภรณ ราชวิทยาลัย”. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. คณะ ศึกษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๔๘. เกรียงศักดิ์สุวรรณวัจน์. รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุขององค์ประกอบที่มีอิทธิพลต่อภาวะผู้นํา ของหัวหน้ากลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา สํานักงานเขตพื้นที่ การศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. คณะ ศึกษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยนเรศวร, ๒๕๔๙. เกียรติกําจร กุศล. “รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงสาเหตุขององค์ประกอบที่มีอิทธิพล ต่อภาวะ ความเป็นผู้นําของคณบดีสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย”. ดุษฎี นิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาอุดมศึกษา. คณะครุศาสตร์: จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย, ๒๕๔๓. ชนนาถ เจริญรักษ์. “ความคิดเห็นของประชาชนต่อผลการปฏิบัติงานของเทศบาลตําบลเกวียนหัก อําเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต. วิทยาลัยการ บริหารรัฐกิจ: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๕๖. ชลิตา อินทราไสย. “คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้บริหารกองเภสัชกรรมตามความคิดเห็นของ ข้าราชการและเจ้า หน้าที่กองเภสัชกรรม สํานักอนามัย กรุงเทพมหานคร”. วิทยานิพนธ์ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชานโยบายสาธารณะ. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา, ๒๕๔๖.


Click to View FlipBook Version