The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2563 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE นายสวาท ฮาดภักดี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE

2563 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE นายสวาท ฮาดภักดี

Keywords: 2563,การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE,นายสวาท ฮาดภักดี

๑๓๕

ทางการเมืองท้องถ่ินของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ตําบลช้างเผือก อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ผลการวิจยั พบว่า การมสี ว่ นรว่ มทางการเมืองของประชาชนโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง

๕.๒.๓ อภิปรายผลการเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแก่น จําแนกตาม

๑) เพศ โดยภาพรวม พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น แตกต่าง
กนั ซ่ึงเปน็ ไปตามสมมตฐิ านท่ตี ั้งไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะการมสี ่วนร่วมทางการเมืองเป็นการมสี ่วนร่วม
ในรูปแบบของกลุ่มผลประโยชน์ เป็นการรวมตัวกันของบุคคลเป็นกลุ่มบุคคลหรือองค์กรในสังคม มี
เป้าหมายหลักอยู่ที่การรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มตนเท่าน้ัน สอดคล้องกับสุรพล พรมกุล ได้
ศกึ ษาวิจัยเร่ือง พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัดขอนแก่น
ผลการวิจัยพบว่า ๑.ปัจจัยทางสังคม พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล คือ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ
รายได้ ปัจจัยทางสังคม คือ บุคคลที่มีส่วนสําคัญที่สุดที่ทําให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง สื่อประชาสัมพันธ์ที่
สําคัญท่ีสุดที่ทําให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง และปัจจัยทางการเมือง คือ ด้านคุณสมบัติผู้สมัคร ด้าน
คุณสมบัติพรรคการเมือง ด้านคุณลักษณะของหัวคะแนน มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกต้ัง
สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ ในจงั หวดั ขอนแกน่ อย่างมนี ัยสาํ คญั ทางสถิตทิ รี่ ะดับ .๐๕ ซ่ึงเปน็ ไป
ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้๓ และไม่สอดคล้องกับ บุศรา โพธิสุข ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การมีส่วนร่วมทางการ
เมืองท้องถ่ินของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ตําบลช้างเผือก อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง
ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๒.๘๖ ซ่ึงสามารถเรียงตามลําดับจากมากไปน้อยได้ดังนี้ ด้านหลักอปริหานิยธรรม
ส่งเสริมการมีส่วนร่วมอยู่ในระดับปานกลางค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๓.๒๗ ด้านการร่วมรณรงค์การเมือง
ท้องถ่ินอยู่ในระดับปานกลางค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๒.๘๖ ด้านการตัดสินใจทางการเมืองอยู่ในระดับปาน
กลางค่าเฉลี่ยเท่ากบั ๒.๗ และด้านการดําเนินการเลือกตั้งอยู่ในระดับปานกลางค่าเฉลย่ี เท่ากับ ๒.๕๙
ตามลําดับผลการศึกษาการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถ่ินของประชาชนจําแนกตาม
ปัจจัยส่วนบุคคลพบว่าอายุและการศึกษาประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถ่ินแตกต่างกันอย่างมี
นยั สําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ส่วนเพศและสถานภาพประชาชนมีสว่ นร่วมทางการเมืองท้องถิ่น
ไมแ่ ตกต่างกัน

๒) อายุ โดยภาพรวม พบว่า ประชาชนตําบลโคกสีที่มีอายุแตกต่างกัน มีความ
คิดเห็นเก่ียวกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้ ท่ีเป็นเช่นน้ีเพราะว่า ประชาชนที่มีช่วงอายุท่ีแตกต่างกันมี
ความสนใจกิจกรรมทางการเมืองท่ีต่างกันจึงทําให้เกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่าง
กัน สอดคล้องกับ สุรพล พรมกุล ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

๓ สุรพล พรมกุล, “พฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแก่น”, รายงานการวิจัย, (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๗), บทคัดย่อ.

๑๓๖

๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัดขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า พบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล คือ อายุ มี
ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ ในจังหวัดขอนแก่น อย่างมี
นัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้๔ และสอดคล้องกับ บุศรา โพธิสุข๕
ท่ีพบว่า อายุและการศึกษาประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิตทิ ร่ี ะดับ ๐.๐๕

๓) ระดับการศึกษา พบว่า โดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านกิจกรรมการรณรงค์
หาเสียงของท้องถ่ิน ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมืองของท้องถ่ิน แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิติที่ระดับ ๐.๐๕ สอดคล้องกับสุรพล พรมกุล ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัดขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล
คือ ระดับการศึกษา มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ ใน
จังหวัดขอนแก่น อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .๐๕ ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้๖ และ
สอดคล้องกับ สุกฤตา จอนดาพรม และโชติมา แก้วกรอง ได้ศึกษาวิจัยเร่ือง การมีส่วนร่วมทางการ
เมอื งของสตรีไทยในพน้ื ทีอ่ งคป์ กครองส่วนทอ้ งถน่ิ ของภูมิภาคตะวนั ตก ผลการวจิ ยั พบว่า ๑) สตรีไทย
ในพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินของภูมิภาคตะวันตกมีส่วนร่วมทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลาง
๒) ปัจจัยระดับการศึกษา ต่างกัน ส่งผลต่อการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองแตกต่างกัน ปัจจัยอาชีพ
และปัจจัยพ้ืนฐานภูมิทางการเมืองต่างกันส่งผลต่อการเข้าร่วมกิจกรรมชุมชน แตกต่างกัน และปัจจัย
การรับส่ือมวลชนเก่ียวกับข่าวสารทางการเมืองต่างกันส่งผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง และด้าน
การสนับสนุนพรรคการเมืองแตกต่างกัน ส่วนปัจจัยความสํานึกทางการเมืองมีความสัมพันธ์กับปัจจัย
การมีส่วนร่วมทางการเมืองด้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕
โดยมีความสัมพันธ์ไปในทางทิศเดียวกันในระดับต่ํามาก และ๓) ประเด็นปัญหาและอุปสรรคของสตรี
ต่อการมีสว่ นรว่ มทางการเมืองพบวา่ สตรีไทยส่วนใหญ่ตอ้ งรับภาระในการดูแลครอบครัวและมีความรู้
ความเข้าใจเก่ียวกับการเมืองนอ้ ยลง๗

๔) กลุ่มอาชีพ พบว่า โดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ ซึ่งเป็นตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมืองของท้องถิ่น แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ สอดคล้องกับ สุรพล พร

๔ สุรพล พรมกุล, “พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแก่น”, รายงานการวจิ ยั , บทคดั ยอ่ .

๕ บุศรา โพธิสุข, “การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ตําบล
ช้างเผอื ก อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดเชยี งใหม”่ , รายงานการวิจยั , บทคัดยอ่ .

๖ สุรพล พรมกุล, “พฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแก่น”, รายงานการวิจัย, บทคดั ย่อ.

๗ สุกฤตา จินดาพรม และโชติมา แก้วกรอง, “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีไทยในพ้ืนท่ีองค์
ปกครองส่วนท้องถ่นิ ของภูมิภาคตะวนั ตก”, วารสารการเมอื งการปกครอง การจดั การชมุ ชนเพือ่ พัฒนาทียงั่ ยืน, ปี
ท่ี ๓ ฉบบั ที่ ๒ (มนี าคม - สงิ หาคม ๒๕๕๖): ๑๑๘-๑๓๓.

๑๓๗

มกุล ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแก่น ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล คือ อาชีพ มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการเลือกต้ัง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ ในจงั หวดั ขอนแก่น อยา่ งมีนัยสาํ คัญทางสถิติทร่ี ะดับ .๐๕ ซ่ึงเป็นไป
ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้๘ และสอดคล้องกับ สกุ ฤตา จอนดาพรม และโชติมา แกว้ กรอง ได้ศึกษาวิจัย
เร่ือง การมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีไทยในพื้นที่องค์ปกครองส่วนท้องถ่ินของภูมิภาคตะวันตก
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยอาชีพ ต่างกันส่งผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง และด้านการสนับสนุน
พรรคการเมืองแตกต่างกนั ส่วนปัจจัยความสํานึกทางการเมืองมีความสัมพันธ์กับปัจจัยการมีส่วนร่วม
ทางการเมืองด้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ โดยมี
ความสัมพันธ์ไปในทางทิศเดียวกันในระดับตํ่ามาก และ๓) ประเด็นปัญหาและอุปสรรคของสตรีต่อ
การมีส่วนร่วมทางการเมืองพบว่า สตรีไทยส่วนใหญ่ต้องรับภาระในการดูแลครอบครัวและมีความรู้
ความเขา้ ใจเก่ียวกบั การเมอื งน้อยลง๙

๕) รายได้ต่อเดือน พบว่า โดยภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ี
ระดับ ๐.๐๕ ซ่ึงเป็นตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการติดต่อในฐานะ
ของพลเมืองของท้องถ่ิน แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่า
ประชาชนท่ีมีรายได้ต่อเดือนที่แตกต่างกันมีการสนใจและมีเวลาในการเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองด้านการติดต่อในฐานะของพลเมืองของท้องถิ่นท่ีแตกต่างกัน สอดคล้องกับ สุรพล
พรมกุล ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณี
จังหวัดขอนแกน่ ผลการวิจัยพบวา่ รายได้ มคี วามสมั พันธก์ ับพฤติกรรมการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผู้แทน
ราษฎร ๒๕๕๗ ในจังหวัดขอนแก่น อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ .๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
ท่ีตง้ั ไว้๑๐

๖) หลกั สัปปุริสธรรม ๗ จําแนกโดยภาพรวม แตกตา่ งกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ
ท่ีระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ ท่ีเป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะหากประชาชนหากมีความ
สนใจใฝ่รู้และเกิดการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองเม่ือนําหลักสัปปุริสธรรม ๗ ประการ ซ่ึงเป็น
ธรรมท่ีทําให้เป็นสัตบุรุษ คือ ความเป็นคนดีท่ีสมบูรณ์ เป็นธรรมท่ีเหมาะสมต่อการเป็นผู้นํา
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นหัวหน้าคน หรือ ผู้นําที่จะต้องเป็นผู้รู้จักเหตุผล รู้จักตัวเอง และผู้อ่ืน รู้จักกาลเทศะ
โดยเฉพาะอย่างย่ิงในการร้จู ักนสิ ัยความต้องการ ความสามารถของผใู้ ต้บังคับบัญชา เพ่ือจะไดเ้ ลอื กใช้
คนให้ถูกกบั งานหรือใช้คนให้เหมาะสมกบั งาน ซ่งึ ทุกคนสามารถนํามาประยุกต์ใช้ และถือปฏบิ ัติ เมื่อ
มีการประยุกต์ใช้ในลักษณะท่ีแตกต่างกัน อาจทําให้เกิดพฤติกรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองที่

๘ สุรพล พรมกุล, “พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแก่น”, รายงานการวจิ ัย, บทคัดย่อ.

๙ สุกฤตา จินดาพรม และโชติมา แก้วกรอง, “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีไทยในพ้ืนท่ีองค์
ปกครองส่วนท้องถิน่ ของภูมภิ าคตะวนั ตก”, วารสารการเมอื งการปกครอง การจดั การชุมชนเพอ่ื พัฒนาทยี ั่งยนื , ปี
ท่ี ๓ ฉบบั ที่ ๒ (มีนาคม - สงิ หาคม ๒๕๕๖): ๑๑๘-๑๓๓.

๑๐ สุรพล พรมกุล, “พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแกน่ ”, รายงานการวิจัย, บทคัดย่อ.

๑๓๘

แตกต่างกันสอดคล้องกับ พระศตวรรษ กิตฺติปาโล ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรมในการ
ส่งเสริมการปกครอง ของพระสังฆาธิการในเขตจังหวัดนนทบุรี ผลการวิจัยพบว่า พระสังฆาธิการใน
เขตจังหวัดนนทบุรี ท่ีมีตําแหนง่ ต่างกนั มีการประยุกตใ์ ช้หลกั สัปปุริสธรรมในการสง่ เสริมการปกครอง
ด้านหลักธัมมัญญุตา ด้านหลักอัตถัญญุตา ด้านหลักอัตตัญญุตา ด้านหลักมัตตัญญุตา และด้านหลัก
ปุคคลปโรปรัญญุตา แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕๑๑ และสอดคล้องกับ พระ
จํารัส ฐิตธมฺโม (สวาสโพธ์ิกลาง) ที่ศึกษาการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการ
ชุมชน: กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ผลการวิจัยพบว่า
ประชาชนมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่
พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยรวม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๓.๘๐ เมื่อ
พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นโดยรวมอยู่ในระดับมากทุกข้อ ๓. การ
เปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหาร
จัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล
พบว่า ประชาชนที่มีสถานภาพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการ
บริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพมหานคร แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ และบุคคลที่มีอายุ อาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ในการบริหารจัดการชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร แตกต่างกัน
อย่างมนี ยั สาํ คัญทางสถติ ิท่รี ะดับ ๐.๐๕

๕.๓ ขอ้ เสนอแนะ

จากผลการวิจยั ครั้งนี้ ซ่ึงมขี อ้ เสนอแนะทซ่ี ่งึ สรุปประเด็นได้ ดังน้ี

๕.๓.๑ ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย

๕.๓.๑.๑ จากผลการวิจัยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินสามารถนําเป็นสารสนเทศ
ประกอบเพื่อพิจารณากําหนดนโยบายให้เกิดมีการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชน
จงั หวดั ขอนแกน่ ตามหลกั สัปปุรสิ ธรรม ๗

๕.๓.๑.๒ หน่วยงานท่เี กี่ยวข้องควรรณรงคใ์ หป้ ระชาชนเกดิ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชน จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ อย่างต่อเนื่องและโดยรอบ
ดา้ น

๕.๓.๒ ข้อเสนอแนะในการทาํ วิจัยครงั้ ตอ่ ไป

๕.๓.๒.๑ ควรศึกษาในเชิงคุณภาพเก่ียวกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ของประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ และในพ้ืนท่ีอื่น ๆ ท่มี ีจดุ เด่นดว้ ย

๑๑ พระศตวรรษ กิตฺติปาโล, “การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรมในการส่งเสริมการปกครอง ของพระ
สังฆาธิการในเขตจังหวัดนนทบุรี”, บัณฑิตศึกษาปริทรรศน์ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์, ปีท่ี ๗ ฉบับที่ ๒
(พฤษภาคม-สิงหาคม ๒๕๖๒): ๓๑๓-๓๑๔.

๑๓๙

๕.๓.๒.๒ ควรศึกษาการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางการเมืองของประชาชนตาํ บลโคกสี
อําเภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น โดยใชห้ ลักธรรมอน่ื ๆ ดว้ ย

๕.๓.๓ ข้อเสนอแนะในการนําผลการวิจัยไปใช้

๕.๓.๓.๑ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรนําผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้กับท้องถิ่นอ่ืน ๆ
ดว้ ย

๕.๓.๓.๒ ควรส่งเสริมพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชน ตามหลกั สปั ปรุ สิ ธรรม ๗ อย่างเปน็ รูปธรรม ตลอดถงึ ผนู้ ําทอ้ งถิน่ อน่ื ๆ ด้วย

๑๔๐

บรรณานุกรม

๑. ภาษาไทย

ก. ขอ้ มูลทตุ ยิ ภูมิ

(๑) หนังสอื :

เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. กฎหมายอาญาภาคความผิด เล่ม ๑. พิมพ์ครั้งที่ ๕. กรุงเทพมหานคร: จิร
รชั การพมิ พ,์ ๒๕๕๐

โกวิทย์ พวงงาม และอลงกรณ์ อรรคแสง. มิติใหม่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น : ผู้บริหารท้องถิ่น
ท่ีมาจากการเลือกต้ังโดยตรงจากประชาชน. กรุงเทพมหานคร: สํานักพิมพ์เสมาธรรม,
๒๕๔๗.

คะนึงนิจ ศรีบัวเอ่ียม และคณะ. แนวทางการเสริมสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมตาม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐: ปัญหา อุปสรรค และทางออก.
กรุงเทพมหานคร: ธรรมดาเพลส, ๒๕๔๕.

จรูญ สุภาพ. การพัฒนาประเทศ. กรุงเทพมหานคร: คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
๒๕๒๒.

ชลธิชา ณ เชียงใหม่. แนวคิดเกี่ยวกับการเลือกต้ัง. กรุงเทพมหานคร: โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์
วทิ ยาลัย, ๒๕๔๖.

ชูศรี วงศ์รัตนะ. เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ ๑๒. กรุงเทพมหานคร: คณะ
ศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ, ๒๕๕๓.

ณรงค์ สินสวสั ด์.ิ จติ วทิ ยาการเมือง. กรุงเทพมหานคร: แพรพ่ ิทยา, ๒๕๒๗.
ณัชชาภัทร อุ่นตรงจิตร. ทศวรรษแห่งการปฏิรูปการเมือง : ผลงาน ปัญหา และอุปสรรค.

กรงุ เทพมหานคร: สถาบันพระปกเกล้า, ๒๕๕๓.
บรรยงค์ โตจินดา. องคก์ ารและการจัดการ. พมิ พค์ รง้ั ที่ ๓. กรุงเทพมหานคร: รวมสาสน์ , ๒๕๔๘
บวรศักด์ิ อุวรรณโณ และถวิลวดี บุรีกุล. ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม. กรุงเทพมหานคร: สถาบัน

พระปกเกล้า, ๒๕๔๘.
บญุ ชม ศรสี ะอาด. การวจิ ยั เบ้อื งต้น. พิมพ์ครง้ั ที่ ๗. กรงุ เทพมหานคร: สวุ ิรยิ าสาส์น, ๒๕๔๕.
บุญธรรม เลิศสุขีเกษม. บทบาทของประชาชนต่อการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตย. เชียงใหม่:

มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่, ๒๕๔๓.
บุญศรี มีวงศ์อุโฆษ. การเลือกต้ังและพรรคการเมือง บทเรียนจากเยอรมัน. กรุงเทพมหานคร:

สถาบนั นโยบายศกึ ษา, ๒๕๔๒.
ปัทมา สูบกําปัง. การศึกษาความเคล่ือนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช ๒๕๕๔. กรุงเทพมหานคร: สาํ นักวิจัยและพัฒนา
สถาบันพระปกเกล้า, ๒๕๕๘.

๑๔๑

พนารัตน์ มาศฉมาดล. กฎหมายปกครอง. กรุงเทพมหานคร: คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม, ๒๕๖๓.

รังสรรค์ สงิ หเลศิ . ระเบียบวิธีวจิ ยั ทางสงั คมศาสตร.์ มหาสารคาม: มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม,
๒๕๕๑.

เรืองวิทย์ เกษสุวรรณ. หลักรฐั ศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: บริษัท บพิธการพิมพ์ จาํ กดั , ๒๕๕๓.
ลขิ ติ ธรี เวคนิ . ววิ ฒั นาการการเมืองการปกครองไทย. พมิ พค์ รง้ั ที่ ๙. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลัย

ธรรมศาสตร, ๒๕๔๖.
วนั ชยั วัฒนศัพท.์ ถวิลวดี บุรกี ุล และ เมธิศา พงษ์ศกั ดิ์ศรี. แปล. การตัดสินใจท่ีดกี วา่ โดยให้ชมุ ชนมี

ส่วนร่วม = The Public Participation Handbook Making Better Decisions
Through Citizen Involvement. กรงุ เทพมหานคร: สถาบันพระปกเกลา้ , ๒๕๕๑.
วิทยากร เชียงกูล. ปฏิรูปประเทศไทย เศรษฐกิจ การเมือง. พิมพ์คร้ังที่ ๒. กรุงเทพมหานคร: บ้าน
พระอาทติ ย์, ๒๕๕๗.
สถาบันพระปกเกล้า. รายงานสถานการณ์การกระจายอํานาจ บทสํารวจความเป็นประชาธิปไตย
ท้องถิ่น ประจําปี พ.ศ. ๒๕๖๑. กรุงเทพมหานคร: วิทยาลัยพัฒนาการปกครองท้องถ่ิน
สถาบันพระปกเกล้า, ๒๕๖๑.
สมคดิ บางโม. องคก์ ารและการจดั การ. พิมพค์ ร้งั ที่ ๔. กรงุ เทพมหานคร: วทิ ยพฒั น,์ ๒๕๔๘.
สมบัติ ธาํ รงธญั วงศ์. การเมอื งอเมรกิ า. กรงุ เทพมหานคร: เสมาธรรม, ๒๕๔๒.
________. นโยบายสาธารณะ: แนวความคิด การวิเคราะห์และกระบวนการ. พิมพ์คร้ังที่ ๑๔.
กรงุ เทพมหานคร: เสมาธรรม, ๒๕๔๙.
สุภารัตน์ พุทธรักษา. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารจัดการองค์การบริหารส่วนตําบล
ในจงั หวัดชลบุรี. นนทบุร:ี มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๔๙.
เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์. “ปัญหาและแนวโน้มเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหาร
การศึกษา”. ในเอกสารสัมมนาปัญหาและแนวโน้มทางการบริหารการศึกษา. นนทบุรี:
มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช, ๒๕๔๓
อมร รักษาสัตย์ และคณะ. ประชาธิปไตย : อดุ มการณ์ หลักการ และแบบอยา่ งการปกครองหลาย
ประเทศ. กรงุ เทพมหานคร: จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๓๙.

(๒) ดุษฎนี พิ นธ/์ วทิ ยานพิ นธ/์ สารนิพนธ:์

ดวงพร พยัตตพงษ์. “ความเป็นสตรีกับการเป็นผู้นําทางการเมืองท้องถิ่น:กรณีศึกษานายกเทศมนตรี
เทศบาลตําบลเกาะคา จังหวัดลําปาง”. งานนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชา
การเมอื งการและการปกครอง. บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาเชยี งใหม่, ๒๕๕๓.

ทวีศักด์ิ สุขกมล. “การใช้หลักสัปปุริสธรรมในการบริหารงานเชิงบูรณาการของผู้บริหารเทศบาล
ตําบลป่าใหม่ อําเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวชิ าพระพุทธศาสนา. บัณฑิตวทิ ยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย,
๒๕๖๐.

๑๔๒

ธัญรัตน์ ปัญญาคันธา. “ความคิดเห็นของผู้นาชุมชนในเขตเทศบาลตําบลสันนาเม็ง อําเภอสันทราย
จังหวัดเชียงใหม่ต่อคุณสมบัติและภาพลักษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในการเป็นผู้นํา
ทางการเมือง”. งานนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการและการ
ปกครอง. บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาเชยี งใหม,่ ๒๕๕๕.

พระจํารัส ฐิตธมฺโม (สวาสโพธิกลาง). “การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการบริหารจัดการ
ชุมชน : กรณีศึกษา ชุมชนวัดใหม่พิเรนทร์ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร”.
วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย:
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย, ๒๕๕๔.

พลพันธ์ แช่มช้อย. “พฤติกรรมทางการเมืองของนายกเทศมนตรีเมืองเมืองแกนพัฒนา อําเภอแม่แตง
จังหวัดเชียงใหม่ กรณีศึกษานายจรัส ไชยยา”. งานนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชาการเมืองการและการปกครอง บณั ฑติ วิทยาลัย: มหาวิทยาเชยี งใหม่, ๒๕๕๙.

วัลลภ ลําพาย. “ความรู้สึกสัมฤทธิผลทางการเมืองและความสนใจทางการเมืองของข้าราชการไทย
ศึกษาเฉพาะกรณี : ข้าราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ส่วนกลาง”. สารนิพนธ์ตามหลักสูตร
รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,
๒๕๓๔

วฑิ ูรย์ ภูนุช. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของบคุ ลากรภายในมหาวทิ ยาลัยรามคาํ แหง”. วิทยานพิ นธ์
ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. สาขาวิชารัฐศาสตร์. คณะรัฐศาสตร์: มหาวทิ ยาลัยรามคาํ แหง,
๒๕๔๘.

วิไลพร ดําสะอาด. “การศึกษาความสามารถในการใช้ภาษา ความคิดสร้างสรรค์ และคามสนใจในวิธี
สอนภาษาไทยของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๔ ที่ได้รับการสอนโดยใช้เพลงและเกม
ประกอบการสอนกับการสอนตามคู่มือครู”. ปริญญานิพนธ์ปริญญาการศึกษา
มหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร, ๒๕๔๑.

ศิริรัตน์ ธรรมใจ. “การรักษาอํานาจทางการเมืองของผู้นําท้องถ่ินในอําเภอแม่ทา จังหวัดลําพูน”.
งานนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการเมืองการและการปกครอง. บัณฑิต
วทิ ยาลัย: มหาวิทยาเชยี งใหม่, ๒๕๕๘.

ศุภักษร ตระกูลศิริ. “พฤติกรรมการเลือกตั้งของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตําบลบ้านชบ
อําเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิต
วทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยราช ภฏั บุรรี ัมย์, ๒๕๕๓.

สนุก สงิ ห์มาตร. “พฤติกรรมทางการเมอื งตามวิถปี ระชาธิปไตยของพลเมืองในจังหวัดรอ้ ยเอด็ ”. ดุษฎี
นิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบันฑิต. คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์:
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม, ๒๕๕๖.

เสาวลักษณ์ ปติ ิ. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ตําบลช้างเผือก
อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่”. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย:
สถาบนั บัณฑติ พัฒน บริหารศาสตร์, ๒๕๕๖.

๑๔๓

อดิศร เหลาแตว. “ปัจจัยท่ีเกี่ยวข้องกับความสนใจทางการเมือง ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๖
โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา และนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่๓.
วิทยาลัยเทคนิคสกลนคร จังหวัดสกลนคร”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต.สาขาวิชา
รฐั ศาสตรแ์ ละรฐั ประศาสนศาสตร.์ บณั ฑิตวทิ ยาลยั : มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์, ๒๕๔๗.

อภิรักษ์ แสงทอง. “ศึกษาเปรียบเทียบคุณลักษณะของผู้นาทางการเมืองท่ีปรากฏในงานเขียน เรื่อง
เจ้าผู้ปกครอง และนวนิยายเร่ือง เวียงกุมกาม”. งานนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวชิ าการเมอื งการและการปกครอง. บณั ฑติ วิทยาลยั : มหาวทิ ยาเชียงใหม่, ๒๕๕๘.

(๓) รายงานวจิ ัย:

คันธรส แสนวงศ์. “ความรู้สึกสัมฤทธิผลทางการเมืองและความสนใจทางการเมืองของนักศึกษา
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ”. รายงานการวิจัย สถาบันเทคโนโลยี
พระจอมเกลา้ พระนครเหนอื , ๒๕๓๙.

บุศรา โพธสิ ุข. “การมีส่วนร่วมทางการเมอื งท้องถิน่ ของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ตําบลชา้ งเผือก
อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่”. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วทิ ยาลยั วทิ ยาเขตเชียงใหม่, ๒๕๕๘.

สุรพล พรมกุล. “พฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณีจังหวัด
ขอนแก่น”. รายงานการวจิ ยั . มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั , ๒๕๕๗.

(๔) บทความ:

กกต.. “แจง ๕ ข้นั ตอน ขอจดจองตงั้ พรรคการเมืองใหม่”. หนังสอื พมิ พไ์ ทยรัฐ. (๒๕๖๑).
ธนสรร ธรรมสอน. “ภาวะผู้นําทางการเมืองของนายกเทศมนตรีในการบริหารเทศบาลตําบล ในเขต

พน้ื ที่ภาคเหนอื ”. วารสารวิชาการคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคล
ธัญบรุ .ี ปที ่ี ๑๐ ฉบบั ท่ี ๑ (มถิ นุ ายน ๒๕๕๘): ๑๗๑-๑๙๐.
พระณฐั พงษ์ กจิ จฺ สาโร (พลเวยี ง). “การศึกษาภาวะผู้นําของผูบ้ ริหารองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตําบลในเขต
อาํ เภอเชียงขวญั จังหวัดรอ้ ยเอด็ ตามหลกั สัปปรุ ิสธรรม ๗”. วารสาร มมร. รอ้ ยเอ็ด. ปีที่
๔ ฉบบั ท่ี ๑ (มกราคม-มิถนุ ายน ๒๕๕๘): ๑๐๔-๑๑๘.
พระศตวรรษ กิตฺติปาโล. “การประยุกต์ใช้หลักสัปปุริสธรรมในการส่งเสริมการปกครอง ของพระ
สังฆาธิการในเขตจงั หวัดนนทบุร”ี . บณั ฑติ ศึกษาปริทรรศน์ วิทยาลยั สงฆน์ ครสวรรค.์ ปี
ท่ี ๗ ฉบบั ท่ี ๒ (พฤษภาคม-สิงหาคม ๒๕๖๒): ๓๑๓-๓๑๔.
รัฐ กันภัย และธรรมนิตย์ วราภรณ์. “การรับรู้ข่าวสารและการมีส่วนร่วมของประชนที่ส่งผลต่อการ
พัฒนาท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบล จังหวัดภาคตะวันตกตอนล่าง”. Veridian E-
Journal. SU ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์และศิลปะ. ปที ่ี ๘ ฉบับ
ที่ ๑ (มกราคม - เมษายน ๒๕๕๘): ๑๐๗๕.
วัชรี ทรัพย์มี. “การให้คําปรึกษาหารือเป็นกลุ่มแก่วัยรุ่น”. วารสารแนะแนว. ปีท่ี ๓๖: (ธันวาคม
๒๕๑๗ – มกราคม ๒๕๑๘): ๓๖–๔๓.

๑๔๔

สมเกยี รติ วันทะนะ. “อํานาจของประเทศ”. วารสารสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์. ปที ี่ ๔๐ ฉบับที่
๒ (๒๕๕๗): ๑-๑๘.

สวสั ดิ์ เรอื งฉาย. “แบบสํารวจความสนใจทางอาชพี ”. วารสารแนะแนว. ปีท่ี ๙ ฉบับที่ ๔๐ (สิงหาคม
กนั ยายน ๒๕๑๘): ๑๖-๒๑.

สุกฤตา จินดาพรม และโชติมา แก้วกรอง. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของสตรีไทยในพื้นที่องค์
ปกครองส่วนท้องถิ่นของภูมิภาคตะวันตก”. วารสารการเมืองการปกครอง การจัดการ
ชมุ ชนเพ่ือพัฒนาทียง่ั ยนื . ปที ี่ ๓ ฉบบั ที่ ๒ (มนี าคม - สิงหาคม ๒๕๕๖): ๑๑๘-๑๓๓.

(๕) เอกสารทไ่ี ม่ได้ตีพมิ พ์เผยแพร่และเอกสารอน่ื ๆ:

รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐. การใชส้ ิทธิเลอื กตงั้ . ๒๕๔๐
สํานักบริหารทะเบียน อําเภอเมืองขอนแก่น. ข้อมูลการปกครองจําแนกตามหมู่บ้าน. พฤษภาคม

๒๕๖๓.
สํานักบริหารทะเบียน อําเภอเมืองขอนแก่น. ข้อมูลจํานวนผู้มีสิทธิ์เลือกต้ัง จําแนกตามหมู่บ้าน.

พฤษภาคม ๒๕๖๓.
สํานักบริหารทะเบียน อําเภอเมืองขอนแก่น. จํานวนประชากรจําแนกตามรายหมู่บ้าน. พฤษภาคม

๒๕๖๓.

(๖) สือ่ อเิ ล็กทรอนิกส:์

ศูนย์ศึกษาประชาธิปไตย. (๒๕๕๙). หลักการของประชาธิปไตย. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://
www.ect.go.th/dec/main.php?filename=index [๑๕ มกราคม ๒๕๖๔].

สารานุกรมการเมืองไทยสําหรับเยาวชน. รูปแบบการมีส่วนร่วมทางการเมือง. เล่มท่ี ๓. [ออนไลน์].
แ ห ล่ ง ท่ี ม า : https://www.saranukromthai.or.th/sub/Ebook/Ebook.php. [๒ ๕
ธันวาคม ๒๕๖๓].

(๗) สัมภาษณ/์ สนทนากลุ่ม:

สัมภาษณ์ นายชาลี ลาสา นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บลโคกสี, ๑๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
สมั ภาษณ์ นายสงกรานต์ สังยวน กาํ นนั บา้ นท่าพระทราย, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
สัมภาษณ์ นางรุ่งทิวา แก้วพรรณนา ผ้ใู หญบ่ า้ นบา้ นพรหมนมิ ิต, ๑๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
สัมภาษณ์ นายทองหลาง ยางสวาย ผ้ใู หญบ่ ้านบ้านบึงเรือใหญ,่ ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
สมั ภาษณ์ นายธนพงษ์ กองไตร ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกสี หมู่ ๑, ๑๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
สมั ภาษณ์ นายประสาท กางจันทา ผใู้ หญบ่ ้านบ้านเลงิ , ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
สัมภาษณ์ นายวชิ าญ สมอุม่ จารย์ ผ้ใู หญบ่ ้านบ้านยางหย่อง, ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
สัมภาษณ์ นายสธุ ี พลสนั ต์ ผู้ใหญบ่ ้านบ้านโคกสี หมู่ ๒, ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
สัมภาษณ์ นายสุรพงษ์ เตินเตยี น ผใู้ หญ่บา้ นบ้านหนองหัวววั , ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.

๑๔๕

๒. ภาษาอังกฤษ

1. Secondary Sources

(I) Books:

Barber J. David. Citizen Politics. Chicago: Markham, 1972.
Dahl. Robert A.. Moderm Political Analysis. New Delhi: Prentice Hall of India Private

Limited, 1975.
Huntington. S. P.. & Nelson. M. No Easy Choice: Political Participation in

Developing Countries. Cambridge: Harvard University Press, 1976.
Kenneth A. Bollen. Structural Equations with Latent Variables. John Wiley & Sons.

Inc., 1989.
Lester W. Milbrath and M. L. Goal. Political Participation : How and Why Do Peo-

ple Get Involved in Politics. Chicago : Rand McNally College Publishing
Company, 1977.
Michael Rush and Phillip Athoff. Introduction to Political Sociology. London:
Western Printing Service Press, 1971.
Milbrath. Lester W. and Goel. M.L.. Political Participation : How and Why Do
People Get Involved in Politics. Second Edition. Chicago: Rand McNally,
1977.
Parry. G.. Participation in Political Manchester. Manchester University Press, 1972.
Ranney Austin and Kendall Willmoore. Democracy and the American party
System. New York: Harcsort, 1956.
Shaeffer. S ed.. Parnerships and Participation In Basic Education: A Series of
Training Moduales and Case study Abstracts for Educational Planner
and Managers. Paris: UNES Co. International Institute for Educational
Planning, 1994.
Verba and Nie. Participation in America: Political democracy and social equality. New
York: Harper and Row, 1972.
Yamane. Taro Statistic : An Introductory Analysis. New York: Harper & row, 1967.

(II) Articles:

Nie. N.H. and Verba. S. “Political Participation”. In Grunstiien and Nelson. W.P. eds..
Handbook Political Science : Non Government Politic. Massasuseette:
Addisen Wesley. (1975): 9-12.

๑๔๖

Townsend. J. R.. “ Political participation in communist china” . American Political
Science Review. Vol. 2 (1967): 25-29.

Weiner. Myron. “Political Participation : Crisis of the Political Process”. In Leonard.
Binder and others eds.. Crisis on Sequences in Political. (1971): 161-163

ภาคผนวก

๑๔๘

ภาคผนวก ก
หนังสอื ขอความอนุเคราะห์เปน็ ผู้เชยี่ วชาญตรวจสอบเครอ่ื งมอื การวิจยั

๑๔๙

๑๕๐

๑๕๑

๑๕๒

๑๕๓

๑๕๔

ภาคผนวก ข
แบบสอบถามเพ่อื การวจิ ัย

๑๕๕

แบบสอบถามเพอื่ การศกึ ษาวจิ ยั
เรื่อง การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมทางการเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมือง

จังหวัดขอนแก่น
………………………………………………………………..

คาํ ช้ีแจง
๑. แบบสอบถามชุดนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษาวิจัย การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง

การเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแก่น
๒. แบบสอบถามมที ง้ั หมด ๓ ตอน
ตอนที่ ๑ แบบสอบถามเกีย่ วกบั ปจั จัยสว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม
ตอนท่ี ๒ แบบสอบถามเกยี่ วกบั การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมอื งของประชาชน

ตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ท้ัง ๓ ด้าน ได้แก่ ๑) ด้านการลงคะแนนเสียง ๒) ด้าน
กจิ กรรมการรณรงค์หาเสียง ๓) ด้านการตดิ ต่อในฐานะของพลเมือง

ตอนที่ ๓ แบบสอบถามเก่ียวกับการประยุกต์ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ในการมีส่วน
รว่ มในกจิ กรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแก่น

๓. แบบสอบถามฉบับนี้ จะใช้สําหรับเก็บข้อมูลตามทัศนะของท่าน โดยผู้ศึกษาจะนําข้อมูลท่ี
ได้ไปวิเคราะห์เพื่อให้ได้ข้อสารสนเทศท่ีเป็นประโยชน์ต่อ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่

๔. กรุณาตอบแบบสอบถามตามความเป็นจริง ผู้ศึกษาจะเก็บข้อมูลของท่านี้เป็นความลับ
และนําเสนอเป็นภาพรวมเท่าน้ัน ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อสถานภาพของท่านแต่อย่างใด จึงใคร่ขอ
ความรว่ มมอื จากทา่ น ได้กรณุ าตอบแบบสอบถามชดุ นใ้ี หค้ รบถว้ น

ผู้ศึกษาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามในคร้ังนี้และ
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี

นายสวาท ฮาดภกั ดี
นสิ ิตหลักสตู รรฐั ศาสตรมหาบณั ฑติ
บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น

๑๕๖

ตอนท่ี ๑ ข้อมลู ปจั จยั สว่ นบคุ คล คาํ ชแ้ี จง : โปรดทําเคร่อื งหมาย / ลงในช่อง [ ]

๑. เพศ [ ] ชาย [ ] หญิง

๒. อายุ [ ] ๑๘ - ๒๕ ปี [ ] ๒๖ - ๓๐ ปี [ ] ๓๑ - ๔๐ ปี

[ ] ๔๑ - ๕๐ ปี [ ] ๕๑ - ๖๐ ปี [ ] ๖๐ ปขี ้นึ ไป

๓. การศึกษา [ ] ประถมศกึ ษา [ ] มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ [ ] มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

[ ] ปวช./ปวส. [ ] ปรญิ ญาตรี [ ] ปรญิ ญาโทข้ึนไป

๔. กลุ่มอาชพี [ ] ข้าราชการ/รัฐวิสาหกจิ /พนักงานของรัฐ

[ ] เจ้าของกจิ การ/ร้านค้า/คา้ ขาย

[ ] พนกั งานบริษัท/พนักงานร้านคา้

[ ] อาชพี อิสระ/ธรุ กิจสว่ นตวั /รับจ้างทวั่ ไป

[ ] เกษตรกรรม/ปศุสตั ว์ /ประมง

[ ] อื่น ๆ (โปรดระบุ)...........................................

๕. รายไดต้ อ่ เดือน [ ] ต่ํากวา่ ๕,๐๐๐ บาท [ ] ๕,๐๐๑ - ๑๐,๐๐๐ บาท

[ ] ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท [ ] ๑๕,๐๐๑ – ๒๐,๐๐๐ บาท

[ ] ๒๐,๐๐๑ ขน้ึ ไป

ตอนท่ี ๒ ระดับของ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง
จงั หวัดขอนแกน่

คําชี้แจง : คําถามในตอนที่ ๒ เป็นระดับพฤติกรรมทางการเมืองกรุณาอ่านและตอบคําถามทุกข้อ
และโปรดตอบตามความเป็นจริง ให้เขียนเคร่ืองหมาย √ ล่งในช่องคําตอบท่ีตรงกับระดับการมีส่วน
ร่วมทางการเมืองทอ้ งถิน่ ของท่าน

เกณฑใ์ นการพิจารณาระดับของการมีส่วนรว่ มมีดงั น้ี
๕ หมายถงึ ระดับพฤตกิ รรมทางการเมือง มากทสี่ ดุ
๔ หมายถงึ ระดบั พฤติกรรมทางการเมือง มาก
๓ หมายถึง ระดบั พฤตกิ รรมทางการเมือง ปานกลาง
๒ หมายถึง ระดับพฤติกรรมทางการเมอื ง นอ้ ย
๑ หมายถงึ ระดบั พฤตกิ รรมทางการเมอื ง นอ้ ยท่ีสุด

๑๕๗

ระดบั ทางการเมือง

การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมทางการเมืองของประชาชนตาํ บล ๕ ๔ ๓ ๒ ๑
โคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่
มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย

ที่สุด กลาง ทสี่ ดุ

๑. ดา้ นการลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง

๑. การลงคะแนนเสียงเลอื กต้ังทําให้ประชาชนมอี าํ นาจเหนอื

ผ้สู มัครรบั เลือกตัง้

๒. การลงคะแนนเสียงเลือกตง้ั เป็นเบ้ืองต้นของขบวนการทาง

การเมืองของประชาชน

๓. การร่วมชืน่ ชอบของพลเมือง และแรงกดดันทําใหค้ ะแนน

เสียงเปน็ เสมือนอาวธุ ที่มอี าํ นาจควบคมุ รัฐบาล

๔. ทา่ นคอยตดิ ตามประวตั แิ ละขา่ วคราวเกีย่ วกบั ผ้สู มัครอยู่

เสมอ

๕. ท่านได้ชกั ชวนคนอ่ืนใหไ้ ปใช้สทิ ธ์ิเลอื กตงั้

๖. ทา่ นไดม้ สี ่วนร่วมเปน็ กรรมการดาํ เนนิ การจดั การเลือกต้ัง

๗. ทา่ นไดท้ าํ การเผยแพรข่ ่าวสารขอ้ มูลให้ผอู้ ่ืนไปใชส้ ิทธิ์

เลอื กตั้ง

๘. ท่านสนใจตดิ ตามขา่ วสารการลงคะแนนเสยี งเลือกตง้ั

๙. ท่านได้รว่ มตรวจสอบการนบั คะแนนเสยี งเลือกต้ัง

๑๐. ทา่ นได้มสี ่วนรว่ มตดิ ตามและตรวจสอบการนับคะแนน

เสยี งเลือกต้งั

๒. ดา้ นกจิ กรรมการรณรงคห์ าเสียง

๑๑. สงั เกตการณป์ ราศรัยหาเสียงทางการเมอื ง

๑๒. สังเกตพฤตกิ รรมของนกั การเมืองจากสือ่ ประเภทตา่ ง ๆ

เช่น หนังสือพิมพ์ เฟสบคุ เวป็ ออนไลน์ เปน็ ต้น

๑๓. เขา้ ร่วมพดู คุยการเลือกตัง้ ตามทีส่ าธารณะ

๑๔. เข้ารว่ มสนทนาการเลือกต้ังทเี่ ปน็ ทางการและไมเ่ ปน็

ทางการ

๑๕. อธิบายใหเ้ ห็นคณุ คา่ ของการเลือกตงั้

๑๖. พูดชน้ี ําใหเ้ หน็ ผลดีของการไปเลอื กตงั้

๑๗. พดู ชกั ชวนชน้ี ําใหไ้ ปเลือกต้งั ตามวันเวลา

๑๘. การสนทนาหรือแสดงความคิดเห็นการเลอื กตง้ั กับบุคคล

ในครอบครัว เพ่อื น หรอื บุคคลอื่น

๑๙. การติดตามผลการเลือกตง้ั ผา่ นส่ือตา่ ง ๆ

๑๕๘

ระดบั ทางการเมือง

การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตาํ บล ๕ ๔ ๓ ๒ ๑
โคกสี อําเภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น
มาก มาก ปาน น้อย น้อย

ท่สี ดุ กลาง ท่ีสดุ

๓. ดา้ นการติดตอ่ ในฐานะของพลเมือง

๒๐. ตดิ ตอ่ ประสานงานกบั องค์การปกครองสว่ นท้องถ่นิ เป็น

ประจาํ

๒๑. ติดต่อกบั เจา้ หน้าท่ีท้องถิน่ เกีย่ วกับปญั หาเฉพาะ เช่น

ปัญหาครอบครวั หรือปญั หาส่วนตวั

๒๒. ตดิ ต่อกบั เจา้ หน้าทีท่ ้องถ่นิ ระดับพิเศษในเร่อื งปญั หา

สงั คม เช่น ปญั หาอาชญากรรม หรือการบรหิ ารงานของ

รฐั บาลท้องถ่นิ

๒๓. สามารถตดั สินใจเลอื กเรอ่ื งท่ีจะติดตอ่ โดยคํานึงถึงความ

เป็นไปได้ภายใตส้ ภาพแวดล้อมน้ัน ๆ

๒๔. การตดิ ตอ่ กับองคก์ ารปกครองสว่ นท้องถิน่ มักไม่มคี วาม

ขัดแยง้ โดยตรงกับกลมุ่ บุคคลอื่น ๆ

๒๕. เข้ารว่ มกจิ กรรมขององคก์ ารปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ เปน็

ประจาํ

๒๖. เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพราะถอื เปน็ หนา้ ที่ตอ้ งกระทาํ

๒๗. เข้ารว่ มกจิ กรรมเพราะสมัครใจ

๒๘. เข้ารว่ มกจิ กรรมเพราะถูกบังคบั ใหท้ ําตามหนา้ ที่

๒๙. ได้เขา้ ไปมีส่วนรว่ มในการกาํ หนดนโยบายขององคก์ าร

ปกครองส่วนท้องถ่นิ

๑๕๙

ตอนท่ี ๓ แบบสอบถามเก่ียวกับการประยุกต์ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ การมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมอื งของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแกน่

ด้านพฤติกรรมของผ้นู าํ ทอ้ งถิ่นความเปน็ ผรู้ ู้จกั เหตุ ๕ ระดับความคดิ เห็น ๑

มาก ๔๓๒ น้อย
ท่ีสุด ที่สดุ
มาก ปาน นอ้ ย
๑. ผนู้ ําทอ้ งถนิ่ ทราบระเบียบขอ้ ปฏบิ ตั ิ กฎเกณฑข์ อง กลาง
ชมุ ชน

๒. ผู้นําทอ้ งถนิ่ มคี วามรับผิดชอบต่อหนา้ ที่ท่ใี หบ้ ริการ
ประชาชน

๓. ผู้นาํ ท้องถนิ่ ทราบถึงความรับผิดชอบในหน้าทีก่ าร
ใหบ้ ริการช่วยเหลอื ของผู้นําชุมชน

๔. ผูน้ ําท้องถนิ่ ตั้งม่นั อย่ใู นหลกั แหง่ กฎหมาย ให้บรกิ าร
ประชาชนโดยยึดหลักความถกู ตอ้ ง

๕ .ผู้นําท้องถนิ่ ปฏบิ ตั ิตนตามกฎระเบยี บและปฏบิ ัตติ อ่
ประชาชนอย่างเทา่ เทียมกัน

๒. ดา้ นพฤติกรรมของผนู้ าํ ทอ้ งถ่ินความเปน็ ผูร้ จู้ ักผล

๖. ผู้นําทอ้ งถนิ่ มุ่งม่นั ในการทํางานให้ถงึ จดุ หมายท่ี
ประชาชนต้องการ

๗. ผนู้ ําทอ้ งถนิ่ เมือ่ ประชาชนมกี ารรอ้ งเรยี นต่อการ
ปฏิบัตงิ านคณะกรรมการ ชมุ ชนก็สามารถยอมรบั และ
ชแ้ี จงได้

๘. ผนู้ าํ ท้องถน่ิ มกี ารบรหิ ารจดั การทด่ี ี ก่อให้เกดิ ประโยชน์
ต่อชุมชน

๙. ผ้นู าํ ทอ้ งถน่ิ ทราบถงึ ผลเสยี หายทีเ่ กิดจากการบริหาร
จัดการอย่างไม่ถูกตอ้ ง

๑๐. ผนู้ าํ ท้องถิน่ ดูแลและใหบ้ รกิ ารเตม็ ทเ่ี ม่อื มปี ระชาชน
มา ขอรบั บริการหรอื ตดิ ต่อซักถาม

๓. ด้านพฤติกรรมของผนู้ าํ ทอ้ งถิ่นความเปน็ ผูร้ ้จู กั ตนเอง

๑๑.ผู้นาํ ทอ้ งถนิ่ มคี วามสามารถในการวางตัวไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม

๑๒. ผนู้ าํ ทอ้ งถนิ่ เขา้ ใจในบทบาทและหนา้ ท่ขี องตนเองเป็น

๑๓. ผู้นาํ ท้องถ่นิ มคี วามสามารถในการให้บริการ

๑๔.ผู้นําท้องถนิ่ มคี วามรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ีของตน

๑๖๐

ระดบั ความคดิ เห็น
ด้านพฤติกรรมของผนู้ าํ ทอ้ งถิ่นความเปน็ ผ้รู จู้ กั เหตุ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑

มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย
ทสี่ ดุ กลาง ท่สี ดุ
๑๕. ผนู้ าํ ทอ้ งถ่ินปรับตัวเข้ากับประชาชนในชมุ ชน
๔. ด้านพฤตกิ รรมของผนู้ ําทอ้ งถิน่ ความเปน็ ผรู้ ู้จกั
ประมาณ
๑๖. ผนู้ าํ ทอ้ งถน่ิ พฒั นาชมุ ชนตามความจําเปน็ ของชมุ ชน
นนั้ ๆ
๑๗. ผู้นาํ ทอ้ งถน่ิ มีการใช้ทรพั ยากรในชมุ ชนใหเ้ กดิ
ประโยชน์ อย่างสงู สดุ
๑๘. ผนู้ าํ ทอ้ งถิ่นจัดกิจกรรมส่งเสรมิ หลักเศรษฐกจิ
พอเพียงใน ชมุ ชน
๑๙. ผู้นาํ ทอ้ งถิ่นบริหารจดั การงบประมาณภายในชุมชน
ได้ อยา่ งเพียงพอและทั่วถึง
๒๐. ผนู้ าํ ท้องถน่ิ เขา้ ใจในผลที่ไดร้ บั จากการร้จู ักประมาณ
ใน การบริหารจัดการทรัพยากรภายในชุมชน
๒๑. ผนู้ าํ ท้องถน่ิ มีการลาํ ดบั ขัน้ ตอนในการทํางาน
๒๒. ผู้นําท้องถิ่นมีความรับผดิ ชอบตอ่ หนา้ ทขี่ องตนเอง
และตรงตอ่ เวลา
๒๓. ผู้นาํ ท้องถ่ินจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในด้าน
ต่าง ๆ ช่วงวันหยุด
๒๔. ผู้นาํ ท้องถิ่นสามารถแกไ้ ขสถานการณต์ า่ ง ๆ ได้
ทนั ท่วงทแี ละรวู้ ่าอะไรควรทาํ กอ่ นอะไรควรทาํ ทหี ลัง
๒๕. ผนู้ ําท้องถน่ิ ใหก้ ารดแู ลความปลอดภยั ในสถานการณ์
ฉกุ เฉนิ ในชว่ งเวลาทเ่ี หมาะสม
๖. ดา้ นพฤติกรรมของผนู้ ําทอ้ งถ่นิ ความเปน็ ผู้รู้จักชมุ ชน
๒๖. ผู้นําท้องถน่ิ มคี วามจริงใจต่อการใหบ้ รกิ ารกับ
ประชาชน
๒๗. ผู้นาํ ท้องถิน่ ให้บริการตอ้ นรบั ดแู ลผเู้ ขา้ มาศกึ ษาดู
งานในชุมชน
๒๘. ผู้นําท้องถน่ิ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตามสภาพความ
เดือดรอ้ นในชุมชน
๒๙. ผู้นาํ ท้องถน่ิ รับฟงั เหตผุ ลทั้งฝายผู้นําและประชาชนใน
ชมุ ชน

๑๖๑

ระดับความคดิ เหน็
ด้านพฤติกรรมของผ้นู าํ ท้องถิน่ ความเปน็ ผ้รู จู้ กั เหตุ ๕ ๔ ๓ ๒ ๑

มาก มาก ปาน นอ้ ย น้อย
ทสี่ ดุ กลาง ทส่ี ดุ
๓๐. ผนู้ าํ ท้องถิ่นบรหิ ารจัดการชุมชนและไดร้ บั ความ
ร่วมมอื จากประชาชนในชมุ ชน
๗. ด้านพฤติกรรมของผนู้ ําทอ้ งถิน่ ความเปน็ ผู้รูจ้ ักบุคคล
๓๑. ผู้นาํ ท้องถิ่นเปน็ ผู้นําในกจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรม
จรยิ ธรรม เช่น เขา้ วดั ฟงั ธรรม เปน็ ต้น
๓๒. ผนู้ ําท้องถิ่นรบั ฟังปัญหาจากประชาชนในชุมชนทุก
ระดับฐานะพร้อมใหค้ าํ แนะนาํ และชว่ ยเหลอื อยา่ งเตม็ ท่ี
๓๓. ผนู้ ําทอ้ งถิน่ มอบหมายหนา้ ที่ในชมุ ชนให้กับบคุ คลทม่ี ี
ความสามารถในชุมชน
๓๔. ผนู้ ําท้องถน่ิ ใหค้ วามอนเุ คราะห์ดแู ลผดู้ อ้ ยโอกาสใน
ชุมชน
๓๕. ผูน้ ําทอ้ งถิ่นมีการจัดกจิ กรรมทบี่ คุ คลทกุ คนในชมุ ชน
เข้าร่วมได้

๑๖๒

แบบสัมภาษณเ์ พอ่ื การวจิ ัย
เรือ่ ง การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตาํ บลโคกสี

อาํ เภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่
…………………………………………………………

คําชี้แจง
๑. แบบสัมภาษณ์น้ีเป็นแบบสัมภาษณ์ที่สร้างข้ึนเพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย และผู้วิจัย

ใคร่ขอความรู้และข้อมูลจากท่านผู้บริหารองค์การในการสํารวจการศึกษาความคิดเห็นเก่ียวกับ
การศึกษา การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัด
ขอนแกน่

๒. แบบสมั ภาษณฉ์ บับน้ี แบง่ ออกเปน็ ๒ ตอน ดังนี้
ตอนท่ี ๑ ขอ้ มูลทัว่ ไปของผใู้ ห้ข้อมูลหลกั
ตอนท่ี ๒ ข้อคําถามแบบสมั ภาษณ์
ตอนท่ี ๓ ขอ้ คําถามแบบสมั ภาษณ์

๓. ขอความกรุณาให้ตอบแบบสมั ภาษณ์ขอ้ มูลทุกข้อมลู ในแบบสัมภาษณฉ์ บบั น้ี ผ้วู ิจัยถือเป็น
ความลบั

๔. ผลท่ีได้จากแบบสัมภาษณ์น้ีจะเป็นข้อมูลหลักการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับ การมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมอื งของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

๕. ผวู้ ิจัยขอขอบพระคณุ เปน็ อยา่ งสูงทีท่ ่านใหค้ วามอนเุ คราะห์ตอบแบบสมั ภาษณ์

นายสวาท ฮาดภกั ดี
นิสิตหลกั สตู รรฐั ศาสตรมหาบณั ฑติ
บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น

๑๖๓

ตอนที่ ๑ ขอ้ มลู ท่วั ไปของผูใ้ หส้ ัมภาษณ์

ชอ่ื ผใู้ หส้ ัมภาษณ์ .......................................................นามสกุล...............................................................
ตําแหน่ง..............................................................วัน/เดอื น/ปี ท่ีให้สมั ภาษณ์ ........................................

ตอนที่ ๒ ปัญหา และแนวทางแก้ไขปัญหา การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชน
ตาํ บลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
๑. ท่านมีความคิดเหน็ ต่อปญั หา พฤตกิ รรมทางการเมอื งของผนู้ ําท้องถ่นิ อย่างไร
.............................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๒. ท่านมีแนวทางการแกไ้ ขปญั หาพฤติกรรมทางการเมืองของผูน้ ําทอ้ งถ่นิ อย่างไร
.............................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................

ตอนท่ี ๓ แบบสัมภาษณ์เก่ียวกับปัญหา และแนวทางแก้ไขปัญหา การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมอื งของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดขอนแกน่
๑. ท่านคิดว่าการมีสว่ นรว่ มทางการเมืองของประชาชนควรนาํ หลกั สปั ปุรสิ ธรรมมาใช้อย่างไร
.............................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๒. ท่านคิดว่าการสงั เกตการณ์ทางการเมืองของประชาชนควรนาํ หลกั สปั ปุรสิ ธรรมมาใชอ้ ยา่ งไร
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
๓. ท่านคิดว่าการเข้าเปน็ หุ้นส่วนทางการเมืองของประชาชนควรนําหลกั สปั ปรุ ิสธรรมมาใชอ้ ยา่ งไร
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

๑๖๔

๔. ท่านคิดว่าการใช้หลักสัปปุริสธรรมในการส่งเสริมพฤติกรรมทางการเมืองของประชาชนควรทํา
อยา่ งไร
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

ขอขอบคณุ ทตี่ อบแบบสมั ภาษณ์

๑๖๕

ภาคผนวก ค
ผลการวเิ คราะหค์ า่ IOC หรอื ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู

๑๖๖

ตารางตรวจคา่ IOC จากผู้เชยี่ วชาญทั้ง ๕ ท่าน
ค่าดชั นคี วามสอดคลอ้ ง (IOC) ระหวา่ งขอ้ คําถามกบั จุดประสงค์

ข้อที่ ผลการประเมนิ ของผเู้ ช่ียวชาญ รวม ดัชนคี วาม สรปุ ผล
คนที่ คนที่ คนท่ี คนท่ี คนที่ สอดคลอ้ ง
๑ ๒ ๓๔ ๕ สอดคลอ้ ง
๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๑๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคล้อง
๒๑ ๑ ๑ ๐ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๔๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคล้อง
๕๑ ๐ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๖๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๗๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๘๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๙๑ ๐ ๑ ๑ ๐ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๑๐ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๑๑ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๑๒ ๐ ๑ ๑ ๐ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๑๓ ๑ ๐ ๑ ๑ ๐ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๑๔ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๑๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๑๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๑๗ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๑๘ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๑๙ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๒๐ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๒๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๒๒ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๒๓ ๐ ๑ ๑ ๐ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๒๔ ๑ ๐ ๑ ๑ ๐ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๒๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๒๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๒๗ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๒๘ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐
๒๙ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑

ข้อท่ี ผลการประเมนิ ของผเู้ ช่ียวชาญ รวม ดัชนคี วาม ๑๖๗
คนที่ คนท่ี คนที่ คนท่ี คนที่ สอดคล้อง
๑ ๒ ๓๔ ๕ สรุปผล
๕ ๑.๐๐
๓๐ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๒ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๓๓ ๑ ๑ ๑ ๐ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๓๔ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคล้อง
๓๖ ๑ ๐ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๗ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๘ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๓๙ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคล้อง
๔๐ ๑ ๐ ๑ ๑ ๐ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๔๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๔๒ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๔๓ ๐ ๑ ๑ ๐ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๔๔ ๑ ๐ ๑ ๑ ๐ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๔๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๔๖ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๔๗ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๔๘ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๔๙ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๕๐ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๕๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๕๒ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคลอ้ ง
๕๓ ๑ ๑ ๑ ๐ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๕๔ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๕๕ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐ สอดคล้อง
๕๖ ๑ ๐ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๕๗ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๕๘ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๕ ๑.๐๐ สอดคล้อง
๕๙ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๓ ๐.๖๐ สอดคลอ้ ง
๖๐ ๑ ๐ ๑ ๑ ๐ สอดคลอ้ ง

๑๖๘

ข้อที่ ผลการประเมนิ ของผู้เชีย่ วชาญ รวม ดชั นีความ สรุปผล
คนที่ คนที่ คนท่ี คนท่ี คนท่ี สอดคลอ้ ง
๑ ๒ ๓๔ ๕ สอดคลอ้ ง
๕ ๑.๐๐ สอดคลอ้ ง
๖๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๑ ๔ ๐.๘๐

๖๒ ๑ ๑ ๐ ๑ ๑

สรุปผลการหา ค่า IOC จากผู้เชี่ยวชาญทั้ง ๕ ท่าน ทุกท่านมีความคิดเห็นว่าแบบสอบถามมี
ความสอดคล้องกับตัวแปรท้ัง ๔ ด้าน ภาวะผู้นําทางการเมืองของนักการเมืองตามทรรศนะของ
พระสงฆใ์ นเขตการปกครองคณะสงฆ์อําเภอนาวัง จงั หวดั หนองบัวลาํ ภู มคี า่ IOC อยู่ท่ี ๑.๐๐

๑๖๙

ภาคผนวก ง
คา่ เฉลีย่ ของผตู้ อบแบบสอบถาม ๓๐ ชุด (Try Out)

๑๗๐

Case Processing Summary

N%

Cases Valid 29 96.๗

Excludeda 1 3.3

Total 30 100.0

a. Listwise deletion based on all

variables in the procedure.

Reliability Statistics
Cronbach's

Alpha N of Items

.928 61

Item-Total Statistics
Scale Corrected Cronbach's

Scale Mean if Variance if Item-Total Alpha if Item
Item Deleted Item Deleted Correlation Deleted
a1 254.6552 283.805 .538 .926
a2 254.551๗ 281.399 .494 .926
a3 254.51๗2 282.830 .603 .926
a4 254.51๗2 285.18๗ .361 .92๗
a5 254.๗931 290.6๗0 .146 .928
b1 254.82๗6 284.648 .413 .92๗
b2 254.689๗ 286.00๗ .360 .92๗
b3 254.4138 28๗.823 .325 .92๗
b4 254.9655 286.249 .238 .928
b5 254.๗931 289.02๗ .18๗ .928
c1 254.620๗ 2๗9.958 .๗65 .925
c2 254.๗931 280.099 .43๗ .92๗
c3 255.0690 2๗8.209 .555 .926
c4 255.1034 290.16๗ .133 .929
c5 254.82๗6 283.0๗6 .446 .92๗
d1 254.6552 280.305 .593 .926
d2 254.620๗ 285.1๗2 .399 .92๗
d3 254.๗241 282.564 .492 .926

๑๗๑

d4 254.๗586 2๗9.9๗5 .62๗ .926
d5 254.๗931 290.241 .14๗ .928
d6 254.4483 288.399 .280 .928
e1 254.689๗ 283.5๗9 .3๗0 .92๗
e2 254.82๗6 285.862 .398 .92๗
e3 254.๗241 283.350 .506 .926
e4 254.๗586 285.54๗ .320 .928
e5 254.6552 289.305 .164 .929
e6 254.๗241 284.564 .332 .928
e๗ 254.9655 284.106 .449 .92๗
e8 254.6552 2๗9.520 .๗00 .925
e9 254.๗241 285.20๗ .40๗ .92๗
e10 255.0345 281.892 .3๗6 .92๗
f1 254.8621 284.623 .383 .92๗
f2 255.2069 280.599 .43๗ .92๗
f3 254.82๗6 283.005 .449 .92๗
f4 254.8966 285.239 .364 .92๗
g1 255.3103 2๗8.436 .51๗ .926
g2 254.9310 2๗3.๗81 .๗06 .924
g3 254.9655 2๗4.463 .655 .925
g4 255.0000 2๗๗.85๗ .443 .92๗
g5 254.689๗ 282.5๗9 .618 .926
g6 255.0000 291.35๗ .083 .929
h1 254.82๗6 289.933 .168 .928
h2 254.82๗6 28๗.5๗6 .301 .928
h3 255.0000 284.214 .415 .92๗
h4 255.0000 290.286 .163 .928
h5 255.2069 28๗.313 .204 .929
i1 254.8966 290.810 .111 .929
i2 254.9310 284.56๗ .409 .92๗
i3 255.0690 286.209 .285 .928
i4 254.82๗6 285.005 .44๗ .92๗
i5 255.0690 286.209 .402 .92๗
j1 255.1๗24 2๗๗.148 .549 .926

๑๗๒

j2 255.2๗59 289.921 .106 .929
j3 255.0000 281.286 .4๗0 .926
j4 254.8621 282.052 .463 .92๗
j5 255.1034 28๗.096 .286 .928
k1 254.9655 2๗4.320 .660 .925
k2 254.9655 280.534 .5๗4 .926
k3 255.0690 285.995 .324 .92๗
k4 254.689๗ 283.0๗9 .58๗ .926
k5 254.8621 282.409 .615 .926

มคี า่ อํานาจจําแนกระหวา่ ง ๐.๙๒๖ – ๐.๙๓๑
คา่ ความเช่อื มั่น (α) ของแบบสอบถามทง้ั ฉบบั เท่ากับ ๐.๙๒๘

๑๗๓

ประวัติผวู้ ิจัย

ชอ่ื ฉายา/นามสกลุ : นายสวาท ฮาดภกั ดี
วนั เดอื น ปีเกิด : ๑ กรกฎาคม ๒๕๒๐
ภูมลิ าํ เนาทีเ่ กิด
: ๑๙/๑ หมทู่ ่ี ๒ ตาํ บลหนองทุม่ อาํ เภอวาปปี ทมุ
การศกึ ษา จังหวัดมหาสารคาม
ประสบการณ์การทาํ งาน
: พุทธศาสตรบณั ฑติ สาขาวิชารัฐศาสตร์
สงั กัด
ตาํ แหนง่ : อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบณั ฑิต
ปที ่ีเขา้ ศึกษา มหาวิทยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตขอนแกน่
ปที ่ีสําเรจ็ การศึกษา
ที่อยปู่ จั จุบนั : มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่

: อาจารยป์ ระจาํ หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบณั ฑิต
: ปีการศึกษา ๒๕๖๒
: ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓

: ๑๘๖/๑ หมู่ ๑๕ ตําบลโคกสี อําเภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น


Click to View FlipBook Version