The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

2563 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE นายสวาท ฮาดภักดี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE

2563 การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE นายสวาท ฮาดภักดี

Keywords: 2563,การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น THE PARTICIPATION IN POLITICAL ACTIVITIES OF THE PEOPLE OF KHOK SI SUBDISTRICT, MUEANG DISTRICT, KHON KAEN PROVINCE,นายสวาท ฮาดภักดี

๘๕

ตารางท่ี ๔.๙ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมอื ง

ขอ้ ท่ี ด้านการติดตอ่ ในฐานะของพลเมือง ระดับความคดิ เหน็
̅ S.D. ระดบั

๑ ติดตอ่ ประสานงานกบั องค์การปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เปน็ ประจํา ๓.๓๕ ๐.๔๖ มาก

๒ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ท้องถ่ินเกี่ยวกับปัญหาเฉพาะ เช่น ปัญหา ๓.๙๖ ๐.๓๗ มาก
ครอบครัวหรอื ปญั หาส่วนตัว

๓ ติดต่อกับเจ้าหน้าท่ีท้องถิ่นระดับพิเศษในเรื่องปัญหาสังคม เช่น ๓.๘๑ ๐.๔๗ มาก
ปญั หาอาชญากรรม หรอื การบริหารงานของรัฐบาลทอ้ งถิ่น

๔ สามารถตัดสินใจเลือกเร่ืองที่จะติดต่อโดยคํานึงถึงความเป็นไปได้ ๓.๙๓ ๐.๕๙ มาก
ภายใตส้ ภาพแวดลอ้ มน้นั ๆ

๕ การติดต่อกับองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินมักไม่มีความขัดแย้ง ๓.๙๒ ๐.๓๖ มาก
โดยตรงกบั กลมุ่ บุคคลอืน่ ๆ

๖ เขา้ รว่ มกิจกรรมขององค์การปกครองสว่ นท้องถ่ินเป็นประจาํ ๓.๖๒ ๐.๕๐ มาก

๗ เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพราะถือเป็นหนา้ ทีต่ ้องกระทาํ ๓.๙๐ ๐.๔๘ มาก

๘ เขา้ รว่ มกจิ กรรมเพราะสมัครใจ ๓.๓๑ ๐.๓๗ มาก

๙ เข้ารว่ มกจิ กรรมเพราะถูกบงั คับให้ทําตามหนา้ ที่ ๓.๑๗ ๐.๔๓ มาก

๑๐ ได้เขา้ ไปมีสว่ นร่วมในการกาํ หนดนโยบายขององค์การปกครอง ๒.๘๖ ๐.๒๙ มาก
ส่วนทอ้ งถ่ิน

ภาพรวม ๓.๕๘ ๐.๒๙ มาก

จากตารางท่ี ๔.๙ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x =
๓.๕๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายขอ้ พบว่า อยใู่ นระดับมากทุกขอ้ เรียงลําดบั จากมากไปหาน้อยสามลําดับ
แรก พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อท่ี ๒ ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ท้องถ่ินเกี่ยวกับปัญหาเฉพาะ
เช่น ปัญหาครอบครัวหรือปัญหาส่วนตัว (x= ๓.๙๖) รองลงมา คือ ข้อที่ ๔ สามารถตัดสินใจเลือก
เรื่องท่ีจะติดต่อโดยคํานึงถึงความเป็นไปได้ภายใต้สภาพแวดล้อมน้ัน ๆ (x= ๓.๙๓) และ ข้อที่ ๕ การ
ติดต่อกับองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินมักไม่มีความขัดแย้งโดยตรงกับกลุ่มบุคคลอื่น ๆ (x= ๓.๙๒)
ตามลําดบั

๘๖

๔.๓ ผลระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗

ผลระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง
จังหวดั ขอนแก่น ตามหลกั สัปปรุ ิสธรรม ๗ โดยพจิ ารณาเปน็ รายดา้ นตามตารางดงั ตอ่ ไปน้ี

ตารางที่ ๔.๑๐ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ โดยภาพรวม

ผลระดบั การประยกุ ตต์ ามหลักสัปปุรสิ ธรรม ๗ การมสี ว่ น ระดับความคดิ เห็น
ข้อที่ รว่ มในกจิ กรรมทางการเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี
̅ S.D. ระดับ
อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแกน่
๑ ด้านความเปน็ ผู้รจู้ กั เหตุ ๓.๖๕ ๐.๔๙ มาก
๓.๗๗ ๐.๔๙ มาก
๒ ด้านความเปน็ ผู้รจู้ ักผล ๓.๗๔ ๐.๔๖ มาก
๓.๖๒ ๐.๔๘ มาก
๓ ด้านความเปน็ ผรู้ ู้จักตนเอง ๓.๕๘ ๐.๕๒ มาก
๓.๗๘ ๐.๔๔ มาก
๔ ดา้ นความเปน็ ผรู้ จู้ ักประมาณ ๓.๗๓ ๐.๔๖ มาก
๓.๗๐ ๐.๔๘ มาก
๕ ดา้ นความเปน็ ผรู้ จู้ ักกาลเวลา

๖ ดา้ นความเปน็ ผ้รู จู้ กั ชมุ ชน

๗ ดา้ นความเปน็ ผู้รจู้ กั บุคคล

ภาพรวม

จากตารางที่ ๔.๑๐ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x=

๓.๗๐) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย
สามลําดับแรก พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านความเป็นผู้รู้จักชุมชน (x= ๓.๗๘ ) รองลงมา
คอื ดา้ นความเป็นผรู้ จู้ กั ผล (x= ๓.๗๗) และ ดา้ นความเปน็ ผรู้ จู้ กั ตนเอง (x = ๓.๗๔) ตามลําดับ

๘๗

ตารางท่ี ๔.๑๑ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ด้านความเป็นผ้รู จู้ กั เหตุ

ข้อที่ ด้านความเป็นผรู้ จู้ กั เหตุ ระดบั พฤติกรรม
S.D. ระดับ

๑ ผนู้ ําท้องถิน่ ทราบระเบียบขอ้ ปฏิบัติ กฎเกณฑ์ของชุมชน ๓.๖๙ ๐.๕๕ มาก

๒ ผู้นําท้องถิ่นมีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีที่ให้บริการ ๓.๔๗ ๐.๔๓ มาก
ประชาชน

๓ ผู้นําท้องถิ่นทราบถงึ ความรับผิดชอบในหน้าท่ีการให้บริการ ๓.๕๕ ๐.๕๗ มาก
ช่วยเหลือของผู้นาํ ชมุ ชน

๔ ผู้นําท้องถ่ินตั้งมั่นอยู่ในหลักแห่งกฎหมาย ให้บริการ ๓.๙๑ ๐.๔๑ มาก
ประชาชนโดยยึดหลักความถูกตอ้ ง

๕ ผู้นําท้องถิ่นปฏิบัติตนตามกฎระเบียบและปฏิบัติต่อ ๓.๖๓ ๐.๕๐ มาก
ประชาชนอยา่ งเท่าเทยี มกัน

ภาพรวม ๓.๖๕ ๐.๔๙ มาก

จากตารางท่ี ๔.๑๑ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล

โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักเหตุ โดยภาพรวม
อยู่ในระดับมาก (x = ๓.๖๕) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับ

ค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามลําดับแรก พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อท่ี ๔ ผู้นําท้องถ่ินต้ัง
ม่ันอยู่ในหลักแห่งกฎหมาย ให้บริการประชาชนโดยยึดหลักความถูกต้อง (x = ๓.๙๑) รองลงมา คือ
ข้อท่ี ๑ ผู้นําท้องถ่ินทราบระเบียบข้อปฏิบัติ กฎเกณฑ์ของชุมชน (x = ๓.๖๙) และข้อที่ ๕ ผู้นํา
ท้องถิ่นปฏิบตั ิตนตามกฎระเบยี บและปฏบิ ตั ติ ่อประชาชนอย่างเทา่ เทยี มกัน (x= ๓.๖๓) ตามลําดับ

๘๘

ตารางท่ี ๔.๑๒ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ดา้ นความเปน็ ผูร้ ้จู กั ผล

ขอ้ ท่ี ดา้ นความเป็นผรู้ ้จู ักผล ระดับความคดิ เห็น
S.D. ระดบั

๑ ผูน้ ําทอ้ งถน่ิ มุ่งม่นั ในการทํางานให้ถึงจุดหมายที่ประชาชนต้องการ ๓.๙๓ ๐.๔๗ มาก

๒ ผู้นําท้องถิ่นเม่ือประชาชนมีการร้องเรียนต่อการปฏิบัติงาน ๓.๗๐ ๐.๔๗ มาก
คณะกรรมการ ชุมชนกส็ ามารถยอมรบั และชีแ้ จงได้

๓ ผู้นาํ ท้องถิ่นมีการบรหิ ารจัดการท่ดี ี ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อชมุ ชน ๓.๙๔ ๐.๔๗ มาก

๔ ผู้นําท้องถ่ินทราบถึงผลเสียหายท่ีเกิดจากการบริหาร จัดการอย่าง ๓.๘๘ ๐.๔๘ มาก
ไมถ่ ูกตอ้ ง

๕ ผู้นําท้องถิ่นดูแลและให้บริการเต็มท่ีเม่ือมีประชาชนมา ขอรับ ๓.๔๓ ๐.๕๗ มาก
บรกิ ารหรอื ติดต่อซกั ถาม

ภาพรวม ๓.๗๗ ๐.๔๙ มาก

จากตารางท่ี ๔.๑๒ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล

โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักผล โดยภาพรวม
อยู่ในระดับมาก (x= ๓.๗๗) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับ

ค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามลําดับแรก พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อท่ี ๓ ผู้นําท้องถ่ินมี
การบริหารจัดการท่ีดี ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อชุมชน (x= ๓.๙๔) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ ๑ ผู้นําท้องถิ่น
มุ่งม่ันในการทํางานให้ถึงจุดหมายท่ีประชาชนต้องการ (x= ๓.๙๓) และข้อท่ี ๔ ผู้นําท้องถ่ินทราบถึง
ผลเสยี หายท่ีเกิดจากการบรหิ าร จดั การอยา่ งไมถ่ กู ต้อง (x= ๓.๘๘) ตามลําดับ

ตารางท่ี ๔.๑๓ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ดา้ นความเปน็ ผรู้ ู้จกั ตนเอง

ขอ้ ท่ี ดา้ นความเปน็ ผู้รู้จกั ตนเอง ระดบั ความคดิ เหน็

๑ ผนู้ ําท้องถนิ่ มคี วามสามารถในการวางตัวได้อยา่ ง เหมาะสม S.D. ระดับ
๒ ผนู้ ําทอ้ งถ่ินเขา้ ใจในบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ๓.๕๓ ๐.๕๙ มาก
๓ ผ้นู าํ ท้องถิ่นมคี วามสามารถในการให้บรกิ าร ๓.๖๔ ๐.๔๗ มาก
๔ ผนู้ ําทอ้ งถ่นิ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทข่ี องตน ๓.๘๒ ๐.๔๙ มาก
๕ ผนู้ าํ ท้องถน่ิ ปรับตัวเข้ากบั ประชาชนในชมุ ชน ๓.๘๖ ๐.๓๐ มาก
๓.๘๕ ๐.๔๗ มาก
ภาพรวม ๓.๗๔ ๐.๔๖ มาก

๘๙

จากตารางท่ี ๔.๑๓ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล

โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักตนเอง ภาพรวมอยู่
ในระดับมาก (x= ๓.๗๔) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ย

จากมากไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด คือ ข้อที่ ๔ ผู้นําท้องถิ่นมีความ
รับผิดชอบต่อหน้าท่ีของตน (x = ๓.๘๖) รองลงมา คือ ข้อท่ี ๕ ผู้นําท้องถิ่นปรับตัวเข้ากับประชาชน
ในชุมชน (x = ๓.๘๕) และข้อท่ี ๓ ผู้นําท้องถิ่นมีความสามารถในการให้บริการ (x= ๓.๘๒)

ตามลาํ ดบั

ตารางที่ ๔.๑๔ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ด้านความเป็นผรู้ จู้ กั ประมาณ

ขอ้ ที่ ด้านความเปน็ ผู้รจู้ ักประมาณ ระดับความคดิ เหน็
S.D. ระดับ

๑ ผูน้ ําท้องถน่ิ พัฒนาชมุ ชนตามความจําเป็นของชมุ ชนนน้ั ๆ ๓.๖๔ ๐.๔๗ มาก

๒ ผู้นําท้องถิ่นมีการใช้ทรัพยากรในชุมชนให้เกิดประโยชน์ ๓.๕๓ ๐.๔๙ มาก
อยา่ งสงู สดุ

๓ ผู้นําท้องถ่ินจัดกิจกรรมส่งเสริมหลักเศรษฐกิจพอเพียงใน ๓.๙๒ ๐.๓๙ มาก
ชุมชน

๔ ผู้นําท้องถิ่นบริหารจัดการงบประมาณภายในชุมชนได้ อย่าง ๓.๔๖ ๐.๔๐ มาก
เพยี งพอและท่ัวถึง

๕ ผู้นําท้องถ่ินเข้าใจในผลที่ได้รับจากการรู้จักประมาณในการ ๓.๕๕ ๐.๖๗ มาก
บรหิ ารจดั การทรพั ยากรภายในชุมชน

ภาพรวม ๓.๖๒ ๐.๔๘ มาก

จากตารางท่ี ๔.๑๔ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักประมาณ ภาพรวม
อยู่ในระดับมาก (x= ๓.๖๒) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับ
ค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ข้อท่ี ๓ ผู้นําท้องถ่ินจัด
กิจกรรมส่งเสริมหลักเศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน (x = ๓.๙๒) รองลงมาได้แก่ ข้อที่ ๑ ผู้นําท้องถิ่น
พัฒนาชุมชนตามความจําเป็นของชุมชนน้ัน ๆ (x = ๓.๖๔) และข้อที่ ๕ ผู้นําท้องถิ่นเข้าใจในผลท่ี
ได้รบั จากการร้จู กั ประมาณในการบริหารจดั การทรพั ยากรภายในชมุ ชน (x= ๓.๕๕) ตามลําดับ

๙๐

ตารางที่ ๔.๑๕ ค่าเฉล่ียและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ด้านความเปน็ ผรู้ จู้ ักกาลเวลา

ขอ้ ที่ ดา้ นความเป็นผ้รู ้จู ักกาลเวลา ระดับความคดิ เห็น
S.D. ระดับ

๑ ผู้นําท้องถนิ่ มีการลําดับขน้ั ตอนในการทํางาน ๓.๕๓ ๐.๕๙ มาก

๒ ผนู้ ําท้องถนิ่ มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อหน้าทข่ี องตนเองและตรงต่อเวลา ๓.๖๔ ๐.๕๗ มาก

๓ ผู้นําท้องถิ่นจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมความรู้ในด้านต่าง ๆ ช่วง ๓.๔๒ ๐.๓๙ มาก
วันหยดุ

๔ ผู้นําท้องถิ่นสามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและรู้ว่า ๓.๕๖ ๐.๕๐ มาก
อะไรควรทําก่อนอะไรควรทาํ ทีหลงั

๕ ผู้นําท้องถ่ินให้การดูแลความปลอดภัยในสถานการณ์ ฉุกเฉิน ๓.๗๕ ๐.๕๗ มาก
ในชว่ งเวลาท่ีเหมาะสม

ภาพรวม ๓.๕๘ ๐.๕๒ มาก

จากตารางท่ี ๔.๑๕ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักกาลเวลา ภาพรวม
อยู่ในระดับมาก (x= ๓.๕๘) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับ
ค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ ๕ ผู้นําท้องถิ่นให้การ
ดูแลความปลอดภัยในสถานการณ์ ฉุกเฉินในช่วงเวลาท่ีเหมาะสม (x = ๓.๗๕) รองลงมา คือ ข้อท่ี ๒
ผู้นําท้องถิ่นมีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีของตนเองและตรงต่อเวลา (x = ๓.๙๓) และข้อท่ี ๔ ผู้นํา
ท้องถิ่นสามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและรู้ว่าอะไรควรทําก่อนอะไรควรทําทีหลัง (x=
๓.๕๖) ตามลําดบั

๙๑

ตารางที่ ๔.๑๖ ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ด้านความเปน็ ผ้รู จู้ ักชมุ ชน

ขอ้ ที่ ดา้ นความเปน็ ผูร้ จู้ กั ชุมชน ระดบั ความคดิ เหน็
S.D. ระดับ

๑ ผนู้ ําท้องถิ่นมคี วามจรงิ ใจต่อการให้บรกิ ารกับประชาชน ๓.๗๓ ๐.๓๙ มาก

๒ ผนู้ ําท้องถ่ินใหบ้ ริการตอ้ นรบั ดแู ลผ้เู ข้ามาศกึ ษาดงู านในชมุ ชน ๓.๘๔ ๐.๔๗ มาก

๓ ผู้นาํ ทอ้ งถนิ่ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตามสภาพความเดอื ดร้อนในชุมชน ๓.๙๒ ๐.๔๙ มาก

๔ ผูน้ ําทอ้ งถน่ิ รบั ฟังเหตผุ ลทงั้ ฝ่ายผ้นู ําและประชาชนในชุมชน ๓.๕๖ ๐.๔๐ มาก

๕ ผู้นําท้องถ่ินบริหารจัดการชุมชนและได้รับความร่วมมือจาก ๓.๘๕ ๐.๔๗ มาก
ประชาชนในชุมชน

ภาพรวม ๓.๗๘ ๐.๔๔ มาก

จากตารางที่ ๔.๑๖ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักชุมชน ภาพรวมอยู่
ในระดับมาก (x= ๓. ๗๘) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ีย
จากมากไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ ๓ ผู้นําท้องถ่ินให้ความ
ช่วยเหลือตามสภาพความเดือดร้อนในชุมชน (x = ๓.๙๒) รองลงมา คือ ข้อที่ ๕ ผู้นําท้องถิ่นบริหาร
จัดการชุมชนและได้รับความร่วมมือจากประชาชนในชุมชน (x = ๓.๘๕) และข้อท่ี ๒ ผู้นําท้องถ่ิน
ให้บรกิ ารต้อนรบั ดูแลผเู้ ข้ามาศกึ ษาดงู านในชุมชน (x= ๓.๘๔) ตามลาํ ดับ

ตารางท่ี ๔.๑๗ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ดา้ นความเปน็ ผรู้ ู้จกั บคุ คล

ขอ้ ท่ี ดา้ นความเป็นผู้รจู้ ักบคุ คล ระดบั ความคดิ เหน็
S.D. ระดับ

๑ ผู้นําท้องถ่ินเป็นผู้นําในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เช่น ๓.๘๒ ๐.๔๙ มาก
เข้าวดั ฟังธรรม เป็นต้น

๒ ผู้นําท้องถิ่นรับฟังปัญหาจากประชาชนในชุมชนทุกระดับฐานะ ๓.๘๔ ๐.๔๗ มาก
พรอ้ มใหค้ ําแนะนําและชว่ ยเหลอื อย่างเตม็ ที่

๓ ผู้นําท้องถนิ่ มอบหมายหนา้ ท่ใี นชมุ ชนให้กบั บคุ คลทีม่ ี ๓.๕๔ ๐.๓๙ มาก
ความสามารถในชมุ ชน

๔ ผนู้ ําท้องถ่ินใหค้ วามอนเุ คราะห์ดูแลผ้ดู ้อยโอกาสในชมุ ชน ๓.๕๖ ๐.๔๐ มาก

๕ ผนู้ ําท้องถิ่นมีการจัดกจิ กรรมท่บี คุ คลทกุ คนในชุมชนเขา้ ร่วมได้ ๓.๘๙ ๐.๕๗ มาก

ภาพรวม ๓.๗๓ ๐.๔๖ มาก

๙๒

จากตารางท่ี ๔.๑๗ พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล

โคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักบุคคล ภาพรวมอยู่
ในระดับมาก (x= ๓.๗๓) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ีย

จากมากไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อท่ี ๕ ผู้นําท้องถิ่นมีการจัด
กิจกรรมที่บุคคลทุกคนในชุมชนเข้าร่วมได้ (x = ๓.๘๙) รองลงมา คือ ข้อที่ ๒ ผู้นําท้องถิ่นรับฟัง
ปัญหาจากประชาชนในชุมชนทุกระดับฐานะพร้อมให้คําแนะนําและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ (x =

๓.๘๔) และข้อที่ ๑ ผู้นําท้องถ่ินเป็นผู้นําในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เช่น เข้าวัดฟังธรรม
เป็นต้น (x= ๓.๘๒) ตามลําดบั

๔.๔ ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

สมมติฐานที่ ๑ ประชาชนมีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแก่นแตกตา่ งกัน

ตารางท่ี ๔.๑๘ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่ จาํ แนกตามเพศ

ความคดิ เหน็ ตอ่ การมสี ว่ นรว่ มใน ชาย หญงิ
กจิ กรรมทางการเมือง (n=๑๗๓) (n=๒๒๗) t Sig.
X S.D. X S.D.
ดา้ นการลงคะแนนเสยี งเลือกต้ัง ๓.๖๕ ๐.๔๐ ๓.๖๓ ๐.๕๐ ๐.๕๓ ๐.๐๑*
ดา้ นกิจกรรมการรณรงค์หาเสยี ง ๓.๘๗ ๐.๔๗ ๓.๘๙ ๐.๔๕ ๑.๑๗ ๐.๐๐*
ดา้ นการติดต่อในฐานะของพลเมอื ง ๓.๓๘ ๐.๒๙ ๓.๗๘ ๐.๔๒ ๐.๔๖ ๐.๐๒*
๓.๖๓ ๐.๓๙ ๓.๗๖ ๐.๔๕ ๑.๓๐ ๐.๐๑*
ภาพรวม

* มีนยั สําคญั ทางสถติ ทิ ่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๑๘ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชน จําแนกตามเพศโดยภาพรวมพบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง
จังหวัดขอนแก่นที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน
พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแก่นท่ีมีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองด้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง และ
ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซ่ึงเป็นไป
ตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้

๙๓

สมมติฐานที่ ๒ ประชาชนมีอายุต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกัน

ตารางท่ี ๔.๑๙ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จงั หวัดขอนแก่น จาํ แนกตามอายุ

ความคดิ เหน็ แหลง่ ข้อมลู SS Df MS F Sig

ดา้ นการลงคะแนน ระหว่างกล่มุ .๒๑๑ ๔ .๒๑๑ ๒.๒๕๔ .๐๐๒*
เสียง ภายในกลุ่ม ๖๗.๑๐๔ ๓๙๘ .๑๖๙
รวม
๖๗.๓๑๕ ๓๙๙

ดา้ นกิจกรรมการ ระหว่างกล่มุ .๑๓๐ ๔ .๑๓๐ ๔.๗๗๔ .๐๑๒*
รณรงคห์ าเสยี ง
ภายในกลุ่ม ๖๖.๙๐๙ ๓๙๘ .๑๖๘

รวม ๖๗.๐๓๙ ๓๙๙

ด้านการติดต่อในฐานะ ระหว่างกล่มุ .๐๙๙ ๔ .๐๙๙ ๑.๔๖๒ .๐๐๖*
ของพลเมอื ง ภายในกลมุ่ ๘๔.๙๙๐ ๓๙๘ .๒๑๔
รวม ๘๕.๐๘๙ ๓๙๙

ระหว่างกลุม่ .๐๐๔ ๔ .๐๗๒ .๕๗๖ .๐๐๔*

ภาพรวม ภายในกลมุ่ ๕๑.๓๔๓ ๓๙๘ .๑๒๕

รวม ๕๑.๓๔๗ ๓๙๙

* มนี ยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๑๙ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นท่ีมีอายุต่างกันมี
ความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัด
ขอนแกน่ แตกต่างกันอย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕ ซ่งึ เป็นไปตามสมมติฐานทต่ี ง้ั ไว้

เมอ่ื พจิ ารณาเปน็ รายดา้ น พบว่า ประชาชนท่ีมอี ายุตา่ งกนั มีความคิดเหน็ ต่อการมสี ว่ นรว่ ม
ในกิจกรรมทางการเมืองท้ัง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการรณรงค์
หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซ่ึง
เปน็ ไปตามสมมตฐิ านทต่ี ้ังไว้

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามเพศ ด้วยวิธีการของ
LSD. (Least Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซ่ึงปรากฏดัง
ตารางท่ี ๔.๒๓ – ๔.๒๕

๙๔

ตารางท่ี ๔.๒๐ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จังหวดั ขอนแก่น จาํ แนกตามอายุ โดยภาพรวม

อายุ ๑๘–๒๕ ๒๖–๓๐ ๓๑–๔๐ ๔๑–๕๐ ๕๑–๖๐ ๖๑ ปี
ปี ปี ปี ปี ปี ข้นึ ไป
X ๓.๒๔
๓.๕๖ ๓.๙๐ ๓.๖๓ ๓.๙๔ ๓.๗๓ ๐.๒๓
๑๘ – ๒๕ ปี ๓.๕๖ ๐.๒๒* ๐.๕๙ ๐.๑๘ ๐.๑๙
๒๖ – ๓๐ ปี ๓.๙๐ - -๐.๐๓
๓๑ – ๔๐ ปี ๓.๖๓ - -๐.๗๓* -๐.๐๓ -๐.๔๓*
๔๑ – ๕๐ ปี ๓.๙๔ ๐.๖๙
๕๑ – ๖๐ ปี ๓.๗๓ - ๐.๖๙* ๐.๖๙* ๐.๓๙*
๖๑ ปีขน้ึ ไป ๓.๒๔ - -๐.๒๒ ๐.๐๙

- -

*มีนัยสาํ คญั ทางสถิติท่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๒๐ พบว่า ประชาชนท่ีมีอายุแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีสว่ นร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวม
แตกต่างกันอย่างมนี ยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ี่ระดบั ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนท่ีมอี ายรุ ะหว่าง ๒๖–๓๐ ปี อยา่ งมีนัยสําคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนท่ีมอี ายุระหวา่ ง ๓๑–๔๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อยา่ งมนี ยั สําคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนที่มอี ายุระหวา่ ง ๔๑–๕๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมนี ัยสําคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนทม่ี อี ายรุ ะหว่าง ๖๑ปขี นึ้ ไป อย่างมีนยั สาํ คญั ทางสถิตทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕

๙๕

ตารางท่ี ๔.๒๑ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอายุ ด้านการ
ลงคะแนนเสยี ง

๑๘–๒๕ ๒๖–๓๐ ๓๑–๔๐ ๔๑–๕๐ ๕๑–๖๐ ๖๑ ปี
อายุ ปี ปี ปี ปี ปี ขึ้นไป
๓.๒๘
X ๓.๕๘ ๓.๙๔ ๓.๖๘ ๓.๙๘ ๓.๗๘ ๐.๒๓
๑๘ – ๒๕ ปี ๓.๕๘ - ๐.๒๒* -๐.๕๐* ๐.๑๘ ๐.๑๙
๒๖ – ๓๐ ปี ๓.๙๔ -๐.๐๓
- -๐.๗๓* -๐.๐๓ -๐.๔๓*
๓๑ – ๔๐ ปี ๓.๖๘ ๐.๖๙
๔๑ – ๕๐ ปี ๓.๙๘ - ๐.๖๙* ๐.๖๙* ๐.๓๙*
๕๑ – ๖๐ ปี ๓.๗๘ - -๐.๒๒ ๐.๐๙
๖๑ ปขี น้ึ ไป ๓.๒๘
- -

*มนี ัยสําคญั ทางสถติ ิท่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๑ พบว่า ประชาชนที่มอี ายแุ ตกตา่ งกนั มคี วามคดิ เหน็ ต่อการมีส่วนรว่ ม
ในกิจกรรมทางการเมอื งของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกตา่ งกันอย่างมีนยั สําคัญทางสถติ ทิ ่ีระดบั ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๗ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนทม่ี อี ายรุ ะหวา่ ง ๒๖–๓๐ ปี และ ๓๑–๔๐ ปี อย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนท่ีมอี ายุระหว่าง ๓๑–๔๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมนี ยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนทมี่ ีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิตทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนทีม่ อี ายรุ ะหว่าง ๖๑ปขี ึ้นไป อย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดบั ๐.๐๕

๙๖

ตารางที่ ๔.๒๒ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอายุ ด้านกิจกรรม
การรณรงค์หาเสียง

๑๘–๒๕ ๒๖–๓๐ ๓๑–๔๐ ๔๑–๕๐ ๕๑–๖๐ ๖๑ ปี
อายุ ปี ปี ปี ปี ปี ข้นึ ไป
๓.๒๘
X ๓.๕๘ ๓.๙๔ ๓.๖๘ ๓.๙๘ ๓.๗๘ ๐.๒๓
๑๘ – ๒๕ ปี ๓.๕๘ - ๐.๒๔ -๐.๕๒ ๐.๒๘* ๐.๑๘
๒๖ – ๓๐ ปี ๓.๙๔ -๐.๐๓
- -๐.๕๓* -๐.๒๓ -๐.๓๓*
๓๑ – ๔๐ ปี ๓.๖๘ ๐.๖๙
๔๑ – ๕๐ ปี ๓.๙๘ - ๐.๒๙* ๐.๓๙ ๐.๓๖
๕๑ – ๖๐ ปี ๓.๗๘ - -๐.๒๒* ๐.๐๙*
๖๑ ปีขึ้นไป ๓.๒๘
- -

*มีนัยสาํ คญั ทางสถติ ทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๒๒ พบวา่ ประชาชนที่มอี ายแุ ตกตา่ งกัน มคี วามคดิ เหน็ ต่อการมีส่วนรว่ ม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสยี ง แตกต่างกันอย่างมนี ยั สาํ คัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง
แตกต่างจากประชาชนที่มอี ายรุ ะหวา่ ง ๔๑–๕๐ ปี อย่างมีนยั สาํ คัญทางสถติ ิทีร่ ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง
แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๓๑–๔๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง
แตกตา่ งจากประชาชนทม่ี อี ายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี อย่างมนี ัยสาํ คัญทางสถติ ิที่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง
แตกต่างจากประชาชนทมี่ ีอายรุ ะหวา่ ง ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๕๑–๖๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง
แตกตา่ งจากประชาชนทมี่ ีอายุ ๖๑ ปีขึ้นไป อยา่ งมนี ัยสาํ คญั ทางสถิติทีร่ ะดับ ๐.๐๕

๙๗

ตารางที่ ๔.๒๓ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอายุ ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมอื ง

๑๘–๒๕ ๒๖–๓๐ ๓๑–๔๐ ๔๑–๕๐ ๕๑–๖๐ ๖๑ ปี
อายุ ปี ปี ปี ปี ปี ขน้ึ ไป
๓.๒๘
X ๓.๕๘ ๓.๙๔ ๓.๖๘ ๓.๙๘ ๓.๗๘ ๐.๒๓
๑๘ – ๒๕ ปี ๓.๕๘ - ๐.๒๘* -๐.๓๒ ๐.๑๖ ๐.๒๐*
๒๖ – ๓๐ ปี ๓.๙๔ -๐.๐๓*
- -๐.๗๓* -๐.๐๓ -๐.๔๓
๓๑ – ๔๐ ปี ๓.๖๘ ๐.๖๙
๔๑ – ๕๐ ปี ๓.๙๘ - ๐.๖๙* ๐.๖๙* ๐.๓๙*
๕๑ – ๖๐ ปี ๓.๗๘ - -๐.๒๒ ๐.๑๙*
๖๑ ปขี ้นึ ไป ๓.๒๘
- -

*มนี ัยสําคญั ทางสถติ ทิ ่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๒๓ พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกตา่ งกัน มคี วามคิดเหน็ ต่อการมีสว่ นร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมอื ง แตกตา่ งกนั อย่างมีนัยสาํ คญั ทางสถติ ิทีร่ ะดบั ๐.๐๕ มจี ํานวน ๘ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิตทิ ่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑–๔๐ ปี และ ๖๑ปีข้ึนไป อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิตทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิติที่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมอื ง แตกตา่ งจากประชาชนท่ีมีอายุระหวา่ ง ๖๑ปีขึ้นไป อย่างมีนยั สําคัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

๙๘

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๕๑–๖๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง
แตกตา่ งจากประชาชนท่มี อี ายรุ ะหวา่ ง ๖๑ปีข้ึนไป อยา่ งมนี ัยสาํ คัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ ๐.๐๕

สมมติฐานท่ี ๓ ประชาชนทม่ี รี ะดบั การศึกษาแตกต่างกนั มีความคดิ เหน็ ต่อการมสี ว่ นรว่ ม
ในกจิ กรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวดั ขอนแก่นแตกต่างกัน

ตารางท่ี ๔.๒๔ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมือง จงั หวัดขอนแกน่ จาํ แนกตาม ระดบั การศึกษา

ความคดิ เหน็ แหลง่ ข้อมลู SS Df MS F Sig

ระหวา่ งกลุ่ม ๕.๒๓๘ ๔ ๑.๗๔๖ ๘.๖๕๙ .๐๐๐*

ด้านการลงคะแนนเสยี ง ภายในกลมุ่ ๗๙.๘๕๐ ๓๙๖ .๒๐๒

รวม ๘๕.๐๘๙ ๓๙๙

ด้านกิจกรรมการรณรงค์ ระหวา่ งกลมุ่ ๑.๖๖๔ ๔ .๕๕๕ ๓.๓๔๖ .๐๑๙*
หาเสียง ภายในกลุ่ม ๖๕.๖๕๑ ๓๙๖ .๑๖๖
รวม ๖๗.๓๑๕ ๓๙๙

ด้านการติดต่อในฐานะ ระหวา่ งกล่มุ ๒.๑๐๕ ๔ .๗๐๒ ๕.๖๔๓ .๐๐๑*
ของพลเมอื ง ภายในกลุ่ม ๔๙.๒๔๒ ๓๙๖ .๑๒๔
รวม ๕๑.๓๔๗ ๓๙๙

ระหวา่ งกลุ่ม ๒.๘๘๓ ๔ .๙๖๑ ๘.๐๘๓ .๐๐๐*

ภาพรวม ภายในกล่มุ ๔๗.๐๗๘ ๓๙๖ .๑๑๙

รวม ๔๙.๙๖๑ ๓๙๙

*มีนัยสําคญั ทางสถิติท่รี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๒๔ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นท่ีมีระดับ
การศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซ่ึงเป็นไปตาม
สมมติฐานท่ตี ง้ั ไว้

เม่อื พิจารณาเปน็ รายด้าน พบวา่ ประชาชนที่มเี พศต่างกันมคี วามคิดเห็นต่อการมสี ่วนรว่ ม
ในกิจกรรมทางการเมืองทั้ง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการรณรงค์
หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซึ่ง
เปน็ ไปตามสมมติฐานท่ีตงั้ ไว้

๙๙

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้วยวิธีการของ LSD. (Least
Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซ่ึงปรากฏดังตารางที่ ๔.๒๗
– ๔.๒๙

ตารางที่ ๔.๒๕ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแกน่ จําแนกตามอายุ โดยภาพรวม

การศกึ ษา ประถม มธั ยม มัธยม ปวช./ ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท
ศกึ ษา ศกึ ษา ศึกษา ปวส. ขึน้ ไป
ประถมศึกษา ตอนตน้ ตอนปลาย
มธั ยมศึกษาตอนต้น ๓.๙๗
มธั ยมศึกษาตอนปลาย X ๓.๖๕ ๓.๘๐ -๐.๗๒ ๓.๘๕ ๓.๘๖ ๓.๖๗
ปวช./ปวส. ๐.๖๓ ๐.๒๓* ๐.๔๔
ปรญิ ญาตรี ๓.๖๕ - ๐.๓๕ -๐.๒๓*
ปรญิ ญาโทขึน้ ไป -๐.๔๓ -๐.๒๒* -๐.๔๓
๓.๘๐ - -
๐.๓๖ ๐.๒๗* ๐.๕๒
๓.๙๗ - -๐.๒๔* ๐.๔๕
- ๐.๒๓
๓.๘๕
-
๓.๘๖

๓.๖๗

จากตารางท่ี ๔.๒๕ พบว่า ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
การติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่
ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับ
ปริญญาตรี อย่างมีนยั สําคัญทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีการศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ี
ระดบั ๐.๐๕

๑๐๐

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง
แตกตา่ งจากประชาชนท่ีมกี ารศึกษาระดบั ปริญญาตรี อยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๕

ตารางท่ี ๔.๒๖ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอายุ ด้านการ
ลงคะแนนเสยี ง

การศึกษา ประถม มัธยม มธั ยม ปวช./ ปริญญาตรี ปรญิ ญาโท
ศึกษา ศกึ ษา ศึกษา ปวส. ขึน้ ไป
ประถมศึกษา ตอนต้น ตอนปลาย
มัธยมศึกษาตอนตน้ ๓.๙๘
มธั ยมศึกษาตอนปลาย X ๓.๖๘ ๓.๘๔ -๐.๕๒ ๓.๘๘ ๓.๘๘ ๓.๖๘
ปวช./ปวส. ๐.๖๖ ๐.๒๐* ๐.๓๔
ปริญญาตรี ๓.๖๘ - ๐.๖๘ -๐.๔๓
ปรญิ ญาโทขึน้ ไป -๐.๕๓ -๐.๐๓* -๐.๗๓
๓.๘๔ - -
๐.๔๖ ๐.๒๙* ๐.๖๙
๓.๙๘ - -๐.๒๓ ๐.๔๙*
- ๐.๒๙
๓.๘๘ -

๓.๘๘

๓.๖๘

จากตารางท่ี ๔.๒๖ พบว่า ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
การลงคะแนนเสียง แตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สําคญั ทางสถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๔ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียงแตกตา่ งจากประชาชนทม่ี กี ารศึกษาระดับปรญิ ญาตรีอยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิติท่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียงแตกตา่ งจากประชาชนทีม่ กี ารศึกษาระดับปรญิ ญาตรีอยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถติ ิทีร่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษาปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียงแตกต่าง
จากประชาชนทีม่ กี ารศึกษาระดบั ปรญิ ญาโทขึ้นไป อย่างมีนยั สําคัญทางสถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

๑๐๑

ตารางที่ ๔.๒๗ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอายุ ด้านกิจกรรม
การรณรงคห์ าเสยี ง

การศึกษา ประถม มัธยม มัธยม ปวช./ ปรญิ ญาตรี ปริญญาโท
ศกึ ษา ศึกษา ศกึ ษา ปวส. ขึน้ ไป
ประถมศึกษา ตอนตน้ ตอนปลาย
มัธยมศกึ ษาตอนต้น ๓.๙๘
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย X ๓.๖๘ ๓.๘๔ -๐.๖๒* ๓.๘๘ ๓.๘๘ ๓.๖๘
ปวช./ปวส. ๐.๖๖ ๐.๒๐ ๐.๔๔
ปริญญาตรี ๓.๖๘ - ๐.๔๘* -๐.๓๓*
ปริญญาโทขน้ึ ไป -๐.๕๓ -๐.๒๓ -๐.๕๓
๓.๘๔ - -
๐.๔๖ ๐.๒๙* ๐.๕๙
๓.๙๘ - -๐.๒๓* ๐.๔๙
- ๐.๒๗
๓.๘๘
-
๓.๘๘

๓.๖๘

จากตารางที่ ๔.๒๗ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
กิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๕ คู่
ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หา
เสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอน
ปลายอยา่ งมีนัยสาํ คญั ทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถติ ทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง
แตกต่างจากประชาชนท่มี กี ารศกึ ษาระดบั ปริญญาตรี อยา่ งมีนัยสําคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดบั ๐.๐๕

๑๐๒

ตารางที่ ๔.๒๘ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอายุ ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมอื ง

การศึกษา ประถม มธั ยม มธั ยม ปวช./ ปรญิ ญาตรี ปรญิ ญาโท
ศึกษา ศึกษา ศึกษา ปวส. ขน้ึ ไป
ประถมศกึ ษา ตอนต้น ตอนปลาย
มัธยมศกึ ษาตอนต้น ๓.๙๘
มธั ยมศึกษาตอนปลาย X ๓.๖๘ ๓.๘๔ -๐.๗๒ ๓.๘๘ ๓.๘๘ ๓.๖๘
ปวช./ปวส. ๐.๖๓ ๐.๒๓* ๐.๔๔
ปรญิ ญาตรี ๓.๖๘ - ๐.๓๘* -๐.๒๓*
ปริญญาโทขึน้ ไป -๐.๔๓ -๐.๒๒* -๐.๔๓
๓.๘๔ - -
๐.๓๖ ๐.๒๗* ๐.๕๒
๓.๙๘ - -๐.๒๔* ๐.๔๕
- ๐.๒๓
๓.๘๘
-
๓.๘๘

๓.๖๘

จากตารางที่ ๔.๒๘ พบว่า ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
การติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่
ได้แก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมอื ง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับปริญญาตรี อย่าง
มีนัยสําคญั ทางสถติ ิท่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับ
ปรญิ ญาตรี อยา่ งมนี ยั สําคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษาปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมืองแตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับปริญญาตรี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕

๑๐๓

สมมติฐานท่ี ๔ ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแกน่ แตกต่างกัน

การเปรียบเทียบ ใช้สถิติ F-test (One-way ANOWA) ในการทดสอบความ แปรปรวน
แบบทางเดียวเพ่ือเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยท่ีมากกว่าสองกลุ่ม ใช้ระดับความเช่ือม่ัน
๙๕% จะยอมรับตามสมมติฐานทีต่ งั้ ไว้ต่อเมือ่ ค่า Sig. น้อยกวา่ ๐.๐๕

ตารางท่ี ๔.๒๙ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จงั หวัดขอนแกน่ จาํ แนกตาม อาชพี

ความคดิ เหน็ แหลง่ ขอ้ มูล SS df MS F Sig

ระหวา่ งกลมุ่ .๗๖๔ ๔ .๒๕๕ ๑.๙๙๕ .๐๑๔*

ด้านการลงคะแนนเสยี ง ภายในกลมุ่ ๕๐.๕๘๓ ๓๙๖ .๑๒๘

รวม ๕๑.๓๔๗ ๓๙๙

ดา้ นกจิ กรรมการรณรงค์ ระหว่างกลุ่ม ๓.๖๘๓ ๔ ๑.๒๒๘ ๕.๙๗๓ .๐๐๑*
หาเสยี ง ภายในกลมุ่ ๘๑.๔๐๕ ๓๙๖ .๒๐๖
รวม ๘๕.๐๘๙ ๓๙๙

ด้านการติดต่อในฐานะ ระหว่างกลมุ่ ๑.๓๖๒ ๔ .๔๕๔ ๒.๗๒๖ .๐๔๔*
ของพลเมือง ภายในกลุ่ม ๖๕.๙๕๓ ๓๙๖ .๑๖๗
รวม ๖๗.๓๑๕ ๓๙๙

ระหว่างกลุ่ม ๑.๕๙๙ ๔ .๕๓๓ ๔.๓๖๓ .๐๐๕*

ภาพรวม ภายในกลมุ่ ๔๘.๓๖๒ ๓๙๖ .๑๒๒

รวม ๔๙.๙๖๑ ๓๙๙

*มีนยั สําคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๒๙ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นที่มีอาชีพต่างกันมี
ความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัด
ขอนแก่นแตกตา่ งกันอย่างมีนยั สําคญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั ๐.๐๕ ซึง่ เป็นไปตามสมมตฐิ านท่ีตั้งไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองท้ัง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ ซงึ่ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตง้ั ไว้

๑๐๔

ดังนั้น จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามอาชีพ ด้วยวิธีการของ
LSD. (Least Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการบรรยาย ซ่ึงปรากฏดัง
ตารางท่ี ๔.๓๐ – ๔.๓๓

ตารางที่ ๔.๓๐ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแกน่ จาํ แนกตามอาชีพ โดยภาพรวม

ขา้ ราชการ/ เจา้ ของ พนกั งาน อาชพี อสิ ระ/ เกษตรกรรม/
กจิ การ/ บริษัท/ ธรุ กิจส่วนตวั / ปศสุ ตั ว์ /
รัฐวสิ าหกิจ ร้านคา้ / พนกั งาน รับจ้างทัว่ ไป ประมง
คา้ ขาย ร้านค้า
การศกึ ษา /พนกั งาน ๓.๙๖ ๓.๗๘ ๓.๘๔ ๓.๘๘

ของรัฐ ๐.๒๘* -๐.๓๒ ๐.๑๖ ๐.๒๐

X ๓.๕๙ - -๐.๗๓* -๐.๐๓ -๐.๔๓

ข้าราชการ/ ๓.๕๙ - ๐.๖๙* ๐.๖๙*

รัฐวสิ าหกจิ / - - -๐.๒๒*

พนักงานของรัฐ -

เจา้ ของกจิ การ/ ๓.๙๖

ร้านค้า/คา้ ขาย

พนักงานบริษัท/ ๓.๗๘

พนกั งานรา้ นค้า

อาชพี อสิ ระ/ธุรกจิ ๓.๘๔

สว่ นตัว/รบั จา้ งทวั่ ไป

เกษตรกรรม/ ๓.๘๘

ปศุสตั ว์ /ประมง

จากตารางท่ี ๔.๓๐ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกตา่ งกนั อย่างมนี ยั สาํ คัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๕ คู่ ได้แก่

ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕

๑๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป และอาชีพ
เกษตรกรรม/ปศสุ ัตว์ /ประมง อยา่ งมนี ยั สําคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง อย่างมี
นัยสาํ คัญทางสถติ ิท่รี ะดบั ๐.๐๕

ตารางที่ ๔.๓๑ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอาชีพ ด้านการ
ลงคะแนนเสียง

ขา้ ราชการ/ เจา้ ของ พนักงาน อาชีพอสิ ระ/ เกษตรกรรม/
กิจการ/ บริษทั / ธรุ กิจส่วนตัว/ ปศุสัตว์ /
รัฐวสิ าหกิจ ร้านคา้ / พนกั งาน รบั จา้ งทั่วไป ประมง
ค้าขาย รา้ นคา้
การศกึ ษา /พนกั งาน ๓.๙๖ ๓.๗๘ ๓.๘๔ ๓.๘๘
๐.๒๘* -๐.๓๒ ๐.๑๖* ๐.๒๐
ของรัฐ
- -๐.๗๓* -๐.๐๓ -๐.๔๓
X ๓.๕๙
- ๐.๖๙* ๐.๖๙*
ข้าราชการ/ ๓.๕๙ -
- -๐.๒๒*
รฐั วสิ าหกจิ /
-
พนกั งานของรัฐ

เจา้ ของกจิ การ/ ๓.๙๖

รา้ นค้า/คา้ ขาย

พนักงานบริษัท/ ๓.๗๘

พนกั งานรา้ นค้า

อาชพี อิสระ/ธุรกิจ ๓.๘๔

ส่วนตัว/รบั จ้างทว่ั ไป

เกษตรกรรม/ ๓.๘๘

ปศสุ ัตว์ /ประมง

จากตารางที่ ๔.๓๑ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างกันอย่างมนี ัยสําคัญทางสถิติท่รี ะดบั ๐.๐๕ มีจาํ นวน ๖ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ

๑๐๖

ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย และอาชีพอิสระ/
ธรุ กิจส่วนตวั /รับจา้ งทั่วไป อยา่ งมนี ยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างท่ัวไป และอาชีพ
เกษตรกรรม/ปศสุ ัตว์ /ประมง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติทร่ี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างท่ัวไป มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง อย่างมี
นยั สําคญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕

ตารางท่ี ๔.๓๒ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอาชีพ ดา้ นกิจกรรม
การรณรงคห์ าเสียง

ขา้ ราชการ/ เจา้ ของ พนักงาน อาชีพอสิ ระ/ เกษตรกรรม/
กิจการ/ บริษัท/ ธรุ กจิ ส่วนตัว/ ปศสุ ตั ว์ /
รัฐวิสาหกิจ ร้านคา้ / พนักงาน รับจา้ งทัว่ ไป ประมง
คา้ ขาย ร้านคา้
การศึกษา /พนกั งาน ๓.๙๖ ๓.๗๘ ๓.๘๔ ๓.๘๘
๐.๒๕* -๐.๓๒ ๐.๒๖* ๐.๗๒
ของรัฐ
- ๐.๒๓* -๐.๕๓ -๐.๔๓
X ๓.๕๙
- ๐.๓๙* ๐.๖๙
ข้าราชการ/ ๓.๕๙ -
- -๐.๒๒*
รฐั วสิ าหกจิ /
-
พนกั งานของรัฐ

เจา้ ของกจิ การ/ ๓.๙๖

ร้านคา้ /คา้ ขาย

พนกั งานบรษิ ัท/ ๓.๗๘

พนกั งานรา้ นค้า

อาชีพอิสระ/ธุรกิจ ๓.๘๔

ส่วนตวั /รับจา้ งทัว่ ไป

เกษตรกรรม/ ๓.๘๘

ปศุสตั ว์ /ประมง

๑๐๗

จากตารางที่ ๔.๓๒ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรม
การรณรงค์หาเสียง แตกต่างกันอยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๕ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรม
การรณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย และ อาชีพ
อิสระ/ธุรกจิ สว่ นตวั /รบั จา้ งทัว่ ไป อย่างมีนยั สาํ คัญทางสถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถติ ิทร่ี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป อย่างมี
นยั สาํ คัญทางสถติ ิที่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างท่ัวไป มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรม
การรณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง อย่างมี
นัยสาํ คัญทางสถิตทิ ่รี ะดบั ๐.๐๕

๑๐๘

ตารางท่ี ๔.๓๓ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามอาชีพ ด้านการ
ติดตอ่ ในฐานะของพลเมอื ง

ข้าราชการ/ เจา้ ของ พนกั งาน อาชพี อิสระ/ เกษตรกรรม/
กิจการ/ บรษิ ัท/ ธรุ กิจส่วนตัว/ ปศสุ ตั ว์ /
รฐั วิสาหกจิ ร้านค้า/ พนักงาน รบั จา้ งทั่วไป ประมง
คา้ ขาย รา้ นคา้
การศกึ ษา /พนกั งาน ๓.๙๖ ๓.๗๘ ๓.๘๔ ๓.๘๘
๐.๒๓* ๐.๓๒ ๐.๒๙* ๐.๗๒
ของรัฐ
- ๐.๒๕* ๐.๕๓ -๐.๑๓*
X ๓.๕๙
- ๐.๐๙* ๐.๕๙
ขา้ ราชการ/ ๓.๕๙ -
- ๐.๒๔*
รฐั วิสาหกจิ /
-
พนักงานของรัฐ

เจ้าของกิจการ/ ๓.๙๖

ร้านค้า/คา้ ขาย

พนักงานบรษิ ัท/ ๓.๗๘

พนักงานร้านค้า

อาชีพอิสระ/ธุรกิจ ๓.๘๔

สว่ นตัว/รบั จ้างทวั่ ไป

เกษตรกรรม/ ๓.๘๘

ปศสุ ัตว์ /ประมง

จากตารางท่ี ๔.๓๓ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมอื ง แตกตา่ งกันอยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕ มจี ํานวน ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย และอาชีพ
อสิ ระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทัว่ ไป อย่างมีนยั สําคญั ทางสถติ ทิ ่รี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะ
ของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า และอาชีพ
เกษตรกรรม/ปศสุ ัตว์ /ประมง อย่างมีนัยสาํ คญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป อย่างมี
นัยสําคญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

๑๐๙

ประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง อย่างมี
นยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

สมมติฐานท่ี ๔ ประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมี
สว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแก่นแตกตา่ งกนั

การเปรียบเทียบ ใช้สถิติ F-test (One-way ANOWA) ในการทดสอบความ แปรปรวน
แบบทางเดียวเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉล่ียท่ีมากกว่าสองกลุ่ม ใช้ระดับความเช่ือม่ัน
๙๕% จะยอมรับตามสมมตฐิ านท่ีตง้ั ไว้ตอ่ เม่ือคา่ Sig. นอ้ ยกว่า ๐.๐๕

ตารางที่ ๔.๓๔ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตาม รายได้เฉล่ียต่อ
เดอื น

ความคดิ เหน็ แหลง่ ข้อมูล SS df MS F Sig
.๘๑๙ ๓ .๒๗๓ ๑.๒๘๒ .๐๔๕*
ระหว่างกลุ่ม ๘๔.๒๗๐ ๓๙๖ .๒๑๓

ดา้ นการลงคะแนนเสยี ง ภายในกลุ่ม ๘๕.๐๘๙ ๓๙๙
.๕๒๙ ๓ .๑๗๖ ๑.๐๔๖ .๐๓๑*
รวม ๖๖.๗๘๖ ๓๙๖ .๑๖๙
๖๗.๓๑๕ ๓๙๙
ดเสา้ ยี นงกิจกรรมการรณรงคห์ ารภระวาหมยวใน่างกกลลุม่ ุม่ .๖๕๗ ๓ .๒๑๙ ๑.๗๑๐ .๐๔๔*
๕๐.๖๙๐ ๓๙๖ .๑๒๘
ดา้ นการตดิ ต่อในฐานะของ ระหวา่ งกลุม่ ๖๗.๓๑๕ ๓๙๙
พลเมือง ภายในกลุ่ม ๑.๕๙๙ ๔ .๕๓๓ ๔.๓๖๓ .๐๓๕*
รวม ๔๘.๓๖๒ ๓๙๖ .๑๒๒
๔๙.๙๖๑ ๓๙๙
ระหว่างกล่มุ

ภาพรวม ภายในกลมุ่

รวม

*มนี ยั สําคญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๔ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมอื งของประชาชน พบวา่ ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จงั หวดั ขอนแก่นท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อ
เดือนต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตาม
สมมติฐานที่ตง้ั ไว้

๑๑๐

เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองท้ัง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง ด้าน
กิจกรรมการรณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕ ซ่ึงเปน็ ไปตามสมมติฐานทต่ี ้ังไว้

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามรายได้เฉล่ียต่อเดือน
ด้วยวิธีการของ LSD. (Least Significant Difference) และนําเสนอในรูปตารางประกอบการ
บรรยาย ซง่ึ ปรากฏดงั ตารางที่ ๔.๓๕ – ๔.๓๗

ตารางที่ ๔.๓๕ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามรายได้เฉลย่ี ต่อเดอื น
โดยภาพรวม

ตาํ่ กว่า ๕,๐๐๑– ๑๐,๐๐๑– ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๑
๑๕,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป
การศึกษา ๕,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๓.๗๗ ๓.๘๔
๐.๑๔* ๐.๔๖ ๓.๘๔
X ๓.๖๗ ๓.๘๕ ๐.๓๓ ๐.๒๒* ๐.๒๐
๐.๒๙ -๐.๔๓
ต่าํ กว่า ๕,๐๐๐ ๓.๖๗ - ๐.๖๙ - ๐.๖๙
- ๐.๔๒*
๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ ๓.๘๕ -
-
๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ ๓.๗๗

๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ ๓.๘๔

๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป ๓.๘๔

*มีนยั สําคัญทางสถิติทรี่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๕ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๓ คู่
ไดแ้ ก่

ประชาชนท่มี รี ายไดเ้ ฉลยี่ ตอ่ เดอื นต่าํ กวา่ ๕,๐๐๐ บาท มีความคดิ เห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถิตทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมี
นัยสําคญั ทางสถติ ิท่ีระดบั ๐.๐๕

๑๑๑

ประชาชนที่มรี ายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาทมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป อย่างมี
นยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕

ตารางที่ ๔.๓๖ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จําแนกตามรายได้เฉลย่ี ตอ่ เดอื น
ดา้ นการลงคะแนนเสยี ง

ต่ํากว่า ๕,๐๐๑– ๑๐,๐๐๑– ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๑
๑๕,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ บาทขน้ึ ไป
การศกึ ษา ๕,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๓.๗๖ ๓.๘๕
๐.๑๒* ๐.๔๖ ๓.๘๗
X ๓.๖๙ ๓.๘๖ ๐.๓๓* -๐.๐๒* ๐.๒๐
๐.๔๙* -๐.๔๓
ตํา่ กวา่ ๕,๐๐๐ ๓.๖๙ - ๐.๒๙* - ๐.๓๙*
- -๐.๔๒*
๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ ๓.๘๖ -
-
๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ ๓.๗๖

๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ ๓.๘๕

๒๐,๐๐๑ บาทข้นึ ไป ๓.๘๗

*มีนัยสาํ คัญทางสถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๖ พบว่า ประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ด้านการลงคะแนนเสยี ง แตกต่างกนั อย่างมีนัยสําคญั ทางสถิติทีร่ ะดับ ๐.๐๕ มจี ํานวน ๗ คู่ ได้แก่

ประชาชนทม่ี ีรายได้เฉลย่ี ต่อเดอื นตํ่ากว่า ๕,๐๐๐ บาท มคี วามคิดเหน็ ต่อการมสี ่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท และ ๑๐,๐๐๑ –
๑๕,๐๐๐ บาท อย่างมนี ัยสําคญั ทางสถิติทร่ี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท และ
๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมนี ยั สาํ คญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ
๒๐,๐๐๑ บาทข้นึ ไป อย่างมีนัยสาํ คัญทางสถติ ิที่ระดบั ๐.๐๕

๑๑๒

ประชาชนท่ีมรี ายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาทมีความคิดเห็นตอ่ การมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป อย่างมี
นัยสําคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั ๐.๐๕

ตารางที่ ๔.๓๗ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่ จําแนกตามรายไดเ้ ฉลี่ยตอ่ เดือน
ด้านกิจกรรมการรณรงคห์ าเสียง

ต่ํากวา่ ๕,๐๐๑– ๑๐,๐๐๑– ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๑
๑๕,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ บาทข้นึ ไป
การศกึ ษา ๕,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๓.๗๖ ๓.๘๕
๐.๑๔* ๐.๔๖ ๓.๘๗
X ๓.๖๙ ๓.๘๖ ๐.๓๓ ๐.๒๒* ๐.๒๐
๐.๒๙* -๐.๔๓
ตาํ่ กวา่ ๕,๐๐๐ ๓.๖๙ - ๐.๖๙ - ๐.๖๙
- ๐.๔๒*
๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ ๓.๘๖ -
-
๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ ๓.๗๖

๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ ๓.๘๕

๒๐,๐๐๑ บาทขึน้ ไป ๓.๘๗

*มีนัยสาํ คัญทางสถิตทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๗ พบว่า ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๔ คู่
ไดแ้ ก่

ประชาชนทมี่ ีรายไดเ้ ฉล่ียตอ่ เดือนตํา่ กวา่ ๕,๐๐๐ บาท มคี วามคดิ เห็นตอ่ การมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถติ ิทรี่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมี
นยั สําคัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมี
นัยสาํ คัญทางสถิติทรี่ ะดับ ๐.๐๕

๑๑๓

ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาทมีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทขึ้นไป อย่างมี
นยั สาํ คัญทางสถติ ิที่ระดบั ๐.๐๕

ตารางท่ี ๔.๓๘ ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่ จําแนกตามรายได้เฉลย่ี ตอ่ เดอื น
ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมอื ง

ต่าํ กว่า ๕,๐๐๑– ๑๐,๐๐๑– ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๑
๑๕,๐๐๐ ๒๐,๐๐๐ บาทขน้ึ ไป
การศกึ ษา ๕,๐๐๐ ๑๐,๐๐๐ ๓.๗๖ ๓.๘๕
๓.๘๗
X ๓.๖๙ ๓.๘๖ ๐.๒๒* ๐.๔๖
๐.๖๘ ๐.๑๒* ๐.๒๐
ตา่ํ กวา่ ๕,๐๐๐ ๓.๖๙ - ๐.๗๙ ๐.๔๙ ๐.๔๓
- ๐.๓๙*
๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ ๓.๘๖ - - ๐.๔๗

๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ ๓.๗๖ -

๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ ๓.๘๕

๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป ๓.๘๗

*มนี ยั สําคัญทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๘ พบว่า ประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ดา้ นการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๓
คู่ ได้แก่

ประชาชนทีม่ รี ายไดเ้ ฉล่ียต่อเดือนตํา่ กวา่ ๕,๐๐๐ บาท มคี วามคิดเห็นตอ่ การมสี ่วนรว่ มใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือน และ ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท อย่างมี
นยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมี
นยั สําคญั ทางสถติ ิท่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทขึ้นไป อย่างมี
นัยสาํ คัญทางสถติ ิทรี่ ะดบั ๐.๐๕

๑๑๔

๔.๕ ผลการวิเคราะห์แบบสัมภาษณ์แนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ของประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแกน่

การสัมภาษณ์แนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อาํ เภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น จาํ นวน ๑๕ คน สรุปไดด้ ังน้ี

๑. ความคิดเห็น เกี่ยวกับแนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชน
ตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จงั หวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง พบวา่ ประชาชนมีสว่ นรว่ มในการ
ลงคะแนนเสียงเลือกต้ังโดยทําให้ประชาชนมีอํานาจเหนือผู้สมัครรับเลือกต้ังและการลงคะแนนเสียง
เลือกต้ังเป็นเบ้ืองต้นของขบวนการทางการเมืองของประชาชน๑ โดยที่การร่วมช่ืนชอบของพลเมือง
และแรงกดดันของผู้สมัครรับเลือกตั้งทําให้คะแนนเสียงเป็นเสมือนอาวุธที่มีอํานาจควบคุมรัฐบาล๒
ประชาชนต้องคอยติดตามประวัติและข่าวคราวเกี่ยวกับผู้สมัครอยู่เสมอ โดยส่วนตัวได้ชักชวนคน
ประชาชนภายในหมู่บ้านให้ไปใช้สิทธ์ิเลือกต้ัง๓ และได้มีส่วนร่วมเป็นกรรมการดําเนินการจัดการ
เลือกต้ัง ได้ทําการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลให้ผู้อื่นไปใช้สิทธิ์เลือกต้ัง ท่านสนใจติดตามข่าวสารการ
ลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง ได้ร่วมตรวจสอบการนับคะแนนเสียงเลือกต้ัง และได้มีส่วนร่วมติดตามและ
ตรวจสอบการนับคะแนนเสยี งเลอื กต้งั ๔

๒. ความคิดเห็น เกี่ยวกับแนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชน
ตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง พบว่า ประชาชนได้
สังเกตการณ์ปราศรัยหาเสียงทางการเมือง๕ สังเกตพฤติกรรมของนักการเมืองจากสื่อประเภทต่าง ๆ
เชน่ หนังสอื พิมพ์ เฟสบคุ เว็ปออนไลน์ เปน็ ต้น ๖ เขา้ ร่วมพดู คุยการเลือกตงั้ ตามที่สาธารณะ เข้ารว่ ม
สนทนาการเลือกตั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ๗ พูดชี้นําให้เห็นผลดีของการไปเลือกต้ัง
อธิบายให้เห็นคุณค่าของการเลือกต้ัง พูดชักชวนช้ีนําให้ไปเลือกตั้งตามวันเวลา๘ การสนทนาหรือ
แสดงความคิดเห็นการเลือกตั้งกับบุคคลในครอบครัว เพื่อน หรือบุคคลอื่น๙ และได้มีการติดตามผล
การเลอื กต้งั ผา่ นส่อื ต่าง ๆ ๑๐

๓. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับแนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ

๑ สมั ภาษณ์ นายชาลี ลาสา นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตาํ บลโคกสี, ๑๐ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๒ สมั ภาษณ์ นายธนพงษ์ กองไตร ผใู้ หญบ่ า้ นบา้ นโคกสี หมู่ ๑, ๑๐ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๓ สัมภาษณ์ นายสธุ ี พลสันต์ ผใู้ หญ่บา้ นบ้านโคกสี หมู่ ๒, ๑๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๔ สัมภาษณ์ นายชาลี ลาสา นายกองคก์ ารบริหารส่วนตําบลโคกสี, ๑๐ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๕ สัมภาษณ์ นายประสาท กางจันทา ผใู้ หญบ่ ้านบา้ นเลงิ , ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๖ สมั ภาษณ์ นายวิชาญ สมอุม่ จารย์ ผใู้ หญ่บ้านบ้านยางหย่อง, ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๗ สมั ภาษณ์ นางรุ่งทิวา แกว้ พรรณนา ผ้ใู หญบ่ า้ นบ้านพรหมนิมิต, ๑๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๘ สมั ภาษณ์ นายชาลี ลาสา นายกองคก์ ารบริหารส่วนตาํ บลโคกส,ี ๑๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๙ สัมภาษณ์ นายประสาท กางจนั ทา ผ้ใู หญ่บ้านบา้ นเลิง, ๑๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๑๐ สัมภาษณ์ นายสธุ ี พลสันต์ ผู้ใหญบ่ ้านบา้ นโคกสี หมู่ ๒, ๑๐ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.

๑๑๕

พลเมือง พบว่า ประชาชนตําบลโคกสีได้มีการติดต่อประสานงานกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น
เป็นประจํา๑๑ โดยการติดต่อกับเจ้าหน้าท่ีท้องถิ่นเก่ียวกับปัญหาเฉพาะ เช่น ปัญหาครอบครัวหรือ
ปัญหาส่วนตัว๑๒ และได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระดับพิเศษในเร่ืองปัญหาสังคม เช่น ปัญหา
อาชญากรรม หรือการบรหิ ารงานของรัฐบาลท้องถิ่น เพราะสามารถตัดสินใจเลือกเรื่องท่ีจะติดต่อโดย
คํานึงถึงความเป็นไปได้ภายใต้สภาพแวดล้อมนั้น ๆ๑๓ เราเป็นผู้นําท้องอยู่แล้วจึงสามารถตัดสินใจ
เลือกเรื่องท่ีจะติดต่อโดยคํานึงถึงความเป็นไปได้ภายใต้สภาพแวดล้อมน้ัน ๆ๑๔ ซ่ึงโดยปกติการติดต่อ
กับองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินมักไม่มีความขัดแย้งโดยตรงกับกลุ่มบุคคลอ่ืน๑๕ ได้เข้าร่วมกิจกรรม
ขององค์การปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นประจํา๑๖ ทั้งน้ีการเข้าร่วมกิจกรรมเพราะถือเป็นหน้าท่ีต้อง
กระทํา และเป็นไปด้วยความสมัครใจ๑๗ และได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกําหนดนโยบายขององค์การ
ปกครองส่วนท้องถิ่น๑๘

๔. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักเหตุ ผู้นําท้องถิ่นทราบระเบียบข้อ
ปฏิบัติ กฎเกณฑ์ของชุมชน มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ีท่ีให้บริการประชาชน ทราบถึงความ
รับผิดชอบในหน้าท่ีการให้บริการช่วยเหลือของผู้นําชุมชน ต้ังม่ันอยู่ในหลักแห่งกฎหมาย ให้บริการ
ประชาชนโดยยึดหลักความถูกต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบและปฏิบัติต่อประชาชนอย่างเท่าเทียม
กนั ๑๙

๕. ความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักผล ผู้นําท้องถิ่นมุ่งมั่นในการทํางาน
ให้ถึงจุดหมายท่ี ประชาชนต้องการ เมื่อประชาชนมีการร้องเรียนต่อการปฏิบัติงานคณะกรรมการ
ชมุ ชนก็สามารถยอมรับและชี้แจงได้ มีการบริหารจัดการท่ีดี ก่อให้เกดิ ประโยชน์ ต่อชุมชน ได้ทราบ
ถงึ ผลเสียหายที่เกิดจากการบริหาร จดั การอย่างไมถ่ กู ต้อง ดูแลและใหบ้ ริการเต็มทเี่ ม่อื มปี ระชาชนมา
ขอรบั บริการหรือติดตอ่ ซกั ถาม๒๐

๖. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักประมาณ ผู้นําท้องถิ่นพัฒนาชุมชน

๑๑ สัมภาษณ์ นายสงกรานต์ สังยวน กาํ นนั บา้ นทา่ พระทราย, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๑๒ สมั ภาษณ์ นายสรุ พงษ์ เตินเตียน ผใู้ หญบ่ า้ นบ้านหนองหัววัว, ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๑๓ สัมภาษณ์ นายทองหลาง ยางสวาย ผใู้ หญ่บ้านบา้ นบึงเรือใหญ่, ๑๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๑๔ สัมภาษณ์ นายสงกรานต์ สังยวน กํานันบา้ นทา่ พระทราย, ๑๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๑๕ สัมภาษณ์ นายทองหลาง ยางสวาย ผใู้ หญบ่ ้านบ้านบงึ เรือใหญ่, ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๑๖ สัมภาษณ์ นายสงกรานต์ สงั ยวน กาํ นันบา้ นท่าพระทราย, ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๑๗ สัมภาษณ์ นายชาลี ลาสา นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตําบลโคกส,ี ๑๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๑๘ สมั ภาษณ์ นายสงกรานต์ สงั ยวน กาํ นนั บ้านท่าพระทราย, ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๑๙ สมั ภาษณ์ นายชาลี ลาสา นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาํ บลโคกส,ี ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๒๐ สมั ภาษณ์ นายสงกรานต์ สงั ยวน กํานันบา้ นทา่ พระทราย, ๑๔ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.

๑๑๖

ตามความจําเปน็ ของชมุ ชนน้ัน ๆ มกี ารใช้ทรัพยากรในชุมชนให้เกดิ ประโยชน์ อย่างสูงสุด จัดกิจกรรม
ส่งเสริมหลักเศรษฐกิจพอเพียงใน ชุมชน บริหารจัดการงบประมาณภายในชุมชนได้ อย่างเพียงพอ
และท่ัวถึง เข้าใจในผลที่ได้รับจากการรู้จักประมาณใน การบริหารจัดการทรัพยากรภายในชุมชน
นกั การเมอื งสนบั สนนุ ส่งเสรมิ ชุมชนให้มีสขุ ภาวะทีด่ ี มีความสุข สนับสนุนชุมชนทม่ี กี ารพัฒนาให้ได้รับ
รางวัลและงบประมาณ มีความเป็นกลางในการยกย่องชุมชนท่ีประสบความสําเร็จในการพัฒนา
ประพฤติตนเป็นที่รัก เป็นยอมรับของประชาชนในชุมชน และใช้หลักมุทิตาธรรมในการพัฒนา
ชมุ ชน๒๑

๗. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักตน ผู้นําท้องถิ่นมีความสามารถใน
การวางตัวไดอ้ ย่าง เหมาะสม เข้าใจในบทบาทและหน้าท่ีของตนเองเป็น มีความรบั ผิดชอบต่อหน้าที่
ของตน ปรบั ตวั เข้ากับประชาชนในชมุ ชน๒๒

๘. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักกาลเวลา ผู้นําท้องถ่ินมีการลําดับ
ขั้นตอนในการทํางาน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองและตรงต่อเวลา จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริม
ความรู้ในด้านต่าง ๆ ช่วงวันหยุด สามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและรู้ว่าอะไรควรทํา
กอ่ นอะไรควรทําทีหลัง ใหก้ ารดแู ลความปลอดภัยในสถานการณ์ ฉกุ เฉินในช่วงเวลาท่ีเหมาะสม๒๓

๙. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักชุมชน ผู้นําท้องถ่ินมีความจริงใจต่อ
การให้บริการกับประชาชน ให้บริการต้อนรับ ดูแลผู้เข้ามาศึกษาดูงานในชุมชนให้ความช่วยเหลือตาม
สภาพความเดือดร้อนในชุมชน รับฟังเหตุผลท้ังฝายผู้นําและประชาชนในชุมชน บริหารจัดการชุมชน
และได้รบั ความร่วมมือจากประชาชนในชุมชน๒๔

๑๐. ความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักบุคคล ผู้นําท้องถิ่นเป็นผู้นําใน
กจิ กรรมสง่ เสรมิ คุณธรรม ประเพณี จริยธรรม เช่น เข้าวัดฟงั ธรรม เป็นตน้ รบั ฟังปัญหาจากประชาชน
ในชุมชนทุกระดับฐานะพร้อมให้คําแนะนําและช่วยเหลืออย่างเต็มท่ีมอบหมายหน้าที่ในชุมชนให้กับ
บุคคลท่ีมี ความสามารถในชุมชน และการให้ความอนุเคราะห์ดูแลผู้ด้อยโอกาสในชุมชน เช่น
ผู้สูงอายุ เปน็ ต้น๒๕

๒๑ สัมภาษณ์ นายสุธี พลสนั ต์ ผู้ใหญบ่ า้ นบ้านโคกสี หมู่ ๒, ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๒๒ สมั ภาษณ์ นายสุรพงษ์ เตนิ เตียน ผู้ใหญบ่ า้ นบา้ นหนองหวั ววั , ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.
๒๓ สัมภาษณ์ นายประสาท กางจนั ทา ผใู้ หญ่บา้ นบา้ นเลิง, ๑๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๒๔ สมั ภาษณ์ นางรุ่งทวิ า แก้วพรรณนา ผู้ใหญบ่ า้ นบ้านพรหมนมิ ติ , ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔.
๒๕ สมั ภาษณ์ นายทองหลาง ยางสวาย ผ้ใู หญบ่ ้านบ้านบงึ เรือใหญ,่ ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๔.

๑๑๗

๔.๖ องค์ความรู้ทไ่ี ดร้ ับจากการวจิ ัย

จากผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถามประกอบด้วย เพศ
อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มีความแตกต่างกันซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความ
คิดเห็นต่อพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง
จังหวัดขอนแก่นที่แตกต่างกัน เมื่อศึกษาถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชน
ตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ พบว่า หลักสัปปุริสธรรม ๗ เป็น
ส่วนสําคัญในการปกครองของผู้นําท้องถ่ินที่เป็นผลสะท้อนจากประชาชนเพื่อให้เกิดการปกครอง
ท้องถ่ินที่มีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับประโยชน์ท่ีเท่าเทียมกัน ท้ังทางด้านการมีส่วนร่วม การ
สังเกตการณ์ และการเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมือง โดยการบูรณาการร่วมกับหลักธรรมท่ีเป็น
หลักธรรมของผู้นํา คือ สัปปุริสธรรม ๗ ซ่ึงผู้นําทางการเมืองต้องนําไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง
และชุมชนอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การรู้จักเหตุ รู้จักผล รู้จักตน รู้จักประมาณ รู้จักกาลเวลา รู้จักชุมชน
และรู้จักบุคคล เม่ือรู้ทั้ง ๗ ประการ ผู้นําทางการเมืองท้องถ่ินย่อมเป็นผู้รอบรู้ในการบริหารจัดการ
องค์กรปกครองท้องถิ่นและสามารถพัฒนาท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไปได้ ซึ่งสามารถเขียน
เป็นภาพแสดงได้ดังตอ่ ไปน้ี

ประชาชน

ร้จู กั สัปปรุ ิสธรรม ๗ รู้จกั คน
รจู้ ักประมาณ
รจู้ ักผล ร้จู ักชมุ ชน
รู้จกั ตน รูจ้ ัก

การมสี ว่ นร่วม
ทางการเมอื ง

การลงคะแนน กิจกรรมการ การติดตอ่ ในฐานะ
เสยี งเลือกต้งั รณรงค์หาเสียง ของพลเมอื ง

แผนภาพที่ ๔.๑ แสดงองค์ความรูท้ ่ไี ดจ้ ากงานวิจัย

บทท่ี ๕

สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

การศึกษา เร่ือง “การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น” การวิจัยคร้งั น้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วม
ในกจิ กรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ จําแนกตามเพศ อายุ
ระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ต่อเดือนต่างกัน และเพื่อเสนอแนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี
(Mixed Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้การ
วิจัยเชิงสํารวจ (Survey Research) โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ประชาชนในตําบลโคกสี
อําเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น ซึ่งใช้วิธีการสุ่มตัวอย่าง ที่ได้จากสูตรของ Taro Yamane ได้
กลุ่มตัวอย่าง จํานวน ๔๐๐ คน วิเคราะห์ข้อมูลโดย (frequency) ค่าร้อยละ (percentage) หา
ค่าเฉล่ีย (mean) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (standard deviation) การทดสอบค่าที (t-test) การ
วเิ คราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One way analysis of variance) และการวจิ ยั เชงิ คุณภาพ โดย
การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informant) และใช้เทคนิค
การวิเคราะห์เนอ้ื หา ประกอบบรบิ ท ซงึ่ มีรายละเอยี ดดงั นี้

๕.๑ สรุปผลการวิจัย
๕.๒ อภิปรายผลการวิจัย
๕.๓ ข้อเสนอแนะ

๕.๑ สรปุ ผลการวิจยั

๕.๑.๑ ปัจจยั สว่ นบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม

ผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม จํานวน ๓๘๓ คน จําแนกตาม
เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายไดต้ ่อเดอื น และประสบการณท์ ํางาน มรี ายละเอียดดังนี้

เพศ พบว่า จํานวนผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จํานวน ๒๑๐ คน คิดเป็น
ร้อยละ ๕๔.๘๓ รองลงมาไดแ้ ก่ เพศชาย จํานวน ๑๗๓ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๕.๑๗ ตามลาํ ดบั

อายุ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง ๒๖ – ๓๐ ปี จํานวน ๙๙ คน คิด
เป็นร้อยละ ๒๕.๘๔ รองลงมาได้แก่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปี จํานวน ๘๖
คน ๓๑ – ๔๐ ปี จํานวน ๗๖ คน ๔๑ – ๕๐ ปี จํานวน ๗๕ คน ๕๑ – ๖๐ ปี จํานวน ๓๓ คน

๑๑๙

และ ๖๑ ปีข้ึนไป จํานวน ๑๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๒.๔๕ ๑๙.๘๔ ๑๙.๕๘ ๘.๖๑ และ ๓.๖๕
ตามลําดับ

ระดับการศกึ ษา พบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามส่วนใหญ่มกี ารศึกษาอยู่ในระดบั มธั ยมตอนตน้
จํานวน ๙๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๕.๘๔ รองลงมาได้แก่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีการศึกษาอยู่ในระดับ
ระดับประถมศึกษา จํานวน ๙๘ คน มัธยมศึกษาตอนปลาย จํานวน ๗๖ คน ปวช./ปวส. จํานวน
๗๕ คน ระดับปริญญาตรี จาํ นวน ๓๓ คน และ ระดับปริญญาโทขึ้นไป จํานวน ๒ คน คิดเป็น
ร้อยละ ๒๕.๕๙ ๑๙.๘๔ ๑๙.๕๘ ๑๙.๕๘ ๘.๖๑ และ ๐.๕๒ ตามลําดับ

อาชีพ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง จํานวน
๑๐๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๑๐ รองลงมาได้แก่ ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/
รับจ้างทั่วไป จํานวน ๙๕ คน เจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย จํานวน ๗๖ คน พนักงานบริษัท/
พนักงานร้านค้า จํานวน ๗๑ คน ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐ จํานวน ๔๑ คน คิด
เป็นรอ้ ยละ ๒๔.๘๐ ๑๙.๘๔ ๑๘.๕๔ และ ๑๐.๗๐ ตามลาํ ดบั

รายได้ต่อเดือน พบว่า ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีรายได้ต่อเดือนระหวา่ ง ๕,๐๐๑ –
๑๐,๐๐๐ บาท จํานวน ๑๐๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๗.๔๑ รองลงมาได้แก่ ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีมี
รายได้ต่อเดือนระหว่าง ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท จํานวน ๙๖ คน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท
จํานวน ๗๕ คน จํานวน ๗๑ คน ต่ํากว่า ๕,๐๐๐ บาท จํานวน ๗๑ คน และ ๒๐,๐๐๑ บาท
ขึน้ ไป จํานวน ๓๖ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ๒๕.๐๖ ๑๙.๕๘ ๑๘.๕๓ และ ๙.๓๙ ตามลําดบั

๕.๑.๒ ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแกน่

๑. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x = ๓.๗๐) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า
อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลําดับจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียงมี
ค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด (x = ๓.๗๗) รองลงมาได้แก่ ด้านการลงคะแนนเสียง (x= ๓.๗๕) และ ด้านการ
ติดตอ่ ในฐานะของพลเมอื ง (x = ๓.๕๘) ตามลาํ ดับ

๒. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x = ๓.๗๕) เมื่อ
พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อยสามลําดับ
แรก พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ข้อที่ ๒ ท่านสนใจติดตามข่าวสารทางการเมือง (x = ๓.๙๔)
รองลงมา คือ ข้อที่ ๑๐ การเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลให้ผู้อ่ืนไปใช้สิทธ์ิเลือกตั้ง (x= ๓.๙๒) และข้อที่ ๓
ทา่ นได้ร่วมตรวจสอบการนับคะแนนเสยี งเลือกตัง้ (x= ๓.๘๖) ตามลําดับ

๓. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x = ๓.๗๗)
เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับจากมากไปหาน้อยสามลําดับแรก
พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อที่ ๓ ท่านได้เข้าร่วมสังเกตการณ์พูดคุยทางการเมืองตามท่ี

๑๒๐

สาธารณะ (x = ๓.๙๖) รองลงมา คือ ข้อท่ี ๗ ท่านได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การติดตามนโยบายของ
พรรคการเมอื ง (x= ๓.๙๕) และ ขอ้ ที่ ๒ ท่านไดส้ ังเกตพฤติกรรมของนักการเมอื งจากสื่อประเภทตา่ ง
ๆเชน่ หนังสอื พิมพ์ เฟสบุค เวป็ ออนไลน์ เปน็ ตน้ (x= ๓.๙๒)

๔. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ดา้ นการติดตอ่ ในฐานะของพลเมือง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x = ๓.๕๘)
เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับจากมากไปหาน้อยสามลําดับแรก
พบวา่ ขอ้ ท่มี ีคา่ เฉล่ียมากที่สุด คือ ขอ้ ท่ี ๒ เมือ่ เข้าไปเป็นหนุ้ สว่ นทางการเมืองจะทําให้เข้าใจสิทธิและ
เสรีภาพทางการเมือง (x= ๓.๙๖) รองลงมา คือ ข้อท่ี ๔ เมื่อเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองได้
ส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าใจการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย (x= ๓.๙๓) และ ข้อท่ี ๕ เม่ือ
เข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมอื งไดส้ ง่ เสริมใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มทางการเมือง (x= ๓.๙๒) ตามลาํ ดบั

๕.๑.๓ ผลระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อาํ เภอเมอื ง จังหวดั ขอนแกน่ ตามหลักสปั ปุรสิ ธรรม ๗

๑. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่นตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x= ๓.๗๐ ) เมื่อ
พิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามลําดับ
แรก พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านความเป็นผู้รู้จักชุมชน (x= ๓.๗๘ ) รองลงมา คือ ด้าน
ความเปน็ ผู้ร้จู กั ผล (x= ๓.๗๗) และ ด้านความเปน็ ผรู้ ู้จกั ตนเอง (x = ๓.๗๔) ตามลาํ ดับ

๒. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักเหตุ โดยภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (x = ๓.๖๕) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทกุ ข้อ เรียงลําดับคา่ เฉล่ียจากมาก
ไปหาน้อยสามลําดับแรก พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลย่ี มากท่ีสดุ คือ ข้อที่ ๔ ผู้นําท้องถิ่นตั้งมั่นอยู่ในหลักแห่ง
กฎหมาย ให้บริการประชาชนโดยยึดหลักความถูกต้อง (x = ๓.๙๑) รองลงมา คือ ข้อท่ี ๑ ผู้นํา
ทอ้ งถิน่ ทราบระเบียบข้อปฏิบัติ กฎเกณฑ์ของชุมชน (x = ๓.๖๙ ) และข้อท่ี ๕ ผู้นําท้องถิ่นปฏิบัติตน
ตามกฎระเบยี บและปฏบิ ตั ติ อ่ ประชาชนอยา่ งเทา่ เทียมกนั (x= ๓.๖๓) ตามลําดบั

๓. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสปั ปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รจู้ ักผล โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
(x= ๓.๗๗) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหา
น้อยสามลําดับแรก พบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียมากท่ีสุด คือ ข้อท่ี ๓ ผู้นําท้องถิ่นมีการบริหารจัดการที่ดี
กอ่ ใหเ้ กิดประโยชน์ ต่อชมุ ชน (x= ๓.๙๔) รองลงมาไดแ้ ก่ ข้อท่ี ๑ ผู้นําท้องถน่ิ มงุ่ มั่นในการทํางานให้
ถึงจุดหมายที่ประชาชนต้องการ (x= ๓.๙๓) และข้อที่ ๔ ผู้นําท้องถิ่นทราบถึงผลเสียหายที่เกิดจาก
การบริหาร จัดการอยา่ งไมถ่ ูกตอ้ ง (x= ๓.๘๘) ตามลําดบั

๔. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลกั สัปปุริสธรรม ๗ ดา้ นความเป็นผู้รจู้ ักตนเอง ภาพรวมอย่ใู นระดับมาก
(x= ๓.๗๔) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหา

๑๒๑

น้อยสามลําดับ พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากท่ีสุด คือ ข้อที่ ๔ ผู้นําท้องถิ่นมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
ของตน (x = ๓.๘๖) รองลงมา คือ ข้อท่ี ๕ ผู้นําท้องถิ่นปรับตัวเข้ากับประชาชนในชุมชน (x =
๓.๘๕) และขอ้ ที่ ๓ ผนู้ ําท้องถน่ิ มคี วามสามารถในการใหบ้ รกิ าร (x= ๓.๘๒) ตามลาํ ดับ

๕. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักประมาณ ภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (x= ๓.๖๒) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมาก
ไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ข้อที่ ๓ ผู้นําท้องถิ่นจัดกิจกรรมส่งเสริมหลัก
เศรษฐกิจพอเพียงในชุมชน (x = ๓.๙๒) รองลงมาได้แก่ ข้อท่ี ๑ ผู้นําท้องถ่ินพัฒนาชุมชนตามความ
จําเป็นของชุมชนนั้น ๆ (x = ๓.๖๔) และข้อที่ ๕ ผู้นําท้องถ่ินเข้าใจในผลที่ได้รับจากการรู้จัก
ประมาณในการบริหารจัดการทรพั ยากรภายในชุมชน (x= ๓.๕๕) ตามลําดับ

๖. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักกาลเวลา ภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (x= ๓.๕๘) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมาก
ไปหาน้อยสามลําดับ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียมากที่สุด คือ ข้อที่ ๕ ผู้นําท้องถิ่นให้การดูแลความ
ปลอดภัยในสถานการณ์ ฉุกเฉินในช่วงเวลาท่ีเหมาะสม (x = ๓.๗๕) รองลงมา คือ ข้อที่ ๒ ผู้นํา
ท้องถิ่นมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองและตรงต่อเวลา (x = ๓.๙๓) และข้อที่ ๔ ผู้นําท้องถ่ิน
สามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและรู้ว่าอะไรควรทําก่อนอะไรควรทําทีหลัง (x= ๓.๕๖)
ตามลาํ ดับ

๗. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จงั หวดั ขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จกั ชุมชน ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
(x= ๓. ๗๘) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหา
น้อยสามลําดับ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อท่ี ๓ ผู้นําท้องถ่ินให้ความช่วยเหลือตามสภาพ
ความเดือดร้อนในชุมชน (x = ๓.๙๒) รองลงมา คือ ข้อที่ ๕ ผู้นําท้องถ่ินบริหารจัดการชุมชนและ
ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในชุมชน (x = ๓.๘๕) และข้อที่ ๒ ผู้นําท้องถ่ินให้บริการต้อนรับ
ดูแลผเู้ ขา้ มาศึกษาดงู านในชมุ ชน (x= ๓.๘๔) ตามลําดบั

๘. พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ ด้านความเป็นผู้รู้จักบุคคล ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
(x= ๓.๗๓) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากทุกข้อ เรียงลําดับค่าเฉล่ียจากมากไปหา
น้อยสามลําดับ พบว่า ข้อท่ีมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ข้อท่ี ๕ ผู้นําท้องถ่ินมีการจัดกิจกรรมที่บุคคลทุก
คนในชุมชนเข้าร่วมได้ (x = ๓.๘๙) รองลงมา คือ ข้อที่ ๒ ผู้นําท้องถิ่นรับฟังปัญหาจากประชาชนใน
ชุมชนทุกระดับฐานะพร้อมให้คําแนะนําและช่วยเหลืออย่างเต็มท่ี (x = ๓.๘๔) และข้อท่ี ๑ ผู้นํา
ท้องถ่ินเป็นผู้นําในกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เช่น เข้าวัดฟังธรรม เป็นต้น (x= ๓.๘๒)
ตามลาํ ดบั

๑๒๒

๕.๑.๔ ผลการเปรียบเทียบการมีสว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อําเภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแก่น

สมมติฐานท่ี ๑ ประชาชนมีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จงั หวดั ขอนแก่นแตกต่างกนั

๑. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
แตกต่างกนั อยา่ งมนี ัยสําคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ ๐.๐๕ ซึง่ เปน็ ไปตามสมมติฐานทีต่ ้งั ไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมี
สว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมืองทั้ง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ ซ่งึ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านที่ตั้งไว้

ดังนั้น จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามเพศ ด้วยวิธีการของ
LSD. (Least Significant Difference)

๑.๑ ประชาชนท่ีมีเพศชายมีมีความคิดเหน็ ต่อการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมือง
ของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง แตกต่างกันกับ
ประชาชนเพศหญงิ อย่างมนี ัยสาํ คญั ทางสถติ ิท่ีระดบั ๐.๐๕

๑.๒ ประชาชนทม่ี เี พศชายมีมคี วามคิดเห็นตอ่ การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมอื ง
ของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่าง
กนั กับประชาชนเพศหญงิ อยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถิติทรี่ ะดับ ๐.๐๕

๑.๓ ประชาชนทีม่ ีเพศชายมีมีความคิดเหน็ ต่อการมสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมอื ง
ของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง
แตกต่างกนั กบั ประชาชนเพศหญิง อย่างมนี ัยสําคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕

สมมติฐานที่ ๒ ประชาชนมีอายุต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี อาํ เภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่ แตกต่างกัน

๑. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นท่ีมีอายุต่างกันมีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
แตกต่างกนั อยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถติ ทิ ่ีระดบั ๐.๐๕ ซึง่ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านที่ตงั้ ไว้

เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนท่ีมีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมี
สว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมืองท้ัง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ ซงึ่ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านที่ต้งั ไว้

๑๒๓

ดังนั้น จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามเพศ ด้วยวิธีการของ
LSD. (Least Significant Difference)

๑.๑ พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสยี ง แตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สําคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕ มีจาํ นวน ๗ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง
แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี และ ๓๑–๔๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง
แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๓๑–๔๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง
แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง
แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๖๑ปีข้ึนไป อย่างมีนยั สาํ คญั ทางสถิติทร่ี ะดับ ๐.๐๕

๑.๒ พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงคห์ าเสียง แตกตา่ งกนั อย่างมนี ยั สาํ คญั ทางสถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หา
เสียงแตกต่างจากประชาชนทม่ี ีอายุระหวา่ ง ๔๑–๕๐ ปี อยา่ งมนี ัยสําคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หา
เสียงแตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑–๔๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ี
ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หา
เสยี งแตกตา่ งจากประชาชนทมี่ อี ายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี อยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั ๐.๐๕

๑๒๔

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หา
เสยี งแตกตา่ งจากประชาชนทมี่ ีอายรุ ะหว่าง ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๕๑–๖๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หา
เสียงแตกตา่ งจากประชาชนที่มอี ายุ ๖๑ ปีข้ึนไป อยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิติทรี่ ะดบั ๐.๐๕

๑.๓ พบว่า ประชาชนที่มีอายุแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างกนั อย่างมีนยั สําคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดับ ๐.๐๕ มจี ํานวน ๘ คู่ ได้แก่

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๑๘ – ๒๕ ปีมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถติ ทิ ี่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๒๖–๓๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๓๑–๔๐ ปี และ ๖๑ปีขึ้นไป อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิติท่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๓๑ – ๔๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี และ ๕๑–๖๐ ปี อย่างมีนัยสําคัญทาง
สถิตทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอายุระหว่าง ๔๑–๕๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมอื ง แตกตา่ งจากประชาชนทมี่ อี ายุระหวา่ ง ๖๑ปขี ึน้ ไป อยา่ งมนี ัยสาํ คญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอายุระหว่าง ๕๑–๖๐ ปี มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของ
พลเมอื ง แตกต่างจากประชาชนที่มีอายุระหวา่ ง ๖๑ปขี ึ้นไป อย่างมนี ัยสําคญั ทางสถติ ิที่ระดบั ๐.๐๕

สมมตฐิ านที่ ๓ ประชาชนท่มี ีระดบั การศกึ ษาแตกตา่ งกัน มคี วามคิดเหน็ ตอ่ การมสี ว่ นรว่ ม
ในกิจกรรมทางการเมอื งของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นแตกตา่ งกนั

๑. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จงั หวัดขอนแกน่ จําแนกตาม ระดบั การศึกษา

ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นที่มีระดับการศึกษาต่างกันมี
ความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัด
ขอนแกน่ แตกต่างกันอยา่ งมีนยั สําคัญทางสถิตทิ ่รี ะดบั ๐.๐๕ ซ่งึ เป็นไปตามสมมติฐานทต่ี ้ังไว้

๑๒๕

เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนท่ีมีเพศต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมี
สว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมืองทั้ง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ดา้ นการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ ซ่งึ เปน็ ไปตามสมมติฐานท่ตี ้งั ไว้

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้วยวิธีการของ LSD. (Least
Significant Difference)

๑.๑ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกตา่ งกนั อย่างมนี ัยสําคัญทางสถติ ิทีร่ ะดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๔ คู่ ได้แก่

ประชาชนทีม่ รี ะดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอนต้น มคี วามคิดเห็นตอ่ การมีส่วนรว่ มใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสยี งแตกตา่ งจากประชาชนทม่ี กี ารศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรีอยา่ งมีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมรี ะดบั การศึกษามธั ยมศึกษาตอนปลาย มีความคดิ เห็นตอ่ การมสี ่วนรว่ ม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียงแตกต่างจากประชาชนท่ีมกี ารศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรอี ย่างมีนัยสาํ คัญทางสถติ ทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียงแตกต่างจากประชาชนท่ีมีการศึกษาระดับปริญญาโทขึ้นไป อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕

๑.๒ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรม
การรณรงคห์ าเสยี ง แตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สาํ คัญทางสถิตทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕ มีจํานวน ๕ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนที่มีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงคห์ าเสียง แตกตา่ งจากประชาชนท่ีมกี ารศึกษาระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ และระดับมธั ยมศึกษา
ตอนปลายอยา่ งมีนัยสาํ คัญทางสถิตทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย อย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนทม่ี ีระดับการศกึ ษามธั ยมศึกษาตอนปลาย มีความคดิ เหน็ ตอ่ การมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงคห์ าเสียง แตกตา่ งจากประชาชนท่ีมกี ารศกึ ษาระดบั ปริญญาตรอี ย่างมีนัยสําคญั ทางสถิติท่รี ะดับ
๐.๐๕

๑๒๖

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียงแตกต่างจากประชาชนท่ีมีการศึกษาระดับปริญญาตรี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕

๑.๓ พบว่า ประชาชนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมือง แตกต่างกนั อยา่ งมนี ัยสาํ คัญทางสถิติทรี่ ะดบั ๐.๐๕ มจี ํานวน ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษาประถมศึกษามีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จงั หวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะ
ของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับปริญญาตรี
อยา่ งมีนัยสาํ คัญทางสถติ ิท่ีระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนต้น มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และระดับ
ปรญิ ญาตรี อยา่ งมีนัยสําคญั ทางสถติ ิที่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีการศึกษาระดับปริญญาตรีอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ
ท่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีระดับการศึกษา ปวช./ปวส. มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมืองแตกต่างจากประชาชนท่ีมีการศึกษาระดับปริญญาตรี อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ี
ระดับ ๐.๐๕

สมมติฐานที่ ๔ ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมอื งของประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแกน่ แตกต่างกัน

๑. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นทมี่ ีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็น
ต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
แตกต่างกันอย่างมนี ัยสําคัญทางสถติ ิทร่ี ะดบั ๐.๐๕ ซ่งึ เป็นไปตามสมมติฐานทต่ี ้งั ไว้

เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองท้ัง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ดา้ นการลงคะแนนเสียง ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้

๑๒๗

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามอาชีพ ด้วยวิธีการของ
LSD. (Least Significant Difference)

๑.๑ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสยี ง แตกต่างกนั อย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๖ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย และ อาชีพอิสระ/
ธรุ กจิ ส่วนตวั /รับจา้ งทัว่ ไป อยา่ งมนี ัยสําคัญทางสถิตทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคดิ เห็นต่อการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมอื งของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวดั ขอนแก่น ด้านการลงคะแนน
เสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่
ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป และอาชีพ
เกษตรกรรม/ปศสุ ัตว์ /ประมง อย่างมนี ยั สําคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง อย่างมี
นัยสําคัญทางสถิติทีร่ ะดบั ๐.๐๕

๑.๒ พบว่า ประชาชนท่ีมีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงคห์ าเสยี ง แตกตา่ งกนั อย่างมนี ยั สําคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๕ คู่ ได้แก่

ประชาชนที่มีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
กิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย และ
อาชพี อิสระ/ธรุ กิจสว่ นตวั /รบั จา้ งท่วั ไป อยา่ งมีนยั สําคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการ
รณรงค์หาเสยี ง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบรษิ ัท/พนักงานรา้ นคา้ อยา่ งมนี ัยสําคญั ทาง
สถติ ทิ ่รี ะดบั ๐.๐๕

๑๒๘

ประชาชนท่ีมีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรม
การรณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป อย่างมี
นยั สาํ คัญทางสถิตทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
กิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง
อย่างมีนยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕

๑.๓ พบว่า ประชาชนที่มีอาชีพแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะ
ของพลเมอื ง แตกต่างกันอย่างมีนัยสาํ คญั ทางสถติ ทิ ี่ระดบั ๐.๐๕ มจี ํานวน ๖ คู่ ไดแ้ ก่

ประชาชนท่ีมีอาชีพข้าราชการ/ รัฐวิสาหกิจ/พนักงานของรัฐมีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย และ
อาชีพอิสระ/ธรุ กจิ ส่วนตัว/รบั จา้ งทัว่ ไป อยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิติทีร่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพเจ้าของกิจการ/ร้านค้า/ค้าขาย มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อใน
ฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า และอาชีพ
เกษตรกรรม/ปศสุ ตั ว์ /ประมง อยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิติทร่ี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีอาชีพพนักงานบริษัท/พนักงานร้านค้า มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อ
ในฐานะของพลเมอื ง แตกต่างจากประชาชนทม่ี ีอาชีพอาชีพอสิ ระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจา้ งท่ัวไป อย่างมี
นัยสําคัญทางสถติ ิทีร่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีอาชีพอาชีพอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว/รับจ้างทั่วไป มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างจากประชาชนที่มีอาชีพอาชีพเกษตรกรรม/ปศุสัตว์ /ประมง
อยา่ งมนี ัยสาํ คัญทางสถติ ทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

สมมติฐานที่ ๕ ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมอื ง จงั หวัดขอนแก่นแตกต่างกัน

๑. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
ประชาชน พบว่า ประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกัน
มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง
จังหวดั ขอนแก่นแตกตา่ งกันอย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิติท่ีระดบั ๐.๐๕ ซ่งึ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านท่ีตงั้ ไว้

เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่างกันมีความ
คิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองทั้ง ๓ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการลงคะแนนเสียง

๑๒๙

ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง และด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง แตกต่างอย่างมีนัยสําคัญ
ทางสถติ ิที่ระดับ ๐.๐๕ ซง่ึ เปน็ ไปตามสมมตฐิ านทตี่ ง้ั ไว้

ดังน้ัน จึงทําการทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นจําแนกตามรายได้เฉล่ียต่อเดือน
ด้วยวธิ กี ารของ LSD. (Least Significant Difference)

๑.๑ พบว่า ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างกนั อย่างมนี ยั สําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ มีจาํ นวน ๗ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนตํ่ากว่า ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท และ
๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท อยา่ งมีนัยสําคัญทางสถติ ิท่รี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนทม่ี รี ายไดเ้ ฉลยี่ ต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคดิ เห็นตอ่ การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท และ
๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิตทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
การลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท และ
๒๐,๐๐๑ บาทข้นึ ไป อยา่ งมนี ยั สําคญั ทางสถิตทิ ่รี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาทมีความคิดเห็นต่อการ
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป อย่างมี
นยั สาํ คัญทางสถติ ิทรี่ ะดบั ๐.๐๕

๑.๒ พบว่า ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
กิจกรรมการรณรงค์หาเสียง แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ มีจํานวน ๔ คู่
ได้แก่

ประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือนตํ่ากว่า ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท อย่างมี
นยั สําคัญทางสถิติที่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มรี ายไดเ้ ฉล่ียต่อเดือน ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ

๑๓๐

ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมี
นัยสําคญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั ๐.๐๕

ประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อาํ เภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
การลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อยา่ ง
มนี ัยสําคัญทางสถติ ิท่รี ะดบั ๐.๐๕

ประชาชนที่มรี ายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาทมีความคิดเห็นต่อการ
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป อย่างมี
นยั สําคัญทางสถิติทร่ี ะดับ ๐.๐๕

๑.๓ พบว่า ประชาชนที่มีรายได้เฉล่ียต่อเดือนแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ตดิ ตอ่ ในฐานะของพลเมือง แตกต่างกันอยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิตทิ ี่ระดับ ๐.๐๕ มจี าํ นวน ๓ คู่ ได้แก่

ประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือนต่ํากว่า ๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน และ ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท
อย่างมนี ยั สําคญั ทางสถิติท่รี ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนท่มี ีรายได้เฉลย่ี ตอ่ เดอื น ๕,๐๐๑ – ๑๐,๐๐๐ บาท มคี วามคดิ เห็นตอ่ การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการ
ลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๕,๐๐๑ - ๒๐,๐๐๐ บาท อย่างมี
นยั สาํ คัญทางสถิตทิ ีร่ ะดับ ๐.๐๕

ประชาชนที่มีมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ๑๐,๐๐๑ – ๑๕,๐๐๐ บาท มีความคิดเห็นต่อ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้าน
การลงคะแนนเสียง แตกต่างจากประชาชนท่ีมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน ๒๐,๐๐๑ บาทข้ึนไป อย่างมี
นยั สําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕

๕.๑.๕ ผลการวิเคราะห์แบบสมั ภาษณ์แนวทางการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมทางการเมือง
ของประชาชนตาํ บลโคกสี อําเภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่

การสัมภาษณ์แนวทางการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จาํ นวน ๑๕ คน สรปุ ไดด้ ังน้ี

๑. ความคิดเห็น ด้านการลงคะแนนเสียง พบว่า ประชาชนมีส่วนร่วมในการ
ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งโดยทําให้ประชาชนมีอํานาจเหนือผู้สมัครรับเลือกตั้งและการลงคะแนนเสียง
เลือกตั้งเป็นเบื้องต้นของขบวนการทางการเมืองของประชาชน โดยที่การร่วมช่ืนชอบของพลเมือง
และแรงกดดันของผู้สมัครรับเลือกต้ังทําให้คะแนนเสียงเป็นเสมือนอาวุธท่ีมีอํานาจควบคุมรัฐบาล
ประชาชนต้องคอยติดตามประวัติและข่าวคราวเก่ียวกับผู้สมัครอยู่เสมอ โดยส่วนตัวได้ชักชวนคน
ประชาชนภายในหมู่บ้านให้ไปใช้สิทธ์ิเลือกต้ัง และได้มีส่วนร่วมเป็นกรรมการดําเนินการจัดการ

๑๓๑

เลือกต้ัง ได้ทําการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลให้ผู้อื่นไปใช้สิทธ์ิเลือกต้ัง ท่านสนใจติดตามข่าวสารการ
ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ได้ร่วมตรวจสอบการนับคะแนนเสียงเลือกต้ัง และได้มีส่วนร่วมติดตามและ
ตรวจสอบการนบั คะแนนเสยี งเลอื กตัง้

๒. ความคิดเห็น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง พบว่า ประชาชนได้สังเกตการณ์
ปราศรัยหาเสียงทางการเมอื ง สังเกตพฤติกรรมของนักการเมอื งจากส่ือประเภทต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์
เฟสบุ๊ค เว็บออนไลน์ เป็นต้น เข้าร่วมพูดคุยการเลือกต้ังตามที่สาธารณะ เข้าร่วมสนทนาการเลือกต้ังท่ี
เป็นทางการและไม่เป็นทางการ พูดชี้นําให้เห็นผลดีของการไปเลือกต้ัง อธิบายให้เห็นคุณค่าของการ
เลือกต้ัง พูดชักชวนชี้นําให้ไปเลือกตั้งตามวันเวลา การสนทนาหรือแสดงความคิดเห็นการเลือกตั้งกับ
บุคคลในครอบครัว เพื่อน หรอื บุคคลอ่นื และไดม้ กี ารตดิ ตามผลการเลือกตงั้ ผา่ นส่ือตา่ ง ๆ

๓. ความคิดเห็นด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง พบว่า ประชาชนตําบลโคกสีได้
มีการติดต่อประสานงานกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นประจํา โดยการติดต่อกับเจ้าหน้าท่ี
ท้องถิ่นเก่ียวกับปัญหาเฉพาะ เช่น ปัญหาครอบครัวหรือปัญหาส่วนตัว และได้ติดต่อกับเจ้าหน้าท่ี
ท้องถ่ินระดับพิเศษในเร่ืองปัญหาสังคม เช่น ปัญหาอาชญากรรม หรือการบริหารงานของรัฐบาล
ทอ้ งถน่ิ เพราะสามารถตัดสินใจเลือกเรื่องทจี่ ะติดต่อโดยคาํ นึงถึงความเป็นไปได้ภายใต้สภาพแวดล้อม
นั้น ๆ เราเป็นผู้นําท้องอยู่แล้วจึงสามารถตัดสินใจเลือกเร่ืองที่จะติดต่อโดยคํานึงถึงความเป็นไปได้
ภายใต้สภาพแวดล้อมน้ัน ๆ ซ่ึงโดยปกติการติดต่อกับองค์การปกครองส่วนท้องถ่ินมักไม่มีความ
ขัดแย้งโดยตรงกับกลุ่มบุคคลอ่ืน ได้เข้าร่วมกิจกรรมขององค์การปกครองส่วนท้องถ่ินเป็นประจําทั้งนี้
การเขา้ รว่ มกิจกรรมเพราะถือเปน็ หนา้ ท่ตี อ้ งกระทํา และเปน็ ไปดว้ ยความสมัครใจ และได้เข้าไปมีสว่ น
รว่ มในการกาํ หนดนโยบายขององคก์ ารปกครองส่วนท้องถนิ่

๔. ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ยี วกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับภาวะ
ผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักเหตุ ผู้นําท้องถ่ินทราบระเบียบข้อ
ปฏิบัติ กฎเกณฑ์ของชุมชน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ให้บริการประชาชน ทราบถึงความรับผิดชอบ
ในหน้าท่ีการให้บริการช่วยเหลือของผู้นําชุมชน ต้ังมั่นอยู่ในหลักแห่งกฎหมาย ให้บริการประชาชนโดย
ยึดหลักความถกู ต้องปฏิบัติตนตามกฎระเบียบและปฏบิ ตั ิต่อประชาชนอย่างเทา่ เทียมกัน

๕. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักผล ผู้นําท้องถ่ินมุ่งมั่นในการ
ทํางานให้ถึงจุดหมายที่ ประชาชนต้องการ เม่ือประชาชนมีการร้องเรียนต่อการปฏิบัติงาน
คณะกรรมการ ชุมชนก็สามารถยอมรับและชี้แจงได้ มีการบริหารจัดการท่ีดี ก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อ
ชุมชน ไดท้ ราบถึงผลเสยี หายท่เี กดิ จากการบริหาร จัดการอยา่ งไม่ถูกต้อง ดูแลและใหบ้ ริการเต็มท่เี มื่อ
มีประชาชนมา ขอรบั บริการหรือติดตอ่ ซกั ถาม

๖. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักประมาณ ผู้นําท้องถ่ินพัฒนา
ชุมชนตามความจําเป็นของชุมชนนั้น ๆ มีการใช้ทรัพยากรในชุมชนให้เกิดประโยชน์ อย่างสูงสุด จัด
กิจกรรมส่งเสริมหลักเศรษฐกิจพอเพียงใน ชุมชน บริหารจัดการงบประมาณภายในชุมชนได้ อย่าง
เพียงพอและทั่วถึง เข้าใจในผลที่ได้รับจากการรู้จักประมาณใน การบริหารจัดการทรัพยากรภายใน
ชุมชนนักการเมืองสนับสนุนส่งเสริมชุมชนให้มีสุขภาวะที่ดี มีความสุข สนับสนุนชุมชนท่ีมีการพัฒนา

๑๓๒

ให้ได้รับรางวัลและงบประมาณ มีความเป็นกลางในการยกย่องชุมชนที่ประสบความสําเร็จในการ
พัฒนา ประพฤติตนเป็นท่ีรัก เป็นยอมรับของประชาชนในชุมชน และใช้หลักมุทิตาธรรมในการ
พัฒนาชุมชน

๗. ความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับ
ภาวะผูน้ าํ ทางการเมอื งของนักการเมือง ตามหลักสปั ปุริสธรรม ๗ รูจ้ ักตน ผ้นู ําท้องถิ่นมีความสามารถ
ในการวางตัวได้อย่าง เหมาะสม เข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของตนเองเป็น มีความรับผิดชอบต่อ
หนา้ ท่ขี องตน ปรับตวั เข้ากบั ประชาชนในชุมชน

๘. ความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักกาลเวลา ผู้นําท้องถ่ินมีการ
ลําดับขั้นตอนในการทํางาน มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนเองและตรงต่อเวลา จัดให้มีกิจกรรม
ส่งเสริมความรู้ในด้านต่าง ๆ ช่วงวันหยุด สามารถแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ทันท่วงทีและรู้ว่าอะไร
ควรทําก่อนอะไรควรทําทีหลัง ให้การดูแลความปลอดภัยในสถานการณ์ ฉุกเฉินในช่วงเวลาท่ี
เหมาะสม

๙. ความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็นเก่ียวกับท่านมีความคิดเห็น เก่ียวกับ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักชุมชน ผู้นําท้องถิ่นมีความ
จริงใจต่อการให้บริการกับประชาชน ให้บริการต้อนรับ ดูแลผู้เข้ามาศึกษาดูงานในชุมชนให้ความ
ช่วยเหลือตามสภาพความเดือดร้อนในชุมชน รับฟังเหตุผลท้ังฝายผู้นําและประชาชนในชุมชน
บรหิ ารจัดการชุมชนและไดร้ บั ความรว่ มมือจากประชาชนในชุมชน

๑๐. ความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับท่านมีความคิดเห็น เกี่ยวกับ
ภาวะผู้นําทางการเมืองของนักการเมือง ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ รู้จักบุคคล ผู้นําท้องถ่ินเป็นผู้นําใน
กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม ประเพณี จริยธรรม เช่น เข้าวัดฟังธรรม เป็นต้น รับฟังปัญหาจาก
ประชาชนในชุมชนทุกระดับฐานะพร้อมให้คําแนะนําและช่วยเหลืออย่างเต็มที่มอบหมายหน้าท่ีใน
ชุมชนให้กับบุคคลที่มี ความสามารถในชุมชน และการให้ความอนุเคราะห์ดูแลผู้ด้อยโอกาสในชุมชน
เช่น ผู้สูงอายุ เป็นตน้

๕.๒ อภิปรายผล

จากการวิจัย เรื่อง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ได้ข้อสรุปที่มีประเด็นที่สําคัญและน่าสนใจสมควรนํามาอภิปรายผล
ดังนี้

๕.๒.๑ อภิปรายผลการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อาํ เภอเมอื ง จังหวัดขอนแกน่

๑. ระดับพฤติกรรมการมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการลงคะแนนเสียง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เป็นเช่นน้ีอาจ
เป็นเพราะว่าประชาชนภายในเขตพ้ืนที่ตําบลโคกสีมีความสนใจและมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการ
เลือกต้ัง การติดตามข่าวสารทางการเมือง การตรวจสอบการนับคะแนนเสียงเลือกตั้ง การติดตามและ

๑๓๓

ตรวจสอบการทํางานของนักการเมือง การร่วมในกําหนดนโยบายการพัฒนาในพื้นท่ี สอดคล้องกับ สุ
รพล พรมกุล ได้ทําการศึกษา “พฤติกรรมการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ๒๕๕๗ : ศึกษากรณี
จงั หวัดขอนแก่น” ผลการวิจัยพบว่า ๑. ปัจจัยทางสังคม พบว่า บุคคลท่ีมีส่วนสําคัญที่สุดท่ีทําให้ไปใช้
สิทธิเลือกต้ัง คือ สามี/ภรรยา สื่อประชาสัมพันธ์ที่มีส่วนสําคัญที่สุดท่ีทําให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งคือ
โทรทัศน์ เคเบ้ิลทีวีท้องถิ่น ซ่ึงไม่สอดคล้องกับ สนุก สิงห์มาตร ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง “พฤติกรรมทาง
การเมืองตามวิถีประชาธปิ ไตยของพลเมือง ในจังหวัดร้อยเอ็ด” ผลการวิจัยพบว่า ๑) ระดบั พฤติกรรม
ทางการเมอื งตามวิถปี ระชาธปิ ไตยของ พลเมอื งในจงั หวัดร้อยเอด็ โดยรวมอยใู่ นระดับปานกลาง

๒. ระดับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านกิจกรรมการรณรงค์หาเสียง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เป็น
เช่นน้ีอาจเป็นเพราะว่าประชาชนภายในเขตพื้นที่ตําบลโคกสีมีความสนใจและ สังเกตการณ์ปราศรัย
หาเสียงทางการเมืองเข้าร่วมสังเกตการณ์พูดคุยทางการเมืองตามท่ีสาธารณะ ร่วมสังเกตการณ์
ระหว่างนับคะแนนในการดําเนินการเลือกต้ัง มีการสนทนาหรือแสดงความคิดเห็นทางการเมืองกับ
บุคคลในครอบครัว เพ่ือน หรือบุคคลอื่น ตลอดถึงการเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลให้ผู้อื่นไปใช้สิทธ์ิ
เลือกต้ัง การสังเกตพฤติกรรมของนักการเมืองจากส่ือประเภทต่าง ๆเช่น หนังสือพิมพ์ เฟสบุค เว็ป
ออนไลน์ เป็นต้น และมีการติดตามผลการดําเนินงานของรัฐบาลผ่านส่ือต่าง ๆ เช่น การแก้ไขปัญหา
ราคาสินค้าแพง เป็นต้น ขัดแย้งกับ รัฐ กันภัย และธรรมนิตย์ วราภรณ์ ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การรับรู้
ข่าวสารและการมีส่วนร่วมของประชนที่ส่งผลต่อการพัฒนาท้องถิ่นในองค์การบริหารส่วนตําบล
จังหวัดภาคตะวันตกตอนล่าง ผลการวิจัยพบว่า ๑) ประชาชนในองค์การบริหารส่วนตําบลเขตจังหวัด
ภาคตะวันตกตอนล่าง มีการรับรู้ข่าวสารจากสื่อโทรทัศน์มากที่สุด มีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์
จากการพัฒนามากท่สี ดุ และมีการพฒั นาดา้ นการศึกษาศาสนา และวฒั นธรรม มากที่สุด

๓. ระดับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี
อําเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ด้านการติดต่อในฐานะของพลเมือง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เป็น
เช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าประชาชนภายในเขตพื้นที่ตําบลโคกสีมีความรู้ความเข้าใจว่า เมื่อการเข้าไป
เป็นหุ้นส่วนทางการเมืองจะทําให้มีการเคล่ือนทางการเมือง เมื่อเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองจะทํา
ให้เข้าใจสิทธิและเสรีภาพทางการเมือง เม่ือเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองจะเปิดโอกาสให้
ประชาชนแสดงความคิดเห็นหรือร้องเรียนความเดือดร้อน เม่ือเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองได้
ส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าใจการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย เม่ือเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทาง
การเมืองได้ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง เมื่อเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองได้
ส่งเสริมให้มีการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างอิสระ เม่ือเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองได้
ชักชวนให้ประชาชนต่ืนตัวทางการเมือง เม่ือเข้าไปเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองจะทําให้เกิดการ
ประนีประนอมเจรจาทางการเมือง สอดคล้องกับ ภักษร ตระกูลศิริ ได้วิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการ
เลือกตั้งของประชาชนในเขตองค์การ บริหารส่วนตําบลบ้านชบ อําเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์” พบว่า
ด้านพฤตกิ รรมก่อนการออกไปใช้สิทธิ์ เลือกต้ัง อยูใ่ นระดบั ปานกลาง สว่ นดา้ นอน่ื ๆ อยใู่ นระดบั มาก

๑๓๔

๕.๒.๒ อภิปรายผลระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบล
โคกสี อําเภอเมือง จังหวดั ขอนแกน่ ตามหลกั สปั ปรุ สิ ธรรม ๗

ระดับพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของประชาชนตําบลโคกสี อําเภอ
เมือง จังหวัดขอนแก่น ตามหลักปุริสธรรม ๗ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้เน่ืองจากว่า หลักสัป
ปุริสธรรม ๗ เป็นหลักธรรมที่สามารถประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ คือ ด้านความเป็นผู้รู้จักเหตุ รู้จัก
หลักการ รู้จักหลักเกณฑ์และระเบียบการบริหารจัดการ ด้านความเป็นผู้รู้จักผล รู้ความหมาย รู้ความ
มุ่งหมาย รู้หน้าท่ีและรู้ประโยชน์ที่พึงประสงค์ ด้านความเป็นผู้รู้จักตน คือ รู้ว่าตัวตนของเราเป็นใคร
มีฐานะหรือทําหน้าที่อะไร ด้านความเป็นผู้รู้จักประมาณ ความพอเพียงในความเป็นอยู่ ในการใช้จ่าย
ทรัพย์ ด้านความเป็นผู้รู้จักกาลเวลาอันเหมาะสมว่า เวลาไหนควรทํา เวลาไหนไม่ควรทําและ
ระยะเวลาในการทํางาน การจัดคนเข้าทํางาน ด้านความเป็นผู้รู้จักชุมชน ที่ประชุม การประพฤติตัว
ในที่ประชุม การเข้าหาชุมชนหรือกลุ่มคนในสังคม ด้านความเป็นผู้รู้จักบุคคล ความแตกต่างแห่ง
บุคคล ความสามารถ คุณธรรม อัธยาศัย ทํางานเพื่อส่วนรวม ซื่อตรงต่อตนเอง ต่องาน ต่อบุคคลอื่น
บริหารจัดการด้วยความซ่ือสัตย์สุจริต มีวินัยในตนเอง รักษากฎระเบียบที่ต้ังไว้ เคารพความคิดเห็น
ของกันและกัน เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมประชุมเพื่อเสนอปัญหา และความต้องการในชุมชน
แสดงความคิดเห็น วิจารณ์การทํางาน และร้องทุกข์เรื่องราวต่าง ๆ ได้เพื่อนํามาปรับปรุงแก้ไขพัฒนา
ตนเอง และชุมชนอยู่เสมอ สอดคล้องกับ พระณัฐพงษ์ กิจฺจสาโร (พลเวียง)๑ ท่ีทําการศึกษาภาวะ
ผู้นําของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบลในเขตอําเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด ตามหลักสัปปุริส
ธรรม ๗ ผลการวิจัย พบว่า ๑) ความคิดเห็นของบุคลากรต่อภาวะผู้นําของผู้บริหารองค์การบริหาร
ส่วนตําบลในเขตอําเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากท้ังห้าด้าน ลําดับตามค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย คือ
ด้านสติปัญญา ด้านจิตใจด้านอารมณ์ ด้านคุณธรรมและจริยธรรม และด้านความสัมพันธ์ ตามลําดับ
๒) ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลากรต่อภาวะผู้นําของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบล
ในเขตอําเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗ พบว่า บุคลากรที่มีเพศ อายุ และ
ประสบการณ์ในการทํางานต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นําของผู้บริหาร โดยรวมไม่แตกต่างกัน
๓) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับภาวะผู้นําของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบลในเขตอําเภอเชียงขวัญ
จงั หวัดร้อยเอ็ด ตามหลกั สัปปุริสธรรม ๗ โดยเรียงลําดบั จากความถ่มี ากไปหาน้อย สามลาํ ดับแรก คือ
ผู้บริหารควรควบคุมอารมณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีเหตุมีผล ควรมีดุลยพินิจในการตัดสินใจ
และควรแสดงออกด้วยความจริงใจ และ ขัดแย้งกับ บุศรา โพธิสุข๒ ศึกษาเรื่อง การมีส่วนร่วม

๑ พระณัฐพงษ์ กิจฺจสาโร (พลเวียง), “การศึกษาภาวะผู้นําของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตําบลใน
เขตอําเภอเชียงขวัญ จังหวัดร้อยเอ็ด ตามหลักสัปปุริสธรรม ๗”, วารสาร มมร. ร้อยเอ็ด, ปีที่ ๔ ฉบับท่ี ๑
(มกราคม-มิถุนายน ๒๕๕๘): ๑๐๔-๑๑๘.

๒ บุศรา โพธิสุข, “การมีส่วนร่วมทางการเมืองท้องถิ่นของประชาชน : ศึกษาเฉพาะกรณี ตําบล
ช้างเผือก อําเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่”, รายงานการวิจัย, (มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต
เชยี งใหม่, ๒๕๕๘), บทคดั ย่อ.


Click to View FlipBook Version