The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น THE POLITICAL ACTIVITY PARTICIPATION OF UNDERGRADUATE STUDENTS IN MAHACHULALONGKORNRAJAVIDYALAYA UNIVERSITY, KHON KAEN CAMPUS พระมหาสุทธิดล จิตฺตปญโญ (ภูนอก)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น THE POLITICAL ACTIVITY PARTICIPATION OF UNDERGRADUATE STUDENTS IN MAHACHULALONGKORNRAJAVIDYALAYA UNIVERSITY, KHON KAEN CAMPUS พระมหาสุทธิดล จิตฺตปญโ

การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น THE POLITICAL ACTIVITY PARTICIPATION OF UNDERGRADUATE STUDENTS IN MAHACHULALONGKORNRAJAVIDYALAYA UNIVERSITY, KHON KAEN CAMPUS พระมหาสุทธิดล จิตฺตปญโญ (ภูนอก)

Keywords: 2563,การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น,THE POLITICAL ACTIVITY PARTICIPATION OF UNDERGRADUATE STUDENTS IN MAHACHULALONGKORNRAJAVIDYALAYA UNIVERSITY, KHON KAEN CAMPUS,พระมหาสุทธิดล จิตฺตปญโญ (ภูนอก)

๘๔

ตารางที่ ๔.๓๒ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตาม ดา้ นการติดตามข่าวสารทางการเมือง

ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง (n = ๑๘๖)

หลกั น้อยทส่ี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่ีสดุ
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๓.๖๗ ๒.๗๑ ๓.๑๒ ๓.๗๘ ๔.๑๒
-๐.๔๖
น้อยท่ีสดุ ๓.๖๗ - ๐.๙๕* ๐.๕๕* -๐.๑๑ -๑.๔๑*
-๑.๐๑*
น้อย ๒.๗๑ - - -๐.๔๐ -๑.๐๖* -๐.๓๕*

ปานกลาง ๓.๑๒ - - - -๐.๖๖* -

มาก ๓.๗๘ - - - -

มากทีส่ ดุ ๔.๑๒ - - - -

*มนี ยั สําคญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๒ พบว่า นิสิตมีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๗ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับน้อยท่ีสุด แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับน้อย และ
ระดบั ปานกลาง

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณยี ธรรม ๖ ด้านเมตตาวจกี รรม ในระดบั นอ้ ย แตกต่างจากนิสติ ที่
มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ดา้ นการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับมาก และระดับมาก
ทีส่ ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับมาก และ
ระดับมากทส่ี ดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิต
ทม่ี ีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามขา่ วสารทางการเมือง ในระดับมากท่ีสุด นอกน้ัน
ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๘๕

ตารางที่ ๔.๓๓ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ทางการเมอื ง

ด้านการแลกเปล่ียนความคดิ เห็นทางการเมอื ง (n = ๑๘๖)

หลัก นอ้ ยทสี่ ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๓๓ ๒.๗๑ ๒.๙๒ ๓.๓๖ ๓.๙๐
-๐.๕๗
นอ้ ยทส่ี ุด ๓.๓๓ - ๐.๖๒ ๐.๔๑ -๐.๐๓ -๑.๑๙*
-๐.๙๘*
นอ้ ย ๒.๗๑ - - -๐.๒๑ -๐.๖๕ -๐.๕๔*

ปานกลาง ๒.๙๒ - - - -๐.๔๔* -

มาก ๓.๓๖ - - - -

มากที่สุด ๓.๙๐ - - - -

*มนี ยั สาํ คัญทางสถิติท่ีระดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๓ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๔ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณยี ธรรม ๖ ด้านเมตตาวจกี รรม ในระดบั นอ้ ย แตกตา่ งจากนสิ ิตท่ี
มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมือง ดา้ นการแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ ทางการเมอื ง ในระดับมากที่สุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ดา้ นการแลกเปลยี่ นความคิดเห็นทางการเมือง ในระดับมาก
และระดับมากที่สดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจกี รรม ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิตท่ี
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง ในระดับมากท่ีสุด
นอกนั้นไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๘๖

ตารางท่ี ๔.๓๔ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการเสรมิ สร้างวฒั นธรรมประชาธิปไตย

ดา้ นการเสรมิ สร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย (n = ๑๘๖)

หลัก นอ้ ยที่สดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากที่สดุ
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๔.๐๐ ๓.๒๙ ๓.๔๐ ๔.๑๐ ๔.๕๙
-๐.๕๙*
นอ้ ยท่ีสดุ ๔.๐๐ - ๐.๗๑* ๐.๖๐* -๐.๑๐ -๑.๓๐*
-๑.๑๘*
นอ้ ย ๓.๒๙ - - -๐.๑๒ -๐.๘๒* -๐.๔๘*

ปานกลาง ๓.๔๐ - - - -๐.๗๐* -

มาก ๔.๑๐ - - - -

มากท่สี ุด ๔.๕๙ - - - -

*มีนยั สําคัญทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๔ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๘ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับน้อยท่ีสุด แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับน้อย
ระดบั ปานกลาง และระดับมากท่สี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณยี ธรรม ๖ ด้านเมตตาวจกี รรม ในระดบั นอ้ ย แตกตา่ งจากนสิ ติ ท่ี
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก และ
ระดับมากที่สุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก
และระดบั มากท่สี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณยี ธรรม ๖ ด้านเมตตาวจีกรรม ในระดับมาก แตกตา่ งจากนิสิตที่
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมากท่ีสุด
นอกน้นั ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๘๗

ตารางที่ ๔.๓๕ แสดงความแปรปรวนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม
กั บ ร ะ ดั บ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ใน กิ จ ก ร ร ม ท า ง ก า ร เมื อ ง ข อ งนิ สิ ต ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า ต รี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนกตามด้าน
เมตตามโนกรรม

(n = ๑๘๖)

ความแปรปรวน SS df MS F Sig.

ระหวา่ งกลุม่ ๑๐.๘๗ ๔ ๒.๗๒ ๕.๑๘ ๐.๐๐*

ดา้ นการเลือกตงั้ ภายในกลุ่ม ๙๕.๐๒ ๑๘๑ ๐.๕๒

รวม ๑๐๕.๙๐ ๑๘๕

ด้านการตดิ ตามข่าวสาร ระหวา่ งกลุ่ม ๑๔.๑๘ ๔ ๓.๕๕ ๗.๖๙ ๐.๐๐*

ทางการเมือง ภายในกลมุ่ ๘๓.๔๗ ๑๘๑ ๐.๔๖

รวม ๙๗.๖๖ ๑๘๕

ด้านการแลกเปล่ียนความ ระหวา่ งกลุ่ม ๖.๖๒ ๔ ๑.๖๖ ๑.๘๙ ๐.๐๐*

คดิ เหน็ ทางการเมือง ภายในกลมุ่ ๑๕๘.๗๑ ๑๘๑ ๐.๘๘

รวม ๑๖๕.๓๓ ๑๘๕

ด้านการเสริมสร้าง ระหว่างกลมุ่ ๒๖.๐๘ ๔ ๖.๕๒ ๑๔.๓๔ ๐.๐๐*

วัฒนธรรมประชาธิปไตย ภายในกลมุ่ ๘๑.๘๓ ๑๘๐ ๐.๔๕

รวม ๑๐๗.๙๑ ๑๘๔

ระหวา่ งกลุม่ ๑๒.๖๐ ๔ ๓.๑๕ ๗.๘๓ ๐.๐๐*

รวม ภายในกลุ่ม ๗๒.๐๐ ๑๗๙ ๐.๔๐

รวม ๘๔.๖๐ ๑๘๓

*มนี ยั สําคัญทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๕ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรม ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองในภาพรวมแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสถิติท่ีต้ังไว้ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
นิสิตมีส่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรม ต่างกนั การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกันในทุกด้าน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่ง
เปน็ ไปตามสถติ ทิ ตี่ ง้ั ไว้

ดังน้ัน เม่ือพบความแตกต่างจึงได้ทําการทดสอบเพื่อหาความแตกต่างรายคู่ โดยใช้วิธี
ผลตา่ งนัยสาํ คัญน้อยท่สี ดุ (Least Significant Difference : LSD.) ดงั น้ี

๘๘

ตารางท่ี ๔.๓๖ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการเลอื กต้ัง

หลกั นอ้ ยที่สุด ด้านการเลอื กต้ัง มาก (n = ๑๘๖)
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๓.๕๐ นอ้ ย ปานกลาง ๓.๗๑
๓.๓๓ ๓.๒๐ มากท่ีสุด
น้อยท่ีสุด ๓.๕๐ - -๐.๒๑ ๓.๘๒
น้อย ๓.๓๓ - ๐.๑๗ ๐.๓๐ -๐.๓๘ -๐.๓๒
- ๐.๑๓ -๐.๕๑* -๐.๔๘
ปานกลาง ๓.๒๐ - -- -๐.๖๑*
มาก ๓.๗๑ - -- - -๐.๑๐
-- -
มากทส่ี ดุ ๓.๘๒ - -
*มีนยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๖ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๒ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรมใน ระดับปานกลาง แตกต่าง
จากนิสิตที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเลือกตั้ง ในระดับมาก และระดับมากที่สุด
นอกนัน้ ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๘๙

ตารางท่ี ๔.๓๗ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการติดตามขา่ วสารทางการเมือง

ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง (n = ๑๘๖)

หลัก น้อยที่สุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่ีสุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๐๐ ๓.๐๐ ๓.๒๐ ๓.๗๐ ๓.๘๘
-๐.๘๘
น้อยท่ีสดุ ๓.๐๐ - ๐.๐๐ -๐.๒๐ -๐.๗๐ -๐.๘๘*
-๐.๖๘*
น้อย ๓.๐๐ - - -๐.๒๐ -๐.๗๐ -๐.๑๘

ปานกลาง ๓.๒๐ - - - -๐.๕๐* -

มาก ๓.๗๐ - - - -

มากท่สี ดุ ๓.๘๘ - - - -

*มนี ยั สําคญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๗ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๓ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ดา้ นเมตตามโนกรรม ในระดับนอ้ ย แตกต่างจากนสิ ิต
ทมี่ สี ่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมอื ง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมอื ง ในระดบั มากท่ีสดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรม ในระดับปานกลาง แตกต่าง
จากนิสิตท่ีมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมอื ง ดา้ นการติดตามขา่ วสารทางการเมือง ในระดบั มาก และ
ระดบั ท่สี ดุ นอกนัน้ ไม่พบความแตกต่างรายคู่

๙๐

ตารางท่ี ๔.๓๘ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการแลกเปล่ียนความคดิ เห็นทางการเมือง

ด้านการแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นทางการเมือง (n = ๑๘๖)

หลัก นอ้ ยที่สุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทีส่ ดุ
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๕๐ ๒.๖๗ ๓.๐๕ ๓.๔๒ ๓.๔๗
๐.๐๓
นอ้ ยที่สุด ๓.๕๐ - ๐.๘๓ ๐.๔๕ ๐.๐๘ -๐.๘๐
-๐.๔๒*
น้อย ๒.๖๗ - - -๐.๓๘ -๐.๗๕ -๐.๐๕

ปานกลาง ๓.๐๕ - - - -๐.๓๗* -

มาก ๓.๔๒ - - - -

มากทีส่ ุด ๓.๔๗ - - - -

*มนี ัยสําคญั ทางสถิตทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๓๘ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๒ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรม ในระดับปานกลาง แตกต่าง
จากนิสิตที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการแลกเปล่ียนความคิดเห็นทางการเมือง ในระดับ
มาก และระดับมากท่สี ุด นอกน้นั ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๙๑

ตารางท่ี ๔.๓๙ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการเสริมสรา้ งวฒั นธรรมประชาธิปไตย

ด้านการเสริมสร้างวฒั นธรรมประชาธปิ ไตย (n = ๑๘๖)

หลัก น้อยท่ีสุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๔.๐๐ ๓.๖๗ ๓.๔๑ ๓.๙๗ ๔.๔๒
-๐.๔๒
นอ้ ยทสี่ ุด ๔.๐๐ - ๐.๓๓ ๐.๕๙ ๐.๐๓ -๐.๗๕
-๑.๐๑*
นอ้ ย ๓.๖๗ - - ๐.๒๖ -๐.๓๑ -๐.๔๔*

ปานกลาง ๓.๔๑ - - - -๐.๕๖* -

มาก ๓.๙๗ - - - -

มากทส่ี ุด ๔.๔๒ - - - -

*มีนัยสาํ คัญทางสถติ ทิ รี่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๓๙ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๓ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรม ในระดับปานกลาง แตกต่าง
จากนิสิตที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับ
มาก และระดับมากท่สี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านเมตตามโนกรรม ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิต
ท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก
นอกนั้นไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๙๒

ตารางท่ี ๔.๔๐ แสดงความแปรปรวนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม
กั บ ร ะ ดั บ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ใน กิ จ ก ร ร ม ท า ง ก า ร เมื อ ง ข อ งนิ สิ ต ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า ต รี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนกตามด้านสา
ธารณโภคี

ความแปรปรวน SS (n = ๑๘๖)
๒๔.๒๕ df MS F Sig.
ระหว่างกลมุ่ ๘๑.๖๕
๑๐๕.๙๐ ๔ ๖.๐๖ ๑๓.๔๔ ๐.๐๐*
ดา้ นการเลอื กต้งั ภายในกลุ่ม ๑๘๑ ๐.๔๕
๒๓.๖๖ ๑๘๕
รวม ๗๓.๙๙
๙๗.๖๖ ๔ ๕.๙๒ ๑๔.๔๗ ๐.๐๐*
ด้านการติดตามข่าวสาร ระหว่างกลมุ่ ๑๘๑ ๐.๔๑
๓๐.๙๘ ๑๘๕
ทางการเมอื ง ภายในกลุ่ม ๑๓๔.๓๕
๑๖๕.๓๓ ๔ ๗.๗๔ ๑๐.๔๓ ๐.๐๐*
รวม ๑๘๑ ๐.๗๔
๒๙.๐๑ ๑๘๕
ด้านการแลกเปลีย่ นความ ระหวา่ งกลุม่ ๗๘.๙๑
๑๐๗.๙๑ ๔ ๗.๒๕ ๑๖.๕๔ ๐.๐๐*
คิดเห็นทางการเมอื ง ภายในกลมุ่ ๑๘๐ ๐.๔๔
๒๒.๗๙ ๑๘๔
รวม ๖๑.๘๒
๘๔.๖๐ ๔ ๕.๗๐ ๑๖.๕๐ ๐.๐๐*
ดา้ นการเสริมสร้าง ระหว่างกลุ่ม ๑๗๙ ๐.๓๕
๑๘๓
วัฒนธรรมประชาธิปไตย ภายในกลุ่ม

รวม

ระหว่างกลมุ่

รวม ภายในกลมุ่

รวม

*มีนัยสําคัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๔๐ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองในภาพรวมแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซ่ึงเป็นไปตามสถิติท่ีตั้งไว้ เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ต่างกัน การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกันในทุกด้าน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซ่ึง
เปน็ ไปตามสถิติท่ีตง้ั ไว้

ดังนั้น เม่ือพบความแตกต่างจึงได้ทําการทดสอบเพื่อหาความแตกต่างรายคู่ โดยใช้วิธี
ผลต่างนยั สาํ คัญน้อยท่สี ดุ (Least Significant Difference : LSD.) ดังนี้

๙๓

ตารางท่ี ๔.๔๑ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการเลือกตง้ั

หลกั นอ้ ยที่สดุ ด้านการเลือกตง้ั มาก (n = ๑๘๖)
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๖๗ น้อย ปานกลาง ๓.๖๙
๒.๗๕ ๓.๒๕ มากทส่ี ุด
น้อยทีส่ ดุ ๓.๖๗ - -๐.๐๒ ๔.๑๘
นอ้ ย ๒.๗๕ - ๐.๙๒ ๐.๔๒ -๐.๙๔* -๐.๕๒
- -๐.๕๐ -๐.๔๔* ๑.๔๓*
ปานกลาง ๓.๒๕ - -- -๐.๙๓*
มาก ๓.๖๙ - -- - -๐.๕๐*
-- -
มากท่ีสดุ ๔.๑๘ - -
*มนี ัยสําคญั ทางสถติ ิท่ีระดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๑ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๕ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลกั สาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตท่ีมี
ส่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมอื ง ด้านการเลือกตัง้ ในระดบั มาก และระดบั มากทส่ี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นสิ ิตที่มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ดา้ นการเลอื กตง้ั ในระดบั มาก และระดับมากทส่ี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิตท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมอื ง ด้านการเลอื กต้งั ในระดบั มากทีส่ ดุ นอกน้ันไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๙๔

ตารางท่ี ๔.๔๒ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการตดิ ตามข่าวสารทางการเมือง

ด้านการตดิ ตามข่าวสารทางการเมือง (n = ๑๘๖)

หลกั น้อยท่ีสุด น้อย ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๖๗ ๓.๓๐ ๓.๒๓ ๓.๗๐ ๔.๑๘
-๐.๕๒
นอ้ ยท่ีสุด ๓.๖๗ - ๐.๖๗ ๐.๔๓ ๐.๐๓ -๑.๑๘*
-๐.๙๕*
นอ้ ย ๓.๐๐ - - -๐.๒๓ -๐.๗๐* -๐.๔๘*

ปานกลาง ๓.๒๓ - - - -๐.๔๗* -

มาก ๓.๗๐ - - - -

มากทสี่ ดุ ๔.๑๘ - - - -

*มนี ยั สําคญั ทางสถิติท่รี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๔๒ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๕ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลกั สาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตที่มี
สว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมอื ง ด้านการติดตามขา่ วสารทางการเมอื ง ในระดับมาก และมากท่ีสดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับมาก และ
มากท่สี ดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิตท่ีมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในมากท่ีสุด นอกนั้นไม่พบ
ความแตกตา่ งรายคู่

๙๕

ตารางท่ี ๔.๔๓ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ ทางการเมอื ง

ด้านการแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นทางการเมอื ง (n = ๑๘๖)

หลัก นอ้ ยท่สี ุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ดุ
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๖๗ ๒.๕๐ ๒.๙๒ ๓.๓๘ ๔.๐๐
-๐.๓๓
น้อยทส่ี ดุ ๓.๖๗ - ๑.๑๗ ๐.๗๔ ๐.๒๙ -๑.๕๐*
-๑.๐๘*
นอ้ ย ๒.๕๐ - - -๐.๔๒ -๐.๘๘* -๐.๖๒*

ปานกลาง ๒.๙๒ - - - -๐.๔๕* -

มาก ๓.๓๘ - - - -

มากท่สี ดุ ๔.๐๐ - - - -

*มีนัยสําคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๓ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๕ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตท่ีมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการแลกเปล่ียนความคิดเห็นทางการเมือง ในระดับมาก และ
ระดบั มากท่ีสุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตที่มีส่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมือง ดา้ นการแลกเปล่ียนความคิดเห็นทางการเมือง ในระดบั มาก
และระดบั มากที่สุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิตท่ีมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการแลกเปล่ียนความคิดเห็นทางการเมือง ในระดับมากท่ีสุด
นอกนัน้ ไมพ่ บความแตกต่างรายคู่

๙๖

ตารางท่ี ๔.๔๔ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมประชาธิปไตย

ดา้ นการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย (n = ๑๘๖)

หลัก นอ้ ยท่สี ดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากท่สี ุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๔.๖๗ ๓.๕๐ ๓.๔๘ ๔.๑๖ ๔.๔๕
๐.๒๒
น้อยที่สุด ๔.๖๗ - ๑.๑๗* ๑.๑๙* ๐.๕๑ -๐.๙๕*
-๐.๙๗*
นอ้ ย ๓.๕๐ - - ๐.๐๒ -๐.๖๖ -๐.๒๙*

ปานกลาง ๓.๔๘ - - - -๐.๖๘* -

มาก ๔.๑๖ - - - -

มากทสี่ ุด ๔.๔๕ - - - -

*มีนยั สาํ คญั ทางสถิตทิ ี่ระดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๔๔ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๖ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับน้อยท่ีสุด แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับน้อย
และระดับปานกลาง

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตท่ีมี
ส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมอื ง ดา้ นการเสรมิ สรา้ งวัฒนธรรมประชาธปิ ไตย ในระดบั มากที่สุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก
และระดบั มากที่สุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสาธารณโภคี ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิตท่ีมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมากท่ีสุด
นอกนน้ั ไมพ่ บความแตกตา่ งรายคู่

๙๗

ตารางท่ี ๔.๔๕ แสดงความแปรปรวนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม
กั บ ร ะ ดั บ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ใน กิ จ ก ร ร ม ท า ง ก า ร เมื อ ง ข อ งนิ สิ ต ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า ต รี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนกตามด้านสีล
สามญั ญตา

(n = ๑๘๖)

ความแปรปรวน SS df MS F Sig.

ระหว่างกลมุ่ ๑๓.๗๖ ๔ ๓.๔๔ ๖.๗๖ ๐.๐๐*

ดา้ นการเลอื กตงั้ ภายในกลมุ่ ๙๒.๑๔ ๑๘๑ ๐.๕๑

รวม ๑๐๕.๙๐ ๑๘๕

ด้านการติดตามข่าวสาร ระหวา่ งกลุม่ ๑๖.๒๕ ๔ ๔.๐๖ ๙.๐๓ ๐.๐๐*

ทางการเมอื ง ภายในกลุ่ม ๘๑.๔๑ ๑๘๑ ๐.๔๕

รวม ๙๗.๖๖ ๑๘๕

ด้านการแลกเปล่ยี นความ ระหว่างกลุ่ม ๙.๗๙ ๔ ๒.๔๕ ๒.๘๕ ๐.๐๓*

คิดเห็นทางการเมือง ภายในกลุ่ม ๑๕๕.๕๔ ๑๘๑ ๐.๘๖

รวม ๑๖๕.๓๓ ๑๘๕

ด้านการเสริมสร้าง ระหวา่ งกลมุ่ ๒๗.๙๐ ๔ ๖.๙๘ ๑๕.๖๙ ๐.๐๐*

วฒั นธรรมประชาธปิ ไตย ภายในกลมุ่ ๘๑.๘๓ ๑๘๐ ๐.๔๕

รวม ๑๐๗.๙๑ ๑๘๔

ระหว่างกลุ่ม ๑๒.๖๐ ๔ ๓.๑๕ ๗.๘๓ ๐.๐๐*

รวม ภายในกลุ่ม ๗๒.๐๐ ๑๗๙ ๐.๔๐

รวม ๘๔.๖๐ ๑๘๓

*มนี ยั สําคัญทางสถติ ทิ ี่ระดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๕ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองในภาพรวมแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซ่ึงเป็นไปตามสถิติที่ตั้งไว้ เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ต่างกัน การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกันในทุกด้าน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซึ่ง
เปน็ ไปตามสถิติทต่ี ง้ั ไว้

ดังน้ัน เม่ือพบความแตกต่างจึงได้ทําการทดสอบเพื่อหาความแตกต่างรายคู่ โดยใช้วิธี
ผลตา่ งนัยสาํ คญั น้อยที่สดุ (Least Significant Difference : LSD.) ดงั น้ี

๙๘

ตารางท่ี ๔.๔๖ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการเลอื กต้งั

(n = ๑๘๖)

หลกั น้อยทส่ี ดุ ดา้ นการเลือกตัง้ มาก มากที่สดุ
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๔.๔๐ น้อย ปานกลาง ๓.๖๖ ๓.๘๐
๒.๕๐ ๓.๒๔
นอ้ ยทส่ี ุด ๔.๔๐ - ๐.๗๔* ๐.๖๐
๑.๙๐* ๑.๑๖* -๑.๑๖* -๑.๓๐*
น้อย ๒.๕๐ - - -๐.๗๔ -๐.๔๒* -๐.๕๖*
-- -๐.๑๔
ปานกลาง ๓.๒๔ - -- -
-- - -
มาก ๓.๖๖ -

มากท่สี ดุ ๓.๘๐ -

*มนี ยั สาํ คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๖ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๗ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อยท่ีสุด แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเลือกต้ัง ในระดับน้อย ระดับปานกลาง และระดับ
มากที่สุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตท่ี
มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมทางด้านการเลือกตง้ั ในระดบั มาก และระดบั มากทส่ี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเลือกต้ัง ในระดับมาก และระดับมากท่ีสุด นอกนั้น
ไม่พบความแตกต่างรายคู่

๙๙

ตารางที่ ๔.๔๗ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการตดิ ตามขา่ วสารทางการเมือง

ดา้ นการติดตามข่าวสารทางการเมือง (n = ๑๘๖)

หลัก น้อยท่สี ุด น้อย ปานกลาง มาก มากท่ีสุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๔๐ ๒.๐๐ ๓.๒๑ ๓.๗๔ ๓.๘๓
-๐.๔๓
น้อยทสี่ ดุ ๓.๔๐ - ๑.๔๐* ๐.๑๙ -๐.๓๔ -๑.๘๓*
-๐.๖๒*
นอ้ ย ๒.๐๐ - - -๑.๒๑* -๑.๗๔* -๐.๐๙

ปานกลาง ๓.๒๑ - - - -๐.๕๓* -

มาก ๓.๗๔ - - - -

มากทีส่ ดุ ๓.๘๓ - - - -

*มีนัยสาํ คัญทางสถติ ิทร่ี ะดับ ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๔๗ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๖ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อยที่สุด แตกต่างจาก
นิสติ ทม่ี สี ่วนรว่ มในกจิ กรรมทางการเมอื ง ด้านการติดตามขา่ วสารทางการเมือง ในระดบั น้อย

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตท่ี
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับปานกลาง ระดับ
มาก และระดับมากทีส่ ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับปานกลาง
ระดับมาก และระดับมากทสี่ ดุ นอกนนั้ ไมพ่ บความแตกตา่ งรายคู่

๑๐๐

ตารางที่ ๔.๔๘ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามด้านการแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ ทางการเมือง

(n = ๑๘๖)

ด้านการแลกเปลีย่ นความคดิ เห็นทางการเมือง

หลัก น้อยที่สุด น้อย ปานกลาง มาก มากทีส่ ดุ
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๓.๒๐ ๒.๐๐ ๓.๐๗ ๓.๓๔ ๓.๕๗

น้อยทีส่ ุด ๓.๒๐ - ๑.๒๐ ๐.๑๓ -๐.๑๔ -๐.๓๗

น้อย ๒.๐๐ - - -๑.๐๗ -๑.๓๔* -๑.๕๗*

ปานกลาง ๓.๐๗ - - - -๐.๒๗ -๐.๕๐*

มาก ๓.๓๔ - - - - -๐.๒๓

มากท่ีสดุ ๓.๕๗ - - - - -

*มนี ัยสําคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดับ ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๘ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๓ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตท่ี
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการแลกเปล่ียนความคิดเห็นทางการเมือง ในระดับมาก และ
ระดับมากที่สดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นสิ ิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ดา้ นการแลกเปล่ยี นความคิดเห็นทางการเมือง ในระดบั มาก
ทส่ี ุด นอกน้นั ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๑๐๑

ตารางท่ี ๔.๔๙ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการเสริมสร้างวฒั นธรรมประชาธิปไตย

(n = ๑๘๖)

ดา้ นการเสริมสร้างวฒั นธรรมประชาธปิ ไตย

หลกั นอ้ ยที่สดุ น้อย ปานกลาง มาก มากที่สุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๔.๔๐ ๒.๕๐ ๓.๔๖ ๓.๙๒ ๔.๔๒

นอ้ ยท่ีสุด ๔.๔๐ - ๑.๙๐* ๐.๙๔* ๐.๔๘ -๐.๐๒

น้อย ๒.๕๐ - - -๐.๙๖* -๑.๔๒* -๑.๙๒*

ปานกลาง ๓.๔๖ - - - -๐.๔๖* -๐.๙๕*

มาก ๓.๙๒ - - - - -๐.๔๙*

มากที่สุด ๔.๔๒ - - - - -

*มนี ัยสําคญั ทางสถิตทิ ีร่ ะดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๔๙ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๘ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น ท่ีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อยที่สุด แตกต่างจากนิสิตที่มี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับน้อย และ
ระดบั ปานกลาง

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิตที่
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับปานกลาง
ระดบั มาก และระดบั มากทส่ี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก
และระดบั มากทส่ี ดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านสีลสามัญญตา ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิตที่
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมากท่ีสุด
นอกนั้นไม่พบความแตกต่างรายคู่

๑๐๒

ตารางท่ี ๔.๕๐ แสดงความแปรปรวนการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม
กั บ ร ะ ดั บ ก า ร มี ส่ ว น ร่ ว ม ใน กิ จ ก ร ร ม ท า ง ก า ร เมื อ ง ข อ งนิ สิ ต ร ะ ดั บ ป ริ ญ ญ า ต รี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่ จําแนกตามด้านทิฏฐิ
สามัญญตา

(n = ๑๘๖)

ความแปรปรวน SS df MS F Sig.

ระหวา่ งกลุ่ม ๙.๗๗ ๔ ๒.๔๔ ๔.๖๐ ๐.๐๐*

ดา้ นการเลอื กตั้ง ภายในกลมุ่ ๙๖.๑๓ ๑๘๑ ๐.๕๓

รวม ๑๐๕.๙๐ ๑๘๕

ดา้ นการติดตามขา่ วสาร ระหว่างกลุ่ม ๑๗.๗๙ ๔ ๔.๔๕ ๑๐.๐๘ ๐.๐๐*

ทางการเมอื ง ภายในกลมุ่ ๗๙.๘๗ ๑๘๑ ๐.๔๔

รวม ๙๗.๖๖ ๑๘๕

ด้านการแลกเปลี่ยนความ ระหวา่ งกลมุ่ ๕.๗๖ ๔ ๑.๔๔ ๑.๖๓ ๐.๐๐*

คิดเห็นทางการเมอื ง ภายในกลุ่ม ๑๕๙.๕๘ ๑๘๑ ๐.๘๘

รวม ๑๖๕.๓๓ ๑๘๕

ดา้ นการเสริมสรา้ ง ระหว่างกลมุ่ ๓๕.๒๒ ๔ ๘.๘๐ ๒๑.๘๐ ๐.๐๐*

วฒั นธรรมประชาธิปไตย ภายในกลุ่ม ๗๒.๗๐ ๑๘๐ ๐.๔๐

รวม ๑๐๗.๙๑ ๑๘๔

ระหวา่ งกลมุ่ ๑๑.๔๕ ๔ ๒.๘๖ ๗.๐๑ ๐.๐๐*

รวม ภายในกลุ่ม ๗๓.๑๕ ๑๗๙ ๐.๔๑

รวม ๘๔.๖๐ ๑๘๓

*มีนยั สําคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๕๐ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองในภาพรวมแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ ๐.๐๕ ซึ่งเป็นไปตามสถิติที่ตั้งไว้ เม่ือพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ต่างกัน การมี
ส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกันในทุกด้าน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซ่ึง
เป็นไปตามสถติ ิทตี่ ้งั ไว้

ดังนั้น เม่ือพบความแตกต่างจึงได้ทําการทดสอบเพื่อหาความแตกต่างรายคู่ โดยใช้วิธี
ผลต่างนยั สําคญั น้อยทส่ี ุด (Least Significant Difference : LSD.) ดงั น้ี

๑๐๓

ตารางที่ ๔.๕๑ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการเลือกตง้ั

หลัก น้อยทีส่ ดุ ดา้ นการเลอื กต้ัง มาก (n = ๑๘๖)
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๓.๒๕ น้อย ปานกลาง ๓.๗๐
๓.๐๐ ๓.๒๔ มากที่สดุ
นอ้ ยท่ีสดุ ๓.๒๕ - -๐.๔๕ ๓.๗๘
นอ้ ย ๓.๐๐ - ๐.๒๕ ๐.๐๑ -๐.๗๐ -๐.๕๓
- -๐.๒๔ -๐.๔๖* -๐.๗๘*
ปานกลาง ๓.๒๔ - -- -๐.๕๔*
มาก ๓.๗๐ - -- - -๐.๐๘
-- -
มากทสี่ ดุ ๓.๗๘ - -
*มนี ยั สาํ คญั ทางสถิติที่ระดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๕๑ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๓ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิต
ท่ีมสี ่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเลือกตั้ง ในระดับ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ดา้ นทิฏฐิสามัญญตา ในระดับปานกลาง แตกตา่ งจาก
นิสิตที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเลือกตั้ง ในระดับมาก และระดับมากท่ีสุด นอกน้ัน
ไม่พบความแตกตา่ งรายคู่

๑๐๔

ตารางที่ ๔.๕๒ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการตดิ ตามข่าวสารทางการเมือง

ดา้ นการติดตามข่าวสารทางการเมอื ง (n = ๑๘๖)

หลัก น้อยที่สดุ นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ดุ
สาราณยี ธรรม (x)̅ ๓.๕๐ ๒.๒๕ ๓.๒๔ ๓.๖๔ ๓.๘๘
นอ้ ยทีส่ ดุ ๓.๕๐ - -๐.๓๘
๑.๒๕* ๐.๒๖ -๐.๑๔ -๑.๖๓*
-๐.๖๔*
น้อย ๒.๒๕ - - -๐.๙๙* -๑.๓๙* -๐.๒๔*

ปานกลาง ๓.๒๔ - - - -๐.๔๐* -

มาก ๓.๖๔ - - - -

มากท่ีสุด ๓.๘๘ - - - -

*มนี ัยสาํ คัญทางสถิตทิ ี่ระดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๕๒ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๗ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับน้อยที่สุด แตกต่างจาก
นสิ ติ ทีม่ ีส่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมอื ง ด้านการตดิ ตามขา่ วสารทางการเมอื ง ในระดบั นอ้ ย

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิต
ท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับปานกลาง ระดับ
มาก และระดบั มากทสี่ ดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมอื งตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับปานกลาง แตกตา่ งจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ในระดับมาก และ
ระดับมากที่สดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิต
ท่ีมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมือง ด้านการตดิ ตามขา่ วสารทางการเมอื ง ในระดับมากทสี่ ดุ

นอกนนั้ ไม่พบความแตกต่างรายคู่

๑๐๕

ตารางท่ี ๔.๕๓ แสดงค่าเฉลี่ยรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ ทางการเมือง

ด้านการแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นทางการเมอื ง (n = ๑๘๖)

หลัก น้อยท่ีสุด นอ้ ย ปานกลาง มาก มากทส่ี ุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๐๐ ๒.๕๐ ๓.๑๖ ๓.๓๔ ๓.๔๗
-๐.๔๗
นอ้ ยที่สุด ๓.๐๐ - ๐.๕๐ -๐.๑๖ -๐.๓๔ -๐.๙๗*
-๐.๓๑
นอ้ ย ๒.๕๐ - - -๐.๖๖ -๐.๘๔ -๐.๑๓

ปานกลาง ๓.๑๖ - - - -๐.๑๘ -

มาก ๓.๓๔ - - - -

มากทีส่ ุด ๓.๔๗ - - - -

*มนี ยั สําคัญทางสถิติท่รี ะดบั ๐.๐๕

จากตารางท่ี ๔.๕๓ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติท่ีระดับ
๐.๐๕ จํานวน ๑ คู่ ได้แก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิต
ทมี่ ีส่วนรว่ มในกจิ กรรมทางการเมือง ด้านการแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นทางการเมือง ในระดับมากทสี่ ุด
นอกนนั้ ไมพ่ บความแตกตา่ งรายคู

๑๐๖

ตารางที่ ๔.๕๔ แสดงค่าเฉล่ียรายคู่ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตาม
หลักสาราณียธรรมกับระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนก
ตามดา้ นการเสรมิ สร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย

ด้านการเสรมิ สร้างวฒั นธรรมประชาธิปไตย (n = ๑๘๖)

หลัก น้อยทส่ี ดุ น้อย ปานกลาง มาก มากท่ีสุด
สาราณียธรรม (x)̅ ๓.๕๐ ๒.๗๕ ๓.๓๖ ๓.๙๓ ๔.๔๒
-๐.๙๒*
นอ้ ยที่สดุ ๓.๕๐ - ๐.๗๕ ๐.๑๔ -๐.๔๓ -๑.๖๗*
-๑.๐๖*
น้อย ๒.๗๕ - - -๐.๖๑ ๑.๑๘* -๐.๔๙*

ปานกลาง ๓.๓๖ - - - -๐.๕๖* -

มาก ๓.๙๓ - - - -

มากทีส่ ุด ๔.๔๒ - - - -

*มนี ยั สําคัญทางสถิตทิ ่ีระดบั ๐.๐๕

จากตารางที่ ๔.๕๔ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองแตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ
๐.๐๕ จาํ นวน ๖ คู่ ไดแ้ ก่

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับน้อยที่สุด แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก
ทส่ี ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับน้อย แตกต่างจากนิสิต
ท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก และ
ระดบั มากที่สดุ

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีส่วนร่วมใน
กจิ กรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ดา้ นทฏิ ฐิสามญั ญตา ในระดับปานกลาง แตกต่างจาก
นิสิตท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในระดับมาก
และระดบั มากทสี่ ุด

นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ ด้านทิฏฐิสามัญญตา ในระดับมาก แตกต่างจากนิสิต
ท่ีมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย ในมากที่สุดนอกน้ัน
ไม่พบความแตกต่างรายคู่

๑๐๗

ผลสรุปโดยภาพรวมการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิต
ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นตามสมมติฐาน ๑-๕
รายละเอียดดังแสดงในตารางที่ ๔.๕๕

ตารางท่ี ๔.๕๕ แสดงผลสรุปโดยภาพรวม การเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต
ขอนแกน่ โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลที่ ตามสมมติฐาน ๑ - ๕

สมมติฐาน ตวั แปร ตวั แปรตาม t F Sig ผลการทดสอบ
ต้น ยอมรับ ปฏิเสธ

๑ เพศ การมสี ่วนร่วมในกิจกรรมทาง -๑.๕๐ - ๐.๑๔ 

การเมืองของนิสติ ระดบั

ปริญญาตรี มหาวทิ ยาลยั มหา

จฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยา

เขตขอนแกน่

๒ อายุ การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมทาง - ๐.๔๙ ๐.๖๙ 

การเมืองของนิสิตระดบั

ปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหา

จฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยา

เขตขอนแกน่

๓ ชัน้ ปี การมีส่วนรว่ มในกิจกรรมทาง - ๐.๘๑ ๐.๕๒ 

การเมืองของนิสติ ระดบั

ปริญญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหา

จฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยา

เขตขอนแกน่

๔ สาขาวชิ า การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมทาง - ๑.๕๐ ๐.๑๗ 

การเมืองของนิสิตระดบั

ปริญญาตรี มหาวิทยาลยั มหา

จุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยา

เขตขอนแก่น

๕ เกรด การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมทาง - ๑.๑๐ ๐.๓๖ 

เฉล่ยี การเมอื งของนิสติ ระดับ

ปริญญาตรี มหาวิทยาลยั มหา

จุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยา

เขตขอนแกน่

๑๐๘

จากตารางท่ี ๔.๕๕ สรุปได้ว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีเพศต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยภาพรวมไม่
แตกตา่ งกนั จงึ ปฏเิ สธสมมตฐิ าน

นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมี
อายตุ า่ งกัน มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมือง โดยภาพรวมไม่แตกต่างกนั จึงปฏเิ สธสมมตฐิ าน

นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มี
ชนั้ ปีตา่ งกนั มสี ่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยภาพรวมไม่แตกตา่ งกัน จงึ ปฏิเสธสมมติฐาน

นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมี
สาขาวชิ าต่างกนั มสี ่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมอื ง โดยภาพรวมไม่แตกตา่ งกนั จงึ ปฏิเสธสมมตฐิ าน

นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มี
เกรดเฉล่ียตา่ งกัน มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมอื ง โดยภาพรวมไมแ่ ตกตา่ งกัน จงึ ปฏิเสธสมมตฐิ าน

ผลสรุปโดยภาพรวมการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลัก
สาราณียธรรม ๖ กับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ตามสมมติฐาน ๖ รายละเอียดดังแสดงในตารางท่ี
๔.๕๖

ตารางท่ี ๔.๕๖ แสดงผลสรุปโดยภาพรวมการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ตามหลักสารารียธรรมกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ตาม
สมมติฐาน ๖

สมมติฐาน ตัวแปร ตน้ ตวั แปรตาม t F Sig ผลการทดสอบ
ยอมรับ ปฏเิ สธ
๖ เมตตากายกรรม การมสี ่วนร่วมในกิจกรรม - ๒๔.๒๑ ๐.๐๐ 
ทางการเมอื งของนิสติ
ระดับปริญญาตรี
๖ เมตตาวจกี รรม การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม - ๑๙.๒๖ ๐.๐๐ 
ทางการเมืองของนิสติ
ระดบั ปริญญาตรี
๖ เมตตามโนกรรม การมสี ่วนรว่ มในกจิ กรรม - ๗.๘๓ ๐.๐๐ 
ทางการเมืองของนิสิต
ระดับปริญญาตรี
๖ สาธารณโภคี การมีสว่ นร่วมในกิจกรรม - ๑๖.๕๐ ๐.๐๐ 
ทางการเมืองของนิสติ
ระดบั ปรญิ ญาตรี

๑๐๙

๖ สีลสามญั ญตา การมีสว่ นร่วมในกิจกรรม - ๗.๘๓ ๐.๐๐ 
ทางการเมืองของนสิ ติ
ระดบั ปริญญาตรี

๖ ทฏิ ฐสิ ามญั ญตา การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม - ๗.๐๑ ๐.๐๐ 
ทางการเมอื งของนสิ ติ
ระดับปรญิ ญาตรี

จากตารางท่ี ๔.๕๖ พบว่า นิสิตมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรม ๖ ต่างกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองโดยภาพรวมแตกต่างกัน จึงเป็นไปตาม
สมมตฐิ านทีต่ ้งั ไว้

๔.๖ ผลการวิเคราะห์แนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต
ขอนแก่น

๑. ดา้ นการเลือกต้ัง

พบว่า ให้นิสิตได้ทําความเข้าใจถึงประโยชน์และโทษของการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพื่อ
รักษาสิทธ์ิอันจะพึงมีพึงได้ของตน๑ นําไปเป็นหัวข้อพูดคุย เพื่อนําเข้าสู่บทเรียน๒ จัดกิจกรรมรณรงค์
ให้นิสิตไปใช้สิทธิเลือกต้ัง๓ และหาโอกาสร่วมอภิปรายบรรยายถึงกิจกรรมการเลือกต้ัง๔ โดยให้ทาง
หลักสูตรจัดกิจกรรมเสวนาบรรยายเก่ียวกับกิจกรรมการเลือกตั้งเชิงสร้างสรรค์๕ เพ่ือให้เกิดการ
แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งกับองค์กรท่ีเป็นกลาง๖ และนิสิตท่ีมีความรู้ความเข้าใจ ควรให้
ข้อมูลเชิงหลกั การการเลือกตัง้ ท่ีเป็นสากลท่ีสอดคล้องกับกฎหมายเลือกต้ังของกลุ่มเป้าหมาย๗ ปฏิบัติ
ตามหลกั ประชาธิปไตยทยี่ ดึ ตามหลกั กฎหมาย๘

๒๕๖๓. ๑ สัมภาษณ์ อาจารย์สวาท ฮาดภักดี, อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์, ๒๗ พฤศจิกายน
๒๕๖๓. ๒ สมั ภาษณ์ นายพฒั นพงษ์ หนองน้ํา, นายกสโมสรนิสิต มจร. ขอนแก่น, ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓.
๓ สัมภาษณ์ ดร.สธุ พิ งษ์ สวัสด์ทิ า, เลขานกุ ารหลกั สตู รรฐั ศาสตรบัณฑิต, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๔ สมั ภาษณ์ นางสาวยุวดา สนแกว้ , นสิ ติ มจร. ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๕ สมั ภาษณ์ นายรฐั ศาสตร์ โซ่เชียงคาํ , นิสติ มจร. ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๖ สัมภาษณ์ นางสาวอริษา นามตะ, นสิ ติ มจร. ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๗ สมั ภาษณ์ ผศ.ดร.นิเทศ สน่ันนารี, ผู้ชว่ ยอธิการบดฝี ่ายวชิ าการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๘ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน

๑๑๐

๒. ด้านการตดิ ตามข่าวสารทางการเมอื ง

พบว่า ปัจจุบันมีช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย ดังน้ัน เพ่ือให้นิสิตได้ติดตามข่าวสาร
ทางการเมืองที่ถูกต้องชัดเจน๙ ควรให้นิสิตได้ศึกษาหรือรับรู้จากแหล่งข่าวท่ีหลากหลาย๑๐เพ่ือ
วิเคราะห์หาข้อมูลหรือข่าวสารที่ถูกต้อง ไม่เอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง๑๑ การติดตามข่าวสารทางการ
เมืองควรติดตามจากสื่อกระแสหลกั ๑๒ รวมถึงสื่อออนไลน์ตา่ ง ๆ ไม่วา่ จะเป็น TV Social network ที่
มีความหน้าเชื่อถือที่เป็นแหล่งข่าวจากอินเตอร์เน็ตต่าง ๆ๑๓ ข่าวสารที่ไม่สร้างความรุนแรงและความ
เกลียดชัง๑๔ ซึ่งนิสิตสามารถท่ีจะติดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ทั้งส่ือในประเทศและส่ือต่างประเทศ
เพอ่ื ใหม้ โี ลกทัศนท์ างด้านการเมอื งทกี่ ้าวไกลมากยงิ่ ขึ้น๑๕ ควรทจ่ี ะฝึกวเิ คราะห์สงั เคราะห์และนําเสนอ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมชมรมในโอกาสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
กิจกรรมในมหาวิทยาลัยหรือการเข้าร่วมกิจกรรมกับชมรมอื่น ๆ ภายนอกมหาวิทยาลัยกับสถาบัน
ศึกษาตา่ ง ๆ๑๖ ควรทจ่ี ะฝกึ เรียบเรียงฝกึ เขียนเปน็ บทความวชิ าการท่ีมกี ารวิเคราะห์สังเคราะห์ และหา
ช่องทางในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานในวารสารหรือการประชุมวิชาการในระดับชาติ การพัฒนาทักษะ
การเขียนงานวิชาการของนิสิต จะได้เกิดประโยชน์ในแวดวงวิชาการและต่อตัวนิสิต ในโอกาสท่ีไป
ประกอบวชิ าชพี ตา่ ง ๆ๑๗ บรโิ ภคขา่ วสารทไ่ี ม่เปน็ ปัญหาตอ่ ระบอบการปกครองแบบประชาธปิ ไตย๑๘

๓. ด้านการแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นทางการเมือง

พบว่า การต้ังประเด็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องเรียน โดยให้นิสิตได้แสดงความคิดเห็น
อย่างเป็นอิสระ๑๙ ช่วยกันวิเคราะห์หาข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อไม่ตกเป็นเคร่ืองมือของสื่อ๒๐ และการ
แลกเปลี่ยนเรียนรู้ความคิดเห็นทางการเมืองกับใคร เราก็ควรมีข้อมูลท่ีชัดเจน๒๑ ซ่ึงเกิดจากการศึกษา
เรียนรู้ท้ังในตํารา จากข่าวสารบ้านเมือง ความเคล่ือนไหวทางด้านการเมือง ทั้งในประเทศและ

๒๕๖๓. ๙ สัมภาษณ์ อาจารย์สวาท ฮาดภักดี, อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์, ๒๗ พฤศจิกายน
๒๕๖๓. ๑๐ สัมภาษณ์ นางสาวกญั ญาภร เมืองเกา่ , นสิ ิต มจร. ขอนแกน่ , ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๒๕๖๓. ๑๑ สัมภาษณ์ ดร.สธุ พิ งษ์ สวัสดิ์ทา, เลขานกุ ารหลักสูตรรฐั ศาสตรบณั ฑติ , ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๑๒ สมั ภาษณ์ พระมหาดาวสยาม วชริ ปญโฺ ญ, ผู้อํานวยการวทิ ยาลัยสงฆ์ขอนแกน่ , ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓.
๑๓ สัมภาษณ์ อาจารย์สวาท ฮาดภักดี, อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์, ๒๗ พฤศจิกายน
๑๔ สมั ภาษณ์ นายธนรัฐ อดทน, นกั วชิ าการศกึ ษา กลมุ่ งานบรกิ ารการศกึ ษา, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๑๕ สมั ภาษณ์ นายรฐั ศาสตร์ โซเ่ ชียงคํา, นสิ ิต มจร.ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๑๖ สัมภาษณ์ นายพฒั นพงษ์ หนองนํ้า, นายกสโมสรนิสิต มจร. ขอนแก่น, ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓.
๑๗ สัมภาษณ์ ผศ.ดร. นเิ ทศ สนน่ั นารี, ผ้ชู ่วยอธกิ ารบดฝี ่ายวิชาการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๑๘ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๑๙ สมั ภาษณ์ พระมหาดาวสยาม วชริ ปญฺโญ, ผู้อาํ นวยการวทิ ยาลัยสงฆข์ อนแกน่ , ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓.
๒๐ สมั ภาษณ์ ดร.สธุ ิพงษ์ สวัสดิ์ทา, เลขานุการหลกั สูตรรฐั ศาสตรบณั ฑติ , ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๒๑ สัมภาษณ์ นางสาวกัญญาภร เมืองเก่า, นสิ ติ มจร.ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.

๑๑๑

ต่างประเทศ๒๒ สําหรับการเมืองในประเทศมีทั้งการเมืองระดับท้องถ่ิน ระดับชาติ ข้อมูลต้องชัดเจน
ต้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยความเป็นกลาง๒๓ ด้วยใจเป็นกลางไม่มีอคติ๒๔ ไม่ใช้ความคิดเห็นท่ีมีอคติ
เจือปน ใช้เหตผุ ลบูรณาการกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในการแสดงความคิดเห็น เช่น หลักของ
การใช้เหตุผลเป็นหลักไม่ใช้อารมณ์ เป็นหลักท่ีจะใช้แลกเปล่ียนเรียนรู้ความคิดเห็นทางการเมือง
เพราะว่าอาจทําให้เกิดการทะเลาะ ทําให้เกิดความคัดแย้งข้ึนได้ ข้อมูลน้ันต้องเป็นประเด็นท่ีได้
ประโยชน์สร้างสรรค์๒๕ และเม่ือได้สรุปประเด็นแลกเปล่ียนความรู้แล้ว สามารถนําไปต่อยอดพัฒนา
ตนเอง พัฒนาครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ รวมถึงพระพุทธศาสนาและพัฒนามหาวิทยาลัย
ได้ ไม่ใช่แลกเปลี่ยนความรู้ทางการเมืองแล้วไม่ก่อให้เกิดความรู้ใด ๆ เลย สรุปประเด็น คือ ๑. ข้อมูล
ชัดเจน ๒. เป็นกลางไม่มีอคติ ๓.ใช้เหตุผลไม่ใช้อารมณ์ ๔. บูรณาการหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
๕. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประเด็นที่มีประโยชน์ต่อกัน ๖. สามารถนําไปต่อยอดพัฒนาต่อไปได้๒๖ ควร
ศกึ ษาเรยี นรูท้ างการเมอื งให้เข้าใจ๒๗

๔. ดา้ นการเสรมิ สรา้ งวฒั นธรรมประชาธปิ ไตย

พบว่า ให้นิสิตได้เข้าใจถึงสิทธ์ิอันพึงมีพึงได้ของตน โดยไม่กระทบผู้อ่ืน๒๘ เคารพการ
ตัดสินใจของเพื่อนร่วมห้องหรือส่วนรวม๒๙ โดยการใช้เหตุใช้ผลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความ
สมคั รใจและเชิญชวนคนอนื่ ให้เขา้ ร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ โดยให้มีความสมัครใจ มีนา้ํ ใจต่อกัน๓๐ และการทํา
กิจกรรมใด ๆ ก็ตามที่เป็นประชาธิปไตย เราจะต้องเคารพกฎหมาย ไม่นํากฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย๓๑
และให้ความเสมอภาคต่อกัน ต้องยึดหลักของความถูกต้อง เป็นธรรม ยุติธรรม๓๒ โดยใช้หลักของ
ธรรมาธิปไตย คือ ไม่ยึดเอาหลักของอัตตาธิปไตยเป็นหลัก ไม่ยึดเอาโลกาธิปไตยเป็นหลัก แต่เมื่อเรา
พิจารณาแล้วว่า ส่ิงนั้นไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรม ไม่สอดคล้องกับหลักธรรมาธิปไตย เราต้องมีความเป็น

๒๕๖๓. ๒๒ สัมภาษณ์ นายธนรฐั อดทน, นกั วชิ าการศึกษา กลุ่มงานบริการการศึกษา, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๒๕๖๓. ๒๓ สัมภาษณ์ นางสาวอ้อมพร แก้วด,ี นิสติ มจร. ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๒๕๖๓. ๒๔ สัมภาษณ์ อาจารย์สวาท ฮาดภักดี, อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์, ๒๗ พฤศจิกายน
๒๕ สัมภาษณ์ นายรัฐศาสตร์ โซ่เชียงคาํ , นิสิต มจร.ขอนแกน่ , ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๒๖ สมั ภาษณ์ ผศ.ดร.นิเทศ สน่ันนาร,ี ผู้ชว่ ยอธิการบดีฝา่ ยวชิ าการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๒๗ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๒๘ สัมภาษณ์ พระมหาดาวสยาม วชริ ปญโฺ ญ, ผู้อาํ นวยการวทิ ยาลยั สงฆข์ อนแก่น, ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓.
๒๙ สมั ภาษณ์ ดร.สุธิพงษ์ สวสั ด์ทิ า, เลขานุการหลกั สูตรรฐั ศาสตรบัณฑติ , ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๓๐ สมั ภาษณ์ นายธนรัฐ อดทน, นกั วชิ าการศึกษา กล่มุ งานบรกิ ารการศกึ ษา, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๓๑ สัมภาษณ์ อาจารย์สวาท ฮาดภักดี, อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์, ๒๗ พฤศจิกายน
๓๒ สัมภาษณ์ นางสาวยวุ ดา สนแกว้ , นสิ ิต มจร.ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.

๑๑๒

ตัวของตัวเอง เรยี กว่ามีความกล้าหาญเชิงจรยิ ธรรม๓๓ แนวทางการส่งเสรมิ เม่ือนิสติ มีหลกั การดังกล่าว
แล้ว สามารถเข้าร่วมกิจกรรมของชมรม กิจกรรมต่าง ๆ ของหมู่บ้าน ท่ีเป็นกิจกรรมเกี่ยวกับการ

เสริมสร้างความเข้มแข็งของหมู่บ้าน กิจกรรมชุมชนที่สร้างสรรค์ เช่น ชมรมกีฬา ชมรมท่ีเป็นการ
แสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ และในขณะเดียวกันก็ควรที่จะปรึกษาหารือร่วมกัน ร่วมกัน
แก้ปัญหา เมื่อมสี ่วนรว่ มในการเมืองการปกครอง ตามระบอบประชาธิปไตยแล้วกจิ กรรมเหล่านั้นควร
เปน็ กจิ กรรมที่นําไปสูก่ ารพฒั นาและการสรา้ งสรรค์อยา่ งแท้จริง๓๔

ตารางที่ ๔.๕๗ สรุปแนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปรญิ ญาตรี มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแกน่ ดงั น้ี

ด้านการเลือกตัง้ -ควรให้นิสิตไดท้ าํ ความเข้าใจถึงประโยชนแ์ ละโทษของการ

ออกไปใช้สิทธเิ ลอื กตง้ั เพ่อื รกั ษาสทิ ธอ์ิ นั จะพงึ มีพึงไดข้ องตน

-นําไปเปน็ หวั ขอ้ พูดคุย เพอ่ื นําเขา้ ส่บู ทเรียน

-หาโอกาสรว่ มอภิปรายบรรยายถึงกจิ กรรมการเลอื กต้ัง

-หลักสูตรจดั กจิ กรรมเสวนาบรรยายเก่ยี วกบั กจิ กรรมการเลอื กต้งั

เชิงสรา้ งสรรค์

ด้านการติดตามข่าวสารทางการ -ควรให้นิสติ ไดศ้ ึกษาหรือรบั รจู้ ากแหล่งขา่ วที่หลากหลาย

เมือง -ควรวิเคราะห์หาขอ้ มูลหรอื ขา่ วสารทีถ่ ูกต้องไมเ่ อนเอยี งไปฝา่ ยใด

ฝา่ ยหนึ่ง

-ควรท่จี ะฝกึ วิเคราะหส์ งั เคราะหแ์ ละนําเสนอแลกเปลยี่ นเรยี นรูใ้ น

กิจกรรมการเรยี นการสอน และกจิ กรรมชมรมในโอกาสต่าง ๆ

-ควรท่จี ะฝกึ เรยี บเรยี งฝกึ เขยี นเป็นบทความวชิ าการทม่ี กี าร

วเิ คราะหส์ ังเคราะห์ และหาช่องทางในการตพี มิ พ์เผยแพร่ผลงาน

ในวารสารหรือการประชมุ วิชาการในระดบั ชาติ

ดา้ นการแลกเปล่ียนความคดิ เห็น -ควรมีการตงั้ ประเด็นแลกเปลยี่ นเรียนรู้ในห้องเรยี น โดยใหน้ สิ ิต

ทางการเมือง ได้แสดงความคิดเห็นอยา่ งเป็นอิสระ

-ช่วยกันวเิ คราะหห์ าขอ้ มูลทถี่ ูกตอ้ ง เพื่อไม่ตกเปน็ เครอ่ื งมอื ของ

สอื่

-การแลกเปลย่ี นเรียนรคู้ วามคิดเห็นทางการเมอื งกับใคร เรากค็ วร

มีขอ้ มูลทีช่ ดั เจน

-ใช้เหตผุ ลเป็นหลักไม่ใชอ้ ารมณ์ ในการแลกเปลยี่ นเรยี นรคู้ วาม

คิดเหน็ ทางการเมือง

๒๕๖๓. ๓๓ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๓๔ สัมภาษณ์ ผศ.ดร.นิเทศ สน่นั นาร,ี ผ้ชู ว่ ยอธกิ ารบดีฝ่ายวิชาการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.

๑๑๓

ดา้ นการเสรมิ สร้างวฒั นธรรม -ควรให้นิสติ ไดเ้ ขา้ ใจถึงสทิ ธอิ์ นั พงึ มพี ึงไดข้ องตน โดยไมก่ ระทบ
ประชาธปิ ไตย ผอู้ นื่
-เคารพการตดั สินใจของเพอ่ื นรว่ มหอ้ งหรือส่วนรวม
-เคารพกฎหมาย ไม่นาํ กฎหมู่อยู่เหนอื กฎหมาย
ยดึ หลักของความถกู ตอ้ งเป็นธรรม

จากตารางท่ี ๔.๕๗ พบว่า แนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น มี ๔ ด้าน คือ
๑) ด้านการเลือกต้ัง ๒) ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ๓) ด้านการแลกเปล่ียนความคิดเห็น
ทางการเมือง และ ๔) ด้านการเสริมสรา้ งวัฒนธรรมประชาธปิ ไตย

๔.๗ ผลการวิเคราะห์แนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง
ตามหลักสาราณียธรรมของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่น

๑. ดา้ นเมตตากายกรรม

ควรเข้ารว่ มกจิ กรรมบนพ้ืนฐานของสทิ ธอ์ิ นั ถูกต้องชอบธรรม เรยี กร้องโดยสันติวิธี กระทํา
ไปตามขั้นตอนที่ถูกต้องเหมาะสม๓๕ โดยมีความปรารถนาดี ในด้านกายกรรมหรือในด้านการกระทํา
ต่อคนอื่น๓๖ นิสิตจะเข้ารว่ มกิจกรรมทางการเมือง ก็ต้องเป็นไปด้วยความปรารถนาดี แม้จะมีความคิด
เห็นทางการเมืองแตกต่างกัน เชื่อมั่นหรือว่าเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองต่างกัน เม่ือเข้าไปมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมือง โดยไม่ใช้ความรุนแรง เช่น เขียนข้อคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ การนําเสนอ
อย่างสร้างสรรค์ การเข้าไปฟังการอภิปราย การเสวนา ด้วยอาการท่ีสงบ๓๗ ถ้ามองโดยท่ัวไปแล้ว ถ้า
เราปรารถนาดีต่อกัน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง เราจะต้องไม่ทําร้ายผู้อื่นไม่ว่าจะใน
ครอบครัวที่มีความเห็นต่างกันทางด้านการเมือง หรือเพ่ือนท่ีมีความเห็นต่างทางด้านการเมือง หรือ
ประชาชนอ่ืนท่ีมีความเห็นต่างทางด้านการเมือง๓๘ เราจะต้องมีเมตตาต่อกันไม่ทําร้ายซึ่งกันและกัน
และท่ีสําคัญ ด้านเมตตากายกรรม คอื ไม่ละเมิดกฎหมาย ทําลายทรัพย์สนิ อันเป็นสมบตั ขิ องสาธารณะ
การใช้พ้ืนท่ีแสดงออกทางด้านการเมือง ใช้พ้ืนที่ในการเข้าทํากิจกรรมทางด้านการเมือง ก็ต้องเป็นไป
อย่าเหมาะสม ไม่ทําให้สังคมส่วนรวมได้รับความเดือดร้อน๓๙ ไม่ฝักใฝ่ทางการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหน่ึง

๓๕ สัมภาษณ์ ดร.สธุ พิ งษ์ สวัสดทิ์ า, เลขานุการหลักสตู รรัฐศาสตรบัณฑิต, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๓๖ สมั ภาษณ์ พระมหาดาวสยาม วชิรปญโฺ ญ, ผอู้ าํ นวยการวิทยาลัยสงฆ์ขอนแก่น, ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓.
๓๗ สมั ภาษณ์ นายพัฒนพงษ์ หนองนาํ้ , นายกสโมสรนสิ ิต มจร. ขอนแก่น, ๖ ธนั วาคม ๒๕๖๓.
๓๘ สัมภาษณ์ นางสาวอ้อมพร แก้วดี, นิสิต มจร.ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๓๙ สัมภาษณ์ ผศ.ดร.นิเทศ สนัน่ นารี, ผู้ชว่ ยอธิการบดีฝา่ ยวชิ าการ, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.

๑๑๔

อย่างสุดโต่ง๔๐ การปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเป็นมิตร๔๑ ไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา๔๒ ยึด
หลกั การเรียกร้องอยา่ งสนั ตอิ หงิ สา๔๓ ไม่สนับสนนุ การใชก้ ําลงั ในการแกไ้ ขปญั หาทางการเมอื ง๔๔

๒. ดา้ นเมตตาวจีกรรม

ควรจัดสถานที่ให้นิสิตได้พูดคุยแลกเปล่ียนแนวคิดทางการเมืองที่หลากหลาย ซึ่งอยู่ใน
ความดูแลของคณาจารย์๔๕ จัดหัวข้อกิจกรรมเสวนาทางการเมืองในเชิงสร้างสรรค์ เพ่ือให้เกิด
พัฒนาการท่ีดีทางการเมือง๔๖ และควรที่จะพูดคุยกันในทางการเมืองเชิงสร้างสรรค์๔๗ มีความรู้ความ
เข้าใจทางการเมืองอย่างสมควร คือ มีข้อมูลท่ีจะพูดคุยอย่างชัดเจนถูกต้อง๔๘ มีความรู้ความเข้าใจ
ทางด้านการเมืองอย่างหลากหลาย เพ่ือการสื่อสารท่ีตั้งอยู่บนความจริงของข้อมูล๔๙ จะต้องจัด
กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานิสิต เพื่อให้นิสิตสามารถที่จะส่ือสารทางด้านการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ก็
คือเป็นการนําเสนอข้อมูลท่ีเป็นข้อเท็จจริง ตรงไปตรงมา๕๐ ประการที่สําคัญไม่มีอคติ ส่ือสารกันด้วย
ภาษาท่ีมีเหตุมีผล เป็นภาษาสุภาพภาษาของการเป็นกัลยาณมิตร ไม่ใช้คําหยาบคายต่อกัน ท่ีสําคัญ
การส่ือสารทางด้านการเมือง อาจจะมีเร่ืองของความสนุกสนานเข้ามาเก่ียวข้อง เร่ืองของความผ่อน
คลายของการสื่อสารกนั ด้วยวาจา แต่ก็ไม่ควรที่จะถึงขั้นส่ือสารแบบผิด ๆ โดยขอ้ มูลนั้นไมม่ ีความเป็น
จริงเลย ไม่เหมาะสม เพราะฉะนั้นการท่ีจะส่งเสริมให้นิสิตแสดงออกทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์
การสอ่ื สารมีสว่ น ในการท่ีจะปลูกฝงั โดยเฉพาะอย่างย่งิ คณาจารยใ์ นหลกั สตู ร ควรจดั กิจกรรมที่ฝกึ หัด
ปฏิบัติในการแสดงออกในด้านการพูดการเสวนา การอภิปราย การกล่าวสุนทรพจน์ ด้านการเมือง
อย่างสรา้ งสรรค์๕๑ ใหใ้ ชห้ ลักวจีสุจริต ๔ ในทางพระพุทธศาสนา คือ การไม่พูดเท็จ ไม่พดู ส่อเสยี ด ไม่
พดู คําหยาบ ไม่พดู เพ้อเจอ้ ๕๒

๒๕๖๓. ๔๐ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๔๑ สัมภาษณ์ นายรัฐศาสตร์ โซ่เชียงคาํ , นิสติ มจร.ขอนแกน่ , ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๒๕๖๓. ๔๒ สมั ภาษณ์ นางสาวอรษิ า นามตะ, นิสิต มจร.ขอนแกน่ , ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๒๕๖๓. ๔๓ สมั ภาษณ์ นางสาวกญั ญาภร เมืองเก่า, นิสิต มจร.ขอนแกน่ , ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๔๔ สมั ภาษณ์ นายรฐั ศาสตร์ โซเ่ ชยี งคาํ , นิสิต มจร.ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๔๕ สัมภาษณ์ พระมหาดาวสยาม วชิรปญฺโญ, ผ้อู าํ นวยการวิทยาลยั สงฆ์ขอนแก่น, ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓.
๔๖ สัมภาษณ์ ดร.สธุ พิ งษ์ สวสั ดทิ์ า, เลขานกุ ารหลกั สูตรรฐั ศาสตรบัณฑติ , ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๔๗ สมั ภาษณ์ นางสาวยุวดา สนแก้ว, นสิ ติ มจร.ขอนแกน่ , ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๔๘ สมั ภาษณ์ นางสาวอ้อมพร แก้วด,ี นสิ ิต มจร.ขอนแก่น, ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๔๙ สัมภาษณ์ นายธนรฐั อดทน, นกั วชิ าการศึกษา กลุ่มงานบริการการศกึ ษา, ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๕๐ สัมภาษณ์ อาจารย์สวาท ฮาดภักดี, อาจารย์ประจําหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์, ๒๗ พฤศจิกายน
๕๑ สัมภาษณ์ ผศ.ดร.นเิ ทศ สนั่นนารี, ผ้ชู ่วยอธิการบดฝี ่ายวชิ าการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๕๒ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน

๑๑๕

๓. ดา้ นเมตตามโนกรรม

ควรสรา้ งความตระหนกั ในสทิ ธิ์ส่วนบุคคล ให้เกดิ มีในตัวนสิ ติ ให้เคารพในสิทธข์ิ องตนเอง
และสิทธิ์ของผู้อื่น๕๓ การท่ีเราจะเคารพความคิดเห็นของคนอ่ืนได้อย่างน้อย เราจะต้องมีหัวใจของนัก
ประชาธิปไตย อาจารย์ก็ดี ผู้บริหารก็ดี อาจารย์ที่รับผิดชอบหลักสูตรก็ดีที่จะปลูกฝังเรื่องของ Open
mind หรือความเป็นคนใจกว้างไม่มีอคติ๕๔ เป็นคนใจเย็น ฝึกเป็นคนใจกว้างมองปัญหาต่าง ๆ อย่าง
สร้างสรรค์ มีความคิดเชิงบวก และท่ีสําคัญ คือ สร้างแนวคิดขึ้นในใจของตนเอง อยู่เสมอว่า เม่ือถึง
เวลาพูดก็พูดอย่างเต็มที่ อย่างสร้างสรรค์เม่ือถึงเวลาฟังก็ต้องฟังอย่างเต็มที่ ให้เกียรติผู้สนทนา ให้
เกียรตผิ รู้ ่วมเสวนา ให้เกียรติกับผ้อู น่ื เป็นปรโตโฆสะของเราพร้อมที่จะเรียนรู้ พรอ้ มทจ่ี ะรบั ฟังอยากที่
จะเรียนรู้จากผู้อ่ืน และในขณะเดียวกัน ในการแสดงออกความคิดเห็นระหว่างกันอาจจะมี บาง
ประเดน็ ที่ความเห็นคนอน่ื เป็นเรื่องสาํ คญั และเมื่อมคี วามเห็นออกไปแลว้ ไม่สอดคล้องกัน ไม่ควรที่จะ
ถอื โทษโกรธเคอื งซ่ึงกันและกัน๕๕ ให้นิสติ เคารพความเทา่ เทียมกันของพลเมอื งไทย๕๖

๔. ด้านสาธารณโภคี

ควรส่งเสริมผ่านรูปแบบกิจกรรมภายในหลักสูตร หรือ ชมรม เช่น กิจกรรม ๑ หลักสูตร
๑ ตําบลเข้มแข็ง ๒. กิจกรรมรัฐศาสตร์ เป็นต้น๕๗ โดยประเด็นนี้สําคัญมากการที่จะประพฤติตนให้
เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ในกลุ่มงานต่าง ๆ เช่น หลักสูตรก็ดีควรมีกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีส่งเสริมให้นิสิต
ได้ทําประโยชน์ต่อส่วนรวม เช่น ร่วมไปศึกษาวิจัยไปศึกษาดูงาน เพ่ือรับทราบปัญหาต่าง ๆ ของ
ชุมชน ร่วมเสวนาแลกเปล่ียนความคิดเห็น เพ่ือเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมได้อย่างแท้จริง๕๘ การรู้จัก
เอื้อเฟ้ือ เผ่อื แผ่ แบง่ ปันสมานฉันทใ์ นการอยูร่ ว่ มกนั ๕๙

๕. ดา้ นสลี สามญั ญตา

ควรให้นิสิตเกิดความตระหนักรู้ในสิทธิ์หรือประโยชน์ของตน โดยไม่เบียดเบียนคนอื่น ก็
จะขยายไปสู่การตระหนักรู้ในสิทธ์ิประโยชน์ของชุมชน ขยายไปถึงระดับประเทศต่อไป๖๐ และใน
มงคลสูตรได้มีบทสวดที่ชัดเจนท่ีบ่งบอกให้เราได้เรียนรู้กันว่า ไม่คบคนพาล คบแต่บัณฑิต ซึ่งก็เป็น
แนวทางท่ีถูกต้องในแง่ของหลักปรโตโฆสะ เพราะฉะน้ัน หลักสีลสามัญญตา ถ้าเราจะมีส่วนร่วม
ในทางการเมือง นิสิตเองต้องรักษาระเบียบวินัยเป็นผู้เคารพกฎหมายเคารพวัฒนธรรมประเพณีอันดี

๒๕๖๓. ๕๓ สัมภาษณ์ ดร.สธุ ิพงษ์ สวัสด์ทิ า, เลขานุการหลกั สูตรรัฐศาสตรบัณฑติ , ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๒๕๖๓. ๕๔ สัมภาษณ์ พระมหาดาวสยาม วชริ ปญโฺ ญ, ผู้อํานวยการวทิ ยาลยั สงฆข์ อนแก่น, ๖ ธันวาคม ๒๕๖๓.
๕๕ สัมภาษณ์ ผศ.ดร.นิเทศ สนั่นนาร,ี ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวชิ าการ, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๕๖ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๕๗สมั ภาษณ์ ดร.สุธิพงษ์ สวัสดิท์ า, เลขานุการหลักสูตรรฐั ศาสตรบัณฑิต, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๕๘ สมั ภาษณ์ ผศ.ดร.นเิ ทศ สนัน่ นาร,ี ผชู้ ว่ ยอธิการบดฝี า่ ยวิชาการ, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.
๕๙ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๖๐ สมั ภาษณ์ ดร.สุธพิ งษ์ สวสั ดทิ์ า, เลขานกุ ารหลักสตู รรัฐศาสตรบัณฑิต, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.

๑๑๖

งามของสังคม ของชมุ ชนการแสดงออกที่บ่งบอกสีลสามญั ตา เวลาเราจะแสดงความคดิ เห็นหรือมีส่วน
ร่วมทางการเมืองตามหลักประชาธิปไตย เราก็คงจะเลือกเช่นเดียวกันว่า เราควรจะเสวนากับใคร เรา
ควรจะอภิปรายกับใคร ควรจะทํากิจกรรมทางการเมืองกับใคร เพราะถ้าเราไปร่วมกับคนที่ไม่เป็น
กัลยาณมิตร ไม่ใช่บัณฑิตแต่เป็นคนพาล เป็นปาปมิตร การมีส่วนร่วมในกิจกรรมน้ัน ๆ ก็จะไม่
ก่อให้เกิดสิ่งใด ๆ เลย หลักการในการฝึกให้เป็นผู้มีศีลมีวินัย เคารพกฎหมายเคารพวัฒนธรรม
ประชาธิปไตย ยึดหลักการธรรมาธิปไตย อยู่เหนือโลกาธิปไตย และอยู่เหนืออัตตาธิปไตย ในบางคร้ัง
ถ้าจะเป็นหลักการโลกาธิปไตย เป็นโลกาธิปไตยท่ีผสมผสานกับธรรมาธิปไตย ถ้าเป็นอัตตาธิปไตยก็
ต้องเป็นอัตตาธิปไตย ก็ต้องเป็นอัตตาธิปไตยท่ีผสมผสานกับหลักธรรมาธิปไตย จึงจะทําให้นิสิตได้
แสดงออกทางด้านการเมืองตามหลักประชาธิปไตย สอดคล้องกับหลักสีลสามัญญตา การแสดงออก
ทางการเมืองเราต้องเลือกว่าเราคุยกับใครได้บ้างว่าเป็นมิตรกับใครเป็นมิตรหรือไม่ เป็นผู้มีเหตุผล
หรอื ไม๖่ ๑ สง่ เสริมไมล่ ะเมิดกฎหมายตามหลักประชาธปิ ไตย๖๒

๖. ด้านทิฏฐิสามญั ญตา

ควรสร้างแนวคิดการทํางานเป็นทีม การแบ่งงานกันทําตามหน้าท่ี ทุกคนมีความสําคัญใน
ตําแหน่ง หน้าที่ของตน การทํางานทุกอย่างจะต้องอาศัยคนอ่ืน/บุคคลอ่ืนตลอดจนเครือข่ายที่ช่วยกัน
ทํางานส่งเสริมซ่ึงกันและกันจะทําให้เกิดมีได้โดยเปลี่ยนวิธีคิดหรือปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ โดยผ่าน
กิจกรรมการเรียนรู้ภายในและภายนอกห้องเรียน๖๓ การมีส่วนรว่ มในทางการเมืองในเร่ืองของระบอบ
ประชาธิปไตย ยึดเสียงข้างมากไม่ทิ้งเสียงข้างน้อย รับฟังเสียงข้างน้อย รับฟังเสียงข้างน้อยที่มีการ
สะท้อนออกมา เพราะในบ้างครั้งเสียงส่วนน้อยท่ีทักท้วง เสียงส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วยอาจเป็นเสียงท่ี
ถกู ต้องนํามาซึ่งความเจรญิ ในทางการเมือง นําความเจริญมาสู่องค์กรได้ เพราะฉะน้ัน ถ้าจะมีกิจกรรม
ที่ส่งเสริมให้นิสิตได้มีความตระหนักในเรื่องน้ีมาก ๆ คือ ปรโตโฆสะ กับหลักของโยนิโสมนสิกา
หลักปรโตโฆสะ ขอเสนอแนะว่า มหาวิทยาลัยเอง หลักสูตรเอง หรือกลุ่มงานบริการงานศึกษาเอง
ควรทีจ่ ะจัดกิจกรรมเสริมหลกั สูตรที่พัฒนาทักษะของนสิ ิต ในการวเิ คราะห์ขอ้ มลู เพราะว่าปรโตโฆสะ
บางเร่ืองมันเป็น Big Data มันเป็นข้อมูลที่ยังไม่ถูกสังเคราะห์ออกมาเป็น Information เป็นข้อมูล
ข่าวสาร ยังไม่ถูกสังเคราะห์ออกมาเป็นองค์ความรู้ เพราะฉะน้ัน ข้อมูลท่ีจะก่อให้เกิดทิฏฐิสามัญญตา
ได้มันจะต้องเป็นข้อมูลท่ีเกิดจากสีลสามัญญตา เช่นเดียวกับการมีข้อมูลที่มากมายจะต้องสังเคราะห์
ออกมาเป็นองค์ความรทู้ ี่ชัดเจน เกิดจากความคิดที่แยบคายตามหลักการของโยนิโสมนสิกา เพราะน้ัน
เป็นไปได้ยากที่คนเราจะมีทฏิ ฐสิ ามัญญตา ถ้าต่างความคิด ต่างพรรคการเมือง ต่างการรับรู้ ต่างข้อมูล
และสังเคราะห์ข้อมูลที่ไม่ตรงกัน แน่นอนท่ีสุดในทางการเมืองเม่ือมีฝักมีฝ่ายทางการเมืองอยู่แล้วบาง
ท่ีก็เจือปนไปด้วยอคติ เจือปนไปด้วยความไม่เป็นกลาง แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าถูกต้องก็ไม่เห็นด้วย แม้จะรู้ว่า
ทั้งผิดไม่ถูกต้องก็ยังไปเข้าข้าง ยังนี้เรียกว่า ไม่ได้มีหลักการทิฏฐิสามัญญตาอย่างแท้จริง ซึ่งไม่ได้

๒๕๖๓. ๖๑ สมั ภาษณ์ ผศ.ดร.นเิ ทศ สน่ันนารี, ผชู้ ว่ ยอธกิ ารบดฝี า่ ยวชิ าการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๖๒ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน
๖๓ สัมภาษณ์ ดร.สธุ พิ งษ์ สวสั ดิ์ทา, เลขานกุ ารหลักสูตรรฐั ศาสตรบัณฑิต, ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓.

๑๑๗

หมายความว่าจะให้ทุกคนเห็นด้วยกันท้ังหมด แค่ความเห็นท่ีตรงกันมันเกิดจากการได้รับข้อมูล
ข่าวสารที่ตรงกันมีวิธีคิด สังเคราะห์ข้อมูลที่มีเหตุมีผลไม่เจือปนไปด้วยอคติ ทิฏฐิสามัญญตาก็จะ

เกดิ ขนึ้ แลว้ การมสี ่วนร่วมทางการเมอื งเราก็จะรับฟังเสยี งส่วนใหญ่ไดอ้ ย่างดว้ ยความสมัครใจ ไดอ้ ย่าง
เต็มใจ ควรรับฟังเสียงส่วนน้อยเช่นเดียวกันเพราะอาจเป็นเสียงที่เป็นธรรมาธิปไตย นําพาไปสู่ความ
เจรญิ ๖๔ ทาํ ความเขา้ ใจและยอมรับความคิดเห็นและความเห็นต่างของคนอ่นื ๖๕

ตารางท่ี ๔.๕๘ สรุปแนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณีย
ธรรมของนสิ ิตระดับปริญญาตรี มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขต
ขอนแกน่ ดังนี้

ด้านเมตตากายกรรม -ควรมีความปรารถนาดี ในด้านกายกรรมหรอื ในดา้ นการ
ด้านเมตตาวจกี รรม กระทาํ ต่อคนอ่ืน
-ควรปฏิบัตติ ่อคนอ่นื อยา่ งเป็นมติ ร
ด้านเมตตามโนกรรม
-ควรที่จะพดู คุยกันในทางการเมืองเชงิ สร้างสรรค์
ด้านสาธารณโภคี -มีข้อมลู ทีจ่ ะพดู คุยอยา่ งชัดเจนถกู ตอ้ ง
ด้านสลี สามญั ญตา -สอ่ื สารกนั ด้วยภาษาทม่ี ีเหตมุ ผี ล เปน็ ภาษาสภุ าพภาษาของ
การเป็นกลั ยาณมิตร
ด้านทิฏฐิสามญั ญตา
-เคารพในสทิ ธข์ิ องตนเองและสิทธ์ขิ องผูอ้ น่ื
-ฝึกเปน็ คนใจกวา้ งไม่มอี คติ
-มองปัญหาต่าง ๆ อยา่ งสร้างสรรค์
-ไมค่ วรทีจ่ ะถือโทษโกรธเคอื งซ่ึงกนั และกัน

-ประพฤติตนให้เปน็ ประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม
-รู้จกั เออ้ื เฟอ้ื เผอ่ื แผ่ แบง่ ปัน

-ไม่เบียดเบียนคนอน่ื
-ไม่คบคนพาล คบแตบ่ ณั ฑิต
-รกั ษาระเบยี บวนิ ยั เป็นผ้เู คารพกฎหมายเคารพวฒั นธรรม
ประเพณอี ันดงี ามของสังคม

-ควรสร้างแนวคิดการทํางานเป็นทมี
-ควรแบ่งงานกนั ทําตามหนา้ ที่
-สังเคราะหข์ ้อมลู ทมี่ เี หตมุ ผี ลไม่เจือปนไปดว้ ยอคติ
-ทําความเขา้ ใจและยอมรับความเหน็ ต่างของคนอ่นื

๖๔ สัมภาษณ์ ผศ.ดร.นเิ ทศ สนน่ั นาร,ี ผชู้ ว่ ยอธกิ ารบดีฝ่ายวิชาการ, ๒๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๓.
๖๕ สัมภาษณ์ พระมหาโยธิน โยธิโก, ผู้อํานวยการสํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น, ๓ พฤศจิกายน

๒๕๖๓.

๑๑๘

จากตารางท่ี ๔.๕๘ พบว่า แนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองตามหลักสาราณียธรรมของนิสติ ระดับปริญญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย
วิทยาเขตขอนแก่น มี ๖ ด้าน คือ ๑) ด้านเมตตากายกรรม ๒) ด้านเมตตาวจีกรรม ๓) ด้านเมตตา
มโนกรรม ๔) ด้านสาธารณโภคี ๕) ด้านสีลสามัญญตา และ ๕) ด้านทิฏฐิสามญั ญตา

๔.๘ สรปุ องค์ความรู้ทไี่ ดร้ บั จากการวิจยั

ระดับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากและระดับการมีส่วนรว่ มใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรมของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลยั วิทยาเขตขอนแกน่ โดยภาพรวมอยู่ในระดบั มาก นอกจากน้ัน พบว่า นิสิตระดับปริญญา
ตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ที่มีเพศ อายุ ช้ันปี สาขาวิชา และ
เกรดเฉลี่ย มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ไม่แตกต่างกัน อีกท้ังยังพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่น มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมอื งตาม
หลักสาราณียธรรมตา่ งกัน การมีสว่ นร่วมในกจิ กรรมทางการเมอื งแตกตา่ งกนั

แนวทางการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น พบว่า ควรจัดกิจกรรมรณรงค์ให้นิสิต
ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ให้หลักสูตรจัดกิจกรรมเสวนาวิชาการเก่ียวกับการเลือกตั้งเชิงสร้างสรรค์ ให้นิสิต
รจู้ ักวิเคราะห์สืบค้นข้อมูลข่าวสารจากส่ือประเภทต่าง ๆ ไม่เช่ืออย่างงมงาย ฝึกให้นิสิตเขียนบทความ
วิชาการ และหาช่องทางในการตีพิมพ์เผยแพร่ผลงานในวารสารหรืองานประชุมวิชาการในระดับชาติ
ให้รู้จักใช้เหตุผลในการบูรณาการกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และพบว่า ควรมีการกระทําต่อ
กันด้วยความปรารถนาดี ไม่ใช้ความรุนแรง มีการปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเป็นมิตร ไม่สนับสนุนการใช้
กําลังในการแก้ไขปัญหา ไม่มีอคติ มีการส่ือสารทางการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยมีข้อมูลที่จะพูดคุย
อย่างชัดเจนและถูกต้อง มีความรู้ความเข้าใจทางการเมืองที่หลากหลาย เพ่ือการส่ือสารท่ีตั้งอยู่บน
ความจรงิ ของขอ้ มูล มกี ารเคารพในความคิดเห็นของคนอื่น เปิดใจยอมรบั ความเห็นทแ่ี ตกต่าง มีความ
ประพฤติท่ีเป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อ่ืน และรักษาระเบียบวินัยเคารพกฎหมายวัฒนธรรม
ประเพณีอันดีงานของสังคม สร้างแนวคิดการทํางานเป็นทีม มีการแบ่งงานกันทําตามหน้าที่ ทุกคนมี
ความสําคัญในตําแหน่งการทํางานในหน้าท่ีของตน โดยการทํางานนั้นต้องอาศัยซ่ึงกันและกันเพื่อ
ความสามคั คขี องหมู่คณะ

บทท่ี ๕

สรปุ การอภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ

การวิจัยเร่ือง “การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น” มีวัตถุประสงค์ คือ เพ่ือศึกษาระดับ
การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรมของนิสิตระดับปริญญาตรี เพ่ือเปรียบเทียบการมีส่วน
ร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี ตามปัจจัยส่วนบุคคลและตามหลักสาราณีย
ธรรม เพื่อศึกษาแนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญา
ตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น เป็นการวิจัยแบบผสม (Mixed
Method) โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ซ่ึงเป็นการวิจัยเชิงสํารวจ
(Survey Research) กับผู้ให้ข้อมูลสําคัญ (Key Informants) ภายในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลง
กรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จํานวน ๓๗๗ คน ซึ่งได้จากการกําหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตาม
ตารางของ เครซี่ (Krejcie) และมอร์แกน (Morgan) ได้จํานวน ๑๘๖ คน โดยทําการสุ่มตัวอย่างแบบ
แบ่งชนั้ (Stratified Random Sampling) ดําเนินการเก็บขอ้ มูลตงั้ แต่ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๓ ถึง
เดือน ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) ผู้วิจัย
สร้างขึ้นจากการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง มีความเชื่อมั่น เท่ากับ ๐.๙๔๗ วิเคราะห์ข้อมูล
โดยหาค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t-test) และการ
วเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดยี ว (One way analysis of variance) และ เปรียบเทยี บค่าเฉล่ียเป็น
รายคู่โดยวิธีผลต่างนัยสําคัญที่ น้อยท่ีสุด (Least Significant Difference : LSD.) ผลการวิจัย
สามารถสรปุ อภิปรายผล และมขี ้อเสนอแนะ ตามลําดับดังนี้

๕.๑ สรปุ ผลการวิจัย
๕.๒ การอภิปรายผลการวิจัย
๕.๓ ข้อเสนอแนะ

๕.๑ สรปุ ผลการวจิ ัย

๕.๑.๑ ปัจจัยส่วนบุคคลของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแกน่

นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
ส่วนใหญเ่ ป็นเพศหญิง จาํ นวน ๑๐๗ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ๕๗.๕ มอี ายุอยู่ระหวา่ ง ๒๐ – ๒๑ ปี จํานวน

๑๒๐

๘๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๔.๑ อยู่ในชน้ั ปีท่ี ๔ จาํ นวน ๕๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๙ อยู่ในสาขาวชิ าการ
สอนภาษาไทย จํานวน ๕๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๑.๒ มีเกรดเฉลี่ย ๓.๐๑-๓.๕๐ จํานวน ๗๒ คน คิด
เปน็ ร้อยละ ๓๘.๗

๕.๑.๒ การมสี ว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมืองของนิสติ ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตขอนแกน่

พบวา่ การมีส่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมืองของนสิ ิตระดับปริญญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นขอนแก่น โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก (x̅ = ๓.๖๔) เมื่อ
พิจารณาเป็นรายด้านแล้ว พบว่า ด้านที่อยู่ในระดับมาก เรียงลําดับจากค่าเฉล่ียจากมากไปหาน้อย
ได้แก่ ด้านการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตย (x̅ = ๓.๙๕) ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง
(x̅ = ๓.๗๐) และด้านการเลือกต้ัง (x̅ = ๓.๖๑) ส่วนด้านท่ีอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ ด้านการ
แลกเปลีย่ นความคดิ เห็นทางการเมือง (x̅ = ๓.๓๑)

๕.๑.๓ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรมของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยาเขตขอนแกน่

พบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรมของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับ
มาก (x̅ = ๓.๙๓) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน เรียงลําดับค่าเฉล่ียจาก
มากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านทิฏฐิสามัญญตา (x̅ = ๔.๑๑) ด้านเมตตามโนกรรม ( x̅ = ๔.๑๐) ด้านสีล
สามัญญตา ( x̅ = ๔.๐๕) ด้านเมตตาวจีกรรม (x̅ = ๓.๙๘) ด้านสาธารณโภคี (x̅ = ๓.๗๘) และด้าน
เมตตากายกรรม ( x̅ = ๓.๕๘) ตามลําดับ

๕.๑.๔ ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ตามปัจจัยส่วนบุคคล
และตามหลักสาราณียธรรม

๑) นิสิตระดับปรญิ ญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่นท่ี
มีเพศต่างกัน มสี ว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ไม่แตกต่างกนั ซึ่งไมเ่ ปน็ ไปตามสมมติฐานท่ตี ั้งไว้

๒) นสิ ิตระดับปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นที่
มีอายตุ า่ งกัน มสี ่วนรว่ มในกิจกรรมทางการเมือง ไม่แตกตา่ งกัน ซึง่ ไม่เป็นไปตามสมมติฐานทตี่ ้งั ไว้

๓) นิสติ ระดับปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตขอนแก่นท่ี
มีช้นั ปตี า่ งกัน มสี ่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมอื ง ไม่แตกต่างกัน ซง่ึ ไมเ่ ป็นไปตามสมมติฐานที่ตงั้ ไว้

๔) นสิ ติ ระดับปริญญาตรี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแก่นที่
มีสาขาวิชาต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ไม่แตกต่างกัน ซ่ึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้ง
ไว้

๕) นสิ ติ ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตขอนแก่นท่ี
มเี กรดเฉล่ียต่างกัน มีสว่ นรว่ มในกิจกรรมทางการเมือง ไม่แตกต่างกัน ซ่งึ ไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้ง
ไว้

๑๒๑

๖) นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น
มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖ แตกต่างกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน
ท่ีต้งั ไว้ อยา่ งมีนัยสําคัญทางสถิติทร่ี ะดบั ๐.๐๕

๕.๑.๕ แนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น สรปุ ได้ดงั นี้

๑) ด้านการเลือกต้งั ควรให้นิสิตทําความเข้าใจถึงประโยชน์และโทษในการออกไปใชส้ ิทธ์ิ
เลอื กตง้ั เพื่อให้นิสิตเข้าใจถงึ สิทธิ และหลกั สตู รควรจดั กจิ กรรมเสวนาบรรยายเก่ียวกบั การเลือกตง้ั เชิง
สรา้ งสรรค์ เพื่อให้นสิ ติ เหน็ ถงึ ความสําคญั ของการออกไปเลือกตง้ั ซง่ึ เปน็ ไปตามวถิ ที างประชาธิปไตย

๒) ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง ควรให้นิสิตศึกษาหรือรับข้อมูลจากแหล่งข่าว
ที่หลากหลายเช่ือถือได้ เพ่ือให้เกิดการวิเคราะห์ข้อมูลหรือข่าวสารที่ถูกต้อง โดยการติดตามข่าวสาร
ด้วยใจท่ีปราศจากอคติ เปิดใจให้กว้างเพราะการรับรู้ข้อมูลรอบด้านนั้นจะทําให้เราสามารถแยกแยะ
สง่ิ ท่ถี ูกและผิดได้ เพอื่ ไม่ใหต้ กไปเปน็ เคร่ืองมอื ของสือ่

๓) ด้านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมือง ควรมีการต้ังประเด็นแลกเปล่ียน
เรียนรู้ในห้องเรียน ซึง่ ให้นิสิตได้แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ และช่วยกันวเิ คราะห์หาข้อมูลที่ถูกต้อง
เป็นการสร้างพื้นท่ีในการแลกเปล่ียนความคิดเห็น แต่การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางการเมืองนั้น
ต้องมีข้อมูลท่ีชัดเจน แลกเปลี่ยนในประเด็นท่ีเกิดประโยชน์ เคารพในคู่สนทนา ใช้เหตุใช้ผลในการ
พดู คยุ ใชภ้ าษาที่สภุ าพ เพื่อใหก้ ารแลกเปล่ยี นเรียนรูเ้ กิดประโยชน์

๔) ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตย ควรใช้เหตุใช้ผลในการเข้าร่วมกิจกรรม
ต่าง ๆ ด้วยความสมัครใจและเคารพในการตัดสินใจของคนอื่น เคารพกฎระเบียบของสังคมและ
วัฒนธรรมประเพณีที่ดี การเข้าร่วมกิจกรรมต่างไม่ใช้ความรุนแรง ยึดหลักสันติวิธี ทํากิจกรรมต่าง
ทางการเมืองในเชิงสร้างสรรค์

๕.๑.๖ แนวทางในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลัก
สาราณียธรรมของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

๑) ด้านเมตตากายกรรม นิสิตจะเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองต้องเป็นไปด้วยความ
ปรารถนาดี ไม่ใช้ความรนุ แรง มีเมตตาตอ่ กันไม่ทําร้ายซ่ึงกันและกัน และท่สี ําคัญ เมตตากายกรรมน้ัน
ต้องไม่ละเมิดกฎหมาย และกระทาํ ตามขัน้ ตอนที่ถูกต้อง บนพื้นฐานอันถูกทชี่ อบธรรม

๒) ด้านเมตตาวจีกรรม นิสิตควรพูดคุยในประเด็นทางการเมืองต่าง ๆ ในเชิงสร้างสรรค์
และเปลี่ยนแนวคิดทางการเมืองที่หลากหลาย โดยมคี วามรู้ความเข้าใจในประเด็นท่พี ูดคยุ อย่างชัดเจน
และควรเป็นไปเพ่ือประโยชน์ในประเด็นที่พูดคุยด้วย และนําเสนอข้อมูลด้วยความเป็นจริง สื่อสารกัน
ดว้ ยภาษาที่มีเหตุมผี ล เปน็ ภาษาสภุ าพของการเป็นกลั ยาณมติ ร ไมใ่ ชค้ าํ หยาบคายตอ่ กนั

๓) ด้านเมตตามโนกรรม นิสิตควรเป็นผู้ที่มีใจกว้าง โดยมีใจเคารพต่อผู้อื่น มีใจที่
ปราศจากอคติ เป็นคนเย็น พร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย มีความคิดเชิงบวก คือมอง
ปัญหาต่าง ๆ ในเชิงสร้างสรรค์ โดยสร้างนิสัยเคารพผู้อื่น และเม่ือมีความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน ไม่
ควรทจ่ี ะถือโทษโกรธเคอื งซึง่ กันและกัน

๑๒๒

๔) ดา้ นสาธารณโภคี ควรส่งเสรมิ ให้นิสิตทาํ ประโยชน์ต่อสว่ นร่วม ร่วมเสวนาแลกเปลยี่ น
เรียนร้คู วามคิดเหน็ รว่ มไปศึกษาดูงานเพือ่ รับทราบถึงปัญหาของชุมชน เพอื่ หาวิธที างในการแกป้ ัญหา
ร่วมกัน เช่น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต ได้จัดกิจกรรม ๑ หลักสูตร ๑ ตําบล เป็นการเข้าไปมีส่วนร่วม
ในการทาํ งานในพน้ื ท่ี เป็นตน้

๕) ด้านสีลสามัญญตา นิสิตต้องรักษาระเบียบวินัยเคารพกฎหมาย เคารพวัฒนธรรมท่ีดี
ของสังคม โดยการรู้จักบทบาทหนา้ ท่ีของตน โดยยดึ หลักความประพฤตอิ ันดี มีหลักของธรรมาธิปไตย
คือยึดความถูกต้อง และต้องเป็นผู้ที่รู้จักคบคน ดังใน มงคลสูตร ว่า “อย่าคบคนพาล ให้คบบัณฑิต”
น้ัน เป็นหลักการทส่ี อดคล้องกบั สีลสามัญญตา

๖) ด้านทิฏฐิสามัญญตา สร้างแนวคิดการทํางานท่ีเป็นทีมส่งเสริมซึ่งกันและกัน โดยการ
ทํางานต้องอาศัยซ่ึงกันและกัน และการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย คือการรับข้อมูลข่าวสารที่
ถูกต้อง สังเคราะห์ข้อมูลที่มีเหตุมีผลไม่เจือปนไปด้วยอคติ ทิฏฐิสามัญญตาก็จะเกิดข้ึนได้ การรับฟัง
กันด้วยหัวใจของนกั ประชาธปิ ไตยก็จะเกดิ มีต่อกนั ไมม่ งุ่ ทํารา้ ยซึง่ กนั และกนั

๕.๒ การอภปิ รายผลการวิจัย

การอภิปรายผลการวิจัยคร้ังนี้ผู้วิจัยจะได้นําประเด็นท่ีมีความสําคัญการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขต
ขอนแก่น มีประเด็นทีน่ า่ สนใจสามารถนาํ มาอภปิ รายได้ดังนี้

๕.๒.๑ การมีสว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสติ ระดบั ปรญิ ญาตรี มหาวทิ ยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตขอนแกน่

จากผลการศกึ ษา พบว่า การมสี ่วนร่วมในกจิ กรรมทางการเมืองของนสิ ิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยรวมอยู่ในระดับมาก ท้ังน้ีอาจเป็น
เพราะว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ได้มี
การจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพ่ือให้นิสิตเข้าไปมีส่วนร่วม ทั้งกิจกรรมในห้องเรียน กิจกรรมในระดับชมรม
กิจกรรมในระดับหลักสูตร และกิจกรรมในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งช่วยให้นิสิตได้เข้าไปมีส่วนร่วม ท้ังนี้
ได้มีกิจกรรมที่ถือว่าใกล้ชิดกับตัวนิสิตคือ กิจกรรม Home Room ซึ่งเป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมให้มีการ
แลกเปล่ียนเรียนรู้ ท้งั เปน็ พ้นื ท่ใี นการเสวนา อภิปรายพูดคยุ กันของนิสติ ในทางทส่ี ร้างสรรค์ เพม่ิ เวลา
ในการทาํ กิจกรรมรว่ มกนั และมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตขอนแกน่ ก็ไดเ้ ป็น
พ้ืนที่ทางการศึกษา ซ่ึงเปิดพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปล่ียนความรู้ในเชิงวิชาการ เพื่อนําไปสู่การ
สงั เคราะห์ข้อมูล สร้างองคค์ วามรู้ ความเข้าใจ ทางด้านประเดน็ ที่หลากหลาย ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั บษุ บา
เขียวดี ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา : ศึกษากรณีระดับปริญญาตรี
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ผลการวิจัยพบว่า ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ
นักศึกษา : ศึกษากรณีระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ในภาพรวม มี
ค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก ไม่สอดคล้องกับ สุวิมล แช่กอง ได้ทําการวิจัยเร่ือง “การมีส่วนร่วมของ
นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาในกิจกรรมท่ีส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย” ผลการศึกษาพบว่า
โดยภาพรวมการมีส่วนร่วมของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาในกิจกรรมท่ีส่งเสริมระบอบ

๑๒๓

ประชาธิปไตย อยใู่ นระดับปานกลาง ไม่สอดคล้องกับ สมพร เฟ่ืองจันทร์ ได้ทําการวิจัยเร่ือง “การมี
ส่วนร่วมทางการเมืองของนิสิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา” ผลการศึกษาพบว่า การมี
ส่วนร่วมทางการเมืองของนิสิตมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา อยู่ในระดับปานกลาง และ
ไม่สอดคล้องกับ สําราญ วิเศษ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ
นักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์
มหาวิทยาลัยนครพนม” ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาอยู่ในระดับปาน
กลาง

เมอ่ื พิจารณาเปน็ รายดา้ น สามารถนาํ มาอภปิ รายผลการวิจัยได้ดงั น้ี

ด้านการเลือกตั้ง นิสิตมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของ
นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ด้านการ
เลือกตั้ง โดยรวมอยู่ในระดับมาก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ส่วนมากเป็นนิสิตท่ีมีอายุอยู่ระหว่าง ๒๐–๒๑ ปี ซึ่งตามกฎหมายการ
เลือกตั้ง ได้กําหนดเกณฑ์ในการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ มีอายุ ๑๘ ปี บริบูรณ์ขึ้นไป และมีการจัด
กิจกรรมภายในมหาวิทยาลัยในการเลือกตั้งนายกสโมสรนิสิต ซึ่งเป็นกิจกรรมในการส่งเสริมให้
นิสิตได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง และเข้าไปมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการเลือกตัวแทนใน
การเข้าไปทํางานในฝ่ายกิจการนิสิต สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ นิเทศ สนั่นนารี ที่กล่าวว่า
เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้งกับองค์กรที่เป็นกลางควรหาโอกาสร่วม
อภิปรายถึงกิจกรรมการเลือกตั้ง และสอดคล้องกับ ธีระ กุลสวัสดิ์ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ปัจจัยที่มี
อิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยภาคตะวันออก” ผลการวิจัย
พบว่า ระดับการมีส่วนร่วมทางการเมือง ด้านการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งอยู่ในระดับมาก ไม่
สอดคล้องกับ ภาควัฒ ปล้องสุวรรณ และวรพันธ์ ทองหมัน ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วม
ทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตธรรมาโศกราช ศูนย์
การศึกษาสุราษฎร์ธานี” ผลการวิจัยพบว่า การไปใช้สิทธิเลือกตั้งอยู่ในระดับปานกลาง ไม่
สอดคล้องกับงานวิจัยของ งานวิจัยของ เทิดศักดิ์ ยอแสงรัตน์ และวราภรณ์ เทพสัมฤทธิ์พร ได้
ทําการวิจัยเรื่อง “ทัศนคติการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต”
ผลการวิจัยพบว่า ด้านการเลือกตั้งอยู่ในระดับปานกลาง และไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ
พิสิฐพงศ์ สีดาว และจักรวาล สุขไมตรี ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของ
นักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจัดหวัดสมุทรสาคร” ผลการวิจัยพบว่า ด้านการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
อยู่ในระดับปานกลาง

ดา้ นการตดิ ตามขา่ วสารทางการเมือง

นิสิตมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ด้านการติดตามข่าวสารทางการเมือง
โดยรวม อยู่ในระดับมาก ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า นิสิตมหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย วทิ ยา
เขตขอนแก่น มีการติดตามข่าวสารทางการเมืองจากสือ่ สังคมออนไลน์ โดยมีการรับฟังข่าวสารจากส่ือ
ออนไลน์ และรวมฟงั การเสวนาและแลกเปลีย่ นเรียนรูจ้ ากส่อื ออนไลน์ กับทง้ั เป็นการศึกษาแบบ New

๑๒๔

Normal เพราะวิกฤติของโรคโควิด ๑๙ นี้ จึงทําให้การติดตามข่าวสารทางการเมืองเพ่ิมขึ้น เพราะ
ช่องทางของสื่อที่หลากหลายและต้องการฟังข่าวสารที่รอบด้าน ทั้งในและต่างประเทศ เพ่ือนํามาสู่
การศึกษาในสาขาวิชา และการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารท่ีชัดเจน สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ
พัฒนพงษ์ หนองนํ้า พบว่า ควรให้นิสิตฝึกสังเคราะห์และนําเสนอข้อมูล เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ในกิจกรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมในชมรมอ่ืน ๆ ภายนอกมหาลัยกับสถาบันอื่น ซึ่งไม่
สอดคล้องกับงานวิจัยของ พิสิฐพงศ์ สีดาว และจักรวาล สุขไมตรี ได้ทําการวิจัยเร่ือง “การมีส่วนร่วม
ทางการเมืองของนักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร” ผลการวิจัยพบว่า ด้านการติดตาม
ข่าวสารทางการเมือง อยู่ในระดับปานกลาง และไม่สอดคล้องกับ ธีระ กุลสวัสด์ิ ได้ทําการวิจัยเรื่อง
“ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยภาคตะวันออก”
ผลการวจิ ยั พบวา่ การติดตามสภาพการณเ์ คล่อื นไหวทางการเมอื ง อยู่ในระดับปานกลาง

ด้านการแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ ทางการเมอื ง

นิสิตมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ด้านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ทางการเมือง อยู่ในระดับปานกลาง ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น อยู่ในบริบทของคณะสงฆ์ การแสดงความคิดเห็น หรือการแลกเปล่ียน
เรยี นรู้ในทางกรเมือง ยังไม่มีพนื้ ท่มี ากพอที่จะให้นสิ ติ มีการแลกเปลย่ี นเรยี นรทู้ างดา้ นการเมือง เพราะ
ด้วยภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยก็ดี หรือแม้แต่ในห้องเรียนในบางสาขาก็ไม่ได้มีการยกประเด็น
ทางด้านการเมืองมาอภิปราย สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ พระมหาดาวสยาม วชิรเมธี ผศ.ดร,
พบว่า ให้มีการตั้งประเด็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในห้องเรียน โดยให้นิสิตแสดงความคิดเห็นอย่างเป็น
อิสระ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ สมพร เฟื่องจันทร์ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการ
เมืองของนิสิตมหาวิทยาลัยราชภัฏสมเด็จเจ้าพระยา” ผลการวิจัยพบว่า การรับรู้ข่าวสารการกล่อม
เกลาทางการเมือง อย่ใู นระดบั ปานกลาง และสอดคลอ้ งกบั ธีระ กุลสวสั ดิ์ ไดท้ ําการวจิ ยั เรื่อง “ปัจจัย
ท่ีมีอิทธิพลต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยภาคตะวันออก” ผลการวิจัย
พบว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง อยู่ในระดับปานกลาง และสอดคล้องกับ ภาควัฒ ปล้อง
สุวรรณ และวรพันธ์ ทองหมัน ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตธรรมาโศกราช ศูนย์การศึกษาสุราษฎร์ธานี”
ผลการวิจัยพบว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่ในระดับปานกลาง และสอดคล้องกับ
สําราญ วิเศษ “กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชารัฐ
ประศาสนศาสตร์ คณะศลิ ปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นครพนม” ผลการวิจัยพบวา่ การ
มสี ่วนร่วมทางการเมืองของนกั ศกึ ษา ด้านการแสดงความคดิ เห็นอยใู่ นระดับปานกลาง

ด้านการสง่ เสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตย

นิสิตมีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ด้านการส่งเสริมวัฒนธรรม
ประชาธปิ ไตย อยู่ในระดับมาก ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า นิสิตมหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตขอนแก่น มีการทํากิจกรรมท้ังในทางชมรมและทางหลักสูตร การทํางานเป็นหมู่เป็นคณะ

๑๒๕

เป็นการเรียนรู้ถึงการเคารพซ่ึงกันและกัน ทํางานตามหน้าท่ี พึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกัน และให้
ความสําคัญกับงานท่ีได้รับมอบหมาย ท้ังนี้ มีการจัดแข่งกีฬาในมหาวิทยาลัย ซ่ึงเป็นการสร้างนํ้าใจ
ของนักกีฬา และหัวใจของนักประชาธิปไตย คือ รู้แพ้ รู้ชนะ กิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีบทบาทใน
การส่งเสริมวัฒนธรรมประชาธิปไตย ให้แก่นักศึกษา และการทํากิจกรรมของทางชมรม โดยบูรณา
การหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเสริมสร้าง เป็นจริยธรรมในการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นไปเพื่อความ
ถูกต้อง และรับฟังซึ่งกันและกันอย่างมีเหตุมีผล สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ ธนรัฐ อดทน พบว่า
การใช้เหตุใช้ผลในการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยความสมัครใจ และเชิญชวนคนอ่ืนให้เข้าร่วม
กิจกรรมต่าง ๆ โดยให้มีความสมัครใจ และมีนําใจต่อกัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ เปรมศักดิ์
แก้วมรกต ได้ทําการวิจัยเร่ือง “วัฒนธรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของวัยรุ่นในสังคมพหุ
วัฒนธรรม : กรณีศึกษา อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา” ผลการวิจัยพบว่า ด้านลักษณะการเข้าไปมีส่วน
ร่วมทางการเมืองของวัยรุ่นจะเป็นไปในรูปแบบพูดคุยเร่ืองการเมือง และไม่สอดคล้องกับ สุวิมล
แซ่กอง ไดท้ ําการวิจัยเร่อื ง “การมสี ว่ นร่วมของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยราชภัฏยะลาในกจิ กรรมส่งเสริม
ระบอบประชาธิปไตย” ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาใน
กจิ กรรมส่งเสรมิ ระบอบประชาธปิ ไตย อยู่ในระดับปานกลาง

๕.๒.๒ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสารณียธรรมของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วทิ ยาเขตขอนแกน่

ผลการวิจัยพบว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรมของนิสิต
ระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า นิสิตที่มา
ศึกษาท่ีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ได้ศึกษาทั้งวิชาทางโลก และ
วิชาทางธรรมหรือหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยมีการบูรณาการหลักธรรมกับวิชาที่ศึกษาและ
นําไปประพฤติปฏิบัติ และทางมหาวิทยาลัยได้จัดให้มีการปฏิบัติธรรมเสริมเข้าไปในหลักสูตรของทุก
ชั้นปีของสาขาวชิ า เรียกว่าธรรมภาคปฏิบัติ เป็นวิชาท่ีนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
วิทยาเขตขอนแก่น ได้เข้าร่วมกิจกรรม ทุกปีการศึกษา ในขณะเดียวกันทางมหาวิทยาลัยก็ได้จัด
กิจกรรมปฏิบัติธรรมประจําปีทุก ๆ ปีการศึกษา เป็นระเบียบของมหาวิทยาลัย เป็นผลให้นิสิตนํา
หลักธรรมไปบูรณาการในการดําเนินชีวิตของตน สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ของ นิเทศ สนั่นนารี
กล่าวว่า ในมงคลสูตรบ่งบอกให้เราได้เรียนรู้ที่จะไม่คบคนพาล ให้คบบัณฑิต เป็นแนวทางที่ถูกต้อง
ถา้ เราจะมีส่วนร่วมในทางการเมือง ให้ยึดหลักปรโตโฆสะ คอื รับฟังความคดิ เหน็ ของคนอ่ืน และโยนโิ ส
มนสิกา คือ นํามาวิเคราะห์เพ่ือให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ ซ่ึงสอดคลองกับงานวิจัยของ พระ
มหาศุภกิจ สุดสังข์ ได้ทําการวิจัยเรื่อง “หลักธรรมท่ีมีผลต่อความขัดแย้งทางการเมืองของประชาชน
ในเขตอําเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา” ผลการวิจัยพบว่า ระดับหลักธรรมท่ีมีผลต่อความ
ขัดแย้งทางการเมืองของประชาชนในเขตอําเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยภาพรวมอยู่
ในระดับมากทุกด้าน โดยเรียงอันดับจากมากไปหาน้อย ได้ดังน้ี คือ ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้าน
วจีกรรม ด้านทม่ี คี า่ เฉลยี่ นอ้ ยทีส่ ุด คอื ดา้ นสลี สามญั ญตา

๑๒๖

๕.๒.๓ เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น จําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลและ
ตามหลกั สาราณยี ธรรม

จากการเปรียบเทียบการการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น โดยจําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล คือ
เพศ อายุ ช้ันปี สาขาวชิ า เกรดเฉล่ยี และตามหลกั สาราณยี ธรรม

๕.๒.๓.๑ ผลการวิจัยพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นท่ีมีเพศต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยรวมไม่
แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมืองของนสิ ิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ไม่
มีการกําหนดหรือแบ่งแยกเพศทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองเท่าเทียมกันและ
เป็นไปตามรัฐธรรมนูญปี ๖๐ ที่เปิดให้ทุกเพศสามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างเสรี
จงึ ทําให้มีความคิดเห็นต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองไม่แตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับ พิสิฐ
พงษ์ สีดาว และจักรวาล สุขไมตรี ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา
สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร” ผลการวิจัยพบว่า การเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ของนักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจัดหวัดสมุทรสาคร มีเพศต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมืองโดยรวมไม่
แตกต่างกัน และสอดคล้องกับ ภาควัฒ ปล้องสุวรรณ และวรพันธ์ ทองหมัน ได้ทําการวิจัยเร่ือง
“การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรธี รรมาโศก
ราช ศูนย์การศึกษาสุราษฎร์ธานี” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาท่ีมีเพศต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมือง
ไม่แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับ สําราญ วิเศษ ได้ทําการวิจัยเร่ือง “กระบวนการมีส่วนร่วม
ทางการเมืองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะศิลปะศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาท่ีมีเพศ มีส่วนร่วมทางการเมือง
แตกต่างกัน และไม่สอดคล้องกับ ยุทธพงษ์ เข่ือนแก้ว ได้ทําการวิจัยเร่ือง “ความรู้ความเข้าใจทาง
การเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่มีเพศต่างกัน มีส่วนร่วม
ทางการเมืองแตกตา่ งกัน

๕.๒.๓.๒ ผลการวิจัยพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นท่ีมีอายุต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยรวมไม่
แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ ทั้งน้ีอาจเป็นเพราะว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมือง ในยุคที่ส่ือสังคมออนไลน์มีการพัฒนาท่ีทันสมัยทําให้นิสิตสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทาง
การเมืองหรือติดตามสถานการณ์ทางการเมือง ๆ นั้น เป็นไปได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว อีกทั้งการ
เลือกตั้งเป็นสิทธิและหน้าท่ีของนิสิตทุกคนท่ีมีอายุครบ ๑๘ ปี บริบูรณ์ เพื่อทําหน้าที่คัดเลือกตัวแทน
ของตนเข้าไปออกกฎหมายและเข้าไปบริหารประเทศ ดังนั้น นิสิตจะต้องมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง
อายุจึงไม่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ซ่ึงสอดคล้องกับ พิสิฐพงษ์ สีดาว และ
จักรวาล สุขไมตรี ได้ทําการวิจัยเร่ือง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา
จงั หวัดสมทุ รสาคร” ผลการวจิ ัยพบว่า นักศกึ ษาสังกดั อาชีวะศึกษาจงั หวดั สมทุ รสาครทมี่ ีอายุต่างกันมี

๑๒๗

ส่วนร่วมทางการเมืองไม่แตกต่างกัน และสอดคล้องกับ ภาควัฒ ปล้องสุวรรณ และวรพันธ์ ทอง
หมัน ได้ทําการวิจัยเร่ือง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราช
วิทยาลัย วิทยาเขตศรีธรรมาโศกราช ศูนย์การศึกษาสุราชธานี” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่มีอายุ
ต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมืองไม่แตกต่างกัน ไม่สอดคล้องกับ สําราญ วิเศษ “กระบวนการมีส่วน
รว่ มทางการเมอื งของนกั ศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชารฐั ประศาสนศาสตร์ คณะศิลปะศาสตร์และ
วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่มีชั้นปีต่างกัน มีส่วนร่วมทางการ
เมืองแตกต่างกนั

๕.๒.๓.๓ ผลการวิจัยพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นท่ีมีชั้นปีต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยรวมไม่
แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่า การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมอื งของนสิ ิตเป็นไปด้วยความสมัครใจ และเต็มใจของนสิ ิต โดยไม่มีการบังคับให้เข้าไปมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมทางการเมือง แต่เกิดจากความสนใจของตัวนิสิตเอง ช้ันปีจึงไม่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมใน
กิจกรรมทางการเมืองของนิสิต ซ่ึงสอดคล้องกับ ยุทธพงษ์ เขื่อนแก้ว ได้ทําการวิจัยเร่ือง “ความรู้
ความเข้าใจทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่เรียนต่าง
ช้ันปีมีส่วนร่วมทางการเมืองเหมือนกัน และสอดคล้องกับ ภาควัฒ ปล้องสุวรรณ และวรพันธ์ ทอง
หมัน ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหามกุฏราช
วทิ ยาลัย วิทยาเขตศรธี รรมาโศกราช ศูนยก์ ารศกึ ษาสุราชธานี” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่มีช้ันปีที่
ศึกษาต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมืองไม่แตกต่างกัน ไม่สอดคล้องกับ ชนาธิป ธนรัช และภัครดา
สายอรณุ ได้ทาํ การวิจัยเร่ือง “ปัจจัยที่มีผลตอ่ การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนกั ศึกษาระดับปริญญา
ตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกําแพงแสน” ผลการวิจัยพบว่า นิสิตที่มีช้ันปีท่ีกําลังศึกษา
แตกต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมืองแตกต่างกัน ไม่สอดคล้องกับงานวิจัยของ พิสิฐพงศ์ สีดาว และ
จักรวาล สุขไมตรี ได้ทําการวิจัยเรื่อง “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา
จังหวัดสมุทรสาคร” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดสมุทรสาคร ที่มีประเภท
ระดับช้ันปีต่างกนั มสี ว่ นร่วมทางการเมอื งแตกต่างกัน

๕.๒.๓.๔ ผลการวิจัยพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นท่ีมีสาขาวิชาต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยรวมไม่
แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า การเข้าร่วมกิจกรรมทางการ
เมืองของนิสิตเกิดจากความสนใจ โดยมาจากการรับรู้ข่าวสารหรือความสนใจในการเข้าร่วมใน
กิจกรรมทางการเมือง ซึ่งเป็นการตัดสินใจของนิสิตท่ีอยากเข้าร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยนิสิต
อาจมองว่าการเข้าร่วมในกิจกรรมทางการเมืองนั้น ๆ ทําให้เกิดประโยชน์ต่อตัวนิสิตและส่วนร่วม
สาขาวิชาจึงไม่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งไม่สอดคล้องกับ ชนาธิป ธนรัช
และภัครดา สายอรุณ ไดท้ ําการวิจัยเรื่อง “ปัจจัยทม่ี ีผลต่อการมีส่วนรว่ มทางการเมืองของนิสิตระดับ
ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยกําแพงแสน” ผลการวิจัยพบว่า คณะท่ีกําลังศึกษา
ของนิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยกําแพงแสน มีผลต่อการมีส่วนร่วม
ทางการเมือง ไม่สอดคล้องกับ ยุทธพงษ์ เข่ือนแก้ว ได้ทําการวิจัยเรื่อง “ความรู้ความเข้าใจทาง

๑๒๘

การเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ” ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษาที่มีคณะต่างกัน มีส่วนร่วม
ทางการเมืองแตกต่างกนั

๕.๒.๓.๕ ผลการวิจัยพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่นท่ีมีเกรดเฉล่ียต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยรวมไม่
แตกต่างกัน จึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ ท้ังนี้อาจเป็นเพราะว่า การรับรู้ข่าวสารทางการเมืองน้ัน
ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ โดยกิจกรรมทางการเมืองนั้น เป็นลักษณะของการเข้าร่วมที่เกิดจากตัวนิสิต
อยากเข้าร่วม โดยมองว่าการเข้าร่วมทุกคนสามารถท่ีจะทําได้ตามรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทําท่ีเป็นไป
ตามกฎหมาย ตราบใดการกระทําน้ันไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อ่ืน ทุกคนก็สามารถเข้าร่วมได้ เกรดเฉลี่ยจึง
ไม่ส่งผลต่อการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง ซ่ึงไม่สอดคล้องกับ ยุทธพงษ์ เข่ือนแก้ว ได้ทําการ
วิจัยเรื่อง “ความรู้ความเข้าใจทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์” ผลการวิจัยพบว่า
นักศึกษาท่มี ผี ลคะแนนเฉลยี่ สะสมแตกต่างกนั มีส่วนร่วมทางการเมืองตา่ งกัน

๕.๒.๓.๖ ผลการวิจัยพบว่า นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช
วิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองตามหลักสาราณียธรรม ๖
ต่างกัน มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมือง โดยรวมแตกต่างกัน เป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้ ทั้งน้ี
อาจเปน็ เพราะวา่ นิสิตระดับปริญญาตรี มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั วิทยาเขตขอนแก่น
ทีป่ ฏิบัติตนตามหลกั สาราณียธรรมนั้น โดยมหาวิทยาลัยมุ่งหวังให้นิสิตได้นําหลักธรรมไปบูรณาการใน
การดําเนินชีวิต ซึ่งเป็นเร่ืองของการปฏิบัติตน หรือส่วนบุคคล ซ่ึงไม่ได้มีการบังคับ หรือต้องถือเป็น
กฎระเบียบให้ปฏิบัติ แต่เป็นแค่พ้ืนท่ีในการเสริมวิถีการปฏิบัติตนตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
ให้มีความสมัครสมานสามัคคีกันในหมู่คณะ มีความปรารถนาดีต่อกัน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อมูลท่ี
ถกู ตอ้ ง เพ่ือให้เกดิ ประโยชนน์ ําไปสู่การพฒั นาตนเองและผูอ้ น่ื สร้างความเขา้ ใจตอ่ กัน ไมท่ ําร้ายซ่ึงกัน
และกัน เคารพในระเบียบวินัยของสว่ นร่วม มงุ่ ประพฤตติ นให้เกิดประโยชนต์ ่อตนเองและส่วนรวม ใน
การร่วมทํา ร่วมคิดกัน ร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์ต่อส่วนร่วม ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดของ พระพรหม
คุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) ได้กล่าวว่า ธรรมเป็นท่ีต้ังแห่งความระลึกถึงกัน ถือว่าเป็นธรรมที่เป็นพลัง
สร้างความสามคั คใี นหมคู่ ณะ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกนั

๕.๓ ข้อเสนอแนะ

ผลการวิจัยเร่ือง การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองของนิสิตระดับปริญญาตรี
มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ผ้วู จิ ัยมีขอ้ เสนอแนะดังน้ี

๕.๓.๑ ขอ้ เสนอแนะเชงิ นโยบาย

ผวู้ จิ ยั มขี ้อเสนอแนะเชงิ นโยบายดังนี้

๑. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมในกิจกรรมทางการเมือง กล่าวคือ มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ควรมีการส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมทางการเมือง
ในเชิงสร้างสรรคอ์ ย่างตอ่ เนือ่ ง

๑๒๙

๒. หน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการส่งเสริมในกิจกรรมทางการเมือง กล่าวคือ มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ควรมีพื้นที่ในการเสวนาแลกเปล่ียนเรียนรู้ทางการ
เมือง

๓. หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับการส่งเสริมในกิจกรรมทางการเมือง กล่าวคือ มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ควรจัดกิจกรรมทางการเมืองท่ีนิสิตสมัครใจ และ
สามารถแสดงความคิดเหน็ ไดอ้ ยา่ งอสิ ระ

๕.๓.๒ ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏบิ ตั กิ าร

จากผลการวจิ ยั ผ้วู จิ ัยมขี อ้ เสนอแนะเชิงปฏิบตั ดิ ังต่อไปนี้

๑. หนา่ ยงานท่ีเกี่ยวข้องควรจดั เสวนาวิชาการในประเด็นต่าง ๆ ทางการเมือง เพื่อให้นิสิต
ได้ร่วมอภปิ รายแลกเปล่ยี นความรู้ เพือ่ นําไปสกู่ ารสังเคราะหข์ ้อมลู

๒. หน่ายงานท่ีเก่ียวข้องควรจัดกิจกรรมในการแสดงออกทางการเมือง เช่น การแข่งขัน
การกล่าวสุนทรพจน์ ในประเด็นทางการเมือง เพื่อสร้างพื้นท่ีในการแสดงออกทางด้านความคิด และ
การส่อื สารให้สาธารณชนรับรู้

๕.๓.๓ ข้อเสนอแนะเพ่อื การวจิ ยั คร้ังตอ่ ไป

ผู้วิจัยเสนอแนะการดาํ เนินการวิจยั ในลกั ษณะต่อไปนี้

๑. ควรศึกษาการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางการเมืองในมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อเปรียบเทียบ
ความแตกต่าง หรอื ให้สอดคลอ้ งในระดบั การมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมทางการเมือง

๒. ควรศึกษาโดยเปล่ียนกลมุ่ ตัวอย่างจากนิสิต เป็นบุคลากรในมหาวิทยาลัย เพื่อนําความ
คิดเห็นมาเปรียบเทยี บกัน และนําผลการวิจัยไปปรับปรงุ และพฒั นามหาวิทยาลยั ต่อไป

๓. ควรศึกษาการมีส่วนรว่ มในกจิ กรรมทางการเมืองต่าง ๆ ตามหลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา
เช่น หลักสังคหวัตถุ ๔, หลักฆราวาสธรรม ๔, หลักพรหมวิหาร ๔, หลักอิทธิบาท ๔, หลักอปริหานิย
ธรรม ๗ เป็นตน้ เพ่ือนาํ มาเปรยี บเทยี บกบั ผลการวจิ ยั ในคร้ังนี้

๔. ควรศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักพุทธธรรมกับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทาง
การเมอื ง ใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณป์ จั จุบัน

๑๓๐

บรรณานุกรม

๑. ภาษาไทย

ก. ขอ้ มูลทุติยภูมิ

(๑) หนังสือ:

เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์. การมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการดําเนินนโยบายของรัฐบาลด้านการ
บริการจัดหางาน. กรุงเทพมหานคร: กองแผนงานและสารสนเทศ กรมการจัดหางาน
กระทรวงแรงงาน, ๒๕๕๐.

เจิมศักด์ิ ปิ่นทอง. การระดมประชาชนเพื่อพัฒนาชนบท. กรุงเทพมหานคร: เจริญสินการพิมพ์,
๒๕๓๙.

ชูศรี วงศ์รัตนะ. เทคนิคการใช้สถิติเพ่ือการวิจัย. พิมพ์คร้ังที่ ๗. กรุงเทพมหานคร: เทพเนรมิต,
๒๕๔๑.

ติน ปรัชพฤธิ์. พฤติกรรมมนุษย์ในองค์การ. พิมพ์ครั้งที่ ๒๑. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
๒๕๔๖.

นรนติ ิ เศรษฐบตุ ร. เอกสารการสอนชดุ สถาบนั และกระบวนการการทางการเมอื งไทย หนว่ ยท่ี ๑๕
การมีส่วนร่วมทางการเมือง. พิมพ์ครั้งที่ ๒๐. นนทบุรี: สํานักพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัย
ธรรมาธริ าช, ๒๕๔๒.

นิรันดร์ จงวุฒิเวศน์. กลวิธี แนวทาง กลวิธีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนา
ชนบท. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั รามคําแหง, ๒๕๓๗.

บญุ ชม ศรีสะอาด. การวิจัยเบอื้ งตน้ .พมิ พ์ครั้งท่ี ๗. กรงุ เทพมหานคร: สวุ ีรยิ าสาส์น, ๒๕๔๕.
ปัญญา คล้ายเดช. ระเบียบวิจัยทางรัฐศาสตร์. พิมพ์ครั้งท่ี ๒. ขอนแก่น: หจก.ขอนแก่นการพิมพ์,

๒๕๖๐.
พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ. ปยุตฺโต. พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งท่ี ๑๖.

กรุงเทพมหานคร: บรษิ ัท เอส. อาร์. พร้ินต้ิง แมส โปรดักสจ์ ํากัด, ๒๕๕๑.
ไพรัตน์ เดชะรินทร์. นโยบายและกลวิธีการมีส่วนร่วมของชุมชนในยุทธศาสตร์การพัฒนาปัจจุบัน

ในการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชนบท. กรุงเทพมหานคร: ศักดิ์โสภาการ
พมิ พ,์ ๒๕๒๗.
มานิตย์ นวลละออ. การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนกับการบริหารการพัฒนา.
กรุงเทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, ๒๕๔๔.
ยุวัฒน์ วุฒิเมธี. การพัฒนาชมุ ชนและการพฒั นาชนบท. กรงุ เทพมหานคร: พฒั นาชมุ ชน, ๒๕๓๖.
สมบัติ ธํารงธัญวงศ์. ทัศนคติทางการเมืองของเยาวชนในเขตกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร:
โครงการเอกสารและตาํ รา คณะรัฐศาสตร์ สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบริหารศาสตร,์ ๒๕๓๘.

๑๓๑

สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กลุ่มงานผลิตเอกสาร สํานักงานประชาสัมพันธ์. การมีส่วน
ร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย. กรงุ เทพมหานคร: สํานักการพิมพส์ ํานักงาน
เลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร, ๒๕๖๐.

สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. วัฒนธรรมทางการเมือง. พิมพ์คร้ังท่ี ๑. กรุงเทพมหานคร:
สํานักการพมิ พ์สํานกั งานเลขาธิการสภาผูแ้ ทนราษฎร, ๒๕๕๖.

สุจิต บุญบงการ. การมีส่วนร่วมทางการเมืองกับการพัฒนาทางการเมือง. กรุงเทพมหานคร:
ศูนยว์ จิ ยั จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย, ๒๕๓๗.

สุรพล พรมกุล. ระเบียบวิธีวิจัยทางรัฐศาสตร์. พิมพ์ครั้งท่ี ๑. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์,
๒๕๕๔.

(๒) วิทยานพิ นธ:์

จันทิมา พิจารย์. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิงในอําเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่”.
วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเชียงราย,
๒๕๕๒.

บุญบา เขียวดี. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษา : ศึกษากรณี นักศึกษาระดับปริญญาตรี
คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตร
มหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี,
๒๕๕๒.

ประสิทธิ สันติกาญจน์. “การเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร”.
วิทยานิพนธ์ศึกษาศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา. บัณฑิต
วทิ ยาลัย: มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร,์ ๒๕๓๐.

พระมหาศุภกิจ สุดสังข์. “หลักธรรมท่ีมีผลต่อความขัดแย้งทางการเมืองของประชาชนในเขตอําเภอ
เมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา” วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์,
๒๕๖๑.

สายสุนีย์ ปวุฒินันท์. “ความรู้ ทัศนคติ และการมีส่วนร่วมทํากิจกรรมในโครงการการบริหารท่ัวทั้ง
องค์กรของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลท่ัวไปของรัฐ : กรณีศึกษาโรงพยาบาลสิงห์บุรี จังหวัด
สิงห์บุรี”. วิทยานิพนธ์วิทยาศาตรมหาบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร์, ๒๕๔๑.

(๓) บทความ:

คงฤทธ์ิ กุลวงษ.์ “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนตําบลหนองบ่อ
อําเภอนาแก จังหวัดนครพนม”. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. ปีท่ี ๑๔ ฉบับ
ท่ี ๓ ประจําเดอื นกันยายน-ธันวาคม ๒๕๖๑): ๑๑๗.

๑๓๒

ชนาธิป ธนรัช และภัครดา สายอรุณ. “ปัจจัยที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมของนิสิตระดับปริญญาตรี
มห าวิท ยาลั ยเกษ ตรศาสตร์ วิท ยาเขตกํ าแพ งแสน ”. วารสารวิ ท ยบ ริการ
มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร.์ ปที ่ี ๒๘ ฉบบั ท่ี ๒ (พฤษภาคม – สงิ หาคม ๒๕๖๐): ๑๐๗.

ชาญชัย ฮวดศรี. “รูปแบบการส่งเสริมวัฒนธรรมทางการเมืองเชิงพุทธของผู้นําชุมชนจังหวัด
ขอนแก่น”. การประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ ๒ สถาบันวิจัยและพัฒนา
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั กาํ แพงแสน (๒๕๕๘): ๑๒๔-๑๒๕.

เทิดศักด์ิ ยอแสงรัตน์ และวราภรณ์ เทพสัมฤทธ์ิพร. “ทัศนคติการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ
นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต”. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต. ปีที่
๑๓ ฉบบั ท่ี ๒ (กรกฎาคม – ธนั วาคม ๒๕๖๐): ๓๗-๓๘.

เปรมศักดิ์ แก้วมรกฎ. “วัฒนธรรมการมีส่วนร่วมทางการเมืองของวัยรุ่นในสังคมพหุวัฒนธรรม :
กรณีศึกษา อําเภอเทพา จังหวัดสงขลา”. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยธนบุรี. ปีท่ี ๑๒
ฉบับพิเศษ (ตุลาคม ๒๕๖๑): ๒๑๗.

พิสิฐพงศ์ สีดาว และจักรวาล สุขไมตรี. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษา
จังหวัดสมุทรสาคร”. วารสาร มจร วิชาการล้านนา. ป่ีที่ ๙ ฉบับีที่ ๑ (มกราคม –
มถิ ุนายน ๒๕๖๓): ๑.

พิสิษฐ์ วงศารตั น์ศลิ ป์. “ความคดิ เห็นของประชาชนในการปกครองระบอบประชาธิปไตยในเขตอําเภอ
เมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี”. วารสารดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์. ปีที่ ๗ ฉบับที่ ๑
(มกราคม – เมษายน ๒๕๖๐): ๑๙๖.

ภาควัฒ ปล้องสวุ รรณ และวรพันธ์ ทองหมัน. “การมีส่วนรว่ มทางการเมอื งของนักศึกษามหาวิทยาลัย
มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตธรรมาโศกราช ศูนย์การศึกษาสุราษฎร์ธานี”. วารสาร
มจร อบุ ลปริทรรศน์. ปีท่ี ๕ ฉบับท่ี ๑ (มกราคม – เมษายน ๒๕๖๓): ๓๘-๓๙.

ยุทธพงษ์ เข่ือนแก้ว. “ความรู้ความเข้าใจทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์”.
วารสารวิชาการแพรวากาฬสินธ์ุ มหาวิทยาลัยกาฬสินธ์ุ. ปีท่ี ๓ ฉบับท่ี ๒ (พฤษภาคม
– สิงหาคม ๒๕๕๙): ๘๙.

สมพร เฟ่ืองจันทร์. “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของนิสิต มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ
เจ้าพระยา”. วารสารสารสนเทศ. ปีท่ี ๑๔ ฉบับที่ ๒ (กรกฎาคม – ธันวาคม ๒๕๕๘):
๙๘-๙๙.

สําราญ วิเศษ. “กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองของนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชารัฐ
ประศาสนศาสตร์ คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม”. วารสาร
มหาวิทยาลัยนครพนม. ปที ่ี ๒ ฉบับท่ี ๑ (มกราคม – เมษายน ๒๕๕๕): ๕.

สุวิมล แซ่กอง. “การมีส่วนร่วมของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลาในกิจกรรมส่งเสริมระบอบ
ประชาธิปไตย”. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา. ปีที่ ๑๓ ฉบับที่ ๑ (มกราคม –
เมษายน ๒๕๖๑): ๖๑.

๑๓๓

(๔) เอกสารทไ่ี มไ่ ด้ตพี มิ พ์เผยแพร่และเอกสารอนื่ ๆ:

แถลงการณ์. ขอสนับสนุนและแสดงจุดยืนร่วมกับองค์กรพิทักษ์พระพุทธศาสนาภาคใต้ และประกาศ
ลงอุกเขปนียกรรมแก่ พระพุทธอิสระ (พระสุวิทย์ ธีรธมฺโม). สภานิสิตมหาวิทยาลัยมหา
จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น. ณ วันท่ี ๒ เมษายน ๒๕๕๙ (๒๗
กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓).

คณะอนุกรรมการการเลือกตั้งนายกองค์กรบริหารนิสิตและนายกสโมสร. “ผลการเลือกต้ังนายก
องค์กรบริหารนิสิต ประจําปีการศึกษา ๒๕๖๓”. บันทึกข้อความ. ที่ อกต. ๐๐๒/
๒๕๖๓. [๒๗ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓].

สํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น. ฝ่ายทะเบียนและวัดผล สํานักวิชาการ วิทยาเขตขอนแก่น. สถิติ
นิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ปีการศึกษา
๒๕๖๓. (ข้อมลู ณ วนั ท่ี ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓).

(๕) สื่ออิเล็กทรอนิกส:์

Mgronline. แยกย่อย เครือข่ายสงฆ์ มาจากไหน? รุกหนัก จี้รัฐ-สปช.ยุบคณ ะปฏิรูปฯ
พระพุทธศาสนา. [ออนไลน์]. แหล่งท่ีมา: https://mgronline.com/politics/detail/
9580000024595 [๙ สงิ หาคม ๒๕๖๓].

Mgronline. พระ มจร.ขอนแก่นจี้ยุบคณะ กก.ปฏิรูปพระพุทธศาสนา. [ออนไลน์]. แหล่งท่ีมา:
https://mgronline.com/local/detail/9580000025345 [๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓].

The Buddh. ‘ปยิ บตุ ร’ เทศนก์ ัณฑ์ ‘อรยิ สัจ ๔’ ช้ีรธน.๖๐ คือ’สมุทัย’ทําคนไทยทุกข์. [ออนไลน์].
แหล่งที่มา: http://thebuddh.com/?p=43619 [๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๓].

ปุณญทิพย์ รักภูเสนโพธิ์กุล. “พลเมืองดีตามวิถีประชาธิปไตย”. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา
ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรยี นอาํ นาจเจริญ อําเภอเมือง จังหวดั อาํ นาจเจรญิ สํานักงานเขต
พน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๒๙. [ออนไลน]์ . แหล่งท่ีมา: https://www.kroobannok.
com/news_file/p62748592020.pdf [๑๑ กนั ยายน ๒๕๖๓].

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น. การจัดต้ังวิทยาเขตขอนแก่น.
[ออนไลน]์ . แหล่งทีม่ า: http://kk.mcu.ac.th/history.php [๑๖ กนั ยายน ๒๕๖๓].

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น. พันธกิจของมหาวิทยาลัย .
[ออนไลน์]. แหล่งทีม่ า: http://kk.mcu.ac.th/vision.php [๑๖ กันยายน ๒๕๖๓].

สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง. การมีส่วนร่วม. [ออนไลน์]. แหล่งท่ีมา: https://www.
ect.go.th/ect_th/news_page.php?nid=767&filename= [๒๓ ตุลาคม ๒๕๖๓].

สาํ นักงานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ. สรุปภารกจิ ตรวจเยย่ี มวัดจงั หวัดขอนแกน่ ของรัฐมนตรปี ระจํา
สํานักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธ์ุ ตันยุวรรธนะ). [ออนไลน์]. แหล่งท่ีมา:
http://old.onab.go.th/news/สรุปภารกจิ ตรวจเยย่ี ม [๙ สงิ หาคม ๒๕๖๓].


Click to View FlipBook Version