The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานโครงการนิเทศภายในสถานศึกษา ปีงบประมาณ 2565 (1 ต.ค.2564-30 ก.ย.2565)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Hataitip Chindarat, 2023-05-02 07:26:35

รายงานโครงการนิเทศภายในสถานศึกษา 65

รายงานโครงการนิเทศภายในสถานศึกษา ปีงบประมาณ 2565 (1 ต.ค.2564-30 ก.ย.2565)


๒ บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ที่ 1/256๕ วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เรื่อง การรายงานผลการดำเนินงานโครงการนิเทศภายในโรงเรียน เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ด้วยกลุ่มงานการบริหารวิชาการ ได้ดำเนินการโครงการนิเทศภายในโรงเรียน สำเร็จลุล่วงไป แล้วนั้น บัดนี้ กลุ่มงานการบริหารวิชาการ จึงขอรายงานผลการดำเนินงานโครงการนิเทศภายใน โรงเรียน ดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ลงชื่อ ( ว่าที่ร.ต.หญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์) ผู้รับผิดชอบโครงการ ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการ …………………………………….......................................................................................................... …………………………………….......................................................................................................... …………………………………….......................................................................................................... ลงชื่อ……………………………………. (นายมะซามัน การี) รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ความคิดเห็นของผู้อำนวยการ …………………………………….......................................................................................................... ……………………………………................................................................................................. ......... …………………………………….......................................................................................................... ลงชื่อ……………………………………. (นางแวอาซีซะห์ หวังแอ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ


๓ คำนำ การนิเทศ มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยิ่ง เพราะการนิเทศการศึกษา เป็นการรวมความคิดทางปัญญาของผู้ให้การนิเทศ ผู้รับการนิเทศ และผู้สนับสนุนการนิเทศเข้า ด้วยกัน เพื่อผลสุดท้ายที่แท้จริง คือการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และคุณภาพการศึกษาให้บรรลุ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร และผู้เรียนมีคุณภาพตามที่มุ่งหวังไว้ทุกประการ การนิเทศการศึกษามุ่งหวัง ให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จลุล่วงด้วยดีและมีประสิทธิภาพให้ตอบสนองกับสภาพปัจจุบันที่ โรงเรียนมีความเหลี่ยมล้ำและแตกต่างหลากหลายทั้งมาตรฐานและคุณภาพ โดยมุ่งหวังให้เกิดการ นิเทศด้วยวิธีการที่หลากหลาย เข้าถึงสถานศึกษา และเข้าถึงครูเท่าเทียมกัน เพื่อการพัฒนาและ ส่งเสริมให้เกิดคุณภาพการศึกษาที่มีความเท่าเทียมกัน รายงานผลการดำเนินงานโครงการนิเทศภายในโรงเรียนฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสรุปผลการ ดำเนินการนิเทศ และผลการนิเทศ ปัญหาในการนิเทศ ความต้องการรับการนิเทศและข้อเสนอแนะ มาใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการนิเทศการศึกษาในปีงบประมาณต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการนำข้อมูลสำหรับการวางแผนการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีของโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ เป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบการตัดสินใจต่างๆ ของผู้บริหารใน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละให้มีคุณภาพ สามารถพัฒนานักเรียนให้มี มาตรฐานทางการศึกษา เป็นข้อมูลสำหรับบุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องสำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของนักเรียน สร้างความเชื่อมั่นต่อชุมชนต่อไป ขอขอบคุณผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ คณะครูทุกท่านที่เสียสละเวลา กำลังกาย และ กำลังใจ จนทำให้โครงการนิเทศภายในโรงเรียน ครั้งนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ว่าเอกสารผลการดำเนินโครงการนิเทศภายในโรงเรียน เล่มนี้ จะสามารถเป็นข้อมูลในการพัฒนาโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ อย่างเต็มรูปแบบต่อไป ว่าที่ร.ต.หญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ผู้จัดทำ


๔ สารบัญ หน้า บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ ๖ วัตถุประสงค์ ๘ เป้าหมาย ๘ เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ๘ ขอบเขตของการดำเนินโครงการ ๘ ระยะเวลาดำเนินการ ๙ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๙ บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หลักและแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ ๑๐ บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน ขั้นตอนการดำเนินงาน ๒๙ - ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) ๒๙ - ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ ( Do) ๒๙ - ขั้นตอนการ่วมกันประเมิน ( Check ๒๙ - ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง ( Act) ๓๐ บทที่ 4 ผลการดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูล ผลการจัดกิจกรรมตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ๓๑ บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินการ /ปัญหา/ข้อเสนอแนะ ๓๖ เอกสารอ้างอิง ๓๘ ภาคผนวก - โครงการ - คำสั่ง - แบบนิเทศการสอน - แบบบันทึกการนิเทศแผนการจัดการเรียนรู้ - แบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 - ตัวอย่างแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม - ภาพกิจกรรม


๕ บทสรุปโครงการ รายงานผลการดำเนินงานโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ของโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ โดย มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ส่งเสริมให้ครูผู้นำเทคนิค วิธีการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายไปใช้ในการจัดเรียน การสอน สร้างขวัญกำลังใจให้กับครู และควบคุมมาตรฐานและพัฒนาการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งนี้มีผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการ คณะครูผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษา ชุมชน มี ส่วนร่วมในการดำเนินงานตามโครงการจนแล้วเสร็จ โครงการนิเทศภายในโรงเรียน ได้ดำเนินงาน เมื่อวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ.2565 โดยมีการ ดำเนินงาน ดังนี้ ผู้นิเทศดำเนินการนิเทศ ตามโครงสร้างบุคลากรการนิเทศและตามตารางการนิเทศ โดยใช้ กิจกรรม 1. กิจกรรมการนิเทศการจัดการเรียนการสอน แล้วทำการประเมินผลโครงการด้วย วิธีการที่ 1 แบบบันทึกการนิเทศน์ออนไลน์ วิธีการที่ 2 แบบสังเกตการณ์สอน วิธีการที่ 3 ภาพการจัดบรรยากาศในห้องเรียน วิธีการที่ 4 ภาพการให้คำปรึกษาแนะนำ สรุปผลการดำเนินงานตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ของโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ สรุปผลสำเร็จของโครงการ ผลสำเร็จของโครงการโดยรวมทุกกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ .......90.00... ระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการโดยรวม อยู่ในระดับ ........ดีมาก...


๖ บทที่ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสำคัญ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๒๒ การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถ เรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริม ให้ผู้เรียนสามารถพัฒนา สอดคล้องกับมาตรฐานที่ ๑ ข้อที่ ๑.๑ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน มาตรฐานที่ ๒ ข้อที่ ๒.๓ และ๒.๔มาตรฐานที่ ๓ ข้อที่ ๓.๕ แลกเปลี่ยนเรียนรู้สะท้อนกลับเพื่อพัฒนา และปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน ซึ่งในปัจจุบัน การศึกษาได้เจริญก้าวหน้าไปมาก มีการ เปลี่ยนแปลงหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร ความรู้ในสาขาวิชาการต่าง ๆ เพิ่มขึ้น แนวความคิดและแนวการเรียนการสอนใหม่ ๆ รวมทั้งมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายในการจัด การศึกษาเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ยังพบว่ามีครูจำนวนหนึ่งยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนตนเองให้ทันต่อ ความเปลี่ยนแปลง ปัญหาดังกล่าวข้างต้นสามารถจะแก้ไขได้โดยอาศัยการนิเทศ กำกับ ติดตามและ ตรวจสอบ เพื่อให้ครูสามารถนำผลไปปรับปรุงการเรียนการสอน จากผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ใน การช่วยเหลือแนะนำให้ครูมีความเจริญงอกงามทางวิชาการ สามารถพึ่งตนเองได้ และนำความรู้ เหล่านี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาการเรียนการสอนตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ การนิเทศ การศึกษาจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริหารจะต้องจัดให้มีกระบวนการนิเทศภายในอย่างเป็นระบบ ต่อเนื่อง และนำผลการนิเทศมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน เพราะการ นิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการในการแนะนำช่วยเหลือครู ให้สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ครูสามารถออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตอบสนองต่อ ความต้องการของผู้เรียน การนิเทศการศึกษานั้นควรตั้งอยู่บนหลักการของประชาธิปไตย คือ การ เคารพซึ่งกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ จึงจะทำให้การนิเทศการศึกษานั้นประสบผลสำเร็จ ภารกิจหลักของโรงเรียน คือ การจัดกระบวนการเรียนการสอนให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้เต็ม ตามศักยภาพ เป็นการเรียนรู้ตามความต้องการ ตามความสนใจของผู้เรียนและเรียนรู้อย่างมีความสุข กระบวนการเรียนการสอนต้องยึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง โดยครูต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเรียน การสอนใหม่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าว จะสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้นั้น โรงเรียนต้องมี กระบวนการนิเทศ ติดตามอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ สามารถให้คำแนะนํา คําปรึกษาหารือและ ช่วยเหลือครูในการแก้ปัญหาการเรียนการสอน ตลอดจนส่งเสริมให้ครูได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน มี การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และวางแผนการสอนร่วมกันจนสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้ นักเรียนเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเองสร้างองค์ความรู้และเป็นการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ดังนั้นการพัฒนาครู โดยใช้กระบวนการนิเทศภายในโรงเรียน นับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาหรือให้ความช่วยเหลือครูในโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จใน การปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และกระบวนการเรียนรู้ให้


๗ บรรลุผลตามจุดหมายของหลักสูตร หรือการสร้างเสริมพัฒนาการของนักเรียนทุกด้าน ทั้งทางด้าน ร่างกาย สังคม อารมณ์ จิตใจ และสติปัญญา ให้เต็มตามวัยและศักยภาพ ด้วยความสำคัญดังกล่าว โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ จึงได้จัดทำโครงการนิเทศภายในโรงเรียน เพื่อปรับปรุง แก้ไขและ พัฒนาการปฏิบัติงานของครูให้มีประสิทธิภาพและส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียน คุณภาพของการจัด การศึกษา การจัดการศึกษาในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังคงมีการระบาด ในวงกว้าง สถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ยังมีความรุนแรงอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยและระวังป้องกันนักเรียน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จึงได้ จัดการเรียนการสอน ๔ รูปแบบ ได้แก่ การเรียนแบบ On-Air ผ่านระบบมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่าน ดาวเทียม หรือ DLTV การเรียนแบบ On-Line ครูผู้สอนทำการสอนผ่านระบบอิเลคทรอนิค การ เรียนแบบ On-demand ผ่านระบบแอปพลิเคชันและการเรียนแบบ On- hand ครูผู้สอนเดินทางไป แจกเอกสารใบงานให้กับนักเรียนที่บ้าน อย่างไรก็ตามการเรียนการสอนทั้ง ๔ รูปแบบ จะต้องได้รับ การยินยอมจาก ศบค. ของแต่ละจังหวัดเพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอนที่เหมาะสมของแต่ละ พื้นที่ได้บนพื้นฐานความปลอดภัยทั้งครูผู้สอนและนักเรียนเป็นอันดับแรก และในภาคเรียนที่ ๑ ปี การศึกษา ๒๕๖๕ สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ระบาดน้อยลง โรงเรียนจึงเปิดเรียน แบบ On- site คือ การเดินทางมาเรียนที่โรงเรียนจัดพื้นที่แบบเว้นระยะห่างและเข้มงวดการสวม หน้ากากอนามัยตามมาตรการด้านสาธารณสุข การนิเทศ มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาย่างยิ่ง เพราะการนิเทศการศึกษา เป็นการรวมความคิดทางสมองของผู้ให้การนิเทศ ผู้รับการนิเทศ และผู้สนับสนุนการนิเทศเข้าด้วยกัน เพื่อผลสุดท้าย ที่แท้จริงคือการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและคุณภาพการศึกษาให้บรรลุจุดหมายของ หลักสูตร และนักเรียนมีคุณภาพตามที่มุ่งหวังไว้ทุกประการ แต่การดำเนินงานใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องมี ขั้นตอนในการดำเนินงานการนิเทศการศึกษาก็เป็นไปในทำนองเดียวกันก็ต้องการความมุ่งหวังให้การ ดำเนินการประสบผลสำเร็จลุล่วง ด้วยดีและมีประสิทธิภาพให้สนองตอบกับสภาพปัจจุบันที่โรงเรียนมี ความเหลื่อมล้ำและแตกต่างหลากหลาย ทั้งมาตรฐานและคุณภาพ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมุ่งหวังให้เกิดการนิเทศด้วยวิธีการที่หลากหลาย เข้าถึง สถานศึกษาทุกกลุ่มเป้าหมาย เข้าถึงครูอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อการพัฒนาและส่งเสริมให้เกิดคุณภาพที่ มีความเท่าเทียมกันทุกแห่ง ทั้งนี้เพื่อลดช่องว่างทางการเรียนรู้ และ การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ของผู้เรียนบนฐานของระบบเศรษฐกิจฐานความรู้ ให้เป็นไปตามนโยบายและ เจตนารมณ์ของ หน่วยงานต้นสังกัดต่อไป โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ จึงได้ดำเนินการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา การดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ การดำเนินงานตามนโยบายของสำนักงาน คณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และการดำเนินงานตามนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต ๑ โดยการนิเทศรูปแบบออนไลน์ เน้นกระบวนการนิเทศที่เป็น ระบบและมีความต่อเนื่อง สร้างทีมและเครือข่ายการนิเทศให้เกิดพลังและพัฒนาศักยภาพผู้นิเทศอยู่ เสมอ ให้พร้อมในการพัฒนางานในทุกสถานการณ์ โดยมุ่งให้ผู้รับการนิเทศรู้จักคิดค้นวิธีการทำงาน


๘ ด้วยตนเอง มีความสามารถในการนำตนเอง และสามารถตัดสินปัญหาของตนเองได้ สร้างบรรยากาศ ที่เป็นกันเอง กระตุ้น ยั่วยุ และสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและทำให้ผู้รับการนิเทศค้นพบวิธีการ ทำงานที่ดีกว่า เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เป็นการส่งเสริมและสร้างสรรค์ และวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม การใช้กระบวนการนิเทศไปขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานสู่การปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษที่ 21 และการดำเนินงานของโรงเรียนให้ สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียนการสอน และเพื่อ ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้กระบวนการนิเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนส่งเสริม สนับสนุน และเพิ่มคุณภาพการจัดการเรียนการสอนพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานหลักสูตร และทักษะพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตให้อยู่รอดปลอดภัยในสังคมโลก วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ๒. เพื่อส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีกระบวนการเรียนรู้ ที่หลากหลาย ๓. เพื่อควบคุมมาตรฐานและพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป้าหมาย เชิงปริมาณ 1. ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๓๒ คน เชิงคุณภาพ ๑. ครูร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการนิเทศภายในจากคณะกรรมการนิเทศ อย่างน้อยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง ๒. ครูร้อยละ ๘๐ มีความสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้นผู้เรียนเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ในครั้งนี้ 1. แบบบันทึกการเยี่ยมชั้นเรียน 2. แบบบันทึกการนิเทศ ขอบเขตของการดำเนินโครงการ ในการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ดำเนินการระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 256๔ ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ.256๕ โดยมีระยะเวลาในการประเมินโครงการนิเทศ ภายในโรงเรียน แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ


๙ 1. ระยะวางแผนการดำเนินการ 2. ระยะดำเนินการ เป็นการประเมินกระบวนการในการดำเนินโครงการ 3. ระยะประเมินผล เป็นการประเมินผลโครงการ ระยะเวลาการดำเนินโครงการ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ - วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ ๑. ครูมีความรู้ ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ๒. ครูนำผลการนิเทศภายในไปปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเอง ดำเนินการจัดกระบวนการ เรียนรู้ให้ดีขึ้น ๓. ครูมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ๔. ผู้เรียนได้รับความรู้เต็มตามศักยภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น


๑๐ บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง หลักและแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนินโครงการ การพัฒนาคุณภาพภายในโรงเรียนนั้น ประเด็นสำคัญอยู่ที่การพัฒนาให้ตรงกับสภาพความ ต้องการ และการแก้ปัญหาที่เป็นปัญหาที่แท้จริงของโรงเรียนนั้น ๆ ดังนั้น การกำหนดจุดที่ต้องพัฒนา หรือการแก้ปัญหาต้องเกิดจากความร่วมมือของบุคลากรในโรงเรียน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่กับปัญหา หรือมอง ภาพการพัฒนาที่ต้องการให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง การกำหนดกระบวนการแก้ปัญหา กระบวนการพัฒนาจึงต้องเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพความต้องการ สภาพปัญหา กำหนดเป้าหมาย การพัฒนา กำหนดวิธีการพัฒนา และร่วมกันสรุปถึงผลที่เกิด เพื่อนำไปวางแผนพัฒนางานต่อไป การ ทำงานจึงต้องอาศัยผู้นำหรือทีมผู้นำในโรงเรียนที่เป็นที่ยอมรับของบุคลากรในโรงเรียน ให้เป็นผู้นำใน การพัฒนางาน และต้องการมีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง จึงจะเห็นผลสำเร็จตาม เป้าหมาย โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ตระหนักถึงความสำคัญของสภาพการทำงานข้างต้น และให้ ความสำคัญกับกระบวนการทำงาน เพื่อพัฒนาคุณภาพงานวิชาการ ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญของ การดำเนินงานในโรงเรียน และเห็นว่าการทำงานโดยทีมบุคลากรในโรงเรียนจะสามารถพัฒนาและ แก้ปัญหาการทำงานได้ตรงมากที่สุด นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 1. ปรับรื้อและเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารจัดการ โดยมุ่งปฏิรูปองค์การ เพื่อหลอมรวม ภารกิจ และบุคลกร เช่น ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านการต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยี ด้านกฎหมาย ฯลฯ ที่สามารถ ลด การใช้ทรัพยากรทับซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นเอกภาพ รวมทั้งการนำ เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยทั้ง การบริหารงานและการจัดการศึกษารองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัล ๒. ปรับรื้อและเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารทรัพยากร โดยมุ่งปฏิรูปกระบวนการวางแผน งาน/โครงการ แบบร่วมมือและบูรณาการ ที่สามารถตอบโจทย์ของสังคมและเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งกระบวนการจัดทำ งบประมาณที่มีประสิทธิภาพและใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า ส่งผลให้ภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกซน และนานาชาติ เชื่อมั่นและร่วมสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษามาก ยิ่งขึ้น 3. ปรับรื้อและเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารจัดการและพัฒนากำลังคนของ กระทรวงศึกษาธิการ โดย มุ่งบริหารจัดการอัตรากำลังให้สอดคล้องกับการปฏิรูปองค์การ รวมทั้ง พัฒนาสมรรถนะและความรู้ความ สามารถของบุคลกรภาครัฐ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน รองรับความเป็นรัฐบาลดิจิทัล


๑๑ ๔. ปรับรื้อและเปลี่ยนแปลงระบบการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ โดยมุ่งให้ครอบคลุมถึง การจัด การศึกษาเพื่อคุณวุฒิ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สมารถตอบสนองการเปลี่ยนแปลงใน ศตวรรษที่ ๒1 ๕. ดำเนินการปลดล็อก ปรับเปลี่ยน เปิดกว้าง ที่เป็นเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผลตาม นโยบาย "การศึกษายกกำลังสอง (Thailand Education ECO - System : TE2 S) การศึกษาที่เข้าใจ Supply และตอบ โจทย์ Demand" โดย - ปลดล็อก กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกัน ระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสัมพันธ์ให้สามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ อย่างรวดเร็ว รวมถึงการบริหารการศึกษาของประเทศให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ - ปรับเปลี่ยน หลักสูตรการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถและ ศักยภาพ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ปรับเปลี่ยนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาผ่าน ศูนย์พัฒนา ศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) เพื่อให้ครูUp Skill และ Re-Skill ของตนเองได้ตลอดเวลา ทั้งนี้ เพื่อส่งต่อความรู้ไปยังผู้เรียนให้เป็น คนดีคนเก่ง และคนที่มีคุณภาพ - เปิดกว้าง เสรีทางการศึกษาให้ภาคเอกชนที่มีคุณภาพเข้ามามีส่วนร่วมในการ พัฒนา การศึกษาร่วมประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนผ่านศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็น เลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) จากแพลตฟอร์มดิจิทัล (Digital Education Excellence Platform : DEEP) ให้ครอบคลุมผู้เรียนทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อนำไปสู่นักเรียนยกกำลังสอง ที่เน้นเรียนเพื่อรู้พัฒนาทักษะ เพื่อทำครูยกกำลังสอง ที่เน้นเพิ่ม คนเก่งมาเป็นครู พัฒนาครูในระบบ ห้องเรียนยกกำลังสองที่เน้นเรียนที่บ้าน ถามที่ โรงเรียนหลักสูตรยกกำลัง สองที่เน้นลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ สื่อการเรียนรู้ยกกำลังสอง ที่เน้น เรียนผ่านสื่อผสมผสานผ่านช่องทางที่ หลากหลาย ได้แก่ On Site เรียนที่โรงเรียน On-line เรียน ออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มด้านการศึกษา เพื่อความเป็นเลิศ (Digital Education Excellence Platform : DEEP) ที่มีเนื้อหามาตรฐานจากผู้ผลิตที่เป็นภาคเอกชน Oก Air เรียนผ่านโทรทัศน์ DLTV มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม โดยเนื้อหามาตรฐานจากผู้ผลิตที่เป็นภาคเอกชน และ On-Demand ซึ่งสามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลาที่มีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เชื่อมต่อโรงเรียน ยก กำลังสอง ที่มุ่งเน้นคุณภาพในโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ เพื่อความเป็นเลิศทางภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิสาหกิจชุมชน ที่เน้นคุณภาพของวิทยาลัยอาชีวศึกษา เพื่อความเป็นเลิศ และความเชี่ยวชาญที่สามารถตอบโจทย์ทักษะ และความรู้ที่เพิ่มความเชี่ยวชาญ ในการปฏิบัติงาน นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามแผน แม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๘๐) และแผนปฏิรูปประเทศ ด้านการศึกษา กำหนดให้มีการพัฒนาเด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัยให้มีสมรรถนะและคุณลักษณะที่ดี สมวัยทุกด้านโดยการ ปฏิรูป กระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ ๒๑ ตระหนักถึงพหุปัญญา


๑๒ ของมนุษย์ที่ หลากหลาย มีเป้าหมายให้ผู้เรียนทุกกลุ่มวัยได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มี ทักษะที่จำเป็นของโลก อนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี ประสิทธิผลมีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต รวมทั้งเป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและหน้าที่ มี ความรับผิดชอบและ มีจิตสาธารณะ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ เป็น "การศึกษาขั้นพื้นฐานวิถีใหม่ วิถีคุณภาพ" มุ่งเน้นความปลอดภัยในสถานศึกษา ส่งเสริมโอกาส ทางการศึกษา ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม และบริหารจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกำหนด นโยบายสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ - ๒๕๖๕ ดังนี้ ๑. ด้านความปลอดภัย พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา และสถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึงการจัด สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดีสามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ ๒. ด้านโอกาส ๒.1 สนับสนุน ให้เด็กปฐมวัยได้เข้าเรียนทุกคน มีพัฒนาการที่ดี ทั้งทางร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ให้สมกับวัย ๒.๒ ดำเนินการ ให้เด็กและเยาวชนได้รับการศึกษาจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน อย่าง มีคุณภาพตามมาตรฐาน วางรากฐานการศึกษาเพื่ออาชีพ สามารถวิเคราะห์ตนเองเพื่อการศึกษาต่อ และ ประกอบอาชีพตรงตามศักยภาพและความถนัดของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนที่มี ความสามารถ พิเศษสู่ความเป็นเลิศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ๒.๓ พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่อยู่ในการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อ ป้องกันไม่ให้ออกจากระบบการศึกษา รวมทั้งช่วยเหลือเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคันให้ได้รับ การศึกษาชั้นพื้นฐาน อย่างเท่าเทียมกัน ๒.๔ ส่งเสริมให้เด็กพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพ มีทักษะ ในการดำเนินชีวิต มีพื้นฐานในการประกอบอาชีพ พึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง 3. ด้านคุณภาพ 3.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะการเรียนรู้และทักษะที่ จำเป็นของ โลกในศตวรรษที่ ๒๑ อย่างครบถ้วน เป็นคนดี มีวินัย มีความรักในสถาบันหลักของชาติ ยึดมั่นการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีทัศนคติที่ถูกต้อง ต่อบ้านเมือง 3.๒ พัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะด้านการอ่าน คณิตศาสตร์ การคิดชั้นสูง นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดิจิทัล และภาษาต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขัน และการเลือกศึกษาต่อเพื่อการมีงานทำ ๓.3 ปรับหลักสูตรเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะหลักที่ จำเป็นในแต่ ละระดับ จัดกระบวนการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริง รวมทั้งส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่


๑๓ สร้างสมดุลทุกด้าน ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาพหุปัญญา พัฒนาระบบการวัดและประเมินผล ผู้เรียนทุกระดับ 3.4 พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้เป็นครูยุคใหม่ มีศักยภาพในการ จัดการเรียนการ สอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ มีทักษะในการปฏิบัติหน้าที่ได้ดี มีความรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาตนเองทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีจิต วิญญาณความเป็นครู ๔. ด้านประสิทธิภาพ ๔.๑ พัฒนาระบบบริหารจัดการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน มีนวัตกรรมเป็นกลไกหลักใน การ ขับเคลื่อนบนฐานข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง ทันสมัย และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ๔.๒ พัฒนาโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง โรงเรียนคุณภาพของชุมชน โรงเรียนขนาด เล็กและ โรงเรียนที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) ให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับบริบท ของพื้นที่ ๔.๓ บริหารจัดการโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา ที่มีจำนวนนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ น้อยกว่า ๒๐ คน ให้ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบาย โรงเรียนคุณภาพของชุมชน 4.๔ ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพในสถานศึกษาที่มีวัตถุประสงค์เฉพาะ และ สถานศึกษาที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ ๔.๕ สนับสนุนพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาให้เป็นต้นแบบการพัฒนานวัตกรรม การศึกษา และ การเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๔.๖ เพิ่มประสิทธิภาพการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต ๑ การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานีเขต ๑ นโยบายที่ 1 ด้านการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของมนุษย์และของชาติ นโยบายที่ 2 ด้านการจัดการศึกษาเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ นโยบายที่ 3 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ นโยบายที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานและ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา นโยบายที่ 5 ด้านการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นโยบายที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษา


๑๔ กระบวนการและขั้นตอนการนิเทศ โรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ นำแนวทางกระบวนการ นิเทศแบบ PLC (Professional Learning Community) มาใช้ในการนิเทศ โดยใช้วงจรคุณภาพ (PDCA) ในการติดตามตรวจสอบ ดังนี้ 1. ขั้นเตรียม (Plan) 1.1 ประชุมปฏิบัติการเพื่อวางแผนปฏิบัติการ เพื่อจัดทำโครงการนิเทศภายใน โรงเรียน 1.2 จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อจัดทำโครงการ นิเทศภายในโรงเรียน ปีงบประมาณ 256๕ 1.3 ประชุมคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการ เพื่อจัดทำโครงการนิเทศภายใน โรงเรียน และเสนอความเห็นชอบต่อคณะกรรมการนิเทศ ติดตาม ตรวจสอบประเมินผลการจัด การศึกษา 1.4 ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องตามขอบเขตเนื้อหาและประเด็นที่จะดำเนินการ นิเทศ 1.5 สร้างเครื่องมือนิเทศให้สอดคล้อง ครอบคลุม เนื้อหาตามประเด็นที่จะนิเทศ 1.6 ประชุมคณะกรรมการนิเทศตามคำสั่ง เพื่อชี้แจงแนวทางการดำเนินการ นิเทศ 2. ขั้นปฏิบัติการนิเทศ (Do) คณะผู้นิเทศปฏิบัติการนิเทศรายสถานศึกษาตาม ลำดับ ดังนี้ 2.1 ผู้นิเทศทุกคนพบผู้บริหารสถานศึกษาหรือผู้รักษาราชการแทน เพื่อแจ้ง วัตถุประสงค์ ชี้แจงขั้นตอนการนิเทศ และเครื่องมือนิเทศ 2.2 ดำเนินการนิเทศติดตามขอบเขตเนื้อหาการนิเทศ และเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้เครื่องมือนิเทศที่กำหนด 2.3 ประชุมสะท้อนผลการนิเทศ แก่ผู้บริหารสถานศึกษาและครู หลังจาก ดำเนินการ ตามขั้นตอนครบทุกรายการแล้ว โดยมีการสรุปผลด้วยวาจา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ ข้อเสนอแนะเพื่อนำไป วางแผนพัฒนาต่อไป 3. ขั้นตรวจสอบข้อมูลและสรุปการนิเทศ (Check) 3.1 รวบรวมข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือการนิเทศ สรุปผลการนิเทศ 3.2 ประชุมปฏิบัติการคณะกรรมการ เพื่อการวิเคราะห์ ประมวลผลและสรุปผล การนิเทศร่วมกัน 3.3 สรุป และจัดทำเอกสารรายงานผลการนิเทศระดับโรงเรียน 4. ขั้นทบทวนและปรับปรุงการปฏิบัติงาน (Act) 4.1 นำเสนอรายงานผลการนิเทศต่อผู้บังคับบัญชา 4.2 ใช้ผลการนิเทศ เพื่อกำหนดแนวทาง วางแผน เตรียมการนิเทศครั้งต่อไป


๑๕ เทคนิคการนิเทศ 1. การนิเทศโดยใช้เทคนิคการโค้ช (Coaching) เป็นการดึงศักยภาพของผู้รับการโค้ช เพื่อ ขับเคลื่อนกระบวนการเรียนการสอนและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ด้วยการทำให้ผู้รับการ โค้ช ตระหนักในความสามารถของตนเอง และมีการสร้างแรงจูงใจให้เกิดแรงบันดาลใจ(Inspiration) สามารถกำหนดวิธีปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายด้วยวิธีของตนเอง หรือสามารถสร้างทางเลือกในการ ปฏิบัติงานที่เกิดจาก กระบวนการโค้ชได้อย่างเหมาะสม ผู้ที่ทำหน้าที่โค้ชสามารถพัฒนาการคิดอย่างเป็นระบบด้วยการใช้คำถาม เสนอแนะทางเลือก กำกับให้ไปสู่เป้าหมายด้วยการกระทำที่เป็นระบบ พร้อมทั้งบันทึกข้อมูลการสะท้อนการคิดเพื่อใช้เป็น ข้อมูล การพัฒนาและเรียนรู้ร่วมกัน โค้ชจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงตนเองก่อนไปเปลี่ยนแปลงคนอื่น โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในเรื่องขอบข่ายของงานและภารกิจที่รับผิดชอบ มีการสร้างการเรียนรู้โดยการนำ ตนเอง (Self directed learner) เพื่อพัฒนาตนเอง เพื่อนร่วมงาน และผู้เกี่ยวข้องในองค์กรใน ช่วงเวลาสำคัญแห่งการเปลี่ยนแปลง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของงานดังกล่าว สมาชิกในองค์กรหรือ ผู้รับการโค้ชจะต้องการสนับสนุนจากโค้ช ในลักษณะการโค้ช (coaching) โดยใช้เทคนิคการชี้แนะ สะท้อนการคิด (reflective coaching) ในการโค้ช โค้ชต้องสร้างความพร้อมให้กับตนเองมากยิ่งขึ้น เกี่ยวกับเทคนิคการโค้ช เพื่อส่งเสริมการการเปลี่ยนแปลง ตนเองตนเองและผู้รับการโค้ชในการ ขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคการโค้ชแบ่งเป็น 2 แบบ คือ 1) การโค้ชแบบรายบุคคล (face to face coaching) 2) การโค้ชแบบกลุ่ม (Group Coaching) โดยมีขั้นตอนสำคัญ 5 ขั้น หรือ เรียกว่า บันได 5 ขั้น คือ 1) การสร้างความคุ้นเคยและข้อตกลงร่วมกัน (Appreciate Rapport) สร้าง ความคุ้นเคย ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและสร้างสรรค์อย่างกัลยาณมิตร และสร้างข้อตกลงระหว่างผู้รับ การโค้ชให้ทราบถึง บทบาทของการโค้ชและผู้รับการโค้ช เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน 2) การสร้างความตระหนักรู้และประเมินตนเองระหว่างโค้ชและผู้รับการโค้ช กำหนด เป้าหมายผลลัพธ์ และแผนดำเนินการ การร่วมกันสร้างความตระหนักรู้โดยการใช้คำถาม สะท้อนคิด (Reflective Thinking) เพื่อประเมินบริบทและความพร้อมของโค้ชและผู้รับการโค้ชให้ เกิดการยอมรับในด้าน ที่เป็นจุดแข็งและจุดที่ร่วมกันพัฒนา แล้วกำหนดเป้าหมาย ผลลัพธ์ และ แผนปฏิบัติการ (Action Plan) ที่จะเดินไปสู่กระบวนการสร้างการเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนการ ดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 3) ดำเนินการโค้ช (Coaching) การดำเนินการโค้ชตามแผนที่ร่วมกันกำหนด แนวทาง การขับเคลื่อนการดำเนินงาน ในขั้นตอนนี้โค้ชจะต้องให้หลักการ ทฤษฎีต่างๆ องค์ความรู้ แนวความคิดและ ประสบการณ์ตรงของตัวเองที่ได้สะสมมาในขณะที่เริ่มต้นการโค้ชโดยเริ่มจากการ รับฟัง (Listening) สิ่งที่ผู้รับ การโค้ชได้ดำเนินการผ่านมาแล้วระยะหนึ่ง และร่วมกันกำหนดเป้าหมาย โดยการตั้งคำถามสะท้อนการคิด (Questioning & reflective thinking) ของผู้รับการโค้ช และต่อ ยอดการคิดโดยให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feed back ) ตลอดจนการกระตุ้น สร้างแรงจูงใจ (Motivation) และสร้างแรงบันดาลใจ (Inspiration) ให้ผู้รับการโค้ชดำเนินการตามแผนปฏิบัติการของตนเองที่ กำหนดไว้ และตรวจสอบความก้าวหน้า พร้อมทั้ง ปรับปรุงแผนตามความเหมาะสม ซึ่งอาจจำเป็นต้อง ใช้การโค้ชหลายครั้งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ตั้งไว้


๑๖ 4) การประเมิน ทบทวนและสร้างความเชื่อมั่นระหว่างผู้โค้ชและผู้รับการโค้ช จาก บทบาท ที่โค้ชเป็นเพื่อนผู้สะท้อนความคิด (Reflective Thinking) จะมีการประเมินผลเพื่อทบทวน กระบวนการ ดำเนินการตามแผนและการประเมินตนเองรวมถึงบริบทที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อน การดำเนินงาน ระหว่าง โค้ชและผู้รับการโค้ช จนสามารถปรับปรุงแผนปฏิบัติการ (Action Plan) และสร้างแนวทางใหม่ รวมถึงขั้นตอน และกิจกรรมต่าง ๆ แนวทางการประเมินความก้าวหน้าของ เป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการว่าเป็นไปตามแผน ที่กำหนดไว้หรือไม่ 5) การสื่อสารทางบวก ชื่นชมและเห็นคุณค่าของความสำเร็จในระหว่างการโค้ช จะ มีการ สื่อสารทางบวก ชื่นชมและเห็นคุณค่าของความสำเร็จเมื่อกิจกรรมเป็นไปตามแผนและถึง เป้าหมาย ระหว่างการโค้ชมีการให้ข้อเสนอแนะเท่าที่จำเป็น ตั้งแต่ 2 ทางเลือกขึ้นไปเพื่อเป็นแนวทาง ที่จะช่วยในการปูพื้นฐาน ต่าง ๆ ในการโค้ชทำให้เห็นว่าสิ่งใดที่เหมาะสม เป็นที่ต้องการหรือจำเป็น เพื่อให้ผู้รับการโค้ชสามารถต่อยอด ความคิดให้ถึงเป้าหมายได้ ซึ่งการสอบถามจะเป็นไปเพื่อค้นหา โอกาสที่จะมุ่งไปสู้การกระทำเชิงรุกมากกว่า การตั้งรับ โดยโค้ชจะทำการกระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจ ท้าทายความคิดและการกระทำของผู้รับการโค้ช ให้กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก เพื่อการ เปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น 2. การนิเทศแบบร่วมพัฒนา การนิเทศแบบร่วมพัฒนา คือ ปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศระหว่างผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์และครู ในกระบวนการนิเทศการศึกษาที่มุ่งแก้ปัญหาและพัฒนาการเรียนการสอนอย่าง เป็นระบบ โดยใช้เทคนิคการนิเทศการสอนเป็นปัจจัยหลัก บนพื้นฐานของสัมพันธ์ภาพแห่งการร่วมคิด ร่วมทำ พึงพา ช่วยเหลือ ยอมรับซึ่งกันและกัน ให้เกียรติและจริงใจต่อกันระหว่างผู้นิเทศ ผู้สอนและ คู่สัญญา เพื่อร่วมกัน พัฒนาทักษะวิชาชีพ อันจะส่งผลโยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ลักษณะสำคัญของการนิเทศแบบร่วมพัฒนา เป็นปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศจากใจถึงใจ บน พื้นฐานของความรัก ความเข้าใจและความจริงใจต่อกันในการพัฒนาทักษะวิชาชีพ ซึ่งมีลักษณะสำคัญ ดังนี้ 1) เป็นการนิเทศที่พัฒนามาจากการผสมผสานกันระหว่างการนิเทศจากบุคลากร ภายนอก และการนิเทศภายในโรงเรียน โยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการพัฒนาคุณภาพการเรียนการ สอนด้วยวิธีการ ที่เป็นระบบและมีขั้นตอนการดำเนินงานที่ชัดเจน 2) ในกระบวนการปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศแบบร่วมพัฒนา จะมีศูนย์กลางอยู่ที่ตัว ครูใน กลุ่มสาระการเรียนรู้และโรงเรียน ซึงมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกัน เช่น หัวหน้ากุล่มสาระการ เรียนรู้มีหน้าที่เป็น ผู้นิเทศหรือคู่สัญญา (ถ้าผู้รับนิเทศต้องการ) เพื่อนครูที่สนิทสนมไว้วางใจกันและ พร้อมที่จะร่วมมือกันในการ พัฒนาทักษะวิชาชีพ มีบทบาทหน้าที่เป็นคู้สัญญา และครูที่มีความสนใจ ต้องการมีส่วนร่วมแต่ยังขาด ความพร้อม สามารถมีส่วนร่วมได้ในบทบาทของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ และมีเครือข่ายที่เป็นบุคลากร จากภายนอก เช่น ศึกษานิเทศก์ หรือครูผู้ร่วมนิเทศ ซึ่งก็จะมีบทบาท เป็นผู้นิเทศหรือที่ปรึกษา 3) เป็นรูปแบบการนิเทศที่ให้ความสำคัญทั้งกระบวนการนิเทศทั่วไป และ กระบวนการนิเทศ การสอน โดยทั้งสองกระบวนการจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน และส่งผลให้


๑๗ คุณภาพการจัดการเรียนการสอนดีขึ้น และสำหรับการนิเทศการสอนในรูปแบบของการนิเทศแบบ ร่วมพัฒนานี้ ได้พัฒนามาจากแนวคิดในการนิเทศการสอนแบบคลินิก และการนิเทศเชิงเน้น วัตถุประสงค์ 4) เป็นการวมกลุ่มกัน เพื่อพัฒนาวิชาชีพของครู ที่มีความรับผิดชอบต่อวิชาชีพ สูง และมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาความเจริญงอกงามทางวิชาชีพ โดยกำหนดเป็นโครงการ นิเทศ มีระยะเวลาในการดำเนินงานสามารถติดตามผลการปฏิบัติงานได้ ซึ่งผู้บริหารสถานศึกษา และผู้นิเทศจะต้องรับรู้มีส่วนร่วมในการติดตามผลให้ความสนับสนุน และอำนวยความสะดวก 5) การสังเกตการสอนในกระบวนการนิเทศแบบร่วมพัฒนา ผู้นิเทศต้องไม่สร้าง ภาพลักษณ์ ในการวัดผล หรือประเมินผลการสอน แต่จะเป็นการบันทึก และอธิบายภาพที่เกิดขึ้น ในห้องเรียน ว่าผู้สอนมีพฤติกรรมอย่างไร มากน้อยเท่าใด ไม่ใช่ดีหรือไม่ดีอย่างไร เพราะไม่ต้องการ ให้ครูเกิดความรู้หวั่นกลัวการประเมินและวิตกกังวลต่อปฏิสัมพันธ์ทางการนิเทศ 6) การวิเคราะห์พฤติกรรมการสอนของครู จะต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ ได้จากการ สังเกตการสอนไม่ใช่จากความคิดเห็นส่วนตัว ค่านิยม หรือประสบการณ์ของผู้นิเทศเอง 7) การใช้ข้อมูลป้อนกลับ หลังจากการสังเกตการสอน และการวิเคราะห์พฤติกรรม การสอน ผู้นิเทศจะใช้เทคนิคนิเทศทางอ้อม เพื่อพัฒนาให้ครูสามารถวางแผนการสอนได้เอง วิเคราะห์การสอนของตนเองได้ ประเมินผลการสอนของตนเองได้ และสามารถนิเทศตนเองได้ในที่สุด 8) การปฏิบัติการนิเทศ ยึดหลักการนิเทศแบบมีส่วนร่วม คือ ทั้งผู้นิเทศและผู้รับ การนิเทศ จะทำงานร่วมกันทั่งกระบวนการ ตั้งแต่การหาความต้องการจำเป็นในการนิเทศ การ กำหนดวัตถุประสงค์ ใน การนิเทศ การวางแผนการนิเทศ การดำเนินการนิเทศและการประเมินผล การนิเทศด้วยความเสมอภาคกัน ยอมรับ ยกย่อง ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ในฐานะผู้ร่วมวิชาชีพ 3. การนิเทศแบบบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน การนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา การพัฒนา คุณภาพ การศึกษาจะสำเร็จได้ตามเป้าหมาย จำเป็นต้องมีองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนา คือ กระบวนการบริหาร กระบวนการจัดการเรียนรู้ และกระบวนการนิเทศ ที่ต้องร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริมไปด้วยกันในลักษณะของ “เกลียวเชือก” กระบวนการนิเทศการศึกษา เป็นกระบวนการที่ทำ ให้เกิดการพัฒนาและปรับปรุง กระบวนการเรียนการสอนของครู โดยมุ่งให้เกิดการจัดการเรียนรู้ ที่มี ประสิทธิภาพ ส่งผลถึงคุณภาพของผู้เรียน กระบวนการนิเทศการศึกษาช่วยทำให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางาน สร้างการประสานสัมพันธ์ และ ขวัญกำลังใจ ซึ่งต้องดำเนินงานให้ประสานสัมพันธ์กับ กระบวนการ อื่นในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุตามเป้าหมาย ทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ถาวร การนิเทศ ๕ ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ ๑ การศึกษาสภาพปัจจุบันปัญหาและความต้องการ เป็นการกำหนดปัญหา และความ ต้องการในแก้ปัญหาหรือพัฒนา ดังนี้ ๑.๑ การจัดทำข้อมูลสารสนเทศพื้นฐาน เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา วางแผน การดำเนินงาน


๑๘ ๑.๒ การแลกเปลี่ยนระดมความคิด วิเคราะห์เพื่อหาสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น และ ความต้องการในการพัฒนาตามบริบทของหน่วยงาน ๑.๓ การจัดลำดับปัญหาและเลือกปัญหาที่เป็นความจำเป็นหรือต้องการใน ลำดับ เร่งด่วนหรือลำดับที่เห็นว่าสำคัญที่สุด ๑.๔ การสร้างการรับรู้ระหว่างผู้นิเทศ และผู้รับการนิเทศ ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การประชุม การสัมมนา ฯลฯ เพื่อสร้างวิสัยทัศน์หรือสร้างเป้าหมายร่วมกันในการดำเนินงาน ขั้นที่ ๒ การวางแผนการนิเทศ เป็นการนำปัญหาและความต้องการ กำหนด รายละเอียดของ กิจกรรมในการจัดทำแผนนิเทศ ดังนี้ ๒.๑ กำหนดแนวทาง/วิธีการการพัฒนาที่หลากหลายตามปัญหาที่เกิดขึ้น ตามความ ต้องการและจำเป็น มีการใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้วิชาทางวิชาชีพ (Professional Learning Community : PLC) และการศึกษาชั้นเรียน (Lesson Study) เป็นเครื่องมือสำคัญในการ พัฒนาวิชาชีพครูและ การพัฒนาผู้เรียนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ๒.๒ เลือกแนวทาง/วิธีการในการพัฒนาโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้อง ๒.๓ วางแผนการดำเนินงานพัฒนา ๑) การประชุมเตรียมการนิเทศ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจร่วมกัน ๒) สร้างคณะนิเทศ เป็นทีมงานในการนิเทศร่วมกัน ๓) กำหนดประเด็นการนิเทศ เป็นการกำหนดเนื้อหาที่จะนิเทศ ๔) กำหนดระยะเวลาในการนิเทศ โดยกำหนดระยะเวลาในการนิเทศ ที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหาและการพัฒนา ๕) กำหนดวิธีการนิเทศและกิจกรรมการนิเทศที่เหมาะสมตามสภาพ ปัญหาและ ความต้องการ เช่น การประชุมสัมมนา การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสังเกตชั้นเรียน การ สาธิต การบันทึกวิดีโอ และการถ่ายภาพ การสัมภาษณ์ การ Coaching & Mentoring ฯลฯ โดยเน้น การใช้ ICT ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การใช้ Line Application, Clip Video, Conference, Video Line YouTube, Facebook Live เป็นต้น ๒.๔ จัดทำแผนนิเทศ ประกอบด้วย หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ เป้าหมาย แผนการดำเนินการ กิจกรรมสำคัญ ปฏิทินการปฏิบัติงาน ทรัพยากรที่ ต้องการ เครื่องมือนิเทศ ผลที่คาดว่า จะได้รับ ขั้นที่ ๓ การสร้างสื่อและเครื่องมือนิเทศ สื่อและเครื่องมือนิเทศเป็นสิ่งที่จะช่วยให้ การนิเทศ มีประสิทธิภาพบรรลุวัตถุประสงค์ และเป็นสิ่งที่จะช่วยเก็บรายละเอียดที่ผู้รับการนิเทศไม่ สามารถแสดงออก มาได้และสามารถเก็บข้อมูลนำมาเปรียบเทียบผลที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการ พัฒนาและสิ่งที่ทำให้มีความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ ๓.๑ สร้างสื่อการนิเทศที่ทำให้การนิเทศบรรลุวัตถุประสงค์ เช่น วิธีการ นิเทศทักษะ การนิเทศเทคนิคการนิเทศ โดยเป็นสื่อที่สอดคล้องคล้องในยุคศตวรรษที่ ๒๑ เน้นการใช้ ICT ในรูปแบบต่างๆ เช่น การใช้Line Application, Clip Video, Conference, Video Line YouTube, Facebook Live เป็นต้น


๑๙ ๓.๒ สร้างเครื่องมือการนิเทศ เพื่อเก็บข้อมูลเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา และพัฒนาตรวจสอบติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงาน และการประเมินผลการดำเนินงาน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีคุณภาพ ใช้ง่าย สามารถเก็บข้อมูลที่ตอบประเด็นปัญหาความต้องการ และเป็น ประโยชน์ในการแก้ปัญหา ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ขั้นที่ ๔ การปฏิบัติการนิเทศ ดำเนินการนิเทศ ตามวิธีการการนิเทศและกิจกรรม การนิเทศ ที่กำหนด ๔.๑ ประชุมเตรียมการก่อนการนิเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจของผู้นิเทศให้ การนิเทศ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ๔.๒ นิเทศตามขั้นตอน ระยะเวลา และใช้เครื่องมือตามที่กำหนด ๔.๓ การสะท้อนผลการนิเทศ ๔.๔ ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงาน ขั้นที่ ๕ การประเมินผล และรายงานผล ๕.๑ ประเมินความก้าวหน้าของการดำเนินงาน เช่น การดำเนินงานของ ผู้รับการนิเทศ เพื่อนำผลไปปรับปรุงแนวทางการดำเนินงาน ๕.๒ ประเมินผลการนิเทศ เมื่อเสร็จสิ้นการปฏิบัติการนิเทศตามระยะเวลา ที่ต้องการ ในการนำผลไปใช้ในการพัฒนา หรือในแต่ละปีการศึกษา ๕.๓ รายงานผลการนิเทศต่อผู้เกี่ยวข้อง ๕.๔ นำผลการนิเทศที่เป็นปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะไปพัฒนาการ นิเทศในครั้งต่อไป หรือในปีการศึกษาต่อไป 4. การนิเทศรูปแบบออนไลน์การนิเทศออนไลน์เกิดขึ้นหลังจากการเปลี่ยนแปลงของสังคม โลกอย่างรวดเร็ว ระบบการสื่อสารไร้พรมแดน สังคมเปลี่ยนเป็นสังคมยุคดิจิทัล ปัจจัยเหล่านี้ส่งผล ต่อรูปแบบการใช้ชีวิตของบุคคล และวิธีการทำงานของบุคคล เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการที่ รวดเร็ว ทันเวลา เพื่อขจัดปัญหาและอุปสรรคในเรื่อง เวลา และระยะทางอันจะส่งผลต่อ ความสำเร็จของงาน จุดเด่นของการติดต่อสื่อสารผ่านระบบดิจิทัล ที่สามารถทำได้เพียงเสี้ยววินาที ทำให้เกิดรูปแบบการทำงานแบบใหม่ๆของคนรุ่นใหม่ และเกิดขึ้นในหลากหลาย สาขาวิชา อาทิเช่น ด้านการแพทย์เริ่มมีการนำระบบดิจิทัลมาใช้ในการรักษาพยาบาลคนไข้ที่อยู่สถานที่ที่ห่างไกล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน ในการทำงานเป็นทีม ที่ต้องใช้ สหวิทยาการ และบุคคลเหล่านั้นที่อยู่คนละพื้นที่ เช่น มีระบบการผ่าตัดด้วยระบบกลไกหุ่นยนต์ที่ต้อง อาศัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่หลากหลายสาขาในการทำงานทางด้านการศึกษาก็มี เครื่องมือการนิเทศออนไลน์ได้แก่ 1. Microsoft Teams ความสามารถของโปรแกรมนี้ครอบคลุมมาก สามารถใช้ สำหรับการจัดการเรียนการสอนได้เต็มรูปแบบ ส่งงาน ส่งการบ้าน ครูตรวจงาน Video Call ดู ย้อนหลังได้ ใช้ในเครื่อง PC หรือ โหลด App บน มือถือได้ 2. Google Hangouts Meet ความสามารถของโปรแกรมนี้เหมาะสำหรับการ ประชุมทรัพยากรอินเทอร์เน็ตน้อย มีเมนูน้อย ทำให้ผู้ใช้งานไม่สับสน บันทึกการประชุมได้ สามารถ


๒๐ Call ได้ มากถึง 250 คน เมื่อสิ้นสุดการประชุมระบบจะ ส่ง Video ที่บันทึก ไปยัง Email ใช้ใน เครื่อง PC หรือ โหลด App บนมือถือได้ 3. Zoom Cloud Meetings ความสามารถของโปรแกรมนี้เหมาะสำหรับการ ประชุมสามารถ VDO Call แชร์หน้าจอกันได้ใช้ในเครื่อง PC หรือ โหลด App บนมือถือได้ 4. Line ความสามารถของโปรแกรมนี้เหมาะสำหรับ Video Call ได้ คุยงาน แชท ส่งงานกันได้ในกลุ่ม ใช้งานง่าย ใช้ในเครื่อง PC หรือ โหลด App บนมือถือได้ 5. Facebook Live ความสามารถของโปรแกรมเหมาะสำหรับ ถ่ายทอดสดบน Facebook เพื่อแพร่ภาพ การสนทนา ประสิทธิภาพ การถามตอบ หรืองานกิจกรรมแบบออนไลน์ เมื่อแพร่ภาพสด ผู้ร่วมสนทนา จะสามารถเข้าร่วมการสนทนาและถามคำถาม แสดงความคิดเห็น แสดงความรู้สึก หรือดูไปพร้อมกันได้แบบ เรียลไทม์ ความหมายของการนิเทศ “การนิเทศการศึกษา” (General Supervision) หมายถึง นิเทศทั่ว ๆ ไป ที่ครอบคลุม ภารงานด้านการศึกษาในทุกเรื่อง ทุกระดับ อาทิ การพัฒนาหลักสูตร การจัดระบบการเรียนการสอน การจัดครูเข้าสอน การจัดสื่อและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ การปฐมนิเทศครูใหม่ การพัฒนา ช่วยเหลือนักเรียน การวัดผลประเมินผล เป็นต้นการช่วยเหลือ ชี้แนะ พัฒนา หรือความพยายามทุก อย่างที่จะช่วยให้ครู ผู้บริหาร ผู้เกี่ยวข้อง สามารถพัฒนางานด้านการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการร่วมมือกันทำงานมากกว่าการใช้อำนาจสั่งการ (ชารี มณีศรี. 2521) “ นิเทศการสอน” (Instructional supervision) หมายถึง การช่วยเหลือ แนะนำ ให้ครู สามารถปรับปรุงการสอน ปรับปรุงวิธีการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเป้าหมายของการศึกษาได้ ซึ่งใน การนิเทศการสอนนี้เป็นการทำงานร่วมกับครูโดยตรง หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือ “กระบวนการและ ความคิดรวบยอดที่จะปรับปรุงการสอนของครู เพื่อผลประโยชน์ของนักเรียนในอันที่จะเพิ่ม ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการเรียนรู้ให้สูงขึ้น” (นิพนธ์ ไทยพานิช, 2535) “การนิเทศภายใน” (Line supervision) กระบวนการที่อาศัยความร่วมมือของบุคลากรใน โรงเรียนภายใต้การนำของผู้บริหารโรงเรียน ในอันที่จะพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน จนบุคลากร ทุกฝ่ายสามารถนำตนเองในการปฏิบัติงานได้ และก่อให้เกิดผลขั้นสุดท้ายคือการศึกษาของเด็ก ก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ (ธีรวุฒิ ประทุมรัตน์ และคณะ. 2533) หลักการนิเทศ การนิเทศในทุกระดับมีหลักการ (Principles) สำคัญ ๆ ดังนี้ ๑. มีความถูกต้องตามหลักวิชา (Theoretically) เป็นไปตามค่านิยม วัตถุประสงค์ นโยบาย ที่เกี่ยวข้อง เป็นไปตามความจริงและกฎเกณฑ์ของเรื่องนั้น ๆ มีวิวัฒนาการในด้านเครื่องมือ วิธีการ และมีจุดประสงค์ที่แน่นอน ๒. การนิเทศควรเป็นวิทยาศาสตร์ (Scientific) มีลำดับขั้นตอนภายในขอบเขตของงาน ข้อมูลที่ได้ต้องมีความถูกต้อง เชื่อถือได้


๒๑ ๓. การนิเทศควรเป็นประชาธิปไตย (Democratic) คือเคารพในความแตกต่างของคน เปิด โอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ใช้อำนาจน้อยที่สุด ๔. การนิเทศต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ (Creative) การนิเทศควรเป็นการแสวงหา ความสามารถพิเศษของแต่ละคน เปิดโอกาสให้แสดงความสามารถนั้น และต้องเป็นการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานให้มากที่สุด (วิไลรัตน์ บุญสวัสดิ์. 2538) วิธีการนิเทศ การนิเทศการศึกษาสามารถแยกออกตามความแตกต่างของวิธีการได้ 5 ลักษณะ ดังนี้ 1. การนิเทศการศึกษาแบบปล่อยปละละเลย (as Laissez-faire) เป็นการนิเทศโดย ใช้วิธีการ ตรวจตีค่าดี-เลว ไม่มีการแนะแนวทางให้ปรับปรุงพัฒนา ปล่อยให้ครูสอนไปตามวิธีที่ถนัดหรือสนใจ หากมีเหตุร้ายแรงก็ไล่ออก ๒.การนิเทศการศึกษาแบบบังคับ (as a Co-ercive Process ) เป็นการนิเทศที่มุ่ง เปลี่ยนแปลงการสอนและตัวครู มีการตรวจตราอยู่เสมอ มีตารางและหลักสูตรการพัฒนาที่ตายตัว ชัดเจน ส่งให้ครูไปศึกษาเรียนรู้ตามที่ผู้บังคับบัญชาต้องการ วิธีสอนหรือแนวทางการทำงานเป็นไป ตามที่ผู้บังคับบัญชากำหนด ๓. การนิเทศการศึกษาแบบฝึก (as Training) เป็นการนิเทศที่ผู้นิเทศถือว่าเป็นหน้าที่ ต้องพัฒนา ครูตามขอบข่ายที่ผู้บังคับบัญชากำหนดไว้ วิธีการทำงานหรือวิธีการสอนเป็นวิธีที่ผู้นิเทศกำหนด ซึ่ง อาจไม่ตรงกับความต้องการของครูแต่ตรงกับความต้องการของหน่วยงานหรือผู้นิเทศ ๔. การนิเทศการศึกษาแบบแนะแนว (as Guidance) เป็นวิธีการนิเทศที่ทำให้ครูเจริญ งอกงามโดยการเสนอแนะ ช่วยเหลือให้ครูมองเห็นปัญหาและหาวิธีการแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง เปิด โอกาสให้ครูได้แสดงความสามารถ ๕. การนิเทศการศึกษาแบบผู้นำตามแนวทางประชาธิปไตย (as Democratic Process) เป็นการนิเทศที่ผู้นิเทศยึดหลักการทำงานตามหลักประชาธิปไตย คือเคารพในสิทธิของ ทุกคน ร่วมมือกันทำงานโดยแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบ แลกเปลี่ยนแนวคิด ความเห็นในการ ทำงาน ใช้ข้อมูลหรือเหตุผลในการเปลี่ยนแปลง การนิเทศที่ได้ผล นักการศึกษาหลายท่านเชื่อว่า การนิเทศการศึกษาที่ได้ผล ควรมีลักษณะดังนี้ ๑. ต้องเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ๒. ช่วยส่งเสริมความถนัดของครูรายคน ๓. เริ่มต้นจากสิ่งที่มีอยู่


๒๒ ๔. สร้างบรรยากาศแห่งความเป็นกันเอง ๕. หมั่นรวบรวมผลการปฏิบัติและนำมาปรับปรุงอยู่เสมอ ๖. มีวัตถุประสงค์แน่นอน ชัดเจน และวัดตามวัตถุประสงค์อย่างเคร่งครัด ๗. ทำงานแบบมืออาชีพ คือมีความถูกต้องตามหลักวิชา มีกระบวนการ วิธีการที่ดี เหมาะสม ๘. มีความเป็นประชาธิปไตย ๙. ค่อย ๆ ดำเนินไปทีละขั้นอย่างรอบคอบ แต่สม่ำเสมอ ๑๐. เห็นความสำคัญของคุณภาพชีวิตของครู การนำหลักเกณฑ์มาใช้กับการนิเทศ ๑. ศึกษานิเทศก์จะไม่บอกวิธีให้ครูทำโดยที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ๒. ศึกษานิเทศก์ต้องสร้างพลังอำนาจที่ได้มาจากความนิยม ความเชื่อถือของครู ๓. ศึกษานิเทศก์ต้องไม่บังคับให้ครูทำตามวิธีการที่ตนคิด แต่สามารถเสนอวิธีการที่ หลากหลายให้ครูเลือกใช้ได้เอง ๔. ศึกษานิเทศก์ต้องวางตนเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะ ๕. ในการให้คำแนะนำแก่ครู ศึกษานิเทศก์อาจให้ครูค่อย ๆ ปรับปรุงตนเอง ๖. หากครูไม่ร้องขอรับการนิเทศ ศึกษานิเทศก์ต้องหาทางให้ครูเห็นปัญหาที่ต้องปรับปรุง หรือพัฒนา อย่างค่อยเป็นค่อยไป ๗. การให้ข้อมูลต่าง ๆ ต้องเป็นหลักฐานในการปรับปรุง หรือพัฒนาให้ดีขึ้น ๘. หลีกเลี่ยงการกระทำที่ทำให้ผู้รับการนิเทศรู้สึกว่าถูกตำหนิ หรือถูกกล่าวหา หมดกำลังใจ เสียเกียรติยศ การนิเทศการศึกษา อัญชลี ธรรมะวิธีกุล (ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ. ๒๕๕๒) ได้ให้ความหมายไว้ว่า ความหมาย การนิเทศการศึกษา คำว่า การนิเทศ (Supervision) แปลว่า การให้ความช่วยเหลือแนะนำ หรือปรับปรุง ดังนั้น การนิเทศการศึกษาก็น่าจะหมายถึงการให้ความช่วยเหลือแนะนำ หรือปรับปรุงเกี่ยวกับการศึกษา โดยเฉพาะในโรงเรียน ได้มีผู้ให้ความหมายคำว่า การนิเทศการศึกษาไว้แตกต่างกันดังนี้ สเปียร์ส (Spears) ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า การนิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการที่จะทำให้ เกิดการปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนของครู โดยการทำงานร่วมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการนี้ เป็นกระบวนกระตุ้นความเจริญก้าวหน้าของครู และมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือครู เพื่อช่วยให้ครูได้ช่วย ตนเองได้ กูด (Good) ได้ให้ความหมายของการนิเทศการศึกษาว่า เป็นความพยายามของผู้ทำหน้าที่ นิเทศที่จะช่วยในการให้คำแนะนำแก่ครู หรือผู้อื่นที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาให้สามารถ ปรับปรุงการสอนของตนให้ดีขึ้น ช่วยให้เกิดความเจริญงอกงามในด้านอาชีพ ช่วยพัฒนาความสามารถ ของครู


๒๓ แฮร์ริส (Harris) ได้กล่าวถึงความหมายของการนิเทศการศึกษาว่า หมายถึงสิ่งที่บุคลากรใน โรงเรียนกระทำต่อบุคคลหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจะคงไว้ หรือเปลี่ยนแปลงปรับปรุง การดำเนินการเรียนการสอนในโรงเรียน มุ่งให้เกิดประสิทธิภาพในด้านการสอนเป็นสำคัญ มาคส์ และสทูปส์ (Marks and Stoops) ได้กล่าวถึงการนิเทศการศึกษาว่า คุณค่าของการ นิเทศการศึกษาอยู่ที่การพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และส่งผล สะท้อนไปถึงการพัฒนานักเรียนด้วย ชาญชัย อาจิณสมาจาร ได้ให้คำจำกัดความว่า การนิเทศการศึกษา คือกระบวนการ สร้างสรรค์ ที่ไม่หยุดนิ่งในการให้คำแนะนำ และการชี้ช่องทางในลักษณะที่เป็นกันเองแก่ครูและ นักเรียน เพื่อการปรับปรุงตัวของเขาเองและสภาพการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทาง การศึกษาที่พึงประสงค์ สันต์ ธรรมบำรุง ได้ให้ความหมายว่า การนิเทศการศึกษา หมายถึงการช่วยเหลือ การแนะนำ การชี้แจง การบริการ การปรับปรุงที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน ในการที่จะส่งเสริมให้ครู ปรับปรุงการสอนให้ดีขึ้น ดังนั้น จึงอาจสรุปความหมายของการนิเทศการศึกษา หมายถึง กระบวนการพัฒนาครู เพื่อให้ครูปรับปรุงและพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้ เพื่อให้การจัดการศึกษาบรรลุจุดมุ่งหมายที่ วางไว้ การนิเทศการศึกษาจึงเป็นกระบวนการในการแนะนำช่วยเหลือ ครู ให้สามารถจัดกิจกรรม การเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการนิเทศนั้นอยู่บนหลักการของประชาธิปไตย ได้แก่ การเคารพ ซึ่งกันระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ การนิเทศการศึกษาจัดขึ้นเพื่อปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น ในการปรับปรุง การจัดกิจกรรมการเรียนรู้นี้จะสำเร็จได้ผลดีเพียงไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับทักษะและความสามารถของ ศึกษานิเทศก์ผู้ทำงานร่วมกับครู ตลอดจนเทคนิคและวิธีการต่าง ๆ ที่ศึกษานิเทศก์นำมาใช้ในการ นิเทศการศึกษาโดยให้ครูมีโอกาสค้นคว้างานที่จะต้องทำด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความงอกงามขึ้น เมื่อ ได้เรียนรู้และมีความเจริญงอกงามแล้ว ย่อมจะได้รู้จักปรับปรุงงานด้านการเรียนการสอนให้ได้ผลดีมี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น การนิเทศการศึกษามิใช่เน้นการปรับปรุงตัวครู โดยเห็นว่า ครูยังทำหน้าที่ไม่ สมบูรณ์ในการสร้างความเจริญงอกงามให้แก่ผู้เรียน หากแต่ให้ความสำคัญไปถึงนโยบายการศึกษา จุดประสงค์ของการให้การศึกษา การพิจารณาความเหมาะสมของหลักสูตรที่ใช้ วัสดุอุปกรณ์การสอน และวิธีสอนของครู สิ่งแวดล้อมของครูและผู้เรียนในขณะที่เรียน ตลอดจนปัญหาด้านต่าง ๆ ในส่วนตัว ครูและผู้เรียนซึ่งสิ่งเหล่านี้อยู่ในขอบเขตการนิเทศการศึกษาทั้งสิ้น ความมุ่งหมายของการนิเทศการศึกษา ดร.สงัด อุทรานันท์ (๒๕๓๐) ได้กล่าวถึงจุดมุ่งหมายของการนิเทศการศึกษาว่า มีจุดมุ่งหมาย ที่สำคัญ ๔ ประการ ดังนี้ ๑) เพื่อพัฒนาคน ๒) เพื่อพัฒนางาน ๓) เพื่อสร้างการประสานสัมพันธ์ ๔) เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ


๒๔ การนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนาคน หมายถึง การนิเทศการศึกษาเป็นกระบวนการทำงาน ร่วมกันกับครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ครูและบุคลากร ได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางที่ดี ขึ้น การนิเทศการศึกษาเพื่อพัฒนางาน หมายถึง การนิเทศการศึกษา มีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ ผู้เรียนซึ่งเป็นผลผลิตจากการจัดกระบวนการเรียนรู้ของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยเหตุนี้การ นิเทศที่จัดขึ้นจึงมีจุดมุ่งหมายที่จะ “พัฒนางาน” คือการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ดีขึ้น การนิเทศการศึกษาเพื่อสร้างการประสานสัมพันธ์ หมายถึง การนิเทศการศึกษา เป็นการ สร้างการประสานสัมพันธ์ ระหว่างผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานร่วมกัน รับผิดชอบร่วมกันมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ซึ่งไม่ใช่เป็นการทำงานภายใต้การถูกบังคับ และคอยตรวจตราหรือคอยจับผิด การนิเทศการศึกษาเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ หมายถึง การจัดกิจกรรมการนิเทศที่มุ่งให้ กำลังใจแก่ครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งถือว่าเป็นจุดมุ่งหมายที่สำคัญอีกประการหนึ่งของการ นิเทศ เนื่องจากขวัญและกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บุคคลมีความตั้งใจทำงาน หากนิเทศไม่ได้ สร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงานแล้ว การนิเทศการศึกษาก็ย่อมประสบผลสำเร็จได้ยาก ประเภทของงานนิเทศการศึกษา การนิเทศการศึกษา อาจแบ่งออกตามวิธีปฏิบัติงานเป็น ๔ ประเภท ๑) การนิเทศเพื่อการแก้ไข (Correction) เป็นการนิเทศที่เกิดจากการพบข้อผิดพลาดและ บกพร่อง ก็ให้หาทางช่วยแก้ไขโดยวิธีการต่าง ๆ ๒) การนิเทศเพื่อป้องกัน (Preventive) เป็นการนิเทศที่พยายามหาวิธีการต่าง ๆ มาจัด ดำเนินงาน เพื่อป้องกันปัญหาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น ๓) การนิเทศเพื่อก่อ (Construction) เป็นการนิเทศที่เกิดจากความพยายามที่จะกระทำ ในทางที่เหมาะสมเพื่อความเจริญเติบโตในอนาคต เช่น การใช้ระเบียบวิธีสอนที่ดีเป็นประจำ ช่วย ให้กำลังใจช่วยกระตุ้นให้ครูทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง ๔) การนิเทศเพื่อการสร้างสรรค์ (Creation) เป็นการนิเทศที่พยายามจะคิดสร้างสรรค์ในสิ่ง ใหม่ให้เกิดมีขึ้นในโรงเรียน หลักสำคัญของการนิเทศการศึกษา บริกส์ และจัสท์แมน (Briggs and Justman) ได้เสนอหลักการนิเทศสำหรับผู้บริหารไว้ดังนี้ ๑) การนิเทศการศึกษาต้องเป็นประชาธิปไตย ๒) การนิเทศการศึกษาจะต้องเป็นการส่งเสริม และการสร้างสรรค์ ๓) การนิเทศการศึกษาควรจะต้องอาศัยความร่วมมือของวิทยากรหลายคนมากกว่าที่จะแบ่ง ผู้นิเทศออกเป็นรายบุคคล ๔) การนิเทศการศึกษา ควรตั้งอยู่บนรากฐานของการพัฒนาวิชาชีพมากกว่าจะเป็น ความสัมพันธ์ส่วนบุคคล ๕) การนิเทศการศึกษา จะต้องคำนึงถึงความถนัดของแต่ละบุคคล


๒๕ ๖) จุดมุ่งหมายสูงสุดของการนิเทศการศึกษา คือหาทางช่วยให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความสามารถตามความมุ่งหมายของการศึกษา ๗) การนิเทศการศึกษาจะต้องเกี่ยวข้องอยู่กับการส่งเสริมความรู้สึกอบอุ่นให้แก่ครู และการ สร้างมนุษยสัมพันธ์อันดีระหว่างหมู่คณะ ๘) การนิเทศการศึกษาควรเริ่มต้นจากสภาพการณ์ปัจจุบันที่กำลังประสบอยู่ ๙) การนิเทศการศึกษาควรเป็นการส่งเสริมความก้าวหน้า และความพยายามของครูให้สูงขึ้น ๑๐) การนิเทศการศึกษาควรเป็นการส่งเสริมและปรับปรุงสมรรถวิสัย ทัศนคติ และ ข้อคิดเห็นของครูให้ถูกต้อง ๑๑) การนิเทศการศึกษา พยายามหลีกเลี่ยงการกระทำอย่างเป็นพิธีการมาก ๆ ๑๒) การนิเทศการศึกษาควรใช้เครื่องมือ และกลวิธีง่าย ๆ ๑๓) การนิเทศการศึกษาควรตั้งอยู่บนหลักการและเหตุผล ๑๔) การนิเทศการศึกษาควรมีจุดมุ่งหมายที่แน่นอน และสามารถประเมินผลได้ด้วยตนเอง เบอร์ตัน และบรุคเนอร์(Burton and Brueckner) ได้สรุปหลักการนิเทศการศึกษาไว้ ๔ ประการ คือ ๑) การนิเทศการศึกษาควรมีความถูกต้องตามหลักวิชา การนิเทศการศึกษาที่ดีควรจะเป็นไป ตามวัตถุประสงค์ และนโยบายที่วางไว้ ควรเป็นไปตามความจริงและกฎเกณฑ์ที่แน่นอน ๒) การนิเทศการศึกษาควรเป็นวิทยาศาสตร์ การนิเทศการศึกษาควรเป็นไปอย่างมีระเบียบ มีการปรับปรุงและประเมินผล การนิเทศควรจะมาจากการรวบรวมข้อมูล และการสรุปผลอย่างมี ประสิทธิภาพเป็นที่เชื่อถือได้ ๓) การนิเทศการศึกษาควรเป็นประชาธิปไตย การนิเทศการศึกษาจะต้องเคารพในความ แตกต่างของบุคคล เน้นความร่วมมือร่วมใจกันในการดำเนินงาน และใช้ความรู้ความสามารถในการ ปฏิบัติงาน เพื่อให้งานนั้นไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ ๔) การนิเทศการศึกษาควรจะเป็นการสร้างสรรค์ การนิเทศการศึกษาควรเป็นการแสวงหา ความสามารถพิเศษของบุคคล แล้วเปิดโอกาสให้ได้แสดงออกและพัฒนาความสามารถเหล่านั้น อย่างเต็มที่ กระบวนการนิเทศการศึกษา กระบวนการนิเทศการศึกษา หมายถึงการดำเนินการในการนิเทศให้ได้รับความสำเร็จ แฮริส (Harris) ได้กำหนดขั้นตอนของกระบวนการนิเทศการศึกษาไว้ดังนี้ ๑) ขั้นวางแผน (Planning) ได้แก่ การคิด การตั้งวัตถุประสงค์ การคาดการณ์ล่วงหน้าการ กำหนดตารางงาน การค้นหาวิธีปฏิบัติงาน และการวางโปรแกรมงาน ๒) ขั้นการจัดโครงการ (Organizing) ได้แก่ การตั้งเกณฑ์มาตรฐาน การรวบรวมทรัพยากร ที่มีอยู่ทั้งคนและวัสดุอุปกรณ์ ความสัมพันธ์แต่ละขั้น การมอบหมายงาน การประสานงาน การ กระจายอำนาจตามหน้าที่ โครงสร้างขององค์การ และการพัฒนานโยบาย


๒๖ ๓) ขั้นการนำเข้าสู่การปฏิบัติ(Leading) ได้แก่ การตัดสินใจ การเลือกสรรบุคคล การเร้าจูง ใจให้มีกำลังใจคิดริเริ่มอะไรใหม่ ๆ การสาธิต การจูงใจ และให้คำแนะนำ การสื่อสาร การกระตุ้น ส่งเสริมกำลังใจ การแนะนำนวัตกรรมใหม่ ๆ และให้ความสะดวกในการทำงาน ๔) ขั้นการควบคุม (Controlling) ได้แก่ การสั่งการ การให้รางวัล การลงโทษ การให้ โอกาสการตำหนิ การไล่ออก และการบังคับให้กระทำตาม ๕) ขั้นประเมินผล (Appraising) ได้แก่ การตัดสินการปฏิบัติงาน การวิจัย และการวัดผล การปฏิบัติงาน กิจกรรมที่สำคัญ คือพิจารณาผลงานในเชิงปฏิบัติว่าได้ผลมากน้อยเพียงใด และ วัดผลด้วยการประเมินอย่างมีแบบแผน มีความเที่ยงตรง ทั้งนี้ควรจะมีการวิจัยด้วย จะเห็นว่า กระบวนการนิเทศการศึกษาเป็นการทำงานอย่างมีแบบแผน โดยเริ่มจากการ วิเคราะห์งานการเรียนการสอนของครู เพื่อจะได้ทราบปัญหา ระบุปัญหาที่จะต้องรีบแก้ไขปรับปรุง ก่อนหลังแล้วจึงวางแผนที่จะดำเนินการโดยหาทางเลือกที่จะแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ต่อจากนั้นก็ดำเนินการ ตามแนวขั้นตอนตามลำดับจนถึงขั้นการประเมินผลการปฏิบัติงานแล้วจึงนำผลการปฏิบัติไปปรับปรุง แก้ไขต่อไป ความหมายของการนิเทศการสอน การนิเทศการสอน คือ กระบวนการของความร่วมมือกับผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับปรุงการ สอนของครู และการเรียนการสอนของเด็กให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง (Dynamic) มากกว่าเชื่องช้า (Static) ไม่ทัน สมัย ความมุ่งหมายของการนิเทศ มุ่งส่งเสริมให้ครูเจริญก้าวหน้าทางวิชาชีพ ปรับปรุง การสอนให้ดีขึ้น (อารมณ์ ฉนวนจิตร อ้างถึง ชารี มณีศรี : ๒๕๓๘, ๒๙) กระบวนการในการนิเทศการสอน การวางแผน (Planning) เป็นการกำหนดแผนงานที่จะทำ ซึ่งต้องจัดทำตารางงาน กำหนด ว่าจะทำอะไร เมื่อไหร่ โดยต้องทำเป็นโครงการ กำหนดเค้าโครงตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบ พร้อมทั้ง คาดคะเนผลที่จะเกิดขึ้นด้วย กระบวนการจัดสายงาน (Organizing Processes) เป็นกระบวนการจัดบุคลากรต่าง ๆ เพื่อทำงานตามแผนงานที่วางไว้ ซึ่งต้องกำหนดเกณฑ์มาตรฐานในการทำงาน ประสานงานกับ บุคลากรที่จะปฏิบัติงาน จัดสรรทรัพยากรเพื่อการดำเนินงาน มอบหมายงานพร้อมระบุหน้าที่ของ บุคลากร จัดให้มีการประชาสัมพันธ์ระหว่างผู้ทำงาน จัดทำโครงสร้างในการปฏิบัติงาน และพัฒนา นโยบายในการทำงาน กระบวนการนำ (Leading Processes) ต้องทำการสื่อสารเพื่อความเข้าใจในคณะทำงาน สร้างแรงจูงใจและอำนวยความสะดวกในการทำงาน พร้อมกับตัดสินใจเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ โดยต้อง แสดงตัวอย่างในการทำงาน ขั้นตอนการทำงานและสาธิตการทำงาน กระบวนการควบคุม (Controlling Processes) เพื่อให้การนิเทศการสอนดำเนินไปตาม แผนงาน ต้องมีการสร้างกฎเกณฑ์ในการทำงาน แนะนำวิธีดำเนินการ หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ต้อง ว่ากล่าวตักเตือน พร้อมกับเร่งเร้าให้มีการพัฒนา


๒๗ กระบวนการประเมินสภาพการทำงาน (Assessing Processes) เป็นขั้นตอนสุดท้าย ซึ่งต้อง ตัดสินเกี่ยวกับการดำเนินการ วัดพฤติกรรมและทำวิจัยผลงาน ประโยชน์ของการนิเทศการสอน ๑. ช่วยพัฒนาคุณภาพของครู ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังกระบวนการจัดการเรียนรู้ โดยครู จะได้ทราบศักยภาพการทำงานของตน เพื่อพัฒนาตนเอง โดยมีผู้นิเทศเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำ และที่สำคัญยังเพิ่มความมั่นใจในการสอนของครู หากครูมีความพร้อมในการสอน ๒. ช่วยพัฒนาคุณภาพของผู้เรียน เมื่อครูได้พัฒนาตนเองตามที่ผู้นิเทศได้แนะนำแล้ว ผลลัพธ์ ที่เกิดขึ้น ย่อมจะส่งผลถึงผู้เรียนโดยตรง ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยความสนุก เพราะครูเตรียมการสอน อย่างดี ๓. ช่วยพัฒนางานด้านวิชาการภายในสถานศึกษาให้มีคุณภาพ เมื่อครูดี เด็กดี คุณภาพของ งานด้านวิชาการก็ต้องดีตามไปด้วย ๔. ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับบุคลากร เมื่อครูทุกคนเปิดใจพร้อมรับการนิเทศการสอน มีการแลกเปลี่ยนความคิด ความรู้ มีการให้คำแนะนำอย่างสร้างสรรค์ ด้วยใจที่เป็นกัลยาณมิตรแล้ว ความสัมพันธ์ที่ดีย่อมเกิดขึ้น นั่นหมายถึงองค์กรที่เข้มแข็งด้วย การนิเทศการสอน เป็นหัวใจของการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ ซึ่งจะช่วยเสริมความ มั่นใจให้กับครูในระหว่างการจัดการเรียนรู้ เนื่องจากครูได้รับคำแนะนำที่ดีจากผู้นิเทศ และได้ร่วมมือ กันพัฒนากระบวนการให้ดำเนินไปอย่างถูกต้อง นั่นหมายถึงผู้เรียนก็ได้รับกระบวนการที่มีคุณภาพ เรียนรู้ด้วยความสนใจใคร่รู้ เต็มใจและพร้อมที่จะเรียนรู้มากขึ้น หากครูผู้เปรียบตัวเองว่าเป็นพ่อพิมพ์ แม่พิมพ์ของชาติ ยังไม่พร้อมหรือยอมรับการนิเทศการสอนเพื่อพัฒนาตนเอง แล้วจะตั้งความหวัง อะไรได้กับเด็กผู้เปรียบเสมือนผ้าขาวที่จะเป็นอนาคตของชาติอีกต่อไป กระบวนการจัดกระบวนการเรียนในชั้นเรียน ๑) การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้นิเทศกับครูผู้สอน ๒) การวางแผนการจัดกระบวนการเรียนรู้และการสร้างเครื่องมือ ๓) การสังเกตพฤติกรรมการจัดกระบวนการเรียนรู้ ๔) การวิเคราะห์พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน ๕) การปรับปรุงการจัดกระบวนการเรียนรู้ กิจกรรมในการดำเนินงานโครงการ 1. กิจกรรมการนิเทศทางการศึกษา


๒๘ รายละเอียดกิจกรรมการดำเนินโครงการ -กิจกรรมการนิเทศการจัดการเรียนการสอน 1. วัตถุประสงค์ ๑.๑. เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ๑.๒ เพื่อส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีกระบวนการ เรียนรู้ที่หลากหลาย ๑.๓ เพื่อควบคุมมาตรฐานและพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 2. การดำเนินโครงการ ดำเนินกิจกรรม/งานตามแผน - กิจกรรมนิเทศการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน - ตรวจเยี่ยมชั้นเรียน - นิเทศการสอน 3. การประเมินผล - สังเกต - สอบถาม/สัมภาษณ์ 4. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๔.๑ ครูมีความรู้ ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ ๔.๒ ครูนำผลการนิเทศภายในไปปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเอง ดำเนินการจัด กระบวนการเรียนรู้ให้ดีขึ้น ๔.๓ ครูมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ๔.๔ ผู้เรียนได้รับความรู้เต็มตามศักยภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น


๒๙ บทที่ 3 วิธีดำเนินการ รายงานผลการจัดกิจกรรมตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ 2564 ได้นำวงจรคุณภาพของเดมิ่ง PDCA มาใช้ในการดำเนินการ 4 ขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) 3. ขั้นตอนการ่วมกันประเมิน (Check ) 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง (Act) 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) ขั้นตอนนี้เป็นการวางแผนการดำเนินการโดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1.1 ประชุมปรึกษาร่วมกันระหว่างสายชั้นปฐมวัย กับสายประถมศึกษา แล้วขยายผลสู่คณะ ครูทุกคน 1.2 จัดทำโครงการนิเทศภายในโรงเรียน เสนอต่อผู้บริหารเพื่อพิจารณาเห็นชอบ 1.3 แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมแต่ละงาน แต่กิจกรรมตาม ความเหมาะสม 1.4 สร้างความเข้าใจกับครู เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการโครงการนิเทศภายใน โรงเรียน 1.5 กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการและวิธีประเมินผล 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) การปฏิบัติงานตามแผนงานที่วางไว้โดยมีขั้นตอนในการดำเนินงาน ดังนี้ 2.1 บันทึกเสนอผู้บริหาร เพื่อขออนุญาตดำเนินการจัดกิจกรรม 2.2 ดำเนินการตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ 256๕ โดยมี กลุ่ม เป้าหมายคณะครูและบุคลากรภายในโรงเรียนทุกคน โดยมีกิจกรรมดำเนินการดังนี้ - กิจกรรมการนิเทศทางการศึกษา 3. ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน (Check) 3.1 ดำเนินการประเมินผลการจัดกิจกรรมตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน โดยใช้แบบ บันทึกกิจกรรมและแบบประเมินความพึงพอใจ 3.2 ข้อมูลที่เป็นมาตราส่วนประมาณค่า ( Rating Scale ) ใช้วิธีแจกแจงความถี่ หาค่า เฉลี่ย ( X ) และค่าร้อยละ ทั้งในรายข้อและภาพรวมเทียบกับเกณฑ์ ดังนี้ 4.51-5.00 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด 3.51-4.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับมาก 2.51-3.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง 1.51-2.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับน้อย 1.00-1.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับน้อยที่สุด


๓๐ 3.3 ข้อมูลที่เป็นความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากแบบบันทึกกิจกรรม ใช้วิธี วิเคราะห์เนื้อ เรื่อง ( Content Analysis ) 3.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. ค่าเฉลี่ย (Arithmetic: X ) 2. ค่าร้อยละ 3.5 รายงานผลการดำเนินงานต่อผู้บริหารและบุคลากรโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง (Act) เมื่อคณะกรรมการฝ่ายประเมินผล สรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ กลุ่มงานผู้รับผิดชอบจึงได้นำสารสนเทศที่ได้มาปรับปรุง พัฒนาการงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


๓๑ บทที่ 4 ผลการดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูล ผลการจัดกิจกรรมตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ 2564 สามารถสรุปตามขั้นตอนในการดำเนินงาน ดังนี้ ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) ขั้นตอนนี้เป็นการวางแผนการดำเนินการโดยมีขั้นตอน พบว่า การประชุมปรึกษา ร่วมกันระหว่างหัวหน้างาน/ผู้รับผิดชอบ แล้วขยายผลสู่คณะครูทุกคนได้รับความร่วมมือและ สนับสนุนการทำโครงการเป็นอย่างดี และนำเสนอผู้บริหารเพื่อพิจารณาเห็นชอบโครงการได้รับการ อนุมัติโครงการ ผู้รับผิดชอบโครงการจึงได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการ จัดกิจกรรมแต่ละงานแต่กิจกรรมตามความเหมาะสม แล้วสร้างความเข้าใจกับคณะครูเพื่อกำหนด แนวทางในการดำเนินการ ติดต่อประสานงานเตรียมความพร้อม และกำหนดระยะเวลาในการ ดำเนินการและวิธีประเมินผล ตามลำดับ ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ (Do) การปฏิบัติงานตามแผนงานที่วางไว้โดยมีขั้นตอนในการดำเนินงาน คือ การบันทึก เสนอผู้บริหารเพื่อขออนุญาตดำเนินการ พบว่า ได้รับการอนุญาตและให้ดำเนินการ และผลการ ดำเนินการตามโครงการโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ประจำปีงบประมาณ 256๕ โดยมี กลุ่มเป้าหมายเป็นคณะครูและบุคลากรภายในโรงเรียนทุกคน โดยมีกลุ่มเป้าหมาย เป็นนักเรียนและ บุคลากรภายในโรงเรียนทุกคน พบว่า โครงการนิเทศภายในโรงเรียน นักเรียนและครูให้ความร่วมมือ ในการดำเนินกิจกรรมด้วยดี ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน (Check) การประเมินผลการจัดกิจกรรมนิเทศภายในตามโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ผู้รายงานได้นำข้อมูลมาวิเคราะห์ซึ่งปรากฏข้อมูลดังนี้ ๑. ข้อมูลครูและบุคลากรที่ได้รับการนิเทศการเรียนการสอนออนไลน์ตามกลุ่มสาระต่างๆ ตาราง 1 แสดงจำนวนครูที่ได้รับการนิเทศการเรียนการสอนออนไลน์ N=๒๘ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ ระดับชั้น ครูและบุคลากร จำนวน (คน) นิเทศการเรียนการสอน จำนวน (คน) คิดเป็นร้อยละ ปฐมวัย อนุบาล 2 -3 ๔ ๔ 100 ภาษาไทย ป.1-ป.6 8 8 100 อังกฤษ ป.1-ป.6 2 2 100 คณิตศาสตร์ ป.1-ป.6 8 8 100 วิทยาศาสตร์ ป.6 1 1 100


๓๒ ตารางต่อ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ ระดับชั้น ครูและบุคลากร จำนวน (คน) นิเทศการเรียนการสอน จำนวน (คน) คิดเป็นร้อยละ สุขศึกษาและพละ ป.6 1 1 100 สังคมศึกษาฯ ป.4 1 1 100 อิสลามศึกษา ป.6 3 3 100 รวม 100 สรุปได้ว่า คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด จำนวน ๒๘ คน ได้รับการนิเทศการจัดการ เรียนการสอน จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ 100 ๒. ระดับความพึงพอใจที่มีต่อการนิเทศการเรียนการสอน ตาราง ๒ แสดงผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการนิเทศ N=๒๘ รายการประเมิน X . SD แปลผล 1. การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และการวางแผน 1.1 นโยบายการนิเทศภายใน ๔.67 ๐.47 มากที่สุด 1.2 กิจกรรมที่กำหนดในโครงการนิเทศภายใน ๔.67 ๐.47 มากที่สุด 1.3 แบบประเมินผล และวิธีการประเมินผล ๔.71 ๐.56 มากที่สุด รวม ๔.๖๙ ๐.๒๕ มากที่สุด 2. การปฏิบัติ 2.1 การปฏิบัติตามกำหนดในปฏิทินปฏิบัติงาน ๔.53 ๐.50 มากที่สุด 2.2 ความร่วมมือของครูในการดำเนินกิจกรรมการนิเทศภายใน ๔.๕๓ ๐.๕๗ มากที่สุด 2.3 บรรยากาศการนิเทศภายในโรงเรียน ๔.๖๔ ๐.๔๘ มากที่สุด 2.4 การใช้สื่อ / เครื่องมือในการนิเทศภายในโรงเรียน ๔.๕๓ ๐.๕๐ มากที่สุด รวม ๔.๕๖ ๐.๒๖ มากที่สุด 3. การประเมินผล 3.1 วิธีการประเมินผล ๔.57 ๐.๕๐ มากที่สุด 3.2 การมีส่วนร่วมประเมินผล ๔.50 ๐.๕๐ มาก 3.3 ระยะเวลาในการประเมินผล ๔.๔๒ ๐.๕๐ มาก รวม ๔.๕๐ ๐.๑๓ มากที่สุด เฉลี่ยรวม ๔.๕๙ ๐.๔๘ มากที่สุด


๓๓ จากตาราง ๒ ผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศการเรียนการสอน โดยภาพรวมและรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และการ วางแผน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๙ ด้านการปฏิบัติมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๖ และการประเมินผล มี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๐ ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุดมีเพียง การมีส่วนร่วมประเมินผล และระยะเวลาในการประเมินผล อยู่ในระดับมาก ๓. ระดับผลการประเมินการนิเทศการเรียนการสอน ตาราง ๓ แสดงผลการประเมินแบบนิเทศการสอน N=๒๘ รายการประเมิน X . SD แปลผล 1. สภาพทั่วไป 1.1 การเข้า classroom ตรงต่อเวลา ๔.67 ๐.47 มากที่สุด 1.2 การควบคุมความเป็นระเบียบในชั้นเรียน ๔.71 ๐.46 มากที่สุด 1.3 การใช้เวลาในการสอนเหมาะสมกับการเรียนออนไลน์ ๔.64 ๐.๔๘ มากที่สุด รวม ๔.๖๗ ๐.๓๒ มากที่สุด 2. บุคลิกภาพ 2.1 การแต่งกายเหมาะสม ๔.๘๒ ๐.39 มากที่สุด 2.2 การใช้น้ำเสียง มีความชัดเจน ๔.๗๑ ๐.๔๖ มากที่สุด 2.3 มีความมั่นใจในตนเอง ๔.๕๓ ๐.๕๐ มากที่สุด 2.4 การใช้ภาษาสื่อสารและสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ๔.๗๑ ๐.๕๓ มากที่สุด รวม ๔.๖๙ ๐.๓๗ มากที่สุด 3. การดำเนินการสอน 3.1 เนื้อหาสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ๔.60 ๐.49 มากที่สุด 3.2 เนื้อหาเหมาะสมกับระยะเวลาในการเรียน ๔.60 ๐.49 มากที่สุด 3.3 การใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมน่าสนใจ ๔.50 ๐.๕๐ มาก ๓.๔ การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามหรือแสดงความคิดเห็น ๔.๓๕ ๐.๔๘ มาก รวม ๔.๕๑ ๐.๓๔ มากที่สุด ๔. การวัดและประเมินผล ๔.๑ สอดคล้องและครอบคลุมจุดประสงค์ ๔.๕๓ ๐.๕๐ มากที่สุด ๔.๒ การประเมินผลตามสภาพจริง (สอบปรนัย, สอบอัตนัย, ๔.75 ๐.44 มากที่สุด การทำแบบฝึกหัด,สังเกตพฤติกรรม รวม ๔.๖๔ ๐.๓๘ มากที่สุด เฉลี่ยรวม ๔.62 ๐.29 มากที่สุด


๓๔ จากตาราง ๓ ผลการประเมินแบบนิเทศการเรียนการสอน โดยภาพรวม พบว่าอยู่ในระดับ มากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๒ และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด โดย ด้านบุคลิกภาพ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ ๔.๖๙ รองลงมาด้านสภาพทั่วไป เท่ากับ ๔.๖๗ การวัดและประเมินผล เท่ากับ ๔.๖๔ และด้านการดำเนินการสอน เท่ากับ ๔.๕๑ ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อ พิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุด มีเพียงการใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมน่าสนใจ และ การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถามหรือแสดงความคิดเห็น อยู่ในระดับมาก ๔. ส่วนที่จัดการได้ดี / ส่วนที่ควรพัฒนา / ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ส่วนที่จัดการได้ดี พบว่า ครูและบุคลากรทางการศึกษามีการนำเข้าสู่บทเรียนที่หลากหลาย สามารถดึงความสนใจของผู้เรียนให้มาอยู่บทเรียน และมีความพร้อมได้ดี เช่น การเข้าสู่บทเรียนด้วย เพลง เกม คำถาม การยกตัวอย่าง และการเชื่อมโยงกับความรู้เดิมของผู้เรียน ทั้งนี้การจัดการเรียนการ สอนของครูมีความสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครูสามารถนำเสนอเนื้อหาที่ สอนด้วยสื่อได้หลากหลาย เช่น วีดีทัศน์ ภาพ และสื่อเทคโนโลยีต่างๆ จัดกระบวนการเรียนการสอน ตามแผนการจัดการเรียนรู้ได้ดี ส่วนที่ควรพัฒนา พบว่า ขณะสอน On-line นักเรียนควรเปิดกล้องในเวลาเรียนทุกคน ช่วงเวลาการสอนออนไลน์ไม่อำนวย ขณะสอน On-site ครูควรหาสื่อที่เร้าความสนใจให้กับนักเรียน ครู ควรหาวิธีการการสอนที่น่าสนใจ และให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบ Active learning มากขึ้น ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ พบว่า ขณะสอน On-line ครูและบุคลากรทางการศึกษาควรมี ข้อตกลงกับนักเรียนก่อนเรียนออนไลน์ในการเปิด-ปิดไมล์จะทำให้ควบคุมชั้นเรียนได้ดีมากขึ้น ควรให้ นักเรียนมีส่วนร่วมในการตอบคำถาม เวลาเรียนออนไลน์ไม่เหมาะสมกับช่วงวัยของนักเรียน นักเรียน ควรเปิดกล้องในเวลาเรียนทุกคน ขณะสอน On-site ครูควรมีกิจกรรมที่เน้นกระบวนการเรียนการสอน แบบ Active learning ให้มากขึ้น เน้นการฝึกปฏิบัติให้กับผู้เรียน และเน้นการอ่านออกเขียนได้ เพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงสถานการณ์โควิด ๑๙ ผู้เรียนเกิดการเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทำให้เกิดภาวะถดถอย ทางการเรียนรู้ ฉะนั้น ผู้สอนต้องมีเทคนิคการสอนที่ส่งเสริมการอ่านเขียนได้และคิดเลขเป็นเพื่อเป็น พื้นฐานให้ผู้เรียน ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง ( Act) เมื่อคณะกรรมการฝ่ายประเมินผลแล้วจึงได้จัดทำสรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะกลุ่มงานผู้รับผิดชอบและได้นำสารสนเทศที่ได้นำเสนอต่อผู้บริหาร และ เผยแพร่ให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบและนำผลการทำเนินงานมากปรับปรุงพัฒนางาน ให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


๓๕ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ในครั้งนี้ 1. แบบบันทึกการเยี่ยมชั้นเรียน 2. แบบการประเมินแบบนิเทศการสอนออนไลน์ ๓. การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการนิเทศออนไลน์ ขอบเขตของการดำเนินโครงการ ในการประเมินโครงการนิเทศภายในโรงเรียน ดำเนินการระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ.2565 โดยมีระยะเวลาในการประเมินโครงการ แบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1. ระยะวางแผนการดำเนินการ 2. ระยะดำเนินการ เป็นการประเมินกระบวนการในการดำเนินโครงการ 3. ระยะประเมินผล เป็นการประเมินผลโครงการนิเทศภายในโรงเรียน และศึกษาความพึง พอใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง


๓๖ บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำเนินการ 1. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมต่างๆ ตามแผนปฏิบัติการประจำปีการศึกษา ๒๕๖๕ ภายใต้ โครงการนิเทศภายในโรงเรียน โดยดำเนินการแล้วเสร็จและสรุปรายงานต่อผู้บริหารทั้งสิ้น จำนวน ๑ กิจกรรม ได้แก่ - กิจกรรมการนิเทศทางการศึกษา สรุปโดยภาพรวม พบว่า การจัดกิจกรรมนิเทศทางการศึกษาที่จัดขึ้นภายใต้โครงการนิเทศ ภายในโรงเรียน ปีการศึกษา ๒๕๖๕ สำเร็จลุล่วงด้วยดีจากการสอบถามความคิดเห็นของผู้มีส่วน เกี่ยวข้องในแต่ละกิจกรรม พบว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนใหญ่มีความความคิดเห็นต่อการจัดกิจกรรม โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ดังนี้ โครงการนิเทศภายในโรงเรียน ๑ กิจกรรมการนิเทศทางการศึกษา ผลการดำเนินงาน คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมด จำนวน ๒๘ คน ได้รับการนิเทศการจัดการเรียน การสอน จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ 100 ผลการประเมินความพึงพอใจของครูที่มีต่อการนิเทศการเรียนการสอน โดยภาพรวมและราย ด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และการวางแผน มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๖๙ ด้านการปฏิบัติมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๖ และการประเมินผล มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๐ ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าทุกข้ออยู่ในระดับมากที่สุดมีเพียง การมีส่วนร่วม ประเมินผล และระยะเวลาในการประเมินผล อยู่ในระดับมาก ผลการประเมินแบบนิเทศการเรียนการสอน โดยภาพรวม พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ ๔.๖๒ และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านบุคลิกภาพ มี ค่าเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ ๔.๖๙ รองลงมาด้านสภาพทั่วไป เท่ากับ ๔.๖๗ การวัดและประเมินผล เท่ากับ ๔.๖๔ และด้านการดำเนินการสอน เท่ากับ ๔.๕๑ ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าทุกข้อ อยู่ในระดับมากที่สุด มีเพียงการใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมน่าสนใจ และการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม หรือแสดงความคิดเห็น อยู่ในระดับมาก สรุปได้ว่า คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการนิเทศการเรียนการสอนร้อยละ 100.00 ผลจากการนิเทศการเรียนการสอนทั้งแบบ On line และแบบ On site โดยนิเทศใน รูปแบบกัลยาณมิตร ทำให้ครูกระตือรือร้นในการจัดการเรียนการสอน และพัฒนาตนเอง โดยการ นำสื่อเทคโนโลยีมาปรับใช้ในกิจกรรมการเรียนการสอน ทำให้บรรยากาศการเรียนการสอนน่าสนใจ มากยิ่งขึ้น


๓๗ ปัญหาและอุปสรรค - ข้อเสนอแนะ การนิเทศการเรียนการสอนครั้งต่อไป ควรสร้างและพัฒนางาน พัฒนาคน และ พัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและองค์ความรู้ในศาสตร์สาขาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกทั้งใน ปัจจุบันและอนาคตต่อไป ผลสำเร็จโดยรวมของกิจกรรม คิดเป็นร้อยละ .......90.00...


๓๘ เอกสารอ้างอิง สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ . (2535). วิธีทางการประเมินทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ไพศาล หวังพานิช. การจัดการผลการศึกษา. กรุงเทพฯ : กรมอาชีวศึกษา, 2523. สุวิมล ติรกานันท์. (2543). การประเมินโครงการ:แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร : คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์.(๒๕๖๔).รายงานผลการนิเทศการศึกษา. ประจวบคีรีขันธ์ : งานนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการศึกษา. ประชุม รอดประเสริฐ. (2539). นโยบายและการวางแผน: หลักการและทฤษฎี. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: เนติกุลการพิมพ์.


๓๙ ความคิดเห็นของฝ่ายบริหาร ความเห็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ลงชื่อ............................................................... (นายมะซามัน การี) รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ความเห็นผู้อำนวยการโรงเรียน .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ลงชื่อ............................................................... (นางแวอาซีซะห์ หวังแอ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ


๔๐ ภาคผนวก - โครงการ - คำสั่ง - แบบนิเทศการสอน - แบบบันทึกการนิเทศแผนการจัดการเรียนรู้ - แบบนิเทศติดตามการจัดการเรียนการสอนในช่วงสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 - ตัวอย่างแบบประเมินความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรม - ภาพกิจกรรม


๔๑ โครงการ นิเทศภายในโรงเรียน แผนงาน การบริหารวิชาการ ลักษณะโครงการ ต่อเนื่อง ผู้รับผิดชอบโครงการ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ระยะเวลาดำเนินการ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ – ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ สอดคล้องกับมาตรฐาน สพฐ. มาตรฐานที่ ๑, ๒ (๒.๒, ๒.๓, ๒.๔), ๓ สอดคล้องกับจุดเน้นของสพป.ปน.๑ ข้อที่๒ (S๒) , ข้อที่๓ (S๓) สนองกลยุทธ์โรงเรียน กลยุทธ์ที่ ๑, ๒, ๓, ๔ ๑. หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๓๐ ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มี ประสิทธิภาพ รวมทั้งการส่งเสริมให้ผู้สอนสามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับผู้เรียน ในแต่ละระดับการศึกษา ดังนั้นการพัฒนาครู โดยใช้กระบวนการนิเทศภายในโรงเรียน นับว่ามี บทบาทสำคัญอย่างยิ่งเพราะเป็นการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนาหรือให้ความช่วยเหลือครูใน โรงเรียนให้ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติงานตามภารกิจหลัก ได้แก่ การจัดกิจกรรมการเรียน การสอน และกระบวนการเรียนรู้ให้บรรลุผลตามจุดหมายของหลักสูตร หรือการสร้างเสริม พัฒนาการของนักเรียนทุกด้าน ทั้งทางด้านร่างกาย สังคม อารมณ์ จิตใจ และสติปัญญา ให้เต็ม ตามวัยและศักยภาพ ด้วยความสำคัญดังกล่าวโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ จึงได้จัดทำโครงการ นิเทศภายในโรงเรียนเพื่อปรับปรุง แก้ไขและพัฒนาการปฏิบัติงานของครูให้มีประสิทธิภาพและ ส่งผลต่อคุณภาพของนักเรียน คุณภาพของการจัดการศึกษา ๒. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning ๒.๒ เพื่อส่งเสริมให้ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีกระบวนการ เรียนรู้ที่หลากหลาย ๒.๓ เพื่อควบคุมมาตรฐานและพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ๓. เป้าหมาย ๓.๑ เชิงปริมาณ ๓.๑.๑ ครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน ๓๒ คน


๔๒ ๓.๒ เชิงคุณภาพ ๓.๒.๑ ครูร้อยละ ๑๐๐ ได้รับการนิเทศภายในจากคณะกรรมการนิเทศ อย่างน้อยภาค เรียนละ ๒ ครั้ง ๓.๑.๒ ครูร้อยละ ๘๐ มีความสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ ๔. กิจกรรมและวิธีดำเนินการ ที่ กิจกรรม/ขั้นตอนการดำเนินงาน งบประมาณ ระยะเวลา ดำเนินงาน ผู้รับผิดชอบ ๑ เสนอโครงการเพื่ออนุมัติ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๔ ว่าที่ร.ต.หญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ๒ อนุมัติโครงการ/แต่งตั้ง คณะทำงาน ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผู้อำนวยการ โรงเรียน ๓ ประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดปีงบประมาณ ว่าที่ร.ต.หญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ๔ ดำเนินงานตามโครงการที่ กำหนดไว้ กิจกรรมที่ ๑ การนิเทศทาง การศึกษา - จัดทำตารางการนิเทศ คู่มือ และ เครื่องมือนิเทศ - ดำเนินการนิเทศการจัด กิจกรรม การเรียนการสอน ๒,๐๐๐ ตลอดปีงบประมาณ ว่าที่ร.ต.หญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ และคณะกรรมการ การนิเทศ ๕ สรุป ประเมินผล และรายงานผล โครงการ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๕ ว่าที่ร.ต.หญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์


๔๓ ๕. งบประมาณ ๕.๑ เงินอุดหนุนรายหัว รวมจำนวนเงิน ๒,๐๐๐ บาท 5.1.๑. กิจกรรมดำเนินการนิเทศการจัดการเรียนการสอน จำนวนเงิน ๒,๐๐๐ บาท - ค่าวัสดุ อุปกรณ์ เป็นเงิน ๑,๕๐๐ บาท - ค่าถ่ายเอกสาร เป็นเงิน ๕๐๐ บาท รายละเอียดการใช้งบประมาณ ที่ รายการค่าใช้จ่าย งบดำเนินการ ค่าตอบแทน ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าครุภัณฑ์ ๑ กิจกรรมดำเนินการนิเทศการจัดการเรียน การสอน ๕๐๐ ๑,๕๐๐ รวม ๒,๐๐๐ หมายเหตุจำนวนเงินสามารถถัวเฉลี่ยได้ ๖. การประเมินผล ตัวชี้วัดความสำเร็จ วิธีประเมินผล เครื่องมือประเมินผล - ครูมีความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะการจัด กระบวนการเรียนรู้แบบ Active Learning - สอบถาม - นิเทศการสอน - แบบสอบถาม - แบบบันทึกการนิเทศ - ครูจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และมีกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย - ประเมิน - นิเทศการสอน - แบบประเมิน - แบบบันทึกการนิเทศ - ครูนำผลการนิเทศ ไปดำเนินการปรับ กระบวนการเรียน เปลี่ยนวิธีการสอนส่งผลให้ ผู้เรียนมีความรู้เต็มตามศักยภาพ - สอบถาม - นิเทศการสอน - แบบสอบถาม - แบบบันทึกการนิเทศ - ครูได้รับการนิเทศจากคณะกรรมการนิเทศภายใน อย่างน้อยภาคเรียนละ ๒ ครั้ง - เยี่ยมชั้นเรียน - นิเทศการสอนและ วิชาการ - แบบบันทึกการเยี่ยม ชั้นเรียน - แบบบันทึกการนิเทศ


๔๔ ๗. ผลที่คาดว่าจะได้รับ ๗.๑ ครูมีความรู้ ความสามารถในการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและเน้นผู้เรียนเป็น สำคัญ ๗.๒ ครูนำผลการนิเทศภายในไปปรับปรุง แก้ไข พัฒนาตนเอง ดำเนินการจัดกระบวนการ เรียนรู้ให้ดีขึ้น ๗.๓ ครูมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ๗.๔ ผู้เรียนได้รับความรู้เต็มตามศักยภาพและมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น ผู้เสนอโครงการ ลงชื่อ................................................. (ว่าที่ร้อยตรีหญิงหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์) ครูโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ผู้รับรองโครงการ ผู้อนุมัติโครงการ ลงชื่อ.............................................. ลงชื่อ ....................................................... (นายมะซามัน การี) (นางแวอาซีซะห์ หวังแอ) รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ


๔๕ คำสั่งโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ที่ / ๒๕๖๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการนิเทศการสอนออนไลน์ ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ .......................................................................................................................................... ด้วยโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ มีการจัดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการ เรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ (Active Learning) เป็นสำคัญ และส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของคณะครู ผู้บริหาร โรงเรียนและชุมชน เพื่อให้การ พัฒนาการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยรูปแบบกัลยาณมิตร อาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๗ แห่ง พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ จึงขอแต่งตั้งคณะกรรมการ ดำเนินการนิเทศการสอน ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ ดังต่อไปนี้ ๑. คณะกรรมการอํานวยการ มีหน้าที่ ให้คำแนะนำ ปรึกษา อำนวยการความสะดวก ให้การดำเนินงาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย ๑.๑ นางแวอาซีซะห์ หวังแอ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ประธานกรรมการ ๑.๒ นายมะซามัน การี รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ รองประธานกรรมการ ๑.๓ นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ กรรมการ ๑.๔ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ กรรมการ ๑.๕ นางขอลีเยาะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๑.๖ นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ ๑.๗ นางสารีนา บ่อเตย ธุรการโรงเรียน ผู้ช่วยกรรมการ และเลขานุการ ๒. คณะกรรมการนิเทศ มีหน้าที่ นิเทศกิจกรรมการเรียนการสอนและให้คำปรึกษาด้วยรูปแบบ กัลยาณมิตรให้กับผู้รับการนิเทศตามตารางนิเทศ ประกอบด้วย ๑.๑ นางแวอาซีซะห์ หวังแอ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ประธานกรรมการ ๑.๒ นายมะซามัน การี รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ รองประธานกรรมการ ๑.๓ นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ กรรมการ ๑.๔ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ กรรมการ ๑.๕ นางขอลีเยาะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๑.๖ นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ


๔๖ ๓. ฝ่ายรับการนิเทศ มีหน้าที่ ดำเนินการจัดเตรียมการสอนเพื่อรอรับการนิเทศและส่ง Link การเข้า ห้องเรียนให้คณะกรรมการนิเทศในวัน เวลานิเทศตามตาราง และมีหน้าที่รายงานการติดตามการจัดการเรียน การสอนในช่วงสถานการณ์ประกอบด้วย ระดับการศึกษาปฐมวัย ๑. นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๒/๑ ๒. นางเจะปาตีเมาะ มะรอแม ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๒/๒ ๔. นางสาวรอกีเยาะห์ กาเซ็ง พนักงานราชการ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๓/๑ ๕. นางวันอูเยียน ดอเล๊าะ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๓/๒ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑. นางสาวโซเฟีย ยูนุ ครูผู้ช่วย ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ๒. นางสาวนิรอมา มะเกะ พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ๓. นางสาวแวเซาอุดะ แวฮามะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๒ ๔. นางมาดีฮ๊ะ เจ๊ะและ ครู คศ.๑ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๒ ๕. นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ๖. นางสาวนูรีซะ เจะอูมา วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ๗. ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ ๘. นายฮารง แยนา พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ ๙. นางวันอาตีก๊ะ มานะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๑ ๑๐. นายอาดัม ยูโซะ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๑ ๑๑. นางสุไวบะห์ ดอเลาะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๒ ๑๒. นางสาวฟีรดาวซ์ เจะมามะ วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๒ ๑๓. นางนิรญา โต๊ะมิง พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๑ ๑๔. นายอัดนันต์ ยาโงะ วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๑ ๑๕. นางปิยนาถ เปียร์กลิ่น ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ๑๖. นางสาวปัทมา เจ๊ะและ ครูพี่เลี้ยงเด็กพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ๑๗. นางขอลีเย๊าะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๑ ๑๘. นายมะยูโซะ สาและ พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๑ ๑๙. นางไอนิง เจ๊ะเหลาะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๒ ๒๐. นายอาดุล ประเสริฐดำ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๒ ๒๑. นางสาววันซูรัยณา ดอแม ครู คศ.๑ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๑ ๒๒. นายอนันต์ หีมอะด้ำ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๑ ๒๓. นางอาซียะ สมาแอ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๒ ๒๔. นายมูฮำหมัดบัครี ตาเละ วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๒


๔๗ ๔. คณะกรรมการฝ่ายประเมินผล มีหน้าที่ สรุปและรายงานผลการนิเทศ ติดตามผลการจัดการเรียนการ สอน ประกอบด้วย ๔.๑ นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ ประธานกรรมการ ๔.๒ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ กรรมการ ๔.๓ นางขอลีเยาะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๔.๔ นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ ๔.๕ นางสารีนา บ่อเตย ธุรการโรงเรียน ผู้ช่วยกรรมการและเลขานุการ ขอให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มีประสิทธิภาพ เกิดผลดีต่อโรงเรียน ครู และ นักเรียนต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๔ (นางแวอาซีซะห์ หวังแอ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ


๔๘ คำสั่งโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ที่ / ๒๕๖๕ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการนิเทศการสอนออนไลน์ ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ .......................................................................................................................................... ด้วยโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ มีการจัดหลักสูตรกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเพื่อส่งเสริมให้เกิดการ เรียนรู้ที่มุ่งเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญและกิจกรรมการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ (Active Learning) เป็นสำคัญ และส่งเสริมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของคณะครู ผู้บริหาร โรงเรียนและชุมชน เพื่อให้การ พัฒนาการเรียนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วยรูปแบบกัลยาณมิตร อาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๗ แห่ง พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ จึงขอแต่งตั้งคณะกรรมการ ดำเนินการนิเทศการสอน ภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ดังต่อไปนี้ ๑. คณะกรรมการอํานวยการ มีหน้าที่ ให้คำแนะนำ ปรึกษา อำนวยการความสะดวก ให้การดำเนินงาน เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย ๑.๑ นางแวอาซีซะห์ หวังแอ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ประธานกรรมการ ๑.๒ นายมะซามัน การี รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ รองประธานกรรมการ ๑.๓ นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ กรรมการ ๑.๔ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ กรรมการ ๑.๕ นางขอลีเยาะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๑.๖ นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ ๑.๗ นางสารีนา บ่อเตย ธุรการโรงเรียน ผู้ช่วยกรรมการ และเลขานุการ ๒. คณะกรรมการนิเทศ มีหน้าที่ นิเทศกิจกรรมการเรียนการสอนและให้คำปรึกษาด้วยรูปแบบ กัลยาณมิตรให้กับผู้รับการนิเทศตามตารางนิเทศ ประกอบด้วย ๑.๑ นางแวอาซีซะห์ หวังแอ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ ประธานกรรมการ ๑.๒ นายมะซามัน การี รองผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ รองประธานกรรมการ ๑.๓ นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ กรรมการ ๑.๔ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ กรรมการ ๑.๕ นางขอลีเยาะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๑.๖ นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ


๔๙ ๓. ฝ่ายรับการนิเทศ มีหน้าที่ ดำเนินการจัดเตรียมการสอนเพื่อรอรับการนิเทศในวัน เวลานิเทศตาม ตาราง ประกอบด้วย ระดับการศึกษาปฐมวัย ๑. นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๒/๑ ๒. นางเจะปาตีเมาะ มะรอแม ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๒/๒ ๔. นางสาวรอกีเยาะห์ กาเซ็ง พนักงานราชการ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๓/๑ ๕. นางวันอูเยียน ดอเล๊าะ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นอนุบาลปีที่ ๓/๒ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑. นางสาวโซเฟีย ยูนุ ครูผู้ช่วย ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ๒. นางสาวนิรอมา มะเกะ พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๑ ๓. นางสาวแวเซาอุดะ แวฮามะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๒ ๔. นางมาดีฮ๊ะ เจ๊ะและ ครู คศ.๑ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๒ ๕. นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ๖. นางสาวไซนะ สาแม วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๑ ๗. ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ ๘. นายฮารง แยนา พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒/๒ ๙. นางวันอาตีก๊ะ มานะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๑ ๑๐. นายอาดัม ยูโซะ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๑ ๑๑. นางสุไวบะห์ ดอเลาะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๒ ๑๒. นายอิมรอน บือซา วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓/๒ ๑๓. นางนิรญา โต๊ะมิง พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๑ ๑๔. นายอัดนันต์ ยาโงะ วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๑ ๑๕. นางปิยนาถ เปียร์กลิ่น ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ๑๖. นางสาวนูรฮายาตี แวยุโซะ วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๒ ๑๗. นางขอลีเย๊าะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๑ ๑๘. นายมะยูโซะ สาและ พนักงานราชการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๑ ๑๙. นางไอนิง เจ๊ะเหลาะ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๒ ๒๐. นายอาดุล ประเสริฐดำ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๒ ๒๑. นางสาววันซูรัยณา ดอแม ครู คศ.๑ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๑ ๒๒. นายอนันต์ หีมอะด้ำ ครูชำนาญการ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๑ ๒๓. นางอาซียะ สมาแอ ครูชำนาญการพิเศษ ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๒ ๒๔. นายมูฮำหมัดบัครี ตาเละ วิทยากรอิสลาม ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖/๒


๕๐ ๔. คณะกรรมการฝ่ายประเมินผล มีหน้าที่ สรุปและรายงานผลการนิเทศ ติดตามผลการจัดการเรียนการ สอน ประกอบด้วย ๔.๑ นางสาวแวรสนานิง ยูโซะ ครูชำนาญการ ประธานกรรมการ ๔.๒ ว่าที่ร้อยตรีหญิงหทัยทิพย์ จินดารัตน์ ครู คศ.๑ กรรมการ ๔.๓ นางขอลีเยาะ เจะมามะ ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการ ๔.๔ นางสาวต่วนฮายาตี จะนือรง ครูชำนาญการพิเศษ กรรมการและเลขานุการ ๔.๕ นางสารีนา บ่อเตย ธุรการโรงเรียน ผู้ช่วยกรรมการและเลขานุการ ขอให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ มีประสิทธิภาพ เกิดผลดีต่อโรงเรียน ครู และ นักเรียนต่อไป ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง ณ วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ (นางแวอาซีซะห์ หวังแอ) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านตันหยงลุโละ


Click to View FlipBook Version