Growth Mindset คอื กรอบความคดิ ความเช่ือม่นั ในคณุ า ในความสามารถของตนเอง จน งผล อการ
เปลย่ี นแปลงทางพฤตกิ รรมไปในทางทด่ี ขี ้นึ
คนแ ละคนจะมี “กรอบความคดิ (Mindset) “ ของตนเอง ความคิดนี้เ นส่ิงทีส่ ัง่ สมมาในแ ละบุคคล เกิด
จากความเชื่อ ประสบการ การเลี้ยงดู สังคม การศกึ ษา ฯลฯ แ ละคนจงึ แตก างกัน กรอบความคิด
(Mindset) มี 2 ประเภท เรยี ก ายๆคือ แบบยดึ ติด ( Fixed Mindset) กบั แบบเตบิ โต (Growth Mindset)
ในโลกทีม่ ีการเปล่ียนแปลงรวดเรว็ คนเราจ เ น องมกี รอบความคดิ แบบเตบิ โต (Growth Mindset) เพือ่ ที่
จะปรบั ตัวใ ทนั สามารถด รงชวี ิตไ ดี มคี ณุ ภาพ พ อมเรียน สิ่ง างๆท่เี ปลี่ยนแปลงรอบตวั วยความ
เ าใจ รวมท้งั มคี วามสัมพนั กบั คนรอบ างอ างอบ น
แ าการมี Growth Mindset จะเ นส่งิ ส คญั แ หลายๆคนกย็ งั ไ สามารถส างกรอบความคิดแบบเตบิ โต
(Growth Mindset) ท้งั นี้เพราะอปุ นิสัย ความ นเคยเดิม ความ สกึ ท่ีไ ม่ันใจ เ น น
ในบทความนจ้ี ะแนะน การพัฒนากรอบความคดิ แบบเติบโต (Growth Mindset) จากภายใน ไป ภายนอก มี
6 ข้นั ตอน วยกัน
1. การเ าถึงคณุ าของตนเอง
มนษุ ทกุ คนมคี ณุ าในตนเอง แ บางครัง้ วยความ นวายทางจิตใจ ท ใ ไ เหน็ คุณ าของตนเอง จมอ ใน
กรอบความคดิ เ าๆ การเ าถงึ คุณ าของตนเองจะ วยใ มคี วามมั่นใจ รกั ตนเอง เช่ือมั่น าในความสามารถ
มพี ลงั โฟกัสไปทเ่ี าหมาย นั่นคือ มีกรอบความคดิ แบบเติบโต (Growth Mindset)
การ กใจใ มพี ลัง วยการท สมาธิ มสี ติจะ วยใ ทนั ความ สึกของตนเอง ความส คญั ของ จจุบัน ป อย
วางเรื่องราวในอดีต ยอมรับและเ าใจตนเอง ดังน้ัน การท สมาธิจึงเ นท่ีนิยมทั่วโลก าเ นพื้นฐานส คัญ
ส หรบั สนใจพฒั นาตนเอง 50
ู้ผำำ็ป่ว็ปำ้ข่ลัปำู้รู้รู้ร้ห่ชำ้ด้หึฝ
้ป่ว้ห่ช่ค้ข่กู่ย่ค่ม้หำุ่ว้ด่ต่ค์ย
่ค้ข้ดู่สำ
้ต็ป่มู้รุ้ค้ร่ม่ตำ็ป่ว้ม
ุ่อ่ย้ข์ธ้ข้ด่ตู้ร้ร้ดำ้ห้ต็ปำ
่ง่ต่ต์ณ่ต็ป่ต
่ต่ส่ค
2.ปรับปรุงการพูดกบั ตนเอง
การใ พลังกับจติ ใจ วยการใ ภาษาเชงิ บวกกับตัวเอง การพดู กบั ตนเอง (Self-Talk) เ นส่งิ ทเ่ี ราเผลอท เ น
ประจ ทุกวนั ๆ อาจจะเ นการคดิ ในใจในเร่อื งราว างๆ คิดถึงความกังวล การปรับเปลย่ี นเรอื่ งราวเห าน้นั ใ
เ นค พดู เชงิ บวก ใ ก ลงั ใจกบั ตนเองใ พ อมเ ดรบั ความ าทาย เ าใจเง่อื นไขของความส เรจ็ และความ ม
เหลว ก็จะ วยเปล่ยี นกรอบความคิดใ ยืดห น พ อมรบั การเปลีย่ นแปลง
ลกั ษณะการพดู กับตนเองทีส่ คญั คอื ใ คณุ ากับความพยายามของตนเอง เหน็ ความ าทายในฐานะโอกาส
ยกตัวอ างเ น
• ความ มเหลวท ใ ฉนั ไ เตบิ โต
• ฉนั สามารถท ไ ทุกอ างท่ีฉัน องการ
• ฉันไ รบั แรงบนั ดาลใจจากความส เรจ็ ของคนอน่ื
• ฉันไ กลวั ในการส าง (ท ) ส่ิงให ๆ
• การ มเหลวทีแ่ จริง คอื การไ ไ พยายาม
• แ าจะล บาก าง แ ฉัน าฉนั ท ไ
51
้ดำ่วู้ร่ต้บำ่ว้ม
้ด่ม้ท้ล
่มำ้ร่ม
ำ้ด
้ต่ย้ดำ
้ด้หำ้ล
่ช่ย้ท่ค้หำ
้รุ่ย้ห่ช้ลำ้ข้ทิป้ร้หำ้หำ็ป้ห่ล่ต็ปำ็ปำ็ป้ช้ด้ห
3.พูดกับ อน่ื วยจิตใจทเี่ ดก าง
พดู กับ อ่นื วยจติ ใจทีเ่ ดก างจะ วยใ กรอบความคิดถกู ขยาย การเ ดใจเรียน สง่ิ างๆ รอบๆตวั ไ
าจากเพอ่ื นทท่ี งาน โรงเรียน หรือคนทั่วไปรอบๆตวั จะ วยขยายกรอบความคดิ ของเราใ เตบิ โต มอง
เหน็ สง่ิ ดี มองเห็นวิถีชีวิตแบบอ่ืนๆ จิตใจทเ่ี ดก าง จะท ใ มีใจสบาย แ งบนั มติ รภาพ อกนั การขยาย
ใจใ เ ดก างอาจอ ในรูปแบบการใ ใ ค ช่ืนชมความส เรจ็ ของ อื่น วยความจริงใจ ใ ก ลงั ใจ อนื่
เนน
52
้ต็ปู้ผำ้ห้ดู้ผำำ้ห้หู่ย้วิป้ห่ต่บ้หำ้วิป้ห่ชำ่ว่ม่ตู้ริป้ห่ช้วิป้ดู้ผ
้วิป้ดู้ผ
4. การวางแผนงานอ างเ นล ดบั และการใ รางวัลตนเองเ นระยะ
ความส เร็จ (เ าหมาย) หลายๆคร้งั คอื การเดนิ ทางไกล มีรายละเอียดและอง ประกอบของงานหลายอ าง
หลายขน้ั ตอน หรอื ซับ อน การวางแผนงานอ างเ นล ดบั จะ วยใ การท งานเ นไปอ างเ นระบบ
การมีกรอบแบบยดึ ตดิ ( Fixed Mindset) บางครัง้ เกดิ จากความ สกึ า สงิ่ น้ันเ นไปไ ไ เราไ สามารถ
ท ไ การวางแผนท่ดี ี ทีเ่ นชัดจะ วยใ เกิดความเชือ่ ม่ันในตนเอง และสามารถท งานใ มคี วามคบื ห าไป
ไ จริง
นอกจากน้ี การ จกั ใ รางวัลตนเองเ นระยะ เมือ่ ท งานถึงเ าในแ ละขน้ั ไ าจะเ นสง่ิ ของ ค พูดทช่ี ื่มชน
ตนเอง กิจกรรมพิเศษ สิ่งเห าน้ีเ นสิ่งท่ี วยเตือนความคดิ ของตวั เรา และตอก การกระท ของเรา การ
เปลี่ยนแปลงของเรา ามีคุณ า เกดิ ผลส เร็จจรงิ ซงึ่ กค็ อื วยใ กรอบความคดิ แบบเตบิ โต (Growth
Mindset) ของเราแข็งแรงน่นั เอง
53
้ห่ชำ่ค่วำำ้ย่ช็ป่ลำ็ป่ว่ม่ต้ปำ็ป้หู้ร
้ด้น้หำ้ห่ช่ด้ดำ่ม้ด่ม็ป่วู้ร
็ป่ย็ปำ้ห่ชำ็ป่ย้ซ่ย์ค้ปำ
็ป้หำ็ป่ย
5.ตรวจสอบ Feedback อ างส เสมอ
การตรวจสอบ Feedback อ างส เสมอ เ น วนหนง่ึ ของการเรยี น “ผลลพั ของการกระท จะเ นส่งิ ที่
ส คัญท่ีสุด จะเ นการเปล่ยี นความคิด ความเชอื่ และเ นทาง การพัฒนาในครัง้ อๆไป
การวิพาก Feedback จะ วยใ เราเ าใจสถานการ เสยี งสะ อน ผลลัพ ไ ดขี นึ้ ไ มุมมองทห่ี ลากหลาย
เ ดก างย่งิ ขึ้น ซึง่ ก็ วยใ กรอบความคิดของเราขยายและยดื ห น นั่นก็คอื เกิด Growth Mindset น่นั เอง
6.เรียน และพัฒนาตนเองอ เสมอ พี่เลย้ี งทม่ี ีประสบการ หลีกเลีย่ งสอื่ เร่อื งราว
มคี วามอตุ สาหะในการเรยี น จากแห ง างๆ หม่นั คบหา
ท่ไี มคี ณุ ภาพ ท่จี ะรบกวนจติ ใจ
างอิง อมูล : Growth Mindset 54
้ข้อ่ม์ณู้รู้ผ่ต่ลู้ร
ู่ยู้รุ่ย้ห่ช้วิป้ด้ด์ธ้ท์ณ้ข้ห่ช์ษ่ตู่ส็ป็ปำ็ปำ์ธู้ร่ส็ปำ่ม่ย
ำ่ม่ย
COMMUNICATION FOR HEALTH
ฐานหวั Head
ฐานใจ Heart
ฐานกาย Hand
55
SWOT Analysis : เ นการวเิ คราะ เพื่อ นหา จุดแข็ง
จุดเ น จุด อย หรอื สง่ิ ท่ีอาจเ น ญหา ส คญั ในการ
ด เนนิ งาน สภาพท่ี องการในอนาคต (Vision)
SWOT เ นตัว อท่ีมคี วามหมายดังนี้
Strengths – จุดแข็งหรือ อไ เปรียบขององ กร ( จจัยภายใน)
Weaknesses – จุด อนหรือ อเสียเปรียบขององ กร ( จจยั ภายใน)
Opportunities – โอกาสที่จะทาใ อง กรดาเนินการไ ( จจยั ภายนอก)
Threats - อุปสรรค อจากดั หรือ จจยั ทค่ี ุกคามการดาเนนิ งานขององ การ ( จจัยภายนอก)
รูปภาพจาก Wordstream.com
หลักการสาคัญของ SWOT ก็คือการวิเคราะ โดยการสารวจจากสภาพการ 2 าน คอื สภาพการ
ภายในและสภาพการ ภายนอก (Situation Analysis) ซ่งึ เ นการวเิ คราะ จดุ แขง็ จุด อน เพือ่ ใ ตนเอง
( เรา) จกั สภาพแวด อม ( เขา) ชดั เจน และวิเคราะ โอกาส-อุปสรรค การวเิ คราะ จจัย าง ๆ ทง้ั
ภายนอก และภายในอง กร ซ่ึงจะ วยใ บรหิ ารขององ กรทราบถึงการเปลี่ยนแปลง าง ๆ ทีเ่ กิดข้นึ ภาย
นอกอง กร ท้ังส่ิงท่ีไ เกิดขึ้นแ วและแนวโ มการเปล่ียนแปลงในอนาคต รวมทั้งผลกระทบของการ
เปลยี่ นแปลงเห านที้ ่มี ี ออง กรธุรกจิ และจุดแข็ง จดุ อน และความสามารถ าน าง ๆ ทีอ่ ง กรมอี ซึ่ง
อมูลเห าน้ีจะเ น ประโยช อ างมาก อการกาหนดวิสัยทัศ การกาหนดกลยุท และการดาเนินตาม
กลยุท ขององ กรที่ เหมาะสม อไป
อมลู จาก Greedisgoods, HardcoreCEO และ Ad Addict TH
56
้ข่ต์ค์ธ์ธ์น่ต่ย์น็ป่ล้ขู่ย์ค่ต้ด่อ์ค่ต่ล้น้ล้ด์ค่ต์คู้ผ้ห่ช์ค่ตัป์ห์หู้ร้ลู้รู้รู้ร้ห่อ์ห็ป์ณ
์ณ้ด์ณ์ห้ตู่สำำัป็ป้ด่ด้ค์ห็ปัป์คัป้ข
ัป้ด์ค้ห
ัป์ค้ข่อ
ัป์ค้ด้ข
่ย็ป
ใบงาน : ชวนชมุ ชนวเิ คราะ กระบวนการส่อื สารสขุ ภาวะ S-M-C-R ในชมุ ชนของตนเอง าน SWOT
57
ห่ผ์
พลเมอื ง
รอบ สขุ ภาวะ
: MIDL
ณัฐพง หมันหลี : เทคโนโลยีสื่อสารมวลชน
คณะครุศาสต อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี มทร.ศรวี ชิ ยั
58
์ร
์ษ
ู้ร
ณฏั ฐเมธ ดลุ คนิตและคณะ (2563)
59
ร์
ความเ นพลเมอื งดจิ ิทัล (Digital
Citizenship) คืออะไร
60
ป็
พลเมืองรอบ สุขภาวะ : MIDL
สรานน อนิ ทนน . (2563)
61
ร์ท์ทู้
Active Citizen
62
เ าทนั รอบ สุขภาวะ
อ างส างสรร
โ โ อ๊ี อ
เะ ย
กา เ ด บสอ่ื กา วเิ ค าะ สือ่ กา เ าใจสอ่ื กา ป ะเมนิ ส่ือ กา ใ ป ะโยช จากสอ่ื
“5 ออ” อง ประกอบของการ เ าทันส่อื
ณัฏฐเมธ ดุลคนิตและคณะ. (2563). มอื การจดั การเรียน เพ่อื ส างพลเมอื ง เ าทันสือ่ ส หรับระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย (Digital
Citizenship Management Skills - DCMSs). มูลนธิ ิ งเสรมิ สอ่ื เด็กและเยาวชน (สสย.). กรุงเทพมหานคร
สรานน อนิ ทนน . (2563). ความฉลาดทางดจิ ิทลั (DQ Digital Intelligence). มลู นิธิ งเสริมส่ือเด็กและเยาวชน (สสย.). กรุงเทพมหานคร
63
่ส์ท์ท
่สำ่ทู้ร้รู้รู่ค์ร์นร้ชรรร้ขร์หรรัริปร๋อ๋อ๊อุ๊อ๊อ่ทู้ร์ค์ค้ร่ย
ู้ร่ท
1. “เ ะ” อ าพง่ึ เช่ือส่อื ทนั ทที ดี่ ู เ ะ อน อ าเพิง่ เช่ือสอื่ อง
สงสัย และตงั้ ค ถามสงสัยและคิดวเิ คราะ หาค ตอบ การเ ดรบั
ส่อื ประสาทสมั ผัส หู ตา จมูก ลนิ้ สมั ผสั ของเราเมอ่ื เ ดรบั แ ว
การเ ดรบั สอื่ ประสาทสัมผสั หู ตา จมกู ล้ิน สมั ผสั ของเรา เมอ่ื เ ดรับแ วสมองจะสงั่ การ
ใ คิดและปรงุ แ งใ เกิดอารม าง ๆ ตามมา การรบั อารม ตนเองจึงเ นส่ิงส คัญที่
องแยกความคิดและอารม ออกจากกัน และความคดิ จะทาใ เรารับ ความจริง า
“อะไรเ นสิง่ ทสี่ ื่อส างขึ้น”
64
้ร็ป
่วู้ร้ห์ณ้ตำ็ป์ณู้ร่ต์ณ้ห่ต้ห้ลิปิป้ลิปิปำ์หำ้ต่ย่ก๊อ่ย๊อ
2 “ ย” ไ เสมอ าสอ่ื ไ มคี วามบังเอิญ ยแ วอ าเพิ่ง
ชอบ อง าส่อื จงใจใ เราชอบ สนกุ เศ า หรอื ค อย
ตาม วยอารม แบบใด
การวิเคราะ สื่อ องแยกแยะอง ประกอบในการน าเสนอของส่ือ ามี
วัตถปุ ระสง อะไร
65
์ค
่วำ์ค้ต์ห
์ณ้ด้ล้ร้ห่วู้ร้ต่ย้ลุ๊อ่ม่ว้วู้รุ๊อ
3 “โ ะโ ” สอ่ื มกี ลวิธี าง ๆ ท ใ จดจ และเ าใจตามทีส่ ือ่ องการ อ า
เพง่ิ โ ะโ เพราะ สึก าถกู ดงึ ดูดใจ ส่ือมักใ เทคนิคหลากหลาย รปู แบบเพื่อ
ดึงดดู ใจใ จดจ เ น ใ กา ตนู สนุก ๆ หรอื คนทเ่ี ราช่นื ชอบมาน เสนอ
ตคี วามสอ่ื หลังจากเ ดรบั สอ่ื ไปแ ว เพอ่ื ท ความเ าใจ ในสง่ิ ท่นี เสนอ ซงึ่ แ ละคนกจ็ ะมี
ความเ าใจส่ือไ ไ เหมือนกัน ตีความไปคนละแบบ ขึ้นอ กับประสบการ พื้นฐานการ
ศกึ ษา คุณสมบัตใิ นการเรียน ตลอดจนการรับ อมูลของแ ละบุคคลทไ่ี เ สกนั มา อน
การเ าใจสอ่ื
66
้ข
่ก่ท่ม่ต้ขู้รู้ร์ณู่ย่ม้ด้ข่ตำ้ขำ้ลิป
ำ์ร้ช่ชำ้ห้ช่วู้ร๋อ๊อ่ย้ต้ขำ้หำ่ต๋อ๊อ
4 “อี๋” เจตนาของส่อื คือ แอบแฝงผลประโยช บางอ าง เสมอ อ๋ี เพราะแอบ
ปลูก ง านยิ มบางอ าง หรอื ส างทศั นคติ แฝงมากับส่ือ ท ใ เราอยากดมื่
เห า สูบบหุ ร่ี ซ้ือสนิ าตามฮีโ ดารา นักแสดง หรอื เช่อื าสิน า/บรกิ ารของ
เขาดี าซ้อื าใ
หลังการวิเคราะ และท ความเ าส่ือแ ว เราควรประเมิน าสิงที่สื่อน เสนอ
ามีคณภุ าพและคุณ ามาก อย เพียงใด ไ าจะเ น านเน้อื หา วิธกี ารน
เสนอ เทคนคิ ทใ่ี เ น น
การประเมิน าสื่อ
67
่ค
้ต็ป้ชำ้ด็ป่ว่ม้น่ค่วำ่ค้ล้ขำ์ห
้ช่น่น้ค่ว่ร้ค้ล้หำ้ร่ย่คัฝ่ย์น
5. “ อ” จกั แลกเปลย่ี นความคิดเห็น วยเหตผุ ลท่ี างกัน
อ จะเกิดขน้ึ ไ าแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นกนั วยเหตุผลที่ างกนั
วมคดิ วมวิเคราะ และ จักกัประยุก ใ สือ่ ใ เหมาะสม
แ เราจะสามารถวิเคราะ เ าใจ และประเมนิ าสอ่ื ไ แ เราไ สามารถออกไป
จากโลกของสื่อไ จึง จ เ น องน สง่ิ ท่เี ราวเิ คราะ ไปใ ประโยช เลือกรบั
ส่ือเ น สามารถ งสาร อไ มีปฎิกริยาตอบกลับสื่อไ
การใ สอ่ื ใ เ นประโยช
68
์น็ป้ห้ช
้ด้ด่ต่ส็ป์น้ช์หำ้ต็ปำ้ด่ม่ต้ด่ค้ข์ห้ม
้ห้ช์ตู้ร์ห่ร่ร่ต้ด้ถ้ด๋อ
่ต้ดู้ร๋อ
ใบงาน : Checklist ระดมไอเดยี การเ นพลเมือง MIDL าน Do & Don’t
69
ป่ผ็
การส างสรร
เนื้อหา
ส่อื สุขภาวะ
ฮาริส มาศชาย : ศูน ส างสรร สื่อเพ่อื เดก็ เยาวชนและครอบครวั
70
์ค้ร์ค้ร์ย
ท ไม อง
รอบ สขุ ภาวะ
71
ำู้ร
้ต
การส างสรร เนื้อหาสื่อสขุ ภาวะ
เ นกา ดำเนนิ งานเพ่อื กา สอื่ สา ะห าง บสา และ งสา เพ่อื ใ ป ะชาชนสามา ถ
เ าถึง อมูล าวสา านสุขภาพไ ายและทว่ั ถึง มกี า จดั อง ความ แบบมี วน วม แลก
เปลยี่ นความ และป ะสบกา ของตนเอง วมกับ อืน่
ความส คญั ของการสื่อสารทางสขุ ภาพ
1. การสอื่ สารสขุ ภาพ 2. การสือ่ สารสขุ ภาพ วย 3. วยใ เกดิ การปรับปรุง
สามารถ วยชีวติ องกันการระบาดของโรคไ ระบบการใ บริการ านสุขภาพ
4. เ ดโอกาสใ สงั คมมี 5. ลด นทุนของการ
วน วมในระบบสุขภาพ บริการ านสุขภาพ
ดร.กฤษณพง เลิศบ รุงชัย . การสือ่ สารสขุ ภาพดิจทิ ัล (Digital Health Communication)
https://touchpoint.in.th/digital-health-communication/
72
้ด้ต
่ร่ส้หิป้ด้ห้ห่ช้ด้ป่ช
่ชำ
ำ์ศ์ค้รู้ผ่ร์ณรรู้ร่ร่สู้ร์คร่ง้ด้ดร่ข้ข้ขรร้หร่สู้ผรัรู้ผ่วรรรร็ป
1. การสอ่ื สารสุขภาพสามารถ วยชีวิต
การพัฒนาการส่ือสารสุขภาพทด่ี ี จะ วยใ ประชาชน จักวิธีรกั ษาสุขภาพของตนและ
คนใก ตัว สามารถ วยชวี ติ คนไ เ น
– วยใ คนไ เลอื กวธิ กี ารรกั ษาทีเ่ หมาะสม
– ปฏบิ ัตติ ัวตามค แนะน ของแพท ไ ถกู อง
– วยใ แพท วินจิ ฉยั อาการไ ไ ถกู อง
– ลดความเส่ยี งจากการใ ยาผิด
– วยใ ประชาชน นจากการใ ชวี ิตทีเ่ ส่ียงภัยโดยไ ตวั
73
ู้ร่ม้ช้พ้ห่ช
้ช
้ต้ด้ข์ย้ห่ช
้ต้ด์ยำำ
้ข้ห่ช
่ช้ด่ช้ลู้ร้ห่ช
่ช
2. การส่อื สารสขุ ภาพ วย องกนั การระบาดของโรคไ
การสือ่ สารสุขภาพ สามารถ วยกระจาย าวสารความ ใ แ ประชาชน วย
ใ ประชาชน วิธีหลีกเล่ียง องกัน ลดความตื่นตระหนกของประชาชน เม่ือ
ประชาชนมคี วาม ในการหลกี เลี่ยง องกนั มกี าร วมมอื ทดี่ ี การระบาดของโรค
ก็อาจชะลอลงหรอื ถึงขนั้ ยุตลิ งไ
74
้ด่ร้ปู้ร้ปู้ร้ห่ช่ก้หู้ร่ข่ช
้ด้ป่ช
3. วยใ เกดิ การปรับปรุงระบบการใ บรกิ าร านสุขภาพ
การมีบุคลากรทเี่ นนกั ส่ือสารสขุ ภาพ เ น อาสาสมคั ร หรอื เ าห าทส่ี ื่อสารท่ีพ อมจะ
รับ งหรือมีความเ าใจในความ องการของคนไ จะ วยใ ห วยงานสามารถปรับรูป
แบบการใ บรกิ าร หรือแ ไ ญหา อบกพ องของการใ บรกิ ารไ ดี และในระดบั รัฐบาล
วยใ เกิดการปรับปรุงนโยบาย สาธารณะ านสขุ ภาพไ
75
้ด้ด้ห่ช้ด้ห่ร้ขัป้ข้ก้ห่น้ห่ช้ข้ต้ขัฟ้ร้น้จ่ช็ป
้ด้ห้ห่ช
4. เ ดโอกาสใ สงั คมมี วน วมในระบบสุขภาพ
การเ ดโอกาสใ ประชาชนไ เ ามามี วน วมในการส างและพฒั นาระบบสขุ ภาพ
ของสังคม เ นแห งที่มาของความริเร่มิ ส างสรร ในเรอื่ งการใ บริการและการแลก
เปล่ียนเรียน ทาง านสุขภาพ และท่ีสุดสังคมจะสามารถเ ามามี วน วมในการ
ก หนดนโยบาย และตรวจสอบการใ บริการจนน ไป มาตรฐานการบริการที่สูงขึ้นมี
ประสทิ ธิภาพขน้ึ
76
ู่สำ้หำ่ร่ส้ข้ดู้ร้ห์ค้ร่ล็ป้ร่ร่ส้ข้ด้หิป
่ร่ส้หิป
ลด นทุนของการบรกิ าร านสขุ ภาพ
5. ลด นทุนของการบริการ านสขุ ภาพ
การใ ความ และใ วธิ กี ารแ ประชาชนในการ องกนั รกั ษาสขุ ภาพของตนเอง
ในทางงบประมาณ การ องกันหรอื การหลีกเลี่ยงภาวะเสยี่ งภยั ทางสุขภาพ
มี นทนุ ถกู ก าการรักษาเยียวยา ลดผลกระทบจาก ความยากจน
77
้ด้ต่ว้ต
้ป้ป่ก้หู้ร้ห
้ด้ต
ชวนกันระดมความคดิ วเิ คราะ ญหาทเี่ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชนเกี่ยวกับประเดน็ สขุ ภาพ
ลงใน องส่ีเหลย่ี ม โดยมากก า 1 ญหา พ อมเลอื ก ญหาเ น 1 ญหา ลงในวงกลม
มอง ญหา เ ด น
เ อก
ญหา
เน
78
ัป่ดัป้รัป่ว่ช
ัป์ห่ดัปืล้ึขิก่ีทัป
Content Creative
ใคร คือ รับ อมลู
Key Message
79
ผ้ขู้
กระบวนการสื่อสาร
านการเ าเร่ือง
STORYTELLING
CANVAS
ปริวตั ร กิจนติ ชี : มาหยา ส างสรร
80
์ค้ร์ว์ย่ล่ผ
เรมิ่ นกับการท Storytelling อ างไรดี
อนอื่นเลย องตระหนกั อน าการท Storytelling นั้นเ นศาสต และศลิ ปะอ างหนึง่
ซึ่ง องอาศยั การผูกเร่อื งและการเ าเร่อื งใ าติดตามไปจนจบและจดจ ไ
โดยการเ าเรือ่ งทด่ี ีนน้ั จะ องมีความลงตวั ระห างการขดั แ งหรอื เรอื่ งราวทเ่ี นจุดพลิกผนั
อ างลงตัวขน้ึ มา เพ่ือใ กลายเ นเรือ่ งที่ทกุ คนมปี ระสบการ วมไปไ
การเ าเรื่องนนั้ จะประกอบ วย 3 วน วยกันคอื
1. เ า (วธิ กี าร) นัน้ คอื ส อ่ื แบบไหนจะเหมาะกบั ก ม Target และใ วิธี
ไหนในการเ าเรื่อง หรือการส างอารม รวม ภาพประกอบ,
เสียง หรือการใ ส นวนและค บางอ างน้นั วยส างอารม ไ
มากมายและการจดจ ไ มากมาย ลองนึกถึงส นวนในนิยาย หรือ
ฉากในภาพยนต าง ๆ ทท่ี ใ เราจดจ
2. เนื้อเรือ่ ง การส างเน้ือเรอ่ื งท่ตี รงกับก มเ าหมาย การใ เรื่อง
ราว าการเปลย่ี นแปลงสุขภาวะเ นอ างไร หรือท ไมเรา องท
หรือผลติ ออกมา นัน้ เ นการแสดงความเชอื่ ท ใ คนนั้น งความ
เช่อื าง ๆ และสามารถค อยตามเรื่องราวเห าน้ันไ ตรงน้ใี น
หลาย ๆ ทเ่ี รยี กหลกั การ นจ้ี าก Simon Sinek า Start with
Why และการท เรอ่ื งราวตามทฤษฏี 5 acts เพอื่ ใ เกดิ การ
ตดิ ตาม
3. ง (ก มเ าหมาย) ศึกษาก ม งเ นใคร หรอื ก ม รับสาร
เ นใคร เพ่อื ใ ไ insight มาผกู กบั เรือ่ งราวเห านั้น แ ละ
ส างสรร สื่อออกมาใ ตรงกับก ม ง น้ันไ ดีที่สุด การที่
สามารถแนบเนยี นไปกับเร่ืองราวที่ รับสารอ าง งน้ันท ใ เรื่อง
ราวของเรานั้นจะถูกติดตามไ ายมากก า
างองิ อมูล : marketingoops 81
้ข้อ่ว่ง้ด้หำัฟ่ยู้ผ้ดัฟู้ผุ่ล้ห์ค้ร่ล้ด้ห็ปู้ผุ่ล็ปัฟู้ผุ่ล้ปุ่ลัฟู้ผ
้หำ่ว์ณ้ด่ล้ล่ตัฟ้หำ็ปำ้ตำ่ย็ป่ว้ห้ปุ่ล้ร
ำ้หำ่ต์รำ้ดำ้ด์ณ้ร่ช่ยำำ้ช์ณ้ร่ล้ชุ่ล่ลู้ผ
้ด่ส้ด่ล้ด่ร์ณ็ป้ห่ย็ป้ย่ว้ต่ล
้ดำ่น้ห่ล้ต
่ย์ร็ปำ่ว่ก้ต่ก
่ยำ้ต
82
ป ะเด็นที่สนใจ 1 Unique Selling Point
- จุดแข็งของคุณ/ทีมคือ ?
- อัตลักษณ์ห อเสน่ห์ท่ีน่าสนใจ
2 Target Audience 3 Impact
- กลุ่มเป้าหมาย คือใค ? เ องนี้มีป ะโยชน์ต่อเด็กอย่างไ ?
- เขาสนใจอะไ ?
4 Key Message 5 Mood & Tone
- อยากเล่าเ องเกี่ยวกับอะไ ? - อา มณ์และความ สึกของเ องนี้
- ป ะเด็นสำคัญคืออะไ ? เป็นอย่างไ ?
- ลองส ปเป็นป ะโยคเดียว ? - น้ำเสียง/ภาพ/ภาษา/วิ เล่าเ อง
เป็นอย่างไ ?
5 Channel
- ปแบบท่ีจะสื่อสา คืออะไ ?
- ทำไมต้องใช้เค องมือน้ี ?
- ต งกับผู้ บสา อย่างไ ?
83
รร่ืรรุร
รร
ร่ืรร่ืรีธ
ร่ืรู้รรืร
รรัรร
่ืร
รรูรร
รร
ใบงาน : ชวนชมุ ชนวเิ คราะ ประเด็นในการสอ่ื สาร าน Storytelling Canvas
ห์ STORYTELLING CANVAS
่ผ
84
หลักสูตร 2
Production
SMC R
เครอ่ื งมอื /ใบงานกิจกรรม
• แผนทแี่ พลตฟอ มชุมชน
• เคร่ืองมือสอ่ื ชมุ ชน+สอื่ ให
• เทคนคิ อง ประกอบการ ายภาพ
• การ ายทอดสด LIVE
DESIGN THINKING < วเิ คราะ อมูลประเดน็ ในชุมชน
< วเิ คราะ ประสทิ ธภิ าพสื่อในชุมชน
เครอ่ื งมือในการสอื่ สาร < ออกแบบเครอื่ งมือส่ือในชมุ ชน
< ประยกุ ส่ือให
< สือ่ ชุมชน
< ประยกุ สื่อให
85
่ถ
่ถ์ค
่ม
์ร่ม์ต่ม์ต์ห้ข์ห
Design
Thinking
กบั Design ส่ือสุขภาวะ
ฮาริส มาศชาย : ศูน ส างสรร สอ่ื เพ่ือเด็กเยาวชนและครอบครวั
86
ย์ค้ร์
Design thinking
กระบวนการ ดเ งออกแบบ เ นกระบวนการ ด ใ เรา
สามารถ ความเ าใจความ องการของก มเ าหมายไ
อ างละเ ยด เ อเ ด ญหา าง ๆ น สามารถ เสนอ
แนวทางการแ ไขไ เ นอ าง แ ไ ก ด และเ นการ
นหาแนวทางการแ ญหาให ๆ อาจจะไ เคยเจอมา
อน าน 5 นตอน ญ อ การ ความเ าใจ การ
ยาม ความส างสรร การ ลอง และการทดสอบ หลายคน
อาจจะ ดไ ง า ‘เ ก’ เ นก มคน เหมาะ บ Design
Thinking เ องจากเ น ย เ มไป วยความ ดส างสรร
หากลองใ เสนอไอเ ยบางอ าง อาจจะเ น มมอง
ให อ างเรา ๆ กไ งเลย เ ยว งแ าอง กรของ
ณจะไ ไ เ ยว อง บงาน ลปะห อการออกแบบใด ๆ แ
การ ดเ งออกแบบ น ญเ นอ าง ง เพราะจะเ น ว
วย ใ อง กรไ ง ญหาของ ใ และพยายาม
ออกแบบ การแ ญหาใ ตอบโจท ใ มาก ด ง
เ นกระบวนการ ด ญ อ กอง กรและ ก ปแบบ ร จ
นเอง
87 อมูล : thaiwinner.
้ข่ันิกุธูรุท์คุท่ตัคำส่ีทิค็ปึจุส่ีท้ชู้ผ์ย้หัป้กีธิว้ชู้ผัปึถู้ร้ด์ค้หำท่ีท่ชัต็ป่ิย่ย็ปัคำส็ก้ันิชิค่ตืริศัก้ข่ีก้ด่มุค์ค่ว้มึถีดีทึถ่มึน่ย่ญู้ผ่ีทุม็ห่ยีดำน้ห์ค้ริค้ด็ต่ีทัว็ป่ืนัก่ีทุ่ล็ป็ด่วึถ่มิคำจ์ค้ริน้ขำทืคัคำส่ีท้ัข่ผ่ก่ม่ีท่มัป้ก้ค็ปุจูถ้ด้กีด่ย็ป้ด้กำน็ก้ึข่ตัปิก่ืมีอ่ย้ด้ปุ่ล้ต้ขำท้หำท่ีทิค็ปิชิค
Design
Thinking
Empathize
เ าใจถึงก มเ าหมาย
De ne
เลอื กโจท แ ญหา
Ideate
คดิ ไอเดีย
Prototype
ส างแบบจ ลอง
Test
ทดสอบไอเดยี
88
ำ้รัป้ก์ย้ปุ่ล้ขif
Design Thinking Process
อมูลจาก : https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/190702-design-thinking/
แห ง างอิง: D esign Council
89
ข้อ่ล
้
5 ข้นั ตอน
Design Thinking Process
1. การ ความเ าใจ (Empathize)
ดเ ม นของกระบวนการ ดเ งออกแบบ จะ องเ นการ ความ
เ าใจ ญหา ใ งประสบพบเจออ โดยสามารถ ไ โดยการ
มภาษ ตอบแบบสอบถาม แบบทดสอบ ห อการ งเกต เ น น เ อใ
ไ อ ล เ นความจ ง และปราศจากอค ง เ น จะ อง ใน วน
อาจจะเ นการ ง ถาม า ไม ง ก า ง เ น ญหา ๆ เ อใ ไ
ตอบ องการจ ง ๆ ตอบ เรา องไ อ ใ เ นใคร และ ใ
องการอะไร
2. การ ยาม (De ne)
เ อไ อ ลจาก นตอนการ ความเ าใจแ ว อจาก น จะ อง
อ ล งก าวมาส ป และหา า ใ เ นใคร องการอะไร ไม ง ญหา
องการแ ไขเ อไห และ ไหน เ น น เ อส ปออกมาไ แ ว จะ ใ มอง
เ นภาพรวมมาก น เ นแนวทางในการ ดหา แ ญหาไ เ นอ าง
90
ีด่ย็ป้ดัป้กีธิวิค็ป้ึข็ห้หำท็ก้ล้ดุร่ืม้ต็ป่ีท่ร่ืม้ก้ตัปีมึถำท้ต็ป้ชู้ผ่วุร่ลัดูม้ขน้ต็ก้ัน่ต้ล้ขำท้ัขูม้ข้ด่ืม
ifิน้ต้ชู้ผ็ป้ชู้ผืค็ก้ด้ต่ีทำคิร้ต่ีทำค้ด้ห่ืพ้ซัป็ป้ีน่ิส่วึสู้รึถำท่วำค้ัต็ป้ีน่สำ้ซำท้ต่ีท็ปำจึจิติร็ป่ีทูม้ข้ด้ห่ืพ้ต็ปัสืรำท์ณัส้ดำทู่ยัลำก้ชู้ผ่ีทัป้ขำท็ป้ต็กิชิค้ต่ิรุจ้ขำท
3. การส างสรร (Ideate)
เ อมองเ น ง ญหา ใ องการใ แ ไขแ ว มา ง นตอน
การระดมสมอง ดเ นไอเ ย าง ๆ เ นประโยช ออกมา ใน นตอน
เราจะ การ เสนอไอเ ย ด า ไ าจะเ น แบบไหน ใ ลอง
เสนอมา อน า การ ดนอกกรอบ ง เพราะจะ ใ เ ด มมองให ๆ
ไ มาก น จาก น มารวบรวมและ ดเ อกเอา การ าสนใจ ไป
แ ไข ญหา ง ญ ดใน นตอน อ ความหลากหลายทางความ
ด อาจจะ องใ ความเ นจาก ง ป งาน บ หาร และคน วไป เ อ
ใ ไ ไอเ ย แตก าง นตาม มมองของคนในแ ละสถานะ
4. การ ลอง (Prototype)
เ อ นตอนการ ดสรร ไอเ ย ๆ ไ เส จ นเ น เ ยบ อย
แ ว อน จะ ไปใ จ ง อง การส างแบบ ลอง การแ ญหา
น นมา อน เ อทดสอบ า การ งก าว นเหมาะสม บ ญหาของ
ใ จ งห อไ ตอบโจท การแ ญหาไ ตรง ดจ งห อ และ งเ นการ
วยลดความ ดพลาด อน จะ ง ง อ ใ ก วย แ ไ เ น จะ
องลง นลงแรงไป บการส างแบบ ลองจนมากเ นไป ลอง เ ยง
แ เ น วแทนไอเ ยของ ณเ า น และสามารถ ฒนา นในอนาคตไ
5. การทดสอบ (Test)
มา ง นตอน ด าย จะตอบไ าไอเ ย เราเ อก นมา น
ตอบโจท การแ ญหาของ ใ ไ จ งห อไ อการลง อทดสอบไอ
เ ย นเอง นตอน แ จะ เ น นตอน ด ายแ ว แ ความจ งแ วเ น
นตอน จะ อง การทดสอบ ๆ เ อใ ไ ผลการทดสอบ ด จะ
อง การป บป ง เป ยนแปลง และแ ไข การ าง ๆ ไป วย ง ใ
เ น นตอน งยากพอสมควร แ เ น ง เ นอ าง ง เ อใ ไ
ผล พ ด าหาก าทดสอบจนเส จเ ยบ อยแ ว เ ดพบ า การ
เ อกใ นไ สามารถแ ญหาไ จ ง เราสามารถก บไปเ อกใ ไอ
เ ยใน อ 3 มาป บใ ให ไ เ น น
91
ัก่ช้ด่ม้ชัร่ีท้ขีด้ชืลัลิร้ดัป้ก่ม้ัน้ชืล่ีทีธิว่วิก้ล้รีร็ร่ว้ถุส่ีทีด่ีท์ธัล้ด้ห่ืพ่ิย่ย็ปำจ่ีท่ิส็ป็ก่ตุ่ย่ีท้ัข็ป้หำทึจ้ด่ตีธิว้ก่ีลุรัรีม้ตุส่ีทีด่ีท้ด้ห่ืพ้ซีม้ต่ีท้ัข็ป้ลิร่ต้ล้ทุส้ัข็ปูด้ม้ีน้ัข่ันีดืมืค็ก่มืริร้ด้ชู้ผัป้ก์ย้ันักืล่ีทีด่ว้ด่ีท้ทุส้ัขึถ้ดัมัพ้ัน่ทุคีดัต็ป่คีพำทำทิกำจ้รักุท้ต่ีท็ปำจ่ม็ก่ต้ดีอ้ชู้ผืมึถ่ส่ีท่กิผ่ช็ปัยืริรุจ้ดัป้ก์ย่มืริร้ชู้ผัปัก้ัน่ลัดีธิว่ว่ืพ่ก้ึข้ันัป้กีธิวำจ้รีม้ต็กิร้ชำน่ีท่ก้ล้รีร่ีท็ป้ิส็ร้ดีดีด์คัค้ัข่ืมำจ่ตุมัก่ต่ีทีด้ด้ห่ืพ่ัทิรู้ผิตับิฏู้ผ้ัท็ห้ช้ติคืค็ก้ีน้ัขุส่ีทัคำส่ีท่ิสัป้กำน่น่ีทีธิวืลัคำน้ัน้ึข้ด่มุมิป้หำทีด่ิย็กิคีม้ถ่ก้ห็กีธิว็ป่ว่มีด่วิค่ีทีดำนำนำท้ีน้ีน้ัข์น็ป่ีท่ตีด้คีร้ัขึถ็ก้ล้ก้ห้ต้ชู้ผ่ีทัปึถ็ห่ืม์ค้ร
การคดิ เชงิ ออกแบบ (Design Thinking Process) มีประโยช มากมาย ท้งั อ
บคุ ลากรไปจนถึงอง กรเลยทีเดียว ซงึ่ ประโยช ใน าน างๆ นัน้ มดี งั น้ี
92
่ต้ด์น์ค่ต์น
แผนทแ่ี พลตฟอ มชมุ ชน
โจท : วาดแผนท่ชี ุมชนของตนเอง พ อมระบแุ พลตฟอ มส่อื ทมี่ อี ในชุมชน านการท สัญลักษ ในแ ละแพลตฟอ มสอื่
93
์ร่ต์ณำ่ผู่ย์ร้ร์ย์ร
เคร่ืองมอื ในการสอื่ สาร
หากคุณก ลังมองหาเครือ่ งมือการสื่อสารภายในอง กรท่มี ี
ประสิทธิภาพ ส หรับก มเ าหมายของคณุ
นกั สื่อสารสุขภาวะมเี ครอื่ งมอื การน เสนออะไร าง?
ฮารสิ มาศชาย : ศนู ส างสรร ส่ือเพื่อเด็กเยาวชนและครอบครัว
94
์ค้ร์ย้บำ
้ปุ่ลำ์คำ
การใ การสื่อสารเพือ่ การส่ือสารสขุ ภาพนั้น สอ่ื เ น
จจัยส คัญประการหนึ่งที่มีบทบาทที่ส คัญมาก
และมบี ทบาท อการเ าถงึ เพราะสอ่ื เ นตัวกลางใน
การเชื่อมโยง าวสาร ประชาชนเพ่ือส างการรับ
ในประเด็นสุขภาพเพ่ือส างการเปล่ียนแปลงยังก ม
เ าหมาย โดยเฉพาะในยคุ สงั คม าวสารทม่ี นุษ ไ
สามารถปฏิเสธการรับ อมูล าวสารไ เพราะสื่อ
ไ เ ามาเคาะประตู านต้ังแ ตื่นนอนจนกระท่ังเ า
นอนและไ ไ มีเพียงสื่อชนิดเดียว ซึ่งสื่อน้ันมีหลาย
ชนดิ หลายประเภท ไ แ สือ่ มวลชน สื่อบคุ คล
สอ่ื กิจกรรม สอ่ื พน้ื าน และ สือ่ ดิจิทลั สมยั ให
เ น น ทัง้ นีส้ ื่อแ ละชนิด วนมีความส คญั และ
มีคุณประโยช อการสอื่ สารสขุ ภาวะ
95
่ต์น
ำ้ล่ต้ต็ป่ม้บ
่ก้ด้ด่ม้ข่ต้บ้ข้ด้ด่ข้ขู้ร่ม์ย่ข้ปุ่ล้รู้ร้รู่ส่ข็ป้ข่ตำำัป็ป้ช
Content ในงานสือ่ สาร... ณัฐพง หมนั หลี
ก่อนจะสรา้ ง..Content ต้ังคำาถามก่อน
Why? ท�ำ ไมจึงต้องทำ� ก�ำ นดวัตถุประ งค์
What? กำ� นดเป้� ม�ย จะทำ�อะไร
How? ก�ำ นดวธิ กี �รท�ำ ง�น จะทำ�อย่�งไร เล่�เรือ่ งอย่�งไร
When? จดั ล�ำ ดบั ข้นั ตอน ก�รท�ำ ง�น จะท�ำ เมอ่ื ไร
Where? กำ� นด ถ�นท่ี ทไ่ี น
Who? ก�ำ นดผูร้ ับผดิ ชอบ แตล่ ะขนั้ ตอน ใคร
Content ท่ดี ี รปู แบบการนาำ เสนอ Content
1.เข้�ถงึ เป้� ม�ย ปจั จบุ นั
2.ใ ้ค �มรู้ ร้�งค �มเข�้ ใจ
3.ต�มเทรนดแ์ ตไ่ ม่ซำ�้ ซ�ก 1.Infographic
4.ตรงประเดน็ 2.บทค �มออนไลน์
4.ภ� � ภุ �พเปน็ กนั เอง (เค�รพจรรย�บรรณ) 3.ภ�พเล�่ เรือ่ ง
5.เน้น ร�้ งภ�พลัก ณ์ไม่ใชร่ �ยง�นค �มเคลอื่ นไ 4.Meme
6.ตอบโจทย์ค �มตอ้ งก�รผรู้ บั �ร 5.ภ�พประกอบเรือ่ ง
7.ไมเ่ ยิ่นเยอ้ ยืดย� 6. ดิ โี อถ่�ยทอด ด
7.Clip VDO
1.Infographic
1.Infographic Infographic ม�จ�กคำ� ่� Information + graphic อนิ โฟกร�ฟิกจงึ ม�ยถึง ก�รน�ำ ข้อมลู รือค �มรมู้ � รปุ
เปน็ �ร นเท ในลัก ณะของข้อมูล ภ�ยในภ�พนนั้ อ�จประกอบด้ ย ัญลกั ณ์ กร�ฟ แผนภมู ิ ไดอะแกรม แผนท ี่ เปน็ ตน้ ที่
ออกแบบเปน็ ภ�พนิง่ รอื ภ�พเคล่ือนไ เข�้ ใจง่�ย ร ดเร็ และชดั เจน เปรยี บเ มือนก�ร รปุ ขอ้ มลู ลงในภ�พ ือ่ ใ เ้ ข�้ ใจค �ม
ม�ย
2.บทความออนไลน์
คนท่ที ำ�ง�นในด�้ นก�รเขียนบทค �มต่�งๆ แล้ นำ�ม�เผยแพรผ่ ่�นท�งโลกอนิ เตอรเ์ น็ตเป็น ลกั ซึ่งรูปแบบของบทค �มที่เขียน
ออกม�นน้ั ก็จะมีอ�ทิเชน่ ข�่ �รและค �มร้ทู ่ั ไป ค �มบันเทงิ ก�รเมอื ง รือเรื่องร� ต�่ งๆ ทีก่ �ำ ลงั เป็นกระแ อยู่ในขณะน้ี
3.ภาพเล่าเร่อื ง
ก�รใช้ รอื นำ�เ นอด้ ยภ�พถ่�ย ม ี 2 รูปแบบ คือ 1.เล�่ เร่ืองด้ ยภ�พเพยี งอย่�งเดยี
ใ ค้ นตคี �มเอ�เอง 2.ก�รใช้ขอ้ ค �มนอ้ ย ๆ
96
ษ์
4.Meme
ค�ำ นิย�ยของมีม ถ�้ ใ ้เข้�ใจง�่ ยท่ี ดุ ก็คือ “กระแ มุกขำ�ขนั บ�งอย่�งทีแ่ พร่กระจ�ยอย่�งรวดเร็วใน งั คมอินเตอรเ์ น็ตโซเชยี ล”
โดยมีมเป็นได้ ล�ยอย่�ง ต้งั แต่ภ�พ คลิปวีดีโอ ค�ำ พูด วล ี ประโยคเดด็
ก�รแพร่กระจ�ยอย่�งรวดเร็วทำ�ใ ้มีมเป็นท่ี ง ัยและ
เป็นก�รตั้งคำ�ถ�มกันว่�มีมเป็น ิ่งท่ีดี รือไม่ดีกันแน่บ้�งก็ว่�
มีมเป็นเ มือนไวรั ที่กัดกินคว�มคิดของคน รือก�รใช้มีมใน
ท�งท่ีไม่ดีก็ ่งผลใ ้ผู้เ พมองเรื่องต่�งๆในท�งแง่ลบ รือ ่ง
ผลกระทบต่อผู้เ พที่มีคว�มคิดไม่ตรงกันต่อต้�นแนวคิดในมีม
เปน็ ต้น แต่ถงึ อย่�งนนั้ ก็ไมใ่ ช่ว่�มมี จะเปน็ เร่ืองทีแ่ ย่ซะทเี ดยี ว
ยงั มี มวด มู่มมี อย่�ง Wholesome Memes ที่นบั ว่�ตลก
และใ ้ก�ำ ลงั ใจผู้เ พในเวล�เดียวกนั รือตลกอย่�ง ร�้ ง รรค์
ก็ว่�ไดC้ omedy is subjective เร�อ�จจะเคยได้ยินประโยคน้กี นั ม�บ้�ง คนเร�ตลกไมเ่ มือนกัน ว่�เรอ่ื งตลก �ำ รบั เร�อ�จจะ
ไมต่ ลก �ำ รับคนอน่ื ดีไมด่ ีอ�จไปท�ำ ร้�ยคนอื่นกเ็ ปน็ ได้ เลน่ มกุ ได้ แต่เลน่ มุกอะไรก็ใชว้ จิ �รณญ�ณในก�รเลน่
5.ภาพประกอบเรอ่ื ง
6. Live สด
ปจั จุบันก�ร Live เปน็ ท่ีนยิ มอย�่ งม�ก และมีวัตถุประ งคเ์ พ่ือก�ร Live ทแี่ ตกต�่ งกนั ออกไป เชน่ ก�รข�ยของออนไลน ์ ก�ร
แจ้งขอ้ มลู ข�่ ว �ร ก�รเรยี นก�ร อน
5 เทคนิคก�ร Live ด
1 โปรโมตก่อนไลฟ์
2 เตรยี มตวั และฝกึ ซ้อม
3 ร�้ งคว�มดึงดูด เช่น มเี กม ์ กจิ กรรมใ เ้ ล่น
4 อย�่ ลืมใ ่คยี เ์ วิรด์ ใ ก้ บั คลปิ ไลฟบ์ นไทมไ์ ลน์
5 วิเคร�ะ ผ์ ลลพั ธ์
97
98
99