เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๕๗ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๖) เม่ือตรวจเห็นว่าเป็นการถูกต้องครบถ้วนเป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกําหนด
ในสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ให้ถือว่าผู้รับจ้างส่งมอบงานครบถ้วนตั้งแต่วันที่ผู้รับจ้างส่งงานจ้างน้ัน
และให้ทําใบรับรองผลการปฏิบัติงานทั้งหมดหรือเฉพาะงวด แล้วแต่กรณี โดยลงช่ือไว้เป็นหลักฐาน
อย่างน้อย ๒ ฉบับ มอบให้แก่ผู้รับจ้าง ๑ ฉบับ และเจ้าหน้าที่ ๑ ฉบับ เพ่ือทําการเบิกจ่ายเงิน
ตามระเบียบวา่ ดว้ ยการเบิกจ่ายเงนิ ของหน่วยงานของรัฐ และรายงานใหห้ ัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐทราบ
ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจรับพัสดุเห็นว่าผลงานท่ีส่งมอบท้ังหมดหรืองวดใดก็ตามไม่เป็น
ไปตามแบบรปู รายการละเอยี ดและข้อกาํ หนดในสัญญาหรอื ข้อตกลง ให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ผา่ นหวั หน้าเจ้าหนา้ ท่เี พอ่ื ทราบหรอื ส่งั การ แล้วแต่กรณี
(๗) ในกรณีที่กรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับงานโดยทําความเห็นแย้งไว้ ให้เสนอ
หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาส่ังการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐสั่งการให้ตรวจรับงานจ้างน้ันไว้
จงึ ดําเนินการตาม (๖)
ขอ้ ๑๗๗ ในการจ้างกอ่ สรา้ งแต่ละคร้งั ทีม่ ีข้นั ตอนการดําเนินการเป็นระยะ ๆ อันจําเป็นต้องมี
การควบคุมงานอย่างใกล้ชิด หรือมีเงื่อนไขการจ่ายเงินเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน ให้หัวหน้า
หน่วยงานของรัฐแต่งต้ังผู้ควบคุมงานที่มีความรู้ความชํานาญทางด้านช่างตามลักษณะของงานก่อสร้าง
จากข้าราชการ ลูกจ้างประจํา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงาน
ของหน่วยงานของรัฐท่ีเรียกช่ืออย่างอ่ืนของหน่วยงานของรัฐน้ัน หรือข้าราชการ ลูกจ้างประจํา
พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น
ของหน่วยงานของรัฐอ่ืน ตามที่ได้รับความยินยอมจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐท่ีผู้น้ันสังกัดแล้ว
ในกรณีท่ีลักษณะของงานก่อสร้างมีความจําเป็นต้องใช้ความรู้ความชํานาญหลายด้าน จะแต่งตั้ง
ผ้คู วบคมุ งานเฉพาะด้านหรือเป็นกลุ่มบคุ คลก็ได้
ผู้ควบคุมงานควรมีคุณวุฒิตามท่ีผู้ออกแบบเสนอแนะ และโดยปกติจะต้องมีคุณวุฒิไม่ตํ่ากว่า
ระดบั ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ
ในกรณีจําเป็นจะต้องจ้างผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างเป็นผู้ควบคุมงาน ให้ดําเนินการจ้าง
โดยถอื ปฏบิ ัตติ ามหมวด ๔
ข้อ ๑๗๘ ผคู้ วบคมุ งาน มหี น้าท่ดี ังนี้
(๑) ตรวจและควบคุมงาน ณ สถานท่ีที่กําหนดไว้ในสัญญา หรือที่ตกลงให้ทํางานจ้างน้ัน ๆ
ทุกวันให้เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียด และข้อกําหนดในสัญญาทุกประการโดยสั่งเปล่ียนแปลง
แก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดทอนงานจ้างได้ตามที่เห็นสมควร และตามหลักวิชาช่างเพื่อให้เป็นไปตามแบบ
รูปรายการละเอียด และข้อกําหนดในสัญญา ถ้าผู้รับจ้างขัดขืนไม่ปฏิบัติตามก็ส่ังให้หยุดงานน้ันเฉพาะ
ส่วนหน่ึงส่วนใดหรือทั้งหมดแล้วแต่กรณีไว้ก่อน จนกว่าผู้รับจ้างจะปฏิบัติให้ถูกต้องตามคําสั่งและให้
รายงานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทําหน้าท่ีรับผิดชอบการบริหารสัญญา
หรือขอ้ ตกลง และการตรวจรบั พัสดทุ ่ีเปน็ งานจา้ งก่อสรา้ งทนั ที
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๕๘ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๒) ในกรณีท่ีปรากฏว่าแบบรูปรายการละเอียด หรือข้อกําหนดในสัญญามีข้อความขัดกัน
หรือเป็นท่ีคาดหมายได้ว่าถึงแม้ว่างานนั้นจะได้เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียด และข้อกําหนดในสัญญา
แต่เม่ือสําเร็จแล้วจะไม่มั่นคงแข็งแรง หรือไม่เป็นไปตามหลักวิชาช่างท่ีดี หรือไม่ปลอดภัยให้ส่ังพักงาน
นั้นไว้ก่อน แล้วรายงานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้ทําหน้าที่รับผิดชอบ
การบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพสั ดทุ เ่ี ปน็ งานจ้างก่อสร้างโดยเรว็
(๓) จดบันทึกสภาพการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างและเหตุการณ์แวดล้อมเป็นรายวัน พร้อมท้ัง
ผลการปฏิบัติงาน หรือการหยุดงานและสาเหตุท่ีมีการหยุดงานอย่างน้อย ๒ ฉบับ เพ่ือรายงาน
ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้ทําหน้าท่ีรับผิดชอบการบริหารสัญญา
หรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุท่ีเป็นงานจ้างก่อสร้างทราบทุกสัปดาห์ และเก็บรักษาไว้เพื่อมอบ
ให้แก่เจ้าหน้าท่ีเมื่อเสร็จงานแต่ละงวด โดยถือว่าเป็นเอกสารสําคัญของทางราชการเพื่อประกอบการตรวจสอบ
ของผู้มหี นา้ ท่ี
การบนั ทกึ การปฏิบตั งิ านของผรู้ ับจ้างให้ระบรุ ายละเอียดข้นั ตอนการปฏิบัตงิ านและวสั ดทุ ใ่ี ช้ด้วย
(๔) ในวันกําหนดเร่ิมงานของผู้รับจ้างตามสัญญาและในวันถึงกําหนดส่งมอบงานแต่ละงวด
ให้รายงานผลการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างว่าเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายให้ทําหน้าที่รับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงและการตรวจรับพัสดุ
ท่ีเปน็ งานจา้ งก่อสรา้ งทราบภายใน ๓ วนั ทาํ การ นับแต่วนั ถงึ กําหนดน้นั ๆ
ขอ้ ๑๗๙ คณะกรรมการตรวจรับพสั ดใุ นงานจ้างทป่ี รกึ ษา มีหน้าที่ดังน้ี
(๑) กาํ กบั และติดตามงานจา้ งทีป่ รกึ ษาให้เปน็ ไปตามเงื่อนไขทีก่ ําหนดไว้ในสญั ญาหรอื ข้อตกลง
(๒) ตรวจรับงานจ้างที่ปรึกษา ณ ที่ทําการของผู้ว่าจ้าง หรือสถานท่ีซึ่งกําหนดไว้ในสัญญา
หรือขอ้ ตกลง
(๓) โดยปกติให้ตรวจรับงานจ้างที่ปรึกษาในวันที่ท่ีปรึกษานําผลงานมาส่ง และให้ดําเนินการ
ให้เสรจ็ สน้ิ ไปโดยเร็วท่สี ดุ
(๔) เมื่อตรวจถูกต้องและครบถ้วนตามท่ีกําหนดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ให้รับงานจ้าง
ที่ปรึกษาไว้และถือว่าท่ีปรึกษาได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันที่ที่ปรึกษานําผลงานมาส่ง
แล้วมอบแก่เจ้าหน้าท่ีพร้อมกับทําใบตรวจรับ โดยลงช่ือไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย ๒ ฉบับ มอบแก่ที่ปรึกษา
๑ ฉบับ และเจ้าหน้าที่ ๑ ฉบับ เพ่ือทําการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงิน
ของหน่วยงานของรัฐ และรายงานใหห้ วั หน้าหนว่ ยงานของรัฐทราบ
ในกรณที ีเ่ ห็นว่าผลงานทีส่ ่งมอบทัง้ หมดหรอื งวดใดก็ตามไมเ่ ป็นไปตามข้อกําหนดในสัญญา
หรือข้อตกลง มีอํานาจสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเพ่ิมเติม หรือตัดทอนซึ่งงานตามสัญญา แล้วให้รายงาน
หวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ผ่านหวั หนา้ เจา้ หนา้ ทเ่ี พื่อทราบ หรอื สงั่ การ แลว้ แต่กรณี
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๕๙ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๕) ในกรณีกรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับงาน ให้กรรมการดังกล่าวทําความเห็นแย้งไว้
แล้วให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐส่ังการให้รับผลงานนั้นไว้
จงึ ดําเนินการตาม (๔)
ข้อ ๑๘๐ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างมีหน้าที่
ดังนี้
(๑) ตรวจใหถ้ กู ต้องตามท่รี ะบุไว้ในสญั ญาหรอื ขอ้ ตกลง
(๒) ตรวจรับงาน ณ ท่ที าํ การของผวู้ า่ จ้าง หรือสถานที่ซงึ่ กําหนดไวใ้ นสัญญาหรือข้อตกลง
(๓) โดยปกติให้ตรวจรับงานในวันที่ผู้ให้บริการนําผลงานมาส่ง และให้ดําเนินการให้เสร็จสิ้น
ไปโดยเร็วท่สี ดุ
(๔) ในกรณีที่ผลงานบกพร่องหรือไม่เป็นไปตามความประสงค์ของหน่วยงานของรัฐอันเนื่องมาจาก
ไม่ได้ดําเนินการให้ถูกต้องตามหลักวิชาการทางสถาปัตยกรรม และหรือวิศวกรรม ต้องรีบแจ้งให้ผู้ให้บริการ
ดาํ เนนิ การแกไ้ ขใหเ้ ปน็ ทีเ่ รยี บรอ้ ยโดยเรว็
(๕) เม่ือตรวจถูกต้องและครบถ้วนตามท่ีกําหนดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ให้รับงานไว้
และถือว่าผู้ให้บริการได้ส่งมอบงานถูกต้องครบถ้วนตั้งแต่วันท่ีผู้ให้บริการนําผลงานมาส่ง แล้วมอบแก่
เจ้าหน้าท่ีพร้อมกับทําใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย ๒ ฉบับ มอบแก่ผู้ให้บริการ ๑ ฉบับ
และเจา้ หนา้ ท่ี ๑ ฉบบั เพื่อทําการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐ
และรายงานใหห้ วั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐทราบ
ในกรณีท่ีเห็นวา่ ผลงานท่ีส่งมอบท้ังหมดหรืองวดใดก็ตามไม่เป็นไปตามข้อกําหนดในสัญญา
หรือข้อตกลง มีอํานาจส่ังให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม หรือตัดทอนซ่ึงงานตามสัญญา หากคู่สัญญา
ไม่ปฏิบัติตามมีอํานาจที่จะสั่งให้หยุดงานนั้นชั่วคราวได้ หรือให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ผา่ นหัวหน้าเจา้ หน้าที่เพอื่ ทราบ หรือสัง่ การ แลว้ แต่กรณี
(๖) ในกรณีกรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับงาน ให้กรรมการดังกล่าวทําความเห็นแย้งไว้
แล้วให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพ่ือพิจารณาส่ังการ ถ้าหัวหน้าหน่วยงานของรัฐส่ังการให้รับผลงานนั้นไว้
จึงดาํ เนินการตาม (๕)
ขอ้ ๑๘๑ กรณีที่สัญญาหรือข้อตกลงได้ครบกําหนดส่งมอบแล้ว และมีค่าปรับเกิดขึ้น
ให้หน่วยงานของรัฐแจ้งการเรียกค่าปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงจากคู่สัญญาภายใน ๗ วันทําการ
นับถัดจากวันครบกําหนดส่งมอบ และเมื่อคู่สัญญาได้ส่งมอบพัสดุ ให้หน่วยงานของรัฐบอกสงวนสิทธิ์
การเรยี กค่าปรบั ในขณะทร่ี ับมอบพัสดนุ นั้ ดว้ ย
ข้อ ๑๘๒ การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทําการตามสัญญา
หรือข้อตกลงตามมาตรา ๑๐๒ ในกรณีท่ีมีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ
หรือเหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากพฤติการณ์อันหน่ึงอันใดท่ีคู่สัญญาไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
หรือเหตุอ่ืนตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ทําให้คู่สัญญาไม่สามารถส่งมอบสิ่งของหรืองานตามเงื่อนไข
เล่ม ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หน้า ๖๐ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
และกําหนดเวลาแห่งสัญญาได้ ให้หน่วยงานของรัฐระบุไว้ในสัญญาหรือข้อตกลงกําหนดให้คู่สัญญา
ต้องแจ้งเหตุดังกล่าวให้หน่วยงานของรัฐทราบภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่เหตุน้ันได้ส้ินสุดลง
หรือตามที่กําหนดในกฎกระทรวง หากมิได้แจ้งภายในเวลาท่ีกําหนด คู่สัญญาจะยกมากล่าวอ้างเพื่อของด
หรือลดค่าปรับ หรือขอขยายเวลาในภายหลังมิได้ เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่อง
ของหน่วยงานของรัฐซ่งึ มหี ลกั ฐานชัดแจ้ง หรือหนว่ ยงานของรฐั ทราบดอี ยู่แล้วตง้ั แตต่ ้น
ข้อ ๑๘๓ นอกจากการบอกเลกิ สัญญาหรือข้อตกลงตามมาตรา ๑๐๓ หากปรากฏว่าคู่สัญญา
ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลงได้ และจะต้องมีการปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงนั้น
หากจํานวนเงินค่าปรับจะเกินร้อยละสิบของวงเงินค่าพัสดุหรือค่าจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณา
ดําเนินการบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง เว้นแต่คู่สัญญาจะได้ยินยอมเสียค่าปรับให้แก่หน่วยงานของรัฐ
โดยไมม่ เี งื่อนไขใด ๆ ทง้ั สนิ้ ให้หวั หนา้ หน่วยงานของรัฐพิจารณาผ่อนปรนการบอกเลิกสัญญาได้เท่าทจ่ี ําเป็น
ขอ้ ๑๘๔ ภายหลังจากสิ้นสุดสัญญา ระหว่างท่ีอยู่ในระหว่างระยะเวลารับประกันความชํารุด
บกพร่อง ให้หัวหน้าหน่วยงานผู้ครอบครองพัสดุ หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายมีหน้าที่รับผิดชอบดูแล
บํารุงรักษาและตรวจสอบความชํารุดบกพร่องของพัสดุ เว้นแต่กรณีท่ีไม่มีผู้ครอบครองพัสดุหรือมี
หลายหน่วยงานครอบครอง ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่มีหน้าท่ีรับผิดชอบดูแลบํารุงรักษาและตรวจสอบ
ความชาํ รุดบกพรอ่ งของพัสดุนัน้
ข้อ ๑๘๕ ในกรณีที่ปรากฏความชํารุดบกพร่องของพัสดุภายในระยะเวลาของการประกัน
ความชํารุดบกพร่องตามสัญญา ให้ผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบตามข้อ ๑๘๔ รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
เพ่ือแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างดําเนินการแก้ไขหรือซ่อมแซมทันที พร้อมท้ังแจ้งให้ผู้ค้ําประกัน (ถ้ามี)
ทราบด้วย
ขอ้ ๑๘๖ เมื่อได้ดําเนินการตามข้อ ๑๘๕ แล้ว กรณีท่ีสัญญาจะครบกําหนดรับประกัน
ความชํารุดบกพร่อง ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาถึงความชํารุดบกพร่องของพัสดุ เพื่อป้องกันความเสียหาย
จากนน้ั ใหค้ ืนหลกั ประกันสัญญาตอ่ ไป
ค่าเสียหาย
ข้อ ๑๘๗ กรณีท่ีหน่วยงานของรัฐมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง หรือการบอกเลิกสัญญา
หรือข้อตกลงนั้นเป็นกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้เรียกค่าปรับแล้วแต่กรณี หากคู่สัญญาเห็นว่า
หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย คู่สัญญาจะย่ืนคําขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้
คา่ เสียหายกไ็ ด้ ตามความในมาตรา ๑๐๓ วรรคสาม โดยมีหลกั เกณฑ์ดังน้ี
(๑) ให้คู่สัญญาย่ืนคําขอมายังหน่วยงานของรัฐคู่สัญญาภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันท่ีได้มี
การบอกเลิกสัญญา
(๒) คําขอต้องทําเป็นหนังสือลงลายมือช่ือผู้ร้อง และระบุข้อเท็จจริงและเหตุผลอันเป็นเหตุ
แหง่ การเรียกรอ้ งใหช้ ดั เจน พร้อมแนบเอกสารหลกั ฐานทีเ่ กย่ี วขอ้ งไปดว้ ย
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๖๑ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๓) หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคําขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคําขอน้ันให้แล้วเสร็จ
ภายใน ๖๐ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับคําขอ หากไม่อาจพิจารณาได้ทันในกําหนดน้ัน ให้ขอขยาย
ระยะเวลาออกไปต่อหัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ได้ไม่เกิน ๑๕ วนั นับถดั จากวนั ครบกําหนดเวลาดังกล่าว
(๔) ให้หนว่ ยงานของรฐั แตง่ ต้ังคณะกรรมการพิจารณาความเสยี หาย และใหท้ ําหน้าท่ีตามขอ้ ๑๘๙
(๕) ให้หน่วยงานของรัฐแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือไปยังคู่สัญญาเมื่อพิจารณาคําร้อง
แล้วเสร็จภายใน ๗ วนั ทาํ การ นบั ถัดจากวนั ทห่ี วั หนา้ หน่วยงานของรัฐเหน็ ชอบด้วยกับผลการพจิ ารณา
เมื่อหน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเป็นเช่นใดแล้ว หากคู่สัญญายังไม่พอใจ
ในผลการพจิ ารณากใ็ หม้ สี ทิ ธฟิ ้องคดตี อ่ ศาลเพื่อเรียกใหช้ ดใชค้ ่าเสยี หายตามสัญญาตอ่ ไป
ขอ้ ๑๘๘ ให้หน่วยงานของรัฐแต่งต้ังคณะกรรมการคณะหน่ึงเรียกว่า “คณะกรรมการ
พิจารณาความเสียหาย” ประกอบด้วยประธานกรรมการ ๑ คน และกรรมการอย่างน้อย ๒ คน
โดยให้แต่งต้ังจากข้าราชการ ลูกจ้างประจํา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ
หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐท่ีเรียกชื่ออย่างอ่ืน ภายในของหน่วยงานของรัฐนั้น ในกรณีจําเป็น
หรือเพื่อประโยชน์ในการพจิ ารณาวนิ จิ ฉัยจะแต่งต้งั บคุ คลอ่ืนอกี ไม่เกิน ๒ คนร่วมเปน็ กรรมการดว้ ยก็ได้
ข้อ ๑๘๙ คณะกรรมการพิจารณาความเสยี หาย มีหนา้ ทด่ี ังนี้
(๑) ตรวจสอบรายละเอยี ดขอ้ เท็จจรงิ ตามคาํ ร้องของคู่สญั ญา
(๒) ในกรณีจําเป็นจะเชิญคู่สัญญา หรือบุคคลที่เก่ียวข้องในเรื่องน้ัน มาสอบถามหรือให้ข้อเท็จจริง
ในส่วนทเ่ี กยี่ วข้องได้
(๓) พจิ ารณาค่าเสียหายและกําหนดวงเงนิ ค่าเสยี หายทีเ่ กดิ ข้นึ (ถ้ามี)
(๔) จัดทํารายงานผลการพิจารณา ตาม (๑) ถึง (๓) พร้อมความเห็นเสนอหัวหน้า
หนว่ ยงานของรฐั
การพิจารณาค่าเสียหายตามวรรคหน่ึงให้คณะกรรมการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ
วินิจฉัยกําหนด และในกรณีท่ีคณะกรรมการมีความเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องชดใช้ค่าเสียหาย
และมีวงเงินค่าเสียหายครั้งละเกิน ๕๐,๐๐๐ บาท ให้หน่วยงานของรัฐจัดทํารายงานความเห็นเสนอ
กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ท้ังน้ี หลักเกณฑ์ วิธีการรายงาน ให้เป็นไปตามที่
กระทรวงการคลงั กาํ หนด
หมวด ๗
การประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านของผ้ปู ระกอบการ
ขอ้ ๑๙๐ เพ่ือประโยชน์ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ย่ืนข้อเสนอที่จะเข้ามาเป็นคู่สัญญา
กับหน่วยงานของรัฐให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ
ตามท่ีกาํ หนดในหมวดนี้
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๖๒ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามวรรคหนึ่ง ให้พิจารณาถึงความสามารถ
ในการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จตามสัญญาของคู่สัญญาที่ทําไว้กับหน่วยงานของรัฐเป็นสําคัญ โดยให้
ตรวจสอบจากผลการปฏิบัติงานของคู่สัญญาที่ผ่านมาตั้งแต่วันท่ีระเบียบนี้มีผลใช้บังคับ ทั้งนี้ หน่วยงาน
ของรัฐจะต้องกําหนดไว้ในประกาศและเอกสารเชิญชวนเพ่ือให้ผู้ประกอบการท่ีจะเข้าย่ืนข้อเสนอ
กับหน่วยงานของรัฐทราบเง่ือนไขการประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านดังกล่าวด้วย
การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการให้ดําเนินการผ่านทางระบบจัดซ้ือจัดจ้าง
ภาครัฐด้วยอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ตามวิธกี ารทกี่ รมบญั ชกี ลางกําหนด
ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีอาจออกระเบียบเพ่ือกําหนดหลักเกณฑ์การประเมินผล
การปฏบิ ัติงานของทีป่ รกึ ษาไว้เปน็ การเฉพาะกไ็ ด้
ขอ้ ๑๙๑ การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการตามข้อ ๑๙๐ นอกเหนือจาก
ความสามารถในการปฏิบัติงานให้แล้วเสร็จตามสัญญา อาจกําหนดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงาน
ในด้านอ่ืน ๆ ด้วยก็ได้ ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกําหนด โดยให้คํานึงถึงคุณภาพและคุณสมบัติที่เป็น
ประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ ท้ังน้ี เพื่อให้การพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอที่จะเข้ามา
เป็นคสู่ ัญญากับหน่วยงานของรฐั เป็นไปอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
หมวด ๘
การทิ้งงาน
สว่ นที่ ๑
การลงโทษให้เป็นผู้ท้งิ งาน
ข้อ ๑๙๒ ห้ามหน่วยงานของรัฐก่อนิติสัมพันธ์กับผู้ท้ิงงานท่ีปลัดกระทรวงการคลังได้ระบุช่ือ
ไว้ในบญั ชรี ายชื่อผทู้ ้ิงงานและไดแ้ จ้งเวียนชื่อแลว้ เว้นแต่จะไดม้ กี ารเพิกถอนการเปน็ ผู้ทง้ิ งาน
การห้ามหน่วยงานของรัฐก่อนิติสัมพันธ์กับผู้ทิ้งงานตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้บังคับกับบุคคลตามข้อ ๑๙๖
วรรคสอง และวรรคสาม ดว้ ย
บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลใดที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาให้เป็นผู้ท้ิงงานตามข้อกําหนด
ในส่วนน้ี ให้บุคคลดังกล่าวมีสิทธิยื่นข้อเสนอให้แก่หน่วยงานของรัฐได้ แต่ถ้าผลการพิจารณาต่อมา
ปลัดกระทรวงการคลังได้สั่งให้บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลนั้นเป็นผู้ท้ิงงาน ให้หน่วยงานของรัฐ
ตดั รายชื่อบคุ คลดังกล่าวออกจากรายชื่อผู้มสี ทิ ธไิ ดร้ ับการคดั เลอื กหรือยกเลิกการซื้อหรือจ้าง หรือยกเลิก
การลงนามในสัญญาซ้ือหรือจ้างที่ได้กระทําก่อนการสั่งการของปลัดกระทรวงการคลัง เว้นแต่ในกรณี
ท่ีหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาเห็นว่าจะเป็นประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐอย่างย่ิง หัวหน้าหน่วยงาน
ของรัฐจะไม่ตัดรายชื่อบุคคลดังกล่าวออกจากรายช่ือผู้มีสิทธิได้รับการคัดเลือก หรือจะไม่ยกเลิก
การจัดซ้ือจัดจ้าง หรือจะไม่ยกเลิกการลงนามในสัญญาซ้ือหรือจ้างที่ได้กระทําก่อนการสั่งการของ
ปลัดกระทรวงการคลงั ก็ได้
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๖๓ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
ข้อ ๑๙๓ ในกรณีที่ปรากฏว่าผู้ย่ืนข้อเสนอหรือคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐกระทําการอันมี
ลกั ษณะเปน็ การท้ิงงาน ตามความในมาตรา ๑๐๙ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาให้ผู้ยื่นข้อเสนอ
คู่สัญญา หรือผู้รับจ้างช่วงท่ีหน่วยงานของรัฐอนุญาตให้รับช่วงงานได้ หรือที่ปรึกษา หรือผู้ให้บริการ
ออกแบบหรือควบคุมงาน เป็นผู้ทิ้งงาน แล้วแต่กรณี พร้อมความเห็นของตนเสนอไปยังปลัดกระทรวงการคลัง
เพ่อื พจิ ารณาสง่ั ให้เป็นผู้ทง้ิ งานโดยเรว็
เมื่อปลัดกระทรวงการคลังได้พิจารณาหลังจากท่ีได้ฟังความเห็นของคณะกรรมการวินิจฉัย
ตามมาตรา ๒๙ (๕) แล้ว และเห็นว่าบุคคลดังกล่าวสมควรเป็นผู้ทิ้งงาน ก็ให้ปลัดกระทรวงการคลัง
สั่งให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ทิ้งงาน โดยระบุช่ือผู้ทิ้งงานไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ท้ิงงาน พร้อมทั้งแจ้งเวียนชื่อ
ผู้ทิง้ งานให้หนว่ ยงานของรฐั ต่าง ๆ ทราบ รวมทงั้ แจ้งใหผ้ ูท้ ้งิ งานรายนน้ั ทราบทางไปรษณยี ์ลงทะเบยี นดว้ ย
ในกรณีปลัดกระทรวงการคลังเห็นว่าบุคคลดังกล่าวไม่สมควรเป็นผู้ทิ้งงาน ให้แจ้งผลการพิจารณา
ไปใหห้ น่วยงานของรฐั นัน้ ทราบดว้ ย
ข้อ ๑๙๔ ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยปรากฏในภายหลังว่า ผู้ย่ืนข้อเสนอรายหนึ่งหรือหลายราย
ไม่ว่าจะเป็นผู้ยื่นข้อเสนอท่ีได้รับการคัดเลือกหรือไม่ก็ตาม กระทําการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขัน
อย่างเป็นธรรมหรือกระทําการโดยไม่สุจริต เช่น การเสนอเอกสารอันเป็นเท็จ หรือใช้ชื่อบุคคลธรรมดา
หรือนิติบุคคลอื่นมาเสนอราคาแทน ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ว่าบุคคลดังกล่าวสมควรเป็นผู้ท้ิงงานหรือไม่ โดยมีหนังสือแจ้งเหตุที่หน่วยงานของรัฐสงสัยไปยัง
ผู้ย่ืนข้อเสนอท่ีถูกสงสัยทราบ พร้อมท้ังให้ช้ีแจงรายละเอียดข้อเท็จจริงภายในเวลาท่ีหน่วยงานของรัฐกําหนด
แต่ต้องไมน่ อ้ ยกวา่ ๑๕ วนั นับแตว่ นั ท่ีได้รับหนงั สอื แจ้งจากหนว่ ยงานของรัฐ
เม่ือหน่วยงานของรัฐได้รับคําชี้แจงจากผู้ยื่นข้อเสนอท่ีถูกสงสัยตามวรรคหน่ึงแล้ว ให้หัวหน้า
หนว่ ยงานของรฐั พจิ ารณาว่าบุคคลดังกลา่ วสมควรเปน็ ผทู้ ้งิ งานหรือไม่
หากผู้ย่ืนข้อเสนอท่ีถูกสงสัยไม่ช้ีแจงภายในกําหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ให้ถือว่ามีเหตุอันควร
เชื่อได้ว่ามีการกระทําอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือมีการกระทําโดยไม่สุจริต
ให้หัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐเสนอความเห็นไปยงั ปลัดกระทรวงการคลงั เพ่อื พิจารณาให้ผู้นนั้ เปน็ ผู้ท้งิ งาน
ข้อ ๑๙๕ ในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอร่วมกระทําการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
หรือกระทําการโดยไม่สุจริตรายใด ซึ่งมิใช่เป็นผู้ริเร่ิมให้มีการกระทําดังกล่าว ได้ให้ความร่วมมือ
เป็นประโยชนต์ อ่ การพจิ ารณาของหนว่ ยงานของรัฐ ใหห้ ัวหนา้ หน่วยงานของรัฐพิจารณาให้ผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้น
ได้รับการยกเว้นที่จะไม่เป็นผู้ทิ้งงานได้ โดยแสดงเหตุผลหรือระบุเหตุผลไว้ในการเสนอความเห็น
หรือในการสัง่ การ แล้วแต่กรณี
ขอ้ ๑๙๖ ในกรณีท่ีนิตบิ ุคคลใดถูกสั่งใหเ้ ปน็ ผู้ทิง้ งานตามข้อ ๑๙๓ ข้อ ๑๙๔ หรือข้อ ๑๙๕
ถ้าการกระทําดังกล่าวเกิดจากหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการ
ดําเนนิ งานในกิจการของนิตบิ ุคคลนน้ั ใหป้ ลัดกระทรวงการคลังสั่งใหบ้ ุคคลดังกล่าวเปน็ ผู้ทิ้งงานดว้ ย
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๖๔ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
ในกรณีที่นิติบุคคลรายใดถูกสั่งให้เป็นผู้ท้ิงงานตามข้อ ๑๙๓ ข้อ ๑๙๔ หรือข้อ ๑๙๕
ให้คําส่ังดังกล่าวมีผลไปถึงนิติบุคคลอ่ืนท่ีดําเนินธุรกิจประเภทเดียวกัน ซ่ึงมีหุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการ
ผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของนิติบุคคลน้ันเป็นบุคคลเดียวกันกับ
หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการผู้จัดการ ผู้บริหาร หรือผู้มีอํานาจในการดําเนินงานในกิจการของนิติบุคคล
ทีถ่ กู พิจารณาให้เป็นผู้ทงิ้ งานด้วย
ในกรณีท่ีบุคคลธรรมดารายใดถูกสั่งให้เป็นผู้ท้ิงงานตามข้อ ๑๙๓ ข้อ ๑๙๔ หรือข้อ ๑๙๕
ให้คําสั่งดังกล่าวมีผลไปถึงนิติบุคคลอื่นท่ีเข้าย่ืนข้อเสนอ ซ่ึงมีบุคคลดังกล่าวเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ
กรรมการผูจ้ ัดการ ผู้บริหาร หรอื ผ้มู ีอาํ นาจในการดาํ เนนิ งานในกิจการของนิตบิ ุคคลนัน้ ดว้ ย
ขอ้ ๑๙๗ เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ เมื่อปรากฏข้อเท็จจริง
อันควรสงสัยว่า มีการกระทําตามข้อ ๑๙๓ ข้อ ๑๙๔ หรือข้อ ๑๙๕ และหน่วยงานของรัฐนั้น
ยังไม่ได้รายงานไปยังปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลังอาจเรียกให้ผู้ยื่นข้อเสนอ
หรือคู่สัญญา ที่มีข้อเท็จจริงอันควรสงสัยว่ามีการกระทําอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
หรือกระทําการโดยไม่สุจริตมาช้ีแจงข้อเท็จจริงต่อปลัดกระทรวงการคลัง ท้ังนี้ โดยมีหนังสือแจ้งเหตุ
ทีป่ ลัดกระทรวงการคลังสงสัยไปยังบคุ คลดังกล่าว พร้อมท้ังแจ้งให้บุคคลน้ันชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริง
ภายในเวลาท่ีปลัดกระทรวงการคลังกําหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า ๑๕ วัน นับแต่วันท่ีได้รับหนังสือแจ้ง
จากปลัดกระทรวงการคลัง
เมื่อปลัดกระทรวงการคลังได้รับคําชี้แจงจากผู้ได้รับการคัดเลือกผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือคู่สัญญา
ท่ีถูกสงสัยตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ปลัดกระทรวงการคลังพิจารณาคําชี้แจงดังกล่าว หากคําชี้แจง
ไม่มีเหตุผลรับฟังได้ ให้ปลัดกระทรวงการคลังพิจารณาให้บุคคลดังกล่าวเป็นผู้ท้ิงงาน พร้อมทั้ง
แจ้งผลการพจิ ารณาไปใหห้ นว่ ยงานของรฐั ทราบด้วย
หากผู้ยื่นข้อเสนอ หรือคู่สัญญา ท่ีถูกสงสัยตามวรรคหนึ่ง ไม่ช้ีแจงภายในกําหนดเวลา
ท่ีปลัดกระทรวงการคลังจะได้กําหนดไว้ ให้ถือว่ามีเหตุอันควรเช่ือได้ว่ามีการกระทําอันเป็นการขัดขวาง
การแข่งขันอย่างเป็นธรรม หรือมีการกระทําโดยไม่สุจริต ให้ปลัดกระทรวงการคลังพิจารณา
ให้บคุ คลดังกล่าวเปน็ ผทู้ ิ้งงาน พร้อมทง้ั แจง้ ผลการพจิ ารณาไปให้หน่วยงานของรฐั ทราบดว้ ย
ส่วนที่ ๒
การเพิกถอนการเป็นผู้ทิง้ งาน
ขอ้ ๑๙๘ ผู้ท่ีถูกส่ังให้เป็นผู้ทิ้งงานสามารถย่ืนคําร้องขอเพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงานได้
โดยต้องแสดงหลักฐานประกอบการพจิ ารณามาด้วย โดยมหี ลักเกณฑ์ ดังน้ี
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๖๕ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
(๑) ถูกข้ึนบัญชีเป็นผู้ท้ิงงานมาแล้วไม่น้อยกว่า ๒ ปี โดยจะต้องไม่ได้ถูกส่ังให้เป็นผู้ทิ้งงาน
เน่ืองจากมีการกระทําการอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือกระทําการ
โดยไม่สุจริต ท้ังน้ี ผู้ขอเพิกถอนท่ีจะได้รับการเพิกถอนในข้อนี้ ต้องไม่เคยมีผลการประเมินตามหมวด ๗
เปน็ ผู้ไมผ่ า่ นเกณฑ์ทก่ี ําหนดและถูกระงับไม่ใหเ้ ข้ายืน่ ข้อเสนอหรอื ทาํ สัญญากับหน่วยงานของรัฐ
(๒) ถูกข้ึนบัญชีเป็นผู้ทิ้งงานมาแล้วต้ังแต่ ๕ ปีขึ้นไป และจะต้องไม่ได้ถูกส่ังหรือแจ้งเวียน
ให้เป็นผู้ท้ิงงาน เน่ืองจากมีการกระทําการอันมีลักษณะเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
หรือกระทําการโดยไม่สจุ รติ
ขอ้ ๑๙๙ คณะกรรมการวินิจฉัยอาจเสนอความเห็นต่อปลัดกระทรวงการคลัง เพ่ือให้มี
การเพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงาน สําหรับผู้ทิ้งงานที่ถูกแจ้งเวียนช่ือมาแล้วไม่น้อยกว่า ๑๐ ปี ออกจากบัญชีรายช่ือ
ผู้ทง้ิ งานกไ็ ด้
ข้อ ๒๐๐ ผู้ทิ้งงานรายใดท่ีถูกเพิกถอนช่ือจากการเป็นผู้ทิ้งงานไปแล้ว หากผู้ท้ิงงานรายนั้น
ถูกสั่งให้เป็นผู้ท้ิงงานซ้ําอีก ภายในระยะเวลา ๓ ปี นับถัดจากวันที่ได้รับการเพิกถอนช่ือออกจาก
การเป็นผู้ทิ้งงานแล้ว การเพิกถอนการเป็นผู้ทิ้งงานในครั้งหลัง ผู้ทิ้งงานจะไม่มีสิทธิได้เพิกถอน
ตามข้อ ๑๙๘ (๑) แต่จะมีสิทธิได้เพิกถอนตามข้อ ๑๙๘ (๒) ได้ เมื่อครบกําหนดระยะเวลา ๘ ปี
นบั ต้งั แตว่ ันทีถ่ กู สัง่ และแจง้ เวียนใหเ้ ป็นผู้ท้งิ งานในครง้ั หลัง
ขอ้ ๒๐๑ ผู้ท้ิงงานที่ประสงค์จะขอใช้สิทธิเพิกถอนการเป็นผู้ท้ิงงานตามข้อ ๑๙๘ (๑)
และข้อ ๑๙๘ (๒) ต้องยื่นคําขอเพิกถอนมายังปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมท้ังเอกสารหลักฐาน
ท่ีเกี่ยวข้องมาเพ่ือประกอบการพิจารณาด้วย ทั้งนี้ การเพิกถอนการเป็นผู้ทิ้งงานจะมีผลต่อเม่ือ
ปลัดกระทรวงการคลงั ไดส้ งั่ เพกิ ถอนการเป็นผ้ทู ง้ิ งานและไดแ้ จง้ เวียนการเพกิ ถอนช่ือผู้ท้ิงงานแลว้
หมวด ๙
การบรหิ ารพัสดุ
ส่วนที่ ๑
การเก็บ การบันทึก การเบกิ จ่าย
ขอ้ ๒๐๒ การบริหารพัสดุของหน่วยงานของรัฐให้ดําเนินการตามหมวดน้ี เว้นแต่มีระเบียบ
ของทางราชการหรอื กฎหมายกาํ หนดไว้เป็นอย่างอน่ื
การบริหารพัสดุในหมวดนี้ ไม่ใช้บังคับกับงานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างท่ีปรึกษา
และงานจ้างออกแบบหรือควบคมุ งานกอ่ สร้าง
เลม่ ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๖๖ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
การเก็บและการบันทกึ
ขอ้ ๒๐๓ เม่ือเจ้าหน้าท่ไี ด้รบั มอบพัสดุแลว้ ใหด้ ําเนินการ ดังตอ่ ไปนี้
(๑) ลงบัญชีหรือทะเบียนเพ่ือควบคุมพัสดุ แล้วแต่กรณี แยกเป็นชนิด และแสดงรายการ
ตามตัวอย่างที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด โดยให้มีหลักฐานการรับเข้าบัญชีหรือทะเบียนไว้ประกอบ
รายการดว้ ย
สาํ หรับพัสดุประเภทอาหารสด จะลงรายการอาหารสดทกุ ชนดิ ในบญั ชีเดยี วกนั กไ็ ด้
(๒) เก็บรักษาพัสดุให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และให้ครบถ้วนถูกต้องตรงตามบัญชี
หรอื ทะเบียน
การเบิกจา่ ยพสั ดุ
ขอ้ ๒๐๔ การเบิกพัสดุจากหน่วยพัสดุของหน่วยงานของรัฐ ให้หัวหน้างานท่ีต้องใช้พัสดุน้ัน
เป็นผู้เบิก
ขอ้ ๒๐๕ การจ่ายพัสดุ ให้หัวหน้าหน่วยพัสดุท่ีมีหน้าท่ีเก่ียวกับการควบคุมพัสดุหรือผู้ท่ีได้รับ
มอบหมายจากหวั หน้าหน่วยงานของรฐั เป็นหวั หน้าหนว่ ยพสั ดุ เป็นผสู้ ั่งจ่ายพสั ดุ
ผู้จ่ายพัสดุต้องตรวจสอบความถูกต้องของใบเบิกและเอกสารประกอบ (ถ้ามี) แล้วลงบัญชี
หรอื ทะเบียนทุกคร้งั ทีม่ กี ารจา่ ย และเก็บใบเบกิ จา่ ยไวเ้ ปน็ หลักฐานด้วย
ขอ้ ๒๐๖ หน่วยงานของรัฐใดมีความจําเป็นจะกําหนดวิธีการเบิกจ่ายพัสดุเป็นอย่างอ่ืนให้อยู่
ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐนั้น โดยให้รายงานคณะกรรมการวินิจฉัยและสํานักงานการตรวจเงิน
แผ่นดินทราบดว้ ย
ส่วนที่ ๒
การยืม
ขอ้ ๒๐๗ การให้ยืม หรือนําพัสดุไปใช้ในกิจการ ซึ่งมิใช่เพื่อประโยชน์ของทางราชการ
จะกระทํามิได้
ขอ้ ๒๐๘ การยืมพัสดุประเภทใช้คงรูป ให้ผู้ยืมทําหลักฐานการยืมเป็นลายลักษณ์อักษร
แสดงเหตผุ ลและกาํ หนดวนั ส่งคืน โดยมีหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้
(๑) การยืมระหว่างหนว่ ยงานของรฐั จะตอ้ งได้รบั อนมุ ัตจิ ากหวั หนา้ หน่วยงานของรัฐผใู้ ห้ยืม
(๒) การให้บุคคลยืมใช้ภายในสถานที่ของหน่วยงานของรัฐเดียวกัน จะต้องได้รับอนุมัติ
จากหัวหน้าหน่วยงานซ่ึงรับผิดชอบพัสดุนั้น แต่ถ้ายืมไปใช้นอกสถานที่ของหน่วยงานของรัฐ
จะตอ้ งไดร้ ับอนมุ ัตจิ ากหัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐ
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๖๗ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ ๒๐๙ ผู้ยมื พัสดุประเภทใชค้ งรปู จะตอ้ งนําพสั ดนุ น้ั มาส่งคืนให้ในสภาพที่ใช้การได้เรียบร้อย
หากเกิดชํารุดเสียหาย หรือใช้การไม่ได้ หรือสูญหายไป ให้ผู้ยืมจัดการแก้ไขซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม
โดยเสียค่าใช้จ่ายของตนเอง หรือชดใช้เป็นพัสดุประเภท ชนิด ขนาด ลักษณะและคุณภาพ
อย่างเดยี วกนั หรือชดใชเ้ ป็นเงนิ ตามราคาที่เปน็ อยู่ในขณะยมื โดยมหี ลกั เกณฑ์ ดงั นี้
(๑) ราชการสว่ นกลาง และราชการสว่ นภูมภิ าค ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ่กี ระทรวงการคลงั กาํ หนด
(๒) ราชการส่วนท้องถ่ิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร
หรอื เมืองพัทยา แลว้ แต่กรณี กาํ หนด
(๓) หน่วยงานของรฐั อืน่ ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ที่หน่วยงานของรฐั นัน้ กําหนด
ขอ้ ๒๑๐ การยืมพัสดุประเภทใช้ส้ินเปลืองระหว่างหน่วยงานของรัฐ ให้กระทําได้เฉพาะเม่ือ
หน่วยงานของรัฐผู้ยืมมีความจําเป็นต้องใช้พัสดุนั้นเป็นการรีบด่วน จะดําเนินการจัดหาได้ไม่ทันการ
และหน่วยงานของรัฐผู้ให้ยืมมีพัสดุน้ัน ๆ พอท่ีจะให้ยืมได้ โดยไม่เป็นการเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐ
ของตน และให้มีหลักฐานการยืมเป็นลายลักษณ์อักษร ท้ังนี้ โดยปกติหน่วยงานของรัฐผู้ยืมจะต้อง
จดั หาพสั ดเุ ป็นประเภท ชนดิ และปรมิ าณเชน่ เดยี วกนั สง่ คืนใหห้ น่วยงานของรฐั ผู้ใหย้ ืม
ขอ้ ๒๑๑ เม่ือครบกําหนดยืม ให้ผู้ให้ยืมหรือผู้รับหน้าท่ีแทนมีหน้าที่ติดตามทวงพัสดุท่ีให้ยืมไป
คืนภายใน ๗ วนั นับแตว่ ันครบกาํ หนด
ส่วนท่ี ๓
การบํารงุ รักษา การตรวจสอบ
การบํารงุ รักษา
ข้อ ๒๑๒ ใหห้ นว่ ยงานของรฐั จัดให้มผี ้คู วบคุมดูแลพัสดุท่ีอยู่ในความครอบครองให้อยู่ในสภาพ
ท่ีพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา โดยให้มีการจัดทําแผนการซ่อมบํารุงท่ีเหมาะสมและระยะเวลาในการ
ซอ่ มบํารงุ ด้วย
ในกรณีที่พัสดุเกิดการชํารุด ให้หน่วยงานของรัฐดําเนินการซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพ
พรอ้ มใช้งานโดยเรว็
การตรวจสอบพสั ดุประจาํ ปี
ขอ้ ๒๑๓ ภายในเดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปีงบประมาณของทุกปี ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
หรือหัวหน้าหน่วยพัสดุตามข้อ ๒๐๕ แต่งต้ังผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบพัสดุซ่ึงมิใช่เป็นเจ้าหน้าท่ี
ตามความจําเป็น เพื่อตรวจสอบการรับจ่ายพัสดุในงวด ๑ ปีที่ผ่านมา และตรวจนับพัสดุประเภทท่ีคงเหลืออยู่
เพียงวันสน้ิ งวดน้ัน
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๖๘ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
ในการตรวจสอบตามวรรคหน่ึง ให้เริ่มดําเนินการตรวจสอบพัสดุในวันเปิดทําการวันแรก
ของปีงบประมาณเป็นต้นไป ว่าการรับจ่ายถูกต้องหรือไม่ พัสดุคงเหลือมีตัวอยู่ตรงตามบัญชี
หรือทะเบียนหรือไม่ มีพัสดุใดชํารุด เสื่อมคุณภาพ หรือสูญไปเพราะเหตุใด หรือพัสดุใดไม่จําเป็น
ต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไป แล้วให้เสนอรายงานผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อผู้แต่งต้ังภายใน
๓๐ วนั ทําการ นบั แตว่ นั เริ่มดาํ เนนิ การตรวจสอบพัสดนุ น้ั
เมื่อผู้แต่งต้ังได้รับรายงานจากผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบพัสดุแล้ว ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
๑ ชุด และส่งสําเนารายงานไปยังสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ๑ ชุด พร้อมท้ังส่งสําเนารายงาน
ไปยงั หนว่ ยงานตน้ สงั กดั (ถา้ มี) ๑ ชดุ ด้วย
ขอ้ ๒๑๔ เมื่อผู้แต่งต้ังได้รับรายงานจากผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบพัสดุตามข้อ ๒๑๓
และปรากฏว่ามีพัสดุชํารุด เส่ือมสภาพ หรือสูญไป หรือไม่จําเป็นต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไป
ก็ให้แต่งต้ังคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงขึ้นคณะหน่ึง โดยให้นําความในข้อ ๒๖ และข้อ ๒๗ มาใช้บังคับ
โดยอนุโลม เว้นแต่กรณีท่ีเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เป็นการเส่ือมสภาพเน่ืองมาจากการใช้งานตามปกติ
หรอื สญู ไปตามธรรมชาติใหห้ วั หน้าหนว่ ยงานของรัฐพจิ ารณาสัง่ การให้ดําเนนิ การจาํ หน่ายต่อไปได้
ถ้าผลการพิจารณาปรากฏว่า จะต้องหาตัวผู้รับผิดด้วย ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดําเนินการ
ตามกฎหมายและระเบยี บที่เก่ยี วข้องของทางราชการหรือของหนว่ ยงานของรัฐนั้นตอ่ ไป
ส่วนท่ี ๔
การจําหน่ายพสั ดุ
ข้อ ๒๑๕ หลงั จากการตรวจสอบแลว้ พัสดใุ ดหมดความจาํ เปน็ หรือหากใช้ในหน่วยงานของรัฐ
ต่อไปจะส้ินเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ให้เจ้าหน้าที่เสนอรายงานต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพื่อพิจารณา
สง่ั ใหด้ าํ เนนิ การตามวิธกี ารอย่างหนงึ่ อย่างใด ดังตอ่ ไปน้ี
(๑) ขาย ให้ดําเนินการขายโดยวิธีทอดตลาดก่อน แต่ถ้าขายโดยวิธีทอดตลาดแล้วไม่ได้ผลดี
ให้นาํ วธิ ที ก่ี าํ หนดเก่ยี วกับการซ้อื มาใชโ้ ดยอนุโลม เวน้ แต่กรณี ดงั ตอ่ ไปน้ี
(ก) การขายพัสดุครั้งหน่ึงซ่ึงมีราคาซ้ือหรือได้มารวมกันไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท
จะขายโดยวธิ เี ฉพาะเจาะจงโดยการเจรจาตกลงราคากนั โดยไมต่ อ้ งทอดตลาดกอ่ นกไ็ ด้
(ข) การขายให้แก่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา ๔๗ (๗)
แหง่ ประมวลรัษฎากร ให้ขายโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจงโดยการเจรจาตกลงราคากนั
(ค) การขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคล่ือนที่ แท็บเล็ต ให้แก่เจ้าหน้าท่ี
ของรัฐท่หี นว่ ยงานของรัฐมอบให้ไว้ใชง้ านในหน้าท่ี เม่ือบุคคลดังกล่าวพ้นจากหน้าที่หรืออุปกรณ์ดังกล่าว
พน้ ระยะเวลาการใชง้ านแลว้ ให้ขายให้แกบ่ ุคคลดงั กล่าวโดยวิธีเฉพาะเจาะจงโดยการเจรจาตกลงราคากัน
เล่ม ๑๓๔ ตอนพิเศษ ๒๑๐ ง หน้า ๖๙ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
การขายโดยวิธีทอดตลาดให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยให้ผู้ที่ได้รับ
มอบหมายทําการประเมินราคาทรัพย์สินก่อนการประกาศขายทอดตลาด กรณีที่เป็นพัสดุท่ีมีการจําหน่าย
เป็นการท่ัวไปให้พิจารณาราคาท่ีซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาด หรือราคาท้องถ่ินของสภาพปัจจุบัน
ของพัสดุนั้น ณ เวลาที่จะทําการขาย และควรมีการเปรียบเทียบราคาตามความเหมาะสม กรณีที่เป็นพัสดุ
ท่ีไม่มีการจําหน่ายทั่วไป ให้พิจารณาราคาตามลักษณะ ประเภท ชนิดของพัสดุ และอายุการใช้งาน
รวมทั้งสภาพและสถานที่ตั้งของพัสดุด้วย ทั้งน้ี ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ราคาประเมินดังกลา่ วโดยคํานึงถึงประโยชนข์ องหนว่ ยงานของรัฐด้วย
หนว่ ยงานของรฐั จะจ้างผปู้ ระกอบการทีใ่ หบ้ ริการขายทอดตลาดเป็นผู้ดําเนนิ การก็ได้
(๒) แลกเปลีย่ น ให้ดําเนินการตามวธิ ีการแลกเปล่ียนทก่ี ําหนดไว้ในระเบยี บน้ี
(๓) โอน ให้โอนแก่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา ๔๗ (๗)
แห่งประมวลรษั ฎากร ทั้งน้ี ใหม้ หี ลกั ฐานการสง่ มอบไวต้ อ่ กนั ด้วย
(๔) แปรสภาพหรือทาํ ลาย ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการที่หนว่ ยงานของรฐั กาํ หนด
การดําเนินการตามวรรคหนึ่ง โดยปกติให้แล้วเสร็จภายใน ๖๐ วัน นับถัดจากวันที่หัวหน้า
หน่วยงานของรัฐสง่ั การ
ข้อ ๒๑๖ เงินที่ได้จากการจําหน่ายพัสดุ ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
หรือกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องทางการเงินของหน่วยงานของรัฐนั้น หรือข้อตกลงในส่วนที่ใช้เงินกู้
หรือเงินชว่ ยเหลอื แลว้ แต่กรณี
การจาํ หน่ายเป็นสญู
ขอ้ ๒๑๗ ในกรณีท่ีพัสดุสูญไปโดยไม่ปรากฏตัวผู้รับผิดหรือมีตัวผู้รับผิดแต่ไม่สามารถชดใช้ได้
หรือมีตัวพัสดุอยู่แต่ไม่สมควรดําเนินการตามข้อ ๒๑๕ ให้จําหน่ายพัสดุนั้นเป็นสูญ ตามหลักเกณฑ์
ดงั ต่อไปน้ี
(๑) ถ้าพสั ดุน้นั มรี าคาซ้ือ หรอื ได้มารวมกนั ไม่เกนิ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใหห้ ัวหนา้ หน่วยงานของรัฐ
เปน็ ผูพ้ ิจารณาอนมุ ัติ
(๒) ถ้าพัสดุนน้ั มีราคาซอ้ื หรือได้มารวมกนั เกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้ดาํ เนนิ การดังน้ี
(ก) ราชการส่วนกลาง และราชการส่วนภูมิภาค ให้อยู่ในอํานาจของกระทรวงการคลัง
เปน็ ผู้อนุมัติ
(ข) ราชการส่วนท้องถิ่น ให้อยู่ในอํานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
หรือนายกเมอื งพทั ยา แล้วแตก่ รณี เป็นผอู้ นมุ ัติ
(ค) หน่วยงานของรัฐอื่น ผู้ใดจะเป็นผู้มีอํานาจอนุมัติให้เป็นไปตามท่ีหน่วยงานของรัฐ
น้นั กําหนด
เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๗๐ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๐
ราชกจิ จานุเบกษา
รัฐวิสาหกิจใดมีความจําเป็นจะกําหนดวงเงินการจําหน่ายพัสดุเป็นสูญตามวรรคหนึ่งแตกต่าง
ไปจากที่กําหนดไว้ในระเบียบน้ี ให้เสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเพ่ือขอความเห็นชอบ และเมื่อได้รับ
ความเหน็ ชอบแล้วใหร้ ายงานสํานกั งานการตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ทราบดว้ ย
การลงจ่ายออกจากบญั ชีหรือทะเบียน
ข้อ ๒๑๘ เมื่อได้ดําเนินการตามข้อ ๒๑๕ และข้อ ๒๑๗ แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ลงจ่ายพัสดุน้ัน
ออกจากบัญชีหรือทะเบียนทันที แล้วแจ้งให้สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ทราบภายใน ๓๐ วัน
นับแต่วนั ลงจา่ ยพัสดุนน้ั
สาํ หรบั พสั ดซุ ง่ึ ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายให้แจ้งแก่นายทะเบียนภายในระยะเวลาที่กฎหมาย
กาํ หนดดว้ ย
ข้อ ๒๑๙ ในกรณีที่พัสดุของหน่วยงานของรัฐเกิดการชํารุด เสื่อมคุณภาพ หรือสูญไป
หรือไม่จําเป็นต้องใช้ในราชการต่อไป ก่อนมีการตรวจสอบตามข้อ ๒๑๓ และได้ดําเนินการ
ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ หรือระเบียบนี้โดยอนุโลม แล้วแต่กรณี
เสร็จส้ินแล้ว ถ้าไม่มีระเบียบอื่นใดกําหนดไว้เป็นการเฉพาะ ให้ดําเนินการตามข้อ ๒๑๕ ข้อ ๒๑๖
ข้อ ๒๑๗ และข้อ ๒๑๘ โดยอนโุ ลม
หมวด ๑๐
การรอ้ งเรียน
ข้อ ๒๒๐ ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนด
ในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ
ที่ออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ มีสิทธิร้องเรียน
ไปยังหน่วยงานของรัฐนัน้ หรือคณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์ แลว้ แต่กรณีกไ็ ด้
การย่ืนข้อร้องเรียนตามวรรคหน่ึง ต้องดําเนินการภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ว่า
หน่วยงานของรัฐนั้นมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง
และการบริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในกฎหมาย
วา่ ด้วยการจดั ซอื้ จัดจ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครัฐ
ข้อ ๒๒๑ การร้องเรียนต้องทําเป็นหนังสือลงลายมือช่ือผู้ร้องเรียน ในกรณีผู้ร้องเรียนเป็นนิติบุคคล
ต้องลงลายมือชื่อของกรรมการซ่ึงเป็นผู้มีอํานาจกระทําการแทนนิติบุคคลและประทับตราของนิติบุคคล
(ถา้ มี)
หนังสือร้องเรียนตามวรรคหนึ่ง ต้องใช้ถ้อยคําสุภาพ และระบุข้อเท็จจริงและเหตุผลอันเป็นเหตุ
แห่งการรอ้ งเรียนให้ชดั เจน พร้อมแนบเอกสารหลักฐานทเี่ ก่ียวข้องไปดว้ ย
เลม่ ๑๓๔ ตอนพเิ ศษ ๒๑๐ ง หนา้ ๗๑ ๒๓ สงิ หาคม ๒๕๖๐
ราชกิจจานุเบกษา
ขอ้ ๒๒๒ ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐได้รับเรื่องร้องเรียนตามข้อ ๒๒๐ ให้หน่วยงานของรัฐ
พิจารณาข้อร้องเรียนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แล้วแจ้งผลให้ผู้ร้องเรียนทราบโดยไม่ชักช้า พร้อมท้ังแจ้งให้
คณะกรรมการพจิ ารณาอทุ ธรณท์ ราบด้วย
ขอ้ ๒๒๓ ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้รับเร่ืองร้องเรียนตามข้อ ๒๒๐
ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์พิจารณาข้อร้องเรียนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยให้ดําเนินการตามมาตรา ๔๓
วรรคสี่ แล้วแจ้งผลใหผ้ รู้ อ้ งเรียนและหนว่ ยงานของรฐั ทราบดว้ ย
คําวนิ จิ ฉัยของคณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์ ให้เปน็ ทส่ี ดุ
คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อาจกําหนดรายละเอียดอื่นเพ่ิมเติมได้ตามความจําเป็น
เพอ่ื ประโยชนใ์ นการดําเนินการ
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
อภิศักด์ิ ตันติวรวงศ์
รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลงั
บญั ชเี อกสารแนบทา้ ย
กาํ หนดประเภทของผูม้ ีอาํ นาจเหนอื ขนึ้ ไปหนึง่ ชนั้
ตามความในระเบยี บกระทรวงการคลงั ว่าด้วยการจดั ซอ้ื จดั จ้างและการบรหิ ารพสั ดภุ าครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐
(1) ราชการสว่ นกลางทีม่ ีฐานะเทียบเท่ากรม
ผู้มีอํานาจเหนือขน้ึ ไปหน่ึงช้ัน ได้แก่ ปลัดกระทรวงหรือปลัดทบวง แลว้ แตก่ รณี
(๒) ราชการสว่ นภมู ภิ าค
ผู้มีอํานาจเหนือข้ึนไปหนึ่งช้ัน ได้แก่ ปลัดกระทรวงต้นสังกัดของหน่วยงานของรัฐเจ้าของ
เงนิ งบประมาณ
(๓) ราชการสว่ นท้องถ่นิ
ผู้มอี าํ นาจเหนือขึ้นไปหนงึ่ ชั้น ได้แก่ ผูว้ ่าราชการจังหวัด
(๔) รัฐวิสาหกิจ
ผูม้ อี าํ นาจเหนือข้นึ ไปหนงึ่ ช้ัน ได้แก่ คณะกรรมการของรฐั วิสาหกจิ
(5) มหาวิทยาลยั ในกาํ กับของรัฐ
ผูม้ ีอาํ นาจเหนือข้ึนไปหน่งึ ชน้ั ได้แก่ สภามหาวิทยาลัย
(๖) ส่วนราชการที่ข้ึนตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภา สํานักงานเลขาธิการ
สภาผแู้ ทนราษฎร หรอื กรุงเทพมหานคร
ผู้มอี ํานาจเหนอื ขนึ้ ไปหน่งึ ชัน้ ได้แก่ หวั หน้าหน่วยงานของรัฐนัน้ เปน็ ผ้ใู ชอ้ าํ นาจเหนือขึ้นไปหนงึ่ ชนั้ เอง
(๗) ในกรณีนอกเหนือจากทก่ี ําหนดไว้ตาม (๑) – (๖)
ผู้มีอํานาจเหนือข้ึนไปหน่ึงชั้น ได้แก่ ผู้บังคับบัญชา ผู้กํากับดูแล หรือผู้ควบคุมช้ันเหนือข้ึนไปชั้นหน่ึง
แลว้ แตก่ รณี
(๘) ในกรณีท่ไี ม่มีผบู้ งั คับบัญชา ผกู้ ํากบั ดแู ล หรอื ผคู้ วบคุม ใหห้ ัวหน้าหน่วยงานของรัฐน้ันเป็นผู้ใช้อํานาจเหนือ
ข้ึนไปหน่งึ ชั้นเอง
(๙) ให้ผู้รักษาการตามระเบียบมีอํานาจออกประกาศกําหนดแก้ไขเพ่ิมเติมประเภทของผู้มีอํานาจเหนือข้ึนไป
หนง่ึ ช้นั ไดต้ ามความจําเปน็ และเหมาะสม
1
คู่มอื การจดั ทา TOR
1. ความหมายของ TOR
Terms of Reference หรือทเ่ี รียกกนั ทั่วไปว่า TOR เปน็ เอกสารทีก่ าหนดขอบเขตและรายละเอียด
ของการจดั หาพสั ดุ/งานจ้าง ท่ผี จู้ ัดทา TOR ตอ้ งการใหผ้ ู้ค้าดาเนินการ รวมทั้งความรบั ผิดชอบอน่ื ๆ ของผู้ค้าทเี่ กี่ยวขอ้ ง
กับพัสดุ/งานจา้ งนั้นๆ ดงั นั้น TOR จงึ เทียบไดก้ ับขอ้ กาหนด (Specifications) ของสนิ คา้ /งานจา้ งทีผ่ ู้จดั ทา TORทาขน้ึ
สาหรับการจัดซอ้ื /จดั จ้าง
2. ความสาคัญของ TOR
TORมีความสาคัญมากตอ่ คณุ ภาพของงาน จ้าง/พัสดุ และ TOR เปน็ เอกสารอา้ งอิงทใี่ ช้เป็นส่วนหนึ่ง
ของสัญญาจ้าง/สญั ญาซือ้ ขาย ดังน้ัน TORจงึ ต้องมคี วามชัดเจนเพียงพอตอ่ การตรวจรับของคณะกรรมการทัง้ ทางดา้ น
ปริมาณและคุณภาพของงาน/พัสดุ TOR ท่ีดีจะชว่ ยใหไ้ ด้พสั ดุ/งานจา้ งที่ดีตรงตามวตั ถปุ ระสงค์การใชง้ าน ประหยัด เกิด
ประโยชน์สูงสดุ
3. TORประกอบดว้ ยหวั ขอ้ ดงั น้เี ป็นอยา่ งน้อย
3.1 ความเปน็ มา
3.2 วตั ถุประสงค์
3.3 คณุ สมบัติของผู้เสนอราคา
3.4 แบบรูปรายการ หรอื คุณลกั ษณะเฉพาะ/ขอบเขตของงาน
3.5 ระยะเวลาดาเนนิ การ
3.6 ระยะเวลาสง่ มอบงาน หรอื สง่ มอบของ
3.7 วงเงินในการจัดหา
3.8 ราคากลาง (วงเงินเกนิ 100,000 บาท)
3.9 หลักเกณฑ์การพจิ ารณาข้อเสนอ
3.10 การรับประกันความชารดุ บกพร่อง(ถ้ามี)
3.11 เงื่อนไขการชาระเงิน
3.12ค่าปรบั
3.13กาหนดยืนราคา
2
4. คุณลักษณะเฉพาะ (Spacifications)
คุณลกั ษณะเฉพาะ (Spacifications) คือ เอกสารกาหนดรายละเอียดคุณลกั ษณะของพสั ดุ/งานจ้าง ท่ี
ตอ้ งการ ซอื้ /จ้าง เพือ่ ให้เปน็ ไปตามความต้องการใช้งานของผู้ซอ้ื /ผ้จู า้ ง ก่อนการจดั ซ้อื พสั ดุ/จัดจ้างในแตล่ ะครงั้ จะต้อง
มกี ารกาหนดคณุ ลกั ษณะรายละเอยี ดของส่งิ ของ/งานจ้างทตี่ อ้ งการน้ันก่อน
5. การกาหนด Specs หรอื คณุ ลกั ษณะเฉพาะทด่ี ี
5.1 ต้องเป็นตามวัตถปุ ระสงคข์ องการใชง้ าน
5.2 มคี วามสะดวกในการจดั หา
5.3 กาหนดใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานโดยท่วั ไป
5.4 ต้องไม่ขดั ต่อกฎหมาย ระเบยี บ มติคณะรัฐมนตรี
5.5 มรี ายละเอยี ดทีแ่ คบ (ไม่กว้างจนเกนิ ไป แตไ่ มล่ ็อคสเปค) จะง่ายต่อการพจิ าณาคัดเลอื กของคณะกรรมการ
จดั ซ้ือ/จดั จ้าง
5.6 เปิดกวา้ งในการแข่งขันดา้ นราคา คอื ทาใหผ้ ้ปู ระกอบการสามารถเขา้ เสนอราคาไดห้ ลายราย
5.7 มรี ายละเอียดมาก(ยงิ่ มากเทา่ ใดกจ็ ะได้พสั ดุ/งานจา้ งท่มี คี ณุ ภาพดยี ่ิงขน้ึ เทา่ น้ัน แตต่ อ้ งไมใ่ กลเ้ คยี งกับยห่ี อ้ ใด
ยหี่ อ้ หนึ่งโดยเฉพาะ) และจะง่ายต่อการตรวจรับของคณะกรรมการ และตดั ปญั หาท่ีอาจจะเกดิ ข้นึ ไดใ้ นภาย
หน้า
6. ตวั อยา่ งรา่ งขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR
6.1 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จ้างท่วั ไป)
6.2 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จ้างก่อสรา้ ง)
6.3 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จา้ งที่ปรึกษา)
6.4 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จดั ซือ้ ท่ัวไป)
6.5 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จัดซ้อื คอมพวิ เตอร์)
6.6 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จ้างออกแบบ)
6.7 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จ้างควบคมุ งาน)
หมายเหตุ ผจู้ ัดทา TOR จะต้องลงนามกากบั ใน TOR ทุกหนา้
6.1 3
1. ความเป็นมา
ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จ้างท่วั ไป)
โครงการ..................................
2. วตั ถปุ ระสงค์
3. คุณสมบัตขิ องผเู้ สนอราคา
3.1 เปน็ นติ ิบคุ คล/บุคคล ผมู้ ีอาชพี รบั จ้างงานท่ีประกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ดงั กลา่ ว
3.2 ไม่เป็นบคุ คลซ่งึ ถูกระบชุ อ่ื ไวใ้ นบญั ชรี ายชื่อผ้ทู ้งิ งาน และได้แจ้งเวียนชือ่ ใหเ้ ป็นผูท้ ้งิ งานของหน่วยงานของรัฐ
ในระบบเครือขา่ ยสารสนเทศของกรมบญั ชีกลาง ซ่งึ รวมถึงนิติบุคคลทผี่ ูท้ ิ้งงานเป็นหุ้นส่วนผจู้ ดั การ กรรมการ
ผู้จดั การ ผบู้ ริหาร ผ้มู อี านาจในการดาเนนิ งานในกจิ การของนติ ิบุคคลนัน้ ด้วย
3.3 ไม่เปน็ ผูไ้ ด้รบั เอกสิทธ์หิ รือความค้มุ กัน ซ่ึงอาจปฏเิ สธไมย่ อมขึ้นศาลไทย เวน้ แตร่ ฐั บาลของผ้เู สนอราคาได้มี
คาสั่งใหส้ ละสิทธิค์ วามค้มุ กันเช่นวา่ นนั้
3.4 ไมเ่ ป็นผ้มู ผี ลประโยชนร์ ว่ มกนั กบั ผูเ้ สนอราคารายอื่นทเ่ี ข้าเสนอราคาให้แก่ สานักงานพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศ
และภูมสิ ารสนเทศ (องค์การมหาชน) ณ วันประกาศประกวดราคา อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรอื ไม่เป็นผกู้ ระทาการอนั
เป็นการขัดขวางการแขง่ ขันราคาอย่างเป็นธรรมในการประกวดราคาครง้ั นี้
*** 3.5 บคุ คลหรือนิตบิ คุ คลที่จะเขา้ รว่ มเป็นคู่สัญญาตอ้ งไมอ่ ย่ใู นฐานะเป็นผไู้ มแ่ สดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรอื
แสดงบัญชรี ายรบั รายจา่ ยไมถ่ กู ต้องในสาระสาคญั
*** 3.6 บคุ คลหรอื นติ ิบคุ คลท่จี ะเขา้ เป็นคู่สญั ญากบั หน่วยงานของรฐั ซึง่ ได้ดาเนนิ การจดั ซ้อื จดั จา้ งด้วยระบบ
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ( e-Gevernment Procurement : e-GP) ตอ้ งลงทะเบยี นในระบบอิเลก็ ทรอนิกสข์ อง
กรมบัญชีกลางท่ีเว็บไซตศ์ นู ยข์ ้อมลู จดั ซอ้ื จัดจ้างภาครัฐ
***3.7คู่สญั ญาตอ้ งรบั และจ่ายเงนิ ผา่ นบัญชธี นาคาร เว้นแตก่ ารจา่ ยเงินแต่ละคร้งั ซึง่ มีมลู คา่ ไม่เกนิ สามหม่ืนบาท
คู่สัญญาอาจจา่ ยเป็นเงินสดก็ได้
3.8 ผู้เสนอราคาตอ้ งมผี ลงานประเภทเดยี วกนั กับ การจา้ ง............................... ในวงเงนิ ไม่น้อยกวา่ ...........(ไม่เกนิ
50 %ของงบประมาณการจ้าง)....... ในสญั ญาเดยี ว ภายในเวลาไมเ่ กิน ............................... ปนี ับถัดจากวนั ท่ี
ลงนามในสัญญาหรอื ใบสั่ง จ้างจนถึงวนั ยื่นเอกสาร อยา่ งน้อย 1 ผลงาน และเปน็ ผลงานที่เป็นคสู่ ัญญา
โดยตรงกับสว่ นราชการ หน่วยงานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บบรหิ ารราชการส่วนท้องถ่ิน รฐั วิสาหกิจ
หนว่ ยงานอ่ืนของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนทส่ี านกั งานเชอื่ ถอื โดยต้องแนบสาเนาสัญญา และ /หรือ หนังสอื
รับรองผลงานเสนอพร้อมการยนื่ เสนอราคา(กาหนดหรอื ไม่ก็ได้)
3.9 ........................... (คุณสมบัตอิ ่ืน)..............................(ถา้ มี)
(***ขอ้ 3.5 – 3.7 กาหนดเฉพาะวงเงนิ เกิน500,000 บาท ข้ึนไป)
4
4 คณุ ลกั ษณะเฉพาะ
กาหนดรายละเอยี ดคณุ ลกั ษณะของงานจา้ งทต่ี อ้ งการจา้ ง เพือ่ ใหเ้ ป็นไปตามความต้องการใชง้ านของผู้
วา่ จ้าง
5 ระยะเวลาดาเนินการ
ผู้เสนอราคาจะต้องดาเนินการภายในระยะเวลา...............วนั
6 ระยะเวลาสง่ มอบงาน
ผเู้ สนอราคาตอ้ งดาเนนิ การใหแ้ ลว้ เสร็จและส่งมอบงานภายในระยะเวลา.....................วนั นบั ถัดจาก
วนั ลงนามในสัญญาจา้ ง
7 สถานทสี่ ่งมอบงาน
ผ้เู สนอราคาจะต้องสง่ มอบงาน.......................................... ณ .............................................................
8. การรับประกันความชารดุ บกพร่องของงาน(ถา้ ม)ี
ผู้เสนอราคาตอ้ งรับประกนั ความชารุดบกพรอ่ งของงาน หากมเี หตุชารดุ บกพรอ่ งหรือเสียหายเกดิ ขึ้น
จากงานจ้างนีภ้ ายในกาหนด ปีนับถัดจากวนั ทไ่ี ดส้ ง่ มอบงานและคณะกรรมการตรวจรบั แล้วและ ตอ้ งรบี ทาการ
แก้ไขใหเ้ ปน็ ท่ีเรียบร้อยโดยไม่ชกั ช้า โดยสานักงานไม่ต้องออกเงินใดๆ ในการนท้ี ั้งส้ิน หากผู้ เสนอราคาบิดพล้ิว ไม่
กระทาการดงั กล่าวให้แล้วเสรจ็ ภายในกาหนด…..........................วัน นบั แตว่ ันท่ีไดแ้ จ้งจากสานกั งาน
9. เงื่อนไขการชาระเงนิ
สานักงานจะชาระเงนิ คา่ จ้างเตม็ จานวนมลู คา่ จา้ งตามสญั ญา เม่อื ผรู้ บั จา้ งไดส้ ่งมอบงานทงั้ หมดแลว้
เสรจ็ และคณะกรรมการไดต้ รวจรับเรียบรอ้ ยแลว้ (กรณีจา่ ยครง้ั เดยี ว)
(กรณชี าระเงินคา่ จา้ งแบง่ เปน็ งวดๆ)
ผู้ว่าจ้างจะชาระคา่ จ้างตามสัญญาแบ่งเป็นงวดๆ จานวน.....................งวด ดงั นี้
งวดท่ี 1 เปน็ จานวน รอ้ ยละ................ของมูลคา่ จา้ งตามสญั ญา เมื่อ ผู้รับจ้างได้ สง่ มอบงาน
...............................แล้วเสร็จภายใน .................วัน และคณะกรรมการตรวจรับพสั ดไุ ดต้ รวจรบั เรยี บร้อยแลว้
งวดที่ 2 เป็นจานวน ร้อยละ................ของมูลคา่ จ้างตามสัญญา เมื่อ ผรู้ บั จา้ งได้ ส่งมอบงาน
........................................แล้วเสรจ็ ภายใน ..............................วนั และคณะกรรมการตรวจตรวจรับพัสดุ ไดต้ รวจ
รับเรยี บร้อยแลว้
5
งวดสทุ า้ ย เป็นจานวน ร้อยละ................ของมูลคา่ จ้างตามสัญญา เม่อื ผรู้ บั จ้างได้ สง่ มอบงาน
........................................ รวมทัง้ งานท่ีเหลือท้ังหมดแลว้ เสรจ็ ภายใน ..............................วัน และคณะกรรมการ
ตรวจรบั พัสดุ ได้ตรวจรบั เรียบร้อยแลว้
10. การจา่ ยเงนิ ลว่ งหนา้ (ถา้ ม)ี
สานกั งานจะ จา่ ยเงินค้าจ้างล่วงหน้า จานวน ร้อยละ………(ไม่เกิน 15)………..…ของราคาคา่ จา้ ง ตาม
สญั ญาโดยเงินจานวนดงั กลา่ วจะจ่ายใหภ้ ายหลงั จากท่ผี ู้เสนอราคาไดว้ างหลักประกันการรบั เงินคา่ จา้ งลว่ งหน้าเตม็
ตามจานวนเงนิ ค่าจ้างลว่ งหนา้ นนั้ ใหแ้ ก่สานกั งาน
สานกั งาน จะคืนหลักประกันดังกล่าวตามวรรคหน่ึง ใหแ้ กผ่ รู้ ับจา้ ง เมื่อสานกั งานไดห้ กั เงนิ ท่ีไดจ้ า่ ย
ล่วงหน้าจากเงินคา่ ของหรอื คา่ จ้างในแต่ละงวดครบถว้ นแล้ว
11. ค่าปรบั
หากผู้รบั จา้ งไมส่ ามารถทางานใหแ้ ลว้ เสรจ็ ตามเวลาที่กาหนดไวใ้ นสัญญาผูร้ ับจา้ งจะต้องชาระค่าปรบั
ใหแ้ ก่สานกั งานเป็นรายวันอตั รารอ้ ยละ 0.10 (ศนู ยจ์ ุดหนึ่งศนู ย์)ของมลู ค่าจ้างตามสญั ญา แต่ไมต่ า่ กว่าวันละ 100
บาท
12. กาหนดยืนราคา
ผู้เสนอราคาจะต้องกาหนดยนื ราคาท่ีเสนอไม่นอ้ ยกว่า.................วนั นบั ถดั จากวนั เสนอราคา
13. วงเงนิ ในการจดั จ้าง
งบประมาณในการจัดจ้าง......................................... จานวนเงิน..............................บาท
(..........................................)รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
ราคากลางในการจัดจ้าง......................................... จานวนเงิน..............................บาท
(..........................................)รวมภาษมี ูลคา่ เพมิ่
14. หลกั ประกนั สญั ญา
ผรู้ ับจ้าง/ผู้ขายจะต้องนาหลักประกันอัตรา รอ้ ยละ 5 ของราคาคา่ จา้ ง มามอบไวแ้ ก่ สานักงาน เพ่ือเป็น
หลกั ประกันการปฏิบัตติ ามสญั ญา และหลักประกันจะตอ้ งมอี ายุครอบคลุมความรบั ผิดทงั้ ปวงของผู้ รับจ้าง/ผู้ขายตลอด
อายุสัญญา
สานกั งานจะคืนหลักประกนั สญั ญาใหแ้ กผ่ รู้ ับจา้ ง/ผขู้ าย เมือ่ ผู้รบั จ้าง/ผู้ขายพ้นจากข้อผูกพันและความ
รบั ผิดทง้ั ปวงตามสญั ญาแลว้
15. การยื่นขอ้ เสนอ
ผู้เสนอราคาจะตอ้ งยืน่ ข้อเสนอดังน้ี
6
16. หลักเกณฑแ์ ละสิทธิในการพจิ ารณาข้อเสนอ
ในการพิจารณาผลการยน่ื ขอ้ เสนอประกวดราคาอิเลก็ ทรอนกิ สค์ ร้งั น้ี สานักงานฯ จะพจิ ารณาตดั สิน
โดยใช้เกณฑร์ าคา (ใชร้ าคาต่าสุด)หรอื
หลักเกณฑ์การประเมนิ ค่าประสทิ ธภิ าพตอ่ ราคา โดยพจิ ารณาใหค้ ะแนนราคา ............คะแนน และ
เกณฑค์ ุณภาพ ...........................คะแนน รวม 100 คะแนน ดงั นี้(เลือกได้มากกว่า 1 ข้อ)
ตน้ ทุนของพสั ดนุ ั้นตลอดอายกุ ารใช้งาน คะแนน
มาตรฐานของสนิ คา้ หรือบริการ คะแนน
บรกิ ารหลังการขาย คะแนน
พัสดทุ ี่รัฐตอ้ งการส่งเสริมหรอื สนบั สนุน (ถา้ มี) คะแนน
ขอ้ เสนอด้านเทคนคิ หรือข้อเสนออื่นๆ คะแนน
7
6.2 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จา้ งกอ่ สรา้ ง)
โครงการ..................................
1. ความเป็นมา
2. วตั ถุประสงค์
3. คุณสมบตั ิของผเู้ สนอราคา
3.1 เปน็ นิติบุคคลผู้มีอาชพี รบั จา้ งงานที่ประกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ดังกลา่ ว
3.2 ไม่เปน็ บุคคลซง่ึ ถูกระบุชือ่ ไวใ้ นบัญชีรายช่อื ผูท้ ิ้งงาน และได้แจ้งเวยี นช่ือ ให้เปน็ ผทู้ ิง้ งานของหนว่ ยงานของรฐั
ในระบบเครอื ขายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง ซึ่งรวมถึงนติ บิ ุคคลทผ่ี ทู้ ง้ิ งานเปน็ หนุ้ ส่วนผจู้ ดั การ กรรมการ
ผูจ้ ดั การ ผู้บริหาร ผมู้ อี านาจในการดาเนนิ งานในกจิ การของนิติบคุ คลนนั้ ดว้ ย
3.3 ไม่เป็นผู้ไดร้ บั เอกสิทธหิ์ รือความคมุ้ กัน ซึง่ อาจปฏิเสธไม่ยอมขนึ้ ศาลไทย เวน้ แตร่ ัฐบาลของผ้เู สนอราคาไดม้ ี
คาสั่งให้สละสทิ ธ์ิความคุ้มกนั เชน่ วา่ นน้ั
3.4 ไมเ่ ปน็ ผ้มู ผี ลประโยชนร์ ่วมกนั กบั ผเู้ สนอราคารายอนื่ ทเ่ี ขา้ เสนอราคาให้แก่ สานกั งานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ
และภมู ิสารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) ณ วันประกาศประกวดราคา อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรือไม่เป็นผ้กู ระทาการอนั
เปน็ การขัดขวางการแข่งขนั ราคาอย่างเป็นธรรมในการประกวดราคาคร้ังน้ี
*** 3.5 บุคคลหรอื นิตบิ คุ คลทจ่ี ะเข้าร่วมเป็นคู่สัญญาตอ้ งไมอ่ ยู่ในฐานะเป็นผูไ้ มแ่ สดงบัญชีรายรับรายจา่ ย หรือ
แสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไมถ่ กู ต้องในสาระสาคญั
*** 3.6 บุคคลหรอื นติ ิบคุ คลทจ่ี ะเขา้ เปน็ ค่สู ัญญากบั หน่วยงานของรฐั ซงึ่ ได้ดาเนนิ การจดั ซอ้ื จัดจา้ งดว้ ยระบบ
อิเล็กทรอนกิ ส์ ( e-Gevernment Procurement : e-GP) ตอ้ งลงทะเบยี นในระบบอิเลก็ ทรอนกิ ส์ของ
กรมบญั ชกี ลางที่เว็บไซต์ศูนยข์ ้อมูลจดั ซ้อื จดั จ้างภาครฐั
***3.7คูส่ ญั ญาต้องรบั และจ่ายเงนิ ผ่านบญั ชีธนาคาร เว้นแต่การจ่ายเงินแตล่ ะคร้งั ซึง่ มมี ลู ค่าไมเ่ กินสามหมืน่ บาท
ค่สู ญั ญาอาจจา่ ยเป็นเงินสดก็ได้
3.8 ค่สู ญั ญาต้องรบั และจา่ ยเงนิ ผา่ นบัญชีธนาคาร เวน้ แตก่ ารจ่ายเงนิ แต่ละครั้งซงึ่ มมี ลู ค่าไมเ่ กินสามหม่นื บาท
คู่สญั ญาอาจจา่ ยเปน็ เงนิ สดกไ็ ด้
3.9 ผ้เู สนอราคาต้องเปน็ ผู้ท่ีไดข้ น้ึ ทะเบียนผปู้ ระกอบการไวก้ บั กรมบัญชีกลาง
3.10ผเู้ สนอราคาจะตอ้ งมผี ลงานกอ่ สรา้ งหรืองานประเภทเดียวกนั กบั งานทีจ่ า้ ง กอ่ สรา้ งครัง้ น้ี ในวงเงนิ ไม่นอ้ ยกว่า
……………(ไมเ่ กิน 50 % ของวงเงินงบประมาณ) ……….. บาท ในสญั ญาเดยี ว เปน็ ผลงานยอ้ นหลงั ไมเ่ กิน
.............. ปี (.............. ป)ี นบั ตง้ั แตว่ นั ทางานแล้วเสรจ็ จนถึงวนั ยื่น ขอ้ เสนอ จานวนไม่น้อยกว่า 1 สญั ญาและ
เปน็ ผลงานทีเ่ ปน็ คสู่ ัญญาโดยตรงกบั ส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบยี บบริหารราชการส่วน
ทอ้ งถิ่น รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอน่ื ของรฐั หรือหนว่ ยงานเอกชน ทสี่ านักงานเชอื่ ถอื โดยต้องแนบสาเนาสญั ญา
(และ/หรือ ใช้อย่างใดอย่างหน่ึง) หนงั สือรบั รองผลงานเสนอพรอ้ มการยนื่ เอกสารในการเสนอราคา
8
3.11 ผู้เสนอราคาต้องมีสถาปนิกและวศิ วกรที่เกี่ยวขอ้ งกับการกอ่ สรา้ งนี้ และเปน็ ผู้ท่ีได้รบั ใบอนญุ าตประกอบ
วิชาชีพถูกต้องตามกฎหมาย ระดับไมต่ า่ กวา่ ระดบั สามญั และมปี ระสบการณใ์ นวชิ าชีพตามใบอนญุ าต
ประกอบอาชีพ ไม่ตา่ กว่า 5 ปี เปน็ ผู้รับผิดชอบ, ควบคุม, ดแู ลการก่อสรา้ งในระบบน้ันๆ โดยตรง ใหเ้ ปน็ ไป
ตามรูปแบบ, ข้อกาหนดและเงือ่ นไขของการจา้ ง โดยใหย้ ืน่ รายช่อื สถาปนิก, วิศวกร พรอ้ มใบอนุญาต
ประกอบวิชาชพี เสนอพรอ้ มการยนื่ ซองเอกสาร ในการเสนอราคา
3.12 ผ้เู สนอราคาจะตอ้ งกาหนดใหม้ รี ะบบกรอบอาคาร ระบบไฟฟ้าแสงสวา่ ง ระบบปรบั อากาศ รวมท้ังวัสดุและ
อุปกรณ์ เปน็ ไปตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์เพือ่ การอนุรักษ์พลงั งาน และใหม้ ีการใช้พลังงานโดยรวมของ
อาคาร และการใช้พลงั งานหมุนเวียนในระบบตา่ งๆ ของอาคาร เปน็ ไปตามพระราชบัญญตั กิ ารสง่ เสริมการ
อนรุ ักษพ์ ลังงาน (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2550 ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา วันที่ 4 ธันวาคม 2550 และ
กฎกระทรวง กาหนดประเภท หรอื ขนาดของอาคาร และมาตรฐาน หลักเกณฑ์ และวิธกี ารในการออกแบบ
อาคารเพอ่ื การอนรุ ักษพ์ ลังงาน พ.ศ. 2552 ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา วันที่ 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2552
(***ข้อ 3.5 – 3.7 กาหนดเฉพาะวงเงินตงั้ แต่ 500,000 บาท ขน้ึ ไป)
4. รปู แบบรายการหรอื คุณลกั ษณะเฉพาะ
5. สถานท่กี อ่ สรา้ ง
6. ระยะเวลาดาเนนิ การ
ผเู้ สนอราคาจะต้องดาเนนิ การกอ่ สรา้ งตามขอ้ กาหนดของสญั ญาจา้ งภายในระยะเวลา.................วนั
7. ระยะเวลาสง่ มอบงาน
ผู้เสนอราคาจะต้องสง่ มอบงานกอ่ สร้างให้แล้วเสรจ็ ภายในระยะเวลา.....................วนั นับถัดจากวันลง
นามในสญั ญาจ้าง
8. วงเงินในการจัดจ้าง
งบประมาณในการจดั จ้าง....................................จานวนเงนิ ..............................บาท
(..........................................)
ราคากลางในการจัดจา้ ง....................................จานวนเงิน..............................บาท
(..........................................)
9
9. การรับประกันความชารุดบกพรอ่ งของงาน
ผรู้ บั จ้างตอ้ งรบั ประกนั ความชารดุ บกพรอ่ งของงาน หากมีเหตชุ ารุดบกพร่องหรอื เสยี หายเกดิ ขน้ึ จาก
งานจา้ งนี้ภายในกาหนด ปีนับถัดจากวันทไี่ ด้ส่งมอบงานและคณะกรรมการตรวจรับแลว้ หาก เกิดความบกพร่อง
ผูร้ บั จา้ งจะตอ้ งรีบทาการแก้ไขให้แลว้ เสรจ็ ภายในกาหนด…...................วนั นับแตว่ นั ทไ่ี ด้แจ้งจากผวู้ า่ จ้าง
10. เง่ือนไขการชาระเงนิ
ผู้ว่าจ้างจะชาระเงนิ ค่าจา้ งเตม็ จานวนมูลคา่ จ้างตามสญั ญา เมอ่ื ผรู้ บั จา้ งได้ส่งมอบงานทั้งหมดแล้วเสร็จ
และคณะกรรมการไดต้ รวจรับเรียบร้อยแลว้ (กรณจี ่ายคร้ังเดยี ว)
(กรณชี าระเงนิ คา่ จ้างแบ่งเป็นงวดๆ)
ผู้วา่ จ้างจะชาระค่าจ้างตามสัญญาแบ่งเปน็ งวดๆ จานวน.....................งวด ดังน้ี
งวดท่ี 1 เป็นจานวน รอ้ ยละ................ของมลู ค่าจา้ งตามสญั ญา เม่ือ ผรู้ ับจ้างได้ สง่ มอบงาน
........................................แลว้ เสร็จภายใน ..............................วัน และคณะกรรมการตรวจรับพสั ดุในงานกอ่ สรา้ ง
ได้ตรวจรับเรยี บร้อยแลว้ 6
งวดที่ 2 เป็นจานวน ร้อยละ................ของมลู ค่าจา้ งตามสญั ญา เม่ือ ผรู้ ับจา้ งได้ ส่งมอบงาน
........................................แล้วเสรจ็ ภายใน ..............................วัน และคณะกรรมการตรวจรับพสั ดุในงานก่อสร้าง
ได้ตรวจรบั เรียบรอ้ ยแล้ว
งวดที่ 3 เป็นจานวน ร้อยละ................ของมลู คา่ จา้ งตามสญั ญา เมือ่ ผู้รบั จา้ งได้ สง่ มอบงาน
........................................แลว้ เสร็จภายใน ..............................วัน และคณะกรรมการตรวจรับพัสดใุ นงานกอ่ สร้าง
ไดต้ รวจรบั เรยี บร้อยแล้ว
งวดสทุ า้ ย เปน็ จานวนร้อยละ................ของมูลค่าจ้างตามสญั ญา เมอ่ื ผ้รู ับจา้ งได้ปฏบิ ตั ิงานท้ังหมดให้
แลว้ เสรจ็ เรยี บร้อยตามสญั ญารวมทัง้ ทาสถานที่กอ่ สร้างให้สะอาดเรยี บรอ้ ย ภายใน ..............................วัน และ
คณะกรรมการตรวจรบั พสั ดใุ นงานกอ่ สรา้ งได้ตรวจรับเรียบร้อยแล้ว
11. การจา่ ยเงนิ ล่วงหน้า (ถา้ ม)ี
สานักงานจะ จ่ายเงินค่าจ้างล่วงหนา้ ให้แก่ผู้รบั จ้าง จานวน ร้อยละ………(ไมเ่ กนิ 15)………..…ของราคา
ค่าจ้างตามสัญญา โดยเงนิ จานวนดงั กล่าวจะจ่ายใหภ้ ายหลงั จากท่ผี ู้รบั จา้ งได้วางหลักประกันการรับเงินคา่ จา้ ง
ลว่ งหน้าเตม็ ตามจานวนเงินคา่ จ้างล่วงหนา้ น้นั ใหแ้ ก่สานกั งาน
สานักงาน จะคนื หลกั ประกันดังกล่าวตามวรรคหนใ่ึงห้แกผ่ ูร้ บั จ้าง เมื่อสานักงานไดห้ ักเงินทไี่ ดจ้ ่าล่วงหน้า
จากเงนิ คา่ ของหรือค่าจ้างในแตล่ ะงวดครบถว้ นแลว้
10
12. การหกั เงินประกนั ผลงาน
ในการจา่ ยเงินใหแ้ ก่ผูร้ บั จา้ งแตล่ ะงวดสานักงานจะหักเงนิ จานวนร้อยละ ..........(5 - 10)..........ของเงินที่
ตอ้ งจ่าย ในงวดน้ันเพื่อเปน็ ประกันผลงาน
ผรู้ ับจ้างมีสทิ ธิทีจ่ ะขอเงินประกนั ผลงานคนื โดยผรู้ บั จา้ งจะต้องวางหนงั สือค้าประกันของธนาคารซง่ึ
ออกโดยธนาคารภายในประเทศ มาวางไวต้ อ่ สานกั งานเพ่ือเปน็ หลักประกนั แทนกไ็ ด้
สานักงาน จะคืนเงินประกันผลงานและ/หรอื หนงั สอื คา้ ประกันของธนาคารดังกล่าวตามวรรคหน่งึ ใหแ้ ก่
ผู้รับจา้ งพร้อมกับการจา่ ยเงนิ งวดสดุ ท้าย
13. ค่าปรับ
หากผู้รบั จ้างไม่สามารถทางานให้แลว้ เสรจ็ ตามเวลาท่ีกาหนดไว้ในสญั ญาผู้รบั จา้ งจะตอ้ งชาระค่าปรับ
ให้แกส่ านักงานเป็นรายวันอตั ราร้อยละ 0.10 (ศูนยจ์ ุดหนง่ึ ศูนย์)ของมลู คา่ จา้ งตามสัญญา แตไ่ ม่ตา่ กวา่ วนั ละ 100
บาท
14. มาตรฐานฝมี อื ช่าง
ผู้รบั จ้างจะต้องมีและใช้ผ้ผู า่ นการทดสอบมาตรฐานฝมี ือชา่ งจากหรอื ผมู้ วี ุฒิบตั รระดับ ปวช. ปวส.
และปวท. หรือเทยี บเทา่ จากสถาบนั การศกึ ษาที่ ก.พ. รบั รองให้ให้เขา้ รบั ราชการได้ในอัตราไมต่ ่ากวา่ รอ้ ยละ…………
ของแตล่ ะสาขาช่าง แต่จะต้องมชี ่างจานวนอย่างน้อย1 คน ในแตล่ ะสาขาชา่ งดังตอ่ ไปน้ี
14.1 ……………………………………………………
14.2 ……………………………………………………
ผู้รับจา้ งจะต้องจดั ทาบัญชี แสดงจานวนชา่ งท้ังหมดโดยจาแนกตามแตล่ ะสาขาช่างและระดับชา่ ง
พร้อมกบั ระบุรายช่ือชา่ งผูท้ ่ผี า่ นการทดสอบมาตรฐานฝมี ือชา่ งหรอื ผมู้ วี ฒุ ิบตั รดังกลา่ ว นามาแสดงพร้อมหลักฐาน
ตา่ ง ๆ ตอ่ คณะกรรมการการตรวจการจา้ งหรือผคู้ วบคุมงานก่อนเร่มิ ลงมือทางาน และพรอ้ มท่ีจะให้ สานกั งานหรือ
เจา้ หนา้ ทขี่ องสานกั งานตรวจสอบดไู ดต้ ลอดเวลาทางานตามสัญญาจ้าง
15. หลักประกนั สญั ญา
ผ้รู บั จา้ ง/ผู้ขายจะต้องนาหลักประกนั อัตรา ร้อยละ 5 ของราคาค่าจา้ ง มามอบไวแ้ ก่ สานักงาน เพ่ือเปน็
หลกั ประกันการปฏิบตั ติ ามสญั ญา และหลักประกนั จะตอ้ งมอี ายุครอบคลมุ ความรบั ผดิ ทัง้ ปวงของผู้ รบั จา้ ง/ผู้ขายตลอด
อายสุ ัญญา
สานกั งานจะคืนหลักประกันสญั ญาให้แก่ผ้รู บั จ้าง เม่ือผู้รบั จ้างพ้นจากขอ้ ผกู พนั และความรบั ผดิ ทัง้ ปวง
ตามสญั ญาแล้ว
11
16. การยนื่ ข้อเสนอ
ผู้เสนอราคาจะต้องย่ืนขอ้ เสนอดังนี้
17. หลักเกณฑแ์ ละสทิ ธิในการพจิ ารณาข้อเสนอ
ในการพจิ ารณาผลการยนื่ ข้อเสนอประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ครั้งนี้ สานกั งานฯ จะพจิ ารณาตดั สนิ
โดยใชเ้ กณฑ์ราคา (ใช้ราคาต่าสดุ )หรอื
หลักเกณฑก์ ารประเมนิ ค่าประสทิ ธภิ าพต่อราคา โดยพจิ ารณาให้คะแนนราคา ............คะแนน และ
เกณฑ์คณุ ภาพ ...........................คะแนน รวม 100 คะแนน ดังนี้ (เลอื กไดม้ ากกวา่ 1 ข้อ)
ตน้ ทุนของพสั ดุนั้นตลอดอายกุ ารใช้งาน คะแนน
มาตรฐานของสนิ ค้าหรือบริการ คะแนน
บรกิ ารหลงั การขาย คะแนน
พัสดุทรี่ ฐั ต้องการสง่ เสริมหรือสนบั สนนุ (ถา้ มี) คะแนน
ขอ้ เสนอด้านเทคนคิ หรอื ขอ้ เสนออ่นื ๆ คะแนน
12
6.3 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จ้างท่ีปรกึ ษา)
1. ความเป็นมา โครงการ..................................
---------------------------------------
2. วัตถุประสงค์
3. ขอบเขตของงานจ้างที่ปรึกษา
(ตอ้ งกาหนดให้ชดั เจนว่าการดาเนนิ งานของทป่ี รกึ ษาจะตอ้ งครอบคลมุ ในประเด็นใดบ้าง ในแต่ละ
ประเด็นตอ้ งทาอะไรบา้ ง และควรทาอย่างไร)
4. คณุ สมบตั ิของท่ีปรกึ ษา
4.1 เปน็ นติ ิบุคคล/บุคคล ท่จี ดทะเบียนเปน็ ที่ปรึกษาไทยกบั ศนู ยข์ ้อมูลทป่ี รกึ ษาไทยของกระทรวงการคลงั
4.2 ไมเ่ ป็นผูท้ ีถ่ ูกระบชุ ่ือไว้ในบญั ชรี ายชือ่ ผูท้ งิ้ งานของทางราชการ และไดแ้ จ้งเวียนช่อื แล้วหรอื ไม่เป็นผู้ทไี่ ด้รบั ผล
ของการส่ังให้นิตบิ คุ คลหรือบุคคลอ่นื เปน็ ผูท้ ้ิงงานตามระเบียบของทางราชการ
4.3 ไม่เปน็ ผูไ้ ด้รบั เอกสทิ ธ์หิ รือความคมุ้ กนั ซ่งึ อาจปฏเิ สธไมย่ อมข้ึนศาลไทย เว้นแตร่ ฐั บาลของผเู้ สนอราคา ได้มี
คาสง่ั ให้สละสิทธิค์ วามคมุ้ กนั เช่นว่าน้นั
4.4 ไม่เป็นผู้มผี ลประโยชนร์ ว่ มกนั กบั ผเู้ สนอราคารายอน่ื ทีเ่ ข้าเสนอราคาให้แก่สานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ
และภมู สิ ารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) ณ วนั ประกาศประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ หรือไม่เปน็ ผ้กู ระทาการอนั
เป็นการขัดขวางการแข่งขนั ราคาอยา่ งเป็นธรรมในการประกวดราคาคร้ังน้ี
*** 4.5 บุคคลหรอื นิตบิ คุ คลท่ีจะเข้ารว่ มเปน็ คสู่ ญั ญาตอ้ งไม่อยู่ในฐานะเปน็ ผู้ไม่แสดงบัญชรี ายรบั รายจา่ ย หรอื
แสดงบญั ชรี ายรบั รายจา่ ยไม่ถูกตอ้ งในสาระสาคญั
*** 4.6 บคุ คลหรือนติ บิ คุ คลท่ีจะเข้าเป็นคู่สัญญากบั หนว่ ยงานของรฐั ซ่งึ ได้ดาเนินการจัดซอื้ จดั จา้ งดว้ ยระบบ
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ( e-Gevernment Procurement : e-GP) ต้องลงทะเบียนในระบบอเิ ลก็ ทรอนิกสข์ อง
กรมบัญชกี ลางที่เว็บไซตศ์ นู ยข์ อ้ มูลจัดซ้อื จัดจา้ งภาครฐั
***4.7คสู่ ญั ญาต้องรับและจ่ายเงนิ ผ่านบญั ชธี นาคาร เว้นแตก่ ารจ่ายเงนิ แต่ละครงั้ ซง่ึ มมี ลู คา่ ไม่เกนิ สามหมื่นบาท
คูส่ ัญญาอาจจา่ ยเปน็ เงนิ สดก็ได้
4.8ผเู้ สนอราคาต้องมีผลงานการเป็นที่ปรกึ ษาประเภทเดยี วกันกับ การจ้างครง้ั นี้ ในวงเงินไมน่ ้อยกว่า ...........(ไม่เกิน
50% ของงบประมาณการจา้ ง)....................ในสัญญาเดียว ภายในเวลาไมเ่ กิน ........................ ปีนบั ถัดจากวันท่ี
ลงนามในสญั ญาหรอื ใบสง่ั จา้ ง จนถึงวันยื่นข้อเสนออย่างน้อย 1 ผลงาน และเป็นผลงานท่เี ป็นคู่สญั ญาโดยตรง
กบั ส่วนราชการ หนว่ ยงานตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถ่นิ รฐั วสิ าหกจิ หนว่ ยงานอน่ื
ของรัฐหรอื หนว่ ยงานเอกชนทสี่ านกั งานเชื่อถอื โดยต้องแนบสาเนาสญั ญา และ /หรอื หนังสอื รบั รองผลงาน
เสนอพร้อมการย่ืนเสนอราคา (จะกาหนดหรอื ไมก่ ็ได้)
(*** ขอ้ 4.5–4.7 กาหนดเฉพาะวงเงนิ ต้งั แต่ 500,000 บาท ข้นึ ไป)
13
5. บุคลากรที่ต้องการ
(ต้องกาหนดบุคลากรท่ตี ้องการให้ชดั เจนว่าในภารกจิ น้ีตอ้ งการบุคลากรท่มี ีคุณสมบัตอิ ย่างไรเพ่ือให้
สอดคล้องกบั ลกั ษณะของงานทีต่ ้องการ เชน่ เปน็ ผู้เช่ยี วชาญทางดา้ นใด มีวุฒิการศกึ ษาระดบั ใด มีประสบการณ์
อย่างไร มคี วามสามารถพเิ ศษอื่นตามที่ตอ้ งการ)
6. ระยะเวลาการดาเนนิ งาน
ที่ปรกึ ษาจะตอ้ งดาเนินการใหแ้ ลว้ เสรจ็ ตามกาหนดระยะเวลาดาเนนิ การโดยแบ่งเปน็ ระยะๆ ตาม
ผลงาน..........................วนั
7. ระยะเวลาทีส่ ่งมอบผลงาน
ที่ปรกึ ษาจะต้องดาเนนิ การให้แลว้ เสรจ็ ภายใน..............................วัน นับถัดจากวนั ลงนามในสัญญา
8 วงเงินค่าจ้างทปี่ รึกษา
งบประมาณในการจัดจ้าง..........................................จานวนเงิน..............................บาท
(..........................................)รวมภาษีมูลค่าเพมิ่ แล้ว
ราคากลางในการจดั จ้าง......................................... จานวนเงนิ ..............................บาท
(..........................................)รวมภาษีมลู ค่าเพิ่ม
9 เงอ่ื นไขการชาระเงนิ
ผวู้ ่าจ้างจะชาระค่าจา้ งตามสญั ญาแบง่ เป็นงวดๆ จานวน.....................งวด ดังนี้
งวดท่ี 1 เป็นจานวน รอ้ ยละ................ของมูลค่าจา้ งตามสญั ญา เม่อื ที่ปรึกษา ได้ส่งมอบงาน
........................................แล้วเสร็จ และคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุในงานจ้างที่ปรึกษา ได้ตรวจรับเรยี บรอ้ ยแล้ว
งวดที่ 2 เปน็ จานวน รอ้ ยละ................ของมูลคา่ จ้างตามสัญญา เมอ่ื ที่ปรกึ ษา ได้ส่งมอบงาน
........................................แล้วเสรจ็ และคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดใุ นงานจ้างทีป่ รึกษา ได้ตรวจรับเรียบร้อยแลว้
งวดสทุ า้ ย เป็นจานวน รอ้ ยละ................ของมลู ค่าจ้างตามสญั ญา เม่อื ทปี่ รึกษา ได้สง่ มอบงาน
........................................รวมท้ังงานทเ่ี หลอื ทั้งหมดแล้วเสรจ็ และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างทีป่ รึกษา
ได้ตรวจรับเรยี บรอ้ ยแลว้
10. หลักประกันผลงาน
ในการจา่ ยเงินคา่ จา้ งในแตล่ ะงวด ผวู้ า่ จา้ งจะหักเงินค่าจ้างไว้รอ้ ยละ ……..(…5 - 10…)... เพ่ือมารวมไว้
เปน็ เงินประกนั ผลงาน และจะจ่ายคนื ให้ที่ปรกึ ษาภายหลกั จากการจ่ายเงินงวดสุดทา้ ยแล้ว
ทป่ี รกึ ษาอาจจะขอใหผ้ ู้ว่าจ้างจา่ ยเงนิ ประกนั ผลงานคนื ใหแ้ กท่ ี่ปรึกษาได้ แตท่ ่ีปรึกษาจะต้องนา
หนงั สือค้าประกนั ของธนาคารซ่งึ มวี งเงนิ คา้ ประกันเทา่ กบั จานวนเงนิ ประกนั ผลงานทีข่ อรบั คนื มามอบใหแ้ ก่ผ้วู า่
14
จา้ งไว้แทนหนงั สือค้าประกนั ดงั กลา่ วจะต้องออกโดยธนาคารในประเทศไทย และจะต้องมีอายกุ ารคา้ ประกัน
ตลอดไป จนกว่าภาระหน้าทีข่ องทีป่ รกึ ษา ตามสญั ญาสน้ิ สดุ ลง ผูว้ ่าจ้างจะคนื หนงั สอื คา้ ประกนั ดังกลา่ วใหแ้ กท่ ่ี
ปรึกษาเมอื่ หนังสอื ค้าประกนั น้นั ไดห้ มดอายุแลว้
11. การจ่ายเงินล่วงหนา้ (ถ้าม)ี
สานกั งานจะ จา่ ยเงนิ ค่าจา้ งลว่ งหน้าให้แก่ ทปี่ รึกษา จานวนรอ้ ยละ………(สาหรบั เอกชนไม่เกิน 15) …
(สาหรับส่วนราชการ รัฐวสิ าหกิจ ไมเ่ กนิ ร้อยละ 50) ……..…ของราคาค่าจ้างตามสญั ญา โดยเงนิ จานวนดงั กล่าวจะ
จา่ ยให้ภายหลังจากที่ ท่ปี รึกษาไดว้ างหลักประกันการรับเงนิ ค่าจ้างล่วงหนา้ เต็มตามจานวนเงินค่าจ้างลว่ งหน้านน้ั
ให้แกส่ านักงาน (สว่ นราชการ รฐั วสิ าหกจิ ไมต่ อ้ งวางหลกั ประกนั )
สานกั งาน จะคืนหลกั ประกันดงั กลา่ วตามวรรคหนึง่ ใหแ้ กผ่ ู้รับจา้ ง เมอ่ื สานักงานไดห้ ักเงนิ ทีไ่ ดจ้ า่ ย
ล่วงหนา้ จากเงนิ คา่ ของหรือค่าจา้ งในแตล่ ะงวดครบถ้วนแลว้
12. ค่าปรับ
หากทป่ี รึกษาไม่สามารถทางานใหแ้ ล้วเสรจ็ ตามเวลาทกี่ าหนดไวใ้ นสัญญา ท่ปี รึกษาจะตอ้ งชาระคา่ ปรับใหแ้ กผ่ ูว้ ่า
จ้างเปน็ รายวนั อัตราร้อยละ 0.10 (ศนู ย์จุดหนงึ่ ศูนย์)ของมูลคา่ จ้างตามสัญญา แตไ่ มต่ า่ กว่าวนั ละ 100 บาท
13. สถานที่สง่ มอบงาน
14. หลกั เกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอ
ในการพิจารณาผลการยน่ื ขอ้ เสนอประกวดราคาอเิ ลก็ ทรอนิกส์คร้ังนี้ สานักงานฯ จะพิจารณาตดั สนิ
โดยใชเ้ กณฑ์คุณภาพ ดังนี้
ผลงานและประสบการณ์ของท่ีปรกึ ษา คะแนน
วธิ กี ารบริหารและวิธีการปฏบิ ัติงาน คะแนน
จานวนบุคลากรท่ีรว่ มงาน คะแนน
ประเภทของทีป่ รึกษาที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนบั สนุน คะแนน
ข้อเสนอทางดา้ นการเงนิ คะแนน
15. การยน่ื ข้อเสนอ
ผูเ้ สนอราคาจะต้องยนื่ ขอ้ เสนอดังน้ี
16. กาหนดยืนราคา
ทปี่ รกึ ษาจะต้องกาหนดยนื ราคาไม่น้อยกว่า......................วนั
15
17. หลักประกนั สญั ญา
ที่ปรกึ ษาจะตอ้ งนาหลักประกนั อตั รา ร้อยล ะ 5 ของราคาค่าจา้ ง มามอบไวแ้ ก่ สานกั งาน เพอ่ื เป็น
หลักประกนั การปฏิบตั ิตามสัญญา และหลกั ประกนั จะต้องมอี ายุครอบคลมุ ความรับผดิ ทั้งปวงของ ทป่ี รกึ ษาตลอดอายุ
สัญญา
สานกั งานจะคนื หลักประกนั สญั ญาให้แกท่ ป่ี รึกษา เม่ือท่ีปรึกษา พน้ จากข้อผกู พนั และความรบั ผดิ ท้ัง
ปวงตามสัญญาแล้ว
16
6.4 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จดั ซอื้ ทั่วไป)
1. ความเปน็ มา โครงการ..................................
---------------------------------------
2. วตั ถุประสงค์
3. คุณสมบตั ิของผู้เสนอราคา
3.1 เป็นนติ บิ ุคคล/บคุ คล ผมู้ ีอาชีพขายพัสดทุ ีจ่ ัดซ้ือด้วยวธิ ีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกสค์ ร้งั นี้
3.2 ไม่เปน็ ผูท้ ่ถี กู ระบุชื่อไวใ้ นบัญชีรายช่ือผทู้ ้ิงงานของทางราชการ และไดแ้ จง้ เวยี นชอ่ื แลว้ หรือไมเ่ ปน็ ผูท้ ีไ่ ด้รบั ผล
ของการส่งั ใหน้ ิตบิ ุคคลหรอื บุคคลอื่นเปน็ ผทู้ ิง้ งานตามระเบียบของทางราชการ
3.3 ไมเ่ ป็นผู้ไดร้ ับเอกสิทธิห์ รือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏเิ สธไมย่ อมข้ึนศาลไทย เวน้ แต่รฐั บาลของผู้เสนอราคา ไดม้ ี
คาส่ังใหส้ ละสิทธิค์ วามคุ้มกันเชน่ ว่าน้นั
3.4 ไมเ่ ป็นผมู้ ผี ลประโยชนร์ ่วมกันกบั ผู้เสนอราคารายอ่นื ที่เขา้ เสนอราคาใหแ้ ก่ สานกั งานพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศ
และภมู ิสารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) ณ วนั ประกาศประกวดราคา อเิ ล็กทรอนกิ ส์ หรือไมเ่ ป็นผู้กระทาการอัน
เป็นการขัดขวางการแขง่ ขันราคาอย่างเปน็ ธรรมในการประกวดราคาครงั้ นี้
*** 3.5 บุคคลหรือนติ ิบุคคลทจ่ี ะเข้าร่วมเปน็ คสู่ ญั ญาตอ้ งไม่อยูใ่ นฐานะเปน็ ผ้ไู มแ่ สดงบัญชรี ายรับรายจา่ ย หรอื
แสดงบญั ชรี ายรับรายจา่ ยไมถ่ กู ต้องในสาระสาคญั
*** 3.6 บุคคลหรือนติ บิ ุคคลทจี่ ะเข้าเปน็ คสู่ ญั ญากบั หน่วยงานของรัฐซ่งึ ได้ดาเนนิ การจัดซ้ือ จดั จา้ งดว้ ยระบบ
อิเลก็ ทรอนิกส์ ( e-Gevernment Procurement : e-GP) ต้องลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกสข์ อง
กรมบญั ชกี ลางที่เวบ็ ไซต์ศนู ย์ขอ้ มูลจดั ซ้ือจัดจา้ งภาครฐั
*** 3.7 คสู่ ัญญาตอ้ งรับและจา่ ยเงนิ ผา่ นบญั ชธี นาคาร เวน้ แตก่ ารจ่ายเงินแตล่ ะครง้ั ซ่งึ มีมลู คา่ ไมเ่ กนิ สามหม่ืนบาท
ค่สู ัญญาอาจจา่ ยเปน็ เงนิ สดก็ได้
3.8 ผู้เสนอราคาต้องเปน็ ผ้ผู ลิต หรือผ้แู ทนจาหนา่ ยที่ได้รบั การแตง่ ตงั้ เปน็ ตวั แทนจาหน่าย ....................................
ทเ่ี สนอ จากบรษิ ทั ผู้ผลิต............................โดยตรง/ผ้แู ทนจาหน่าย ในปปี ัจจุบัน โดยตอ้ งยื่นหลกั ฐานแสดงการ
เปน็ ผผู้ ลติ หรอื การแตง่ ตง้ั เปน็ ผูแ้ ทนจาหน่าย เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาเป็นผู้มีคณุ สมบตั เิ บอ้ื งต้นในการเสนอ
ราคา(จะกาหนดหรือไม่กไ็ ด้)
3.9 ผูเ้ สนอราคาตอ้ งมผี ลงาน การจาหนา่ ยพัสดุประเภทเดียวกันกับที่จดั ซือ้ ในวงเงินไมน่ ้อยกว่า .............(ไมเ่ กิน
50% ของงบประมาณการจัดซอ้ื )...............ในสัญญาเดียว ภายในเวลาไมเ่ กิน ........................ ปีนบั ถัดจากวันที่
ลงนามในสญั ญาหรอื ใบส่งั ซ้ือ อย่างนอ้ ย 1 ผลงาน และเปน็ ผลงานท่ีเปน็ คู่สญั ญาโดยตรงกับส่วนราชการ
หนว่ ยงานตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นท้องถนิ่ รฐั วสิ าหกิจ หน่วยงานอื่นของรฐั หรอื
หน่วยงานเอกชนที่สานักงานเชอ่ื ถอื โดยต้องแนบสาเนาสัญญา และ/หรอื หนังสือรับรองผลงานเสนอพรอ้ มการ
ย่นื เสนอราคา (กาหนดหรอื ไมก่ ไ็ ด้)
3.10 ........................... (คุณสมบัตอิ ่นื )..............................(ถา้ มี)
( *** ข้อ 3.5 – 3.7 กาหนดเฉพาะวงเงนิ ตงั้ แต่ 500,000 บาท ขน้ึ ไป)
17
4. คณุ ลักษณะเฉพาะ
กาหนดรายละเอียดคณุ ลักษณะของพสั ดทุ ตี่ ้องการซ้ือ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามความต้องการใช้งานของผูซ้ ้ือ
5. กาหนดสง่ มอบพสั ดุ
ผ้เู สนอราคาจะตอ้ งส่งมอบพัสดุทงั้ หมดภายในระยะเวลา.....................วัน นบั ถัดจากวันลงนามใน
สัญญาซื้อขาย
6. สถานท่สี ง่ มอบ
ผ้เู สนอราคาจะตอ้ งส่งมอบพัสดุ ณ...........................................
7. วงเงินในการจดั ซ้อื
งบประมาณในการจัดซื้อ......................................... จานวนเงนิ ..............................บาท
(..........................................)รวมภาษีมลู ค่าเพิ่ม
ราคากลางในการจดั จ้าง......................................... จานวนเงิน..............................บาท
(..........................................)รวมภาษมี ูลคา่ เพม่ิ
8. การรับประกนั ความชารดุ บกพรอ่ งของพัสดุที่ส่งมอบ
ผเู้ สนอราคาต้องรับประกนั ความชารดุ บกพรอ่ งหรอื ขดั ข้องของสิง่ ของเป็นเวลา.....….........ปี นบั แตว่ นั ท่ี
สานักงานฯ ได้รบั มอบ โดยภายในกาหนดเวลาดังกลา่ ว หากสิง่ ของเกิดชารดุ บกพร่อง หรอื ขดั ขอ้ ง ผู้เสนอราคา
จะต้องจัดการซอ่ มแซม หรือแกไ้ ข ให้อยู่ในสภาพ ท่ใี ช้การไดด้ ดี ังเดิม ภายใน…................ว.ัน นบั แต่วันทไ่ี ด้รบั แจง้ จาก
สานักงานฯโดยไม่คดิ ค่าใชจ้ ่ายใดๆ ท้ังส้นิ
9. เงอ่ื นไขการชาระเงิน ชาระเงินคา่ ส่ิงของใหแ้ กผ่ ขู้ าย เม่อื สานกั งานได้รบั มอบสง่ิ ของไว้โดยครบถ้วนแลว้ (กรณี
สานักงานจะ
ชาระครง้ั เดยี ว)
สานักงานจะชาระเงินคา่ ส่ิงของ ใหแ้ กผ่ ้ขู าย เปน็ งวดๆ ดังน้ี(กรณสี ่งมอบเปน็ งวด)
งวดท่ี 1 เปน็ จานวน รอ้ ยละ................ของมลู ค่าตามสญั ญา เมือ่ ผู้ขาย ได้ ส่งมอบพัสดุ
........................................ และคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดุ ไดต้ รวจรบั เรียบร้อยแล้ว
เงนิ ที่เหลอื เป็นจานวน ร้อยละ …………..………จะจา่ ยให้ เมื่อผู้ ขายได้ส่งมอบส่ิงของ ทง้ั หมด ไว้โดย
ครบถว้ นแล้ว
18
10. การจ่ายเงนิ ล่วงหนา้ (ถา้ ม)ี
สานกั งานจะ จ่ายเงินคา่ สง่ิ ของลว่ งหนา้ ใหแ้ ก่ผู้ขาย จานวนร้อยละ……(ไมเ่ กนิ 15)…………..….ของราคา
ค่าสิ่งของตามสัญญาโดยเงินจานวนดงั กลา่ วจะจ่ายให้ภายหลงั จากทผ่ี ู้ ขายไดว้ างหลักประกันการรบั เงนิ คา่ สิ่งของ
ลว่ งหน้าเต็มตามจานวนเงินค่าสิง่ ของล่วงหนา้ น้ัน ใหแ้ ก่สานกั งาน
11. คา่ ปรับ
หากผขู้ ายไมส่ ามารถ ส่งมอบสิง่ ของภายใน เวลาท่กี าหนดไวใ้ นสญั ญา ผู้ขายจะตอ้ งชาระค่าปรับใหแ้ ก่
สานกั งาน เป็นรายวนั อัตราร้อยละ 0.20 (ศูนยจ์ ดุ สองศนู ย์)ของมลู คา่ สง่ิ ของทีย่ งั ไมไ่ ด้สง่ มอบแต่ไม่ตา่ กวา่ วันละ
100 บาท
12. หลกั เกณฑ์และสิทธิในการพิจารณาข้อเสนอ
ในการพจิ ารณาผลการยน่ื ขอ้ เสนอประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ สค์ ร้ังนี้ สานักงานฯ จะพิจารณาตดั สนิ
โดยใช้เกณฑร์ าคา (ใช้ราคาต่าสดุ )หรอื
หลักเกณฑ์การประเมนิ คา่ ประสทิ ธภิ าพตอ่ ราคา โดยพจิ ารณาให้คะแนนราคา ............คะแนน และ
เกณฑค์ ณุ ภาพ ...........................คะแนน รวม 100 คะแนน ดงั น้ี(เลือกได้มากกวา่ 1 ข้อ)
ต้นทุนของพสั ดุน้นั ตลอดอายุการใชง้ าน คะแนน
มาตรฐานของสินค้าหรอื บรกิ าร คะแนน
บรกิ ารหลงั การขาย คะแนน
พัสดุทร่ี ัฐตอ้ งการส่งเสริมหรือสนบั สนนุ (ถา้ มี) คะแนน
ขอ้ เสนอด้านเทคนคิ หรอื ขอ้ เสนออนื่ ๆ คะแนน
13. การยืน่ ข้อเสนอ
ผ้เู สนอราคาจะตอ้ งยน่ื ข้อเสนอดงั น้ี
14. หลักประกันสญั ญา
ผู้ขายจะตอ้ งนาหลกั ประกนั อตั รา ร้อยละ 5 ของราคาค่าส่งิ ของตามสญั ญามามอบไว้แก่สานักงาน เพอ่ื
เป็นหลักประกันการปฏิบตั ติ ามสญั ญา และหลักประกนั จะตอ้ งมอี ายุครอบคลุมความรบั ผดิ ท้งั ปวงของ ผู้ขายตลอดอายุ
สัญญา
สานักงานจะคืนหลกั ประกันสญั ญาใหแ้ กผ่ ู้ขาย เมือ่ ผขู้ ายพน้ จากขอ้ ผกู พันและความรับผดิ ทัง้ ปวงตาม
สญั ญาแล้ว
19
6.5 ขอบเขตของงาน Terms of Reference : TOR (จดั ซอื้ คอมพิวเตอร์)
1. ความเป็นมา โครงการ..................................
---------------------------------------
2. วตั ถปุ ระสงค์
3. คณุ สมบัตขิ องผเู้ สนอราคา
3.1 เปน็ นิตบิ ุคคลผู้มอี าชพี ขายพัสดทุ จ่ี ัดซ้อื คร้ังน้ี
3.2 ไมเ่ ปน็ ผทู้ ถ่ี กู ระบชุ ือ่ ไวใ้ นบัญชรี ายชอื่ ผู้ทง้ิ งานของทางราชการ และได้แจง้ เวียนชือ่ แล้วหรือไมเ่ ป็นผทู้ ไี่ ดร้ ับผล
ของการสัง่ ใหน้ ิตบิ ุคคลหรอื บคุ คลอื่นเปน็ ผทู้ ิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
3.3 ไมเ่ ป็นผไู้ ดร้ บั เอกสิทธิ์หรอื ความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมข้ึนศาลไทย เว้นแตร่ ัฐบาลของผเู้ สนอราคา ไดม้ ี
คาสงั่ ให้สละสทิ ธค์ิ วามคมุ้ กันเชน่ ว่านน้ั
3.4 ไม่เป็นผูม้ ผี ลประโยชน์รว่ มกันกับผเู้ สนอราคารายอ่ืนที่เขา้ เสนอราคาให้แก่สานกั งานพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศ
และภูมสิ ารสนเทศ (องค์การมหาชน) ณวนั ............(ประกาศประกวดราคา/สอบราคา) หรือไม่เปน็ ผ้กู ระทา
การอนั เป็นการขัดขวางการแขง่ ขันราคาอย่างเป็นธรรมในการ ...............(ประกวดราคา/สอบราคา) คร้งั น้ี
*** 3.5 บุคคลหรอื นติ ิบคุ คลทจ่ี ะเขา้ ร่วมเปน็ คู่สัญญาต้องไมอ่ ยู่ในฐานะเป็นผ้ไู ม่แสดงบญั ชรี ายรับรายจ่าย หรอื
แสดงบัญชีรายรบั รายจา่ ยไม่ถูกตอ้ งในสาระสาคัญ
*** 3.6 บุคคลหรอื นติ ิบคุ คลทจ่ี ะเข้าเปน็ คสู่ ญั ญากบั หนว่ ยงานของรฐั ซงึ่ ไดด้ าเนินการจดั ซ้ือ จัดจา้ งด้วยระบบ
อเิ ล็กทรอนิกส์ ( e-Gevernment Procurement : e-GP) ต้องลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกสข์ อง
กรมบญั ชกี ลางท่ีเวบ็ ไซตศ์ ูนย์ข้อมูลจดั ซอ้ื จดั จา้ งภาครฐั
*** 3.7 ค่สู ัญญาตอ้ งรับและจ่ายเงินผา่ นบัญชีธนาคาร เว้นแตก่ ารจา่ ยเงินแต่ละคร้ังซงึ่ มมี ลู คา่ ไมเ่ กินสามหมน่ื บาท
คสู่ ัญญาอาจจา่ ยเป็นเงนิ สดกไ็ ด้
3.8 ผูเ้ สนอราคาตอ้ งเป็นผผู้ ลิต หรอื ผู้แทนจาหนา่ ยทไ่ี ดร้ ับการแต่งตัง้ เปน็ ตัวแทนจาหนา่ ย ....................................
ทีเ่ สนอ จากบรษิ ทั ผผู้ ลิต............................โดยตรง/ผแู้ ทนจาหนา่ ย ในปปี จั จบุ นั โดยตอ้ งยืน่ หลักฐานแสดงการ
เปน็ ผผู้ ลิต หรอื การแตง่ ตง้ั เปน็ ผแู้ ทนจาหนา่ ย เพื่อประกอบการพจิ ารณาเปน็ ผู้มคี ุณสมบัตเิ บอ้ื งตน้ ในการเสนอ
ราคา(กาหนดหรอื ไมก่ ็ได้)
3.9 ผเู้ สนอราคาต้องมีผลงาน การจาหนา่ ยพัสดปุ ระเภทเดยี วกันกบั ทจ่ี ัดซื้อ ในวงเงินไม่น้อยกวา่ .............(ไม่เกิน
50% ของงบประมาณการจัดซ้ือ)...............ในสัญญาเดียว ภายในเวลาไม่เกนิ ........................ ปีนับถดั จากวนั ที่
ลงนามในสัญญาหรอื ใบส่งั ซื้อ อยา่ งน้อย ............ ผลงาน และเปน็ ผลงานท่ีเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วน
ราชการ หนว่ ยงานตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบยี บบริหารราชการสว่ นทอ้ งถิน่ รฐั วิสาหกิจ หน่วยงานอนื่ ของรฐั
หรอื หนว่ ยงานเอกชนที่สานักงานเชอื่ ถือ โดยต้องแนบสาเนาสญั ญา และ /หรอื หนงั สอื รบั รองผลงานเสนอ
พรอ้ มการยน่ื เสนอราคา (กาหนดหรอื ไม่กไ็ ด้)
(*** ขอ้ 3.5 – 3.7 กาหนดเฉพาะวงเงนิ ตั้งแต่ 500,000 บาท ข้นึ ไป)