The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TAN RUNNING, 2021-07-21 04:27:47

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ฯ ป.5 เทอม2

ilovepdf_merged

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ที่ 5 การเกดิ หยาดนา้ ฟา้

3. จากนนั ครตู งั ประเดน็ ค้าถามกระต้นุ ความสนใจนักเรยี นจากบตั รภาพ โดยใหน้ ักเรียนแต่ละคน
ร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นอย่างอสิ ระโดยไมม่ ีการเฉลยว่าถกู หรือผิด ดังนี
- นักเรียนคิดว่าฝนตกได้อย่างไร
(แนวตอบ : ฝนตก เกดิ จากไอนา้ ในอากาศ เมื่อเย็นลงจะควบแน่นรวมตวั กันเป็นเมฆ ละอองน้า
ในเมฆจะรวมตัวกนั เปน็ หยดน้าทม่ี ีขนาดใหญข่ นึ )
- นักเรียนคดิ วา่ ลกู เห็บตกไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ : ลกู เห็บเกดิ จากเมด็ ฝนถกู ลมหรอื กระแสอากาศพัดขึนไปในชนั บรรยากาศทม่ี ี
อุณหภมู ติ ่้า จึงเกิดการแข็งตัวเปน็ นา้ แขง็ หากลกู เหบ็ ถูกพดั ขึนไปหลาย ๆ รอบจะมีขนาดใหญ่
ขึน)
- นักเรียนคิดว่าหมิ ะตกไดอ้ ย่างไร
(แนวตอบ : หิมะเกดิ จากไอนา้ ในอากาศระเหิดกลบั เปน็ ของแข็งซึ่งจะเกดิ ในสภาวะที่หนาวเยน็
และความชนื เหมาะสม)

ขนั สอน

ขนั ท่ี 2 สา้ รวจค้นหา (Explore)
1. นักเรยี นแต่ละคนศกึ ษาค้นควา้ ขอ้ มลู เก่ยี วกับ เรอื่ ง หยาดน้าฟา้ จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2 หรอื แหลง่ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ เช่น อินเทอร์เนต็ จากนนั ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนเขียนสรุป
ความรู้ทไี่ ดจ้ ากการศึกษาคน้ ควา้ ลงในสมดุ ประจา้ ตัวนักเรียน เพอื่ นา้ สง่ ครูท้ายช่วั โมง
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมการทา้ งานรายบคุ คล)
2. ครูตังประเดน็ คา้ ถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียน โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนร่วมกนั อภปิ ราย
แสดงความคดิ เหน็ เพอ่ื หาค้าตอบ ดงั นี
- สง่ิ ท่ีตกลงมาจากฟา้ ถึงพนื เรียกว่าอะไร
(แนวตอบ : หยาดน้าฟา้ )
- หยาดน้าฟ้า ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
(แนวตอบ : ฝน หมิ ะ และลกู เห็บ)
- ฝน หิมะ และลูกเหบ็ มีสถานะอยา่ งไรบ้าง
(แนวตอบ : ฝน มสี ถานะเป็นของเหลว สว่ นหมิ ะและลกู เหบ็ มสี ถานะเปน็ ของแข็ง)
- ทา้ ไมเมฆ หมอก นา้ ค้าง และนา้ คา้ งแขง็ ไม่เป็นหยาดนา้ ฟ้า
(แนวตอบ : เนอื่ งจากเมฆไม่ได้ตกลงมาถึงพืนดิน ส่วนหมอก นา้ คา้ ง และน้าค้างแข็ง ไม่ได้เกิด
จากการตกลงมาจากฟา้ )

144

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6 แหล่งนา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 5 การเกดิ หยาดนา้ ฟา้

- ฝน หมิ ะ และลูกเหบ็ เกดิ ขึนไดอ้ ยา่ งไร

(แนวตอบ : ฝนตก เกิดจากไอน้าในอากาศ เม่ือเยน็ ลงจะควบแนน่ รวมตัวกันเปน็ เมฆ ละอองน้า

ในเมฆจะรวมตวั กันเป็นหยดน้าทีม่ ีขนาดใหญข่ นึ ลกู เหบ็ เกดิ จากเม็ดฝนถกู ลมหรือกระแสอากาศ

พดั ขึนไปในชนั บรรยากาศท่มี ีอณุ หภมู ิต่า้ จึงเกดิ การแข็งตัวเปน็ น้าแขง็ หากลกู เหบ็ ถกู พดั ขนึ ไป

หลาย ๆ รอบจะมขี นาดใหญข่ นึ หิมะเกดิ จากไอนา้ ในอากาศระเหดิ กลบั เป็นของแข็ง ซึ่งจะเกิด

ในสภาวะท่ีหนาวเยน็ และความชืนเหมาะสม)

3. ครูจดั เตรียมวสั ดุ-อปุ กรณท์ ่ใี ช้ในกิจกรรมท่ี 3 การเกิดหยาดน้าฟา้ จากหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์

ป.5 เลม่ 2 มาวางไว้หน้าชนั เรียน ดงั นี

- นา้ แข็ง 1 ถงุ - คตั เตอร์ 1 อนั

- ขวดน้าพลาสติก 1 ใบ - กระดาษแข็งแผน่ ใหญ่ 3 แผ่น
- นา้ อุ่น 1 แก้ว - หลอดหยด 1 หลอด

- สีผสมอาหารแบบนา้ (สีแดง) 1 ขวด

4. นกั เรียนแบง่ กลุม่ ออกเป็น 6 กลมุ่ กลุม่ ละเทา่ ๆ กัน ตามความสมัครใจ จากนนั ใหน้ กั เรยี นแต่ละ

กลุ่มจดั เตรยี มอุปกรณท์ ใี่ ช้ในการท้ากิจกรรมท่ี 3 การเกิดหยาดน้าฟ้า จากหนงั สือเรยี น

วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2

5. ครูแจ้งจดุ ประสงคข์ องกิจกรรมท่ี 3 การเกดิ หยาดน้าฟา้ ใหน้ กั เรยี นทราบ เพ่ือเป็นแนวทางการ

ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทีถ่ กู ตอ้ ง

6. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ปฏิบัติกิจกรรมท่ี 3 การเกดิ หยาดนา้ ฟา้ ตอนที่ 1 โดยปฏบิ ตั ิกิจกรรม

ดังนี

1) ศึกษาขันตอนการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมจากหนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 อย่างละเอยี ด

หากมขี ้อสงสัยใหส้ อบถามครู

2) รว่ มกันกา้ หนดปญั หาและตงั สมมตฐิ านในการปฏบิ ัติกจิ กรรม แลว้ บันทกึ ผลลงในสมุดประจา้ ตัว

นักเรยี น หรอื แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2

3) ร่วมกันปฏิบตั ิกจิ กรรมตามขนั ตอนใหค้ รบถว้ นและถูกต้องทุกขันตอน จากนนั บันทกึ ผลลงใน

สมุดประจ้าตัวนกั เรยี น หรือแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2

(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทา้ งานกลุ่ม)

7. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันวเิ คราะหผ์ ลการปฏิบตั ิกิจกรรม แลว้ อภิปรายผลและสรุปผลการทดลอง

145

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 6 แหลง่ นา้ และลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ที่ 5 การเกิดหยาดนา้ ฟ้า

ชว่ั โมงท่ี 2-3

ขันสอน

ขนั ที่ 2 สา้ รวจคน้ หา (Explore)
8. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ (กลมุ่ เดมิ ) จากชั่วโมงทีผ่ ่านมา จากนนั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันศึกษาคน้ ควา้
ข้อมลู เกีย่ วกับ เรือ่ ง กระบวนการเกิดฝน หิมะ และลกู เหบ็ จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2 หรือแหล่งการเรียนรตู้ า่ ง ๆ เชน่ อินเทอร์เน็ต หอ้ งสมุด
9. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันอภิปรายเรื่องทีไ่ ด้ศึกษา จากนันใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มน้าขอ้ มูลที่ไดม้ า
เขยี นเป็นแผนผังมโนทัศน์ หรือแผนภาพ เพอ่ื เปรยี บเทยี บกระบวนการเกดิ ฝน หมิ ะ และลกู เหบ็
ลงในกระดาษแข็งแผ่นใหญ่ พรอ้ มตกแต่งใหส้ วยงาม
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการท้างานกลุ่ม)

ขนั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
10. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ออกมาน้าเสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหนา้ ชนั เรียน เพอ่ื แลกเปลี่ยนความคดิ
จนครบทุกกลมุ่ ในระหวา่ งท่ีนกั เรยี นน้าเสนอครูคอยให้ขอ้ เสนอแนะเพมิ่ เตมิ เพือ่ ให้นกั เรียน
มีความเข้าใจทีถ่ กู ตอ้ ง
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบประเมินการน้าเสนอผลงาน)
11. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ที่ไดจ้ ากการปฏิบตั ิกจิ กรรมท่ี 3 การเกดิ หยาดน้าฟา้
12. นักเรยี นแตล่ ะคนท้ากิจกรรมหนูตอบได้ จากหนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 โดยตอบค้าถาม
ลงในสมุดประจา้ ตัวนักเรียน หรอื แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2

ขันท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
13. นกั เรยี นจับค่กู ับเพอื่ นในชนั เรยี น ตามความสมคั รใจ โดยใช้โทรศพั ทม์ อื ถือสแกน QR Code
เรอื่ ง กระบวนการเกิดฝน จากหนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
14. จากนนั ครตู ังประเดน็ คา้ ถามกระตนุ้ ความคิดนกั เรยี น โดยให้นกั เรียนแตล่ ะคนรว่ มกนั อภปิ ราย
แสดงความคิดเห็นเพ่ือหาค้าตอบ ดงั นี
- ฝนเกดิ ขึนไดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ : ฝนเกิดจากเมอ่ื ไอนา้ ในอากาศควบแน่นเป็นละอองนา้ เล็ก ๆ เมอื่ ละอองน้าจ้านวน
มากในเมฆรวมตัวกันจนอากาศไม่สามารถพยุงไวไ้ ด้จึงตกลงมาเปน็ ฝน)
- ฝนมปี ระโยชน์ต่อสง่ิ มีชีวิตอยา่ งไร
(แนวตอบ : ท้าให้พชื เจริญเตบิ โต มนี ้าหมุนเวยี น เป็นต้น)

146

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 แหล่งนา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ที่ 5 การเกดิ หยาดนา้ ฟ้า

- การเกิดฝนมีกข่ี นั ตอน อะไรบา้ ง
(แนวตอบ : การเกิดฝนมี 3 ขนั ตอน โดยขนั ท่ี 1 นา้ ในแหลง่ น้าต่าง ๆ เม่อื ไดร้ บั ความร้อนจะ
ระเหยกลายเป็นไอนา้ แลว้ ลอยขึนไปในอากาศ ขนั ท่ี 2 ไอน้าในอากาศเมอ่ื เจออากาศเยน็ จะ
ควบแน่นเปน็ ละอองน้า รวมตวั กันเปน็ ก้อนเมฆ และขันที่ 3 เมื่อเมฆรวมตัวกนั จ้านวนมากจน
อากาศพยุงน้าหนกั ของละอองน้าไม่ไหว จงึ ตกลงมาเป็นฝน)

- หิมะเกดิ ขึนไดอ้ ยา่ งไร
(แนวตอบ : หิมะเกดิ จากไอน้าในอากาศระเหิดกลบั ผลกึ นา้ แขง็ แล้วรวมตัวกันจนมีน้าหนักมาก
จนอากาศจะพยงุ ไวไ้ มไ่ หว จงึ ตกลงมา)

- การเกิดหมิ ะ มกี ีข่ ันตอน อะไรบา้ ง
(แนวตอบ : การเกิดหิมะ มี 3 ขันตอน โดยขันที่ 1 นา้ ในแหล่งนา้ ต่าง ๆ เมอ่ื ได้รบั ความรอ้ นจะ
ระเหยกลายเป็นไอน้าแลว้ ลอยขนึ ไปในอากาศ ขนั ที่ 2 ไอนา้ ในอากาศระเหิดกลับเปน็ ผลกึ
น้าแข็ง รวมตัวกนั จนมนี ้าหนักมากขึน จงึ ตกลงสู่พืนโลก และขนั ที่ 3 เมือ่ ผลกึ นา้ แข็งตกลงมาบน
โลกจะไมล่ ะลายจงึ กลายเปน็ หมิ ะ)

- ลูกเห็บเกดิ ขึนได้อยา่ งไร
(แนวตอบ : ลูกเหบ็ เกิดจากหยดนา้ ทเ่ี ปลี่ยนสถานะเป็นน้าแขง็ แลว้ ถกู พายพุ ดั วนซา้ ไปซา้ มาจน
หยดนา้ กลายเปน็ ก้อนน้าแข็ง)

15. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามเนือหาเกย่ี วกบั เร่ือง การเกิดหยาดน้าฟ้า และให้ความรูเ้ พมิ่ เติม
จากค้าถามของนักเรียน โดยครูใช้ PowerPoint เร่ือง การเกดิ หยาดนา้ ฟา้ ในการอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

16. นักเรยี นแตล่ ะคนตอบค้าถามทา้ ทายการคิดขนั สงู จากหนงั สือเรยี น วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 ลงใน
สมดุ ประจา้ ตวั นักเรียน หรอื แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 จากนนั นกั เรียนแตล่ ะคนทา้
ใบงานที่ 6.5.1 เรอื่ ง หยาดนา้ ฟ้า

17. ครูสุ่มนักเรยี น 2 คน ออกมานา้ เสนอค้าตอบของตนเอง โดยครูให้นักเรียนรว่ มกันพจิ ารณาว่า
คา้ ตอบใดถูกต้อง จากนนั ครเู ฉลยคา้ ตอบท่ถี กู ต้องใหน้ ักเรยี น

ขันสรุป

ขันที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมนิ ผล โดยการสังเกตพฤตกิ รรมการตอบค้าถาม พฤติกรรมการทา้ งานรายบคุ คล
พฤติกรรมการท้างานกลุ่ม และจากการนา้ เสนอผลการทา้ กจิ กรรมหน้าชนั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการปฏิบัติกจิ กรรมท่ี 3 การเกดิ หยาดน้าฟา้ ในสมดุ ประจ้าตวั นกั เรียน
หรอื แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
3. ครูตรวจสอบผลการท้ากจิ กรรมหนูตอบได้ ในสมุดประจ้าตวั นกั เรียน หรือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
ป.5 เลม่ 2

147

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 แหลง่ นา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ที่ 5 การเกิดหยาดนา้ ฟ้า

4. ครูตรวจ ค้าถามทา้ ทายการคดิ ขนั สูง ในสมดุ ประจา้ ตัวนักเรยี น หรือแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2

5. ครตู รวจสอบผลการทา้ ใบงานท่ี 6.5.1 เรื่อง หยาดน้าฟ้า
6. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรุปเก่ยี วกับการเกิดหยาดนา้ ฟา้ ซึ่งไดข้ ้อสรุปรว่ มกันวา่ “ฝน หิมะ ลูกเหบ็

เป็นหยาดน้าฟ้าซ่งึ เป็นนา้ ที่มสี ถานะต่าง ๆ ที่ตกจากฟ้าถงึ พืนดนิ ฝนเกิดจากละอองนา้ ในเมฆท่ี
รวมตวั กนั จนอากาศไมส่ ามารถพยงุ ไวไ้ ดจ้ ึงตกลงมา หิมะเกิดจากไอน้าในอากาศระเหิดกลับเปน็
ผลกึ นา้ แขง็ รวมตวั กันจนมีน้าหนกั มากขนึ จนเกินกว่าอากาศจะพยงุ ไวจ้ งึ ตกลงมา ลูกเห็บเกิดจาก
หยดนา้ ทเ่ี ปลีย่ นสถานะเปน็ นา้ แขง็ แลว้ ถูกพายพุ ดั วนซา้ ไปซา้ มาในเมฆฝนฟ้าคะนองท่ีมีขนาดใหญ่
และอยูใ่ นระดบั สงู จนเป็นก้อนน้าแขง็ ขนาดใหญข่ ึนแลว้ ตกลงมา”

7. การวดั และประเมินผล

รายการวดั วธิ ีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 ประเมินระหวา่ ง

การจัดกิจกรรม

การเรียนรู้

1) ผลบนั ทึกการ - ตรวจสมุดประจา้ ตวั - สมดุ ประจ้าตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์
ปฏบิ ัติกจิ กรรมที่ 3 หรอื แบบฝกึ หัด ป.5 เลม่ 2

การเกิดหยาด วทิ ยาศาสตร์ ป.5

น้าฟา้ เล่ม 2

2) กจิ กรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมุดประจา้ ตัว - สมดุ ประจา้ ตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์
หรือแบบฝกึ หัด ป.5 เลม่ 2

วทิ ยาศาสตร์ ป.5

เล่ม 2

3) กจิ กรรมทา้ ทาย - ตรวจสมดุ ประจา้ ตัว - สมดุ ประจ้าตวั หรอื - รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์
การคิดขนั สูง หรอื แบบฝึกหดั ป.5 เลม่ 2

วิทยาศาสตร์ ป.5

เล่ม 2

4) หยาดนา้ ฟา้ - ตรวจใบงานที่ 6.5.1 - ใบงานที่ 6.5.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบประเมนิ การ - ระดบั คุณภาพ 2
5) การน้าเสนอผลการ - ประเมนิ การนา้ เสนอ นา้ เสนอผลงาน
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ผลปฏิบัติกจิ กรรม การทา้ งานรายบุคคล - ระดับคณุ ภาพ 2

6) พฤตกิ รรมการ - สังเกตพฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์

ทา้ งานรายบุคคล การท้างานรายบุคคล

148

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 แหล่งน้าและลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 5 การเกิดหยาดนา้ ฟ้า

รายการวดั วธิ กี าร เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
7) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทา้ งานกลุ่ม การท้างานกลุม่ ผ่านเกณฑ์
ทา้ งานกลุ่ม - สังเกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2
8) คณุ ลักษณะ รบั ผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
และมุ่งม่ันในการ อนั พึงประสงค์
อนั พึงประสงค์ ท้างาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟ้าอากาศ
2) แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 แหล่งน้าและลมฟ้าอากาศ
3) ใบงานที่ 6.5.1 เร่อื ง หยาดนา้ ฟ้า
4) วสั ดุ-อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นกิจกรรมที่ 3 การเกดิ หยาดนา้ ฟ้า
5) PowerPoint เรอ่ื ง การเกิดหยาดน้าฟา้
6) บตั รภาพฝนตก ลูกเห็บตก และหิมะตก
7) QR Code เรื่อง กระบวนการเกดิ ฝน
8) สมุดประจา้ ตวั นักเรียน

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอรเ์ น็ต

149

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 แหลง่ น้าและลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ท่ี 5 การเกิดหยาดนา้ ฟ้า

ใบงานที่ 6.5.1

เรอ่ื ง หยาดนา้ ฟา้

ค้าชีแจง : ใหน้ ักเรยี นพิจารณาขอ้ ความทกี่ ้าหนดให้ แล้วนา้ ขอ้ ความทีก่ า้ หนดให้เติมลงในประโยค
ใหถ้ กู ต้อง

หยาดน้าฟา้ ฝน หิมะ

ลูกเหบ็ เมฆ ระเหิด

ละอองน้า ไอน้า น้าแข็ง พายุ

ฝน หิมะ ลูกเห็บ เป็น ____________ซึ่ง เป็นน้าที่มีสถานะต่าง ๆ ท่ีตกจากฟ้าถึงพืนดิน
_______เกิดจาก_________ใน___________ที่รวมตัวกันจนอากาศไม่สามารถพยุงไว้ได้จึงตกลงมา
_______เกิดจาก_________ในอากาศ_________กลับเป็นผลึกน้าแข็ง รวมตัวกันจนมีนา้ หนักมากขึน
จนเกินกวา่ อากาศจะพยงุ ไว้จึงตกลงมา
_________เกดิ จากหยดน้าท่ีเปลี่ยนสถานะเป็น________แล้วถกู _______พัดวนซ้าไปซ้ามาในเมฆฝน
ฟ้าคะนองทีม่ ขี นาดใหญ่และอยูใ่ นระดับสงู จนเปน็ กอ้ นน้าแข็งขนาดใหญ่ขนึ แลว้ ตกลงมา

150

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 แหล่งน้าและลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ที่ 5 การเกดิ หยาดน้าฟา้

ใบงานที่ 6.5.1 เฉลย

เรือ่ ง หยาดนา้ ฟา้

คา้ ชีแจง : ใหน้ ักเรียนพจิ ารณาขอ้ ความท่ีก้าหนดให้ แล้วน้าข้อความท่ีก้าหนดให้เตมิ ลงในประโยค
ให้ถูกต้อง

หยาดน้าฟา้ ฝน หิมะ

ลกู เหบ็ เมฆ ระเหดิ

ละอองนา้ ไอน้า น้าแข็ง พายุ

ฝน หมิ ะ ลูกเหบ็ เป็นหยาดน้าฟ้าซ่ึงเปน็ น้าที่มีสถานะต่าง ๆ ทีต่ กจากฟา้ ถึงพืนดนิ
ฝน เกิดจากละอองน้าในเมฆทร่ี วมตวั กันจนอากาศไม่สามารถพยงุ ไวไ้ ดจ้ งึ ตกลงมา
หิมะ เกดิ จากไอน้าในอากาศระเหิดกลับเป็นผลึกนา้ แข็ง รวมตวั กนั จนมนี ้าหนักมากขึนจนเกิน
กวา่ อากาศจะพยงุ ไว้จงึ ตกลงมา
ลกู เหบ็ เกดิ จากหยดน้าทเ่ี ปล่ยี นสถานะเปน็ นา้ แข็งแลว้ ถกู พายุพัดวนซา้ ไปซ้ามาในเมฆฝน
ฟ้าคะนองที่มีขนาดใหญแ่ ละอยูใ่ นระดับสงู จนเป็นกอ้ นน้าแขง็ ขนาดใหญข่ นึ แล้วตกลงมา

151

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 แหล่งน้าและลมฟ้าอากาศ 
แผนฯ ที่ 5 การเกดิ หยาดนา้ ฟา้

บตั รภาพฝนตก ลกู เห็บตก และหมิ ะตก

152

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 แหลง่ น้าและลมฟา้ อากาศ 
แผนฯ ท่ี 5 การเกิดหยาดนา้ ฟ้า

153

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 แหล่งนา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 5 การเกิดหยาดน้าฟ้า

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผูท้ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชื่อ
( .................................
................................ )
ตา้ แหน่ง
.......

10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสา้ คญั ของผ้เู รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแก้ไข

154

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 แหลง่ นา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วัฏจกั รน้ำ

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 6

วฏั จักรนา้

เวลา 3 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี ัด

ว 3.2 ป.5/3 สรา้ งแบบจ้าลองท่อี ธบิ ายการหมุนเวียนของน้าในวัฏจกั รของน้า

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายการหมนุ เวียนของน้าในวฏั จกั รน้าได้ (K)
2. ปฏบิ ัติกิจกรรมเพ่อื สรา้ งแบบจา้ ลองและใชแ้ บบจ้าลองอธิบายการเกดิ วฏั จกั รน้าได้อย่างถูกต้อง

และเป็นล้าดับขันตอน (P)
3. ใหค้ วามรว่ มมอื ในการทา้ กจิ กรรมกล่มุ และมีความรับผดิ ชอบในการสง่ งานตรงเวลา (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่ิน
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
วฏั จักรน้า เป็นการหมนุ เวียนของนา้ ท่ีมีแบบรูป
ซ้าเดมิ และต่อเนอ่ื งระหว่างน้าในบรรยากาศน้าผิวดิน
และน้าใต้ดนิ โดยพฤติกรรมการดา้ รงชวี ิตของพืชและ
สตั ว์ส่งผลต่อวัฏจักรนา้

4. สาระสา้ คัญ/ความคิดรวบยอด

วัฏจักรน้า เป็นการหมุนเวียนของน้าที่มีแบบรูปซ้าเดิม และต่อเน่ืองระหว่างน้าในบรรยากาศ
นา้ ผิวดนิ และนา้ ใตด้ ิน ซง่ึ พฤติกรรมในการด้ารงชีวิตของพชื และสตั ว์จะสง่ ผลตอ่ วฏั จกั รนา้

5. สมรรถนะส้าคญั ของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสา้ คัญของผเู้ รยี น คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินัย รับผิดชอบ

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. ซ่ือสตั ย์ สจุ รติ

2) ทักษะการทดลอง 4. มงุ่ มน่ั ในการทา้ งาน

3) ทกั ษะการตังสมมตฐิ าน

4) ทกั ษะการท้างานรว่ มกัน

155

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟ้าอากาศ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 6 วัฏจกั รนำ้

สมรรถนะส้าคญั ของผ้เู รียน
5) ทกั ษะการสรา้ งแบบจา้ ลอง
6) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมูล
7) ทักษะการจดั กระท้าและสื่อความหมายขอ้ มลู
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชัว่ โมงท่ี 1

ขนั น้า

ขนั ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engage)

1. ครทู ักทายกับนกั เรยี น จากนนั ครทู บทวนความรูเ้ ดมิ ของนกั เรียนเก่ยี วกบั เรอ่ื ง การเกิดเมฆ หมอก
นา้ คา้ ง น้าค้างแข็ง และหยาดน้าฟ้า

2. ครนู ้าบตั รภาพแหล่งน้า ฝนตก และดวงอาทิตย์ มาใหน้ ักเรยี นดู โดยครูตดิ ไวบ้ นกระดาน ดงั นี

156

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วัฏจกั รน้ำ

3. จากนนั ครตู งั ประเด็นค้าถามกระตุ้นความสนใจนักเรยี นจากบตั รภาพ โดยให้นักเรยี นแต่ละคน
ร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ อย่างอสิ ระโดยไม่มีการเฉลยว่าถกู หรือผิด ดงั นี
- จากบัตรภาพทงั 3 ภาพ นักเรยี นคิดวา่ เก่ียวข้องกนั หรือไม่
(แนวตอบ : นกั เรียนอำจตอบว่ำ เกี่ยวขอ้ งกัน)
- บตั รภาพทงั 3 ภาพ เกย่ี วข้องกันอยา่ งไรบ้าง
(แนวตอบ : นักเรียนอำจตอบวำ่ กำรเกดิ ฝนซึง่ มี 3 ขนั ตอน โดยขนั ท่ี 1 นำ้ ในแหลง่ น้ำตำ่ ง ๆ
เมอื่ ไดร้ บั ควำมรอ้ นจะระเหยกลำยเปน็ ไอนำ้ แล้วลอยขึนไปในอำกำศ ขันที่ 2 ไอนำ้ ในอำกำศเม่ือ
เจออำกำศเยน็ จะควบแนน่ เปน็ ละอองนำ้ รวมตวั กนั เปน็ กอ้ นเมฆ และขนั ที่ 3 เมอ่ื เมฆรวมตวั กัน
จ้ำนวนมำกจนอำกำศพยุงน้ำหนกั ของละอองน้ำไม่ไหว จึงตกลงมำเปน็ ฝนไหลรวมกนั ลงใน
แหลง่ นำ้ )

4. ครูให้นกั เรยี นดูภาพแหลง่ นา้ ตามธรรมชาติ จากหนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 จากนนั
ครูถามค้าถามเพื่อกระตุ้นนกั เรียนก่อนเขา้ ส่เู นอื หาว่า “แหลง่ น้ำต่ำง ๆ มีควำมสำ้ คัญตอ่ กำร
เกิดวัฏจกั รน้ำหรอื ไม่ อย่ำงไร” โดยให้นกั เรียนแต่ละคนร่วมกันอภิปรายแสดงความคดิ เหน็ เพ่ือหา
คา้ ตอบ
(แนวตอบ : แหลง่ น้ำตำ่ ง ๆ มีควำมสำ้ คัญตอ่ กำรเกดิ วฏั จกั รน้ำ ถ้ำไมม่ แี หลง่ นำ้ จะไม่มนี ้ำระเหย
กลำยเปน็ ไอนำ้ ขึนไปในบรรยำกำศ ทำ้ ใหไ้ ม่มกี ำรหมนุ เวยี นนำ้ )

ขนั สอน

ขนั ที่ 2 สา้ รวจคน้ หา (Explore)

1. ครูจัดเตรียมวสั ดุ-อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในกิจกรรมที่ 4 วัฏจกั รน้า จากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์

ป.5 เล่ม 2 มาวางไวห้ นา้ ชนั เรยี น ดงั นี

- หนังยาง 1 ถุง - ถุงพลาสติกใส 1 ใบ

- กล่องพลาสตกิ ใสใบเล็ก 1 ใบ - กลอ่ งพลาสติกใสใบใหญ่ 1 ใบ

- กระดาษแข็งแผน่ ใหญ่ 1 แผน่ - นา้ 2 ขวด

- นา้ แขง็ 1 ถุง - สีไม้ 1 กลอ่ ง

- ดนิ ทราย 1 ถุง - ดินเหนียว 1 ถงุ

2. นักเรยี นแบง่ กล่มุ โดยครูเตรียมสลากแหล่งนา้ ตา่ ง ๆ เชน่ ทะเล มหาสมุทร แม่นา้ และบึง

จากนนั ให้นักเรียนแต่ละคนออกมาหยิบสลาก ซึ่งนักเรียนท่ไี ด้ชื่อเดียวกันจะอย่กู ลุ่มเดยี วกัน

ซึง่ แตล่ ะกลมุ่ จะมสี มาชิกภายในกลุ่ม 4 คน

3. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ จัดเตรียมอุปกรณ์ทใ่ี ช้ในกิจกรรมท่ี 4 วัฏจกั รนา้ จากหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์

ป.5 เลม่ 2 จากนันครแู จ้งจุดประสงค์ของกิจกรรมท่ี 4 วฏั จักรน้า ใหน้ กั เรียนทราบ เพ่ือเป็นแนว

ทางการปฏิบัติกิจกรรมทถี่ กู ตอ้ ง

157

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 แหล่งน้าและลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วฏั จักรน้ำ

4. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกนั ปฏิบัติกจิ กรรมที่ 4 วฏั จักรนา้ ตอนท่ี 1-2 โดยปฏบิ ัติกิจกรรม ดังนี
1) ศึกษาขนั ตอนการปฏบิ ัติกจิ กรรมจากหนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 อย่างละเอยี ด
หากมขี ้อสงสยั ใหส้ อบถามครู
2) ร่วมกันกา้ หนดปัญหาและตังสมมติฐานในการปฏิบตั ิกจิ กรรม แล้วบันทกึ ผลลงในสมดุ ประจ้าตวั
นกั เรยี น หรอื แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2
3) ร่วมกันปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขนั ตอนให้ครบถว้ นและถกู ต้องทกุ ขันตอน จากนนั บนั ทึกผลลงใน
สมดุ ประจ้าตัวนักเรยี น หรอื แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2
(หมำยเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรท้ำงำนกลุม่ )

5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั วิเคราะห์ผลการปฏบิ ัติกิจกรรม แล้วอภปิ รายผลและสรปุ ผลการทดลอง

ชัว่ โมงที่ 2-3

ขนั สอน

ขนั ท่ี 2 ส้ารวจคน้ หา (Explore)
6. นักเรยี นแบง่ กล่มุ (กลุ่มเดมิ ) จากช่วั โมงทผี่ า่ นมา จากนันใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันศึกษาค้นควา้
ข้อมูลเกย่ี วกับ เร่อื ง การเกิดและปัจจัยท่มี ีผลตอ่ การเกิดวฏั จักรนา้ จากหนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2 หรอื แหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ เชน่ อนิ เทอร์เน็ต หอ้ งสมดุ
7. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายเรื่องท่ไี ด้ศึกษา จากนนั ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนา้ ขอ้ มลู ที่ได้มา
เขียนแผนภาพแสดงวฏั จกั รนา้ ลงในกระดาษแขง็ แผน่ ใหญ่ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม
(หมำยเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมกำรท้ำงำนกลุ่ม)

ขันท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
8. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานา้ เสนอผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมหน้าชันเรยี น เพื่อแลกเปล่ียนความคิด
จนครบทุกกลมุ่ ในระหวา่ งท่ีนักเรยี นนา้ เสนอครูคอยให้ขอ้ เสนอแนะเพิม่ เตมิ เพือ่ ให้นักเรยี น
มคี วามเข้าใจทถ่ี กู ตอ้ ง
(หมำยเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบประเมนิ กำรนำ้ เสนอผลงำน)
9. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรปุ ความร้ทู ไี่ ด้จากการปฏบิ ัติกจิ กรรมท่ี 4 วฏั จักรนา้
10. นกั เรียนแตล่ ะคนท้ากจิ กรรมหนตู อบได้ จากหนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 โดยตอบคา้ ถาม
ลงในสมดุ ประจา้ ตัวนักเรยี น หรอื แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
11. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมให้นกั เรยี นเข้าใจเก่ียวกับ เรอ่ื ง วัฏจกั รนา้ ว่า “วฏั จักรนำ้ คือ กำรหมนุ เวยี นของ
น้ำอยำ่ งไมม่ ที ี่สนิ สดุ และเป็นกำรเปล่ียนสถำนะของน้ำ โดยอำศัยปจั จัยต่ำง ๆ เช่น ควำมรอ้ น ลม
ปำ่ ไม้ เป็นต้น”

158

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ที่ 6 วัฏจักรน้ำ

ขนั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
12. ครตู ังประเด็นคา้ ถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียน โดยใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนร่วมกันอภปิ รายแสดง
ความคิดเห็นเพ่อื หาค้าตอบ ดังนี
- นา้ จากฟ้าที่ตกลงมาสูพ่ นื ผวิ โลก จะถกู กักเกบ็ ในแหลง่ นา้ ใดบ้าง
(แนวตอบ : แหล่งนำ้ ผิวดนิ เชน่ ทะเล แม่น้ำ ล้ำธำร เป็นตน้ และแหลง่ น้ำใตด้ ิน)
- การหมุนเวยี นของน้าเรยี กว่าอะไร
(แนวตอบ : วฏั จกั รของนำ้ )
- วัฏจกั รนา้ คอื อะไร
(แนวตอบ : วฏั จักรน้ำ คือ กำรหมนุ เวยี นของนำ้ อย่ำงไมม่ ีที่สินสดุ )
- การเกดิ วฏั จกั รของนา้ มกี ี่ขันตอน อะไรบ้าง
(แนวตอบ : กำรเกิดวฏั จักรของน้ำ มี 4 ขนั ตอน ไดแ้ ก่
1) นำ้ ในแหลง่ นำ้ ไดร้ ับควำมรอ้ นแลว้ ระเหยเปน็ ไอน้ำลอยขนึ ไปในอำกำศ
2) ไอน้ำควบแน่นเป็นละอองนำ้ และรวมตวั เปน็ เมฆ
3) เมฆมีจำ้ นวนมำกจนอำกำศไม่สำมำรถรบั น้ำหนักไว้ได้จงึ ตกลงมำเปน็ ฝน
4) น้ำฝนไหลกลบั สู่แหลง่ นำ้ ตำ่ ง ๆ หรือซมึ ลงใต้ดิน)
- ปจั จัยใดบา้ งท่มี ผี ลตอ่ การเกดิ วัฏจักรน้า
(แนวตอบ : ควำมรอ้ น ลม ป่ำไม้ เป็นต้น)
13. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามเนือหาเกยี่ วกบั เรื่อง วัฏจักรน้า และให้ความรเู้ พ่ิมเตมิ จากคา้ ถาม
ของนักเรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เรื่อง วฏั จักรนา้ ในการอธิบายเพม่ิ เติม
14. นกั เรียนแตล่ ะคนเขยี นสรปุ สาระส้าคญั ประจา้ บทท่ี 2 ปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศ โดยเขยี นเปน็
แผนผงั มโนทศั น์ ลงในสมดุ ประจา้ ตวั นกั เรียน
15. นกั เรยี นแต่ละคนท้ากิจกรรมฝกึ ทักษะ บทท่ี 2 ปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศ จากหนงั สอื เรียน
วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 ลงในสมุดประจ้าตัวนกั เรยี น หรอื แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
16. นกั เรียนทา้ แบบทดสอบหลังเรียนของหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 แหลง่ นา้ และลมฟา้ อากาศ เพอื่ เป็นการ
วดั ความรูห้ ลงั เรียนของนักเรยี น
17. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 4 คน ตามความสมคั รใจ จากนันให้แต่ละกลุม่ น้าความรเู้ กยี่ วกบั
เรอ่ื ง การเกิดวฏั จักรน้า มาออกแบบและประดษิ ฐ์จิกซอว์การเกิดวฏั จกั รน้า

159

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ที่ 6 วัฏจกั รนำ้

ขันสรปุ

ขันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. นกั เรยี นแตล่ ะคนดตู ารางตรวจสอบตนเอง จากหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
จากนันครูถามนักเรยี นเป็นรายบุคคลตามรายการขอ้ 1-5 เพอ่ื เป็นการตรวจสอบความรู้
ความเข้าใจของนักเรียนหลงั จากการเรยี นจบบทท่ี 2 ปรากฏการณ์ลมฟา้ อากาศ
2. ครตู รวจสอบผลการทา้ แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 6 แหลง่ น้าและลมฟา้ อากาศ
เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจหลังเรียนของนักเรียน
3. ครปู ระเมินผล โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคา้ ถาม พฤติกรรมการทา้ งานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทา้ งานกลุ่ม และจากการนา้ เสนอผลการทา้ กจิ กรรมหนา้ ชนั เรียน
4. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ัติกิจกรรมท่ี 4 วฏั จกั รนา้ ในสมดุ ประจ้าตวั นักเรยี น หรอื แบบฝึกหดั
วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
5. ครูตรวจสอบผลการท้ากจิ กรรมหนตู อบได้ ในสมดุ ประจา้ ตัวนักเรียน หรอื แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2
6. ครูตรวจผลการทา้ กจิ กรรมสรุปสาระส้าคญั ประจา้ บทที่ 2 ปรากฏการณล์ มฟา้ อากาศ
ในสมดุ ประจ้าตวั นักเรียน
7. ครูตรวจสอบผลการทา้ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ บทท่ี 2 ปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศ ในสมดุ ประจ้าตัว
นกั เรยี น หรือแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
8. ครตู รวจชนิ งาน/ผลงาน จิกซอวก์ ารเกดิ วฏั จกั รนา้ ของนักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม
9. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ เกย่ี วกับวฏั จกั รน้า ซึง่ ไดข้ ้อสรุปร่วมกันว่า “วฏั จักรน้ำ เป็นกำร
หมุนเวยี นของนำ้ ท่มี ีแบบรูป ซ้ำเดิม และต่อเนื่องระหว่ำงน้ำในบรรยำกำศนำ้ ผวิ ดนิ และน้ำใตด้ ิน
โดยพฤติกรรมกำรด้ำรงชวี ติ ของพืช และสตั ว์สง่ ผลตอ่ วฏั จกั รนำ้ ”

160

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 แหลง่ นา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วฏั จักรนำ้

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

7.1 ประเมนิ ระหว่าง

การจัดกิจกรรม

การเรียนรู้

1) ผลบนั ทกึ การ - ตรวจสมดุ ประจ้าตัว - สมดุ ประจ้าตัว หรอื - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์
ปฏิบตั ิกจิ กรรมท่ี 4 หรอื แบบฝึกหดั ป.5 เล่ม 2

วฏั จักรน้า วทิ ยาศาสตร์ ป.5

เล่ม 2

2) กิจกรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมุดประจ้าตัว - สมดุ ประจ้าตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์
หรอื แบบฝึกหัด ป.5 เล่ม 2

วทิ ยาศาสตร์ ป.5

เลม่ 2

3) กิจกรรมสรปุ - ตรวจสมดุ ประจา้ ตวั - สมุดประจ้าตัว - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สาระสา้ คัญประจา้

บทท่ี 2

ปรากฏการณ์ลมฟา้

อากาศ

4) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมดุ ประจ้าตัว - สมดุ ประจา้ ตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์
บทท่ี 2 หรือแบบฝึกหัด ป.5 เล่ม 2

ปรากฏการณล์ มฟ้า วทิ ยาศาสตร์ ป.5

อากาศ เล่ม 2

5) การน้าเสนอ - ประเมนิ การน้าเสนอ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2
น้าเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบัติ

ปฏิบตั ิกจิ กรรม กิจกรรม

6) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
การทา้ งานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
ทา้ งานรายบคุ คล การท้างานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤติกรรม
การท้างานกลุ่ม - ระดบั คณุ ภาพ 2
7) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์

ท้างานกลมุ่ การทา้ งานกลมุ่

161

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 6 แหลง่ นา้ และลมฟา้ อากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วัฏจักรนำ้

รายการวัด วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน
8) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมวี ินยั - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2
รับผดิ ชอบ ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
อันพึงประสงค์ และม่งุ ม่ันในการ อันพึงประสงค์
ท้างาน - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบหลงั เรยี น
7.2 การประเมนิ หลงั เรียน - ตรวจแบบทดสอบ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 - ระดับคณุ ภาพ 2
- แบบทดสอบ หลงั เรียน หนว่ ยการ แหลง่ น้าและลมฟา้ ผ่านเกณฑ์
หลงั เรยี น หน่วยการ เรียนรูท้ ี่ 6 แหล่งน้า อากาศ
เรยี นรูท้ ี่ 6 แหล่งนา้ และลมฟา้ อากาศ - แบบประเมนิ ชินงาน/
และลมฟ้าอากาศ - ตรวจผลงาน ภาระงาน (รวบยอด)
จิกซอวก์ ารเกดิ
7.3 การประเมินชินงาน/ วัฏจักรน้า
ภาระงาน (รวบยอด)

8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6 แหล่งน้าและลมฟ้าอากาศ
2) แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 แหล่งน้าและลมฟา้ อากาศ
3) วัสดุ-อปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นกิจกรรมท่ี 4 วฏั จักรนา้
4) PowerPoint เร่ือง วฏั จกั รนา้
5) บตั รภาพแหล่งน้า ฝนตก และดวงอาทติ ย์
6) สลากแหลง่ น้าตา่ ง ๆ
7) สมุดประจ้าตัวนักเรียน

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอร์เนต็

162

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 แหล่งนา้ และลมฟ้าอากาศ 
แผนฯ ที่ 6 วฏั จักรนำ้

สลากแหล่งนา้ ตา่ ง ๆ

ทะเล บึง
เเมน่ ้า มหาสมทุ ร

163

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 แหล่งน้าและลมฟา้ อากาศ 
แผนฯ ที่ 6 วัฏจักรนำ้

บัตรภาพแหลง่ น้า ฝนตก และดวงอาทติ ย์

164

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 6 แหล่งนา้ และลมฟ้าอากาศ 
แผนฯ ที่ 6 วฏั จกั รนำ้

165

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 6 แหล่งน้าและลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วัฏจักรนำ้

ชินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
จกิ ซอวก์ ารเกดิ วัฏจักรนา้

คา้ ชีแจง : นักเรยี นแบง่ กลุ่ม ๆ 4 คน จากนันให้แต่ละกล่มุ น้าความรู้เก่ยี วกบั เร่อื ง การเกดิ วฏั จกั รน้า
มาออกแบบและประดิษฐจ์ ิกซอว์การเกิดวฏั จกั รนา้

166

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 แหลง่ น้าและลมฟ้าอากาศ
แผนฯ ท่ี 6 วฏั จักรนำ้

9. ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรือผู้ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชอ่ื
( .................................
................................ )
ตา้ แหนง่
.......

10. บนั ทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะส้าคญั ของผูเ้ รียน

 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

167

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ที่ 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 1

ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด

ว 3.1 ป.5/1 เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของดาวเคราะห์และดาวฤกษจ์ ากแบบจาลอง

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายลักษณะของดาวเคราะหแ์ ละดาวฤกษไ์ ด้ (K)
2. สรา้ งแบบจาลองเพอ่ื อธิบายการมองเหน็ ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ได้ (P)
3. ปฏบิ ัติกิจกรรมเพ่ือเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหว่างดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ได้ (P)
4. มคี วามใฝ่เรยี นรแู้ ละให้ความรว่ มมือในการทากิจกรรมกลุ่ม (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
ดาวที่มองเห็นบนท้องฟ้าอยู่ใน อวกาศซึ่งเป็น
บริเวณท่ีอยู่นอกบรรยากาศของโลก มีท้งั ดาวฤกษ์และ
ดาวเคราะห์ ดาวฤกษเ์ ป็นแหล่งกาเนดิ แสงจึงสามารถ
มองเห็นได้ ส่วนดาวเคราะห์ไม่ใช่แหล่งกาเนิดแสง
แต่สามารถมองเหน็ ได้เนอ่ื งจากแสงจากดวงอาทิตย์ตก
กระทบดาวเคราะห์แล้วสะท้อนเข้าสู่ตา

4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

ดาวทม่ี องเห็นบนท้องฟา้ อยู่ในอวกาศซ่ึงเป็นบริเวณที่อยู่นอกบรรยากาศของโลก มีท้ังดาวฤกษ์และ
ดาวเคราะห์ ดาวฤกษเ์ ปน็ แหลง่ กาเนดิ แสงจึงสามารถมองเหน็ ได้ สว่ นดาวเคราะหไ์ ม่ใชแ่ หลง่ กาเนดิ แสง

5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั รับผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทกั ษะการสังเกต 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน

2) ทกั ษะการสารวจคน้ หา

182

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 7 ดาวบนท้องฟ้า คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 1 ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
3) ทกั ษะการสรา้ งแบบจาลอง
4) ทกั ษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล
5) ทักษะการตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ
6) ทกั ษะการจดั กระทาและสือ่ ความหมายขอ้ มลู
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงที่ 1

ข้ันนา

ขน้ั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกบั นกั เรียน แล้วแจ้งจุดประสงค์การเรียนรใู้ หน้ ักเรียนทราบ จากน้ันนกั เรยี นทา
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟ้า เพ่อื วดั ความรเู้ ดมิ ของนักเรียนก่อน
เขา้ สู่กิจกรรม
2. นกั เรียนอา่ นสาระสาคญั และดภู าพ หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 ดาวบนท้องฟา้ จากหนังสอื เรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 จากนั้นครูกระตุ้นความสนใจโดยใชค้ าถามวา่ “ดาวฤกษ์ หมายถงึ อะไร
และดาวเคราะห์ หมายถงึ อะไร” โดยใหน้ กั เรยี นช่วยกันตอบคาถามอยา่ งอิสระโดยไม่มกี ารเฉลยว่า
ถกู หรอื ผดิ
(แนวตอบ : ดาวฤกษ์ หมายถงึ ดาวทม่ี แี สงสวา่ งในตวั เอง และดาวเคราะห์ หมายถึงดาวท่ีไม่มแี สง
สวา่ งในตัวเอง)
3. นักเรยี นดภู าพในบทท่ี 1 ท้องฟ้าและกล่มุ ดาวฤกษ์ จากหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2
จากน้ันครูถามคาถามสาคัญประจาบทว่า “เราสามารถมองเหน็ ดาวเคราะหไ์ ดห้ รอื ไม่ อยา่ งไร”
แลว้ ให้นกั เรยี นแตล่ ะคนร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเหน็ เพอ่ื หาคาตอบ
(แนวตอบ : สามารถมองเห็นดาวเคราะหไ์ ด้ เนอ่ื งจากแสงจากดวงอาทติ ย์ตกกระทบดาวเคราะห์
แลว้ สะท้อนเขา้ สูต่ า)

183

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

4. นักเรยี นเรยี นร้คู าศัพทท์ ่ีเก่ียวขอ้ งกับการเรยี นในบทที่ 1 ท้องฟ้าและกลมุ่ ดาวฤกษ์ จากหนังสือ
เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 โดยครขู ออาสาสมัครนักเรียน จานวน 1 คน ใหเ้ ป็นผอู้ า่ นนา
และใหน้ ักเรียนทอี่ ย่ใู นชนั้ เรยี นเปน็ ผอู้ ่านตามทลี ะคา ดงั น้ี

Planet ('แพล็นนิท) ดาวเคราะห์
Direction (ดิ 'เร็คชนั ) ทิศ
Constellation (คอ็ นสเตล็ 'เลชัน) กล่มุ ดาว

5. นักเรยี นแต่ละคนทากจิ กรรมนาสูก่ ารเรียน โดยศกึ ษาขอ้ มลู แล้วตอบคาถาม ลงในสมุดประจาตัว
นกั เรียน หรอื แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล)

ขนั้ สอน

ข้ันท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore)

1. ครจู ดั เตรยี มวัสดุ-อุปกรณ์ท่ใี ช้ในกิจกรรมท่ี 1 ความแตกตา่ งของดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

จากหนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 มาวางไว้หน้าชน้ั เรียน ดังนี้

- สีไม้ 1 กล่อง - กรรไกร

- ตวั เรอื งแสง - กาว

- กระดาษสดี า - ลูกปัดพลาสตกิ

- กลอ่ งลงั เจาะรดู ้านขา้ ง - ไฟฉาย

- กระดาษแข็งแผน่ ใหญ่ 1 แผ่น

2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ โดยครเู ตรียมบตั รภาพดาวเคราะห์ เช่น โลก ดาวอังคาร ดาวศุกร์ และ

ดาวเสาร์ จากนน้ั ให้นักเรยี นแตล่ ะคนออกมาหยบิ บตั รภาพ ซึง่ นักเรยี นท่ีไดบ้ ัตรภาพเดยี วกันจะอยู่

กลุม่ เดียวกนั ซ่งึ แต่ละกลุม่ จะมสี มาชกิ ภายในกลมุ่ 4 คน

3. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มจัดเตรยี มอุปกรณ์ที่ใช้ในกิจกรรมที่ 1 ความแตกต่างของดาวฤกษแ์ ละ

ดาวเคราะห์ จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 จากนน้ั ครูแจ้งจุดประสงคข์ องกจิ กรรมที่ 1

ความแตกต่างของดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ ให้นกั เรียนทราบ เพอื่ เป็นแนวทางการปฏิบตั กิ จิ กรรม

ที่ถกู ต้อง

4. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ร่วมกันศกึ ษาขอ้ มูลเก่ียวกับการมองเห็นดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ จากหนังสอื

เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หรือแหลง่ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ น็ต

184

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟา้
แผนฯ ที่ 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วางแผนสรา้ งแบบจาลองการมองเหน็ ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
จากน้ันชว่ ยกันสรา้ งแบบจาลองทอี่ อกแบบไว้ แลว้ นาข้อมูลมาเขียนแผนภาพแสดงแบบจาลอง
ลงในกระดาษแขง็ แผ่นใหญ่
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ )

ชว่ั โมงที่ 2

ข้ันสอน

ข้นั ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
6. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอแบบจาลองการมองเหน็ ดาวฤกษ์และดาวเคราะหห์ น้าชัน้ เรยี น
ในระหวา่ งที่นักเรียนนาเสนอครูคอยใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติม เพื่อใหน้ ักเรียนมีความเขา้ ใจทีถ่ ูกต้อง
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมินการนาเสนอผลงาน)
7. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันอภปิ รายจากการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมท่ี 1 ความแตกตา่ งของดาวฤกษ์
และดาวเคราะห์วา่ “จากการปฏิบัติกจิ กรรม ให้ไฟฉาย แทนดาวฤกษ์ เพราะมแี สงสวา่ งในตวั เอง
แสงเข้าส่ตู าทาให้เรามองเห็นดาวฤกษไ์ ด้ ใหว้ ตั ถอุ ืน่ ที่ไมม่ แี สงสวา่ งในตัวเอง แทนดาวเคราะห์
เพราะไมม่ ีแสงสวา่ งในตัวเอง จะตอ้ งอาศัยแสงจากดาวฤกษต์ อ้ งตกกระทบแล้วสะทอ้ นเข้าสู่ตา”
8. นักเรียนแตล่ ะคนทากจิ กรรมหนตู อบได้ จากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 โดยตอบคาถาม
ลงในสมดุ ประจาตัวนกั เรียน หรือแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
9. นักเรยี นจบั ค่กู ับเพ่ือนในชัน้ เรยี น ตามความสมคั รใจ โดยใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถือสแกน QR Code
เรือ่ ง ความแตกต่างระหว่างดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ จากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
10. นกั เรียนแตล่ ะคนศกึ ษาค้นคว้าขอ้ มูลเกี่ยวกบั เรือ่ ง ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์ จากหนังสอื เรยี น
วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 หรอื แหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ เช่น อนิ เทอรเ์ น็ต ห้องสมุด แล้วเขียนสรปุ
ความรทู้ ีไ่ ด้จากการศกึ ษาค้นควา้ ลงในสมุดประจาตัวนกั เรยี น
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล)
11. ครสู มุ่ เลขท่ีนกั เรยี น จานวน 2 คน ให้ยกตัวอย่างดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ ดงั นี้
 คนท่ี 1 ยกตัวอย่างดาวฤกษ์ มา 3 ตัวอยา่ ง
 คนท่ี 2 ยกตัวอย่างดาวเคราะห์ มา 3 ตวั อย่าง

185

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

12. ครูตั้งประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนกั เรยี น โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนรว่ มกันอภปิ ราย
เพือ่ หาคาตอบ ดงั นี้
- ดาวฤกษม์ ีลักษณะอยา่ งไร
(แนวตอบ : ดาวฤกษ์มองเห็นแสงระยับระยิบ)
- ดาวเคราะห์มลี ักษณะอย่างไร
(แนวตอบ : ดาวเคราะหม์ องเหน็ แสงนวลน่งิ )

13. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนซกั ถามเนอื้ หาเก่ยี วกบั เรอ่ื ง ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ และให้ความรู้
เพ่ิมเติมจากคาถามของนกั เรียน โดยครใู ช้ PowerPoint เรอื่ ง ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์
ในการอธบิ ายเพ่มิ เติม

14. นกั เรียนแต่ละคนตอบคาถามทา้ ทายการคิดขั้นสงู จากหนังสือเรียน วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
ลงในสมดุ ประจาตวั นักเรียน หรอื แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 จากนัน้ นกั เรยี นแต่ละคนทา
ใบงานที่ 7.1.1 เรอื่ ง ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

15. ครูสมุ่ นักเรียน 2 คน ออกมานาเสนอคาตอบของตนเอง โดยครใู หน้ ักเรียนร่วมกันพจิ ารณาวา่
คาตอบใดถูกตอ้ ง จากนัน้ ครูเฉลยคาตอบทถ่ี กู ต้องใหน้ ักเรยี น

ขน้ั สรปุ

ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรยี นของหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 ดาวบนท้องฟา้
เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจกอ่ นเรียนของนักเรยี น
2. ครปู ระเมนิ ผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบคุ คล
พฤติกรรมการทางานกลุ่ม และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหนา้ ชน้ั เรยี น
3. ครูตรวจสอบผลการปฏิบัติกจิ กรรมท่ี 1 ความแตกตา่ งของดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
ในสมุดประจาตัวนักเรยี น หรอื แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2
4. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมหนตู อบได้ ในสมดุ ประจาตวั นักเรียน หรือแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์
ป.5 เลม่ 2
5. ครูตรวจคาถามทา้ ทายการคิดขน้ั สงู ในสมุดประจาตวั นักเรียน หรอื แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์
ป.5 เลม่ 2
6. ครตู รวจสอบผลการทาใบงานที่ 7.1.1 เรอ่ื ง ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
7. นักเรยี นและครูร่วมกันสรุปเกยี่ วกบั ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ ซ่ึงได้ข้อสรปุ รว่ มกนั ว่า “ดาวฤกษ์
เปน็ แหล่งกาเนดิ แสงจงึ สามารถมองเหน็ ได้ ส่วนดาวเคราะหไ์ ม่ใชแ่ หลง่ กาเนิดแสง แตส่ ามารถ
มองเหน็ ไดเ้ นื่องจากแสงจากดวงอาทติ ยต์ กกระทบดาวเคราะห์แล้วสะท้อนเขา้ สูต่ า”

186

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟ้า
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

7. การวัดและประเมินผล

รายการวดั วธิ ีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมิน

7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น

- แบบทดสอบ - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ประเมินตามสภาพจริง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7
ก่อนเรียน หน่วยการ ก่อนเรยี น หน่วยการ ดาวบนทอ้ งฟ้า

เรยี นรทู้ ี่ 7 ดาวบน เรยี นรู้ท่ี 7 ดาวบน

ท้องฟ้า ทอ้ งฟา้

7.2 ประเมนิ ระหวา่ ง

การจดั กจิ กรรม

การเรียนรู้

1) กิจกรรมนาสู่ - ตรวจสมดุ ประจาตัว - สมดุ ประจาตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์
การเรียน หรอื แบบฝึกหดั ป.5 เลม่ 2

วิทยาศาสตร์ ป.5 - สมุดประจาตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์
เลม่ 2 ป.2 เลม่ 2

2) ผลบันทกึ การ - ตรวจสมุดประจาตัว

ปฏิบตั ิกจิ กรรมท่ี 1 หรอื แบบฝึกหดั

ความแตกตา่ งของ วิทยาศาสตร์ ป.5

ดาวฤกษแ์ ละ เล่ม 2

ดาวเคราะห์

3) กิจกรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมดุ ประจาตวั - สมุดประจาตัว หรอื - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์
หรือแบบฝึกหัด ป.5 เลม่ 2

วทิ ยาศาสตร์ ป.5

เลม่ 2

4) ดาวฤกษ์และ - ตรวจใบงานที่ 7.1.1 - ใบงานท่ี 7.1.1 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ดาวเคราะห์

5) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2
นาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบตั ิ

ปฏิบตั ิกจิ กรรม กจิ กรรม

6) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
ทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
7) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม

ทางานกลุ่ม การทางานกลุ่ม

187

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ดาวบนทอ้ งฟา้ วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์การประเมนิ
แผนฯ ที่ 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2
รบั ผดิ ชอบ ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
รายการวดั และมงุ่ มั่นในการ อันพงึ ประสงค์
8) คณุ ลกั ษณะ ทางาน

อันพงึ ประสงค์

8. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟา้
2) แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
3) ใบงานท่ี 7.1.1 เรื่อง ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์
4) วสั ดุ-อุปกรณท์ ีใ่ ช้ในกิจกรรมที่ 1 ความแตกตา่ งของดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
5) PowerPoint เรอื่ ง ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
6) บัตรภาพดาวเคราะห์
7) QR Code เรอื่ ง ความแตกต่างระหว่างดาวฤกษ์และดาวเคราะห์
8) สมดุ ประจาตัวนกั เรยี น

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอร์เนต็

188

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

ใบงานท่ี 7.1.1

เรื่อง ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

คาชแ้ี จง : ให้นกั เรียนพิจารณาช่อื ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ แล้วนามาเขยี นลงในชอ่ งว่างให้ถกู ตอ้ ง

โลก ดาวยเู รนัส
ดาวศุกร์ ดวงอาทติ ย์
ดาวพธุ
ดาวเสาร์ ซีรีอสุ
ดาวเนปจนู อาร์คตุรสุ
พอลลักซ์
 ดาวฤกษ์ ได้แก่

 ดาวเคราะห์ ไดแ้ ก่

189

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

ใบงานที่ 7.1.1 เฉลย

เร่ือง ดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์

คาช้แี จง : ให้นักเรยี นพจิ ารณาชอื่ ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ แลว้ นามาเขยี นลงในชอ่ งวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง

โลก ดาวยูเรนัส
ดาวศกุ ร์ ดวงอาทติ ย์
ดาวพธุ
ดาวเสาร์ ซีรีอสุ
ดาวเนปจูน อารค์ ตรุ สุ
พอลลักซ์

 ดาวฤกษ์ ได้แก่
ดวงอาทิตย์ อาร์คตรุ ุส

ซีรีอุส พอลลกั ซ์

 ดาวฤกษ์ ได้แก่ ดาวศกุ ร์
โลก ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส

ดาวพธุ ดาวเนปจูน

190

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 7 ดาวบนท้องฟ้า 
แผนฯ ที่ 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

บัตรภาพดาวเคราะห์

โลก

ดาวศกุ ร์

191

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

ดาวองั คาร

ดาวเสาร์

192

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 1 ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์

9. ความเหน็ ของผ้บู รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชือ่
( .................................
................................ )
ตาแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมทม่ี ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแก้ไข

193

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 2 กลมุ่ ดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟา้

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2

กลุ่มดาวฤกษ์บนทอ้ งฟา้

เวลา 2 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด

ว 3.1 ป.5/2 ใช้แผนที่ดาวระบตุ าแหนง่ และเสน้ ทางการขน้ึ และตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟา้
และอธิบายแบบรูปเสน้ ทางการขึ้นและตกของกลมุ่ ดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟา้ ในรอบปี

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายรปู ร่างของกลมุ่ ดาวฤกษ์บนทอ้ งฟ้าได้ (K)
2. สืบคน้ ขอ้ มลู และสังเกตรูปร่างของกลมุ่ ดาวฤกษ์บนทอ้ งฟ้าได้ (P)
3. มคี วามใฝ่เรียนรู้และให้ความรว่ มมอื ในการทากิจกรรมกลุ่ม (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นร้ทู ้องถนิ่
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
การมองเหน็ กลุ่มดาวฤกษม์ รี ูปร่างต่าง ๆ เกดิ จาก
จนิ ตนาการของผู้สังเกต กลุ่มดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ ท่ปี รากฏ
ใน ท้องฟ้าแต่ละกลุ่มมีดาวฤกษ์แต่ละดวงเรียงกัน
ท่ีตาแหน่งคงที่ และมีเส้นทา งการข้ึนและตกตา ม
เส้น ทา งเดิมทุกคืน ซึ่งจ ะปร า กฏตา แห น่งเดิ ม
การสังเกตตาแหนง่ และการข้ึนและตกของดาวฤกษ์
และกลุ่มดาวฤกษ์ สามารถทาได้โดยใช้แผนที่ดาว
ซึง่ ระบุมุมทิศและมมุ เงยทกี่ ลมุ่ ดาวนั้นปรากฏ ผู้สังเกต
สามารถใชม้ ือในการประมาณคา่ ของมุมเงยเมอื่ สังเกต
ดาวในทอ้ งฟ้า

4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

ดาวฤกษ์ เปน็ ดาวทมี่ ีแสงสวา่ งในตัวเอง จัดเป็นแหล่งกาเนิดแสงจึงสามารถมองเห็นเปน็ จุดสวา่ งและ
มีแสงระยบิ ระยับบนทอ้ งฟา้ ในเวลากลางวันจะมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟา้ ส่วนในเวลากลางคืนจะมองเห็น
กล่มุ ดาวฤกษต์ า่ ง ๆ ทอ่ี ยบู่ นท้องฟา้ มีรูปรา่ งแตกต่างกันออกไป

194

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 2 กลุ่มดาวฤกษ์บนทอ้ งฟา้

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรยี นรู้

1) ทกั ษะการสงั เกต 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

2) ทักษะการสารวจคน้ หา

3) ทกั ษะการทางานรว่ มกนั
4) ทักษะการลงความเหน็ จากข้อมูล

5) ทกั ษะการตีความหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุป

6) ทกั ษะการจัดกระทาและสือ่ ความหมายข้อมูล

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงที่ 1

ขน้ั นา

ขนั้ ที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกบั นกั เรียน จากนน้ั ครทู บทวนความรเู้ ดมิ ของนักเรียนเก่ียวกับดาวฤกษแ์ ละดาวเคราะห์
2. นักเรียนดภู าพกลมุ่ ดาวบนทอ้ งฟ้า จากหนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 จากน้นั ครู
ตั้งประเด็นคาถามกระตุ้นความสนใจนกั เรยี นวา่ “นกั เรยี นสังเกตและจนิ ตนาการกลมุ่ ดาวบน
ทอ้ งฟ้าเป็นรูปรา่ งอะไรบา้ ง” โดยให้นกั เรยี นแตล่ ะคนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นอย่าง
อสิ ระโดยไมม่ ีการเฉลยวา่ ถูกหรือผิด
(แนวตอบ : กล่มุ ดาวบนท้องฟา้ ท่สี งั เกตและจนิ ตนาการ เชน่ กลมุ่ ดาวลูกไก่ ดาวคนั ไถ เปน็ ตน้ )

195

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ที่ 2 กลมุ่ ดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟ้า

ข้ันสอน

ขัน้ ที่ 2 สารวจคน้ หา (Explore)
1. นักเรียนแต่ละคนศึกษาค้นควา้ ขอ้ มูลเกย่ี วกับ เรอ่ื ง กลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟา้ จากหนงั สือเรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 หรือแหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ เช่น อินเทอรเ์ นต็ แล้วเขียนสรุปความร้ทู ่ไี ด้
จากการศึกษาค้นควา้ ลงในสมุดประจาตัวนกั เรียน
(หมายเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)
2. ครูตัง้ ประเด็นคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียน โดยใหน้ ักเรยี นแต่ละคนรว่ มกันอภิปรายแสดงความ
คิดเหน็ เพ่ือหาคาตอบ ดังนี้
- ในเวลากลางวันเรามองเหน็ ทอ้ งฟ้าเป็นอย่างไร
(แนวตอบ : ทอ้ งฟา้ เปน็ สฟี ้า)
- ในเวลากลางคืนเรามองเหน็ กลุ่มดาวฤกษม์ รี ูปรา่ งเป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ : รปู รา่ งแตกตา่ งกันออกไป)
- กลุ่มดาวฤกษ์มีเสน้ ทางการขึ้นและตกเป็นอยา่ งไร
(แนวตอบ : กลุม่ ดาวฤกษ์มเี สน้ ทางการข้นึ และตกในทิศเดิมเสมอ)
- เราสามารถใชอ้ ะไรในการสงั เกตตาแหนง่ การขนึ้ และตกของกลุ่มดาวฤกษไ์ ด้
(แนวตอบ : ใช้แผนทีด่ าว และใชม้ อื ในการประมาณคา่ มมุ เงย)
3. ครูจัดเตรียมวัสดุ-อปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นกิจกรรมท่ี 2 สงั เกตรูปร่างของกลุ่มดาวฤกษ์ จากหนงั สือเรียน
วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 มาวางไว้หนา้ ช้นั เรยี น ดงั นี้
- กระดาษแข็งแผน่ ใหญ่ 1 แผน่
- บัตรภาพกลมุ่ ดาวฤกษ์
4. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม ๆ ละ 3-4 คน ตามความสมคั รใจ จากน้ันให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มจัดเตรยี มอปุ กรณ์
ท่ใี ชใ้ นกิจกรรมท่ี 2 สังเกตรปู รา่ งของกล่มุ ดาวฤกษ์ จากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
5. ครูแจง้ จุดประสงคข์ องกิจกรรมท่ี 2 สงั เกตรปู รา่ งของกลุ่มดาวฤกษ์ ให้นกั เรยี นทราบ เพื่อเป็นแนว
ทางการปฏบิ ัติกจิ กรรมท่ีถกู ต้อง จากนนั้ สมาชกิ ภายในกลุ่มสงั เกตบัตรภาพกลมุ่ ดาวฤกษ์
แลว้ รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับรูปรา่ งของกลุม่ ดาวฤกษท์ ี่สงั เกตเห็น
6. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาข้อมลู เพิ่มเติมเก่ยี วกบั รปู ร่างของกลุ่มดาวฤกษ์ต่าง ๆ บนท้องฟา้
แล้วบันทึกผลการศกึ ษาขอ้ มูลลงในสมุดประจาตัวนักเรยี น หรือแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2
7. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกนั อภปิ รายแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกับข้อมูลที่แต่ละคนได้จากการสงั เกต
บัตรภาพกลุ่มดาวฤกษ์ และจากการบันทึกผลการศึกษาขอ้ มลู จากน้ันเขยี นสรปุ ความรโู้ ดย
วาดภาพกลุม่ ดาวฤกษ์ลงในกระดาษแข็งแผ่นใหญ่
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม)

196

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ที่ 2 กลุ่มดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟา้

ชวั่ โมงท่ี 2

ขัน้ สอน

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explain)
8. นักเรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอภาพกลมุ่ ดาวฤกษห์ นา้ ชนั้ เรยี น พร้อมบอกช่ือรูปรา่ งของกลุ่ม
ดาวฤกษ์ ในระหว่างทนี่ ักเรยี นนาเสนอครูคอยใหข้ อ้ เสนอแนะเพิ่มเติม เพ่อื ใหน้ ักเรียนมคี วาม
เข้าใจท่ีถูกตอ้ ง
(หมายเหตุ : ครเู ริ่มประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน)
9. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายจากการปฏิบตั ิกิจกรรมท่ี 2 สงั เกตรปู รา่ งของกลุ่มดาวฤกษ์
10. นกั เรยี นแตล่ ะคนทากจิ กรรมหนตู อบได้ จากหนงั สือเรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 โดยตอบคาถาม
ลงในสมดุ ประจาตวั นกั เรยี น หรือแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2

ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
11. นกั เรยี นจับคกู่ ับเพอื่ นในชั้นเรียน ตามความสมคั รใจ จากนัน้ รว่ มกันศกึ ษาคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั
เรอ่ื ง รูปร่างของกลมุ่ ดาวฤกษ์ กลุ่มดาวนายพราน และกล่มุ ดาวหมใี หญ่ จากหนังสอื เรยี น
วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 หรอื แหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ เช่น อนิ เทอร์เนต็ แลว้ เขยี นสรปุ ความร้ทู ี่ได้
จากการศกึ ษาค้นคว้าลงในสมุดประจาตวั นกั เรียน
12. ครูตงั้ ประเดน็ คาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียน โดยใหน้ กั เรยี นแต่ละคนรว่ มกันอภปิ ราย
เพือ่ หาคาตอบ ดงั นี้
- ในคนื เดอื นมืดเราสามารถมองเห็นดวงดาวไดช้ ดั เจนเพราะอะไร
(แนวตอบ : เพราะไม่มแี สงสว่างของดวงจันทรม์ าบดบังแสงของดาว)
- กลุ่มดาวฤกษ์แตล่ ะกลมุ่ มกี ารเรยี งตัวของดาวฤกษเ์ ปน็ อยา่ งไร
(แนวตอบ : กลุ่มดาวฤกษแ์ ตล่ ะกลุ่มมกี ารเรยี งตวั กันอย่างคงท่ี)
- ถา้ เราอาศยั อยู่ทางซีกโลกเหนือ เราสามารถมองเห็นกลมุ่ ดาวนายพรานไดช้ ว่ งใดบ้าง
(แนวตอบ : ในเดือนตุลาคมถงึ เดอื นมกราคม ในช่วงเยน็ และปลายเดือนกรกฎาคมถงึ เดอื น
พฤศจิกายน ในชว่ งเชา้ มดื )
- ถ้าเราอาศัยอยทู่ างซีกโลกเหนอื เราสามารถมองเห็นกล่มุ ดาวหมใี หญ่ไดช้ ่วงใดบา้ ง
(แนวตอบ : สามารถมองเหน็ ไดต้ ลอดทัง้ ปี)
13. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนซกั ถามเน้อื หาเกี่ยวกบั เรือ่ ง กลมุ่ ดาวฤกษ์บนท้องฟา้ และให้ความรู้
เพม่ิ เติมจากคาถามของนักเรยี น โดยครใู ช้ PowerPoint เรื่อง กลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า
ในการอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

197

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ที่ 2 กลมุ่ ดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟา้

ขั้นสรปุ

ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูประเมนิ ผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชนั้ เรียน
2. ครตู รวจสอบผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมท่ี 2 สังเกตรูปร่างของกลุม่ ดาวฤกษ์ ในสมดุ ประจาตวั นักเรียน
หรือแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
3. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรมหนูตอบได้ ในสมุดประจาตัวนักเรยี น หรอื แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2
4. นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ เกีย่ วกับกลุ่มดาวฤกษ์ต่าง ๆ ท่ีปรากฏบนท้องฟา้ ซ่งึ ได้ข้อสรปุ ร่วมกนั
วา่ “ดาวฤกษ์ในแตล่ ะกลุม่ มีรปู ร่างแตกตา่ งกัน และเราสามารถมองเห็นกลุ่มดาวฤกษไ์ ดใ้ นเวลาที่
แตกต่างกัน กลุ่มดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ ท่ปี รากฏอยู่บนท้องฟ้าแต่ละกลุ่มจะมกี ารเรยี งตัวของดาวฤกษ์
อยา่ งคงที่ จงึ ทาใหม้ ีรปู ร่างเหมอื นเดิมทุกคืน และในรอบ 1 ปี เราจะสามารถมองเหน็ กลมุ่ ดาวฤกษ์
ไดใ้ นเวลาแตกตา่ งกัน”

7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธีการ เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 ประเมินระหว่าง

การจดั กจิ กรรม

การเรยี นรู้

1) ผลบันทึกการ - ตรวจสมดุ ประจาตวั - สมุดประจาตัว หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์
ปฏิบัติกจิ กรรมที่ 2 หรือแบบฝกึ หัด ป.5 เลม่ 2

สงั เกตรปู รา่ งของ วิทยาศาสตร์ ป.5

กลุ่มดาวฤกษ์ เลม่ 2

2) กิจกรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมุดประจาตัว - สมดุ ประจาตวั หรือ - รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
หรอื แบบฝึกหดั ป.5 เล่ม 2

วิทยาศาสตร์ ป.5

เล่ม 2

3) การนาเสนอ - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2
นาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบัติ

ปฏบิ ัติกิจกรรม กิจกรรม

4) พฤตกิ รรมการ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
ทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล

198

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า วิธกี าร เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
แผนฯ ที่ 2 กลุ่มดาวฤกษบ์ นท้องฟ้า - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
รายการวัด - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2
5) พฤตกิ รรมการ รับผิดชอบ ใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
และมงุ่ ม่ันในการ อันพึงประสงค์
ทางานกลุม่ ทางาน
6) คณุ ลักษณะ

อันพงึ ประสงค์

8. ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 ดาวบนทอ้ งฟา้
2) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า
3) วสั ดุ-อปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นกจิ กรรมท่ี 2 สังเกตรูปรา่ งของกลุม่ ดาวฤกษ์
4) PowerPoint เร่ือง กลุ่มดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟา้
5) สมดุ ประจาตวั นกั เรยี น

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) อนิ เทอรเ์ นต็

199

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ท่ี 2 กลุม่ ดาวฤกษ์บนทอ้ งฟ้า

9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผูท้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ “……..
“…………………………………………
ลงชื่อ
( .................................
................................ )
ตาแหนง่
.......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤติกรรมท่ีมปี ัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ มี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

200

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 7 ดาวบนท้องฟ้า
แผนฯ ท่ี 3 การขึ้นและตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3

การขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์

เวลา 2 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด

ว 3.1 ป.5/2 ใชแ้ ผนทด่ี าวระบุตาแหนง่ และเสน้ ทางการข้นึ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟา้
และอธิบายแบบรปู เส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษบ์ นทอ้ งฟ้าในรอบปี

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการขึ้นและตกของกลุม่ ดาวฤกษ์บนท้องฟา้ ได้ (K)
2. ใช้แผนทีด่ าวระบตุ าแหน่งและเส้นทางการขึ้นและตกของกลุ่มดาวฤกษ์ได้ (P)
3. มีความใฝเ่ รยี นรแู้ ละให้ความรว่ มมือในการทากจิ กรรมกลุ่ม (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ
พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
การมองเหน็ กล่มุ ดาวฤกษ์มรี ูปรา่ งตา่ ง ๆ เกดิ จาก
จนิ ตนาการของผู้สังเกต กลุ่มดาวฤกษ์ต่าง ๆ ทป่ี รากฏ
ใน ท้องฟ้าแต่ละกลุ่มมีดาวฤกษ์แต่ละดวงเรียงกัน
ที่ตาแหน่งคงที่ และมีเส้นทา งการข้ึนและตกตา ม
เส้น ทา งเดิมทุกคืน ซ่ึงจ ะปร า กฏตา แห น่งเดิ ม
การสังเกตตาแหน่งและการข้ึนและตกของดาวฤกษ์
และกลุ่มดาวฤกษ์ สามารถทาได้โดยใช้แผนท่ีดาว
ซง่ึ ระบมุ ุมทิศและมมุ เงยทก่ี ล่มุ ดาวนนั้ ปรากฏ ผู้สงั เกต
สามารถใช้มือในการประมาณคา่ ของมุมเงยเมือ่ สังเกต
ดาวในท้องฟ้า

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

เมือ่ สังเกตกลุ่มดาวฤกษ์ในช่วงเวลาตา่ ง ๆ ในคืนเดียวกนั จะพบว่ากลุ่มดาวฤกษม์ กี ารเปลี่ยนตาแหน่ง
โดยเคลื่อนจากทิศตะวันออกไปทางทิศตะวันตก ทาให้มองเห็นดาวฤกษ์ข้นึ จากขอบฟ้าทางทิศตะวนั ออก
และตกลับขอบฟ้าไปทางทิศตะวนั ตก ซึง่ ดาวฤกษ์และกลุ่มดาวฤกษ์มเี ส้นทางการข้ึนและตกตามเสน้ ทาง
เดมิ ทุกคนื และจะปรากฏตาแหนง่ เดมิ เสมอ

201

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ท่ี 3 การขนึ้ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

5. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวินยั รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. มุ่งม่นั ในการทางาน

2) ทักษะการสารวจค้นหา

3) ทกั ษะการทางานร่วมกนั
4) ทักษะการลงความเห็นจากขอ้ มูล

5) ทักษะการตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ

6) ทกั ษะการหาความสมั พันธ์ของสเปซกับเวลา

7) ทักษะการจัดกระทาและสือ่ ความหมายข้อมลู

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 แนวคิด/รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงที่ 1

ข้ันนา

ขั้นที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกบั นักเรยี น จากน้นั ครูทบทวนความร้เู ดิมของนกั เรยี นเกยี่ วกบั กลุ่มดาวฤกษ์บนท้องฟา้
2. ครูนาบตั รภาพดาวฤกษ์ต่าง ๆ เชน่ ท้องฟ้าในคนื เดอื นมดื ท้องฟ้าในคนื ดวงจนั ทรเ์ ต็มดวง
และทอ้ งฟา้ ในเวลากลางวัน มาใหน้ ักเรียนดู จากน้นั ครูตงั้ ประเด็นคาถามกระตนุ้ ความสนใจ
นักเรียนว่า “จากบตั รภาพมดี าวใดบา้ งทเ่ี ป็นดาวฤกษ์ และดาวฤกษท์ ่นี ักเรยี นรจู้ กั มีการขน้ึ และตก
อยา่ งไร” โดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนรว่ มกันอภิปรายแสดงความคิดเหน็ อย่างอสิ ระโดยไม่มกี ารเฉลย
วา่ ถกู หรอื ผดิ
(แนวตอบ : นักเรยี นอาจตอบว่า กล่มุ ดาว และดวงอาทิตย์ กลุ่มดาวฤกษ์ข้ึนจากขอบฟา้ ทางทศิ
ตะวันออกและตกลบั ขอบฟา้ ไปทางทิศตะวันตก)

202

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟ้า
แผนฯ ที่ 3 การขน้ึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

ข้นั สอน

ขน้ั ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Explore)
1. ครูจดั เตรยี มวสั ดุ-อุปกรณท์ ใ่ี ช้ในกิจกรรมที่ 3 การขน้ึ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์ จากหนังสอื เรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 มาวางไวห้ นา้ ชั้นเรยี น ดงั น้ี
- แผน่ ที่ดาว 1 ชุด
2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๆ ละ 3-4 คน ตามความสมคั รใจ จากนัน้ ให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ จัดเตรยี มอปุ กรณ์
ที่ใช้ในกจิ กรรมท่ี 3 การขึ้นและตกของกลุม่ ดาวฤกษ์ จากหนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 2
3. ครูแจง้ จดุ ประสงค์ของกิจกรรมที่ 3 การขน้ึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์ ใหน้ กั เรยี นทราบ
เพอ่ื เป็นแนวทางการปฏบิ ตั ิกิจกรรมที่ถกู ตอ้ ง
4. ครสู าธิตวิธีการใชแ้ ผนท่ีดาว โดยใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสงั เกต ดงั นี้
 ถือแผนที่ดาวและหนั หน้าขณะสังเกต
 หมนุ วันท่ี เดอื น และเวลา ให้ตรงกบั ช่วงเวลาทส่ี ังเกต
5. สมาชิกภายในกลมุ่ รว่ มกันวางแผนการสงั เกตตาแหนง่ และเสน้ ทางการขนึ้ และตกของกล่มุ
ดาวฤกษ์ โดยปฏบิ ัตกิ จิ กรรมจากหนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
6. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเหน็ จากน้นั นาขอ้ มูลทไ่ี ด้มาวาดแผนภาพแสดง
การข้ึนและตกของกลมุ่ ดาวฤกษล์ งในสมดุ ประจาตัวนักเรียน หรอื แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2
(หมายเหตุ : ครูเรม่ิ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ )

203

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟ้า
แผนฯ ที่ 3 การขน้ึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

ช่วั โมงท่ี 2

ขน้ั สอน

ข้ันท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explain)
7. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมานาเสนอผลการปฏิบตั ิกิจกรรมหน้าชนั้ เรยี น ในระหวา่ งทน่ี ักเรียน
นาเสนอครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพม่ิ เติม เพอื่ ให้นักเรียนมคี วามเข้าใจที่ถูกต้อง
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบประเมนิ การนาเสนอผลงาน)
8. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายจากการปฏบิ ตั ิกิจกรรมที่ 3 การข้นึ และตกของกล่มุ ดาวฤกษ์
9. นกั เรียนแตล่ ะคนทากิจกรรมหนูตอบได้ จากหนังสือเรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 โดยตอบคาถาม
ลงในสมดุ ประจาตัวนกั เรียน หรือแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2

ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
10. นกั เรยี นแต่ละคนศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูลเกี่ยวกับ เร่ือง การข้ึนและตกของกลุ่มดาวฤกษ์ จากหนังสอื
เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หรอื แหลง่ การเรียนร้ตู า่ ง ๆ เช่น อินเทอรเ์ น็ต แล้วเขยี นสรุปความรู้
ทีไ่ ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ ลงในสมุดประจาตวั นกั เรียน
11. ครตู ง้ั ประเดน็ คาถามกระตนุ้ ความคิดนักเรียน โดยใหน้ ักเรียนแต่ละคนรว่ มกันอภิปราย
เพื่อหาคาตอบ ดังน้ี
- โลกหมุนรอบตวั เองอย่างไร
(แนวตอบ : หมุนทวนเข็มนาฬกิ า จากทิศตะวันตกไปยังทศิ ตะวนั ออก)
- เมื่อเราสังเกตกล่มุ ดาวฤกษ์ในช่วงเวลาต่าง ๆ ในคืนเดยี วกันจะเปน็ อย่างไร
(แนวตอบ : กลมุ่ ดาวฤกษ์มกี ารเปลีย่ นตาแหนง่ โดยเคลอ่ื นจากทศิ ตะวนั ออกไปทางทศิ
ตะวนั ตก)
- กลุ่มดาวฤกษข์ น้ึ และตกทางทศิ ใด
(แนวตอบ : กลมุ่ ดาวฤกษ์ขึ้นจากขอบฟา้ ทางทศิ ตะวนั ออก และตกลบั ขอบฟา้ ไปทางทศิ
ตะวันตก)
- เราจะสามารถมองเหน็ กล่มุ ดาวฤกษไ์ ด้เมื่อไร
(แนวตอบ : เราจะเหน็ กลุ่มดาวฤกษ์ตา่ ง ๆ ขึน้ ทางขอบฟา้ เม่อื แสงจากดวงอาทิตย์ลดน้อยลง
จนกระท่งั ดวงอาทติ ย์ลับขอบฟา้ ไป)
12. ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นซกั ถามเนอ้ื หาเกีย่ วกบั เรอื่ ง การข้นึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์
และให้ความรู้เพิ่มเติมจากคาถามของนกั เรียน โดยครูใช้ PowerPoint เร่อื ง การขึน้ และตกของ
กลมุ่ ดาวฤกษ์ ในการอธิบายเพ่ิมเตมิ

204

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ที่ 3 การขน้ึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

ข้ันสรุป

ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรียน โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบคุ คล
พฤติกรรมการทางานกลุ่ม และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหนา้ ชั้นเรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการปฏบิ ัติกิจกรรมที่ 3 การขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์ ในสมุดประจาตวั นกั เรียน
หรือแบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2
3. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรมหนตู อบได้ ในสมุดประจาตวั นักเรียน หรอื แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 2
4. นักเรียนและครูร่วมกันสรปุ เกยี่ วกับการข้นึ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์ ซ่ึงไดข้ อ้ สรปุ รว่ มกันวา่
“กลุ่มดาวฤกษข์ ึ้นจากขอบฟา้ ทางทิศตะวนั ออก และตกลบั ขอบฟ้าไปทางทศิ ตะวนั ตก การที่โลก
หมนุ รอบตวั เอง จะทาให้เกดิ กลางวันกลางคนื แล้ว ยังทาให้เกดิ การขนึ้ และตกของดวงดาวดว้ ย
ปรากฏการณ์ขน้ึ และตกของดวงดาว โลกหมุนรอบตวั เองจากทศิ ตะวันตกไปทิศตะวันออก
หรือหมนุ ทวนเขม็ นาฬิกา นอกจากทาให้ดวงอาทิตยเ์ คลื่อนทจี่ ากทศิ ตะวันออกไปทศิ ตะวนั ตกแล้ว
ยงั ทาให้บริเวณซกี โลกเหนือเหน็ ดาวข้ึนทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวนั ตก สว่ นซีกโลกใต้
เห็นดาวขนึ้ ทางทิศตะวันตกและตกทางทิศตะวันออก”

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 ประเมนิ ระหว่าง - สมุดประจาตวั หรือ - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์
การจดั กิจกรรม ป.5 เล่ม 2 - ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

การเรียนรู้ - สมุดประจาตวั หรือ - ระดับคณุ ภาพ 2
แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
1) ผลบนั ทึกการ - ตรวจสมดุ ประจาตวั ป.5 เล่ม 2

ปฏิบัติกิจกรรมท่ี 3 หรือแบบฝึกหดั - แบบประเมินการ
นาเสนอผลงาน
การขึน้ และตกของ วทิ ยาศาสตร์ ป.5

ดาวฤกษ์ เล่ม 2

2) กจิ กรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมดุ ประจาตัว

หรอื แบบฝกึ หัด

วทิ ยาศาสตร์ ป.5

เลม่ 2

3) การนาเสนอ - ประเมนิ การนาเสนอ

ผลงาน/ผลการ ผลงาน/ผลการปฏิบัติ

ปฏบิ ัติกจิ กรรม กจิ กรรม

205

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟา้
แผนฯ ที่ 3 การขึ้นและตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

รายการวดั วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
4) พฤติกรรมการ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล
ทางานรายบุคคล - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรมการ การทางานกล่มุ การทางานกลุ่ม - ระดับคณุ ภาพ 2
- สงั เกตความมีวินัย - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
ทางานกลุ่ม รับผิดชอบ ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะ - ระดับคุณภาพ 2
6) คุณลกั ษณะ และม่งุ มนั่ ในการ อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
ทางาน
อันพงึ ประสงค์

8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟา้
2) แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 2 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 7 ดาวบนทอ้ งฟา้
3) วสั ดุ-อปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในกจิ กรรมท่ี 3 การขนึ้ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์
4) PowerPoint เร่อื ง การขึน้ และตกของกลุ่มดาวฤกษ์
5) บตั รภาพดาวฤกษ์ต่าง ๆ
6) สมุดประจาตัวนักเรยี น

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) อินเทอรเ์ น็ต

206

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 7 ดาวบนท้องฟ้า 
แผนฯ ที่ 3 การขน้ึ และตกของกลมุ่ ดาวฤกษ์

บตั รภาพดาวฤกษ์ต่าง ๆ

207


Click to View FlipBook Version