The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TAN RUNNING, 2021-07-21 04:09:12

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ฯ ป.5 เทอม1

ilovepdf_merged

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 สิ่งมชี วี ติ กับสิ่งแวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 1 การปรับโครงสร้างของสงิ่ มีชวี ติ

ข้นั สอน

ข้นั สารวจคน้ หา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนอา่ นสาระสาคัญและดูภาพจากหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ส่ิงมีชีวติ กับส่ิงแวดล้อม ใน
หนงั สอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หน้า 20 จากนั้นถามนักเรยี นวา่ นกั เรยี นร้จู ักส่งิ มชี วี ติ ในภาพ
หรือไม่ และสิง่ มชี ีวิตในภาพอาศยั อยทู่ ีใ่ ด แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตอบคาถามอยา่ งอิสระ
(แนวตอบ เป็ด อาศยั อยู่บนบก แต่มีเท้าเปน็ พังผืดใช้ส้าหรับวา่ ยน้าได้ และมีปีกส้าหรบั บินหนี
อันตรายได้)
2. นักเรียนดูภาพในหนา้ บทที่ 1 ชวี ิตสัมพนั ธ์ จากหนังสือเรยี น หน้า 21 จากน้นั ครูถามคาถามสาคัญ
ประจาบทวา่ สิ่งมีชีวิตต่างๆ ดารงชวี ิตอย่ใู นส่งิ แวดล้อมได้อย่างไร แล้วให้นกั เรยี นช่วยกันอธิบาย
คาตอบ โดยครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ และชว่ ยเสรมิ ความรูบ้ างสว่ นให้กับนักเรียน
(แนวตอบ สง่ิ มีชีวติ จะปรบั โครงสร้างและลกั ษณะของตนเองให้มคี วามเหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม
มากท่ีสุด เพ่อื ให้สามารถดา้ รงชวี ิตและอย่รู อดได้)
3. ครใู ห้นกั เรยี นเรียนรู้คาศัพท์ท่ีเกี่ยวข้องกบั การเรยี นในบทที่ 1 โดยสุ่มตวั แทนนักเรยี น 1 คน ตาม
เลขทใ่ี ห้เปน็ ผ้อู า่ นนาและให้นกั เรียนท่เี หลืออ่านตาม ดงั น้ี

Habitat (‘แฮบ็ บิแทท็ ) แหลง่ ทอี่ ยู่
Food Chain (ฟดู เชน) โซ่อาหาร
Producer (พรึ‘ดวิ เซอ) ผู้ผลติ
Consumer (คอนซูเมอ) ผูบ้ รโิ ภค

4. นักเรียนแต่ละคนทากิจกรรมนาสู่การเรียนจากหนังสือเรียน หน้า 22 แล้วบันทึกลงในสมุด
ประจาตวั นักเรียนหรือทาในแบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1

5. นกั เรยี นศกึ ษาเนอื้ หาและดภู าพจากหนังสอื เรียน หนา้ 23 และชว่ ยกันตอบตอบคาถามว่า สง่ิ มีชวี ิต
ในภาพมีโครงสรา้ งหรอื มีลักษณะทเ่ี หมาะสมกับแหลง่ ที่อยู่อย่างไรบ้าง
(แนวตอบ เช่น ตระบองเพชรเปล่ียนใบเป็นหนามเพื่อลดการคายน้า โกงกางมีรากค้าจนุ เพ่ือ
ป้องกันไม่ให้ต้นโค่นลม้ เม่ือน้าสูง หมีขัวโลกมีขนหนาและมชี นั ไขมันใต้ผิวหนงั มากเพือ่ ป้องกันความ
หนาว อูฐมีหนอกสะสมไขมันและมขี นตายาวปอ้ งกันฝุ่นทราย สุนขั พันธ์เซนตเ์ บอรน์ าร์ดอยู่ใน
ประเทศเขตหนาวจงึ มีขนยาวหนาเพอ่ื ป้องกนั ความหนาวเย็น)

42

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สิง่ มีชีวิตกบั สิง่ แวดลอ้ ม
แผนฯ ที่ 1 การปรับโครงสรา้ งของสิ่งมชี วี ติ

ช่ัวโมงที่ 2

ขั้นสารวจค้นหา (Explore) (ต่อ)
6. ครูให้นักเรียนเล่นเกมจบั กลุ่มเพ่ือแบ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน ซง่ึ ครูอธิบายวธิ ีการ
เล่นและแจกเนื้อเพลงใหน้ ักเรียน แล้วให้นักเรยี นเล่นเกม 2-3 ครั้ง จนไดก้ ลุ่มครบทุกคน โดยมี
วิธกี ารเลน่ เกม ดงั น้ี
ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นฟังวา่ เกมน้ีเป็นเกมท่ใี ห้นักเรียนทาตามคาสงั่ ท่อี ยู่ในเนอ้ื รอ้ งของ
เพลง ถ้านักเรียนคนใดที่ไม่สามารถทาตามคาสั่งในเน้ือเพลงได้ จะถูกลงโทษด้วยวิธีการต่าง ๆ
กันไป เช่น การเต้นตามเพลง การรอ้ งเพลง หรืออื่น ๆ ตามความเหมาะสม โดยมีเน้อื เพลง ดงั น้ี
มือซ้ายยกข้ึนชู มือขวาก็ถูสะโพกเบาๆ/ซ้ายยกขึ้นชู มือข วาก็ถูสะโพกเบาๆ /
เสรจ็ แลว้ หมุนรอบตัวเรา/เสร็จแล้วหมุนรอบตัวเรา/สองมือจับเขา่ ใหจ้ บั กลมุ่ ......คน
ตัวอยา่ งการออกคาสั่งของครู เชน่
 ใหจ้ ับกลุ่ม 2 คน
 ให้จับกลุม่ 4 คน
 ใหจ้ บั กลมุ่ 5 คน
7. ครูเปิด PหoาwกeนrPักoเรinียtนกหลรมุ่ อื ใคดลทิปี่จวบั ิดกีโลอมุ่ เคกร่ยี บวตกาับมโคคารสงส่ังเรร้ายี งบพรืชอ้ แยลแะลส้วตั วใ์ทห่ีน้เหง่ั มลางะสมต่อการดารงชีวติ ใน
แหลง่ ทอี่ ยู่ให้นกั เรยี นดู จากนัน้ ถามคาถามกระตนุ้ ความคิดโดยใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุม่ อภิปรายและ
หาคาตอบร่วมกัน เช่น พชื หรอื สัตว์ชนดิ ใดบา้ งทีม่ กี ารปรับโครงสรา้ งให้เหมาะสมกบั แหลง่ ท่ีอยู่
(แนวตอบ ผกั ตบชวาปรบั โครงสรา้ งให้ล้าตน้ เปน็ โพรง ทา้ ให้น้าหนกั เบา จึงลอยน้าได้ดี ปลาอาศัย
อยู่ในนา้ จึงพัฒนาครีบอกแทนขา เพื่อช่วยในการเคลื่อนทใี่ นนา้ )
8. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดิมทไี่ ดแ้ บ่งไว้เมอื่ ช่ัวโมงที่ผ่านมา จากนั้นครแู จ้งว่าจะใหน้ ักเรียนได้ทากิจกรรมที่
1 เรื่อง การปรบั โครงสร้างของสิ่งมชี ีวิต ตอนท่ี 1-2 จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ หน้า 24-25 โดย
ครูแจ้งจุดประสงค์ของการทากิจกรรมใหน้ กั เรียนทราบกอ่ นทากิจกรรม
9. นกั เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันทากจิ กรรมที่ 1 เร่อื ง การปรบั โครงสร้างของสิ่งมชี วี ิต ตอนท่ี 1-2 โดย
ปฏิบัตกิ จิ กรรม ดงั น้ี
1) รว่ มกันศึกษาขน้ั ตอนการทากิจกรรมจากหนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ หน้า 24-25 อยา่ ง
ละเอียด หากมขี ้อสงสัยให้สอบถามครู
2) ร่วมกนั กาหนดปัญหาและต้ังสมมติฐานในการทากิจกรรม จากนนั้ บันทกึ ผลลงในสมุด
ประจาตัว หรอื แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1

43

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 สิง่ มีชวี ิตกบั สง่ิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 1 การปรบั โครงสร้างของส่งิ มชี ีวติ

3) ร่วมกนั ทากิจกรรมตามขนั้ ตอนใหค้ รบถ้วนและถูกตอ้ งทุกข้ันตอน จากนนั้ บันทึกผลลงใน
ลงในสมุดประจาตวั หรอื แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1
(หมายเหตุ : ครูเร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกลุ่ม)

ขั้นอธิบายความรู้ (Explain)
1. สมาชิกแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายและสรปุ ผลจากการทากิจกรรมภายในกลุ่ม
2. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานของกลมุ่ หน้าชั้นเรียน โดยครูส่มุ จับสลากเลอื ก
ตัวแทนนกั เรยี นทลี ะกลมุ่
3. ตวั แทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน จากน้นั ร่วมกันอภิปรายและสรุปผล
เก่ียวกับการปรบั โครงสร้างของสงิ่ มชี ีวิตท่ีเหมาะสมต่อการดารงชวี ิตในแหลง่ ทีอ่ ยู่
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทา้ งานกลุ่ม)

ช่วั โมงที่ 3

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันศกึ ษาข้อมูลเกี่ยวกบั โครงสรา้ งพืชและสัตว์ที่เหมาะสมต่อการดารงชวี ิตใน
แหลง่ ทอี่ ยู่ จากหนังสอื เรียน หน้า 26-28 แล้วครูสมุ่ เลือกตัวแทนกลุม่ ใหส้ รปุ ให้เพือ่ นในหอ้ งฟัง
2. ครูขออาสามาสมคั รนกั เรียน 2 คน ให้ยกตัวอยา่ งสง่ิ มชี วี ติ ท่ีมีการโครงสรา้ งพชื และสตั ว์ที่เหมาะสม
ตอ่ การดารงชีวติ ในแหล่งท่ีอยู่ ดังนี้
 คนที่ 1 ให้ยกตวั อย่างพชื 2 ตัวอย่าง
 คนที่ 2 ใหย้ กตวั อย่างสตั ว์ 2 ตวั อย่าง
3. นักเรียนแต่ละคนทากิจกรรมหนูตอบได้จากหนังสอื เรียน หน้า 25 ลงในสมดุ ประจาตัวนักเรยี น
หรอื แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
4. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละคนนากิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ที่ 1 จากหนงั สือเรยี น หน้า 28 ไป
ทาเป็นการบา้ น โดยให้ทาลงในสมุดประจาตวั นกั เรยี น หรอื ใหน้ กั เรียนทาในใบงาน เรอ่ื ง การปรับ
โครงสรา้ งของสิ่งมชี ีวิตทีค่ รูแจกให้ แล้วนามาส่งในชว่ั โมงถดั ไป
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมนิ นักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการท้างานรายบคุ คล)

44

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สงิ่ มีชีวิตกับส่ิงแวดล้อม
แผนฯ ท่ี 1 การปรับโครงสร้างของส่งิ มีชีวติ

ข้ันสรปุ

นกั เรยี นแตล่ ะคนสรปุ ความรูจ้ ากการเรียนหวั ข้อ เรอ่ื ง โครงสร้างและลักษณะของสิ่งมชี ีวิตในแหลง่ ทีอ่ ยู่
ตามท่ีตนเองเข้าใจจนได้ข้อสรปุ ร่วมกันว่า สงิ่ มีชวี ิตทังพชื และสตั ว์มีโครงสร้างและลกั ษระที่เหมาะสมในแตล่ ะ
แหลง่ ทีอ่ ยู่ ซงึ่ เป็นผลมาจากการปรับตวั ของสง่ิ มชี วี ิตเพื่อดา้ รงชวี ิตและอยูร่ อดได้ในแต่ละแหลง่ ที่อยู่
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทา้ งานรายบคุ คล)

ขั้นประเมิน

ขน้ั ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผลนักเรียน โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
พฤติกรรมการทางานกลุม่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชน้ั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการทาแบบทดสอบก่อนเรียน เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจก่อนเรยี นของนักเรยี น
3. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมที่ 1 เร่ือง การปรับโครงสรา้ งของสิ่งมีชวี ติ ในสมุดประจาตวั หรือ
แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
4. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมหนตู อบได้ในสมดุ ประจาตัวนักเรยี น หรอื ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
ป.5 เลม่ 1
5. ครตู รวจสอบผลการทากจิ กรรมพัฒนาการเรียนรทู้ ่ี 1 ในสมุดประจาตัวนักเรียน หรอื ในใบงาน เรอื่ ง
การปรับโครงสร้างของสิ่งมชี วี ติ

45

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 สิ่งมชี วี ิตกบั ส่งิ แวดล้อม
แผนฯ ที่ 1 การปรบั โครงสร้างของส่ิงมีชวี ติ

7. การวดั และประเมนิ ผล

รายการวดั วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ

7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น

- แบบทดสอบก่อน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ประเมนิ ตาม
สภาพจริง
เรียน หนว่ ยการ ก่อนเรียน

เรียนรูท้ ี่ 1 สง่ิ มีชวี ติ

กับสิ่งแวดลอ้ ม

7.2 ประเมินระหวา่ ง

การจดั กจิ กรรม

การเรยี นรู้

1) กจิ กรรมนาสู่ - ตรวจสมุดประจาตัว - สมุดประจาตัว - ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
การเรียน

2) ผลบนั ทกึ การทา - ตรวจสมดุ ประจาตวั หรือ - สมดุ ประจาตัว หรือ - ร้อยละ 60
กจิ กรรมที่ 1 แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
ป.5 เล่ม 1 ป.5 เล่ม 1
3) กจิ กรรมพฒั นาการ - ตรวจสมดุ ประจาตัว หรือ - สมุดประจาตัว หรือ - รอ้ ยละ 60
เรียนรู้ท่ี 1 ใบงาน เร่ือง การปรบั ใบงาน เร่ือง การปรบั ผ่านเกณฑ์
โครงสร้างของสิง่ มีชีวิต โครงสรา้ งของส่งิ มชี ีวติ
4) กิจกรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมุดประจาตวั หรอื - สมุดประจาตัว หรอื - รอ้ ยละ 60
แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
5) การนาเสนอผล ป.5 เลม่ 1 ป.5 เลม่ 1
การทากจิ กรรม - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คณุ ภาพ 2
ผลการทากจิ กรรม นาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
6) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
การทางาน การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล - ระดบั คุณภาพ 2
รายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
- สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม
7) พฤตกิ รรม การทางานกลมุ่ การทางานกลมุ่ - ระดบั คณุ ภาพ 2
การทางานกลมุ่ - สงั เกตความมวี ินยั - แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น คณุ ลกั ษณะ
8) คุณลกั ษณะ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ - ระดบั คุณภาพ 2
อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

46

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 สิ่งมชี ีวติ กบั สิ่งแวดลอ้ ม
แผนฯ ที่ 1 การปรบั โครงสรา้ งของส่งิ มีชวี ติ

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 สงิ่ มชี ีวิตกับสิง่ แวดลอ้ ม
2) แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ส่งิ มีชีวติ กบั สงิ่ แวดลอ้ ม
3) วัสดุ-อุปกรณก์ ารทดลองในกิจกรรมที่ 1 เชน่ สไี ม้ ตน้ ถวั่ ต้เู ลี้ยงปลา
4) ใบงาน เรอื่ ง การปรับโครงสรา้ งของสิง่ มชี วี ิต
5) PowerPoint
6) สมดุ ประจาตวั นักเรียน
7) เนื้อรอ้ งเพลง จบั กลมุ่

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอรเ์ น็ต

47

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 สง่ิ มีชวี ิตกับสงิ่ แวดลอ้ ม
แผนฯ ที่ 1 การปรบั โครงสร้างของสงิ่ มีชีวติ

ใบงาน

เรือ่ ง การปรับโครงสรา้ งของสิง่ มีชีวิต

ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ แล้วร่วมกนั ปฏิบัตกิ จิ กรรม ดงั นี้
1) สบื คน้ ข้อมูลเก่ยี วกับโครงสร้างของพืชและสัตว์ที่เหมาะสมต่อการดารงชีวติ ในแหล่ง
ท่ีอยูม่ าอย่างละ 2 ชนดิ (ไม่ซ้ากบั ในบทเรียน)
2) นาขอ้ มูลมาจดั ทาเป็นบตั รภาพความรู้
3) สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชัน้ เรียน

ภาพน้ี คือ
สง่ิ มีชีวิตนมี้ ีโครงสร้างทเี่ หมาะสมกับท่ีอยู่อาศัย ดงั นี้

(วาดภาพ หรือตดิ ภาพ)

ภาพนี้ คอื
ส่ิงมีชวี ติ นีม้ ีโครงสร้างทเ่ี หมาะสมกับท่ีอยอู่ าศัย ดงั น้ี

(วาดภาพ หรอื ตดิ ภาพ)

48

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 สง่ิ มีชีวติ กบั สงิ่ แวดลอ้ ม เฉลย
แผนฯ ที่ 1 การปรบั โครงสรา้ งของสิง่ มีชวี ติ

ใบงาน

เรือ่ ง การปรบั โครงสร้างของส่งิ มชี วี ติ

ใหน้ ักเรยี นแบ่งกล่มุ แลว้ ร่วมกันปฏิบัตกิ จิ กรรม ดังนี้
1) สบื ค้นข้อมูลเก่ยี วกับโครงสร้างของพืชและสัตว์ท่ีเหมาะสมต่อการดารงชีวติ ในแหล่ง
ทอ่ี ยู่มาอย่างละ 2 ชนิด (ไม่ซา้ กบั ในบทเรียน)
2) นาข้อมูลมาจัดทาเปน็ บัตรภาพความรู้
3) สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน

วาดภาพ หรือติดภาพ ภาพน้ี คอื กระต่ายขั้วโลก
สงิ่ มชี วี ติ นมี้ ีโครงสรา้ งทเ่ี หมาะสมกับท่ีอย่อู าศัย ดงั น้ี
กระต่ายขัว้ โลกจะมีเปล่ียนสีขนจากสนี า้ ตาลเปน็ สีขาว
และสรา้ งชน้ั ขนหนาเพือ่ ใหร้ ่างกายอบอุ่นในฤดหู นาว

วาดภาพ หรอื ติดภาพ ภาพน้ี คือ บัวเผ่อื น
ส่งิ มชี วี ติ น้ีมโี ครงสรา้ งที่เหมาะสมกับท่ีอยอู่ าศัย ดงั น้ี
บัวเผอ่ื นจะปรบั โครงสรา้ งของปากใบใหม้ าอยูด่ า้ นบน
ของใบบวั เพือ่ ชว่ ยในการคายน้า

49

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 สิ่งมีชวี ิตกับสง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 1 การปรับโครงสรา้ งของส่งิ มชี ีวติ

9. ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตาแหนง่ .......

10. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรอื พฤติกรรมทีม่ ีปัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

50

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 สิง่ มชี ีวิตกับส่งิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พันธ์ของส่งิ มชี ีวติ กับส่งิ มชี วี ติ ในสงิ่ แวดลอ้ ม

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2

ความสัมพนั ธข์ องสงิ่ มีชีวิตกับส่งิ มชี ีวติ ในสิ่งแวดล้อม

เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวัด

ว 1.1 ป.5/2 อธบิ ายความสมั พันธ์ระหว่างสิ่งมีชวี ิตกบั ส่ิงมีชีวติ และความสัมพันธ์ระหวา่ ง
ส่ิงมีชีวิตกบั ส่งิ ไมม่ ชี วี ติ เพือ่ ประโยชนต์ อ่ การดารงชวี ิต

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวติ กับส่ิงมีชวี ิตในแหล่งท่อี ยู่เดยี วกันได้ (K)
2. สารวจความสมั พนั ธร์ ะหว่างสิง่ มชี วี ติ กบั สง่ิ มีชีวิตในแหล่งที่อยู่เดยี วกนั ได้ (P)
3. มีความรบั ผดิ ชอบในการสง่ งานตรงเวลา (A)

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่

ในแหล่งท่ีอยู่หนึ่งๆ ส่ิงมีชีวิตจะมีความสมั พันธ์ พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

ซ่งึ กันและกัน เพอ่ื ประโยชนต์ ่อการดารงชีวิต

4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

สง่ิ มีชวี ิตจะมีความสัมพนั ธซ์ ่ึงกันและกนั เพือ่ ประโยชนต์ ่อการดารงชีวิต เช่น ความสมั พนั ธ์กันดา้ น
การกินกันเปน็ อาหาร เป็นแหลง่ ท่ีอย่อู าศัยและแหล่งหลบภัย

5. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ัย

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

2) ทกั ษะการสารวจค้นหา

3) ทกั ษะการรวบรวมขอ้ มลู

4) ทักษะการคดิ วิเคราะห์

5) ทักษะการทางานกลุ่ม

51

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สิ่งมีชีวิตกับสิง่ แวดลอ้ ม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพันธข์ องสิ่งมชี วี ิตกับส่ิงมชี วี ติ ในสง่ิ แวดล้อม

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชวั่ โมงท่ี 1

ข้ันนา

ขน้ั กระตนุ้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกบั นักเรยี น แลว้ แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ทจี่ ะเรยี นในวนั น้ีให้นักเรียนทราบ
2. ครูใหน้ ักเรียนเลน่ เกมเสอื กนิ ววั โดยขออาสาสมคั รนักเรยี นจานวน 10 คน เพือ่ ออกมาเลน่ เกม
3. ครูอธิบายวิธีการเล่นเกมเสือกินวัวนักเรียนฟัง จากน้ัน ให้เล่นเกมเสือกินวัวประมาณ 2 ครั้ง
โดยมวี ธิ กี ารเล่นเกม ดงั นี้

กติกาและวธิ ีการเล่นเกม
1) ครทู าสลากเพื่อกาหนดผู้ท่ีจะเลน่ เปน็ เสือ วัว และตน้ ไม้ โดยให้เสือมี 1 สลาก วัว 2
สลาก และตน้ ไม้ 7 สลาก จากนนั้ ให้อาสาสมัครนกั เรียนจบั สลากที่ทาไว้
2) ใหน้ ักเรยี นที่เปน็ ต้นไม้จับมอื เปน็ วงกลม และให้นกั เรียนทเ่ี ป็นวัวอย่ภู ายในวงกลม
3) ครูให้สญั ญาณเรมิ่ เกม นักเรียนที่เป็นเสือตอ้ งแตะตัววัวใหไ้ ด้ โดยพยายามเข้าไปใน
วงกลมของต้นไม้ วัวตอ้ งพยายามหนเี สือไม่ให้ถูกแตะได้ และตน้ ไมต้ ้องพยายามไม่ให้
เสือเข้ามาในวงกลม ในกรณที เี่ สือเขา้ มาแลว้ ตอ้ งพยายามไมใ่ ห้เสือออกจากวงกลมได้
4) ววั สามารถเข้าและออกจากวงกลมของตน้ ไม้ได้อย่างอิสระ
5) เกมจะสนิ้ สดุ ลงเมอ่ื วัวตัวใดตัวหนึ่งถกู เสือแตะครบ 2 คร้งั และวัวตัวดงั กล่าวตอ้ งมา
เป็นเสือแทน

4. ครูมอบรางวลั หรือของขวญั ใหก้ ับนักเรียนที่เป็นอาสาสมคั ร จากนน้ั ให้นักเรียนท่เี ปน็ อาสาสมัคร
กลบั ไปน่งั ประจาทขี่ องตน

52

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 สงิ่ มชี ีวติ กับสง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พนั ธ์ของสิ่งมชี ีวติ กบั สิ่งมีชีวติ ในสง่ิ แวดล้อม

5. ครูตั้งคาถามว่า นักเรียนได้ความรู้อะไรจากการเล่นเกมเสือกิน วัว โดยให้นักเรียน ช่วยกัน
ตอบคาถามอย่างอสิ ระ
(แนวตอบ เก่ียวกบั สงิ่ มชี ีวิต หรือความสมั พนั ธ์ของสิ่งมชี ีวติ กบั สิง่ มีชวี ิต)
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล)

6. ครูต้ังคาถามเพ่ิมเติมว่า นักเรียนคิดว่าวันน้เี ราจะเรียนเกี่ยวกับอะไร ให้นักเรียนช่วยกันระดม
ความคิด และครูสุ่มเลอื กนักเรียน 2-3 คน ในการสรุปแนวคิดจากนกั เรยี นทั้งหมด

ขั้นสอน

ขนั้ สารวจคน้ หา (Explore)
1. นักเรียนอ่านสาระสาคัญและดูภาพ ในหัวข้อ ความสัมพันธ์ในส่ิงแวดล้อม จากหนังสอื เรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 29 จากนน้ั ถามนกั เรยี นว่า นักเรียนรจู้ ักสิ่งมีชีวิตในภาพหรอื ไม่ และ
ส่ิงมีชีวติ ในภาพมีความสัมพนั ธ์กันอยา่ งไร แล้วใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ตอบคาถามอย่างอสิ ระ
(แนวตอบ ผึ้งกับดอกบัว มคี วามสัมพันธ์ด้านแหล่งอาหาร นกทารังบนต้นไม้ มคี วามสัมพันธ์
ดา้ นแหล่งทีอ่ ยู่อาศัย)
2. ครูถามคาถามสาคัญประจาบทวา่ สิ่งมชี วี ิตกับสงิ่ มชี วี ติ ในสิง่ แวดล้อมมีความสัมพันธ์กันอยา่ งไรบา้ ง
โดยครูอธิบายเพิ่มเติมและช่วยเสริมความรู้บางส่วนให้กับนักเรยี น โดยเชื่อมโยงกั บกิจกรรม
ข้ันกระตนุ้ ความสนใจท่ผี ่านมา และใหน้ กั เรียนบนั ทึกคาตอบลงในสมุดประจาตวั
(แนวตอบ ความสัมพันธ์ด้านแหล่งทอี่ ยู่อาศัย ที่หลบภัย และด้านแหล่งอาหาร)
3. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน โดยในกรณที ่ีต้องการกลุ่ม 4 คน ครูให้นักเรยี น
นับเลขตอ่ กัน เร่ิมจากเลข 1 ถึง 4 วนไปจนครบทุกคน และให้นักเรียนท่ีนบั เลขเดียวกนั อยู่กลุ่ม
เดียวกนั
4. เม่ือนักเรียนแบ่งกลุ่มเรียบร้อยแล้ว ครูทบทวนสาระสาคัญเกีย่ วกับความสัมพันธข์ องสิ่งมีชีวิตกับ
ส่ิงมชี ีวิตใหน้ กั เรยี นฟังอกี ครงั้

ชัว่ โมงที่ 2

ขั้นสารวจคน้ หา (Explore) (ตอ่ )
5. ครูเปิด PowerPoint เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวติ กับส่ิงมีชีวิตให้นักเรยี นดู จากน้ันถาม
คาถามกระตุ้นความคดิ โดยให้นกั เรียนแต่ละกลุม่ อภิปรายและหาคาตอบรว่ มกัน เช่น กวางกับเสือ
มีความสมั พนั ธก์ นั แบบใด พ่อนกกับลกู นกมีความสมั พนั ธก์ นั แบบใด
(แนวตอบ กวางกับเสอื มีความสมั พันธด์ ้านแหล่งอาหาร โดยกวางเปน็ แหลง่ อาหารของเสอื พ่อนก
กับลูกนกมีความสัมพันธ์ด้านการเลย้ี งดูลกู อ่อน เป็นต้น)

53

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ส่งิ มชี วี ิตกับส่งิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พนั ธ์ของสิง่ มีชีวิตกับสงิ่ มชี วี ติ ในสง่ิ แวดลอ้ ม

6. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิมที่ได้แบ่งไว้เม่ือช่วั โมงท่ีผ่านมา จากน้ันครูแจ้งว่าจะให้นักเรยี นได้ทา
กิจกรรมศึกษาความสัมพันธ์ของสง่ิ มชี ีวติ กับสง่ิ มีชีวิตในสิ่งแวดล้อมของกิจกรรมท่ี 2 เรื่อง ศกึ ษา
ความสัมพนั ธ์ในสิ่งแวดล้อม ตอนท่ี 1 จากหนังสอื เรียน หน้า 30 โดยครูแจ้งจุดประสงคข์ องการทา
กจิ กรรมใหน้ ักเรียนทราบก่อนทากิจกรรม

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันทากจิ กรรมที่ 2 เรื่อง ศึกษาความสัมพันธ์ในส่ิงแวดล้อม ตอนที่ 1
โดยปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดงั น้ี
1) ศึกษาขนั้ ตอนการทากิจกรรมจากหนังสือเรียน หน้า 30-31 อย่างละเอียด หากมีข้อ
สงสัยใหส้ อบถามครู
2) รว่ มกันกาหนดปัญหาและต้ังสมมติฐานในการทากจิ กรรม จากน้ันบันทึกผลลงในลงใน
สมุดประจาตวั หรอื แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
3) ร่วมกันทากจิ กรรมตามข้ันตอนให้ครบถ้วนและถูกต้องทกุ ข้ันตอน จากนัน้ บนั ทึกผลลงใน
ลงในสมดุ ประจาตัว หรอื แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ )

ขั้นอธบิ ายความรู้ (Explain)
1. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ร่วมกันอภิปรายและสรุปผลจากการทากจิ กรรมภายในกลุ่ม
2. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุม่ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มหน้าช้ันเรียน โดยครสู ุ่มจับสลาก
เลือกนกั เรยี นทีละกลมุ่
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น จากนั้นร่วมกนั อภิปรายและสรุปผลเกย่ี วกับ
ความสมั พนั ธข์ องสง่ิ มชี ีวติ กับส่ิงมีชวี ติ ในสิ่งแวดล้อม
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ )

ขัน้ ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ศึกษาขอ้ มลู เก่ียวกับ ความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมีชวี ิตกับส่งิ มีชีวิต
จากหนงั สอื เรียน หน้า 32-33
2. ครขู ออาสาสมคั รนักเรียนกล่มุ ละ 1 คน มาสรปุ เนอื้ หาที่ศึกษาให้เพอื่ นในห้องฟัง
3. ครูสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกบั ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวติ กบั สงิ่ มชี ีวิตให้นักเรยี นฟังอกี คร้ัง เพ่ือ
เสริมให้นกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจมากข้นึ
4. ครูใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมเสรมิ การเรยี นรู้ท่ี 1.1 จากใบงาน เรอ่ื ง ความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมชี วี ิตกับ
สิ่งมีชวี ิต และเมอื่ นักเรียนทาใบงานเสร็จแล้ว ครแู ละนักเรยี นรวมกันเฉลยคาตอบในใบงานนี้
5. ครูให้นักเรียนทากจิ กรรมเสริมการเรยี นรู้ท่ี 1.2 จากใบงาน เรือ่ ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งส่งิ มีชีวติ กับ
ส่ิงมีชวี ิตทบ่ี า้ นของฉัน โดยมอบหมายให้ทาเปน็ การบ้านและนามาสง่ ในชัว่ โมงถัดไป
(หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมนิ นกั เรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล)

54

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 สง่ิ มชี ีวติ กับสิ่งแวดล้อม
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พนั ธ์ของส่ิงมีชวี ติ กับสง่ิ มีชวี ติ ในสงิ่ แวดลอ้ ม

ขัน้ สรุป

ครูให้นักเรียนสรุปความรจู้ ากการเรยี นจนได้ข้อสรปุ ร่วมกนั ว่า สิ่งมีชีวิตจะมีความสมั พันธ์ซ่ึง
กันและกนั เพื่อประโยชน์ต่อการดารงชวี ิต โดยแบ่งความสัมพนั ธ์ออกเป็น 4 ดา้ น คอื ด้านแหลง่ ที่อยู่
อาศยั ด้านแหล่งอาหาร ดา้ นแหล่งสืบพนั ธแุ์ ละเล้ียงตวั อ่อน และดา้ นแหลง่ หลบภัย

ขัน้ ประเมิน

ข้นั ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
พฤติกรรมการทางานกล่มุ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชน้ั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรมที่ 2 เรื่อง ศึกษาความสัมพันธ์ในสิ่งแวดล้อม ตอนท่ี 1 ในสมุด
ประจาตวั หรอื ในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
3. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมในใบงาน เร่ือง ความสัมพันธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวิตกับสงิ่ มชี ีวิต และ
ใบงาน เร่อื ง ความสัมพันธร์ ะหว่างสงิ่ มีชวี ิตกบั สิ่งมีชีวิตทีบ่ า้ นของฉัน

7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

7.1 ประเมินระหว่าง - สมดุ ประจาตัว - ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
การจดั กิจกรรม - สมุดประจาตัว หรือ
แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ - ร้อยละ 60
การเรียนรู้ ป.5 เลม่ 1 ผ่านเกณฑ์
- ใบงาน เรือ่ ง
1) กิจกรรมนาสู่ - ตรวจสมดุ ประจาตัว ความสัมพันธร์ ะหว่าง - รอ้ ยละ 60
ส่ิงมีชวี ิตกับสิ่งมีชีวติ ผา่ นเกณฑ์
การเรยี น และใบงาน เรอ่ื ง
ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง
2) ผลบันทึกการทา - ตรวจสมุดประจาตัว หรือ สิง่ มชี ีวติ กับสง่ิ มีชีวิตท่ี
บ้านของฉัน
กจิ กรรมที่ 2 แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์

ตอนท่ี 1 ป.5 เลม่ 1

3) กิจกรรมเสรมิ การ - ใบงาน เรื่อง

เรยี นรู้ที่ 2.1 และ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง

2.2 ส่งิ มชี ีวติ กบั สง่ิ มีชวี ิต

และใบงาน เรือ่ ง

ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง

ส่งิ มชี ีวติ กับสง่ิ มชี วี ติ ท่ี

บ้านของฉัน

55

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 สง่ิ มีชีวิตกบั ส่ิงแวดล้อม
แผนฯ ที่ 2 ความสัมพนั ธ์ของสง่ิ มชี ีวติ กบั สิ่งมีชีวติ ในสง่ิ แวดล้อม

รายการวัด วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน
4) การนาเสนอผล - ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมินการ - ระดบั คุณภาพ 2
ผลการทากจิ กรรม นาเสนอผลงาน
การทากิจกรรม - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
5) พฤตกิ รรม การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล - ระดบั คณุ ภาพ 2

การทางาน - สงั เกตพฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
รายบคุ คล การทางานกลุม่
6) พฤติกรรม - สงั เกตความมีวนิ ัย - แบบสงั เกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทางานกลมุ่ ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ ม่นั การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
7) คณุ ลกั ษณะ ในการทางาน - แบบประเมิน
อันพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะ - ระดบั คณุ ภาพ 2
อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ส่ิงมชี วี ติ กับสิง่ แวดล้อม
2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 สง่ิ มีชวี ิตกับส่งิ แวดลอ้ ม
3) วสั ดุ-อุปกรณ์การทดลองในกจิ กรรมท่ี 2 เชน่ สไี ม้ แวน่ ขยาย
4) ใบงาน เรื่อง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งส่งิ มีชีวิตกับสิ่งมีชวี ิต
5) ใบงาน เร่ือง ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่ิงมีชวี ติ กบั สิ่งมชี วี ิตที่บา้ นฉัน
6) PowerPoint เรอ่ื ง ความสมั พันธร์ ะหว่างสง่ิ มีชีวติ กบั ส่งิ มชี วี ิต
7) สมุดประจาตวั นักเรียน

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อินเทอร์เน็ต

56

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สิง่ มชี ีวิตกับสง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพันธ์ของสง่ิ มีชีวติ กบั ส่งิ มีชีวติ ในสงิ่ แวดล้อม

ใบงาน

เรอ่ื ง ความสมั พันธร์ ะหว่างสงิ่ มีชีวติ กับสงิ่ มีชวี ติ

คาชแี้ จง ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1) สิ่งมีชวี ติ กบั สงิ่ มีชวี ติ มคี วามสมั พันธ์กันหรือไม่ เพือ่ อะไร

2) ภาพน้ี คอื
มีความสมั พันธก์ นั แบบใด อย่างไร

3) ภาพนี้ คือ
มคี วามสัมพันธก์ ันแบบใด อย่างไร

4) ภาพนี้ คอื
มีความสมั พันธ์กันแบบใด อยา่ งไร

57

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ส่งิ มชี วี ติ กับสง่ิ แวดลอ้ ม เฉลย
แผนฯ ที่ 2 ความสัมพันธข์ องส่งิ มชี วี ิตกับสิง่ มชี วี ติ ในสงิ่ แวดล้อม

ใบงาน

เร่ือง ความสมั พันธ์ระหว่างสิง่ มชี ีวิตกบั สิ่งมีชวี ิต

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1) สง่ิ มชี วี ิตกบั สง่ิ มีชีวิตมคี วามสัมพนั ธ์กนั หรือไม่ เพือ่ อะไร
มีความสมั พันธก์ นั เพือ่ ประโยชน์ในการดารงชวี ติ ของสิง่ มชี วี ิต

2) ภาพน้ี คือ แมวกบั หนู
มคี วามสัมพันธ์กันแบบใด อย่างไร
แบบแหลง่ อาหาร โดยหนเู ปน็ แหล่งอาหารให้แมว

3) ภาพนี้ คือ แม่และลูกหมีโคอาลา
มคี วามสัมพนั ธ์กนั แบบใด อย่างไร
แบบเลย้ี งดแู ลลกู ออ่ น โดยแม่หมีโคลาจะคอ่ ยใหอ้ าหารและ ’
ความอบอุ่น ตลอดจนการปกป้องจากอนั ตรายใหก้ บั ลกู หมี ”
จนกระท่ังลูกหมีโต

4) ภาพน้ี คือ ลงิ กบั ตน้ ไม้
มีความสมั พนั ธ์กนั แบบใด อย่างไร
แบบทอี่ ยอู่ าศยั และแหล่งอาหาร ลงิ จะอาศัยอยบู่ นต้นไม้ และ
ลิงยงั ใชต้ ้นไม้บางชนดิ เปน็ แหล่งอาหารอีกด้วย

58

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 สงิ่ มีชีวิตกบั ส่งิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 2 ความสมั พันธข์ องส่งิ มีชวี ิตกับสิง่ มชี ีวติ ในสงิ่ แวดล้อม

ใบงาน

เรื่อง ความสมั พันธ์ระหวา่ งสิ่งมีชวี ิตกบั ส่งิ มีชวี ติ ทบี่ า้ นฉัน

ใหน้ ักเรียนปฏิบัตกิ จิ กรรม ดังนี้

1) สารวจสิ่งมชี วี ติ ในบรเิ วณบา้ นของนกั เรยี น
2) ใหน้ ักเรยี นบนั ทึกชือ่ ของส่ิงมีชวี ิตทีส่ ารวจได้ลงในตารางท่ี 1
3) พิจารณาลกั ษณะความสัมพันธ์ของสงิ่ มชี ีวิตที่สารวจพบและจาแนกสิ่งมชี ีวติ ตามความสมั พนั ธ์
4) นาเสนอผลงานหน้าช้นั เรยี น
ตารางที่ 1 บนั ทึกช่อื สงิ่ มีชวี ติ ทสี่ ารวจพบบริเวณบ้าน

 ดา้ นแหล่งที่อยอู่ าศยั ได้แก่

 ด้านแหล่งอาหาร ไดแ้ ก่

 ด้านแหลง่ สืบพนั ธแ์ุ ละเลี้ยงดูตวั อ่อน ได้แก่

 ด้านแหลง่ หลบภยั ไดแ้ ก่

59

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 สง่ิ มชี วี ิตกบั สิง่ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 2 ความสัมพันธข์ องสิง่ มชี ีวติ กับส่ิงมีชวี ติ ในสง่ิ แวดล้อม

9. ความเหน็ ของผู้บริหารสถานศึกษาหรือผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงช่ือ .................................
( ................................ )

ตาแหนง่ .......

10. บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน

 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอ่ืน ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤติกรรมท่ีมปี ัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแก้ไข

60

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สิง่ มีชวี ติ กบั สิ่งแวดล้อม
แผนฯ ที่ 3 ความสมั พันธ์ของสงิ่ มชี ีวิตกับสงิ่ ไมม่ ชี วี ติ ในสง่ิ แวดลอ้ ม

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3

ความสัมพันธ์ของสง่ิ มีชวี ติ กับสง่ิ ไม่มีชวี ิตในสงิ่ แวดลอ้ ม

เวลา 2 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด

ว 1.1 ป.5/2 อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างสิง่ มีชีวิตกับสง่ิ มีชวี ติ และความสมั พนั ธร์ ะหว่าง
ส่ิงมีชีวติ กับสิง่ ไมม่ ีชีวิต เพื่อประโยชนต์ ่อการดารงชวี ติ

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิง่ มชี วี ิตกบั ส่ิงไม่มีชีวติ ในแหล่งท่ีอยู่ (K)
2. สารวจความสัมพนั ธร์ ะหว่างสง่ิ มีชวี ิตกับสิง่ ไม่มีชีวติ ในแหล่งทอ่ี ยู่ (P)
3. มคี วามรับผิดชอบในการสง่ งานตรงเวลา (A)

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถ่นิ

ในแหลง่ ทอี่ ยู่หนงึ่ ๆ ส่งิ มีชีวิตจะมีความสัมพันธ์กับ พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา

สิง่ ไมม่ ชี วี ติ เพอ่ื ประโยชนต์ อ่ การดารงชวี ติ

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

สิ่งมชี ีวิตจะมคี วามสมั พันธ์กับส่ิงไมม่ ชี ีวิตเพ่ือประโยชน์ตอ่ การดารงชีวิต เชน่ อากาศที่ใช้ในการหายใจ
ใช้ดนิ และหนิ เป็นท่อี ยู่อาศยั หรอื แหลง่ หลบภัย

5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ัย

2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

2) ทกั ษะการเชือ่ มโยง

3) ทกั ษะการรวบรวมข้อมลู

4) ทักษะการทางานกลุ่ม

61

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 สิง่ มีชีวิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
แผนฯ ที่ 3 ความสมั พนั ธ์ของส่ิงมีชวี ิตกบั สิ่งไมม่ ชี วี ิตในสง่ิ แวดลอ้ ม

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชัว่ โมงที่ 1

ข้นั นา

ขั้นกระตุน้ ความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกับนกั เรยี น แล้วแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ที่จะเรียนในวนั นี้ใหน้ ักเรียนทราบ
2. ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนก่อนที่จะเรยี นในวันน้ี โดยการเล่นเกม บก นา้ ดนิ ซึ่งเปน็ เกมที่
แสดงใหเ้ ห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมชี ีวติ กับส่งิ ไมม่ ีชวี ิตในส่ิงแวดลอ้ ม ซ่ึงคาส่งั ของเกมจะระบุ
แหลง่ ทอ่ี ยู่อาศยั และผู้เล่นต้องตอบสตั วท์ อ่ี ยู่ในแหล่งอาศยั ทร่ี ะบุมา
3. ครูอธิบายวิธีการเล่นเกมบก น้า ดิน ให้นักเรยี นฟัง จากน้ันให้เล่นเกม บก น้า ดิน ประมาณ
4-5 ครง้ั โดยมวี ิธีการเล่นเกม ดงั น้ี

วิธีการเลน่ เกม
1) ครใู หน้ ักเรียนนั่งเปน็ วงกลม แล้วรอ้ งว่า บก นา้ ดิน พร้อมทง้ั ปรบมือเป็นจังหวะไป
เร่อื ย ๆ
2) ครูชนี้ ิว้ ไปที่นักเรียนหนึง่ คน จากนนั้ ใหน้ กั เรียนหยดุ รอ้ งเพลง
3) ครูกาหนดแหล่งที่อยู่อาศัย 1 แหล่ง เช่น บก ซึ่งนักเรียนที่ถูกช้จี ะต้องบอกช่ือสัตว์ที่
อาศัยอยู่ในแหลง่ อาศัยที่ครูกาหนดมา 1 ชนิด
4) หากนักเรียนตอบช้า หรือตอบผิด ให้แยกนักเรียนคนนั้นออกมา เล่นเกมวนไป
ประมาณ 4-5 ครัง้ สาหรบั นักเรียนที่ตอบชา้ หรอื ตอบผิดจะถกู ลงโทษดว้ ยวิธตี ่างๆ
ได้แก่ เต้นตามเพลง หรอื อื่น ๆ ตามความเหมาะสม

4. ครูแจกลกู แกว้ ทมี่ ีสีต่างกันให้กับนักเรียนทกุ คนคนละ 1 ลกู (การกาหนดจานวนสขี องลูกแก้วข้ึนอยู่
กบั จานวนนกั เรียนและจานวนกลมุ่ ทีต่ ้องการ เช่น มนี กั เรียนท้ังหมด 20 คน ตอ้ งการแบง่ นักเรยี น
เป็น 5 กลมุ่ กต็ อ้ งกาหนดสีลกู แก้วไว้ 5 สี สลี ะ 4 ลูก) จากน้นั ใหน้ ักเรียนกลบั ไปน่ังประจาที่ของตน

62

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ส่งิ มชี วี ติ กับส่งิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 3 ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมชี วี ติ กับสิ่งไมม่ ีชวี ิตในส่งิ แวดล้อม

5. ครตู ั้งคาถามวา่ ตอนท่ีเลน่ เกม บก น้า ดิน เราได้พดู ถึงส่ิงมชี ีวติ อะไรบ้าง และสงิ่ ไม่มีชีวิตอะไรบ้าง
โดยให้นักเรยี นช่วยกนั ตอบคาถามอยา่ งอิสระ
(แนวตอบ ส่งิ ทีไ่ ม่มชี ีวติ ในเกมมีอยู่ 3 สิ่ง คือ บก น้ำ และดิน สำ้ หรับสง่ิ ท่มี ีชีวิต เช่น แมว ปลำ
ไส้เดือน)

6. ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรปุ วา่ วนั น้จี ะเรียนเกี่ยวกบั ความสมั พันธร์ ะหว่างสิ่งมีชีวติ กบั สิ่งไมม่ ีชีวิต
และครูกล่าวคาชมเชยนกั เรยี นทั้งห้องทช่ี ่วยกันทากิจกรรม
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมกำรท้ำงำนรำยบคุ คล)

ขั้นสอน

ขั้นสารวจคน้ หา (Explore)
1. ครูแบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 3-4 คน โดยแบ่งตามสขี องลูกแกว้ ทไี่ ด้แจกไป นักเรียนท่ี
ไดล้ กู แกว้ สีเหมือนกนั ใหอ้ ยู่ด้วยกนั
2. ครูให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มสนทนาแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ในหวั ข้อ สิ่งมชี ีวิตและส่ิงไม่มีชีวติ ทบ่ี ้านของฉัน
บนั ทึกขอ้ มูลลงในสมุดประจาตวั
3. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสรุปและอภิปรายข้อมูลจากกิจกรรมแลกเปล่ียนเรียนรู้ในหัวข้อ สิ่งมีชีวิต
และสงิ่ ไมม่ ีชวี ิตทีบ่ า้ นของฉัน

ช่ัวโมงท่ี 2

ขั้นสารวจคน้ หา (Explore) (ตอ่ )
4. ครูใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการศกึ ษาจากกจิ กรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อ ส่งิ มีชวี ติ และ
สง่ิ ไม่มีชีวิตทบี่ ้านของฉนั จากนั้นให้ครูตั้งคาถามเพอื่ กระตุ้นความคดิ โดยให้นกั เรียนแต่ละกลุ่ม
อภปิ รายและหาคาตอบร่วมกนั ว่า สิ่งมชี วี ิตและสิ่งไม่มชี ีวิตในส่ิงแวดล้อมมีความสัมพันธ์กันหรอื ไม่
อยา่ งไร
(แนวตอบ มคี วำมสัมพันธ์กัน โดยส่งิ มีชีวติ จะต้องอำศยั ส่งิ ไม่มชี ีวติ ในส่งิ แวดล้อม เพอื่ กำรดำ้ รงชีวิต
ในด้ำนแหลง่ ที่อยู่อำศยั แหล่งหลบภยั และเป็นปจั จัยท่สี ง่ ผลใหเ้ กดิ กำรเปล่ียนแปล งโครงสร้ำงของ
สงิ่ มชี ีวติ )
5. ครูขออาสาสมัครนกั เรียน 2 คน เพ่ือสรุปผลการอภิปรายเก่ียวกับความสัมพนั ธ์ของส่ิงมีชีวติ กับ
สิ่งไม่มชี ีวิตในสงิ่ แวดล้อม จากน้ันครูกล่าวขอบคุณอาสาสมัครนกั เรยี น

63

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 สิ่งมีชีวิตกับสงิ่ แวดล้อม
แผนฯ ที่ 3 ความสมั พันธข์ องสงิ่ มชี ีวิตกบั สิ่งไมม่ ชี วี ิตในสิ่งแวดลอ้ ม

6. ครูแจ้งว่าจะให้นักเรียนได้ทากิจกรรมศึกษาความสัมพันธข์ องส่ิงมชี ีวิตกับส่ิงไม่มีชวี ิตในสิ่งแวดล้อม
ของกิจกรรมท่ี 2 เร่ือง ศึกษาความสัมพันธใ์ นสิ่งแวดล้อม ตอนท่ี 2 จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์
ป.5 เลม่ 1 หนา้ 31 โดยครูแจง้ จดุ ประสงค์ของการทากจิ กรรมใหน้ กั เรียนทราบก่อนทากิจกรรม

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันทากจิ กรรมท่ี 2 เร่ือง ศึกษาความสัมพันธ์ในสิ่งแวดล้อม ตอนที่ 2
โดยปฏิบัติกิจกรรม ดงั นี้
1) ศึกษาขนั้ ตอนการทากจิ กรรมจากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์ หน้า 31 อยา่ งละเอียด หาก
มขี ้อสงสัยใหส้ อบถามครู
2) ร่วมกนั กาหนดปัญหาและตงั้ สมมตฐิ านในการทากจิ กรรม จากน้ันบันทึกผลลงในลงใน
สมดุ ประจาตวั หรอื แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
3) รว่ มกนั ทากิจกรรมตามขัน้ ตอนใหค้ รบถ้วนและถูกตอ้ งทุกข้ันตอน จากนนั้ บันทึกผลลงใน
ลงในสมุดประจาตวั หรือแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1
4) นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภปิ รายและสรุปผลจากการทากิจกรรมภายในกลุ่ม
(หมำยเหตุ : ครเู ร่ิมประเมนิ นักเรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรทำ้ งำนกลุ่ม)

ขั้นอธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ใหน้ ักเรียนแต่ละกล่มุ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มหน้าชน้ั เรียน โดยครูสุ่มจับสลาก
เลือกนกั เรยี นทีละกลุ่ม
2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน จากนั้นรว่ มกนั อภิปรายและสรุปผลเกี่ยวกับ
ความสมั พันธ์ของสิง่ มีชวี ิตกบั ส่ิงไม่มชี ีวิตในส่ิงแวดล้อม
(หมำยเหตุ : ครเู ริม่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมกำรทำ้ งำนกลมุ่ )

ขั้นขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกันศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมชี ีวติ กบั สง่ิ ไม่มีชวี ิต
จากหนงั สือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ หนา้ 33-34
2. ครูขออาสามาสมคั รนกั เรียน 3 คน ใหย้ กตวั อยา่ งสง่ิ มชี ีวิตกับส่ิงไม่มชี ีวิตในส่ิงแวดล้อมทีม่ ี
ความสมั พนั ธก์ ันในด้านตา่ ง ๆ ดังนี้
 คนท่ี 1 ให้ยกตัวอย่างสิ่งมชี ีวิตและส่ิงไมม่ ีชีวิตท่ีมีความสัมพันธก์ นั ในดา้ นแหล่งที่อยอู่ าศัย
2 ตวั อย่าง
 คนที่ 2 ใหย้ กตวั อยา่ งสิ่งมีชีวติ และสิ่งไม่มีชวี ิตท่ีมคี วามสัมพันธก์ ันในด้านแหลง่ หลบภัย 2
ตวั อย่าง
 คนท่ี 3 ให้ยกตัวอย่างส่ิงมีชีวิตและส่ิงไม่มีชีวิตที่มีความสัมพัน ธ์กัน ในด้าน การปรับ
โครงสร้างและลักษณะของสงิ่ มีชวี ติ 2 ตวั อยา่ ง

64

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ส่งิ มชี วี ติ กับสงิ่ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 3 ความสมั พันธ์ของส่งิ มีชวี ติ กบั ส่ิงไมม่ ชี วี ติ ในส่งิ แวดลอ้ ม

3. ครูสรุปสาระสาคัญเกี่ยวกบั ความสัมพันธ์ระหวา่ งสิ่งมีชีวิตกับสิ่งไม่มีชวี ิตให้นักเรียนฟังอีกครั้ง
เพื่อเสริมใหน้ กั เรียนมีความเขา้ ใจมากข้ึน

4. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมสง่ เสริมการเรียนรู้ที่ 2.3 จากใบงาน เร่ือง ความสัมพันธร์ ะหว่างส่ิงมีชีวิต
กับสง่ิ ไมม่ ชี ีวติ ในท้องถิน่ ของเรา โดยมอบหมายใหท้ าเปน็ การบ้านและนามาส่งในช่ัวโมงถัดไป
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมกำรท้ำงำนรำยบคุ คล)

ขั้นสรุป

ครูให้นักเรียนสรปุ ความรู้จากการเรยี นจนได้ข้อสรุปร่วมกนั ว่า สิ่งมชี วี ิตจะมคี วำมสัมพนั ธก์ ับ
ส่งิ ไมม่ ีชวี ิตเพื่อประโยชน์ตอ่ กำรด้ำรงชวี ิต ในด้ำนแหล่งท่อี ยูอ่ ำศัย แหล่งหลบภัย และเป็นปัจจัยท่ี
สง่ ผลให้เกิดกำรเปล่ยี นแปลงโครงสร้ำงของสิง่ มีชีวิต

ข้นั ประเมิน

ข้นั ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผลนักเรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤติกรรมการทางานรายบุคคล
พฤติกรรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหนา้ ช้นั เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมที่ 2 เร่ือง ศกึ ษาความสมั พันธใ์ นส่ิงแวดล้อม ตอนท่ี 2 ในสมุด
ประจาตวั หรือในแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
3. ครตู รวจสอบผลการทาใบงาน เร่อื ง ความสัมพนั ธ์ระหว่างส่ิงมชี ีวติ กับส่ิงไม่มชี ีวิตในทอ้ งถ่ินของเรา

7. การวดั และประเมินผล

รายการวดั วิธีการ เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง - สมุดประจาตัว - รอ้ ยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
การจดั กจิ กรรม - สมุดประจาตัว หรอื
แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ - รอ้ ยละ 60
การเรยี นรู้ ป.5 เลม่ 1 ผา่ นเกณฑ์
- ใบงาน เรื่อง
1) กิจกรรมนาสู่ - ตรวจสมุดประจาตัว ความสมั พันธร์ ะหวา่ ง - ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
การเรยี น

2) ผลบนั ทกึ การทา - ตรวจสมดุ ประจาตวั หรอื

กจิ กรรมท่ี 2 แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์

ตอนท่ี 2 ป.5 เล่ม 1

3) กิจกรรมส่งเสริมการ - ตรวจใบงาน เรือ่ ง

เรียนรู้ท่ี 2.3 ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ ง

65

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 สง่ิ มีชวี ติ กบั ส่ิงแวดล้อม
แผนฯ ที่ 3 ความสัมพันธ์ของสิง่ มีชวี ติ กับส่งิ ไมม่ ีชีวติ ในสิ่งแวดล้อม

รายการวดั วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมิน
ส่ิงมชี วี ติ กับส่งิ ไมม่ ชี ีวติ สิง่ มชี ีวติ กบั ส่ิงไมม่ ีชีวติ
4) การนาเสนอผล ในท้องถน่ิ ของเรา ในท้องถ่ินของเรา - ระดบั คุณภาพ 2
การทากิจกรรม - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ การ ผา่ นเกณฑ์
ผลการทากิจกรรม นาเสนอผลงาน
5) พฤติกรรม - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
การทางาน การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล
- สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดับคุณภาพ 2
6) พฤติกรรม การทางานกลุม่ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
การทางานกลมุ่ - สงั เกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ
ใฝเ่ รยี นรู้ และม่งุ มน่ั คุณลกั ษณะ - ระดบั คณุ ภาพ 2
7) คณุ ลกั ษณะ ในการทางาน อันพงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
อนั พึงประสงค์

8. ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 สงิ่ มีชวี ติ กับสิง่ แวดลอ้ ม
2) แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สง่ิ มีชวี ิตกับสง่ิ แวดล้อม
3) วสั ดุ-อุปกรณก์ ารทดลองในกจิ กรรมที่ 2 เช่น สีไม้ แว่นขยาย
4) ใบงาน เร่ือง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างส่ิงมีชวี ิตกบั สิง่ ไม่มีชีวิตในทอ้ งถ่ินของเรา
5) ลกู แกว้ สีต่าง ๆ
6) สมุดประจาตวั นกั เรียน

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอรเ์ น็ต

66

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 สิง่ มชี วี ติ กบั สิง่ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 3 ความสมั พันธ์ของสง่ิ มชี วี ติ กบั ส่ิงไมม่ ีชีวติ ในสิ่งแวดลอ้ ม

ใบงาน

เรอ่ื ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสิ่งมีชวี ติ กับส่งิ ไมม่ ชี ีวติ ในท้องถิ่นของเรา

ใหน้ ักเรยี นปฏิบัติกจิ กรรม ดังนี้

1) สารวจส่ิงมีชวี ติ และสงิ่ ไม่มีชีวิตในชมุ ชนของนักเรียน
2) ให้นักเรียนบันทกึ ช่อื ของสงิ่ มชี วี ิตและสิ่งไม่มีชีวิตที่สารวจได้ลงในตารางท่ี 1
3) พจิ ารณาลกั ษณะความสัมพันธ์ของขอ้ มูลทีส่ ารวจพบและจาแนกความสมั พนั ธ์ของสง่ิ มีชีวิตกับ

สิ่งไม่มีชวี ิต
4) นาเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน
ตารางท่ี 1 บนั ทึกชื่อสิ่งมีชีวติ และส่งิ ไมม่ ชี ีวิตท่สี ารวจพบบริเวณบา้ น

 ดา้ นแหลง่ ท่ีอย่อู าศัย/แหลง่ หลบภัย ได้แก่

 ด้านแหล่งอาหาร ไดแ้ ก่

 ด้านการปรบั โครงสร้างและพฤตกิ รรมของส่งิ มชี ีวติ ไดแ้ ก่

67

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ส่งิ มีชีวติ กบั สิง่ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 3 ความสัมพันธ์ของสิง่ มชี ีวิตกบั สง่ิ ไมม่ ีชีวติ ในสง่ิ แวดลอ้ ม

9. ความเห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษาหรอื ผ้ทู ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่ือ .................................
( ................................ )

ตาแหน่ง .......

10. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ด้านความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

 ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมท่ีมีปัญหาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

68

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 สงิ่ มชี ีวติ กับสิ่งแวดล้อม
แผนฯ ท่ี 4 โซ่อาหาร

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4

โซ่อาหาร

เวลา 3 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชวี้ ดั

ว 1.1 ป.5/3 เขียนโซอ่ าหารและระบุบทบาทหน้าทข่ี องสิ่งมีชวี ิตทเี่ ป็นผผู้ ลติ และผู้บรโิ ภคในโซ่
อาหาร

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความสมั พันธข์ องสิ่งมชี ีวติ กบั ส่งิ มชี ีวิตในรูปแบบโซ่อาหารและสายใยอาหารได้ (K)
2. เขียนโซอ่ าหารในรปู แบบแผนภาพได้ (P)
3. แสดงความสนใจ และมคี วามกระตือรือรน้ ในการสบื คน้ ข้อมลู (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น

ส่ิงมีชวี ิตมีการกินกันเป็นอาหาร โดยกนิ ต่อกัน พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา

เปน็ ทอดๆ ในรปู แบบของโซอ่ าหาร ทาใหส้ ามารถระบุ

บทบาทหน้าท่ขี องสิ่งมีชีวิตเปน็ ผู้ผลิตและผบู้ ริโภค

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

สง่ิ มีชีวิตต่าง ๆ ต้องการพลงั งานเพื่อการดารงชีวิต และการทากิจกรรมต่าง ๆ ซ่ึงพลังงานนี้ส่งิ มีชวี ิต
จะได้จากการกินอาหาร โดยในแต่ละแหลง่ ท่ีอยู่สิ่งมีชีวติ ต่าง ๆ ทีอ่ าศยั อยู่รวมกันจะมีความเก่ียวข้อง
สัมพันธก์ ันในด้านการกนิ อาหาร และมีการถ่ายทอดพลงั งานตอ่ กันเป็นทอด ๆ ในรูปแบบของโซ่อาหาร

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี นิ ัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้

1) ทกั ษะการสังเกต 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

2) ทกั ษะการสารวจคน้ หา

4) ทกั ษะการสรุปอ้างอิง

69

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 สิง่ มีชวี ิตกับสงิ่ แวดลอ้ ม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 4 โซอ่ าหาร

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
5) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ช่วั โมงท่ี 1

ข้นั นา

ข้นั กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูทักทายกับนักเรยี น แล้วแจง้ ผลการเรยี นรู้ทจี่ ะเรียนในวนั นี้ใหน้ ักเรียนทราบ
2. ครกู ระตนุ้ ความสนใจของนกั เรยี นกอ่ นท่ีจะเรยี นในวนั นี้ โดยการตง้ั คาถามเพอ่ื กระต้นุ ความคิด
ใหก้ ับนกั เรียนเกี่ยวกบั การกินอาหารของสัตว์ เชน่
1) กระต่ายกินอะไร เป็นอาหาร
(แนวตอบ กินหญา้ หรือ ผัก)
2) ถวั่ หนู และแมว ใครกนิ ใคร
(แนวตอบ หนูกนิ ถัว่ เปน็ อาหาร และแมวกินหนูเป็นอาหาร)
3. ครูอธิบายเพ่ิมเติมว่า การท่ีสิ่งมีชวี ิตหนึง่ กนิ ส่ิงมชี ีวิตหนง่ึ เปน็ อาหาร โดยมีการกนิ ตอ่ ไปเป็นทอด ๆ
น้ีเรยี กว่า โซอ่ าหาร
4. ครตู งั้ คาถามเพ่มิ เตมิ วา่ เราสามารถพบเห็นโซ่อาหารได้ทีไ่ หนบา้ ง และให้นักเรียนยกตวั อยา่ งหว่ งโซ่
อาหารมา 1 ตวั อยา่ ง แลว้ บันทึกความรู้ท่ไี ด้ลงในสมดุ ประจาตัว
5. ครูขออาสาสมัครนักเรยี นประมาณ 2–3 คนในการตอบคาถาม เม่ือนกั เรียนตอบคาถามเรยี บรอ้ ย
จากน้นั ครสู รุปความรู้วา่ เราสามารถพบโซอ่ าหารได้ทกุ ทที ี่มีสิ่งมีชวี ิตอาศัยอยู่รว่ มกนั ตัวอย่างเช่น
ในแปลงผักท่บี ้านของเรา หนอนจะกนิ ผกั หลงั จากนัน้ นกจะกนิ หนอนอีกตอ่ หน่งึ
(หมายเหตุ: ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)

70

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 สิ่งมชี ีวิตกบั ส่งิ แวดล้อม
แผนฯ ที่ 4 โซ่อาหาร

ขัน้ สอน

ข้นั สารวจคน้ หา (Explore)
1. นกั เรียนอา่ นสาระสาคญั และดูภาพในหัวขอ้ การถา่ ยทอดพลงั งานของสิ่งมชี ีวติ จากหนงั สือเรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนา้ 35 จากนนั้ ถามนกั เรยี นแลว้ ให้นักเรียนช่วยกันอธิบายคาตอบ ดังน้ี
1) การถา่ ยทอดพลังงานของส่ิงมชี ีวติ ในสิง่ แวดล้อมเกดิ ขึน้ จากอะไร
(แนวตอบ เกดิ ข้ึนจากการกินกนั ของสิ่งมีชวี ติ ในรปู แบบของโซ่อาหาร)
2) องคป์ ระกอบของโซอ่ าหารมีอะไรบ้าง จากน้นั ให้นกั เรียนชว่ ยกันอธิบายคาตอบ
(แนวตอบ องคป์ ระกอบของห่วงโซ่อาหาร คอื ผู้ผลิต และผบู้ รโิ ภค)
2. ครใู ห้นักเรียนดูภาพจากหนังสือเรยี น หน้า 35 และใหน้ ักเรียนจาแนกสิง่ มีชวี ติ ในภาพออกเปน็ 2
กล่มุ ตามองค์ประกอบของโซอ่ าหาร คือ กลมุ่ ผู้ผลิต และกลมุ่ ผ้บู ริโภค ลงในสมุดประจาตัว
(แนวตอบ กลุ่มผู้ผลิต ได้แก่ ใบพืช ใบหม่อน และไผ่ สาหรับกลุ่มผู้บริโภคได้แก่ กระต่าย
หนอนไหม หมีแพนด้า ต่นุ ปากเปด็ )

ช่วั โมงที่ 2

ข้ันสารวจคน้ หา (Explore) (ต่อ)
3. ครูเปิด PowerPoint เร่ือง โซ่อาหาร ให้นักเรียนดู จากนั้นถามคาถามกระตุ้นความคิดโดยให้
นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ อภิปรายและหาคาตอบรว่ มกนั เชน่ โซอ่ าหารมคี วามสาคญั ตอ่ ส่งิ มชี ีวติ อย่างไร
(แนวตอบ โซ่อาหารมีความจาเป็นต่อส่ิงมีชีวติ เพราะว่า โซ่อาหารจะทาให้เกิดการถ่ายทอด
พลังงานจากส่ิงมีชีวิตหนึ่งไปยงั อกี สิง่ มีชีวิตหน่ึง จงึ ทาให้ส่งิ มชี ีวติ มีพลังงานที่ใช้ในการดารงชีวิต
ต่อไป)
4. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มเดิมที่ได้แบง่ ไว้เม่ือช่ัวโมงท่ีผ่านมา จากน้ันครูแจ้งว่าจะให้นักเรยี นได้ทา
กจิ กรรมโซอ่ าหารในกิจกรรมท่ี 3 เรือ่ ง โซ่อาหารในสิ่งแวดล้อม ตอนที่ 1-2 จากหนังสอื เรียน
หนา้ 36-37 โดยครูแจง้ จดุ ประสงคข์ องการทากิจกรรมให้นักเรยี นทราบก่อนทากจิ กรรม
5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันทากิจกรรมที่ 3 เรื่อง โซ่อาหารในสิ่งแวดล้อม ตอนที่ 1-2 โดยปฏิบัติ
กจิ กรรม ดังนี้
1) ศกึ ษาข้นั ตอนการทากิจกรรมจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ หน้า 36-37 อย่างละเอียด
หากมีขอ้ สงสยั ให้สอบถามครู
2) ร่วมกนั กาหนดปัญหาและตั้งสมมติฐานในการทากจิ กรรม จากนั้นบันทึกผลลงในลงใน
สมุดประจาตัว หรอื แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1

71

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ส่งิ มีชวี ติ กบั ส่งิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 4 โซอ่ าหาร

3) รว่ มกนั ทากิจกรรมตามขน้ั ตอนให้ครบถ้วนและถูกต้องทุกขั้นตอน จากน้นั บันทึกผลลงใน
ลงในสมดุ ประจาตัว หรือแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1

(หมายเหตุ : ครเู ริม่ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ )

ข้นั อธิบายความรู้ (Explain)
1. นักเรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกันอภิปรายและสรุปผลจากการทากจิ กรรมภายในกลุ่ม
2. ให้นักเรียนแต่ละกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มหน้าชน้ั เรยี น โดยครูสุ่มจับสลาก
เลือกนักเรยี นทีละกลุ่ม
3. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหน้าช้นั เรียน จากน้ันรว่ มกนั อภิปรายและสรุปผลเก่ยี วกับ
โซอ่ าหารในสิง่ แวดลอ้ ม
(หมายเหตุ : ครเู รมิ่ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม)

ชั่วโมงท่ี 3

ข้นั ขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันศึกษาข้อมลู เกย่ี วการถ่ายทอดพลงั งานของสิ่งมีชีวติ ในรปู แบบโซ่อาหาร
จากหนังสือเรียน หนา้ 38-40 แล้วครูสุ่มเลือกตวั แทนกลุม่ ให้สรปุ เนอ้ื หาท่ศี ึกษาใหเ้ พอื่ นในหอ้ งฟงั
2. ครูขออาสามาสมัครนักเรยี น 2-3 คน เพื่อออกมายกตัวอย่างโซ่อาหารที่พบในบริเวณบ้านของ
อาสาสมัครนกั เรยี น
3. นักเรยี นแต่ละคนทากิจกรรมหนตู อบได้จากหนังสือเรยี น หน้า 37 ลงในสมุดประจาตัว หรือใน
แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
4. นกั เรียนแตล่ ะคนนากจิ กรรมพัฒนาการเรียนรูท้ ี่ 2 จากหนังสือเรยี น หนา้ 39 ไปทาเป็นการบ้าน
โดยให้ทาลงในสมดุ ประจาตวั แล้วนามาสง่ ในช่วั โมงถัดไป
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมินนกั เรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)

ขั้นสรปุ

ครูให้นักเรียนสรปุ ความรู้จากการเรียนจนไดข้ ้อสรุปรว่ มกนั ว่า โซ่อาหารมคี วามสาคัญอย่าง
มากตอ่ สิ่งมีชีวิต เพราะว่าโซ่อาหารทาให้เกิดการถ่ายทอดพลังงานท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิตของ
สง่ิ มชี วี ิตจากสงิ่ มีชวี ติ หน่ึงไปอีกสิ่งมีชวี ิตหน่งึ

72

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 สิ่งมชี วี ติ กับสง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ที่ 4 โซอ่ าหาร

ขน้ั ประเมนิ

ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผลนักเรยี น โดยการสงั เกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
พฤติกรรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าชนั้ เรียน
2. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมท่ี 3 เร่ือง โซ่อาหารในสง่ิ แวดล้อม ในสมุดประจาตวั หรือใน
แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
3. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมหนูตอบได้ในสมดุ ประจาตัว หรือในแบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5
เลม่ 1
4. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ท่ี 2 ในสมดุ ประจาตวั

7. การวัดและประเมนิ ผล

รายการวัด วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 ประเมนิ ระหวา่ ง - สมดุ ประจาตัว หรอื - รอ้ ยละ 60
แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ผ่านเกณฑ์
การจัดกจิ กรรม ป.5 เล่ม 1
- สมดุ ประจาตัว - ร้อยละ 60
การเรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
- สมุดประจาตัว หรอื - ร้อยละ 60
1) ผลบนั ทกึ การทา - ตรวจสมุดประจาตวั หรือ แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
ป.5 เลม่ 1
กิจกรรมที่ 3 แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2
นาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ป.5 เล่ม 1 - แบบสังเกตพฤตกิ รรม
การทางานรายบคุ คล - ระดับคุณภาพ 2
2) กจิ กรรมพัฒนาการ - ตรวจสมดุ ประจาตัว ผ่านเกณฑ์
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
เรยี นร้ทู ่ี 2 การทางานกลมุ่ - ระดับคณุ ภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
3) กิจกรรมหนูตอบได้ - ตรวจสมุดประจาตัว หรือ

แบบฝกึ หดั วิทยาศาสตร์

ป.5 เลม่ 1

4) การนาเสนอผล - ประเมินการนาเสนอ

การทากิจกรรม ผลการทากิจกรรม

5) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤติกรรม

การทางาน การทางานรายบุคคล

รายบุคคล

6) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม

การทางานกล่มุ การทางานกลุม่

73

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 สง่ิ มีชีวิตกับส่งิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 4 โซ่อาหาร

รายการวดั วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์การประเมนิ
7) คุณลักษณะ - สงั เกตความมวี นิ ัย - แบบประเมนิ - ระดับคณุ ภาพ 2
ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั คุณลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์ ในการทางาน อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 สิง่ มีชีวิตกบั ส่ิงแวดลอ้ ม
2) แบบฝึกหดั วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ส่ิงมีชวี ติ กับสิ่งแวดล้อม
3) วัสดุ-อุปกรณ์การทดลองในกิจกรรมท่ี 3 เช่น สีไม้ แวน่ ขยาย กระดาษแขง็
4) PowerPoint เรื่อง โซ่อาหาร
5) สมดุ ประจาตัวนกั เรียน

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรยี น
2) ห้องสมุด
3) อนิ เทอร์เนต็

74

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 ส่งิ มชี วี ติ กับส่งิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ที่ 4 โซอ่ าหาร

9. ความเห็นของผู้บรหิ ารสถานศึกษาหรือผทู้ ่ีไดร้ ับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงช่ือ .................................
( ................................ )

ตาแหน่ง .......

10. บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ดา้ นอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมที่มีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแก้ไข

75

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สง่ิ มชี ีวติ กับส่ิงแวดล้อม
แผนฯ ที่ 5 การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5

การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม

เวลา 2 ชัว่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั

ว 1.1 ป.5/4 ตระหนักในคุณค่าของสิ่งแวดล้อมทมี่ ีต่อการดารงชวี ิตของสง่ิ มีชีวิต โดยมสี ่วนร่วม
ในการดูแลรกั ษาส่งิ แวดล้อม

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายการดูแลรักษาส่งิ แวดลอ้ มได้ (K)
2. มสี ่วนร่วมในการดูแลรักษาสงิ่ แวดล้อม (P)
3. ตระหนกั ในคุณคา่ ของส่งิ แวดลอ้ มท่ีมีตอ่ การดารงชีวติ ของส่งิ แวดล้อม (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่นิ

ตระหนักใน คุณค่าของส่ิงแวดล้อมที่มีต่อกา ร พจิ ารณาตามหลกั สตู รของสถานศกึ ษา

ดารงชีวติ ของส่งิ มชี วี ิต โดยมีส่วนร่วมในการดูแลรักษา

สง่ิ แวดล้อม

4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

สงิ่ มีชีวติ และสิ่งแวดล้อมในธรรมชาติล้วนมีความเก่ียวข้องสมั พันธ์กนั จึงทาใหเ้ กิดความสมดุลของ
ธรรมชาติ เม่ือมนุษย์ทาลายส่งิ แวดลอ้ มจึงก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดลอ้ ม ดงั น้ัน จึงควรมี
การรกั ษาสิ่งแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาตดิ ว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ เพื่อใหธ้ รรมชาตเิ กดิ ความสมดุล

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รยี นรู้

1) ทักษะการสงั เกต 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน

2) ทกั ษะการสารวจค้นหา

3) ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู

76

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 สิง่ มชี วี ติ กบั สิ่งแวดลอ้ ม คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 5 การดแู ลรักษาส่งิ แวดล้อม

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
4) ทักษะการจาแนกประเภท
5) ทักษะการเปรยี บเทยี บ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รปู แบบการสอน/วิธีการสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูทักทายกับนกั เรยี น แลว้ แจง้ ผลการเรยี นรู้ทจ่ี ะเรียนในวนั น้ีใหน้ ักเรียนทราบ
2. ครูกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนกอ่ นทีจ่ ะเรียนในวนั น้ี โดยการเปิดวดี ิทัศน์ เรอ่ื ง ภัยพบิ ตั ิทาง
ธรรมชาติ ความยาวไม่เกนิ 8 นาที จากน้ันครูถามคาถามดังนี้
1) วดี ทิ ศั น์ท่เี ปิดเปน็ เรอื่ งเก่ยี วกับอะไร
(แนวตอบ เกีย่ วกับส่งิ แวดลอ้ ม หรือเป็นเหตุการณ์เกย่ี วกับภัยธรรมชาติ)
2) สาเหตุทที่ าใหเ้ กดิ เหตุการณ์ตามวีดทิ ัศนม์ าจากสาเหตใุ ด
(แนวตอบ สาเหตุมาจากมนษุ ย์และธรรมชาติ)
3. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ จากวีดิทัศน์นกั เรียนจะเห็นได้วา่ ส่ิงแวดล้อมมีความสาคัญมากเพียงใด เม่ือ
สิ่งแวดล้อมเกิดภยั พิบตั ิทางธรรมชาติท่ีรุนแรงต่อส่ิงมชี ีวิต ซ่ึงสาเหตุท่ีทาให้สิ่งแวดล้อมเกิดการ
เปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่จะเกิดจากมนุษย์ ดงั น้นั เราจึงต้องชว่ ยกันรักษาส่ิงแวดลอ้ มไมใ่ ห้เกิดการ
เปล่ียนแปลง
4. ครูแจกลูกแก้วที่มีสีต่างกนั ให้กับนักเรยี นทุกคน คนละ 1 ลูก (การกาหนดจานวนสีของลูกแก้ว
ขน้ึ อยกู่ ับจานวนนักเรียนและจานวนกลมุ่ ทีต่ ้องการ เชน่ มีนักเรยี นท้ังหมด 20 คน ต้องการแบ่ง
นกั เรียนเป็น 5 กลุ่ม ก็ต้องกาหนดสลี ูกแก้วไว้ 5 สี สีละ 4 ลูก) จากนั้นใหน้ ักเรียนทีไ่ ด้ลูกแก้วสี
เหมอื นกันอยูก่ ลุม่ เดียวกนั
(หมายเหตุ : ครเู ร่มิ ประเมินนกั เรยี น โดยใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล)

77

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 สิ่งมีชีวิตกบั สง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 5 การดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม

ขั้นสอน

ขัน้ สารวจค้นหา (Explore)
1. ครใู หน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มสนทนาแลกเปลย่ี นเรียนรู้ในหัวข้อ ปัญหาสิ่งแวดลอ้ มในท้องถ่ินของเรา
บนั ทกึ ขอ้ มลู ลงสมดุ ประจาตวั และอภปิ รายสรุปรว่ มกนั
2. ครูให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลสรปุ ของกิจกรรมแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ใหน้ ักเรียนคนอื่นฟัง เม่ือ
ครบทกุ กลมุ่ ครูต้ังคาถามวา่ ปัญหาสิ่งแวดลอ้ มท่พี บในทอ้ งถิ่นส่วนใหญ่จะเปน็ ปัญหาเกี่ยวกบั อะไร
โดยใหน้ กั เรียนชว่ ยกันอภิปรายและสรุปร่วมกนั
(แนวตอบ ปัญหาสงิ่ แวดลอ้ มทพ่ี บสว่ นใหญ่ คือ ขยะ น้าเสีย และการตัดตน้ ไม้)
3. ครูถามอธบิ ายเสริมวา่ ปัญหาส่งิ แวดล้อมในโรงเรยี นจะมีลกั ษณะคล้ายกับปัญหาสง่ิ แวดล้อมใน
ท้องถิ่นของนักเรียน คือ ปัญหาเกยี่ วกับขยะ ดังนั้น เราจึงควรทากิจกรรมที่เกี่ยวกับการจัดการ
ปญั หาขยะในโรงเรยี นของเรา
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม)
4. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาเน้ือหาในหวั ข้อความสาคญั ของสิ่งแวดล้อม จากหนังสอื เรียนวิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 1 หนา้ 41
5. ครแู จง้ วา่ จะให้นักเรียนได้ทากิจกรรมการจัดการขยะในโรงเรียน จากใบงาน เร่อื ง การจดั การขยะ
ในโรงเรยี น และครูแจ้งวัตถปุ ระสงค์ของการทากิจกรรม
6. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทากจิ กรรมการจัดการขยะในโรงเรยี น โดยปฏบิ ัติกิจกรรม ดังน้ี
1) ศกึ ษาข้นั ตอนการทากจิ กรรมจากใบงาน เร่ือง การจัดการขยะในโรงเรียน อย่างละเอียด
หากมีขอ้ สงสยั ให้สอบถามครู
2) รว่ มกนั กาหนดปญั หาและตง้ั สมมตฐิ านในการทากิจกรรม จากน้นั บันทึกผลลงในลงใน
สมดุ ประจาตัว
3) ร่วมกนั ทากิจกรรมตามข้ันตอนใหค้ รบถ้วนและถูกตอ้ งทุกขั้นตอน จากนน้ั บันทึกผลลงใน
สมุดประจาตวั

ชัว่ โมงท่ี 2

ข้ันสารวจคน้ หา (Explore) (ตอ่ )
7. ครูเปดิ PowerPoint เร่ือง การอนุรักษ์สิ่งแวดลอ้ ม ใหน้ ักเรียนดู และให้นกั เรียนอ่านเนอ้ื หาจาก
หนงั สอื เรียน หน้า 42-43 จากนน้ั ใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้การอนรุ กั ษส์ ่ิงแวดล้อม

78

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 สงิ่ มีชวี ติ กบั ส่ิงแวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 5 การดแู ลรกั ษาส่งิ แวดล้อม

8. ครใู ห้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มทากจิ กรรมพัฒนาการเรียนรู้ท่ี 3 จากหนงั สือเรยี น หน้า 42 และกจิ กรรม
พฒั นาการเรียนรทู้ ี่ 4 จากหนังสือเรียน หน้า 44 แล้วบันทกึ ผลลงในสมดุ ประจาตัว จากนัน้ สรปุ ผล
รว่ มกนั ภายในกลุ่ม
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นกั เรยี น โดยใชแ้ บบสังเกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ )

ขน้ั อธบิ ายความรู้ (Explain)
1. ครจู บั สลากหมายเลขกล่มุ ให้ออกมานาเสนอผลการทากจิ กรรมพัฒนาการเรยี นร้ทู ี่ 3 และ 4 โดยให้
นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ เลือกสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอ 1-2 คน
2. ตัวแทนนกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลการทากิจกรรมท่ีหนา้ ชัน้ เรียน โดยให้ครูคอยเสริมใน
ส่วนท่ีบกพร่อง
3. นกั เรียนทุกคนร่วมกนั สรุปผลการทากจิ กรรมภายในช้ันเรียน
(หมายเหตุ : ครูเรมิ่ ประเมินนักเรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม)

ขนั้ ขยายความเข้าใจ (Elaborate)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยสรุปความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษส์ ่ิงแวดล้อมทั้งหมดท่ีได้เรยี นรู้มา
จากน้ันครูสมุ่ เลอื กตัวแทนกลมุ่ มานาเสนอผลการสรปุ ความรู้ของแต่ละกลุม่ พรอ้ มทัง้ ใหน้ ักเรียน
คนอน่ื ช่วยเสริมความรูเ้ กย่ี วกับการอนุรักษใ์ นส่วนท่ยี งั ไมส่ มบรูณ์
2. ครูให้นักเรยี นตอบคาถามท้าทายการคดิ ขั้นสูง จากหนังสอื เรยี น หนา้ 44 ลงในสมดุ ประจาตวั
(แนวตอบ ได้ เช่น การรณรงค์ใหช้ มุ ชนมองเห็นความสาคัญของสง่ิ แวดล้อมทีม่ ีตอ่ การดารงชวี ติ ของ
ส่งิ มชี วี ติ ต่าง ๆ หรือการเขา้ รว่ มกิจกรรมปลกู ปา่ กับหน่วยงานตา่ ง ๆ ทจ่ี ดั ข้ึน)
3. นักเรียนเขียนสรุปความรู้เกี่ยวกับเร่อื งที่ได้เรียนมาจากบทที่ 1 ในรูปแบบตา่ ง ๆ เชน่ แผนผัง
ความคดิ แผนภาพ ลงในสมุดประจาตวั
4. นกั เรียนแต่ละคนศึกษาแผนผังความคิด (Mind Mapping) สรุปสาระสาคัญประจาบทที่ 1 จาก
หนังสือเรยี น หน้า 45 เพอ่ื ตรวจสอบกบั การเขยี นสรุปความรู้ท่ที าไว้ในสมดุ ประจาตวั
5. นกั เรียนทากจิ กรรมฝึกทกั ษะบทที่ 1 จากหนงั สือเรยี น หน้า 46-47 ข้อ 1-6 ลงในสมุดประจาตัว
หรือทาในแบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
(หมายเหตุ : ครเู รม่ิ ประเมนิ นักเรียน โดยใชแ้ บบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล)
6. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน จากน้ันศึกษากิจกรรมสร้างสรรค์ผลงานจากหนังสือเรียน
หน้า 48 โดยครูมอบหมายให้ไปทานอกชั่วโมงเรียน แล้วนามาส่งในช่ัวโมงเรียนต่อไป พร้อม
นาเสนอหนา้ ชั้นเรียน
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม)

79

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 ส่งิ มีชวี ิตกบั สิง่ แวดล้อม
แผนฯ ที่ 5 การดูแลรกั ษาส่ิงแวดล้อม

ขัน้ สรุป

1. ครูให้นักเรียนสรปุ ความรู้จากการเรียนจนได้ขอ้ สรปุ ร่วมกันวา่ สิง่ แวดล้อมมีความสาคญั เปน็ อย่าง
มากต่อการดารงชีวิตของสิ่งมชี ีวิต เม่ือส่ิงแวดล้อมเกิดการเปลี่ยนแปลงจึงส่งผลกระทบตอ่ สิ่งมีชวี ิต
โดยสาเหตุท่ีทาให้สิง่ แวดล้อมเกดิ การเปลี่ยนแปลงนน้ั สว่ นใหญ่มาจากมนษุ ย์ ดงั น้ัน เราจงึ ควรดูแล
รักษาสงิ่ แวดลอ้ ม เพอ่ื ให้เกิดความสมดลุ ในธรรมชาติ

2. ครใู ห้นกั เรียนดตู ารางตรวจสอบตนเอง จากหนังสอื เรียนวทิ ยาศาสตร์ หน้า 61 จากนัน้ ถามนกั เรียน
เป็นรายบุคคลตามรายการขอ้ 1-5 จากตาราง เพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจของ
นกั เรียนหลังจากการเรียน หากนักเรียนคนใดตรวจสอบตนเองโดยให้อยู่ในเกณฑ์ควรปรบั ปรุง ให้
ครูทบทวนบทเรียนหรือหากิจกรรมอ่ืนซ่อมเสริม เพ่ือใหน้ ักเรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจในบทเรยี น
มากขนึ้

ขน้ั ประเมนิ ผล

ขัน้ ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูประเมินผลนกั เรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
พฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม และจากการนาเสนอผลการทากิจกรรมหน้าชนั้ เรยี น
2. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ท่ี 3 และ 4 จากสมดุ ประจาตัว
3. ครตู รวจสอบผลการสรุปความรู้เกี่ยวกบั ชีวิตสัมพันธจ์ ากสมุดประจาตัว
4. ครูตรวจสอบผลการทากจิ กรรมฝึกทกั ษะบทท่ี 1 ในสมดุ ประจาตวั หรือในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์
ป.5 เล่ม 1
5. ครูตรวจสอบผลการกิจกรรมท้าทายการคิดข้นั สงู ในแบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1
6. ครตู รวจช้ินงาน/ผลงานแบบจาลองแหล่งท่ีอยู่อาศัยของกลุ่มส่ิงมีชวี ิต และการนาเสนอชิ้นงาน/
ผลงานหนา้ ชนั้ เรียน

80

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ส่งิ มีชวี ิตกบั ส่ิงแวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 5 การดแู ลรกั ษาส่งิ แวดล้อม

7. การวดั และประเมินผล

รายการวดั วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
- แบบประเมินชน้ิ งาน/ - ระดบั คุณภาพ 2
7.1 การประเมินช้นิ งาน/ - ตรวจผลงานแบบจาลอง ผ่านเกณฑ์
ภาระงาน
ภาระงาน (รวบยอด) แหล่งทีอ่ ยขู่ องสิ่งมชี วี ิต - รอ้ ยละ 60
- สมดุ ประจาตวั ผา่ นเกณฑ์
7.2 ประเมนิ ระหวา่ ง
- สมดุ ประจาตวั - ร้อยละ 60
การจดั กจิ กรรม ผา่ นเกณฑ์
- สมดุ ประจาตวั หรอื - รอ้ ยละ 60
การเรียนรู้ แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
ป.5เลม่ 1
1) ผลบนั ทึกการทา - ตรวจสมดุ ประจาตวั - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ - ร้อยละ 60
ป.5 เล่ม 1 ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรมพฒั นาการ - แบบประเมินการ - ระดับคุณภาพ 2
นาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
เรยี นรทู้ ่ี 3 และ 4
- แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
2) กิจกรรมสรุปความรู้ - ตรวจสมุดประจาตัว การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์

ประจาบทท่ี 2 - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
3) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมุดประจาตัว - แบบประเมนิ
คุณลกั ษณะ - ระดับคณุ ภาพ 2
บทที่ 2 หรอื แบบฝึกหัด อนั พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์

วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1

4) กิจกรรมทา้ ทายการ - ตรวจแบบฝกึ หดั

คดิ ขั้นสงู วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1

5) การนาเสนอผลงาน/ - ประเมนิ การนาเสนอ

ผลการทากจิ กรรม ผลงาน/ผลการทา

กิจกรรม

6) พฤติกรรม - สงั เกตพฤตกิ รรม

การทางาน การทางานรายบคุ คล

รายบุคคล

7) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤตกิ รรม

การทางานกลมุ่ การทางานกลุ่ม

8) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมวี ินัย

อันพงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ัน

ในการทางาน

81

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 สิ่งมชี วี ิตกับสงิ่ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 5 การดูแลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 สิ่งมีชีวิตกบั สงิ่ แวดลอ้ ม
2) แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 สงิ่ มีชีวิตกับสงิ่ แวดล้อม
3) ใบงาน เรื่อง การจัดการขยะในโรงเรียนของเรา
4) วดี ทิ ัศน์ เรื่อง ภยั พบิ ตั ิทางธรรมชาติ
5) PowerPoint เร่อื ง การอนรุ กั ษส์ ิง่ แวดล้อม
6) สมดุ ประจาตวั นกั เรียน
7) ลกู แกว้ สีต่าง ๆ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) อนิ เทอร์เน็ต

82

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 สง่ิ มีชวี ิตกับสง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 5 การดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดล้อม

ใบงาน

เรอื่ ง การจัดการขยะในโรงเรยี นของเรา

จุดประสงค์
นักเรียนมีส่วนรว่ มในการดูแลรักษาสงิ่ แวดล้อมเกย่ี วกบั การจัดการขยะในโรงเรียน

ต้องเตรยี มตอ้ งใช้
1) สีไม้
2) ถุงมือยาง
3) กระดาษแข็งแผ่นใหญ่ 1 แผน่
4) แหลง่ ข้อมูล เชน่ หนังสอื อินเทอรเ์ นต็

วิธกี ารปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
1) แบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3-4 คน สารวจขยะบริเวณโรงเรียนและในถังขยะ โดยใหศ้ ึกษาว่าเป็น
ขยะอะไรบ้าง
2) บันทึกชนดิ ของขยะลงในสมุดประจาตวั
3) สบื คน้ ข้อมูลเกีย่ วกบั การจาแนกประเภทขยะจากแหล่งข้อมูล และจาแนกประเภทของขยะ
ทีไ่ ด้จากการสารวจ แล้วบันทกึ ข้อมลู ลงในสมุดประจาตวั
4) สืบคน้ ข้อมูลเก่ยี วกบั การจดั การขยะจากแหลง่ ขอ้ มลู แล้วรวมกันสรปุ ขอ้ มูลภายในกลุ่ม
5) นาข้อมลู ทไี่ ด้จากกิจกรรมทั้งหมด ได้แก่ ชนิดของขยะ ประเภทของขยะ และการจดั การ
ขยะ เขยี นลงในกระดาษแข็ง พร้อมทัง้ ตกแตง่ ใหส้ วยงาม
6) นาเสนอผลงาน และร่วมกันแสดงความคดิ เห็นภายในชน้ั เรียน

ข้อควรระวงั

กรณีนกั เรยี นต้องสมั ผสั หยบิ หรือจับขยะเพือ่ ทาการศกึ ษา จะตอ้ งสวมถงุ มอื ยางทกุ คร้ัง
และถา้ พบขยะท่ีไม่แนใ่ จวา่ เปน็ อันตรายหรอื ไม่ ให้สอบถามกบั ครูก่อนทีจ่ ะทาการศึกษา

83

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 สิง่ มชี ีวติ กับสิ่งแวดลอ้ ม
แผนฯ ที่ 5 การดแู ลรกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม

9. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาหรือผู้ท่ไี ด้รบั มอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชอื่ .................................
( ................................ )

ตาแหนง่ .......

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน

 ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ีปัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ มี))

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

84

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 สิ่งมชี วี ิตกบั ส่งิ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 6 ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสงิ่ มชี ีวิต

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6

ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชวี ิต

เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั

ว 1.3 ป.5/1.1 อธบิ ายลักษณะทางพันธุกรรมที่มกี ารถ่ายทอดจากพอ่ แมส่ ลู่ ูกของพืช สัตว์ และ
มนษุ ย์

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายลักษณะทางพนั ธกุ รรมทมี่ ีการถา่ ยทอดจากพ่อแม่ส่ลู ูกของส่งิ มชี วี ิตได้ (K)
2. เปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมของสง่ิ มีชีวิตได้ (P)
3. มีความสนใจและกระตอื รือร้นในการเรยี นรู้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่นิ

ลักษณะทางพนั ธุกรรมท่ีมกี ารถา่ ยทอดจากพ่อแม่ พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา

สลู่ ูกของพืช สัตว์ และมนษุ ย์

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

ส่ิงมีชีวิตทงั้ พืช สัตว์ และมนุษย์ เมอ่ื โตเต็มท่ีจะมกี ารสืบพันธ์ุเพ่ือเพิ่มจานวนและดารงพันธ์ุ โดยลกู ที่
เกิดมาจะได้รับการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ทาให้มีลักษณะทางพันธุกรรมทเ่ี ฉพาะ
แตกต่างจากส่ิงมีชีวิตชนิดอื่น โดยลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตจะอยู่ในยีน ซึ่งยีน คือ หน่วย
พนั ธุกรรมท่ที าหน้าทคี่ วบคุมและถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมของสิ่งมีชวี ิต

5. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินยั

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุง่ ม่นั ในการทางาน

2) ทกั ษะการใหเ้ หตุผล

3) ทกั ษะการระบุ

85

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 สงิ่ มีชีวิตกบั สิ่งแวดลอ้ ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์
แผนฯ ที่ 6 ลกั ษณะทางพันธุกรรมของสง่ิ มีชีวิต

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
4) ทักษะการทางานกลมุ่
5) ทกั ษะการตัง้ สมมตฐิ าน
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 แนวคดิ /รูปแบบการสอน/วธิ ีการสอน/เทคนิค : สบื เสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงท่ี 1

ข้นั นา

ขน้ั กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูทกั ทายกับนกั เรียน แลว้ แจง้ ผลการเรยี นรู้ท่จี ะเรยี นในวนั น้ีใหน้ กั เรียนทราบ
2. ครใู ห้นักเรียนช่วยกนั สังเกตภาพหน้าบทท่ี 2 ลกั ษณะทางพันธกุ รรมของสงิ่ มีชีวติ จากหนงั สอื เรียน
วิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนา้ 49 แลว้ ให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็นรว่ มกนั ว่า ภาพน้เี ก่ียวข้องกับ
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมอย่างไร โดยให้ครคู อยเสรมิ ข้อมูลในส่วนทบ่ี กพรอ่ ง
3. ครถู ามนักเรยี นเพ่ือกระตุ้นความคิดวา่ จากภาพลูกมีลักษณะใดบ้างทเ่ี หมอื นกบั พ่อและแม่
(แนวตอบ เช่น เส้นผม สีผมเหมอื นพ่อและแม่ หนงั ตาบนเหมือนแม่ จมกู เหมือนพอ่ )
4. ครูให้นกั เรยี นเรียนรคู้ าศัพทท์ ี่เกย่ี วข้องกับการเรยี นในบทที่ 2 โดยครูขออาสาสมคั รนักเรียน 1 คน
เป็นผ้อู ่านนาและให้นกั เรยี นอา่ นตาม ดังน้ี

heredity (ฮิ’เรด็ -ดิทิ) พนั ธกุ รรม
skin color (ซกนิ ‘คลั เลอ) สิผิว
hair color (แฮ ‘คลั เลอ) เสน้ ผม

5. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน จากน้ันแต่ละกลุ่มรว่ มกันทากิจกรรมนาสู่การเรียน โดยอ่าน
สถานการณจ์ าก หนงั สือเรยี น หนา้ 50 แล้วช่วยกันสารวจและสืบค้นส่ิงมีชีวิตทมี่ ีการถ่ายทอด
ลักษณะทางพันธกุ รรมจากรุ่นพอ่ แม่ส่รู ุ่นลูก 5 ชนิด โดยให้วาดภาพลงในสมดุ พรอ้ มเขียนบรรยาย
ลักษณะท่ีมีการถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ู่รนุ่ ลกู เพ่ือนามาอภปิ รายและสรปุ คาตอบรว่ มกนั ในช้นั เรียน
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ )

86

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ส่ิงมีชีวติ กับส่ิงแวดลอ้ ม
แผนฯ ที่ 6 ลักษณะทางพนั ธุกรรมของสง่ิ มีชวี ิต

ข้นั สอน

ขั้นสารวจคน้ หา (Explore)
1. ครูนาภาพสุนัขพันธ์ุต่าง ๆ มาให้นกั เรยี นดู แล้วร่วมกันอภิปราย ดงั น้ี
1) จากภาพ ลูกสุนัขตวั ไหนเปน็ ลกู ของสนุ ัขตัวไหน
2) นกั เรียนสงั เกตจากสิ่งใดวา่ ลกู สุนขั ตัวน้นั เปน็ ลูกของสุนขั ตัวไหน
2. ครูอธบิ ายให้นักเรียนฟังว่า สิ่งมีชีวิตแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะที่ทาให้มองเห็นความแตกต่าง
ระหว่างพวกหรือกลมุ่ ได้ชัดเจน เชน่ คนในแตล่ ะครอบครวั ม้ากับวัว เปด็ กับปลา
3. นักเรยี นศึกษาข้อมูลและดูภาพในหนังสือเรยี น หน้า 51 จากน้ันครใู ห้นักเรยี นตอบคาถามว่า
นกั เรียนมีลักษณะใดเหมือนหรือแตกต่างจากพอ่ กบั แม่บ้าง
(หมายเหตุ : ครูเริม่ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล)
4. นักเรยี นแบง่ กลุม่ กลุ่มละ 3-4 คน จากนั้นช่วยกนั ศกึ ษาการทากิจกรรมที่ 1 ลักษณะทางพันธุกรรม
จากหนังสือเรียน หน้า 52-53 โดยให้ศึกษาข้ันตอนการทากิจกรรม แล้วให้ปฏิบัติกิจกรรม
ตามลาดบั ให้ครบถ้วน จากนัน้ บันทึกลงในสมุดประจาตัวหรือบันทกึ ในแบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์ ป .5
เล่ม 1

ขั้นอธิบายความรู้ (Explain)
1. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภิปรายและสรุปผลจากการทากจิ กรรมภายในกลุ่ม
2. ครจู ับสลากสุ่มเลือกตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานของกลุ่มหนา้ ชนั้ เรียนทีละ
กลมุ่
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียนจนครบ จากน้ันให้นักเรียนทกุ คนร่วมกัน
อภิปรายและสรุปผลเกี่ยวกบั การถา่ ยทอดทางพันธกุ รรมของสิง่ มชี วี ติ
(หมายเหตุ : ครูเริ่มประเมินนกั เรียน โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม)

ชวั่ โมงท่ี 2

ขั้นขยายความเขา้ ใจ (Elaborate)
1. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ช่วยกนั ศึกษาเน้ือหาเกี่ยวกับการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมของส่ิงมีชวี ิต
จากหนงั สอื เรียน หน้า 54
2. ครูอธิบายความรู้เพิ่มเติมใหน้ ักเรียนฟังว่า ลักษณะทางพันธกุ รรมของสิ่งมีชวี ิตจะอยู่ในยีน ซ่ึงยีน
คือ หนว่ ยพันธุกรรมท่ที าหน้าทค่ี วบคุมและถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสิง่ มีชีวิต ยนี จะอยู่

87

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 สงิ่ มีชวี ิตกับส่ิงแวดล้อม
แผนฯ ท่ี 6 ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสง่ิ มชี วี ติ

บนโครโมโซมซึ่งอยู่ภายในเซลลข์ องสิง่ มีชีวิต โดยโครโมโซมแท่งหนึง่ จะมยี ีนอย่เู ป็นจานวน และ
เน่อื งจากโครโมโซมอยกู่ ันเป็นคู่ ยีนทีอ่ ย่บู นโครโมโซมจงึ มเี ป็นคู่ดว้ ย
3. ครูให้นักเรียนแตล่ ะคนทากิจกรรมหนตู อบได้จากหนังสือเรียน หน้า 53 ลงในสมุดประจาตวั หรือ
ทาในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
(หมายเหตุ : ครูเร่มิ ประเมินนักเรยี น โดยใช้แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล)

ข้นั สรปุ

ครูสุม่ นักเรียนตามเลขที่ 5-6 คน ให้ออกมาอธบิ ายความรู้เกี่ยวกับลกั ษณะทางพันธุกรรมของ
สง่ิ มชี ีวิต จากน้ันให้นักเรยี นท้ังห้องร่วมกันสรุปความรู้จนได้ข้อสรุปวา่ ลักษณะทางพันธุกรรม คือ
ลักษณะของสิง่ มีชีวิตที่สามารถถ่ายทอดจากพ่อแม่ไปสู่ลูกได้ และถ่ายทอดจากรนุ่ หน่ึงไปสู่อีกรุ่นหน่ึง
ตอ่ ไปเร่อื ย ๆ เชน่ ลกั ษณะสผี วิ ของมนุษย์ ลกั ษณะขอบใบของพชื ลกั ษณะใบหขู องสัตว์

ขั้นประเมนิ ผล

ขั้นตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครปู ระเมินผลนกั เรยี น โดยการสังเกตพฤติกรรมการตอบคาถาม พฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
พฤติกรรมการทางานกลมุ่ และจากการนาเสนอผลการทากจิ กรรมหน้าช้นั เรยี น
2. ครูตรวจสอบการทากิจกรรมนาสกู่ ารเรียนในสมดุ ประจาตวั หรอื ตรวจผลการทากจิ กรรมนาสู่การ
เรยี นในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1
3. ครตู รวจสอบผลการทากิจกรรมท่ี 1 เร่ือง ลักษณะทางพันธุกรรม ในสมุดประจาตัวหรือใน
แบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1
4. ครูตรวจสอบผลการทากิจกรรมหนูตอบไดใ้ นสมุดประจาตัว หรือแบบฝกึ หัดวทิ ยาศาสตร์ ป.5
เล่ม 1

7. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ

7.1 ประเมินระหวา่ ง - สมดุ ประจาตวั หรอื - ร้อยละ 60
แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑ์
การจดั กจิ กรรม ป.5 เล่ม 1

การเรยี นรู้

1) กจิ กรรมนาสู่ - ตรวจสมุดประจาตัว หรอื

การเรยี น แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์

ป.5 เล่ม 1

88

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 สงิ่ มชี ีวติ กับสง่ิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 6 ลักษณะทางพนั ธกุ รรมของสงิ่ มีชวี ติ

รายการวัด วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์การประเมิน
2) ผลบนั ทึกการทา - ตรวจสมดุ ประจาตวั หรอื - สมุดประจาตวั หรอื - รอ้ ยละ 60
แบบฝึกหัดวทิ ยาศาสตร์ แบบฝกึ หัดวิทยาศาสตร์
กิจกรรมท่ี 1 ป.5 เล่ม 1 ป.5 เล่ม 1 ผา่ นเกณฑ์
- สมดุ ประจาตัว หรือ
3) กจิ กรรมหนตู อบได้ - ตรวจสมดุ ประจาตัว แบบฝึกหดั วทิ ยาศาสตร์ - ร้อยละ 60
แบบฝกึ หดั วทิ ยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 ผ่านเกณฑ์
4) การนาเสนอผล ป.5 เลม่ 1 - แบบประเมนิ การ
การทากจิ กรรม - ประเมินการนาเสนอ นาเสนอผลงาน - ระดับคุณภาพ 2
ผลการทากจิ กรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
การทางานรายบคุ คล
5) พฤตกิ รรม - สังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทางาน การทางานรายบคุ คล - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล การทางานกลมุ่
- สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบประเมิน - ระดับคณุ ภาพ 2
6) พฤติกรรม การทางานกลมุ่ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
การทางานกลุ่ม อนั พงึ ประสงค์
- ระดับคุณภาพ 2
7) คณุ ลักษณะ - สงั เกตความมวี ินัย ผ่านเกณฑ์
อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มั่น
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สง่ิ มีชีวิตกบั สง่ิ แวดล้อม
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สง่ิ มชี วี ติ กับสิ่งแวดล้อม
3) วัสดุ-อุปกรณ์การทดลองในกิจกรรมท่ี 1 เช่น บัตรภาพร่นุ พอ่ แม่ของสตั ว์
4) PowerPoint เร่ือง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรมของสงิ่ มีชีวติ
5) สมุดประจาตวั นักเรยี น

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) ห้องเรียน
3) อินเทอร์เน็ต

89

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ส่งิ มีชวี ิตกบั สงิ่ แวดลอ้ ม
แผนฯ ท่ี 6 ลกั ษณะทางพันธุกรรมของสงิ่ มชี วี ติ

9. ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรอื ผู้ที่ได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชื่อ .................................
( ................................ )

ตาแหนง่ .......

10. บนั ทึกผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์

 ด้านอน่ื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

90

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 สิ่งมีชีวติ กับส่งิ แวดล้อม
แผนฯ ท่ี 7 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรมในครอบครวั ของมนุษย์

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 7

การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมในครอบครัวของมนุษย์

เวลา 2 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวัด

ว 1.3 ป.5/1.1 อธบิ ายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่ีมกี ารถา่ ยทอดจากพอ่ แมส่ ลู่ กู ของพชื สตั ว์ และ
มนุษย์

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายลกั ษณะทางพนั ธุกรรมที่มีการถา่ ยทอดจากพอ่ แม่สู่ลูกของมนษุ ย์ได้ (K)
2. สารวจและเปรียบเทยี บเก่ียวกบั การถ่ายทอดลักษณะทางพันธกุ รรมของตนเองกับคนใน

ครอบครวั ได้ (P)
3. ให้ความร่วมมอื ในการเรียนรู้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิ่น

- ลกั ษณะทางพันธกุ รรมท่มี ีการถ่ายทอดจากพอ่ แม่สู่ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา

ลูกของพืช สตั ว์ และมนษุ ย์

- ลักษณะของตนเองจะคล้ายคลงึ กับคนในครอบครัว

4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

ส่ิงมีชวี ติ ทง้ั พืช สัตว์ และมนุษย์ เมอื่ โตเตม็ ท่ีจะมีการสืบพันธ์เุ พ่ือเพิ่มจานวนและดารงพันธ์ุ โดยลูกท่ี
เกิดมาจะได้รับการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ทาให้มีลกั ษณะทางพันธุกรรมที่เฉพาะ
แตกต่างจากส่ิงมีชีวติ ชนดิ อืน่ โดยคนเราจะมีลกั ษณะคลา้ ยคลึงกับคนในครอบครวั ของเรา ลักษณะต่าง ๆ
ทค่ี ล้ายคลงึ กนั นี้เปน็ การถา่ ยทอดลักษณะบางลักษณะจากบรรพบุรุษสลู่ ูกหลาน เรียกว่า การถ่ายทอด
ลักษณะทางพนั ธกุ รรม ซงึ่ บางลกั ษณะจะเหมอื นพอ่ หรอื เหมอื นแม่ หรืออาจมลี กั ษณะเหมือนปู่ ยา่ ตา ยาย

91


Click to View FlipBook Version