The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เป็นบทละครพูด พระราชนิพนธ์ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๖

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kkao2542, 2021-03-16 01:07:29

วรรณกรรมไทย เรื่อง มัทนะพาธา

เป็นบทละครพูด พระราชนิพนธ์ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๖

Keywords: มัทนะพาธา

46

อา้ มาลีเลิดฤดีเพลิน, สุวิมะละและเจริญ,

ฃา้ จะขอเชอญ ผะกาไป

สู่สวนงามขา้ งกฎุ ใี ห้ ระมะณิยะจะบารุงไว้

เพ่ือบมีภยั พิบตั ิปวง;

ฃา้ รับคาวา่ จะแหนหวง ประดจุ ะวรธิดาดวง

ใจจะใฝ่ ห่วง สุดาภา.

อา้ เชอญไปกบั บิดานา! ดรุณิอภยะครา

ขุดชลอพา จรลั ไป!

(พระกาละทรรศินเรียกเอาหม้อนา้ ไปหล่ังลงทีโ่ คนต้นกุหลาบ. พิณพาทย์ทาเพลงรัวฉิ่ง.
พอพระกาละทรรศินหลั่งนา้ เสร็จแล้ว, ส่ังให้บริวารขดุ ต้นกหุ ลาบ.คราวนืไ้ ม่มเี สียงร้องเช่นคร้ัง
ก่อน; พิณพาทย์ทาเพลงฉ่ิงในเวลาทีข่ ุดตลอดจนขุดเสร็จ, และพวกบริวารจดั การยกต้นกุหลาบ
ขนึ้ จากหลมุ แล้ว, พิณพาทย์จ่ึงหยุด.)

กาละทรรศิน. บดั น้ีเจา้ อย่าร่าไร ช่วยกนั ยกไป ยงั สวนณอาศรมสถาน

ตอ้ งดีอย่าไดล้ นลาน, ประคองเมื่อผ่าน ท่ีเดริ ลาบากยากเข็ญ.

จาไวว้ ่าไมน้ ้ีเปน ของวิเศษเชน่ บ่มีณดินแดนใด.

ตามมาฃา้ จะนาไป; โสมะทตั ไซร้ จงคอยกากบั ตามมา.

(พิณพาทย์ทาเพลงเชิด.พระกาละทรรศิน.เดิรนาเข้าโรง, บริวารนาต้นกุหลาบตามไป.)

47

ตอนที่ ๒

ทำงเดริ ในดง

[ใช้เปนม่านม้วนทิง้ ระหว่างหลืบ, เขียนเปนภาพต้นไม้และกอหนาม.]
(ท้าวชัยเสนออก, พร้อมด้วยศุภางค์, กับทหารและพรานอกี ส่ีห้าคน.)

[อนิ ทะวิเชียร, ๑๑.] มิคะงามตะบึงบา้

ชยั เสน. เรามวั ละเลิงไล่

จนลกึ ณกลางป่ า และระอิดระอาใจ;

บดั น้ีมริ ูว้ ่า ดละแทบณหนใด,

อีกท้งั จะเดริ ไป บริวารบตามทนั .

เฃาคงจะเปนห่วง และวิตกเพราะเราครัน;

ใครเจนพะนารณั - ยะประเทศะถน่ิ น้ี?

(ศภุ างค์สอบถามพวกพราน. พดู กันเบา ๆ แล้วจึงกราบทลู .)

ศุภางค.์ พวกพรานกระบวนตาม พระเสด็จกไ็ ม่มี

ผใู้ ดชานาญที่ จะทานูลถนดั ได;้

แตเ่ คยสดบั ซ่ึง วะจะเฃาแถลงไซร้

ว่ากลางอรัญใหญ่ ณประเทศะแถบน้ี

ยงั มสี านกั องค์ วรพรหมะโยคี,

ผคู้ รองคณาชี ปฏิบตั ิตะปาการ.

พรานรับจะไปคน้ พระนิวาศคณาจารย,์

48

แลว้ มาแถลงการณ์ ผวิ ะพบพระอาศรม.

ชยั เสน. ดีแลว้ ,และเราน้ี ก็จะพกั ณใตร้ ่ม

พฤกษาสุฃารม- ยะตลอดณราตรี,

เพราะว่าจะเดิรต่อ ฤก็เหนื่อยณบดั น้ี
เมอ่ื ยลา้ วะรินทรี- ยะและใคร่จะผอ่ นกาย.

คืนน้ีกจ็ วนเพญ็ ศศิธรจะงามหงาย,

โพยภยั และสตั วร์ ้าย ผจิ ะมากเ็ ห็นพลนั .

จงใชค้ ณาพราน จรรีบณไพรสนั ฑ์

หาท่พี ระนกั ธรรม์ ธนิวาศณกลางไพร,

อีกใหท้ หารบา้ ง จรยอ้ นวิถไี ป

จนพบกระบวนใหญ่ ละก็นากระบวนมา.

ทเี่ หลือกใ็ หถ้ าง ตณิ ะใตส้ ุพฤกษา

ไทรยอ้ ยลออตา ละก็คงจะพอพกั ,

จนกว่ากระบวนใหญ่ จรพร้อมก็จึงจกั

สร้างคา่ ยและทพ่ี กั ณประเทศะถิน่ ควร.

[ฉบงง, ๑๖.]

ศุภางค.์ ฃา้ จะไดส้ ั่งถถี่ ว้ น ตามภมู ศิ วร ไดม้ พี ระราชบญั ชา.

พวกพรานจงตามเรามา บดั น้ีอย่าชา้ จะใชไ้ ปตามมุ่งหมาย.
(ศภุ างค์ถวายบังคมท้าวชัยเสนแล้วเข้าโรงไปกับพวกพราน.)

49

[อปุ ชาต,ิ ๑๑.] ละกส็ ุดจะเสียดาย!

ชยั เสน. อโหระลกึ ข้ึน

ไดเ้ คยประสพหลาย มคิ ะแลว้ บ่เคยเหน็

กวางงามอร่ามทว่ั วรกายะดงั เชน่

ดนูละเลิงเล่น จรไลณ่ วนั น้ี.

ชะเนตร์สนิธนิล กะละนิลมะณีศรี,

ยามแลชาเลอื งมี กริ ิยาประหน่ึงอาย;

เฃางามประหน่ึงช่อ วรวิชชุมาลยฉ์ าย,

และหนงั ระยบั ลาย กละเล่อื มประดบั วาว;

ขนองสนิธดา ดจุ ะเขยี นเขมา่ ยาว,

งามทรวงสอาดราว หิมะตกณยอดผา:

ยามเดริ กง็ ามยง่ิ และจะว่ิงก็ยวนตา,

จริตกริ ียา กละสาวสุรางคส์ วรรค.์

และเมอื่ ดนูตาม มคิ ะใกลจ้ ะตามทนั ,

โนม้ นา้ วธนูมน่ั เหมาะและเตรียมจะยิงไป,

มวั เพลนิ ตะลึงน่ิง บมยิ งิ ณบดั ใจ

และกวางกว็ ่องไว จรแผลวณแนวพง.

(ศภุ างค์กลบั ออกมาถวายบังคมท้าวชัยเสน.)

50

[ฉบงง, ๑๖.]

ศภุ างค.์ ฃา้ ไดจ้ ดั พรานด้นั ดง ไปตรวจตราตรง ที่อยูแ่ ห่งคณาจารย,์

อีกจดั แบง่ พวกทหาร ยอ้ นทางที่ผ่าน มาแลว้ เม่อื ไลม่ ฤคี,

ส่วนการแผว้ ถางปัฐพี สาเร็จแลว้ ดี พอจะประทบั อาศยั .

ชยั เสน. ดแี ลว้ , กนู ้ีอ่อนใจ จ่งึ อยากจะใคร่ ไดพ้ กั ไดผ้ อ่ นกายา.
(ท้าวชัยเสน,ศภุ างค์, และบริวารเข้าโรง.)
ตอนที่ ๓

ลานหนา้ อาศรมของพระกาละทรรศนิ

[ด้านหลังเวทเี ปนมุขหน้าแห่งอาศรม, ซ่ึงเปนเรือนเคร่ืองไม้หลังคามุงแฝก,มีบันใด ๓ ขน้ั
ขนึ้ จากพืน้ ดินไปสู่ระเบียง, และจากระเบียงมีประตเู ข้าไปในอาศรม.สองข้างเวทเี ปนหลืบสวน.
มีต้นไม้ใหญ่อย่ตู ้น ๑ ข้อนไปข้างขวาแห่งเวที, และใต้ต้นไม้น้นั มีแท่นศิลาอ่อน,มีหนังกวางปู
ลาด. พระกาละทรรศินนงั่ อยูบนแท่นน.ี้ ]

[ภชุ งคปั ปะยาตร์, ๑๒.] จะบงั เกิดอปุ ัทวม์ า

กา เอะมีเหตุอะไรหนอ
ละทรรศิน.

เพราะว่าเนตระซ้ายขวา เขม่นอยู่จะเปนลาง.

อะโหนึกกร็ ้อนอก วติ กถึงธิดาพลาง,

ชรอยภยั จะพานนาง ธิดาแน่ละคราน้ี.

ตะแรกตรวจณฤกษ์ยาม ก็ดงู ามและดูด,ี

คาณวนต่อสิเห็นมี เคราะหร์ ้ายแซกณชาตา.

บรู้ท่จี ะทายแน่ จะมีโชคและลาภา,

51

ฤวา่ รา้ ยและนวลนา- ริจกั ตอ้ งกาสรวลศลั ย.์

อนิจจาจะเศรา้ จิต, ผิเจา้ ยอดสุดาน้นั

เคราะห์เจา้ ร้ายทาลายขวญั , กร็ ูปน้ีจะพลอยโศก;

เพราะรูปไดส้ ุดามา ประดุจไดป้ ระสพโชค,

ประหน่ึงเจา้ และนาโศลก ประเวศแน่วณอาศรม,

และหากตอ้ งวิโยคเจา้ จะแสนเศร้าณอารมณ์,

เพราะเคยเหน็ และเคยชม บเวน้ ว่างณวนั เพญ็ :

ธิดาชา่ งบาเรอจิต บิดาใหฤ้ ดีเยน็ ;

ประดิษฐ์โภชะนาเชน่ บเคยลิม้ ณก่อนกาล,

จะกินเค็มฤกนิ มนั ก็พลนั สมมะโนมาลย,์

จะชอบเปร้ียวฤชอบหวาน ก็ปรุงรสบผิดใจ.

มหาเทวะทรงศกั ด์!ิ ดนูภกั ดติ ่อไท,

พระจงโปรดดนูไซร้ และคมุ้ ครองสุดาภา.

(มัทนา, ถือกระเช้าเตม็ ไปด้วยดอกไม้, เดิรออกมาทางขวาและตรงไปคุกเข่าลงทีต่ รงหน้า
แท่นศิลา, และพดู กับพระกาละทรรศิน.)

[กมล, ๑๒.]

มทั นา. เอะ๊ อะไรพระพ่อบน่ วรมนตร์ฤเจา้ ขา,

และดฉิ ันละลาบมา บมิควรฤฉันใด?

ผวิ ะองคบ์ ิดามงุ่ จะบาเพญ็ ตะปาไซร้

52

ก็ดฉิ ันจะหลีกไป บมอิ ยู่และกีดขวาง.
พระบดิ ากย็ ่อมรู้ มะทะนามิอยากห่าง,
ปฏบิ ตั ติอยู่ขา้ ง พระบดิ าและพอใจ;
เพราะมใิ ช่ดฉิ นั เหมอื น วธุธรรมะดาไซร้,
ตละเดอื นกอ็ ดั ใจ บมิมฤี ดสี ราญ;
เพราะมโนสินึกเร่ง ศศิธรและนบั วาร,
ตละเดอื นก็ดกู าล จิระกว่าจะวนั เพญ็ .
และณปัณณรัสฺวา- ระก็ยอ่ มจะกลบั เหน็ .
ทวิ ะล่วงประดจุ เผ่น จรจู่บอยยู่ ง้ั !
ผวิ ะองคบ์ ดิ าว่าง มะทะนาจะขอนั่ง
ปฏบิ ตั ์บิ ดิ าดงั ฤดิมงุ่ เสมอมา.

[มนั ทกั กนั ตา, ๑๗]

กา อา้ โฉมฉายสายสะมะระมะทะนา, พอ่ สิเพลินตา เพราะลกู ขวญั !
ละทรรศนิ .

ลกู อยู่ใกลพ้ ่อละกก็ ะมละฉัน เฉกอุทกอนั ประพรมใจ.

ไม่เคยมีศษิ ยด์ จุ ะอรวไิ ลย, ชา่ งประพฤต์ใิ ห้ บดิ าสุข,

วนั เพญ็ พอ่ เปนระมะณิยะบทกุ ข,์ ปราศะเข็ญขุก และราคาญ,

ส่วนวนั อน่ื พอ่ ฤก็บมิสราญ เหมอื นณวนั วาร ธิดาใกล;้

ดงั น้ีแมว้ ่าสะมะระจะคระไล จากบดิ าไป กพ็ อ่ น้ี

53

คงตอ้ งไร้ความสุขะเพราะวะ่ ฤดี คงบไดม้ ี ละผอ่ งแผว้ .
อา้ ลูกนอ้ ยกลอยฤดิสุมะณิแกว้ พรากธิดาแลว้ จะอาดูร!

[สทั ทฺ ุลฺวิกกฬี ิต, ๑๙.]

ฃา้ ขอใหส้ ุระเทวะฤทธิอะนุกูล
ฟังฃา้ พเจา้ ทูล เถอะไท,้
หากฃา้ เสียมะทะนาธิดาอระวิไลย
ฃา้ บาทจะไดใ้ คร ละ่ แทน?
อา้ เทวินทะมะหินทาธิปะติแมน
ทรงวชั ระแกลว้ แกวน่ อะมร,
โปรดอย่าให้มะทะนาสุดาดะรุณิอร
ตอ้ งไปอะนาทร ฤเขญ็ !

[ฉบงง, ๑๖.]

มทั นา. เอ๊ะพระบดิ านี่เปน ทกุ ขร์ ้อนใดเห็น บเคยแตก่ ่อนดงั น้ี.
ดูพระบิดาจะมี ความวิตกที่ พระยงั มิบอกลกู นอ้ ย.
เปนไรโปรดบอกลูกหน่อย.

กา อา้ ลกู ผกู้ ลอย จติ ยอดฤดบี ดิ า!
ละทรรศิน.

พ่อน้ีวิตกนกั หนา ดว้ ยเกรงอยู่ว่า ธิดาจะจากพอ่ ไป.
มทั นา. พระองคจ์ ะกลวั ทาไม? ไมเ่ ห็นว่าใคร จะกลา้ มาพาลกู หนี,

และกลา่ วส่วนตวั ลกู น้ี ฤๅจะอยากลี ลาศจากบิดาการุญ?

54

กา เปนธรรมะดาของสุน- ทะระดรุณ กุมาริย่อมยวนตา
ละทรรศิน.

แห่งชายหนุ่มและไม่ชา้ รักก็จะพา รกั เฃา้ มาจ่อจอดใจ,
แลว้ หญงิ ย่อมจะคลาไคล จากอกพอ่ ไป สู่เคหะแห่งสาม.ี
มทั นา. พระพ่อใยกลา่ วเช่นน้ี? เมือ่ ทราบอยู่ดี ว่าลกู ไม่เหมอื นเฃาๆ;
แลว้ ก็ผชู้ ายใดเล่า จะรักฃา้ เจา้ , ผเู้ ปนมนุษหน่ึงวนั
กบั อกี หน่ึงคนื แลว้ พลนั กลบั เพศแผกผนั ไปเปนดอกไมม้ ากหนาม!
ถงึ หากนารีเลดิ งาม, แมไ้ ดช้ มทราม สิเนหะไดเ้ พียงแต่
หน่ึงวนั หน่ึงคืนแลว้ แล มไิ ดช้ มแม้ สักนิดตลอดอีกเดือน,
ชายใดจะยอมอย่เู พ่ือน? ขืนรกั ก็เหมือน รักรูปนิมติ ร์มายา.
ฉน้นั องคพ์ ระบดิ า จงโปรดเมตตา และคลายวิตกดว้ ยพลนั .
(โสมะทัตพาศุภางค์ออกมาทางซ้าย; ต่างกระทาความเคารพต่อพระฤษ.ี )

[สุรางคณา, ๒๘.]

โสมะทตั . นายทหารน้ี ไดจ้ รลี ล่วงหนา้ ราชนั ,
จอมขตั ตยิ ว์ งศ์ เผ่าองคพ์ ระจนั ทร์ ผดู้ ารงขณั ฑ์ หัสดินบรุ ี,
เพอื่ มาบอกขา่ ว วา่ สมเด็จทา้ ว ผจู้ อมธานี
จะเสด็จพลนั วนั ทาฤษี ตามสมควรท่ี กาหนดวินยั .

กา อนั ภูมนิ าถ เสดจ็ ประพาส พกั แรมหนไหน?
ละทรรศิน.
ศุภางค.์ พระรอ้ นแรมมา ในพนาลยั , สาราญแห่งใด ประทบั แห่งน้นั .

55

กา อนั อาตะมะ เต็มใจที่จะ ตอนรบั จอมขณั ฑ,์
ละทรรศนิ .

จะต้งั เคร่ืองท่ี มใี นอรญั ถวายราชนั เสวยสาราญ.

แน่ะโสมะทตั แลว้ เจา้ จงจดั รบั บริพาร,

ส่วนโภชนา โอชาอาหาร จะใหน้ งคราญ จดั แต่งเตรียมไว.้

ไปเถิดธิดา, เฃา้ ในศาลา เตรียมเคร่ืองทนั ใด,

อีกท้งั จดั ของ สารองพร้อมไว้ เล้ยี งพวกฃา้ ไท ผบู้ ริพาร.

ศภุ างค.์ อนั กระบวนหลวง ก็พรอ้ มท้งั ปวง เสบยี งอาหาร.

กา แต่ว่าตวั เรา เปนเจา้ ของบา้ น ตอั งขอเล้ยี งทา่ น. มาเถดิ ธิดา.
ละทรรศนิ .

(พระกาละทรรศินกบั มัทนาเดิรไปขนึ้ บันใดและหายเฃ้าไปในอาศรม.)

[สาลนิ ,ี ๑๑.] ดนุไร้กริ ียา,

ศุภางค.์ ขอโทษเถิดหากดู

แต่ฃา้ ขอถามวา่ วธุน้นั นะคอื ใคร?

ไดย้ ินทา่ นเรียกว่า วรบตุ ริท่านไซร,้

ลกู จริงฤๅฉนั ใด, ฤวะบุตริบญุ ธรรม?

โสมะทตั . หากฃา้ บอกความให้ ฤก็ท่านจะเหน็ คา

ฃา้ ตอบเปนขอ้ ฃา และบยอมจะเชื่อฟัง.

นางน้ีเปนตน้ พฤก- ษะประดษิ ฐะอยู่ยงั

กลางดงใกลท้ ต่ี ้งั วรบรรณะศาลน้ี;

56

อาจารยท์ ่านเชอญมา และสถิตณสวนศรี,
แลเมือ่ ถงึ วนั ที่ ศศิเพญ็ ก็เปนคน.
ดงั น้ีสนั นิษฐาน วธุเปนสุรางคบ์ น,
ถูกสาปจ่งึ จาทน ทขุ ะอยฉู่ น้ีนา.
ศุภางค.์ ทท่ี ่านไดเ้ ลา่ น้ี นะก็แปลกละเจา้ ฃา้ ;
แตค่ ร้นั เมือ่ พศิ พา ฤดิเห็นจะเปนจริง,
ดว้ ยนางน้ีมีสุน- ทะระลกั ษณาย่ิง
ยวดกว่าบรรดาหญงิ ณมะนุสสะโลกแท.้
ผวิ นางน้นั ผุดผอ่ ง กละนวลสะกาวแข,
เกศาดาแม่นแท้ กละฟ้าณราตรี;
สองเนตรเหมอื นดารา- กะระในนะภาศรี,
แสงแกม้ เปรียบรัสมี พระอรุณแอร่มฉาย.
เอออนั วา่ ชายใด ผิวะไดป้ ระสพสาย
ใจคงไม่มีคลาย รสะรกั ณดวงแด!
โสมะทตั . ท่านเอยอยา่ ฝันใฝ่ , บมเิ ปนประโยชน์แท;้
นางน้ันไม่พงึ แล และบพูดกะชายใด,
นอกจากท่านอาจารย์ วนิดาบรักใคร;
เพียรพดู เท่าใดๆ บมิพึงจะใยดี.

57

ศภุ างค.์ อา้ ทา่ นอยา่ เขา้ ใจ วะจะผิดณบดั น้ี!

ฃา้ เองไมห่ วงั ที่ จะประโลมสุดาสวรรค์;

ฃา้ นึกไปถึงองค์ วรราชะราชนั

ผเู้ ปนเจา้ ครองขณั - ฑะประเทศะธานี.

ทา่ นเปนซ่ึงเผา่ พนั - ธุพระจนั ทะเรืองศรี,

หากเหน็ ซ่ึงเทวี ธกค็ งจะโปรดปราน;

แตห่ ากนางเปนบาท บริจาริกาท่าน,

ฃา้ เกรงคงเกิดการ ทุมะนสั ละแน่นอน.

ฝ่ ายท่านไมใ่ ช่ฃา้ วรบาทพระภูธร,

ฃา้ เจา้ ทาปากบอน บมิควรณทนี ้ี;

จงึ จาตอ้ งของด อธิบายะไวท้ ี,

ขอทา่ นอย่าไดม้ ี ฤดิข้งึ ดนูหนอ.

โสมะทตั . ตูฃา้ เปนคนต่า บมิจงทนงขอ;

ท่านจงกล่าวแตพ่ อ ดาริควรแถลงสาร.

(พิณพาทย์ทาเพลงพระยาเดิร. ท้าวชัยเสนออก, พร้อมด้วยบริวาร พระกาละทรรศินออกมา
จากในอาศรม, ลงบรรใดมาต้อนรับท้าวชัยเสน; พิณพาทย์หยุด.)

[เมฆวปิ ผฺ ุชฺชิตา, ๑๙.]

กา ชโยฃา้ ขอกล่าวคาประจคุ ะมะนะการ
ละทรรศิน.

แด่พระผผู้ า่ น มไหหศวรรย;์

58

ชโยขอใหอ้ งคท์ า้ วนะระปติพระชนั -
มายรุ อ้ ยพรร- ษะกาลยง;
ชโยขอใหม้ ชี ยั ชานะอริทนง
สมประสงคอ์ งค์ อธีราช;
ชโยขอใหอ้ งคข์ ตั ติยะนิกะระนาถ
สิทธิสมมาด ณกจิ การ;
ชโยขอจงทรงเกษมสุขะฤดิสราญ
ทกุ ทิวากาล และราตรี;
ชโยขอจงองคท์ า้ วปิ ยะนะระบดี
คงพะลงั มี นิรนั ดร!

[อนิ ทะวเิ ชียร, ๑๑] ศิระเกลา้ และรบั พร,
และจะถามพระโยคี:
ชยั เสน. ฃา้ ขอประณตนอ้ ม พหุการกศุ ลดี,
อีกขอประณมกร ภยบางฤอยา่ งไร?
ทา่ นอยณู่ ไพรสาณฑ์ บริบรู ณ์ฤฉนั ใด,
แลทา่ นบไดม้ ี บมกิ วนฤเจา้ ขา?
อนั มลู ผลาหาร บมิเบียฬและบฑี า,
ยุงร้ินและเหลือบไร สุขะทว่ั ฤนกั ธรรม?์
สตั วส์ ิงห์สมงิ ไพร
แลศษิ ยพ์ ระสิทธา

59

กา ฃา้ ขอถวายพร สิริโสตถิราชนั ,
ละทรรศิน.

อนั วา่ ดารัสน้นั ดนุตอบพระดงั น้ี:

ฃา้ อยูณ่ ไพรสาณฑ์ พหุการกุศลดี,

แลฃา้ บไดม้ ี ภยพาลประการใด;

อนั มลู ผลาหาร บริบรู ณะสมใจ,

ยุงริ้นและเหลือบไร บมกิ วนณกายา:

สัตวส์ ิงห์สมงิ ไพร บมเิ บยี ฬและบฑี า;

อีกศษิ ยะของฃา้ สุขะโสตถิทว่ั กนั .

(มัทนาออกมาจากในอาศรม. ท้าวชัยเสนเหน็ กจ็ ้องจนตะลึง.)

[ฉบงง, ๑๖.]

มทั นา. บดิ าเจา้ ฃาดิฉัน เตรียมเสร็จซ่ึงสรร- พะโภชนาจานง;

อกี ไดเ้ ตรียมน้าโสดสรง สาหรับพระองค์ วสิ ุทธิราชฦๅชยั ,

ท้งั เตรียมน้ามนั พร้อมไว้ เพื่อพระจะได้ ทรงทาแกเ้ มอ่ื ยวรกาย

ขอเชอญบดิ าผนั ผาย พรอ้ มพระฦๅสาย เฃา้ สู่ศาลาบดั น้ี.
(กราบพระกาละทรรศิน, และกราบท้าวชัยเสน, แล้วกลบั เข้าโรง)

[อเุ ปนทะวิเชียร. ๑๑.]

ชยั เสน. (พดู กบั ศุภางค)์

เอะ๊ กสู ุบินเห็น ฤวะจริงนะเมือ่ ก้,ี

ฤเทวะนารี ธเสดจ็ ณศาลา?

60

และเจา้ ก็แลเหน็ , เพราะฉน้นั สิตอบมา

จะเปนสุดาฟ้า ฤวะเปนนะรีใด?

ศุภางค.์ พระทอดพระเนตร์เหน็ ดรุณีวิเศษไซร้,

มนุ ีธเล้ยี งไว้ ดจุ ะปรฺ ียะบุตรี,

และนางถนดั นาม มะทะนาวสิ ุทธี;

เสด็จประเวศท่ี วรบรรณะศาลา

ก็คงจะไดเ้ หน็ วธุน้นั นะอกี ครา,

เพราะหลอ่ นกค็ งมา ปฏบิ ตั ิพระภบู าล.

ชยั เสน. พธูประดามี ณบุรีฤไพรสาณฑ,์

จะหาวไิ ลยปาน ฤก็กบู เคยเห็น.

และหากว่ะกูได้ กจ็ ะรื่นฤดีเยน็ ,

จะรักและยกเปน ภริยาภิรมยส์ ม;

ทวิ าและราตรี บมิหน่ายมแิ หนงชม,

จะเร้าระตีรม- ยะระรื่นระรวยใจ.

(พระกาละทรรศินยนื คอยอย่จู นเห็นท้าวชัยเสนตรัสกบั นายทหารจบลงจ่ึงพดู ขนึ้ )

[ฉบงง, ๑๖.]

กา ฃา้ ขอทูลเชอญทรงชยั เสดจ็ เขา้ ใน อาศรมสราญร่มเยน็ .
ละทรรศนิ .

จริงอยเู่ รือนฃา้ กเ็ ปน เพยี งเรือนอย่างเชน่ บุคคลชาวป่ าอาศยั ,

61

แต่วา่ อาตมะเต็มใจ ตอนรบั ทา้ วไท.
ชยั เสน. ฃา้ ขอขะมาเถิดทา่ น!

ฃา้ เจา้ น้ีมวั สัง่ งาน กบั นายทหาร จ่ึงดูประหน่ึงเพกิ เฉย
ทีแ่ ทใ้ ช่เชน่ น้นั เลย.
(หนั ไปพดู กบั ศภุ างค.์ ) น่ีแน่ะเจา้ เอ๋ย, เฃา้ ใจกูแลว้ ฤๅไฉน?
รีบปลกู ซ่ึงพลบั พลาใหญ่ ณท่ีใกลๆ้ อาศรมสถานทนี่ ้ี.
ศุภางค.์ ฃา้ พระบาทเขา้ ใจดี และไดเ้ ลอื กท่ี ไวแ้ ต่เม่อื ลว่ งหนา้ มา;
ไดส้ ัง่ เฃาปลกู พลบั พลา, ซ่ึงในไม่ชา้ กค็ งสาเร็จเสร็จได.้
เมือ่ มาลกเเลว้ เม่ือใด ฃา้ บาทจะได้ นาความข้นึ กราบทูลพลนั
ชยั เสน. ฃา้ แตอ่ งคพ์ ระนกั ธรรม,์ อนั ตวั ดิฉนั ขอพกั อยูใ่ กลอ้ าศรม;
เพราะมาเม่อื ยลา้ ระทม, ไดผ้ ่อนอารมณ์ ณท่ีสาราญเช่นน้ี
คงจะพอเปนสุขี, ไมช่ า้ ฃา้ น้ี กค็ งจะลากลบั ไป.
แตห่ ากวา่ ฃา้ อย่ใู กล้ จะรบกวนไซร้ กจ็ ะไดร้ ีบแปรสถาน.
กา ราชะ, อนั พระภูบาล ก็เปนผผู้ ่าน พภิ พและทรงคมุ้ ครอง;
ละทรรศิน.
ฉันใดพระองคจ์ ะตอ้ ง เกรงฃา้ ผคู้ รอง เพียงเขตอรัญพงพี?
อนั โปรดตาบลหนน้ี อาตะมะมี ความปล้มื กมลพน้ ไป,
เพราะฃา้ โยคีชีไพร นานๆ จะได้ เฝ้าพระบรมบพติ ร์.
หากกล่าวตามอาเภอจิต พระองคส์ ถิต ย่ิงนานก็ย่ิงยนิ ดี.

62

ชยั เสน. ฉน้นั เชอญพระมุนี นาทางจรลี ฃา้ เจ้าจะตามท่านไป
(พระกาละทรรศินกับท้าวชัยเสนเดิรหายเข้าไปในอาศรม.)

[อนิ ทะวิเชยี ร, ๑๑.] ก็จะคดิ ประการใด?

ศุภางค.์ นึกน่าอนาถจิต

นึกแลว้ ว่ะทรามวยั ฤก็ควรกะทรงศกั ด์.ิ

นึกเลา่ กส็ งสาร วนิดายพุ าพกั ตร์,

นึกถึงจะตอ้ งหนกั อรุ ะแน่ละนงคราญ!

(ศุภางค์เดิรก้มหน้าเข้าโรงไปทางหลืบซ้าย, คนอื่น ๆ ยนื จ้องดตู ามไป.)

(ปิ ดม่ำน)

63

องกท์ ี่ ๓

ฉำก: ลำนหน้ำอำศรมของพระกำละทรรศิน

[คือฉากเดยี วกนั กบั ตอนท่ี ๓ แห่งองก์ที่ ๒ นั้นเอง, แต่หนังกวางท่ปี บู นแท่นศิลาใต้ต้นไม้
นั้นเกบ็ ไปเสีย; และสมมตว่าเปนเวลากลางคืน, มแี สงเดือนหงายแจ่มอย่างในวันเพญ็ .]

(ท้าวชัยเสนออกทางหลืบซ้าย.)

[อินทะวิเชยี ร, ๑๑.] บมิเคยณกอ่ นกาล!

ชยั เสน. โอโ้ อ๋กระไรเลย

พอเห็นก็ทราบส้าน ฤดิรกั บหกั หาย.

ยง่ิ ยลวะนิดา ละกย็ ่ิงจะร้อนคลา้ ย

เพลิงรุมประชุมภาย ณอรุ าบลาลด.

พศิ ไหนบมที ราม, วะธุงามสง่าหมด,

จนสุดจะหาพจน์ สรเสริญเสมอใจ.

องคว์ ิศฺวะกรรมนั นะสิป้ันวะธูไซร้

พอเสร็จกเ็ ทพไท พศิ ะรูปสุรางคเ์ พลนิ ;

ยนื เพ่งและน่งั พิศ วรพกั ตร์บหมางเมนิ ,

งามใดบงามเกนิ มะทะนาณโลกสาม:

แลวศิ ฺวะกรรมนั ผจิ ะป้ันวะธูตาม

แบบอีกกไ็ ม่งาม ดจุ ะโฉมอนงคน์ ้ี:

เหตนุ ้ีสินงคราญ ณสถานพภิ พตรี

64

จ่งึ ไมป่ ระสพที่ สิริรูปะเทียมทนั .
งามเกนิ มนุษจริง กละหญงิ นิมติ ร์ฝัน,
จนแรกประสพน้นั ดนุจวนจะปลุกตวั ,
นึกวา่ สนิธนิทร์ นยนากแ็ น่วนวั ,
แต่นึกกอ็ อกกลวั จะผวาและไมเ่ ห็น.
คร้ันเมือ่ สดบั ศพั - ทะสาเนียงกเ็ ยอื กเยน็
ราวด่มื อุทกเพญ็ รสะร่ืนระรวยใจ;
เสียงเจา้ สิเพรากว่า ดุริยางคะดดี ใน
ฟากฟ้าสุราลยั สุรศพั ทะเริงรมย.์
ยามเดิรบเขินขดั , กละนจั จะน่าชม;
กรายกรกเ็ รา้ รม- ยะประหน่ึงระบาสรวย;
ยามนง่ั กน็ ง่ั เรียบ และระเบยี บบเขินขวย,
แขนออ่ นฤเปรียบดว้ ย ธนุก่งกระชบั ไว.้
พศิ โฉมและฟังเสียง ละก็เพยี งจะฃาดใจ,
โอน้ อนจะหลบั ไหล ฤฉน้ีนะอกเอ๋ย!
ขืนนอนกร็ ้อนเร่า ฤดีเฝา้ คะนึงเชย,
หากขนื จะนอนเฉย อรุ ะอาจจะพงั ภิน.
จามาณท่นี ้ี เพราะวะ่ ใกลส้ ุนาริน;

65

โอเ้ ราบสมจิน- ตะนะไดฤ้ ฉนั ใด?

ชา้ ก่อน!ดนูเหน็ ณประตูสิราไร

ดงั หน่ึงจะมใี คร จระจากพระอาศรม.

อา้ ขอถวายอญั - ชลิองคส์ ุโรดม,

ขอใหด้ นูชม วธุเลิดเถอะสักที!

(ท้าวชัยเสนเลย่ี งเข้าไปแฝงอย่หู ลงั กอไม้ข้างซ้าย. มทั นาเดิรออกมาจากอาศรมและมายนื
พิงเสาระเบยี ง, มองดูดวงเดือน.)

[อนิ ทวงส,์ ๑๒.] ละไฉนนะเปนฉน้ี?

มทั นา. โอว้ า่ อนาถใจ

แต่ไรก็ไม่มี มะนะนึกระเหระหน;

ไม่เคยจะเชื่อว่า รติน้นั จะสปั ระดน

มาสู่ณใจตน และจะตอ้ งระทมระทวย.

เมื่อกอ่ นสิชายรกั กม็ ิพกั จะเออจะอวย,

อวดดีและอวดดว้ ย บมเิ คยจะลุม่ จะหลง;

ท้งั เคยเยาะเยย้ หยนั นระผพู้ ะวา้ พะวง,

ว่าเฃานะเขลาคง จะบพน้ ระอิดระอา.

เคยวา่ บรุ ุษกลา่ ว วจะลวงยพุ าและพา

ไปร่วมสิเนหา บมชิ า้ ก็ทอดก็ทง้ิ ,

ดงั น้นั สิแมช้ าย อภิปรายและออ้ ยและอ่งิ

66

เราจ่ึงมสิ ุงสิง และบรักสมคั สมาน.
คราน้ีสิพบชาย วรรูปวเิ ศษวศิ าล,
ใจวาบและหวามปาน ฤดิน้นั จะโลดจะลอย!
เธอน้นั ฤเจยี มตวั กริ ิยาก็เรียบก็รอ้ ย,
ไมม่ ีละสกั นอ้ ย จะแสดงณทว่ งณที
วา่ เธอประสงคจ์ ะ อภริ มยฤ์ ดีระตี,
เปนแตช่ าเลืองที่ ดนุบา้ งณคร้ังณคราว;
คราใดประสพเนตร์ ฤก็เราละร้อนและหนาว,
เธอไกลกด็ รู าว นภะไร้ตวนั และเดอื น.
โอว้ ่าณคราน้ี แหละฤดจี ะฟั่นจะเฟื อน,
ดว้ ยรักกระทาเชือน ละฉน้ีจะทาไฉน?

[สาลินี, ๑๑.] ก็กะมลบ่มน่ั ได้
วธุมง่ ณตวั เรา;
ชยั เสน. (พดู ปรารภ.) ผวิ ะขดั ฤดเี จา้
ฟังคาที่หลอ่ นบน่ ณพระบรรณะศาลา.
ว่าคาที่พดู ไซร้ เถอะนะเหน็ จะดกี ว่า,
หากเราน้ีหาญตอบ กร็ ะร่ืนระเริงใจ!
โฉมยงคงรีบเฃา้
คอยฟังเผื่อพดู อีก
เพยี งฟังเจ้าแกว้ ตา

67

มทั นา. (ยงั ไมเ่ หน็ ทา้ วชยั เสน, พูดคน ละกแ็ ทบจะร้องไห้,
เดยี ว.) กจ็ ะชวดละโอกาส.
ชยั เสน. โอน้ ึกข้นึ มาเเลว้ นะจะให้พระทรงราชย,์
มทั นา. พอหมดคืนน้ีไซร้ จระจากณที่น้ี?
เออทาฉันใดดี ยวุ ะพรหมะจารี,
อยู่ตอ่ ไม่ลลี าศ พจะทูลพระภูธร,
หากว่าไมไ่ ดเ้ ปน ณประเทศะน้ีก่อน;
คงกลา้ แลพาที พระกอ็ าจะเดารู้
ให้คงแรมอยู่อีก และกค็ งจะเอน็ ดู;
แลหากว่าทลู วอน ปฏิบตั ิพระบาทา.
วา่ เราน่ีภกั ดี ณฤดดี นูนา!
ตวั เราจกั ไดอ้ ยู่
โออ้ ยากให้ท่านรู้ ดนุเองก็เต็มใจ!
อยู่กอ่ นเถดิ ราชา! ยุวะดมี ณีมยั
(พูดตอบคาของมทั นา.)
อยากอย่เู พ่ือชมโฉม เอ๊ะ! ก็ใครนะพาที
ผเู้ ปนเจา้ ของใจ. มละแฝงณแห่งน้ี?

มาจากในท่ีมดื

68

ชยั เสน. ฃา้ เองซ่ึงหล่อนมี มะนะมงุ่ จะใหย้ ง้ั .
(เดิรออกจากท่แี ฝงมายืนหน้าอาศรม.)
กก็ ระไรพระมาบงั
มทั นา. อา้ จอมมงกฎุ เกลา้ ! วะจะของกระหม่อมฉัน,
พุม่ ไมแ้ ลทรงฟัง และมะเมอประหน่ึงฝัน,
ผบู้ น่ ดงั คนเพอ้ มกิ ะราชจะทรงยนิ .
ไม่ควรสมเดจ็ ธรร- ดจุ ะหล่อนและใหก้ ิน
ตะนะแทน้ ะนงคราญ.
ชยั เสน. ยินเเลว้ ฃา้ ชื่นจติ พระเสด็จณน่าศาล,
น้าทพิ ยท์ ีค่ วรจิน- เพราะก็ยอ่ มจะมีอาย;
จะกระทาประดุจฃาย
มทั นา. หากว่าหมอ่ มฉนั ทราบ เพราะว่ะเกรงจะดแู คลน.
ปากคงไมอ่ าจหาญ ฤก็สุดจะหวงแหน;
อนั หญงิ ย่อมไม่อยาก กละชวนบรุ ุษชม.
ความรักใหแ้ กช่ าย อธิราชนะโรดม
อนั ช่ือของหม่อมฉัน ภะเเละบ่นณราตรี,
เกลียดหญิงท่แี ปร๋แปรน้ ดนุทรามและสิ้นดี,
คราน้ีพนั เอนิ องค์ บมเิ ขนิ มิขวยใจ,
ทรงยนิ คาปรารม-
คงทรงนึกอยวู่ ่า
ราวนางโสเภณี

69

แลว้ คงทรงดูถกู ดนุน้ีละยิ่งใหญ่
วา่ เปนผหู้ ญงิ ไร้ คุณะธรรมะอนั ควร.
หมอ่ มฉนั ขอทูลลา นรนาถบดศี วร,
ยิ่งอยคู่ งยงิ่ กวน วรบาทพระภูธร.

[อปุ ัฏ ้ติ า, ๑๑.] บริสุทธิบงั อร,
เพราะสดบั วะจีหวาน?
ชยั เสน. อา้ โฉมมะทะนา มธุรสฤดบี าน,
ฃา้ ฤๅจะติหล่อน กรุณาณฃา้ น้ี.
ชื่นจติ ตะสดบั วนิดาวะรางคี,
ทราบว่ายุวะมาลย์ ฤดิทว่ มสิเนหา;
พอเห็นวรพกั ตร์ นะแหละย่นื สุหัดถม์ า
บดั น้นั ฤกม็ ี และกระลงึ หทยั ไว;้
เหมือนโฉมดะรุณี นะสิยงั บคืนให้,
ลว้ งใจดนุคร่าห์ วรหัดถะแน่นครนั !
แตน่ ้นั ก็อนงค์ และจะคนื หะทยั น้นั ,
กาดวงฤดใิ น ยะพลิ าปพไิ รวอน
หากนางบมิชอบ กรุณาดะนูก่อน,
ฃา้ น้ีก็จะศลั - ระติราญสุไมตรี.
ขอใหว้ นิดา
อย่าเพ่อสละรอน

70

ถงึ หล่อนจะมริ ัก กจ็ ะขอกะโฉมศรี
ใหย้ อมดนุมี ฤดริ ักพะธูไป,
จนกวา่ จะประจกั - ษะณจิตตะหล่อนไซร้
แลว้ ยกฤดิให้ ดนุผพู้ ยายาม.
อา้ โฉมมะทะนา ผิวะหลอ่ นจะยอมตาม
ใจพ่ีละก็ความ สุขะพจ่ี ะพนู พ;ี
แตห่ ากมะทะนา บมิรกั กพ็ ่นี ้ี
เหมอื นตกอะวจิ ี ทุขะทว่ มบรู้วาย.

[ภุชงคปั ปะยาตร,์ ๑๒.] ดารสั แห่งพระฦๅสาย,
และกราบแทบพระบาทา.
มทั นา. กระหม่อมฉนั สดบั คา สุรสแห่งพระวาจา,
ประณตนอบระยอบกาย พระบาทปล้มื บลมื รส,
กร็ สใดจะหวานแมน้ ยะภาพแห่งพระทรงยศ,
กระแสร์ทราบณทรวงฃา้ ฤลมื จนณวนั มรณ์.
และรู้สึกพระการุณ- ฤเปนชาวพะนาดร,
จะฝังใจบไดล้ ด จะเสียเปรียบบ่ควรหวงั ;
กแ็ ต่ว่ากระหมอ่ มฉัน สถิตแทบณเวยี งวงั ,
จะเทียบชาวนครค่อน ประดบั แกว้ วราภา,
สนมนางกานลั ใน
ฉวนี วลสะกาวปลง่ั

71

ชยั เสน. และรูจ้ กั บาเรอครบ ประจบองคพ์ ระราชา,
กระหมอ่ มฉนั สิชาวป่ า จะสูเ้ ฃาบไดแ้ ท.้
มทั นา. อะ๊ ! จริงๆ นะแกว้ ตา ดนูน้ีบอยากแล
ชยั เสน. ฤเชยนาริอน่ื เเม้ กนิษฐาประนอมรกั ;
เพราะนารีณวงั ใน บมีใครจะงามพกั ตร์
ฤงามรูปวไิ ลยลกั ษณ์ เสมอเจา้ บพึงม.ี
คณานางสนมเปรียบ ประหน่ึงกาและถ่อยท,ี
วธูยอดฤดพี ี่ ประหน่ึงหงสส์ ุพรรณพ์ รรณ:
ก็พ่ีน้ีสิเคยชม วิหคหงสะเลอสรร
จะกลบั ชมอกิ าน้นั บไดแ้ ลว้ นะแกว้ ตา!
กระหมอ่ มฉนั ก็เคยทราบ สุภาษิตบุราณว่า
บุรุษยามสิเนหา กพ็ ดู ไดล้ ะหลายล้ิน,
ประจบนางและพลางกอด พนอพลอดและปลอดปลนิ้ ,
และหลอกเยาวะนาริน.
ผลิ ้ินพ่จี ะมหี ลาย,
กท็ กุ ล้นิ จะรุมกล่าว แสดงรกั ณโฉมฉาย,
และทกุ ลิ้นจะเปรยปราย ประกาศถอ้ ยปะฏญิ ญา
พะจวี ่าจะรักยืด บจางจดื สิเนหา;

72

มทั นา. สบถให้ละตอ่ หนา้ พระจนั ทร์แจ่มณเวหน.
ชยั เสน. พระกล่าวอา้ งพระจนั ทร์น้ี ชรอยทีมิชอบกล
มทั นา. เพราะเหตุใดละหนา้ มน?
เพราะเดอื นน้นั มิมนั่ คง.
ชยั เสน. ณฃา้ งข้ึนสิหงายแจม่ กระจ่างสดและกลดทรง,
ณขา้ งแรมบเหน็ องค์ พระจนั ทร์เจา้ ณราตรี!
มทั นา. ฉน้นั ขอสบถต่อ สุดาราจารสั ศรี
วะแวววบั ระยบั ที่ นะภากาศพะแพรวพราย.
ชยั เสน. ก็เหน็ วา่ มิชอบกล ละอกี แลว้ พระฦๅสาย,
มทั นา. เพราะเมื่อใดพระจนั ทร์ฉาย กข็ บั ดาวละลายไป.
ฉน้นั เจา้ จะให้พ่ี สบถโดยสุเทพใด?
ก็หากทรงประทานให้ กระหม่อมฉันนะเลือกสรร,
จะขอให้พระสาบาล ณองคเ์ ทวะเทวนั
พระองคใ์ ดกไ็ ม่มนั่ ฤดีเท่าพระจอมเกศ;
พระองคท์ ูลกระหมอ่ มแกว้ ก็สมมตสุเทเวศร์,
ฉน้นั แมพ้ ระทรงเดช ดารสั คาปฏญิ ญา,
กระหมอ่ มฉนั กจ็ งรกั และภกั ดแี ละเปนฃา้
ไฉนเล่าจะสงกา?

73

ชยั เสน. ฉน้นั พี่กย็ นิ ด!ี

(ท้าวชัยเสนไปจูงมือมัทนาจากระเบียงและจงู มากลางเวท.ี )

[โตฎก, ๑๒.] วรยอดยุพะดี,

มะทะนาดนุรัก

และจะรักบมิมี ฤดหิ น่ายฤระอา;

ผิวะอายจุ ะยืน ศะตะพรรษะฤกวา่

กจ็ ะรกั มะทะนา บมหิ ย่อนฤดหิ รรษ;์

นยะนาก็จะชม วธุต่างมะณิพรรณ,

และจะสูดสุวะคนั ธ์ ระสะตา่ งสุผะกา;

ผวิ ะตน่ื ก็จะดู ยวุ ะดสี ิริมา,

ผิวะหลบั ฤกฃ็ า้ จะสุบินฤดิเพลิน:

ทิวะราตริจะนอน, ฤจะนงั่ ฤจะเดิร,

บมมิ ีละจะเหิน ฤจะห่างมะทะนา;

บมเิ หน็ วรพกั ตร์ ก็จะหนกั อุระวา้ ,

ขณะเคียงพะนิดา กร็ ะรื่นฤดศิ านต.์

ผิวะเจา้ กส็ มคั และจะรกั ดนุนาน,

จระสู่อทุ ะธาร เถอะนะเรากจ็ ะวกั

อทุ ะกล่าวสุประทาน เฉพาะเทพสุรศกั ด์,ิ

และฉน้นั ละกจ็ กั ดจุ ะหม้นั จะววิ าห์.

74

มทั นา. ผพิ ระโปรดละก็ขอ้ ย บมิขดั วะจะนา,

และจะตามพระลิลา จระทว่ั ปะฐะพ.ี

(บัดนีส้ มมตว่าเร่ิมจะรุ่ง, ฉนั้นให้มีแสงแดงขนึ้ ทีท่ ้องฟ้า, แล้วคอยเปิ ดไฟขาวมากขนึ้ ทลี ะ
น้อยๆ ระหว่างเวลาที่สองคนพดู กนั ต่อไปน.ี้ )

(อที ิสะ, ๒๐.)

ชยั เสน. อา้ อะรุณแอร่มระเร่ือรุจี

ประดจุ มโนภิรมยร์ ะตี ณแรกรกั !

แสงอะรุณวโิ รจน์นะภาประจกั ษ์

แฉลม้ เฉลาและโศภินกั นะฉันใด,

หญงิ และชายณะยามระตีอุทยั

สว่างณกลางกะมลละไม กฉ็ ันน้ัน;

แสงอษุ าสะกาวพะพราวณสรรค์

กเ็ หมือนระตวี ิสุทธิอนั สวา่ งจติ !

อา้ อนงคะเชอญดาเนิรสนิธ

ณฃา้ งดะนูประดจุ สุมิตร์ มโนมาน,

ไปกระทงั่ ณฝั่งอุทกอะจรี ะธาร

และเปล่งพะจีณสจั จะการ ประกาศหม้นั ,

ต่อพระพกั ตร์สุราภิรกั ษะอนั

เสด็จสถติ ณเฃตอะรัณ- ยะนี่ไซร,้

75

วา่ ดะนูและนอ้ งจะเคียงคระไล
และครองตลอดณอายุขยั บ่คลาดคลา!
มทั นา. สูรฺยะส่องสว่างณกลางนะภา
ก็พลอยสวา่ งณภมู หิ ลา้ แหละฉนั ใด,
อนั พระโปรดกจ็ ิตตะฃา้ ก็ได้
สวา่ งกระจ่างและสดและใส ณบดั น้ี!
ฃา้ พระบาทจะสุขสราญฤดี
ก็ยอ่ มจะโดยพระบาระมี ธปกเกลา้ :
พ่งึ พระคณุ กะรุณฺ ยะคา่ และเชา้
จะปราศะโศกบมเี ศร้า ฤทุกข;
ใจจะอิ่มจะเอมเพราะเปรมปฺริย,
และรื่นณรสระตจี ิร ระรวยใจ.
ทูลกระหมอ่ มเสดจ็ ณเทศะใด
กฃ็ า้ พระบาทจะตามธไป พระเจ้าฃา้ !
(ท้าวชัยเสนกับมัทนาจูงมือกันเดิรเข้าโรงทางหลืบซ้าย.)
(บัดนสี้ ว่างแจ้งแล้ว. เวทวี ่างอย่สู ักครู่ ๑. เสียงไก่ขันและนกร้องในโรง. แล้วมีพวกบริวาร
ของพระกาละทรรศินออกมากวาดลานหน้าอาศรม, ศนุ เปนผ้กู ากับพวกทางาน. อกี สักครู่ ๑.
นาคจ่ึงออกจากทางหลืบขวา, หน้าตาต่ืน.)
นาค. มนั เกดิ เรื่องพิกลเสียแลว้ ละเพือ่ น.

76

ศนุ . พกิ ลอะไร?
นาค. ตน้ นน่ั น่ะ.
ศุน. ตน้ นนั่ อะไร? พูดให้เหมือนคนหน่อยไม่ไดเ้ ทยี วหรือ?
นาค. ตน้ ไมว้ เิ ศษของท่านอาจารยอ์ ย่างไรล่ะ.
ศนุ . กพุ ชะกะ! ฃา้ เพยี รทอ่ งช่ือเสียเปนนานจ่งึ จาได.้ แลว้ กม็ นั เปนอะไรไปล่ะ?
นาค. หายไปแลว้ !
ศุน. บดั ซบ! กว็ นั เพญ็ ตน้ นน่ั กลายเปนนางนี่เพอ่ื น.
นาค. แกสิบดั ซบ! เม่อื วานน้ีตา่ งหากวนั เพญ็ . วนั น้ีแรมคา่ ๑.
ศนุ . เออ, จริงแฮะ! นางควรจะกลบั เปนตน้ ไมอ้ ีกแลว้ .
นาค. ก็นนั่ สิ; แต่เด๋ยี วน้ีตน้ ไมไ้ ม่ไดอ้ ยู่ตามทเ่ี คยอย.ู่
ศุน. ฃา้ ว่าแลว้ ไหมละ่ ว่าตน้ ไมน้ ี่มนั เปนตน้ ไมผ้ ี. ถา้ เปิ ดกลบั ไปอยู่ป่ าเสียอีกละก็จะทา

ความลาบากกบั พวกเราอกี ละนะ.
นาค. จริง! ฃา้ ก็ตอ้ งถกู ขนาบแย่เทา่ น้นั .
ศุน. แน่ละ! แกม่ นั เปนน่าท่บี ารุงรักษาตน้ ไมน้ ้นั อยดู่ ว้ ย.
นาค. จะทาอยา่ งไรกนั ดีล่ะเรา?
ศุน. อยา่ มาลากเอาฃา้ เขา้ ไปดว้ ยเลย. ฃา้ ไม่ขอแบง่ โทษของแกดอก, เชื่อเถอะ.
นาค. เอาเถอะ, โทษทณั ฑฃ์ า้ รับคนเดียวก็ได,้ ขอแต่ให้ชว่ ยออกความคิดหน่อยเถอะ.
ศุน. เปิ ด!
นาค. เปิ ดอะไร?

77

ศนุ . เปิ ดหนีน่ะสิ!
นาค. หนีไปไหน?
ศนุ . อนิจจอนิจจา! หนีไปไหนก็ตอ้ งถามดว้ ย. ดงออกกวา้ งขวางจะหนีไม่พน้ เทียวหรือ?
นาค. ถา้ เสือไม่กินเสียกค็ งอดตายเทา่ น้นั . ไปคนเดียวจะเอาเสบียงอาหารไปไดพ้ อหรือ?
ศนุ . คนเอ๋ยคน, เกิดมาทาไมจ่ึงโง่เช่นน้ี?
นาค. โงอ่ ย่างไร?
ศนุ . คา่ ยหลวงต้งั อยกู่ บั แคจ่ มูกแกไมเ่ หน็ หรือ?
นาค. ก็แลว้ กอ็ ย่างไรละ่ ?
ศุน. กเ็ ราเขา้ ไปสามิภกั ด์ิกบั เฃาว่าจะขอตามเสด็จกลบั ไปกรุงดว้ ย, เท่าน้นั กจ็ ะสิ้นเร่ือง

กนั .
นาค. จะส้ินเร่ืองอย่างไร? เวลาน้ีก็ยงั ไม่มกี าหนดที่จะเสดจ็ กลบั , ฉน้นั ถงึ ฃา้ จะไป

สามภิ กั ด์ิ กค็ งยงั ไมไ่ ดไ้ ปพน้ ทีน่ ้ี.
ศุน. แลว้ กนั ! ก็แกเฃา้ ไปปนๆ อย่เู สียในพวกทหารกแ็ ลว้ กนั , แลว้ ก็เมอ่ื ไรไดย้ นิ เฃาเท่ียว

ตามหาตวั ก็แอบเสียก็ได,้ ใครจะกลา้ ไปคน้ ควา้ หาแกในค่ายหลวง.
นาค. ชา้ ก่อน!
ศุน. จะชา้ อยู่อีกทาไม? แกน่ีวอนจะถกู ทาโทษหรือ?
นาค. ไม่ใช!่ ฃา้ นึกอะไรข้นึ มาออกอยา่ งหน่ึง. ผูค้ นตามเสดจ็ เจา้ นายมามาก, บางทีจะไดม้ ี

ผมู้ าลกั เอาตน้ ไมว้ ิเศษไปเสียละกระมงั .
ศนุ . เออ! ก็แลว้ แกจะคดิ อยา่ งไรละ่ ?
นาค. เราตอ้ งสืบดูเคา้ เงือ่ นสิ.

78

ศนุ . “เรา” อีกแลว้ ! ขอเสียทเี ถอะ อย่าพดู แทนคนอน่ื หน่อยเลย แกเปนผมู้ ีน่าทีร่ ักษา
ตน้ ไมว้ ิเศษ, เม่อื ทาตน้ ไมข้ องท่านหายกเ็ ปนน่าทีข่ องแกทจ่ี ะสืบแสวงหาเอากลบั คนื
มา, หรืออยา่ งนอ้ ยก็สืบให้ไดร้ ่องรอยวา่ ใครเปนผรู้ ้าย.

นาค. ก็จะไปสืบดว้ ยกนั ไมไ่ ดห้ รือ?

ศนุ . ตอ้ งขอตวั เสียทีละเพื่อน! ฃา้ กลวั หวั แตก.

นาค. ทาไมจะตอ้ งหัวแตก?

ศน. เพราะถา้ พวกทหารไดล้ กั เอาไปจริง, ก็คงเปนเพราะเฃาอยากได,้ และถา้ เฃาอยากได้
เฃากค็ งไม่อยากให้เราไปพบและเอากลบั คนื . เพราะฉน้นั ขนื เฃา้ ไปสืบไปถามเฃาก็
คงแพ่นเอากระบาลแยะ; แต่ถา้ เฃาไมไ่ ดล้ กั เอาไป และเราเฃา้ ไปสืบไปถามเฃาก็คง
โกรธวา่ หาความร้ายใส่เฃา, แลว้ ก็คงแพน่ เอากระบาลแยะเหมอื นกนั .

นาค. ทีแ่ กพูดนี่ก็ชอบกลอย.ู่

ศนุ . ชอบกลสิฃา้ จ่ึงไดพ้ ดู ; แลว้ ก็เพราะเห็นว่ามีแต่ท่าทางท่ีจะตอ้ งหัวแตกท้งั น้นั ฃา้ จ่ึงขอ
ตวั ไม่ไปกบั แก. แตอ่ ย่าวิตก, เสียแรงเราเปนเพื่อนกนั มานาน, ถา้ แกถกู ตีหัวแตกแลว้
ละกก็ ลบั มาเถอะ, ฃา้ จะคดั เลือดให้.

นาค. เมื่อไม่ไปดว้ ยกนั ก็ตามใจ, ฃา้ จะตอ้ งรีบไปเดย๋ี วน้ี.

ศุน. ชา้ กอ่ น! ไม่ตอ้ งรีบร้อนไปฃา้ งไหนละ. (ช้ีทางซ้าย.) นายทหารคนสนิธของเจา้ นาย
กาลงั เดิรมาน่ีแลว้ . คอยพบพดู กบั ท่านทน่ี ่ีกไ็ ด.้

นาค. จริง แลว้ ก็บางทถี า้ ทา่ นใจดกี ็อาจจะชว่ ยใหค้ วามสดวกแก่เราดว้ ย.

ศุน. ก็เช่นน้นั น่ะสิ! แกน่ีถา้ ไม่มีฃา้ คอยเปนท่ีปรึกษาคงเอาตวั ไมร่ อด.

นาค. เอาเถอะ, ฃา้ ไมอ่ ยากเถียงกบั แกเ่ วลาน้ี

(ศุภางคอ์ อกทางหลบื ซา้ ย ศิษยท์ ้งั ๒ ตรงเฃา้ ไปไหว.้ )

79

ศนุ . ใตเ้ ทา้ ขอรบั กระผมขอความกรุณาสักหน่อย.
ศุภางค.์
ศนุ . มีธุระอะไรหรือเพอ่ื น?

นาค. ธุระน่ะมอี ยูข่ อรับ, แตม่ นั ไมใ่ ช่ธุระของกระผม; มนั เปนธุระของเพือ่ นกระผม, ดงั ที่
เพอ่ื นกระผมจะไดก้ ราบเรียนเอง. (ดนั หลงั เพอ่ื นให้ออกไป.)
ศุน.
กระผมมีความทุกขร์ ้อนอยมู่ าก, จ่ึงอยากจะขอความกรุณาตอ่ ใตเ้ ทา้ . คือว่าบดั น้ีได้
นาค. เกิดเหตุ-
ศุภางค.์
ศุน. (แยง่ พดู .) ขอรบั , เปนเหตใุ หญ่, ทาให้เปนทีว่ ติ กแกพ่ วกกระผมมาก, ดงั เพอ่ื น
กระผมจะไดก้ ราบเรียนตอ่ ไป. (กระตุน้ หลงั เพ่ือน.)
ศุภางค.์
ศนุ . นนั่ แหละขอรับ, ตามท่ใี ตเ้ ทา้ ไดท้ ราบแลว้ -เออ้ -เออ้ -

ศภุ างค.์ ฉันจะทราบอย่างไรได,้ เมอ่ื แกยงั ไม่ไดเ้ ล่าอะไรให้ฉันเลยจนอย่างเดยี ว!
นาค.
ศนุ . กระผมตอ้ งขอรับประทานอภยั แทนเพื่อนของกระผม. เฃาเปนคนทีข่ ้ีประหม่า, และ
ศภุ างค.์ พูดจาไม่ใคร่จะเปน, เพราะไมใ่ คร่จะเคยพบเห็นคนสาคญั เชน่ ใตเ้ ทา้ .

ฉันเห็นแลว้ ว่าแกเปนคนที่เกง่ กว่าเพือ่ นแกมาก; ฉน้ันแกเลา่ เร่ืองให้ฉันฟังกแ็ ลว้ กนั .

เรื่องกม็ ีอยสู่ ้นั นิดเดียว, ซ่ึงเมอ่ื รวบรดั ตดั ความและสรูปหัวขอ้ แลว้ ก็-ก-็ มขี อ้ สรูป
ดงั ท่ีเพื่อนกระผมจะไดก้ ราบเรียนต่อไป.

(กระตนุ้ หลงั เพือ่ นอกี .)

ใครจะเลา่ ก็เล่าเสียคนเถอะเพอื่ น. มวั เกี่ยงกนั อยเู่ ชน่ น้ีเสียเวลานกั .

คือว่าพระอาจารยท์ า่ นมตี น้ ไมว้ ิเศษอยูต่ น้ หน่ึง-

ซ่ึงชื่อกพุ ชะกะ, ตามที่ใตเ้ ทา้ ไดท้ ราบอยแ่ ลว้ .

เปล่า, ฉนั ยงั ไม่ไดท้ ราบเลยวา่ ช่ืออยา่ งน้นั . แตก่ ช็ ่างเถอะ, เลา่ ตอ่ ไป.

80

นาค. ทา่ นรักตน้ ไมน้ ้ีมาก, และปลูกไวก้ ลางสวนฃา้ งอาศรม-
ศุน.
ศภุ างค.์ แต่บดั น้ีไม่อยู่ที่นนั่ แลว้ เพราะวา่ - เออ้ - ดงั เพอื่ นกระผมจะไดก้ ราบเรียนต่อไป.

ศนุ . ถา้ แกจะมวั แต่แย่งกนั พดู อยู่เชน่ น้ีเหน็ จะไม่มีวนั ได้เรื่อง, เพราะฉน้นั ฉันจะขอลอง
ศุภางค.์ สนั นิษฐานเรื่องดเู อง. ตน้ ไมท้ ีแ่ กกล่าวถงึ น้ีคือตน้ ทีก่ ลายเปนนางทุก ๆ วนั เพญ็ ใช่
ศนุ . ไหม?
ศุภางค.์
นาค. ใตเ้ ทา้ มคี วามปรีชาสาไถย-เอ๊ย-สามารถมาก จ่งึ ได-้
ศุน.
ศภุ างค. พอที! ฉนั ถามตรง ๆ ขอใหต้ อบตรง ๆ
นาค.
ศนุ . ตอบตรง ๆ ก็คอื ว่าใตเ้ ทา้ ทายถูกแลว้ .

ศุภางค. ก็แลว้ อยา่ งไรละ่ ?

ศุน. แลว้ กว็ นั น้ีแรม ๑ ค่าแลว้ ขอรบั , แต่-
ศุภางค.์
แต่ตน้ ไมน้ ้นั ไมอ่ ยูท่ ่กี ลางสวนตามเคย.

เออ, แลว้ กจ็ ะให้ฉันทาอยา่ งไรล่ะ?

ก็สุดแทเ้ เต่ใตเ้ ทา้ จะโปรดกรุณาเถอะขอรบั , เพราะวา่ -เออ้ -เออ้ -

เพราะวา่ เพ่ือนกระผมสงสยั ว่าพวกของใตเ้ ทา้ อาจจะไดม้ าเอาตน้ ไมน้ ้นั ไป, เทา่ น้นั
แหละขอรบั .

(หัวเราะ.) ชอบกล! ฉันจะบอกอะไรให.้ ฉนั เองก็ออกจะสงสัยอย่วู ่า พวกของฉันผู้
หน่ึงเปนตน้ เหตุทาใหต้ น้ ไมว้ ิเศษของแกหายไป.

ถา้ เชน่ น้นั ใตเ้ ทา้ คงจะกรุณาโปรดช่วยใหไ้ ดต้ น้ ไมน้ ้นั คนื มาละสิขอรับ?

อ๋อ, ฉนั รบั รองเชน่ น้นั ไมไ่ ดด้ อกเพ่ือน เพราะถา้ ผทู้ ่ลี กั ตน้ ไมไ้ ปน้นั เปนคนท่ีฉนั
สงสัยละก็ ฉันไปเอาคืนมาให้แกไม่ไดด้ อก!-เออ, ฉนั เห็นโสมะทตั มาทางน้ีแลว้ ;
ฉันขอพดู กบั เฃาสกั หน่อย.

81

(โสมะทัตออกทางหลืบขวา.)

[ฉบงง,๑๖.]

โสมะทตั . ฃา้ เคารพทา่ นเสนา! อนั ตวั ท่านมา แห่งน้ีทาไมแตต่ รู่?
ศุภางค.์ เรามีธุระรอ้ นอยู่ มาหาท่านผู้ เปนศิษยผ์ ใู้ หญ่ทน่ี ้ี.
โสมะทตั . พวกเจา้ จงหลกี ไปท!ี เรากบั เสนี มีกจิ จะพดู จากนั .

(พวกศษิ ยแ์ ละบริวารเฃา้ โรงทางหลบื ขวาท้งั หมด.)
บดั น้ีมขี อ้ สาคญั ใดจงบอกพลนั , เสนีมติ อ้ งเกรงใจ.
ศภุ างค.์ ท่านเคยไดเ้ ล่าเร่ืองให้ ว่านางทรามวยั ผเู้ ห็นอยเู่ มือ่ วนั วาน
น้นั โดยปรกะติกาล เปนพฤกษะมาน มาลีสุคนธห์ อมเยน็ ,
และตอ่ เมื่อถงึ วนั เพญ็ นางจ่ึงจะเปน นงคราญวสิ ุทธ์ิศรีใส,
ดงั น้นั ถกู ฤๅฉนั ใด?
โสมะทตั . ถูกเชน่ น้นั ไซร.้
ศภุ างค.์ แลว้ ก็เม่ือครบหน่ึงวนั
กบั อีกหน่ึงคนื นางน้ัน กก็ ลบั กลายพลนั เปนพฤกษะอีกทนั ท,ี
ถูกไหมเฃา้ ใจเชน่ น้ี?
โสมะทตั . ถกู แลว้ เสนี.
ศภุ างค.์ เมือ่ ก้พี วกศิษยบ์ อกฃา้
ว่ากุพฺชะกะพฤกษา หายไปแลว้ นา; ทา่ นทราบเหตแุ ลว้ ฤๅไฉน?
โสมะทตั . พอตื่นแลว้ บูชาไฟ, แลว้ ฃา้ ก็ไป ยงั สวนทฃี่ า้ งอาศรม,

82

ต้งั จติ ตรงไปใฝ่ ชม กุพชะโกดม, แตเ่ ดริ ไปถงึ ย่านกลาง
สวนน้นั ก็เห็นหลมุ วา่ ง, พฤกษาสาอาง มอิ ย่ณู ทเี่ คยอยู่.
ฃา้ เท่ยี วคน้ ควา้ หาดู เผื่อจะไปอยู่ แห่งอื่นเพ่ืออาศยั ร่ม.
ไม่พบตระหนกอกกรม, จ่งึ มาอาศรม เผอ่ื จะไดพ้ บภายใน.
ศภุ างค.์ น่ากลวั ป่ วยการเขา้ ไป!
โสมะทตั . เอะ๊ ! เพราะเหตใุ ด? โปรดบอกให้รูก้ ิจจา.

[ยานี , ๑๑ ] เมื่อยา่ สามแลว้ ไมช่ า้ ,
เหน็ คนลงจากมาลก;
ศุภางค.์ เมอื่ ดกึ ฃา้ ตรวจยาม วา่ ต้งั ใจจะปิ ดปก,
เดิรผา่ นหน้าพลบั พลา และรีบเดริ ด่มุ ๆ พลนั .
ทา่ ทางน้นั เหน็ ได้ จ่งึ เตรียมออกสกดั ก้นั
แฝงกายกาบงั รก ส่องกระจา่ งสวา่ งไซร้,
ฃา้ เหน็ กส็ งสยั แลว้ ตูฃา้ กจ็ าได,้
แตพ่ อแสงเดือนพลนั จากค่ายหลวงบหา้ มปราม
ฃา้ มองไปดหู นา้ อนั ตฃู า้ กเ็ ดริ ตาม
จ่งึ ยอมใหค้ รรไล ประทษุ ฐ์อนั อาจเกิดมี.
แตพ่ อพน้ ตรงหนา้ วา่ ท่านเล่าถึงใครน่ี;
เพอ่ื ป้องกนั ซ่ึงความ ท่านคงจบั เปนแน่นอน.

โสมะทตั . ฃา้ ฟังก็พอเดา
หากเปนผอู้ ื่นที

83

ศภุ างค.์ ทา่ นเดาคงไมผ่ ดิ ; จงต้งั จิตฟังฃา้ กอ่ น.
อนั ผทู้ ฃ่ี า้ จร สกดรอยและตามมา,
เม่อื ถงึ ก็ยนื กลาง ระหว่างลานและเจรจา
พร่าบ่นประหน่ึงวา่ คนมะเมอและเพอ้ ฝัน!
ตอ่ น้นั จ่ึงเห็นนาง ออกมาจากฃา้ งในบรร-
ณะศาลและยนื ผนั พกั ตร์ชะแงแ้ ลดูเดอื น,
แลว้ บ่นอยู่คนเดยี ว ดงั หน่ึงจติ จะฟั่นเฟื อน;
ฝ่ ายชายไดฟ้ ังเพ่ือน กพ็ ดู ตอบพะจีพลนั ,
แลว้ ต่างก็แลกรกั สมคั จติ สนิธกนั ,
ฃา้ เห็นวา่ อยู่นนั่ มคิ วรแลว้ จ่งึ ถอยห่าง.
คร้ันเม่อื อรุณฉาย อุษาพรายพ้ืนนะภางค,์
เห็นคูส่ ิเน่หพ์ ลาง จบั หดั ถจ์ งู กนั จากลาน,
มุง่ ตรงลงไปยงั ณทฝ่ี ่ังอุทกธาร,
แต่น้นั กระทงั่ กาล บดั น้ียงั มิกลบั มา.
ขอบอกใหท้ ่านรู้ เพื่อตรองดูจงดีว่า
อนั โฉมนงพงา จะกลบั ร่างฤๅอยา่ งไร;
ฤๅวา่ พอมคี ู่ เปนเชิงชทู้ ช่ี อบใจ
นางน้ันจะมิได้ กลบั รูปเปนเหมอื นเชน่ เคย?

84

โสมะทตั . ขอ้ น้ีไม่เคยรู้, ท้งั มิไดค้ านึงเลย,

เพราะเหน็ นางทรามเชย ไม่เคยชอบในเชิงช;ู้

แต่เมือ่ ทา่ นถามมา ฃา้ กเ็ ห็นชอบกลอย่,ู

จาเปนตอ้ งเรียนครู ให้ทา่ นทราบซ่ึงกิจจา.

ขอทา่ นจงคอยกอ่ น ฃา้ จะรีบเฃา้ ไปหา,

และเรียนพระสิทธา เล่าแถลงแจง้ คดี.

(โสมะทตั ขนึ้ สู่อาศรมแล้วหายเฃ้าโรงไปทางประตูอาศรม. ฝ่ ายศภุ างค์ไปน่ังแท่นศิลาใต้
ต้นไม้, ท่าทางราพึงอย่.ู สักครู่ ๑ นาคกบั ศุนจึงพากันย่องออกทางหลืบขวา, และตรงไปไหว้
ศภุ างค์.)

นาค.ใตเ้ ทา้ ขอรบั . ศภุ างค.์ อา้ ว, ทาไมกนั อกี ละ่ เพ่ือน? นาค.กค็ อื วา่ - ศุน.เพอ่ื นกระผมต้งั ใจ
จะกราบเรียนว่า เร่ืองทีไ่ ดก้ ราบเรียนแลว้ เมอ่ื ก้ีน้ีน้นั , มนั มขี อ้ ความต่ออีก, ดงั เพ่อื นกระผมจะได้
กราบเรียนต่อไป.

(สะกิดเพ่ือน.)

ศุภางค.์ เพอื่ ไม่ให้ตอ้ งเปลืองเวลาเปลา่ , ฉันขอบอกให้เพอ่ื นทราบว่าเร่ืองทเ่ี พอ่ื นจะเล่าน้ัน
ฉันไดร้ ู้เพียงพอท่ีฉันอยากจะรูแ้ ลว้ , และฉันขอแนะนาว่า ในส่วนตวั เพื่อนท้งั สองก็
ไม่ควรอยากรูอ้ ยากเห็นอะไรย่ิงไปกว่าทีไ่ ดร้ ู้ไดเ้ หน็ อย่แู ลว้ , เฃา้ ใจไหม?

นาค. ไม่เขา้ ใจขอรับ!

ศภุ างค.์ (พดู กบั ศุน.) แตส่ ่วนเพือ่ นเปนคนฉลาดคงเขา้ ใจแลว้ ละสินะ?

ศุน. เฃา้ ใจแลว้ ขอรบั .

ศภุ างค.์ เฃา้ ใจว่ากระไร?

ศนุ . เฃา้ ใจวา่ ใตเ้ ทา้ ไมอ่ ยากพูดกบั กระผมและเพอื่ นกระผมอีก.

85

ศภุ างค.์ (หัวเราะ.) ฉนั วา่ แลว้ ว่าแกเปนคนฉลาด!

(พระกาละทรรศินออกทางประตอู าศรมมายืนอย่ทู ่ีระเบียง; โสมะทตั ตามออกมาด้วย.
ศภุ างค์ลุกขนึ้ กระทาความเคารพ. ฝ่ ายนาคและศนุ เลย่ี งเฃ้าโรงทางหลืบขวา.)

[ยานี, ๑๑.] ออ้ , โสมะทตั เลา่ ใหเ้ ราแลว้ ละเสนี,

กา
ละทรรศิน.

และเรามไิ ดม้ ี ความเดือดรอ้ นเท่าใดนกั ;

เพราะเราเฃา้ ใจว่า มะทะนาบุตรีรกั

คราน้ีบางทจี กั ไดป้ ล้ืมปลาบสิ้นสาปสรรพ.์

หากนางจะมโี ชค โดยสมเดจ็ พระทรงธรรม์

โปรดปรานนงคราญน้นั กค็ วรที่จะดใี จ;

และมาจนบดั น้ี ยงั คงรูปเปนนางไซร,้

ไมก่ ลายเปนตน้ ไม้ ไปดงั เช่นทเี่ คยมา.

ตามทไ่ี ดเ้ ลง็ ญาณ เราทราบแลว้ เปนแน่วา่

นางน้ีไม่ใชน่ า ริเลวทรามสถานใด;

เปนเทวะธิดา จุตจิ ากสุราลยั ,

และในปางก่อนไซร้ ก็เปนราชะบุตรี

ของจอมสุราษฎร์ผู้ ธารงยศและศกั ด์ศิ รี,

จ่งึ ควรพระภมู ี จะทรงรบั เปนคคู่ รอง.

เมอื่ ทราบอยูเ่ ชน่ น้ี ควรยินดีท่ีสมปอง,

86

แตเ่ ราสิมาตรอง ก็เกิดความวติ กใจ;
คร้ ันจะอธิบาย กย็ ากอยูห่ านอ้ ยไม,่
ทา่ นฤๅจะเฃา้ ใจ?
ศภุ างค.์ พระคุณเจา้ ไดเ้ ล็งญาณ
แลว้ คงจะทราบส้ิน ณเหตซุ ่ึงจะราคาญ,
และฃา้ ผรู้ ู้การ ก็ออกนึกวิตกอยู่!
ฃา้ ใคร่จะบอกกลา่ ว ใหน้ างสาวน้นั ไดร้ ู้,
แต่นึกอีกทีดู จะเปนการอวดดไี ป,
อน่ึงถงึ แมบ้ อก กอ็ าจเปล่าประโยชนไ์ ด.้
กา จริงนา, เห็นว่าไร้ ประโยชน์เปลา่ มชิ อบกล.
ละทรรศิน.
ความรกั เหมือนโรคา บนั ดาลตาให้มืดมล,
ไมย่ นิ และไม่ยล อปุ ะสัคคะใดๆ.
ความรกั เหมอื นโคถึก กาลงั คึกผขิ งั ไว,้
ก็โลดจากคอกไป บยอมอยูณ่ ทีข่ งั ;
ถึงหากจะผกู ไว้ ก็ดงึ ไปดว้ ยกาลงั ,
ย่ิงหา้ มก็ยิ่งคลง่ั บหวลคิดถึงเจ็บกาย.
ดงั น้ีพยายาม จะห้ามปรามนางโฉมฉาย
คงมีแต่ผลรา้ ย และปราศจากซ่ึงผลด.ี

87

(ท้าวชัยเสนกบั มัทนาจงู มือกนั ออกทางหลืบซ้าย, ไปเคารพพระกาละทรรศิน.)

[วสนั ตดิลก. ๑๔.] วรบทมุนีศรี,

ชยั เสน. ฃา้ ขอประชุมนะขะประณต

ดว้ ยฃา้ และโฉมสุระนะรี สิละเมิดพระสิทธา;

เหตดุ ว้ ยละเลงิ กะมละร่าน ระตริ ึงณวญิ ญาณ์,

ฃา้ เจา้ และเยาวะมะทะนา สิประพฤต์บิ บงั ควร.

แตก่ ามะเทวะนะสิแผลง ศะระแกมผะกามวล

มาตอ้ งกะมลอภุ ะยะชวน ฤดิรกั สมคั กนั .

พอฃา้ ประสพวมิ ละพกั ตร์ มะทะนานะรีขวญั ,

อ้นั อ้ึงประหน่ึงสุมิคะอนั ศะระเสียบณกลางใจ;

พิษกามะศรประดจุ ะพิษ ระออุ คั คเิ ผาใน

อกผลาญและราญกะมละไหม้ บมิอาจจะดบั ลง.

ยามกลบั ณมาละกะก็จิต บมวิ ายพะวงหลง,

เหลอื ทจี่ ะหักระติกต็ รง ติระสู่พระอาศรม,

หวงั เพยี งจะดูวรกฎุ ี ก็จะร่ืนระรวยรมย;์

พนั เอินกะนิษฐะกผ็ ะทม บมิหลบั และออกมา

ยนื ยงั ระเบยี งและอระเปล่ง วรพจน์แสดงวา่

นางเองก็นอ้ มกะมละมา อภิรมยะเชน่ กนั .

ฃา้ ฟังก็เปรมกะมละชอบ และกต็ อบพะจพี ลนั ,

88

แลว้ ตา่ งแสดงสุปิ ยะนนั - ทะนะพจน์พเิ ศษหวาน.
แลว้ จ่งึ ประนอมมะนะสะจร ดละยงั อุทกมาน
มานสั และกลา่ ววรประทาน วธิ ิถูกประเพณี.
บดั น้ีประนอมกะมละมา อภวิ าทะจอมชี,
ขอใหก้ ระทาวรพิธี อภเิ ษกะสมรส.
เพอ่ื เปนสุวตั ถิสิริมง- คะละการะปรากฎ
สมศกั ด์แิ ละสมสุวรยศ มะทะนาและฃา้ น้ี.

[ฉบงง, ๑๖.]

กา ราชะ! อนั พระวาที กลมกล่อมถ่อมด,ี และรูปถวายพระพร;
ละทรรศิน.

อนั องคพ์ ระปิ่ นนิกร กบั องคบ์ งั อร ที่แทก้ ็คู่ควรกนั ,
เพราะนางมิใชส่ ามญั , เปนธิดาสฺวรรค์ จุติมาจากฟากฟ้า,

อกี ในชาต์ิก่อนน้นั นา ก็เปนธิดา แห่งจอมกษตั ร์ทรงดิน,
ดงั น้ีควรพระภูมนิ ทร์ จะยกนาริน ข้นึ เปนพระอคั คะชายา;
ฃา้ จะทาการอาวาห์ ดงั ทรงปราถนา สวสั ด์พิ พิ ฒั นผ์ อ่ งใส.

แน่ะโสมะทตั จงไป นาเพลิงที่ใน เตาคาร์หะปัตยอ์ อกมา,

จะไดก้ ่อเพลิงบูชา ทวยเทพเทวา ตามแบบคมั ภีร์โบราณ.
(โสมะทัตไหว้แล้วเฃ้าโรงไปทางประตอู าศรม.)
ชยั เสน. ศภุ างคเ์ รียกนายทหาร มาเปนพยาน ในการพิธีอาวาห์.

89

รีบไปอย่าไดร้ อชา้

ศุภางค.์ ฃา้ รับบญั ชา และรีบไปในบดั น้ี.

(ศภุ างค์เฃ้าโรงทางหลืบซ้าย.)

ชยั เสน. อา้ พระผยู้ อดโยคี พระคุณปราณี แก่ฃา้ เปนลน้ พน้ ไป.

กา อนั อาตะมะน้ีไซร้ ทุกเมอ่ื จงใจ สนองพระคุณราชา.
ละทรรศิน.

เม่ือเห็นทรงพระเมตตา แด่มะทะนา ก็พลอยมจี ติ ยินดี,

เพราะรักเหมือนเปนบตุ รี, และบตุ ร์ได้ดี บดิ ากต็ อ้ งพอใจ.

(โสมะทัตกบั พวกศิษย์ออกมาเตรียมการพิธี, คือบางคนเอาหญ้าคามาโรยบนแท่นศิลาแล้ว
เอาหนังกวางปทู ับอีกที ๑; บางคนยกแท่นกูณฑ์ออกมาตง้ั ตรงหน้าแท่นศิลา, เอาโถนา้ มนั และ
ช้อนมาวางบนแท่นศิลา, และขนเชือ้ เพลิงมากองไว้พร้อมฃ้างแท่นกณู ฑ์ ; บางคนยกเคร่ือง
สังเวยเทวดา, ศังข์สาหรับรดนา้ , และแป้งเจิมมาตงั้ . ระหว่างทเ่ี ตรียมการน,ี้ พระกาละทรรศิ
นเรียกท้าวชัยเสนกับมทั นาขนึ้ ไปสนทนากนั เบาๆ ที่บนระเบียงอาศรม, เพ่ือให้โอกาสให้พวกท่ี
จัดเตรียมพิธีได้พูดกันตามควร. เม่ือจัดของต่าง ๆ ต้ังตามท่แี ล้ว, พวกศิษย์ยกตง่ั ๒ อันมาตงั้
ตรงหน้าแท่นกณู ฑ์, แล้วโสมะทัตเรียกนักสวด ๔ คน กบั คนเป่ าศงั ข์ ๒ คนมาคอยไว้. ฝ่ าย
ศุภางค์บัดนกี้ น็ านายทหารและบริวารของท้าวชัยเสนออกทางหลืบซ้าย, และน่ังเรียงรายทาง
ด้านซ้ายแห่งเวท.ี พอพร้อมหมดแล้ว, พระกาละทรรศนิ ชวนท้าวชัยเสนและมัทนาลงมาจาก
ระเบียงอาศรม, พาค่บู ่าวสาวไปน่ังตามที่, คือหันหน้าไปทางแท่นกูณฑ์ทง้ั ๒ คน ให้ท้าวชัยเสน
น่ังตัง่ ขวา, มัทนาน่งั ตง่ั ซ้าย, แล้วพระกาละทรรศินไปนงั่ บนแท่นศิลา. โสมะทตั นาใต้จดุ ไฟ
ออกมาจากในอาศรมไปส่งให้พระกาละทรรศิน. พระกาละทรรศินรับไปจบแล้วก่อไฟในกูณฑ์
พลาง, เสกมนตร์เบาๆ พลาง. บดั นีน้ กั สวดจ่ึงยืนขนึ้ และสวดดงั ต่อไปน.ี้ )

90

บทสวด
(สรภัญญะ.)

[อนิ ทะวิเชยี ร, ๑๑.]

๏ อา้ องค์ วรศรีประภาใส.
พระอคั นี

เปนเอกอดุ ม หุตะกิจพะลีการ
ใน

๏ ฃา้ ขอ สุระท้งั ณตรีสฺถาน
ประณตองค์

ทุกภาคพเิ ศษ มนะมงุ่ ณการยญั
มาน

๏ หน่ึง สุจรัสณภมู สฺวรรค์
คือสุรียแ์ จ่ม

ส่องโลกมนุษย์ ทะนะอุ่นระอุกาย
นนั -

๏ ที่สอง กะฏะในนะภาพราย
ประภาปรา-

คือวิชฺชโุ ชต์ิ รุจิแลบณเมฆา
ฉาย

๏ ที่สาม นระก่อณเคหา
ก็คือไฟ

91

เพ่อื กอบสุ และประกอบพะลพี ูน
ภกั ษา

๏ องคน์ ้ี พระเสด็จณแทน่ กณู ฑ์
และไดเ้ ชอญ

ดว้ ยพรอ้ มมะ จะกระทาหุตาการ
โนมูล

๏ อา้ องค์ สุรเดชตระการฉาน
พระทรงเมษ

โปรดเอ้ือและ ธุระดว้ ยสุไมตรี
เอาภาร

๏ ยาม มะสุยญั ญะการน้ี
เริ่มพะลีกรร-

จงสิทธิดว้ ยดี ดจุ ะฃา้ ทานูลวอน

๏ ชว่ ยนา สุระเทพณอมั พร
พะจีถงึ

มารบั พะลีกร ดนุไดผ้ จงสรรพ์ ฯ

[กสุ ุมิตลดา, ๑๘.]

กา ฃา้ ขอไหวอ้ คั คีอธิปะตสิ ุพรร-
ละทรรศิน.

ณาททิ ูตสวรร- คะเรืองเดช,

จงโปรดนาคาทูลปะระมะสุรเศรษฐ์

วศิ ฺวะเทเวศร์ มหาศาล:

92

โอมอญั เชอญนารายะณะพระหริชาญ
ชยั บาราบมาร ปะราชยั ,
พร้อมดว้ ยเทวศี รีภะคะวะตวิ ิไลย
วรรณะผ่องใส วิมลเนตร์;
โอมอญั เชอญองคต์ รีศลุ ิศิวะมเหศร์
นงั่ ณะยอดเขต- ตะจอมผา,
อกี แม่เจา้ สฺวรรคบ์ รรพะติวะระอุมา
ผพู้ ระชายา อุดมศกั ด์;ิ
โอมอญั เชอญธาดาปะติจะตรุ ะพกั ตร์
เพง่ พนิ ิศรกั - ษะสี่ทศิ ,
ท้งั โฉมชายายอดสุธิระศุภะวิทย์
ศลิ ปะสอนจิต จรุงใจ;
อกี ขอเชอญทา้ วศกั ฺระอมะระวิชยั
จอมสุราลยั มหิทธี,
พรอ้ มองคเ์ ทวนิ ปิ่ นอมะระยุวะดี
อินทฺระศกั ด์ศิ รี ศะจีอร;
อีกขอเชอญองคเ์ ทพระวแิ ละศะศิธร
สองอะมรยอด พยานกรรม;

93

อีกขอเชอญเทวานิกะระฐิติธรรม
สิงสถติ อมั - พะรากาศ,
ท้งั ทวยเทพทสี่ ิงณปะฐะวอิ าจ
รกั ษะทวยราษฎร์ ณแดนคน;
เชอญทกุ เทพเจา้ ผสู้ ิริวรวมิ ล
มาณมณฑล พิธีเทอญ.

บทพำกย์ของนกั สวด.

[ฉบงง, ๑๖.]

๏ อา้ ทวย แลว้ โปรดอย่าเมนิ
เทพฟังคา
เชอญ

มะโนจงนอ้ ม
พร้อมกนั

๏ ฟังคา ผทู้ รงมหนั ต์
ฃา้ ทูลเทวนั

มหิทธิเดช
เกรียงไกร

๏ ดว้ ย ศฺวรรยาธิปตยั
องคส์ มเดจ็
จอมไอ-

ดารงซ่ึงรัฐ
หสั ดนิ

94

๏ ทรง ทะราชเรืองศิล-
นามชยั
เสนนริน-

ปะศาสฺตฺระ
เชี่ยวชานาญ

๏ แจง้ อกี ท้งั ปรุ าณ
เจนไตรเพท
พิศาล

คมั ภีร์ก็รู้ตาม
ควร

๏ อกี อาวุธถถ่ี ว้ น
ว่องไวใน
กระบวน

ทุกอยา่ ง
ในทางยทุ ธกล

๏ พระรูปวิมล
สันทดั อศั วะ
โกศล

สิริโสภาคย์
สรรพางค์

๏ รูปสมบตั ิสลา้ ง
พระคุณสมบตั ์ิ
สาอาง

95

และโภคะ
สมบตั ิบรู ณ์

๏ เทวานุ แก่นะเรนทร์สูร
เคราะห์เก้ือกูล

จ่งึ ทรงสวสั ด์ิ
แสนดี

๏ สิ่ง มากล้วั ณท่ี
ทรามใดๆไป่ มี

พระองค์
สมเด็จภูบาล

๏ บดั น้ี เมตตานงคราญ
พระหฤทยั
ท่าน

วสิ ุทธิศกั ด์ิ
โสภา

๏ อนั มี วา่ มะทะนา
นามะไธยยา

วเิ ศษสุ
ลกั ษะณานวล

๏ ทวั่ ท้งั เนตร์ชมอกี ชวน
สรรพางคน์ าง
ยวล


Click to View FlipBook Version