96
ใหเ้ พง่ และ
เพลินเจริญใจ
๏ ยลชมอรไทย
มรรยาท
เรียบร้อยและ
ใคร
วา่ แสน
ประเสริฐเลดิ ดี
๏ คู่บาระมี
สมควรเป
นองคเ์ ทวี
สมมติเทพ
รงั สรรค์
๏ พระ ท้งั คณุ อนนั ต์
งามนางงาม
สมกนั
อเนกะเท่าท้งั
สอง
๏ ฃา้ ขอ พรอ้ มกนั ปรองดอง
ทวยเทพท้งั
ผอง
ประทานพระ
พรเพม่ิ ศรี
97
๏ แด่ อกี องคเ์ ทวี
ราชาธิบดี
วิสุทธิคู่สมรส
๏ บดั น้ี จะถวายรด
องคพ์ ระดาบส
อทุ กประกอบ
คาถา
๏ อีก เพ่มิ มงั คะลา
เฉลมิ พระ
พกั ตรา
ธิการณกิจพิธี
๏ ขอจง ศุภะสฺวสั ดี
สององคท์ รง
ศรี
ครองคู่กนั อย่จู ี
ระกาล ฯ
(ในระหว่างทส่ี วดบทฃ้างบนนี้ พระกาละทรรศินนง่ั บริกรรม, ตกั นา้ มันเนยหยอดในไฟเป
นครั้งคราว; พอถึงบทที่เร่ิมด้วยคาว่า “แด่ราชาธิบดี ฯลฯ”, พระกาละทรรศินรินนา้ จากหม้อ
กลดลงในศังข์และเปิ ดตลบั แป้งเจิม, ส่งศงั ข์ให้โสมะทตั และตลบั แป้งเจิมให้ศิษย์อีกคน ๑ ถอื
ตาม, แล้วเดิรไปยงั ท่คี ่บู ่าวสาวนัง่ . พอเฃาสวดว่า “จะถวายรด ฯลฯ” พระกาละทรรศินกร็ ดนา้
ให้ค่บู ่าวสาว, และพราหมณ์เป่ าศังข์เม่ือรับตะโพน; ในระหว่างเฃาสวดว่า “อกี เฉลิมพระพักตรา
ฯลฯ” พระฤษเี จิมค่บู ่าวสาว, และพราหมณ์เป่ าศังข์เช่นคร้ังก่อน; ในระหว่างเวลาทีเ่ ฃาสวดบท
สุดท้ายน้ัน, พระฤษกี ลับไปนั่งแท่นตามเดิม. แล้วค่บู ่าวสาวจ่ึงยนื ขนึ้ และกล่าวคาปฏิญญาดังน.ี้ )
[จิตรปทา, ๘.]
98
ชยั เสน. ฃา้ ชยั เสน อธิเบนทร์พงศ์ จนั ทะประสงค์ พิธิสมรส
กบั มะทะนา วธุปรากฎ กอบวระยศ สิริเทา่ กนั ;
ฃา้ จะถนอม ทนุพรอ้ มพรงั่ สมดุจะดงั มหิษอี นั
เปนภริยา สหะชาต์กิ นั เปนอรขวญั ณนิเวศนใ์ น!
มทั นา. ฃา้ มะทะนา วนิดายอม มอบฤดินอ้ ม ณพระทรงชยั
เปนวระราช มหิษใี ฝ่ ภกั ดิณไท้ บมลิ ดลา.
(พราหมณ์เป่ าศงั ข์. ค่บู ่าวสาวจูงมือกันเดิรประทกั ษิณเวยี นรอบไฟและพระฤษี ๓ รอบช้าๆ.
ในระหว่างทคี่ ่บู ่าวสาวเดิรประทักษิณดังนี้ นกั สวดสี่คนสวดฉันท์สดดุ ีดงั ต่อไปน.ี้ )
บทสวด
(ทานองสดดุ ีสงั เวย.)
[วสนั ตดลิ ก, ๑๔.]
๏ อา้ มะนะร่วมสิเนหา
หญงิ และ
ชายฤดิสมคั
พรอ้ มจติ ผสม อภิเษกะสมรส
สะมะระมา
๏ เหมือน มะนะรวมกย็ งยศ
หน่ึงประมวญ
สะริระอกี
ยงศกั ดเิ กยี รติ เพราะผสมกาลงั กนั
คณุ ะหมด
99
๏ ผใู้ ด ระสะร่วมมโนฉนั ท์
สมคั สะมะระ
สม-
ปวงไทสุเทวะ พะอานวยพระพรพนู
มรุสรร-
๏ หญิง หะสิมงุ่ ผดุงกลู
ชายกระทาวธิ ิ
ววิ า-
วงศาคณาคณะ บมิเส่ือมมทิ รามหาย
ประยูร
๏ เทวา และธิดาประดุจหมาย
ประสิทธิวร
บตุ ร์
ใหท้ รงและสืบ สุวพนั ธุพชื งาม
สะกุลละสาย
๏ ขอทวย ธิมะหิทธิเรืองราม
สุเทวะสุ
ระฤท-
โปรดช่วย ปะตอิ กี พระชายา
บารุงวรวิศาม-
๏ ให้ทรง ถพิ พิ ฑั ฒะนาอา-
เจริญสิริสุวตั -
ยวู รรณะสุขพะ ระวิสุทธิศฺฤงคาร
ละและสา-
100
๏ ขอพร ณ พระราชะสมภาร
ประสิทธิบมิ
ขาด
อกี เทวอิ งคอ์ สิริสิทธิภยี โ์ ย ฯ
ระวิศาล
(ค่บู ่าวสาวประทกั ษิณไฟเสร็จแล้ว, ไปยนื ประนมมืออย่ทู ตี่ รงหน้าพระกาละทรรศิน, และ
พระกาละทรรศินอานวยพรเปนภาษามคธดังต่อไปน.ี้ )
[สามญั คาถา.] สทา โสตฺถี ววิ ฑฺฒโน
กา สาธุ เทวานุภาเวน
ละทรรศนิ .
ทฆี ายโุ ก จ นิทฺทุกฺโข นิพฺภโย จ นิรามโย ฯ
สิทฺธิ กจิ ฺจญฺจ กมฺมญฺจ สิทฺธิ ลาโภ ชโย ชโย
ชยเสน มหาราช วรสฺส ภวตุ สพฺพทา. ฯ[๑]
ปิ ดม่ำน.
[๑] คาแปลคาถาขา้ งบนน้ี
ดงั ฃา้ วิงวอน ขอ (พระเจา้ ชยั เสนมหาราช) จงทรงพระสวสั ด,ี ทรงพระเจริญพเิ ศษ, ทรงพระชนมายุยนื
นาน ปราศจากทกุ ข,์ ปราศจากภยั , ไร้ความไม่สาราญ, ดว้ ยอานุภาพเทวดา ทุกเม่อื ฯ ขอกจิ ทีส่ าเร็จ, การงานท่ี
สาเร็จ, ลาภที่สาเร็จ, ชยั ชนะชยั ชนะทีส่ าเร็จ, จงมีแดพ่ ระเจา้ ชยั เสนมหาราชผปู้ ระเสริฐ ในกาละท้งั ปวง ฯ
101
องกท์ ี่ ๔
ตอนท่ี ๑
สวนหลวงฃ้ำงพระรำชวัง, ในกรุงหัสตินำปรุ ะ.
[ฉากเปนสวนดอกไม้, มตี ้นไม้ร่มร่ืน, และไม้ดอกปลกู เรียงรายไว้อย่างเรียบร้อย. ด้านหลงั
มีศาลา, มเี ตยี งสาหรับน่งั เล่น. ในตอนนเี้ ปนเวลากลางวนั .]
(เม่ือเปิ ดม่านมีชาวสวนคน ๑ กวาดใบไม้อย่.ู สักครู่ ๑ อราลี, นางค่อม, ถอื กระเช้าออก
ทางซ้าย, และจะไปเกบ็ ดอกไม้ทต่ี ้น ๑, แต่ชาวสวนยกมือห้ามไว้.)
ชาวสวน. ไม่ได!้
อราลี. ทาไมไมไ่ ด?้
ชาวสวน. ไม่ได.้
อราล.ี ใครห้าม?
ชาวสวน. นาย.
อราลี. นายไหน? ช่ืออะไร?
ชาวสวน. ศภุ างค.์
อราลี. ห้ามทาไม?
ชาวสวน. ไมร่ ู้.
อราลี. จะเอาไวใ้ ห้ใครชม?
ชาวสวน. ไม่รู้.
อราลี. จะเอาไวใ้ ห้ใครเกบ็ ?
102
ชาวสวน. ไมร่ ู.้
อราล.ี ใครมอบใหศ้ ุภางคเ์ ปนใหญใ่ นสวนน้ี?
ชาวสวน. ไมร่ ู.้
อราลี. น่ีจะหา้ มเสมอไป หรือหา้ มจาเพาะฤดนู ้ี?
ชาวสวน. ไม่รู้.
อราล.ี (ออกเคือง, พดู เสียงแขง.) น่ีแกรู้ไหมวา่ ฃา้ คอื ใคร?
ชาวสวน. ไม่รู.้
อราล.ี ฃา้ ชื่ออราลี รู้หรือยงั ?
ชาวสวน. ไม่รู.้
อราลี. เปนฃา้ หลวงพระอคั คะมเหสี, รู้ไหม?
ชาวสวน. ไมร่ ู.้
อราลี. ฃา้ เคยออกมาเก็บดอกไมใ้ นสวนน้ีไดเ้ สมอ, รู้ไหม?
ชาวสวน. ไมร่ ู.้
อราลี. (โกรธ, พูดเสียงดงั .) แกเปนคนทีก่ วนโทโษที่สุด. ไมเ่ หน็ มอี ะไรพดู นอกจาก “ไมร่ ู”้ .
ฃา้ ขอบอกกลา่ ววา่ ฃา้ จะเกบ็ ดอกไมไ้ ปถวายเจา้ นายของฃา้ . (จะไปเก็บดอกไมอ้ กี .)
ชาวสวน. (ยืนขวางหนา้ และหา้ ม.) ไม่ได!้
อราลี. ฃา้ จะเกบ็ !
ชาวสวน. ไมไ่ ด!้
(ศภุ างค์ออกทางหลืบขวา.)
103
[ฉบงง, ๑๖]
ศุภางค.์ เออแน่, นางอราล!ี มาทาอวดดี ส่งเสียงแจว้ แจว้ อยู่ไย?
อราล.ี ใหไ้ พร่ไปกอ่ นเปนไร.
ศุภางค.์ (หนั ไปสัง่ ชาวสวน.) เอาเถิดเจา้ ไป ทางานทางอน่ื สกั ครา.
(ชาวสวนเฃ้าโรงทางขวา.)
อราล.ี นี่แน่ะศภุ างคเ์ สนา, เมือ่ ก้ตี ฃู า้ กาลงั จะเก็บดอกไม,้
แตช่ าวสวนกล่าวหา้ มไว,้ เฃาว่าท่านได้ สงั่ เฃาให้หา้ มเช่นน้นั .
ศุภางค.์ ถกู แลว้ .
อราลี. เพราะเหตใุ ดกนั ?
ศุภางค.์ เพราะวา่ ตวั ฉนั ชอบดดู อกไมง้ ามๆ.
อราล.ี กใ็ ครสงั่ ใหท้ า่ นห้าม?
ศุภางค.์ ทาไมจ่งึ ถาม?
อราลี. ก็เพราะดฉิ ันอยากรู.้
ศุภางค.์ อยากรู้อยากเห็นเกินอยู่ ดงั น้ีก็ตู ฃา้ ขอกลา่ วเตอื นนางวา่
ผชู้ อบประพฤตเิ ช่นจา- ระสัตรีฃา้ มชิ อบและมกั หมนั่ ไส;้
อราล.ี อนั ตฃู า้ เจ้านายใช้ ให้เปนผูใ้ หญ่ รักษาพระอทุ ยานน้ี,
จ่งึ ห้ามวา่ ดวงมาลี ของท่านดๆี มิใหผ้ ใู้ ดเก็บไป.
ก็ดิฉนั น้ีคอื ใคร?
104
ศุภางค.์ อนั ตวั นางไซร้ พิการท้งั กายและจติ !
หลงั ค่อมคอ้ มคูด้ ผู ิด มนุษยฃ์ าบิด แขนเบ้ยี วบ่เหมือนธรรมดา
อราลี. ตวั คดใจคดอจิ ฉา แยงยุมสุ า ใครๆ ยอ่ มรู้ทว่ั วงั ;
รูปชวั่ ตวั แสนน่าชงั แลว้ นางก็ยงั ไมร่ ู้สานึกตวั เลย.
ศภุ างค.์ ชะๆ อแุ มเ่ จา้ เอ๊ย! ชา่ งพูดเพย้ ๆ นะทา่ นศุภางคเ์ สนา;
อวดดนี กั เพราะช่างหา หญิงสรวยๆ มา บาเรอพระมงิ่ โมลี!
อราล.ี นี่ไปหาโสเภณี มาซ่อนไวท้ ี่ ตาหนกั ในราชอุทยาน,
ศุภางค.์ จงึ ตอ้ งเกะกะระราญ เพราะวา่ เกรงการณ์ จะทราบถึงพระนางเธอ!
อราลี. นางอราลีนี่เออ อวดดีเผยอ หย่ิงเย่อเหมอื นอย่างคางคก
ศภุ างค.์ ชาตนิ างยางหวั ไม่ตก ก็คงผงก ผงาดบงั อาจเอิบใจ.
อราล.ี ไปเถิด, นางค่อม, รีบไป!
ศภุ างค.์ ทา่ นจะทาไม? กลา้ ดีก็เชอญหน่อยซี
อราลี. ฃา้ บอกวา่ ไปเดี๋ยวน้ี! ไปเสียดๆี , หาไมจ่ ะเกิดเคืองกนั
ไมไ่ ป!
ตอ้ งไปโดยพลนั !
ไม่ไป!
อย่าดนั !
ไมไ่ ป!
105
ศุภางค.์ เม่อื อยากอยนู่ ่ี
ก็จะใหอ้ ย่กู บั ท่ี เฮย้ , ออกมานี่ ไวๆ เฃา้ หวาอย่าชา้ !
(ชาวสวนออกทางหลืบขวา.)
นี่แน่ะ, นางน้ีเฃาวา่ ชอบอยสู่ วนนา, และฃา้ กย็ อมตามใจ.
เจา้ จงนง่ั อยดู่ ้วยไซร้, ระวงั อยา่ ให้ นางลกุ ไปพน้ ที่น้ี,
แมห้ ้ามมิฟังวาที กเ็ จา้ จงตี ใหแ้ รงดว้ ยด้ามไมก้ วาด!
ข้ึนเสียงเถยี งคาหน่ึงฟาด, สองคาสองฉาด, จริงๆ มติ อ้ งเกรงใจ
(ศภุ างค์เดิรจะไปทางขวา กพ็ อปริยัมวะทาออกมาทางน้นั .)
ปริยมั วะ ศภุ างค,์ ทา่ นเกร้ียวโกรธใคร?
ทา.
ศภุ างค.์ (ช้ีอราลพี ลางตอบพลาง.) โกรธคนจญั ไร ท่ีกวนโทโษสุดทน!
ปริยมั วะ ฃา้ ขอโทษแทนสักหน, เพราะเฃาเปนคน ทีม่ กั มยิ อมแพใ้ คร.
ทา.
อราลี, อยา่ ยุ่งไป, ฉนั ขอเถดิ ให้ หลอ่ นกลบั คืนเฃา้ ในวงั .
อราล.ี ดฉิ นั มาตามรับสั่ง, เม่ือดฉิ นั ยงั มิไดท้ าตามท่านใช้
ดฉิ นั จะกลบั อยา่ งไร?
ปริยมั วะ เอาเถดิ ดอกไม้ ฉันเองจะเกบ็ มากมาย
ทา.
แลว้ ให้คนไปถวาย
อราลี. กเ็ มอ่ื คุณนาย รับแลว้ ดิฉนั ขอลา.
106
(เฃ้าโรงทางหลืบซ้าย.) จะกอ่ เรื่องระคายนา;
[ภชุ งคปั ปะยาตร์, ๑๒.] และสืบเร่ืองพระภมู .ี
ก็สับดาหะแลว้ นี่,
ปริยมั วะ อะราลแี หละน่ากลวั บกลบั คืนนิเวศนใ์ น.
ทา. ระแวงน้นั ไฉนได?้
และพากลบั ณธานี,
พระนางคงจะใชม้ า จะอยู่ไดไ้ ฉนมี?
ศุภางค.์ เสด็จกลบั นครหลวง ธคงทราบและหึงสห์ วง.
ประทบั แรมณสวนศรี คะติมกั จะครอบดวง
จะไมใ่ หม้ ะเหษี ฤทกั มกั จะยิง่ ใหญ.่
พระไดน้ างณป่ าใหญ่ สุนงคราญพระองคใ์ หม,่
จะปิ ดความมิวามวู่
ปริยมั วะ ดฉิ ันเห็นมะเหษี พระโอษฐจดั ถนดั เถยี ง.
ทา. สนิธแลว้ ก็เห็นเนียง
ศภุ างค.์ พระนางเธอกโ็ ทษา พระองคผ์ ปู้ ระเสริฐชาย!
หะทยั อยแู่ ละใครทว้ ง คนึงอย่มู ิรูว้ าย,
ปริยมั วะ ดิฉนั นึกก็สงสาร
ทา.
เพราะเรียบร้อยและดไู ม่
ดิฉันมาและรบั ใช้
ประเสริฐแทแ้ ละควรเคียง
ศภุ างค.์ กเ็ หตนุ ้นั สิฉันจ่ึง
107
บุรุษควรจะมงุ่ หมาย มะโนแต่ณยอดหญิง
วไิ ลยโฉมและมใี จ วสิ ุทธ์ิใสสอาดยง่ิ ,
ฉน้นั ควรจะรักจริง และชีวิตมิเปลา่ เปลือง;
ผเิ ลอื กคเู่ พราะเพง่ ทาง ประโยชน์เพียงณการเมอื ง,
มชิ า้ นานกจ็ าเคือง ระคายจิตระคายตา!
ปริยมั วะ อะ๊ พีช่ ายขยายเรื่อง ฉน้ีเครื่องจะเลยพา
ทา.
พะหูโทษะพลนั มา กระทบกายมิบงั ควร.
ศุภางค.์ กฉ็ นั พูดกะหลอ่ นได้ เพราะไวใ้ จนะนิ่มนวล,
และหากหลอ่ นมิเลา่ ทวน ละกใ็ ครจะร่ัวรู้?
(ท้าวชัยเสนกบั มทั นาออกทางหลืบขวา, และพานางตรงขนึ้ ไปนัง่ เตยี งบนพลบั พลา.
ศุภางค์กับปริยัมวะทา และชาวสวนคลานเฃ้าโรงทางหลืบขวา.)
[วสันตดิลก, ๑๔.] ระติแนบณโฉมตรู
ชยั เสน. ต้งั แตภ่ เิ ษกและอภริ มย์
พนี่ ้ีประหน่ึงรมะณิยอ์ ยู่ ณพิภพสุราลยั ;
แตไ่ หนมิเคยจะฤดริ ่ืน นิระโศกนิรามยั
เหมอื นปัจจบุ นั เพราะอรไทย นะสิปลูกประมวญปรีย.์
มทั นา. อา้ ทูลกระหม่อมปิ ยะมหา สุระราชะสาม,ี
ฃา้ บาทบาเรอพระบทะศรี ละกย็ งั มิเพยี งพอ;
อยากมกี าลงั พริ ิยะอกี พละไซร้จะไดก้ อ่
108
การอน่ื บาเรอพระบทะตอ่ บมิใหร้ ะคายเคอื ง!
ชยั เสน. อา้ นอ้ งสิเปนสุปฺริยะหญิง ยุวะม่ิงและขวญั เมอื ง,
อนั พี่ก็มยี ะศะประเทอื ง เพราะวะ่ ค่วู ะธูขวญั .
มทั นา. อา้ องคพ์ ระปิ่ นดิลกะรัฐ ธดารสั ละยอครนั !
ฃา้ นอ้ ยฤเรียกสุวะธุขวญั วรราชะธานี?
แทจ้ ริงนะหญิงกส็ ิริวฑั - ฒะนะไดเ้ พราะสามี,
หญิงโสดจะเรืองยะศะและศรี ละกแ็ สนจะยากเยน็ .
ชยั เสน. หากพร้อมสุคณุ ก็ศภุ ะลกั - ษณะนาริยอ่ มเปน
ขวญั เมืองประดุจระตะนะเหน็ บมติ อ้ งประกอบทอง!
มทั นา. สามีสิเปนระตะนะเลิด และจุฑามณีของ
นารีและอาภะระณะผอง บมิย่งิ สุภรรดา.
ชยั เสน. อนั ชายจะมีสุนิธิใด ก็บเปรียบกะภรรยา,
เปนศรีและศกั ดริ ะตะนา ทิประดบั ประดาเรือน.
มทั นา. สุขใดจะเปรียบปะระมะสุข ปรฺ ิยะน้ีบ่มีเหมอื น.
ชยั เสน. เพอื่ นใดจะมีประดุจะเพอ่ื น ฤดิร่วมสิเนหา.
(พระนางจณั ฑอี อกทางหลืบซ้าย, มฃี ้าหลวงตามหลงั ตามสมควร. จณั ฑยี นื ดูท้าวชัยเสน
กบั มัทนาอย่คู รู่ ๑ แล้วจึ่งเฃ้าไปบงั คมท้าวชัยเสน.)
[อปุ ชาติ, ๑๑.] นรนาถะราชา.
จณั ฑี. ประณตยคุ ลบาล
109
ชยั เสน. หม่อมฉันสดบั วา- ทะระบือสนน่ั ไป
ถึงในนิเวศน์ว่า พระนรินทะราชไซร้
เสดจ็ ณถน่ิ ไพร พระสนุกสนานนกั ;
ก็คอยจะเฝ้าองค์ วรภูมิทรงศกั ด์,ิ
หลายวนั พระยงั พกั ณพระมาละกาคาร;
คร้ ันว่าจะรออยู่ กจ็ ะดูมิเฃา้ การ,
จะเสียและสามาญ ดุจะขาดสุภกั ดี.
ฉน้นั ทนงอาจ ยรุ ะยาตร์ณสวนศรี,
ขอมง่ิ มกุฎมี กรุณาและงดโทษ;
ใชแ่ สร้งจะมาขดั พระหทยั ฤทาโกรธ,
เพราะถงึ จะไม่โปรด ฤกค็ งบฃาดไป.
และหวงั จะมาพบ อรเอกะอาไพ,
ซ่ึงองคพ์ ระทรงชยั กรุณาและพากลบั
จากในพนารณั - ยะกะฃา้ กม็ ารับ
และเปลง่ กระแสร์ศพั ท์ ประจคุ มอดุ มด.ี
กระไรนะแดกดนั และประชดนะจณั ฑี!
นางเปนมะเหษี ละก็ควรจะอยู่วงั .
ไม่ควรจะดว่ นมา และอวุ าทะเสียงดงั ,
110
จณั ฑ.ี ดดุ ้ือจะมีหวงั สุประโยชนณ์ ฐานใด?
ชยั เสน. ก็ตามประเพณี พระบดิ าประสาทให้
จณั ฑี. มาเพื่อประพนั ธ์ไม- ตฺริระหวา่ งประเทศสอง,
มทั นา. แลว้ ฉนั ก็ต้งั ใจ ทนุนางและยกย่อง,
จณั ฑ.ี กค็ งจะคู่ครอง บมเิ ริดมริ ้างกนั .
มิเริดมริ ้างจริง ละสิจ่งึ กระหมอ่ มฉัน
นง่ั แกร่วณวงั จนั ทร์ บมิเหน็ เสดจ็ ไป.
ฉันพ่งึ จะกลบั จาก วนะเฃตตะใหมๆ่
จะเฃา้ ณวงั ใน ก็จะอดั อรุ าแท.้
จะอดั อุราจริง ละเพราะจาจะทง้ิ แม่
รูปทองจะหมองแด เพราะวิโยคกเ็ หลือทน!
อนั ว่าดะนูน้ี ฤจะยึดพระจุมพล?
พระอยากเสด็จดล ก็บเคยจะขืนขดั .
ดะนูก็รู้ว่า พระสิโปรดนะแน่ชดั ,
เหตวุ า่ นะรีรตั น์ บมมิ ีจะขดั ขืน!
หญิงใดตระหนี่ตวั ละกผ็ วั บรักยืน,
ฉน้นั บขดั ขนื และประจบสิผวั รกั ;
ดะนูสิเปนลูก วระราชะทรงศกั ด์,ิ
111
ถอื ยศบรูจ้ กั จะประจบประแจงด,ี
ทไ่ี หนจะสู้เยา- วสุดาพระโยค!ี
ชยั เสน. อะ๊ ! อย่านะจณั ฑ;ี วจะเธอนะเกินไป!
มทั นา. พระองคจ์ ะตรัสห้าม วรเทวิทาไม?
นางเปนสุดาไท้ อธิราชะราชนั ,
ถงึ หากจะตรัสด่า ก็บเจ็บกระหม่อมฉนั ,
เพราะองคพ์ ระทรงธรรม์ กรุณากพ็ อใจ.
พระนางจะกริ้วกราด ก็มถิ งึ กะบรรลยั ,
โดยบาระมีไท้ สิริร่มนะเกศา.
จณั ฑี. ถงึ ฉันจะไรซ้ ่ึง พระมหากะรูณา,
กย็ งั มชิ ว่ั ชา้ และบห่ มดนะยางอาย.
[สุรางคณา, ๒๘]
ชยั เสน. เหมน่ างจณั ฑี พดู จาคราน้ี แสนจะหยาบคาย!
เธอเปนธิดา ราชาฦๅสาย ไฉนปากร้าย ราวแมค้ า้ ปลา?
จณั ฑี. หมอ่ มฉนั สามาญ เพราะพระองคท์ า่ น หมดพระเมตตา;
หากฃ่าวระบือ ฦๅจากภารา ถงึ พระบดิ า คงเสียหทยั .
ชยั เสน. น่ีจะมาโกรธ และมงุ่ กลา่ วโทษ ฉันผิดอนั ใด?
จณั ฑ.ี พระองคท์ รงฤทธ์ิ จะผดิ อยา่ งไร? พระองคเ์ ปนใหญ่ เหนือผเู้ หนือคน
ถงึ จะรบั นาง ใดๆ จากกลาง อรัญไพรสณฑ์
112
ชยั เสน. มายกมายอ่ ง ก็ตอ้ งจาทน เพราะฃา้ เปนคน อาภพั อปั รีย.์
จณั ฑี. เธอก็มศี กั ด์ิ ใยพูดหยาบนกั นะนางจณั ฑี?
ควรยงั ถอื มน่ั ฉนั เปนสาม,ี และไม่ควรท่ี กล่าวถอ้ ยหยาบชา้ .
ฉนั ขอบอกให้ เธอจงเฃา้ ใจ ว่ามะทะนา,
กเ็ ปนนารี ศรีสุชาดา ไมห่ ยอ่ นไปกวา่ ลูกทา้ วมคธ.
หล่อนควรเปนคู่ เคยี งตวั ฉันอยู่ สมศกั ด์สิ มยศ;
เธออยา่ พดู มาก ไม่อยากฟังพจน,์ ถึงทา้ วมคธ จะไมพ่ อใจ,
ใชว่ ่าตวั ฉัน จะนึกประหวนั่ พร่นั จติ เมอื่ ไร;
ถงึ จะพโิ รธ โกรธก็โกรธไป, ตวั ฉันมไิ ด้ เปนฃา้ ขอบขณั ฑ์.
มคธราชา กบั พระบดิ า สิทา่ นชอบกนั ,
จ่ึงไดต้ กลง สององคก์ ล่าวหม้นั ตวั เธอกบั ฉัน ไวแ้ ต่ยงั เยาว;์
ใชฉ่ นั ตะกาย ไปรักโฉมฉาย เองเม่อื ไรเลา่ ,
สองบิดาท่าน จดั การใหเ้ รา, ฝ่ ายฉันน้ีเล่า กอบกะตญั ญู
จ่งึ ยอมตามทา่ น และไปทาการ แต่งกบั โฉมตรู,
แตก่ ระน้นั ไซร้ ก็ได้เล้ยี งดู สมควรแกผ่ ู้ เปนมหิษี.
ฉันจงใจรกั , และผนิ งลกั ษณ์ มจี ติ ไมตรี
คงจะไมต่ อ้ ง ขุ่นหมองคราน้ี; ขอจงตริดี ก็คงแลเหน็ .
หม่อมฉันเฃา้ ใจ ว่าทรงเล้ียงไว้ ก็เพราะจาเปน!
113
ชยั เสน. ตามใจเถิดหนา! ถา้ เธอนึกเช่น น้ันก็อาจเปน เช่นเธอเฃา้ ใจ!
มา, มะทะนา, เราไปดีกวา่ , อยู่อกี ทาไม?
ขนื อยฟู่ ังเสียง ก็เถยี งกนั ไป ยืดยาวย่งิ ใหญ่ ไมเ่ ปนแก่นสาร!
(ท้าวชัยเสนจงู มือมทั นาพากันเฃ้าโรงไปทางหลืบขวา. พอสองคนนไี้ ปพ้นอราลกี อ็ อกมา
ทางหลืบซ้าย.)
[อเุ ปนทะวิเชยี ร, ๑๑.] ออิ ะปรียอ์ ิตวั การ.
จณั ฑี. ชะฉาอะราลี
กระไรละเหิมหาญ บมริ ูส้ านึกตวั ;
อโิ สภิณีดี ตะประจบสาออยผวั ,
แน่ะมงึ นะเงาหัว บมมิ ีละรูไ้ หม?
พระผวั ก็มวั หลง และพะวงอชิ าวไพร,
บนึกวะ่ กไู ซร้ สิสุดามคธราช.
ผกิ จู ะใชค้ น จรยงั ชะนกนาถ
และทูลคดกี าจ ฤวะไทจ้ ะดดู าย?
อราลี. พระนางพโิ รธกร้ิว นะก็ควรจะมากมาย,
และเหตุก็แรงรา้ ย จะมิทรงพิโรธฤๅ?
กแ็ ตจ่ ะพาที บมไิ ดถ้ นดั ฮือ!
เพราะเกรงจะอึงอ้ือ จะมพิ น้ ละโทษทณั ฑ.์
ฉน้นั เสด็จกลบั พระนิวาศะโดยพลนั ,
114
และถึงกระหมอ่ มฉัน ก็จะทูลอบุ ายดี,
และคงจะทรงชา- นะอมิตร์ละเทว.ี
จณั ฑ.ี ฉน้นั ก็ไปที, เพราะจะอยู่กป็ ่ วยการ.
(พระนางจณั ฑี, อราล,ี และฃ้าหลวงเฃ้าโรงทางหลืบซ้าย.)
ตอนท่ี ๒
ริมร้ังค่ำยหลวง, ตำบลกุรุเกษตร์.
[ใช้เปนม่านม้วนทิง้ ระหว่างหลืบ, เขียนเปนภาพร้ัวค่ายระเนยี ด.]
(ท้าวชัยเสน, แต่งเคร่ืองรบ, ออกพร้อมด้วยศุภางค์และนายทหารอกี สองสามคน.)
[อนิ ทะวิเชียร, ๑๑] กว็ ิชยั ณวนั วาน.
ชยั เสน. การยทุ ธะนาใหญ่
เห็นพวกศะตรูพาล จะระส่าระสายนกั ;
คงยงั มอิ าจยก ฤระดมประหารหัก,
หากเราจะต้งั รัก- ษะระเนียดก็คงไหว.
บดั น้ีนะกูแสน จะวติ กสทกใจ,
ดว้ ยขา่ วว่ะทรามวยั มะทะนาประชวรอยู่,
จ่งึ ใคร่จะไปกรุง และก็มงุ่ จะไปดู
เยีย่ มแลว้ ฤตวั กู กจ็ ะกลบั ณคา่ ยพลนั .
ศภุ างค.์ ฃา้ ภกั ดจิ ่งึ ทูล วรบาทพระทรงธรรม,์
ฃา้ คิดระแวงครัน เพราะวะ่ ศึกสิลอ่ แหลม.
115
เกรงว่าจะมผี ู้ ทุจริตและทาแกม
กลกอบอุบายแตม้ วจะลอ่ พระภมู ,ี
เพื่อใหเ้ สดจ็ กลบั วระราชะธานี.
ชยั เสน. ทเี่ จา้ วิตกน้ี นะกอ็ อกจะควรอย,ู่
จณั ฑสี ิหมายมุ่ง มนะพาลประหารกู,
จ่งึ บอกบดิ าจู่ จระพลพะหลมา.
เออนึกอนาถจริง ละนะหญงิ วิหิงสา,
แรงฤทธิอจิ ฉา บมินึกละหนา้ หลงั .
โชคดีทหารเรา ฤก็พรอ้ มพะลงั ขลงั ,
อนั ทา้ วมคธหวงั จะประยทุ ธะเร็วแท้
แตย่ งั มิเร็วพอ และฉน้ีนะจ่งึ แพ,้
กูจ่งึ มกิ ลวั แม้ จะประยุทธะอกี หน.
กคู ิดจะไปเย่ียม มะทะนาและพอยล
แลว้ กลบั จะนาพล รณะสูศ้ ะตรูพาล.
จงสงั่ ยธุ าชิต วระเสนิชยั ชาญ
ใหอ้ ยูแ่ ละบงการ อภริ ักษะคา่ ยไว;้
ส่วนเจา้ แหละจงเตรียม วรราชมะโนมยั ,
อีกตวั กเ็ ตรียมไป วรธานิกบั กู.
(ท้าวชัยเสนและบริวารเฃ้าโรงทั้งหมด.)
116
ตอนท่ี ๓
สวนหลวงฃ้ำงพระรำชวัง, ในกรุงหสั ตนิ ำปรุ ะ.
[ฉากเหมือนตอนที่ ๑ แห่งองก์นเี้ อง, แต่ในตอนนเี้ ปนเวลากลางคืน.]
(พระนางจัณฑีนั่งอยู่บนเตยี งบนศาลา; อราลีนัง่ ทร่ี ะเบียงศาลา, และพราหมณ์วิทรู นั่งกบั
พืน้ ตรงหน้าศาลา. ทีก่ ลางเวทีมีฟื นจัดสุมไว้พร้อมให้จดุ ไฟขนึ้ ได้ง่าย ๆ.)
[สาลิน,ี ๑๑.] นะกเ็ หน็ จะดอี ย;ู่
อราลี. ตามฃา่ วหม่อมฉันได้
เฃาว่าสมเดจ็ ภู- ธระเตรียมเสด็จกลบั .
หม่อมฉนั จ่ึงส่ังว่า ผวิ ะทา้ วธมาถบั
ให้รีบมาบอกฉบั กจ็ ะเดิรอุบายต่อ.
จณั ฑี. ส่วนฃา่ วการสงคราม บมไิ ดล้ ะฤๅหนอ?
อราลี. ทพั ของสมเดจ็ พ่อ ธประจนประจญั พลนั ,
แต่ฝ่ ายฃา้ งทพั กรุง ฤกร็ ูแ้ ละรบั ทนั ,
ท้งั กลบั เข้ียวขบั ขนั พละฝ่ ายมคธถอย;
ขืนรออยชู่ า้ อกี ละก็น่าจะเสียรอย.
จณั ฑี. พ่อแพล้ ูกคงพลอย บมิรอดละคราน้ี!
อย่างไรทา่ นอาจารย?์ ทชิ ะท่านก็เปนชี
ชาวแควน้ ของฃา้ น้ี, ก็จะช่วยฤฉนั ใด.
วิทูร. ตูฃา้ เปนชาวขณั - ฑะสิมามะคธไซร้,
117
หากชว่ ยให้มชี ยั กจ็ ะแสนสราญบาน;
ส่วนที่ให้ทากจิ กละแมน้ สิเน่หห์ าญ,
ทลู จริงแดน่ งคราญ บมใิ คร่จะชอบจติ ,
หากทา้ วเธอกร้ิวโกรธ ดนุฤๅจะพน้ ผิด?
อราล.ี ถงึ แมว้ า่ ทรงฤทธ์ิ จะพิโรธและลงทณั ฑ์
เท่าใดไมไ่ ดว้ า่ นิระเทศะเท่าน้ัน,
อาจารยก์ ลบั ยงั ขณั - ฑะมคธกค็ งได้
บาเหนจ็ บานาญพอ ละนะท่านจะทกุ ขใ์ ย.
จณั ฑี. จริงหนอเราขอให้ วะจิสัตยป์ ะฏญิ ญา
หากทา่ นทาการสม ดนุน้ีประสงค์นา,
เช่ือเถดิ ว่าตูฃา้ จะมลิ มื วิปฺราจารย;์
โคนมนบั ดว้ ยพนั กจ็ ะใหบ้ เนิ่นนาน,
อกี ท้งั ใหเ้ รือนชาน, พหุทาสะมากมี,
เฃตบา้ นท่ีท่านอยู่ ก็จะเพมิ่ เฉลมิ ศรี
ยกข้นึ เปนเมอื งมี วรเวสมว์ ิเศษสรรพ,์
เปนเมืองเลอ่ื งฦๅยศ ณมะคธประเทศขณั ฑ,์
ท่านเองเปนราชนั อุปราชะเรืองยศ.
วทิ ูร. ตฃู า้ นี่แกเ่ ฒ่า วยะน้นั กจ็ วนหมด,
118
คดิ หาซ่ึงลาภยศ บมิควรณขวบน้ี.
อราลี. ถงึ เฒ่าทา่ นอาจารย์ ฤกบ็ ตุ ร์และหลานมี,
ยามเหน็ โอกาสดี บมคิ วรจะทิง้ นา.
แลขอจงจาไว้ ผิมริ บั พระบญั ชา,
อาจตอ้ งยากแคน้ สา- หสะแทน้ ะอาจารย.์
อาจมผี โู้ จทยว์ า่ มะคะธาธิราชท่าน
ใชใ้ ห้ท่านอาจารย์ จระสู่พระธานี,
เพ่อื ให้ทากิจจา- ระบุรุษณทีน่ ้ี;
เชน่ น้นั ท่านยอดชี กจ็ ะยากลาบากใจ!
วิทูร. ไม่จาตอ้ งกล่าวขู่ เพราะดนูกแ็ กไ่ ม่
เกรงซ่ึงมจั จภู ยั และบห่วงณชีว.ี
หากรับทาการใด กเ็ พราะใจแหละภกั ดี
แด่องคเ์ ทวศี รี และสนองพระบาทา.
(เกศนิ ีออกทางหลืบซ้าย, ตรงไปหาอราล.ี )
[ฉบงง, ๑๖]
เกศนิ ี. บดั น้ีมผี ชู้ ายมา บอกว่าราชา เสด็จจะถึงอุทยาน.
อราลี. ไวๆ เถดิ ท่านอาจารย,์ ท่านจงเร่ิมการ พธิ ีดงั ทนี่ ดั ไว.้
วิทรู . ตูฃา้ ขอกลา่ วอกี ไซร้ ว่ายงั มใี จ ตะขติ ตะขวงมากอยู่.
อราล.ี อยา่ มวั ร่าไรขรวั ครู เดี๋ยวทา่ นจะจู่ มาถึงมทิ นั ลงมือ
119
(วิทูรลุกไปจดั การจุดกองไฟ, และนั่งขัดสมาธ์ิประนมมือ, เอาย่ามวางไว้ข้างตัว.)
จณั ฑ.ี ส่วนกจู ะอย่นู ่ีฤๅ จะแอบเสียหือ?
อราลี. พระนางตอ้ งแอบกอ่ นดี.
ตอ่ เม่อื เหน็ เหมาะท่วงที, เสด็จมาน่ี, ประหน่ึงวา่ พ่งึ ทรงทราบ
ว่าเฃาน้ีคิดการหยาบ, และเพอ่ื บาราบ จ่งึ สู้เสด็จออกมา.
เกศนิ ีอยนู่ ่ีนา, และทาเหมือนวา่ เปนผรู้ ่วมคดิ กบั พราหมณ,์
ต่อน้นั จงไดท้ าตาม ทฉี่ นั บอกความ ไวแ้ ต่เม่อื บ่ายน้ีไซร้.
เฃา้ ใจดีแลว้ ฤๅไฉน?
เกศนิ ี. ดิฉันเฃา้ ใจ, และจะทาทกุ สิ่งสรรพ.์
อราลี. ดแี ลว้ อย่าไดน้ ึกพร่ัน, เพราะว่าโทษทณั ฑ์ อย่านึกเลยว่าจะม,ี
และหากการสาเร็จดี แลว้ องคเ์ ทวี คงจะประทานรางวลั .
จณั ฑ.ี จริง, อย่าวิตกขอ้ น้นั .
เกศินี. อนั ตวั หมอ่ มฉนั ขอเพยี งแต่ไดร้ ับใช.้
จณั ฑี. ดแี ลว้ ละ, กูขอบใจ.
อราลี. เชอญเสด็จไป ไวๆ ดีกวา่ เทว.ี
(จัณฑีกับอราลเี ฃ้าโรงไปทางขวา. ฝ่ ายวิทรู คงนั่งหลบั ตาและเล่ามนตร์พึมพาอย่,ู และเกศินี
นัง่ ดพู ราหมณ์ด้วยอาการเอาใจใส่มาก. อกี ครู่ ๑ ท้าวชัยเสนออกทางซ้าย, มศี ภุ างค์, นันทิ
วรรธนะ, และบริวารอีก ๓-๔ คนตามมาด้วย. ท้าวชัยเสนเหน็ วิทรู นัง่ อยู่กช็ งกั .)
[สุรางคณา, ๒๘.]
ชยั เสน. นนั ทิวรรธนะ! นี่ใครกนั วะ มานงั่ อยู่น่ี?
120
(วิทูรกับเกศินีทาเปนตกใจ, กราบท้าวชัยเสนแล้วหมอบตัวส่ัน.)
(นนั ทิวรรธนะค้นในย่ามของพราหมณ์, ได้รูปป้ันด้วยขผี้ ึง้ สามรูป.)
นนั ทิ แกมาจากไหน? ทาไมธชี ไม่รู้หรือน่ี เปนที่สวนหลวง?
วรรธนะ.
วทิ รู . โอย, เจ้าประคุณ จงโปรดการุญ ท่ีฃา้ ล้าล่วง
เฃา้ มาถึงได้ ทีใ่ นสวนหลวง, ละลาบละลว้ ง ถึงระโหฐาน.
ฃา้ น้ีผิดแท้ ควรรับโทษแน่ ทุกๆ ประการ,
เพราะเฃา้ ใจผิด คิดว่านงคราญ เธอโปรดประทาน โอกาสจ่งึ มา.
ชยั เสน. ออกชื่อนางใด? พราหมณ์จงบอกไป, เรายงั กงั ฃา.
วิทูร. ขอทูลเทวะ ว่าพระชายา นามมะทะนา ตรัสเรียกมาไซร.้
ชยั เสน. อะ๊ ! พราหมณ์ข้ตี ู่ เราฟังๆ ดู ยงั ออกแคลงใจ.
วิทูร. นางน้ีไดอ้ อก ไปบอกฃา้ ไซร้ ว่ารับส่งั ใช้ ให้ตามฃา้ มา.
ชยั เสน. อย่างไรสาวนอ้ ย, มงึ รบั ใชส้ รอย ไปจริงหรือหวา?
เกศินี. เพคะเปนจริง ทุกสิ่งเชน่ วา่ ; พระราชอาญา ไม่พน้ เกศี.
ชยั เสน. กเ็ ทวไี ซร้ ให้ทาอะไร หนอเฒ่าธชี?
วทิ รู . ฃา้ กาลงั เริ่ม ประเดิมอคั คี เพอ่ื ทาพิธี การฝังอาถรรพ.์
ชยั เสน. เอะ๊ ! หากว่าจริง ละก็เปนส่ิง ทโี่ ทษฉกรรจ!์
เร็วๆ คน้ ยา่ ม ของพราหมณน์ ้ีพลนั , ดวู ่าในน้นั จะมีส่ิงใด.
121
นนั ทิ มรี ูปข้ผี ้ึง เปนสามรูปซ่ึง พราหมณ์ป้ันเตรียมไว;้
วรรธนะ.
รูปหน่ึงหนามแหลม มแี นมเหน็บใส่ ตรงทห่ี ทยั และตรงอทุ ร;
ชยั เสน. อีกสองรูปป้ัน เปนคตู่ ดิ กนั เชน่ คสู่ มร,
เพราะต่างกอดรัด ตระวดั เกย่ี วกร, ชายกบั บงั อร เชิงชคู้ ู่ใจ.
เอ๊ะพราหมณห์ มอเฒา่ น่ีอย่างไรเลา่ จะคิดทาใคร?
แกจงแถลง ใหแ้ จง้ ทนั ใด โดยจริงหาไม่ จะตอ้ งเคืองกัน.
[อุปฏั ้ติ า, ๑๑.] ดนุน้ีจะทูลพลนั ,
พะบปิ ดบบงั ความ:
วทิ รู . อา้ สมมะติเทพ
ถว้ นถี่คะติสรร-
นางเกศินิน้ี นะสิไปและกล่าวตาม,
ว่ามีวธุงาม จะประสงคด์ ะนูน้ี
ใหช้ ว่ ยและกระทา พิธิกอบอะถรรพด์ ;ี
หน่ึงเพอื่ มะละชี- วิตะแห่งสุภรรดา,
สองเพ่อื จะประพนั ธ์ ฤดิชสู้ ิเนหา;
นางพาดะนุมา บมนิ านณสวนขวญั .
พอถงึ ดะนุเริ่ม วิธิการบนานครัน,
แลว้ องคว์ รธรร- มกิ ะราชเสดจ็ มา.
อนั วา่ คุรุทณั ฑ์ วรราชะอาญา
122
ไมพ่ น้ ศริ ะฃา้ เพราะวะ่ ผิดละจริงไซร.้
[ฉบงง, ๑๖.]
ชยั เสน. เหวยอที าสีอยา่ งไร? ท่พี ราหมณเ์ ฃาให้ การน้ีถูกตอ้ งหรือหวา?
เกศินี. เพคะ, ถูกตามเฃาว่า; ปรฺ ิยมั วะทา ใชฃ้ า้ ไปตามพราหมณน์ ้ี.
ศุภางค.์ อนั วา่ นางเกศินี เปนฃา้ เทวี องคผ์ ปู้ ระทบั วงั ใน,
และเมอ่ื ก่อนๆ น้ีไม่ เคยเห็นรบั ใช้ ท่ใี นพระแมม่ ทั นา,
กฉ็ นั ใดเล่าจ่ึงมา เปนตวั การฃา้ ยงั นึกระแวงแคลงใจ!
เกศนิ ี. ดิฉนั มาจากวงั ใน เพอื่ อยู่รบั ใช้ ท่ีคุณปรฺ ิยมั วะทา,
นนั ทิ และเหตุน้ีเองสิฃา้ จ่ึงไดเ้ ลยมา เกย่ี วในคดีเรื่องน้ี.
วรรธนะ. อนั รูปบุรุษท่ีมี หนามเหน็บอยู่น้ี มุ่งหมายเปนรูปผูใ้ ด?
เกศนิ ี. หมายเปนพระองคท์ รงชยั และฃา้ งในใส่ เสน้ พระเกศาทรงศกั ด์.ิ
นนั ทิ กร็ ูปหญิงชายร่วมรัก กนั น้ีเลา่ จกั มุ่งเอาเปนรูปผใู้ ด?
วรรธนะ.
เกศนิ ี. อนั รูปนารีน้นั ไซร้ คอื องคท์ รามวยั ผเู้ นาณราชอุทยาน,
ส่วนรูปบรุ ุษคือท่าน ผนู้ ายทหาร มีนามศุภางคเ์ สนี.
ศุภางค.์ ฉันใดมสุ าพาที ใส่ความเช่นน้ี, ใครสัง่ ใครสอนเจา้ มา?
ชยั เสน. เฮย้ คนหน่ึงไปอยา่ ชา้ , เชอญพระชายา กบั นางกานลั มาน่ี.
(มหาดเลก็ คน ๑ เฃ้าโรงไปทางขวา. ท้าวชัยเสนขนึ้ นัง่ บนเตยี งบนศาลา.)
[อนิ ทะวิเชยี ร, ๑๑.]
123
ศุภางค.์ อา้ เทวะฃา้ นบ ณพระบาทยคุ ลศรี,
ขอจงพระภูมี กรุณาณฃา้ ไท;
ในงานพระสงคราม ฤก็ตามเสดจ็ ไป,
เหตุน้นั ละฉันใด ดนุน้ีจะคดิ รา้ ย?
หากคดิ มิดีแลว้ กจ็ ะทูลพระฦๅสาย
โดยถอ้ ยทุโรบาย และสมคั พทิ กั ษน์ าง;
โดยเหตพุ ระองคท์ รง พระประสงคะมอี ย่าง
น้นั อยูก่ เ็ ปนทาง ดนุควรจะฉวยพลนั ;
แต่ฃา้ สินึกเกรง ผจิ ะอยู่ณสวนขวญั
อาจดูมดิ ีครัน, เพราะว่ะคนจะนินทา.
น่ีตามเสดจ็ จาก วรราชะภารา
ยงั มอี มติ ร์หา คติโจทยณ์ คราน้ี.
ในวาทะกล่าวโทษ ผวิ ะขอ้ พิรุธม,ี
ขอจงประหารชี- วิตะฃา้ และวงศว์ าร.
แตว่ ่าผฝิ ่ ายโจทย์ นะมุสาและแกลง้ พาล,
ฃา้ ขอพระภูบาล กรุณาณฃา้ ไท.
(มหาดเลก็ กลับออกมาทางขวา, และปริยัมวะทามาด้วย.)
[ฉบงง, ๑๖.]
ชยั เสน. ปฺริยมั วะทาอยา่ งไร มะทะนาไม่ มาดว้ ยกบั เจ้าฤๅหวา?
124
ปริยมั วะ เทวใี ห้หมอ่ มฉนั มา บงั คมทูลวา่ กาลงั เวยี นพระเศยี รนกั ,
ทา.
อีกสกั ครู่หน่ึงจ่งึ จกั มาเฝา้ ทรงศกั ด์ิ และกราบพระบาทภูม.ี
ชยั เสน. นนั ทวิ รรธนะบดั น้ี จงถามคดี ทีน่ างปฺริยมั วะทา.
นนั ทิ บดั น้ีมีผกู้ ลา่ วหา ตวั คุณน้ีว่า ใชน้ างฃา้ หลวงไปตาม
วรรธนะ.
หมอเฒ่าชื่อวทิ ูรพราหมณ์, ฃา้ จ่งึ ขอถาม ขอ้ น้ีใหก้ ารฉนั ใด?
ปริยมั วะ เอ๊ะ! นางฃา้ หลวงคนไหน?
ทา.
นนั ทิ (ช้ีเกศนิ ี.) นางคนน้ีไซร.้
วรรธนะ.
ปริยมั วะ เอะ๊ ! ดนู ่าสงสยั นกั !
ทา.
นางไม่เคยอยู่ตาหนกั ขององค์นงลกั ษณ์ และมไิ ดเ้ คยเปนฃา้ .
นนั ทิ นางโน่นจงให้การมา.
วรรธนะ.
เกศนิ ี. คาใหก้ ารฃา้ ก็ยืนอยู่อย่างเดมิ ไซร้.
คณุ ปรฺ ิยมั วะทาใช้ ใหฃ้ า้ น้ีไป ตามพราหมณ์มาทาพิธี.
ปริยมั วะ เอะ๊ ! กล่าวอะไรเชน่ น้ี? จะทาพธิ ี ทาไมเพ่อื เหตุดงั ฤๅ
ทา.
เกศินี. คุณไมต่ อ้ งทาใขสือ ดฉิ นั สิถือ ว่าคุณเปนมลุ เปนนาย,
125
ปริยมั วะ ถึงคราอบั จนกห็ มาย จะพ่งึ คุณนาย, กลบั ปฏเิ สธเช่นน้ี.
ทา. นางนี่มสุ าส้ินดี!
นนั ทิ
วรรธนะ. ฃา้ ตอ้ งขอที อย่ากล่าวผะรุสวาจา.
ปริยมั วะ นางทาสีให้การว่า กาลงั ทาอา- ถรรพเ์ พ่อื ประทษุ ภบู าล,
ทา. อีกเพื่อให้เยาวะมาลย์ กบั ขุนทหาร ไดร้ ่วมสิเน่ห์สมใจ.
นนั ทิ หากพราหมณ์ทาเชน่ นน่ั ไซร้ ละกม็ ใิ ช่ เพราะวา่ ดฉิ ันสัง่ แท.้
วรรธนะ.
ปริยมั วะ เฃากลา่ วโทษคณุ เพยี งแต่ วา่ สาระแน สั่งแทนผอู้ ่นื อกี ตอ่
ทา.
นนั ทิ จะแทนใครไดอ้ ีกหนอ?
วรรธนะ.
ปริยมั วะ นน่ั สิเปนขอ้ ทีอ่ ยากจะถามต่อไป.
ทา.
ดฉิ ันมิไดร้ บั ใช้ ผหู้ น่ึงผใู้ ด ใหค้ ดิ ซ่ึงกจิ เลวทราม,
ชยั เสน.
มไิ ดใ้ ชใ้ ครไปตาม ตามหมอเฒา่ พราหมณ์, ไม่เคยรูจ้ กั ขรัวครู.
ดฉิ นั เปนฃา้ พระภู- มนิ าถกอ็ ยู่ เปนสุขทกุ เมือ่ เกษมศานต์.ิ
มวั ซกั เชน่ น้ีป่ วยการ, ต่างคนด้อื ดา้ น มิยอมจะถอนวาจา.
ศุภางค,์ เจา้ ไดก้ ล่าววา่ มิไดเ้ สนหา กบั มทั นาอยา่ งใด
126
ศภุ างค.์ กเู หน็ ว่านางน้นั ไซร้ มโี ทษผิดใหญ่ สมควรประหารชีวี;
ชยั เสน. จงชกั ดาบออกบดั น้ี แลว้ รีบเร็วร่ี ไปตดั เอาหวั นางมา!
ศุภางค.์ เทวะ!
ชยั เสน. ว่ากระไรหวา?
เทวะ-
เออน่า! จะพูดก็อยา่ ร่าไร
[อนิ ทะวเิ ชยี ร, ๑๑] ธุลิองคพ์ ระทรงชยั ,
บมิเคยจะขดั คา;
ศุภางค.์ ฃา้ เคยฉลองบาท ละก็รบั และรีบทา,
แตเ่ ล็กประจวบใหญ่ ฤจะเจ็บวรินทรีย์
เมือ่ มีพระบญั ชา และผยิ งั บเสร็จดี
ถงึ หากจะชอกช้า นรนาถะบญั ชา
แทบตายบวายเพียร ดนุเปนพยานว่า
เพียรจนประจวบท่ี พหุอนั ตะรายแท,้
องั คาพะยพของ ฤกม็ นี ะบาดแผล
เคยทนและเคยฝ่ า นระชนผิอยากด;ู
ทว่ั กายะฃา้ น้ี จะแสดงกะตญั ญ,ู
เพอื่ ไดแ้ สดงแก่ ธระใชป้ ระจนศกึ .
ทกุ แผลกส็ ักขี
บาดเจ็บก็โดยภู-
127
ในงานพระผ่านเผา้ บมิเคยจะหยดุ นึก,
ใชไ้ หนกใ็ จฮกึ บมเิ คยจะกลวั ใคร.
แต่ว่าณคราน้ี นรนาถะทรงใช้
ให้ฃา้ พระบาทไป และประหารพระชายา
ผปู้ ราศะจากมล- ทนิ ะโทษฉน้ีนา,
ขอรับพระอาญา เพราะมิอาจะรับใช.้
อนั ชีวิของฃา้ จะพะวงก็หาไม่,
ขอมอบถวายไว้ ณธุลีลอองบาท.
ไหนๆ จะตายแลว้ ละก็ขอทานูลนาถ,
ผคู้ ดิ อุบายกาจ นะมใิ ช่พระเทวี
ซ่ึงตามเสดจ็ จาก หิมะวนั อรญั ศรี;
ต่อไปอะมรมี วระทิพฺยะเนตร์คง
เผยผายขยายลกั - ษะณะผขู้ บถบ่ง
ชดั เจนจะเห็นตรง ฤวะคดนะคอื ใคร!
[สุรางคณา, ๒๘]
ชยั เสน. อุเหมศ่ ุภางค์ ตวั มงึ นี่ชา่ ง เจรจาสาไถย,
ย่งิ พูดย่งิ นวั เฃา้ ตวั ร่าไป มึงจะอยใู่ ย หนกั ปัฐพี.
เหวยนนั ทวิ รรธน์ จบั ศภุ างคม์ ดั เอาไปทนั ท,ี
แลว้ ฆา่ มนั ให้ บรรลยั คืนน้ี คนคดอปั รีย์ มคิ วรอยู่นาน.
128
ส่วนมะทะนา ก็อหงั การ์ ริเร่ิมเหิมหาญ,
ขืนจะเอาไว้ ตอ่ ไปไมน่ าน ก็คงคดิ การ ประหารกูตาย.
จงเอาโฉมตรู ไปพร้อมกบั ชู้ ของนางโฉมฉาย,
ฆา่ เสียดว้ ยไซร้ จะไดส้ มหมาย พร้อมๆ กนั ตาย ไปคูเ่ คียงกนั
ปฺริยมั วะทา กช็ วั่ หนกั หนา ไมค่ วรเล้ยี งมนั ,
จงขบั นางออก นอกเมอื งกพู ลนั และอย่าให้มนั น้นั กลบั คืนมา
ฝ่ ายนางทาสี โทษก็ควรมี จงลงอาญา,
ส่งมนั จาไว้ ในตรุจนกว่า จะครบเวลา รวมไดส้ ามปี .
ตาพราหมณห์ มอเฒ่า ว่นุ วายนกั เล่า ผิดมากคราน้ี,
จงตระเวนรอบ ขอบเฃตธานี แลว้ ขบั ธชี พน้ เฃตภารา!
(นนั ทิวรรธนะถวายบังคม, แล้วพาตัวศุภางค์, ปริยมั วะทา, วิทูรและเกศินเี ฃ้าโรงไปทางห
ลืบขวา. ท้าวชัยเสนนั่งตลึงอย่บู นเตียงครู่ ๑, แล้วซบหน้าลงกบั หมอนร้องไห้, พระนางจัณฑีออก
ทางหลืบขวา, ตรงไปกราบท้าวชัยเสน, และสาออย. อราลีแอบมองจากหลืบขวา.)
[อปุ ชาติ, ๑๑.] ดนุน้ีทนงนา
จณั ฑี. พระทูลกระหมอ่ มแกว้
โดยฝืนพระบญั ชา ก็เพราะรู้ว่าเกิดความ
ชวั่ ชา้ และสามาญ คติแสนจะเลวทราม,
มหิ นาณสงคราม พระกต็ อ้ งพะวงนกั .
คดีก็จบแลว้ ภยะแคลว้ พระทรงศกั ด์,ิ
ผคู้ ิดขบถจกั บมหิ าญละตอ่ ไป;
129
ชยั เสน. แตร่ าชะสงคราม นะสิยงั บหยุดได้
ดนูจะขอไป ณ สนามประยุทธา;
เพราะอาจจะหา้ มทพั วรราชบดิ าฃา้ ,
ผทู้ รงพระโกรธา เพราะว่ะเฃา้ พระทยั ผดิ ,
คดิ ว่าพระองคก์ บั ดนุน้ีนะหมางจติ ;
ผทิ ราบพระทรงฤทธ์ิ และดนูบหมางกนั ;
พระจอมมะคธราษฎร์ จะระงบั พิโรธพลนั ,
แลว้ มิตระสัมพนั ธ์ ก็จะมปี ระดุจเคย.
โอกาสวเิ ศษน้ี บมคิ วรจะทงิ้ เลย,
ผิฝ่ าพระบาทเฉย ละกค็ งบตดั รบ.
ชะเก่งละจณั ฑี ชะชะมอี บุ ายครบ,
เตรียมเพื่อจะตดั รบ รณะดว้ ยจะห้ามทพั !
การศึกก็เธอกอ่ ขณะน้ีจะขอดบั ,
ผฉิ ันจะยอมรบั กจ็ ะอวดว่ะยอมแพ.้
ฉน้นั สิฉนั มงุ่ รณะยทุ ธะอกี แท.้
คอยดูเถิดหนอแน่ ละจะฝากกานลมา;
ฉนั คิดจะส่งเศียร มะคะธาธิราชา
แหละให้กะโฉมนา- ริขบถณสามี!
130
(ท้าวชัยเสนลกุ ขนึ้ กระทืบตีนแล้วเดิรดุ่มเฃ้าโรงทางซ้าย, พร้อมด้วยบริวาร. ฝ่ ายพระนาง
จณั ฑีน่งั ตลึงอย่.ู อราลีกเ็ ชง้อมองอย่ดู ้วยความตกใจ.)
(ปิ ดม่ำน)
องก์ที่ ๕
ตอนท่ี ๑
พลบั พลำในค่ำยหลวงทตี่ ำบลกุรุเกษตร์.
[ฉากเปนห้องประทับท่ีฃ้างในพลับพลา, ซ่ึงมมี ่านทองกัน้ แทนฝาทง้ั ด้านขวาและด้านซ้าย;
ด้านหลงั มีม่านรวบผูกให้แหวกตรงกลางเปนช่องเฃ้าออก, มลี ับแลตง้ั บังช่องน.ี้ ทางด้านซ้ายมือ
มเี ตยี งตง้ั อย่ชู ิดม่าน มีราชอาสน์และหมอนทอด, และเครื่องราโชปโภคตงั้ พอสมควร.]
(เมื่อเปิ ดม่าน, ท้าวชัยเสนเอกเขนกอย่บู นเตียง; มมี หาดเลก็ อย่งู านพัดคน ๑, หมอบอย่ทู าง
ด้านขวาอีก ๒ คน. สักครู่ ๑ นันทิวรรธนะแหวกม่านด้านขวาแล้วคลานออกมาถวายบังคม.)
[ยาน,ี ๑๑.] ขอเดชะพระบาท นรนาถเหนือเกศี,
นนั ทิ
วรรธนะ.
บดั น้ีเฒ่าธชี ผมู้ ชี ือ่ วทิ ูรไซร้,
ซ่ึงมพี ระบญั ชา ให้ตระเวนแลว้ ขบั ไล่,
โอหังบงั อาจใจ เฃา้ มาถึงณค่ายน้ี.
ฃา้ บาทไดซ้ กั ถาม พราหมณ์วา่ มาก็เพราะมี
เร่ืองทูลพระทรงศรี เปนขอ้ ความสาคญั นกั ;
ยืนยนั สาคญั แท,้ วา่ ถึงแมแ้ กเองจกั
131
ตอ้ งรบั อาญาหนกั กข็ อทลู ซ่ึงกจิ จา.
ชยั เสน. แกคงตอ้ งมสี ่ิง จาเปนจริงแกจึงกลา้ ;
เอาเถิดเรียกเฃา้ มา, จะฟังเร่ืองของแกดู.
(นันทิวรรธนะถวายบังคมแล้วคลานไปทีม่ ่านด้านขวา, แหวกม่านหน่อยหนึ่งและกวกั เรียก
เฃ้าไปในโรง; พราหมณ์วิทรู ออก, จ่ึงพากันคลานเฃ้าไปเฝ้า.)
[อปุ ฏั ้ิตา, ๑๑.] แกขอเฝ้าและบอกก,ู
ชยั เสน. น่ีแน่ตาพราหมณ์เฒ่า
มีขา่ วส่ิงใดอยู่ จงรีบแจง้ แถลงมา.
วิทูร. ขอเดชะพระสม มติเทวะราชา,
โปรดทรงกรุณา ดนุสารภาพผดิ ;
โอตตปั ปะกระตนุ้ ฤดิฃา้ ก็หวลคิด
ไดว้ ่าผวิ ะปิ ด คตไิ วจ้ ะบาปครัน.
เม่อื คืนพระเสด็จ จรเฃา้ ณสวนขวญั ,
ฃา้ ทูลคติอนั ทจุ ริตมุสาวาท.
ความจริงมะทะนา ศุภะลกั ษะณานาฎ
ไมเ่ คยริพิฆาต ฤขบถณภมู .ี
แทจ้ ริงณพระนาง วรเทวจิ ณั ฑี
ตรัสใชด้ นุน้ี และกระทาอบุ ายทราม.
นางนามะอะรา- ลวิ ิการะไปตาม,
132
บอกเคา้ คตคิ วาม พระดาริพระนางว่า
ทรงนอ้ ยพระหทยั เพราะวะองคพ์ ระภรรดา
โปรดนางมะทะนา และมิโปรดพระจณั ฑ,ี
ความทราบณพระองค์ บติ รุ งคธ์ จ่งึ กรี-
ธาแสนยะจะตี บุระหสั ฺตนิ าพลนั ;
บดั น้นั ก็ประยุท- ธะและยงั บแพก้ นั ,
จ่งึ องคว์ รจณั - ฑิวติ กจะเสียการ,
ขอให้ดนุแสร้ง และกระทาพธิ ีปาน
หน่ึงว่ายุวะมาลย์ มะทะนาดารสั ใช้
ใหฝ้ ังวรรูป นรนาถะฦๅชยั ,
อกี ทาวิธิให้ ฤดิแห่งศุภางคร์ กั .
ฃา้ เหน็ คตทิ ราม และอวุ าทะทว้ งทกั ,
นางคอ่ มอะประลกั ษณ์ กต็ ะคอกและขเู่ ขญ็
วา่ แมด้ นุน้ี บมยิ อมก็คงเปน
โทษใหญแ่ ละจะเห็น ทุขะอนั มหันตส์ ุด,
เหตเุ ฃาแหละจะกลา่ ว พะจิฟ้องดะนูดุจ
เปนจาระบรุ ุษ ณพระราชะธานี;
ฃา้ เห็นวรจณั - ฑกิ ็เปนสุดาศรี
133
แห่งนายดนุน้ี, ดนุจ่งึ ประนอมใจ
ทาตามอภิปราย, และอบุ ายกเ็ ปนไป
สมคดิ และกะไว้ บมิขาดละสักอนั .
คร้นั เม่ือดนุฟัง พระดารัสประสาธทณั ฑ,์
ใจฃา้ ขณน้นั หิริเตือนวา่ ตนโหด,
ฃา้ เองสิเพาะให้ นรนาถะกร้ิวโกรธ,
คนผนู้ ิระโทษ สิจะถกู ประหารชนม;์
แตว่ า่ ขณะน้ัน ดนุกลวั นะเต็มทน,
เกรงผดิ จะพะตน บมอิ าจจะพูดจา.
คร้ันราชะบรุ ุษ นิระเทศะตฃู า้
ออกจากวรธา- นิดะนูคเณจร;
ไปไหนฤก็ฃา้ บมิอาจจะหลบั นอน,
เหมือนเพลิงพษิ ะร้อน ระอรุ ุมณกลางทรวง.
ดงั น้ีแหละทนง จรตรงณค่ายหลวง,
เพอื่ ทูลคดิปวง และประณตณบาทา.
ฃา้ เปนทรุ ชน และละเมิดพระอาญา,
แลว้ แต่นรนา- ถะจะลงเถอะโทษแรง.
[สัทธรา, ๒๑] วะจะนะประดจุ จะแทง
ชยั เสน. ฟังคาหมอเฒ่าวทิ ูรแจง้
134
ท่อี รุ าแยง กระทง่ั ใจ!
โอแ้ พร้ ูน้ าริจญั ไร, ทุษะประทะณหะทยั
โดยมิทนั ได้ คะนึงว่า
จณั ฑผี เู้ ปนธิดารา- ชะมะคะธะแหละจะกลา้
ออกอุบายพา- ละเช่นน้นั ;
โดยความหึงสห์ นกั เพราะรกั คร้ัน คะดปิ ระทะทุษะพลนั
พลงุ่ ประหน่ึงควนั กระทบตา,
สุดแสนคง่ั แคน้ ฤดีว่า ปิ ยะวะธุมะทะนา
นอกฤดฃี า้ ก็ผดิ ใหญ่
บดั น้ีปรากฎบผิดใด สุปิ ยะชิวะประลยั
ฃา้ จะอยใู่ ย ณโลกน้ี!
(ท้าวชัยเสนชักดาพออกและทาท่าจะแทงตัว, แต่นนั ทิวรรธนะรีบไปจับมือไว้ได้ทนั , และ
ในขณะน้ันเองพูดต่อไปน.ี้ )
[อินทะวเิ ชยี ร, ๑๑] กรุณากะฃา้ ที,
นนั ทิ อา้ เทวะโปรดเกลา้
วรรธนะ.
ขอองคพ์ ระเจา้ ชี- วติ ะร้ังพระทยั ไว;้
เหตดุ ว้ ยอะรียก พละแสนยะเกรียงไกร
เกือบถงึ พระเวียงชยั , และตลอดวิถมี า
ไดท้ าระส่าปวง นรหวน่ั ณวิญญาณ์,
135
ดงั น้ีแหละทวยนา- คะระยงั ระริกรวั .
หากรู้ว่ะเสียองค์ ปิ ยะราชะทูลหวั
คงยิ่งจะเพมิ่ กลวั ภยะพาลพิบตั ิเบยี ฬ
ตราบใดพระเดชแผ่ วรฉายะเหนือเศยี ร
ย่อมศานตจิ าเนียร เพราะพระบาระมีร่ม;
ชีพตนและชีพญาต์ ิ บมิห่วงณอารมณ,์
ขอให้นโรดม วรชนฺมะยนื ยงั .
ไรป้ ่ิ นดลิ กราชย์ ละกช็ าต์จิ ะภนิ พงั ,
ไหนเลยจะคงต้งั อศิ ะรานุภาพครอง.
โลกเราสง่างาม กเ็ พราะแสงตวนั ส่อง,
ส้ินแสงระวีตอ้ ง มละทวั่ นะฉันใด;
อนั ปวงประชาเปรม ฤดิพ่งึ พระเดชไท,้
เดชดบั กม็ ืดใน ฤดิหม่นละแน่นอน.
ราตรีสว่างแจง้ กเ็ พราะแสงนิศากร,
โกฏ์ิดาวณอมั พร ก็บเทา่ พระจนั ทร์เดียว;
อนั ว่าพระคณุ เปรียบ วรโสมะนน่ั เทยี ว,
ไรน้ าถะฃา้ เหลยี ว จะประสพพระเจา้ ไหน?
[อเุ ปนทะวิเชยี ร, ๑๑] ฤกเ็ ราสิเห็นไพ-
ชยั เสน. สดบั วะจเี จา้
136
เราะแทแ้ ละจบั ใจ เพราะวะ่ เตอื นฤดีจงั .
เพราะเราคะนึงเหน็ ดนุผิดสิจ่งึ คลง่ั ,
และแคน้ หะทยั ต้งั จะประหารดนูเอง.
บเคยจะมีผดิ นิติธรรมณเมื่อเพรง,
บเคยจะข่มเหง นระผบู้ มีโทษ;
ก็หลงอุบายเฃา ดนุเหน็ ว่ะตนโฉด,
เพราะเช่ือณชนโหด ก็ประหาระคนดี.
อนงคส์ ุปฺรียา มะทะนาสิเปรียบชี-
วะแห่งดนูน้ี ฤก็สิ้นชิวาลยั ;
มะโนดนูเปรียบ ดจุ ะเรือนและนางไซร้
ประดุจประทีบใช้ ชวลิตณเคหา,
และกสู ิตกล่อง ละกซ็ ดั ชวาลา,
พโิ รธและจบั ปา บมทิ นั จะใคร่ครวญ,
ตะเกียงวินาศแลว้ คะหะมืดสิจ่งึ หวล
คะนึงว่ะไมค่ วร จะทลายประทปี น้นั .
ศุภางคะเสนี ฤกเ็ คยสนิธกนั ,
ดนูก็ควรมน่ั ฤดิวา่ สุภกั ดี;
เพราะโกรธะครองใจ ดนุใหป้ ระหารชี-
137
วะเพอื่ นก็บดั น้ี นะสิรูว้ ่ะไร้ผิด.
ศภุ างคะเหมอื นพา- หะวเิ ศษะแรงฤทธ์ิ,
ดนูสิปลดปลดิ วรพาหะแห่งตน.
อะโหจะหาเมีย ฤสุมติ ระอีกหน
จะเหมอื นณสองคน ฤจะไดณ้ โลกา?
จะหามณีรตั น์ รุจิเลดิ ก็อาจหา,
เพราะมีวะณิชคา้ และดนูก็มง่ั ม;ี
ก็แต่จะหาซ่ึง ภริยาและมติ ร์ด,ี
ผทิ รพั ฺยะมากมี ก็บไดป้ ระดจุ ใจ,
แสวงเถอะจนสุด พะสุธาสุราลยั
เมยี ใดและเพอ่ื นใด บมิเปรียบละของกู!
ฉะน้ีสิจ่ึงแสน ทุขะมากบอยากอยู่,
และนึกก็ชงั ตู เพราะวะ่ โง่นะเหลือทน.
สดบั พะจีเจา้ นะสิเราสานึกตน,
และจาจะตอ้ งทน ทขุ ะเพ่ือประโยชนร์ าษฎร์,
เพราะถึงจะโศกศลั ย์ กะระณียบ์ ควรฃาด,
เพราะขตั ตโิ ยชาต์ิ ทมุ ะนสั ก็กดั ฟัน!
[สาลนิ ี, ๑๑]
138
นนั ทิ ฃา้ ขอบงั คมบาท สุรนาถะราชนั ,
วรรธนะ.
จิตฃา้ น้ีโล่งพลนั เพราะสดบั พระวาจา.
ชยั เสน. บดั น้ีกราบทลู ขอ พระประทานอภยั ฃา้ ,
ดว้ ยมีซ่ึงกจิ จา ดนุสาระภาพผดิ .
เมือ่ คืนทต่ี รัสสั่ง ดนุปลงพระชีวิต
เทวผี มู้ ่ิงมิตร์ มะทะนากะชไู้ ซร้,
ฃา้ พาท้งั สองถงึ ณประตูพระเวียงชยั
พบพราหมณ์มาแต่ไพร, ทิชะถามคดีพลนั ,
ฃา้ เลา่ ถี่ถว้ นจ่ึง ทชิ ะทูลกะแจม่ จนั ทร์
ขอเชอญสู่อารัณ- ยะกะพรอ้ มคณาชี;
ฃา้ เหน็ วา่ โปรดให้ ดนุปลงพระชีวี
น้นั คอื ว่าภมู ี จะมิเล้ียงพระนางไซร,้
แมป้ ลอ่ ยให้เธอเฃา้ ณอะรัณยะสูญไป
เหมือนส้ินชีวาลยั เพราะก็คงบคืนมา,
ฃา้ จ่งึ ไดก้ ล่าวคา อนุญาตทชิ าพา
เทวเี ฃา้ สู่ป่ า และบไดเ้ ผดจ็ ชนม.์
อนั วา่ หัวหนา้ พราหมณ์ คณะผจู้ ะเดิรดน้
พานางสู่ไพรสณฑ์ นะแหละรูฤ้ ช่ือไร?
139
นนั ทิ เฃาน้นั ปรากฎนา- มะว่ะโสมะทตั ไซร้,
วรรธนะ.
ชยั เสน. แลกลา่ วว่าอยู่ใน หิมะวนั อรญั ศรี.
ขอบใจ, เจา้ นี่เปน วรเสวิยอดด,ี
นนั ทิ เหมอื นนาซ่ึงวารี สิตะช่วยโชลมต!ู
วรรธนะ. ดีใจที่รูว้ า่ มะทะนานะยงั อยู่,
พอมีโอกาสกู และจะขอวราภยั .
เมียรอดยงั ห่วงมิตร์, กศ็ ุภางคะน้นั ไซร้
ไดป้ ลงชีวาลยั ฤว่ะปล่อยประดจุ กนั ?
ขอ้ บอกแกเ่ สนี จะบปลงละชีวนั ,
เปนแต่ให้เฃาน้นั มละเฃตประเทศน้ี;
เฃาตอบว่าเฃานนั่ ฤดมิ นั่ ณภกั ด,ี
ตอ้ งห่างจากทรงศรี ์ ชิวะเฃาบอยากครอง,
ขอลาแลว่ามงุ่ จระตรงณท่กี อง
ทพั หลวงดว้ ยใจปอง ฤดแิ ฝงระหสั อยู่
จนถงึ เวลาที่ จะประยุทธะตอ่ สู้
ศึกแลว้ เฃาเตรียมจู่ จระรบศะตรูพาล,
เพื่อตายในท่รี บ อริอย่างทหารหาญ;
140
ชยั เสน. ฃา้ ฟังนึกสงสาร ก็ประสาทะตามใจ.
คร้ ันถึงเวลายุทธ์ ดนุเห็นศภุ างคไ์ ซร้
นนั ทิ ออกนาหนา้ พลไป และประยุทธะหนา้ ทพั
วรรธนะ. เหน็ พวกฃา้ ศกึ หอ้ ม ณศุภางคะเหลือนบั ,
ท้งั ฟันท้งั แทงยบั และศุภางคะลม้ ตาย.
สมใจทใ่ี ฝ่ มอบ ชิวะเปนพะลีภาย
ใตบ้ าทแห่งฦๅสาย เพราะว่ะมน่ั กะตญั ญ.ู
เออกูค่อยคลายความ ทุขะทบั หทยั อย่,ู
เม่ือทราบมิตรของกู บมิเสียชิวีทราม;
เปนเช้ือชาต์นิ กั รบ สละชีพณสงคราม
นบั วา่ ไดต้ ายงาม ดุจะนายทหารกลา้ .
อีกหน่ึงน้นั คอื นาง สุปรฺ ิยมั วะทาภา,
ไดอ้ อกจากภารา จระสู่ประเทศไหน?
นางขอตามไปเพอื่ น วรเทวิศรีใส,
จ่งึ พร้อมกนั เดริ ไป ณประเทศะอารัญ.
[อปุ ชาติ, ๑๑] จะประศาสน์และส่งั สรรพ์
มะและสมกะโทษกร.
ชยั เสน. ฉน้ีก็กูพอ
ใหถ้ กู ณทางธรร-
141
อนั ทา้ วมคธยก พลก่อกะลบี ร.
เพราะเช่ือธิดารอน รณะปราศะธรรมา,
และไดป้ ะราชิต ขณะน้ีก็ตกมา
เปนตวั ชเลยฃา้ บมิควรจะปราณี.
ให้โหระหาฤกษ์ ดถิ ิงามและยามด,ี
จะทาพิธีศรี วรุดมประถมกรรม,์
และปลงพระชนมท์ า้ ว มคะธาธิเบนทร์น้นั
รองเลือดชาระสรร- พะอุบทั วณ์ บาทเรา;
เอาเศียรอะรีใส่ ณชลอมและใหเ้ จา้
ธิดาและรับเอา ศริ ะแห่งบดิ าไซร,้
และทลู กะบาลจาก วรธานิกไู ป
สู่แดนมคธให้ นระเห็นและเปนตวั
อย่างว่านรีคด และขบถประทุษผวั
ก็แพณ้ ภยั ตวั บมิไดเ้ จริญนาน.
และอีอะราลี ทรุ ยศกะลีพาล,
ให้เจา้ พนกั งาน นคะราภิรักษพ์ ลนั
เฆ่ียนเสียเถอะสามยก และก็สักนะลาศมนั ,
และตดั จมกู กรรณ,์ นิระเทศะมนั ไป.
142
วทิ ูรกม็ โี ทษ เพราะวะ่ รูแ้ ละเปนใจ,
แตว่ า่ ธชีได้ สตสิ าระภาพผิด
จนเราตระหนกั เร่ือง, กฉ็ น้ีแหละเราคิด
ธชีผิมผี ดิ ฤกช็ อบประกอบมี;
จะให้อภยั พราหมณ,์ และณกาละต่อน้ี
พราหมณ์จงประพฤต์ดิ ี สุจริตณไตรทฺวาร;
จงมงุ่ ผดุงกจิ ตะบะกรรมะเผาผลาญ,
และขม่ กิเลสมาน มะนะแน่วณพรหมา.
[อุปัฏ ้ิตา, ๑๑.] มิกะปฺรียะราชา,
ดนุผปู้ ระพฤติผิด,
วทิ ูร. อา้ เทวะสุธรร- สุรธรรมะโสภติ ,
อนั ทรงกรุณา ธิจะเทยี บพระภูบาล;
นี่คือพระแสดง คุรุทณั ฑะแรงราญ,
มแี ตส่ ุรฤท- พระอภยั กะฃา้ น้ี,
นึกวา่ บมิรอด สุรทพิ ฺยะวารี
บดั น้ีพระประทาน ดนุขอปฏิญญา:
เหมือนรดศิระดว้ ย คะหะทรัพยแ์ ละออกป่ า
ชุ่มชื่นณฤดี, รมบิ ม่ กศุ ลไว,้
แตน่ ่ีสละท้งั
เพอ่ื ต้งั ตะบะบา-
143
แน่แทจ้ ะอทุ ศิ ผละบุญถวายไท้
ตอบแทนพระอภยั วรทานณกาลน้ี.
ขอให้พระเสวย สุขะเพลนิ เจริญศรี,
สมดงั พระฤดี ภยะแผว้ พระภบู าล;
กิจใดพระประสง- คะก็จงประสิทธ์ ิท่าน,
การปวงประลุปาน วรราชประสงคส์ รรพ,์
ลาภหลงั่ บมิหยดุ เถอะประดจุ อุทกถน่ั ,
ทรงชยั ชะนะสรร- พะศะตรูบรู้แพ.้
ขอให้วรศกั - ดแิ ละฤทธิเรืองแผ่
ไพศาลประลแุ ค่ สุระภมู ภิ าคบน,
เปนใหญ่ณประเท- ศะมนุษณสากล,
ครอบครองนรชน จตรุ างคะวรรณา.
ขอทวยสุรฤท- ธิประสิทธ์ ิพระพรมา
พร้อมดงั พะจฃิ า้ วรบาทถวายพร.
(พราหมณ์วิทูรถวายบังคมท้าวชัยเสนแล้วคลานถอยไปเฃ้าโรงทางขวา.)
ชยั เสน. แน่ะนนั ทวิ รรธน์เตรียม พละเสนิกากร,
จะไปพนาดร และจะรับพระนงคราญ;
และสัง่ ณวงั เตรียม วรศีวกิ ากาญจน์,
144
สนมพนกั งาน สะขสิ รรพประดบั ศกั ด์.ิ
ดนูจะไปยงั กุฎิทมี่ นุ ีพกั ,
และรับวธูรัก จระกลบั ณเวยี งชยั ;
ณฝ่ ายนครหลวง ก็ประดบั ประดาไว,้
เพราะกลบั ณเมือ่ ใด ก็จะมีพิธีการ
ภิเษกพระนางเจา้ มะทะนาสุมนมาลย์
วสิ ุทธินงคราญ อรเอกมะเหษี.
อน่ึงศภุ างคผ์ ู้ ศภุ ะมติ ระยอดดี,
กค็ วรจะเผาผี และสนองคณุ านันต;์
ผิศพศุภางคย์ งั บมสิ ูญก็จงพลนั
ประดิษฐะเชิงช้นั วรจติ ระกาธาร,
และเผาสุมติ ร์แลว้ ละกแ็ ห่วะรางคาร
ณฝ่ังมหาธาร ยะมนุ านทศี รี,
กค็ งจะลา้ งมล ทินะโทษประดาม,ี
และโทมะนสั ที่ ฤดกี ูจะค่อยเบา:
สุมิตระคนน้นั นะก็ดุจอะนุชเรา,
ฉน้นั นะตวั เจ้า แหละประจงณการศพ,
มใิ ห้อะไรฃาด เพราะวะ่ ปราศะเคารพ.
145
นนั ทิ ดารัสพระทรงภพ ดนุน้ีจะทาตาม.
วรรธนะ.
(ท้าวชัยเสนเฃ้าโรงทางช่องกลาง, และมหาดเลก็ คลานตามเฃ้าโรงทางนน้ั ด้วย. ส่วนนนั ทิ
วรรธนะเฃ้าโรงทางขวา.)
(ระหว่างเปล่ียนฉากพิณพาทย์ทาเพลงพระยาโศก.)
ตอนที่ ๒
กลำงป่ ำหมิ ะวนั
[นคี้ ือฉากเดียวกับฉากตอนท่ี ๑ องก์ท่ี ๒ นั้นเอง, ผิดแต่ในตอนนมี้ ิได้มีต้นกหุ ลาบเท่านน้ั .]
(มทั นานั่งอยู่บนตอไม้; ปริยัมวะทาน่งั อยู่กับพืน้ ข้างตอไม้; มีนางสาวใช้อีก ๒ คนนั่งอยู่
ห่าง ๆ ทางด้านขวาแห่งเวท;ี และมีพวกบริวารของพระกาละทรรศินกาลังขนฟื นมากองท่กี ลาง
เวที,. เตรียมสาหรับจดุ ; ศุนเปนผ้กู ากับพวกบริวารให้ขนฟื นและจดั เครื่องพะลใี นระหว่างเวลาท่ี
ปริยัมวะทากบั มัทนาพูดกนั ต่อไปน.ี้ )
[ภชุ งคปั ปะยาตร,์ ๑๒.] กส็ ับดาหะล่วงสาม,
ปริยมั วะ พระแมเ่ พยี รพะลีมา
ทา.
มเิ หน็ วา่ จะสมความ ประสงคด์ งั ดารัสไว;้
กระหมอ่ มฉนั จะทูลสา- ระภาพตรงณจริงใจ,
กระหม่อมฉันมิอยากให้ พะลนี ้ีประสิทธ์ิผล;
เพราะหากวา่ พะลีเสร็จ เสด็จกลบั ณเบ้อื งบน,
กระหมอ่ มฉันจะตอ้ งทน ระทมทุกขะหงอยเหงา.
เพราะทุกวารกบ็ านใจ และรบั ใชพ้ ระแมเ่ จา้ ,