๓๘ โครงการพัฒนาทักษะการแสวงหาความรู้ โครงการวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมเลือกตั้งสภา
๓๙ โครงการยกระดับภาษาอังกฤษ โครงการส่งเสริมเรียนรู้วัฒนธรรมและภาษาต่างประเทศ โครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์
๔๐ แบบทดสอบและเกณฑ์สมรรถภาพทางกาย
๔๑ มาตรฐานที่ ๒ กระบวนการบริหารและการจัดการ ระดับคุณภาพ: ๒.๑ มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี มีแผนพัฒนาสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ที่เป็นนโยบาย ในการจัดทำแผนพัฒนา ของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี เพื่อให้การบริหารจัดการศึกษาของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี มีความเชื่อมโยงกับ ยุทธศาสตร์สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์บรรลุตามวิสัยทัศน์พันธกิจ เป้าหมาย สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทาง เศรษฐกิจ สังคมและความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการ เป็นการสร้างกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ สามารถตอบสนองความต้องการของบุคคล ชุมชน สังคม ผู้เรียนมีศักยภาพในวิชาชีพ สามารถแข่งขัน สร้างสรรค์ ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ จึงกำหนดทิศทางในการบริหาร จัดการศึกษา การดำเนินงานมีขั้นตอนจัดทำแผนที่นำไปสู่ความสำเร็จ คือ 1.การนำแผนสู่การปฏิบัติ 1.1 มีการ ประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจสาระสำคัญขององค์ประกอบต่างๆในแผนให้กับบุคลากร คณะกรรมการ สถานศึกษาได้ทราบและมีส่วนร่วมให้การสนับสนุนเพื่อให้การนำแผนสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.2 ผู้บริหารสถานศึกษา ส่งเสริมสนับสนุนกำกับติดตามให้การดำเนินงานเป็นไปตามที่แผนกำหนด 1.3 คณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายและบุคคลากรที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือแสวงหาประสานงานเครือข่ายภายนอก ร่วมพัฒนาการดำเนินงานตามแผน 1.4 จัดให้มีการกำกับ ติดตาม และประเมินผลที่มุ่งเน้นการประเมินเพื่อพัฒนา ปรับปรุงการดำเนินงาน โดยมีตัวชี้วัดความสำเร็จเป็นเป้าหมายสำคัญ 1.5 จัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศที่ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สามารถให้บริการได้ตรงตามความต้องการและทันต่อการเปลี่ยนแปลง 2.การกำกับ ติดตาม และ ประเมินผล 2.1 ติดตามประเมินผลใช้จ่ายงบประมาณ หรือการใช้ทรัพยากรต่างๆที่ใช้ในโครงการตามแผน ว่า เป็นไปตามที่กำหนดในโครงการ/กิจกรรม มากน้อยเพียงใด 2.2 กำกับ ติดตามและประเมินผล กระบวนการใน การปฏิบัติงานว่าเป็นไปตามแผน/กิจกรรมที่กำหนดไว้หรือไม่ มีปัญหาหรืออุปสรรคอย่างไรบ้าง 2.3 การติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานโครงการ ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เป้าประสงค์ และ ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้มากน้อยเพียงใด 2.4 สรุปและจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามแผน และจัดทำแผนปฏิบัติ การประจำปีของวิทยาลัย ได้กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย วัตถุประสงค์ เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ ค่านิยมหลัก และยุทธศาสตร์ไว้ดังต่อไปนี้ วิสัยทัศน์(vision) “วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ สืบสาน สร้างสรรค์ งานศิลป์สู่ สากล สร้างคนสู่อนาคต” การกำหนดวิสัยทัศน์มีความสอดคล้องกับบริบทของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีและสถาบันบัณฑิตพัฒน ศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีนำวิสัยทัศน์แต่ละข้อความสำคัญนำมากำหนดพันธกิจ/ภาระงาน ซึ่งเป็นแนว ทางการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุผลตามข้อความสำคัญในวิสัยทัศน์ของวิทยาลัย โดยมีพันธกิจ /ภาระงานดังนี้ พันธกิจ (mission) ๑. จัดการศึกษาด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ ระดับพื้นฐานวิชาชีพถึงระดับอุดมศึกษาที่มีคุณภาพเป็นที่ ยอมรับของสังคมในระดับชาติหรือนานาชาติ ๒. สร้างงานวิจัย งานสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่เป็นองค์ความรู้ด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์และภูมิปัญญา พื้นบ้านภาคตะวันออก ที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์ต่อสังคม ๓. เป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ การแสดงพื้นบ้านภาคตะวันออกและให้บริการ ทางวิชาการแก่ชุมชน
๔๒ ๔. อนุรักษ์ พัฒนา สืบสาน สร้างสรรค์ การจัดการองค์ความรู้ทางศิลปวัฒนธรรม เผยแพร่งานด้าน นาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์และการแสดงพื้นบ้านภาคตะวันออก เป็นที่ยอมรับ สร้างคุณค่าแก่ชุมชน สังคมใน ระดับชาติและนานาชาติ ๕. บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล พัฒนาคุณภาพองค์กรและความก้าวหน้าทางวิชาการให้กับ บุคลากรของวิทยาลัยฯ วิสัยทัศน์และพันธกิจของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีตอบสนองความต้องการของชุมชนท้องถิ่น วัตถุประสงค์ของแผนการศึกษาแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลและทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคม ซึ่งวัตถุประสงค์ ในการจัดการศึกษาแผนการศึกษาแห่งชาติ กำหนดวัตถุประสงค์ไว้ 4 ประการ 1. เพื่อพัฒนาระบบและ กระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ 2.เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพระราชบัญญัติการศึกษา แห่งชาติและยุทศาสตร์ชาติ 3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้รัก สามัคคี และร่วมมือผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรฐกิจพอเพียง 4.เพื่อนำ ประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำภายในประเทศลดลง เป้าหมายด้าน ผู้เรียนมุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคนให้มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ผลการดำเนินงาน วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจนที่เป็นการกำหนดความสำเร็จในการ บริหารแผนพัฒนาวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่มีความสอดคล้องสัมพันธ์กันในทุกประเด็น เป็นแผนที่ชัดเจนสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามความต้องการที่กำหนด โดยการ ดำเนินตามแผนปฏิบัติการภายใต้แผนพัฒนาวิทยาลัย และเป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้ จากการดำเนินงาน ดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด งบประมาณปี2565 1. เงินงบประมาณ (งบอุดหนุน) ได้จากเงินรายหัวนักเรียนระดับพื้นฐาน รายรับ รายจ่าย คงเหลือ คิดเป็นร้อยละ 2,309,910 2,309,900 10 99.99 2. เงินรายได้ ได้จากเงินค่าบำรุงการศึกษาของนักศึกษา รายรับ รายจ่าย คงเหลือ คิดเป็นร้อยละ 4,242,678 4,236,448 6,230 99.85 จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่า เป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด
๔๓ ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยฯมีการบริหารจัดการ คือ SOMKIAT MODEL โดยจัดระบบ ระเบียบโครงสร้างองค์กร สนับสนุน ส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร เกิดความรัก ความศรัทธา มีความเป็นเอกภาพ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ศึกษาแนวทาง และยุทธศาสตร์ของหน่วยงานเหนือวิทยาลัย ได้แก่ เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และ สังคมแห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงวัฒนธรรม แผนพัฒนาสถาบันบัณฑิต พัฒนศิลป์ มาสู่แผนพัฒนาของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี สู่แผนปฏิบัติการประจำปี ที่ระบุวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย กลยุทธ์ที่ชัดเจนสอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น บุคลากรทุก คนรับทราบ และถือปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน โดยการพิจารณาจากจุดอ่อน และจุดแข็ง โอกาส และจุดที่ควร พัฒนาขององค์กรโดยภาพรวมของบุคลากรในองค์กร กำหนดเป้าหมายและวิสัยทัศน์ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อให้มี แนวทางเพื่อที่จะนำพาองค์กรไปสู่เป้าที่ตั้งไว้ ดังวิสัยทัศน์ที่ว่า “วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี เป็นองค์กรแห่งการ เรียนรู้ สืบสาน สร้างสรรค์ งานศิลป์สู่สากล สร้างคนสู่อนาคต” วิทยาลัยฯมุ่งเน้นคุณภาพ มาตรฐาน และ ความก้าวหน้าทางวิชาการ สร้างเสริม มุ่งเน้น การจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ สนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียน มีการ พัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างมีระบบ ให้นักเรียนมีสมรรถนะที่สำคัญบรรลุเป้าหมายตามหลักสูตร คือ มีทักษะทางวิชาชีพ ทักษะการคิด ทักษะการ สื่อสาร ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะทางด้านเทคโนโลยีและทักษะชีวิต โดยมีระบบประกันคุณภาพการศึกษา เป็น แนวทางการปฏิบัติร่วมกับการบริหารจัดการศึกษาของวิทยาลัยนาฏ ศิลปจันทบุรี โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน 1 การควบคุมคุณภาพ โดยการกำหนดมาตรฐานคุณภาพ การพัฒนา สถานศึกษาให้เข้าสู่มาตฐาน 2. การตรวจสอบ คุณภาพ คือ การตรวจสอบ และติดตามผลการดำเนินงานให้เป็น มาตรฐานที่กำหนด 3.การประเมินคุณภาพ เป็น การประเมินคุณภาพของสถานศึกษาโดยหน่วยงานต้นสังกัด โดย ใช้กระบวนการ PDCA คือ (วางแผน ) Do (ปฏิบัติ ) Check (ตรวจสอบ ) Act (ปรับปรุงและพัฒนา ) ใน การขับเคลื่อนระบบ การบริหารจัดการ SOMKIAT MODEL วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ที่มีหลากหลายด้วยตนเอง การมีส่วนร่วมในกิจกรรม การนำเทคโนโลยี สื่อ นวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลและ การจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ สร้าง เสริมคุณธรรมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีวินัย มีความ รับผิดชอบ ความรักความสามัคคี มีจิต สาธารณะสำนึกรักและเทิดทูนสถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ ตลอด ทั้ง รักษ์ความเป็นไทย มีระบบและ กลไกในการบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษาที่ชัดเจนครอบคลุมทุกด้าน มีการร่วมกันวางแผน และ ดำเนินการตามแผน มีงานติดตามและประเมินผล เมื่อสิ้นปีงบประมาณจะนำผลการประเมินมาปรับปรุงพัฒนางาน แผนการพัฒนาวิทยาลัยในปีต่อไป ผลการดำเนินงาน วิทยาลัยดำเนินการบริหารจัดการคุณภาพของวิทยาลัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการดำเนินโครงการโดย ใช้กระบวนการ PDCA คือ (วางแผน ) Do (ปฏิบัติ ) Check (ตรวจสอบ ) Act (ปรับปรุงและพัฒนา ) แสดงให้เห็นถึงแผนปฏิบัติการมีประสิทธิภาพในระบบดำเนินตามแผนพัฒนาวิทยาลัย จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุก กลุ่มเป้าหมาย กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยฯ มีการจัดทำแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา แผนปฏิบัติการประจำปี มีแผนจัดการเรียนรู้ ตาม หลักสูตรสถานศึกษา โดยดูเป้าหมายของหลักสูตรมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด นำมาวิเคราะห์เป็นจุดประสงค์การ
๔๔ เรียนรู้ ทั้งด้านพุทธิพิสัย ด้านทักษะพิสัย ด้านจิตพิสัย และสรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ลงไปสู่การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้วิธีการสอนที่หลากหลายตามสาระการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับวัยของ ผู้เรียน โดยใช้สื่อการเรียนการสอนทั้งสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อเทคโนโลยีและการกระตุ้นแรงจูงใจให้ผู้เรียนมีความสนใจ ความตั้งใจในการเรียน โดยครูเป็นผู้ศึกษาวิธีการสอนในแบบต่างๆเพื่อความเหมาะสมของเนื้อหารายวิชา และมี การวัดผลประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง ตามมาตรฐาน/ตัวชี้วัด วิทยาลัยฯส่งเสริมทางด้านวิชาการที่เน้นคุณภาพของนักเรียนรอบด้านทุกกลุ่มเป้าหมายและให้เห็นผลงาน เป็นรูปธรรม และมีการมอบหมายตามโครงสร้างการบริหารงาน มีการมอบหมายให้ ภาควิชาศึกษาทั่วไปพัฒนา ผู้เรียน 8 กลุ่มสาระ ภาควิชานาฏศิลป์ และภาควิชาดุริยางคศิลป์ พัฒนาผู้เรียนด้านทักษะวิชาชีพ ซึ่งฝ่ายวิชาการ มีการประชุมเพื่อจัดทำแผนงานวิชาการ เพื่อกำหนดกิจกรรม/โครงการเสริมหลักสูตรที่เน้นคุณภาพนักเรียนรอบ ด้านในแผนปฏิบัติการประจำปีของวิทยาลัยฯ และดำเนินกิจกรรม/โครงการ ภายใต้การกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ของฝ่ายวิชาการ สนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เรียนเข้าร่วมการประกวดแข่งขันทักษะวิชาการทั้งทางด้านวิชาการและด้าน วิชาชีพ และการรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนเมื่อสิ้นภาคเรียน ผลการดำเนินงาน วิทยาลัยมีหลักสูตรนาฏดุริยางศิลป์ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ( ฉบับปรุง พุทธศักราช 2562 ) และหลักสูตรของกลุ่มสาระ 8 กลุ่มสาระ การใช้หลักสูตรแล้วนำไปปรับปรุงหลักสูตรโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนา ศิลป์จะเข้าร่วมทบทวนและปรับปรุงหลักสูตร วิทยาลัยฯดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพนักเรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษาและทุกกลุ่มเป้าหมาย เชื่อมโยงกับชีวิตจริง การจัดการเรียนสอน มีการศึกษาหลักสูตร มาตรฐาน/ตัวชี้วัด แล้วจึงดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ ที่มีวิธีการสอนที่หลากหลายสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม มีสื่อ นวัตกรรมที่เหมาะสมกับเนื้อหาสาระและวัยของผู้เรียน มีการจัดโครงการเพื่อพัฒนาผู้เรียนด้าน วิชาการ ได้แก่ 1. โครงการยกระดับความรู้ทางภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2565 เพื่อพัฒนาศักยภาพ ภาษาอังกฤษเพื่อการเรียนรู้ การสื่อสาร และนวัตกรรมของนักเรียน เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนได้เรียนรู้การสื่อสาร ข้ามวัฒนธรรม เรียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันได้เปิดโลกทัศน์สากลผลการประเมินทักษะทางภาษาอังกฤษ เพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 87.80 เข้าใจในเรื่องความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรม คิดเป็นร้อยละ 84 นำความรู้ที่ ได้รับไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ คิดเป็นร้อยละ 83.20 นำความรู้ที่ได้รับไปใช้เพื่อการศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นได้ คิดเป็นร้อยละ 87 2. กิจกรรม Thursday Learning with General Education ( TLGE ) เพื่อการนำความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับรายวิชาที่น่าสนใจมานำเสนอให้แก่ผู้เรียนได้นำไปจุดประกายและสร้างความอยากรู้เพื่อการศึกษาต่อ ยอด เพื่อเป็นการทบทวนความรู้ในรายวิชาให้แก่ผู้เรียน เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี ระหว่าง ผู้เรียนกับ ผู้เรียน และ ผู้เรียนกับผู้สอน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับผู้เรียนมีเจตคติต่อวิชาภาควิชาศึกษาทั่วไป คิดเป็นร้อย 96 3. โครงการพัฒนาวิชาชีพ โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่1 กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏยกรรม (การแสดงโขน) กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมการแสดงเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย กิจกรรมที่ 3 กิจกรรม การแสดงศรีสุขนาฏกรรม (การแสดงละคร ) กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏกรรม (การแสดงนาฏศิลป์ ไทย ) กิจกรรมที่ 5กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏกรรม (การบรรเลงดนตรีสากล) กิจกรรมที่ 6 กิจกรรมการ บรรเลง และการแสดงนาฏศิลป์ไทย (วันอนุรักษ์มรดกไทย) 4. โครงการพัฒนาด้านคุณธรรม จริยธรรม โครงการส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ให้แก่ผู้เรียน พัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรม พัฒนาผู้เรียนให้มี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ผู้เรียนเข้าใจความหมายของคำว่า “ธรรมะ”ที่หมายถึงสิ่งที่ทำให้ชีวิตดีงาม คิดเป็นร้อย ละ 86.60 ผู้เรียนตระหนักในหน้าที่ของการเป็นพลเมืองดีโดยเฉพาะการไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คิดเป็นร้อยละ 88 ผู้เรียนเป็นผู้มีวินัย สามารถปฏิบัติตนตามกฎเกณฑ์และระเบียบของสังคม ร้อยละ86 ผู้เรียนในเรื่องความรัก
๔๕ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ร้อยละ 81.80 ผู้เรียนเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ เห็นความสำคัญและประโยชน์ของการ เรียน ร้อยละ 87 5. การรายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนร้อยละ80 มีผลการเรียนระดับ 2 ขึ้นไป วิทยาลัยมีหลักสูตรสถายศึกษาที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการวิทยาลัยที่สามารถตรวจสอบได้ และมีหลักสูตรสถานศึกษาของกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้ง 8 กลุ่มสาระ จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่า เป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยฯส่งเสริมสนับสนุน พัฒนาครูและบุคลากร ให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ โดยจัด 1. โครงการ พัฒนาครูผู้สอน เพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ งบประมาณ 2565 2. โครงการ ศักยภาพ ผู้สอนในศตวรรษที่ 21 การเรียนการสอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับอาชีวศึกษา และ ระดับอุดมศึกษาของ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สอนในยุคไทยแลนด์ 4.0 3. โครงการ จัดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บุคลากร 4.โครงการอบรมสัมมนาและทัศนศึกษา ดูงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร ประจำปี2565 5. โครงการส่งเสริมวิชาการ ด้าน นาฏศิลป์และดุริยางคศิลป์ซึ่งการจัดโครงการ กิจกรรม ส่งเสริมทางวิชาชีพครู เพื่อให้ครูสามารถนำความรู้ไป พัฒนาตนเอง พัฒนาการสอนเพื่อเพิ่มพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC และการพัฒนาผู้เรียนตลอดจนได้รับเชิญเป็นวิทยากร มีการพัฒนา ส่งเสริม สนับสนุน สร้างขวัญและกำลังใจให้ บุคลากรเกิดการพัฒนาตนเองให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ โดยสำรวจความต้องการของครูและบุคลากรที่ ต้องการพัฒนาในด้านต่าง ๆ จัดให้ครูผู้สอนเข้าพัฒนาตนเองกับหน่วยงานต้นสังกัด และหน่วยงานภายนอก อาทิ การอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน การศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ส่งเสริมการทำผลงานทางวิชาการ เพื่อเลื่อนวิทย ฐานะ ผลการดำเนินงาน วิทยาลัยฯ แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาตนเองของบุคลากรอย่างต่อเนื่องทั้งอบรมด้วยตนเองและ วิทยาลัยฯจัดขึ้น ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนในด้านการแสดง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพครูมีผลต่อการพัฒนา ศักยภาพผู้เรียน บุคลากรและครูได้รับการพัฒนาด้านวิชาการและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง และสามารถนำความรู้มา ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ครูและบุคลากรยังได้รับการพัฒนาตามโครงการดังกล่าว ส่งผลให้สามารถนำไป ประยุกต์ใช้ในจัดการเรียนการสอนตลอดจนปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องได้ถูกต้องเหมาะสม มีการพัฒนากระบวนการ จัดการเรียนการ สอนที่เน้นปรับตัวสู่การเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 พบว่า ผลการประเมินโครงการอบรมส่งเสริมการทำผลงานทางวิชาการ ผศ. วิทยฐานะ ความรู้ทักษะวิชาชีพ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะวิชาชีพด้านการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้บุคลากรได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะวิชาชีพใน การปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น ได้รับความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติด้าน วิชาชีพ คิดเป็นร้อยละ 93.60 วิธีการที่ใช้พัฒนาเชิงปฏิบัติการ คิดเป็นร้อยละ 93.20 ความสอดคล้องกับสิ่งที่ ต้องการพัฒนา คิดเป็นร้อยละ 92.20 โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สอนในศตวรรษที่ 21 เรื่องการใช้ ภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาครู การอบรมเชิงปฏิบัติการของบุคลาภาควิชาศึกษาทั่วไป การอบรมเชิงปฏิบัติการของ บุคลากรภาควิชานาฏศิลป์และภาควิชาดุริยางคศิลป์ มีผลการประเมินของบุคลากรคิดเป็นร้อยละ87.80
๔๖ โครงการพัฒนาศักยภาพผู้สอนในศตวรรษที่ 21 ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระดับอาชีวศึกษา และระดับอุดม มี ผลการประเมินของบุคลากรคิดเป็นร้อยละ 93.60 โครงการจัดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บุคลากรเพื่อพัฒนาความรู้ทักษะวิชาชีพด้านนาศิลป์ไทยให้แก่บุคลการภาคนาฏศิลป์ไทย และ เป็นการอนุรักษ์สืบทอด และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ไทย จากบทละครพันทางเรื่องราชาธิราชตอน สมิงพะรามรบกามมณีพัฒนาทักษะทางวิชาการให้กับบุคลากรภาคนาฏศิลป์ สร้างเจตคติที่ดีและมีคุณลักษณะ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ได้รับความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติด้านวิชาชีพ คิดเป็นร้อยละ 93.60 วิธีการที่ใช้พัฒนาเชิงปฏิบัติการ คิดเป็นร้อยละ 93.80 ความสอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการพัฒนา คิดเป็นร้อยละ 91.60 โครงการอบรมสัมมนาและทัศนศึกษาดูงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของครูและบุคลากร ประจำปี2565 เพื่อให้ข้าราชการครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษาได้รับความรู้และประสบการณ์จากผู้มี ประสบการณ์ตรงในการทำงานจริง หรือจากการเข้าร่วมในการนำเสนอผลงาน และเป็นการส่งเสริมให้ข้าราชการ ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้านดนตรีไทยและดนตรีจีน ได้รับความรู้ความเข้าใจใน การปฏิบัติด้านวิชาชีพ คิดเป็นร้อยละ 93.80 วิธีการที่ใช้พัฒนาเชิงปฏิบัติการ คิดเป็นร้อยละ 94.40 ความ สอดคล้องกับสิ่งที่ต้องการพัฒนา คิดเป็นร้อยละ 92.60 และการอบรมตามอัธยาศัยของครูผู้สอน ดร.รณชัย นันท โชติ อบรมหลักสูตรระยะสั้น วิธีวิทยากรวิจัยทางการศึกษา( Research Methodology in Education ) วิทยาลัย การศึกษาตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดขึ้น นางสาวสุกัญญา ขันกสิกรรม ดร.รณชัย นันทโชติ นายพงษ์ พันธ์ สุขเล่ห์ อบรมนวัตกรรมการศึกษา Edsociate Special Webinnar ครั้งที่ 17 ภายใต้วิทยาลัยการศึกษา ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิทยาลัยตลอดชีวิต นางสาวสุกัญญา ขันกสิกรรม อบรมหลักสูตรจริยธรรมการ วิจัยในมนุษย์ ประจำปีการศึกษา 2565 สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม วิทยาลัยสนับสนุนส่งเสริมการจัดกิจกรรมชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การแลกเปลี่ยนภาคนาฏศิลป์ ไทยโขน เรื่อง การแก้ปัญหานักเรียนขาดความตั้งใจในการฝึกทักษะปฏิบัติ นาฏศิลป์ไทยละคร เรื่องการแก้ปัญหา นักเรียนขาดความรับผิดชอบไม่กระตือรือร้นต่อการฝึกทักษะนาฏศิลป์ ภาคศึกษาทั่วไป เรื่องการแก้ไขปัญหาผล การเรียนของผู้เรียน และเรื่องผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (o-net) ลดลง ภาคดุริยางคศิลป์ เครื่องสายไทย เรื่องการแก้ปัญหาจากการเรียนออนไลน์ที่ทำให้นักเรียนได้รับเนื้อหาไม่ครบถ้วน ดุริยางค์สากล เรื่องการแก้ปัญหานักเรียนการอ่านโน้ตดนตรีสากลไม่ได้ ดุริยางค์ไทย เรื่องการแก้ปัญหาการตีกรอในการบรรเลง เครื่องดำเนินทำนองในวงปี่พาทย์ เป็นกิจกรรมในชั้นเรียนอย่างเป็นรูปธรรม และมีขอบข่าย ดังนี้1.แผนขับเคลื่อน PLC ของภาค มีการ ดำเนินงานที่ชัดเจน มีกิจกรรม และระยะเวลาที่ดำเนินการ 2.การขับเคลื่อนกระบวนการ ดำเนินการตามปฏิทิน ปฏิบัติงาน ที่ระบุวันเวลา การดำเนินกิจกรรม และผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน 3. การนิเทศ ติดตามและประเมินผล มี การสร้างเครื่องมือเพื่อประเมินผล 4.แบบรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและรายงานผล ต่อไป ครูและบุคลากรทางการศึกษามีการจัดทำแผนพัฒนาตนเอง (ID Plan) เพื่อการพัฒนาตนเองให้มีสมรรถนะ หน้าที่สูงขึ้น 1. แผนการพัฒนาตนเอง 2.แผนการพัฒนาตนเองร่วมกับบุคลากรภายในสถานศึกษา และหน่วยงาน ภายนอก 3. แผนการขอรับการสนับสนุนการพัฒนาจากหน่วยงาน ครูวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีส่งเสริมให้ครู จัดทำแผนพัฒนาตนเองทุกคน คิดเป็นร้อย 100 จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่า เป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด
๔๗ ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อ การจัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ กระบวนการพัฒนา ฝ่ายบริหารของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีดำเนินโครงการ/กิจกรรม ตามแผนปฏิบัติการโดย มี กระบวนการบริหารแบบ PDCA การวางแผน (Planning) ประชุมคณะดำเนินงานฯ เพื่อวางแผน มอบหมายภาระ งานในการเตรียมดำเนินการ จัดทำโครงการนำเสนอเพื่อขออนุมัติโครงการ การดำเนินการ(Doing) จัดประชุมเพื่อ ดำเนินการ แผนการดำเนินงาน จัดทำคำสั่ง ดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงาน การประเมินผล(Checking) แสดงความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการ รายงานผลการดำเนินงาน การปรับปรุง(Acting) นำผลการประเมินไป ปรับปรุงและพัฒนาต่อไป มีการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนและ สภาพแวดล้อมทางสังคมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ มีความปลอดภัย ห้องเรียนวิชาชีพพื้นฐานมีอุปกรณ์การจัดการเรียน การสอนที่เพียงพอมีโทรทัศน์และสามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ให้ครูอาจารย์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้มี ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ที่เพียงพอต่อจำนวนผู้เรียน มีห้องวิทยาศาสตร์เป็นอุปกรณ์สารเคมีเพียงพอต่อการจัดการ เรียนการสอน มีห้องเรียนปฏิบัติเอกนาฏศิลป์ดนตรีมีอุปกรณ์การเรียนวิชาปฏิบัติเอกนาฏศิลป์ดนตรี เช่น เครื่อง เล่นซีดีเครื่องดนตรีอย่างเพียงพอ ด้านวิชาการมีห้องสมุดที่สามารถสืบค้นข้อมูลได้ทั้งหนังสือและอินเตอร์เน็ต มี สวนคุณธรรม มีสนามกีฬาและอุปกรณ์กีฬาที่เหมาะสมเพียงพอสอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ ส่งผลในการเรียน การสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีสิ่งอำนวยประโยชน์ครบครันทำให้สภาพแวดล้อมทางกายภาพของวิทยาลัยฯ มีความสวยงาม มีอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และการปฏิบัติกิจกรรมที่เพียงพอและมีคุณภาพ นักเรียนและ บุคลากรได้รับความสะดวกในการใช้บริการ มีกิจกรรม 5 ส ของวิทยาลัยที่เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนเรื่อง ความสะอาด บรรยากาศวิชาการ มีความปลอดภัย มีส่งเสริมการดูแลรักษาความสะอาดโดยผู้เรียน เจ้าหน้าที่ที่ รับผิดชอบ และครูทุกฝ่ายร่วมกันรับผิดชอบในพื้นที่เช่นในห้องเรียน ผู้เรียนเป็นผู้ดูแลเรื่องความสะอาด การมี บรรยากาศวิชาการให้ครูมีส่วนร่วมโดยการให้คำแนะนำการสร้างแหล่งการเรียนรู้ภายในห้องเรียน เช่นการจัดป้าย นิเทศ มีการตรวจเช็ควัสดุอุปกรณ์ต่างๆเครื่องใช้ไฟฟ้า ประตูหน้าต่าง ห้องเรียน บริเวณโดยรอบพื้นที่ในวิทยาลัย โดยฝ่ายอาคารสถานที่ การดูแลผู้เรียนของวิทยาลัยคือการสแกนบัตรนักเรียนการเข้า – ออกวิทยาลัย เพื่อตรวจ การสอบเข้าวิทยาลัย การออกจากวิทยาลัย และส่งข้อมูลเพื่อให้ผู้ปกครองทราบได้ทันทีในการเข้าเรียนของผู้เรียน สอดคล้องกับการเช็คเวลาเรียนของครูที่ปรึกษา และครูผู้สอนในรายวิชา แสดงให้เห็นถึงการดูแลนักเรียนที่ทันสมัย สามารถควบคุมนักเรียนทั้งในเรื่องความปลอดภัยของผู้เรียนและพฤติกรรมของผู้เรียน ผลการดำเนินงาน วิทยาลัยได้จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการจัดการเรียนรู้ วิทยาลัยมีรายงานผล การจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และมีการประเมินห้องเรียนคุณภาพโดยมีเกณฑ์ มาตรฐาน และมีการตรวจสภาพความพร้อมอย่างสม่ำเสมอ ประมาณด้านความเป็นระเบียบ ความปลอดภัยและ สภาพแวดล้อมของวิทยาลัย ห้องสนับสนุนการเรียนการสอนและบริเวณโดยรอบวิทยาลัย มีการปฏิบัติตาม มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา- 2019 อย่างเคร่งครัด มีการตรวจคัดกรองนักเรียน วางระบบการส่งต่อหากพบนักเรียนติดเชื้อ และให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด มีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ อาคารเรียนและสถานที่ต่างๆ ภายในสถานศึกษา มีเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากอนามัยในการทำกิจกรรมการ เรียนการสอนและกิจกรรมโครงการต่าง ๆ โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์อาคารสถานที่ / แหล่งการเรียนรู้ โครงการ ประเมินห้องเรียนคุณภาพ การประเมินความปลอดภัยในวิทยาลัย ผลการประเมินความพึงพอใจต่อสิ่งสนับสนุน
๔๘ การจัดการเรียนการสอนของครูและนักเรียน ด้านสภาพแวดล้อมทางกายภาพ ด้านอุปกรณ์การศึกษา ด้าน เทคโนโลยี ด้านบริการต่างๆภายในสาขาด้านการให้บริการต่างๆ ภายนอกสาขา สรุปผลการประเมินเฉลี่ยแบบถ่วง น้ำหนัก ได้ 4.53 จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่า เป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหาร จัดการและการจัดการเรียนรู้ กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยนำเทคโนโลยี สื่อ นวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ เป็นแหล่งสืบค้นข้อมูลและ การจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ การจัดเก็บข้อมูล (Data Management) ทุกคนสามารถสืบค้นได้ตลอดเวลา ตลอดทั้งตรวจสอบ ติดตามและสร้างเครือข่ายเชิงวิชาการด้านนาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ผ่านเทคโนโลยี ระบบการ จัดเก็บข้อมูลสารสนเทศออนไลน์ มีขั้นตอนการศึกษาเอกสาร ศึกษาระบบงานสารสนเทศของฐานข้อมูล เพื่อการ บริหารงานวิทยาลัย โดยศึกษาความต้องการของผู้ใช้งานในส่วนของครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน และ ผู้ดำเนินการระบบหรือแอดมิน มีขั้นตอนวิเคราะห์ระบบเป็นขั้นตอนในการสอบถามความคิดเห็น เพื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นขอบเขตเพื่อให้แอดมินนำผลการประเมินมาสรุปขอบเขตข้อมูลสารสนเทศออนไลน์เพื่อการ บริหารงานวิทยาลัยเพื่อนำไปออกแบบระบบ ผลการดำเนินงาน จากการบริหารจัดการฝ่ายบริหารส่งผลให้การบริการด้านเว็บไซต์มีประสิทธิภาพ ระบบข้อมูลสารสนเทศ สมบูรณ์ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน ครู บุคลากร และนักเรียน รวมทั้งบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถสืบค้นข้อมูล ศึกษาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ครูผู้สอนสามารถใช้เทคโนโลยีในการจัดการ เรียนการสอน ได้อย่างสะดวกในการสืบค้นข้อมูล บุคลากรทุกฝ่ายได้รับการบริการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ส่งผล ให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่สถานศึกษากำหนด จุดเด่น 1. วิทยาลัยมีแผนพัฒนา มีเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ที่สถานศึกษากำหนดชัดเจน มีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ แบบมีส่วนร่วมและนำวงจรคุณภาพ PDCA มาใช้ในการบริหารงาน 2. วิทยาลัยจัดสภาพแวดล้อมทางกายทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนและสภาพแวดล้อมทางสังคมที่เอื้อ ต่อการเรียนรู้ จุดควรพัฒนา 1. การนำผลการประเมินมาสรุปเพื่อนำไปออกแบบระบบ แนวทาง/แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น 1. พัฒนาระบบการบริการ One Stop Service
๔๙ QR-Code เอกสารหลักฐาน แผนพัฒนาวิทยาลัย คู่มือดำเนินการตามแผนพัฒนา คู่มืองานประกันคุณภาพ
๕๐ คำสั่งวิทยาลัย บันทึกการประชุมคณะกรรมการวิทยาลัย
๕๑ คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ แผนปฏิบัติการประจำปี
๕๒ โครงอบรมสัมมนาและทัศนศึกษาดูงานของครูและบุคคลากร รายงานผลการดำเนินงานกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้PLC
๕๓ โครงการยกระดับภาษาอังกฤษ โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 1 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 2
๕๔ โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 3 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 4 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 5
๕๕ โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 6 โครงการวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โครงการพัฒนาครูผู้สอนในศตวรรษที่ 21
๕๖ โครงการอบรมส่งเสริมการทำผลงานทางวิชาการ ผศ. วิทยฐานะ ความรู้ทักษะวิชาชีพ โครงการจัดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่บุคลากร ผลการสอบ O-NET
๕๗ รายงานการจัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคม ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนและครูผู้สอนต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ รายงานผลการประเมินห้องเรียนคุณภาพ
๕๘ รายงานผลการประเมินความปลอดภัยในวิทยาลัย โครงการปรับภูมิทัศน์อาคารสถานที่/แหล่งการเรียนรู้ การบริหารจัดการด้านการสนับสนุนงบประมาณและงบประมาณเหลือจ่าย ประจำปี 2565
๕๙ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ระดับคุณภาพ: ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ กระบวนการพัฒนา การจัดการเรียนการสอน ครูผู้สอนมีการศึกษาหลักสูตร วิเคราะห์มาตรฐาน ตัวชี้วัดหลักสูตร ครูผู้สอนแต่ ละรายวิชา จะดำเนินการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผ่านกระบวนการ Active Learning และการสอนแบบทักษะกระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ที่เน้นการพิจารณาไตร่ตรองอย่างมีเหตุผลที่มี จุดประสงค์เพื่อตัดสินว่าสิ่งใดควรเชื่อหรือควรกระทำ โดยอาศัยการใช้ทักษะหรือกลยุทธ์ต่างๆเพื่อความเป็นไปได้ ของผลลัพธ์จากการตัดสินใจที่ดี เช่น การตีความ ประเมิน วิเคราะห์ สรุปความ และอธิบาย แนวคิด วิธีการหรือ บริบทต่างๆที่เกี่ยวกับข้อมูลที่รวบรวมหรือข้อมูลจากการสังเกต ประสบการณ์การใช้เหตุผลการสะท้อนคิด การ สื่อสาร และการโต้แย้ง คิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา เป็นกระบวนการสอนที่ฝึกให้ผู้เรียนโดยการระบุปัญหา นิยาม ปัญหา รวบรวมข้อมูลเพื่อแก้ปัญหา ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา หาทางเลือกและเลือกทางเลือกในการแก้ปัญหา และดำเนินการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเกณฑ์ที่ชัดเจนและครอบคลุมทุกมิติกระบวนการวิจัย คิด สร้างสรรค์เพื่อให้ผู้เรียนมีความคิดที่หลากหลาย ริเริ่ม ประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดความคิด เพื่อการ แก้ปัญหาหรือสร้างทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ การสร้างความก้าวหน้าในความรู้ หรือการแสดงออกอย่าง สร้างสรรค์ โดยอาศัยจินตนาการและทักษะพื้นฐานด้านการริเริ่มเพื่อให้ได้สิ่งใหม่ที่ดีกว่า แตกต่างจากเดิม ที ประโยชน์ และคุณค่าต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคมมากกว่าเดิม การจัดการเรียนรู้ด้วยกระบวนการคิด มีการ สนับสนุนให้ครูผู้สอนโดยการจัดสภาพแวดล้อมและสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการคิด ใช้เทคนิคการสอนที่กระตุ้นให้ ผู้เรียนเกิดการคิดเชื่อมโยง จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนฝึกทักษะการคิดให้เวลาผู้เรียนในการใช้ความคิด ให้ผู้เรียนแสดง ความคิด ให้ผู้เรียนอภิปราย และแลกเปลี่ยนกระบวนการคิดที่เกิดขึ้นในกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนร่วมกันสรุป ประเด็นที่ได้จากกระบวนการคิดที่เกิดจากการเรียนรู้ การเรียนรู้โดยได้ปฏิบัติจริงเป็นวิธีสอนที่ให้ประสบการณ์ตรง กับผู้เรียน โดยการให้ลงมือปฏิบัติจริง เป็นการสอนที่มุ่งให้เกิดการผสมผสานระหว่างทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และมี การวัดและประเมินผลการเรียน และมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ PLC ในภาควิชาที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิง คุณภาพทั้งด้านวิชาชีพและผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน และจัดทำสื่อ นวัตกรรมที่สอดคล้องกับรายวิชาและวัยของ ผู้เรียน และเพื่อนครูสามารถนำสื่อนวัตกรรมไปใช้ในการเรียนการสอน หรือกิจกรรม โครงการที่สัมพันธ์กับสื่อ กับ เนื้อหาวิชา ในรูปแบบบูรณาการ ผลการดำเนินงาน ครูผู้สอนจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ100 ครูผู้สอนจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ทุกรายวิชา ทุกชั้นปีและการจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิด และการปฏิบัติจริง ทำให้ผู้เรียนมีกระบวนการทำงานที่เป็น ระบบ ปฏิบัติได้อย่างมีขั้นตอน มีความสามารถในการพิจารณาสิ่งต่างๆ และประเมินค่าโดยใช้หลักเกณฑ์อย่าง สมเหตุสมผล รู้จักประเมินตนเองและผู้อื่นได้อย่างถูกต้อง มีการจัดทำสื่อ นวัตกรรมได้เหมาะสมกับรายวิชา วัย ของผู้เรียน ครูมีการจัดทำนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ แต่ยังขาดการเผยแพร่สู่บุคคลภายนอก
๖๐ ครูผู้สอนส่งแผนการจัดการเรียนรู้ทุกรายวิชาและมีบันทึกการส่งแผนการจัดการเรียนรู้ ภาควิชา จำนวนผู้สอนครู จำนวนผู้ส่งแผน คิดเป็นร้อยละ ศึกษาทั่วไป 11 11 100 นาฏศิลป์ 19 19 100 ดุริยางคศิลป์ 21 21 100 รวม 51 51 100 จากตาราง ครูผู้สอน 51 คน ส่งแผนการจัดการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 100 ส่งผลให้ผลการประเมิน ตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ดีเลิศ (4.00) ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย ที่วิทยาลัยกำหนด ๓.๒ ใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีมีการเรียนการสอนที่เน้นทักษะกระบวนการ ส่งเสริมสนับสนุนให้ครูใช้สื่อและ เทคโนโลยีที่ช่วยพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน ตอบสนองความต้องการของผู้เรียน โดยนำสื่อมาประกอบกิจกรรม การเรียนรู้ให้ผู้เรียนเข้าใจง่าย ชัดเจน และสามารถดึงดูดความสนใจซึ่งเป็นสิ่งสนับสนุนให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ครูในวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีมีการจัดทำสื่อส่งหัวหน้าภาคคนละ 2 ชิ้นต่อปี คือสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีวิทยาลัยสนับให้ครูผู้สอนจัดทำสื่อเทคโนโลยีทุกคนให้ผู้เรียนใช้แหล่งการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ เช่นห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องวิทยาศาสตร์ห้องเครื่องดนตรีไทย สากล และห้องเครื่องนาฏศิลป์ไทย ผลการดำเนินงาน จากการนิเทศการสอน ครูสามารถใช้สื่อได้อย่างเหมาะสม มีการบันทึกการใช้สื่อการเรียน การประเมิน ห้องเรียนและแหล่งการเรียนรู้ของฝ่ายบริหาร และมีชิ้นงานสื่อการเรียนการสอนที่ครูสร้างขึ้นเพื่อใช้ในกิจกรรมซึ่ง สื่อการเรียนการสอนหัวหน้าภาคมีบันทึกการส่งสื่อเป็นหลักฐาน จึงตอบได้ว่าครูวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีมีการใช้ สื่อและจัดทำสื่อคิดเป็นร้อยละ 100 และบันทึกการใช้แหล่งการเรียนรู้ของผู้เรียน ผลการเข้าใช้แหล่งการเรียนรู้ คิดเป็นร้อยละ 80 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 จากการพัฒนาครูผู้สอน ส่งผลให้ครูสามารถใช้สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ดังนี้ ภาควิชา จำนวนผู้สอนครู จำนวนผู้สอนที่มีสื่อนวัตกรรม คิดเป็นร้อยละ ศึกษาทั่วไป 11 11 100 นาฏศิลป์ 19 19 100 ดุริยางคศิลป์ 21 21 100 รวม 51 51 100 จากตาราง ครูผู้สอน 51 คน มีสื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการเรียนรู้ครบทุก คน คิดเป็นร้อยละ 100 ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงเป้าหมายที่วิทยาลัย กำหนด
๖๑ ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก กระบวนการพัฒนา ครูผู้สอนศึกษาหลักสูตรศึกษาคำอธิบายรายวิชา มาตรฐาน/ตัวชี้วัด เพื่อนำมาวางแผน กระบวนการ การจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และหาวิธีการสอนที่หลากหลายและเหมาะสมกับรายวิชา และวัยผู้เรียน และ สร้างบรรยากาศในชั้นเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อผู้เรียนรู้สึกมีความสุข สนุกกับการเรียน ให้ความ ร่วมมือ มีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆในชั้นเรียน มีการนิเทศการสอนครูโดยหัวหน้าภาค หัวหน้ากลุ่มสาระ การเรียนรู้ โดยมีหัวข้อนิเทศ 1.ผลการจัดการเรียนรู้1.1 การจัดการเรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ 1.2การจัดการเรียนรู้มีความหลากหลายเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 1.3วิธีการวัดผลและประเมินผลมีความเหมาะสม ตามสภาพจริง 2.ด้านครูผู้สอน 2.1 มีการใช้น้ำเสียงชัดเจนและใช้ภาษาสื่อสารเหมาะสม 2.2 มีเทคนิคการ ถ่ายทอดความรู้ที่หลากหลาย 2.3 มีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม 2.4มีการกระตุ้นผู้เรียนให้ใช้กระบวนการ คิด และร่วมแสดงความคิดเห็น 2.5 มีสื่อ/นวัตกรรม การเรียนรู้เหมาะสม ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ 3.ด้าน ผู้เรียน 3.1มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอน 3.2 มีความกระตือรือร้นและเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีความสุข 3.3สามารถแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้อื่นๆได้ด้วยตนเอง 3.4มีความมั่นใจและกล้าแสดงออกในการซักถาม หรือแสดงความคิดเห็น 4.ด้านบรรยากาศแหล่งการเรียนรู้ 4.1มีการบริหารจัดการชั้นเรียนโดยเน้นการมี ปฏิสัมพันธ์เชิงบวก4.2สร้างบรรยากาศการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคหลากหลายในการควบคุมชั้นเรียน ซึ่งมี กระบวนการวางแผนการนิเทศ การสร้างเครื่องมือ ประเมินผลนิเทศ รายงานผลการนิเทศ และมีการประเมิน ความสุขในการเรียนของผู้เรียน โดยให้ผู้เรียนมีโอกาสประเมินตนเองด้านนักเรียน ประเมินด้านวิชาเรียน ประเมิน ด้านความสัมพันธ์กับเพื่อน ประเมินด้านการจัดบรรยากาศในการเรียน ผลการดำเนินงาน จากการศึกษาหลักสูตร และนำมาจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ และหาวิธีการสอนที่หลากหลายและ เหมาะสมกับรายวิชาและผู้เรียนสรุปผลการนิเทศภายใน นาฏศิลป์ภาคเรียนที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยโขน ด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการ เรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.73 ด้านครูผู้สอนค่าเฉลี่ย4.62 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.53 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.5 รวมค่าเฉลี่ย 4.59 คิดเป็นร้อยละ 91.80 กลุ่มสาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยละคร ด้านผลการจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.52 ด้านครูผู้สอนค่าเฉลี่ย 4.76 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.75 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.80 รวมค่าเฉลี่ย 4.70 คิดเป็นร้อยละ 94 ภาควิชาศึกษาทั่วไป ด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.29 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย4.26 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.44 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.71 รวมค่าเฉลี่ย 4.41 คิดเป็นร้อยละ 88.20 กลุ่มสาระคีตศิลป์ไทยด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.67 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย 4.55 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย 4.63 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย4.75 รวมค่าเฉลี่ย 4.65 คิด เป็นร้อยละ 92.96 กลุ่มสาระเครื่องสายไทยด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.67 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย 4.53 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.53 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.75 รวมค่าเฉลี่ย4.62 คิดเป็นร้อยละ 92.36
๖๒ กลุ่มสาระดุริยางค์ไทยด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.56 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย4.53 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.53 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.78 รวมค่าเฉลี่ย 4.60 คิดเป็นร้อยละ 91.97 กลุ่มสาระดนตรีสากล ด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.50 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย 4.55 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.56 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.75 รวมค่าเฉลี่ย4.59 คิด เป็นร้อยละ 91.81 สรุปผลการนิเทศภายในภาควิชานาฏศิลป์ภาคเรียนที่ 2 สาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยโขน ด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.66 ด้าน ครูผู้สอนค่าเฉลี่ย4.66 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.50 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.55 รวมค่าเฉลี่ย 4.57 คิดเป็น ร้อยละ 90.42 กลุ่มสาระการเรียนรู้นาฏศิลป์ไทยละคร ด้านผลการจัดการเรียนรู้แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 5.00 ด้านครูผู้สอนค่าเฉลี่ย 4.78 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.60 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 5.00 รวมค่าเฉลี่ย 4.84 คิดเป็นร้อยละ 96.14 ภาควิชาศึกษาทั่วไป ด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.37 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย4.40 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย4.48 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.73 รวมค่าเฉลี่ย 4.50 คิดเป็นร้อยละ 89.00 ภาควิชาดุริยางค์ศิลป กลุ่มสาระคีตศิลป์ไทยด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.81 ด้านครูผู้สอนค่าเฉลี่ย 4.75 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย 4.77 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.88 รวมค่าเฉลี่ย 4.80 คิดเป็นร้อยละ 96 กลุ่มสาระเครื่องสายไทยด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.91 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย 4.77 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย 4.84 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ 4.81 รวมค่าเฉลี่ย 4.83 คิดเป็นร้อยละ 96.60 กลุ่มสาระดุริยางค์ไทยด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.91 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย 4.75 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย 4.87 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ ค่าเฉลี่ย 4.75 รวมค่าเฉลี่ย 4.82 คิดเป็นร้อยละ 96.40 กลุ่มสาระดนตรีสากล ด้านผลการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.75 ด้านครูผู้สอน ค่าเฉลี่ย 4.75 ด้านผู้เรียนค่าเฉลี่ย 4.80 ด้านบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ค่าเฉลี่ย 4.87 รวมค่าเฉลี่ย 4.79 คิดเป็นร้อยละ 95.90 จากการประเมินครูผู้สอน พบว่า ของหัวหน้าภาควิชาในเชิงปริมาณคิดเป็น ร้อยละ 100 เชิงคุณภาพ คิดเป็นร้อยละ 100 สรุปครูมีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก คิดเป็นเฉลี่ยร้อยละ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ วิทยาลัยกำหนด ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด สรุปแบบประเมินความพึงพอใจการบริหารชั้นเรียนเชิงบวก การประเมินความสุขในการเรียน ระดับชั้น จำนวนนักเรียน ร้อยละ ม.1/1 13 79.59 ม.1/2 14 82.76 ม.2/1 21 78.03 ม.2/2 21 78.03
๖๓ ม.3/1 21 85.71 ม.3/2 31 92.04 รวม 121 82.69 จากการประเมินของครูผู้สอน พบว่า นักเรียนทั้งหมดจำนวน 121 คน มีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีคิด เป็นร้อยละ 100 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งเป็นไปตาม เป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลมาพัฒนาผู้เรียน กระบวนการพัฒนา วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีมีการวัดและประเมินผลการเรียนตามหลักสูตร การศึกษาระดับพื้นฐานวิชาชีพ มีกระบวนการเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ตีความผลการเรียนรู้ และพัฒนาการเรียนด้านต่างๆของผู้เรียนตาม มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดของหลักสูตร นำผลไปปรับปรุงพัฒนาการจัดการเรียนรู้และเป็นข้อมูลสำหรับการ ตัดสินผลการเรียน ครูผู้สอนมีการตรวจสอบและประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้เรียนอย่างเป็นระบบและมี ประสิทธิภาพ มีการดำเนินการโดยใช้วิธีการประเมินผู้เรียนตามสภาพจริง มีขั้นตอนตรวจสอบและประเมินผล อย่างเป็นระบบ ใช้เครื่องมือและวิธีการวัดประเมินผลที่เหมาะสมกับเป้าหมายและการจัดการเรียนรู้ เปิดโอกาส ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการวัดและประเมินผล รวมทั้งแจ้งผลย้อนกลับให้ผู้เรียนทราบ ในการตัดสินผลการเรียน ของกลุ่มสาระการเรียนรู้การอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน โดยครูผู้สอนคำนึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็นหลักและต้องเก็บข้อมูลผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่ำเสมอ และ ต่อเนื่องในแต่ละภาคเรียน รวมทั้งสอนซ่อมเสริมผู้เรียนให้พัฒนาจนเต็มศักยภาพ ซึ่งมีแบบบันทึกการซ่อมเสริม และครูผู้สอนใช้กระบวนการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนเพื่อให้มีศักยภาพดีขึ้นซึ่งครูทุกคนมีการทำวิจัยในชั้นเรียน และ เกณฑ์ตัดสินผลการเรียน ดังนี้1. ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา ผู้เรียนต้องมีเวลาเรียนตลอดภาคเรียนไม่น้อย กว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมดในรายวิชานั้นๆ 2. ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินทุกตัวชี้วัดและผ่านตาม เกณฑ์ที่วิทยาลัยกำหนด 3.ผู้เรียนต้องได้รับการตัดสินผลการเรียนทุกรายวิชา 4.ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและ ผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ที่วิทยาลัยกำหนดในการอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จากการประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ ทำให้ทราบถึงพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละคน ครูนำ ผลการประเมินมาพัฒนาผู้เรียนเป็นรายบุคคล สามารถแก้ปัญหาผู้เรียนที่มีผลการเรียนต่ำ หรือ ไม่เต็มศักยภาพ ของผู้เรียน มีการแจ้งคะแนนเก็บและคะแนนสอบของผู้เรียนให้ทราบก่อนที่ผู้เรียนจะสอบวัดผลปลายภาคเรียน ทำให้ผู้เรียนมีความสนใจและตื่นตัวปรับพฤติกรรมของตนเอง เอาใจใส่ต่อการเรียนเพิ่มมากขึ้น ผลการประเมิน ผู้เรียนจะต้องผ่านหัวหน้าสาระการเรียนรู้ตรวจสอบก่อนนำไปส่งหัวหน้าภาควิชา และจึงนำไปส่งงานทะเบียนและ วัดผลประเมินผลและมีการตรวจสอบก่อนให้ครูที่ปรึกษานำผลการประเมินไปกรอกข้อมูลและเมื่อครูที่ปรึกษา กรอกข้อมูลแล้วมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง ก่อนที่ฝ่ายทะเบียนและวัดผล ประเมินผลนำเสนอรองฝ่ายวิชาการเพื่อเสนอท่านผู้อำนวยการลงนาม ผลการดำเนินงาน
๖๔ จากการดำเนินงานเป็นระบบของฝ่ายทะเบียนและวัดผลประเมินผล และกระบวนการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอน การวัดประเมินผลของครูผู้สอน สามารถตรวจสอบความถูกต้องของผลการเรียน และมีคำสั่งแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบความถูกต้องก่อนการกรอกผลการเรียนลงสมุดรายงานผล และก่อนเสนอให้ท่าน ผู้อำนวยการลงนาม จะเห็นได้ว่าการทำงานของวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีมีกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและมีการ แต่งตั้งบุคลากรในการปฏิบัติหน้าที่แต่ละขั้นตอนและการตรวจสอบความถูกต้องเป็นระเบียบที่ปฏิบัติจึงถือได้ว่าครู ร้อย 100 มีการตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำผลไปพัฒนาผู้เรียนในรูปแบบงานวิจัยคิด เป็นร้อยละ 100 ของครูผู้สอน ตารางการส่งวิจัยในชั้นเรียน ดังนี้ ภาควิชา จำนวนผู้สอนครู จำนวนผู้ส่งวิจัย คิดเป็นร้อยละ ศึกษาทั่วไป 11 11 100 นาฏศิลป์ 19 19 100 ดุริยางคศิลป์ 21 21 100 รวม 51 51 100 จากตาราง ครูผู้สอน 51 คน มีการจัดทำวิจัยในชั้นเรียนครบทุกคน คิดเป็นร้อยละ 100 ส่งผลให้ผล การประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงเป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับ เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ กระบวนการพัฒนา การจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน นอกจากการศึกษาหลักสูตร วิเคราะห์หลักสูตร จัดทำแผนการ จัดการเรียนที่ต้องมีวิธีการที่หลากหลาย การสร้างบรรยากาศในการเรียนเชิงวิชาการ ให้มีทัศนคติเชิงบวกและทำ ให้ผู้เรียนเกิดความสุขในชั้นเรียน สอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม ครูผู้สอนยังมีการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคล และ พัฒนาผู้เรียนตามธรรมชาติ และเต็มศักยภาพ เพื่อพัฒนาผู้เรียนโดยใช้กระบวนการวิจัยในชั้นเรียนครูผู้สอนมีการ แบ่งปันแนวคิดเพื่อพัฒนาแนวทางการสอนและสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุศักยภาพสูงสุดของ ตนเองได้ ครูสามารถแลกเปลี่ยนรู้ทางวิชาชีพ PLC เพื่อสะท้อนความคิด ที่แตกต่างหลากหลาย คือโอกาสเพิ่ม คุณค่าการทำงาน คือแลกเปลี่ยน ระดมความคิด หาวิธีการใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนได้โดยตรง จาก การแลกเปลี่ยน และ ติดตามงานวิจัยและเครื่องมือใหม่ๆสำหรับห้องเรียน จากการ PLC แนวทางการขับเคลื่อน กระบวนการ PLC (Professional Learning Community) ของภาคนาฏศิลป์ไทย เป็นกิจกรรมในชั้นเรียนอย่าง เป็นรูปธรรม และมีขอบข่าย ดังนี้1.แผนขับเคลื่อน PLC ของภาค มีการดำเนินงานที่ชัดเจน มีกิจกรรม และ ระยะเวลาที่ดำเนินการ 2.การขับเคลื่อนกระบวนการ ดำเนินการตามปฏิทินปฏิบัติงาน ที่ระบุวันเวลา การดำเนิน กิจกรรม และผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน 3. การนิเทศ ติดตามและประเมินผล มีการสร้างเครื่องมือเพื่อประเมินผล 4. แบบรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและรายงานผลต่อไป ผลการดำเนินงาน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC เป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกำหนดบทบาทและหน้าที่ เคารพความ คิดเห็นซึ่งกันและกัน เกิดทีมผู้นำภายในภาควิชา ภายในวิทยาลัย ภาคนาฏศิลป์ไทยละคร การจัดกิจกรรมชุมชน แห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 1.การแลกเปลี่ยนภาคนาฏศิลป์ไทยโขน เรื่อง การแก้ปัญหานักเรียนขาดความตั้งใจใน การฝึกทักษะปฏิบัติ 2.นาฏศิลป์ไทยละคร เรื่องการแก้ปัญหานักเรียนขาดความรับผิดชอบไม่กระตือรือร้นต่อการ ฝึกทักษะนาฏศิลป์ ภาคศึกษาทั่วไป 1. เรื่องการแก้ไขปัญหาผลการเรียนของผู้เรียน 2. เรื่องผลการทดสอบทาง
๖๕ การศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (o-net) ลดลง ภาคดุริยางคศิลป์1. เรื่องการแก้ปัญหาจากการเรียนออนไลน์ที่ทำ ให้นักเรียนได้รับเนื้อหาไม่ครบถ้วนการเรียนรู้ด้วยวิธีลงมือปฏิบัติ 2.การแก้ปัญหาการตีกรอในการบรรเลงเครื่อง ดำเนินทำนองในปี่พาทย์ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้มีการสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรมตลอดจนสร้างความตระหนักให้ผู้เรียนเกิดความ รับผิดชอบและกระตือรือร้นต่อการเรียนรูทักษะนาฏศิลป์ไทย ผลที่ได้รับ ผู้เรียนเข้าเรียนตรงเวลาตั้งใจเรียน ตั้งใจ ฝึกปฏิบัติทักษะนาฏศิลป์ไทย ส่งผลให้ผู้เรียนมีทักษะการปฏิบัตินาฏศิลป์ไทยดีขึ้นตามลำดับ ทั้งนี้มีการกระตุ้น ผู้เรียนด้วยการจัดทำสื่อมัลติมิเดีย การให้รางวัล การเพิ่มคะแนน ผลที่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมคือผู้เรียนรับผิดชอบ กระตือรือร้นมากขึ้นต่อการปฏิบัติทักษะนาฏศิลป์ไทย และมีความตระหนักต่อศิลปวัฒนธรรมไทยที่เป็นศาสตร์ และศิลป์ในสาขาที่ตนเองเรียนอยู่ ครูทุกภาควิชาร้อยละ 100 มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ส่งผลให้ผู้เรียนมี ประสิทธิภาพการเรียนที่ดีขึ้น ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ วิทยาลัยกำหนด จุดเด่น 1. มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ PLC ของภาค มีการดำเนินงานที่ชัดเจน 2. มีการพัฒนาครูผู้สอนในการสร้างสื่อ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี จุดควรพัฒนา 1. การส่งเสริมสนับสนุนให้มีเวทีการนำเสนอ สื่อ นวัตกรรมในวิทยาลัย และภายนอก แนวทาง/แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น 1. วิทยาลัยควรส่งเสริมการแข่งขันการสร้างสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอนให้ครอบคลุมทักษะการเรียนรู้ ในศตวรรษที่ 21
๖๖ QR-Code เอกสารหลักฐาน แผนการจัดการเรียนรู้ รายงานผลการประเมินห้องเรียนคุณภาพ แผนปฏิบัติการประจำปี
๖๗ แบบนิเทศก์การสอน
๖๘ แผนพัฒนาวิทยาลัย แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน ผลการสอบ O-NET
๖๙ รายงานผลการดำเนินงานกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้PLC
๗๐ ตัวอย่างสื่อนวัตกรรม
๗๑ มาตรฐานที่ ๔ อัตลักษณ์ผู้เรียนและเอกลักษณ์ของสถานศึกษา ระดับคุณภาพ: ๔.๑ ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านนาฏดุริยางคศิลป์ กระบวนการพัฒนา ผู้เรียนทุกระดับชั้นมีผลการเรียนวิชาชีพเฉพาะ เฉลี่ย ๒.๕ ขึ้นไป วิทยาลัยส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความรู้ทักษะทางวิชาชีพตามเกณฑ์ที่วิทยาลัยกำหนดไม่น้อยกว่า ร้อยละ 80 ฝ่ายวิชาการร่วมกับภาควิชานาฏศิลป์และภาควิชาดุริยางคศิลป์ ได้จัดการเรียนการสอนด้านวิชาชีพ เฉพาะ ประกอบด้วยสาขาวิชา นาฏศิลป์ไทยละคร นาฏศิลป์ไทยโขน ปี่พาทย์เครื่องสายไทย คีตศิลป์ไทย และ ดนตรีสากล มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนได้ฝึกทักษะวิชาชีพอย่างสม่ำเสมอโดยครูในภาควิชามี ความเสียสละและเห็นคุณค่าของความพยายามของผู้เรียนที่ต้องการกวดขันตนเองให้เป็นคนเก่งทางวิชาชีพ และ ผู้เรียนที่มีความต้องการพัฒนาเองให้ทัดเทียมในกรณีที่เรียนรู้และทักษะต่างๆได้ช้ากว่าเพื่อนครูผู้สอนจะ ดำเนินการช่วยฝึกซ้อมเพื่อให้พัฒนาการของผู้เรียนดีขึ้น และส่งเสริมให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ทั้งแหล่ง เรียนรู้ภายในและแหล่งเรียนรู้ภายนอก พร้อมที่ให้คำแนะนำผู้เรียนเกี่ยวกับการศึกษาข้อมูลต่างๆที่น่าเชื่อถือ และ วิธีการศึกษาที่มาของข้อมูลเพื่อรู้เท่าทันในยุคดิจิตอล ผู้เรียนร่วมการแสดงและบรรเลงด้านนาฏดุริยางคศิลป์ วิทยาลัยส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงและบรรเลงด้านนาฏดุริยางคศิลป์ เป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนดไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 โดยฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและงานเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประสาน ภาควิชานาฏศิลป์และภาควิชาดุริยางคศิลป์จัดชุดการแสดงและการบรรเลง มีการคัดเลือกผู้เรียนที่มีทักษะการ ปฏิบัติที่เหมาะสมกับชุดการแสดงในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม และมีการฝึกซ้อมการแสดงและบรรเลงให้แม่นยำ ถูกต้องตามแบบแผน ในการคัดเลือกผู้ปฏิบัติหน้าที่การแสดงและการบรรเลงครูภาคนาฏศิลป์มีมติข้อตกลงในที่ประชุม เกี่ยวกับการคัดเลือกผู้แสดงนาฏศิลป์ไทยคือกิจกรรมที่อยู่ในวิทยาลัยให้เลือกผู้เรียนที่มีความสามารถปานกลางแสดงใน กิจกรรมของวิทยาลัย ผู้ที่มีความชำนาญให้ร่วมแสดงกิจกรรมภายนอก เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาฝีมือและเป็นการ กระตุ้นให้ผู้เรียนตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อการเป็นนักแสดงที่ดีในเรื่องระเบียบวินัย ในการฝึกซ้อมการตรงต่อเวลา ความใฝ่รู้ความขยันหมั่นเพียรเพื่อมีความพร้อมในการแสดงกิจกรรมภายนอกวิทยาลัย และเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ ผู้เรียนได้แสดงครบทุกคน ฝ่ายศิลปวัฒนธรรมมีการนำผลความพึงพอใจจากผู้ติดต่องานการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม มา ปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงาน องค์กร ชุมชน และท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น - การบรรเลงและการแสดง โครงการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันเฉลิมพระ ชนมพรรษาสมเด็จพระราชินี วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราช ชนนีพันปีหลวง และพระบรมศานุวงศ์ในราชวงศ์จักรีฯลฯ - การบรรเลงดนตรีไทย เครื่องสายไทย ดนตรีสากล ช่วงเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ - การบรรเลงเพลงชาติประกอบการขับร้องเพลงชาติไทยขณะเข้าแถวเคารพธงชาติของ วงดนตรีสากล และบรรเลงดนตรีไทย
๗๒ - โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่1 กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏยกรรม (การ แสดงโขน) กิจกรรมที่ 2 กิจกรรมการแสดงเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย กิจกรรมที่ 3 กิจกรรมการ แสดงศรีสุขนาฏกรรม (การแสดงละคร ) กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏกรรม (การแสดงนาฏศิลป์ไทย ) กิจกรรมที่ 5กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏกรรม (การบรรเลงดนตรีสากล) กิจกรรมที่ 6 กิจกรรมการบรรเลง และการแสดงนาฏศิลป์ไทย (วันอนุรักษ์มรดกไทย) - โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ทั่วทิศแผ่นดินไทย - โครงการสร้างความร่วมมือด้วยการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมระดับชาติและนานชาติ ผู้เรียนสามารถบูรณาการความรู้ด้านนาฏดุริยางคศิลป์กับกิจกรรมอื่น ๆ วิทยาลัยดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียน สามารถบูรณาการความรู้ด้านนาฏดุริยางคศิลป์กับ กิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งภาควิชานาฏศิลป์ภาควิชาดุริยางคศิลป์และภาควิชาศึกษาทั่วไป ได้จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มี การนำความรู้ด้านทักษะการรำ การใช้ท่านาฏยศัพท์ การบรรเลง การนับจังหวะ การแต่งกาย การคำนวนพื้นที่ ของเวทีการแสดง ฯลฯ มาบูรณาการกับรายวิชาอื่น ๆ ทั้งในรายวิชานาฏศิลป์ ดุริยางคศิลป์ และ 8 กลุ่มสาระการ เรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน ได้แก่ - โครงการกีฬาสีภายใน ประจำปีการศึกษา 2565 ให้นักเรียนได้คิดสร้างสรรค์การแต่งกายและ ออกแบบขบวนพาเหรด ออกแบบท่าเต้น และรูปแบบการเชียร์กีฬาในคณะสีของตนเอง - โครงการวันสุนทรภู่และวันภาษาไทยแห่งชาติ ประจำปี2565 ออกแบบชุด Recycleในหัวข้อ ตัวละครในวรรณคดี การแสดงScience show แต่งกายชุดไทย ซึ่งผู้เรียนมีความภูมิใจในผลงานคิดเป็นร้อยละ 92.39 - โครงการบริการวิชาการ (แนะแนวการศึกษา) การมีความพร้อมทางเพื่อแสดงศักยภาพด้าน วิชาชีพตามโรงเรียนภายนอก คิดเป็นร้อยละ81.6 - โครงการเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2-3 ความสำเสร็จของ ผู้เรียน การแสดงรอบกองไฟ คิดเป็นร้อยละ 94.0 - โครงการปฐมนิเทศนักเรียน ปีการศึกษา 2565 ผลสรุปการดำเนินโครงการ 93.8 - โครงการยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ทำประโยชน์ ผู้เรียนทุกระดับชั้นจัดการแสดงในงาน ซึ่งผลการ ประเมินความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 98.80 ผลการดำเนินงาน ๑) ผู้เรียนทุกระดับชั้นมีผลการเรียนวิชาชีพเฉพาะ เฉลี่ย ๒.๕ ขึ้นไป วิทยาลัยจัดการเรียนการสอนและวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผลการเรียนวิชาชีพเฉพาะ ปีการศึกษา 2565 ได้ผลดังนี้ ระดับชั้น จำนวน นักเรียน ทั้งหมด จำนวนนักเรียนที่มีผลการเรียน เกรด 2.5 ขึ้นไป (คน) คิดเป็น ร้อยละ ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เฉลี่ย มัธยมศึกษาปีที่ 1 27 27 26 27 100
๗๓ มัธยมศึกษาปีที่ 2 42 41 40 41 97.61 มัธยมศึกษาปีที่ 3 52 52 51 52 100 รวม 121 120 117 120 99.17 จากตาราง นักเรียนผ่านการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาปฏิบัติเอก จำนวนทั้งสิ้น 121 คน มีผลการเรียนวิชาชีพเฉพาะ เฉลี่ย ๒.๕ ขึ้นไป จำนวน 120 คน คิดเป็นร้อยละ 99.17 สูงกว่าที่วิทยาลัย กำหนด (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80) ส่งผลให้การประเมินตนเองอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ๒)ผู้เรียนร่วมการแสดงและบรรเลงด้านนาฏดุริยางคศิลป์ วิทยาลัยดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการแสดงและบรรเลงด้าน นาฏดุริยางคศิลป์ได้ผลดังนี้ ระดับชั้น จำนวนนักเรียน ทั้งหมด จำนวนนักเรียนที่ เข้าร่วมการแสดง/ การบรรเลง คิดเป็นร้อยละ มัธยมศึกษาปีที่ 1 27 27 100 มัธยมศึกษาปีที่ 2 42 42 100 มัธยมศึกษาปีที่ 3 52 52 100 รวม 121 121 100 จากตาราง นักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 121 คน มีส่วนร่วมการแสดงและบรรเลงด้านนาฏดุริยางคศิลป์จำนวน 121 คน คิดเป็นร้อยละ 100 สูงกว่าที่สถานศึกษากำหนด (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80) ส่งผลให้การประเมินตนเอง อยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ๓) ผู้เรียนสามารถบูรณาการความรู้ด้านนาฏดุริยางคศิลป์กับกิจกรรมอื่น ๆ วิทยาลัยดำเนินการส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนสามารถบูรณาการความรู้ด้านนาฏดุริยางคศิลป์กับ กิจกรรมอื่น ๆ ได้ผลดังนี้ ระดับชั้น จำนวนนักเรียน ทั้งหมด จำนวนนักเรียนที่ เข้าร่วมการแสดง/ การบรรเลง คิดเป็นร้อยละ มัธยมศึกษาปีที่ 1 27 27 100 มัธยมศึกษาปีที่ 2 42 42 100 มัธยมศึกษาปีที่ 3 52 52 100 รวม 121 121 100
๗๔ จากตาราง นักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 121 คน มีสามารถบูรณาการความรู้ด้านนาฏดุริยางคศิลป์กับกิจกรรม อื่น ๆ ได้ จำนวน 121 คน คิดเป็นร้อยละ 100 สูงกว่าที่วิทยาลัยกำหนด (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80) ส่งผลให้ การประเมินตนเองอยู่ในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ๔.๒ สถานศึกษามีความโดดเด่นในการอนุรักษ์ พัฒนา สืบสาน และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุ ริยางคศิลป์ กระบวนการพัฒนา 1. วิทยาลัยได้ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาจัดกิจกรรมโครงการที่อนุรักษ์พัฒนา สืบสาน และ เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ด้านนาฏดุริยางคศิลป์ที่สอดคล้องกับพันธกิจของวิทยาลัย ได้รับงบประมาณสนับสนุนใน การทำกิจกรรมจากหน่วยงานต้นสังกัด และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน ชุมชน ท้องถิ่น วิทยาลัยฯ มีแผนพัฒนาวิทยาลัย และแผนปฏิบัติการที่สอดคล้องกับ SOMKIAT MODEL มีโครงการที่มุ่งเน้น การ อนุรักษ์ พัฒนา สืบสานด้านศิลปวัฒนธรรม ที่สอดคล้องกับ อัตลักษณ์ “ มีคุณธรรม นำความรู้ สู่มืออาชีพ” และ เอกลักษณ์ “เป็นผู้นำด้านงานศิลป์” ของสถานศึกษา ตลอดทั้งค่านิยมองค์กรสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์“มุ่งมั่น พัฒนา ก้าวหน้าวิชาการ สืบสานงานศิลป์” โดยผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมคิด วางแผน และปฏิบัติหรือสนับสนุน ตาม บทบาทหน้าที่ และมีการประเมินผลความพึงพอใจหลังจากจัดโครงการ/กิจกรรมเสร็จสิ้นแล้ว ในกระบวนการ ทำงานรูปแบบ PDCA โดยนำเสนอโครงการ จำนวน 7 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการพัฒนาทักษะการแสวงหาและ นำเสนอความรู้ของนักเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรี กิจกรรมเสวนา เรื่องพัฒนาทักษะการแสวงหาและนำเสนอ ความรู้ของนักเรียน กิจกรรม การเรียนรู้สู่การพัฒนาวิชาชีพ 2. โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่1 กิจกรรมการแสดงศรีสุขนาฏยกรรม (การแสดงโขน) 3.โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่ 2 กิจกรรม การแสดงเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย 4.โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่ 3 กิจกรรม การแสดงศรีสุขนาฏกรรม (การแสดงละคร ) 5.โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่ 4 กิจกรรมการแสดง ศรีสุขนาฏกรรม (การแสดงนาฏศิลป์ไทย ) 6.โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่ 5กิจกรรมการแสดงศรี สุขนาฏกรรม (การบรรเลงดนตรีสากล) 7.โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรมที่ 6 กิจกรรมการบรรเลง และการแสดงนาฏศิลป์ไทย (วันอนุรักษ์มรดกไทย) 2.วิทยาลัยฯ มีการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในระดับชาติและนานาชาติ เพื่อเปิดประสบการณ์และเป็นการ สร้างประสบการณ์การแสดงให้กับผู้เรียน ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมการแสดงนาฏศิลป์ไทย วิทยาลัยนาฏศิลป จันทบุรีร่วมมือกับสถานเอกอัคราชทูต ณ กรุงพนมเปญ จัดโครงการสร้างความร่วมมือด้วยการเผยแพร่ ศิลปวัฒนธรรมระดับชาติและนานาชาติ กิจกรรมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม เนื่องในงาน SEA Festival 2022 ระหว่างวันที่ 9 -12 ธันวามคม 2565 ณ จังหวัดพระสีหนุ ราชอาณาจักรกัมพูชา 2.โครงการส่งเสริม อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ประจำปีงบประมาณ 2565 กิจกรรมนำเสนอผลงานวิจัย สร้างสรรค์นาฏดุริยางค์ศิลป์ระดับชาติและมหกรรมศิลปวัฒนธรรมฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯพระ บรมราชินี“รวมใจพัฒนาศิลป์ ณ อ่างทอง” 3.โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย กิจกรรมที่ 1 การจัดการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุด พรหมพงศ์วงศ์อสุรางานวันสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี วันที 20 ธันวาคม 2565
๗๕ 3. วิทยาลัยฯ ดำเนินโครงการบริการทางวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรม ชุมชนและผู้ที่มีความสนใจได้รับ บริการทางวิชาการ มีแหล่งข้อมูลที่สามารถศึกษาหาความรู้ในรูปแบบออนไลน์ทั้ง Facebook วิทยาลัยฯ YouTube มหรสพแห่งสยาม Website วิทยาลัยฯ และสามารถนาความรู้และทักษะทางด้านดนตรีและนาฏศิลป์ ไปปรับใช้ในการเรียน การสอน โดยจัดโครงการบริการทางวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรม 1. โครงการบริการ วิชาการด้านดนตรี นาฏศิลป์และภูมิปัญญาท้องถิ่น ( รายงานมหรสพแห่งสยาม ) ศูนย์กลางความร่วมมือด้าน นาฏศิลป์ด้านดนตรี นาฏศิลป์ทางเว็บไซต์ และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น 2. โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม งานสมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราชรำลึก และงานปีใหม่จังหวัดจันทบุรี3. โครงการสังคีตศาลาเพื่อประชาชน กิจกรรม ดนตรี จีนและการแสดงนาฏศิลป์เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯพระพันปีหลวง เป็นโครงการร่วมมือเพื่อ พัฒนาซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อพัฒนา ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีกระบวนการทำงาน การบริการวิชาการและวิชาชีพด้านนาฏศิลป์ดุริงยางศิลป์ คีตศิลป์ รวมถึงการอนุรักษ์เผยแพร่ และแลกเปลี่ยน ศิลปวัฒนธรรม 4. วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีเป็นสถานที่บริการวิชาการ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการอนุรักษ์ พัฒนา สืบ สาน และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม เปิดโอกาสทางการศึกษาด้านนาฏศิลป์และดนตรี ชุมชนให้การยอมรับ ในเรื่อง ศิลปวัฒนธรรม มีแหล่งข้อมูลที่สามารถศึกษาหาความรู้ในรูปแบบออนไลน์ทั้ง Facebook YouTube มหรสพ แห่งสยาม Website วิทยาลัยฯ โดยมีบุคลากรและผู้เรียนจากสถาบันอื่นเข้าร่วมศึกษา เรียนรู้ทางด้านนาฏศิลป์ และดนตรีอย่างต่อเนื่อง โครงการที่เกี่ยวข้องได้แก่ 1. โครงการส่งเสริมเด็กไทยเล่นดนตรีคนละ 1 ชิ้น ประจำปี งบประมาณ 2566 เด็กจันท์พันธ์ดนตรี 1 คน 1 ชิ้น 2. โครงการอบรมนาฏศิลป์ดนตรี คีตศิลป์และทัศนศิลป์ หลักสูตรระยสั้น เพื่อส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 5. วิทยาลัยฯ มีการจัดเก็บองค์ความรู้ด้านนาฏดุริยางคศิลป์อย่างเป็นระบบ โดยมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการจัดเก็บองค์ความรู้ จัดประชุมหารือเรื่องหัวข้อของการจัดเก็บองค์ความรู้ จากนั้นมีการเชิญ ภูมิ ปัญญาท้องถิ่น ปราชญ์ชาวบ้าน มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่น ลงพื้นที่เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล แล้วจัดเก็บเป็นองค์ความรู้ (KM) โดยวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการจัดการความรู้ (Knowledge Management : KM) ผลการดำเนินงาน วิทยาลัยมีความโดดเด่นในการอนุรักษ์ พัฒนา สืบสาน และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์ มีโครงการ/กิจกรรมที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์ พัฒนา สืบสานด้านศิลปวัฒนธรรม และสอดคล้องกับอัตลักษณ์นักเรียน และเอกลักษณ์ของสถานศึกษา โดยผู้เกี่ยวข้องมีส่วนร่วมคิด วางแผน และปฏิบัติหรือสนับสนุนตามบทบาทหน้าที่ จำนวน 7 โครงการ /กิจกรรม ดำเนินโครงการสอดคล้องกับอัตลักษณ์ผู้เรียนและเอกลักษณ์ของวิทยาลัย วิทยาลัยมีการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในระดับชาติและนานาชาติ เพื่อเปิดประสบการณ์และเป็นการสร้าง ประสบการณ์การแสดงให้กับผู้เรียน ในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมการแสดงนาฏศิลป์ไทย จำนวน 3 โครงการ วิทยาลัยฯ ดำเนินโครงการบริการทางวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรม ชุมชนและผู้ที่มีความสนใจได้รับ บริการทางวิชาการ มีแหล่งข้อมูลที่สามารถศึกษาหาความรู้ในรูปแบบออนไลน์ทั้ง Facebook วิทยาลัยฯ YouTube มหรสพแห่งสยาม Website วิทยาลัยฯ และสามารถนาความรู้และทักษะทางด้านดนตรีและนาฏศิลป์ ไปปรับใช้ในการเรียน การสอน โดยจัดโครงการบริการทางวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรม จำนวน 3 โครงการ
๗๖ วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีเป็นสถานที่บริการวิชาการ เป็นแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อการอนุรักษ์ พัฒนา สืบ สาน และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม เปิดโอกาสทางการศึกษาด้านนาฏศิลป์และดนตรี ชุมชนให้การยอมรับ ในเรื่อง ศิลปวัฒนธรรม มีแหล่งข้อมูลที่สามารถศึกษาหาความรู้ในรูปแบบออนไลน์ทั้ง Facebook YouTube มหรสพ แห่งสยาม Website วิทยาลัยฯ โดยมีบุคลากรและผู้เรียนจากสถาบันอื่นเข้าร่วมศึกษา เรียนรู้ทางด้านนาฏศิลป์ และดนตรีอย่างต่อเนื่อง โครงการที่เกี่ยวข้องจำนวน 2 โครงการ วิทยาลัยจัดทำแหล่งเรียนรู้และจัดเก็บองค์ความรู้ด้านนาฏศิลป์-ดนตรีไว้สำหรับบริการประชาชน นักเรียน นักศึกษาบุคคลที่สนใจทั่วไป ได้แก่ แหล่งเรียนรู้ภายใน ห้องเครื่องแต่งกายโขน-ละคร ห้องเครื่องดนตรีมหรสพ แห่งสยาม Website วิทยาลัยฯ ครูและบุคลากรในวิทยาลัยฯ มีองค์ความรู้ด้านศิลปะแขนงต่างๆ เช่น โขน ละคร กระบี่กระบอง ดนตรีคีตศิลป์ไทย คีตศิลป์สากล การพากย์ เจรจา ขับเสภา อ่านทำนองเสนาะ การประพันธ์บท กลอนต่างๆ ประพันธ์เพลง เทคนิคเวที การจัดเวทีแสดง ที่สามารถถ่ายทอดให้แก่ผู้สนใจ มีการเก็บองค์ความรู้ใน รูปแบบต่างๆ ทั้งรูปเล่มรายงาน ไฟล์ข้อมูล และเว็บไซต์ และสามารถศึกษาองค์ความรู้ด้านงานวิจัยปีการศึกษา 2565 ดังนี้ 1. เรื่อง การสร้างสรรค์ชุดการแสดง “ทหารเสือพระเจ้าตาก” โดย นายชัช สุวรรณเบญจางค์ ภาควิชา นาฏศิลป์2. เรื่อง แบบฝึกตะโพนไทย : ขุนสำเนียงชั้นเชิง (มล โกมลรัตน์) โดย ผศ.ดร. สมเกียรติ ภูมิภักดิ์ ภาควิชาดุริยางคศิลป์3. เรื่อง การใช้ภาษาในวรรณกรรมเรื่องคาวีในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดย ดร. สาทิด แทนบุญ ภาควิชาศึกษาทั่วไป 4. เรื่อง การสร้างสรรค์ดนตรีประกอบการร้องเพลงรำวงเขี่ยไต้ โดย นายพงศธร สุธรรม ภาควิชาดุริยางคศิลป์ 5. เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เพื่อยกระดับ ความสามารถด้านปฏิบัติแซกโซโฟนจากเพลงกระต่ายเต้นโดยนายไพรัตน์ แสงทอง ภาควิชาดุริยางคศิลป์ 6. เรื่อง ปัจจัยที่ส่งผลต่อความมีวินัยในการเรียนผ่านรูปแบบออนไลน์รายวิชาศึกษาทั่วไปของนักศึกษา ระดับปริญญาตรี สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์โดย นางสาวเรียนา หวัดแท่น 7. เรื่อง การบริหารจัดการเพื่อต่อยอดและเสริมสร้าง มูลค่าเพิ่มทางด้านนาฏศิลป์ไทย โดย นางมาลินี แทนบุญ 8. เรื่องการใช้ดนตรีในฐานะเป็นเครื่องมือปฏิบัติการทาง จิตวิทยากรณีศึกษากองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดย นางสาวสุตาภัทร พัวสวัสดีเทพ จากการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้ผลการประเมินตนเองในระดับ ยอดเยี่ยม (5.00) ซึ่งสูงกว่า เป้าหมายที่วิทยาลัยกำหนด จุดเด่น - วิทยาลัยมีอัตลักษณ์ และเอกลักษณ์ที่ชัดเจน - ส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในระดับชาติและนานาชาติ จุดควรพัฒนา - แนวทาง/แผนพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานที่สูงขึ้น - งานวิจัยของครูที่จัดทำทั้งได้ทุนและใช้ทุนส่วนตัวควรให้นำเสนอให้บุคลากรรับฟังเพื่อเป็นประโยชน์ อันสูงสุดและเกิดความชื่นชมในหน่วยงานภายในวิทยาลัย
๗๗ QR-Code เอกสารหลักฐาน แผนพัฒนาวิทยาลัย แผนปฏิบัติการประจำปี โครงการวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิร เกล้าเจ้าอยู่หัว
๗๘ โครงการวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี โครงการวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี โครงการวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
๗๙ โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 1 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 2 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 3
๘๐ โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 4 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 5 โครงการสังคีตศาลา กิจกรรมที่ 6
๘๑ โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย โครงการเด็กจันท์พันธุ์ดนตรีไทย โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมในระดับชาติและนานาชาติ
๘๒ โครงการพัฒนาทักษะแสวงหา การนำเสนอความรู้ เสวนาจารีตนาฏศิลป์ โครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ 4 ภาค โครงการอบรมหลักสูตรระยะสั้น
๘๓ โครงการสังคีตศาลาการบรรเลงดนตรีจีน และการแสดงนาฏศิลป์ โครงการพิธีไหว้ครูประจำปี 2565 โครงการแนะแนว
๘๔ โครงการบริการวิชาการ
๘๕ ส่วนที่ 3 สรุปผลการประเมินตนเอง วิทยาลัยนาฏศิลปจันทบุรีได้ดำเนินการจัดการศึกษาระดับพื้นฐานวิชาชีพ ปีการศึกษา 256๕ ตาม มาตรฐานการศึกษาที่กำหนด และสรุปผลการประเมินตนเอง ปีการศึกษา 256๕ ดังนี้ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ร้อยละ/ระดับคุณภาพ ผลการ ค่าเป้าหมาย ดำเนินงาน ผลการ ประเมิน มาตรฐานที่ 1 คุณภาพผู้เรียน 4 5 ยอดเยี่ยม 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 4 4 ดีเลิศ 1.1.1 มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ 4 4 ดีเลิศ 1.1.2 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมี วิจารณญาณ อภิปรายแลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และแก้ปัญหา 4 3 ดี 1.1.3 มีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม 4 5 ยอดเยี่ยม 1.1.4 มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การสื่อสาร 4 4 ดีเลิศ 1.1.5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา 4 5 ยอดเยี่ยม 1.1.6 มีความรู้ ทักษะพื้นฐาน และเจตคติที่ดีต่องานอาชีพ 4 5 ยอดเยี่ยม ๑.๒ คุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 4 5 ยอดเยี่ยม 1.2.1 การมีคุณลักษณะและค่านิยมที่ดีตามที่สถานศึกษา กำหนด 4 5 ยอดเยี่ยม 1.2.2 ความภูมิใจในท้องถิ่นและความเป็นไทย 4 5 ยอดเยี่ยม 1.2.3การยอมรับที่จะอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างและ หลากหลาย 4 5 ยอดเยี่ยม 1.2.4 สุขภาวะทางร่างกาย และจิตสังคม 4 5 ยอดเยี่ยม มาตรฐานที่ 2 กระบวนการบริหารและการจัดการ 4 5 ยอดเยี่ยม ๒.๑ มีเป้าหมายวิสัยทัศน์และพันธกิจที่สถานศึกษากำหนด ชัดเจน 4 5 ยอดเยี่ยม ๒.๒ มีระบบบริหารจัดการคุณภาพของสถานศึกษา 4 5 ยอดเยี่ยม ๒.๓ ดำเนินงานพัฒนาวิชาการที่เน้นคุณภาพผู้เรียนรอบด้าน ตามหลักสูตรสถานศึกษา และทุกกลุ่มเป้าหมาย 4 5 ยอดเยี่ยม ๒.๔ พัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ 4 5 ยอดเยี่ยม ๒.๕ จัดสภาพแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่เอื้อต่อ การ จัดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 4 5 ยอดเยี่ยม ๒.๖ จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหาร 4 5 ยอดเยี่ยม
๘๖ มาตรฐาน/ประเด็นการพิจารณา ร้อยละ/ระดับคุณภาพ ผลการ ค่าเป้าหมาย ดำเนินงาน ผลการ ประเมิน จัดการและการจัดการเรียนรู้ มาตรฐานที่ ๓ กระบวนการจัดการเรียนการสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ 4 5 ยอดเยี่ยม ๓.๑ จัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการคิดและปฏิบัติจริง และ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตได้ 4 4 ดีเลิศ ๓.๒ ใช้สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ และแหล่งเรียนรู้ที่เอื้อต่อ การเรียนรู้ 4 5 ยอดเยี่ยม ๓.๓ มีการบริหารจัดการชั้นเรียนเชิงบวก 4 5 ยอดเยี่ยม ๓.๔ ตรวจสอบและประเมินผู้เรียนอย่างเป็นระบบ และนำ ผลมาพัฒนาผู้เรียน 4 5 ยอดเยี่ยม ๓.๕ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ข้อมูลสะท้อนกลับ เพื่อ พัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ 4 5 ยอดเยี่ยม มาตรฐานที่ ๔ อัตลักษณ์ผู้เรียนและเอกลักษณ์ของ สถานศึกษา 4 5 ยอดเยี่ยม ๔.๑ ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถ และทักษะด้านนาฏดุริ ยางคศิลป์ 4 5 ยอดเยี่ยม ๔.๒ สถานศึกษามีความโดดเด่นในการอนุรักษ์ พัฒนา สืบสาน และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์ 4 5 ยอดเยี่ยม สรุปผลการประเมินภาพรวม 4 5 ยอดเยี่ยม จากผลการประเมินตนเองตามมาตรฐานการศึกษา ระดับพื้นฐานวิชาชีพ ปีการศึกษา 2565 ทั้ง ๔ มาตรฐาน พบว่า มาตรฐานที่ 1 มีผลประเมินอยู่ในระดับคุณภาพ ยอดเยี่ยม ( 5 ) มาตรฐานที่ 2 มีผลประเมินอยู่ใน ระดับคุณภาพยอดเยี่ยม ( 5 ) มาตรฐานที่ 3 มีผลประเมินอยู่ในระดับคุณภาพยอดเยี่ยม ( 5 ) และมาตรฐานที่ 1 มี ผลประเมินอยู่ในระดับคุณภาพยอดเยี่ยม ( 5 ) เมื่อพิจารณารายประเด็นพิจารณา พบว่า ผลการดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จำนวน 22 ประเด็นพิจารณา ไม่บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้จำนวน 1 ประเด็นพิจารณา และเมื่อพิจารณาโดยภาพรวมของ การดำเนินงานแล้วบรรลุตามเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่
๘๗ ส่วนที่ ๔ ภาคผนวก - คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในของวิทยาลัย........... - คำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมกำกับ ติดตามการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในของวิทยาลัย.......... - บันทึกความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน - ประกาศสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์เรื่อง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับพื้นฐานวิชาชีพ - ประกาศสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ เรื่อง กำหนดค่าเป้าหมายตามมาตรฐานการศึกษา เพื่อการประกัน คุณภาพการศึกษาภายใน ระดับพื้นฐานวิชาชีพ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ - เอกสารการประเมินคุณภาพ ตามมาตรฐานการศึกษา ระดับพื้นฐานวิชาชีพ เพื่อการประกันคุณภาพ ภายในของสถานศึกษา ปีการศึกษา 2565 - หลักฐาน ข้อมูลสำคัญ เอกสารอ้างอิงต่างๆ ภาพกิจกรรมสำคัญ ที่แสดง ผลงานดีเด่น รางวัลความสำเร็จของวิทยาลัย สถานศึกษา/ผู้บริหาร/ครู/นักเรียน (มีมาก ใส่ QR code)