The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ดนตรี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ศิลปะ ได้จัดทำาตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางของ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mentalinmind, 2023-04-30 11:51:53

ดนตรี ม.4-6 (พว.)

หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ดนตรี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔-๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ศิลปะ ได้จัดทำาตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางของ
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน

รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๘๓ สุดยอดคูมือครู ดนตรีประยุกต์ 83 ดนตรีเป็นสิ่งที่ทำ�ให้เกิดคว�มสุนทรีผ่อนคล�ยสบ�ยใจดังนั้นจึงมีก�รนำ�ดนตรีม�เป็นสิ่งบำ�บัด รักษ�โรคที่เกิดจ�กคว�มบกพร่องต่�งๆเช่นคว�มผิดปกติท�งร่�งก�ยอ�รมณ์และสติปัญญ� เรียกว่� ดนตรีบำ�บัด ธุรกิจท�งดนตรีมีหล�กหล�ยรูปแบบ ดังนี้ก�รผลิตแผ่นบันทึกเสียงในรูปแบบซีดีดีวีดี ที่มีทั้งภ�พและเสียงออกม�ว�งข�ยสู่ตล�ดเพื่อ ตอบสนองผู้บริโภคก�รก่อตั้งค่�ยเพลงต่�งๆทั้ง ค่�ยเพลงไทยค่�ยเพลงลูกทุ่งค่�ยเพลงส�กลเพื่อ ผลิตศิลปินนักร้องนักดนตรีก�รให้บริก�รเพลง รอส�ยผ่�นโทรศัพท์เคลื่อนที่ ก�รจัดแสดง คอนเสิร์ต จะเห็นได้ว่�ธุรกิจท�งดนตรีส�ม�รถ สร้�งร�ยได้ให้กับเจ้�ของธุรกิจและตอบสนองให้ คว�มสุขแก่ผู้ชมผู้ฟัง ดนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับก�รศึกษ� โดยมีก�รนำ�ดนตรีเข้�ม�ใช้ในก�รเรียนก�รสอน เพื่อเป็นก�รพัฒน�ผู้เรียนและส�ม�รถลดขั้นตอนก�รสอน ทำ�ให้ผู้เรียนบรรลุผลก�รเรียนได้ดีขึ้น เช่น ก�รสอนเรื่องวันสำ�คัญท�งศ�สน� มีก�รเปิดเพลงเกี่ยวกับวันสำ�คัญที่มีทำ�นองเพลงสนุกสน�น และ การแสดงคอนเสิร์ตเป็นการนำาดนตรีมาประยุกต์ กับทางธุรกิจและทำาให้ผู้ชมเกิดความสนุกสนาน ดนตรีบำ�บัด คือ ก�รนำ�ดนตรีม�ประยุกต์ใช้ในก�รรักษ�โรคต่�ง ๆ ทั้งท�งร่�งก�ย และจิตใจ เป็นก�รปรับสภ�พสิ่งที่ผิดปกติให้เกิดคว�มสมดุลและกลับม�สู่สภ�พปกติเช่น ถ้�มีอ�ก�รกล้�มเนื้อ เกร็งตัว ก็นำ�ดนตรีเข้�ม�ช่วยกระตุ้นให้กล้�มเนื้อคล�ยตัวและกลับม�สู่สภ�พปกติถ้�เกิดโรคเครียด หรือวิตกกังวลก็นำ�ดนตรีม�ใช้ช่วยลดคว�มตึงเครียดคว�มกังวลเพื่อให้เกิดคว�มผ่อนคล�ยได้ ดนตรีบำ�บัดจึงมีประโยชน์ต่อก�รนำ�ม�บำ�บัดรักษ�อ�ก�รต่�ง ๆ ทั้งท�งร่�งก�ยและจิตใจ ช่วยสร้�งเสริมและพัฒน�อ�รมณ์จิตใจ และสติปัญญ� ๔. ดนตรีกับการบำาบัดรักษา ๖. ดนตรีกับการศึกษา ๕. ดนตรีกับธุรกิจ ๕. นักเรียนดูบัตรคําบนกระดาน ดังนี้ ดนตรีกับการบําบัดรักษา ดนตรีกับธุรกิจ ดนตรีกับการศึกษา นักเรียนฟงการอธิบายเกี่ยวกับหัวขอ ดังกลาวทีละหัวขอ แลวรวมกันสนทนา เกี่ยวกับหัวขอในบัตรคํา จากนั้นเขียนสรุป คําตอบเปนแผนภาพความคิด แลวรวมกัน ตรวจสอบความถูกตอง ๖. นักเรียนจับคูรวมกันวิเคราะหและแสดง ความคิดเห็น โดยใชคําถาม ดังนี้ • ดนตรีสามารถนําไปประยุกตใชในงาน อื่น ๆ ไดอยางไร (ตัวอยางคําตอบ ๑. ดนตรีกับธุรกิจ - ธุรกิจผลิตแผนบันทึกเสียง - ธุรกิจบริษัทเพลง - ธุรกิจสอนดนตรี - ธุรกิจจําหนายเครื่องดนตรี ๒. ดนตรีกับการศึกษา - สถาบันหรือโรงเรียนสอนดนตรี) ๗. นักเรียนรวมกันวิเคราะหวา การนําดนตรี ไปประยุกตใชในงานธุรกิจสงผลดีและ ผลเสียตองานดนตรีอยางไร เปนแผนภาพ ความคิด ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๘๔ ขอสอบเนนสมรรถนะ อาชีพนักจิตวิทยาคลินิก เว็บไซต์แนะนำา 84 ดนตรี ม.๔-๖ เนื้อเพลงที่ทำ�ให้ผู้เรียนเกิดก�รจดจำ�ได้ง่�ยขึ้น หรือก�รนำ�ดนตรีม�ใช้เปิดบรรเลงให้ผู้เรียนเกิด จินตน�ก�รในก�รเรียนและทำ�ง�นศิลปะ ดนตรีจึงมีคว�มสำ�คัญต่อก�รศึกษ�เช่นกัน เพร�ะนอกจ�กจะทำ�ให้ผู้เรียนเข้�ใจบทเรียนแล้ว ยังช่วยพัฒน�สติปัญญ� อ�รมณ์จิตใจของผู้เรียนได้อีกด้วย คำ�ถ�มท้�ท�ย นักเรียนจะนำ�ดนตรีไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วันอย่�งไร นักจิตวิทย�คลินิก คือ ผู้ที่ให้คำ�แนะนำ� ให้ก�รรักษ�ท�งจิตวิทย� โดยทำ�แบบทดสอบ และประเมินผลสภ�พท�งจิต รักษ�อ�ก�รผู้ป่วยที่มีอ�ก�รท�งจิต มีคว�มเครียด ซึ่งอ�จมีก�รนำ� ดนตรีบำ�บัดม�ใช้รักษ� อ�ชีพนี้ปฏิบัติง�นในสถ�นพย�บ�ลต่�ง ๆ ให้นักเรียนอ่�นคำ�และคว�มหม�ยของคำ�ต่อไปนี้ สรุป ดนตรีส�ม�รถนำ�ไปประยุกต์ใช้ในง�นต่�ง ๆ ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้�งคว�มสุข สนุกสน�นให้กับผู้ที่ม�ร่วมง�น คำาศัพท์ คำาอ่าน ความหมาย ศิลปิน สิน-ละ -ปิน ผู้มีคว�มส�ม�รถแสดงออกซึ่งคุณสมบัติท�งศิลปะ ในด้�นจิตรกรรม ประติม�กรรม เป็นต้น และมีผลง�น เป็นที่ยอมรับนับถือจ�กสถ�บันท�งศิลปะแห่งช�ติ สติปัญญ� สะ -ติ-ปัน-ย� ปัญญ�รอบคอบปัญญ�รู้คิด สุนทรี สุน-ทะ - รี คว�มง�มไพเร�ะ ดนตรีบำ�บัด www.thaiavclub.org กิจกรรมพัฒน�คว�มส�ม�รถในก�รอ่�น ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๘. นักเรียนรวมกันวิเคราะหวา นักเรียน สามารถนําดนตรีมาประยุกตใช ในการศึกษาไดอยางไร และสงผล ต อ ก า ร ศึ ก ษ า นั้ น อ ย า ง ไ ร บ า ง เปนแผนภาพความคิด ดังตัวอยาง เสริมความรู ครูควรสอน จิตวิทยา เปนวิชาที่วาดวยการศึกษาเกี่ยวกับจิตใจ กระบวนการคิด และ พฤติกรรมของมนุษย เกิดขึ้นโดยนักปราชญชาวกรีกชื่อ เพลโตและอริสโตเติล การประยุกตใชดนตรี ในการศึกษา เปดเพลงคานิยมหลัก คนไทย ๑๒ ประการ ใหนักเรียนฟง กอนเรียนรายวิชา หนาที่และพลเมือง การศึกษา ทําใหนักเรียนมี ความรูความเขาใจ และจดจําคานิยมหลัก ทั้ง ๑๒ ขอได สงผลตอ ๙. นักเรียนแบงกลุมรวมกันสืบคน ขอมูลเกี่ยวกับงานตาง ๆ ที่มีการนํา ดนตรีไปประยุกตใช แลววิเคราะหวา ดนตรีสงผลตองานตาง ๆ อยางไรบาง ลงในแบบบันทึก ๑๐. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปน ความรูรวมกัน ดังนี้ • ดนตรีเปนสิ่งสําคัญที่ใชใน การจัดงาน เพราะจะทําใหงานมีความ นาสนใจ มีความสนุกสนานผอนคลาย ทําใหผูรวมงานมีความสุข Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๘๕ สุดยอดคูมือครู ผังสรุปสาระสำาคัญ ดนตรีประยุกต์ 85 ดนตรีประยุกต์ การนำาดนตรีไปประยุกต์ ใช้ในงานอื่น ๆ ดนตรีกับการผ่อนคลาย เสียงดนตรีช่วยให้มนุษย์ คล�ยเครียด ย�มเหนื่อยล้� เกิดคว�มสนุกสน�น ร่�เริงมีคว�มสุข ดนตรีกับการบำาบัดรักษา ดนตรีส�ม�รถนำ�ม� บำ�บัดรักษ�โรคและอ�ก�รต่�ง ๆ ทั้งท�งร่�งก�ย และจิตใจ ดนตรีกับการพัฒนามนุษย์ ดนตรีช่วยพัฒน� มนุษย์ด้�นสติปัญญ� ร่�งก�ยจิตใจอ�รมณ์และ สังคม ดนตรีกับธุรกิจ ธุรกิจเกี่ยวกับดนตรีมีหล�กหล�ย รูปแบบ ส�ม�รถตอบสนองให้คว�มสุขแก่ผู้ชม ผู้ฟัง ดนตรีกับการประชาสัมพันธ์ ก�รนำ�ดนตรีม� ประกอบกับก�รประช�สัมพันธ์ทำ�ให้ก�รแสดงหรือ ง�นนั้นมีคว�มน่�สนใจ ดนตรีกับการศึกษา ดนตรีช่วยทำ�ให้เกิด จินตน�ก�รในก�รเรียนและทำ�ง�นศิลปะโดยช่วย พัฒน�ท�งด้�นสติปัญญ� อ�รมณ์จิตใจของ ผู้เรียน ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนเกิดคว�มเข้�ใจใน บทเรียน ๑๑. นักเรียนแตละกลุมนําเสนอผล การวิเคราะหการนําดนตรีไปประยุกต ใชในงานตาง ๆ หนาชั้นเรียน ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 ๑๒. นักเรียนแบงกลุม รวมกันรวบรวม ขอมูลเกี่ยวกับการนําดนตรีไปประยุกต ใชในงานตาง ๆ แลวจัดทําเปนวีซีดี หรือดีวีดี มอบใหแกหองสมุดของ โรงเรียน เพื่อเผยแพรความรู แกนักเรียนในโรงเรียนหรือผูที่สนใจ ศึกษา Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóÐ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๘๖ ขอสอบเนนสมรรถนะ กิจกรรมการเรียนรู 86 ดนตรี ม.๔-๖ ๑. ให้นักเรียนสำ�รวจก�รทำ�กิจกรรมในท้องถิ่นว่�มีกิจกรรมใดบ้�งที่นำ�ดนตรีไปใช้บรรเลง ประกอบกิจกรรม พร้อมทั้งวิเคร�ะห์ว่�ก�รนำ�ดนตรีม�ใช้ในกิจกรรมเหม�ะสมหรือไม่ เพร�ะอะไร แล้วออกม�นำ�เสนอหน้�ชั้นเรียน ๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๕ คน ร่วมกันค้นคว้�เกี่ยวกับก�รนำ�ดนตรีไปประยุกต์ใช้ในง�น อื่นๆว่�มีง�นใดบ้�งมีก�รนำ�ดนตรีไปใช้อย่�งไร แล้วออกม�อภิปร�ยหน้�ชั้นเรียน ๓. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปร�ยในหัวข้อ“ดนตรีมีคว�มสำ�คัญต่อก�รศึกษ�ไทยอย่�งไร” ๔. ให้นักเรียนสรุปประโยชน์ของก�รนำ�ดนตรีไปประยุกต์ใช้ในง�นอื่นๆเป็นแผนภ�พ ดังตัวอย่�งต่อไปนี้ ประโยชน์ของการนำาดนตรี ไปประยุกต์ใช้ในงานอื่น ๆ ๑. ในชีวิตประจำ�วันของนักเรียนมีก�รนำ�ดนตรีม�ใช้ในกิจกรรมใดบ้�งอย่�งไร ๒. ดนตรีลักษณะใดที่ช่วยผ่อนคล�ยอ�รมณ์ ๓. เพร�ะเหตุใดจึงมีก�รนำ�ดนตรีม�ใช้บำ�บัดรักษ�โรค ๔. ก�รนำ�ดนตรีม�ใช้ในก�รประช�สัมพันธ์มีประโยชน์อย่�งไร ๕. นักเรียนคิดว่�มีธุรกิจใดบ้�งที่นำ�ดนตรีม�ประยุกต์ใช้ ๖. นักเรียนจะนำ�ดนตรีไปบูรณ�ก�รกับก�รเรียนภ�ษ�ไทยอย่�งไร ๗. ถ้�เพื่อนของนักเรียนไม่สบ�ยใจ จะให้ฟังเพลงแบบใด ๘. นักเรียนคิดว่�ดนตรีมีส่วนช่วยพัฒน�ก�รศึกษ�อย่�งไร ๙. ในอน�คตนักเรียนจะประกอบอ�ชีพอะไรที่เกี่ยวกับดนตรี ๑๐. ถ้�นักเรียนเป็นผู้จัดง�นประจำ�ปีที่โรงเรียนจะจัดกิจกรรมอะไรบ้�งที่มีดนตรีม�เกี่ยวข้อง การนำาดนตรีไปประยุกต์ใช้ในงานอื่นๆ คำถามพัฒนากระบวนการคิด แนวคําตอบ ๑. ออกกําลังกายประกอบเพลงโดยใช เพลงจังหวะสนุกสนาน ๒. ดนตรีที่มีการบรรเลงชา ๆ สบาย ๆ ๓. เพราะชวยลดความตึงเครียดของ ผูปวย ๔. ทําใหการประชาสัมพันธนาสนใจ มากขึ้น ๕. ธุรกิจรานอาหาร ธุรกิจโรงเรียนดนตรี ๖. บรรเลงดนตรีประกอบบทกลอน ในวรรณคดีไทย ๗. เพลงที่สดชื่น สบายใจ ๘. ทําใหผูเรียนมีสติปญญาดีขึ้นสามารถ จดจําและฝกคิดเกี่ยวกับวิชาที่เรียนได ๙. นักรอง นักแตงเพลง โปรดิวเซอร ๑๐. กิจกรรมการประกวดรองเพลง การประกวดวงดนตรี การแสดงละคร ศ ๒.๑ ม.๔-๖/๘ ตัวชี้วัด


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๘๗ สุดยอดคูมือครู หนวยการเรียนรูที่ ๑. วิเคราะห์รูปแบบของดนตรีไทยและดนตรีสากลในยุคสมัยต่างๆ(ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑) ๒. วิเคราะห์สถานะทางสังคมของนักดนตรีในวัฒนธรรมต่างๆ(ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๒) ๑. รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยและสากลในแต่ละยุคสมัยมีความแตกต่างกัน และมีการพัฒนาขึ้น ทำาให้บทเพลงและวงดนตรีมีความหลากหลาย มีการพัฒนามากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ฟังจนเป็นที่ ชื่นชอบและนิยม ๒. บุคคลสำาคัญของวงการดนตรีทั้งของไทยและสากล เป็นผู้เชี่ยวชาญและสร้างสรรค์ทางด้านดนตรีมีผลงาน มากมายส่งผลให้การดนตรีมีรูปแบบหลากหลายและมีการพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน รูปแบบบทเพลง และวงดนตรีไทย แต่ละยุคสมัย รูปแบบบทเพลง และวงดนตรีสากล แต่ละยุคสมัย สังคีตกวี ยุคสมัย ของดนตรี สมัยก่อนสุโขทัย ยุคบาโรก ยุคฟื้นฟู ศิลปวิทยาการ ยุคกลาง สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา ยุคคลาสสิก ยุคโรโคโค สมัยธนบุรี ยุคโรแมนติก สมัยรัตนโกสินทร์ ยุคศตวรรษ ที่ ๒๐-ปัจจุบัน สังคีตกวีไทย สังคีตกวีสากล ๖ ยุคสมัยของดนตรี สาระสำาคัญ ผังสาระการเรียนรู้ ตัวชี้วัด เปาหมายการเรียนรู มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขาใจความสัมพันธระหวางดนตรี ประวัติศาสตร และวัฒนธรรม เห็นคุณคา ของดนตรีที่เปนมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถิ่น ภูมิปญญาไทยและ สากล บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 นักเรียนแบงกลุมรวมกันเลือกหัวขอรูปแบบของวงดนตรีไทยหรือ วงดนตรีสากลที่สนใจ ๑ ยุคสมัยพรอมกับสังคีตกวีในยุคสมัยที่เลือก จากนั้นใหรวมกันสืบคนและวิเคราะหขอมูลเกี่ยวกับหัวขอที่เลือก แลวจัดทํา เปนรูปเลมรายงาน พรอมกับคิดรูปแบบการนําเสนอที่นาสนใจ โดยใช เทคโนโลยีสารสนเทศ สมรรถนะสําคัญของผูเรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ๔. ความสามารถในการใชเทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค ใฝเรียนรู ตัวชี้วัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามใน การเรียนและเขารวมกิจกรรมการเรียนรู มุงมั่นในการทํางาน ตัวชี้วัดที่ ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบใน การปฏิบัติหนาที่การงาน รักความเปนไทย ตัวชี้วัดที่ ๗.๓ อ นุ รั ก ษ แ ล ะ สื บ ท อ ด ภูมิปญญาไทย


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๘๘ ขอสอบเนนสมรรถนะ ๑. สมัยก่อนสุโขทัย (สมัยน่านเจ้า) 88 ดนตรี ม.๔-๖ รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยมีมากมายและมีการพัฒนาขึ้นในแต่ละยุคสมัยซึ่งสามารถแบ่ง ออกเป็นสมัยต่างๆดังนี้ สมัยก่อนสุโขทัย (สมัยน่านเจ้า) สมัยรัตนโกสินทร์ เส้นเวลาแสดง ยุคสมัยของดนตรีไทย สมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา สมัยธนบุรี รัชกาลที่๑ รัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่๖ รัชกาลที่ ๓ รัชกาลที่ ๗ รัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๘ รัชกาลที่ ๙ รัชกาลที่๕ ในสมัยนี้ไม่มีหลักฐานแน่นอน เป็นเพียงข้อสันนิษฐานจากการอ้างอิงหลายบทความ กล่าวว่าได้พบเพลงไทยโบราณยุคน่านเจ้า ดร.อุทิศ นาคสวัสดิ์ ได้กล่าวว่า กษัตริย์ไทยแห่ง อาณาจักรน่านเจ้าได้ส่งวงดนตรีไปแสดงในราชสำานักจีน ณ กรุงชีอานฟูข้อสันนิษฐานนี้แสดงให้เห็นถึง ความเจริญทางด้านดนตรีไทย หรือการเกิดดนตรีไทยตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัย และกล่าวว่าเครื่องดนตรีไทย ที่นำาไปแสดงนั้น คือ เครื่องดนตรีประเภทเป่า ได้แก่ แคน ขลุ่ย และปี่ และยังมีข้อสันนิษฐานว่า เครื่องดนตรีประเภทดีด สีก็เกิดขึ้นในสมัยนี้ด้วย ได้แก่ กระจับปี่ พิณ ซึง ซอและสะล้อ ซึ่งลักษณะ อดีต ปัจจุบัน การแสดงดนตรีไทย ทั้ง ๒ ภาพ มีความ เหมือนและแตกต่าง กันอย่างไร รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยแต่ละยุคสมัย จุดประกายความคิด ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนภาพความคิดวิเคราะหเปรียบเทียบ บทเพลง และดนตรีในยุคสมัยตาง ๆ ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ถานักเรียนยอนเวลากลับไปได นักเรียนจะนําวงดนตรีในปจจุบันวงใด ไปแสดงในอดีต เพื่อใหคนในอดีตรูจัก เพราะอะไร ๒. นักเรียนสังเกตภาพวงดนตรีไทยที่ ติดบนกระดาน แลวนักเรียนรวมกัน สนทนาเกี่ยวกับภาพ ๓. นักเรียนดูบัตรคําบนกระดาน ดังนี้ สมัยกอนสุโขทัย จากนั้นนักเรียนฟงการอธิบายเกี่ยวกับ บทเพลงและวงดนตรีไทยสมัยกอน สุโขทัย แลวรวมกันสนทนาเกี่ยวกับ วงดนตรีไทยดังกลาว Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๘๙ สุดยอดคูมือครู ความรู้เพิ่มเติม ยุคสมัยของดนตรี 89 วงประโคมแตรสังข์ จากการรวบรวมหลักฐานที่ปรากฏสรุปได้ว่าในสมัยสุโขทัยมีการประสมวงดนตรีในรูปแบบของ การขับไม้มีผู้แสดง ๓ คน คือ ผู้ขับร้อง ผู้สีซอสามสาย และผู้ทำาหน้าที่ไกวบัณเฑาะว์การขับไม้ใช้ ในพิธีสมโภชพระมหาเศวตฉัตร หรือการสมโภชช้างเผือก ลักษณะของเนื้อร้องคล้ายกาพย์ยานี เรียกว่ากาพย์ขับไม้ การประสมวงดนตรีอีกรูปแบบหนึ่ง คือ วงปี่พาทย์เครื่องห้า ที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรี ประเภทตีและประเภทเป่า ได้แก่ปี่ตะโพนกลอง ฆ้อง และฉิ่ง การบรรเลงดนตรีอีกรูปแบบหนึ่ง คือ การบรรเลงพิณ เป็นการบรรเลงประกอบการ ขับลำานำาไม่จัดว่าเป็นวงดนตรีเพราะใช้ผู้บรรเลงเพียงคนเดียวเป็นผู้ขับลำานำาพร้อมกับบรรเลงพิณไปด้วย วงสุดท้ายที่มีในสมัยสุโขทัยคือวงเครื่องประโคมใช้ในงานสำาคัญ งานพระราชพิธีต่างๆเครื่องประโคมใน สมัยสุโขทัยแบ่งเป็น ๒ ชนิดได้แก่ ๑. ประโคมแตรและมโหระทึกใช้บรรเลงในเวลาที่พระมหากษัตริย์เสด็จออกพบขุนนางและ ในการเสด็จพระราชดำาเนินขบวนน้อย รูปร่างของเครื่องดนตรีอาจแตกต่างกันเล็กน้อยดนตรีไทยสมัยน่านเจ้ามีการนำาเครื่องดนตรีประเภทดีดสี และเป่ามาประสมเป็นวงส่วนเครื่องประกอบจังหวะมีการสันนิษฐานว่าใช้กรับและเกราะ บทเพลงที่บรรเลงมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นเพลงน่านเจ้าจิ้มก้อง (แปลว่า ทูตไทยเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงจีน)คือเพลงที่พระเจ้าโก๊ะล่อฝงส่งไปบรรเลงในราชสำานักจีนที่เมืองชีอานฟู เพลงน่านเจ้าจิ้มก้องมีบันทึกโน้ตสากลอยู่ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (Oxford University) ในฐานะที่เป็นเพลงของจีนโบราณ มีการอ้างว่ามีเค้าโครงจากไทยเมื่อประมาณ ๔,๐๐๐ กว่าปี มาแล้ว เพราะมีเค้าโครงทำานองและเนื้อเพลงแบบไทยอยู่ในตอนท้ายเพลง มีการบรรเลงด้วย เครื่องดนตรีของจีน ๒. ประโคมแตรสังข์กลองชนะ วงประโคม แตรสังข์จะใช้ในพระราชพิธีที่เป็นมงคลอันศักดิ์สิทธิ์ เพลงที่ประโคมจะมีลักษณะสั้น ๆ ไม่ยาวมาก ใช้เป็นการให้สัญญาณสำาหรับการเคารพ โดยจะตี ฆ้องชัยรัวมโหระทึก เป่าสังข์เป่าแตรฝรั่ง แตรงอน เป็นทำานองเพลงผสมติดต่อกัน ๓ ครั้ง นิยมใช้ ทำานองเพลง“จีนลั่นถั่น”ท่อน ๒ ซึ่งจะประโคมเมื่อ ๒. สมัยสุโขทัย ๔. นักเรียนดูบัตรคําบนกระดาน ดังนี้ สมัยสุโขทัย จากนั้นนักเรียนฟงคําอธิบายเกี่ยวกับ บทเพลงและวงดนตรีไทยสมัยสุโขทัย แลวรวมกันสนทนาเกี่ยวกับวงดนตรี- ไทยดังกลาว ๕. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและแสดงความคิดเห็นวาในสมัยสุโขทัยมี ดนตรีอะไรเกิดขึ้น โดยเขียนสรุป คํ า ต อ บ เ ป น แ ผ น ภ า พ ค ว า ม คิ ด ดังตัวอยาง ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ดนตรีไทย สมัยสุโขทัย วงขับไม กาพยขับไม วงปพาทย เครื่องหา การ บรรเลงพิณ วงเครื่อง ประโคม ประโคมแตรและมโหระทึก ประโคมแตรสังขกลองชนะ เสริมความรู ครูควรสอน บัณเฑาะว คือ กลองสองหนาขนาดเล็ก มีหลักอยูตอนบน ผูกตุมหอยลงมา ทางหนากลอง ใชไกวใหตุมแกวงกระทบหนากลองทั้ง ๒ ขาง มหาวิทยาลัยออกซฟอรด (Oxford University) ตั้งอยูที่ประเทศอะไร ๑ อังกฤษ ๒ ฝรั่งเศส รอบรูอาเซียนและโลก Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๙๐ ขอสอบเนนสมรรถนะ 90 ดนตรี ม.๔-๖ พระมหากษัตริย์เสด็จออกพบขุนนางว่าราชการงานแผ่นดิน ประโคมส่งเสด็จ และใช้เพลงลงสรง ประโคม เมื่อพระมหากษัตริย์สรงมูรธาภิเษก บทเพลงในสมัยสุโขทัยเป็นเพลงพื้นเมือง เช่น เพลงฉ่อย เพลงพื้นเมืองเทพทอง หรือเรียกอีกอย่างว่า เพลงสุโขทัย เพลงขับไม้บัณเฑาะว์ ใช้ในวงขับไม้ เพลงส่วนใหญ่จะเป็นเพลงที่มี อัตราจังหวะ ๒ ชั้น และชั้นเดียว ในสมัยนี้ดนตรีเจริญมาก มีการประสมวงเกิดขึ้น ได้แก่ วงปี่พาทย์ วงมโหรี และวงเครื่องสาย การขับไม้เพิ่มจาก ๓ คน เป็น ๔ คน เรียก กองมโหรีเครื่องสี่ บทเพลงนิยมเพลงอัตราจังหวะ ๒ ชั้น มากกว่าอัตราจังหวะอื่น เพราะเหมาะเป็น เพลงประกอบการแสดงโขนละคร และขับกล่อมได้ดี ส่วนเพลงชั้นเดียวนั้นนิยมร้องเนื้อเต็ม ไม่มี การเอื้อน เพลงที่เกิดขึ้นในสมัยนี้ เช่น เพลงขิมใหญ่ เพลงอังคารสี่บท เพลงนางนาค เพลงถอยหลัง เข้าคลอง ปลายสมัยอยุธยาเริ่มเกิดเพลงสำาเนียงภาษาของชาติอื่น เช่น จีน อินเดีย มอญ ทั้งนี้เพราะไทย เริ่มติดต่อค้าขายและทำาศึกสงครามกับต่างชาติจึงได้รับอิทธิพลด้านดนตรีเข้ามาด้วย เช่น เพลงแขกไทร ขอมน้ำ�เต้า มอญแปลง ทางด้านการขับร้องเริ่มมีการใช้ “เอื้อน” ในเพลง ๒ ชั้น เช่น เพลงสีนวล สมัยธนบุรีเป็นช่วงที่เริ่มก่อตั้งเมืองหลวง และมีการติดต่อกับชาติต่าง ๆ เช่น มอญ ญวน ฝรั่ง เขมร ทำาให้เกิดการรับอารยธรรมทางดนตรีของต่างชาติเข้ามาผสมผสาน ในสมัยนี้จึงเกิดวงดนตรี พิณพาทย์รามัญ ซึ่งเป็นวงดนตรีของชาวมอญ ส่วนวงดนตรีอื่นในสมัยอยุธยานั้นก็ยังคงมีอยู่ ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมเครื่องดนตรีชนิดใดในวงดนตรี บทเพลงในสมัยกรุงธนบุรีเกิดขึ้นจากพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ละครมาจากนครศรีธรรมราช และมีการฝึกละครหลวงขึ้นในกรุงธนบุรี ๒ โรง มีบันทึกชื่อเพลงในพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ และมีการใช้เพลงหน้าพาทย์มากมายหลายเพลง เช่น เพลงตระ เพลงเข้าม่าน เพลงเหาะ เพลงบาทสกุณี เพลงสาธุการ เพลงโอด เพลงพญาเดิน เพลงเตียว เพลงพิราบป่า เพลงพันพิลาป ๓. สมัยอยุธยา ๔. สมัยธนบุรี ดนตรีไทย สมัยอยุธยา วงปพาทย วงเครื่องสาย วงมโหรี ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๖. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับดนตรีไทยในสมัยอยุธยา เปนแผนภาพ ความคิด ดังตัวอยาง ๗. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น โดยใชคําถาม ดังนี้ • เพราะเหตุใด สมัยธนบุรีจึงมีการรับ อารยธรรมทางดนตรีของตางชาติเขามาผสมผสาน (ตัวอยางคําตอบ สมัยธนบุรีมีการติดตอกับ ชาติตาง ๆ) • สมัยธนบุรีมีวงดนตรีใดเกิดขึ้นมาใหม (วงดนตรีพิณพาทยรามัญ) ๘. นักเรียนแบงกลุม ๓ กลุม แลวแตละกลุม เปรียบเทียบความแตกตางของบทเพลงและ ดนตรีไทยในสมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา และ สมัยธนบุรี เปนแผนภาพความคิด ๙. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปนความรูรวมกัน เกี่ยวกับบทเพลงและวงดนตรีสมัยสุโขทัย สมัยอยุธยา และสมัยธนบุรี เปนแผนภาพความคิด Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ ๑๐. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอแผนภาพ ความคิดเปรียบเทียบความแตกตางของบทเพลง และดนตรีในสมัยตาง ๆ หนาชั้นเรียน โดยเพื่อน กลุมอื่นและครูรวมกันประเมินผลและตรวจสอบ ความถูกตอง ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 ๑๑. นักเรียนรวมกันรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับบทเพลง และดนตรีไทยสมัยตาง ๆ มาจัดนิทรรศการ เพื่อเผยแพรความรูแกนักเรียนในโรงเรียน และผูที่สนใจศึกษา Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóРเสริมความรู ครูควรสอน สมัยธนบุรี การดนตรีมีทั้งปพาทย มโหรี เครื่องสาย ไมมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมขึ้น จากสมัยอยุธยา แตมีเครื่องดนตรีของชาติตาง ๆ เขามาอยูในประเทศไทยหลายชาติ รอบรูอาเซียนและโลก ญวน ในปจจุบันคือประเทศเวียดนามซึ่งเรียกตนเองวา เหวียต หรือ เหยียก หรือ กิญ เปนประชากรหลักของประเทศเวียดนาม


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๙๑ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 91 มีการนำาเครื่องดนตรีที่มีอยู่มารวมประสมกันเป็นวงดนตรีและเริ่มสร้างเครื่องดนตรีขึ้นใหม่ เพิ่มเติม นอกจากรวบรวมเครื่องดนตรีแล้วยังมีการรวบรวมนักดนตรีและบทเพลงเพิ่มขึ้นตามยุคสมัย ต่างๆดังนี้ สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่๑) บทเพลงที่เกิดขึ้นในสมัยนี้นิยมนำาบทละครมาร้อง คือ คัดเอา บทละครเฉพาะบางบทมาร้อง บทละครที่นำามาร้องเป็นบทละคร ได้แก่ เรื่องอิเหนา พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่๑พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ดนตรีได้รับการสืบทอดมาจากสมัยธนบุรีมีการเพิ่มกลองทัด เข้าในวงปี่พาทย์เครื่องห้าอีก ๑ ลูก ซึ่งเดิมมีกลองทัดอยู่ลูกเดียว โดยลูกที่เพิ่มนี้มีเสียงต่างออกไปจากลูกเดิม จึงเกิดมีเสียงเป็นสอง เสียง คือ ระดับเสียงสูง ตุ้ม และระดับเสียงต่ำ� ต้อม กลองทัดลูกที่มี เสียงสูง เรียกว่า ตัวผู้และกลองทัดลูกที่มีเสียงต่ำ� เรียกว่า ตัวเมีย ดังนั้นกลองทัดในวงปี่พาทย์จึงแบ่งเป็น ๒ ลูก หรือ ๑ คู่ ซึ่งนิยม ใช้ตีกันมาจนถึงปัจจุบัน สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒) พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำาวงปี่พาทย์เข้ามาบรรเลงประกอบ การขับเสภา เนื่องจากการขับเสภาต้องใช้เวลานาน และใช้เสียง ขับเสภาอยู่ตลอดเวลา จึงให้มีการบรรเลงปี่พาทย์คั่นเป็นตอนตาม โอกาสในการดำาเนินเรื่อง การนำาวงปี่พาทย์เข้าประกอบการขับเสภา นั้นปรากฏหลักฐานดังคำาไหว้ครูเสภาบทหนึ่งซึ่งแต่งในสมัยรัชกาล ที่ ๒ ว่า “เมื่อครั้งจอมนรินทร์แผ่นดินลับ เสภาขับยังหามีปี่พาทย์ไม่ มาถึงพระองค์ผู้ทรงชัย จึงเกิดมีขึ้นในอยุธยา” ๕. สมัยรัตนโกสินทร์ ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ภาระงาน/ชิ้นงาน จัดทําผลการวิเคราะหรูปแบบดนตรีไทย ในยุคสมัยตาง ๆ โดยใชไมโครซอฟต- ออฟฟศเพาเวอรพอยต ๑. นักเรียนดูบัตรคําบนกระดาน ดังนี้ สมัยรัตนโกสินทร รัชกาลที่ ๑ รัชกาลที่ ๒ รัชกาลที่ ๓ รัชกาลที่ ๔ รัชกาลที่ ๕ รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๗ รัชกาลที่ ๘ รัชกาลที่ ๙ นักเรียนฟงการอธิบายเกี่ยวกับ เหตุการณทางดนตรีแตละรัชกาลใน สมัยรัตนโกสินทร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • สมัยรัตนโกสินทรรัชกาลใดที่ วงปพาทยเครื่องหามีการเพิ่มกลองทัด เพื่อใหมีครบ ๑ คู (รัชกาลที่ ๑) • ในสมัยรัชกาลที่ ๒ มีเหตุการณ ทางดนตรีใดเกิดขึ้นบาง (ตัวอยาง คําตอบ มีการนําวงปพาทยเขามาบรรเลง ประกอบการขับเสภา) เสริมความรู ครูควรสอน เสภา คือ ชื่อกลอนชนิดหนึ่งนิยมแตงเลาเรื่องคอนขางยาว ใชขับ เชน เสภาขุนชาง-ขุนแผน เวลาขับจะใชกรับเปนเครื่องประกอบจังหวะ ตอมาใช ปพาทยรับ Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๙๒ ขอสอบเนนสมรรถนะ 92 ดนตรี ม.๔-๖ การบรรเลงปี่พาทย์ประกอบเสภาเดิมบรรเลงเพลงหน้าพาทย์เพียงอย่างเดียว ต่อมามีการ ขับร้องแบบละครเพิ่มขึ้นมาในบางบท สุดท้ายจึงเปลี่ยนเพลงแบบละครมาเป็นเพลงในอัตราจังหวะ สองชั้น แล้วจึงนิยมแต่งเพลง ๒ ชั้น ไม่มีเพลง ๓ ชั้น นอกจากการร้องในเวลาเล่นสักวาจะใช้การร้อง เพลงสามชั้นเพื่อให้มีเวลาในการคิดกลอนดีๆ สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการประดิษฐ์ระนาดทุ้มขึ้นเพื่อบรรเลงคู่กับระนาดเอกโดย ทำาให้มีลักษณะคล้ายระนาดเอกแต่มีลูกระนาดบางและใหญ่กว่า เพื่อ ให้เกิดเสียงทุ้มต่ำ�และเสียงใหญ่การบรรเลงระนาดทุ้มจะมีลีลาแปลก ไปจากระนาดเอก โดยตีหยอกล้อไปกับระนาดเอก ตีนำาหน้า หรือตี ตามหลัง ระนาดทุ้มเปรียบเสมือนตัวตลกประจำาวงปี่พาทย์ นอกจากระนาดทุ้มแล้ว มีการสร้างเครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่งให้ มีลักษณะคล้ายกับฆ้องวงใหญ่ เพียงแต่ขนาดเล็กกว่าและลูกฆ้อง มีจำานวนมากกว่าฆ้องวงใหญ่ เรียกเครื่องดนตรีนี้ว่าฆ้องวงเล็ก เครื่องดนตรีทั้ง ๒ ชนิด คือ ระนาดทุ้มและฆ้องวงเล็ก เมื่อ นำาเข้ามาร่วมบรรเลงกับวงปี่พาทย์เครื่องห้าจะเรียกวงปี่พาทย์นี้ว่า วงปี่พาทย์เครื่องคู่แล้วยังนำาปี่นอกมาเป่าคู่กับปี่ใน และเพิ่มโหม่งและ ฉาบเล็กเข้ามาประสม การบรรเลงดนตรีและขับร้องได้มีเพลงสามชั้น ใช้ร้องส่งประกอบวงปี่พาทย์ขึ้น โดย พระประดิษฐ์ไพเราะ(ครูมีแขก) เป็นผู้ริเริ่มจึงทำาให้การขับร้องและบรรเลงดนตรีเพลงสามชั้นได้รับความ นิยมอย่างแพร่หลาย การขับเสภาก็นิยมร้องและบรรเลงเพลงสามชั้นตามไปด้วย ซึ่งมีแบบฉบับในปี่พาทย์เสภาคือเมื่อ โหมโรงเพลงเสภาเสร็จแล้วจะร้องรับด้วยเพลงพม่าห้าท่อน แล้วต่อด้วยเพลงจะเข้หางยาวสี่บทและ เพลงบุหลันลอยเลื่อนตามลำาดับโดยใช้เนื้อร้องเสภาขุนแผนขึ้นเรือนขุนช้างได้นางแก้วกิริยา การบรรเลงปี่พาทย์ประกอบการขับเสภานั้น เป็นการบรรเลงในอาคารสถานที่ ดังนั้นเสียงของ ตะโพนและกลองทัดจะมีขนาดเสียงที่ดังเกินไป จึงงดการตีตะโพนและกลองทัดแล้วเปลี่ยนมาใช้ กลองสองหน้าตีจังหวะหน้าทับแทน เรียกชื่อวงปี่พาทย์ที่มีกลองสองหน้าตีประกอบการขับเสภานี้ว่า วงปี่พาทย์เสภา ซึ่งบางครั้งใช้ตีประชันแข่งขันกันในบางโอกาส บ้างมีการเดี่ยวเครื่องดนตรีแต่ละชนิด รวมถึงเดี่ยวกลองสองหน้าก็เคยมี ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๓. นักเรียนวิเคราะหวา เพราะเหตุใด ดนตรีไทยในสมัยรัชกาลที่ ๒ จึงมี ความเจริญรุงเรืองเปนอยางมากและ สงผลมายังสมัยปจจุบันอยางไร เปน แผนภาพความคิด ๔. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น โดยใชคําถาม ดังนี้ • ในสมัยรัชกาลที่ ๓ มีการประดิษฐ เครื่องดนตรีใดเพิ่มขึ้นมาบาง (ระนาดทุมและฆองวงเล็ก) ๕. นักเรียนรวมกันวิเคราะหวาในสมัย รัชกาลที่ ๓ การดนตรีไทยเปลี่ยนแปลง ไปจากสมัยรัชกาลที่ ๒ หรือไม อยางไร เสริมความรู ครูควรสอน สักวา เปนชื่อกลอนแบบหนึ่ง ในหนึ่งบทมี ๔ คํากลอน ขึ้นตนดวยคําวา “สักวา” และลงทายดวยคําวา “เอย” รองเปนทํานองโตตอบกัน


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๙๓ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 93 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔) พระบาทสมเด็จ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการบรรเลงเพลงสามชั้นด้วยวงปี่พาทย์มโหรีอย่างแพร่หลาย และ ประดิษฐ์เครื่องดนตรีเพิ่มในวงปี่พาทย์เครื่องคู่ ๒ ชนิด ได้แก่ ระนาดเอกเหล็ก และระนาดทุ้มเหล็ก ระนาดเอกเหล็กมีลูกระนาดคล้ายลูกระนาดเอก และ มีจำานวนเท่ากัน เพียงแต่ทำาด้วยทองเหลืองหรือเหล็ก ส่วนรางทำาด้วยไม้ เพื่อวางลูกระนาดเหล็กเรียงกัน วิธีตีคล้ายกับการตีระนาดเอก เรียกอีก อย่างว่า ระนาดทอง สำาหรับระนาดทุ้มเหล็กพระบาทสมเด็จพระปวเรนทราเมศวร (พระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) ทรงคิดประดิษฐ์ โดยมีที่มาจากเสียงเพลง ในนาฬิกาที่ทำาเป็นเครื่องจักรที่ทรงตั้งชื่อว่าเครื่องเขี่ยหวี ระนาดทุ้มเหล็ก มีลักษณะคล้ายกับระนาดเอกเหล็กเพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าและเสียงทุ้ม กว่า เมื่อประดิษฐ์ระนาดเอกเหล็กและระนาดทุ้มเหล็กขึ้น จึงได้นำาเข้ามาบรรเลงร่วมกับวงปี่พาทย์- เครื่องคู่และวงมโหรีเครื่องคู่เรียกว่า วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ เมื่อมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการปรับปรุง ในสมัยอยุธยา โดยนำาระนาดเอกเหล็กและระนาดทุ้มเหล็กเข้ามาบรรเลงในวง จึงกลายเป็นวงมโหรี- เครื่องใหญ่ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ได้ดำาริวิธีประสมวงดนตรีไทยขึ้นใหม่อีกแบบหนึ่ง เรียกชื่อวงดนตรี นี้ว่า วงปี่พาทย์ดึกดำาบรรพ์ เพื่อใช้ประกอบการแสดงละครไทย ที่คล้ายละครโอเปราที่เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (ม.ร.ว.หลาน กุญชร) ได้ประดิษฐ์ละครดึกดำาบรรพ์ขึ้น นอกจากนี้ยังได้ทรงปรับปรุงทำานอง เพลงดนตรีและเพลงร้องรวมทั้งวิธีการร้องและวิธีการบรรเลงให้ เหมาะสมกับการแสดง วงดนตรีที่ใช้เฉพาะการแสดงนี้ทรงปรับปรุงโดย ตัดเสียงที่เล็กแหลมหรือดังเกินไปออก คงไว้แต่เสียงทุ้มนุ่มนวล และ เพิ่มเครื่องดนตรีบางอย่างเข้าในวงปี่พาทย์ คือ ฆ้องหุ่ย ซออู้ กลองตะโพน แทนกลองทัด ขลุ่ยอู้แทนขลุ่ยเพียงออ ตัดระนาดเอกเหล็ก เสริมความรู ครูควรสอน ระนาดทอง เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ ที่เรียกวาระนาดทอง เพราะในสมัยแรกลูกระนาดทําจากทองเหลือง แตปจจุบันทําจากเหล็ก ระนาดทองนี้ใช บรรเลงในวงปพาทยเครื่องใหญและวงมโหรีเครื่องใหญ ฆองหุย หรือฆองชัย เจาพระยาเทเวศรวงศวิวัฒนไดนําฆองหุยหรือ ฆองชัย ๗ ลูก มาปรับเสียงใหเรียงลําดับ ๗ เสียง แขวนรอบตัวผูตี และตีเปนทํานองในวงปพาทยดึกดําบรรพ ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๖. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและแสดงความคิดเห็น โดยใชคําถาม ดังนี้ • ในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีการประดิษฐ เครื่องดนตรีใดเพิ่มในวงปพาทย เครื่องคู (ระนาดเอกเหล็กและระนาดทุมเหล็ก) • ในสมัยรัชกาลที่ ๕ มีวงดนตรีไทย ใดที่เกิดขึ้นใหม (วงปพาทยดึกดําบรรพ) ๗. นั ก เ รี ย น วิ เ ค ร า ะ ห เ ป รี ย บ เ ที ย บ ความเหมือนและความแตกตางของ ดนตรีไทยที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ กับสมัยรัชกาลที่ ๕ เปนแผนภาพ ความคิด


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๙๔ ขอสอบเนนสมรรถนะ 94 ดนตรี ม.๔-๖ ออกเหลือเพียงระนาดทุ้มเหล็กแล้วให้ใช้ไม้นวมตีระนาดเอก ที่เรียกชื่อว่า วงปี่พาทย์ดึกดำาบรรพ์ เนื่องจากให้สอดคล้องกับโรงละครดึกดำาบรรพ์และตามชื่อละครดึกดำาบรรพ์ ในสมัยนี้เริ่มมีการบรรเลงดนตรีสากล และมีการแสดงจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทย มีการ บันทึกเพลงไทยด้วยโน้ตสากล และบรรเลงเพลงไทยโดยใช้เครื่องดนตรีสากล จึงมีการผสมผสาน ระหว่างดนตรีไทยและดนตรีสากล เช่น การแสดงละครดึกดำาบรรพ์เลียนแบบการแสดงละคร โอเปรา การนำาแตรวงมาบรรเลงเพลงไทย เช่น เพลงทะเลบ้า เพลงคลื่นกระทบฝั่ง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงนิพนธ์เพลงสำาหรับแตรวงไว้ หลายเพลง เช่น เพลงวอลตซ์เมขลา เพลงมาร์ชบริพัตร ส่วนเพลงในละครดึกดำาบรรพ์ยังใช้ มาจนปัจจุบันเช่นเพลงในเรื่องพระลอเรื่องอิเหนา สมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่๖) พระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้ปรับปรุงวง ปี่พาทย์มอญขึ้นใหม่โดยใช้เครื่องปี่พาทย์ไทยผสมกับเครื่องดนตรีของ มอญ เช่น ฆ้องวงมอญ ปี่มอญ ตะโพนมอญ เปิงมางฉิ่งฉาบจนเกิด เป็นวงปี่พาทย์มอญเครื่องห้าเครื่องคู่และเครื่องใหญ่ซึ่งนิยมบรรเลง ในงานศพ เนื่องจากเพลงมอญมีท่วงทำานองโศกเศร้า โหยหวน นอกจากนี้ในรัชกาลที่๖มีการนำาเครื่องดนตรีจากต่างชาติเข้ามา ประสมกับเครื่องดนตรีไทยเป็นวงบรรเลงขึ้นใหม่ และนำามาดัดแปลง เป็นเครื่องเล่นของไทยดังนี้ เครื่องดนตรีที่นำามาปรับปรุงเป็นเครื่องดนตรีไทย คือ อังกะลุง ซึ่งหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้ตามเสด็จสมเด็จฯ เจ้าฟ้าภานุรังษีสว่างวงศ์กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชไปประเทศอินโดนีเซียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ ได้นำา เอาอังกะลุงของชวา ซึ่งมี๕ เสียงมาปรับปรุงดัดแปลงจนมีครบ ๗ เสียง มีวิธีบรรเลงโดยใช้เขย่าคนละ ๒ เสียงอีกทั้งยังนำาเพลงของชวามาประดิษฐ์แต่งเป็นเพลงไทยสำาเนียงชวาเช่นเพลงโหมโรงบุเซนซอร์ค เพลงสะมะรัง เพลงยะวา มีการนำาขิมมาประสมกับวงเครื่องสายของไทยเรียกว่าวงเครื่องสายผสมขิมนำาออร์แกนของชาวตะวันตก มาประสมเข้ากับวงเครื่องสายไทยเรียกชื่อวงว่า วงเครื่องสายผสมออร์แกน นอกจากนี้ยังนำาเครื่องดนตรี อื่นๆเข้ามาประสมเป็นวงดนตรีที่เรียกตามชื่อเครื่องดนตรีที่ประสมนั้นคือเปียโนไวโอลิน ฟังได้ทำานอง ไพเราะกลมกลืนเรียกวงดนตรีนี้ว่า วงเครื่องสายผสม ๘. นักเรียนพิจารณาบัตรภาพเครื่องดนตรีไทย บัตรคําเพลงไทย และเหตุการณที่เกิดขึ้น ในรัชกาลที่ ๖-๙ บนกระดาน ดังนี้ จากนั้นนักเรียนจับคู วิเคราะหจําแนก เครื่องดนตรีไทย เพลงไทยและเหตุการณ วาเกิดขึ้นในสมัยรัชกาลใด ดังตัวอยาง ๙. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา ดานรักชาติ ศาสน กษัตริย โดยเลือก พระมหากษัตริยไทยมา ๑ พระองค แลวบอกวาพระองคทานทรงมีบทบาท ตอการพัฒนาดนตรีไทยอยางไร ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 เพลงราตรีประดับดาว (เถา) วงเครื่องสายผสม เพลงยะวา อังกะลุง วงดนตรีไทยประยุกต เพลงแสงเทียน โรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร อังกะลุง เปนเครื่องดนตรีที่มาจากประเทศ อินโดนีเซีย ในภาษาอินโดนีเซีย เรียกวา “ อั ง ค ะ ลุ ง ” ห รื อ “ อั ง ก ลุ ง ” โ ด ย หลวงประดิษฐไพเราะไดนําอังกะลุงเขามา ในประเทศไทยเมื่อราว พ.ศ. ๒๔๕๑ และ ไดนําวงอังกะลุงจากวังบูรพาภิรมย ไปแสดงครั้งแรกในงานทอดกฐินหลวง ที่วัดราชาธิวาส ในสมัยรัชกาลที่ ๖ รอบรูอาเซียนและโลก รัชกาลที่ ๖ รัชกาลที่ ๘ รัชกาลที่ ๙ รัชกาลที่ ๗ อังกะลุง วงเครื่องสายผสม เพลงยะวา โรงเรียน นาฏดุริยางคศาสตร เพลงแสงเทียน วงดนตรี ไทยประยุกต เพลงราตรีประดับดาว (เถา) การบันทึกเพลงไทยดวยโนตสากลเริ่มขึ้นครั้งแรกในสมัยใด ๑ รัชกาลที่ ๓ ๒ รัชกาลที่ ๔ ๓ รัชกาลที่ ๕ ๔ รัชกาลที่ ๖ ๕ รัชกาลที่ ๗ (เฉลย ๓ เพราะในสมัยรัชกาลที่ ๕ เริ่มมีการบรรเลงดนตรีสากลและ มีการแสดงจากตางประเทศเขาสูประเทศไทย มีการบันทึกเพลงไทยดวย โนตสากล) ขอสอบเนนสมรรถนะ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๙๕ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 95 สมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗) พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสนพระราชหฤทัยทาง ด้านดนตรีไทย พระองค์ได้พระราชนิพนธ์บทเพลงไทยไว้ถึง ๓ บทเพลง คือ เพลงโหมโรงคลื่นกระทบฝั่ง ๓ ชั้น เพลงเขมรลออองค์ (เถา) และ เพลงราตรีประดับดาว (เถา) พระองค์และพระราชินีทรงโปรดให้ครูดนตรี เข้าไปถวายการสอนดนตรีในวัง จะเห็นได้ว่าในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มีผู้นิยมเล่นดนตรีไทยกันมากและมีผู้มีฝีมือทางดนตรีตลอดจนมี ความคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้พัฒนาก้าวหน้ามาตามลำาดับ พระมหากษัตริย์ เจ้านาย ตลอดจนขุนนางผู้ใหญ่ได้ให้ความอุปถัมภ์และทำานุบำารุง ดนตรีไทยในวังต่าง ๆ จะมีวงดนตรีประจำาวัง เช่น วงวังบูรพา วงวัง บางขุนพรหม ซึ่งแต่ละวงต่างก็หาครูดนตรีและนักดนตรีที่มีฝีมือเข้ามา ประจำาวงมีการฝึกซ้อมกันอยู่เป็นประจำาบางครั้งก็มีการประกวดประชัน กัน จึงทำาให้ดนตรีไทยเจริญเฟื่องฟูมาก สมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (รัชกาลที่ ๘) พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล การดนตรีไทยในสมัยนี้เป็นสมัยหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สมัยนี้ห้ามการบรรเลงดนตรีไทย แต่ยังอนุญาตให้บรรเลงในงานพิธีหรือ ในบางประเพณีแต่จะต้องไปขออนุญาตที่กรมศิลปากรหรืออำาเภอก่อน และต้องมีบัตรนักดนตรีที่ทางราชการออกให้ นักดนตรีที่มีชื่อเสียงในสมัยนี้ ได้แก่ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) และอาจารย์มนตรี ตราโมท ซึ่งประพันธ์เพลงประกอบบทละครประวัติศาสตร์หลายเพลง เช่น เพลงเพื่อนไทย ใต้ร่มธงไทย ในน้ำ�มีปลา ในนามีข้าว นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งโรงเรียน นาฏดุริยางคศาสตร์ขึ้น ภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนศิลปากร แผนกนาฏดุริยางค์ ต่อมาเป็นโรงเรียนสังคีตศิลปะ และโรงเรียนนาฏศิลป ตามลำาดับ ต่อมาภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นต้นมา รัฐบาลในสมัยนั้น มีนโยบายที่เรียกว่า “รัฐนิยม” ทำาให้มีการห้ามบรรเลงดนตรีไทยเพราะเห็นว่าไม่สอดคล้องกับการพัฒนา ประเทศให้ทัดเทียมกับอารยประเทศ ใครจะจัดให้มีการบรรเลงดนตรีไทยต้องขออนุญาตจากทางราชการ ก่อน อีกทั้งนักดนตรีไทยจะต้องมีบัตรนักดนตรีที่ทางราชการออกให้ วัฒนธรรมทางดนตรีของต่างชาติ ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำาวันของคนไทยมากขึ้น ดนตรีที่เราได้ยินได้ฟังและได้เห็นกันทางโทรทัศน์ หรือที่บรรเลงตามงานต่าง ๆ โดยมากก็เป็นดนตรีของต่างชาติ ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๑๐. นักเรียนคนควาขอมูลทางอินเทอรเน็ต เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในสมัยรัชกาลที่ ๗ วาเหตุการณนั้น สงผลดีหรือผลเสียตอดนตรีไทย อยางไร โดยสรุปเปนแผนภาพ ความคิด ๑๑. นักเรียนรวมกันวิเคราะหวา ในสมัย รัชกาลที่ ๘ ซึ่งเปนสมัยที่ตอมาจาก รัชกาลที่ ๗ นั้น การดนตรีไทย มีการพัฒนาขึ้นอยางไรบาง


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๙๖ ขอสอบเนนสมรรถนะ ตัวอย่างโน้ตสากลในกุญแจซอลและฟาในบันไดเสียง C MAJOR (รัชกาลที่ ๙) 96 ดนตรี ม.๔-๖ วิทยาลัยนาฏศิลป พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร การดนตรีในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาก มีการนำาเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ มีการบรรเลงดนตรีไทย ผสมกับดนตรีสากลเป็นวงดนตรีไทยประยุกต์ เกิดการเรียนการสอนดนตรี-นาฏศิลป์ในระดับการ ศึกษาทุกระดับชั้น ซึ่งมีผู้สนใจศึกษามากขึ้น เกิดสถาบันการศึกษาดนตรีไทยมากขึ้น มีการส่งเสริม อนุรักษ์ทางดนตรีไทยมากขึ้น จะเห็นได้จากการประกวดบรรเลงดนตรีไทย การขับร้องเพลงไทย มีการนำาวงดนตรีไทยมาใช้บรรเลงในงานต่าง ๆ มากขึ้น จึงทำาให้ดนตรีไทยไม่สูญหายไปและยังเป็นที่ รู้จักต่อทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ทรงพระปรีชาสามารถเชี่ยวชาญในดนตรีตะวันตกเป็นอย่าง มาก ทรงพระราชนิพนธ์เพลงขึ้นมากมายหลายเพลง ในทางดนตรีไทย ก็ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ทำานุบำารุง โปรดเกล้าฯ พระราชทานทุนให้ กรมศิลปากรจัดพิมพ์เพลงไทยเป็นโน้ตสากลออกจำาหน่าย ทรงตรวจ คำาอธิบายเพลงด้วยพระองค์เอง และทรงโปรดเกล้าฯ ให้อาจารย์คณะ วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตรวจวัดความสั่นสะเทือน ของเสียงเครื่องดนตรีไทย เพื่อค้นหาระดับเสียงเพื่อวางมาตรฐานเสียง ของดนตรีไทยให้เป็นระดับเดียวกัน เป็นความก้าวหน้าอีกขั้นหนึ่ง ในวงการดนตรี และได้เกิดเพลงไทยที่มีจังหวะ 6 8 ตามแบบของ ตะวันตกขึ้นอีกระดับหนึ่ง ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๑๒. นักเรียนรวมกันวิเคราะหวา ในสมัย รัชกาลที่ ๙ ลักษณะทางดนตรีไทย เปนอยางไร มีความแตกตางจาก สมัยอดีตอยางไรบาง เสริมความรู ครูควรสอน วิทยาลัยนาฏศิลป เดิมมีชื่อวา “โรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร” กอตั้งโดย พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ เปดการเรียนการสอนครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๗ ซึ่งนับเปนสถาบันการศึกษาแหงแรกที่ให การศึกษาทั้งวิชาสามัญและวิชาศิลป ใน พ.ศ. ๒๔๘๘ ไดเปลี่ยนชื่ออีกครั้ง เปน “โรงเรียนนาฏศิลป” พรอมทั้งขยายการศึกษาครอบคลุมทั้ง นาฏดุริยางคศิลปไทยและสากล หลังจากนั้นจึงไดรับการยกฐานะใหเปน “วิทยาลัยนาฏศิลป” เมื่อวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๙๗ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 97 ◆ บทเพลงในยุคนี้ เริ่มตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ยังทรงเป็นพระอนุชา ได้ทรงพระราชนิพนธ์เพลงแรก คือ เพลงแสงเทียน เป็นเพลงบลูส์ แต่ยังไม่ โปรดเกล้าฯ พระราชทานออกมาเพราะมีพระราชประสงค์ที่จะทรงพระราชนิพนธ์แก้ไขให้ดีขึ้น ◆ พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีความถนัด ดนตรีสากลมากโดยเฉพาะในการทรงเครื่องเป่าต่าง ๆ เช่น คลาริเน็ต แซ็กโซโฟน ทรัมเป็ต และมีบทเพลง พระราชนิพนธ์มากมาย ทั้งเพลงพระราชนิพนธ์ประกอบลีลาการแสดงระบำาปลายเท้า ชุดแสงเทียน ชุดมโนราห์ เพลงเราสู้ เพลงความฝันอันสูงสุด ◆ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทำานุบำารุงดนตรีไทย และทรงมีพระปรีชาสามารถในการบรรเลงดนตรีไทยได้หลายประเภท ◆ เกิดบทเพลงในรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้ ✿ บทเพลงประกอบละครร้องแบบไทยสากล เช่น เพลงจันทร์เจ้าขา ขวัญของเรียม ✿ บทเพลงประกอบภาพยนตร์แบบไทยสากล เช่น เพลงชื่นชีวิต เพลงในฝัน เพลงบัวขาว เพลงลมหวล เพลงใจสนองใจ เพลงมาร์ชสยามานุสติ ✿ บทเพลงปลุกใจของพลตรีหลวงวิจิตรวาทการ เช่น เพลงเลือดสุพรรณ เพลงรักเมืองไทย เพลงตื่นเถิดชาวไทย ✿ บทเพลงวงดนตรีสุนทราภรณ์ เป็นวงดนตรีประจำากรมประชาสัมพันธ์ หรือกรมโฆษณาการใน พ.ศ. ๒๔๘๒ เป็นวงดนตรีที่บรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก คือ เพลงยามเย็น มีการนำาเพลงทำานองไทยเดิมมาใส่เนื้อร้องใหม่ ได้แก่ เพลงดวงเดือน เพลงกระแต เพลงลาวดำาเนินทราย พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ขณะทรงดนตรีในวงแจ๊สกับวงเบนนี กู๊ดแมน รูปแบบของดนตรีไทยและดนตรีสากลในสมัยนี้กล่าวสรุป ได้ดังนี้ ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๑๓. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ ๕ คน แ ล ว แ ต ล ะ ก ลุ ม เ ลื อ ก บ ท เ พ ล ง พระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มา ๑ เพลง แลว รวมกันวิเคราะหวาบทเพลงที่เลือก มีความหมายวาอะไร เสริมความรู ครูควรสอน เพลงแสงเทียน เปนเพลงพระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ โปรดเกลาฯ ใหพระเจาวรวงศเธอ พระองคเจาจักรพันธุเพ็ญศิริ จักรพันธุ ทรงประพันธคํารองภาษาไทย ทรงพระราชทานใหนําออกบรรเลง หลังจากเพลงยามเย็น และเพลงสายฝน เพลงบลูส เปนรูปแบบดนตรีที่เกิดจากสภาพชีวิตและความเปนอยูของคนดําที่เปนทาส ไดบรรยายผานบทเพลงเปนทวงทํานอง ที่โศกเศรา รันทด หดหู เพลงความฝนอันสูงสุด เปนเพลงพระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ลําดับที่ ๔๓ เนื่องดวยสมเด็จพระนางเจาสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปหลวงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหพิมพบทกลอน พระราชทานแกขาราชการ ทหาร ตํารวจ พลเรือน และผูทํางานเพื่อประเทศชาติ มิใหทอถอยในการปฏิบัติหนาที่ตอชาติ และกราบบังคมทูล ใหพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานทํานองเพลงความฝนอันสูงสุด


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๙๘ ขอสอบเนนสมรรถนะ อาชีพนักประวัติศาสตร์ดนตรี เว็บไซต์แนะนำา 98 ดนตรี ม.๔-๖ ปัจจุบันบทเพลงไทยมีเกิดขึ้นหลายรูปแบบทั้งบทเพลงไทยสากล บทเพลงไทยลูกทุ่งที่ได้รับ ความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบแก่ผู้ฟังทุกเพศทุกวัย ทำาให้มีการพัฒนารูปแบบบทเพลงที่ทันสมัย ทันเหตุการณ์ตอบสนองความต้องการของผู้ฟังได้จนทำาให้เกิดศิลปินและวงดนตรีต่าง ๆ มากมาย ในปัจจุบัน คำ�ถ�มท้�ท�ย ดนตรีในปัจจุบันมีความแตกต่างกับสมัยอดีตอย่างไร สรุป รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัยมีความแตกต่างกัน แต่ละสมัยมี การพัฒนาบทเพลงและวงดนตรีขึ้นมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน มีการทำาบทเพลงและวงดนตรีที่ ทันสมัย เข้ากับยุคและเหตุการณ์และนำาดนตรีไทยมาประยุกต์ใช้ในงานแสดงต่าง ๆ ทำาให้การ ดนตรีไทยยังคงอยู่และเป็นที่รู้จักแก่เยาวชนรุ่นหลัง นักประวัติศาสตร์ดนตรี เป็นอาชีพที่เกี่ยวกับการศึกษาค้นคว้า รวบรวมประวัติศาสตร์ของ ดนตรีในยุคสมัยต่าง ๆ รวบรวมเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับดนตรี มีทั้งดนตรีไทยและสากล เป็นอาชีพสำาคัญอาชีพหนึ่งที่ทำาให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปได้ทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางดนตรี ที่นักประวัติศาสตร์ดนตรีได้รวบรวมเก็บข้อมูลไว้ ยุคสมัยของดนตรีไทย www.panyathai.or.th เบนนีกู๊ดแมน ได้รับฉายาว่าเป็นราชาแห่งเพลงอะไร เบนนีกู๊ดแมน ได้รับฉายาว่าเป็น ราชาเพลงสวิง หรือคิงออฟสวิง (King of Swing) เป็นนักคลาริเน็ตชาวอเมริกัน จุดประก�ยคว�มรู้ ๑๔. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ ๓-๕ คน แลวแตละกลุมสืบคน วิเคราะห และรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับรูปแบบ ดนตรีไทยในยุคสมัยตาง ๆ แลว ออกแบบและจัดทําการนําเสนอ โ ด ย ใ ช ไ ม โ ค ร ซ อ ฟ ต อ อ ฟ ฟ ศ - เพาเวอรพอยต ๑๕. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปน ความรูรวมกัน ดังนี้ • รูปแบบบทเพลงและวงดนตรี- ไทยในแตละยุคสมัย มีความแตกตางกันและเกิดการพัฒนาขึ้นมากมาย ทําใหบทเพลงและวงดนตรีไทย มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนอง ความตองการของผูฟงจนเปนที่ ชื่นชอบและไดรับความนิยม Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ ๑๖. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ ผลงานหนาชั้นเรียนโดยใชเทคโนโลยี- สารสนเทศ โดยเพื่อนกลุมอื่นและครู รวมกันประเมินผลและตรวจสอบ ความถูกตอง ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 ๑๗. นักเรียนรวมกันรวบรวมผลงานเพลงพระราชนิพนธในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเปดในรายการ เสียงตามสายชวงพักกลางวันเพื่อเผยแพรความรูเกี่ยวกับเพลง พระราชนิพนธและสรางความสุข ความบันเทิงใหกับบุคลากรและนักเรียน ในโรงเรียน Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóÐ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๙๙ สุดยอดคูมือครู กิจกรรมการเรียนรู ยุคสมัยของดนตรี 99 ๑. วงดนตรีไทยและบทเพลงไทยในปัจจุบันมีความโดดเด่นอย่างไร ๒. ในสมัยใดที่เริ่มมีการนำาดนตรีของต่างชาติเข้ามาผสมผสาน ๓. นักเรียนคิดว่าการจัดการเรียนการสอนดนตรีควรมีการพัฒนาอย่างไรให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน ๔. นักเรียนมีวิธีการอนุรักษ์บทเพลงไทยและวงดนตรีไทยอย่างไร ๕. นักเรียนคิดว่าในอนาคตบทเพลงไทยและวงดนตรีไทยจะเป็นอย่างไร ๑. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับบทเพลงและวงดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัย ๒. ให้นักเรียนค้นคว้าบทเพลงไทยในสมัยรัตนโกสินทร์จากนั้นจัดแสดงบนป้ายแสดงผลงาน ภายในห้องเรียน ๓. ให้นักเรียนเปรียบเทียบความแตกต่างของบทเพลงและดนตรีในสมัยอยุธยา และสมัย รัตนโกสินทร์แล้วออกมานำาเสนอหน้าชั้นเรียน ๔. ให้นักเรียนสรุปเกี่ยวกับบทเพลงและวงดนตรีไทยในแต่ละยุคสมัย เป็นแผนภาพ ดังตัวอย่าง ต่อไปนี้ สมัยสุโขทัย สมัยก่อนสุโขทัย สมัยรัตนโกสินทร์ สมัยธนบุรี บทเพลงและวงดนตรีไทย สมัยอยุธยา ในแต่ละยุคสมัย ๑ รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีไทยแต่ละยุคสมัย คำถามพัฒนากระบวนการคิด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ตัวชี้วัด แนวคําตอบ ๑. มี ค ว า ม ไ พ เ ร า ะ ม า ก ขึ้ น มี ก า ร นํ า เทคโนโลยีตาง ๆ มาผสมผสานให นาสนใจ ๒. สมัยอยุธยา ๓. ใหผูเรียนไดฝกปฏิบัติทักษะดานดนตรี และใชสื่อการสอนที่นาสนใจ ๔. ฝกบรรเลงดนตรีไทยและแสดงดนตรีไทย รวมกับกิจกรรมของโรงเรียนหรือชุมชน ๕. มีเนื้อหาในบทเพลงที่ทันสมัย มีการ บรรเลงดนตรีโดยผสมผสานดนตรีกับ วัฒนธรรมอื่น มีการคิดคนเครื่องมือ ใหม ๆ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๐๐ ขอสอบเนนสมรรถนะ 100 ดนตรี ม.๔-๖ มีการปรับปรุงเพลงที่ใช้ร้องทางศาสนาโดยจัดแนวร้องเพิ่มขึ้นอีกแนวหนึ่ง เพิ่มความ หนักแน่นในการร้องและเพิ่มความไพเราะให้กับทำานองเพลงเป็นการเริ่มการร้องเพลงแบบประสานเสียง ๒ แนวมีลักษณะดังนี้ ๑. ปลายยุคกลางประมาณปลายศตวรรษที่๑๐และต้นศตวรรษที่๑๑ได้พัฒนาเครื่องหมาย ในเพลงสวดโดยเขียนเป็นโน้ตเพื่อให้รู้การใช้เสียงสั้น-ยาว ๒. ศตวรรษที่ ๑๒ การบันทึกโน้ตสากลมีความสมบูรณ์ขึ้น โดย กีโด แห่งเมือง อาเรสโซ (Guidod’Arezzo) ๓. ปลายศตวรรษที่๑๓ ได้มีการประสานเสียง ๓ แนว เรียกว่า โมเท็ต (motet) ๔. ศตวรรษที่ ๑๔ ปรับปรุงการประสานเสียง ๓ แนวแบบโมเท็ต แล้วกำาหนดให้ใช้ ภาษาละตินแทน เรียกว่า แมดริกัล (madrigal) ซึ่งเป็นเพลงขับร้องประสานเสียงคำาร้องเป็นเพลงรัก แสดงถึงความรู้สึกอาลัยอาวรณ์มีความสุข มีการนำาเครื่องดนตรีประเภท วิโอล (viol) รีเบก (rebec) ฟลูต(flute) ใช้บรรเลงแทนเสียงขับร้องบางเสียงของเพลงประเภทแมดริกัล ๕. สมัยศตวรรษที่ ๑๕ มีการนำาดนตรีและการขับร้องในศาสนาไปสู่ชาวอิตาเลียน ซึ่งเป็น ชาติที่นิยมการขับร้อง จึงรับการขับร้องประสานเสียงไว้และปรับปรุงดัดแปลงในเวลาต่อมา ดนตรีสากลมีการถือกำาเนิดขึ้นมาช้านาน เริ่มตั้งแต่การนำาดนตรีมาใช้ในการบวงสรวงบูชา เทพเจ้า ต่อมามีการพัฒนาทางด้านดนตรีขึ้นโดยการเป่าใบไม้เป่าเขาสัตว์ดีดเถาวัลย์ดีดคันธนูทำาให้ เกิดเป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด สีตีและเป่า มีการนำาบทสวดมาสวดเป็นทำานองเพลง หรือเรียกว่า เพลงสวด (chant) จนเกิดวิวัฒนาการความเป็นมาแต่ละยุคสมัยแบ่งออกได้ดังนี้ ยุคสมัยของดนตรีสากล ยุคกลาง ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ยุคบาโรก ยุคโรโคโค ยุคคลาสสิก ยุคโรแมนติก ยุคศตวรรษ ที่ ๒๐-ปัจจุบัน ๑. ยุคกลาง (Middle Ages) รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลแต่ละยุคสมัย ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนภาพความคิดการวิเคราะหรูปแบบ ของบทเพลง และวงดนตรีสากลใน ยุคสมัยตาง ๆ ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • นักเรียนอยากเปนนักดนตรีสากลใน ยุคสมัยใด เพราะอะไร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ดนตรีสากลในอดีตมีลักษณะอยางไร ( ตั ว อ ย า ง คํ า ต อ บ นํ า ด น ต รี ม า ใ ช ใ น การบวงสรวงบูชาเทพเจา ใชวัสดุที่มีอยูใน ธรรมชาติในการบรรเลง เชน เขาสัตว ใบไม) • ดนตรีสากลในสมัยปจจุบันมีลักษณะ อยางไร (ตัวอยางคําตอบ มีการนําเทคนิค ตาง ๆ มาปรับใชในเครื่องดนตรี ทําให มีเครื่องดนตรีที่หลากหลาย) ๓. นักเรียนดูบัตรคําบนกระดาน ดังนี้ ยุคกลาง แลวนักเรียนฟงการอธิบายเกี่ยวกับรูปแบบ บทเพลงและวงดนตรีสากลในยุคกลาง จนทุกคนเขาใจ และรวมกันสนทนา โดยใช คําถาม ดังนี้ • ดนตรีในยุคกลางมีลักษณะอยางไร (มีการปรับปรุงเพลงที่ใชรองทางศาสนา และ ตนศตวรรษที่ ๑๑ มีการพัฒนาเครื่องหมาย ในเพลงสวดเกิดการประสานเสียง ๓ แนว ที่เรียกวาโมเท็ต และใชภาษาละตินแทน เรียกวา แมดริกัล ในศตวรรษที่ ๑๕ เกิดการ ประสานเสียง ๔ แนว เรียกวา คอรัส) • บทเพลงในยุคกลางมีลักษณะอยางไร (เปนเพลงในทางศาสนา) ๔. นักเรียนสืบคนและรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับ รูปแบบของดนตรีสากลในยุคสมัยตาง ๆ จากแหลงเรียนรูที่หลากหลาย Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๐๑ สุดยอดคูมือครู ๒. ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ๓. ยุคบาโรก (Baroque) ยุคสมัยของดนตรี 101 ราวศตวรรษที่ ๑๖ ยุโรปฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจซบเซา ประชาชนเสื่อมศรัทธาในศาสนา จึงหันมาใส่ใจในศิลปะและดนตรีมากขึ้น มีการร้องแบบประสานเสียงที่สมบูรณ์ขึ้นและไม่นิยมร้อง เพลงสวดเนื่องจากเป็นเพลงที่ใช้ร้องในโบสถ์เนื้อหาจะเกี่ยวข้องกับศาสนา เช่นการร้องสวดสรรเสริญ พระเจ้าหรือสวดมนต์ในสมัยนี้มีนักร้องสมัครเล่นมากขึ้นมีการพิมพ์โน้ตดนตรีใช้เครื่องดนตรีบรรเลง ประกอบการเต้นรำา เครื่องดนตรีที่ใช้ได้แก่ โบว์วิโอล (bowed viol) ลูต (lute) เวอร์จินัล (virginal) และออร์แกน(organ) บทเพลงที่บรรเลงเป็นเพลงแบบแมดริกัล เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในประเทศอิตาลีและ อังกฤษ ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ. ๑๖๐๐-๑๗๕๐ คำาว่า “บาโรก” (Baroque) เป็นคำาที่ใช้กับ ศิลปะทุกแขนง หมายถึง ลักษณะที่โอ่อ่า สง่างาม ลักษณะเช่นนี้เริ่มต้นที่ประเทศอิตาลีแล้วจึง แพร่หลายไปทั่วยุโรป ดนตรีในยุคบาโรกเริ่มต้นในปลายศตวรรษที่ ๑๖ จนถึงราวศตวรรษที่ ๑๘ รวมเวลาประมาณ ๑๕๐ ปีนับเป็นเวลาที่ยาวนานมาก จึงมีเหตุการณ์ทางด้านดนตรีที่มีการพัฒนาและ การเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา ซึ่งมีความแตกต่างไปกว่ายุคอื่น ๆ มาก ทั้งด้านเครื่องดนตรีคีตลักษณ์ และคีตกวี ลักษณะของดนตรีในยุคบาโรกจะแตกต่างจากยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการดังนี้ ๑. นิยมใช้บันไดเสียง เมเจอร์ไมเนอร์แทนโมด (mode) คือ บันไดเสียงทางดนตรี มีทั้งที่สื่อถึงความเงียบสงบและอึกทึกครึกโครม ๒. มีการใช้เทคนิคและกลวิธีเกี่ยวกับความช้า-เร็วดัง-เบาลงในเพลง ๓. มีการใช้เครื่องดนตรีตั้งแต่ ๒๐-๓๐ ชิ้น ในการบรรเลง นับเป็นการเริ่มของวงออร์- เคสตรา (orchestra)การบรรเลงด้วยนักดนตรีจำานวนมากเช่นนี้ทำาให้เกิดผู้ควบคุมวงดนตรีคือวาทยกร (conductor) หรือผู้อำานวยเพลงขึ้นในยุคบาโรกนี้ผู้อำานวยเพลงจะนั่งเล่นฮาร์ปซิคอร์ด และพยักหน้า เป็นสัญญาณให้นักดนตรี ๖. กลางศตวรรษที่ ๑๕ การร้องได้พัฒนาโดยการประสานเสียง ๔ แนว หรือ ๔ เสียง คือ เสียงโซปราโน (soprano) เสียงอัลโต (alto) เสียงเทเนอร์ (tenor) และเสียงเบส (bass) เรียกว่าคอรัส (chorus) บทเพลงที่เกิดขึ้นในยุคกลางจึงเป็นเพลงที่เกี่ยวกับศาสนา ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๕. นักเรียนแบงกลุม รวมกันวิเคราะห เปรียบเทียบความเหมือนและความ แตกตางเกี่ยวกับรูปแบบดนตรีสากล ในยุคกลางกับยุคฟนฟูศิลปวิทยา แลวเขียนสรุปเปนแผนภาพความคิด ๖. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นวา รูปแบบดนตรีสากลในยุคบาโรกพัฒนา ขึ้นจากยุคฟนฟูศิลปวิทยาอยางไร เปนแผนภาพความคิด ดังตัวอยาง วงออรเคสตราและโอเปราเกิดขึ้นในยุคสมัยใด ๑ ยุคกลาง ๒ ยุคบาโรก ๓ ยุคคลาสสิก ๔ ยุคโรแมนติก ๕ ยุคฟนฟูศิลปวิทยา (เฉลย ๒ เพราะวงออรเคสตราและโอเปราเกิดขึ้นในยุคบาโรก) เกิดอุปรากร หรือโอเปรา มีแนวเบส ตอเนื่อง เริ่มมีวงออรเคสตรา และวาทยกร นิยมใชบันไดเสียงเมเจอร และไมเนอร การพัฒนา รูปแบบดนตรีสากล ในยุคบาโรก ใชบรรทัด ๕ เสน กุญแจซอล กุญแจฟา กุญแจอัลโต กุญแจเทเนอร ตัวโนต ตัวหยุด เสนกั้นหอง ขอสอบเนนสมรรถนะ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๐๒ ขอสอบเนนสมรรถนะ ความรู้เพิ่มเติม 102 ดนตรี ม.๔-๖ ๔. กลุ่มผู้ดีชาวฟลอเรนซ์อิตาลีได้นำานาฏกรรมของกรีกโบราณผสมผสานกับการขับร้อง แบบใหม่ เรียกว่า อุปรากรหรือโอเปรา (opera) ๕. ดนตรีเกี่ยวกับศาสนาหรือเพลงโบสถ์ในยุคบาโรกนี้แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทได้แก่ ๕.๑ ดนตรีในศาสนพิธี(Liturgical Music) คือ ดนตรีที่ใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ของ ศาสนาคริสต์ในฝ่ายคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ได้แก่ แมส และโมเท็ต เพลงแมสที่มีชื่อเสียงที่สุด ในยุคนี้คือ Mass inB Minor ของโยฮันน์เซบาสเตียนบาค(JohannSebastianBach) ๕.๒ ดนตรีนอกศาสนพิธี(Non-Liturgical Music) คือ ดนตรีที่แม้ว่าไม่ได้ใช้ ในพิธีกรรมต่าง ๆ แต่เนื้อหาก็ยังเกี่ยวข้องกับศาสนา ได้แก่ เพสชัน (passion) และออราทอริโอ (oratorio) ๖. เพลงฆราวาสหรือเพลงคฤหัสถ์มีการใช้การโต้ตอบกันขึ้นระหว่างนักร้องกับเครื่องดนตรี หรือการบรรเลงเดี่ยวตอบโต้กับการบรรเลงกลุ่มอันเป็นต้นแบบของคอนเชอร์โต(concerto) ๗. มีการพัฒนาการบันทึกตัวโน้ตจนเป็นลักษณะที่ใช้กันในปัจจุบัน คือ การใช้บรรทัด ๕ เส้น (staff)การใช้กุญแจซอล (treble clef) กุญแจฟา (bass clef) กุญแจอัลโต (alto clef) และ กุญแจเทเนอร์ (tenor clef)มีการใช้ตัวโน้ตและตัวหยุดแทนความยาวของจังหวะและตำาแหน่งของตัว โน้ตบนบรรทัด๕เส้นแทนระดับเสียงมีตัวเลขบอกอัตราจังหวะมีเส้นกั้นห้องและสัญลักษณ์อื่นๆเพื่อ ใช้บันทึกลักษณะของเสียงดนตรี ๘. คีตลักษณ์ในยุคบาโรก มีรูปแบบหรือกฎเกณฑ์ที่ไม่ชัดเจนหรือตายตัวนัก ส่วนใหญ่ ยังคงยึดแนวจากยุคกลางและยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ และมีการพัฒนารูปแบบของเพลงบางชนิดขึ้นมา เช่น โซนาตา (sonata) และมีการเขียนต้นฉบับของเพลงต่าง ๆ เก็บไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งตำารา การประสานเสียง กุญแจโดอัลโต ใช้กับระดับเสียงกลางถึงสูง กำาหนดให้บันทึกในคาบเส้นที่ ๓ ชื่อ โด (C) กุญแจโดเทเนอร์ ใช้กับระดับเสียงกลางถึงต่ำ� กำาหนดให้บันทึกในคาบเส้นที่ ๔ ชื่อ โด (C) โด (C) โด (C) ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๗. ครูนําบัตรคํา แลวคว ําลงบนโตะหนาชั้นเรียน ดังนี้ โมเท็ต กีโด แหงเมืองอาเรสโซ แมดริกัน คอรัส หามรองเพลงสวด โอเปรา มีการพิมพโนตดนตรี เพลงสไตลโฮโมโฟนี วงออรเคสตรา เพลงแมส เพสชัน เพลงฆราวาส ใชบันไดเสียงเมเจอร ไมเนอร แทนโมด นักเรียนรวมกันเลนเกม จับคูกันเฉลย นักเรียนฟงคําอธิบายวิธีเลนเกม ดังนี้ นักเรียนแบงกลุม ๔-๕ กลุม แลวครูเปด บัตรคําทีละใบ นักเรียนบอกวาขอความใน บัตรคําสัมพันธกับยุคใด เชน ครูเปด บัตรคําโอเปรา นักเรียนก็ตองตอบวา ยุคบาโรก กลุมใดตอบถูกมากที่สุด ถือวาเปนฝายชนะ จากนั้นนักเรียนและครู รวมกันนําคําตอบที่ไดจากการเลนเกม สรุปเปนแผนภาพความคิด ๘. นักเรียนแบงกลุม ๓ กลุม แลวแตละกลุม สงตัวแทนออกมาจับสลาก เลือกยุคสมัย ของดนตรี ตามหัวขอ ดังนี้ • ยุคกลาง • ยุคฟนฟูศิลปวิทยาการ • ยุคบาโรก จากนั้นรวมกันคนควาเกี่ยวกับรูปแบบ บทเพลงและวงดนตรีสากลในหัวขอกลุม ของตนเอง แลวจัดทําการนําเสนอ โดยใชไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ๙. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปนความรู รวมกันเกี่ยวกับบทเพลงและวงดนตรี ในยุคกลาง ยุคฟนฟูศิลปวิทยาการ และ ยุคบาโรกเปนแผนภาพความคิด Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ ๑๐. นักเรียนออกมานําเสนอผลงานหนาชั้นเรียนโดยใชเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยเพื่อน และครูรวมกันประเมินผลและตรวจสอบความถูกตอง ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 ๑๑. นักเรียนชวยกันรวบรวมไฟลงานที่จัดทําโดยใชไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ไปโพสตในเว็บไซตของโรงเรียน เพื่อเผยแพรความรูแกผูที่สนใจศึกษา Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóÐ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๐๓ สุดยอดคูมือครู ๔. ยุคโรโคโค (Rococo) ๕. ยุคคลาสสิก (Classic) ยุคสมัยของดนตรี 103 ปลายศตวรรษที่ ๑๗ เป็นยุคที่ศิลปะทุกอย่างมีความงดงาม หรูหรา เป็นสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่๑๔ และ๑๕ของฝรั่งเศสบทเพลงที่ใช้เรียกบทเพลงโรโคโคหมายถึงดนตรีในแบบของ ซี.พี. อี.บาค. (Carl Philpp Emanuel Bach) นักประพันธ์เพลงในยุคนี้จะต้องแต่งเพลงประกอบการแสดง ละครโอเปรา โซนาตา แคนตาตา และซิมโฟนีทั้งสิ้นยุคนี้เป็นยุคคาบเกี่ยวกับยุคบาโรกและยุคคลาสสิก คำาว่า “คลาสสิก” (Classic) หมายถึง แบบแผนและกฎเกณฑ์ของอารมณ์และอุดมคติ ที่สง่า งดงามอันเป็นอมตะ ยุคคลาสสิกเป็นยุคที่เชื่อมต่อจากยุคบาโรก รูปแบบของดนตรีเริ่มมีการ เปลี่ยนแปลงในตอนต้นศตวรรษที่ ๑๘ แล้วในตอนปลายศตวรรษที่ ๑๘ เป็นช่วงที่ประชาธิปไตย เริ่มเบ่งบาน ประชาชนมีความเป็นอิสระในด้านความคิดและสังคมต่าง ๆ มากขึ้น ในยุคนี้เริ่มมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ลักษณะของดนตรีในยุคคลาสสิกมีดังนี้ ๑. ดนตรีในยุคคลาสสิกเป็นดนตรีสำาหรับเครื่องดนตรีมากกว่าการขับร้อง เริ่มใช้วง ออร์เคสตรา (orchestra)ที่มีขนาดใหญ่และจำานวนเครื่องดนตรีมากขึ้น ๒. ดนตรีในยุคคลาสสิกมีรูปแบบการประพันธ์ที่สมบูรณ์เป็นต้นแบบของเพลงคลาสสิกใน ยุคต่อ ๆ มาที่นำามาใช้และพัฒนาบ้าง เพลงประเภทซิมโฟนีคอนเชอร์โต และโซนาตา ได้รับความนิยม และรุ่งเรืองอย่างสูงสุดจากนักประพันธ์เพลงและผู้ชมเป็นจำานวนมาก ๓. มีการปฏิรูปอุปรากร โดยเน้นที่บทบาทของดนตรีและการแสดง แบ่งอุปรากรออกเป็น ๒ แบบ คือ อุปรากรหนัก (Grand Opera หรือ Opera Seria) เรื่องราวของอุปรากรประเภทนี้ มักจะเป็นเรื่องของความเก่งกาจของพระเอก หรือเป็นเรื่องโศกนาฏกรรม อุปรากรเบาสมอง (Comic Opera) เรื่องราวของอุปรากรประเภทนี้มักจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกสนานตลกขบขันนักประพันธ์ที่เป็นผู้นำา ในด้านการประพันธ์อุปรากร ได้แก่ โมซาร์ต ๔. ยังคงนิยมการใช้ความเข้มของเสียง และเทคนิคต่างๆในการบรรเลง ๕. เครื่องดนตรีที่นิยมกันมากในยุคนี้คือเปียโน ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาใช้แทนฮาร์ปซิคอร์ดใน ยุคนี้คีตกวีได้แต่งบทเพลงสำาหรับเปียโนไว้มาก ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ภาระงาน/ชิ้นงาน จัดทําผลการอภิปรายและผลการคนควา เกี่ยวกับบทเพลงและดนตรีในยุคสมัยตาง ๆ โดยใชไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ถายอนเวลากลับไปได นักเรียน อยากมีสวนรวมทางดนตรีในยุคสมัยใด มากที่สุด เพราะอะไร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ดนตรีในยุคโรโคโคมีลักษณะอยางไร (เปนดนตรีในแบบของ ซี.พี.อี.บาค.) • บทเพลงในยุคโรโคโคมีลักษณะ อยางไร (เปนบทเพลงโรโคโค และ เพลงประกอบการแสดงละครโอเปรา โซนาตา แคนตาตา และซิมโฟนี) • ดนตรีในยุคคลาสสิกมีลักษณะ อ ย า ง ไ ร ( เ ริ่ ม มี ว ง อ อ ร เ ค ส ต ร า ที่ มี ขนาดใหญขึ้น มีการปฏิรูปอุปรากรเปน อุปรากรหนัก และอุปรากรเบาสมอง นิยม เลนเปยโน และนิยมวงเชมเบอรมิวสิก เริ่มมีสตริงควอเท็ต) • บทเพลงในยุคคลาสสิกมีลักษณะ อยางไร(เปนเพลงคลาสสิก เพลงประเภท ซิ ม โ ฟ นี ค อ น เ ช อ ร โ ต แ ล ะ โ ซ น า ต า (เพลงโบสถ)) อุปรากรที่ไดชื่อวาเปนอุปรากรแหงบูรพาคือการแสดงของชนชาติใด ๑ จีน ๒ ญี่ปุน รอบรูอาเซียนและโลก Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๐๔ ขอสอบเนนสมรรถนะ ๖. ยุคโรแมนติก 104 ดนตรี ม.๔-๖ ๖. เนื่องจากในยุคนี้มีการขยายตัวในด้านอื่นๆอย่างเป็นอิสระมากขึ้นดนตรีเกี่ยวกับศาสนา ยังคงใช้รูปแบบของเพลงในยุคบาโรก มีการแต่งเพิ่มบ้างโดยคีตกวีที่มีชื่อเสียง ส่วนเพลงฆราวาส หรือ เพลงคฤหัสถ์ก็มีโอราโตริโอ ๗. วงเชมเบอร์มิวสิก ยังเป็นที่นิยมกันอยู่ และเริ่มมีสตริงควอเท็ต (string quartet) ซึ่งบุกเบิกโดยไฮเดิน ยุคโรแมนติก เริ่มต้นในศตวรรษที่ ๑๙ (ค.ศ. ๑๘๒๐-ค.ศ. ๑๙๐๐) ดนตรีในยุคนี้ เน้นการแสดงออกถึงอารมณ์ของผู้ประพันธ์เพลง เนื่องจากผู้ประพันธ์เพลงสามารถแต่งตามความถนัด และความชอบของตนเอง จึงทำาให้บทเพลงไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว นิยมประพันธ์ในรูปแบบการบรรยาย เรื่องราว (program music)ผู้ประพันธ์เพลงในยุคโรแมนติกต่างเน้นลักษณะดนตรีประจำาชาติของตน โดยนำาทำานองหรือลักษณะเพลงมาประยุกต์ใช้กับเพลงที่ตนเองประพันธ์ขึ้นซึ่งมีลักษณะดังนี้ ๑. ทำานองดนตรีเด่นชัดในด้านการบรรยายความรู้สึกของตนเอง ๒. การแบ่งวรรคตอนของเพลงยืดหยุ่นไม่แน่นอน ๓. มีการคิดคอร์ดดนตรีใหม่ๆเพื่อใช้บรรยายความรู้สึกได้เด่นชัดมากขึ้น ๔. มีการใช้โน้ตครึ่งเสียงและการเปลี่ยนบันไดเสียงไปสู่อีกบันไดเสียงหนึ่งทำาให้เกิดแนวคิด ในการพัฒนาบันไดเสียงในยุคต่อๆมา ๕. รูปแบบของเพลงยังคงเป็นรูปแบบโซนาตาอัลเลโกร ๖. บทเพลงประเภทโอเปรา ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการล้อเลียนการเมือง ความรักที่อ่อนหวานไปจนถึงโศกนาฏกรรม คีตกวีที่เกิดขึ้นในยุคคลาสสิก คือใครบ้าง ✾ ฟรานซ์ โจเซฟ ไฮเดิน (Franz Joseph Haydn) บิดาแห่งเพลงซิมโฟนี ✾ โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ต (Wolfgang Amadeus Mozart) บิดาแห่งบทเพลง สตริงควอเท็ต ✾ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน (Ludwig van Beethoven) เป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น สังคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ จุดประก�ยคว�มรู้ Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóР¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๓. นักเรียนรวมกันวิเคราะหเปรียบเทียบความเหมือน และความแตกตางของรูปแบบดนตรีสากลระหวาง ยุคโรแมนติกกับยุคศตวรรษที่ ๒๐-ปจจุบัน แลวเขียนสรุปในรูปแบบแผนภาพความคิด ๔. นักเรียนแบงกลุม ๓ กลุม ออกมาจับสลากเลือก ยุคสมัยดนตรี ไดแก ยุคโรโคโค ยุคคลาสสิก และ ยุคโรแมนติก ใหแตละกลุมศึกษาคนควาเกี่ยวกับ บทเพลงและดนตรีในยุคสมัยที่กลุมจับสลากได แลว รวมกันอภิปรายและสรุปผลการศึกษาคนควา โดย จัดทําเปนไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ๕. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปนความรูรวมกัน ดังนี้ • รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลในแตละ ยุคสมัยมีความแตกตางกัน และเกิดการพัฒนาขึ้น มากมายทําใหบทเพลงและวงดนตรีมีความ หลากหลาย เพื่อตอบสนองความตองการของผูฟง จนเปนที่ชื่นชอบและไดรับความนิยม ๖. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอผลการศึกษา คนควาเกี่ยวกับบทเพลงและเครื่องดนตรีใน ยุคสมัยตาง ๆ โดยเพื่อนกลุมอื่นและครูรวมกัน ประเมินผลและใหขอเสนอแนะเพิ่มเติม ๗. นักเรียนรวมกันบันทึกไฟลงานที่จัดทําโดยใช ไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยตลงในแผนซีดี แลวมอบใหหองสมุดของโรงเรียน เพื่อเผยแพร ความรูแกผูที่สนใจศึกษา สตริงควอเท็ต (string quartet) เปนวงดนตรีที่ประกอบดวยเครื่องสาย คือ มีผูเลนไวโอลิน ๒ คน วิโอลาและเชลโลอยางละ ๑ คน เสริมความรู ครูควรสอน


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๐๕ สุดยอดคูมือครู ๗. ยุคศตวรรษที่ ๒๐-ปัจจุบัน ยุคสมัยของดนตรี 105 ๗. เพลงคฤหัสถ์เป็นเพลงที่นิยมประพันธ์กันมากในยุคนี้โดยเป็นเพลงในลักษณะแมส และสวดศพ ๘. เปียโนได้พัฒนาให้ดีขึ้นในยุคโรแมนติกผู้ประพันธ์ในยุคนี้ที่ควรรู้จักได้แก่ เนื่องจากความเจริญทางด้านเครื่องดนตรีจึงทำาให้ลักษณะของดนตรีในศตวรรษนี้มีหลาย รูปแบบดังนี้ ๑. เกิดงานประพันธ์ทางด้านดนตรีมากเกินความต้องการ เกิดการแข่งขันโดยคำานึงถึง ปริมาณมากกว่าคุณภาพ การแต่งเพลงไม่ยึดถือรูปแบบจากยุคเก่า ๆ ที่คีตกวีรุ่นเก่าปฏิบัติต่อ ๆ กันมา เหมือนยุคก่อน ๆ แต่เป็นไปอย่างอิสรเสรีนอกจากนี้เสียงที่เกิดจากเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ยังทำาให้ รูปแบบของเพลงแตกต่างกันออกไป ๒. มีคีตกวีแต่งเพลงประกอบบัลเลต์มากขึ้น ส่วนโอเปราที่เคยรุ่งเรืองค่อย ๆ ลดบทบาทลง และมีละครเพลง (musicalplay) เข้ามาแทนที่รวมถึงภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ๓. เพลงโบสถ์ในยุคนี้มีการแต่งเพลงศาสนาบ้าง แต่เป็นไปในแนวของเพลงคฤหัสถ์ มากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพลงขับร้องสมัยใหม่ ๔. เกิดธุรกิจเกี่ยวกับดนตรีมากมายเช่นการจัดคอนเสิร์ตทั้งเล็กและใหญ่การบันทึกเพลง ลงในแผ่นเสียงและแถบบันทึกเสียงการพิมพ์โน้ตเพลงและวารสารทางดนตรี ๕. มีการผสมผสานโครงสร้างของเพลงระหว่างรูปแบบเก่ามาใช้กับรูปแบบใหม่ แต่ยัง คงยึดถือรูปแบบของดนตรีคลาสสิกไว้เป็นอย่างดีทั้งผู้เล่นและผู้ฟัง จึงดูเหมือนว่ายุคนี้เป็นยุคที่มี การแบ่งดนตรีออกเป็นสองขั้วคือดนตรีคลาสสิก และดนตรีสมัยใหม่ ❍ เบโธเฟน ❍ รอสซินี ❍ ไชคอฟสกี ❍ โบโรดิน ❍ ชูมานน์ ❍ โชแปง ❍ แวร์ดี ❍ ดวอชาค ขอใดเปนลักษณะของดนตรีในยุคโรแมนติก ๑ ใชบรรทัด ๔ เสน เพื่อระบุเสียงสูง-ต ํา ๒ มีแนวเบสตอเนื่อง ๓ ใชโนตครึ่งเสียง ๔ ใชคอรดที่มีเสียงกระดาง ๕ เพลงประเภทซิมโฟนีไดรับความนิยม (เฉลย ๓ เพราะยุคโรแมนติก ดนตรีมีการใชโนตครึ่งเสียงและการเปลี่ยนบันไดเสียง ไปสูอีกบันไดเสียงหนึ่ง สวน ๑ - ยุคกลาง ๒ - ยุคบาโรก ๔ - ยุคศตวรรษที่ ๒๐ (ดนตรีอิมเพรสชันนิส) ๕ - ยุคคลาสสิก) ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ภาระงาน/ชิ้นงาน จัดทําผลการอภิปรายรูปแบบของบทเพลง และวงดนตรีในยุคสมัยตาง ๆ โดยใช ไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ถานักเรียนเปนนักรองซูเปอรสตาร ของเอเชีย นักเรียนอยากรองเพลง ลักษณะใด เพราะอะไร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ดนตรีในยุคศตวรรษที่ ๒๐- ปจจุบัน มีลักษณะอยางไร (เกิดความเจริญทางดานดนตรี เกิด การแขงขันทางดนตรี เกิดธุรกิจดนตรี มีการผสมผสานทางดนตรีรูปแบบเกา และรูปแบบใหม ทําใหเกิดผลงาน ดนตรีหลากหลายรูปแบบ) • บทเพลงในยุคศตวรรษที่ ๒๐- ปจจุบัน มีลักษณะอยางไร (เกิดบทเพลงหลากหลายรูปแบบทาง ดนตรี มีเพลงประกอบการแสดง เชน ละครเพลง เพลงโบสถ สวนใหญเปน แนวเพลงคฤหัสถ ซึ่งเปนเพลงขับรอง สมัยใหม) Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ ขอสอบเนนสมรรถนะ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๐๖ ขอสอบเนนสมรรถนะ 106 ดนตรี ม.๔-๖ คีตลักษณ์(form)คือลักษณะรูปแบบหรือโครงสร้างของบทเพลงที่เป็นแบบแผนในดนตรี ตะวันตกมีหลายประเภทดังนี้ ๑. ซิมโฟนี (symphony) เป็นภาษาเยอรมัน แปลว่า เสียงที่รวมกัน (Sounding together) มีความหมายได้สองนัยคือ หมายถึง วงดนตรีและบทประพันธ์เพลงสำาหรับวงซิมโฟนี เกิดขึ้นในราวปลายสมัยบาโรก และปรับปรุงจนเป็นแบบแผนมาตรฐานในยุคคลาสสิก และใช้ต่อกัน มาจนถึงยุคปัจจุบัน นักประพันธ์เพลงในยุคคลาสสิกจะนิยมแต่งบทเพลงซิมโฟนีกันมาก นักประพันธ์ เพลงที่สำาคัญ ได้แก่ ไฮเดินและโมสาร์ท โดยเฉพาะไฮเดินแต่งซิมโฟนีไว้ถึง ๑๐๖ บท จนได้รับฉายา ว่า “บิดาแห่งซิมโฟนี” ซิมโฟนีเป็นบทเพลงขนาดใหญ่สำาหรับวงออร์เคสตรา ประกอบไปด้วยบทเพลง ๓ หรือ ๔ ท่อน มีการจัดรูปแบบความเร็ว ช้า และปานกลางไว้อย่างเหมาะสมลงตัว ลักษณะของซิมโฟนี มีดังนี้ ท่อนแรก มีส่วนสำาคัญสามส่วนคือส่วนเสนอทำานองหลักในส่วนนี้ใช้จังหวะเร็วส่วน พัฒนาทำานองหลักและส่วนย้อนกลับด้านเนื้อหาของส่วนนี้มีความสลับซับซ้อน ท่อนที่สอง แนวทำานองไพเราะอ่อนหวานคล้ายเพลงร้อง บางครั้งอาจเศร้า ใช้รูปแบบ เทอร์นารี(ternary) (A-B-A) ท่อนที่สาม เป็นท่อนที่มีแนวทำานองแปลก ๆ สนุกสนาน ตลกหรืออาจเป็นจังหวะเต้นรำา ของเพลงพื้นเมือง ท่อนที่สี่ มีลักษณะคล้ายกับท่อนแรก มีความลึกซึ้งของเนื้อหาเหมือนกับท่อนแรก มี ลักษณะจังหวะที่เร็วและเร้าใจ ๒. คอนเชอร์โต (concerto) หมายถึง บทเพลงที่มีเครื่องดนตรีเดี่ยวหรือกลุ่ม เล่นประชัน กับวงออร์เคสตรา และบางครั้งอาจใช้เรียกการขับร้องเดี่ยวหรือประสานเสียงกับวงดนตรีก็ได้ คอนเชอร์โตเกิดขึ้นในยุคบาโรก แต่รูปแบบการประพันธ์ยังไม่แน่นอน ได้รับการพัฒนา ขึ้นมาเป็นรูปแบบในยุคคลาสสิก ยุคบาโรกเรียกบทเพลงแบบนี้ว่า คอนเชอร์โตกรอสโซ ผู้มีชื่อเสียงใน การแต่งเพลงแบบนี้ในยุคบาโรกคือวิวัลดีในTheFourSeasons ใช้ไวโอลินเดี่ยวกับวงดนตรีต่อมา ในยุคคลาสสิกโมซาร์ตได้แต่งโซโลคอนเชอร์โต ในยุคโรแมนติกเบโธเฟนได้นำารูปแบบคอนเชอร์โตของ โมซาร์ตมาใช้บทเพลงคอนเชอร์โตมีความสำาคัญต่อวงออร์เคสตราคอนเชอร์โตที่สำาคัญมี๒ประเภทได้แก่ ๓. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • คีตลักษณ หมายถึงอะไร (รูปแบบ ลักษณะโครงสรางของบทเพลง) • ลักษณะของซิมโฟนีมีกี่ทอนเพลง (๔ ทอนเพลง) • แตละทอนเพลงมีลักษณะอยางไร ( ท อ น แ ร ก มี ค ว า ม ส ลั บ ซั บ ซ อ น ทอนที่สอง มีทํานองไพเราะออนหวาน หรือเศรา ทอนที่สาม มีทํานองสนุกสนาน ทอนที่สี่ มีลักษณะคลายทอนแรก มีจังหวะเร็ว เราใจ) • คอนเชอรโตมีกี่ประเภท อะไรบาง (๒ ประเภท คือ คอนเชอรโตกรอสโซ และคอนเชอรโตโซโล) • คอนเชอรโตกรอสโซ มีลักษณะ อยางไร (เปนบทเพลงที่มีหลายทอน ใชบรรเลงในวงออรเคสตรา และ เครื่องดนตรีเดี่ยว เนนความแตกตาง มีจํานวนทอนเพลงไมแนนอน) • คอนเชอรโตโซโล มีลักษณะอยางไร (เปนบทเพลงสําหรับวงออรเคสตรา ประกอบดวย ๓ ทอน คือ เร็ว-ชา-เร็ว) เสริมความรู ครูควรสอน เทอรนารี (ternary) คือ ลักษณะเพลงที่มี ๓ ทอน (tree part form) หรือทํานองหลัก ๓ ลักษณะ โดยมีสวนกลางแตกตางไปจากสวนตนและ สวนทาย ซึ่งบทเพลงทั่วไปจะเปนรูปแบบนี้ Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๐๗ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 107 ๑) คอนเชอร์โตกรอสโซ (concerto grosso) เป็นบทเพลงที่มีหลายท่อน บรรเลง ด้วยเครื่องดนตรี๒ กลุ่มกลุ่มที่๑คือวงออร์เคสตราอีกกลุ่มหนึ่งเป็นเครื่องดนตรีเดี่ยวมีเครื่องดนตรี ๓ ชิ้นผลัดกันบรรเลง เน้นความแตกต่างของสีสันมีจำานวนท่อนเพลงไม่แน่นอน ๒) คอนเชอร์โต (concerto) หมายถึง คอนเชอร์โตโซโล คือ บทเพลงสำาหรับวง ออร์เคสตรา และเครื่องดนตรีเดี่ยวชนิดใดชนิดหนึ่ง คอนเชอร์โตที่เป็นมาตรฐานประกอบด้วย ๓ ท่อน คือเร็ว-ช้า-เร็วดังนี้ ท่อนที่หนึ่ง เป็นส่วนเสนอทำานองหลักสองส่วน ส่วนแรกบรรเลงโดยวงออร์เคสตรา ส่วนที่สองบรรเลงโดยวงออร์เคสตราและเครื่องดนตรีเดี่ยว เป็นการประชันสีสัน เทคนิค และสาระของ ดนตรีระหว่างวงออร์เคสตราและเครื่องดนตรีเดี่ยว ส่วนใหญ่มีจังหวะเร็ว ช่วงนี้จัดเป็นช่วงที่เด่นและ เป็นลักษณะเฉพาะของคอนเชอร์โตอย่างแท้จริง ท่อนที่สอง มีลักษณะทำานองไพเราะ มีจังหวะช้า มักใช้รูปแบบของฟอร์ม A-A-B-B หรือ A-B-A ท่อนที่สาม เป็นท่อนที่มีแนวทำานองและการเรียบเรียงเสียงประสานที่มีลักษณะสง่างาม มีจังหวะเร็วคล้ายท่อนแรก ๓. โซนาตา (sonata) เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า ฟัง เป็นบทเพลงที่มีความสำาคัญและ มีบทบาทมาตั้งแต่ยุคบาโรกจนถึงปัจจุบัน ในยุคบาโรก โซนาตา หมายถึง บทเพลงที่บรรเลงด้วยกลุ่ม เครื่องดนตรีเล็ก ๆ แต่แบ่งออกเป็นโซนาตาที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีชนิดเดียวหรือสองชนิด ส่วนใหญ่ จะเป็นเครื่องดนตรีชนิดเดียวและให้เครื่องดนตรีอีกชนิดคลอให้บทเพลงสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น เรียกว่า โซโลโซนาตา โซนาตาเป็นรูปแบบผสมทั้งซิมโฟนีและคอนเซอร์โต คือมี๔ ท่อนเหมือนซิมโฟนีและมี ๓ ท่อนเหมือนคอนเชอร์โต โซนาตาในยุคบาโรกมี๒ ลักษณะ ได้แก่ ๑) โซนาตาสำาหรับวัด หรือเพลงโบสถ์เป็นเพลงชั้นสูง เน้นรูปแบบการสอดประสาน ทำานองประกอบด้วย ๔ ท่อนคือช้า-เร็ว-ช้า-เร็ว ๒) โซนาตาคฤหัสถ์หรือฆราวาส เป็นเพลงที่ใช้บรรเลงตามบ้าน มีลักษณะเป็นเพลง ชุดเต้นรำา เสริมความรู ครูควรสอน วงออรเคสตรา ในปจจุบันมี ๒ ลักษณะ คือ วงออรเคสตราขนาดเล็ก มีผูเลน ไมเกิน ๖๐ คน และวงออรเคสตราขนาดใหญ มีผูเลนประมาณ ๘๐-๑๐๐ คน ๔. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • โซนาตา หมายถึงอะไร (บทเพลง ที่บรรเลงดวยกลุมเครื่องดนตรีเล็ก ๆ) • โซนาตาในยุคบาโรก มีกี่ลักษณะ อะไรบาง (๒ ลักษณะ คือ โซนาตา สําหรับวัด และโซนาตาสําหรับคฤหัสถ) • โซนาตาในยุคคลาสสิก มีลักษณะ อยางไร (มี ๔ ทอน ทอนแรก จังหวะเร็ว ทํานองซับซอน เราใจ ทอนที่สอง จังหวะชา เนนอารมณ ทอนที่สาม มีลักษณะเปนจังหวะเตนรํา ทอนที่สี่ จังหวะเร็ว มีพลัง) ๕. นักเรียนแบงกลุม ๓ กลุม แลว จับสลากเลือกประเภทของบทเพลง สากล คือ ซิมโฟนีคอนเชอรโต และ โซนาตา จากนั้นวิเคราะหลักษณะ ประเภทของเพลงที่จับสลากได พรอม ยกตัวอยางประกอบ ๖. นักเรียนรวมกันอภิปรายและแสดง ความคิดเห็นเกี่ยวกับลักษณะของ ดนตรีในยุคศตวรรษที่ ๒๐ จนถึง ปจจุบัน แลวเขียนสรุปเปนแผนภาพ ความคิด Serunai เปนเครื่องเปาดั้งเดิมของชาวมาเลยในรัฐกลันตัน ตั้งอยูบริเวณ ชายฝงทะเลตะวันออกของมาเลเซีย มีรู ใชนิ้วปดขางหนา ๗ รู ขางหลัง ๑ รู ใชเปาพรอม ๆ กับการแสดงวายังกุลิต หรือวงมโหรีหลวง รอบรูอาเซียนและโลก ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๐๘ ขอสอบเนนสมรรถนะ สรุป วงดนตรีสากลและบทเพลงสากลถือกำาเนิดขึ้นมาช้านาน ซึ่งมีรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมา เรื่อย ๆ จนปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบของบทเพลงและวงดนตรีสากลในแต่ละสมัยจะแตกต่างกัน ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาขึ้นมาก และมีการนำาเทคโนโลยีต่าง ๆ มาสร้างสรรค์บทเพลงให้ ทันสมัย จนเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เว็บไซต์แนะนำา 108 ดนตรี ม.๔-๖ คำ�ศัพท์สำ�คัญ สำาหรับโซนาตาในยุคคลาสสิกเป็นรูปแบบที่พัฒนามาจากยุคบาโรกและใช้ต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบันซึ่งมีลักษณะดังนี้ ท่อนแรก จังหวะเร็ว ลักษณะทำานองมีความซับซ้อนเร้าใจ ท่อนที่สอง จังหวะช้า มีแนวทำานองไพเราะ เน้นการแสดงออกของอารมณ์ ท่อนที่สาม จังหวะเร็ว หรือค่อนข้างเร็ว มีลักษณะเป็นจังหวะเต้นรำา ส่วนมากใช้ อัตราจังหวะ ๓/๔ ท่อนที่สี่ จังหวะเร็ว ลักษณะเร็วอย่างมีพลังในตอนจบ ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของโซนาตา คือ ผู้บรรเลงจะไม่ดูโน้ต ใช้บรรเลงจากความจำา โซนาตาส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดนตรีเดี่ยวเช่นเปียโนที่สามารถบรรเลงทั้งแนวทำานองและแนวประสาน ได้ในเครื่องเดียวกัน เรียกว่า เปียโนโซนาตา ส่วนไวโอลินเป็นเครื่องดนตรีเดี่ยว มีเปียโนบรรเลงคลอ เรียกว่า ไวโอลินโซนาตา คำ�ถ�มท้�ท�ย compose (คัมโพซ′) แต่ง เรียบเรียง explain (เอคสเพลน′) บรรยาย form (ฟอร์ม) รูปแบบลักษณะ period (เพีย′ เรียด) สมัยยุค prosperous (พรอส′ เพอเริส) เจริญ รุ่งเรือง standard (สแทน′ เดิร์ด) มาตรฐาน ยุคสมัยของดนตรีสากล www.grand-opera.exteen.com บทเพลงสากลในปัจจุบันแตกต่างจากสมัยอดีตอย่างไร ๗. นักเรียนแบงกลุม ๓-๔ กลุม ให แตละกลุมรวมกันสํารวจวาในปจจุบัน บทเพลงและวงดนตรีไทยกับบทเพลง และวงดนตรีสากล สิ่งใดไดรับ ความนิยมมากกวากัน เพราะเหตุใด จากนั้นแตละกลุมรวมกันอภิปราย และสรุปผลการอภิปรายแลวจัดทําเปน ไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ๘. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปน ความรูรวมกัน ดังนี้ • บทเพลงและวงดนตรีสากล แตละยุคสมัย มีลักษณะรูปแบบของ บ ท เ พ ล ง แ ล ะ ว ง ด น ต รี ส า ก ล ที่ แตกตางกัน ซึ่งมีการพัฒนาขึ้น โดยมีการนําเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใชในการสรางสรรคบทเพลง จนทําใหเปนที่นิยมมากในปจจุบัน Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ ๙. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ ผลงานหนาชั้นเรียน โดยใชเทคโนโลยี- สารสนเทศ โดยเพื่อนกลุมอื่น และครูรวมกันประเมินผลและให ขอเสนอแนะเพิ่มเติม ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 ๑๐. นักเรียนรวมกันรวบรวมขอมูลเกี่ยวกับรูปแบบ ดนตรีไทยและดนตรีสากลในยุคสมัยตาง ๆ แลวนําขอมูลไปจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพรความรู ใหกับนักเรียนในโรงเรียนและผูสนใจศึกษา Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóÐ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๐๙ สุดยอดคูมือครู กิจกรรมการเรียนรู ยุคสมัยของดนตรี 109 ๑. ให้นักเรียนร่วมกันจัดทำ�เส้นเวล�แสดงวิวัฒน�ก�รของยุคสมัยดนตรีส�กล ๒. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มต�มคว�มเหม�ะสมร่วมกันค้นคว้�เกี่ยวกับดนตรีส�กลในยุคสมัยต่�ง ๆ และออกม�อภิปร�ยหน้�ชั้นเรียน ๓. ให้นักเรียนเปรียบเทียบบทเพลงไทยและบทเพลงส�กลเลือกม�อย่�งละ๑บทเพลง แล้วเปรียบเทียบว่�มีลักษณะเหมือนหรือแตกต่�งกันอย่�งไร ๔. ให้นักเรียนสำ�รวจว่�ในปัจจุบันบทเพลงและวงดนตรีไทยกับบทเพลงและวงดนตรีส�กล สิ่งใด ได้รับคว�มนิยมเพร�ะเหตุใดแล้วออกม�นำ�เสนอหน้�ชั้นเรียน ๕. ให้นักเรียนสรุปบทเพลงและวงดนตรีส�กลในแต่ละยุคสมัยเป็นแผนภ�พ ดังตัวอย่�งต่อไปนี้ บทเพลงและวงดนตรีสากล แต่ละยุคสมัย ยุคกลาง ยุคโรแมนติก ยุคบาโรก ยุคโรโคโค ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ๑. นักเรียนคิดว่�วงดนตรีส�กลในปัจจุบันคล้�ยกับยุคสมัยใดเพร�ะเหตุใด ๒. ยุคโรแมนติกและยุคคล�สสิกมีคว�มแตกต่�งกันอย่�งไร ๓. นักเรียนชอบบทเพลงไทยและวงดนตรีไทย หรือบทเพลงส�กลและวงดนตรีส�กลม�กกว่�กัน เพร�ะอะไร ๔. นักเรียนคิดว่�เพลงในยุคสมัยใดที่จะกลับม�ได้รับคว�มนิยมในปัจจุบันเพร�ะเหตุใด ๕. นักเรียนคิดว่�ในอน�คตบทเพลงและวงดนตรีส�กลจะมีก�รพัฒน�ไปในรูปแบบใด ยุคคลาสสิก ยุคศตวรรษที่ ๒๐ -ปัจจุบัน ๒ รูปแบบบทเพลงและวงดนตรีสากลแต่ละยุคสมัย คำถามพัฒนากระบวนการคิด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๑ ตัวชี้วัด แนวคําตอบ ๑. ยุคศตวรรษที่ ๒๐ เพราะเปนยุคที่เริ่มมี ความทันสมัยทางดนตรี ๒. ยุคโรแมนติก บทเพลงเปนการบรรยาย เรื่องราวความรูสึกของผูประพันธ และ ยุคคลาสสิก รูปแบบของดนตรีจะมี แบบแผนและกฎเกณฑของอารมณและ อุดมคติที่สงา งดงามเปนอมตะ เปน การบรรเลงดนตรีเพื่อเครื่องดนตรี มากกวาการขับรอง ๓. บทเพลงไทยและวงดนตรีไทย เพราะ เปนเอกลักษณของชาติไทย ๔. ยุคคลาสสิก เพราะเปนบทเพลงที่มี ความไพเราะเปนเอกลักษณ ๕. มีการคิดคนทํานอง ลักษณะรูปแบบ ทางดนตรีใหม ๆ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๑๐ ขอสอบเนนสมรรถนะ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม ๑. สังคีตกวีไทย 110 ดนตรี ม.๔-๖ พระประวัติย่อ พระเจ้�บรมวงศ์เธอกรมหมื่นพิไชยมหินทโรดมมีพระน�ม เดิมว่� พระองค์เจ้�ช�ยเพ็ญพัฒนพงศ์เป็นพระโอรสในพระบ�ทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้�เจ้�อยู่หัวกับเจ้�จอมม�รด�มรกฎประสูติเมื่อวันที่๑๓ กันย�ยน พ.ศ. ๒๔๒๕ ได้เสด็จไปทรงศึกษ�ในประเทศอังกฤษ เมื่อเสด็จกลับได้ทรงเข้�รับร�ชก�รในตำ�แหน่งผู้ช่วยปลัดทูลฉลอง กระทรวงเกษตร�ธิก�รใน พ.ศ. ๒๔๕๑ พระบ�ทสมเด็จพระจุลจอมเกล้�เจ้�อยู่หัวทรงพระกรุณ�โปรดเกล้�ฯตั้งพระเจ้�ลูกย�เธอ พระองค์เจ้�ช�ยเพ็ญพัฒนพงศ์เป็นกรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม พระองค์สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่๑๑ พฤศจิก�ยน พ.ศ. ๒๔๕๒ ๑.๑ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม นักดนตรีไทยที่มีชื่อเสียงสร้�งสรรค์คุณประโยชน์อย่�งมห�ศ�ลกับวงก�รดนตรีของไทย ประกอบด้วย ผู้เป็นศิลปินที่เชี่ยวช�ญง�นดนตรีเป็นครูสอนอบรมศิลปวิทย�ด้�นดนตรีให้กับศิษย์ เป็นนักแต่งเพลงหรือผู้ประพันธ์เพลงไทยผู้ที่ให้ก�รสนับสนุนท�งก�รดนตรีของไทยและผู้ที่สร้�งสรรค์ เครื่องดนตรีจึงได้มีก�รรวบรวมพระร�ชประวัติพระประวัติชีวประวัติและผลง�นท�งดนตรีที่ได้รับก�ร ยกย่องม�แต่อดีตจนถึงปัจจุบันไว้ในส�ร�นุกรมศัพท์ดนตรีไทย ภ�คประวัตินักดนตรีและนักร้องฉบับ ร�ชบัณฑิตยสถ�นซึ่งถือเป็น “ประวัติบุคคลสำ�คัญในวงก�รดนตรีไทย” โดยยกเป็นตัวอย่�งพอสังเขป ได้ดังนี้ ความสามารถและผลงาน พระองค์ทรงสนพระทัยดนตรีไทยม�กถึงกับมีวงปี่พ�ทย์วงหนึ่งที่เรียกกันว่� วงพระองค์เพ็ญ และทรงพระนิพนธ์เพลงล�วดวงเดือนซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หล�ยจนถึงปัจจุบัน สำ�หรับเพลงล�วดวงเดือนนี้พระองค์ทรงพระนิพนธ์โดยต้องก�รให้มีสำ�เนียงล�ว เนื่องจ�ก โปรดทำ�นองและลีล�เพลงล�วดำ�เนินทร�ย ดังนั้นเมื่อคร�วที่เสด็จตรวจร�ชก�รภ�คตะวันออกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ สังคีตกวี ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๒ ภาระงาน/ชิ้นงาน แผนพับประวัติและผลงานของสังคีตกวีไทย ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ถาเลือกไดนักเรียนอยากเปนลูกศิษย ของสังคีตกวีไทยทานใด เพราะอะไร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนาเกี่ยวกับบุคคลสําคัญ ในวงการดนตรีไทย โดยใชคําถาม ดังนี้ • นักเรียนชอบฟงวงดนตรีไทยวงใด มากที่สุด (ตัวอยางคําตอบ วงปพาทย) • นักเรียนรูจักบุคคลสําคัญในวงการ ดนตรีไทยทานใดบาง (ตัวอยางคําตอบ อาจารยมนตรี ตราโมท) ๓. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพพระเจาบรมวงศเธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม จากนั้นนักเรียนฟงการอธิบายเกี่ยวกับ ประวัติและผลงานของสังคีตกวีไทยใน บัตรภาพ แลวนักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • พระเจาบรมวงศเธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม มีพระนามเดิมวาอะไร (พระองคเจาชายเพ็ญพัฒนพงศ) • พระเจาบรมวงศเธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม มีความสามารถดานใด (ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับดนตรีไทยและมี วงปพาทย คือ วงพระองคเพ็ญเปนของ พระองคเอง และทรงมีพระปรีชาสามารถ ดานดนตรีไทยและการประพันธเพลง) • ผลงานที่สําคัญของพระเจาบรมวงศเธอ กรมหมื่นพิไชยมหินทโรดมมีอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ เพลงลาวดวงเดือน) เสริมความรู ครูควรสอน สังคีตกวี คือ ผูที่สรางสรรคผลงานเพลงใหมีความหลากหลายทางดนตรี Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๑๑ สุดยอดคูมือครู พระยาประสานดุริยศัพท์ ยุคสมัยของดนตรี 111 ประวัติย่อ พระย�ประส�นดุริยศัพท์มีน�มเดิมว่� แปลก ประส�นศัพท์ เกิดเมื่อร�ว พ.ศ. ๒๔๐๓ เป็นบุตรคนโตของขุนกนกเลข�และ น�งนิ่มมีพี่น้อง ๔ คนท่�นแต่งง�นกับน�งส�วพยอมช�วจังหวัดร�ชบุรี มีบุตรธิด�ทั้งสิ้น ๑๑ คน ถึงแก่กรรม ๖ คน เหลือเพียง ๕ คน ท่�นถึงแก่กรรมด้วยโรคชร� เมื่อวันที่ ๕ มีน�คม พ.ศ. ๒๔๖๗ รวมอ�ยุได้๖๔ ปี ๑.๒ พระยาประสานดุริยศัพท์(แปลก ประสานศัพท์) เฉียงเหนือ ระหว่�งที่ประทับแรมอยู่ต�มท�งจึงทรงพระนิพนธ์เพลงล�วดำ�เนินเกวียนเพื่อให้คู่กับ ล�วดำ�เนินทร�ยแต่ผู้ฟังไม่นิยมเรียกล�วดำ�เนินเกวียนจึงเรียกล�วดวงเดือนแทน เกี่ยวกับประวัติเพลงล�วดวงเดือนนี้ได้มีผู้กล่�วว่� พระองค์ผิดหวังในคว�มรัก คือ เมื่อ พระองค์จบก�รศึกษ�จ�กประเทศอังกฤษ ก็ได้เสด็จขึ้นไปเที่ยวเชียงใหม่ และได้พบรักกับเจ้�หญิง ชมชื่น ธิด�เจ้�ร�ชสัมพันธวงศ์พระองค์สนพระทัยม�กจนถึงกับให้ข้�หลวงใหญ่มณฑลพ�ยัพเป็น เถ้�แก่เจรจ�สู่ขอเจ้�หญิงชมชื่นให้เป็นหม่อมของพระองค์แต่ได้รับคำ�ตอบจ�กเจ้�ร�ชสัมพันธวงศ์ว่� ขอให้เจ้�หญิงชมชื่นอ�ยุ๑๘ ปีก่อน เพร�ะขณะนั้นอ�ยุเพียง ๑๖ ปีและขอให้ได้รับพระบรมร�ช�- นุญ�ตด้วย เมื่อกรมหมื่นพิไชยฯ เสด็จกลับกรุงเทพฯ ก็ได้รับก�รทัดท�นจ�กพระบรมวงศ�นุวงศ์ม�ก พระองค์ได้รับคว�มผิดหวัง จึงระบ�ยคว�มรักคว�มอ�ลัยลงในพระนิพนธ์บทร้องเพลงล�วดวงเดือน ซึ่งเป็นเพลงที่ให้คว�มรู้สึกโศกเศร้� พระยาประสานดุริยศัพท์ ความสามารถและผลงาน ท่�นเรียนปี่ชว�กับครูมีชื่อ คือ ครูหนูดำ� หลังจ�กนั้นท่�นเรียนปี่พ�ทย์ด้วย ภ�ยหลังได้ ม�เรียนกับครูช้อยสุนทรว�ทินท่�นเป็นศิษย์ที่ครูช้อยรักม�กและได้ถ่�ยทอดวิช�ให้จนหมดสิ้น พระย�ประส�นดุริยศัพท์ เป็นครูดนตรีปี่พ�ทย์ที่มีชื่อเสียงในสมัยรัชก�ลที่ ๕-๖ เคย ควบคุมวงปี่พ�ทย์วังบูรพ�ภิรมย์ของสมเด็จเจ้�ฟ้�ฯ กรมพระย�ภ�ณุพันธุวงศ์วรเดช และย้�ยม� คุมวง “วงสมเด็จพระบรม” ในสมเด็จพระบรมโอรส�ธิร�ช เจ้�ฟ้�มห�วชิร�วุธ สย�มมกุฎร�ชกุม�ร (รัชก�ลที่ ๖) ต่อม�ได้เข้�รับร�ชก�รในกรมปี่พ�ทย์หลวง กรมมหรสพ กรมมห�ดเล็กเป็นที่พอ ๔. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพพระยาประสานดุริยศัพท (แปลก ประสานศัพท) จากนั้นนักเรียนฟงการอธิบายเกี่ยวกับ ประวัติและผลงานของสังคีตกวีไทย ในภาพ แลวรวมกันสนทนา โดยใช คําถาม ดังนี้ • พระยาประสานดุริยศัพท (แปลก ประสานศัพท) มีความสามารถในดานใด (มีความสามารถในดนตรีทุกดาน แตถนัดที่สุด คือ ปและระนาดเอก และ ไดสอนเครื่องสายใหกับวงดนตรีหญิง ณ ตําหนักพระราชชายาเจาดารารัศมี และดานการแตงเพลง) • ผลงานที่สําคัญของพระยาประสานดุริยศัพท (แปลก ประสานศัพท) มีอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ เพลงพมาหาทอน ๓ ชั้น เพลงธรณีรองไห ๓ ชั้น เพลงลาวคําหอม เพลงลาว ดําเนินทราย) เสริมความรู ครูควรสอน ลาวดําเนินทราย เดิมใชเปนเพลงลา เรียกวา สักวาลาวเล็กประกอบการเลน สักวาในสมัยโบราณ ตอมาพระยาประสานดุริยศัพท (แปลก ประสานศัพท) ไดนําทํานองรองมาปรับแตงเปนทํานองบรรเลงดนตรี ปจจุบันไดรับความนิยม ใชรองรับเปนเพลงลาเพลงหนึ่งในการบรรเลง Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๑๒ ขอสอบเนนสมรรถนะ 112 ดนตรี ม.๔-๖ พระร�ชหฤทัยของในหลวงรัชก�ลที่ ๖ ม�ก เคยไปสอนเครื่องส�ยให้กับวงดนตรีหญิง ณ ตำ�หนัก พระร�ชช�ย�เจ้�ด�ร�รัศมีและมักได้รับเชิญไปเป็นกรรมก�รตัดสินก�รประกวดแข่งขันประชันดนตรี กันเสมอ ครูแปลกได้รับพระร�ชท�นบรรด�ศักดิ์เป็น ขุนประส�นดุริยศัพท์ในรัชก�ลที่ ๕ ต่อม�ใน รัชก�ลที่๖ได้เลื่อนบรรด�ศักดิ์เป็นพระย�ประส�นดุริยศัพท์ ท่�นมีคว�มส�ม�รถและเชี่ยวช�ญในก�รดนตรีทุกด้�นทั้ง ดีด สีตีเป่� แต่ถนัดที่สุด คือ ปี่และระน�ดเอก เคยเดินท�งไปที่ประเทศอังกฤษและได้รับคำ�ชมเชยจ�กพระน�งเจ้�วิกตอเรีย พระบรมร�ชินีแห่งประเทศอังกฤษ เมื่อได้ฟังพระย�ประส�นดุริยศัพท์เดี่ยวขลุ่ย ถึงกับทรงลุกจ�ก ที่ประทับเอ�พระหัตถ์ลูบคอพระย�ประส�นดุริยศัพท์แล้วมีรับสั่งว่� “เวล�เป่�ห�ยใจบ้�งหรือไม่ เพร�ะ เสียงขลุ่ยดังกังว�นตลอดเวล�” นอกจ�กนั้นท่�นส�ม�รถตีเครื่องหนังได้อย่�งดีเยี่ยม ท่�นแต่งเพลง ที่ไพเร�ะและเป็นอมตะ เช่น เพลงพม่�ห้�ท่อน ๓ ชั้น เขมรร�ชบุรี๓ ชั้น ธรณีร้องไห้๓ ชั้น ร�มัญรันทด ๓ ชั้น พร�หมณ์เข้�โบสถ์ ๓ ชั้น ถอนสมอ เถ� แขกเชิญเจ้� ๒ ชั้น ล�วคำ�หอม ล�วดำ�เนินทร�ย ๒ ชั้น ท่�นมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงหล�ยท่�น เช่น พระเพลงไพเร�ะ (โสม สุว�ทิต) หลวงบรรเลงเลิศเลอ (กร กรว�ทิน) พระย�ภูมีเสวิน (จิตร จิตตเสรี) อ�จ�รย์มนตรีตร�โมท ท่�นได้รับเหรียญ ดุษฎีม�ล�เข็มศิลปวิทย� เมื่อ๑๔ มกร�คม พ.ศ. ๒๔๕๓ ๑.๓ พระประดิษฐ์ไพเราะ (มีดุริยางกูร หรือครูมีแขก) ประวัติย่อ พระประดิษฐ์ไพเร�ะ (มีดุริย�งกูร) บ้�นเดิมอยู่ที่สุเหร่� เหนือวัดอรุณร�ชวร�ร�ม ไม่ทร�บวันเดือนปีเกิดแน่นอนอยู่ตั้งแต่รัชก�ลที่ ๒ ถึงรัชก�ลที่๕ พระประดิษฐ์ไพเร�ะเป็นครูดนตรีม�ตั้งแต่ปล�ยรัชก�ลที่ ๓ จนถึง รัชก�ลที่ ๔ ท่�นเป็นครูปี่พ�ทย์ในพระบ�ทสมเด็จพระปิ่นเกล้�เจ้�อยู่หัว และได้รับพระร�ชท�นบรรด�ศักดิ์เป็น หลวงประดิษฐ์ไพเร�ะเมื่อวันที่๒๗ พฤศจิก�ยน พ.ศ. ๒๓๙๖และต่อม�วันที่๒๑ธันว�คมในปีเดียวกัน ก็ได้รับพระร�ชท�นเลื่อนบรรด�ศักดิ์เป็นพระประดิษฐ์ไพเร�ะ ๕. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพพระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือครูมีแขก) จากนั้นรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • จากภาพคือสังคีตกวีไทยทานใด (พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือ ครูมีแขก)) • พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือครูมีแขก) มีความสามารถใน ดานใด (เปนผูที่มีความสามารถใน การแตงเพลงประเภทลูกลอลูกขัด จนไดรับสมญานามวาเจาแหงเพลง ทยอย เปนผูคิดตนตํารับการเดี่ยว เครื่องดนตรีตาง ๆ เปนผูมีความคิด สรางสรรคในการแตงเพลง) • ผลงานที่สําคัญของพระประดิษฐ ไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือครูมีแขก) ไดแกอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ บทเพลงทยอยตาง ๆ เชน เพลงทยอยนอก เพลงทยอยเขมร เพลงแปะ เพลงแขกบรเทศ ๓ ชั้น) เสริมความรู ครูควรสอน พระราชชายาเจาดารารัศมี เปนเจาหญิงแหงราชวงศฝายเหนือ ผูมีบทบาท ในการรวมลานนากับชาติสยาม เปนผูฟนฟูศิลปวัฒนธรรมลานนา และได เสด็จมาถวายตัวแดพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว เปนพระมเหสี ลําดับที่ ๕ Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๑๓ สุดยอดคูมือครู ความรู้เพิ่มเติม ยุคสมัยของดนตรี 113 เพลงทยอย คือ หน้าพาทย์ชนิดหนึ่ง ใช้บรรเลงในการแสดงกิริยาอารมณ์โศกเศร้าในเวลา เคลื่อนที่ เช่น ขณะที่เดินไปก็ร้องไห้ไปด้วย ความสามารถและผลงาน พระประดิษฐ์ไพเร�ะนับว่�เป็นอัจฉริยะท�งดนตรีผู้หนึ่ง ท่�นส�ม�รถเล่นดนตรีไทยได้ ทุกชนิดโดยเฉพ�ะปี่และมีผลง�นท�งดนตรีม�กม�ยดังนี้ ๑. เป็นต้นตำ�รับในก�รแต่งเพลงประเภทลูกล้อลูกขัด เช่น เพลงทยอยนอก ทยอยเขมร เชิดจีน จนได้รับสมญ�น�มว่� เจ้�แห่งเพลงทยอย เพลงทยอยนอก เป็นแม่บทของเพลงลูกล้อลูกขัด แทรกลูกเล่นไว้อย่�งพิสด�ร มีก�รล้อต่อลูกขัด ดัง เบ� และมีเดี่ยวอวดฝีมือกันอยู่ในเพลงเสร็จ ไม่มี เพลงใดเทียบเท่� เพลงเชิดจีนเป็นเพลงที่ท่�นแต่งขึ้นด้วยวิธีที่ประหล�ดกว่�เพลงอื่น คือ ลีล�ของเพลง มีทั้งเชิงล้อเชิงชนทีหนีทีไล่ล่อหลอกกันไประหว่�งเครื่องนำ�กับเครื่องต�มอย่�งสนุกสน�นทำ�นองเร่งเร้� กระตุ้นให้ชวนฟังตลอดเวล� ซึ่งพระบ�ทสมเด็จพระปิ่นเกล้�เจ้�อยู่หัวโปรดม�กถึงกับเลื่อนบรรด�ศักดิ์เป็น พระประดิษฐ์ไพเร�ะทั้งๆที่ทรงตั้งเป็นหลวงประดิษฐ์ไพเร�ะเพียงเดือนเดียว ๒. ท่�นเป็นต้นตำ�รับก�รเดี่ยวเครื่องดนตรีต่�ง ๆ ท่�นประดิษฐ์เป็นท�งเดี่ยว เช่น พญ�โศก ส�รถีแขกมอญ ล้วนมีคว�มไพเร�ะเพร�ะพริ้งทั้งสิ้น โดยเฉพ�ะเพลงทยอยเดี่ยว ท่�นแต่งไว้สำ�หรับเดี่ยวปี่อวดฝีมือภ�ยหลังนำ�ม�แต่งเป็นท�งเดี่ยวของเครื่องดนตรีอื่นๆ ๓. ท่�นเป็นผู้มีคว�มสังเกต สนใจในสิ่งต่�ง ๆ ที่ได้ยินได้ฟัง ส�ม�รถนำ�ม�คิดสร้�งสรรค์ ขึ้นใหม่อย่�งไพเร�ะ เช่น วันหนึ่งขณะที่ท่�นเดินกลับจ�กสอนดนตรีในวัง ผ่�นม�ได้ยินพวกจีนกำ�ลัง เล่นมโหรีจีนกันอยู่ ท่�นก็ให้ลูกศิษย์ที่ม�ด้วยกัน ๒ คน ช่วยจำ�เพลงไว้พอไปถึงบ้�นก็ได้นำ�เพลง ที่ได้ยินม�เรียบเรียงประดิษฐ์ขึ้นเป็นเพลงชุดจีน ๔ เพลง คือ เพลงจีนแส เพลงอ�เฮีย เพลง ชมสวนสวรรค์และเพลงแป๊ะ ผลง�นของท่�นมีอีกม�กม�ยในก�รแต่งเพลง เช่น เพลงแขกมอญบ�งช้�ง ๓ ชั้น แขกบรเทศ ๓ ชั้นกำ�สรวลสุร�งค์๓ ชั้นโหมโรงขวัญเมือง พระอ�ทิตย์ชิงดวงท่�นเป็นต้นสกุลดุริย�งกูร ๖. นักเรียนเลือกผลงานเพลงของ พระประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือ ครูมีแขก) มา ๑ เพลง แลวศึกษา โนตเพลงดังกลาว และบอกวาเพลงนั้น มีจังหวะและทํานองอยางไร เสริมความรู ครูควรสอน การเดี่ยว เปนวิธีการบรรเลงดนตรีดวยทางเพลงที่ประดิษฐขึ้นเปนพิเศษ นอกเหนือไปจากธรรมดา แสดงถึงความสามารถของผูบรรเลงและภูมิปญญา ของผูคิด โดยใชเครื่องดนตรีประเภทดําเนินทํานอง เชน ระนาดเอก ฆองวง จะเข ซอ Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๑๔ ขอสอบเนนสมรรถนะ ครูช้อย สุนทรวาทิน 114 ดนตรี ม.๔-๖ ๑.๔ ครูช้อย สุนทรวาทิน ประวัติย่อ ครูช้อย สุนทรว�ทิน เป็นบุตรน�ยทั่ง สุนทรว�ทิน ไม่ทร�บวันเดือนปีเกิดแน่นอน เกิดในสมัยรัชก�ลที่ ๓ ครูช้อย แต่งง�นกับน�งส�วไผ่ มีบุตรธิด� ๔ คน ครูช้อยถึงแก่กรรมเมื่อ ปล�ยสมัยรัชก�ลที่๕ ความสามารถและผลงาน ครูช้อย สุนทรว�ทิน พิก�รต�บอดทั้งสองข้�ง บิด� ซึ่งเป็นนักดนตรีปี่พ�ทย์จึงไม่ได้สอนดนตรีให้แต่ด้วยคว�มม�นะพย�ย�มของครูช้อย ท่�นจึงได้ เริ่มเรียนดนตรีด้วยตนเองและพย�ย�มจำ�เพลงที่วงปี่พ�ทย์ของบิด�บรรเลง ท่�นมีพรสวรรค์ในท�งดนตรี มีโสตประส�ทและคว�มจำ�ดีทำ�ให้ท่�นส�ม�รถจำ�เพลงและบรรเลงเพลงได้อย่�งดีซึ่งบิด�ไม่ทร�บ จนวันหนึ่งผู้เล่นระน�ดเอกในวงของบิด�ไม่สบ�ย จำ�เป็นต้องไปเล่นในง�นคืนนั้น นักดนตรีหล�ยท่�น จึงขอให้ครูช้อยเล่นแทน ครูช้อยจึงได้แสดงคว�มส�ม�รถให้บิด�ได้เห็น เมื่อบิด�เห็นคว�มส�ม�รถ ของครูช้อยแล้ว จึงทุ่มเทเวล�ถ่�ยทอดคว�มรู้ให้ครูช้อยอย่�งเต็มที่เพื่อจะได้ใช้เป็นวิช�ชีพต่อไป ในที่สุดครูช้อยจึงเป็นนักดนตรีที่มีฝีมือมีคว�มส�ม�รถในก�รแต่งเพลงจนมีชื่อเสียง ในสมัยรัชก�ลที่ ๕ ครูช้อยเป็นที่ยอมรับว่� เป็นนักดนตรีที่มีคว�มส�ม�รถและมีชื่อเสียงม�ก ท่�นจึงสอนดนตรีต�มที่ต่�ง ๆ เริ่มเป็นครูปี่พ�ทย์ที่วงวัดน้อยทองอยู่ ต่อม�เป็นครูมโหรีต�มวังและ ตำ�หนัก เช่น ตำ�หนักพระร�ชช�ย�เจ้�ด�ร�รัศมีต่อม�เป็นครูสอนและควบคุมวงปี่พ�ทย์ของพระย�- อินทร�ธิบดีสีหร�ชเรืองรอง (เนียม) ท่�นได้แต่งเพลงอมตะไว้หล�ยเพลง แต่ละเพลงล้วนมีทำ�นองดีเด่นเป็นเยี่ยมทั้งนั้น เช่น เพลงครอบจักรว�ล ๓ ชั้นเทพรัญจวน ๓ ชั้นอกทะเล ๓ ชั้น ครูช้อย สุนทรว�ทิน ท่�นส�ม�รถต่อสู้กับชีวิตจนประสบคว�มสำ�เร็จ และมีชื่อเสียงม�กใน สมัยรัชก�ลที่๕ท่�นมีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงหล�ยคนเช่น พระย�ประส�นดุริยศัพท์(แปลกประส�นศัพท์) พระย�เสน�ะดุริย�งค์(แช่ม สุนทรว�ทิน) ซึ่งเป็นบุตรของท่�นและมีบทบ�ทสำ�คัญต่อวงก�รดนตรีไทย ต่อม� ๗. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพครูชอย สุนทรวาทิน จากนั้นรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • จากภาพคือสังคีตกวีไทยทานใด (ครูชอย สุนทรวาทิน) • เพราะเหตุใดบิดาของทานจึง ไมถายทอดวิชาความรูเกี่ยวกับดนตรีให (ตัวอยางคําตอบ เพราะครูชอยพิการ ตาบอดทั้ง ๒ ขาง) • ครูชอย สุนทรวาทิน มีความ สามารถในดานใด (มีความสามารถ ในการจดจําเพลง มีความจําดี บรรเลง ดนตรีได แมวาจะตาบอด) • ผลงานที่สําคัญของครูชอย สุนทรวาทิน มีอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ ทานแตงบทเพลง ไวหลายเพลง ลวนมีทํานองดีเดน เชน เพลงครอบจักรวาล ๓ ชั้น เพลง เทพรัญจวน ๓ ชั้น เพลงอกทะเล ๓ ชั้น) “มีพรสวรรคทางดนตรี จําเพลงและบรรเลงไดดี ถึงแมวาตาบอดทั้งสองขาง” ขอความดังกลาวหมายถึงบุคคลใด ๑ พระยาประสานดุริยศัพท (แปลก ประสานศัพท) ๒ พระยาเสนาะดุริยางค (แชม สุนทรวาทิน) ๓ หลวงประดิษฐไพเราะ (มี ดุริยางกูร หรือครูมีแขก) ๔ ครูชอย สุนทรวาทิน ๕ อาจารยมนตรี ตราโมท (เฉลย ๔ เพราะครูชอย สุนทรวาทิน เปนคนพิการตาบอดทั้ง ๒ ขาง เริ่มเรียนดนตรีดวยความ มานะพยายามของตนเอง) Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ ขอสอบเนนสมรรถนะ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๑๕ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 115 ๑.๕ อาจารย์มนตรีตราโมท ประวัติย่อ อ�จ�รย์มนตรีตร�โมท เดิมชื่อบุญธรรม ตร�โมท เกิดวันที่ ๑๗ มิถุน�ยน พ.ศ. ๒๔๔๓ ที่บ้�นท่�พี่เลี้ยง อำ�เภอ เมืองจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นบุตรน�ยเยิ้มและน�งทองอยู่ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๔ ได้สมรสกับน�งส�วลิ้นจี่ (บุร�นนท์) มีบุตรที่ยัง มีชีวิตอยู่ ๒ คน คือ น�ยฤทธีและน�ยศิลปีต่อม�เมื่อน�งลิ้นจี่ ความสามารถและผลงาน อ�จ�รย์มนตรีตร�โมท เริ่มเข้�เรียนที่โรงเรียนประจำ�จังหวัดสุพรรณบุรีจนสอบได้ ชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่ ๓ ภ�ยหลังไปเรียนต่อที่โรงเรียนพร�นหลวง ในพระบรมร�ชูปถัมภ์จนถึงชั้น มัธยมศึกษ�ปีที่๖ อ�จ�รย์มนตรีสนใจดนตรีม�ตั้งแต่เด็ก เนื่องจ�กบ้�นอยู่ใกล้วัดสุวรรณภูมิซึ่งที่วัดนี้มี ก�รฝึกซ้อมวงปี่พ�ทย์อยู่เสมอ อ�จ�รย์มนตรีจึงได้ยินเสียงเพลงจ�กวงปี่พ�ทย์เป็นประจำ� จนในที่สุด ได้รู้จักกับนักดนตรีทั้งหล�ยในวงและเข้�ไปขอเล่นด้วย เมื่อมีก�รบรรเลงในง�นก็มักไปช่วยตีฆ้องเล็ก หรือระน�ดทุ้มเหล็กด้วยเสมอๆ เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมศึกษ�ปีที่๓ อ�จ�รย์มนตรีตั้งใจจะม�เรียนต่อในกรุงเทพมห�นครแต่ บังเอิญป่วยกระเส�ะกระแสะเรื่อยม�จึงไม่ได้เรียนต่อสมคว�มตั้งใจ ครูสมบุญ ซึ่งเป็นนักฆ้องและเป็น ครูปี่พ�ทย์ประจำ�วงที่วัดสุวรรณภูมิจึงชวนให้อ�จ�รย์มนตรีม�หัดปี่พ�ทย์อ�จ�รย์จึงได้เริ่มเรียนอย่�ง จริงจังตั้งแต่นั้นม�ประม�ณ ๒ ปีมีคว�มรู้คว�มส�ม�รถได้เป็นนักดนตรีปี่พ�ทย์จังหวัดสุพรรณบุรี ต่อม�อ�จ�รย์มนตรีได้ไปศึกษ�เพิ่มเติมด้�นปี่พ�ทย์ที่จังหวัดสมุทรสงคร�ม ประม�ณ พ.ศ. ๒๔๕๖ ที่บ้�นครูสมบุญ สมสุวรรณ ที่บ้�นนี้มีทั้งวงปี่พ�ทย์และแตรวง อ�จ�รย์มนตรีจึงได้ฝึก ทั้ง ๒ อย่�ง คือ ด้�นปี่พ�ทย์ฝึกระน�ดเอกและฆ้องวงใหญ่ ด้�นแตรวง ฝึกเป่�คล�ริเน็ต นอกจ�กนี้ ครูสมบุญยังได้แนะนำ�วิธีก�รแต่งเพลงไทยให้อ�จ�รย์มนตรีด้วย ถึงแก่กรรมจึงแต่งง�นกับน�งส�วพูนทรัพย์(น�ฏประเสริฐ)มีบุตร๒คนคือน�งส�วดนตรีและน�ยบ�รมี ท่�นได้เสียชีวิตเมื่อวันที่๖สิงห�คม พ.ศ. ๒๕๓๘ รวมอ�ยุ๙๕ปี อาจารย์มนตรี ตราโมท ๘. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพอาจารยมนตรี ตราโมท จากนั้นนักเรียนรวมกันสนทนา โดยใช คําถาม ดังนี้ • จากภาพคือสังคีตกวีไทยทานใด (อาจารยมนตรี ตราโมท) • ทานเริ่มฝกหัดดนตรีจากที่ใด (ตัวอยางคําตอบ เขารวมฝกซอมดนตรี รวมกับวงปพาทยของวัดสุวรรณภูมิ อยูเปนประจํา) • ทานมีความสามารถดานใด (มีความสามารถในดานปพาทย เปน ผูบรรเลงขิมในวังหลวงคนแรก เพื่อ ถวายแดพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกลาเจาอยูหัว) • ผลงานที่สําคัญของทานมีอะไร บาง (ตัวอยางคําตอบ แตงบทเพลง ตอยตริ่ง ๓ ชั้น เปนผูบอกทํานอง ร ะ น า ด ทุ ม ไ ม แ ล ะ ร ะ น า ด ทุ ม เ ห ล็ ก เพื่อบันทึกโนต บรรเลงวงมโหรีและ เครื่องสายเพื่อออกอากาศในวิทยุ กระจายเสียงแหงประเทศไทย ไดรับ รางวัลที่ ๑ ในการประกวดเพลงรัฐธรรมนูญ แ ต ง บ ท ร อ ง ทํ า น อ ง เ พ ล ง วั น ช า ติ เปนหัวหนาแผนกดุริยางคไทย ศิลปน โท ศิลปนเอก และเปนศิลปนพิเศษ แตงเพลงไวประมาณ ๒๐๐ เพลง บทกวีนิพนธ บทละคร ศัพทสังคีตใน สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน) Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๑๖ ขอสอบเนนสมรรถนะ 116 ดนตรี ม.๔-๖ พ.ศ. ๒๔๖๐ อาจารย์มนตรีได้เข้ามาสมัครรับราชการในกรมพิณพาทย์หลวง ซึ่งในกรมนี้มี พระยาประสานดุริยศัพท์(แปลก ประสานศัพท์) เป็นเจ้ากรม และมีครูอาวุโสอีกหลายท่าน ซึ่งท่าน เหล่านี้ก็ได้เป็นผู้ฝึกซ้อมอย่างเอาจริงเอาจังในขณะที่อาจารย์มนตรีทำางานในกรมพิณพาทย์หลวงนี้ก็ได้ เรียนโรงเรียนพรานหลวงด้วยจนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่๖ อาจารย์มนตรีได้รับเลือกให้เป็นนักดนตรีประจำาวงข้าหลวงเดิม ซึ่งเป็นวงที่จะต้อง ตามเสด็จทุก ๆ แห่ง การเสด็จพระราชดำาเนินนี้พระยาประสานดุริยศัพท์จะเป็นผู้ควบคุมทุกครั้ง ทำาให้นักดนตรีในวงนี้ได้เรียนรู้เทคนิคทางดนตรีต่าง ๆ อาจารย์มนตรีเริ่มแต่งเพลงเมื่ออายุ ๒๐ ปี เพลงแรกที่แต่งคือต้อยตริ่ง ๓ ชั้นซึ่งต่อมาเพลงนี้เป็นที่นิยมเล่นทั่วไป เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๗ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประชวร แพทย์ถวายการ แนะนำาให้ทรงฟังนิทานหรือดนตรีเบา ๆ ประกอบกับเสวยพระโอสถ กรมมหรสพจึงจัดวงเครื่องสาย เบาๆบรรเลงถวายข้างห้องพระบรรทมซึ่งวงเครื่องสายนี้ได้เพิ่มขิมขึ้นอีก๑ชนิดซึ่งอาจารย์มนตรีก็ได้ รับหน้าที่เป็นผู้ตีขิมในวังหลวงเป็นคนแรกและบรรเลงถวายทุกวันจนพระอาการหายเป็นปกติ อาจารย์มนตรีได้รับมอบหมายให้เรียนเพลงองค์พระพิราพอันเป็นเพลงหน้าพาทย์สูงสุด เพื่อประกอบพิธีไหว้ครูของกรมมหรสพ ซึ่งในสมัยนั้นมีผู้ได้รับเลือกให้เรียนได้เพียง๖คน สมัยรัชกาลที่ ๗ มีการโอนกรมพิณพาทย์หลวงและกรมโขนหลวงให้ขึ้นกับกระทรวงวัง อาจารย์มนตรีจึงได้โอนย้ายมาด้วย ประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๓ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำารงราชานุภาพทรงริเริ่มบันทึกเพลงไทยเป็นโน้ตสากล และได้ทรงขอข้าราชการแผนกดุริยางค์ไทย เป็นผู้บอกทำานองเพลงและแผนกดุริยางค์สากลเป็นผู้บันทึกโน้ต โดยบันทึกทำานองเครื่องดนตรี แต่ละอย่างอาจารย์มนตรีก็ได้เป็นผู้บอกทำานองระนาดทุ้ม(ไม้) และระนาดทุ้มเหล็ก ในสมัยนี้ได้เกิดวิทยุกระจายเสียงขึ้นในประเทศไทย จึงมีการนำาวงปี่พาทย์หลวงไปบรรเลง ทุกสัปดาห์อาจารย์มนตรีก็ร่วมบรรเลงอยู่ในวงมโหรีและวงเครื่องสาย ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้บรรเลง แล้ว ยังต้องช่วยแต่งเพลงให้ทั้งสองวงด้วย อาจารย์มนตรีได้แต่งเพลงประเภท ๓ ชั้น และเพลงเถา ขึ้นมาเป็นจำานวนมาก และได้รับการครอบประสิทธิ์ประสาทให้เป็นผู้ทำาพิธีไหว้ครูจากหลวงประดิษฐ์- ไพเราะ (ศรศิลปบรรเลง)ด้วย ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๙. นักเรียนรวมกันสรุปความคิด ร ว บ ย อ ด เ กี่ ย ว กั บ บ ท บ า ท ข อ ง สังคีตกวีไทย เปนแผนภาพความคิด ๑๐. นักเรียนคิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา ดานรักความเปนไทย โดยรวมกัน แสดงความคิดเห็นวาการศึกษา เรียนรูเรื่อง สังคีตกวีไทยมีประโยชน ตอนักเรียน สังคม และประเทศชาติ อยางไร เสริมความรู ครูควรสอน เพลงองคพระพิราพ เปนเพลงที่ใชประกอบพิธีไหวครู เปนสัญลักษณในการ เสด็จมาของเทพอสูรที่มีฤทธานุภาพชื่อวา พระพิราพ เปนเทพที่เปนปางดุราย ของพระอิศวร เปนเพลงที่มีความสําคัญและศักดิ์สิทธิ์มาก เพลงเถา คือ เพลงที่บรรเลงตั้งแต ๓ ชั้น ๒ ชั้น และชั้นเดียว ตามลําดับ จนจบทั้งเถา


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๑๗ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 117 พ.ศ. ๒๔๗๘ สโมสรคณะร�ษฎรประก�ศประกวดเพลงรัฐธรรมนูญ อ�จ�รย์มนตรี ได้แต่งเพลงวันรัฐธรรมนูญ ทั้งบทร้องและทำ�นองเพลงเข้�ประกวดและได้รับร�งวัลที่ ๑ นอกจ�กนี้ อ�จ�รย์มนตรีมีคว�มรู้ท�งโน้ตส�กลด้วย โดยก�รเรียนจ�กโรงเรียนสอนโน้ตและดนตรีส�กลของ พระเจนดุริย�งค์(ปิติว�ทยกร) อ�จ�รย์มนตรีได้ช่วยหลวงวิจิตรว�ทก�รเกี่ยวกับก�รแต่งบทร้องและ ทำ�นองเพลงประกอบละครม�กม�ย พ.ศ. ๒๔๘๓ ได้ย้�ยกลับไปเป็นหัวหน้�แผนกดุริย�งค์ไทย เมื่อหลวงวิจิตรว�ทก�ร รื้อฟื้นก�รบันทึกเพลงไทยเป็นโน้ตส�กลขึ้นใหม่ อ�จ�รย์มนตรีก็ได้รับหน้�ที่เป็นผู้บอกทำ�นองระน�ดทุ้มไม้และระน�ดทุ้มเหล็กเช่นเดิม ทั้งยังได้รับก�รแต่งตั้งให้เป็นกรรมก�รตรวจสอบเพลงไทยที่ บันทึกแล้วอ�จ�รย์มนตรีได้แต่งบทร้องและทำ�นองเพลงวันช�ติเข้�ประกวดได้รับร�งวัลที่๑และใช้ร้อง วันที่๒๔ มิถุน�ยนของทุกปีจนประก�ศยกเลิกภ�ยหลังวันที่๑๕เมษ�ยน พ.ศ. ๒๔๘๕ได้เปลี่ยนชื่อจ�ก บุญธรรมเป็นมนตรีเพื่อให้ถูกต้องต�มประก�ศสำ�นักน�ยกรัฐมนตรีเรื่องก�รตั้งชื่อบุคคล อ�จ�รย์มนตรีมีผลง�นและคว�มส�ม�รถ จนได้รับตำ�แหน่งเป็นหัวหน้�แผนกดุริย�งค์ไทย ศิลปินโท ศิลปินเอก และเมื่อวันที่ ๓ กุมภ�พันธ์พ.ศ. ๒๕๐๔ ได้รับพระบรมร�ชโองก�รโปรดเกล้�ฯ แต่งตั้งให้ดำ�รงตำ�แหน่งศิลปินพิเศษจนเกษียณอ�ยุ แต่ด้วยคว�มรู้และคว�มส�ม�รถของท่�น กรมศิลป�กรจึงขอให้อยู่ทำ�ง�นต่ออีก ๕ ปีนอกจ�กอ�จ�รย์มนตรีจะเป็นอ�จ�รย์ในวิทย�ลัยน�ฏศิลป กรมศิลป�กรแล้ว ท่�นยังเป็นอ�จ�รย์พิเศษของมห�วิทย�ลัยต่�ง ๆ ด้วย วันที่ ๑๖ กุมภ�พันธ์พ.ศ. ๒๕๑๔ ทรงพระกรุณ�โปรดเกล้�ฯ พระร�ชท�นเหรียญดุษฎีม�ล�เข็มศิลปวิทย�แก่อ�จ�รย์มนตรีและ วันที่ ๑๔ ตุล�คม พ.ศ. ๒๕๒๓ ท่�นก็ได้รับปริญญ�ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ท�งด้�นอักษรศ�สตร์จ�ก มห�วิทย�ลัยศิลป�กร ผลง�นอ�จ�รย์มนตรีมีม�กม�ย ทั้งในด้�นเพลงที่แต่งและด้�นวิช�ก�รท�งดนตรีด้�น ก�รแต่งเพลง อ�จ�รย์มนตรีแต่งเพลงไว้ประม�ณ ๒๐๐ เพลง มีทั้งประเภท ๓ ชั้น เพลงเถ� เพลง ประวัติศ�สตร์เพลงระบำ� และเพลงเบ็ดเตล็ด เพลงที่ได้รับคว�มนิยมแพร่หล�ย เช่น ขับไม้บัณเฑ�ะว์ ๓ ชั้น โสมส่องแสง เถ�สิบสองจุไทย ม่�นมงคล อัศวลีล� (ระบำ�ม้�) ด้�นก�รประพันธ์อ�จ�รย์- มนตรีแต่งทั้งบทกวีนิพนธ์บทละคร นิท�นประวัติศ�สตร์ส�รคดีท�งดนตรีเช่น ดุริย�งค์ไทย ภ�ควิช�ก�ร ก�รละเล่นของไทย ศัพท์สังคีตและเรื่องอื่น ๆ อีกม�กม�ย นอกจ�กนี้ยังเขียนอธิบ�ย คว�มหม�ยของคำ�ต่�ง ๆ ในส�ร�นุกรมไทยของร�ชบัณฑิตยสถ�น และเขียนส�ร�นุกรมสำ�หรับเย�วชน เรื่องดนตรีไทยด้วย จ�กผลง�นคว�มรู้คว�มส�ม�รถของท่�นอ�จกล่�วได้ว่�ท่�นเปรียบเสมือนหอสมุด ท�งดนตรีไทยซึ่งเป็นแหล่งรวมวิช�ที่ม�กที่สุดของประเทศไทยในปัจจุบัน ๑๑. นักเรียนจัดทําประวัติและผลงาน ของสังคีตกวีไทยที่ชื่นชอบ ๑ คน โดย จัดทําเปนแผนพับตกแตงใหสวยงาม ๑๒. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปน ความรูรวมกัน ดังนี้ • สังคีตกวีไทย คือ บุคคลสําคัญ ของวงการดนตรีไทย เปนผูเชี่ยวชาญ และสรางสรรคทางดนตรี มีผลงาน มากมาย สงผลใหดนตรีมีรูปแบบ หลากหลาย และมีการพัฒนาจนถึง ปจจุบัน เราในฐานะเยาวชนไทย ควรชวยกันอนุรักษและสืบทอดตอไป ๑๓. นักเรียนออกมานําเสนอแผนพับ ประวัติและผลงานของสังคีตกวีไทย หนาชั้นเรียน โดยเพื่อนกลุมอื่น และครูรวมกันประเมินผลและให ขอเสนอแนะเพิ่มเติม ๑๔. นักเรียนรวมกันรวบรวมแผนพับ ประวัติและผลงานของสังคีตกวีไทย ไปจัดไวในมุมสาระนารูในหองสมุด ของโรงเรียน หรือหองศิลปวัฒนธรรม (ถามี) เพื่อเผยแพรความรูแกนักเรียน ในโรงเรียนและผูที่สนใจศึกษา Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóРเสริมความรู ครูควรสอน พระเจนดุริยางค (ปติ วาทยกร) เปนผูประพันธทํานองเพลงชาติไทยและเปนบุคคลสําคัญ ของวงการดนตรีในประเทศไทย เปนผูมีสวนรวมในการบันทึกเพลงไทยดวยโนตสากล เปนผูวางรากฐานวงดุริยางคทหารอากาศและตํารวจ เพลงประจําอาเซียนชื่อวาเพลง The ASEAN Way (ดิ อาเซียน เวย) ไดมาจากการประกวด ตามกฎบัตรอาเซียนบทที่ ๔๐ ซึ่งเปนของประเทศไทย ประพันธโดย กิตติคุณ สดประเสริฐ (ทํานองและเรียบเรียง) สําเภา ไตรอุดม (ทํานอง) พยอม วลัยพัชรา (เนื้อรอง) รอบรูอาเซียนและโลก


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๑๘ ขอสอบเนนสมรรถนะ ฟรานซ์ โจเซฟ ไฮเดิน ๒. สังคีตกวีสากล 118 ดนตรี ม.๔-๖ นักดนตรีส�กลที่มีชื่อเสียงมีม�กม�ยหล�ยคน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวช�ญและมีคว�มส�ม�รถเป็น อย่�งม�กและได้สร้�งสรรค์ผลง�นต่�งๆไว้ม�กม�ยซึ่งจะยกตัวอย่�งม�พอสังเขปดังนี้ ที่ไพเร�ะ ในตอนไฮเดินอ�ยุ๖ ขวบ โยฮัน มัธเธียส แฟรงก์นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่และเป็นครูสอนดนตรี ที่มีชื่อเสียงได้ขอไฮเดินไปอยู่ในคว�มอุปก�ระ ซึ่งบิด�ของไฮเดินอย�กให้เข�มีคว�มก้�วหน้�จึงยอม ให้ไฮเดินไปศึกษ�ในด้�นดนตรีแต่เมื่อม�อยู่กับแฟรงก์ไฮเดินก็เหมือนนักดนตรีพเนจรที่เฝ้�รอคอย ก�รแสดงต่อผู้ชมที่มีฐ�นะ เข�เล่นฮ�ร์ปซิคอร์ดและไวโอลิน ผนวกกับเสียงร้องโซปร�โนของเข�ทำ�ให้มี ผู้ชื่นชอบในก�รร้องของเข�ม�ก เมื่อไฮเดินอ�ยุได้๑๗ ปีเข�ไม่ส�ม�รถร้องเพลงเสียงสูงได้แต่แล้ววันหนึ่งเข�ก็ถูกไล่ ออกจ�กมห�วิห�รเซนต์สตีเฟน เพร�ะตัดห�งเปียเพื่อน จึงกล�ยเป็นคนพเนจร ในช่วงชีวิตเข�ทำ�ง�น หล�ยด้�นเป็นนักดนตรีครูสอนดนตรีและในตอนนี้เองเข�ได้แต่งเพลง Serenade เป็นเพลงแรกซึ่งมี คว�มไพเร�ะม�ก ไฮเดินได้ม�พบกับนิโคล� พอร์พอร� เข�ได้ชักชวนไฮเดินไปอยู่ด้วย ทำ�ให้ทักษะท�ง ดนตรีของไฮเดินมีม�กขึ้น และเป็นที่รู้จักม�กขึ้นจ�กก�รประพันธ์โอเปร�เพลงแรก คือ The Limping Devilหรือ Der krummeTeufel ไฮเดินได้ถูกจ้�งให้เป็นผู้กำ�กับดนตรีของ เค�นต์ฟอน มอร์ชิน และได้ประพันธ์ซิมโฟนี บทแรกที่ถือว่�เป็นซิมโฟนีชิ้นแรกของโลก ตลอดเวล�เข�ได้ประพันธ์เพลงไว้ม�กม�ยทั้งซิมโฟนี- ควอเท็ตเครื่องส�ยคอนเชอร์โตโซน�ต�สำ�หรับเครื่องดีดบทเพลงสำ�หรับบ�ริโทนโอเปร� รวมถึงบทเพลง ท�งศ�สน� ทำ�ให้ชื่อเสียงของเข�เป็นที่รู้จักไปทั่วยุโรป ๒.๑ ฟรานซ์โจเซฟ ไฮเดิน (Franz Joseph Haydn) ประวัติย่อ ไฮเดินเป็นคีตกวีช�วออสเตรียในยุคคล�สสิกเกิดเมื่อวันที่ ๓๑มีน�คมค.ศ.๑๗๓๒ เป็นบุตรคนที่ ๒ จ�กจำ�นวน๑๒ คนบิด� เป็นนักดนตรีโฟล์กไฮเดินจึงเติบโตขึ้นในชีวิตครอบครัวดนตรีอย่�ง แท้จริง เสียชีวิตเมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภ�คมค.ศ.๑๘๐๙ ได้รับฉ�ย�ว่� เป็นบิด�แห่งซิมโฟนีและบิด�แห่งสตริงควอเท็ต ความสามารถและผลงาน ไฮเดินเกิดจ�กครอบครัวที่เป็นนักดนตรีเข�มีเสียงขับร้อง ตัวชี้วัด ศ ๒.๑ ม.๔-๖/๒ ภาระงาน/ชิ้นงาน ออกแบบและจัดทําวีดิทัศนเกี่ยวกับประวัติ และผลงานของสังคีตกวีสากล ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ถานักเรียนไดเปนสังคีตกวี นักเรียน จะปฏิบัติตนอยางไร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • นักเรียนรูจักบุคคลสําคัญในวงการ ดนตรีสากลหรือไม มีใครบาง (ตัวอยาง คําตอบ รูจัก เชน โมซารต โชแปง) ๓. นักเรียนดูบัตรคําและบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ฟรานซ โจเซฟ ไฮเดิน แลวรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • ฟรานซ โจเซฟ ไฮเดิน ไดรับฉายา วาอะไร (บิดาแหงซิมโฟนี และบิดาแหง สตริงควอเท็ต) • ฟรานซ โจเซฟ ไฮเดิน มีความสามารถ ในดานใด (ไฮเดินสามารถเลนฮารปซิคอรด และไวโอลินได และรองเสียงโซปราโนได แตตอมารองไมไดจึงเปลี่ยนมา แตงเพลงแทน) • ผลงานที่สําคัญของฟรานซ โจเซฟ ไฮเดิน มีอะไรบาง(ตัวอยางคําตอบ บทเพลง ประเภทซิมโฟนี เพลงสตริงควอเท็ต และ เพลงคอนเชอรโต เชน ซิมโฟนีหมายเลข 104 เพลง Stage works 16) เสริมความรู ครูควรสอน โซปราโน (Soprano) คือ ระดับเสียงสูงสุดของชวงเสียงการขับรอง เมืองหลวงของประเทศออสเตรียชื่อวาอะไร ๑ ซิดนีย ๒ เวียนนา รอบรูอาเซียนและโลก Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๑๙ สุดยอดคูมือครู โยฮันน์ เซบาสเตียน บาค ยุคสมัยของดนตรี 119 บทเพลงของไฮเดินที่เป็นที่โด่งดัง เช่นซิมโฟนีหม�ยเลข104 เพลงStage works 16 เพลง Overtures 16 เพลงสตริงควอเท็ต85 เพลง และเพลงคอนเชอร์โตจำ�นวนม�ก ที่เป็นเอกลักษณ์ผลง�นของบ�คมีอิทธิพลต่อก�รพัฒน�ดนตรีตะวันตกเป็นอย่�งม�ก ง�นประพันธ์ ของบ�คทุกชิ้นล้วนมีคว�มสมบูรณ์แบบ บ�คเกิดในครอบครัวนักดนตรีที่มีอ�ชีพเป็นนักดนตรีประจำ�ร�ชสำ�นักทำ�ให้ครอบครัวและ ตระกูลบ�คเป็นที่รู้จักต่อคนทั่วไป บ�คได้รับก�รศึกษ�ท�งดนตรีจ�กบิด� คือ น�ยโยฮันน์ อัมโบรซิอุส และเมื่ออ�ยุได้สิบปีบ�คต้องสูญเสียทั้งบิด�และม�รด� เข�จึงต้องไปอยู่กับพี่ช�ยคนโต คือ โยฮันน์คริสตอฟ บ�ค มีอ�ชีพเป็นนักเล่นออร์แกน และบ�คยังได้รับก�รศึกษ�ด้�นดนตรีเข�ได้ แสดงถึงคว�มเป็นอัจฉริยะท�งดนตรีและช่วยครอบครัวห�ร�ยได้อีกด้วย นอกจ�กเรียนดนตรีแล้ว บ�คยังเรียนว�ทศิลป์ตรรกศ�สตร์ภ�ษ�ละติน ภ�ษ�กรีก และภ�ษ�ฝรั่งเศส ทำ�ให้บ�ครู้จักกับจอร์จ โบห์ม นักดนตรีของโจฮันนิส เคิร์ช และศิษย์ของโยฮันน์อะดัม เรนเคน และเรนเคนได้สอนเกี่ยวกับ รูปแบบดนตรีของเยอรมนีตอนเหนือให้กับบ�ค บ�คมีคว�มสนใจท�งด้�นดนตรีและก�รประพันธ์เพลง เข�ได้วิเคร�ะห์โน้ตแผ่นของ นักดนตรีชื่อดังต่�ง ๆ ด้วยคว�มละเอียด จน ค.ศ. ๑๗๐๓ บ�คได้เป็นนักเล่นออร์แกน และมี ชื่อเสียงในฐ�นะนักดนตรีเอกและนักดนตรีที่บรรเลงสดโดยไม่ใช้โน้ต ค.ศ. ๑๗๐๗-ค.ศ. ๑๗๐๘ บ�คได้ประพันธ์เพลงแคนต�ต�บทแรก และจึงเริ่มประพันธ์ บทเพลงศ�สน� ตลอดชีวิตของบ�คเข�ได้ประพันธ์เพลงแคนต�ต�ม�กกว่� ๓๐๐ชิ้น ในค.ศ.๑๗๐๘-ค.ศ.๑๗๑๗ บ�คได้เป็นนักออร์แกนและไวโอลินเดี่ยวมือหนึ่งประจำ�วิห�ร ๒.๒ โยฮันน์เซบาสเตียน บาค (Johann Sebastian Bach) ประวัติย่อ บ�คเป็นคีตกวีและนักออร์แกนช�วเยอรมันเกิดเมื่อ วันที่ ๒๑มีน�คมค.ศ.๑๖๘๕ที่เมืองไอเซนน�คประเทศเยอรมนี บ�คเป็นนักประพันธ์ดนตรีในยุคบ�โรกเป็นผู้มีอิทธิพลต่อก�ร พัฒน�ดนตรีตะวันตกอย่�งม�กและถือเป็นปรม�จ�รย์ด้�นดนตรีคนหนึ่ง ความสามารถและผลงาน บ�คเป็นนักประพันธ์ดนตรีในยุคบ�โรก ได้ประพันธ์บทเพลง Bach) นดนตรีคนหนึ่ง ๔. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพโยฮันน เซบาสเตียน บาค แลวรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • โยฮันน เซบาสเตียน บาค คือใคร (ตัวอยางคําตอบ คีตกวีและนักออรแกน ชาวเยอรมัน เปนนักดนตรีในยุคบาโรก) • โยฮันน เซบาสเตียน บาค มีความ สามารถในดานใด (มีความสามารถ ในการศึกษาและวิเคราะหโนตของ นั ก ป ร ะ พั น ธ ที่ มี ชื่ อ เ สี ย ง แ ล ะ เ ป น นักออรแกน) • ผลงานที่สําคัญของโยฮันน เซบาสเตียน บาค มีอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ เพลงแคนตาตา มากกวา ๓๐๐ เพลง โดยเกี่ยวของ กั บ ศ า ส น า ป ร ะ ม า ณ ๒ ๐ ๐ เ พ ล ง สวนที่เหลือเปนลักษณะอื่น ๆ) เสริมความรู ครูควรสอน แคนตาตา (Cantata) คือ บทประพันธประเภทเพลงรองหลายทอน ไดแก การรองเดี่ยว การรองคู การรองในลักษณะการพูด และการรองประสานเสียง บทรองมีทั้งเกี่ยวของกับศาสนาและเรื่องทั่วไป Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๒๐ ขอสอบเนนสมรรถนะ โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ต ความรู้เพิ่มเติม เพลงสวดศพเรเควียม เป็นเพลงสวดที่เกี่ยวกับความตาย ร้องในโบสถ์โรมันคาทอลิกใน พิธีฝังศพ หรือวันครบรอบความตาย เป็นวันรวมวิญญาณของศาสนาคริสต์ ตรงกับวันที่ ๒ พฤศจิกายน ของทุกปี 120 ดนตรี ม.๔-๖ ส่วนตัวของดยุคแห่งไวม�ร์ทำ�ให้บ�คมีแรงบันด�ลใจในก�รสร้�งสรรค์ผลง�นต่�งๆม�กม�ย ค.ศ.๑๗๒๕-ค.ศ.๑๗๕๐บ�คอยู่ที่เมืองไลฟ์ซิคและได้สืบทอดตำ�แหน่งผู้อำ�นวยก�รดนตรี ของโบสถ์เซนต์ทอมัสเข�เป็นครูสอนดนตรีและภ�ษ�ละตินและประพันธ์เพลงแคนต�ต� ผลง�นของบ�คทุกชิ้นมีเอกลักษณ์และแตกต่�งจ�กรูปแบบของเพลงทั่วไป และสิ้นสุด ลงในยุคบ�โรกหลังจ�กที่เข�เสียชีวิต ซึ่งผลง�นของเข�มีอิทธิพลต่อแนวดนตรีในรุ่นหลัง เช่น เพลง สวดศพเรเควียมซิมโฟนีจูปิเตอร์ของโมซ�ร์ตก็ได้รับอิทธิพลจ�กก�รประพันธ์เพลงของบ�ค บ�คเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎ�คมค.ศ.๑๗๕๐ที่เมืองไลฟ์ซิคด้วยอ�ยุ๖๕ปี เมนูเอ็ตKV.2, 4 และอัลเลโกรKV.3 ๒.๓ โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ต (Wolfgang Amadeus Mozart) ประวัติย่อ โมซ�ร์ตเกิดที่เมืองซัลสบูร์กเป็นบุตรของเลโอโปลด์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์เพลงช�วเยอรมันโมซ�ร์ตเกิดเมื่อวันที่ ๒๗ มกร�คม ค.ศ.๑๗๕๖เสียชีวิตเมื่อวันที่๕ธันว�คมค.ศ.๑๗๙๑ด้วยวัย ๓๕ปี ด้วยโรคไข้ไทฟอยด์(ไข้ร�กส�ด)ที่กรุงเวียนน� ประเทศออสเตรีย ความสามารถและผลงาน โมซ�ร์ตมีคว�มส�ม�รถด้�นดนตรีเป็นเลิศเมื่ออ�ยุ๕ขวบ ส�ม�รถเล่นฮ�ร์ปซิคอร์ดและได้เรียนเรียบเรียงเสียงประส�นได้รู้จักก�ร แกะโน้ตเพลง เมื่ออ�ยุ๖ขวบเข�ได้แต่งเพลงชิ้นแรกคือ คม ร ๕. นักเรียนดูบัตรภาพบนกระดาน ดังนี้ ภาพโวลฟกัง อะมาเดอุส โมซารต แลวรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • โวลฟกัง อะมาเดอุส โมซารต มีความสามารถในดานใด (มีความสามารถทางดานดนตรีเปนเลิศ สามารถจดจําและเลนฮารปซิคอรดได ตั้งแตอายุ ๕ ขวบ และแตงเพลงได เมื่ออายุ ๖ ขวบ คือ เพลงมินูเอ็ต KV. 2, 4 และอัลเลโกร KV.3) • ผ ล ง า น ที่ สํ า คั ญ ข อ ง โ ว ล ฟ กั ง อะมาเดอุส โมซารต มีอะไรบาง (ประพันธเพลงมากกวา ๗๐๐ เพลง - เพลงสตริงควอเท็ต ๑๐ เพลง - เปยโนควอเท็ต ๒ เพลง - เปยโนควินเท็ต ๒ เพลง - เปยโนคอนเชอรโตมากกวา ๓๐ เพลง - ไวโอลินคอนเชอรโต ๗ เพลง - ฟลูตคอนเชอรโต ๓ เพลง - อุปรากร ๒๒ เรื่อง - ซิมโฟนี ๔๑ เพลง - ซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ ซิมโฟนี หมายเลข 3 9 E แ ฟ ล ต เ ม เ จ อ ร หมายเลข 40 G ไมเนอร หมายเลข 40 C เมเจอร) เสริมความรู ครูควรสอน ฮารปซิคอรด เปนเครื่องตระกูลลิ่มนิ้วหรือคียบอรด โดยใชวิธีการกดไปที่คียบอรด และกลไกจะทําหนาที่ไปตีสายที่ขึงตึง ทําใหเกิดเสียงที่มีลักษณะคลายเปยโนใน ปจจุบัน (เปนตนตระกูลของเปยโน) Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๒๑ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 121 โมซ�ร์ตมีคว�มส�ม�รถท�งด้�นดนตรีม�ก วันหนึ่งขณะที่บ้�นของโมซ�ร์ตมีก�รเล่นดนตรี โมซ�ร์ตได้ขอร่วมวงเล่นกับพ่อของเข� และได้เล่นเพลงทรีโอ เมื่อทุกคนได้ฟังก็ต้องประหล�ดใจเมื่อ โมซ�ร์ตเล่นไวโอลินได้ไพเร�ะม�ก ทำ�ให้พ่อของเข�ตัดสินใจว่�จะให้ลูกเป็นนักไวโอลินเอกของโลก ให้ได้นอกจ�กโมซ�ร์ตจะมีคว�มส�ม�รถในก�รเล่นดนตรีแล้ว เข�ยังมีคว�มส�ม�รถในก�รแต่งเพลงที่ ถูกต้องต�มหลักเกณฑ์ของวิช�ดนตรีทุกประก�ร ใน ค.ศ. ๑๗๑๒-ค.ศ. ๑๗๖๖ เข�ได้ออกเดินท�งแสดงคอนเสิร์ตกับบิด� ก�รแสดงของเข� เป็นที่ประทับใจผู้ชมอย่�งม�ก ทำ�ให้เข�ได้พบดนตรีใหม่ ๆ รวมถึงนักดนตรีได้แก่ โยฮันน์โชเบิร์ต โยฮันน์คริสเตียน บ�ค และเบอร์นัว แมร์ล็อง และเข�ได้ค้นพบเปียโนฟอร์ตที่ถูกคิดค้นขึ้นในต้น ศตวรรษที่ ๑๘ แมร์ล็องได้สอนให้เข�แต่งซิมโฟนีโมซ�ร์ตได้ประพันธ์เพลงโอเปร�ตั้งแต่อ�ยุ๑๑ ปี เรื่องอพอลโลกับไฮย�ซิน(K.38) เป็นบันเทิงคดีภ�ษ�ละติน โมซ�ร์ตได้เดินท�งไปแสดงที่ประเทศอิต�ลีเป็นประเทศที่เข�รักม�กที่สุดเข�มีคว�มชอบใน ทุกสิ่งที่เป็นของประเทศอิต�ลีโดยเฉพ�ะอุปร�กรอิต�ลีโมซ�ร์ตมีอน�คตท�งดนตรีที่รุ่งโรจน์ม�กแต่ไม่ น�นหลังจ�กที่โมซ�ร์ตและพ่อกลับม�จ�กก�รแสดงคอนเสิร์ต เข�ได้ไปเล่นไวโอลินในวงออร์เคสตร� ของอ�ร์ชบิชอฟ ผู้ใจดีแต่แล้วอ�ร์ชบิชอฟก็เสียชีวิต จึงได้รับก�รสนับสนุนจ�กอ�ร์ชบิชอฟ ไฮโรนีมุส ต่อทำ�ให้โมซ�ร์ตและพ่อมีทั้งชื่อเสียงและร�ยได้ม�กขึ้นแต่เมื่ออ�ร์ชบิชอฟ ไฮโรนีมุสเสียชีวิตอ�ร์ชบิชอฟ คนใหม่ได้สั่งห้�มไม่ให้โมซ�ร์ตและพ่อเดินท�งไปเล่นไวโอลิน ทำ�ให้โมซ�ร์ตขอล�ออกจ�กวง เมื่อข�ด ผู้สนับสนุนจึงเกิดปัญห�ด้�นก�รเงินสำ�หรับครอบครัวเข� ทำ�ให้โมซ�ร์ตต้องออกเดินท�งไปพร้อมกับ แม่เพื่อห�ร�ยได้ในก�รเดินท�งไปในครั้งนี้โมซ�ร์ตไม่ประสบคว�มสำ�เร็จและไม่ได้รับก�รต้อนรับอย่�ง ที่ควร ทำ�ให้เงินของเข�เริ่มลดน้อยลง โมซ�ร์ตได้เดินท�งไปเมืองมันน์ไฮม์และได้แต่งเพลงให้กับเจ้�- เมือง และที่นี่เข�ได้เริ่มสนใจเปียโนซึ่งเข�เล่นได้ดีม�ก ณ เมืองมันน์ไฮม์โมซ�ร์ตได้พบรักกับหญิงส�ว ชื่อว่� อลอยเซียร์เวเบอร์แม่ของเข�จึงได้บอกกับพ่อ พ่อจึงสั่งให้โมซ�ร์ตไปห�ง�นทำ�ที่ป�รีส ซึ่งที่นี่ โมซ�ร์ตไม่ได้รับคว�มนิยมแล้วและแม่ของเข�ก็เสียชีวิตลงที่นี่เช่นกันโมซ�ร์ตได้แต่งง�นกับคอนสตันซ์ เวเบอร์น้องส�วของอลอยเซียร์คนรักเก่� ในด้�นง�นเพลงโมซ�ร์ตได้รู้จักกับไฮเดิน นักดนตรีผู้ยิ่งใหญ่ แห่งกรุงเวียนน� เข�ได้สอนก�รเขียนเพลงควอเท็ตให้แก่โมซ�ร์ต จ�กนั้นโมซ�ร์ตก็เริ่มแต่งเพลงสตริงควอเท็ตม�กขึ้นหล�ยเพลง ๖. นักเรียนรวมกันวิเคราะหและแสดง ความคิดเห็นวา ถานักเรียนเปนโมซารต นักเรียนจะดําเนินชีวิตอยางไร เพื่อ ไมใหเกิดเหตุการณแบบโมซารต เปนแผนภาพความคิด ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ขอใดเกี่ยวของกับโมซารต ๑ บิดาแหงซิมโฟนี ๒ มีปญหาเกี่ยวกับหูที่ไมไดยิน ๓ ประพันธเพลงโอเปราตั้งแตอายุ ๑๑ ป ๔ ผลงานชิ้นเอกใชสําหรับการเดี่ยวเปยโน ๕ เกิดในครอบครัวนักดนตรีประจําราชสํานัก (เฉลย ๓ เพราะโมซารตเปนนักประพันธเพลงชาวเยอรมัน มีความสามารถดานดนตรีเปนเลิศ เมื่ออายุ ๕ ขวบ เลนฮารปซิคอรดและแกะโนตเพลง เมื่ออายุ ๖ ขวบ ไดแตงเพลงชิ้นแรก โมซารต ไดประพันธเพลงโอเปราตั้งแตอายุ ๑๑ ป และมีงานประพันธเพลงมากกวา ๗๐๐ เพลง) ขอสอบเนนสมรรถนะ


ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๒๒ ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขอสอบเนนสมรรถนะ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน 122 ดนตรี ม.๔-๖ ในด้�นครอบครัวของโมซ�ร์ต เข�มีลูก ๖ คน ทำ�ให้ครอบครัวของเข�มีปัญห�ด้�นก�รเงิน เพร�ะสม�ชิกในครอบครัวมีม�กขึ้น ร�ยได้น้อยกว่�ร�ยจ่�ย ทำ�ให้โมซ�ร์ตต้องกู้ยืมเงินม�ช่วยเหลือ ครอบครัว โมซ�ร์ตมีง�นประพันธ์เพลงม�กกว่� ๗๐๐ ชิ้น เป็นผู้แต่งเพลงที่ยอดเยี่ยม เริ่มตั้งแต่ เพลงสตริงควอเท็ต ๑๐ เพลง เปียโนควอเท็ต ๒ เพลง เปียโนควินเท็ต ๒ เพลง เปียโนคอนเชอร์โต ๓๐ กว่�เพลง ไวโอลินคอนเชอร์โต ๗ เพลง ฟลูตคอนเชอร์โต ๓ เพลง อุปร�กร ๒๒ เรื่อง ซิมโฟนี ๔๑ เพลง และซิมโฟนีที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ ซิมโฟนีหม�ยเลข 39 E แฟลตเมเจอร์หม�ยเลข 40 G ไมเนอร์หม�ยเลข 40 C เมเจอร์โมซ�ร์ตเป็นผู้แต่งเพลงที่ไม่เคยซ้ำ�แบบเดิม ส่วนบทเพลงสุดท้�ยที่ แต่งเป็นโอเปร� คือ The Magic ซึ่งเขียนขึ้นในขณะที่เข�กำ�ลังป่วย แต่บทเพลงกลับมีทำ�นอง และ ลีล�เต็มไปด้วยคว�มสดใส มีชีวิต ร่�เริง และเมื่อ ค.ศ. ๑๗๙๑ เข�ได้แต่งเพลงเรเควียม แต่ไม่เสร็จ เนื่องจ�กเข�เสียชีวิตด้วยโรคไข้ร�กส�ดหรือไข้ไทฟอยด์เข�เสียชีวิตในขณะที่กำ�ลังย�กจน มีหนี้สิน ภรรย�ไม่มีเงินทำ�ศพให้ส�มีในขณะที่นำ�ศพเข�ไปฝังก็เกิดพ�ยุฝน หิมะตก ทำ�ให้ผู้เดินติดต�มศพ ไม่ส�ม�รถเดินต่อไปได้ภรรย�ก็ไม่ได้ต�มไปฝังศพเพร�ะป่วย จึงไม่มีใครดูก�รฝังศพของเข�นอกจ�ก สัปเหร่อที่นำ�ศพไปฝังในป่�ช้�สำ�หรับคนอน�ถ�ที่เซนต์ม�รุกซ์ในกรุงเวียนน� โดยไม่ได้ทำ�เครื่องหม�ย อะไรไว้บ่งบอกว่�เป็นหลุมศพของโมซ�ร์ต ทำ�ให้เมื่อมีก�รจัดก�รระลึกถึง และต้องก�รสร้�งอนุส�วรีย์ ก็ไม่ส�ม�รถห�ศพได้ ๒.๔ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน (Ludwig van Beethoven) ประวัติย่อ เบโธเฟนเกิดที่เมืองบอนน์ประเทศเยอรมนีเมื่อวันที่ ๑๖ธันว�คมค.ศ.๑๗๗๐เป็นบุตรช�ยคนรองของโยฮันน์ฟ�น เบโธเฟนกับม�เรียแม็กเดเลน� เคเวริชบิด�เป็นนักร้องในคณะดนตรี ประจำ�ร�ชสำ�นักและต้องก�รให้เบโธเฟนกล�ยเป็นนักดนตรีอย่�งเช่น โมซ�ร์ตเข�มักจะขังเบโธเฟนไว้ในห้องกับเปียโนห้�มไม่ให้เล่นกับน้อง ทำ�ให้เบโธเฟนเริ่มท้อแท้กับก�รเล่นดนตรีแต่เพร�ะม�รด�ของเข�สุขภ�พ ไม่สู้ดีเข�จึงเริ่มพย�ย�มฝึกฝนดนตรีเพื่อห�เงินม�ให้ครอบครัว Beethoven) �พ ๗. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น โดยใชคําถาม ดังนี้ • ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน มีความ สามารถดานใด (มีความสามารถ ในการบรรเลงเปยโนและประพันธเพลง) • ผลงานที่สําคัญของลุดวิก ฟาน เบโธเฟน มีอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ ซิมโฟนี หมายเลข 5, 6 และ 7, 8 คอนเชอรโตสําหรับเปยโน หมายเลข 4 และ 5 โอเปราเรื่อง ฟเดลิโอ สุดยอดซิมโฟนีหมายเลข 9 ที่ถูกเลือก เปนบทเพลงประจําชาติสหภาพยุโรป) ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๒๓ สุดยอดคูมือครู ยุคสมัยของดนตรี 123 ค.ศ. ๑๗๙๒ เบโธเฟนได้ศึกษ�กับไฮเดิน และได้แสดงคอนเสิร์ตในฐ�นะเปียโนเอก ซึ่งประสบคว�มสำ�เร็จม�กทำ�ให้เข�เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียง แต่เข�ก็ต้องสูญเสียบิด�ไปในปีนี้เช่นกัน ค.ศ. ๑๗๙๕ เบโธเฟนเปิดก�รแสดงดนตรีในโรงละครส�ธ�รณะในเมืองเวียนน� ทำ�ให้ เข�เป็นที่รู้จักม�กขึ้น ต่อม�เข�เริ่มมีปัญห�กับก�รได้ยิน แต่ก็ไม่บอกใครเพร�ะในยุคนั้นจะดูถูก เหยียดหย�มผู้พิก�รม�กเข�จึงเริ่มผันตัวเองจ�กนักดนตรีไปสู่นักประพันธ์เพลงซึ่งบทเพลงของเข�เป็น บทเพลงที่เน้นแสดงอ�รมณ์ ค.ศ. ๑๘๐๑ เข�เปิดเผยเรื่องก�รได้ยิน แต่สังคมก็ยอมรับ เข�จึงประพันธ์เพลงออกม� ม�กม�ย ทำ�ให้บทเพลงของเบโธเฟนเป็นที่นิยมม�กจนม�ถึงปัจจุบัน เบโธเฟนมีคว�มโด่งดังม�ก ผลง�นของเข� คือซิมโฟนีหม�ยเลข 5 และ 9 และบทเพลงควอเท็ตเครื่องส�ย ค.ศ. ๑๘๑๙ หูของเข�ไม่ได้ยินตลอดม�จน ค.ศ. ๑๘๒๖ เข�เป็นโรคเรื้อรังในลำ�ไส้ จนเสียชีวิตลงในวันที่ ๒๖มีน�คมค.ศ.๑๘๒๗ ผลง�นของเบโธเฟนนั้นมีคว�มเป็นเอกลักษณ์เฉพ�ะตัว เข�ได้ประพันธ์ซิมโฟนีไว้๙ บท เท่�นั้น ซึ่งซิมโฟนีหม�ยเลข 5, 6, 7, 9 เป็นที่มีชื่อเสียงม�ก และคอนเชอร์โตสำ�หรับเปียโนหม�ยเลข 4 และ 5 ซึ่งผลง�นเหล่�นี้ของเบโธเฟนถือว่�เป็นนวัตกรรมท�งดนตรีอย่�งม�ก นอกจ�กนั้นเข�ได้ ประพันธ์โอเปร�เรื่องแรกไว้และเป็นเรื่องเดียว คือ ฟิเดลิโอ และซิมโฟนีหม�ยเลข 9 ของเบโธเฟน ถือว่�เป็นสุดยอดแห่งซิมโฟนีทั้งหล�ย มี๔ ท่อน คว�มย�วกว่� ๑ ชั่วโมง ไม่ยึดติดกับแบบโซน�ต� มีคว�มเป็นตัวเอง ซึ่งในท่อนสุดท้�ยเบโธเฟนได้สอดแทรกบทร้องประส�นเสียงของวงควอเท็ต เพื่อ ขับร้องบทเพลงแห่งคว�มอภิรมย์เป็นบทกวีของเฟรดริก ฟอน ซิลเลอร์ทำ�ให้ซิมโฟนีบทนี้ถูกเลือก เป็นบทเพลงประจำ�ช�ติยุโรปอีกด้วย คำ�ถ�มท้�ท�ย นักดนตรีไทยและนักดนตรีสากลมีความสำาคัญต่อวงการดนตรีอย่างไร ความสามารถและผลงาน ค.ศ.๑๗๗๘ เบโธเฟนเปิดแสดงคอนเสิร์ตเปียโนเป็นครั้งแรกต่อส�ธ�รณชนในเดือนมีน�คม ด้วยอ�ยุ๗ ปี๓ เดือนที่เมืองโคโลญจน์และหลังจ�กนั้นเข�ก็ได้เป็นศิษย์ของคริสเตียนกอตท์โลบเนเฟ ผู้สอนเบโธเฟนในเรื่องเปียโนและก�รแต่งเพลง ค.ศ. ๑๗๘๗ เบโธเฟนเดินท�งไปยังกรุงเวียนน� และมีโอก�สได้เล่นเปียโนให้โมซ�ร์ตฟัง เป็นที่ประทับใจม�ก เมื่อม�อยู่ที่กรุงเวียนน�ได้ไม่น�น เบโธเฟนก็ต้องกลับเมืองบอนน์เพร�ะม�รด� เสียชีวิตทำ�ให้เข�ต้องรับหน้�ที่ดูแลครอบครัวด้วยวัยเพียง๑๖ปี ๘. นักเรียนเลนเกม “เกาอี้ดนตรี” โดยใชบัตรคํา ดังนี้ จากนั้นนักเรียนยืนเปนวงกลม รอบเกาอี้ แลวครูเปดเพลงใหนักเรียน เดินหรือเตนรอบวงกลมเกาอี้ เมื่อครู ปดเพลงใหนักเรียนนั่งเกาอี้ นักเรียน คนใดที่ไมมีเกาอี้นั่งตองเลือกบัตรคํา ๑ ใบ แลวบอกวาเปนผลงานของ สังคีตกวีทานใด ถาตอบผิดใหออกมา แสดงความสามารถใหเพื่อน ๆ ดู หนาชั้นเรียน สวนนักเรียนที่มีเกาอี้นั่ง เปนตัวสุดทายจะเปนผูชนะ จากนั้นรวมกันสรุปความรูเปนความคิด รวบยอด ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 เสริมความรู ครูควรสอน ซิมโฟนีหมายเลข 9 มีชื่อเรียกอีกชื่อวา คอรัลซิมโฟนี (Choral Symphony) เปนผลงานซิมโฟนีชิ้นสุดทายของเบโธเฟนที่แตงไดเสร็จสมบูรณ ใน แค็ตตาล็อกผลงานของเบโธเฟน ระบุหมายเลข โอปุสที่ ๑๒๕ (Opus 125) ถูกใชเปนเพลงประจําองคกรของสหภาพยุโรปและสภายุโรป นักออรแกน เพลงเรเควียม บิดาแหงซิมโฟนี เสียชีวิตที่ไลฟซิค มินูเอ็ต KV 2, 4 นักดนตรียุคบาโรก ซิมโฟนีหมายเลข 104 บิดาแหงสตริงควอเท็ต ประพันธเพลงแคนตาตา เพลงมากกวา ๗๐๐ เพลง ซิมโฟนีหมายเลข 39 E แฟลตเมเจอร ไฮยาซิน อพอลโล


ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๒๔ ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขอสอบเนนสมรรถนะ เฟรเดริก ฟรองซัวส์ โชแปง 124 ดนตรี ม.๔-๖ หม�ยเลข๑ระหว่�งค.ศ.๑๘๓๘-ค.ศ.๑๘๔๗ โชแปงได้กล�ยเป็นชู้รักของจอร์จเจอซ็องด์นักประพันธ์ นวนิย�ยช�วฝรั่งเศส แต่ก็ต้องแยกท�งกันด้วยคว�มยินดีทั้งสองฝ่�ย โชแปงเริ่มมีอ�ก�รทรุดหนัก ในช่วงระยะเวล�นี้เข�ได้ประพันธ์เพลง พรีลูด โอปุส ที่ ๒๓ ที่พรรณน�ถึงคว�มสิ้นหวังของทั้งคู่ ในช่วงนี้ทำ�ให้เข�และจอร์จเจอ ซ็องด์ต้องเดินท�งกลับกรุงป�รีสเพื่อรักษ�โรค แต่เข�ก็ไม่ห�ยข�ด จ�กก�รป่วยจึงเสียชีวิตลงด้วยวัย ๓๙ ปี เมื่อเข�เสียชีวิตใน ค.ศ. ๑๘๔๙ พิธีศพถูกจัดขึ้นที่โบสถ์ล� มิดเดอเล็น แต่ก็ไม่เรียบร้อย เท่�ที่ควร เพร�ะได้มีก�รขออนุญ�ตให้ใช้วงประส�นเสียงสตรีในก�รร้องเพลงสวด ทำ�ให้พิธีฝังศพต้อง เลื่อนไปสองสัปด�ห์ ผลง�นของโชแปงทุกชิ้นเป็นผลง�นชิ้นเอก และใช้สำ�หรับก�รเดี่ยวเปียโน ซึ่งง�นประพันธ์ ประเภทเรียบเรียงเสียงประส�นได้แก่คอนเชอร์โต ๒ บท โปโลเนส๑บท รอนโด๑บท ว�ริอ�ซิยง ที่ ใช้บรรเลงด้วยเปียโนในวงออร์เคสตร� และเชมเบอร์มิวสิก สรุป ดนตรีมีความเชี่ยวชาญ และเป็นนักประพันธ์เพลงที่มีชื่อเสียง เป็นครูผู้สอนถ่ายทอดวิชาด้านดนตรีให้กับศิษย์ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีคุณประโยชน์อย่างมากทางด้านดนตรีส่งผลให้การดนตรีใน ปัจจุบัน มีการพัฒนาขึ้น ดังนั้นผู้ที่เรียนหรือสนใจทางด้านดนตรีจึงควรศึกษาประวัติผลงาน และให้ความเคารพต่อสังคีตกวีทุก ๆ ท่าน สังคีตกวีไทยและสังคีตกวีสากล เป็นบุคคลสำาคัญทางดนตรีเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านที่โรงเรียนดนตรีแห่งกรุงวอร์ซอโดยได้รับก�รถ่�ยทอดวิช�ดนตรีจ�กโจเซฟ เอลส์เนอร์ โชแปงได้ออกเดินท�งม�ยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อเป็นนักดนตรีเข�ได้แอบหลงรักหญิงส�วคนหนึ่งทำ�ให้เกิดแรงบันด�ลใจจนแต่งเพลงบัลล�ดหม�ยเลข 1 โอปุสที่ ๒๓ รวมถึงมูฟเมนท์ของคอนเชอร์โต ๒.๕ เฟรเดริก ฟรองซัวส์โชแปง (Frederic Francois Chopin) ประวัติย่อ โชแปงเป็นคีตกวีช�วโปแลนด์เกิดเมื่อวันที่๑มีน�คมค.ศ. ๑๘๑๐ที่เมืองเซล�โซว� โวล� เสียชีวิตเมื่อวันที่๑๗ ตุล�คมค.ศ.๑๘๔๙ ด้วยโรควัณโรคที่มีผลต่อระบบท�งเดินห�ยใจ ความสามารถและผลงาน โชแปงเริ่มเรียนดนตรีตั้งแต่อ�ยุ๖ขวบแต่งเพลงแรกได้ตอน อ�ยุ๗ ขวบแสดงต่อส�ธ�รณชนตอนอ�ยุ๘ ขวบและได้รับก�รศึกษ� ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๙. นักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น โดยใชคําถาม ดังนี้ • เฟรเดริก ฟรองซัวส โชแปง มีความสามารถในดานใด (โชแปงเปนผูมีความสามารถดาน ดนตรี เขาแตงเพลงแรกตอนอายุ ๗ ขวบ และแสดงดนตรีตอนอายุ ๘ ขวบ และเปนนักแตงเพลงที่ใช สําหรับการเดี่ยวเปยโน) • ผลงานที่สําคัญของเฟรเดริก ฟรองซัวส โชแปง มีอะไรบาง (ตัวอยางคําตอบ เพลงบัลลาด หมายเลข 1 โอปุสที่ ๒๓ มูฟเมนท คอนเชอรโตหมายเลข 1 เพลงพรีลูด โอปุสที่ ๒๓ บทเพลงสําหรับการเดี่ยว เปยโนคอนเชอรโต ๒ บท โปโลเนส ๑ บท รอนโด ๑ บท วาริอาซิยง) ๑๐. นักเรียนเลนเกม “สิ่งที่เกี่ยวกับฉัน” โดยนักเรียนฟงการอธิบายการ เลนเกมตามบัตรคํา ดังนี้ ลุดวิก ฟาน เบโธเฟน เฟรเดริก ฟรองซัวส โชแปง จากนั้นนักเรียนยืนเปนวงกลม โดยครูเปดเพลง แลวนักเรียนสง บัตรคําตอกันไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๒ บัตรคํา เมื่อครูปดเพลงบัตรคําทั้งสองอยู ที่นักเรียนคนใด นักเรียนคนนั้น บอกความสามารถหรือผลงาน ของสังคีตกวีตามบัตรคํานั้น


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๒๕ สุดยอดคูมือครู เว็บไซต์แนะนำา ยุคสมัยของดนตรี 125 คำ�ศัพท์สำ�คัญ author (ออ′ เธอร์) ผู้ประพันธ์ composer (คัมโพ′ เซอะ) คีตกวีนักแต่งเพลงหรือดนตรี famous (เฟม′ เมิส) มีชื่อเสียง โด่งดัง genius (จี′ เนียส) อัจฉริยบุคคล great teacher (เกรท′ทีเชอะ) ปรม�จ�รย์ musician (มิวซิซ′ เชียน) นักดนตรี workmanship (เวิร์ค′ เมินชิพ) ฝีมือคว�มเชี่ยวช�ญ ให้นักเรียนอ่�นคำ�และคว�มหม�ยของคำ�ต่อไปนี้ คำาศัพท์ คำาอ่าน ความหมาย คฤหัสถ์ คะ - รึ-หัด ผู้ครองเรือนผู้ไม่ใช่นักบวช ฆร�ว�ส คะ - ร� - ว�ด คนผู้อยู่ครองเรือน คนทั่วไปที่ไม่ใช่บรรพชิต หรือ นักบวช ดุษฎี ดุด-สะ -ดี คว�มยินดีคว�มชื่นชม บัณเฑ�ะว์ บัน- เด�ะ กลองสองหน้�ขน�ดเล็กชนิดหนึ่ง มีหลักอยู่ตอนบน ผูกตุ้มห้อยลงม�ท�งหน้�กลองใช้ไกวให้ตุ้มแกว่ง กระทบหน้�กลองทั้ง ๒ ข้�ง มูรธ�ภิเษก มู- ระ -ท� - พิ- เสก น้ำ�รดพระเศียรในง�นร�ช�ภิเษกหรือพระร�ชพิธีอื่นๆ เศวตฉัตร สะ - เหวด-ตะ -ฉัด ฉัตรข�ว ใช้เป็นเครื่องหม�ยแห่งคว�มเป็นพระเจ้�แผ่นดิน สังคีตกวีไทย www.eduzones.com คีตกวีเอกของโลก www.mwk.ac.th กิจกรรมพัฒน�คว�มส�ม�รถในก�รอ่�น ๑๑. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ ๓-๕ คน สืบคนขอมูลเกี่ยวกับสังคีตกวีสากล ที่สนใจและมีผลงานเปนที่ยอมรับ ในปจจุบัน กลุมละ ๑ ทาน จากนั้น รวบรวมขอมูล ออกแบบและจัดทํา ในรูปแบบวีดิทัศนนําเสนอ ๑๒. นักเรียนรวมกันสรุปสิ่งที่เขาใจเปน ความรูรวมกัน ดังนี้ • สังคีตกวีสากลเปนบุคคลสําคัญ ทางดนตรีสากล เปนผูสรางสรรค ผลงานดานดนตรีสากล มีความ เชี่ยวชาญดานดนตรีสากล เปนครู ผูถายทอดวิชาดนตรีใหกับศิษย เปนบุคคลที่มีประโยชนตอวงการ ดนตรีอยางมาก และเปนบุคคลที่ สงผลใหการดนตรีมีการพัฒนาขึ้น Step 3 ¢Ñé¹»¯ÔºÑµÔ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ ËÅѧ¡Òû¯ÔºÑµÔ


ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๒๖ ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขอสอบเนนสมรรถนะ ผังสรุปสาระสำาคัญ 126 ดนตรี ม.๔-๖ ยุคสมัย ของดนตรี รูปแบบบทเพลงและ วงดนตรีสากลแต่ละยุคสมัย สังคีตกวี สมัยก่อนสุโขทัย กษัตริย์ไทยส่งวงดนตรีไปแสดงในร�ชสำ�นักจีน ยุคกลาง มีก�รพัฒน�ก�รร้องประส�นเสียง เรียกว่� คอรัสและบทเพลงที่เกิดขึ้นเป็นเพลง ที่เกี่ยวกับศ�สน� ยุคโรโคโค เป็นยุคที่ศิลปะทุกอย่�งมีคว�มงดง�มหรูหร� แต่งเพลงเพื่อประกอบก�รแสดงโอเปร� ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เกิดสงคร�มทำ�ให้ช�วบ้�นเริ่มให้คว�มสำ�คัญกับดนตรีมีนักร้องสมัครเล่น เกิดขึ้น ยุคคลาสสิก เป็นยุคที่สง่�ง�มเป็นอมตะ เน้นดนตรีสำ�หรับเครื่องดนตรีม�กกว่�ก�รขับร้อง ยุคบาโรก กำ�เนิดวงออร์เคสตร� โอเปร� มีก�รบันทึกตัวโน้ต ยุคโรแมนติก เน้นแสดงออกถึงอ�รมณ์ของผู้ประพันธ์เพลง เน้นลักษณะดนตรีประจำ�ช�ติของตน ยุคศตวรรษที่ ๒๐-ปัจจุบัน เกิดก�รแข่งขันท�งดนตรีมีละครเพลงแทนโอเปร� เกิดธุรกิจดนตรี สังคีตกวีไทย พระเจ้�บรมวงศ์เธอกรมหมื่นพิไชยมหินทโรดม พระย�ประส�นดุริยศัพท์ พระประดิษฐ์ไพเร�ะ ครูช้อยสุนทรว�ทิน อ�จ�รย์มนตรีตร�โมท สังคีตกวีสากล ไฮเดิน บ�ค โมซ�ร์ต โชแปง เบโธเฟน สมัยสุโขทัย มีก�รประสมวงในรูปแบบก�รขับไม้วงปี่พ�ทย์เครื่องห้�และวงเครื่องประโคม สมัยอยุธยา มีก�รประสมวงในรูปแบบกองมโหรีเครื่องสี่สมัยนี้นิยมบทเพลงอัตร�จังหวะ ๒ ชั้น สมัยธนบุรี มีก�รผสมผส�นของดนตรีต่�งช�ติเกิดวงดนตรีพิณพ�ทย์ร�มัญ สมัยรัตนโกสินทร์ มีก�รนำ�เครื่องดนตรีม�ประสมกันเป็นวงดนตรีและสร้�งเครื่องดนตรีใหม่ รูปแบบบทเพลงและ วงดนตรีไทยแต่ละยุคสมัย ๑๓. นักเรียนแตละกลุมออกมานําเสนอ ผลงานหนาชั้นเรียน โดยใชเทคโนโลยี- สารสนเทศ โดยเพื่อนกลุมอื่นและครู รวมกันประเมินผลและตรวจสอบ ความถูกตอง ๑๔. นักเรียนแบงกลุม รวมกันรวบรวม ขอมูลเกี่ยวกับสังคีตกวีทั้งไทย และสากล แลวนําขอมูลที่ไดไปจัด นิทรรศการ เพื่อเผยแพรความรู ใหกับนักเรียนในโรงเรียน และผูที่ สนใจศึกษา ¢Ñé¹Ê×èÍÊÒÃáÅйíÒàÊ¹Í Step4 Step5 ¢Ñé¹»ÃÐàÁÔ¹à¾×èÍà¾ÔèÁ¤Ø³¤‹Ò ºÃÔ¡ÒÃÊѧ¤Á áÅШԵÊÒ¸ÒóÐ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๒๗ สุดยอดคูมือครู กิจกรรมการเรียนรู ยุคสมัยของดนตรี 127 ๑. ให้นักเรียนร่วมกันค้นคว้�ประวัติของนักดนตรีไทยหรือส�กลที่ชื่นชอบ ๑ คน พร้อมทั้งบอก เหตุผล ๒. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปร�ยเกี่ยวกับนักดนตรีไทยในอดีตกับบทบ�ทในก�รพัฒน�ดนตรีไทย ๓. ให้นักเรียนร่วมกันอภิปร�ยเกี่ยวกับนักดนตรีส�กลที่ส่งผลต่อวงก�รเพลงในปัจจุบัน ๔. ให้นักเรียนจัดทำ�ประวัติและผลง�นของนักดนตรีไทย๑คนและนักดนตรีส�กล๑คน ลงในแผ่นพับแล้วออกม�นำ�เสนอหน้�ชั้นเรียน ๕. ให้นักเรียนสรุปคว�มสำ�คัญของสังคีตกวีเป็นแผนภ�พ ดังตัวอย่�งต่อไปนี้ ความสำาคัญของสังคีตกวี ๑. นักเรียนชอบสังคีตกวีไทยคนใดเพร�ะอะไร ๒. สังคีตกวีไทยและส�กลมีคุณสมบัติอย่�งไรบ้�งที่ส�ม�รถนำ�ม�เป็นแบบอย่�ง ๓. ถ้�นักเรียนเป็นสังคีตกวีนักเรียนจะสร้�งผลง�นด้�นดนตรีอย่�งไรบ้�ง ๔. ถ้�ไม่มีสังคีตกวีจะส่งผลต่อก�รดนตรีอย่�งไร ๕. สังคีตกวีมีคว�มสำ�คัญต่อสังคมอย่�งไร ๖. ถ้�นักเรียนต้องก�รเป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียงจะศึกษ�ผลง�นของสังคีตกวีส�กลคนใดเพร�ะอะไร ๗. ถ้�ไม่มีก�รบันทึกประวัติและผลง�นของสังคีตกวีไทยและส�กลจะเกิดผลอย่�งไร ๘. ก�รศึกษ�เรียนรู้เรื่องสังคีตกวีมีประโยชน์ต่อนักเรียนอย่�งไร ๙. นักเรียนอย�กเป็นเหมือนสังคีตกวีคนใดเพร�ะอะไร ๑๐. ถ้�นักเรียนได้เป็นสังคีตกวีที่ดังที่สุดในโลกจะประพันธ์เพลงแนวใดเพร�ะอะไร ๓ สังคีตกวี คำถามพัฒนากระบวนการคิด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๒ ตัวชี้วัด แนวคําตอบ ๑. อาจารยมนตรี ตราโมท เพราะทาน เปนผูมีความสามารถมีความขยันใฝรู ๒. ความขยัน ความพยายาม ความอดทน ๓. แตงบทเพลงที่มีเนื้อหาและทํานอง แปลกใหม ๔. การดนตรีไมพัฒนา ไมมีผูสนับสนุน ๕. ทําใหสังคมมีความสุข คนในสังคม ผอนคลายความเครียด ๖. โชแปง เพราะเปนผูมีผลงานดาน การเดี่ยวเปยโน ๗. ทําใหไมทราบถึงความรูความสามารถ ที่ ห ล า ก ห ล า ย ข อ ง สั ง คี ต ก วี แ ล ะ ไมทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นวากวาสังคีตกวี แตละทานจะประพันธเพลง ตองพบ กับสิ่งใดบาง ๘. ทําใหรูสึกประทับใจในความสามารถ ข อ ง สั ง คี ต ก วี เ ป น แ บ บ อ ย า ง ที่ ดี สามารถนํามาปรับใชในชีวิตได ๙. ครูชอย สุนทรวาทิน เพราะแมทานจะ ตาบอด แตสามารถบรรเลงดนตรี แตงบทเพลง และสอนผูอื่นได ๑๐. ป ร ะ พั น ธ เ พ ล ง ค ล า ส สิ ก เ พ ร า ะ เปนเพลงที่มีความไพเราะงดงาม


ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๒๘ ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขอสอบเนนสมรรถนะ หนวยการเรียนรูที่ ๑. เปรียบเทียบอารมณ์และความรู้สึกที่ได้รับจากงานดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมต่างกัน (ศ ๒.๑ม.๔-๖/๗) ๒. เปรียบเทียบลักษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมต่างๆ(ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๓) ดนตรีในแต่ละวัฒนธรรมมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามแต่ละท้องถิ่น ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ เป็นสิ่งที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของคนใน ท้องถิ่นสร้างความสุขสนุกสนานผ่อนคลายให้กับคนในท้องถิ่นเป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อท้องถิ่นที่ควรอนุรักษ์ สืบทอดต่อไป ลักษณะเด่น ของดนตรี ในแต่ละวัฒนธรรม การถ่ายทอด อารมณ์ความรู้สึก ของงานดนตรี จากแต่ละวัฒนธรรม ดนตรีในแต่ละ วัฒนธรรม ลักษณะเด่นของดนตรี ในวัฒนธรรมภาคใต้ การถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ของงานดนตรีในวัฒนธรรม ภาคเหนือ การถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ของงานดนตรีในวัฒนธรรม ภาคกลาง การถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ของงานดนตรีในวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ของงานดนตรีในวัฒนธรรม ภาคใต้ ลักษณะเด่นของดนตรี ในวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเด่นของดนตรี ในวัฒนธรรมภาคกลาง ลักษณะเด่นของดนตรี ในวัฒนธรรมภาคเหนือ ๗ ดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม สาระสำาคัญ ผังสาระการเรียนรู้ ตัวชี้วัด เปาหมายการเรียนรู มาตรฐานการเรียนรู มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขาใจและแสดงออกทางดนตรีอยาง สรางสรรค วิเคราะห วิพากษวิจารณคุณคา ดนตรี ถายทอดความรูสึก ความคิดตอ ดนตรีอยางอิสระ ชื่นชม และประยุกตใช ในชีวิตประจําวัน มาตรฐาน ศ ๒.๒ เขาใจความสัมพันธระหวางดนตรี ประวัติศาสตร และวัฒนธรรม เห็นคุณคา ของดนตรีที่เปนมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปญญาทองถิ่น ภูมิปญญาไทยและ สากล บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 จดุ ประกายโครงงาน นักเรียนแบงกลุมรวมกัน ๔ กลุม ศึกษาและสํารวจขอมูลลักษณะเดน ของดนตรี และการถายทอดอารมณ ความรูสึกของงานดนตรีในแตละ วัฒนธรรม จากนั้นนําขอมูลไปจัดทําเปนไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต และโพสตลงในเว็บไซตของโรงเรียน เพื่อเผยแพรความรูแกผูที่สนใจศึกษา สมรรถนะสําคัญของผูเรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชทักษะชีวิต ๔. ความสามารถในการใชเทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค ใฝเรียนรู ตัวชี้วัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามใน การเรียนและเขารวมกิจกรรมการเรียนรู มุงมั่นในการทํางาน ตัวชี้วัดที่ ๖.๑ ตั้งใจและรับผิดชอบใน การปฏิบัติหนาที่การงาน รักความเปนไทย ตัวชี้วัดที่ ๗.๓ อ นุ รั ก ษ แ ล ะ สื บ ท อ ด ภูมิปญญาไทย


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๒๙ สุดยอดคูมือครู หนวยการเรียนรูที่ ดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม 129 ในประเทศไทยดนตรีในวัฒนธรรมต่าง ๆ ในแต่ละภาคมีความแตกต่างกันในรูปแบบตาม วัฒนธรรมของแต่ละภาค ซึ่งแต่เดิมเพลงพื้นบ้านไม่มีวงดนตรีเข้ามาประกอบมากนัก จะมีเฉพาะ เครื่องดนตรีบางชิ้นส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องประกอบเป็นจังหวะที่หาง่ายๆ เพลงพื้นเมือง หรือเพลงพื้นบ้านเป็นการเล่นเพื่อความสนุกสนานของคนในภาคนั้น เช่น เพลงเรือในภาคกลาง ส่วนใหญ่จะเป็นการเกี้ยวพาราสีกันของหนุ่มสาว ต่อมาการแสดงเพลงพื้นเมือง เหล่านี้มีการตั้งเป็นวงหรือเป็นคณะเล่นร้องประชันกันหรือร้องโต้ตอบกันในลักษณะเกี้ยวพาราสีโดยใช้ ปฏิภาณไหวพริบทำาให้เกิดความสนุกสนานในการกล่าวแก้กันไปมาระหว่างฝ่ายหญิงกับฝ่ายชายเป็นการ ผ่อนคลายความตึงเครียด เพลงพื้นเมืองแบ่งออกเป็น ๔ ภูมิภาคได้แก่ ภาคกลาง เช่นเพลงเรือเกี่ยวข้าวลำาตัดฉ่อยอีแซว แอ่วเคล้าซอ ภาคเหนือ เช่น เพลงซอน้อยใจยา ซอพระลอจ๊อย ฟ้อนต่างๆ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น เพลงเซิ้งลำาเต้ยลำาซิ่งลำาเพลินกันตรึมเจรียง ภาคใต้ เช่น เพลงมโนราห์ รองเง็งตันหยงฮูลู เพลงพื้นบ้านใน ท้องถิ่นของนักเรียน มีลักษณะอย่างไร ลักษณะเด่นของดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม จุดประกายความคิด ตัวชี้วัด ศ ๒.๒ ม.๔-๖/๓ ภาระงาน/ชิ้นงาน - แผนภาพความคิดเปรียบเทียบดนตรี พื้นบานในแตละภาค - จัดทําผลการเปรียบเทียบความเหมือนและ ความแตกตางของดนตรีพื้นบาน โดยใช ไมโครซอฟตออฟฟศเพาเวอรพอยต ๑. นักเรียนรวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • นักเรียนจะสรางลักษณะเดนใหกับดนตรี ในทองถิ่นของตนเองอยางไร ๒. นักเรียนรวมกันสนทนาวา การบรรเลงดนตรี และการขับรองเพลงพื้นบานในทองถิ่น ของนักเรียนใหอารมณความรูสึกอยางไรบาง ๓. นักเรียนชมการแสดงดนตรีพื้นบาน แลว รวมกันสนทนา โดยใชคําถาม ดังนี้ • การแสดงที่ชมเปนการแสดงดนตรีของ ภาคใด (ตัวอยางคําตอบ ภาคกลาง) • การแสดงนี้มีลักษณะอยางไร (ตัวอยาง คําตอบ เปนการรายรําและใชกลองประกอบ การแสดง) • การแสดงนี้ใหอารมณและความรูสึก อยางไร (ตัวอยางคําตอบ สนุกสนาน เราใจ) ๔. นักเรียนรวมกันสนทนาวาดนตรีพื้นบาน ในทองถิ่นของนักเรียนมีลักษณะเดนอยางไร โดยเขียนสรุปคําตอบเปนแผนภาพความคิด ดังตัวอยาง culture (คัล' เชอะ) วัฒนธรรม ethnic (เอธ' นิค) เชื้อชาติ life (ไลฟฺ) ชีวิต การมีชีวิต วิถีชีวิต local (โล' เคิล) ทองถิ่น nature (เน เชอะ) ธรรมชาติ English talk ใชเครื่องดนตรี ประเภทตี ผสมผสานระหวาง วัฒนธรรมของ ๒ ศาสนา มีจังหวะเร็ว ใหความรูสึกฮึกเหิม ลักษณะเดนของ ดนตรีในทองถิ่น Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๓๐ ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขอสอบเนนสมรรถนะ 130 ดนตรี ม.๔-๖ ที่กล่าวมาเป็นลักษณะของรูปแบบดนตรีการร้องบรรเลงเพลงของแต่ละวัฒนธรรม ซึ่งดนตรีใน แต่ละวัฒนธรรมแบ่งตามลักษณะวัฒนธรรมของแต่ละภูมิภาคดังนี้ ภาคเหนือเป็นชนชาวไทยหลายเชื้อชาติทำาให้เกิดการผสมผสานกันทางศิลปวัฒนธรรม จนเป็นเอกลักษณ์ของชาวภาคเหนือ ลักษณะดนตรีพื้นบ้านจะถ่ายทอดให้เห็นวัฒนธรรมของชาวเหนือ วิถีชีวิตธรรมชาติของท้องถิ่นซึ่งลักษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมภาคเหนือมีดังนี้ ๑.๑ เครื่องดนตรี ในยุคแรกจะเป็นเครื่องดนตรีประเภทตีได้แก่ ท่อนไม้กลวง ที่ใช้ประกอบพิธีกรรม เกี่ยวกับภูตผีปีศาจ เจ้าป่าเจ้าเขา จากนั้นได้มีการพัฒนาโดยนำาหนังสัตว์มาขึงที่ปากท่อนไม้กลวงไว้ กลายเป็นเครื่องดนตรีที่เรียกว่ากลอง ต่อมามีการพัฒนารูปแบบของกลองให้แตกต่างไป เช่น กลองที่ขึงปิดด้วยหนังสัตว์เพียงหน้าเดียว ได้แก่ กลองยาว กลองแอว และกลองที่ขึงด้วยหนังสัตว์ ทั้งสองหน้า ได้แก่กลองมองเซิงกลองสองหน้าและตะโพนมอญ นอกจากนี้ยังมีเครื่องตีที่ทำาด้วยโลหะ เช่น ฆ้อง ฉิ่ง ฉาบ ส่วนเครื่องดนตรีประเภทเป่า ได้แก่ ขลุ่ย ปี่แน ปี่มอญ ปี่สรไน และ แคนน้ำ�เต้า เครื่องสีได้แก่ สะล้อลูก ๕ สะล้อลูก ๔ และสะล้อ ๓ สาย และเครื่องดีด ได้แก่ พิณเพียะ และซึง ๓ ขนาด คือ ซึงน้อย ซึงกลาง และซึงใหญ่ ลักษณะเด่นของดนตรีพื้นบ้าน ภาคเหนือ คือ มีการนำาเครื่องดนตรีประเภท ดีด สีตีเป่า มาผสมวงกันให้มีความสมบูรณ์และไพเราะ โดยเฉพาะในด้านสำาเนียงและทำานองที่พลิ้วไหวตามบรรยากาศ ความนุ่มนวลอ่อนหวานของผู้คน ภาคเหนือ นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานทางวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ และวัฒนธรรมในคุ้มและวัง จนกลายเป็นดนตรีพื้นบ้านซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น การแสดงขับร้องเพลงอีแซวของภาคกลาง การแสดงเพลงลำาเต้ยของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑. ลักษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมภาคเหนือ ๕. นักเรียนดูบัตรคําบนกระดาน ดังนี้ ๖. นักเรียนรวมกันสนทนาเกี่ยวกับ ลักษณะเดนของดนตรีในวัฒนธรรม ภาคเหนือตามหัวขอในบัตรคํา จากนั้น เขียนสรุปคําตอบเปนแผนภาพความคิด ดังตัวอยาง เสริมความรู ครูควรสอน ปสรไน เปนปที่มีรูปรางคลายปชวา ใชบรรเลงนําหมูกลองชนะสําหรับประโคม ในงานพระราชทานเพลิงศพที่ไดรับพระราชทานโกศ ลักษณะเดนของดนตรีในวัฒนธรรมภาคเหนือ เครื่องดนตรี สําเนียง องคประกอบของบทเพลง วงดนตรี ภาษา เนื้อรอง ลักษณะเดน ของดนตรีใน วัฒนธรรมภาคเหนือ วงดนตรี มีลักษณะ เฉพาะ เนื้อรองใชภาษาถิ่นภาคเหนือ มีการนําเครื่องดนตรี ดีด สี ตี เปา มาผสมวงกัน ใหเกิดความไพเราะ เครื่องดนตรี ประเภทตีใชประกอบ พิธีกรรมเกี่ยวกับ ภูตผีปศาจ บทเพลง ใหความรูสึก ผอนคลาย สบายใจ สําเนียงออนหวาน เนิบชา Step 1 ¢Ñé¹Êѧࡵ ÃǺÃÇÁ¢ŒÍÁÙÅ


รอบรูอาเซียนและโลก ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา Self-Regulating เสริมความรู ครูควรสอน ตัวชี้วัด ขั้นปฏิบัติและสรุปความรูหลังการปฏิบัติ Applying and Constructing the Knowledge ขั้นสื่อสารและนําเสนอ Applying the Communication Skill ๑๓๑ สุดยอดคูมือครู ดนตรีในแต่ละวัฒนธรรม 131 ๑.๒ วงดนตรี ได้แก่ วงกลองปู่เจ่ วงมองเซิง วงเต่งทิ้ง วงสะล้อ ซอ ซึง วงกลองแอว วงปี่ชุม วงกลองสะบัดชัยซึ่งมีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันออกไปมีดังนี้ ● วงกลองปู่เจ่ เป็นวงดนตรีแบบชาวไทใหญ่บรรเลงประกอบการฟ้อนดาบ ฟ้อนโต ● วงมองเซิงประกอบด้วย ฆ้องขนาดต่างๆ ๓ ใบขึ้นไปลักษณะการแสดง คล้ายกับวงกลองปู่เจ่ ● วงเต่งทิ้ง หรือวงกลองตึ่งโนงมีลักษณะคล้ายกับวงปี่พาทย์มอญของภาคกลาง นิยมบรรเลงในการชกมวยงานศพ งานทรงเจ้า งานฟ้อนต่างๆ ฟ้อนผีมดผีเม็ง ● วงสะล้อ ซอ ซึง เป็นวงที่ใช้เครื่องสายเป็นหลัก ได้แก่ สะล้อและซึง วงสะล้อ และซอจะบรรเลงเพลงพื้นบ้านที่ไม่มีการขับร้อง ส่วนวงซอจะมีการบรรเลง เพลงพื้นบ้านที่มีการขับร้องร่วมด้วย ● วงกลองแอว ประกอบด้วย กลองแอว กลองตะโล้ดโป๊ด ฆ้อง ฉาบ ปี่แนหลวง และปี่แนน้อย ● วงปี่ชุม(ปี่จุม) เป็นวงดนตรีที่ใช้เล่นประกอบการแสดงซอโดยใช้ปี่ชุม ● วงกลองสะบัดชัย เป็นวงดนตรีที่ใช้ประกอบการแสดงต่าง ๆ มีการตีที่โลดโผน น่าตื่นเต้น ๑.๓ ภาษา เนื้อร้อง ภาษาและเนื้อร้องที่ใช้ในบทเพลงเป็นภาษาท้องถิ่นภาคเหนือ เช่น สิกจุ้งจา (ไกวชิงช้า) กาด(ตลาด)หื้อ (ให้) เนื้อร้องมีเนื้อหาที่แตกต่างกันไปมีทั้งบรรยายถึงธรรมชาติการเกี้ยวพาราสีหรือ สอดแทรกคติคำาสอน ๑.๔ สำาเนียง สำาเนียงที่ใช้จะเป็นสำาเนียงของชาวเหนือ มีสำาเนียงแตกต่างกันไปตามท้องถิ่น มีสำาเนียงที่ไพเราะอ่อนหวานเนิบช้าถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ ๑.๕ องค์ประกอบบทเพลง บทเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ มีจังหวะช้า ฟังสบาย มีการประสานเสียง ระหว่างดนตรีและผู้ขับร้อง ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ซึ่งทำาให้องค์ประกอบ บทเพลงของภาคเหนือมีลักษณะที่แตกต่าง จากภาคอื่นๆ การบรรเลงดนตรีพื้นบ้านภาคเหนือ ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๗. นักเรียนแบงกลุม ๕ กลุม แตละกลุม ออกมาจับสลากเลือกหัวขอ ดังนี้ • เครื่องดนตรี • สําเนียง • วงดนตรี • องคประกอบของบทเพลง • ภาษา เนื้อรอง จากนั้นแตละกลุมรวมกันอภิปราย เกี่ยวกับหัวขอของลักษณะเดน ของดนตรีในวัฒนธรรมภาคเหนือที่ จับสลากได แลวสรุปผลการอภิปราย ดนตรีและศิลปะของชาวฟลิปปนสไดรับอิทธิพลมาจาก ๒ วัฒนธรรม ที่มีการยายมายังประเทศนี้ ประเภทแรกเพลงพื้นเมืองที่อพยพมาจากไตหวัน ประเภทที่ ๒ วัฒนธรรม รูปแบบดนตรีจากประเทศสเปนและเม็กซิโกทําให รูปแบบของเพลงฟลิปปนสมีความทันสมัย รอบรูอาเซียนและโลก


ขั้นคิดวิเคราะหและสรุปความรู Processing GPAS 5 Steps บูรณาการทักษะศตวรรษที่ 21 สุดยอดคูมือครู ๑๓๒ ขั้นสังเกต รวบรวมขอมูล Gathering ขอสอบเนนสมรรถนะ 132 ดนตรี ม.๔-๖ ๒.๒ วงดนตรี วงดนตรีพื้นบ้านภาคกลาง ได้แก่ วงปี่พาทย์วงมโหรีวงเครื่องสาย วงกลองยาว ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกันออกไปมีดังนี้ ● วงปี่พาทย์เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทตีและเป่า ใช้บรรเลง ในงานพิธีและประกอบการแสดงต่างๆ ● วงมโหรีเป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีทั้ง ๔ ประเภท คือ เครื่องดีด เครื่องสีเครื่องตีและเครื่องเป่า ใช้บรรเลงในงานมงคลต่างๆ ● วงเครื่องสาย เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องดีดและ เครื่องสีเป็นหลัก ใช้บรรเลงในงานมงคล ในอาคาร ห้อง หรือบริเวณไม่กว้าง มากเกินไป ● วงกลองยาว เป็นวงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องตีได้แก่ กลองยาว ฉิ่ง ฉาบ กรับ และโหม่ง ใช้บรรเลงประกอบขบวนแห่ต่างๆและใช้ประกอบการแสดงรำาเถิดเทิง ภาคกลางมีลักษณะบทเพลงและวงดนตรีที่หลากหลายมีรูปแบบการละเล่นที่สนุกสนานเพราะ ส่วนใหญ่มักร้องเพื่อความผ่อนคลายเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงในเทศกาลงานต่างๆทำาให้มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว ซึ่งลักษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมภาคกลางมีดังนี้ ๒.๑ เครื่องดนตรี ประกอบด้วย เครื่องดนตรีประเภท ดีด สีตีเป่า โดยเครื่องดีด ได้แก่ จะเข้และ จ้องหน่อง เครื่องสีได้แก่ ซอด้วง และซออู้เครื่องตีได้แก่ ระนาดเอก ระนาดทุ้ม ระนาดเอก เหล็ก ระนาดทุ้มเหล็ก ฆ้อง โหม่ง ฉิ่ง ฉาบ และกรับ และเครื่องเป่า ได้แก่ ขลุ่ย และปี่ ลักษณะเด่น ของดนตรีพื้นบ้านภาคกลาง คือ วงปี่พาทย์ของภาคกลางจะมีการพัฒนาในลักษณะผสมผสานกับ ดนตรีหลวง โดยพัฒนามาจากการใช้เครื่องดนตรีปี่และกลองเป็นหลักมาเป็นระนาดและฆ้องวง พร้อมทั้ง เพิ่มเครื่องดนตรีมากขึ้นจนเป็นวงดนตรีที่มีขนาดใหญ่รวมทั้งยังมีการขับร้องที่คล้ายคลึงกับปี่พาทย์ของ หลวง ซึ่งเป็นผลมาจากการถ่ายโยงทางวัฒนธรรมระหว่างวัฒนธรรมราษฎร์และหลวง ๒.๓ ภาษา เนื้อร้อง ภาษาที่ใช้เป็นภาษาถิ่นของภาคกลาง เนื้อร้องในบทเพลงจะหลากหลายขึ้นอยู่กับ โอกาสที่ใช้มีทั้งการเกี้ยวพาราสีกัน การโต้ตอบชิงไหวพริบกัน และเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพ เกษตรกรรม เพราะคนภาคกลางมักประกอบอาชีพทำานา ทำาไร่ เช่น เพลงอีแซว เกี้ยวอักษร ก. มีเนื้อร้อง เกี่ยวกับการเกี้ยวสาวโดยการเล่นคำาใช้อักษร ก.ไก่ เพลงเต้นกำารำาเคียว เป็นการร้องโต้ตอบกัน มีเนื้อหาลักษณะเกี้ยวพาราสีกันระหว่างหนุ่มสาว ๒. ลักษณะเด่นของดนตรีในวัฒนธรรมภาคกลาง ¢Ñ鹤ԴÇÔà¤ÃÒÐˏ áÅÐÊÃØ»¤ÇÒÁÃÙŒ Step 2 ๘. นักเรียนรวมกันวิเคราะหวา ดนตรี ในภาคกลางมีลักษณะเดนอยางไร ๙. นักเรียนวิเคราะหเปรียบเทียบวา ลักษณะเดนของดนตรีภาคเหนือ และภาคกลางมีความเหมือนและ แตกตางกันอยางไร เปนแผนภาพ ความคิด เสริมความรู ครูควรสอน เพลงอีแซว เปนเพลงพื้นบานที่เปน เอกลักษณของจังหวัดสุพรรณบุรี เปนบทเพลงขับรองโตตอบกันของ พอเพลง แมเพลง และลูกคู ดวยลีลา และทํานองที่สนุกสนาน การประกอบอาชีพเกษตรกรรมในภาคกลางทําใหเกิดการสรางสรรคดนตรีในขอใด ๑ การแสดงรําเถิดเทิง ๒ เพลงเตนกํารําเคียว ๓ เพลงเซิ้งบั้งไฟ ๔ วงปพาทย ๕ วงกันตรึม (เฉลย ๒ เพราะ ๑ เปนดนตรีที่เกิดจากการละเลน ๓ และ ๕ เปนดนตรีของภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ และ ๔ เปนวงดนตรีที่ไดรับอิทธิพลจากวัฒนธรรมราษฎร และ วัฒนธรรมหลวง) ขอสอบเนนสมรรถนะ


Click to View FlipBook Version