The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการสร้างคำ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by aum2407amornwan, 2024-06-20 13:10:36

วิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการสร้างคำ

วิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการสร้างคำ

90


91


92


93


94


95


96


97


98


99


100


101


102


103


104


105


106


107


108


109


110


111


112


113


114


115


116


117 ตัวอย่างแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 คำประสม เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย เวลา 1 ชั่วโมง ................................................................................................................................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชี้วัด ท 4.1 ม.1/2 การสร้างคำในภาษาไทย สาระสำคัญ คำประสมเกิดจากการนำคำมูลตั้งแต่สองคำขึ้นไปมาประสมกัน แล้วเกิดเป็นคำที่มีความหมายใหม่ แต่ยัง มีเค้าความหมายเดิมอยู่ คำประสมสามารถแยกเป็นคำ ๆ ได้ โดยคำที่แยกได้แต่ละคำจะมีความหมายต่างกัน แต่ เมื่อนำมารวมกันจะมีความหมายต่างจากคำเดิม จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายลักษณะของคำประสมในภาษาไทยได้ถูกต้อง 2. นักเรียนมีทักษะในการจำแนกคำประสมและคำชนิดอื่นออกจากกันได้ 3. นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน สาระการเรียนรู้ ด้านความรู้ ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย ด้านทักษะและกระบวนการ 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร


118 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน ด้านสมรรถนะสำคัญของนักเรียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสื่อสาร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน 1. ครูชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ ข้อตกลงในการวัดและประเมินผลให้นักเรียนทราบ 2. ครูให้นักเรียนบอกลักษณะของคำประสมตามความเข้าใจของนักเรียน ขั้นสอน 1. ครูให้นักเรียนศึกษาใบความรู้เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย 2. ครูอธิบายเรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย 3. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม “ใช่หรือไม่ไหนลองบอก” โดยครูจะมีป้ายคำศัพท์จำนวน 10 แผ่นป้ายให้ นักเรียนช่วยกันเลือกว่าป้ายคำศัพท์ใดบ้างที่เป็นคำประสม เพราะอะไร จากนั้นครูอธิบายเพิ่มเติม 3. ครูให้นักเรียนทำชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย 4. ครูเฉลยชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย พร้อมอธิบาย เพิ่มเติมให้นักเรียนเข้าใจ ขั้นสรุป 1. นักเรียนสรุปความรู้และบันทึกความรู้เพิ่มเติมลงในสมุดภาษาไทย สื่อและแหล่งเรียนรู้ 1. ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย 2. PowerPoint ประกอบการสอน เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย 3. ป้ายคำศัพท์ 10 แผ่นป้าย


119 การวัดและการประเมินผล การวัดและการ ประเมินผล จุดประสงค์ วิธีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถ อธิบายลักษณะของคำ ประสมในภาษาไทยได้ ถูกต้อง สังเกตพฤติกรรมการมี ส่วนร่วมในการเรียน แบบสังเกต พฤติกรรมการมีส่วน ร่วมในการเรียน นักเรียนผ่านเกณฑ์การตัดสิน คุณภาพโดยมีคะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขึ้นไป 2. นักเรียนมีทักษะใน การจำแนกคำประสม และคำชนิดอื่นออกจาก กันได้ ตรวจแบบฝึกทักษะ การสร้างคำประสมใน ภาษาไทย เรื่อง ลักษณะของคำประสม ในภาษาไทย ชุดแบบฝึกพัฒนา ทักษะการสร้างคำ เรื่อง ลักษณะของคำ ประสมในภาษาไทย นักเรียนผ่านเกณฑ์การตัดสิน คุณภาพโดยมีคะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขึ้นไป 3. นักเรียนมีความสนใจ ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นใน การทำงาน สังเกตพฤติกรรมการมี ส่วนร่วมในการเรียน แบบสังเกต พฤติกรรมการมีส่วน ร่วมในการเรียน นักเรียนผ่านเกณฑ์การตัดสิน คุณภาพโดยมีคะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขึ้นไป


120 แบบสังเกตพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการเรียน คำชี้แจง : ประเมินจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียนในขณะปฏิบัติกิจกรรมเป็นรายบุคคล โดยให้ระดับคะแนน ที่ตรงกับพฤติกรรมของผู้เรียน เกณฑ์การให้คะแนน 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุง เลขที่ ชื่อ – สกุล คุณลักษณะ เกณฑ์ ประเมิน 1. การให้ความร่วมมือ 2. การแสดงความคิดเห็น 3. ความตั้งใจในการทำงาน 4. ขยัน อดทน 5. ความรับผิดชอบ คะแนน (15 คะแนน) ผ่าน ไม่ผ่าน


121 เกณฑ์การให้คะแนนพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการเรียน ข้อ รายการประเมิน ระดับความสามารถ 3 (ดี) 2 (ปานกลาง) 1 (ปรับปรุง) 1 การให้ความร่วมมือ ให้ความร่วมมือในการ ทำงาน/กิจกรรม อย่างสม่ำเสมอ ให้ความร่วมมือใน การทำงาน/กิจกรรม เป็นบางครั้ง ไม่ให้ความร่วมมือใน การทำงาน/กิจกรรม 2 การแสดงความคิดเห็น แสดงความคิดเห็นได้ อย่างสร้างสรรค์และ มีคุณค่า แสดงความคิดเห็น เป็นบางครั้ง แสดงความคิดเห็น น้อย 3 ความตั้งใจในการทำงาน ตั้งใจทํางานที่ได้รับ มอบหมาย ไม่พูดคุย กันขณะทำงาน ตั้งใจทํางานเป็น บางครั้ง พูดคุยกัน ขณะทำงาน ไม่สนใจงานที่ได้รับ มอบหมาย 4 ขยัน อดทน ขยันทำงานที่ได้รับ หมอบหมาย ทำงาน จนสําเร็จลุล่วง ขยันทำงานที่ได้รับ มอบหมาย ทำงานจน สำเร็จลุล่วงเป็น บางครั้ง ไม่ขยันทำงานที่ได้รับ มอบหมาย งานไม่ เสร็จตามระยะเวลาที่ กำหนด 5 ความรับผิดชอบ ส่งงานตรงเวลา ส่งงานครบถ้วนทุกชิ้น ส่งงานล่าช้ากว่า กำหนด 1 วัน ส่งงาน ไม่ครบ ส่งงานช้ากว่า กำหนดเกิน 2 วัน ส่งงานไม่ครบ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 11 - 15 คะแนน หมายถึง นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนระดับดี 6 - 10 คะแนน หมายถึง นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนระดับพอใช้ 0 - 5 คะแนน หมายถึง นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนระดับปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน นักเรียนผ่านเกณฑ์การตัดสินคุณภาพโดยมีคะแนนตั้งแต่ 6 คะแนนขึ้นไป


122 กิจกรรมเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………….…………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ความคิดเห็นของ (รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชา/ผู้บริหาร หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ.......................................................... (..................................................................) ตำแหน่ง....................................................... วันที่.............................................................


123 ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย คำประสม คือ คำที่เกิดจากการนำคำมูลตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป และมีความหมายต่างกันมาประสมกันเป็นคำ ใหม่คำมูลที่นำมาประสมกันอาจเป็นคำนาม สรรพนาม กริยา วิเศษณ์ และบุพบท หลักการสังเกตคำประสม ๑. คำมูลตั้งแต่สองคำขึ้นไปประสมกัน เกิดคำใหม่ มีความหมายใหม่ เป็นคำประสม ได้แก่ (๑) มีความหมายเฉพาะ เมื่อนำมารวมกันแล้วซึ่งต้องขยายความ เช่น คำประสม ความหมาย ห่อหมก ดูอายุน้อยกว่าอายุจริง หน้าอ่อน ดูอายุน้อยกว่าอายุจริง ยาบ้า ยาเสพติดชนิดหนึ่งเมื่อเสพแล้วเกิดอาการคล้ายเป็นบ้า (๒) มีความหมายเปรียบเทียบ แต่ยังมีเค้าความหมายเดิมอยู่ เช่น คำประสม ความหมาย หัวสูง มีรสนิยมสูง มือสะอาด มีความซื่อสัตย์สุจริต ตีนแมว นักย่องเบาที่มีพฤติกรรมคล้ายแมวคือเดินเบา (๓) คงความหมายของคำเดิม เช่น คำประสม ความหมาย ไข่เป็ด ไข่ของเป็ด น้ำหอม น้ำที่กลั่นจากเครื่องหอม งูพิษ งูประเภทหนึ่งมีพิษ ใบความรู้ที่ ๑ เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย


124 ๒. คำมูลตั้งแต่สองคำขึ้นไปรวมกัน ไม่เกิดคำใหม่และความหมายใหม่ ไม่ใช่คำประสม ตัวอย่างเช่น ลมพัด หมายถึง ลมโชยมา มือขาด หมายถึง มือถูกสิ่งใดสิ่งหนึ่งตัดขาด คอเจ็บ หมายถึง คออักเสบ เสื้อเปื้อน หมายถึง เสื้อติดสิ่งที่ทำให้เกิดความสกปรก ตารางเปรียบเทียบคำประสม วลีหรือประโยค คำประสม วลี / ประโยค ๑. เกิดจากคำมูลตั้งแต่สองคำขึ้นไปมารวมกัน ๑. เกิดจากคำมูลตั้งแต่สองคำขึ้นไปมารวมกัน ๒. เกิดคำใหม่และมีความหมายใหม่ เช่น ลูกมือ หมายถึง ผู้ที่ทำตามแนะนำของหัวหน้า ๒. มีความหมายเพิ่มขึ้น เรียกว่า วลี หรือ ได้ใจความ สมบูรณ์เรียกว่าประโยค เช่น ลูกครู หมายถึง ลูกของครู เป็นวลี ลูกเดิน หมายถึง ลูกแสดงอาการเดิน เป็น ประโยค


125 คำชี้แจง : ให้นักเรียนบอกลักษณะคำประสมที่กำหนดให้ ว่าเป็นคำประสมหรือไม่เป็นคำประสม แบบฝึกทักษะที่ ๑ เรื่อง ลักษณะของคำประสมในภาษาไทย ตัวอย่าง น้ำแข็ง เป็นคำประสม หางเสือ ไม่เป็นคำประสม ดาวเทียม ...................................................... ผ้าขาว ...................................................... ลูกน้ำ ...................................................... ปูตาย ...................................................... ยาเรือ ...................................................... ถั่วแดง ...................................................... ยาดม ...................................................... สู้รบ ...................................................... ลูกแมว ...................................................... น้ำหวาน ......................................................


126 ภาคผนวก ค เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทย แบบสอบถามความพึงพอใจ


127 แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิชาภาษาไทย ท22102 โรงเรียนบ้านส้มป่อย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 คำชี้แจง: ให้นักเรียนพิจารณาเลือกคำตอบที่ถูกต้อง เหมาะสมที่สุด แล้วทำเครื่องหมายกากบาทลงใน กระดาษคำตอบ 1. ข้อใดเป็นหน้าที่ของคำประสม ก. ทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ ข. ทำหน้าที่เป็นคำกริยา ค. ทำหน้าที่เพิ่มคำในภาษาไทย ง. ถูกทุกข้อ 2. คำประสมในข้อใดเป็นคำนามทุกคำ ก. ห่อหมก กันสาด ข. บาดตา ขวัญหาย ค. หวานเย็น บกพร่อง ง. ที่นอน กินที่ 3. คำประสมในข้อใดเกิดจากคำภาษาไทยกับคำภาษาไทย ก. ก่อสร้าง ข. ข้าวปลา ค. จิตใจ ง. ซื่อสัตย์ 4. คำประสมในข้อใดมีคำกริยานำหน้าคำนาม ก. น้ำเสียง ข. เสื้อคลุม ค. ถ่ายรูป ง. เรือนจำ 5. คำประสมในข้อใดเกิดจากคำนามกับคำวิเศษณ์ ก. มดแดง ม้าเร็ว ข. ว่ากล่าว ดูถูก ค. อยู่ไฟ ไฟฉาย ง. ยินดี วิ่งเร็ว 6. คำประสมในข้อใดเกิดจากคำไทย+จีน ก. รถเก๋ง ข. ตู้โชว์ ค. ผ้าผวย ง. ตักบาตร 7. คำว่า “ลูก” ประสมกับคำในข้อใดไม่เป็นคำประสม ก. ลูกคอ ข. ลูกเล็ก ค. ลูกครึ่ง ง. ลูกเล่น


128 8. คำว่า “นาดำ” เป็นคำประสมที่มาจากคำภาษาไทยกับภาษาใด ก. คำไทยกับคำไทย ข. คำไทยกับคำภาษาบาลี ค. คำไทยกับคำภาษาอังกฤษ ง. คำไทยกับคำภาษาเขมร 9. ข้อใดเป็นคำประสมที่ใช้เป็นคำบุพบท ก. ตั้งแต่ ข. เพราะฉะนั้น ค. มิฉะนั้น ง. เพราะว่า 10. คำในข้อใดไม่เป็นคำประเภทเดียวกับคำว่า “พ่อสื่อ” ก. พ่อค้า ข. พ่อหม้าย ค. พ่อบ้าน ง. พ่อเรา 11. ข้อคือความหมายคำประสม ก. คำพยางค์เดียวที่มีความหมายในตัวเอง ข. การนำคำตั้งแต่ 2 พยางค์ขึ้นไปมารวมกันแล้วเกิดคำที่มีความหมายใหม่ ค. คำที่ออกเสียงซ้ำกัน ง. คำที่นำภาษาบาลีหรือสันสกฤตมาชนกัน 12. คำประสมในข้อใดเป็นคำวิเศษณ์ที่เกิดจากคำไทยแท้กับคำภาษาบาลีสันสกฤต ก. ใจดี ข. ใจร้าย ค. ใจกุศล ง. ใจปลาซิว 13. คำประสมในข้อใดเกิดจากคำภาษาไทยกับคำภาษาไทย ก. เทพเจ้า ข. ดอกเบี้ย ค. พลเมือง ง. ห้องโชว์ 14. คำประสมในข้อใดเกิดจากคำภาษาไทยกับคำภาษาไทยทุกคำ ก. นักบุญ ราชวัง ข. ภูมิศาสตร์ คอห่าน ค. รถเมล์ พัดลม ง. แม่บ้าน ตายใจ 15. ข้อใดคือการอธิบายลักษณะคำประสมได้ไม่ถูกต้อง ก. เกิดจากการประสมคำมูลตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป ข. คำที่นำมาประสมกันเป็นคำมูลภาษาใดก็ได้


129 ค. คำประสมไม่สามารถสลับที่คำกันได้ ง. ความหมายของคำที่ประสมกันแล้วจะต่างไปจากคำเดิม 16. ประโยคต่อไปนี้มีคำประสมคำภาษาไทยกับคำภาษาไทยทั้งหมดกี่คำ (ไม่นับคำซ้ำ) แกงส้ม เป็นอาหารประเภทแกง มีรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยเผ็ด หวาน เค็ม ใส่น้ำพริกแกงส้ม ผัก และ เนื้อสัตว์ ทำโดยใช้ น้ำพริกแกงส้มละลายน้ำ ต้มให้เดือด ใส่ผักและเนื้อสัตว์ ปรุงรสด้วย น้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ เกลือ และวัตถุดิบพื้นบ้านที่ให้รสเปรี้ยว ก. 3 คำ ข. 4 คำ ค. 5 คำ ง. 6 คำ 17. คำประสมที่เกิดจากคำภาษาไทยกับคำภาษาต่างประเทศข้อใดต่างจากพวก ก. กินโต๊ะ ข. ตีตั๋ว ค. ตักบาตร ง. เรียงเบอร์ 18. คำประสมในข้อใดไม่ได้ทำหน้าที่เดียวกันกับคำว่า “ใจร้าย” ก. ใจเพชร ข. อ่อนใจ ค. คอแข็ง ง. กินขาด 19. หลักการสร้างคำประสมกี่วิธี ก. 3 วิธี ข. 4 วิธี ค. 5 วิธี ง. 6 วิธี 20. ข้อใดต่อไปนี้เป็นคำประสมชนิดเดียวกันกับคำว่า “สองหัว” ก. อ่อนข้อ ข. ข้างถนน ค. ราชวัง ง. สายไฟ


130 เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทย 1. ง 11. ข 2. ก 12. ค 3. ข 13. ข 4. ค 14. ง 5. ก 15. ค 6. ค 16. ข 7. ข 17. ง 8. ง 18. ข 9. ก 19. ก 10. ง 20. ก


131 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คำชี้แจง 1. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ฉบับนี้ ประกอบด้วยคำถาม จำนวน 15 ข้อ แบ่งเป็นคำถาม 3 ด้าน คือ ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน จำนวน 5 ข้อ ด้านเนื้อหา จำนวน 5 ข้อ และด้านประโยชน์ที่ได้รับ จำนวน 5 ข้อ 2. แบบสอบถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีรายละเอียด ดังนี้ 5 หมายถึง นักเรียนพึงพอใจในระดับมากที่สุด 4 หมายถึง นักเรียนพึงพอใจในระดับมาก 3 หมายถึง นักเรียนพึงพอใจในระดับปานกลาง 2 หมายถึง นักเรียนพึงพอใจในระดับน้อย 1 หมายถึง นักเรียนพึงพอใจในระดับน้อยที่สุด 3. ให้นักเรียนทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับระดับความคิดเห็นของตนเองมากที่สุด ที่ รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น 5 4 3 2 1 ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 1 ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นขั้นตอน ต่อเนื่อง 2 การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนส่งเสริมให้นักเรียนมี ทักษะการสร้างคำประสมที่สูงขึ้น 3 นักเรียนมีความสนุกสนานในการปฏิบัติกิจกรรมตลอดการ เรียนการสอน 4 นักเรียนมีการแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นซึ่งกันและกัน 5 ครูส่งเสริมให้นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ ด้านเนื้อหา 6 ความยากง่ายของเนื้อหาเหมาะสมกับความสามารถของ นักเรียน 7 เนื้อหา ภาษา และรูปแบบชุดแบบฝึกตรงกับความสนใจ และความต้องการของนักเรียน


132 ที่ รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น 5 4 3 2 1 8 เนื้อหาเรียงลำดับจากง่ายไปยาก 9 แบบฝึกหัดสอดคล้องกับเนื้อหาในชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะ การสร้างคำ 10 การจัดเนื้อหาเหมาะสมกับเวลาเรียน ด้านประโยชน์ที่ได้รับ 11 นักเรียนได้รับความรู้ใหม่จากชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการ สร้างคำ 12 นักเรียนได้พัฒนาทักษะการสร้างคำประสมในภาษาไทย 13 นักเรียนสามารถนำความรู้การสร้างคำประสมใน ภาษาไทยไปใช้ในชีวิตประจำวัน 14 นักเรียนสามารถจำแนกประเภทของคำประสมใน ภาษาไทยได้ถูกต้อง 15 ช่วยให้นักเรียนมีแนวทางในการเขียนที่ดีขึ้น ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................................ ........................................ ....................................................................................................................................................................................


133 ภาคผนวก ง การวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือ แบบประเมินความเหมาะสมของชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้


134 แบบประเมินความเหมาะสมของชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) วัตถุประสงค์ เพื่อจะได้นำความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ มาปรับปรุงชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ ให้ได้ชุดแบบ ฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำที่มีคุณภาพ เพื่อนำไปใช้ในการจัดการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้าง คำประสมในภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน ซึ่งมีระดับ 5 ระดับ ดังนี้ 5 หมายถึง เหมาะสมมากที่สุด 4 หมายถึง เหมาะสมมาก 3 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง 2 หมายถึง เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง เหมาะสมน้อยที่สุด ตารางที่ 8 แบบประเมินความเหมาะสมของชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) ข้อ ที่ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5 4 3 2 1 1 ลักษณะการจัดรูปเล่ม 1.1 ออกแบบปกสวยงาม ดึงดูดความสนใจ 1.2 ขนาดตัวหนังสือเหมาะสมกับผู้อ่าน 1.3 รูปเล่มขนาดกะทัดรัด สวยงามน่าสนใจ 2 ลักษณะเนื้อหา 2.1 เรื่องมีความยากง่ายเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 2.2 มีความถูกต้องตามหลักสูตร 2.3 สาระของเรื่องมีความชัดเจน 2.4 คำถามมีความสอดคล้องกับเนื้อหา 3 ลักษณะภาษาที่ใช้ 3.1 ตัวหนังสือถูกต้องชัดเจน


135 ตารางที่ 8 แบบประเมินความเหมาะสมของชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) (ต่อ) ข้อ ที่ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5 4 3 2 1 3.2 สำนวนภาษาเหมาะสมกับผู้เรียน 3.3 การใช้ภาษาถูกต้องเข้าใจง่าย 3.4 ชื่อเรื่องสอดคล้องกับเนื้อหา รวม ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ........ .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.............................................................ผู้ประเมิน ( ................................................. ) ตำแหน่ง........................................................... วัน/เดือน/ปี ..........................................


136 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) วัตถุประสงค์ เพื่อจะได้นำความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ มาปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ ให้ได้แผนการจัดการ เรียนรู้ที่มีคุณภาพ เพื่อนำไปใช้ในการจัดการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างคำประสมในภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ ตามแผนการจัดการเรียนรู้ทั้ง 5 แผน จำนวน 5 ชั่วโมง คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับความคิดเห็นของท่าน ซึ่งมีระดับ 5 ระดับ ดังนี้ 5 หมายถึง เหมาะสมมากที่สุด 4 หมายถึง เหมาะสมมาก 3 หมายถึง เหมาะสมปานกลาง 2 หมายถึง เหมาะสมน้อย 1 หมายถึง เหมาะสมน้อยที่สุด ตารางที่ 9 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุด แบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) แผนการจัด กิจกรรมการ เรียนรู้ที่ ข้อ ที่ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5 4 3 2 1 1 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สมรรถะสำคัญของผู้เรียน 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7. กระบวนการวัดและประเมินผล 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ รวม


137 ตารางที่ 9 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) (ต่อ) แผนการจัด กิจกรรมการ เรียนรู้ที่ ข้อ ที่ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5 4 3 2 1 2 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สมรรถะสำคัญของผู้เรียน 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7. กระบวนการวัดและประเมินผล 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ รวม 3 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สมรรถะสำคัญของผู้เรียน 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7. กระบวนการวัดและประเมินผล 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ รวม 4 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สมรรถะสำคัญของผู้เรียน 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์


138 ตารางที่ 9 แบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ชุดแบบฝึกพัฒนาทักษะการสร้างคำ (สำหรับผู้เชี่ยวชาญ) (ต่อ) แผนการจัด กิจกรรมการ เรียนรู้ที่ ข้อ ที่ รายการประเมิน ระดับความเหมาะสม 5 4 3 2 1 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7. กระบวนการวัดและประเมินผล 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ รวม 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 2. สาระสำคัญ 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. สมรรถะสำคัญของผู้เรียน 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 6. ชิ้นงาน/ภาระงาน 7. กระบวนการวัดและประเมินผล 8. กิจกรรมการเรียนรู้ 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ รวม ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม .................................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชื่อ.............................................................ผู้ประเมิน ( ................................................. ) ตำแหน่ง........................................................... วัน/เดือน/ปี ..........................................


139 ภาคผนวก จ ผลการวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือ


Click to View FlipBook Version