27. ครใู ห้นกั เรยี นปดิ IPST-SE แล้วให้นักเรียนเก็บอุปกรณล์ งกล่องเคร่ืองมอื ให้เรยี บรอ้ ย
โดยถอดชิ้นสว่ นทกุ ชน้ิ สว่ นออกท้ังหมด
28. นักเรียนนำอุปกรณท์ งั้ หมดมาคนื ครู
29. ครปู ระกาศผลการแขง่ ขันของนกั เรียน 3 อันดบั แรก
30. ครูสรุปผลการเรียนของวชิ าด้วยการใช้คำถาม โดยให้นักเรียนตอบคำถามพรอ้ มกัน
หรือใหน้ กั เรียนยกมือตอบ
ตัวอย่างคำถาม
“เราไดอ้ ะไรจากการแขง่ ขันคร้งั น้”ี
“ถา้ เราพบสนามการแขง่ ขันท่ยี ากกว่านี้ จะสามารถปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร”
“วชิ านที้ ำให้เราไดอ้ ะไรบ้าง”
31. เมื่อนักเรยี นตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็น ครูทำการบันทึกคะแนนลงในแบบ
บนั ทึกการมีส่วนรว่ มในชน้ั เรียน
32. ครสู รุปปญั หาทค่ี รพู บระหว่างการปฏบิ ตั กิ ารของนักเรียน
33. ครนู ดั หมายการสอบปลายภาค
สอ่ื การเรียนรู้
1. ระบบสารสนเทศสำหรับจดั การเรยี นรู้ Google Classroom
(https://classroom.google.com)
2. ใบงานที่ 14 การแข่งขันหุ่นยนตเ์ ดนิ ตามเส้นด้วยความเร็วบนสนามแบบส่มุ
3. แบบบนั ทกึ การมสี ่วนรว่ มในชั้นเรียน
4. คมู่ ือเร่มิ ต้นใชง้ านกลอ่ งสมองกล IPST-MicroBOX Secondary Education
5. ชุดพัฒนาหนุ่ ยนต์ IPST MicroBOX
6. สมดุ บนั ทกึ ของนักเรียน
7. สนามแขง่ ขันแบบสุ่มจำนวน 60 แผน่
แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมุด โรงเรยี นพนัสพิทยาคาร
2. หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกมุ าร”ี
3. เวบ็ ไซต์ http://www.ipst-microbox.com
4. ห้อง Creative Classroom โรงเรียนพนสั พทิ ยาคาร
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
การวดั ผลและการประเมินผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การประเมนิ
ใบงานท่ี 14
จุดประสงค์ท่ีตอ้ งการวดั วธิ กี ารวัด นักเรียนสามารถปฏิบัติ
แบบบนั ทึกการมี ตามคำส่ังของใบงานที่ 14
1. ส ร ้ า ง แ ล ะ เ ข ี ย น ตรวจช้ินงาน สว่ นร่วมในชน้ั ได้คะแนนมากกวา่ ร้อยละ
โปรแกรมควบคุมการ เรยี น 50 ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
ทำงานของหุ่นยนต์ตาม นักเรียนได้รับการบันทึก
เงื่อนไขทก่ี ำหนดได้ การมีส่วนร่วมในชั้นเรียน
โดยมีคะแนนรวมไม่เป็น
2. ปฏิบัติกิจกรรมระหว่าง การสังเกต จำนวนลบ ถือว่าผ่าน
การเรียนการสอนด้วย เกณฑ์
ความมงุ่ มั่นตั้งใจ
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนต์และการโปรแกรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
ใบงาน
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาหุ่นยนต์และการโปรแกรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3
ชอ่ื -สกลุ ..................................................................ชน้ั ม.2/...... เลขที่ ..........
ใบงานที่ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
วิชา ว22203 หุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการโปรแกรมหุ่นยนต์
เรอ่ื ง พนื้ ฐานการโปรแกรมหุ่นยนต์
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถบอกลักษณะโครงสรา้ งของโปแกรมภาษาซีได้
2. นักเรยี นสามารถอธบิ ายชนดิ ของข้อมลู ในภาษาซไี ด้
3. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายและหลักการใช้งานของตวั แปรในภาษาซไี ด้
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนตอบคำถามในแตล่ ะขอ้ มาพอเขา้ ใจ
1. ส่วนประกอบของภาษาซีในภาพเรียกวา่ อะไร และมหี น้าที่ใดในการเขียนโปรแกรมภาษาซี
#include<stdio.h>
int i;
void main (void)
{
}
99
void main (void)
{
}
2. ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามเก่ียวกับชนดิ ของข้อมูล ดงั ต่อไปนี้
2.1 ชนิดข้อมูล char, int และ float เปน็ ขอ้ มูลชนดิ ใด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2.2 จากข้อ 2.1 ใหน้ ักเรยี นเรียงลำดับชนิดข้อมูลที่ใชพ้ น้ื ที่ในการเก็บข้อมูลมากท่ีสุดไปหาข้อมูลที่ใช้
พน้ื ท่นี ้อยที่สุด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3. ให้นักเรียนตอบคำถามเกย่ี วกบั ตัวแปร ดังต่อไปนี้
3.1 ตวั แปรคืออะไร และมีขอ้ กำหนดในการสร้างอย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
100
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.2 ให้นกั เรยี นสรา้ งตวั แปรเพื่อเก็บข้อมูลท่กี ำหนดให้ โดยใหเ้ ลอื กชนิดของข้อมูล และกำหนดชื่อตัว
แปรใหเ้ หมาะสม
อายุ เลขประจำตวั ประชาชน ช่อื เลน่ จำนวนบุตร
เลขท้ายสองตัว ราคาสินคา้ ระยะทางจากบ้านถึงโรงเรยี น เลขท่บี ้าน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
3.3 ให้เติมเครื่องหมายถูก (✓) หน้าชื่อตัวแปรที่ตั้งถูกต้องตามหลักการตั้งชื่อตัวแปร และเติม
เคร่ืองหมาย () หนา้ ช่อื ตัวแปรท่ีตั้งชอ่ื ไม่ถูกต้องตามหลักการตั้งช่อื ตัวแปร
.................. sUPER
.................. 3mp
.................. Make*
.................. _name
.................. else
.................. xxx
.................. asdfghjklzxcvbnmqwertyuiopasdfghjkl
.................. otousan
.................. T_T
.................. ninja4x
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาหนุ่ ยนต์และการโปรแกรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 3
101
4. ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามเกีย่ วกับตวั ดำเนนิ การ ดงั ตอ่ ไปนี้
4.1 ตัวดำเนนิ การคอื อะไร และตัวถูกดำเนินการคอื อะไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.2 ตัวดำเนนิ การกำหนดคา่ (Assignment Operator) มีสญั ลกั ษณอ์ ยา่ งไร และมหี นา้ ทอ่ี ะไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.3 ลำดับความสำคญั ของตวั ดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เป็นอยา่ งไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.4 เครื่องหมาย || และ && มีความแตกต่างกนั อย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4.5 ให้เติมเครื่องหมายถูก (✓) หน้านิพจน์เปรียบเทียบที่เป็นจริง และเติมเครื่องหมาย () หน้า
นิพจนเ์ ปรียบเทยี บทเ่ี ป็นเท็จ
.................. 3!=3
.................. 5>=5
.................. a=7
.................. 100+20==120
.................. 9<9
4.6 ให้นกั เรยี นแสดงหาผลลัพธ์ของนพิ จนต์ ่อไปนี้
3*4+10/2 = ?
3+7-3*0 = ?
(4-5)*30/5 = ?
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาห่นุ ยนต์และการโปรแกรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
102
42/3/7+1 = ?
12+(3*9-2) =?
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาห่นุ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
103
5. ให้นกั เรียนตอบคำถามเก่ียวกบั การทำงานแบบมเี งอื่ นไข ดงั ตอ่ ไปนี้
5.1 คำสั่ง if-else-if มโี ครงสร้างและหลกั การทำงานอยา่ งไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5.2 ใหน้ กั เรียนเขยี นขนั้ ตอนวิธีของเหตกุ ารณน์ ี้ ผ่านคำสัง่ if-else-if
ถา้ นักเรยี นกลับบา้ นกอ่ นเวลา 16.00 น. แมจ่ ะสงสยั
ถา้ นกั เรียนกลับบ้านระหว่างเวลา 16.00 – 17.00 น. แม่จะอารมณด์ ี
ถา้ นักเรียนกลบั บา้ นระหวา่ งเวลา 17.01 – 18.00 น. แม่จะเรมิ่ หงุดหงิด
ถา้ นกั เรยี นกลบั บา้ นหลังเวลา 18.00 น. แม่จะทำโทษ
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าหนุ่ ยนต์และการโปรแกรม ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3
104
6. ให้นกั เรียนตอบคำถามเกยี่ วกับการทำงานแบบมเี งอ่ื นไข ดังต่อไปนี้
6.1 คำส่งั while และ for มโี ครงสรา้ งและหลกั การทำงานอย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6.2 ใหน้ ักเรยี นเขียนขนั้ ตอนวธิ ีของเหตกุ ารณ์น้ี ผ่านคำสัง่ while หรือ for
การทอ่ งสูตรคณู แม่ 25
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
เฉลยและเกณฑ์ให้คะแนน 105
ใบงานที่ 1
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
วชิ า ว22203 หนุ่ ยนต์และการโปรแกรม คะแนนเตม็ 135 คะแนน
หนว่ ยท่ี 1 พ้ืนฐานการโปรแกรมหนุ่ ยนต์
เรอ่ื ง พนื้ ฐานการโปรแกรมห่นุ ยนต์
1. สว่ นประกอบของภาษาซีในภาพเรียกว่าอะไร และมีหนา้ ที่ใดในการเขยี นโปรแกรมภาษาซี
แนวตอบ
Preprocessing Directive เปน็ สว่ นทใี่ ช้ในการอ่านข้อมูลจากไฟล์โปรแกรมอืน่ มาประมวลผลในโปรแกรมด้วย
โดยมากใชก้ ับ Library Function เพ่อื ใหส้ ามารถเรยี กใช้งาน Function สำเรจ็ รปู ตา่ ง ๆ ได้
Global Definition เปน็ สว่ นท่ใี ช้ #include<stdio.h>
นิยามส่วนประกอบของโปรแกรม
เชน่ ตวั แปร และ Function int i;
เพื่อให้ทง้ั โปรแกรมสามารถ
มองเหน็ และใชง้ านได้ void main (void)
Code/Function เปน็ สว่ นการทำงานของโปรแกรม {
void main (void) }
{
} Parameter / Argument เป็นสว่ นทีร่ ะบุคา่ ทีจ่ ำเป็นทจี่ ะใช้
Function น้นั ๆ ทำงานได้
Function Header / Function Name / Function Identification
เปน็ ช่อื เรยี กของ Function
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาหุน่ ยนต์และการโปรแกรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
106
Return Value เปน็ สว่ นทร่ี ะบชุ นิดข้อมลู ท่ถี ูกสง่ คนื หลงั จาก Function
ทำงานเสร็จสน้ิ
Function Body / Function Scope คอื สว่ นคำส่ังการทำงานของ Function
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
บอกชอื่ ของสว่ นประกอบถกู จำนวน 7 ส่วนประกอบ ๆ
อธบิ ายการทำงานถกู ตามข้อสอบ หรอื ใช้ขอ้ ความทม่ี ีความหมายนัยเดียวกัน ละ 1 คะแนน รวม 7
คะแนน
รวม
จำนวน 7 สว่ นประกอบ ๆ
ละ 2 คะแนน รวม 14
คะแนน
21.0
2. ให้นกั เรียนตอบคำถามเกย่ี วกับชนดิ ของข้อมลู ดงั ต่อไปนี้
2.1 ชนิดข้อมูล char, int และ float เป็นข้อมูลชนิดใด
แนวตอบ
char เป็นข้อมูลชนดิ ตวั อักษร
int เปน็ ข้อมูลชนดิ ตัวเลขจำนวนเต็ม
float เปน็ ขอ้ มลู ชนิดตวั เลขทศนยิ ม
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
ตอบไดอ้ ยา่ งถูกต้อง จำนวน 3 ชนิด ๆ ละ 1 คะแนน
รวม รวม 3 คะแนน
3.0
2.2 จากข้อ 2.1 ให้นกั เรยี นเรียงลำดับชนิดข้อมูลที่ใช้พ้ืนท่ีในการเก็บข้อมูลมากที่สุดไปหาข้อมูลท่ีใช้
พ้นื ทน่ี อ้ ยทส่ี ุด
แนวตอบ
float -> int -> char
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
เรียงลำดบั คำตอบได้อย่างถูกตอ้ ง 2 คะแนน
รวม 2.0
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
107
3. ให้นักเรยี นตอบคำถามเกี่ยวกบั ตวั แปร ดังต่อไปน้ี
3.1 ตวั แปรคอื อะไร และมขี อ้ กำหนดในการสร้างอย่างไร
แนวตอบ
การจองพื้นที่บนหน่วยความจำหลักของคอมพิวเตอร์ (RAM) เพื่อนำขึ้นมาเก็บค่าข้อมูลที่ใช้ใน
โปรแกรม โดยมีขอ้ กำหนดในการสร้าง ดงั น้ี
1. ตัง้ ชอื่ ด้วยตวั อักษรพิมพ์เลก็ ตวั อกั ษรพมิ พ์ใหญ่ ตัวเลข และ underscore ได้เท่าน้ัน
2. ช่อื ไมส่ ามารถข้ึนต้นไดด้ ว้ ยตวั เลข
3. ความยาวของชือ่ ต้องไมเ่ กิน 31 ตัวอกั ษร
4. ห้ามใช้คำท่ีซ้ำกบั คำสงวนหรอื คำสงั่ ในภาษาซี
5. ตวั อักษรพมิ พ์เลก็ และตวั อักษรพมิ พใ์ หญถ่ อื วา่ เป็นคนละตวั กนั (Case Sensitive)
การสร้างตวั แปรไว้ในพน้ื ท่ี Global Definition จะทำให้ตวั แปรนั้นถกู เรยี กใชไ้ ด้ในทกุ Function ของ
โปรแกรม แต่หากสรา้ งไวใ้ น Function Scope จะถกู เรียกใช้งานได้ภายใน Scope นั้นเท่าน้ัน
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
อธิบายความหมายวา่ “การจองพน้ื ทบี่ นหนว่ ยความจำ เพ่ือใช้เก็บขอ้ มูล 1 คะแนน
ในโปรแกรม” หรือข้อความอื่นทมี่ ีความหมายนยั เดียวกนั
บอกข้อกำหนดของการตัง้ ชื่อตวั แปรได้ จำนวน 5 ข้อ ๆ ละ 1 คะแนน
รวม 5 คะแนน
อธิบายการนิยามตัวแปรในพื้นที่ Global Definition และ Function 1 คะแนน
Scope ดงั ย่อหนา้ สุดทา้ ย หรอื ใช้ขอ้ ความอืน่ ทมี่ ีความหมายนัยเดยี วกัน
7.0
รวม
3.2 ใหน้ ักเรียนสรา้ งตัวแปรเพื่อเก็บขอ้ มูลท่กี ำหนดให้ โดยใหเ้ ลอื กชนิดของข้อมูล และกำหนดช่ือตัว
แปรให้เหมาะสม
อายุ int age;
เลขประจำตัวประชาชน char identification[14];
ช่ือเลน่ char nickname[20];
จำนวนบุตร int child;
เลขท้ายสองตวั char number2[3]; หรอื int number2;
ราคาสินคา้ float price;
ระยะทางจากบ้านถงึ โรงเรยี น float distance;
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาหุ่นยนต์และการโปรแกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
108
เลขท่ีบา้ น char address;
ประเด็นการให้คะแนน คะแนน
ตังชื่อตัวแปรได้อยา่ งถกู ต้องตามหลกั การตง้ั ชอ่ื ตัวแปร จำนวน 8 ชอ่ื ๆ ละ 1 คะแนน
ตั้งชื่อตัวแปรได้สอดคล้องกับข้อมูลที่เก็บ โดยใช้คำศัพท์ จำนวน 8 ชือ่ ๆ ละ 1 คะแนน
ภาษาองั กฤษของขอ้ มลู ที่ต้องการเกบ็
กำหนดชนดิ ของขอ้ มลู ได้อย่างถกู ต้อง จำนวน 8 ตัวแปร ๆ ละ 1 คะแนน
รวม 24.0
3.3 ให้เติมเครื่องหมายถูก (✓) หน้าชื่อตัวแปรที่ตั้งถูกต้องตามหลักการตั้งชื่อตัวแปร และเติม
เครื่องหมาย () หน้าช่อื ตวั แปรท่ีต้ังชื่อไมถ่ กู ตอ้ งตามหลกั การตง้ั ชือ่ ตวั แปร
✓ sUPER
3mp
Make*
✓ _name
else
✓ xxx
asdfghjklzxcvbnmqwertyuiopasdfghjkl
✓ otousan
✓ T_T
✓ ninja4x
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
ใส่เครื่องหมายได้อยา่ งถกู ต้อง จำนวน 10 ขอ้ ๆ ละ 0.5 คะแนน
รวม รวม 5 คะแนน
5.0
4. ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามเกี่ยวกบั ตัวดำเนินการ ดังต่อไปน้ี
4.1 ตวั ดำเนนิ การคืออะไร และตัวถกู ดำเนนิ การคอื อะไร
แนวตอบ
ตัวดำเนินการคือ สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่แสดงการกระทำระหว่างข้อมูล มีผลทำให้ข้อมูล
เปล่ียนแปลงไปจากเดมิ หรอื ได้ผลลพั ธจ์ ากการกระทำน้ัน
ตัวถูกดำเนินการคือ ขอ้ มลู ทถี่ กู ตัวดำเนนิ การกระทำ
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหุน่ ยนต์และการโปรแกรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
109
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
อธิบายความหมายของตัวดำเนินการได้อย่างถูกต้อง หรือใช้ 1 คะแนน
ขอ้ ความอน่ื ใดท่มี คี วามหมายนยั เดยี วกัน
อธบิ ายความหมายของตวั ถูกดำเนินการไดอ้ ย่างถกู ต้อง หรือใช้ 1 คะแนน
ข้อความอ่นื ใดทีม่ คี วามหมายนยั เดียวกัน
ใ ช ้ ก า ร ย ก ต ั ว อ ย ่ า ง แ ท น ก า ร อ ธ ิ บ า ย ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ตั ว 0.5 คะแนน
ดำเนนิ การ
ใ ช ้ ก า ร ย ก ต ั ว อ ย ่ า ง แ ท น ก า ร อ ธ ิ บ า ย ค ว า มห ม า ย ข อ ง ต ั ว ถูก 0.5 คะแนน
ดำเนินการ
2.0
รวม
4.2 ตวั ดำเนินการกำหนดค่า (Assignment Operator) มสี ัญลกั ษณอ์ ย่างไร และมีหน้าท่อี ะไร
แนวตอบ
มีสัญลกั ษณ์เปน็ =
มีหน้าท่ีในการถา่ ยโอนคา่ จากฝ่ังขวามือไปยังฝงั่ ซา้ ยมอื
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
บอกสญั ลักษณไ์ ดถ้ กู ตอ้ ง 0.5 คะแนน
ตอบว่า “มีหน้าที่ในการถ่ายโอนค่า” หรือ “มีหน้าที่ในการ 0.5 คะแนน
กำหนดคา่ ” หรือข้อความอนื่ ทม่ี คี วามหมายนัยเดียวกนั
ตอบว่า “จากฝั่งขวามือไปยังซ้ายมือ” หรือข้อความอื่นที่มี 1 คะแนน
ความหมายนยั เดยี วกนั
2.0
รวม
4.3 ลำดับความสำคญั ของตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เปน็ อย่างไร
แนวตอบ
แบง่ ความสำคญั เปน็ 2 ขน้ั คือ
1. คูณ หาร
2. บวก ลบ
โดยจะดำเนนิ การตวั ดำเนนิ การคูณและหารก่อนเสมอ
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
มีการแยกออกเป็น 2 กลมุ่ เครอื่ งหมายอย่างถกู ต้อง 1 คะแนน
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
110
ตอบว่า “กระทำตัวดำเนินการคูณและหารก่อนตัวดำเนินการ 1 คะแนน
บวกและลบ” หรือข้อความอืน่ ทีม่ ีความหมายนยั เดียวกนั 2.0
รวม
4.4 เครือ่ งหมาย || และ && มคี วามแตกต่างกนั อยา่ งไร
แนวตอบ
เคร่ืองหมาย || แทนการเช่อื มนิพจน์ด้วยคำวา่ “หรอื ”
เครอ่ื งหมาย && แทนการเชื่อมนพิ จน์ดว้ ยคำว่า “และ”
โดยมีคา่ ความจริงที่ตา่ งกนั คือ คำเชื่อม และ จะต้องเปน็ จริงทงั้ สองเงอื่ นไข จงึ จะมีค่าเปน็ จรงิ
คำเช่ือม หรอื จะตอ้ งเป็นเทจ็ ทั้งสองเงอื่ นไข จงึ จะมคี า่ เป็น เท็จ
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
มีการอธบิ ายความหมายของทั้ง 2 สญั ลกั ษณอ์ ยา่ งถูกต้อง 1 คะแนน
มกี ารอธบิ ายค่าความจรงิ ดว้ ยขอ้ ความ หรอื ตารางความจริง 2 คะแนน
รวม 3.0
4.5 ให้เติมเครื่องหมายถูก (✓) หน้านิพจน์เปรียบเทียบที่เป็นจริง และเติมเครื่องหมาย () หน้า
นิพจนเ์ ปรียบเทียบท่ีเป็นเทจ็
3!=3
✓ 5>=5
✓ a=7
✓ 100+20==120
9<9
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
ใส่เคร่ืองหมายถกู ตอ้ ง จำนวน 5 ข้อ ขอ้ ละ 1 คะแนน
รวม รวม 5 คะแนน
5.0
4.6 ใหน้ ักเรยี นแสดงหาผลลัพธข์ องนิพจน์ตอ่ ไปน้ี
3*4+10/2 = ?
1 => 12+10/2 2 => 12+5 3 => 17
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
3+7-3*0 = ? 2 => 10-0 111
1=> 3+7-0
3 => 10
(4-5)*30/5 = ? 2 => (-30)/5
1=> (-1)*30/5 3 => -6
42/3/7+1 = ? 2 => 2+1 3 => 3
1=> 14/7+1
3 => 37
12+(3*9-2) =? 2 => 12+25
คะแนน
1=> 12+(27-2) จำนวน 5 ข้อ ข้อละ 1 คะแนน
ประเด็นการให้คะแนน รวม 5 คะแนน
แสดงวิธีทำไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง จำนวน 5 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน
ผลลพั ธ์ถกู ต้อง รวม 5 คะแนน
10.0
รวม
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 3
112
5. ให้นกั เรียนตอบคำถามเกย่ี วกบั การทำงานแบบมเี งอื่ นไข ดังตอ่ ไปนี้
5.1 คำสง่ั if-else-if มโี ครงสร้างและหลักการทำงานอยา่ งไร
แนวตอบ
if ( เง่ือนไข )
{
ชุดคำส่งั
}
else if ( เงื่อนไข )
{
ชุดคำสัง่
}
else if ( เงื่อนไข )
{
ชดุ คำสงั่
}
else
{
ชดุ คำส่งั
}
คำสงั่ if เป็นคำสัง่ แบบเลอื กทำ โดยจะทำการตรวจสอบเงอื่ นไขหลังคำสั่ง if ถ้าเปน็ จรงิ จะดำเนินการ
ตามชุดคำสั่งในเครอื่ งหมาย { } หลงั if โดยไม่ดำเนินการในชดุ คำสั่งใน else ทเ่ี หลือเลย
หากเงื่อนไขหลัง if เป็นเท็จ จะดำเนินการไปตรวจสอบหลัง else if หากเป็นจริง จะดำเนินการตาม
ชุดคำสั่งในเครื่องหมาย { } หลัง else if โดยไม่ดำเนินการในชุดคำสั่งใน else อื่นเลย แต่หากเป็นเท็จ จะ
ดำเนินการไปตรวจสอบท่เี ง่อื นไขของ else if ตวั ถดั ไปเรื่อย ๆ จนครบ
หากไมต่ รงกับเงอ่ื นไขใด ๆ เลยทง้ั if และ else if จะดำเนินการชดุ คำส่ังใน else
ท้งั นจี้ ะมี else if ก่ชี ดุ กไ็ ด้ ขน้ึ อยู่กับจำนวนเงอื่ นไข และจะมี else หรือไมก่ ็ได้
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
มีการเขียนโครงสร้างของคำสั่ง if – else – if ได้อย่างถูกต้อง 2 คะแนน
(ไม่จำกดั จำนวน else if() ท่ีเขียน)
มีการอธิบายการทำงานของคำสั่ง if และ เงื่อนไขในคำสั่ง if 1 คะแนน
อย่างถูกต้อง ดังความในย่อหน้าท่ี 1
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาห่นุ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3
113
มีการอธิบายการทำงานของคำสั่ง else if การตรวจสอบ 2 คะแนน
เงื่อนไข และ Flow การทำงานของ else if อย่างถูกต้อง ดัง
ความในย่อหน้าท่ี 2
มีการอธิบายการทำงานของคำส่ัง else ดงั ความในย่อหนา้ ที่ 3 1 คะแนน
มีการอธิบายเรือ่ งจำนวนของ else if และ else ดังความในย่อ 1 คะแนน
หน้าท่ี 4
รวม 7.0
5.2 ให้นกั เรียนเขียนข้ันตอนวธิ ีของเหตกุ ารณ์น้ี ผา่ นคำสงั่ if-else-if
ถา้ นกั เรยี นกลับบ้านกอ่ นเวลา 16.00 น. แมจ่ ะสงสยั
ถ้า นักเรียนกลับบา้ นระหวา่ งเวลา 16.00 – 17.00 น. แม่จะอารมณ์ดี
ถา้ นักเรยี นกลับบา้ นระหว่างเวลา 17.01 – 18.00 น. แม่จะเรมิ่ หงดุ หงิด
ถา้ นักเรียนกลบั บา้ นหลงั เวลา 18.00 น. แม่จะทำโทษ
แนวตอบ
if ( เวลากลับบา้ น < 16:00 )
{
แม่สงสยั ;
}
else if ( เวลากลับบ้าน >= 16:00 && เวลากลับบ้าน <= 17:00 )
{
แม่อารมณด์ ;ี
}
else if ( เวลากลับบา้ น > 17:00 && เวลากลบั บา้ น <= 18:00 )
{
แมเ่ ริม่ หงดุ หงดิ ;
}
else หรอื else if ( เวลากลบั บ้าน > 18:00 )
{
แมท่ ำโทษ;
}
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
การเขียนคำส่ังอธบิ ายอาการของแมถ่ ูกต้องท้งั 4 อาการ 1 คะแนน
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
114
มีการสรา้ งเงอื่ นไขครบท้งั 4 เง่ือนไข โดยใหต้ รวจจากจำนวน if 2 คะแนน
– else – if โดยไม่คำนงึ ถึงความถูกต้อง
ความถูกต้องของเงื่อนไขแต่ละเงื่อนไข กรณีเงื่อนไขสุดท้าย จำนวน 4 เงื่อนไข ๆ ละ 2 คะแนน
นกั เรียนใช้ else ให้ถือวา่ เง่อื นไขถูกตอ้ ง รวม 8 คะแนน
เขียนนิพจน์เปน็ นิพจนเ์ ปรียบเทยี บเชงิ คณิตศาสตร์ 2 คะแนน
ไวยากรณ์ของคำส่งั ถูกต้อง 1 คะแนน
จัดรปู แบบการเขียนโปรแกรมได้สวยงาม อ่านง่าย ดงั แนวตอบ 1 คะแนน
15.0
รวม
6. ให้นกั เรียนตอบคำถามเก่ยี วกับการทำงานแบบมีเงอ่ื นไข ดงั ต่อไปน้ี
6.1 คำสง่ั while และ for มีโครงสรา้ งและหลกั การทำงานอย่างไร
แนวตอบ
คำสง่ั while เป็นคำสั่งทีใ่ ช้ในการวนรอบ โดยมีโครงสรา้ งดังนี้
while ( เงือ่ นไข )
{
ชุดคำสงั่ ;
}
การทำงานของคำสั่ง while เริ่มจาก การตรวจสอบเงื่อนไขหลัง while หากเป็นจริง จะดำเนินการ
ตามชดุ คำสงั่ ทอ่ี ยู่ใน { } แลว้ ดำเนนิ การตรวจสอบเงอ่ื นไขอีกครั้ง หากเปน็ จริง จะดำเนินการตามชุดคำสั่งใน {
} อีกคร้ัง เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าผลการตรวจสอบเงื่อนไขจะเป็นเท็จ จึงจะสิ้นสุดการทำงานของคำส่ัง
while
คำสั่ง for เป็นคำส่งั ที่ใชใ้ นการวนรอบ เหมาะสำหรบั การวนรอบโดยทราบจำนวนรอบทแี่ น่นอน โดย
มีโครงสรา้ งดังน้ี
for ( start ; stop ; step )
{
ชดุ คำสง่ั ;
}
การทำงานของคำสง่ั for เริม่ จากส่วน start ทเ่ี ปน็ การกำหนดคา่ เริ่มตน้ ให้กับการวนรอบ จากนั้นจะ
ทำการตรวจสอบใน stop ซึ่งเป็นเงื่อนไขทีจ่ ะทำให้ทำงานต่อหรือหยุดทำงาน หากเงื่อนไขใน stop เป็นเท็จ
จะหยุดดำเนินการและสิ้นสุดการทำงานคำสั่ง for แต่หากเป็นจริง จะดำเนินการในชุดคำสั่งภายใน { } แล้ว
ทำงานในส่วน step ซึ่งเป็นส่วนในการกำหนดค่าหรือเพิ่มค่าให้กับตัวแปรนับรอบ และทำการตรวจสอบ
เงื่อนไขใน stop ใหม่อีกครงั้ เปน็ เชน่ น้ีเรื่อยไปจนกว่าเง่ือนไขใน stop จะเปน็ เทจ็
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
115
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
มกี ารเขียนโครงสรา้ งของคำสัง่ while ไดอ้ ย่างถูกต้อง 1 คะแนน
มกี ารอธบิ ายการทำงานของคำส่ัง while อย่างถูกตอ้ ง ดังความ 2 คะแนน
ในย่อหน้าที่ 1
มกี ารเขียนโครงสรา้ งของคำส่ัง for ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง (ไมจ่ ำกดั คำ 2 คะแนน
ที่ใช้แทน start, stop และ step)
มีการอธิบายลักษณะของ start stop และ step อย่างครบถว้ น จำนวน 3 ขอ้ ความ ๆ ละ 1 คะแนน
ได้แก่ “start เป็นการกำหนดคา่ เร่มิ ต้น” “stop เป็นเงื่อนไขใน รวม 3 คะแนน
การทำงาน” และ “step เปน็ การกำหนดค่าหรือเพ่ิมคา่ ” หรือ
ใช้ข้อความอื่นใดทม่ี ีความหมายนยั เดยี วกนั 2 คะแนน
มีการอธบิ ายลำดบั การทำงานของ for อย่างถูกตอ้ ง คือ
Start -> stop -> ทำชุดคำสั่ง -> step -> stop … ดงั ความใน 10.0
ย่อหนา้ สุดทา้ ย
รวม
6.2 ใหน้ กั เรยี นเขยี นขน้ั ตอนวิธขี องเหตุการณ์น้ี ผา่ นคำส่งั while หรอื for
การทอ่ งสูตรคณู แม่ 25
แนวตอบ
for ( ตวั คณู = 1 ; ตวั คูณ <= 12 ; ตวั คณู = ตัวคูณ + 1 )
{
ท่อง ( “25 คณู ” );
ทอ่ ง ( ตัวคณู );
ทอ่ ง ( ตัวคณู * 25 );
}
หรอื
ตวั คูณ = 1;
while ( ตัวคณู <= 12 )
{
ท่อง ( “25 คณู ” );
ท่อง ( ตวั คูณ );
ท่อง ( ตัวคณู * 25 );
ตวั คูณ = ตัวคูณ + 1;
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาห่นุ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
116
} คะแนน
2 คะแนน
ประเด็นการใหค้ ะแนน 2 คะแนน
การเขียนคำส่ังอธิบายการท่องสูตรคณู ได้ 2 คะแนน
สร้างการกำหนดค่าเริม่ ต้นถูกต้อง (start) 2 คะแนน
สร้างเง่อื นไขการกระทำถูกต้อง (stop) 2 คะแนน
สรา้ งการเพ่มิ คา่ ใหก้ ับการกระทำถกู ต้อง (step) 1 คะแนน
เขียนนิพจนเ์ ป็นนิพจน์เปรียบเทียบเชงิ คณติ ศาสตร์ 1 คะแนน
ไวยากรณข์ องคำส่ังถกู ตอ้ ง 5 คะแนน
จัดรูปแบบการเขยี นโปรแกรมไดส้ วยงาม อ่านงา่ ย ดังแนวตอบ
คำสัง่ สามารถทำงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งตามโจทย์ 17.0
รวม
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
ชื่อ-สกุล..................................................................ช้ัน ม.2/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 2 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
วชิ า ว22203 ห่นุ ยนตแ์ ละการโปรแกรม
หน่วยท่ี 2 หุ่นยนต์และอปุ กรณ์ตอ่ พ่วง
เร่ือง ความหมายและสว่ นประกอบของห่นุ ยนต์
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถอธิบายความหมายและลกั ษณะของหนุ่ ยนต์ได้
2. นกั เรยี นสามารถบอกประโยชนข์ องหุน่ ยนตไ์ ด้
3. นกั เรียนสามารถอธบิ ายสว่ นประกอบตา่ ง ๆ ของหุ่นยนต์ได้
4. นกั เรยี นสามารถจำแนกข้อแตกต่างของคณุ สมบตั วิ สั ดใุ นการสร้างหุน่ ยนต์ได้
5. นักเรยี นสามารถคน้ ควา้ ข้อมูลจากแหลง่ ขอ้ มลู บนระบบอนิ เทอรเ์ น็ตที่มีความน่าเช่ือถอื ได้
คำชแี้ จง ให้นักเรียนตอบคำถามลงในช่องวา่ งมาพอเขา้ ใจ
1. หุ่นยนต์ มคี วามหมายว่าอย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. วัสดุที่ใช้ทำโครงสรา้ งของหุน่ ยนตก์ ำหนดให้มีคุณสมบัตอิ ย่างไรบ้าง ให้อธิบายในรูปแบบของแผนผัง
ความคิด หรอื ตารางใหเ้ ข้าใจง่าย
ไม้ เหลก็ อลมู ิเนยี ม พลาสตกิ ไทเทเนียม แผ่นวงจรพมิ พ์
118
3. หากตอ้ งการสร้างหุน่ ยนต์สำหรับทำงานก่อสร้าง โดยหนุ่ ยนต์จะดำเนินการยกถุงปูนซีเมนต์ ตัด และ
เทสว่ นผสมเขา้ เคร่ืองผสมคอนกรีต จะต้องใช้วสั ดใุ ดในการประกอบโครงสร้าง เพราะเหตใุ ด
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. การเคล่อื นทด่ี ้วยล้อ และขาของหนุ่ ยนต์ มีขอ้ ดีและข้อเสียทีแ่ ตกต่างกนั อย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
5. มอเตอร์ทดรอบและมอเตอร์ไม่ทดรอบมีความสามารถทีแ่ ตกต่างกนั อย่างไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
6. ส่วนประกอบของหุ่นยนต์ทีก่ ำหนดให้ตอ่ ไปนี้ เปรียบได้กับอวยั วะใดของมนษุ ย์
ไมโครโพรเซสเซอร์ __________________________________________________________
ไดรฟเ์ วอร์ ____________________________________________
โครงสรา้ ง ____________________________________________
มอเตอร์ ____________________________________________
เทอรม์ ิสเตอร์ ____________________________________________
ลำโพง ____________________________________________
เซนเซอร์อลั ตราโซนิค ____________________________________________
โฟโตไดโอด ____________________________________________
ลอ้ ____________________________________________
เซนเซอร์แกส๊ ____________________________________________
7. การเลอื กใช้แหล่งจา่ ยพลงั งานในห่นุ ยนต์ ควรคำนงึ ถงึ เร่ืองใดบา้ ง
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหนุ่ ยนต์และการโปรแกรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
119
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
8. หุ่นยนตส์ ามารถนำไปใชป้ ระโยชน์ในงานต่อไปนี้ ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง
งานแพทย์และการรกั ษาผปู้ ่วย
งานเอกสารและสำนักงาน
งานดแู ลเดก็
งานบา้ น
งานในโรงเรียนและงานสอน
โดยให้นักเรียนค้นหาขอ้ มูลจากระบบอนิ เทอรเ์ น็ต เขียนอธบิ ายการทำงาน และลักษณะของหุน่ ยนต์
พรอ้ มทงั้ เขียนแหลง่ อา้ งอิงของขอ้ มูลน้นั
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาหุน่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
เฉลยและเกณฑ์ใหค้ ะแนน 120
ใบงานที่ 2
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3
วิชา ว22203 หุ่นยนต์และการโปรแกรม คะแนนเตม็ 100 คะแนน
หน่วยที่ 2 หนุ่ ยนตแ์ ละอปุ กรณต์ ่อพว่ ง
เรื่อง ความหมายและส่วนประกอบของหุน่ ยนต์
1. หุ่นยนต์ มคี วามหมายวา่ อย่างไร
แนวตอบ
หุ่นยนต์ คือ เครื่องจักรที่ใช้ทำงานแทนมนษุ ย์ ที่สามารถทำงานได้อย่างหลากหลายตามทีก่ ำหนดไว้
โดยเกิดจากการประยุกต์งานทางด้านวิทยาศาสตร์ ได้แก่ การออกแบบเครื่องจักรกล ทฤษฎีการควบคุม
อเิ ล็กทรอนิกส์ และโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
นักเรียนใช้วลีว่า “เครื่องจักรทำงานแทนมนุษย์” หรือวลีอื่นที่มีความหมาย 0.5
เช่นเดียวกัน 0.5
นกั เรียนใช้วลวี า่ “ทำงานตามท่กี ำหนดไว”้ หรอื “ทำงานตามการเขียนโปรแกรม” 0.5
หรือ “ทำงานตามการควบคุม” หรอื วลอี น่ื ที่มคี วามหมายเชน่ เดียวกัน
นักเรียนใช้วลีว่า “ประยุกต์จากงานด้านวิทยาศาสตร์” หรือ “ประยุกต์ใช้ 0.5
เทคโนโลยี” หรือ “มีองค์ประกอบมาจากงานด้านวิทยาศาสตร์” หรือวลีอื่นที่มี 2.0
ความหมายเชน่ เดยี วกนั
นกั เรยี นบอกสาขางานที่ประยกุ ต์เขา้ มา ไดแ้ ก่ การออกแบบเครอ่ื งจักรกล ทฤษฎี
การควบคุม อเิ ล็กทรอนกิ ส์ และคอมพวิ เตอร์ ได้อย่างนอ้ ย 2 งาน
รวม
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าหุน่ ยนต์และการโปรแกรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3
121
2. วัสดุที่ใช้ทำโครงสรา้ งของหุ่นยนตก์ ำหนดให้มีคณุ สมบัติอย่างไรบ้าง ให้อธิบายในรูปแบบของแผนผงั
ความคดิ หรือตารางให้เขา้ ใจง่าย
ไม้ เหล็ก อลมู เิ นียม พลาสติก ไทเทเนียม แผน่ วงจรพมิ พ์
แนวตอบ
วสั ดุ ข้อดี ข้อเสยี
ไม้ ตัดเจาะงา่ ย ไม่ถูกกับความชน้ื
น้ำหนกั เบา ติดไฟงา่ ย
ดัดงอยาก
เหล็ก แขง็ แรง ประกอบยาก ต้องใชเ้ ครื่องมอื
รองรับน้ำหนักได้มาก มาก
มนี ำ้ หนักมาก
ไม่ถูกกบั ความช้ืน
อลูมิเนียม แข็งแรง ราคาสงู
รองรบั นำ้ หนักได้มาก ดดั งอยาก
เบา ประกอบข้อตอ่ ยาก ไมแ่ ข็งแรง
เนอื้ อ่อน เจาะงา่ ย
มันวาว สสี วย
พลาสตกิ เบา ไมท่ นตอ่ แดด
ราคาถูก เปราะบาง
สสี นั สวยงาม เชื่อมต่อกนั ยาก
ทนต่อความชนื้
ฉดี ขนึ้ รูปได้ง่ายตามต้องการ
ประกอบงา่ ย
ไทเทเนยี ม นำ้ หนักเบา ราคาแพงมาก
ทนตอ่ ปฏกิ ริ ิยาเคมี
แผ่นวงจรพมิ พ์ ประหยดั ไม่แขง็ แรง
ลดขัน้ ตอนในการทำโครงสรา้ ง ไม่มีการป้องกนั น้ำและความชื้น
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
นกั เรยี นออกแบบการนำเสนอเปน็ ตารางมากกวา่ 2 สดมภ์ หรอื เป็นแผนผัง 2.0
ความคิด
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาหุ่นยนต์และการโปรแกรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
นกั เรยี นจำแนกบอกข้อดขี องวัสดไุ ด้อยา่ งนอ้ ย 1 ข้อต่อวัสดุ 122
นกั เรียนจำแนกขอ้ เสียของวสั ดุไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 ข้อตอ่ วสั ดุ วัสดลุ ะ 1.0 คะแนน
รวม 6.0 คะแนน
งานมคี วามเป็นระเบยี บ สวยงาม ไม่มรี อยลบและรอยสกปรก วัสดุละ 1.0 คะแนน
รวม รวม 6.0 คะแนน
1.0
15.0
3. หากต้องการสร้างหนุ่ ยนต์สำหรับทำงานกอ่ สร้าง โดยหนุ่ ยนตจ์ ะดำเนนิ การยกถุงปนู ซีเมนต์ ตัด และ
เทสว่ นผสมเขา้ เคร่อื งผสมคอนกรตี จะต้องใช้วัสดใุ ดในการประกอบโครงสรา้ ง เพราะเหตุใด
แนวตอบ
เหลก็ พร้อมทาสกี นั สนมิ เพราะมคี วามคงทนแข็งแรง และรบั น้ำหนักไดด้ ี เนอื่ งจากถงุ ปนู ค่อนข้างหนกั
และหนุ่ ยนตม์ โี อกาสถกู ฝนุ่ และความช้นื
หรอื
อลูมิเนยี ม เพราะมีความคงทนแขง็ แรง รบั นำ้ หนกั ไดด้ ี มนี ้ำหนักเบา กนั ความชน้ื ไดด้ ีกวา่ เหลก็
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
นักเรียนเลือกตอบ เหล็กพรอ้ มทาสกี นั สนมิ หรอื อลูมเิ นยี ม 2 คะแนน
นกั เรยี นเลือกตอบ เหลก็ โดยไมร่ ะบุวา่ ใหท้ าสีกนั สนมิ 1 คะแนน
นักเรยี นให้เหตผุ ลทสี่ มเหตุสมผลดังตัวอย่างในแนวตอบ 2 คะแนน
รวม 4.0
4. การเคลอ่ื นทีด่ ้วยลอ้ และขาของหนุ่ ยนต์ มีข้อดแี ละขอ้ เสียทแี่ ตกต่างกนั อยา่ งไร
แนวตอบ
ส่วนเคล่ือนที่ ข้อดี ขอ้ เสีย
ลอ้ สามารถวง่ิ บนทางเรียบไดด้ ี ไม่สามารถว่งิ บนทางตา่ งระดบั ได้
การทรงตัวของหนุ่ ยนตด์ ี ใชพ้ ้นื ทีใ่ นการสมั ผัสพน้ื มาก
สรา้ งและเขียนโปรแกรมควบคุมง่าย
ขา ใชพ้ น้ื ทีใ่ นการสมั ผัสพืน้ น้อย สรา้ งและเขียนโปรแกรมควบคุมยาก
สามารถเขา้ ถงึ พน้ื ท่ีทม่ี ีพ้นื ไม่เสมอกนั การทรงตัวของหนุ่ ยนต์ไมด่ ี
ได้
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาหุน่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
123
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
นักเรียนออกแบบคำตอบด้วยการใช้ตาราง การแบ่งสดมภ์ แผนผังความคิด หรือ 1 คะแนน
ภาพประกอบ
นักเรียนสามารถบอกขอ้ ดแี ละข้อเสียของลอ้ ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 1 รายการ ขอ้ ดี 1 คะแนน
ข้อเสยี 1 คะแนน
นักเรียนสามารถบอกขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของขาได้อย่างน้อย 1 รายการ รวม 2 คะแนน
ขอ้ ดี 1 คะแนน
รวม ขอ้ เสยี 1 คะแนน
รวม 2 คะแนน
5.0
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
5. มอเตอรท์ ดรอบและมอเตอร์ไมท่ ดรอบมคี วามสามารถที่แตกต่างกนั อยา่ งไร 124
แนวตอบ
คะแนน
มอเตอร์ทดรอบ หมุนช้า แต่แรงขบั มาก 2 คะแนน
มอเตอรไ์ ม่ทดรอบ หมุนเรว็ แตม่ แี รงน้อย
2.0
ประเด็นการให้คะแนน
นกั เรียนสามารถตอบคำถามได้ถกู ตอ้ งตามแนวตอบ
รวม
6. ส่วนประกอบของหุ่นยนตท์ ่ีกำหนดให้ตอ่ ไปน้ี เปรียบได้กบั อวัยวะใดของมนุษย์
ไมโครโพรเซสเซอร์ สมอง
ไดรฟ์เวอร์ กลา้ มเน้ือ
โครงสรา้ ง กระดกู
มอเตอร์ ข้อต่อ/ข้อศอก/เขา่ /ไหล/่ คอ
เทอร์มสิ เตอร์ ต่อมรับอุณหภมู /ิ ผวิ หนัง
ลำโพง ปาก
เซนเซอร์อลั ตราโซนิค หู
โฟโตไดโอด ตา
ลอ้ ขา
เซนเซอร์แก๊ส จมูก
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
นักเรียนสามารถตอบคำถามได้ถูกตอ้ งตามแนวตอบ ข้อละ 1 คะแนน
รวม 10 คะแนน
รวม
10.0
7. การเลอื กใชแ้ หลง่ จา่ ยพลังงานในห่นุ ยนต์ ควรคำนึงถงึ เรอ่ื งใดบ้าง
แนวตอบ
นำ้ หนัก กำลังไฟ แรงดนั ไฟฟ้า ระยะเวลาการใชง้ าน ขนาด สถานท่ีใชง้ าน
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
นกั เรยี นสามารถตอบคำถามได้อยา่ งน้อย 2 ปจั จยั 2 คะแนน
รวม 2.0
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3
125
8. หุ่นยนตส์ ามารถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ นงานตอ่ ไปนี้ ไดอ้ ย่างไรบ้าง
งานแพทย์และการรักษาผูป้ ว่ ย
งานเอกสารและสำนกั งาน
งานดแู ลเด็ก
งานบ้าน
งานในโรงเรยี นและงานสอน
โดยให้นักเรียนคน้ หาขอ้ มูลจากระบบอนิ เทอรเ์ น็ต เขียนอธิบายการทำงาน และลักษณะของหุน่ ยนต์
พรอ้ มท้ังเขียนแหล่งอ้างองิ ของข้อมลู น้นั
แนวตอบ
งานแพทย์
ใช้หุ่นยนต์ในการผ่าตัดรักษาคนไข้ โดยหุ่นยนต์จะมีความแมน่ ยำกว่ามนุษย์ในการกระทำการต่าง ๆ
เช่น ลงมดี ตดั อวัยวะ การเข้าถงึ อวัยวะทอ่ี ยใู่ นท่แี คบ
แหลง่ อ้างองิ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ https://www.youtube.com/watch?v=20ZOAZWJfdQ
งานเอกสาร
ใช้ห่นุ ยนตใ์ นการสง่ เอกสาร โดยมีการโปรแกรมเสน้ ทางการเดนิ ทางของหุน่ ยนตภ์ ายในองค์กรไว้
แหลง่ อ้างอิง หนังสือพมิ พ์ผ้จู ัดการ
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000010009
งานดแู ลเดก็
ใชเ้ ปน็ เพือ่ นเล่นเด็ก สามารถเปิดสื่อให้เด็กดูได้
แหล่งอ้างอิง สำนักขา่ วสปริงนวิ ส์ https://www.youtube.com/watch?v=An4sLLA_h0c
งานบ้าน
เปน็ ห่นุ ยนตด์ ูดฝนุ่ ขนาดเลก็ สามารถวง่ิ ไปรอบบ้าน และจดจำเส้นทางภายในบ้านได้
แหลง่ อ้างองิ LG https://www.lg.com/th/vacuum-robot-cleaner
งานโรงเรียนและงานสอน
เป็นหนุ่ ยนตส์ อนเด็กออทสิ ตกิ ใหร้ จู้ กั สงั เกตสีหนา้ ของคน
แหล่งอา้ งอิง หนังสอื พมิ พไ์ ทยรฐั https://www.thairath.co.th/content/661809
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
นกั เรียนสามารถยกตัวอยา่ งไดต้ รงประเดน็ หวั ข้อละ 1 คะแนน
นกั เรยี นสามารถอธิบายลักษณะและการทำงานของหนุ่ ยนตแ์ ต่ละตัวที่ยกตัวอย่าง รวม 5 คะแนน
ได้ หัวขอ้ ละ 1 คะแนน
รวม 5 คะแนน
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวชิ าหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
ประเด็นการใหค้ ะแนน 126
นักเรยี นมกี ารเขยี นเว็บไซตอ์ า้ งองิ อย่างถูกตอ้ ง และน่าเช่ือถือ
คะแนน
รวม หัวข้อละ 1 คะแนน
รวม 5 คะแนน
15.0
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาหุน่ ยนต์และการโปรแกรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3
ชอื่ -สกุล..................................................................ชนั้ ม.2/...... เลขที่ ..........
ใบงานที่ 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
วิชา ว22203 หุน่ ยนต์และการโปรแกรม
หน่วยท่ี 2 หนุ่ ยนตแ์ ละอุปกรณต์ ่อพว่ ง
เรือ่ ง การออกแบบหนุ่ ยนต์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถออกแบบหนุ่ ยนต์ไดค้ รบตามองคป์ ระกอบ
2. นักเรียนสามารถออกแบบหนุ่ ยนต์โดยเลือกใชว้ ัสดไุ ด้อยา่ งเหมาะสม
คำชี้แจง ให้นักเรียนออกแบบหุ่นยนต์เพื่อแก้ไขสถานการณ์ปัญหาที่นักเรียนพบเจอในชีวิตประจำวัน หรือ
สามารถพบได้ในสังคม โดยจะต้องมีขอ้ มูลดังต่อไปนี้
1. รูปภาพหุ่นยนต์เต็มตวั
2. คำอธบิ ายหน้าที่การทำงานของสว่ นต่าง ๆ
3. รายละเอยี ดจำเพาะทางเทคนิค (วสั ดทุ ใ่ี ชง้ าน)
เกณฑใ์ หค้ ะแนน 128
ใบงานที่ 3
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
วิชา ว22203 หนุ่ ยนต์และการโปรแกรม คะแนนเตม็ 30 คะแนน
หนว่ ยท่ี 2 ห่นุ ยนตแ์ ละอปุ กรณต์ อ่ พว่ ง
เรอ่ื ง การออกแบบหนุ่ ยนต์
คำชี้แจง ให้นักเรียนออกแบบหุ่นยนต์เพื่อแก้ไขสถานการณ์ปัญหาที่นักเรียนพบเจอในชีวิตประจำวัน หรือ
สามารถพบได้ในสังคม โดยจะตอ้ งมีขอ้ มูลดงั ตอ่ ไปนี้
1. รปู ภาพหุ่นยนตเ์ ตม็ ตัว
2. คำอธิบายหนา้ ท่ีการทำงานของสว่ นต่าง ๆ
3. รายละเอยี ดจำเพาะทางเทคนิค (วัสดทุ ใ่ี ชง้ าน)
ประเดน็ การให้ ระดับคะแนน
คะแนน ดีมาก (3) ดี (2) พอใช้ (1) ไมม่ ผี ลงาน (0)
ไมม่ ชี น้ิ งาน
ดา้ นองคป์ ระกอบ
ไม่มีช้นิ งาน
กลไก มกี ารอธบิ าย มีการอธบิ าย แตไ่ ม่ มีการวาดภาพแต่
ไมม่ กี ารแสดงไว้
ครบถว้ นสมบรู ณท์ ้งั ครบทุกส่วน ขาดการอธบิ าย ในชิ้นงาน
หรือไมม่ ีชิ้นงาน
โครงสร้างและ
ส่วนประกอบของ
หุ่นยนต์
อปุ กรณ์ควบคุม มีการอธิบายการ มีการระบุเพยี งการ มีเพยี งการวาด
ทำงานลกั ษณะของ ใช้ ภาพ แต่ไม่มีการ
ไมโครคอนโทรลเลอร์ ไมโครคอนโทรลเลอร์ ระบุ
และ/หรอื ซอฟตแ์ วร์
ทใี่ ช้
ส่วนเคลอื่ นไหว มกี ารอธบิ ายลกั ษณะ มีการอธบิ ายลักษณะ มเี พียงการวาด
และวงจร การเชอ่ื มต่อกันของ ของการเช่ือมต่อกนั ภาพ ไม่มีการ
ขับเคล่อื น ส่วนเคล่อื นไหวและ ของส่วนเคลอ่ื นไหว อธิบาย
ส่วนขบั เคลือ่ นทุกจุด และสว่ นขับเคลือ่ น
แต่ไมค่ รบทุกจดุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาหนุ่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
129
ประเด็นการให้ ระดบั คะแนน
คะแนน
ดมี าก (3) ดี (2) พอใช้ (1) ไมม่ ีผลงาน (0)
แหล่งพลังงาน/ มีการอธบิ าย ไม่มกี ารแสดงไว้
ภาคแหลง่ จา่ ย คุณสมบัติของแหลง่ มีการระบเุ พียงแตช่ ่อื มเี พียงการวาด ในชน้ิ งาน
พลังงานทใี่ ช้ หรือไมม่ ีชน้ิ งาน
ภาคตรวจวัดและ มีการอธบิ าย ของแหล่งพลังงานที่ ภาพ แตไ่ มม่ กี าร ไม่มีชนิ้ งาน
แสดงผล คุณสมบัตขิ องภาค
ตรวจวัดและ ใช้ ระบุ
แสดงผลทุกจุด
มกี ารอธบิ าย มเี พยี งการวาด
คุณสมบตั ิของภาค ภาพ แตไ่ มม่ ีการ
ตรวจวดั และ ระบุ
แสดงผล แตไ่ มค่ รบ
ทุกจดุ
ดา้ นความเหมาะสมของวัสดุ มีจดุ ออ่ น หรอื ทนตอ่ ไม่ทนตอ่ ไม่มกี ารระบไุ ว้
ความคงทนวัสดุที่ มีความเหมาะสม
ใช้ทำโครงสร้าง คงทนต่อ สภาพแวดลอ้ มการ สภาพแวดล้อม ในชิน้ งาน
หลกั สภาพแวดล้อมการ
ทำงานค่อนขา้ งตำ่ การทำงานตำ่ มาก
ทำงาน
หรอื ไมส่ ามารถใช้
การได้
ต้นทุนของวสั ดุที่ ราคาคมุ้ ค่ากับการ ราคาคอ่ นขา้ งสงู กับ ไมม่ คี วามเปน็ ไป ไม่มกี ารระบุไว้
ใชท้ ำโครงสร้าง ลงทุน
หลัก การลงทุน ได้ หรือวสั ดรุ าคา ในชิน้ งาน
สงู และเฉพาะทาง
มากเกนิ ไป
ความคงทนวัสดทุ ี่ มีความเหมาะสม สามารถผุกรอ่ นหรือ ไมส่ ามารถรองรับ ไม่มีการระบไุ ว้
ใชท้ ำส่วน คงทนต่อการใชง้ าน
เคล่ือนไหว ไดร้ ับความเสยี หาย การใชง้ านได้ ในชนิ้ งาน
อุปกรณ์ มีความเหมาะสมกบั
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สภาพแวดลอ้ มการ ไดง้ ่ายในการใชง้ าน
(มอเตอร์ จอภาพ ใช้งาน และมคี วาม
อปุ กรณ์รบั /สง่ เป็นไปได้จริง สามารถเกิดความ ไม่สามารถใช้งาน ไมม่ กี ารระบไุ ว้
ข้อมลู แหลง่ จา่ ย)
การติดตั้ง ติดตัง้ สว่ นประกอบ เสยี หายไดจ้ าก ไดใ้ น ในชน้ิ งาน
ส่วนประกอบ ได้ปลอดภยั ตอ่ ผู้ใช้
และไม่ส่งผลเสยี ตอ่ สภาพแวดล้อมการ สภาพแวดล้อมที่
วสั ดุ
ใชง้ าน หลังจากใชไ้ ป นกั เรียนระบไุ ว้
ระยะหนงึ่
ตดิ ตงั้ สว่ นประกอบ ติดตั้ง ไม่มกี ารระบไุ ว้
ได้ไมป่ ลอดภยั หรือ สว่ นประกอบได้ไม่ ในช้ินงาน
สง่ ผลเสยี ในระยะ ปลอดภยั และ
ยาวตอ่ วสั ดุ ส่งผลเสียในระยะ
ยาวตอ่ วสั ดุ
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนต์และการโปรแกรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
ช่ือ-สกลุ ..................................................................ช้ัน ม.2/...... เลขท่ี ..........
ใบงานท่ี 4 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3
วิชา ว22203 หนุ่ ยนต์และการโปรแกรม
หน่วยที่ 2 หุ่นยนต์และอุปกรณต์ อ่ พว่ ง
เรอื่ ง ส่วนประกอบบน IPST-SE
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถอธบิ ายหนา้ ทก่ี ารทำงานของส่วนประกอบใน IPST-SE ได้
คำชี้แจง ให้นักเรียนวาดภาพบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ IPST-SE ลงในสมุดบันทึก พร้อมเขียนอธิบายการ
ทำงานของแต่ละสว่ นประกอบ โดยใหน้ ักเรยี นออกแบบรปู แบบการนำเสนอเอง
เกณฑ์ให้คะแนน 131
ใบงานท่ี 4
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
วชิ า ว22203 หุ่นยนต์และการโปรแกรม คะแนนเตม็ 30 คะแนน
หน่วยท่ี 2 หุ่นยนต์และอุปกรณต์ ่อพ่วง
เร่ือง สว่ นประกอบบน IPST-SE
คำชี้แจง ให้นักเรียนวาดภาพบอร์ดไมโครคอนโทรลเลอร์ IPST-SE ลงในสมุดบันทึก พร้อมเขียนอธิบายการ
ทำงานของแต่ละสว่ นประกอบ โดยให้นักเรยี นออกแบบรูปแบบการนำเสนอเอง
ประเดน็ การให้ ระดับคะแนน
คะแนน
ดีมาก (3) ดี (2) พอใช้ (1)
ความครบถ้วน วาดภาพสว่ นประกอบ
ของสว่ นประกอบ วาดภาพส่วนประกอบและ วาดภาพส่วนประกอบและ และอธิบายสว่ นประกอบ
ขาดหายไปเกิน 3 สว่ น
ความละเอยี ดของ อธิบายส่วนประกอบครบถ้วน อธบิ ายส่วนประกอบขาด ไมม่ กี ารอธบิ ายการ
การอธบิ าย ทำงานของส่วนประกอบ
หายไปไม่เกนิ 3 สว่ น
การแบ่งส่วน ไม่มกี ารโยงเสน้ หรอื
ชนิ้ งานและการ มีการอธิบายการทำงานของ มีการอธบิ ายการทำงาน เชอ่ื มโยงใด ๆ
นำเสนอ
ความสวยงาม ส่วนประกอบทกุ สว่ น ของสว่ นประกอบเพียง ไมม่ ีการลงสี หรอื ลง
ลายเส้นใด ๆ
ระยะเวลาการส่ง บางส่วน สง่ งานเกนิ กำหนดเวลา
งาน
มกี ารโยงเสน้ อยา่ งเปน็ มีการโยงเสน้ กระจดั
ระเบยี บ หรอื แบ่งส่วนการ กระจาย ไมเ่ ป็นระเบยี บ
อธบิ ายได้เปน็ ระเบียบ ดงู า่ ย
มีการลงสีสวยงาม หรอื ลง มีการลงสี หรอื ลงลายเส้น
ลายเสน้ ทำให้ดงู า่ ย แตไ่ ม่สวยงาม
ส่งงานกอ่ นกำหนด สง่ งานตามกำหนดเวลา
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าหนุ่ ยนต์และการโปรแกรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
ชอ่ื -สกุล..................................................................ชัน้ ม.2/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 5 ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3
วชิ า ว22203 หนุ่ ยนต์และการโปรแกรม
หนว่ ยท่ี 2 หุ่นยนต์และอุปกรณต์ อ่ พ่วง
เร่อื ง การแสดงผลข้อความบน LCD
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถใช้งานชุดพัฒนาซอฟตแ์ วร์ Arduino IDE ได้
2. นกั เรยี นสามารถเขยี นโปรแกรมในการแสดงผลข้อความบนหน้าจอตามเงอื่ นไขทก่ี ำหนดได้
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นโปรแกรมบน Arduino IDE ให้หน้าจอแสดงตามโจทย์ทกี่ ำหนด
1. ใหน้ กั เรยี นแสดงคำวา่ “Hello World” ท่ีบรรทัดที่ 5 โดยเร่ิมแสดงต้ังแต่หลักที่ 4
2. ใหน้ ักเรยี นแสดงตัวอกั ษร A ไว้ที่ 4 มมุ ของหน้าจอ
3. ใหแ้ สดงชื่อเลน่ ของตนเองท่กี ่งึ กลางของหนา้ จอ โดยใช้การแสดงผลหนา้ จอแนวตั้ง
4. ใหแ้ สดงชื่อเล่นของตนเองท่ีกงึ่ กลางของหนา้ จอ โดยใชก้ ารแสดงผลหน้าจอแนวนอน
5. ให้แสดงชอ่ื เลน่ ของสมาชกิ ในกลุ่มสลบั กันไปทีก่ ลางหน้าจอ โดยมกี ารหน่วงเวลา 3 วินาที
6. ให้ดำเนินการตามขอ้ 3 แตใ่ หเ้ ปลยี่ นสพี น้ื หลังและสขี องตวั อักษรด้วย
7. ให้ดำเนินการสร้างตัวแปร x และกำหนดให้มีค่าเท่ากับ 7 จากนั้นแสดงค่าของตัวแปร x ออกทาง
หน้าจอ
8. ให้เปลยี นสีของหน้าจอจำนวน 3 สี โดยใหแ้ สดงวนแบบไม่มีสนิ้ สดุ
9. ให้แสดงตัวอักษรบนหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ โดยเริ่มตั้งแต่ขนาด 1 ถึงขนาด 10 โดยหน่วงเวลา
ขนาดละ 1 วนิ าที
10. ให้แสดงนาฬกิ าจับเวลา 10 วินาที โดยให้นับถอยหลัง
เกณฑใ์ หค้ ะแนน 133
ใบงานที่ 5
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 3
วชิ า ว22203 ห่นุ ยนตแ์ ละการโปรแกรม คะแนนเต็ม 5 คะแนน
หน่วยท่ี 2 หนุ่ ยนตแ์ ละอุปกรณ์ต่อพ่วง
เรอ่ื ง การแสดงผลข้อความบน LCD
เกณฑ์การให้คะแนน
นกั เรียนสามารถปฏบิ ตั ติ ามคำสง่ั ได้ ถือวา่ ไดร้ บั คะแนน 1 คะแนนในข้อนั้น
หากนกั เรยี นปฏิบัติผิดคำส่ัง จะไม่ไดร้ ับคะแนนในขอ้ นนั้
แบบบันทกึ คะแนน ลายมือชอ่ื ผตู้ รวจ หมายเหตุ
ขอ้
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนต์และการโปรแกรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
ชอื่ -สกุล..................................................................ช้นั ม.2/...... เลขท่ี ..........
ใบงานท่ี 6 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3
วชิ า ว22203 หุ่นยนต์และการโปรแกรม
หน่วยท่ี 3 ชุดคำสัง่ ในการควบคมุ ห่นุ ยนต์
เร่ือง การแสดงผลรูปภาพบน LCD
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถเขียนโปรแกรมแสดงผลรปู ภาพบนหนา้ จอตามเงอ่ื นไขที่กำหนดได้
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นวาดภาพการต์ นู ท่ีนักเรยี นชน่ื ชอบลงบนหน้าจอ LCD ให้มคี วามสมจรงิ มากที่สดุ
เกณฑ์ให้คะแนน 135
ใบงานที่ 6
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 3
วชิ า ว22203 ห่นุ ยนต์และการโปรแกรม คะแนนเต็ม 12 คะแนน
หน่วยที่ 3 ชุดคำส่ังในการควบคมุ หนุ่ ยนต์
เรื่อง การแสดงผลขอ้ ความบน LCD
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นวาดภาพการ์ตูนทนี่ ักเรยี นชืน่ ชอบลงบนหนา้ จอ LCD ให้มคี วามสมจริงมากทสี่ ุด
แบบบันทกึ คะแนน คะแนนทีไ่ ด้รบั ลายมือชอื่ ผู้ตรวจ
รายการ
วาดภาพการต์ นู
เกณฑก์ ารให้คะแนน
ประเดน็ การให้ ระดบั คะแนน
ดี (2) พอใช้ (1)
คะแนน ดีมาก (3)
ตัวละครมรี ายละเอยี ดปาน ตัวละครมีรายละเอียด
ความยากของตวั ตวั ละครมีรายละเอียดมาก กลาง ตอ้ งใช้ฟังกช์ ันการ นอ้ ย ใชเ้ พยี งฟังก์ชัน
ทำงานมากกว่า 1 ฟังก์ชนั เดียวกส็ ามารถวาดได้
ละคร ตอ้ งใชฟ้ ังก์ชันการทำงาน มี statement ตง้ั แต่ 5 มี statement นอ้ ยกวา่
statements แต่ไม่ถึง 10 5 statements ต่อภาพ
มากกว่า 3 ฟงั กช์ ัน statements ตอ่ ภาพ
มีการกำหนดสตี ามจริง ไมม่ ีการลงสีใหส้ มจริง
ความซบั ซ้อนของ มี statement ต้ังแต่ 10 ดว้ ย ENUM ของสี
โปรแกรม statements ข้ึนไปตอ่ ภาพ
การใชส้ ี ใช้ฟังกช์ ันกำหนดสีใหม้ ีความ มอี ัตลักษณ์ของตัวละคร อัตลกั ษณ์ของตัวละครไม่
สมจริงทงั้ หมด ด้วยฟงั กช์ นั ตน้ ฉบบั แต่สดั ส่วนไม่ ชดั เจน และสดั ส่วนไม่
ความเหมอื นจรงิ colorRGB() สมจรงิ สมจรงิ
ของตวั ละคร มกี ารปรบั แตง่ ให้เหมือนตัว
ละครตน้ ฉบับ มอี ัตลกั ษณ์
ของตัวละคร และสัดสว่ นท่ี
สมจรงิ
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาห่นุ ยนต์และการโปรแกรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
ชอ่ื -สกลุ ..................................................................ชน้ั ม.2/...... เลขท่ี ..........
ใบงานที่ 7 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
วิชา ว22203 ห่นุ ยนตแ์ ละการโปรแกรม
หน่วยท่ี 3 ชดุ คำส่ังในการควบคุมหุ่นยนต์
เร่อื ง การอ่านค่าจาก Infrared Sensor
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายความหมายของ Sensor ได้
2. นักเรียนสามารถยกตัวอย่าง Sensor แตล่ ะชนิดได้
3. นักเรียนสามารถอธบิ ายการตรวจวัดสีของหนุ่ ยนตไ์ ด้
4. นักเรียนสามารถอธิบายการตรวจวัดแบบ Analog ได้
5. นกั เรียนสามารถอธบิ ายการตรวจวัดแบบ Digital ได้
6. นักเรยี นสามารถบอกความแตกตา่ งของการตรวจวดั แบบ Analog และ Digital ได้
7. นักเรยี นสามารถเขยี นโปรแกรมเพื่อใช้งาน Sensor บน IPST-SE ได้
ตอนที่ 1 ความรู้เบือ้ งตน้ เกี่ยวกบั การตรวจวดั
คำช้แี จง ให้นักเรยี นตอบคำถามแต่ละข้อมาพอเขา้ ใจ
1. Sensor คอื อะไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
2. จากสถานการณใ์ นแต่ละขอ้ ยอ่ ย นักเรียนควรเลือกใช้ Sensor แบบใด
2.1 ตรวจสอบแก๊สรวั่ ในบ้าน ............................
2.2 เปิดไฟส่องสวา่ งอตั โนมัติในเวลาใกล้ค่ำ ............................
2.3 ตรวจจบั ขยะโลหะตามชายหาด ............................
2.4 หาระยะห่างระหว่างหุ่นยนตก์ บั วัตถุ ............................
2.5 ตรวจจับวตั ถรุ ะเบิด ............................
2.6 ตรวจวัดสขี องพน้ื ............................
2.7 วัดสภาพอากาศรอบตวั ............................
2.8 ตรวจวดั การชนวตั ถุ ............................
2.9 วัดความสว่างของแสง ............................
2.10 ตรวจวดั เสยี งคนเดนิ ............................
137
3. การใช้ Infrared Sensor ตรวจวดั สีพืน้ ของสนามแขง่ ขันห่นุ ยนต์ มหี ลกั การทำงานอยา่ งไร ให้อธิบาย
มาพอเข้าใจพรอ้ มวาดรปู ประกอบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
4. การตรวจวัดแบบ Analog และ Digital มีหลักการทำงานอย่างไร และมีความเหมอื นหรือแตกต่างกัน
อยา่ งไร ใหอ้ ธบิ ายพร้อมวาดภาพประกอบ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ าห่นุ ยนต์และการโปรแกรม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
138
ตอนท่ี 2 การโปรแกรมตรวจวดั
1. การวดั คา่ จาก Infrared Sensor ......................
อ่านคา่ แบบ Analog ......................
สขี าว อา่ นคา่ ได้ ......................
สีดำ อา่ นค่าได้ ......................
สี......... อา่ นค่าได้
ส.ี ........ อ่านค่าได้ ......................
อา่ นคา่ แบบ Digital ......................
สขี าว อ่านคา่ ได้ ......................
สดี ำ อา่ นค่าได้ ......................
ส.ี ........ อา่ นค่าได้
สี......... อ่านค่าได้
2. คา่ ที่อ่านได้กับลกั ษณะของสที ีว่ ดั มคี วามสอดคลอ้ งกันอยา่ งไร
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชาหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3
เฉลยและเกณฑใ์ ห้คะแนน 139
ใบงานที่ 7
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
วิชา ว22203 หุ่นยนต์และการโปรแกรม คะแนนเตม็ 30 คะแนน
หนว่ ยท่ี 3 ชดุ คำสงั่ ในการควบคมุ หุน่ ยนต์
เรอื่ ง การอา่ นค่าจาก Infrared Sensor
ตอนที่ 1 ความรเู้ บื้องต้นเกยี่ วกบั การตรวจวดั
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามแตล่ ะขอ้ มาพอเข้าใจ
1. Sensor คือ อะไร
แนวตอบ
Sensor คือ อุปกรณ์ตรวจจับสภาพแวดล้อมที่อยู่ภายนอก เพื่อแปลงค่าออกมาเปน็ สัญญาณไฟฟ้าที่
สามารถนำไปประมวลผลทางคอมพวิ เตอรต์ อ่ ไปได้
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
นักเรียนใช้วลีว่า “อุปกรณ์ตรวจจบั สภาพแวดล้อมทีอ่ ยู่ภายนอก” หรือวลีอื่นที่มี 1.0
ความหมายเชน่ เดยี วกนั
นักเรียนใช้วลีว่า “แปลงค่าเป็นสัญญาณไฟฟ้า” หรือวลีอื่นที่มีความหมาย 1.0
เชน่ เดยี วกนั
นกั เรียนใชว้ ลวี ่า “นำไปประมวลผล” หรือวลีอื่นทมี่ คี วามหมายเช่นเดียวกัน 1.0
3.0
รวม
2. จากสถานการณใ์ นแต่ละขอ้ ย่อย นักเรียนควรเลือกใช้ Sensor แบบใด
2.1 ตรวจสอบแกส๊ รว่ั ในบา้ น เซนเซอรแ์ กส๊
2.2 เปดิ ไฟสอ่ งสว่างอตั โนมัตใิ นเวลาใกลค้ ่ำ เซนเซอร์แสง/ตวั ต้านทานปรบั ค่าได้ตามแสง
2.3 ตรวจจับขยะโลหะตามชายหาด เซนเซอรโ์ ลหะ/เซนเซอรแ์ มเ่ หลก็
2.4 หาระยะห่างระหวา่ งหนุ่ ยนต์กับวตั ถุ เซนเซอรอ์ ัลตราโซนกิ
2.5 ตรวจจบั วัตถรุ ะเบิด เซนเซอร์โลหะ/เซนเซอร์แมเ่ หล็ก
2.6 ตรวจวดั สขี องพ้ืน เซนเซอร์แสง/ตัวตา้ นทานปรบั คา่ ไดต้ ามแสง
2.7 วัดสภาพอากาศรอบตัว เซนเซอรอ์ ณุ หภมู ิ
2.8 ตรวจวดั การชนวัตถุ เซนเซอร์สัมผสั /สวิตช์
2.9 วดั ความสว่างของแสง ตัวตา้ นทานปรบั ค่าไดต้ ามแสง/เซนเซอรแ์ สง
2.10 ตรวจวดั เสยี งคนเดิน เซนเซอรเ์ สยี ง/เซนเซอร์วดั ความสะเทือน/
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาหนุ่ ยนต์และการโปรแกรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3
140
ไมโครโฟน
ประเดน็ การให้คะแนน คะแนน
นกั เรียนตอบถกู ในแตล่ ะข้อ 0.5 คะแนน
รวม 5 คะแนน
รวม
5.0
3. การใช้ Infrared Sensor ตรวจวดั สีพน้ื ของสนามแข่งขันหุ่นยนต์ มหี ลักการทำงานอยา่ งไร ให้อธิบาย
มาพอเขา้ ใจพรอ้ มวาดรูปประกอบ
แนวตอบ
เซนเซอร์ Infrared ทำงานด้วยหลักการสะท้อนของแสง ประกอบไปดว้ ยหลอดไฟ LED ที่ส่องแสงใต้
แดงทส่ี ายตามนษุ ย์ไม่สามารถมองเหน็ ไดอ้ อกมา เมื่อแสงเหล่านน้ั กระทบกับวัตถุจะเกิดการสะท้อนกลับมายัง
Photo-Transistor ที่อยู่อีกด้าน ซึ่งมีหน้าที่ในการปล่อยให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านตามปรมิ าณแสงที่รับเข้ามา
โดยกระแสไฟฟ้าท่ีไหลผา่ นจะแปรผันตามปรมิ าณแสงสว่างท่รี บั เข้า
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
นักเรยี นใชว้ ลวี า่ “ทำงานดว้ ยหลกั การสะทอ้ นของแสง” หรือวลอี น่ื ที่มีความหมาย 1 คะแนน
เชน่ เดยี วกัน
นักเรียนมีการอธิบายส่วนประกอบว่า “ประกอบไปด้วยหลอดไฟ LED และ 1 คะแนน
Photo-Transistor” หรือวลอี นื่ ทม่ี คี วามหมายเช่นเดยี วกัน
นักเรียนอธบิ ายการทำงานของ LED วา่ “ส่องแสงอินฟราเรดออกมา” หรือวลีอ่ืน 1 คะแนน
ทม่ี ีความหมายเช่นเดียวกัน
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวชิ าหุน่ ยนตแ์ ละการโปรแกรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
นักเรียนอธิบายการทำงานของ Photo-Transistor ว่า “รับแสงที่สะท้อนมาจาก 141
LED” หรอื วลีอน่ื ท่ีมีความหมายเชน่ เดียวกนั 1 คะแนน
นักเรียนวาดรปู ระกอบ
นักเรียนอธิบายว่า “ปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่าน Photo-Transistor แปร 1 คะแนน
ผันตรงกับปรมิ าณแสงทีส่ ะท้อนเขา้ มา” หรอื วลอี น่ื ที่มคี วามหมายเดียวกัน 1 คะแนน
รวม 6.0
4. การตรวจวัดแบบ Analog และ Digital มีหลกั การทำงานอย่างไร และมีความเหมือนหรือแตกต่างกัน
อยา่ งไร ให้อธบิ ายพรอ้ มวาดภาพประกอบ
แนวตอบ
การตรวจวัดแบบ Analog เป็นการตรวจวัดสัญญาณแบบวดั ระดบั ความสูงของสัญญาณ โดยสญั ญาณ
แต่ละจุดสามารถวดั ค่าได้แตกตา่ งกนั โดยทัว่ ไปจะมีลักษณะคล่ืนสญั ญาณแบบ Sine Wave
การตรวจวัดแบบ Digital เป็นการตรวจวัดสัญญาณแบบการนับช่วงสัญญาณ โดยสัญญาณจะมี
ลกั ษณะเป็น Square Wave ทีม่ ีอยเู่ พยี ง 2 ระดบั สัญญาณ คือ 0 และ 1
สัญญาณ Analog จะมีความละเอียดกว่าสัญญาณ Digital แตม่ ีระดบั ความคลาดเคลือ่ นมากกว่าและ
สง่ สัญญาณได้ระยะทางทสี่ ้นั กวา่
สัญญาณ Analog
สัญญาณ Digital
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
ประเด็นการใหค้ ะแนน 142
นกั เรยี นมีการอธิบายการตรวจวัดแบบ Analog โดยมวี ลีหลัก 3 วลี คอื “วดั ระดับ คะแนน
ความสูงของสัญญาณ” “สัญญาณแต่ละจุดจะวัดค่าได้ต่างกัน” และ “ลักษณะ วลีละ 1 คะแนน
สัญญาณเป็น Sine Wave” หรือวลีอ่ืนที่มคี วามหมายเชน่ เดียวกัน รวม 3 คะแนน
นักเรียนอธิบายการการตรวจวัดแบบ Digital โดยมีวลีหลัก 3 วลี คือ “นับช่วง
สัญญาณ” “ลักษณะสัญญาณเป็น Square Wave” และ “มีระดับสัญญาณเพียง วลลี ะ 1 คะแนน
2 ระดบั ” หรือวลีอน่ื ท่มี ีความหมายเชน่ เดยี วกัน รวม 3 คะแนน
นักเรียนอธิบายข้อแตกต่างว่า “Analog มีความละเอียดมากกว่า Digital”
“Analog มีความคลาดเคลื่อนมากกว่า Digital” และ “Analog ส่งสัญญาณได้ วลลี ะ 1 คะแนน
ระยะทางไดส้ น้ั กว่า Digital” หรือวลีอืน่ ทีม่ ีความหมายเช่นเดยี วกัน รวม 3 คะแนน
นักเรยี นวาดรปู สัญญาณทั้งสองแบบ
1 คะแนน
รวม 10.0
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชาห่นุ ยนต์และการโปรแกรม ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
143
ตอนที่ 2 การโปรแกรมตรวจวดั
1. การวัดคา่ จาก Infrared Sensor
อา่ นคา่ แบบ Analog
สีขาว อา่ นคา่ ได้ 700 ขนึ้ ไป (ข้นึ อยกู่ ับสภาพแวดลอ้ ม)
สดี ำ อ่านคา่ ได้ น้อยกว่า 400 (ขน้ึ อยู่กบั สภาพแวดล้อม)
สี......... อ่านคา่ ได้ ......................
สี......... อา่ นคา่ ได้ ......................
อา่ นคา่ แบบ Digital
สีขาว อา่ นคา่ ได้ 1
สีดำ อา่ นค่าได้ 0
สี......... อ่านคา่ ได้ ......................
สี......... อา่ นค่าได้ ......................
(สมี ดื จะวดั คา่ ได้น้อย สสี วา่ งจะวดั คา่ ไดม้ าก)
ประเดน็ การใหค้ ะแนน คะแนน
นกั เรยี นมกี ารวัดค่าสไี ด้อยา่ งถกู ต้องในแตล่ ะจุด จดุ ละ 0.5 คะแนน
รวม 4 คะแนน
รวม
4.0
2. คา่ ทีอ่ ่านไดก้ บั ลักษณะของสีทว่ี ดั มคี วามสอดคล้องกนั อยา่ งไร
แนวตอบ
สีมดื จะวัดคา่ ได้น้อย สสี วา่ งจะวดั ค่าไดม้ าก กล่าวคอื ค่าทวี่ ดั ได้จะแปรผันตามความสว่างของสี
ประเด็นการใหค้ ะแนน คะแนน
นกั เรยี นอธบิ ายไดค้ วามดงั แนวตอบ 2 คะแนน
รวม 2.0
แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าหุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 3
ชือ่ -สกลุ ..................................................................ช้นั ม.3/...... เลขที่ ..........
ใบงานท่ี 8 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3
วิชา ว22203 หุ่นยนตแ์ ละการโปรแกรม
หนว่ ยที่ 3 ชุดคำส่ังในการควบคุมหนุ่ ยนต์
เร่ือง การประยุกตใ์ ชค้ ำส่งั ในการตรวจวดั สภาพแวดล้อมของห่นุ ยนต์
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถเขยี นโปรแกรมเพอื่ ใช้งาน Button บน IPST-SE ได้
2. นักเรียนสามารถประยกุ ตใ์ ชค้ ำส่ังในการตรวจวดั เพอื่ ส่งั การ IPST-SE ให้ดำเนินการตามที่กำหนด
ได้
คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเขียนโปรแกรมบน IPST-SE ให้เกิดผลดงั ตอ่ ไปนี้
1. แสดงค่า Infrared Sensor ทั้งสองตัวแบบ real time ขึ้นบนหน้าจอ ด้วยการวัดแบบ Digital
โดยออกแบบหน้าจอการแสดงผลเอง
2. แสดงค่า Infrared Sensor ทั้งสองตัวแบบ real time ขึ้นบนหน้าจอ ด้วยการวัดแบบ Analog
โดยออกแบบหนา้ จอการแสดงผลเอง
3. ใหอ้ า่ นคา่ Infrared Sensor แบบ Digital บนพ้ืนสขี าว และสดี ำ โดยใหห้ นา้ จอแสดงชื่อสนี นั้ ๆ
4. ให้อ่านค่า Infrared Sensor 2 ตัว หาก Sensor ตัวใดวัดค่าได้มากกว่า ให้แสดงหมายเลข Port
ของ Sensor ตัวน้นั
5. ให้อ่านคา่ Infrared Sensor 2 ตัว หากได้คา่ เท่ากันให้แสดงคำว่า “PPSCHOOL” หากไม่เท่ากัน
ให้แสดง “PANATP”
6. แสดงค่าการวดั คา่ แบบ Analog ของ Button ออกทางหนา้ จอแบบ real time
7. แสดงค่าการวดั คา่ แบบ Digital ของ Button ออกทางหน้าจอแบบ real time
8. ใหใ้ ช้ Button จำนวน 1 ชุด หากกด Button ใหแ้ สดงคำวา่ “Push” หากปลอ่ ยใหค้ ำวา่ “Push”
หายไป
9. ใหใ้ ช้ Button จำนวน 1 ชดุ หากกด Button ให้แสดงทหี่ นา้ จอว่า “Push” แลว้ ค้างไวจ้ นกว่าจะ
กด Button อกี รอบจึงจะหาย
10. ให้ใช้ Button จำนวน 2 ชุด และถือด้วยมือซ้ายและมือขวาข้างละชุด ถ้ามือซ้ายกด Button ให้
ขึ้นวา่ Left ถา้ มอื ขวากดใหข้ ึ้นว่า Right ถ้ากดทง้ั สองข้างขึน้ ว่า Both แตถ่ า้ ไมไ่ ดก้ ดปุม่ จะต้องไม่
แสดงผลใด ๆ