The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sassy_mam, 2019-09-16 05:40:28

แบบประเมินการปฏิบัติงาน 1/62

แบบประเมินการปฏบิ ัตงิ าน

โดย
นางสาว ศศธิ ร งามแพง

แผนกวชิ าภาษาตา่ งประเทศ
วิทยาลยั เทคนคิ ระยอง

ดา้ นท่ี1 ดา้ นจดั การเรียนการสอน

1.1 การสรา้ งและพฒั นาหลกั สตู ร
1.2 การจดั การเรยี นรู้และคณุ ภาพผเู้ รยี น
1.3 การสรา้ งและพัฒนาสอ่ื นวตั กรรม

เทคโนโลยที างการศกึ ษาและแหล่งเรยี นรู้
1.4 การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรแู้ ละการศกึ ษา
1.5 ศกึ ษา วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ หรอื วจิ ยั

เพอ่ื แก้ปญั หาหรอื พฒั นาการเรยี นรทู้ ส่ี ง่
ผลตอ่ คณุ ภาพผเู้ รยี น

แบบประเมินครอู ตั ราจา้ ง วทิ ยาลัยเทคนิคระยอง

ชื่อผู้รับการประเมนิ นางสาวศศธิ ร งามแพง สาขาวิชาภาษาต่างประเทศ

หัวข้อประเมิน หมายเหตุ
ด้านท1ี่ ด้านจัดการเรียนการสอน

1.1 การสรา้ งและพฒั นาหลักสูตร
1.2 การจดั การเรยี นรู้และคุณภาพผู้เรียน
1.3 การสรา้ งและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม
เทคโนโลยีทางการศกึ ษาและแหลง่ เรยี นรู้
1.4 การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้และการศกึ ษา
1.5 ศึกษา วเิ คราะห์ สังเคราะห์ หรือวจิ ยั
เพอ่ื แกป้ ญั หาหรอื พฒั นาการเรียนรทู้ ี่สง่ ผลตอ่ คุณภาพผูเ้ รียน

ท่ี รายงานการประเมิน หลกั ฐานอา้ งอิง เลขทีอ่ า้ งอิง
1 การสร้างและพัฒนาหลักสตู ร
- แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจริง๑ 1.1
- แผนการสอนวชิ าภาษาอังกฤษฟัง พูด 1.2
- แผนการสอนวชิ าภาษาอังกฤษงานสาหรับ 1.3
สานักงาน 1.4
- โครงการสอนวชิ าภาษาอังกฤษในชวี ิตจริง๑ 1.5
- โครงการสอนวิชาภาษาองั กฤษฟัง พูด 1.6
- โครงการสอนวิชาภาษาองั กฤษงานสาหรับ
สานกั งาน

2 การจดั การเรยี นรแู้ ละคณุ ภาพผู้เรียน - แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษในชีวติ จรงิ ๑ 2.1.1
- แผนการสอนวิชาภาษาองั กฤษฟัง พูด 2.1.2
2.1 การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ - แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษงานสาหรับ 2.1.3
สานักงาน 2.1.4
2.2 การจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้/แผนการ - โครงการสอนวิชาภาษาอังกฤษในชีวิตจรงิ ๑ 2.1.5
จัดการศึกษาเฉพาะบุคคล/แผนการสอนรายบคุ คล/ - โครงการสอนวิชาภาษาองั กฤษฟงั พดู 2.1.6
แผนจดั ประสบการณ์ - โครงการสอนวชิ าภาษาอังกฤษงานสาหรับ
สานกั งาน 2.2.1
แผนการสอนวิชาภาษาอังกฤษในชวี ิตจริง๑ 2.2.2
- แผนการสอนวชิ าภาษาอังกฤษฟงั พดู 2.3.3
- แผนการสอนวชิ าภาษาองั กฤษงานสาหรบั 2.2.4
สานกั งาน 2.2.5
- โครงการสอนวชิ าภาษาองั กฤษในชีวติ จรงิ ๑ 2.2.6
- โครงการสอนวิชาภาษาองั กฤษฟงั พดู 2.2.7
- โครงการสอนวชิ าภาษาองั กฤษงานสาหรับ 2.2.8
สานกั งาน 2.2.9
- บันทกึ หลังการสอนวิชาชีวิตกับสงั คมไทย
- บนั ทกึ หลังการสอนวิชาเศรษฐกิจพอเพียง 2.3
- บันทกึ หลังสอนวิชาชวี ิตกับสังคมไทย

2.3 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรียนรู้ -ส่ือการสอน PPT VDO ใบงาน ใบความรู้ 2.4.1
2.4.2
ท่ี - ผลการเรียน วผ.1 ใบเช็คชอื่ คะแนนรายหน่วย
- จิตพิสัย
2.4 คุณภาพผู้เรียน
2.4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวชิ าการของผเู้ รียน
2.4.2 คุณลักษณะที่พึงประสงคข์ อง
ผ้เู รยี น

การสรา้ งและพฒั นาส่อื นวัตกรรม - สื่อตา่ งๆ เช่นสมาร์ทโฟนสบื คน้ ข้อมลู สื่อการ 3
สอนจาก YOUTUBE GOOGLE
3 เทคโนโลยที างการศกึ ษาและแหล่งเรยี นรู้

4 การวัดและประเมนิ ผลการเรียนร้แู ละการศึกษา - แบบทดสอบ แบบสรุปคะแนน 4

5 ศกึ ษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ หรอื วิจยั - งานวจิ ัยเรื่อง การพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางการ 5
เรยี นวิชาหน้าทพ่ี ลเมอื งและศีลธรรม
เพอื่ แกป้ ญั หาหรือพฒั นาการเรียนรู้ที่สง่ ผลต่อ ของนกั เรียนระดบั ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี
ชั้นปีที่ 2/1สาขาวิชาคอมพิวเตอร์
คุณภาพผเู้ รียน วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง โดยใช้แบบฝึกทักษะ
ทางการเรยี น

แผนจดั การเรียนร้มู ่งุ เน้นสมรรถนะอาชีพและบรู ณาการปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง

รายวิชา ภาษาองั กฤษฟัง พดู 2000 1203

จดั ทาโดย
นางสาวศศิธร งามแพง

สาขาภาษาองั กฤษ

วิทยาลยั เทคนิคระยอง
สานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1

ช่อื วชิ า 2000-1203 ภาษาองั กฤษฟังพดู 1 (English Listening and Speaking1)

หน่วยที่ 1 Welcoming Guests เวลา 6 ชวั่ โมง

1. สาระสาคญั

การต้อนรบั (Welcome) เป็นการรบั รอง การกล่าวคาทกั ทาย การแสดงความเคารพ และการ
ใหบ้ รกิ ารหรอื การอานวยความสะดวกแกผ่ มู้ าเยอื นหรอื ผมู้ าตดิ ต่อ การตอ้ นรบั และใหบ้ รกิ ารดว้ ยหลกั วธิ ี
ท่ีดี จะทาให้ผู้มาเยือนหรือผู้ติดต่อเกิดความประทบั ใจ เกิดความรู้สึกสะดวกสบายและพึงพอใจ
“Welcome to….” เป็นสานวนทน่ี ิยมใชใ้ นการกล่าวตอ้ นรบั

2. วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการกลา่ วตอ้ นรบั ผมู้ าเยอื นได้
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการทกั ทาย แนะนาตวั กล่าวแสดงความยนิ ดที ไ่ี ด้

รจู้ กั และขอบคุณได้

3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถออกเสยี งคาศพั ทไ์ ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรยี นรู้
1. Welcoming & Greeting guests
2. Introducing oneself
3. Expressions for getting to know

4. สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
1. กลา่ วตอ้ นรบั
2. กล่าวทกั ทาย
3. แนะนาตวั เอง
4. แสดงความยนิ ดที ไ่ี ดร้ จู้ กั
5. ย่นื เสนอความชว่ ยเหลอื
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
8. จดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะทางภาษา

5. กรอบการจดั การเรยี นบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตผุ ล ความพอประมาณ การมีภมู ิค้มุ กนั ที่ดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
มมี นุษยสมั พนั ธท์ ด่ี ี
มนี ้าใจไมตรชี ว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง
ตามอตั ภาพของตนเอง ในการดารงตน

เงอื่ นไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงือ่ นไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Forbearance แบ่งปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
1. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. Welcoming & greeting guests 2. ความมวี นิ ยั
2. Introducing oneself 3. ความรบั ผดิ ชอบ
3. Expressions for getting to know 4. ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
5. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
6. ความสนใจใฝร่ ู้
7. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
8. ความรกั สามคั คี
9. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
10. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม ชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ตามอตั ภาพ
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และสมเหตสุ มผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

6. กิจกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมก่อนเรียน

 ครูให้ผู้เรียนฟงั บทสนทนาในสถานการณ์ต่างๆจากแผ่นซีดี แล้วตรวจสอบความรู้

ความเขา้ ใจของผเู้ รยี น โดยให้ระบุวา่ บทสนทนาทก่ี าหนดใหเ้ กดิ ขน้ึ ทไ่ี หน และบุคคลในบท

สนทนาประกอบอาชพี อะไร จากนนั้ หาคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั โดยครู จะอธบิ าย

คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาจากบทสนทนาเพมิ่ เตมิ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทใ่ี ชพ้ ูดตอ้ นรบั ในสถานการณ์ต่างๆ
จากนนั้ ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ และฝึกใหผ้ เู้ รยี นอ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั

 ครูตรวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี นโดยการใหผ้ ูเ้ รียนทาแบบฝึกหดั เขยี นคาศพั ทส์ ถานท่ี
ตา่ งๆ ตามรปู ภาพทก่ี าหนด จากนนั้ ตรวจคาตอบทถ่ี ูกต้องร่วมกนั โดยครูจะสุ่มให้ผเู้ รยี นตอบ
และฝึกพูดตอ้ นรบั เชน่
 Welcome to the museum.
 Welcome you to the amusement park.
 Welcome tourists to Bangkok.

 ครูให้ผู้เรยี นศกึ ษาความหมายและการอออกเสยี งคาศพั ท์ทก่ี าหนดไวใ้ นแบบฝึกหดั จาก
พจนานุกรม จากนนั้ ครูใหผ้ เู้ รยี นฝึกออกเสยี งคาศพั ท์ตามแผ่นซีดี และตรวจสอบความหมาย
ของคาศพั ทท์ ถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครตู รวจสอบความรู้ความเขา้ ใจดา้ นการใชค้ าศพั ท์ โดยใหผ้ เู้ รยี นเตมิ คาศพั ทล์ งในประโยคท่ี
กาหนดใหถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม ครแู ละผเู้ รยี นรว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบ

 ครูให้ผู้เรียนอ่านและฟงั บทสนทนาเก่ยี วกบั การพูดต้อนรบั และทาความรู้จกั แขก จากนัน้
ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนา ครูอ่านคาถามและผเู้ รยี น
อา่ นคาตอบ แลว้ หาคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครูให้ผูเ้ รียนศกึ ษาวลีท่ใี ช้ในการกล่าวต้อนรบั การกล่าวแสดงความยนิ ดีท่ไี ด้รู้จกั การ
สอบถามชอ่ื และแนะนาตวั รวมถงึ คาถามท่มี กั ถามเม่อื รู้จกั กนั เป็นครงั้ แรก จากนัน้ ครูสรุป
ทบทวนใหผ้ ู้เรียนอีกครงั้ พร้อมกบั สุ่มสอบถามให้ผเู้ รยี นฝึกพูดออกเสียงโดยใชโ้ ครงสร้าง
ภาษาตามตวั อยา่ ง เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามเขา้ ใจมากยง่ิ ขน้ึ

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อย่างการพูดต้อนรบั แขก แล้วให้ผเู้ รยี นสรา้ งประโยคตามสถานการณ์ท่ี
กาหนด 4 สถานการณ์ โดยครูคอยใหค้ าชแ้ี นะ และตรวจสอบความถูกตอ้ ง ตวั อย่างเชน่
“Welcome to Dusit International. My name is Daniel Cooper.
It’s a great pleasure to meet you. Please tell me if you need help.”

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ชนดิ เตมิ คาลงในประโยคให้ถูกตอ้ ง โดยฟงั บทสนทนาจากแผน่ ซดี ี
เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การใชค้ าศพั ท์และสานวนในการกล่าวตอ้ นรบั และทกั ทาย
แขก จากนนั้ ตรวจสอบคาตอบและความหมายรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาตวั อย่างบทสนทนา แลว้ จบั ครู่ ว่ มกนั สรา้ งบทสนทนาเกย่ี วกบั การกล่าว
ต้อนรบั แขก จากนัน้ ครูให้ผู้เรียนแสดงบทบาทสมมติตามบทสนทนาท่ีเขยี นไว้ ครูเป็นผู้
ประเมนิ ทกั ษะการพดู ของผเู้ รยี น ตวั อยา่ งเช่น
A: Good afternoon, sir. How can I help you?
B: Good morning. My name is Ben Kingston.
I’m from City Walk Co., LTD.
A: It’s a pleasure to meet you. I’m Adam Tyler. I’m a general manager.
B: I’m pleased to meet you, Mr. Tyler.
A: Welcome to Annex Power. Thanks for your visit.
B: You’re welcome.

กิจกรรมการเขียน

 ครูใหผ้ เู้ รยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพอ่ื สรปุ คาศพั ท์ สานวนภาษาองั กฤษและ
เรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

7. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

8. การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครื่องมอื วดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพูด
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรูค้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอย่ใู นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

9. บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2

ชอ่ื วชิ า 2000-1203 ภาษาองั กฤษฟังพดู 1 (English Listening and Speaking1)

หน่วยที่ 2 Talking about Health เวลา 9 ชวั่ โมง

10. สาระสาคญั

“Health is wealth” มีความหมายว่า “ความไม่มโี รคเป็นลาภอนั ประเสรฐิ ” การมี

สุขภาพดี จะต้องปฏบิ ตั ติ ามสุขบญั ญตั ิ 6 ประการ อย่างเหมาะสมและสม่าเสมอ คอื การควบคุม

น้าหนกั ตวั (Weight) ใหอ้ ยู่ในเกณฑพ์ อดี การรบั ประทานอาหารทถ่ี ูกตอ้ ง การออกกาลงั กาย (Exercise)

อย่างเหมาะสมและสม่าเสมอ การหลกี เลย่ี งการบรโิ ภคสารทอ่ี นั ตรายต่อร่างกาย การรู้จกั บรหิ ารจดั การ

กบั ความวติ กกงั วลและการพกั ผ่อนท่เี พยี งพอ และการตรวจเชค็ ร่างกาย (Check-up) ตามระยะเวลาท่ี

เหมาะสม

11.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพ่อื ให้ผู้เรียนสามารถใชค้ าศพั ท์และสานวนภาษาในการสอบถามและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั

ปญั หาสุขภาพได้

2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถแสดงความคดิ เหน็ และใหค้ าแนะนาในการแกป้ ญั หา สขุ ภาพได้
3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความตระหนกั ในการมสี ขุ ภาพทด่ี ี

12. สาระการเรียนรู้
1. Vocabulary about Health Problems
2. Talking about Feeling /Health
3. Giving opinions and advice for a remedy.

13. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้
1. สอบถามและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั สุขภาพ
2. บอกคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั โรคต่างๆ
3. แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สขุ ภาพ
4. ใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปญั หาสขุ ภาพ
5. กลา่ วขอบคุณ
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด

8. เขยี นบทสนทนาตามทก่ี าหนดได้

14.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมีเหตุผล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ท่ีดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
ความไม่มโี รคเป็นลาภอนั ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง ปฏบิ ตั ติ วั ตามสขุ บญั ญตั ิ
ประเสรฐิ ในการดารงตน

เง่ือนไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
ระมดั ระวงั Attentiveness Forbearance แบง่ ปัน sharing

1. Vocabulary about Health 11. มมี นุษยสมั พนั ธ์
12. ความมวี นิ ยั
Problems 13. ความรบั ผดิ ชอบ
14. ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
2. Talking about Feeling /Health 15. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
3. Giving opinions and advice for a 16. ความสนใจใฝร่ ู้
17. การละเวน้ สง่ิ เสพยต์ ดิ และการพนนั
Remedy. 18. ความรกั สามคั คี
19. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
20. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม รจู้ กั ดูแลชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และสมเหตสุ มผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางส่ิงแวดล้อม อนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

15. กิ จกรรมการเรียนรู้

กิจกรรมก่อนเรยี น

 ครูให้ผเู้ รียนดูภาพและฟงั บทสนทนาเก่ยี วกบั การสอบถามสุขภาพจากแผ่นซีดี แล้วให้
ผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคญั และตอบคาถามจากบทสนทนาวา่ มปี ญั หาสุขภาพอะไร ควร
ไดร้ บั คาแนะนาในการกั ษาอยา่ งไร จากนนั้ ครูตรวจสอบคาตอบและอธบิ ายคาศพั ทแ์ ละสานวน
ภาษาจากบทสนทนาเพม่ิ เตมิ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ท์ทเ่ี กย่ี วกบั ปญั หาสขุ ภาพ โดยตรวจสอบความหมายจากพจนานุกรม
แลว้ ครตู รวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี นจากการทาแบบฝึกหดั เขยี นคาศพั ทป์ ญั หาสุขภาพให้
ตรงกบั รูปภาพทก่ี าหนดให้ จากนนั้ ตรวจสอบคาตอบท่ถี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั โดยครูสุ่มใหผ้ เู้ รยี น
บอกความหมายและฝึกอา่ นออกเสยี ง เชน่
A: What’s wrong with Cathy?
B: She’s got a sneeze.
A: What’s the matter with Raff?
B: He’s got dizziness.

 ครูตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจของผู้เรยี นในด้านคาศพั ท์และสานวนในการใช้บรรยาย
เกย่ี วกบั ปญั หาสขุ ภาพทไ่ี ดศ้ กึ ษามา โดยใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั เขยี นประโยคตามตวั อย่างท่ี
กาหนด และทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในช่องว่าง จากนัน้ ฝึกอ่านออกเสยี งตรวจความ
ถกู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครูให้ผูเ้ รยี นอ่านและฟงั บทสนทนาเก่ียวกบั การสอบถามปญั หาสุขภาพ จากนัน้ ตรวจสอบ
ความเขา้ ใจโดยใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนา ครูอา่ นคาถามและผเู้ รยี นอา่ นคาตอบ
แลว้ หาคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาวลที ใ่ี ชใ้ นการสอบถามสุขภาพและการพูดแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การ
แนะนาการรกั ษาอาการ หรอื โรคภยั ต่างๆ แล้วหลงั จากนัน้ ครูยกตวั อย่างประโยคและสุ่ม
สอบถามผเู้ รยี นสอบถามกนั เกย่ี วกบั อาการต่างๆ เชน่
ผเู้ รยี น1: What's the problem with you?
ผเู้ รียน2: I have a stomachache.
ผเู้ รียน1: I think you should go to see a doctor.
ผเู้ รยี น2: Thank you for your advice.

 ครใู หผ้ ูเ้ รยี นฟงั เสยี งคาศพั ท์จากแผ่นซดี ี แลว้ ให้ศกึ ษาความหมายของคาศพั ท์ท่กี าหนดจาก
พจนานุกรม แล้วครูตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจด้านการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนทใ่ี ชใ้ นการ
สอบถามสุขภาพ การพูดแนะนาการรกั ษาโดยใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ ลงในช่องวา่ ง
ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครูให้นักเรียนศึกษาประโยคคาถามภาษาอังกฤษท่ีเก่ียวกับพฤติก รรมการกินอยู่ใน
ชวี ติ ประจาวนั จากนัน้ ครูอ่านประโยคคาถาม โดยครูและผู้เรยี นร่วมกนั อภิปรายถึงแนว
ทางการรกั ษาสุขภาพทด่ี ี กจิ กรรมทด่ี หี รอื ทม่ี ผี ลเสยี ตอ่ ร่างกาย เชน่
 Do you smoke or drink alcohol?
 Do you sleep at least 8 hours a day?
 Do you exercise daily?

 ครูใหน้ กั เรยี นศกึ ษาบทสนทนาตวั อย่าง แลว้ จบั คสู่ รา้ งบทสนทนาเก่ยี วกบั การพูดคุยสอบถาม
ปญั หาสุขภาพ และแนะนาวธิ ีการรกั ษา จากนัน้ ครูให้ผู้เรยี นแสดงบทบาทสมมติ ตามบท
สนทนาทเ่ี ขยี นไว้ ครเู ป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการพดู ของผเู้ รยี น เชน่
A: You look unwell today. What’s wrong with you?
B: I’m not fine. I’m suffering from migraine. I have a bad headache.
A: I’m very sorry to hear that.
I think you should take a medicine and consult a doctor.
B: Good idea. Thanks.
A: Get well soon. Bye.

กิจกรรมการเขียน

 ครูให้ผเู้ รยี นจดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวนภาษาองั กฤษ
และเร่อื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

16. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

17.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครือ่ งมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอย่ใู นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยู่ในระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยกู่ บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

18.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

...............................................................................................................................................
ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3

ช่อื วชิ า 2000-1203 ภาษาองั กฤษฟังพดู 1 (English Listening and Speaking1)

หน่วยท่ี 3 Entertaining Life เวลา 9 ชวั่ โมง

19. สาระสาคญั

การเชอ้ื เชญิ (Invitations) เป็นเร่อื งปกตทิ ต่ี อ้ งพบเจออยเู่ สมอในชวี ติ การเชอ้ื เชญิ มที งั้ ในแบบท่ี
เป็นทางการ (Formal) และไมเ่ ป็นทางการ (Informal) ขน้ึ อยู่กบั ผทู้ ถ่ี ูกเชญิ การตอบรบั (Accepting) คา
เชอ้ื เชญิ มกั กลา่ วไปพรอ้ มกบั คาขอบคุณ สว่ นการตอบปฏเิ สธ (Refusing) คาเชอ้ื เชญิ มกั การกล่าว
ขอบคุณผทู้ เ่ี ชญิ พรอ้ มทงั้ ชแ้ี จงเหตผุ ลทต่ี อบปฏเิ สธ

20.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกประเภทของภาพยนตรแ์ ละเพลงได้
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการเชญิ ตอบรบั และปฏเิ สธคาเชญิ ได้
3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถสอบถามและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั สงิ่ ทช่ี อบหรอื ไมช่ อบได้
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั แผนทว่ี างไวไ้ ด้

21. สาระการเรียนรู้
1. Types of Movies and Music
2. Making, Accepting and Refusing an Invitation
3. Expressing likes and dislikes
4. Talking about plans.

22.สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
1. กล่าวเชญิ
2. ตอบรบั และปฏเิ สธคาเชญิ
3. แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั สขุ ภาพ
4. ใหค้ าแนะนาในการแกไ้ ขปญั หาสขุ ภาพ
5. กล่าวขอบคณุ
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด
8. เขยี นบทสนทนาตามทก่ี าหนดได้

23.กรอบการจดั การเรยี นบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตผุ ล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ที่ดี
Reasonableness Moderation Self-immunity

เลอื กสรรสง่ิ ทม่ี ปี ระโยชน์และ ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง มคี วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคแ์ ละ
เหมาะสม ในการดารงตน ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง

เงอ่ื นไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เง่ือนไขคณุ ธรรม Moral condition ซื่อสตั ย์
Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Forbearance แบง่ ปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
21. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. Types of Movies and Music 22. ความมวี นิ ยั
2. Making, Accepting and 23. ความรบั ผดิ ชอบ
24. ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
Refusing 25. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
an Invitation 26. ความสนใจใฝร่ ู้
27. การละเวน้ สง่ิ เสพยต์ ดิ และการพนนั
3. Expressing likes and dislikes 28. ความรกั สามคั คี
4. Talking about plans. 29. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
30. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม เสรมิ สรา้ งมติ รไมตรตี อ่ ผอู้ ่นื
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และสมเหตสุ มผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

24.กิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมก่อนเรยี น

 ครูใหผ้ เู้ รยี นดูภาพและฟงั บทสนทนาเกย่ี วกบั การเชญิ ชวนไปร่วมทากจิ กรรมต่างๆ เชน่ ดูหนงั
ฟงั เพลง แล้วใหผ้ ูเ้ รยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคญั และตอบคาถามจาก บทสนทนาว่าเป็น
หนงั หรอื เพลงอะไร ประเภทไหน จากนนั้ ครูตรวจสอบคาตอบและอธบิ ายคาศพั ทแ์ ละสานวน
ภาษาจากบทสนทนาเพม่ิ เตมิ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาและเขยี นความหมายของคาศพั ทท์ เ่ี ก่ยี วกบั ประเภทต่างๆ ของภาพยนตร์
จากนัน้ ครูใหผ้ เู้ รยี นฟงั เสยี งคาศพั ทจ์ ากแผ่นซีดี แลว้ สุ่มให้นักเรยี นบอกความหมายและฝึก
ออกเสยี งตามพรอ้ มกนั

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของผเู้ รยี นดา้ นคาศพั ท์ โดยใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ชนดิ จบั คู่
ความหมายของคาท่กี าหนดให้ จากนนั้ ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั ตรวจสอบคาตอบ โดยครูเป็น
ผอู้ า่ นคาถามและผเู้ รยี นอา่ นคาตอบ

 ครูใหผ้ เู้ รยี นอา่ นขอ้ มูลเกย่ี วกบั ตารางหนังหรอื ภาพยนตร์จากใบงานท่แี จก วา่ มภี าพยนตร์
เร่อื งอะไร แนวไหน และเวลาทฉ่ี าย แลว้ ครูสุม่ สอบถามขอ้ มลู จากผเู้ รยี น ตวั อย่างเชน่
 What movies are now showing?
 What type of movies is it?
 What is the showing time?

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการพูดเชอ้ื เชญิ การตอบรบั และปฏเิ สธให้
ถูกต้อง เหมาะสม จากนัน้ ให้ฝึกอ่านออกเสยี งตามตวั อย่างประโยค ครูสุ่มสอบถามผเู้ รยี น
เกย่ี วกบั การเชอ้ื เชญิ ตา่ งๆ เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นฝึกสนทนาโตต้ อบและเพมิ่ ความเขา้ ใจในการใชภ้ าษา
เชน่
คร:ู Would you like to go to a cinema?
นักเรยี น: Thank you. That sounds fun.
นักเรยี น: I am sorry I can’t.
นักเรียน: I’d love to but I have to work

 ครใู หผ้ เู้ รยี นอา่ นและฟงั บทสนทนาเกย่ี วการพดู เชญิ ชวน จากนนั้ ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยให้
ผเู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนาและทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในช่องวา่ ง แลว้ ร่วมกนั
คาตอบทถ่ี ูกตอ้ ง โดยครูอ่านคาถามและผเู้ รยี นอ่านคาตอบ

 ครใู หผ้ เู้ รยี นจบั คู่ สรา้ งบทสนทนาเกย่ี วกบั การพดู เชญิ ชวนไปทากจิ กรรมต่างๆ เพ่อื ตรวจสอบ
ความเขา้ ใจในการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนทไ่ี ดศ้ กึ ษามา โดยครูคอยใหค้ าชแ้ี นะ แลว้ หลงั จากนนั้
ครใู หผ้ เู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาทไ่ี ดส้ รา้ งไว้ ตวั อยา่ งเชน่
A: Hi, Carlos. Are you interested in going to a cinema this evening?
B: I’d love to. Thanks.
A: Do you like a thriller movie?
B: No. Why don’t we watch a comedy movie?
A: That sounds great. The movie is now showing at 6 p.m. See you.

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทเ์ กย่ี วกบั ประเภทของเพลงและดนตรี แลว้ เขยี นความหมายของคาลง
ไปชอ่ งวา่ งทก่ี าหนดให้ ครใู หผ้ เู้ รยี นฟงั เสยี งคาศพั ทจ์ ากซดี แี ละใหผ้ เู้ รยี นฝึกอา่ นออกเสยี งตาม
พรอ้ มตรวจสอบคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง

 ครูใหผ้ ูเ้ รยี นฝึกฟงั บทสนทนาเกย่ี วกบั การวางแผนทากิจรรมในช่วงวนั หยุดจาก แผ่นซีดี
แลว้ ตรวจสอบความเขา้ ใจโดยครูใหผ้ เู้ รยี นตอบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนาและทาแบบฝึกหดั
ชนดิ เตมิ คาลงในประโยคใหถ้ ูกต้อง จากนนั้ ครูและแลว้ ร่วมกนั ร่วมกนั สรุปใจความสาคญั จาก
เรอ่ื งทฟ่ี งั และตรวจสอบคาคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งพรอ้ มกนั

 ครใู หน้ กั เรยี นศกึ ษาวลแี ละสานวนจากบทสนทนาตวั อย่าง แลว้ จบั คสู่ รา้ งบทสนทนาตามหวั ขอ้
ท่กี าหนด โดยครูคอยช้แี นะและตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูให้ผูเ้ รยี นแสดงบทบาท
สมมตติ ามบทสนทนาทเ่ี ขยี นไว้ ครูเป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการพูดของผเู้ รยี น ตวั อย่างเชน่

A: Hey, Bob. Do you like reggae?
B: Of course.
A: Would you like to go to a reggae concert this Saturday?
B: Yes. That sounds great. What time and where will we meet?
A: Shall we meet at 6 p.m. at Moonwalk Theater?
B: Okay. See you.

กิจกรรมการเขียน

 ครูให้ผเู้ รยี นจดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวนภาษาองั กฤษ
และเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

25. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

26.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครื่องมอื วดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

27.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/ วิธีการแกไ้ ข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 4

ชอ่ื วชิ า 2000-1203 ภาษาองั กฤษฟังพดู 1 (English Listening and Speaking1)

หน่วยที่ 4 Expressing Thanks เวลา 6 ชวั่ โมง

28. สาระสาคญั

เม่อื ได้รบั ความช่วยเหลอื จากผู้อ่นื ผูไ้ ด้รบั ความช่วยเหลือต้องกล่าวคาขอบคุณ (Thanking)
สานวนการกล่าวขอบคุณ มรี ูปแบบง่ายๆเช่น Thank you หรอื Thanks เม่อื อกี ฝ่ายหน่ึงได้ยนิ คา

ขอบคุณ อาจพูดโตต้ อบวา่ “ดว้ ยความยนิ ด”ี โดยใชส้ านวนภาษาองั กฤษ วา่ you’re welcome.

หรอื My pleasure

29.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง การ
1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกชอ่ื วสั ดุสานกั งานได้
2. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการย่นื เสนอความช่วยเหลอื และ

ขอรอ้ งได้

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการตอบรบั และปฏเิ สธได้
4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการขอบคณุ และตอบรบั การขอบคุณได้

30. สาระการเรียนรู้
1. Vocabulary about Office Suppliers
2. Thanking & Replying to Thanks
3. Offering Helps
4. Asking for Helps

31.สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
1. บอกชอ่ื วสั ดสุ านกั งาน
2. กลา่ วขอบคณุ และตอบรบั คาขอบคุณ
3. ยน่ื เสนอความชว่ ยเหลอื
4. กล่าวขอรอ้ ง
5. ตอบรบั และปฏเิ สธ
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง

7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณจ์ าลองทก่ี าหนด
8. จดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะทางภาษา

32.กรอบการจดั การเรียนบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตผุ ล ความพอประมาณ การมภี มู ิค้มุ กนั ท่ีดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
ชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ตามอตั ภาพ ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง พง่ึ พาตนเองและชว่ ยเหลอื
ของตนเอง ในการดารงตน ผอู้ ่นื ตามกาลงั ของตน

เงือ่ นไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงือ่ นไขคณุ ธรรม Moral condition ซ่ือสตั ย์
สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Intelligence รอบคอบ Self–awareness Forbearance แบง่ ปัน sharing
ระมดั ระวงั Attentiveness
31. มมี นุษยสมั พนั ธ์
1. Vocabulary about Office 32. ความมวี นิ ยั
33. ความรบั ผดิ ชอบ
Suppliers 34. ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
35. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
2. Thanking & Replying to Thanks 36. ความสนใจใฝร่ ู้
3. Offering Helps 37. การละเวน้ สง่ิ เสพยต์ ดิ และการพนนั
4. Asking for Helps 38. ความรกั สามคั คี
39. ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
40. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และสมเหตสุ มผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางสิ่งแวดล้อม อนุรกั ษ์สงิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

33. กิ จกรรมการเรียนรู้
กิจกรรมก่อนเรยี น

 ครูให้ผูเ้ รยี นดูภาพและฟงั บทสนทนาเกย่ี วกบั การกล่าวขอบคุณในสถานการณ์ต่างๆ แลว้ ให้
ผเู้ รยี นร่วมกนั สรุปใจความสาคญั จากเร่อื งทฟ่ี งั และตอบคาถามจากบทสนทนาว่าใครเป็นคน
กล่าวคาขอบคุณ พูดตอบรบั อย่างไร จากนัน้ ครูตรวจสอบคาตอบและอธบิ ายคาศพั ท์และ
สานวนทางภาษาจากบทสนทนาเพมิ่ เตมิ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเกย่ี วกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษทใ่ี ชใ้ นการกลา่ วขอบคณุ การตอบ
รบั คาขอบคุณ จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นฝึกอา่ นออกเสยี งพรอ้ มกนั เชน่
ครู: Thank you very much.
นักเรียน: No problem. /Never mind. / With pleasure./Not at all.

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ทท์ เ่ี กย่ี วกบั วสั ดอุ ปุ กรณ์ท่ใี ชใ้ นสานักงาน โดยคน้ หาความหมายจาก
พจนานุกรม จากนัน้ ครูให้ผู้เรียนฟงั เสียงคาศพั ท์จากแผ่นซีดีเพ่อื ฝึกออกเสียงตาม และ
ตรวจสอบความหมายของคาศพั ทร์ ว่ มกนั

 ครใู หผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ชนดิ เตมิ คาลงในชอ่ งวา่ งและเขยี นคาศพั ทอ์ ุปกรณ์ในสานักงานให้
ใต้ภาพท่กี าหนด เพ่อื ตรวจสอบความเขา้ ใจด้านคาศพั ท์ของผู้เรียน จากนัน้ ครูตรวจสอบ
คาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง โดยใหผ้ เู้ รยี นอา่ นออกเสยี งคาตอบพรอ้ มกนั

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการพูดรอ้ งขอความชว่ ยเหลอื การเสนอ
ความชว่ ยเหลอื การตอบรบั และปฏเิ สธใหถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม แลว้ ครูยกตวั อยา่ งประโยค อธยิ าย
เพิม่ เตมิ เพ่อื เพิม่ ความเข้าใจผูเ้ รียนให้มากขน้ึ จากนัน้ ให้ผูเ้ รียนฝึกออกเสยี งตามตวั อย่าง
ประโยค

 ครูให้ผูเ้ รียนอ่านและฟงั บทสนทนาเก่ยี วการพูดเสนอและร้องขอความช่วยเหลือ จากนัน้
ตรวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รยี นโดยการใหต้ อบคาถามเกย่ี วกบั บทสนทนาและทาแบบฝึกหดั
ชนิดเตมิ คาลงในชอ่ งวา่ ง ครูและผเู้ รยี นรว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบท่ถี ูกต้องพรอ้ มกนั โดยครูสุ่ม
ใหผ้ เู้ รยี นอา่ นออกเสยี งคาถามและคาตอบ

 ครูให้ผเู้ รียนศกึ ษาวลแี ละประโยคจากตวั อย่างบทสนทนาเก่ยี วกบั การพูดร้องขอและเสนอ
ความช่วยเหลอื และให้ผู้เรียนสร้างบทสนทนาตามคาท่กี าหนดให้ โดยครูคอยให้คาชแ้ี นะ
หลงั จากนนั้ ครูใหผ้ เู้ รยี นจบั คูฝ่ ึกพูดสนทนา ครูตรวจสอบคาตอบโดยสมุ่ ใหผ้ เู้ รยี นออกมาแสดง
บทบาทสมมตุ หิ น้าชนั้ เรยี น เชน่
A: Hi. Would you like some help?
B: Sure. Thank you. Will you give me a post-it-note?
A: Certainly. Here you are.

 ครตู รวจสอบความเขา้ ใจในการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการพูดรอ้ งขอความช่วยเหลอื
โดยใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั เขยี นประโยครอ้ งขอชว่ ยเหลอื ทเ่ี หมาะสมกบั สถานการณ์ทก่ี าหนด
เชน่
สถานการณ์: You are too hot.
คาร้องขอ: Could you turn on the air conditioner, please?

 ครใู หผ้ เู้ รยี นจบั คู่สรา้ งบทสนทนาเกย่ี วกบั การพดู รอ้ งขอ/เสนอความชว่ ยเหลอื แลว้ กล่าว
พูดขอบคณุ ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด โดยศกึ ษาประโยคและสานวนภาษาไดจ้ ากบทสนทนาตวั อยา่ ง
จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาทเ่ี ขยี นไว้ ครูเป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการ
พูดของผเู้ รยี น ตวั อย่างเชน่
A: You look serious. May I help you?
B: Sure, thanks. Could you possibly clean up the office?
A: No problem.
B: Thanks a lot.
A: Not at all.

กิจกรรมการเขียน

 ครูให้ผเู้ รยี นจดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวนภาษาองั กฤษ
และเรอ่ื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

34. ส่ือการเรียนรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

35.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เคร่ืองมอื วดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรูค้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยูใ่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

36.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแกไ้ ข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 5

ช่อื วชิ า 2000-1203 ภาษาองั กฤษฟังพดู 1 (English Listening and Speaking1)

หน่วยที่ 5 Asking for Permission เวลา 9 ชวั่ โมง

37. สาระสาคญั

การขออนุญาต (Asking for Permission) ถอื เป็นมารยาททางสงั คม หากเราตอ้ งการรบกวน
ผูอ้ ่ืนเพ่ือทาอะไรบางอย่าง สานวนท่ีใช้ขออนุญาตอย่างง่ายและมกั ได้ยินบ่อยๆ เช่น Can
I…………? หรอื May I…………? ถา้ ตอ้ งการใหก้ ารอนุญาต กส็ ามารถกล่าวไดว้ ่า Sure, go ahead.
หรอื I’m afraid/sorry you can’t. หากไม่อนุญาตใหด้ าเนนิ การ

38.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไม่

1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถอธบิ ายกจิ กรรมในชวี ติ ประจาวนั โดยใช้ Infinitive Verb Phrase
2. เพ่อื ให้ผู้เรียนสามารถใช้สานวนภาษาในการขออนุญาต ให้การอนุญาตและ

อนุญาตได้

3. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกความหมายป้ายความปลอดภยั ได้

39.สาระการเรยี นรู้

1. Vocabulary about Daily Routines
2. Asking for Permission
3. Giving and Refusing a Permission
4. Prohibition Signs

40. สมรรถนะประจาหน่ วยการเรียนรู้

1. บอกชอ่ื กจิ กรรมทท่ี าในชวี ติ ประจาวนั
2. ขออนุญาต
3. กลา่ วอนุญาตและไม่ใหอ้ นุญาต
4. อธบิ ายความหมายของป้ายหา้ ม
5. ตอบรบั และปฏเิ สธ
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถกู ตอ้ ง

7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณ์จาลองทก่ี าหนด

8. จดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะทางภาษา

41.กรอบการจดั การเรยี นบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมเี หตุผล ความพอประมาณ การมีภมู ิค้มุ กนั ที่ดี
Reasonableness Moderation Self-immunity
ใหเ้ กยี รตแิ ละเคารพสทิ ธิ ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง มมี รรยาทและวางตวั ให้
ของผอู้ ่นื ในการดารงตน เหมาะสม

เงอ่ื นไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เงอื่ นไขคณุ ธรรม Moral condition ซื่อสตั ย์
Intelligence รอบคอบ Self–awareness สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
ระมดั ระวงั Attentiveness Forbearance แบง่ ปัน sharing

1. Vocabulary about Daily 41. มมี นุษยสมั พนั ธ์
42. ความมวี นิ ยั
Routines 43. ความรบั ผดิ ชอบ
44. ความซอ่ื สตั ยส์ จุ รติ
2. Asking for Permission 45. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
3. Giving and Refusing a 46. ความสนใจใฝร่ ู้
47. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
Permission 48. ความรกั สามคั คี
49. ความคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
4. Prohibition Signs 50. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และสมเหตสุ มผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางส่ิงแวดล้อม อนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

42.กิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมก่อนเรยี น

 ครใู หผ้ เู้ รยี นดภู าพและฟงั บทสนทนาเก่ยี วกบั การพูดขออนุญาตในสถานการณ์ต่างๆ แล้วให้
ผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ ใจความสาคญั จากเร่อื งทฟ่ี งั และตอบคาถามจากบทสนทนาวา่ ผพู้ ูดทาอาชพี
อะไร ใหก้ ารอนุญาตหรอื ไม่ จากนนั้ ครตู รวจสอบคาตอบและอธบิ ายคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษา
จากบทสนทนาเพมิ่ เตมิ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครูใหผ้ เู้ รยี นดูรูปภาพกจิ กรรมต่างๆ ทม่ี กั เจอในชวี ติ ประจาวนั เชน่ รอ้ งเพลง ดูทวี ี เปิดพดั ลม
เป็นตน้ แลว้ ครสู ุ่มใหผ้ เู้ รยี นออกมาเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน ครูตรวจสอบความถูกต้องและ
ฝึกอ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบฝึกหดั แต่งประโยคคาถามเพ่อื ขออนุญาตทา
กจิ กรรมตา่ งๆ ตามรูปภาพทก่ี าหนดให้ แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นฝึกพดู ขออนุญาต เชน่
 May I listen to music?
 Can I play a computer game?

 ครูให้ผู้เรียนฟงั เสียงคาศพั ท์จากแผ่นซีดี แล้วให้ศึกษาหาความหมายคาศพั ท์ตามท่ี
กาหนดให้จากพจนานุกรม จากนัน้ ครูให้ผู้เรียนเพ่ือฝึกอ่านออกเสยี งพร้อมกันและบอก
ความหมายของคาศพั ท์

 ครตู รวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจดา้ นคาศพั ทข์ องผเู้ รยี น โดยใหผ้ ู้เรยี นทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ
คาลงในชอ่ งวา่ งหรอื ประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั ตรวจสอบคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการพดู ขออนุญาต การใหแ้ ละไม่ให้การ
อนุญาต ครูยกตวั อย่างประโยคและอธยิ ายเพิ่มเติมเพ่อื เพิ่มความเข้าใจผู้เรียนให้มากข้นึ
จากนนั้ ใหผ้ เู้ รยี นฝึกออกเสยี งตามตวั อย่างประโยค

 ครใู หผ้ เู้ รยี นอ่านและฟงั บทสนทนาเกย่ี วการพูดขออนุญาตชว่ ย จากนนั้ ตรวจสอบความเขา้ ใจ
ของผู้เรียนโดยการให้ตอบคาถามเก่ยี วกบั บทสนทนาและทาแบบฝึกหดั ชนิดเติมคาลงใน
ช่องว่าง ครูและผเู้ รยี นร่วมกนั ตรวจสอบคาตอบท่ถี ูกต้องพร้อมกนั โดยครูสุ่มให้ผูเ้ รยี นอ่าน
ออกเสยี งคาถามและคาตอบ

 ครูตรวจสอบความเขา้ ใจในการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาองั กฤษของผเู้ รยี น โดยให้ผเู้ รยี น
ทาแบบฝึกหดั เขยี นประโยคขออนุญาตและใหอ้ นุญาตตามสถานการณ์ทก่ี าหนด ครูให้ผเู้ รยี น

จบั คู่ฝึกพดู จากนนั้ ครูตรวจสอบคาตอบของผเู้ รยี นโดยการสุ่มใหอ้ อกมาแสดงบทบาทสมมุติ
หน้าชนั้ เรยี น เชน่

You are going to a hardware store. You want to use a bicycle.
A: I’m going to a hardware store. Can I use your bicycle?
B: No problem. Go ahead.

 ครใู หผ้ เู้ รยี นศกึ ษาดูรปู ภาพและศกึ ษาเกย่ี วกบั ป้ายห้ามต่างๆ ครูอธบิ ายคาศพั ทแ์ ละสานวนท่ี
มกั พบบนป้ายห้ามเพม่ิ เติมเพ่อื เพม่ิ ความเข้าใจให้กบั ผูเ้ รยี นมากขน้ึ จากนัน้ ครูตรวจสอบ
ความรู้ความเขา้ ใจของผเู้ รยี นโดยการทาแบบฝึกหดั จบั คู่รูปภาพและคาศัพท์ใหถ้ ูกต้อง แล้ว
ตรวจสอบคาตอบทถ่ี กู ตอ้ งรว่ มกนั ในชนั้ เรยี น

 ครูสรุปทบทวนเกย่ี วกบั คาศพั ทแ์ ละสานวนทใ่ี ชใ้ นการขออนุญาต ให้อนุญาต การตอบรบั และ
ปฏิเสธอย่างสุภาพ จากตัวอย่างบทสนทนา จากนัน้ ให้ผู้เรียนจับคู่สร้างบทสนทนาตาม
สถานการณ์ทก่ี าหนด โดยครูคอยแนะนาและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นแสดง
บทบาทสมมตติ ามบทสนทนาทเ่ี ขยี นไว้ ครเู ป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการพดู ของผเู้ รยี น เชน่
A: I have to edit my report. Can I use the computer here?
B: I’m afraid that someone is using it now.
A: No problem. Can I borrow your laptop?
I’ll return it within half an hour.
B: Of course, you can.
A: Thank you.

กิจกรรมการเขียน

 ครูใหผ้ เู้ รยี นจดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพ่อื สรุปคาศพั ท์ สานวนภาษาองั กฤษ
และเร่อื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพอ่ื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

43.ส่ือการเรยี นรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้

 แบบทดสอบ

44.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เครื่องมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพดู
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยู่ในระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยูใ่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

45.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................









52.ส่ือการเรยี นรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

53.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพดู
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เคร่ืองมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพูด
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพอ่ื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ มและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยู่ในระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อย่กู บั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

54.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 7

ชอ่ื วชิ า 2000-1203 ภาษาองั กฤษฟังพดู 1 (English Listening and Speaking1)

หน่วยที่ 7 Talking about Careers เวลา 9 ชวั่ โมง

55. สาระสาคญั

คาถามท่มี กั เจอบ่อยๆ ในการสอบถามขอ้ มูลเก่ยี วกบั อาชพี ไดแ้ ก่ “What’s your job?” หรอื
“What do you do?” มคี วามหมายวา่ “เธอทางานอะไร” หากตอ้ งการตอบวา่ มอี าชพี อะไร สามารถใช้
สานวนวา่ “I’m a/an + ชอ่ื อาชพี ” หรอื “I work as a/an + อาชพี ” มคี วามหมายวา่ “ฉนั ทางานเป็น...”

56.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรียนร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง การ
1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถบอกชอ่ื อาชพี ได้
2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชส้ านวนภาษาในการสอบถามและใหข้ อ้ มูลเก่ยี วกบั

ทางานได้

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถอา่ นทาความเขา้ ใจประกาศรบั สมคั รงานได้
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถเขยี นประวตั สิ ว่ นตวั โดยยอ่ อยา่ งงา่ ยได้

57.สาระการเรยี นรู้
1. Occupations
2. Asking and Giving information about Jobs
3. Talking about Skills & Abilities
4. Job Advertisement
5. Writing Resume

58.สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
1. บอกชอ่ื อาชพี
2. สอบถามและใหข้ อ้ มูลเกย่ี วกบั การทางาน
3. อธบิ ายลกั ษณะงาน
4. อา่ นประกาศโฆษณาสมคั รงาน
5. เขยี นประวตั สิ ่วนตวั โดยยอ่
6. ใชโ้ ครงสรา้ งภาษาถูกตอ้ ง
7. แสดงบทบาทสมมตหิ รอื สถานการณจ์ าลองทก่ี าหนด

8. จดั ทาบนั ทกึ การเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะภาษา

59.กรอบการจดั การเรยี นบรู ณาการหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ความมีเหตุผล ความพอประมาณ การมีภมู ิค้มุ กนั ท่ีดี
Self-immunity
Reasonableness Moderation มคี วามความรบั ผดิ ชอบ
ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ ในอาชพี ของตน
ทางานตามความชอบและถนดั ยดึ ทางสายกลางเป็นแนวทาง

ในการดารงตน

เงอื่ นไขความรู้ Knowledge condition รอบรู้ เง่อื นไขคณุ ธรรม Moral condition ซื่อสตั ย์
สจุ ริต Loyalty ขยนั Diligence อดทน
Intelligence รอบคอบ Self–awareness Forbearance แบ่งปัน sharing

ระมดั ระวงั Attentiveness 61. มมี นุษยสมั พนั ธ์
62. ความมวี นิ ยั
1. Occupations 63. ความรบั ผดิ ชอบ
2. Asking and Giving information 64. ความซ่อื สตั ยส์ จุ รติ
65. ความเชอ่ื มนั่ ในตนเอง
about Jobs 66. ความสนใจใฝร่ ู้
67. การละเวน้ สงิ่ เสพยต์ ดิ และการพนนั
3. Talking about Skills & Abilities 68. ความรกั สามคั คี
4. Job Advertisement 69. ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์
5. Writing Resume 70. การพง่ึ ตนเอง

มิติทางสงั คม ประกอบอาชพี ดว้ ยความซ่อื สตั ยส์ ุจรติ มคี วามรบั ผดิ ชอบ ตอ่ สงั คม
มิติทางเศรษฐกิจ ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และสมเหตสุ มผล
มิติทางวฒั นธรรม อนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทย พรอ้ มรบั กบั การเปลย่ี นแปลง
มิติทางส่ิงแวดล้อม อนุรกั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

60.กิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมก่อนเรยี น

 ครูให้ผเู้ รยี นฟงั บทสนทนาในสถานการณ์ต่างๆ จากแผ่นซดี ี เช่น การสอบถามเร่อื งอาชพี
หน้าทใ่ี นการทางาน การสมั ภาษณง์ าน เป็นตน้ จากนนั้ ครูใหผ้ เู้ รยี นร่วมกนั สรุปใจความสาคญั
จากเร่อื งท่ีฟงั และตอบคาถามจากบทสนทนาว่าบุคคลในบทสนทนาทางานอะไร มีหน้าท่ี
รบั ผดิ ชอบอย่างไร แล้วครูตรวจสอบคาตอบท่ถี ูกตอ้ งพรอ้ มอธบิ ายคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษา
จากบทสนทนาเพมิ่ เตมิ

กิจกรรมพฒั นาทกั ษะการใช้คาศพั ทแ์ ละการพดู

 ครูให้ผเู้ รยี นศกึ ษาคาศพั ท์และวลที ่ใี ชใ้ นการสอบถามและให้ขอ้ มูลเก่ยี วกบั อาชพี แล้วครูให้
ผเู้ รยี นดรู ูปภาพแลว้ รว่ มกนั ระบวุ า่ บคุ คลในภารทาอาชพี อะไร โดยครูสุ่มใหผ้ เู้ รยี นออกมาเขยี น
คาศพั ท์อาชพี บนกระดาน จากนัน้ ครูตรวจสอบความถูกต้องและทบทวนความขา้ ใจของ
ผเู้ รยี นจากการสอบถามคาถามเก่ยี วกบั อาชพี ของบุคคล ในภาพ แล้วให้ผูเ้ รยี นตอบ
คาถาม เชน่
คร:ู What does he/she do?
ผเู้ รยี น: He is a barber.

คร:ู What is his/her job?
ผเู้ รียน: She works as an office clerk.

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาความหมายคาศพั ทท์ ่เี กย่ี วกบั อาชพี จากพจนานุกรม แลว้ ครูให้ผเู้ รยี นฝึก
ออกเสยี งโดยฟงั เสยี งคาศพั ท์จากแผน่ ซดี ี จากนัน้ ครูสุ่มให้ผูเ้ รยี นบอกความความหมายของ
คาศพั ท์

 ครูตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจดา้ นคาศพั ทท์ ่เี ก่ยี วกบั อาชพี และหน้าทก่ี ารทางาน โดยให้
ผเู้ รยี นทาแบบฝึกหดั ชนดิ จบั ค่คู าศพั ท์ จากนนั้ ครแู ละผเู้ รยี นตรวจสอบคาตอบทถ่ี ูกต้องพรอ้ ม
กนั

 ครูใหผ้ ู้เรยี นจบั คู่เพ่อื ฝึกพูดสนทนาสอบถามเกย่ี วกบั อาชพี หน้าท่แี ละความสามารถในการ
ทางานดว้ ยประโยคคาถาม Yes/No Question จากนนั้ ครสู ุ่มใหผ้ เู้ รยี นพูดและแปลความหมาย
ของประโยค เชน่
A: Does a barber design clothing?
B: No, he doesn’t.
A: Does an author write a book?
B: Yes, she does.

 ครูใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาและฝึกออกเสยี งคาศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการสอบถามอาชพี การบอก
ลกั ษณะงาน สถานทท่ี างาน และความรบั ผดิ ชอบในหน้าท่ี แลว้ ครยู กตวั อย่างประโยคพรอ้ มทงั้
อธยิ ายเพม่ิ เตมิ จากนนั้ ครูสมุ่ สอบถามผเู้ รยี นเพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจในการใชส้ านวนภาษา
เชน่
คร:ู Where do you work?
ผเู้ รยี น: I work in an engineering company.
คร:ู What are you responsible for?
ผเู้ รียน: I maintain tools and machines.

 ครูใหผ้ ู้เรยี นอ่านและฟงั บทสนทนาเก่ียวการสอบถามขอ้ มูลการทางาน แล้วให้ผูเ้ รียนตอบ
คาถามเก่ยี วกบั บทสนทนาและทาแบบฝึกหดั ชนิดเตมิ คาลงในชอ่ งวา่ งเพ่อื ตรวจสอบความ
เขา้ ใจ ครูและผเู้ รยี นรว่ มกนั ตรวจสอบคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั โดยครูสุ่มให้ผเู้ รยี นอ่านออก
เสยี งคาถามและคาตอบ

 ครูให้ผูเ้ รียนศกึ ษาความหมายคาศพั ท์และสานวนท่ีใช้ในประกาศโฆษณาสมัคร จาก
ตวั อย่างในหนังสอื เรียน ครูตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผู้เรยี นโดยการสุ่มสอบถาม
ความหมายของคาศพั ท์และใหผ้ ู้เรยี นฝึกออกเสยี ง จากนนั้ ครูใหผ้ ูเ้ รยี นทาแบบฝึกหดั เขยี น
ตอบคาถามจากประกาศโฆษณาสมคั รงานทอ่ี า่ น แลว้ ตรวจสอบคาตอบท่ถี ูกตอ้ งพรอ้ มกนั ใน
ชนั้ เรยี น

 ครใู หผ้ เู้ รยี นจบั ค่เู พอ่ื สรา้ งบทสนทนาเกย่ี วกบั การสอบถามขอ้ มลู อาชพี โดยศกึ ษาคาศพั ทแ์ ละ
สานวนภาษาจากบทสนทนาตวั อยา่ ง จากนนั้ ครใู หผ้ เู้ รยี นแสดงบทบาทสมมตติ ามบทสนทนาท่ี
สรา้ งไวห้ น้าชนั้ เรยี น ครเู ป็นผปู้ ระเมนิ ทกั ษะการพดู ของผเู้ รยี น ตวั อย่างเชน่
A: Glad to meet you again.
B: Glad to meet you too. What’s your job now?
A: I’m a secretary in an export company.
I manage time and arrangement for the boss. And you?
B: I work as a public relations officer.
I write and edit in-house magazines.

กิจกรรมการเขียน

 ครูให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาตวั อย่างการเขยี นประวตั สิ ่วนตวั Resume แล้วครูอธิบายคาศพั ท์และ
สานวนเพม่ิ เตมิ เพ่อื เพม่ิ ความเขา้ ใจของผเู้ รยี นใหม้ ากขน้ึ จากนนั้ ครูใหผ้ เู้ รยี นฝึกเขยี นประวตั ิ
ส่วนตวั โดยครคู อยชแ้ี นะและตรวจสอบความถกู ตอ้ งของชน้ิ งาน

 ครูใหผ้ เู้ รยี นเขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Log) เพอ่ื สรุปคาศพั ท์ สานวนภาษาองั กฤษและ
เร่อื งทไ่ี ดศ้ กึ ษามาจากในบทเรยี น

กิจกรรมประเมินผล

 ครูใหผ้ เู้ รยี นทาแบบทดสอบเพ่อื ประเมนิ ความรคู้ วามเขา้ ใจ

61.ส่ือการเรยี นรู้

 หนงั สอื เรยี น
 ใบงาน
 แผนการจดั การเรยี นรู้
 แบบทดสอบ

62.การวดั และประเมินผล

วิธีวดั
 วดั ทกั ษะการพูด
 วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 ประเมนิ ตนเองดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ มและคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์

เคร่อื งมือวดั และประเมินผล
 แบบประเมนิ ทกั ษะการพูด
 แบบทดสอบผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น เพ่อื วดั ความรคู้ วามเขา้ ใจ
 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยมและคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

เกณฑก์ ารประเมิน
 เกณฑก์ ารพดู ของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นของผเู้ รยี นตอ้ งอยใู่ นระดบั 60 % ขน้ึ ไป
 แบบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั
การประเมนิ ตามสภาพจรงิ

63.บนั ทึกผลหลงั สอน

ผลการสอน

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................

ปัญหา/ อปุ สรรค

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/ วิธีการแก้ไข

...............................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................
......................................................................................................................

ค่มู อื ครู
วิชาภาษาองั กฤษในชีวิตจริง

รหสั 20000-1201

จดั ทาโดย
นางสาวศศิธร งามแพง
สาขาวิชาภาษาองั กฤษ

วิทยาลยั เทคนิคระยอง
สานักงานคณะกรรมการการ
อาชีวศึกษากระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1

ชอ่ื วชิ า ภาษาองั กฤษในชีวิตจริง 1 (Real Life English 1) รหสั วิชา 2000-1201

หน่วยที่ 1 Making an Introduction เวลา 6 ชวั่ โมง

64. สาระสาคญั

การเรยี นรภู้ าษาองั กฤษถอื วา่ เป็นสง่ิ ทจ่ี าเป็นและมบี ทบาทสาคญั ต่อประเทศสมาชกิ ใน
ประชาคมอาเซยี นมากขน้ึ เน่อื งถกู นามาใชเ้ ป็นภาษากลางในการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร การทางาน การดาเนิน
ธรุ กจิ แลกเปลย่ี นแนวคดิ ความรู้ ตลอดจนวฒั นธรรมตา่ งๆ ของแตล่ ะประเทศ ดงั นนั้ ผเู้ รยี น
ภาษาองั กฤษควรศกึ ษาการใชค้ าศพั ทแ์ ละสานวนภาษาในการทกั ทาย การแนะนาตวั และการแสดงความ
ยนิ ดที ไ่ี ดร้ จู้ กั ใหถ้ ูกตอ้ ง คล่องแคล่วและเหมาะสมตามวฒั นธรรมสงั คม รวมถงึ เขา้ ใจความเหมอื นและ
ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมในการทกั ทายและดาเนินชวี ติ ประจาวนั ของกลมุ่ ประเทศในประชาคม
อาเซยี น

65.วตั ถปุ ระสงคก์ ารเรยี นร้บู รู ณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
1. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรพู้ น้ื ฐานเกย่ี วกบั ประเทศสมาชกิ ในประชาคมอาเซยี น
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถใชค้ าศพั ทห์ รอื สานวนภาษาในการทกั ทาย การแนะนาตวั และการ

แสดงความยนิ ดที ไ่ี ดร้ จู้ กั ไดถ้ กู ตอ้ งตามวฒั นธรรมสงั คม

3. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถสะกดคาได้
4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นเขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมการทกั ทายของกลมุ่

ประเทศในประชาคมอาเซยี น

66. สาระการเรียนรู้
1. Countries in the ASEAN Community
2. Greeting
3. Introducing Oneself
4. Spelling Names

67.สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
1. บอกชอ่ื เมอื งหลวงและประเทศสมาชกิ ในอาเซยี น
2. พดู ทกั ทายแนะนาตวั เองและผอู้ น่ื
3. สอบถามและใหข้ อ้ มลู ส่วนตวั


Click to View FlipBook Version