193
194
195
196
197
198
199
200
201 ภาคผนวกที่ 5 - แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาและผลการประเมินความเที่ยงตรงเชิง เนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม - แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรมและผลการประเมินความ เหมาะสมของนวัตกรรม - แบบวัดระดับความพึงพอใจ
202 แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมิน ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและ การหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI 2. วิธีการประเมินจะประเมินด้วยค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) 3. ผลการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแต่ละรายการ (Item) ของแต่ละด้านมีคะแนน 3 ระดับ โดย 3.1 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน +1 3.2 ข้อคำถามใดที่ท่านไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน 0 3.3 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน -1 4. ให้ท่านทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องผลการประเมินของแต่ละรายการของแต่ละด้านตาม ความเห็นของท่าน 5. ขณะที่ท่านทำการประเมินหากพบรายการใดที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไข ขอความอนุเคราะห์ โปรดให้ข้อเสนอแนะหรือทำการแก้ไขจักกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ตาราง: แสดงรายการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้าน เกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน -1 0 +1 มาตรฐานการเรียนรู้ ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา ระบุสิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดเตรียมและปฏิบัติในการใช้แบบฝึก เสริมทักษะอย่างละเอียด ครบถ้วน ระบุบทบาทของครูผู้สอนในการใช้ชุดกิจกรรมได้อย่างครบถ้วน
203 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน -1 0 +1 สาระสำคัญ เขียนสาระสำคัญถูกต้อง ครอบคลุม เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย จุดประสงค์การเรียนรู้ พฤติกรรมที่ระบุในจุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจน สามารถวัดได้ จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับสาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ทักษะกระบวนการ และเจตคติ ภาษาที่ใช้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย สมรรถนะนักเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียนและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) ระบุสาระการเรียนรู้ครบถ้วนและสัมพันธ์กับแผนการจัดการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน รูปแบบวิธีการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับเวลาเรียนและสภาพ ห้องเรียน กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามที่ระบุใน แผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดและเน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการ จัดการเรียนรู้
204 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน -1 0 1 แบบฝึกเสริมทักษะ มีความชัดเจน ทั้งคำชี้แจง คำสั่ง ง่ายต่อการเข้าใจ ระดับเนื้อหาเหมาะกับระดับพื้นฐานความสามารถของผู้เรียน กำหนดเวลาที่ใช้ในแบบฝึกเสริมทักษะให้เหมาะสม มีการวัดและประเมินหรือสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินว่าเด็กมีทักษะแล้ว มีคำตอบที่ชัดเจน สามารถเสริมประเมินความก้าวหน้าและความรู้ของนักเรียนได้ เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคล การวัดและประเมินผล ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน ระบุเกณฑ์การประเมินผลอย่างชัดเจน วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับบุคคลมีความ เหมาะสม การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนมี ความเหมาะสม ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ...................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................
205 ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ......./...... /...... แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาฉบับบนี้ผ่านการตรวจสอบทางด้านภาษาเบื้องต้นจากอาจารย์ประจำรายวิชาแล้ว ลงชื่อ.......................................... (อิสระ ทับสีสด) ......./...... /......
206 ตารางที่ 5: แสดงผลการประเมินความเที่ยงตรง (IOC) ของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ของนักเรียน ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ประเด็นที่ ประเมิน รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ̅ ผลการ วิเคราะห์ คน ที่ 1 คน ที่ 2 คน ที่ 3 มาตรฐาน การเรียนรู้ ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความ เชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม 0 1 1 0.67 มีความ เที่ยงตรง ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ระบุสิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดเตรียมและปฏิบัติในการ ใช้แบบฝึกเสริมทักษะอย่างละเอียด ครบถ้วน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ระบุบทบาทของครูผู้สอนในการใช้ชุดกิจกรรมได้ อย่างครบถ้วน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง สาระสำคัญ เขียนสาระสำคัญถูกต้อง ครอบคลุม 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน -1 1 1 0.33 ไม่มีความ เที่ยงตรง สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง จุดประสงค์ การเรียนรู้ พฤติกรรมที่ระบุในจุดประสงค์การเรียนรู้มีความ ชัดเจน สามารถวัดได้ -1 1 1 0.33 ไม่มีความ เที่ยงตรง จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับ สาระการเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง จุดประสงค์การเรียนรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ภาษาที่ใช้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง
207 ตารางที่ 5: แสดงผลการประเมินความเที่ยงตรง(IOC) ของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ของนักเรียน ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ประเด็นที่ ประเมิน รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ̅ ผลการ วิเคราะห์ คน ที่ 1 คน ที่ 2 คน ที่ 3 สมรรถนะ นักเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของ นักเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความ เชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม -1 1 0 0.00 ไม่มีความ เที่ยงตรง สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ 0 1 1 0.67 มีความ เที่ยงตรง สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) ระบุสาระการเรียนรู้ครบถ้วนและสัมพันธ์กับ แผนการจัดการเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน -1 1 1 0.33 ไม่มีความ เที่ยงตรง (ตัดทิ้ง) รูปแบบวิธีการ จัดประสบการณ์ เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์ เรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับเวลา เรียนและสภาพห้องเรียน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุก ขั้นตอนตามที่ระบุในแผนการจัดการเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริม กระบวนการคิดและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง
208 ตารางที่ 5: แสดงผลการประเมินความเที่ยงตรง(IOC) ของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ของนักเรียน ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ประเด็นที่ ประเมิน รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ̅ ผลการ วิเคราะห์ คน ที่ 1 คน ที่ 2 คน ที่ 3 ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์ เรียนรู้(ต่อ) กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจน จบกระบวนการจัดการเรียนรู้ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง แบบฝึก เสริมทักษะ มีความชัดเจน ทั้งคำชี้แจง คำสั่ง ง่ายต่อการเข้าใจ 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ระดับเนื้อหาเหมาะกับระดับพื้นฐานความสามารถของ ผู้เรียน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง กำหนดเวลาที่ใช้ในแบบฝึกเสริมทักษะให้เหมาะสม 0 1 1 0.67 มีความ เที่ยงตรง มีการวัดและประเมินหรือสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่าง สม่ำเสมอเพื่อประเมินว่าเด็กมีทักษะแล้ว 1 1 0 0.67 มีความ เที่ยงตรง มีคำตอบที่ชัดเจน -1 1 1 0.33 ไม่มีความ เที่ยงตรง สามารถประเมินความก้าวหน้าและความรู้ของนักเรียนได้ 1 1 0 0.67 มีความ เที่ยงตรง เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ สอดคล้องกับ วิธีการเรียนรู้และความแตกต่างระหว่างบุคคล 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง การวัดและ ประเมินผล ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง ระบุเกณฑ์การประเมินผลอย่างชัดเจน -1 1 1 0.33 ไม่มีความ เที่ยงตรง วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์ การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะ ที่สำคัญของผู้เรียน 1 1 1 1.00 มีความ เที่ยงตรง
209 ตารางที่ 5: แสดงผลการประเมินความเที่ยงตรง(IOC) ของแบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ของนักเรียน ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ประเด็นที่ ประเมิน รายการประเมิน ผู้เชี่ยวชาญ ̅ ผลการ วิเคราะห์ คน ที่ 1 คน ที่ 2 คน ที่ 3 การวัดและ ประเมินผล (ต่อ) การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ ระดับบุคคลมีความเหมาะสม -1 1 0 0.00 ไม่มีความ เที่ยงตรง การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ ระดับชั้นเรียนมีความเหมาะสม 1 1 0 0.67 มีความ เที่ยงตรง
210 แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นใช้สำหรับประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนา ผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัด บ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI 2. วัตถุประสงค์ของการประเมินเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสม (Rational Approach) ของของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหาร เศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAIก่อนที่ นวัตกรรมดังกล่าวจะถูกนำมาหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ (Empirical Approach) โดยเทียบกับเกณฑ์ ประสิทธิภาพที่กำหนดภายหลัง 3. แต่ละข้อคำถาม (Item) ของการประเมินแต่ละด้านจะเป็นแบบประมาณค่า 5 อันดับคือ ระดับ 5 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ เหมาะสมที่สุด ระดับ 4 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสม ระดับ 3 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ เหมาะสมปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างไม่เหมาะสม ระดับ 1 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ไม่เหมาะสมที่สุด 4. วิธีการประเมิน ให้ท่านวิเคราะห์แต่ละด้านของของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการ เรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้าน เกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ตามแต่ละข้อคำถามที่กำหนด ประเมินความเหมาะสม ตามดุลพินิจของท่าน ตาราง: แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จาก เรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการวิเคราะห์ ระดับผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 มาตรฐานการเรียนรู้ ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา
211 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จาก เรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับ เทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการวิเคราะห์ รายการที่ทำการวิเคราะห์ ระดับผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 มาตรฐานการเรียนรู้ (ต่อ) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่าง เหมาะสม ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา ระบุสิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดเตรียมและปฏิบัติในการใช้แบบ ฝึกเสริมทักษะอย่างละเอียด ครบถ้วน ระบุบทบาทของครูผู้สอนในการใช้ชุดกิจกรรมได้อย่าง ครบถ้วน สาระสำคัญ เขียนสาระสำคัญถูกต้อง ครอบคลุม เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย จุดประสงค์การเรียนรู้ พฤติกรรมที่ระบุในจุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจน สามารถวัดได้ จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับสาระ การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ทักษะ กระบวนการและเจตคติ ภาษาที่ใช้มีความชัดเจนเข้าใจง่าย สมรรถนะนักเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่าง เหมาะสม สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) ระบุสาระการเรียนรู้ครบถ้วนและสัมพันธ์กับแผนการ จัดการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้
212 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จาก เรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับ เทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการวิเคราะห์ รายการที่ทำการวิเคราะห์ ระดับผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) (ต่อ) มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน รูปแบบวิธีการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับเวลาเรียน และสภาพห้องเรียน กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุกขั้นตอน ตามที่ระบุในแผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิด และเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ กระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกเสริมทักษะ มีความชัดเจน ทั้งคำชี้แจง คำสั่ง ง่ายต่อการเข้าใจ ระดับเนื้อหาเหมาะกับระดับพื้นฐานความสามารถของ ผู้เรียน กำหนดเวลาที่ใช้ในแบบฝึกเสริมทักษะให้เหมาะสม มีการวัดและประเมินหรือสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่าง สม่ำเสมอเพื่อประเมินว่าเด็กมีทักษะแล้ว มีคำตอบที่ชัดเจน สามารถเสริมประเมินความก้าวหน้าและความรู้ของ นักเรียนได้ เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ สอดคล้องกับวิธีการ เรียนรู้และความแตกต่างระหว่างบุคคล การวัดและประเมินผล ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน
213 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จาก เรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับ เทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการวิเคราะห์ รายการที่ทำการวิเคราะห์ ระดับผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 การวัดและประเมินผล (ต่อ) ระบุเกณฑ์การประเมินผลอย่างชัดเจน วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์การ เรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญ ของผู้เรียน การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับบุคคลมี ความเหมาะสม การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียน มีความเหมาะสม ข้อสังเกต (ถ้ามี) .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................................. ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน ( ) ......./...... /...... แบบประเมินความเหมาะสมฉบับบนี้ผ่านการตรวจสอบทางด้านภาษาเบื้องต้นจากอาจารย์ประจำรายวิชาแล้ว ลงชื่อ.......................................... (อิสระ ทับสีสด) ......./...... /......
214 ตารางที่ 6 : แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์ จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ของนักเรียนชั้น ป.5โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ประเด็นที่ประเมิน รายการประเมิน ̅ . มาตรฐานการเรียนรู้ ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา 5.00 0.00 มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่าง เหมาะสม 4.00 1.00 ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา 5.00 0.00 ระบุสิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดเตรียมและปฏิบัติในการใช้แบบฝึก เสริมทักษะอย่างละเอียด ครบถ้วน 4.33 0.57 ระบุบทบาทของครูผู้สอนในการใช้ชุดกิจกรรมได้อย่าง ครบถ้วน 4.67 0.57 สาระสำคัญ เขียนสาระสำคัญถูกต้อง ครอบคลุม 4.33 0.57 เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 5.00 0.00 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 3.67 0.57 มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 4.33 0.57 จุดประสงค์การเรียนรู้ พฤติกรรมที่ระบุในจุดประสงค์การเรียนรู้มีความชัดเจน สามารถวัดได้ 3.67 0.57 จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับสาระการ เรียนรู้ 4.00 1.00 จุดประสงค์การเรียนรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ทักษะ กระบวนการและเจตคติ 3.67 0.57 ภาษาที่ใช้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย 4.33 0.57 สมรรถนะนักเรียน มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด สมรรถนะสำคัญของนักเรียน และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่าง เหมาะสม 4.33 0.57 สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.33 1.15 สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) ระบุสาระการเรียนรู้ครบถ้วนและสัมพันธ์กับแผนการจัดการ เรียนรู้ 5.00 0.00 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.00 1.00 มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน 5.00 0.00 น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน 4.67 0.57
215 ตารางที่ 6:แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วน ของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ประเด็นที่ประเมิน รายการประเมิน ̅ . รูปแบบวิธีการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ 4.67 0.57 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 4.67 0.57 ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม 4.33 0.57 ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับเวลาเรียนและ สภาพห้องเรียน 3.67 1.15 กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามที่ ระบุในแผนการจัดการเรียนรู้ 4.67 0.57 กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดและ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4.33 0.57 กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ กระบวนการจัดการเรียนรู้ 4.67 0.57 แบบฝึกเสริมทักษะ มีความชัดเจน ทั้งคำชี้แจง คำสั่ง ง่ายต่อการเข้าใจ 4.67 0.57 ระดับเนื้อหาเหมาะกับระดับพื้นฐานความสามารถของผู้เรียน 5.00 0.00 กำหนดเวลาที่ใช้ในแบบฝึกเสริมทักษะให้เหมาะสม 3.67 1.52 มีการวัดและประเมินหรือสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินว่าเด็กมีทักษะแล้ว 4.00 0.00 มีคำตอบที่ชัดเจน 3.33 2.08 สามารถเสริมประเมินความก้าวหน้าและความรู้ของนักเรียนได้ 4.67 0.57 เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคล 4.33 0.57 การวัดและ ประเมินผล ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน 4.00 0.00 ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน 4.00 0.00 ระบุเกณฑ์การประเมินผลอย่างชัดเจน 3.67 1.52 วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน 4.67 0.57 การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับบุคคลมีความ เหมาะสม 4.00 1.00 การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนมี ความเหมาะสม 4.33 0.57
216 แบบวัดระดับความพึงพอใจ คำชี้แจง 1. แบบวัดระดับความพึงพอใจมีวัตถุประสงค์เพื่อวัดระดับความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้น ป.5 โรงเรียน วัดบ้านเกาะ อำเภอ พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีต่อการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์ โดยการ ใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI และแบบฝึกเสริมทักษะ 2. ความพึงพอใจแต่ละด้านที่วัด ประกอบด้วยข้อคำถามย่อย ๆ แต่ละข้อคำถามแบ่งความพึงพอใจเป็น 5 ระดับจากมากสุด-น้อยสุด ดังนี้ 5 หมายถึง มีความพึงพอใจมากที่สุด 4 หมายถึง มีความพึงพอใจค่อนข้างมาก 3 หมายถึง มีความพึงพอใจปานกลาง 2 หมายถึง มีความพึงพอใจค่อนข้างน้อย 1 หมายถึง มีความพึงพอใจน้อยที่สุด 3. ให้นักเรียนอ่านข้อคำถามของแต่ละด้านที่วัดความพึงพอใจ แล้วทำเครื่องหมาย ลงในช่องแสดงระดับ ความพึงพอใจให้ตรงกับความคิดเห็นของตนเองมากที่สุด ตาราง: แสดงระดับความพึงพอใจแต่ละด้านที่นักเรียนระดับชั้นป.5 โรงเรียน วัดบ้านเกาะ อำเภอ พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีต่อการทดลองใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI และแบบฝึกเสริมทักษะจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา ผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์ ด้านความพึงพอใจ รายการที่วัดความพึงพอใจ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 เนื้อหารายวิชา มีการลำดับเนื้อหาอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมเข้าใจ ง่าย ไม่ซ้ำซ้อนกับวิชาอื่น มีความเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของรายวิชา มีความเหมาะสมกับระยะเวลาเรียน การจัดการเรียน การสอน มีความสุขในการเรียน เอกสาร/สื่อการสอนประกอบการจัดการเรียนการสอน มีความเหมาะสม บรรยากาศในการเรียนมีความเหมาะสมในการเรียน
217 ตาราง: แสดงระดับความพึงพอใจแต่ละด้านที่นักเรียนระดับชั้นป.5 โรงเรียน วัดบ้านเกาะ อำเภอ พิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่มีต่อการทดลองใช้การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือด้วยเทคนิค TAI และแบบฝึกเสริมทักษะจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา ผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์ (ต่อ) ด้านความพึงพอใจ รายการที่วัดความพึงพอใจ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 ครูผู้สอน มีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ มีความตรงต่อเวลา อธิบายเนื้อหาสาระเข้าใจง่าย เลือกกิจกรรมกิจกรรมในห้องเรียนที่มีความเหมาะสม และสอดคล้องกับบทเรียน สร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้น่าสนใจ กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการ สอน เทคนิคและวิธีการ สอน มีการสอดแทรกข้อคิดเห็นด้านคุณธรรมจริยธรรม และ ความรับผิดชอบ ใช้เทคนิควิธีสอนต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจ และติดตามการสอน มีการสอดแทรกประสบการณ์และอธิบายวิธีการนำ ความรู้ไปใช้ประโยชน์ ให้นักเรียนซักถาม แสดงความคิดเห็น และแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ตามความเหมาะสม สื่อการเรียนรู้ คำแนะนำมีความชัดเจน เข้าใจง่าย สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ มีเนื้อหายากง่ายที่เหมาะสม มีรูปแบบและภาพประกอบที่สวยงามน่าสนใจ มีตัวอย่างและคำชี้แจงชัดเจน การวัดและประเมิน มีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียน มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน มีการประเมินผลการเรียนรายบุคคลและรายกลุ่ม ทราบผลการเรียนรู้ของตนและของกลุ่ม ขอขอบใจนักเรียนทุกคนที่ร่วมแสดงความพึงพอใจต่อกิจกรรมการเรียนครั้งนี้
218 ตารางที่ 7: แสดงระดับความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง ที่มีต่อการทดลองใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI จัด กิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการคูณและการหารเศษส่วน เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์ ประเด็นและรายการที่ประเมิน ̅ . ระดับความพึงพอใจ เนื้อหารายวิชา 1.มีการลำดับเนื้อหาอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมเข้าใจง่าย 2.96 1.020 ปานกลาง 2.ไม่ซ้ำซ้อนกับวิชาอื่น 2.64 1.114 ปานกลาง 3.มีความเหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของรายวิชา 3.00 0.764 ปานกลาง 4.มีความเหมาะสมกับระยะเวลาเรียน 3.12 0.927 ปานกลาง รวม 2.93 0.956 ปานกลาง การจัดการเรียนการสอน 1.มีความสุขในการเรียน 2.80 0.957 ปานกลาง 2.เอกสาร/สื่อการสอนประกอบการจัดการเรียนการสอนมีความ เหมาะสม 2.96 1.020 ปานกลาง 3. บรรยากาศในการเรียนมีความเหมาะสมในการเรียน 2.80 1.155 ปานกลาง รวม 2.85 1.044 ปานกลาง ครูผู้สอน 1.มีบุคลิกภาพที่น่าเชื่อถือ 2.76 1.091 ปานกลาง 2.มีความตรงต่อเวลา 2.80 1.080 ปานกลาง 3.อธิบายเนื้อหาสาระเข้าใจง่าย 3.12 1.013 ปานกลาง 4.เลือกกิจกรรมในห้องเรียนที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับ บทเรียน 2.80 1.291 ปานกลาง 5.สร้างบรรยากาศในห้องเรียนให้น่าสนใจ 3.00 1.080 ปานกลาง 6.กระตุ้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนการสอน 2.60 1.225 ปานกลาง รวม 2.84 1.300 ปานกลาง เทคนิคและวิธีการสอน 1.มีการสอดแทรกข้อคิดเห็นด้านคุณธรรมจริยธรรม และความ รับผิดชอบ 2.80 0.913 ปานกลาง 2.ใช้เทคนิควิธีสอนต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนเกิดความสนใจและติดตามการ สอน 3.08 1.038 ปานกลาง 3.มีการสอดแทรกประสบการณ์และอธิบายวิธีการนำความรู้ไปใช้ ประโยชน์ 2.64 0.907 ปานกลาง
219 ตารางที่ 7: แสดงระดับความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่าง ที่มีต่อการทดลองใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI จัด กิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการคูณและการหารเศษส่วน เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์ (ต่อ) ประเด็นและรายการที่ประเมิน ̅ . ระดับความพึงพอใจ เทคนิคและวิธีการสอน (ต่อ) 4.ให้นักเรียนซักถาม แสดงความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ตามความเหมาะสม 3.24 1.091 ปานกลาง รวม 2.94 0.987 ปานกลาง สื่อการเรียนรู้ 1.คำแนะนำมีความชัดเจน เข้าใจง่าย 3.00 1.000 ปานกลาง 2.สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 2.68 0.852 ปานกลาง 3.มีเนื้อหายากง่ายที่เหมาะสม 3.08 0.759 ปานกลาง 4.มีรูปแบบและภาพประกอบที่สวยงามน่าสนใจ 2.52 1.085 ปานกลาง 5.มีตัวอย่างและคำชี้แจงชัดเจน 2.96 0.978 ปานกลาง รวม 2.84 0.934 ปานกลาง การวัดและประเมิน 1.มีส่วนร่วมในการประเมินผลการเรียน 2.96 1.060 ปานกลาง 2.มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน 3.16 0.943 ปานกลาง 3.มีการประเมินผลการเรียนรายบุคคลและรายกลุ่ม 3.40 1.291 ปานกลาง 4.ทราบผลการเรียนรู้ของตนและของกลุ่ม 3.12 0.781 ปานกลาง รวม 3.16 1.018 ปานกลาง รวมทั้งหมด 2.92 0.197 ปานกลาง
220 ภาคผนวกที่ 6 แบบประเมินฉบับแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
221 แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมิน ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและ การหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI 2. วิธีการประเมินจะประเมินด้วยค่าดรรชนีความสอดคล้อง (Index of Item-Objective Congruence: IOC) 3. ผลการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแต่ละรายการ (Item) ของแต่ละด้านมีคะแนน 3 ระดับ โดย 3.1 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน +1 3.2 ข้อคำถามใดที่ท่านไม่แน่ใจว่าสอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน 0 3.3 ข้อคำถามใดที่ท่านเห็นว่าไม่สอดคล้องกับด้านที่ต้องการประเมิน มีระดับคะแนน -1 4. ให้ท่านทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องผลการประเมินของแต่ละรายการของแต่ละด้านตาม ความเห็นของท่าน 5. ขณะที่ท่านทำการประเมินหากพบรายการใดที่เห็นว่าสมควรปรับปรุงแก้ไข ขอความอนุเคราะห์ โปรดให้ข้อเสนอแนะหรือทำการแก้ไขจักกราบขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ตาราง: แสดงรายการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้าน เกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน -1 0 +1 มาตรฐานการเรียนรู้ ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหมาะสม
222 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัด บ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน -1 0 +1 ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา ระบุสิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดเตรียมและปฏิบัติในการใช้แบบฝึกเสริม ทักษะอย่างละเอียด ครบถ้วน ระบุบทบาทของครูผู้สอนในการใช้ชุดกิจกรรมได้อย่างครบถ้วน สาระสำคัญ เขียนสาระสำคัญถูกต้อง ครอบคลุม สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับสาระการ เรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ทักษะ กระบวนการและเจตคติ ภาษาที่ใช้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย สมรรถนะนักเรียน สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) ระบุสาระการเรียนรู้ครบถ้วนและสัมพันธ์กับแผนการจัดการ เรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน รูปแบบวิธีการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับเวลาเรียนและ สภาพห้องเรียน กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุกขั้นตอนตามที่ ระบุในแผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการคิดและ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ
223 ตาราง: แสดงรายการประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อ พัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัด บ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ผลการประเมิน -1 0 +1 ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้(ต่อ) กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ กระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกเสริมทักษะ มีความชัดเจน ทั้งคำชี้แจง คำสั่ง ง่ายต่อการเข้าใจ ระดับเนื้อหาเหมาะกับระดับพื้นฐานความสามารถของผู้เรียน กำหนดเวลาที่ใช้ในแบบฝึกเสริมทักษะให้เหมาะสม มีการวัดและประเมินหรือสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินว่าเด็กมีทักษะแล้ว สามารถเสริมประเมินความก้าวหน้าและความรู้ของนักเรียนได้ เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคล การวัดและประเมินผล ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่างชัดเจน วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับบุคคลมีความ เหมาะสม การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับชั้นเรียนมีความ เหมาะสม ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ......................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................
224 ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ......./...... /...... แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาฉบับบนี้ผ่านการตรวจสอบทางด้านภาษาเบื้องต้นจากอาจารย์ประจำรายวิชาแล้ว ลงชื่อ.......................................... (อิสระ ทับสีสด) ......./...... /......
225 แบบประเมินความเหมาะสมของนวัตกรรม คำชี้แจง 1. แบบประเมินที่สร้างขึ้นใช้สำหรับประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนา ผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัด บ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI 2. วัตถุประสงค์ของการประเมินเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินความเหมาะสม (Rational Approach) ของของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหาร เศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAIก่อนที่ นวัตกรรมดังกล่าวจะถูกนำมาหาประสิทธิภาพเชิงประจักษ์ (Empirical Approach) โดยเทียบกับเกณฑ์ ประสิทธิภาพที่กำหนดภายหลัง 3. แต่ละข้อคำถาม (Item) ของการประเมินแต่ละด้านจะเป็นแบบประมาณค่า 5 อันดับคือ ระดับ 5 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ เหมาะสมที่สุด ระดับ 4 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างเหมาะสม ระดับ 3 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ เหมาะสมปานกลาง ระดับ 2 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ค่อนข้างไม่เหมาะสม ระดับ 1 หมายถึง แต่ละข้อคำถามนั้นแสดงถึงการมีคุณภาพระดับ ไม่เหมาะสมที่สุด 4. วิธีการประเมิน ให้ท่านวิเคราะห์แต่ละด้านของของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการ เรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้าน เกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ตามแต่ละข้อคำถามที่กำหนด ประเมินความเหมาะสม ตามดุลพินิจของท่าน ตาราง: แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จาก เรื่องการคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ระบบผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 มาตรฐานการเรียนรู้ ระบุมาตรฐานการเรียนรู้ถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา
226 ตาราง:แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ระบบผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 มาตรฐานการเรียนรู้ (ต่อ) มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มีความเชื่อมโยง กันอย่างเหมาะสม ตัวชี้วัด เขียนตัวชี้วัดถูกต้อง ตรงตามเนื้อหา ระบุสิ่งที่ครูผู้สอนต้องจัดเตรียมและปฏิบัติในการใช้ แบบฝึกเสริมทักษะอย่างละเอียด ครบถ้วน ระบุบทบาทของครูผู้สอนในการใช้ชุดกิจกรรมได้อย่าง ครบถ้วน สาระสำคัญ เขียนสาระสำคัญถูกต้อง ครอบคลุม สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความชัดเจน เข้าใจง่าย สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กับ สาระการเรียนรู้ จุดประสงค์การเรียนรู้พัฒนานักเรียนด้านความรู้ ทักษะกระบวนการและเจตคติ ภาษาที่ใช้มีความชัดเจน เข้าใจง่าย สมรรถนะนักเรียน สมรรถนะมีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ (เนื้อหา) ระบุสาระการเรียนรู้ครบถ้วนและสัมพันธ์กับแผนการ จัดการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ มีความยากง่ายเหมาะสมกับชั้นเรียน รูปแบบวิธีการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ กำหนดกิจกรรมการเรียนการสอนเหมาะสมกับเวลา เรียนและสภาพห้องเรียน
227 ตาราง:แสดงรายการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านการคิดวิเคราะห์จากเรื่อง การคูณและการหารเศษส่วนของนักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดบ้านเกาะ โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะร่วมกับเทคนิค TAI (ต่อ) ด้านที่ทำการประเมิน รายการที่ทำการประเมินระดับความเที่ยงตรง ระบบผลการวิเคราะห์ 5 4 3 2 1 ลำดับขั้นการจัด ประสบการณ์เรียนรู้ (ต่อ) กิจกรรมการเรียนรู้มีความเหมาะสม ครบถ้วนทุก ขั้นตอนตามที่ระบุในแผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมกระบวนการ คิดและเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กิจกรรมการเรียนรู้เป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มต้นจน จบกระบวนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกเสริมทักษะ มีความชัดเจน ทั้งคำชี้แจง คำสั่ง ง่ายต่อการเข้าใจ ระดับเนื้อหาเหมาะกับระดับพื้นฐานความสามารถของ ผู้เรียน กำหนดเวลาที่ใช้ในแบบฝึกเสริมทักษะให้เหมาะสม มีการวัดและประเมินหรือสังเกตพฤติกรรมเด็กอย่าง สม่ำเสมอเพื่อประเมินว่าเด็กมีทักษะแล้ว สามารถเสริมประเมินความก้าวหน้าและความรู้ของ นักเรียนได้ เป็นไปตามลำดับขั้นตอนการเรียนรู้ สอดคล้องกับ วิธีการเรียนรู้และความแตกต่างระหว่างบุคคล การวัดและประเมินผล ระบุวิธีการวัดประเมินผลอย่างชัดเจน ระบุเครื่องมือสำหรับการวัดผลประเมินผลอย่าง ชัดเจน วิธีการวัดผลประเมินผลมีความสัมพันธ์กับจุดประสงค์ การเรียนรู้ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และสมรรถนะ ที่สำคัญของผู้เรียน การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับ บุคคลมีความเหมาะสม การกำหนดเกณฑ์ประเมินผ่านผลการเรียนรู้ระดับชั้น เรียนมีความเหมาะสม
228 ข้อเสนอแนะ (ถ้ามี) ...................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................... ลงชื่อ......................................................ผู้ประเมิน (…………………………………………………) ......./...... /...... แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาฉบับบนี้ผ่านการตรวจสอบทางด้านภาษาเบื้องต้นจากอาจารย์ประจำรายวิชาแล้ว ลงชื่อ.......................................... (อิสระ ทับสีสด) ......./...... /......
229 ภาคผนวกที่ 7 ประวัตินักวิจัย
230 ประวัตินักวิจัย ชื่อภาษาไทย นางสาวศสิวิมล สมฤทธิ์ ชื่อภาษาอังกฤษ Ms. Sasiwimon Somrit เบอร์โทรศัพท์ 0931568245 E-mail [email protected] สถานที่อยู่ปัจจุบัน 27 ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ประวัติการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านหัวดง จังหวัดแพร่ สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนสูงเม่นชนูปถัมภ์ จังหวัดแพร่ กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์
231 ชื่อภาษาไทย นางสาวอภิชญา วีระวงค์ ชื่อภาษาอังกฤษ Ms. Aphichaya Weerawong เบอร์โทรศัพท์ 0636878315 E-mail [email protected] สถานที่อยู่ปัจจุบัน 260/5 ซ.2 ถ.อินใจมี ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ประวัติการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนบ้านแม่งอนขี้เหล็ก จังหวัด เชียงใหม่ สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนรังษีวิทยา จังหวัดเชียงใหม่ กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์
232 ชื่อภาษาไทย นางสาวอริสา โชติช่วง ชื่อภาษาอังกฤษ Ms. Arisa Chotchuang เบอร์โทรศัพท์ 0988903985 E-mail [email protected] สถานที่อยู่ปัจจุบัน 21/7 ซอยเจษฏาบดินทร์ 12/1 ตำบลท่าอิฐ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ประวัติการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนบ้านชำสอง จังหวัดอุตรดิตถ์ สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์
233 ชื่อภาษาไทย นางสาวเกศฏา ธรรมสละ ชื่อภาษาอังกฤษ Ms. Ketsada Thammasala เบอร์โทรศัพท์ 0864238079 E-mail [email protected] สถานที่อยู่ปัจจุบัน หมู่ 4 ตำบลท่าเสา อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ ประวัติการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นที่ โรงเรียนบ้านไร่ จังหวัดน่าน สำเร็จการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนปัว จังหวัดน่าน กำลังศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัย ราชภัฏอุตรดิตถ์