๕.๑ แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าหวางเหอ อารยธรรมจีนมี
ความเก่าแก่นานนับพันปี โดยอารยธรรมยุคแรกเกิดขึ้นบริเวณเขตลุ่มแม่น้าหวางเหอ
ซ่ึงเป็นอารยธรรมสาคัญของโลก แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าหวางเหอมีความสาคัญต่อ
การศึกษาอารยธรรมจีน ทั้งด้านการเมืองการปกครอง ด้านสังคมและวัฒนธรรม
รวมถงึ ด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสถาปตั ยกรรม
ดา้ นการเมอื งการปกครอง ชาวจนี มีความเชอ่ื ว่า จกั รพรรดิ (ฮ่องเต้) เป็น
โอรสแหง่ สวรรค์ซ่ึงไดร้ บั อาณตั จิ ากสวรรคใ์ ห้มาปกครองประเทศ จกั รพรรดิจีนจงึ มี
อานาจสูงสุดหลักฐานทีส่ าคญั คือ การขุดพบสุสานจักรพรรดิจน๋ิ ซี หรอื จ๋ินซีฮ่องเต้
พบกองทัพหนุ่ ทหารดินเผา รถศกึ จานวนมาก แสดงใหเ้ หน็ ถงึ
อานาจในการปกครองประเทศของพระองค์
กองทพั หุ่นทหารดนิ เผาทข่ี ุดพบบรเิ วณสุสาน
จกั รพรรดิจน๋ิ ซี ประเทศจีน
ด้านสังคมและวัฒนธรรม ในสมัยราชวงศ์โจวมีนักปราชญ์ที่มีช่ือเสียง เช่น
ขงจอ๊ื ได้วางหลักปฏบิ ัตติ อ่ ครอบครวั พิธกี รรม ปรัชญา และจริยธรรม เช่น การใฝ่หา
ความรู้ ความกตญั ญู ความจงรักภกั ดี คุณธรรมเหลา่ น้ีมอี ทิ ธิพลต่อชาวจีนอย่างลึกซึ้ง
ปรัชญาขงจื๊อยังคงมีอิทธิพลตอ่ สังคมจนี ถงึ ปัจจุบัน
ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
สถาปตั ยกรรม เชน่ จีนเป็นชาตแิ รกของโลก
ท่ปี ระดิษฐ์เขม็ ทิศ ความรูท้ างการแพทย์ เชน่
การจับชพี จร การฝงั เข็ม ด้านสถาปตั ยกรรม
มกี ารสร้าง งานสถาปัตยกรรมทีย่ ิ่งใหญ่ เช่น
กาแพงเมอื งจีน สรา้ งข้นึ เพือ่ ปอ้ งกันการรกุ ราน
จากศัตรู
กาแพงเมืองจนี เปน็ งานสถาปัตยกรรมทย่ี ิ่งใหญ่
ได้รับการขึน้ ทะเบยี นเป็นมรดกโลก เม่อื พ.ศ. ๒๕๓๐
อารยธรรมจีนมีอิทธิพลต่อพัฒนาการของชาติอื่น ทั้งในเอเชียตะวันออก
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทวีปอ่ืน ๆ ส่ิงของเครื่องใช้บางอย่าง เช่น ผ้าไหม เคร่ือง
เคลือบ กระดาษ และความรู้ต่าง ๆ กระจายไปจนถึงดินแดนเอเชียกลางและยุโรป
กล่าวไดว้ า่ ความเจริญของโลกในปัจจบุ ัน ส่วนหน่ึงเกิดจากการสร้างสรรค์อารยธรรม
ของคนเอเชียมาตัง้ แตส่ มัยโบราณ
๕.๒ แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ แหล่งอารยธรรมลุ่ม
แมน่ ้าสินธุเป็นแหล่งอารยธรรมแรกของอินเดีย ตั้งอยู่บริเวณดินแดนภาคตะวันตกของ
อนิ เดยี หรอื ประเทศปากสี ถานในปัจจุบัน เป็นดินแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่
การทากสกิ รรม หลักฐานทางโบราณคดพี บวา่ มหี มบู่ ้านและเมอื งโบราณกว่า ๕๐ แห่ง
บนบริเวณที่ราบริมฝ่ังแม่น้าสินธุ และพบเมืองใหญ่ ๒ เมือง ซ่ึงเป็นศูนย์กลางของ
อารยธรรม คอื เมอื งโมเฮนโจดาโร และเมืองฮารัปปา หลักฐานดังกล่าวทาให้รับรู้กัน
ว่าบริเวณล่มุ แมน่ า้ สนิ ธมุ ผี คู้ นต้งั ถิน่ ฐานและสร้างสรรค์อารยธรรมมายาวนาน
หลกั ฐานท่พี บบรเิ วณแหลง่ อารยธรรมลุม่ แม่น้าสินธุ ทาใหร้ ับรูถ้ ึง
ความสาคัญของอารยธรรมอนิ เดียในดา้ นตา่ ง ๆ เช่น ดา้ นการเมอื งการปกครอง จาก
การค้นพบศนู ย์กลางอารยธรรมอนิ เดยี ท่ีเมอื งโมเฮนโจดาโรและเมอื งฮารปั ปาท่มี ีความ
โดดเดน่ ในเรือ่ งการวางผงั เมอื งทเ่ี ป็นระเบียบ แยกพน้ื ท่ใี ช้งานออกจากกันอยา่ งชัดเจน
รวมถงึ มกี ารจัดระบบสุขาภิบาล จากรูปแบบการกอ่ สรา้ งแสดงใหเ้ ห็นว่ามีการปกครอง
แบบรวมอานาจ อารยธรรมน้จี งึ มีความสาคญั ตอ่ รูปแบบ
การปกครองของประเทศในภมู ิภาคเอเชยี
หลายประเทศ เนอ่ื งจากไดพ้ ฒั นารูปแบบ
การปกครองท่มี ีผนู้ าที่เรยี กว่า “ราชา” และมี
พิธีราชาภเิ ษกทจ่ี ดั ขึน้ เพอ่ื ยกฐานะผ้นู าเป็น
เทวราชา
ลุมพนิ ี สถานที่ประสูติของพระพทุ ธเจา้
ปจั จุบนั อย่ใู นประเทศเนปาล
ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่นา้ สินธุเปน็ ตน้ กาเนิด
ศาสนาท่ีสาคญั เช่น ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู พระพุทธศาสนา ปจั จุบันยงั ปรากฏ
แหล่งโบราณคดซี ึง่ ได้รบั การยกยอ่ งใหเ้ ป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม เช่น ลุมพนิ ี
สถานทป่ี ระสตู ิของพระพุทธเจา้ นอกจากนี้ อินเดยี ยังเคยเปน็ ศนู ย์กลางการศึกษา
พระพุทธศาสนา คือ มหาวทิ ยาลยั นาลนั ทา ซ่งึ มผี ู้เดนิ ทางมาศกึ ษาจากท่ีตา่ ง ๆ ทัง้ ใน
อนิ เดยี และต่างชาติ
นอกจากนี้ ในยุคนัน้ ยงั มีการคดิ ค้นความรู้ ความเจริญด้านวิทยาการ เช่น
ดาราศาสตร์ การแพทย์ และวทิ ยาศาสตร์ ซ่ึงไดแ้ พร่หลายไปถงึ ดนิ แดนเอเชียกลางและ
เมโสโปเตเมยี รวมทั้งดินแดนอ่ืน ๆ ในภมู ภิ าคเอเชีย อารยธรรมของอินเดียที่เกดิ ขน้ึ ใน
แหลง่ อารยธรรมลมุ่ แมน่ า้ สนิ ธไุ ดแ้ พรห่ ลายไปสภู่ ูมภิ าคตา่ ง ๆ ผา่ นการคา้ ขาย การเผย
แผศ่ าสนา และการเมอื ง โดยผสมผสานเข้ากับวฒั นธรรมพ้นื เมอื งในดนิ แดนต่าง ๆ
จนกลายเปน็ ส่วนหนึง่ ของสงั คมน้นั ๆ
๕.๓ แหล่งอารยธรรมลุ่มแมน่ ้าเมโสโปเตเมีย แหล่งอารย
ธรรมเมโสโปเตเมียหรือบริเวณดนิ แดนท่ตี ง้ั อยู่ระหว่างแมน่ า้ ไทกรสิ และยเู ฟรทีสเป็น
ดนิ แดนทม่ี ีความเจรญิ รงุ่ เรอื งจนกลายเปน็ อูอ่ ารยธรรมทีส่ าคญั ของโลก มีความอุดม
สมบรู ณ์เหมาะแก่การเพาะปลกู และเลีย้ งสตั ว์จนได้ช่อี ว่า ดินแดนพระจนั ทร์เสยี้ วอนั อดุ ม
สมบรู ณ์ (The Fertile Crescent) หรอื วงโคง้ แห่งความอุดมสมบูรณ์
พบหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ท่แี สดงใหเ้ ห็นถึงความสาคัญของแหล่งอารย
ธรรม เมโสโปเตเมียในด้านตา่ ง ๆ เชน่ ดา้ นการปกครองและกฎหมาย พบประมวล
กฎหมายฮมั มูราบี (Code of Hammurabi) ในสมยั พระเจา้ ฮมั มูราบี ซง่ึ เป็น
ประมวลกฎหมายทจ่ี ารึกไว้เปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษรเปน็ คร้ังแรก ลกั ษณะกฎหมายมีความ
เข้มงวด การลงโทษใช้หลกั “ตาต่อตา ฟนั ต่อฟัน” ซ่ึงต่อมาไดก้ ลายเป็นกฎหมายท่ใี ชท้ ่วั
จักรวรรดเิ มโสโปเตเมยี
ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม พบหลักฐาน
ทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เหน็ ถงึ ความเช่ือใน
ศาสนาของคนในดนิ แดนเมโสโปเตเมยี ทาใหเ้ กดิ
การสรา้ งศาสนสถานสาคัญ เชน่ ซกิ กแู รต ท่สี รา้ ง
ข้นึ เพื่ออทุ ิศแดเ่ ทพเจา้ ของเมือง ความเชอื่ และความ
ศรัทธาในเทพเจา้ ยงั คงหลงเหลืออยใู่ นกลมุ่ ชนบาง
กลมุ่ จนถงึ ปจั จบุ ัน
รปู สลกั สุริยเทพ เทพเจ้าแหง่ ความยตุ ิธรรม
กาลงั มอบกฎหมายแก่พระเจา้ ฮัมมูราบี
นอกจากนย้ี งั พบการประดิษฐ์ตวั อกั ษรท่ีเรียกว่า “อักษรคูนิฟอรม์ ”
(Cuneiform) หรอื อกั ษรรูปลม่ิ ในแหลง่ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย อักษรรปู ล่ิมนี้
กลายเป็นตน้ แบบตวั อักษรของโลกตะวันตก คือ กรกี และโรมันในเวลาตอ่ มา
จดุ มงุ่ หมายของการประดิษฐอ์ ักษรรปู ลม่ิ น้ีเพ่ืออานวยความสะดวกในการค้า และใช้ใน
การเขียนคาประพันธ์ บทกวีตา่ ง ๆ ส่งผลใหเ้ กิดการรวบรวมเหตุการณแ์ ละความรตู้ า่ ง
ๆ ผา่ นการจดบันทึกทาให้มหี ลักฐานในการศึกษาประวตั ิศาสตรย์ ุคนี้
ความเจริญของคนในดนิ แดนเมโสโปเตเมยี ไดแ้ พรห่ ลายไปยงั ดนิ แดนใกลเ้ คยี ง
และมีอทิ ธิพลต่ออารยธรรมอียิปต์ กรีก และโรมันในเวลาตอ่ มา
พัฒนาการที่มีมายาวนานของภูมภิ าคเอเชยี อักษรคนู ฟิ อรม์ หรอื อกั ษรรปู ลม่ิ ทพ่ี บใน
แหลง่ อารยธรรมเมโสโปเตเมยี กลายเป็น
ส่งผลใหม้ ีแหล่งอารยธรรมโบราณอยเู่ ป็นจานวนมาก
แหลง่ อารยธรรมเหล่านม้ี คี วามสาคญั เพราะได้บง่ ชถ้ี งึ ตน้ แบบตวั อักษรของโลกตะวันตก
ความเป็นมาของชนชาตใิ นภูมภิ าคตา่ ง ๆ และสั่งสมความ
เจรญิ รงุ่ เรืองมาจนถงึ ปัจจบุ นั ดังนั้น แหล่งอารยธรรม
หลายแหง่ ได้รับการข้ึนทะเบยี นเป็นมรดกโลกจากองค์การ
เพอ่ื การศึกษาวทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรมแหง่
สหประชาชาติ หรอื ยูเนสโก (UNESCO) ดงั ปรากฏใน
ตารางแสดงแหล่งอารยธรรมตา่ ง ๆ ของประเทศในภมู ภิ าค
เอเชีย (ยกเวน้ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้) ท่ีไดร้ ับการข้ึน
ทะเบียนเปน็ มรดกโลก ดังนี้
ตารางแสดงตวั อยา่ งแหลง่ อารยธรรมตา่ ง ๆ ของประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี
(ยกเวน้ เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต)้ ทไ่ี ดร้ บั การขน้ึ ทะเบียนเปน็ มรดกโลก
ตัวอยา่ งแหลง่ มรดกโลกทางวฒั นธรรมในเอเชยี ตะวนั ออก
ตวั อ้ยางแห้ลงมรดกโลกทางวฒั นธรรมในเอเชีย้ใต
ตวั อ้ยางแห้ลงมรดกโลกทางวฒั นธรรมในเอเชยี ตะวนั ตกเฉยี ง้ใต
ตวั อ้ยางแห้ลงมรดกโลกทางวฒั นธรรมในเอเชียกลาง
อทิ ธพิ ลของอารยธรรมโบราณทม่ี ตี ่อ
ภมู ิภาคเอเชยี ในปจั จบุ นั อิทธิพลของอารยธรรมโบราณได้มสี ่วน
สรา้ งสรรค์ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี และวัฒนธรรมของประเทศตา่ ง ๆ ในภมู ภิ าคเอเชยี
อิทธิพลของ
อารยธรรมโบราณท่มี ตี อ่ ภูมิภาคเอเชยี ในปจั จุบัน มดี งั น้ี
ด้านศาสนาและลัทธิความเช่ือ ศาสนาและลัทธิที่สาคัญของโลก
ถือกาเนิดข้ึนในภูมิภาคเอเชีย เช่น พระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม
ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู ศาสนาสิกข์
อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดยี
พระพทุ ธศาสนา พระพุทธศาสนาถอื กาเนิดข้นึ ทีป่ ระเทศอนิ เดยี
มีพระพทุ ธเจ้าเปน็ ศาสดา ประเทศในทวปี เอเชยี ท่นี ับถือพระพทุ ธศาสนา เชน่
ประเทศไทย เมียนมา ลาว เวียดนาม ศรลี ังกา โดยพุทธศาสนิกชนจะนา
หลักธรรมคาสอนมาปฏบิ ัตใิ นชีวิตประจาวนั คอื การทาความดี ละเว้นความช่วั
การทาจิตใจใหบ้ ริสุทธิ์ และความเช่อื ในเร่ืองของการทาดไี ด้ดี ทาชั่วไดช้ วั่
นอกจากนี้ยงั มีพิธกี รรมที่เกย่ี วขอ้ งกับศาสนา เชน่ การเกิด การตาย การบวช
การข้นึ บ้านใหม่
ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนาพราหมณ์-ฮินดถู อื กาเนิดข้นึ ที่ประเทศ
อินเดีย อิทธิพลของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ก่อให้เกิดการสร้างสรรค์ศิลปกรรมและ
สถาปัตยกรรมด้านต่าง ๆ เช่น ภาพจิตรกรรมฝาผนังวรรณกรรมเรื่องรามเกียรต์ิ
โบสถ์ วิหาร นอกจากน้ียังมีพิธีกรรมตามความเช่ือในศาสนา เช่น การบูชาเทพเจ้า
การประกอบพิธกี รรมในราชสานัก ประเทศในภูมิภาคเอเชียท่ีได้รับอิทธิพลของศาสนา
พราหมณ์-ฮินดู เช่น ประเทศไทย กมั พชู า อินโดนเี ซีย อนิ เดีย
อทิ ธิพลของอารยธรรมจีน
อิทธิพลของอารยธรรมจีนด้านศาสนาและลัทธิความเชื่อ ได้แก่ ลัทธิเต๋า
และลทั ธขิ งจือ๊ ลัทธิดงั กลา่ วมีอิทธิพลต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ความ
เช่ือ การเมอื งการปกครอง และการดาเนินชีวิต ลัทธิเต๋าและขงจื๊อมีอิทธิพลต่อประเทศ
จนี ญ่ปี ุ่น เกาหลี และเวยี ดนาม
ด้านภาษาและตัวอกั ษร
อิทธพิ ลของอารยธรรมอินเดยี
อิทธิพลของอารยธรรมอินเดียดา้ นภาษาและตัวอักษรสว่ นใหญ่มีความ
เก่ียวเนอ่ื งกับศาสนา เน่อื งจากคมั ภีร์พระเวทซง่ึ เป็นคมั ภรี เ์ กา่ แก่ของศาสนาพราหมณ์-
ฮินดู ได้บันทึกหลักคาสอนและเร่อื งราวทางประวตั ิศาสตร์ไว้ นอกจากน้ียงั มี
พระไตรปฎิ ก ซึง่ เปน็ คมั ภีร์ของพระพทุ ธศาสนาที่เขียนเปน็ ภาษาสนั สกฤตและบาลี อัน
เปน็ รากศัพทข์ องภาษาตา่ ง ๆ ในภูมิภาคเอเชยี
อทิ ธพิ ลของอารยธรรมจนี
อิทธิพลของอารยธรรมจนี ด้านภาษาและตวั อกั ษรมีอิทธพิ ลตอ่ ประเทศตา่ ง ๆ
โดยเฉพาะประเทศใกล้เคียง เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เวียดนาม ปัจจุบันภาษาจีนได้
กลายเปน็ หนงึ่ ในห้าภาษาทางการของโลก
อิทธิพลของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย ชาวสุเมเรียนเป็นผู้คิดค้น
ประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นเป็นคร้ังแรกของโลก คือ อักษรคูนิฟอร์มหรืออักษรลิ่ม ที่จารึก
ลงบนแผ่นดินเหนียว เพ่ือบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ การคิดประดิษฐ์ตัวอักษรยังเป็นการ
สร้างสรรค์วรรณกรรมและงานประพันธ์ เชน่ มหากาพย์กลิ กาเมช นอกจากน้ียังมีการ
จดั ทาประมวลกฎหมายฮัมมูราบีแห่งจักรวรรดิบาบิโลเนีย ซึ่งมีอิทธิพลต่อการประมวล
กฎหมายในยคุ ต่อมา อักษรคูนิฟอร์มหรืออักษรลิ่มกลายเป็นต้นแบบของตัวอักษรทาง
ตะวนั ตก
ดา้ นศิลปวิทยาการ
อิทธพิ ลของอารยธรรมอนิ เดยี
อทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดียดา้ นศิลปกรรมทไี่ ด้รบั มาจนถงึ ปจั จบุ นั ได้แก่
สถาปัตยกรรมและประตมิ ากรรมที่เกีย่ วเนือ่ งกับศาสนา เชน่ เจดีย์ เทวสถาน
พระพทุ ธรูป นอกจากนย้ี งั มีวทิ ยาการดา้ นตา่ ง ๆ ทีส่ าคญั เชน่ วิทยาการดา้ น
การแพทย์ ซึง่ ปรากฏในคมั ภรี ์อายรุ เวท ศิลปวิทยาการของอารยธรรมอนิ เดีย มี
อิทธพิ ลในเอเชยี ใต้และ
เอเชยี ตะวันออกเฉยี งใต้
อทิ ธิพลของอารยธรรมจีน
อิทธิพลของอารยธรรมจีนด้านศิลปวิทยาการท่ีสาคัญ ได้แก่ การผลิต
กระดาษเพื่อใช้บันทึกเรื่องราวต่าง ๆ การประดิษฐ์เข็มทิศเพ่ือใช้ในการเดินเรือ
นอกจากน้ียังผลิตดินปืนและดอกไม้ไฟ ซึ่งต่อมาชาวยุโรปได้นาไปพัฒนาเป็นอาวุธใน
การทาสงคราม รวมถึงดา้ นการแพทย์ทส่ี บื ทอดมาจนถงึ ปจั จุบัน เช่น การฝังเข็ม การ
ใช้สมนุ ไพรรักษาโรค
อิทธิพลของอารยธรรมเมโสโปเตเมีย อิทธิพลของอารยธรรม
เมโสโปเตเมียท่ีถูกถ่ายทอดมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ ความรู้ด้านคณิตศาสตร์และ
ดาราศาสตร์การทาปฏทิ ินจนั ทรคติ การกอ่ สรา้ งอาคาร
แหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชีย สะท้อนถึงความสาคัญของภูมิภาคเอเชียว่า
เปน็ ศูนยก์ ลางความเจรญิ ทางอารยธรรมทงั้ ดา้ นการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และ
สังคมมาต้ังแต่สมัยโบราณ อีกทั้งยังบ่งช้ีว่าชนชาติในเอเชียเป็นชนชาติท่ีมีพัฒนาการ
ทางประวัติศาสตร์มาช้านาน แหล่งอารยธรรมของเอเชียจึงเปรียบเสมือนหลักฐานทาง
ประวัติศาสตร์และโบราณคดีท่คี วรคา่ แกก่ ารอนุรักษเ์ ปน็ มรดกของมนุษยชาติ