เยเมนมีพ้ืนที่เพาะปลูกจากดั พน้ื ที่ส่วนใหญเ่ ป็นทะเลทรายที่รอ้ นและแห้งแล้ง
ทง้ั ยงั มแี หลง่ นา้ จากดั ซง่ึ มผี ลต่อการพัฒนาดา้ นเกษตรกรรม แม้ว่าจะมีการพบแหลง่
นา้ มนั ในประเทศ แต่เนอ่ื งจากรายไดห้ ลกั ของเยเมนขนึ้ อยกู่ ับการส่งออกนา้ มันทตี่ ้ององิ
ราคาในตลาดโลก เมื่อราคาน้ามนั ในตลาดโลกผันผวนจงึ กระทบตอ่ รายไดป้ ระเทศ ทา
ใหร้ ฐั ไม่สามารถจดั สวัสดกิ ารใหแ้ กป่ ระชาชนไดอ้ ยา่ งทั่วถงึ นอกจากนี้ เยเมนยงั มอี ัตรา
การเกิดของประชากรสงู อันมีผลต่ออัตราการว่างงานท่ีเพิ่มสูงขึ้น
เลบานอน เลบานอนเปน็ ประเทศขนาดเล็ก ตัง้ อยทู่ างตะวนั ตกของ
ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ที่ตั้งของเลบานอนอยู่
ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มประเทศ
อาหรบั ทาให้เลบานอนต้องเข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งใน
ภูมิภาคด้วย นอกจากน้ี ความแตกต่างระหว่างกลุ่มชาติ
พันธ์ุและศาสนาของประชาชนเลบานอนก็ส่งผลให้เกิด
สงครามกลางเมอื งยาวนาน เปดิ โอกาสใหก้ องกาลังตา่ งชาติ
เข้ามาแทรกแซง ซึ่งส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจ
และสังคมของเลบานอน
พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของเลบานอน
ทีต่ ั้งของเลบานอนขนานไปตามแนวฝง่ั ตะวนั ออกของทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียน
ทาให้ดินแดนเลบานอนในอดีตเป็นศูนย์กลางการคา้ ของกลมุ่ ชนชาตติ า่ ง ๆ เชน่
เมโสโปเตเมีย อียปิ ต์ กรีก โรมัน
หลังสงครามโลกครัง้ ท่ี ๑ เลบานอนเป็นอิสระจากออตโตมันและได้อยู่
ภายใต้การอารกั ขาของฝรั่งเศสจนถึง พ.ศ. ๒๔๘๖ หลงั จากนน้ั เลบานอนได้
ปกครองตนเองและสนับสนนุ กลมุ่ อาหรบั ในการตอ่ ตา้ นอสิ ราเอล ซ่ึงมีผลใหช้ าว
ปาเลสไตนจ์ านวนมากอพยพเขา้ ไปอยูใ่ นเลบานอน ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๑๘-๒๕๓๓
ได้เกิดสงครามกลางเมอื งในเลบานอนท่ีเปน็ ผลจากความขัดแย้งระหวา่ งชาวเลบานอนท่ี
นบั ถอื ศาสนาคริสต์และท่ีนบั ถอื ศาสนาอิสลาม ทาใหซ้ ีเรียถอื โอกาสส่งกองทัพเขา้ มา
ชว่ ยปราบปรามกลุ่มมุสลมิ เลบานอน และยึดครองเลบานอนไวถ้ ึง ๓๐ ปี แมว้ ่า
สงครามกลางเมอื งจะยุตไิ ปแลว้ กต็ าม
้ปจจุบันสงครามกลางเมืองในเลบานอน้ไดยุติลงแ้ลว แ้ตรัฐบาลเลบานอนยัง
ขาดเสถียรภาพ้สงผล้ใหเลบานอนมีความขัดแ้ยงรุนแรงกับอิสราเอล เพราะ้ไมสามารถ
ควบคุมก้ลุมมุสลิมหัวรุนแรงที่ลอบ้เขาไป้กอวินาศกรรมในอิสราเอลใน พ.ศ. ๒๕๔๙
ทา้ใหกองทพั อสิ ราเอลโจมตีท่ีม่ันของก้ลมุ มสุ ลิมหวั รนุ แรงในเลบานอน
้ปญหาทางการเมือง้ได้สงผลกระทบรุนแรง้ตอพัฒนาการทางเศรษฐกิจและ
สังคมของประเทศ เดิมเลบานอน้เปนประเทศท่ีมีความ้กาวห้นาทางเศรษฐกิจ ้เปน
ศูน้ยกลางการเงินของภูมิภาค และมีมาตรฐานการดารงชีวิตท่ีดี แ้ตสงครามกลางเมือง
้ไดทาลาย้บานเมือง ระบบเศรษฐกิจ ระบบสาธารณูปโภค รวมถึงโครงส้ราง้ตาง ๆ ใน
ประเทศ ดังนน้ั รัฐบาลจ้งึ ตอง้เรง้ฟนฟเู ศรษฐกิจของประเทศ้ใหกลับมาดังเดมิ
สหรัฐ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอาหรับ
อาหรับเอมเิ รตส์
เอมิเรตส์ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบฮอร์มุซที่เชื่อมระหว่าง
อ่าวเปอร์เซียและอ่าวโอมาน ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ คือ
อาบดู าบี อจั มาน ดไู บ ฟูไจราห์ ราสอัลไคมาห์ ชาร์จาห์
และอุมม์อัลไกไวน์ โดยมีอาบูดาบีเป็นเมืองหลวงและ
ศูนย์กลางของประเทศ
พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ
และการเมอื งของสหรฐั อาหรบั เอมเิ รตส์
กลุ่มรฐั ท้ัง ๗ รัฐ ทีร่ วมกันเป็นสหรฐั อาหรับเอมิเรตสต์ า่ งเปน็ รัฐของชาว
อาหรับ ในอ่าวเปอร์เซยี ทน่ี ับถือศาสนาอสิ ลาม มีเอมีรเ์ ป็นประมขุ ของแต่ละรัฐ และมี
ภมู หิ ลังทางประวัตศิ าสตร์คล้ายคลึงกนั คอื เคยอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของโปรตเุ กส
จกั รวรรดอิ อตโตมัน และองั กฤษตามลาดบั รัฐเหลา่ น้ีได้รับเอกราชจากอังกฤษใน
พ.ศ. ๒๕๑๔ หลงั จากน้ันรฐั อาบูดาบแี ละรฐั ดไู บได้เปน็ แกนนาในการรวมรฐั อสิ ระ
ตา่ ง ๆ เขา้ เป็นสหพันธรฐั มปี ระธานาธบิ ดเี ป็นประมขุ ของประเทศ และ
นายกรัฐมนตรีเป็นผูน้ ารัฐบาลท่ีอยู่ภายใต้รฐั ธรรมนูญ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีการพัฒนาทาง รัฐดูไบ ของสหรัฐอาหรับเอมเิ รตส์
มีการลงทุนพัฒนาเมืองอยา่ งกว้างขวาง
เศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ เพ่ือเปน็ ศูนย์กลางเศรษฐกจิ ของภมู ิภาค
ของแต่ละรัฐมาจากการส่งออกน้ามัน นอกจากนี้ยัง
เกิดจากการลงทุนอย่างมหาศาลโดยเฉพาะในกรณี
ของรัฐดูไบท่มี กี ารลงทนุ พฒั นาเมืองอย่างกว้างขวาง
เช่น การก่อสร้างตึกระฟ้า ศูนย์การค้า โรงแรม
อสังหาริมทรัพย์ สาธารณูปโภค เพ่ือให้ดูไบเป็น
ศูนย์กลางเศรษฐกิจของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม
ใน พ.ศ. ๒๕๕๒ เศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบ
อย่างรุนแรง ทาให้การลงทุนต่าง ๆ ในดูไบได้รับ
ผลกระทบด้วย
อริ ัก อิ รั ก ต้ั ง อ ยู่ ท า ง ต อ น เ ห นื อ ข อ ง ภู มิ ภ า ค เ อ เ ชี ย
ตะวันตกเฉียงใต้ในบริเวณลุ่มแม่น้าไทกริสและ
ยูเฟรทีส พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของอิรัก
ในช่วงหลังสงครามโลกคร้ังที่ ๒ ทาให้ประเทศ
ขาดเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ ส่งผล
กระทบอย่างรนุ แรงต่อชาวอิรัก
พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ ซดั ดัม ฮสุ เซน
อดีตประธานาธิบดีของอริ กั
และการเมอื งของอริ กั
ดนิ แดนอิรักในอดีตเคยเป็นท่ตี ้งั ของอาณาจักร
และจักรวรรดขิ องชนชาตติ า่ ง ๆ ในเขตอารยธรรมเมโสโปเต
เมีย ตอ่ มาดินแดนน้ไี ดต้ กอยู่ภายใต้การปกครองของ
จกั รวรรดิตา่ ง ๆ ท่ีขยายอิทธพิ ลเข้ามา เช่น เปอรเ์ ซีย มุสลิม
มองโกล และออตโตมัน หลังสงครามโลกคร้งั ท่ี ๑ อิรักตก
อยู่ภายใต้อารกั ขาของอังกฤษจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๕ หลงั จาก
ไดร้ บั เอกราช อริ กั ที่มีการปกครองโดยระบอบกษัตรยิ ์ไดถ้ ูก
ปฏิวัตเิ ปล่ยี นแปลงการปกครองเปน็ ระบอบสาธารณรฐั ใน
ท่สี ดุ
ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ซัดดมั ฮสุ เซน (Saddam Hussein) ไดย้ ดึ อานาจ
การปกครองในอิรัก และไดท้ าสงครามกบั อหิ รา่ น ซง่ึ เปน็ คู่พิพาทกรณกี ารอา้ งสทิ ธิ
เหนือรอ่ งนา้ ในอ่าวเปอรเ์ ซยี ต่อมาอริ ักได้ทาสงครามรกุ รานคูเวตจนนาไปสู่สงคราม
อ่าวเปอรเ์ ซยี ทท่ี าให้อริ ักถูกปราบปราม หลังจากนน้ั อริ กั ได้ประสบปัญหาทาง
เศรษฐกิจอย่างมาก เนื่องจากองค์การสหประชาชาตปิ ระกาศควา่ บาตรทางเศรษฐกิจ
ต่ออริ ัก เพราะแมว้ า่ อิรักจะสามารถผลิตนา้ มนั เพอื่ ส่งออกได้เปน็ จานวนมาก แต่กไ็ ม่
สามารถขายใหแ้ ก่ประเทศต่าง ๆ ซึง่ เปน็ สมาชกิ ขององคก์ ารสหประชาชาตไิ ด้ ตอ่ มา
ใน พ.ศ. ๒๕๔๖ สหรฐั อเมริกาและพันธมติ รไดท้ าสงครามตอ่ ตา้ นการกอ่ การร้าย
และโค่นลม้ รฐั บาลของซัดดัม ฮุสเซน
ปัจจบุ ันแมว้ า่ อิรักมกี ารจัดตง้ั รัฐบาลใหม่ได้แล้ว แต่สังคมอิรักยังคงมีความ
วุ่นวายต่อเนื่อง มีการก่อเหตุวินาศกรรมอย่างรุนแรง ทาให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
จานวนมาก นอกจากน้ี สถานการณ์ในอิรักยังมีความขัดแย้งระหว่างชาวอิรักท่ีนับถือ
ศาสนาอิสลามนิกายสุหน่ีและนิกายชีอะห์ ส่งผลให้การก่อการร้ายในอิรักทวีความ
รนุ แรงและเพ่ิมจานวนมากข้ึน
อสิ ราเอล อิสราเอลต้ังอยู่ทางตะวันตกของภูมิภาคเอเชียตะวันตก
เฉียงใต้ มีอาณาเขตติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ท่ีตั้งของ
อิสราเอลเคยเป็นดินแดนปาเลสไตน์ในอดีต ทาให้ถูก
ต่อต้านจากประเทศโดยรอบท่ีเป็นประเทศอาหรับและเกิด
สงครามยิว-อาหรับหลายคร้ัง อิสราเอลจัดว่าเป็นประเทศ
ทมี่ ศี ักยภาพสูงในการพฒั นาประเทศ
พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของอสิ ราเอล
อสิ ราเอลเป็นประเทศของชาวยิวซึง่ เป็นชนเผา่ เซมติ ิกเผา่ หนง่ึ ทีต่ ้ังถิน่ ฐาน
มาต้งั แต่สมยั เมโสโปเตเมีย ในอดตี ชาวยวิ เคยอาศยั อยใู่ นดนิ แดนปาเลสไตน์ ต่อมา
ดนิ แดนนไี้ ดต้ กอยู่ภายใตก้ ารปกครองของจกั รวรรดิตา่ ง ๆ เช่น โรมนั และออตโตมัน ทา
ใหช้ าวยวิ ได้ลภี้ ัยออกไปจากดินแดนปาเลสไตน์และตง้ั ถน่ิ ฐานอยตู่ ามประเทศต่าง ๆ
โดยเฉพาะในยุโรป ในชว่ งหลังสงครามโลกครง้ั ที่ ๑ ชาวยวิ พยายามอพยพกลบั มายงั
ดนิ แดนปาเลสไตน์ โดยได้รบั การสนบั สนนุ จากองั กฤษท่ีควบคุมดนิ แดนปาเลสไตนใ์ น
ฐานะดนิ แดนในอารกั ขา
หลังสงครามโลกคร้ังที่ ๒ ชาวยิวไดป้ ระกาศต้งั ประเทศอสิ ราเอลในดินแดน
ปาเลสไตน์ แตถ่ ูกประเทศอาหรับทั้งหลายต่อต้าน จงึ เกดิ สงครามระหว่างอสิ ราเอลกบั
ชาติพันธมิตรอาหรบั รวม ๔ ครัง้ โดยอิสราเอลเป็นฝ่ายชนะทุกครงั้ และสามารถยึด
ครอง
ดินแดนปาเลสไตนแ์ ละดนิ แดนใกล้เคียงได้ทงั้ หมด รวมไปถงึ นครเยรซู าเลม
(Jerusalem) ซ่ึงเปน็ ดินแดนศักด์ิสทิ ธิข์ องผูน้ ับถือศาสนาคริสต์ ปัจจบุ ันแมส้ งคราม
ไดย้ ตุ ไิ ปแลว้ แต่อิสราเอลยังต้องทาสงครามปราบปรามกลมุ่ ก่อการรา้ ยตา่ ง ๆ อยู่เสมอ
เนื่องจากชาวปาเลสไตน์ทีส่ ูญเสยี ดนิ แดนยงั คงต่อสู้เพือ่ เรยี กร้องดนิ แดนคนื อสิ ราเอลจึง
มกี ารพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อปอ้ งกันตนเองและต่อตา้ นการกอ่ การรา้ ย
ทาใหอ้ ิสราเอลยงั ไม่มีสันติภาพทแ่ี ท้จรงิ
ที่ต้ังของอิสราเอลมีภูมิอากาศหลากหลาย ท้ังภูมิอากาศร้อนและแห้งแล้งใน
เขตกึ่งทะเลทราย และภูมิอากาศหนาวเย็นในเขตเทือกเขา แต่ชาวอิสราเอลสามารถใช้
เทคโนโลยีพัฒนาด้านการเกษตรให้ได้ผลดี นอกจากน้ียังมีการพัฒนาอุตสาหกรรม
ดา้ นอเิ ล็กทรอนิกสแ์ ละอาวุธยทุ โธปกรณ์ต่าง ๆ
โดยรวมสงั คมอสิ ราเอลมีความกา้ วหนา้
แบบสงั คมเมือง ประชาชนไดร้ ับโอกาส
ทางการศกึ ษา และผูห้ ญิงไดร้ บั สทิ ธิ
เท่าเทียมกบั ผูช้ าย
นครเยรูซาเลมเป็นดนิ แดนศักด์ิสทิ ธิข์ องผู้นับถอื ศาสนาครสิ ต์
ปจั จุบันอยใู่ นประเทศอิสราเอล
อหิ ร่าน อิหร่านต้ังอยู่ทางตะวันออกของภูมิภาค
เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เป็นประเทศท่ีมีขนาดใหญ่ท่ีสุด
รองจากประเทศซาอุดีอาระเบีย ประชากรส่วนใหญ่นับ
ถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ อิหร่านจัดเป็นประเทศที่มี
ความสาคัญทัง้ ดา้ นการเมอื งและเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็น
ประเทศทีม่ ีทรพั ยากรน้ามันสารองจานวนมาก
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สงั คม เศรษฐกิจ และการเมืองของอหิ ร่าน
ชาวอิหร่านสืบเชือ้ สายมาจากชาวเปอร์เซยี ซ่งึ เป็นชนเผ่าอินโด-ยโู รเปยี นที่
อพยพเขา้ มายดึ ครองดนิ แดนและกอ่ ต้ังจักรวรรดเิ ปอร์เซยี ท่ีเจรญิ รุ่งเรอื งเมอื่ หลายพันปี
มาแล้ว ต่อมาเปอร์เซียตกอยภู่ ายใตอ้ านาจการปกครองของชาวมสุ ลมิ ซึง่ ไดต้ งั้ ราชวงศ์
สืบต่อมา ใน พ.ศ. ๒๔๗๘ มกี ารเปลย่ี นชอื่ ประเทศจากเปอรเ์ ซยี เปน็ อิหร่าน
ภายหลงั สงครามโลกครั้งที่ ๒ พระเจา้ ชาห์ โมฮมั หมัด เรซา ปาฮล์ าวี (Mohammad
Reza Pahlavi) ทรงยดึ อานาจปกครองประเทศ พระองคท์ รงมีความสัมพนั ธอ์ นั ดี
กับสหรัฐอเมริกาซึง่ เขา้ มาลงทนุ กจิ การในอิหรา่ น โดยเฉพาะการลงทุนในอตุ สาหกรรม
นา้ มนั พระเจา้ ชาห์ทรงพัฒนาประเทศทกุ ดา้ น ท้ังดา้ นเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม สังคม
และกองทพั แต่ระบอบการปกครองประเทศยังเป็นแบบอตั ตาธิปไตย ที่สาคญั การ
พัฒนาประเทศอยา่ งรวดเร็วไม่ก่อใหเ้ กดิ ประโยชน์แก่ประชาชนสว่ นใหญ่ แตก่ ลับเออ้ื
ประโยชน์ใหก้ ับกลุ่ม
เจ้าของที่ดนิ ซงึ่ ส่วนใหญเ่ ป็นกลมุ่ เช้อื พระวงศ์
ขนุ นางและข้าราชการระดับสงู อายะตลุ ลอฮโ์ ค
มยั นี (Ayatollah Khomeini) ซ่งึ เป็นผู้นาทาง
ศาสนาของนกิ ายชอี ะห์ จงึ ทาการต่อตา้ นรัฐบาล
อย่างรุนแรงและชใี้ หช้ าวมสุ ลิมทวั่ ประเทศเห็น
ความผิดพลาดของการปฏิรูปประเทศแบบ
ตะวันตก
พระเจ้าชาห์ โมฮมั หมัด เรซา ปาฮล์ าวี
ทรงยดึ อานาจการปกครองประเทศ
อิหรา่ น สมัยหลงั สงครามโลกครั้งท่ี ๒
ใน พ.ศ. ๒๕๒๑ โคมยั นีไดเ้ ป็นผู้นาการ อายะตลุ ลอ้ฮ โคมัยนี
้ผูนาการ้ตอ้ตานรัฐบาล
ตอ่ ต้านรัฐบาลของพระเจ้าชาห์ การประทว้ งไดข้ ยายวง
กว้างมากขนึ้ เนือ่ งจากประชาชนส่วนใหญ่เลือ่ มใสแนวทาง ใน พ.ศ. ๒๕๒๑
ของโคมัยนีอีกทงั้ ประชาชนเองกไ็ มไ่ ด้รับประโยชนจ์ ากการ
ปฏริ ูปประเทศโดยตรง สถานการณว์ ุน่ วายภายในประเทศ
ที่รัฐบาลไม่อาจควบคุมได้ ทาใหพ้ ระเจา้ ชาหท์ รงตดั สนิ
พระทยั เสด็จออกนอกประเทศพรอ้ มกับพระราชวงศ์ กลมุ่
ต่อตา้ นจงึ ยึดอานาจการบรหิ ารประเทศและเปลีย่ นแปลง
ระบอบการปกครองเป็นสาธารณรฐั อสิ ลาม และโคมยั นีได้
ดารงตาแหนง่ ผูน้ าของประเทศ
หลังจากเปลยี่ นแปลงการปกครอง อิหร่านมปี ญั หากรณีพิพาทกบั
สหรัฐอเมริกาและทาสงครามกับอริ กั ซึง่ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ ตลอดจน
การฟนื้ ฟูเศรษฐกจิ และสงั คมของอิหร่าน นอกจากน้ี อหิ ร่านยงั ถูกกดดันจาก
สหรัฐอเมริกาและนานาประเทศทเ่ี กรงว่าอหิ รา่ นกาลังพฒั นาพลังงานและอาวุธนวิ เคลยี ร์
ปัจจบุ นั อหิ รา่ นยังไม่ไดม้ กี ารเปดิ ประเทศมากนกั แตส่ งั คมอิหร่านกม็ กี าร
เติบโตต่อเนือ่ ง มีการพัฒนาด้านสาธารณูปโภคและเส้นทางคมนาคมขนสง่ อยา่ ง
กว้างขวาง ประชากรหญงิ และชายต่างมีโอกาสทางการศึกษาเทา่ เทียมกนั รายได้หลัก
ของประชากร คอื การประกอบเกษตรกรรม คา้ ขาย และการทางานใน
ภาคอุตสาหกรรม ส่วนรายไดส้ าคัญของประเทศ คือ การสง่ ออกนา้ มนั
โอมาน โอมาน เป็นประเทศของชาวอาหรบั ที่นับถือศาสนา
อิสลาม ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทร
อาหรบั มพี ้ืนที่ติดกบั ทะเลทง้ั ด้านอ่าวโอมานและทะเล
อาหรับ เศรษฐกิจของประเทศส่วนใหญ่พึ่งพา
ทรัพยากรน้ามัน
พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งของโอมาน
ชาวอาหรับในคาบสมทุ รอาหรบั ไดอ้ พยพเขา้ มาตง้ั ถน่ิ ฐานในดินแดนโอมาน
ตงั้ แต่สมัยโบราณ เนอ่ื งจากลักษณะทต่ี ้ังเป็นเมืองท่าสามารถตดิ ตอ่ กับดนิ แดนตา่ ง ๆ
ได้สะดวก ต่อมาเมอื่ ประมาณ ๒,๕๐๐ ปี มาแลว้ ชาวเปอร์เซยี ไดข้ ยายอิทธิพลเขา้ มา
ปกครองดินแดนน้ี หลังจากนนั้ โอมานไดอ้ ยูภ่ ายใต้อิทธพิ ลของชาวมุสลมิ และโปรตเุ กส
ตามลาดบั ในตน้ พทุ ธศตวรรษท่ี ๒๕ ผู้ปกครองรฐั โอมานไดส้ ถาปนาระบอบกา
ปกครองท่ีมสี ุลต่านเป็นประมขุ และมคี วามสัมพนั ธ์ทีใ่ กล้ชิดกับองั กฤษ ปจั จุบนั โอมาน
เปน็ รฐั เอกราชทม่ี คี วามสมั พนั ธท์ ่ดี ีกบั รฐั อ่ืน ๆ ในภมู ภิ าคเอเชียตะวนั ตกเฉียงใต้
เศรษฐกิจของโอมานอยู่ในระดบั ปานกลาง รายได้ของประเทศสว่ นใหญ่
ขน้ึ อยู่กบั การส่งออกนา้ มันและแก๊สธรรมชาติ นอกจากนี้ยงั มีรายได้บางส่วนจาก
อุตสาหกรรมถลุงโลหะ เช่น ทองแดง ทองคา ซเี มนต์ การเร่งพฒั นาเศรษฐกจิ ของ
โอมานทาใหม้ กี ารอนญุ าตให้แรงงานตา่ งชาตจิ านวนมากเขา้ มาทางานในประเทศ
มัสกตั เมอื งหลวงของประเทศโอมาน เปน็ เขตที่มีการเรง่ พัฒนาทางเศรษฐกจิ อยา่ งมาก
๔. ภมู ภิ าคเอเชยี กลาง ภมู ภิ าคเอเชียกลางเป็นท่ตี งั้ ของ
เส้นทางติดต่อระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวนั ตกในอดตี หรอื ท่เี รยี กกนั ว่า “เสน้ ทางสาย
ไหม”เป็นภูมิภาคท่ีไม่มีพนื้ ท่ตี ดิ ตอ่ กบั ทะเล ประชากรสว่ นใหญ่สืบเช้อื สายมาจากชนเผา่
เร่ร่อนกลมุ่ ต่าง ๆ ประเทศในภูมิภาคน้เี คยเปน็ อดีตรัฐของสหภาพโซเวยี ตกอ่ นแยกตวั เปน็
ประเทศอิสระหลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต
สภาพแวดลอ้ มทางภมู ศิ าสตรข์ องภมู ภิ าคเอเชยี กลาง ภมู ภิ าคเอเชียกลางมีพืน้ ท่ี
กวา้ งใหญค่ รอบคลุมภูมิประเทศท่ีมลี กั ษณะหลากหลาย ตัง้ อยู่ระหว่างภมู ิภาคเอเชยี
ตะวันออกและเอเชยี ตะวันตกเฉยี งใต้ จึงมคี วามสาคัญทางการค้ามาตงั้ แต่อดตี ส่งผลใหม้ ี
ประชากรกลุ่มต่าง ๆ อพยพเข้ามาตงั้ ถ่ินฐาน แมส้ ภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตรไ์ มเ่ อื้ออานวย
มากนักกต็ าม
ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิภาคเอเชียกลางประกอบด้วยประเทศ
คาซคั สถาน คีร์กซี สถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกสิ ถาน และอุซเบกิสถาน พ้ืนท่ีทางทิศ
เหนือจดประเทศรัสเซยี และเทือกเขาอัลไต ทิศตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จดประเทศมองโกเลีย
ทิศตะวนั ออกจดประเทศจนี ทิศใต้จดประเทศปากีสถาน อัฟกานิสถาน อิหร่าน ทะเล
แคสเปียน และทิศตะวันตกจดประเทศตุรกีและทะเลดา ภูมิภาคเอเชียกลางยังมีพ้ืนที่
ครอบคลุมถึงประเทศท่ีอยู่ระหว่างเอเชียกับยุโรป คือ อาเซอร์ไบจาน จอร์เจีย และ
อาร์มีเนีย แต่ท้ัง ๓ ประเทศนี้ จัดตัวเองเป็นประเทศในยุโรปโดยยึดตามการแบ่งกลุ่ม
ประเทศทางดา้ นวัฒนธรรม
เทอื กเขาอัลไต แนวพรมแดนธรรมชาติท่กี ้นั ระหวา่ งประเทศจนี คาซัคสถาน และคีรก์ ซี สถาน
ภูมิประเทศของเอเชียกลางมีความหลากหลาย พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขต
ทะเลทรายและกึ่งทะเลทรายหรือทุ่งหญ้าสเตปป์อันกว้างใหญ่ที่เชื่อมต่อกับเขตทุ่งหญ้า
สเตปป์ของรัสเซีย แหล่งน้าท่ีสาคัญคือแม่น้าเพียงไม่กี่สายและทะเลแคสเปียน ลักษณะ
ภูมิประเทศไม่เอ้ืออานวยต่อการเพราะปลูก ประชากรส่วนใหญ่จึงดารงชีพด้วยการ
เร่รอ่ นเลีย้ งสัตว์
ลักษณะภมู ิอากาศ ภูมิอากาศในเขตเอเชียกลางเป็นแบบทะเลทรายท่ี
ร้อนจัด แหง้ แล้ง และไมม่ ปี า่ ไม้ ส่วนในเขตเทอื กเขาและทุ่งหญ้าสเตปป์ทางตอนเหนือก็
แห้งแล้งและหนาวจัดในฤดูหนาว เน่ืองจากได้รับอิทธิพลจากลมหนาวที่พัดมาจาก
ทางเหนือของรสั เซยี สภาพภมู ิอากาศส่งผลตอ่ การตงั้ ถิ่นฐานของประชากรทีม่ อี ยู่ไมม่ าก
และมีการกระจายตัวเบาบาง ตลอดจนมีผลต่อวิถีการดารงชีวิตและการประกอบอาชีพ
ของผูค้ นในภมู ภิ าคน้ี เช่น การเล้ยี งสตั วแ์ บบเร่รอ่ น และการพานกั อยู่ตามกระโจม
แผนที่ภมู ภิ าคเอเชียกลาง
ตารางแสดงขอ้ มลู พน้ื ฐานของประเทศในภมู ภิ าคเอเชยี กลาง
พัฒนาการทางประวตั ศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งของภมู ภิ าคเอเชยี กลาง
ประเทศต่าง ๆ ในภมู ิภาคเอเชียกลางมภี มู ิหลงั ทางประวัติศาสตร์ที่คล้ายคลึงกัน
คือ ต่างเคยเป็นอดีตรัฐของสหภาพโซเวียต ทาให้มีพัฒนาการทางการเมืองการปกครอง
คลา้ ยคลึงกัน แต่พฒั นาการทางเศรษฐกิจอาจแตกต่างกันตามความอุดมสมบูรณ์ของพื้นท่ี
และทรพั ยากรธรรมชาติ
คาซัคสถาน ค า ซั ค ส ถ า น ต้ั ง อ ยู่ ท า ง ต อ น เ ห นื อ
ของภูมิภาคเอเชียกลาง มีพ้ืนท่ีมากท่ีสุด
ในภูมิภาค และมีทรัพยากรธรรมชาติ
อุดมสมบูรณ์
พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมืองของคาซัคสถาน
คาซคั สถานมีสภาพภูมิศาสตร์ท่ีหลากหลายท้ังเขตทุ่งหญ้าสเตปป์ พ้ืนที่ก่ึง
ทะเลทราย เขตทรี่ าบสงู และท่ีราบลุ่มแม่น้า ส่วนสภาพภูมิอากาศก็มีทั้งภูมิอากาศร้อน
แห้งแล้งแบบกึ่งทะเลทราย และภูมิอากาศอบอุ่นท่ีเอ้ืออานวยต่อการเพาะปลูก ทาให้มี
ชนเผ่าเรร่ อ่ นทงั้ เผา่ เติร์กและเผ่ามองโกลอพยพ
เข้ามาตงั้ ถน่ิ ฐานตง้ั แตพ่ ทุ ธศตวรรษท่ี ๘ ชนเผา่
เหล่านีจ้ ดั เป็นชนพืน้ เมอื งดั้งเดมิ และเป็น
ประชากรสว่ นใหญ่ของประเทศ นอกจากนั้น
เป็นชาวรสั เซยี และชนเผา่ อื่น ๆ ในเขต
เอเชยี กลาง
ท่งุ หญ้าสเตปป์ในประเทศคาซคั สถาน
หลังจากสหภาพโซเวียตลม่ สลาย คาซัคสถานเป็นรัฐเอกราชและมีการเตบิ โต
ทางเศรษฐกิจอย่างรวดเรว็ เนอ่ื งจากมแี หล่งพลังงานขนาดใหญ่ในประเทศท้ังน้ามันดิบ
และแก๊สธรรมชาติ นอกจากนี้ คาซัคสถานยังมีแร่ธาตุต่าง ๆ จานวนมาก เช่น
ยูเรเนียม โครเมียม สังกะสี แมงกานีส ซึ่งดึงดูดให้นักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา
พัฒนาอุตสาหกรรมในคาซัคสถาน ส่วนเศรษฐกิจหลักของประชากร คือ การ
ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการเลีย้ งสัตว์
คีรก์ ีซสถาน คีร์กีซสถานเป็นประเทศท่ีมีขนาดเล็ก
ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของคาซัคสถาน หลังแยกตัว
เป็นรฐั เอกราชจากสหภาพโซเวียตแลว้ ยังขาดความมน่ั คง
ทางการเมอื งและไมม่ กี ารพฒั นาเศรษฐกจิ มากนัก
ครอบครัวของชาวครี ก์ ซี หรือชนพ้นื เมอื งของครี ก์ ีซสถาน
พฒั นาการทางประวตั ศิ าสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมอื งของครี ก์ ซี สถาน
ครี ์กซี สถานมีภูมปิ ระเทศแวดล้อมดว้ ยเทอื กเขาและทุ่งหญ้าท่ีงดงาม ชาว
ครี ก์ ีซ หรือชนพื้นเมืองของครี ์กซี สถานซง่ึ เป็นประชากรส่วนใหญ่ ประกอบดว้ ยชนเผา่
เรร่ อ่ นกลุ่มต่าง ๆ เชน่ ชนเผ่าเติรก์ และชนเผา่ สลาฟ ซ่ึงต้งั ถ่นิ ฐานอยใู่ นดนิ แดนนม้ี า
ก่อนทจ่ี ะถกู ผนวกเปน็ สว่ นหน่ึงของจักรวรรดริ สั เซีย ประชากรส่วนใหญข่ องประเทศน้ี
นับถือศาสนาอิสลาม และยงั คงดาเนินวถิ ีชวี ิตตามขนบธรรมเนียมเดมิ ที่สืบทอดกันมา
คีร์กซี สถานจดั เปน็ ประเทศที่ยากจน ประชาชนดารงชีพด้วยการเกษตรแบบ
ด้ังเดิม ไม่เน้นพ่ึงพาเทคโนโลยี บางส่วนประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์ รายได้ของรัฐขึ้นอยู่
กับสินค้าส่งออกที่สาคัญ คือ แร่ทองคา ใน พ.ศ. ๒๕๕๒ เศรษฐกิจโลกประสบ
ภาวะวิกฤตจึงส่งผลกระทบต่อราคาทองคาในตลาดโลกและรายได้ของคีร์กีซสถาน ทา
ใหร้ ฐั บาลประสบปัญหาทางการเมือง เนื่องจากไม่สามารถแก้ปัญหาการฉ้อราษฎร์บัง
หลวงที่แพร่หลายอยู่ท่ัวไป ประกอบกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น เป็นเหตุให้เกิด
วิกฤตการณ์ทางการเมืองใน พ.ศ. ๒๕๕๓ และเกิดการเปล่ียนแปลงทางการเมือง
เตริ ก์ เมนสิ ถาน เตริ ก์ เมนิสถาน ต้ังอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ
ภูมิภาคเอเชียกลาง พื้นท่ีส่วนใหญ่เป็นเขตทะเลทราย
ก า ร า กุ ม ( Karakum) ท่ี ร้ อ น แ ล ะ แ ห้ ง แ ล้ ง
เศรษฐกิจของประเทศขึ้นอยู่กับผลผลิตของฝ้ายและ
การส่งออกแกส๊ ธรรมชาติท่ีมเี ปน็ จานวนมาก
พัฒนาการทางประวัตศิ าสตร์ สงั คม เศรษฐกจิ และการเมืองของเติรก์ เมนิสถาน
ดินแดนที่เป็นประเทศเตริ ์กเมนสิ ถานปจั จบุ ันตงั้ อยูบ่ นเส้นทางสายไหมซ่ึงเป็น
ท่ีรู้จักกันในหมู่พ่อค้าและนักเดินทางในอดีต ดินแดนน้ีเคยอยู่ใต้การปกครองของ
จักรวรรดิเปอร์เซียของชาวกรีกในสมัยพระเจ้าอะเล็กซานเดอร์แห่งมาซิโดเนีย ชาว
อาหรับท่ีเป็นผู้นาศาสนาอิสลาม และชาวมองโกล ต่อมาดินแดนแห่งน้ีได้ถูกผนวกเข้า
เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซียที่ขยายอิทธิพลมาทางตะวันออกของประเทศ และ
กลายเปน็ รัฐในกลุ่มสหภาพโซเวยี ต
ชนพ้ืนเมืองผู้เปน็ ประชากรสว่ นใหญข่ องประเทศนค้ี อื ชนเผา่ เติรก์ เมนทีต่ งั้
ถิ่นฐานมาตัง้ แตส่ มัยแรกเรม่ิ อาชีพหลกั ของประชากร คือ การเลย้ี งสตั ว์ การ
เพาะปลูกทอ่ี าศยั น้าจากการชลประทานและการคา้ หลงั จากสหภาพโซเวยี ตล่มสลาย
เติรก์ เมนิสถานไดแ้ ยกตวั เปน็ รัฐเอกราช และพยายามพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศท่ี
ขนึ้ อยู่กับการปลกู ฝา้ ยและแกส๊ ธรรมชาติ ในชว่ งแรกเตริ ์กเมนิสถานซง่ึ ไม่มที างออกสู่
ทะเลประสบปญั หาการวางทอ่ แก๊ส ต่อมาสามารถวางท่อแก๊สผ่านจีนและ
อหิ รา่ นได้ ทาใหม้ กี ารคาดการณว์ ่าเศรษฐกิจของ
เติร์กเมนสิ ถานจะสามารถเตบิ โตกา้ วหนา้ ไดใ้ นอนาคต
เนือ่ งจากมที รัพยากรธรรมชาตอิ ยู่จานวนมาก
ชนพ้นื เมืองชนเผา่ เติร์กเมน
ใชอ้ ฐู เป็นพาหนะในการขนสง่ สนิ ค้า
ทาจิกสิ ถาน ทาจิกิสถานตั้งอ้ยูทางตะวันออกเฉียง้ใตสุดของภูมิภาค
เอเชียกลาง จัด้เปนประเทศท่ีขาดเสถียรภาพทางการเมือง
เนอ่ื งจากทาสงครามกลางเมืองหลังการสถาปนาเอกราชของ
ประเทศ
พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ สังคม เศรษฐกจิ และการเมืองของทาจิกิสถาน
ทาจิกิสถานต้ังอยู่บนเส้นทางติดต่อระหว่างตะวันออกและตะวันตก เป็น
ประเทศที่ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากกลุ่มต่าง ๆ ที่เคยเข้ามาปกครอง เช่น
เปอร์เซยี มุสลมิ มองโกล จากน้ันได้ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวรรดิรัสเซีย และถูก
รวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต หลังจากแยกตัวเป็นเอกราช ทาจิกิสถาน
ประสบปัญหาการเมืองภายในประเทศอย่างรุนแรง เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่ม
ต่าง ๆ ในประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า ๑๐๐,๐๐๐ คน และมีประชากร
ประมาณ ๑.๒ ลา้ นคน กลายเปน็ ผลู้ ี้ภัย สงครามได้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ
ของประเทศ เนื่องจากสิ่งก่อสร้างและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ถูกทาลาย ทาให้หนี้สิน
ของประเทศเพม่ิ สูงขน้ึ
หลังสงครามกลางเมือง ทาจิกิสถานได้ประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
และมอี ตั ราการว่างงานสูง รฐั บาลไมส่ ามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ดีขึ้น ชาวทาจิกจานวน
มากตอ้ งเดนิ ทางไปหางานทายงั ตา่ งประเทศโดยเฉพาะประเทศรัสเซีย นอกจากน้ี ทาจิ
กิสถานยังต้องขอรับความชว่ ยเหลอื จากประเทศตา่ ง ๆ เชน่ รัสเซีย จนี สหรัฐอเมรกิ า
อุซเบกสิ ถานต้งั อยูร่ ะหวา่ งคาซคั สถาน
อซุ เบกสิ ถาน (ทางตอนเหนอื และตะวนั ตกเฉยี งเหนอื ) และเตริ ์กเมนิ
สถาน (ทางตอนใต้) พน้ื ที่ที่ตง้ั แวดล้อมด้วยประเทศทีไ่ ม่มี
ทางออกสู่ทะเล แต่อซุ เบกสิ ถานสามารถพฒั นาเศรษฐกิจ
ของประเทศใหเ้ ตบิ โตได้
พฒั นาการทางประวตั ิศาสตร์ สงั คม เศรษฐกิจ และการเมืองของอุซเบกิสถาน
อซุ เบกิสถานมีภูมิหลังทางประวัติศาสตร์คล้ายคลึงกับประเทศเพื่อนบ้านใน
ภมู ิภาคเดยี วกัน กลา่ วคือ เคยอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิต่าง ๆ ท้ังเปอร์เซีย
มุสลิม มองโกล และในช่วงก่อนสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ รัสเซียได้ขยายอิทธิพลเข้าไปใน
เอเชยี กลาง ทาให้ดินแดนต่าง ๆ รวมทง้ั อุซเบกสิ ถาน
ไดต้ กอยู่ภายใตอ้ านาจของรสั เซีย และกลายเปน็
รฐั หน่ึงในสหภาพโซเวียตดว้ ย หลงั จาก
สหภาพโซเวยี ตล่มสลาย อุซเบกิสถาน
ซึ่งเคยพ่งึ พาเศรษฐกิจของสหภาพโซเวียต
จึงพยายามพัฒนาเศรษฐกิจของตนเอง
ฝ้าย เป็นสินค้าหลักท่สี าคัญของอซุ เบกสิ ถาน
ภมู ปิ ระเทศของอุซเบกิสถานประกอบดว้ ยเทือกเขาและทะเลทราย มภี มู อิ ากาศ
รอ้ นและแหง้ แล้งในฤดรู ้อน แต่หนาวเยน็ ในฤดูหนาว แม้สภาพภูมศิ าสตรด์ งั กล่าวไม่
เอื้ออานวยต่อการเพาะปลูก แต่ชาวอุซเบกิสถานสามารถนาน้าที่ไหลมาจากเทือกเขาสูง
มาพฒั นาเป็นอา่ งเก็บนา้ ขนาดใหญจ่ านวนมาก นอกจากน้ียังสามารถผันน้าใหไ้ หลไป
ตามช่องเขาจนกลายเปน็ แมน่ า้ และลาธารได้ อซุ เบกสิ ถานจงึ มนี า้ เพียงพอต่อการปลูก
ฝา้ ยซึ่งเปน็ สนิ ค้าหลกั ของประเทศ และสามารถส่งออกฝ้าย เปน็ อันดบั ต้น ๆ ของโลก
อย่างไรก็ตาม อซุ เบกิสถานต้องการพัฒนาเศรษฐกิจอน่ื นอกเหนอื จากการส่งฝ้าย
เปน็ สนิ คา้ ออก ดงั นน้ั จงึ มกี ารพฒั นาแหล่งทรัพยากรตา่ ง ๆ ของประเทศ เชน่
แก๊สธรรมชาติ น้ามัน ถา่ นหิน ยเู รเนยี ม ทองแดง และเงนิ
๕. แหลง่ อารยธรรมโบราณในภมู ิภาคเอเชยี
ภูมิภาคเอเชยี เปน็ แหล่งกาเนดิ อารยธรรมโบราณท่ไี ดร้ บั การยกยอ่ งให้เปน็ อารย
ธรรมโลก ๓ อารยธรรม ไดแ้ ก่ อารยธรรมจนี อารยธรรมอนิ เดยี และอารยธรรมเมโสโปเต
เมยี ปจั จยั ที่สง่ เสรมิ ใหเ้ กิดอารยธรรมดังกลา่ วมีหลายประการ ทั้งดา้ นภมู ศิ าสตร์ ด้านการ
ปกครอง ด้านสงั คมและวฒั นธรรม กล่าวคือ สภาพภูมศิ าสตร์ท่ีแตกตา่ งกัน ทาใหก้ าร
สร้างสรรค์อารยธรรมแตล่ ะพ้นื ทม่ี ีความแตกตา่ งกนั จนเป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะ
ปจั จัยดา้ นการปกครอง ท่ผี ปู้ กครองกาหนดสถานะของผปู้ กครองและรูปแบบการ
ปกครองให้สอดคล้องกับสภาพสังคมนั้น ๆ ทาใหเ้ กดิ การสร้างสรรค์อารยธรรมทส่ี ง่ เสรมิ
สถานะของผปู้ กครองใหส้ งู สง่ ดงั เทพเจา้ เชน่ การสรา้ งพระราชวังทีใ่ หญโ่ ตและงดงาม
ประเพณีในราชสานักกฎหมาย
ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม โดยเฉพาะความเช่อื และศาสนา ศาสนาที่สาคญั ของโลก
เช่น ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พระพุทธศาสนา ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม ล้วน
กาเนิดอยใู่ นภมู ภิ าคเอเชยี ท้งั สนิ้ ความศรัทธาในศาสนาก่อให้เกดิ
อารยธรรม เชน่ การสร้างศาสนสถานทใี่ หญ่โต
ประตมิ ากรรม หรอื สัญลกั ษณท์ ่ตี นนบั ถอื
แผนที่สงั เขปแสดงแหล่งกาเนิดอารยธรรมในภูมภิ าคเอเชยี
สาหรับภูมิภาคเอเชียซ่ึงมีการต้ังถ่ินฐานมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แต่ละ
ดินแดนมกี ารกอ่ ตั้งอาณาจกั รและพัฒนาเป็นจกั รวรรดิทีย่ ่งิ ใหญ่ ชนชาติในดินแดนเหล่านั้น
ได้สร้างสรรคอ์ ารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองทั้งด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ และสังคม
ซึ่งกลายเป็นรากฐานความเจริญของโลกตะวันออกและตะวันตกในเวลาต่อมา ดังน้ันจึงมี
แหล่งอารยธรรมในภมู ภิ าคเอเชียจานวนมาก แหลง่ อารยธรรมทเี่ จริญรงุ่ เรืองเหล่าน้ีมีทั้งท่ีอยู่
ในกลมุ่ อารยธรรมจีน พบมากในภูมภิ าคเอเชยี ตะวันออกบริเวณลมุ่ แม่น้าหวางเหอ ท่ีเรียกว่า
แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าหวางเหอ กลุ่มอารยธรรมอินเดียพบมากในภูมิภาคเอเชียใต้
เรียกว่า แหล่งอารยธรรมลุ่มแม่น้าสินธุ และกลุ่มอารยธรรมเมโสโปเตเมีย ซ่ึงพบมากใน
ภมู ิภาคเอเชีย ตะวันตกเฉียงใตแ้ ละบางสว่ นในภูมิภาคเอเชยี กลาง ทเ่ี รยี กว่า แหลง่ อารยธรรม
เมโสโปเตเมีย