The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๑

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2022-05-19 02:10:01

นาวิกศาสตร์ เดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๑

นาวิกศาสตร์ ฉบับเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๑

บรรณาธิการ แถลง



สวัสดีครับท่านสมาชิกฯ และผู้อ่านทุกท่าน เดือนพฤศจิกายน

เป็นห้วงเวลาของวันสาคัญในรอบปีของกองทัพเรือไทย คือ “วันกองทัพเรือ”








ในวนท ๒๐ พฤศจกายน และยงมกจกรรมทสาคญในงาน “๒๕๐ ปี



ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จาก

จันทบุรีสู่อยุธยา” อีกด้วย โดยได้มีเน้อหากล่าวถึงประวัติและความเป็น



มาของวันและกิจกรรมสาคัญน้อย่างสังเขปไว้ในฉบับน้ด้วยแล้วครับ



สาหรับในฉบับน้นอกเหนือจากคอลัมน์ประจาท่น่าติดตามแล้ว

ยังมีบทความที่น่าสนใจด้วยเนื้อหาที่หลากหลาย อาทิ เช่น “แต่งงาน




บนเรอหลวงแม่กลอง ปืนเสอหมอบยิงปืนเทยง” ท่กล่าวถึงประวัติและขีดสมรรถนะของเรือหลวงแม่กลอง

ตั้งแต่การต่อเรือจนขึ้นเป็นพิพิธภัณฑ์รวมไปถึงปืนเสือหมอบที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้กันในปัจจุบัน ณ อุทยานป้อม

พระจุลจอมเกล้า ซ่ง พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว ได้ให้แนวคิดในการหาแฟนคลับทหารเรือไว้อย่างน่าสนใจ ต่อจากน้น






ท่านผ้อ่านยงจะได้ร้จกรู้ลึกเกยวกบหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดบผ้บริหารกองทัพเรือ ของกรมกจการพลเรือน







ทหารเรือ ในมุมมองของ คุณจิรชาต บุญสุข ท่เป็นบุคคลพลเรือนและผ่านการอบรมในหลักสูตรน้มาแล้ว กับบทความ




ท่แทรกข้อเสนอแนะต่อกองทัพเรือไว้ด้วย ในเร่อง “พฒนาสมพนธ์ระดบผ้บรหารกองทพเรอ (พสบ.ทร.)

















ู่




เพอพฒนาสความมนคงมงคงและยงยืน...ความประทบใจของขาพเจา” ตามด้วย “มหาอานาจทางทะเลในศตวรรษท ๒๑”







ด้วยเน้อหาท่กล่าวถึงประวัติการก้าวข้นเป็นมหาอานาจทางทะเลของประเทศต่างๆ ในอดีตและเช่อมโยงถึงการแข่งขัน





ของจีนและสหรัฐอเมริกาในศตวรรษท ๒๑ โดย นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ อีกท้งยังมีบทความท่เขียนถึงผ้าลายพราง


ท่ใช้กับเคร่องแบบลายพรางในปัจจุบันท่มีการพัฒนารูปแบบรวมไปถึงคุณภาพท่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ


ที่แตกต่างกันไปอันเกี่ยวเนื่องกับทหารเรือไทย ในเรื่อง “ผ้าลายพราง Digital Camouflage” โดย นาวาโท
พิฑูรย์ ทองประหยัด และ ท่านผู้อ่านยังจะได้ย้อนร�าลึกถึงวีรกรรมของนักบินผู้หาญกล้า ซึ่ง “พันทิวา” ได้แสดง


ความเห็นไว้ว่า ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีของเคร่องบินรบในปัจจุบันและอนาคตน้นอาจจะไม่ต้องอาศัย
นักบินเหมือนท่ผ่านมา ดังน้นวีรกรรมการรบในอดีตด้วยวินัยและความกล้าหาญของนักรบ จึงเป็นส่งท่น่าจดจา







ด้วยบทความ “จารึกในสงคราม เหรียญกล้าหาญในสงครามโลกคร้งท่สอง” นอกจากน้นแล้ว

“เขตทหารน่าเที่ยว Happy Work Place” ในฉบับนี้พาท่านผู้อ่านพักสายตาไปชมทะเลสดใสสีคราม ทิวตาล
ริมทะเลและกิจกรรมทางน�้า ณ อ่าวดงตาล พื้นที่ในกองเรือยุทธการ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
ท้ายสุดน้กับฤดูหนาวฤดูกาลท่องเท่ยวท่มาถึง หากท่านผู้อ่านวางแผนเดินทางออกไปท่องเท่ยวยังสถานท่ต่าง ๆ





นอกเหนือจากเตรียมพร้อมในด้านสุขภาพ ส่งสาคัญท่จะขาดไม่ได้คือ ข้อมูลการเดินทาง และหากเดินทาง



โดยยานพาหนะส่วนตัวแล้วควรต้องตรวจสอบและเตรียมความพร้อมของยานพาหนะให้ดีที่สุดก่อนการเดินทาง

ผมขออวยพรให้ทุกท่านเดินทางโดยปลอดภัยและมีความสุขกับการท่องเท่ยวตลอดฤดูกาลน้ด้วยครับ

ปล.อย่าลืมพกนิตยสารนาวิกศาสตร์เป็นเพื่อนเดินทางไว้อ่านยามว่างด้วยนะครับ

น.อ.
(สมนึก กรอบค�า)
บรรณาธิการนิตยสารนาวิกศาสตร์

“…ความมีจิตใจหนักแน่นกว้างขวาง ไม่ยึดมั่นความคิดเห็นของตนแต่ฝ่ายเดียว หากแต่ยอมรับฟัง


ความคิดเห็นของผู้อ่น และพร้อมท่จะประสานความคิดเห็นท่แตกต่างเข้าด้วยกัน โดยถือเอาประโยชน์






ของส่วนรวมเป็นท่ต้ง เป็นปัจจัยท่สาคัญประการหน่งท่ประกอบส่งเสริมให้บุคคลอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่าง


ปรกติสุข ท้งสามารถร่วมกันสรรสร้างความเจริญม่นคงให้แก่สังคมและชาติบ้านเมืองได้แท้จริง. ...”

พระราโชวาท
ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้ส�าเร็จการศึกษาจากสถาบันราชภัฏ
ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร
วันอาทิตย์ ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๙ (ภาคเช้า)

สารบัญ



นายกกรรมการราชนาวิกสภา
พลเรือโท บัณฑิตย์ จันทโรจวงศ์
รองนายกกรรมการราชนาวิกสภา
พลเรือตรี โสภณ จงเรืองศรี
กรรมการราชนาวิกสภา
พลเรือตรี ไชยวุฒิ นาวิกาญจนะ
พลเรือตรี วิพันธุ์ ชมะโชติ ๘
พลเรือตรี วิชัย มนัสศิริวิทยา
พลเรือตรี วรพล ทองปรีชา
พลเรือตรี เบญญา นาวานุเคราะห์
พลเรือตรี สุทธินันท์ สมานรักษ์
พลเรือตรี กิตติคุณ นาคสุก
พลเรือตรี ปนต สุขนิจรัญ
พลเรือตรี สมชาติ สะตะ
พลเรือตรี สิทธิชัย ต่างใจ
พลเรือตรี กำาจร เจริญเกียรติ
พลเรือตรี สมเจตน์ คงรอด
กรรมการและเลขานุการราชนาวิกสภา
นาวาเอก สมนึก กรอบคำา
เหรัญญิกราชนาวิกสภา บทความ
เรือเอก สุพจน์ บัวดิศ
ที่ปรึกษาราชนาวิกสภา
พลเรือโท สุพจน์ ภู่ระหงษ์ ๘ แต่งงานบนเรือหลวงแม่กลอง ปืนเสือหมอบยิงปืนเที่ยง
พลเรือโท กาญจน์ ดีอุบล
พลเรอโท พงษ์ศักดิ์ิ จุลกาญจน์ พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว



พลเรอตร บัญชา บัวรอด
พลเรอตรี อำานวย ทองรอด ๑๖ พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ (พสบ.ทร.)

บรรณาธิการ เพื่อพัฒนาสู่ความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน ... ความประทับใจ
นาวาเอก สมนึก กรอบคำา ของข้าพเจ้า
ผู้ช่วยบรรณาธิการ จิรชาติ บุญสุข
นาวาเอกหญิง ชไมพร วันเพ็ญ
ประจำากองบรรณาธิการ ๒๒ มหาอำานาจทางทะเลในศตวรรษที่ ๒๑
นาวาเอก วชิรพร วงศ์นครสว่าง

นาวาเอกหญง สีวิลา พิพัฒนนันท์ นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ
นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ
นาวาเอก สมริทธ์ งามสวย ๔๕ ผ้าลายพราง Digital Camouflage
นาวาเอก ธรรมนูญ วิเศษสิงห์ นาวาโท พิฑูรย์ ทองประหยัด
นาวาเอก ธาตรี ฟักศรีเมือง
นาวาโทหญิง อรพรรณ นาคครุฑ
นาวาโทหญิง ศรุดา พันธุ์ศรี ๕๖ จารึกในสงคราม
เรือโท เกื้อกูล หาดแก้ว “เหรียญกล้าหาญในสงครามโลกครั้งที่สอง (ตอนที่ ๑)”
เรือโท อัศฐวรรศ ปั่นจั่น
เรือตรีหญิง อภิธันย์ แก่นเสน พันทิวา
เรือตรีหญิง กฤตนัท เบญจฆรณีกุล
สำานักงานราชนาวิกสภา
ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย
กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร. ๐ ๒๔๗๕ ๓๐๗๒
๐ ๒๔๗๕ ๔๙๙๘
s ส่งข้อมูล/ต้นฉบับได้ที่ [email protected]
s อ่านบทความเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ได้ที่ WWW.RTNI.ORG

คลังความรู้
คู่ราชนาวี





ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำาเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๑
คอลัมน์ประจำา

๒๒
๑ บรรณาธิการแถลง
๔ คุยกับกองบรรณาธิการ

๗ ภาพในอดีต
๖๕ ข่าวนาวีรอบโลก
๖๘ นานาสาระ
๗๐ A Mixed Bag of English
๗๒ พจนานุกรมศัพท์ชาวเรือ
๗๔ สุขภาพนาวี
๗๖ เกร็ดความรู้ด้านศาสนพิธี

๕๖ ๗๗ กฎหมายใกล้ตัว
๗๙ ภาพกิจกรรมกองทัพเรือ

๘๗ เขตทหารน่าเที่ยว Happy Work Place
๘๘ ประทีปธรรม
๘๙ การฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี
๙๑ มาตราน้ำา เดือนธันวาคม ๒๕๖๑
เวลาดวงอาทิตย์ - ดวงจันทร์ ขึ้น - ตก
เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑ - ธันวาคม ๒๕๖๑









ปกหน้า ประตูโรงเรียนนายเรือพระราชวังเดิม และ
พระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ ๕
ปกหลัง ทางเข้ากองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน
ในปกหน้า พระราโชวาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในปกหลัง เรื่องเล่าชาวเรือ
พิมพ์ที่ กองโรงพิมพ์ กรมสารบรรณทหารเรือ
เจ้าของ ราชนาวิกสภา
ผู้โฆษณา นาวาเอก สมนึก กรอบคำา
ผู้พิมพ์ นาวาเอก สมริทธ์ งามสวย






ข้อคิดเห็นในบทความที่นำาลงนิตยสารนาวิกศาสตร์เป็นของผู้เขียน มิใช่ข้อคิดเห็นหรือนโยบายของหน่วยงานใดของรัฐและมิได้ผูกพันต่อทางราชการแต่อย่างใด
ได้นำาเสนอไปตามที่ผู้เขียนให้ความคิดเห็นเท่านั้น การกล่าวถึงคำาสั่ง กฎ ระเบียบ เป็นเพียงข่าวสารเบื้องต้น เพื่อประโยชน์แก่การค้นคว้า

คุยกับกองบรรณาธิการฯ





































สวัสดีค่ะท่านสมาชิกและผู้อ่านที่เคารพทุกท่าน ในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ กองทัพเรือมีกิจกรรมสำคัญที่น่าสนใจ
นอกจากมีการจัดงานวันกองทัพเรือเป็นประจำทุกปีแล้ว ในปีนี้ได้จัดกิจกรรม “๒๕๐ ปี ตามรอยกองเรือยกพลขึ้นบก
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากจันทบุรีสู่อยุธยา” เพื่อน้อมระลึกถึงในการที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ทรงใช้ยุทธวิธีในการยกทัพที่อาศัยเส้นทางทางทะเลและแม่น้ำ ทรงนำทัพเรือมากู้ชาติได้สำเร็จ และเป็นกิจกรรม
ที่ปลุกจิตสำนึกให้คนไทยเกิดความรักชาติ โดยกองทัพเรือได้ร่วมกับ มูลนิธิสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ ๑๐ จังหวัด
ที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางที่ทรงยกทัพเรือมากู้ชาติในครั้งนั้น ร่วมกันจัดกิจกรรมทั้งทางบกและทางน้ำ ระหว่างวันที่ ๒๔

ตุลาคม ถึง ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยมีการอัญเชิญพระบรมรูป สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่ประดิษฐาน
ณ พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เดินทางโดยรถยนต์ ไปยังอู่ต่อเรือ บ้านเสม็ดงาม จังหวัดจันทบุรี
ที่เป็นจุดเริ่มต้นในยาตราทัพในครั้งนี้ และอัญเชิญ พระบรมรูป ลงเรือหลวงอ่างทอง เรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่
ของกองทัพเรือ ร่วมกับ เรือระบายพล และเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง นำยาตราทัพ ทางทะเล ในเส้นทางจันทบุรี
ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา
จากนั้นอัญเชิญพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาประกอบพิธี ณ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี เพื่อรำลึก
ถึงเหตุการณ์ภายหลังที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกทัพเข้าตีอยุธยาในการกู้เอกราช ก่อนจะกลับมาสถาปนา
กรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร เป็นราชธานี ที่พระราชวังเดิมกรุงธนบุรี โดยขบวนเรืออัญเชิญพระรูปฯ ถึงพระราชวังเดิม
กรุงธนบุรี ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ และวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ กองทัพเรือจัดกิจกรรม

แสง สี เสียง และสื่อผสมอย่างยิ่งใหญ่ ที่ พระราชวังเดิม และป้อมวิไชยประสิทธิ์ ภายในงานได้มีการถ่ายทอด
ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทยในครั้งนี้ด้วย
ประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึก ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
ทรงกอบกู้เอกราชและเกื้อหนุน ช่วยค้ำจุนพระศาสนาสถาวร
พบกันใหม่ฉบับหน้าค่ะ


กองบรรณาธิการฯ

สาร
จาก
พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์
ผู้บัญชาการทหารเรือ
เนื่องในวันกองทัพเรือ
วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
*******************************

เพื่อนข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และพนักงานราชการของกองทัพเรือ ที่รักทุกท่าน
















เมอวนท ๒๐ พฤศจกายน พทธศกราช ๒๔๔๙ พระบาทสมเดจพระจลจอมเกลาเจาอยหวทรงมพระมหากรณาธคณ



เสด็จพระราชดาเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ พระราชวังเดิม ธนบุรี นับเป็นจุดเร่มต้นของการทหารเรือไทย


ตามแบบตะวันตก ก่อกำาเนิดเป็นกองทัพเรือที่ทันสมัย เข้มแข็ง และมีวิวัฒนาการเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากองทัพเรือ ได้ทำาหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ การรักษาผลประโยชน์ของชาติ
ทางทะเล ตลอดจนความม่นคงของประเทศ และเหนือส่งอ่นใด คือการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์





อันเป็นท่เคารพสักการะสูงสุดของปวงชนชาวไทย และดาเนินงานตามโครงการพระราชดาริ รวมท้งการช่วยเหลือ






ผ้ประสบภัยธรรมชาติ ซ่งกองทัพเรือได้ดาเนินการมาอย่างต่อเน่อง นอกจากน้ความสาเร็จและผลงานท่ผ่านมาสามารถ



กล่าวได้ว่า กำาลังพลของกองทัพเรือทุกคน ล้วนมุ่งมั่นตั้งใจ และทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ส่งผลให้
กองทัพเรือได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล และหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะประชาชนว่าเป็นกองทัพเรือของประชาชน

สาหรับการดาเนินงานในปีน้ ผมจะพยายามทุกวิถีทางในการพัฒนากองทัพเรือให้ทันสมัย และเข้มแข็ง อันจะนาไป




ส่การเป็นหน่วยงานท่มีบทบาทนาในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการตามวิสัยทัศน์ของกองทัพเรือ โดยเฉพาะ


ด้านกำาลังพล ซึ่งเป็นปัจจัยสำาคัญสูงสุดในการขับเคลื่อน และพัฒนากองทัพเรือ จึงจะดำาเนินการทั้งด้านสวัสดิการและ


พัฒนาคุณภาพชีวิตของกาลังพล รวมถึงครอบครัวให้มีความเป็นอย่ท่ดี ได้รับสิทธิท่พึงมีพึงได้ ให้หัวหน้าหน่วยทุกท่าน

























ไดเอาใจใสดแลทกขสขของผใตบงคบบญชาอยางใกลชด ตลอดจนฝกฝนใหกาลงพลมขดความสามารถสงขนพรอม ๆ กบ




มีกาลังใจท่เข้มแข็ง และมีจริยธรรมคุณธรรมท่สูงส่ง ท้งน้ ผมหวังเป็นอย่างย่งว่า ทุกคนจะต้งใจปฏิบัติหน้าท ่ ี












อย่างเตมความสามารถด้วยความซ่อสตย์สุจริต มีความวิรยะอุตสาหะ ยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสาคญ

โอกาสน้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและส่งศักด์สิทธ์ท้งหลายท่ท่านเคารพนับถือ ดวงพระวิญญาณ






อันศักด์สิทธ์ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัว และพลเรือเอก


พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ อีกท้ง เดชะพระบารมีแห่งองค ์


สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ได้โปรดดลบันดาลพระราชทานพร
ให้เพ่อนข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง และพนักงานราชการ ตลอดจนครอบครัวของกองทัพเรือทุกท่าน ประสบแต่ความสุข






เจริญด้วยจตุรพิธพรชัย มีกาลังกาย กาลังใจ และกาลังสติปัญญาอันเข้มแข็ง เพ่อร่วมกันปฏิบัติหน้าท่อันสาคัญ

ของประเทศชาติและกองทัพเรือสืบไป

พลเรือเอก
(ลือชัย รุดดิษฐ์)
ผู้บัญชาการทหารเรือ

๒๐ พฤศจิกายน วันกองทัพเรือ



กองบรรณาธิการ

เรียบเรียงโดย อักษรา

ในสมัยโบราณยังมิได้มีการแบ่งแยกกาลังรบ ภายหลังจากท่ทรงสาเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือ



ทางเรือออกจากทางบก จวบจนรัชสมัยพระบาทสมเด็จ และกลับมารับราชการในกรมทหารเรือ พระบาทสมเด็จ

พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัว จึงเร่มมีการแบ่งแยกกาลังรบ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ




ทางเรือออกจากทางบก เมื่อครั้งเริ่มแรกตั้งกรมทหารเรือนั้น ให้กรมทหารเรือ จัดการฝึกสอนวิชาการทหารเรือข้น







กจการทหารเรอบางประเภทยงขาดบคคลทมความร ู ้ โดยเรมตงโรงเรียนขนคร้งแรกทบรเวณอ่หลวงใตวัดระฆง













ความชานาญ จาเป็นต้องจ้างชาวต่างประเทศเข้ามารับ ตรงข้ามท่าราชวรดิฐ สาหรับอบรมนายทหารช้นประทวน




ราชการตามตำาแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ อาทิ ผู้บังคับการเรือ หรือฝ่ายช่างกลและเดินเรือ



และผู้บัญชาการป้อมต่าง ๆ ต่อมาในป พ.ศ. ๒๔๓๔ ได้ตงโรงเรียนนายสิบข้น

ต่อมาภายหลังวิกฤตการณ ร.ศ. ๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖) และในป พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้จัดต้งโรงเรียนนายร้อยทหารเรือ









พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หัว มีพระราชดาร ิ ข้นอีกโรงเรียนหน่ง จนถึงป พ.ศ. ๒๔๔๒ ได้จัดต้ง
วา กจการของทหารเรอเทาทอาศยชาวตางประเทศ โรงเรียนนายเรือข้น สถานท่ต้งโรงเรียนนายเรือคร้งแรก














เข้ามาประจำาตำาแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ นั้น ไม่อาจที่จะหวัง อย่ท่วังนันทอุทยาน (สวนอนันต์) มีนาวาโทไซเดอลิน

ในด้านการรักษาอธิปไตยของชาติได้ดีเท่ากับคนไทยเอง (Seidelin) เป็นผ้บังคับการโรงเรียนนายเรือคนแรก
พระองค์มีพระราชประสงค์ให้จัดการศึกษาแก ต่อมาในป พ.ศ. ๒๔๔๓ (ร.ศ.๑๑๙) เม่อสมเด็จ



ทหารเรือไทย ให้มีความร้ความสามารถเพียงพอท่จะ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมจักรพรรดิพงศ



รับตำาแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ในเรือแทนชาวต่างชาติที่จ้างไว้ สิ้นพระชนม์ พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี ซึ่งเป็นที่ประทับ




ต่อไป จึงทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอก ได้ว่างลง พระบาทสมเด็จพระจลจอมเกล้าเจาอย่หว
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ ์ ทรงพระกรุณาพระราชทาน พระราชวังเดิม กรุงธนบุร ี



กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด พระราชโอรส ให้เป็นท่ต้งของโรงเรียนนายเรือ และได้พระราชทาน







เสดจไปทรงศกษาวชาการทหารเรอยงประเทศองกฤษ พระราชหัตถเลขาในสมุดเย่ยมของโรงเรียน ความว่า

สมุดลงพระราชหัตถเลขา ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ณ หอเกียรติยศ โรงเรียนนายเรือ
ดังนั้น จึงกำาหนดให้วันที่ ๒๐ พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือ และในปีนี้ พ.ศ.๒๕๖๑ กองทัพเรือ
จะก้าวเข้าสู่ปีที่ ๑๑๑
อ้างอิง : https://th.wikipedia.org
6 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑

เรือตรีหญิง เบญจรัตน์ ดีกระจ่าง












































ประภาคาร รีเย้นจ์ไลท์เฮ้าส์ หรือประภาคารสันดอน



เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๑๗ เป็นวันเปิดประภาคาร รีเย้นจ์ไลท์เฮ้าส์ หรือประภาคารสันดอน เพื่อใช้ประโยชน์ใน
การเดินเรือ ประภาคารนี้ เป็นประภาคารสมัยใหม่ หลังแรก ตั้งอยู่ที่สันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยา และมีชื่อว่า รีเย้นจ์ไลท์เฮ้าส์

เพื่อเป็นเกียรติแก่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดินในสมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งเป็นผู้คิดสร้างขึ้น
ดังปรากฏเรื่องราวในประกาศการเปิดใช้ประภาคารในราชกิจจานุเบกษาตอนหนึ่งว่า “และเรือนตะเกียงหลังนั้น
สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ท่านได้เป็นผู้คิดสร้างขึ้น สำหรับจะได้เป็นที่สังเกตกับเรือราชการ และเรือลูกค้า
ไปมาทั้งปวง ท่านได้นำความประสงค์ของท่านขึ้นกราบบังคมทูลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทราบใต้ฝ่าละออง
ธุลีพระบาทแล้วทรงพระบรมราชานุญาตให้ท่านสร้างเรือนตะเกียงตามความประสงค์ของท่าน สมเด็จเจ้าพระยาบรม
มหาศรีสุริยวงศ์ ท่านได้มีคำสั่งพระสยามธุรพาห์ ซึ่งเป็นกงสุลสยาม ณ กรุงลอนดอน ให้จัดซื้อเรือนตะเกียง
ทำด้วยเครื่องเหล็กสำรับหนึ่ง ส่งเข้ามา ณ กรุงเทพฯ ที่ได้ตั้งขึ้นไว้ที่ปากน้ำเจ้าพระยา” ต่อมาประภาคารนี้
ก็หมดความสำคัญลง เพราะร่องน้ำที่สันดอนเกิดการเปลี่ยนแปลงในที่สุดก็ได้เลิกจุดตะเกียงที่ประภาคารนี้
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นต้นมา ปัจจุบันประภาคาร รีเย้นจ์ไลท์เฮ้าส์ ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ




นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำเดือน พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๗

แต่งงานบนเรือหลวงแม่กลอง ปืนเสือหมอบยิงปืนเที่ยง




พลเรือโท พัน รักษ์แก้ว



วันหน่งเม่อไม่นานมาน้ ผู้เขียนได้มีโอกาสผ่านไปแถว เรือแล้วพอเห็นว่าเป็นเรืออะไร ใหญ่โตเพียงใด มีอาวุธ


ป้อมพระจุลจอมเกล้า และได้พบกับวัตถุ ๒ ประการ ซึ่ง ยุทธภัณฑ์อะไรบ้างโดยไม่ต้องขึ้นไปบนเรือ ผู้คนที่ขึ้นไป
มีบทบาทท่สาคัญในประวัติศาสตร์ของชาติเรา ได้แก่ บนเรือจึงเป็นกลุ่มคนท่อยากรู้เร่องราวของเรือย่งกว่าเดิน






เรือหลวงแม่กลอง และปืนเสือหมอบ ท่กองทัพเรือได้ ดูรอบ ๆ ท่มีจานวนไม่มาก หรือไม่ก็เป็นกลุ่มคนที่มา





พยายามรักษาไว้ ณ ท่น้ สังเกตเห็นว่าแม้จะมีผู้คนมา กับเด็กท่อยากปีนป่ายบันไดเรือ ทหารบนเรือดูเหมือน






ชมวัตถุท้งสองจานวนหน่ง แต่ผู้เขียนเช่อว่ายังไม่เต็ม ว่ามีหน้าท่เฝ้าเรืออย่างเดียว ไม่ได้เป็นผู้นาชมเรือหรือ

ศักยภาพนัก จึงเกิดแนวคิดว่าน่าจะหาวิธีการใช้ประโยชน์ ไกด์แต่อย่างใด น่งดูเรือแล้วก็คิดไปว่า นอกจากเป็น




จากส่งท่เรามีอยู่ เพ่อให้บุคคลท่วไปได้ทราบถึงความ พิพิธภัณฑ์ที่คนมักเดินดูรอบ ๆ แล้ว เรือหลวงแม่กลอง


สาคัญของวัตถุท้งสองและมาทาความรู้จักคุ้นเคยให้มาก จะเป็นเรือท่มีคนอยากไป อยากดู อยากรู้ อยากเห็น




ยงขน อนจะเป็นการขยายเครอข่ายเพอนทหารเรอให้ และอยากไปสัมผัส เป็นการสร้าง “เพ่อนทหารเรือ” และ








กว้างขวางยิ่งขึ้นได้ ประชาสัมพันธ์กองทัพเรือ ได้อย่างที่ หน่วยอื่น คนอื่น

จากร้านอาหารริมปากนาเจ้าพระยา ผู้เขียนน่ง ั และใครก็ตามท�าได้ ไม่เหมือน

มองเรือหลวงแม่กลองเวลาเท่ยง ๆ อยู่นานนับช่วโมง เรือหลวงแม่กลองเป็นเรือท่มีความสาคัญย่ง









ระหว่างม้อกลางวัน เรือหลวงแม่กลองน่งแท่นอยู่ในอู่เป็น ในประวัติศาสตร์ทหารเรือ เน่องจากเป็นเรือฝึกลาแรก

“พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง” สังเกตเห็นว่า มีคนมา ท่เราได้ต่อ จึงถือเป็น “เรือครู” ของทหารเรือไทย

เดินรอบ ๆ เรือมากกว่าคนข้นไปบนเรือ ผิดกับพิพิธภัณฑ์ การสร้างเรือหลวงแม่กลองเป็นไปตามพระราชบัญญัต ิ


ท่ว ๆ ไปท่เป็นตึก หากเดินรอบตึกก็ไม่เห็นอะไรต้องเข้าไป บารุงกาลงทางเรือ พ.ศ. ๒๔๗๘ ทมีการสร้างเรือ











ดูข้างใน ส่วนพิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลองเมื่อเดินรอบ หลายประเภทหลายลา ประเภทหนงในจานวนนนคอ

8 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑


เรือฝึกหัดนักเรียน ๒ ลา เรียกว่า เรือสลุป (Sloop) ปืนกล ตอร์ปิโด ทุ่นระเบิดพร้อมรางและแท่นยิง พาราเวน
โดยตามพจนานุกรมของ Oxford ว่า เรือสลุป เป็นเรือใบ กวาดทุ่นระเบิด อุปกรณ์การปืน การเดินเรือ และ

เสาเด่ยว อาจมีใบใหญ่ใบเดียวหรือมีใบเล็ก (Jib) การกล เรือยนต์และเรือกรรเชียง ฯลฯ ทุกส่งทุกอย่าง





อีกใบ เป็นเรือรบขนาดเล็กสาหรับใช้งานท่วไป ทหารเรือ หลากหลายเหล่าน้นถูกวางติดต้งไว้ตามดาดฟ้าต่าง ๆ
ไทยว่า “เรือฝึกหัดนักเรียน” เป็นเรือประเภทเรือสลุป อย่างลงตัวน่าพิศวง และพิศวงไปถึงความเก่งกาจของ
ก็เป็นไปตามสามัญสานึกซ่งเรือสองลา ได้ช่อเรือว่า ท่าจีน อู่สร้างเรือท่เอาความต้องการต่าง ๆ หลากหลายลงไป







และ แม่กลอง และเป็นท่ประจักษ์จนบัดน้ว่า ต้งแต่ ในเรือที่ระดับสากลถือว่าเป็นเรือเล็กอย่างเรือสลุป


มีกองทัพเรือมามากกว่าร้อยปี มีคร้งเดียวใน พ.ศ. ๒๔๗๘ หลังจากเรือเข้าประจาการแล้ว ในฤดูร้อน


ที่มีความคิดและกระท�าการสร้าง “เรือฝึก” หลังจากนั้น พ.ศ. ๒๔๘๑ เรือหลวงแม่กลองได้เป็นเรือฝึกนักเรยน


ไม่มีอีกเลย นายเรือยังน่านนาต่างประเทศเป็นคร้งแรก ระหว่าง












เรอหลวงแม่กลองนต่อจากอู่เรอในญป่นซงก ็ สงครามโลกคร้งท่สอง ท้งเรือหลวงท่าจีนและ


ต้องต่อตาม “ความต้องการของฝ่ายเสนาธิการ” เรือหลวงแม่กลองเป็นท้งเรือรบและเรือฝึก เรือหลวง





(Staff Requirements) ว่าจะเป็นเรือใช้งานอะไร ท่าจนโชคไม่ดทถกโจมตทางอากาศได้รบความเสยหาย



อาวุธยุทโธปกรณ์อะไรบ้าง โดยต้องระบุความเร็วเรือ หมดสภาพ ภายหลังสงคราม เรือหลวงท่าจีน จอดเทียบท่า
สูงสุดและความเร็วประหยัด รัศมีท�าการของเรือ เกราะ บริเวณแหลมธูป อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นท้ง ั

และการป้องกนตัวเรือ ห้องอาหาร ห้องพักห้องทางานของ ท่ทาการ และท่พักของหน่วยทาลายใต้นาท่ได้รับการ










นายทหาร นักเรียน และลูกเรือ จนกระท่งปัจจัยราคาเรือ จัดตั้งหน่วยใหม่ ใน พ.ศ. ๒๔๙๘ ซึ่งเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๒
โดยท่เป็น “เรือฝึกหัดนักเรียน “จึงมีห้องเรียนขนาดบรรจ ุ หน่วยท�าลายใต้น�้าได้ย้ายไปยังเกาะพระ เรือหลวงท่าจีน

ได้ประมาณ ๓๐ คน และห้องกลาสีขนาดใหญ่ แต่เวลา จึงถูกขายเป็นเศษเหล็กไป คงอยู่แต่เรือหลวงแม่กลอง

เรือจอดนักเรียนจะกางผ้าใบนอนบนดาดฟ้าท่ช้นโต ๆ ที่ประจ�าการจนถึงปลาย พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้ท�าหน้าที่เป็น


จองท่ดี ๆ ประสา “ใครใหญ่กินไป” ห้องเรียนน้น “เรือฝึกนักเรียน” ให้การฝึกแก่นักเรียนนายเรือและ


ในเวลาต่อมาท่เรือเป็นเรือธงหรือเรือหัวหน้า จะเป็น นักเรียนจ่ารุ่นแล้วรุ่นเล่า ปีแล้วปีเล่า จนถอว่าเป็น

ห้องฝ่ายอานวยการของผู้บังคับบัญชา ปรากฏว่า “เรือครู”โดยไม่ต้องอธิบายอะไรแต่อย่างใด

เรือหลวงแม่กลองขนาด ๑,๔๐๐ ตัน ที่สร้างออกมานั้น เมื่อผู้เขียนเป็นนักเรียนนายเรือพรรคนาวินปีที่ ๒



มีอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกอย่างท่ยุคน้นมีต้งแต่ ปืนใหญ่ ขึ้นปีที่ ๓ มีโอกาสลงฝึกภาคทะเลกับเรือหลวงแม่กลอง
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 9









ที่มักจะเปนเรือธงหรือเรือหัวหนาของหมูเรือฝก โดยการ ท่พิศวงย่งข้น คือเรือหลวงแม่กลองน้นออกแบบ








ออกแบบมาเป็นเรือฝึกหัดนักเรียน จึงทาการฝึกท้งฝ่าย ให้บรรทกเรอบนทะเลหนงลาด้วยตามเอกสาร
พรรคนาวินและพรรคกลินได้ครบถ้วนทุกด้านทุกวิชาการ “พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง” ข้อมูลจ�าเพาะ เรือหลวง
ทุกช้นเรียน ขณะเรือจอด ต่นเช้าจะต้องหย่อนเรือเล็ก แม่กลอง ไม่มีเรือบินทะเลอยู่ในข้อมูล อย่างไรก็ตาม






๔ ลา บนหลักเดวิทลงนาก่อนไปทาอะไรอย่างอ่น แล้ว ตามความต้องการของฝ่ายเสนาธิการย่อมต้องการ



ฝึกหัดศึกษาและขัดสีฉวีวรรณเรือไปตลอดวัน ผู้เขียน เรือบินบนเรือจึงได้สร้างฐานรองรับเคร่องบินท่กลาง




จาได้จนบัดน้ท่ถูกถามบ่อยว่า “พัน ทาความ ‘อาดปืน ล�าเรือพร้อมด้วยกว้านยกเรือบินขึ้นลงจากน�้า ปรากฏว่า
อ๊ะเปล่า” ผู้ถามคือ เรือโท วิศณุ ปราบศากุน ผู้ช่วย ในการสั่งสร้างเรือสลุป ๒ ล�า นั้น กองทัพเรือได้สั่งสร้าง

ต้นปืน ท่ถามตามสาเนียงของท่าน ครูวิศณุ ข้นจาก เรือบินทะเล ๖ ลา จากญ่ปุ่นด้วย ให้ช่อเรือบินแบบ






เรือไปฝึกพลร่มอย่างลับ ๆ กับหน่วยลับสหรัฐอเมริกา “บรน. ๑ เปนเครื่องบินแบบมีปก ๒ ชั้น เครื่องยนตเดี่ยว






ท่ลพบุรก่อนไปฝึกการทาลายใต้นาท่เกาะไซปันซ่งท่าน สองท่น่ง ปืนกล ๗.๗ มิลลิเมตร ท่หัวเคร่องและ







เป็นหัวหน้าหน่วยท�าลายใต้น�้า SEAL คนแรก และต่อมา ท้ายเคร่องแห่งละ ๑ กระบอก พลปืนหลังมีหน้าท ี ่

เป็นครูของผู้เขียนในกิจการหน่วยนี้ด้วย ตรวจการณ์ ด้วยเป็นเครื่องบินที่หนักพอควร ซึ่ง ๒ ล�า

ใช้กับเรือสลุปท้งสองลา ๆ ละเคร่อง หากเรือสลุปสองลาน ้ ี




อยู่ในการรบที่เกาะชางระหวางกองเรือไทยกับหมวดเรือ


ฝร่งเศสในเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ และเรือบินท ่ ี

บรรทุกมากับเรอสลุปได้ข้นบินตรวจการตามสถานการณ์



ผลของการรบอาจไม่ใช่อย่างท่เป็นไปกได ในขณะเดยวกน





ในการรบคร้งน้นเรือบินฝ่ายฝร่งเศสสามารถออก

ลาดตระเวนได้อย่างกว้างขวาง เป็นท่น่าสังเกตว่าญ่ปุ่น



เช่ยวชาญการเรือบินทะเลถึงขนาดมีเรือบินพับปีกได้



บนเรือดานาเดินสมุทรของตนหลายลา การออกแบบและ

ติดตั้งเรือบินบนเรือผิวน�้าอย่างเรือสลุปจึงเป็นไปได้ ด้วย
เรือหลวงแม่กลองมีแหล่งฝึกเรือท่เรืออ่นไม่มี คือ เรือบินบนเรือและป้อมปืนใหญ่ ๔ ป้อม ของเรือทาให้




เสาใหญ่สามขาท้ายเรือท่ทุกคนต้องไต่บันไดลิงข้นไป เรือหลวงแม่กลองสง่างามมาก อย่างไรก็ตาม ภายหลัง


ใช้มือตีปี๊บท่ยอดเสาโดยจับเวลาทุกเท่ยว ภายหลัง กรณีพิพาทกับอินโดจีนของฝร่งเศส ได้ถอดถอนกว้าน




“พิธีธงลง” ก็เป็นมหกรรมชักเรือเล็ก ๔ ล�า จากน�้าขึ้น ยกเคร่องบินออก และติดต้งปืนกลบนฐานรับเคร่องบินแทน




หลักเดวิท ท่เมอนักเรียนยืนเรยง “เข้าเชือกดึงตึง” แล้วต่อมาก็ถอดท่อตอร์ปิโด ๒ ข้าง กลางล�าออก และ

แล้วเม่อจ่ายามนักเรียนเป่านกหวีดหะเบส ก็ต้องว่ง ติดต้งปืนกลแทนด้วยเช่นกัน แต่เม่อนาเรือหลวงแม่กลอง







ดึงเชือกให้เรือข้นจากนากบคอรอกรวดเดียว มิฉะน้น มาทาเป็นเรือพิพิธภัณฑ์ ก็ได้พยายามคืนสภาพเดิมของเรือ



ก “หะเรย” หยอนเรอลงนาแลวหะเบสใหม กอนเวลานอน โดยสร้างเคร่องบินจาลองบน บรน. ๑ ข้นใหม่ ๑ ลา















มีการทาความสะอาดตามเวร เวรท่กลัวกันคือ เวรส้วม นาปืนใหญ่ ๔ กระบอกเดิมมาแทนท่ปืนรุ่นใหม่ท่ติดต้ง





เพราะกระดาษชาระเป็นกระดาษฟางหนาท�าให้ส้วมตันบ่อย ไว้ภายหลัง ติดต้งท่อตอร์ปิโด ท่อยิงและรางทุ่นระเบิด

วิธีแก้ไขที่ใช้กันคือ “ล้วงส้วม” ที่นักเรียนชั้นใหม่โดนกัน พาราเวน ฯลฯ แล้วเป็นพิพิธภัณฑ์เรืออย่างเป็นทางการ

ส่วนเวลาเรือเดินก็ฝึกกันตามช้นตามแผนการฝึกตลอดภาค ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐ ท่ดูดีเป็นอย่างมาก

10 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑

อย่างย่งทหารเรือประสงค์แต่งงานบนเรือจัดให้มีพิธ ี



รดนาสังข์ เล้ยงรับรองแบบค็อกเทล หรือเป็นงานใหญ่

ก็ใช้ลานข้างเรือริมนาท่ทิวทัศน์สวยงามอย่าบอกใคร




อีกแห่งหน่ง พิธีรดนาท่ท้ายเรือมีธงราชนาวีชักอยู่น้น




ก็ไม่มีที่ใดเหมือนและไม่เหมือนใคร คนอื่นท�าไม่ได้



เรือหลวงแม่กลองเมอปลดประจาการแล้ว หาก
เอาไปไว้ที่ปากน�้าแม่กลอง เหมือนเรือประแสซึ่งไปอยู่ที่
ปากน�้าประแส จังหวัดระยอง หรืออย่างเรือหลวงชุมพร
ที่หาดทรายรี จังหวัดชุมพร ก็จะไม่ภูมิฐานเหมือนอยู่ที่
ป้อมพระจุลจอมเกล้า เพราะป้อมมีอาณาบริเวณกว้าง
ทีี่มา : www.facebook.com/pspatchieestoty
ขวางถึง ๗,๐๐๐ ไร่เศษ (เวลานี้คงน้อยกว่านี้) ชัยภูมิใกล้


แต่ปัจจุบัน ไม่มีเรือบินอยู่บนเรือเพราะท่จาลอง ป้อมบริเวณท่ต้งของเรือเป็นทิวทัศน์ปากนาและทะเล




สร้างเอาไว้หมดสภาพ เรือคลายความงามสง่าลงไปไม่น้อย ท่สวยงาม และเป็นตาบลท่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อันผู้คน



สมควรสร้างใหม่ด้วยวัสดุคงทน เช่น ไฟเบอร์กลาส จะไปเย่ยมชมได้ไม่ยาก ดังน้นป้อมพระจุลจอมเกล้า














อยางตวเรอทใชในแมนาโขง จะทาใหเรอเสมอนสภาพเดม ที่สร้างในรัชสมัยรัชกาลที่ ๕ ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับเรือหลวง


ทีเดียว เรือหลวงแม่กลองแม้เป็นเพียงเรือสลุป แต่ก ็ แม่กลองจึงควรเป็น “แหล่งเรียกแขกเรียกคน” เหมือนกับ



ถือเป็นเรือช้นหน่งของกองทัพเรือมีอัตรากาลังพล เรือให้ดูชมและรู้ถึงประวัติการทหารเรือทีใช้ป้อมใน

๑๗๓ นาย เม่อเป็นเรือฝึกอาจรับคนได้ถึง ๒๐๐ นาย การรบรักษาอธิปไตยของชาติในรัชสมัยรัชกาลท่ ๕ น้นเอง





เรือมดาดฟ้าหลายช้นต้งแต่หัวเรือถึงท้ายเรือ นอกจาก นอกจากเรือหลวงแม่กลองแล้ว ป้อมพระจุลจอมเกล้า

มีห้องเรียนอย่างท่เรืออ่นไม่มีแล้ว ก็มีห้องกลาส ี ยังมีประวัติความเป็นมาท่สาคัญ และมีปืนเสือหมอบ



ขนาดใหญ่ ห้องโถงนายทหารขนาด ๒๐ คน และ ซ่งยังคงอยู่ทุกวันน้และน่าจะสามารถปรับปรุงให้เป็น



ห้องอน ๆ อก ซงห้องเรยน ห้องโถง และห้องกลาส ี แหล่งเรียนรู้และเรียกเหล่าเพ่อนทหารเรือให้มาเย่ยมชม








หากติดต้งเคร่องปรับอากาศจะทากิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี สาหรับความเป็นมาของป้อมและปืนน้น





ในห้องได้หลายอย่าง ท้งดาดฟ้าเรือ และห้องในเรือจะ ในการป้องกันพระนครด้านปากนาเจ้าพระยา ได้มีการ


รับแขก รับงานบนเรือได้หลากหลายนอกจากจะเดินดูเรือ สร้างป้อมผีเส้อสมุทรไว้ทางด้านใต้ของพระสมุทรเจดีย์


นอกตัวเรือกันเพียงอย่างเดียว หากบนเรือมีเคร่องด่ม โดยสร้างข้นในรัชสมัยรัชกาลท่ ๒ พ.ศ. ๒๓๖๒ ติดต้ง ั









และของขบเคยวกจะชกนาคนขนเรอมากขน มแผ่นพบ ปืนบรรจุดินทางปากกระบอก ตัวป้อมรูปร่างเหมือนผีเส้อ







แสดงคุณลักษณะเรือไว้แจก หนังสืออย่าง “พิพิธภัณฑ์ ใช้ด้านหางผเสือเป็นทางเข้า การสร้างป้อมใหม่อกป้อม



เรือหลวงแม่กลอง” ผลิตภัณฑ์อย่างของสมาคมภริยา หน่งเป็นความคดของใครไม่ทราบและเป็นการสร้างอย่าง


ทหารเรือไว้ขาย ห้องเรียนและห้องโถงปรับอากาศไว้ เร่งด่วน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า รองผู้บัญชาการทหารเรือ
บริการหน่วยงานท่อยากเปล่ยนบรรยากาศมาประชุม นายพลเรือโท พระยาชลยุทธโยธินทร์ (Richelieu) เป็น


มาสัมมนาบนเรือ รับเด็กนักเรียน ๔๐–๕๐ คน มาค้าง ชาวเดนมาร์ก ซึ่งทหารเรือเดนมาร์กเชี่ยวชาญการสร้าง
ใช้ชีวิตอย่างกลาสี ฝึกการเรืออย่างง่าย ๆ กายบริหาร ป้อมปืนรักษาฝั่ง และมีนายทหารเรือเดนมาร์กยศรอง


และกีฬาอ่น มีเจ้าหน้าท่และจ่าพยาบาลฝึกสอนและดูแล หลายคน ซงคงมีส่วนในการคิดสร้างป้อมและติดต้งปืน



มีผู้น�าชมเรือหากมีผู้สนใจ และท้ายที่สุด ใครโดยเฉพาะ เหล่านี้
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 11



ท่มา : ชมรมเพ่อนทหารเรือ

ในรัชสมัยรัชกาลท่ ๕ ตามพระราชหัตถเลขา “...จะอุทิศเป็นส่วนสาหรับใช้สอยในการโรงเรียน



ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บน โรงพยาบาล โรงเล้ยงเด็ก...” และส่วนท่สาม “...แลได้







เรือพระท่น่งมหาจักรี ลงวันท่ ๑๐ เมษายน ร.ศ.๑๑๒ ส่งให้ฝากเงินอีกหม่นช่ง เป็นส่วนท่สาม เพ่อจะห้าม

(พ.ศ. ๒๔๓๖) ถึงเสนาบดีในท่ประชุมมีใจความสาคัญ การพระเมรุใหญ่มิให้เป็นท่ลาบากแก่ราษฎร แลหวังว่า




ในการสร้างป้อมใหม่ว่า จะให้เป็นประโยชน์แก่ชนชาวสยาม... ”

“...ด้วยเวลาเช้าวันนี้ ฉันได้ข้นไปดูป้อมตาบล พระองค์ทรงมีพระประสงค์ว่า เงินที่ฝากแบงก์และ

แหลมฟ้าผ่า แลได้ลองยิงปืนกับท้งตรวจภูมิฐาน เห็นเป็น เก็บไว้ยังพระคลังข้างท่ “...ถ้าเวลาใดจะต้องใช้ เพอให้







ท่ม่นคงย่งนัก แต่มีความเสียดายเป็นอันมากด้วยการ เป็นการป้องกันฤาถ่ายถอนพระนครอย่างหน่งอย่างใด










ท่ทาน้นจะนับว่าแล้วไปเพียงส่วนหน่งเส้ยวเดียวหน่ง ก็จะถอนเงินท่ได้ฝากน้นไว้แล้วและยอมยกเงินท่ยังเหลือ
ก็ไม่ได้ และยังไม่เป็นท่ซ่งปกปักรักษาอันใดด้วย ไม่สมกับ อยู่น้นใช้ จนสิ้นเน้อประดาตัวทุกเม่อ...เหตุว่าฉันรู้ตัว





ภูมิฐานซึ่งควรจะเป็นที่ป้องกันพระนครได้...” ชัดอยู่ว่า ถ้าความเป็นเอกราชของกรุงสยามได้สุดส้นไป

จะเห็นได้ว่า รัชกาลที่ ๕ ทรงเห็นสมรรถภาพของ เม่อใด ชีวิตฉันก็คงจะสุดส้นไปเม่อน้น มิได้อยู่ปกครอง




ป้อมปืน “เป็นที่มั่นคงยิ่งนัก” แต่ก็ทรงกังวลว่ายังไม่พอ ทรัพย์สมบัตินี้เลย...ครั้นมาถึงบัดนี้ มาประสบช่องทางที่
แก่การป้องกันพระนคร พระองค์ทรงเท้าความถึงการท ่ ี มีปัจจามิตรเบียดเบียน...ยอมสมัคจะให้เงินพระคลังข้างท ่ ี
บรรดาเสนาบดีตัดการใช้จ่ายเงินจนมีเงินเหลือมากกว่า ท�าการในป้อมแหลมฟ้าผ่านี้ ให้แล้วส�าเร็จได้โดยเร็ว... ”
สองหม่นช่งก็ยังไม่พอแก่การสร้างป้อม พระองค์จึงทรงให้ กล่าวคือ การสร้างป้อมขาดเงินท�าให้ล่าช้า พระบาท






นาเงนพระคลงข้างทสมทบในการสร้างป้อมให้เสรจ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงพระราชทานเงิน


โดยเร็ว เงินส่วนพระองค์น้ตามพระราชหัตถเลขาว่า ส่วนพระองค์หน่งหม่นช่ง สมทบเงินราชการเพ่อให้





หน่งหม่นช่ง “เป็นเงินส่วนปฏิสังขรณ์พระอาราม” ป้อมปืนใช้การได้โดย “บริบูรณ์ ” และโดยเร็ว ในท้าย






อกหนงหมนชังพร้อมทงดอกเบย ซงฝากแบงก์ไว้ พระราชหัตเลขา ทรงปรารภถึงชื่อป้อมว่า “...แต่มีความ









12 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑

ที่มา : http://www.hongkongfanclub.com/index.php?topic=8315.0







ู่
กาเรบทเยอทยานอยอย่างหน่ง...ว่าป้อมน้ได้สร้างข้นใหม ่ ป้อมผีเส้อสมุทรแทนปืนบรรจุปากกระบอกของเดิม

ในแผ่นดินประจุบันน้ อยากจะให้ช่อ ป้อมจุฬาลงกรณ์ ฤา การยกตัวข้นยิงแล้วลดตัวลงอยู่ในหลุมตามเดิม ทาให้ได้







พระจุลจอมเกล้า คล้ายกับป้อมท้งปวงซ่งเขาให้ช่อ ชื่อว่า “ปืนเสือหมอบ” ถึงทุกวันนี้







เจ้าแผ่นดนมอย่บ้าง เช่น ฟอตวลเลยม เมองกลกตตา และแล้ว ในวนท ๑๓ กรกฎาคม ร.ศ.๑๑๒









เป็นต้น ท้งคร้งน้จะได้สาเร็จเพราะทุนรอนซ่งฉันจะ (พ.ศ. ๒๔๓๖) ดูเหมือนปูนสร้างป้อมยังไม่แห้งดี ปัจจามิตร
อุดหนุนดังนี้ก็ยิ่งมีความปรารถนากล้า... ” เป็นที่มาของ ก็มาเบียดเบียน เรือรบฝรั่งเศส ๒ ล�า กับเรือน�ารอง ๑ ล�า

ชื่อป้อมพระจุลจอมเกล้า ในยุคสมัยล่าอาณานิคมก็ได้แล่นจากทะเลเข้าสู่ปากนา


ในวันท่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๓๖ ได้มีการทดลอง เจ้าพระยาเพ่อสมทบกับเรืออีกลาหน่งท่จอดเรือใน








ยิงปืนป้อมอีกคร้งหน่งซ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ กรุงเทพอยู่แล้ว ปืนเสือหมอบของป้อมท้งสองร่วมกับ

ทรงลั่นไกยิงด้วยพระองค์เอง ๑ นัด ปืนประจ�าป้อม ๗ หน่วยเรือไดยิงสกัดกนเรอฝร่งเศสเปน “การรบทปากนา � ้








กระบอก อยู่ในหลุม ๆ ละกระบอก สร้างจากบริษัท เจ้าพระยา” ตามที่ทราบกันอยู่ โดยเรือฝรั่งเศสสามารถ
อาร์มสตรอง ประเทศอังกฤษ เป็นปืนบรรจุกระสุนท้าย ตีฝ่าเข้าจอดเรือในพระนครได้ และกดดันเมืองไทย
ปืนรุ่นแรกของทหารเรือไทย ขนาด ๖ นิ้ว ระยะยิงไกล ทางด้านการเมืองในเวลาต่อมา จนต้องยอมยกดินแดน

๘,๐๐๐ เมตร ปกติปืนจะน่งแท่นอยู่ในหลุม เม่อจะทาการ ด้านลาวให้แก่ฝรั่งเศสเกือบทั้งหมดจนบัดนี้




ยิงต้องใช้เคร่องแรงนามันไฮดรอลิกส์ ยกตัวปืนให้ หลังจากการยิงทาการรบท่ปากนาเจ้าพระยา





พ้นปากหลุมจึงยิง ปืนอีก ๓ กระบอก ได้ไปติดต้งท ี ่ แล้วไม่มีบันทึกใด ๆ ว่าปืนเสือหมอบได้ยิงปืนอีก

นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 13

ที่มา : https://www.baantip.com

ใน ร.ศ.๑๑๒ นายเรือโทพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ คงเน่องจากพระชนมายุน้อยและทรงไปอยู่อังกฤษ

ขณะพระชนมายุยังไม่ครบ ๒๐ พรรษา ในตาแหน่ง เสีย ๖ ปี

“แฟลก เลฟเตอร์แนล” (นายธง) ของผู้บัญชาการกรม ส่วนความเห็นข้อควรแก้ไขของเสด็จเต่ย




ทหารเรือได้รับคาส่งให้ “ไปตรวจการป้องกันลาน�า “เห็นด้วยเกล้าฯ ว่าป้อมพระจุลจอมเกล้าน้นมีประโยชน์


เจ้าพระยา” และเสนอข้อคิดเห็นในการปรับปรุงแก้ไข ในการสงครามน้อย ” โดยทรงประเมนจากสภาวการณ์
ตามรายงานของเสด็จเต่ย ลงวันท่ ๒๘ มิถุนายน ต่างประเทศ ยุทธศาสตร์และยุทธวิธี และทรงเห็นว่า





ร.ศ.๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๔๓) มีสาระสาคัญเฉพาะป้อม “ควรต้งป้อมท่แข็งแรงกว่าป้อมพระจุลจอมเกล้าข้นท ี ่



พระจุลจอมเกล้าว่า ตาบลเสือซ่อนเล็บอันเป็นชัยภูมิท่ดีในการต่อสู้กับ







- ต้งอยู่บนท่ดินอ่อน มีทรุดบ้างแล้วอีกไม่ก่ปี เรอข้าศึกทเข้ามากรงเทพฯ ส่วนป้อมแผลงไฟฟ้าไม่ควร

คงต้องซ่อมแซมเป็นอันมาก เป็นท่วางตอปิโด แต่อาจเป็นคลังตอปิโดและมีตอปิโด




- ท่ต้งปืนไม่ถูกต้องดี เม่อเรือข้าศึกเข้าใกล้สุด ให้มากกว่าเดิม ใช้วางต้งแต่ทุ่นดาถึงเรือตะเกียง และป้อม


หันข้างโดยเต็มน้น ปืนป้อมหันยิงได้เพียง ๒ กระบอก ควรมีปืนยิงเร็วด้วย ฯลฯ


ตึกเก็บดินปืนมีความช้นมาก ต้องย้ายท่เก็บไกลออกไป พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับรายงานของ


- ห้องอาหารนาฝนร่ว โรงพยาบาลไม่มีเตียงนอน เสด็จเตี่ยจากกรมทหารเรือ แล้วทรงมีพระราชหัตถเลขา

ต้องใช้เสอนอน ขาดยานพาหนะนาผ้บาดเจบมาโรง ลงวันที่ ๑ กรกฎาคม ร.ศ.๑๑๙ ตอบลงมาว่า “ได้อ่าน











พยาบาล รายงานแล้ว เหนว่า เป็นความคดทหลกแหลมอย่”


- พลทหารประจาป้อมเป็นคนชรา อายุไม่ตากว่า ซ่งทรงเห็นด้วยและทรงทักท้วงบางประการในรายงานน้น




๕๐ เสียโดยมาก ข่าวคราวของป้อมพระจุลจอมเกล้าก็เงียบมาต้งแต่


โดยรวม เสด็จเต่ยฯ ทรงว่า “อน่ง แผนท่ป้อม ร.ศ.๑๑๙ (พ.ศ. ๒๔๔๓) จนกระทั่งกองทัพเรือคิดสร้าง









แลแม่นาท่ถูกต้องก็ยังไม่มีเลย เร่องน้เป็นสาคัญมาก อู่เรือข้นใหม่จากเดิมท่ธนบุรี และเห็นว่าควรเป็นท่บริเวณ





ควรต้องลงมือทาเสียก่อนลงมือทาการอ่น ๆ” ท้งน ี ้ ของป้อมโดยใช้เน้อท่ราว ๔๐๐ ไร่ เร่มดาเนินการสร้าง





ลายพระหตถ์ภาษาไทยของพระองค์ท่านมผดบ้าง อู่ต้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็น “อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า”



14 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑










ดังในปัจจบัน ทาให้มีคนไปเย่ยมชมป้อมมากข้น แต่ เม่อวันวิสาขบูชาท่ผ่านมาท่วัดแห่งหน่งซ่งผู้เขียน















ปนเสอหมอบกหมอบอยในหลมดงเดม โดยไมมบนทกวา ร่วมงานเป็นประจา สุภาพสตรีท่านหน่งเดินมาหาผู้เขียน
ยิงปืนครั้งสุดท้ายเมื่อใด แล้วบอกว่า “ยินดีด้วยนะคะท่ทหารเรือชนะกระโดดร่ม”




เรือหลวงแม่กลองได้เป็นพิพิธภัณฑ์เรือหลวง โดยผู้เขียนไม่รู้เร่องน้เลย แสดงว่าท่านรู้เร่องกิจกรรม
แม่กลอง ตามโครงการ ๑ ใน ๗ โครงการของกองทัพเรือ ทหารเรือดีอย่างไม่น่าเช่อ สามีท่านเป็นข้าราชการ



ในการเฉลิมพระเกียรติพระบาทพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ อาวโสศาลยตธรรม เคยบอกผ้เขยนตงแต่แรกพบกน










เถลิงถวัลย์ราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ใน พ.ศ. ๒๕๓๙ ท�าให้ (ปละครง) หลายปมาแล้ววาภรยาทาน เปน “navalism”





ป้อมพระจุลจอมเกล้าได้อานิสงส์รับการบูรณะไปด้วย มานานแล้วจึงคิดเอาเองว่าทหารเรือมีต้นทนให้คน




การทาให้เรือหลวงแม่กลองคงสภาพเดิมก็ต้องนาอาวุธ รู้จักและชอบโดยไม่ต้องช้นาชักจูงอะไรมากนัก เพราะ


ยุทธภัณฑ์เดิมมาติดต้งให้เรืออยู่ในสภาพด้งเดิม มีแต่ เคร่องหมายสมอเรือเป็นท่รู้จักกันท่วโลก เส้อตราสมอ













เรอบน บ.รน. ๑ ทไม่มตวตนต้องทาจาลองขนใหม่ ใส่กันท้งโลก เน่องมาจากนาในคลองมอญติดต่อไปถึง






“กรมอู่ทหารเรือสร้างส่วนลาตัว ใบพัด ส่วนหาง ทุ่น คลองสุเอซ ถึงคลองปานามา ทะเลท่เกาะสีชังก็ไปถึงเกาะ

๒ ข้าง ซ้าย-ขวา และอ่น ๆ ส่วนชมรมเพ่อนทหาร ฟอล์กแลนด์ ถึงเกาะอังกฤษ ดังน้นถึงไม่มี “ตัวช่วย”




เรือสร้างปีก ๒ ช้น และสนับสนุนวัสดุบางรายการท ่ ี มากมายนักก็คงหาแฟนคลับทหารเรือได้ไม่ยาก

กรมอู่ทหารเรือไม่มี หรือต้องจัดหาเพ่มเติม” (จากหนังสือ

พิพิธภัณฑ์เรือหลวงแม่กลอง วันท่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๔๐) แต่งงานบนเรือหลวงแม่กลอง ปืนเสือหมอบ





ท้งน้การบูรณะป้อมพระจุลจอมเกล้า สาคัญอยู่ท่ทาให้ ยิงปืนเที่ยง จะเป็นตัวช่วยชั้นดีทีเดียว
ปืนเสือหมอบลุกข้นยิงได้เหมือนใน ร.ศ.๑๑๒ ในการน ้ ี


ช่างสรรพาวุธทหารเรือและชมรม “เพ่อนทหารเรือ”


เจ้าเก่าได้ช่วยกันทาให้เคร่องยกปืนทางานได้ ๑ กระบอก

ยิงนัดดินได้เสมือนจริง และยิงตามโอกาส

ในรัชสมัยรัชกาลท่ ๕ โปรดเกล้าฯ ให้ทหารเรือ









ยงปนเวลาเทยงเพอใหประชาชน เรอสนคา ในกรงเทพฯ


ต้งนาฬิกาเวลาเท่ยงเป็นมาตรฐาน โดย นายพลเรือโท


พระยาชลยุทธโยธินทร์ ชาวเดนมาร์ก เป็นออบเซอร์เวต

เตอรหลวง ตรวจสอบเวลากับเมืองกรนิชทอังกฤษ




การยิงปืนเท่ยงยิงจากเรือในแม่นาหรือป้อมวิไชยประสิทธ ์ ิ



เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๔๗ จนถึง พ.ศ. ๒๔๗๗
จึงหยุดยิง เพราะสัญญาณวิทยุแพร่หลายแล้ว ดังน้น




หากปืนเสือหมอบจะยิงปืนเท่ยงหรือยิงปืนยาสุริย์ศร ี
(เพราะเวลาเที่ยงอากาศร้อน คนจะมาน้อย) เป็นประจ�า

ให้คนรู้ว่าปืนเสือหมอบยืนข้นยิงปืนทุกวันเวลาใด และ

เรือหลวงแม่กลองมีกิจกรรมท่ย่งกว่าเดินดูเรืออย่างเดียว

“อุทยานป้อมพระจุลจอมเกล้า “น่าจะสร้างเพื่อนทหาร
เรือได้ไม่น้อย
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 15



พััฒนาสัมพัันธ์์ระดับผูู้้บริิหารกองทัพเรืือ



ั่



(พสบ.ทร.) เพื่ื่อพััฒนาสู่่ความมนคงมั่งคั่ั่ง
และยั่งยืืน ... ความประทับใจของข้าพเจ้า



ั่
จิรชาติ บุญสุข
ความตอนหน่งในพระบรมราโชวาทในพระบาท วิสัยทัศน์ของกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ


สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เน่องในพิธ ี “หน่วยงานท่เสริมสร้างความเช่อม่นในการปฏิบัต ิ



ถวายสัตย์ปฏิญาณและสวนสนามทหารรักษาพระองค์ ณ ภารกิจของกองทัพเรือ ต่อสาธารณชน “Trust the Navy”
ลานพระราชวังดุสิต วันท ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ความว่า ขณะน้นปัจจุบันม พลเรือโท บรรพต เกิดภ ดารงตาแหน่ง




ู่


“...ประเทศของเรารักษาเอกราชอธิปไตยและ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เป็นผู้อานวยการ



อิสรภาพให้ สมบูรณ์ม่นคงมาได้จนถึงทุกวันน้ เพราะ หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ (พสบ.ทร.)
คนไทย ทุกหมู่เหล่ารู้รักความสามัคคี และ รู้จัก และมี พลเรือตร เชษฐา ใจเปี่ยม รองเจ้ากรมกิจการพลเรือน




ทาหน้าท่ของแต่ละฝ่ายให้ ประสานส่งเสริมกัน เม่อ ทหารเรือ เป็นรองผู้อ�านวยการหลักสูตร
ทุกคนมุ่งใจปฏิบัติดังน้ความถูกต้องเรียบร้อย ความพัฒนา กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ (Naval Civil Affairs

ก้าวหน้าและความมั่นคง เป็นปึกแผ่นจึงบังเกิดขึ้น...” Department : NCAD) ยึดถือการปฏิบัติท่สาคัญ ๔ ประการ



ความสามคคจึงเป็นพลังขบเคล่อนทสาคัญของชาต ิ ตามอักษรย่อขององค์กรอันมีนัยสาคัญต่อการสร้าง








และจาเป็นอย่างย่งท่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของ ความรู้รักสามัคค เพ่อขับเคล่อนนโยบายการพัฒนาชาต คือ








ทุกภาคส่วนในการดาเนินนโยบายเพ่อพัฒนาประเทศ N = Nice คือ ความดีงาม กรมกิจการพลเรือนทหาร
ชาติไทยให้ก้าวหน้ามั่นคง เรือจะปฏิบัติงานในส่งท่ถูกต้องดีงามต่อประชาชน โดย


หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ ยึดหลักธรรมาภิบาล
หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ C = Cooperation คือ ความร่วมมือ กรมกิจการ



รุ่นแรก เกิดข้นเม่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ มีสาระหลักพ้นฐาน พลเรือนทหารเรือจะปฏิบัติงานโดยให้ความร่วมมือ





เกยวกบการประชาสมพันธ์องค์กรเพ่อปฏบตงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน





ร่วมกับยุทธศาสตร์ความม่นคงชาต มุ่งสร้างการมีส่วนร่วม A = Action คือ ความกระตือรือร้น กรมกิจการ
ในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนการรักษาผลประโยชน์ พลเรือนทหารเรือจะปฏิบัติงานด้วยความกระตือรือร้น

ของชาติทางทะเล อันเป็นปฏิบัติงานในเชิงรุก เพ่อ ไม่เฉยเมยต่องานต่าง ๆ คิดพัฒนางานใหม่ ๆ อยู่เสมอ
สร้างมวลชนในการเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการ D = Devotion คือ อุทิศตน กรมกิจการพลเรือน
ปฏิบัติงานโครงการต่าง ๆ ท่เก่ยวข้องกับงานกิจการ ทหารเรือจะปฏิบัติงานด้วยความเสียสละอุทิศตนโดยเห็น


พลเรือน ตลอดจนรับทราบภารกิจของกองทัพเรือ ประโยชน์ของผู้รับบริการเป็นที่ตั้ง

ควบคู่กันไป เพ่อสร้างความรู้ความเข้าใจเร่อง

ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลและบทบาทหน้าท ี ่

ของกองทพเรอทนอกเหนอจากภารกจหลกในการ









เตรียมกาลังป้องกันประเทศเกิดความเช่อม่นของ










กองทพเป็นสงทด และน่าตดตาม หน่วยทรบผดชอบ




ภารกิจสาคัญน คือ กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ
16 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑





นอกจากน ท่สาคัญคือการเผยแพร่วิทยาการ ได้มีโอกาสลงเรือหลวงอ่างทอง ชมภารกิจตรวจค้นการ








กจการพลเรอน ให้เหนความสาคญของทะเล และ ทาผิดกฎหมายต่าง ๆ และยังมีโอกาสน่งเรือรถสะเทินนา

เข้าใจบทบาท ภาระหน้าท่ของกองทัพเรือ มีการแลกเปล่ยน สะเทินบก (Amphibious Assault Vehicle : AAV)


วิสัยทัศน์ระหว่างกัน เป็นแกนเชื่อมความสามัคคี ผูกพัน เป็นกิจกรรมความประทับใจของนักศึกษาในรุ่นอย่างมาก






ให้เกิดข้นอย่างต่อเน่อง เพ่อร่วมกันพัฒนาประเทศ ซ่ง การสร้างความสัมพันธ์ในช่วงการอบรมน้นทาให้



เป็นหน่งในแผนท่ทางกรมกิจการพลเรือนทหารเรือ เกิดความเข้าใจบทบาท ทัศนคต ของแต่ละภาคส่วน








ดาเนนการและเกดหลกสตรพฒนาสมพนธ์ระดับ เกิดการแลกเปล่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง

ผู้บริหารกองทัพเรือขึ้นมีอักษรย่อ คือ พสบ.ทร. หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือเป็น

ประสบการณ์ท่ได้เรียนรู้จากหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ หลักสูตรท่สร้างความสัมพันธ์ท่ดีระหว่างกองทัพและ



ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ ภาคเอกชน และเม่อเข้ามาในหลักสูตรทาให้เข้าใจ



หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ แนวคิดบทบาท ความสาคัญ แนวทางการทางานของ


ร่น ๑๕ เป็นหลกสูตรร่วมระหว่างพลเรือนทเป็น กองทัพเรือชัดเจนมากข้น เกิดทัศนคติท่ด มีความ





เจ้าของกิจการหรือผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเอกชน ภาคภูมิใจต่อกองทัพเรือ มีช่องทางเครือข่ายในการ

และข้าราชการทหาร ตารวจ ช้นสัญญาบัตร ระดับ ช่วยเหลือสังคมในด้านต่าง ๆ นอกจากการป้องกัน


น.๔ – น.๖ ข้าราชการพลเรือน และรัฐวิสาหกิจ ระดับ ๘ ประเทศแล้ว ภารกิจของกองทัพเรือท่สาคัญ การช่วยเหลือ

หรือเทียบเท่าขึ้นไป ผู้ผ่านการอบรมต้องไม่เคยผ่านการ ประชาชนในด้านต่าง ๆ ผู้ประสบสาธารณภัย ล่าสุด




อบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บรหารของเหล่าทัพอ่น ท่เป็นข่าวดังไปท่วโลกคือการช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมหมูป่า


มีวิธีการคัดเลือกอย่างเข้มข้น ๔ ขั้นตอน อะคาเดม่ที่ติดในถาหลวง จังหวัดเชียงราย นอกจากน้ยังม ี


๑. การสอบข้อเขียน การปฏิบัติงานในโครงการอันเนื่องจากพระราชด�าริต่าง ๆ
๒. สอบสัมภาษณ์ การอนรกษ์และฟื้นฟสภาพแวดล้อมในทะเลและพนท ่ ี





๓. การทดสอบสมรรถภาพ ชายฝั่ง การแก้ปัญหาการทาประมงผิดกฎหมายสอดคล้อง


๔. ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล กับ คุณค่าท่กองทัพเรือ ต้องการคือ “เป็นกองทัพท ี ่
ระยะเวลาการศึกษา จ�านวน ๙ สัปดาห์ เริ่มอบรม ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ”


วันแรกต้งแต่วันท ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันท ่ ี กิจกรรมหล่อหลอมให้เกิดความสามัคคีของรุ่น


๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ท่เป็นสีสันและขวัญใจของ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับรุ่นพ หลักสูตรพัฒนา



รุ่นคือ นักแสดงและนางแบบช่อดัง อย่างคุณเขมนิจ สัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ รุ่น ๑ - ๑๔ ท่มีครอบคลุม

จามิกรณ์ (แพนเค้ก) ท่มีอีกบทบาท คือ โฆษกพิเศษ ท่วประเทศ ย่อมเกิดผลประโยชน์แก่สังคม และประเทศชาต ิ


ของกองทัพเรือ เข้าอบรมอยู่ในรุ่นนี้ด้วย เพื่อเรียนรู้ ทั้ง อย่างมากมาย การได้รับฟังบรรยายจากครูหลายๆ ท่าน
การศึกษาด้วยตัวเอง การสัมมนา การแบ่งกลุ่มอภิปราย ทาให้แนวคิดเดิม ๆ ท่ว่า “เราไม่อยู่ในภาวะสงคราม


ในหัวข้อ ภารกิจความรับผิดชอบด้านต่าง ๆ ของ จะสะสมก�าลังพลและจัดซื้ออาวุธที่มีมูลค่าสูง ไว้ท�าไม”

กองทัพเรือจากผู้บรรยายท่มีความรู้และมากประสบการณ์ ถือเป็นความคิดท่ต้งอยู่บนความประมาทในโลกยุค




เกือบท้งหมดเป็นระดับช้นนายพล (วัฒนะธรรมของทหารเรือ ปัจจุบันยุทธศาสตร์การสร้างสมดุลของกาลังรบ ไม่ใช่

จะเรียกผู้บรรยายท่เป็นทหารเรือว่า “ครู”) มาบรรยายวิชาการ เพียงสะสมกาลังอาวุธ เพ่อรุกรบเท่าน้น แต่เหมือนเป็น




ให้รับฟัง การสัมมนาวิชาการ และการศึกษาดูงาน การป้องปรามเพื่อไม่ให้เกิดการรบ

นอกสถานท อาท ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุร ี การท่กองทัพเรือมีแค่เพียงเรือรบผิวนาน้น ไม่พอเพียงแล้ว






นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 17

จ�าเป็นต้องมีครบทั้ง ๓ มิติ (เหนือน�้า ในน�้าและบนบก) ผู้นั้นครองโลก” พาณิชย์นาวีต้องมีกองทัพเรือที่เข้มแข็ง



เพ่อเพ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผลประโยชน์ เพ่อคุ้มครองยุติข้อขัดแย้ง และเป็นฝ่ายได้เปรียบร้อยละ

ของชาติทางทะเล ความม่นคงของเศรษฐกิจไทย ๙๐ ของเศรษฐกิจการค้าเกิดขึ้นทางทะเลและร้อยละ ๙๕
ผูกกับการขนส่งทางทะเล ทั้งการส่งออกสินค้า การน�าเข้า ของเศรษฐกิจไทย เกิดทางทะเล


การบรโภค การลงทุน การเกษตร และการท่องเทยว จากคาบรรยาย พลเรือเอก จุมพล ลุมพิกานนท์










ซงสอดคล้องกบข้อมลจาก สภาความมนคงแห่งชาต ิ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ช้ให้เห็นความสาคัญ







ปี พ.ศ. ๒๕๕๘ ทกล่าวว่า กจกรรมทางทะเลทมมลค่า ของการรักษาปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์
มากท่สุดคือ การขนส่งทางทะเล (ถ้าถูกขัดขวางจะสูญเสีย) ของชาติทางทะเล มูลค่าท่มีการอ้างอิงตัวเลขจาก


หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีสูงถึง ๒๔ ล้านล้านบาท ถือเป็น
ความเข้าใจค�าว่า ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ยุทธศาสตร์ที่ส�าคัญของชาติไทย














การเรียนหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร ผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของประเทศไทย
กองทพเรอในช่วงของ พลเรอเอก จมพล ลมพกานนท์ จากยุทธศาสตร์ความม่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ.







รองปลัดกระทรวงกลาโหม ทาให้ได้รู้จักคาว่า ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ กล่าวถึง มั่นคง ก็คือ อ�านาจอธิปไตย



“สมุททานุภาพ” (seapower) เป็นคร้งแรกโดยผู้เผยแพร่ ความม่นคง มั่งคั่ง คือ ความเจริญรุ่งเรืองและ ยั่งยืน





คาน้คือ นาวาเอก อัลเฟรด เทเยอร์ มาฮาล อาจารย์จาก คือเกิดผลประโยชน์สูงสุดและย่งยืน จึงจาเป็นอย่างย่ง ิ
วิทยาลัยการทัพเรือสหรัฐอเมริกา ท่านกล่าวถึง ต่อการกาหนดยุทธศาสตร์เพ่อการพัฒนา ซ่งความรู้และ




ความสามารถในการใช้ทะเล เพ่อสร้างความม่นคง ความเข้าใจข้อมูลอย่างรอบด้านเก่ยวกับฐานทรัพยากร


และม่งค่ง การสร้างขีดความสามารถเพ่อคุ้มครอง ทางทะเลคือส่งสาคัญท่ผู้เข้ารับการอบรมในหลักสูตรน ้ ี






ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเกิดความสมดุล จะต้องรับรู้
“จุดการแข่งขันทางการค้า คือ การผูกขาด ดังน้น จากพลเรือนมารับรู้ข้อมูลเชิงกลยุทธ์

กาลังทหาร อาจเกิดข้นเพ่อจัดระบบ ผู้ใดครองทะเล โดยเฉพาะประสบการณ์ทางทะเลช่วยเติมเต็ม



18 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑




ความเข้าใจภารกจของกองทัพเรอ และช่วยอธบาย ๔. การสร้างความสมดุล และยั่งยืนของทรัพยากร
ให้ประชาชนท่วไปได้อีกทาง ไม่ว่าจะเป็นความรู้ว่าด้วย ๕. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ องค์ความรู้

ทะเลอาณาเขต (TerritorialSea) คือ อาณาเขตทางทะเล ๖. การบริหารจัดการผลประโยชน์ทางทะเลของ
ท่วัดจากฐานออกไปในทะเลได้ ไม่เกิน ๑๒ ไมล์ทะเล องค์กรรัฐ

รัฐชายฝั่งมีอ�านาจอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ แต่ต้องยอมให้ แนวทางการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล






เรือต่างชาติผ่านโดยสุจริต (Innocent Passage) เขตต่อเน่อง ต้องเป็นรปธรรม มยทธศาสตร์ชดเจน และเกดการ
(Contiguous Zone) คือ เขตทางทะเลท่ต่อออกไป บูรณาการจากทุกฝ่ายช่วยกันภายใต้แนวคิด “ม่นคง







จากอาณาเขต วัดจากฐานออกไปในทะเล ไม่เกิน ๒๔ ไมล์ ม่งค่ง ย่งยืน” ดังน้นจึงควรมีการสร้างความเข้าใจ เพ่อเกิด
และเขตเศรษฐกิจจ�าเพาะ คือ เขตทางทะเล ที่ต่อออกไป เสียงสนับสนุน จากประชาชนทั่วไป รวมถึงหน่วยงานที่



จากทะเลอาณาเขต วัดจากเส้นฐานออกไปในทะเล เก่ยวข้องทางทะเล ไม่ว่าจะเป็น กองบังคับการตารวจนา

ไม่เกิน ๒๐๐ ไมล์ทะเล ซึ่งมีมูลค่าผลประโยชน์ของชาติ กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมศุลกากร กรมทรัพยากร
ทางทะเลมูลค่ารวม ๒๔ ล้านล้าน ๆ บาทต่อปี ทางทะเลและชายฝั่ง ในแนวคิดท่ว่าการแสวงหา














ผลประโยชน์มหาศาลแบบน ย่อมเกิดการคุกคาม ผลประโยชน์ทางทะเลนาไปสู่กาลังทางเรือท่มีประสิทธิภาพ
รูปแบบต่าง ๆ ทั้งแบบเดิม เช่น การแข่งขันสะสมอาวุธ การเน้นเพียงเพ่อการค้าโดยไม่เตรียมความเข้มแข็ง



การอ้างสิทธิทับซ้อน (ไทยมีพ้นท่ทับซ้อนกับประเทศ ให้กองทัพ เป็นส่งท่น่ากังวล และผู้ท่สาคัญสุดในเร่องน ้ ี









เพื่อนบ้าน ๕๐,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร) ส่วนการคุกคาม คือ คณะรัฐบาล ท่จะเป็นผู้อนุมัต จึงจาเป็นอย่างย่ง




แบบใหม่ เช่น โจรสลัด ภัยธรรมชาต การเข้าเมือง ท่ต้องตระหนกต่อการสร้างความเข้าใจเป็นการขจด



ผิดกฎหมาย การลักลอบจับสัตว์น�้า อาชญากรข้ามชาติ ความขัดแย้งในด้านความคดโดยเฉพาะยคปัจจบันท ่ ี
หรือ แม้แต่การก่อมลพิษทางทะเล ก็ถือเป็นงานกองทัพเรือ โลกออนไลน์มีอิทธิพลสูงและมีผลกระทบด้านจิตวิทยา
ที่ต้องดูแลและเกี่ยวข้อง ในสังคม แม้บางเร่องจะผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาลแล้วก็ตาม



ยทธศาสตร์ความมนคงแห่งชาตทางทะเล พ.ศ. การเปิดเครอข่ายการมส่วนร่วมในการสนบสนุน





๒๕๕๘ - ๒๕๖๒ มี ๖ ข้อ กองทัพเรือและประเทศชาติ

๑. การพัฒนาศักยภาพความม่นคงของชาติทางทะเล ต้องยอมรับว่าภาคเอกชนใช้ประโยชน์จาก

๒. การคุ้มครองการใช้ประโยชน์จากทะเล ทรัพยากรเพ่อผลประโยชน์ทางธุรกิจมักจะถูกคาดหวังว่า
๓. การสร้างความสงบเรียบร้อยและส่งเสริมการใช้ จะเป็นผู้ยกระดับพัฒนาประเทศและสังคมให้ดีข้น

ประโยชน์ทะเล ดังน้นเพ่อพัฒนาสู่ความย่งยืนอย่างแท้จริง ภาครัฐจะเป็น



นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 19





ผู้น�า และภาคเอกชนจะเป็นผู้ตาม การเรียนในหลักสูตร จะทาอะไรเพ่อประเทศชาต ร่วมกับกองทัพเรือ” เป็นคาพูด

พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือในคร้งน้จึงม ี ที่น่าประทับใจมาก

จุดแข็งในด้านการสร้างความตระหนักรู้ต่อความสาคัญ มุมมอง บทบาท และข้อเสนอแนะต่อกองทัพเรือ

ของท้องทะเล ซึ่งท�าให้สามารถเป็นผู้ตามและสนับสนุน เราได้ใช้เวทีภายในของหลักสูตรและภายนอกเพ่อ


ที่ดีได้ไม่ยาก นาเสนอผลสัมฤทธ์จากการเรียน และเสวนาอย่างเข้มข้น

ในแง่ของการสร้างความสัมพันธ์ผ่านความหมาย ตลอดหลักสูตรของหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับ
ทางสังคมต่อคาว่า “ครู” ผู้เป็นเสมือนแม่ทัพในการ ผู้บริหารกองทัพเรือ รุ่น ๑๕ ใน ๓ หัวข้อ คือ

ปกป้องผลประโยชน์ของชาติบ้านเมือง กระผมในฐานะ ๑. บทบาทของกองทัพเรือ บทสรุป คือ เราต้องการ



ภาคเอกชนท่มโอกาสได้เข้าอบรมในหลกสตรน ี ้ กองทัพเรือที่สามารถปกป้องอธิปไตย และผลประโยชน์














เหนว่า มความสาคญอย่างยงเนองจากคานมนยต่อการ ของชาติทางทะเลได้

สร้างความศรัทธาแห่งอนาคตของทุก ๆ คน สาหรับ ๒. ความคาดหวังต่อกองทัพเรือ บทสรุป คือเราต้องการ
“ครู” ผู้บรรยายอีกท่านท่สร้างสานึกรับผิดชอบต่อ มีกองทัพเรือท่เข้มแข็ง




ชาติบ้านเมืองแก่กระผม คือ พลเรือตร ประชาชาต ศิริสวัสด ิ ์


ผู้บัญชาการวิทยาลัยการทัพเรือในขณะน้น ท่ได้ให้

โอกาสหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารทัพเรือ




ร่น ๑๕ ได้ร่วมชนเรยนกบ วทยาลยการทพเรอ โดย





“วิทยาลัยการทัพเรือศึกษาเก่ยวกบยุทธศาสตร์ของ


ประเทศให้อยู่รอด” ในฐานะเอกชนจึงได้รับทราบวิธ ี
คิดในแนวลึกของการป้องกันประเทศของวิทยาลัย
การทัพเรือซ่งถือเป็นสถาบันการศึกษาท่สาคัญของ



กองทัพเรือ และของชาต การร่วมแลกเปล่ยนองค์ความร ู้


ระหว่างกัน และเพ่มความน่าสนใจข้นในตัวหลักสูตรของ


หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ



การอบรมในหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร ๓. ข้อเสนอแนะ ทจะช่วยพัฒนากองทพเรอ คอ


กองทัพเรือสามารถสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์ ยุทธศาสตร์การสื่อสารในยุค ๔.๐ มี ประเด็นส�าคัญ คือ
ของหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ ๓.๑ การมีเป้าประสงค์ที่ชัดเจน
ท่เข้มแข็งเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ท่มีเงินก็ซ้อไม่ได้ ๓.๒ การมีจุดยืนทีดี



และได้สัมผัสตัวตนของทหารเรือท่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ๓.๓ การพัฒนาบุคลากร




ได้บาเพ็ญประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาต ิ การจะบรรลในยทธศาสตรฯ จะตองคานงถง ๕ ปจจย







ร่วมกับกองทัพเรือ ของบุคลากร และก�าลังพลในทุกระดับ คือ


สอดคล้องกับ คาพูดของ พลเรือเอก นวพล ดารงพงศ์ ๑. กาลังพลมีความภาคภูมิใจ และมีทัศนคติการเป็น





ผ้ช่วยผ้บญชาการทหารเรือในขฌะนนครทบรรยายไว้ เจ้าของร่วม (Entreprenuerial Spirit)






ในการสอนว่า “ไม่ได้คาดหวังว่าหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ ๒. กาลังพลทางานเช่อมโยงกันเป็นระบบแลกเปล่ยน


ระดับผู้บริหารกองทัพเรือจะทาอะไรให้กองทัพเรือ แต่ ความรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง (Connectivity)



คาดหวังว่าหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหารกองทัพเรือ ๓. กาลังพลปรับตัวกับสภาพแวดล้อมการทางาน
20 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑


ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (Agility) อยากเชิญชวนท่านท่สนใจและมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์
๔. ก�าลังพลเข้าถึงคุณค่าในการท�างาน และท�างาน สามารถสมัครเข้าอบรมหลักสูตรพัฒนาความสัมพันธ์

เป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ (Value Adoption) ระดับบริหาร หรือหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร





๕. กาลังพลประยุกต์ใช้เทคโนโลย เพ่อประสิทธิภาพ กองทัพเรือ รุ่นท ๑๖ ท่จะรับสมัครในปี พ.ศ. ๒๕๖๒

ในการท�างาน (Applying Technology) เตรียมความรู้เก่ยวกับกองทัพเรือ เตรียมความพร้อมให้





ความสามารถของบุคลากรดังกล่าวจะสามารถส่งเสริมให้ ตวเองเพ่อจัดสรรเวลาเพอสามารถร่วมเป็นส่วนหน่งของ



กาลังพลของกองทัพเรือสามารถส่อสารคุณค่าของตนเอง หลักสูตรท่มีคุณค่าต่อตนเองและร่วมกันในการพัฒนาชาต ิ



สู่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ บ้านเมืองให้ก้าวหน้า ม่นคง ม่งค่ง และย่งยืน ตลอดไป


การติดตามข่าวการประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรือ
มีหลายช่องทาง เช่น นิตยสารนาวิกศาสตร์ ข่าวสารนาวี นายจิรชาติ บุญสุข พสบ.ทร.๑๕
ส่อออนไลน์ วิทยุของกองทัพเรือเครือข่าย ๑๕ สถาน ี ผู้บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จ�ากัด


และทางส่อของกรมประชาสัมพันธ์เครือข่ายหน่วยงาน
ภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ รวมถึงทางสารคดีกองทัพเรือ


ท่ออกอากาศทางทรูวิช่นและสอทีวอีกหลายช่องท่ให้




การสนับสนุนเป็นอย่างดี
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 21




มหาอานาจทางทะเลในศตวรรษท ๒๑




นาวาเอก ถุงเงิน จงรักชอบ





“ผู้ใดสามารถครองทะเล ผู้นั้นสามารถครองโลก”

Alfred Thayer Mahan (1890)




กล่าวน�า พ.ศ. ๒๕๖๓ ได้เร่มออกเดินทางจากท่าเรือเมืองต้าเหลียน



เม่อวันที ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ โฆษก เมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปทดลองปฏิบัติ




กระทรวงกลาโหมจีนแถลงข่าวว่า เรือบรรทุกเคร่องบิน หน้าท่ทางทะเล เพอทดสอบสมรรถภาพของเรือ และ





“เหลียวหนิง” ซ่งเป็นเรือบรรทุกเคร่องบินลาแรกของจีน อุปกรณ์ท่เก่ยวข้อง นับเป็นเรือบรรทุกเคร่องบินจีน






(ดูภาพที่ ๑ เรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง) ที่ซื้อจาก ลาท ๒ ท่มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีท่สามารถออกไป

ยูเครนและน�ามาพัฒนาใหม่ สามารถบรรทุกเครื่องบิน ทาการทดลองทางทะเลได้ ส่งผลให้จีนได้กลายเป็น




ขับไล่ J-15 ได้ ๒๔ ลา เข้าประจาการในกองทัพเรือ ประเทศท ๗ ของโลกท่มความสามารถในการผลตเรือ





ของจีนอย่างเป็นทางการต้งแต่ วันท ๒๕ กันยายน บรรทุกเคร่องบินได้เอง ต่อจากสหรัฐอเมริกา รัสเซีย




พ.ศ. ๒๕๕๕ เป็นต้นมา และผ่านการซ้อมรบมาแล้ว อังกฤษ ฝร่งเศส อิตาล และสเปน นอกจากน จีนยัง








หลายคร้ง เช่น การเดินทางไปยังบริเวณน่านนาท่ห่างไกล เตรียมการท่จะมีเรือบรรทุกเคร่องบินลาท ๓ รวมท้ง







จากชายฝั่งเพ่อปฏิบัติการสู้รบ จนถึงขณะน เรือลาดังกล่าว มีแผนท่จะจัดหาเรือบรรทุกเคร่องบินเพ่มมากข้นเป็น ๖ ลา







มีความพร้อมในการสู้รบข้นพ้นฐานแล้ว ในขณะท ่ ี (โดยลาท ๓ – ๖ จะมีขนาดใหญ่มากข้น) คาถามก็คือ จีน














เรือบรรทุกเคร่องบินของจีนลาท ๒ (เรือรุ่น 001A) ซ่ง ึ ทาไมจาเป็นต้องมีเรือบรรทุกเคร่องบินมากขนาดถึง ๖ ลา


เป็นเรือบรรทุกเคร่องบินท่จีนออกแบบและผลิตเองเป็น เรือบรรทุกเคร่องบินท้งหมดจะถูกนาไปใช้อย่างไร ท่ไหน




ล�าแรก มีระวางขับน�้า ๗๐,๐๐๐ ตัน ยาว ๓๑๕ เมตร และหากจีนมีเรือบรรทุกเคร่องบินครบท้ง ๖ ลาแล้ว




กว้าง ๗๕ เมตร มีความเร็ว ๓๑ นอต สามารถบรรทุก จะท้าทายสหรัฐอเมริกา ท่ปัจจุบันมีใช้ราชการจานวน


เคร่องบินขับไล่ J-15 ได้ ๓๖ ลา คาดว่าจะได้รับการ ๑๐ ล�า และต้องการมีถึงจ�านวน ๑๑ ล�า และครองความ






ต้งช่อเรือว่า “ซานตง” และจะนาเข้าประจาการในปี เป็นมหาอานาจทางทะเลอนดับหน่งนบต้งแตสงครามโลก





22 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

ครั้งที่ ๒ จนถึงปัจจุบันใช่หรือไม่ จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจ สมาชิกของสมาพันธรัฐนี้ นอกจากเอเธนส์และนครรัฐที่
และน่าติดตามอย่างย่งว่า มหาอานาจทางทะเลใน อยู่ใกล้เคียงทางตะวันออกเฉียงเหนือของคาบสมุทรกรีก


ศตวรรษที่ ๒๑ นี้จะเป็นอย่างไร ดังนั้นในบทความเรื่องนี้ เป็นสมาชิกแล้ว ยังมีรัฐอีกหลายรัฐที่อยู่ตามเกาะเล็ก ๆ



จึงจะกล่าวเก่ยวกับการเป็นมหาอานาจทางทะเลต้งแต่ ในทะเลอเจยนและรฐในเอเซยไมเนอร์เป็นสมาชกด้วย








ในอดีต ปัจจุบัน และในอนาคต (ดภาพท ๒ เอเธนส์และพนธมตรทางทะเล) มจุดประสงค์






















ภาพที่ ๑ เรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิง
ที่มา : เว็บไซด์ www.tnews.co.th



มหาอ�านาจทางทะเลในอดีตจนถึงปัจจุบัน เพ่อให้มีทัพเรือรวมกันในการป้องกันภัยจากการรุกราน


การเป็นมหาอานาจทางทะเล (สามารถทาให้ ของเปอร์เซีย (คล้าย NATO ในปัจจุบัน) โดยบางนครรัฐ




ประเทศม่งค่งและม่นคงได้) เม่อนับย้อนหลังไปแล้ว จดกองกาลงและเรอให้กบกองทพเรอของสมาพนธรฐ










มีหลักฐานปรากฏว่า ช่วงระหว่างปีท ๕๐๘ ก่อน นครรัฐท่เป็นสมาชิกอ่น ๆ ได้จ่ายค่าธรรมเนียมแทน และ



คริสต์ศักราช เอเธนส์ เป็นชาติแรกท่ได้รับการยอมรับว่า เอเธนส์ได้ใช้เงิน ทหาร และเรือ เพื่อสร้างกองทัพเรือให้


เป็นมหาอานาจทางทะเลในยุคโบราณ เอเธนส์ได้ทา แข็งแกร่ง เรือเดินสมุทรถูกสร้างขึ้นเป็นเรือรบอย่างน้อย


สงครามกับรัฐสปาร์ตาท่เป็นเผด็จการทหารและเป็น ๓๐๐ ล�า (ดูภาพที่ ๓ กองทัพเรือเอเธนส์) โดยมีเรือที่เป็น
มหาอ�านาจทางบก ซึ่งการเป็นมหาอ�านาจทางทะเลของ ก�าลังรบหลักได้แก่ เรือกระเชียงขนาดใหญ่ แต่ภายหลัง
เอเธนส์น้นเกิดข้นจากการจัดต้งสมาคมหรือสมาพันธรัฐ เมื่อภัยจากการรุกรานของเปอร์เซียหมดไป จุดมุ่งหมาย




ขนเรยกวา “สมาพันธรัฐเดลอส (The Delian League)” ของสมาพันธรัฐก็เปล่ยนแปลงไป กองเรือของสมาพันธรัฐ





ที่เกาะเดลอส ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ กลับถูกเอเธนส์น�าไปใช้ในการปราบปรามนครรัฐท่ต้องการ




ศักด์สิทธ์ของเทพเจ้าอพอลโล (Apollo) ท้งน้สมาพันธรัฐ แยกตัวออก หรือใช้บังคับนครรัฐอ่น ให้เข้ามารวมกับ

เดลอส ใช้เป็นศูนย์กลางและเป็นท่เก็บทรัพย์สมบัต ิ สมาพันธรัฐตามต้องการ ต่อในสมัยของเพริคลิส สมาพันธรัฐ

นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 23


ก็เปล่ยนสภาพไปเป็นจักรวรรดิของเอเธนส์โดยเปิดเผย

ใน ๔๕๙ ปี ก่อนคริสตศักราช ศูนย์กลางพร้อมท้งคลัง
ย้ายจากเกาะเดลอสไปยังนครเอเธนส์ เพื่อสะดวกในการ





ดาเนินงานตามท่เพริคลิสอ้าง ส่งสาคัญท่สุดแสดงว่า


สหพันธรัฐท่ต้งข้นด้วยความสมัครใจของรัฐสมาชิก

ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิเอเธนส์ ได้แก่ การห้าม
สมาชิกแยกตัวออกจากสมาพันธ์ แต่การตกเป็นส่วนหน่ง

ของจักรวรรดิเอเธนส์ก็มีผลดีแก่นครรัฐเล็ก ๆ เหล่าน ้ ี
เหมือนกัน นอกจากจะให้ความคุ้มครองจากศัตรูภายนอกแล้ว
ภาพที่ ๓ กองทัพเรือเอเธนส์
นครเอเธนส์มีการค้าขายติดต่อกับนครอ่น ๆ และประเทศ ที่มา : ประวัติศาสตร์โลก เว็บไซต์ www.worldrecordhistory.blogspot.com/

อ่น ๆ อย่างกว้างขวาง และสมาชิกในจักรวรรดิพลอยได้มีส่วน

ในความม่นคงน้ด้วย (เอเธนส์ ม่นค่งและม่นคง ด้วยกาลัง ความพ่ายแพ้ ส่งผลให้เอเธนส์ถูกลดอ�านาจลง กลายเป็น








ทางเรือ) โดยปกต นครเอเธนส์จะปล่อยให้นครรัฐในอารักขา นครรัฐช้นสอง ภายใต้อานาจของสปาร์ตาและได้รับ

ของตนเหล่านี้ท�าการปกครองตนเอง แต่ถ้ามีการจลาจล อนุญาตให้มีเรือรบได้เพียง ๑๒ ล�า เท่านั้น
แก่งแย่งอ�านาจชนชั้นสูง และเปลี่ยนระบบการปกครอง ชาติต่อมาท่เรียกได้ว่าเป็นมหาอานาจทางทะเล คือ





เอเธนส์ก็จะส่งกาลังทางเรือ เข้าไปช่วยปราบปรามให้เกิด โปรตุเกส เร่มจากการนาของเจ้าชายเฮนรีนักเดินเรือ

ความสงบด้วย อย่างไรก็ตาม ความเป็นมหาอานาจทางทะเล ในปี ค.ศ. ๑๔๑๙ เจ้าชายเฮนร (Henry) ทรงพบหมู่เกาะ

ของเอเธนส์ส้นสุดลงประมาณ ๔๐๔ ก่อนคริสตศักราช มาเดราในมหาสมุทรแอตแลนติก และในปี ค.ศ. ๑๔๒๗


เม่อเอเธนส์พ่ายแพ้ต่อสปาร์ตา ซ่งปกครองในระบอบ ทรงพบหมู่เกาะอาโซเรช (Azores) โปรตุเกสยึดดินแดน



เผด็จการทหาร และเป็นมหาอานาจทางบก ท้งน ในการรบ ทั้งสองที่พบเป็นอาณานิคม ในปี ค.ศ. ๑๔๓๔ นักส�ารวจ



ท่เอกอสพอทาไม กองทัพของสปาร์ตา สามารถทาลาย ชาวโปรตุเกสชื่อ กิล อาเนส (Gil Eanes) สามารถพิชิต


ท้งทัพบกและทัพเรือของเอเธนส์ จับเชลยได้ถึง ๓,๐๐๐ คน อุปสรรคของแหลมโบฮาดอร์ (Cape Bojador) ได้




หลังจากน้นเม่อวันท ๘ มกราคม ค.ศ. ๑๔๕๕


พระสันตะปาปานิโคลัสท ๕ ก็ทรงออกพระราชบัญญัต ิ

“โรมานัสพอนทิเฟ็กซ์” (Romanus Pontifex) ท่ระบุว่า


ประเทศใดท่พบท่ไกลไปจากแหลมโบฮาดอร์เป็นของ
โปรตุเกส ภายในยี่สิบปี การส�ารวจของโปรตุเกสก็ท�าให้
ู่
สามารทาการค้าขายทาสและทองได้โดยตรงกับคการค้า


ท่ปัจจุบันคือเซเนกัล และมีการสร้างป้อมการค้าข้นท ี ่

เอลมินา (Elmina) แหลมแวร์เด (Cape Verde) กลายเป็น
อาณานิคมผู้ผลิตน�้าตาลเป็นแห่งแรก ในปี ค.ศ. ๑๔๘๒


การสารวจภายใต้การนาของ Diogo Cão ก็ทาให้เกิด


การติดต่อกับราชอาณาจักรคองโก จุดสาคัญท่เป็นจุด

ท่เปล่ยนแปลงเหตุการณ์เกิดข้นเม่อในปี ค.ศ. ๑๔๘๗





ภาพที่ ๒ เอเธนส์และพันธมิตรทางทะเล เม่อบาร์โตโลมิว ดิอัซ (Bartolomeu Dias) เดินทาง
ที่มา : เว็บไซด์ www.google.co.th
24 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑













รอบแหลมกูดโฮป และพบว่าเป็นทางที่ใช้เดินทางติดต่อ เรมเสอมถอยลง วเคราะหไดวา นาจะมาจากการทโปรตเกส

กับมหาสมุทรอินเดียได้จากด้านมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่มีกาลังทหารท่เข้มแข็งมากพอท่จะยึดประเทศใด


การสารวจทางบกของ Pero da Covilha ทาให้ได้ข้อมูล ประเทศหน่งได้ท้งประเทศ ยึดได้เฉพาะเมืองท่าท ่ ี





สาคัญต่าง ๆ เก่ยวกับทะเลแดงและฝั่งทะเลเควเนีย ในปี ใช้ค้าขายเป็นหลัก ประกอบกับประเทศมหาอานาจ





ค.ศ. ๑๔๙๘ วาสโก ดา กามา (Vasco Da Gama) อ่น ๆ เช่น อังกฤษ และฝร่งเศส พัฒนาข้นในด้าน

เดินทางไปถึงอินเดีย ในขณะเดียวกัน ดิโอโก ซิลเวส การล่าอาณานิคมมากข้น โปรตุเกสจึงเส่อมถอย

(Diogo de Silves) ก็พบซานตามาเรีย (Santa Maria ความเป็นมหาอ�านาจทางทะเลจนถึงปัจจุบัน
Island) ในปี ค.ศ. ๑๔๒๗ และในปีต่อ ๆ มาโปรตุเกสก็ ชาติต่อมา คือ สเปน ในปี ค.ศ. ๑๔๙๒ ที่มีเหตุการณ์

พบเกาะอ่น ๆ ในหมู่เกาะอาโซเรช เกาะเทอร์เซรา (Terceira ส�าคัญ ๒ อย่างเกิดขึ้นพร้อมกัน นั่นคือ ฐานที่มั่นสุดท้าย
ภาพที่ ๓ กองทัพเรือเอเธนส์ island) กลายมาเป็นฐานทางการเดินเรือสาหรับการ ของมุสลิมที่กรานาดา (Granada) ถูกสเปนตีแตก และ

ที่มา : ประวัติศาสตร์โลก เว็บไซต์ www.worldrecordhistory.blogspot.com/

สารวจใน เทอร์ราโนวาและนิวฟันด์แลนด์ โดยพ่น้อง ในปีเดียวกัน Isabella & Ferdinand ก็อนุญาตให้

คาร์เท รีอาล (Corte Real) ราวปี ค.ศ. ๑๕๐๐ และจาก คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เดินทางออกทะเล ซึ่งก็ไปพบกับ
ปากค�าของบิดาของ คาร์เท รีอาล กล่าวว่า โจเอา วาซ “โลกใหม่” นั่นเอง สเปนรวมเป็นหนึ่ง จึงเป็นจุดเริ่มต้น
(João Vaz) เป็นผู้พบทวีปอเมริกาในการเดินทางส�ารวจ ของยคทองแห่งสเปน Habsburg Spain (ดภาพท ๔




คร้งหน่งก่อนหน้าโคลัมบัส ในระหว่างคริสต์ศตวรรษท ่ ี แผนท่ราชวงศ์ฮับส์บูรก์ ปี ค.ศ. ๑๕๔๗) ถือเป็นจักรวรรด ิ



๑๕ และคริสต์ศตวรรษที่ ๑๖ นั้น โปรตุเกส เป็นประเทศ สมัยใหม่ชาติแรก ๆ เพราะการค้นพบโลกใหม่ ทาให้สเปน

มหาอานาจทางเศรษฐกิจ การเมือง และวัฒนธรรม (และโปรตุเกส) ใช้อานาจทางทะเล สร้างอาณานิคมใน






แผ่ขยายอานาจไปท่วโลก อย่างไรก็ตามความเป็นมหาอานาจ ทวีปอเมริกา ดึงทรัพยากรกลับมายุโรป (สร้างความม่งค่ง)





ภาพที่ ๔ แผนที่ราชวงศ์ฮับส์บูร์ก ปี ค.ศ.๑๕๔๗
ที่มา : เว็บไซด์ www.wikipedia.com




นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 25

ภาพที่ ๕ สเปนและอาณานิคม
ที่มา : เว็บไซด์ https://www.isriya.com/node/4231/history-of-spain





จักรวรรดิสเปนในยุคท่มีอาณานิคมมากท่สุด ในปี ชาติต่อมา คือ ฝร่งเศส โดยเร่มมีอาณานิคม
ค.ศ. ๑๗๙๐ (ดูภาพที่ ๕ สเปนและอาณานิคม) ก่อนจะ เช่นเดียวกับอังกฤษ สมัยพระเจ้าออรีท ๔ โดยส่งคน


เสียดินแดนอย่างรวดเร็วในภายหลัง เพราะสเปนเข้าไป ไปต้งเมืองคิวเบกและอาณานิคมแคนาดา ต่อมาสมัย









เก่ยวข้องกับสงครามและความขัดแย้ง ท้งในเร่องลัทธ ิ พระเจ้าหลุยส์ท ๑๓ ฝร่งเศสขยายอานาจมากข้น ในปี
ศาสนา และการแย่งชิงความเป็นใหญ่กันเองหลายต่อ ค.ศ. ๑๖๔๓ ยึดแคว้นโรครัว ปี ค.ศ. ๑๖๔๘ ยึดแคว้น
หลายครั้ง คู่สงครามที่ส�าคัญ ได้แก่ อังกฤษ และฝรั่งเศส เลนส์ ปี ค.ศ. ๑๖๕๙ ยึดแคว้นรูซิยองจากสเปน ในปี





ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในลักษณะน ทาให้สเปน ค.ศ. ๑๖๖๕ สมัยพระเจ้าหลุยส์ท ๑๔ ฝร่งเศสขยาย


สูญเสียดินแดนในครอบครองท่ในปัจจุบันคือประเทศ ดินแดนด้วยการยึดฟลานเดอร์ส (Flanders) และ
เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และอิตาลีไป นอกจากนี้ ผลเสีย ฟรอง-กองเต (Franche-Comté) จากสเปน ในทศวรรษ
จากสงครามเหล่าน้น ก็ทาให้สเปนต้องตกอยู่ในสภาวะ ท ๑๖๘๐ เป็นสมัยเรืองอานาจของฝร่งเศส วัฒนธรรม







ล้มละลายอีกด้วย เม่อเวลาผ่านไป อานาจและเกียรติภูม ิ ฝร่งเศสต่าง ๆ กลายเป็นแฟช่นของยุโรป เอาอย่าง




ของจักรวรรดิก็เสอมถอยลงเป็นลาดบ และเมอสนสุด ความหรูหราท่พระราชวังแวร์ซาย ใน ค.ศ. ๑๖๘๒








คริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ ถูกฝรั่งเศสเข้ารุกราน การเรียกร้อง ลา ซาล (La Salle) นักส�ารวจ ตั้งชื่อดินแดนลุยเซียนา
เอกราชของดินแดนอาณานิคม และความพ่ายแพ้ในการ (Louisiana) ในอเมริกา ตามพระนามพระเจ้าหลุยส์
ท�าสงครามกับสหรัฐอเมริกา ก็ท�าให้สเปนเสียอาณานิคม ทั้งนี้พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. ๑๗๑๕

ของตนไปเกือบท้งหมด ความเป็นมหาอานาจทางทะเล พระชนมายุ ๗๗ พรรษา ทรงครองราชย์ ๗๒ ปี ส�าหรับ




จึงหมดตามไปด้วย จนถึงปัจจุบัน พระเจ้าพระเจ้าหลุยส์ท ๑๔ มีส่วนเก่ยวข้องกับสยาม
26 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑




คือ ได้ส่งราชทูตมาเจริญสัมพันธไมตรีกับสยามในสมัย ทรงนาทัพบุกเยอรมน ชนะทัพออสเตรียท่อุล์ม (Ulm)
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ในปี ค.ศ. ๑๖๗๕ ชัยชนะท่อุล์มทาให้พระเจ้านโปเลียนทรงรุกคืบเข้าไป



(พ.ศ. ๒๒๒๘) และสยามได้ส่งราชทูตกลับไปเจริญ ในออสเตรีย ชนะออสเตรียและรัสเซียท่เอาสเทอร์ลิทซ์



สัมพันธไมตรีกับฝรั่งเศสในปี ค.ศ. ๑๖๘๖ (พ.ศ. ๒๒๒๙) (Austerlitz) เป็นชัยชนะท่ย่งใหญ่ท่สุดของนโปเลียน ทาให้


ด้วยเช่นกัน (ดูภาพท ๖ ราชทูตฝร่งเศสเข้าเฝ้าสมเด็จ จักรวรรดิโรมันอันศักด์สิทธิล่มสลายไป พระเจ้านโปเลียน




พระนารายณ์มหาราช และราชทูตไทยเข้าเฝ้าพระเจ้า ต้งสมาพันธรัฐแห่งไรน์ (Confederation of the Rhine)
หลุยส์ที่ ๑๔) ข้นมาแทนท (ดูภาพท ๗ จักรวรรดิฝร่งเศส ค.ศ. ๑๘๑๑)






























ภาพที่ ๖ ราชทูตฝรั่งเศสเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และราชทูตไทยเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔
ที่มา : เว็บไซด์ www.google.co.th



หลังจากพระเจ้าหลุยส์ท ๑๔ แล้ว ความเป็น อย่างไรก็ตาม ความเป็นมหาอานาจทางทะเลของ



มหาอานาจของฝร่งเศส แม้จะยังมีอยู่ แต่ก็เร่มม ี ฝรั่งเศส ก็เหมือนจะสิ้นสุดลงอีกครั้ง เมื่อทัพเรือฝรั่งเศส



มหาอ�านาจอื่น ๆ เป็นคู่แข่งที่ส�าคัญ โดยเฉพาะปรัสเซีย พ่ายแพ้ราชนาวีอังกฤษ ท่แหลมทราฟัลการ์ (Trafalgar)
(เยอรมัน) และอังกฤษ ฝรั่งเศสกลับมาเป็นมหาอ�านาจ ในป ค.ศ. ๑๘๐๕ (ดูภาพท ๘ ยทธนาวททราฟัลการ์) โดย










ยโรปอกครงในยคสมยของ นโปเลยน โบนาปาร์ต โดย ราชนาวีอังกฤษภายใต้การน�าของ ลอร์ด เนลสัน ได้ร่วม




ในปี ค.ศ. ๑๘๐๔ นโปเลียนปราบดาภิเษกตนเองเป็น วางแผนกับเหล่าผู้บัญชาการเรือ และเขาไม่ยอมใช้วิธีการ


จักรพรรด เร่มจักรวรรดิฝร่งเศสท่ ๑ (First Empire) พระเจ้า รบแบบท่นิยมกันของยุโรปสมัยน้น ด้วยการใช้การ





นโปเลียนทรงปรับปรุงกองทัพฝร่งเศสเป็น “กองทัพใหญ่” แปรขบวนแบบแนวเส้นประจัญบาน (Line of Battle)
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 27



Dutch Republic) ได้นายุทธวิธีน้มาใช้อย่างได้ผล ในช่วง
หลังของศตวรรษที่ ๑๗ ได้มีการรวบรวมเรือจ�านวนมาก
มาจัดเป็นกองเรือ เรือเหล่าน้นมีความแตกต่างท่หลากหลาย


ท้งขนาด รูปแบบ และสภาพของเรือ ในยุทธนาว ี



คร้งสุดท้ายของสงครามอังโกล-ดัทช์ คร้งแรก (ระหว่างปี
ค.ศ. ๑๖๕๒-๑๖๕๓) ซึ่งเป็นสงครามระหว่างอังกฤษกับ

สาธารณรัฐดัทช์ นายพลเรือของอังกฤษ (ในยุคน้นเรียกว่า
British Parliamentary Admirals) ถูกบังคับให้จัด

กระบวนเรือแบบแล่นตามกัน และต่อมาเม่อสงคราม


ส้นสุดลงได้มีการเขียนเป็นตาราท่เรียกว่า code of fighting

instructions รูปกระบวนแล่นตามกันกลายเป็นยุทธวิธี


มาตรฐานของสงครามทางเรือในศตวรรษท ๑๗ และ ๑๘


แต่สาหรบการรบครงน ลอร์ด เนลสน ตดสนใจจะแบ่ง









กองเรือของเขาออกเป็นสองกระบวน โดยทกองเรือ


ท้งสองกระบวนน้จะพุ่งไปตัดกับกระบวนของกองเรือ

ผสมฝร่งเศส-สเปนจากด้านข้าง (Crossing the T) ซ่ง ึ
ภาพที่ ๗ จักรวรรดิฝรั่งเศส ค.ศ. ๑๘๑๑ การกระทาเช่นน้นเป็นการบีบให้กองเรือผสมต้องสู้


ที่มา : เว็บไซด์ www.wikipedia.com

ไม่สามารถแล่นหนได้ และมโอกาสใช้ปืนเรอได้น้อย




ท่กองเรือของท้งสองฝั่งจะแล่นสวนกันในทางขนาน และ กระบอกกว่าฝ่ายของตน
แต่ละฝ่ายจะระดมยิงปืนใหญ่กราบเรือใส่กัน กองเรือทั้ง
สองจะแล่นเป็นเส้นขนานกันไปยิงปืนใหญ่แลกกันไป
เพราะกองเรือฝร่งเศสและพันธมิตรมีเรือมากกว่า (๔๑ ลา




ต่อ ๓๓ ลา) และเรือหลายลาของกองเรือฝร่งเศส มีขนาด

และปริมาณปืนมากกว่าของกองเรืออังกฤษด้วย ส�าหรับ
ความเป็นมาของการรบแบบ The line of battle

แต่ด้งเดิมมาจากกองทัพเรือของเครือจักรภพอังกฤษ และ
บางทีถูกนามาใช้โดยนายพลเรือ โรเบิร์ต เบลค (General



at Sea Robert Blake – ยุคน้นยังไม่มีตาแหน่ง
นายพลเรือ ท่เรียกว่า Admiral) ซ่งเขียนหนังสือเร่อง



The Sailing and Fighting Instructions of 1653

ยุทธวิธีในหนังสือดังกล่าวถูกนามาใช้ในสงครามระหว่าง

อังกฤษกับดัทช์ ท่เรียกว่า Anglo-Dutch Wars โดย
มีเชล เดอ ไรเตอร์ (Michiel de Ruyter) แห่งกองเรือดัทช์
(ในเวลานั้นยังไม่เป็นประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่เป็นเพียง ภาพที่ ๘ ยุทธนาวีที่ทราฟัลการ์
รัฐอิสระ ที่เรียกว่า United Provinces และต่อมาเป็น ที่มา : เว็บไซด์ www.google.co.th
28 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑





แต่แผนน้มีจุดด้อยตรงท่ว่า ระหว่างพุ่งเข้าหา ในป ค.ศ. ๑๘๗๐-๑๘๗๑ ผลของสงครามฝรั่งเศสพายแพ ้



กองเรือผสม กองเรืออังกฤษจะถูกระดมยิงใส่โดยท ่ ี ต่อปรสเซีย ทาให้สูญเสียความเป็นมหาอานาจทางบก
ไม่สามารถตอบโต้ได้เลย ซึ่งแน่นอนว่าเรือที่น�ากระบวน ตามไปด้วย ท้งน้นักวิเคราะห์กันว่า สาเหตุของความพ่ายแพ้



กองเรืออังกฤษน้นจะเสียหายมากท่สุด มีโอกาสสูงท่จะ เพราะฝ่ายปรัสเซียมีผู้น�าที่ส�าคัญ ได้แก่ กษัตริย์วิลเฮล์ม









อบปางก่อนถงกองเรือผสม อย่างไรกตามกระบวนเรือ ท ๑ นายกรฐมนตร บสมาร์ค และนายพล มอลเค้

ของกองเรือผสมส่วนกลางกับส่วนหลังน้น โดนกองเรือ สามารถสร้างสามเหลี่ยมสงคราม หรือ Trinity of War

องกฤษเข้าโจมต โดยทกองเรอผสมส่วนหน้าไม่สามารถ (รัฐบาล ทหาร และประชาชน) ท่สมดุล ในปี ค.ศ. ๑๘๑๒







ช่วยเหลอได้ เพราะการจะช่วยกองเรอส่วนหลงจะต้อง จักรพรรดินโปเลียนแห่งฝร่งเศสทรงถูกบังคับให้สละ



กลับไปอ้อมเรือมา ซึ่งเสียเวลามากและไม่ทันการ ท�าให้ บัลลังก์ เพราะได้รับการต่อต้านจากชาวฝร่งเศส ในปี


กองเรือส่วนหน้าจึงตัดสินใจหนีไป ท�าให้ราชนาวีอังกฤษ ค.ศ. ๑๘๑๔ สัมพันธมิตรเข้าบุกยึดกรุงปารีส ทาสนธ ิ


ได้รับชัยชนะในท่สุด เม่อนโปเลียนสูญเสียกองเรือผสม สัญญาฟงแตนโบล (Fontainebleau) เนรเทศนโปเลียน
น้ไป ทาให้ความหวังของนโปเลียนท่จะยึดเกาะอังกฤษ ไปเกาะเอลบาในอิตาลี สิ้นสุดจักรวรรดิที่ ๑



ก็ล่มไปด้วย ความเป็นมหาอานาจทางทะเลก็หมดไปด้วย ผู้เขียนขอขยายความเร่องการขยายอิทธิพลมาทาง





แต่ก็กลายเป็นผลดีเม่อฝร่งเศสเปล่ยนนโยบายให้กองเรือ ตะวันออกของฝร่งเศส ด้วยนโยบายการทูตเรือปืน



เดินทางไปทางตะวันออก(พลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้ (Gun Boat Diplomacy) ทาให้ฝร่งเศสมีอาณานิคม
เป็นอย่างดี) ซึ่งกองทัพเรือของนโปเลียนนี้สามารถพิชิต เพ่มข้นอย่างมาก (ดูภาพท ๙ ฝร่งเศสและอาณานิคมช่วง







ดินแดนต่าง ๆ ได้อย่างไพศาล จนกลายเป็นท่หว่นเกรงไป ค.ศ. ๑๙๑๙-๑๙๓๙)



ท้งทวีป ต่อมาฝร่งเศสได้ทาของสงคราม ฟรังโก-ปรัสเซีย
ภาพที่ ๙ ฝรั่งเศสและอาณานิคมช่วง ค.ศ.๑๙๑๙-๑๙๓๙
ที่มา : เว็บไซด์ www.wikipedia.com

นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 29









ทงนการขยายอทธพลของฝรงเศส ส่งผลกระทบ

ต่อสยามเป็นอย่างมาก โดยมีการทาสงครามทางเรือ
กันถึง ๒ ครั้ง ครั้งแรก เรียกว่า สงครามฝรั่งเศส – สยาม
หรือ สงคราม รศ.๑๑๒ (พ.ศ. ๒๔๓๖ หรือ ค.ศ. ๑๘๙๓)
ฝร่งเศส ได้ส่งเรือปืนแองกงสตอง (Inconstant) และ

เรือโกแมต (Comete) เข้ามายังกรุงเทพฯ เกิดการต่อสู้

บริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและป้อมผีเส้อสมุทร

ต่างฝ่ายได้รับความเสียหาย โดยเรือรบฝร่งเศสสามารถ


ฝ่ากระสุนเข้ามาจอดท่หน้าสถานทูตฝร่งเศสได้ หลังจากน้น



รัฐบาลฝร่งเศสได้ย่นคาขาดต่อรัฐบาลสยามไว้ ๖ ข้อ

ในจ�านวนนี้มีอยู่ ๓ ข้อ ที่ส่งผลท�าให้สยามเสียทั้งความ
มั่งคั่งและมั่นคงด้วย คือ ข้อ ๑ เรียกร้องให้สยามยอมรับ ภาพที่ ๑๐ เรือลามอตปิเกของฝรั่งเศส
ที่มา : เว็บไซด์ www.google.co.th
ว่าดินแดนบนฝั่งซ้ายแม่นาโขงเป็นของฝร่งเศส และ



ข้อ ๕ กับข้อ ๖ สยามต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน กาเนิดจากดินแดนอาณานิคมโพ้นทะเล และสถานีการค้า




๒ ล้านฟรังก์ โดยต้องจ่ายเงินรวม ๓ ล้านฟรังก์ เป็นมัดจา ท่ราชอาณาจักรอังกฤษก่อต้ง ระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษ



เพ่อชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ ในระหว่างน้ฝร่งเศสขอยึด ท ๑๖ และต้นคริสต์ศตวรรษท ๑๘ ในช่วงท่เจริญถึงขีดสุด






เมืองจนทบุรไว้เป็นประกน จนกว่าสยามจะปฏิบติตาม จักรวรรดิบริติชเป็นจักรวรรดิท่ใหญ่ท่สุดในประวัติศาสตร์













ข้อสัญญาต่าง ๆ ต่อมาสยามกับฝร่งเศสก็เร่มเจรจา และเปนมหาอานาจโลกชนแนวหนา นานกวาหนงศตวรรษ


ท�าสัญญาสันติภาพต่อกัน ในปี ค.ศ. ๑๙๒๒ จักรวรรดิบริติชปกครองประชากรประมาณ
ครั้งที่สอง สงครามยุทธนาวีที่เกาะช้าง เป็นการสู้ ๔๕๘ ล้านคน หรือกว่าหน่งในห้าของประชากรโลก



รบบริเวณเกาะช้าง เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ ๑๗ ในเวลาน้น ครอบคลุมพ้นท่มากกว่า ๓๓ ล้านตาราง


มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๔ หรือ ค.ศ. ๑๙๔๑ กาลังรบทางเรือ กิโลเมตร เกือบหน่งในส่ของพ้นดินท้งหมดของโลก






ของฝ่ายไทยท่รักษาการณ์อยู่ในบริเวณน้น ประกอบด้วย (ดูภาพที่ ๑๑ จักรวรรดิอังกฤษปี ค.ศ. ๑๙๒๐) ในยุคที่
เรือหลวงธนบุร เรือหลวงชลบุร และเรือหลวงสงขลา จักรวรรดิบริติชรุ่งเรืองท่สุด มักใช้คาวล “ดวงอาทิตย์





ได้เข้าต่อสู้ขัดขวางกองเรือฝร่งเศส ซ่งมีกาลังทางเรือถึง ไม่เคยตกดินในจักรวรรดิบริติช” เพราะดินแดนท่มีอยู่




๗ ล�า ประกอบด้วย เรือลาดตระเวน ๑ ล�า (ดูภาพที่ ๑๐ ท่วโลกทาให้ดวงอาทิตย์ยังส่องแสงอยู่ในดินแดนใต้


เรือลามอตปิเกของฝรั่งเศส) เรือสลุป ๒ ล�า และเรือปืน ปกครองอย่างน้อยทสดหนงแห่งตลอดเวลา แม้จะเป็น






๔ ล�า ผลของการสู้รบท�าให้ฝ่ายไทยต้องเสียเรือทั้ง ๓ ล�า เพียงประเทศท่เป็นเกาะก็ตาม ซ่งเคร่องมือท่สาคัญ








พร้อมชีวิตของทหารเรือรวม ๓๖ นาย ขณะท่ฝ่ายฝร่งเศส ที่ทาให้อังกฤษมีอาณานิคมมากท่สุดในโลก ก็คือ ราชนาว ี


แทบไม่ได้รับความสูญเสียใด ๆ แต่ก็เป็นฝ่ายล่าถอยออก อังกฤษ (ญ่ปุ่น ประเทศท่เป็นเกาะ ก็เคยเป็นมหาอานาจ

ไปเอง ท�าให้ไทยรักษาเอกราชอธิปไตยไว้ได้ ทางทะเล ในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิงคโปร์ก็
ชาติต่อมา จักรวรรดิบริติช (British Empire) หรือ เป็นเกาะ แต่มีก�าลังทางเรือที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และ
จักรวรรดิอังกฤษ ประกอบด้วย ประเทศในเครือจักรภพ อินโดนีเซียก็มีเกาะมากมายประมาณ ๑๗,๐๐๐ เกาะ


คราวน์โคโลน รัฐในอารักขา รัฐในอาณัต และดินแดนอ่น กาลังพัฒนากาลังทางเรือและประกาศว่าจะเป็นชาต ิ



ซ่งสหราชอาณาจักรปกครองหรือบริหาร จักรวรรด ิ ทางทะเล หรือ Maritime Country)

30 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

ภาพที่ ๑๑ จักรวรรดิอังกฤษ ปี ค.ศ.๑๙๒๐
ที่มา : เว็บไซด์ www.wikipedia.com








อังกฤษเร่มเป็นมหาอานาจทางทะเล ด้วยการ ในสงคราม และคร้งใหญ่ท่สุดคร้งหน่งในประวัติศาสตร์

ทาสงครามทางเรือหรือยุทธนาว กับมหาอานาจทางทะเล ซ่งเป็นการปะทะกันเต็มอัตราศึกของกองทัพเรือท้งสองฝ่าย









อ่น ๆ หลายคร้ง ท่สาคัญคือ ใน ค.ศ. ๑๕๘๘ กองทัพเรือ ใช้เวลาสองวัน คือวันท ๓๑ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๑๖


ของอังกฤษทาสงครามชนะกองทัพเรืออาร์มาดา (ARMADA) ถึง วันที่ ๑ มิถุนายน ค.ศ. ๑๙๑๖ ในบริเวณทะเลเหนือ







ของสเปนท่มีช่อเสียงได้ ทาให้อังกฤษขยายอิทธิพลสู่ นอกคาบสมทรจตแลนด กองเรอทะเลหลวงของกองทพเรอ



ดินแดนตะวันออก สามารถสลายอานาจทางทะเลของ เยอรมัน ภายใต้บังคับบัญชาของพลเรือโท ไรนาร์ด เชร์
โปรตุเกส และเข้าไปมีอานาจและอิทธิพลในอินเดีย ประจัญกับกองเรือหลวงของราชนาวีอังกฤษภายใต้การนา �

และเป็นคู่แข่งทางการค้ากับฮอลันดา ในคริสต์ศตวรรษ ของพลเรือเอก เซอร์ จอห์น เจลลิโค ผลของยุทธนาวีนี้
ที่ ๑๗ มีเพียงอังกฤษ ฮอลันดา และฝรั่งเศส แข่งขันกัน ไม่มีฝ่ายใดแพ้หรือชนะ เม่อฝ่ายเยอรมันสามารถหลบหน ี


มีอ�านาจทางทะเลและแสวงหาอาณานิคม ทั้งนี้ได้มีการ จากกองเรืออังกฤษท่มีกาลังเหนือกว่าได้ แต่ได้สร้างความ


ทาสงครามกันหลายคร้ง เช่น ยุทธนาวีทแหลมทราฟัลการ์ เสยหายแก่กองเรอองกฤษมากกว่าทตนได้รบ ทาให้











(Trafalgar) กับฝร่งเศส ในปี ค.ศ. ๑๘๐๕ ตามท่ได้กล่าว ในทางยุทธศาสตร์แล้ว ฝ่ายอังกฤษสามารถควบคุมทะเลได้





มาแล้ว จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษท ๑๘ อังกฤษกลับเป็น ส่งผลให้กองเรือผิวนาส่วนใหญ่ของเยอรมนีถูกกักอยู่


ประเทศท่มีแสนยานุภาพทางทะเลเหนือกว่าทุกชาต ิ แต่ในท่า กระท่งสงครามยุต (มักกล่าวกันว่าอังกฤษ แพ้ทาง


โดยได้อาณานิคมในอินเดีย อเมริกาเหนือ และทวีป ยุทธวิธ แต่ชนะทางยุทธศาสตร์) โดยเรือรบท่สาคัญ












ออสเตรเลียท้งทวีป ยุทธนาวีคร้งสาคัญอีกคร้งหน่ง เกิดข้น ยุคน คือ เรือลาดตระเวน หลังสงครามโลกคร้งท ๑





ในปี ค.ศ. ๑๙๑๖ (ช่วงสงครามโลกคร้งท ๑) เรียกว่า ราชนาวีอังกฤษลดถอยความเป็นมหาอานาจทางทะเล

“ยุทธนาวีจัตแลนด์ (Jutland)” เปนยทธนาวครงใหญทสด ลงไป เนองจากหนสนทเกดจากทาสงคราม สงผลใหเกด




















นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 31



มหาอานาจทางทะเลใหม่ข้นมา น่นคือ สหรัฐอเมริกา สงครามทั้งในสมรภูมิยุโรป แอตแลนติก แอฟริกาเหนือ











ซ่งความเป็นมหาอานาจทางทะเลของสหรัฐอเมริกา เมดเตอรเรเนยน และตะวนออกไกล พรอม ๆ กน จงทาให ้
นักการทหารส่วนหน่งมองว่า เกิดจากอิทธิพลของหนังสือท ่ ี ความเข้มแขงของกองทัพเรืออังกฤษถกลดทอนลง



พลเรือตร เซอร์ อัลเฟรด เทเยอร์ มาฮาน (Alfred อย่างมาก ขณะท่ญ่ปุ่น มีกาลังทางเรือท่เข้มแข็งมาก












Thayer Mahan) เขียนข้นมาเล่มหน่ง ช่อว่า “The กาลังรบทางเรือท่สาคัญ คือ เรือบรรทุกเคร่องบิน จานวน


Influence of Sea Power Upon History ๑๕ ลา เรือประจัญบาน ๑๒ ลา เรือลาดตระเวน



: 1660–1783” ซ่งได้กล่าวถึงการทาสงครามทางเรือ อีกจ�านวนมาก และเรือด�าน�้า ประมาณ ๑๕๐ ล�า (ไทยมี
ในยุคต่าง ๆ และได้แสดงความคิดเห็นว่า การเป็น ๔ ล�า สั่งต่อจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน)
ผู้ชนะสงครามสงครามทางเรือ รวมท้งการเป็นมหาอานาจ





ทางทะเล จาเป็นต้องมองค์ประกอบสาคญท่สามารถ



เอ้อ หรือส่งเสริมให้ประเทศใดประเทศหน่งเป็น

มหาอานาจทางทะเล หรือเกิดสมุททานุภาพได้ คือ




ตาบลท่ต้งทางภูมิศาสตร์ (Geographical Position)
สภาพภูมิประเทศ (Physical Conformation) ขอบเขต

ของดินแดน (Extext of Territory) จานวนประชากร
(Numbers of Population) อุปนิสัยของคนในชาต ิ
(National Character) และ คุณลักษณะของรัฐบาล
(Character of the Government) นอกจาก ๖ ประการน ้ ี
มาฮาน ยังกล่าวถึงการมีฐานทัพเรือ ท่าเรือ กองเรือ
พานิชย์ และก�าลังทางเรือ ก็เป็นสิ่งส�าคัญที่จะก่อให้เกิด


การเป็นประเทศมหาอานาจทางทะเลอย่างม่งค่งและ




มนคง ได้อกด้วย สาหรบการเป็นมหาอานาจทางทะเล ภาพที่ ๑๒ การขยายอ�านาจทางทะเลของญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒



ของสหรัฐอเมริกา อีกมุมมองหนึ่งที่น่าสนใจ คือ ในช่วง ที่มา : เว็บไซด์ www.google.co.th





สงครามโลกคร้งท ๒ เป็นการทาสงครามทางทะเลท ี ่ ทางฝ่ายสหรัฐอเมริกา ซ่งเข้าร่วมสงครามในช่วงหลัง

ยิ่งใหญ่ที่สุด ระหว่างกองทัพเรือฝ่ายสัมพันธมิตร น�าโดย มีกาลังทางเรือในแปซิฟิก ประกอบด้วย เรือบรรทุกเคร่องบิน



สหรัฐอเมริกา ภายใต้การบัญชาการของ พลเอก จานวน ๗ ลา เรือประจัญบาน จานวน ๑๗ ลา เรือลาดตระเวน



แมคอาเธอร์ กับ ญ่ปุ่น ซ่งเป็นมหาอานาจทางทะเลใน ทั้งเบาและหนัก จ�านวน ๓๗ ล�า และเรือด�าน�้า ๑๑๔ ล�า









มหาสมุทรแปซิฟิกในช่วงน้น (ดูภาพท ๑๒ การขยาย (ดูภาพท ๑๓ และ ๑๔ กาลังทางเรือของญ่ปุ่นและ




อานาจทางทะเลของญ่ปุ่นช่วงสงครามโลกคร้งท ๒) สหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกคร้งท ๒) แต่หลังจาก





โดยความเป็นมหาอ�านาจทางทะเลของญี่ปุ่น น่าจะเริ่มต้น ยุทธนาวีท่มิดเวย์ ระหว่างวันท ๔ - ๗ มิถุนายน ค.ศ. ๑๙๔๒




จากการเอาชนะสงครามทางเรือต่อรัสเซีย ในการรบท ี ่ ความเป็นมหาอานาจทางทะเลของญ่ปุ่นก็แทบจะหมดไป
ช่องแคบซุชิมา (Battle Tsushima) ในปี ค.ศ. ๑๙๐๕ เนื่องจากสูญเสียเรือเป็นจ�านวนมาก โดยเฉพาะเรือบรรทุก




เป็นต้นมา ท้งน้ในช่วงต้นสงครามโลกคร้งท ๒ น้น ถือกันว่า เคร่องบิน ถึง ๔ ลา รวมท้งเคร่องบินและนักบินด้วย ขณะท ่ ี







“อังกฤษ” มีกองทัพเรือท่ทันสมัยและใหญ่โตมากท่สุด ฝ่ายสหรัฐอเมริกา สูญเสียเรือบรรทุกเคร่องบินเพียง ๑ ลา




ในโลก แต่เมื่อมาถึงช่วงกลางสงคราม ซึ่งอังกฤษต้องท�า เรือรบอีกจานวนหน่ง แล้วหลังจากน้น สหรัฐอเมริกาก็ใช้


32 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑







กองเรือบรรทุกเคร่องบินเป็นกาลังรบหลักโจมตีญ่ปุ่น และเม่อวันท ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตร ี
ยึดเกาะ และพื้นที่ต่าง ๆ จนญี่ปุ่นต้องยอมแพ้หลังจาก กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เจมส์ แมตทิส ได้แถลงว่า




การท้งระเบิดปรมาณ เม่อปี ค.ศ. ๑๙๔๕ ส้นสุดสงคราม ต้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป กองบัญชาการทหารภาคแปซิฟิก

ทางเรือในภูมิภาคแปซิฟิก และสหรัฐอเมริกาก็กลายเป็น ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น กองบัญชาการ

มหาอานาจทางทะเล นับต้งแต่น้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ทหารภาคอินโด-แปซิฟิกสหรัฐอเมริกา (United States




(คาดกันว่า มีเรือบรรทุกเคร่องบินท่เข้าร่วมและอยู่ระหว่าง Indo-Pacific Command หรือ USINDOPACOM)



การก่อสร้างในสงครามโลกคร้งท ๒ ต้งแต่เร่มสงคราม การเปล่ยนช่อคร้งน้ก็เพ่อสะท้อน “ความเช่อมโยงกัน










จนส้นสุดสงคราม ประมาณ ๑๔๓ – ๑๖๐ ลา) ท้งน ี ้ ท่เพ่มข้นเร่อย ๆ ระหว่างมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทร











สหรัฐอเมริกา มีกาลังทางเรืออยู่ตามภูมิภาคต่าง ๆ ท่วโลก แปซิฟิก” รวมท้งเพ่อสะท้อนความมุ่งม่นต้งใจของ





รวมท้งกองบัญชาการทหารภาคแปซิฟิกของสหรัฐอเมริกา สหรฐอเมริกา ท่จะยังคงเป็นมหาอานาจ ผู้มีฐานะครอบงา
(United States Pacific Command : USPACOM) อยู่ในมหาสมุทรท้งสอง ซ่งคาว่า “อินโด-แปซิฟิก”





ท่มีภารกิจในการดูแลกาลังทหารในภูมิภาคเอเซียท้งหมด ผู้เขียนได้เคยเขียนบทความลงในนาวิกศาสตร์มาแล้ว


รวมท้งกาลังทางเรือในมหาสมุทรแปซิกฟิกมาหลายสิบปี ก็ลองไปติดตามอ่านกันได้



ภาพที่ ๑๓ ก�าลังทางเรือของญี่ปุ่น ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
ที่มา : เว็บไซด์ www.naval-encyclopedia.com/ww2





นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 33

ภาพที่ ๑๔ ก�าลังทางเรือของสหรัฐอเมริกา ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒
ที่มา : เว็บไซด์ www.naval-encyclopedia.com/ww2


จีนกับการมหาอ�านาจทางทะเลศตวรรษที่ ๒๑ ได้ครอบคลุมทั่วโลก ทั้งนี้นับตั้งแต่นโยบาย “One Belt

ตามท่โฆษกกระทรวงกลาโหมจีน แถลงข่าวเม่อวันท ี ่ One Road : OBOR” และ “Maritime Silk Road”




๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ หลังจากสหรัฐอเมริกา เกิดข้น จีนมีการดาเนินการเพ่อรักษาผลประโยชน์ของชาต ิ






เปลยนชอ USPACOM เป็น USINDOPACOM ๑ วน ทางทะเลจีนเพ่มมากข้น เช่น การพัฒนาเกาะต่าง ๆ

ว่า เรือบรรทุกเคร่องบิน “เหลียวหนิง” มีความพร้อม ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพ่อให้สามารถเป็นฐานทัพหน้า




ในการสู้รบข้นพ้นฐานแล้ว ขณะท่เรือบรรทุกเคร่องบิน โดยให้เคร่องบินสามารถข้นลงได้ เรือรับการส่งกาลังบารุงได้












ล�าที่ ๒ ที่จีนต่อเองจะเข้าประจ�าการในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ท้งนีเป็นท่ทราบกันดว่า หลังจากสงครามโลกคร้งท ๒








รวมท้งมีแผนท่จะมีเรือบรรทกเครองบินเพ่มมากข้นเป็น (ค.ศ. ๑๙๔๕) ประมาณ ๒ ปี จีนได้อ้างสิทธิครอบครอง




๖ ล�า จึงเป็นเรื่องน่าสนใจว่า จีนจ�าเป็นต้องมีเรือบรรทุก น่านนาในทะเลจนใต้เกอบทงหมด ด้วยการใช้แผนท ี ่



เครื่องบินถึง ๖ ล�าเชียวหรือ และเมื่อตรวจสอบประเทศ ทางประวัติศาสตร์ท่เรียกว่า “เส้นประ ๙ เส้น หรือ


ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ท่มีเรือบรรทุกเคร่องบินมากกว่า Nine-dash Line” (ดูภาพที่ ๑๖ เส้นประ ๙ เส้น ที่จีน
๑๐ ประเทศ (ดภาพท ๑๕ เรอบรรทุกเคร่องบน ประกาศ) ประกาศเป็นเขตแดนทางทะเล และไปทับ






ประเทศต่าง ๆ) ค�าตอบสั้นคือ จ�าเป็น เพราะจีนต้องการ กับอาณาเขตทางทะเลของประเทศอื่น ๆ
ส่งก�าลังทางเรือ ไปรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
34 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

ภาพที่ ๑๕ ประเทศที่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน
ที่มา : เว็บไซด์ www.wikipedia.com









นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 35

ภาพที่ ๑๖ เส้นประ ๙ เส้น ที่จีนประกาศ
ที่มา : เว็บไซด์ www.bbc.com/thai/international












36 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑






หลายประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซ่งเร่องนไทยควรนามาศึกษาเป็นกรณีตวอย่าง


ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และ เพราะไทยก็มีเกาะท่ยังอยู่ระหว่างการตกลงกันไม่ได้กับ
ไต้หวัน ออกมาคัดค้านการกล่าวอ้างของจีน ขณะท่จีนยังคง ประเทศเพอนบ้าน รวมทงเกาะและดอนทเกิดข้นใหม่















เดินหน้า แสดงความเป็นเจ้าของน่านนาในบริเวณน ไม่ว่า ในแม่นาโขงอย่างมากมาย ท่ยังไม่สามารถตกลงกับ




จะเป็น การย้ายแท่นขุดเจาะนามันในทะเลลึกเข้าไปยัง ทางสาธารณรฐประชาธปไตยประชาชนลาวได้ว่า

น่านนาใกล้กับหมู่เกาะพาราเซล การเร่งถมทะเลสร้าง ประเทศไหนจะมีสิทธิในการครอบครองเกาะ ดอน





ู่




เกาะเทยม และสรางสงปลูกสร้างบรเวณหมเกาะสแปรตลย ์ เหล่าน้น แม้จะมีอนุสัญญาสยาม-ฝร่งเศส ฉบับลงวันท ่ ี
ซ่งเป็นพ้นท่พิพาท ไม่เพียงการก่อสร้างแต่ยังมีการติดต้ง ั ๒๕ สิงหาคม พ.ศ. ๑๙๒๖ (พ.ศ. ๒๔๖๙) และแผนท ่ ี





ขีปนาวุธด้วย ซ่งการกระทาดังกล่าวของจีน ได้ถูกเรียกร้อง Trace de la Frontiere Franco-Siamoise du Mekong
จากนานาชาติเป็นอย่างมาก และในความเป็นจริง ไม่ใช่จีน ฉบับที่ตีพิมพ์ เมื่อปี ค.ศ. ๑๙๓๑ ได้ก�าหนดไว้แล้วก็ตาม


เพียงประเทศเดียว ท่ก่อสร้างส่งปลูกสร้างในบริเวณ แต่เน่องจาก สภาวะแวดล้อมในแม่นาโขงเปล่ยนแปลงไป





หมู่เกาะสแปรตลีย์ ประเทศท่อ้างสิทธิท้งหมดก็สร้างด้วย อย่างมาก ทาให้เกาะ ดอน ไม่เป็นไปตามอนสญญาฯ















เข้าทานอง “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” (ดูภาพท่ ๑๗ ทตกลงกนไว้ ทงนไทยไม่ควรให้มการสร้างส่งปลกสร้าง



การสร้างส่งอานวยความสะดวกในหมู่เกาะสแปรตลีย์ หรือนาคนไปอยู่ตามเกาะ ดอน อย่างเด็ดขาด การขยาย


ของประเทศท่อ้างสิทธ์) แต่ด้วยขีดความสามารถท ่ ี การคุ้มครองและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล



แตกต่างกัน และเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จึงจาเป็นต้องหาตัวช่วย ของจีน ไม่เพียงเฉพาะในทะเลจีนใต้เท่าน้น จีนได้เช่า
เพื่อไม่ให้จีนสร้างเกาะได้มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว พ้นท่ของท่าเรือท่จิบูต (ดูภาพท ๑๘ ท่าเรือจิบูต ิ






ภาพที่ ๑๗ การสร้างสิ่งอ�านวยความสะดวกในหมู่เกาะสแปรตลีของประเทศที่อ้างสิทธิ์
ที่มา : เว็บไซด์ www.mgronline.com
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 37






ในแอฟริกา) เพ่อสร้างฐานทัพเรือ สาหรับท่าเรือของจิบูต ี สาหรับนโยบาย Maritime Silk Road น มีหลายฝ่าย


เป็นศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าและบริการเข้าสู่อน ุ ท่มองว่า เป็นการขยายอิทธิพลทางการค้าของจีน เพ่อต้องการ


ภูมิภาคแอฟริกาเหนือและตะวันออก โดยเฉพาะ เป็นมหาอานาจทางด้านเศรษฐกิจ ซ่งการดาเนินนโยบาย








สู่เอธิโอเปีย ซ่งมีท่ต้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ท่สาคัญของ ในลักษณะน จีนไม่ได้ทาเป็นคร้งแรก หากมองย้อนกลับไป


แอฟริกา (Horn of Africa) ซึ่งเชื่อมระหว่างอ่าวเอเดน ในศตวรรษท ๑๔ โดยในปี ค.ศ. ๑๔๐๕ – ๑๔๓๓









กบทะเลแดง ม ฝร่งเศส สหรัฐอเมริกา และญ่ปุ่น ต้งฐานทัพ (กอนสเปนสงกองเรือออกส�ารวจดวยซ�้าไป) กองเรือของ


อยู่ในจิบูตีก่อนหน้าน้แล้ว เพ่อทาหน้าท่สนับสนุนกองกาลัง เจ้งเหอ ออกสารวจทางทะเลรวม ๗ คร้ง เดินทางมากกว่า







ต่อต้านการกระทาอันเป็นโจรสลัดในอ่าวเอเดน ท้งน ้ ี ๕๐,๐๐๐ กิโลเมตร เพ่อค้าขายกับประเทศต่าง ๆ





จนให้เหตผลว่า การเช่าท่าเรอจบตเพอต้องการวาง ประมาณ ๓๗ ประเทศ การเดินทะเลในคร้งแรกมีเรือ








กองกาลังทางเรือตามมาตรการของข้อมติคณะมนตร ี ขนาดใหญ่ตามไปด้วยถึง ๖๐ ลา ขนาดเล็ก ๒๕๕ ลา




ความม่นคงแห่งสหประชาชาต ใช้ในภารกิจคุ้มกัน มีลูกเรือทั้งหมด ๒๗,๘๗๐ คน แล่นเลียบชายฝั่งฟุเกี้ยน



การลาเลียงอาหารและเช้อเพลิงให้กับกองทัพในพ้นท ี ่ ผ่านไปยังอาณาจักรจามปา ชวา มะละกา สมุทรา และ
เช่นเดียวกัน แต่ผู้เช่ยวชาญด้านความม่นคงมองว่า แลมบร ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา จากน้นเดินทาง






การต้งฐานทัพถาวรในพ้นท่ดังกล่าว เป็นเร่องเชิงยุทธศาสตร์ ต่อไปยังเกาะลังกา กาลิกัต ขากลับได้นาคณะทูตจาก



ของจีนท่จะสามารถแผ่ขยายอานาจปฏิบัติการทางทะเล เมืองเหล่าน้มาเข้าเฝ้า ฯ จักรพรรดิหย่งเล่อ ในการเดินเรือ




และยังเอ้อประโยชน์ต่อนโยบาย Maritime Silk Road ด้วย แต่ละคร้ง ขากลับจะนาเคร่องบรรณาการจากเมืองต่าง ๆ



มาถวายจักรพรรดิหย่งเล่อ โดยเฉพาะสัตว์จากหลาย ๆ
เมืองท่ผ่าน เช่นขากลับจากการเดินเรือทางทะเล

ในครั้งที่ ๕ เจิ้งเหอได้น�าสิงโต เสือดาว นกกระจอกเทศ
ม้าลาย และยีราฟ (โดยบอกว่าเป็น กิเลน) กลับไปถวาย



จักรพรรดิหย่งเล่อ ซ่งเป็นท่ช่นชอบมาก กลายเป็น



ของแปลกและน่าต่นเต้นสาหรับชาวจีนท่พบเห็น


เป็นคร้งแรก ต้นปีถัดมา เจ้งเหอก็เร่มออกเดินทางใน








คร้งท ๒ เวลาน้นอายุ ๓๖ ปี คร้งท ๓ อาย ๓๘ ปี













ครงท ๔ อาย ๔๒ ปี คร้งท ๕ อาย ๔๖ ปี คร้งท ๖


อาย ๕๐ ปี คร้งท ๗ อาย ๖๐ ปี โดยคร้งสุดท้ายมจานวน







ลูกเรือ ๒๗,๕๕๐ คน ไปไกลถึงทวีปแอฟริกา (ดภาพท ี ่
๑๙ เปรียบเทียบเส้นทางการเดินเรือของ เจ้ง เหอ

ในศตวรรษท ๑๕ กับ เส้นทางสายไหมทางทะเล


ในศตวรรษที่ ๒๑) นอกจากท่าเรือที่จิบูติแล้ว จีนได้เช่า
ท่าเรือฮัมบันโตตาของศรีลังกา เป็นเวลา ๙๙ ปี โดย
บริษัท China Merchants Port Holding มีหุ้นในท่าเรือ
ภาพที่ ๑๘ ท่าเรือจิบูติ ในแอฟริกา ดงกล่าวน ประมาณร้อยละ ๖๙.๙ ทงน้มีสอต่าง ๆ








ที่มา : เว็บไซด์ www.sameaf.mfa.go.th/FactSheet%20Th/Africa/Djibouti เสนอว่า จีนเช่าท่าเรือเพ่อวัตถุประสงค์ทางทหาร

แต่ทางการศรีลังกายืนยันว่า จีนเช่าเพ่อทางเศรษฐกิจ

38 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

ภาพที่ ๑๙ เปรียบเทียบเส้นทางการเดินเรือของ เจิ้ง เหอ ในศตวรรษที่ ๑๔ กับ เส้นทางสายไหมทางทะเลใน ศตวรรษที่ ๒๑
ที่มา : เว็บไซด์ www.wikipedia.com

เท่าน้น อย่างไรก็ตาม ท่าเรือแห่งน้ก็ถือเป็นเมืองท่า ท่เมือง Norfolk รัฐเวอร์จิเนีย ยูเอสเอสเจอรัลด์ฟอร์ด




ท่สามารถตอบสนองเส้นทางสายไหมทางทะเลของจีน เป็นเรือบรรทกเคร่องบินลาแรกของช้นฟอร์ด





ได้เป็นอย่างดี ในจานวน ๑๐ ลา ท่ออกแบบมาให้สามารถรองรับ







จีนไม่ได้มีเฉพาะเรือบรรทุกเคร่องบิน แค่ ๒ ลา เคร่องบินรบและอากาศยานได้เพ่มข้นร้อยละ ๒๕

อย่างท่กล่าวตอนต้น โดยความต้งใจของจีน ต้องการม ี สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้มากข้น และผลิตนาจืดได้





เรือบรรทุกเคร่องบิน ๒ ลา ปฏิบัติการในมหาสมุทร มากข้น โดยเรือมีนาหนัก ๑๐๐,๐๐๐ ตัน บรรทุก







แปซิฟิก และฐานทัพเรือสนับสนุน จานวน ๑๐ แห่ง เคร่องบินรบได้ ประมาณ ๘๐ ลา ติดต้งเคร่องดีด









ส่วนอก ๔ ลา แม้จะยงไม่กาหนดพนทปฏบตการ เคร่องบินระบบแม่เหล็กไฟฟ้าแบบใหม่ เรดาร์ใหม่






แต่คาดว่ามหาสมทรอนเดยน่าจะเป็นเป้าหมายหลก และเคร่องยึดเคร่องบินแบบใหม่ อังกฤษ กาลังสร้าง








ในการใช้เรือบรรทุกเคร่องบนอีก ๒ ลา ส่วนอีก ๒ ลา เรือบรรทุกเคร่องบินลาใหม่ “HMS Queen Elizabeth”











อาจจะซ่อมบารุงตามแผน และเตรียมพร้อมเพ่อทดแทน เรือลาน้เป็นเรือบรรทุกเคร่องบินลาใหญ่ท่สุดเท่าท ี ่







ลาท่ออกปฏิบัติการ ท้งหากดูจากกาลังทางเรือท่จีน กองทัพเรืออังกฤษเคยสร้าง มีระวางขับนา

มีอยู่ในปัจจุบัน กองเรือบรรทุกเคร่องบินของจีนสามารถ ๖๕,๐๐๐ ตัน ความเร็วสูงสุด ๒๕ นอต ลูกเรือราว



ไปในที่ต่าง ๆ ได้ท่วโลก ในลักษณะกองเรือบรรทุก ๗๐๐ คน ซ่งสามารถเพ่มข้นได้ถึง ๑,๖๐๐ คน เม่อ


เคร่องบินทาอยู่ในปัจจุบัน ส่วนแนวโน้มของประเทศ เคร่องบิน เอฟ-35บ และเฮลิคอปเตอร์ คราวส์เนสต์








ต่าง ๆ เก่ยวกับเรือบรรทุกเคร่องบิน ท่น่าสนใจได้แก่ มาประจาการบนเรือ โดยมีขีดความสามารถบรรทุกได้
สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา ประมาณ ๔๐ ล�า คาดว่าจะขึ้นระวางประจ�าการได้ในปี


ประธานาธิบด โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทาพิธีส่งมอบ พ.ศ. ๒๕๖๓ รัสเซีย มีเรือบรรทุกเครื่องบิน “Admiral

เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ล�าใหม่ล่าสุดและ Kuznetsov” ข้นระวางเม่อปี พ.ศ. ๒๕๕๓ ระวางขับนา



ทันสมัยท่สุดของสหรัฐอเมริกา “USS Gerald R. Ford” ๕๙,๐๐๐ ตัน ความเร็วสูงสุด ๒๙ นอต กาลังพล



มูลค่าเกือบ ๑๓,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ ให้กับกองทัพเรือ ประจาการ ๑,๖๙๐ นาย บรรทุกอากาศยานได้ ประมาณ
สหรัฐอเมริกา ที่ฐานบัญชาการกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ๕๐ ล�า ฝรั่งเศส มีเรือบรรทุกเครื่องบิน “Charles De
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 39



Gaulle” ระวางขับนา ๔๒,๐๐๐ ตัน บรรทุกอากาศยานได้ (freedom of navigation operations หรือ FNOPs)
ประมาณ ๔๐ ลา และอินเดย มีเรือบรรทุกเคร่องบิน ท่นาโดยสหรัฐอเมริกา หรือว่าเรือรบของพวกเขาจะแล่น










“Vikramaditya” ขนระวางประจาการแล้ว มระวางขับนา เข้าไปภายในน่านนาอาณาเขต ๑๒ ไมล์ทะเลของเกาะ





๔๕,๐๐๐ ตัน บรรทุกอากาศยานได้ประมาณ ๓๐ ลา ต่าง ๆ ซ่งแดนมังกรอ้างกรรมสิทธ์หรือไม่ แต่มีส่งบ่งช ี ้


นอกจาก ๖ ประเทศ ที่กล่าวมาเกี่ยวกับการมีเรือบรรทุก ให้เห็นว่า ทั้ง ๒ ประเทศ ไม่ได้มีใครต้องการที่จะท�าให้จีน
เคร่องบินแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่มีเรือบรรทุก รู้สึกขุ่นเคือง ยิ่งไปกว่านั้น ประเทศจีนในทุกวันนี้มีความ

เคร่องบินแล้ว และมีอีกหลายประเทศท่ต้องการมีเรือ แตกต่างอย่างมากมายเหลือเกินจากประเทศจีนในช่วง




บรรทุกเคร่องบิน จึงพอสรุปได้ว่า เรือบรรทุกเคร่องบิน ปลายศตวรรษที่ ๑๙ ถึงต้นศตวรรษที่ ๒๐ ปัจจุบัน จีนมี


ยังเป็นเคร่องมือท่สาคัญในการขยายอิทธิพลทางทะเล การพัฒนากองทัพอย่างรวดเร็ว แม้แต่ พลเรือเอก ฟิลิป

ในศตวรรษท ๒๑ ได้ ย้อนกลับมาท่การขยายอิทธิพล เดวิดสัน (Admiral Philip Davidson) ผู้บัญชาการ










ทางทะเลของจนด้วยการต้องการมเรอบรรทกเครองบน ของกองบัญชาการทหารภาคอินโด-แปซิฟิก






ถง ๖ ลานน ยอมสงผลกระทบตอประเทศต่าง ๆ แนนอน ของสหรัฐอเมริกา (US Indo-Pacific Command)


โดยเฉพาะมหาอานาจทางทะเลอย่างสหรัฐอเมริกา และ คนใหม่ กล่าวยอมรับว่า จีนม “ศักยภาพท่จะควบคุม





พันธมิตร โดยเม่อปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ทะเลจีนใต้” อีกท้งเศรษฐกิจของท้งสองประเทศก็ต้อง



สหรัฐอเมริกา ประกาศการตัดสินใจท่จะไม่เชิญจีนเข้าร่วม พ่งพาจีนด้วย อย่างไรก็ตาม แม้จะยังไม่สามารถระบุได้
การซ้อมรบท่ช่อว่า “RIMPAC 2018” ช่วงประมาณปลายเดือน อย่างชัดเจนว่า สงครามทางเรือในศตวรรษท ๒๑




มิถุนายน ถึง ต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ซ่งจีน จะเกิดข้นหรือไม่ แต่การพัฒนากาลังทางเรือโดยใช้











เคยเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบทางทะเล เรอบรรทกเคร่องบนเป็นกาลงหลัก กบ่งบอกถงความ

ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก RIMPAC มาต้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๔ ต้องการของประเทศต่าง ๆ ท่ต้องการขยายอิทธิพล


ซึ่งถือเป็นการซ้อมรบทางทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จัดขึ้น ทางทะเลได้เป็นอย่างด สาหรับปัญหาในทะเลจีนใต้

ทุก ๆ ๒ ปี ที่ฮาวาย และเมื่อวันที่ ๗ - ๑๖ มิถุนายน ในการประชุม ASEAN - China Senior Official’s
พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา ได้มีการฝึก “Malabar 2018” Meeting on the Implementation of the DOC



อันเป็นการซ้อมรบร่วม ท่มีกาลังทางเรือของอินเดีย ญ่ปุ่น คร้งท ๑๕ ท่มณฑลหูนาน เม่อปลายเดือนมิถุนายน





และสหรัฐอเมริกา ท่น่าแปลกคือ การฝึก Malabar น้ปกต ิ พ.ศ. ๒๕๖๑ กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า ทุกประเทศ


จะฝึกในมหาสมุทรอินเดีย แต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๘ กลับเปล่ยน เห็นพ้องร่วมกันในการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันต ิ






พ้นท่ฝึกเป็นมหาสมุทรแปซิฟิก รวมท้งในเวทีการสนทนา ด้วยการเจรจา ภายใต้กรอบท่กาหนดจากกฎระเบียบ
หารือประจาปีด้านความม่นคงของเอเชียท่สิงคโปร์ ซ่งใช้ ของภูมิภาค การส่งเสริมความไว้เน้อเช่อใจ และความ







ชื่อว่า “Shangri-La Dialogue 2018” นี้ ทั้งรัฐมนตรี ร่วมมือในการป้องกันอุบัติเหตุท่ไม่คาดคิด ดังน้น

กระทรวงกลาโหมของฝร่งเศสและของสหราชอาณาจักร จึงพอสรุปได้ว่า จีนจะยังคงเดินหน้านโยบายของตนเองต่อไป

ประกาศว่า รัฐบาลของพวกเขาจะจัดส่งเรือรบเข้าร่วมกับ แม้ฝ่ายสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร จะหามาตรการต่าง ๆ
ก�าลังทางเรือสหรัฐอเมริกา เพื่อแสดงออกซึ่งการท้าทาย มาขัดขวางก็ตาม ส่วนจีนจะเป็นมหาอานาจทางทะเล

จีน ท่อ้างกรรมสิทธ์เหนือดินแดนต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ แม้จะ อันดับหน่งได้หรือไม่ ก็คงใช้เวลาอีกหลายปี เม่อเทียบกับ








ไม่ได้ระบุเจาะจงชัดเจนว่า อดีตมหาอานาจทางทะเลจาก สหรัฐอเมริกา ท่มีจานวนเรือบรรทุกเคร่องบินท่มากกว่า











ยุโรป ท้งสองประเทศน จะส่งเรือเป็นจานวนก่ลาเพ่อ เทคโนโลยทางทหารท่ก้าวหน้ามาหลายสบปี รวมทง




เข้าร่วม “การปฏิบัติการสาแดงเสรีภาพในการเดินเรือ” พันธมิตรและการดาเนินนโยบายการต่างประเทศ
40 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑












ทต่อเนองมายาวนาน แต่ใครกประมาทจนไม่ได้ทงสน ตามลาดับ สหภาพยุโรป (EU) ได้ตอบโต้ด้วยการ

เนื่องจากจีนมีการเมืองที่มั่นคงมาก นับตั้งแต่ สี จิ้นผิง ข้นภาษีเหล้าเบอร์เบิน ยีนส์ และมอเตอร์ไซค์ ซ่งเป็น


ได้รับการแต่งต้งอย่างไม่เป็นทางการ ให้เป็นผู้นาคนต่อไป สินค้าน�าเข้าจากสหรัฐอเมริกา ในทางตรงกันข้าม WTO





ในการประชุมสมัชชาพรรคคร้งท ๑๗ ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ กลบช่นชมจีน ท่ใช้นโยบายเปิดตลาดเสร มีส่วนช่วย




ก่อนจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นเลขาธิการพรรคคนใหม่ กระตุ้นบรรยากาศการค้าโลกให้ดีข้น ด้านความสัมพันธ์

ต่อจาก หู จิ่นเทา ในการประชุมสมัชชาพรรคครั้งที่ ๑๘ ระหว่างประเทศ ดูเหมือนว่าจีนจะมีพันธมิตรเพ่มมากข้น ๆ




เม่อปี พ.ศ. ๒๕๕๕ และในการประชุมสมัชชาพรรคคร้งท ่ ี ขณะท่สหรัฐอเมริกา มีทิศทางตรงกันข้าม โดยเฉพาะ



๑๙ เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ความสัมพันธ์กับ EU ท่ไม่ค่อยราบร่นนัก ท้งน้ในการประชุม




ยังคงเป็นเลขาธิการพรรค และเป็นประธานาธิบดีต่อไป G7 เม่อเดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ สหรฐอเมรกา



อีกวาระหน่ง ตามธรรมเนียมปฏิบัต จะมีการกาหนด ไม่ได้ร่วมลงนามระบุว่า ชาติ G7 ได้เห็นชอบในเบองต้น





ตัวทายาทท่จะสืบทอดตาแหน่งล่วงหน้า ๕ ปี คือ เร่องความจาเป็นท่จาต้องม การค้าเสร และการค้า







ในการประชุมสมัชชาพรรคคร้งท ๑๙ น เพ่อให้มีเวลา ที่ให้ผลประโยชน์ร่วมกัน (ดูภาพที่ ๒๑ การประชุม G7










ในการเตรียมตัวท่จะเป็นผู้นาคนต่อไป แต่จนถึงตอนน ี ้ เม่อวันท ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ท่แคนาดา) สาหรับ


ยังไม่มีวี่แววของผู้สืบทอดต�าแหน่งคนใหม่ต่อจาก สี จิ้นผิง TPP ท่สหรัฐอเมริการ่วมก่อต้งข้นและถอนตัว แล้วก ็


ซ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณว่า เขาอาจเป็นผู้น�าต่อไปอีก เหลือเพียง ๑๑ ประเทศ ขณะท่ธนาคารเพ่อการลงทุน








เป็นวาระท ๓ หรือท ๔ กเป็นไปได้ ขณะท ด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ที่จีนก่อตั้งขึ้นมาเพื่อ



ของจีนก็เจริญต่อเน่องมาหลายสิบปี ขณะท่เศรษฐกิจ รองรับนโยบาย One Belt One Road มีสมาชิกเพ่มมากข้น










สหรัฐอเมริกา อยู่ในช่วงขาลง จนทาให้ประธานาธิบด ี เรอย ๆ จาก ๕๗ ประเทศ เปน ๗๐ ประเทศ จากทกภมภาค

โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กาหนดมาตรการทางภาษ ตามนโยบาย ทั่วโลก ส่วนความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ เช่น รัสเซีย




อเมริกาต้องมาก่อน (American First) เม่อวันท ๒๓ แม้จะมการพบกนระหว่างประธานาธิบดีโดนลด์ ทรัมป์



มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ (ขึ้นภาษีเหล็ก ร้อยละ ๒๕ และ กับประธานาธิบดีปูติน เป็นคร้งแรกในการประชุม


อลมิเนียม ร้อยละ ๑๐) จนส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ กลุ่มประเทศเขตเศรษฐกจขนาดใหญ่ ๒๐ ประเทศ


ท่วโลก (WTO แทบไม่มีบทบาทหรือยังไม่ได้แสดง หรือ G20 ที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อต้นเดือน





บทบาทในเร่องน้) ซ่งนับต้งแต่จีนเข้าเป็นสมาชิก WTO เม่อปี กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า
ค.ศ. ๒๐๐๑ สหรัฐอเมริกาก็ขาดดุลการค้าให้กับจีนมา รัสเซียจะอยู่ข้างสหรัฐอเมริกา เพราะทั้งสองฝ่ายยังคงมี

โดยตลอด (ดูภาพท ๒๐ การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา ความขัดแย้งกันมานาน โดยเฉพาะสงครามในซีเรีย เช่นเดียว


กับจีน) จีนได้ตอบโต้ ด้วยการข้นภาษีศุลกากรสินค้า กับเกาหลีเหนือ แม้จะมีการพบกันคร้งประวัติศาสตร์


นาเข้าจากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ซ่งผลกระทบมาตรการ ระหว่างผู้นาสหรัฐอเมริกา และเกาหลีเหนือเม่อเดือน





ทางภาษีของสหรัฐอเมริกา ไม่ได้สร้างผลกระทบต่อจีน มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ท่ผ่านมา และมีข้อตกลงท่ได้

เท่าน้น แต่หลายประเทศได้รับผลกระทบไปด้วย เช่น ลงนามร่วมกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เกาหลีเหนือ

ประเทศผู้ส่งออกรถยนต์เข้าสหรัฐอเมริกา ได้แก่ เม็กซิโก จะให้ความสาคัญสหรัฐอเมริกามากกว่าจีน สาหรับความ

แคนาดา ญ่ปุ่น เยอรมัน และเกาหลีใต้ มีมูลค่า ๔๖,๙๐๐ สัมพันธ์กับภูมิภาคอื่น ๆ เช่น ทวีปแอฟริกาซี่งเป็นทวีป

ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ๔๒,๕๐๐ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ท่มีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย เช่น ก๊าซธรรมชาต ิ

๓๙,๘๐๐ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ๒๐,๒๐๐ ดอลลาร์ น�้ามัน เหล็ก ทองแดง ถ่านหิน ไม่เฉพาะแค่ท่าเรือจิบูติ







สหรฐอเมรกา และ ๑๕,๗๐๐ ดอลลาร์สหรฐอเมรกา เท่าน้น ในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ จีนได้ริเร่มจัดต้ง China - Africa
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 41





Cooperation Forum (CACF) ข้น เพ่อเป็นเวทีหลัก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรป ได้มากย่งข้น






ในการเช่อมความสัมพันธ์ระหว่างจีน-แอฟริกาอย่าง โดยทางรฐบาล จนจะพัฒนาพ้นทแหงน้ตามสญญาเช่า ๔๓ ป ี




รอบด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม รวมทั้งในปี เพ่อท่จะได้ขยายการค้า และการคมนาคมขนส่ง




พ.ศ. ๒๕๔๙ จีนประกาศนโยบายท่มีต่อแอฟริกา ท่วภูมิภาคเอเชียกลางและเอเชียใต้ ท่าเรือนาลึกกวาดาร์



อย่างเป็นทางการในเชิงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ เพ่อประโยชน์ จะตัดระยะทางได้หลายพันกิโลเมตร สาหรับการขนส่ง



ร่วมกัน และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอด จีน-แอฟริกา ลาเลียงนามันและก๊าซ ท่จีนนาเข้าจากแอฟริกาและ







เมอเดอนพฤศจกายน พ.ศ. ๒๕๔๙ โดยมีผู้นาระดับสง ู ตะวันออกกลาง และภายใต้โครงการจะมีการก่อสร้าง
จากประเทศในแอฟริกา เข้าร่วมประชุมมากถึง ๔๘ ประเทศ ท่าอากาศยานนานาชาติในเมืองกวาดาร์ด้วย ท้งน ี ้




ล่าสุดเม่อวันท ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ประธานาธิบด ี ท่าเรือกวาดาร์จะทาให้จีนมีช่องทางใหม่ในการเข้าถึง




ส จ้นผิง ได้เจรจากับนายแม็กคีย์ ซัลล์ ประธานาธิบด ี ทะเลอาหรับ โครงการน้แสดงให้ท่วโลก ได้เห็นว่า






เซเนกล ทกรงดาการ์ เมองหลวงของเซเนกล โดยผ้นา สาหรับจีนแล้ว ภูมิภาคตะวันออกกลาง สาคัญอย่างมาก






ท้งสองประเทศ ได้ช่นชมผลการพัฒนาความสัมพันธ์ เพราะการเข้าถึงตะวันออกกลางได้ คือ การเข้าถึงแหล่ง






ระหว่างจีนกับเซเนกัลในช่วงหลายปีท่ผ่านมาน และ นามันและก๊าซท่มากมายมหาศาลได้ เพราะทุกวันน้จีน




มีความเห็นร่วมกัน ที่จะผลักดันให้ความร่วมมือระหว่าง กลายเป็นประเทศนาเข้านามันสูงสุดประเทศหน่งของโลก



ประเทศ ได้รับผลในด้านต่าง ๆ เพ่อสร้างอนาคตของ โดยนาเข้าเฉพาะจากซาอุดีอาระเบียและอิหร่าน ท่คิด





ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับเซเนกัลให้ดีย่งข้น ท้งน ี ้ เป็นร้อยละ ๓๐ ของการนาเข้าท้งหมด จีนกับซาอุดีอาระเบีย





เซเนกัลได้ตอบสนองโครงการ ความริเร่ม “หน่งแถบ มีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ในฐานะประเทศท่ม ี














หนงเสนทาง” หรอ BRI อยางแขงขน และสนบสนนความ ความต้องการนามนอย่างมากทสดในโลก กบประเทศท ่ ี


ร่วมมือระหว่างจีนกับแอฟริกา โดยเซเนกัลเป็นประเทศ ผลิตน�้ามันใหญ่ที่สุดในโลก โดยข้อมูลสถิติพบว่า ตั้งแต่ปี
แอฟริกาตะวันตก ประเทศแรก ท่ลงนามกับจีนในเอกสาร ค.ศ. ๒๐๐๒ ซาอุดีอาระเบียส่งน�้ามันไปยังสหรัฐอเมริกา



ความร่วมมือ “หน่งแถบ หน่งเส้นทาง” หรือ BRI เซเนกัล ลดลงเรื่อย ๆ แต่กลับส่งออกไปยังจีนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ




ได้กล่าวยกย่องจีนว่า ได้แสดงบทบาทสาคัญในกิจการ จนจีนกลายเป็นผู้นาเข้านามันสูงสุดจากซาอุดีอาระเบีย




ระหว่างประเทศ และขอบคุณจน ทให้การสนบสนน นอกจากน้นแล้ว จีนยังได้เข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรม



ท่ลาค่า ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และโครงการฟื้นฟ ู ต่อเน่องในประเทศต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา เช่น ใคูเวต









ของเซเนกัล รวมท้งยินดีส่งเสริมความร่วมมือ และการ กได้มีการลงนามในข้อตกลงเข้าไปตงโรงกลนนามน







แลกเปล่ยนในด้านต่าง ๆ กับจีน เช่น ส่งอานวยความ รวมถงให้ทางคูเวตได้เข้ามาต้งโรงงานปิโตรเคม ี





สะดวกข้นพ้นฐาน ชลประทาน อุตสาหกรรม การแปรรูป ในมณฑลกวางตุ้ง ขณะท่จีนเองก็มีข้อตกลงกบทาง

ผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร การท่องเท่ยว วัฒนธรรม และ ด้านซาอุดีอาระเบีย ในการขยายการสารวจหาก๊าซ

การกีฬา เป็นต้น ธรรมชาต บนท่ราบอัลกาห์ลีของซาอุดีอาระเบีย ขณะท ี ่


สาหรบเอเชยใต้และตะวนออกกลาง เมอปลายปี ทางด้านซาอุดีอาระเบียเองก็ได้มีข้อตกลงในการช่วยจีน






พ.ศ. ๒๕๕๘ ทางจังหวัดบาลูจิสถาน จังหวัดยากจนที่สุด พัฒนาแหล่งนามันสารอง และช่วยปรับปรุงศักยภาพ










ของปากสถาน ไดทาการสงมอบทดนประมาณ ๑,๗๐๘ ไร ่ ของโรงกล่น รวมถึงการก่อสร้างโรงแยกก๊าซในจีนอีก


จากท้งหมด ๕,๗๕๐ ไร่ ซ่งเป็นท่ดินปลอดภาษีให้กับจีน หลายแห่ง สาหรับอิหร่าน ซ่งเป็นอีกหน่งมหาอานาจ









เพ่อพัฒนาเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ในท่าเรือนาลึก ในตะวนออกกลาง จนลงนามในขอตกลงในระยะ ๒๕ ป ี






กวาดาร์ ริมฝั่งทะเลอาหรับ ซ่งจะทาให้จีนเข้าถึง ซ้อก๊าซธรรมชาติจากอิหร่านเป็นปริมาณ ๑๐ ล้านตัน
42 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

แลกกับการที่จีนจะถือหุ้นร้อยละ ๕๐ ที่จะเข้าไปพัฒนา ทางด้านสหรัฐอเมริกา มักใช้ข้ออ้าง เช่น ด้านมนุษยธรรม



บ่อนามันยาฮาวารานของอิหร่าน นอกจากน้น จีนยังเป็น ด้านประชาธิปไตย ด้านนิวเคลียร์ ผู้ก่อการร้าย และเข้าไป

ผู้พัฒนาโครงสร้างพ้นฐานรายใหญ่ให้กับอิหร่าน เปล่ยนแปลงระบอบการปกครองในตะวันออกกลาง เช่น



จากท่กล่าวมา จะเห็นได้ว่าจีนพร้อมท่จะช่วยเหลือ คูเวต อิรัก ซีเรีย และอิหร่านซ่งคาดว่าจะเป็นเป้าหมายต่อไป



ประเทศตาง ๆ และแผขยายอิทธิพลผานความชวยเหลือ สาหรับด้านการทหารน้น ผู้เช่ยวชาญประจาสถาบัน






ทางด้านเศรษฐกิจและการค้า ตามแนวนโยบายในการ ระหว่างประเทศเพื่อการศึกษาด้านยุทธศาสตร์ (IISS) ที่

ดาเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ท่เน้นหลักการไม่ กรุงลอนดอน มองว่า กองทัพจีนกาลังแซงหน้ากองทัพรัสเซีย


แทรกแซงกิจการภายใน การเคารพในอานาจอธิปไตย ในการเป็นกองกาลังหลัก ท่สหรัฐอเมริกาใช้พจารณา





และบูรณภาพเหนือดินแดนของกันและกัน ขณะท ี ่ เปรียบเทียบกาลังแสนยานุภาพกับกองทัพของตน จีนม ี

ความสาคัญมากข้น ท้งต่อสหรัฐอเมริกาและท่วโลก ในเร่อง




ของการทหารและความมั่นคง ชนิดที่จะมองข้ามไปไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างย่ง ในเร่องของกองกาลังทางทะเลและ



ทางอากาศ ซงในขณะน นักวิเคราะห์จากหลายสถาบัน





รวมทั้ง IISS มองวา กองทัพจีนได้ก้าวมาถึงขั้นที่กลายเป็น
“คู่แข่งในระดับทัดเทียม กับกองทัพสหรัฐอเมริกา”


ไปเรียบร้อยแล้ว ซ่งดูจากกาลังรบและงบประมาณทางทหาร
ในปัจจุบัน แม้จะยังไม่เท่าเทียมกับสหรัฐอเมริกาก็จริง


แตเมอเปรยบเทยบงบประมาณทางทหารของสหรัฐอเมรกา




กับจีน ป ค.ศ. ๒๐๐๗ กับป ค.ศ. ๒๐๑๖ กลับมีทิศทางที่


สวนทางกัน โดยงบประมาณทางทหารของสหรัฐอเมริกา

ลดลงร้อยละ ๔.๘ แต่งบประมาณทางทหารของจีน เพ่ม
ขึ้นถึงร้อยละ ๑๑๘ (ดูภาพที่ ๒๒ : ๕ ประเทศแรกที่มี
ภาพที่ ๒๐ การค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา กับจีน
ค่าใช้จ่ายด้านการทหารสูงสุดปี ค.ศ. ๒๐๑๖)
ภาพที่ ๒๑ การประชุม G7 เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๑ ที่ แคนาดา
ที่มา : เว็บไซต์ www.thairath.co.th


นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ 43


เป็นมหาอานาจทางทะเล สามารถท่จะนาความม่นคง



และม่งค่งมาสู่ประเทศได้ โดยสามารถยกตัวอย่างได้จาก


เอเธนส์ โปรตุเกส สเปน ฝร่ง และอังกฤษ เป็นต้น



ส่วนการเป็นมหาอานาจทางทะเลของจีน คงไม่ราบร่นมาก

เน่องจาก สหรัฐอเมริกายังคงต้องการเป็นมหาอานาจ

ต่อไป ด้วยการแสดงออกด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น

การไม่เชญจีนเข้าร่วมการฝึก RIMPAC การให้
ความสาคัญกับอินเดียเป็นพิเศษผ่านความร่วมมือ


ด้านการฝึก การเชิญอังกฤษและฝร่งเศสร่วมลาดตระเวน



ในทะเลจีนใต้ รวมท้งการเปล่ยนช่อจากกองบัญชาการทหาร
ภาคแปซิฟิกสหรัฐอเมริกา (United States Pacific
ภาพที่ ๒๒ ๕ ประเทศแรกที่มีค่าใช้จ่ายด้านการทหารสูงสุดปี ค.ศ. ๒๐๑๖
ที่มา : สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) Command : USPACOM) เป็นกองบัญชาการทหาร
ภาคอินโด-แปซิฟิกสหรัฐอเมริกา (United States

ดังน้น ด้วยความม่นคงทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ Indo-Pacific Command หรือ USINDOPACOM)






ความสัมพันธ์ท่ดีกับประเทศต่าง ๆ ท่วโลก และ ล้วนมีนัยยะสาคญต่อการขยายอานาจทางทะเลของจีน



งบประมาณทางทหารท่เพ่มข้นทุกปี ย่อมเป็นพ้นฐาน ทั้งสิ้น ส่วนจีนเองนอกจากแผนการมีเรือบรรทุกเครื่องบิน




ในการก้าวสู่การเป็นมหาอานาจทางทะเลในศตวรรษท ่ ี จานวน ๖ ลา ซ่งคาดว่าจะเป็นกาลังรบหลักในอนาคตแล้ว


๒๑ ของจีนได้ไม่ช้าก็เร็ว การขยายอานาจทางทะเล กดาเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว



เช่น การสร้างฐานทัพ ท่าเรือ สนามบินตามเกาะต่าง ๆ
สรุป ในทะเลจีนใต้ การเช่าท่าเรือจิบูต และการเช่าท่าเรือของ



เม่อเดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ท่ผ่านมา ศรลังกา เป็นต้น อีกท้งปัจจัยทางการเมืองท่ม่นคง






เรือบรรทุกเครื่องบิน “ซานตง” ที่จีนออกแบบและผลิต เศรษฐกิจทแข็งแกร่ง ความสัมพันธ์กับต่างประเทศท่ด และ


เองเป็นลาแรก ได้ทดลองปฏิบัติหน้าท่ทางทะเล เพ่อ งบประมาณทางทหารที่พอเพียง ท�าให้ผู้เขียนมองว่าจีน



ทดสอบสมรรถภาพของเรือ และอุปกรณ์ท่เก่ยวข้อง จะกลายเป็นมหาอานาจทางทะเลในศตวรรษท ๒๑






นับเป็นเรือบรรทุกเคร่องบินจีนลาท ๒ ท่มีศักยภาพ ได้ในไม่ช้า







ด้านเทคโนโลย ท่สามารถออกไปทาการทดลองทางทะเล



ได้ส่งผลให้จนได้กลายเป็นประเทศท ๗ ของโลก ทม ี เอกสารอ้างอิง


ความสามารถในการผลิตเรือบรรทุกเคร่องบินได้เอง ๑. เว็บไซต์ www.bbc.com/thai/international





รวมท้งจีนมีแผนท่จะมีเรือบรรทุกเคร่องบินเพ่มมาก ๒. เว็บไซต์ www.google.co.th
๓. เว็บไซต์ www.isriya.com/node/4231/history-of-spain

ข้นเป็น ๖ ลาในอนาคตโดยคาดว่าจะใช้ปฏิบัติการ ๔. เว็บไซต์ www.mgronline.com






ในทะเลจีนใต้จานวน ๒ ลา อก ๔ ลา ยงสามารถจะ ๕. เว็บไซต์ www.naval-encyclopedia.com/ww2
ปฏิบัติการออกไปได้ท่วโลก ย่อมจะท้าทายสหรัฐอเมริกา ๖. เว็บไซต์ www.sameaf.mfa.go.th/FactSheet%20Th/Africa/Djibouti

๗. เว็บไซต์ www.tnews.co.th



ท่ครองความเป็นมหาอานาจทางทะเลอันดับหน่ง ๘. เว็บไซต์ www.wikipedia.com
นบตงแต่สงครามโลกครงท ๒ เป็นต้นมา ซงจากในอดต ๙. เว็บไซต์ www.worldrecordhistory.blogspot.com/













จะเห็นได้ว่า ประเทศท่มีกาลังทางเรือท่เข้มแข็ง จนสามารถ
44 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

น.ท.พิฑูรย์ ทองประหยัด


กล่าวน�า




“เคร่องแบบแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหน่งอันเดียว จังหวัดสมุทรปราการ ซ่งเป็นโรงงานท่ผลิตผ้าลายพราง


การอยู่ในกฎเกณฑ์เดียวกัน สลายความเป็นปัจเจกบุคคล ให้กับกองทัพไทย ทาให้ได้มีโอกาสเปิดมุมมองและทัศนะ


ออกไป ในขณะเดียวกันยังเป็นหน้าตาของผ้สวมใส่ ใหม่ ๆ มากมาย และทาให้ผู้เขียนรู้สึกอยากน�าเสนอ

แต่ปัจจุบันเครื่องแบบมิใช่เป็นเพียงที่กล่าวถึงเท่านั้น...” มุมมองเก่ยวกับเคร่องแบบลายพรางในยุคปัจจุบัน






ในระหว่างท่ผู้เขียนได้เข้ารับการศึกษาหลักสูตร ในบทความน เพอแสดงให้เหนว่ากองทัพเรอม ี



เสนาธิการทหารเรือ รุ่นท ๗๘ ประจาปีการศึกษา พ.ศ.๒๕๖๑ กระบวนการจัดหาผ้าลายพรางอย่างไร และคุณภาพ






อันเป็นหลักสูตรท่มีวัตถุประสงค์ เพ่อเพ่มพูนความรู้ ของเครื่องแบบลายพรางท่ก�าลังพล ทหารเรือได้รับ


ความสามารถให้แก่นายทหารสญญาบตร ให้สามารถ จัดสรรควรมีคุณภาพอย่างไร ซ่งจะนามาเป็นประโยชน์


ปฏิบัติงานในหน้าท่ผู้บังคับบัญชาหน่วยระดับหมวดเรือ และเปิดมุมมองอันสามารถตอบสนองต่อความต้องการ


หรือเทียบเท่าและนายทหารฝ่ายเสนาธิการระดับกองทัพ ของผู้ปฏิบัติงานในพ้นท่ได้อย่างแท้จริง ซ่งเป็นท่มา



ได้อย่างมีประสิทธิภาพน้น ได้มีโอกาสไปดูงานกิจการ ของชื่อเรื่อง “ผ้าลายพราง Digital Camouflage”

และหน่วยงานทางทหารต่างๆ ท้งในและต่างประเทศ ลายพราง Digital Camouflage มีการใช้



อันเป็นประสบการณ์ท่ส่งเสริมความรู้ความสามารถ กันมาอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ สาหรับท ่ ี



และเป็นโอกาสให้ได้ทาความรู้จักเก่ยวกับหน่วยงาน ประเทศแคนาดา เรียกว่า CADPAT (Canadian



อีกหลายหน่วยท่จะต้องมีการทางานร่วมกันในอนาคต Disruptive Pattern) ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา เรียกว่า

และยังมีหน่วยงานภาคเอกชนท่ผู้เขียนได้มีโอกาส MARPAT (Marine Pattern) และสหรัฐอเมริกาได้พัฒนา







ไปเยยมชมนนคอกจการบรษทโรงงานพมพ์ย้อมผ้าไทย ลายพราง Digital Camouflage จากรูปแบบของแคนาดา


จากัด (มหาชน) ซ่งอยู่ใกล้กับนิคมอุสาหกรรมบางป ซ่งลิขสิทธ์น้ประเทศแคนาดาช่วยสหรัฐอเมริกาพัฒนา






นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 45


มาต้งแต่ปี คริสต์ศักราช ๑๙๘๘ แต่โดยความจริงแล้ว ปฏิบัติการของทหาร เป็นการลดโอกาสของข้าศึกที่ฝ่าย



ประเทศท่นามาใช้ก่อนคือประเทศออสเตรเลีย ต้งแต่ ปี เราจะถูกตรวจจับได้ โดยส่วนใหญ่จะพบเห็นชุดลายพราง


คริสต์ศักราช ๑๙๗๙ – ๑๙๘๐ โดยผู้ออกแบบคือ Timo- สีเขียวท่ใช้สาหรับพรางตัวในภูมิประเทศท่เป็นป่าเขา

thy R. O’Neill นายทหารนอกราชการของประเทศ อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานดังกล่าว ชุดลายพรางหรือ






สหรัฐอเมริกา นายทหารผู้น้เป็นผู้เช่ยวชาญทางสาขา เคร่องแบบท่ทหารใช้สวมใส่น้น จาเป็นต้องคานึงถึง




ไบโอฟิสิกส์ในเร่องการมองเห็นของคน เช่ยวชาญการ คุณภาพของเน้อผ้า การยับของเน้อผ้าเน่องจากจาเป็น















พรางตวหรอการทาแบบจาลองทดเหมอนจรง ซงถกนา ต้องสวมใส่เคร่องแบบอย่างต่อเน่อง เพ่อให้เกิดความ








มาใช้ในสงครามนานแล้วเม่อคร้งท่ฮิตเลอร์ท้งระเบิดใส่ สะดวกสบายแก่ผู้ปฏิบัติงานในภูมิประเทศท่ทาให้เกิด










เคร่องบินหลอกท่อังกฤษทาไว้ เพ่อรักษาโรงเก็บเคร่องบิน ความยากลาบากในการปฏบตงาน รวมถงความคงทน


ให้รอดพ้นจากการถูกระเบิดโจมตี ของสีลายพรางหลังจากสวมใส่หรือใช้ไปเป็นเวลานาน



Timothy R. O’Neill แสดงให้เห็นว่าถ้ารูป รวมถึงการทนไฟ ในปัจจุบันจาเป็นต้องนาส่งเหล่าน ี ้


แบบของดิจิตอลท่ใช้พรางตัวออกแบบมาได้ถูกต้อง มาเป็นส่วนพิจารณาเพ่อประโยชน์ต่อการปฏิบัติงาน









จะทาให้การตรวจจับลดลงถึง ๕๐% เม่อเทียบกับการ ทแท้จรงซงมความสาคญมากกว่าความสวยงาม




พรางตัวแบบเดิมท่ม ๓ สีสลับไปมาของ NATO ของเคร่องแบบ



และคุณสมบัติของมันก็เหมาะท่จะใช้ในสภาพภูมิประเทศ สาหรับประเทศไทย พธ.ทบ.ได้ริเร่มจัดทา




ทหลากหลาย ไมวาในปา ทะเลทราย หรอแมแตเขตเมอง โครงการวิจัยผ้าสีพรางเพ่อให้ได้ผ้าลายพราง Digital








ในปี คริสต์ศักราช ๒๐๐๓ ประเทศสหรัฐอเมริกาก็ได้ให้ Camouflage ท่มีคุณสมบัติในการพรางตัวจาก



ความสาคัญกับลายพรางแบบดิจิตอลในการนามาใช้งาน เคร่องมือตรวจจับสมัยใหม่ได้ดีมาใช้สาหรับตัดเย็บ


ในสงครามทะเลทรายอย่างเต็มรูปแบบ และประเทศ เคร่องแบบสนามลายพราง Digital Camouflage

ต่างๆ เช่น จนและฟินแลนด์ กออกแบบลายพราง Digital โดยมีวัตถุประสงค์เพ่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว




Camouflage ของตัวเองออกมา นอกจากน้ยังทาให้มีความคล่องตัวในการปฏิบัติภารกิจ


เคร่องแบบลายพราง เป็นการสวมใส่เพ่อให้ ทางยุทธวิธีและเหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศภูมิอากาศ

กลมกลืนกับสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานในพ้นท ่ ี ของประเทศไทย อีกด้วย

เครื่องแบบสมัยก่อน ในช่วงสงครามเวียดนาม
ที่มา : หนังสือ Military Textiles for Protection and Camouflage
46 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑





ในอดีตกองทัพได้ใช้ผ้ากามะดิน (อัตราส่วนผสมฝ้ายร้อยละ ต่อการใช้งานตามาก ผ้าลายแรกได้นาสีลายพรางจาก





๓๕ ใยสังเคราะห์ร้อยละ ๖๕) มาใช้ตัดเครื่องแบบสนาม สหรฐอเมรกาทเป็นลายวดแลนด์ (WOODLAND) มา
ซ่งข้อดีคือเม่อใช้งานไปสีจะซีดน้อยเน่องจากเป็นเส้นใย ดัดแปลงย่อลายให้เล็กลง แล้วนามาสแกนเข้าเคร่อง






สังเคราะห์ สีท่ย้อมหรือพิมพ์จะติดแน่น ไม่หลุดลอก คอมพิวเตอร์ เพื่อต้องการทราบพื้นที่รวมของแต่ละสี

ง่าย แต่ข้อเสียคือเม่อกาลังพลสวมใส่

แล้วให้ความรู้สึกไม่สบายตัว ร้อนอบอ้าว

เพราะไม่สามารถซึมซับเหง่อได้ดีเท่ากับ
ผ้าฝ้าย และเน้อผ้าติดไฟง่าย ลุกไหม้ได้

อย่างรวดเร็ว หากโดนสะเก็ดระเบิดหรือ
เปลวไฟทาให้การบาดเจ็บของกาลังพล


ทวีความรุนแรงมากขึ้น
จากปัญหาดังกล่าว ในทางการ





ทหารได้พจารณาเหนว่าโดยปกตนน ลายพราง Woodland (เดิม)

ประเทศไทยมีอากาศร้อนช้น โดยเฉพาะ ที่มา : หนังสือ MILITARY textiles for Protection and Camouflage

อย่างย่งในช่วงฤดูร้อนจะมีอุณหภูมิสูง


มาก ดังน้นการเลือกผ้าพรางท่เหมาะ


สมกับการนามาตัดเคร่องแบบจึงเป็น
สิ่งจ�าเป็นอย่างยิ่ง จึงต้องค�านึงว่าเครื่อง



แบบของกาลงพลนนต้องสวมใส่ได้ง่าย


เม่อออกปฏิบัติงานภาคสนามแล้วรู้สึก


สบาย ซึมซับเหง่อได้ด ไม่ร้อน มีความ
คงทน และปลอดภัยต่อการใช้งาน
ผ้าฝ้ายล้วนจึงเป็นทางเลือก




ท่ดีท่สุด เน่องจากเป็นผ้าท่เหมาะสม ลายพรางดิจิตอลใหม่
กบการนามาสวมใส่กบประเทศทมภูม ิ ที่มา : หนังสือ Military Textiles for Protection and Camouflage







อากาศร้อนช้น เพราะผ้าฝ้ายสามารถ


ซึมซับเหง่อ ระบายอากาศและความร้อนได้ด แต่มีข้อ ต่อมาใน ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ ได้มีผลงานวิจัย













เสยคอเมอนามาพมพ์ลวดลายด้วยสต่างๆ ทงสกากนวล จากกองทพสหรฐอเมรกา เปรยบเทยบผ้าสลายพราง




แกมเขียว สีเขียวใบไม้ สีน�้าตาล และสีด�า เมื่อใช้ไปเป็น ระหว่าง ลายวูดแลนด์กับลายพรางดิจิตอล (Digital
เวลานานแล้วสีจะซีดเร็ว เพราะผ้าฝ้ายมีคุณสมบัติในเร่อง Camouflage) จากการพรางในเวลากลางวันใน

ความคงทนของสีน้อยกว่าผ้าที่ทอจากเส้นใยสังเคราะห์ ภูมิประเทศจริงพบว่าลวดลายวูดแลนด์ท่ใช้อยู่ กับลาย




ส่วนผ้าสีลายพรางทหารไทยเร่มมีใช้ต้งแต่ ปี พ.ศ. พรางดิจิตอลท่สร้างข้นมาใหม่น้น ลายพรางดิจิตอลทาการ



๒๕๓๐ เป็นผ้าสีลายพรางธรรมดา ไม่มีคุณสมบัต ิ พรางตัวได้ดีกว่า การมองเห็นในระยะต่างๆ กันของทหาร



ในการป้องกนการตรวจจบจากกล้องตรวจการณ์เวลา ทสวมชุดผ้าลายพรางดิจิตอลจะเห็นช้ากว่า ส่วนการพราง



กลางคืน พิมพ์ด้วยสี PIGMENT ซึ่งเป็นสีที่มีความคงทน ในเวลากลางคนทมองจากกลองตรวจการณเวลากลางคน




นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑ 47

(NIGHT VISION DEVICE) ก็มีความกลมกลืนกับ และกลางคืน มีการสร้างความเป็นเอกลักษณ์ของ



ส่งแวดล้อมได้ดีกว่า จึงทาให้กองทัพไทยมีการพัฒนา กองทัพไทยท่ชัดเจน และสามารถพัฒนาองค์ความรู้



รูปแบบผ้าสีลายพราง จากลายวูดแลนด์มาเป็นลายพราง ของนักวิจัยเพ่อนาไปสู่การวิจัยและพัฒนาอ่นๆ

ดิจิตอลลอกเลียนแบบลวดลายจากกองทัพสหรัฐอเมริกา ผลการวิจัยทาให้ผ้าสีลายพรางดิจิตอลใหม่มีการ



โดยย่อลายให้เล็กลงแล้วจึงนาเข้าสู่กระบวนการผลิต พรางต้งแต่แสงท่ตามองเห็น (VISIBLE RANGE)



จนได้ผ้าลายพราง Digital Camouflage ท่มีค่าพ้นท่รวม ในช่วงความยาวคล่น ๓๐๐ – ๗๐๐ นาโนเมตร และช่วง








ของแต่ละสเหมอนเดม และยงใช้ส PIGMENT ในการ กลางคืน หรือในท่ไม่มีแสงช่วงอินฟราเรด (INFARED)
พิมพ์ลาย แต่ไม่มีลวดลายท่ออกแบบและศึกษากับการ ในช่วงความยาวคลื่นตั้งแต่ ๙๐๐ – ๑,๐๐๐ นาโนเมตร

พรางในสภาพภูมิประเทศไทยอย่างแท้จริง







ภาพในเวลากลางวัน





ค่า Infrared Reflectance ผ้าลายพรางทหาร
และภาพจากกล้องตรวจการณ์ในเวลากลางคืน
ที่มา : งานน�าเสนอ (PPT) ของบริษัทโรงงานพิมพ์ย้อมผ้าไทย จ�ากัด (มหาชน)



สาหรับการใช้ชุดผ้าลายพราง Digital

Camouflage ของทหารเรือได้มีการอนุมัติให้

เปล่ยนแปลงรูปแบบการพิมพ์ผ้าสีพรางลายวูดแลนด์

ภาพในเวลากลางคืน เป็นลายพรางแบบดิจิตอล และให้ พธ.ทร. ดาเนินการ
จัดหาผ้าลายสีพรางแบบดิจิตอลจากองค์การ


จนกระท่งในปี พ.ศ. ๒๕๔๓ ทางกองทัพไทย ทหารผ่านศึก (ซ่งเป็นหน่วยงานท่จัดทาผ้าลายสีพราง



ได้เร่มให้มีงานวิจัยและพัฒนารูปแบบผ้าสีลายพราง ให้ ทบ. และ ทอ. เร่มใช้ไปแล้ว) ได้ตัดเย็บและแจก



ใหม่ เพื่อให้แบบลายและสีเป็นไปตามสภาพภูมิประเทศ จ่ายเคร่องแบบเฉพาะกาลสีพรางของ ทร. ให้กาลังพล



อย่างแท้จรง ท้งน้ผ้าสีพรางต้องพรางได้ทงกลางวัน ในปี งป. ๕๓ แก่นายทหารประทวนชั้นยศจ่าและพันจ่า


48 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๐๑ เล่มที่ ๑๑ ประจำ�เดือน พฤศจิก�ยน ๒๕๖๑


Click to View FlipBook Version