The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tha9864, 2021-05-21 05:14:54

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

ธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ ปวส.

30200 - 0003 Business and Entrepreneurship

ธรุ กจิ และการเป็ นผปู้ ระกอบการ ท-ป-น (1-2-2)

หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สงู (ปวส.) พุทธศกั ราช 2563
ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

ประเภทวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ

จัดทำโดย

นางสาวฐิติพรรณ สิงห์จนั ลา

สาขาวชิ าการตลาด วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาขอนแกน่

สถาบนั การอาชีวศกึ ษาภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 3

สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

2

สารบญั หน้า

หวั ขอ้ เรือ่ ง 3
4
คานา 5
สารบญั
คาอธิบายรายวิชา 6

ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร 7
23
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 การวางแผนเปูาหมายชีวติ ด้วยวงจรคุณภาพ PDCA 36
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 การออม 47
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 การลงทนุ 53
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 4 ธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 64
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 5 ธรุ กิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ 72
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 6 การจดั หาและวางแผนทางการเงนิ 78
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 7 การจดั หาและวางแผนทางการเงิน 83
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 8 กฎหมายที่เกี่ยวกบั ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ 90
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 9 กฎหมายทเ่ี กีย่ วกับธรุ กจิ และการเป็นผู้ประกอบการ 92
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 10 ทบทวน/ทดสอบกลางภาค/ประเมนิ สภาพจริง 99
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 11 รปู แบบแผนธรุ กิจ 104
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 12 รปู แบบแผนธรุ กจิ 110
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 13 รปู แบบแผนธรุ กิจ 120
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 14 รปู แบบแผนธุรกิจ 127
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 15 หลกั เบอื้ งต้นในการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิต
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 16 หลกั เบอ้ื งตน้ ในการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิม่ ผลผลิต 134
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 17 การประยุกตใ์ ชป้ รัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 144

ในการเป็นผู้ประกอบการ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 18 Project Work/ทดสอบปลายภาค/ประเมินสภาพจริง

3

คาอธิบายรายวชิ า

วชิ า ธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ รหัส 20001-10003 หน่วยกิต (ท-ป-น) 1-2-2
จานวน 3 ชัว่ โมงต่อสปั ดาห์ ชั่วโมงรวม 54 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 ประเภทวชิ าบรหิ ารธุรกิจ
ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ
-----------------------------

จุดประสงค์รายวิชา เพอ่ื ให้
1. เข้าใจเกยี่ วกบั หลักการวางแผนเปูาหมายชวี ิตด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ
หลักการจดั การการเงนิ หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิตเบอื้ งต้น และกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง
2. สามารถจัดทําแผนธรุ กจิ อย่างง่าย โดยประยกุ ต์ใชห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและหลักการ
บริหารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลติ
3. มเี จตคตทิ ่ีดีต่อการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ และมกี ิจนิสยั ในการทาํ งานดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ รอบคอบ ขยัน
ประหยดั และอดทน

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรูเ้ กีย่ วกับหลักการวางแผนเปาู หมายชีวิตด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเปน็
ผูป้ ระกอบการ หลกั การจดั การการเงนิ หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลิตเบื้องต้น และกฎหมาย
ทีเ่ กย่ี วขอ้ ง
2. จัดทําแผนธรุ กจิ อย่างงา่ ย
3. ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดําเนนิ งาน
4. ประยุกต์ใช้หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลติ ในการวางแผนและดําเนินงาน

คาํ อธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษาและปฏิบตั เิ กย่ี วกบั การวางแผนเปูาหมายชีวิตด้วยวงจรคุณภาพ การออมและการลงทุน ธุรกิจและการ

เป็นผปู้ ระกอบการ การจัดหาและวางแผนทางการเงนิ กฎหมายท่เี กยี่ วกับธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ รูปแบบ
และการจัดทําแผนธุรกจิ หลักเบอ้ื งต้นในการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในองค์กรและการประยุกต์ใช้ปรัชญา
ของเศรษฐกจิ พอเพียงในธรุ กิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ

4

ตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู ร

วิชา ธรุ กิจและการเป็นผปู้ ระกอบการ รหัส 20001-10003 หนว่ ยกติ (ท-ป-น) 1-2-2
จานวน 3 ช่วั โมงตอ่ สัปดาห์ ชัว่ โมงรวม 54 ช่วั โมง/ภาคเรยี น
หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562
สาขาวชิ าการตลาด กลุม่ วิชา ทกั ษะวิชาชีพ ประเภทวชิ าบรหิ ารธุรกิจ
ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ

พทุ ธิพิสัย (40%)

พฤตกิ รร

ช่อื ม

หนว่ ย
ความ ู้ร
ความเข้าใจ
การนาไปใช้
การ ิวเคราะห์
การสังเคราะห์
การประเ ิมน
ทักษะพิสัย (30%)
ิจตพิสัย (30%)
รวม
ลํา ัดบความสํา ัคญ
ํจานวน ั่ชวโมง

1. การวางแผนเปาู หมายชีวติ ดว้ ยวงจร 1 121- -22 9 36
ควบคุมคุณภาพ 1 112- 23
1 121- -22 10 23
2. การออม 1 211- - 22 10 23
3. การลงทุน 1 111- 122 10 23
4. การจดั หาและการวางแผนทางการเงนิ 1 112- 122 10 26
5. การเป็นผ้ปู ระกอบการ 1 1121 19
6. กฎหมายที่เก่ียวกบั การเป็น 1 121- 122 10 26

ผ้ปู ระกอบการ 1 1111 122 13 36
7. รูปแบบแผนธุรกจิ
8. หลักเบอื้ งต้นในการบริหารงานคณุ ภาพ 1 1111 122 10 3
3
และเพ่ิมผลผลิตในองคก์ ร 10 12 14 14 3 122 9 3
9. จรรยาบรรณและการประยุกต์ใชป้ รัชญา 4 3216
12 54
ของเศรษฐกิจพอเพยี งในการเปน็
ผู้ประกอบการ 7 20 20 100
10. การเตรยี มความพร้อมการเป็น 5
ผ้ปู ระกอบการขายผา่ นชอ่ งทางออนไลน์

สอบกลางภาค Project Work

สอบปลายภาค

รวม
ลาดับความสาคัญ

5

แผนการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการท่ี 1 หนว่ ยท่ี 1
สอนครง้ั ท่ี 1 (1-1)
รหสั วิชา 20001-1003 ธรุ กจิ และการเป็นผปู้ ระกอบการ
ช่อื หน่วย/เรื่อง ปฐมนเิ ทศ จานวนชวั่ โมง 1 ช.ม.

แนวคิด
การศกึ ษาวิชาน้ีเปน็ วชิ าท่ีเน้นผเู้ รียนเปน็ สําคญั เพื่อปลกู ฝังให้พฒั นาตนเองเขา้ สูอ่ าชพี อยา่ งสมาํ่ เสมอ และ

นาํ ไปประยกุ ตเ์ พอื่ วางแผนใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั ต่อไป และยังเปน็ การใหผ้ ู้เรียนได้มีโอกาสฝกึ ทกั ษะความชํานาญการ
เรยี นรู้ด้านความรู้ ความสามารถพอ่ื มสี ว่ นร่วมในการเรยี นอยา่ งเตม็ ท่ีในการฝึกทักษะการปฏบิ ัติจรงิ เพอ่ื พัฒนาทกั ษะ

ความรู้ และความสามารถรวมทั้งสติปญั ญาเพอ่ื แกป้ ัญหาได้ ผ้เู รยี นวิชานี้นอกจากจะได้ความร้ทู ีถ่ ูกต้องแล้ว สามารถ
นําไปประยกุ ต์ใชเ้ พื่อเป็นเครอื่ งมือทสี่ าํ คัญในการแก้ปญั หาในชีวิตประจาํ วนั อีกดว้ ย

ผลการเรียนร้ทู ค่ี าดหวัง
1. บอกจดุ ประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคาํ อธบิ ายรายวชิ าตามหลกั สูตรฯ ได้
2. บอกแนวทางวดั ผลและการประเมนิ ผลการเรียนร้ไู ด้

3. มกี ารพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคข์ องผู้สําเร็จการศึกษา สํานกั งาน

คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ท่ีครูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาํ การสอนในเรื่อง

3.1 ความมมี นุษยสมั พนั ธ์ 3.8 การละเว้นส่งิ เสพตดิ และการพนนั

3.2 ความมีวินัย 3.9 ความรักสามัคคี

3.3 ความรับผดิ ชอบ 3.10 ความกตญั ญูกตเวที

3.4 ความซ่ือสัตย์สุจริต

3.5 ความเช่อื ม่นั ในตนเอง

3.6 การประหยดั

3.7 ความสนใจใฝรุ ู้

สมรรถนะรายวิชา
1.แสดงความรู้เกย่ี วกับหลกั การวางแผนเปูาหมายชีวิตด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กิจและการเป็น

ผู้ประกอบการ หลกั การจัดการทางการเงนิ หลกั การบริหารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบื้องต้น
และกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง

2. จัดทําแผนธรุ กจิ อยา่ งงา่ ย

3. ประยกุ ตใ์ ช้หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดําเนินงาน
4. ประยุกต์ใชห้ ลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดําเนนิ งาน

6

สาระการเรียนรู้
1. บอกจดุ ประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคาํ อธบิ ายรายวิชาตามหลกั สตู รฯ ได้
2. บอกแนวทางวัดผลและการประเมนิ ผลการเรียนร้ไู ด้

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น
1.ครูผูส้ อนแนะนําจุดมุ่งหมายที่ผู้เรยี นจะได้จากหลักสูตร โดยกาํ หนดให้ผเู้ รียนทกุ คนตอ้ ง

มคี วามรู้ ความสามารถและมีทกั ษะในการประกอบอาชีพทุกประเภท
2. ผเู้ รยี นยกตวั อย่างอาชพี ท่ตี นเองชอบและตอ้ งการท่จี ะประกอบอาชีพในอนาคต

ข้ันสอน
2. ผู้เรียนกับผูส้ อน ช่วยกนั อภิปรายลกั ษณะตา่ ง ๆ ของการนํา PDCA มาใช้ครัง้ แรกโดย Walter

Shewhart เพ่ือใชค้ วบคุมกระบวนการทางสถติ ขิ องบริษทั Bell Laboratory ท่สี หรฐั อเมริกา ต่อมา W. Edward
Deming ไดเ้ ผยแพร่ความรวู้ งจรเดมงิ่ อยา่ งกว้างขวาง ซงึ่ ในปัจจุบันมีอิทธพิ ลต่อประชาชนมาก เนอ่ื งจากเป็นอาชพี
หน่ึงที่จะช่วยให้ประชาชนทกุ คนทกุ ระดับมอี าชีพท่สี ามารถดาํ รงอย่ไู ด้ ดังน้นั การประกอบอาชีพจึงจําเปน็ ตอ้ งมี
ความรู้เก่ียวกับอาชีพนัน้ ใหม้ าก เพือ่ นาํ มาประกอบเป็นข้อมขู องอาชพี ได้

3. ผู้เรียนรบั ฟังคาํ ชี้แจงสังเขปรายวิชาและการวดั ประเมินผล ซกั ถามขอ้ ปัญหารวมทงั้ แสดง ความ
คิดเห็นเก่ยี วกับการเรียนวิชานี้

ข้นั สรุปและการประยกุ ต์
4. ผเู้ รยี นวางแผนการเป็นผ้ปู ระกอบการ เพอ่ื นาํ ไปประยุกต์ใช้กับงานในชวี ติ ประจาํ วนั ท่จี าํ เป็นโดยท่วั ไป

ซึ่งทุกคนจะต้องวางแผนการทาํ งานตา่ ง ๆ ในอนาคต

สื่อและแหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน วชิ าธุรกจิ และการเป็นผู้ประกอบการ
2. ส่ือ Power Point, สอ่ื คอมพวิ เตอร์ สือ่ อิเล็กทรอนกิ ส์ Online
3. กิจกรรมการเรยี นการสอน

หลกั ฐาน
1. บนั ทกึ การสอน
2 ใบเช็ครายชือ่
3. แผนจัดการเรียนรู้
4. การตรวจประเมนิ ผลงาน

7

การวดั ผลและการประเมินผล
วธิ ีวัดผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
3. สงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม
4. การสงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
เครอื่ งมือวัดผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม
3. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและนักเรียนร่วมกนั
ประเมิน
เกณฑ์การประเมินผล
1. เกณฑผ์ ่านการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ต้องไมม่ ีช่องปรับปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50 % ข้นึ ไป)
3. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ คอื ปานกลาง (50% ข้ึนไป)
4. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขึน้ อยกู่ ับการ
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ

กจิ กรรมเสนอแนะ
แนะนําใหศ้ ึกษาขอ้ มูลเกย่ี วกับธุรกจิ ประเภทต่าง ๆ เพื่อนํามาวางแผนการเป็นผปู้ ระกอบการ

8

แผนการจัดการเรยี นร้แู บบบรู ณาการที่ 1(ต่อ) หนว่ ยที่ 1
รหสั วิชา 20001-1003 ธุรกจิ และการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ สอนครง้ั ที่ 1 (2-3)
ช่ือหน่วย/เรื่อง การวางแผนเปา้ หมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคณุ ภาพ
จานวน 2 ช.ม.

แนวคดิ
การวางแผนเปาู หมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคุมคุณภาพ ทําให้แต่ละบคุ คลมีการวางแผนท่ีดีใหก้ บั ตนเอง และ

ชว่ ยปูองกันปญั หาทอี่ าจจะเกิดขึน้ ไดใ้ นชีวิต รวมท้งั ช่วยลดความสับสนในการทาํ งาน ลดการใช้ทรัพยากรให้มีความ
พอดี และลดความสูญเสียในรปู แบบต่างๆ สามารถทาํ ให้การทํางานมกี ารตรวจสอบเป็นระยะ ส่งผลใหก้ ารปฏบิ ตั งิ าน
มีความรดั กุมและรอบคอบ อกี ทง้ั ยงั มแี นวทางในการแก้ไขปัญหาได้อยา่ งรวดเร็ว

ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง
1. แสดงความร้เู ก่ียวกับการวางแผนด้วยวงจรการควบคมุ คุณภาพ
2 .แสดงความร้เู กยี่ วกบั การนาํ PDCA ไปใช้
3. แสดงความรเู้ ก่ียวกับการวางแผนเปูาหมายชีวิต
4. แสดงความรเู้ กยี่ วกับหลกั การวางแผนเปูาหมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคุมคุณภาพ
5. มีการพฒั นาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของผู้สําเร็จการศกึ ษา

สาํ นักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ทีค่ รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทําการสอนในเรอื่ ง
5.1 ความมีวินยั
5.2 ความซอื่ สัตย์สุจริต
5.3 ความเชอื่ มัน่ ในตนเอง
5.4 ความสนใจใฝรุ ู้
5.5 การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนนั

สาระการเรยี นรู้
1. การวางแผนด้วยวงจรการควบคุมคุณภาพ
2. การนาํ PDCA ไปใช้
3. การวางแผนเปูาหมายชวี ติ
4. การวางแผนเปูาหมายชีวิตดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ

กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน
1.ครูผู้สอนช้ีให้ผู้เรียนได้เห็นความสําคัญของการเป็นผู้ประกอบการ จะช่วยทําให้ผู้เรียนมีทักษะและ

ประสบการณ์ในการดําเนินธุรกิจของตนเองได้มากขนึ้ สามารถสร้างอาชพี และมรี ายได้มากขึ้น
2.ครูเนน้ ใหผ้ ู้เรียนเห็นว่า วงจร PDCA ได้รบั ความนยิ มมากโดยเฉพาะในประเทศญ่ีปุน ซึง่ ไดใ้ ห้

ความสาํ คญั กบั พน้ื ฐานการบริหารงานใหเ้ กดิ คุณภาพ 2 อย่าง คือ การสื่อสารและความร่วมมือร่วมจากทุกคนใหน่วย
งาน โดยผ้บู รหิ ารเป็นผู้กําหนดแผนงาน แต่จะสอื่ สารผ่านช่องทางหวั หน้างานและพนกั งานตามลําดับข้ัน เปูาหมายจะ
ถูกกําหนดขนึ้ ตามความเหมาะสมท่ีเปน็ ไปได้

9

3. ครแู นะนําใหผ้ ูเ้ รียนนาํ วงจร PDCA สามารถนํามาประยกุ ตใ์ ช้ได้กับชีวติ ของแต่ละบคุ คลได้ทุกเรื่อง เช่น
การต้งั เปาู หมายการทํางานในแต่ละวัน การตงั้ เปาู หมายในวยั เกษียณ การตงั้ เปูาหมายออมเงนิ สว่ นบคุ คล เปน็ ต้น

4. ผู้เรียนยกตัวอย่างการนําวงจร PDCA มาประยกุ ตใ์ ช้ไดก้ ับชวี ิตของบุคคลและองค์กร

ข้ันสอน
5. ครูผสู้ อนอธิบายการวางแผนดว้ ยวงจรการควบคุมคุณภาพ โดยใช้แผน่ ใสประกอบพรอ้ ยกตวั อยา่ ง
กรณศี ึกษา และสือ่ อ่นื ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ งประกอบเพอื่ สื่อความหมายสาระสาํ คญั ของเนอ้ื หาให้เขา้ ใจย่ิงขึ้น โดย PDCA คือ
วงจรการควบคมุ คณุ ภาพ หรือ วงจรเดม่งิ ประกอบดว้ ย

P=Plan คือ การวางแผนงานจากวัตถปุ ระสงค์ และเปูาหมายทีไ่ ดก้ าํ หนดขนึ้
D=Do คือ การปฏิบตั ิตามขนั้ ตอนในแผนงานทีเ่ ขยี นไว้อย่างเป็นระบบและมคี วามตอ่ เน่อื ง
C=Check คือ การตรวจสอบผลการดําเนนิ งานแตล่ ะ่ ขน้ั ตอนของแผนงานว่ามีปญั หาอะไร

เกดิ ข้นึ จําเปน็ ต้องเปลยี่ นแปลงแก้ไขแผนงานในขั้นตอนใด
A=Action คือ การปรับปรุงแกไ้ ขสว่ นท่ีมปี ญั หา หรอื ถา้ ไม่มีปญั หาใดๆ ก็ยอมรับแนวทางการปฏบิ ตั ิตาม
แผนงานที่ได้ผลสําเรจ็ เพ่อื นําไปใช้ในการทํางานครั้งตอ่ ไป
6. ครแู สดงความรเู้ กีย่ วกับการนํา PDCA ไปใช้ โดยวงจรการควบคุมคุณภาพสามารถนาํ มาใช้ในการดาํ เนนิ ชีวิต
ใหป้ ระสบความสาํ เร็จได้ ดงั นี้
6.1 การวางแผน (Plan) คือ การวางแผนชวี ติ โดยจะต้องทราบวา่ ตนเองนนั้ อยากทําอะไร ตอ้ งการอะไร
แล้วจงึ ตง้ั เปูาหมาย และวิธกี ารในการดาํ เนนิ ชวี ิตใหช้ ัดเจนซึง่ เปูาหมายของชีวิตแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป
ทัง้ น้ี การวางแผนครอบคลุมถงึ การกาํ หนดเรอื่ งที่ตอ้ งการปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลง ซงึ่ รวมถึงการพฒั นาสงิ่ ใหมๆ่ การ
แกป้ ัญหาที่เกดิ ขึ้นจากการปฏบิ ัติงาน ฯลฯ พร้อมกับพิจารณาวา่ มีความจาํ เป็นต้องใช้ขอ้ มูลใดบ้างเพื่อการปรบั ปรุง
เปล่ียนแปลงนนั้ โดยระบวุ ธิ ีการเกบ็ ข้อมูลให้ชัดเจน จะต้องวิเคราะห์ข้อมลู ทีร่ วบรวมได้ แล้วกาํ หนดทางเลือกในการ
ปรับปรุงเปลยี่ นแปลง การวางแผนช่วยใหค้ าดการณส์ ง่ิ ทเ่ี กิดขนึ้ ในอนาคต และช่วยลดความสูญเสียตา่ ง ๆ ท่ีอาจ
เกดิ ขน้ึ ได้ ซ่งึ ชว่ ยใหร้ ับรสู้ ภาพปัจจุบนั พร้อมกบั กาํ หนดสภาพท่ตี ้องการใหเ้ กิดขนึ้ ในอนาคต ดว้ ยการผสาน
ประสบการณ์ ความรแู้ ละทกั ษะโดยการวางแผนมดี ังน้ี

1.1 การวางแผนเพ่อื อนาคต เปน็ การวางแผนสาํ หรบั สงิ่ ท่จี ะเกดิ ขึน้ ในอนาคตหรอื กําลังจะเกิดขน้ึ บางส่งิ
บางอยา่ งก็ไม่สามารถควบคมุ ได้ แต่เพ่อื เปน็ การเตรียมความพรอ้ มไวล้ ว่ งหนา้

10

1.2 การวางแผนเพอ่ื การปรบั ปรุงเปล่ยี นแปลง เปน็ การวางแผนเพ่อื เปลีย่ นแปลงสภาพที่เกดิ ขึ้นใน
ปัจจุบนั เพ่ือสภาพทดี่ ีขึน้ ซงึ่ สามารถควบคุมผลทเี่ กดิ ข้ึนได้ดว้ ยการเริ่มตน้ เปล่ียนแปลงตง้ั แต่ปจั จุบัน

ลาํ ดับข้นั ในกระบวนการวางแผนประกอบดว้ ย
1. การกาํ หนดวัตถุประสงค์
2. พัฒนาขอ้ ตกลงทเ่ี ปน็ ตัวกาํ หนดขอบเขตในการวางแผน
3. พิจารณาข้อจํากดั ต่างๆ ทีอ่ าจเกิดข้นึ ในการวางแผน
4. พฒั นาทางเลือก
5. ประเมินทางเลอื ก เพอื่ เลือกสิ่งทเี่ ป็นไปไดส้ งู สุด
6. เปล่ยี นแปลงแผนสูก่ ารปฏบิ ัติ

-ครูบอกเทคนคิ ในการวางแผนทีด่ ี เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนนาํ ไปประกอบธรุ กิจ ดงั น้ี

-ผูเ้ รียนบอประโยชน์ของการวางแผน ซึง่ การวางแผนงานจะช่วยทําใหม้ ีการเตรียมความพร้อมเม่อื ได้ปฏิบตั ิงาน
จริง ดังนี้

1) การศกึ ษา เป็นการวางแผนศึกษาข้อมูล วธิ ีการในการประกอบอาชพี ธรุ กิจ เช่น ความตอ้ งการ
ของตลาด ขอ้ มลู วตั ถุดิบ ข้อมลู ทรพั ยากรทม่ี ีอยู่หรอื เงนิ ทุน

2) การเตรยี มงาน เป็นการวางแผนการเตรียมงานดา้ นสถานที่ การออกแบบผลติ ภัณฑ์ ความ
พร้อมของบคุ ลากร อปุ กรณ์ เครอื่ งจกั ร วตั ถดุ ิบ

3) การดําเนนิ งาน เปน็ การวางแนวทางการปฏบิ ัติงานของแตล่ ะฝาุ ย เช่น ฝาุ ยการตลาด ฝาุ ยผลติ
ฝาุ ยการเงนิ และบญั ชี เป็นตน้

4) การประเมินผล เป็นการวางแผนหรือเตรียมการประเมินผลงานอย่างเปน็ ระบบ เชน่
ประเมินจากยอดจําหนา่ ย ประเมนิ จากการสาํ รวจความคดิ เห็นของลกู ค้า เป็นต้น

6.2 การปฏิบตั ติ ามแผน (DO) คอื การทาํ ตามแผนทีไ่ ด้ตง้ั เปาู หมายไว้ดว้ ยความตั้งใจมงุ่ ม่ัน
พยายาม ท้ังนี้ การปฏิบตั ิเป็นการลงมอื ปรบั ปรุงเปล่ยี นแปลงตามทางเลือกทีไ่ ดก้ ําหนดไว้ในข้นั ตอนการวางแผน ซง่ึ
ต้องตรวจสอบระหวา่ งการปฏิบัตนิ น้ั ว่าได้ดําเนนิ ไปในทศิ ทางทีต่ ั้งใจหรือไม่ พร้อมกบั สื่อสารให้ผู้ที่เก่ียวข้องทราบ และ
ติดตามการปฏิบัตินั้นอย่างสมํา่ เสมอ เพ่อื ศกึ ษาถงึ ความเปน็ ไปไดแ้ ละหาแนวทางแก้ไขปัญหาทอี่ าจจะเกิดขนึ้ ได้ใน
ระหว่างการปฏิบัติ เพ่อื จะมั่นใจได้วา่ การปฏิบตั ิตามแผนท่ีวางไวน้ ัน้ เกิดความผิดพลาดน้อยท่สี ดุ

-ผเู้ รยี นบอกประโยชน์ของการปฏิบัติตามแผน ชว่ ยใหท้ ราบข้ันตอน วิธีการและสามารถเตรียมงานได้
ล่วงหน้า ดงั นนั้ การปฏิบตั ิงานก็จะเปน็ ไปตามเปาู หมายท่กี ําหนดไว้ โดยไม่มปี ญั หาหรอื อปุ สรรคเกดิ ข้ึน

6.3 การตรวจสอบ (Check) คือ การประเมนิ เปาู หมายชวี ติ ท่ีวางแผนไวว้ ่าสามารถปฏิบัตไิ ด้สําเรจ็
หรอื ไม่ และต้องปรับปรงุ หรอื แก้ไขอยา่ งไรบา้ งจงึ จะทาํ ให้ประสบความสําเร็จในชวี ิต ท้ังน้ี การตรวจสอบเปน็ การ

11

ประเมนิ ผลที่ได้รบั จากการปฏิบัติ (DO) โดยการตรวจสอบทําให้ทราบว่าในการปฏิบตั ินน้ั สามารถบรรลเุ ปูาหมายหรอื
วัตถุประสงคท์ ี่ได้กาํ หนดไว้หรือไม่ สิง่ สําคญั ก็คอื ต้องร้วู า่ จะตรวจสอบอะไรบ้างและมคี วามสมํ่าเสมอมากน้อยเพยี งใด
ข้อมูลที่ไดจ้ ากการตรวจสอบจะเปน็ ประโยชนใ์ นข้ันตอนต่อไป

-ผ้เู รียนประโยชนข์ องการตรวจสอบ ในการตรวจสอบผลการดาํ เนนิ งาน ควรมีหลกั ดังน้ี
1. ตรวจสอบจากเปาู หมายทกี่ ําหนดไว้
2. มีเครื่องมือท่เี ช่ือถอื ได้
3. มีเกณฑ์การตรวจสอบทช่ี ัดเจน
4. มกี าํ หนดเวลาการตรวจสอบท่ีแนน่ อนและชัดเจน
5. บคุ ลากรท่ตี รวจสอบน้นั ตอ้ งไดร้ ับการยอมรับจากทกุ ฝุาย จึงดาํ เนนิ งานต่อไปได้

6.4 การปรบั ปรุงแกไ้ ข (Act) คอื การนาํ เอาผลการประเมนิ มาปรับปรุง และ/ หรือพฒั นาวธิ ีการทาํ ให้
ชีวติ ประสบความสําเร็จมากขน้ึ ทงั้ นี้ เปน็ การดําเนนิ งานใหเ้ หมาะสมซง่ึ จะพิจารณาผลท่ีได้จากการตรวจสอบซึ่งมี 2
กรณี คือ ผลท่ีเกิดขน้ึ เปน็ ไปตามแผนที่วางไว้ หรือไม่เป็นไปตามแผนทว่ี างไว้ ถา้ ผลทเ่ี กดิ ข้ึนเป็นไปตามแผนท่ีวางไว้ ก็
จะนําแนวทางหรอื กระบวนการปฏบิ ัตนิ นั้ มาจัดทาํ ให้เป็นมาตรฐานพร้อมท้ังหาวธิ ที จี่ ะปรับปรงุ ใหด้ ีข้ึน ซ่ึงอาจจะบรรลุ
เปาู หมายได้เรว็ กว่าเดมิ และเสียคา่ ใชจ้ า่ ยน้อยกวา่ รวมท้งั ทําให้คุณภาพดีขน้ึ กไ็ ด้ ถา้ หากไม่เป็นไปตามแผนทวี่ างไวก้ ็
ควรจะนําข้อมูลท่ีรวบรวมไว้มาวเิ คราะห์และพจิ ารณาว่าจะดําเนนิ การอย่างไรตอ่ ไป

7. ผเู้ รยี นบอกประโยชนข์ องการปรับปรุงแก้ไข ขอ้ บกพรอ่ งทเ่ี กิดขึ้น เมื่อมีการปรบั ปรุงแกไ้ ขคุณภาพก็จะ
เกิดขึ้น การปรับปรุงแกไ้ ขจะนาํ ไปสู่การเรม่ิ ต้นทาํ งานอย่างมคี ุณภาพในรอบใหม่ของวงจร และช่วยให้
สามารถคาดการณ์ปัญหาหรือความเส่ียงที่อาจจะเกดิ ขึน้ ในอนาคตได้

8. ครแู สดงความรูเ้ กย่ี วกับการวางแผนเปูาหมายชีวิต โดยการวางแผน หมายถึง การกาํ หนดสภาพหรือ
สถานภาพทค่ี าดหวงั วา่ จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยกาํ หนดแนวทางปฏิบัตเิ พื่อให้บรรลุวัตถปุ ระสงค์ท่ีวางไว้

9. ครอู ธิบายว่าเปูาหมายในชวี ติ (Life Goals) หมายถงึ สิง่ ทีต่ นเองให้ความสาํ คญั และปรารถนา
จะใหเ้ กดิ ข้นึ ในอนาคต และเปน็ แรงจูงใจให้ตนเองมีพลังมุ่งไปสอู่ นาคต การมเี ปูาหมายในชีวิตจะช่วยให้
มนษุ ย์ใชช้ วี ติ อย่างมคี วามหมาย มีความหวังและมีทิศทางทีจ่ ะมุ่งไปสู่อนาคต เพราะการมเี ปูาหมายจะเปน็
ตวั บ่งชี้วา่ บคุ คลน้นั ต้องการอะไรบา้ ง จะมีชีวิตอยูเ่ พอ่ื อะไร เพ่ือใคร และเพอื่ ท่จี ะทําอะไร

10. ครอู ธบิ ายการวางแผนเปูาหมายชีวิต หมายถงึ การตง้ั เปาู หมายชวี ติ ของบคุ คลท่ไี ด้วางแผนไวด้ ว้ ยวธิ กี ารท่ี
เหมาะสมเพื่อนําตนเองไปสู่เปูาหมายของชีวิตในอนาคต เป็นการวางเปาู หมายไว้ว่าจะตอ้ งตัง้ ตวั
สร้างฐานะใหไ้ ด้ โดยเรียนใหจ้ บและประกอบอาชีพท่สี ุจรติ ซึง่ การวางเปูาหมายในชวี ิตของแต่ละบุคคล
จะแตกต่างกนั ไปเพื่อใหก้ ารดําเนนิ ชวี ิตมคี ุณภาพ ไดแ้ ก่ การวางแผนเกย่ี วกบั สขุ ภาพอนามัย การวางแผนเกี่ยวกับ
การศกึ ษา การวางแผนเกยี่ วกบั อาชพี เช่น แพทย์ วศิ วกร ตํารวจ ทหาร นักธรุ กิจ เกษตรกรรม ชาวนา ชาวไร่ เปน็ ต้น
การวางแผนเกีย่ วกับการใช้จา่ ยในแตล่ ะเดือน การวางแผนท่ีจะปฏบิ ัติความดี การดําเนินชีวิตให้อยใู่ นกรอบศีลธรรม
การวางแผนเกี่ยวกับการสรา้ งครอบครัวในอนาคต เปน็ ตน้

11. ครใู ห้ผูเ้ รียนวางแผนเปูาหมายชีวติ ซ่งึ เป็นส่ิงท่จี าํ เปน็ ทบี่ ุคคลทกุ คนตอ้ งให้ความสําคัญในการรู้จกั
วางแผนชวี ติ ของตนเองอยา่ งมีขนั้ ตอน มีวธิ ีการท่เี หมาะสมกบั สถานะของบุคคล และพยายามดําเนนิ การโดยปฏิบัติ
ทกุ วิถที างท่จี ะนําพาชีวติ ใหป้ ระสบความสําเร็จ แต่เมือ่ ดําเนนิ ชวี ติ ท่มี กี ารวางแผนแล้วเกิดปญั หาและ
อปุ สรรค บคุ คลนั้นก็สามารถหาจุดบกพร่องท่ีเกิดขึน้ แล้วนาํ มาพิจารณาทบทวนขน้ั ตอน เพอ่ื แก้ไข พัฒนา
ปรับปรุงใหช้ วี ิตของบุคคลมีคุณภาพ และเกดิ ประสทิ ธิภาพในการดาํ เนินชวี ติ ใหม้ ีความสขุ หากทุกชีวติ มีการวางแผน
เพ่ือเปูาหมายของชีวิต ก็จะสง่ ผลให้ประสบความสาํ เรจ็ ในชวี ิต

12. ครแู บ่งเปูาหมายชวี ิตของบุคคลได้ 3 ระดบั คือ

12

1) การวางแผนเปูาหมายชวี ิตขัน้ ต้น เปน็ การวางแผนตงั้ เปูาหมายของชีวิตโดยมงุ่ มั่นฝกึ ฝนตนเอง ใหบ้ รรลุ
เปูาหมายชวี ิตวา่ จะต้องเรียนให้จบ มีอาชพี มฐี านะทด่ี ีให้ได้ ดว้ ยองคป์ ระกอบต่างๆ เช่น การประพฤตติ นเปน็ คนดี
และตัง้ เปาู หมายว่าจะประกอบอาชพี อะไร เชน่ ครู พยาบาล ตํารวจ ทหาร ชาวนาหรืออ่ืนๆ

2) การวางแผนเปาู หมายชีวิตขน้ั กลาง เป็นการตง้ั เปูาหมายของชวี ิตว่าต้องพยายามต้ังตวั และสร้างฐานะ
ของตนเอง มชี ีวิตคู่ มีชวี ิตครอบครัวทีด่ ี ไม่ยอ่ ทอ้ รูจ้ กั การสร้างคณุ ค่าใหช้ วี ิตด้วยการขยันตัง้ ใจทําความดี เออ้ื อาทร มี
เมตตาตอ่ ผ้อู ่นื ซึ่งเปน็ เปูาหมายชวี ติ สงู สุด

3) การวางแผนเปูาหมายชวี ิตข้ันสูงสุด เป็นการต้งั เปูาหมายของชวี ติ ทเี่ ปน็ ประโยชนอ์ ย่างยิง่ ต่อตนเอง
และบุคคลอ่ืน คอื การตงั้ ใจดําเนนิ ชีวติ ให้ประสบความสําเรจ็ ในการศึกษาเล่าเรยี นหน้าทีก่ ารงาน ชีวิตครอบครัว และ
ตงั้ ใจปฏบิ ัตธิ รรมโดยการต้งั ใจทําความดี หมัน่ ใหท้ าน รักษาศีลฝึกสมาธเิ พ่ือให้จติ ใจผ่องใส เกดิ ปัญญา เพ่ือรกั ษา
เปูาหมายของชีวิตใหม้ ่ันคงทกุ ด้าน ถ้าทกุ คนไมม่ ีการวางแผนเปูาหมายชีวิตแลว้ กย็ ากท่ีจะทาํ ให้ตนเองประสบ
ความสาํ เร็จไดเ้ ปูาหมายเปน็ เครือ่ งมือชที้ ิศทางเหตุการณ์ท่ีเกดิ ขน้ึ ในชว่ งชวี ติ ของแตล่ ะบคุ คล ซงึ่ แตล่ ะคนอาจมี
เปาู หมายแตกต่างกัน ข้นึ อย่กู ับอาชพี รายได้ ความรบั ผิดชอบในครอบครวั ของแต่ละบุคคล

13. ผ้เู รียนบอกเปาู หมายของบคุ คลมีดังนี้
1) เปูาหมายทไ่ี มเ่ ปน็ ตัวเงิน ไดแ้ ก่ วฒั นธรรมประเพณี สังคม การเมือง กฎหมาย ความรูส้ กึ เป็นต้น

อาจจะมคี วามสาํ คญั มากกว่าตวั เงนิ กไ็ ด้
2) เปาู หมายที่เปน็ ตัวเงิน เป็นเปูาหมายทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับเงินโดยตรง ซงึ่ ทําให้แตล่ ะบุคคลนน้ั มีความเปน็ อย่ดู ี

ขึ้น หากมีการวางแผนการเงนิ ที่ดจี ะทาํ ให้เปูาหมายของแตล่ ะบุคคลประสบความสาํ เร็จได้
14. ผู้เรียนบอกความแตกต่างของเปูาหมายท่ีเป็นตวั เงินและเปูาหมายท่ไี ม่เป็นตัวเงนิ ดงั น้ี

15. ผู้เรียนบอกสงิ่ ท่ีต้องพิจารณาในการกาํ หนดเปูาหมายชวี ติ ดังนี้
1) ต้ังเปาู หมายทแ่ี นน่ อนและชดั เจน ควรคาํ นึงถึงผลทจี่ ะได้รบั ว่าเป็นไปตามเปูาหมายหรือวัตถุประสงค์ที่

กําหนดไว้หรอื ไม่
2) เปูาหมายตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้ ควรมกี ารศกึ ษาความเป็นไปได้กอ่ น หากคิดวา่ เหมาะสมและสามารถทาํ

ไดต้ ามเปูาหมายที่วางไวจ้ ึงลงมือปฏบิ ตั ิ การกําหนดเปูาหมายในลักษณะนจี้ งึ ไมม่ ีความเป็นไปได้ คือไม่สอดคล้องกบั
ความเป็นจริงได้

3) เปูาหมายนนั้ ควรจัดลําดับกอ่ นหลังใหแ้ น่นอน

16. ครูอธิบายกระบวนการวางแผนชวี ิต มี 4 ขัน้ ตอน ดงั นี้
ขัน้ ท่ี 1 การต้งั เปาู หมายชวี ิต เป็นแนวทางในการวางแผนการดําเนนิ ชีวติ ของตนเองเพื่อให้บรรลไุ ดต้ าม

เปูาหมายทีต่ อ้ งการ เช่น ตอ้ งการเรียนใหจ้ บการศึกษาสูงสุดในชีวติ ต้องกาํ หนดว่าจะจบการศึกษาเมอ่ื ไหร่ จะ
ประกอบอาชพี อะไร จะหารายได้เทา่ ไหร่ และหามาได้อย่างไร เปน็ ต้น

13

ขั้นท่ี 2 การวางแผนเพ่อื เปน็ แนวทางในการปฏิบตั ิ เมอ่ื ไดต้ ัง้ เปาู หมายแล้ว ก็ต้องมกี ารกําหนดแผนงานเพ่อื
ระบวุ ิธีที่ต้องปฏบิ ัติตามแผน เพ่ือใหบ้ รรลเุ ปูาหมาย เช่น เมอ่ื จบการศกึ ษาแลว้ กต็ ้องเลอื กอาชีพใดอาชีพหน่งึ ที่จะ
สร้างรายได้ เพอ่ื นํามาเลีย้ งตนเองและครอบครวั โดยอาจวางแผนเลือกอาชีพไว้มากกว่า 1 อาชีพก็ได้

ข้ันที่ 3 ประเมนิ ทางเลือก ควรมกี ารประเมินวา่ ควรจะตดั สนิ ใจเลือกอาชีพใดทีเ่ หมาะสมกบั
ตนเองมากทส่ี ดุ โดยเนน้ ที่ความสนใจและชอบในอาชีพน้นั รวมท้ังสามารถท่จี ะสรา้ งรายได้ให้ชวี ิตของตนเอง
มคี วามสุขอย่ไู ดอ้ ย่างพอเพยี ง เช่น เลอื กประกอบอาชพี ทาํ รา้ นอาหาร นาํ รายไดส้ ว่ นหนึง่ มาเก็บไวเ้ ป็นเงินออมเพ่อื ใช้
ในวัยเกษยี ณ อกี ส่วนหนึง่ อาจจะนาํ มาใช้จ่ายส่วนตวั และคา่ ใช้จ่ายในร้านอาหาร เปน็ ตน้

ข้ันที่ 4 การตดั สนิ ใจ หากการวางแผนตามขน้ั ที่ 1 ถงึ ข้ันท่ี 3 เปน็ ไปตามเปูาหมาย กส็ ามารถตดั สินใจเลอื ก
ประกอบอาชีพได้ แต่หากไมป่ ระสบความสาํ เรจ็ ก็ต้องยกเลกิ หรอื ถา้ ตอ้ งการทีจ่ ะประกอบอาชีพอื่นๆ กต็ อ้ ง
ปรบั เปลีย่ นการวางแผนทางการประกอบอาชีพใหม่

17. ครูอธบิ ายหลกั การวางแผนเปูาหมายชวี ติ โดยก่อนจะเรมิ่ ต้นทําส่งิ ใดกค็ วรจะกาํ หนดเปาู หมายท่ีตอ้ งการไว้
ล่วงหน้าเสมอ เพราะเปาู หมายเปน็ เคร่ืองมือที่กาํ หนดทศิ ทางให้ทราบวา่ สงิ่ ทค่ี าดหวังและตอ้ งการทําให้สําเรจ็ ไดน้ นั้ มี
เพยี งใด การวางแผนเปูาหมายในชวี ติ จึงควรจะต้องกาํ หนดเปาู หมายท่ีต้องการให้บรรลุผลสาํ เรจ็ แต่เปูาหมายที่ดนี ้ัน
ควรจะกําหนดตามหลกั SMART ดงั น้ี

18.ผู้เรียนวางแผนเปาู หมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคุณภาพตามกรณศี ึกษาทีค่ รูกําหนดให้
19.ผเู้ รยี นเขยี นเปูาหมายในชวี ติ สูงสดุ ว่าต้องการที่จะทาํ อะไรบา้ งในขณะที่ยงั มีชีวติ อยูโ่ ดยกาํ หนด
เปูาหมายไว้ 5 เรอื่ ง พรอ้ มทงั้ ลําดบั ข้นั ในกระบวนการวางแผนประกอบดว้ ย

1) การกาํ หนดวัตถปุ ระสงค์ เปูาหมายของชวี ิต
2) พฒั นาขอ้ ตกลงทีเ่ ป็นตวั กาํ หนดขอบเขตในการวางแผนของชวี ติ
3) พจิ ารณาขอ้ จาํ กัดต่างๆ ท่ีอาจเกดิ ขึน้ ในการวางแผนชีวิต
4) พัฒนาทางเลอื กในการดําเนนิ ชวี ติ
5) ประเมินทางเลอื ก เพือ่ เลอื กสง่ิ ที่เปน็ ไปไดส้ ูงสุดของชวี ติ
6) เปลีย่ นแปลงแผนสู่การปฏิบัตจิ รงิ

20.ผูเ้ รียนเขยี นเปาู หมายในชวี ิตเกยี่ วกบั การเรียนของตนเองให้เสรจ็ ภายใน 5 ปี
21.ผูเ้ รียนวางแผนชีวติ ด้วยการนาํ เอาหลัก PDCA มาประยกุ ต์ใช้ โดยอาจจะเป็นการวางแผนดา้ นการศกึ ษา
หรือการประกอบอาชีพก็ได้ แต่ตอ้ งสอดคล้องกับวงจรคุณภาพ PDCA
ขัน้ สรุปและการประยกุ ต์
22.ครูสุ่มตัวอยา่ งให้ผู้เรียนใหแ้ สดงความคิดเห็นเก่ยี วกับเหตผุ ลที่ตอ้ งการวางแผนเปาู หมายชีวติ ด้วย

14

วงจรควบคมุ คณุ ภาพ

23.ครูและผู้เรียนรว่ มกนั สรุปการวางแผนเปาู หมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ โดยใหท้ ํากจิ กรรม

ใบงานและกรณศี กึ ษาตามทค่ี รมู อบหมาย

24.สรุปโดยการถาม-ตอบ เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจําวนั และประเมินผูเ้ รียนตามแบบฟอรม์ ต่อไปน้ี

ช่ือผเู้ รียน ประสบการณ์พน้ื ฐานการเรียนรู้ วธิ กี ารเรยี นรู้
ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน

1.

2.

3.

4.

5.

สือ่ และแหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรียน วิชาธรุ กิจและการเป็นผู้ประกอบการ
2. รปู ภาพ
3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4. ส่ืออิเลก็ ทรอนกิ ส์, PowerPoint
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้

หลักฐาน
1. บันทึกการสอนของผูส้ อน
2. ใบเช็ครายชื่อ
3. แผนจัดการเรยี นรู้
4. การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่
4 ตรวจกิจกรรมสง่ เสรมิ คณุ ธรรมนาํ ความรู้
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6. ตรวจกจิ กรรมใบงาน
7. การสังเกตและประเมนิ พฤตกิ รรมด้านคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

เครอ่ื งมือวัดผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

2. แบบประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น)

4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
5. แบบประเมินกจิ กรรมใบงาน

15

6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรียนร่วมกัน
ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมินผล

1. เกณฑผ์ า่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ีชอ่ งปรบั ปรุง
2. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขนึ้ ไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป)
4. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรูม้ เี กณฑ์ผา่ น 50%
5. แบบประเมินกิจกรรมใบงานมีเกณฑ์ผ่าน 50%
6. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขึ้นอยู่

กับการประเมนิ ตามสภาพจริง

กจิ กรรมเสนอแนะ
ผู้เรยี นวางแผนเปูาหมายชวี ิตดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ และทํากิจกรรมใบงาน

ใบงานท่ี 1.1
เรอื่ ง การวางแผนเปา้ หมายชวี ติ

ชื่อ-สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชั้น..........................
คาชแี้ จง ใหเ้ ขยี นเปูาหมายในชีวิตสูงสุดว่าตอ้ งการท่ีจะทําอะไรบา้ งในขณะทย่ี ังมชี ีวิตอยู่ โดยกาํ หนดเปาู หมายไว้
5 เรือ่ ง พร้อมทัง้ ลาํ ดบั ข้ันในกระบวนการวางแผนประกอบด้วย

1) การกาํ หนดวตั ถปุ ระสงค์ เปูาหมายของชีวติ
2) พัฒนาขอ้ ตกลงทเ่ี ป็นตัวกาํ หนดขอบเขตในการวางแผนของชวี ิต
3) พจิ ารณาขอ้ จาํ กดั ตา่ งๆ ทีอ่ าจเกิดข้นึ ในการวางแผนชวี ิต
4) พฒั นาทางเลือกในการดาํ เนนิ ชีวิต
5) ประเมินทางเลอื ก เพ่อื เลอื กส่ิงทีเ่ ป็นไปได้สูงสุดของชีวิต
6) เปลีย่ นแปลงแผนสูก่ ารปฏิบัติจรงิ
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................

16

ใบงานที่ 1.2
เรอื่ ง การวางแผนเปา้ หมายในการศกึ ษา

ชอื่ -สกุล............................................................................................เลขที่.........ชั้น..........................
คาชี้แจง ใหเ้ ขียนเปูาหมายในชีวติ เกย่ี วกบั การเรยี นของตนเองใหเ้ สร็จภายใน 5 ปี
1.การศึกษาเล่าเรยี น……………………………………………..……………………………………………..
................................................................................................................................................................
เปูาหมาย………………………………………………………………………………………………………..
ระยะเวลา..............................................................................................................................................
การศกึ ษาเล่าเรียน………………………………………………………………………………………………..
................................................................................................................................................................
เปาู หมาย………………………………………………………………………………………………………..
ระยะเวลา..............................................................................................................................................
การศกึ ษาเล่าเรยี น………………………………………………………………………………………………..
................................................................................................................................................................
เปาู หมาย………………………………………………………………………………………………………..
ระยะเวลา..............................................................................................................................................
2.การทางาน……………………………………………………………………………………………………..
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
เปูาหมาย………………………………………………………………………………………………………..
................................................................................................................................................................
ระยะเวลา..............................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
3.การดูแลครอบครัว (พอ่ แม่ ญาติพ่นี อ้ ง และคูช่ วี ิต)
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
เปูาหมาย………………………………………………………………………………………………………..
................................................................................................................................................................
ระยะเวลา..............................................................................................................................................
4.อ่ืน ๆ การพักผอ่ น
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
การทาํ ประโยชนเ์ พ่ือสงั คม
................................................................................................................................................................

17

ใบงานท่ี 1.3
เรื่อง เปา้ หมายในการประกอบอาชีพ

ช่ือ-สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชั้น..........................
คาช้แี จง ใหว้ างแผนประกอบอาชีพใดอาชพี หนงึ่ ทต่ี นเองสนใจและชอบ โดยวางแผนต่อไปนี้

ขั้นที่ 1 นกั เรยี นจะตงั้ เปาู หมายอย่างไรก่อนท่จี ะเลือกประกอบอาชพี (เขยี นระบตุ ามท่ีต้งั ใจไว)้
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ขั้นที่ 2 นักเรยี นจะวางแผนงานเพอ่ื เป็นแนวทางในการปฏบิ ตั อิ ย่างไร (วางแผนท่เี ป็นไปได้)
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

ขั้นท่ี 3 นกั เรียนจะมีวธิ ีการประเมินทางเลอื กอยา่ งไรบา้ ง
.........................................................................................................................................................................

ข้นั ที่ 4 นกั เรียนมีวิธใี นการตัดสินใจอยา่ งไร
.........................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................

ใบงานที่ 1.4
เรื่อง การวางเปา้ หมายชีวิตด้วยวงจร PDCA

ชอ่ื -สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชั้น..........................
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวางแผนชีวติ ด้วยการนาํ เอาหลัก PDCA มาประยุกตใ์ ช้ โดยอาจจะเป็นการวางแผนดา้ น
การศึกษา หรือการประกอบอาชีพก็ได้ แตต่ อ้ งสอดคลอ้ งกับวงจรคุณภาพ PDCA
 Plan (P)................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
 Do (D) .....................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
 Check (C) ...............................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
 Action (A) ..............................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

18

แผนการจดั การเรียนรู้แบบบรู ณาการที่ 2 หนว่ ยท่ี 2
รหสั วิชา 20001-1003 ธรุ กิจและการเปน็ ผูป้ ระกอบการ สอนครัง้ ที่ 2 (3-4)
ชอ่ื หน่วย/เร่อื ง การออม
จานวน 2 ช.ม.

แนวคดิ
การออมเปน็ การเกบ็ สะสมเงินรายไดใ้ นสว่ นต่าง ๆ ไวใ้ ช้จ่ายในอนาคตรวมถงึ การสะสมสง่ิ ทม่ี ีคา่ เปน็ ตวั เงิน

และมีประโยชน์ตอ่ ครอบครวั ซงึ่ เปน็ การสรา้ งหลักประกันความมนั่ คงให้กบั ตนเอง และก่อให้เกดิ เสถียรภาพทาง
เศรษฐกจิ การออมจงึ มคี วามสาํ คญั ตอ่ ระบบเศรษฐกิจ เพราะมีความสาํ คัญตอ่ ความเป็นอยูข่ องประชาชน ครอบครัว
และชมุ ชน จึงถอื ว่าการออมเปน็ สิ่งจําเปน็ ตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศ

ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับความหมาย ความสาํ คัญ และประโยชนข์ องการออม
2. แสดงความรเู้ กี่ยวกับเปูาหมายในการออม
3. แสดงความรเู้ กยี่ วกับปัจจยั สําคญั ในการออม
4. แสดงความรู้เก่ียวกบั การวางแผนการออม
5. แสดงความรเู้ กย่ี วกับการออมเพอ่ื เกษียณอายใุ นประเทศไทย
6. แสดงความรู้เกย่ี วกับรูปแบบการออมเพือ่ การเกษียณของประเทศไทย
7. มีการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้สําเร็จการศึกษา

สํานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ท่คี รูสามารถสังเกตไดข้ ณะทาํ การสอนในเร่ือง
1. ความมวี ินยั
2. ความซือ่ สัตย์สจุ ริต
3. ความเชื่อมนั่ ในตนเอง
4. ความสนใจใฝุรู้
5. การละเวน้ สง่ิ เสพตดิ และการพนนั

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการวางแผนเปาู หมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธรุ กจิ และการเป็น

ผู้ประกอบการ หลกั การจัดการทางการเงนิ หลกั การบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพม่ิ ผลผลติ เบ้อื งต้นและกฎหมายท่ี
เกยี่ วข้อง

2. จัดทําแผนธรุ กจิ อยา่ งง่าย
3. ประยกุ ตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดําเนนิ งาน
4. ประยกุ ตใ์ ชห้ ลักการบรหิ ารงานคุณภาพและเพ่มิ ผลผลิตในการวางแผนและดําเนนิ งาน
สาระการเรยี นรู้

1. ความหมาย ความสําคัญ และประโยชน์ของการออม
2. เปูาหมายในการออม
3. ปัจจัยสาํ คญั ในการออม
4. การวางแผนการออม
5. การออมเพอื่ เกษยี ณอายุในประเทศไทย
6. รูปแบบการออมเพ่ือการเกษยี ณของประเทศไทย

19

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ผู้เรียนแตล่ ะคนบอกเปูาหมายในชวี ิตของตนเองวา่ ภายใน 3-5 ปนี ตี้ ้องการจะตงั้ เปูาหมายให้ชวี ติ ของ

ตนเองอย่างไรบ้าง
2. ครแู นะนาํ ให้ผเู้ รียนจดบันทกึ เปูาหมายของผู้เรยี นแตล่ ะคนไว้ในสมุดบนั ทกึ ส่วนตวั และเม่อื ถงึ กําหนดที่

ตงั้ เปูาหมายเอาไว้แล้วลองพจิ ารณาดูว่าประสบความสําเร็จกี่ขอ้ และข้อท่ไี ม่ประสบความสําเรจ็ ตามเปูาหมายนนั้ มี
ปัญหาใดบ้าง

3. ครูนาํ รูปภาพของบคุ ลลทมี่ ีชอื่ เสยี งเม่อื เกษยี ณอายุแล้ว และเลา่ ชวี ติ ของแตล่ ะคนให้ผู้เรียนฟังเพ่ือให้เกดิ
ทักษะการเรียนร้วู ่าแต่ละคนจะตอ้ งทําอยา่ งไรบา้ งในวัยเกษียณอายุ

4. ครูกล่าวถึงคําวา่ “เกษียณ” หมายถงึ สน้ิ ไป ซง่ึ ศพั ท์ทางราชการจะใช้คาํ วา่ “เกษยี ณอายุ” หมายถงึ
ครบกาํ หนดอายุรับราชการ หรอื ส้นิ กําหนดเวลารบั ราชการ เมื่อบุคคลนนั้ มีอายคุ รบ 60 ปี ในปจั จุบันแม้จะมีผู้ลาออก
ตามนโยบายเออรล์ ่รี ีไทร์ (Early Retired) ของรัฐบาลไปกอ่ นอายุจะครบ 60 ปีก็ตาม แตข่ ้าราชการก็ยงั อย่จู นครบ
อายเุ กษยี ณ

6. ครอู ภิปรายเพม่ิ เติมวา่ การกําหนดรายได้ให้เพยี งพอกบั รายจา่ ยเปน็ สิ่งท่ีสาํ คญั และจําเปน็ มาก เพราะในวยั
เกษียณอายุ ทุกคนสามารถนําเงินทเี่ กบ็ สะสมไวม้ าใช้ได้อย่างสะดวกสบายเพ่ือการดาํ รงชวี ติ ตอ่ ไป หากแตล่ ะบุคคลมี
เงินออมเกบ็ สะสมไว้ เพื่อเปน็ ทนุ สํารองไวใ้ ชจ้ ่ายสําหรับวัยเกษยี ณ วธิ ที ่ีดที ส่ี ุด คอื การวางแผนเพอ่ื การเกษยี ณอายไุ ว้
ตง้ั แต่เริม่ ตน้ อย่างมีระบบตามข้นั ตอน ซึ่งแตล่ ะคนสามารถกําหนดแผนงานและข้ันตอนแตกต่างกันออกไปตามความ
เหมาะสมกับสภาพการดํารงชวี ติ ดังน้ี

1) กาํ หนดความตอ้ งการใช้เงิน
2) กาํ หนดความต้องการของรายได้ท่สี ามารถหามาได้
3) เปรียบเทียบความตอ้ งการเงนิ ทนุ กับความสามารถในการหารายได้
ขั้นสอน
7. ครูอธบิ ายความหมาย ความสําคญั และประโยชน์ของการออม โดยใชส้ อื่ PowerPoint ประกอบ

8. ผู้เรียนแตล่ ะคนบอกประโยชนข์ องการออม
9. ครูอธบิ ายเปูาหมายในการออม และใหผ้ เู้ รยี นกําหนดเปูาหมายในการออมของตนเอง

20

10. ครแู สดงตารางกําหนดเปาู หมายในการออกให้ผู้เรียนดู
11.ครอู ธิบายใหผ้ ู้เรยี นฟังว่าเมอ่ื กําหนดเปาู หมายในการออมเรยี บร้อยแลว้ กต็ อ้ งกาํ หนดจํานวนเงินท่จี ะออม
ซึง่ มีวธิ ีคาํ นวณแบบง่ายๆ คอื นาํ รายจ่ายหกั ออกจากรายรับ

11.ผเู้ รียนเขียนตารางแสดงรายรับ-รายจา่ ยตามตารางดงั น้ี

21

12. ผูเ้ รียนแต่ละคนบอกปจั จัยสําคญั ในการออม ซง่ึ โดยทั่วไปการออมจะเกิดข้ึนก็ตอ่ เมอื่ บคุ คลน้นั มรี ายได้
มากกว่าการจา่ ย และต้องอาศัยปจั จยั สําคัญในการออม ดังนี้

12.1 ผลตอบแทนทไ่ี ดร้ บั ถา้ ผลตอบแทนในการออมเพิ่มขึน้ กจ็ ะจงู ใจใหบ้ ุคคลมกี ารออมเพิ่มมากขน้ึ
12.2 มูลคา่ ของอํานาจซอื้ ของเงินในปัจจุบัน ผอู้ อมจะตัดสินใจออมเงนิ มากขนึ้ หลังจากพิจารณา
ถึงอาํ นาจซื้อของเงินทม่ี ีอยู่ในปัจจุบันวา่ จะมีความแตกตา่ งจากมลู คา่ ของเงินในอนาคต
12.3 รายได้สว่ นบุคคลสุทธิ ผู้ที่มีรายได้แน่นอนทกุ เดอื นในจาํ นวนท่ีไมส่ ูงมาก จาํ นวนเงนิ ออมทกี่ ันไวอ้ าจ
เป็นเพยี งจํานวนน้อยตามอัตราสว่ นของรายได้ทม่ี อี ยู่
12.4 ความแนน่ อนของจํานวนรายได้ในอนาคตหลงั เกษียณอายุ ถ้าทุกคนทราบวา่ เม่ือใดก็ตาม
ที่แต่ละบุคคลไม่มีความสามารถหารายได้ต่อไป ก็จะไมม่ ีปญั หาการเงนิ เกดิ ขนึ้ เนอื่ งจากหนว่ ยงานท่ี
ทาํ งานอยอู่ าจมนี โยบายช่วยเหลอื ในวยั ชราหลังเกษยี ณอายุ หรือภายหลงั ออกจากงานก่อนกาํ หนด

13.ครบู อกปญั หาในการออมเป็นปัญหาที่สําคัญอยา่ งหนง่ึ ของประเทศ เน่ืองจากชาวไทยจาํ นวนมากจะมีอายุ
ยืนประมาณ 80-90 ปี แตส่ ว่ นมากกย็ งั ไม่มกี ารออมอยา่ งเพยี งพอเพราะแตล่ ะคนก็จะมปี ญั หาเรอ่ื ง
การออม และทอ้ แท้ท่ีจะพยายามออมต่อไป ปัญหาในการออมเงินทเ่ี ห็นได้ชดั เจนก็คือการไมต่ ้งั ใจ หรือไมม่ ี
ความอดทนเพยี งพอของแตล่ ะบุคคล จึงทาํ ให้ไม่สําเร็จตามเปาู หมายทก่ี ําหนดไว้ ซ่ึงสามารถสรุปไดด้ ังน้ี

ปญั หา
ในการออม

22

14. ผ้เู รยี นวางแผนในการออม ซง่ึ การวางแผนการออม (Saving Plan) เปน็ กลยทุ ธ์ที่ช่วยให้บุคคลประสบ
ความสําเร็จตามเปาู หมายในชีวิต ซึ่งแตล่ ะบุคคลควรจดั สรรรายได้ของตนเองเพอ่ื เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยปัจจุบัน และเปน็ เงนิ
ออมในอนาคตเป็นจาํ นวนเทา่ ใด ส่งิ ทสี่ ําคญั ในการวางแผนการออมคอื การประมาณรายได้และรายจา่ ย เช่น บคุ คล
ต้องการซ้อื บา้ นจะต้องวางแผนการออมโดยกาํ หนดจํานวนเงินและระยะเวลาทส่ี ะสมเงินออมเพอื่ ให้ไดต้ ามจาํ นวนท่ี
ต้องการ เงินออมยงั ชว่ ยบรรเทาความเดือดรอ้ นทางการเงนิ ในยามฉกุ เฉิน แสดงใหเ้ ห็นวา่ การออมเปน็ รูปแบบของการ
ลงทนุ อยา่ งหน่ึง ทุกคนจงึ ควรบรหิ ารเงินออมอย่างรอบคอบ

15. ครูอธิบายรปู แบบของการวางแผนการออม ดังน้ี
1. การฝากเงนิ กบั ธนาคาร (Deposit)
2. การประกนั ชวี ติ (Life Insurance)
3. การออมทรัพยก์ ับสหกรณ์
4. การซือ้ พนั ธบตั รรัฐบาล
5. กองทนุ สํารองเลย้ี งชีพ (Provident Fund: PVD)

16. ผู้เรียนทดลองเลือกรูปแบบของการวางแผนการออม แล้วเขียนเปน็ ความเรยี งถึงเหตผุ ลในการเลือกน้ัน
17. ครูผู้สอนอธิบายการออมเพื่อเกษยี ณอายุในประเทศไทย โดยใชส้ ื่อ PowerPoint
18. ครแู ละผู้เรยี นแสดงการคํานวณเงนิ ออมเพื่อเกษียณอายุ ซึง่ ทกุ คนควรเตรียมความพรอ้ มในอนาคตดว้ ย
ตนเอง จึงต้องมีเงินออมไวจ้ าํ นวนหนง่ึ เพอื่ ใชจ้ า่ ย จึงต้องสาํ รวจตนเองวา่ ปจั จบุ นั อายเุ ทา่ ไร สขุ ภาพเปน็ อย่างไร
พฤตกิ รรมการใช้จ่ายเป็นอยา่ งไร มรี ายไดต้ อ่ เดือนเท่าไหร่ ซ่งึ จะเปน็ ปัจจยั ที่จะนาํ มาพิจารณาวางแผนว่าในอนาคต
ตอ้ งมีเงินออมจาํ นวนเท่าใดจึงจะพอใช้ ซึ่งไมม่ สี ตู รทีแ่ น่นอน แตก่ พ็ อประมาณไดด้ งั น้ี

วธิ ที ี่ 1 พจิ ารณาจากเงนิ ออมทม่ี ีอยูใ่ นมอื ปจั จุบนั ซ่งึ จะมีจํานวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของเงินไดท้ ้งั ปี คณู
ด้วยอายใุ นปจั จบุ ันของตนเอง

วธิ ีที่ 2 พิจารณาจากเงนิ ออมทม่ี ี ณ วนั ทเ่ี กษยี ณอายุ โดยใหน้ ําจาํ นวนปีทมี่ ชี วี ติ อยู่หลังเกษียณคูณดว้ ย
ค่าใช้จ่ายตอ่ เดือน

23

19. ครูอธิบายบทบาทของการวางแผนเกษียณอายุ โดยการวางแผนเกษยี ณอายุ มเี ปูาหมายท่ีจะแสดงถึงความ
มั่นคงทางการเงนิ ความสะดวกสบายและมาตรฐานการดาํ รงชวี ิตท่ีดที ง้ั ปจั จุบนั และอนาคต ผ้ทู ่ีจะประสบความสาํ เร็จ
ในชวี ติ ได้นั้นกค็ อื ผู้ท่มี ีการวางแผนไวอ้ ย่างรอบคอบซ่ึงเป็นการเพ่ิมความมนั่ คงใหก้ บั ตนเองและครอบครัว ซ่งึ ขั้นตอน
ของการวางแผนมดี ังนี้

19.1 กําหนดเปาู หมายหรือสง่ิ ทีต่ อ้ งการหลงั เกษยี ณอายแุ ลว้ เช่น รายไดท้ ่ีไดร้ ับ บา้ น รถยนต์ เปน็ ตน้ ซง่ึ
จะเป็นแนวทางวางแผนวยั เกษยี ณและอาจจะเปล่ียนไปตามความเหมาะสมท่เี ปลี่ยนแปลง

19.2 กําหนดจํานวนเงินสะสมทตี่ ้องการเพื่อเป็นคา่ ใช้จา่ ยภายหลังเกษียณอายุ และเป็นแนวทางทจี่ ะ
นาํ ไปสู่ความสาํ เร็จตามเปูาหมายได้เงนิ ตามท่ีต้องการ

19.3 การจัดทําโครงการลงทนุ ทสี่ ร้างเงนิ ทุนทไี่ ดส้ ะสมไวใ้ หม้ ีครบตามจาํ นวนทต่ี อ้ งการ และควรพจิ ารณา
ว่าควรนาํ เงินออมเหลา่ นี้ไปลงทุนอะไรได้บ้างเพอื่ ใหเ้ งนิ ทม่ี ีอยู่เพิม่ มากขน้ึ

20. ครแู ละผูเ้ รียนแสดงวธิ ีวางแผนทางการเงินสาํ หรบั การเกษยี ณอายุ โดยมีหลักในการคํานวณดงั นี้
1) ตั้งเปูาหมาย
2) คาํ นวณเงนิ รวม
3) ตรวจสอบปรมิ าณเงินออมในปัจจบุ ัน
4) ศกึ ษาวิธเี ตรียมเงินออมสาํ หรับเกษียณ

21. ครูบอกหลักวางแผนเกษียณอายุ ดงั น้ี
1) การหาระยะเวลาแห่งชว่ งชวี ิต ในปจั จุบนั ชว่ งชีวิตโดยเฉล่ียของผู้ชายคือ 72 ปี และของผู้หญิง

คอื 75 ปี แตด่ ้วยเทคโนโลยีทางการแพทยท์ ก่ี า้ วหน้าขึน้ สามารถยืดอายขุ องคนไปได้อีก 20 ปี จากค่าเฉลยี่ นน้ั
2) ระดบั เงินเฟอู ท่มี ีแนวโน้ม หรือคาดวา่ น่าจะเป็นไปในช่วงเวลาของการเกษยี ณอายุ ซึง่ ทําให้

เงินออมท่หี ามาไดใ้ นแต่ละปีดอ้ ยคา่ ไป
3) ค่าใช้จ่ายเกย่ี วกบั สขุ ภาพที่เพม่ิ มากข้นึ เมอ่ื เริ่มอายุมาก โดยทั่วไปทกุ คนต้องการเงนิ ประมาณ

70–75% ของรายได้ก่อนการเกษียณอายุ เพือ่ เอาไว้ใช้จ่ายเมือ่ ยามเกษยี ณอายุ ซ่งึ อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กบั วถิ ีชวี ติ
ของแตล่ ะคนทว่ี างแผนเอาไว้

22. ครบู อกปญั หาในการวางแผนเกษียณอายดุ งั น้ี
1) เรม่ิ ต้นวางแผนเกษียณอายุชา้ เกินไป
2) จํานวนเงนิ ท่ีสะสมแต่ละปีก่อนเกษียณน้อยเกนิ ไปไม่พอกับคา่ ใชจ้ ่ายที่เกิดขนึ้ หลงั เกษยี ณ
3) นาํ เงนิ ทนุ ท่ีไดส้ ะสมไวน้ ีไ้ ปลงทนุ ที่ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ

23. ครอู ธบิ ายการประมาณรายไดแ้ ละรายจา่ ยเพ่อื เกษียณอายุ ซงึ่ บุคคลทม่ี กี ารวางแผนเงนิ ไว้ล่วงหน้าเพอ่ื เป็น
ทุนสาํ รองไว้ใช้จ่ายในวัยชราเกษยี ณ ย่อมจะไดร้ ับความสะดวกสบาย จงึ ควรวางแผนการเงนิ ไวอ้ ยา่ งรอบคอบเพื่อ
เกษยี ณอายุ ประกอบด้วย

1) การกาํ หนดความตอ้ งการใชเ้ งินหลงั เกษียณ
2) การประมาณรายไดห้ ลงั วัยเกษียณอายุ
3) การจัดหาเงินสาํ รองไวส้ ําหรบั ส่วนท่ีขาด
4) แหลง่ ท่มี าของรายได้หลังเกษยี ณอายุ
24. ผู้เรยี นแนวทางในการแก้ปญั หาหลังการเกษยี ณอายุ
1) รายได้และรายจ่าย เมื่อเกษียณแลว้ รายได้ต่างๆ กล็ ดนอ้ ยลง มแี ต่รายไดท้ เี่ กิดจากเงินออม เงนิ
ประกนั สังคมและอ่นื ๆ หากไม่วางแผนการใชจ้ า่ ยใหด้ ี หรือยงั ตดิ ยดึ อยกู่ ับตาํ แหน่งฐานะเดิม แมเ้ กษียณแล้วก็
พยายามทําตนให้เหมอื นเดิมอยู่ ก็ยอ่ มจะกอ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาเศรษฐกิจได้ ดังนน้ั ผู้เกษยี ณจึงต้องทําใจ อยา่ ยอมให้สงั คม
มาเป็นผกู้ ําหนด หรอื อยา่ นาํ ตวั ไปเปรยี บเทียบกบั ผอู้ ่นื

24

แนวทางในการแกป้ ัญหา ตอ้ งมีการวางแผนการเงินไวล้ ว่ งหน้า ดรู ายรับรายจ่ายให้สมดุลกัน รูจ้ ักทํา
บัญชหี รือควบคุมค่าใช้จา่ ยให้รดั กุม รูจ้ ักประหยัด ไมฟ่ ุมเฟอื ยใช้จา่ ยในสิง่ ท่ีจําเปน็ เชน่ เสอ้ื ผา้ เคร่อื งสาํ อาง อาหาร
บางชนดิ เหล้า บหุ รี่ หรือการเท่ียว เป็นต้น หากต้องส่งเสยี ลูกเรยี น ตอ้ งผ่อนบา้ นหรือผ่อนรถ เป็นต้น ก็ควรมกี าร
วางแผนต้ังแต่กอ่ นเกษยี ณ เพ่อื มิให้เกดิ ความเครียดจนกลายเป็นปญั หาครอบครวั ควรปรกึ ษาสมาชิกในครอบครัว
ตงั้ แตเ่ รม่ิ ต้น วา่ จะทําอะไรตอ่ ไปหลังเกษียณแลว้

2) เวลา เม่ือออกจากงานจะทําใหม้ ีเวลาว่างมากข้ึน จึงเปน็ โอกาสทีจ่ ะใช้เวลาทาํ ในสง่ิ ที่ตนเองอยากทาํ อย่า
ปลอ่ ยให้ว่างเพราะอาจจะก่อให้เกดิ ความสูญเสียหลายอย่าง ท้งั จิตใจและรายได้

แนวทางในการแก้ปัญหา ตอ้ งรูจ้ กั เลอื กใช้เวลาใหเ้ กิดประโยชน์
3). สภาพจิตใจ การเกษยี ณอายุจะทาํ ให้บุคคลได้รับความกระทบกระเทอื นดา้ นจติ ใน เนือ่ งจากรายได้ลดลง
อยา่ งรวดเร็ว เงินบําเหนจ็ บาํ นาญ เงนิ สะสม เงินเลยี้ งชีพ จะชว่ ยให้สภาพจติ ใจดขี น้ึ ได้ การเปลย่ี นแปลงดา้ นจติ ใจ
อารมณ์ของผู้สูงอายุ อาจเกดิ จากมีเวลาว่างมากเกินไป เพราะเกษียณอายุจากการทาํ งานแล้วจงึ รสู้ กึ วา่ ตวั เองถกู ลด
คณุ ค่าลง ความสมั พันธร์ ะหวา่ งคนในครอบครัวเรม่ิ มีน้อยลง ทําใหร้ สู้ ึกโดดเด่ียวและเศรา้ ซมึ อาจเป็นผลมาจากความ
เจบ็ ปุวยและการเส่อื มของระบบตา่ ง ๆ ของร่างกาย ทําใหม้ อี ารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงดิ ใจน้อย โกรธงา่ ย เปน็ ตน้

แนวทางในการแกป้ ัญหา ไมค่ วรแยกตวั ออกจากสังคม หรือเกบ็ ตวั เงียบอย่แู ตใ่ นบา้ น ควรใชเ้ วลาวา่ งไป
ทํางานอดิเรกทช่ี อบ หดั เตน้ ราํ ฝึกใช้คอมพิวเตอร์ เปน็ อาจารยส์ อนพเิ ศษ เป็นต้น อาจนาํ ไปส่กู ารเปลยี่ นแปลงวถิ ีชวี ติ
อาชีพและให้ประสบการณใ์ หมอ่ ย่างท่ีไม่เคยทาํ มากอ่ น

4) สภาพรา่ งกาย เม่อื เข้าสวู่ ัยเกษยี ณสุขภาพย่อมทรดุ โทรมลง ควรรักษาสุขภาพให้ดอี าจทําประกันสุขภาพ
ไวก้ ็ได้

แนวทางในการแกป้ ัญหา ผเู้ กษยี ณอายคุ วรหม่ันออกกาํ ลงั กายสม่ําเสมอ โดยอาจจะไปตามฟิตเนต
ศูนยก์ ารคา้ หรอื สวนสาธารณะ การไปออกกําลงั กายจะทาํ ให้รา่ งกายแข็งแรง ไมค่ ่อยเจบ็ ปวุ ย จิตใจแจ่มใส รูส้ กึ ดี และ
ทําให้ไดเ้ พอ่ื นใหม่ๆ หากเป็นวัยเดียวกันกพ็ ูดคยุ ปรึกษาปัญหาท่ีคล้ายกันได้ เพยี งแตต่ ้องยอมรับซึ่งกนั และกนั เพราะ
เพอ่ื นแตล่ ะสถานที่ ก็จะมบี คุ ลกิ ลักษณะแตกต่างกนั ไป แต่ถ้าชอบสมาคมก็จะมคี วามสนุกสนาน เพลิดเพลนิ ซ่งึ เพื่อน
กลมุ่ ออกกาํ ลังกาย หลายคนกก็ ลายมาเป็นเพื่อนเทีย่ วได้ ผูเ้ กษียณอายคุ วรดแู ลความสะอาดและควรแต่งตวั ให้
สวยงามและเหมาะสม จะทําใหไ้ ด้รบั การยอมรบั ทําให้จติ ใจสดช่ืน สบายใจ เป็นการสรา้ งขวญั และกําลังใจให้ตนเอง
ได้

25. ครอู ธบิ ายรปู แบบการออมเพอ่ื การเกษยี ณของประเทศไทย โดยธนาคารโลก (World Bank) ได้
นาํ เสนอแนวคิดเกยี่ วกบั ระบบการออมเพือ่ เกษียณอายุหรอื ระบบบาํ เหนจ็ บํานาญ เพ่ือให้เกดิ ความมั่นคงทางสังคม
ของประเทศท่ีเรียกว่า “สามเสาหลักของระบบเงินออมเพื่อวยั เกษยี ณ” (Three Pillars หรือ The Multi Pillar of
Old Age Security) โดยยดึ หลกั การสรา้ งระบบบาํ นาญสมดุลและรองรับภาระในอนาคตท่ีจะตอ้ งเล้ียงดผู ู้เกษยี ณอายุ
ไดใ้ นระดับท่เี หมาะสมและไม่เพิ่มภาระภาษใี หก้ บั ประชาชนของประเทศ ขณะเดียวกนั ช่วยสรา้ งรายได้ของประเทศ
โดยใชเ้ งินออมของคนในประเทศเป็นตวั ขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกจิ และการลงทุน

รปู แบบการออมเพอื่ การเกษยี ณของประเทศไทยปจั จบุ ัน ไดข้ ยายขอบเขตความคุ้มครองครอบคลุม
ประชากรโดยท่วั ไปนอกเหนือจากขา้ ราชการ เพ่อื สรา้ งความสามารถในการพงึ่ พอตนเองในวยั เกษยี ณใหแ้ ก่ประชาชน
ตามทฤษฎีระบบเงนิ ออมของธนาคารโลก โดยเฉพาะกลุม่ ขา้ ราชการซึ่งสามารถเขา้ ถงึ ระบบบาํ นาญท่เี ป็นหลักประกัน
ได้ท้ัง 3 เสาหลกั ได้แก่

เสาหลักท่ี 1 รัฐจัดให้ เป็นระบบบาํ นาญภาคบงั คับทรี่ ฐั บาลของแต่ละประเทศจัดใหแ้ ก่ประชาชน เรียกว่า
Pay-as-you-go (PAYG) ซึ่งจะกําหนดผลประโยชนท์ จ่ี ะจ่ายให้แก่สมาชกิ แนน่ อน (Defined Benefit) จนกระทัง่
เสียชีวติ โดยจ่ายจากเงนิ ภาษที ีเ่ ก็บจากประชาชนมาจัดสรรเป็นงบประมาณ เพือ่ สร้างหลักประกนั เพื่อการชราภาพข้ัน
พืน้ ฐานของประเทศ ซ่ึงกาํ หนดผลประโยชนข์ ้ันตา่ํ ของรายได้ใหเ้ พยี งพอแก่การยังชพี ท่ีควรจะตอ้ งไม่ตา่ํ กวา่ เสน้ ความ
ยากจน (Poverty Line)

25

เสาหลักที่ 2 ภาคบงั คับ เป็นระบบเงนิ ออมภาคบงั คบั (Mandatory System) ท่รี ฐั บาลบงั คบั ใหป้ ระชาชน
ออมขณะทํางาน อาจบริหารโดยเอกชนหรอื หนว่ ยงานอสิ ระของรฐั มเี งินกองทนุ และมีการส่งเงนิ สะสมของสมาชกิ
และมกี ารสมทบจากนายจา้ งเข้ากองทนุ ในบัญชขี องสมาชกิ แตล่ ะคน สว่ นใหญ่จะกาํ หนดให้มกี ารนําสง่ เงนิ สะสมเข้า
กองทนุ ในอัตราที่แนน่ อน ซง่ึ มีวตั ถุประสงค์ท่จี ะยกระดบั รายได้ของผเู้ กษยี ณใหส้ งู กว่าเส้นความยากจนเพื่อให้มรี ายได้
ทด่ี ีขึน้ ตามมาตรฐานการดํารงชวี ติ อยา่ งปกติ

เสาหลกั ที่ 3 ภาคสมัครใจ เปน็ ระบบการออมภาคสมคั รใจ (Voluntary System) และรฐั บาลให้การส่งเสรมิ
ซึง่ มีการบริหารโดยภาคเอกชน มเี งนิ กองทุนและมีการสง่ เงนิ สะสมของสมาชกิ ในจํานวนท่ีแนน่ อน ในบางกรณอี าจมี
เงินสมทบจากนายจ้างเข้ากองทุนในบญั ชขี องแต่ละคน โดยมวี ัตถปุ ระสงคใ์ หผ้ ู้ออมมีทางเลือกในการออมเงนิ ไวใ้ ชใ้ น
ยามเกษยี ณมากขน้ึ มีความเพียงพอของเงินออมในการดํารงชวี ติ ในอนาคต ในการเข้าถงึ ความสะดวกสบายและการ
ดแู ลรกั ษาพยาบาลที่สูงกวา่ มาตรฐาน

26. ควรอธบิ ายถึงระบบการออมเพอ่ื การเกษียณ หรือระบบบํานาญ คือ ระบบการจัดการเพื่อจา่ ยเงินสําหรบั
วยั เกษยี ณให้แกผ่ ู้มีสิทธิรบั เงนิ เมอ่ื ครบอายุเกษยี ณ และมีวัตถุประสงคอ์ ยา่ งชดั เจนเพอื่ สร้างความม่นั คงด้านรายได้
ใหแ้ กผ่ ู้สงู อายหุ ลังเกษยี ณ มใิ หม้ มี าตรฐานการดํารงชีพท่ตี กตา่ํ เมือ่ เข้าสภู่ าวะท่ีไม่มรี ายได้ นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงการ
จดั สิทธปิ ระโยชน์อื่นเพิม่ เตมิ ด้วย เชน่ เงินชว่ ยเหลือกรณที ุพพลภาพ เจ็บปวุ ย และเงนิ ชว่ ยเหลือทายาทในกรณีผ้มู ี
สทิ ธริ บั บาํ นาญเสียชีวติ เปน็ ตน้ ทง้ั น้ีกองทนุ การออมเพื่อการเกษียณของ
ประเทศไทย มดี งั น้ี

1) กองทุนประกนั สงั คม (Social Security Fund
2) กองทนุ บาํ เหนจ็ บํานาญข้าราชการ (Government Pension Fund)
3) กองทุนสาํ รองเล้ยี งชีพ (Provident Fund)
4) กองทุนเพ่ือการเล้ียงชีพ (Retirement Mutual Fund)
5) กองทนุ การออมแหง่ ชาติ (National Savings Fund)
27. ผเู้ รียนกรอกข้อมูลของตนเองเพ่ือวางแผนเกษียณอายตุ ามแบบฟอร์มที่ครกู าํ หนดให้เกี่ยวกบั การวางแผน
เกษยี ณอายุ
28. ผเู้ รยี นวางแผนชีวิตของตนเองอยา่ งไรบ้างในแต่ละช่วงชวี ติ
29. ผเู้ รียนวางแผนการออมสาํ หรบั การเกษยี ณอายุของตนเอง
30. ผ้เู รยี นกาํ หนดเปาู หมายการออมของแตล่ ะคน และอุปสรรคต่อปจั จัยการออม
สรปุ และการประยกุ ต
31. ครแู ละผู้เรียนช่วยกันสรปุ ความหมาย ความสําคญั และประโยชน์ของการออม เปูาหมายในการออม
ปัจจยั สําคญั ในการออม และการวางแผนการออม
32. ครสู ุ่มตวั อย่างให้ผู้เรยี นตอบคําถามเปน็ รายบุคคล
33. ผเู้ รยี นวิเคราะหเ์ น้อื หาการเรียนการสอนและหาข้อสรปุ เป็นความคิดรวบยอดเพื่อนําไปประยุกต์ใช้ต่อไป
พรอ้ มข้อเสนอแนะตนเอง
34. ครแู ละผ้เู รยี นชว่ ยกนั สรุปการออมเพอื่ เกษยี ณอายุในประเทศไทย และบอกรปู แบบการออมเพอื่ การ
เกษียณของประเทศไทย

26

35.ประเมินธรรมชาตขิ องผูเ้ รียน และวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นเปน็ รายกลุ่มตามวธิ กี ารเรียนรู้

ชอ่ื ผเู้ รียน ธรรมชาตขิ องผู้เรียน วิธีการเรยี นรู้
ความสนใจ สตปิ ญั ญา วฒุ ภิ าวะ

1.

2.

3.

แบบวเิ คราะห์ผู้เรยี นเป็นรายกลมุ่ ตามวิธีการเรียนรู้
ชอ่ื กลมุ่ ……………..

1.
2.
3.

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1.หนังสอื เรยี น วชิ าธุรกิจและการเป็นผู้ประกอบการ
2.รูปภาพ
3.กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4.ส่อื อิเล็กทรอนกิ ส์, PowerPoint
5.แบบประเมินผลการเรยี นรู้
6.แบบประเมนิ กิจกรรมใบงาน

หลกั ฐาน
1.บันทกึ การสอน
2.ใบเช็ครายชอ่ื
3.แผนจดั การเรยี นรู้
4.การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวัดผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
1. สังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่
3. สังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมินผลการเรยี นรู้
6. การสงั เกตและประเมินพฤตกิ รรมดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
เครือ่ งมอื วดั ผล
1. แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม (โดยครู)
3. แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น)
4. แบบประเมนิ กิจกรรมใบงาน

27

5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี นร่วมกัน

ประเมิน
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ีช่องปรับปรงุ
2. เกณฑ์ผ่านการประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ขน้ึ ไป)
3. เกณฑ์ผ่านการสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ คือ ปานกลาง (50% ข้ึนไป)
เกณฑ์การประเมิน มีเกณฑ์ 4 ระดับ คอื 4= ดมี าก, 3 = ด,ี 2 = พอใช้ , 1= ควรปรบั ปรงุ
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑ์ผา่ น คือ 50%
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้มีเกณฑ์ผา่ น 50%
6 แบบประเมนิ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ คะแนนขน้ึ อยู่กบั การ
ประเมินตามสภาพจริง

กจิ กรรมเสนอแนะ
1.แนะนาํ ใหผ้ ู้เรียนอา่ นทบทวนเปูาหมายในการออม
2.ทํากิจกรรมใบงาน

28

ใบงานท่ี 2.1
เรอื่ ง การวางแผนการออม

ช่ือ-สกลุ ............................................................................................เลขที่.........ชั้น..........................

คาชแ้ี จง ในช่วงชีวิตต่อไปน้ี ควรจะวางแผนชีวติ ของตนเองอย่างไรบา้ ง

ช่วงเวลาของอายุ จะวางแผนทาอะไร คานวณเปน็ ตวั เงนิ (บาท)

15-24 ปี

25-60 ปี

หลงั 60 ปีเป็นตน้ ไป

29

ใบงานที่ 2.2
เรอ่ื ง การกาหนดเป้าหมายการออม

ชอื่ -สกลุ ............................................................................................เลขท.่ี ........ชั้น..........................

คาช้แี จง ใหก้ าํ หนดเปูาหมายการออมของแตล่ ะคน และอปุ สรรคต่อปัจจยั การออมดังน้ี

เป้าหมายการออม ปัจจัยสาคญั ในการออม อุปสรรคในการออม

อุปสรรคในการออมดา้ นเงนิ เฟูอ (เขยี นเปน็ ความเรยี ง)

.........................................................................................................................................................................
อปุ สรรคในการออมดา้ นเหตกุ ารณ์ฉุกเฉิน (เขยี นเป็นความเรียง)

.........................................................................................................................................................................
อุปสรรคในการออมดา้ นความโลภ (เขียนเป็นความเรยี ง)
.........................................................................................................................................................................

30

แผนการจดั การเรียนร้แู บบบูรณาการท่ี 3 หน่วยท่ี 3
รหัส 20001-1003 ธุรกิจและการเป็นผูป้ ระกอบการ สอนคร้งั ท่ี 3 (7-9)
ชอื่ หนว่ ย/เรอื่ ง การลงทุน
จานวน 3 ช.ม.

แนวคิด
การลงทนุ เป็นการใช้ทรพั ยากรในลกั ษณะต่างๆ โดยหวังจะได้รบั ผลตอบแทนกลับคนื มา มากกวา่ ที่ลงทนุ ไป

ในอตั ราทพ่ี อใจภายใต้ความเสีย่ งทเ่ี หมาะสม โดยทว่ั ไปหมายถงึ การใชเ้ งนิ ลงทุน เช่น การลงทนุ ในการประกอบอาชีพ
การลงทนุ ในตลาดหลกั ทรัพย์ การลงทุนในบ้านและท่ดี ิน การลงทนุ ทองคํา ฯลฯ
โดยมีวัตถุประสงคข์ องการลงทุน เพ่อื จะไดร้ บั ผลตอบแทนจากการลงทุนในรปู แบบต่าง ๆ โดยเงินที่นํามาลงทุนนั้น

อาจจะได้มาจากสถาบันการเงินหรอื แหล่งเงนิ ทนุ อ่ืน ๆ ท่ีผปู้ ระกอบการมีความสามารถจะหามาได้

ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง
1 .แสดงความรู้เกี่ยวกับความหมายและลักษณะการลงทุน
2. แสดงความรู้เก่ียวกับการลงทนุ ทางการเงนิ
3. แสดงความรเู้ กี่ยวกับผลตอบแทนจากการลงทุน
4. แสดงความรู้เกี่ยวกบั หลักการลงทนุ
5 .แสดงความรู้เก่ียวกับการลงทนุ โดยฝากเงินกบั ธนาคารพาณิชย์
6 แสดงความรู้เกีย่ วกบั การลงทนุ โดยทําประกันชวี ิต
7. แสดงความรเู้ กี่ยวกับการลงทุนในกองทนุ
8. แสดงความรู้เกีย่ วกบั การลงทุนประกอบธรุ กจิ
9. มกี ารพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงคข์ องผู้สาํ เรจ็ การศึกษา

สํานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ทค่ี รูสามารถสงั เกตได้ขณะทําการสอนในเรอ่ื ง
1 ความมวี นิ ยั
2 ความซ่อื สตั ย์สุจรติ
3 ความเชือ่ มัน่ ในตนเอง
4 ความสนใจใฝรุ ู้
5 การละเวน้ ส่งิ เสพตดิ และการพนัน

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การวางแผนเปูาหมายชีวิตด้วยวงจรควบคุมคณุ ภาพ ธรุ กิจและการเปน็

ผู้ประกอบการ หลกั การจดั การทางการเงิน หลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพและเพิ่มผลผลิตเบ้อื งตน้ และกฎหมายที่
เก่ียวขอ้ ง

2. จัดทาํ แผนธุรกจิ อย่างงา่ ย
3. ประยุกตใ์ ช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการวางแผนและดําเนนิ งาน
4 .ประยุกตใ์ ช้หลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ ในการวางแผนและดาํ เนนิ งาน

31

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายและลักษณะการลงทนุ
2. การลงทนุ ทางการเงนิ
3. ผลตอบแทนจากการลงทนุ
4. หลกั การลงทุน
5. การลงทนุ โดยฝากเงนิ กับธนาคารพาณิชย์
6. การลงทุนโดยทําประกนั ชีวติ
7 .การลงทนุ ในกองทุน
8. การลงทุนประกอบธุรกจิ

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
1. ครูกล่าวถึงการลงทุนคือ การใช้สอยทรัพยากรในลักษณะต่างๆ โดยหวังจะได้รับผลตอบแทนกลับมา

มากกว่าทล่ี งไปในอัตราที่พอใจภายใต้ความเสีย่ งท่ีเหมาะสม โดยทวั่ ไปหมายถงึ การใช้เงินลงทนุ
2 .ผู้เรียนยกตัวอยา่ งการลงทุน เชน่ การลงทนุ ในตลาดหลกั ทรพั ย์ การลงทุนในบ้านและทีด่ นิ การลงทุนทองคํา

ฯลฯ ซ่งึ การลงทุนกม็ คี วามเส่ยี งย่งิ เส่ียงมากย่ิงได้ผลตอบแทนมาก ยิง่ เสียงน้อยยิ่งไดผ้ ลตอบแทนน้อย
ขัน้ สอน
3. ครูสอนโดยใชร้ ูปแบบการเรยี นแบบ TAI (Team Assisted Individualization) เพอื่ เนน้ การเรยี นแตแ่ ละ

บุคคล ใหม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจและนาํ ทักษะการเรียนรไู้ ปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อความหมายและลักษณะการลงทุน
4. ครอู ธบิ ายการลงทนุ และเชอ่ื มโยงความสมั พนั ธ์ระหวา่ งกนั เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นเขา้ ใจให้มากขึ้น
5. ครูบอกลกั ษณะของการลงทุนโดยทั่วไปรายได้ทบี่ คุ คลจะไดร้ ับจะแบง่ ออกเปน็ 2 ด้าน คือ เพือ่ ใชจ้ า่ ยใน

ชวี ิตประจาํ วนั และเก็บไว้เปน็ เงนิ ออมสาํ หรับใช้จ่ายในอนาคต การท่จี ะให้เงนิ ออมทสี่ ะสมไว้มมี ูลค่าเพมิ่ มากข้ึน
กวา่ เดมิ และกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุดแกผ่ ู้ออม กค็ อื ผอู้ อมต้องรูจ้ ัก “การลงทนุ (Investments)” การลงทุนเป็นการ
นําเอาทรพั ยส์ นิ ท่บี คุ คลมอี ยูไ่ ปดําเนนิ การในทางที่ก่อให้เกิดประโยชน์ ซึง่ จะให้ผลตอบแทนกลับคนื มาในช่วงเวลานนั้
ซ่งึ การลงทนุ แบง่ ได้เป็น 2 ลกั ษณะ คือ

1) การลงทนุ ในสินทรัพย์ทม่ี ตี วั ตน (Tangible Investment)
2) การลงทนุ ในสินทรัพย์ท่ไี มม่ ีตวั ตน (Intangible Investments)

32

5. ครูอธิบายการลงทุนทางการเงิน ซ่งึ เป็นการลงทนุ ทางการเงนิ (Financial Investments) หมายถึง การที่ผู้
ลงทุนนําเงนิ ที่มอี ยู่ไปซ้อื หลกั ทรพั ย์ตา่ งๆ ซึง่ กอ่ ใหเ้ กิดรายไดก้ ับผลู้ งทุน โดยจะทาํ ผ่านตลาดการเงนิ มีวตั ถุประสงค์
เพื่อจะไดร้ ับผลตอบแทนในรูปดอกเบ้ีย (Interest) เงินปันผล (Dividend) กาํ ไรจากการซอื้ ขายหุ้น (Capital Gain)
และสิทธพิ เิ ศษอื่นๆ

6. ผูเ้ รยี นบอกแหลง่ ทีม่ าของการลงทุน ซึง่ การตดั สินใจลงทุน จาํ เปน็ ต้องค้นควา้ หาข้อมลู เพอ่ื ศึกษาถึงความ
เป็นไปได้ แมว้ า่ ผลู้ งทุนตัดสินใจไปแล้วก็ตาม การประเมนิ การลงทนุ เป็นสิ่งสาํ คญั สาํ หรับผูล้ งทุน เพราะมีทางเลือกให้
ตดั สนิ ใจหลายวธิ ีสามารถหาขอ้ มูลการลงทุนไดด้ งั น้ี

6.1 แหล่งขอ้ มลู ภายในกจิ การ เชน่ งบการเงิน รายงานทางการเงนิ โครงการตา่ งๆ รวมทัง้ การ
วเิ คราะห์ขอ้ มูลทางการเงิน เป็นตน้

6.2 การใหค้ ําปรึกษาดา้ นการลงทุนจากหน่วยงานอนื่ เช่น ปรึกษาผูเ้ ชย่ี วชาญ การสัมมนา
เปน็ ต้น

6.3 หนว่ ยงานทีเ่ สนอบรกิ ารขา่ วสารทางการเงินและข้อมูลการลงทนุ เชน่ ตลาดหลกั ทรพั ยฯ์
เปน็ ตน้

6.4 ข้อมลู เก่ยี วกับการลงทุนท่เี สนอลงในสิง่ ตีพิมพต์ ่างๆ เชน่ หนงั สือพมิ พ์ เป็นต้น
6.5 เอกสารและขอ้ มลู ท่ีได้จากนายหน้า และตัวแทน เป็นตน้
7. ครอู ธิบายผลตอบแทนจากการลงทนุ โดยยกตัวอยา่ งประกอบพรอ้ มแสดงสอ่ื เพอ่ื เชอ่ื มโยงให้ผเู้ รียนได้เขา้ ใจ
งา่ ยยงิ่ ขนึ้ การลงทุนมีความสัมพนั ธ์กบั ผลตอบแทน (Returns) และความเสยี่ ง (Risks) สาเหตขุ องการลงทุนเน่ืองจาก
คาดหวังวา่ จะได้รับผลตอบแทนตามเง่อื นไขท่ีตกลงกนั ไว้ แตบ่ างครง้ั ไมเ่ ป็นไปตามทีค่ าดหมาย
จงึ ตอ้ งอยภู่ ายใต้ความเส่ยี งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ได้ ผลตอบแทนจากการลงทุนมีหลายรูปแบบ ไดแ้ ก่
7.1. รายไดต้ ามปกติ (Current Income) ได้แก่ ดอกเบย้ี เงนิ ปนั ผลในกรณที บ่ี ุคคลซอ้ื พันธบัตรหรอื ลงทุนใน
หุ้นตา่ งๆ ซึ่งกําหนดเวลากจ็ ะได้รบั ดอกเบยี้ หรือเงินปนั ผลตามท่รี ะบไุ ว้
7.2 กาํ ไรจากการซอื้ ขายหนุ้ (Capital Gains) ในกรณีหุ้นสามญั ทบ่ี ุคคลลงทนุ ซอื้ ไว้มีราคาสงู ขน้ึ เมอ่ื ขาย
ออกไปแลว้ จะไดก้ ําไร
7.3 คา่ เชา่ (Rent) ในการลงทนุ ซอ้ื ทรพั ย์สนิ เช่น ทด่ี ิน บ้าน คอนโดมิเนยี ม ท่ีอยูอ่ าศยั อนื่ ๆ เม่อื นําไปใหผ้ อู้ ื่น
เชา่ กจ็ ะมีรายไดค้ า่ เช่า ซง่ึ เป็นรายไดท้ กี่ ลับคนื มาสู่เจ้าของ
7.4 ผลตอบแทนอนื่ ๆ (Others) เชน่ ซือ้ ห้นุ สามญั จะมีสทิ ธอิ อกเสียงเลือกคณะกรรมการบริษัทและถ้าถือหนุ้ ไว้
มากจะมโี อกาสไดร้ บั เลอื กเป็นผู้บริหารซึ่งสามารถกาํ หนดนโยบายบรษิ ัทได้ หรอื สทิ ธใิ นการซอ้ื ขายห้นุ ใหมใ่ นราคา
พิเศษ เปน็ ต้น ผูล้ งทุนควรนกึ ถึงผลตอบแทนท่ีจะได้รับเป็นอตั รากเี่ ปอร์เซน็ ตโ์ ดยคํานงึ ถงึ อตั ราเงินเฟูอไวด้ ว้ ย เพราะมี
ผลกระทบตอ่ ผลตอบแทนในการลงทนุ ดังนัน้ ผ้ลู งทุนควรให้ความสนใจกบั อัตราตอบแทนท่แี ท้จริง (Real rate of
return) มากกวา่ อัตราผลตอบแทนปกติ (Nominal rate of return) เชน่ การลงทนุ เสนอใหผ้ ลตอบแทน (Nominal
rate of return) 10% ซึ่งคาดคะเนว่าอัตราเงนิ เฟูอจะเกดิ ขนึ้ ปลี ะ 6% ดงั น้ันผลตอบแทนแท้จริงทไี่ ด้รบั จะเป็น 4%
เทา่ นั้น
8. ครูอธบิ ายหลกั การลงทุน เพอ่ื ให้เกิดความเส่ยี งนอ้ ยทีส่ ดุ กค็ วรจะมีหลักในการลงทุน ดงั น้ี

1) ความปลอดภยั ของเงนิ ลงทุน
2) เสถียรภาพของรายได้
3) ความเจรญิ เตบิ โตของเงนิ ลงทนุ
4) ความคล่องตัวในการซ้ือขาย
5) การกระจายเงนิ ลงทุน
6) หลักเก่ียวกบั ภาษี

33

9. ครอู ธิบายและผู้เรยี นยกตวั อยา่ งการลงทุนโดยฝากเงินกับธนาคารพาณชิ ย์ ธนาคารพาณิชย์ หมายถึง การ
ประกอบธรุ กจิ ประเภทรบั ฝากเงินทีต่ อ้ งจ่ายคนื เมื่อทวงถาม หรือเมอื่ สิ้นระยะเวลาอันไดก้ ําหนดไว้ และใชป้ ระโยชน์
จากเงนิ น้นั เช่น การให้กูย้ ืม ซือ้ ขายหรือเกบ็ เงินตามตว๋ั หรอื ตราสารเปล่ียนมอื อืน่ ใด ซอ้ื หรอื ขายเงนิ ตราต่างประเทศ
ทง้ั นจี้ ะประกอบธุรกจิ ประเภทอ่นื ๆ อนั เปน็ ประเพณขี องธนาคารพาณชิ ย์ด้วยก็ได้ สาํ หรบั ธนาคารพาณิชย์เปน็ ธนาคาร
ทไ่ี ดร้ ับอนุญาตใหป้ ระกอบการธนาคารพาณิชย์ รวมถึงสาขาของธนาคารต่างประเทศทไ่ี ดร้ ับอนุญาตให้ประกอบการ
ธนาคารพาณชิ ย์ดว้ ยการฝากเงินเปน็ การลงทุนทีม่ีความเสย่ี งตํา่ เพราะมีรัฐบาลรับประกนั หากรัฐบาลไม่รบั ประกนั
เงินฝากความเส่ียงกจ็ ะมากข้ึน ทง้ั นข้ี นึ้ อยกู่ บั การเลือกว่าจะฝากเงนิ กบั ธนาคารใด

10. ผู้เรยี นบอกหน้าที่ของธนาคารพาณิชยม์ ีหน้าที่ให้บริการด้านการเงินต่างๆ ดังนี้
1) การรบั ฝากเงิน อาจจะแบ่งการรบั ฝากเงินของธนาคารพาณิชยไ์ ดด้ งั น้ี
1.1 เงินฝากกระแสรายวัน (Current Account หรอื Ahecking Account) หรือเงนิ ฝากเผอื่ เรยี ก

(Demand Deposit)
1.2 เงนิ ฝากออมทรพั ย์ (Savings Deposit)
1.3 เงนิ ฝากประจํา (Time Deposit)

2) การใหก้ ู้ยมื อาจแบง่ ได้ 3 ลกั ษณะ
2.1 การใหก้ ยู้ ืมโดยตรง (Loan)
2.2 การให้เบิกเงนิ เกนิ บัญชี หรอื O.D. (Overdraft)
2.3 การซอ้ื ลดตั๋วเงนิ (Discounting Bill)

3) การโอนเงิน มหี ลายลกั ษณะ ได้แก่ การโอนเงนิ ภายในทอ้ งถนิ่ เดียวกัน และการโอนเงินจากท้องถิ่นหนึ่ง
มายงั อีกทอ้ งถิน่ หน่ึง หรือการโอนเงนิ จากประเทศหนงึ่ มายังอีกประเทศหน่งึ ไมว่ า่ จะเปน็ การโอนไปเพอื่ ตัวเองหรือ
โอนไปให้บุคคลอน่ื ก็ตาม ธนาคารสามารถให้บริการได้หลายรปู แบบดว้ ยกัน เชน่ แบบธรรมดา เป็นการโอนผ่านดว้ ย
เชค็ หรอื ดราฟตธ์ นาคาร และการโอนเงินแบบเรว็ ทนั ใจเปน็ การโอนเงินทางโทรศัพท์ทางไกล และการโอนโดยผ่านศนู ย์
คอมพิวเตอรแ์ บบออนไลน์

4) การเรียกเกบ็ เงนิ เป็นหน้าที่เก่ยี วเน่ืองกับการโอนเงิน ธนาคารจะเรียกเก็บเงนิ ตามเช็ค ต๋วั เงินหรอื ดราฟตท์ ี่
ครบกําหนด ซงึ่ เปน็ การอํานวยความสะดวกให้แก่ลกู ค้าเพอื่ ท่ีลกู ค้าจะไดไ้ มต่ อ้ งเสยี เวลาไปเกบ็ เงินด้วยตนเอง เพราะ
ธนาคารสว่ นมากมตี วั แทนหรอื สาขาอยใู่ นจงั หวดั ต่างๆ รวมทง้ั ในตา่ งประเทศดว้ ย ทาํ ให้สามารถเรียกเก็บเงินได้
โดยสะดวกรวดเรว็ และประหยดั

5) การใหเ้ ช่าตนู้ ริ ภยั ปกตธิ นาคารจะมหี อ้ งม่นั คงไว้ เพอื่ เก็บรกั ษาของมีค่าของธนาคาร และเพอื่ ให้ลกู ค้าเชา่
สําหรบั เก็บของมคี ่าหรอื ของสําคญั ๆ โดยลกู ค้าสามารถทําสัญญาเช่าตู้นริ ภยั เพ่ือเกบ็ ทรพั ยส์ ินอันมคี ่า เชน่ เครือ่ งเพชร
ทองรปู พรรณ โฉนด สัญญาตา่ งๆ

6) การซ้อื ขายเงนิ ตราตา่ งประเทศ หมายถงึ การท่ีธนาคารทําหน้าท่ีซอ้ื ขายแลกเปลย่ี นเงนิ ตราต่างประเทศ
เมื่อประชาชนต้องการเงนิ ตราตา่ งประเทศก็ซือ้ ได้จากธนาคารพาณิชยต์ ามเงอ่ื นไขทร่ี ะบไุ ว้ ถ้าผูใ้ ดต้องการขายเงินตรา
ต่างประเทศทีต่ นมีในครอบครอง กส็ ามารถนําไปขายให้แกธ่ นาคารพาณชิ ย์ได้

7) การบริการอืน่ ๆ ธนาคารพาณชิ ย์ยังให้บริการอืน่ ๆ แกล่ ูกคา้ อีก เชน่ บริการบัตรเครดติ บรกิ ารหนงั สอื คาํ้
ประกัน บริการใหค้ าํ ปรกึ ษาด้านธรุ กิจและการลงทุน บรกิ ารรับชําระคา่ สาธารณปู โภค เปน็ ต้

11. ครูอธิบายการลงทุนโดยทําประกันชีวติ และยกตวั อยา่ งประกอบ โดยการประกนั ชีวติ เป็นสัญญาระหวา่ งผใู้ ห้
ประกัน ซงึ่ มักเป็นบริษทั ประกันชีวติ กับผู้เอาประกนั โดยผเู้ อาประกนั ต้องจ่ายเบี้ยประกนั ให้ผู้รับประกนั หากผู้เอา
ประกนั เกดิ เสยี ชวี ติ ขณะทกี่ รมธรรมม์ ีผลบงั คับภายในเง่ือนไขในกรมธรรม์ บรษิ ัทประกันจะจ่ายเงินจํานวนหนงึ่ ใหก้ ับ
ผู้รบั ผลประโยชน์เรยี กวา่ เงนิ สนิ ไหมการประกันชวี ติ เปน็ การลงทนุ อยา่ งหนง่ึ ที่ผลู้ งทุนจะต้องส่งเบ้ียประกัน ใหก้ บั
บริษัทประกันชีวิตตามสัญญาหรือเงือ่ นไขทต่ี กลงกนั ไว้ ผู้ลงทนุ หรอื ผู้เอาประกันสามารถเลอื กรูปแบบที่ให้ความ
คุ้มครองหรือความม่นั คงให้กบั ตนเองมากท่ีสุด

34

12. ผู้เรยี นบอกชนดิ ของการประกนั ชีวิตแบบพื้นฐาน
1) ประกนั ชีวติ แบบช่วงระยะเวลา (Term)

2) ประกันชวี ิตแบบออมทรัพย์ (Endowment)

35

3) ประกันชวี ติ แบบตลอดชีพ (Who Life)

4) ประกนั ชีวติ แบบบาํ นาญ (Annuity)

36

5) ประกนั ชีวติ ควบการลงทนุ (Unit Linked)

15.ครูอธิบายการลงทุนในกองทุน โดยใชส้ ่ือประกอบเรื่องดังตอ่ ไปน้ี
1) กองทนุ รวม (Mutual Fund หรือ Unit Trust)

2.) กองทุนเพ่ือการเล้ียงชีพ

16. ครูอธิบายการลงทนุ ประกอบธรุ กจิ ซ่งึ หมายถึง การนําเงินมาลงทนุ เพื่อประกอบการใหเ้ กิดผลผลิตเปน็
สินค้าหรือบรกิ ารและอยภู่ ายใต้ขอบเขตของกฎหมาย ผู้ทลี่ งทุนก็จะได้รบั รายไดค้ ือกําไรจากการขายสินค้าหรอื บรกิ าร

17. ครแู ละผู้เรียนแสดงความสัมพนั ธ์ของรูปแบบการประกอบธุรกิจอาจดาํ เนินการได้หลายรปู แบบ โดยบคุ คล

คนเดยี วหรอื ดาํ เนนิ การโดยร่วมลงทนุ กับบุคคลอื่นเป็นกลมุ่ คณะก็ได้ การทจี่ ะตัดสินใจเลอื กดาํ เนินธรุ กจิ การคา้ ใน
รูปแบบใดน้ัน ผูป้ ระกอบการต้องคาํ นึงถึงองคป์ ระกอบหลายประการ เชน่ ลกั ษณะกจิ การค้า เงินทุน ความรู้

ความสามารถในการดาํ เนนิ ธุรกจิ เป็นต้น เพ่ือใหก้ ารประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสําเรจ็ นาํ มาซ่ึงผลประโยชนแ์ ละกาํ ไร
สงู สดุ

37

1) ธรุ กจิ เจ้าของคนเดียว

2) ห้างหุ้นส่วน
3) บริษัทจาํ กัด

18. ผู้เรยี นกาํ หนดเปาู หมายการลงทุนตามแบบฟอรม์ ที่ครูกาํ หนดให้

19. ผู้เรียนอ่านกรณศี ึกษาเก่ียวกบั การลงทนุ ท่ีครูกาํ หนดใหแ้ ลว้ แสดงความคดิ เหน็

20. ให้ผู้เรยี นวางแผนการลงทุนประกอบธุรกิจของตนเองในอนาคตเมอื่ จบการศกึ ษาแลว้ ว่าควรปฏิบัตอิ ย่างไร

21. ผู้เรียนวางแผนการลงทุนของครอบครัวในอนาคตดว้ ยเศรษฐกิจพอเพียง และกาํ หนดเปาู หมายให้ชัดเจนวา่

จะทําอยา่ งไร

22. ถ้าผ้เู รียนลงทนุ ไปก็ตอ้ งคาดหวงั ไวว้ า่ จะได้รับผลตอบแทนกลับคืนมาตามจํานวนที่อาจกําหนดไว้ แต่

บางคร้ังกไ็ ม่เป็นไปตามท่ีกําหนดไว้ เนอ่ื งจากความเสยี่ งตา่ งๆ อาจเกดิ ขน้ึ ได้ ดงั น้ันควรจะปฏบิ ตั อิ ย่างไรเกีย่ วกบั การ

ลงทนุ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามเปูาหมาย ท่ามกลางความเสีย่ งต่างๆ ในปจั จบุ ัน

23. ผเู้ รยี นค้นคว้าหากองทนุ รวมประเภทต่างๆ จากแหล่งความรู้ เชน่ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นิตยสารการเงนิ หนังสอื พมิ พ์ หรอื แหล่งความร้อู ่ืนๆ ที่เก่ียวข้อง และสามารถอ้างองิ ได้

ขัน้ สรุปและการประยุกต์

24. สรุปการลงทุน โดยการถาม-ตอบและนาํ ไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาํ วันได้ และประเมินผูเ้ รยี นตาม

แบบฟอร์มดงั ต่อไปนี้

ชอื่ ผเู้ รียน ประสบการณ์พื้นฐานการเรียนรู้ วธิ ีการเรยี นรู้
ความรู้ ทักษะ ผลงาน

1.

2.

3.

4.

5.

38

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนงั สือเรียน วิชาธุรกิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
2. รปู ภาพ
3. กิจกรรมการเรียนการสอน
4. ส่ืออิเล็กทรอนกิ ส,์ PowerPoint
5. แบบประเมินผลการเรียนรู้

หลกั ฐาน
1. บันทกึ การสอน
2. ใบเช็ครายช่อื
3. แผนจดั การเรียนรู้
4. การตรวจประเมินผลงาน

การวดั ผลและการประเมินผล
วธิ วี ดั ผล
1. สงั เกตพฤตกิ รรมรายบคุ คล
2. ประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
3. สงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกล่มุ
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6. การสงั เกตและประเมินพฤติกรรมดา้ นคุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยม และคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
เคร่ืองมอื วดั ผล
1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
2. แบบประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ (โดยผู้เรยี น)
4. แบบประเมนิ กิจกรรมใบงาน
5. แบบประเมินผลการเรยี นรู้
6. แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ โดยครูและผู้เรยี นรว่ มกัน
ประเมนิ
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. เกณฑ์ผา่ นการสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล ตอ้ งไมม่ ชี อ่ งปรบั ปรงุ
2. เกณฑผ์ า่ นการประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ คอื ปานกลาง (50 % ข้ึนไป)
3. เกณฑผ์ ่านการสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50% ขึ้นไป)
4. กจิ กรรมใบงาน เกณฑผ์ ่าน คอื 50%
5. แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้มเี กณฑ์ผา่ น 50%
6 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนขึน้ อยู่กบั การ

ประเมนิ ตามสภาพจริง

39

กิจกรรมเสนอแนะ
ครแู นะนําให้ผู้เรียนอ่านทบทวนเนอื้ หา และทํากจิ กรรมใบงาน

ใบงานที่ 3.1
เรื่อง เป้าหมายการลงทนุ

ช่ือ-สกุล............................................................................................เลขที่.........ชั้น..........................

คาช้ีแจง จงเตมิ ขอ้ มูลตัวเลขลงในช่องขา้ งล่างท่ีกําหนดให้ตามคาํ สงั่ ใหส้ มบรู ณ์

เปา้ หมายการลงทุน: เพ่ือสะสมเงนิ ให้ได้เงิน 800,000 บาท ภายในเวลา 20 ปี เพอ่ื เป็นคา่ ใช้จ่ายการศกึ ษาของบุตร

และต้องการผลตอบแทนจากการลงทุน 10% (20 ปี, 10% = 6.728 จากตารางหาค่าเงินในอนาคต A-1 และตาราง

A-2=57.275)

1.เปูาหมายการลงทนุ (ดูโจทย์) ..................................บาท

2.ผลตอบแทนจากการลงทุน .....................................%

3.ระยะเวลา...ปี ตามทกี่ ําหนดและผลตอบแทนจากการลงทนุ ........................................
ถวั เฉล่ียที่คาดไว้.....%

4. ลงทุนตามทตี่ อ้ งการ  หาร  ........................................

5. ถา้ จํานวนเงนิ เริม่ แรกทล่ี งทนุ เป็น 40,000 บาท 40,000 บาท

6. ระยะเวลา 20 ปี ตามทก่ี าํ หนดและผลตอบแทนจากเงนิ ลงทุน .……………………………
ถวั เฉล่ียตามท่ีคาดไว้ 10% (A-1)

7. มูลคา่ สดุ ทา้ ยในอนาคต 20 ปี ของเงนิ ลงทุนเรมิ่ แรกX .........................................

8.จาํ นวนเงินทนุ ทไ่ี ด้จากแผนการลงทนุ  - 

9. ระยะเวลา 20 ปี ตามทก่ี ําหนดและผลตอบแทนจากเงนิ ลงทุน ……………………………

ถัวเฉล่ยี ตามที่คาดไว้ 10% (A-2)

10.เงนิ ลงทนุ ทกุ ๆ ปี  หาร  ..................................บาท

หมายเหตุ.- ตาราง A-1 และ A-2 นํามาบางส่วนในการคํานวณเท่าน้ัน

40

แผนการจัดการเรียนรแู้ บบบูรณาการที่ 4 หนว่ ยที่ 4
รหสั วชิ า 20001-1003 ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ สอนครง้ั ท่ี 4 (10-12)
ชอ่ื หนว่ ย/เร่อื ง ธุรกิจและการเปน็ ผปู้ ระกอบการ
จานวน 3 ช.ม.

แนวคดิ

การประกอบธุรกิจใด ๆ กต็ ามตอ้ งมีจดุ ม่งุ หมายดว้ ยกนั ทง้ั นั้น ธรุ กิจจงึ มีความสําคญั ตอ่ การดําเนนิ ชวี ติ มาก
เพราะเป็นท่ผี ลติ สินคา้ หรอื บรกิ ารท่ีเปน็ ปัจจยั พ้ืนฐานในการดําเนินชีวติ และผลติ ส่ิงอํานวยความสะดวกอกี ด้วย การ
ผลติ ของธรุ กิจถือเปน็ การพฒั นาคุณภาพชีวิตมนุษย์ และมีผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ผู้ประกอบการเป็นผทู้ ค่ี ิดริเรม่ิ จัดตั้งธุรกจิ ขนึ้ มาเป็นของตนเอง มกี ารวางแผนการดาํ เนินงาน และดาํ เนนิ ธุรกจิ
ด้วยตนเอง โดยมองเหน็ โอกาสทางธรุ กจิ และยอมรับความเส่ียงทอี่ าจเกิดข้ึนได้ เพ่อื หวังผลกําไรทเ่ี กิดจากผลการ

ดําเนินงานธรุ กิจ ดังนนั้ ผปู้ ระกอบการจึงต้องศึกษาหาความรูเ้ พิ่มเติมเกย่ี วกับการเปน็ ผปู้ ระกอบการเพม่ิ เตมิ เพื่อให้
ธรุ กจิ ดาํ เนนิ ไปตามจดุ มุ่งหมายที่ตนเองไดก้ ําหนดไว้
ผลการเรียร้ทู ีค่ าดหวัง

1. อธบิ ายความหมายและความสาํ คัญของธุรกจิ ได้
2. บอกวัตถุประสงคแ์ ละประโยชนใ์ นการประกอบธรุ กิจได้

3. บอกปจั จยั ในการประกอบธุรกจิ ได้
4. อธิบายโครงสรา้ งระบบธุรกจิ ได้
5. บอกประเภทธรุ กจิ และรปู แบบการดาํ เนินธุรกจิ ได้

6. มีการพฒั นาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงคข์ องผ้สู ําเรจ็ การศึกษาสํานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ท่ีครูสามารถสงั เกตได้ขณะทาํ การสอนในเร่ือง

1. ความมวี ินัย
2. ความซ่อื สัตย์สุจริต
3. ความเช่อื ม่นั ในตนเอง

4. ความสนใจใฝรุ ู้
5. การละเวน้ ส่ิงเสพติดและการพนนั

สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลักการวางแผนเปูาหมายชีวิตด้วยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกจิ และการเปน็

ผู้ประกอบการ หลักการจดั การทางการเงิน หลกั การบรหิ ารงานคุณภาพและเพม่ิ ผลผลิตเบ้ืองต้นและกฎหมายท่ี

เก่ยี วข้อง
2. จดั ทาํ แผนธุรกจิ อยา่ งง่าย

3. ประยกุ ต์ใช้หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในการวางแผนและดําเนินงาน
4. ประยุกตใ์ ชห้ ลกั การบริหารงานคุณภาพและเพิม่ ผลผลติ ในการวางแผนและดําเนินงาน
สาระการเรีนรู้

1. ความหมายและความสาํ คัญของธรุ กจิ
2. วตั ถปุ ระสงคแ์ ละประโยชน์ในการประกอบธรุ กจิ

3. ปจั จัยในการประกอบธรุ กจิ
4. โครงสร้างระบบธรุ กิจ

5. ประเภทธรุ กจิ และรปู แบบการดําเนนิ ธรุ กิจ

41

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูและผู้เรียนสนทนากันว่าธุรกิจ (Business) เปน็ กจิ กรรมต่าง ๆ ท่ีกอ่ ใหเ้ กดิ การผลิตสินคา้ และบริการ

โดยมีการซ้อื ขายแลกเปลย่ี นกนั และมวี ัตถุประสงค์เพอ่ื ต้องการประโยชน์ หรอื กําไรจากการกระทํากิจกรรมนนั้
2. ครูเล่าเร่อื งผปู้ ระกอบการท่ีประสบความสําเรจ็ ในการประกอบอาชีพในลกั ษณะต่าง ๆ และใหผ้ ูเ้ รยี นแสดง

ความคิดเห็น เพ่ือเชอื่ มโยงเข้าสเู่ นือ้ หา
3. ครแู สดงรูปภาพเก่ียวกบั ธรุ กจิ

ขัน้ สอน
3. ครูผูส้ อนใช้เทคนิคโดยการอธบิ ายความหมายและความสาํ คัญของธรุ กจิ พร้อมแสดงรปู ภาพประกอบ เพือ่
ส่ือความรู้ ความเข้าใจ และสามารถฝกึ ทกั ษะการเรยี นรใู้ นเรอ่ื งต่อไปนไี้ ปใชป้ ระโยชน์ได้ โดยความต้องการ
ขน้ั พน้ื ฐานของ Maslow’s Hierarchy of Needs

4. ครแู ละผูเ้ รยี นอธบิ ายวตั ถุประสงค์และประโยชนใ์ นการประกอบธรุ กจิ พรอ้ มใช้สอ่ื Power Point
ประกอบการเรียน โดยการประกอบธรุ กิจตา่ ง ๆ ไมว่ า่ จะเปน็ ธุรกิจประเภทใดก็ตาม สงิ่ ท่ีผู้ประกอบธุรกิจตอ้ งการ คือ
กําไรและยงั มีสง่ิ อืน่ อีกที่ธุรกจิ จะต้องคาํ นงึ ถึงเช่น ความรบั ผดิ ชอบต่อผู้บรโิ ภค ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ความ
รบั ผดิ ชอบต่อลกู จ้างพนกั งาน ฯลฯ

42
5. ครูและผเู้ รียนรว่ มกนั อธบิ ายปัจจัยในการประกอบธุรกจิ โดยใช้ส่ือ Power Point ประกอบการเรียน

6. ครูและผู้เรยี นใชส้ ่ือ Power Point ประกอบเพือ่ เรยี นเร่ืองโครงสรา้ งระบบธุรกิจ โดยการจดั การธรุ กิจเพ่อื
ใช้ปัจจยั การผลติ ตา่ งๆ ผลติ สินคา้ และบรกิ ารเพ่ือท่จี ะจัดจําหนา่ ยใหก้ บั ผู้บริโภคทีเ่ ป็นเปาู หมายจะได้รายได้ เขา้ มาใน
องคก์ ารธุรกจิ ธุรกิจจะทํารายไดน้ ั้นมาจัดสรรให้กบั เจ้าของปจั จยั การผลิตต่าง ๆ และอกี สว่ นหนงึ่ จะนาํ ไปลงทนุ ต่อเพือ่
การขยายกจิ การภายใต้สงิ่ แวดล้อมภายในและภายนอกองคก์ ร ซง่ึ จะครบวงจรของธรุ กิจอยา่ งงา่ ย ๆ

เพอ่ื นำไป รำยได้ จดั สรร

จำหนำ่ ย Income รำยได้

(กำรตลำด

วธิ กี ำร) สิ่งแวดล้อมภายใน (Internal Environment)

สงิ่ แวดลอ้ มภายนอก (External Environment)

7. ครแู ละผูเ้ รยี นร่วมกนั อธิบายประเภทธุรกิจ และรปู แบบการดาํ เนนิ ธรุ กิจ โดยใช้สอื่ Power Point และ
รูปภาพประกอบ โดยการแบง่ ประเภทของธุรกจิ แบ่งได้หลายลกั ษณะ เช่น แบง่ ตามลกั ษณะการดาํ เนนิ งาน แบ่งตาม

ลกั ษณะความเปน็ เจา้ ของ แบง่ ตามลักษณะของการประกอบการ หรือแบ่งตามลกั ษณะการจัดจาํ หนา่ ย ฯลฯ ซ่งึ แต่ละ
ประเภทตา่ งก็มีแนวคิดเห็นท่แี ตกต่างกันออกไป

43

ข้นั สรปุ และการประยุกต์

8. สรปุ ธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ โดยทาํ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะเพื่อการเรียนรู้ และทาํ กิจกรรมใบงาน

12. ผ้เู รียนร่วมกนั ประเมนิ โดยพจิ ารณาจากข้อมูลความรู้ การให้เหตุผล และความพรอ้ มในการอภิปราย

ช่อื ผ้เู รยี น ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรียนรู้ วิธีการเรยี นรู้
ความรู้ ทักษะ ผลงาน

1.

2.

3.

4.

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น วิชาธุรกิจและการเปน็ ผ้ปู ระกอบการ
2. รปู ภาพ
3. กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4. สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส,์ PowerPoint
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้

หลักฐาน
1. บนั ทกึ การสอน
2. ใบเช็ครายช่ือ
3. แผนจดั การเรียนรู้
4. การตรวจประเมนิ ผลงาน

การวดั ผลและการประเมนิ ผล
วิธวี ดั ผล
1. สังเกตพฤติกรรมรายบคุ คล
2. ประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุม่
3. สงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม
4. ตรวจใบงาน
5. ตรวจแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้
6. การสังเกตและประเมินพฤติกรรมด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ค่านยิ มและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เครอ่ื งมอื วัดผล
1. แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล
2. แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ (โดยครู)
3. แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม (โดยผู้เรียน)
4. แบบประเมนิ กิจกรรมใบงาน
5. แบบประเมนิ ผลการเรียนรู้
6. แบบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ โดยครูและผู้เรียนรว่ มกัน
ประเมิน

44

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. เกณฑ์ผา่ นการสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล ตอ้ งไม่มชี ่องปรบั ปรงุ
2. เกณฑ์ผา่ นการประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ คือ ปานกลาง (50 % ข้ึนไป)
3. เกณฑผ์ า่ นการสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม คือ ปานกลาง (50% ขึน้ ไป)
4. กิจกรรมใบงาน เกณฑผ์ า่ น คือ 50%
5. แบบประเมินผลการเรยี นรมู้ ีเกณฑ์ผ่าน 50%
6 แบบประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ คะแนนขนึ้ อยู่กับการประเมนิ
ตามสภาพจริง

กจิ กรรมเสนอแนะ
ครูแนะนาํ ให้ฝึกปฏิบตั ิทํากจิ กรรมใบงาน และอ่านทบทวนเน้อื หา

45

แผนการจัดการเรยี นรู้แบบบูรณาการท่ี 5 หนว่ ยท่ี 4
วิชารหสั 20001-1003 ธรุ กจิ และการเปน็ ผูป้ ระกอบการ สอนครั้งที่ 5 (13-15)
ชื่อหนว่ ย/เร่ือง ธรุ กิจและการเปน็ ผู้ประกอบการ
จานวน 3 ช.ม.

แนวคดิ
การประกอบธุรกิจใด ๆ ก็ตามต้องมีจุดมุ่งหมายด้วยกันทั้งน้ัน ธุรกิจจึงมีความสําคัญต่อการดําเนินชีวิตมาก

เพราะเปน็ ที่ผลติ สนิ คา้ หรอื บริการทเ่ี ป็นปัจจยั พน้ื ฐานในการดําเนินชีวิต และผลิตสิ่งอํานวยความสะดวกอีกด้วย การ
ผลติ ของธรุ กิจถือเปน็ การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตมนุษย์ และมผี ลต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศ

ผู้ประกอบการเปน็ ผ้ทู ี่คิดริเรมิ่ จัดตงั้ ธรุ กิจขึ้นมาเปน็ ของตนเอง มีการวางแผนการดําเนินงาน และดําเนินธุรกิจ
ด้วยตนเอง โดยมองเห็นโอกาสทางธุรกิจ และยอมรับความเส่ียงท่ีอาจเกิดขึ้นได้ เพื่อหวังผลกําไรที่เกิดจากผลการ
ดําเนินงานธรุ กจิ ดงั นั้นผปู้ ระกอบการจึงต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการเพ่ิมเติม เพื่อให้
ธุรกจิ ดําเนินไปตามจดุ มงุ่ หมายท่ตี นเองได้กาํ หนดไว้

ผลการเรียนรูท้ คี่ าดหวัง
1..อธบิ ายความหมายของผู้ประกอบการได้
2. อธบิ ายคุณลกั ษณะพ้นื ฐานของผปู้ ระกอบการได้
3. บอกแนวทางในการเปน็ ผปู้ ระกอบการได้
4. วเิ คราะห์การเป็นผปู้ ระกอบการได้
5. บอกแนวทางการหารายได้จากการเป็นผู้ประกอบการได้
6. บอกหน้าที่ของผ้ปู ระกอบการในการดําเนินธรุ กิจได้
7. .มีการพัฒนาคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พึงประสงคข์ องผสู้ ําเรจ็ การศกึ ษา

สํานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ทีค่ รูสามารถสงั เกตไดข้ ณะทาํ การสอนในเรื่อง
1 ความมีวินัย
2 ความซื่อสตั ย์สุจรติ
3 ความเชอื่ มนั่ ในตนเอง
4 ความสนใจใฝุรู้
5 การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนนั

สมรรถนะรายวิชา
1 .แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การวางแผนเปาู หมายชีวติ ดว้ ยวงจรควบคมุ คุณภาพ ธุรกจิ และการเปน็

ผู้ประกอบการ หลักการจัดการทางการเงิน หลกั การบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิตเบ้อื งต้นและกฎหมายที่
เกย่ี วขอ้ ง

2. จัดทําแผนธรุ กจิ อยา่ งง่าย
3. ประยกุ ต์ใชห้ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในการวางแผนและดาํ เนนิ งาน
4. ประยกุ ต์ใชห้ ลักการบริหารงานคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลิตในการวางแผนและดาํ เนนิ งาน

46

สาระการเรยี นรู้
1. ความหมายของผปู้ ระกอบการ
2. คุณลกั ษณะพืน้ ฐานของผ้ปู ระกอบการ
3. แนวทางในการเป็นผปู้ ระกอบการ
4. การวิเคราะห์การเป็นผปู้ ระกอบการ
5. แนวทางการหารายได้จากการเปน็ ผู้ประกอบการ
6. .หนา้ ท่ีของผปู้ ระกอบการในการดําเนินธุรกจิ

กิจกรรมการเรยี นรู้

ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน
1. ครูผู้สอนช้ีแจงให้ผู้เรียนทุกคนเห็นว่าในทางเศรษฐศาสตร์ให้ความหมายของผู้ประกอบการว่า หมายถึง
บคุ คลทสี่ ามารถนาํ ปัจจัยการผลติ ตา่ งๆ มาดาํ เนินการผลติ สินคา้ หรอื บริการให้มีประสิทธิภาพท่ีสุด โดยอาศัยหลักการ
บริหารที่ดีการตัดสินใจจากข้อมูลหรือจากเกณฑ์มาตรฐานอย่างรอบคอบ รวมถึงความรับผิดชอบ ผลตอบแทน คือ
กาํ ไร (Profit) โดยผปู้ ระกอบการถอื เปน็ ส่วนหนึง่ ของปจั จยั การผลติ (ทด่ี นิ ทุน แรงงาน และผู้ประกอบการ)
2. ครูเล่าเร่อื งผู้ประกอบการทป่ี ระสบความสาํ เร็จในการประกอบอาชีพในลกั ษณะตา่ ง ๆ และใหผ้ ูเ้ รียนแสดง
ความคดิ เหน็ เพ่อื เชอ่ื มโยงเข้าส่เู น้ือหา
3. ครูอภปิ รายให้ผเู้ รียนเข้าใจการเป็นผูป้ ระกอบการในกิจการใดกจิ การหนง่ึ เปน็ สงิ่ ท่ีทกุ คนมองว่าเป็นเรือ่ ง
ยากตอ่ การเร่ิมตน้ เพราะไม่ทราบว่าจะเริ่มต้นจากตรงจุดใดกอ่ น แลว้ ทําอย่างไรตอ่ ไป จงึ จะทําให้กจิ การของตนเอง
ประสบความสําเรจ็ ได้ในที่สดุ ดังน้นั แนวทางเรม่ิ ต้นเป็นผูป้ ระกอบการ
4. ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ การหารายได้จากการเป็นผปู้ ระกอบการ จะทาํ ให้ทราบและเขา้ ใจถึงข้อมลู ที่เกย่ี วขอ้ ง
กับการประกอบธุรกิจ ไมว่ า่ จะเป็นประเภทของกจิ การ ลกั ษณะที่เหมาะสมของการเปน็ ผู้ประกอบการ การดําเนินงาน
ในลักษณะของห้นุ สว่ นกิจการ ตลอดจนร้จู กั วางแผนการจดั ตั้ง และดําเนนิ ธุรกจิ ด้วยตนเอง นอกจากนยี้ ังได้เรียนรู้
เรอ่ื งตน้ ทนุ การผลิต กําไรและจดุ คุ้มทนุ ทง้ั น้เี พือ่ ให้มคี วามรู้ความเข้าใจทางเศรษฐศาสตร์ของผู้ประกอบการใหม้ ากขน้ึ
อีกด้วย ผูป้ ระกอบการจงึ ควรจะเตรยี มความพรอ้ มในการประกอบการ โดยศึกษาขอ้ มูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกจิ
ขนั้ สอน
5. ครูผสู้ อนใชเ้ ทคนิคโดยการอธิบายความหมายของผู้ประกอบการ พร้อมนําตัวอยา่ งทฤษฎกี ารขาย
ประกอบ เพือ่ สื่อความรู้ ความเข้าใจ และสามารถฝกึ ทกั ษะการเรียนร้ใู นเร่อื งตอ่ ไปนี้ไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ โดย
ผู้ประกอบการ (Entrepreneur) หมายถึง เจ้าของกิจการ หรือผู้ที่คิดริเร่ิมจัดต้ังธุรกิจข้ึนมาเป็นของตนเอง มีการ
วางแผนการดาํ เนนิ งาน และดําเนินธุรกจิ ทกุ ด้านด้วยตนเอง โดยมองเห็นโอกาสทางธรุ กิจและยอมรับความเสี่ยงที่อาจ
เกดิ ขนึ้ ได้ตลอดเวลา เพื่อมุง่ หวงั ผลกาํ ไรที่เกดิ จากผลการดําเนนิ งานของธรุ กิจตนเอง ดงั น้ันผู้ดาํ เนินการผลิตจงึ เรียกว่า
ผปู้ ระกอบการ เพราะทาํ หน้าที่ตดั สนิ ใจเกี่ยวกับปัญหาพ้ืนฐานทางเศรษฐกจิ ว่าจะผลิตอะไรและผลติ เพอื่ ใคร

47

5. ผ้เู รียนยกตวั อยา่ งผ้ปู ระกอบการ ดงั นี้

6. ครูบอกคุณลกั ษณะพน้ื ฐานของผปู้ ระกอบการ ดังน้ี

48

7. ครเู ชอ่ื มโยงการเปน็ ผปู้ ระกอบการให้ผูเ้ รียนไดเ้ กดิ การเรยี นรตู้ ามสื่อ PowerPoint ดงั น้ี

8. ครแู นวทางในการเป็นผู้ประกอบการ โดยการเป็นผปู้ ระกอบการในกจิ การใดกจิ การหนงึ่ เป็นสง่ิ ทที่ ุกคนมอง

วา่ เปน็ เรอื่ งยากต่อการเร่ิมต้น เพราะไม่ทราบวา่ จะเร่ิมตน้ จากตรงจุดใดกอ่ น แลว้ ทาํ อย่างไรตอ่ ไป จึงจะทาํ ให้กิจการ
ของตนเองประสบความสาํ เรจ็ ไดใ้ นท่ีสดุ ดงั นน้ั แนวทางเร่ิมต้นเป็นผู้ประกอบการ

9. ครูอธิบายการวิเคราะห์การผูป้ ระกอบการ
ผู้ท่จี ะเปน็ ผู้ประกอบการไดน้ น้ั กอ่ นที่จะเรม่ิ ดาํ เนนิ การควรจะต้องทาํ การศกึ ษาดา้ นตา่ งๆ ดงั นี้

1) ศกึ ษาตนเอง (Self Study) เพอ่ื ใหร้ ู้จักตนเองว่ามคี วามพร้อมท่จี ะกา้ วไปสู่ธุรกจิ โดยมุ่งหวงั การมกี ําไร

และสามารถที่จะดาํ เนนิ การไปได้ตลอดไปหรือไม่ จึงควรจะทําการศกึ ษาโดยเขยี นรา่ งเพอ่ื เป็นแนวทางในการปรบั ปรงุ
แกไ้ ขได้

2) ศึกษาธรุ กจิ ทีจ่ ะดําเนนิ การ เพอื่ พจิ ารณาหาความเปน็ ไปไดว้ า่ จะดาํ เนนิ ธรุ กจิ น้ันไดต้ ลอดไปหรือไม่ การ
แสวงหาโอกาสของธุรกิจ เปน็ ต้น สง่ิ ทต่ี อ้ งศกึ ษารายละเอยี ดของธุรกจิ

3) การจดั ทําแผนธรุ กิจ การจดั ทาํ แผนธุรกิจสาํ หรับการเรม่ิ ต้นธุรกจิ ใหม่ เปรียบเสมอื นการจาํ ลอง

สถานการณ์ของผปู้ ระกอบการ เพ่ือทบทวนแผนวา่ มคี วามเปน็ ไปได้ ตามระยะเวลาทวี่ างแผนไวห้ รือไม่และ
เปล่ียนแปลงตามกาํ หนดเวลา ตลอดจนการนาํ ไปสกู่ ารกาํ หนดนโยบายและแผนกลยทุ ธ์ขององค์กรไดห้ รอื ไม่

10. ครแู ละผู้เรียนแสดงวิเคราะหก์ ารเปน็ ผปู้ ระกอบการ โดยการวิเคราะหต์ นเองเพ่อื เปน็ ผปู้ ระกอบการ ซง่ึ
มักจะขาดแนวคดิ และกลยทุ ธ์ในการวเิ คราะห์ ถ้าไม่มีกลยทุ ธใ์ นการวเิ คราะห์ กจ็ ะไมส่ ามารถวเิ คราะห์ตนเองใหอ้ ยใู่ น
กรอบได้ เนื่องจากขาดความคิดในการวเิ คราะหต์ นเองในดา้ นลบ ทําใหม้ องไมเ่ ห็นถงึ ข้อเสียท่ีควรปรับปรงุ และไม่
สามารถพฒั นาตนเองได้ ดงั น้ัน จึงควรทําการวิเคราะห์เพอ่ื กาํ หนดแนวคิดและวางแผน โดยใชก้ ลยุทธใ์ นการวเิ คราะห์
ที่เรียกว่า SWOT Analysis หรอื กลยทุ ธก์ ารประเมนิ สถานการณแ์ วดล้อม ดังนี้

49

แมว้ า่ การวเิ คราะห์ SWOT จะเป็นกลยทุ ธท์ ี่ใช้ในการวเิ คราะห์จดุ แข็ง จุดออ่ น โอกาสและอุปสรรคของแต่ละ
บุคคล เพอื่ ปรับปรุงขอ้ บกพรอ่ งของตนเองทีม่ ีอยู่ใหด้ ขี นึ้ แตส่ ่ิงท่ีสําคญั ที่สดุ ก็คอื ความตัง้ ใจและความพยายามทีจ่ ะ
ปฏบิ ัติตามเปาู หมายท่ไี ดว้ างไว้ใหส้ ําเร็จผูว้ เิ คราะห์อาจเพิม่ เติมเรอื่ งอนื่ ๆ ได้ตามสภาพความเปน็ จริงทีเ่ กดิ ข้นึ แลใช้
SWOT Analysis ได้ทัง้ กิจการของตนเอง และคูแ่ ข่ง

11. ผู้เรยี นสาธติ ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์การเป็นผู้ประกอบการดังน้ี

12. ครูผู้สอนใชเ้ ทคนคิ การอธบิ ายถงึ แนวทางการหารายได้จากการเป็นผู้ประกอบการ โดยการเริ่มตน้
ธุรกจิ หลังจากตรวจสอบคุณสมบัตติ า่ งๆ ทผ่ี ู้ประกอบการควรมแี ล้วกจ็ ะเรม่ิ ต้นทาํ ธุรกิจ โดยการเริ่มตน้ ธรุ กจิ เป็นเรอื่ ง
ท่ตี อ้ งมีการเตรียมการอยา่ งละเอียดและรอบคอบเพือ่ ใหเ้ กิดความพรอ้ มมากท่ีสุด ซึ่งข้ันตอนทจี่ ะช่วยใหก้ ารเริ่มต้น
ธรุ กิจเป็นไปได้ง่ายขน้ึ มีดังนี้

ขัน้ ที่ 1 เลือกธรุ กิจ เลือกดําเนินธุรกจิ ท่เี หมาะสม และมีความพรอ้ มเพียงพอ รวมถึงการพจิ ารณาความ
เป็นไปไดใ้ นการดาํ เนนิ การ ทัง้ ดา้ นบคุ ลากร ด้านความถนัด โอกาสในตลาด ฯลฯ โดยท่ธี รุ กิจนนั้ อาจจะไมจ่ ําเป็น
จะต้องเป็นธุรกจิ การค้า อาจจะเปน็ ธรุ กจิ บรกิ ารก็ได้

ขั้นที่ 2 จัดสรรบทบาท แบง่ หนา้ ที่และความรับผิดชอบของแตล่ ะบคุ คลให้ชดั เจนเพอ่ื ใหด้ ําเนินงานสะดวก
ขัน้ ที่ 3 วางแผนการดําเนนิ การ กอ่ นทีจ่ ะสามารถวางแผนการดาํ เนินงานไดน้ นั้ ควรจะต้องทราบขอ้ มูลเหล่านี้
กอ่ น ได้แก่

50

1) ผลสํารวจตลาด วา่ ใครเป็นผู้ซ้ือ ซ้อื อย่างไร ซือ้ ท่ีไหน ราคาเท่าไร มีผูซ้ ้อื มากน้อยแค่ไหนซ้ือมาก

เท่าใด

2) ขอ้ มลู คู่แข่งขนั คู่แข่งสาํ คัญคอื ใคร จุดอ่อนจุดแข็งคืออะไร ใช้วธิ ีการขายอย่างไร

3) วธิ ีจดั การกบั ตน้ ทุน

4) การดําเนนิ การด้านธุรกรรมการเงิน

ขน้ั ท่ี 4 การวางแผนธรุ กิจ ธุรกจิ ขนาดเลก็ หรอื ธรุ กิจเกิดใหม่มักจะตงั้ ความหวังไวอ้ ยา่ งสวยงาม แต่มกั จะไม่มี

ทางทําไดส้ าํ เร็จ ในกระบวนการวางแผนธุรกิจพึงคํานึงถงึ สง่ิ สาํ คญั ตอ่ ไปนี้

1) เลอื กธุรกิจทม่ี เี อกลกั ษณเ์ ฉพาะ มงุ่ เน้นความสนใจไปท่ธี ุรกิจทต่ี นเองมีความรคู้ วามชํานาญเปน็ อยา่ ง

ดี ไมม่ ีธรุ กิจใดท่จี ะสามารถแข่งขันกบั ตนเองได้

2) ทาํ ในสง่ิ ท่ที าํ ได้ดีทีส่ ดุ ควรพจิ ารณาไตรต่ รองใหร้ อบคอบกอ่ น และให้ความสาํ คญั กบั สงิ่ ทีต่ นเองทาํ ได้

ดที ่ีสุด

3) รู้จักความพอดี กาํ หนดวัตถปุ ระสงค์ทางธุรกจิ อย่างกวา้ งๆ เพียง 2-3 ขอ้ เพอื่ กําหนดทิศ

ทางการดําเนินงานของกิจการ อยา่ งไรกต็ าม ควรจะวางเปูาหมายอย่างชดั เจนในการดาํ เนนิ งานในระยะ 1 ปี และ

ประเมินผลเปน็ ประจําทุกเดือนเพื่อสํารวจสภาพและฐานะทางธุรกิจ

14. ครบู อกหนา้ ทีข่ องผู้ประกอบการในการดาํ เนินธุรกจิ โดยธรุ กิจทุกประเภทมหี น้าทีใ่ นการตอบสนองความ

ตอ้ งการของผู้บริโภคในด้านตา่ งๆ เพ่ือใหผ้ บู้ ริโภคไดร้ บั ความพอใจสงู สุด เกดิ อรรถประโยชน์สูงสดุ สามารถบําบัด

ความต้องการของผ้บู ริโภคได้อยา่ งสมบรู ณ์ ผู้ประกอบการควรมหี นา้ ท่รี บั ผดิ ชอบในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้

1) การผลิต (Production)

2) การจดั หาเงินทนุ (Capital)

3) การจัดหาทรัพยากรบคุ คล

4) การบรหิ ารการตลาด

15. ผู้เรยี นอ่านกรณีศึกษาที่ครกู ําหนด แลว้ สรปุ สาระสาํ คญั ของความเปน็ ผู้ประกอบการทป่ี ระสบความสาํ เร็จ

16. ครกู ําหนดรูปภาพให้ผ้เู รียนพิจารณา แล้วให้แสดงความคิดเหน็ วา่ ผูป้ ระกอบการควรนาํ คุณลักษณะพน้ื ฐาน

ดา้ นใดมาใชบ้ ้าง

17. ผ้เู รยี นเลือกธุรกิจท่ีตนเองรักและชอบมากท่สี ุดมา 1 ประเภท โดยคาดวา่ เมือ่ จบการศกึ ษาแลว้ จะต้องทําให้

ประสบความสําเร็จ แลว้ ใหว้ ิเคราะห์ตนเองเพื่อเปน็ ผู้ประกอบการในธุรกจิ นั้น

ขัน้ สรุปและการประยุกต์

18. สรปุ การเป็นผู้ประกอบการ โดยทํากิจกรรมฝึกทักษะเพ่อื การเรยี นรู้ และทาํ กจิ กรรมใบงาน

19. สรปุ ส่งิ จําเป็นทีช่ ่วยใหพ้ นกั งานขายเขา้ พบอย่างมปี ระสิทธิภาพที่สามารถนาํ ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจําวนั

ได้

20. ประเมินผเู้ รยี นตามแบบฟอร์มตอ่ ไปนี้

ชอ่ื ผเู้ รยี น ธรรมชาตขิ องผู้เรยี น วธิ กี ารเรยี นรู้
ความสนใจ สติปญั ญา วุฒภิ าวะ

1.

2.

3.


Click to View FlipBook Version