เกณฑ์การประเมนิ
ประเด็น เกณฑ์การให้คะแนน
การประเมิน
ดา้ นเน้อื หา 2 1.5 1 0.5 0
(2 คะแนน) ใช้ข้อมูลทถี่ กู ตอ้ ง ใช้ขอ้ มลู ท่ไี มถ่ ูกต้อง
กระชับ เขา้ ใจงา่ ย - ใชข้ ้อมูลทถ่ี ูกต้อง - ขอ้ มลู เยอะ และ
ด้านภาษา ดเี ยีย่ ม เขา้ ใจยาก
(1 คะแนน) ใชภ้ าษาและ ขอ้ ลูไม่กระชับ ใชภ้ าษาและ
สะกดคำถกู ต้อง สะกดคำไมถ่ กู ตอ้ ง
หัวข้อกำหนด ตามหลักไวยากรณ์ เขา้ ใจง่าย ตามหลักไวยากรณ์
(2 คะแนน) ทง้ั หมด
แหลง่ อ้างอิง - ใช้ภาษาและ - หวั ขอ้ ท่ีกำหนด
(1 คะแนน) หัวข้อทก่ี ำหนด ครบ 1-0 ข้อ
การใช้รปู ภาพ ครบ5 ข้อ สะกดคำถูกตอ้ ง ไม่มีแหล่งอา้ งองิ
เหมาะสมกับหัวข้อ
(1 คะแนน) - ตามหลกั ไวยากรณ์ดี ใชร้ ปู ภาพท่ไี ม่ตรง
กบั หวั ขอ้ และ
ชอื่ ผู้จัดทำ - แต่มใี ชภ้ าษาและ สอื่ ความหมาย
(1 คะแนน) ไม่ตรงกบั หัวขอ้
สวยงามและสร้างสรรค์ - สะกดคำผดิ อยู่บ้าง ไม่มีชื่อผูจ้ ัดทำ
(2 คะแนน) ชัน้ ห้อง เลขที่
ใช้สีตามหลักการดี หวั ข้อทกี่ ำหนด หวั ข้อท่กี ำหนด หวั ข้อทกี่ ำหนด ไม่ใชส้ ีตามหลักการ
บอกหลกั การออกแบบ ใช้พนื้ หลังเหมาะสม ใชพ้ ืน้ หลังไม่
Infographic กบั งาน ตัวหนังสือ ครบ 4 ขอ้ ครบ 3 ข้อ ครบ 2 ข้อ เหมาะสมกับงาน
(1 คะแนน) การจัดวางน่าสนใจ และ ตวั หนงั สือ
บอกความสำคัญของ แปลกใหม่ - มีแหลง่ อ้างองิ - การจดั วางธรรมดา
การอา้ งอิงแหลง่ ขอ้ มูล ไมส่ ามารถบอก
(1 คะแนน) - - ใชร้ ปู ภาพทีต่ รง - หลักการออกแบบ
กบั หัวข้อ และ Infographic ได้
สอื่ ความหมายได้ดี ไมส่ ามารถบอก
ความสำคัญของ
- มชี ือ่ ผจู้ ดั ทำ - การอา้ งอิง
แหล่งขอ้ มูลได้
ช้นั หอ้ ง เลขท่ี
- ใชส้ ีตามหลกั การดี -
ใช้พน้ื หลังเหมาะสม
กับงาน ตวั หนงั สอื
การจดั วางดี
ไมแ่ ปลกใหม่
- สามารถบอก -
หลกั การออกแบบ
Infographic ได้
สามารถบอก
ความสำคญั ของ
การอา้ งอิง
แหลง่ ขอ้ มูลได้
บันทกึ หลงั การสอน ป.6 ปีการศึกษา 2564
สัปดาห์ที่ 7 ชอื่ เรื่อง การออกแบบ Infographic หวั ข้อ ต้มไมแ้ ห่งศักด์ิศรี ๕๐ ปี สาธติ เกษตร
ขั้นนำเขา้ สบู่ ทเรยี น
จากการทีน่ ำเกม wordwall มาทำเปน็ กจิ กรรมทบทวนเน้อื หาความร้ใู นเร่ือง Infographic เปน็ การกระตนุ้ ให้
นักเรยี นรสู้ ึกสนุกสนาน ร่วมทำกจิ กรรมได้เป็นอย่างดี ผลตอบรับ คอื นกั เรยี นชอบและอยากใหน้ ำเกมมาเล่นก่อนเรยี น
ทกุ คาบเรยี น จากการท่ีเลือกนำเกมมาทำกจิ กรรมทบทวนความรู้ เพราะจะทำให้นกั เรียนไดเ้ ล่นเกมและสอดแทรกการ
ทบทวนความรู้
ขั้นสอน
จากการสอนในเร่ืองการทำ Infographic ด้วยเวบ็ ไซต์ Canva ในหวั ขอ้ ตม้ ไมแ้ ห่งศกั ดิศ์ รี ๕๐ ปี สาธิตเกษตร
ผลตอบรบั คอื นกั เรียนมีความเข้าใจในการใช้งานและงานท่กี ำหนดใหเ้ ปน็ อย่างดี เพราะได้มเี อกสารตัวอย่างสำหรบั
ดูเปน็ ตวั อยา่ งในการทำงาน มีเอกสารบอกองคป์ ระกอบของงานอย่างชัดเจน จงึ ทำให้นักเรียนเขา้ ใจงานได้ดี สว่ นลำดับ
การสอนเปน็ ขัน้ ตอนทีเ่ ปน็ ลำดบั ดี เลือกให้นักเรยี นไดด้ ตู ัวอย่างผลงานก่อน นักเรยี นไดเ้ ข้าใจขอบเขตของงานมากขึน้
และสอนการใช้งานเวบ็ ไซต์ Canva ไปแต่ข้ันตอน โดยสอบถามถงึ ความรูเ้ ดมิ ของนกั เรียนประกอบ เพอ่ื กระตุน้ ให้
นกั เรยี นสนใจการสอนมากขึ้น
ขัน้ สรปุ
จากการชีแ้ จงรายละเอยี ดของงานทงั้ หมด ผลตอบรบั นกั เรยี นเขา้ ใจงานและกลับไปดเู น้ือหายอ้ นหลังในไฟล์
เอกสารท่ชี ีแ้ จงไวใ้ ห้ รวมถงึ ผลงานท่ีออกมาส่วนมากเปน็ ไปตามท่กี ำหนด
การประเมนิ ผลในสปั ดาห์นี้
ข้อดี
1. การนำเกมมาใช้ทบทวนความรูต้ น้ คาบ ทำให้นกั เรยี นมกี ารตอบรบั เปน็ อยา่ งดี และสนใจเรียนมากขนึ้
2. การอธิบายและจัดเตรียมเอกสารสำหรบั ให้นกั เรยี นกลับไปทบทวนเพ่มิ เตมิ ทำใหผ้ ลงานของนกั เรียน
เกดิ ความผดิ พลาดน้อยขนึ้
3. การสอนใชง้ านเว็บไซต์ Canva โดยสาธติ และอธิบายประกอบในแต่ละเคร่อื งมอื ทำให้นักเรียนสามารถ
ใชง้ านเว็บไซต์ Canva ได้ดีขึ้น
ข้อควรปรบั ปรุงและขอ้ เสนอแนะ
1. เรื่องการควบคมุ เวลาในส่วนของการเล่นเกมต้นคาบ ต้องควบคมุ เวลาใหน้ ้อยลงกว่าน้ี
2. ควรย้ำถงึ เร่อื งหัวข้อของแตห่ อ้ งกบั นักเรยี นบอ่ ย ๆ เพราะมนี กั เรียนบางคนทย่ี งั ไม่เขา้ ใจหัวขอ้ การทำผลงาน
การจัดกแาผรเนรียนรู้ที่ 3
แผนการจัดการเรยี นรู้ 13
กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) วิชา เทคโนโลยี 6
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 จำนวน 1 คาบ (50นาท)ี
ผู้สอน นางสาวชุติมณฑน์ หุ่นนอก
เร่อื ง มลั แวร์ และ การต้งั คา่ รหัสผ่าน
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ดั
1.1 สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชีวิตจรงิ อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอน
และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมี
ประสิทธภิ าพ รู้เท่าทัน และมีจรยิ ธรรม
1.2 ตัวชีว้ ดั
ว 4.2 ป.6/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานร่วมกนั อย่างปลอดภัย เขา้ ใจสิทธขิ องผ้อู ่นื
แจง้ ผเู้ กย่ี วข้องเมือ่ พบขอ้ มลู หรือบคุ คลทีไ่ ม่เหมาะสม
2. สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระสำคญั
2.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- วิธีกำหนดรหสั ผ่าน
- แนวทางการตรวจสอบและป้องกนั มัลแวร์
2.2 สาระสำคญั
มลั แวร์ คือ โปรแกรมชนิดหนึง่ ทถ่ี กู สร้างขึน้ มา เพอื่ ประสงคร์ ้ายตอ่ คอมพิวเตอร์ และ ขอ้ มูลของผู้อื่น
เช่น การขโมยขอ้ มูล การเขา้ ถึงรหสั ข้อมูลและระบบคอมพวิ เตอร์ การลบหรือดัดแปลงข้อมูล และ
การทำลายระบบคอมพวิ เตอร์ โดยมลั แวร์มหี ลายชนดิ เช่น ไวรสั เวิรม์ โทจนั แรนซมั แวร์ และ
สปายแวร์ โดยแต่ละชนิดจะมรี ปู แบบ และ ลักษณะการทำงานท่ีแตกตา่ งกัน
แนวทางป้องกนั มัลแวร์ มอี ย่หู ลากหลายวิธี เชน่ การ Update คอมพิวเตอร์ การระมดั ระวงั ใน
การใชอ้ ุปกรณเ์ ชอื่ มต่อต่าง ๆ การมวี จิ ารณญาณในการตรวจสอบก่อนคลิกเสมอ รวมไปถงึ การตดิ ตง้ั
โปรแกรมป้องกนั มัลแวร์ และแนวทางอ่ืน ๆ ทจี่ ะปกป้องรกั ษาข้อมูล และ ระบบคอมพวิ เตอรข์ องตนเอง
ให้ปลอดภัย
รหัสผ่าน มีความสำคัญกับปัจจุบนั เป็นอย่างมาก เพราะไมว่ ่าจะเปน็ โปรแกรม หรอื เว็บไซต์ตา่ ง ๆ
จะมีฟังก์ชนั ให้ผใู้ ชง้ าน กรอก Username และ Password เพอ่ื เป็นการยนื ยนั ตนเองในการเข้าถงึ ขอ้ มูล
และแฮกเกอร์จะใชโ้ อกาสนี้ทำการเจาะรหัสผา่ นของผู้ใช้งาน ดังนนั้ การตัง้ คา่ รหสั ผ่านที่ดี จงึ เป็นแนวทาง
ในการป้องกนั แฮกเกอรไ์ ด้
วธิ ีตั้งคา่ รหสั ผา่ นมีอยู่หลากหลายวิธี เช่น การใส่เครือ่ งหมายพิเศษ การกำหนดรหัสผา่ นความยาว
ไมต่ ่ำกวา่ 8 ตวั อักษร หรอื แนวทางทไี่ ม่ควรนำขอ้ มลู ส่วนตวั มาตง้ั เป็นรหสั ผ่าน และขอปฏบิ ัตเิ พิ่มเตมิ
ในการต้ังค่ารหัสผา่ นให้ปลอดภยั จากแฮกเกอร์
3. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น/คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
3.1 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3.2 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1. ใฝเ่ รียนใฝ่รู้
2. ม่งุ มั่นในการทำงาน
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถบอกลักษณะการทำงานของมลั แวรไ์ ด้
2. นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างแนวทางป้องกันมัลแวรไ์ ด้
ทักษะ/กระบวนการ (P)
1. นกั เรยี นสามารถพิจารณาความเหมาะสมของการต้ังค่ารหสั ผ่านและสง่ งานได้
เจตคติ (A)
1. นกั เรยี นปฏิบัติตามกฎกตกิ าการสอบวัดความรู้
2. นักเรยี นเหน็ ประโยชนข์ องการตงั้ คา่ รหัสผ่านใหป้ ลอดภยั
5. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขั้นนำ
1. ครูพูดคุยกบั นกั เรียนกอ่ นทำแบบทดสอบวัดความรู้ เร่ือง อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ตและอนั ตราย
จากการติดตัง้ ซอฟต์แวร์บนอนิ เทอรเ์ นต็
2. นักเรยี นดูวิดโี อไวรัล เรียนออนไลนย์ คุ โควดิ https://hilight.kapook.com/video/28260
เพ่อื ผอ่ นคลายก่อนเข้าสกู่ ิจกรรม และ เนอ้ื หา โดยพดู คยุ และสอดแทรกทศั นคติว่า ถ้าหากเราให้
ผปู้ กครอง หรือ ผู้อน่ื ช่วยในการทำงาน ทำการบ้าน หรือ สอบให้ ในอนาคตเรากจ็ ะไม่มีความรู้
ความสามารถเป็นของตนเอง และจะเกดิ ผลเสียกับตัวเราเองด้วย
3. ครูชีแ้ จงสำหรบั การทดสอบวัดความรู้ โดยให้นักเรียนเปดิ กลอ้ ง และปิดไมค์ ขณะสอบ นักเรยี นคนใด
ใช้ Ipad ในการสอบ ให้ยกมือผ่านระบบ เพอ่ื ชี้แจงกบั อาจารย์ ระหว่างสอบหากใครมปี ัญหาให้นักเรยี น
พิมพเ์ ขา้ มาในแชท Teams เพ่อื สอบถามได้ ส่วนนกั เรยี นท่ที ำเสร็จแล้ว ให้ยกมอื ผา่ นระบบค้างไว้
เพ่ือจะไดต้ รวจสอบว่า เราส่งแบบทดสอบมาถงึ อาจารย์แล้วหรือยงั
4. ครูโพสต์ลงิ ก์ Google forms ทดสอบวดั ความรู้ ลงหน้า Post ห้องแตล่ ะห้อง
5. นกั เรียนเข้าร่วมทำแบบทดสอบวัดความรู้ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตและอันตรายจากการตดิ ตั้ง
ซอฟตแ์ วร์บนอนิ เทอร์เนต็ โดยขอ้ สอบมี 5 ข้อ (5 คะแนน) แบบตัวเลือก 4 คะแนน จะแสดงคะแนนเลย
ส่วนแบบตอบส้นั 1 คะแนน ยงั ไมแ่ สดง และใช้เวลาในการสอบ 7 นาที
6. นกั เรยี นเรม่ิ ทำแบบทดสอบวัดความรเู้ รื่อง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ และอนั ตรายจากการตดิ ตั้ง
ซอฟต์แวร์บนอนิ เทอรเ์ นต็
ข้ันสอน
1. ครูแนะนำหวั ข้อในการเรยี นในวันน้ี 2 หวั ข้อ คือ
- เรอ่ื งมัลแวรแ์ ละแนวทางป้องกนั
- เรอื่ งการตัง้ คา่ รหัสผ่าน
2. ครูถามเกริ่นนำนักเรยี นกอ่ นเขา้ สูบ่ ทเรยี น วา่
- นักเรยี นรู้จักมลั แวร์หรือไม่
3. นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามแลกเปล่ยี นความคิดเห็นรว่ มกนั
4. ครอู ธิบายความหมายและลักษณะของมัลแวร์
โดยอธบิ ายว่า มลั แวร์ คือ โปรแกรมชนิดหน่งึ ท่ีถูกสรา้ งขน้ึ มาเพือ่ ประสงค์ร้ายตอ่ คอมพวิ เตอร์
ไม่ว่าจะเป็นการขโมยข้อมลู การเขา้ ถึงรหสั ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละข้อมูลตา่ ง ๆ การลบหรอื ทำลายข้อมลู
และระบบคอมพวิ เตอร์ เปน็ ต้น
5. ครูแนะนำชนิดของมลั แวร์
6. ครตู ง้ั คำถามกบั นกั เรยี นวา่
- จากตัวอย่างชนิดของมลั แวร์ นักเรียนรู้จกั หรอื เคยได้ยิน มีชนิดใดบ้าง
- ลักษณะของชนิดมัลแวรท์ ่ีนักเรยี นรจู้ ักทำงานอย่างไร
7. นกั เรียนช่วยกันตอบคำถามแสดงความคดิ เหน็ วา่ รู้จักชนดิ ของมลั แวรต์ ัวใดบา้ ง และมีลักษณะอยา่ งไร
โดยการเปดิ ไมค์ตอบ หรอื พมิ พ์ตอบในแชท Teams
โดยอธิบายว่า ชนดิ ของมลั แวรม์ อี ยู่หลากหลายประเภท เช่น ไวรัส เวิร์ม โทรจนั เป็นต้น และ
สอบถามนกั เรยี นเพม่ิ เตมิ ว่า จากชนดิ ของมัลแวรท์ ่อี าจารยย์ กตัวอย่าง มีตวั ใดบ้างท่นี ักเรยี นรจู้ กั หรือ
เคยไดย้ นิ และถ้ารจู้ กั ใหน้ กั เรียนชว่ ยบอกวา่ แต่ละชนิดมันมีลักษณะอย่างไร โดยชนดิ ของมลั แวรห์ ลกั ๆ
ทีเ่ ราจะเรยี นและสอบ คือ ไวรัส เวริ ม์ และ โทรจนั สว่ นอีก 4 ชนิดท่เี หลอื อาจารยเ์ อามาเปน็ ความร้เู พมิ่ เติม
ใหน้ ักเรียนไดร้ ู้จกั
8. ครูต้งั คำถามกับนักเรยี นว่า
- จากสปั ดาห์ทีแ่ ลว้ นกั เรยี นจำอะไรท่ีเกี่ยวกับ ไวรัส ได้บา้ ง
9. นกั เรียนชว่ ยกนั แสดงความคดิ เหน็ และบอกความรู้เดิมใน เร่อื งของไวรัส โดยการเปดิ ไมค์ตอบ หรือ
พิมพต์ อบในแชท Teams
10. ครูอธิบายลกั ษณะการทำงานของไวรสั
โดยอธิบายว่า ไวรสั จะแฝงตวั และติดมากับโปรแกรมคอมพวิ เตอร์ หรอื ไฟล์ต่าง ๆ และสามารถ
แพร่กระจายไปยังเครือ่ ง หรอื อุปกรณอ์ ่ืน ๆ ได้ แต่ไวรัสจะทำงานกต็ ่อเมอ่ื ผใู้ ช้งานเรยี กใช้โปรแกรม หรือ
เรยี กใชง้ านข้อมลู ต่าง ๆ เท่านน้ั ถ้าผู้ใช้งานไมไ่ ดท้ ำการเรียกใช้โปรแกรม หรือ ไฟล์ตา่ ง ๆ ไวรัสจะไม่
สามารถทำงานได้ แสดงวา่ ไวรสั จะทำงานได้ตอ้ งอาศยั ผใู้ ช้ และคุณสมบัตขิ องไวรสั คือ สามารถทำลายได้
ท้ังฮาร์ดแวร์ ซอฟตแ์ วร์ และ ขอ้ มูลตา่ ง ๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
11. ครอู ธิบายลกั ษณะการทำงานของเวริ ม์ และความแตกต่างระหว่าง ไวรัส และ เวิรม์
โดยอธบิ ายว่า เวริ ์ม จะมีลกั ษณะแตกตา่ งจาก ไวรสั คอื เวริ ์มไมต่ อ้ งอาศัยตวั กลาง หรือ ผใู้ ช้งาน
เวริ ม์ สามารถแพร่กระจาย และจำลองตวั เองขึ้นมาได้เอง สามารถทำงานไดโ้ ดยไม่ตอ้ งพึง่ พาผู้ใชง้ าน และ
ยงั มีความสามารถในการทำลายระบบคอมพวิ เตอร์ได้สูงกว่าไวรัส และการแพรก่ ระจายของเวิรม์ คือ
แพรก่ ระจายผา่ นทางระบบเครอื ข่าย เช่น อีเมล หรอื ระบบแชรไ์ ฟลต์ ่าง ๆ
12. ครูตง้ั คำถามกบั นกั เรียนวา่
- จากสปั ดาหท์ ่แี ลว้ นักเรยี นจำอะไรทเ่ี ก่ยี วกบั โทรจนั ไดบ้ า้ ง
13. นักเรียนช่วยกันแสดงความคดิ เหน็ และบอกความรู้เดิมใน เรอ่ื งของโทรจนั โดยการเปิดไมค์ตอบ หรอื
พิมพต์ อบในแชท Teams
14. ครูอธิบายลักษณะการทำงานของ โทรจัน
โดยอธบิ ายว่า โทรจนั เปน็ การปลอมตัว หรอื หลอกว่าตนเองเป็นโปรแกรมท่ีถูกกฎหมาย
เพอ่ื หลอกให้ผใู้ ช้งานตดิ ต้ัง และ ดาวน์โหลดโปรแกรมลงไปในคอมพิวเตอร์ โดยโปรแกรมทน่ี ิยมมโี ทรจนั
มากทีส่ ุด คือ โปรแกรมสแกนไวรัส อยา่ งเนื้อหาสัปดาหท์ ่แี ล้ว เราต้องเลือก และ พิจารณาดาวน์โหลด
โปรแกรมหรือข้อมูลทน่ี า่ เช่ือถอื ถา้ เปน็ เว็บไซต์ทไี่ มน่ ่าเชือ่ ถืออาจจะมกี ารแฝงโทรจันเข้ามากบั โปรแกรม
และ โทรจนั ยงั สามารถฝังตวั อยใู่ นคอมพิวเตอร์ได้นานกว่าไวรสั แต่จะทำงานก็ต่อเมอ่ื ผ้ใู ชง้ านเรยี กใชง้ าน
โปรแกรมนน้ั โดยการทำลายของ โทรจัน คอื การเขา้ ถึงสทิ ธิต่าง ๆ ของอุปกรณค์ อมพิวเตอร์
15. ครูตงั้ คำถามกบั นกั เรยี นว่า
- คำว่า สปาย มีความหมายว่าอะไร มนั สือ่ ความหมายถงึ อะไร
16. นกั เรียนชว่ ยกันตอบคำถามแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับคำว่า สปาย โดยการเปิดไมค์ตอบ หรอื
พิมพ์ตอบในแชท Teams
17. ครูอธบิ ายลักษณะการทำงานของ สปายแวร์
โดยอธบิ ายว่า คำว่า สปาย อาจจะหมายถึง สายลับ หรอื นักสืบ และ สปายแวร์ในคอมพวิ เตอร์
กม็ ีจุดประสงค์เหมอื นกัน คือ เป็นการเขยี นโปรแกรมข้นึ มา เพอ่ื สอดสอ่ ง และ เกบ็ ขอ้ มูลการใชง้ านของผใู้ ช้
แอบดพู ฤตกิ รรม แอบบนั ทกึ การกดแป้นพมิ พข์ องผใู้ ช้ ไม่วา่ จะเป็น username หรือ password ต่าง ๆ
จากนัน้ ถา้ ได้ข้อมูลแลว้ สปายแวร์ก็จะส่งขอ้ มลู ดังกลา่ วนไี้ ปให้กบั แฮกเกอร์ และนำขอ้ มลู ไปใช้ประโยชน์
ในทางทผ่ี ิดตอ่ ไปได้
18. ครอู ธิบายลักษณะการทำงานของ แรมซมั แวร์
โดยอธิบายว่า แรมซมั แวร์ มคี วามรนุ แรงขนึ้ มาอกี หนงึ่ ระดับ เพราะ จะถูกออกแบบมา
เพื่อทำการเขา้ ถึงรหสั ของผู้ใชง้ าน หรอื ระบบคอมพวิ เตอร์ จนทำใหผ้ ูใ้ ชง้ านไม่สามารถเปิดไฟล์ หรือ
ข้อมูลสำคัญได้ จากนนั้ แฮกเกอร์จะส่งขอ้ ความ เพือ่ เรยี กค่าไถ่ ใหผ้ ู้ใช้งานนำเงนิ มาแลกกับการถอดรหสั
เพอ่ื กูข้ ้อมลู โดยส่วนใหญ่ เงนิ ท่แี ลกเปล่ียนกันจะเปน็ เงินดิจิทัล เชน่ bitcoin เพราะ เปน็ การแลกเปล่ยี น
สกลุ เงนิ ที่สามารถจับตัวแฮกเกอร์ได้ยาก โดยรูปแบบน้จี ะมงุ่ โจมตีในหนว่ ยงาน หรอื องคก์ รสำคญั เช่น
สถานีตำรวจ หรือ โรงพยาบาล
19. ครูอธิบายลกั ษณะการทำงานของ รทู คติ
โดยอธิบายว่า รทู คิต มหี น้าท่ีซอ่ น ปกปิด หรือบังให้ผู้ใชง้ านไมร่ วู้ า่ มีโปรแกรมท่เี ปน็ อนั ตราย
กำลังในระบบคอมพวิ เตอร์อยู่ โดยจากนั้นจะเปดิ ช่องทางใหแ้ ฮกเกอร์ เข้ามาติดต้งั โปรแกรม และ
ควบคมุ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ในสถานะผู้ดูแลระบบ หรือ เจ้าของระบบแทนผ้ใู ชง้ าน เพ่อื ให้แฮกเกอร์
สามารถควบคมุ ระบบไดจ้ ากระยะไกล รูปแบบนเี้ ปน็ รปู แบบเข้ามา เพ่อื แย่งการดูแลระบบจากผใู้ ชง้ าน
20. ครอู ธิบายลกั ษณะการทำงานของ Backdoor
21. ครบู อกความแตกต่างกนั ของ Rootkit และ Backdoor
โดยอธบิ ายว่า Backdoor มีลกั ษณะการทำงานทคี่ ลา้ ยกับแบบ Rootkit แต่ Backdoor
เปน็ การเปดิ ชอ่ งทางให้แฮกเกอร์เข้ามาใช้งานระบบคอมพวิ เตอร์ของเราโดยไมร่ ้ตู ัว และทำการลักลอบ
เข้าระบบอย่างลับ ๆ ผา่ นรรู ่ัวของระบบ เพ่อื ให้แฮกเกอรส์ ามารถควบคมุ ระบบไดโ้ ดยไม่มกี ารแจง้ เตือน
ผดู้ แู ลระบบ ในรูปแบบน้มี คี วามแตกต่าง คือ จะเขา้ มาเพือ่ ร่วมดแู ลระบบ แต่ Rootkit เปน็ การขโมย
สทิ ธิการดแู ลระบบจากผดู้ ูแลระบบไป
22. ครูตั้งคำถามกบั นกั เรยี นว่า
- จากท่ีนกั เรียนเรียนรชู้ นดิ และลกั ษณะการทำงานของมลั แวร์ นกั เรยี นจะมีแนวทางป้องกัน
มลั แวร์ไดอ้ ยา่ งไรบ้าง
23. นกั เรียนชว่ ยกันตอบคำถามแสดงความคิดเห็นเกยี่ วกับแนวทางปอ้ งกันมัลแวร์ โดยการเปิดไมคต์ อบ
หรือ พิมพต์ อบในแชท Teams
24. ครูอธบิ ายแนวทางปอ้ งกันมัลแวร์
โดยอธบิ ายว่า แนวทางป้องกนั มัลแวร์ เหมือนกับแนวทางการป้องกนั ไวรสั โดยมีข้ันตอน เช่น
Update คอมพิวเตอร์ หรอื ซอฟตแ์ วรอ์ ยเู่ สมอ ตดิ ตั้งโปรแกรมป้องกนั ไวรสั ระมัดระวังในการใช้แฟลชไดร์
เสยี บเข้าคอมพวิ เตอร์ ต้องสแกนไวรสั กอ่ นทกุ คร้งั ไม่กดเข้าโฆษณาตา่ ง ๆ บนเว็บไซต์ ไมด่ าวนโ์ หลด
โปรแกรมจากแหลง่ ท่ไี ม่นา่ เช่ือถือ หลีกเล่ยี งการเปิดอเี มล หรอื ไฟล์ต้องสงสยั ตา่ ง ๆ โดยต้องพิจารณา
และตรวจสอบทุกครงั้ ก่อนเปิด และอย่าใช้ไวไฟสาธารณะที่ไม่ให้ลงทะเบยี นเขา้ ใช้งาน เพราะอาจจะเป็น
แนวทางให้แฮกเกอร์สามารถเขา้ สู่คอมพวิ เตอร์ และ โทรศัพทเ์ ราได้โดยงา่ ย
25. ครูตั้งคำถามเพ่ือทบทวนความรเู้ รอ่ื งมลั แวร์ และ แนวทางปอ้ งกนั ว่า
- ชนดิ ของมัลแวรม์ อี ะไรบ้าง หรอื ถามว่าชนดิ ของมัลแวรต์ ัวนม้ี ลี ักษณะการทำงานอย่างไร
26. นักเรียนช่วยกนั ตอบคำถามทบทวนความร้เู ร่อื ง มัลแวรแ์ ละแนวทางป้องกัน โดยการเปดิ ไมคต์ อบ หรือ
พมิ พต์ อบในแชท Teams
27. ครตู ั้งคำถามกอ่ นเขา้ ส่เู น้ือหาเร่อื ง การกำหนดรหัสผา่ นวา่
- ปจั จุบันนักเรยี นมีรหสั ผ่านไวใ้ ช้เข้าโปรแกรม หรอื เว็บไซต์อะไรบา้ ง
- นักเรยี นคิดวา่ รหัสผ่านมคี วามสำคัญกับชีวิตหรอื ไม่
28. นกั เรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามกอ่ นเขา้ สู่เนื้อหาเร่อื ง การกำหนดรหัสผ่าน โดยการเปิดไมค์ตอบ หรือ
พมิ พ์ตอบในแชท Teams
29. ครูอธบิ ายความหมายของรหัสผ่าน และความสำคญั ของการกำหนดรหัสผ่าน
โดยอธบิ ายว่า ปจั จบุ นั เวบ็ ไซต์ หรือ โปรแกรมต่าง ๆ จะให้ผู้ใช้งานกรอกUsername หรอื
Password เพ่ือเปน็ การยืนยนั ตวั ตนในการเขา้ ถงึ ข้อมูล โปรแกรมตา่ ง ๆ โดยแฮกเกอร์ก็จะใช้วิธีการเจาะ
รหัสผ่านเพื่อเข้าส่รู ะบบคอมพิวเตอรข์ องเรา ดังน้นั การปอ้ งกนั แฮกเกอรท์ จ่ี ะเขา้ สูร่ ะบบคอมพวิ เตอร์เรา
ได้งา่ ย ก็คือการกำหนดรหัสผ่านการใช้งานท่ดี ี
30. ครูตง้ั คำถามกบั นกั เรยี นวา่
- นักเรยี นมีแนวทาง หรอื วิธีการต้งั ค่ารหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภยั
31. นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามและเปล่ยี นความคดิ เห็นเร่ือง วิธีการตั้งคา่ รหัสผา่ นให้ปลอดภัย โดยการ
เปิดไมคต์ อบ หรือ พิมพ์ตอบในแชท Teams
32. ครูอธิบายคำแนะนำการตงั้ คา่ รหัสผ่าน
โดยอธบิ ายว่า การตงั้ คา่ รหสั ผา่ นท่ีเหมาะสม คอื ควรมคี วามยาวอย่างน้อย 8 ตวั อกั ษร
ถา้ สงั เกตจากเว็บไซตห์ รือโปรแกรมต่าง ๆ จะมีขอ้ นกี้ ำหนดมาให้เราในการต้งั ค่ารหสั ผ่าน รวมไปถงึ
องค์ประกอบดังตอ่ ไปน้ีอย่างนอ้ ย 2 ใน 3 คือ 1. อกั ษรพมิ พ์เลก็ และอกั ษรพมิ พใ์ หญ่ในภาษาอังกฤษ
2. ตวั เลขเลข (0 – 9) 3. เคร่ืองหมายหรืออักขระพิเศษ เชน่ (@#&*%) เป็นต้น
33. ครตู ั้งคำถามกับนกั เรยี นว่า
- ตัวอยา่ งรหัสผ่านที่อาจารย์นำมา นกั เรียนคดิ วา่ มีความเหมาะสม และ เดายากหรอื ไม่ เพราะอะไร
34. นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามและเปลี่ยนความคิดเห็น โดยการเปิดไมค์ตอบ หรือ พมิ พ์ตอบในแชท Teams
35. ครูอธิบายถงึ องค์ประกอบของรหัสผา่ นตวั อย่าง
โดยอธบิ ายว่า จากรหสั ผ่านตวั อยา่ ง มีองค์ประกอบครบทกุ สว่ น คือ มีความยาวอย่างนอ้ ย 8 ตัวอกั ษร
มีตวั อกั ษรพมิ พเ์ ลก็ และพิมพ์ใหญ่ (P , t , e) ตวั เลข (9 ,4 , 0) และเครอ่ื งหมายอักขระพเิ ศษ (& , #)
ดงั นัน้ นกั เรียนสามารถนำคำแนะนำของการตงั้ รหัสผา่ นไปปรบั ใช้กบั การต้งั รหสั ผ่านของตนเองในโปรแกรม
หรือ เว็บไซต์ตา่ ง ๆ ให้ปลอดภยั มากย่งิ ข้ึน
36. ครูอธบิ ายส่ิงท่ไี ม่ควรนำมาใชเ้ ป็นรหัสผ่าน พรอ้ มตั้งคำถามเพอ่ื สอบถามความคิดเห็นของนักเรียน
ในแตบ่ างขอ้ ว่า นักเรยี นคิดว่าทำไมถึงไมค่ วรนำขอ้ มูลสว่ นตัวของตนเองไม่วา่ จะเป็น ช่ือ นามสกลุ
วันเดอื นปเี กดิ และ เบอรโ์ ทรศพั ท์ มาต้ังเป็นรหสั ผา่ น
37. นักเรยี นชว่ ยกันตอบคำถามและเปลย่ี นความคิดเหน็ โดยการเปิดไมค์ตอบ หรอื พิมพ์ตอบในแชท Teams
โดยอธิบายว่า สิง่ ที่ไมค่ วรนำมาเปน็ รหสั ผ่าน คือ ขอ้ มลู ในการระบตุ ัวตนของตนเองไมว่ ่าจะเปน็
ชือ่ - นามสกลุ วันเดือนปเี กดิ เบอร์โทรศพั ท์ ชือ่ บคุ คลรอบขา้ ง คำในพจนานุกรม การสะกดคำจากหลัง
ไปหน้า การใชร้ ูปแบบตวั อักษรตวั เลขท่เี ปน็ ทนี่ ยิ ม และ ห้ามใชร้ ูปแบบการตงั้ คา่ รหัสผา่ นทีม่ คี วามคล้ายกัน
ในแตล่ ะบญั ชี เพราะ แฮกเกอรห์ ากต้องการเจาะรหสั ผ่านของเราแลว้ เขาจะศึกษาข้อมลู และ ใชเ้ ทคนคิ
ต่าง ๆ ในการเจาะรหสั ผ่านของเรา ดงั นั้นเราควรหลีกเลยี่ งรปู แบบต่าง ๆ ที่เเปน็ การตั้งคา่ รหัสผา่ นที่
ไม่เหมาะสม
38. ครูอธบิ ายขอ้ ควรปฏิบตั ิเพม่ิ เติมของการต้ังคา่ รหสั ผ่าน พร้อมตงั้ คำถามเพ่ือสอบถามความคิดเหน็
และประสบการณข์ องนกั เรยี น ในแต่บางขอ้ วา่
- มใี ครเวลาใชห้ อ้ งคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน และ ลมื ออกจากระบบไมว่ า่ จะเปน็ Facebook
หรือโปรแกรมตา่ ง ๆ หรอื ไม่
- ถามความคิดเหน็ ของนกั เรียนในแต่ละขอ้ วา่ ทำไมถึงตอ้ งทำอยา่ งนัน้ และ ทำไมถงึ ไมค่ วรทำ
อย่างนั้น
39. นักเรยี นชว่ ยกนั ตอบคำถามและเปลี่ยนความคิดเหน็ โดยการเปดิ ไมคต์ อบ หรือ พิมพต์ อบในแชท Teams
โดยอธิบายว่า ข้อควรปฏิบัตเิ พม่ิ เติมสำหรับการตั้งค่ารหัสผา่ น เชน่ แต่ละบญั ชคี วรตง้ั คา่
รหสั ผา่ นทีแ่ ตกต่างกนั หากแอปพลิเคชันหรอื เวบ็ ไซต์ใดเปดิ ยนื ยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอนได้ ให้นกั เรยี น
เลือกเปดิ ใช้งานทันที หรือเปล่ียนรหัสผ่านทกุ 3 – 6 เดอื น ออกจากระบบทกุ ครงั้ หลังใชง้ าน ไม่ควรจด
รหสั ผ่านลงกระดาษ และสดุ ทา้ ยไมเ่ ปดิ เผยรหัสผ่านให้ผู้อ่ืนทราบ เพราะรหัสผ่านมีความสำคัญในการ
เข้าถงึ ข้อมลู ตา่ ง ๆ ดงั นนั้ เราควรมีวธิ ีการป้องกันขอ้ มลู และระบบคอมพวิ เตอร์ของเรา
ขัน้ สรุป
1. ครูชแ้ี จงใหน้ กั เรียนทำ ใบกิจกรรมที่ 9.1 รหัสจัดว่ายาก หนา้ 79 ในหนังสอื แบบฝึกทักษะเทคโนโลยี
2. นกั เรยี นทำ ใบกจิ กรรมที่ 9.1 รหสั จัดว่ายาก
โดยชแ้ี จงว่าให้นักเรยี นทำใบกจิ กรรมท่ี 9.1 รหสั จดั ว่ายาก คือ ใหน้ ักเรียนพิจารณารหสั ผา่ น
แลว้ ระบุวา่ รหัสผา่ นในแต่ละขอ้ มคี วามเดางา่ ย หรอื เดายาก โดยทำเคร่อื งหมายถกู ในช่องท่เี ปน็ คำตอบ
และใหเ้ วลาในการทำใบกิจกรรม ประมาณ 3 – 5 นาที และจะเฉลยพรอ้ มกัน
3. นักเรียนและครูช่วยกันเฉลยใบกจิ กรรมท่ี 9.1 พรอ้ มกนั โดยการสมุ่ ชื่อ สุม่ เลขที่ ให้ตอบพร้อมกัน และ
พิมพต์ อบในแชท Teams พรอ้ มอธิบายเพิม่ เตมิ ในบางขอ้ ว่า ทำไมถึงคิดวา่ เดาง่าย หรอื เดายาก
พรอ้ มถามถงึ ความคิดเห็นท่แี ตกต่างกนั ในแตล่ ะขอ้
4. ครูชแี้ จงใหน้ ักเรียนถา่ ยรูป ใบกิจกรรมที่ 9.1 รหัสจดั วา่ ยาก ส่งใน Assignment ภายในหนง่ึ วันทำการ
ก่อนเทีย่ งคนื
5. ครูชแ้ี จงกับนกั เรียนว่า นักเรยี นสามารถกลบั ไปศึกษาและทบทวนเน้อื หาเกย่ี วกับ มัลแวร์ และ
การกำหนดรหัสผ่าน จากเอกสารและวิดโี อเพ่มิ เตมิ สำหรับการเรียนในครง้ั นอ้ี ยู่ใน File คาบที่ 13
6. ครูติดตามงานค้าง และ นดั หมายสอบ(เพ่มิ เตมิ ) สำหรับนักเรียนทยี่ งั ไมไ่ ดส้ อบวดั ความรู้ เรือ่ ง
พรบ.คอมพวิ เตอร์ ในวนั ศกุ รท์ ี่ 10 กันยายน 2564 เวลา 15.30 น. ในหอ้ งเรียนเพมิ่ เตมิ วิชาเทคโนโลยี
7. ครูเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนคำถามหรอื ข้อสงสยั สำหรับเนอื้ หา
8. ครูแจง้ นกั เรียนถ้ามีปัญหาระหวา่ งการทำงานให้สอบถามใน Chat สว่ นตวั ของอาจารย์
6. การวดั และประเมนิ ผล
6.1 จุดประสงค์การเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ กี ารประเมิน เครอ่ื งมือการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ
ด้านความรู้(K) สังเกตจากการ แบบประเมนิ วดั ความรู้ 1 สามารถอธบิ ายลักษณะ
1. นักเรียนสามารถบอก ตอบคำถาม การทำงาน และ ความแตกต่าง
ลักษณะการทำงานของมัลแวร์
แต่ละชนิดได้ ของมัลแวรแ์ ตล่ ะชนดิ ได้
0 ไมส่ ามารถอธบิ ายลกั ษณะ
การทำงาน และ ความแตกต่าง
ของมลั แวร์แตล่ ะชนิดได้
2. นกั เรยี นสามารถยกตัวอยา่ ง 1 สามารถยกตวั อยา่ งแนวทาง
แนวทางป้องกันมลั แวร์ได้ ปอ้ งกนั มัลแวร์ได้
0 ไม่สามารถยกตวั อย่างแนวทาง
ป้องกนั มัลแวรไ์ ด้
ด้านทกั ษะ / กระบวนการ(P) ตรวจจากการ แบบประเมนิ ทกั ษะ 5 สามารถวิเคราะห์ความเหมาะสม
ทำใบงาน ของการตงั้ ค่ารหัสผ่านได้ถูกตอ้ ง
1. นักเรียนสามารถพจิ ารณา 9 – 10 ขอ้
ความเหมาะสมของการตง้ั ค่า 4 สามารถวิเคราะหค์ วามเหมาะสม
รหสั ผ่านได้และสง่ งานได้ ของการต้ังคา่ รหัสผา่ นไดถ้ กู ตอ้ ง
7 – 8 ข้อ
3 สามารถวิเคราะหค์ วามเหมาะสม
ของการต้ังค่ารหัสผ่านไดถ้ ูกต้อง
5 – 6 ขอ้
2 สามารถวิเคราะห์ความเหมาะสม
ของการตง้ั คา่ รหัสผ่านไดถ้ ูกต้อง
3 – 4 ขอ้
1 สามารถวิเคราะห์ความเหมาะสม
ของการตง้ั คา่ รหัสผา่ นได้ถกู ตอ้ ง
1 – 2 ขอ้
0 ไมส่ ามารถวิเคราะห์
ความเหมาะสมของการตง้ั คา่
รหัสผา่ นได้ถูกตอ้ ง
ด้านเจตคติ(A)
1. นักเรยี นปฏิบัตติ ามกฎกตกิ า สังเกตระหว่าง แบบประเมนิ วัด 1 สามารถปฏิบตั ติ ัวตามกฎกติกา
พฤติกรรม การสอบไดเ้ ปน็ อยา่ งดี ไมม่ ี
การสอบวดั ความรู้ ทำแบบทดสอบ พฤตกิ รรมส่อทจุ ริต
0 ไมส่ ามารถปฏิบตั ิตวั ตาม
2. นกั เรียนเหน็ ประโยชน์ของ สังเกตจากการ กฎกติกาการสอบได้ มพี ฤติกรรม
การตง้ั ค่ารหสั ผ่านให้ปลอดภยั ตอบคำถาม สอ่ ทุจรติ
1 สามารถบอกประโยชนข์ อง
การตัง้ คา่ รหสั ผ่านท่ีดีได้
0 ไม่สามารถบอกประโยชน์ของ
การตัง้ คา่ รหัสผา่ นที่ดีได้
6.2 สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน วธิ กี ารประเมิน เครอื่ งมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ
ความสามารถในการคิด สงั เกตจากการ แบบสังเกตพฤติกรรม 3 คะแนน คือ ดีเย่ยี ม
ตอบคำถาม 2 คะแนน คือ ดี
1 คะแนน คือ ผ่าน
0 คะแนน คอื ไม่ผา่ น
ความสามารถในการแกป้ ัญหา สงั เกตจากการ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 3 คะแนน คอื ดีเย่ยี ม
ตอบคำถาม 2 คะแนน คอื ดี
1 คะแนน คือ ผ่าน
0 คะแนน คือ ไม่ผา่ น
6.3 คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ วธิ ีการประเมิน เคร่อื งมือการประเมนิ
1. ใฝ่เรยี นใฝ่รู้ สงั เกตจาก แบบสังเกตพฤตกิ รรม 3 คะแนน คือ มคี วามตั้งใจเพียร
การทำกจิ กรรม พยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วม
ระหว่างเรียน กจิ กรรมดีเยีย่ ม
2 คะแนน คอื มคี วามตั้งใจเพียร
พยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ ม
2. มุ่งม่นั ในการทำงาน ตรวจจากการ แบบประเมิน กิจกรรมดี
ทำใบงาน พฤติกรรม 0 1 คะแนน คอื มีความตัง้ ใจเพยี ร
1 พยายามในการเรียนและเข้าร่วม
2 กิจกรรมพอใช้
3 0 คะแนน คือ ขาดความตัง้ ใจ
4 พยามยามในการเรยี น และเขา้ รว่ ม
5 กิจกรรม
3 คะแนน คือ มีความรบั ผิดชอบ
ในหน้าทีก่ ารงานดเี ย่ยี ม
2 คะแนน คือ มีความรับผิดชอบ
ในหนา้ ท่กี ารงานดี
6 1 คะแนน คอื มคี วามรบั ผิดชอบ
7 ในหน้าที่การงานดเี ยีย่ ม พอใช้
8 0 คะแนน คือ ขาดความรับผิดชอบ
ในหนา้ ที่การงาน
7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
1. เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
2. โปรแกรม Microsoft Teams
3. แบบทดสอบวัดความรู้ เร่ือง อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ น็ตและอนั ตรายจากการติดตัง้ ซอฟทแ์ วร์
บนอินเทอร์เนต็ (Google Froms)
4. PowerPoint เรื่อง มัลแวร์ และ การตัง้ คา่ รหสั ผา่ น
5. เอกสารเร่อื ง มัลแวร์ และ การต้งั ค่ารหัสผา่ น
6. ส่ือวดิ ีโอ เรยี นออนไลน์ยคุ โควดิ
7. สือ่ วดิ ีโอ มัลแวร์ คอื อะไร
8. เวบ็ ไซต์ มัลแวรค์ อื อะไร และ วธิ กี ารกำจัด
9. เว็บไซต์ ทำความร้จู กั กบั มลั แวรแ์ ละวธิ ีการปอ้ งกนั งา่ ย ๆ ดว้ ยตวั คุณเอง
10. เว็บไซต์ รหัสผ่านตง้ั ค่าอย่างไรให้ปลอดภยั
8. ภาคผนวก
1. เวบ็ ไซต์ Google https://www.google.co.th
2. แบบทดสอบวัดความรู้ เรอ่ื ง อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เนต็ และอนั ตรายจากการตดิ ตงั้ ซอฟทแ์ วร์
บนอินเทอร์เน็ต (Google Froms) https://forms.gle/efLqusNxZvKaffDXA
3. PowerPoint เร่อื ง มลั แวร์ และ การตงั้ คา่ รหัสผา่ น
https://satitkaset.sharepoint.com/:b:/s/63458/ESFW5u-
5FPBPmvxIOjroHPIBvVB5FyNIh47nB6fAy-a8AQ
4. เอกสารเร่ือง มัลแวร์ และ การตัง้ คา่ รหัสผา่ น
https://satitkaset.sharepoint.com/:b:/s/63458/EdkMy6zBUXRJlMduASzZ87EB8SqGbhF98HRIn
mhDb6yVOw
5. สอ่ื วิดโี อ เรยี นออนไลนย์ ุคโควิด https://hilight.kapook.com/video/28260
6. สอ่ื วิดีโอ มัลแวร์ คืออะไร https://youtu.be/zOhhs7vT_8Y
7. เวบ็ ไซต์ มลั แวร์คืออะไร และ วิธกี ารกำจัด https://www.bitdefender.co.th/post/malware/
8. เว็บไซต์เกย่ี วกับขา่ ว มัลแวรแ์ ละวิธกี ารปอ้ งกนั ง่าย ๆ ด้วยตวั คุณเอง https://www.it.chula.ac.th/ทำ
ความรู้จกั กบั มัลแวร์/
9. เวบ็ ไซต์ รหัสผา่ นตั้งคา่ อย่างไรใหป้ ลอดภยั https://www.it.chula.ac.th/รหัสผา่ น-password-ต้งั ค่าอยา่ ง/
บันทึกหลังการสอน ป.6 ปีการศึกษา 2564
สปั ดาหท์ ่ี 13 .ชอื่ เรอื่ ง มลั แวร์ และ การตัง้ ค่ารหัสผา่ น
ขน้ั นำเข้าส่บู ทเรยี น
จากการนำวดิ โอท่ีเป็นไวรลั มาใหน้ กั เรียนดทู ่ีมีเนื้อหาเกีย่ วกับนกั เรยี น ทำให้นกั เรยี นให้ความสนใจกับวดิ ีโอ
และรู้สกึ สนุกสนานไปกับวดิ ีโอ รวมถงึ ยังสามารถใหข้ ้อคดิ กบั นักเรยี นได้ และเชอื่ นโยงการเขา้ สู่การทำแบบทดสอบเกบ็
คะแนนเพ่มิ เตมิ
จากการชีแ้ จงกฎกติกาของการสอบเกบ็ คะแนนเปน็ ลำดับขั้นตอนอยา่ งดี ทำใหล้ ดการสอบถามข้อสงสยั ตา่ ง ๆ
ระหว่างการสอบไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ข้นั สอน
จากการสอนเรอ่ื งมลั แวร์ ผลตอบรบั นกั เรียนได้เพม่ิ เตมิ ความรใู้ หมจ่ ากความรู้เดิมมากข้นึ เข้าใจและเห็นภาพ
การทำงานของมัลแวร์แต่ละประเภท รวมถงึ ยงั ได้รับความรู้เกย่ี วกับแนวทางป้องกนั เบือ้ งต้นที่นกั เรยี นสามารถนำไป
ปรับใช้ในชวี ิตประจำวันได้
จากการสอนเรอื่ งการต้งั คา่ รหสั ผ่าน ผลตอบรับ นักเรยี นใหค้ วามสนใจเปน็ อยา่ งดี เพราะเปน็ เรื่องใกลต้ วั นกั เรยี น
และมีนกั เรียนจำนวนมากต้ังคา่ รหสั ผา่ นไม่เหมาะสม รวมถงึ มตี วั อยา่ งของการตง้ั ค่ารหัสผา่ นทปี่ ลอดภยั มีองค์ประกอบ
ครบถว้ น และหลีกเหลยี่ งการนำข้อมลู ต่าง ๆ ท่ไี มค่ วรมาตั้งเปน็ รหัสผา่ นมาสอนนักเรียน ทำใหน้ ักเรยี นมีความรู้และ
อยากกลบั ไปเปล่ยี นรหัสผา่ นของตนเองใหม่ รวมถึงยงั บอกแนวทางปฏบิ ตั ิเพมิ่ เติม เพอ่ื ใหข้ ้อมูลบัญชตี ่างของนกั เรียน
ปลอดภัย
ขน้ั สรุป
จากการให้นักเรียนทำใบกิจกรรมร่วมกนั ภายในหอ้ ง ทำใหน้ ักเรียนร้สู ึกสนุกสนาน และแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็
หรอื มมุ มองท่แี ตกต่างกันได้ สามารถเขา้ ใจไปปรับความรู้ให้ถกู ตอ้ งได้ทนั ที และยังเปน็ การลดการบ้านให้กับนกั เรียน
การประเมินผลในสปั ดาห์นี้
ข้อดี
1. การมสี อื่ ประกอบทหี่ ลากหลายรปู แบบ จะช่วยพฒั นาความสนใจของผู้เรยี นได้มากขึน้ ทำใหน้ กั เรียนร้สู ึก
ไม่นา่ เบื่อในการเรยี นการสอน
2. การทำใบงานร่วมกนั ภายในหอ้ งเรยี น ช่วยใหด้ ทู ักษะการคดิ วิเคราะห์ของนกั เรียนได้เปน็ อย่างดี และยัง
ชว่ ยให้คำแนะนำ หรือความรู้เพ่ิมเติมให้กับนกั เรียนได้
3. การสอนโดยการมตี วั อย่างใหน้ กั เรียนดู หรอื สอบถามความคดิ เหน็ ของนกั เรยี นระหว่างการสอน ทำให้
นกั เรียนเขา้ ใจเน้ือหาทเ่ี รยี นได้ดีมากข้ึน
ขอ้ ควรปรับปรุงและขอ้ เสนอแนะ
1. สำหรับการทำใบงานภายในห้อง กย็ ังไมส่ ามารถทีจ่ ะดงึ ดูดความสนใจของผ้เู รียนบางคนได้ ยงั มีนักเรียน
บางคนท่ไี มแ่ สดงความคิดเห็น หรอื ในทำใบงานไปพรอ้ มกัน
2. จากเรื่องเน้อื หามลั แวร์ อาจเปน็ เร่อื งทไี่ หลตัวนกั เรยี น ทำใหน้ ักเรียนบางคนยังไม่สามารถแสดงความคดิ เห็น
ร่วมกนั ได้
การจัดกแาผรเนรียนรู้ที่ 4
แผนการจัดการเรียนรู้ 15 - 16
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (เทคโนโลยี) วชิ า เทคโนโลยี 6
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 จำนวน 2 คาบ (100นาท)ี
ผูส้ อน นางสาวชุตมิ ณฑน์ ห่นุ นอก
เร่ือง โครงการประกวดสร้างงานนำเสนอ หัวข้อ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานรว่ มกนั อยา่ งปลอดภัย
ด้วยเว็บไซต์ Canva
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด
1.1 สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชวี ติ จริงอย่างเป็นข้ันตอน
และเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมี
ประสิทธภิ าพ ร้เู ท่าทนั และมจี รยิ ธรรม
1.2 ตัวชีว้ ัด
ว 4.2 ป.6/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลอยา่ งมีประสิทธิภาพ
ว 4.2 ป.6/4 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานรว่ มกนั อยา่ งปลอดภัย เขา้ ใจสทิ ธขิ องผอู้ ่ืน
แจง้ ผู้เกี่ยวขอ้ งเมื่อพบข้อมลู หรอื บคุ คลทไ่ี ม่เหมาะสม
ว 4.2 ป.6/5 การใช้งานโปรแกรมสำเร็จรปู (เพิม่ เติม สธ.มก.)
2. สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/สาระสำคัญ
2.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- การคน้ หาอย่างมีประสิทธิภาพ เปน็ การคน้ หาข้อมูลท่ีไดต้ รงตามความตอ้ งการในเวลาท่ี
รวดเรว็ จากแหล่งขอ้ มลู ท่ีน่าเช่ือถอื หลายแหล่ง และข้อมลู มคี วามสอดคล้องกนั
- การใช้เทคนิคการคน้ หาข้ันสูง เชน่ การใช้ ตวั ดำเนนิ การ การระบุรปู แบบของขอ้ มูล หรือ
ชนิดของไฟล์
- อนั ตรายจากการใช้งานและอาชญากรรม ทางอนิ เทอรเ์ น็ต แนวทางในการป้องกัน
- วิธกี ำหนดรหัสผ่าน
- การกำหนดสทิ ธกิ์ ารใช้งาน (สทิ ธ์ใิ นการเข้าถึง) การสำรองขอ้ มูล
- แนวทางการตรวจสอบและปอ้ งกนั มัลแวร์
- อันตรายจากการตดิ ตั้งซอฟตแ์ วร์ทอี่ ยบู่ นอนิ เทอร์เนต็
- การสร้างงานนำเสนอดว้ ยเวบ็ ไซต์ Canva
2.2 สาระสำคัญ
โครงการประกวดสรา้ งงานนำเสนอ หัวขอ้ การใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทำงานรว่ มกนั อยา่ งปลอดภัย
ดว้ ยเว็บไซต์ Canva เปน็ การทำงานนำเสนอด้วยเวบ็ ไซต์ Canva บนหัวขอ้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกนั อย่าง
ปลอดภัย เปน็ เนอื้ หาของรายวิชาเทคโนโลยชี นั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โดยนักเรยี นแต่ละห้องจะไดร้ ับหวั ข้อของการทำงาน
นำเสนอทแ่ี ตกต่างกนั ไป โดยเนอ้ื หาสาระเป็นเนอ้ื หาที่ได้เรยี นจากภาคปลายของเทอมตน้ เพื่อใหน้ กั เรยี นไดม้ ที ักษะ
การทำงานนำเสนอ และ การใช้เวบ็ ไซต์ Canva มากข้นึ รวมไปถงึ นกั เรยี นได้ศกึ ษาค้นหาความรเู้ พม่ิ เติมในหวั ข้อท่ี
ไดร้ ับ เพ่อื ทบทวนเนอื้ หาความรู้กอ่ นสอบปลายภาค และสามารถนำทักษะการใชเ้ วบ็ ไซต์ Canva และ เนื้อหาต่าง ๆ
ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวันได้
3. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น/คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
3.1 สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
3.2 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนใฝร่ ู้
2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
3. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้ (K)
1. นกั เรยี นสามารถสรปุ เน้ือหาตามหวั ข้อทก่ี ำหนดมาใสใ่ นงานนำเสนอได้
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
1. นกั เรยี นสามารถสรา้ งงานนำเสนอ ดว้ ยเว็บไซต์ Canva ได้
2. นักเรียนสามารถค้นหาข้อมูลเพ่มิ เติมจากเว็บไซต์ Google ได้
เจตคติ (A)
1. นกั เรียนเห็นความสำคัญของการอา้ งองิ แหล่งทม่ี าของขอ้ มูล
5. กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ นำ
1. ครตู ดิ ตามงานคา้ งทกุ ใบงาน และ สอบถามถึงปัญหาของการส่งงาน การทำงานของนกั เรยี น
2. ครูตงั้ คำถามกับนักเรียนวา่
- นกั เรียนเคยใช้เวบ็ ไซต์ Canva ในการทำงานอะไรมาแล้วบ้าง นอกจากงานทนี่ ักเรยี นเคยทำ
เช่น อินโฟกราฟกิ และ โปสเตอร์
- นกั เรยี นรู้หรอื ไมว่ า่ เว็บไซต์ Canva สามารถออกแบบ หรือ ทำงานอะไรได้บ้าง
- มนี ักเรยี นคนไหนท่ีชอบ PowerPoint เวลาสอนของอาจารย์บ้าง เพราะอะไร
3. นักเรยี นชว่ ยกันตอบคำถามแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นรว่ มกัน โดยการเปดิ ไมค์ตอบ หรือ พิมพ์ตอบ
ในแชท Teams
4. ครูเกริ่นนำเขา้ สโู่ ครงการประกวดสร้างงานนำเสนอหวั ขอ้ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำงานรว่ มกนั
อย่างปลอดภยั ดว้ ยเว็บไซต์ Canva
โดยอธบิ ายว่า โครงการน้ีจัดทำข้นึ เพือ่ รวมทกั ษะ และ เน้อื หาของการเรยี นปลายภาคของเทอมตน้
มารวมกัน คือ การใช้เวบ็ ไซต์ Canva ในการสร้างงานนำเสนอบนหัวขอ้ การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
ทำงานร่วมกันอยา่ งปลอดภยั เพอื่ พัฒนาทกั ษะการสร้างงานนำเสนอ ด้วยเวบ็ ไซต์ Canva ทักษะการ
คน้ หาขอ้ มูล การอ่านและสรปุ สาระสำคัญ รวมไปถงึ นกั เรียนสามารถนำความร้ทู ่ีเรียนมาประยกุ ต์ใช้
ในชีวติ ประจำวนั ได้อยา่ งมีคุณธรรมจรยิ ธรรม
5. ครูช้แี จงกับนักเรียนว่าไฟล์เอกสาร เนื้อหา รายละเอยี ดโครงการรวมไปถงึ ตวั อย่างตา่ ง ๆ ทอี่ าจารย์
สอนในคาบนอี้ ยู่ในไฟลค์ าบที่ 15 ท้งั หมด โดยนกั เรียนสามารถไปศึกษาเพม่ิ เตมิ นอกเวลาเรียนได้
โดยอธบิ ายว่า ในไฟลค์ าบท่ี 15 มีวิดีโอสอนเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกับเคร่อื งมือการทำงานนำเสนอดว้ ย
เวบ็ ไซต์ Canva , PowerPoint เนอ้ื หาสาระตามหวั ข้อทนี่ ักเรยี นได้ โดยจะเปน็ เนื้อหาสาระที่อาจารย์
เคยนำมาสอนนกั เรียน และ มแี หลง่ อ้างองิ ให้อยู่ทา้ ยหนา้ สดุ ทา้ ยของ Powerpoint , ตัวอยา่ งงาน
นำเสนอทจ่ี ะสอนในคาบนี้ , ลิงก์สำหรบั เว็บไซตท์ ีแ่ นะนำเพม่ิ เตมิ รวมไปถงึ รายละเอยี ดของโครงการ
คือ หวั ข้อของนักเรยี นทไี่ ด้รับ องค์ประกอบของงานนำเสนอ และ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลงาน
ขนั้ สอน
1. ครูใหน้ ักเรียนดูตวั อย่างงานนำเสนอในหวั ข้อ เรอ่ื งลขิ สทิ ธิ์ และ ใหน้ ักเรยี นสังเกตวา่ มอี งคป์ ระกอบใด
ในงานนำเสนอบา้ ง
2. นักเรียนดูงานนำเสนอตัวอย่างในหวั ขอ้ เรอ่ื งลขิ สิทธ์ิ
https://www.canva.com/design/DAEqeD0bJWQ/7wKsJ1HXUhikLCkFVmoWBw/view?utm_con
tent=DAEqeD0bJWQ&utm_campaign=designshare&utm_medium=link&utm_source=publish
present
3. ครสู อบถามกับนกั เรยี นว่า
- จากทดี่ ตู วั อยา่ งงานนำเสนอแล้วนกั เรียนเห็นองค์ประกอบอะไรบา้ งในงานนำเสนอ
4. นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามในเรื่องขององค์ประกอบในงานนำเสนอ โดยการเปดิ ไมคต์ อบ หรือ พมิ พต์ อบ
ในแชท Teams
5. ครชู แี้ จงหัวขอ้ ทีน่ กั เรยี นแต่ละห้องไดร้ ับ
โดยอธิบายว่า ตัวอยา่ งเช่น นักเรยี นห้องป. 6/5 ไดเ้ รือ่ งรหสั ผา่ น โดยหวั ข้อย่อยของเร่อื งรหสั ผา่ น
คือ ความสำคัญของรหสั ผ่าน , วิธกี ารต้งั คา่ รหสั ผา่ น , สิ่งทไ่ี มค่ วรนำมาเป็นรหสั ผ่าน และ แนวทาง
ปอ้ งกันรหัสผ่าน
6. ครูชี้แจงองคป์ ระกอบของงานนำเสนอ
โดยอธบิ ายว่า องคป์ ระกอบของงานนำเสนอ คือ
- หน้าแรกมีชือ่ หัวข้อ และ ช่ือ – นามสกลุ ชัน้ และเลขท่ีของตนเอง
- หนา้ ตอ่ ไป เน้ือหาตามหัวขอ้ ทีก่ ำหนด
- หน้าหนา้ แหล่งอา้ งองิ โดยจะมี 2 แหล่งอา้ งอิง คอื แหลง่ อ้างอิงแรกมาจาก PowerPoint
ท่อี ยู่ในไฟลค์ าบท่ี 15 โดยอาจารย์แนบแหลง่ อ้างอิงไว้หนา้ สุดทา้ ยของ Powerpoint และ
อีกแหล่งทีม่ า คือ ใหน้ ักเรยี นไปค้นหาขอ้ มลู เพ่ิมเตมิ ใน Google จากเวบ็ ไซต์อ่นื เพอื่ เป็นการ
เพิม่ เติมเนอื้ หาจากที่อาจารยก์ ำหนดให้ พร้อมนำ URL ของเวบ็ ไซตน์ ัน้ มาอา้ งองิ โดยทัง้ หมด
กจ็ ะรวมเป็น 2 แหล่งอ้างองิ
- หนา้ สดุ ท้าย คือ หน้าของการบอกว่างานนำเสนอนเี้ ป็นส่วนหนึ่งของรายวชิ าเทคโนโลยี เพื่อเปน็
การช้ีแจงบอกวา่ เรานำเนอ้ื หามาทำเพ่ือการศกึ ษา โดยกำหนดช่อื อาจารย์ผู้สอนเอาไว้
ทงั้ หมดนี้ คือ องค์ประกอบหลกั ๆ ทีน่ ักเรียนตอ้ งใส่
7. ครูชี้แจงเกณฑก์ ารประเมินผลงาน (15 คะแนน)
โดยอธิบายว่า เกณฑ์การประเมินของงานนำเสนอ คือ คะแนนเตม็ 15 คะแนน โดยแบง่ การให้
คะแนนออกเปน็ ดังนี้
- 2 คะแนน มาจาก องคป์ ระกอบของหน้าแรกครบ
- 2 คะแนน มาจาก หนา้ แหล่งอา้ งองิ ครบ 2 แหล่งอ้างองิ
- 1 คะแนน มาจาก หน้าสุดทา้ ยทีเ่ ขียนวา่ งานนำเสนอนีเ้ ป็นส่วนหนึง่ ของรายวชิ า และ
เพื่อการศึกษา รวมไปถึงชอ่ื ของอาจารย์ผูส้ อน
- 2 คะแนน มาจาก เนือ้ หาครบตามหัวข้อที่กำหนด
- 2 คะแนน มาจาก เน้อื หาถกู ตอ้ ง และ ตรงประเด็นตามหวั ขอ้ ท่ีกำหนด
- 2 คะแนน มาจาก การออกแบบสวยงามและสร้างสรรค์ แปลกใหม่
- 1 คะแนน มาจาก รูปภาพประกอบเหมาะสมกบั หัวข้อทก่ี ำหนด
- 3 คะแนน มาจาก การใสล่ กู เลน่ ได้เหมาะสม เช่น การใส่เพลง ใส่เอฟเฟกต์ตัวหนงั สือ ใสก่ รอบ
ใหร้ ูปภาพ และ การทำเคลือ่ นไหวต่าง ๆ ในงานนำเสนอ
รวมทงั้ หมดเปน็ 15 คะแนน โดยจะทำการค้นหาผู้ชนะของแต่ละห้องเป็น 3 ลำดบั แรก และ
มีของรางวลั ให้ รวมถึงผลงานของผชู้ นะจะไดไ้ ปรวมอยู่ในไฟลท์ ีจ่ ะให้นกั เรยี นสามารถนำไปอา่ นกอ่ นสอบ
ปลายภาคได้
8. ครสู อบถามนกั เรยี นว่า
- นกั เรียนมีขอ้ สงสัยเกี่ยวกบั องค์ประกอบของงานนำเสนอและเกณฑ์การประเมินหรือไม่
9. นักเรยี นพูดคยุ และสอบถามถึงข้อสงสยั เกี่ยวกบั งานนำเสนอ โดยการเปดิ ไมค์ตอบ หรือ พมิ พ์ตอบ
ในแชท Teams
10. ครอู ธิบายรูปแบบของการทำงานนำเสนอในเว็บไซต์ Canva
โดยอธบิ ายว่าการสร้างงานนำเสนอในเว็บไซต์ Canva ตอ้ งเลอื กรูปแบบ presentation
หรือ งานนำเสนอ
11. ครอู ธบิ ายหน้าการออกแบบงานนำเสนอคร่าว ๆ และ ชแ้ี จงให้นักเรยี นตงั้ ชอ่ื ไฟลง์ าน คอื
งานนำเสนอ-ชือ่ -ชัน้ -เลขท่ี เชน่ งานนำเสนอ-ชุติมณฑน-์ 605-41 พรอ้ มสาธติ การตงั้ ช่ือไฟล์งาน
โดยอธบิ ายว่า การออกแบบงานนำเสนอจะมีเครอื่ งมือท่เี หมือนกันกบั การออกแบบอินโฟกราฟิก
โปสเตอร์ หรอื รูปแบบตา่ ง ๆ แต่หนา้ การออกแบบจะมขี นาดที่แตกตา่ งกันไป และ บอกให้นักเรียนตั้งชือ่
ไฟลง์ านตามทีก่ ำหนด
12. ครสู อบถามถงึ ความรเู้ ดิมของนักเรียนว่า
- ถา้ ตอ้ งการเปลย่ี นพืน้ หลังโดยใช้แม่แบบ หรือ เปลยี่ นสขี องพนื้ หลังต้องไปท่ีเคร่อื งมอื ใด
13. นักเรยี นช่วยกนั ตอบคำถามวา่ หากตอ้ งการเปลยี่ นพ้นื หลงั โดยใชแ้ มแ่ บบ ให้ไปท่เี ครื่องมอื แม่แบบ และ
หากตอ้ งการเปลี่ยนสพี ้ืนหลงั ใหก้ ดที่พื้นหลัง และกดท่สี ี เพ่อื เลือกการเปล่ียนสขี องพื้นหลงั ตามทีช่ อบ
โดยการเปดิ ไมค์ตอบ หรือ พมิ พต์ อบในแชท Teams
14. ครูอธิบายและสาธติ วิธีการเปลย่ี นพ้ืนหลังโดยใชแ้ ม่แบบ และ เปลีย่ นสขี องพื้นหลัง
โดยอธบิ ายว่า หากนักเรยี นต้องการใชแ้ มแ่ บบใหไ้ ปทเ่ี ครื่องมือแมแ่ บบ และ เลอื กแมแ่ บบตาม
ที่ชอบโดยเลอื กทีเ่ ปน็ รูปแบบฟรี สว่ นหากตอ้ งการเปลี่ยนสีพ้ืนหลัง ให้กดทพี่ นื้ หลัง จากน้ันไปที่สี จะมีสี
ทั้งสมี าตรฐาน และ สีท่สี ามารถกำหนดเองไดต้ ามความเขม้ ความอ่อนท่ีต้องการ
15. ครสู อบถามถึงความรู้เดมิ ของนักเรียนวา่
- ถา้ ตอ้ งการเพ่ิมกลอ่ งข้อความต้องไปทเ่ี ครอ่ื งมอื ใด
16. นักเรียนชว่ ยกนั ตอบคำถามวา่ หากต้องการเพ่มิ กลอ่ งข้อความให้ไปท่ีเครือ่ งมอื ข้อความ โดยการเปดิ
ไมค์ตอบ หรือ พมิ พ์ตอบในแชท Teams
17. ครูอธบิ ายและสาธติ วิธีการเพิ่มกล่องขอ้ ความ และ วธิ ีการแกไ้ ขคำในกลอ่ งขอ้ ความ
โดยอธิบายว่า วิธีการเพมิ่ กล่องข้อความ ใหไ้ ปทเ่ี คร่อื งมอื ขอ้ ความ จากน้นั เลอื กกลอ่ งขอ้ ความ
ตามที่ตอ้ งการ และ สามารถแก้ไขคำในกลอ่ งข้อความได้
18. ครอู ธิบายและสาธิตเพม่ิ เตมิ วธิ คี ้นหารูปแบบฟอนต์ภาษาไทย
โดยอธิบายว่า หากตอ้ งการคน้ หาฟอนต์ภาษาไทยใหม่ ๆ ให้ไปกดที่กล่องข้อความ จากนนั้ ไปท่ี
เปล่ยี น font จากนนั้ พมิ พค์ ำคน้ หาวา่ ฟอนต์อกั ษรภาษาไทย และ เลือกฟอนต์ภาษาไทยตามท่ชี อบ
19. ครูอธบิ ายและสาธิตเพิม่ เตมิ วิธีการใสเ่ อฟเฟกตต์ ัวหนงั สอื
โดยอธบิ ายว่า หากตอ้ งการใส่เอฟเฟกตต์ ัวหนงั สือ ใหก้ ดทค่ี ำท่ีต้องการใส่เอฟเฟกต์ จากน้นั ไปท่ี
เคร่อื งมือเอฟเฟกต์ และ สามารถเลอื กเอฟเฟกต์ไดต้ ามท่ีชอบ โดยยกตัวอยา่ ง รปู แบบเงา และ ยงั สามารถ
เปล่ียนสขี องเงาได้ โดยกดทีส่ ี และ สามารถเปล่ยี นได้ รวมไปถึงการทำตวั หนงั สือให้เปน็ แบบโคง้ และ
สามารถปรบั ความโค้งไดจ้ ากแถบด้านล่างตามความเหมาะสม
20. ครสู อบถามถึงความรู้เดิมของนักเรียนวา่
- ถ้าตอ้ งการค้นหาองค์ประกอบทจ่ี ะนำมาใชใ้ นงานนำเสนอตอ้ งไปท่ีเคร่อื งมือใด
21. นกั เรยี นช่วยกันตอบคำถามว่า หากต้องการค้นหาองค์ประกอบตา่ ง ๆ ทจ่ี ะนำมาใชใ้ ห้ไปที่เครอื่ งมือ
องค์ประกอบ โดยการเปดิ ไมคต์ อบ หรอื พิมพต์ อบในแชท Teams
22. ครูอธิบายและสาธิตวิธีการคน้ หาองค์ประกอบ 4 รูปแบบ โดยสลบั สุ่มถามนักเรยี นเปน็ บางเครอ่ื งมือ
เพ่อื ทบทวนความร้เู ดมิ
- การค้นหารูปภาพเรขาคณติ
โดยอธิบายว่า หากตอ้ งการค้นหาองค์ประกอบรปู ภาพเรขาคณติ ใหไ้ ปทีเ่ คร่อื งมอื องคป์ ระกอบ
และ กดดทู ้งั หมดท่เี ส้นและรปู รา่ ง จากนนั้ สามารถเลือกรปู ทรงเรขาคณิตได้ตามทีต่ ้องการ และ ยังสามารถ
ปรับไซส์ สี องศา และตำแหน่งของรปู ภาพได้ตามความตอ้ งการ
- การคน้ หารูปภาพหรือกราฟิก (ภาพนง่ิ ) จากการพิมพ์ค้นหา
โดยอธิบายว่า หากตอ้ งการคน้ หารปู ภาพ หรอื กราฟกิ (ภาพนง่ิ ) จากการพิมพ์ค้นหา ให้กดไปที่
เครอ่ื งมือองคป์ ระกอบ จากนัน้ กดแถบด้านบน เพ่อื พมิ พค์ ำค้นหาสามารถพมิ พไ์ ดท้ ง้ั คำภาษาไทย และ
ภาษาอังกฤษ สามารถเลือกรูปภาพจากทั้งหมด หรอื กำหนดเปน็ กราฟกิ อยา่ งเดียว ภาพกราฟกิ น้นั
สามารถนำมาใช้ และ ปรบั ขนาด องศา ตำแหนง่ ไดต้ ามความต้องการ
- การค้นหารูปภาพกราฟิกเคลอื่ นไหว
โดยอธิบายว่า หากต้องการคน้ หารูปภาพกราฟิกเคลื่อนไหว ให้กดไปทเ่ี ครือ่ งมอื องค์ประกอบ
จากน้ันกดแถบด้านบน เพอ่ื พิมพ์คำค้นหาสามารถพิมพ์ไดท้ ั้งคำภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ สามารถเลอื ก
รปู ภาพจากท้ังหมด หรือ กำหนดเปน็ กราฟกิ อยา่ งเดียว ภาพกราฟกิ นัน้ สามารถนำมาใช้ และ ปรับขนาด
องศา ตำแหนง่ ได้ตามความตอ้ งการ
- การค้นหาภาพเส้นเคลอ่ื นไหว
โดยอธบิ ายว่า หากตอ้ งการคน้ หาเส้นทีส่ ามารถเคลอ่ื นไหวได้ ใหไ้ ปที่เครือ่ งมอื องค์ประกอบ
และ กดดทู ั้งหมดที่เสน้ และรูปร่าง เลอื กประเภทเปน็ กราฟกิ จากนั้นสามารถเลือกใช้เสน้ ทีเ่ คลอ่ื นไหวได้
โดยเส้นทเี่ คล่ือนไหวได้นนั้ สามารถ ปรบั ขนาด องศา และ ตำแหนง่ ได้ตามต้องการ
23. ครตู ั้งคำถามนักเรียนวา่
- มีนกั เรียนคนไหนรู้บา้ งว่าหากตอ้ งการเพ่มิ เพลงในงานนำเสนอตอ้ งไปที่เคร่ืองมอื ใด หรือ
มีใครรวู้ ิธกี ารใสเ่ พลงในงานนำเสนอบ้าง
24. นกั เรยี นช่วยกันตอบคำถามแลกเปลีย่ นความรรู้ ่วมกัน โดยการเปดิ ไมค์ตอบหรือพมิ พ์ตอบในแชท Teams
25. ครูอธบิ ายและสาธติ วิธกี ารใสเ่ พลงในงานนำเสนอ
โดยอธิบายว่า วิธกี ารใส่เพลงในงานนำเสนอ ให้ไปทีเ่ คร่ืองมือเพม่ิ เติม จากนน้ั กดเลอื กทีเ่ ครอ่ื งมือ
เสียงแลว้ จะปรากฏเสยี งใหเ้ ลอื กใช้ตามความต้องการ หากต้องการเพลงใดมาใชใ้ นงานนำเสนอ ใหก้ ดที่
เพลงนน้ั และ เพลงจะเข้ามาอยใู่ นงานนำเสนอ โดยเวลาจะใส่เพลงในงานนำเสนอ ควรใสเ่ พลงท่หี น้าแรก
ของงานนำเสนอ และ ถ้าหากอยากเพ่มิ – ลดเสยี ง ใหไ้ ปท่รี ปู ลำโพงด้านหลงั ของเสียง และ หากตอ้ งการ
ลบเสียงออกจากงานนำเสนอใหไ้ ปที่เครื่องมอื ทางถังขยะที่อยดู่ า้ นหลงั เสยี ง
26. ครูอธิบายและสาธติ วิธกี ารใสก่ ารเคล่ือนไหวในงานนำเสนอ โดยมี 2 รูปแบบ
- การใส่เคล่ือนไหวเหมอื นกันท้งั หมดในหน้าเดียวกนั
โดยอธิบายว่า หากต้องการใสเ่ คลือ่ นไหวลงในงานนำเสนอมี 2 รปู แบบ คือ 1.รปู แบบใช้การ
เคลอ่ื นไหวเหมอื นกนั ทง้ั หมดในหนา้ เดยี วกนั ให้กดที่ว่างในหน้างานนำเสนอ จากนัน้ กดทีเ่ ครอื่ งมอื เคลอ่ื นไหว
และสามารถเลือกรูปแบบการเคลอื่ นไหวไดต้ ามทตี่ ้องการ
- การใสเ่ คลื่อนไหวแตล่ ะองค์ประกอบแตกต่างกนั ไป
โดยอธิบายว่า หากต้องการใสเ่ คลื่อนไหวแต่ละองคป์ ระกอบ ใหไ้ ปกดทอ่ี งคป์ ระกอบทีต่ อ้ งการ
ใส่เคลื่อนไหว จากนัน้ กดท่เี ครอ่ื งมอื เคล่อื นไหว และ สามารถเลือกการเคลือ่ นไหวไดต้ ามท่ีต้องการ
โดยสามารถกำหนดได้กับทกุ องคป์ ระกอบในหนา้ งานนำเสนอ
27. ครูอธิบายวิธกี ารกดดูนำเสนอ พร้อมกบั ตง้ั คำถามกบั นักเรียนหลงั จากสาธิตวิธกี ารนำเสนอวา่
- นกั เรยี นรู้หรอื ไม่วา่ วธิ กี ารออกจากการนำเสนอแบบเต็มหน้าจอ ทำไดอ้ ย่างไรบ้าง
(มรี ูปแบบเหมือนกบั PowerPoint)
28. นกั เรียนช่วยกันตอบคำถามแสดงความคดิ เห็นร่วมกนั ในเรอ่ื งการนำเสนอ โดยการเปิดไมค์ตอบ หรอื
พมิ พ์ตอบในแชท Teams
โดยอธิบายว่า หากตอ้ งการดูการนำเสนองานทงั้ หมดของตนเองกอ่ นท่ีจะสง่ อาจารย์ สามารถดไู ด้
โดยใหไ้ ปกดทเ่ี ครอื่ งมือนำเสนอ จากนน้ั กดคำวา่ นำเสนอ และ จะเข้าสู่โหมดนำเสนองาน โดยใหเ้ รากดที่
คยี ์บอร์ดลกู ศรไปทางขวาเร่อื ย ๆ จนหมดหนา้ งานนำเสนอ และ สามารถออกจากหนา้ นำเสนองานได้ 2 วธิ ี
คอื กดทป่ี มุ่ esc บนคียบ์ อร์ด หรอื ขยบั เมาส์ เพือ่ ให้ข้นึ แถบด้านล่างโดยกดที่เครือ่ งมือท้ายสดุ ของแถบ
ทีเ่ ขียนว่า ออกจากโหมดเต็มหนา้ จอ จะสามารถออกจากการนำเสนองานได้
29. ครูอธิบายและสาธิตวิธกี ารนำลงิ ก์งานนำเสนอมาสง่ โดยมี 2 รูปแบบ
โดยอธบิ ายว่า วิธีการนำลงิ ก์งานนำเสนอมาสง่ อาจารยม์ ี 2 รูปแบบ 1.กดไปที่เครอื่ งมอื นำเสนอ
จากนั้นกดทค่ี ำวา่ ลอกลงิ ก์ พอกดแล้ว ใหน้ ำลิงกไ์ ปวางใน Assignment