แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ม.2

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 18

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 การแกป้ ญั หาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 18 สรปุ ผลการดาเนินงาน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พือ่ การดารงชีวติ ในสังคมทมี่ กี ารเปลี่ยนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ นื่ ๆ เพอื่ แก้ปญั หา
หรือพัฒนางาน อยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยี
อย่างเหมาะสม โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
สรุปผลการดาเนนิ งาน คอื การสรุปให้ผอู้ ่ืนเข้าใจเกย่ี วกับข้ันตอนการแกป้ ัญหาตั้งแต่การระบปุ ญั หา จนถงึ

การได้ชนิ้ งาน หรอื วิธกี ารในการแกป้ ญั หา รวมทัง้ อปุ สรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ระหวา่ งการทางาน

3. ตัวชีว้ ัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
ตวั ชีว้ ัด
ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมินผล และอธิบายปัญหาหรอื ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ภายใต้กรอบ
เงอ่ื นไข พรอ้ มทัง้ หาแนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข และนาเสนอผลการแก้ปัญหา
จุดประสงค์
1. สรปุ ผลการดาเนนิ งานทีส่ อดคลอ้ งกบั ปญั หาที่ระบุไวไ้ ด้ (K)
2. เขียนโครงงานโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมได้ (P)
3. เหน็ การใช้ประโยชนข์ องกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมในการแก้ปัญหา (A)

4. สาระการเรยี นรู้
1. การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชนิ้ งาน หรอื วิธีการว่าสามารถแกป้ ญั หาไดต้ ามวัตถุประสงค์
ภายใต้กรอบของปัญหา เพ่ือหาขอ้ บกพร่อง และดาเนนิ การปรับปรุงให้สามารถแกไ้ ขปัญหาได้
2. การนาเสนอผลงานเปน็ การถา่ ยทอดแนวคิดเพ่อื ให้ผู้อนื่ เข้าใจเกย่ี วกับกระบวนการทางานและช้นิ งาน
หรอื วิธีการทไ่ี ดซ้ ่งึ สามารถทาไดห้ ลายวธิ ีเชน่ การเขยี นรายงานการทาแผ่นนาเสนอผลงาน การจดั
นิทรรศการ

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. สรุปข้อมลู ตามแบบฟอร์มโครงงาน

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. วิธีการสอนแบบสรา้ งสรรคเ์ ป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทักษะการเรยี นรูแ้ ละนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)

ช่ัวโมงที่ 1

ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน

1. ผูส้ อนเปิด คลิปวิดโี อ โครงการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพือ่ แก้ปัญหาในชุมชนอย่างย่ังยืน เพอ่ื กระตนุ้
ความสนใจของผู้เรยี น จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=b64Jcqb7NKw

ขั้นสอน

2. ผสู้ อนอธบิ ายว่า การสรปุ ผลการดาเนนิ งาน เป็นการสรุปผลตามวัตถุประสงคข์ องการประเมนิ
ความสาเร็จของการดาเนินงานท้งั ดา้ นประสิทธผิ ลและประสิทธิภาพ ปญั หาอุปสรรค ขอ้ เสนอแนะ
ทไี่ ดจ้ ากการดาเนนิ งาน เพ่อื ท่ีจะนาไปขยายผลต่อไป โดยกาหนดหัวขอ้ ในการสรุปผล เช่น
1. ปญั หา

2. วิธแี ก้ปัญหา
3. ผลการทดสอบ
4. การปรับปรุงแกไ้ ข
3. ผูส้ อนแจกแบบฟอรม์ โครงงาน พรอ้ มอธิบายวิธีการทา คอื ให้ผูเ้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ นาขอ้ มลู ท่ไี ด้จาก
การแกป้ ญั หาในชมุ ชนโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมาใสใ่ นแบบฟอรม์ โครงงาน
4. ผูส้ อนใหเ้ วลาผู้เรียนแต่ละกลมุ่ ในการสรปุ ผลการดาเนินงาน และนาข้อมูลใส่ในแบบฟอร์มโครงงาน
โดยท่ผี ู้สอนคอยดูแลความเรียบร้อยและคอยให้คาแนะนาเพิ่มเตมิ
5. ผสู้ อนอธิบายเพ่มิ เตมิ วา่ การสรปุ ผลทไ่ี ดจากการดาเนินงาน คือการแสดงใหเ้ หน็ ความสาเร็จเชงิ
คุณภาพท่ีเกิดขนึ้ เม่อื เปรียบเทยี บกับเปา้ หมายท่ไี ดก้ าหนดไว้
ปญั หาและอปุ สรรค เป็นการอธิบายความยุ่งยากในการดาเนนิ งานวา่ มคี วามยุ่งยากอยา่ งไร เช่น
การตดั สินใจแก้ปญั หา การควบคุมปจั จยั ที่เก่ยี วข้องวา่ มีความยุ่งยากประการใด อธบิ าย วิเคราะห์
ปญั หาอปุ สรรคของการดาเนนิ งานท่ีเกิดขน้ึ ระบถุ งึ สาเหตุของปญั หาวา่ เกิดจากสาเหตใุ ด มปี จั จัยอะไร
มาเกย่ี วขอ้ งบา้ ง และอธบิ ายปัญหาอุปสรรคอะไรทีท่ าใหก้ ารดาเนินงานไมเ่ ป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ท้งั
ในระหวา่ งการดาเนนิ งาน และหลงั จากส้ินสุดการดาเนนิ งานแลว้
ขอ้ เสนอแนะ เป็นการอธบิ ายว่ามีขอ้ เสนอแนะเพอ่ื การแก้ไขอยา่ งไร เพ่ือไมใ่ หป้ ัญหาเกดิ ข้นึ อีก
และมขี ้อเสนอแนะเพือ่ พฒั นาชิ้นงานหรือวธิ ีการอย่างไร

ชว่ั โมงท่ี 2

ขนั้ สอน (ต่อ)

1. ผู้สอนให้ผู้เรียนนาข้อมูลใส่ในแบบฟอรม์ โครงงานใหเ้ รยี บรอ้ ย โดยที่ผ้สู อนคอยดแู ลความเรียบรอ้ ย
และคอยให้คาแนะนาเพ่ิมเติม

2. ผู้สอนอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ แบบฟอรม์ โครงงาน เป็นการนาข้อมลู ทเ่ี กี่ยวกบั ข้ันตอนการแก้ปญั หาใน
ชมุ ชนโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมท้ังหมด ตงั้ แต่การกาหนดปญั หา รวบรวมข้อมลู
ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา ลงมือสร้างชนิ้ งาน ผลการทดสอบ แนวทางการปรบั ปรงุ แก้ไข รวมทงั้
ปัญหาอุปสรรคตา่ งๆ ทีเ่ กดิ ขึน้ ระหว่างการทางาน

3. ผู้สอนให้ผู้เรียนแตล่ ะกล่มุ ศึกษาตัวอย่างโครงงานอ่นื ๆ เพือ่ เปน็ แนวทางในการเขยี นโครงงาน
จากลิงค์ https://ppi.psu.ac.th/project/set/396/list

ข้นั สรุป

4. ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ ว่า การสรปุ ผลการดาเนนิ งาน เป็นการสรุปผลตามวตั ถปุ ระสงค์ของ
การประเมินความสาเรจ็ ของการดาเนนิ งานทงั้ ด้านประสิทธิผลและประสทิ ธิภาพ ปญั หาอปุ สรรค
ข้อเสนอแนะ ท่ไี ดจ้ ากการดาเนินงาน เพื่อทีจ่ ะนาไปขยายผลต่อไป

5. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้ผ้เู รยี นสอบถามเพ่ิมเติม

9. สือ่ การเรยี นรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=b64Jcqb7NKw
2. https://ppi.psu.ac.th/project/set/396/list
3. แบบฟอร์มโครงงาน

0

10. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ ผลงาน
ตรวจการสรุปขอ้ มลู ตาม คุณภาพอยู่ในระดบั ดี
แบบฟอร์มโครงงาน แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ พฤตกิ รรมกลมุ่ คุณภาพอยู่ในระดับ ดี
จากการสรุปขอ้ มูลตาม ผา่ นเกณฑ์
แบบฟอรม์ โครงงาน

แบบบันทึกหลงั แผนการสอน ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
จานวน 6 ช่วั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 การแกป้ ญั หาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เวลาเรยี น 2 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 18 สรปุ ผลการดาเนนิ งาน

ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………….…………….ผสู้ อน
(…………………………………)

ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เห็นของผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………….ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
(…………………..…………………………)
ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………

แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 19

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ชวั่ โมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 การแก้ปญั หาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
เวลาเรยี น 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 19 นาเสนอผลงาน

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่อื การดารงชีวติ ในสังคมทม่ี ีการเปลี่ยนแปลง

อย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ น่ื ๆ เพอ่ื แกป้ ัญหา
หรือพฒั นางาน อย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และส่ิงแวดล้อม

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การนาเสนอผลงาน คือ การนาข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการทาโครงงานทัง้ หมดมานาเสนอให้ผอู้ ื่นเขา้ ใจเกี่ยวกบั

ข้ันตอนการแกป้ ญั หาตั้งแต่การระบุปญั หา จนถงึ การได้ช้นิ งานหรือวิธกี ารในการแก้ปญั หา รวมท้งั อปุ สรรคต่างๆ
ท่เี กดิ ข้นึ ระหวา่ งการทางาน

3. ตวั ชว้ี ัด/จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ตัวชว้ี ัด
ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธิบายปัญหาหรือข้อบกพรอ่ งทเ่ี กิดขน้ึ ภายใตก้ รอบ
เงื่อนไข พรอ้ มทง้ั หาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการแกป้ ญั หา
จดุ ประสงค์
1. อธบิ ายไดว้ า่ การนาเสนอคืออะไร (K)
2. นาเสนอผลงานโดยใช้วธิ ีการทีเ่ หมาะสมได้ (P)
3. เหน็ การใช้ประโยชน์ของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมในการแก้ปัญหา (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. การทดสอบและประเมนิ ผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงาน หรือวิธีการวา่ สามารถแก้ปญั หาได้ตามวัตถปุ ระสงค์
ภายใตก้ รอบของปญั หา เพ่อื หาข้อบกพร่อง และดาเนนิ การปรับปรงุ ใหส้ ามารถแก้ไขปัญหาได้
2. การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคดิ เพื่อใหผ้ อู้ ่ืนเข้าใจเกยี่ วกับกระบวนการทางานและช้นิ งาน
หรือวธิ กี ารท่ไี ด้ซง่ึ สามารถทาได้หลายวธิ เี ช่น การเขียนรายงานการทาแผน่ นาเสนอผลงาน การจดั
นทิ รรศการ

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. นาเสนอโครงงานการแกป้ ญั หาในชุมชนโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม

8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. วธิ ีการสอนแบบสร้างสรรค์เปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทักษะการเรียนรแู้ ละนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)

ช่ัวโมงท่ี 1

ขั้นนาเขา้ ส่บู ทเรยี น

1. ผู้สอนเปดิ คลิปวิดโี อ เปิดการนาเสนอใหป้ ระทับใจ ไม่ควรพูดคาน!้ี เพ่ือกระตุ้นความสนใจของ
ผู้เรียน จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=BJNZjBy7OoM

2. ผู้สอนเปิด คลปิ วดิ โี อ รวมเทคนคิ การนาเสนอ พดู พรเี ซนตย์ ังไงให้นา่ ฟัง เพ่อื กระตุน้ ความสนใจ
ของผเู้ รียน จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=s2FQQOmwslU

ขัน้ สอน

3. ผสู้ อนอธิบายวา่ รูปแบบในการนาเสนอสามารถทาได้หลายรูปแบบ เชน่ โปสเตอร์ การบรรยาย
ประกอบสือ่ การทาอินโฟกราฟิกทงั้ ในรูปแบบภาพน่งิ และภาพเคลอื่ นไหว

4. ผู้สอนให้ผ้เู รยี นนาเสนอโครงงานการแก้ปญั หาในชุมชนโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft PowerPoint โดยมีจานวน Slide ไมเ่ กนิ 15 Slide และเวลาในการ
นาเสนอไมเ่ กนิ 15 นาที

5. ผสู้ อนให้เวลาผู้เรียนแตล่ ะกลมุ่ ในการออกแบบงานนาเสนอ โดยทผี่ ู้สอนคอยดคู วามเรียบรอ้ ยและ
คอยใหค้ าแนะนาเพม่ิ เตมิ

ชัว่ โมงที่ 2

ขั้นสอน (ตอ่ )

1. ผสู้ อนอธิบายเพม่ิ เติมว่า การนาเสนอ ควรนาเสนอดว้ ยภาษาที่เข้าใจงา่ ย ลาดบั เร่ืองราวอยา่ งเป็น
ขัน้ ตอน เน้นประเดน็ ท่ีสาคัญของเนือ้ หา มีการถามตอบเพอื่ กระตุน้ ความสนใจ และเปดิ โอกาสให้
ผู้ฟงั ใหข้ อ้ เสนอแนะตา่ งๆ เพือ่ นาข้อมลู เหล่านน้ั ไปใช้ในการพัฒนาปรบั ปรงุ งานใหด้ ีขน้ึ

2. ผู้สอนให้ผู้เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอ โดยให้ผ้เู รยี นกล่มุ อ่ืนๆรว่ มกันเสนอแนะ แสดงความ
คดิ เห็น

3. ผสู้ อนอธบิ ายเพิม่ เติมว่า ขน้ั ตอนสุดท้ายของกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม คือ ขั้นที่ 6
นาเสนอวิธีการแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ญั หาหรือช้ินงาน (Presentation) เป็นการนาขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ าก
การทาโครงงานทัง้ หมดมานาเสนอการดาเนนิ งานให้ผ้อู น่ื เขา้ ใจเก่ยี วกับขัน้ ตอนการแก้ปัญหาต้ังแต่
การระบปุ ญั หา จนถึงการได้ช้นิ งานหรอื วิธกี ารในการแกป้ ญั หา รวมทง้ั อุปสรรคตา่ งๆ ทีเ่ กิดขนึ้
ระหว่างการทางาน

ข้ันสรปุ

4. ผู้สอนและผ้เู รียนร่วมกนั สรปุ ว่า กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เป็นเคร่ืองมือชว่ ยในการพัฒนา
ชน้ิ งานหรือวิธีการ อย่างเป็นข้นั ตอน ซง่ึ เปน็ การตอ่ ยอดความรู้ทีม่ อี ยูเ่ ดมิ ให้ขยายไปจนเกดิ มมุ มอง

ใหมๆ่ ในการแก้ปญั หาน้ันๆ ได้อยา่ งครอบคลมุ และถกู ต้องจนนาไปสกู่ ารพฒั นาผลิตภัณฑห์ รอื
วธิ กี ารทีม่ ีประสิทธิภาพ
5. ผูส้ อนเปิดโอกาสให้ผู้เรยี นสอบถามเพิ่มเตมิ

9. สอ่ื การเรียนรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=BJNZjBy7OoM
2. https://www.youtube.com/watch?v=s2FQQOmwslU
3. นาเสนอโครงงานการแกป้ ัญหาในชมุ ชนโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม

0

10. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์
ตรวจงานนาเสนอ แบบประเมนิ ผลงาน
คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี
ประเมินพฤติกรรมกล่มุ แบบประเมนิ พฤติกรรมกล่มุ ผ่านเกณฑ์
จากการนาเสนอ
คณุ ภาพอยใู่ นระดับ ดี
ผ่านเกณฑ์

แบบบนั ทึกหลังแผนการสอน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
จานวน 6 ชว่ั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 การแก้ปัญหาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 19 นาเสนอผลงาน

ผลการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………….…………….ผ้สู อน
(…………………………………)

ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เห็นของผ้บู ริหารสถานศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………….ผบู้ ริหารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………