The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ม.2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by MeaNatt Niam, 2022-03-29 04:42:46

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ม.2

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 11

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 4 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เทคโนโลยีกบั ความตอ้ งการของคนในชมุ ชน
เวลาเรยี น 2 ชัว่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 11 การวเิ คราะห์ปัญหา โดยการใชค้ าถาม 5W1H

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พื่อการดารงชีวิตในสังคมทม่ี กี ารเปลี่ยนแปลง

อยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพ่ือแก้ปัญหา
หรอื พฒั นางาน อยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยี
อยา่ งเหมาสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
หลกั การ 4 ส คอื สารวจ สอบถาม สืบคน้ สงั เคราะห์ เป็นวิธีการเพื่อให้ไดม้ าซง่ึ ข้อมลู เพื่อนาไปสู่การ

วเิ คราะห์ปญั หา โดยการใชค้ าถาม 5W1H ช่วยใหร้ ะบปุ ัญหาเพอื่ นาไปสู่การแก้ปัญหาได้ตรงจดุ สามารถรวบรวม
รายละเอยี ดของปัญหาได้ตรงประเด็น

3. ตัวช้วี ัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตวั ช้ีวัด
ว 4.1 ม.2/2 ระบุปญั หาหรอื ความตอ้ งการในชุมชนหรือท้องถ่นิ สรปุ กรอบของปัญหา รวบรวม
วเิ คราะหข์ อ้ มลู และแนวคิดทเ่ี กย่ี วข้องกับปญั หา
จุดประสงค์
1. อธิบายได้ว่าหลักการ 4 ส คอื อะไร (K)
2. ใชค้ าถาม 5W1H เพื่อบอกขอบเขตของปญั หาได้ (P)
3. เห็นประโยชน์ของการใชค้ าถาม 5W1H (A)

4. สาระการเรยี นรู้
1. ปญั หาหรือความตอ้ งการในชุมชนหรอื ท้องถิน่ มหี ลายอยา่ งขึ้นกับบรบิ ทหรือสถานการณท์ ี่ประสบ เชน่
ดา้ นพลงั งาน สิง่ แวดล้อมการเกษตร การอาหาร
2. การระบุปญั หาจาเปน็ ต้องมกี ารวิเคราะหส์ ถานการณ์ของปญั หาเพอื่ สรุปกรอบของปัญหาแลว้ ดาเนนิ การ
สบื คน้ รวบรวมขอ้ มูล ความรู้ จากศาสตร์ตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง เพ่ือนาไปสู่การออกแบบแนวทางการ
แกป้ ัญหา

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. กิจกรรม 4 ส
2. ใบงานท่ี 4.1 5W1H

8. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
1. วิธีการสอนแบบสร้างสรรคเ์ ปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทักษะการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)

ชัว่ โมงท่ี 1

ขัน้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. ผสู้ อนเปิด คลิปวิดีโอ จากขยะไรค้ ่า สนู่ วตั กรรมเพ่ือการพัฒนาชุมชนอยา่ งยงั่ ยนื เพอ่ื เปน็ การ
กระตนุ้ ความสนใจของผเู้ รยี น จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=wBSwr7AOdQs

2. ผู้สอนถามผเู้ รียนเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกดิ การเรยี นรู้ เช่น “นักเรียนเคยสงั เกตหรอื ไมว่ ่าชุมชนรอบๆ
โรงเรียนของเรา มีปัญหาอะไรท่ีตอ้ งการการแก้ไขบ้าง?"
แนวคาตอบ :
ปญั หาการบริหารจดั การขยะพลาสตกิ
ปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม และการบริหารจดั การความเส่ียงจากภัยพิบตั ิ
ปญั หาการดูแลรกั ษาสุขภาพของผู้สูงอายุ

ขัน้ สอน

3. ผู้สอนอธิบายวา่ การที่จะร้ปู ัญหาท่ีแท้จริงของชมุ ชน จาเป็นตอ้ งใช้หลกั การ 4 ส คอื
สารวจ เดินสารวจข้อมลู เชิงปริมาณ สงั เกตสภาพชุมชนและบริบท วาแผนที่ชมุ ชน
สอบถาม สอบถามขอ้ มูลเชิงคุณภาพ สัมภาษณ์บุคคลสาคญั
สืบค้น สบื ค้นข้อมูลสารสนเทศท่ีเกี่ยวขอ้ งจากแหล่งข้อมูลต่างๆ
สงั เคราะห์ วิเคราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมูล ตีความขอ้ มลู เพื่อหาสาเหตขุ องปญั หา

4. ผสู้ อนแบง่ กลมุ่ ผู้เรียนกลุม่ ละ 5 คนเพื่อทากจิ กรรม 4 ส พรอ้ มอธบิ ายวิธกี ารทากจิ กรรมคอื ให้

ผ้เู รียนเขา้ สารวจชมุ ชนรอบๆโรงเรยี น โดยใช้เครือ่ งมือศึกษาชุมชนเบือ้ งต้น ได้แก่ การสงั เกต การ

สัมภาษณ์ หรอื สอบถาม ก่อนจะกลับมาสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่มิ เติม วิเคราะห์และสงั เคราะห์ปัญหาและ

วธิ กี ารแก้ไข

5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรยี นในการปรกึ ษา การเลอื กใช้ เคร่ืองมอื ศึกษาชมุ ชนเบื้องตน้ โดยท่ผี ู้สอนคอยดูแล

ความเรยี บรอ้ ยและคอยใหค้ าแนะนาเพ่ิมเตมิ

6. ผู้สอนอธบิ ายเพิ่มเติมว่า ในการสารวจ ผ้เู รยี นอาจจะสรา้ งตารางเพือ่ เก็บขอ้ มลู โดยการเติมขอ้ ความ

ตา่ ง ๆ ลงในตาราง ไมจ่ าเปน็ ต้องสอดคล้องต่อเนื่องกัน ใหเ้ ตมิ ในลกั ษณะการระดมสมองกอ่ น แล้ว

ค่อยมาพจิ ารณาในภายหลงั ว่า ส่ิงทพี่ บเปน็ ปัญหาหรือปัญญา ตรงกับความตอ้ งการของชุมชนหรือไม่

กอ่ นจะตดั สินใจเลอื กปญั หา เพือ่ เปน็ ฐานในการเรยี นรจู้ ากการแก้ปญั หาต่อไป

สารวจด้านต่างๆ ปญั หา ความต้องการ กาหนดหวั เร่ืองท่ี
จะพฒั นา
เศรษฐกจิ
สงั คม
ส่งิ แวดลอ้ ม
วัฒนธรรม

ตัวอย่างตาราง เพ่อื ใช้เป็นเครอ่ื งมือในการสารวจ

7. ผสู้ อนอธบิ ายเพ่ิมเตมิ อกี ว่า เม่อื ได้ข้อมูลจากการสารวจแลว้ นามาวิเคราะห์ และรว่ มกันกาหนด
ปัญหาแลว้ ควรลงพ้ืนทอี่ กี ครัง้ เพอ่ื เข้าไปสอบถาม สัมภาษณ์ บุคคลท่ีเกย่ี วข้อง เพ่อื ให้ไดข้ อ้ มูล
มากขนึ้ และเม่ือเจอปัญหา และมีขอ้ มูลมากเพยี งพอแล้ว ให้สืบคน้ วา่ ที่ผา่ นมามีใครสามารถ
แก้ปญั หาดังกลา่ วน้ันได้หรือไม่ อยา่ งไร สบื คน้ องคค์ วามร้เู พ่ือนามาแกป้ ัญหานั้น เพอ่ื นามาสงั เคราะห์
โดยการนาขอ้ มลู ทีไ่ ดจ้ ากการสารวจ สอบถาม และสืบคน้ มาวเิ คราะหห์ าวธิ กี ารแกป้ ญั หา

ชว่ั โมงที่ 2

ขัน้ สอน (ตอ่ )

1. ผู้สอนแจกใบงานที่ 4.1 5W1H พร้อมอธิบายวธิ กี ารทาใบงาน คอื ให้ผเู้ รียนแตล่ ะกลุ่มนาขอ้ มูลที่
ไดท้ ้งั หมด มาวิเคราะห์โดยใช้คาถาม 5W1H

2. ผสู้ อนอธบิ ายเพ่มิ เติมว่าการใช้คาถาม 5W1H จะช่วยให้เขา้ ใจปัญหาอย่างเปน็ ข้ันตอน การระบุและ
อธิบายความสาคญั ของสถานการณ์ท่ีเป็นปญั หาในมุมมองของตนเองและผอู้ ื่น การสรา้ งความคิดท่ี
เหมาะสมตอ่ ปญั หา เป็นการการระบปุ ญั หาท่ีชดั เจนเปน็ พน้ื ฐานในการกาหนดวัตถุประสงคเ์ พื่อ
แกไ้ ขปัญหาใหส้ อดคล้องกบั สภาพปญั หาทแ่ี ท้จรงิ ประกอบดว้ ย

3. ผสู้ อนใหเ้ วลาผู้เรียนในการทาใบงาน โดยที่ผู้สอนคอยดแู ลความเรียบร้อยและคอยให้คาแนะนา
เพ่ิมเตมิ

4. ผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นแต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอใบงาน โดยท่ใี ห้ผู้เรยี นกล่มุ อนื่ ๆ ร่วมแสดงความคิดเหน็
และข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ

5. ผู้สอนอธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า ในกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม ขน้ั ตอนท่ี 1 คอื ขนั้ ตอนระบุ
ปญั หา (Problem Identification) ซ่งึ การใชค้ าถาม 5W1H จะช่วยให้ระบปุ ญั หาเพ่ือนาไปสูก่ าร
แกป้ ัญหาไดต้ รงจดุ สามารถรวบรวมรายละเอยี ดของปัญหาได้ตรงประเดน็ เป็นเทคนิคหนึ่งที่
สามารถนามาใชใ้ นการวิเคราะห์สถานการณป์ ญั หาและช่วยให้ไดข้ อ้ มูลทนี่ าไปสกู่ ารกาหนดกรอบ
ของปัญหา

ขัน้ สรปุ

6. ผ้สู อนและผ้เู รยี นรว่ มกนั สรุปวา่ การท่จี ะรู้ปญั หาที่แท้จริงของชุมชน จาเป็นต้องใช้หลักการ 4 ส
คือ สารวจ สอบถาม สบื ค้น สังเคราะห์ เป็นวิธีการเพื่อใหไ้ ด้มาซ่ึงข้อมลู เพอ่ื นาไปสูก่ ารวิเคราะห์
ปัญหา โดยการใช้คาถาม 5W1H ช่วยใหร้ ะบปุ ัญหาเพือ่ นาไปสกู่ ารแก้ปญั หาไดต้ รงจดุ สามารถ
รวบรวมรายละเอียดของปัญหาไดต้ รงประเด็น

7. ผสู้ อนเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนสอบถามเพ่ิมเติม

9. สอ่ื การเรียนรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=wBSwr7AOdQs
2. กิจกรรม 4 ส

3. ใบงานที่ 4.1 5W1H

0

10. การวัดและประเมนิ ผล

วิธีการ เครอื่ งมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 4.1 5W1H แบบประเมินผลงาน
คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี
ประเมินพฤตกิ รรมกลุม่ แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
จากการทากจิ กรรม 4 ส
คณุ ภาพอยู่ในระดบั ดี
ผ่านเกณฑ์

แบบบนั ทกึ หลงั แผนการสอน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
จานวน 4 ช่วั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เทคโนโลยกี ับความตอ้ งการของคนในชมุ ชน เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 11 การวิเคราะหป์ ญั หา โดยการใชค้ าถาม 5W1H

ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………….…………….ผู้สอน
(…………………………………)

ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เหน็ ของผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………….ผ้บู ริหารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………



แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 12

กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 4 ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เทคโนโลยกี ับความต้องการของคนในชุมชน
เวลาเรียน 2 ช่วั โมง
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 12 วิธกี ารรวบรวมข้อมูลเพอื่ แกป้ ัญหา

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่อื การดารงชีวิตในสงั คมทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลง

อยา่ งรวดเรว็ ใช้ความร้แู ละทักษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อนื่ ๆ เพ่อื แก้ปญั หา
หรอื พัฒนางาน อย่างมคี วามคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยี
อย่างเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สังคม และสิ่งแวดล้อม

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การรวบรวมขอ้ มูลทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ปญั หา เป็นการมุ่งหาแนวทางหรอื วิธีการที่จะนามาใชใ้ นการแก้ปัญหา

อยา่ งเหมาะสม ข้อมลู ท่ตี อ้ งสบื คน้ อาจมาจากหลายศาสตร์ และมวี ิธีการสืบคน้ ข้อมูลหลายวธิ ี และควรสืบคน้ จาก
แหลง่ ขอ้ มลู ทนี่ ่าเช่ือถอื และต้องมกี ารอา้ งอิงแหล่งที่มาของข้อมลู น้ันด้วย

3. ตวั ชว้ี ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้
ตัวชี้วัด
ว 4.1 ม.2/2 ระบปุ ัญหาหรอื ความตอ้ งการในชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ สรปุ กรอบของปัญหา รวบรวม
วเิ คราะห์ขอ้ มลู และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหา
จุดประสงค์
1. อธบิ ายไดว้ ่าการรวบรวมขอ้ มลู ท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ปัญหาคอื อะไร (K)
2. รวบรวมขอ้ มูลท่เี กีย่ วข้องกบั ปญั หาเพ่อื หาแนวทางการแก้ปัญหา (P)
3. เหน็ ความสาคญั ของการรวบรวมขอ้ มลู ทเี่ ก่ยี วข้องกบั ปัญหา (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. ปญั หาหรือความต้องการในชุมชนหรอื ทอ้ งถนิ่ มหี ลายอยา่ งขึน้ กับบริบทหรอื สถานการณ์ท่ีประสบ เช่น
ด้านพลงั งาน สิง่ แวดลอ้ มการเกษตร การอาหาร
2. การระบปุ ัญหาจาเปน็ ต้องมีการวเิ คราะหส์ ถานการณ์ของปญั หาเพอ่ื สรปุ กรอบของปัญหาแลว้ ดาเนนิ การ
สบื คน้ รวบรวมข้อมูล ความรู้ จากศาสตรต์ า่ ง ๆ ท่เี กี่ยวข้อง เพือ่ นาไปสกู่ ารออกแบบแนวทางการ
แกป้ ัญหา

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. ม่งุ มัน่ ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. ใบงานที่ 4.2 รวบรวมข้อมลู

8. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. วธิ กี ารสอนแบบสร้างสรรคเ์ ป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทกั ษะการเรียนรู้และนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)

ช่วั โมงท่ี 1

ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรยี น

1. ผูส้ อนเปิด คลปิ วิดีโอ COMPOSIVE "วธิ ีทาฝนหลวง" เพ่อื เป็นการกระตนุ้ ความสนใจของผู้เรียน
จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=Jm9-wonWGsI

2. ผ้สู อนอธิบายเพิ่มเติมวา่ การทาฝนเทยี มเพ่อื แก้ปัญหาภัยแล้ง จาเปน็ จะต้องนาความรู้จากหลายๆ
ศาสตร์มาใช้รว่ มกัน เช่น ในข้ันตอนของการทาให้เกิดกอ้ นเมฆ เพ่อื นาไปสกู่ ารเกิดฝน จะตอ้ งใช้
ความรู้ทางเคมี ในการนาเกลอื โซเดยี มคลอไรดม์ าโปรยในอากาศ เพื่อให้เกลือดูดซับไอน้า จากน้นั จงึ
กล่นั ตวั เปน็ เม็ดนา้ แลว้ รวมกนั จนเกิดเปน็ ก้อนเมฆ และต้องใช้ความรูด้ น้ อุตนุ ิยมวิทยาเพ่ือตรวจสอบ
วา่ ทศิ ทางลมและสภาพของอากาศแบบใดทีเ่ หมาะสมในการทาใหเ้ กิดเมฆได้ง่ายทสี่ ุด

ข้ันสอน

3. ผู้สอนอธิบายว่า การรวบรวมขอ้ มลู เพ่ือหาแนวทางการแกป้ ัญหา จาเป็นต้องใช้ความร้จู าก
หลากหลายศาสตร์ เพ่อื ใหไ้ ดข้ อ้ มูลเพียงพอต่อการแก้ปัญหา เมื่อไดก้ รอบของปญั หาทตี่ ้องการจะ
แกไ้ ขแลว้ จากนั้นต้องทาการรวบรวมข้อมูลหรือแนวคดิ ท่ีเกย่ี วข้องเพื่อหาแนวทางในการแกป้ ญั หาให้
เหมาสะมที่สุด กอ่ นรวบรวมขอ้ มูล ตอ้ งมกี ารกาหนดประเด็นในการรวบรวมขอ้ มลู กอ่ น วา่ ตอ้ งการจะ
สืบคน้ เรื่องใดบ้าง เพือ่ ประหยดั เวลาและช่วยให้การสบื คน้ ข้อมูลง่ายยิง่ ข้นึ

4. ผสู้ อนแจกใบงานที่ 4.2 รวบรวมข้อมลู พร้อมอธบิ ายวธิ กี ารทาใบงาน คอื จากทไี่ ดร้ ะบกุ รอบปญั หา
โดยใช้คาถาม 5W1H แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ดาเนนิ การรวบรวมข้อมลู ทีเ่ กย่ี วข้องเพอ่ื นามาใชใ้ นการ
แกป้ ัญหา

5. ผู้สอนใหเ้ วลาผู้เรียนในการทาใบงาน โดยท่ีผูส้ อนคอยดแู ลความเรยี บร้อย และคอยให้คาแนะนา
เพ่มิ เตมิ

6. ผสู้ อนอธบิ ายเพิม่ เตมิ ว่า การสืบค้นขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ น็ตตอ้ งเลอื กแหล่งข้อมุลที่นา่ เช่อื ถือ และหาก
นาขอ้ มลู มาจากเอกสาร บทความ บคุ คล สถานท่ี หรอื ส่ิงพิมพ์ตา่ งๆ ตอ้ งมีการอ้างองิ แหลง่ ทีม่ าของ
ข้อมูลใหถ้ กู ต้องและชดั เจน

ชัว่ โมงท่ี 2

ขน้ั สอน (ต่อ)

1. ผู้สอนใหเ้ วลาผู้เรยี นในการทาใบงานเพอื่ รวบรวมข้อมูล
2. ผู้สอนอธิบายเพ่ิมเตมิ ว่า การรวบรวมข้อมูลสามารถทาได้หลายวิธี เช่น สบื ค้นจากแหลง่ ข้อมลู ที่

น่าเชอื่ ถือในอนิ เทอรเ์ น็ต สารวจจากสถานท่ีจรงิ การทดลองทางวทิ ยาศาสตร์ สอบถามจาก
ผูเ้ ชย่ี วชาญ สืบค้นจากเอกสาร บทความ งานวิจยั เพื่อนาขอ้ มูลเหลา่ นั้นมาพฒั นา ต่อยอด หรือ
ประยุกต์ให้สามารถแก้ปญั หาตามทีก่ าหนดไว้
3. ผสู้ อนใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาเสนอใบงาน โดยทใ่ี หผ้ ู้เรียนกลุ่มอ่นื ๆ เสนอแนะ แสดงความคดิ เห็น
4. ผูส้ อนอธบิ ายเพ่มิ เติมว่า การสบื ค้นจากแหลง่ ข้อมูลที่นา่ เช่ือถอหลายแหลง่ ใชค้ วามรู้จากหลาย
ศาสตร์ และวิธีการแกป้ ัญหาทไ่ี ดก้ ม็ หี ลายวิธี ดังน้ัน ในการพจิ ารณาเลอื กข้อมูลที่จะนามาสรปุ เป็น
แนวทางในการแกป้ ัญหา จงึ ไมไ่ ด้จากัดวา่ จะตอ้ งมีเพยี งวธิ ีเดยี ว ในปัญหาสถานการณ์เดียวกนั อาจ
มวี ธิ ีการแกป้ ญั หาท่ีหลากหลายก็ได้

ข้นั สรปุ

5. ผ้สู อนและผู้เรยี นร่วมกันสรปุ ว่า ในปัญหาสถานการณเ์ ดียวกนั อาจมีวธิ กี ารแกป้ ัญหาทีห่ ลากหลาย
การรวบรวมขอ้ มูลทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั ปัญหา เปน็ การมุ่งหาแนวทางหรอื วธิ ีการท่ีจะนามาใชใ้ นการ
แกป้ ญั หาอย่างเหมาะสม ข้อมูลที่ต้องสืบค้นอาจมาจากหลายศาสตร์ และมวี ิธีการสบื ค้นขอ้ มลู หลาย
วิธี และควรสืบค้นจากแหล่งขอ้ มลู ท่ีน่าเชอื่ ถือ และต้องมีการอ้างองิ แหลง่ ทมี่ าของขอ้ มูลนนั้ ด้

6. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นสอบถามเพิ่มเตมิ

9. สื่อการเรยี นรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=Jm9-wonWGsI

2. ใบงานท่ี 4.2 รวบรวมข้อมลู

0

10. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ กี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบประเมินผลงาน
ตรวจใบงานที่ 4.2 รวบรวม คุณภาพอยู่ในระดับ ดี
ขอ้ มลู แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่ม ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ พฤติกรรมกลุ่ม คุณภาพอยใู่ นระดับ ดี
จากการทาใบงานท่ี 4.2 ผา่ นเกณฑ์
รวบรวมขอ้ มลู

แบบบันทึกหลงั แผนการสอน ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2
จานวน 4 ช่ัวโมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เทคโนโลยีกบั ความต้องการของคนในชมุ ชน เวลาเรยี น 2 ช่วั โมง
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 12 วิธกี ารรวบรวมขอ้ มูลเพื่อแกป้ ัญหา

ผลการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………….…………….ผสู้ อน
(…………………………………)

ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………………….ผู้บริหารสถานศกึ ษา
(…………………..…………………………)
ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………



แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 13

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 8 ชวั่ โมง
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 5 การแกป้ ัญหาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13 วิเคราะห์แนวทางการแก้ปญั หา

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดารงชีวติ ในสังคมทีม่ ีการเปลยี่ นแปลง

อยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่นื ๆ เพอ่ื แก้ปญั หา
หรอื พัฒนางาน อย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยี
อย่างเหมาะสม โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสิง่ แวดลอ้ ม

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การวิเคราะหแ์ นวทางการแก้ปญั หาโดยพจิ ารณาจากเง่อื นไขและทรัพยากรทางเทคโนโลยีรว่ มด้วย จะช่วย

ใหไ้ ดแ้ นวทางการแกป้ ญั หาทเี่ ปน็ ไปได้และเหมาะสมท่สี ุดกบั สภานการณ์ของปัญหานนั้ ซงึ่ ทรพั ยากรทาง
เทคโนโลยี (technology resource) เป็นส่งิ ทีต่ ้องคานึงถึงในการแกป้ ัญหา ซ่งึ ประกอบด้วย 7 ดา้ น ได้แก่ คน
ขอ้ มูลสารสนเทศ วัสดุ เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ พลังงาน ทนุ เวลา

3. ตวั ชี้วัด/จุดประสงค์การเรียนรู้
ตวั ชว้ี ัด
ว 4.1 ม.2/2 ออกแบบวธิ ีการแก้ปญั หา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มูลท่ี
จาเปน็ ภายใตเ้ งื่อนไขและทรพั ยากรทีม่ อี ยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ ูอ้ ืน่ เขา้ ใจ วางแผน
ขน้ั ตอนการทางานและดาเนินการแก้ปญั หาอยา่ งเป็นขั้นตอน
จดุ ประสงค์
1. วเิ คราะห์แนวทางการแก้ปัญหาโดยพิจารณาจากเงือ่ นไขและทรพั ยากรทางเทคโนโลยี (K)
2. พิจารณาเงอ่ื นไขและทรพั ยากรทางเทคโนโลยีเพอื่ ให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาทเี่ ป็นไปได้ (P)
3. เหน็ ความสาคัญของของการการวิเคราะห์แนวทางการแก้ปญั หา (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. การวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จาเป็น โดยคานงึ ถงึ เงอื่ นไขและทรัพยากร เช่น
งบประมาณ เวลา ข้อมูล และสารสนเทศ วัสดุ เคร่อื งมอื และอุปกรณ์ ช่วยให้ได้แนวทางการแกป้ ัญหาท่ี
เหมาะสม

2. การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาทาไดห้ ลากหลายวิธี เช่น การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ
การเขียนผังงาน

3. การกาหนดขั้นตอนระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการ แก้ปญั หาจะชว่ ยให้การทางานสาเรจ็ ได้ตาม
เปา้ หมาย และลดขอ้ ผดิ พลาดของการทางานทอ่ี าจเกิดข้นึ

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. ใบงานที่ 5.1 การวิเคราะห์และเลือกแนวทางการแกป้ ัญหา

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. วิธกี ารสอนแบบสรา้ งสรรค์เปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทกั ษะการเรยี นรู้และนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)

ช่วั โมงท่ี 1

ข้ันนาเข้าสูบ่ ทเรยี น

1. ผ้สู อนถามผู้เรียนเพอื่ เป็นการกระต้นุ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ เช่น “เม่ือนกั เรียนไดว้ ธิ ีการแกป้ ัญหา ซ่ึง
อาจจะมหี ลายวธิ ีแลว้ นักเรียนมวี ิธกี ารอย่างไรในการเลือกวิธีการแก้ปัญหาทด่ี ีท่ีสดุ ?"

ขนั้ สอน

2. ผูส้ อนแจกใบความร้ทู ี่ 6 ทรัพยากรทางเทคโนโลยี พร้อมอธิบายวา่
ทรัพยาการทางเทคโนโลยี (technology resource) เปน็ สิง่ ที่ตอ้ งคานงึ ถงึ ในการแกป้ ัญหา

ซึ่งประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่
1. คน (People)
คนเปน็ ปจั จัยที่สาคญั อยา่ งยง่ิ เพราะเป็นผ้ทู ี่ใชส้ ติปญั ญา ความรู้ ทักษะ และความสามารถในการ

คิดแก้ปัญหา ออกแบบ วเิ คราะห์ ตัดสนิ ใจในกระบวนการเทคโนโลยี คนจงึ เป็นปัจจยั แรกในการ
ทางานทางเทคโนโลยีท่จี ะขาดไมไ่ ด้

2. ขอ้ มูลและสารสนเทศ (Data and Information)
ความรทู้ ุกสาขาวิชาของมนุษยเ์ ป็นพ้ืนฐานของการสร้างเทคโนโลยี การรวบรวมข้อมลู การ
วเิ คราะห์ การแปลความหมาย การใช้และประมวลผลข้อมลู ต่างๆ เพื่อให้ไดส้ ารสนเทศท่จี าเปน็ ตอ่
การแกป้ ัญหาหรือสนองความตอ้ งการสิ่งเหลา่ นเี้ ป็นปจั จัยสาคญั ของการทางานด้านเทคโนโลยี
3. วัสดุ (Materials)
การสร้างสงิ่ ของเครือ่ งใช้ต่างๆ ย่อมตอ้ งใช้วัสดุ วัสดุแต่ละประเภทต่างกม็ สี มบตั ิทแ่ี ตกต่างกนั
การตัดสนิ ใจเลือกใช้วัสดปุ ระเภทตา่ งๆ จงึ ขนึ้ อยู่กับวตั ถปุ ระสงคใ์ นการนาไปใช้งาน เชน่ ไม้มนี ้าหนกั
เบา ทาให้เป็นรปู รา่ งตามท่ีต้องการไดง้ า่ ยแตไ่ ม่ทนตอ่ ความชนื้ โฟมและพลาสติกมีนา้ หนกั เบา ข้ึนรูป
งา่ ย ราคาถกู แต่ไมท่ นกับสารเคมบี างชนิด เหล็กมีความแขง็ แกรง่ สูง แต่มนี ้าหนกั มาก เซรามิกส์มี
ความแขง็ สูงมาก ทนต่อสารเคมี แต่กเ็ ปราะมากเช่นกัน วสั ดุเหลา่ นจ้ี ึงเป็นสว่ นหนงึ่ ของทรพั ยากรทาง
เทคโนโลยี

4. เครอื่ งมือและอปุ กรณ์ (Machines and Tools)
เครอื่ งมอื คอื สิ่งท่ีชว่ ยในการเปลีย่ นรูปร่าง ประสานและประกอบชนิ้ ส่วนต่างๆ เข้าเป็นชิน้ งาน
หรือทาให้เกิดผลสาเร็จตามความตอ้ งการ ตัวอย่างเชน่ มดี กรรไกร เล่อื ย คอ้ น สวา่ น หวั แร้งบดั กรี
จอบ เสยี ม เครื่องข้นึ รูปพลาสติก เคร่ืองตัดเหล็ก ฯลฯ
5. พลงั งาน (Energy)
พลงั งานต่าง ๆ เชน่ พลังงานไฟฟา้ พลงั งานกลพลงั งานความรอ้ น พลังงานแสง ฯลฯ เปน็ ส่งิ ท่ี
ชว่ ยให้เกิดการทางาน เพราะการผลติ หรือสร้างส่งิ ของตอ้ งอาศัยกาลงั งานทจ่ี ะทาใหว้ ัตถเุ ปลย่ี นแปลง
ในลกั ษณะต่าง ๆ
6. ทุน (Capital) หรือทรัพยส์ นิ (Asset)
ทนุ หมายถึง เงนิ ทุนทจี่ ะใช้ในกระบวนการเทคโนโลยี เทคโนโลยีบางอยา่ งตอ้ งอาศัยเงินทนุ
จานวนมาก รวมถึงทรัพย์สินท่เี ปน็ อาคาร สถานท่ีหรอื ท่ีดิน

7. เวลา (Time)
เทคโนโลยหี ลายระดับมีตง้ั แตแ่ บบงา่ ยจนถึงแบบท่ซี ับซอ้ นซึง่ ตอ้ งอาศยั เวลาในการสรา้ ง
เทคโนโลยี เวลาจึงจดั เป็นทรัพยากรอยา่ งหน่ึง ถา้ ผ้ใู ช้เทคโนโลยี ไม่ต้องการเสียเวลาในการคดิ คน้
อาจรับเทคโนโลยี หรอื ถา่ ยทอดเทคโนโลยีจากผู้สรา้ งเทคโนโลยี
3. ผสู้ อนอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า โดยทวั่ ไปจะให้ความสาคัญกบั วสั ดุทเี่ ป็นสว่ นประกอบหลักที่นามาใชใ้ นการ
สร้างชิ้นงานหรอื เปน็ สว่ นสาคญั ของวิธีการแก้ปญั หา สาหรบั วัสดุทีไ่ ม่ใชส่ ่วนประกอบหลัก เชน่
กระดาษพิมพ์ เอกสาร เครอ่ื งเขียน หมกึ พมิ พ์ จะไมน่ ามารว่ มพจิ ารณาด้วย
4.

ชวั่ โมงที่ 2

ข้ันสอน (ตอ่ )

1. ผู้สอนแจกใบงานที่ 5.1 การวิเคราะห์และเลือกแนวทางการแกป้ ัญหา พรอ้ มอธบิ ายวธิ ีการทาใบ
งาน คอื ใหผ้ ู้เรียนวเิ คราะหท์ รัพยากรทางเทคโนโลยีของแนวทางการแก้ปญั หาทีไ่ ดจ้ ากการรวบรวม
ข้อมูล จากใบงานที่ 4.2 รวบรวมข้อมลู แลว้ เลือกแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาพร้อมให้เหตุผลประกอบ

2. ผสู้ อนให้เวลาผู้เรียนในการทาใบงาน โดยท่ีผ้สู อนคอยดแู ลความเรียบร้อยและคอยใหค้ าแนะนา
เพ่มิ เติม

3. ผ้สู อนใหแ้ ต่ละกล่มุ ออกมานาเสนอใบงาน โดยให้กลมุ่ อ่นื ๆ เสนอแนะ แสดงความคิดเหน็
4. ผู้สอนอธิบายเพมิ่ เตมิ ว่า หลงั จากได้วเิ คราะหท์ รพั ยากรเทคโนโลยีแต่ละดา้ นแล้ว จะไดข้ ้อมลู เพื่อ

นามาประเมินความเป็นไปได้ของแตล่ ะแนวทาง เพ่ือตัดสนิ ใจเลอื กแนวทางการแก้ปญั หาท่ี
เหมาะสมท่ีสุด

ข้ันสรุป

5. ผู้สอนและผเู้ รียนร่วมกันสรปุ ว่า การทีจ่ ะร้ปู ญั หาทีแ่ ท้จรงิ ของชมุ ชน จาเป็นต้องใช้หลกั การ 4 ส
คือ สารวจ สอบถาม สบื คน้ สงั เคราะห์ เปน็ วิธีการเพื่อใหไ้ ดม้ าซึ่งข้อมูลเพ่ือนาไปสูก่ ารวิเคราะห์
ปัญหา โดยการใช้คาถาม 5W1H ช่วยให้ระบุปัญหาเพอ่ื นาไปสกู่ ารแก้ปัญหาไดต้ รงจดุ สามารถ
รวบรวมรายละเอยี ดของปัญหาได้ตรงประเด็น

6. ผสู้ อนเปิดโอกาสให้ผ้เู รยี นสอบถามเพม่ิ เติม

9. สือ่ การเรียนรู้
1. ใบความรทู้ ี่ 6 ทรัพยากรทางเทคโนโลยี
2. ใบงานท่ี 5.1 การวเิ คราะห์และเลอื กแนวทางการแก้ปญั หา

0

10. การวัดและประเมินผล

วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ผลงาน
ตรวจใบงานที่ 5.1 การ คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี
วเิ คราะห์และเลือกแนว แบบประเมินพฤติกรรมกล่มุ ผา่ นเกณฑ์
ทางการแกป้ ญั หา
คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี
ประเมนิ พฤติกรรมกลุม่ ผ่านเกณฑ์
จากการทากจิ กรรม ใบงานที่
5.1 การวิเคราะหแ์ ละเลอื ก
แนวทางการแกป้ ัญหา

แบบบันทกึ หลงั แผนการสอน ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 2
จานวน 8 ช่วั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การแกป้ ัญหาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 13 วเิ คราะห์แนวทางการแกป้ ัญหา

ผลการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื …………………….…………….ผูส้ อน
(…………………………………)

ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื …………………………….ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………





แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 14

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 8 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 การแกป้ ญั หาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
เวลาเรยี น 2 ชั่วโมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 14 ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพ่อื การดารงชีวิตในสงั คมท่มี ีการเปลยี่ นแปลง

อย่างรวดเรว็ ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ เพ่อื แกป้ ัญหา
หรอื พฒั นางาน อยา่ งมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี
อย่างเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และสงิ่ แวดล้อม

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หา เป็นการนาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาให้ผอู้ ื่นเข้าใจ โดยสามารถทาได้

หลายรปู แบบ เชน่ การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ และ การเขียนผังงาน

3. ตัวช้ีวัด/จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตวั ชี้วัด
ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวิธีการแก้ปญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สินใจเลอื กข้อมูลที่
จาเปน็ ภายใตเ้ ง่ือนไขและทรพั ยากรทมี่ อี ยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปญั หาให้ผู้อืน่ เขา้ ใจ วางแผน
ข้นั ตอนการทางานและดาเนินการแก้ปัญหาอยา่ งเป็นขั้นตอน
จุดประสงค์
1. ประยกุ ต์ใชข้ อ้ มูลและแนวคิดทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการแก้ปญั หาในการออกแบบแนวทาง
การแกป้ ญั หาได้ (K)
2. ออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาโดยใช้วธิ กี ารท่เี หมาะสมได้ได้ (P)
3. เห็นการใช้ประโยชนข์ องกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมในการแกป้ ัญหา (A)

4. สาระการเรยี นรู้
1. การวเิ คราะห์เปรียบเทียบ และตัดสนิ ใจเลอื กขอ้ มูลที่จาเป็น โดยคานงึ ถงึ เงื่อนไขและทรพั ยากร เช่น
งบประมาณ เวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศ วสั ดุ เคร่อื งมอื และอปุ กรณ์ ช่วยให้ได้แนวทางการแก้ปญั หาท่ี
เหมาะสม
2. การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหาทาไดห้ ลากหลายวิธี เช่น การรา่ งภาพ การเขียนแผนภาพ

การเขียนผังงาน
3. การกาหนดขั้นตอนระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการ แก้ปญั หาจะช่วยใหก้ ารทางานสาเรจ็ ได้ตาม

เป้าหมาย และลดขอ้ ผดิ พลาดของการทางานทอ่ี าจเกิดขนึ้

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. ใบงานท่ี 5.2 ออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา

8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. วธิ กี ารสอนแบบสรา้ งสรรค์เปน็ ฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทกั ษะการเรียนรูแ้ ละนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)

ช่วั โมงที่ 1

ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. ผู้สอนเปดิ คลิปวิดโี อ เกษตรกรนักประดษิ ฐ์ : สะเทือนไทย เพ่ือเป็นการกระตุ้นความสนใจของ
ผู้เรียน จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=HXA5O4Ie4X0

2. ผู้สอนถามผู้เรียนเพอ่ื เป็นการกระตุน้ ให้เกดิ การเรยี นรู้ เช่น “เมอื่ นกั เรียนตอ้ งการจะอธิบายเก่ยี วกับ
ส่ิงประดิษฐท์ น่ี ักเรียนต้องการจะสร้างสรรค์ พัฒนา นักเรียนมวี ธิ กี ารสือ่ สาร อธิบายอยา่ งไรให้ผู้อื่น
เข้าใจ"
แนวคาตอบ :
วาดภาพ และใสค่ าอธิบาย / สร้างตัวอยา่ ง โมเดล

ขน้ั สอน

3. ผู้สอนอธบิ ายว่า เมอ่ื ได้เลือกวธิ ีการแก้ปญั หาแลว้ ข้นั ตอนตอ่ มาคอื การนามาออกแบบโดยถ่ายทอด
ความคดิ ให้เปน็ รูปธรรม โดยสามารถทาไดห้ ลายรูปแบบ เชน่ การร่างภาพ การเขียนแผนภาพ การ
เขยี นผงั งาน การเขียนอธบิ ายเปน็ ข้ันตอน ซง่ึ มจี ดุ ประสงค์เดียวกนั คอื เพอ่ื สรปุ แนวคดิ และส่อื สารให้
ผูอ้ ่ืนเข้าใจ

4. แจกใบความร้ทู ี่ 7 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา พร้อมอธิบายวา่
การออกวิธีการแกป้ ัญหา ทาไดห้ ลายรปู แบบ ดังนี้
1. การร่างภาพ
เป็นการถ่ายทอดความคดิ ของแนวทางการแก้ปญั หาท่ีเป็นชิ้นงาน โดยภาพจะต้องแสดง

รายละเอยี ดแต่ละส่วน ซง่ึ อาจแสดงเป็นรปู ร่าง รปู ทรง ลกั ษณะการทางานหรือกลไกภายใน

2. การเขยี นแผนภาพ
เปน็ การถา่ ยทอดตวามมคดิ ของแนวทางการแก้ปัญหาทเี่ ปน็ วิธีการ โดยการสร้างลาดับขน้ั ตอน
การทางานในระบบงาน ในลักษณะของรปู ภาพเพ่อื แสดงใหเ้ ห็นว่าแนวทางการแก้ปญั หานน้ั มีการ
ทางาน หรือ วิธกี ารแก้ปญั หาอยา่ งไร ตง้ั แตเ่ ร่ิมตน้ ไปจนถงึ ผลลัพธ์สุดท้าย

3. การเขียนผังงาน
เป็นการถา่ ยทอดความคิดของแนวทางการแก้ปัญหาทเ่ี ปน็ วธิ กี าร โดยการแสดงลาดับขัน้ ตอนการ
ทางานตงั้ แต่เร่มิ ต้นไปจนถึงผลลัพธส์ ดุ ทา้ ย โดยใช้สญั ลักษณ์มาตรฐานในการเขยี นผังงาน

5. ผสู้ อนอธิบายเพม่ิ เติมว่า ในการรา่ งภาพเพอ่ื ออกแบบชิน้ งาน สามารถใช้โปรแกรมชว่ ยในการ
ออกแบบ เชน่
1. โปรแกรม Tinkercad
2. โปรแกรม Autodesk Fusion 360
3. โปรแกรม DesignSpark Mechanical
4. โปรแกรม FreeCAD
5. โปรแกรม SketchUp Make

ชั่วโมงที่ 2
ขัน้ สอน (ตอ่ )

1. ผูส้ อนแจกใบงานท่ี 5.2 ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา พรอ้ มอธบิ ายวธิ ีการทาใบงาน คอื ให้ผูเ้ รียนแต่
ละกลมุ่ ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หาในรปู แบบท่ีเหมาะสม โดยหากเป็นช้นิ งาน ควรใชว้ ธิ กี ารร่างภาพ
แต่หากเปน็ วธิ ีการ ควรใช้ การเขยี นภาพ หรอื การเขียนผงั งาน

2. ผสู้ อนให้เวลาผู้เรยี นในการทาใบงาน โดยท่ีผู้สอนคอยดูแลความเรยี บรอ้ ยและคอยใหค้ าแนะนา
เพ่ิมเติม

3. ผสู้ อนให้แต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอใบงาน โดยให้กลุ่มอ่ืนๆ เสนอแนะ แสดงความคิดเหน็
4. ผู้สอนอธิบายเพม่ิ เติมว่า เม่ือไดอ้ อกแบบวิธีการแก้ปัญหาเปน็ ภาพร่าง แผนภาพ หรือผังงานแลว้

ควรจะตอ้ งสร้างแบบจาลอง (Model) ข้ึนมากอ่ น การสร้างแบบจาลองมจี ดุ ประสงค์เพ่ือศกึ ษา
วิเคราะห์ ตรวจสอบ นาเสนอแนวคิดในด้านทต่ี ้องการ เชน่
1. ความสวยงาม
2. ประโยชนใ์ ชส้ อย
3. ความแข็งแรงของโครงสร้าง
4. ความสะดวกในการใช้งาน

ขน้ั สรปุ

5. ผสู้ อนและผูเ้ รียนร่วมกนั สรุปว่า ขน้ั ที่ 3 ของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม คอื ออกแบบ
วิธกี ารแกป้ ัญหา (Solution Design) นน่ั คือ การสร้างตน้ แบบ (Prototype) ขึน้ มาโดยวิธีการตา่ งๆ
เช่น การร่างภาพ การเขยี นแผนภาพ และ การเขียนผังงาน โดยมีจดุ ประสงค์เพอื่ สรุปแนวคดิ และ
สื่อสารให้ผ้อู ่ืนเข้าใจ

6. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นสอบถามเพ่มิ เติม

9. สื่อการเรียนรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=HXA5O4Ie4X0
2. ใบความร้ทู ่ี 7 ออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หา

3. ใบงานท่ี 5.2 ออกแบบวิธีการแก้ปญั หา

0

10. การวัดและประเมินผล

วิธกี าร เครือ่ งมือ เกณฑ์
แบบประเมินผลงาน
ตรวจใบงานท่ี 5.2 ออกแบบ คณุ ภาพอยู่ในระดับ ดี
วธิ กี ารแกป้ ญั หา แบบประเมนิ พฤติกรรมกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์

ประเมนิ พฤตกิ รรมกลุ่ม คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี
จากการทาใบงานที่ 5.2 ผ่านเกณฑ์
ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหา

แบบบนั ทกึ หลังแผนการสอน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2
จานวน 8 ชัว่ โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 การแก้ปัญหาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เวลาเรียน 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 14 ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา

ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอ่ื …………………….…………….ผู้สอน
(…………………………………)

ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหารสถานศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………….ผ้บู ริหารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………





แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15

กล่มุ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 8 ชว่ั โมง
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 การแกป้ ญั หาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
เวลาเรียน 2 ชั่วโมง
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 15 วางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพอื่ การดารงชีวติ ในสงั คมที่มกี ารเปลี่ยนแปลง

อย่างรวดเรว็ ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพ่อื แก้ปัญหา
หรือพฒั นางาน อย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใชเ้ ทคโนโลยี
อย่างเหมาสม โดยคานึงถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การวางแผนและการดาเนนิ การแก้ปญั หา (Planning and Development) เป็นการกาหนดข้ันตอน

ของการสร้างชนิ้ งานหรอื วธิ กี าร แลว้ ลงมือสรา้ งชิ้นงานหรอื พฒั นาวธิ กี ารเพอ่ื ใชใ้ นการแก้ปัญหา

3. ตัวชวี้ ัด/จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ตวั ช้ีวัด
ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสนิ ใจเลอื กขอ้ มูลท่ี
จาเป็นภายใตเ้ ง่อื นไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผอู้ น่ื เข้าใจ วางแผน
ขั้นตอนการทางานและดาเนนิ การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ขนั้ ตอน
จุดประสงค์
1. อธบิ ายวิธีการวางแผนและการดาเนนิ การแกป้ ญั หาได้ (K)
2. ออกแบบตารางเพื่อวางแผนและดาเนินการแกป้ ญั หาได้ (P)
3. เหน็ การใชป้ ระโยชน์ของกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมในการแก้ปญั หา (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. การวิเคราะห์เปรยี บเทยี บ และตัดสนิ ใจเลอื กข้อมูลท่จี าเป็น โดยคานงึ ถงึ เงือ่ นไขและทรพั ยากร เชน่
งบประมาณ เวลา ขอ้ มูล และสารสนเทศ วสั ดุ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ ชว่ ยใหไ้ ดแ้ นวทางการแก้ปญั หาที่
เหมาะสม
2. การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทาได้หลากหลายวิธี เช่น การรา่ งภาพ การเขียนแผนภาพ
การเขยี นผังงาน

3. การกาหนดข้ันตอนระยะเวลาในการทางานกอ่ นดาเนนิ การ แกป้ ัญหาจะชว่ ยใหก้ ารทางานสาเรจ็ ได้ตาม
เปา้ หมาย และลดข้อผดิ พลาดของการทางานทีอ่ าจเกิดข้นึ

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. กิจกรรม To do list
2. ใบงานท่ี 5.3 วางแผนและดาเนินการแกป้ ญั หา

8. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
1. วธิ ีการสอนแบบสรา้ งสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทกั ษะการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)

ชว่ั โมงที่ 1

ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. ผสู้ อนเปดิ คลิปวิดโี อ To do list เปลยี่ นชีวิต คนขี้ลมื ต้องดู! เพ่อื เปน็ การกระตุ้นความสนใจของ
ผู้เรียน จากลิงค์ https://www.youtube.com/watch?v=mNTNE6C_FX4

2. ผสู้ อนถามผู้เรียนเพือ่ เป็นการกระต้นุ ให้เกิดการเรยี นรู้ เชน่ “นกั เรยี นมกี ารวางแผนการดาเนนิ
ชีวิตประจาวนั อยา่ งไรบา้ ง เคยทา To do list หรอื รายการส่ิงท่ตี ้องทาแต่ละวันบา้ งหรอื ไม่"

ขั้นสอน

3. ผูส้ อนอธิบายวา่ การทา To do list หรอื รายการส่งิ ทต่ี อ้ งทา เป็นวิธีจัดลาดับความสาคัญของส่งิ ท่ี
ต้องทา ก่อนอื่นต้องเริม่ จากการลองเขียนรายการงานทีม่ ีทงั้ หมด หลังจากนัน้ กจ็ ดั ลาดับความสาคัญ
ของงาน เรยี งลาดับจากงานทสี่ าคัญและงานที่เรง่ ด่วนกอ่ น และกาหนดว่างานใดที่จะต้องทาในวันน้ี
ในสปั ดาหน์ ี้ ในเดอื นนี้ และในเวลาวา่ ง

4. ผสู้ อนให้ผู้เรียนแตล่ ะคน ทากจิ กรรม To do list พร้อมอธบิ ายวธิ กี ารทากจิ กรรม คือ ใหน้ ักเรียนแต่
ละคน ออกแบบ To do list ส่ิงท่ตี ้องทาในวนั พรงุ่ นี้ พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม

5. ผสู้ อนให้เวลาผู้เรยี นในการออกแบบ To do list โดยทีผ่ ู้สอนคอยดูแลความเรยี บร้อยและคอยให้
คาแนะนาเพม่ิ เติม

6. ผูส้ อนอธบิ ายเพ่ิมเตมิ วา่ การทารายการสิง่ ท่ตี ้องจะชว่ ยไมใ่ หห้ ลงลืมและจดั การงานตา่ งๆไดไ้ ม่
ผดิ พลาด งานทีท่ าเสรจ็ แล้วกใ็ ห้ทาเคร่อื งหมายขีดฆา่ ออกจาก To Do List ทลี ะข้อ การทา To Do
List จะช่วยให้ทราบความคบื หนา้ ของงานท่สี มา่ เสมอ เช่นเดียวกบั การดาเนนิ การแกป้ ญั หา ซ่งึ
หลงั จากที่ได้ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหาแล้ว ก่อนดาเนนิ การแก้ปญั หา หรอื ลงมอื สร้างชิน้ งานตามทไี่ ด้
ออกแบบไว้ ต้องมีการวางแผนการดาเนินงานอย่างเปน็ ขัน้ ตอน เพ่อื ละระยะเวลาในการทางาน
รวมไปถงึ ลดความผดิ พลาดในการทางานด้วย

ชั่วโมงที่ 2

ข้ันสอน (ต่อ)

1. ผสู้ อนอธบิ ายวา่ การวางแผนจะเร่ิมจากการวเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบทต่ี ้องปฏิบตั ิว่าประกอบด้วยงาน
ยอ่ ยอะไรบ้าง จากนนั้ เขยี นเปน็ กิจกรรมท่ตี ้องทาในแตล่ ะงาน พร้อมกบั ระบรุ ะยะเวลาและผูท้ ี่
เกยี่ วข้อง หรอื ผู้ที่รับผิดชอบในกจิ กรรมนั้นๆ โดยท่ีการวางแผนดานเนินงานสามารถทาได้หลาย
รูปแบบ เชน่ ผังงานแสดงลาดับข้นั ตอน ตารางปฏิบัตงิ าน

2. ผู้สอนแจกใบความรทู้ ่ี 8 วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ัญหา พรอ้ มอธิบายวา่ การวางแผนและ
ดาเนนิ การแกป้ ญั หา คอื การเขยี นแผนงาน โครงรา่ งของเป้าหมายแต่ละอย่าง พร้อมดว้ ยขน้ั ตอนท่ี
สามารถทาเพอ่ื ใหบ้ รรลุเป้าหมาย ช่วยใหค้ นท่เี หน็ แผนงานนนั้ ๆ เข้าใจขอบขา่ ยของงานท่ที าอยู่

การวางแผนจะชว่ ยจดั ระเบยี บใหก้ ารทางานอยู่ในกรอบ สามารถแตกแตล่ ะข้ันการทางานออกเป็น

หน้าทีย่ ่อยๆ และระบุผลลัพธ์ท่ีต้องการเหน็ ซึ่งการวางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหาควรใชห้ ลักการ

แบบ "SMART" คือ Specific หรอื เจาะจง

Measurable หรอื วดั ผลได้
Achievable หรือ บรรลุผลได้
Relevant หรือ มีความเก่ียวเนือ่ ง
Time bound หรอื อยู่ในกรอบเวลาท่ีมี
ผ้สู อนยกตัวอย่างตารางแผนการดาเนนิ งาน

ลาดบั กจิ กรรม กันยายน ระยะเวลาดาเนินการ
ตลุ าคม พฤศจิกายน ธันวาคม

3. ผู้ 1. เลือกข้อหวั และเอกสารที่เกย่ี วข้อง
ส 2. เขียนเคา้ โครงของโครงงาน
3. ปฏบิ ัติโครงงาน
อ 4. เขยี นรายงาน

น5. นาเสนอและแสดงผลงานของโครงงาน

แจกใบงานที่ 5.3 วางแผนและดาเนนิ การแก้ปญั หา พรอ้ มอธิบายวธิ ีการทาใบงาน คือ ให้ผู้เรยี น

แต่ละกลุ่ม วางแผนการทางานทม่ี รี ายละเอยี ดของขัน้ ตอนการทางาน ระยะเวลาทีใ่ ช้ในแต่ละ

ขัน้ ตอน และผรู้ บั ผดิ ชอบ

4. ผ้สู อนให้เวลาผู้เรยี นในการทาใบงาน โดยท่ีผู้สอนคอยดแู ลความเรียบร้อยและคอยใหค้ าแนะนา

เพ่ิมเติม

5. ผู้สอนใหแ้ ต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอใบงาน โดยให้กลุ่มอืน่ ๆ เสนอแนะ แสดงความคิดเหน็

6. ผสู้ อนอธบิ ายเพมิ่ เติมว่า เมื่อไดว้ างแผนการดาเนินการแล้ว จากน้นั ลงมือปฏบิ ัติงานตามแผนท่ีได้

วางไว้ หากเป็ฯงานทต่ี อ้ งลงมอื สรา้ งชิ้นงานท่เี กย่ี วกบั เหลก็ ไม้ พลาสตกิ หรืองานทเ่ี ก่ยี วกบั

สารเคมีต่าง ต้องคานึงถงึ ความปลอดภัยของการใช้วัสดอุ ุปกรณ์เป็นสาคัญ

ขัน้ สรุป

7. ผู้สอนและผเู้ รียนร่วมกันสรปุ ว่า ข้ันที่ 4 ของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม คอื การวางแผน
และการดาเนินการแก้ปญั หา (Planning and Development) เปน็ การกาหนดขั้นตอนของการ
สรา้ งชน้ิ งานหรอื วธิ ีการ แล้วลงมือสร้างช้นิ งาน หรอื พัฒนาวิธกี ารเพอ่ื ใช้ในการแก้ปญั หา ซึง่ ต้อง
กาหนดขั้นตอนย่อยในการทางานรวมกนั ทง้ั กาหนดเปา้ หมาย และระยะเวลาในการดาเนินการ
แต่ละขั้นตอนยอ่ ยใหช้ ดั เจน

8. ผู้สอนเปดิ โอกาสให้ผูเ้ รยี นสอบถามเพิ่มเติม

9. สือ่ การเรียนรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=mNTNE6C_FX4
2. ใบความรู้ที่ 8 วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หา
3. กิจกรรม To do list

4. ใบงานท่ี 5.3 วางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา

0

10. การวัดและประเมินผล

วิธีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ ผลงาน
ตรวจใบงานที่ 5.3 วางแผน คณุ ภาพอยใู่ นระดับ ดี
และดาเนินการแก้ปญั หา แบบประเมินพฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
รายบคุ คล
ประเมนิ พฤติกรรมรายบุคคล คุณภาพอย่ใู นระดบั ดี
จากการทากิจกรรม แบบประเมินพฤติกรรมกล่มุ ผา่ นเกณฑ์
To do list
คณุ ภาพอยใู่ นระดบั ดี
ประเมนิ พฤติกรรมกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์
จากการทาใบงานที่ 5.3
วางแผนและดาเนินการ
แก้ปัญหา

แบบบันทึกหลังแผนการสอน ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 2
จานวน 8 ช่วั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 การแกป้ ญั หาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 15 วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา

ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื …………………….…………….ผู้สอน
(…………………………………)

ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เหน็ ของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………….ผู้บรหิ ารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………





แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 16

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 8 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 การแก้ปัญหาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
เวลาเรียน 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 16 สรา้ งช้ินงาน

1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชีวิตในสงั คมทม่ี ีการเปลี่ยนแปลง

อยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามร้แู ละทกั ษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่นื ๆ เพอื่ แก้ปญั หา
หรือพัฒนางาน อยา่ งมคี วามคิดสร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยี
อย่างเหมาะสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ดาเนินงานสรา้ งช้นิ งาน ตามแผนงาน

3. ตัวชวี้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตัวชี้วัด
ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา โดยวิเคราะห์ เปรยี บเทยี บ และตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มูลท่ี
จาเปน็ ภายใต้เงอ่ื นไขและทรพั ยากรท่มี ีอยู่ นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาให้ผู้อนื่ เขา้ ใจ วางแผน
ขน้ั ตอนการทางานและดาเนินการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน
จุดประสงค์
1. ดาเนินงานตามแผนงานท่ีไดว้ างไวไ้ ด้ (K)
2. สรา้ งช้นิ งานโดยใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ วธิ ีการทเ่ี หมาะสม (P)
3. เห็นการใช้ประโยชน์ของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมในการแกป้ ญั หา (A)

4. สาระการเรยี นรู้
1. การวิเคราะห์เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเลอื กข้อมูลที่จาเป็น โดยคานงึ ถงึ เง่ือนไขและทรัพยากร เช่น
งบประมาณ เวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศ วัสดุ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ ช่วยใหไ้ ด้แนวทางการแก้ปญั หาท่ี
เหมาะสม
2. การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทาได้หลากหลายวิธี เช่น การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ
การเขยี นผงั งาน

3. การกาหนดข้ันตอนระยะเวลาในการทางานกอ่ นดาเนนิ การ แกป้ ัญหาจะชว่ ยให้การทางานสาเรจ็ ได้ตาม
เปา้ หมาย และลดข้อผดิ พลาดของการทางานทอ่ี าจเกิดขึ้น

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. กจิ กรรมสรา้ งชิ้นงาน

8. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
1. วิธกี ารสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทักษะการเรยี นร้แู ละนวตั กรรม (Learning and Innovation Skills)

ชวั่ โมงที่ 1

ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น

1. ผสู้ อนเปิดคลปิ วิดโี อ ทาเครอื่ งกดเจลอตั โนมัติ เพ่ือเปน็ การกระตุ้นความสนใจของผเู้ รียน
จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=z9ow0oPgheY

ขน้ั สอน

2. ผสู้ อนอธิบายวา่ เม่ือวางแผนการทางานแล้ว ข้นั ตอนต่อไปเปน็ การลงมอื สร้างชิ้นงานตามแบบ

3. ผสู้ อนให้ผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ทากจิ กรรม สร้างชิน้ งาน พรอ้ มอธิบายวิธีการทากิจกรรม คอื ให้นกั เรยี น
ดาเนินงานตามแผนงาน จากนนั้ ถ่ายภาพชิ้นงานท่ีสรา้ งเสร็จแลว้ พร้มระบเุ คร่อื งมอื ทใ่ี ช้สรา้ งช้ินส่วน
แตล่ ะช้นิ หรือในกรณที ่เี ปน็ การแก้ปญั หาดว้ ยรูปแบบของวธิ ีการ ให้ถ่ายภาพระหว่างการทางาน
พรอ้ มเขยี นอธบิ ายขั้นตอนการทางานโดยสงั เขป

4. ผสู้ อนใหเ้ วลาผู้เรียนแต่ละกลมุ่ ในการสรา้ งชิน้ งาน โดยท่ีผู้สอนคอยดแู ลความเรียบรอ้ ยและคอยให้
คาแนะนาเพ่มิ เตมิ

ช่วั โมงที่ 2

ขน้ั สอน (ตอ่ )

1. ผูส้ อนใหเ้ วลาผู้เรยี นแตล่ ะกลุ่มในการสร้างช้ินงาน โดยท่ผี ู้สอนคอยดแู ลความเรียบรอ้ ยและคอยให้
คาแนะนาเพม่ิ เติม

2. ผสู้ อนอธบิ ายเพ่มิ เติมว่า เมอ่ื ลงมือสรา้ งช้นิ งาน ในลาดบั ต่อไป เปน็ การทดสอบวา่ ชิน้ งานหรอื
วิธกี ารน้ันไดผ้ ลตามที่ตอ้ งการหรือไม่ หากประเมินแล้วยังไม่เปน็ ไปตามท่ตี อ้ งการ ให้ปรับปรงุ แกไ้ ข
และควรจดบันทึกปัญหาและอปุ สรรคท่พี บเจอ เพื่อนาไปใช้ในการพฒั นาปรบั ปรุงตอ่ ไป

ขัน้ สรุป

3. ผ้สู อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรุปปัญหา และอุปสรรคที่พบเจอในการสร้างช้ินงาน พรอ้ มกับรว่ มกนั
เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ข ปรบั ปรงุ

4. ผสู้ อนเปิดโอกาสให้ผเู้ รียนสอบถามเพิม่ เตมิ

9. ส่อื การเรียนรู้
1. https://www.youtube.com/watch?v=z9ow0oPgheY
2. กจิ กรรมสรา้ งชิ้นงาน

0

10. การวัดและประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ผลงาน
วธิ กี าร คุณภาพอยู่ในระดบั ดี
แบบประเมนิ พฤตกิ รรมกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
ตรวจกจิ กรรมสรา้ งชิ้นงาน
คุณภาพอยูใ่ นระดบั ดี
ประเมนิ พฤตกิ รรมกลุม่ ผ่านเกณฑ์
จากการทากจิ กรรมสรา้ ง
ชนิ้ งาน

แบบบันทึกหลงั แผนการสอน ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
จานวน 8 ชว่ั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 การแก้ปญั หาโดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เวลาเรยี น 2 ช่ัวโมง
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 16 สร้างช้ินงาน

ผลการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หาอปุ สรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………….…………….ผ้สู อน
(…………………………………)

ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………
ความคิดเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชื่อ…………………………….ผบู้ ริหารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 17

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี จานวน 6 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 6 การแก้ปญั หาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
เวลาเรียน 2 ชัว่ โมง
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 17 ทดสอบ ประเมนิ ผล ปรับปรงุ แก้ไข

1. มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พือ่ การดารงชีวติ ในสังคมท่ีมีการเปลย่ี นแปลง

อยา่ งรวดเรว็ ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตรอ์ ่นื ๆ เพ่อื แกป้ ัญหา
หรอื พฒั นางาน อย่างมีความคิดสรา้ งสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี
อย่างเหมาะสม โดยคานงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และสงิ่ แวดลอ้ ม

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ขวธิ กี ารแก้ปญั หาหรอื ชนิ้ งาน (Testing, Evaluation and Design

Improvement) เป็นการทดสอบและประเมินการใช้งานของชิน้ งานหรอื วธิ กี าร โดยผลที่ได้อาจนามาใชใ้ นการ
ปรับปรงุ และพัฒนาใหม้ ีประสิทธิภาพในการแก้ปญั หาได้อย่างเหมาะสมทส่ี ดุ

3. ตวั ชีว้ ัด/จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ตัวช้วี ัด
ว 4.1 ม.2/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล และอธิบายปัญหาหรอื ข้อบกพร่องทเ่ี กดิ ขนึ้ ภายใตก้ รอบ
เงื่อนไข พร้อมท้ังหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนาเสนอผลการแก้ปัญหา
จดุ ประสงค์
1. ทดสอบชน้ิ งานหรอื วิธกี ารทีส่ อดคลอ้ งกับปัญหาทีร่ ะบไุ วไ้ ด้ (K)
2. แกไ้ ขปรับปรุงชิน้ งาน หรือวิธกี ารเพื่อให้สอดคล้องกบั ปัญหาทีร่ ะบุ (P)
3. เหน็ การใชป้ ระโยชน์ของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมในการแกป้ ญั หา (A)

4. สาระการเรียนรู้
1. การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชน้ิ งาน หรือวิธกี ารวา่ สามารถแก้ปัญหาไดต้ ามวตั ถุประสงค์
ภายใต้กรอบของปัญหา เพอื่ หาขอ้ บกพร่อง และดาเนินการปรบั ปรุงให้สามารถแกไ้ ขปญั หาได้
2. การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคดิ เพอ่ื ให้ผอู้ ่ืนเขา้ ใจเก่ียวกับกระบวนการทางานและชนิ้ งาน
หรือวิธีการที่ได้ซงึ่ สามารถทาได้หลายวิธีเชน่ การเขียนรายงานการทาแผ่นนาเสนอผลงาน การจัด
นทิ รรศการ

5. สมรรถนะสาคัญ
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งมนั่ ในการทางาน

7. ภาระงาน
1. ใบงานที่ 6.1 ทดสอบประเมนิ ผลคร้ังท่ี 1
2. ใบงานท่ี 6.2 ทดสอบประเมนิ ผลครงั้ ที่ 2

8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
1. วธิ กี ารสอนแบบสรา้ งสรรค์เป็นฐาน (Creativity-Based Learning : CBL)
2. ทักษะการเรยี นร้แู ละนวัตกรรม (Learning and Innovation Skills)

ชั่วโมงที่ 1

ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น

1. ผู้สอนเปิดคลิปวิดโี อ 5 เทปการทดสอบสง่ิ ประดิษฐห์ น้าตาสดุ เเปลก เพือ่ เปน็ การกระตนุ้ ความสนใจ
ของผ้เู รียน จากลงิ ค์ https://www.youtube.com/watch?v=lsuk26skdkQ

2. ผู้สอนถามผูเ้ รียนเพือ่ เปน็ การกระตุ้นใหเ้ กิดการเรียนรู้ เชน่ “นกั เรียนคดิ ว่า เพราะอะไรถงึ ต้องมกี าร
ทดสอบสิ่งประดิษฐก์ อ่ นนาไปใช้งานจริง”

ขัน้ สอน

3. ผู้สอนอธิบายว่า ขน้ั ท่ี 5 ของกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม คือ ทดสอบ ประเมนิ ผล และ
ปรบั ปรุงแก้ไขวิธกี ารแกป้ ญั หาหรอื ชิน้ งาน (Testing, Evaluation and Design Improvement)

ซึ่งเปน็ การทดสอบเพ่อื ประเมนิ ว่าช้ินงาน หรือวธิ กี ารจะแกป้ ญั หาไดต้ ามที่กาหนดไวห้ รือไม่ ควร
เริม่ ต้นจากการกาหนดประเด็นในการทดสอบก่อน ซ่ึงประเดน็ ทากาหนดต้องชดั เจน สอดคล้องกับ
ปญั หา และการทดสอบต้องเหน็ เป็นรูปธรรม สามารถวัดเป็นปรมิ าณได้ เมอ่ื ได้ผลการทดสอบแลว้ ก็
นามาประเมิน หรือเปรยี บเทียบ วา่ สามารถแกป้ ัญหาไดห้ รือไม่ หากไม่เป็นไปตามที่ตั้งไว้ ก็ใชผ้ ลการ
ทดสอบเปน็ ข้อมูลในการดาเนินการปรับปรงุ แก้ไขตอ่ ไป
4. ผสู้ อนแจกใบงานท่ี 6.1 ทดสอบประเมินผลครั้งท่ี 1 พรอ้ มอธบิ ายวิธีการทาใบงาน คอื ให้ผู้เรยี นแต่
ละกลุม่ กาหนดประเด็นในการทดสอบที่สอดคล้องกบั ปญั หาที่ระบไุ ว้ พร้อมระบวุ ธิ กี ารทดสอบ ผล
การทดสอบ และแนวทางในการปรบั ปรงุ แก้ไข
5. ผู้สอนให้เวลาผู้เรยี นแต่ละกลมุ่ ในการทดสอบช้นิ งานหรอื วธิ กี าร โดยทผี่ ู้สอนคอยดูแลความเรยี บร้อย
และคอยให้คาแนะนาเพมิ่ เติม
6. ผสู้ อนอธิบายเพ่มิ เตมิ วา่ เมือ่ ทาการประเมินผลการทดสอบแล้ว ยังพบปญั หาขอ้ บกพร่องทยี่ ังไม่
สามารถแก้ปัญหาไดต้ ามท่ีกาหนด จะต้องหาแนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข โดยใช้ผลการทดสอบเป็น
ขอ้ มลู โดยอาจกลบั ไปรวบรวมขอ้ มูลใหม่ หรือออกแบบชิ้นงาน หรอื เปลยี่ นวัสดุใหม่ จากนั้นปรบั ปรุง
แกไ้ ขช้นิ งาน ทาการทดสอบตามประเดน็ การทดสอบทกี่ าหนด แล้วประเมินผลการทางานอกี ครัง้ จน
ช้นิ งานหรอื วธิ ีการทพี่ ัฒนานั้นสามารถแกป้ ญั หาไดต้ ามที่ตอ้ งการ

ชั่วโมงท่ี 2

ขั้นสอน (ต่อ)

1. ผสู้ อนแนะนาใหผ้ เู้ รียนแต่ละกลมุ่ ปรบั ปรุงแก้ไขชนิ้ งาน หรือ วิธีการ จากนัน้ ทาการทดสอบอีกครั้ง
หนึง่ โดยทีผ่ สู้ อนแจกใบงานที่ ใบงานท่ี 6.2 ทดสอบประเมินผลครง้ั ท่ี 2 พรอ้ มอธิบายวธิ กี ารทาใบ
งาน คอื ให้ผู้เรยี นแตล่ ะกล่มุ ทดสอบชนิ้ งาน หรอื วธิ ีการอีกครงั้ โดยกาหนดประเดน็ ในการทดสอบ
ที่สอดคลอ้ งกับปญั หาที่ระบไุ ว้ พรอ้ มระบวุ ธิ กี ารทดสอบ ผลการทดสอบ และแนวทางในการ
ปรับปรงุ แก้ไข จากนน้ั สรุปผลสิง่ ทีไ่ ด้จากการทดสอบในครั้งที่ 2

2. ผสู้ อนใหเ้ วลาผู้เรยี นแต่ละกลุ่มในการทดสอบชิ้นงานหรือวธิ กี าร โดยทีผ่ สู้ อนคอยดูแลควาเรยี บร้อย
และคอยให้คาแนะนาเพม่ิ เตมิ

ข้ันสรปุ

3. ผ้สู อนและผเู้ รียนร่วมกันสรุปปัญหา และอปุ สรรคทพี่ บเจอในการสร้างชน้ิ งาน พรอ้ มกันรว่ มกัน
เสนอแนะแนวทางการแกไ้ ข ปรบั ปรงุ เพ่ือนาไปสกู่ ารสรุปผล

4. ผสู้ อนเปดิ โอกาสให้ผเู้ รยี นสอบถามเพมิ่ เติม

9. สอ่ื การเรียนรู้
1. 5 เทปการทดสอบสงิ่ ประดิษฐห์ นา้ ตาสดุ เเปลก
2. ใบงานท่ี 6.1 ทดสอบประเมินผลครั้งท่ี 1
3. ใบงานที่ 6.2 ทดสอบประเมินผลครั้งท่ี 2

0

10. การวัดและประเมนิ ผล

วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ผลงาน
ตรวจใบงานที่ ใบงานที่ 6.1 แบบประเมนิ ผลงาน คุณภาพอย่ใู นระดับ ดี
ทดสอบประเมินผลครั้งท่ี 1 แบบประเมินพฤติกรรมกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี ใบงานที่ 6.2 คุณภาพอย่ใู นระดบั ดี
ทดสอบประเมินผลคร้งั ที่ 2 ผ่านเกณฑ์

ประเมินพฤตกิ รรมกลุ่ม คุณภาพอยใู่ นระดบั ดี
จากการทาตรวจใบงานที่ ใบ ผ่านเกณฑ์
งานท่ี 6.1 และ 6.2

แบบบันทกึ หลงั แผนการสอน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
จานวน 6 ช่วั โมง
เทคโนโลยี การออกแบบและเทคโนโลยี
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 6 การแก้ปญั หาโดยใชก้ ระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เวลาเรียน 2 ชว่ั โมง
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 17 ทดสอบ ประเมนิ ผล ปรับปรงุ แกไ้ ข

ผลการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหาอุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ …………………….…………….ผสู้ อน
(…………………………………)

ตาแหน่ง………………………………………
………………/…………....../……………
ความคดิ เหน็ ของผู้บรหิ ารสถานศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ …………………………….ผ้บู รหิ ารสถานศึกษา
(…………………..…………………………)
ตาแหนง่ ………………………………………
………………/…………....../……………


Click to View FlipBook Version