The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอนวิชาออกแบบและเทคโนโลยี - รวมเล่ม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Parn Pen-ek, 2022-08-31 22:55:17

แผนการสอน วิชาเทคโนโลยี (ออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3

แผนการสอนวิชาออกแบบและเทคโนโลยี - รวมเล่ม

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 1 ปจั จยั ท่สี ่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 เรื่อง ปญั หาหรือความตอ้ งการภายในชุมชนหรือท้องถิน่

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ

- ทักษะการส่ือสาร 2. ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มุง่ มน่ั ในการทางาน

- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล

3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา

- ทกั ษะการแก้ปญั หา

- ทักษะการสังเกต

- ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

- ทักษะการทางานรว่ มกัน

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบใช้ปญั หาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)

ชวั่ โมงท่ี 1

ขน้ั นา

1. ครูถามคาถามสาคญั ประจาหัวข้อเพื่อกระต้นุ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “ในชมุ ชนทนี่ กั เรียน
อาศัยอยมู่ ีปัญหาหรอื ความต้องการในด้านใดเกดิ ข้ึนบา้ ง เพราะอะไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรยี นขน้ึ อยูก่ ับดุลยพินิจของครผู ู้สอน เช่น ปญั หาการเกิดภยั แลง้
ภายในชุมชน เพราะได้รับผลกระทบจากปัญหาสงิ่ แวดลอ้ มท่ีส่งผลกับฤดกู าล จนทาให้
การเกษตรไดร้ บั ความเสยี หายและผลผลติ เจริญเตบิ โตไม่ดเี ทา่ ทคี่ วร)

2. ครอู ธบิ ายกับนักเรยี นเพอ่ื เชอ่ื มโยงเข้าส่บู ทเรยี นวา่ “ปญั หาหรอื ความต้องการภายในชุมชน
หรือทอ้ งถิ่นอาจจะส่งผลต่อการประกอบอาชพี ต่าง ๆ ท่ีมอี ยู่ภายในชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ดงั นัน้
การท่ีจะทราบถงึ ปัญหาหรือความตอ้ งการต่าง ๆ จะต้องอาศยั วิธีการสารวจ เพื่อเก็บขอ้ มูล
ปัญหาจากผู้ทเี่ กยี่ วข้องมาวเิ คราะหห์ าแนวทางการแก้ปัญหา”

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

43

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 ปัจจยั ที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง ปญั หาหรือความตอ้ งการภายในชมุ ชนหรือท้องถนิ่

ขน้ั สอน

ขน้ั ที่ 1 กาหนดปญั หา
1. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม
2. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคิดของนกั เรยี นว่า“การสารวจชุมชนหรอื ท้องถ่นิ สง่ ผลอย่างไร
ตอ่ การแก้ปญั หาหรือความตอ้ งการภายในชุมชนหรือทอ้ งถิ่น”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรยี นขึน้ อยูก่ ับดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
3. ครอู ธิบายกับนักเรยี นเกยี่ วกับการสารวจชุมชนหรือท้องถน่ิ วา่ “การสารวจชุมชนหรอื ท้องถ่ิน
เป็นการศกึ ษาเก่ยี วกบั ขอ้ เท็จจรงิ และสภาพของสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความต้องการ
และปญั หาภายในชุมชนทาให้ทราบถงึ สาเหตขุ องปัญหา และหาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข
ดว้ ยความรทู้ างด้านวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยอี ยา่ งมรี ะบบ”

ขั้นที่ 2 ทาความเข้าใจปญั หา
4. นกั เรยี นศกึ ษาเนือ้ หาเก่ียวกับวธิ กี ารสารวจปัญหาในชมุ ชนหรือทอ้ งถน่ิ จากหนังสือเรียน
รายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2
เรื่อง เทคโนโลยีกบั การพัฒนางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรอื ท้องถนิ่
5. นกั เรยี นทาใบงานที่ 2.1.1 เรือ่ ง วิธีการสารวจปัญหาในชมุ ชนหรือท้องถนิ่
6. ครสู ุ่มนักเรยี น 2-3 คน ออกมานาเสนอบริเวณหนา้ ช้ันเรียน พร้อมอภิปรายรว่ มกนั ภายใน
ชน้ั เรียน

ขน้ั ท่ี 3 ดาเนนิ การศึกษาค้นควา้
7. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรมฝึกทกั ษะกระบวนการคิด และทบทวนเนอ้ื หาอยา่ ง
ครบถ้วนตามตัวชีว้ ดั จากแบบฝกึ หัดรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง เทคโนโลยีกบั การพัฒนางานอาชพี ภายใน
ชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ เป็นการบ้านและนามาส่งในชั่วโมงถัดไป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

44

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 ปจั จัยที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 เรื่อง ปญั หาหรือความตอ้ งการภายในชุมชนหรือทอ้ งถน่ิ

ชวั่ โมงที่ 2

ขน้ั สอน

ขั้นท่ี 3 ดาเนนิ การศึกษาค้นคว้า
8. ครูทบทวนเนอ้ื หาการเรียนจากช่วั โมงทีแ่ ลว้ พอสังเขป
9. ให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มกันบอกปัญหาในชุมชนหรอื ทอ้ งถ่ินของตนเอง จากการทากิจกรรม
ฝึกทักษะในแบบฝึกหัด โดยครคู อยบนั ทกึ คาตอบลงบนกระดานหน้าชัน้ เรียน
10. ครอู ธิบายกับนกั เรียนว่า“ปัญหาหรือความตอ้ งการทเ่ี กิดขน้ึ ภายในชุมชนหรือทอ้ งถ่ิน สามารถ
แบง่ เป็นประเภทต่าง ๆ ได้ดงั น้ี
1) ปญั หาด้านเศรษฐกิจ
2) ปัญหาด้านสงั คม
3) ปัญหาด้านวัฒนธรรม
4) ปัญหาด้านสง่ิ แวดล้อม”
11. นกั เรียนศกึ ษาตวั อยา่ งเทคโนโลยีทีช่ ว่ ยแก้ปญั หาในดา้ นตา่ ง ๆ ภายในชมุ ชนหรือท้องถน่ิ จาก
หนงั สอื เรยี น
12. ครอู ธบิ ายเกรด็ เสรมิ ความร้ทู เ่ี ก่ยี วข้องกับเนื้อหา (Design Focus) เร่อื ง ปัญหามลพิษ
ส่ิงแวดลอ้ มโลก

ข้ันที่ 4 สงั เคราะห์ความรู้
13. นกั เรียนและครรู ่วมกนั วเิ คราะห์คาตอบบนกระดานหน้าช้ันเรียนว่า จัดเป็นปญั หาตามประเภท

ใด โดยใช้ปากกาสตี ่าง ๆ วงกลมลอ้ มรอบคาตอบ ดงั นี้
1) ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ ใช้ปากกาสีแดง
2) ปัญหาด้านสังคม ใช้ปากกาสฟี า้
3) ปัญหาด้านวฒั นธรรม ใช้ปากกาสีเหลือง
4) ปญั หาดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ใชป้ ากกาสเี ขยี ว

14. จากน้ันนกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปวา่ ปัญหาในชมุ ชนหรือท้องถ่ินท่อี ยู่บนกระดานหน้าชน้ั เรยี น
เกี่ยวข้องกบั ประเภทใดมากที่สุด และใหน้ ักเรยี นหยิบยกปัญหาในประเภทนีข้ นึ้ มากลุ่มละ
1 ปญั หา

15. ใหน้ ักเรียนสบื คน้ ขอ้ มูลและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพอื่ หาแนวทางการแก้ปัญหาในชุมชนหรอื
ทอ้ งถิ่นจากอินเทอร์เนต็

ขนั้ ท่ี 5 สรปุ และประเมนิ ค่าของคาตอบ
16. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกนั รวบรวมข้อมลู แนวทางการแกไ้ ขปญั หาตามทีไ่ ดส้ บื คน้ จาก

อนิ เทอร์เนต็

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

45

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ปจั จัยท่สี ่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 4 เรอื่ ง ปัญหาหรือความตอ้ งการภายในชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ

17. ครทู บทวนคาถามกระตนุ้ ความคดิ ของนกั เรียนว่า “การสารวจชมุ ชนหรอื ท้องถิน่ ส่งผลอยา่ งไร
ตอ่ การแก้ปัญหาหรือความตอ้ งการภายในชมุ ชนหรอื ท้องถนิ่ ”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรียนข้นึ อยกู่ บั ดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน เชน่ การสารวจชุมชนหรือ
ท้องถิน่ ทาให้ทราบขอ้ เท็จจรงิ และปัญหาท่ีมภี ายในชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่ อยา่ งแนช่ ดั รวมถึง
ทราบลักษณะและสภาพของสังคม เศรษฐกิจ วฒั นธรรม และความตอ้ งการภายในชมุ ชนหรอื
ทอ้ งถิ่น)

ขัน้ ท่ี 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน
18. นกั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอขอ้ มูลบรเิ วณหน้าช้นั เรียน โดยครูผูส้ อน

ประเมนิ ผลงานการนาเสนอของนักเรียนแต่ละกลมุ่

ขน้ั สรปุ

1. เปิดโอกาสใหน้ กั เรียนซักถามข้อสงสยั โดยครใู ห้ความรู้เพิ่มเตมิ ตามความเหมาะสม
2. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคาถาม และการนาเสนอผลงานของนกั เรียน
3. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เก่ียวกบั การสารวจปญั หาหรือความตอ้ งการภายในชุมชนหรือ

ท้องถน่ิ วิธีการสารวจปญั หาหรือความต้องการของชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิน่ และประเภทของปัญหา
ภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถนิ่

7. การวัดและประเมินผล วิธีวดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวัด - ตรวจใบงานท่ี 1.2.2 - ใบงานท่ี 1.2.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการ
- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จดั กิจกรรม
1) วธิ ีการสารวจปัญหา - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
ในชุมชนหรือท้องถิน่ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
2) ปัญหาหรือ การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
ความต้องการภายใน การทางานกล่มุ การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
ชุมชนหรือท้องถิน่
3) การนาเสนอผลงาน

4) พฤตกิ รรมการทางาน
รายบุคคล

5) พฤติกรรมการทางาน
กล่มุ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

46

หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ปจั จยั ท่สี ่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง ปญั หาหรือความต้องการภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ิน

รายการวดั วธิ วี ดั เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน
6) คุณลักษณะ - สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ความรบั ผดิ ชอบ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
อนั พึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มน่ั อนั พงึ ประสงค์
ในการทางาน

8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

8.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี นรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เรอื่ ง เทคโนโลยกี บั การพฒั นางานอาชีพภายในชุมชนหรอื ท้องถนิ่
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2
เรือ่ ง เทคโนโลยกี ับการพฒั นางานอาชีพภายในชมุ ชนหรือท้องถิ่น
3) ใบงานท่ี 1.2.2 เร่อื ง วธิ กี ารสารวจปญั หาในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถนิ่
4) ปากกาสีต่าง ๆ

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอร์เนต็

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

47

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ปญั หาหรือความต้องการภายในชุมชนหรอื ท้องถิ่น

ใบงานที่ 1.2.1
เรือ่ ง วิธกี ารสารวจปญั หาในชมุ ชนหรือท้องถ่นิ

คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนเปรียบเทยี บข้อดี-ข้อเสียของวธิ ีการสารวจปญั หาในชุมชนหรือทอ้ งถิ่น

วธิ ีการสารวจ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี

วธิ ีการสารวจ
จากเอกสาร ตารา และฐานขอ้ มูล

วิธกี ารสารวจ
จากการสังเกต

วธิ ีการสารวจ
จากการสมั ภาษณ์

วิธีการสารวจ
จากแบบสอบถาม

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

48

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี เฉลย
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง ปัญหาหรอื ความตอ้ งการภายในชุมชนหรือทอ้ งถิ่น

ใบงานท่ี 1.2.1
เรอ่ื ง วธิ ีการสารวจปัญหาในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิน่

คาช้แี จง : ให้นักเรยี นเปรยี บเทยี บขอ้ ดี-ขอ้ เสียของวธิ ีการสารวจปญั หาในชุมชนหรือทอ้ งถ่ิน

วธิ กี ารสารวจ ข้อดี ขอ้ เสีย

วธิ ีการสารวจ - ขอ้ มลู ทไี่ ดม้ าจากเอกสาร - ข้อมลู ในเอกสารอาจไมส่ มบูรณ์
จากเอกสาร ตารา และฐานข้อมูล
หลกั ฐานโดยตรง - การตรวจสอบความเท่ยี งตรง
วิธกี ารสารวจ
จากการสังเกต - สามารถศกึ ษาขอ้ มูลหรอื ของข้อมลู เป็นไปได้ยาก

วิธกี ารสารวจ เหตกุ ารณ์ท่ีผ่านมาแลว้ ในอดตี เน่ืองจากเป็นขอ้ มลู หรอื
จากการสัมภาษณ์
ได้ เหตุการณ์ที่ผา่ นมาแล้วในอดตี

- ขอ้ มลู ทไ่ี ด้มคี วามน่าเช่อื ถอื - ไม่เหมาะสมแกก่ ารสังเกตทใี่ ช้

- ข้อมูลที่ไดจ้ ากการสังเกตแบบ เวลานาน

ไมม่ ีการเตรยี มตัว เปรยี บเสมือน - ข้อมูลทไ่ี ดอ้ าจไม่ตรงกับความ

การทาแบบสอบถามและ เปน็ จรงิ

การสัมภาษณ์

- ข้อมูลท่ีได้เปน็ ข้อมูลทมี่ ีคุณภาพ - ใช้ระยะเวลาเก็บขอ้ มลู นาน

- เกบ็ ขอ้ มูลจากสถานการณจ์ รงิ - ผู้สมั ภาษณ์อาจจะคลอ้ ยตาม

- สามารถสัมภาษณ์ข้อมูล ความคิดเหน็ ของผถู้ ูก

แบบเจาะลกึ ได้ สัมภาษณ์

- ได้ขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการเก็บรวบรวม - ผลการทาแบบสอบถามอาจ

วธิ ีการสารวจ เปน็ จานวนมาก ไมต่ รงตามความตอ้ งการ
จากแบบสอบถาม
- ผู้ใหข้ อ้ มูลมีอิสระในการตอบ - ความเชื่อถอื นอ้ ย

คาถาม - คณุ ภาพของข้อมูลค่อนขา้ งต่า

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

49

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 ปัจจยั ทส่ี ่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ปัญหาหรือความตอ้ งการภายในชุมชนหรือทอ้ งถนิ่

9. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ด้านความรู้
 ด้านสมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
 ด้านอืน่ ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปญั หา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

50

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2

แนวทางการแกป้ ัญหา

เวลา 6 ช่ัวโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด

ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพอ่ื การดารงชีวติ ในสงั คมทีม่ ีการเปลีย่ นแปลงอยา่ งรวดเรว็
ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อนื่ ๆ เพื่อแกป้ ญั หาหรอื
พัฒนางานอย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคานงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวติ สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม
ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะหส์ าเหตุ หรอื ปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อืน่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื
คณิตศาสตร์ เพอื่ เป็นแนวทางการแกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน
ว 4.1 ม.3/2 ระบุปญั หาหรือความตอ้ งการของชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ เพ่อื พัฒนางานอาชพี
สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และแนวคดิ ที่เก่ยี วข้องกับ
ปญั หาโดยคานึงถึงความถูกต้องดา้ นทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา
ว 4.1 ม.3/3 ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลือก
ข้อมูลท่จี าเป็นภายใต้เงื่อนไขและทรัพยากรทม่ี อี ยู่ นาเสนอแนวทางการ
แกป้ ัญหาให้ผูอ้ ื่นเข้าใจดว้ ยเทคนิคหรือวิธกี ารทหี่ ลากหลาย วางแผน
ข้นั ตอนการทางานและดาเนนิ การแก้ปญั หาอย่างเปน็ ขนั้ ตอน
ว 4.1 ม.3/4 ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ และใหเ้ หตุผลของปญั หาหรือขอ้ บกพรอ่ งที่
เกิดข้นึ ภายใต้กรอบเง่ือนไข พรอ้ มทงั้ หาแนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ข และ
นาเสนอผลการแก้ปัญหา

2. สาระการเรียนรู้

2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
1) เทคโนโลยมี กี ารเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาตั้งแตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจบุ นั ซึง่ มสี าเหตหุ รือปจั จยั
มาจากหลายดา้ น เช่น ปญั หาหรอื ความต้องการของมนษุ ย์ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ
การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม และสง่ิ แวดล้อม
2) เทคโนโลยมี ีความสมั พันธ์กับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ โดยวทิ ยาศาสตร์เป็นพ้ืนฐาน
ความรูท้ ่ีนาไปสกู่ ารพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยที ไี่ ดส้ ามารถเป็นเครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการศกึ ษา
ค้นควา้ เพ่อื ใหไ้ ด้มาซงึ่ องคค์ วามรใู้ หม่
3) ปญั หาหรือความต้องการอาจพบไดใ้ นงานอาชีพของชุมชนหรอื ท้องถ่นิ ซึ่งอาจมหี ลายดา้ น เช่น
ด้านการเกษตร อาหาร พลังงาน การขนสง่

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

51

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา

4) การวิเคราะห์สถานการณ์ปญั หาช่วยใหเ้ ข้าใจเงื่อนไขและกรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากนน้ั
ดาเนินการสบื ค้น รวบรวมขอ้ มลู ความร้จู ากศาสตรต์ า่ ง ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง เพื่อนาไปสู่การออกแบบ
แนวทางการแกป้ ัญหา

5) การวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ และตดั สินใจเลอื กข้อมูลทีจ่ าเปน็ โดยคานึงถงึ ทรพั ยส์ ินทางปญั ญา
เงือ่ นไขและทรพั ยากร เชน่ งบประมาณ เวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศ วัสดุ เครื่องมอื และอปุ กรณ์
ช่วยให้ไดแ้ นวทางการแกป้ ัญหาที่เหมาะสม

6) การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาทาไดห้ ลากหลายวธิ ี เช่น การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ
การเขียนผังงาน

7) เทคนิคหรือวิธีการในการนาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หามหี ลากหลาย เช่น การใช้แผนภูมิ ตาราง
ภาพเคลื่อนไหว

8) การกาหนดขัน้ ตอนและระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการแก้ปัญหาจะช่วยใหก้ ารทางาน
สาเรจ็ ได้ตามเปา้ หมาย และลดขอ้ ผิดพลาดของการทางานที่อาจเกิดขน้ึ

9) การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบช้ินงานหรอื วธิ ีการวา่ สามารถแกป้ ญั หาได้ตาม
วตั ถุประสงคภ์ ายใตก้ รอบของปญั หา เพอ่ื หาขอ้ บกพร่อง และดาเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบ
ซา้ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้

10) การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิด เพือ่ ให้ผู้อน่ื เข้าใจเก่ียวกับกระบวนการทางาน และ
ช้นิ งานหรอื วธิ กี ารทีไ่ ด้ ซึ่งสามารถทาได้หลายวิธี เชน่ การเขยี นรายงาน การทาแผน่ นาเสนอ
ผลงาน การจดั นทิ รรศการ การนาเสนอผ่านสอื่ ออนไลน์

2.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
(พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา)

3. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็นกระบวนการแก้ปัญหาหรือพัฒนาช้ินงานอย่างเป็น
ข้ันตอนภายใต้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ การวิเคราะห์สถานการณ์ของปัญหา ผลกระทบของการแก้ปัญหา เพ่ือ
นาไปสู่การออกแบบแนวทางการแกป้ ัญหา โดยใช้ความรดู้ ้านวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ
สาหรับกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม โดยการพัฒนาชุมชนอย่างย่งั ยืนนั้น จะมุ่งเนน้ พัฒนาชุมชนให้
พึง่ พาตวั เองได้ผ่านการสร้างผู้นาชุมชนทเี่ ข้มแข็ง ทางานตอบสนองตอ่ สภาพแวดล้อมที่เป็นเอกลักษณข์ อง
แต่ละชุมชน นาวิธีการพัฒนาท่ีได้ผลมาใช้แก้ปัญหาที่สาคัญของชุมชน และกระตุ้นให้เกิดการลงมือทา
ตลอดจนมีการสร้างเศรษฐกิจให้กับชุมชนและประชาชนในการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เป็นเคร่ืองมือใน
การทางานและสร้างอาชีพได้ โดยอาศัยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมาช่วยในการสร้างงานเพ่ือ
แกป้ ัญหาท่เี กิดข้ึนในชุมชน เพ่ือนาไปสู่การแกป้ ญั หาที่เกดิ ขนึ้ ในชมุ ชนอย่างย่งั ยืน

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

52

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา

4. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มวี ินยั รับผดิ ชอบ

- ทกั ษะการสอ่ื สาร 2. ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งม่ันในการทางาน

- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล

- ทักษะการคดิ อย่างเป็นระบบ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทกั ษะการแก้ปญั หา

- ทกั ษะการสงั เกต

- ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้

4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

- ทกั ษะการทางานรว่ มกนั

- ทักษะการสารวจ

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

- ทักษะการสืบค้นขอ้ มลู

5. ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแกป้ ัญหาชุมชนหรอื ท้องถ่นิ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม

6. การวดั และการประเมินผล

รายการวัด วธิ วี ดั เคร่อื งมอื เกณฑก์ ารประเมิน
ประเมนิ ตามสภาพจรงิ
6.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - แบบทดสอบ
ก่อนเรยี น
- แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กอ่ นเรยี น

เร่อื ง การแกป้ ญั หาชมุ ชน

หรอื ทอ้ งถ่ินดว้ ย

กระบวนการออกแบบเชงิ

วศิ วกรรม

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

53

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา

รายการวัด วธิ วี ดั เครอื่ งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
6.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หดั รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

กจิ กรรม - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 - ใบงานท่ี 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) การใช้เทคโนโลยี - ตรวจใบงานที่ 4.1.2 - ใบงานท่ี 4.1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ในการแกป้ ญั หา
2) การระบุปัญหา - ตรวจใบงานท่ี 4.1.3 - ใบงานที่ 4.1.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
3) การรวบรวมขอ้ มลู และ
- ตรวจใบงานที่ 4.1.4 - ใบงานท่ี 4.1.4 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แนวคดิ ท่ีเกย่ี วข้อง
4) การออกแบบวิธีการ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหดั รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

แก้ปัญหา - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
5) การวางแผนและ
- ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
ดาเนินการแกป้ ัญหา ผลงาน
6) กระบวนการออกแบบ - สงั เกตพฤตกิ รรม การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
การทางานรายบุคคล
เชงิ วศิ วกรรมกับ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2
การแกป้ ัญหาชุมชนหรอื การทางานกลุ่ม
ทอ้ งถิน่ - สงั เกตความมวี นิ ยั การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
7) การนาวทิ ยาศาสตร์ ความรับผิดชอบ
เทคโนโลยี และ ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มั่น - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2
นวตั กรรมไปพฒั นา ในการทางาน
ชมุ ชน การทางานกลุม่ ผา่ นเกณฑ์
8) การนาเสนอผลงาน
- แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
9) พฤตกิ รรมการทางาน
รายบุคคล คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์

10) พฤตกิ รรมการ
ทางานกล่มุ

11) คณุ ลกั ษณะ
อันพงึ ประสงค์

อันพึงประสงค์

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

54

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา

รายการวัด วธิ วี ัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมนิ
6.3 การประเมนิ หลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หลงั เรียน
1) แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรยี น
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4
เรอ่ื ง แนวทางการ - ตรวจช้นิ งาน/ - แบบประเมินช้ินงาน/ - ระดับคุณภาพ 2
แก้ปญั หา
ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
2) การประเมินชน้ิ งาน/
ภาระงาน (รวบยอด)

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง แนวทางการแกป้ ญั หา

เรอื่ งท่ี 1 : การใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา เวลา 1 ช่ัวโมง

วธิ ีการสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning)

ขน้ั นา

1. ครถู ามคาถามสาคญั ประจาหวั ข้อเพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นว่า“เราสามารถใช้
เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหา เพอ่ื พฒั นางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรือท้องถ่นิ ไดอ้ ยา่ งไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรยี นข้ึนอยู่กับดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน เชน่ การใช้เทคโนโลยี
ที่เปน็ เครื่องท่นุ แรงในการทางานทางการเกษตร เพื่อชว่ ยลดความยากลาบากในการทางาน
การใชเ้ ทคโนโลยีในการแปรรปู ผลผลติ การถนอมอาหาร เพอื่ ยืดอายกุ ารเกบ็ รักษาใหน้ านขึ้น
ชะลอการเนา่ เสียสาหรับการส่งออกสนิ ค้าไปตา่ งประเทศ)

2. ครูอธิบายกบั นกั เรียนเพอ่ื เชือ่ มโยงเขา้ สู่บทเรยี นวา่ “เทคโนโลยใี นปัจจบุ นั ถูกพฒั นาให้
มีประสิทธภิ าพมากข้นึ จากหลายสาเหตุ เชน่ วิทยาการและองคค์ วามร้ตู ่าง ๆ เม่ืออัตรา
ของประชากรเพม่ิ ขึ้น ปริมาณของทรพั ยากรธรรมชาติท่ีมีจานวนลดลง เทคโนโลยีท่ีมอี ยู่
ในปจั จุบนั จึงถูกคดิ ค้นข้ึนมาโดยเนน้ ใหเ้ กิดประสิทธภิ าพสูงสดุ โดยเฉพาะในเรอ่ื งการใช้
พลังงาน การกาจดั ขยะ การรักษาโรค และการอนุรกั ษ์ส่งิ แวดลอ้ ม”

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

55

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา

ขน้ั สอน

ขั้นท่ี 1 กาหนดปัญหา
1. นกั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุม่ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม
2. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความคดิ ของนกั เรยี นวา่ “นกั เรียนคดิ วา่ เทคโนโลยมี ีผลกระทบ
ต่อชีวิตประจาวนั อย่างไรบา้ ง”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรียนข้ึนอยกู่ บั ดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน)

ขนั้ ท่ี 2 ทาความเขา้ ใจปญั หา
3. นกั เรียนศกึ ษาเนือ้ หาเก่ยี วกับระดบั ของเทคโนโลยีทใี่ ช้ในการแก้ปัญหาจากหนังสือเรียน
พน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง
เทคโนโลยกี บั การพัฒนางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ โดยแบง่ ระดับของเทคโนโลยี
ออกเปน็ 3 ระดับ ดงั น้ี
1) เทคโนโลยรี ะดบั พนื้ บ้านหรือพน้ื ฐาน
2) เทคโนโลยีระดบั กลาง
3) เทคโนโลยีระดับสูง

ข้ันท่ี 3 ดาเนนิ การศกึ ษาคน้ ควา้
4. นักเรยี นศกึ ษาตวั อยา่ งเทคโนโลยีแต่ละระดับจากหนงั สือเรยี นหรือสบื ค้นเพ่ิมเตมิ
จากอนิ เทอร์เนต็
5. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทากจิ กรรม High Oder Thinking ท่ีสอดคลอ้ งกับตัวชี้วดั ตามทกั ษะ
แหง่ ศตวรรษที่ 21 จากแบบฝกึ หดั รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง เทคโนโลยกี ับการพัฒนางานอาชพี ภายใน
ชมุ ชนหรอื ท้องถนิ่
6. ครูสุ่มนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาตอบคาถามบรเิ วณหนา้ ชั้นเรยี น
7. นกั เรยี นศกึ ษาเก่ยี วกับปัจจัยทใี่ ชใ้ นการตัดสินใจเลอื กเทคโนโลยีจากหนงั สอื เรียนตามหัวขอ้
ดงั น้ี
1) ทรพั ยากรทางเทคโนโลยี
2) ผลกระทบต่อมนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสิง่ แวดล้อมในชุมชนหรอื ท้องถ่นิ
3) ความถูกตอ้ งด้านทรัพยส์ นิ ทางปัญญา
8. นักเรยี นศกึ ษาตัวอย่างการประเมนิ ผลกระทบตอ่ มนษุ ย์ สังคม เศรษฐกิจ และส่งิ แวดล้อม
ในชุมชนกอ่ นการเลอื กใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ัญหา ตวั อย่างการทารายงานการแก้ปัญหา
ชุมชนที่เกดิ จากการเผาตอซังและฟางข้าวในนาขา้ ว และสแกน QR Code เรือ่ ง ข้ันตอน
การจดทะเบียนสิทธิบตั ร อนุสทิ ธบิ ัตร จากหนงั สอื เรียน
9. ครอู ธิบายเกร็ดความรทู้ ่ีเกีย่ วข้องกบั เนอ้ื หา (Design Focus) เร่ือง การเขียนอา้ งอิงแบบ APA

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

56

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา

ขัน้ ที่ 4 สังเคราะห์ความรู้
11. เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย โดยครูใหค้ วามร้เู พ่ิมเติมตามความเหมาะสม
12. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 5-7 คน หรอื ตามความเหมาะสม
13. นักเรียนทากิจกรรมทสี่ อดคล้องกับเนือ้ หา โดยให้ผ้เู รยี นฝกึ ปฏิบตั ิเพื่อพฒั นาความรูแ้ ละทักษะ

(Design Activity) จากหนังสือเรียนและบนั ทึกลงในสมดุ ประจาตวั

ขน้ั ท่ี 5 สรปุ และประเมนิ ค่าของคาตอบ
14. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของขอ้ มูล
15. ครูทบทวนคาถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรียนวา่ “นกั เรียนคดิ วา่ เทคโนโลยีมผี ลกระทบ

ตอ่ ชีวติ ประจาวนั อย่างไรบา้ ง”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรยี นขน้ึ อยกู่ บั ดุลยพินจิ ของครผู ้สู อน เชน่ เทคโนโลยเี อ้ืออานวย
ความสะดวกใหแ้ ก่มนุษย์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเปน็ ดา้ นการส่ือสาร ด้านการคมนาคม
ด้านการศกึ ษา หรือดา้ นการแพทย)์

ขั้นที่ 6 นาเสนอและประเมินผลงาน
16. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอข้อมูลบรเิ วณหนา้ ช้ันเรยี น โดยครผู สู้ อน

ประเมนิ ผลงานการนาเสนอของนักเรยี นแตล่ ะกลมุ่

ขน้ั สรุป

1. ครูประเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถาม และการนาเสนอผลงานของนักเรียน
2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรูเ้ กย่ี วกบั ระดบั ของเทคโนโลยีทีใ่ ชใ้ นการแก้ปญั หา

และปัจจยั ท่ีใช้ในการตัดสนิ ใจเลอื กเทคโนโลยี
3. นกั เรียนแต่ละคนทาแบบฝึกหัด (Unit Activity) ทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจ และพฒั นาทักษะ

การคิดของผู้เรยี น โดยการตอบคาถามลงในสมดุ ประจาตัว
4. นกั เรียนตรวจสอบระดับความสามารถของตนเองจากหนงั สอื เรยี น โดยพจิ ารณาข้อความวา่

ถกู หรือผดิ หากนกั เรียนพิจารณาไมถ่ กู ต้องใหน้ กั เรยี นกลับไปทบทวนเนื้อหาตามหวั ขอ้ ที่
กาหนดให้
5. ครมู อบหมายให้นกั เรยี นทากิจกรรม High Oder Thinking ที่สอดคล้องกบั ตัวชวี้ ัดตามทักษะ
แห่งศตวรรษท่ี 21 จากแบบฝึกหัดและทาชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง ปญั หาท่ีเกดิ ขนึ้
ในชุมชนหรอื ท้องถิ่น เป็นการบา้ นและนามาสง่ ในช่ัวโมงถัดไป
6. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง เทคโนโลยกี บั การพัฒนางาน
อาชพี ภายในชุมชนหรอื ทอ้ งถน่ิ หรือทาแบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝึกหัด

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

57

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา

1. เปิดโอกาสให้นกั เรยี นซักถามข้อสงสัย โดยครูใหค้ วามร้เู พิม่ เติมตามความเหมาะสม
2. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรปุ เกยี่ วกับกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ัญหาชมุ ชน

หรอื ทอ้ งถ่นิ

เรอ่ื งท่ี 2 : กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกับการแก้ปัญหาชุมชนหรอื ทอ้ งถิ่น เวลา 3 ชั่วโมง

วธิ กี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-Based Learning)

ขน้ั นา

ขนั้ ที่ 1 ใหค้ วามรู้พน้ื ฐาน
1. ครูถามคาถามกระต้นุ ความคิดของนักเรยี นวา่ “ในชมุ ชนทน่ี กั เรียนอาศยั อยมู่ ปี ญั หาอะไร
เกิดข้ึนบา้ ง และปัญหาเหล่านนั้ สามารถแกไ้ ขไดห้ รือไม่ อยา่ งไร”

ขั้นที่ 2 กระตนุ้ ความสนใจ
2. ครูถามคาถามประจาหวั ข้อเพอ่ื กระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “นักเรียนคดิ ว่า กระบวนการ
ออกแบบเชงิ วศิ วกรรม จะชว่ ยแกป้ ัญหาในชุมชนหรอื ท้องถน่ิ ของนกั เรยี นได้อยา่ งไร”
3. ครสู มุ่ นักเรียน 6 คน ออกมายนื เรียงกนั บริเวณหนา้ ชน้ั เรยี นโดยครูเปดิ แผน่ ปา้ ย เรื่อง
กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมให้นักเรียนดูและใหน้ ักเรยี นคนแรกพดู ขอ้ ความ
ทป่ี รากฏอยูใ่ นแผน่ ป้าย จากนั้นครูเปดิ แผ่นป้ายท่ี 2 ให้แกน่ ักเรียนคนถดั ไป โดยนักเรยี น
จะต้องพดู ขอ้ ความทีป่ รากฏอยู่ในแผน่ ปา้ ยและขอ้ ความจากเพือ่ นคนแรก โดยดาเนินการ
ตอ่ ไปเรอื่ ย ๆ จนถงึ นกั เรียนคนสดุ ทา้ ย ตามลาดบั

ข้นั สอน

ข้นั ท่ี 3 จัดกล่มุ รว่ มมือ
1. ให้นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพื่อศกึ ษากระบวนการออกแบบ
เชิงวิศวกรรมกบั การแก้ปัญหาชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ จากหนังสือเรียน
2. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ระดมความคดิ เห็นรว่ มกันเพ่ือระบปุ ญั หาทีม่ ภี ายในชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ
ทนี่ กั เรียนสนใจกลมุ่ ละ 3 ปัญหา จากนัน้ ตอบคาถามลงในใบงานท่ี 4.1.1 เร่อื ง การระบุ
ปญั หา และใหน้ ักเรยี นออกมานาเสนอหัวข้อปญั หาท่ีนักเรยี นสนใจบริเวณหนา้ ช้นั เรียน
3. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ศึกษาเกณฑ์การจัดลาดับความสาคัญของปัญหาทัง้ 4 เกณฑ์ จากหนงั สอื เรยี น
และคดั เลอื กปญั หากลุม่ ละ 1 ปญั หาทตี่ ้องการแก้ไขอยา่ งแทจ้ รงิ พรอ้ มระบลุ งในใบงานท่ี 4.1.1

ขั้นท่ี 4 แสวงหาความรู้
4. ใหน้ กั เรยี นศกึ ษาเนอื้ หาเก่ยี วกับข้นั ตอนการรวบรวมข้อมลู และแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกับปญั หา
จากหนงั สือเรยี นและตอบคาถามลงในใบงานท่ี 4.1.2 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ที่

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

58

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา

เกยี่ วข้อง และสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอข้อมูลบริเวณหนา้ ชนั้ เรยี น และเปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี น
แลกเปลี่ยนความคดิ เห็นรว่ มกนั ไดอ้ ยา่ งอิสระ
5. ใหน้ กั เรยี นศึกษาเน้อื หาเก่ียวกับข้ันตอนการออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาจากหนังสอื เรยี น
จากนัน้ ให้ตอบคาถามลงในใบงานที่ 4.1.3 เรื่อง การออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา
6. นักเรียนศกึ ษาเนอ้ื หาเกีย่ วกบั ข้ันตอนการวางแผนและดาเนินการแกป้ ญั หาและสังเกตตวั อย่าง
จากหนังสอื เรียน และตอบคาถามลงในใบงานที่ 4.1.4 เร่อื ง การวางแผนและดาเนินการ
แก้ปัญหา จากน้ันใหแ้ ต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมานาเสนอบรเิ วณหน้าชัน้ เรยี น โดยครคู อยให้
ข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ อย่างใกลช้ ิด
7. ใหน้ กั เรยี นศึกษาเนื้อหาเกยี่ วกับข้ันตอนการทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขวธิ ีการ
แกป้ ญั หาหรอื ชิน้ งานและสังเกตตัวอย่างประกอบจากหนงั สือเรียน
8. นักเรยี นศึกษาเนอื้ หาเก่ียวกับการนาเสนอวิธีการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปญั หาหรือช้นิ งานและ
สังเกตตวั อย่างจากหนงั สอื เรียน และส่งตวั แทนออกมานาเสนอความรู้ทีไ่ ดบ้ รเิ วณหนา้ ชน้ั เรยี น
ข้ันที่ 5 สรุปส่ิงที่เรยี นรู้
9. ครถู ามคาถามกระตุน้ ความคิดของนกั เรียนวา่ “กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกบั
การแกป้ ัญหาชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ประกอบไปดว้ ยกขี่ ัน้ ตอน อะไรบ้าง”
ขน้ั ท่ี 6 นาเสนอผลงาน
10. เปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียนโดยครูกาหนดเวลาใน
การนาเสนอตามความเหมาะสม จากนน้ั ให้ครูและเพอ่ื นร่วมชนั้ ร่วมกันประเมนิ ผลการนาเสนอ
ผลงานของนักเรียนแต่ละกลมุ่

ข้ันสรุป

1. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซกั ถามข้อสงสยั โดยครูให้ความรู้เพ่มิ เตมิ ตามความเหมาะสม
2. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ เก่ยี วกับกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกับการแก้ปญั หาชุมชน

หรอื ทอ้ งถ่นิ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

59

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา

เรอ่ื งท่ี 3 : กรณีศกึ ษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชมุ ชน เวลา 2 ชัว่ โมง

วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบอปุ นยั (Induction)

ขน้ั นา

1. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกันหาความหมายของคาวา่ “การพฒั นาชมุ ชนอยา่ งยง่ั ยนื ”จากนนั้ ครูสมุ่
นกั เรยี น 2-3 คน ตอบคาถาม พร้อมกับอภิปรายร่วมกนั ภายในห้องเรียน

2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรียนสบื คน้ ปญั หาของชุมชนท้ังในประเทศและต่างประเทศจาก
อนิ เทอร์เน็ต จากนนั้ ครูส่มุ นกั เรียนออกมาเล่าเก่ียวกับปญั หาของชุมชนตามทีน่ ักเรยี นสนใจ
บริเวณหน้าช้นั เรียน โดยเปิดโอกาสให้เพ่อื นร่วมชน้ั รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็

3. ครยู กตวั อย่างกรณีศึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพฒั นาฮาลา-บาลา
เพอื่ ใหน้ ักเรียนเข้าใจมากยิง่ ขน้ึ จากหนังสือเรียน

4. ครูถามคาถามประจาหวั ขอ้ เพอื่ กระตนุ้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “นกั เรยี นคดิ วา่ กรณศี กึ ษานี้
ชว่ ยแก้ปญั หาในชมุ ชนได้อย่างยงั่ ยืนหรือไม่ อย่างไร”

ขน้ั สอน

1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือศึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์
เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปแก้ปัญหาพ้นื ทีป่ ่าสาคูในจังหวัดนราธิวาสเพิ่มเติมจากหนังสอื เรียน
โดยให้นกั เรยี นศกึ ษาข้นั ตอนการแก้ปัญหาในชมุ ชนทั้ง 6 ขน้ั ตอนอย่างละเอียด

2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ วิเคราะห์สาเหตขุ องปัญหาจากขัน้ ตอนที่ 1 ระบุปัญหา โดยให้แต่ละกลมุ่
พดู คุยกันถงึ การระบปุ ญั หาจากกรณศี ึกษาในหนงั สอื เรยี นว่าเหมาะสมหรอื ไม่ อย่างไร และควร
มีปญั หาใดเพ่มิ เติม จากนัน้ ครสู ุ่มนกั เรยี น 2-3 คนออกมาสรปุ ปญั หาท่ีพบเพ่ิมเตมิ จากกรณีศึกษา
บริเวณหน้าชัน้ เรียน

3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ทาความเขา้ ใจกบั ขอ้ มูลของปญั หาจากข้นั ตอนท่ี 2 รวบรวมข้อมูลและ
แนวคดิ ท่ีเกย่ี วข้องกบั ปญั หา และให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ทีเ่ กย่ี วข้อง
กับปัญหาเพ่มิ เตมิ โดยการสืบคน้ ข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ จากน้นั ใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุม่ ออกมา
นาเสนอขอ้ มลู บริเวณหนา้ ชนั้ เรยี น และเปดิ โอกาสให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ระดมความคิดเหน็ เพื่อ
จดั ทาสรปุ แนวทางการแก้ปัญหาจากการศกึ ษาสถานการณ์

4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตวั แทนออกมาอธบิ ายสรุปแนวทางในการแกป้ ญั หาท่ไี ด้จัดทาขึ้นบรเิ วณ
หนา้ ชั้นเรยี น

5. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ศึกษาขัน้ ตอนต่าง ๆ จากหนังสือเรยี นเพอ่ื ขยายความเขา้ ใจมากยงิ่ ขึ้นดังนี้
ขั้นตอนที่ 3 ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา
ข้ันตอนท่ี 4 วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

60

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา

ขน้ั ตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ แก้ไขวธิ ีการแก้ปัญหา หรือช้ินงาน
ขัน้ ตอนที่ 6 นาเสนอวิธกี ารแก้ปญั หา ผลการแก้ปัญหา หรือชนิ้ งาน
6. จากน้ันใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ รว่ มกนั สรปุ จากการศึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
นวตั กรรมไปแกป้ ัญหาพนื้ ทปี่ ่าสาคใู นจังหวดั นราธิวาสท้ัง 6 ขน้ั ตอนในหนังสอื เรียน โดยใช้
วิธกี ารตา่ ง ๆ ตามท่ีนกั เรียนสนใจ เชน่ ภาพ Infographic ผังมโนทัศน์ แผน่ พบั และ
ส่งตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอขอ้ มูลบริเวณหนา้ ชั้นเรียน
7. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนทากจิ กรรมทสี่ อดคลอ้ งกับเนอื้ หา โดยผเู้ รียนฝึกปฏิบัติเพอ่ื
พัฒนาความรแู้ ละทักษะ (Design Activity) โดยให้นักเรียนแก้ปัญหาชุมชนหรอื ท้องถ่นิ ดว้ ย
กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมตามขั้นตอนทงั้ 6 ขั้นตอน จากนัน้ ให้นักเรียนออกมา
นาเสนอข้อมลู ในรปู แบบทนี่ ักเรียนคดิ ว่านา่ สนใจและเปิดโอกาสให้เพ่ือรว่ มช้นั ซักถามขอ้ สงสยั
โดยครูคอยให้คาแนะนาตามความเหมาะสม

ขน้ั สรุป

1. เปดิ โอกาสให้นักเรียนซกั ถามขอ้ สงสยั โดยครใู หค้ วามรู้เพ่มิ เติมตามความเหมาะสม
2. นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรปุ เกีย่ วกบั กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกับการแกป้ ัญหาใน

ชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ เพอื่ ชว่ ยแก้ปัญหาในชมุ ชนได้อย่างยั่งยนื
3. นักเรยี นแต่ละคนทาแบบฝกึ หัด (Unit Activity) จากหนงั สอื เรียนเพอ่ื ทบทวนความรู้

ความเขา้ ใจ และพัฒนาทักษะการคิดของนักเรยี น โดยการตอบคาถามลงในสมดุ ประจาตัว
4. นกั เรียนตรวจสอบระดบั ความสามารถของตนเองจากหนังสอื เรียน โดยพิจารณาข้อความวา่ ถูก

หรือผิด หากนักเรยี นพจิ ารณาขอ้ ความไม่ถกู ตอ้ งให้นักเรยี นกลับไปทบทวนเน้อื หาตามหัวข้อท่ี
กาหนดให้
5. ครมู อบหมายใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการคิด และทบทวนเนื้อหาอย่างครบถว้ น
ตามตวั ชวี้ ดั และกจิ กรรม High Oder Thinking ที่สอดคลอ้ งกบั ตวั ช้ีวัดตามทกั ษะแห่งศตวรรษที่ 21
จากแบบฝึกหัดรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาชุมชนหรือท้องถนิ่ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิง
วิศวกรรมเปน็ การบ้านและนามาส่งในชั่วโมงถัดไป
6. นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การแกป้ ญั หาชมุ ชนหรือท้องถนิ่ ด้วย
กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมหรอื ทาแบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝึกหัดเพอื่ วดั
ความร้ทู ี่นักเรยี นไดร้ ับหลังจากผา่ นการเรยี นรู้
7. นกั เรยี นทาชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การแกป้ ัญหาชุมชนหรือทอ้ งถิ่นด้วยกระบวนการ
ออกแบบเชงิ วิศวกรรม และนามาสง่ ในชัว่ โมงถัดไป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

61

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4
เรื่อง การแกป้ ัญหาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถน่ิ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4
เรือ่ ง การแก้ปญั หาชุมชนหรือท้องถ่ินด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
3) แบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
เรอ่ื ง เทคโนโลยกี ับการพฒั นางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรอื ท้องถ่ิน
4) ใบงานที่ 4.1.1 เร่ือง การระบุปญั หา
5) ใบงานท่ี 4.1.2 เรื่อง การรวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดที่เกยี่ วขอ้ ง
6) ใบงานท่ี 4.1.3 เรอ่ื ง การออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา
7) ใบงานที่ 4.1.4 เรื่อง การวางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา
8) แผน่ ป้าย เรื่อง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
9) บตั รภาพ เรือ่ ง การรา่ งภาพ

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์
2) อนิ เทอร์เน็ต

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

62

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา

แบบทดสอบก่อนเรียน

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2

คาชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมที่สร้างขนึ้ มานั้น 6. ขน้ั ตอนใดเป็นการกาหนดลาดับข้ันตอนของการแก้ปัญหา

มีจุดประสงค์อะไร ก. ระบปุ ญั หา

ก. พฒั นาชมุ ชนให้เปน็ แหลง่ ทม่ี ีความรู้ ข. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา

ข. ทาใหก้ ารทางานสะดวกสบายมากยง่ิ ข้นึ ค. วางแผนและดาเนนิ การแกป้ ัญหา

ค. ทาให้ประชาชนรจู้ ักเทคโนโลยีมากย่งิ ขึ้น ง. รวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดที่เกย่ี วขอ้ งกบั ปญั หา

ง. ช่วยแก้ไขปัญหาตา่ ง ๆ ท่เี กดิ ขึ้นอย่างมีระบบ 7. ขั้นตอนใดสามารถบอกได้วา่ ช้ินงานนน้ั สามารถแกป้ ัญหาได้

2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ เกณฑ์ในการจดั ลาดบั ความสาคัญของ ก. ระบุปัญหา

ปัญหา ข. วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา

ก. ขนาดของปญั หา ค. รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ที่เกย่ี วขอ้ งกับปัญหา

ข. ความยากงา่ ยในการแกป้ ญั หา ง. ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ แกไ้ ขวิธีการแกป้ ัญหา

ค. ความพึงพอใจของคนแกป้ ัญหา หรือชิ้นงาน

ง. ความรนุ แรง/ความเร่งดว่ นของปญั หา 8. การออกแบบดว้ ยวธิ กี ารใดทาให้เห็นการแสดงลาดบั ขัน้ ตอน

3. กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมมกี ี่ข้นั ตอน การทางานไดอ้ ยา่ งชัดเจน

ก. 6 ขนั้ ตอน ข. 5 ขัน้ ตอน ก. การร่างภาพ

ค. 4 ขนั้ ตอน ง. 3 ขน้ั ตอน ข. การเขยี นผังงาน

4. การแก้ปญั หาของชมุ ชนควรนากระบวนการใดเขา้ มา ค. การทาแบบจาลอง

ช่วยเหลอื เพ่ือให้ไดผ้ ลลัพธ์ทดี่ ที ส่ี ุด ง. การเขยี นแผนภาพ

ก. กระบวนการทางปัญญา 9. ข้ันตอนใดเป็นขัน้ ตอนสดุ ท้ายของกระบวนการออกแบบ

ข. กระบวนการทางเทคโนโลยี เชิงวิศวกรรม

ค. กระบวนการเทคโนโลยปี ฏบิ ัติการ ก. ระบปุ ญั หา

ง. กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม ข. วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา

5. ขอ้ ใดคือขน้ั ตอนแรกของกระบวนการออกแบบ ค. รวบรวมข้อมูลและแนวคิดท่ีเกี่ยวข้องกบั ปญั หา

เชงิ วศิ วกรรม ง. นาเสนอวิธีการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือช้ินงาน

ก. ระบปุ ญั หา 10. การเขียนแผนภาพเพื่อแสดงรายละเอียดของงานแบบหยาบ

ข. วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา ไม่เนน้ รายละเอยี ด เป็นแผนภาพแบบใด

ค. นาเสนอวิธีการแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหา ก. แผนภาพลายเส้น

หรอื ชน้ิ งาน ข. แผนภาพแบบผสม

ง. รวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ท่ีเกยี่ วข้องกบั ปัญหา ค. แผนภาพแบบบล็อก

ง. แผนภาพแบบรูปภาพ

เฉลย 1. ง 2. ค 3. ก 4. ง 5. ก 6. ค 7. ง 8. ข 9. ง 10. ค

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

63

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา

แบบทดสอบหลงั เรยี น

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2

คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. ขัน้ ตอนใดของกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม 6. ขอ้ ใด ไม่ใช่ วิธกี ารในการนาเสนอช้ินงาน

เป็นข้นั ตอนท่ีทาความเขา้ ใจกบั ปัญหาท่ีเกิดขนึ้ ก. การประชุม

ก. ระบุปัญหา ข. การจดั นิทรรศการ

ข. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หา ค. การนาเสนอต่อภาคธรุ กิจ

ค. วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา ง. การนาเสนอผ่านส่ือออนไลน์

ง. รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ที่เกยี่ วขอ้ งกบั ปญั หา 7. ขั้นตอนใดทใี่ ชใ้ นการถา่ ยทอดแนวคดิ ให้ผ้อู น่ื เข้าใจเกี่ยวกับ

2. แหล่งข้อมลู ในขอ้ ใดไมส่ ามารถนามาใช้ในขนั้ ตอน กระบวนการทางานและช้นิ งานท่ไี ด้มา

การรวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่เี ก่ียวข้องกับปัญหา ก. ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา

ก. ทฤษฎี ข. วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา

ข. หลกั การ ค. รวบรวมขอ้ มูลและแนวคดิ ท่ีเก่ียวข้องกับปญั หา

ค. ผลงานวิจัย ง. นาเสนอวิธกี ารแก้ปัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรอื ชิ้นงาน

ง. หนงั สือพิมพ์ 8. การออกแบบบ้านใหเ้ ห็นถงึ โครงสร้างต่าง ๆ ภายในบา้ น

3. ขั้นตอนใดเป็นขน้ั ตอนที่นาข้อมูลท่ีได้มาวิเคราะห์ ควรใช้วธิ กี ารออกแบบใด

เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเลือกข้อมลู สาหรับแก้ปญั หา ก. การรา่ งภาพ

ก. ระบปุ ัญหา ข. การเขยี นผังงาน

ข. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา ค. การเขียนแผนภาพ

ค. วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา ง. การสร้างแบบจาลอง

ง. รวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ที่เกี่ยวข้องกบั ปญั หา 9. การออกแบบที่ใชว้ ิธีการเขยี นมือเปล่าตามจนิ ตนาการ

4. ขอ้ ใด ไมถ่ ูกตอ้ ง ในการพิจารณาปัญหาทตี่ ้องการ เป็นการออกแบบตามขอ้ ใด

แก้ไข ก. การร่างภาพ

ก. ความยากงา่ ยในการแก้ปัญหา ข. การเขียนผงั งาน

ข. งบประมาณท่ีได้รบั ในการแก้ปัญหา ค. การเขียนแผนภาพ

ค. ความสนใจในการแกป้ ัญหาของคนในชุมชน ง. การสรา้ งแบบจาลอง

ง. จานวนคนท่ไี ด้รับผลกระทบในการแก้ปญั หา 10. การเขยี นแผนภาพทีม่ ที ้ังภาพจรงิ และภาพลายเส้น

5. ขัน้ ตอนใดทาให้ทราบข้อบกพรอ่ งของการทางาน เปน็ การเขียนแผนภาพประเภทใด

ก. ระบุปัญหา ก. แผนภาพแบบผสม

ข. วางแผนและดาเนินการแกป้ ัญหา ข. แผนภาพแบบบล็อก

ค. ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรบั ปรงุ แกไ้ ขวธิ กี าร ค. แผนภาพแบบรปู ภาพ

แกป้ ญั หาหรอื ช้ินงาน ง. แผนภาพแบบลายเสน้

ง. รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปญั หา

เฉลย 1. ก 2. ง 3. ข 4. ข 5. ค 6. ก 7. ง 8. ง 9. ก 10. ก

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

64

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง การใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 1

การใช้เทคโนโลยีในการแก้ปญั หา

เวลา 1 ช่ัวโมง

1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด

1.1 ตวั ชว้ี ัด
ว 4.1 ม.3/2 ระบปุ ัญหาหรอื ความต้องการของชุมชนหรอื ทอ้ งถ่ิน เพอื่ พฒั นางานอาชีพ
สรุปกรอบของปญั หา รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และแนวคิดที่เกีย่ วขอ้ งกับปัญหา
โดยคานงึ ถงึ ความถูกต้องดา้ นทรพั ยส์ ินทางปญั ญา
ว 4.1 ม.3/3 ออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกขอ้ มูล
ทจ่ี าเปน็ ภายใตเ้ ง่ือนไขและทรพั ยากรที่มีอยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปญั หาใหผ้ ู้อ่ืน
เข้าใจดว้ ยเทคนิคหรือวิธีการทห่ี ลากหลาย วางแผนขั้นตอนการทางานและดาเนนิ การ
แกป้ ัญหาอย่างเป็นขั้นตอน

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายความแตกต่างของเทคโนโลยีในระดบั ต่าง ๆ ได้ (K)
2. อธิบายปจั จัยท่ีจาเปน็ ตอ้ งใช้ในการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยไี ด้ (K)
3. สืบคน้ ขอ้ มูลเกย่ี วกับปัญหาและหาวธิ กี ารแกไ้ ขได้ (P)
4. เห็นประโยชน์ในการใช้เทคโนโลยมี าแก้ปัญหาได้ (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- ปญั หาหรือความต้องการอาจพบได้ในงานอาชพี ของชุมชนหรือทอ้ งถ่ิน ซึ่งอาจมีหลายด้าน เช่น ด้านการเกษตร
อาหาร พลังงาน การขนสง่
- การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาช่วยให้เข้าใจเง่ือนไขและกรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากน้ันดาเนินการสืบค้น
รวบรวมขอ้ มลู ความรูจ้ ากศาสตร์ตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวข้อง เพ่อื นาไปสู่การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา
- การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลท่ีจาเป็น โดยคานึงถึงทรัพย์สินทางปัญญา เง่ือนไขและ
ทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เคร่ืองมือและอุปกรณ์ช่วยให้ได้แนวทางการ
แก้ปัญหาท่ีเหมาะสม
- การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาทาได้หลากหลายวธิ ี เชน่ การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ การเขยี นผังงาน
- เทคนคิ หรอื วธิ ีการในการนาเสนอแนวทางการแก้ปญั หามีหลากหลาย เช่น การใช้แผนภมู ิ ตารางภาพเคลอื่ นไหว
- การกาหนดขั้นตอนและระยะเวลาในการทางานสาเรจ็ ได้ตามเป้าหมาย และลดขอ้ ผิดพลาดของการทางานท่อี าจ
เกดิ ขึ้น

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

65

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา

4. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

เทคโนโลยี เป็นสง่ิ ท่ีมนษุ ยส์ รา้ งสรรค์ข้ึนมาใช้เพอ่ื การแก้ปัญหาพื้นฐานทีเ่ กดิ ขึ้นในการดารงชีวิต
ตั้งแตส่ มยั โบราณ โดยมกี ารแบ่งระดับของเทคโนโลยีท่ีใช้ในการแกป้ ัญหาออกเป็น 3 ระดับ คือ 1) เทคโนโลยี
ระดับพ้ืนบ้านหรอื พ้ืนฐาน 2) เทคโนโลยรี ะดับกลาง และ 3) เทคโนโลยรี ะดับสูง โดยปจั จัยที่ใชใ้ นการตัดสนิ ใจ
เลือกเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ 1) ทรัพยากรทางเทคโนโลยี 2) ผลกระทบต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
ในชมุ ชนหรือท้องถ่ิน 3) ความถกู ตอ้ งด้านทรพั ย์สินทางปญั ญา

5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินัย รับผิดชอบ

- ทกั ษะการสื่อสาร 2. ใฝเ่ รยี นรู้

2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน

- ทกั ษะการให้เหตุผล

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

- ทักษะการแก้ปัญหา

- ทกั ษะการสังเกต

- ทกั ษะการประยุกตใ์ ชค้ วามรู้

4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

- ทักษะการทางานร่วมกนั

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning)

ขน้ั นา

1. ครถู ามคาถามสาคัญประจาหัวข้อเพอ่ื กระต้นุ ความสนใจของนักเรยี นวา่ “เราสามารถใช้
เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหา เพอื่ พฒั นางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ินได้อยา่ งไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรยี นขน้ึ อย่กู ับดุลยพนิ จิ ของครผู ้สู อน เช่น การใช้เทคโนโลยี
ท่เี ปน็ เครือ่ งท่นุ แรงในการทางานทางการเกษตร เพอ่ื ช่วยลดความยากลาบากในการทางาน
การใช้เทคโนโลยีในการแปรรปู ผลผลิต การถนอมอาหาร เพอ่ื ยดื อายุการเกบ็ รกั ษาให้นานขึน้
ชะลอการเนา่ เสียสาหรับการสง่ ออกสนิ ค้าไปตา่ งประเทศ)

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

66

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอื่ ง การใชเ้ ทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา

2. ครอู ธิบายกบั นักเรยี นเพอ่ื เช่ือมโยงเขา้ ส่บู ทเรียนว่า“เทคโนโลยีในปัจจบุ นั ถูกพัฒนาให้
มปี ระสทิ ธภิ าพมากข้ึนจากหลายสาเหตุ เช่น วิทยาการและองค์ความร้ตู ่าง ๆ เมอ่ื อัตรา
ของประชากรเพ่มิ ข้นึ ปรมิ าณของทรัพยากรธรรมชาติทม่ี ีจานวนลดลง เทคโนโลยีท่ีมีอยู่
ในปัจจุบนั จงึ ถกู คดิ ค้นขึ้นมาโดยเนน้ ใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในเร่ืองการใช้
พลงั งาน การกาจดั ขยะ การรกั ษาโรค และการอนุรักษ์ส่งิ แวดลอ้ ม”

ขน้ั สอน

ขน้ั ท่ี 1 กาหนดปญั หา
1. นักเรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม
2. ครูถามคาถามกระตุน้ ความคิดของนักเรียนว่า“นกั เรยี นคิดวา่ เทคโนโลยมี ีผลกระทบ
ตอ่ ชีวิตประจาวันอย่างไรบา้ ง”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรยี นข้นึ อยู่กับดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

ข้ันท่ี 2 ทาความเขา้ ใจปัญหา
3. นักเรยี นศึกษาเน้ือหาเก่ียวกบั ระดบั ของเทคโนโลยีท่ีใช้ในการแก้ปญั หาจากหนังสือเรยี น
พื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ ง
เทคโนโลยีกับการพฒั นางานอาชพี ภายในชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ิน โดยแบง่ ระดบั ของเทคโนโลยี
ออกเป็น 3 ระดับ ดงั น้ี
1) เทคโนโลยรี ะดบั พ้นื บ้านหรือพืน้ ฐาน
2) เทคโนโลยรี ะดับกลาง
3) เทคโนโลยรี ะดับสงู

ข้ันที่ 3 ดาเนนิ การศกึ ษาค้นคว้า
4. นกั เรยี นศกึ ษาตวั อย่างเทคโนโลยแี ต่ละระดับจากหนังสือเรยี นหรอื สบื คน้ เพิ่มเติม
จากอนิ เทอรเ์ นต็
5. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทากิจกรรม High Oder Thinking ทสี่ อดคล้องกับตวั ชว้ี ดั ตามทกั ษะ
แห่งศตวรรษที่ 21 จากแบบฝกึ หัดรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับการพัฒนางานอาชพี ภายใน
ชมุ ชนหรือท้องถน่ิ
6. ครูสมุ่ นกั เรียน 2-3 คน ออกมาตอบคาถามบริเวณหน้าช้ันเรียน
7. นกั เรียนศึกษาเก่ียวกบั ปัจจัยทใี่ ชใ้ นการตดั สินใจเลอื กเทคโนโลยีจากหนังสอื เรยี นตามหัวข้อ
ดงั น้ี
1) ทรพั ยากรทางเทคโนโลยี
2) ผลกระทบตอ่ มนษุ ย์ สังคม เศรษฐกิจ และสิง่ แวดล้อมในชุมชนหรือทอ้ งถิ่น

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

67

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา

3) ความถูกต้องด้านทรัพย์สนิ ทางปัญญา
8. นกั เรยี นศึกษาตวั อย่างการประเมนิ ผลกระทบตอ่ มนุษย์ สงั คม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดลอ้ ม

ในชุมชนกอ่ นการเลอื กใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ัญหา ตัวอย่างการทารายงานการแก้ปัญหา
ชุมชนทีเ่ กดิ จากการเผาตอซังและฟางข้าวในนาขา้ ว และสแกน QR Code เรื่อง ข้นั ตอน
การจดทะเบียนสทิ ธิบัตร อนสุ ิทธิบัตร จากหนงั สอื เรียน
9. ครูอธบิ ายเกรด็ ความรู้ท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั เนื้อหา (Design Focus) เร่ือง การเขียนอา้ งองิ แบบ APA
ขน้ั ท่ี 4 สงั เคราะห์ความรู้
11. เปิดโอกาสให้นกั เรียนซักถามข้อสงสยั โดยครใู ห้ความรู้เพมิ่ เติมตามความเหมาะสม
12. นักเรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 5-7 คน หรอื ตามความเหมาะสม
13. นกั เรียนทากจิ กรรมที่สอดคล้องกบั เน้ือหา โดยให้ผเู้ รยี นฝึกปฏิบัติเพอ่ื พัฒนาความรู้และทกั ษะ
(Design Activity) จากหนังสอื เรยี นและบันทึกลงในสมดุ ประจาตวั
ขน้ั ท่ี 5 สรปุ และประเมนิ ค่าของคาตอบ
14. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ร่วมกันตรวจสอบความถูกตอ้ งของขอ้ มูล
15. ครูทบทวนคาถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรยี นว่า“นักเรยี นคิดวา่ เทคโนโลยีมผี ลกระทบ
ตอ่ ชวี ิตประจาวันอยา่ งไรบ้าง”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรียนขน้ึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน เช่น เทคโนโลยเี อื้ออานวย
ความสะดวกใหแ้ กม่ นษุ ย์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่วา่ จะเป็น ด้านการส่ือสาร ด้านการคมนาคม
ดา้ นการศกึ ษา หรือด้านการแพทย์)
ขั้นท่ี 6 นาเสนอและประเมินผลงาน
16. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอขอ้ มูลบรเิ วณหนา้ ชั้นเรยี น โดยครูผู้สอน
ประเมนิ ผลงานการนาเสนอของนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

68

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปญั หา

ขน้ั สรุป

1. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคาถาม และการนาเสนอผลงานของนักเรยี น
2. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ความร้เู กี่ยวกบั ระดบั ของเทคโนโลยีที่ใชใ้ นการแก้ปัญหา

และปจั จยั ทใ่ี ช้ในการตดั สนิ ใจเลอื กเทคโนโลยี
3. นกั เรยี นแต่ละคนทาแบบฝึกหัด (Unit Activity) ทบทวนความรู้ ความเขา้ ใจ และพัฒนาทักษะ

การคิดของผูเ้ รยี น โดยการตอบคาถามลงในสมุดประจาตัว
4. นักเรียนตรวจสอบระดบั ความสามารถของตนเองจากหนังสือเรียน โดยพิจารณาข้อความวา่

ถกู หรือผิด หากนกั เรยี นพจิ ารณาไมถ่ ูกต้องให้นักเรียนกลบั ไปทบทวนเนอ้ื หาตามหวั ขอ้ ที่
กาหนดให้
5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทากิจกรรม High Oder Thinking ทสี่ อดคลอ้ งกับตัวช้ีวัดตามทกั ษะ
แหง่ ศตวรรษท่ี 21 จากแบบฝกึ หัดและทาช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง ปัญหาทีเ่ กิดขึน้
ในชุมชนหรือทอ้ งถ่ิน เปน็ การบ้านและนามาส่งในชั่วโมงถดั ไป
6. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง เทคโนโลยกี บั การพัฒนางาน
อาชพี ภายในชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ หรอื ทาแบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝกึ หดั

7. การวัดและประเมนิ ผล วิธวี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวัด - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.1 การประเมินระหวา่ งการ
- ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
จดั กิจกรรม ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
1) การใชเ้ ทคโนโลยี - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
การทางานรายบุคคล การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
ในการแก้ปัญหา - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2
2) การนาเสนอผลงาน การทางานกลุ่ม การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
- สังเกตความมวี นิ ัย - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
3) พฤตกิ รรมการทางาน ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
รายบุคคล ใฝ่เรยี นรู้ และม่งุ ม่นั อนั พึงประสงค์
ในการทางาน
4) พฤตกิ รรมการทางาน
กล่มุ

5) คณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

69

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 เรื่อง การใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา

รายการวดั วิธวี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมนิ
7.2 การประเมนิ หลงั เรยี น - ตรวจช้ินงาน/ - แบบประเมินช้นิ งาน/ ระดับคณุ ภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
2) การประเมินช้ินงาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด)
ภาระงาน (รวบยอด)
เรื่อง ปญั หาทเี่ กิดขนึ้
ในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถนิ่

8. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2
เรื่อง เทคโนโลยกี ับการพัฒนางานอาชพี ภายในชุมชนหรอื ทอ้ งถน่ิ
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2
เร่อื ง เทคโนโลยกี ับการพฒั นางานอาชีพภายในชมุ ชนหรอื ท้องถิน่

8.2 แหล่งการเรียนรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ นต็

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

70

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปญั หา

ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เร่ือง ปัญหาท่เี กดิ ขึ้นในชมุ ชนหรือท้องถิ่น

คาชี้แจง : ใหน้ ักเรยี นสารวจปัญหาท่ีเกิดขนึ้ ในชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ ท่นี กั เรียนอาศัยอยู่ พรอ้ มบอกวธิ กี ารสารวจ
ปัญหาที่เหมาะสมกบั ปัญหานนั้ และแนวทางการแก้ไขปัญหามาพอสงั เขป

ประเภทของปัญหา วธิ กี ารสารวจปญั หา แนวทางการแก้ไขปัญหา
ปญั หาด้านเศรษฐกจิ

ปญั หาดา้ นสงั คม

ปญั หาด้านวฒั นธรรม

ปัญหาด้านส่ิงแวดล้อม

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

71

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา เฉลย
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา

ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอื่ ง ปญั หาทเี่ กิดข้นึ ในชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่

คาชแ้ี จง : ใหน้ กั เรียนสารวจปญั หาท่ีเกิดขนึ้ ในชุมชนหรือท้องถ่นิ ท่ีนกั เรียนอาศัยอยู่ พร้อมบอกวธิ กี ารสารวจ
ปญั หาท่ีเหมาะสมกับปัญหานั้น และแนวทางการแก้ไขปัญหามาพอสงั เขป

ประเภทของปญั หา วิธกี ารสารวจปญั หา แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
ปัญหาดา้ นเศรษฐกิจ - สารวจจากการสังเกต การสรา้ งเขือ่ น ฝาย อ่างเกบ็ นา้ เพอ่ื กกั เกบ็
- ปัญหาภัยแลง้ - สารวจจากการสมั ภาษณ์ นา้ ไวใ้ ชใ้ นหนา้ แลง้ ทาใหเ้ กษตรกรสามารถ
ทาการผลติ ได้อยา่ งต่อเน่อื งทดแทนระบบ
ชลประทานทไ่ี ม่เพียงพอ

ปัญหาดา้ นสงั คม - สารวจจากการสมั ภาษณ์ การใช้สือ่ โซเชียลมีเดียหรอื เครอื ขา่ ยสังคม
ออนไลนเ์ ป็นช่องทางในการโฆษณาสินคา้
- ปัญหาการขายสินคา้ ภายในชมุ ชน - สารวจจากแบบสอบถาม หรือขายสนิ ค้า เช่น Facebook Line
Instagram
- สารวจจากเอกสาร ตารา

และฐานขอ้ มูล

ปญั หาด้านวัฒนธรรม - สารวจจากการสมั ภาษณ์ การใช้เทคโนโลยฟี รีซดรายในการแปรรูป
- ปัญหาการสง่ ออกอาหารพ้ืนบ้าน - สารวจจากการสงั เกต ผลผลติ เพอื่ ยืดอายกุ ารเกบ็ รักษา และ
- สารวจจากเอกสาร ตารา ชะลอการเน่าเสีย ช่วยถนอมอาหารโดยยงั
รักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้
และฐานขอ้ มูล

ปัญหาด้านส่งิ แวดลอ้ ม - สารวจจากการสัมภาษณ์ การใช้เครอื่ งจกั รที่มปี ระสทิ ธภิ าพสงู ในการ
- ปัญหาการเผาตอซังข้าว - สารวจจากการสังเกต ไถกลบ เช่น รถแทรกเตอร์ หรือใชจ้ ลุ นิ ทรยี ์
เร่งการย่อยสลายตอซังในนาขา้ วหลัง
เกบ็ เกยี่ ว

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

72

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ ง
ที่ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา 
2 ความคิดสร้างสรรค์  
3 วิธีการนาเสนอผลงาน  
4 การนาไปใช้ประโยชน์  
5 การตรงตอ่ เวลา  


รวม

ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./....................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

73

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การใชเ้ ทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล

คาช้ีแจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดับคะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32
1 การแสดงความคิดเห็น 
2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น  
3 การทางานตามหนา้ ท่ที ี่ได้รับมอบหมาย  
4 ความมนี ้าใจ  
5 การตรงต่อเวลา  

รวม

เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ............/................./....................
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

74

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง การใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานกลุม่

คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในช่อง
ทีต่ รงกบั ระดับคะแนน

ลาดับที่ ชอ่ื –สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี การมสี ว่ นรว่ ม
ของนักเรยี น ความคดิ เหน็ ฟงั คนอ่นื ตามที่ได้รบั นา้ ใจ ในการปรับปรุง รวม
มอบหมาย ผลงานกลุ่ม 15

คะแนน

321321321321321

ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................./....................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน

ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครง้ั ให้ 1 คะแนน

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ

14–15 ดีมาก

11–13 ดี

8–10 พอใช้

ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

75

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง การใชเ้ ทคโนโลยีในการแกป้ ญั หา

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คาชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ ง

ทตี่ รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 32 1

1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติและรอ้ งเพลงชาติได้

กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สรา้ งความสามคั คีปรองดองและเป็นประโยชน์

ตอ่ โรงเรียน

1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏบิ ตั ติ ามหลักศาสนา

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่ีเกย่ี วกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามท่โี รงเรยี นจัดขึ้น

2. ซ่ือสัตย์ สจุ รติ 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถ่ี ูกตอ้ งและเปน็ จริง

2.2 ปฏบิ ัตใิ นสิ่งที่ถูกต้อง

3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว

มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั

4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนาไปปฏิบตั ไิ ด้

4.2 รู้จักจดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชือ่ ฟงั คาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง

4.4 ตง้ั ใจเรียน

5. อย่อู ย่างพอเพียง 5.1 ใชท้ รัพย์สินและส่ิงของของโรงเรียนอย่างประหยัด

5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณคา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน

6. มงุ่ มัน่ ในการทางาน 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ด้รับมอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออุปสรรคเพือ่ ใหง้ านสาเร็จ

7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย

7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย

8. มจี ิตสาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน

8.2 รจู้ กั การดูแลรกั ษาทรพั ย์สมบตั แิ ละส่ิงแวดลอ้ มของหอ้ งเรียน

และโรงเรยี น

ลงชอ่ื ..................................................ผ้ปู ระเมนิ
............/.................../................

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดมี าก
พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัติบางครงั้ 30-40 พอใช้
ปรับปรุง
ต่ากวา่ 30

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

76

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง การใช้เทคโนโลยใี นการแกป้ ญั หา

ว 4.1 ม.3/2 แบบประเมินชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ม.3/3
ระบปุ ญั หาหรอื ความต้องการของชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่นิ เพ่ือพัฒนางานอาชพี
สรุปกรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และแนวคิดทีเ่ กย่ี วข้องกบั ปญั หา
โดยคานึงถึงความถกู ตอ้ งด้านทรพั ย์สินทางปัญญา
ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลอื กขอ้ มูล
ท่ีจาเปน็ ภายใต้เงอ่ื นไขและทรพั ยากรทม่ี ีอยู่ นาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาใหผ้ ้อู ืน่
เขา้ ใจดว้ ยเทคนคิ หรอื วธิ กี ารท่ีหลากหลาย วางแผนขัน้ ตอนการทางานและ
ดาเนนิ การแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน

รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดบั คุณภาพ) ระดบั
ประเมิน คณุ ภาพ
ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
1. ปัญหาที่เกิดข้ึนใน ดีมาก
ชมุ ชนหรือท้องถ่ิน สามารถคดั เลอื กปัญหาที่ สามารถคัดเลอื กปญั หา สามารถคดั เลือกปญั หา ไม่สามารถคัดเลอื ก
เกิดขึ้นในชุมชนหรือ ปัญหาทีเ่ กดิ ข้ึนใน ดี
2. บอกวิธกี ารสารวจ ทอ้ งถ่นิ ได้เหมาะสม ที่เกดิ ขึ้นในชมุ ชนหรอื ทเ่ี กดิ ขึ้นในชมุ ชนหรอื ชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่นิ ได้
ปญั หาท่เี กดิ ขึ้นใน ดมี าก พอใช้
ชมุ ชนหรอื ท้องถิ่น สามารถเลือกใช้วิธีการ ท้องถน่ิ ได้ดี ทอ้ งถนิ่ ไดค้ ่อนข้างดี ไมส่ ามารถเลอื กใช้
สารวจปัญหาที่เกิดข้นึ ใน วิธกี ารสารวจปัญหาที่ ปรบั ปรงุ
3. แนวทางการแก้ไข ชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่ ได้ สามารถเลือกใชว้ ิธกี าร สามารถเลือกใชว้ ิธีการ เกิดขน้ึ ในชมุ ชนหรือ
ปัญหา เหมาะสม ดีมาก สารวจปญั หาทเ่ี กดิ ขึ้น สารวจปัญหาท่เี กิดขึน้ ท้องถิน่ ได้
สามารถบอกแนวทาง ในชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ินได้ ในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่ินได้ ไมส่ ามารถบอกแนวทาง
4. ความสมบรู ณข์ อง การแก้ไขปญั หาทเ่ี กิดขน้ึ ดี คอ่ นขา้ งดี การแก้ไขปัญหาท่ี
ผลงาน ในชุมชนหรอื ท้องถนิ่ ได้ สามารถบอกแนวทาง สามารถบอกแนวทาง เกิดขึน้ ในชุมชนหรอื
เหมาะสมดีมาก การแกไ้ ขปญั หาที่ การแก้ไขปญั หาท่ี ทอ้ งถิ่นได้
5. ส่งงานตรงเวลา ผลงานมคี วามครบถว้ น เกิดขึน้ ในชมุ ชนหรือ เกิดข้นึ ในชมุ ชนหรอื ผลงานมคี วามครบถว้ น
สมบูรณ์ดีมาก ทอ้ งถิน่ ไดด้ ี ทอ้ งถ่นิ ได้ค่อนข้างดี สมบูรณน์ อ้ ย
สง่ ภาระงานภายในเวลา ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมีความครบถว้ น ส่งภาระงานชา้ กวา่
ท่กี าหนด สมบรู ณค์ ่อนข้างดี สมบรู ณด์ เี ปน็ บางสว่ น กาหนดเกิน 3 วันขึ้นไป
สง่ ภาระงานช้ากวา่ ส่งภาระงานช้ากว่า
กาหนด 1 วนั กาหนด 2 วัน

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

16-20 ดีมาก

10-15 ดี

7-9 พอใช้

1-6 ปรับปรุง

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

77

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่อื ง การใช้เทคโนโลยีในการแก้ปญั หา

9. บนั ทกึ ผลหลังการสอน

 ด้านความรู้
 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น
 ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
 ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
 ดา้ นอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

78

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรอื่ ง กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกับการแกป้ ญั หาชุมชนหรือท้องถนิ่

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 2

กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกับการแกป้ ัญหาชมุ ชนหรือท้องถิน่

เวลา 3 ช่ัวโมง

1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด

1.1 ตัวชีว้ ัด
ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะหส์ าเหตุ หรอื ปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยีกับศาสตร์อนื่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือ
คณติ ศาสตร์ เพอ่ื เป็นแนวทางการแก้ปญั หาหรอื พัฒนางาน
ว 4.1 ม.3/2 ระบุปญั หาหรือความต้องการของชมุ ชนหรอื ท้องถนิ่ เพอ่ื พัฒนางานอาชีพ
สรปุ กรอบของปัญหา รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มูลและแนวคดิ ทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับปัญหา
โดยคานงึ ถึงความถกู ต้องด้านทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา
ว 4.1 ม.3/3 ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกขอ้ มูลท่ี
จาเป็นภายใตเ้ งื่อนไขและทรพั ยากรที่มอี ยู่ นาเสนอแนวทางการแกป้ ญั หาให้ผอู้ ่ืน
เข้าใจดว้ ยเทคนคิ หรือวิธกี ารท่ีหลากหลาย วางแผนข้นั ตอนการทางานและ
ดาเนินการแกป้ ญั หาอยา่ งเป็นข้นั ตอน
ว 4.1 ม.3/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล วเิ คราะห์ และใหเ้ หตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องทเ่ี กดิ ข้นึ
ภายใต้กรอบเง่ือนไข พร้อมท้ังหาแนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และนาเสนอผล
การแก้ปญั หา

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมายของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมได้ (K)
2. บอกข้ันตอนของกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมได้ (K)
3. ออกแบบโครงงานตามขั้นตอนกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมได้ (P)
4. เลง็ เหน็ ความสาคัญของการนากระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมมาใชแ้ กป้ ญั หาในชีวิตประจาวนั (A)

3. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง
- เทคโนโลยมี กี ารเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาตัง้ แตอ่ ดตี จนถึงปัจจบุ ัน ซ่ึงมีสาเหตุหรอื ปัจจัยมาจากหลายด้าน เช่น
ปญั หาหรือความตอ้ งการของมนุษย์ ความกา้ วหนา้ ของศาสตร์ตา่ ง ๆ การเปลีย่ นแปลง ท า ง ด้ าน เศ ร ษ ฐ กิ จ
สงั คม วฒั นธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม
- เทคโนโลยมี คี วามสมั พันธก์ บั ศาสตรอ์ ่นื โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เป็นพ้ืนฐานความรู้ที่นาไป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

79

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 2 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกับการแก้ปญั หาชมุ ชนหรอื ท้องถิ่น

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
สู่การพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยีทไ่ี ด้ สามารถเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ค้นคว้า เพ่ือใหไ้ ด้มาซึ่งองค์
ความรใู้ หม่
- ปัญหาหรือความตอ้ งการอาจพบไดใ้ นงานอาชีพของชมุ ชนหรือทอ้ งถน่ิ ซง่ึ อาจมีหลายด้าน เชน่ ดา้ นการเกษตร
อาหาร พลงั งาน การขนส่ง
- การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาช่วยใหเ้ ข้าใจเงอ่ื นไข และกรอบของปญั หาได้ชัดเจน จากนั้นดาเนินการสบื ค้น
รวบรวมขอ้ มูล ความรจู้ ากศาสตรต์ ่าง ๆท่เี กีย่ วขอ้ ง เพอ่ื นาไปสกู่ ารออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หา
- การวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกขอ้ มูลทจ่ี าเป็น โดยคานงึ ถงึ ทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา เงื่อนไข แ ล ะ
ทรัพยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมูลและสารสนเทศ วัสดุ เครื่องมือและอุปกรณ์ ช่วยให้ได้แนวทางการ
แก้ปัญหาทเี่ หมาะสม
- การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาทาไดห้ ลากหลายวธิ ี เชน่ การรา่ งภาพ การเขียนแผนภาพ การเขียนผงั งาน
- เท คนิ คห รือวิธีการใน ก ารน าเสน อ แน วทางก ารแก้ปั ญ หามีห ลาก หลาย เช่น ก ารใช้แผน ภู มิ
ตารางภาพเคลือ่ นไหว
- การกาหนดข้นั ตอนและระยะเวลาในการทางานก่อนดาเนินการแกป้ ญั หาจะชว่ ยใหก้ ารทางานสาเร็จได้
ตามเป้าหมาย และลดข้อผดิ พลาดของการทางานทีอ่ าจเกิดขน้ึ
- การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบชิ้นงานหรือวิธีการว่า สามารถแก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์
ภายใต้กรอบของปัญหา เพ่ือหาข้อบกพร่อง และดาเนินการปรับปรุง โดยอาจทดสอบซ้าเพื่อให้สามารถแก้ไข
ปัญหาได้
- การนาเสนอผลงานเป็นการถา่ ยทอดแนวคดิ เพอื่ ใหผ้ ูอ้ ื่นเข้าใจเกี่ยวกบั กระบวนการทางาน และช้ินงาน ห รื อ
วธิ กี ารทีไ่ ด้ ซึ่งสามารถทาได้หลายวิธี เชน่ การเขียนรายงาน การทาแผน่ นาเสนอผลงาน การจดั นิ ท ร ร ศ ก า ร
การนาเสนอผ่านส่อื ออนไลน์

4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็นกระบวนการแก้ปัญหาหรือพัฒนาชิ้นงานอย่างเป็น
ขั้นตอนภายใต้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ การวิเคราะห์สถานการณ์ของปัญหา ผลกระทบของการแก้ปัญหาเพื่อ
นาไปสู่การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา โดยใช้ความรูด้ ้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ
สาหรับกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม ประกอบไปดว้ ย 6 ขัน้ ตอน ดงั น้ี ขัน้ ตอนท่ี 1 ระบปุ ญั หา
ข้ันตอนที่ 2 รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เก่ียวข้องกับปัญหา ข้ันตอนที่ 3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา
ขั้นตอนท่ี 4 วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา ข้ันตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข
วธิ กี ารแก้ปัญหาหรอื ชน้ิ งาน และข้นั ตอนท่ี 6 นาเสนอวิธกี ารแกป้ ัญหา ผลการแกป้ ัญหาหรือช้นิ งาน

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

80

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ัญหาชุมชนหรือท้องถ่ิน

5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ

- ทักษะการส่อื สาร 2. ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการคดิ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน

- ทักษะการใหเ้ หตุผล

- ทักษะการคิดอย่างเปน็ ระบบ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทักษะการแกป้ ัญหา

- ทักษะการสงั เกต

- ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

- ทกั ษะการทางานรว่ มกนั

- ทกั ษะการสารวจ

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

6. กิจกรรมการเรยี นรู้

 วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบใช้โครงงานเปน็ ฐาน (Project-Based Learning)

ชั่วโมงท่ี 1

ขน้ั นา

ข้นั ท่ี 1 ใหค้ วามร้พู ้นื ฐาน
1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การแก้ปญั หาชุมชนหรือทอ้ งถน่ิ
ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม
2. ครถู ามคาถามกระตุน้ ความคิดของนกั เรยี นวา่ “ในชุมชนที่นกั เรียนอาศัยอยูม่ ปี ัญหาอะไร
เกดิ ขนึ้ บ้าง และปญั หาเหลา่ นั้นสามารถแก้ไขได้หรอื ไม่ อยา่ งไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรยี นขึ้นอยู่กับดลุ ยพินิจของครผู ู้สอน เช่น ปญั หาด้านการเกษตร
ด้านอาหาร ดา้ นพลงั งาน ดา้ นการขนสง่ )
3. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจมากยง่ิ ข้ึนว่า“ปัญหาตา่ ง ๆ ทเ่ี กิดข้ึนภายในชมุ ชน
สามารถแก้ไขไดโ้ ดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมที่อาศยั ความร้ดู ้านตา่ ง ๆ เขา้ มา

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

81

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกับการแก้ปัญหาชมุ ชนหรอื ท้องถน่ิ

จดั การ เชน่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ รวมถึงความคิดสรา้ งสรรค์ เพอ่ื ใหไ้ ด้
ผลลัพธ์ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพและเหมาะสมท่สี ุดแกช่ ุมชนหรอื ทอ้ งถ่ิน”

ขั้นที่ 2 กระต้นุ ความสนใจ
4. ครูถามคาถามสาคัญประจาหัวขอ้ เพื่อกระต้นุ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “นักเรยี นคดิ วา่
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม จะช่วยแก้ปญั หาในชุมชนหรอื ท้องถิน่ ของนกั เรียน
ได้อย่างไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรยี นขึน้ อยู่กับดุลยพนิ จิ ของครผู ู้สอน เชน่ กระบวนการออกแบบ
เชิงวิศวกรรมมสี ว่ นชว่ ยในการตดั สินใจสาหรับการแก้ปัญหาท่ีเกิดขน้ึ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ทาให้
การแก้ปญั หามรี ะบบ โดยอาศัยความรทู้ างดา้ นวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ
รวมถึงความคดิ สรา้ งสรรค์ ดังน้นั การแก้ปญั หาจงึ มปี ระสิทธภิ าพ และสร้างผลลพั ธท์ ่ีดีทีส่ ุด
แก่ชมุ ชนหรือท้องถิ่น)
5. ครสู ุ่มนักเรียน 6 คน ออกมายนื เรียงกนั บริเวณหนา้ ช้นั เรียนโดยครเู ปดิ แผน่ ป้าย เรอื่ ง
กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมใหน้ ักเรยี นดู และให้นักเรียนคนแรกพดู ขอ้ ความ
ท่ีปรากฏอยู่ในแผน่ ปา้ ย จากน้นั ครเู ปิดแผ่นปา้ ยที่ 2 ให้นักเรียนคนถดั ไปดู โดยนกั เรียน
จะต้องพูดขอ้ ความของเพ่ือนคนก่อนหนา้ และข้อความที่ปรากฏอยใู่ นแผน่ ป้าย โดยดาเนนิ การ
ตอ่ ไปเร่อื ย ๆ จนถงึ นกั เรียนคนสุดทา้ ยตามลาดับ

ขน้ั สอน

ขัน้ ที่ 3 จดั กล่มุ ร่วมมือ
1. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพอ่ื ศึกษากระบวนการออกแบบ
เชงิ วิศวกรรมกบั การแกป้ ัญหาชุมชนหรือทอ้ งถิ่นจากหนังสือเรยี นรายวิชาพนื้ ฐาน เทคโนโลยี
(การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรอ่ื ง การแก้ปญั หาชมุ ชนหรอื
ทอ้ งถ่ินด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม
2. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ระดมความคิดเหน็ รว่ มกนั เพอื่ ระบปุ ัญหาทม่ี ีภายในชุมชนหรือทอ้ งถ่นิ
ทน่ี ักเรียนสนใจกลมุ่ ละ 3 ปญั หา จากนัน้ ตอบคาถามลงในใบงานท่ี 4.1.1 เรื่อง การระบุ
ปัญหา โดยทาตามขน้ั ตอน ดังน้ี สรุปรายการปญั หาทเ่ี กิดขึ้นในชุมชนหรือท้องถนิ่ จดั ลาดับ
ความสาคัญของแตล่ ะปญั หา เลอื กปญั หาทตี่ อ้ งการแกไ้ ข และระบปุ ัญหาที่ต้องการแกไ้ ข
ซ่ึงนักเรียนอาจจะศึกษาขน้ั ตอนต่าง ๆ เพิม่ เติมอย่างละเอียดในหนังสือเรียน
3. ครูอธิบายกับนกั เรียนวา่ “การสารวจปัญหาทีพ่ บในชุมชนหรือท้องถ่ิน สามารถทาไดโ้ ดยใช้
วธิ ีการตา่ ง ๆ เช่น การสารวจปญั หาจากเอกสาร ตารา วิจัย ฐานข้อมูล การสงั เกต
การสมั ภาษณ์ หรอื แบบสอบถาม”

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

82

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกับการแกป้ ัญหาชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่

4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนอปัญหาทีน่ ักเรียนสนใจทง้ั 3 ปญั หา และการจัดลาดบั
ความสาคญั ของกลุม่ ตนเองบรเิ วณหนา้ ช้ันเรยี น

5. นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ศึกษาเกณฑ์การจัดลาดบั ความสาคญั ของปญั หาทัง้ 4 เกณฑ์ และสแกน
QR code เร่ือง ตัวอยา่ งการคานวณลาดบั ความสาคัญของแต่ละปญั หา จากหนงั สอื เรียน

6. จากนนั้ ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดเหน็ รว่ มกันเพ่ือคัดเลอื กปัญหา กลุม่ ละ 1 ปัญหา
พรอ้ มระบปุ ัญหาท่ตี อ้ งการแก้ไขอยา่ งแท้จริงเปน็ ข้อความสั้น ๆ กะทัดรดั ใหม้ องเห็นเปน็
แนวทางของการแกป้ ัญหาลงในใบงานท่ี 4.1.1 เร่ือง การระบุปญั หา

ชวั่ โมงที่ 2

ข้ันท่ี 4 แสวงหาความรู้
7. ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม (กลุ่มเดิม) เพอ่ื ศกึ ษาเน้อื หาเกี่ยวกับข้นั ตอนการรวบรวมขอ้ มลู และแนวคิด
ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ปัญหาซง่ึ อาจจะเป็นแนวคิดทางวทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี หรอื
ศาสตร์อ่ืน ๆ โดยสบื ค้นข้อมลู จากทางอินเทอร์เนต็ และตอบคาถามลงในใบงานที่ 4.1.2
เรื่อง การรวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ที่เก่ียวขอ้ ง
8. ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมกบั นักเรียนวา่ “ข้นั ตอนการรวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดท่เี ก่ยี วข้องกบั ปัญหา
เป็นขน้ั ตอนที่ละเอยี ดอ่อน และสิง่ ท่ียากที่สดุ คอื การประเมนิ ความนา่ เช่ือถือของแหลง่ ขอ้ มูล”
9. ครูอธบิ ายเกรด็ ความรทู้ ี่เกย่ี วขอ้ งกับเน้อื หา (Design Focus) เรื่อง การรวบรวมข้อมูล
10. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ สังเกตตวั อย่างขั้นรวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั
ปญั หา จากหนงั สือเรยี น
11. ครูอธบิ ายเกรด็ ความรทู้ ี่เกี่ยวขอ้ งกบั เน้ือหา (Design Focus) เรอ่ื ง แนะนาเวบ็ ไซต์ดา้ น
การเกษตรเพ่มิ เติม
12. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอขอ้ มูลและแนวคดิ ท่ีเกย่ี วขอ้ งกับปญั หาตามทไ่ี ด้
เก็บรวบรวมข้อมลู บริเวณหน้าชั้นเรียน และเปิดโอกาสให้นักเรยี นแลกเปล่ียนความคิดเห็น
รว่ มกันได้อย่างอิสระ
13. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่ม (กลุม่ เดมิ ) เพื่อศึกษาเนือ้ หาเกย่ี วกับขน้ั ตอนการออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา
ซ่งึ เป็นขน้ั ตอนทช่ี ่วยให้ได้แนวทางการแก้ปัญหาท่ีเหมาะสมแลว้ ออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา
โดยอาจร่างภาพ (Sketch) เขียนเปน็ แผนภาพ (Diagrams) เขียนผงั งาน (Flowchart) หรอื
การสร้างแบบจาลอง (Model)
14. ครนู าบัตรภาพ เรื่อง การร่างภาพ ใหน้ กั เรียนดู และถามคาถามท้าทายความคิดกับนกั เรียนว่า
“ภาพที่นกั เรยี นเหน็ นนั้ คอื ภาพอะไร” และเฉลยคาตอบทถ่ี กู ต้องแกน่ กั เรียนพร้อมอธบิ ายกับ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

83

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 2 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ญั หาชมุ ชนหรือทอ้ งถิ่น

นกั เรยี นว่า“การรา่ งภาพเป็นการเขยี นภาพโดยใชม้ อื เปล่าทีเ่ กดิ จากความคิดหรือจินตนาการ
ของผู้ออกแบบและนาไปเขยี นแบบท่ีมีรายละเอยี ดตา่ ง ๆ ให้สมบรู ณ์ต่อไป”
15. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนไดส้ งั เกตแผนภาพทัง้ 4 ชนิด จากหนังสือเรยี น เพอื่ ให้เข้าใจมากย่ิงขึ้น
ได้แก่ แผนภาพลายเสน้ แผนภาพแบบบล็อก แผนภาพแบบรปู ภาพ และแผนภาพแบบผสม
16. ครถู ามคาถามทบทวนความคิดของนกั เรียนวา่ “นักเรยี นเคยเขยี นผงั งานหรอื ไม่ และเขียนแสดง
ข้ันตอนการทางานเร่อื งใด” และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนแสดงความคิดเหน็ รว่ มกนั ในชัน้ เรียน
จากนั้นครอู ธบิ ายกับนกั เรยี นวา่ “การออกแบบวธิ ีการแกป้ ญั หาสามารถใชว้ ธิ ีการเขยี นผงั งานซง่ึ
สามารถเขยี นได้ 2 แบบ คอื ผังงานระบบ (System Flowchart) และผงั งานโปรแกรม
(Program Flowchart)”
17. ครูอธบิ ายกับนกั เรยี นว่า“การออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาทส่ี ามารถบรรยายคุณลกั ษณะเพ่อื ให้
งา่ ยตอ่ การทาความเข้าใจ อธิบายรายละเอยี ดทกุ แงท่ กุ มุมอย่างชัดเจน ควรใชแ้ บบจาลอง
(Model) ในการออกแบบเพอ่ื ให้เหน็ แต่ละมุมมองและช่วยใหก้ ารสอื่ สารระหว่างบุคคลมีความ
ถูกตอ้ งตรงกันมากขึ้น เพราะแบบจาลองจะแสดงให้เห็นถึงกระบวนการทางานวา่ ทาหน้าท่ี
อะไรและอยา่ งไร เช่น การสาธติ การแปรงฟนั ทถี่ กู วิธี ควรเลอื กใช้แบบจาลองฟันในการสาธิต
เพ่อื ให้เหน็ ถงึ ลกั ษณะตา่ ง ๆ ของฟนั ทาใหง้ า่ ยต่อการสาธิตการแปรงฟนั ทีถ่ กู วิธี”
18. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุม่ สังเกตตัวอยา่ งขั้นออกแบบวิธีการแกป้ ญั หาจากหนังสอื เรยี น
เพอื่ ศกึ ษาการพิจารณาทางเลือกในการแกป้ ัญหาและประเมินผลทางเลือกโดยพิจารณาถึง
ผลกระทบทางบวกและผลกระทบทางลบ รวมถงึ การคดั เลือกทางเลือกเข้ามาใชใ้ นการแก้
ปัญหาท่ีเกิดขนึ้ จากนนั้ ให้ตอบคาถามลงในใบงานท่ี 4.1.3 เรอ่ื ง การออกแบบวิธีการ
แก้ปญั หา
19. ครูอธิบายเกร็ดความรู้ท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั เนอื้ หา (Design Focus) เรอ่ื ง ฟางข้าวและกระดาษจาก
ฟางขา้ วเพ่ือเป็นแนวทางในการออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา
20. นักเรียนศึกษาเน้อื หาเกี่ยวกบั ขนั้ ตอนการวางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหาและสังเกตตวั อย่าง
การวางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา วัสดุท่ีใช้ อุปกรณ์ทีใ่ ช้ ข้ันตอนการผลิตจากหนงั สือเรียน
โดยนักเรียนนาความร้มู าปรับใช้และตอบคาถามลงในใบงานที่ 4.1.4 เรอื่ ง การวางแผนและ
ดาเนนิ การแกป้ ัญหา จากนั้นใหแ้ ตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอแนวทางการวางแผนและ
ดาเนินการแกป้ ญั หาที่บริเวณหนา้ ชั้นเรยี น โดยครคู อยใหข้ ้อเสนอแนะเพิม่ เติมอย่างใกล้ชดิ
21. ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ กบั นกั เรยี นว่า“ขัน้ วางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา เป็นการกาหนดลาดับ
ข้นั ตอนของการแก้ปัญหาและระยะเวลาในการทางานท่ีชดั เจนกอ่ นดาเนนิ การแกป้ ัญหาเพ่อื
ลดข้อผิดพลาดท่อี าจเกดิ ข้นึ จากการทางาน แล้วลงมือแก้ปญั หาตามขนั้ ตอนท่ไี ด้ออกแบบ
และวางแผนไว้

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

84

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกับการแกป้ ญั หาชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่

ชว่ั โมงที่ 3

ข้ันท่ี 4 แสวงหาความรู้
22. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ (กลมุ่ เดมิ ) เพอ่ื ศึกษาเน้ือหาเกยี่ วกับขัน้ ตอนการทดสอบ ประเมนิ ผล และ

ปรบั ปรงุ แก้ไขวธิ ีการแกป้ ัญหาหรอื ช้นิ งานและสงั เกตตวั อย่างประกอบจากหนงั สือเรียน เพื่อให้
นกั เรยี นเขา้ ใจมากย่ิงขึน้ พรอ้ มเปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทดสอบ ประเมินผล และปรับปรงุ
แกไ้ ขวิธกี ารแก้ปญั หาหรือช้นิ งาน และบนั ทึกผลลงในสมดุ ประจาตัว
23. ครอู ธบิ ายเกรด็ ความรูท้ ี่เกีย่ วขอ้ งกับเน้อื หา (Design Focus) เรอื่ ง การตอ่ ยอดธรุ กิจ
24. นกั เรียนศึกษาเนื้อหาเก่ียวกับการนาเสนอวธิ ีการแก้ปัญหา ผลการแก้ปัญหาหรอื ชนิ้ งานและ
สงั เกตตัวอย่าง จากหนังสือเรียน
25. จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ส่งตัวแทนออกมานาเสนอแนวทางการทดสอบ ประเมินผล และ
ปรับปรงุ แก้ไขวิธีการแก้ปัญหาหรอื ชนิ้ งาน รวมถึงวิธกี ารแกป้ ญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือ
ชน้ิ งานทไี่ ดบ้ รเิ วณหนา้ ชนั้ เรียน

ขั้นท่ี 5 สรปุ สิง่ ทีเ่ รียนรู้
26. ครถู ามคาถามกระตุ้นความคิดของนกั เรียนว่า“กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกับ

การแก้ปัญหาชุมชนหรอื ทอ้ งถน่ิ ประกอบไปด้วยก่ีขน้ั ตอน อะไรบ้าง”
(แนวตอบ : กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกบั การแกป้ ญั หาชมุ ชนหรือท้องถน่ิ
ประกอบด้วย 6 ข้นั ตอน คอื

ขน้ั ตอนท่ี 1 ระบุปญั หา
ขั้นตอนที่ 2 รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ที่เกยี่ วขอ้ งกับปัญหา
ข้นั ตอนท่ี 3 ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา
ข้นั ตอนที่ 4 วางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหา
ขน้ั ตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแกไ้ ขวธิ กี ารแก้ปัญหา หรือชิน้ งาน
ขั้นตอนที่ 6 นาเสนอวิธกี ารแก้ปญั หา ผลการแกป้ ัญหา หรือช้นิ งาน
ขน้ั ที่ 6 นาเสนอผลงาน
27. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี นโดยครูกาหนดเวลาใน
การนาเสนอตามความเหมาะสม จากนนั้ ให้ครูและเพอ่ื นรว่ มชัน้ รว่ มกันประเมนิ ผลการนาเสนอ
ผลงานของนักเรียนแตล่ ะกลุ่ม

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

85

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกบั การแกป้ ญั หาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิ่น

ขน้ั สรปุ

1. เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามขอ้ สงสัย โดยครูให้ความรเู้ พ่ิมเติมตามความเหมาะสม
2. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการตอบคาถามและการนาเสนอผลงานของนกั เรยี น
3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ญั หาชมุ ชน

หรือทอ้ งถ่นิ

7. การวดั และประเมินผล วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวัด - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน ประเมินตามสภาพจริง
7.1 การประเมินก่อนเรยี น ก่อนเรยี น
- ใบงานท่ี 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจใบงานที่ 4.1.1 - ใบงานท่ี 4.1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 - ตรวจใบงานท่ี 4.1.2
เร่อื ง แนวทางการ - ใบงานท่ี 4.1.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
แกป้ ัญหา - ตรวจใบงานท่ี 4.1.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
7.2 การประเมินระหวา่ งการ - ใบงานท่ี 4.1.4 ระดับคุณภาพ 2
จัดกิจกรรม - ตรวจใบงานท่ี 4.1.4 ผ่านเกณฑ์
1) การระบุปัญหา - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
2) การรวบรวมข้อมูล - ประเมนิ การนาเสนอ การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
และแนวคดิ ผลงาน. - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
ทีเ่ ก่ียวข้อง - สงั เกตพฤตกิ รรม การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
3) การออกแบบวิธีการ การทางานรายบคุ คล - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
แกป้ ัญหา - สงั เกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
4) การวางแผนและ การทางานกล่มุ - แบบประเมนิ
ดาเนินการแก้ปัญหา - สงั เกตความมีวนิ ัย คณุ ลกั ษณะ
5) การนาเสนอผลงาน ความรับผดิ ชอบ อนั พงึ ประสงค์
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ัน
6) พฤติกรรมการทางาน ในการทางาน
รายบุคคล

7) พฤตกิ รรมการทางาน
กลมุ่

8) คณุ ลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

86

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกบั การแกป้ ญั หาชุมชนหรือท้องถ่ิน

8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4
เร่ือง การแก้ปัญหาชุมชนหรอื ทอ้ งถนิ่ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
2) ใบงานท่ี 4.1.1 เรอื่ ง การระบุปญั หา
3) ใบงานท่ี 4.1.2 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มูลและแนวคิดทเี่ กย่ี วขอ้ ง
4) ใบงานที่ 4.1.3 เรอื่ ง การออกแบบวิธกี ารแกป้ ัญหา
5) ใบงานที่ 4.1.4 เรอ่ื ง การวางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หา
6) แผ่นปา้ ย เรอื่ ง กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
7) บตั รภาพ เร่อื ง การรา่ งภาพ

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอรเ์ น็ต

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

87

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกบั การแก้ปัญหาชมุ ชนหรือท้องถ่นิ

ใบงานที่ 4.1.1
การระบุปญั หา

คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนสารวจปญั หาทพ่ี บในชมุ ชนหรือท้องถ่นิ โดยระบปุ ญั หาและรายละเอยี ดตา่ ง ๆ
ใหถ้ ูกตอ้ ง

1. สรปุ รายการปญั หาท่ีเกิดขึน้ ในชมุ ชนหรือทอ้ งถน่ิ

1)
2)
3)

2. จัดลาดับความสาคัญของแตล่ ะปัญหา

รายการปัญหา ขนาด ความรนุ แรง ความยากง่าย ความสนใจ ค่าคะแนน ลาดบั
(R1) (R2) (R3) (R4) รวม

ปญั หา

ปญั หา

ปัญหา

3. เลอื กปัญหาท่ีตอ้ งการแกไ้ ข

4. ระบปุ ญั หาทตี่ ้องการแกไ้ ข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

88

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา เฉลย
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 เร่อื ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกับการแก้ปญั หาชุมชนหรือท้องถ่นิ

ใบงานท่ี 4.1.1
การระบุปญั หา

คาช้แี จง : ใหน้ กั เรียนสารวจปัญหาท่พี บในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถนิ่ โดยระบปุ ญั หาและรายละเอียดต่าง ๆ
ใหถ้ ูกต้อง

1. สรุปรายการปญั หาที่เกดิ ข้ึนในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิ่น

1) ปญั หาขยะมลู ฝอย
2) ปัญหานา้ เนา่ เสยี
3) ปัญหาขาดแคลนไฟฟา้

2. จัดลาดบั ความสาคัญของแตล่ ะปญั หา

รายการปญั หา ขนาด ความรนุ แรง ความยากง่าย ความสนใจ ค่าคะแนน ลาดบั
(R1) (R2) (R3) (R4) รวม

ปัญหาขยะมลู ฝอย 43 2 4 53 3

ปัญหานา้ เนา่ เสยี 53 3 5 66 1

ปัญหาขาดแคลนไฟฟา้ 3 4 3 3 51 2

3. เลอื กปัญหาที่ต้องการแกไ้ ข ปญั หาน้าเน่าเสีย

4. ระบปุ ัญหาที่ตอ้ งการแกไ้ ข ปัญหายุงลาย

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

89

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกับการแก้ปัญหาชมุ ชนหรอื ท้องถิน่

ใบงานท่ี 4.1.2
การรวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ทเี่ กีย่ วขอ้ ง

คาช้ีแจง : ใหน้ กั เรียนรวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดทเี่ ก่ียวขอ้ งกับปัญหา จากนัน้ บันทึกลงในตารางด้านลา่ ง

ขอ้ มูลและแนวคิดในการแก้ปญั หา แหลง่ ขอ้ มูลท่นี ่าเช่ือถือ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

90

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกบั การแก้ปญั หาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิ่น

ใบงานท่ี 4.1.2
การรวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง

คาช้ีแจง : ใหน้ ักเรียนรวบรวมข้อมลู และแนวคิดที่เกยี่ วข้องกบั ปญั หา จากน้นั บันทกึ ลงในตารางด้านล่าง

ข้อมูลและแนวคดิ ในการแกป้ ัญหา แหล่งขอ้ มูลท่ีนา่ เชื่อถือ
1. วิธกี าจัดแหล่งเพาะพนั ธุย์ ุงลาย
ศนู ยว์ ิจยั สขุ ภาพกรุงเทพ
2. 15 แหล่งเพาะพนั ธ์ยุ ุงลาย www.bangkokhealth.com
www.kapook.com

3. “ยงุ ลาย” ฆาตกรตัวรา้ ยใกล้ตวั คุณ หนงั สอื พมิ พ์ไทยรฐั ออนไลน์
www.thairath.co.th

4. 10 วิธีไลย่ งุ อย่างปลอดภัยไมใ่ ช้สารเคมี เวบ็ ไซตใ์ ห้ความรเู้ ก่ียวกับบา้ นและสวน
www.baanlaesuan.com

5. ผลติ ภัณฑไ์ ล่ยงุ และแมลงจากสมุนไพร สภาเกษตรกรแห่งชาติ
www.nfc.or.th

6. โครงการรณรงคบ์ ้าน โรงเรยี น ชมุ ชน ปลอดลูกนา้ www.nareang.go.th › datacenter ›
ยุงลาย ตาบลนาเรยี ง อาเภอพรหมคีรี จงั หวัด doc_download › b.doc
นครศรีธรรมราช

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

91

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 2 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกับการแก้ปัญหาชมุ ชนหรือทอ้ งถ่นิ

ใบงานท่ี 4.1.3
การออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา

คาช้แี จง : ใหน้ กั เรยี นออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหาที่พบในชุมชนหรือท้องถิ่น

วิธีการแก้ปัญหา คอื

การประเมินผลกระทบของผลติ ภณั ฑ์ทเ่ี ลอื กใช้ในการแกป้ ัญหา

ผลกระทบ ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ

1. ต่อมนษุ ยแ์ ละสังคม

2. ตอ่ เศรษฐกจิ

3. ต่อสิ่งแวดล้อม

ผลิตภณั ฑ์ท่จี ะพฒั นามลี ักษณะ ดังน้ี

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

92


Click to View FlipBook Version