หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา เฉลย
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ัญหาชุมชนหรือทอ้ งถ่ิน
ใบงานที่ 4.1.3
การออกแบบวธิ กี ารแก้ปญั หา
คาช้แี จง : ใหน้ ักเรียนออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หาทพ่ี บในชมุ ชนหรือท้องถ่ิน
วิธกี ารแก้ปญั หา คือ การทากบั ดกั ยงุ ลายจากขวดพลาสติก
การประเมนิ ผลกระทบของผลติ ภณั ฑ์ท่ีเลอื กใช้ในการแก้ปญั หา
ผลกระทบ ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ
1. ต่อมนษุ ย์และสงั คม - ป้องกันยงุ ลายทเี่ กดิ ข้นึ ภายในบ้าน -
หรือในบริเวณชมุ ชน
- ป้องกันการเกิดโรคตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดขน้ึ
จากยงุ ลาย เชน่ โรคไข้เลอื ดออก
2. ตอ่ เศรษฐกิจ - ประชนชนสามารถนาความรู้มาสรา้ ง -
รายได้เสริมให้แกค่ รอบครัว
3. ตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม - นาสิง่ ของที่ใชแ้ ล้วกลับมาใชซ้ า้ -
เพือ่ ลดขยะท่ีกอ่ ให้เกดิ ภาวะโลกรอ้ น
เช่น ขวดน้า ถงุ พลาสติก
ผลิตภัณฑท์ ี่จะพัฒนามลี กั ษณะ ดังน้ี
แหล่งข้อมูล : https://home.kapook.com/view113871.html
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
93
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ัญหาชมุ ชนหรอื ท้องถิ่น
ใบงานที่ 4.1.4
การวางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา
คาช้ีแจง: ให้นกั เรียนทาการวางแผนและดาเนนิ การแก้ปัญหาท่ีเลือก
วสั ดทุ ใี่ ช้ อุปกรณ์ท่ีใช้
ขนั้ ตอนการผลติ กับดกั ยุงลายจากขวดนา้ พลาสตกิ
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
94
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแกป้ ญั หาชุมชนหรอื ท้องถิ่น
ใบงานที่ 4.1.4
การวางแผนและดาเนินการแก้ปญั หา
คาชแี้ จง: ให้นกั เรียนทาการวางแผนและดาเนนิ การแกป้ ญั หาที่เลอื ก
วสั ดทุ ใี่ ช้ อุปกรณท์ ่ีใช้
.1.....ย..ีส...ต..์ ................................................................. ..1....ข...ว..ด..น...า้ ..ข..น..า..ด....1...5....ล..ิต...ร......................................
..2....น...า้ ..อ..ุน่................................................................. ..2....ก...ร..ะ..ด..า..ษ...ห...น..ัง..ส..อื...พ..มิ...พ...ห์ ..ร..อื...ถ..ุง..พ...ล..า..ส..ต...กิ ...............
..3....น...้า..ต..า..ล............................................................... ..3....ป...า..ก..ก...า.ห...ม...กึ .......................................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
.............................................................................. ..............................................................................
ข้นั ตอนการผลติ กบั ดกั ยุงลายจากขวดน้าพลาสติก
1. ตดั สว่ นบนสดุ ของขวดน้าพลาสตกิ ออกประมาณ 1/4 ของขวด
2. นานา้ ตาล 50 กรัม มาผสมกับนา้ รอ้ นปรมิ าณ 200 มลิ ลิลิตร แลว้ คนใหเ้ ข้ากัน ต้งั ทิ้งไวจ้ นกวา่ ส่วนผสม
จะเย็น จงึ นาสว่ นผสมทีไ่ ดเ้ ทใส่ลงในขวดพลาสตกิ
3. ตกั ยีสตเ์ ติมลงไป 1 กรัม (ไม่ตอ้ งคนสว่ นผสม)
4. คว่าปากขวดท่ีตดั ออกมาแล้วใส่ลงไปในขวดพลาสตกิ พร้อมจัดขอบของขวดนา้ พลาสติกใหเ้ สมอกัน
5. หมุ้ ขวดด้วยถงุ พลาสติกหรอื กระดาษหนังสือพมิ พ์
6. จากนัน้ นาขวดน้าไปวางไวใ้ นที่มืด และรอให้ยุงมาติดกับดัก
แหล่งข้อมลู : https://home.kapook.com/view113871.html
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
95
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่อื ง กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกบั การแกป้ ญั หาชุมชนหรือทอ้ งถิน่
แผ่นป้าย
เรือ่ ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม
ข้ันตอนที่ 1
ระบปุ ญั หา
ขนั้ ตอนที่ 2
รวบรวมข้อมลู และแนวคิด
ทเ่ี ก่ยี วข้องกับปญั หา
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
96
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมกับการแกป้ ญั หาชมุ ชนหรือทอ้ งถ่นิ
ข้นั ตอนท่ี 3
ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา
ขน้ั ตอนท่ี 4
วางแผนและดาเนินการ
แกป้ ญั หา
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
97
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกบั การแก้ปญั หาชมุ ชนหรือทอ้ งถ่นิ
ขน้ั ตอนท่ี 5
ทดสอบ ประเมนิ ผล
และปรับปรงุ แกไ้ ขวธิ ีการแกป้ ญั หา
หรือชิน้ งาน
ข้ันตอนท่ี 6
นาเสนอวธิ กี ารแกป้ ัญหา
ผลการแกป้ ญั หาหรอื ช้ินงาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
98
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกบั การแก้ปัญหาชุมชนหรอื ทอ้ งถ่นิ
บัตรภาพ
เร่ือง การรา่ งภาพ
เฉลย
แหลง่ ขอ้ มลู : https://th.kagouletheband.com/razvlecheniya/20337-kak-narisovat-mashinu-poetapno.html
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
99
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 เรอ่ื ง กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรมกับการแก้ปัญหาชุมชนหรือท้องถิ่น
เฉลย
แหล่งข้อมลู : http://www.supercoloring.com/es/tutorial-de-dibujo/como-dibujar-un-pez-payaso
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
100
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกบั การแก้ปญั หาชมุ ชนหรือท้องถน่ิ
เฉลย
แหลง่ ขอ้ มลู : https://bytiemoe.ru/graficheskie-risunki-kartinki/
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
101
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมกบั การแกป้ ัญหาชมุ ชนหรือทอ้ งถิน่
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปัญหาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )
ปญั หา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
102
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง กรณีศกึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพัฒนาชมุ ชน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3
กรณศี กึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพฒั นาชุมชน
เวลา 2 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด
1.1 ตัวชว้ี ัด
ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะหส์ าเหตุ หรือปจั จัยที่ส่งผลต่อการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตรอ์ ่ืน โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรือ
คณติ ศาสตร์ เพ่อื เปน็ แนวทางการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นางาน
ว 4.1 ม.3/2 ระบปุ ญั หาหรือความตอ้ งการของชมุ ชนหรือท้องถิ่น เพื่อพัฒนางานอาชพี
สรปุ กรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มลู และแนวคิดทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับปัญหา
โดยคานึงถึงความถกู ต้องดา้ นทรัพยส์ นิ ทางปัญญา
ว 4.1 ม.3/3 ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมลู ท่ี
จาเป็นภายใต้เง่ือนไขและทรพั ยากรที่มอี ยู่ นาเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ ู้อ่นื
เข้าใจด้วยเทคนคิ หรือวธิ กี ารที่หลากหลาย วางแผนขนั้ ตอนการทางานและ
ดาเนินการแก้ปัญหาอย่างเป็นขัน้ ตอน
ว 4.1 ม.3/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล วเิ คราะห์ และใหเ้ หตุผลของปัญหาหรือข้อบกพรอ่ งทเี่ กิดข้นึ
ภายใตก้ รอบเง่ือนไข พร้อมทงั้ หาแนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ข และนาเสนอผล
การแกป้ ัญหา
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายของการพฒั นาชุมชนอยา่ งยง่ั ยนื ได้ (K)
2. บอกขั้นตอนของกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมได้ (K)
3. ออกแบบโครงงานตามข้ันตอนกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมท่ชี ่วยแกป้ ญั หาอย่างยั่งยนื ได้ (P)
4. เลง็ เห็นความสาคญั ของการนากระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมมาใช้แก้ปญั หาอย่างย่งั ยนื
ในชวี ิตประจาวนั (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- เทคโนโลยีมกี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาตงั้ แตอ่ ดตี จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลาย
ด้าน เช่น ปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลง
ทางด้านเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม ส่งิ แวดลอ้ ม
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
103
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง กรณีศึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพฒั นาชุมชน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
- เทคโนโลยมี ีความสัมพันธก์ บั ศาสตรอ์ นื่ โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐานความรู้
ท่ีนาไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยีทไ่ี ด้ สามารถเป็น เคร่ือ งมือ ที่ใช้ใน ก ารศึก ษา ค้น คว้า
เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซง่ึ องคค์ วามรใู้ หม่
- ปัญหาหรือความต้องการอาจพบได้ในงานอาชีพของชุมชนหรือท้องถ่ิน ซึ่งอาจมีหลายด้ าน เช่น
ด้านการเกษตร อาหาร พลงั งาน การขนส่ง
- การวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหาช่วยให้เข้าใจเงื่อนไขและกรอบของปัญหาได้ชัดเจน จากน้ันดาเนินการ
สืบค้น รวบรวมข้อมูล ความรู้จากศาสตร์ต่าง ๆท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือนาไปสู่การออกแบบแนวทาง
การแกป้ ัญหา
- การวเิ คราะห์ เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลือกข้อมูลทีจ่ าเปน็ โดยคานงึ ถึงทรพั ยส์ นิ ทางปัญญา เงอื่ นไข และ
ทรพั ยากร เช่น งบประมาณ เวลา ข้อมลู และสารสนเทศ วัสดุ เครอ่ื งมอื และอุปกรณ์ ช่วยใหไ้ ด้ แนวทางการ
แกป้ ัญหาทีเ่ หมาะสม
- การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หาทาได้หลากหลายวธิ ี เช่น การรา่ งภาพ การเขยี นแผนภาพ ก า ร เขี ย น
ผงั งาน
- เทคนิคหรือวิธีการในการนาเสนอแนวทางการแก้ปัญหามีหลากหลาย เช่น การใช้แผนภูมิ ตาราง
ภาพเคลอ่ื นไหว
- การกาหนดขัน้ ตอนและระยะเวลาในการทางานกอ่ นดาเนนิ การแกป้ ัญหาจะชว่ ยให้การทางานสาเร็จได้
ตามเป้าหมาย และลดขอ้ ผิดพลาดของการทางานท่อี าจเกิดขนึ้
- การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การตรวจสอบชิน้ งานหรอื วธิ กี ารวา่ สามารถแกป้ ัญหาไดต้ าม วัตถุประสงค์
ภายใต้กรอบของปัญหา เพ่อื หาข้อบกพร่อง และดาเนินการปรบั ปรงุ โดยอาจ ทดสอบซ้าเพ่ือใหส้ ามารถแกไ้ ข
ปญั หาได้
- การนาเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอดแนวคิด เพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจเก่ียวกับกระบวนการทางาน และชิ้นงาน
หรือวธิ กี ารทีไ่ ด้ ซง่ึ สามารถทาได้หลายวธิ ี เชน่ การเขียนรายงาน การทาแผ่นนาเสนอผลงาน การจัด
นทิ รรศการ การนาเสนอผ่านสอื่ ออนไลน์
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
104
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เร่อื ง กรณีศกึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพัฒนาชมุ ชน
4. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การพัฒนาชุมชนอย่างยงั่ ยืนจะมงุ่ เน้นพัฒนาชมุ ชนให้สามารถพง่ึ พาตัวเองได้ ผ่านการสร้างผู้นา
ชุมชนท่ีเข้มแข็งทางานตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมท่ีเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละชุมชน นาวิธีการพัฒนา
ที่ได้ผลมาใช้แก้ปัญหาที่สาคัญของชุมชน และกระตุ้นให้เกิดการลงมือทา ตลอดจนมีการสร้างเศรษฐกิจ
ให้กับชุมชนและประชาชนในการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ เป็นเครื่องมือในการทางานและสร้างอาชีพได้ โดย
อาศัยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมมาช่วยในการสร้างงานเพ่ือแก้ปัญหาท่ีเกิดขึ้นในชุมชน เพ่ือ
นาไปส่กู ารแก้ปัญหาทเี่ กดิ ขน้ึ ในชมุ ชนอยา่ งยง่ั ยนื
5. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี นและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวินยั รบั ผดิ ชอบ
- ทักษะการสอ่ื สาร 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งมัน่ ในการทางาน
- ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล
- ทกั ษะการคดิ อย่างเปน็ ระบบ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา
- ทักษะการแกป้ ญั หา
- ทกั ษะการสังเกต
- ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- ทักษะการทางานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
- ทักษะการสืบค้นขอ้ มูล
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
105
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง กรณศี กึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพฒั นาชุมชน
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วธิ กี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบอุปนยั (Induction)
ชว่ั โมงที่ 1
ขน้ั นา
1. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั หาความหมายของคาว่า“การพฒั นาชมุ ชนอย่างย่งั ยนื ”จากนนั้ ครสู ุม่
นกั เรียน 2-3 คน ตอบคาถามพร้อมกบั อภปิ รายรว่ มกนั ภายในห้องเรยี น
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรยี นขึ้นอย่กู ับดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน เชน่ การพัฒนาชมุ ชนอย่าง
ยง่ั ยืนจะมงุ่ เนน้ พฒั นาชุมชนให้พ่ึงพาตัวเองไดผ้ ่านการสร้างผูน้ าชุมชนที่เข้มแขง็ ตอบสนอง
ตอ่ สภาพแวดล้อมทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณข์ องแต่ละชุมชน สามารถนาวธิ กี ารพัฒนาทไี่ ดผ้ ลมาใช้ใน
การแกป้ ัญหาท่ีสาคญั ของชมุ ชน และกระตนุ้ ให้เกิดการลงมอื ทา ตลอดจนสรา้ งเศรษฐกิจท่ีดี
ใหแ้ ก่ชุมชนและประชาชน)
2. นกั เรยี นสบื คน้ ปญั หาของชุมชนท้ังในประเทศและตา่ งประเทศจากอนิ เทอรเ์ นต็ จากน้ันครสู มุ่
นักเรียนออกมาเล่าเกย่ี วกบั ปัญหาของชุมชนตามที่นักเรยี นสนใจบรเิ วณหน้าชน้ั เรยี น โดยเปิด
โอกาสให้เพื่อนรว่ มชัน้ รว่ มกันแสดงความคดิ เหน็
3. ครูยกตัวอยา่ งกรณีศึกษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาฮาลา-บาลา
เพ่อื ใหน้ ักเรียนเขา้ ใจมากยิง่ ขนึ้ จากหนงั สือเรยี นรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบ
และเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง การแก้ปญั หาชุมชนหรอื ทอ้ งถิ่นดว้ ย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
4. ครูถามคาถามสาคัญประจาหวั ขอ้ เพ่ือกระตุ้นความสนใจของนกั เรียนว่า“นักเรยี นคดิ วา่
กรณศี กึ ษานีช้ ่วยแกป้ ญั หาในชมุ ชนไดอ้ ยา่ งยั่งยืนหรือไม่ อยา่ งไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนักเรียนขน้ึ อยู่กับดุลยพินจิ ของครผู ูส้ อน เชน่ กรณีศึกษาน้ีชว่ ยแกป้ ัญหา
ชมุ ชนได้อย่างยง่ั ยืน เพราะสามารถสร้างคุณภาพชีวิตความเปน็ อยู่ที่ดีขึ้นให้กบั ชุมชนและ
ขน้ั สอน ทรพั ยากรทางธรรมชาตใิ นพ้ืนทีจ่ นถงึ ปจั จบุ นั )
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสมเพือ่ ศึกษาการนาวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปแกป้ ญั หาพน้ื ท่ปี ่าสาคใู นจังหวัดนราธวิ าสเพมิ่ เตมิ จากหนังสือเรียน
โดยให้นกั เรยี นศกึ ษาขนั้ ตอนการแกป้ ญั หาในชุมชนทั้ง 6 ขั้นตอนอย่างละเอียด
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
106
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง กรณศี ึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพฒั นาชุมชน
2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ วิเคราะหส์ าเหตขุ องปญั หาจากขนั้ ตอนที่ 1 ระบปุ ญั หา โดยให้แตล่ ะกลุ่ม
พูดคยุ กันถงึ การระบุปญั หาจากกรณีศกึ ษาในหนงั สือเรียนวา่ เหมาะสมหรือไม่ อย่างไร และควร
มีปญั หาใดเพม่ิ เติม
3. จากน้ันครสู ่มุ นกั เรยี น 2-3 คนออกมาสรปุ ปัญหาที่พบเพิม่ เตมิ จากกรณีศกึ ษาบริเวณหนา้ ชั้นเรยี น
4. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ทาความเข้าใจกบั ข้อมูลของปัญหาจากข้ันตอนที่ 2 รวบรวมขอ้ มลู และ
แนวคิดที่เก่ยี วขอ้ งกบั ปัญหา และให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ รวบรวมข้อมูลและแนวคิดทีเ่ กี่ยวข้อง
กับปญั หาเพิ่มเติม โดยการสบื ค้นขอ้ มูลทางอนิ เทอร์เนต็ จากนั้นให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมา
นาเสนอขอ้ มูลบรเิ วณหนา้ ชน้ั เรยี น และเปิดโอกาสใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลุ่มระดมความคิดเหน็ เพอ่ื
จดั ทาสรุปแนวทางการแกป้ ญั หาจากการศึกษาสถานการณ์
5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ ตวั แทนออกมาอธิบายสรปุ แนวทางในการแก้ปัญหาท่ีไดจ้ ดั ทาขนึ้ บรเิ วณ
หน้าช้ันเรยี น
6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มศึกษาขัน้ ตอนท่ี 3 ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา และข้ันตอนที่ 4 วางแผนและ
ดาเนินการแก้ปญั หา จากหนังสือเรยี น
7. ครเู ปิดโอกาสให้นกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ เพมิ่ เติมเกย่ี วกับการออกแบบวิธีการแก้ปญั หา และ
การวางแผนการดาเนินการแกป้ ัญหาวา่ ควรเป็นไปในทศิ ทางใด พรอ้ มแลกเปลย่ี นความคิดเหน็
ร่วมกบั เพือ่ นรว่ มชนั้ เรียน
8. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาขน้ั ตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมินผล และปรบั ปรุงแก้ไขวิธีการแกป้ ัญหา
หรือช้ินงาน และ ขั้นตอนท่ี 6 นาเสนอวิธกี ารแก้ปัญหา ผลการแกป้ ญั หาหรือช้ินงานจาก
กรณศี กึ ษาในหนงั สอื เรียน
9. จากนั้นใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั สรุปจากการศึกษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ
นวัตกรรมไปแก้ปญั หาพนื้ ท่ีปา่ สาคใู นจงั หวัดนราธวิ าสท้งั 6 ขัน้ ตอนในหนังสอื เรยี น รวมถึง
รว่ มกันอธบิ ายแนวทางในการปรบั ปรงุ พฒั นาใหด้ ียง่ิ ขึน้ โดยใช้วิธกี ารตา่ ง ๆ ตามท่ีนกั เรยี นสนใจ
เช่น ภาพ Infographic ผงั มโนทศั น์ แผ่นพบั และส่งตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอขอ้ มูลบริเวณ
หนา้ ชนั้ เรียน
10. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทากิจกรรมทีส่ อดคล้องกับเนือ้ หา โดยผ้เู รยี นฝึกปฏิบัตเิ พื่อ
พฒั นาความรแู้ ละทักษะ (Design Activity) โดยให้นกั เรียนแก้ปญั หาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิ่นด้วย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมตามขัน้ ตอนทง้ั 6 ข้ันตอน ได้แก่
ขน้ั ตอนท่ี 1 ระบปุ ัญหา
ข้ันตอนท่ี 2 รวบรวมข้อมลู และแนวคิดทเ่ี ก่ียวขอ้ งกับปญั หา
ข้ันตอนท่ี 3 ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา
ขัน้ ตอนท่ี 4 วางแผนและดาเนินการแก้ปัญหา
ขน้ั ตอนที่ 5 ทดสอบ ประเมนิ ผล และปรับปรุงแก้ไขวิธีการแก้ปัญหา หรอื ชิ้นงาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
107
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เร่ือง กรณีศึกษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชมุ ชน
ขน้ั ตอนที่ 6 นาเสนอวิธกี ารแก้ปญั หา ผลการแก้ปัญหา หรือช้ินงาน
11. จากน้ันให้นกั เรยี นเตรียมนาเสนอขอ้ มลู ในรปู แบบทนี่ ักเรยี นคดิ ว่านา่ สนใจในช่ัวโมงถดั ไป
ชั่วโมงท่ี 2
12. ครสู ุม่ นักเรียนออกมานาเสนอผลงานจากการทากิจกรรมท่ีสอดคล้องกับเนอ้ื หา โดยผู้เรียนฝกึ
ปฏบิ ตั เิ พ่ือพฒั นาความรูแ้ ละทกั ษะ (Design Activity) ตามรูปแบบที่นกั เรียนคิดว่านา่ สนใจ
อยา่ งอิสระ และเปดิ โอกาสให้เพื่อร่วมชั้นซกั ถามข้อสงสัย โดยครูคอยให้คาแนะนาตาม
ความเหมาะสม
ขน้ั สรปุ
1. เปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซักถามข้อสงสยั โดยครูให้ความรูเ้ พ่มิ เติมตามความเหมาะสม
2. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคาถามและการนาเสนอผลงานของนกั เรยี น
3. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สรปุ เก่ียวกับกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกับการแก้ปญั หาชมุ ชน
หรอื ท้องถนิ่ เพื่อช่วยแกป้ ัญหาในชมุ ชนได้อย่างยั่งยืน
4. นักเรยี นแตล่ ะคนทาแบบฝึกหัด (Unit Activity) จากหนังสอื เรยี นเพื่อทบทวนความรู้
ความเข้าใจ และพฒั นาทกั ษะการคดิ ของนกั เรยี น โดยการตอบคาถามลงในสมุดประจาตัว
5. นกั เรียนตรวจสอบระดบั ความสามารถของตนเองจากหนังสือเรียน โดยพิจารณาข้อความวา่ ถูก
หรือผิด หากนกั เรยี นพจิ ารณาข้อความไมถ่ กู ตอ้ งใหน้ ักเรยี นกลับไปทบทวนเน้อื หาตามหวั ขอ้ ท่ี
กาหนดให้
6. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการคิด และทบทวนเนื้อหาอย่างครบถว้ น
ตามตวั ชวี้ ดั และกิจกรรม High Oder Thinking ทสี่ อดคลอ้ งกับตวั ช้วี ดั ตามทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21
จากแบบฝึกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่ือง การแก้ปัญหาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถิน่ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิง
วศิ วกรรมเป็นการบ้านและนามาส่งในชั่วโมงถัดไป
7. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง การแก้ปญั หาชมุ ชนหรอื ทอ้ งถ่ิน
ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมหรอื ทาแบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝึกหัดเพ่อื วัด
ความรทู้ น่ี กั เรยี นไดร้ บั หลังจากผา่ นการเรยี นรู้
8. นกั เรียนทาชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การแก้ปญั หาชุมชนหรอื ท้องถ่นิ ดว้ ย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม และนามาสง่ ในชว่ั โมงถดั ไป
7. การวัดและประเมินผล
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
108
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3 เรื่อง กรณศี ึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชุมชน
รายการวัด วิธวี ัด เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
7.1 การประเมินระหวา่ งการ
- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
จัดกิจกรรม
1) กระบวนการออกแบบ - ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
เชงิ วิศวกรรมกับ - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
การแกป้ ัญหาชุมชน ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
หรือทอ้ งถน่ิ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คณุ ภาพ 2
2) การนาวิทยาศาสตร์ การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
เทคโนโลยี และ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
นวัตกรรมไปพฒั นา การทางานกลุ่ม การทางานกลุม่ ผ่านเกณฑ์
ชมุ ชน - สังเกตความมีวินยั - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2
3) การนาเสนอผลงาน ความรบั ผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมุง่ ม่ัน อนั พงึ ประสงค์
4) พฤติกรรมการทางาน ในการทางาน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
รายบุคคล - แบบทดสอบหลงั เรยี น
- ตรวจแบบทดสอบ
5) พฤตกิ รรมการทางาน หลังเรียน
กลมุ่
6) คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
7.2 การประเมนิ หลงั เรยี น
1) แบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4
เร่ือง แนวทางการ
แกป้ ัญหา
2) การประเมินชนิ้ งาน/ - ตรวจช้ินงาน/ - แบบประเมนิ ช้นิ งาน/ ระดับคุณภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
109
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง กรณีศกึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพฒั นาชมุ ชน
8. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี นรายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4
เรื่อง การแก้ปัญหาชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4
เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาชมุ ชนหรือทอ้ งถ่ินดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
110
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 3 เรือ่ ง กรณีศกึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพัฒนาชมุ ชน
ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง การแก้ปัญหาชุมชนหรือท้องถน่ิ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม
คาชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนตอบคาถามดังต่อไปนใี้ ห้ถกู ต้อง
1. ให้นักเรียนรวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับปัญหาขยะมูลฝอยในชมุ ชน และบันทกึ ข้อมูล
ลงในตารางดา้ นลา่ ง
ขอ้ มลู และแนวคดิ ในการแกป้ ญั หา แหล่งข้อมลู ทนี่ า่ เชื่อถอื
2. จากการรวบรวมข้อมลู และแนวคิดที่เก่ยี วขอ้ งกับปญั หาขยะมูลฝอยในชุมชน นักเรียนมีแนวทาง
ในการออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หาอย่างไร
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
111
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง กรณศี กึ ษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชมุ ชน
ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เรื่อง การแกป้ ญั หาชุมชนหรือท้องถิ่นด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม
คาชีแ้ จง : ให้นักเรียนตอบคาถามดังตอ่ ไปน้ใี หถ้ กู ต้อง
1. ให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ที่เกี่ยวข้องกับปญั หาขยะมูลฝอยในชุมชน และบนั ทึกข้อมูล
ลงในตารางด้านล่าง
ข้อมูลและแนวคิดในการแกป้ ญั หา แหล่งข้อมลู ทนี่ ่าเชอื่ ถือ
การแกป้ ญั หาขยะมลู ฝอย http://arts.kmutt.ac.th/ssc210/Group%20Proj
ect/G244/G06/pages/part2_3.html
การจดั การขยะมูลฝอยชมุ ชน http://www.pcd.go.th/info_serv/waste_garbag
e.html
ความรู้เกยี่ วกับการจัดการและการใช้ประโยชนจ์ าก http://bangkokgreencity.bangkok.go.th/Knowl
ขยะรีไซเคลิ edge-Based/Article/GarbageByCommunity/
ปัญหาสง่ิ แวดล้อมจากขยะมูลฝอย www.pcd.go.th › info_serv › waste_rubbish
สารพัดโรครา้ ยจากภัยขยะ https://health.kapook.com/view6905.html
งานวจิ ัยการจัดการปัญหาขยะมลู ฝอยในชมุ ชน https://www.tci-thaijo.org › index.php ›
เทศบาลนครพระนครศรอี ยธุ ยา social_crru › article › download
2. จากการรวบรวมขอ้ มลู และแนวคิดที่เก่ียวข้องกับปญั หาขยะมูลฝอยในชุมชน นักเรียนมแี นวทาง
ในการออกแบบวธิ กี ารแกป้ ัญหาอยา่ งไร
จากข้อมลู และแนวคิดท่ีเกีย่ วขอ้ งกับปัญหาขยะมูลฝอยในชุมชน สามารถออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหาได้
ดงั น้ี
1. การปฏวิ ตั ิขยะมลู ฝอยในชมุ ชนอยา่ งยงั่ ยนื ควรใช้วิธกี ารสรา้ งรายไดจ้ ากขยะมลู ฝอย โดยอาศัยความ
ร่วมมอื ของคนในชมุ ชน คดั แยกขยะทีใ่ ชแ้ ลว้ สามารถนากลบั มาใชใ้ หม่ เพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของ
ชาวบา้ นใหม้ ีความเปน็ อยู่ทด่ี ี มอี าชพี และมีรายไดท้ เี่ หมาะสมจงึ จะแก้ปญั หาขยะมูลฝอยในชุมชนได้
อย่างยง่ั ยนื
2. จัดบอร์ดนทิ รรศการเผยแพรค่ วามรใู้ นโรงเรียนและในชุมชน ตลอดจนให้ผู้นาชมุ ชนให้ความรู้เพ่มิ เติม
กับประชาชนในชมุ ชนเกี่ยวกับการจัดการขยะมลู ฝอยท้ัง 4 ประเภท ไดแ้ ก่ ขยะย่อยสลาย ขยะรไี ซเคลิ
ขยะอนั ตราย และขยะท่วั ไป รวมถึงสอนวิธีการคัดแยกขยะ การกาจัดขยะ และประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ าก
การคดั แยกขยะ
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
112
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 3 เรือ่ ง กรณศี ึกษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพฒั นาชุมชน
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่อง
ท่ตี รงกับระดับคะแนน
ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 ความถกู ตอ้ งของเน้ือหา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วิธีการนาเสนอผลงาน
4 การนาไปใช้ประโยชน์
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............/................./....................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ สมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ บางสว่ น
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
113
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เร่ือง กรณศี ึกษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชมุ ชน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล
คาช้ีแจง : ให้ผูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ ง
ท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน
ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1
32
1 การแสดงความคิดเหน็
2 การยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อืน่
3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย
4 ความมีนา้ ใจ
5 การตรงตอ่ เวลา
รวม
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ............/................./....................
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครง้ั
ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ให้ 2 คะแนน
ให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดีมาก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
114
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 3 เรือ่ ง กรณศี กึ ษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปพัฒนาชุมชน
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
คาชีแ้ จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่อง
ทตี่ รงกบั ระดับคะแนน
ลาดับท่ี ชอ่ื –สกลุ การแสดง การยอมรับ การทางาน ความมี การมสี ่วนรว่ ม
ของนกั เรยี น ความคดิ เห็น ฟังคนอื่น ตามทไ่ี ดร้ บั นา้ ใจ ในการปรับปรงุ รวม
มอบหมาย ผลงานกลุ่ม 15
คะแนน
321321321321321
ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมนิ
................/................./....................
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน
2 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้
เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ
14–15 ดมี าก
11–13 ดี
8–10 พอใช้
ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
115
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง กรณีศึกษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชุมชน
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ ง
ที่ตรงกบั ระดับคะแนน
คณุ ลักษณะ รายการประเมิน ระดับคะแนน
อันพึงประสงค์ด้าน 32 1
1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาตแิ ละรอ้ งเพลงชาตไิ ด้
กษัตรยิ ์ 1.2 เข้าร่วมกจิ กรรมท่ีสรา้ งความสามัคคีปรองดองและเปน็ ประโยชน์
ต่อโรงเรียน
1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา
1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่เี ก่ียวกบั สถาบันพระมหากษัตริยต์ ามที่โรงเรยี นจัดขึน้
2. ซอ่ื สตั ย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลทถี่ ูกต้องและเป็นจริง
2.2 ปฏบิ ตั ิในส่งิ ทถ่ี กู ต้อง
3. มีวนิ ยั รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว
มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝเ่ รียนรู้ 4.1 รูจ้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชนแ์ ละนาไปปฏิบัติได้
4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม
4.3 เชื่อฟงั คาส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้
4.4 ต้ังใจเรียน
5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั
5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอยา่ งประหยัดและรู้คณุ ค่า
5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
6. ม่งุ มั่นในการทางาน 6.1 มีความตัง้ ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อใหง้ านสาเรจ็
7. รักความเป็นไทย 7.1 มจี ิตสานึกในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย
7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน
8.2 รู้จักการดแู ลรักษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรียน
และโรงเรียน
ลงชื่อ..................................................ผูป้ ระเมนิ
............/.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 51-60 ดีมาก
พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติชัดเจนและบ่อยครง้ั ให้ 1 คะแนน 41-50 ดี
พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ัติบางคร้ัง 30-40 พอใช้
ปรบั ปรุง
ต่ากวา่ 30
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
116
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 แนวทางการแก้ปญั หา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เร่อื ง กรณศี ึกษาการนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพฒั นาชมุ ชน
แบบประเมนิ ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะหส์ าเหตุ หรือปัจจยั ที่สง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธข์ อง
เทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ นื่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณติ ศาสตร์ เพ่อื เป็นแนวทางการ
แก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน
ว 4.1 ม.3/2 ระบปุ ัญหาหรอื ความตอ้ งการของชมุ ชนหรอื ท้องถนิ่ เพอื่ พฒั นางานอาชพี สรุปกรอบของ
ปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมลู และแนวคิดทเ่ี กย่ี วข้องกับปญั หาโดยคานงึ ถงึ ความถกู ต้อง
ด้านทรัพย์สินทางปญั ญา
ว 4.1 ม.3/3 ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา โดยวิเคราะหเ์ ปรยี บเทียบ และตัดสินใจเลอื กข้อมลู ท่ีจาเป็นภายใต้
เงอ่ื นไขและทรัพยากรทม่ี อี ยู่ นาเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ นื่ เข้าใจด้วยเทคนคิ หรอื
วธิ ีการทหี่ ลากหลาย วางแผนข้ันตอนการทางานและดาเนนิ การแก้ปัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน
ว 4.1 ม.3/4 ทดสอบ ประเมนิ ผล วเิ คราะห์ และใหเ้ หตุผลของปญั หาหรอื ขอ้ บกพร่องทเี่ กดิ ขึ้นภายใต้
กรอบเงื่อนไข พรอ้ มทั้งหาแนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข และนาเสนอผลการแกป้ ัญหา
รายการ ดมี าก (4) เกณฑ์การประเมนิ (ระดับคุณภาพ) ปรบั ปรงุ (1) ระดบั
ประเมนิ ดี (3) พอใช้ (2) คุณภาพ
ข้อมูลมคี วามนา่ เช่อื ถือ ข้อมลู ไมม่ ีความ
1. ความน่าเช่อื ถือของข้อมูล ดมี าก ข้อมลู มคี วามนา่ เชอื่ ถอื ข้อมูลมีความนา่ เช่อื ถอื น่าเช่อื ถือ ดีมาก
ดี พอใช้
2. นาเสนอวิธกี ารแก้ปัญหา นาเสนอวิธีการแก้ นาเสนอวิธกี ารแก้ นาเสนอวิธกี ารแก้ ไมส่ ามารถนาเสนอ ดี
ปญั หาไดถ้ กู ตอ้ งดีมาก ปัญหาไดถ้ ูกต้องดี ปัญหาได้ถูกต้อง วธิ ีการแกป้ ัญหาได้
3. ความสมบูรณ์ของผลงาน ผลงานมีความครบถว้ น ผลงานมีความครบถ้วน ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถ้วน พอใช้
ปรบั ปรุง
สมบูรณด์ มี าก สมบรู ณค์ อ่ นข้างดี สมบูรณ์ดเี ป็นบางสว่ น สมบรู ณน์ อ้ ย
4. ส่งงานตรงเวลา ส่งภาระงานภายในเวลา สง่ ภาระงานชา้ กวา่ ส่งภาระงานช้ากวา่ ส่งภาระงานช้ากว่า
กาหนด 2 วัน กาหนดเกนิ 3 วันข้ึนไป
ทก่ี าหนด กาหนด 1 วนั
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-16 ดีมาก
10-13 ดี
7-9 พอใช้
1-6 ปรับปรุง
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
117
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 แนวทางการแก้ปัญหา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เร่ือง กรณศี กึ ษาการนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชมุ ชน
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ดา้ นสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
ดา้ นความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
ด้านอนื่ ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
118
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครื่องมอื พัฒนางาน
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3
ความปลอดภัยในการใช้เครือ่ งมอื พัฒนางาน
เวลา 6 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยเี พอื่ การดารงชวี ิตในสงั คมทีม่ กี ารเปลีย่ นแปลงอย่างรวดเรว็
ใชค้ วามร้แู ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ เพ่ือแกป้ ัญหาหรือ
พัฒนางานอย่างมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้
เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคานงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ติ สงั คม และสิ่งแวดล้อม
ว 4.1 ม.3/5 ใชค้ วามรู้ และทักษะเกยี่ วกบั วัสดุ อุปกรณ์ เครือ่ งมอื กลไก ไฟฟา้ และ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ให้ถกู ต้องกับลกั ษณะของงาน และปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหา
หรอื พัฒนางาน
2. สาระการเรยี นรู้
2.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
1) วัสดุแต่ละประเภทมีสมบตั ิแตกตา่ งกนั เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก เซรามิก จงึ ตอ้ งมีการวิเคราะห์
สมบตั ิเพ่ือเลอื กใช้ให้เหมาะสมกับลกั ษณะของงาน
2) อปุ กรณ์และเครื่องมอื ในการสร้างชิ้นงานหรอื พัฒนาวธิ ีการมีหลายประเภท ตอ้ งเลือกใช้ให้ถกู ตอ้ ง
เหมาะสม และปลอดภัย รวมท้ังรูจ้ ักเก็บรักษา
3) การสรา้ งชิน้ งานอาจใช้ความรู้ เรือ่ ง กลไก ไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เชน่ LED LDR มอเตอร์ เฟือง
คาน รอก ลอ้ เพลา
2.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
(พิจารณาตามหลกั สูตรสถานศึกษา)
3. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
วัสดุ หมายถึง สง่ิ ของหรอื วตั ถทุ น่ี ามาใชป้ ระกอบกันเปน็ ชิน้ งานตามการออกแบบ เปน็ วตั ถุ
ท่ีสามารถสมั ผัสได้ และมสี มบตั เิ ฉพาะตัวทางฟสิ กิ ส์ ทางเคมี ทางไฟฟ้า หรอื สมบตั ิเชงิ กลแตกต่างกันไป
โดยวัสดแุ บ่งเปน็ 2 ประเภท คือ โลหะและอโลหะ โดยการเลอื กใชว้ ัสดุควรพจิ ารณาจากสมบัติของวัสดนุ ัน้
ใหต้ รงกับงานท่ีออกแบบหรอื ตามวตั ถุประสงค์ทต่ี ้องการ
อปุ กรณ์และเคร่อื งมือช่างพนื้ ฐานถือวา่ เปน็ ตัวช่วยทส่ี าคัญในการออกแบบกระบวนการผลิต เชน่
ช่วยลดข้นั ตอนและย่นระยะเวลาในการผลิต ซ่ึงการพัฒนาชนิ้ งานจาเป็นตอ้ งเลอื กใชอ้ ุปกรณแ์ ละเคร่อื งมือท่ี
มีความหลากหลาย โดยต้องเลือกใช้ให้ถกู ต้อง เหมาะสม และปลอดภยั รวมท้ังร้จู กั เกบ็ รักษาอปุ กรณแ์ ละ
เครื่องมอื ชา่ งพื้นฐานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใชง้ าน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
119
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครือ่ งมอื พัฒนางาน
กลไก คอื สิง่ ทีท่ างานประสานสอดคลอ้ งกันเพือ่ ใหร้ ะบบทางานได้ เช่น กลไกการยอ่ ยอาหารของ
มนษุ ย์ กลไกในเคร่ืองยนต์ท่ีทาให้รถเคล่ือนที่ได้ โดยอาศัยกลไกทส่ี าคัญในการพฒั นาชิน้ งาน ไดแ้ ก่ ล้อและ
เพลา รอก เฟืองตรง คาน และสปรงิ
ไฟฟา้ คือ พลงั งานทส่ี ามารถเปลย่ี นพลงั งานจากการเคลือ่ นท่ีของอเิ ล็กทรอนิกส์หรือโปรตอน
ทีก่ อ่ ให้เกิดพลังงานอ่ืน ๆ เชน่ แสงสวา่ ง ความร้อน พลังงานกล ส่วนอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ เปน็ การ
ควบคมุ หรือออกแบบการไหลของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้า ซึง่ มอี ปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สท์ าหนา้ ที่
ควบคุมการไหลของกระแสไฟฟ้า
4. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียนและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี ินยั รับผิดชอบ
- ทักษะการสอื่ สาร 2. ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน
- ทกั ษะการให้เหตผุ ล
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการแก้ปัญหา
- ทักษะการสังเกต
- ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
- ทกั ษะการทางานร่วมกนั
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
5. ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง การนาความรมู้ าใช้ในการแก้ปัญหาหรือพฒั นางาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
120
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ คร่ืองมือพฒั นางาน
6. การวัดและการประเมินผล
รายการวดั วธิ ีวัด เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมิน
ประเมินตามสภาพจรงิ
6.1 การประเมินก่อนเรยี น - แบบทดสอบ
กอ่ นเรียน
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบ
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 ก่อนเรยี น
เรื่อง วสั ดุ อุปกรณ์
เครื่องมอื และความรูใ้ น
การแกป้ ัญหาหรอื
พัฒนางาน
6.2 การประเมินระหวา่ งการจัด
กิจกรรม
1) สารวจวสั ดุ - ตรวจใบงานที่ 3.1.1 - ใบงานที่ 3.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบฝกึ หัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ภายในบา้ น
2) ความร้เู กี่ยวกบั วัสดุ - ตรวจแบบฝกึ หัด
สาหรบั การพฒั นา
ชน้ิ งาน
3) อุปกรณแ์ ละเครื่องมือ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ช่างพื้นฐานในการ
แก้ปัญหาและสร้าง
ช้นิ งาน
4) กลไก ไฟฟ้า และ - ตรวจใบงานท่ี 3.3.1 - ใบงานท่ี 3.3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
อปุ กรณ์อเิ ลก็ ทรอนิกส์
5) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2
ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
6) พฤตกิ รรมการทางาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
รายบุคคล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
7) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2
กล่มุ การทางานกลุม่ การทางานกลุม่ ผา่ นเกณฑ์
8) คณุ ลกั ษณะ - สังเกตความมวี นิ ยั - แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 2
อนั พึงประสงค์ ความรับผดิ ชอบ คณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝ่เรียนรู้ และมุง่ มัน่ อันพงึ ประสงค์
ในการทางาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
121
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครอื่ งมอื พัฒนางาน
รายการวดั วธิ ีวดั เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
6.3 การประเมนิ หลงั เรยี น - แบบทดสอบ
หลงั เรียน
1) แบบทดสอบหลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 3 หลงั เรียน
เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์
เคร่อื งมอื และความรู้
ในการแกป้ ญั หาหรอื
พัฒนางาน
2) การประเมนิ ช้นิ งาน/ - ตรวจช้นิ งาน/ - แบบประเมินชนิ้ งาน/ - ระดับคุณภาพ 2
ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด)
เร่อื ง การนาความรมู้ าใช้
ในการแกป้ ัญหาหรือ
พัฒนางาน
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เรือ่ ง ความปลอดภัยในการใช้เครือ่ งมือพัฒนางาน
เร่อื งที่ 1: ความรู้เก่ียวกับวัสดุสาหรับการพัฒนาช้นิ งาน เวลา 2 ชวั่ โมง
วธิ ีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ขน้ั นา
ข้ันที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคาถามสาคญั ประจาหัวขอ้ กับนกั เรยี นว่า“ความรูเ้ กี่ยวกบั วัสดุมีประโยชน์ต่อการพฒั นา
ชิน้ งานอย่างไร”
ขน้ั สอน
ขั้นที่ 2 สารวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่อื สืบค้นความหมายและประเภท
ของวัสดจุ ากอินเทอรเ์ นต็ และให้แต่ละกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอบรเิ วณหน้าชน้ั เรยี น
ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. นกั เรียนศกึ ษาตัวอย่างวัสดธุ รรมชาติและวัสดุสงเคราะห์เพ่ือสงั เกตสมบัติเดน่ และลักษณะงาน
ของวสั ดตุ ่าง ๆ และสืบคน้ เกย่ี วกับสมบตั ิของวัสดุและหลักการเลือกวัสดุจากหนังสอื เรียน
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
122
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครือ่ งมอื พัฒนางาน
3. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามข้อสงสยั โดยครใู ห้ความรู้ในส่วนนั้น
4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มสแกน QR code เร่อื ง คุณภาพของวัสดุในการสรา้ งช้นิ งานจากหนังสือเรยี น
5. ครมู อบหมายให้นกั เรียนทาใบงานที่ 3.1.1 เร่อื ง สารวจวสั ดุภายในบา้ น และกิจกรรมฝึกทักษะ
กระบวนการคดิ และทบทวนเนื้อหาอยา่ งครบถว้ นตามตวั ชว้ี ัดจากแบบฝึกหดั รายวชิ าพ้นื ฐาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง วสั ดุ อุปกรณ์
เคร่ืองมอื และความรู้ในการแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน เปน็ การบ้านและนามาส่งในช่วั โมง
ถดั ไป
ขน้ั สรปุ
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคาถามและการนาเสนอผลงานของนักเรียน
2. ครูตรวจสอบการทาใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง สารวจวัสดภุ ายในบ้าน
3. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกับวสั ดุ ประเภทของวัสดุ สมบัติของวสั ดุ และหลกั การ
เลือกวสั ดุ
เรอ่ื งที่ 2: อปุ กรณ์และเคร่ืองมือชา่ งพ้นื ฐานในการแก้ปัญหาและสร้างชน้ิ งาน เวลา 2 ชว่ั โมง
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ขน้ั นา
ขน้ั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคาถามสาคญั ประจาหัวข้อกับนกั เรียนวา่ “ความร้เู กีย่ วกับเครอ่ื งมอื ชา่ งมีประโยชน์
ในการแก้ปัญหาและสรา้ งชิ้นงานอย่างไร” และครูอธิบายกับนักเรยี นเพอ่ื เช่ือมโยงเข้าสู่
บทเรียน
ขน้ั สอน
ขน้ั ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพอ่ื รว่ มกันตอบคาถามว่า
“นกั เรียนร้จู ักอปุ กรณ์และเครื่องมอื ชา่ งพืน้ ฐานชนิดใดบ้าง และอุปกรณ์และเครื่องชา่ งชนดิ นั้น
ทาอะไร” จากนั้นครสู ุ่มนกั เรียน 2-3 คน ออกมาตอบคาถามบริเวณหน้าชน้ั เรยี น
ขั้นท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. นักเรยี นศกึ ษาเนือ้ หาเก่ียวกบั อปุ กรณ์และเครื่องมือช่างพื้นฐาน วธิ ีการเลอื กใชอ้ ุปกรณแ์ ละ
เครือ่ งมอื ชา่ งพื้นฐานแต่ละชนดิ และหลักการเลือกใช้และการดูแลรกั ษาอุปกรณแ์ ละ
เครอื่ งมือช่างพืน้ ฐาน จากหนังสือเรยี น
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
123
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครอื่ งมอื พฒั นางาน
ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
3. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามข้อสงสยั และครใู หค้ วามรูเ้ พิ่มเติมในสว่ นนน้ั
4. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนทากิจกรรม High Oder Thinking จากแบบฝึกหดั รายวชิ าพื้นฐาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง วัสดุ อุปกรณ์
เครอ่ื งมอื และความรู้ในการแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน
5. ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอคาตอบบริเวณหนา้ ช้ันเรยี น
ขน้ั สรปุ
ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคาถามและการนาเสนอผลงานของนักเรยี น
2. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ ความร้เู ก่ียวกับอุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ชา่ งพ้ืนฐานในการแก้ปัญหา
และการสร้างชิ้นงาน
เรอ่ื งท่ี 3: ความรู้ในการแก้ปัญหาหรอื พัฒนาชิน้ งาน เวลา 2 ชวั่ โมง
วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning)
ขน้ั นา
1. ครถู ามคาถามสาคัญประจาหวั ข้อเพ่ือกระตุ้นความสนใจของนักเรียนว่า“การมีความรู้เก่ยี วกบั
ศาสตร์ตา่ ง ๆ ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับการแกป้ ญั หาหรือการพัฒนาช้ินงานมีประโยชน์อยา่ งไร”
พรอ้ มอธิบายกับนักเรยี นเพ่อื เชอื่ มโยงเขา้ สบู่ ทเรยี น
ขน้ั สอน
ขนั้ ท่ี 1 กาหนดปญั หา
1. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม
2. ครูถามคาถามกระต้นุ ความคิดของนักเรียนวา่ “นักเรียนรูห้ รอื ไมว่ า่ ถา้ นักเรยี นตอ้ งการ
แก้ปัญหาหรอื พฒั นาช้ินงาน นกั เรยี นจาเปน็ ต้องมคี วามรู้ในเรื่องใดบา้ ง”
ขั้นที่ 2 ทาความเข้าใจปัญหา
3. นักเรียนศึกษาเนื้อหาเก่ยี วกับกลไกทีส่ าคัญในการพฒั นาชน้ิ งานจากหนงั สือเรยี น
ข้นั ท่ี 3 ดาเนินการศกึ ษาค้นคว้า
4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ แสดงความคิดเหน็ ร่วมกนั ถงึ สง่ิ ของในชีวิตประจาวนั ที่เก่ียวข้องกับ
กลไกตา่ ง ๆ ในการพัฒนาชนิ้ งาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
124
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครื่องมอื พัฒนางาน
5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาและสังเกตรปู แบบของไฟฟา้ และวงจรไฟฟ้าอย่างงา่ ย
รวมถึงอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ทที่ าหน้าทีค่ วบคมุ การไหลของกระแสไฟฟา้ จากหนงั สือเรยี น
หรอื สืบค้นขอ้ มูลเพิม่ เตมิ จากทางอนิ เทอร์เนต็
ข้นั ท่ี 4 สงั เคราะหค์ วามรู้
6. เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามขอ้ สงสยั และครูใหค้ วามรู้เพิม่ เตมิ ตามความเหมาะสม
7. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทาใบงานท่ี 3.3.1 เรือ่ ง กลไก ไฟฟา้ และอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์
8. จากนัน้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมานาเสนอใบงานบริเวณหนา้ ช้ันเรียน
9. นักเรยี นทากจิ กรรมทสี่ อดคล้องกบั เนื้อหา โดยให้ผเู้ รียนฝกึ ปฏบิ ตั ิ เพื่อพฒั นาความรแู้ ละทักษะ
(Design Activity) และบนั ทกึ ลงในสมุดประจาตวั
ขั้นที่ 5 สรปุ และประเมนิ คา่ ของคาตอบ
10. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของข้อมูล
11. ครูทบทวนคาถามกระตุ้นความคดิ ของนักเรยี นว่า “นกั เรียนรหู้ รอื ไม่วา่ ถา้ นกั เรียนตอ้ งการ
แกป้ ัญหาหรือพัฒนาชิ้นงาน นกั เรยี นจาเปน็ ต้องมีความรู้ในเร่อื งใดบ้าง”
ขน้ั ท่ี 6 นาเสนอและประเมนิ ผลงาน
12. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สง่ ตัวแทนออกมานาเสนอขอ้ มูลบรเิ วณหน้าช้ันเรียน โดยครูผูส้ อน
ประเมินผลงานการนาเสนอของนกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่
ขน้ั สรุป
1. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการณตอบคาถาม และการนาเสนอผลงานของนักเรียน
2. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้เก่ยี วกบั วสั ดุสาหรบั การพฒั นาชิน้ งาน สมบตั ิของวัสดุ
หลกั การเลือกวัสดุ หลักการเลอื กใช้และการดูแลรกั ษาอุปกรณแ์ ละเครื่องมอื ช่างพ้นื ฐาน
รวมถึงความรู้เกีย่ วกับกลไก ไฟฟา้ และอปุ กรณอ์ ิเล็กทรอนิกส์
3. นักเรยี นแต่ละคนทาแบบฝึกหัด (Unit Activity) จากหนงั สือเรยี นเพอ่ื ทบทวนความรู้
ความเขา้ ใจ และพัฒนาทักษะการคดิ ของผเู้ รียน โดยการตอบคาถามลงในสมุดประจาตัว
4. นักเรยี นตรวจสอบระดบั ความสามารถของตนเองจากหนังสอื เรยี น โดยพจิ ารณาข้อความว่า
ถูกหรอื ผิด หากนกั เรียนพจิ ารณาไม่ถกู ตอ้ งให้นกั เรยี นกลบั ไปทบทวนเนอื้ หาตามหัวขอ้
ท่กี าหนดให้
5. ครูมอบหมายให้นกั เรียนทากจิ กรรม High Oder Thinking จากแบบฝกึ หดั รายวิชาพ้นื ฐาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง วัสดุ อุปกรณ์
เครื่องมอื และความรู้ในการแกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน และทาชิน้ งาน/ภาระงาน(รวบยอด)
เรือ่ ง การนาความรู้มาใช้ในการแก้ปัญหาหรอื พฒั นางานเป็นการบา้ นและนามาส่งในชว่ั โมง
ถัดไป
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
125
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ความปลอดภยั ในการใช้เครื่องมือพัฒนางาน
6. นักเรยี นทาแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง วัสดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมือ และ
ความร้ใู นการแกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน หรอื ทาแบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝึกหัด
8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3
เรือ่ ง วัสดุ อปุ กรณ์ เครอ่ื งมือ และความรู้ในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางาน
2) แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3
เรอ่ื ง วสั ดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ และความรใู้ นการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางาน
3) ใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง สารวจวสั ดุภายในบ้าน
4) ใบงานที่ 3.3.1 เร่อื ง กลไก ไฟฟา้ และอุปกรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องคอมพิวเตอร์
2) อินเทอร์เนต็
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
126
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ความปลอดภยั ในการใชเ้ คร่อื งมือพัฒนางาน
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3
คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไมใ่ ช่วสั ดธุ รรมชาติ 6. อุปกรณ์ในข้อใดที่ช่วยในการจบั ยึด ดัด โคง้ งอ
ก. แกว้ ช้นิ งาน
ข. ไม้ไผ่ ก. ประแจ
ค. ปอสา ข. สวา่ นมือ
ง. กระจดู ค. คีมปากแหลม
2. “ใชท้ ากระดาษ รม่ ดอกไม้ประดษิ ฐ์ โคมไฟ” ง. ไขควงปากแบน
ลักษณะงานดงั กล่าวพฒั นาจากวสั ดุประเภทใด 7. ข้อใดไม่ใช่ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า
ก. ย่านลิเภา ก. ไดโอด
ข. ยางพารา ข. ตัวนาไฟฟ้า
ค. ปอสา ค. เคร่อื งใช้ไฟฟา้
ง. กระจูด ง. แหลง่ กาเนดิ ไฟฟ้า
3. “ใช้ในการผลติ ยางรถยนต์ สายพาน” 8. อปุ กรณใ์ นข้อใดถือว่าเปน็ แหล่งกาเนิดไฟฟ้า
ลักษณะงานดังกลา่ วพัฒนาจากเปน็ ของวัสดุ ก. มอเตอร์
ประเภทใด ข. ถ่านไฟฉาย
ก. ยา่ นลิเภา ค. อะลมู ิเนียม
ข. หวาย ง. สายทองแดง
ค. ยางสังเคราะห์ 9. กลไกในขอ้ ใดทช่ี ่วยผอ่ นแรงในการทางาน
ง. เส้นใยสังเคราะห์ ก. คาน
4. ขอ้ ใดไม่ใช่สมบตั ิของวสั ดุ ข. สปริง
ก. สมบัตเิ ชิงกล ค. เฟอื งตรง
ข. สมบตั ิทางเคมี ง. ลอ้ และเพลา
ค. สมบตั ทิ างฟสิ ิกส์ 10. กลไกสปรงิ สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้กบั ขอ้ ใด
ง. สมบตั ิทางกายภาพ ก. เตียงนอน
5. อปุ กรณใ์ นข้อใดท่ีชว่ ยในการขนั นอตใหแ้ น่น ข. ลอ้ รถยนต์
ก. ค้อนหงอน ข. เลอ่ื ยลันดา ค. เบด็ ตกปลา
ค. สวา่ นไฟฟ้า ง. ไขควงปากแฉก ง. คมี คีบน้าแขง็
เฉลย 1. ก 2. ข 3. ค 4. ค 5. ง 6. ค 7. ก 8. ข 9. ง 10. ก
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
127
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ความปลอดภยั ในการใช้เคร่ืองมอื พัฒนางาน
แบบทดสอบหลงั เรยี น
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3
คาช้แี จง : ให้นกั เรยี นเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว
1. ข้อใดไมใ่ ช่วสั ดุธรรมชาติ 6. อุปกรณ์ในขอ้ ใดใช้ในการขนั หรือคลายนอตทมี่ ี
ก. ไหม หลายขนาด
ข. หวาย ก. ประแจ
ค. ยางพารา ข. สว่านไฟฟ้า
ง. พลาสตกิ ค. ไขควงปากแฉก
2. “ใชแ้ ปรรปู เปน็ ยางแผ่นรมควนั ยางแท่ง” ง. คมี ตัดปากเฉียง
ลักษณะงานดังกล่าวพัฒนาจากวสั ดปุ ระเภทใด 7. ข้อใดไมใ่ ช่สว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้
ก. ไหม ก. ตัวนาไฟฟา้
ข. ยางพารา ข. สวิตซไ์ ฟฟา้
ค. ปอสา ค. เครื่องใช้ไฟฟา้
ง. กระจูด ง. แหล่งกาเนิดไฟฟา้
3. “รากและลาตน้ ใช้เปน็ สมุนไพรรักษาโรค” 8. อุปกรณ์ในข้อใดถือว่าเป็นแหลง่ กาเนิดไฟฟา้
ลกั ษณะงานดังกลา่ วพัฒนาจากวสั ดปุ ระเภทใด ก. มอเตอร์
ก. ไมไ้ ผ่ ข. แบตเตอร่ี
ข. กลว้ ย ค. อะลมู เิ นยี ม
ค. หวาย ง. เครื่องควบคุมความเร็ว
ง. มะพร้าว 9. กลไกใดที่ทาหน้าท่ีดดี หรืองัดวัตถใุ หเ้ คลื่อนท่ี
4. ข้อใดไมใ่ ช่สมบัติของวสั ดุ รอบจุดหมุนได้
ก. สมบัตเิ ชงิ กล ก. คาน
ข. สมบัตทิ างเคมี ข. สปริง
ค. สมบัติทางชีววิทยา ค. เฟืองตรง
ง. สมบตั ิทางกายภาพ ง. ล้อและเพลา
5. อปุ กรณใ์ นข้อใดใช้ในงานเจาะรู 10. กลไกสปริงสามารถนาไปประยกุ ต์ใช้ในขอ้ ใด
ก. ค้อนหงอน ข. เลือ่ ยลันดา ก. ปากกา ข. กรรไกร
ค. สว่านไฟฟ้า ง. ไขควงปากแฉก ค. มอเตอร์ ง. ลอ้ รถยนต์
เฉลย 1. ง 2. ข 3. ข 4. ค 5. ค 6. ก 7. ข 8. ข 9. ก 10. ก
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
128
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 ความปลอดภัยในการใช้เครอื่ งมือพฒั นางาน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรือ่ ง ความร้เู กีย่ วกับวสั ดสุ าหรบั การพัฒนาช้นิ งาน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1
ความรู้เกย่ี วกบั วสั ดสุ าหรบั การพัฒนาชิ้นงาน
เวลา 2 ชวั่ โมง
1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด
1.1 ตัวช้ีวัด
ว 4.1 ม.3/5 ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมอื กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
ให้ถกู ตอ้ งกบั ลักษณะของงาน และปลอดภัยเพอ่ื แก้ปญั หาหรือพฒั นางาน
2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. อธบิ ายความหมายของวัสดุและประเภทของวัสดไุ ด้ (K)
2. พิจารณาสมบตั ขิ องวัสดุใหต้ รงกบั วตั ถุประสงคท์ ตี่ ้องการ (K)
3. ยกตัวอย่างวสั ดทุ ใี่ ชส้ าหรบั การพัฒนาชน้ิ งานได้ (P)
3. เห็นประโยชน์ของวสั ดทุ ใี่ ช้ในการพัฒนาชน้ิ งาน (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
- วสั ดแุ ต่ละประเภทมีสมบตั แิ ตกต่างกนั เชน่ ไม้ โลหะ พลาสติก เซรามิก จึงตอ้ งมีการวิเคราะหส์ มบตั ิเพอ่ื
เลอื กใช้ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะของงาน
4. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
วัสดุ หมายถึง ส่ิงของหรือวัตถุท่ีนามาใช้ประกอบกันเป็นชิ้นงานตามการออกแบบ เป็นวัตถุ
ที่สามารถสัมผัสได้ และมีสมบัติเฉพาะตัวทางฟิสิกส์ ทางเคมี ทางไฟฟ้า หรือสมบัติเชิงกลแตกต่างกันไป
โดยวัสดแุ บ่งเปน็ 2 ประเภท คือ โลหะและอโลหะ โดยการเลือกใช้วัสดคุ วรพิจารณาจากสมบัตขิ องวัสดุน้ัน
ให้ตรงกบั งานทอ่ี อกแบบหรือตามวัตถุประสงค์ที่ตอ้ งการ
5. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผดิ ชอบ
- ทักษะการสอื่ สาร 2. ใฝ่เรยี นรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุ่งม่ันในการทางาน
- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
129
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครอ่ื งมือพัฒนางาน
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ความรเู้ กย่ี วกับวสั ดสุ าหรับการพฒั นาชิน้ งาน
สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
- ทักษะการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการสงั เกต
- ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้
4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- ทักษะการทางานรว่ มกัน
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ช่ัวโมงท่ี 1
ขน้ั นา
ข้นั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. นกั เรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ
และความรู้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
2. ครูถามคาถามสาคัญประจาหวั ข้อกบั นกั เรียนว่า“ความรู้เกย่ี วกบั วัสดุมีประโยชนต์ อ่ การพัฒนา
ช้ินงานอยา่ งไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรียนขึน้ อยกู่ ับดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู้ อน เช่น ความรเู้ กี่ยวกับวัสดุ
จะชว่ ยใหส้ ามารถเลือกวัสดุที่มรี ะดับคุณภาพและสมบตั ิที่เหมาะสมกับช้นิ งานทีจ่ ะพฒั นา
ซึง่ เม่ือเลอื กใช้วัสดุท่เี หมาะสมจะชว่ ยลดค่าใช้จ่ายและระยะเวลาในการพฒั นาชิ้นงานให้สั้นลง)
ขน้ั สอน
ขัน้ ท่ี 2 สารวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพ่ือสืบค้นความหมายและประเภท
ของวสั ดจุ ากอินเทอรเ์ นต็
2. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอเกย่ี วกบั ความหมายและประเภทของวสั ดุ
บริเวณหนา้ ช้นั เรยี น พรอ้ มอธบิ ายร่วมกับเพือ่ นในชนั้ เรยี น
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
130
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครื่องมอื พัฒนางาน
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 1 เร่ือง ความรูเ้ กยี่ วกบั วัสดสุ าหรับการพฒั นาชิน้ งาน
ขนั้ ที่ 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
3. นกั เรยี นศึกษาตวั อย่างวสั ดุธรรมชาติและวสั ดุสงเคราะหเ์ พอ่ื สังเกตสมบัตเิ ดน่ และลักษณะงาน
ของวัสดุต่าง ๆ จากหนังสือเรียนรายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง วสั ดุ อุปกรณ์ เคร่อื งมือ และความรใู้ นการแก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน
หรือเปิดโอกาสให้นกั เรียนสืบค้นข้อมูลเพม่ิ เติมจากอนิ เทอร์เน็ต
4. ครูอธิบายกับนักเรียนเพื่อใหน้ ักเรียนเข้าใจมากยิ่งข้ึนว่า“การเลือกใช้วสั ดใุ ห้เหมาะสมกับงาน
จะต้องพจิ ารณาจากสมบตั ิของวัสดุนัน้ ให้ตรงกับงานทอ่ี อกแบบหรือตามวตั ถปุ ระสงค์ทต่ี ้องการ
จากวัสดุต่าง ๆ เช่น การทนต่อความรอ้ น การนาไฟฟา้ ”
5. เปิดโอกาสให้นักเรยี นสืบค้นเก่ียวกับสมบัติของวัสดุและหลักการเลือกวสั ดุจากหนงั สอื เรียน
หรือสืบค้นเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต
ช่วั โมงที่ 2
ข้ันที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
6. เปดิ โอกาสให้นกั เรียนซกั ถามขอ้ สงสยั โดยครูใหค้ วามร้ใู นสว่ นนน้ั
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มสแกน QR code เร่ือง คุณภาพของวัสดุในการสรา้ งชนิ้ งานจากหนังสือเรยี น
8. ครูมอบหมายให้นักเรียนทาใบงานท่ี 3.1.1 เรอื่ ง สารวจวัสดุภายในบ้าน และกิจกรรมฝกึ ทักษะ
กระบวนการคดิ และทบทวนเน้ือหาอย่างครบถ้วนตามตวั ชว้ี ัดจากแบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้ืนฐาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง วัสดุ อปุ กรณ์
เครอื่ งมอื และความรู้ในการแกป้ ญั หาหรอื พฒั นางานเปน็ การบา้ นและนามาสง่ ในชั่วโมง
ถัดไป
ขน้ั สรปุ
ข้นั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการตอบคาถามและการนาเสนอผลงานของนักเรียน
2. ครตู รวจสอบการทาใบงานท่ี 3.1.1 เรื่อง สารวจวัสดุภายในบ้าน
3. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปเก่ยี วกบั วสั ดุ ประเภทของวสั ดุ สมบัตขิ องวสั ดุ และหลักการ
เลอื กวสั ดุ
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
131
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ความปลอดภยั ในการใช้เครอ่ื งมือพฒั นางาน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรื่อง ความรู้เก่ียวกับวัสดุสาหรบั การพัฒนาช้ินงาน
7. การวดั และประเมนิ ผล วิธวี ัด เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
ประเมินตามสภาพจริง
รายการวัด - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรียน
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น กอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- ใบงานที่ 3.1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
- แบบทดสอบก่อนเรยี น - ตรวจใบงานที่ 3.1.1
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 - แบบฝกึ หดั ระดบั คณุ ภาพ 2
เรื่อง ความปลอดภัยใน - ตรวจแบบฝึกหดั ผา่ นเกณฑ์
การใชเ้ คร่อื งมือพฒั นา - แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 2
งาน - ประเมินการนาเสนอ การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
7.2 การประเมินระหว่างการ ผลงาน - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
จัดกิจกรรม การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
1) สารวจวัสดุ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2
ภายในบา้ น การทางานรายบคุ คล การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
2) ความรเู้ กย่ี วกบั วสั ดุ - แบบประเมิน
สาหรับการพัฒนา - สงั เกตพฤติกรรม คณุ ลกั ษณะ
ช้ินงาน การทางานกลุ่ม อันพึงประสงค์
3) การนาเสนอผลงาน
- สังเกตความมวี ินยั
4) พฤตกิ รรมการทางาน ความรับผดิ ชอบ
รายบคุ คล ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่น
ในการทางาน
5) พฤติกรรมการทางาน
กลมุ่
6) คณุ ลักษณะ
อนั พึงประสงค์
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
132
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 3 ความปลอดภยั ในการใช้เคร่ืองมอื พัฒนางาน
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 เรอ่ื ง ความรเู้ ก่ียวกบั วัสดุสาหรับการพัฒนาชน้ิ งาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนรายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3
เรอ่ื ง วัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื และความรใู้ นการแกป้ ญั หาหรอื พัฒนางาน
2) แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 3
เรอื่ ง วัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมือ และความรใู้ นการแก้ปัญหาหรอื พฒั นางาน
3) ใบงานที่ 3.1.1 เร่ือง สารวจวสั ดุภายในบ้าน
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อินเทอร์เนต็
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
133
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 ความปลอดภยั ในการใชเ้ ครือ่ งมอื พัฒนางาน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง ความรู้เก่ยี วกบั วสั ดสุ าหรับการพัฒนาช้ินงาน
ใบงานที่ 3.1.1
เรือ่ ง สารวจวสั ดุภายในบา้ น
คาชี้แจง : ใหน้ ักเรียนสารวจสง่ิ ของเครอ่ื งใช้ภายในบ้านของตนเองว่ามีสง่ิ ของเคร่อื งใชอ้ ะไรบา้ ง
และกรอกข้อมลู ลงในใบงานให้ถูกตอ้ ง
สิง่ ของเครื่องใชใ้ นบา้ น วสั ดทุ ใ่ี ช้ สมบตั ขิ องวสั ดุ
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
134
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ความปลอดภยั ในการใช้เครอ่ื งมอื พฒั นางาน เฉลย
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1 เรือ่ ง ความรเู้ กยี่ วกบั วัสดสุ าหรับการพัฒนาช้ินงาน
ใบงานท่ี 3.1.1
เรื่อง ตรวจสอบวัสดภุ ายในบ้าน
คาชี้แจง : ให้นักเรียนสารวจส่งิ ของเคร่ืองใช้ภายในบ้านของตนเองว่ามสี ิ่งของเคร่อื งใชอ้ ะไรบ้าง
และกรอกขอ้ มลู ลงในใบงานใหถ้ กู ตอ้ ง
ส่งิ ของเคร่ืองใช้ในบา้ น วัสดทุ ่ีใช้ สมบตั ิของวัสดุ
โต๊ะเขียนหนงั สอื ไม้
แกว้ นา้ แก้ว เป็นวัสดุแข็ง หดและขยายตวั เมื่อ
ตะกร้าผา้ พลาสตกิ มคี วามชนื้
ตะกร้าใสผ่ ลไม้ หวาย มีลักษณะโปรง่ ใสและมคี วามเปราะ
มีดปลอกผลไม้ โลหะ
โคมไฟ ปอสา มมี วลน้อย นา้ หนกั เบา ย่อยสลายยาก
เสื่อ กระจดู เปน็ ฉนวนความรอ้ นและไฟฟ้าไดด้ ี
เก้าอี้ ไมไ้ ผ่ มีความเหนยี ว แขง็ แรง ทนทาน
ยางรถจักรยาน ยางสงั เคราะห์ และยืดหยุน่ ไดด้ ี
มคี วามแข็ง ผิวมนั วาว ทนทาน
และเปน็ ตวั นาไฟฟ้า
มลี ักษณะทเี่ หนยี ว ทนทาน สามารถ
เก็บรกั ษาได้นาน
เหนียว ทนทาน ดูดความชืน้ ได้ดี
แขง็ ทนทาน มคี วามเหนียว ยดื หยุน่
น้าหนกั เบา และดดั โคง้ งอได้
มีความทนทานตอ่ การขดู ขีด และ
ปอ้ งกันการผกุ รอ่ นได้ดี
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
135
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ ครอ่ื งมือพฒั นางาน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง ความรู้เกีย่ วกับวสั ดุสาหรบั การพฒั นาชน้ิ งาน
9. บนั ทึกผลหลงั การสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
ด้านอื่น ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมท่ีมปี ญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )
ปญั หา/อปุ สรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
136
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ความปลอดภัยในการใช้เคร่อื งมือพัฒนางาน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 อุปกรณแ์ ละเครอ่ื งมือชา่ งพ้นื ฐานในการแกป้ ัญหาและสร้างช้ินงาน
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 2
อปุ กรณ์และเคร่ืองมอื ชา่ งพ้นื ฐานในการแก้ปญั หาและสรา้ งช้นิ งาน
เวลา 2 ชวั่ โมง
1. มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด
1.1 ตวั ชว้ี ัด
ว 4.1 ม.3/5 ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกบั วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์
ใหถ้ ูกต้องกับลกั ษณะของงาน และปลอดภยั เพอื่ แกป้ ญั หาหรอื พฒั นางาน
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. บอกอปุ กรณ์และเครื่องมือช่างพน้ื ฐานได้ (K)
2. อธิบายวธิ ีการใช้งานของอปุ กรณแ์ ละเครอ่ื งมอื ช่างพืน้ ฐานได้ (K)
3. ใช้อปุ กรณ์และเครือ่ งมอื ชา่ งพน้ื ฐานได้เหมาะสมกับการทางาน (P)
4. เห็นประโยชนข์ องการใชอ้ ุปกรณ์และเคร่ืองมอื ช่างพน้ื ฐาน (A)
3. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
- อปุ กรณ์และเครอื่ งมือในการสร้างชนิ้ งานหรือพฒั นาวธิ ีการมีหลายประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถกู ต้อง เหมาะสม
และปลอดภัย รวมทัง้ ร้จู ักเกบ็ รกั ษา
4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
อุปกรณ์และเครื่องมือช่างพืน้ ฐานถือวา่ เปน็ ตวั ช่วยทส่ี าคญั ในการออกแบบกระบวนการผลิต เชน่
ชว่ ยลดขน้ั ตอนและยน่ ระยะเวลาในการผลิต ซ่ึงการพฒั นาช้ินงานจาเป็นต้องเลือกใช้อปุ กรณ์และเครอ่ื งมอื
ที่มคี วามหลากหลาย โดยตอ้ งเลอื กใช้ให้ถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย รวมทัง้ รู้จักเก็บรักษาอปุ กรณ์และ
เครอื่ งมอื ชา่ งพ้ืนฐานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพตลอดอายุการใช้งาน
5. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มวี นิ ยั รบั ผิดชอบ
- ทกั ษะการส่ือสาร 2. ใฝ่เรยี นรู้
2. ความสามารถในการคดิ 3. มุง่ มั่นในการทางาน
- ทกั ษะการให้เหตผุ ล
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
137
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 ความปลอดภัยในการใช้เคร่ืองมอื พฒั นางาน
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 อปุ กรณ์และเครอื่ งมอื ชา่ งพ้นื ฐานในการแก้ปัญหาและสร้างช้ินงาน
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
- ทกั ษะการแก้ปญั หา
- ทกั ษะการสังเกต
- ทักษะการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- ทกั ษะการทางานร่วมกัน
5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- ทกั ษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชวั่ โมงท่ี 1
ขน้ั นา
ข้นั ท่ี 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามคาถามสาคัญประจาหัวข้อกับนักเรียนวา่ “ความร้เู ก่ียวกับเคร่ืองมอื ช่างมีประโยชน์
ในการแกป้ ญั หาและสร้างชนิ้ งานอย่างไร”
(แนวตอบ : คาตอบของนกั เรยี นขึน้ อยกู่ ับดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน เชน่ ความร้เู กีย่ วกบั
เครื่องมอื ชา่ งทาให้ช่วยใหต้ ัดสินใจในการเลอื กเครื่องมอื ได้เหมาะสมกับวสั ดุ อุปกรณ์ท่ี
จะใช้งาน ทาให้เกิดความสะดวก ปลอดภยั และปอ้ งกนั ความเสยี หายอาจเกิดจากการ
ใชเ้ คร่ืองมอื ผิดวัตถปุ ระสงค์ได้)
2. ครอู ธบิ ายกับนักเรียนเพอื่ เช่อื มโยงเขา้ สู่บทเรยี นวา่ “การสรา้ งชน้ิ งานจาเป็นทจ่ี ะต้องใช้
อุปกรณแ์ ละเครอื่ งมอื ช่างในการผลิต โดยต้องเลือกใช้ใหถ้ กู ตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
รวมทง้ั จะต้องรจู้ ักเกบ็ รักษาอปุ กรณ์และเครื่องมอื ใหใ้ ชง้ านได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพตลอดอายุ
การใช้งาน”
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
138
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือพฒั นางาน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 2 อปุ กรณ์และเครอ่ื งมือช่างพน้ื ฐานในการแกป้ ัญหาและสรา้ งชิ้นงาน
ขน้ั สอน
ขั้นท่ี 2 สารวจคน้ หา (Exploration)
1. นักเรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพื่อรว่ มกนั ตอบคาถามวา่
“นักเรียนรู้จกั อปุ กรณ์และเครือ่ งมอื ช่างพ้ืนฐานชนดิ ใดบา้ ง และอุปกรณ์และเคร่อื งมือช่าง
ชนิดน้ันทาอะไร”
2. ครูสมุ่ นักเรยี น 2-3 คน ออกมาตอบคาถามบริเวณหนา้ ช้ันเรยี น
ขัน้ ท่ี 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหา เรื่อง อปุ กรณ์และเครือ่ งมือชา่ งพน้ื ฐาน จากหนังสอื เรยี นรายวชิ า
พน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรื่อง วสั ดุ
อปุ กรณ์ เคร่ืองมอื และความรใู้ นการแก้ปัญหาหรอื พฒั นางาน
4. ครูอธิบายกับนกั เรยี นเพ่ือให้นกั เรยี นเข้าใจมากยง่ิ ขน้ึ วา่ “อปุ กรณแ์ ละเครื่องมอื ช่างพ้ืนฐาน
มหี ลายกลมุ่ ไดแ้ ก่ เครอื่ งมอื กลุ่มไขควง เครอ่ื งมอื กลุ่มสวา่ น เครอื่ งมือกล่มุ คมี และเครื่องมือ
พนื้ ฐานอ่ืน ๆ”
5. นกั เรยี นศกึ ษาเนือ้ หาเก่ยี วกับวิธกี ารเลือกใชอ้ ปุ กรณ์และเคร่ืองมือชา่ งพน้ื ฐานแต่ละชนิด
จากหนงั สือเรียน
6. ครอู ธบิ ายเกรด็ เสรมิ ความรทู้ ี่เก่ยี วข้องกบั เน้อื หา (Design Focus) เร่ือง ไขควงลองไฟ
7. ครอู ธบิ ายกับนักเรยี นเพอ่ื ให้นักเรียนเขา้ ใจมากยิ่งข้นึ ว่า “การเลือกใช้อปุ กรณ์และเครอ่ื งมือช่าง
พืน้ ฐานให้เหมาะสมกบั การทางาน เพือ่ ประสิทธภิ าพในการสร้างชนิ้ งาน”
8. นักเรียนศึกษาเนือ้ หา เร่ือง หลักการเลือกใชแ้ ละการดแู ลรักษาอุปกรณแ์ ละเครอื่ งมอื ช่าง
พ้ืนฐานจากหนงั สอื เรียน
ช่ัวโมงที่ 2
ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
9. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามข้อสงสยั และครใู หค้ วามร้เู พิ่มเตมิ ในสว่ นนนั้
10. ครูมอบหมายให้นักเรียนทากจิ กรรม High Oder Thinking ทสี่ อดคลอ้ งกับตวั ช้วี ดั ตามทกั ษะแห่ง
ศตวรรษท่ี 21 จากแบบฝึกหดั รายวิชาพน้ื ฐานเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เร่อื ง วัสดุ อปุ กรณ์ เคร่ืองมือ และความรู้ในการแก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน
11. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานาเสนอคาตอบบรเิ วณหน้าช้ันเรียน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
139
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ คร่ืองมือพฒั นางาน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 อุปกรณ์และเครอื่ งมอื ช่างพ้นื ฐานในการแกป้ ัญหาและสร้างช้นิ งาน
ขน้ั สรุป
ข้นั ท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคาถามและการนาเสนอผลงานของนักเรียน
2. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปความรู้เกย่ี วกบั อปุ กรณ์และเคร่อื งมือชา่ งพนื้ ฐานในการแกป้ ญั หา
และการสรา้ งชิ้นงาน
7. การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
รายการวัด - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมินระหว่างการ
- ประเมินการนาเสนอ - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
จัดกจิ กรรม ผลงาน การนาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
1) อปุ กรณ์และเครอ่ื งมอื - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2
การทางานรายบุคคล การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
ชา่ งพ้ืนฐานในการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
แกป้ ัญหาและสร้าง การทางานกลุม่ การทางานกลุ่ม ผา่ นเกณฑ์
ชน้ิ งาน - สังเกตความมวี ินยั - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2
2) การนาเสนอผลงาน ความรบั ผิดชอบ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งม่ัน อันพึงประสงค์
3) พฤติกรรมการทางาน ในการทางาน
รายบุคคล
4) พฤตกิ รรมการทางาน
กลมุ่
5) คุณลักษณะ
อันพึงประสงค์
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
140
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 ความปลอดภัยในการใชเ้ คร่ืองมือพัฒนางาน
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 อุปกรณ์และเคร่อื งมอื ชา่ งพืน้ ฐานในการแก้ปัญหาและสร้างชน้ิ งาน
8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 สอื่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 3
เรอื่ ง วัสดุ อุปกรณ์ เครือ่ งมอื และความรู้ในการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นางาน
2) แบบฝกึ หดั รายวิชาพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3
เร่อื ง วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื และความรูใ้ นการแก้ปญั หาหรอื พัฒนางาน
8.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
141
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 ความปลอดภัยในการใช้เครื่องมือพัฒนางาน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 อปุ กรณแ์ ละเครื่องมือช่างพ้นื ฐานในการแก้ปัญหาและสรา้ งช้ินงาน
9. บันทึกผลหลังการสอน
ดา้ นความรู้
ด้านสมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)
ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรือพฤตกิ รรมทีม่ ีปญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแกไ้ ข
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
142