The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน้าที่พลเมือง ม4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รพินทร์ ไพรวัลย์, 2020-07-16 00:01:59

หน้าที่พลเมือง ม4

หน้าที่พลเมือง ม4

กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand
Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล

ครตู รวจสอบความถกู ตอ งจากการตอบคําถาม คาปถระาจÓมำาหนว่ ยการเรยี นรู้
ประจาํ หนวยการเรยี นรู
๑. วฒั นธรรมมคี วำมสำ� คญั ต่อสงั คมไทยอยำ่ งไร
หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู ๒. ในทอ้ งถิ่นหรือจังหวดั ของนกั เรยี นมีวฒั นธรรมใดบ้ำงท่เี ปน็ เอกลักษณ์ จงอธิบำยและ
วเิ ครำะห์คณุ คำ่ ของวัฒนธรรมดังกลำ่ ว
1. ผงั มโนทศั น เรอ่ื ง วัฒนธรรม ๓. จงวิเครำะหเ์ ปรยี บเทยี บควำมเหมอื นและควำมแตกต่ำงของวฒั นธรรมด้ำนต่ำงๆ
2. สมดุ ภาพวฒั นธรรมทองถนิ่ ในภมู ภิ าคตางๆ ในแต่ละภมู ภิ ำคของไทย มำพอสงั เขป
๔. นกั เรยี นมีแนวทำงในกำรอนุรักษแ์ ละสืบทอดวฒั นธรรมของท้องถ่นิ และวัฒนธรรมไทย
ของไทย อย่ำงไร
3. สื่อการเรียนรเู กยี่ วกับวัฒนธรรมทองถิน่ ของตน ๕. นักเรยี นมีแนวทำงอย่ำงไรในกำรเลอื กรับวัฒนธรรมจำกภำยนอกเข้ำมำใชใ้ นสังคมไทย

ในรูปแบบตา งๆ
4. เรยี งความ เรือ่ ง วัยรุนไทยกบั การอนรุ กั ษ

และเลือกรบั วฒั นธรรม
5. จัดทํารายงานวชิ าการ เรอ่ื ง วฒั นธรรมไทย

กิจสรก้ารงรสมรรค์พฒั นาการเกรายี รนเรรยี ู้ นรู้

ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มศึกษำวัฒนธรรมประเพณีในท้องถิ่นในด้ำนต่ำงๆ เช่น
ด้ำนอำหำร ดำ้ นกำรแต่งกำย ดำ้ นศิลปะ เป็นต้น ในประเดน็ ตัวอยำ่ งต่อไปนี้
- ชือ่ - ทม่ี ำ
กจิ กรรมท่ี - ควำมส�ำคญั - ควำมเปน็ เอกลักษณ์
- ควำมภำคภมู ิใจในประเพณวี ัฒนธรรมท้องถน่ิ ของตน


- กำรอนรุ กั ษแ์ ละสบื ทอด
แล้วจดั นิทรรศกำรรว่ มกัน

กจิ กรรมท่ี ให้นักเรียนบอกวิธีกำรอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมของชำติมำพอสังเขป
โดยเขียนลง ๑ หน้ำกระดำษรำยงำน สง่ ครูผสู้ อน


กจิ กรรมท่ี ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มวิเครำะห์และจัดท�ำรำยงำนถึงสถำนกำรณ์ปัจจุบันของ
วัฒนธรรมไทย ส่งครูผูส้ อน


กิจกรรมที่ ให้นักเรียนจัดกิจกรรมโต้วำทีในชั้นเรียน โดยมีญัตติเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย
เชน่ วัฒนธรรมไทยใครว่ำเชย เป็นตน้


5๘

แนวตอบ คําถามประจาํ หนว ยการเรยี นรู
1. วัฒนธรรมมคี วามสําคัญ ดงั นี้

1) เปน ประโยชนตอการดํารงชีวิตในการกําหนดเปา หมายของการดาํ เนินชีวติ ใหเปน ไปดว ยความถกู ตอง และมีระเบียบเรียบรอย
2) ชว ยหลอหลอมบคุ ลกิ ภาพใหก ับสมาชกิ ในสังคม เพือ่ ใหมีบุคลิกภาพทดี่ ีและอยูรวมกันกับผูอื่นได
3) กอ ใหเกิดความเปนอนั หน่งึ อนั เดยี วกัน สรางความรักความผกู พัน สามารถพ่ึงพาอาศยั กันและกัน ตลอดจนรว มกนั อนุรักษและสบื สานวัฒนธรรมของตนได
2. ภาคเหนอื เชน ประเพณเี ลยี้ งขาวแลงขันโตก ภาคกลาง เชน การแหน าค ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ เชน ประเพณีบุญบ้ังไฟ ภาคใต เชน ประเพณีสารทเดือนสบิ
ทงั้ น้วี ัฒนธรรมดังกลา วขา งตนลวนแลว แตสรา งความเปน ปก แผน นาํ มาซ่ึงการเกดิ ความรกั ความสามคั คีภายในทองถิ่น อีกทั้งยงั ทาํ ใหเด็กและเยาวชนในทอ งถน่ิ เกดิ
ความซาบซ้ึงและประทบั ใจ แลวนาํ ไปสูก ารสบื สานวฒั นธรรมในทอ งถิ่นของตนเองตอ ไปในอนาคต
3. ความเหมือนของวฒั นธรรมในภมู ภิ าคตางๆ เชน มสี ถาบนั พระมหากษตั รยิ  พระพุทธศาสนา ภาษาไทย ความเปน สงั คมเกษตร มีวิถชี ีวติ ท่พี ึ่งพาอาศัยกัน เปน ตน
สว นความแตกตา งของวัฒนธรรมในภูมิภาคตางๆ เชน อาหาร การแตง กาย การประกอบอาชพี เปน ตน
4. ศึกษาเรยี นรวู ฒั นธรรมทอ งถน่ิ และวฒั นธรรมไทยใหเ กดิ ความเขา ใจอยา งถอ งแท เขา รว มกจิ กรรมสง เสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรมไทยและเผยแพรว ฒั นธรรมไทยใหแ กค นรนุ หลงั
5. วิธกี ารเลือกรับวัฒนธรรมจากภายนอก มีดังน้ี
1) วัฒนธรรมสากลตองสามารถผสมผสานกับโครงสรา งทางสังคมไทยได
2) วฒั นธรรมสากลตองเกือ้ หนนุ พฒั นาวัฒนธรรมไทยได
3) วัฒนธรรมสากลตองอยูเคียงคูก บั วัฒนธรรมไทยได

58 คมู่ ือครู

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Expore Explain
Engage

Expand Evaluate
เปา หมายการเรียนรู

1. บอกความสําคัญและคุณลักษณะของ
พลเมอื งดขี องประเทศชาตแิ ละสังคมโลกได

2. เสนอแนะแนวทางการปฏิบตั ิตนเปน
พลเมอื งดีบนพ้ืนฐานของคณุ ธรรม
และจรยิ ธรรมได

3. ปฎิบตั ติ นเปน พลเมืองดีตามบทบาทหนา ที่
ของตน และสนับสนุนใหผ อู ื่นประพฤติ
ปฏบิ ัติตนเปน พลเมอื งดี

สมรรถนะของผูเ รียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป ญหา
4. ความสามารถในการใชทักษะชวี ิต

๓˹‹Ç¡ÒÃàÃÕ¹ÌٷÕè ¾ÅàมÍ× §´Õ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค

¢Í§»รÐà·ÈªÒµิáÅÐÊѧคมâÅก 1. รักชาติ ศาสน กษัตรยิ 
2. ซอื่ สตั ยสุจรติ
ตัวชี้วดั º¤Ø ¤Å¨Ð໚¹¾ÅàÁ×ͧ´ÕµÒÁÇԶբͧÊѧ¤Áä·Â 3. มีวนิ ยั
4. ใฝเ รยี นรู
■ ปฏิบตั ติ นและมสี ่วนสนับสนนุ ให้ผู้อ่นื ประพฤติปฏบิ ัติเพ่อื เปน็ áÅÐÊѧ¤Áâš䴌¹éѹ ¨ÐµŒÍ§à»š¹ºØ¤¤Å·ÕèÁդس¸ÃÃÁ 5. มจี ิตสาธารณะ
พลเมืองดีของประเทศชาต ิ และสังคมโลก (ส ๒.๑ ม.๔-๖/๓) áÅШÃÔ¸ÃÃÁ à¤Òþ¡®¡µÔ¡Ò¢Í§Êѧ¤Á áÅÐÁÕ
ÊÇ‹ ¹ÃÇ‹ Á㹡¨Ô ¡ÃÃÁ·Ò§¡ÒÃàÁÍ× § àÈÃɰ¡¨Ô áÅÐ椄 ¤Á กระตนุ้ ความสนใจ Engage
สาระการเรียนรู้แกนกลาง ¢Í§»ÃÐà·È ´ŒÇ¤ÇÒÁÃѺ¼Ô´ªÍºáÅÐÊíÒ¹Ö¡·èÕ´Õ
NjҨеŒÍ§Ê‹§àÊÃÔÁãËŒºØ¤¤ÅÍè×¹»¯ÔºÑµÔµ¹à»š¹¾ÅàÁ×ͧ´Õ ครูนาํ เสนอขา วเกย่ี วกบั เยาวชนไทยท่ีประพฤติ
■ ความสำาคัญและคณุ ลกั ษณะของพลเมืองดีของประเทศชาติ હ‹ à´ÕÂǡѹ ปฏิบตั ติ นเปนพลเมอื งดจี นไดรับการยกยอ ง
และสงั คมโลก จากคนในสังคม จากนน้ั ใหนักเรยี นชว ยกันบอก
´Ñ§¹é¹Ñ ã¹°Ò¹ÐÊÁÒªÔ¡¢Í§Êѧ¤Á¨Ö§µŒÍ§ÈÖ¡ÉÒ วิธกี ารปฏบิ ตั ิตนเปน พลเมืองดีตามความคดิ เหน็
■ แนวทางการปฏิบตั ติ นเป็นพลเมืองดี ¤Ø³ÅѡɳР¤Ø³¸ÃÃÁ áÅШÃÔ¸ÃÃÁ¢Í§¾ÅàÁ×ͧ´Õ ของนกั เรียนมาคนละ 1 วิธี
■ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ของการเป็นพลเมืองดขี องประเทศชาต ิ à¾×è͹íÒÁÒ໚¹á¹Ç·Ò§ã¹¡Òû¯ÔºÑµÔµ¹áÅÐʹѺʹع
ãËŒ¼ÙÍŒ ¹×è »Ãоĵ»Ô ¯ºÔ ѵԵ¹à»¹š ¾ÅàÁÍ× §´Õ
และสังคมโลก
■ ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกบั วัฒนธรรมสากล
■ บทบาทหนา้ ท่ขี องพลเมอื งดตี อ่ ประเทศชาตแิ ละสังคมโลก

เกรด็ แนะครู

การเรยี นรเู รื่องพลเมอื งดีของประเทศชาตแิ ละสังคมโลก มเี ปา หมาย
เพอ่ื ใหน ักเรียนมคี วามรูความเขา ใจและสามารถอธิบายความสาํ คัญและคุณลกั ษณะ
ของพลเมอื งดไี ด และสามารถนาํ บทบาทหนา ทีข่ องพลเมืองดีไปประยกุ ตใชเ ปน
แนวทางในการปฏบิ ัติตน โดยครคู วรจดั กิจกรรมเพ่ือสงเสรมิ การเรียนรขู องนักเรยี น
ดังน้ี

• สัมภาษณบ ุคคลท่มี ีคุณลกั ษณะของพลเมอื งดี แลว เขยี นวเิ คราะหบท
สมั ภาษณโ ดยแสดงใหเ หน็ ถงึ ความสาํ คญั ของการเปนพลเมอื งดตี ามวถิ ขี องสงั คม

• เขียนเรยี งความ เรอ่ื ง แนวทางการพัฒนาตนเปนพลเมอื งดี เพือ่ ใหน กั เรยี น
ตระหนักถงึ การพฒั นาตนเองใหมคี ณุ ลักษณะของพลเมืองดขี องประเทศชาติ
และสังคมโลก

• แตง นิทานหรือการตูนเกย่ี วกับคุณธรรม จริยธรรมของการเปน พลเมืองดี
ของประเทศชาตแิ ละสังคมโลก

• จัดทาํ โครงการจิตอาสา เพือ่ ใหน ักเรยี นประยุกตใ ชค วามรูเกยี่ วกบั การเปน
พลเมอื งดใี นการลงมอื ปฏิบตั ิจริง

ค่มู อื ครู 59

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครูแจกกระดาษใหนักเรยี นเขียนความสาํ คัญ ñ. ความสÓคÞั ของพลเมอื งดี
และลักษณะของพลเมืองดีตามความคิดของตนเอง พลเมืองดีมีความส�าคัญต่อประเทศชาติอย่างมาก โดยอาจแยกกล่าวถึงความส�าคัญของ
มาคนละ 1 ขอ แลวนํามาติดท่ีหนาหอ งเรยี น
จากนัน้ ครูสรปุ ขอคิดเห็นดังกลาว เพอื่ ใหน ักเรียน พลเมืองดไี ด้ ๓ ประการ ดังนี้
เหน็ ภาพรวมเกีย่ วกับความสาํ คญั และลักษณะของ ๑) ด้านสังคม การเป็นพลเมืองดีจะท�าให้การอยู่ร่วมกันในสังคมเป็นไปอย่าง
พลเมืองดขี องเพ่อื นรว มชนั้ เรยี น สันติสุข เพราะคนในสังคมจะช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อย และร่วมกันพัฒนาสังคมให้เจริญ

สา� รวจคน้ หา Explore ก้าวหน้า หลีกเล่ียงความขัดแย้งในสังคม พลเมืองท่ีดีจะปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างแก่พลเมืองที่

ครใู หน ักเรียนศึกษาคน ควาเกี่ยวกบั ความสําคญั ประพฤติไมด่ ี ในด้านการเสยี สละตา่ งๆ เพ่ือประโยชนข์ องส่วนรวมและประเทศชาติ
ของพลเมืองดแี ละคุณลกั ษณะของพลเมอื งดี ๒) ด้านเศรษฐกิจ พลเมืองดีจะประกอบสัมมาอาชีพ ด�ารงชีวิตตามหลักการ
จากหนงั สอื เรยี น หนา 60-61 หรอื จากแหลง เศรษฐกิจพอเพียง ประหยัด และออมทรัพย์ไว้ใช้ในยามจ�าเป็น เช่น ยามป่วยไข้ ฉุกเฉิน
เรียนรอู นื่ ๆ
เป็นตน้ และอาจน�าทรพั ยท์ อ่ี อมไวม้ าลงทุนทา� ธรุ กจิ เพอื่ หาเล้ยี งชพี รวมทงั้ น�าทรพั ยท์ อ่ี อมไวม้ า

ท�าใหเ้ กดิ ประโยชน์ตอ่ สงั คม เช่น บรจิ าคสมทบทนุ การศึกษาให้เด็กที่ขาดแคลน เปน็ ต้น
๓) ด้านการเมืองการปกครอง พลเมืองดจี ะเป็นผ้ทู เี่ คารพกฎหมาย รจู้ ักสทิ ธิและ
อธบิ ายความรู้ Explain ตหานม้ากทฎ่ีขหอมงตายน มรสี วว่ มนทรั้งว่ ไมมใ่ลนะกเรมะิดบสวิทนธกิขารอทงผางู้อกื่นา รเพมลอื เงมกือางรดปีนกั้นคจระอรงู้จ เักชใน่ ช ้สไปิทใธชิแส้ ลทิ ะธหเิ นล้าอื ทก่ีขตอง้ั ง1ตตดิ นตเาอมง

ครยู กตวั อยา งกรณีศึกษาท่สี ามารถพบเห็นได ข่าวสารดา้ นการเมอื งจากหลายแหลง่ ขอ้ มูล เป็นต้น
ในชีวิตประจาํ วัน เชน การเสียสละทน่ี ั่งใหแกเด็ก
สตรี คนชรา และคนพกิ ารบนรถโดยสารประจําทาง จากท่ีกล่าวมาข้างต้นท�าให้ทราบว่าพลเมืองดีมีความส�าคัญต่อสังคมและประเทศชาติ
การบรจิ าคสมทบทุนการศึกษาใหเด็กทีข่ าดแคลน
การไปใชส ทิ ธเิ ลอื กตง้ั เปน ตน จากนนั้ ครใู หน กั เรยี น เป็นอย่างมาก เพราะพลเมืองเป็นปัจจัยส�าคัญที่จะท�าให้สังคมและประเทศชาติเจริญก้าวหน้า
รวมกันอภิปรายถงึ ความสาํ คญั และคณุ ลักษณะของ
พลเมอื งดีจากกรณศี ึกษาดงั กลา ว รวมถงึ ผลดที ี่ ฉะน้ัน ถ้าพลเมืองส่วนใหญ่ของสังคมเป็นพลเมืองดี ย่อมท�าให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าและ
เกดิ ข้นึ ท้ังตอตนเองและผอู ่ืน
พัฒนาไดอ้ ยา่ งยั่งยืนตอ่ ไป ò. คณุ ลักÉณะพลเมืองดี

คุณลักษณะของพลเมืองดีท่ีส�าคัญและจ�าเป็น

ขยายความเขา้ ใจ Expand สา� หรบั การอยรู่ ่วมกนั อยา่ งราบร่นื และชว่ ยจรรโลงให้

สังคมประเทศชาตแิ ละโลกพัฒนาก้าวหนา้ มีดงั นี้

ครูใหน กั เรยี นเลือกสมั ภาษณบุคคลทม่ี ี ๑. ต้องเปน็ บุคคลท่เี คารพกฎหมาย
คณุ ลกั ษณะของพลเมอื งดี จากนนั้ เขยี นบทวเิ คราะห
จากการสมั ภาษณ โดยแสดงใหเหน็ ถงึ ความสําคญั ๒. ต้องเป็นบุคคลท่ีเคารพสิทธิและเสรีภาพ
และคุณลกั ษณะของการเปนพลเมอื งดีตามวถิ ีของ
สังคม แลว นําเสนอในช้ันเรยี น ของตนเองและบคุ คลอ่ืน

พลเมืองดีจะต้องเป็นผู้ท่ีหม่ันศึกษาหาความรู้อยู่ ๓. ต้องเป็นบุคคลท่ีมีความรับผิดชอบต่อ

เสมอ เพ่ือท่ีจะได้นำาความรู้มาพัฒนาตนเอง หนา้ ที่ทีม่ ตี อ่ ครอบครัว โรงเรยี น ชมุ ชน ประเทศชาต ิ
ครอบครัว และสังคมตอ่ ไป
และสังคมโลก
ตรวจสอบผล Evaluate 60

ครตู รวจบทวเิ คราะหการสัมภาษณบ ุคคลที่มี ขอ สอบ O-NET
คุณลักษณะของพลเมอื งดี ขอสอบป ’51 ออกเกยี่ วกับคุณลักษณะของพลเมืองดี
พฤติกรรมใดของพลเมืองทีข่ ดั ขวางการพฒั นาทางการเมือง
นกั เรียนควรรู ตามระบอบประชาธปิ ไตย
1. การรณรงคหาเสียง
1 เลอื กตั้ง ลักษณะตองหา มของผมู สี ทิ ธิเลอื กตั้ง ไดแ ก เปน ภิกษุ สามเณร 2. การชุมนมุ ประทวง
นกั พรต หรือนักบวช เปนบคุ คลทอ่ี ยูระหวางถกู เพิกถอนสทิ ธกิ ารเลอื กตงั้ 3. การนอนหลบั ทับสิทธ์ิ
ตอ งคุมขังโดยหมายของศาลหรือโดยคาํ ส่งั ท่ีชอบดวยกฎหมาย เปนบุคคล 4. การเรียกรอ งสทิ ธปิ ระโยชน
ทวี่ ิกลจรติ จิตฟน เฟอน หรอื ไมส มประกอบ วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เนือ่ งจากการนอนหลับทับสทิ ธิ์
เปนการไมไ ปใชส ิทธิในการเลือกต้ัง ทง้ั การเลือกต้งั ในทอ งถนิ่ หรือ
บูรณาการอาเซียน การเลือกตงั้ ระดบั ชาติ แสดงใหเหน็ ถึงการไมมีสว นรว มในกิจกรรม
ทางการเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย พฤตกิ รรมดงั กลาวถือวา
ครูควรอธิบายเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับคุณลกั ษณะพลเมอื งดีวา การเปน พลเมืองดี ขดั ขวางตอการพฒั นาทางการเมืองตามระบอบประชาธปิ ไตย
มคี วามสาํ คญั ตอ สงั คมและประเทศชาติเปน อยางมากสําหรับการรวมตัวกนั เปน
ประชาคมอาเซียน ในปจ จบุ ัน โดยคุณลักษณะของการเปน พลเมอื งดี ขอหนง่ึ กลา ว
ไววา ตองเปน ผทู ่ีมีความรับผดิ ชอบตอหนาทท่ี ีม่ ตี อ ครอบครัว โรงเรยี น ชมุ ชน
ประเทศชาติ และสงั คมโลก ซึง่ สอดคลองกบั คณุ ลักษณะของพลเมืองอาเซยี นท่ีวา
พลเมืองอาเซยี นจะตองมคี วามรับผดิ ชอบตอ ประชาคมอาเซยี นและตระหนัก

60 คู่มือครู ในความเปน อาเซยี น

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Engage
กระตนุ้ ความสนใจ

๔. ตอ้ งเปน็ บุคคลท่มี ีเหตุผล ใจกวา้ ง และรับฟงั ความคดิ เห็นของบคุ คลอื่นเสมอ ครแู บงนกั เรียนออกเปน 4 กลุม เพ่อื ให
๕. ต้องเปน็ บุคคลท่มี คี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการด�าเนนิ ชีวิตประจ�าวนั นกั เรียนแตละกลุม แขง ขนั กนั บอกวิธกี ารพัฒนา
๖. ต้องเป็นบุคคลท่ีมีความกระตือรือร้นที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและ ตนเองใหเ ปน พลเมอื งดขี องประเทศชาติ
แกไ้ ขปญั หาของชมุ ชน ประเทศชาต ิ และสงั คมโลก หรอื องคก์ รทตี่ นสงั กดั อย ู่ เชน่ รว่ มแกป้ ญั หา และสังคมโลก สลบั กนั บอกกลุมละ 1 วิธี โดยบอก
และพัฒนาสภาพแวดลอ้ มของโรงเรียนและชมุ ชนให้ดขี ึ้น เปน็ ต้น ตอ กันไปเรือ่ ยๆ กลมุ ใดทบี่ อกตอ ไมไดหรือบอกซาํ้
๗. ต้องเป็นบุคคลที่มีความสนใจและกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กบั ทกี่ ลมุ อนื่ ๆ บอกมาแลว ถอื เปน กลมุ ท่แี พท ันที
ทางการเมืองการปกครอง เช่น การไปใชส้ ทิ ธิเลอื กตัง้ เป็นตน้
พลเมืองดีท่ีมีคุณลักษณะดังกล่าวนี้ จะเป็นผู้ที่ท�าประโยชน์ให้แก่ครอบครัว โรงเรียน สา� รวจคน้ หา Explore
ประเทศชาติ และสังคมโลกเสมอ ประเทศใดกต็ ามทีม่ พี ลเมืองดเี ปน็ จา� นวนมาก ประเทศน้นั ก็จะ
มีแตค่ วามสงบสุขและเจริญกา้ วหน้าอยา่ งต่อเนื่อง ครูใหนกั เรยี นศึกษาคน ควาเก่ียวกบั แนวทาง
การพฒั นาตนเปน พลเมอื งดีของประเทศชาติ
๓. แนวทางการพัฒนาตนเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ และสงั คมโลก จากหนงั สือเรียน หนา 61-63
และสงั คมโลก เพ่อื นาํ ความรมู าอภปิ รายรว มกนั ในช้ันเรยี น

อธบิ ายความรู้ Explain

ถ้าบุคคลตระหนักถึงคณุ ลักษณะของการเปน็ พลเมืองดตี ่อประเทศชาติและสงั คมโลกทั้ง ๗ ครนู าํ บทความเก่ยี วกับปญหาสมั พันธภาพ
ประการดังกล่าวแล้ว ก็ควรจะพัฒนาตนเองให้มีคุณลักษณะดังกล่าวด้วย เพ่ือที่จะได้เป็นสมาชิก ภายในครอบครัวของสงั คมไทย เชน ปญ หา
ท่ีดีของครอบครวั โรงเรยี น และชมุ ชน ซ่งึ แนวทางการพฒั นาตนเปน็ พลเมืองด ี มีดังนี้ พอ -แม-ลกู ไมไดทําบทบาทหนา ทข่ี องตนอยาง
เตม็ ที่ ละเลยการอบรมปลกู ฝงจริยธรรม คณุ ธรรม
๓.๑ การเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของครอบครวั คานิยม รวมทง้ั การหลอหลอมบคุ ลกิ ภาพ
และพฤตกิ รรมที่พึงประสงค โดยการผลกั ภาระให
การเป็นสมาชิกที่ดีของครอบครัว สมาชิกในครอบครัวทุกคนท้ังสามี ภรรยา บิดา เปน หนา ท่ีของสถาบันอื่นๆ ในสงั คมมากขึน้ เชน
สถาบนั การศึกษา เปนตน มาใหน ักเรยี นอา น
มารดา และบุตรธิดา ต้องตระหนักถึงหน้าที่ของตนที่มีต่อครอบครัว เช่น สามีจะต้องท�าหน้าที่ จากน้ันครใู หนักเรียนรวมกนั อภิปรายและวิเคราะห
ถงึ บทบาทหนาท่ีของสมาชิกในครอบครัวที่พงึ
เป็นสามีที่ดีของภรรยาและพ่อท่ีดีของลูก เป็นหลักในการหาทรัพย์เล้ียงดูภรรยาและลูกๆ ปฏบิ ัติตอกัน รวมท้งั ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจาก
การปฏิบตั ิและไมป ฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา ที่ของ
ให้การศึกษาท่ีดีแก่ลูกๆ ส่วนภรรยาก็จะต้องท�าหน้าที่ภรรยาที่ดี เก็บรักษาทรัพย์ท่ีสามีหามาให ้ ตนเองภายในสถาบนั ครอบครวั

รวมท้ังช่วยหาทรัพย์เพิ่มเติม ตลอดจนอบรมเลี้ยงดู เ กรด็ พนลา่เมรอื ู้ งดตี อ้ งเปน็ ผมู้ จี ติ สาธารณะ 1หมายถงึ
ลกู ๆ ใหเ้ ป็นคนดีมีคณุ ธรรม
มีจิตท่ีคิดสร้างสรรค์ คิดในทางท่ีดี ไม่ทำาลาย
ส�าหรับลูกๆ ก็จะต้องช่วยเหลือพ่อแม่ดูแล บุคคล สังคม วัฒนธรรม ประเทศชาติ และ
บ้านเรือนให้สะอาดเรียบร้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย ส่ิงแวดล้อม รวมท้ังมุ่งท่ีจะทำาในส่ิงท่ีดีและเป็น
ของครอบครัว และต้ังใจศึกษาเล่าเรียน เพ่ือจะได ้ ประโยชนต์ อ่ สว่ นรวม โดยไมม่ ผี ใู้ ดบงั คบั
เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรมของประเทศชาติ และ
สามารถนา� พาประเทศชาติให้เจรญิ กา้ วหนา้ ต่อไปได้

61

ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEดิT เกร็ดแนะครู

ขอ ใดเปนการสงเสรมิ ใหนกั เรยี นปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทด่ี ี ครอู าจจัดกจิ กรรมใหน ักเรียนแสดงบทบาทสมมติในหวั ขอเรอื่ ง การเปน สมาชกิ
ของครอบครวั ทด่ี ขี องครอบครวั โดยเปด โอกาสใหน กั เรยี นแสดงความสามารถของตนเองอยา งเตม็ ท่ี
ในการแตงบทละคร คัดเลอื กนกั แสดง รวมถึงการกาํ กบั การแสดง ทง้ั น้ีการแสดง
1. รักษาสาธารณสมบัติ 2. ชวยหาทรัพยเพม่ิ เติม ดังกลาวจะตองตง้ั อยบู นพ้นื ฐานของคุณธรรม จริยธรรม และความถูกตอ งของ
3. ตงั้ ใจศกึ ษาเลา เรยี น 4. สืบทอดชอ่ื เสยี งวงศต ระกูล เน้อื หาวิชา และเมือ่ นักเรียนแสดงบทบาทสมมตสิ ิ้นสุดลง ครใู หน กั เรยี นที่เปนผูชม
รวมกนั สรุปขอ คดิ ตา งๆ ทไ่ี ดจากการแสดง
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เนื่องจากการเปน สมาชิกท่ีดีของ
นกั เรียนควรรู
ครอบครวั นกั เรยี นซ่ึงอยใู นวยั เรียนจะตอ งต้ังใจศึกษาเลาเรียน
ชวยเหลอื พอแมดแู ลบา นเรือนใหส ะอาดเรยี บรอย และชวยประหยดั 1 จติ สาธารณะ เรียกอีกช่อื หนง่ึ วา จิตอาสา บัญญัตขิ ึน้ โดยเครือขายพุทธกิ า
คาใชจ า ยของครอบครวั จึงจะไดชื่อวาเปน สมาชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั เพอื่ พระพุทธศาสนาและสงั คม โดยตองการผลกั ดันการทาํ กิจกรรมเพือ่ สวนรวม
นอกจากน้ัน การมีความรคู วามสามารถดจี ะเปนกาํ ลงั สําคญั จึงมีการรเิ ริม่ โครงการฉลาดทาํ บุญดวยจิตอาสาขนึ้ มา ซ่ึงในเวลาตอมาคาํ นี้
ของชาติท่จี ะสามารถนาํ พาประเทศชาติใหเจริญกาวหนาตอไปได จึงถูกนําไปใชอ ยางแพรหลาย

คู่มอื ครู 61

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สนทนาถงึ บทบาทหนา ที่ สถาบันครอบครัวมีความส�าคัญต่อสังคมและประเทศชาติเป็นอย่างมาก เพราะเป็นพ้ืนฐาน
ของการเปน สมาชิกทีด่ ีของโรงเรียน เชน
นักเรียนมีหนาท่ีตองศกึ ษาเลาเรยี น ปฏิบตั ติ าม ของโครงสร้างทางสังคม หากครอบครัวผลิตสมาชิกที่เป็นพลเมืองดีสู่สังคมเป็นจ�านวนมาก
กฎระเบียบของโรงเรยี น สวนครูตอ งปฏิบตั ิ
หนาท่ีของตนดว ยความตัง้ ใจและรับผิดชอบ สังคมกจ็ ะมแี ตค่ วามสนั ติสขุ ๓.๒ การเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีของ
ใหว ิชาความรแู กน ักเรียนอยา งเต็มที่ อบรม โรงเรยี น
สัง่ สอนใหนักเรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม เปน ตน
จากนั้นครูใหน ักเรยี นรว มกนั อภปิ รายถึง ในการเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องโรงเรยี นนน้ั นกั เรยี นจะ
ผลกระทบท่อี าจเกิดขน้ึ หากครแู ละนักเรียน
ไมป ฏิบัติตนใหเ หมาะสมกับบทบาทหนาท่ี ตอ้ งตระหนกั เสมอวา่ นกั เรยี นมหี นา้ ทตี่ อ้ งศกึ ษาเลา่ เรยี น
ของตนเอง
อยา่ งเตม็ ท ี่ ปฏบิ ตั ติ ามกฎและระเบยี บของโรงเรยี นอยา่ ง
2. ครูยกตวั อยางชุมชนเขมแข็ง เพ่อื นําเสนอ
และช้ปี ระเดน็ ใหน กั เรยี นเห็นเบอ้ื งหลงั ของ เคร่งครัด เคารพและเช่ือฟังค�าสั่งสอนของครูอาจารย์
ความสําเร็จของชุมชนวามาจากการทีช่ มุ ชน
ตา งๆ มีสมาชกิ ที่ดี มกี ารบริหารจัดการท่ดี ี ชว่ ยเหลอื พฒั นาโรงเรยี นใหม้ คี วามสะอาดและสวยงาม
จากนั้นครูและนกั เรยี นรว มกันอภปิ ราย
ในประเดน็ แนวทางการปฏิบตั ติ นเพื่อเปน เปน็ ทช่ี นื่ ชมของผมู้ าเยย่ี มเยยี น สว่ นครอู าจารยก์ จ็ ะตอ้ ง
สมาชกิ ทด่ี ขี องชมุ ชน รวมถึงผลกระทบ
ตอ ตนเอง ชมุ ชน ประเทศชาติ และสังคมโลก นักเรียนท่ีดีจะต้องช่วยกันบำาเพ็ญประโยชน์และ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องตนดว้ ยความตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ใหว้ ชิ า
หากคนในชุมชนไมป ระพฤตปิ ฏิบตั ิตนให ชว่ ยเหลือพัฒนาโรงเรียน ความรแู้ กศ่ ษิ ยอ์ ยา่ งเตม็ ท ่ี และอบรมสงั่ สอนศษิ ย์ใหเ้ ปน็
เหมาะสมกบั การเปน สมาชิกที่ดีของชุมชน
นกั เรยี นทด่ี ขี องโรงเรยี นและพลเมอื งท่ีดขี องประเทศชาติ

๓.๓ การเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของชุมชน

ส�าหรับการเป็นสมาชิกท่ีดีของชุมชนน้ัน ทุกคนจะต้องตระหนักว่าตนมีหน้าที่ในการรักษา
ชมุ ชนใหม้ สี ภาพแวดลอ้ มทดี่ ี รว่ มมอื ในการพฒั นาชมุ ชนใหเ้ จรญิ กา้ วหนา้ รว่ มมอื กนั ในการรกั ษา
ความสงบเรยี บรอ้ ย รวมทง้ั ใหค้ วามรว่ มมอื กบั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ชว่ ยกนั สอดสอ่ งดแู ล และปอ้ งกนั มใิ หม้ ี

การเสพ ผลิต หรือค้าขายสิ่งเสพติดทุกชนดิ ในชุมชน
นอกจากน้ี ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมจัดการ

ปกครองชุมชน โดยเฉพาะบุคคลท่ีมีอายุ ๑๘ ปีขน้ึ ไป
จะต้องไปใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งผู้สมัครที่ดีไปเป็น
สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร (ส.ส.) สมาชกิ องคก์ ารบรหิ าร
ส่วนต�าบล (อบต.) และสมาชิกองค์การบริหาร
สว่ นจงั หวดั (อบจ.) และเมอ่ื ตนมคี ณุ สมบตั ทิ จ่ี ะสมคั 1ร
2 รบั เลอื กตงั้ เปน็ สมาชกิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ได้
สมาชิกที่ดีของชุมชน จะต้องช่วยกันพัฒนาชุมชน ก็ควรจะท�า เพ่ือจะได้มีส่วนช่วยในการบริหารท้องถิ่น
ให้มีความสวยงามและมกี ารพฒั นาอย่างตอ่ เนอ่ื ง ของตนให้พฒั นาเจรญิ กา้ วหนา้ ต่อไป

62

นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
ขอใดกลา วถึงลกั ษณะของบุคคลในการเปนสมาชกิ ทดี่ ขี องชุมชน
1 องคกรปกครองสว นทอ งถนิ่ เปนหนวยงานราชการสวนทองถิ่น ซงึ่ มีอาํ นาจ ไดถูกตอ ง
หนาทใ่ี นการบริหารจัดการบริการสาธารณะตามกฎหมายเพ่อื ประโยชนส ขุ ของชุมชน 1. มคี า นยิ มทด่ี ีงาม
ในทองถน่ิ ปจจุบันองคก รปกครองสวนทอ งถน่ิ ของประเทศไทยมีอยู 5 รปู แบบ คือ 2. มีความเชื่อมัน่ ในคณุ คา ของตนเอง
กรุงเทพมหานคร เมืองพทั ยา เทศบาล องคก ารบริหารสว นจงั หวัด และองคการบริหาร 3. รว มกนั แบง ปนความทกุ ขห รือสุขในชุมชน
สว นตาํ บล 4. รวมมือในการพฒั นาชุมชนใหเ จริญกาวหนา
2 พัฒนาชมุ ชน เปนกระบวนการสรางเสรมิ ความเจริญใหแกทอ งถิ่นในดา น วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เน่อื งจากการเปน สมาชกิ ท่ีดี
เศรษฐกิจ สงั คม และวฒั นธรรม โดยมกี ารรเิ รม่ิ และดําเนนิ การจากประชาชนใน ของชมุ ชนนัน้ ทุกคนจําเปนจะตอ งเปนผูมีคารวธรรม สามคั คธี รรม
ทอ งถ่นิ เอง สําหรับวธิ กี ารพฒั นาชมุ ชนนั้น ตอ งมีการรวมกลุมหรอื จัดตงั้ องคก ร และปญญาธรรม ดว ยการตระหนกั วา จะตองรวมมือกนั ในการ
ประชาชน เพื่อสง เสริมใหป ระชาชนมบี ทบาทและมีสว นรว มในกจิ กรรมของทองถิ่น พัฒนาชมุ ชนใหเจรญิ กา วหนา รักษาชุมชนใหม สี ภาพแวดลอมที่ดี
และตอ งมกี ารเปดโอกาสใหประชาชนมีความพรอ มทจี่ ะเปนผนู าํ และเปนผเู สียสละ รว มมือกนั ในการรักษาความสงบเรยี บรอ ย สอดสอ งดูแลปอ งกนั
รวมถึงมีสวนรว มในกระบวนการพัฒนาชมุ ชน มิใหม กี ารเสพ ผลติ หรอื คาขายสงิ่ เสพติดทกุ ชนดิ ในชมุ ชน เปนตน

62 คมู่ ือครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

๓.๔ การเป็นสมาชิกทดี่ ีของประเทศและสงั คมโลก 1. ครูยกตัวอยา งการมรี ะเบยี บวินยั และการให
ความชว ยเหลือซงึ่ กันและกนั ของประชาชน
การทจี่ ะเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี องประเทศไดน้ น้ั ตอ้ งเรมิ่ มาจากการเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั ชาวญป่ี นุ หลังจากการเกดิ เหตกุ ารณ
ธรณพี บิ ตั ภิ ยั เมอื่ ป พ.ศ. 2554 แลว นาํ สนทนา
โรงเรียน และชุมชนก่อน เพราะเมื่อทุกคนในสังคม ถึงผลดีทเี่ กดิ ข้นึ จากนัน้ ครใู หน กั เรียนรวมกัน
วิเคราะหแ ละอภิปรายวา หากประชาชนใน
ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่สามารถพัฒนาตนเอง ประเทศตางๆ สามารถประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นให
เปน สมาชกิ ที่ดขี องประเทศชาติไดเ ชน เดียวกบั
ให้เป็นพลเมืองที่ดีของครอบครัว โรงเรียน และ ประชาชนของประเทศญีป่ ุน จะสงผลอยางไร
ตอ ประเทศชาติและสังคมโลก
ชุมชนไดแ้ ล้ว ก็จะสง่ ผลใหป้ ระเทศชาติและสงั คมโลก
2. ครตู ้ังประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นชวยกนั ตอบ
โดยรวมได้รับผลดีตามไปด้วย เพราะเม่ือครอบครัวดี เพื่อฝกทกั ษะการคดิ วเิ คราะหแ ละการแสดง
ความคิดเหน็ เชน พลเมอื งทมี่ ีการพฒั นา
โรงเรียนดี ชุมชนดี สังคมดี ก็จะท�าให้ประเทศชาต ิ ความรคู วามสามารถของตนเองอยางตอ เนื่อง
จะสงผลตอ ประเทศชาตแิ ละสงั คมโลกอยางไร
และสังคมโลกสงบสุข และสามารถพัฒนาไปได้อย่าง (แนวตอบ ประเทศชาติสามารถพฒั นาไปได
อยางรวดเรว็ มากย่งิ ข้ึน และสามารถที่จะ
รวดเรว็ มากย่ิงขึน้ พลเมืองท่ีดีของประเทศต้องหมั่นพัฒนาตนเอง แขง ขนั ในดา นตางๆ กับนานาประเทศได
หากประเทศใดทม่ี ปี ระชากรสว่ นใหญข่ องประเทศ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง เชน่ การพฒั นาความรคู้ วามสามารถ และสังคมโลกจะสงบสขุ สามารถจะบรรเทา
ทางด้านคอมพวิ เตอร์ ปญ หาความเหลื่อมลํ้าของประเทศตางๆ ได)
มีคุณภาพ รู้เท่าทันต่อสภาวะของโลกยุคโลกาภวิ ัตน ์

และมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ก็จะท�าให้ประเทศน้ันสามารถแข่งขันในด้านต่างๆ

กับนานาประเทศได้ รวมท้ังการช่วยเหลือเมื่อประเทศใดประสบภัยพิบัติหรือให้ความร่วมมือ

ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโรคระบาด ผู้ก่อการร้าย และการค้ายาเสพติดข้ามชาต ิ

กจ็ ะทา� ใหส้ งั คมโลกมแี ตค่ วามสงบสขุ บรรเทาปญั หาความเหลอ่ื มลา�้ ของประเทศตา่ งๆ ในสงั คมโลกลงได้

กลา่ วไดว้ า่ การพฒั นาบคุ คลใหเ้ ปน็ พลเมอื งด ี มคี วามรคู้ คู่ ณุ ธรรม ถอื เปน็ สงิ่ ทม่ี คี วามสา� คญั

อยา่ งยงิ่ และหากบคุ คลเหลา่ น้ีไดม้ โี อกาสเขา้ มาบรหิ ารประเทศ กจ็ ะสามารถนา� พาชาตบิ า้ นเมอื ง

และประชาชนฟนั ฝา่ อปุ สรรคตา่ งๆ ไปได ้ ซงึ่ จะทา� ใหก้ ารดา� รงชวี ติ ของประชาชนมแี ตค่ วามสงบสขุ ขยายความเขา้ ใจ Expand

และประเทศชาติมศี ักดิศ์ รี มีความสงา่ อยู่ในสงั คมโลกได้อยา่ งเท่าเทยี มกบั นานาอารยประเทศ

นานาÊารÐ “หลัก ๕ ส.”1กบั การสรา งสังคมใหน าอยู ครูใหน ักเรียนเขยี นเรยี งความ เรอื่ ง แนวทาง
การพฒั นาตนเปน พลเมืองดี โดยรูปแบบการเขียน
หลัก 5 ส. เป็นหลักการท่ีช่วยทำาให้สังคมหรือองค์กรมีความน่าอยู่และช่วยให้ปฏิบัติงานได้อย่างมี ยดึ ตามหลักการเขียนเรยี งความ แลว นําสง
ประสิทธิภาพ โดยหลัก 5 ส. ประกอบดว้ ยหลักสำาคัญ ดังนี้ ครผู ูสอน
สะสาง คือ การแยกสง่ิ ของที่จำาเปน็ และไมจ่ ำาเป็นใหเ้ ปน็ ระเบยี บ
สะดวก คอื การจัดวางส่ิงของต่างๆ ทจ่ี ำาเป็นใหเ้ ป็นระเบยี บ
สะอาด คือ การปดกวาดเช็ดถูสถานที่และอปุ กรณ์อย่างสมำา่ เสมอ ตรวจสอบผล Evaluate
สุขลกั ษณะ คอื การจัดสภาวะส่งิ แวดล้อมให้เรยี บร้อย
สรา งนิสยั คือ การรกั ษาหลักการในขา้ งต้นจนเกิดเป็นนิสัยสำาหรบั ตนเอง ครตู รวจเรยี งความ เรอ่ื ง แนวทางการพฒั นาตน
เปนพลเมืองดี

6๓

ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู

ขอ ใดเปนคณุ ลักษณะของพลเมอื งดขี องประเทศชาติและสงั คมโลก ครูอาจใหน ักเรียนจัดทําปา ยรณรงคส งเสรมิ การสรา งสงั คมใหนาอยูด วยการ
1. ยึดหลักวัตถนุ ยิ มเปนสําคัญ ใชห ลัก 5 ส. โดยตั้งกลุมเปา หมายของการรณรงคเ ปนนกั เรียนในโรงเรียน จากนัน้
2. นิยมยกยองผมู อี ํานาจและฐานะดี ใหน ักเรียนนําปายรณรงคดงั กลา วไปตดิ ตามสถานท่ตี างๆ ภายในโรงเรียน
3. เคารพกฎหมายและขอ บงั คับของสงั คม หลงั จากนั้น 2-3 สปั ดาห ใหน กั เรียนทาํ แบบประเมินพฤติกรรมของนกั เรยี น
4. มคี วามเปนตวั ของตวั เองสูง ยึดถอื ความคดิ ตนเองเปน หลกั ในโรงเรียนวามพี ฤตกิ รรมเปลีย่ นแปลงไปจากเดิมกอนทจี่ ะมกี ารรณรงคอ ยางไร
แลวสรุปผลการประเมินพฤตกิ รรมเพอ่ื นาํ สงครูผูสอน
วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เนือ่ งจากเมอ่ื พลเมอื งทุกคนปฏิบตั ิ
นกั เรียนควรรู
ตามกฎระเบยี บ ขอ บงั คบั ของสงั คม และบทบัญญตั ขิ องกฎหมาย
เชน ไมล วงละเมดิ สทิ ธิของผอู น่ื ไมกระทาํ ความผิดตามท่กี ฎหมาย 1 หลกั 5 ส. ผลที่ไดร บั ทางออ มจากการปฏิบตั ติ ามหลกั 5 ส. คือ ชว ยใหมี
กาํ หนด กจ็ ะทาํ ใหรัฐไมตอ งเสียงบประมาณในการปองกัน ประสิทธภิ าพในการทํางานเพ่มิ ขึ้น เพิ่มความปลอดภยั ในการทาํ งานใหมน่ั คง
ปราบปราม และจบั กมุ ผูที่กระทาํ ความผดิ มาลงโทษ นอกจากน้ี และชวยใหพ นักงานมองเห็นปญ หาตางๆ ทีอ่ าจจะเกิดขนึ้ ในกระบวนการทาํ งาน
ยังทําใหส งั คมมีความเปน ระเบยี บและสงบสขุ ทุกคนอยูร ว มกนั
อยางสมานฉนั ท ไมหวาดระแวงคดิ รายตอ กัน ดงั นั้น จงึ กลา วไดว า ค่มู อื ครู 63
การเคารพกฎหมายและขอ บังคบั ของสงั คมถอื เปน คณุ ลกั ษณะของ
พลเมืองดขี องประเทศชาติและสังคมโลก

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครยู กตวั อยา งกรณศี กึ ษาหรอื นาํ วดี ทิ ศั นเ กยี่ วกบั ๔. แคณุละธสรังรคมม โจลรกิย ธรรม ของการเปน็ พลเมอื งดขี องประเทศชาติ
พฤติกรรมทแี่ สดงออกถึงคณุ ธรรม จรยิ ธรรมของ
การเปน พลเมอื งดีมาใหน กั เรยี นดู แลว ตงั้ คาํ ถาม พลเมืองที่ดีของสังคมจะต้องมีคุณธรรมและ
เพือ่ กระตนุ การเรียนรขู องนักเรยี นในประเดน็ ตางๆ จริยธรรมเป็นหลักในการด�าเนินชีวิต ซ่ึงจะช่วยท�าให้
ดังตอ ไปนี้ สังคมเป็นสังคมที่มีความสงบสุขและเจริญก้าวหน้าได้
คุณธรรมและจรยิ ธรรมทส่ี �าคญั มีอยู ่ ๘ ประการ ดงั นี้
• นักเรยี นคิดวา การปฏิบตั ติ นดังกลาวสงผลดี ๑) การเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
ตอ ตนเองและสงั คมอยา งไร และหากพลเมอื ง คุณธรรมข้อน้ีเอ้ืออ�านวยประโยชน์ตอ่ สงั คมเปน็ อยา่ งยง่ิ
ไมมีคณุ ธรรมและจริยธรรมในการดําเนินชวี ติ
จะสง ผลเสยี ตอ สงั คมอยางไร

สา� รวจคน้ หา Explore เพราะสงั คมจะดา� รงอยไู่ ด ้ และสามารถพฒั นาใหม้ คี วาม
สมบรู ณเ์ จรญิ กา้ วหนา้ ได้ ถ้าคนในสังคมยอมเสยี สละ
ครูใหน กั เรยี นศึกษาคน ควาเกีย่ วกบั คุณธรรม 1ในที่ประชุมทุกคนต้องร่วมกันแสดงความคิดเห็น ประโยชนส์ ่วนตน เพ่อื ประโยชนส์ ว่ นรวมเสมอ
และจรยิ ธรรมของการเปน พลเมอื งดขี องประเทศชาติ
และสังคมโลก จากหนงั สือเรยี น หนา 64-65 เพ่ือจะได้แนวทางที่ดีนำาไปใช้ปฏิบัติ โดยใช้มติเสียง ๒) การรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
เพ่อื นาํ ความรูม าอภปิ รายรวมกันในช้ันเรียน ข้างมากเป็นเกณฑ์

และเคารพในมติของเสียงส่วนมาก คุณธรรมข้อนี้มีความส�าคัญมากต่อสังคม เพราะสมาชิกใน
สังคมมักจะมีความคิดเห็นในปญั หาตา่ งๆ ของสงั คม และแนวทางการแกไ้ ขปญั หาทแ่ี ตกต่างกัน
จงึ จา� เปน็ ทจ่ี ะตอ้ งใชเ้ สยี งขา้ งมากเพอื่ หาขอ้ ยตุ เิ กยี่ วกบั แนวทางการแกไ้ ขปญั หานนั้ ๆ แตท่ ง้ั นเี้ สยี ง
อธบิ ายความรู้ Explain ส่วนมากก็จะต้องเคารพความคิดเห็นของเสียงส่วนน้อยและไม่ถือว่าเสียงส่วนน้อยเป็นฝ่ายผิด

1. ครยู กตวั อยา งบคุ คลสาํ คัญทงั้ ในประเทศ จงึ จะท�าให้สงั คมดา� รงอยไู่ ดอ้ ย่างสนั ติ
และตา งประเทศท่มี ีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมใน ๓) การมีระเบียบวินัยและรับผิดชอบต่อหน้าที่ ถ้าสมาชิกในสังคมยึดม่ันใน
การดําเนนิ ชีวติ จากน้ันใหน ักเรียนอภิปรายถึง ระเบียบวินัย ควบคุมตนเองได้ ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อ่ืน และตั้งใจปฏิบัติหน้าท่ีของตนให้ดีที่สุด
ความสาํ คญั ของการเปน พลเมืองทีม่ ีคุณธรรม เท่าท่ีจะท�าได้ สังคมนั้นก็จะมีแต่ความสงบสุขและเจริญก้าวหน้า ตัวอย่างเช่น นักเรียนมีหน้าท่ี
และจริยธรรม โดยเนน ใหเ หน็ ถงึ ผลดีของการ เรยี นหนงั สอื กใ็ หต้ งั้ ใจเรยี นใหด้ ที สี่ ดุ กจ็ ะทา� ใหน้ กั เรยี นประสบความสา� เรจ็ ในการเรยี น หรอื ขา้ ราชการ
เปนพลเมืองที่มีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการ ท�าหน้าที่รับใช้ประชาชนอย่างดีท่ีสุด ก็ย่อมจะท�าให้ข้าราชการผู้น้ันประสบความส�าเร็จในชีวิต
ดาํ เนนิ ชวี ติ และผลทอี่ าจเกดิ ขน้ึ หากพลเมอื ง การงาน เปน็ ต้น
ขาดคุณธรรมและจริยธรรมในการดําเนนิ ชวี ติ ๔) ความซ่ือสัตย์สุจริต ถ้าสมาชิกในสังคมยึดม่ันในความซ่ือสัตย์สุจริต เช่น
ไม่ลักทรัพย์ ไม่เบียดบังทรัพย์สินของผู้อื่นและของชาติมาเป็นของตนหรือพวกพ้อง หรือถ้าเป็น
2. ครแู บงนักเรยี นออกเปน 8 กลุม ตามคุณธรรม ขา้ ราชการก็ปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ด้วยความสุจรติ ไมท่ า� การทจุ รติ สงั คมกจ็ ะก้าวหนา้ และสงบสุข
และจรยิ ธรรมท่ีสาํ คัญของพลเมอื งดี จากนัน้ ๕) ความกล้าหาญและเช่ือมั่นในตนเอง สังคมทุกสังคมต้องการให้มีการแสดง
ใหนักเรยี นแตล ะกลุม เลือกประธานกลมุ ความคดิ เหน็ ในเชงิ สรา้ งสรรค ์ เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม ดังน้นั ถา้ สมาชกิ ในสังคมมคี วามกลา้
เพอ่ื ทําหนา ท่เี ปน ผนู ําการแลกเปล่ยี นเรยี นรู ทจ่ี ะแสดงความคดิ เห็นในเชิงสร้างสรรค์อย่เู สมอๆ กจ็ ะเปน็ ประโยชน์ต่อสงั คมและใชเ้ ปน็ แนวทาง
ในประเดน็ เก่ียวกบั การปฏิบัติตนของนกั เรียน
ทีส่ อดคลองกบั หลกั คุณธรรมและจรยิ ธรรมของ 64 ในการพฒั นาสงั คมและประเทศชาติใหเ้ จรญิ กา้ วหน้าได้
กลุมตนเอง แลวใหประธานของแตล ะกลมุ
ออกมาสรุปและอภิปรายผลท่หี นาชน้ั เรียน

เกรด็ แนะครู บรู ณาการเชอ่ื มสาระ
ครสู ามารถนําเร่ืองคุณธรรม จริยธรรมของการเปนพลเมืองดี
ครูควรยกตวั อยา งพระสงฆ บคุ คลทว่ั ไป ท่ีมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการดําเนิน ของประเทศชาติและสังคมโลก ไปบูรณาการเชื่อมโยงกับวิชา
ชวี ิต เพือ่ ใหน ักเรยี นตระหนักและเหน็ ความสาํ คัญของการมคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรม พระพุทธศาสนา เร่อื ง ประวตั พิ ุทธสาวกและพทุ ธสาวกิ า โดยครู
ในการดาํ เนนิ ชวี ติ ยกตวั อยา งเชน สมเดจ็ พระวนั รตั (เฮง เขมจาร)ี ทา นเปน นกั ปกครอง ยกตวั อยางพทุ ธสาวกและพทุ ธสาวิกาท่มี ีคุณธรรมและจรยิ ธรรม
ทด่ี เี ยยี่ ม โดยการจดั การปกครองของทา นไดร บั การไววางใจจากพระเถระ ทาํ ใหได อันสูงสง ในการดําเนินชวี ติ เพอ่ื ใหน กั เรียนตระหนกั และเห็นคุณคา
เลื่อนตําแหนงสงู ขน้ึ ไปเร่ือยๆ ท้งั ยงั สรางความเจริญรงุ เรืองใหแ กพ ระพทุ ธศาสนา ของผลดีท่ีเกดิ ขึ้นกับบุคคลท่มี ีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมรวมถึงผลดี
ทํานุบาํ รุง และจดั การศกึ ษาของสถานศึกษาฝา ยมหานิกายใหม คี วามกา วหนา ท่ีเกดิ ข้ึนกบั บคุ คลอนื่ ๆ ในสังคม ยกตวั อยางเชน หมอชีวก-
เปนอยางย่งิ โกมารภจั จ ผทู ่มี ีความเสียสละประโยชนส วนตนเพอ่ื ประโยชน
สวนรวมเปนอยา งย่ิง กลาวคอื หมอชีวกโกมารภัจจเ ปน ท้ัง
นกั เรยี นควรรู แพทยหลวงและแพทยประจําพระองคข องพระพุทธเจา ขณะเดียวกนั
ก็ยงั ตอ งดูแลประชาชนอกี ดว ย ทําใหห าเวลาพักผอ นไดยาก
1 มติเสียงขา งมาก ในสังคมประชาธปิ ไตย จะใชเ หตุผลและมติเสียงขา งมาก ทานตอ งเสียสละทงั้ เวลาและความสขุ สว นตน เพอ่ื บาํ เพญ็ ประโยชน
ในการวางแผนการทํางานรวมกนั และตดั สนิ ปญ หาขอขดั แยง เพ่ือหลีกเลีย่ งความ แกพ ระศาสนาและประชาชน ดว ยเหตนุ ที้ า นจงึ เปน ทีร่ ักของปวงชน
ขัดแยง หรอื ความรนุ แรง แตทง้ั นจ้ี ะตอ งใหค วามสาํ คัญกับเสียงสว นนอยดว ย ท่ัวไป เปนตน

64 คมู่ อื ครู

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate

อธบิ ายความรู้ Explain

๖) ความสามคั คี หมายถึง ความรักใครกลมเกลียวและความรวมมือกันทํางาน 1. ครูใหน กั เรียนชวยกนั ยกตวั อยางพฤติกรรม
เพอื่ ประโยชนส วนรวม ดังคาํ กลา วทีว่ า “สามัคคี คือ พลงั ” ดังนน้ั ถาประชาชนไทยมคี วามสามัคคี ท่ีตนเองกระทําหรือเหน็ ผอู น่ื กระทาํ โดยไมมี
ความละอายหรอื เกรงกลวั ในการกระทําผดิ
ไมแตกแยก รวมแรงรว มใจทาํ งานเพอื่ พฒั นาประเทศ เชน การทจุ ริตการสอบ เปน ตน จากน้ันครู
ชีใ้ หน ักเรยี นเหน็ วา พฤติกรรมเหลา น้ัน
ประเทศชาติก็จะมีแตความเขมแข็งเปนที่เคารพและ เปน พฤติกรรมที่ไมเหมาะสม รวมถงึ อาจ
สงผลในระยะยาวตอ การดาํ เนินชวี ติ ของ
เปนที่เกรงขามของนานาประเทศ รวมทั้งจะทําให บคุ คลคนนนั้ เชน การทจุ รติ การสอบในวยั เดก็
แลว ถกู จับไมไ ด หรือคดิ วา เปน เรอ่ื งทคี่ น
เปน สงั คมประชาธิปไตยอยา งม่ันคงตลอดไปดวย สวนใหญเ ขากท็ ํากนั อาจสง ผลตอ เนอ่ื งมาถึง
การกระทําช๗่วั 1) ความละอายและเกรงกลัวใน วัยทาํ งานโดยทําการทุจรติ ในรูปแบบตางๆ
เปนตน ทัง้ นห้ี ากพลเมืองสว นใหญในสงั คม
ถาสมาชกิ ในสังคมมีความละอายและ มีพฤติกรรมที่ไมล ะอายหรอื เกรงกลัวตอ การ
กระทําผดิ ยอมสง ผลใหส ังคมเกิดความ
เกรงกลวั ตอ การกระทาํ ชว่ั แลว สงิ่ ไมด ไี มง ามตา งๆ กจ็ ะ ไมส งบสขุ อยางแนน อน

ไมเกิดข้ึนในสังคม เชน ถาหากนักการเมืองมีความ 2. ครใู หน กั เรยี นรว มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั คณุ สมบตั ิ
ของนักการเมอื งทนี่ ักเรียนตองการใหเ ขา มา
ซ่ือสัตยสุจริต เห็นประโยชนของสวนรวมเปนสําคัญ ความสามัคคีรักใครกลมเกลียวกันและรวมมือกัน บริหารบานเมอื งวามลี ักษณะอยา งไร แลวให
จะทําใหประชาชนมีความเปนอยูท่ีดีข้ึน ประเทศชาติ ทาํ งาน จะทาํ ใหเ กดิ ความเขม แข็งขึ้นในสังคม นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นวา นักเรียน
สามารถเปนสวนหนงึ่ ของการสง เสรมิ ใหค นดี
มีความเจริญกาวหนา และหากนักการเมืองมีความละอายและเกรงกลัวในการกระทําส่ิงท่ีไมดี ปกครองบานเมืองไดอยา งไร

ก็จะทําใหประชาชนมคี วามศรัทธาในตวั นักการเมอื ง และในสถาบันการเมืองการปกครองมากข้นึ

อนั จะยงั ผลใหการปกครองระบอบประชาธิปไตยดาํ เนินไปไดอ ยา งราบรนื่
๘) การสงเสริมใหคนดีปกครองบานเมือง และควบคุมไมใหคนไมดีมีอํานาจ
ระบอบการปกครองของประเทศจะดําเนินไปไดอยางราบร่ืน เมื่อไดคนดีมีความรูความสามารถ

มาชวยกันปกครองบานเมือง ดังนั้น ในการเลือกตั้งผูแทน ประชาชนควรเลือกคนดีที่มีความ

ซื่อสัตยและมีความสามารถใหไปทําหนาที่แทนตน

เพราะถา เราไดผ แู ทนทด่ี ี เรากจ็ ะไดร ฐั บาลทดี่ ี อนั จะยงั ขยายความเขา้ ใจ Expand

ผลใหก ารปกครองระบอบประชาธปิ ไตยสามารถอาํ นวย

ประโยชนสุขใหแ กป ระชาชนอยางทัว่ ถึงและเปน ธรรม ครูใหน กั เรียนแตงนทิ านหรอื วาดการตูน
เกี่ยวกับคุณธรรมและจริยธรรมของการเปน
คุณธรรมและจริยธรรมของการเปนพลเมืองดี พลเมอื งดขี องประเทศชาติและสังคมโลก โดยให
จดั ทาํ เปนสมุดภาพนทิ านหรอื การตนู ขนาด A4
ของประเทศชาติและสังคมโลก ที่ไดกลาวมาขางตน แลว นําสง ครูผูส อน

เปน คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมทส่ี มาชกิ ของสงั คมสามารถ

กระทําไดดวยจิตสํานกึ และความต้ังใจ

หากสมาชิกสวนใหญของสังคมสามารถกระทํา การไปใชสิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ตรวจสอบผล Evaluate
ไดท ั้ง ๘ ประการ กจ็ ะทาํ ใหสงั คมมีความสงบสุขและ เปนการสงเสริมใหคนดีเขาไปปกครองประเทศ
พัฒนาตอไปไดอยางยั่งยนื และควบคมุ ไมใ หคนไมดมี ีอาํ นาจ

๖๕ ครูตรวจสมุดภาพนทิ านหรอื การต ูนเก่ยี วกับ
คุณธรรมและจรยิ ธรรมของการเปน พลเมอื งดี
ของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก

บรู ณาการเชื่อมสาระ เกรด็ แนะครู

ครูสามารถนาํ เร่อื งความสามัคคี ไปบูรณาการเชือ่ มโยงกับวิชา ครคู วรยกตัวอยางพทุ ธศาสนสุภาษิต เชน สุขา สงฺฆสฺส สามคคฺ ี : สามัคคี
พระพทุ ธศาสนา เรือ่ ง หลักธรรมทางศาสนาในการอยูร วมกนั อยาง ของหมู ทําใหเกิดสขุ จากนั้นครใู หน กั เรยี นรว มกนั อภิปรายเกีย่ วกบั
สนั ติสุข โดยครอู ธิบายวา ความสามคั คีเปนหลักธรรมหนงึ่ ในการ พุทธศาสนสุภาษิตดงั กลา ววา ความสามัคคีสามารถสรางความสุขใหเกิดขึ้น
อยูร ว มกันของศาสนาครสิ ต ซ่ึงสอนวาความสามคั คีเปนสิ่งสําคญั ในสงั คมไดอยางไร และความสุขทเ่ี กิดข้นึ จากความสามคั คจี ะสง ผลตอ ตนเอง
ทจ่ี ะชวยใหมนุษยอยูรว มกนั ไดอ ยางสนั ตสิ ขุ และความสามัคคจี ะมี ชมุ ชน ประเทศชาติ และสังคมโลกอยางไร
อยกู ต็ อ เมอื่ มนษุ ยเ ราไมน นิ ทาวา รา ยกนั ไมห ลอกลวงและดหู มน่ิ กนั
ท้งั น้คี วามสามัคคจี ะเกิดได เมอ่ื คนเรามคี วามอะลมุ อลว ยตอ กัน นักเรยี นควรรู
เมอื่ เหน็ วา มผี ทู าํ ผดิ กต็ กั เตอื นกนั กอ นทจ่ี ะทาํ ความผดิ ยอ มสง ผลให
มนษุ ยส ามารถอยรู ว มกนั ไดอ ยา งสนั ตสิ ขุ นอกจากนน้ั การจะตชิ มกนั 1 ความละอายและเกรงกลัวในการกระทําช่ัว ตรงกับหลกั โลกบาลธรรมหรือ
ก็ควรทาํ กันซ่งึ หนา การเปดเผยความในใจทําใหค นไมร ะแวงกัน ธรรมคมุ ครองโลก ซึ่งเปน ธรรมที่คมุ ครองรักษาและระมัดระวงั ใหมนุษยท กุ คนตงั้ อยู
เพราะความระแวงเปนตวั บอนทาํ ลายความสามคั คีอยางยง่ิ ในความซอื่ สตั ยส จุ ริต มี 2 ประการ คือ หิริ (ความละอายแกก ารกระทําความชั่ว)
และโอตตัปปะ (ความเกรงกลวั ตอผลของความชั่วทเ่ี ปน บาปของทจุ รติ )
หลกั ธรรมขา งตน สอดคลองกบั คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมของการ
เปนพลเมืองทด่ี ีของประเทศชาติและสงั คมโลก นน่ั คือ ความสามัคคี

คมู่ ือครู 65

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครูนาํ พาดหวั ขาวท่ีเกีย่ วขอ งกับบทบาทหนา ท่ี
ของพลเมอื งทีด่ ีและไมด ีหลายๆ หวั ขอ ขา ว มาให
นกั เรยี นดู จากนนั้ ใหนกั เรยี นชว ยกันคาดเดา ๕. บทบาทหน้าที่ของพลเมืองดีต่อประเทศชาติและสงั คมโลก

สถานการณ สาเหตุ และผลสรุปของขา ววาจะเปน พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก จะต้องเป็นพลเมืองที่ตระหนักถึงบทบาทหน้าท่ี
อยางไร ทีต่ นจะต้องปฏบิ ตั ติ ่อสงั คมและประเทศชาติในด้านต่างๆ อยเู่ สมอ โดยเฉพาะดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ น
การเมืองการปกครอง ด้านสังคมและวัฒนธรรม ท้ังน้ีเพราะบทบาทหน้าท่ีในด้านต่างๆ ท้ัง
สา� รวจคน้ หา Explore ๓ ดา้ น จะสง่ ผลกระทบต่อชุมชนและประเทศชาติในดา้ นบวกหรือลบก็ได ้

ครูสุม คัดเลือกนักเรียน 12 คน แลว จดั แบง กล่าวคือ หากชาวไทยทุกคนปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีในด้านเศรษฐกิจ โดยประกอบอาชีพ
ออกเปน 3 กลมุ เพ่ือศึกษาคนควาเกีย่ วกับบทบาท ที่สุจริต ไม่เอาเปรียบผู้อื่น และในด้านการเมืองการปกครอง โดยการไปลงคะแนนเสียงเลือกต้ัง
หนาทข่ี องพลเมืองดีตอประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก ผสู้ มคั รที่ดีให้ไปเปน็ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ก็จะส่งผลดีตอ่ ประเทศชาติ
จากหนังสอื เรยี น หนา 66-68 แลว ออกมาแสดง
บทบาทสมมตหิ นา ชั้นเรียน ดงั น้ี นอกจากน ี้ บทบาทในด้านสังคมและวฒั นธรรมทต่ี ้องปฏบิ ตั ิ คอื การร่วมงานกับผูอ้ ืน่ เพ่ือ
พัฒนาสังคมและส่งเสริมวัฒนธรรมท่ีดีของประเทศให้เป็นที่ช่ืนชมของชาวต่างชาติ สังคมไทย
กลมุ ท่ี 1 บทบาทหนา ทีข่ องพลเมอื งดที างดา น ก็จะมแี ตค่ วามสามัคคกี ลมเกลียว ไม่เอารดั เอาเปรียบกัน
เศรษฐกิจ
แตห่ ากชาวไทยแสดงบทบาทหนา้ ท่ีในทางตรงกนั ขา้ ม เชน่ ประกอบอาชพี ผดิ กฎหมาย เอา
กลุมที่ 2 บทบาทหนาทข่ี องพลเมอื งดที างดาน รดั เอาเปรยี บผอู้ นื่ เลอื กคนไมด่ ไี ปปกครองประเทศ ชนื่ ชมวฒั นธรรมของตา่ งประเทศ ประเทศไทย
การเมอื งการปกครอง กจ็ ะขาดความสงบสขุ เจรญิ ก้าวหนา้ ลา่ ชา้ และขาดความนา่ เชอ่ื ถอื ในสงั คมโลก

กลมุ ที่ 3 บทบาทหนา ทีข่ องพลเมืองดที างดา น ๕.๑ บทบาทหนา้ ทข่ี องพลเมอื งดีทางดา้ นเศรษฐกิจ

สังคมและวัฒนธรรม บทบาทหนา้ ท่ขี องพลเมืองดีในดา้ นเศรษฐกจิ ทีส่ �าคัญ มดี งั น้ี
๑. พลเมืองดีต้องด�าเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยกินอยู่
อธบิ ายความรู้ Explain ตามอตั ภาพ มคี วามรอบคอบ และระมัดระวังในการใช้จ่าย ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ญั หา และสรา้ ง
ภูมิคมุ้ กนั ทด่ี ีให้แกต่ นเอง เพือ่ พร้อมรบั ความเปลีย่ นแปลงในอนาคต
1. ครูใหน ักเรียนกลมุ ที่ 1 ออกมาแสดงบทบาท
สมมติเก่ียวกับบทบาทหนาท่ีของพลเมอื งดี ๒. พลเมอื งดตี อ้ งประกอบอาชพี ทส่ี จุ รติ และ
ทางดา นเศรษฐกิจ จากน้นั ครใู หน ักเรยี นกลมุ ไมเ่ อาเปรยี บผอู้ น่ื เชน่ ถา้ เปน็ เจา้ ของโรงงาน กจ็ ะตอ้ ง
อน่ื ๆ รว มกันอภปิ รายองคความรใู หมที่ไดรบั ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ไม่เอาเปรียบผู้บริโภคด้วย
จากการแสดงบทบาทสมมตขิ องกลมุ ท่ี 1 วิธีการท่ีไมเ่ ปน็ ธรรม เปน็ ต้น
๓. พลเมอื งดที ม่ี คี วามออ่ นแอทางเศรษฐกจิ
2. ครูต้ังประเด็นคาํ ถามใหน กั เรยี นชว ยกนั ตอบ ควรรวมตัวกันเป็นกลุ่มอาชีพ หรือสหกรณ์ประเภท
เพอ่ื ฝก ทกั ษะการคดิ และแสดงความคดิ เหน็ เชน ต่างๆ เพ่ือช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน และเพิ่มอ�านาจ
• เพราะเหตุใดการเสียภาษีอากรใหแกองคก ร ของการต่อรองทางเศรษฐกิจ เช่น การรวมตัวกัน
ปกครองสวนทองถิน่ และรัฐบาลจึงเปน พลเมืองดีต้องเป็นผู้ที่ประกอบอาชีพสุจริตและ เปน็ กลมุ่ เกษตรกร หรอื สหกรณก์ ารเกษตรประเภทตา่ งๆ
บทบาทหนา ทที่ พี่ ลเมืองดพี งึ กระทาํ ไม่เอารดั เอาเปรยี บผูอ้ ืน่ เปน็ ตน้
(แนวตอบ เพราะเงนิ ภาษีอากรท่ีเราเสยี ไปนน้ั
องคก รปกครองสวนทองถ่นิ และรัฐบาลจะนํา 66

ไปใชใ นการพฒั นาชมุ ชนและพฒั นาเศรษฐกิจ
และสังคม)
บรู ณาการเช่ือมสาระ
เบศรู ณรากษารฐกจิ พอเพยี ง ครูสามารถนาํ เรอื่ ง สหกรณ ไปบรู ณาการเช่ือมโยงกับวชิ า
เศรษฐศาสตร โดยครูอธิบายวา สหกรณมีบทบาทสําคัญตอการ
หากพิจารณาตามลักษณะภมู ปิ ระเทศของไทย จะพบวาเหมาะสมแกก ารทํา พฒั นาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอยา งย่งิ ในปจจบุ ันทก่ี ารรวมกลมุ เปน
เกษตรกรรมเปน อยางยิง่ คนไทยจึงควรสงเสริมการพฒั นาทางดานเกษตรกรรม สหกรณไ ดส รา งคณุ ประโยชนอ ยา งมากมาย ทง้ั เปน แบบแผนในการ
เพราะขา วปลาอาหารถอื เปนส่งิ จาํ เปน สาํ หรับมนษุ ยทุกยุคทุกสมยั บานเมืองที่ พฒั นาชนบท พัฒนาชมุ ชน และชว ยเหลือผเู ดือดรอนจากภาวะ
อุดมสมบรู ณดวยขา วปลาอาหารถอื วา ไดเปรยี บ เพราะมีรากฐานอันมน่ั คง พรอมที่ เศรษฐกจิ
จะพัฒนาประเทศไปสคู วามเจริญอยา งย่งั ยืนตอไป
อยา งไรกต็ าม การดําเนินงานสหกรณกป็ ระสบกับปญหา
นกั เรยี นแบง กลมุ รวมกันอภปิ รายในประเด็น “เงนิ ทองของมายา ขา วปลาคอื ความออ นแอ อนั เนอื่ งมาจากความรว มมอื ระหวา งสมาชกิ ในสหกรณ
ของจรงิ ” เพอ่ื นาํ ไปสขู อ สรปุ ทวี่ า อาชพี เกษตรกรรมมคี วามสาํ คญั ตอ สงั คมไทยอยา งไร ยงั มนี อ ย จงึ ทาํ ใหบ างพ้ืนทไ่ี มป ระสบผลสําเร็จในการจดั ตงั้ สหกรณ
และจะมีแนวทางใดในการสงเสรมิ ใหพลเมอื งไทยหนั มาเหน็ คุณคา และรวมกัน แตก ็มกี ารนาํ หลักการของสหกรณมาพัฒนาและปรับใชในรปู แบบ
พฒั นาเกษตรกรรมไทยใหย ง่ั ยนื สบื ไป โดยนาํ ขอ มลู ทไ่ี ดเ ขยี นเปน รายงาน สง ครผู สู อน ของการรวมกลุมในชุมชน โดยนาํ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมา

ปรับใชด ว ย ทั้งน้เี พอ่ื ตอ งการใหช มุ ชนตางๆ เปน ชมุ ชนที่เขมแข็ง
พงึ่ พาตนเองได

66 คมู่ อื ครู

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๔. พลเมอื งดตี อ้ งใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และไมค่ วรกยู้ มื เงนิ ของบคุ คลอนื่ โดยเฉพาะจาก 1. ครูใหน ักเรยี นกลุมท่ี 2 ออกมาแสดงบทบาท
ชาวตา่ งชาต ิ มาลงทนุ ในกจิ การทอ่ี าจใหผ้ ลตอบแทนทางเศรษฐกจิ ชา้ หรอื มคี วามเสย่ี งสงู เชน่ การกยู้ มื เงนิ สมมติเกี่ยวกับบทบาทหนา ทข่ี องพลเมอื งดี
ทางดานการเมืองการปกครอง จากน้ันครใู ห
ตา่ งชาตมิ าทา� โครงการพฒั นาทด่ี นิ และปลกู หมบู่ า้ นจดั สรร นกั เรยี นกลุมอื่นๆ รวมกันอภิปรายองคค วามรู
โดยไม่ศึกษาความต้องการด้านทอ่ี ยู่อาศัยของผู้บริโภค ใหมท ี่ไดรบั จากการแสดงบทบาทสมมตขิ อง
ยังผลให้การก่อสร้างบ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม กลมุ ท่ี 2
หลายโครงการมีผู้ซ้ือน้อยราย เป็นผลให้ผู้ลงทุน
ไไดมต้่สาามมการา� ถหในชด้เเงวินลตา้น จแนลกะลดาอยกเเปบน็ ้ียปคญั ืนหแกาห่ธนนาเี้ สคยีาจร1า�ผนู้ใหวน้กู ้ 2. ครูใหนกั เรยี นชว ยกันเสนอแนะบทบาทหนาท่ี
มาก และเป็นสาเหตุส�าคัญส่วนหน่ึงท่ีท�าให้การฟื้นตัว ของพลเมืองดที างดา นการเมืองการปกครอง
ทางเศรษฐกจิ ของไทยกระทา� ได้ยากลา� บาก เปน็ ต้น เพ่ิมเตมิ จากหนังสอื เรยี นหนา 67-68 จากนนั้
๕. พลเมอื งดจี ะตอ้ งทา� การเสยี ภาษอี ากร การกินผลไม้ไทยตามฤดูกาลถือเป็นการช่วย ครูสุมถามนักเรียนวา นักเรียนสามารถนํา
กระตุ้นเศรษฐกจิ ของประเทศ ซงึ่ เป็นส่ิงทพ่ี ลเมืองด ี บทบาทหนาทีข่ องพลเมอื งดที างดา นการเมือง
ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และรฐั บาลอยา่ งครบถว้ น พึงกระทาำ การปกครองไปปรับใชในชวี ิตประจําวนั
ทั้งน้เี พอ่ื ช่วยให้องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ินและรัฐบาลมีรายไดไ้ ปใช้พัฒนาชมุ ชนและประเทศ ไดอยา งไร
ในทางกลับกันหากคนไทยไม่เสียภาษีอากร หรือเสียภาษีอากรน้อยกว่าที่ควรจะเสีย
ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือรัฐบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินหรือรัฐบาลก็จะไม่ม ี 3. ครตู ัง้ ประเดน็ คําถามใหนกั เรียนชวยกันตอบ
รายได้มาพัฒนาท้องถิ่น หรือจ่ายเงินเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่ของท้องถิ่นหรือรัฐท่ีรับผิดชอบใน เพ่อื ฝก ทักษะการคดิ วเิ คราะห เชน
การพฒั นาและรักษาความสงบเรยี บร้อยของชุมชนและประเทศ • เพราะเหตุใดจึงควรเลือกบคุ คลที่เปน
๖. พลเมืองดีควรท่องเท่ียวในประเทศและใช้ของที่ผลิตในประเทศ เพ่ือส่งเสริม พลเมืองดมี ีความเสยี สละเพ่อื สวนรวม
การทอ่ งเทยี่ วของไทย และเพอ่ื ปอ้ งกนั มใิ หเ้ งนิ ตรารวั่ ไหลไปตา่ งประเทศ นอกจากน ี้ จะตอ้ งเชญิ ชวน เปนผนู าํ ของทอ งถิน่
ชาวไทยและชาวตา่ งชาติเขา้ มาเท่ยี วในประเทศไทยด้วย (แนวตอบ เพราะเปน โอกาสสําคญั ทจี่ ะได
๗. พลเมอื งดตี อ้ งไมส่ นบั สนนุ ใหร้ ฐั ดา� เนนิ นโยบายประชานยิ ม เพราะอาจสง่ ผลใหเ้ กดิ นาํ เสนอขอ เสนอแนะตา งๆ เพือ่ การพัฒนา
ปญั หาการทุจรติ คอรร์ ปั ชนั ตามมา ทอ งถิ่นไดอยา งถูกตอ งและตรงกับสภาพ
ปญหา อกี ทัง้ ยังไดเ ปนตัวแทนของสมาชกิ
๕.๒ บทบาทหน้าทข่ี องพลเมืองดีทางดา้ นการเมอื งการปกครอง ในชมุ ชนเขาไปอยใู นองคก รปกครอง
สวนทอ งถ่นิ ทําหนา ที่พิทกั ษรกั ษา
พลเมืองดมี ีบทบาทหนา้ ทดี่ า้ นการเมืองการปกครองตอ่ ชุมชนและประเทศ ดงั น้ี ผลประโยชน รวมทง้ั ไดมีโอกาสรวม
๑. พลเมืองดีมีหน้าที่ไปออกเสียงเลือกต้ังผู้สมัครรับเลือกตั้งท่ีดีมีคุณภาพ ไปเป็น สรา งสรรคค วามเจริญกาวหนา ใหแกทองถิ่น
สมาชกิ สภาองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒสิ ภา ของตนเองดว ย)
๒. พลเมอื งดคี วรสมคั รรบั เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ หรอื
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อพิจารณาว่าตนเองมีความรู้ความสามารถและมีคุณสมบัติครบตาม 67
เกณฑท์ ีก่ ฎหมายบัญญตั ิ

ขอสอบ O-NET นักเรียนควรรู

ขอสอบป ’51 ออกเกยี่ วกบั การมสี ว นรวมในการปกครองทองถ่ิน 1 หนเ้ี สีย หรอื หน้ที ไี่ มก อ ใหเกิดรายได เปนหนี้จากลูกหนเี้ งนิ กูของสถาบนั การเงนิ
กิจกรรมใดแสดงถึงการมสี วนรวมในการปกครองทองถิน่ ตา งๆ ทไี่ มส ามารถจะชาํ ระดอกเบ้ียและเงนิ ตน คืนใหแ กสถาบันการเงนิ เปนระยะเวลา
1. การรวมกลมุ รณรงคค ดั คา นรัฐบาล มากกวา 3 เดือนขน้ึ ไป ซง่ึ การเกดิ วกิ ฤติหนีเ้ สยี ใน พ.ศ. 2540 ทาํ ใหสถาบันการเงิน
2. การเขาชอื่ เสนอถอดถอนนายกเทศมนตรี ท้งั หลายตอ งตง้ั สาํ รองเผือ่ หนี้ จัดช้ันหนี้ทส่ี งสัยวาจะสูญเพ่มิ ขนึ้ เปน จาํ นวนมาก
3. การออกเสียงเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาผูแทนราษฎร รวมท้ังการเพ่มิ ทุน โดยบางแหง ก็มีการรว มทนุ กับตา งชาติ ท้ังนเ้ี พ่อื เปนการแกไข
4. การสนับสนนุ การจัดต้งั สาขาของพรรคการเมือง และปรับสถานภาพทางการเงินของสถาบันเหลานัน้

วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. การมสี วนรว มในการปกครอง มมุ IT

ทอ งถนิ่ ของตนนนั้ สามารถกระทาํ ไดห ลากหลายวธิ ี เชน การออกเสยี ง ศึกษาคนควา ขอมูลเพมิ่ เตมิ เกี่ยวกับขอมูลดา นการเลือกตัง้ ไดท ี่
เลอื กตง้ั การเขาเสนอช่ือถอดถอนผูนาํ การปกครองสว นทอ งถ่ินที่ http://www.ect.go.th/
บรหิ ารงานไมโ ปรง ใส เปน ตน ซงึ่ หากพจิ ารณาจากตวั เลอื กทง้ั 4 ขอ
พบวา มตี าํ แหนง นายกเทศมนตรเี พยี งตําแหนง เดยี วเทา น้ันที่ คู่มอื ครู 67
เปน ผูน าํ องคก รปกครองสวนทองถ่นิ และมาจากการเลือกต้ังของ
ประชาชนในทองถนิ่ สวนตัวเลอื กในขออน่ื ๆ น้นั เปน ตาํ แหนง
และหนว ยงานในสว นกลาง ดงั นน้ั การเขา เสนอชอื่ ถอดถอน
นายกเทศมนตรจี งึ เปน กจิ กรรมทแ่ี สดงถงึ การมีสวนรว มในการ
ปกครองทองถ่ิน

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งขา วในปจ จบุ นั ๓. พลเมืองดีมีหน้าท่ีตรวจสอบการท�างานของสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
ท่ีแสดงถงึ คนในสงั คมที่ไมปฏบิ ตั ิตามบทบาท และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้ด�ารงต�าแหน่งทางการเมืองอื่นๆ เช่น นายกรัฐมนตรีหรือ
หนา ทข่ี องพลเมอื งดที างดา นสงั คมและวฒั นธรรม รัฐมนตรี ว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน
เชน ขา วนกั เรยี น นกั ศกึ ษายกพวกตกี นั เปน ตน หรอื สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรทจุ รติ ตอ่ หนา้ ทหี่ รอื ละเมดิ รฐั ธรรมนญู กค็ วรเขา้ ชอ่ื กนั ฟอ้ งกลา่ วโทษ
จากน้ันครูใหนักเรยี นรวมกนั อภปิ รายถึง เพ่อื ปลดหรือถอดถอนบุคคลดังกลา่ วออกจากตา� แหนง่
ผลกระทบท่อี าจเกิดข้ึนตอ ตนเอง ชมุ ชน
ประเทศชาติ และสงั คมโลก หากประชาชน ๔. พลเมืองดีต้องติดตามข่าวสารด้านการเมือง โดยเลือกรับจากหลายแหล่งข้อมูล
ไมปฏบิ ตั ติ ามบทบาทหนา ท่ีของพลเมอื งดีทาง และใชว้ ิจารณญาณพจิ ารณาข่าวให้รอบคอบกอ่ นตดั สนิ ใจเชอื่
ดานสงั คม และวฒั นธรรม
๕.๓ บทบาทหนา้ ท่ขี องพลเมืองดที างดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม
2. ครใู หน ักเรยี นกลุมท่ี 3 ออกมาแสดงบทบาท
สมมตเิ กี่ยวกบั บทบาทหนา ที่ของพลเมืองดีทาง บทบาทหน้าท่ีของพลเมืองดีทางด้านสังคมและวัฒนธรรม ต่อชุมชนและประเทศท่ีควร
ดานสังคมและวฒั นธรรม จากนนั้ ครูใหน ักเรยี น ปฏิบัติ มีดังนี้
กลมุ อ่นื ๆ รวมกันอภิปรายองคค วามรูใ หมท ี่ ของชุม ชน แล๑ะ.ป รพะลเทเมศือไวง้ ดเีมพีห่ือนเป้าท็น่ีรม่วรมดมกือขกอันงชพาัฒติแน1ลาสะเังพค่ือมจใูงหใ้นจ่าใหอ้ชยาู่แวลตะ่ารงักชษาาตวิมัฒานเยธ่ียรมรมชทมี่ด ีงแาลมะ
ไดรับจากการแสดงบทบาทสมมตขิ องกลมุ ที่ 3 ลงทุนในกจิ การต่างๆ เช่น แตง่ กายด้วยผ้าไทยท่เี รียบรอ้ ยและรดั กุม ในประเพณีส�าคัญของไทย
เชน่ วนั ลอยกระทง วนั สงกรานต์ เป็นตน้
3. ครูต้งั ประเด็นคําถามใหนกั เรียนชว ยกนั ตอบ
เพอื่ ฝกทกั ษะการคิดวเิ คราะห เชน ๒. พลเมืองดมี ีหน้าท่ีรกั ษาความสามัคคแี ละปอ้ งกนั มิให้กลุม่ บคุ คลทม่ี ผี ลประโยชน์
• พลเมืองดีสามารถพัฒนาสงั คมใหมคี วาม ตา่ งกนั เกดิ ความขดั แยง้ หรอื ทะเลาะววิ าทกนั กลายเปน็ การเผชญิ หนา้ และเปน็ ศตั รกู นั ตลอดเวลา
นาอยมู ากย่งิ ข้ึนไดอยางไร ท�าใหส้ ังคมไม่สงบสุข เช่น เตือนสตไิ ม่ใหเ้ พือ่ นฝงู ทะเลาะกัน เปน็ ต้น
(แนวตอบ รกั ษาวัฒนธรรมซ่งึ เปนมรดก
ของชาตใิ หคงอยู เพื่อสรางความภาคภูมใิ จ ๓. พลเมอื งดีมีหน้าทปี่ อ้ งกันมิให้วฒั นธรรมต่างชาติมาทา� ลายวฒั นธรรมไทย หรือ
และสาํ นกึ รกั ในสังคมไทย เชน การแตง กาย วิถีชีวิตท่ีดีงามของชาวไทย ในขณะเดียวกันก็ยอมรับวัฒนธรรมที่ดีงามของชาวต่างชาต ิ
มารยาททางสงั คมตางๆ เปนตน ) มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ในการ
• พลเมืองดสี ามารถชว ยเหลืองานของทาง ค้นควา้ ขอ้ มูลความรดู้ า้ นการศึกษา เป็นตน้
ราชการไดอยา งไร
(แนวตอบ ชว ยกนั สอดสอ งดแู ลและแจง เบาะแส ๔. พลเมืองดีมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม คนพิการหรือทุพพลภาพ
ของผูท่กี ระทําผิดตอเจาหนาที่ตาํ รวจ เพอื่ ให ให้สามารถมีชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ เช่น เม่ือพบเห็นคนพิการข้ามถนน ก็ควรจะ
เจา หนาทีต่ าํ รวจมาตรวจสอบและจบั กุม ชว่ ยเหลือให้สามารถข้ามถนนไปได้อย่างปลอดภยั เป็นต้น
ผูกระทาํ ความผดิ สงั คมจะไดม คี วาม
ปลอดภยั และสงบสขุ มากข้ึน) ๕. พลเมอื งดมี หี นา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื ราชการในเรอ่ื งทส่ี ามารถชว่ ยได ้ เชน่ ชว่ ยเปน็ พยาน
• เพราะเหตใุ ดพลเมืองดีท่เี ปน เดก็ และเยาวชน ให้แก่ต�ารวจ เพื่อน�าคนท�าผิดมาลงโทษ ช่วยกันสอดส่องและแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าท่ีต�ารวจ
จึงตอ งมหี นาทศ่ี กึ ษาเลาเรยี นใหดีทสี่ ดุ เมือ่ ไดพ้ บเหน็ การกระท�าท่ีผิดกฎหมาย เป็นตน้
(แนวตอบ เพื่อทจี่ ะไดเ ปน กาํ ลังทีม่ คี ุณภาพ
ของสังคมและประเทศชาติตอ ไป) ๖. พลเมืองดที ี่เป็นเดก็ และเยาวชนมีหนา้ ท่ตี ั้งใจศกึ ษาเลา่ เรยี น เพ่อื จะไดเ้ ปน็ ก�าลงั
68 ทีม่ ีคุณภาพของประเทศชาติตอ่ ไป เชน่ เป็นหมอรักษาผปู้ ่วย เป็นครูอาจารย์ เปน็ ตน้

เกร็ดแนะครู ขอสอบ O-NET
ขอสอบป ’53 ออกเกี่ยวกับหนาที่ของพลเมือง
ครคู วรนาํ ตัวอยางภาพเสื้อผา วยั รุน ที่ตัดเย็บดว ยผาไทย ซ่ึงสามารถสวมใสได การท่นี ายดาํ หลีกเลย่ี งการเสียภาษแี สดงวา นายดําขาดความ
ทกุ โอกาสมาใหน กั เรยี นดู เพือ่ เปนตวั อยางหรอื แนวทางในการสนับสนนุ สง เสรมิ ตระหนกั ถงึ ส่ิงใด
ใหวยั รุน ไทยหนั มานยิ มสวมใสเส้ือผา ท่ีตดั เย็บมาจากผา ไทย อีกทง้ั ยงั เปนอกี หน่ึง 1. สทิ ธิของพลเมือง 2. หนาท่ีของพลเมอื ง
แนวทางในการปอ งกนั มใิ หวัฒนธรรมการแตง กายของไทย ซึง่ ถอื วาเปน วฒั นธรรม 3. เสรีภาพของพลเมอื ง 4. ความเสมอภาคของพลเมือง
อันดีงามตองถูกทําลายดวยวัฒนธรรมการแตงกายของตางชาติ วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. หนา ท่ี หมายถึง กิจที่ตอ งทาํ
หรอื ควรทาํ หนา ทีข่ องคนไทยท่ีมีตอประเทศชาติ เชน หนา ที่
นกั เรยี นควรรู ในการปฏบิ ัตติ ามกฎหมาย หนา ทีใ่ นการรับราชการทหาร หนา ท่ี
ในการเสยี ภาษอี ากร หนา ทใ่ี นการรักษาสถาบันชาติ ศาสนา
1 มรดกของชาติ คอื มรดกทางวฒั นธรรมทแ่ี สดงออกถงึ สัญลักษณของความ พระมหากษัตริย และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมี
เปนชาติ ซ่งึ ไดแก โบราณวตั ถุ โบราณสถาน วรรณกรรม ศลิ ปหตั ถกรรม นาฏศลิ ป พระมหากษัตรยิ เปน ประมขุ เปนตน ดงั น้ัน การท่นี ายดําหลีกเลยี่ ง
และดนตรี ตลอดจนการดาํ เนินชวี ิตและคุณคาประเพณีตา งๆ อันเปน ผลผลิตรวมกนั การเสียภาษี แสดงวา นายดําขาดความตระหนกั ถึงหนา ท่ีของ
ของผูคนในผืนแผนดินในชว งระยะเวลาทผี่ านมา พลเมือง ซ่งึ การกระทาํ เชน นี้จะสง ผลเสีย คอื ทําใหร ฐั บาล
ขาดแคลนรายไดท ่จี ะนาํ มาใชพฒั นาประเทศ
68 คู่มือครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate

ขยายความเขา ใจ Expand

¹Ò¹ÒÊÒÃÐ ครใู หน ักเรยี นจดั ทาํ โครงการจติ อาสา
เพ่ือใหน ักเรียนประยกุ ตใชค วามรูเก่ยี วกับการเปน
คา นิยม ๑๒ ประการของพลเมืองไทย พลเมืองดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลกในการ
ลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ โดยใหน กั เรยี นแบงกลุมตาม
คานิยม ๑๒ ประการของพลเมืองไทย เปนคานิยมท่ีมุงสูการเปนพลเมืองดี มีความรักชาติ ศาสนา ความสมคั รใจ กลุมละไมเกิน 7 คน จากนนั้
พระมหากษัตรยิ  และความเปน ไทย เพือ่ การสรา งสรรคประเทศไทยใหเ ขมแข็ง ดงั นี้ ใหนักเรยี นเขียนรางโครงการจติ อาสาท่ีกลมุ ตนเอง
๑. มีความรกั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย สนใจและคดิ วาสามารถปฏิบัตไิ ดจ ริง แลวนํา
๒. ซือ่ สัตย เสียสละ อดทน มอี ดุ มการณใ นสิ่งที่ดีงามเพอื่ สวนรวม โครงการจติ อาสาดังกลา วมาเสนอตอ ครผู สู อน
๓. กตญั ตู อพอแม ผูปกครอง ครูอาจารย เมอื่ โครงการไดร บั การอนุมตั ิ นกั เรียนจึงจะ
๔. ใฝหาความรู หมัน่ ศึกษาเลาเรียนท้งั ทางตรงและทางออม สามารถเร่มิ ดาํ เนินโครงการได หลงั เสรจ็ ส้ิน
๕. รกั ษาวัฒนธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม โครงการ ใหนักเรียนจดั ทาํ ปา ยนิเทศนําเสนอผล
๖. มีศีลธรรม รักความสัตย หวังดตี อผอู น่ื เผอ่ื แผและแบง ปน การดําเนนิ โครงการจติ อาสา เพื่อใหครูผูสอน
๗. เรยี นรกู ารเปนประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษัตรยิ ท รงเปน ประมุขทถ่ี กู ตอ ง ประเมินผล
๘. มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู อ ยรูจกั เคารพผใู หญ
๙. มสี ตริ ตู วั รูคดิ รูท าํ รปู ฏิบัตติ ามหลกั พระราชดาํ รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดลุ ยเดช ตรวจสอบผล Evaluate
๑๐. รูจกั ดาํ รงตนอยโู ดยใชห ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
๑๑. มคี วามเขมแข็งทง้ั รา งกายและจติ ใจ ไมยอมแพต อ อํานาจฝา ยตา่ํ หรือกเิ ลส มคี วามละอายเกรงกลวั ตอบาป ครปู ระเมนิ การจดั โครงการจิตอาสาของ
นกั เรียน โดยพิจารณาจากผลสรุปของภาพรวม
ตามหลกั ของศาสนา โครงการ ขน้ั ตอน และวธิ ีการดําเนินโครงการ
๑๒. คาํ นงึ ถึงผลประโยชนข องสวนรวมและชาตมิ ากกวา ผลประโยชนส วนตน การใหความรว มมอื ของสมาชกิ ในกลุม
และแบบประเมนิ โครงการของนักเรยี นกลมุ อืน่ ๆ
กลาวโดยสรุปวา พลเมืองดีมีความสําคัญตอประเทศชาติและสังคมโลกอยางมาก
ท้ังทางดา นสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองการปกครอง โดยพลเมอื งดจี ะเปนผทู ที่ าํ ประโยชน
ใหแ กส งั คมสว นรวมอยา งสมา่ํ เสมอ เชน ประกอบสมั มาอาชพี ยดึ มน่ั ในหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียง สําหรับในดานการเมืองการปกครองน้ัน พลเมืองดีจะตองเขาไปมีสวนรวมใน
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท รงเปน ประมขุ เชน ไปใชส ทิ ธเิ ลอื กตงั้
ดวยความซ่ือสัตยสุจริต ตรวจสอบการทําหนาท่ีของสมาชิกสภาผูแทนราษฎร หรือผูดํารง
ตําแหนงทางการเมืองอน่ื ๆ และขาราชการ เปนตน

ดังนั้น จึงเชื่อไดวาหากพลเมืองของประเทศใดปฏิบัติตนใหสมกับเปนพลเมืองดี
ดังท่ไี ดก ลา วมาขา งตน ประเทศนน้ั กจ็ ะมีแตค วามสงบสขุ และเจริญกาวหนา รวมท้ังจะชวยให
สงั คมโลกมีสนั ติสุขดวย

๖๙

กจิ กรรมสรา งเสรมิ บเศูรณรากษารฐกิจพอเพียง

ครูใหนักเรยี นไปศึกษาคน ควาเกย่ี วกบั บุคคลทีป่ ระพฤติตน การรจู กั ดาํ รงตนอยโู ดยใชห ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เปน หนงึ่ ในคา นยิ ม
เปน พลเมืองดีของประเทศ จากนน้ั ใหเขียนวิเคราะหถึงผลดี พื้นฐานของพลเมืองไทย ซึ่งเยาวชนไทยทุกคนพึงปฏิบตั ิใหเ กดิ ผลเปน รูปธรรม
ท่ีเกดิ ขนึ้ กับตนเอง ประเทศชาติ และสังคมโลก ความยาว 1
หนากระดาษ A4 แลวนาํ สงครผู ูสอน สมุ นกั เรียน 1 คน ออกมาแสดงความคดิ เหน็ หนา ชน้ั เรียนในประเด็น “เราจะ
ใชช ีวติ อยางพอเพยี งไดอยางไร” จากนน้ั ใหน ักเรียนคนเดิมต้งั ประเดน็ ใหมเ ก่ียวกับ
กจิ กรรมทา ทาย ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง แลวเลือกเพอื่ น 1 คนใหอ อกมาแสดงความคิดเหน็
ในประเดน็ นน้ั ทาํ เชน นไี้ ปจนครบ 5 คน แลวใหน ักเรียนเขียนสรุปสงิ่ ทีไ่ ดร ับจาก
กิจกรรมนสี้ ง ครผู สู อน

ครูใหน ักเรยี นตั้งเปา หมายท่ตี นเองคาดวาจะไดรับจากการ มมุ IT
ปฏิบตั ติ นเปนพลเมอื งดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก จากน้ัน
ใหน กั เรยี นเขยี นบนั ทกึ ประจาํ วนั เปน ระยะเวลา 1 เดอื น ในประเดน็ ศกึ ษาคน ควา ขอ มูลเพ่มิ เตมิ และดาวนโหลดโปสเตอรค านิยม 12 ประการ
ทว่ี า นกั เรยี นจะประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ นเปน พลเมอื งดขี องประเทศชาติ ไดท ่ี http://www.obec.go.th/documents/52173
และสังคมโลก เพอื่ ตอบสนองเปา หมายทตี่ นเองต้งั ไวไดอยางไร
คมู อื ครู 69

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand
Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล

ครตู รวจสอบความถูกตองจากการตอบคําถาม คาปถระาจำÓามหน่วยการเรียนรู้
ประจาํ หนว ยการเรยี นรู
๑. พลเมืองดีมคี วามส�าคัญตอ่ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมและประเทศชาตอิ ยา่ งไร
หลกั ฐานแสดงผลการเรียนรู ๒. พลเมืองดีในระบอบประชาธปิ ไตยควรมีคุณลักษณะอยา่ งไร ใหย้ กตัวอย่างประกอบ
๓. คุณธรรม จรยิ ธรรม ของการเปน็ พลเมืองดีในสังคมมีอะไรบ้าง และมีแนวทางการนา� มาใช้
1. บทวเิ คราะหก ารสัมภาษณบุคคลทีม่ ีคุณลักษณะ
ของพลเมืองดี ในชีวิตประจา� วนั ไดอ้ ย่างไร
๔. สภาพสงั คมในปจั จบุ ันนกั เรียนคดิ วา่ ควรน�าคณุ ธรรม จรยิ ธรรมข้อใดมาใช้มากที่สดุ
2. เรยี งความ เร่ือง แนวทางการพฒั นาตน
เปนพลเมอื งดี เพราะเหตุใด และมีแนวทางการนา� มาใช้อยา่ งไร
๕. นักเรียนมแี นวทางการปฏบิ ตั ิตนเปน็ พลเมอื งดขี องสงั คมและประเทศชาติอย่างไร
3. สมุดภาพนิทานหรือการต นู เก่ียวกับคณุ ธรรม ๖. เพราะเหตุใดความมีวินัยและความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม จึงมีความส�าคัญ
และจรยิ ธรรมของการเปนพลเมืองดีของ เป็นอยา่ งยิ่งในปจั จบุ ัน
ประเทศชาติและสงั คมโลก

4. แผนการจดั ทําโครงการจิตอาสาและปา ยนิเทศ
แสดงผลของโครงการจิตอาสา

กิจสรกา้ รงรสมรรค์พัฒนาการเกรายี รนเรรยี ู้ นรู้

กิจกรรมท่ี ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มจัดบอร์ดกิจกรรม “คนดีท่ีควรยกย่อง” โดยสืบค้นข้อมูล
จากข่าวหรือเป็นบุคคลในท้องถนิ่ ทีป่ ระกอบคุณความดี มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม
๑ หรือเป็นบุคคลท่ีท�าประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคมโลก โดยสรุปประเด็น
เก่ียวกบั ประวตั ิ ผลงาน คุณธรรมจรยิ ธรรม ในการด�าเนินชวี ติ
กิจกรรมที่ ใหน้ กั เรยี นจดั ทา� สมดุ บนั ทกึ ความดขี องตนเองทกี่ ระทา� ในชว่ ง ๑ สปั ดาหท์ ผ่ี า่ นมา
และบนั ทกึ ความดตี อ่ เนอ่ื งเปน็ เวลา ๑ เดอื น เมอ่ื ครบกา� หนดระยะเวลาใหท้ า� การ
๒ สรุปผลจากการท�าความดีและวางแผนการท�าความดตี ่อไป
ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม เพ่ือไปบ�าเพ็ญประโยชน์ในชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงเป็นเวลา
กจิ กรรมที่ ๑ วัน จากนั้นให้สรุปผลงาน ประโยชน์และความรู้สึกท่ีได้รับจากการบ�าเพ็ญ
ประโยชนด์ งั กลา่ ว


70

แนวตอบ คาํ ถามประจําหนว ยการเรียนรู
1. พลเมืองดีมคี วามสําคัญตอการดํารงอยูรวมกนั ของมนุษยใหเปน ไปดว ยความสงบเรยี บรอย ทั้งดา นสงั คม เศรษฐกจิ และการเมอื งการปกครอง

กอ ใหเ กิดสังคมเขม แขง็ และทาํ ใหป ระเทศมีความเจริญกาวหนาและพัฒนาไดอ ยางยง่ั ยนื
2. พลเมืองดีตอ งเคารพในความคดิ เห็นของผูอนื่ เคารพกฎหมาย มีความรับผิดชอบ มคี วามใฝรู และรจู ักพัฒนาตนเองอยา งสมาํ่ เสมอ โดยอยู

บนพ้นื ฐานของคุณธรรม และจริยธรรม ยกตวั อยา งเชน การทํางานรว มกนั กับผูอน่ื ของพลเมืองดีทม่ี คี ณุ ลักษณะดังกลา ว ก็จะชว ยเสริมสราง
ความเขาใจ ลดความขัดแยง และกอ ใหเ กดิ ประโยชนต อ ตัวพลเมอื งดีและผอู ื่นดว ย เปน ตน
3. คุณธรรมทส่ี าํ คญั ในสงั คมปจจบุ ันคือ ความซือ่ สัตย ความมีวินัย และความเสยี สละ คณุ ธรรมทั้ง 3 ประการเปนพื้นฐานในการอยรู ว มกัน
อยา งสงบสุขในสังคม โดยสามารถนาํ คณุ ธรรมทงั้ 3 ประการนี้ไปใชไดในทุกดาน ทัง้ ดานการเรียน การทํางาน และการอยูรว มกนั กบั ผูอ นื่
4. ในฐานะนกั เรียนจะตองมีความตงั้ ใจในการศกึ ษาเลา เรียน รจู กั บทบาทหนาท่ีของตนเอง มรี ะเบียบวนิ ยั และมีความรบั ผิดชอบตอหนา ท่ี
ท่ตี นเองไดรับมอบหมาย เนือ่ งจากสง่ิ ตางๆ เหลา น้ี ลว นแลวแตเ ปนพื้นฐานในการพฒั นาตนเองเพื่อเปนกําลังสําคัญในการพัฒนาประเทศชาติ
5. ความรบั ผดิ ชอบในหนา ทแี่ ละความมวี นิ ยั ของพลเมอื งนาํ มาสคู วามเปน ระเบยี บเรยี บรอ ยของประเทศชาติ ปญ หาตา งๆ จะลดนอ ยลง
ประเทศชาตจิ ะเจริญเตบิ โตไปอยางรวดเรว็

70 คู่มอื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Expore Explain
Engage

Expand Evaluate
เปา หมายการเรยี นรู

1. อธบิ ายความหมาย ความสาํ คญั แนวคดิ
และหลกั การของสทิ ธมิ นษุ ยชนได

2. อธบิ ายบทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู แหง
ราชอาณาจกั รไทย ทเี่ กย่ี วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชนได

3. วเิ คราะหแ ละประเมนิ ปญ หาสทิ ธมิ นษุ ยชน
ภายในประเทศได

4. เสนอแนวทางและมสี ว นรว มในการแกไ ขปญ หา
สทิ ธมิ นษุ ยชน

สมรรถนะของผูเ รียน

1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป ญ หา
4. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ติ

๔˹‹Ç¡ÒÃàÃչ̷٠èÕ Êิ·¸มิ ¹ØÉª¹ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค

1. มีวนิ ยั
2. ใฝเรียนรู
3. มจี ิตสาธารณะ

ตวั ชีว้ ัด »ÃÐà·Èä·ÂãËŒ¤ÇÒÁÊíÒ¤ÑÞáÅÐÊ‹§àÊÃÔÁÊÔ·¸Ô กระตนุ้ ความสนใจ Engage

■ ประเมินสถานการณ์สิทธมิ นุษยชนในประเทศไทย และเสนอ Á¹ÉØ Âª¹ ·§Ñé ¹àÕé ¾Íè× ãËÊŒ Í´¤ÅÍŒ §¡ºÑ ¡Òû¡¤ÃͧÃкͺ ครใู หน ักเรียนดูภาพหนาหนว ย แลวครู
แนวทางพฒั นา (ส ๒.๑ ม.๔-๖/๔) »ÃЪҸ»Ô äµÂ áÅСÃÐáÊ¢Í§Ê§Ñ ¤ÁâÅ¡·ËèÕ ¹Ñ ÁÒãˤŒ ÇÒÁ ตง้ั คําถามใหน กั เรียนชว ยกนั ตอบ
ÊÒí ¤ÞÑ ¡ºÑ È¡Ñ ´ÈìÔ Ã¤Õ ÇÒÁ໹š Á¹ÉØ Â àÊÃÀÕ Ò¾ áÅФÇÒÁ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง à·Ò‹ à·ÂÕ Á¡¹Ñ ÍÂÒ‹ §µÍ‹ à¹Í×è § • ภาพท่ีนักเรยี นเหน็ เปน การทาํ กิจกรรม
ทเี่ กีย่ วกับอะไร
■ ความหมายและความสาำ คญั ของสิทธมิ นุษยชน ¹Í¡¨Ò¡¹Ñé¹ »ÃЪҪ¹ªÒÇä·ÂÂѧ໚¹¼ŒÙ·èÕÁÕ (แนวตอบ เปนภาพการรวมตวั กันเพอื่ รณรงค
■ แนวคิดและหลกั การของสทิ ธิมนุษยชน ¤ÇÒÁâͺ͌ÍÁÍÒÃÕ áÅÐãËŒ¡ÒõŒÍ¹ÃѺªÒǵ‹Ò§ªÒµÔ เกยี่ วกับการสงเสริม ปกปอ ง และแกไข
■ ความเป็นมาและสาระสำาคัญของปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ¼ÙŒÁÒàÂ×͹໚¹Í‹ҧ´Õ ãËŒÊÔ·¸ÔáÅÐàÊÃÕÀҾ㹡Òà ปญหาดานสทิ ธมิ นุษยชน ซง่ึ เปน สิ่งท่คี น
´íÒà¹Ô¹ªÇÕ µÔ áµÍ‹ ÂÒ‹ §äáµç ÒÁ»ÃÐà·Èä·Â¡çÂѧÁ»Õ ˜ÞËÒ ในสงั คมควรใหความสําคญั และปฏิบัตติ าม
แหง่ สหประชาชาติ ·Ò§´ŒÒ¹ÊÔ·¸ÔÁ¹ØÉª¹·èըеŒÍ§´íÒà¹Ô¹¡ÒÃá¡Œä¢ à¾è×Í เพอ่ื ลดความรนุ แรงและอยูรวมกันไดอ ยาง
■ บทบญั ญัติของรฐั ธรรมนญู เก่ียวกับสิทธิมนุษยชน ¡ÒÃÍ‹ÃÙ Ç‹ Á¡Ñ¹ÍÂÒ‹ §àÊÁÍÀҤ෋Òà·ÂÕ Á¡Ñ¹ สงบสุข)
■ บทบาทขององคก์ รระหวา่ งประเทศในเวทีโลกที่มผี ลตอ่ ประเทศไทย
■ ปญั หาสิทธิมนษุ ยชนในประเทศและแนวทางแก้ไขปญั หาและพัฒนา
■ ข้อตกลงระหวา่ งประเทศ

เกร็ดแนะครู

การเรยี นรูเ รื่องสทิ ธมิ นษุ ยชน มีเปา หมายใหน กั เรียนไดทราบถึงความหมาย
ความสําคัญ และแนวทางของสิทธมิ นษุ ยชน อีกทั้งมีความรทู ่เี กยี่ วกับกฎหมาย
ทัง้ ภายในประเทศและขอ ตกลงระหวา งประเทศดา นสิทธมิ นษุ ยชน ซงึ่ นักเรียน
สามารถนําความรูทไ่ี ดไ ปประเมนิ สถานการณสทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศไทย
พรอมท้งั เสนอแนวทางการแกไข เพอ่ื พัฒนาสทิ ธิมนุษยชนได ซ่งึ ครคู วรจัดการเรยี นรู
โดยใหน ักเรยี นทาํ กิจกรรมตอไปนี้

• สบื คน ขอมลู เก่ียวกับสทิ ธิมนษุ ยชนจากแหลง การเรยี นรตู า งๆ
• ตดิ ตามขาวสารขอมลู จากสอื่ มวลชนในประเดน็ ทเี่ กย่ี วกบั การละเมิด
สทิ ธิมนษุ ยชน
• จัดทําสื่อใหความรู เรื่อง สิทธมิ นุษยชน และแนวทางการพัฒนาสทิ ธิมนุษยชน
ในสงั คมไทย
• จัดทําสมดุ รวมขาวเกย่ี วกบั การสงเสรมิ สทิ ธิมนษุ ยชนทั้งภายในประเทศ
และภายนอกประเทศ

ค่มู อื ครู 71

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครนู ําสนทนาเกยี่ วกบั สิทธิมนษุ ยชนที่นกั เรียน
พงึ มี แลวใหน ักเรยี นบอกความหมายและความ
สําคัญของสทิ ธมิ นุษยชน ๑. ความหมายและความสÓคญั ของสิทธิมนษุ ยชน

(แนวตอบ สทิ ธิมนุษยชน หมายถงึ ศักดิ์ศรี สิทธิมนพุษระยรชานชวบ่าัญญหมตั ิคายณถะึงกรศรมักกดา์ิศรรสีคทิ วธาิมมนเปษุ ็นยมชนนุษแหย์่ง1ชสาิทตธิ ิ พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดใ้ ห้ความหมายของ
ความเปน มนุษย สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค เสรีภาพ และความเสมอภาคของ
ของบุคคลทไี่ ดร บั การรับรองหรอื คุมครองตาม
รฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทย กฎหมายไทย บคุ คลทไี่ ดร้ บั การรบั รองหรอื คมุ้ ครองตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย หรอื ตามกฎหมายไทย
หรือตามสนธสิ ัญญาที่ประเทศไทยมีพันธกรณี
ทีจ่ ะตองปฏบิ ัตติ าม) หรอื ตามสนธสิ ัญญาทีป่ ระเทศไทยมีพันธกรณีทจี่ ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ าม
ดังน้ัน จึงอาจกล่าวได้ว่าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติจะต้องส่งเสริมและคุ้มครอง

สิทธิมนุษยชนของคนไทยด้วยการเสนอแนะให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่ใช้

สา� รวจคน้ หา Explore อยู่ในประเทศไทยให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญซึ่งมีขอบข่ายกว้างขวางมาก
เพราะสิทธิมนุษยชนท่ีประเทศไทยจะต้องส่งเสริมและคุ้มครองน้ัน ไม่ได้จ�ากัดเฉพาะศักด์ิศรี

1. ครใู หน กั เรียนสืบคน ขอมูลเกยี่ วกบั ความหมาย ความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคที่บุคคลได้รับการรับรอง และคุ้มครอง
ความสาํ คญั แนวคิด และหลกั การของสทิ ธิ ไตวา้ใมนรปัฐฏธิญรรญมานสูญากแลลวะ่ากดฎ้วหยมสาิทยธไิมทนยุษเทยช่านน้ันแหแ่งสตห่ยปังรรวะชมาถชึงาสติทิ ธพิม.นศุษ. ๒ยช๔น๙ท๑่ีส2(หคป.ศร.ะช๑า๙ช๔าต๘ิร)ับดรอ้วยง
มนษุ ยชน รวมถึงความเปน มาและสาระสาํ คญั เน่ืองจากปฏิญญาสากลดังกล่าวเป็นเสมือนหน่ึงกติกาสากลที่ไทยจ�าเป็นจะต้องให้ความร่วมมือ
ของปฏิญญาสากลวา ดว ยสิทธมิ นุษยชน สนับสนุน
แหง สหประชาชาติ
2. ครูใหนกั เรียนติดตามขาวสารจากสอ่ื ตา งๆ ดว้ ยเหตนุ สี้ ทิ ธมิ นษุ ยชนจงึ มคี วามสา� คญั ตอ่ ประเทศและโลกอยา่ งมาก ทงั้ นเี้ พราะหากรฐั บาล
เชน วทิ ยุ โทรทศั น หนังสือพมิ พ เปนตน
ในประเดน็ ทเ่ี กยี่ วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชน เพอ่ื นาํ ขอ มลู ของทุกประเทศในโลกปฏิบัติต่อประชาชนของตนตามวิถีทางประชาธิปไตย และต่อชาวต่างชาติ
มาอภิปรายรวมกันในชั้นเรยี น
ทีห่ นรี อ้ นมาพงึ่ เย็น หรอื ทา� มาหากนิ ในประเทศ อย่างมมี นษุ ยธรรมตามสมควรแล้ว ความขัดแย้ง
ระหว่างรฐั บาลกับประชาชนในประเทศกจ็ ะไมเ่ กิดขน้ึ และในทา� นองเดียวกนั ความขัดแย้งระหว่าง

อธบิ ายความรู้ Explain ชาตกิ จ็ ะไมเ่ กดิ ขนึ้ เชน่ กนั ตวั อยา่ งเชน่ ถา้ รฐั บาลยอมใหป้ ระชาชนของตนมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการ
ประชาธิปไตย เช่น ชมุ นุมโดยสงบและปราศจากอาวธุ เพ่ือเรยี กรอ้ งให้รัฐบาลกระท�า หรอื ละเว้น

1. ครูใหนกั เรียนอธบิ ายประวัติความเปน มา การกระทา� บางอยา่ งได้ หรอื ประชาชนสามารถไปใชส้ ทิ ธเิ ลอื กตง้ั ผแู้ ทนไปออกกฎหมายและบรหิ าร
และจุดเริม่ ตน ของของสิทธิมนษุ ยชนใน ประเทศแทนตนได้ เปน็ ตน้ ความขดั แย้งระหวา่ งรฐั บาลกบั ประชาชนในประเทศนนั้ ก็จะไมเ่ กดิ ขน้ึ
ประเทศไทย พรอมยกตวั อยางกฎหมาย และประเทศกจ็ ะสามารถพัฒนาได้อยา่ งรวดเรว็ มากย่งิ ขึ้น
ที่วาดว ยเร่ืองสทิ ธมิ นุษยชน แลว เขยี นอธิบาย
ลงในสมดุ โดยบันทกึ วา เปน กฎหมาย ในทา� นองเดยี วกนั ถา้ แตล่ ะประเทศปฏบิ ตั ติ อ่ ชาวตา่ งชาตทิ ม่ี าทอ่ งเทย่ี ว หรอื เขา้ มาประกอบ
สทิ ธมิ นษุ ยชนดา นใด และสง ผลดีตอ คนใน อาชีพในประเทศของตนโดยไมเ่ ลอื กปฏิบัตมิ ากเกินไปความขัดแย้งระหวา่ งประเทศกจ็ ะไม่เกดิ ขึน้
สงั คมไทยอยางไร เช่น ประเทศไทยของเราปฏิบัติต่อชาวต่างชาติจากประเทศเพ่ือนบ้านท่ีเข้ามาท�ามาหากินใน

2. ครูใหน กั เรยี นยกตัวอยางการปฏิบัติของ ประเทศไทยโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีการเลือกปฏิบัติจึงท�าให้ประเทศไทยของเราไม่มี

นกั เรียนท่ถี ือไดว าสอดคลอ งกบั หลักสทิ ธิ ความขัดแย้งกับประเทศเพ่ือนบ้าน และได้รับการยกย่องจากองค์การสหประชาชาติว่าไทยเป็น
มนษุ ยชน พรอ มท้ังบอกผลดที ี่เกิดข้ึนจากการ
ประเทศทยี่ ึดหลักมนษุ ยธรรมอยา่ งมากมาโดยตลอด

72

ปฏิบตั ิ โดยใหน กั เรียนเขียนอธบิ ายลงใน
สมดุ บันทกึ แลว นําสง ครูผูสอน
ขอ สอบ O-NET
นักเรยี นควรรู ขอสอบป ’52 ออกเกยี่ วกับความหมายของคาํ วา สทิ ธมิ นุษยชน

1 ศักดิศ์ รคี วามเปนมนุษย มาจากคําวา Human Dignity หมายถงึ เกียรตภิ มู ทิ ่ี ขอ ใดอยใู นขอบขายความหมายของสิทธิมนุษยชน ตามพระราช-
ทุกคนมีเพราะเกดิ มาเปนมนุษย ซ่งึ ทุกคนจะตองเคารพซึง่ กันและกนั หามดูหมิ่น บญั ญัติคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหงชาติ พ.ศ. 2542
ลบหลู หรอื ทําใหเ สอ่ื มเสียความเปนมนุษย
2 ปฎญิ ญาสากลวาดวยสิทธิมนษุ ยชนแหง สหประชาชาติ พ.ศ. 2491 เปนขอ ตกลง 1. สิทธขิ องบุคคล
ดา นสิทธิมนุษยชนที่ไดร ับการรับรองและประกาศใชโ ดยขอมตสิ มชั ชาสหประชาชาตทิ ี่ 2. หนา ท่ีของบคุ คล
217 เอ (lll) เมอื่ วันท่ี 10 ธันวาคม พ.ศ. 2491 มีจุดมงุ หมายเพอ่ื ใหป ระเทศสมาชิกได 3. เสรีภาพของบคุ คล
นาํ ไปเปน แนวทางในการคมุ ครองดูแลสทิ ธิและเสรีภาพของพลเมอื งในประเทศของตน 4. ความเสมอภาคของบุคคล
โดยมีการรบั รองสิทธิมนษุ ยชนในดา นตางๆ ไวจ ํานวน 30 ขอ
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1., 3. และ 4. พระราชบญั ญัติ

คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง ชาติ พ.ศ. 2542 ไดใ หค วามหมาย
ของสทิ ธมิ นษุ ยชนวา หมายถงึ ศกั ดศ์ิ รคี วามเปน มนษุ ย สทิ ธิ เสรภี าพ
และความเสมอภาคของบคุ คลที่ไดร ับการรบั รองหรอื คมุ ครองตาม
มมุ IT รฐั ธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย หรอื ตามกฎหมายไทย หรอื ตาม
สนธสิ ญั ญาทปี่ ระเทศไทยมีพันธกรณีที่จะตอ งปฏิบัติตาม
ศกึ ษาคน ควา ขอ มูลเกย่ี วกับปฎิญญาสากลวา ดว ยสิทธิมนุษยชนแหง สหประชาชาติ
พ.ศ. 2491 ไดท ่ี http://www.mfa.go.th/humanrights/images/stories/book.pdf

72 ค่มู อื ครู

กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

แม้ว่าในบางครั้งประเทศเพื่อนบ้านอาจเกิดความไม่พอใจท่ีประเทศไทยอนุญาตให้กลุ่มคน 1. ครูตั้งคําถามใหน กั เรียนชวยกนั ตอบ
หรือชนกลุ่มน้อยที่ต่อต้านรัฐบาลเข้ามาพ�านักอาศัยอยู่ในค่ายผู้อพยพของไทย แต่ทางไทยก็ได้ • คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง ชาติ
ช้ีแจงว่าจ�าเป็นต้องปฏิบัติตามมติและค�าร้องขอของ มีหนา ทส่ี งเสรมิ และคุม ครองสิทธิมนุษยชน
ส�านักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ใน ของคนไทยใหเปน ไปตามกฎหมายใด
ฐานะท่ไี ทยเป็นภาคสี มาชิก (แนวตอบ คณะกรรมการสิทธมิ นุษยชน
แหงชาติมหี นาท่ีสง เสริมและคุม ครอง
อยา่ งไรกต็ าม บางครงั้ ประเทศไทยกไ็ มส่ ามารถ สิทธมิ นุษยชนของคนไทยใหเ ปนไปตาม
จะท�าตามค�าร้องขอจากองค์กรหรือประเทศต่างๆ ได้ รฐั ธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย
ทุกเร่ือง เพราะการร้องขอบางเรื่องอาจจะน�ามาซึ่ง พุทธศกั ราช 2550 และปฏญิ ญาสากลวา ดวย
ปญั หาความขดั แยง้ ภายในประเทศได้ จงึ สะทอ้ นใหเ้ หน็ สทิ ธิมนุษยชนแหงสหประชาชาติ
วา่ การดา� เนนิ งานดา้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนของไทยตง้ั อยบู่ น ซง่ึ สมัชชาใหญข ององคการสหประชาชาติ
พน้ื ฐานของหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชนโดยแท้ เพราะนอกจาก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีคนหลากหลายสัญชาติ ไดประกาศไวเมอ่ื วันที่ 10 ธันวาคม
จะใหค้ วามชว่ ยเหลอื พลเมอื งทอี่ พยพลภ้ี ยั จากประเทศ อาศยั อยรู่ ว่ มกนั ดว้ ยความสงบสขุ โดยไมม่ กี ารเลอื กปฏบิ ตั ิ พ.ศ. 2491)
อ่นื ด้วยความเอาใจใส่แล้ว ยงั ค�านึงถึงความปลอดภัยและความสงบสุขของพลเมอื งในชาติอกี ด้วย • สทิ ธมิ นุษยชนมีความสําคัญตอ พลเมอื ง
ดังนั้น การปฏิบัติตนตามหลักสิทธิมนุษยชน และการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานหรือองค์กร ของประเทศตา งๆ อยางไร
ทีท่ �างานด้านสิทธิมนุษยชน จึงเป็นส่งิ ทพี่ ลเมืองไทยพงึ ปฏิบัติ (แนวตอบ การท่ปี ระเทศตา งๆ มกี ฎหมาย
คมุ ครองสิทธมิ นุษยชนของพลเมอื งภายใน
๒. แนวคิดและหลกั การของสทิ ธิมนษุ ยชน ประเทศ ทาํ ใหป ระชาชนไมถูกละเมิด
ศกั ด์ศิ รคี วามเปนมนษุ ย ไมถ กู ลบหลูดหู ม่ิน
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นองค์กรในการท�าหน้าท่ีดูแลด้านสิทธิมนุษยชน เหยยี ดหยาม ไมถกู องคก รของรัฐใชอ ํานาจ
ในประเทศไทย โดยพระราชบัญญตั คิ ณะกรรมการสิทธมิ นุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ไดก้ �าหนด กดขขี่ มเหง และละเมิดศกั ดิ์ศรีความ
ให้มีหน้าที่ในการส่งเสริมการเคารพ และการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนทั้งในระดับประเทศ เปน มนุษย)
สแทิละธรมิ ะนหษุวย่างชปนระหเรทอื ศทไี่ดมแู เ่ ลปแน็ ลไะปตตราวมจพสนัอธบกกราณรกรี 1ระะหทวา�า่ งหปรรอืะเกทาศรลเกะยี่เลวยกกบั าสรทิ กธรมิะทน�าษุ ยอชนั นเปทน็ปี่ กระาเรทลศะไเมทดิย
เข้าร่วมเป็นภาคี 2. ครใู หนกั เรยี นจดั ทําผังความคดิ ทแ่ี สดงถงึ
ความสาํ คัญของสิทธิมนษุ ยชน โดยใหแยก
นอกจากนน้ั ยงั มกี ารปรบั ปรงุ และพฒั นากฎหมายในสว่ นทเี่ กยี่ วกบั การคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน ออกเปนดานตางๆ จากนั้นนําผังความคิด
ภใหา้มคคีชี วน้ั าแมนกวา้ หวนหา้ นขา้ องแอลงะคมก์ คี าวราสมหเปปรน็ ะสชาากชลาตมทิากร่ี บัขร้ึนองสหว่ ลนกั หกนาึง่รมคามุ้ จคารกอกงาสรทิ ทธีป่ มิ รนะษุเทยศชไนทยทเส่ี ปมน็ ชั ปชราะใ2เหทญศ่ มารว มกนั อภิปรายในชน้ั เรยี น
ขององคก์ ารสหประชาชาตไิ ดป้ ระกาศไวใ้ น “ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ สหประชาชาต”ิ
ต้ังแต่เมื่อวันท่ี ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ เพื่อเป็นแนวทางให้ประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทาง 3. ครูใหน กั เรยี นแบงกลมุ 3-5 กลุม แลว รวมกนั
ในการปฏบิ ตั ิตอ่ พลเมืองของตนและชาวตา่ งชาติท่อี าศยั อยู่ในประเทศของตน อภิปรายถึงแนวคิดและหลกั การสําคัญของ
สิทธมิ นุษยชน วา มสี าระสาํ คญั อยา งไร
จากนั้นใหแตล ะกลมุ สรปุ ผลการอภิปราย
แลว สงตัวแทนออกมารายงานหนาช้นั

73

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู

การกระทําในขอ ใดสอดคลอ งกบั หลกั สทิ ธมิ นุษยชน 1 พันธกรณี ตามพจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ไดให
1. กลุมผชู มุ นุมบกุ ทําลายสาธารณสมบัติเพอ่ื ประทวงรฐั บาล ความหมายไวว า เหตแุ วดลอมท่ีเปนไปตามขอ ผูกมดั ดงั นน้ั พันธกรณดี าน
2. ส่ือมวลชนนําเสนอขาวไดอ ยางอิสระไรก ารแทรกแซงจากรัฐบาล สทิ ธิมนษุ ยชนก็คือ สนธิสัญญาทเ่ี กยี่ วกับสิทธมิ นษุ ยชนทม่ี ีรฐั มากกวา สองรัฐขนึ้ ไปเขา
3. ชาวบา นในชมุ ชนรวมตวั กนั ขบั ไลบ คุ คลทม่ี สี ญั ชาตแิ ตกตา งจากตน เปน ภาคสี นธสิ ัญญา และเมอื่ เขาเปน ภาคีแลวตอ งปฏบิ ัตใิ หสอดคลอ งกับสนธสิ ญั ญา
4. ผูมีความคิดเหน็ ทางการเมอื งตา งกันเกดิ ความขัดแยง 2 สมชั ชา คอื การประชมุ เพือ่ ประโยชนอ ยางใดอยา งหนึง่ โดยเฉพาะ เชน
การประชมุ สมัชชาใหญองคการสหประชาชาติ การประชมุ สมชั ชารฐั สภาอาเซียน
และใชความรนุ แรงตอกนั การประชมุ สมชั ชานักจดั รายการวทิ ยุโทรทัศน หนงั สือพิมพแ หงประเทศไทย เปน ตน

วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะถอื เปนสทิ ธิเสรภี าพท่มี นษุ ย มุม IT

พงึ มใี นการสอื่ สาร เผยแพรข อ มลู ขา วสารทเ่ี ปน จรงิ และรบั รขู า วสาร ศกึ ษาคน ควาขอ มลู เพิม่ เตมิ เกี่ยวกบั องคก ารสหประชาชาติ ไดที่
จากสอ่ื ตา งๆ โดยปราศจากการแทรกแซงของอาํ นาจรฐั สว นการ http://www.un.or.th/thai/index.html
กระทาํ ในขอ อ่นื ๆ ถือวาขัดกับหลักสิทธมิ นุษยชนท้ังสน้ิ เน่อื งจาก
เปนการกระทาํ ท่ใี ชค วามรนุ แรงในการแกปญ หาและสรา งความ คมู่ ือครู
เสียหาย ท้ังตอ ทรพั ยสินและชีวิต อีกท้งั เปน การกระทําผิดกฎหมาย
บานเมืองดวย

73

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หนักเรยี นอธบิ ายความเปนมาของปฏญิ ญา ó. ความเปนš มาและสาระสÓคัญของป¯ิญญาสากล
สากลวา ดว ยสิทธิมนษุ ยชนแหงสหประชาชาติ ว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
โดยใหจ ดั ทาํ ในรปู แบบของเสน เวลา (TimeLine)
โดยใหมคี าํ อธบิ ายและภาพประกอบทีส่ วยงาม ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่ง
(แนวตอบ ปฏญิ ญาสากลวาดวยสทิ ธมิ นุษยชน สหประชาชาติเป็นข้อตกลงท่ีองค์การสหประชาชาติ
แหง สหประชาชาติ เกดิ ข้นึ หลังจากสงครามโลก ไดก้ า� หนดขน้ึ เพอื่ ใหป้ ระเทศสมาชกิ ไดใ้ ชเ้ ปน็ แนวทาง
ครัง้ ที่ 2 สิน้ สุดลง เหตุการณครง้ั นีน้ ํามาซ่ึง ในการคุ้มครองดูแลสิทธิและเสรีภาพของพลเมืองใน
ความเสียหายครัง้ ย่ิงใหญท้ังตอ ชีวิตมนุษยและ ประเทศของตน
ทรพั ยส ินจาํ นวนมหาศาล ทาํ ใหนานาประเทศ
ตระหนักถึงการปอ งกันมใิ หเกดิ เหตุการณ ๓.๑ ความเปน มา
อยางนขี้ ึ้นอีก จงึ ไดมกี ารจัดตัง้ องคก าร
สหประชาชาติขึน้ เพ่ือดแู ลและสง เสรมิ สิทธิ แนวความคิดเกี่ยวกับปฏิญญาสากลว่าด้วย
มนุษยชนทว่ั โลก และในวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเกิดข้ึนหลังจาก
2491 สมชั ชาใหญแหง องคก ารสหประชาชาติ ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ สงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุดลง เนื่องจากเหตุการณ์
ไดมีมติยอมรับและประกาศใชป ฏญิ ญาสากล ไดร้ บั รองสทิ ธขิ องบคุ คลทจ่ี ะสรา้ งครอบครวั ของตนเอง
วาดวยสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง ชาติ) โดยจะตอ้ งได้รับความคุ้มครองจากสงั คมและรฐั
ดังกล่าวได้น�ามาซึ่งความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน 1
2. ครูตัง้ ประเด็นคาํ ถามใหนักเรยี นชวยกนั ตอบวา ของประเทศคสู่ งครามอยา่ งมหาศาล โดยสว่ นใหญเ่ ปน็ ผลมาจากความทารณุ โหดรา้ ยของฝา่ ยอกั ษะ
• การประกาศใชปฏญิ ญาสากลวาดว ย ซง่ึ นา� โดยอดอรฟ์ ฮติ เลอร์ ผนู้ า� ประเทศเยอรมนี และ เบนโิ ต มสุ โสลนิ ี ผนู้ า� ประเทศอติ าลี จนทา� ให้
สทิ ธมิ นษุ ยชนแหงสหประชาชาติ กอ ใหเ กิด ประเทศตา่ งๆ ท่ัวโลกหว่นั เกรงว่าเหตุการณใ์ นลกั ษณะดังกล่าวจะเกดิ ขนึ้ อีกในอนาคต
ผลดีอยา งไร ดงั น้ัน ภายหลังจากท่ไี ด้มกี ารจดั ต้งั องค์การสหประชาชาตขิ ึน้ จงึ ไดม้ ีการพยายามผลกั ดัน
(แนวตอบ การประกาศใชปฏญิ ญาสากลวาดว ย ใหอ้ งคก์ ารสหประชาชาตเิ รง่ กา� หนดแนวทางการคมุ้ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชนขนึ้ มาคมุ้ ครองมนษุ ยชาติ
สิทธิมนษุ ยชนแหง สหประชาชาติ ชวยปองกัน จนกระทงั่ เมอื่ วนั ท่ี ๑๐ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ (ค.ศ. ๑๙๔๘) สมชั ชาใหญแ่ หง่ สหประชาชาติ
มิใหมนษุ ยถูกละเมิดศักดิ์ศรีของความเปน จึงได้มีมติยอมรับและประกาศใช้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติขึ้น
มนุษย ไมถูกบังคบั กักขงั หรือทรมาน มีสทิ ธิ อย่างเปกน็ตทิกาางรกะหารวค่ารง้ังปแรระกเทแลศะวต่าาดม้วมยาสดิทว้ ธยิพกลตเกิ มาือรงะแหลวะา่ สงปิทรธะิทเทางศกอากี รเ๒มือฉงบ2ับมดีผ้วลยบกังนั คับอใันชไ้เดมแ้ ่ือกว่ ันท่ี
เสรภี าพ และความเสมอภาคเทา เทียมกัน ๒๓ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๑๙ (ค.ศ. ๑๙๗๖)
ในฐานะท่เี ปนมนุษย รวมถึงไดร ับความ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม 3มีผลบังคับใช้เม่ือ
คุม ครองตามกฎหมายดว ย) วนั ที่ ๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๙ (ค.ศ. ๑๙๗๖)
ต่อมาในเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้มีมติให้จัดต้ัง
3. ครใู หนักเรียนศึกษาบทบาทดานสิทธมิ นุษยชน ต�าแหน่งข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติขึ้น เพื่อดูแลและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
ขององคการสหประชาชาติ โดยใหย กตัวอยา ง รวมท้ังตรวจสอบการละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชนในประเทศตา่ งๆ โดยผทู้ ่ดี า� รงตา� แหน่งเป็นคนแรก คือ
การดาํ เนนิ งานและผลงานที่เกดิ ขนึ้ ทางดาน
สิทธมิ นุษยชน แลวนํามาอภปิ รายรว มกนั นายโฮเซ อยาสา ลาสโซ ชาวเอกวาดอร์
ในชั้นเรียน
7๔

นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
แนวความคดิ ปฏิญญาสากลวาดว ยสิทธิมนษุ ยชนแหงชาตเิ กิดขึน้
1 ฝา ยอกั ษะ กลุมประเทศอนั ประกอบดว ยเยอรมนี อติ าลี และญปี่ ุน ซง่ึ รวมเปน หลงั จากเหตกุ ารณใ ด
กลุม ประเทศรวมรบเพอื่ ทําสงครามกบั กลมุ ประเทศฝา ยสัมพันธมติ รในสงครามโลก 1. สงครามฝน
คร้ังที่ 2 2. สงครามรอ ยป
2 กติการะหวางประเทศวาดวยสทิ ธพิ ลเมืองและสทิ ธทิ างการเมอื ง (International 3. สงครามเกาหลี
Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) เปน สนธสิ ัญญาระหวา ง 4. สงครามโลกคร้ังท่ี 2
ประเทศภายใตกรอบขององคการสหประชาชาติ โดยประเทศไทยไดเขาเปน ภาคี วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะสงครามโลกครง้ั ท่ี 2 ถอื เปน
ของสนธิสัญญานี้ เม่ือวันที่ 29 ตลุ าคม พ.ศ. 2539 สงครามที่มีความรุนแรงและสรา งความเสยี หายอยางมากตอ มวล
3 กตกิ าระหวางประเทศวา ดว ยสิทธทิ างเศรษฐกจิ สงั คม และวัฒนธรรม มนุษยชาติ ภายหลงั ส้ินสุดสงครามโลกครัง้ ที่ 2 จึงมีความพยายาม
(International Convenant on Economic, Social and Cultural Rights : ICESCR) รว มมอื กันกอ ต้ังองคการสหประชาชาติ และไดผ ลักดันใหเ กดิ
สทิ ธทิ างเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม เปน สทิ ธปิ ระเภทหนง่ึ ของสทิ ธิในปฏิญญา ปฏิญญาสากลวา ดวยสิทธมิ นุษยชนแหง ชาติ เพอ่ื ปกปอ งคุม ครอง
สากลวา ดวยสิทธมิ นุษยชนขององคก ารสหประชาชาติ มีผลบังคับใชเ มอื่ วนั ที่ 3 และสงเสรมิ ดา นสทิ ธมิ นุษยชน
มกราคม พ.ศ. 2519 โดยประเทศไทยไดเ ขารว มเปน ภาคีเมื่อวันท่ี 5 กันยายน
พ.ศ. 2542 และมีผลใชบ งั คบั กับประเทศไทยเมือ่ วนั ท่ี 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2542

74 ค่มู อื ครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๓.๒ สาระสาำ คญั 1. ครใู หนกั เรยี นพจิ ารณาปฏญิ ญาสากลวาดวย
สิทธมิ นษุ ยชนแหง สหประชาชาติ แลวเลือก
ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมีวัตถุประสงค์และหลักการทั่วไป ขอ กําหนดทีน่ กั เรียนสนใจ คนละ 5 ขอ นํามา
เก่ียวกับมาตรฐานด้านสิทธิมนุษยชน แต่ไม่มีพันธะผูกพันในแง่ของกฎหมายระหว่างประเทศ อธิบายถึงลักษณะการคุม ครองสทิ ธมิ นุษยชน
ประกอบด้วยการรบั รองสทิ ธมิ นษุ ยชนในดา้ นตา่ งๆ จ�านวน ๓๐ ข้อ ซงึ่ สามารถน�ามาจดั กล่มุ ได้ พรอ มยกกรณีตัวอยา งประกอบ โดยเขียน
เป็น ๔ กลุ่ม คือ สิทธิมนุษยชนเบื้องต้น (ข้อท่ี ๑-๓) สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ลงในกระดาษ A4 แลว นาํ มาแลกเปล่ียน
(ขอ้ ท่ี ๔-๒๓) สทิ ธทิ างเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม (ขอ้ ท่ี ๒๔-๒๗) หนา้ ทแี่ ละความรบั ผดิ ชอบ เรยี นรูก นั ภายในชั้น
ของทุกคนต่อระเบียบสังคม และการรับรองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพพื้นฐานระหว่างประเทศ
(ขอ้ ที่ ๒๘-๓๐) 2. ครใู หนกั เรียนรว มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั ความ
สําคญั และผลดที ีเ่ กดิ ขน้ึ จากการมีปฏิญญา
ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ สากลวาดว ยสิทธิมนษุ ยชนแหงสหประชาชาติ
จากนนั้ สรปุ ผลการอภปิ รายโดยนาํ เสนอ
๑ มนษุ ย์ทง้ั ปวงเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกนั ในศกั ดศิ์ รแี ละสิทธติ ่างๆ ในรปู แบบ PowerPoint แลวสงตวั แทนกลมุ
ออกมารายงานหนา ชัน้
๒ ทุกคนย่อมมสี ิทธแิ ละอสิ รภาพตามท่กี า� หนดไวใ้ นปฏิญญาสากลฯ น้ ี โดยปราศจากการแบ่งแยก
3. ครูใหนกั เรยี นหาขาวทีเ่ ก่ียวกับการละเมิด
ไม่ว่าจะเปน็ เร่อื งใด สิทธิมนษุ ยชนจากหนงั สือพิมพ คนละ 1 ขาว
นาํ ขาวมาติดลงในกระดาษ A4 แลว เขยี นสรปุ
๓ มนษุ ย์ทกุ คนมีสิทธิในการมีชวี ิต เสรีภาพ และความมนั่ คงแหง่ บุคคล ขา ววา เปน การละเมดิ สิทธมิ นุษยชนอยางไร
พรอ มทงั้ วเิ คราะหว า ขดั กบั หลกั การของปฏญิ ญา
๔ บคุ คลจะตกอยู่ในความเป็นทาส หรือสภาวะจา� ยอมไม่ได้ ทง้ั นี้หา้ มการคา้ ทาสทกุ รูปแบบ สากลวา ดว ยสทิ ธมิ นุษยชนแหง สหประชาชาติ
ในขอ ใดบาง แลวนําออกมาอภิปรายหนาชัน้
๕ บุคคลจะถูกกระทา� การทรมาน หรือการลงโทษทโ่ี หดรา้ ย ไร้มนุษยธรรม หรอื ย่�ายศี กั ดศ์ิ รีไมไ่ ด้

๖ ทกุ คนมีสทิ ธทิ จี่ ะได้รับการยอมรับทุกแหง่ หนว่าเปน็ บคุ คลตามกฎหมาย

๗ ทุกคนเสมอภาคกันตามกฎหมายและมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน

โดยปราศจากการเลือกปฏบิ ตั ิ

๘ มนุษย์ทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับการเยียวยาอันมีประสิทธิผลจากศาลต่อการกระท�าอันล่วงละเมิดสิทธิ

ข้ันพนื้ ฐานของตนตามรฐั ธรรมนญู หรือก1ฎหมาย
๙ มบุคนคุษลยจ์ทะุกถคกู นจมบั ีสกิมุท ธกิในักขคังว าหมรเือสเมนอรเภทาศค อต2ยาม่างอเ�าตเภ็มอทใี่ จจไมะ่ไไดด้้รับการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมและเปิดเผย
๑๐

จากศาลทีอ่ สิ ระและไม่ลา� เอยี ง

๑๑ ทุกคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระท�าผิดทางอาญามีสิทธิท่ีจะได้รับการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์จนกว่า

จะพสิ ูจน์ไดว้ ่ามีความผิดตามกฎหมาย

๑๒ บุคคลจะถูกแทรกแซงความเป็นสว่ นตัว ครอบครวั ที่อยู่อาศัย การส่ือสาร หรือจะถูกลบหล่เู กยี รติยศ

และช่อื เสียงไม่ได้

๑๓ ทุกคนมีสิทธิในอิสรภาพแห่งการเคลื่อนย้ายและการอยู่อาศัยภายในพรมแดนของแต่ละรัฐ และมีสิทธิ

ท่จี ะออกนอกประเทศตนเองหรือกลับส่ปู ระเทศของตนได้

75

ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นักเรยี นควรรู

ปฏญิ ญาสากลวา ดว ยสทิ ธิมนุษยชนแหงสหประชาชาตสิ งเสริม 1 เนรเทศ หมายถงึ การขบั ไลหรอื สง ตวั บคุ คลหรอื กลุมบคุ คลท่กี ระทําความผิด
สิทธเิ สรภี าพดานการเมอื งการปกครองอยา งไรบาง ใหออกจากเขตแดน อาณาจกั ร หรือประเทศ โดยหา มกลับเขา มายังอาณาเขตน้นั ๆ
แนวตอบ มีการกาํ หนดสิทธเิ สรีภาพของมนุษยทางดานการเมือง เปน อันขาด เพอื่ มใิ หยอ นกลบั เขามากระทาํ ความผดิ ซํ้าไดอีก
ไวในขอ 4 ถงึ ขอ 23 โดยในแตล ะขอ มีการกลาวถึงสิทธเิ สรภี าพ 2 ความเสมอภาค ตามหลักสทิ ธมิ นุษยชน ความเสมอภาค (Equality) หมายถึง
ของประชาชนทางดานการเมอื ง เชน ความเทา เทียมของมนุษยทุกคนในการไดร ับสิทธิพื้นฐานตามหลกั สิทธิมนษุ ยชน
- ทุกคนมีสิทธทิ จ่ี ะแสวงหาทลี่ ้ีภยั ในประเทศอน่ื จากการประหัต โดยผานการปฏิบตั ติ อ กันระหวา งมนษุ ยตอ มนุษย ดว ยความเคารพตอสิทธิและศักดิศ์ รี
ความเปนมนุษย
ประหารได แตส ทิ ธนิ ี้จะยกข้ึนกลาวอา งจากความผดิ ในประเด็น
การเมอื ง หรอื จากการกระทําอันขัดตอ วตั ถปุ ระสงคแ ละหลักการ มุม IT
ของสหประชาชาตไิ มได
- ทุกคนมสี ิทธิในการชมุ นมุ และการสมาคมโดยสันติ ศกึ ษาคนควา ขอมูลเพมิ่ เติมเกี่ยวกับปฏิญญาสากลวา ดวยสทิ ธิมนุษยชน
- ทุกคนมสี ทิ ธิท่จี ะมีสว นรว มในการปกครองประเทศของตน แหง สหประชาชาติ ไดที่ http://www.mfa.go.th/humanrights/images/stories/
ทั้งทางตรงหรอื ผา นทางผูแทนซ่งึ มาจากการเลอื กตงั้ ได รวมท้ัง
ทุกคนมสี ทิ ธิทจี่ ะเขาถึงบริการสาธารณะในประเทศของตน คู่มอื ครู 75
โดยเสมอภาค เปนตน

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

ครนู ําสนทนากบั นกั เรยี นถงึ สาระสาํ คญั ของ ๑๔ ทุกคนมีสิทธิที่จะแสวงหาที่ล้ีภัยในประเทศอ่ืนจากการประหัตประหารได้ แต่สิทธินี้จะยกข้ึนกล่าวอ้าง
ของปฏญิ ญาสากลวา ดว ยสิทธิมนุษยชนแหง จากความผิดในประเด็นการเมือง หรือจากการกระท�าอันขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของ
สหประชาชาติ จากนนั้ ใหนกั เรยี นเขยี นสรุปสาระ สหประชาชาติไมไ่ ด้
สําคญั ของปฏิญญาลงในสมดุ บันทกึ
๑๕ ทุกคนมสี ทิ ธใิ นการถือสญั ชาตแิ ละสามารถเปลี่ยนแปลงสัญชาตขิ องตนเองได ้
(แนวตอบ ปฏิญญาสากลวา ดว ยสทิ ธิมนุษยชน ๑๖ ครอบครัวเป็นหน่วยธรรมชาติพ้ืนฐานของสังคม เพราะฉะนั้น ย่อมมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครอง
แหงสหประชาชาติ มสี าระสาํ คัญ ดงั น้ี จากสังคมและรัฐ และชายหญิงที่มีอายุครบบริบูรณ์ตามกฎหมายแล้วทุกคน มีสิทธิที่จะสมรสและ
สรา้ งครอบครวั ของตนเองได้
1. มนษุ ยท กุ คนมศี กั ด์ศิ รคี วามเปน มนุษย คือ ๑๗ ทุกคนมสี ทิ ธิทจี่ ะเปน็ เจ้าของทรพั ยส์ นิ ไมว่ ่าจะเป็นทรพั ยส์ ินของตนเอง หรอื ทรัพยส์ นิ ท่ีร่วมกบั ผูอ้ ืน่
มสี ิทธิ เสรภี าพ และความเสมอภาคเทาเทียมกนั ๑๘ ทุกคนมีสิทธิในการเปล่ียนศาสนาหรือความเช่ือ และมีอิสรภาพในการแสดงออกทางศาสนาหรือ
จะถูกทรมานหรอื ทารณุ กรรมไมได ความเช่อื ถอื ของตนในชุมชนหรอื ในพืน้ ทสี่ าธารณะ
๑๙ ทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น แสวงหาข้อมูลข่าวสาร และสามารถรับส่งข้อคิดเห็นต่างๆ
2. สิทธทิ ี่จะเปน บุคคลตามกฎหมาย คือ ไดร ับ ผา่ นสือ่ ใด ๆ ก็ได้ โดยปราศจากการแทรกแซง
การคมุ ครองตามกฎหมาย และมีสิทธไิ ดร บั ความ ๒๐ ทกุ คนมสี ิทธใิ นการชุมนุมและการสมาคมโดยสันติ
เปนธรรมจากการพจิ ารณาคดี ๒๑ ทุกคนมสี ทิ ธทิ ่ีจะมสี ่วนรว่ มในการปกครองประเทศของตน ทง้ั โดยทางตรงหรือผา่ นทางผแู้ ทนซง่ึ มาจาก

3. บคุ คลมีเสรีภาพในความเปน อยู ครอบครัว การเลอื กต้งั ได้ รวมทง้ั ทุกคนมสี ทิ ธทิ ่ีจะเข้าถงึ บริการสาธารณะในประเทศของตนโดยเสมอภาค
เคหสถาน การสงขา วสาร ๒๒ สมาชิกทุกคนของสังคมมีสิทธิในการเข้าถึงหลักประกันทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม
๒๓ ทุกคนมีสิทธิในการท�างาน สามารถเลือกงานได้โดยอิสระและมีการคุ้มครองเม่ือเกิดการว่างงาน
4. บุคคลมสี ิทธิและเสรีภาพในการเคล่ือนยาย รวมท้ังทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับค่าจ้างท่ีเท่าเทียมกัน ส�าหรับงานที่เท่าเทียมกันโดยปราศจากการเลือก
ถน่ิ ท่อี ยภู ายในขอบเขตของรฐั มสี ิทธิเดนิ ทางเขา ปฏบิ ตั ิใดๆ ทงั้ นที้ ุกคนมสี ทิ ธทิ ่ีจะจดั ตั้งหรือเขา้ ร่วมสหภาพแรงงาน
และออกประเทศของตน และมีสิทธิลภี้ ยั ไปยัง ๒๔ ทุกคนมีสิทธใิ นการพักผ่อนและการผ่อนคลายยามว่าง โดยวันพกั ผอ่ นดงั กล่าวจะต้องไดร้ ับคา่ จา้ ง
ประเทศอืน่ ๒๕ ทกุ คนมสี ทิ ธใิ นมาตรฐานการครองชพี เชน่ อาหาร เครอ่ื งนงุ่ หม่ ทอ่ี ยอู่ าศยั การดแู ลรกั ษาทางการแพทย ์

5. บุคคลมสี ิทธใิ นการถือสัญชาติ จดั ต้งั และบรกิ ารสังคมท่จี า� เป็นทเ่ี พียงพอสา� หรบั สุขภาพและความอยู่ดขี องตนเองและครอบครัว
ครอบครวั โดยปราศจากขอ จาํ กัดเกี่ยวกบั เชอื้ ชาติ ๒๖ ทกุ คนมีสทิ ธิรับการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐานจากรัฐ โดยไม่เสียคา่ ใช้จา่ ยใดๆ ท้ังสนิ้
สญั ชาติ และศาสนา และมสี ทิ ธิการเปนเจาของ ๒๗ ทุกคนมีสิทธิท่ีจะเข้าร่วมในวัฒนธรรมของชุมชนอย่างอิสระ และทุกคนมีสิทธิท่ีจะได้รับการคุ้มครอง
ทรพั ยส นิ ผลประโยชนอ์ ันเกิดจากประดษิ ฐกรรมทางวทิ ยาศาสตร์ วรรณกรรม และศลิ ปกรรมซึ่งตนเป็นผสู้ รา้ งขึน้
๒๘ ทุกคนมสี ทิ ธจิ ดั ระเบยี บทางสังคมและระหวา่ งประเทศ
6. บุคคลมเี สรีภาพในการเปลีย่ นศาสนาและการ ๒๙ การใชส้ ทิ ธแิ ละอสิ รภาพของทกุ คนจะตอ้ งอยภู่ ายใตข้ อ้ จา� กดั เพยี งเทา่ ทมี่ กี า� หนดไวต้ ามกฎหมายเทา่ นนั้
ปฏิบตั ิศาสนกจิ ทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ตลอดจนสิทธิและอิสรภาพเหล่าน้ีจะต้องไม่ขัดต่อวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติไม่ว่า
ในกรณใี ด
7. บุคคลมเี สรภี าพในการชมุ นมุ และการสมาคม ๓๐ ไม่มีบทใดในปฏิญญาน้ีท่ีอาจตีความได้ว่าเป็นการให้สิทธิใดแก่รัฐ กลุ่มคน หรือบุคคลใดใน
โดยสงบ) การด�าเนินกจิ กรรมใด หรอื กระทา� การอันมงุ่ ต่อการท�าลายสทิ ธแิ ละอสิ รภาพทีก่ �าหนดไว้ ณ ที่นี้

76

เกร็ดแนะครู ขอ สอบ O-NET
ขอ สอบป ’53 ออกเกี่ยวกับพฤติกรรมทสี่ ง เสรมิ สทิ ธิมนษุ ยชน
ครูควรอธบิ ายเพ่มิ เตมิ เก่ยี วกบั สทิ ธใิ นการรับการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานจากรัฐ พฤติกรรมของบคุ คลในลกั ษณะใดมีลักษณะเปน การสง เสรมิ
โดยไมเสียคา ใชจ า ยวา รฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 มาตรา 49 สิทธมิ นษุ ยชน
ระบุไวว า บุคคลยอมมีสิทธิเสมอกนั ในการรับการศึกษาไมน อยกวา สบิ สองป 1. สมพงษเคารพเหตผุ ลของผอู ่ืน
ท่รี ัฐจะตองจดั ใหอยางทวั่ ถึงและมคี ณุ ภาพ โดยไมเ ก็บคาใชจาย 2. สมพลยึดมั่นในเหตผุ ลท่ถี กู ตอ ง
3. สมพรใชเหตุผลมากกวา อารมณ
บรู ณาการอาเซียน 4. สมพิศคํานงึ ถงึ เหตุผลกอ นตดั สินใจ
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะทกุ คนมสี ทิ ธิเสรีภาพทาง
ครูเพ่ิมเตมิ ขอมลู วา นอกจากการศึกษาปฏญิ ญาสากลวา ดว ยสิทธิมนษุ ยชน ความคดิ ดงั นน้ั ในสงั คมยอ มมคี นทมี่ คี วามคดิ ความเชอื่ ทเ่ี หมอื นกนั
แหง สหประชาชาตแิ ลว นักเรยี นควรศกึ ษาหาความรปู ฏิญญาอ่ืนๆ โดยเฉพาะอยางยง่ิ และแตกตา งกนั ออกไป ซ่งึ จะตอ งรับฟง และเคารพในความคดิ เห็น
ปฏิญญาอาเซียน ซง่ึ ประกอบดวยวัตถปุ ระสงคหลกั ของอาเซยี นทัง้ 7 ขอ เพอื่ ให ทแี่ ตกตา ง คนในสงั คมจงึ จะอยูรว มกนั ไดอยา งสนั ตสิ ุข และถอื วา
ทราบถึงจดุ มุงหมายของการกอ ตัง้ ประชาคมอาเซียน และชวยใหน ักเรยี นมแี นวทาง เปนการสง เสรมิ สิทธมิ นุษยชน
ปฏบิ ตั ใิ นการเปน พลเมืองอาเซียนตอ ไป

76 คูม่ ือครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate

ขยายความเขา้ ใจ Expand

กล่าวได้ว่าปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ถือเป็นเอกสารทาง 1. ครใู หน กั เรียนสบื คน ขาวเก่ยี วกบั การละเมดิ
สิทธมิ นษุ ยชนของไทยหรอื ของประเทศตา งๆ
ประวัติศาสตร์ท่ีช่วยในการวางรากฐานด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศฉบับแรกของโลก และ วิเคราะหสาเหตุ สถานการณ ผลกระทบ
การปอ งกนั และแกป ญ หาของหนว ยงานตางๆ
ปัจจุบันประชาคมโลกต่างยอมรับให้ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติอยู่ใน หรอื ของนานาประเทศ และนกั เรยี นเสนอ
แนะแนวทางการปองกันและแกไ ขปญ หาตาม
ฐานะแม่บทของกฎหมายสิทธิมนษุ ยชนทัง้ มวล แนวทางของนักเรยี น

นอกจากน้ี กฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนในปัจจุบันก็ล้วนมีพื้นฐานและได้ 2. ครใู หนกั เรียนเขียนแนวทางการสง เสริม
สทิ ธิมนษุ ยชนภายในประเทศ วา มวี ิธีการ
รับการพัฒนามาจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติฉบับนี้ทั้งส้ิน และ อยา งไรบา งทจี่ ะชว ยปลกู ฝง ใหค นในสงั คมไทย
ตระหนักถงึ ความสาํ คญั ของการปฏิบตั ติ นตาม
กฎหมายระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนเหล่าน้ันก็ได้เป็นพื้นฐานส�าหรับการพัฒนากฎหมาย หลักสิทธิมนุษยชน

ภายในประเทศของประเทศต่างๆ เกือบทั่วโลก เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของ

ประชาชนในประเทศของตน รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะเม่ือมีการตรากฎหมายหรือจัดท�า

รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็จะนา� หลกั การของปฏิญญาสากลฯ ดงั กลา่ ว มาวางเปน็ ฐานคิดเสมอ

๖ ฉบบั ปจั ไจดบุ ้แนั กป่ รอะนเทุสญัศไญทายวไ1า่ดดเ้ ขว้ า้ยเสปิทน็ ธภิเดาค็กพี กนั ตธกิการรณะหกี บัว่าปงฏปญิ ระญเทาสศาวก่าดลวว้ า่ยดสว้ทิ ยธสทิ ทิ าธงมิเศนรษุษยฐชกนิจจาส� นงั ควนม ตรวจสอบผล Evaluate

และวัฒนธรรม กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง อนุสัญญา 1. ครูตรวจสอบความสมบรู ณข องการวเิ คราะห
ขา วดา นสทิ ธมิ นษุ ยชน
ระหว่างประเทศว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติ เกร็ดน่ารู้
ทางเช้ือชาติในทุกรูปแบบ อนุสัญญาว่าด้วยการขจัด 2. ครตู รวจสอบความสมบูรณข องงานเขียน
การเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ และอนุสัญญา ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แนวทางการสง เสรมิ สทิ ธมิ นษุ ยชนในสงั คมไทย
ว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการทารุณกรรม แห่งสหประชาชาติท่ีได้รับการรับรอง เมื่อ
ตลอดจนการปฏิบัติหรือการลงโทษท่ีลดทอนคุณค่า วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. 2๔๙๑ (ค.ศ.
ความเป็นมนุษย์ ๑๙๔๘) ถือเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์
ในการวางรากฐานด้านสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศฉบับแรกของโลก และยัง
ไดร้ บั การแปลเปน็ ภาษาตา่ งๆ ถงึ 335 ภาษา

๔. บทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย
เกี่ยวกับสทิ ธิมนุษยชน

รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย นบั ต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ จนถงึ พ.ศ. ๒๕๓๔ ได้น�า
เนื้อความแห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติมาบัญญัติรวมไว้ แต่มิได้มี
การบัญญัติค�าว่า “สิทธิมนุษยชน” ไว้เลย สิทธิมนุษยชนเพิ่งจะถูกน�ามาบัญญัติไว้เป็นครั้งแรก
ในรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ ในหมวดที่ ๖ รัฐสภา สว่ นท่ี ๘ วา่ ด้วย
คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ มาตรา ๑๙๙ ถึง มาตรา ๒๐๐

77

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT เกรด็ แนะครู

หนว ยงานดานสิทธิมนุษยชนใดท่จี ดั ต้ังข้นึ ตามรัฐธรรมนูญแหง ครคู วรแนะนาํ ใหนักเรียนสืบคน ขอ มูลกฎหมายระหวา งประเทศหรอื ขอตกลง
ราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 ดา นสทิ ธมิ นษุ ยชนอนื่ ๆ โดยเฉพาะอยา งยงิ่ ปฏญิ ญาวา ดว ยสทิ ธมิ นษุ ยชนทปี่ ระเทศไทย
เขา รวมเปนภาคดี วย แลว ใหนาํ ขอ มูลที่สบื คน ไดม าอภิปราย สนทนา และแสดงความ
1. มูลนธิ เิ ด็ก คดิ เหน็ รวมกันถึงความสาํ คญั และผลดขี องการมกี ฎหมายหรอื ปฏญิ ญานนั้ ๆ
2. องคก ารนริ โทษกรรมสากล
3. คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง ชาติ นักเรียนควรรู
4. คณะกรรมการรณรงคเพอื่ สิทธิมนษุ ยชน
1 อนุสญั ญา ความตกลงระหวา งประเทศ เปนขอตกลงทม่ี ีการยกรา ง ลงนาม
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะรัฐธรรมนญู แหงราช- และใหส ัตยาบัน เชน อนสุ ญั ญาวา ดว ยสทิ ธเิ ดก็ เปน สญั ญาดา นสิทธมิ นุษยชนระหวาง
ประเทศทไ่ี ดรบั ความเหน็ ชอบมากทีส่ ดุ ในโลก เปนตน
อาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 บญั ญตั ิใหม ีการจัดตงั้ คณะกรรมการ
สทิ ธมิ นุษยชนแหงชาติขึ้น เพ่อื ทําหนาท่ตี างๆ เชน ตรวจสอบการ
กระทาํ ทเ่ี ปน การละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชน ฟอ งรอ งคดีแทนผูเ สยี หาย
เม่อื ไดร บั การรองขอจากผเู สียหายในกรณีทีเ่ หน็ สมควร เปน ตน
สว นหนว ยงานในขออ่นื เปน หนวยงานทจ่ี ัดต้ังโดยเอกชนท้งั สน้ิ

คู่มอื ครู 77

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Elaborate Evaluate

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครเู กรน่ิ นาํ ถงึ แนวทางการคมุ ครองสทิ ธมิ นษุ ยชน
ในประเทศไทยโดยเชอื่ มโยงกบั รัฐธรรมนูญแหง
ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2560 วา เปนรฐั ธรรมนูญ จนกระทั่งมาถึงในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับปัจจุบัน ก็ได้ให้ความคุ้มครอง
ที่สงเสรมิ สิทธิเสรภี าพของคนไทยมากฉบับหนึ่ง
จากน้นั ครตู ง้ั คาํ ถามวา สแลิทะธสิมง่ เนสุษรมิยสชทิ นธแ1แิ หล่ะงเชสารตภี ิไาวพ้ใขนอหงปมรวะดชาช๑น๒ทเ่ี อปงน็ ครปู์กธรรอริสมรโะดยสได่วม้นกีทาี่ ร๖บญั วญ่าตั ดเิ ้กวยย่ี วคกณบั ะคกณระรกมรารธมิกกาารร
สิทธมิ นษุ ยชนแห่งชาติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา ๒๔๖ - ๒๔๗ โดยมีรายละเอียด ดงั นี้
• รฐั ธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย
มีบทบญั ญัตใิ นสว นใดบา งทเ่ี ก่ียวกับการ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติ ประกอบด้วยกรรมการ ๗ คน ซ่งึ พระมหากษตั รยิ ์
สงเสรมิ และคมุ ครองสิทธิเสรภี าพตาม ทรงแต่งตั้งตามค�าแนะน�าของวุฒิสภา จากผู้ซ่ึงได้รับการสรรหาที่มีความรู้หรือประสบการณ์ด้าน
หลกั สิทธมิ นษุ ยชน
(แนวตอบ ไดม ีการบัญญัติไวใน หมวด 3 สทิ ธิ การคุ้มครองสิทธิเสรภี าพของประชาชนเป็นทปี่ ระจกั ษ์ เป็นกลางทางการเมือง และซื่อสตั ยส์ จุ ริต
และเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ประกอบดวย
หลายมาตรา เชน คุณสมบัติ ลกั ษณะต้องห้าม และการพ้นจากต�าแหน่งของคณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่
มาตรา 27 บุคคลยอมเสมอกันในกฎหมาย ชาติ ให้เป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู ว่าดว้ ยคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน
มีสิทธิและเสรีภาพและไดรับความคุมครอง
ตามกฎหมายเทา เทียมกนั ชายและหญิงมีสิทธิ กรรมการสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติมวี าระการด�ารงตา� แหนง่ ๗ ปนี บั แตว่ นั ทีพ่ ระมหากษัตรยิ ์
เทาเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไมเปนธรรม ทรงแตง่ ตั้ง และใหด้ �ารงตา� แหน่งไดเ้ พียงวาระเดียว

สา� นกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาตเิ ปน็ หนว่ ยงานทเี่ ปน็ อสิ ระในการบรหิ ารงาน

ตอบุคคล ไมวาดวยเหตุความแตกตางใน บคุ คล การงบประมาณ และการด�าเนินการอืน่ ทง้ั นี้ตามท่ีกฎหมายบัญญตั ิ
เรื่องถ่ินกําเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ
ความพกิ าร สภาพทางกายหรอื สขุ ภาพ สถานะ คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติมอี �านาจหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี
ของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ๑. ตรวจสอบและรายงานการกระท�าหรือการละเลยการกระท�า อันเป็นการละเมิด
ความเชอ่ื ทางศาสนา การศกึ ษาอบรม หรอื ความ
คิดเห็นทางการเมืองอันไมขัดตอบทบัญญัติ สิทธิมนุษยชน หรือไม่เป็นไปตามพันธกรณีระหว่างประเทศเก่ียวกับสิทธิมนุษยชนท่ีประเทศไทย
แหง รฐั ธรรมนญู หรือเหตุอนื่ ใด จะกระทาํ มิได เป็นภาคี และเสนอมาตรการการแก้ไขที่เหมาะสมต่อบุคคลหรือหน่วยงานที่กระท�าหรือละเลย
การกระท�าดังกล่าว เพอื่ ดา� เนินการในกรณที ่ีปรากฏว่าไมม่ กี ารดา� เนนิ การตามทเ่ี สนอ ใหร้ ายงาน

สา� รวจคน้ หา Explore ต่อรัฐสภาเพอ่ื ดา� เนนิ การตอ่ ไป
๒. เสนอเร่ืองพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในกรณีท่ีเห็นชอบตามท่ีมี
ครใู หน ักเรยี นศึกษาคนควา ขอ มูลทเ่ี กี่ยวกบั สิทธิ
มนษุ ยชนในสงั คมไทย ใหค รอบคลมุ ในประเดน็ ดงั น้ี ผู้ร้องเรียนว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดกระทบต่อสิทธิมนุษยชนและมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบ
- บทบัญญตั ขิ องรัฐธรรมนูญแหงราช-
อาณาจักรไทย เกีย่ วกบั สิทธมิ นษุ ยชน ดว้ ยรฐั ธรรมนญู ทงั้ นี้ ตามพระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู วา่ ดว้ ยวธิ พี จิ ารณาของศาลรฐั ธรรมนญู
- บทบาทขององคการระหวางประเทศใน ๓. เสนอเร่ืองพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง ในกรณีที่เห็นชอบตามท่ีมี
เวทโี ลกท่มี ีผลตอ ประเทศไทย
- ปญหาสทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศและแนวทาง ผรู้ อ้ งเรยี นวา่ กฎ คา� สงั่ หรอื การกระทา� อน่ื ใดในทางปกครองกระทบตอ่ สทิ ธมิ นษุ ยชนและมปี ญั หา
เกย่ี วกบั ความชอบดว้ ยรฐั ธรรมนญู หรอื กฎหมาย ทงั้ น้ี ตามพระราชบญั ญตั จิ ดั ตง้ั ศาลปกครองและ
วิธพี ิจารณาคดีปกครอง

แกไ ขปญ หาและพัฒนา 78
- อปุ สรรคและการพฒั นาสทิ ธิมนษุ ยชน
ในประเทศไทย
จากนั้นนาํ ขอมูลท่ไี ดม าอภิปราย
ขอสอบ O-NET
นกั เรยี นควรรู ขอ สอบป ’51 ออกเกย่ี วกับการแตงต้งั คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชน

1 สทิ ธิมนุษยชน เปน สิทธขิ องมนุษยท กุ คนบนโลกทต่ี ิดตวั มาต้ังแตเ กดิ และเปน แหง ชาติ
สากล โดยมหี ลักพื้นฐาน 6 ประการ ดงั น้ี ขอ ใดกลา วถกู ตอ งเกยี่ วกบั การแตง ตง้ั คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน

1. ทุกคนมศี ักดศิ์ รีความเปน มนุษย แหงชาตติ ามรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทย พุทธศกั ราช 2550
2. คนทกุ คนมคี วามเสมอภาคและหา มการเลอื กปฏบิ ตั ิ 1. พระมหากษตั รยิ ท รงแตง ต้งั ตามคําแนะนําของวุฒสิ ภา
3. สทิ ธิมนษุ ยชนเปนของคนทกุ คนโดยไมเลือกเชือ้ ชาติ ศาสนา เพศ อายุ 2. รฐั สภาแตง ตัง้ ตามความเหน็ ชอบของสภาผแู ทนราษฎร
และวุฒิสภา
อาชพี สถานะทางเศรษฐกิจ หรือสงั คม สขุ ภาพ และความคิดเหน็ ดา นตางๆ 3. สภาผแู ทนราษฎรมมี ตแิ ตง ตงั้ ตามคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการ
4. สิทธมิ นุษยชนเปนองคร วมแยกเปน สว นๆ ไมไดและพ่ึงพงิ กนั สรรหา
5. การมีสว นรวมและการเปนสว นหนึ่งของสทิ ธนิ ้นั หมายความวา ประชาชน 4. คณะรัฐมนตรมี ีมตแิ ตง ตั้งตามคําแนะนาํ ของกระทรวง
การพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย
ยอ มมสี วนรว มอยางแข็งขนั ในการเขา ถึงและไดร บั ประโยชนจากสทิ ธิพลเมอื ง
และการเมือง และสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคมและวฒั นธรรม วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. รฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทย
6. ตรวจสอบไดแ ละใชห ลกั นติ ธิ รรม
พ.ศ. 2550 มาตรา 256 บญั ญตั ไิ ววา คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน
แหงชาติ ประกอบดว ย ประธานกรรมการคนหนึ่งและกรรมการอืน่
อีกหกคน ซงึ่ พระมหากษตั ริยทรงแตงตง้ั ตามคําแนะนาํ ของวฒุ ิสภา

78 คู่มอื ครู

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

เปน็ กร ณที เ่ี หน็๔ส. มฟคว้อรงเคพดอื่ ีตแ่อกศไ้ าขลปยญั ุตหิธารกรมารแลทะนเมผดิ ู้เสสียทิ หธมิายน ษุ เยมช่ือนไเด1ป้รน็ับสกว่ านรรรว้อมงข ทอง้ั จนา ี้กตผามู้เสทียกี่ หฎาหยมแาลยะ 1. ครูตัง้ คาํ ถามใหน กั เรยี นรวมกนั แสดง
บัญญัติ ความคิดเหน็ วา
• สังคมไทยในอดีต กอนจะมีการประกาศ
๕. เสนอแนะนโยบายและขอ้ เสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ ต่อรัฐสภาหรือ ใชรัฐธรรมนญู เพือ่ คุมครองศกั ดศ์ิ รีความ
คณะรฐั มนตรี เพอ่ื ส่งเสริมและคุ้มครองสทิ ธิมนุษยชน เปน มนษุ ย มเี หตุการณใดทแี่ สดงใหเหน็ วา
ประเทศไทยไดคํานงึ ถึงศกั ด์ิศรคี วามเปน
๖. สง่ เสรมิ การศกึ ษา การวิจัย และการเผยแพรค่ วามรู้ดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน มนษุ ยมาชา นานแลว
๗. สง่ เสรมิ ความรว่ มมอื และการประสานงานระหวา่ งหนว่ ยราชการ องคก์ ารเอกชน (แนวตอบ สงั คมไทยคาํ นงึ ถึงศักด์ศิ รี
และองค์การอนื่ ในดา้ นสทิ ธมิ นุษยชน ความเปน มนุษยม าชา นานแลว เชน
๘. จดั ทา� รายงานประจา� ปเี พอื่ ประเมนิ สถานการณด์ า้ นสทิ ธมิ นษุ ยชนภายในประเทศ การประกาศเลกิ ทาสของพระบาทสมเด็จ
และเสนอตอ่ รัฐสภา พระจุลจอมเกลา เจา อยูหวั รชั กาลท่ี 5
๙. อ�านาจหน้าทีอ่ นื่ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ซง่ึ ถอื วาเปน การปฏิรูปการคมุ ครองสิทธิ
ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติต้องค�านึงถึงผลประโยชน์ มนษุ ยชนครงั้ สําคัญของชาตไิ ทย กลา วคือ
สว่ นรวมของชาติและประชาชนด้วย มนุษยยอ มไมก ระทาํ ตอมนษุ ยเ ชน เดยี วกับ
ท่มี นษุ ยทาํ กบั สตั วห รือส่งิ ของ เพราะการ
๕. บทบาทขององคก์ ารระหวา่ งประเทศในเวทโี ลกทมี่ ผี ลตอ่ ประเทศไทย จาํ กัดสิทธอิ ันพงึ มพี ึงไดข องมนุษย เชน
การกกั ขัง หนวงเหนีย่ ว การกดขี่ทางเพศ
องค์การระหว่างประเทศในเวทีโลกท่ีมีบทบาทด้านสิทธิมนุษยชน มีอยู่ด้วยกันหลากหลาย การทรมานหรือทาํ รา ยรา งกาย ถือเปน
องคก์ ร เชน่ องคก์ ารแอมเนสต ี อนิ เตอรเ์ นชนั แนล (Amnesty International : AI) องคก์ ารแรงงาน การทาํ ลายสภาพความเปนคนหรอื ทาํ ลาย
ระหว่างประเทศ (International Labor Organization : ILO) เปน็ ตน้ ศักด์ศิ รีความเปน มนษุ ย)

องคก์ ารทส่ี �าคัญท่สี ุดและมีบทบาทตอ่ ประเทศไทย ในประเด็นสิทธมิ นุษยชนมากทสี่ ุด คือ 2. ครูใหน ักเรยี นเขยี นผังความคดิ ท่อี ธิบายถงึ
ส�านักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for บทบาทหนา ทข่ี องคณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชน
Refugees : UNHCR) ซงึ่ เปน็ องคก์ ารทที่ า� หนา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื การกลบั ถนิ่ ฐานเดมิ ของผลู้ ภ้ี ยั ปกปอ้ ง แหงชาติ โดยใหเ ขยี นลงในสมุดบันทกึ
และสนับสนุนในกิจการท่ีเก่ียวข้องกับผู้ลี้ภัยท่ัวโลก ตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลในแต่ละประเทศ แลว เขียนคาํ อธิบายประกอบพอสงั เขป
หรอื ข้อเรียกรอ้ งของสหประชาชาติ รวมทงั้ ส่งผู้ล้ีภัยกลับประเทศตน้ ทางหรอื ประเทศทสี่ าม เพือ่
ตงั้ ถ่นิ ฐานใหม่ 3. ครูใหนกั เรยี นเขยี นสถานการณต ัวอยา ง
ทเี่ กี่ยวกบั การละเมดิ สทิ ธิมนุษยชน ซ่ึงเปน
รัฐบาลไทยเคยถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนของคนไทยด้วยกัน จากกรณีเหตุการณ์ กรณที ี่อยใู นขอบเขตอํานาจหนาท่ีของ
ความไม่สงบในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๗ โดยเหตุการณ์ คณะกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง ชาติ
ดงั กลา่ วเกดิ ขนึ้ จากการนา� เสนอขา่ วทอี่ าจบดิ เบอื นไป ของสอ่ื ตา่ งประเทศบางสา� นกั ในประเทศไทย สามารถเขามาดูแลได โดยสถานการณ
ตวั อยา งนี้ อาจเปนเรอ่ื งทเี่ กิดขึน้ จริงหรือเปน
79 เร่อื งทีน่ กั เรียนแตง ขน้ึ เองก็ได จากนัน้ นํา
ออกมาอภปิ รายหนา ชัน้ แลว เปด โอกาส
ใหเ พ่อื นรวมกันแสดงความคิดเห็น

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู

ขอ ใดตอไปน้ีเปน อํานาจหนาท่ขี องคณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชน ครูควรแนะนําใหนกั เรียนสํารวจตนเองวา เคยมกี ารปฏิบตั ิตนตามหลกั
แหง ชาติ สทิ ธิมนุษยชนอยา งไรบาง โดยอาจใหนกั เรียนใชเ วลา 1 สัปดาหเพ่ือปฏิบตั ติ นตาม
หลักสทิ ธมิ นุษยชน แลว ทําการบนั ทกึ การปฏิบตั ิ พรอมทัง้ อธิบายผลดีท่เี กิดจาก
1. จบั กมุ ผทู ี่ทาํ การละเมิดสิทธมิ นุษยชนของผอู น่ื การปฏบิ ตั ิ แลวนาํ บนั ทึกมาแลกเปลี่ยนกนั ดูภายในชน้ั เรยี น เพื่อกระตนุ ใหนักเรยี น
2. ตัดสินคดคี วามท่ีเก่ยี วขอ งกับการละเมิดสิทธิมนษุ ยชน เห็นถงึ ความสาํ คญั ในการปฏิบตั ิตนตามหลักสทิ ธมิ นุษยชน
3. ออกกฎหมายหรือระเบียบขอบังคับเพ่อื คมุ ครองสิทธมิ นุษยชน
นกั เรยี นควรรู
ของคนไทย
4. เสนอเร่ืองตอ ศาลรฐั ธรรมนญู เมือ่ มีผรู องเรียนวา มกี ฎหมาย 1 การละเมิดสิทธิมนษุ ยชน ในปจ จบุ ันการละเมิดสทิ ธมิ นุษยชนยงั คงเกดิ ข้ึนใน
ทั่วทกุ มุมโลก ซง่ึ การละเมิดมีหลายลกั ษณะ เชน การใชค วามรุนแรงตอสตรี การใช
ที่ละเมดิ สทิ ธิมนุษยชน แรงงานเดก็ การเหยยี ดสีผวิ เปน ตน จากสถานการณด งั กลาว ทําใหมีหนวยงาน
ท้งั ภาครัฐและเอกชนเกดิ ข้นึ มากมาย เพ่ือใหก ารปกปองคมุ ครองสิทธมิ นุษยชน
วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. ในกรณีท่มี ีผูรอ งเรียนตอ และชว ยใหคนในสงั คมตระหนกั ถงึ การปฏบิ ัติตอ กันตามหลักสทิ ธมิ นุษยชนใหมากขึน้

คณะกรรมการสิทธมิ นุษยชนแหง ชาตวิ ามกี ฎหมายทกี่ ระทบตอ คู่มือครู 79
สทิ ธมิ นษุ ยชน คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง ชาตจิ ะตอ ง
เสนอเรื่องใหศ าลรฐั ธรรมนญู เปน ผูว นิ จิ ฉยั

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หน กั เรยี นยกตวั อยา งองคก ารระหวา งประเทศ รัฐบาลไทยเองได้เร่งแกไ้ ขปัญหาดงั กลา่ ว ด้วยการชแี้ จงท�าความเข้าใจกบั ส่อื มวลชนตา่ งประเทศ
ที่มบี ทบาทดา นสิทธมิ นษุ ยชนท่นี กั เรียนรูจกั ประจา� ประเทศไทยจ�านวน ๒๓ ส�านกั เก่ยี วกบั สถานการณ์ดงั กลา่ ว และนา� ส่อื มวลชนต่างประเทศ
ใหไ ดม ากทสี่ ดุ พรอ มอธบิ ายบทบาทและหนา ที่ เดินทางเข้าไปในพ้นื ที่จรงิ เพ่ือให้ทราบถงึ ขอ้ เท็จจริง
ขององคการเหลานั้น สถานการณ์ในปัจจุบัน และแนวทางการแก้ไขปัญหา
(แนวตอบ องคก ารระหวางประเทศดานสทิ ธิ ของปรหะเรทือศจไาทกยกรณีเหตุการณ์ที่ชาวโรฮีนจา1 ซึ่งเป็น
มนษุ ยชน เชน ชนกลุ่มน้อยในประเทศเมียนมาได้หนีเข้ามาใน
สาํ นักงานขา หลวงใหญผ ูล้ภี ยั แหงสหประชาชาติ ประเทศไทย แตถ่ กู ทหารเรือของไทยจับกมุ ไวไ้ ด้ และ
(UNHCR) มหี นา ท่ใี นการตรวจสอบ ใหค าํ แนะนาํ ขพ้ายหายลาวมงใผหลญกั ด่ผนัู้ลใ้ีภหัยก้ แลหบั ่งปสรหะเปทรศะตชน้าชทาาตงิพ2ทยา� าใหยส้าา�มนเขกั ้างมานา
และดาํ เนนิ การดานสิทธมิ นษุ ยชน ปจั จุบนั คนไทยตืน่ ตัวต่อปญั หาสทิ ธมิ นุษยชน กดดันให้ประเทศไทยคุ้มครองชาวโรฮีนจาดังกล่าว
กองทนุ เพ่อื เด็กแหงสหประชาชาติ (UNICEF) มากข้ึน มีการเข้าร่วมชุมนุมในกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง และใหด้ ูแลอยา่ งดตี ามหลกั มนษุ ยธรรมไปกอ่ น
มีหนาท่ีใหความชวยเหลอื ดา นพฒั นาการ กับสทิ ธมิ นุษยชนอยา่ งต่อเน่อื ง
สขุ ภาพ และความเปน อยขู องเดก็ ทั่วโลก
องคการแรงงานระหวางประเทศ (ILO) มีหนาท่ี แต่ตามหลักความเป็นจริงนั้นประเทศไทยไม่สามารถกระท�าเช่นน้ันได้ เพราะหาก
ชวยเหลอื ผใู ชแรงงานทว่ั โลกใหม ีคณุ ภาพชวี ิต ประเทศไทยให้ความคุ้มครองโดยไม่พยายามผลักดันคนเหล่านี้ออกนอกประเทศ ก็อาจจะท�าให้
และสภาพในการทาํ งานทีด่ ี เปนตน) ไทยมีปัญหาสังคมตามมาได้ เช่น อาจกลายเป็นกรณีตัวอย่างท�าให้ผู้คนบางกลุ่มในประเทศ
เพ่ือนบ้านท�าตามอย่างหรือเกิดปัญหาแรงงานข้ามชาติ ปัญหาการหลบหนีเข้าเมือง เป็นต้น
2. ครูใหนักเรยี นวเิ คราะหก ารดาํ เนนิ นโยบาย และยังอาจส่งผลกระทบถึงความมั่นคงของชาติและน�าไปสู่ปัญหาสังคมอ่ืนๆ ได้อีก เช่น ปัญหา
ดานสิทธิมนษุ ยชนภายในประเทศไทย วามี อาชญากรรม ปญั หาโรคระบาด เปน็ ตน้
ความสาํ คญั และมีผลตอความนาเชอื่ ถือของ ดังนั้น ประเทศไทยจึงได้พยายามผลักดันคนกลุ่มนี้กลับสู่ประเทศต้นทาง หรือประเทศ
ประเทศไทยในเวทโี ลกอยา งไร ใหนักเรยี น ทสี่ าม และไม่สามารถทา� ตามขอ้ เรยี กร้องของส�านกั งานข้าหลวงใหญ่ผลู้ ้ีภยั แหง่ สหประชาชาตไิ ด้
บนั ทกึ สาระสําคัญ แลวนาํ มาสนทนา
แลกเปลย่ี นกันภายในช้ัน ๖. ปญั หาสทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศและแนวทางแกไ้ ขปญั หาและพฒั นา

กฎหมายไทยไดม้ มี าตรการในการคมุ้ ครองสทิ ธเิ สรภี าพของปจั เจกชนในรปู แบบตา่ งๆ มานาน
นับจากประเทศไทยได้ใหค้ วามเหน็ ชอบกบั ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ
เม่ือวันท่ี ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ หลังจากนั้นประเทศไทยได้เข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาด้าน
สทิ ธิมนุษยชนอกี หลายฉบับด้วยกัน เชน่ อนสุ ัญญาว่าดว้ ยสิทธเิ ด็ก (Convention on the Rights
of the Child) อนุสญั ญาวา่ ดว้ ยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรใี นทุกรูปแบบ (Convention on
the Elimination of All Forms of Discrimination against Women) เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแม้ประเทศไทยจะมีพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนตาม
สนธิสญั ญาต่างๆ ดังท่ีกลา่ วมาข้างต้น แตป่ ระเทศไทยก็ยงั มปี ญั หาทีเ่ กิดจากการขาดการส่งเสรมิ
และคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนท่รี อการแกไ้ ขอกี หลายประการ

ในทน่ี จี้ ะยกตวั อยา่ งปญั หาสทิ ธมิ นษุ ยชนทเี่ กดิ ขน้ึ ในประเทศไทยมาใหท้ ราบพอสงั เขป ดงั นี้

80

นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
หากมคี นตางดา วแอบลักลอบเขา มาภายในประเทศ จะสงผล
1 ชาวโรฮีนจา คอื ชนกลุมยอ ยใน 19 กลมุ ชาติพนั ธุ เปนชนกลมุ นอ ยท่ีนับถอื ใหเ กดิ ปญ หาใดบาง
ศาสนาอิสลาม อาศยั อยใู นรฐั อาราคาน (Arakan) ทางดา นทศิ ตะวันตกของประเทศ แนวตอบ อาจสงผลใหเ กดิ ปญหาสงั คมตา งๆ เชน เปนตวั อยาง
พมา มีพรมแดนติดตอกับประเทศบงั กลาเทศ ซงึ่ ในรัฐอาราคานมีชนชาติอาราคาน ใหคนตางดาวในประเทศอืน่ ๆ หลบหนเี ขา มาตามอยา ง ทาํ ให
ท่นี ับถอื พระพุทธศาสนาเปน กลุมคนสวนใหญของรัฐ จาํ นวนคนตา งดา วมมี ากขนึ้ สง ผลกระทบตอ ปญ หาแรงงานขา มชาติ
2 สาํ นกั งานขาหลวงใหญผลู ีภ้ ยั แหงสหประชาชาติ กอตงั้ ขนึ้ เมอื่ วนั ที่ 9 มิถุนายน และยังสงผลตอความมั่นคงของชาติ นอกจากนี้ ยังอาจกอ ใหเ กิด
พ.ศ. 2486 โดยในระยะแรก ทาํ หนา ทีช่ ว ยเหลอื การกลบั ถนิ่ ฐานเดมิ ของผูล้ีภยั จํานวน ปญ หาอาชญากรรม ปญ หาโรคระบาด ปญ หาการขาดแคลนอาหาร
กวา 8 ลา นคน ซงึ่ เกดิ จากการสรู บในสงครามโลกครง้ั ที่ 2 ในภายหลังไดมกี าร ปญหาดานสุขภาพอนามยั ติดตามมา รวมถงึ เมื่อเกิดปญหาข้ึน
กอตง้ั สาํ นักงานใหญอยทู ี่เมอื งเจนีวา ประเทศสวติ เซอรแ ลนด มภี ารกจิ หลกั คือ มาแลว ก็จะตรวจสอบดําเนินการแกไขไดยาก
การปกปอ งและสนับสนุนกิจการทเี่ กี่ยวของกบั ผลู ี้ภยั ทั่วโลก ตามขอเรียกรอ งของ
รัฐบาลในแตล ะประเทศหรอื ขอเรียกรอ งขององคการสหประชาชาติ

80 คู่มือครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๖.๑ ปัญหาการละเมดิ สทิ ธแิ รงงานข้ามชาติ 1. ครตู ง้ั คาํ ถามใหนักเรยี นฝกคดิ วิเคราะหว า
ดงั ทไี่ ดก้ ลา่ วมาแลว้ วา่ ประเทศไทยมคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ กวา่ ประเทศเพอื่ นบา้ นบางประเทศ • หากมแี รงงานตางดา วจํานวนมากลักลอบ
เดินทางเขา มาทํางานในประเทศไทย
จึงทา� ใหแ้ รงงานจากประเทศเพ่ือนบา้ นบางสว่ น เชน่ เมยี นมา ลาว กมั พูชา เปน็ ต้น พยายาม จะสงผลกระทบอยางไร
(แนวตอบ ความเจริญกาวหนาทางดา น
เดินทางเข้ามาประกอบอาชีพในประเทศไทย ทั้งท่ีเข้ามาอย่างถูกกฎหมายและลักลอบเข้ามา เศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย
เปนปจจัยสาํ คัญในการดึงดูดใหแรงงาน
อย่างผดิ กฎหมาย ตา งดา วจํานวนมากจากประเทศเพ่ือนบาน
ลกั ลอบเดนิ ทางเขา มาทาํ งานในประเทศไทย
โดยอาชพี สว่ นใหญท่ แี่ รงงานเหลา่ นเ้ี ขา้ มาทา� คอื งานประมงทะเล งานเกย่ี วเนอื่ งกบั การประมง ซ่ึงกอใหเ กดิ ปญ หาหลายประการ เชน
ปญ หาโรคระบาด ปญ หาการกอ อาชญากรรม
(ท�างานในโรงงานผลิตอาหารทะเลแช่แข็ง เช่น แกะกุ้ง ลอกหนังปลาหมึก) ท�างานในโรงงาน การสูญเสยี งบประมาณของประเทศเพื่อนาํ
มาดแู ลแรงงานตา งดา วเหลาน้ี เกิดชุมชน
ปลาป่นท่ีใช้เป็นอาหารสัตว์ ท�างานในโรงงานน�้าปลา ท�างานในโรงงานอาหารทะเลตากแห้ง แออดั เพม่ิ มากขนึ้ ในเขตกรุงเทพมหานคร
และเมืองอุตสาหกรรมอื่นๆ เน่ืองจากมี
ทา� งานเกษตร เชน่ กรีดยางในสวนยาง งานกอ่ สร้าง งานบรกิ าร เปน็ ตน้ ประชากรเพม่ิ สูงอยางรวดเร็ว เปนตน )

ชาวต่างชาติบางส่วนท่ีลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย ก็ได้สร้างปัญหา 2. ครใู หน กั เรยี นวิเคราะหว า สังคมไทยยังมี
ประเด็นใดบางทเ่ี ปนปญ หาสิทธมิ นุษยชน
ต่อความมั่นคงของสังคมโดยรวมและประเทศชาติ เช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาโรคระบาด โดยใหนักเรียนสรปุ เปน ผังความคดิ นาํ มา
อภิปรายในชน้ั เรยี น
เป็นต้น
3. ครใู หนกั เรยี นสงั เกตจากการดําเนินชีวิต
ด้วยเหตุน้ีประเทศไทยในฐานะท่ีเป็นประเทศปลายทาง รับแรงงานต่างชาติเหล่านี้เข้ามา ประจาํ วนั ของนกั เรยี นวา เคยพบเห็นส่ิงใดบาง
ท่ีถอื เปน การละเมดิ สิทธิมนษุ ยชน
ทโด�ายงไาดน้กจ�าึงหพนยดายยุาทมธคศวาบสตครุม์บแรริหงงาารนจัดดกังการลแ่ารวงใหงา้มนีจต�า่านงวดน้าจว�าท1ก้ังัดระบเพบ่ือขต้ึน้องโกดายรใแหก้น้ไาขยปจัญ้างหนา�าทแี่เรกงิดงขาึ้นน
4. ครใู หน กั เรยี นยกตัวอยางปญหาการละเมดิ
ท่ีลักลอบเข้ามาในประเทศอย่างผดิ กฎหมาย มาจดทะเบยี นแรงงานตา่ งดา้ วให้เขา้ สู่ระบบการจา้ ง สิทธิแรงงานขามชาติในประเทศไทย คนละ 1
ตัวอยา ง โดยใหนักเรียนอธบิ ายถึงลกั ษณะ
แรงงานท่ถี กู ต้องตามกฎหมาย ปญหาทเี่ กิดข้ึน และบอกถึงแนวทางการแกไข
ใหครบถว น
รวมท้ังขอความร่วมมือจากองค์การระหว่างประเทศ เช่น ส�านักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัย

แห่งสหประชาชาติใหช้ ่วยกดดันประเทศมหาอ�านาจหรือประเทศท่รี �่ารวยกว่าประเทศไทย ให้ช่วย

รับแรงงานเหล่าน้ีเข้าไปอยู่ในประเทศ แต่ไม่ประสบ

ความส�าเร็จเท่าท่ีควร ยังผลให้ประเทศไทยต้องรับ

ภาระในการดูแลชาวต่างชาติดังกล่าวมากขึ้นทุกปี

และยังต้องน�างบประมาณของประเทศอีกจ�านวนมาก

มาดูแลแรงงานเหลา่ น้ี

นอกจากน้ี การที่ประเทศไทยต้องรับภาระ

ในการดูแลชาวต่างชาติเหล่านี้ ยังส่งผลให้อัตรา งานประเภทประมงทะเล เช่น การลงเรือจับปลา
ประชากรเพ่ิมสูงข้ึนอย่างรวดเร็ว จนน�าไปสู่ปัญหา ในทะเลเปน็ งานทค่ี นไทยไมน่ ยิ มทาำ จงึ ทาำ ใหจ้ าำ เปน็
ชุมชนแออัดเพิ่มมากขึ้นในเขตเมืองหลวงและเขต ตอ้ งจ้างแรงงานต่างชาตเิ ขา้ มาทำางานแทน

อตุ สาหกรรมตามพ้ืนที่ตา่ งๆ ๘๑

ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู

หากประเทศตองรบั ภาระดแู ลแรงงานขามชาตทิ ่ีหลบหนเี ขา มา 1 แรงงานตางดาว ตามพระราชบญั ญตั ิการทาํ งานของคนตางดาว พ.ศ. 2521
ทาํ งาน จะกอ ใหเกดิ ผลกระทบทน่ี าํ ไปสูป ญ หาใด หมายถึง บุคคลธรรมดาซง่ึ ไมมสี ัญชาตไิ ทย โดยคนตา งดา วจะทาํ งานไดเ มื่อไดรบั
อนุญาตจากอธิบดกี รมการจดั หางาน หรือเจาพนักงานซง่ึ อธบิ ดีมอบหมายเทานน้ั
1. ปญหาความยากจน ซงึ่ ผทู เี่ ปน นายจา งมหี นา ทนี่ าํ ลกู จา งทเ่ี ปน คนตา งดา ว ไปยน่ื คาํ ขอใบอนญุ าตทาํ งาน
2. ปญ หาการจราจรแออดั ณ สาํ นักงานบริหารแรงงานตา งดา ว กรมการจดั หางาน หากนายจาง
3. ปญ หาความหนาแนนของประชากร ไมดาํ เนินการดงั กลา วตามระยะเวลาท่ีกาํ หนด ถือวา มคี วามผดิ ตามกฎหมาย
4. ปญ หาประชากรไมร ูห นงั สือเพม่ิ ขน้ึ
มุม IT
วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะหากมีแรงงานตา งดาว
ศึกษาคน ควา ขอ มูลเพิม่ เติมเก่ยี วกับหลกั การจางแรงงานตา งดา ว ไดที่
หลบหนีเขา มาจํานวนมากก็จะสงผลใหจํานวนประชากรภายใน http://wp.doe.go.th/node/209
ประเทศเพม่ิ มากขึน้ เมื่อความหนาแนน ของประชากรมมี ากขึน้
ก็อาจกอ ใหเ กดิ ภาวะชมุ ชนแออัด สงผลตอคณุ ภาพชวี ิตและสภาพ
สุขอนามัย

คู่มอื ครู 81

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หนกั เรียนชว ยกนั สรุปวา วิธีการแกปญ หา แนวทางแกไ้ ขปญั หา
การละเมิดสิทธิแรงงานขา มชาติ ควรทาํ อยางไร ๑. นโยบายการจดทะเบียนแรงงานต่างชาติควรจะมีการเปิดโอกาสให้จดทะเบียนได้
(แนวตอบ วธิ ีการแกป ญ หาการละเมิดสทิ ธิ
แรงงานขามชาติ สามารถปฏิบัตไิ ด ดังนี้ ตลอดทั้งปี เพอ่ื สอดรับกบั การหมนุ เวยี นแรงงานตามความตอ้ งการแรงงานในตลาด
1. ควรเปด โอกาสใหนายจา งสามารถพาลกู จา ง ๒. หน่วยงานที่เก่ียวข้อง เช่น กรมการจัดหางานควรท�าหน้าท่ีเป็นตัวกลาง
ทเี่ ปนแรงงานตา งดาวมาจดทะเบยี นไดตลอด
ทง้ั ป ในการจ้างงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง โดยให้แรงงานมาขึ้นทะเบียนโดยตรงกับส�านักงาน
2. ควรมมี าตรการใหแ รงงานตา งดา วมา จัดหางาน และให้นายจ้างท�าสัญญาจ้างกับลูกจ้าง เพราะการท่ีให้นายจ้างพาลูกจ้างมา
จดทะเบยี นกบั สาํ นกั งานจดั หางานโดยตรง จดทะเบียนน้ันเป็นช่องว่างให้นายจ้างหลีกเลี่ยงท่ีจะจดทะเบียนได้ง่ายและจะท�าให้แรงงาน
แลวใหนายจางทาํ สญั ญาจา งกบั ลูกจา ง กลายเป็นเพียงทรัพย์สินของนายจ้างเท่าน้ัน รวมท้ังการจัดท�าเอกสารหรือส่ือต่างๆ ควรมีภาษา
เพอ่ื ไมใหน ายจา งหลกี เลย่ี งการจดทะเบยี น ของแรงงานต่างชาติเหล่านี้ด้วย เพื่อให้แรงงานเหล่านีิ้เข้าใจขั้นตอนการจดทะเบียน เพื่อ
และไมท ําใหลูกจา งตางดาวเปนเพียง ขออนญุ าตท�า๓ง.านภอายค่ารงฐั ถจูกะตตอ้อ้ งงคมรกี บาถร้วจนัดท�ากลไกการค้มุ ครองสิทธิแ1รงงานตามกฎหมายท่แี รงงาน
ทรัพยสนิ ของนายจา ง สามารถเข้าถึงได้จริง เช่น มีมาตรการลงโทษท่ีชัดเจนในกรณีที่นายจ้างยึดบัตรประจ�าตัวของ
3. ภาครฐั ตอ งมีกลไกคมุ ครองแรงงานตางดา ว แรงงานตา่ งชาตไิ ว้ เปน็ ต้น
ที่แรงงานเขา ถึงไดจ ริง
4. จัดใหมตี วั แทนของแรงงานไทยและแรงงาน ๔. สร้างการมีส่วนร่วมของแรงงานและฝ่ายต่างๆ ที่เก่ยี วขอ้ ง โดยจะตอ้ งมีตัวแทน
ตางดา วในหนวยงานทีเ่ ก่ยี วขอ งกับการจัดการ ของแรงงานไทยและแรงงานต่างชาติในหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการแรงงานต่างชาติ
แรงงานตางดา วทกุ ระดบั เพือ่ ใหส ามารถ ในทกุ ระดบั เพอื่ ให้นโยบายมีมมุ มองที่หลากหลายและสอดคล้องกับความเป็นจรงิ ที่สดุ
ออกนโยบายหรอื กําหนดวิธบี รหิ ารจัดการได
สอดคลอ งกับความเปนจรงิ มากที่สดุ การแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติน้ันต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายฝ่าย โดย
เฉพาะอย่างยงิ่ ประเทศตน้ ทางของแรงงานเหลา่ นั้น ดงั นน้ั ประเทศไทยจึงตอ้ งส่งเสริมใหป้ ระเทศ
2. ครใู หนักเรยี นแบง กลมุ 3-5 กลุม แลวรว มกัน เพื่อนบ้านเหล่านั้นมีสภาพความเป็นอยู่ท่ีดีข้ึน เพื่อจะได้ไม่เข้ามาหางานท�าในประเทศไทย
อภิปรายถงึ ปญหาสทิ ธิมนุษยชนท่เี ก่ยี วกับ ถือเป็นการป้องกันการลักลอบเข้ามาเป็นแรงงานผิดกฎหมายได้ดีท่ีสุด และอาจท�าให้ปัญหา
เดก็ และเยาวชน โดยใหม กี ารสนทนาแลกเปลย่ี น แรงงานตา่ งชาตผิ ดิ กฎหมายในประเทศไทยลดนอ้ ยลงได้
ในประเด็นลักษณะของปญหาท่เี กดิ ข้นึ ปจ จยั
ท่ีเปน สาเหตุ และแนวทางการแกป ญหา ๖.๒ ปญั หาการละเมดิ สิทธิเดก็ และเยาวชน
จากนน้ั ใหน ักเรียนชวยสรุปผลการอภิปราย
แลวสงตัวแทนออกมารายงานหนา ชน้ั ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็กและเยาวชนเป็นปัญหาท่ีเกิดข้ึนในประเทศไทยมาเป็นเวลานาน
แไปละโมดีแยนสวาโมนาม้รถขจยา�าแยนควกากมลรุ่มุนเดแก็รงแกลวะา้เยงขาววชางนขทึ้นี่ถูกกลาะรเลมะิดเมสิดทิ สธิทไิ2วธไ้ ิเดดพ้ก็ จอะสเงักเิดขใปนรดปู งั แนบี้ บทแ่ี ตกต่างกนั
3. ครูใหนกั เรยี นบอกถงึ บทบาทของนักเรยี นวา
สามารถมีสวนรวมในการสงเสริม ปกปอง ๑. เดก็ ทไ่ี มไ่ ดร้ บั การบรกิ ารขน้ั พน้ื ฐานดา้ นตา่ งๆ จากรฐั ไมว่ า่ จะเปน็ ดา้ นการศกึ ษา
และคมุ ครองสิทธิมนษุ ยชนท่เี กีย่ วกับเด็ก ด้านสาธารณูปโภค เป็นต้น ไดแ้ ก่ เดก็ พกิ าร เด็กท่มี ีปญั หาเรื่องการเรียนรู้ เดก็ กา� พรา้ เดก็ ท่ีบิดา
และเยาวชนอยา งไร ใหนักเรยี นเขยี นอธิบาย มารดาต้องโทษจา� คกุ เด็กยากจน
ลงในสมดุ แลว นาํ มาอภิปรายในช้นั
๘2

นักเรียนควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
สถาบนั ทางสังคมขอใดมีบทบาทสําคัญในการปกปอ งคมุ ครอง
1 กลไกการคุม ครองสิทธิ เครอ่ื งมือสําหรับประชาชนหรือบคุ คลใดๆ ทีถ่ กู ละเมิด การละเมิดสทิ ธิเดก็ และเยาวชนมากทส่ี ุด
สิทธิ อาจเปนสทิ ธิที่กาํ หนดไวใ นบทบญั ญัตขิ องกฎหมายหรือไมกต็ าม เพ่ือใหไดรบั 1. สถาบนั ศาสนา
การรบั รองและคุมครองสทิ ธิ เชน ในเร่ืองสทิ ธิแรงงาน กฎหมายไดมีบทบญั ญตั ติ างๆ 2. สถาบันครอบครัว
ที่จะชว ยคมุ ครองสทิ ธิแรงงานของลูกจา ง เชน การจัดใหมสี หภาพแรงงาน การมี 3. สถาบันเศรษฐกจิ
บทลงโทษตอ นายจางที่กระทํารนุ แรงตอ ลกู จาง เปนตน 4. สถาบนั ส่ือสารมวลชน
2 กลมุ เด็กและเยาวชนท่ถี กู ละเมิดสิทธิ โดยท่วั ไปมกั เปน เดก็ ผดู อ ยโอกาสในดา น วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะสถาบันครอบครัวเปน
ตางๆ เชน เปน เด็กกาํ พรา เด็กพกิ าร ไมไดร ับการศึกษา ไมไดรับการดแู ลเอาใจใส สถาบันแรกเรมิ่ ของมนษุ ย หากครอบครัวมีความรักความอบอุน
จากครอบครัว ถูกกระทําทารุณทงั้ ดา นรางกายและจิตใจ เปนตน ซงึ่ เปน ปญ หาทจี่ ะ รวมถงึ มกี ารเอาใจใสดูแลซึ่งกนั และกนั เดก็ กจ็ ะมกี ารเจรญิ เติบโต
ตองเรง หาแนวทางแกไ ข เพราะเดก็ และเยาวชนคือกําลงั อนั สําคญั ของชาติในอนาคต ทส่ี มบูรณท ้งั ทางรา งกายและจติ ใจ เปนเยาวชนทดี่ ี ไมก อ ปญ หา
หรือประพฤตติ นในทางท่ีไมเ หมาะสม ปญ หาการละเมดิ สทิ ธเิ ดก็
และเยาวชนกจ็ ะลดนอ ยลง

82 คู่มอื ครู

กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

1. ครใู หน กั เรยี นรว มกันวิเคราะหวา
• เดก็ และเยาวชนทถี่ ูกทํารายรางกาย
๒. เดก็ ท่ีถูกปล่อยปละละเลยไม่ได้รับการเอาใจใสจ่ ากครอบครัวเท่าทีค่ วร จนทา� ให้ และจิตใจหรอื ถกู ลว งละเมดิ ทางเพศ
เด็กอยู่ในภาวะเส่ียงจะได้รับอันตรายต่อสุขภาพกาย สุขภาพจิต พัฒนาการทางด้านร่างกาย จะสงผลเสียอยางไร
พฒั นาการทางด้านสติปัญญา และพัฒนาการทางดา้ นอารมณจ์ ติ ใจ (แนวตอบ เดก็ และเยาวชนท่ถี ูกทาํ รา ยรา งกาย
และจิตใจ หรือถูกลว งละเมิดทางเพศ
๓. เด็กที่ถูกท�าร้ายร่างกายและจิตใจ ถูกท�าทารุณหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศ อาจกลายเปนเด็กเก็บกด ซึมเศรา กาวรา ว
จากบคุ คลในครอบครัวหรอื บุคคลภายนอก เช่น เด็กทถี่ ูกใช้แรงงานอย่างหนกั ถูกนายจ้างทบุ ตี หวาดระแวง หวาดกลวั และอาจเกดิ ปญ หา
ทา� รา้ ย ถกู ล่วงละเมิดทางเพศ เป็นตน้ อ่นื ๆ ตามมาอีกมากมาย เชน ปญหา
โรคตดิ ตอทางเพศสมั พนั ธ ปญ หาการ
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา ตัง้ ครรภไ มพึงประสงค เปน ตน)
ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ทง้ั๑อ.งคกก์ ารรภทา�าคงราฐั นอดง้าคนก์ สริภทาธคิเดเอ็กกจชะนต้อองงคอก์ารศพัยฒักานราปเอรกะชสนาน1แคลวะปามระรช่วามชมนือจขงึ อจะงสทาุกมฝา่ารถย 2. ครูใหนกั เรยี นชว ยกันยกตัวอยางหนว ยงาน
แก้ไขปญั หาได้อยา่ งจรงิ จัง หรอื องคก รทม่ี บี ทบาทในการดแู ลเร่ืองสิทธิ
เด็กและเยาวชน พรอ มทง้ั อธิบายบทบาท
๒. ภาครัฐควรมีนโยบายในการเผยแพร่ข้อมูลความรู้และจัดกิจกรรมด้านสิทธิเด็ก ในการดําเนินงานของแตล ะองคกร
แกส่ งั คมและสาธารณชน เพอื่ สรา้ งความตระหนกั ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในสงั คม รวมทงั้ เผยแพรข่ อ้ มลู ดา้ นตา่ งๆ (แนวตอบ หนว ยงานท่มี ีบทบาทในการดูแลเรอื่ ง
ที่เกีย่ วขอ้ งกับสทิ ธิเด็ก โดยเนน้ การใหข้ อ้ มูลที่เปน็ จริงและวธิ กี ารแกไ้ ขปัญหาควบคกู่ นั สิทธิเดก็ และเยาวชน เชน
เยาวชนทีถ่ ูกล๓ะ.เมภิดาสคทิ รธัฐิคเวชร่นสนมับลู สนนธิ ุนศิ อูนงยค์พ์กทิ รักพษัฒส์ นทิ าธเเิ อดก็กชนมทูลนี่มิธีบเิ ทดบ็กาทมใลู นนกธิ าิสรรพ้าัฒงสนรารกคล์เดุ่ม็กเด2ม็กูลแนลิธะิ ศนู ยพ ิทกั ษสทิ ธเิ ดก็ และครอบครัว เปน
เพอ่ื การพฒั นาเด็ก มลู นิธเิ พ่ือเดก็ พกิ าร กลมุ่ การป้องกนั และพฒั นาคุณภาพชวี ติ เดก็ กลมุ่ ยุวชน หนวยงานสังกัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร มหี นา ท่ี
สรา้ งสรรค์ กล่มุ อาสาพฒั นาเด็ก ใหม้ ากย่งิ ขน้ึ เพราะองคก์ รเหลา่ นเี้ ป็นกลไกหนง่ึ ในการที่จะช่วย ใหค วามชว ยเหลือ จดั หาท่ีเรียนใหแ กเ ด็ก
บรรเทาปัญหา ดอยโอกาส ปกปอ งและคมุ ครองเด็กทีถ่ กู
ลวงละเมดิ ทางรางกายและจติ ใจ
๔. ภาคเอกชนและสื่อมวลชนควรท�าความเข้าใจเก่ียวกับเร่ืองสิทธิมนุษยชนให้มาก สถานสงเคราะหเด็กหญงิ บานราชวิถี มบี ทบาท
ย่ิงข้ึน และช่วยประชาสัมพันธ์หรือเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับสิทธิเด็ก เพื่อให้ประชาชนตระหนัก ในดา นใหก ารสงเคราะหแ กเด็กหญิงอายุ
ถงึ ความส�าคญั ของปัญหาทเ่ี กิดข้ึน 5-18 ป ที่ประสบปญ หาตา งๆ เชน
ขาดผอู ุปการะ ครอบครวั แตกแยก มีฐานะ
๕. ผู้ปกครองควรดูแลบุตรหลานของตนเองอย่างใกล้ชิด โดยจะต้องระมัดระวัง ยากจน ซง่ึ สถานสงเคราะหจะรับเด็กไวใน
ไม่ให้เด็กเข้าไปในสถานท่ีเส่ียงอันตราย พยายามมิให้เด็กออกนอกบ้านในเวลากลางคืน เว้นแต่ ความอุปการะ เพื่อใหก ารสงเคราะห
มีเหตุจา� เปน็ และคุมครองสวสั ดิภาพ)
3. ครใู หนักเรยี นวิเคราะหถ ึงสถาบันทาง
๖. ผู้ปกครองจะต้องจัดให้เด็กได้รับการพัฒนาทางด้านต่างๆ อย่างเหมาะสม สงั คมไทยวา มสี ถาบนั ใดบางทม่ี ีบทบาท
กับสติปัญญาและความสามารถของตน เช่น การสนับสนุนให้บุตรหลานเข้าร่วมท�ากิจกรรม สําคญั ในการชว ยลดปญ หาการละเมดิ สิทธิ
สาธารณประโยชน์ต่างๆ เป็นต้น เพ่ือให้เด็กได้พัฒนาจิตใจและเรียนรู้สังคมผ่านการท�ากิจกรรม ๘3 เด็กและเยาวชน และมีแนวทางการดําเนนิ การ
เหลา่ นนั้
อยา งไร และนาํ มาอภปิ รายแลกเปล่ียน
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT ความคดิ เหน็

นกั เรยี นควรรู

สถาบันส่ือสารมวลชนมบี ทบาทอยา งไรในการชว ยแกไขปญ หา 1 องคกรพัฒนาเอกชน (NGOs : Non Governmental Organizations)
การละเมดิ สิทธิเดก็ และเยาวชน ดําเนินการในการแกไ ขปญหาสังคม โดยเฉพาะปญหาดา นคุณภาพชีวิตของ
แนวตอบ สถาบนั สอ่ื สารมวลชน เชน หนงั สอื พมิ พ วทิ ยุ โทรทศั น กลมุ ผูดอ ยโอกาส อันเกิดจากผลกระทบจากปญ หาสงั คม
ตา งมีบทบาทสาํ คญั ในการเผยแพรข อ มูลขา วสารทางดา นสิทธเิ ด็ก 2 มลู นิธิสรางสรรคเ ด็ก มีบทบาททางดานสิทธเิ ด็กและเยาวชน ดังนี้
และเยาวชนอยางตรงไปตรงมา ทั้งในดา นการใหความรูเ รอ่ื งการ
ปกปอ งสทิ ธเิ ดก็ และเยาวชน การรณรงคสง เสริมใหค นในสังคม - สงเสริม สนับสนุน และพิทกั ษส ทิ ธิเด็ก ตามปฏิญญาสากลวาดวยสทิ ธิเดก็
ชว ยกนั ปกปอ งสทิ ธเิ ดก็ และเยาวชน รวมถงึ การสอดสอ งและเปด เผย แหง สหประชาชาติ
การกระทาํ ทเี่ ขา ขา ยเปน การละเมดิ สทิ ธเิ ดก็ และเยาวชน
- ชว ยเหลอื พัฒนาเด็กท่ถี ูกทอดทิ้งและดอยโอกาส ใหเติบโตอยา งสมบูรณ
ท้ังรา งกาย จิตใจ สติปญ ญา อารมณ และสังคม

- แสวงหารปู แบบการสรา งสรรคเด็กใหเ ตบิ โตขึน้ อยางมคี ณุ ภาพ และสรา ง
คุณคา ทีด่ ตี อ สงั คม

- ประสานงานและรว มมอื กบั บุคคล องคก ร และหนวยงาน รว มกันสรา งสรรค
และเก้ือกลู เดก็ ในสงั คม โดยไมแ สวงหากาํ ไรและไมเ กีย่ วขอ งกับการเมอื ง

คู่มือครู 83

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั บอกชอ่ื หนว ยงานทม่ี หี นา ท่ี ๖.๓ ปัญหาการละเมดิ สทิ ธสิ ตรี
ในการปกปอ ง คมุ ครอง ดา นสทิ ธสิ ตรี พรอ มทงั้
อธิบายบทบาทของแตล ะหนว ยงานพอสังเขป การละเมดิ สทิ ธสิ ตรใี นประเทศโดยสว่ นใหญ่ มสี าเหตมุ าจากการเลอื กปฏบิ ตั อิ ยา่ งไมเ่ ปน็ ธรรม
(แนวตอบ หนวยงานที่มหี นา ทีป่ กปอ งคุม ครอง ซึ่งสามารถแยกออกได้ ๒ ประเด็น ได้แก่ การกระท�ารุนแรงทางกายภาพ เช่น สามีท�าร้าย
สิทธิสตรี เชน ร่างกายภรรยา สามีบังคับขืนใจทางเพศภรรยา เป็นต้น หรือแรงงานหญิงถูกเลือกปฏิบัติจาก
มูลนธิ เิ พือ่ นหญงิ มีหนา ที่ใหค วามชวยเหลอื สตรี นายจ้าง เช่น ถูกเอาเปรยี บในเรื่องของคา่ จา้ งและการเลือ่ นต�าแหน่ง แรงงานหญิงทเี่ ปน็ แรงงาน
ทต่ี กอยใู นภาวะวกิ ฤติ เชน ตงั้ ครรภไ มพ งึ ประสงค ข้ามชาติถกู กดขี่ ไม่ไดร้ ับสวัสดกิ ารต่างๆ เป็นต้น
ถกู คุกคามทางเพศ ถกู ลอ ลวงและบังคับ อาจกล่าวไดว้ ่าปจั จยั สา� คัญทน่ี �าไปส่กู ารเลอื กปฏบิ ัติตอ่ สตรี 1ได้แก่ ความเข้าใจท่ีไมถ่ กู ต้อง
คา ประเวณี ถูกสามที อดทิง้ หรือทาํ รายทุบตี เกย่ี วกบั สทิ ธทิ างเพศของทงั้ หญงิ และชาย ความไมร่ กู้ ฎหมาย หรอื แมก้ ระทงั่ การตคี วามกฎหมาย
เปนตน ทีก่ ่อใหเ้ กดิ ชอ่ งวา่ งในการเอาเปรียบทางเพศ
มลู นิธผิ หู ญงิ มบี ทบาทในการใหค วามชวยเหลอื แนวทางการแก้ไขปัญหา
แกผ หู ญิงทีท่ กุ ขย ากและดอ ยโอกาสในสงั คม ในสังคปมัญไทหยาทที่ย่ีเกังิดคกงมับีคสวตารมีในคสิดังวค่ามผไู้ชทายยสเป่วน็นใใหหญญ่ส่ 2ะซท่ึง้อคนรอใหบ้เงห�า็นสถังคึงสมภไทาพยมแลาโะดคยวตามลอคดิดขแอมงค้วน่า
สนับสนุนสทิ ธขิ องผูหญิงตามทีร่ ะบุไวใน ในปจั จุบันสภาพปญั หาอาจดูเหมือนรนุ แรงน้อยลง และมโี ครงสร้างทางกฎหมายยอมรับในความ
ปฏิญญาสากลขององคการสหประชาชาติ เท่าเทียมกันของหญิงและชายเป็นหลักการพื้นฐานของสังคม ตลอดจนมีการเปิดพ้ืนที่ให้ผู้หญิง
คณะกรรมการคาทอลกิ เพื่อสตรี ใหคําปรึกษา เขา้ มามบี ทบาทในพน้ื ทส่ี าธารณะ เชน่ ในองคก์ รทางการเมอื งระดบั ตา่ งๆ มากขน้ึ กต็ าม แตป่ ญั หา
และเสรมิ สรา งศักยภาพสตรี รวมถึงสนับสนนุ และความรนุ แรงท่เี กิดข้ึนตอ่ สตรกี ็ยังปรากฏให้เห็นมาโดยตลอด
การเรียกรองสิทธิสตรี ตลอดจนชวยเหลือสตรี ฉะน้ันแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ดีท่ีสุด คือ การกระตุ้นให้คนในสังคมเรียนรู้หลักสิทธิ
ในดา นกฎหมาย มนุษยชนและเคารพในศักดิ์ศรีของสตรี ตระหนักถึงความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนของ
สมาคมสงเสริมสถานภาพสตรี ใหค าํ ปรกึ ษา ผหู้ ญงิ ตระหนกั ถงึ ความเสมอภาคและความเทา่ เทยี มกนั ในดา้ นการทา� งาน คา่ จา้ ง การประกนั สงั คม
ใหท ีอ่ ยอู าศยั แกสตรที ีม่ ีปญหาครอบครัว การตัดสินใจมีบุตร สิทธิในการพัฒนาทั้งการศึกษาและสันทนาการ รวมทั้งได้รับความเท่าเทียม
ถูกทาํ รา ยรางกาย มีบตุ รนอกสมรส ในทางการเมือง และได้รับการพิจารณาในการปฏบิ ัตหิ นา้ ทรี่ าชการในทุกๆ ระดับ
ถกู ลวงละเมิดทางเพศ เปนตน ) นอกจากนี้ ภาครัฐควรมีนโยบายหรือมาตรการพิเศษ ที่จะช่วยเอ้ือให้เกิดการคุ้มครอง
สิทธิสตรีอย่างจริงจัง เช่น การจัดต้ังหน่วยงานหรือองค์กรที่ท�าหน้าท่ีคุ้มครองสิทธิสตรีและ
2. ครใู หน กั เรยี นหาขา วทเี่ กยี่ วกบั ปญ หาการละเมดิ ปอ้ งกันการละเมิดสตรีข้นึ มาโดยเฉพาะ เป็นตน้
สทิ ธสิ ตรี คนละ 1 ขาว นาํ ขา วมาติดลงใน
กระดาษ A4 แลว เขียนสรปุ ขา ววามีประเด็น ๗. อปุ สรรคและการพฒั นาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
สําคญั อยางไร และสง ผลกระทบอยางไร
ตอ สงั คมไทยบาง แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศหน่ึง ที่ได้ร่วมรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
แห่งสหประชาชาติ และได้เข้าร่วมเป็นภาคขี อ้ ตกลงระหวา่ งประเทศอกี หลายฉบบั แต่การส่งเสรมิ
3. ครใู หนักเรียนวิเคราะหว า มีปจ จยั ใดบา งทีเ่ ปน และคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย กย็ ังไมป่ ระสบความสา� เร็จอย่างเป็นรปู ธรรมเท่าทีค่ วร
สาเหตุสําคัญทําใหเกดิ ปญหาการละเมดิ สิทธิ อนั เนอ่ื งมาจากปจั จยั หลายประการทเ่ี ปน็ อปุ สรรค เชน่ ประชาชนขาดความรคู้ วามเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ ง
สตรีในสงั คมไทย พรอมทั้งบอกแนวทางในการ เกย่ี วกับสทิ ธมิ นษุ ยชน หน่วยงานภาครฐั ใหค้ วามใส่ใจกับปัญหาสทิ ธิมนุษยชนน้อย เป็นตน้
มสี ว นรว มของคนในสงั คมเพอ่ื แกป ญ หาดงั กลา ว
แลวนํามารวมกนั สนทนาแลกเปล่ยี นภายในชัน้ ๘๔

นกั เรยี นควรรู ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
การกระทําของผใู ดถอื วา ละเมดิ สทิ ธสิ ตรี
1 การเลือกปฏิบัติตอ สตรี อนุสญั ญาวา ดวยการขจดั การเลือกปฏบิ ตั ติ อ สตรใี น 1. เอกเตะฟตุ บอลไปถกู หนอยโดยไมตัง้ ใจ
ทกุ รูปแบบ ไดอธิบายถึงคาํ วา “การเลอื กปฏิบัติตอ สตรี” วาหมายถึง การแบง แยก 2. ชัยขับรถชนนอ ยซง่ึ กําลงั ขา มถนนทางมา ลาย
กดี กัน หรอื จํากัดใดๆ เพราะเหตแุ หงเพศ 3. หนมุ ตอวานดิ ท่ีไมนาํ เงนิ มาคนื ตามกาํ หนดเวลา
2 ผูชายเปน ใหญ เปน แนวคิดทข่ี ดั กบั หลกั สทิ ธมิ นษุ ยชน โดยเฉพาะอยางยง่ิ 4. พลไมพ อใจภรรยาจึงเขา ทํารายรางกายโดยการทบุ ตี
ในยุคปจ จบุ ันที่ประเทศตา งๆ ใหก ารยอมรบั ในเรอ่ื งความเสมอภาคของชายและหญิง วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะการใชค วามรนุ แรงตอ ผหู ญงิ
ซึ่งมคี วามเปนมนษุ ยเทาเทยี มกนั ดงั จะเหน็ ไดจากการทเ่ี พศหญิงเขา มามีบทบาท ถอื เปนการไมใ หเกียรตผิ หู ญงิ และเปน การกระทาํ ท่ีละเมดิ สทิ ธิสตรี
การทํางานในตําแหนง ท่สี าํ คัญมากมาย เชน ผูบรหิ ารระดบั สงู ในหนว ยงานเอกชน รวมถงึ ยังเปน การกระทาํ ความผดิ ซงึ่ มีโทษตามกฎหมายอกี ดวย
นกั การเมอื ง นกั วชิ าการ ผูนําประเทศ เปน ตน

84 คมู่ อื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนส่วนใหญ่สะท้อนให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่และ ครใู หนกั เรียนรว มกนั อภิปรายกลุมในประเดน็
ความรู้สึกนึกคิดของคนในสังคมไทย ซ่ึงครอบง�าสังคมไทยมาโดยตลอด เช่น การแบ่งชนช้ัน อปุ สรรคและการพฒั นาดานสิทธิมนษุ ยชน
การกดข่ีแรงงาน ค่านิยมที่ให้ความส�าคัญเพศชายมากกว่าเพศหญิง เป็นต้น จนท�าให้ปัญหา ในประเทศไทย โดยใหน กั เรยี นชว ยกนั สรปุ ผลการ
สิทธิมนุษยชนในประเทศไม่สามารถคลี่คลายลงไปได้ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสภาพปัญหาดูเหมือน อภปิ รายและจดั ทําในรปู แบบ PowerPoint
จะรุนแรงน้อยลง แต่ในแง่ของการผลักดันกฎกติกาต่างๆ ในระดับนโยบายยังไม่สามารถกระท�า จากน้นั สงตวั แทนออกมารายงานหนาชั้น
ได้อยา่ งเต็มที่ ท�าให้ปญั หาการละเมดิ สทิ ธิมนษุ ยชนก็ยังเกดิ ข้นึ ให้เห็นมาโดยตลอด
ขยายความเขา้ ใจ Expand
เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาสิทธิมนุษยชนต่างๆ เหล่าน้ี อาจจะคลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง
ด้วยการท่ีคนในสังคมต้องเรียนรู้ ตระหนักถึงหลักสิทธิมนุษยชน และเคารพในศักด์ิศรีของความ 1. ครใู หน กั เรียนจัดทาํ สอ่ื เพอ่ื ใหความรใู นเรือ่ ง
เปน็ มนษุ ย์ให้มากยิ่งขนึ้ โดยอาศยั ความร่วมมอื ของทกุ ฝา่ ย โดยเฉพาะภาครฐั ใหม้ กี ารแกไ้ ขและ สทิ ธิมนุษยชนและแนวทางการพัฒนา
ปรับปรุงกฎหมายให้ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน และสถาบันการศึกษาให้การศึกษาเร่ือง สิทธมิ นษุ ยชนในสังคมไทย ในรูปแบบตา งๆ
สิทธิมนุษยชนกับเยาวชนของชาติ ทั้งการเรียนรู้ในระบบ การเรียนรู้ท่ัวไป และการศึกษาตาม เชน แผน พับ ปายโปสเตอร PowerPoint
อัธยาศัย เพราะเมื่อประชาชนได้รับความรู้ท่ีถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ก็จะน�าไปสู่ความเข้าใจ เปนตน แลว นําสงครูผูส อน
หลักสิทธิมนุษยชน ซ่ึงจะช่วยให้การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนก้าวเข้าสู่มาตรฐานสากล
ได้เรว็ ย่งิ ขนึ้ 2. ครใู หน กั เรียนแบง กลุม 3 กลมุ แลวจับฉลาก
เลอื กหวั ขอ ปญหาสทิ ธิมนุษยชนดานตางๆ
นอกจากน้ีต้องสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนให้กับบรรดา ไดแ ก การละเมิดสทิ ธแิ รงงานขามชาติ
เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน เพราะการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยบางส่วนนั้นเกิดข้ึน การละเมดิ สทิ ธิเด็กและเยาวชน และการ
จากการกระทา� ของเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั เอง ดงั นน้ั การศกึ ษาสทิ ธมิ นษุ ยชนอยา่ งถกู ตอ้ งกจ็ ะชว่ ยยบั ยงั้ ละเมดิ สิทธิสตรี จากนั้นใหแ ตละกลุมนาํ หัวขอ
การละเมิดสทิ ธมิ นษุ ยชนได้ ท่จี บั ฉลากได ไปจดั ปายนเิ ทศเพ่ือใหความรู
ในประเดน็ ลกั ษณะของปญ หาและแนวทาง
๘. ข้อตกลงระหว่างประเทศ แกไ ข

๘.๑ ความหมายของข้อตกลงระหวา่ งประเทศ ตรวจสอบผล Evaluate

ข้อตกลงระหว่างประเทศหรือสนธิสญั ญามคี วามหมายตามทย่ี อมรับกนั ทว่ั ไป ดงั นี้ 1. ครูตรวจสอบความถกู ตอ งและความสวยงาม
๑. เป็นความตกลงระหว่างรัฐหรือรัฐบาล หมายความว่า สนธิสัญญาน้ันเกิดจาก ของการจัดทําสอ่ื เพื่อใหความรูเรอ่ื งสทิ ธิ
มนุษยชน
การเห็นพ้องต้องกัน โดยหากเป็นข้อตกลงของสองฝ่ายจะเรียกว่า “ข้อตกลงทวิภาคี” ถ้ามีผู้เข้า
ตกลงมากกว่าสองฝ่ายขึ้นไปจะเรียกว่า “ข้อตกลงพหุภาคี” ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ 2. ครูตรวจสอบความถูกตอ งและความสวยงาม
ขอ้ ตกลงระหว่างประเทศจะทา� เป็นลายลักษณ์อกั ษรหรือไมก่ ไ็ ด้ ของปา ยนิเทศเร่ืองปญ หาสทิ ธิมนษุ ยชนของ
ทัง้ 3 กลมุ
๒. ท�าขึ้นตามกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่ใช่ตามกฎหมายภายในประเทศของ
รัฐใดรฐั หนงึ่

๘5

ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกรด็ แนะครู

การศึกษาหลกั การและแนวทางของสทิ ธมิ นุษยชนกอ ใหเกิดผลดี ครูควรเชญิ ผูท่มี คี วามเชย่ี วชาญหรือผูท่ที าํ งานทางดานสิทธิมนษุ ยชน มาเปน
อยางไร วทิ ยากรเพอื่ บรรยายใหความรูเกย่ี วกับสทิ ธิมนุษยชนในสงั คมไทย โดยใหครอบคลุม
ในประเด็นปญ หาสทิ ธมิ นุษยชนในสงั คมไทย อุปสรรค และการพฒั นาสิทธิมนษุ ยชน
1. คนในสงั คมมฐี านะดขี ้ึน ในประเทศไทย รวมถงึ แนวทางการมสี วนรว มของเยาวชนในการปกปองคมุ ครอง
2. ชวยใหประเทศกลายเปน มหาอาํ นาจ สทิ ธิมนุษยชนท้งั ของตนเองและผูอื่น จากนนั้ เปดโอกาสใหนักเรยี นไดส อบถาม
3. คนในสังคมมคี วามเอ้ืออาทรและอยรู ว มกนั อยางสนั ติ และแสดงความคดิ เห็นรวมกัน
4. สงผลใหเศรษฐกิจการเงินของประเทศมคี วามเขมแขง็
มุม IT
วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะหากคนในสงั คมมีความรู
ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพิม่ เตมิ เก่ยี วกับแนวทางการพฒั นาสิทธิมนษุ ยชน
ความเขา ใจในหลักสทิ ธมิ นุษยชนแลว นาํ ไปปฏบิ ตั ิ ก็จะทาํ ใหความ ในประเทศไทย ไดท ี่ http://www.mfa.go.th/humanrights/images/stories/
รนุ แรงในสงั คมลดนอ ยลง คนในสังคมตางเคารพในศักด์ศิ รีซึง่ กนั UPRTh30Dec11.pdf
และกัน และใชเหตผุ ลในการแกปญ หา สังคมก็จะเกดิ ความสงบสขุ
ประเทศมคี วามเจริญกาวหนา

คู่มือครู 85

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Elaborate Evaluate

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครูเกริน่ นาํ ถงึ ความหมาย ความสาํ คัญของ ๓. มุง่ ให้เกิดผลผูกพันหรอื พันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ เชน่ ก่อใหเ้ กิด
ขอตกลงระหวางประเทศ จากนัน้ ครสู มุ ถาม พันธกรณีที่ต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน หรือต้องน�าข้อพิพาทเสนอต่อองค์กรระหว่างประเทศ
นักเรียนวา เพอื่ วนิ ิจฉยั เป็นต้น
โดยปกตกิ ารทา� ขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ จะเรมิ่ จากการเจรจาระหวา่ งผแู้ ทนของรฐั ทปี่ ระสงค์
• ขอตกลงระหวา งประเทศมีประโยชน จะท�าการตกลงกัน เม่ือต่อรองกันจนบรรลุข้อตกลงแล้วอาจจะใช้เพียงการลงนามโดยผู้แทนรัฐ
อยา งไรบา ง เพื่อแสดงความยินยอมให้ข้อตกลงมีผลผูกพันกันได้โดยเร็ว หรือจะให้ใช้วิธีอื่นเพื่อประโยชน์
(แนวตอบ ขอตกลงระหวางประเทศมีประโยชน ในการตรวจสอบเนอื้ หาในขอ้ ตกลงทผี่ แู้ ทนไปทา� ไวก้ ไ็ ด้ เชน่ กา� หนดเรอื่ งวา่ จะตอ้ งมกี ารใหส้ ตั ยาบนั 1
และมคี วามสําคัญตอ ความสัมพันธอ นั ดใี ห
เกิดขึ้นระหวางรัฐตางๆ เชน การยอมรับหรือเห็นชอบข้อตกลง เป็นต้น
1. ทาํ ใหเกดิ ความรวมมอื กนั ทาํ กิจกรรมตางๆ ทั้งนี้การปฏิเสธความผูกพันในข้อตกลงระหว่างประเทศที่ท�าลงไป หรือท�าให้ผลผูกพัน
ทรี่ ฐั ไมส ามารถทําตามลาํ พงั ได เชน ส้ินสุดลง จะท�าได้โดยการยกกฎหมายระหว่างประเทศเก่ียวกับความไม่สมบูรณ์ของข้อตกลง
รว มกันจดั ตัง้ องคก ารสหประชาชาติ หรอื ภายใตก้ ฎหมายระหว่างประเทศขึน้ อ้าง เชน่ ข้อตกลงท่ที �าไปน้ันขดั กบั กฎหมายเดด็ ขาด ซ่ึงเปน็
การรวมกลมุ ของประเทศสมาชิกอาเซยี น กฎหมายท่ีไม่สามารถตกลงกันเปล่ียนแปลงได้ ได้แก่ ห้ามตกลงเพ่ือร่วมกันรุกรานรัฐอ่ืน
เปน ตน ห้ามตกลงร่วมกันค้าทาส เช่นเดียวกับข้อตกลงซึ่งเกิดจากการใช้ก�าลังอาวุธบีบบังคับให้รัฐต้อง
2. ชว ยระงับขอ พิพาทและลดความขดั แยง ที่มี กระท�าหรือบีบบงั คับผ้แู ทนของรัฐในการเจรจา ย่อมจะไมส่ มบรู ณ์เชน่ กนั
ตอ กันโดยสันติวิธี และรว มกันหาทางแกไข ในกรณีท่ีข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นบกพร่องด้วยเหตุอันไม่ใช่สาระส�าคัญ เช่น พิมพ์
ปญ หาท่เี หมาะสมกบั ทกุ ฝา ย ผิดพลาด คู่กรณีอาจแก้ไขให้ถูกต้องได้ ส�าหรับข้อตกลงที่สมบูรณ์ แต่คู่กรณีอีกฝ่ายหน่ึงไม่
3. ชวยใหการตดิ ตอสอ่ื สาร รวมไปถึงลักษณะ ตปาฏมิบหตั รติ ือาเมสนหอรเขอื ม้าสีคู่กวราะมบเหวน็นกแาตรกรตะา่งงับกขัน้อใพนิพเรา่ือทงกาเชรป่นฏบิกาตั ริตเาสมนขออ้ ตต่อกศลางลยกุต็ติธอ้ รงรเมรรยี ะกหรวอ้ ่างงใหป้ประฏเิบทัตศิ 2
ความสัมพนั ธระหวางประเทศดาํ เนนิ ไป เปน็ ตน้
อยางมีแบบแผนและเปนไปในทศิ ทาง
เดียวกนั เปน ตน)

สา� รวจคน้ หา Explore ๘.๒ ความสาำ คญั ของข้อตกลงระหว่างประเทศ

1. ครูใหน ักเรียนศกึ ษาคนควา ขอมลู เกย่ี วกับ ข้อตกลงระหวา่ งประเทศเป็นประโยชนแ์ ละมีความสา� คัญ ต่อความสมั พันธร์ ะหวา่ งรัฐต่างๆ
ขอตกลงระหวา งประเทศทสี่ าํ คญั โดยเฉพาะ อยา่ งหลากหลาย ดงั น้ี
อยางยง่ิ ขอ ตกลงระหวางประเทศในภมู ภิ าค
อาเซยี น จากหนงั สอื เรียนหนา 85-87 และ ๑. สามารถร่วมกันสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ของกฎหมาย ให้ทันกับความต้องการได้
จากแหลง การเรยี นรูตา งๆ เชน หองสมุด โดยไม่ตอ้ งรอให้ใชเ้ วลาพฒั นาจนเกดิ เปน็ จารีตประเพณเี สยี กอ่ น
อินเทอรเนต็ สอบถามจากผูที่มคี วามเชีย่ วชาญ
ดา นขอ ตกลงระหวา งประเทศ เปนตน ๒. ท�าให้เกิดการร่วมมือกันท�ากิจการต่างๆ ที่รัฐไม่สามารถท�าตามล�าพังได้ เช่น
ร่วมกันจัดต้ังองค์การสหประชาชาติ หรือในระดับภูมิภาค เช่น สมาคมอาเซียน เพ่ือร่วมกัน
2. ครใู หน ักเรยี นติดตามขาวสารขอ มลู ท่ีเกีย่ วกบั ทา� กิจการระดับโลก
ขอตกลงระหวางประเทศจากสือ่ ตางๆ เชน
หนงั สือพิมพ วทิ ยุ โทรทศั น เปน ตน เพอ่ื นาํ ๓. ช่วยระงบั ข้อพพิ าทท่มี ีตอ่ กัน โดยตกลงแลกเปลยี่ นผลประโยชน์กัน หรอื หากมี
ขอ มูลมาอภปิ รายรว มกนั ในช้นั เรียน ขอ้ ขดั แย้งจนไม่สามารถตกลงกันไดก้ ็อาจร่วมกันแสวงหาทางระงบั ขอ้ พิพาทโดยสันติวธิ ี

๘6

นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอ ใดกลาวถูกตองเก่ยี วกบั ขอตกลงระหวางประเทศ
1 สตั ยาบนั เปนการยืนยันรับรองความตกลงระหวางประเทศท่ีไดก ระทําขึ้นไว 1. เปน ขอตกลงแบบไตรภาคี
หรือเปนการรับรองนิติกรรมท่ีเปน โมฆยี ะอนั เปนผลใหน ติ กิ รรมนัน้ สมบรู ณม าแตเ ริ่มแรก 2. เปนพันธกรณตี ามกฎหมายระหวา งประเทศ
2 ศาลยตุ ธิ รรมระหวา งประเทศ (International Court of Justice) หรอื ศาลโลก 3. จัดทาํ ขึ้นตามบทบญั ญัติของกฎหมายภายในรฐั
ต้งั อยูท ี่กรุงเฮก ประเทศเนเธอรแลนด มหี นา ทต่ี ัดสนิ คดีพิพาทระหวางประเทศสมาชกิ 4. จัดทําขึน้ เพ่อื การเจรจาตอ รองทางการเมอื งระหวางประเทศ
ขององคการสหประชาชาติ ซงึ่ ประเทศคกู รณยี นิ ยอมใหศาลโลกเปน ผูพจิ ารณาตดั สนิ วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะขอตกลงระหวางประเทศ
เทา น้ัน และใหคาํ ปรึกษาปญ หาขอกฎหมายแกอ งคกรอ่ืนขององคการสหประชาชาติ หรอื สนธสิ ัญญา เปนความตกลงแบบทวิภาคีหรอื พหุภาคี
โดยการตัดสนิ คดีของศาลโลกถือเปน ขอ ยตุ ิ ไมมีการอุทธรณหรอื ฎกี า ซ่ึงจดั ทาํ ขน้ึ ตามกฎหมายระหวางประเทศ และมงุ ใหเกิดผลผูกพนั
หรือพนั ธกรณีตามกฎหมายระหวา งประเทศ
มุม IT

ศกึ ษาคนควาขอ มลู เพิ่มเตมิ เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาสทิ ธิมนษุ ยชน
ในประเทศไทย ไดที่ http://history.myfifirstinfo.com/history10.aspx

86 คมู่ ือครู

กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

ขอ ตกลงระหวา งประเทศเกยี่ วกบั เรอื่ งทอ่ี ยใู นความสนใจของรฐั สว นใหญ และเปน ทยี่ อมรบั ครูใหน กั เรียนยกตวั อยางขอ ตกลงระหวาง
ปฏิบัติกันอยางกวางขวาง จะพัฒนามาเปนกฎหมายสําคัญตางๆ เชน กฎหมายเก่ียวกับสภาพ ประเทศทเี่ ก่ยี วกบั การสง เสริม ปกปอ ง คมุ ครอง
แวดลอ มระหวา งประเทศ กฎหมายแรงงานระหวา งประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหวางประเทศ สิทธิมนุษยชน คนละ 1 ตวั อยาง แลว ใหน ักเรียน
เปนตน เขยี นสรปุ สาระสําคัญของขอ ตกลง โดยให
ครอบคลมุ ในเรื่องเปาหมาย กฎเกณฑ และผลดี
แมวาขอตกลงระหวางประเทศจะเปนเรื่องภายนอกประเทศ แตก็มีสวนเกี่ยวของกับ ทเี่ กิดข้นึ ลงในสมุดบันทึก จากนน้ั นําสง ครผู สู อน
ประชาชนในประเทศอยางมาก โดยเฉพาะเม่ือขอตกลงมีผลผูกพันตามกฎหมายระหวางประเทศ
แลว ยอ มตอ งปฏบิ ตั ติ าม ไมส ามารถยกกฎหมายไทยไปแกต วั หรอื ปฏเิ สธการปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลงได ขยายความเขา้ ใจ Expand

ในกรณีของประเทศไทยไดมีกําหนดไวในรัฐธรรมนูญ โดยใหสิทธิประชาชนสามารถเขาถึง ครใู หนกั เรยี นแบงกลุม 5 กลมุ ใหแตละกลุม
รายละเอียดของขอตกลงกอนจะมีผลผูกพันกัน หากวาขอตกลงนั้นจะกอใหเกิดผลกระทบตอ เลือกขอ ตกลงระหวางประเทศ 1 ดาน ที่นาสนใจ
ประชาชน ความมั่นคงทางเศรษฐกจิ และสังคมของประเทศอยา งกวา งขวาง แลวชว ยกนั จัดปายนเิ ทศเพอื่ ใหค วามรเู กีย่ วกับ
ขอ ตกลงระหวางประเทศตามทก่ี ลมุ ตนเองเลือก
กลาวโดยสรุปไดวา การเคารพสิทธิมนุษยชนเปนเรื่องท่ีท่ัวโลกใหความสําคัญ
ตรวจสอบผล Evaluate
โดยเฉพาะประเทศไทยไดใหความสําคัญเปนอยางมาก โดยประเทศไทยเปนปร1ะเทศหน่ึงที่ได
ครตู รวจสอบความถกู ตองและความสวยงาม
รวมลงนามรับรองปฏิญญาสากลวาดวยสิทธิมนุษยชนแหงสหประชาชาติ เม่ือวันท่ี ๑๐ ของการจัดปายนเิ ทศใหความรูเ ร่อื งขอ ตกลง
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๔๙๑ (ค.ศ. ๑๙๔๘) และนาํ มาวางเปนฐานคดิ ในการตรากฎหมายและจัดทํา ระหวางประเทศของแตล ะกลุม
รฐั ธรรมนญู เสมอ ซง่ึ กไ็ ดใ หค วามคมุ ครองและสง เสรมิ สทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชนไวอ ยา ง
เปนรูปธรรม อีกท้ังยังมีความกา วหนา และมคี วามเปน สากลมากขน้ึ

แตอยางไรก็ตามประเทศไทยก็เปนประเทศหน่ึง ที่มีปญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน
และจะตองไดรับการแกไขเชนเดียวกับประเทศอ่ืนๆ ทั่วโลก ซึ่งปญหาดังกลาวเปนปญหาท่ี
แกไขไดยาก

ดงั นนั้ จงึ ตอ งอาศยั ความรว มมอื จากหลายฝา ยในการชว ยกนั แกไ ขปญ หา ไมว า จะเปน
องคก ารระหวา งประเทศทีท่ าํ งานดานสทิ ธิมนษุ ยชน รฐั บาล การทําขอตกลงระหวางประเทศ
ในประเดน็ สทิ ธมิ นษุ ยชน ตลอดจนความรว มมอื ของประชาชนทกุ คน ถงึ จะสามารถทาํ ใหป ญ หา
การละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชนในประเทศไทยเบาบางลงได

๘๗

กจิ กรรมสรา งเสรมิ เกรด็ แนะครู

ครใู หน ักเรียนไปศกึ ษาคน ควา เกี่ยวกับองคก รทีม่ หี นาที่ในการ ครคู วรใหนักเรียนไดท ํากจิ กรรมการอภปิ รายกลมุ ถงึ ความสาํ คญั และประโยชน
คมุ ครองสิทธมิ นษุ ยชนของคนไทย 1 องคก รตามท่ตี นเองสนใจ ของการมขี อ ตกลงระหวา ประเทศ โดยใหนักเรียนรวมกนั สนทนาแลกเปลี่ยนแสดง
จากนั้นเขยี นสรปุ ประวัติความเปนมา วตั ถุประสงค และผลงาน ความคดิ เหน็ รวมถงึ เสนอขอตกลงระหวา งประเทศท่คี วรผลักดันใหเกดิ ข้ึน
สาํ คัญขององคก รดังกลาว ความยาว 1 หนากระดาษ A4 เพ่ือประโยชนรวมกัน จากนน้ั ครใู หน ักเรียนชวยกนั เขยี นสรปุ ผลการอภิปราย
แลว นาํ สง ครผู ูส อน
กจิ กรรมทา ทาย
นกั เรยี นควรรู
ครใู หน กั เรียนไปหาขา วเกย่ี วกับการละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน
ทเ่ี กิดข้ึนในตางประเทศ แลวเขียนวเิ คราะหว าเปนการละเมิด 1 สหประชาชาติ องคการสหประชาชาติ (United Nations : UN) เปน องคก าร
สทิ ธิมนษุ ยชนตามปฏิญญาสากลวาดว ยสิทธมิ นษุ ยชนแหง ระหวา งประเทศทก่ี อ ตงั้ ขน้ึ เพอื่ สนั ตภิ าพและการพฒั นา ปจ จบุ นั องคก ารสหประชาชาติ
สหประชาชาตขิ อใด และมีแนวทางในการแกไ ขหรือปอ งกนั มสี มาชกิ ทัง้ หมด 193 ประเทศ มสี าํ นักงานใหญต ัง้ อยูใ นนครนิวยอรก สหรฐั อเมริกา
อยางไร ความยาว 1 หนากระดาษ A4
คู่มอื ครู 87

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand
Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล

ครูตรวจสอบความถูกตอ งจากการตอบคาํ ถาม คาปถระาจÓมหนว่ ยการเรยี นรู้
ประจําหนว ยการเรยี นรู
๑. สทิ ธมิ นษุ ยชนมคี วามสา� คญั อยา่ งไรกบั การพฒั นาระบอบประชาธปิ ไตยและความเจรญิ
หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู กา้ วหนา้ ของประเทศ

1. งานเขยี นวเิ คราะหขาวทีเ่ กีย่ วกับประเด็นปญ หา ๒. ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธมิ นษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ มีความสา� คัญตอ่ ประชากรโลก
ดา นสิทธิมนุษยชน อย่างไร

2. งานเขียนแนวทางการสง เสริมสิทธมิ นษุ ยชน ๓. สถานการณส์ ทิ ธมิ นษุ ยชนในปจั จบุ นั ของไทยเปน็ อยา่ งไรบา้ ง จงวเิ คราะห์
ในสงั คมไทย ๔. นกั เรยี นมวี ธิ ีการปฏิบัตติ นอยา่ งไรที่ไม่เปน็ การละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชนของผูอ้ นื่ และหาก

3. ปา ยนิเทศเรอ่ื งปญหาสทิ ธิมนุษยชน นกั เรยี นถกู ละเมิดสิทธมิ นษุ ยชนหรือพบเห็นการถูกละเมดิ ควรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร
๕. ข้อตกลงระหวา่ งประเทศ มีลกั ษณะและความส�าคญั อยา่ งไร

กิจสรกา้ รงรสมรรค์พัฒนาการเรียนรู้

กจิ กรรมท่ี ให้นักเรียนสืบค้นภาพข่าว เหตุการณ์ จากวารสารหรือหนังสือพิมพ์ หรือ
เว็บไซต์ต่างๆ เก่ียวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน แล้วน�ามาวิเคราะห์ปัญหา
๑ รว่ มกัน พร้อมเสนอแนะแนวทางการแกไ้ ขปญั หา
ให้นักเรียนร่วมกันศึกษาประวัติและผลงานของพลเมืองดีที่เป็นผู้น�าการ
กิจกรรมท่ี เปล่ียนแปลงในด้านสิทธิมนุษยชน แล้วน�ามาจัดเป็นบอร์ดกิจกรรมเผยแพร่
ความรู้ในโรงเรยี น
๒ ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มอภิปรายเก่ียวกับปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
พร้อมแนวทางการแกไ้ ขปัญหา โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มนา� เสนอผลงานในช้ันเรยี น
กิจกรรมท่ี



๘๘

แนวตอบ คําถามประจําหนว ยการเรยี นรู
1. การปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยเนน การใหส ทิ ธแิ ละเสรภี าพแกป ระชาชน การทค่ี นเคารพในสทิ ธมิ นษุ ยชนของกนั และกนั จงึ เปน การสง เสรมิ ระบอบประชาธปิ ไตย

ใหมคี วามสมบูรณและยง่ั ยนื
2. เปาหมายของปฏญิ ญาสากลวา ดว ยสทิ ธิมนุษยชนแหง สหประชาชาตคิ อื คมุ ครองสิทธแิ ละเสรภี าพของพลเมืองทั่วโลก ซึง่ จะชวยปอ งกันการกระทําอนั เปน

การละเมิดสิทธมิ นุษยชนในรปู แบบตางๆ เชน การคามนษุ ย การใชแ รงงานเดก็ เปน ตน
3. ยงั คงมปี ญหาสิทธมิ นุษยชนในหลายๆ ดา น เชน การละเมดิ สิทธแิ รงงาน การละเมดิ สทิ ธเิ ด็กและเยาวชน การละเมดิ สิทธิสตรี เปนตน แตในอกี ดานหน่งึ

ก็มหี นวยงานที่ใหความชว ยเหลือดา นสิทธมิ นุษยชนเพมิ่ จาํ นวนมากข้นึ เชน มูลนธิ ิเด็ก มูลนิธิเพ่อื นหญงิ มลู นธิ ิปวณี าเพ่อื เดก็ และสตรี มลู นธิ ิศูนยพทิ กั ษเดก็
สถานสงเคราะหเ ดก็ หญงิ บา นราชวถิ ี เปนตน
4. การไมละเมิดสทิ ธขิ องผอู น่ื ทาํ ไดด ว ยการปฏบิ ตั ติ นตามหนา ทโี่ ดยไมไ ปกา วลาํ้ หนา ทข่ี องผอู นื่ หรอื ทาํ ใหผ อู น่ื เปน ทกุ ขท งั้ ทางกายและจติ ใจ สวนการปกปอ งสทิ ธิ
ของตนเองจากผอู ่ืน สามารถทําไดดว ยการพูดคุยทาํ ความเขาใจกบั ผูท มี่ าละเมิดสิทธิของเรา หากไมส ามารถตกลงกนั ได ควรใหเจาหนาท่ีของหนวยงานที่
เก่ียวขอ งเขามาชวยเหลอื
5. เปน ขอ ตกลงท่กี ระทําขึน้ ระหวางประเทศ มุง ใหเกดิ ผลผูกพนั หรือพนั ธกรณตี ามกฎหมายระหวา งประเทศ เพอ่ื แลกเปลย่ี นผลประโยชนซง่ึ กัน และเปน การลด
ความขัดแยงระหวางประเทศในทางหน่งึ ซ่งึ ประเทศไทยมกี ารนําขอ ตกลงระหวางประเทศที่เกี่ยวกบั การสง เสรมิ และปกปอ ง คุมครองสิทธิมนุษยชน เชน
- กตกิ าระหวา งประเทศวาดว ยสทิ ธพิ ลเมอื งทางการเมือง
- กตกิ าระหวางประเทศวา ดวย สทิ ธิ เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม เปน ตน

88 คู่มือครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Expore Explain
Engage

Expand Evaluate
เปา หมายการเรียนรู

1. อธิบายความสําคญั และความจําเปน ทีต่ อง
ธาํ รงรักษาไวซ ง่ึ การปกครองตามระบอบ
ประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ทรงเปน
ประมขุ ได

2. อธบิ ายปญ หาการเมืองทีส่ าํ คัญในประเทศ
จากแหลง ขอ มูลตางๆ ได

3. เสนอแนวทางแกไขปญ หาการเมอื งทสี่ าํ คญั
ในประเทศได

4. เสนอแนวทางการเมอื งการปกครองท่นี ําไปสู
ความเขา ใจและการประสานประโยชนร ว มกนั
ระหวางประเทศได

๕˹Nj ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙ·Œ èÕ รкͺการàมÍ× § สมรรถนะของผูเรียน

ตวั ช้ีวัด ¡Òû¡คÃͧ 1. ความสามารถในการสือ่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
■ วิเคร�ะห์ปญห�ก�รเมืองที่สำ�คัญในประเทศจ�กแหล่งข้อมูลต่�งๆ กÒ÷èÕ»ÃÐà·Èµ‹Ò§æ ¨Ñ´Ãкͺ¡ÒÃàÁ×ͧ 3. ความสามารถในการแกป ญหา
พรอ้ มทัง้ เสนอแนวท�งแกไ้ ข (ส ๒.๒ ม.๔-๖/๑) 4. ความสามารถในการใชท กั ษะชวี ติ
¡Òû¡¤Ãͧ¢Í§µ¹ãËŒÊÍ´¤ÅŒÍ§¡ÑºÊÀÒ¾áÇ´ÅŒÍÁ
■ เสนอแนวท�งก�รเมืองก�รปกครองท่ีนำ�ไปสคู่ ว�มเข�้ ใจและ ·Ò§àÈÃɰ¡¨Ô 椄 ¤Á áÅÐÇ²Ñ ¹¸ÃÃÁ ¡àç ¾Íè× »ÃÐ⪹㏠¹ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค
ก�รประส�นประโยชน์ร่วมกันระหว่�งประเทศ (ส ๒.๒ ม.๔-๖/๒) ¡ÒÃÍÂË٠Nj Á¡¹Ñ ¢Í§»ÃЪҪ¹ á¡äŒ ¢»Þ˜ ËÒÍ»Ø ÊÃäµÒ‹ §æ
·Òí ãË»Œ ÃÐà·Èà¨ÃÞÔ ¡ÒŒ Ç˹Ҍ áÅÐà¾Í×è »ÃÐ⪹㏠¹¡Òà 1. รักชาติ ศาสน กษตั รยิ 
■ วิเคร�ะห์คว�มสำ�คัญและคว�มจำ�เป็นที่ต้องธำ�รงรักษ�ไว้ ซึ่งก�ร ÊÃÒŒ §ÊÁÑ ¾¹Ñ ¸äÁµÃ¡Õ ºÑ ¹Ò¹Ò»ÃÐà·È 2. ซอ่ื สัตยสุจรติ
ปกครองต�มระบอบประช�ธิปไตย อันมีพระมห�กษัตริย์ทรงเป็น 3. ใฝเ รยี นรู
ประมุข (ส ๒.๒ ม.๔-๖/๓) ÊÒí ËÃºÑ »ÃÐà·Èä·ÂàÅÍ× ¡ãª¡Œ Òû¡¤ÃͧÃкͺ 4. รักความเปนไทย
»ÃЪҸԻäµÂ ÍѹÁÕ¾ÃÐÁËÒ¡ÉѵÃԏ·Ã§à»š¹»ÃÐÁØ¢ 5. มีจิตสาธารณะ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง à¾ÃÒÐàª×èÍÁèѹNjÒ໚¹Ãкͺ¡Òû¡¤Ãͧ·èÕÊÍ´¤ÅŒÍ§
¡ÑººÃÔº·¢Í§Êѧ¤Áä·Â «èÖ§¨Ðª‹Ç·íÒãËŒ»ÃÐà·Èä·Â กระตนุ้ ความสนใจ Engage
■ ลักษณะก�รเมืองก�รปกครอง ÁÕ¤ÇÒÁà¨ÃÔÞ¡ŒÒÇ˹ŒÒä´ŒÃÇ´àÃçÇ áÅзíÒãËŒ¤¹ä·Â
■ ก�รปกครองต�มระบอบประช�ธิปไตย อันมีพระมห�กษตั รยิ ์ทรงเป็น Í´‹Ù ÁÕ ÊÕ ¢Ø ครใู หนกั เรียนดภู าพอนสุ าวรยี ประชาธิปไตย
ท่ีหนาหนว ยการเรียนรู แลว ตั้งคําถามเชือ่ มโยงกบั
ประมขุ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทย
■ อทิ ธิพลของระบอบก�รเมืองก�รปกครองต่อก�รดำ�เนินชวี ติ โดยใหนักเรียนชว ยกนั ตอบคําถาม เชน
■ สถ�นก�รณ์ก�รเมืองก�รปกครองของสังคมไทย
■ ปญห�ก�รเมืองสำ�คัญที่เกิดขน้ึ ภ�ยในประเทศ • สถานทใ่ี นภาพมคี วามสาํ คัญตอการเมือง
■ ก�รดำ�เนินนโยบ�ยด�้ นคว�มสัมพนั ธ์ระหว�่ งประเทศของไทย การปกครองไทยอยา งไร

เกรด็ แนะครู

การเรียนเร่ืองระบอบการเมืองการปกครอง มเี ปา หมายสาํ คญั เพื่อใหน กั เรยี น
สามารถวเิ คราะหป ญ หาการเมอื งทสี่ าํ คญั ในประเทศ พรอมทั้งเสนอแนวทางการเมือง
การปกครองท่ีนาํ ไปสูความเขาใจและการประสานประโยชนร ว มกนั ระหวา งประเทศ
และวเิ คราะหค วามสาํ คัญและความจําเปนทตี่ องธาํ รงรกั ษาไวซ ึ่งการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท รงเปนประมขุ ซ่งึ ครูควรจัดกจิ กรรม
การเรียนรู โดยใหนักเรยี นทํากิจกรรม ตอไปน้ี

• รวมกันศกึ ษาความรูเกย่ี วกบั การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อันมี
พระมหากษตั รยิ ท รงเปน ประมขุ ของไทย อทิ ธพิ ลของระบอบการเมอื งการปกครอง
ทม่ี ผี ลตอ การดาํ เนนิ ชวี ติ สถานการณก ารเมอื งการปกครองของสงั คมไทย และปญ หา
การเมืองสําคัญท่เี กดิ ขนึ้ ภายในประเทศ เพื่อนาํ เสนอหนา ชนั้ เรียน แลว สืบคนขอ มูล
เพม่ิ เตมิ เพอ่ื จัดทําแผนปายพระราชกรณยี กจิ ดา นการเมืองการปกครอง และนาํ เสนอ
แนวทางการแกไ ขปญหาการเมืองในประเทศ

• รว มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั การเขา รว มเปน สมาชกิ องคก ารความรว มมอื ระหวา ง
ประเทศของไทย แลว นาํ เสนอหนา ชน้ั เรยี น และเลน เกมตอบคาํ ถาม จากน้นั เสนอ
แนวทางการสง เสรมิ ความรว มมอื ระหวา งประเทศของไทย

คู่มอื ครู 89

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Elaborate Evaluate
Explain

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครูนาํ ภาพขาวเกีย่ วกบั กิจกรรมทางการเมือง ๑. ลักษณะการเมอื งการปกครอง
การปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทย มาให
นกั เรยี นพจิ ารณา แลวอภิปรายกิจกรรมทาง ประเทศต่างๆ ในโลกย่อมมีระบอบการเมืองการปกครองท่ีประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ
การเมอื งนัน้ ๆ วเิ คราะหผลดีจากกิจกรรมดังกลา ว เชื่อว่าเหมาะสมและสอดคล้องกับความคิดความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และสภาพแวดล้อมทาง
แลว ครูถามคําถาม เชน เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศน้ันๆ หากปรากฏว่าระบอบการเมืองการปกครอง
ตท้อี่ใชงอ้มยีกู่ใานรชเปว่ งลรี่ยะนยแะเปวลลงาหพนัฒึง่ ไนมา่เหมหาระือสปมฏิรหูปรรือ1ะไบมอส่ บอดกคารลเอ้ มงือกงบั กสาภราปพกแควรดอลง้อใหม้เตห่ามงาๆะดสมังกลแ่าลวะเกปจ็ ็นะ
• เพราะเหตใุ ดประเทศตา งๆ จงึ มลี กั ษณะ ประโยชนต์ ่อประชาชนของประเทศใหม้ ากทส่ี ดุ
ทางการเมืองการปกครองแตกตา งกัน
(แนวตอบ ประเทศตา งๆ มรี ะบอบการเมือง ระบอบการเมืองการปกครองท่ีประเทศต่างๆ ในโลกใช้กันอยู่ในปัจจุบันมี ๒ ระบอบ คือ
การปกครองทปี่ ระชาชนสวนใหญข องประเทศ ระบอบประชาธปิ ไตย และระบอบเผดจ็ การ แตถ่ า้ หากจะกลา่ วเชงิ เปรยี บเทยี บกส็ ามารถกลา่ วไดว้ า่
เชอื่ วา เหมาะสมและสอดคลอ งกบั สภาพสงั คม) ทปรีป่ ะกเคทรศอตง่าดง้วๆยรใะนบโอลบกนเผี้ ดส็จ่วกนาใรหญเช่ม่นีกเากราปหกลคเี รหอนงือระ2เบปอ็นบตป้นระชาธิปไตย แต่ก็อาจมีในบางประเทศ

สา� รวจคน้ หา Explore ระบอบการเมอื งการปกครองทัง้ ๒ ระบอบ มีรายละเอยี ดพอสงั เขป ดงั น้ี

ครใู หนักเรียนจับคูเพ่ือชว ยกันศกึ ษาความรู ๑.๑ ระบอบประชาธปิ ไตย
เกย่ี วกับลกั ษณะการเมอื งการปกครองและรูปแบบ
ของรฐั จากหนังสือเรียน หนา 90-95 และแหลง การปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นการปกครองที่ให้ความสำาคัญกับศักดิ์ศรีความเป็น
การเรยี นรตู า งๆ มนุษย์ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนมอี าำ นาจในการปกครองตนเอง หรอื กล่าวไดว้ า่ อำานาจอธิปไตย
เปน็ ของประชาชน พลเมืองทกุ คนมสี ิทธิ เสรภี าพ และเสมอภาค โดยสามารถทจ่ี ะกระทาำ การใดๆ
อธบิ ายความรู้ Explain ไดโ้ ดยเสรี ภายใตข้ อบเขตของกฎหมาย การสนบั สนนุ และพฒั นาการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
ใหม้ คี วามสมบูรณ์มากข้ึน จึงเปน็ สง่ิ ท่ีพลเมืองพงึ ปฏบิ ัติ
ครสู มุ นกั เรยี น 2-3 คน เพอ่ื ใหต อบคาํ ถามเกย่ี วกบั
ลักษณะการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย เชน ๑) หลกั การของระบอบประชาธิปไตย ทสี่ าำ คญั มดี งั น้ี

• การปกครองระบอบประชาธิปไตยมีหลกั การ ๑. อำานาจอธิปไตยหรืออำานาจสูงสุดในการปกครองประเทศ เป็นอำานาจท่ีมา
สาํ คัญอยางไร จากปวงชนหรอื ทเ่ี รียกกันว่า “อำานาจของรัฐ (State Power)” โดยผ้ทู จี่ ะได้อาำ นาจปกครองจะต้อง
(แนวตอบ อาํ นาจอธิปไตยหรืออํานาจสงู สุด ไดร้ ับความยินยอมจากประชาชนสว่ นใหญ่ในประเทศ
ในการปกครองประเทศเปนอํานาจทมี่ าจาก
ปวงชน โดยประชาชนมีสทิ ธทิ ี่จะมอบอาํ นาจ ๒. ประชาชนมีสิทธิที่จะมอบอำานาจปกครองให้แก่ประชาชนด้วยกันเอง
ปกครองใหแ กป ระชาชนดวยกันเอง ผา นทาง โดยการออกเสียงเลือกต้ังประชาชนกลุ่มหนึ่ง ท่ีอาสาจะมาเป็นผู้บริหารประเทศแทนประชาชน
การออกเสยี งเลือกตั้ง) สว่ นใหญ่ ตามระยะเวลาและวธิ กี ารท่ีไดก้ าำ หนดไวอ้ ย่างเปน็ ทางการ เชน่ กำาหนดไว้ว่าทกุ ๔ ปี
จะตอ้ งมกี ารเลือกต้ังผู้แทนของประชาชนพรอ้ มกนั ทว่ั ประเทศ เปน็ ต้น

๓. รัฐบาลจะต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพขั้นพ้ืนฐานของประชาชน เช่น สิทธิ
ในทรพั ยส์ นิ สิทธิในชีวิต เสรภี าพในการพูด การเขยี น การแสดงความคิดเหน็ การรวมกล่มุ สิทธิ
90 ในการสรา้ งครอบครวั เสรีภาพในการชมุ นุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ เป็นตน้

นกั เรยี นควรรู ขอ สอบ O-NET
ขอ สอบป ’53 ออกเกีย่ วกบั หลกั การปกครองระบอบประชาธิปไตย
1 ปฏิรปู คือการปรับหรอื จดั ส่ิงตา งๆ ที่บิดเบอื นไปจากเดมิ หรืออยใู นสภาพ หลกั การใดสอดคลองกับการปกครองแบบประชาธิปไตย
ทไ่ี มเหมาะสมใหด ียิ่งข้นึ โดยรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย (ฉบับช่ัวคราว) 1. หลกั เอกภาพ
พ.ศ. 2557 ไดบ ญั ญัติใหม ีสภาปฏิรปู แหง ชาติข้นึ เพื่อทําหนาที่ศกึ ษาและเสนอแนะ 2. หลกั นติ ิธรรม
เพือ่ ใหเกิดการปฏริ ูปประเทศไทยใน 11 ดา น ไดแ ก การเมอื ง การบริหารราชการ 3. หลกั เหตุผลแหง รัฐ
แผนดนิ กฎหมายและกระบวนการยตุ ิธรรม การปกครองทองถนิ่ การศกึ ษา 4. หลกั การกระจายอํานาจ
เศรษฐกจิ พลังงาน สาธารณสขุ และสง่ิ แวดลอ ม ส่อื สารมวลชน สังคม และอน่ื ๆ วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. และ 4. เพราะหลกั สาํ คัญของ
2 เกาหลเี หนือ มชี ื่ออยางเปน ทางการวา “สาธารณรฐั ประชาธิปไตยประชาชน การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย คือ อาํ นาจการปกครองประเทศ
เกาหล”ี เมืองหลวงชื่อ เปยงยาง ปกครองดวยระบอบคอมมิวนิสต ผูก อ ตงั้ ประเทศ เปน ของประชาชนทกุ คน เคารพในความเสมอภาคของประชาชน
คอื คมิ อลิ ซงุ ผูน ําคนปจจุบันช่ือคิมจองอึน ซึง่ เปน หลานปูข องคิมอลิ ซงุ หลักการเมอื ง รวมถงึ ประชาชนมีสทิ ธิ เสรภี าพ และหนาทีต่ ามบทบญั ญตั ิของ
ของเกาหลเี หนือตง้ั อยบู นพน้ื ฐานของลทั ธิจเู ช (Juche) ซงึ่ คิมอลิ ซุงเปน ผูบ ัญญตั ขิ ้นึ กฎหมาย หลักนติ ิธรรมทบี่ ังคับใชก ฎหมายกับทุกคนอยาง
ประกอบดว ยหลักสําคัญ 3 ประการ คอื เอกราชทางการเมอื งอยางแทจริง การพงึ่ พา เทา เทียมกัน และหลกั การกระจายอาํ นาจเพอื่ ใหป ระชาชนมีสว นรว ม
ตนเองทางเศรษฐกิจ และการปอ งกันประเทศดว ยตนเอง ในการปกครองทอ งถ่ินของตนเองใหมากทส่ี ุด

90 คมู่ อื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

โดยรัฐบาลจะตองไมละเมิดสิทธิดังกลาวขางตน เวนแตเพื่อรักษาความม�ันคง ครนู าํ สนทนาถงึ ลกั ษณะของการปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตยและถามคําถาม
ของชาติ เพื่อรักษาความสงบเรียบรอย เพื่อคุมครองประโยชนสวนรวม เพื่อรักษาศีลธรรม
• การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
อันดีงามของประชาชน หรือเพื่อสรางสรรคความ แบง ออกเปนรปู แบบใดบาง
(แนวตอบ ระบอบประชาธิปไตย แบง ออก
เปนธรรมแกสังคมเทานน้ั ไดเ ปน 2 รปู แบบ คือ ระบอบประชาธปิ ไตย
อันมพี ระมหากษตั ริยท รงเปนประมุข เชน
๔. ประชาชนทุกคนมีสิทธิเสมอกัน ไทย ญปี่ ุน และระบอบประชาธปิ ไตยที่มี
ประธานาธิบดเี ปนประมุข เชน สหรัฐอเมริกา
ในการที่จะไดร ับบริการทกุ ชนิดท่ีรฐั จัดใหแ กประชาชน เกาหลใี ต เปนตน)

ฐานันดรหรือยศถาบรรดาศักดิ์ ไมกอใหเกิดอภิสิทธิ์ จากนน้ั ครูสมุ นกั เรยี น 2-3 คน เพือ่ ใหต อบ
คําถามเกยี่ วกบั ลักษณะการเมืองการปกครอง
หรอื สทิ ธพิ เิ ศษแกบ คุ คลนัน้ แตอยา งใด ระบอบเผดจ็ การ เชน

๕. รัฐบาลถือกฎหมายและความ • การปกครองระบอบเผด็จการมีลักษณะเดน
อยางไร
เปนธรรมมาเปนบรรทัดฐานในการปกครอง และ (แนวตอบ การรวมอํานาจทางการเมอื ง
การปกครองไวท่บี ุคคลเพยี งคนเดียว
ในการแกปญหาความขัดแยงตางๆ ภายในประเทศ รฐั ธรรมนญู กําหนดใหบุคคลมีสทิ ธิเสมอกันในการ คณะเดยี ว หรอื พรรคเดียว และสามารถใช
โดยรัฐบาลจะตองไมออกกฎหมายท่ีมีผลเปนการ เขารับบริการทางสาธารณสขุ ทเี่ หมาะสมและได อํานาจนนั้ ควบคุมบงั คบั ประชาชนไดโดย
ลงโทษบุคคลยอ นหลงั มาตรฐาน เดด็ ขาด หากประชาชนคนใดคดั คานกจ็ ะถกู
ลงโทษดวยมาตรการตางๆ)
อนั มพี ระมหา๒กษ)ตั รระยิ บท อรงบเปปนระปชระามธขุปิ 1ไเชตนยสแหบราง ชอออากณไดาเจปกั นร ๒ รูปแบบ คือ ระบอบประชาธิปไตย
ญป่ี นุ เปน ตน และระบอบประชาธปิ ไตย • หลักการสําคญั ของการปกครองระบอบ
เผด็จการคืออะไร
ท่มี ปี ระธานาธิบดีเปนประมขุ เชน สหรฐั อเมริกา เกาหลีใต อนิ โดน�เซีย เปนตน (แนวตอบ ผูนําคนเดียว หรอื คณะของผนู ํา
กองทัพ หรือพรรคการเมืองเดียว มีอํานาจ
๑.๒ ระบอบเผดจ็ การ สงู สุดในการปกครองและสามารถใช
อาํ นาจนนั้ ไดอ ยา งเตม็ ที่ โดยไมต อ งฟง เสยี ง
การเมืองการปกครองระบอบเผด็จการมีลักษณะเดนอยูท่ีการรวมอํานาจในทางการเมือง ของคนสวนใหญในประเทศ และการรักษา
การปกครองไวที่บุคคลเพียงคนเดียว คณะเดียว หรือพรรคเดียว โดยบุคคล คณะบุคคล หรือ ความมน่ั คงของผนู าํ หรอื คณะผนู าํ สาํ คญั กวา
พรรคดังกลาวสามารถใชอํานาจนั้นควบคุมบังคับประชาชนไดโดยเด็ดขาด หากประชาชนคนใด การคมุ ครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพของประชาชน
คดั คานผนู ําหรือคณะผนู ํา กจ็ ะถูกลงโทษดว ยมาตรการตา งๆ ประชาชนจงึ ไมส ามารถวพิ ากษวิจารณก าร
กระทาํ ของผูนาํ อยางเปด เผยได)
๑) หลกั การของระบอบเผดจ็ การ จากท่ีไดก ลา วมาขา งตน อาจสรปุ หลกั การของ

ระบอบเผดจ็ การพอสังเขปได ดงั น�้
๑. ผนู าํ คนเดยี ว หรือคณะผูนาํ ของกองทพั หรือพรรคการเมืองเพยี งกลุม เดยี ว

มีอํานาจสูงสุดในการปกครองและสามารถใชอํานาจน้ันไดอยางเต็มท่ี โดยไมตองฟงเสียงของคน
สวนใหญในประเทศ

๒. การรกั ษาความมน�ั คงของผนู าํ หรอื คณะผนู าํ สาํ คญั กวา การคมุ ครองสทิ ธแิ ละ
เสรภี าพของประชาชน ประชาชนไมส ามารถจะวพิ ากษว จิ ารณก ารกระทาํ ของผนู าํ อยา งเปด เผยได

๙๑

ขอสอบ O-NET นกั เรยี นควรรู
ขอสอบป ’51 ออกเก่ียวกับตนกาํ เนดิ ของระบอบประชาธิปไตย
การปกครองตนเองของประชาชนแบบประชาธิปไตย 1 พระมหากษัตรยิ ท รงเปน ประมุข ปจจุบนั ประเทศทม่ี ีพระมหากษตั ริยทรงเปน
เริ่มปรากฏข้นึ ต้งั แตเมอ่ื ใด ประมุข มี 28 ประเทศ ไดแ ก
1. สมยั กลาง 2. สมยั โรมัน
3. สมยั กรีกโบราณ 4. สมยั ฟนฟูศิลปวทิ ยา 1. ทวีปเอเชีย ประกอบดวย ไทย กัมพูชา มาเลเซีย บรไู น ญี่ปุน ภูฏาน
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. สมยั กรกี โบราณ มีนครรฐั ตางๆ ซาอุดอี าระเบยี สหรฐั อาหรบั เอมิเรตส คเู วต กาตาร บาหเ รน โอมาน และจอรแ ดน
มากมาย นครรฐั เอเธนสถ อื เปนตน กําเนิดการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย โดยเริ่มเมอ่ื ประมาณ 594 ปก อนคริสตกาล ขุนนาง 2. ทวปี ยโุ รป ประกอบดว ย สวีเดน นอรเวย เดนมารก เบลเยียม เนเธอรแ ลนด
ช่ือโซลอน ไดจดั ตั้งศาลสูงสดุ ของประชาชนและปฏิรูประบบ ลกั เซมเบิรก ลกิ เตนสไตน โมนาโก สเปน และองั กฤษ
สภาใหม ซ่ึงถอื เปน กาวแรกของการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย
3. ทวีปแอฟรกิ า ประกอบดวย โมร็อกโก สวาซิแลนด และเลโซโท
4. หมูเกาะในมหาสมุทรแปซิฟก ประกอบดว ย ซามวั และตองกา

ตอ มาราว 461 ปกอ นคริสตกาล เบริคคัสไดปรบั ปรงุ การปกครอง
ของนครรฐั เอเธนสใ หเปน ประชาธิปไตยยิ่งขึน้ เชน ชาวเอเธนส
ทกุ คนสามารถวจิ ารณก ารทาํ งานของผปู กครองนครรฐั ได การตดั สนิ ใจ มุม IT

กระทําการสิง่ ใดจะใชวธิ ีลงมติแลว ทําตามเสียงขา งมาก เปน ตน ศึกษาคนควาขอ มลู เพมิ่ เติมเก่ยี วกบั ประเทศท่ปี กครองดว ยระบอบประชาธปิ ไตย
ประชาธปิ ไตยของกรกี เปนแบบทางตรง ไมมผี แู ทน ชายท่บี รรลุ
นิติภาวะแลว และเปน เสรีชนมสี ทิ ธเิ ขารวมการบริหารนครรัฐได อนั มีพระมหากษตั ริยท รงเปนประมขุ ไดท ี่ http://www.moe.go.th/
king60/country27/index.htm คมู่ ือครู 91


Click to View FlipBook Version