The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน้าที่พลเมือง ม4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รพินทร์ ไพรวัลย์, 2020-07-16 00:01:59

หน้าที่พลเมือง ม4

หน้าที่พลเมือง ม4

กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

ครใู หน กั เรยี นยกตวั อยา งกฎหมายตางๆ ๑.๒ ความสำาคญั ของกฎหมาย
แลวบอกวา กฎหมายทยี่ กตวั อยา งมานัน้
มคี วามสาํ คัญตอ นักเรยี นและสงั คมอยา งไร ธรรมชาตขิ องมนษุ ยน์ นั้ ตอ้ งอยรู่ วมกนั เปน็ สงั คม ไมอ่ ยโู่ ดดเดย่ี วตามลา� พงั การมาอยรู่ วมกนั
(แนวตอบ กฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ งกับชวี ติ ประจําวนั เป็นสังคมนี้ ถา้ แต่ละคนท�าตามอ�าเภอใจของตน ย่อมจะกระทบกระเทอื นผอู้ นื่ ได้
ของคนไทย เชน กฎหมายรฐั ธรรมนญู เปน ดังน้ัน จึงจ�าเป็นต้องมีกติกาเป็นการควบคุม
กฎหมายสงู สดุ ท่ใี ชใ นการปกครองประเทศ หรือจัดระเบียบทางสังคม โดยวางแนวทางส�าหรับ
และเปน เครือ่ งมือจาํ กดั อาํ นาจของรัฐและ การอยู่ร่วมกันไว้ เพื่อก�าหนดบทบาทของแต่ละคน
ผปู กครองใหอ ยภู ายในขอบเขต ชวยจัดระเบยี บ ให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อยไม่กระทบกระท่ัง
ความสัมพันธร ะหวา งสถาบนั ทางการเมอื ง หรือเอารัดเอาเปรียบกันจนเกิดการวิวาท อันท�าให้
การปกครอง กาํ หนดบทบาทในการตรวจสอบ สังคมปราศจากความเป็นปึกแผ่น ขาดความสงบสุข
ถวงดลุ กัน และสง เสริมสทิ ธิเสรีภาพของ และแตกสลายไปในทสี่ ดุ
ประชาชน กฎหมายแพง และกฎหมายอาญา กติกาท�านองน้ีแม้แต่ในสังคมขนาดเล็ก เช่น
กฎหมายแพงเปน กฎหมายท่ีเก่ียวกับบุคคล กฎหมายเป็นกติกาทางสังคมอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ ครอบครัว ชัน้ เรียน หรอื สมาคม กต็ ้องมีเช่นกัน เช่น
ครอบครัว และมรดก สวนกฎหมายอาญา สงั คมเกดิ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย การปฏบิ ตั ติ าม ครอบครวั พอ่ แมผ่ เู้ ปน็ หวั หนา้ ครอบครวั จะวางกฎกตกิ า
เปน กฎหมายที่รฐั บัญญตั ิขึ้น เพื่อกาํ หนด กฎหมายจงึ เปน็ หนา้ ท่สี ำาคญั ของทุกคน
ลักษณะของการกระทําท่ถี ือวาเปนความผดิ
และกําหนดบทลงโทษทางอาญาสาํ หรบั ใหค้ นในครอบครวั ปฏิบตั ติ าม รวมทั้งแบง่ หน้าที่ของแตล่ ะคนในครอบครวั ดว้ ย เปน็ ตน้
ความผดิ นั้น ซึ่งท้ังกฎหมายแพงและกฎหมาย ศลี ธรรกมตกิศาาซส่งึนเาป็นจบารรรีตทปดัรฐะเาพนณสา�ี 1หหรรบั อื กกาฎรหอมย่ราู ว่ยมซกนังึ่ สในังคสมังคกมารมปอี กยค่หู รลอางยขอนยา่าดงใดห้วญยก่อนันั ไไดม้แว่ กา่ ร่จฐั ะหเปรน็อื
อาญา จะชวยคุม ครองชีวิตและทรพั ยส นิ ของ ประเทศนั้น จ�าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องน�ากติกาต่างๆ เหล่าน้ีมาใช้ในสังคม เพ่ือให้สังคมมีแต่
บคุ คลใหป ลอดภัย ปอ งกันการถกู ละเมิดสทิ ธิ ความสนั ติสขุ
เสรภี าพ และชว ยจดั ระเบยี บสงั คมใหม ีความ
เรยี บรอย สงบสขุ และปลอดภยั ) อ�านาจของกฎหมายจึงแตกต่างไปจากบรรทัดฐานอย่างอนื่ ในสังคม คอื ศีลธรรม ศาสนา

และจารตี ประเพณี เพราะศีลธรรมและศาสนานั้นผใู้ ดจะเคารพเชอ่ื ฟังหรือไม่ ขึ้นกับความเลอ่ื มใส

ศรัทธาในหลักทางศีลธรรมหรือในค�าส่ังสอนทางศาสนานั้นว่าท�าให้คนเป็นคนดีอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้

ส่วนจารีตประเพณีน้ันผู้ใดจะรับมาปฏิบัติย่อมเกิดจากการเลียนแบบจนเคยชิน หรือเห็นว่า

จารตี ประเพณดี งั กล่าวก่อใหเ้ กดิ ความสะดวกแกต่ นในการอยรู่ ่วมกบั ผูอ้ นื่ ในสังคม

เกรด็ นา่ รู้ ผู้มีจิตใจหยาบกระด้างอาจบ�าเพ็ญตนเป็นคน
ไม่มีศีลธรรมหรือศาสนาโดยไม่กลัวบาปบุญคุณโทษ
กฎหมายเป็นบรรทัดฐานทางสังคม หรืออาจท�าตนเป็นคนนอกรีตนอกรอยผิดประเพณีได้
ท่ีมีการกำาหนดขึ้นมาอย่างมีแบบแผน
และเป็นระบบ คือมีบทบัญญัติท่ีเก่ียวกับ
แนวทางประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ขอ้ หา้ ม รวมถึงบท โดยไม่กลัวค�าติฉินของผู้อื่น แต่ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง
ลงโทษต่อผทู้ ีฝ่ ่าฝืนอย่างชดั เจน กฎหมายแล้ว เจ้าหน้าท่ีของรัฐย่อมด�าเนินการบังคับ
ให้เขาไดร้ บั โทษหรือผลร้ายได้อยา่ งจรงิ จังและแนน่ อน

142

นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
กฎหมายในขอ ใดตอ ไปน้เี ปน กฎหมายทจี่ ัดทาํ โดยองคก ร
1 จารีตประเพณี หรือกฎศลี ธรรม หมายถงึ สง่ิ ซึ่งสังคมใดสงั คมหน่ึงยึดถอื ฝา ยนิตบิ ัญญตั ิ
และปฏิบัติสบื กนั มาอยา งตอเนื่องและมน่ั คง เปน เร่อื งของความผดิ ถกู ทม่ี เี รือ่ ง 1. รฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550
ของศลี ธรรมเขามารว มดว ย ดังนัน้ สมาชิกในสงั คมน้ันๆ จึงตองทาํ ตาม หากผใู ด 2. พระราชบัญญตั ิกองทุนสงเคราะหเ กษตรกร พ.ศ. 2554
ฝาฝน ถือวาเปนคนผิดบาป และจะถกู ตําหนิหรอื ไดรับการลงโทษจากคนใน 3. เทศบญั ญัติเทศบาลเมืองพังงา เรื่องแนวเขตวงเวียนน้ําพุ
สงั คมนนั้ เชน ลูกหลานตอ งเลย้ี งดูพอแมเ มื่อทานแกเฒา ถาใครไมเลีย้ งดถู อื วาเปน พ.ศ. 2550
คนเนรคุณหรอื ลกู อกตัญู หา มมิใหพอกบั ลกู สาวหรอื พช่ี ายกับนอ งสาว รวมทัง้ 4. พระราชกฤษฎกี าวาดว ยการบรหิ ารงานจงั หวดั
บคุ คลทมี่ ีความสัมพันธก ันทางสายโลหติ แตงงานหรืออยกู ินเปน สามภี รรยากัน และกลุมจงั หวดั แบบบูรณาการ พ.ศ. 2551
เปน ตน วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะพระราชบญั ญตั เิ ปน กฎหมาย
ทจี่ ดั ทาํ โดยองคก รฝา ยนติ บิ ญั ญตั ิ
จารีตประเพณขี องแตละสังคมนั้นยอ มไมเ หมือนกนั เพราะมคี า นิยม
ทีย่ ึดถอื ตางกัน การนาํ เอาจารีตประเพณขี องตนไปเปรียบเทยี บกับของคนอน่ื แลว
ตดั สินวา ดหี รือเลวกวาของตนยอ มเปนสงิ่ ท่ีไมถกู ตอง เพราะสภาพสังคม
ส่ิงแวดลอม ตลอดจนความเชือ่ ของแตละสงั คมยอมแตกตางกันไป

142 ค่มู อื ครู

กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู

๑.๓ กฎหมายกบั สทิ ธ ิ เสรีภาพ และหน้าท่ีของประชาชน 1. ครใู หนกั เรยี นยกตัวอยา งการปฏบิ ตั ติ นตาม
กฎหมายทีเ่ กีย่ วกับ สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา ที่
กฎหมายมิได้เพียงแต่ก�าหนดหน้าที่ให้ประชาชนประพฤติตามเท่านั้น แต่ยังช่วยคุ้มครอง ของชนชาวไทย คนละ 1 ตัวอยา ง และบอก
ผลดที เ่ี กดิ ขึน้ จากการปฏิบตั ิ
ประโยชน์ต่างๆ ของประชาชน ด้วยการรับรองสิทธิ (แนวตอบ ยกตัวอยาง เชน การเสยี ภาษีเงนิ ได
บุคคลตามกําหนดเวลา ซงึ่ เปนการปฏิบัติตาม
และเสรีภาพของคนในสังคมด้วย โดยกฎหมายสูงสุด กฎหมายภาษอี ากร และถือเปนหนา ทสี่ ําคญั
อยา งหนึง่ ของประชาชนชาวไทย เพราะเงนิ
ทเ่ี ปน็ หลกั ประกนั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของปวงชนชาวไทย ภาษที ่รี ฐั จดั เก็บนี้ จะนาํ ไปใชด ําเนินการพัฒนา
สาธารณปู โภคตา งๆ เชน สรางถนนหนทาง
โดยกฎหมายอน่ื จะขดั หรือแยง้ มิได้ ไดแ้ ก่ รัฐธรรมนญู พัฒนาระบบขนสงมวลชน พฒั นาดา นการ
แพทยและสขุ อนามยั เปน ตน สงผลดที าํ ให
ซึ่งได้ให้ความคุ้มครอง และช่วยส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ สมาชกิ ในสังคมมคี ณุ ภาพชีวติ ทด่ี ขี ึน้ )

ของประชาชนในด้านต่างๆ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน รวมทงั้ ได้ 2. ครูตงั้ ประเดน็ คาํ ถาม
• หากคนในสงั คมไมเคารพสทิ ธิเสรีภาพ
จา� แนกเนอื้ หาออกเป็นสว่ นตา่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจได้งา่ ย ของผูอนื่ จะสง ผลกระทบตอ การอยูรวมกัน
อยา งไร
มากยงิ่ ขนึ้ โดยมที ง้ั สว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความเสมอภาค กฎหมายได้ให้ความคุ้มครองสิทธิของบุคคล เช่น (แนวตอบ สงผลกระทบตอ การอยรู วมกนั
หรือความเท่าเทียมกันระหว่างชนชาวไทย รวมท้ัง บคุ คลยอ่ มมสี ทิ ธใิ นการไดร้ บั การรกั ษาพยาบาลจาก เชน สงั คมเกิดความวุนวายเนอ่ื งจากการไม
เสช่ว่นนทส่ีเกิที่ยธวิใขน้อชงีวกิตับแสลิทะรธ่าิแงลกะาเสยร1ีภสาิทพธขิในอกงบระุคบควลนดก้วายรยุติธสรถารนมพยาสบิาทลธขอิใงนรฐัททรไ่ี ดัพม้ ายต์สรฐินาน เสรีภาพใน เคารพสทิ ธิเสรภี าพของผอู ่นื ผทู ่อี อนแอก็จะ
เสยี เปรียบทาํ ใหไ มป ลอดภัยในชีวติ เกิด
การแสดงความคิดเห็น สทิ ธแิ ละเสรีภาพในการศกึ ษา เกสารีภรไาดพ้รใับนบกราิกราชรมุ สนามุธาแรลณะกสาุขรแสลมะาสควมัสด2สกิ ทิ าธริ ความหวาดระแวงตอกนั เปน ตน )
จากรัฐ สิทธกิ ารไดร้ ับข้อมูลขา่ วสารและการรอ้ งเรยี น

พิทักษ์รฐั ธรรมนญู เป็นต้น

นอกจากน้ี รฐั ธรรมนูญยังไดบ้ ญั ญตั เิ กี่ยวกบั หน้าทีข่ องชนชาวไทยไว้ด้วย อนั ได้แก่ หน้าท่ี

ในการพิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา-

กษัตริย์ทรงเป็นประมุข หน้าที่ในการป้องกันประเทศ

และรักษาผลประโยชน์ของชาติ หน้าที่ในการปฏิบัติ

ตามกฎหมาย หน้าท่ีในการไปใช้สิทธิเลือกต้ัง รับ

ราชการทหาร ช่วยเหลือราชการ ช่วยป้องกันภัย

สาธารณะ ตลอดจนเขา้ รบั การศกึ ษาและอบรม เปน็ ตน้

สิทธิและหน้าที่ต่างๆ เหล่าน้ี จะต้องได้รับการ

เคารพและคุม้ ครองจากรฐั ดังนนั้ หากผใู้ ดถูกละเมดิ การเข้ารบั ราชการทหารเม่อื อายถุ ึงเกณฑเ์ ปน็ หน้าท่ี
อย่างหนึง่ ของชายไทยตามท่กี ฎหมายบัญญัตไิ ว้
สทิ ธติ ามรฐั ธรรมนญู ผนู้ นั้ กส็ ามารถใชส้ ทิ ธใิ นทางศาล
เพอ่ื บังคับผูท้ า� การละเมดิ ได้

143

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู

การกระทําในขอ ใดท่ขี ดั ตอกฎหมายในเรือ่ งสิทธิ เสรภี าพ 1 สิทธใิ นชีวติ และรางกาย ประชาชนชาวไทยมีสทิ ธิในชวี ติ และรางกายตามท่ี
และหนา ทีข่ องประชาชน รัฐธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทยบัญญัติไวหลายประการ เชน การทรมาน
ทารณุ กรรม หรอื การลงโทษดวยวธิ ีการโหดรายหรอื ไรม นษุ ยธรรม จะกระทํามไิ ด
1. ติดตามขาวสารทางการเมอื งจากส่ือตางๆ การจับและการคมุ ขงั บคุ คล จะกระทํามิได เวนแตม คี ําส่งั หรอื หมายของศาล
2. การรวมกลมุ กันเพ่ืออนรุ กั ษภูมิปญ ญาทอ งถิน่ หรอื มีเหตอุ ยางอื่นตามทก่ี ฎหมายบญั ญัติ เปนตน
3. รว มกันปรับภมู ทิ ัศนภายในชุมชนใหสวยงาม 2 เสรีภาพในการชมุ นุมและการสมาคม รัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย
4. ลงโทษผทู มี่ คี วามคิดเหน็ แตกตางจากตนเอง มีบทบัญญตั ิท่ีเกี่ยวกับเสรภี าพในการชมุ นุมและการสมาคม เชน

วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการตัดสินหรือลงโทษบคุ คล 1. บคุ คลยอมมเี สรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
2. บคุ คลยอ มมีเสรีภาพในการรวมกนั เปนสมาคม สหภาพ สหพันธ
ตา งๆ เปน หนาที่ของศาลและเจาพนักงานทเี่ ก่ียวของซ่งึ ตอ งดาํ เนิน สหกรณกลมุ เกษตรกร องคก ารเอกชน องคการพัฒนาเอกชน หรอื หมคู ณะอ่นื
ตามกระบวนการยุติธรรม อกี ทงั้ บุคคลยอ มมสี ทิ ธิเสรีภาพทาง 3. บคุ คลยอมมีเสรภี าพในการรวมกนั จัดต้ังพรรคการเมืองเพ่อื สรา งเจตนารมณ
ความคดิ ซึง่ การทคี่ นในสงั คมมีความคดิ ท่ีแตกตา งกันยอมเปน เร่ือง ทางการเมอื งของประชาชนและเพ่ือดําเนนิ กจิ กรรมในทางการเมืองใหเปนไปตาม
ปกติมไิ ดถือวาเปน ความผดิ แตอ ยา งใด เจตนารมณน ้ันตามวถิ ที างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ 
ทรงเปนประมุขตามทบ่ี ญั ญัตไิ วในรฐั ธรรมนูญ

คูม อื ครู 143

กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

1. ครูนําสนทนาถงึ กฎหมายแพงเกีย่ วกบั ตนเอง ๒. กฎหมายแพง่ เกี่ยวกบั ตนเองและครอบครวั
และครอบครวั จากน้นั ครูสมุ ใหนักเรียน
ยกตัวอยางกฎหมายแพงเก่ียวกบั ตนเองและ กฎหมายแพ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับเอกชนหรือคนแต่ละคน ท้ังเม่ืออยู่ตามล�าพัง และ
ครอบครวั ทน่ี กั เรียนรูจกั
เมอ่ื ตดิ ตอ่ กบั ผอู้ น่ื ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากเนอ้ื หาของกฎหมายแพง่ ซงึ่ มรี วบรวมไวใ้ นประมวลกฎหมายแพง่
2. ครูตง้ั ประเด็นคําถามใหนกั เรยี นชวยกนั ตอบ
เพ่ือฝก ทกั ษะการคิด เชน และพาณิชย์ว่ามีบทบัญญัติเกี่ยวกับเร่ืองของบุคคล
• หากนักเรยี นตองการแลกเปลีย่ นทรพั ยส ิน
หรอื ทาํ กจิ การตางๆ กับผูอ นื่ จะตอ งศึกษา ครอบครวั ทรพั ยส์ นิ นติ กิ รรม และสญั ญา ซงึ่ เปน็ เรอื่ ง
กฎหมายแพง เรื่องใด
(แนวตอบ กฎหมายแพงเรอ่ื งนิติกรรมและ ท่เี ก่ยี วข้องกบั ชีวิตของทุกคน
สัญญา)
• คดีความทางแพงสามารถยอมความกันได เมื่อเราเกิดมาเป็นคนแล้วย่อมจะต้องเก่ียวข้อง
หรอื ไม
(แนวตอบ คดีความทางแพง สามารถยอมความ กับกฎหมายแพ่งทั้งสิ้น อย่างน้อยก็จะต้องอาศัย
กนั ได ซง่ึ จะขึน้ อยูกับการตกลงของคูกรณี
หากคกู รณตี กลงยอมความกันได ก็ถอื วา กฎหมายแพง่ รบั รองใหเ้ รามีฐานะเป็นบุคคล ใชใ้ นการ
คดีความนนั้ สนิ้ สดุ ลง)
หาทรัพยส์ ินอนั เป็นปจั จยั ในการด�ารงชพี

คนเราเม่ือเกิดมาย่อมจะต้องเก่ียวข้องกับกฎหมาย ต่างๆ หากจะแลกเปลี่ยนทรัพย์สินหรือท�ากิจการ 1
โดยเฉพาะกฎหมายแพ่งเก่ียวกับตนเองและ กับผ้อู น่ื ก็ต้องอาศยั กฎหมายแพง่ เรือ่ งนิติกรรม
ครอบครวั
และสัญญา เพื่อสร้างความผูกพันให้เป็นเจ้าหนี้และ

ลูกหนร้ี ะหว่างกัน

หากได้รับความเสียหายจากการกระท�าของผู้อ่ืน ก็ต้องใช้กฎหมายแพ่งในบทท่ีว่าด้วย

การละเมิด เพื่อช่วยให้เราได้รับชดเชยความเสียหายนั้นเมื่อจะมีครอบครัวก็ต้องอาศัยกฎหมาย

แใชพ้กง่ ฎทห่ีวา่มดาว้ยยแคพร่งอทบ่ีวค่ารดัว้วใยนเรกื่อารงกม่อรดตง้ักแ2ลกะ�ากห�านหดนวด่าคทวราัพมยส์สมั ินพทนั ี่หธ์ภามายาไในดค้ระรหอบว่าคงรมวั ีชจีวนิตเอมยอ่ื ู่นต้ันายกจ็อะใาหจ้

ตกเป็นมรดกแก่ทายาทได้อย่างไรบ้างอีกด้วย ดังน้ัน กฎหมายแพ่งจึงมีความส�าคัญและมีความ

จา� เปน็ ต่อการด�าเนินชีวิตในสังคมของเราอยา่ งย่ิง

เกรด็ น่ารู้ กฎหมายที่เก่ียวกับบุคคล ได้แก่ กฎหมายท่ี

ลั ก ษ ณ ะ ที่ สำ า คั ญ ข อ ง ก ฎ ห ม า ย แ พ ่ ง รับรองให้เรามีสภาพบุคคล คือ ให้เราเป็นผู้สามารถ
ประการหน่ึง คือ ในคดีความทางแพ่งน้ัน มีและสามารถใช้สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ
สามารถยอมความกันได้ ข้ึนอยู่กับการ ต่างๆ ตามกฎหมายได้ สภาพบุคคลเร่ิมตั้งแต่
ตกลงของคกู่ รณี หากคกู่ รณตี กลงยอมความ เมื่อคลอดจากครรภ์มารดาแล้วอยู่รอดเป็นทารกและ
กนั ได้ กถ็ อื วา่ คดคี วามนน้ั สนิ้ สดุ ซงึ่ แตกตา่ ง สิ้นสุดลงเม่ือตาย ทารกท่ีอยู่ในครรภ์มารดายังไม่มี
กับกฎหมายอาญาท่ีไม่สามารถยอมความ ฐานะเป็นบุคคล แต่กฎหมายจะคุ้มครองเป็นพิเศษ
กันได้ แมผ้ ู้เสยี หายไมต่ ิดใจเอาความกต็ าม ผูใ้ ดทา� ลายยอ่ มมคี วามผิดฐานทา� ให้แทง้ ลกู
ผกู้ ระทาำ ผดิ กย็ งั คงตอ้ งรบั โทษตามกฎหมาย

144

นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
ขอ ใดมีความเก่ยี วขอ งกบั กฎหมายแพง
1 นติ กิ รรม ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา 149 บัญญัติวา นติ ิกรรม 1. ลักทรพั ย
หมายความวา การใดๆ อนั ทําลงโดยชอบดว ยกฎหมายและดวยใจสมัคร 2. ชิงทรัพย
มุงโดยตรงตอ การผูกนิติสมั พนั ธข ้ึนระหวา งบคุ คล เพ่ือจะกอ เปล่ียนแปลง โอน 3. ประหารชวี ติ
สงวน หรอื ระงบั ซึ่งสทิ ธิ ซง่ึ หากพิจารณาตามบทบัญญตั ิ จะพบวาการเคลื่อนไหว 4. นติ ิกรรมและสญั ญา
ในสทิ ธิหรอื การเคลื่อนไหวแหง สิทธทิ ีเ่ กิดข้ึนโดยนติ ิกรรม จะตองเปน การเคล่ือนไหว วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะนิติกรรมและสญั ญา คือ
ไปทางดานใดดานหน่งึ ใน 5 ประการ คอื ตอ งเปน การกอ เปล่ยี นแปลง โอน สงวน การทบี่ คุ คลแสดงเจตนากระทําไปโดยประสงคใหม ผี ลผกู พนั
หรอื ระงับซ่ึงสิทธิประการใดประการหน่ึง จงึ จะถอื วาเปน นติ กิ รรม ใชบังคับไดตามกฎหมาย เปนส่งิ ทเี่ กย่ี วขอ งกบั กฎหมายแพง
2 มรดก คือ ทรพั ยส นิ ทุกชนดิ ของผตู าย ตลอดจนสทิ ธิ หนา ที่ และ และพาณิชย สว นขออ่ืนๆ เก่ียวของกบั กฎหมายอาญาท้ังสนิ้
ความรับผดิ ตางๆ เวน แตต ามทีก่ ฎหมายกําหนด หรอื โดยสภาพแลว เปน การ
เฉพาะตวั ผูต ายโดยแท อยางไรก็ดี ความรบั ผดิ ของทายาทจะมีขอบเขตจํากดั
คอื กฎหมายกําหนดวา ทายาทไมต องรับผดิ เกินกวา ทรัพยม รดกทต่ี กทอดไดแ กต น

144 คู่มือครู

กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

กฎหมายจ�าแนกบุคคลเป็น ๒ ประเภท คือ บุคคลธรรมดา อีกประเภทหนึ่งเป็นกิจการ 1. ครูสมุ นักเรยี น 2-3 คนใหอธิบายสรุปเกีย่ วกับ
ประเภทของบคุ คล พรอ มทั้งเปรียบเทยี บความ
ท่ีจัดตั้งข้ึนและกฎหมายยอมให้มีสิทธิ หน้าท่ี และความรับผิดชอบบางอย่างในนามของกิจการ แตกตา งระหวา งบุคคลธรรมดาและนติ ิบคุ คล

น้ันเองได้ เช่น กระทรวง กรม องค์การมหาชน 2. ครูใหน กั เรียนยกตัวอยา งนิติบุคคลในชุมชน
ของตนเอง พรอมท้งั อธบิ ายวา เพราะเหตใุ ด
บริษัท สมาคม สหกรณ์ 1กลุ่มเกษตรกร มูลนิธิ ตัวอยางที่ยกมาน้นั จึงจดั เปนนิตบิ คุ คล
เป็นตน้ ซึง่ เรยี กวา่ นิติบคุ คล (แนวตอบ นักเรียนสามารถยกตวั อยา งหา งรา น
บรษิ ทั หนว ยงานราชการ อาคารชดุ หรอื
บคุ คลธรรมดา ได้แก่ มนุษย์ทค่ี ลอดจากครรภ์ กิจการตา งๆ โดยใหเหตุผลวา ตัวอยาง
ทย่ี กมานน้ั เปน กจิ การทจ่ี ดั ตง้ั ขนึ้ และกฎหมาย
มารดาแล้วอยู่รอดเป็นทารก โดยจะต้องมีการแจ้ง ยอมใหส ิทธิ หนาท่ี และความรับผิดชอบ
บางอยางในกิจการน้ันเองได หรอื อาจให
จดทะเบียนการเกิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียน เหตผุ ลวา เปนบุคคลที่กฎหมายบญั ญตั ิ
รองรับใหมสี ภาพเปน บคุ คลได)
ราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่งึ ก�าหนดว่า ถา้ เด็กเกดิ ในบ้าน

ให้เจ้าบ้านตามที่ปรากฏในทะเบียนบ้านหรือบิดา

หรือมารดา ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่ง

ท้องท่ีภายในสิบห้าวันตั้งแต่เกิด และสภาพบุคคล คนเราเกดิ มาทกุ คนยอ่ มมสี ภาพบคุ คลตามกฎหมาย
ตดิ ตัวมาด้วยและจะอยู่คเู่ ราไปตลอดชีวติ
จะสิน้ สดุ ลงเมอื่ ตาย

นิติบุคคล กไรดม้แกอ่ งบคุค์กคารลมทห่ีกาฎชหนมา2บยรบิษัญัทญัตสมิรับาครอมงใสหห้มกีสรภณาพ์ กเปล็นุ่มบเกุคษคตลรไกดร้ แม้ไม่ใช่บุคคล 3
เช่น กระทรวง กองทรัพย์สิน

เชน่ มลู นธิ ิ เป็นตน้

สหกรณ์ มลี ักษณะที่เปน็ หน่วยงานหรือองค์กรอย่างหน่งึ ซึ่งมสี ภาพเป็นนติ ิบุคคลตามท่ีกฎหมายบัญญัติรับรองไว้

145

ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรียนควรรู

ขอใดกลา วถกู ตองเกีย่ วกับนติ ิบคุ คล 1 นติ ิบคุ คล หมายถึง กลมุ บุคคล องคกร หรอื ทรพั ยสินที่จดั สรรไวเ ปน กองทนุ
1. บุคคลทคี่ ลอดจากครรภมารดาแลว อยูรอดเปน ทารก เพ่ือดําเนนิ การอันใดอนั หนง่ึ ซง่ึ กฎหมายบัญญัตใิ หเ ปน บคุ คลอกี ประเภทหน่งึ ทีม่ ใิ ช
2. บคุ คลทถี่ กู แจง ชือ่ ตอนายทะเบียนภายใน 15 วนั หลงั จากกาํ เนดิ บุคคลธรรมดา นิตบิ คุ คลจะมขี ึ้นไดก็แตดวยอาศัยอาํ นาจแหงประมวลกฎหมายแพง
3. กจิ การท่จี ัดตัง้ ข้นึ และกฎหมายยอมใหมสี ิทธิ หนา ท่ี และ และพาณชิ ยหรือกฎหมายอ่นื นติ ิบุคคลท่พี บเหน็ ไดทัว่ ไป เชน สมาคม มลู นธิ ิ
บรษิ ัทจํากดั เปนตน
ความรบั ผดิ ชอบบางอยางในกจิ การน้นั 2 องคก ารมหาชน เปนองคก รของรัฐประเภทหน่ึงที่กาํ หนดขึ้นเพ่อื บริการ
4. กิจการทร่ี ฐั จดั ตงั้ ข้นึ และนาํ ไปประกาศลงในประมวลกฎหมาย สาธารณะทีก่ ฎหมายกําหนดใหเ ปน หนาทขี่ องรฐั ทตี่ อ งการประสิทธิภาพสูง
โดยมไิ ดค า กําไรจากการบรกิ าร มีวัฒนธรรมองคกรเหมือนภาคธรุ กจิ ท่ีสามารถ
แพงและพาณชิ ยว าดวยนติ บิ คุ คล ใชประโยชนจากทรัพยากรใหมีประสิทธิภาพสงู สดุ
3 กองทรพั ยสนิ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา 81 หมายถงึ
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. นิติบุคคลเปน บุคคลท่ีกฎหมาย ทรัพยสนิ อนั จัดสรรไว เพ่ือบําเพญ็ ทานการศาสนา วทิ ยาศาสตร วรรณคดี
หรอื เพอื่ สาธารณประโยชนอนื่ ๆ โดยไมไดค ากําไร
บัญญตั ริ ับรองใหมสี ภาพเปน บคุ คลได และยอมใหม ีสทิ ธิ หนา ท่ี
และความรบั ผิดชอบบางอยางในนามของกจิ การนน้ั เองได เชน
กระทรวง กรม องคก ารมหาชน บรษิ ทั สมาคม สหกรณ เปน ตน

คู่มือครู 145

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หนกั เรียนเลอื กอธิบายกฎหมายแพง ๒.๑ กฎหมายท่ีเกีย่ วกบั ตนเอง
ทีเ่ กยี่ วกบั ตนเอง คนละ 1 กฎหมาย โดยให
บอกถึงสาระสาํ คัญของกฎหมายดงั กลาว กฎหมายทีเ่ กีย่ วข้องกับตนเองทสี่ �าคญั มีดังน้ี
(แนวตอบ กฎหมายแพงที่เกย่ี วกบั ตนเอง เชน ๑) กฎหมายเร่อื งบุคคล ทส่ี า� คญั ได้แก่
กฎหมายเรอื่ งบคุ คล ทีว่ า ดวยเร่ืองของ ๑.๑) การกา� หนดตวั บุคคล เนอื่ งจากบคุ คลในรัฐมจี �านวนมาก กฎหมายจงึ มี
ชอื่ บคุ คล ภมู ลิ าํ เนา สถานะ ความสามารถ วิธีก�าหนดตัวบุคคลเพ่ือให้ชัดเจนว่าใครเป็นใคร และมีบทบาททางกฎหมายในสังคมได้เพียงใด
ซึ่งมหี ลักเกณฑต า งๆ ทบ่ี ุคคลจะตอง ซึ่งสง่ิ ทก่ี ฎหมายใช้ก�าหนดตัวบุคคล ไดแ้ ก่ ชอื่ บคุ คล ภูมิลา� เนา สถานะ และความสามารถ
ดําเนนิ การ เชน เรื่องชื่อบุคคล กฎหมายกาํ หนด 1ค(อื๑) ชอ่ืชปื่อรบะุคจค�าลตนตแาลมะพชรอ่ื ะสรกาชุลบคัญอื ญชัต่อื ิชป่ือรบะจุค�าควลงศพส์ ก.ศลุ . ๒๕๐๕ ก�าหนดให้
ใหบ คุ คลธรรมดาตองมชี อื่ ประจาํ ตวั บุคคลธรรมดามชี ่อื ตวั ชอ่ื ตัวจะตอ้ งแจง้ ต่อ
และชอ่ื สกุล ซง่ึ จะตองแจง ตอนายทะเบียน หนาายกททะ้อเงบทยี ี่อนยทู่นอ้ องทก่ีเขซตง่ึ เปทกศตบิจาะลปรโะดจย�าอแยจทู่้งพท่ี ่ีวร่า้อกมากรับอกา� เาภรอแหจร้งอืเกเขิดตในสหูตรือิบแัตจรง้ 2แกกาก่ ร�าขนอันเปลผ่ียใู้ หนญแ่บป้าลนง
ทองที่ หรือกํานัน ผใู หญบ าน ท้งั นีก้ ารขอ ชื่อตัวและการขอเปลีย่ นช่ือสกุลกจ็ ะตอ้ งแจง้ ตอ่ นายทะเบียนท้องท่ีเช่นกนั
เปลี่ยนแปลงชื่อตัวและชอื่ สกลุ ก็จะตองแจง ชื่อบุคคลจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หากมีผู้อื่นโต้แย้งหรือมาใช้
ตอ นายทะเบยี นทอ งทเ่ี ชน กนั ) ช่ือบุคคลเดียวกัน บุคคลเจ้าของชื่อสามารถบอกให้ผู้อ่ืนน้ันหยุดโต้แย้งหรือหยุดใช้ช่ือนั้นได้ ถ้า
ไมเ่ ชือ่ ฟงั ก็ขอใหศ้ าลสั่งห้ามได้
2. ครใู หนักเรยี นยกตัวอยา งสิ่งที่จําเปนตองดําเนนิ (๒) ภูมิล�าเนา ได้แก่ สถานที่ที่อยู่ประจ�าและแน่นอนของบุคคล เช่น
การเกย่ี วกับเรื่องของบคุ คลตามทก่ี ฎหมายเร่ือง บา้ นทเ่ี ขาพกั ประจา� มใิ ชท่ อี่ ยชู่ วั่ ครง้ั ชวั่ คราว เชน่ บา้ นพกั ตากอากาศ หรอื โรงแรมทเี่ ขาพกั ระหวา่ ง
บคุ คลไดกําหนดไว เดินทาง ภูมิลา� เนาทา� ให้สามารถตดิ ตอ่ กับบุคคลได้ เช่น ในการสง่ เอกสารทางราชการใหแ้ ก่ผู้นัน้
(แนวตอบ ยกตัวอยา ง เชน เมือ่ ตอ งการยาย เป็นตน้
ทีอ่ ยูอาศัย กฎหมายกําหนดใหเ จาบา น
ตอ งดําเนินการตางๆ เชน
การยายออก เมือ่ ผอู ยใู นบานยา ยออก
จากบา น ใหเ จาบา นแจงการยายออกตอ
นายทะเบยี นผรู ับแจง ภายใน 15 วนั นับแต
วนั ทีผ่ นู ้ันยายออกไป โดยไมเสยี คา ธรรมเนยี ม
การยายเขา เม่อื มผี ูย า ยที่อยเู ขา มาอยู
ในบาน ใหเ จา บา นแจง การยา ยเขาตอ
นายทะเบยี นผรู ับแจง ภายใน 15 วัน นบั แต
วันท่ีผูนัน้ ยา ยเขามาอยูใ นบาน ท้งั นีใ้ หนาํ
หลกั ฐานการยายออกไปแสดงตอ นายทะเบยี น
โดยไมเสยี คา ธรรมเนียม เปน ตน )

บา้ นที่เราอาศัยอยโู่ ดยทม่ี ชี อ่ื ปรากฏอย่ใู นทะเบียนบ้าน ถือเป็นภูมิลำาเนาตามกฎหมายท่แี สดงการอาศยั อย่างเป็นหลกั แหลง่

146

นักเรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
ขอ ใดเปน สง่ิ ทีก่ ฎหมายใชกาํ หนดตัวบุคคล
1 ช่อื ตัว การตัง้ ช่อื ตัวมีหลักเกณฑสําคญั ดังน้ี 1. บารมี
1) ตอ งไมพ องหรือมุงหมายใหคลา ยกับพระปรมาภไิ ธย หรือพระนามของ 2. ทรพั ยส ิน
พระราชนิ ี หรอื ราชทนิ นาม 3. นามสกุล
2) ตอ งมีความหมาย 4. ชนช้นั ทางสงั คม
3) ตอ งไมเปน คําหยาบหรือมคี วามหมายหยาบคาย วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะส่งิ ทีก่ ฎหมายใชกาํ หนด
4) ตอ งไมมีเจตนาในทางทุจริต ตัวบุคคล ไดแ ก ชื่อบุคคล ภูมิลาํ เนา สถานะ และความสามารถ
5) ผูไดรบั หรอื เคยไดร บั พระราชทานบรรดาศักด์ิ โดยมไิ ดถ กู ถอด จะใช ของบุคคล
ราชทนิ นามตามบรรดาศักดิ์เปนชอ่ื ตัวจริง ช่ือรองก็ได

2 สูติบตั ร ถอื เปน เอกสารสําคัญฉบบั แรกท่ที างราชการออกใหแ กบุคคลทเี่ กดิ ใน
ประเทศไทย เพอื่ ใชเ ปนหลักฐานแสดงถึงถนิ่ ที่เกิด และแสดงความสัมพนั ธข อง
บคุ คล ทจ่ี ะทําใหทราบวา ใครเปนบิดามารดา นอกจากนีย้ ังมผี ลใหบุคคลไดรบั
สทิ ธิประโยชนตางๆ ตามที่กฎหมายกําหนด

146 คมู่ ือครู

กระตุน้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

ภูมิล�าเนาย่อมปรากฏในทะเบียนบ้านและเปล่ียนแปลงได้ โดยการแจ้ง 1. ครูใหนกั เรยี นชวยกันอธบิ ายวา ตามกฎหมาย
ย้ายออกจากทะเบียนบ้านหนึ่งและย้ายเข้าในอีกทะเบียนบ้านหน่ึง ตามพระราชบัญญัติ เรอื่ งของบคุ คล สถานะของบคุ คลแบงออกเปน
การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ท้ังนี้เพ่ือให้ ก่ีประเภท พรอ มยกตัวอยางประกอบ
มีหลักฐานแน่นอน และสามารถติดต่อกับผู้น้ัน (แนวตอบ กฎหมายไดแบงสถานะของบคุ คล
ในภูมลิ า� เนาใหม่ได้ ออกเปน 2 ประเภท ดงั น้ี
1. สถานะทางการเมือง หมายถึง การเปน
(๓) สถานะ ได้แก่ ความเปน็ บคุ คลสญั ชาตไิ ทย กบั การเปน บคุ คลตา งดา ว
ไปหรือความเป็นอยู่ของบุคคลทุกคน ซึ่งจะต้องแจ้ง ซึ่งบคุ คลทีม่ สี ัญชาตไิ ทย ยอมมีสทิ ธิเสรีภาพ
ต่อนายทะเบียนและบันทึกไวเ้ ป็นหลักฐาน เช่น ตาม ตามท่รี ัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย
พระราชบัญญัตกิ ารทะเบยี นราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ และ บัญญตั ไิ ว เชน สทิ ธใิ นการเลือกตั้ง สิทธใิ น
พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช การตง้ั พรรคการเมอื ง สทิ ธใิ นการรบั ราชการ
๒๔๗๘ เป็นต้น การรสู้ ถานะจะทา� ใหท้ ราบได้ว่าแตล่ ะ เปน ตน
คนมีบทบาทเพียงใดในทางกฎหมาย ซึ่งสถานะบคุ คล สมาชิกครอบครัว มีสถานะที่แตกต่างกัน เช่น พ่อ 2. สถานะทางสว นตัวและครอบครวั เชน
ได้แก่ แม่ ลกู ทาำ ใหม้ บี ทบาทตามกฎหมายทแี่ ตกตา่ งกนั ไป การเปน สามี ภรรยา บิดา มารดา บุตร
การเปนคนไรค วามสามารถ เปนตน)
๑. สถานะทางการเมอื ง ได้แก่ การเป็นบุคคลสัญชาตไิ ทย กบั การ
เป็นคนต่างด้าว ผู้มีสัญชาติไทยมีสิทธิเสรีภาพตลอดจนหน้าท่ีของชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ 2. ครใู หน กั เรียนสํารวจตนเอง แลว วิเคราะหวา
ไซมึ่งถ่รวกู มเนทร้ังเสทิทศธ1แิเลลือะกหตนั้งา้ แทล่ีระับสรมาชัคกรราับรทเลหือากรต้ัง สิทธิตั้งพรรคการเมือง สิทธิรับราชการ สิทธิท่ีจะ ตนเองมสี ถานะทางกฎหมายอยา งไรบาง
แลว นํามาอธบิ ายใหค รฟู งพอสงั เขป
ส�าหรับคนต่างด้าว คือ ผู้ท่ีไม่มีสัญชาติไทยย่อมไม่มีสิทธิ เสรีภาพ (แนวตอบ เมอื่ สํารวจตนเองแลว พบวามีสถานะ
และหนา้ ทเี่ ชน่ ผมู้ สี ญั ชาตไิ ทย เวน้ แตโ่ ดยอาศยั สนธสิ ญั ญาทร่ี ฐั ของคนตา่ งดา้ วทา� ไวก้ บั ประเทศไทย ทางกฎหมาย ดงั นี้
มารดา บุตร การเปน็ ผเู้ ยาว์ ๒ก.ารสเถปา็นนคะนทไารงค้ สวว่ านมตสวัาแมลาะรคถรหอรบอื คครนวั เสไมดอื้แนกไ่ รกค้ าวราสมมสราสมการาถรเ2ปเป็นน็บตดิ ้นา สถานะทางการเมอื ง มีสถานะเปน คน
ซึ่งท�าให้บทบาททางกฎหมายของบุคคลเปล่ียนแปลงไป เช่น การสมรส เพราะการท�านิติกรรม สญั ชาติไทย เชื้อชาติไทย จึงถือวาเปน
สัญญาเกี่ยวกับสินสมรสจะท�าไปตามล�าพังไมไ่ ด้ เป็นต้น พลเมืองไทยซง่ึ มสี ทิ ธติ างๆ ตามทร่ี ฐั ธรรมนูญ
แหง ราชอาณาจักรไทยบัญญตั ไิ ว เชน มสี ิทธิ
(๔) ความสามารถ หมายถึง สภาพของบุคคลที่จะมีหรือใช้สิทธิหน้าที่ ทางการศกึ ษา สทิ ธิการเขา ถึงบริการทางการ
ตลอดจนความรับผิดชอบทางกฎหมายได้เพียงใด โดยทั่วไปบุคคลย่อมมีสิทธิ หน้าที่ และ แพทยทไ่ี ดมาตรฐาน เปนตน
ความรบั ผดิ ชอบตา่ งๆ ตามกฎหมาย แตอ่ าจถกู จา� กดั โดยกฎหมายไดเ้ นอื่ งจากความเปน็ เดก็ หรอื สถานะสว นตวั และครอบครัว มสี ถานะเปน
ความบกพรอ่ งทางสติปัญญา เชน่ ผู้เยาว์ และคนไร้ความสามารถ บุตรของบิดามารดา และเปน ผเู ยาวเ พราะอายุ
ยงั ไมครบ 20 ปบ ริบูรณ)

14๗

กจิ กรรมสรา งเสรมิ นักเรยี นควรรู

ใหนักเรยี นอธิบายความสามารถทางกฎหมายของนักเรยี น 1 เนรเทศ หมายถึง การขบั ไลห รอื สงบุคคลหรอื กลุมบคุ คล ท่กี ระทาํ ความผดิ
โดยใหนกั เรียนพจิ ารณาจากสถานะของนกั เรียนวา นกั เรยี นอยใู น ใหอ อกจากเขตแดน อาณาจักร ประเทศ โดยหามกลบั เขา มายงั อาณาเขตนน้ั ๆ
สถานะใด และมสี ทิ ธหิ รอื หนาท่อี ยางไรตามกฎหมายบา ง เปนอันขาด เพ่อื มใิ หยอ นกลบั เขา มากระทําความผิดซ้าํ ไดอ ีก
ใหน ักเรียนเขยี นอธิบายสรปุ แลวนาํ สงครูผสู อน 2 คนเสมือนไรความสามารถ ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย ไดบ ญั ญัติ
เก่ียวกบั คนเสมือนไรค วามสามารถ ไวว า บุคคลใดมกี ายพิการหรือมีจติ ฟนเฟอ น
กจิ กรรมทาทาย ไมส มประกอบ หรือประพฤติสรุ ุย สรุ ายเสเพลเปนอาจิณ หรือตดิ สุรายาเมา
หรอื มเี หตอุ ่นื ใดทํานองเดียวกันนนั้ จนไมส ามารถจะจดั ทาํ การงานโดยตนเองได
ใหนกั เรียนพิจารณาวา เมื่อนกั เรยี นเตบิ โตข้นึ เปน ผูใหญ หรอื จดั กจิ การไปในทางทีอ่ าจจะเสือ่ มเสียแกทรพั ยส นิ ของ ตนเองหรอื ครอบครวั
นักเรียนจะมสี ถานะทางกฎหมายท่ีเปลย่ี นไปหรอื ไม และจะมี เมื่อบคุ คลตามทร่ี ะบุไวใ น มาตรา 28 รองขอตอ ศาล ศาลจะส่งั ใหบ ุคคลนน้ั
ความสามารถ รวมถึงสิทธิหนาทต่ี ามกฎหมายอยา งไร จากนั้น เปนคนเสมือนไรค วามสามารถกไ็ ด
นาํ มาอธบิ ายสรุปใหครูฟง
คู่มือครู 147

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หนักเรียนสงั เกตบตั รประจําตวั ประชาชน ๑. ผเู้ ยาว์ คอื บคุ คลซงึ่ ยงั ไมบ่ รรลนุ ติ ภิ าวะ บคุ คลจะบรรลนุ ติ ภิ าวะเมอ่ื อายคุ รบ ๒๐ ปี
ของตนเอง แลวครตู ้งั คาํ ถาม บรบิ รู ณ์ หรอื เมอื่ ทา� การสมรสโดยมอี ายุ ๑๗ ปบี รบิ รู ณ์
• บัตรประจาํ ตวั ประชาชนมีความสาํ คญั หรอื โดยอายตุ า่� กวา่ นนั้ แตม่ เี หตอุ นั สมควรทศี่ าลอนญุ าต
อยางไร ให้สมรสได้
(แนวตอบ บัตรประจาํ ตวั ประชาชน
เปน เอกสารราชการสําคญั ใชเ ปนหลกั ฐาน ๒. คนไรค้ วามสามารถ คอื บคุ คลวกิ ลจรติ
พิสูจนตนเองเมอื่ ตองติดตอ กับราชการ
และหนวยงานตางๆ) เซรึ่งียศกาวล่าสผั่งใู้อหน้เปุบ็นาลคใน1หไ้ร้คเพวาื่อมทส�าานมิตาิกรถรแรมละตต่าั้งงผๆู้ดูแแลทซน่ึง
• ในบตั รประจําตัวประชาชน มกี ารระบขุ อมลู
ของผูถอื บัตรอะไรบาง เน่ืองจากผู้วิกลจริตย่อมขาดสติไม่อาจเข้าใจความ
(แนวตอบ ในบตั รประจําตัวประชาชน
มีขอ มูลยนื ยันสถานะของผถู อื บัตร ไดแ ก เลข สา� คญั ของสงิ่ ใดๆ ทต่ี นทา� ลงไปได้ จงึ ถอื วา่ หยอ่ นความ
ประจําตัวประชาชน ชือ่ นามสกุล
วนั เดือน ปเ กดิ ทอี่ ยู วนั ทอี่ อกบตั ร ผู้เยาว์ คือ บุคคลที่ยงั ไมบ่ รรลุนิติภาวะ สามารถในการทา� นิติกรรมและสญั ญา
วันท่บี ัตรหมดอายุ และรูปถายของผถู ือบตั ร) ๑.๒) หลักฐานแสดงตัวบคุ คล

2. ครใู หนกั เรียนชว ยกนั ยกตวั อยา งหลกั เกณฑ บัตรประจ�าตัวประชาชนเป็นเอกสารส�าคัญท่ีใช้เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคล ภูมิล�าเนา และสถานะ
หรอื ขอ กําหนดตามกฎหมายที่เกีย่ วกบั บัตร
ประจาํ ตวั ประชาชนท่นี า สนใจอยา งนอย คนละ บางอย่างของบุคคลได้ เพราะบัตรประจ�าตัวประชาชนออกโดยทางราชการ ระบุช่ือ วัน เดือน
1 ตัวอยา ง
(แนวตอบ หลักเกณฑใ นการทาํ บตั รประจําตวั ปีเกิด ท่ีอยู่ และรูปถ่ายเจ้าของบัตร จึงสามารถใช้เป็นหลักฐานท�าการพิสูจน์ตนเอง อายุ และ
ประชาชน เชน กฎหมายกาํ หนดใหเ ด็กไทย
ทมี่ อี ายุต้งั แต 7 ป บรบิ ูรณ ตองยน่ื ขอมี ภมู ิล�าเนาได้ เมอ่ื ตอ้ งติดตอ่ กบั ทางราชการและบุคคลอ่ืนๆ
บัตรประจาํ ตัวประชาชนภายใน 1 ป หากไมย ืน่ ตามพระราชบัญญัติบัตรประจ�าตัว
ขอมบี ัตรประจาํ ตวั ประชาชนภายในเวลา
ท่ีกําหนด ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ 100 บาท ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓)
เปนตน)
พ.ศ. ๒๕๕๔ ก�าหนดให้บุคคลสัญชาติไทยท่ี

มีอายุตั้งแต่ ๗ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน ๗๐

ปีบริบูรณ์ ต้องมีบัตรประจ�าตัวประชาชน เว้นแต่จะ

ได้รับการยกเวน้ จากทางราชการ เช่น ภกิ ษุ สามเณร

เป็นต้น

เมื่อเจ้าพนักงานที่มียศต้ังแต่ร้อย

กฎหมายกาำ หนดใหม้ ผี ทู้ ม่ี สี ญั ชาตไิ ทยอายุ ๗ - ๗0 ปี ต�ารวจตรขี ้นึ ไปขอตรวจบตั รประจา� ตัวประชาชน หาก
จะตอ้ งมบี ัตรประจำาตัวประชาชน เพื่อใชเ้ ป็นเอกสาร บคุ คลใดไมม่ บี ตั รประจา� ตวั ประชาชนแสดงกจ็ ะมคี วาม
ในการพสิ ูจนต์ วั บคุ คล ผิดต้องระวางโทษปรับไมเ่ กิน ๒๐๐ บาท

148

นักเรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอมลู ใดตอไปน้ีท่ี ไม ปรากฏอยูในบตั รประจาํ ตัวประชาชน
1 ผอู นุบาล คือ ผูทมี่ ีหนา ทีด่ ูแลคนไรความสามารถ รวมทั้งจัดการดูแลทรัพยสิน 1. วันเกดิ
และหนา ทตี่ า งๆ แทนคนไรค วามความสามารถ ซงึ่ ข้ันตอนการรอ งขอเปน ผอู นบุ าล 2. ชื่อเลน
สามารถสรุปได ดังนี้ 3. ชอื่ สกลุ
4. รปู ภาพ
ข้นั ตอนท่ี 1 ผูร องจะตองยนื่ คํารอ งขอเปน ผูอ นุบาล และขอใหศ าลมคี าํ สั่ง วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะช่ือเลน ไมถ อื เปน ชื่ออยาง
ใหบ คุ คลเปน ผไู รค วามสามารถ เมอ่ื ศาลมคี าํ สงั่ แลว ผรู อ งตอ งขอใหเ จา พนกั งานศาล เปนทางการตามกฎหมาย จึงไมปรากฏอยูใ นบตั รประจาํ ตวั
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา 28 วรรคทายแหง ประมวลกฎหมายแพง ประชาชน สว นในขอ อนื่ ๆ ถอื เปน ขอ มลู ของบคุ คลทมี่ คี วามสาํ คญั
และพาณิชย ในการยนื ยนั ตวั บุคคล จึงมีปรากฎอยูใ นบตั รประจาํ ตัวประชาชน

ข้ันตอนท่ี 2 หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา พน กาํ หนด 30 วันแลว
หากผอู นุบาลมีความจาํ เปน ทจี่ ะตอ งใชอาํ นาจหนาทข่ี องผูอ นุบาลตามประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชย ในการทํานติ กิ รรมอันเกีย่ วกบั ทรพั ยสินของผไู รความ
สามารถโดยอนโุ ลม เชน ขาย แลกเปลีย่ น ขายฝาก ใหเ ชา ผอู นบุ าลตองยน่ื คํารอ ง
ขออนญุ าตตอศาล ขอทาํ นติ ิกรรมแทนผูไ รค วามสามารถตามความจาํ เปน
ซง่ึ ผูอ นุบาลจะจัดการทกุ อยา งเชน เดียวกับผูจดั การ

148 ค่มู อื ครู

กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๒) กฎหมายเรื่องทรพั ยส์ ิน ไดแ้ ก่ กฎหมายทก่ี า� หนดวา่ ส่งิ ใดเปน็ วัตถุ ซงึ่ บคุ คล 1. ครใู หนักเรยี นยกตวั อยา งกฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ ง
กับทรัพยสนิ ทางปญญา
สามารถยดึ ถอื เปน็ ของตนได้ กา� หนดวธิ ไี ด้มา ตลอดจนรับรองสิทธติ า่ งๆ ในส่งิ นนั้ เพราะบุคคล (แนวตอบ เชน พระราชบญั ญตั สิ ทิ ธบิ ัตร
พระราชบัญญัติเครอื่ งหมายการคา
โดยเฉพาะบุคคลธรรมดาย่อมต้องอาศัยส่ิงต่างๆ ที่จ�าเป็นส�าหรับการด�ารงชีวิต ได้แก่ อาหาร พระราชบญั ญตั ิลิขสทิ ธ์ิ พระราชบญั ญตั ิ
การผลติ ภณั ฑซดี ี เปนตน)
เครอื่ งน่งุ หม่ ทอี่ ยอู่ าศยั และยารักษาโรค
2. ครใู หน กั เรยี นอธบิ ายความแตกตา งของคาํ วา
แตใ่ นปจั จบุ นั ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของสงั คม ทา� ใหก้ ฎหมายใหค้ วามคมุ้ ครองไมเ่ ฉพาะ “ทรัพย” กับ “ทรพั ยสิน”
(แนวตอบ ทรัพย คือ ส่ิงทมี่ รี ูปรางจับตองได
สิ่งท่ีมีรูปร่างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง เช่น ความคิดสร้างสรรค์จากสมองของมนุษย์ และตองมีราคาถอื เอาประโยชนไ ด
สวนทรัพยส นิ มคี วามหมายกวา งกวาทรพั ย
ท่ีคดิ คน้ ประดษิ ฐ์ส่งิ ใหมๆ่ ข้นึ เรยี กวา่ “ทรัพยส์ นิ ทางปัญญา” อีกดว้ ย เพราะมีความหมายรวมถึงทรพั ยและวัตถุ
ทไี่ มม รี ปู รา ง ไดแ ก สทิ ธติ า งๆ เชน กรรมสทิ ธิ์
๒.๑) ความหมายของทรพั ยส์ นิ ทรพั ยต์ ามกฎหมาย คอื วตั ถทุ มี่ รี ปู รา่ งสามารถ สิทธิในการเปนเจา ของลขิ สทิ ธิ์ สิทธิ์ใน
งานประพันธ เปนตน )
มองเห็นได้ สัมผัสได้ และบุคคลสามารถถือเอาเป็น เกร็ดน่ารู้
ประโยชน์ได้ เชน่ รถยนต์ เป็นต้น
ในทางกฎหมาย ทรพั ยจ์ ะตอ้ งมีรูปร่าง
ส�าหรับทรัพย์สินมีความหมายกว้าง สามารจับต้องได้ และตอ้ งมีราคา ถอื เอา
ประโยชน์ได้ หากขาดสิ่งใดส่ิงหนึ่งไป
กว่าทรัพย์ เพราะหมายความรวมถึงทรัพย์ 1และ จะไมถ่ อื เปน็ ทรพั ย์ เชน่ มนษุ ยท์ ยี่ งั มชี วี ติ อยู่
วตั ถทุ ไ่ี มม่ รี ปู รา่ ง ไดแ้ ก่ สทิ 2ธติ า่ งๆ เชน่ กรรมสทิ ธิ์ สทิ ธิ ไม่จัดว่าเป็นทรัพย์ เพราะมนุษย์ไม่ใช่
ในการเปน็ เจา้ ของลขิ สทิ ธิ์ สทิ ธใิ นงานประพนั ธ์ เปน็ ตน้ วตั ถสุ ง่ิ ของ ไม่สามารถซ้ือขายกนั ได้

ผลงานเพลงเป็นงานอันมีลิขสิทธ์ิ เกดิ จากการสร้างสรรคข์ องศิลปน ยอ่ มไดร้ บั ความคุ้มครองตามกฎหมาย

149

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู

ขอ ใดจดั เปน ทรัพยส นิ ทางปญญา 1 กรรมสิทธ์ิ คือ สิทธแิ สดงความเปน เจาของในทรัพยส นิ มสี ทิ ธิใชส อย จําหนา ย
1. ทีน่ า ไดด อกผล ติดตามเอาคืนมาจากผูไมมสี ทิ ธยิ ึดถอื ไว และขดั ขวางมิใหผูใ ดมาเกีย่ วขอ ง
2. ของปา กบั ทรพั ยสนิ น้ันโดยมิชอบดว ยกฎหมาย กรรมสิทธิ์เปน สทิ ธิทีถ่ าวร ใชไดทุกเมื่อโดย
3. ชายหาด ไมม กี าํ หนดเวลา ยกตัวอยา ง เชน นายสชุ าตซิ ื้อรถยนต 1 คนั รถยนตค นั น้ันถอื เปน
4. ยาตา นไวรัสอีโบลา กรรมสทิ ธ์ิของนายสชุ าติ ซง่ึ นายสุชาติ มสี ทิ ธ์ิท่จี ะใชรถ ขายรถ หรอื ใหผ อู น่ื ยมื
ใชรถได ตามความตองการ
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. ยารกั ษาโรคเปน ส่งิ ทส่ี รางสรรคข ึ้น 2 ลขิ สทิ ธิ์ หมายถงึ สทิ ธแิ ตเพียงผูเ ดยี วท่ีจะกระทาํ การใดๆ เก่ียวกับงานที่
ผูสรา งสรรคไดริเริ่มโดยการใชสติปญญาความรู ความสามารถ และความวริ ยิ ะ
จากสมองของมนษุ ย โดยผา นการคน ควา ทดลองเพอื่ ใหไ ดย ารกั ษาโรค อตุ สาหะของตนเองในการสรา งสรรค โดยไมล อกเลียนงานของผอู นื่ โดยงานท่ี
ชนิดใหม ยาตานไวรสั อีโบลาจงึ จดั เปน ทรพั ยสนิ ทางปญญา สรา งสรรคต อ งเปนงานตามประเภททก่ี ฎหมายลขิ สทิ ธ์ใิ หคมุ ครอง โดยผูสรา งสรรคจ ะ
ไดร บั ความคุมครองทนั ทที ส่ี รางสรรคโ ดยไมต องจดทะเบยี น ซงึ่ กฎหมายลิขสิทธิไ์ ดให
ความคมุ ครองแกน งานสรา งสรรค 9 ประเภท ไดแก งานวรรณกรรม งานนาฎกรรม
งานดนตรกี รรม งานสิง่ บนั ทึกเสยี ง งานโสตทศั นวสั ดุ งานภาพยนตร งานแพรเ สยี ง
แพรภ าพ งานอนื่ ใดในแผนกวรรณคดี วทิ ยาศาสตร หรือศลิ ปะ

คู่มือครู 149

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หน ักเรียนชวยกันอธิบายความแตกตาง ๒.๒) ประเภทของทรัพย์สิน กฎหมายแบ่งทรัพย์สินแ1ละประโยชน์เก่ียวกับ
ระหวางอสังหารมิ ทรัพยและสังหาริมทรพั ย
พรอ มทง้ั ยกตวั อยา งทรัพยสินประเภทตา งๆ ทรัพย์สินออกเป็นหลายประเภท แต่ที่ส�าคัญ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ โดย
ใหครบถว น
(แนวตอบ กฎหมายแพงและพาณชิ ยไดแบง กฎหมายให้ความส�าคัญกับอสังหาริมทรัพย์มากกว่า
ทรัพยส ินออกเปน 2 ประเภท ซงึ่ มคี วาม
แตกตา งกัน ดงั นี้ เช่น ต้องแสดงสิทธิทางทะเบียนและนิติกรรมท่ี
อสังหารมิ ทรพั ย คือ ท่ดี นิ และทรัพยอนั ติด
อยกู บั ทด่ี นิ ทมี่ ลี กั ษณะเปน การถาวรหรอื ประกอบ เกี่ยวข้องต้องท�าเป็นลายลักษณ์อักษร ต่างกับ
เปน อนั เดยี วกันกับกับทดี่ ินนนั้ และรวมถงึ ทรพั ย
อันเก่ียวกบั ทด่ี ิน หรือทรัพยอ นั ตดิ อยกู ับที่ดิน สังหาริมทรัพย์ ซึ่งโดยท่ัวไปกฎหมายจะไม่เข้มงวด
หรือประกอบเปนอันเดียวกนั กบั กับทด่ี ินนั้น
เชน บานเรอื น อาคาร ไมยืนตน เปนตน มากนกั
สังหารมิ ทรพั ย คอื ทรพั ยส ินอืน่ นอกเหนอื จาก
อสังหารมิ ทรพั ย เปนทรัพยท่ีสามารถเคล่อื นท่ีได ในทางกฎหมาย อสังหารมิ ทรัพย์ ได้แก่
เชน รถยนต เรอื คอมพวิ เตอร โทรทศั น เปน ตน )
ทรัพย์สนิ ซง่ึ เคล่อื นที่ไม่ได้ ดงั น้ี
2. ครูใหนักเรียนอธิบายวาในทางกฎหมาย
มที รัพยส ินใดท่สี ามารถซือ้ ขายกันได ๑. ทด่ี นิ และทรพั ยซ์ ง่ึ ตดิ อยกู่ บั ทด่ี นิ
และทรพั ยส นิ ใดท่ไี มส ามารถซื้อขายกันได
ตามกฎหมาย อาคารสูงเปน็ สิ่งปลูกสร้างถาวร ซงึ่ ในทางกฎหมาย จะโดยธรรมชาติ เชน่ ไมย้ ืนตน้ ต่างๆ หรือโดยมีบุคคล
(แนวตอบ ทรัพยส ินโดยทั่วไปทง้ั ท่ีเปน ถอื เปน็ อสงั หาริมทรัพย์
อสงั หาริมทรพั ย และสงั หาริมทรัพย สามารถ นา� มาติดในลกั ษณะตรึงไว้ถาวรกบั ที่ดนิ เช่น ตกึ บา้ น
ทาํ การซอื้ ขายกนั ได แตก ม็ ที รพั ยส นิ บางประเภท
ทีก่ ฎหมายแพง และพาณิชย กําหนดไวว า เป็นตน้
ไมสามารถซื้อขายกันได ทรัพยส ินทีซ่ ้อื ขายกนั
ไมได มดี ังน้ี ๒. ทรัพย์ซึ่งประกอบเปน็ อันเดียวกบั ทด่ี ิน เชน่ กรวด ทราย แรธ่ าตุต่างๆ
1. สาธารณสมบัตขิ องแผนดิน เชน ปาสงวน
ไฟสองทางสาธารณะ ทช่ี ายตลง่ิ เปนตน ในท่ดี ิน เปน็ ต้น ๓. สิทธิอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เช่น สิทธิครอบครองท2ี่ดิน สิทธิ
2. สิทธซิ ึ่งกฎหมายหา มโอน เชน สิทธทิ ่ีจะไดรบั จา� นอง 3สทิ ธอิ าศยั เป็นต้น
มรดกของเจา มรดกทีย่ ังมีชวี ติ อยู สิทธทิ จ่ี ะ
ไดรบั คาอปุ การะเลย้ี งดู สา� หรบั สังหาริมทรัพย์ ในทางกฎหมาย ไดแ้ ก่
3. ทรัพยส ินที่ผิดกฎหมาย เชน ยาเสพติด
อาวุธเถือ่ น เปนตน ๑. ทรัพย์ซึ่งเคล่ือนที่จากแห่งหนึ่ง
4. ที่วดั และทธ่ี รณีสงฆ
5. สิทธิทจี่ ะไดรบั บาํ เหนจ็ บํานาญ จากทาง ไปยังอีกแห่งหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเคล่ือนด้วยแรงเดินของ
ราชการ
6. ทรัพยส นิ ทไี่ ดม าโดยขอกําหนดหามโอน) ตัวทรพั ยเ์ อง หรือเคลื่อนด้วยก�าลงั ภายนอก เช่น ชา้ ง

นกั เรยี นควรรู โตะ เก้าอี้ ดินทข่ี ดุ จากพืน้ ดินเปน็ ตน้

๒. ก�าลังแรงของธรรมชาติที่อาจมี

ราคาและถือเอาได้ เชน่ กระแสไฟฟ้า พลังน้า� ตก พลัง

ไอนา้� เป็นต้น

๓. สิทธิท้ังหลายเก่ียวกับสังหา-

รถยนตเ์ ปน็ สงั หาริมทรัพยช์ นิดหนึง่ ซ่ึงบคุ คลท่วั ไป ริมทรัพย์ เช่น กรรมสิทธใ์ิ นสังหารมิ ทรัพย์ สทิ ธิจ�านา�
สามารถถอื ครองไดต้ ามกฎหมาย และลขิ สิทธิ์ เปน็ ตน้ สา� หรับไม้ล้มลกุ และพืชประเภท

150

ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
ทรัพยส นิ ในขอ ใดถือเปนอสงั หาริมทรัพย
1 ทรัพยสนิ หมายถงึ วตั ถุท้ังที่มีรูปรางและไมมรี ปู ราง ซง่ึ อาจมรี าคาและอาจถือ 1. เรอื
เอาได เชน บา น ท่ดี ิน เปนวัตถมุ รี ปู ราง ลิขสิทธิ์ สทิ ธิบตั ร เปน วัตถุไมม ีรูปราง 2. หนงั สอื
2 สิทธคิ รอบครอง หมายถึง สทิ ธิเหนอื ทรพั ยส นิ ซง่ึ ผทู รงสทิ ธิมีสิทธยิ ึดถือ 3. อาคารพาณิชย
ทรพั ยส นิ นน้ั เพ่อื ตน อนั เปนผลใหมสี ทิ ธติ างๆ เหนอื ทรพั ยส นิ น้นั 4. เคร่ืองคอมพวิ เตอร

3 จาํ นอง หมายถึง สญั ญาซึ่งบคุ คลหน่ึงเรียกวา “ผูจาํ นอง” เอาทรัพยสนิ วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะอาคารพาณิชยเปนทรัพยสิน
ตราไวแกบุคคลอีกคนหน่ึง เรียกวา “ผรู ับจาํ นอง” เปนประกันการชําระหน้ี
โดยไมสงมอบทรัพยส นิ น้นั ใหผ รู ับจาํ นอง ที่มีลักษณะตดิ อยกู บั ทด่ี นิ เปน การถาวร ไมสามารถเคลอื่ นยา ยได
ซ่ึงตามกฎหมายแพง และพาณชิ ยถือเปน อสังหาริมทรัพย
สว นทรัพยส นิ ในขอ อน่ื ๆ ถือเปน สงั หาริมทรัพยท งั้ หมด

150 คู่มือครู

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู

เกบ็ เกยี่ วรวงผลไดค้ ราวหนงึ่ หรอื หลายคราวตอ่ ไป เชน่ ขา้ ว กฎหมายกา� หนดใหเ้ ปน็ สงั หารมิ ทรพั ย์ ครตู ้งั ประเด็นคําถามเกี่ยวกบั สิทธใิ นทรพั ยส นิ
ใหน ักเรยี นชว ยกันตอบ เชน
ด้วยเชน่ เดียวกัน • กรรมสทิ ธใ์ิ นทรัพยสินหมายถงึ อะไร

๒.๓) สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ คอื ประโยชน์ (แนวตอบ สิทธิในการเปนเจา ของ ผูมี
กรรมสทิ ธ์ิในทรัพยส ินยอมมสี ิทธคิ รอบครอง
ท่ีบุคคลมีอยู่ในทรัพย์สิน ซึ่งสิทธิในทรัพย์สินท่ีส�าคัญ ใชสอย จาํ หนาย จายโอน ทําลาย ทรัพยสนิ
และมสี ทิ ธิไดด อกผลจากทรัพยสนิ นน้ั )
ได้แก่ กรรมสิทธิ์ หมายถึง สิทธิในการเป็นเจ้าของ • ทรพั ยสินอะไรบางท่จี ะไดม าโดยวธิ ีอ่ืนไมได
นอกจากมีกฎหมายโอนใหเทา น้นั
ผมู้ กี รรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ ยอ่ มมสี ทิ ธคิ รอบครอง ใชส้ อย (แนวตอบ สาธารณสมบตั ขิ องแผน ดิน
ทธี่ รณสี งฆ เปนตน)
จา� หนา่ ย จา่ ยโอน ทา� ลายทรพั ยส์ นิ และมสี ทิ ธไิ ดด้ อกผล • ทรัพยสนิ ใดบางทีไ่ มส ามารถทําการ
ซอื้ ขายได
จากทรัพย์สินน้ัน เช่น ได้ผลไม้จากต้นไม้ของตน (แนวตอบ พื้นท่ีปาสงวน สาธารณสมบัติ
ได้ดอกเบ้ียจากเงินของตนที่ให้ผู้อ่ืนกู้ มีสิทธิติดตาม อาวธุ เถ่อื น เปนตน)

และเรียกเอาทรัพย์สินของตนคืนจากผู้ไม่มีสิทธิจะ บุคคลมีสิทธิในการครอบครองทรัพย์สินที่ตนหามา
และสามารถใช้สอย หรือจำาหน่ายให้บุคคลอ่ืนได้
ยดึ ถอื ไว้ ตลอดจนมสี ทิ ธขิ ดั ขวางมใิ หผ้ อู้ นื่ เขา้ เกย่ี วขอ้ ง ตามกฎหมาย เชน่ รถยนต์ รถจกั รยานยนต์ เปน็ ตน้

กับทรัพย์สนิ น้นั โดยมชิ อบด้วยกฎหมาย

อย่างไรก็ตามกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินต้องอยู่ใต้เง่ือนไขท่ีกฎหมายก�าหนดไว้

เชน่ เจ้าของปนื จะนา� ปนื ของตนมายงิ เล่นตามใจชอบในทสี่ าธารณะไม่ได้ เจา้ ของบ้านจะเผาบ้าน

ของตนเล่นจนนา่ จะเป็นอนั ตรายแก่ผูอ้ ่นื หรอื ทรัพย์สินของผูอ้ น่ื ไม่ได้ เปน็ ต้น

บุคคลจะมีสทิ ธิในทรัพยส์ ินไดโ้ ดยเหตสุ า� คัญ ๒ ประการ ดงั นี้

๑. ได้มาตามบทบัญญัติของกฎหมาย เช่น ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ิ

พ.ศ. ๒๕๓๗ ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมจะได้ลิขสิทธ์ิในผลงานที่ตนแต่งข้ึนและเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิ

ทา� ซา�้ หรือดัดแปลงงานนัน้ ได้ เป็นต้น

เท่านัน้ เช่น สาธารณสมทบรัตัพิขยอ์สงินแบผา่นงดอินย่า1ทงว่ี ัดจะทไดีธ่ ้มรณาโสีดงยฆว์ิธ2เีอป่ืน็นไตมน้ ่ได้ นอกจากมีกฎหมายโอนให้
๒. ได้มาโดยผลของนิติกรรม
และสัญญา เช่น ทายาทของผู้ตายได้รับทรัพย์สิน เกรด็ น่ารู้
เปน็ มรดกตามพนิ ยั กรรม ผซู้ อื้ ไดก้ รรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ นิ
กฎหมายแพ่งได้กำาหนดให้ทรัพย์สิน
บางอยา่ งไมส่ ามารถทาำ การซอื้ ขายได้ เชน่
ตามสญั ญาซอื้ ขาย ผเู้ ชา่ ไดส้ ทิ ธใิ ชแ้ ละรบั ผลประโยชน์ พน้ื ทป่ี า่ สงวน สาธารณสมบัติ อาวธุ เถอื่ น
จากทรัพย์สินท่ีเช่าภายในระยะเวลาที่ก�าหนดตาม สิทธิในการรับบำาเหน็จ บำานาญจากทาง
สัญญาเช่าทรัพย์ เปน็ ต้น ราชการ เป็นต้น ผู้ใดท่ีกระทำาการฝ่าฝืน
ย่อมมีโทษตามกฎหมาย

151

ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู

หากคณะกรรมการวดั ตอ งการแบง ทด่ี ินของวดั บางสว นไปขาย 1 สาธารณสมบตั ิของแผนดนิ ทรัพยสินทุกชนดิ ของแผน ดิน ซึ่งใชเพื่อสาธารณ
ใหนายทุน สามารถกระทาํ ไดห รือไม เพราะเหตใุ ด ประโยชน หรือสงวนไวเ พื่อประโยชนรวมกัน เชน ทรพั ยสนิ สาํ หรับพลเมอื งใชร ว มกนั
แนวตอบ ไมสามารถกระทําไดเ พราะวดั และธรณสี งฆ เปนตน วา ชายตลงิ่ ทางน้ํา ทางหลวง ทะเลสาบ ทรพั ยสนิ ใชเพื่อประโยชนข อง
เปน ทรพั ยสินท่ซี ื้อขายกันไมได นอกจากมกี ฎหมายโอนให แผน ดินโดยเฉพาะ เปนตนวา ปอมและโรงพยาบาล สํานักราชการบานเมือง อาวุธ
เทา นัน้ ยุทธภัณฑ
2 ทีธ่ รณสี งฆ คอื ทดี่ ินซึ่งพทุ ธศาสนิกชนผูมคี วามศรัทธายกใหเปน ของวดั ถือเปน
สมบัติและเปนกรรมสทิ ธิข์ องวัด โดยวดั จะไดร บั ผลประโยชนจากทีด่ ินน้นั ผูใดจะเขา
ยดึ ครองหรือโอนกรรมสิทธใิ์ หผ อู น่ื ไมไ ด นอกจากจะมีการออกพระราชบญั ญตั เิ วนคืน

คมู ือครู 151

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูใหนกั เรียนแบง กลมุ ออกเปน 5 กลมุ ๓) กฎหมายเรื่องละเมิด ละเมิด เป็นช่ือเฉพาะในกฎหมาย ส�าหรับเรียกการ
แลว ใหน กั เรยี นชว ยกนั อธบิ ายสทิ ธใิ นกรรมสทิ ธ์ิ กระทา� ใหบ้ คุ คลอนื่ ไดร้ บั ความเสยี หายโดยผดิ กฎหมาย ซงึ่ วางห1ลกั การทวั่ ไปไวใ้ นประมวลกฎหมาย
ทรพั ยส นิ และขอบเขตของสทิ ธ์ใิ นทรพั ยส นิ แพ่งและพาณิชย์ว่า ผู้ใดกระท�าต่อบุคคลอ่ืนโดย
ตามทกี่ ฎหมายแพง และพาณิชยกําหนดไว
โดยใหน กั เรยี นยกตวั อยา งทรพั ยส นิ ทอี่ ยใู กลต วั ผิดกฎหมายให้เขาได้รับความเสียหายไม่ว่าแก่ชีวิต
จากนั้นสงตัวแทนออกมารายงานหนาชั้น
ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพยส์ นิ หรอื สทิ ธอิ ย่างใด
2. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางกฎหมายเรอ่ื ง
การละเมดิ คนละ 1 กฎหมาย โดยใหเ ขยี น ผอยนู้ า่ัน้ งไหดน้ช่ึงือ่ วจ่าะทโา�ดลยะจเงมใดิจหจระือตโ้อดงยใชป้คระ่ามสาินทไหเลมนิ ท2เลด่อแกทต็นาใมห้
กฎหมายลงในสมุดบันทกึ แลว นาํ ออกมา
แลกเปลย่ี นเรียนรภู ายในชนั้ แก่ฝา่ ยท่ีไดร้ ับความเสียหาย
(แนวตอบ ยกตัวอยาง เชน ประมวลกฎหมาย
แพง และพาณิชย มาตรา 437 บัญญตั ิไววา สาระส�าคัญของกฎหมายเรื่องละเมิด
บคุ คลใดครอบครองหรอื ควบคุมดแู ล
ยานพาหนะอยางใดๆ อันเดินดวยกําลังเคร่อื ง มนษุ ยย์ อ่ มมสี ทิ ธเิ สรภี าพในดา้ นตา่ งๆ ตามกฎหมาย จึงเป็นการท่ีกฎหมายก�าหนดหน้าที่ให้บุคคลเคารพ
จักรกล บคุ คลน้ันจะตอ งรับผิดชอบเพอื่ การ เช่น การทำากิจกรรมภายในครอบครัว ซ่ึงผู้ใดจะ สิทธิเสรีภาพต่างๆ ของผู้อื่นโดยท่ัวไป ด้วยการไม่
เสียหายอันเกดิ แตยานพาหนะนั้น เวน แตจ ะ ทำาการละเมดิ มไิ ด้ ก่อความเสียหายแก่สิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น ไม่ว่า
พิสจู นไ ดวาการเสียหายนน้ั เกดิ แตเหตุสุดวสิ ยั
หรือเกดิ เพราะความผิดของผตู องเสยี หาย จะโดยจงใจหรือโดยประมาทเลินเล่อก็จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการท�า
นั้นเอง ความขอนใ้ี หใชบงั คับไดต ลอดถงึ ผูมไี ว
ในครอบครองของตน ซ่ึงทรัพยอนั เปน ของเกิด ละเมิดของตน
อันตรายไดโ ดยสภาพ หรอื โดยความมุงหมาย
ท่จี ะใช หรือโดยอาการกลไกของทรพั ยน้ันดวย) การละเมิดบางกรณีอาจเป็นความผิดทางอาญาด้วย เช่น ท�าให้ทรัพย์สินของผู้อ่ืน

เสียหายโดยเจตนา ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ฐานถูกละเมิด และอาจฟ้อง

ให้ผ้กู ระทา� น้ันไดร้ ับโทษทางอาญาฐานท�าให้เสยี ทรัพย์ได้ด้วย เปน็ ต้น

การกระทำาท่ีก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น การพ่นสีสเปรย์บนกำาแพงด้วยความคึกคะนอง ถือเป็นความผิด
ฐานละเมิดในลกั ษณะหน่ึง ผูท้ ก่ี ระทาำ จะต้องชดใช้ความเสียหายแก่ผเู้ ปน็ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ

152

นักเรยี นควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การกระทําขอใดถือเปน การละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน และเปนความผิด
1 ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย หมายถึง กฎหมายทร่ี วมเอาบทบญั ญตั ิที่ ทางอาญา
เกีย่ วกบั เรอ่ื งในทางแพง และพาณิชนม าไวด วยกนั เปน หมวดหมู จดั ระเบียบใหเขากัน 1. แมค า ทอนเงินใหล กู คาไมค รบจํานวน
โดยการจัดทาํ กฎหมายแพงและพาณชิ ยของไทยเรม่ิ มขี ึ้นตง้ั แตสมยั รชั กาลที่ 5 และ 2. ตํารวจเขาจับกุมวยั รนุ ท่กี าํ ลังมว่ั สุมยาเสพติด
มแี กไขเพ่มิ เตมิ มาจนกระท่ังถงึ ปจจบุ ัน 3. นายจา งทบุ ตลี กู จางจนไดรบั บาดเจบ็ เพ่อื ลงโทษทท่ี าํ งานไมเ สร็จ
2 คาสินไหม ไดแก การคืนทรพั ยสนิ ที่ผูเสียหายตอ งเสยี ไปจากการละเมิด หรือใช 4. ผูอํานวยการโรงเรียนใหครฝู กสอนออกจากงานเนื่องจากขาดงาน
ราคาทรัพยส ินนน้ั รวมท้งั คาเสียหายอนั จะพึงบงั คับใหใชเ พอื่ ความเสยี หายใดๆ บอ ยครงั้
อันไดกอขึน้ น้นั ดว ย ขอ บัญญัติเกีย่ วกับคาสนิ ไหมทดแทนตามกฎหมายกาํ หนดไววา วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. การทํารา ยรา งกายผอู ื่นโดยเจตนา
เปนอาํ นาจของศาลจะใชด ุลพินจิ วา คาสินไหมทดแทนควรเปนเทาไร แตต อง ถอื เปน การละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน และมคี วามผิดทางอาญา
ไมเกินกวา คําฟอ งรองของโจทก ฐานทํารายรางกาย

152 ค่มู ือครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

นานาสาระ 1. ครูยกตัวอยา งสถานการณแ ลวใหน ักเรยี น
ชว ยกนั ตอบวา เปน การละเมดิ ลขิ สทิ ธทิ์ ห่ี รอื ไม
การละเมิดลขิ สิทธิ์ เพราะเหตใุ ด เชน
• การดหู นังผานออนไลน
การละเมิดลิขสิทธิ์สินค้า งานบริการ และทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นปัญหาสำาคัญของสังคมไทยในปัจจุบัน • การสัง่ ซ้อื ซีรียเกาหลผี านอนิ เทอรเ นต็
การมคี วามรู้ในเร่ืองลิขสิทธิจ์ ึงมีประโยชนต์ ่อการทำากจิ กรรมตา่ งๆ ทเ่ี กีย่ วข้องกับลิขสิทธท์ิ ัง้ ตอ่ ผผู้ ลิตและผูบ้ รโิ ภค • การซือ้ เสื้อผา มอื สอง

พระราชบญั ญัติลิขสทิ ธิ์ พ.ศ. 253๗ ได้บัญญัติสาระสำาคญั เก่ียวกับลขิ สทิ ธไ์ิ ว้ ดงั นี้ 2. ครูใหน กั เรียนรวมกันแสดงความคดิ เห็น
ความหมาย ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธแิ ตเ่ พยี งผเู้ ดียวทจี่ ะกระทาำ การใดๆ เก่ยี วกบั งานทีผ่ ้สู รา้ งสรรคไ์ ดท้ าำ ขึน้ เกี่ยวกับสถานการณก ารละเมดิ ลิขสิทธ์ขิ อง
งานสรางสรรคอันมีลขิ สิทธ์ิ แบง่ ออกเปน็ 9 ประเภท ได้แก่ ประเทศไทยในปจ จบุ นั พรอมบอกผลกระทบ
และรวมกันเสนอแนวทางการแกปญ หา
1. วรรณกรรม 6. โสตทัศนวัสดุ
2. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ๗. ภาพยนตร์
3. นาฏกรรม 8. สง่ิ บันทกึ เสียง
4. ศลิ ปกรรม 9. งานแพร่เสยี งแพร่ภาพ
5. ดนตรีกรรม

ลกั ษณะการละเมิดลิขสิทธ์ิ แบ่งออกเป็นลักษณะตา่ งๆ ดงั น้ี
1. ทำาซำ้าหรือดัดแปลง เช่น คัดลอก เลียนแบบ ทำาสำาเนา ทำาซ้ำาของเดิมโดยเปลี่ยนรูปแบบใหม่ จำาลองงาน

ตน้ ฉบับในส่วนอันเปน็ สาระสำาคญั โดยไมม่ ีลักษณะเปน็ การจัดทาำ งานขึ้นใหม่ เป็นต้น
2. เผยแพร่ต่อสาธารณชน ได้แก่ การทำาให้ปรากฏต่อสาธารณชนโดยการแสดง การบรรยาย การสวด

การบรรเลง การทาำ ให้ปรากฏด้วยเสียงหรอื ภาพ การกอ่ สรา้ ง การจำาหน่าย
3. ให้เช่าต้นฉบับหรือสำาเนางาน ได้แก่ การนำาสำาเนาจำาลองของงานท่ีผู้สร้างสรรค์ทำาขึ้นออกเช่า จำาหน่าย

โดยสำาเนาจาำ ลองนนั้ ปรากฏตอ่ สาธารณชนเปน็ จาำ นวนมากพอสมควร
ตัวอยา งบทลงโทษ
ผู้ทท่ี ำาซาำ้ ดดั แปลง เผยแพรต่ อ่ สาธารณชน ให้เช่าตน้ ฉบบั หรอื สาำ เนางานสรา้ งสรรคอ์ ันมลี ขิ สทิ ธิ์
ตอ้ งระวางโทษปรับตงั้ แต่ 100,000 - 800,000 บาท และหากเปน็ การกระทำาเพื่อการค้าตอ้ งระวางโทษจาำ คุก
ตั้งแต่ 6 เดือน - 4 ปี หรอื ปรบั ตง้ั แต่ 100,000 - 800,000 บาท หรือทั้งจาำ ท้งั ปรบั

ขอสอบ O-NET 153

ขอ สอบป ’51 ออกเกย่ี วกับการละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ เกรด็ แนะครู
ขอ ใดกลา ว ไม ถูกตอ งเก่ียวกบั การละเมดิ ลขิ สิทธิ์
1. เปน ความผดิ อนั ยอมความได ครูยกตวั อยา งส่งิ ทไ่ี มถ ือวาเปนงานอันมีลขิ สทิ ธิ์ เชน
2. ผเู สยี หายจะฟองรอ งไดต อเมือ่ จดทะเบยี นลขิ สทิ ธแิ์ ลว - ขาวประจาํ วัน และขอเทจ็ จรงิ ตา งๆ ทีม่ ีลกั ษณะเปนเพียงขาวสาร
3. หากกระทาํ เพือ่ การคา อาจตองระวางโทษท้ังจาํ ทง้ั ปรับ
4. ผเู สียหายสามารถฟอ งคดีตอศาลไดท ้งั ทางแพงและอาญา อันมใิ ชง านในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร หรือแผนกศิลปะ
- รฐั ธรรมนูญ และกฎหมาย
วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะกฎหมายลขิ สทิ ธิ์ ใหก าร - ประกาศ คําสัง่ ระเบียบ คาํ ชแ้ี จง ของหนวยงานรฐั หรือทองถิ่น
- คาํ พพิ ากษา คาํ ส่งั คําวนิ จิ ฉยั และรายงานของทางราชการ
คุมครองผลงานสรางสรรคท นั ที โดยท่ีผสู รา งสรรคไมตอ ง - คาํ แปล และการรวบรวมส่ิงตา งๆ ขา งตน ท่ีหนวยงานของรฐั หรือทอ งถิน่
จดทะเบยี น ท้งั นผ้ี ลงานสรา งสรรคนัน้ จะตอ งอยูในกลุมผลงาน
9 ประเภท ท่ีกฎหมายกาํ หนดไวดว ย จงึ จะไดรับการคมุ ครอง จดั ทาํ ข้นึ

คู่มอื ครู 153

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูใหนักเรยี นยกตัวอยางการหมนั้ โดยการ ๒.๒ กฎหมายเกย่ี วกบั ครอบครวั และมรดก
สรา งสถานการณจ าํ ลอง ทมี่ ตี วั ละครทง้ั ฝา ยชาย
และหญงิ แลว อธบิ ายถงึ หลักเกณฑในการหม้นั ๑) กฎหมายครอบครัว บัญญัติข้อก�าหนดเก่ียวกับความสัมพันธ์ทางครอบครัว
วาฝา ยชายและหญิงมบี ทบาทและสิทธิในการ
หม้นั อยางไรตามท่ีกฎหมายบัญญตั ิไว จากนน้ั ต้ังแต่การหมั้นไปจนถึงการสมรส ความสัมพันธ์ในครอบครัวและการขาดจากความสัมพันธ์
ครสู ุมผลงานใหนักเรียนออกมาสรุป ในครอบครัว ได้แก่

2. ครูสมุ นักเรียนใหบ อกเง่ือนไขตางๆ เก่ยี วกับ การหมั้นเป็นการทำาสัญญาระหว่างชายกับหญิงว่า ๑.๑) การหมั้น เป็นการท�าสัญญา
การสมรส ตามทีก่ ฎหมายบญั ญตั ไิ ว ตอ่ ไปจะสมรสกนั แตผ่ ้ทู ำาการหม้นั ต้องมอี ายุ 1๗ ปี ระหว่างชายกับหญิงว่าต่อไปจะสมรสกัน ซึ่งจะท�าได้
(แนวตอบ เงอ่ื นไขการสมรสตามกฎหมาย เชน บรบิ รู ณ์ขึน้ ไป หต่อรือเมห่ือญชิงายยังแเลปะ็นหผญู้เยิงมาวอี ์จ1าะยตุ ้อ๑ง๗ไดป้รับีบครบิวารู มณย์ ินแยตอ่ถมา้ จชาากย
- หญงิ ทีเ่ คยสมรสแลวแตสามตี าย หรือการ บิดามารดาหรอื ผูป้ กครองเสยี ก่อน
สมรสครั้งกอนส้นิ สดุ ลงโดยเหตอุ ื่น เชน
การหยา จะสมรสใหมไ ดก ต็ อ เมอ่ื การสมรส ในการหม้นั ฝา่ ยชายจะใหข้ องหมัน้
ครั้งกอ นสนิ้ สดุ ลงไปแลว ไมน อยกวา 310 วนั แก่ฝ่ายหญิง เพื่อเป็นหลักฐานและประกันว่าจะสมรส
เวนแตจะสมรสกบั คสู มรสเดิม คลอดบุตร กับหญิงด้วยของหม้ันน้ี เม่ือหมั้นแล้วของหมั้นจะตก
ระหวางนนั้ มใี บรบั รองแพทยวา มิไดมีการ เปน็ ของฝา่ ยหญงิ แตถ่ า้ ไมม่ กี ารสมรสอนั เนอ่ื งมาจาก
ต้ังครรภ หรอื มคี ําสัง่ ของศาลใหสมรสกนั ได ความผิดของฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงต้องคืนของหมั้น
- การสมรสจะตองจดทะเบยี น โดยมนี ายอาํ เภอ ใหแ้ กฝ่ ่ายชาย
หรือปลัดอําเภอผเู ปน หวั หนากิ่งอาํ เภอ
เปน นายทะเบยี น เปน ตน การผดิ สญั ญาหมนั้ ฝา่ ยทเี่ สยี หายสามารถเรยี กคา่ ทดแทนได้ แตจ่ ะใหศ้ าลบงั คบั
- ชายหญิงจะตองแสดงความยนิ ยอมเปน สามี ให้มกี ารสมรสไม่ได้ เพราะวา่ การสมรสน้นั ขนึ้ กับความสมคั รใจของผจู้ ะสมรสเท่านนั้
ภริยากนั โดยเปดเผยตอหนานายทะเบยี น
และนายทะเบยี นตอ งบันทึกความยนิ ยอมน้นั ๑.๒) การสมรส เป็นการท�าสัญญาตกลงเป็นสามีภริยากันระหว่างชายกับหญิง
ไวด ว ย) กฎหมายก�าหนดเงอ่ื นไขของการสมรสไว้ ดังนี้

๑. การสมรสจะท�าได้ ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์แล้ว
หากมีอายตุ �่ากว่าน้ตี ้องใ๒ห.้ศาชลาอยนหุญรอื าหตญซงิ ท่งึ จเ่ี ปะตน็ ้อบงคุ มคเี ลหวตกิ ุผลลจอรันติ หส1มรอืคศวารลสงั่ ใหเ้ ปน็ คนไรค้ วามสามารถ
จะทา� การสมรสไม่ได้

๓. ชายหรือหญิงซึ่งเป็นญาติสืบสายโลหิตกัน เช่น พ่อหรือแม่กับลูก
พีน่ อ้ งร่วมบดิ ามารดากนั หรอื เปน็ พี่นอ้ งรว่ มแต่เพยี งบิดาหรือมารดากันจะสมรสกันไม่ได้

๔. ผ้รู บั บุตรบญุ ธรรมและบุตรบญุ ธรรมจะสมรสกนั ไมไ่ ด้
๕. ชายหรอื หญงิ จะทา� การสมรสในขณะที่ตนมีคสู่ มรสอยู่แลว้ ไม่ได้
๖. หญงิ ทเ่ี คยสมรสแลว้ แตส่ ามตี าย หรือการสมรสครั้งกอ่ นสน้ิ สุดลงโดย
เหตอุ น่ื เชน่ การหยา่ จะสมรสใหมไ่ ดก้ ต็ อ่ เมอื่ การสมรสครง้ั กอ่ นสนิ้ สดุ ไปแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓๑๐ วนั
เวน้ แตจ่ ะสมรสกบั คสู่ มรสเดมิ คลอดบตุ รระหวา่ งนนั้ มใี บรบั รองแพทยว์ า่ มไิ ดต้ งั้ ครรภ์ หรอื มคี า� สงั่
ของศาลใหส้ มรสได้

154

นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอความใดตอไปนเ้ี ก่ียวขอ งกับกฎหมายครอบครัว
1 ผเู ยาว คือ เด็กหรอื บุคคลท่ียังไมบ รรลนุ ติ ิภาวะ ซงึ่ บคุ คลจะพนจากสภาพความ 1. ดาวกเู งินจากธนาคารเพ่ือซื้อบาน
เปน ผูเยาวได 2 กรณี ไดแ ก เมื่ออายุครบ 20 ปบริบรู ณ และจากการสมรสท่ไี ดรบั การ 2. ดาํ ไปจดทะเบียนสมรสกับแดง ทีอ่ ําเภอ
ยินยอมจากผปู กครอง 3. แอด ทําพินัยกรรมยกทรัพยส ินทงั้ หมดใหลูกชาย
2 วิกลจรติ (Psychosis) ในทางการแพทย คอื ภาวะผิดปกตทิ างจติ ที่มคี วามผิด 4. โอมเปน ลูกของนายแสง นายโอมจงึ ถือเปน ทายาทโดยธรรม
ปกติของความคิด อารมณ พฤตกิ รรมอยา งมาก จนไมอยใู นโลกของความเปนจริง วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเปน เรื่องเกีย่ วกบั การสมรส
ลกั ษณะของอาการท่ีเขา ขายวิกลจริต เชน มีความคิดหลงผดิ ประสาทหลอน ท่ีตอ งดําเนนิ การตามกฎหมายครอบครวั สวนขอ 1. เกย่ี วกบั
มพี ฤติกรรมแปลกผดิ ประหลาดจากปกติ พูดจาผดิ ปกติ เฉอื่ ยชา ไมสนใจสงั คม กฎหมายทรัพยสนิ ขอ 3. และ ขอ 4. เก่ยี วขอ งกับกฎหมายมรดก
ไมด ูแลตนเอง ดเู หมือนคนข้เี กียจ เปนตน

154 คมู่ ือครู

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๗. ถ้าชายหรือหญิงฝ่ายใดมีอายุยังไม่ครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ฝ่ายนั้นต้อง 1. ครใู หน กั เรยี นออกแบบแผนผงั ทแี่ สดงถงึ เงอื่ นไข
ไดร้ ับความยนิ ยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสยี ก่อน ของการสมรสตามท่กี ฎหมายบญั ญตั ไิ ว

๘. การสมรสจะตอ้ งจดทะเบยี น 2. ครใู หน กั เรียนอธิบายลักษณะความสัมพันธ
๙. ชายหญิงจะต้องแสดงความยินยอมเป็นสามีภริยากัน โดยเปิดเผย ระหวา งสามภี รรยาอันไดแก ความสัมพันธ
ต่อหน้านายทะเบียนและนายทะเบียนตอ้ งบนั ทกึ ความยนิ ยอมนน้ั ไว้ดว้ ย ทางครอบครวั และความสมั พันธท างทรพั ยส ิน
การสมรสที่ถูกต้องตามเงื่อนไขของกฎหมายก่อให้เกิดความสัมพันธ์ โดยใหยกกรณตี ัวอยา งในการอธิบาย
ระหวา่ งสามภี รยิ า ๒ ประการ ดังน้ี (แนวตอบ การสมรสทีถ่ ูกตอ งตามกฎหมาย
(๑) ความสมั พนั ธท์ างครอบครวั กฎหมายกา� หนดใหส้ ามภี รยิ าตอ้ งอยกู่ นิ ยอ มกอ ใหเกดิ ความสัมพันธระหวา งสามีภรรยา
ร่วมกนั ฉันสามีภริยา ตอ้ งชว่ ยเหลืออุปการะเลีย้ งดกู ันตามความสามารถและฐานะของตน และใน 2 ลกั ษณะ ดงั นี้
กย่อรณมไที ดศ่ี เ้ าปล็นสผง่ั ู้อใหนส้บุ าามลหีหรรอืือภผรู้พยิ ทิ าักเปษน็์ 1แคลนะไตรค้้อวงใาหมก้สาารมอาปุ รกถาหรระอื เเลส้ยี มงอืดนอู ไกี รฝค้ ่าวยาหมนส่ึงาตมาามรถสมสคาวมรหี รอื ภรยิ า ความสัมพันธท างครอบครวั เชน นายสมพร
(๒) ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สิน กฎหมายแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามี แตงงานกับนางนงนชุ นายสมพรและนางนงนุช
ภรยิ าเป็นสินส่วนตัวและสนิ สมรส ตองมีการอยกู ินรว มกนั ฉนั สามีภรรยา มีการ
ชว ยเหลอื และอปุ การะเลี้ยงดซู ึง่ กันและกัน
๑. สินส่วนตวั ไดแ้ ก่ ทรัพยส์ ินทส่ี ามีหรือภรยิ ามีอยู่กอ่ นสมรส เป็น ความสัมพนั ธท างทรัพยส นิ เชน ภายหลงั
เครื่องใชส้ อยสว่ นตัว หรอื เปน็ ทรพั ยส์ ินทไี่ ดม้ าระหวา่ งสมรส โดยการให้โดยเสน่หาหรอื รบั มรดก จากท่นี ายสมพรแตง งานกบั นางนงนุชแลว
ส�าหรับภริยาของหม้ันจะถือเป็นสินส่วนตัวของภริยา ท้ังน้ีสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายใด ฝ่ายน้ัน ทัง้ สองไดชว ยกันทํามาหากินจนมเี งินเกบ็
ย่อมเป็นผู้มีอา� นาจจัดการ จึงไดซ ือ้ บานพรอมทีด่ ินพรอ มดว ยเครื่องเรือน
จํานวนมาก ซ่ึงตามกฎหมาย ถอื วา บานและ
ท่ดี นิ นั้นเปน สนิ สมรส เพราะเปนทรพั ยสนิ
ทีไ่ ดมาระหวางการสมรส)

การสมรสกันตามกฎหมาย เป็นการยืนยันสถานภาพและบทบาทของคู่สมรส และเม่ือมีบุตรกฎหมายก็มีการรับรองความสัมพันธ์ 155
ทางครอบครวั ระหวา่ งผเู้ ป็น พ่อ แม่ และลกู

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู

ความสัมพันธระหวางสามภี รรยาในขอใดทถ่ี ือเปน ความสมั พนั ธ 1 ผูพ ทิ กั ษ คอื ผทู มี่ ีหนาทด่ี ูแลคนเสมือนไรค วามสามารถ ซึ่งหากปรากฏวาตอ มา
ทางครอบครวั ตามทกี่ ฎหมายกําหนด คนเสมอื นไรค วามสามารถนั้นวกิ ลจรติ ก็สามารถยื่นคาํ รองขอใหศ าลส่ังใหคนดงั กลาว
เปนคนไรความสามารถได และผูพิทกั ษจ ะกลายเปน ผูอนุบาลตามกฎหมาย
1. สามีทํางานหาเงนิ เลี้ยงดูภรรยาซึ่งเปนแมบ าน
2. สามีและภรรยาทําการจดทะเบยี นหยาและตกลงแบง มุม IT

สนิ สมรสกัน ศึกษาคน ควา ขอมูลเพมิ่ เตมิ เก่ยี วกบั กฎหมายครอบครวั ไดท่ี
3. สามแี ละภรรยารวมกนั ซ้อื บา นโดยชว ยกันผอ นสงธนาคาร http://www.kodmhai.com/m2/m2-4/m4-1435-1447-2.html

จนครบถวน คมู่ อื ครู 155
4. ฝายชายมอบของหม้นั ใหแ กฝา ยหญงิ ของหมัน้ จึงถือเปน

ทรัพยส ินสว นตัวของฝายหญิง

วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะกฎหมายไดก าํ หนดความ

สมั พันธท างครอบครวั ไวว า สามีภรรยาตอ งอยูก นิ รวมกันฉันสามี
ภรรยา และจะตอ งชว ยเหลอื อปุ การะเล้ยี งดูกันตามความสามารถ
และฐานะของตน สวนขอ 2. ขอ 3. และขอ 4. เปนลกั ษณะความ
สัมพันธทางทรัพยส ินระหวา งสามภี รรยา

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

ครใู หนกั เรียนยกตัวอยางเหตแุ หงการฟอ งหยา ๒. สนิ สมรส ไดแ้ ก่ ทรพั ยส์ นิ ทค่ี สู่ มรสไดม้ าระหวา่ งสมรสหรอื ฝา่ ยใด
ตามทกี่ ฎหมายบัญญัติไว อยางนอ ยคนละ 3 ฝ่ายหนง่ึ ไดม้ าโดยการยกใหห้ รอื โดยพินยั กรรม ซึง่ ระบุใหเ้ ป็นสนิ สมรส รวมทัง้ ดอกผลทเี่ กิดจาก
ตวั อยา ง สินส่วนตัวด้วย สามีภริยาเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกันโดยการจัดการจะต้องได้รับความยินยอม
ร่วมกัน เว้นแต่จะตกลงไว้เป็นอย่างอื่นโดยสัญญาก่อนสมรส หรือศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นผู้
(แนวตอบ ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย จดั การแตฝ่ ่ายเดียว
มาตรา 1516 ไดม ีการบัญญตั ิเหตุแหง การฟองหยา เมอื่ การสมรสสนิ้ สดุ ลงจะตอ้ งมกี ารแบง่ สนิ สมรสระหวา่ งชายกบั หญงิ
ไวม ากมาย เชน โดยน�าสินสมรสมาแบ่งเท่าๆ กัน แต่ถ้าฝ่ายใดจ�าหน่ายสินสมรสไปโดยไม่ได้รับความยินยอม
จากอีกฝ่ายหนึ่ง ตอ้ งนา� สินส่วนตัวของตนเองมาชดใชส้ นิ สมรสที่ตนจา� หน่ายไป
- สามีหรือภรยิ าทํารายรา งกาย หรอื ทรมาน ๑ใน.ทศาางลกพฎพิหามกาษยากวาา่ กรสามรสรมสจรสะสเปนิ้ น็ สโุดมลฆงะดว้ห1ยรปอื ัจโมจัยฆทยี ่ีสะา� หครญั อื ใดหงัเ้ พนกิ้ี ถอน
รา งกาย หรอื จติ ใจหรือหมิน่ ประมาท หรอื การสมรสเพราะท�าการสมรสโดยผิดเงื่อนไข
เหยยี ดหยามอกี ฝา ยหนงึ่ หรอื บพุ การขี องอกี ฝา ยหนงึ่ ๒. คสู่ มรสฝ่ายใดฝ่ายหนงึ่ ตาย
ทงั้ นีถ้ า เปนการรายแรง อกี ฝา ยหนงึ่ นนั้ ฟองหยา ได ๓. การหย่า ได้แก่ การหย่าโดยความยินยอมของทั้ง ๒ ฝ่าย ซึ่ง
ต้องท�าเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อย ๒ คน โดยต้องมีการจดทะเบียน
- สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งรา งอีกฝา ยหน่ึงไป การหยา่ และการหยา่ โดยคา� พพิ ากษาของศาล ไดแ้ ก่ คสู่ มรสไมอ่ าจตกลงหยา่ กนั โดยความยนิ ยอม
เกนิ หนึง่ ป อีกฝา ยหนึง่ ฟองหยา ได ได้ ฝ่ายท่ีต้องการหย่าจึงฟ้องต่อศาลให้ศาลพิพากษาให้หย่าโดยต้องอ้างเหตุหย่า ซึ่งกฎหมาย
ก�าหนดไว้หลายประการด้วยกัน เช่น สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่ เพราะเหตุท่ีไม่อาจอยู่
- สามีหรือภรยิ าวิกลจริตตลอดมาเกนิ สามป ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน ๓ ปี หรือแยกกันอยู่ตามค�าสั่งศาลเป็นเวลา
และความวิกลจรติ นนั้ มลี กั ษณะยากจะหายได เกนิ ๓ ปี เปน็ ตน้
กบั ทั้งความวกิ ลจรติ ถึงขนาดท่ีจะทนอยรู วมกนั ๑.๓) ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบิดามารดากับบตุ ร สามารถแบ่งออกได้ ดังน้ี
ฉนั สามภี ริยาตอ ไปไมไ ด อกี ฝายหนึง่ ฟอ งหยาได

- สามีหรอื ภริยาเปนโรคตดิ ตอ อยา งรายแรง
อนั อาจเปน ภยั แกอกี ฝา ยหนง่ึ และโรคมีลกั ษณะ
เรื้อรงั ไมมที างท่ีจะหายได อกี ฝา ยหน่ึงสามารถ
ฟอ งหยา ได)

๑. การเปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมายและการรับรองบตุ ร เดก็ ท่เี กดิ จากบิดา
มารดาซึง่ จดทะเบยี นสมรสกันแมจ้ ะมกี ารเพกิ ถอนภายหลังก็ตาม หรอื เกดิ ภายใน ๓๑๐ วนั นบั
แตว่ นั ท่กี ารสมรสสิน้ สุดลง กฎหมายสนั นษิ ฐานวา่ เปน็ บุตรท่ชี อบด้วยกฎหมายของชายผเู้ คยเปน็
สามี เวน้ แต่จะมกี ารฟ้องคดีไมร่ ับเด็กนน้ั เป็นบตุ รภายในหนึ่งปีนบั แต่วันรถู้ ึงการเกดิ ของเด็กหรอื
ฟอ้ งเสียภายในสบิ ปนี บั แต่วนั เกิดของเด็ก
เดก็ ซง่ึ เกดิ จากบดิ ามารดาทมี่ ไิ ดส้ มรสกนั ยอ่ มเปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมาย
ของมารดาฝ่ายเดียวเท่านั้น จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาด้วยต่อเม่ือบิดามารดา
ไดส้ มรสกนั ภายหลัง โดยมีผลนบั ต้งั แต่วันสมรส หรอื เมื่อบิดาจดทะเบยี นรับเป็นบตุ ร โดยจะต้อง
ไดร้ บั ความยินยอมจากเด็กและมารดาของเด็กและจะมีผลต้ังแต่วันจดทะเบยี น
ในกรณที เ่ี ดก็ หรอื มารดาไมใ่ หค้ วามยนิ ยอมหรอื คดั คา้ นวา่ ผทู้ ขี่ อจดทะเบยี น
รบั รองบตุ รไ2มใ่ ชบ่ ดิ า หรอื ในกรณที ต่ี อ้ งมกี ารฟอ้ งชายเพอ่ื ขอใหร้ บั เดก็ เปน็ บตุ ร หากศาลพพิ ากษา

156

นักเรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
นายสมบรู ณแตงงานอยูกนิ กับนางสาวสมศรี โดยทที่ ้ังสองมิได
1 โมฆะ หมายถึง วา งเปลา ไมม ปี ระโยชน ไมม ผี ล ซงึ่ ในทางกฎหมาย จดทะเบยี นสมรสกัน ตอมาทงั้ สองไดใ หก าํ เนดิ บุตรขึน้ มา
จะหมายถงึ นติ กิ รรมทเ่ี สียเปลา ไมม ีผลบงั คบั หรอื ผูกพนั ตามกฎหมาย ไมอ าจให ในกรณนี ้ี บุตรทเี่ กดิ ขึ้นมาถอื เปน บตุ รโดยชอบดว ยกฎหมายของใคร
สัตยาบนั แกกนั ได และผูมีสวนไดสว นเสยี คนหนึง่ คนใดจะยกความเสียเปลาขนึ้ 1. เปนบุตรโดยชอบดวยกฎหมายของนายสมบูรณ
กลาวอางก็ได 2. เปนบตุ รโดยชอบดว ยกฎหมายของนางสาวสมศรี
2 จดทะเบียนรับรองบุตร เปนวธิ ีการหนงึ่ ในการทาํ ใหบ ตุ รนอกสมรสกลายเปนบุตร 3. เปนบุตรโดยชอบดว ยกฎหมายของนายสมบรู ณ
โดยชอบดว ยกฎหมายของบดิ า โดยท่ีบดิ าไมต อ งจดทะเบยี นสมรสกบั มารดาของบุตร และนางสาวสมศรี
ซึ่งเอกสารท่ตี อ งใชใ นการจดทะเบียนรบั รองบตุ ร มีดังนี้ 4. ไมถอื เปนบตุ รโดยชอบดวยกฎหมายของของนายสมบรู ณ
และนางสาวสมศรี
1. บัตรประจําตัวประชาชนของผรู อ ง วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะในกรณที ่ฝี ายชายและ
2. ทะเบยี นบานของผรู อ ง มารดา และผเู ยาว ฝา ยหญงิ ใหก ําเนดิ บุตรโดยทไ่ี มไ ดจดทะเบียนสมรสนั้น กฎหมาย
3. สตู ิบตั รของผเู ยาว หรอื บตุ ร กาํ หนดใหบ ตุ ร เปน บตุ รโดยชอบตามกฎหมายของมารดาฝา ยเดยี ว
4. ใบมรณบัตรของมารดาผูเยาว (กรณมี ารดาผูเยาวเ สียชีวติ ) เทา นนั้ ซง่ึ ถา หากตอ งการใหบ ตุ รกลายเปน บตุ รโดยชอบตามกฎหมาย
5. ใบเปลย่ี นช่ือตัว / ชือ่ สกุล ของผูร อ ง ผูเ ยาว และมารดาของบตุ ร ของบดิ าดว ยนั้น บดิ าและมารดาจะตอ งจดทะเบยี นสมรสกนั
6. หนังสือใหค วามยินยอมของมารดาผเู ยาวและสาํ เนาบัตรประจําตัวประชาชน หรือบดิ าจะขอจดทะเบยี นรบั รองบุตร กส็ ามารถทําได

156 คู่มือครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

วา่ เปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมาย การเปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมายยอ่ มมผี ลนบั แตว่ นั ทศี่ าลพพิ ากษาถงึ ครใู หน ักเรียนยกตวั อยางเงือ่ นไขพ้นื ฐานตา งๆ
ทสี่ ดุ ซง่ึ จะทา� ใหผ้ ทู้ เ่ี ปน็ บตุ รนนั้ มสี ทิ ธิ เชน่ ใชช้ อื่ สกลุ ของบดิ า รบั มรดกในฐานะทายาทโดยธรรมได้ เพ่ือการรับบุตรบุญธรรมตามทกี่ ฎหมายกําหนด
เปน็ ตน้ ส่วนผู้รบั รองบตุ รก็สามารถใชอ้ า� นาจปกครอง รวมทง้ั ตอ้ งอุปการะเลยี้ งดบู ตุ รนั้นต่อไป โดยใหนกั เรียนรวมกนั อภิปรายและยกตวั อยาง
บทบัญญัติทีเ่ กี่ยวของมาแลกเปลย่ี นเรยี นรู
๒. การรบั บตุ รบญุ ธรรม หมายถงึ การจดทะเบยี นรบั บตุ รของผอู้ นื่ มาเลยี้ งดู ภายในชัน้
เป็นบุตรของตนเอง โดยด�าเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซ่ึงก�าหนดเง่ือนไข
พนื้ ฐานรวมทัง้ ความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างผ้รู ับบุตรบญุ ธรรมกบั บุตรบุญธรรมไว้ ประกอบ (แนวตอบ เงอ่ื นไขพื้นฐานเพือ่ การรับบุตร
กับพระราชบัญญัติการรับบุตรบุญธรรม พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งก�าหนดรายละเอียดเพ่ิมเติม เพื่อ บุญธรรมตามที่กฎหมายกําหนด เชน
ผคุ้้ทูมม่ีครใิ ชอเ่งคสรวือัสญดาิภตากิพบั ขเอดง็กเจดะ็กมทกี ่ีจาะรเทปด็นลบอุตงรเบล้ียุญงธดรู 1รมมกี ยา่ิงรขต้ึนรวจเชส่นอบใคนุณกสรมณบีทัตี่ขแิ อลระับขบ้อุตเทรบจ็ จุญรธิงรเกรมยี่ วขกอับง
สภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมของผู้ขอรบั เด็กเป็นบตุ รบุญธรรม เป็นตน้ มาตรา 1598/21 การรบั ผเู ยาวเ ปน
บตุ รบญุ ธรรมจะกระทาํ ได ตอ เมอื่ ไดร บั ความยนิ ยอม
เงอื่ นไขพนื้ ฐานของการรบั บตุ รบญุ ธรรม ประกอบดว้ ย อายแุ ละความยนิ ยอม ของบิดาและมารดาของผจู ะเปนบุตรบุญธรรม
คอื บคุ คลทจี่ ะรบั ผอู้ นื่ เปน็ บตุ รบญุ ธรรมไดต้ อ้ งมอี ายไุ มต่ า�่ กวา่ ๒๕ ปบี รบิ รู ณ์ และตอ้ งแกก่ วา่ ผทู้ ต่ี น ในกรณที ่ีบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งตาย
จะรับเป็นบตุ รบญุ ธรรมอยา่ งนอ้ ย ๑๕ ปี และถ้าผู้ท่ีจะเปน็ บุตรบญุ ธรรมเป็นผู้เยาว์ การรับบตุ ร หรือถกู ถอนอํานาจปกครอง ตองไดร ับความ
บญุ ธรรมตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากบดิ ามารดาโดยกา� เนดิ ของผทู้ จ่ี ะเปน็ บตุ รบญุ ธรรม และหากผรู้ บั ยนิ ยอมของมารดาหรอื บิดา ซงึ่ ยังมีอํานาจปกครอง
บตุ รบญุ ธรรมหรอื ผ้ทู ่เี ปน็ บตุ รบญุ ธรรมมีคสู่ มรสต้องได้รับความยนิ ยอมจากคู่สมรสกอ่ นด้วย
มาตรา 1598/26 ผเู ยาวท ่เี ปนบุตรบุญธรรมของ
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมมีผลให้บุตรบุญธรรมมีฐานะเสมือนบุตร บุคคลใดอยู จะเปน บุตรบุญธรรมของบุคคลอืน่ อีก
ท่ีชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรม เช่น มีสิทธิใช้ชื่อสกุล มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตร ในขณะเดียวกันไมไ ด เวน แตเ ปน บตุ รบญุ ธรรมของ
บุญธรรม คูส มรสของผรู ับบุตรบุญธรรม

ผูร้ บั บตุ รบญุ ธรรมมีอ�านาจปกครองและมีหนา้ ที่ให้การอปุ การะเล้ยี งดู แต่ มาตรา 1598/27 การรบั บุตรบญุ ธรรม
ไม่มีสิทธิรับมรดกในส่วนของบุตรบุญธรรม และจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้ ส่วนบิดามารดา จะสมบูรณตอ เมอื่ ไดจ ดทะเบยี นตามกฎหมาย
โดยกา� เนดิ เป็นอนั หมดอา� นาจปกครอง แตถ าผูจะเปน บตุ รบญุ ธรรมน้นั เปน ผูเยาว
ตองปฏิบตั ติ ามกฎหมายวา ดวยการรับเด็ก
อย่างไรก็ตาม บุตรบุญธรรม เปนบตุ รบุญธรรมกอ น)
ไมส่ ญู เสยี สิทธิและหน้าที่ในครอบครัวทีก่ �าเนดิ มา เชน่
มีสิทธิรับมรดกของบิดามารดาโดยก�าเนิด การรบั บุตร
บุญธรรมมีทางเลิกได้โดยการจดทะเบียนเลิก ตาม
ความยินยอมของบุตรบุญธรรมท่ีบรรลุนิติภาวะแล้ว
กบั ผรู้ บั บตุ รบญุ ธรรม หรอื เมอ่ื มกี ารสมรสระหวา่ งบตุ ร
บุญธรรมกับผรู้ ับบตุ รบญุ ธรรม

๑.๔) สทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องบดิ ามารดา
บิดามารดามีหน้าท่ีอุปการะเล้ียงดู และให้การศึกษา บตุ รมหี นา้ ที่ตอบแทนบญุ คณุ ของบิดามารดาที่ได้
ตามสมควรแก่บุตรระหว่างที่บุตรยังเป็นผู้เยาว์ หรือ ใหก้ ารอุปการะเลยี้ งดมู าต้งั แต่วยั เยาว์

15๗

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู

นายอดุ มจดทะเบยี นรบั เดก็ ชายเอกเปน บตุ รบญุ ธรรมตามกฎหมาย 1 การทดลองเลย้ี งดู พระราชบญั ญัตกิ ารรับเด็กเปน บุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522
ขอ ใดตอไปนก้ี ลาวถูกตอ ง ไดก าํ หนดใหม กี ารทดลองเล้ยี งบุตรบุญธรรมในบทบัญญัตติ างๆ เชน

1. นายอุดมมสี ิทธใิ นมรดกของเดก็ ชายเอก มาตรา 23 เมอ่ื อธิบดหี รอื ผวู าราชการจงั หวดั มคี ําสัง่ ใหทดลองเล้ียงดูเด็กแลว
2. เด็กชายเอกไมม ีสิทธิใชนามสกลุ ของนายอดุ ม ใหผขู อรับเด็กทจี่ ะรบั เปนบุตรบญุ ธรรมไปทดลองเลย้ี งดูได การทดลองเลีย้ งดตู องมี
3. ผใู หก าํ เนดิ เดก็ ชายเอกยังคงมีอํานาจปกครองเด็กชายเอก ระยะเวลาไมนอยกวา 6 เดอื น หลักเกณฑ วธิ ีการและเง่ือนไขในการทดลองเลย้ี งดู
4. เด็กชายเอกมีสิทธิในมรดกของนายอุดมและมรดกของผใู ห ใหเ ปนไปตามท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง

กาํ เนดิ มาตรา 24 ในระหวางการทดลองเลย้ี งดู ถา ผขู อรับเด็กเปนบุตรบุญธรรมถอน
คําขอรบั เด็กเปน บุตรบุญธรรม ใหผ ขู อรบั เด็กเปน บตุ รบญุ ธรรมมอบเด็กคืนแกบ คุ คล
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะภายหลังจากจดทะเบยี น ผูม อี าํ นาจใหค วามยนิ ยอมในการรบั เดก็ เปนบุตรบญุ ธรรม หรอื พนกั งานเจา หนา ท่ี

รับบุตรบุญทําแลว ยอมสงผลใหบตุ รบญุ ธรรมมีฐานะเหมือนกบั บุตร มาตรา 27 เมือ่ ไดม ีการทดลองเล้ียงดคู รบกําหนดแลว ปรากฏวา ผูข อรบั เดก็ เปน
ทีช่ อบดวยกฎหมาย ซึ่งบตุ รมีสิทธใิ ชน ามสกุลและรับมรดกของผรู ับ บตุ รบุญธรรม เหมาะสมท่ีจะรับเดก็ เปนบุตรบุญธรรม และคณะกรรมการสั่งอนุมตั ิ
บตุ รบญุ ธรรม นอกจากนี้บตุ รยังมีสิทธใิ นการรับมรดกของผใู ห ใหรบั เด็กเปน บุตรบญุ ธรรม ใหด าํ เนนิ การขอจดทะเบยี นรบั เด็กเปน บตุ รบญุ ธรรมได
กําเนิดดวย ตามกฎหมายวา ดว ยการนน้ั

คมู่ อื ครู 157

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate
Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูใหนกั เรยี นเขยี นกรณตี ัวอยางที่นําเสนอถงึ แมบ้ ตุ รจะบรรลนุ ติ ภิ าวะแลว้ แตเ่ ปน็ ผทู้ พุ พลภาพและหาเลย้ี งตนเองไมไ่ ด้ บดิ ามารดากย็ งั มหี นา้ ท่ี
การรบั มรดกตามกฎหมาย โดยใหสมมติ ตอ้ งอปุ การะเล้ยี งดูต่อไป ระหวา่ งท่ีบตุ รเป็นผู้เยาว์
ตัวบุคคลท่เี ปน เจาของมรดก ลกั ษณะของ
มรดกท่มี ีอยู และผทู รี่ ับมรดก โดยใหอธบิ าย บิดามารดาเป็นผู้ใช้อ�านาจปกครองบุตร โดยมีสิทธิก�าหนดท่ีอยู่ของบุตร
ประกอบวาจากกรณดี ังกลา ว ผูท่ไี ดรบั มรดก แทล�าโะทฐาษนบาุตนรุรตูปาม1มสีสมิทคธวิเรรียหกรบือุตวร่าคกืนลจ่าาวกสผั่งู้อสื่อนนซใึ่งหก้บักุตบรุตทร�ไาวก้โาดรยงมานิชตอาบมดส้วมยคกวฎรหแมกา่คยวาเมปส็นาผมู้แาทรถน
เปนทายาทประเภทใดตามกฎหมาย พรอ มให โดยชอบธรรมของบตุ รในการฟอ้ งคดี และมสี ิทธิจดั การทรพั ย์สินของบตุ รด้วย
เหตผุ ลอธบิ ายประกอบ
ถ้าบุตรมีเงินได้ บิดามารดามีสิทธิน�ามาใช้เป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูและการศึกษา
2. ครใู หน ักเรียนอธิบายเปรยี บเทียบความแตกตาง ของบุตร ส่วนทเี่ หลือต้องเก็บรักษาไว้เพอื่ มอบแก่บุตรภายหลงั เว้นแต่บิดามารดาจะยากจนไม่มี
ระหวา งทายาทโดยธรรมและทายาทตาม เงินไดพ้ อแกก่ ารครองชีพ จงึ อาจน�าเงนิ นนั้ มาใช้ได้
พินยั กรรม
กรณีท่ีบิดามารดาตายหรือถูกศาลสั่งถอนอ�านาจปกครองเพราะวิกลจริตหรือ
ขยายความเขา้ ใจ Expand ประพฤติไม่เหมาะสม ศาลมีอ�านาจตั้งผู้ปกครองให้บุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์ เพ่ืออุปการะเลี้ยงดูและให้
ความคมุ้ ครองแก่ผเู้ ยาว์น้ันแทนบิดามารดาได้
ครใู หน ักเรียนเลือกหัวขอระหวา งกฎหมาย
ที่เก่ยี วกับตนเอง และกฎหมายทเี่ กย่ี วกับครอบครัว ๑.๕) สิทธิและหน้าที่ของบุตร บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดา เว้นแต่ไม่ปรากฏ
และมรดก จากนัน้ จดั ทําแผน พบั เพ่อื ใหความรู บิดาให้ใช้ชื่อสกุลของมารดา บุตรมีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดูและได้รับการศึกษาตามสมควร
เกยี่ วกับกฎหมายตามหัวขอ ท่นี ักเรียนเลอื ก จากบิดามารดา แตบ่ ตุ รมีหนา้ ทีต่ ้องดแู ลบดิ ามารดาของตนเปน็ การตอบแทนบุญคุณ
แลวนาํ สงครูผสู อน ไมไ่ ด้ ต้องขอใหพ้ บนุตกั รงจาะนฟอ้ัยอกงบาริดย2ากมคาดรขี ดึ้นาว่ารกวลม่าทว้ังใหบุ้พการีอ่ืนของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา

ตรวจสอบผล Evaluate ๒) กฎหมายเรอ่ื งมรดก มเี นอื้ หาเกยี่ วกบั ลกั ษณะของมรดกและผทู้ มี่ สี ทิ ธริ บั มรดก

ครตู รวจสอบความถกู ตอ งของแผน พบั ใหค วามรู หรือทายาท มรดกหรือกองมรดก ได้แก่ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี และความรับผิดชอบต่างๆ
เรอื่ งกฎหมายท่ีเก่ยี วกับตนเอง และกฎหมายที่ ของผู้ตายหรือเจ้าของมรดก ซ่ึงเม่ือผู้ใดถึงแก่ความตาย มรดกของเขาย่อมตกทอดแก่ทายาท
เกี่ยวกบั ครอบครัวและมรดก ทันที เว้นแต่สิ่งท่ีกฎหมายหรือตามสภาพแล้วถือเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ ย่อมไม่
ตกทอดเป็นมรดก เช่น สทิ ธริ บั ราชการ เป็นตน้

กรณที บี่ คุ คลใดหายไปจากทอี่ ยโู่ ดยไมไ่ ดข้ า่ วคราวเปน็ เวลานาน ศาลอาจสง่ั ใหบ้ คุ คล
น้ันเป็นคนสาบสญู ซึง่ กฎหมายถือเสมอื นวา่ ถึงแก่ความตาย และมรดกของผูส้ าบสญู ย่อมตกทอด
แกท่ ายาทเหมือนกรณตี ายจรงิ ๆ

ทายาท คือ ผูม้ ีสิทธไิ ด้รับมรดกในทางกฎหมาย แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้
๑. ทายาทโดยธรรม เป็นทายาทท่ีมีสิทธิตามกฎหมาย ได้แก่ ญาติ คู่สมรส

และทายาททเี่ ปน็ ญาติ แบ่งเปน็ ๖ ล�าดับ คือ ผสู้ ืบสนั ดาน บิดามารดา พนี่ อ้ งร่วมมารดาเดียวกนั

158

นกั เรียนควรรู ขอสอบ O-NET
ขอ สอบป ’51 ออกเก่ยี วกับกฎหมายเร่อื งมรดก
1 ฐานานรุ ูป หมายถงึ สมควรแกฐานะ เชน ในทางกฎหมายบิดามารดาเปน ตามกฎหมายวา ดว ยมรดก ใครคือทายาทโดยธรรมลําดบั แรก
ผใู ชอ าํ นาจปกครองบตุ ร โดยมสี ทิ ธกิ าํ หนดทีอ่ ยขู องบตุ ร ทาํ โทษบตุ รตามสมควร 1. คสู มรส
หรือวากลาวสัง่ สอนใหบ ุตรทาํ การงานตามสมควรแกความสามารถและฐานานรุ ปู 2. บิดามารดา
หมายความวา พอ แมมสี ิทธิทาํ โทษเดก็ เพอ่ื เปน การส่งั สอนไดต ามความเหมาะสม 3. ผูสืบสนั ดาน
แตตอ งไมใชว ธิ ที โี่ หดเหย้ี ม หรือทรมานเด็ก 4. ผรู บั พินยั กรรม
2 พนกั งานอยั การ คือ ขาราชการในสาํ นกั งานอยั การสงู สดุ มบี ทบาทหนาท่ี เชน วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะทายาทโดยธรรมตาม
กฎหมาย แบง ออกเปน 6 ลาํ ดบั และทายาทลาํ ดบั แรก คอื ผสู บื สนั ดาน
- ดา นการอํานวยความยุติธรรม ในคดอี าญา เมื่อเจา พนกั งานตํารวจจับกุม ซงึ่ การเรยี งลาํ ดับทายาทโดยธรรม มีดงั นี้
ผกู ระทําความผิดและรวบรวมพยานหลกั ฐานตางๆ สรุปเปน สํานวนทาํ ความเห็นนํา 1. ผูสบื สันดาน
เสนอพนกั งานอยั การพรอ มกับตวั ผูต องหา พนกั งานอยั การจะพจิ ารณาสงฟองหรือไม 2. บดิ ามารดา
ฟองผูต อ งหาตอ ไป 3. พนี่ องรว มบิดามารดาเดยี วกนั
4. พ่นี องรวมบดิ าหรอื รวมมารดาเดยี วกัน
- ดา นการรกั ษาผลประโยชนข องรฐั โดยใหค ําปรกึ ษาดา นกฎหมายแกสว น 5. ปู ยา ตา ยาย
ราชการ และหนวยงานของรัฐ เชน ตรวจรา งสัญญา ตอบขอหารือใหกบั หนว ยงาน 6. ลุง ปา นา อา
ของรฐั ทีม่ ปี ญ หาในการปฏบิ ัติตามสญั ญา เปน ตน

158 ค่มู อื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
Engage
กระตนุ้ ความสนใจ

พนี่ ้องร่วมบิดาหรอื ร่วมมารดาเดียวกัน ปู่ ยา่ ตา ยาย และลงุ ปา้ น้า อา ซง่ึ สทิ ธิได้รับมรดกและ 1. ครูใหนกั เรียนชว ยกนั ยกตวั อยา งกรณที ีต่ อ งมี
ส่วนแบ่งที่จะได้รับจะลดลงตามล�าดับความห่างของญาตินั้นๆ เช่น ถ้าคู่สมรส บุตร และบิดา การทาํ นิตกิ รรมหรอื สญั ญา จากนั้นครอู ธบิ าย
มารดาของผูต้ ายยงั อยู่ ยอ่ มมสี ิทธิได้รับมรดกของผู้ตายโดยเทา่ เทียมกัน โดยคู่สมรสมสี ิทธไิ ดร้ ับ เพิ่มเตมิ จากคาํ ตอบของนักเรยี น
หนึ่งส่วน บุตรแต่ละคนมีสิทธิได้รับคนละส่วน และบิดามารดาของผู้ตายมีสิทธิได้รับคนละ
หน่ึงส่วน กล่าวคือบิดาหน่ึงส่วนและมารดาหน่ึงส่วน ในกรณีเช่นน้ีญาติอ่ืนไม่มีสิทธิได้รับมรดก 2. ครนู ําตวั อยา งหนงั สือสญั ญาตางๆ เชน
ของผู้ตายอีก เพร๒าะ. ไทดา้ถยูกาตทัดตโดายมญพาินตัยสิ กนรทิรมกว่าไดขอ้แงกเ่จผา้ ขู้มอีสงิทมธริไดดก้รแับลม้วรดกตามที่พินัยกรรม1ซ่ึงเป็น สญั ญาเงินกู สัญญาซือ้ ขายทดี่ ิน สัญญาซ้ือ
หนังสือแสดงความประสงค์ส่ังการเผ่ือตายของผู้ตายระบุไว้ โดยทายาทพวกน้ีอาจเป็นญาติของ ขายรถยนต สญั ญาจาํ นํา มาใหน ักเรียนดู
ผตู้ ายหรอื ไมก่ ็ได้ แล้วแต่ผู้ตายจะตง้ั ใจยกมรดกของตนใหแ้ กผ่ ู้ใดบ้าง เพือ่ ใหนักเรยี นสังเกตรูปแบบของสญั ญา
และรายละเอียดสําคญั ทปี่ รากฏในสัญญา
ในกรณีท่ีผู้ตายท�าพินัยกรรมยกมรดกของตนให้ทายาทตามพินัยกรรมท้ังหมด จากนัน้ ครูเปดโอกาสใหน ักเรยี นซักถาม
ทายาทโดยธรรมยอ่ มไมม่ สี ทิ ธไิ ดร้ บั มรดกเลย แตบ่ คุ คลจะทา� พนิ ยั กรรมยกมรดกไดเ้ ฉพาะทรพั ยส์ นิ
ของตนเท่าน้ัน ในกรณีที่ตนมีคู่สมรสก็จะต้องแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาก่อน ส่วนของตน สา� รวจคน้ หา Explore
จงึ เปน็ มรดกตกทอดตอ่ ไปได้ แตถ่ า้ ในกรณที ผี่ ตู้ ายไมไ่ ดท้ า� พนิ ยั กรรมไวแ้ ละไมม่ ที ายาท มรดกผตู้ าย
ก็จะตกไดแ้ กแ่ ผ่นดนิ คอื ตกเปน็ ของรัฐไป 1. ครใู หนักเรียนสืบคน ขอ มูลเรอ่ื งกฎหมายแพง
เกยี่ วกับนติ กิ รรมและสัญญา จากแหลง
๓. กฎหมายแพ่งเกยี่ วกับนิติกรรมและสญั ญา การเรียนรูตา งๆ เชน หอ งสมุด หนงั สือเรยี น
อนิ เทอรเ นต็ สอบถามจากผทู มี่ คี วามเชย่ี วชาญ
การมเี พยี งกฎหมายรบั รองสภาพบคุ คล ซง่ึ บญั ญตั เิ กยี่ วกบั สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ และในครอบครวั ดานกฎหมาย เปน ตน แลวรวบรวมขอ มูลท่ีได
ของบุคคลถือว่ายังไม่ครบถ้วน เพราะยังขาดเคร่ืองมือที่จะท�าให้บุคคลท�าการเปลี่ยนแปลงสิทธิ นาํ มาวเิ คราะหเพ่ืออภปิ รายตอไป
ของตน หรอื ท�าใหท้ รพั ย์สินหมนุ เวียนเปลยี่ นมอื กันได้
2. ครใู หน ักเรียนสังเกตจากการดาํ เนินชีวติ
กฎหมายจึงต้องก�าหนดนิติกรรมและสัญญาขึ้น เพ่ือให้บุคคลใช้เปลี่ยนแปลงสิทธิของตน ประจําวันของนักเรียนวา มีสงิ่ ใดบาง
ได้ด้วยความตัง้ ใจ ซง่ึ ในการดา� รงชวี ติ ประจ�าวันของบุคคลจะมกี ารติดตอ่ กบั ผูอ้ ืน่ เสมอ จึงจ�าต้อง ทเ่ี กี่ยวของกบั การทาํ นิตกิ รรมและสัญญา
อาศยั นติ กิ รรมและสญั ญาอยา่ งหลกี เลยี่ งไมไ่ ด้ เชน่ การซอ้ื อาหารกลางวนั และของใชต้ า่ งๆ เปน็ ตน้ ตามกฎหมาย

นิติกรรม ได้แก่ การแสดงเจตนาของบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย มุ่งโดยตรงต่อการผูก
ความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างบุคคล เพื่อท่ีจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือ
ระงับซ่งึ สิทธิ เช่น การแสดงเจตนาท�าพินัยกรรม การท�าค�าเสนอไปยังบุคคลอ่ืน เพื่อชักชวนให้
ท�าสัญญาดว้ ย การทา� ค�าสนองตอบรบั ค�าเสนอ การบอกเลกิ สัญญา เปน็ ตน้

นิติกรรมต้องเป็นการแสดงเจตนาหรือความต้ังใจออกมาภายนอก เช่น โดยวาจาหรือ
โดยการเขียนหนงั สือ การนง่ิ อาจถอื วา่ เป็นการแสดงเจตนายอมรับไดใ้ นบางครง้ั

159

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นกั เรียนควรรู

ขอใดกลา วถกู ตอ งเก่ียวกับนิติกรรม 1 พินัยกรรม คําสง่ั ยกทรัพยสนิ หรอื แบงทรัพยสิน หรือวางขอ กําหนดใดๆ
1. พินยั กรรมไมถ อื เปนนิตกิ รรม เก่ียวกบั ทรัพยส นิ ของตนเมื่อตายแลว หรอื ในการอื่นๆ ทีก่ ฎหมายรบั รอง ซึง่ มผี ล
2. ผูเยาวส ามารถทาํ นติ ิกรรมทุกอยางไดด วยตนเอง เม่ือตายแลว
3. การทําสญั ญาซ้อื ขายทีด่ ินถอื เปนนติ ิกรรมประเภทหนึง่
4. การแสดงเจตนาทาํ นติ กิ รรมตองเปน ลายลักษณอักษรเทา นน้ั มมุ IT

วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะสัญญาถือเปนนติ ิกรรม ศึกษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับการทาํ นติ ิกรรม ไดท่ี
http://www.mcupt.com/index_mcupt/Weerasak/Contract.pdf
ประเภทหน่งึ ที่เกิดจากการตกลงกอความผูกพนั ในทางกฎหมาย
ระหวางบคุ คลตงั้ แต 2 ฝา ยขน้ึ ไป ซง่ึ ในกรณกี ารทําสัญญาซื้อขาย
ท่ดี ินนน้ั กฎหมายกําหนดใหต อ งทาํ เปน หนงั สอื และจดทะเบยี น
ตอ พนักงานเจาหนาท่ี

คู่มอื ครู 159

กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

ครใู หนกั เรียนรวมกันอภิปรายในประเดน็
คาํ ถามตอไปน้ี
• นติ กิ รรมจะตองมีลกั ษณะสําคญั ตาม อนงึ่ นิตกิ รรมต้องท�าโดยใจสมัคร คอื ไมเ่ กิดจากความเขา้ ใจผิด หรอื ถูกขู่เข็ญบังคบั หรอื
ทก่ี ฎหมายกําหนดไวอยางไรบาง ขาดสติสัมปชัญญะ นิติกรรมซึ่งท�าโดยผู้ท่ีความสามารถถูกจ�ากัด เช่น ผู้เยาว์ อาจถูกบอกล้าง
(แนวตอบ นิติกรรมจะตองเปน การแสดงเจตนา ด้วยผู้แทนโดยชอบธรรมได้ ในกรณีที่ท�าให้ผู้เยาว์เสียเปรียบเน่ืองจากนิติกรรมที่ท�าไปโดยความ
หรอื ความตงั้ ใจออกมาภายนอก เชน โดยวาจา สามารถถกู จา� กดั น้ัน
หรอื การเขยี นเปนหนงั สอื การทาํ นิตกิ รรม
จะตองเกดิ จากความสมัครใจ โดยไมเกิด สญั ญา คอื นิติกรรมชนิดหนงึ่ แตเ่ ป็นนิตกิ รรมท่ีมีบคุ คล ๒ ฝ่าย หรอื มากกว่านัน้ มาตกลง
ความเขาใจผิด การถูกบังคบั ขม ขู หรอื ขาด กนั โดยแสดงเจตนาเสนอและสนองตรงกัน กอ่ ให้เกิดสญั ญาขน้ึ

สติสมั ปชัญญะ นิติกรรมทที่ าํ โดยผหู ยอ น สญั ญายอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ หนี้ คอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความผกู พนั ระหวา่ งบคุ คลทเ่ี รยี กวา่ เจา้ หน้ี กบั บคุ คล
สมรรถภาพ เชน ผูเยาว อาจถกู บอกลางได
ในกรณีทผี่ เู ยาวเสียเปรียบเนื่องจากหยอ น ท่ีเรียกว่า ลูกหนี้ ซึ่งท�าให้เจ้าหน้ีมีสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ช�าระหน้ีได้ตามแต่ลักษณะของหน้ีนั้น
ความสามารถนนั้ ) สญั ญาหลายชนดิ จ�าเปน็ และมีประโยชน์ตอ่ การดา� เนนิ ชวี ติ ประจ�าวนั
• บคุ คลประเภทใดที่กฎหมายจาํ กดั
ความสามารถในการทํานติ ิกรรม และใคร โดยหลักท่ัวไปบุคคลย่อมมีความสามารถในการท�านิติกรรมสัญญา แต่มีข้อยกเว้นในเรื่อง
จะเปน ผทู ํานิติกรรมแทนบุคคลเหลา นัน้ คถวูกาจม�าสกาัดมาเรชถ่นคอผื ู้เบยคุาวค์ลคบนางไปร้คระวเาภมทสใานมทาารงถกฎคหนมเาสยมถืออื นวไา่ รค้คววาามมสสาามมาารรถถในกบาุครคทลา� ลน้มติ ลกิ ะรลรมายสญั1โญดยา
(แนวตอบ บุคคลตอ ไปน้ีทางกฎหมายถอื วา กฎหมายได้ก�าหนดความสามารถในการท�านติ ิกรรมสญั ญาของบคุ คลเหล่านี้ไว้ ดงั น้ี
หยอนความสามารถในการทํานติ กิ รรม ไดแ ก
ผู้เยาว์จะท�านิติกรรมได้ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม เว้นแต่นิติกรรม
ผูเยาว การทาํ นติ ิกรรมใดๆ ตองไดร ับ ทีไ่ ด้มาซงึ่ สทิ ธโิ ดยสิ้นเชงิ หรอื เพ่อื ใหห้ ลุดพ้นหน้าท่ี หรอื การท่ตี ้องท�าเองเฉพาะตวั หรอื กิจกรรม
ความยินยอมจากผแู ทนโดยชอบธรรม ท่สี มแกฐ่ านานรุ ูปและจ�าเปน็ ในการเล้ียงชพี ผ้เู ยาวส์ ามารถทา� ดว้ ยตนเองได้
เวน แตนิติกรรมที่ไดมาซงึ่ สิทธิโดยส้นิ เชงิ
หรอื เพ่ือใหห ลดุ พน หนา ท่ีหรอื การทต่ี อ ง คนไรค้ วามสามารถต้องอยู่ในความอนบุ าล กจิ การใดๆ ของคนไร้ความสามารถ ผอู้ นุบาล
ทําเองเฉพาะตวั หรือทาํ เพือ่ เลีย้ งชพี และ ซเวง่ึ ้นแแตต่ง่กติจั้งโกดรยรศมาบลาตง้อองยเ่าปง็นจ2ผะทู้ท�า�าเไอดง้ตท้อง้ั งสไิน้ด้รสับ่วคนวคานมเยสินมยืออนมไรจค้ าวกาผมู้พสิทามักษาร์ ถเทช�า่นกิจสกัญารญเอาซงไ้ือดขท้ ากุยอทยี่ด่าินง
สมแกฐานะของผเู ยาว หรือทําพินัยกรรม เปน็ ตน้
เม่ืออายุครบ 15 ปบริบูรณแลว
บุคคลล้มละลายจะท�านิติกรรมใดๆ ไม่ได้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามค�าสั่งศาลจะเป็น
คนไรค วามสามารถ คือ คนวกิ ลจรติ ท่ี ผูม้ ีอา� นาจจดั การแทน
ศาลสั่งใหเปน คนไรค วามสามารถ ผอู นุบาล
ซ่งึ แตงต้ังโดยศาลจะเปน ผกู ระทาํ นิติกรรม ดังนั้น นิติกรรมและสัญญาที่กระท�าข้ึนโดยบุคคลข้างต้น โดยปราศจากความยินยอมจาก
ทัง้ หมด บุคคลท่ีกฎหมายก�าหนดไวจ้ ะกลายเป็นโมฆียะ ซงึ่ อาจถกู บอกล้างได้

คนเสมอื นไรความสามารถ เชน คนติด ทง้ั น้ีในการท�านิติกรรมสัญญาใดๆ น้นั จะตอ้ งไม่มวี ัตถุประสงคเ์ ป็นการต้องหา้ มชัดแจง้ โดย
สุราอยางหนัก คนทปี่ ระพฤติสรุ ยุ สุรา ย กฎหมาย ไมเ่ ปน็ การพน้ วสิ ยั และตอ้ งไมข่ ดั ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน
เสเพลเปนอาจิณ และศาลมีคําสงั่ ใหเ ปน เพราะถ้าหากฝ่าฝืนหลักการดังกล่าว นิติกรรมสัญญาน้ันก็จะถือเป็นโมฆะ หรือใช้ไม่ได้ ไร้ผล
คนเสมือนไรความสามารถ ซงึ่ สามารถทํา
บังคบั โดยส้นิ เชิง

160

นติ ิกรรมไดเอง เวนแตนติ ิกรรมบางประเภท
ที่ตองไดรับความยนิ ยอมจากผพู ิทกั ษ)
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
นกั เรียนควรรู

1 บุคคลลมละลาย หมายถงึ บคุ คลท่ีมีภาระหนส้ี นิ ลน พนตัว เกนิ กวาจะสามารถ การทํานิติกรรมสัญญาในขอ ใดที่ถอื เปน โมฆะ
จัดการแกไขชําระหนีไ้ ด ซึง่ ตามกฎหมายบุคคลลมละลายไมส ามารถทํานติ ิกรรม 1. สัญญากูยมื เงนิ
สัญญาใดๆ ได แตส ามารถขอกลบั คืนสสู ภาพเดิมได หากชําระหน้หี มดหรอื ผา นพน 2. สญั ญาเชาหองพกั
ระยะเวลา 3 ป ตามทกี่ ฎหมายกาํ หนด 3. สญั ญาซอ้ื ขายรถยนต
2 กจิ กรรมบางอยา ง กฎหมายแพง และพาณชิ ยไ ดกําหนดไวว า คนเสมอื น 4. สญั ญาซือ้ ขายปนท่ไี มไดจดทะเบยี น
ไรค วามสามารถนั้น ตองไดรบั ความยินยอมจากผูพิทกั ษกอ นจึงจะทาํ กิจกรรม
บางอยางได เชน วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะอาวุธปน ทไี่ มไดจ ดทะเบยี น

- นําทรัพยสินไปลงทุน เปนทรพั ยส นิ ท่ีกฎหมายหามมีไวในครอบครอง จึงไมส ามารถ
- รับคืนทรพั ยส นิ ทไี่ ปลงทนุ ตนเงินหรอื ทุนอยางอ่ืน ซ้ือขายกนั ได และในทางกลับกนั ยังถือเปนความผดิ ฐานครอบครอง
- กยู ืมหรอื ใหก ูยืมเงนิ ยืมหรอื ใหยืมสงั หาริมทรพั ยอนั มีคา อาวธุ ปน เถอื่ นอกี ดว ย
- รบั ประกนั โดยประการใด ๆ อันมผี ลใหต นตอ งถูกบงั คบั ชําระหน้ี
- รับการใหโ ดยเสนห าที่มเี งือ่ นไขหรือคาภาระติดพัน หรอื ไมรบั การใหโ ดยเสนห า
- ทาํ การอยา งหนึ่งอยางใด เพื่อจะไดมาหรือปลอยไปซง่ึ สิทธิในอสังหาริมทรัพย

หรือในสังหารมิ ทรัพยอ ันมีคา เปนตน

160 คู่มือครู

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

นิตกิ รรมสญั ญาสามารถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ครูสมุ ใหน ักเรียนยกตวั อยา งการทํานติ กิ รรม
๑. นิติกรรมฝ่ายเดียว ได้แก่ นิติกรรมซ่ึงเกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคล สัญญาในรูปแบบตา งๆ คนละ 1 ตวั อยาง
ฝ่ายหน่ึงฝ่ายเดียวและมีผลตามกฎหมาย ซ่ึงบางกรณีก็ท�าให้ผู้ท�านิติกรรมเสียสิทธิได้ เช่น พรอมทงั้ อธิบายวา เปน การนติ ิกรรมสัญญา
การก่อตั้งมูลนิธิ การรับสภาพหน้ี การผ่อนเวลาช�าระหนี้ให้ลูกหนี้ ค�าม่ันจะซ้ือจะขาย การท�า ประเภทใด เพราะเหตุใด
พนิ ยั กรรม การบอกกล่าวบังคบั จา� นอง เปน็ ตน้
๒. นิตกิ รรมสองฝา่ ย (หรือนติ กิ รรมหลายฝ่าย) ไดแ้ ก่ นิติกรรมซ่งึ เกิดข้ึนโดยการ 2. ครใู หนกั เรียนแบง กลุม ออกเปน 7 กลุม
แสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปและทุกฝ่ายต่างตกลงยินยอมระหว่างกัน กล่าวคือ แลวสง ตวั แทนออกมาจับฉลากหัวขอ ตา งๆ
ฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาทา� เปน็ คา� เสนอ แล้วอกี ฝา่ ยหน่ึงแสดงเจตนาเป็นคา� สนอง เม่อื คา� เสนอและ ดงั น้ี
คา� สนองถกู ตอ้ งตรงกนั จงึ เกดิ มนี ติ กิ รรมสองฝา่ ยขน้ึ หรอื เรยี กกนั วา่ “สญั ญา” เชน่ สญั ญาซอ้ื ขาย • สัญญาซื้อขาย
สัญญากยู้ มื สัญญาแลกเปลย่ี น สญั ญาขายฝาก สญั ญาจา� นอง สัญญาจ�าน�า เปน็ ตน้ • สัญญาขายฝาก
นิติกรรมสัญญาจะพบบ่อยและมีความส�าคัญต่อชีวิตประจ�าวันของบุคคล เนื่องจาก • สัญญาเชาทรัพย
ท�าให้เราหาสิ่งท่ีต้องการมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นส่ิงของ หรือหลักประกันความม่ันคงใน • สญั ญาเชา ซอื้
การติดตอ่ ระหวา่ งเรากบั ผ้อู ืน่ • สัญญากูยืม
• สัญญาจาํ นํา
๓.๑ สัญญาซื้อขาย เรียกว่า “ผ“ผู้ขู้ซา้ือย””21 โอนกรรมสิทธิ์หรือ • สัญญาจํานอง
เรียกว่า โดยผู้ซ้ือตกลงจะใช้ จากน้ันใหแตล ะกลุมนําหวั ขอ ทต่ี วั เองจบั
สัญญาซื้อขาย ได้แก่ สัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหน่ึง ฉลากได มารว มกนั อภปิ รายถงึ หลักการสาํ คญั
ความเป็นเจ้าของเหนือทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหน่ึง ของการทาํ สญั ญา รวมถงึ ยกตวั อยา งบทบญั ญตั ิ
ราคาทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ขาย (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๕๓) สัญญาซ้ือขาย ของกฎหมายทีเ่ ก่ียวของกบั การทําสัญญา
มีอย่ดู ว้ ยกัน ๒ ชนิด คอื เหลา นั้น แลว ใหน ักเรียนทาํ การสรุปผล
การอภิปรายโดยจัดทาํ เปน PowerPoint
๑. สัญญาซื้อขายส�าเร็จบริบูรณ์หรือ เพ่ือนําเสนอหนา ช้ัน
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสัญญาซ้ือขายเสร็จเด็ดขาด คือ
สัญญาท่ีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโอนไปยังผู้ซื้อทันที สัญญาซ้ือขาย เป็นการทำาสัญญาร่วมกันระหว่าง
อย่างเด็ดขาด เมื่อการซ้ือขายสา� เร็จบริบรู ณ์ ผู้ขายและผู้ซื้อ โดยเป็นการตกลงท่ีจะนำาทรัพย์สิน
มาแลกเปล่ียนกับเงิน
๒. สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาท่ี
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังไม่ได้โอนไปให้แก่ผู้ซื้อ ใน
ขณะที่ท�าสัญญาซ้ือขายกัน แต่เป็นสัญญาซึ่งจะโอน
กรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อในเวลา
ภายหนา้ เปน็ การแลกเปลี่ยนกบั เงนิ อนั เปน็ ราคาของ
ทรพั ยส์ นิ มผี ลผกู พนั ใหแ้ กค่ สู่ ญั ญาตอ้ งทา� การซอ้ื ขาย
ใหส้ า� เร็จตลอดไป

161

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู

นายประชาตกลงจะขายท่ดี นิ จํานวน 1 ไร ใหแ กนายเอนก 1 ผูข าย มหี นา ทแี่ ละความรบั ผิดชอบ ดงั นี้
เปน เงิน 5 ลา นบาท โดยนายเอนกชําระเงินใหน ายประชาครบถวน - สง มอบทรพั ยส นิ ทีข่ ายใหแกผซู ้ือตามขอ ตกลงในสญั ญา
ในวนั ทาํ สัญญา ซึ่งนายประชาสญั ญาวาจะดําเนินการจดทะเบยี น - ถาทรัพยสินที่ซื้อขายชาํ รดุ บกพรอ งอยา งหนงึ่ อยางใด มผี ลทําใหท รพั ยสนิ
การโอนทด่ี ินตอ เจา พนักงานท่ดี ิน ภายใน 10 วนั เสื่อมราคา หรือเสอื่ มประโยชนใ นการใชส อย ผขู ายจะตอ งรับผิดชอบ
จากกรณดี ังกลา วถือเปน การทาํ สญั ญาประเภทใด
แนวตอบ จากรณดี งั กลา ว ถือเปนการทาํ สญั ญาจะซอ้ื จะขาย 2 ผูซ ้อื มหี นา ทแี่ ละความรับผิดชอบ ดงั น้ี
ซึ่งกรรมสิทธิใ์ นทรพั ยส นิ ยงั ไมโอนไปยงั ผซู อื้ ในขณะทีท่ าํ สัญญา - ผซู อ้ื จะตอ งรบั มอบทรพั ยสินท่ีตนไดซือ้ และใชร าคาตามสญั ญาซอ้ื ขาย
ซ้อื ขายกัน แตจ ะโอนกรรมสิทธใิ์ นทรัพยสินในเวลาตอมา - ถา ผูซ้อื เหน็ ความชํารดุ บกพรองในทรัพยส นิ ซง่ึ ตนไดซ้อื ผูซ อื้ มีสทิ ธิทีจ่ ะ
เพ่ือเปน การแลกเปลย่ี นกบั เงนิ ตามราคาของทรัพยส ินน้ัน ยงั ไมช าํ ระราคา เวน แตผ ูขายจะหาประกันทีส่ มควรมาให

คมู่ อื ครู 161

กระตุน้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หน ักเรียนกลุม ที่ 1 ซง่ึ จับฉลากไดหัวขอ ตัวอย่างเช่น ปองศักด์ิตกลงจะขายบ้านและท่ีดินให้แก่นพดล เป็นเงิน ๑ แสนบาท
สญั ญาซอื้ ขาย ออกมารายงานผลการอภปิ ราย โดยนพดลได้ช�าระเงินให้แก่ปองศักดิ์จนครบถ้วนในวันท�าสัญญา ซ่ึงปองศักด์ิสัญญาว่าจะไป
หนา ชน้ั โดยใชโปรแกรม PowerPoint ชว ยใน จดทะเบียนการโอนท่ีดินต่อเจ้าพนักงานท่ีดินภายใน ๗ วัน ดังน้ี กรรมสิทธ์ิในท่ีดินยังไม่โอน
การนําเสนอ ไปยังนพดล แต่มีผลผูกพันปองศักดิ์ท่ีจะต้องไปจดทะเบียนการโอนท่ีดินและบ้านให้แก่นพดล
ภายในเวลาดงั กลา่ ว สญั ญาเช่นนี้ เรยี กว่า “สัญญาจะซื้อจะขาย”
2. หลังจากนกั เรยี นกลมุ ท่ี 1 นาํ เสนอเรอ่ื งสัญญา
ซอื้ ขายเสรจ็ ส้ินแลว ครูตัง้ คาํ ถามเพ่อื ทบทวน โดยปกติสัญญาซื้อขายท�าได้โดยผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน โดยผู้ซ้ือช�าระราคาทรัพย์สิน
ความรูความเขาใจของนักเรียน ดงั นี้ แก่ผู้ขายและผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินท่ีซื้อขายให้แก่ผู้ซ้ือ ทรัพย์สินบางอย่างมีความส�าคัญหรือ
• สัญญาซ้อื ขายแบง ออกเปนก่ีประเภท ราคาสงู มากในทางกฎหมาย ไดแ้ ก่ อสงั หารมิ ทรพั ย์ เชน่ ทดี่ นิ อาคาร สวนผลไม้ หรอื การซอื้ ขาย
อะไรบาง สสััตงหว์พาราิมหทนระัพซย์่ึปงมรีกะเาภรทจดเรทือะทเบี่มียีรนะวหารงือตต้ัง๋ัวแรตูป่หพ้ารตรันณข1้ึนทไี่เปรียกแกพันทว่ีใ่าช้อ“ยสู่อังหาศารัยิมหทรืรอัพเรยือ์ชนนแิดพพิเแศลษะ”2
(แนวตอบ สญั ญาซอ้ื ขายแบง ไดเ ปน 2 ประเภท รวมทงั้ สงั หารมิ ทรพั ยท์ ม่ี รี าคา ๒๐,๐๐๐ บาทหรอื กวา่ นั้นขึน้ ไป กฎหมายบงั คบั ใหต้ อ้ งตกลงกนั
ไดแ ก เปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร หรอื มกี ารวางมัดจ�า หรอื มีการช�าระหนบี้ างส่วนไว้ลว่ งหนา้ จงึ จะฟ้องร้อง
สญั ญาซือ้ ขายสําเร็จบรบิ ูรณห รือสญั ญา ให้ท�าตามสญั ญากนั ได้
ซ้ือขายเสรจ็ เด็ดขาด เปนสัญญาท่กี รรมสิทธิ์
ในทรพั ยสนิ โอนไปยงั ผซู ้ือทนั ที เมื่อการ นอกจากนี้ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ประเภทท่ีมีการจดทะเบียน
ซอื้ ขายสําเรจ็ ครบถวน หรือท่ีเรียกว่าสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ ยังต้องไปจดทะเบียนการซื้อขายกับเจ้าหน้าที่ด้วย
สญั ญาจะซื้อจะขาย เปน สัญญาท่ี มิฉะนั้น สัญญาจะเป็นโมฆะคือเสียเปล่าไม่มีผลทางกฎหมาย ถ้าคู่สัญญาไม่ได้ตกลงกันไว้
กรรมสทิ ธ์ิในทรพั ยส ินของผขู ายจะยังไมโอน เปน็ อยา่ งอน่ื ปกตกิ รรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ นิ ทซ่ี อื้ ขายกนั ยอ่ มโอนจากผขู้ ายไปยงั ผซู้ อื้ เมอ่ื ทา� สญั ญากนั
ไปยังผซู ้ือในขณะท่ที ําสัญญากนั แตจะโอน ดังน้ัน หากผู้ขายยังไม่พร้อมที่จะโอนหรือกลับกันถ้าผู้ซ้ือยังไม่พร้อมจะรับโอน อาจตกลงกัน
ไปยังภายภาคหนาเพือ่ แลกเปล่ียนกบั เงิน เป็นสัญญาจะซื้อจะขาย ซ่ึงมีผลให้ต้องท�าการซ้ือขายเสร็จสิ้นในอนาคตก็ได้ หรือผู้ขายโอน
อนั เปน ราคาของทรัพยส ิน เชน สัญญาจะซอ้ื กรรมสทิ ธ์ิใหผ้ ซู้ อื้ ไดแ้ ลว้ แต่ หากผซู้ อ้ื ไมพ่ รอ้ มจะชา� ระราคาทรพั ยส์ นิ เตม็ จ�านวนอาจทา� เปน็ สญั ญา
จะขายบาน ซ่ึงผูซื้อและผขู ายมกั ทาํ สัญญา ซ้ือขายเงินผ่อน โดยตกลงจะช�าระราคาทรัพย์สินเป็นงวดจนกว่าจะครบหรือท�าสัญญาซื้อขาย
กันไวกอน แลวจึงคอ ยไปจดทะเบียนการโอน เงินเชอ่ื เพือ่ ชา� ระราคาภายหลงั กไ็ ด้
ที่กรมที่ดนิ ภายในระยะเวลาท่ีตกลงกัน)
• ทรพั ยส ินประเภทใดท่ีกฎหมายกําหนดให สาระส�าคัญของสัญญาซื้อขาย คือ การตกลงโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินระหว่างบุคคล
ตองมกี ารทาํ สัญญาเปนลายลกั ษณอกั ษร เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงิน ผู้ขายจึงจ�าเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ซ้ือขายกัน เพื่อจะโอนให้แก่
หรือมีการวางมัดจาํ บางสว นไว จงึ จะสามารถ ผู้ซื้อได้ ทรัพย์สินที่โอนต้องไม่มีผู้อื่นมาอ้างได้ว่ามีสิทธิดีกว่ากับผู้ซ้ือได้ และผู้ซื้อก็มีหน้าท่ี
ฟองรองกนั ไดห ากมีปญหาใดๆ เกิดขนึ้ ต้องชา� ระราคาทรพั ยส์ นิ ให้แก่ผ้ขู ายตามทีต่ กลงกนั ไว้
(แนวตอบ กฎหมายกาํ หนดวา อสงั หาริมทรพั ย
เชน บา น ทด่ี ิน เปน ตน และสงั หารมิ ทรัพย หากผู้ขายหรือผู้ซ้ือไม่ปฏิบัติตามสัญญา อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้ปฏิบัติตามสัญญา
ชนดิ พิเศษ เชน เรือที่มรี ะวางต้งั แตห า ตัน รวมทัง้ เรยี กคา่ เสยี หายจากฝา่ ยท่ผี ิดสญั ญาได้
ขนึ้ ไป สตั วพ าหนะ เปนตน รวมทงั้
สงั หารมิ ทรัพยท ม่ี รี าคา 20,000 บาทข้นึ ไป 162
ตองทาํ สัญญาเปนลายลักษณอักษรหรอื มกี าร
วางมดั จาํ บางสว นไว จึงจะสามารถฟองรอง
กนั ไดห ากมีปญหาใดๆ เกิดข้ึน)

นกั เรียนควรรู ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
การซ้อื ขายทรัพยส ินใดตอไปนที้ ก่ี ฎหมายกาํ หนดใหต องทาํ เปน
1 ต๋วั รปู พรรณ คอื เอกสารแสดงตาํ หนิรูปพรรณสัตวพ าหนะ ซงึ่ พระราชบญั ญัติ หนังสือสญั ญาและจดทะเบยี นตอพนักงานเจาหนา ที่
สตั วพ าหนะ พ.ศ. 2482 กาํ หนดใหเจาของ หรือตวั แทนพรอ มดวยผใู หญบา น 1. มา แขง
หรอื พยาน นาํ สตั วไ ปขอจดทะเบยี นทําตวั๋ รูปพรรณจากนายทะเบยี นทองทท่ี ่สี ตั วนน้ั อยู 2. ทธ่ี รณีสงฆ
ภายในกําหนด สัตวพาหนะท่ีจะตอ งขอจดทะเบยี นตว๋ั รปู พรรณ ไดแก 3. ปา ยจราจร
4. ทีด่ นิ ปา สงวน
- ชา งมอี ายุยางเขา ปที่แปด วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะมาแขง ถอื เปนทรพั ยส ิน
- สตั วอ ่ืนนอกจากโคตวั เมยี มีอายยุ า งเขา ปท่หี ก ชนดิ พเิ ศษ ซ่ึงกฎหมายกาํ หนดใหตอ งทาํ เปนหนังสือสญั ญา
- สัตวใ ดไดใ ชข ับขีล่ ากเขน็ หรอื ใชง านแลว และจดทะเบียนตอพนกั งานเจาหนาที่ เมือ่ จะทําการซอ้ื ขายกนั
- สตั วใ ดทมี่ ีอายยุ างเขา ปท ่ีส่ี เม่อื จะนําออกนอกราชอาณาจักร สวนขอ 2. ขอ 3. และขอ 4. เปนทรัพยส ินท่ซี ือ้ ขายกนั ไมไ ด
- โคตัวเมยี มอี ายยุ างเขา ปท่ีหก เมอื่ จะทําการโอนกรรมสิทธิ์
2 สังหารมิ ทรพั ยชนดิ พเิ ศษ ไดแ ก เรือกําปน หรือเรือทม่ี รี ะวางตงั้ แต 6 ตนั ขน้ึ ไป
เรือกลไฟหรือเรอื ยนตท่มี ีระวางต้งั แต 5 ตันข้นึ ไป แพที่อยูอาศัย และสัตวพาหนะ

162 คู่มือครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๓.๒ สญั ญาขายฝาก 1. ครใู หน ักเรียนกลุมที่ 2 ซึง่ จบั ฉลากไดห วั ขอ
สัญญาขายฝาก ออกมารายงานผลการ
สัญญาขายฝาก ได้แก่ สัญญาซ้ือขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซ้ือ โดยที่มี อภิปรายหนาชนั้ โดยใชโ ปรแกรม
PowerPoint ชวยในการนาํ เสนอ
ข้อตกลงขณะซ้ือขายกันว่า ผู้ขายอาจไถ่หรือซ้ือ
2. หลังจากนักเรียนกลุมที่ 2 นําเสนอเรือ่ งสัญญา
ทรัพย์สินน้ันกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน ขายฝากเสรจ็ สิน้ แลว ครตู งั้ คาํ ถามเพอื่ ทบทวน
ความรูความเขา ใจของนักเรยี น
(ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๙๑) • สัญญาขายฝากมีลกั ษณะเปนอยางไร
(แนวตอบ สญั ญาขายฝากเปนสญั ญาซ้ือขายท่ี
ถ้าเป็นการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ต้องก�าหนดเวลา “ผูขายฝาก” ตองการไดเงินจาํ นวนหน่งึ จาก
“ผูซ้ือฝาก” จงึ โอนกรรมสิทธทิ์ รัพยสนิ
ใชส้ ทิ ธไิ ถค่ นื ไวไ้ ม่เกิน ๑๐ ปี หากเป็นสังหารมิ ทรพั ย์ ของตนมาใหผูซอื้ ฝาก ซง่ึ ผขู ายฝากมีสทิ ธิขอ
ไถคืนทรัพยส ินกลับไดภายในเวลาทีต่ กลงกัน
ไมเ่ กนิ ๓ ปี นบั แต่วันทมี่ กี ารซือ้ ขายฝากกัน หากครบกําหนดเวลาไถแ ลว ผูขายฝากยัง
ไมมาขอไถค นื ทรพั ยสิน ผขู ายฝากยอ มหมด
หากเรม่ิ ตน้ คสู่ ญั ญาตกลงไวต้ า�่ กวา่ กา� หนดเวลา สทิ ธใิ นการไถค นื ทรัพยสินน้นั แตกรรมสทิ ธิ์
ของทรพั ยสินที่ทาํ การขายฝากกนั นนั้
สูงสุด อาจตกลงกันภายหลังเพ่ือขยายเวลาใช้สิทธิ ยอ มตกเปนของผูซือ้ ฝากตั้งแตแรกทําสัญญา
เมอ่ื ผูขายฝากไมมาไถค นื ทรพั ยสนิ ผซู อ้ื ฝาก
ไถค่ นื ไดอ้ กี แตร่ วมทงั้ สนิ้ ตอ้ งไมเ่ กนิ กา� หนดเวลาสงู สดุ เรือ ถือเป็นสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ โดยเม่ือ ยอ มไดก รรมสิทธใิ์ นทรัพยส นิ น้นั ไปโดย
ตอ้ งการทาำ สญั ญาขายฝากจะตอ้ งทำาเปน็ หนงั สอื และ เดด็ ขาด โดยทีผ่ ูซ้อื ฝากไมต อ งฟอ งรอง
ส�าหรับสัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์และ จดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางนำ้าและพาณชิ ยนาวี ตอศาลแตอยา งใด โดยการขายฝาก
อสังหารมิ ทรัพยก าํ หนดเวลาไถคืนสงู สุด
สังหาริมทรพั ยช์ นิดพิเศษ ได้แก่ เรอื แพ สัตวพ์ าหนะ ไมเ กนิ 10 ป สว นการขายฝากสงั หารมิ ทรพั ย
กาํ หนดเวลาไถคืนสูงสดุ ไมเ กิน 3 ป
ทต้อดี่ งนิ ทส�าาเขปาน็ หสน�าหงั สรบัือแเรลือะจจดดททะะเเบบียียนนทตี่กอ่ รพมนเจกั า้งทาน่าเ1จเปา้ ห็นนต้น้าทม่ี ณิฉะสนา� น้ันจกั ะงถาือนเทป่ดี น็ ินโมจงัฆหะวดัคอืหรไอื มส่มา� ผีนลกั ตงาามน นับตงั้ แตว นั ท่ีการซื้อขายฝากกนั )

กฎหมาย

การขายฝากสังหาริมทรัพย์อย่างอ่ืนต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีการวางมัดจ�า หรือ

มีการช�าระหน้ีบางส่วน จึงจะฟ้องร้องกันได้ เช่นเดียวกับกรณีการซื้อขายท่ีกล่าวมาแล้ว โดยที่

กรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซ้ือฝาก ซึ่งอาจน�าไปขายให้ผู้อ่ืนได้ หากไม่ต้องการให้

ผู้ซ้ือฝากท�าเช่นนี้ต้องตกลงห้ามกันไว้ เม่ือตกลงกันแล้วหากผู้ซ้ือฝากน�าไปขายให้แก่ผู้อื่นท�าให้

ผู้ขายฝากเสยี หาย จะต้องรบั ผดิ ชอบต่อผู้ขายฝาก

การทา� สญั ญาขายฝากเปน็ วธิ กี ารใหห้ ลกั ประกนั อยา่ งหนงึ่ แกผ่ ซู้ อ้ื ฝาก ซง่ึ ผขู้ ายฝากเอาเงนิ

ของผู้ซื้อฝากไปใช้ โดยผู้ขายฝากได้ทรัพย์สินที่ขายฝากไว้เป็นหลักประกัน และเม่ือผู้ขายฝาก

ใช้สทิ ธิไถก่ ็จะไดป้ ระโยชนโ์ ดยก�าหนดสินไถ่ไวใ้ นอตั ราที่สงู พอเป็นการตอบแทน

กฎหมายระบุว่าให้ก�าหนดสินไถ่ได้สูงสุดไม่เกินราคาที่ขายฝากรวมกับประโยชน์ตอบแทน

ไม่เกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี เพื่อมิให้ผู้ซ้ือฝากก�าหนดสินไถ่สูงจนเป็นการเอาเปรียบผู้ขายฝาก

เกนิ ไป และถา้ ตกลงกนั ไวเ้ กนิ กวา่ นน้ั ผขู้ ายฝากสามารถใชส้ ทิ ธไิ ถไ่ ดใ้ นอตั ราไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๕ ตอ่ ปี

หากไม่ไดก้ า� หนดวา่ สนิ ไถม่ ีอัตราเท่าใดให้ผขู้ ายฝากไถ่ไดต้ ามราคาทีข่ ายฝากไว้

163

กจิ กรรมสรา งเสรมิ นกั เรยี นควรรู

ใหน กั เรยี นหาตวั อยา งหนงั สอื ทเี่ ปน สญั ญาขายฝาก โดยให 1 กรมเจาทา เปนหนว ยงานในสังกดั กระทรวงคมนาคม มอี าํ นาจหนาที่ ดงั น้ี
นกั เรยี นนาํ ตวั อยา งสญั ญานนั้ มาตดิ ลงในกระดาษ A4 แลว เขยี น - ดําเนนิ การตามกฎหมายวาดวยการเดนิ เรือในนา นน้าํ ไทย กฎหมายวา ดว ย
อธบิ ายวา เปน สญั ญาขายฝากทรพั ยส นิ อะไร และมสี าระสาํ คญั
ของขอ ตกลงในสญั ญาอยา งไร เรือไทย กฎหมายวาดว ยการปองกนั เรือโดนกนั กฎหมายวา ดว ยการสง เสริมการ
พาณิชยน าวี กฎหมายวา ดว ยการขนสงตอเน่ืองหลายรปู แบบ และกฎหมายอืน่
กจิ กรรมทาทาย ท่เี กี่ยวขอ ง

ใหนกั เรยี นเขยี นเหตกุ ารณส มมตทิ ี่อธบิ ายถงึ การทําสญั ญา - ศกึ ษาและวิเคราะหเ พอื่ พฒั นาโครงสรา งพน้ื ฐานการขนสง ทางนา้ํ
ขายฝาก โดยสมมติใหมีผซู อ้ื ผูขาย และบอกรายละเอียดของ - สงเสริมและพฒั นาเครือขา ยระบบการขนสง ทางนํา้ และการพาณิชยน าวี
ขอตกลงในสัญญา รวมถงึ ข้ันตอนในการดําเนินการทาํ สญั ญา - ดาํ เนินการจดั ระเบยี บการขนสงทางนํา้ และกิจการพาณชิ ยนาวี
เพ่ือใหมีผลตามกฎหมาย - รวมมือและประสานงานกับองคการและหนวยงานทเ่ี กยี่ วขอ งทงั้ ในประเทศ
และตา งประเทศในดา นการขนสงทางนา้ํ การพาณิชยนาวี และในสว นทีเ่ กี่ยวกบั
อนุสัญญาและความตกลงระหวางประเทศ
- ปฏิบัตกิ ารอนื่ ใดตามท่กี ฎหมายกําหนดใหเ ปนอาํ นาจหนา ทข่ี องกรม
หรอื ตามท่รี ฐั มนตรี หรือคณะรัฐมนตรมี อบหมาย

คูม่ ือครู 163

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครใู หนกั เรียนกลมุ ที่ 3 ซึง่ จบั ฉลากไดห วั ขอ หากผู้ซื้อฝากไม่ยอมให้ผู้ขายฝากใช้สิทธิไถ่ ผู้ขายฝากสามารถน�าเงินสินไถ่ไปวาง
สัญญาเชาทรัพย ออกมารายงานผลการ ต่อส�านักงานวางทรัพย์ เช่น ส�านักงานวางทรัพย์กลาง สังกัดกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
อภิปรายหนาชนั้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint ซึ่งกฎหมายถอื วา่ ท�าให้กรรมสทิ ธใ์ิ นทรัพย์สนิ กลบั คืนมาเป็นของผ้ขู ายฝากทนั ที
ชว ยในการนําเสนอ
แม้ผู้ซื้อฝากจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินตามสัญญาขายฝาก แต่หากระหว่างการขายฝากน้ัน
2. หลังจากนกั เรยี นกลมุ ท่ี 3 นาํ เสนอเร่ืองสญั ญา ทรัพย์สินเกิดดอกผลขึ้น เช่น ต้นไม้มีผลระหว่างอายุสัญญาหรือสัตว์ที่ซ้ือฝากออกลูก ดอกผล
เชาทรัพยเ สรจ็ สิน้ แลว ครตู ้งั คาํ ถามเพือ่ ทบทวน นั้นจะตกเป็นของผู้ซ้ือฝาก แต่เมื่อผู้ขายฝากใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินแล้ว ผู้ซื้อฝากก็ต้องส่งมอบ
ความรูค วามเขาใจของนกั เรยี น ดังนี้ ทรพั ย์สินท่ขี ายฝากกลบั คืนใหแ้ กผ่ ูข้ ายฝากในสภาพทเี่ ป็นอยู่
• สัญญาเชา ทรัพยมลี ักษณะเปนอยา งไร
(แนวตอบ สญั ญาเชา ทรัพยเ ปนสัญญา ขณะท่ีมีการไถ่ หากทรัพย์สินนั้นถูกท�าลายหรือเสื่อมเสียไป เพราะความผิดของผู้ซ้ือฝาก
ซึง่ “ผูใ หเ ชา ” ตกลงให “ผเู ชา” ไดใ ชห รอื ผู้ซ้อื ฝากจะต้องรับผิดชอบชดใช้คา่ เสียหายให้แกผ่ ู้ขายฝาก
ไดร ับประโยชนจากทรพั ยสินในชวงระยะเวลา
หนึ่งอนั มจี ํากดั และผูเชา ตกลงจะใหค า เชา ๓.๓ สญั ญาเชา่ ทรพั ย์
เพอื่ การน้ัน)
• กฎหมายไดกําหนดหลักเกณฑก ารเชา ทรัพย สญั ญาเชา่ ทรัพย์ ไดแ้ ก่ สญั ญาซึง่ บุคคลหนง่ึ เรยี กว่า “ผใู้ หเ้ ชา่ ” ตกลงใหบ้ คุ คลอกี คนหนง่ึ
ไวอยางไร เรียกว่า “ผู้เช่า” ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งช่ัวระยะเวลาอันจ�ากัด
(แนวตอบ การเชา สงั หารมิ ทรพั ยแ มจ ะเปน โดยผ้เู ช่าตกลงจะให้คา่ เช่าเพอ่ื การน้นั (ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา ๕๓๗)
สงั หาริมทรพั ยช นิดพเิ ศษกไ็ มต อ งทาํ หลกั ฐาน
เปน หนังสือ แตการเชา อสงั หาริมทรพั ยตอ งมี การเช่าทรัพย์ต่างกับการซ้ือขาย คือ มิได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และมีก�าหนด
หลกั ฐานเปนหนงั สือ และถาเชานานเกนิ กวา เพยี งช่วั ระยะเวลาหนึง่ เท่าน้นั เช่น ถ้าเปน็ อสังหารมิ ทรัพยใ์ หเ้ ช่าได้ไมเ่ กนิ ๓๐ ปี แตจ่ ะทา� สัญญา
3 ป หรอื มกี าํ หนดตลอดอายขุ องผเู ชาหรือ เชา่ กา� หนดระยะเวลาเชา่ ตลอดอายผุ เู้ ชา่ หรอื ผู้ใหเ้ ชา่ ได้ ดงั นน้ั ผใู้ หเ้ ชา่ ไมจ่ า� ตอ้ งเปน็ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ
ผใู หเชา ตอ งนําไปจดทะเบยี นตอ พนกั งาน เพยี งแต่มสี ิทธิครอบครองใช้ประโยชนใ์ นทรพั ยส์ นิ นัน้ ก็น�าไปใหเ้ ช่าได้ แตผ่ ู้เชา่ ทรพั ย์สนิ จากผอู้ นื่
เจา หนาท่ี) ไวจ้ ะน�าไปใหเ้ ชา่ ต่อ ซ่ึงเรียกว่าใหเ้ ช่าช่วงไม่ได้ เวน้ แต่วา่ จะมขี ้อตกลงในสญั ญาเช่าอนุญาตไว้
• ผูใ หเ ชาและผเู ชาทรพั ยส นิ มีภาระหนา ที่
ผกู พนั กันอยา งไร การเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของฝ่ายท่ีจะต้องรับผิด
(แนวตอบ ผใู หเชาตอ งสงมอบทรพั ยส นิ ใหแ ก ตามสัญญา (ซ่ึงไม่จ�าเป็นต้องเขียนเป็นรูปแบบสัญญา เพียงมีข้อความแสดงว่ามีการตกลงกัน
ผูเชาในสภาพทส่ี มบรู ณ สว นผเู ชา ตองชําระ หรอื ยอมให้ใช้ หรือรบั ประโยชนใ์ นทรัพย์สินตอบแทนกบั ค่าเชา่ กพ็ อแลว้ ) มฉิ ะนนั้ จะฟ้องเรียกให้
คาเชา ตามทีต่ กลงกันไว ตองรักษาทรัพยส ินที่ ปฏบิ ัตติ ามสัญญาไมไ่ ด้
ใหเชาใหอ ยูในสภาพดี รวมทง้ั ตอ งยอมใหผูให
เชาตรวจตราทรพั ยสินไดต ามสมควร) สญั ญาเชา่ อสงั หารมิ ทรพั ยน์ านเกนิ กวา่ ๓ ปี หรอื มกี า� หนดตลอดอายขุ องผเู้ ชา่ หรอื ผใู้ หเ้ ชา่
ต้องน�าไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี เช่น เช่าที่ดินต้องจดทะเบียน ณ ส�านักงานท่ีดิน
เช่าบ้านต้องจดทะเบียน ณ ท่ีว่าการอ�าเภอหรือเขตที่ที่ดินหรือบ้านนั้นตั้งอยู่ เป็นต้น มิฉะนั้น
จะฟอ้ งร้องบังคับคดีได้เพยี ง ๓ ปี

ผู้ให้เช่ามีหน้าท่ีต้องส่งมอบทรัพย์สินท่ีเช่าให้แก่ผู้เช่าในสภาพอันซ่อมแซมดีแล้ว ต้อง
ซ่อมแซมทรัพย์สินท่ีให้เช่า รวมทั้งชดใช้ค่าใช้จ่ายท่ีผู้เช่าต้องใช้ไปเพื่อรักษาทรัพย์สิน เว้นแต่ที่
ตอ้ งท�าเพื่อบา� รุงรกั ษาตามปกติหรอื ซอ่ มแซมเพียงเล็กนอ้ ย ถ้าผู้ให้เชา่ ส่งมอบทรัพย์สินในสภาพ
164 ที่ไม่เหมาะส�าหรบั ผเู้ ชา่ ใชป้ ระโยชน์ตามสญั ญา ผูเ้ ชา่ มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาเช่าได้

เกร็ดแนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
ผปู ระกอบอาชีพใดตอ ไปนีต้ อ งเก่ียวขอ งกับการทําหนังสอื
ครูอาจใหน กั เรียนทํากิจกรรมโดยการแสดงบทบาทสมมติ เกี่ยวกบั การดําเนิน สญั ญาเชาทรพั ยม ากท่สี ดุ
การทําสัญญาเชาทรพั ยตามกฎหมาย โดยใหนกั เรียนคิดบทบาทใหม ีผูใ หเ ชา 1. มคั คเุ ทศก
และผเู ชา ทาํ ขอตกลงเพอื่ เชา ทรัพยส ินอยา งใดอยางหน่งึ โดยอาจทําเปน หลักฐาน 2. บรรณารักษ
หรอื หนังสอื สัญญาตา งๆ หลงั จากน้นั ครูอธบิ ายความรเู พ่มิ เติม และเปด โอกาส 3. เจาของหอพักหญงิ
ใหน กั เรียนสนทนา ซักถาม และแลกเปลยี่ นความรกู ันภายในชั้น 4. นกั จดั รายการวิทยุ
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะผูป ระกอบธุรกิจหอพัก
มุม IT จะตองเก่ยี วขอ งกบั การใหบริการหองเชา ซ่ึงเมอ่ื มบี ุคคลท่ัวไป
มาเชาหองพกั เพอื่ อยูอาศัย ก็จะตอ งมีการทําหนงั สอื หรอื สัญญา
ศกึ ษาคนควาขอมลู เพ่ิมเตมิ เกยี่ วกับการเชาอสงั หาริมทรพั ย ไดท ี่ เพือ่ เปน หลกั ฐานใหข อตกลงตางๆ มีผลตามกฎหมาย
http://www.fpmconsultant.com

164 คมู่ อื ครู

กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

ผู้เช่ามีหน้าท่ีต้องใช้ทรัพย์สินที่เช่าตามท่ีตกลงในสัญญา หรือตามประเพณีนิยมปกติ 1. ครใู หนักเรยี นกลมุ ที่ 4 ซ่ึงจับฉลากไดห ัวขอ
ต้องช�าระค่าเช่าตามท่ีตกลงกันไว้ ต้องสงวนทรัพย์สินท่ีเช่าเหมือนเช่นที่บุคคลท่ัวไปจะท�ากับ สัญญาเชาซ้อื ออกมารายงานผลการอภปิ ราย
ทรัพย์สินของตนเอง ต้องยอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนตรวจตราทรัพย์สินท่ีเช่าได้ตามสมควร หนาชนั้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint
เป็นคร้ังคราว ไม่ดัดแปลงหรือต่อเติมทรัพย์สินท่ีเช่า เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก่อน ชว ยในการนาํ เสนอ
ต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลาย ซ่ึงเกิดกับทรัพย์สินท่ีเช่าเน่ืองจากความผิดของผู้เช่า
หรือบริวารของผู้เช่า รวมท้ังต้องส่งคืนทรัพย์สินที่เช่า ในสภาพท่ีซ่อมแซมดีแล้วแก่ผู้ให้เช่าเม่ือ 2. หลังจากนักเรยี นกลมุ ท่ี 4 นําเสนอเร่ืองสญั ญา
สัญญาเช่าน้ันสิ้นสุดลง เชา ซื้อเสร็จสนิ้ แลว ครตู ้งั คาํ ถามเพื่อทบทวน
สัญญาเช่าระงับลงเม่ือถึงก�าหนดตามที่ตกลงกันไว้ หรือเมื่อมีการบอกเลิกสัญญา ความรูความเขาใจของนกั เรยี น ดังนี้
ล่วงหน้าก่อนก�าหนดช�าระค่าเช่าที่ตกลงกันระยะหน่ึงเป็นอย่างน้อย เช่น ถ้าก�าหนดค่าเช่าเป็น • สญั ญาเชา ซือ้ มีลกั ษณะเปน อยา งไร
รายเดือนก็บอกเลิกล่วงหน้าเดือนหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จ�าเป็นต้องบอกเลิกล่วงหน้า (แนวตอบ สัญญาเชา ซ้อื เปนสัญญาที่ “ผูให
เกนิ กวา่ ๒ เดอื นไม่วา่ กรณีใด นอกจากน้ี สัญญาเชา่ ยังระงบั ไปเม่อื ทรัพยส์ ินท่เี ชา่ นน้ั สูญหายไป เชา ซอ้ื ” นาํ เอาทรพั ยสนิ ออกใหเ ชา และให
ท้งั หมดดว้ ย คําม่ันวาจะขายทรพั ยส ินน้ัน หรอื วาจะให
ทรพั ยน้นั ตกเปนกรรมสทิ ธ์ิของ “ผูเ ชาซือ้ ”
๓.๔ สญั ญาเชา่ ซ้อื 1 เมอื่ ผเู ชา ซ้ือชาํ ระคา เชาซ้อื เปน งวดจนครบ
ตามท่ีตกลงกันไว)
สัญญาเช่าซ้ือ คือ สัญญาซ่ึงเจ้าของน�าเอาทรัพย์สินออกให้เช่าและให้ค�าม่ันว่าจะขาย • สญั ญาเชาซอื้ และสัญญาซอื้ ขายผอนสง
ทรพั ยส์ ินนั้น หรอื ว่าจะให้ทรัพย์สนิ นัน้ ตกเป็นสิทธขิ องผ้เู ช่า โดยมเี ง่ือนไขวา่ ผูเ้ ช่าได้ใช้หรือชา� ระ มคี วามแตกตางกันอยา งไร
เงนิ เปน็ จา� นวนคร้ังตามทีต่ กลงกัน (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๗๒) (แนวตอบ สญั ญาเชา ซ้ือ ผใู หเชา ซ้ือยงั คงมี
จะเห็นได้ว่าสัญญาเช่าซื้อมีลักษณะของสัญญาเช่ากับสัญญาซ้ือขายผสมกัน โดยผู้ให้เช่า กรรมสทิ ธิ์ในทรพั ยสินนนั้ อยู จนกวา ผูเ ชาซอื้
ซื้อต้องเป็นเจ้าของหรือมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินท่ีน�าออกให้เช่า และตกลงให้ผู้เช่าซ้ือน�าไปใช้ จะชาํ ระคา เชาซ้อื ครบถว น แตส ัญญาซอื้ ขาย
ประโยชน์ พร้อมกับผู้ให้เช่าซื้อต้องให้ค�ามั่นว่าจะยอมให้ทรัพย์สินน้ันตกเป็นของผู้เช่าซื้อในท่ีสุด ผอ นสง ผซู ือ้ จะไดก รรมสทิ ธใ์ิ นทรัพยสินนั้น
เมื่อผูเ้ ชา่ ซ้ือช�าระคา่ เช่าซอ้ื เป็นคราวหรอื เปน็ งวดจนครบตามท่ีตกลงกนั ทันท)ี
สัญญาเช่าซ้ือท�าให้ผู้ที่ไม่สามารถซ้ือสินค้าท่ีมีราคาสูงได้ทันทีสามารถท�าสัญญาน้ีเพื่อ • กฎหมายไดก ําหนดหลกั เกณฑก ารเชาซอื้ ไว
ให้ได้ทรัพย์สินมาใช้ก่อนและค่อยๆ ช�าระราคาเป็นงวดไปได้จนครบ ซ่ึงผู้ให้เช่าซื้อจะคิดราคาไว้ อยางไร
สูงกว่าราคาในการซื้อขายด้วยการช�าระเงินรวดเดียวตามปกติ โดยค�านวณดอกเบ้ียรวมเข้าเป็น (แนวตอบ สญั ญาเชา ซ้อื ตอ งทําเปน หนงั สือ
ผลประขโยณชะนเด์ทีย่ผี วใู้ กหันเ้ ชก่าาซร้ือเชจ่าะซได้ือ้รกบั ็ตด่าว้งยกับสัญญาซื้อขายผ่อนส่ง2เพราะกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินยังอยู่ หรอื ทําเปนลายลกั ษณอักษร ลงลายมอื
กบั ผใู้ ห้เช่าซอ้ื ผเู้ ชา่ ซือ้ เพยี งแต่ได้ครอบครอง และใช้ประโยชนท์ รัพยส์ ินเท่าน้ัน ชื่อคูสัญญาทั้งสองฝา ย สาํ หรบั การเชา ซ้ือ
สัญญาเช่าซื้อต้องท�าเป็นหนังสือหรือท�าเป็นลายลักษณ์อักษร ลงลายมือชื่อคู่สัญญา อสงั หารมิ ทรัพย นอกจากทําหนังสอื
ทั้งสองฝ่าย มิฉะนั้น จะตกเป็นโมฆะไม่มีผลผูกพันคู่กรณี ส�าหรับการเช่าซ้ืออสังหาริมทรัพย์ สญั ญาแลว หากผูเชา ซอ้ื ชําระคาเชาซอื้
นอกจากท�าสัญญาเป็นหนังสือแล้ว แม้ผู้เช่าซ้ือได้ช�าระค่าเช่าซื้อจนครบตามสัญญาก็จะต้อง ครบถว น จะตอ งไปจดทะเบียนการไดมา
ซ่งึ อสังหารมิ ทรพั ยน น้ั ตอพนกั งาน
เจา หนาที่ดว ย)

165

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นักเรยี นควรรู

สญั ญาเชา ซอื้ มปี ระโยชนก บั ผตู อ งการซอ้ื ทรพั ยส นิ ประเภทใดมากทสี่ ดุ 1 คาํ ม่ัน เปนการแสดงเจตนาอยา งหน่งึ โดยมีผรู ับรู จัดเปน นติ กิ รรมฝา ยเดียว
1. ผูท่ีมีรายไดสูง ที่เกดิ จากการแสดงเจตนาวาจะทําสัญญา หรอื ใหร างวลั แกผกู ระทําการอยา งใด
2. ผทู ี่มเี งนิ ออมมาก อยา งหนง่ึ ซง่ึ จะมีผลทางกฎหมายผูกพันผใู หคาํ ม่ันได
3. ผูที่มีทรัพยส ินมรดกมาก 2 สญั ญาซ้ือขายผอนสง สัญญาการซ้อื ขายที่มกี ารสงมอบทรัพยสินใหก บั ผูซอ้ื แลว
4. ผูท ี่ไมส ามารถซื้อสนิ คา ราคาสูงไดในทันที แตผ ซู ้อื ยังไมไ ดชาํ ระราคา อาจตกลงผอ นชาํ ระเปนงวดๆ

วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะสญั ญาเชา ซอื้ จะชว ยให มมุ IT

ผูทไ่ี มส ามารถซือ้ สินคาราคาสงู ไดใ นทันที สามารถทําสัญญาน้ี ศึกษาคนควา ขอมลู เพมิ่ เติมเกย่ี วกับสัญญาเชาซอื้ ไดที่
เพือ่ ใหไดทรัพยส ินมาใชกอ น แลว คอ ยผอนชําระเปน งวดตาม www.thethailaw.com/law14/lawpdf/law25512560/6.doc
ทต่ี กลงกนั ไวจนครบถวน

คูม่ อื ครู 165

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูใหน กั เรียนกลมุ ท่ี 5 ซ่งึ จบั ฉลากไดห วั ขอ จดทะเบียนการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์น้ันต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีด้วย มิฉะน้ัน การได้มาจะไม่
สัญญากยู ืม ออกมารายงานผลการอภิปราย สมบูรณ์ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ มาตรา ๑๒๙๙)
หนาชั้น โดยใชโปรแกรม PowerPoint
ชว ยในการนาํ เสนอ ผ้ใู หเ้ ช่าซ้อื มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาได้ เมื่อผเู้ ช่าซื้อผิดนัดไมช่ า� ระคา่ เช่าซือ้ สองงวดตดิ ต่อกนั
และสามารถกลับเขา้ ครอบครองทรพั ยส์ ิน รวมทัง้ รบิ เงินซ่งึ ผเู้ ชา่ ซื้อชา� ระมาแล้วได้ แตถ่ า้ ผูเ้ ชา่ ซ้ือ
2. หลงั จากนกั เรยี นกลุม ท่ี 5 นําเสนอเรอ่ื งสญั ญา
กูย ืมเสรจ็ สิน้ แลว ครูตัง้ คําถามเพอื่ ทบทวน
ความรคู วามเขา ใจของนกั เรียน ดงั นี้ ท�าผิดสญั ญาโดยไม่ช�าระเงินงวดสุดทา้ ย ผู้ให้เชา่ ซื้อจะยดึ ทรพั ยส์ นิ กลับคืนและรบิ เงินท่ีช�าระแล้ว
• สญั ญาเงินกมู ีลกั ษณะอยา งไร ไดต้ อ่ เม่ือเวลาผ่านไปอกี งวดหน่ึงแลว้

(แนวตอบ สญั ญาเงินกเู ปนสัญญาที่ “ผูก”ู อน่ึง ถ้าผู้เช่าซ้ือท�าผิดสัญญาในข้อท่ีส�าคัญ เช่น ใช้ทรัพย์สินนั้นไม่ถูกต้องตามเง่ือนไข
ไดขอยมื เงนิ จาํ นวนหนึง่ ตามท่ตี กลงกันไว ผใู้ ห้เช่าซือ้ ก็บอกเลิกสญั ญาได้ โดยยดึ ทรัพยส์ ินกลับคนื และริบค่าเชา่ ซอื้ ท่ีชา� ระไวแ้ ล้วไดเ้ ชน่ กนั
จาก “ผใู หก ”ู และผูกตู กลงจะคืนเงินจํานวน
ดังกลา วตามเวลาทก่ี าํ หนดไว โดยผกู เู สีย ผู้เช่าซ้ือมีหน้าท่ีช�าระค่าเช่าซื้อและมีสิทธิท่ีจะบอกเลิกสัญญาเมื่อใดก็ได้ โดยส่งมอบ
ดอกเบ้ียแกผ ูใหก ูในอัตราท่ตี กลงกันตาม ทรัพย์สินกลับคืนและให้ค่าเช่าซ้ือเฉพาะที่ยังค้างช�าระในงวดช�าระเงินท่ีผ่านมาแก่ผู้ให้เช่าซ้ือ
กฎหมาย) ผเู้ ชา่ ซอื้ ตอ้ งสงวนและบา� รงุ รกั ษาทรพั ยส์ นิ ระหวา่ งทตี่ นเชา่ ซอ้ื รวมทงั้ ยงั ตอ้ งบา� รงุ รกั ษาทรพั ยส์ นิ
• กฎหมายไดกาํ หนดหลักเกณฑการกูยืมเงนิ ไว ดว้ ยค่าใชจ้ ่ายของตนเอง
อยา งไร
(แนวตอบ การกูยืมเงินเกินกวา 2,000 บาท ในที่สุดหลังจากได้ช�าระค่าเช่าซ้ือตามสัญญาครบถ้วนแล้ว ผู้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องต่อ
ขนึ้ ไป จะตอ งทําหลักฐานเปนหนังสอื ผู้ให้เช่าซื้อให้เปล่ียนแปลงทะเบียนสิทธิในทรัพย์สิน เช่น ให้ไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิให้แก่
พรอ มลงลายมือช่ือชือ่ ผูกู หรอื อาจใชก าร ผูเ้ ช่าซื้อต่อพนักงานเจ้าหนา้ ที่ เป็นตน้
พมิ พลายนิว้ มอื และมพี ยานรับรองอยา งนอย
2 คน ก็ได) ๓.๕ สญั ญากยู้ มื
• ผใู หก ูม ีสทิ ธเ์ิ รียกเก็บดอกเบีย้ จากผกู ใู นอตั รา
เทา ใด จึงจะไมผ ิดกฎหมาย สญั ญากยู้ มื หมายถงึ สัญญาซ่งึ ผ้ทู ตี่ อ้ งการเงิน เรยี กว่า “ผู้กู้” ตกลงยมื เงนิ จา� นวนหนง่ึ จาก
(แนวตอบ หากผูใหกูและผกู มู ิไดต กลงอตั รา
ดอกเบ้ียกนั ไว ผูใหก ูมสี ิทธเิ์ รยี กเก็บดอกเบย้ี ผ“ผกู้ ใู้ ใู้หห้กด้ ู้”อกเพเบ่อื ยี้นแ1า� กไปผ่ ใใู้ ชห้ตก้ าเู้ ปมน็คควาา่ มตอตบอ้ แงกทานร และตกลงว่าจะคนื เงินตามกา� หนดเวลาทต่ี กลงกนั ไวโ้ ดย
จากผูก ูไดในอตั รารอยละ 7 ตอ ป แตถ าผใู หกู สญั ญากยู้ มื เงนิ จงึ ตา่ งกบั สญั ญายมื โดยทว่ั ไป ซงึ่ เปน็ กรณี
จะกําหนดอตั ราดอกเบยี้ กส็ ามารถกาํ หนดได
ไมเ กินรอ ยละ 15 ตอป ยกเวน การกูเงินจาก ท่ผี ้ใู ห้ยมื ยอมใหผ้ ู้ยมื ใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ย์สนิ ได้โดยไม่เรยี กค่าตอบแทน
สถาบนั การเงินบางประเภท ซง่ึ สามารถเรียก
เก็บอัตราดอกเบ้ยี เกินรอยละ 15 ได) การกู้ยืมเงินจะมีผลต่อเมื่อมีการส่งมอบเงินให้แก่ผู้กู้และกฎหมายบังคับว่าการกู้ยืม
3. ครูใหน กั เรยี นจับคูกนั เพื่อแสดงบทบาท
เงินเกินกวา่ ๒,๐๐๐ บาทขน้ึ ไป จะตอ้ งมหี ลกั ฐานเป็นหนังสอื แสดงวา่ มกี ารก้เู งินกนั จรงิ ซึง่ ขอให้

เป็นเพียงหนังสือแสดงว่ามีการรับเงินยืมไปจริง ลงลายมือช่ือผู้กู้ หรือในกรณีท่ีไม่สามารถลง

ลายมือช่ือได้ ต้องมีลายพิมพ์น้ิวมือของผู้กู้ประทับในหนังสือดังกล่าว โดยมีพยานลงลายมือช่ือ

รับรองลายพิมพ์น้ิวมือนั้นอย่างน้อยสองคน หลักฐานดังกล่าวน้ีอาจท�าขึ้นภายหลังการมอบเงิน

ใหแ้ ก่กนั เชน่ เปน็ หนงั สือขอผัดผ่อนการช�าระเงินได้

สมมติในการทาํ สญั ญากูย ืม โดยใหช วยกนั ราง 166
สัญญากยู มื ขึ้น โดยใหม ีขอ ตกลงที่เปน ไปตาม
กฎหมาย จากนั้นครูสุม เลือกคนู ักเรยี น ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
ใหออกมานําเสนอการทําสญั ญากูยมื หนา ช้นั

เกร็ดแนะครู

ครูควรอธิบายเนน ในเร่ืองการกาํ หนดอตั ราดอกเบี้ยในการกยู ืม แลว ใหน กั เรียน นางสาวกอ ย ทําสัญญากูย ืมเงนิ นางสาวแกว เปนจาํ นวนเงนิ
ทํากจิ กรรมเพื่อฝก การคาํ นวณอัตราดอกเบ้ียท่ถี ูกตอง โดยครูแนะนาํ วธิ กี ารคาํ นวณ 50,000 บาท โดยกาํ หนดชาํ ระเงินพรอมดอกเบีย้ ในวันท่ี 30 ธันวาคม
โดยใชหลักคณิตศาสตร จากน้ันครูตงั้ โจทยซึ่งเปนกรณตี ัวอยางของการกูยืม แลว ให พ.ศ. 2556 คิดดอกเบ้ียอัตรารอยละ 17 ตอป การทาํ สัญญากยู มื
นักเรียนฝกคํานวณ จากนัน้ ครตู รวจสอบผลการคํานวณของนกั เรียนแตละคน ครั้งนีถ้ กู ตอ งตามหลักกฎหมายหรอื ไม อยา งไร
และใหค ําแนะนาํ เพิ่มเติม แนวตอบ ไมถกู ตอ ง เพราะกฎหมายกาํ หนดไววา ในกรณีที่

ตกลงกนั วาใหเรยี กดอกเบย้ี แตม ไิ ดร ะบุอัตราไว ผใู หกูมสี ทิ ธิได
ดอกเบ้ยี อัตรารอยละเจ็ดครง่ึ ตอป แตถ า หากมกี ารกําหนดอัตรา
นกั เรยี นควรรู ดอกเบย้ี ไว ผใู หก จู ะเรยี กดอกเบยี้ จากผกู ไู ดไ มเ กนิ รอ ยละสบิ หา ตอ ป

1 ดอกเบี้ย ในการกยู ืม หากมีการกาํ หนดอตั ราดอกเบี้ยไว ผูใ หก ูจะเรียกดอกเบย้ี หากผูก เู รียกอตั ราดอกเบยี้ สูงกวาทก่ี ฎหมายกาํ หนด สัญญานัน้ จะ
จากผูกสู งู สุดไดไมเ กนิ รอยละ 15 ตอ ป ยกเวน การกูยมื เงินจากสถาบนั การเงิน เชน ไมมผี ลตามกฎหมาย และผใู หก ยู งั มคี วามผิดตามพระราชบญั ญตั ิ
ธนาคาร หรอื สถาบันเงินทุนหลักทรัพยทก่ี ฎหมายกําหนดใหสามารถเรยี กดอกเบย้ี หา มเรยี กดอกเบยี้ เกินอตั รา พทุ ธศักราช 2475
สงู กวา รอ ยละ 15 ตอป ได

166 คู่มอื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

ในกรณีที่ตกลงกันว่าให้เรียกดอกเบี้ยได้แต่มิได้ระบุอัตราไว้ ผู้ให้กู้มีสิทธิได้ดอกเบ้ีย 1. ครใู หน ักเรียนกลมุ ท่ี 6 ซงึ่ จบั ฉลากไดหวั ขอ
ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗) ถ้ามีการก�าหนด สัญญาจาํ นํา ออกมารายงานผลการอภิปราย
อัตราดอกเบี้ยไว้ ผู้ให้กู้จะเรียกดอกเบี้ยจากผู้กู้ได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี ถ้าผู้ให้กู้เรียก หนาชัน้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint
ดอกเบ้ียสูงกว่าน้ีแม้ผู้กู้จะยินยอมก็ไม่มีผล หมายความว่า การเรียกดอกเบ้ียเป็นอันใช้ไม่ได้ ชวยในการนาํ เสนอ
ทง้ั หมด และผใู้ หก้ มู้ คี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั หิ า้ มเรยี กดอกเบยี้ เกนิ อตั รา พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๕ 1
2. หลงั จากนกั เรยี นกลมุ ที่ 6 นาํ เสนอเร่ืองสัญญา
ยกเวน้ การกยู้ มื เงนิ จากสถาบนั การเงนิ เชน่ ธนาคารหรอื บรษิ ทั เงนิ ทนุ หรอื บรษิ ทั หลกั ทรพั ย์ จํานาํ เสรจ็ สิน้ แลว ครตู ั้งคาํ ถามเพื่อทบทวน
ซ่งึ มกี ฎหมาย คอื พระราชบัญญัติดอกเบย้ี เงินให้กูย้ ืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๒๓ ยอมให้ ความรคู วามเขา ใจของนกั เรียน ดังนี้
เรยี กดอกเบีย้ สงู กว่ารอ้ ยละ ๑๕ ตอ่ ปีได้ • สัญญาจํานาํ มลี ักษณะอยา งไร
(แนวตอบ สัญญาจํานาํ เปนสญั ญาท่ี “ผูจํานาํ ”
ในการช�าระหนี้เงินกู้แต่ละคร้ัง ผู้กู้มีสิทธิเรียกให้ผู้ให้กู้ออกหลักฐานการใช้เงินให้ เช่น นาํ สังหารมิ ทรัพยไปมอบใหแก “ผูรับจํานํา”
ออกใบรับเงินและเม่ือช�าระหนี้หมดแล้ว มีสิทธิเรียกสัญญากู้ยืมเงินที่ท�ากันไว้กลับคืนมา หรือ เพ่อื เปนการประกนั การชําระหนี้ทผี่ ูจ าํ นาํ
ให้ระบุในสัญญาว่าได้มีการช�าระเงินกู้และดอกเบ้ียครบถ้วนแล้วด้วย แต่ถ้าผู้กู้บิดพลิ้วไม่ปฏิบัติ เปน หน้ีผรู บั จํานํา)
ตามสัญญา ผู้ให้กู้มีสิทธิฟ้องเรียกเงินคืนพร้อมท้ังดอกเบ้ียท่ียังค้างช�าระได้ตามสัญญา โดย • กฎหมายไดกาํ หนดหลกั เกณฑในการบงั คบั
กฎหมายกา� หนดอายคุ วามไว้ให้ต้องฟ้องภายใน ๑๐ ปี นบั แต่วนั ถงึ ก�าหนดชา� ระเงินคนื จํานําไวอยางไร
(แนวตอบ กฎหมายไดก ําหนดหลกั เกณฑ
๓.๖ สัญญาจาำ นำา การบังคบั จาํ นาํ ไว ดังน้ี
1. เมื่อลกู หนีผ้ ดิ นัดชําระหน้ี ผรู ับจํานําตอ ง
สญั ญาจา� นา� ไดแ้ ก่ สัญญาซึ่งผจู้ �าน�าสง่ มอบการครอบครองสงั หารมิ ทรพั ย์ คือ ทรพั ย์สนิ ทําหนงั สอื บอกกลา วใหล กู หนี้มาชาํ ระหน้ี
ภายในกาํ หนดระยะเวลาอันสมควร
ท่ีสามารถเคลื่อนที่ได้ให้แก่ผู้รับจ�าน�าเพื่อประกันการช�าระหนี้ (ประมวลกฎหมายแพ่งและ 2. หากลกู หนี้ไมชําระหนี้ตามกําหนด ผูรับ
จาํ นํามีสิทธินําทรัพยส นิ ของลูกหนี้ออก
พาณิชย์ มาตรา ล๗ูก๔ห๗น)อี้ าซจึ่งนหา� มนาายฬคิกวาาขมอวง่าตสนัญจา�ญนาา� นไ2ี้เวกก้ ิดับขเจึ้น้าเหพน่ือี้ใหเป้เน็จ้าตห้นนี้มีหลักประกันการช�าระ ขายทอดตลาดได แตตอ งทําหนงั สอื
หนี้ยดึ ถอื ไว้ เช่น แจง ใหล กู หน้ที ราบวนั เวลา และสถานที่
ท่ีจะขายทอดตลาด เวน แตผ ูจํานําคา ง
การจ�าน�าไม่ต้องมีหลักฐานหรือท�าตามแบบ ชาํ ระหนเ้ี กินกวา 1 เดอื น และไมสามารถ
บอกกลาวกอนได ผูรบั จาํ นําสามารถนาํ
แต่อย่างใด เม่ือมอบทรัพย์สินท่ีจ�าน�าแก่ผู้รับจ�าน�า ทรัพยส นิ นั้นขายทอดตลาดไดเลย
โดยไมต อ งบอกกลาวกอ น
แล้ว เขาก็มีสิทธิยึดทรัพย์สินนั้นไว้ จนกว่าจะได้รับ 3. เมอื่ นาํ ทรพั ยส นิ ไปขายทอดตลาด
แลว ไดเ งนิ มาเทาใด ผูรบั จาํ นาํ มสี ิทธหิ ัก
การช�าระหนี้ครบถ้วน ซ่ึงรวมท้ังเงินต้น ดอกเบ้ีย มาใชหน้ีไดจนครบถว น ถาเงนิ ยงั เหลือ
ผรู ับจํานําตองคืนแกผ ูจ ํานํา แตถ าเงนิ
ค่าเสียหายจากการไม่ช�าระหน้ี ค่าธรรมเนียมในการ ขาดหายไป ผจู ํานาํ ตองใชค ืนใหแ กผรู บั
จาํ นําจนครบตามจํานวน)
บงั คับจ�าน�า ค่าใช้จ่ายเพ่ือรกั ษาทรพั ย์สินทจ่ี า� นา� รวม

ท้ังค่าทดแทนความเสียหาย ซึ่งเกิดจากความช�ารุด

บกพรอ่ งของทรพั ยส์ นิ ทจี่ า� นา� ซง่ึ ผรู้ บั จา� นา� มองไมเ่ หน็ การประกอบอาชีพรับจำานำาทรัพย์สินจากลูกค้า
เมอื่ รับจ�าน�าไว้ ตอ้ งได้รบั ใบอนญุ าตและปฏบิ ัติตามพระราชบัญญตั ิ
โรงรบั จำานาำ พ.ศ. 2505

16๗

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู

ทรัพยสนิ ในขอใดทสี่ ามารถนาํ ไปจํานําได 1 บริษัทหลักทรพั ย คอื บรษิ ทั จาํ กัดท่ไี ดร ับอนญุ าตจากรฐั มนตรีวาการกระทรวง
1. ท่นี า การคลงั ใหป ระกอบธรุ กจิ หลักทรพั ยประเภทใดประเภทหนึง่ หรอื หลายประเภท
2. บา นเด่ยี ว ดงั ตอไปน้ี
3. โทรศพั ทมือถือ
4. หองชดุ ในคอนโดมเิ นยี ม - กจิ การนายหนาซือ้ ขายแลกเปลย่ี นหลกั ทรพั ย
- กิจการคาหลักทรัพย
วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะกฎหมายกาํ หนดไววา - กจิ การท่ีปรกึ ษาการลงทนุ
- กิจการจดั จาํ หนา ยหลกั ทรัพย
สัญญาจํานาํ ไดแกส ญั ญาซงึ่ ผูจ าํ นาํ สง มอบการครอบครอง - กจิ การจดั การลงทนุ
สังหารมิ ทรพั ย คอื ทรพั ยสนิ ที่สามารถเคล่ือนทีไ่ ด แกผ รู บั จาํ นาํ
เพ่อื ประกนั การชาํ ระหน้ี ดังนั้นการจาํ นาํ จงึ ทําไดกับทรัพยสิน 2 จาํ นาํ ในประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มบี ทบญั ญตั ทิ ่ีเก่ียวกบั สญั ญาจํานํา
ที่เปน สังหารมิ ทรัพยเทา นัน้ ซ่งึ ในขอ 1. ขอ 2. และ ขอ 3. ทนี่ า สนใจหลายมาตรา เชน
เปน อสงั หารมิ ทรพั ยท ง้ั สิ้น ไมสามารถทําการจาํ นาํ ได มาตรา 749 คูสัญญาจํานําจะตกลงกนั ใหบุคคลภายนอกเปน ผูเ ก็บรักษา
ทรพั ยสนิ จํานําไวก ไ็ ด
มาตรา 750 ถา ทรพั ยสนิ ทจี่ ํานาํ เปน สิทธิซึ่งมีตราสาร และมิไดส งมอบ
ตราสารน้ันใหแ กผ ูรับจาํ นาํ ท้ังมไิ ดบ อกกลาวเปนหนงั สือแจงการจาํ นาํ แกลกู หนี้
แหงสิทธนิ ้นั ดว ยไซร ทา นวาการจํานาํ ยอมเปนโมฆะ
คมู่ ือครู 167

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูใหนักเรียนกลุม ท่ี 7 ซ่ึงจบั ฉลากไดหวั ขอ ผู้รับจ�าน�ามีหน้าที่ต้องเก็บรักษาและสงวนทรัพย์สินที่จ�าน�าให้ปลอดภัยไม่สูญเสีย หรือ
สัญญาจํานอง ออกมารายงานผลการอภิปราย เสียหายไป หากผู้รับจ�าน�าใช้สอย หรือให้ผู้อ่ืนใช้สอย หรือเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นและเกิดความ
หนาชนั้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint เสียหายข้ึน จะต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าผู้รับจ�าน�าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบ�ารุงรักษาทรัพย์สินที่
ชวยในการนาํ เสนอ จา� น�านัน้ ไปตามปกติ ผู้รบั จา� น�ามีสทิ ธิเรยี กจากผูจ้ �าน�าได้

2. หลงั จากนักเรียนกลมุ ที่ 7 นําเสนอเร่ืองสัญญา เนื่องจากสัญญาจ�าน�าท�าขึ้น เพ่ือใช้ประกันการช�าระหน้ี ดังน้ัน เมื่อหนี้ถึงก�าหนดช�าระ
จํานองเสรจ็ สนิ้ แลว ครตู ง้ั คาํ ถามเพื่อทบทวน แล้วลูกหน้ี (ผู้จ�าน�า) ผิดนัดไม่ช�าระหน้ี ผู้รับจ�าน�าย่อมมีสิทธิบังคับจ�าน�า โดยต้องบอกกล่าว
ความรูความเขาใจของนักเรียน ดงั น้ี เป็นหนังสือแก่ลูกหนี้ให้ช�าระหน้ีรวมท้ังดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายต่างๆ (ถ้ามี) ภายในก�าหนดเวลา
• สญั ญาจาํ นองมลี กั ษณะอยา งไร อนั สมควร หลงั จากนัน้ หากลกู หน้ีไมช่ �าระหนี้ ผู้รบั จา� น�ามสี ิทธิเอาทรัพย์สินท่จี า� น�าออกขายทอด
(แนวตอบ สญั ญาจํานองเปน สัญญาท่ี สตหู้รลนาางั คดสาอื ก1คบันืออกผกกู้ใาลดรา่ ใขวหาใ้รหยาทล้ คกูราัพหสนยูงส์ส้ีทุดินรแาทบล่ีทะก�าผา�โู้ทดหยอนเดดปตเิดวลเลาผาดยแตแลกกะลส่บงถุคราคับนลเทปท่ีซ็น่ัวึ่งไผปจู้ซะดื้อข้วทายยรวัพทิธอีเยปด์สิดินตโลนอาั้นกดา2ดสโ้วดใหยย้ผจู้ปะตร้อะสงแงคจ์จ้งะเปซ็นื้อ
“ผจู ํานอง” นําอสงั หารมิ ทรัพยไปจดทะเบียน
ไวก ับ “ผูรับจํานอง” เพื่อเปน การประกัน อยา่ งไรกต็ ามหากผจู้ า� นา� คา้ งชา� ระหนเี้ กนิ กวา่ หนงึ่ เดอื น และไมส่ ามารถจะบอกกลา่ วกอ่ นได้
การชาํ ระหน้ี แตไ มตองสง มอบทรัพยส ิน ผู้รับจ�าน�าก็น�าทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน การบังคับจ�าน�า
ท่ีจํานองนน้ั ใหแกผูรบั จํานอง) ต้องท�าโดยการขายทอดตลาดเท่าน้ัน ผู้รับจ�าน�าจะทึกทักว่าทรัพย์สินที่จ�าน�าหลุดเป็นของตน
• ทรัพยสินที่จาํ นองได ไดแ กอะไรบาง โดยพลการไมไ่ ด้ ถึงแม้จะตกลงกนั ไว้ล่วงหนา้ ยกเว้นการบงั คบั จ�านา� ข้อตกลงนัน้ ก็ใชไ้ มไ่ ด้
(แนวตอบ อสังหารมิ ทรพั ย เชน ทดี่ นิ บา น
เปนตน และสังหาริมทรพั ยช นดิ พิเศษ เชน เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จ�าน�าแล้วได้เงินสุทธิเท่าใด ผู้รับจ�าน�ามีสิทธิหักมาใช้หนี้ได้
เรอื ท่ีมรี ะวางตง้ั แต 6 ตันขนึ้ ไป แพ สตั ว จนครบ หากยังมีเงินเหลือต้องคืนให้แก่ผู้จ�าน�า แต่เมื่อขายทอดตลาดแล้วเงินยังขาดอยู่เท่าใด
พาหนะ เปน ตน รวมทงั้ สังหารมิ ทรัพยอ่ืน ผูจ้ �าน�ายังต้องใช้คนื จนครบ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๖๗)
ทกี่ ฎหมายบัญญตั ิใหจํานองได เชน
เครื่องจักรขนาดใหญ เปนตน ) การบงั คบั จ�าน�าจะทา� ไดต้ ่อเมอื่ ยังมที รัพยส์ นิ ทีจ่ �าน�าอย่กู ับผู้รับจ�านา� ดงั นั้น หากผ้รู ับจา� น�า
คืนทรพั ยส์ นิ นัน้ ใหผ้ ้จู �านา� ไปแลว้ การจา� นา� เปน็ อนั ระงับไป ผรู้ ับจา� น�าไม่มีทางบังคับกบั ทรพั ย์สิน
น้ันอีก คงท�าได้เพียงฟ้องบังคับให้ลูกหน้ีช�าระหนี้ที่ค้าง ดังเช่น การเรียกให้ช�าระหนี้ที่ไม่มี
หลักประกันอย่างปกตเิ ท่าน้ัน

๓.๗ สญั ญาจาำ นอง

สัญญาจ�านอง คือ สัญญาซึ่งผู้จ�านองเอาอสังหาริมทรัพย์ เช่น ท่ีดิน อาคารบ้านเรือน
เป็นต้น หรือสังหาริมทรัพย์ที่กฎหมายอนุญาตให้จ�านองได้ของตนเองไปตราไว้แก่ผู้รับจ�านอง
โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินท่ีจ�านองน้ันให้ เพื่อเป็นประกันการช�าระหน้ีของลูกหนี้ ซ่ึงอาจเป็น
ตัวผู้จ�านองเองหรือบุคคลอ่ืนก็ได้ (ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา ๗๐๒)

168

นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอ ใดเปน หนาท่ขี องผรู บั จํานาํ
1 สูราคา การเสนอราคาเพอ่ื การซ้ือหรือขาย โดยมกี ารแขงขัน เรยี กอกี อยางหนึง่ 1. นําทรัพยสินจํานาํ ออกขาย
วา “การประมลู ราคา” 2. เปด ใหเ ชาทรพั ยสินจาํ นํา
2 ขายทอดตลาด คือ การขายทรพั ยท ่จี ะตองกระทําโดยเปด เผย โดยวธิ ีโฆษณา 3. เปดประมลู ทรพั ยส ินจํานํา
ใหบ ุคคลทวั่ ไปมโี อกาสทราบ และในการซ้อื จะกระทําโดยวิธสี รู าคาระหวา งผูซื้อ 4. รักษาทรพั ยสินจํานําใหป ลอดภยั
ดวยกนั การซื้อขายเชนน้ถี อื วาสําเร็จบรบิ ูรณ เมื่อผูขายทอดตลาดแสดงความตกลง วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะตามกฎหมายกาํ หนดใหผูรบั
ดวยการเคาะไม หรือดว ยกิรยิ าอยา งอน่ื ตามจารตี ประเพณใี นการขายทอดตลาด จาํ นํามหี นาที่ตองเกบ็ รักษาทรพั ยสินท่จี ํานาํ ใหอ ยูในความปลอดภัย
ไมเ กิดความสญู เสีย ซ่งึ ถาหากทรพั ยส ินนน้ั เกิดความเสียหาย
มุม IT ผรู บั จาํ นําจะตอ งรับผิดชอบ

ศึกษาคนควา ขอ มูลเพิม่ เติมเกี่ยวกบั กฎหมายสัญญาจาํ นาํ ไดท ่ี
http://www.kodmhai.com/m2/m2-4/m4-747-757.html

168 ค่มู อื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

การน�าทรัพย์สินไปตราไว้ในท่ีนี้ หมายถึง การเอาทรัพย์สินนั้นไปท�าหนังสือจดทะเบียน ครใู หนกั เรียนรว มกนั อภปิ รายสรปุ ความรูเ รอื่ ง
ตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ที่ เช่น น�าทด่ี นิ ไปจดทะเบยี นจ�านอง ณ ส�านกั งานท่ดี ิน เป็นต้น การจํานอง โดยครตู ้งั คําถาม

ส�าหรับสังหาริมทรัพย์ท่ีจ�านองได้ ได้แก่ ส่ิงที่จดทะเบียนได้ เช่น เรือ แพ สัตว์พาหนะ • กฎหมายไดก าํ หนดหลกั เกณฑใ นการบังคบั
หรือท่ีเรียกกันว่าสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ รวมท้ังสังหาริมทรัพย์อื่นท่ีกฎหมายให้จดทะเบียน จาํ นองไวอยางไร
จ�านองได้ เชน่ เคร่ืองจักรขนาดใหญ่ เปน็ ตน้ (แนวตอบ การบังคับจาํ นองทําโดยผูร ับจํานอง
ทําหนังสือแจง ใหลูกหนี้มาชําระหนี้ภายใน
แม้จ�านองสังหาริมทรัพย์แล้ว เจ้าของก็ยังครอบครองต่อไปได้อีกไม่ต้องส่งมอบแก่เจ้าหนี้ ระยะเวลาอนั สมควร หากลกู หนย้ี ังไมมา
เหมอื นกบั การจา� นา� เนอ่ื งจากการจา� นองมหี ลกั ฐานปรากฏอยใู่ นทะเบยี นหรอื หนงั สอื สา� คญั สา� หรบั ชาํ ระหนี้ ผูรับจํานองตอ งฟอ งผจู าํ นอง
ทรพั ย์สินน้นั ใหผ้ ู้อน่ื สามารถตรวจพบไดน้ ่นั1เอง ตอ ศาล โดยขอตอ ศาลวาหากลูกหน้ียังไม
ชําระหน้ี ใหศ าลสง่ั ใหทรพั ยส ินจาํ นองนัน้
อนึ่ง การเพียงแต่มอบโฉนดท่ีดินหรือหนังสือส�าคัญส�าหรับทรัพย์สินให้เจ้าหน้ียึดถือไว้ หลดุ เปน กรรมสทิ ธ์ิของผรู ับจํานอง หรอื ใหม ี
ยังไมใ่ ชก่ ารจ�านอง เพราะการจา� นองจะเกดิ ขึน้ โดยการจดทะเบยี น การขายทอดตลาดทรัพยสินนัน้ ตอ ไป
แลวนําเงินมาชําระหน้ีของตน โดยหาก
การช�าระหน้ีจ�านองไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม การส้ินสุดหรือเปล่ียนแปลงแก้ไข ไดเ งนิ มานอยกวา จํานวนหนท้ี ค่ี างชําระอยู
ข้อความในการจ�านองก็ตาม ต้องไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีด้วย มิฉะน้ันจะน�าไปใช้ ลกู หน้ีไมตอ งรับผิดชอบใดๆ ในเงินสว นนน้ั
อ้างกับบคุ คลภายนอกไมไ่ ด้ เวนแตไ ดมีการตกลงกันไววา ลูกหน้ตี อง
รับผิดชอบ ซง่ึ ลูกหนกี้ ต็ อ งทาํ ตาม
การจ�านองมีผลเป็นหลักประกันการช�าระหน้ี ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าเสียหายจากการ ขอ ตกลงน้นั )
ไมช่ �าระหน้ี เช่น คา่ ใชจ้ ่ายในการติดตามทวงถาม รวมทัง้ คา่ ธรรมเนยี มในการบงั คบั จา� นอง ทา� ให้
ผู้รับจ�านองมีสิทธิได้รับช�าระหน้ีจากทรัพย์สินท่ีจ�านองก่อนเจ้าหนี้สามัญ แม้มีการโอนทรัพย์สิน ขยายความเขา้ ใจ Expand
จ�านองใหแ้ ก่บุคคลภายนอกแลว้ ผู้รบั จ�านองกย็ งั บังคับจา� นองจากทรพั ย์สนิ นน้ั ได้
ครใู หนกั เรยี นทัง้ 7 กลุม ชวยกันจัดปายนิเทศ
การบังคับจ�านองท�าโดยผู้รับจ�านองมีหนังสือแจ้งลูกหนี้ให้ช�าระหนี้ภายในเวลาอันสมควร เพื่อสรปุ ความรูข องการทาํ สญั ญาในลกั ษณะตางๆ
มิฉะน้ันจะใช้สิทธิบังคับจ�านองต่อไป หากลูกหนี้ยังไม่ช�าระหนี้ ผู้รับจ�านองต้องฟ้องผู้จ�านอง ตามทก่ี ลุมตนเองจบั ฉลากได
ต่อศาล โดยขอต่อศาลว่าหากลูกหนี้ยังไม่ช�าระหน้ี ให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินจ�านองน้ันหลุดเป็น
กรรมสทิ ธิข์ องผ้รู ับจา� นอง หรอื ใหม้ กี ารขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ นัน้ ต่อไป ตรวจสอบผล Evaluate

อย่างไรก็ตามเมื่อลูกหนี้ขาดส่งดอกเบ้ียมาแล้วเป็นเวลาถึง ๕ ปี และผู้จ�านองแสดงต่อ ครูตรวจสอบความสวยงามและความถกู ตอ ง
ศาลไม่ได้ว่าราคาทรัพย์สินน้ันท่วมจ�านวนเงินท่ีค้างช�าระ รวมท้ังทรัพย์สินน้ันไม่ได้จดทะเบียน ของปา ยนิเทศเรอื่ งการทําสัญญาของท้งั 7 กลุม
การจ�านองรายอื่นหรือบุริมสิทธ์ิ (คือ สิทธิได้รับช�าระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น) ไว้ ผู้รับจ�านองขอต่อ
ศาลให้ทรัพย์สนิ นั้นหลุดเปน็ สทิ ธิได้โดยไมต่ ้องมกี ารขายทอดตลาด

การนา� เอาทรพั ยส์ นิ ซงึ่ จา� นองขายทอดตลาดไดเ้ งนิ เปน็ จา� นวนสทุ ธเิ ทา่ ใด ใหน้ า� เงนิ นน้ั มาใช้
แก่ผรู้ ับจ�านองตามลา� ดับ และถ้ายงั มเี งินเหลอื อยู่ ให้ส่งมอบเงนิ น้ันแกผ่ ู้จา� นอง หรอื ในกรณีที่นา�

169

ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู

ทรพั ยส ินในขอ ใดตอ ไปนีส้ ามารนาํ มาจํานองไดตามกฎหมาย ครอู าจใหนกั เรียนรวมกันทาํ กจิ กรรมเพือ่ เสริมความรูเกย่ี วกับการทําสัญญา
1. รถยนต จํานอง โดยใหนักเรยี นชวยกันหาภาพทรัพยสนิ ทส่ี ามารถนํามาจํานองไดต าม
2. เรอื นแพ กฎหมาย แลวรวมกันสมมติการดาํ เนินขัน้ ตอนการทาํ สัญญาจํานองทรพั ยสนิ
3. คอมพิวเตอร ทน่ี กั เรยี นหามา จากนั้นใหน ักเรยี นชวยกนั สรปุ ความรทู ่ไี ดแ ละสาระสําคัญ
4. เคร่อื งปรับอากาศ ของการทําสญั ญาจาํ นอง

วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเรอื นแพ ถอื เปน สงั หารมิ ทรพั ย นักเรยี นควรรู

ชนดิ พิเศษ ซึง่ กฎหมายกําหนดใหส ามารถจํานองได สว นขอ 1. 1 โฉนดทดี่ ิน ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 มาตรา 1 ไดใ หค วามหมายของ
ขอ 3. และขอ 4. ถอื เปนสงั หาริมทรพั ยท ่ัวไป ไมสามารถนํามา โฉนดท่ดี นิ ไวว า เปน หนงั สือสาํ คัญแสดงกรรมสิทธิ์ ผมู ชี อ่ื ในหนังสอื สาํ คญั น้ีสามารถ
จาํ นองได ใชความเปนเจา ของกรรมสิทธิใ์ นทด่ี นิ น้ัน ยืนยนั แกบุคคลทว่ั ไปได นอกจากนี้ ผูมีช่อื
ในโฉนดที่ดินยงั สามารถทาํ นิตกิ รรมใดๆ กไ็ ด เวนแตจะมีกรณีทกี่ ฎหมายทดี่ นิ บาง
มาตราหา มไวโดยเฉพาะ

คมู่ อื ครู 169

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

ครูนําขาวอาชญากรรมจากหนงั สอื พิมพร ายวัน ทรัพย์สินซ่ึงจ�านองออกขายทอดตลอด แต่ได้จ�านวนเงินสุทธิน้อยกว่าจ�านวนหน้ีท่ีค้างช�าระ
มาใหน กั เรยี นอภิปรายถึงเหตุการณท เ่ี กิดข้ึน ตามหลักลกู หน้ีไม่ตอ้ งรับผดิ ชอบในเงินทย่ี งั ขาดอยู่ตอ่ เจา้ หนี้
วิเคราะหถ งึ สาเหตุ ผลท่เี กดิ ข้ึนจากเหตกุ ารณ
ตอ ผถู ูกกระทาํ และผูทีก่ ระทํา รวมถงึ ผลกระทบ ๔. กฎหมายอาญา
ตอ สังคม แลวครูถามคําถาม เชน
กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่เก่ียวกับความผิดและโทษ โดยก�าหนดว่าการกระท�าใดบ้าง
• ผกู อเหตุการณด ังกลาวมคี วามผดิ อยางไร เปน็ ความผดิ ซ่งึ ผ้กู ระทา� จะได้รบั ผล คอื โทษติดตามมา กฎหมายอาญามีความมุ่งหมายโดยตรง
และไดร บั บทลงโทษตามกฎหมายอยา งไร ท่ีจะคุ้มครองผลประโยชน์ของส่วนรวม โดยควบคุมมิให้บุคคลกระท�าการอันเป็นภัยต่อผู้อ่ืนหรือ
เตงอ่ ินสตงั รคาม1เปเพ็นื่อตร้นกั ษาความสงบเรยี บร้อยในสงั คม เชน่ ควบคุมมใิ หท้ �าร้ายผอู้ ่ืน ควบคมุ มิใหป้ ลอม
สา� รวจคน้ หา Explore
การท�าร้ายผู้อ่ืนย่อมท�าให้ผู้ถูกท�าร้ายคิดแก้แค้นเอากับผู้ท�าร้าย เป็นชนวนให้ใช้ก�าลัง
1. นกั เรียนศกึ ษาความรูเกย่ี วกับกฎหมายอาญา ขม่ เหงกนั และเกิดความว่นุ วายข้ึนในสังคม ส่วนการปลอมเงนิ ตราย่อมท�าให้เศรษฐกจิ ของสังคม
ในประเด็น ความผิดและโทษ ความรับผิดทาง ปัน่ ปว่ นได้ ผกู้ ระทา� การเหล่านี้จึงต้องได้รบั โทษเพ่อื ให้ร้สู �านกึ ผิด และเพ่อื ปรับปรุงใหเ้ ขาเปน็ คนดี
อาญา ความผิดทางอาญา จากหนังสือเรยี น ตอ่ ไป
หนา 170-174 และจากแหลง การเรียนรอู ่ืนๆ
กฎหมายอาญาจึงมีความส�าคัญต่อชีวิตประจ�าวันของเรา เพราะนอกจากจะช่วยให้เรา
2. นกั เรียนศึกษากรณตี วั อยางเกย่ี วกับคดีอาญา ด�ารงชีวิตอยู่ในสังคมได้โดยปกติสุขแล้ว ยังจะช่วยให้เราไม่กระท�าการอันเป็นภัยต่อสังคม ซ่ึงจะ
ทีไ่ ดมีการพจิ ารณาตดั สินความผดิ แลว เพอื่ เปน ท�าให้เราต้องรับโทษอกี ดว้ ย
ขอ มูลในการศกึ ษาความผิดทางอาญา
และศกึ ษาคน ควาเก่ยี วกับคดีทางอาญา ความมุ่งหมายของกฎหมายอาญาต่างกับกฎหมายแพ่ง เพราะกฎหมายแพ่งมุ่งคุ้มครอง
ทีเ่ ปนคดดี ํา ยงั ไมมกี ารตดั สนิ ความผิด ผลประโยชน์ของเอกชน การกระท�าซ่ึงผิดท้ังกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง เช่น การท�าร้าย
เพือ่ นํามาอภิปรายความผดิ รา่ งกายผอู้ นื่ แตจ่ ะมผี ลตา่ งกนั โดยโทษตามกฎหมายอาญา อาจเปน็ โทษจา� คกุ หรอื เสยี คา่ ปรบั ใหร้ ฐั
แต่ถ้าโทษตามกฎหมายแพ่ง ผู้ท�าร้ายจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถูกท�าร้าย เช่น ค่ารักษา
3. ครูใหนักเรยี นแบง กลุม เพื่อศกึ ษาความผิด พยาบาลและคา่ เสยี หายทผ่ี ถู้ กู ทา� รา้ ยควรจะไดร้ บั เนอื่ งจากการทา� งานไมไ่ ดร้ ะหวา่ งบาดเจบ็ เปน็ ตน้
ทางอาญา กลมุ ละ 1 กรณีศกึ ษา เพอ่ื นํามา
อภปิ รายความผิดทางอาญา ๔คว.า๑ม ผคดิ 1วแลาะมโทผษดิ เปแ็นลสาะรโะทสา�ษคญั ของกฎหมายอาญา หมายถึง การกระทา� ใดท่ีกฎหมายได้

ระบุว่าเป็นการกระท�าท่ีเป็นความผิด ซ่ึงผู้กระท�าจะต้องได้รับโทษเป็นผลตามมา บุคคลจะมี
ความผิดและจะต้องได้รับโทษส�าหรับการกระท�าอย่างใดนั้น ต้องมีบัญญัติไว้ในกฎหมายเป็น
ลายลักษณ์อักษรในเวลาขณะที่เขากระท�า ดังนั้น จะจัดท�ากฎหมายให้มีผลย้อนหลังเพื่อ
ใหก้ ารกระท�าของบคุ คลซ่ึงขณะกระทา� ไมเ่ ป็นความผดิ และไมม่ ีโทษ กลบั กลายเปน็ มีความผดิ และ
โทษขึน้ มาไม่ได้

1๗0

นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
กฎหมายอาญามีลักษณะสําคญั อยา งไร
1 ปลอมเงนิ ตรา ตามประมวลกฎหมายอาญาไดกําหนดโทษของการปลอมเงินตรา แนวตอบ กฎหมายอาญาเปนกฎหมายท่รี วมเอาลักษณะความผดิ
ไวใ น มาตรา 240 วา ผูใดทาํ ปลอมขน้ึ ซ่ึงเงนิ ตรา ไมว า จะปลอมขึ้นเพอ่ื ใหเปนเหรยี ญ ตา งๆ และกาํ หนดบทลงโทษมาบญั ญตั ขิ ้นึ มีจุดประสงค
กษาปณ ธนบตั รหรอื สง่ิ อ่นื ใด ซงึ่ รฐั บาลออกใชห รอื ใหอ ํานาจใหออกใช หรือทํา เพ่อื คมุ ครองผลประโยชนสว นรวม รกั ษาความสงบเรียบรอ ยภายใน
ปลอมขึ้น ซ่ึงพันธบัตรรฐั บาลหรือใบสาํ คัญสาํ หรับรับดอกเบ้ียพันธบัตรน้ันๆ ผนู ้ัน สังคม เพอ่ื ควบคุมไมใหมกี ารกระทาํ ทีม่ ผี ลกระทบกระเทอื น
กระทาํ ความผดิ ฐานปลอมเงินตรา ตองระวางโทษจาํ คกุ ตลอดชวี ติ หรือจําคุกตงั้ แต ตอ สงั คม หรอื คนสว นใหญข องประเทศ เชน ควบคมุ เพอื่ ไมใ หม กี าร
สิบป ถึงย่ีสบิ ป และปรับต้งั แตส องหมนื่ บาท ถงึ สี่หมืน่ บาท ทํารายรา งกายผูอืน่ ไมใหมกี ารประทษุ รา ยรางการและทรัพยส นิ
2 ความผดิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 มสี าระสาํ คัญวา “ความไมร จู ัก ของผอู นื่ หากผใู ดมกี ารกระทาํ ความผดิ ดงั กลา วจะไดร บั การลงโทษ
กฎหมาย ไมเ ปน ขอแกตวั ” ซงึ่ ถามกี ารกระทาํ ความผดิ ตามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิไว ตามท่กี ฎหมายกาํ หนด เปน ตน
ผนู น้ั ตอ งไดรบั โทษ จะอางวาไมร กู ฎหมายมไิ ด เพราะจะทําใหท กุ คนใชเ หตผุ ลนี้
เปนขอ อา ง เพื่อใหต นพน ผิด การบงั คบั ใชกฎหมายกจ็ ะไมเปนผล

170 ค่มู ือครู

กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๔.๒ การกระทาำ และสภาพจติ ใจ 1. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายถึงความสาํ คัญของ
กฎหมายอาญา และสภาพสงั คมหากไมมี
การกระท�าและสภาพจิตใจเป็นสาระส�าคัญของความผิดทางอาญา เพราะการมีความผิด กฎหมายอาญาควบคมุ และวิเคราะหค วาม
เกิดข้ึน อันเป็นเหตุให้บุคคลต้องรับโทษน้ัน จะต้องมีการกระท�าตามท่ีกฎหมายบัญญัติไว้ ความแตกตา งระหวางกฎหมายอาญากบั
ประกอบกับสภาพจิตใจตามที่กฎหมายต้องการ กฎหมายแพง และอภปิ รายถึงการกระทาํ
ที่มีลักษณะของความผดิ ทางอาญา
๑) การกระทา� ได้แก่ การเคลือ่ นไหวอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกายตามความต้องการ พรอมยกตวั อยางประกอบการอภิปราย

ของจิตใจและปรากฏออกมาภายนอก การคิดอยู่ในใจไม่วา่ จะชว่ั รา้ ยเพียงใดกต็ ามหรือแม้แต่การ 2. ครูและนักเรียนอภิปรายถงึ ความผดิ ทางอาญา
เคลื่อนไหวร่างกายซึ่งจิตใจบังคับไม่ได้ เช่น ระหว่างละเมอหรือเป็นลมบ้าหมู หรือเคล่ือนไหว พรอมทัง้ ยกตัวอยา งประกอบ
เพราะมผี ้อู ่ืนทา� ให้เคล่อื นไหวจนขัดขนื ไมไ่ ด้กไ็ ม่นับวา่ เป็นการกระท�า (แนวตอบ ความผดิ ทางอาญา เปนการกระทาํ
ทีม่ ผี ลกระทบตอสังคมหรอื คนสว นใหญ
นอกจากน้ี การกระท�ายังรวมถึงการให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น โดยงดเว้น ในสงั คม ผูท กี่ ระทาํ ความผดิ จะตองไดร ับโทษ
การที่ต้องกระท�าเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย เช่น บิดามารดามีหน้าท่ีตามกฎหมายต้องเลี้ยงดูบุตร ตามกฎหมายมากนอยเพยี งใดน้นั ข้ึนอยกู ับ
ซง่ึ ยงั เลก็ อยู่ ถา้ งดเวน้ เสยี ไมเ่ ลย้ี งดบู ตุ รโดยไม่ใหอ้ าหารเพอ่ื ใหบ้ ตุ รตาย หากบตุ รตาย บดิ ามารดา ความรายแรงของการกระทําความผิดนั้น
ย่อมมคี วามผดิ ฐานฆ่าบุตร เป็นต้น กรณตี วั อยา ง เชน นายขาวทะเลาะกบั นายดํา
นายขาวบันดาลโทสะใชไ มต ศี ีรษะนายดําแตก
๒) สภาพจิตใจ ปกติบุคคลผู้กระท�าการซ่ึงกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด นายดําไปแจง ความตอ เจาหนาที่ตํารวจให
ดาํ เนนิ คดกี ับนายขาวในขอหาทาํ รา ยรา งกาย)
จะต้องกระท�าโดยเจตนาให้เกิดผลจึงจะเกิดความผิดข้ึน ผู้กระท�ามีเจตนาที่จะกระท�าหรือไม่น้ัน
จะทราบได้โดยดูจากลักษณะการกระท�าของเขาเอง เช่น ใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงคนตรง
อวยั วะส�าคัญ ถอื ว่ามเี จตนาฆ่า เปน็ ต้น

ส�าหรับความผิดบางอย่างซ่ึงเกิดจากการท่ีกฎหมายต้องการให้บุคคลใช้ความ
ระมัดระวังเพ่ือไม่ให้เกิดผลร้ายขึ้น กฎหมายจะก�าหนดว่าเป็นความผิดถ้ากระท�าโดยประมาท
นอกจากนี้ ยังมีความผิดบางอย่างท่ีกฎหมายถือว่าผิด แม้เพียงแต่มีการกระท�าในลักษณะที่
กฎหมายระบุไว้เท่าน้ันก็จะต้องรับผิด โดยไม่ค�านึงว่าจะกระท�าโดยเจตนาหรือไม่ เช่น ความผิด
ท่ีมีโทษเบาหรือความผดิ ลหโุ ทษ เป็นตน้

๔.๓ ความรบั ผิดทางอาญา

บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญา ต่อเมื่อได้กระท�าการซ่ึงกฎหมายที่ใช้ในขณะกระท�าน้ัน
บัญญัติเป็นความผิดและก�าหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระท�าความผิดจะต้องเป็นโทษ
ทบี่ ัญญตั ิไว้ในกฎหมาย หลักการน้มี ีอยู่ทั้งในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒ ซง่ึ ท�าใหไ้ มอ่ าจ
ออกกฎหมายเพอ่ื เอาผดิ และลงโทษทางอาญาย้อนหลังได้เพราะเปน็ โทษแก่บุคคล

แต่ถ้ามีกฎหมายออกมาภายหลัง อันเป็นคุณแก่ผู้กระท�ามากกว่า เช่น ยกเลิกความผิด
หรือกา� หนดโทษเบากวา่ สา� หรับความผิดนัน้ สามารถน�ามาใชย้ อ้ นหลังได้

1๗1

ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู

การกระทาํ ในขอ ใดถอื เปน ความผิดทางอาญา ครูอธิบายความรเู พ่มิ เติมเก่ยี วกับความผดิ ทางอาญาซึ่ง เปน ความผดิ ที่เกดิ จาก
1. ไมช าํ ระหนีบ้ ัตรเครดิตตามกาํ หนด การกระทําท่มี ีผลกระทบกระเทอื นตอสังคมหรอื คนสว นใหญข องประเทศ ผูก ระทาํ
2. พลัง้ มือทาํ กระถางตน ไมของเพ่ือนบานแตก ความผิด จะตองไดรับโทษตามกฎหมาย ขึน้ อยกู บั ความรา ยแรงของการกระทํา
3. เตะฟตุ บอลไปโดนรถยนตจ นเกดิ รองรอยเสียหาย ความผดิ ความผดิ อาญาแบง ออกเปน 2 ลกั ษณะ คอื
4. แอบหยิบขนมออกจากรา นสะดวกซอื้ เพราะไมอ ยากเสยี เงนิ
ความผิดตอแผน ดนิ หมายถงึ ความผดิ ในทางอาญา ซ่ึงนอกจากการกระทาํ น้ัน
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะถือเปน การลกั ทรัพย จะมผี ลตอตวั ผถู กู กระทาํ แลว ยงั มีผลกระทบทีเ่ สียหายตอ สังคมอกี ดว ย และรฐั ตอ ง
ปอ งกนั สงั คมเอาไวดว ยการเขา มาเปนผูเสยี หายเอง ดังนน้ั แมผูรบั ผลรายจากการ
ซงึ่ มคี วามผิดตามกฎหมายอาญา และถงึ แมว าเจาของทรพั ยจ ะไม กระทาํ โดยตรงจะไมติดใจเอาความ แตก ็ยังตองเขา ไปดาํ เนนิ คดีฟองรอ งเอาตวั
ตดิ ใจเอาความก็ยงั คงมคี วามผดิ อยู สวนในขอ อื่นๆ เปน ลักษณะ ผกู ระทาํ ผดิ มาลงโทษใหได
ความผิดทางแพง ทั้งหมด
ความผดิ อนั ยอมความกนั ได หมายถงึ ความผิดในทางอาญาซงึ่ ไมม ผี ลราย
กระทบตอ สังคมโดยตรง หากตวั ผรู บั ผลรายไมตดิ ใจเอาความแลว รัฐกไ็ มอาจ
ยนื่ มือเขา ไปดําเนนิ คดกี บั ผูกระทาํ ความผดิ ได และถึงแมจ ะดาํ เนินคดีไปแลว
เมื่อตัวผเู สยี หายพอใจยตุ คิ ดีเพียงใดกย็ อมทาํ ไดดวยการถอนคํารอ งทกุ ข ถอนฟอ ง
หรือยอมความ เชน ความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท ความผิดเกยี่ วกับเสรีภาพ เปน ตน

คู่มือครู 171

กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

ครูใหนกั เรียนชว ยกันบอกโทษทางอาญา วา มี ประมวลกฎหมายอาญาภาคหนง่ึ เปน็ บทบญั ญตั ทิ ว่ั ไปและสามารถนา� ไปใชก้ บั กฎหมายอาญา
กี่ระดบั และโทษในแตล ะระดบั มลี กั ษณะอยางไร
ฉบบั อน่ื ได้ เวน้ แตก่ ฎหมายนนั้ จะกา� หนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอน่ื โดยได1ก้ า� หนดวา่ โทษทางอาญามี ๕ อยา่ ง
(แนวตอบ โทษทางอาญา มี 5 อยาง เรยี งลาํ ดบั ไดแ้ ก่ ประหารชวี ติ จา� คกุ กกั ขงั ปรบั และรบิ ทรพั ยส์ นิ
จากโทษระดับหนักท่ีสดุ ไปถงึ โทษระดบั เบาทส่ี ดุ
ไดแ ก เรยี งตามล�าดับต้งั แต่โทษหนักทส่ี ดุ ลงมา กฎหมายใด

1. ประหารชีวติ ที่ก�าหนดว่าผู้กระท�ามีความรับผิดเป็นโทษอย่างใด
2. จาํ คกุ คือ นําตัวไปขงั ไวท ่เี รือนจาํ
3. กกั ขัง คือนําตวั ไปขงั ไว ณ ทีอ่ ่ืน ท่ไี มใ ช อย่างหนง่ึ ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นกฎหมายทางอาญา

เรือนจาํ เชน นาํ ไปขังไวที่สถานตี าํ รวจ การกระท�าความผิดในบางกรณี แม้จะกระท�า
4. ปรับ คือ นําคา ปรบั ซง่ึ เปนเงินไปชาํ ระใหแ ก
นอกดินแดนไทยก็ถือเป็นความผิดต่อราชอาณาจักร
เจาพนกั งาน
5. รบิ ทรพั ยสนิ คือ รบิ เอาทรพั ยส ินน้ันเปน ไทย เชน่ ท�าในเรือไทย อากาศยานไทย เปน็ ตน้

ของหลวง เชน ริบทรัพยสนิ ของผูค า เจ้าหน้าท่ีตำารวจมีหน้าที่จับกุมผู้ท่ีกระทำาผิด บคุ คลตอ้ งรบั ผดิ ทางอาญาแมก้ ระทา� ไมค่ รบถว้ น
ยาเสพติด เปน ตน) กฎหมาย และสามารถยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน ตามเจตนา เรียกว่า “พยายามกระท�าความผิด” ซ่งึ จะ
ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา ได้รับโทษในสัดส่วนท่ีน้อยกว่ากระท�าความผิดส�าเร็จ

ตามเจตนา ผ้รู ว่ มกระท�าความผิด หากรว่ มมือร่วมใจในการกระท�าโดยการเปน็ “ตัวการ” จะตอ้ ง

ได้รับโทษเช่นเดียวกับตัวการอื่น แต่ถ้าเป็นเพียง “ผู้สนับสนุน” คือ เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือ

หรอื อ�านวยความสะดวกในการกระทา� ความผดิ ก่อนหรือขณะกระท�าจะได้รับโทษในอัตราที่ลดลง

ทัง้ นีผ้ ูม้ สี ่วนกอ่ ให้ผอู้ ื่นท�าความผิดจะได้รับโทษตามทีก่ ฎหมายก�าหนด บางครั้งการกระท�า

อาจไม่เป็นความผิด เช่น การกระท�าเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือของผู้อื่นให้พ้นจาก

ภัยอันตราย ซ่ึงเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภัยอันตรายท่ีใกล้จะถึง

โดยกระท�าพอสมควรแก่เหตุ การกระท�าน้ันเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้กระท�า

ไม่มีความผิดหรือได้รับยกเว้นโทษ เช่น กระท�าความผิดด้วยความจ�าเป็น เพราะอยู่ในที่บังคับ

หรือภายใต้อ�านาจอันไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือเพราะเพ่ือให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจาก

ภัยอันตรายทใี่ กล้จะถงึ และไมส่ ามารถหลกี เลีย่ งใหพ้ น้ โดยวิธอี ืน่ ใดได้ เม่ือภยั อนั ตรายนั้นตนมไิ ด้

ก่อใหเ้ กดิ ข้ึนเพราะความผิดของตน

๔.๔ ความผิดทางอาญา

ความผิดทางอาญาทีค่ วรรู้ ไดแ้ ก่

๑) ความผดิ ตอ่ ชวี ติ และตอ่ รา่ งกาย ใหค้ วามคมุ้ ครองตอ่ สทิ ธใิ นรา่ งกายของบคุ คล

หน่ึงๆ ไม่ให้ถูกประทุษร้ายโดยผู้อ่ืน และขณะเดียวกันผู้นั้นต้องไม่ประทุษร้ายผู้อื่นด้วย ฉะนั้น

จึงจดั ใหเ้ ป็นกฎหมายเกย่ี วกบั ตนเอง

1๗2

เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การกระทาํ อยางไรเปน ความผดิ ทางอาญาที่มีโทษเบา จาํ คกุ
ครเู พ่มิ เตมิ วา บคุ คลจะตองไดร บั โทษทางอาญาตอ เมอ่ื ไมเ กนิ 1 เดือน หรอื ปรบั ไมเ กิน 1,000 บาท หรือท้ังจาํ ทง้ั ปรบั
1. การกระทําอนั กฎหมายทใี่ ชใ นขณะกระทํานนั้ บัญญัตเิ ปน ความผิด 1. ชิงทรพั ย
2. กฎหมายทใี่ ชใ นขณะนนั้ ตองกาํ หนดโทษไวด วย การลงโทษตอ งเปน โทษ 2. ฆาคนตาย
3. ดหู มิน่ ซึ่งหนา
ทีก่ ําหนดไวใ นกฎหมาย เชน กฎหมายกาํ หนดโทษปรับ ศาลจะตดั สนิ ลงโทษ 4. หม่ินประมาท
จําคกุ ไมไ ด หรือแมศาลจะลงโทษปรบั ศาลก็ลงโทษปรับเกนิ อัตราขั้นสูง วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. ความผดิ ทางอาญาทมี่ โี ทษเบา
ที่กฎหมายกาํ หนดไวไมได หรอื ความผดิ ลหุโทษ เชน การดหู มิน่ ซง่ึ หนา การสง เสยี งดงั รบกวน
ผอู ื่น ทาํ ใหผอู ่ืนขดั ยอกหรอื ฟกชํา้ สวนความผิดฐานฆา คนตาย
นักเรยี นควรรู ชิงทรัพย เปน ความผิดตอ รางกาย เปนอาญาแผนดนิ ซึ่งถือเปน
ความผดิ ทย่ี อมความกันไมได
1 ประหารชวี ติ ปจจบุ นั กระทรวงยตุ ิธรรมไดป รับเปล่ียนการประหารชวี ิตนกั โทษ
จากการยงิ เปา มาเปน การฉีดยาหรอื ฉดี สารพษิ เขาสรู างกายใหเสียชีวติ แทน
ตามแบบอยางในหลายประเทศ โดยใชน บั ตั้งแต พ.ศ. 2546 เปน ตนมา

172 คมู่ ือครู

กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

๑.๑) ความผิดต่อชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ 1เรียกว่า 1. ครนู ําสนทนาเกีย่ วกับความผิดทางอาญา
พรอมยกตัวอยางกรณีศึกษาความผิด
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือบางทีก็เรียกว่า ความผิดฐานฆ่าผู้อ่ืน คือ การท�าให้ผู้อื่น ทางอาญา จากนนั้ ครูถามคําถาม
• บคุ คลจะตอ งรบั ผดิ ทางอาญาเมอื่ ใด
ซ่งึ มีสภาพเปน็ บุคคลแลว้ ถึงแกค่ วามตายโดยเจตนานั่นเอง (แนวตอบ บุคคลจะตอ งรบั ผิดทางอาญาและ
ไดรับการลงโทษเมื่อเปนการกระทํา ดังนี้
การฆ่าจะกระท�าโดยวิธีใดไม่ส�าคัญ ความผิดน้ีเกิดข้ึนเม่ือผู้ถูกกระท�าถึงแก่ - เปนการกระทาํ โดยเจตนา
- การกระทาํ ทไ่ี มเจตนา แตต องเปน ไปตาม
ความตาย ถา้ ลงมือฆา่ แลว้ เขาไม่ตาย กเ็ ปน็ เพียงการพยายามฆา่ เทา่ นัน้ ซ่ึงมโี ทษเบากวา่ ท่กี ฎหมายบญั ญัติ โดยแจง ชัดใหร บั ผิด
แมก ระทําโดยไมเ จตนา
การฆ่าผู้อื่นในบางกรณีกฎหมายถือว่าร้ายแรงเป็นพิเศษและก�าหนดให้ผู้กระท�า - กระทําโดยประมาท แตต องเปน กรณี
ทีก่ ฎหมายบัญญัติใหตองรับผิดเมอ่ื ได
ต้องระวางโทษประหารชีวิตอย่างเดียวเท่าน้ัน เช่น ฆ่าบิดาหรือมารดาของตน ฆ่าเจ้าพนักงาน กระทาํ โดยประมาท การกระทํา
โดยประมาท คือ การกระทําความผิด
ในขณะกระท�าตามหน้าท่ี เป็นต้น แต่การฆ่าผู้อื่นที่กฎหมายให้ท�าได้ เช่น การประหารชีวิต มใิ ชโ ดยเจตนา แตก ระทําโดยปราศจาก
ความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเชนนนั้
การฆ่าข้าศึกของประเทศในการรบยอ่ มไม่เป็นความผิด เปน็ ต้น จะตองมตี ามวสิ ยั และพฤติการณ
และผูกระทาํ อาจใชค วามระมัดระวัง
การไม่ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอหรือประมาทจนเป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ เชนวานไ้ี ด แตห าไดใ ชใหเ พียงพอไม)

ความตายก็เป็นความผิดเช่นกัน แสดงว่ากฎหมายคุ้มครองชีวิตของบุคคลไม่เฉพาะแต่จากการ 2. ครยู กกรณีศึกษาเก่ยี วกับการกระทําตางๆ
ใหนกั เรยี นชว ยกันบอกวา การกระทาํ ดังกลา ว
กระท�าโดยตงั้ ใจของผ้อู ่นื เท่านน้ั หากรวมถงึ การกระทา� โดยไม่ใชค้ วามระมดั ระวังให้เพียงพอดว้ ย ผิดกฎหมายอาญาหรอื ไม และเปน การกระทํา
โดยเจตนา การกระทําโดยไมเ จตนา หรือเปน
๑.๒) ความผิดต่อรา่ งกาย ประมวลกฎหมายอาญาให้ความคุ้มครองตอ่ ร่างกาย การกระทําโดยประมาท ยกตัวอยา ง เชน
นอยหนาทะเลาะกับลําไย นอยหนา พดู เถียงสู
ของบุคคล โดยบัญญัติให้การท�าร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายเป็นความผิดฐานท�าร้าย ลําไยไมไ ด จึงตบหนาลาํ ไย 1 ที นอ ยหนา
มคี วามผดิ ทางอาญา ฐานทาํ รา ยรางกาย
ร่างกาย การทา� ร้ายอาจเปน็ การท�าใหร้ ่างกายเปน็ อนั ตราย เช่น บาดเจ็บ แตกหัก บบุ สลาย หรือ โดยเจตนา

ท�าให้จิตใจเป็นอันตราย หมายถึง การกระท�าท่ีมีผลกระทบต่อการส่ังการของสมอง เช่น

ใสย่ ากดประสาทในเครือ่ งดื่มให้ผอู้ ืน่ กินจนท�าใหห้ มดสติ หรือเสยี สติกไ็ ด้

การท�าร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ เช่น

ท�าให้ขัดยอกหรือฟกช�้า เป็นเพียงความผิดลหุโทษ แต่ถ้าการท�าร้ายร่างกายนั้นเป็นเหตุให้ผู้อ่ืน

ได้รับอันตรายสาหัส เช่น เป็นเหตุให้บุคคลตาบอด หูหนวก เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรือ

เสยี ความสามารถในการสบื พนั ธ์ุ ผกู้ ระทา� จะตอ้ งไดร้ บั โทษหนกั กวา่ การกระทา� ความผดิ ฐานทา� รา้ ย

รา่ งกายธรรมดา หรือถา้ เป็นเหตุให้บุคคลนนั้ ตาย ผ้กู ระท�าก็ต้องรับโทษหนกั ขนึ้
๒) ความผิดต่อทรัพย์สิน กฎหมายอาญาให้ความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินของ
บุคคลไว้หลายกรณี โดยการเอาผิดและลงโทษการกระท�าที่เป็นการรบกวนสิทธิในทรัพย์สินของ

เขาโดยมชิ อบท่สี า� คญั ไดแ้ ก่ 2ประมวลกฎหมายอาญาเอาผิดกับผู้ซึ่งเอาทรัพย์
๒.๑) ความผิดฐานลักทรัพย์

ของผ้อู ่ืนหรือท่ผี ้อู ่ืนเปน็ เจ้าของรวมอยู่ดว้ ยไปโดยทุจริต ซง่ึ กระท�าได้แตก่ บั สงั หาริมทรพั ย์เท่าน้นั

เชน่ ขดุ ดินในทขี่ องผอู้ ืน่ โดยไม่ไดร้ ับอนุญาตแล้วขนดนิ นัน้ ไปขายเสีย เอากระแสไฟฟ้าของผู้อ่ืน

ไปใช้โดยทจุ ริต เปน็ ต้น

1๗3

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นักเรยี นควรรู

นายมงั คุดมอี าชีพเปน ชา งตัดเย็บเส้อื ผา มอื ถือกรรไกรตัดผา 1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ผูใดฆาผูอ ื่น ตอ งระวางโทษประหารชวี ิต
หยอกลอ กบั นางลําไยซ่ึงเปนภรรยาดวยความรัก กรรไกรเกิดหลุดมอื จาํ คุกตลอดชีวติ หรือจําคุกต้งั แตสบิ หาป ถึงยสี่ ิบป
กระเด็นไปโดนประตูแลวสะทอ นมาโดนขอ เทา ของนางลําไย 2 ลกั ทรพั ย คือ การเอาทรัพยของผูอื่นไป โดยท่ีเจา ของไมยนิ ยอมแมตอ มาเจา ของ
ถูกเสน เลือดใหญขาด เลอื ดไหลไมหยดุ ทําใหน างลาํ ไยถึงแก จะสงสารไมต ิดใจเอาความ ก็ยังคงเปน ความผดิ ฐานลกั ทรพั ยเพราะเปน ความผดิ
ความตาย ทางอาญาทไี่ มสามารถยอมความกันได
กรณดี งั กลา ว นายมงั คุดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
หรอื ไม เพราะเหตุใด มุม IT
แนวตอบ นายมงั คุดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐาน
กระทาํ ใหค นตายโดยประมาท เนอื่ งจากการกระทาํ ของนายมังคดุ ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เติมเกี่ยวกบั ประมวลกฎหมายอาญา ไดท ่ี
เปนการกระทําโดยปราศจากความระมดั ระวงั http://web.krisdika.go.th/data/law/law4

คูม่ ือครู 173

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore
Explain Explain Expand Evaluate
อธบิ ายความรู้

ครูยกตัวอยางกรณศี ึกษาความผิดทางอาญา
ทเี่ ปนความผิดตอ ทรัพยสิน ใหน ักเรียนรว มกัน
อภปิ รายความผดิ เกีย่ วกับทรัพย ๒.๒) ความผิดอย่างอ่ืนซึ่งเก่ียวเน่ืองกับความผิดฐานลักทรัพย์ ประมวล
กฎหมายอาญาบญั ญตั คิ วามผดิ ตอ่ ทรพั ยห์ ลายฐาน ซงึ่ เกดิ จากการลกั ทรพั ยโ์ ดยมเี งอ่ื นไขอยา่ งอนื่
(แนวตอบ ตัวอยางความผิดทางอาญาทเี่ ปน เพมิ่ ข้นึ ไดแ้ ก่
ความผิดตอ ทรัพยส นิ เชน
๑. ว่งิ ราวทรพั ย์ คือ การลกั ทรัพยโ์ ดยการฉกฉวยเอาทรัพยน์ ั้นไปซ่งึ หน้า
การลกั ทรัพย ซงึ่ การลักทรพั ย คอื การเอา ของเจา้ ของทรัพย์ ซึ่งถือว่าเปน็ การกระท�าท่อี กุ อาจกวา่ ลักทรัพย์ตามธรรมดา
ทรพั ยข องผูอืน่ หรือทผ่ี อู ื่นเปนเจาของรวมอยูด วย
ไปโดยตองการจะครอบครองทรัพยน้นั ไว เพ่ือตนเอง ๒. ชงิ ทรพั ย์ คอื การลกั ทรพั ยโ์ ดยใชก้ า� ลงั ประทษุ รา้ ยหรอื ขเู่ ขญ็ วา่ ในทนั ใด
เอาไปขายหรอื ใหกับบุคคลอน่ื ก็ตามแต ผทู ่กี ระทาํ โดยการใชก้ �าลังประทุษร้ายเพ่อื ใหไ้ ด้ทรพั ย์ไป หรือเพื่อปกปดิ การลกั ทรัพยน์ ั้น หรือเพอ่ื ใหพ้ ้นจาก
ความผิดฐานลกั ทรพั ยจะตองถูกระวางโทษไมเ กิน การจับกุมซึ่งถือว่าเปน็ การกระท�าที่รนุ แรงกวา่ ลักทรัพยต์ ามธรรมดา
3 ป และปรับไมเ กนิ 6 พันบาท
๓. ปล้นทรพั ย์ คือ การชงิ ทรัพย์โดยร่วมกนั กระท�าความผิดด้วยกัน ตัง้ แต่
การยกั ยอกทรพั ย คือ การท่ีทรพั ยนน้ั ไดต กมา ๓ คนขน้ึ ไป ซึง่ ถือว่ารุนแรงกว่าการชงิ ทรพั ยข์ ้นึ ไปอีก
อยูใ นความครอบครองของบุคคลหนงึ่ แลวบุคคลนนั้
ไดยดึ ไวเ พ่ือเปน ประโยชนกบั ตนเอง ซงึ่ ทําใหเจา ของ ๒.๓) ความผดิ ฐานยกั ยอก ความผดิ ฐานยกั ยอกตา่ งจากความผดิ ฐานลกั ทรพั ย์
ทรัพยไ ดร ับความเสียหาย เชน เพราะความผิดฐานลักทรัพย์เป็นการเอาทรัพย์ไปจากการครอบครองของผู้อ่ืน แต่ความผิดฐาน
นายดาํ ยืมคอมพิวเตอรโ นตบกุ ของนายเขยี วไวใช ยกั ยอกเปน็ การเบยี ดบงั ทรพั ยข์ องผอู้ น่ื หรอื ทผ่ี อู้ น่ื เปน็ เจา้ ของรวมอยดู่ ว้ ย ซงึ่ อยใู่ นความครอบครอง

แตเหน็ วา ใชง านไดดีจงึ ไมค นื ในกรณเี ชน นี้ นายดาํ ของผู้กระท�าผิดเอง เช่น มีผู้ฝากหนังสือของเขาไว้กับผู้กระท�าความผิด แล้วผู้กระท�าความผิด
มีความผิดฐานยักยอกทรพั ย ซง่ึ จะตองถกู ระวาง
โทษไมเ กิน 3 ป หรอื ปรับไมเ กนิ 2 พันบาท เอาไปขายใหผ้ อู้ ่นื เพื่อเอาเงินคา่ หนังสอื นนั้ เสีย เปน็ ตน้
หรือทงั้ จําท้งั ปรบั ) ๒.๔) ความผิดอ่ืนที่เก่ียวกับทรัพย์สิน นอกจากความผิดที่ส�าคัญดังกล่าว

มาแลว้ ประมวลกฎหมายอาญายังไดบ้ ญั ญตั คิ วามผดิ ต่อทรัพยส์ ินไว้อกี หลายอย่าง เชน่ ความผดิ
ฐานฉ้อโกงเป็นการหลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป ความผิดฐานท�าให้เสียทรัพย์เป็นการท�าลาย

ขยายความเขา้ ใจ Expand ทรัพย์ของผู้อ่ืนหรือท�าให้ทรัพย์ของผู้อ่ืนเสียหาย ความผิดฐานบุกรุกเป็นการเข้าไปเพื่อถือ
รกบัารขคอรงอโจบรคเ1รปอน็ งกหารรชอื รว่ บยรกบัวนทกรพัารยคท์ รไ่ีอดบม้ คารจอางกอกสางั รหการระมิททา� ครพัวายมข์ ผอดิงผเกอู้ ยี่ น่ื วโกดบัยทปรกพัตยสิ ข์ขุ อแงลผะอู้ คน่ื วไาวม้ เผปดิ น็ ฐตาน้น
ครูใหนักเรยี นจบั คยู กตัวอยางกรณีศกึ ษา
เก่ียวกับความผิดทางอาญา คูละ 2 กรณศี ึกษา ๕. กฎหมายอื่นที่ควรรู้
ใหว ิเคราะหความผิดและผลกระทบตอสังคมวา
หากเกิดเหตกุ ารณด งั กลา วในสงั คมแลวไมมกี าร นอกจากกฎหมายแพ่งและกฎหมายที่เก่ียวข้องกับสภาพบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องท่ีใกล้ตัว
ลงโทษผกู ระทาํ ความผดิ จะกอใหเกดิ ผลอยา งไร เราเอง และกฎหมายอาญาซ่ึงเก่ียวกับการกระท�าอันเป็นความผิดและเป็นผลให้ผู้กระท�าจะต้อง
บนั ทึกสาระสาํ คัญ พรอมท้งั ใหนักเรียนในช้ัน ได้รับโทษ เน่ืองจากกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยของส่วนรวม รวมทั้งกฎหมาย
ชวยกันอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ แพ่งเก่ียวกับเร่ืองสัญญาซ่ึงมีเนื้อหาว่าด้วยการผูกความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างบุคคลแล้ว
ยังมีกฎหมายอื่นที่สมควรรู้ เพ่ือให้สามารถพัฒนาตนเองและสามารถสร้างความม่ันคงให้แก่

ตรวจสอบผล Evaluate ตนเองและสว่ นรวมได้ ดงั น้ี

ครตู รวจสอบความถกู ตอ งจากบันทึก 1๗4
การวเิ คราะหความผิดทางอาญา และประเมิน
การนาํ เสนอผลงานหนาช้ันเรยี น ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT

นกั เรียนควรรู

1 รบั ของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ไดก าํ หนดลักษณะการ ความผิดฐานยักยอกทรัพยม ีลักษณะอยางไร
กระทําผดิ และโทษจากการกระทําผิดวา ผูใดชวยซอ นเรน ชว ยจาํ หนาย ชว ยพาเอา 1. ลกั ทรพั ยโดยฉกฉวยซ่ึงหนา
ไปเสีย ซ้อื รบั จาํ นาํ หรือรับไวโ ดยประการใดซ่ึงทรัพยอ ันไดม าโดยการกระทาํ 2. รว มกนั ชิงทรัพยตั้งแต 3 คน ขึน้ ไป
ความผิด ถาความผดิ น้ันเขา ลกั ษณะลกั ทรัพย ว่ิงราวทรัพย กรรโชก รดี เอาทรัพย 3. เอาอสังหาริมทรัพยข องผูอ่นื ไปโดยทุจรติ
ชงิ ทรัพย ปลน ทรัพย ฉอ โกง ยกั ยอก หรอื เจาพนกั งานยักยอกทรพั ย ผนู ั้นกระทาํ 4. เบยี ดบังเอาทรพั ยข องผอู ืน่ ทีฝ่ ากไวไปขายเพ่ือเอาเงิน
ความผิดฐานรับของโจร ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเกินหาป หรือปรับไมเ กนิ
หนงึ่ หม่ืนบาท หรือทง้ั จําทง้ั ปรับ มาเปน ของตนเอง

วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. การยกั ยอกทรพั ย หมายถงึ
การทท่ี รัพยน น้ั ไดต กมาอยูใ นความครอบครองของบุคคลหนึ่ง
แลว บคุ คลนน้ั ไดยึดเพ่ือไวเปน ประโยชนกับตนเอง ซ่ึงทาํ ให
เจา ของทรัพยไ ดรบั ความเสยี หาย ซง่ึ ตรงกับตัวเลอื กที่ 4.
โดยความผิดดงั กลา วจะตอ งถกู ระวางโทษไมเ กนิ 3 ป หรอื ปรบั
ไมเ กนิ 2 พนั บาท หรอื ทง้ั จาํ ทั้งปรบั

174 คมู่ ือครู

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
Explain Expand Engage

กระตนุ้ ความสนใจ

ครูนาํ ขา วคราวเก่ียวกบั การเกณฑท หาร
มาสนทนากบั นักเรยี น ครถู ามคาํ ถาม
๕.๑ กฎหมายเกย่ี วกบั การรบั ราชการทหาร • ทําไมชายไทยตอ งเขา รับการเกณฑท หาร
หากไมเขา เกณฑท หารจะไดร บั โทษ
การรับราชการทหารเป็นหน้าที่ส�าคัญประการหน่ึงของประชาชนชาวไทย พระราชบัญญัติ อยา งไร
รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ก�าหนดให้ชายผู้มี (แนวตอบ การเขารับการเกณฑทหารถอื เปน
จสัญะตช้อางตไิไปทขยม้ึนีหบนัญ้าชทีที่รับหราารชกกอางรเทกหินาเ1รมดื่อ้วอยตาัยวเุ อ๑ง๘โดปยี หนา ทขี่ องชายไทย ท่มี อี ายยุ า งเขา 21 ป
ยกเว้นสามเณรที่สอบเปรียญได้แล้วและผู้ซ่ึงอยู่ใน บรบิ รู ณ ท่ีตองเขารบั การเกณฑทหารเพื่อ
ระหว่างควบคุมหรือคุมขังของเจ้าพนักงาน ท่ีได้รับ เปนการปกปอ งประเทศชาติ ผูท่ไี มเ ขา รับ
ยกเวน้ ไมต่ อ้ งไปแสดงตวั เพอ่ื ลงบญั ชีทหารกองเกิน การเกณฑท หารมคี วามผิด ตอ งระวางโทษ
จาํ คกุ หรือปรบั หรือทัง้ จําท้ังปรับ)
ทั้งน้ีเมื่อทหารกองเกินมีอายุย่างเข้า ๒๑ ปี

ก็จะต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกจากนายอ�าเภอ ชายไทยเมื่อมีอายุ 18 ปี จะต้องไปขึ้นบัญชีทหาร สา� รวจคน้ หา Explore
กองเกิน และเมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี มีหน้าท่ีจะ
ท้องท่ี และต้องไปให้คณะกรรมการท�าการตรวจเลือก ต้องไปแสดงตนเพื่อรับการตรวจเลือกทหารกอง 1. นกั เรยี นศึกษากฎหมายเก่ียวกับการรบั ราชการ
ว่าจะให้เป็นทหารกองประจ�าการหรือไม่ ในเดือน ประจาำ การ ทหาร กฎหมายเก่ยี วกับภาษี กฎหมายวา ดวย
เมษายนของทกุ ปี การคมุ ครองผูบริโภค จากหนังสือเรยี น
หนา 175-179
ผู้ที่ข้ึนบัญชีทหารกองเกินถ้าได้รับการตรวจเลือกให้เป็นทหารกองประจ�าการจะต้อง
2. ครแู บง นักเรียนออกเปน 3 กลมุ เพ่อื ศึกษา
รับราชการเป็นทหารมีก�าหนด ๒ ปี เว้นแต่จะอยู่ในข่ายได้รับผ่อนผัน เนื่องจากมีคุณวุฒิพิเศษ กฎหมายตอ ไปน้ี แลว สรปุ ความรู นาํ เสนอ
ในชนั้ เรียน
หรอื มีเหตผุ ลพเิ ศษตามทก่ี ฎหมายก�าหนดไว้ เชน่ บคุ คลซึ่งส�าเรจ็ การฝกึ วิชาทหารตามหลกั สูตร กลมุ ที่ 1 กฎหมายเกยี่ วกบั การรบั ราชการทหาร
กลมุ ที่ 2 กฎหมายเกีย่ วกับภาษี
ทตข้ึนาี่กมรทะทะทเ่ีกบร�าวียหงนกนกลดอาใงโนหปกมรฎะกจก�า�ารหกะนาทดรรแวตลงา้วมปจกละฎใดหหเป้รมับ็นารทยาวหช่าาดกร้วากยรอทกงาหหรานสรุน่งกเป3สอรรงะิมปเกภราะทรจฝ�า๑ึกกวาิชโรดาน2ยก้อไายมรกท่ตวห้อ่างาสเรขอแ้าลงรปะับมี รีลหาักชรษือกณใาหระ้ กลมุ ที่ 3 กฎหมายเกี่ยวกับการคุม ครอง
ผบู รโิ ภค
ทหารกองประจ�าการกไ็ ด้

การรับราชการทหารท�าให้บุคคลได้ปฏิบัติหน้าท่ีส�าคัญต่อประเทศชาติ คือ ช่วยปกป้อง

เอกราชของชาติไว้ นบั เปน็ การรบั ใชถ้ ิ่นกา� เนิดทน่ี ่าภมู ิใจยิ่งของชาวไทย ดงั นัน้ หากผู้ใดฝ่าฝืน

ไม่ไปรับหมายเรียกจะมีความผิดถูกจ�าคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือ อธบิ ายความรู้ Explain

ทั้งจ�าท้ังปรับ แต่ถ้าบุคคลน้ันส�านึกในความผิดไปรายงานตัวเพื่อรับหมายเรียกก่อนที่เจ้าหน้าที่ ครูใหน กั เรียนกลมุ ที่ 1 นาํ เสนอผลงานการ
จะยกเรื่องขึ้นพจิ ารณา ก็จะถูกลงโทษจา� คกุ ไม่เกนิ หน่ึงเดอื น หรือปรับไม่เกินหนง่ึ ร้อยบาท หรอื ศึกษาคน ควา กฎหมายการเกณฑทหารในประเดน็
ทง้ั จา� ทัง้ ปรบั
• ความหมาย สาระสําคญั ของกฎหมาย
1๗5 เกีย่ วกบั การรับราชการทหาร

• คณุ สมบัติของชายไทยเพ่อื การตรวจเลือก
เขาเปนทหาร
• การยกเวนการตรวจเลอื กเขา เปนทหาร
• โทษของผหู ลบเลยี่ งตรวจเลือกเขาเปน ทหาร
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
นกั เรยี นควรรู

เมือ่ ชายไทยมอี ายคุ รบ 18 ปบรบิ ูรณ จะตองปฏิบตั ติ ามกฎหมาย 1 ทหารกองเกนิ คอื ชายซึง่ มีอายุต้ังแต 18 ปบรบิ ูรณและยังไมถ ึง 30 ปบริบรู ณ
เก่ยี วกบั การรบั ราชการทหารอยางไร ซ่งึ ไดล งบญั ชีทหารกองเกินแลว
2 ทหารกองประจําการ คือ ชายซ่งึ ขน้ึ ทะเบียนกองประจําการและไดเ ขารบั
1. ตองไปขึน้ ทะเบยี นทหารกองเกิน ราชการทหารในกองประจาํ การจนกวา จะไดปลด บคุ คลทีอ่ ยใู นกําหนดออกหมาย
2. ตอ งไปสมคั รเปนทหารกองหนุน เรียกมาตรวจเลอื กเขาเปนทหารกองประจาํ การน้ัน คือ ผูทเ่ี ปนทหารกองเกนิ
3. ตอ งไปรับราชการเปนทหารกองประจําการ ประเภท 1 ในเดอื นตุลาคมทุกป นายอําเภอจะประกาศใหทหารกองเกนิ ทม่ี อี ายยุ า ง
4. ตองไปรับการตรวจเลอื กทหารประจาํ การ เขา 21 ป ใน พ.ศ. นัน้ ไปแสดงตนเพ่ือรับหมายเรยี กทอ่ี ําเภอ
3 ทหารกองหนุน คอื ทหารซึง่ รับราชการในกองประจําการครบกําหนดตาม
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เนือ่ งจากพระราชบญั ญตั ิรบั กฎหมาย หรือทหารกองเกนิ ซง่ึ มีอายุครบ 29 ปบรบิ รู ณ หรอื ทหารซง่ึ ปลดจากกอง
ประจําการโดยตอ งจาํ ขัง หรือจําคกุ มีกาํ หนดวันท่จี ะตอ งทณั ฑหรือตอ งโทษรวมได
ราชการทหาร พ.ศ. 2497 กาํ หนดใหผ มู สี ญั ชาติไทยมีหนา ท่ีตอ ง ไมนอยกวา 1 ป หรือกระทาํ ความเสอ่ื มเสยี ใหแ กราชการทหารแลว ถกู ปลดเปน
เขา รับราชการทหารดวยตนเอง โดยตอ งไปขึน้ บญั ชีทหารกองเกนิ
เม่อื อายุ 18 ป และเม่ืออายุยางเขา 21 ป มีหนา ท่ตี อ งไปแสดงตน
เพ่อื เขา รับการตรวจเลอื กทหารกองประจาํ การตอไป

ทหารกองหนุน

ค่มู ือครู 175

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูนําสนทนาถึงทีม่ าของรายไดเ พ่อื นํามาใชใ น
การพัฒนาประเทศจากการเก็บภาษีประเภท
ตางๆ แลว นํามาจดั ทาํ เปนงบประมาณ ๕.๒ กฎหมายเกีย่ วกับภาษี

เพ่ือจัดสรรรายไดใ หกับกระทรวงตา งๆ ภาษี คือ เงินท่ีรัฐรวมทั้งท้องถิ่นท่ีได้รับมอบหมายอ�านาจรัฐเรียกเก็บจากบุคคล เพื่อ
เพ่ือนํามาใชใ นการพฒั นาประเทศ การจัดใหมี
สาธารณูปโภคพ้นื ฐานตางๆ เพื่ออาํ นวยความ ใช้จ่ายในการบริหารประเทศหรือท้องถิ่น การเสียภาษีให้รัฐจึงเป็นหน้าท่ีส�าคัญของพลเมือง

สะดวกใหก บั ประชาชน การจัดใหมสี วสั ดกิ าร เพราะเป็นการมอบรายได้หรือทรัพย์สินส่วนหน่ึงของตนให้แก่รัฐหรือท้องถ่ิน เพ่ือน�าไปใช้

ตางๆ เพ่อื การมคี ณุ ภาพชวี ิตท่ดี ี จากนั้นให ท�าประโยชนแ์ ก่ชุมชนเปน็ สว่ นรวมตอ่ ไป ซึง่ ภาษีท่ีนักเรยี นควรรู้ มีดงั นี้
๑) ภาษีเงินได้ คือ ภาษีท่ีจัดเก็บจากบุคคลทั่วไปหรือจากหน่วยภาษีท่ีมีลักษณะ
นักเรียนชว ยกนั ประเมนิ วา ในแตละป รฐั บาล พิเศษตามท่ีกฎหมายก�าหนดและมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ท่ีก�าหนด โดยปกติจัดเก็บเป็นรายปี
สามารถจัดเกบ็ ภาษีไดต ามเปาหมายที่กําหนด
หรอื ไม เพราะเหตุใด ครูถามคําถาม รายได้ท่ีเกิดข้ึนในปีใดๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องน�าไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดง
• รฐั บาลควรมีมาตรการอยา งไรเพื่อใหส ามารถ รายการภาษีท่ีก�าหนด ภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป ผู้มีหน้าท่ีเสียภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดา ไดแ้ ก่ ผู้ทมี่ ีเงนิ ไดเ้ กดิ ขนึ้ ระหวา่ งปที ีผ่ า่ นมา โดยมีสถานะอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใด ดังนี้
จัดเกบ็ ภาษีไดต ามเปาหมายที่กําหนด
(แนวตอบ รัฐบาลควรมมี าตรการกระตุน ๑. บุคคลธรรมดา
สง เสริม สรา งจิตสาํ นกึ ใหประชาชนผูมี ๒. ห้างหนุ้ ส่วนสามญั หรอื คณะบุคคลท่ีมใิ ช่นติ ิบุคคล
หนาทตี่ อ งเสยี ภาษีเห็นความสาํ คญั มคี วาม ๓. ผถู้ ึงแก่ความตายระหวา่ งปภี าษี
ตระหนกั และลงโทษผูทีห่ ลบเล่ยี งไมเ สยี ภาษ)ี ๔. กองมรดกที่ยังไมไ่ ดแ้ บง่
2. นักเรียนกลุมท่ี 2 นําเสนอผลการสืบคนขอมูล โดยอัตราภาษีเงินได้สุทธิส�าหรับผู้มีรายได้สุทธิจากค่าจ้างหรือเงินเดือนจะคิดเป็น
กฎหมายเก่ียวกับภาษีเงินได ภาษีเงนิ ได ดงั นี้ ๑ - ๑๕๐,๐๐๐ บาท ไดร้ ับการยกเว้นภาษี ตง้ั แต่ ๑๕๐,๐๐๑ - ๓๐๐,๐๐๐ บาท เสียภาษี
นติ ิบคุ คล ภาษมี ูลคาเพมิ่ ภาษบี ํารุงทอ งท่ี อตั รารอ้ ยละ ๕ ตง้ั แต่ ๓๐๐,๐๐๑ - ๕๐๐,๐๐๐ บาท เสยี ภาษีอตั รารอ้ ยละ ๑๐ ตัง้ แต่ ๕๐๐,๐๐๑ -
ภาษีโรงเรือนและท่ดี นิ ๗๕๐,๐๐๐ บาท เสียภาษีอัตรารอ้ ยละ ๑๕ ตงั้ แต่ ๗๕๐,๐๐๑ - ๑,๐๐๐,๐๐๐ เสยี ภาษอี ัตรารอ้ ยละ
3. ครูและนักเรยี นรวมกันอภิปรายความรูเพ่มิ เตมิ ๒๐ ต้งั แต่ ๑,๐๐๐,๐๐๑ - ๒,๐๐๐,๐๐๐ เสยี อัตราภาษรี อ้ ยละ ๒๕ เป็นตน้
เร่ืองภาษีเงินได เกย่ี วกบั ผูมหี นา ท่ีตองเสีย อน่ึง เงินได้สุทธิ คือ เงินได้ภายหลังจากหักค่าใช้จ่าย และหักค่าลดหย่อนตามท่ี
ภาษเี งนิ ได อัตราการเสยี ภาษีเงนิ ได วธิ ีการคิด กฎหมายกา� หนด โดยมีอตั ราภาษเี งินไดแ้ บบอตั รากา้ วหนา้ ตัง้ แตร่ อ้ ยละ ๕ ถึงร้อยละ ๓๗ ของ
อัตราการเสยี ภาษีเงนิ ได เงินไดส้ ทุ ธิ
(แนวตอบ ผูม ีหนา ท่ีตอ งเสียภาษเี งินได ไดแก ทั้งนี้หากผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ช�าระภาษีภายในก�าหนดเวลา จะต้องเสียเงินเพ่ิม
ผูมีหนา ท่ีเสยี ภาษีเงนิ ไดบุคคลธรรมดา ไดแ ก ร้อยละ ๑.๕ ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีท่ีต้องช�าระน้ัน นับแต่วันพ้นก�าหนดเวลา

ผทู ี่มเี งินไดเ กดิ ขนึ้ ระหวา งปท ผ่ี านมา โดยมี การยื่นรายการจนถึงวันช�าระภาษี เว้นแต่กรณีที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้ขยาย

สถานะอยางหน่ึงอยา งใด ดงั น้ี บุคคลธรรมดา ก�าหนดเวลาชา� ระภาษไี ด้
๒) ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีประเภทหน่ึงที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร
หางหนุ สวนสามัญหรอื คณะบุคคลทม่ี ใิ ช
นิตบิ คุ คล ผถู งึ แกความตายระหวางปภาษี จัดเก็บจากเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง
กองมรดกทยี่ ังไมไดแ บง วสิ าหกจิ ชุมชน ตาม
กฎหมายวา ดว ยการสงเสริมวิสาหกิจชุมชน 1๗6 และพาณิชย์ และไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น บริษัทจ�ากัด

เฉพาะทเี่ ปนหางหนุ สวนสามญั หรอื คณะบคุ คล
ท่ีมใิ ชน ติ ิบคุ คล)
บรู ณาการเชื่อมสาระ
เกรด็ แนะครู ครสู ามารถบูรณาการความรูเชอื่ มสาระในหวั ขอ กฎหมายเกีย่ วกับ

ครูนําขอ มูลเกี่ยวกับเงนิ ไดที่ตองเสยี ภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา ซง่ึ เรียกวา ภาษกี ับวชิ าเศรษฐศาสตร เก่ยี วกับบทบาทของภาครฐั ในการจดั เกบ็
“เงนิ ไดพงึ ประเมนิ ” หมายถึง เงินไดของบุคคลท่เี กิดขึ้นระหวา งวนั ที่ 1 มกราคม รายได เพือ่ นาํ รายไดเหลานัน้ มาพฒั นาประเทศ ซึง่ รายไดหลกั
ถงึ 31 ธันวาคม ของปใ ดๆ หรือเงนิ ได ทีเ่ กิดขน้ึ ในปภาษี ไดแ ก ของรฐั คือ ภาษี โดยครูอธบิ ายใหนกั เรียนเห็นถึงความสําคญั ของ
การเสียภาษี และผลท่เี กิดขน้ึ หากประชาชนหลบเลย่ี งไมเสยี ภาษี
1. เงิน อนั ทาํ ใหร ฐั เก็บภาษไี ดไ มต ามเปา และอธบิ ายถึง นโยบายการคลงั
2. ทรัพยส ินซง่ึ อาจคดิ คาํ นวณไดเปน เงิน ทีไ่ ดร ับจริง ซง่ึ หมายถงึ นโยบายการหารายไดและการวางแผนการใชจา ยของ
3. ประโยชนซ งึ่ อาจคดิ คาํ นวณไดเ ปนเงนิ รฐั บาล ซ่งึ คาใชจ า ยเหลาน้นั มาจากการเกบ็ ภาษีประเภทตางๆ
4. เงนิ คา ภาษอี ากรที่ผจู ายเงนิ หรือผอู ่นื ออกแทนให
5. เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกําหนด โดยนโยบายการคลัง เปนเครอ่ื งมอื ในการดาํ รงไวซ ึ่งเสถียรภาพของ
รายไดใ นประเทศ เพราะผลจากการดําเนินนโยบายการคลงั ของ
รัฐบาลจะสง ผลกระทบตอ สภาวะทางเศรษฐกจิ ของประเทศ
มุม IT

ศึกษาความรเู พ่ิมเติมเกี่ยวกับการเสยี ภาษีเงนิ ไดเ พิม่ เติม ไดท ี่
http://www.rd.go.th/publish/550.0.html กรมสรรพากร

176 คมู่ อื ครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

1. ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั
ภาษเี งนิ ไดน ิตบิ ุคคล ในประเด็น คุณสมบัติ
บริษัทมหาชนจ�ากัด ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ กิจการร่วมค้า และหลกั เกณฑข องนติ บิ คุ คลทีต่ อ งเสีย
(joint venture) มูลนิธิหรือสมาคมท่ีประกอบกิจการซ่ึงมีรายได้ แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือ ภาษีเงนิ ไดนติ ิบคุ คล

สมาคมที่รัฐมนตรีประกาศก�าหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ตลอดจนนิติบุคคล (แนวตอบ ผูมีหนาทีเ่ สยี ภาษีเงินไดน ติ ิบุคคล
ท่ีอธบิ ดกี �าหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรแี ละประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาให้เปน็ บรษิ ัทหรือห้างห้นุ ส่วน ไดแ ก บริษทั หรือหางหุน สวนนติ บิ ุคคล

นิติบคุ คลตามประมวลรษั ฎากร ทจ่ี ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง และ

อัตราภาษีเงินได้ส�าหรับนิติบุคคล ค�านวณจากก�าไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน พาณิชย และหมายความรวมถงึ นิติบคุ คลอ่นื ๆ

ตนาิตมิบปุครคะลกรา้อศยขลอะงก๓ร๐ะทรแวลงะกจาารกคกล�าังไรเสรุทื่อธงิเกฉาพรปาะรกะกรอณบีทก่ีไิจดก้จาารกวกิเทารศปธรนะกกิจอข1บอกงิจธกนาารควาิเรทพศาธณนิชกิยจ์ ทไี่ มไดจ ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง
และพาณชิ ยด วย เชน
ลงวนั ท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ รอ้ ยละ ๑๐ 1. บรษิ ทั หรอื หา งหุนสว นนิตบิ คุ คลท่ตี ้ังขึน้
ตามกฎหมายไทย เชน บริษทั จาํ กดั
ท้ังนี้นิติบุคคลในเขตกรุงเทพมหานครสามารถย่ืนเสียภาษีได้ ณ ส�านักงาน บริษัทมหาชนจาํ กดั หางหุนสวนจํากดั

สรรพากรพื้นท่ีสาขาในท้องที่ที่ส�านักงานใหญ่ต้ังอยู่ และธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาในเขต หางหนุ สวนสามัญจดทะเบยี น

พื้นท่ีกรุงเทพมหานคร ส่วนในเขตจังหวัดอ่ืนสามารถย่ืนได้ ณ ที่ว่าการอ�าเภอหรือกิ่งอ�าเภอ 2. บรษิ ัทหรือหางหนุ สวนนิตบิ คุ คลทตี่ ั้งขึน้

ท้องทีท่ สี่ า� นกั งานใหญ่ตง้ั อยู่ ตามกฎหมายตางประเทศ ซึ่งมีหนาท่ี
๓) ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีทางอ้อมท่ีเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ
โดยค�านวณเก็บจากมูลค่าส่วนท่ีเพ่ิมข้ึนในแต่ละขั้นตอนของการผลิตและการจ�าหน่าย หรือ เสยี ภาษีเงินไดนิติบุคคลในประเทศไทย
เชน บริษัทหรือหา งหนุ สว นนติ ิบุคคล
การใหบ้ รกิ าร เชน่ ซอ้ื วสั ดอุ ปุ กรณม์ าราคา ๑๐๐ บาท เมอ่ื ผลติ เปน็ สนิ คา้ แลว้ ขายราคา ๑๕๐ บาท ตางประเทศนัน้ เขามากระทาํ กิจการ

จะตอ้ งเสยี ภาษีมลู คา่ เพิม่ เฉพาะสว่ นท่ีเพมิ่ ขึ้น ๕๐ บาท เปน็ ตน้ แตส่ ินค้าบางอย่างไดร้ บั ยกเวน้ ในประเทศไทย
3. กจิ การรวมคา ไดแก กจิ การที่ดําเนนิ การ
จากการเรียกเผกู้ท็บมี่ ภหี านษ้าีมทูล่ีเคสา่ยี เภพาิม่ ษมีเชลู น่ ค่าหเพนิ่มังส2อืไดเ้แปกน็ ่ ตผ้นู้ประกอบการที่ขายสนิ คา้ หรือให้บริการไม่ว่า
จะประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญท่ีมิใช่นิติบุคคล รว มกันทางคาหรือหากาํ ไร ระหวา งบุคคล
หรือนิติบุคคลใดๆ หากมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า ๑.๘ ล้านบาทต่อปี ดังเชน บรษิ ัทกบั หา งหุนสวนนติ ิบคุ คล
มหี นา้ ทต่ี อ้ งยนื่ คา� ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพมิ่ เพอ่ื เปน็ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น โดยคา� นวณภาษี 2. ครูนําสนทนาเก่ียวกับภาษีมลู คาเพ่ิม
ทตี่ อ้ งเสยี จากภาษขี ายหกั ดว้ ยภาษซี อ้ื และใหย้ นื่ แบบแสดงรายการภาษภี ายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดอื น และผมู ีหนาทต่ี องเสียภาษมี ลู คาเพิ่ม
ถดั ไป ณ ส�านกั งานสรรพากรพ้นื ที่สาขาในทอ้ งทท่ี ่ีสถานประกอบการตง้ั อยู่ (แนวตอบ ผปู ระกอบการทีข่ ายสนิ คา หรอื ให
บรกิ ารในทางธรุ กจิ หรือวชิ าชีพเปนปกติธรุ ะ
ในกรณีท่ีผู้ประกอบการไม่ได้น�าส่งภาษีมูลค่าเพ่ิมให้กับทางกรมสรรพากรก็จะมีโทษ ไมวา จะประกอบกิจการในรปู ของบุคคล
ท้ังทางแพ่งและอาญาตามประมวลรัษฎากร ได้แก่ การเสียเบ้ียปรับ เสียดอกเบ้ีย หรืออาจต้อง ธรรมดา คณะบคุ คลหรอื หางหนุ สว นสามญั ท่ี
ระวางโทษจ�าคกุ ปรบั หรอื ทง้ั จา� ทัง้ ปรับในกรณไี ม่ทา� รายงานภาษีขาย ภาษีซอ้ื และรายงานสินคา้ มิใชนติ ิบุคคล หรือนิตบิ คุ คลใดๆ หากมรี ายรบั
และวัตถุดบิ ตอ่ กรมสรรพากร จากการขายสนิ คา หรือใหบริการเกนิ กวา 1.8

1๗๗ ลา นบาทตอป มีหนา ทีต่ องยนื่ คาํ ขอจด
ทะเบยี นภาษีมลู คาเพม่ิ เพ่ือเปน ผูประกอบการ
จดทะเบียน โดยคาํ นวณภาษีท่ตี องเสยี จาก
ภาษขี ายหกั ดวยภาษซี ื้อ)
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
นักเรียนควรรู

บคุ คลใดตอไปนี้ ไม ตอ งเสยี ภาษีเงินไดบ คุ คลธรรมดา 1 การประกอบกจิ การวเิ ทศธนกจิ หมายถึง การใหบรกิ ารทางการเงินในรูป
1. องคมนตรี 2. สมาชิกวฒุ สิ ภา ของเงนิ ฝาก เงินใหกยู ืม และบรกิ ารทางการเงินอน่ื ๆ โดยมีขอบเขตการดําเนนิ งาน
3. คณะรฐั มนตรี 4. บุคคลในคณะทูต ไดแ ก การใหก ูยืมในตา งประเทศ การใหก ูยมื ในประเทศ การซือ้ ขายปริวรรต
เงินตราตา งประเทศทม่ี ใิ ชเงนิ บาท การรบั รองหรอื การคา้ํ ประกันหนี้ใดๆ ท่เี ปน
วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. ผูมีเงนิ ไดท ไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษเี งนิ ได เงนิ ตราตางประเทศ
2 ภาษมี ลู คา เพม่ิ (Value Added Tax) เรยี กอกี อยางหนงึ่ วา “แวต” (VAT)
บคุ คลธรรมดา หมายถึง บุคคลรวมทง้ั กองมรดกของผตู ายที่ยัง ทป่ี ระเทศไทยเร่ิมเกบ็ เปนครั้งแรก เมื่อวนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 การนํา
มไิ ดแ บง และหา งหุนสว นสามัญหรอื คณะบุคคลทมี่ ิใชนิตบิ ุคคล ภาษีมลู คา เพม่ิ มาใชเ ปน เหตผุ ลในดา นเศรษฐกจิ เปน สาํ คัญ ซง่ึ ในปจ จบุ นั
ทไี่ ดรบั เงินไดพึงประเมินประเภททก่ี ฎหมายกาํ หนดยกเวนให จะเรยี กเก็บในอตั รา 7 %
ไมตองนาํ เงินไดพึงประเมินนั้นมารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงนิ ได
บุคคลธรรมดา เชน บคุ คลตามขอ ผูกพันทปี่ ระเทศมีอยูตามสญั ญา คู่มอื ครู 177
วา ดว ยความรวมมือทางเศรษฐกิจ หรือทางเทคนิคระหวา งรฐั บาล
ไทยกบั รัฐบาลตา งประเทศ เจาหนาท่ี หรอื ผเู ช่ยี วชาญ ขององคการ
สหประชาชาติ หรอื ทบวงการชาํ นัญพิเศษของสหประชาชาติ
ซงึ่ ปฏิบตั หิ นาทีอ่ ยใู นประเทศไทย บคุ คลในคณะทตู บุคคลใน
คณะกงสลุ และบคุ คลทถ่ี อื วา อยใู นคณะทตู ตามความตกลง เปน ตน

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

ครนู ําอภิปรายเกี่ยวกบั ภาษีบํารงุ ทอ งที่ ๔) ภาษีบ�ารุงท้องท่ี เป็นภาษีท่ีจัดเก็บจากเจ้าของที่ดินตามราคาปานกลางที่ดิน
ในประเดน็ นยิ ามของภาษีบาํ รุงทอ งท่ี หลักเกณฑ
การเสียภาษบี ํารงุ ทองท่ี เปน ตน และตามบัญชีอัตราภาษีบ�ารุงท้องที่ โดยท่ีดินท่ีต้องเสียภาษีบ�ารุงท้องที่ ได้แก่ ท่ีดินท่ีเป็นของ
บุคคลหรือคณะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซ่ึงมีกรรมสิทธ์ิในท่ีดิน หรือสิทธิ
(แนวตอบ ภาษบี ํารงุ ทองที่หรอื ท่ีเรียกกัน ครอบครองอยู่ในท่ีดนิ ท่ไี ม่เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน
โดยท่ัวไปวา ภาษีดอกหญา เปน ภาษที จ่ี ดั เกบ็ จาก
เจา ของทด่ี นิ ไมวาจะเปน บคุ คลธรรมดาหรือ ส�าหรับที่ดินท่ีเจ้าของท่ีดินไม่ต้องเสียภาษีบ�ารุงท้องที่ เช่น ท่ีดินที่เป็นท่ีต้ัง
นิติบุคคลซึ่งมกี รรมสทิ ธใิ์ นทีด่ นิ ผทู ีม่ หี นาท่ีเสยี ภาษี พระราชวัง อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือที่ดิน
บํารุงทอ งท่ี คือ ผูเ ปน เจาของท่ดี นิ ซ่งึ มีหลกั เกณฑ ของรัฐท่ใี ช้ในกจิ การของรัฐหรอื สาธารณะโดยมไิ ด้หาผลประโยชน์ เป็นตน้
ตา งๆ ท่ีสาํ คัญ ดังนี้
ผมู้ ีหนา้ ท่เี สยี ภาษบี �ารุงท้องที่ คือ ผู้รับประเมนิ หรือผู้ท่เี ป็นเจา้ ของที่ดิน ซง่ึ มหี นา้ ที่
อัตราภาษี เสียภาษีบ�ารุงท้องท่ีส�าหรับปีนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในท้องท่ี ซึ่งทรัพย์สินนั้นต้ังอยู่ ภายใน
- จะตองเสยี ตามราคาปานกลางของทีด่ ิน เดือนกมุ ภาพนั ธข์ องทกุ ปี

ซ่ึงมหี ลายอัตรา ทั้งนี้หากผู้ที่มีหน้าท่ีเสียภาษี แต่ไม่ยอมช�าระภาษีบ�ารุงท้องท่ีภายในเวลาที่ก�าหนด
- ท่ีดินวา งเปลา หรอื ไมไดท าํ ประโยชนจาํ ตอง จะต้องเสียเงินเพ่ิมอีกร้อยละ ๒๔ ต่อปีของจ�านวนเงินที่ต้องเสียภาษีบ�ารุงท้องที่ตามพระราช-
บัญญัติภาษีบ�ารุงท้องที่ พ.ศ. ๒๕๐๘ และฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม และหากหลีกเลี่ยงหรือพยายาม
เสียภาษีเปน 2 เทา ของอัตราปกติ หลกี เลยี่ งการเสยี ภาษบี า� รงุ ท้องท่ี ตอ้ งระวางโทษจา� คุกไม่เกนิ ๖ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
การยืน่ แบบแสดงรายการเพ่อื เสียภาษบี าํ รงุ หรอื ท้ังจา� ทง้ั ปรับ
ทอ งท่ี
- ใหเจาของที่ดนิ ทอี่ ยใู นเขตเทศบาล ไปยน่ื ๕) ภาษีโรงเรือนและท่ีดิน เป็นภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างอย่าง

แบบแสดงรายการทดี่ ิน (แบบ ภ.บ.ท. 5) อ่ืนๆ กับท่ีดินที่ใช้ประโยชน์ต่อเน่ืองไปกับโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างน้ัน โดยทรัพย์สินท่ีต้องเสีย
ที่งานจัดเก็บรายไดเ ทศบาลและชาํ ระภาษี ภาษีโรงเรือนและท่ีดิน ได้แก่ โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง และท่ีดินซึ่งใช้ต่อเน่ืองกับโรงเรือนและ
ภายในเดอื น มกราคม - เมษายน ของทุกป สง่ิ ปลกู สร้างนั้น
- กรณเี ปน เจาของท่ดี ินใหม หรอื มกี าร
เปลยี่ นแปลงจาํ นวนที่ดิน เจา ของท่ดี นิ จะตอ ง สา� หรบั ทรพั ยส์ นิ ทไ่ี ดร้ บั ยกเวน้ ภาษไี มต่ อ้ งเสยี ภาษโี รงเรอื นและทดี่ นิ เชน่ พระราชวงั
ยื่นแบบแสดงรายการภายใน 30 วัน อันเป็นส่วนของแผ่นดิน ทรัพย์สินของโรงพยาบาลสาธารณะ และโรงเรียนสาธารณะซึ่งกระท�า
บทกาํ หนดโทษ กิจการที่ไม่ใช่เพื่อเป็นผลก�าไรส่วนบุคคล และใช้เฉพาะในการรักษาพยาบาลและในการศึกษา
- ผูใดจงใจไมมายนื่ แบบแสดงรายการทดี่ นิ เปน็ ตน้
(ภ.บ.ท.5) หรอื ไมยอมชแ้ี จงหรือไมยอมแจง
จาํ นวนเนื้อทด่ี ิน ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กิน โดยผมู้ หี นา้ ทเี่ สยี ภาษโี รงเรอื นและทด่ี นิ ไดแ้ ก่ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ เจา้ ของโรงเรอื นหรอื
1 เดือน หรือปรบั ไมเกนิ 1,000 บาท หรอื สงิ่ ปลกู สรา้ งโดยตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการเพอื่ เสยี ภาษโี รงเรอื นและทดี่ นิ ณ สา� นกั งานขององคก์ ร
ทง้ั จาํ ท้ังปรบั ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นทโี่ รงเรอื นหรือสงิ่ ปลูกสรา้ งนั้นต้งั อยู่ ภายในเดอื นกุมภาพันธ์ของทุกปี
- ผใู ดโดยรหู รอื จงใจแจง ขอความอนั เปนเทจ็
มาแสดงเพอื่ หลกี เล่ยี ง หรือพยายามหลกี เลี่ยง ๕.๓ กฎหมายวา่ ด้วยการค้มุ ครองผบู้ ริโภค
การเสียภาษบี าํ รุงทอ งที่ ตอ งระวางโทษจําคกุ
ไมเ กนิ 6 เดือนหรอื ทั้งจําทง้ั ปรบั ไมเกนิ 2,000 รัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่า สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองในการ
บาทหรือทัง้ จําท้งั ปรบั -ผใู ดไมช ําระภาษีบํารุง ได้รับข้อมูลท่ีเป็นความจริงและมีสิทธิร้องเรียน เพ่ือให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหาย
ทอ งที่ภายในกําหนด ใหเ สยี เงนิ เพิม่ รอ ยละ รวมทัง้ มีสิทธิรวมตวั กนั เพื่อพิทักษ์สิทธขิ องผ้บู รโิ ภค
24 ตอ ป ของจาํ นวนเงนิ ทต่ี องเสียภาษบี าํ รุง
ทอ งท)ี่ 1๗8

เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT

ครเู พิ่มเติมเกยี่ วกับทด่ี นิ ทไ่ี มตองเสียภาษีบาํ รงุ ทองท่ี เชน บคุ คลใดมหี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษบี ํารงุ ทองที่

1. ทีด่ นิ ทเี่ ปน ที่ต้งั พระราชวังอันเปนสว นสาธารณสมบัติของแผน ดิน แนวตอบ บุคคลหรอื คณะบุคคลไมวา จะเปนบคุ คลธรรมดา
2. ทด่ี นิ ทเ่ี ปน สาธารณะสมบัติของแผนดินหรอื ที่ดินของรฐั ท่ีใชในกิจการของรัฐ หรือนติ บิ ุคคลซงึ่ มกี รรมสิทธิใ์ นทด่ี นิ มหี นาที่เสยี ภาษีบํารุงทอ งท่ี
หรอื สาธารณะ โดยมไิ ดห าผลประโยชน ดังนนั้ จงึ กลาวไดว า ภาษบี าํ รงุ ทองท่ี คือ ที่ดนิ ทุกประเภทไมวา จะมี
3. ทด่ี ินของราชการสวนทองถ่นิ ทใี่ ชในกจิ การของราชการสว นทองถน่ิ หรือ เอกสารสทิ ธ์ิ หรือไมมเี อกสารสิทธิ์ ทวี่ างเปลา หรอื มสี ิ่งปลกู สรา ง
สาธารณะโดยมไิ ดห าผลประโยชน อยูหรือไม และไมวา จะใชเ พาะปลูก เลี้ยงสัตว หรอื อยอู าศยั
4. ทด่ี ินที่ใชเ ฉพาะการพยาบาลสาธารณะ การศึกษา หรือการกศุ ลสาธารณะ ใหผ ูอ่นื เชา หรอื ใชป ระโยชนเองก็ตาม ท่ดี นิ ท่ตี องเสียภาษีบํารุง
5. ทด่ี ินทใ่ี ชเฉพาะศาสนกิจศาสนาใดศาสนาหน่ึง ที่ดนิ ทเ่ี ปนกรรมสทิ ธ์ิของวัด ทอ งท่ีนั้น นอกจากพน้ื ทที่ ่ดี ินท่ัวๆ ไปแลว ยังหมายความรวมถงึ
ไมวาจะใชป ระกอบศาสนกิจศาสนาใดศาสนาหน่ึงหรอื ไม หรอื ทศ่ี าลเจาโดยมไิ ด พื้นที่ที่เปน ภูเขาและแมน ํ้าดวย
หาผลประโยชน
6. ที่ดินท่ีใชเ ปนสุสานและฌาปนสถานสาธารณะ โดยมไิ ดร ับประโยชน
ตอบแทน เปน ตน

178 คูม่ อื ครู

กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

ดังนัน้ พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองผ้บู ริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซงึ่ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดย (ฉบับท่ี ๒) 1. ครูนํากรณศี ึกษาเก่ยี วกับการรองเรียน
ผพู้ป.ศร.ะก๒อ๕บธ๔ุร๑กิจซ่ึงแเลปะ็นจัดกใฎหห้มมีอางยคท์กร่ีมเ1ีสพาื่อรคะุ้มสค�ารคอัญงผในลกปารระกโย�าชหนน์ขดอสงิทผธู้บิขริโอภงคผู้บโรดิโยภไคด้มีกหานร้าบทัญ่ีขญอัตงิ การฟองรอ ง ของหนวยงานคุมครองผบู ริโภค
สิทธิของผบู้ รโิ ภคทจี่ ะได้รับความค้มุ ครองตามกฎหมายไว้ ๕ ประการ ดังน้ี หรอื กรณที ผี่ ูบ รโิ ภคยนื่ ฟองหนวยงาน องคกร
๑. สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ขา่ วสาร รวมทงั้ คา� พรรณนาคณุ ภาพทถี่ กู ตอ้ งและเพยี งพอเกย่ี วกบั สถานประกอบการ ผูป ระกอบการ ในกรณี
สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริงและ ทไี่ มไ ดรับความเปนธรรมจากการบริโภค
ปราศจากพษิ ภยั แกผ่ บู้ รโิ ภค รวมตลอดถงึ สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ทราบขอ้ มลู เกยี่ วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ ารอยา่ ง แลวใหนกั เรียนอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
ถูกต้องและเพียงพอท่ีจะไมห่ ลงผิดซ้ือสนิ ค้าหรอื รบั บริการโดยไม่เปน็ ธรรม เกย่ี วกบั กรณีศึกษาดงั กลา ว
๒. สิทธิทีจ่ ะมีอิสระในการเลือกหาสนิ คา้ หรอื บริการ ไดแ้ ก่ สิทธทิ ี่จะเลอื กซอ้ื สินคา้
หรอื รับบรกิ ารโดยความสมัครใจของผ้บู รโิ ภค และปราศจากการชกั จูงใจอนั ไมเ่ ป็นธรรม 2. ตัวแทนนักเรียนกลมุ ท่ี 3 นําเสนอผลการ
๓. สิทธทิ ่ีจะไดร้ ับความปลอดภัยจากการใชส้ นิ คา้ หรอื บริการ ไดแ้ ก่ สิทธทิ ีจ่ ะได้รบั ศกึ ษาคนควา เกี่ยวกับกฎหมายคุมครอง
สินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิด ผูบรโิ ภค ในประเดน็ ความสําคัญของ
กฎหมายดงั กลา ว สิทธผิ บู ริโภค หนวยงาน
คุมครองผูบริโภค บทลงโทษสําหรบั ผลู ะเมดิ
สิทธผิ ูบรโิ ภค

อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามค�าแนะน�าหรือระมัดระวังตามสภาพ ขยายความเขา้ ใจ Expand
ของสินค้าหรือบริการน้นั แลว้
๔. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการท�าสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญา ครใู หนกั เรียนท้ัง 3 กลุม จัดทาํ แผนพบั
โดยไมถ่ ูกเอารดั เอาเปรยี บจากผูป้ ระกอบธรุ กิจ หรือเอกสารเผยแพรความรเู กย่ี วกับกฎหมาย
๕. สิทธิท่ีจะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับ ท่กี ลมุ ตนเองสบื คนความรู แลว นาํ ไปเผยแพร
การคมุ้ ครองและชดใชค้ ่าเสียหาย เมอื่ มีการละเมดิ สิทธขิ องผ้บู รโิ ภค ความรูใ หกับนกั เรยี นในโรงเรียน

ดังนั้น ในฐานะผู้บริโภคจึงมีหน้าท่ีในการใช้ความระมัดระวังตามสมควรในการซ้ือสินค้า ตรวจสอบผล Evaluate
หรือบริการ และให้ความส�าคัญกับฉลากของสินค้า
และการโฆษณาสินค้าหรือบริการอย่างละเอียด โดย
ผู้บริโภคตอ้ งตรวจดูฉลากของสินคา้ เพ่อื ใชเ้ ป็นข้อมลู ครตู รวจผลงานการจัดทําเอกสารเพื่อเผยแพร
ในการเปรียบเทียบสินค้าแต่ละยี่ห้อก่อนการตัดสินใจ ความรูเกย่ี วกับกฎหมาย โดยพิจารณาจากความ
เลือกซ้ือสินค้า ซึ่งฉลากสินค้าที่ดีต้องระบุข้อความ ถูกตอ งของขอ มลู ความคดิ สรา งสรรคใ นการ
เชน่ ชอ่ื ประเภทหรอื ชนดิ ของสนิ คา้ ช่อื ประเทศทผี่ ลติ ออกแบบผลงาน

สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพ่ือขาย วิธีใช้ ส่วนประกอบ
วันเดือนปีท่ีผลิต หรือวันเดือนปีท่ีหมดอายุไว้อย่าง
ชดั เจน เป็นต้น ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเก่ียวกับสินค้า
อยา่ งถกู ต้องและเพยี งพอทีจ่ ะได้ไม่หลงผดิ ซอื้ สินคา้
ทีไ่ ม่ไดค้ ุณภาพ

1๗9

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู

ผบู รโิ ภคจะไดรับการคมุ ครองสทิ ธติ ามพระราชบญั ญัตคิ ุม ครอง 1 องคกร (organization) หมายถึง บุคคลกลมุ หน่งึ ทีม่ ารวมตัวกัน มวี ตั ถุประสงค
ผูบริโภค พ.ศ. 2522 แกไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 และดาํ เนนิ กิจกรรมบางอยางรว มกัน เชน สํานกั งานสงเสริมคมุ ครองผูบริโภค หรือ
อยางไรบาง สคบ. เปน องคก รทมี่ หี นา ทดี่ แู ลและใหค วามคมุ ครองผลประโยชนข องผบู รโิ ภค เปน ตน
แนวตอบ สทิ ธผิ ูบ ริโภคทไี่ ดร ับการคุมครองตามพระราชบัญญัติ
คมุ ครองผูบรโิ ภค พ.ศ. 2522 แกไขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 บูรณาการอาเซียน
ไดแ ก สิทธทิ จี่ ะไดร ับขาวสารรวมทงั้ คาํ พรรณนาคณุ ภาพทถ่ี กู ตอง
และเพยี งพอเกี่ยวกับสนิ คาหรือบริการ สิทธทิ จ่ี ะมีอสิ ระในการเลอื ก อาเซยี นไดม กี ารจดั ต้งั คณะกรรมการอาเซียนดานการคมุ ครองผบู ริโภค (ASEAN
หาสนิ คาหรอื บริการ สิทธิที่จะไดร ับความปลอดภยั จากการใชส ินคา Committee Consumer Protection หรอื ACCP) ขึน้ เมือ่ พ.ศ. 2551 โดยมี
หรือบริการ สิทธิท่จี ะไดรบั ความเปนธรรมในการทาํ สัญญา นโยบายท่ีจะดาํ เนินการในเร่อื งตอไปน้ี
สทิ ธิท่จี ะไดร บั การพิจารณาและชดเชยความเสียหาย
1. การพัฒนากลไกการแจง และแลกเปลยี่ นขอมูลระหวางประเทศสมาชกิ
2. การพัฒนากลไก การเยย่ี วยาผบู รโิ ภคขา มแดน
3. การจัดทําแผนพับเกี่ยวกบั การเรียกรอ งของผูบรโิ ภคในอาเซียน

ค่มู อื ครู 179

กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Elaborate Evaluate

กระตนุ้ ความสนใจ Engage

1. ครูสมุ ใหน กั เรียนออกมาเขยี นกฎหมายระหวาง นอกจากนี้ กฎหมายยังได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคท�าหน้าท่ี พิจารณา
ประเทศทรี่ จู กั บนกระดานหนา ชัน้ คนละ 1 เร่ืองราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย เน่ืองมาจากการกระท�าของ
กฎหมาย จากนน้ั ครูเลือกกฎหมายทนี่ ักเรียน ผู้ประกอบธุรกิจ ด�าเนินการเก่ียวกับสินค้าท่ีอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหรือโฆษณาข่าวสาร
เขียน มาอธบิ ายเพิม่ เติมความรู เกย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื บริการที่อาจก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายหรอื เส่ือมเสยี แกส่ ิทธขิ องผู้บรโิ ภคไวด้ ว้ ย

2. ครกู ระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นโดยการนาํ ขา ว ๖. กฎหมายระหวา่ งประเทศที่ควรรู้
ท่ีมีเนอ้ื หาเกี่ยวกบั กฎหมายระหวา งประเทศ
3-5 ขา ว มาสรปุ ใหน กั เรยี นฟง พอสงั เขป แลว ให ในปัจจุบันความเจริญของโลกท�าให้คนสามารถเดินทางติดต่อส่ือสารกันได้โดยง่ายและ
นักเรียนชว ยกนั ตอบวา จากเนอ้ื หาขาวน้ัน เปน็ ประจา� ทา� ใหร้ ฐั ตอ้ งตดิ ตามไปควบคมุ และคมุ้ ครองพลเมอื ง ซงึ่ ไดแ้ ก่ ผมู้ สี ญั ชาตขิ องรฐั เมอื่ อยู่
มคี วามเกย่ี วของกบั กฎหมายระหวางประเทศ ในต่างแดน เป็นผลให้รัฐต่างๆต้องเริ่มติดต่อกัน โดยการติดต่อได้ขยายขอบเขตไปถึงเศรษฐกิจ
อะไรบาง วฒั นธรรม และสังคม จึงทา� ให้สาระของการตดิ ต่อครอบคลุมมากมายหลากหลายเร่ืองขน้ึ

สา� รวจคน้ หา Explore นอกจากนี้ รฐั ยงั ได้รว่ มมือกันท�ากจิ การตา่ งๆ ทไี่ มอ่ าจทา� ได้ตามล�าพงั ท�าให้เกดิ สมาคม
หรือองค์การระหว่างประเทศข้ึนและมีบทบาทส�าคัญในการช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย รวมท้ัง
1. ครูใหน ักเรยี นศึกษาคน ควา ขอมูลทเี่ ก่ยี วกบั พัฒนาและส่งเสริมความก้าวหน้าแก่ภูมิภาคต่างๆ ในโลกเป็นอย่างมาก ดังนั้น รัฐและองค์การ
กฎหมายระหวา งประเทศ จากแหลงการเรียนรู ท่ีจัดต้ังขึ้นจึงต้องตั้งกติกาเพ่ือเป็นแนวทางในการติดต่อสัมพันธ์กันข้ึนมา ซึ่งได้แก่ กฎหมาย
ตางๆ เชน หอ งสมดุ หนงั สอื เรยี น อินเทอรเ นต็ ระหวา่ งประเทศ
เปนตน โดยเนนการศกึ ษาทคี่ รอบคลุมกฎหมาย
ตา งๆ ดงั น้ี กฎหมายระหว่างประเทศเกิดจากการตกลงกันหรือจากยอมรับปฏิบัติกันโดยรัฐ และ
• กฎหมายมนษุ ยธรรมระหวา งประเทศ พัฒนาตอ่ มาโดยองคก์ ารระหว่างประเทศทง้ั หลาย
• กฎหมายเกี่ยวกับการคามนุษย
• กฎหมายวาดว ยผูลภี้ ยั ปัจจุบันกฎหมายระหว่างประเทศได้เข้ามามีบทบาทส�าคัญต่อสังคมโลกเป็นอย่างมาก ซ่ึง
• กฎหมายการสง ผรู ายขามแดน กฎหมายระหว่างประเทศในบางเรื่องส่งผลต่อประเทศไทยด้วย ดังนั้น ในฐานะพลเมืองท่ีดีของ
• กฎหมายการใหความคุมครองแกค นชาติ ประเทศชาติและสังคมโลก เราจึงจา� เป็นต้องมีความร้เู กี่ยวกบั กฎหมายระหวา่ งประเทศในสาขาท่ี
• กฎหมายสิง่ แวดลอมระหวา งประเทศ มีความส�าคัญไว้บ้าง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการด�าเนินชีวิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่าง
ประเทศดังกล่าว โดยกฎหมายระหวา่ งประเทศท่คี วรรู้ มีดงั นี้
2. ครใู หน กั เรยี นตดิ ตามขา วสารจากส่ือตางๆ
เชน หนงั สือพิมพ วทิ ยุ โทรทศั น ท่มี ีเน้ือหาขา ว ประเทศจากเ๑ด)ิม เกรียฎกหกมันาวย่าม“นกุษฎยหธมรารยมรระหะหว่วาง่าปงประรเะทเศทยศามเสปง็นคสราาขมาหหนร่ึงือขอกงฎกฎหหมมายายสรงะคหรวา่ามง1”
เกี่ยวกับกฎหมายระหวา งประเทศ แลว ทาํ การ
วเิ คราะหข าว กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศมีจุดประสงค์ท่ีจะมุ่งส่งเสริมคุณค่า อันเกี่ยวกับความเป็น
มนษุ ยเ์ ชน่ เดียวกบั กฎหมายสิทธมิ นษุ ยชน

180

นักเรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
กฎหมายมนุษยธรรมระหวา งประเทศมวี ตั ถปุ ระสงคอยางไร
1 กฎหมายสงคราม เปน กฎหมายทม่ี ลี กั ษณะเปนขอตกลงรว มกนั ระหวางประเทศ 1. เพื่อแสวงหาประโยชนจ ากเพอ่ื นมนษุ ยดวยกนั
ในภาวะสงคราม ซงึ่ มีการกาํ หนดแนวทางการปฏิบัติและขอ หา มตางๆ เพ่ือปกปอ ง 2. เพือ่ คุมครองประโยชนแ ละความปลอดภยั ของมนุษย
คมุ ครอง และรกั ษาสทิ ธมิ นุษยชนของบคุ คลในภาวะสงคราม กฎหมายสงคราม 3. เพอื่ ลงโทษผูกระทาํ ความผิดจากการลว งละเมิดทางเพศ
ทีส่ ําคัญ เชน อนสุ ัญญาเจนีวา ทมี่ ีการกําหนดขอ หา มตา งๆ เชน 4. เพ่อื เชอ่ื มโยงกับเครอื ขา ยการคา มนุษยท ง้ั ในประเทศ
และตา งประเทศ
- หา มการปฏิบัตอิ ยา งไรม นุษยธรรม การจบั ตวั เปน ประกัน การประหารชีวิต วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. กฎหมายมนุษยธรรมระหวา ง
โดยไมมกี ารไตส วน ประเทศมีวตั ถุประสงคส าํ คัญเพือ่ มุงสงเสรมิ คุณคา อนั เกยี่ วกับ
- หา มใชแ รงงานจากเชลยศกึ ในเขตทมี่ กี ารรบ หรือใชง านที่มีอนั ตราย ความเปน มนุษย เชน เดียวกบั กฎหมายมนุษยชน ทคี่ ุมครอง
- หามใชประชาชนพลเมืองในการกาํ บังตนหรือบงั คับใหท ํางานเกิน ประโยชนแ ละความปลอดภยั ของมนษุ ยจ ากการกระทาํ ของมนุษย
ความสามารถ ดว ยกันเอง และเพือ่ ความเปนธรรมและความเทาเทยี มกนั ของ
- หามบบี บังคับเพือ่ ใหเชลยศกึ แจง ขอ มูลขาวสารที่ตนตอ งการ การถามท่ใี ห ความเปนมนุษย
กระทาํ ไดม เี พยี ง ชือ่ สกุล ยศ วนั เกิด และเลขประจําตวั เปนตน

180 คูม่ ือครู

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเร่ิมต้นจากความพยายามของนายอังรีดูนังต์ 1. ครูใหน ักเรยี นอธิบายวา กฎหมายมนุษยธรรม
และคณะที่จะหาทางลดภาวะทุกข์ทรมานอันน่าสะพรึงกลัวท่ีเกิดกับทหารและพลเรือน จากการ ระหวา งประเทศ มคี วามสาํ คญั และมปี ระโยชน
สู้รบระหว่างคู่สงคราม พวกเขาได้รณรงค์เป็นเวลานานจนรัฐต่างๆ เห็นความส�าคัญของปัญหา ตอความสมั พนั ธระหวางประเทศอยางไร
ท�าให้สาระส�าคัญของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศจึงเก่ียวข้องกับเรื่องของการปกป้อง (แนวตอบ กฎหมายมนษุ ยธรรมระหวางประเทศ
คุ้มครอง และดูแลพลเรือนของประเทศคสู่ งคราม เชน่ ห้ามการใช้อาวธุ และวธิ กี ารท�าการสรู้ บซึ่ง เปน กฎหมายท่สี ง เสรมิ ในเรื่องสทิ ธมิ นุษยชน
มลี กั ษณะการทา� ลายลา้ งอยา่ งมหาศาล กอ่ ใหเ้ กดิ ความสญู เสยี โดยไมจ่ า� เปน็ หรอื ความทกุ ขท์ รมาน โดยเฉพาะอยางยงิ่ ในสภาวะสงคราม ที่ผคู น
เกินไป เช่น การใช้อาวุธเคมี การใช้อาวุธชีวภาพ อาวุธนิวเคลียร์ ห้ามกระท�าการรุนแรงหรือ ตอ งไดร บั ความทุกขทรมาน มีการบาดเจบ็
คกุ คามว่าจะทา� การรนุ แรงเพ่ือใหป้ ระชาชนหวาดกลัว เป็นตน้ ลม ตายจํานวนมาก กฎหมายมนุษยธรรม
ระหวา งประเทศ จึงชวยปกปอ ง คมุ ครอง และ
กล่าวได้ว่ากฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเป็นตัวอย่างของกฎหมายท่ีเกิด ดแู ลพลเรอื นของประเทศคสู งคราม โดยมกี าร
จากการตกลงร่วมกันของมนุษย์ เพื่อคุ้มครองประโยชน์และความปลอดภัยของมนุษย์จาก กาํ หนดขอบังคบั ตา งๆ เชน หามใชอาวธุ ท่ีมี
เงื้อมมือของมนุษย์ด้วยกนั อย่างแท้จรงิ การทําลายลา งมหาศาล ไมวาจะเปน อาวธุ
เคมี อาวธุ ชวี ภาพ ระเบิดปรมาณู เปนตน )
กฎหมายน้ีมีความมุ่งหมาย คือ การเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดย
พัฒนาการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศมีผลท�าให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ 2. ครูใหน กั เรียนยกตัวอยางกฎหมายไทยทม่ี ี
กับภาคเอกชนของนานาประเทศ ในการสอดส่องดูแลเพ่ือให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายเรื่องน้ี ความสอดคลองกบั กฎหมายมนษุ ยธรรม
ส�าหรับประเทศไทยเคยมีกฎหมายท่ีสอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เช่น ระหวางประเทศ คนละ 1 ตัวอยาง แลว นํามา
พระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พุทธศักราช ๒๔๘๘ พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติ อธบิ ายในชั้น
อาชญากรสงคราม พุทธศักราช ๒๔๘๘ พ.ศ. ๒๕๑๐ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๔๘ (แนวตอบ กฎหมายไทยท่มี คี วามสอดคลอ งกับ
เป็นตน้ กฎหมายมนษุ ยธรรมระหวา งประเทศ เชน
ประมวลกฎหมายอาญาทหาร
๒) กฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้า มาตรา 48 ในเวลาสงคราม ถา ผูใดกระทาํ การ
ปราศจากความเมตตาแกคนท่ีถูกอาวธุ
ผู้หญิงและเด็ก ได้รับการตระหนักจากประชาคมโลกว่าเป็นอาชญากรรมที่เป็นการละเมิดสิทธิ- บาดเจ็บ หรอื แกค นทปี่ ว ยเจบ็ ในกองทพั
มนุษยชนอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยผู้เสียหาย ฝา ยหน่งึ ฝายใดกด็ ี หรอื กระทาํ การปลน ทรพั ย
ไม่ได้สมัครใจ และได้กระท�ากันอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นขบวนการเชื่อมโยงท้ังในประเทศ แยงทรัพยอ ยางใดๆ ที่ทานบัญญตั ไิ วใน
และต่างประเทศ ซง่ึ ถือเปน็ ภยั ตอ่ ความสงบสขุ ของโลกอย่างมาก มาตรา 249 ถึงมาตรา 259 และมาตรา 288
ถึงมาตรา 303 แหง ประมวลกฎหมายลักษณะ
ในอดีตประเทศไทยเคยมีกฎหมายเพ่ือเอาผิดและลงโทษการกระท�าซ่ึงเก่ียวข้อง อาญาน้ัน ทานใหเ พิม่ โทษผูกระทาํ ผดิ
กับการล่วงละเมิดทางเพศแก่ผู้หญิงและเด็กในลักษณะที่เป็นการค้า เช่น กฎหมายป้องกันและ ตอ งระวางโทษตามทที่ า นบญั ญตั ไิ วส ําหรับ
ปราบปรามการค้าประเวณี กฎหมายวา่ ด้วยการค้าหญงิ และเด็กหญงิ กฎหมายสถานบรกิ าร แต่ ความเชน น้ันขน้ึ ดวยอีกกึง่ หนึ่ง เปน ตน )
ยังมขี อบเขตจา� กัด

181

ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT บูรณาการอาเซยี น

เพราะเหตใุ ดอาเซียนจงึ ใหความสําคัญกับการปอ งกนั ครูเพิม่ เตมิ ความรเู ก่ยี วประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซียน มเี ปา หมาย
และแกป ญหาการคา มนษุ ยร ะหวา งประเทศสมาชิก เพื่อใหอาเซยี นเปนสังคมเอกภาพ เออื้ อาทรตอ กนั มคี วามเปนอยทู ี่ดี มกี ารพัฒนา
แนวตอบ เพราะการคา มนุษย ถอื เปน อาชญากรรมขา มชาติ ทกุ ดาน และมคี วามม่ันคงทางสังคม โดย
ท่รี ุนแรง และถอื เปนการละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชนอยา งมาก อกี ทง้ั
ยังกอใหเกิดปญ หาในดานตา งๆ เชน ปญหาโรคระบาด ปญ หา - การพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย โดยการบรู ณาการสรางสังคมความรู พัฒนา
ยาเสพตดิ เปน ตน ประชาคมอาเซยี น จงึ ใหค วามสาํ คญั ทจ่ี ะปอ งกนั ทรพั ยากรมนษุ ย สงเสรมิ การจางงานทเ่ี หมาะสม สงเสรมิ ICT การเขา ถงึ
และลดปญ หาการคา มนษุ ย เพอื่ ใหป ระชาคมอาเซยี นมคี วามเขม แขง็ วิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
และสามารถพฒั นาตอ ไปได ซง่ึ เมอื่ วันที่ 5 กนั ยายน พ.ศ. 2555
ประเทศไทยไดเปนเจาภาพจดั การประชมุ อาเซยี น วาดว ยความ - การคมุ ครองและสวัสดิการสงั คม ขจัดความยากจน สรางเครือขา ยความ
รวมมอื ดา นการขา วหนว ยตรวจคนเขา เมือง ครง้ั ท่ี 8 ซ่ึงเปนการ ปลอดภัยทางสังคม สงเสรมิ ความมนั่ คงและความปลอดภยั ดา นอาหาร การควบคมุ
ประชุมหารือประเดน็ ตางๆ เชน การประสานขอมูลดา นการขาว โรคตดิ ตอ
ในกลมุ ประเทศสมาชกิ การรว มมอื ดา นการตอตานการคา มนุษย
และอาชญากรรมขา มชาติ เปนตน - ใหความยุตธิ รรมและสิทธิ คุม ครองสิทธผิ ูดอยโอกาส แรงงานยายถนิ่ ฐาน
สงเสรมิ ความรบั ผดิ ชอบตอ สงั คมขององคกรธรุ กิจ ดงั นัน้ ทําใหประเทศอาเซยี น
มีการเตรียมความพรอมโดยการเสริมสรา งขดี ความสามารถของอาเซยี นในการเผชญิ
กับภัยคุกคามความมั่นคง บนพ้นื ฐานความม่นั คงของมนษุ ย ตลอดจนประสาน
การจดั ทาํ ขอ มลู กลางในเร่อื งอาชญากรรมขา มชาติในอาเซียน

คู่มือครู 181

กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้

1. ครูใหนกั เรียนรว มกันอภิปรายถงึ ความสาํ คัญ ต่อมาประเทศไทยได้ร่วมลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติเพ่ือต่อต้านอาชญากรรม
และผลดจี ากการมกี ฎหมายท่เี กยี่ วกบั
การคามนุษย พรอมทง้ั ยกตัวอยา งกฎหมาย ข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร พ.ศ. ๒๕๔๓ และพิธีสารเพ่ือป้องกันปราบปรามและลงโทษ
ทเ่ี กี่ยวกับการคามนุษยท่ีสาํ คญั 2-3 ตัวอยา ง
จากน้ันสรปุ ผลการอภปิ ราย นําสงครูผูส อน การค้ามนุษย์ โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๓ เพิ่มเติมอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อ

2. ครใู หน กั เรยี นเปรยี บเทยี บการลภี้ ยั ทงั้ 2 ลกั ษณะ ตอ่ ตา้ นอาชญากรรมขา้ มชาตทิ จี่ ดั ตงั้ ในลกั ษณะองคก์ ร และไดต้ รากฎหมายพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั
วามคี วามแตกตางอยา งไร ใหน ักเรยี นอธิบาย
โดยการวาดผังความคดิ พรอ มคําอธบิ าย และปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ขน้ึ ต่อมาตามลา� ดับ
ประกอบ
(แนวตอบ การล้ภี ยั แบง ออกไดเ ปน 2 ลักษณะ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ก�าหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
ดังนี้
การล้ภี ยั ทางดินแดน เปนการขอล้ีภยั การคา้ มนุษยข์ ึ้น เพอ่ื ท�าหนา้ ที่ก�ากับดแู ลการด�าเนินการตามพนั ธกรณรี ะหว่างประเทศ ตลอดจน
เพ่ือเขาไปในดินแดนของรฐั ผูใหลภี้ ยั
ซง่ึ ขนึ้ อยกู ับการตัดสินใจของรัฐดนิ แดนวา การให้ความร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศเก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการค้า
จะใหลภี้ ัยหรอื ไม
การลี้ภัยทางทตู หมายถงึ การทีผ่ ลู ้ภี ยั มนุษย์ และก�าหนดให้มีคณะกรรมการประสานและก�ากับการด�าเนินงานป้องกันและปราบปราม
ขอลีภ้ ยั เขาไปอยใู นสถานทตู ของรัฐผูใหล ภ้ี ัย
ซึ่งตัง้ อยูในดนิ แดนของรัฐท่ีตองการตัว การค้ามนุษย์ มีหน้าท่ีติดตามและจัดท�ารายงานเกี่ยวกับการด�าเนินการตามพันธกรณีระหว่าง
ผูขอลภี้ ยั เอง)
ประเทศและให้ความร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม

การคา้ มนุษย์ เพือ่ ให้การบงั คับใชก้ ฎหมายเกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ และสอดคลอ้ งกบั กฎหมายอ่นื

ที่เกีย่ วข้องและพันธกรณีระหวา่ งประเทศ ปัญหาผู้ลภ้ี ัยเ1ป็นประเด็นทางมนษุ ยธรรมทม่ี ีกฎหมาย

๓) กฎหมายว่าดว้ ยผู้ล้ภี ัย

ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถึงแม้จะมีการรับรองว่าสิทธิแสวงหาที่ลี้ภัยเป็นสิทธิ

มนุษยชน แตร่ ัฐต่างๆ กย็ ังลา� บากใจเม่อื ต้องกลายเปน็ รฐั ผใู้ ห้ลีภ้ ัย โดยการลี้ภัยสามารถแบง่ ออก

ไดเ้ ปน็ ๒ ลักษณะ คอื

๑. การลีภ้ ยั ทางดนิ แดน (territorial asylum) หมายถึง การขอลีภ้ ัยเพื่อเขา้ ไป

อยู่ในดินแดนของรัฐผู้ให้ลี้ภัย ซึ่งขึ้นกับการตัดสินใจของรัฐดินแดนว่าจะให้ลี้ภัยหรือไม่ โดย

พิจารณาจากพันธกรณใี นข้อตกลงระหวา่ งประเทศและกฎหมายภายในของรฐั นน้ั

๒. การลภ้ี ัยทางทตู (diplomatic asylum) หมายถึง การลี้ภัยท่ีผูข้ อลีภ้ ยั เขา้ ไป

อยใู่ นสถานทตู ของรฐั ผใู้ หล้ ภ้ี ยั ซ่งึ ตง้ั อย่ใู นดนิ แดนของรัฐท่ีตอ้ งการตัวผ้ขู อล้ีภยั เอง

แหง่ สหประชาปชัจาจตุบขิ2ันนึ้ สเมพัชอ่ื คชมุ้าใคหรญอง่สแหลปะแรกะป้ชญัาชหาาตขิไอดง้มผีลู้กภี้ารยั จทัดวั่ ตโล้ังกส�ารนวมักทงางั้ ปนกขป้าอ้หงลสวทิ งธใขิหน้ัญพ่ผน้ื ู้ลฐ้ีภานัย

ของผู้ล้ีภัย โดยเฉพาะสิทธิที่จะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัยในประเทศอื่น เพื่อเตรียมพร้อมท่ีจะ

สง่ กลับประเทศตน้ ทางตามที่ผู้ลภ้ี ัยต้องการ หรือเพือ่ ท่ีจะส่งไปยังประเทศที่สาม

182

นกั เรยี นควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การลี้ภยั ทางดนิ แดน และการลี้ภัยทางการทูตมีความแตกตางกัน
1 ผูลภ้ี ัย อนสุ ัญญาวาดวยสถานภาพผูลภ้ี ัย พ.ศ. 2494 ใหค าํ นยิ าม อยา งไร
และความหมายของสถานภาพผูลภี้ ัยวา หมายถงึ บุคคลทีจ่ ําเปนตอ งทงิ้ ประเทศบาน แนวตอบ มีความแตกตางกนั คอื การลภี้ ัยทางดินแดน
เกดิ ของตนเอง เนื่องจากความหวาดกลวั การถกู ประหตั ประหาร หรือไดร บั การคุกคาม ผขู อลภี้ ยั มคี วามตอ งการทจี่ ะเขา ไปอยใู นดนิ แดนหรอื ประเทศตา งๆ
ตอ ชีวิตเนื่องจากสาเหตุขอ หน่ึงขอ ใด เชน เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ สมาชิกภาพ ตามที่รอ งขอ ซง่ึ ขนึ้ อยูกับการตดั สนิ ใจของดินแดนเหลา นน้ั วา
ในกลมุ ทางสังคม สมาชิกภาพในกลุมความคดิ ทางการเมอื ง เปนตน จะใหล ้ีภัยหรือไม สว นการลภ้ี ยั ทางทตู คอื การท่ผี ูขอลภี้ ยั ยงั อยู
2 สาํ นักงานขา หลวงใหญผ ลู ีภ้ ัยแหง สหประชาชาติ (United Nations High ภายในประเทศทีต่ องการลภี้ ัย แตท ําเรื่องขอลภ้ี ยั เขา ไปอยูใน
Commissioner for Refugees : UNHCR) กอต้ังเมอ่ื วันที่ 9 มิถนุ ายน พ.ศ. 2489 สถานทูตของรฐั ผใู หล ภ้ี ยั
โดยนายแฟรงกลิน ดี.รสุ เวลต ประธานาธบิ ดคี นที่ 32 ของสหรัฐอเมรกิ า
มสี าํ นักงานใหญอ ยทู ่กี รุงเจนวี า ประเทศสวติ เซอรแ ลนด

182 คู่มือครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain

อธบิ ายความรู้

ในส่วนของประเทศไทยน้ัน ได้ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือและอ�านวยความสะดวก ครใู หน ักเรยี นยกตัวอยางกฎหมายการสง ผูราย
เกี่ยวกับผู้อพยพหนีภัยเข้ามาในดินแดนประเทศไทยอย่างต่อเน่ือง ตามหลักมนุษยธรรมด้วยดี ขา มแดน คนละ 1 กฎหมาย โดยอธบิ ายวา
โดยใหค้ วามคมุ้ ครองตอ่ ผ้อู พยพ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตในดา้ นต่างๆ อาทิ การฝกึ ทกั ษะอาชพี เปนกฎหมายอะไรและมสี าระสาํ คญั อยา งไร

และกา รศกึ ษา๔เพ) ื่อกเขฎาหจมะสาายมการาถรดสา�่งเผนูนิ้ร้าชยีวิตขร้าะมหแวา่ดงนอยใู่วนิธพีก้ืนาทรสพ่ี ่งักผพู้ริง้าชย่วั ขค้ารมาวแอดยน่าเ1งปป็นลวอิธดีกภาัยรที่รัฐ (แนวตอบ ตัวอยา งกฎหมายการสงผรู า ย
ขามแดน เชน พระราชบัญญตั ิสง ผูรา ยขา มแดน
ต่างๆ ได้ยึดถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และนับว่าเป็นการแสดงความร่วมมือระหว่างรัฐ พ.ศ. 2551
ในการจัดการกับผู้กระท�าความผิดที่พยายามหลบหนีให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมวิธีหนึ่ง
นอกเหนือไปจากการให้ความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การช่วยจัดหา และจัดส่งพยานบุคคล มาตรา 8 การสงผรู ายขามแดนใหเ ร่มิ ตน
พยานเอกสาร หรือพยานวตั ถรุ ะหวา่ งกนั การส่งผู้รา้ ยข้ามแดนนน้ั โดยปกตจิ ะกระทา� ในลักษณะ ดวยการมคี าํ รอ งขอใหส งผรู า ยขา มแดนจาก
ของข้อตกลงทวิภาคี ซ่ึงจะมีสาระสา� คัญเก่ยี วกับความผิดท่สี ามารถส่งตัวผกู้ ระทา� ขา้ มแดนได้นนั้ ประเทศผรู อง ขอคํารองขอใหส งผูรา ยขา มแดนของ
จะต้องรา้ ยแรงถงึ ระดบั หน่ึง และจะตอ้ งไม่ใชค่ วามผิดทางการเมอื ง หรอื การทหาร ประเทศผรู องขอท่ีมสี นธิสญั ญาสง ผรู า ยขามแดน
กบั ประเทศไทย ใหจ ัดสงไปยงั ผูประสานงานกลาง
ตัวอย่างของสนธิสัญญาหรือข้อตกลงท่ีเกิดข้ึน คือ สนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่ง ในกรณีท่ปี ระเทศผูรองขอมิไดมสี นธสิ ัญญาสงผูร าย
ราชอาณาจกั รไทยกบั รฐั บาลแหง่ สหรฐั อเมรกิ าวา่ ดว้ ยการสง่ ผรู้ า้ ยขา้ มแดน พ.ศ. ๒๕๓๓ สนธสิ ญั ญา ขา มแดนกับประเทศไทย ใหจดั สงคํารอ งขอ
ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการส่งผู้ร้าย ดังกลา วโดยผา นวิถที างการทูต
ขา้ มแดน พ.ศ. ๒๕๔๑
มาตรา 27 เม่ือจับบุคคลซึง่ ถูกรอ งขอใหส ง
นานาสาระ ขา มแดนไดแ ลว ไมวาจะไดม ีคํารอ งขอตาม
พระราชบญั ญตั นิ ห้ี รือไม ใหเจา หนาทผี่ ูมีอํานาจ
อาชญากรรมสงคราม ซ่งึ จับกมุ บุคคลดงั กลาวสอบถามบุคคลนนั้ วา
จะยินยอมใหสงขามแดนหรือไม)
อาชญากรรมสงคราม (War Crime) คือ การละเมิดฝ่าฝืนจารีตประเพณี หรือกฎในการทำาสงคราม เช่น
การฆ่าคนหรือเชลยศึกจำานวนมาก การสังหารตัวประกันโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ จนทำาให้เกิดความเสียหาย
อยา่ งรุนแรงต่อมวลมนุษยชาติ เป็นตน้

โดยปัจจุบันอาชญากรรมสงครามเป็นอำานาจหน้าท่ีของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่จะดำาเนินการ
ด้านกระบวนการยตุ ธิ รรม

ตัวอย่างการกระทำาที่ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ได้แก่ การสั่งสังหารชาวยิวนับล้านคนของบรรดาผู้นำา
นาซเี ยอรมัน ในชว่ งสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 การสงั หารชาวบอสเนยี นับหมืน่ คนของอดีตผนู้ าำ เซอร์เบยี ในสมัยสงคราม
บอสเนยี ชว่ ง ปี ค.ศ. 1992 - 1995 (พ.ศ. 2535 - 2538) เป็นตน้

183

ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT เกรด็ แนะครู

ผกู ระทาํ ความผดิ ประเภทใด ไม สามารถสง ตวั ผกู ระทาํ การขา มแดนได ครคู วรใหน กั เรียนรว มกนั อภปิ รายในประเดน็ ความสาํ คญั ของกฎหมายการสง
1. ความผดิ ทางสงั คม ผรู ายขา มแดน รวมถงึ วิเคราะหถ ึงประโยชนทเี่ กิดจากการมีกฎหมายการสง ผรู า ย
2. ความผิดทางการเมอื ง ขามแดน โดยท่ีครคู วรมสี วนรวมในการอภปิ รายของนกั เรยี น ทงั้ การต้งั คําถาม
3. ความผิดทางเศรษฐกจิ ตงั้ ขอสงั เกต เพอื่ กระตุนใหน กั เรียนไดใชทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห
4. ความผิดทางจารีตประเพณี
นักเรยี นควรรู
วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เน่อื งจากการสงตวั ผรู า ย
1 การสง ผูรายขา มแดน คอื การสงมอบตัวผูต องหาหรือผซู ่ึงตองคาํ พพิ ากษา
ขามแดนนั้นโดยปกติจะกระทาํ ในลกั ษณะของขอตกลงทวิภาคี ใหล งโทษแลว ไปยังรฐั ซ่ึงผนู นั้ ตองหาวา ไดกระทําผิดทางอาญา หรอื ถกู พิพากษา
ซึ่งมีสาระสาํ คญั เก่ยี วกับความผดิ ที่สามารถสงตัวผกู ระทาํ ขามแดน ใหล งโทษทางอาญาแลวในดนิ แดนของรัฐที่ขอใหสง ตัวโดยรฐั ซึง่ บคุ คลนน้ั
ไดน ้ัน จะตอ งรายแรงถึงระดับหนง่ึ และไมใ ชความผิดทางการเมือง ไปปรากฏตวั อยู
หรือการทหาร

คูม่ ือครู 183

กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู

1. ครูใหนกั เรียนยกตัวอยางกฎหมายที่เกี่ยวกับ ๕) กฎหมายการให้ความคุ้มครองแก่คนชาติ กฎหมายระหว่างประเทศในส่วน
การคมุ ครองแกค นชาติ คนละ 1 กฎหมาย
แลว นาํ มารวมกนั วเิ คราะหและอภปิ ราย ทเี่ กยี่ วกบั การใหค้ วามคมุ้ ครองตอ่ ผมู้ สี ญั ชาตขิ องรฐั เปน็ กฎหมายทใ่ี ชค้ วบคมุ และคมุ้ ครองคนชาติ
สาระสาํ คญั รวมถงึ ประโยชนของกฎหมาย หโดรยอื รผัฐทู้ ส่มี ัญสี ชญั าชตาิขตอิขงอคงนรัฐต่าทงง้ัดท้าีเ่วปนน็ ้ันบอคุ าคจลดธ�ารเรนมินดกาาแรลใะหน้ ิต“บิคุควคามลคเุม้มื่อคตรออ้ งงไทปาองยก่ใูานรดทินูตแ1ด(นdiขpอloงmรัฐaอti่ืนc
ดังกลา ว protection)” แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นคนชาติของตน ด้วยการน�าเรื่องขึ้นเรียกร้องกับรัฐท้องถ่ิน
เรม่ิ ตน้ จากการเจรจาตามวถิ ที างการทตู ไปจนถงึ อาจมกี ารเรยี กรอ้ งในระดบั อนญุ าโตตลุ าการหรอื
2. ครูใหน กั เรียนหาขา วจากส่ือตางๆท่ีมีประเด็น ศาลระหวา่ งประเทศต่อไป
เกยี่ วกบั ปญหาแรงงานระหวา งประเทศ
แลว นาํ มาวิเคราะหว า จากเน้ือหาในขา วน้ัน กฎหมายเก่ียวกับการให้ความคุ้มครองแก่คนชาติมีความส�าคัญและพัฒนามาเป็น
มคี วามเกีย่ วขอ งกับกฎหมายระหวา งประเทศ เวลานาน และมีบทบาทในการก�าหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบพ้ืนฐานซ่ึงรัฐมีระหว่างกันใน
ใดบาง โดยใหนกั เรียนนาํ ขาวมาติดลงใน ระดบั ระหว่างประเทศ ว่าการกอ่ ความเสียหายแกค่ นชาติของรฐั หน่งึ หากไมแ่ ก้ไข เม่อื ถึงจุดหนึง่
กระดาษ A4 แลว เขยี นคาํ อธบิ ายประกอบ อาจเป็นผลให้เกิดความรับผิดชอบระหว่างประเทศต่อรัฐสัญชาติของเขาได้ รวมทั้งยังเชื่อมโยง
ไปถึงวิธีการเพ่ือใช้สิทธิในการเรียกร้อง และระงับกรณีขัดแย้งระหว่างรัฐ เช่น โดยการเจรจา
3. ครูใหน กั เรียนจดั ทําผังความคดิ ท่ีแสดงถงึ ผลดี การอนญุ าโตตุลาการ หรอื ทางศาล เปน็ ต้น
ท่ีเกดิ ข้ึนจากการมีกฎหมายแรงงานระหวา ง
ประเทศ แลว นาํ ผลงานมาแสดงภายในชั้น ๖) กฎหมายแรงงานระหว่างประเทศ กฎหมายแรงงานเป็นกฎหมายที่พัฒนา
เพ่ือทําการแลกเปลย่ี นเรยี นรู
ขึ้นในสังคม ต้ังแต่เป็นเพียงกฎหมายเก่ียวกับสัญญาจ้างแรงงาน ซ่ึงยอมให้คู่กรณีตกลงเง่ือนไข
ของสัญญากันได้เองตามสมัครใจ มาจนปัจจุบันมีกฎหมายควบคุมเพ่ิมขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครอง
ฝา่ ยท่ีมกั เสียเปรยี บในการทา� สัญญา รวมท้ังเพ่อื รักษาคุณภาพของผูใ้ ชแ้ รงงาน และป้องกันมใิ ห้
สงั คมตอ้ งรับภาระเนอื่ งจากผปู้ ระสบเคราะหก์ รรมจากการทา� งาน

กฎหมายแรงงาน ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงาน ค่าจ้างและประโยชน์
ตอบแทนตา่ งๆ ในการทา� งาน และหลกั ประกนั เมอื่ มกี ารประสบภยั จากการทา� งานหรอื เมอ่ื วา่ งงาน
ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง รวมท้ังระงับข้อขัดแย้งระหว่าง
ลูกจา้ งกับนายจ้าง

ประเด็นปัญหาด้านแรงงานถือเป็นปัญหาที่มิได้จ�ากัดอยู่แต่เฉพาะภายในแต่ละ
อปงรคะเ์กทาศรเแทร่างนงา้ันนรพะิจหาวร่าณงปาไรดะเ้จทาศกขก2้ึนารทเพ่ีป่ือระใเหท้แศรตง่างงาๆนจท�า่ัวนโลวนกมีม๑๘าต๓รฐปารนะคเวทาศมเไปด็น้รอ่วยมู่ทก่ีดันียจิ่งัดขต้ึน้ัง
มสี ภาพการท�างานที่เกื้อกลู ต่อผู้ใช้แรงงาน มีโอกาสท�างาน และมีความม่นั คงทางเศรษฐกจิ โดย
การสร้างกฎเกณฑ์วางมาตรฐานการใช้แรงงานระหว่างประเทศในรูปแบบของอนุสัญญา เช่น
การใหล้ ูกจ้างมอี ิสระทจ่ี ะเลอื กเปน็ สมาชกิ สมาคมสหภาพแรงงาน การห้ามใชแ้ รงงานเด็ก เปน็ ตน้

184

นักเรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
องคการแรงงานระหวางประเทศมีความสําคัญอยางไร
1 ความคุมครองทางการทูต จําแนกได 3 ประเภท คือ แนวตอบ องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ หรือ ไอ แอล โอ
ความคุม กนั เก่ียวกบั ตัวบคุ คล หมายถึง ความละเมิดมไิ ดใ นตวั แทนทางการทูต (International Labour Organization : ILO) เปน หนว ยงานท่ีมี
บทบาทหนา ทใ่ี หค วามชวยเหลือใหผูใ ชแรงงานทั่วโลก ไดมชี ีวติ
ปลอดจากการจับกมุ หรอื กกั ขัง และสภาพการทาํ งานทดี่ ขี นึ้ คมุ ครองผใู ชแ รงงานใหไ ดร บั สทิ ธติ า งๆ
ความคุมกันเกีย่ วกบั สถานที่ หมายถึง ความละเมิดมิไดในสถานทท่ี าํ การของ ตามแนวทางสิทธิมนุษยชน เชน มีความปลอดภัยในการทํางาน
รอดพน จากการใชง านอยางทารุณ เปน ตน ถือเปน หนว ยงาน
ผูแทนทางการทตู และท่อี ยูสวนตวั ของผแู ทนทางการทตู ทสี่ ง เสริมและปกปองดา นสทิ ธิมนษุ ยชนอยา งแทจรงิ
ความคุม กนั ทางศาล หมายถงึ การหลดุ พน จากอาํ นาจศาลในรัฐผูรับ

ความคุมกนั นีม้ ไี ดท ง้ั ทางคดอี าญา คดแี พง และคดีปกครอง
2 องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ (International Labors Organization : ILO)
เปนองคก ารชาํ นาญพเิ ศษของสหประชาชาติ มีภารกจิ หลัก คอื การชวยเหลือผูใช
แรงงานทว่ั โลกใหไ ดรับความยุติธรรมจากสงั คม ใหม ชี วี ติ และสภาพการทํางานทดี่ ีข้ึน

184 คูมือครู

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain

อธบิ ายความรู้ Explain

ปัจจุบันประเทศไทยได้ร่วมให้สัตยาบันอนุสัญญาท่ีเก่ียวข้องกับกฎหมายแรงงาน ครูใหนกั เรียนอธิบายจดุ มงุ หมายสาํ คญั
ระหว่างประเทศไปแล้วหลายฉบับ และได้พยายามด�าเนินการให้เป็นไปตามอนุสัญญา ไม่ว่าจะ ของการมีกฎหมายสงิ่ แวดลอมระหวา งประเทศ
เป็นการหยุดพักผ่อนประจา� สัปดาห์ในงานอุตสาหกรรม การจัดตั้งบริการจัดหางาน การก�าหนด พรอ มบอกผลดีของการมกี ฎหมายสง่ิ แวดลอ ม
อายุข้ันต�า่ ที่อนุญาตใหจ้ า้ งงานได้ การฟ้นื ฟสู มรรถภาพทางอาชพี การจา้ งงานคนพิการ เปน็ ตน้ ระหวา งประเทศ

๗) กฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เป็นสาขาหนึ่งของกฎหมายระหว่าง (แนวตอบ จดุ มุงหมายสาํ คญั ของการมีกฎหมาย
ส่ิงแวดลอ มระหวา งประเทศ มาจากแนวคดิ ท่ีวา
ประเทศท่ีใช้ควบคุมการด�าเนินกิจกรรมของรัฐ และปัจเจกบุคคลท่ีอยู่ภายใต้อ�านาจรัฐ ซ่ึง สง่ิ แวดลอ ม ถอื เปน สมบตั สิ ว นรวมของมนษุ ยชาติ
มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครอง อนุรักษ์ และพัฒนาส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน เกิดขึ้นเนื่องจาก ทจี่ ะตอ งรว มกนั รักษา และตอ งรว มมอื แกไ ขปญหา
ความกังวลของนานาประเทศเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และได้มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง สง่ิ แวดลอ มทเี่ กดิ ขนึ้ ตามความสามารถและศกั ยภาพ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ของแตละประเทศ สาระสําคัญของกฎหมาย
สิง่ แวดลอ มเกดิ ขึน้ จาก การทาํ ขอ ตกลงกนั ระหวา ง
สาระส�าคัญของกฎหมายฉบับนี้ เกิดข้ึนจากการท�าข้อตกลงกันระหว่างรัฐต่างๆ รฐั ซง่ึ มีประเด็นที่ครอบคลุมในเรอื่ งการรกั ษา
กจึงาทรล�าดใหล้มงขีรอายงโลอะโเซอนียดกเปาร็นเจป�าลนีย่ วนนแมปาลกงแสลภะาคพรภอูมบิอคาลกุมาใศนขเอร่ืองโงลตก่าง1เๆปน็ เตชน้ ่น เรื่องมลพิษทางอากาศ สิ่งแวดลอม เชน การควบคมุ มลพิษทางอากาศ
การลดการทําลายช้ันโอโซน การแกไขปญหาภาวะ
แต่หลักการส�าคัญของกฎหมายส่ิงแวดล้อมระหว่างประเทศน้ัน คือ ส่ิงแวดล้อม โลกรอน เปนตน)
ถือเปน็ สมบัตสิ ว่ นรวมของมนุษยชาติ ท่ีต้องรว่ มกนั ปกปอ้ งและรกั ษา รวมทงั้ ต้องให้ความร่วมมือ
ในการแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มตามกา� ลงั ความสามารถของแตล่ ะรฐั ขยายความเขา้ ใจ Expand

กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกฎหมายท่ีใช้ในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐในเบื้องต้น ครูใหนกั เรยี นจดั ทาํ ส่อื เพื่อการเรยี นรู
ปจั จบุ นั ไดพ้ ฒั นาอยา่ งรวดเรว็ โดยเพม่ิ รายละเอยี ดของเนอื้ หามากขนึ้ เรอ่ื ยๆ จนกลายเปน็ กฎหมาย ท่เี กีย่ วกบั กฎหมายระหวา งประเทศทสี่ ําคัญ โดย
เก่ียวกับการร่วมกันท�ากิจกรรมระหว่างรัฐ ผ่านทางองค์การหรือสมาคมระหว่างรัฐต่างๆ ดังนั้น ใหน กั เรยี นจดั ทาํ ในรูปแบบตา งๆ ตามทน่ี กั เรยี น
ในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศและพลโลกจึงต้องศึกษาและเรียนรู้ เพื่อท�าความเข้าใจกฎหมาย ถนัด เชน แผน พับ สมดุ ภาพ PowerPoint เปนตน
ต่างๆ เหล่านี้ เพ่ือน�ามาใช้เป็นแนวทางในการด�าเนินชีวิตและแนวทางการพัฒนาประเทศให้ แลว นําสง ครูผูส อน
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานของโลกตอ่ ไป
ตรวจสอบผล Evaluate
กลา่ วโดยสรปุ ไดว้ า่ กฎหมาย คอื กฎกตกิ าทส่ี งั คมตงั้ ขนึ้ มาเพอื่ ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ควบคมุ
หรือจัดระเบียบทางสังคม โดยกฎหมายได้วางแนวทางสำาหรับการอยู่ร่วมกันและได้กำาหนด ครตู รวจสอบความถูกตอ งของการจัดทําสื่อ
บทบาท สิทธิ และหน้าที่ของแต่ละคนในสังคมไว้ ต้ังแต่เกิดจนตาย ซ่ึงในฐานะสมาชิกของ เพ่อื การเรยี นรูเ รือ่ งกฎหมายระหวา งประเทศ
สังคมจึงมีความจำาเป็นท่ีจะต้องศึกษาและทำาความเข้าใจกฎหมาย ยิ่งโดยเฉพาะกฎหมายที่ ทส่ี าํ คัญ
เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว กฎหมายแพ่งเก่ียวกับนิติกรรมสัญญา กฎหมายอาญา
ตลอดจนกฎหมายอ่นื ๆ ทเี่ กยี่ วข้องและมีผลกระทบตอ่ ส่วนรวมที่ควรรู้ เช่น กฎหมายเกยี่ วกับ
การรับราชการทหาร กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค
กฎหมายระหว่างประเทศในเร่ืองต่างๆ เป็นต้น เพราะการศึกษากฎหมายดังกล่าวจะเป็น
ประโยชน์ทง้ั ต่อตนเอง สังคม ชุมชน และสังคมโลก

185

ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นักเรยี นควรรู

ขอใดตอ ไปนเ้ี ก่ยี วกับขอ งกฎหมายระหวางประเทศ 1 การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก เปนประเดน็ ปญ หาทป่ี ระเทศสากล
1. การลภ้ี ัย ท่ัวโลกใหความสนใจ โดยเฉพาะอยา งยิ่ง ภาวะโลกรอน (Global Warming) ซ่งึ มี
2. การจาํ นอง สาเหตุมาจากการทํากิจกรรมตา งๆ ของมนษุ ยท ี่ทาํ ลายชัน้ บรรยากาศ เชน
3. การละเมดิ การเผาไหมเ ชื้อเพลงิ คารบ อน การปลอ ยแกส เรอื นกระจก การตัดไมท ําลายปา
4. การขายทอดตลาด เปนตน จากปญ หาดงั กลา ว จงึ ไดมคี วามพยายามในการสรางกฎหมายส่งิ แวดลอม
ระหวา งประเทศขึ้น เชน พิธสี ารเกียวโต (Kyoto Protocol) ทเ่ี ปน สนธิสัญญาเพ่ือ
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. เพราะการลี้ภยั เปน เร่ืองของการ มุงลดควบคมุ ปรมิ าณการปลอยแกส เรือนกระจก โดยเฉพาะอยางย่ิงในกลมุ ประเทศ
อุตสาหกรรม
ทีบ่ คุ คลรอ งขอตอ ดนิ แดนหรือประเทศตางๆ เพือ่ หลกี หนีภัย
อันตรายตา งๆ ภายในประเทศของตน สว นในขอ อืน่ ๆ เปนเรอ่ื ง มมุ IT
ที่เก่ียวกับกฎหมายแพง และพาณิชยท งั้ สิ้น
ศกึ ษาคนควาขอ มูลเพ่ิมเติมเก่ยี วกับกฎหมายสงิ่ แวดลอมระหวา งประเทศ ไดท ี่
www.onep.go.th/download/soe42/21.doc

คูม่ อื ครู 185

กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand
Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล

ครูตรวจสอบความถกู ตอ งจากการตอบคําถาม คาปถระาจÓมหนว่ ยการเรียนรู้
ประจาํ หนวยการเรียนรู
๑. กฎหมายมคี วามสา� คญั ต่อตวั เราและสังคมไทยอยา่ งไร จงอธิบาย
หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู ๒. กฎหมายแพ่งเก่ียวกบั ตนเองและครอบครัวทส่ี �าคัญมีอะไรบ้าง ให้สรุปมาพอสงั เขป
๓. กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่เก่ียวข้องกับเร่ืองใด และมีความส�าคัญต่อการอยู่ร่วมกัน
1. ปายนเิ ทศเพอื่ ใหค วามรูท เี่ ก่ยี วกบั การทาํ สญั ญา
ตามกฎหมาย ในสังคมอย่างไร
๔. เพราะเหตใุ ดเราจึงจา� เป็นต้องใหค้ วามสา� คญั กบั กฎหมายระหวา่ งประเทศ
2. บันทกึ ผลการวเิ คราะหค วามผดิ ทางอาญา ๕. นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ว่าการเรียนรู้ท�าความเข้าใจกฎหมายแต่ละประเภทเป็นวิธีที่ดีท่ีสุด
และผลกระทบท่มี ีตอสังคม
ท่จี ะท�าให้เราสามารถปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายได้อย่างถกู ต้อง จงวิเคราะหแ์ ละให้เหตุผล
3. สือ่ เพ่อื การเรียนรทู ีเ่ กยี่ วกับกฎหมายระหวา ง
ประเทศทีส่ าํ คญั

กิจสรก้ารงรสมรรค์พัฒนาการการเรยี นรู้

กิจกรรมท่ี เชญิ วทิ ยากรในทอ้ งถิ่นมาบรรยายให้ความรเู้ กย่ี วกับกฎหมายในชีวิตประจา� วัน
ทีน่ ักเรียนควรรู้ และแนวทางการปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย
๑ ให้นักเรียนน�าภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันคนละ ๑ ข่าว แล้วน�ามา
อภปิ รายรว่ มกนั ในชั้นเรยี นวา่ ภาพหรอื ขา่ วดงั กลา่ วนั้นเก่ยี วข้องกบั กฎหมาย
กิจกรรมที่ อะไรและเพราะเหตใุ ดจึงไดส้ รุปเช่นน้นั
ให้นักเรียนจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้ความรู้และเชิญชวนให้สมาชิกในโรงเรียน
๒ ปฏบิ ัติตามกฎหมายในชีวติ ประจ�าวันที่ได้เรียนมา

กิจกรรมท่ี



186

แนวตอบ คาํ ถามประจาํ หนวยการเรยี นรู
1. กฎหมายเปนสิ่งทกี่ ําหนดสถานะและบทบาทหนาทขี่ องเรา อีกทงั้ เปนหลักในการปฏบิ ตั ิตนเพือ่ ใหเ กดิ ความเปนระเบยี บ

เรียบรอยภายในสงั คม ซึง่ หากทุกคนปฏบิ ตั ิตามกฎหมายอยา งเครง ครัด ยอมสง ผลใหส ังคมมีความสงบสขุ และปลอดภัย
2. โดยทวั่ ไปการแบงประเภทของกฎหมายจะพิจารณาโดยใชหลักเกณฑ 3 ประการ ไดแ ก

- การจัดแบง กฎหมายโดยอาศัยองคกรท่อี อกกฎหมายเปนเกณฑ
- การแบง ประเภทตามลักษณะความสมั พันธของคกู รณีทเ่ี ก่ยี วขอ งกบั กฎหมาย
- การแบง ประเภทตามบทบาทของกฎหมาย
3. กฎหมายแพง ทเ่ี ก่ียวของกบั ตนเองและครอบครวั เชน กฎหมายเรอื่ งบุคคล กฎหมายเรอ่ื งละเมดิ กฎหมายเรือ่ งมรดก เปนตน
4. เพราะเราจะตองมกี ารตดิ ตอ สื่อสารกนั ระหวางประเทศ จงึ จาํ เปนตอ งมกี ฎหมายระหวางประเทศเพอ่ื เปน ขอกาํ หนดใหเกิด
การปฏิบัติรว มกนั และเพอ่ื ชว ยรักษาความสัมพนั ธระหวางประเทศ
5. เห็นดวย เพราะการศึกษากฎหมายจะชวยใหเ ราเขาใจในบทบญั ญัตขิ องกฎหมายตางๆ แลวสามารถนํามาปฏบิ ัตใิ นชวี ติ
ประจาํ วันไดอ ยางถูกตอง

186 คู่มอื ครู

กระตนุ้ ความสนใจ ส�ำรวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate

บรรณานกุ รม

กัญญา ลีลาสัย. ประวัติศาสตรช์ นชาติไทย. กรุงเทพมหานคร : สถาบันวิถที รรศน,์ ๒๕๔๔.
ข้อมลู มตชิ น, ศูนย์. มติชนบันทึกประเทศไทย ปี ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : มติชน, ๒๕๕๒.
คณะกรรมการพเิ ศษเพอ่ื ประสานงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ร,ิ สา� นกั งาน. การประกวดผลงาน
ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง. กรงุ เทพมหานคร : อรุณการพมิ พ์, ๒๕๕๑.
คณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาต,ิ สา� นกั งาน.แนวทางการสบื คน้ วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ไทย. กรงุ เทพมหานคร:
โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว, ๒๕๔๔.
บรหิ ารวชิ าบรู ณาการ, โครงการ. มนษุ ย์กับสังคม. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร,์ ๒๕๔๒.
เฉลียว ฤกษ์รุจิพมิ ล. “การจดั ระเบยี บสงั คม” ใน สงั คมวทิ ยา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร,์ ๒๕๔๓.
ชนดิ า ชติ บณั ฑติ ย.์ โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ริ: การสถาปนาพระราชอา� นาจนา� ในพระบาทสมเดจ็
พระเจา้ อยหู่ วั . กรงุ เทพมหานคร: มลู นธิ โิ ครงการตา� ราสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร,์ ๒๕๕๐.
ชาญชยั แสวงศกั ด.ิ์ คมู่ ือประชาชนเรือ่ งความรเู้ ก่ยี วกบั สิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของประชาชน.
กรงุ เทพมหานคร : สา� นกั งานศาลปกครอง, ๒๕๔๕.
ด�ารงค์ ฐานด.ี มานษุ ยวิทยาเบอ้ื งต้น. กรุงเทพมหานคร : โอเดยี นสโตร,์ ๒๕๔๔.
ธรี ยุทธ บญุ ม.ี ชาตนิ ยิ มและหลังชาตินยิ ม. กรงุ เทพมหานคร : สายธาร, ๒๕๔๖.
พระธรรมนญู ศาลยตุ ธิ รรม พ.ศ. ๒๕๔๓. กรงุ เทพมหานคร : วทิ ยพฒั น์, ๒๕๔๔.
พระราชบัญญตั ริ ับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗. กรงุ เทพมหานคร : สตู รไพศาล, ๒๕๔๗.
มานษุ ยวทิ ยาสริ นิ ธร, ศนู ย.์ สงั คมและวฒั นธรรมไทย. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พเ์ รอื นแกว้ การพมิ พ,์ ๒๕๔๒.
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (พิมพ์คร้งั ท่ี ๒).
กรงุ เทพมหานคร : อมรนิ ทรก์ ารพมิ พ,์ ๒๕๔๓.
วลยั ลกั ษณ์ ทรงศริ .ิ พพิ ธิ ภณั ฑข์ องคนธรรมดา. กรงุ เทพมหานคร: มลู นธิ เิ ลก็ - ประไพ วริ ยิ ะพนั ธ,์ุ ๒๕๕๑.
วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สา� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, สา� นกั .
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๑.
ศาลรฐั ธรรมนญู , สา� นกั งาน. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐. กรงุ เทพมหานคร:
คณะรฐั มนตรีและราชกิจจานเุ บกษา, ๒๕๕๑.
ศาลรฐั ธรรมนญู , สา� นกั งาน. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ศาลรฐั ธรรมนญู . กรงุ เทพมหานคร: พ.ี เพรส., ๒๕๔๖.
ศรศี กั ร วลั ลโิ ภดม. พพิ ธิ ภณั ฑแ์ ละประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถน่ิ กระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกนั . กรงุ เทพมหานคร:
มลู นิธิเล็ก - ประไพ วิรยิ ะพนั ธ,์ุ ๒๕๕๑.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. ส�านักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. การศึกษารูปแบบและ
ปัจจัยท่ีชุมชนประสบความส�าเร็จในการใช้วัฒนธรรมเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, ๒๕๔๕.
18๗

คู่มือครู 187

กระตุ้นความสนใจ สำ� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Elaborate Evaluate

สภาทนายความ. กฎหมายเบอ้ื งตน้ สา� หรบั ประชาชน. กรงุ เทพมหานคร: ประยรู วงศพ์ รน้ิ ตง้ิ , ๒๕๔๐.
สีดา สอนศรี และคณะ. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : การเมือง เศรษฐกจิ และการต่างประเทศหลงั

วกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ (พ.ศ. ๒๕๔๐ - ๒๕๕๐). กรงุ เทพมหานคร : คณะรฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั
ธรรมศาสตร,์ ๒๕๕๒.
สทุ ธิ ภบิ าลแทน และคณะ. จา้ วแผน่ ดนิ ไทย ราชนั แหง่ โลก. กรงุ เทพมหานคร: อกั ษรเจรญิ ทศั น,์ ๒๕๕๑.
เสนห่ ์ จามรกิ . การเมืองไทยกับพัฒนาการรัฐธรรมนูญ. กรงุ เทพมหานคร : มลู นธิ ิโครงการตา� รา
สังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์, ๒๕๔๙.
__________สทิ ธมิ นษุ ยชน : เกณฑค์ ณุ คา่ และฐานความคดิ . กรงุ เทพมหานคร : มลู นธิ โิ ครงการ
ต�าราสงั คมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, ๒๕๔๔.
__________ สิทธิมนุษยชนในสงั คมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มูลนธิ โิ ครงการตา� ราสงั คมศาสตร์
และมนุษยศาสตร์, ๒๕๔๕.
__________ สทิ ธมิ นุษยชน : เส้นทางสู่สนั ติประชาธรรม. กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธิโครงการ
ต�าราสงั คมศาสตร์และมนุษยศาสตร,์ ๒๕๔๓.
ผู้ตรวจราชการแผ่นดินและส�านักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน,
สา� นักงาน. รวมกฎหมายท่ปี ระชาชนควรรู.้ กรงุ เทพมหานคร : ม.ป.ท, ม.ป.ป.
หยดุ แสงอทุ ยั . กฎหมายอาญาภาคทว่ั ไป. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร,์ ๒๕๔๕.
อคนิ รพพี ฒั น.์ วฒั นธรรมคอื ความหมาย. กรงุ เทพมหานคร : ศนู ยม์ านษุ ยวทิ ยาสริ นิ ธร, ๒๕๕๑.
อนกุ รรมการดา� เนนิ งานและประสานงานวนั อนรุ กั ษม์ รดกไทย, คณะ. แผนแมบ่ ทวนั อนรุ กั ษม์ รดกไทย.
กรุงเทพมหานคร : ประชาชน, ม.ป.ป.
อมร รกั ษาสตั ย์ และคณะ. ประชาธปิ ไตย : อดุ มการณ ์ หลกั การ และแบบอยา่ งการปกครองของ
หลายประเทศ. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๓.
Kavaljit Singh. Questioning Globalization. London : Zed books Ltd, 2005.
Parker,John ; Mars,Leonard ; Ransome,Paul and Stanworth,Hilary. Social Theory:
A Basic Tool Kit. New York : Palvarge Macmillan, 2003.
Trade and Human Development. Asia - Pacific Human Development Report 2006.
Colombo : UNDP Regional Centre, 2006.
กรมสรรพากร. ความรเู้ รอ่ื งภาษ.ี (ออนไลน)์ . สบื คน้ เมอ่ื ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒, มาจาก http://www.rd.go.
th/publish/286.0.html
กระทรวงการตา่ งประเทศ. ๖๐ ป ี ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน. (ออนไลน)์ . สบื คน้ เมอ่ื ๒๑ กรกฎาคม
๒๕๕๒, มาจาก http://www.mfa.go.th/humanrights/
คณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต ิ ฉบบั ท ่ี ๑๑
(พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙). (ออนไลน)์ . สบื คน้ เมอ่ื ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗, มาจากhttp://www.nesdb.go.th

188

188 คมู่ อื ครู

สรา้ งอนาคตเดก็ ไทย

ดว้ ยนวตั กรรมการเรยี นรรู้ ะดบั โลก

>> ราคาเลม่ นกั เรยี นโปรดดจู ากใบสง่ั ซอ้ื ของ อจท.
คมู่ อื คคมู่ รอื ู บคร.ู บหรน.า้ หทนพ่ี า้ ลทเพ่ี มลอื เงมฯอื มง.ฯ4-ม6.4-6

บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกดั
142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรงุ เทพมหานคร 10200
โทร./แฟกซ.์ 02 6222 999 (อตั โนมตั ิ 20 คสู่ าย) 353050.- .-8 88 5885684694 91 2122827827 2
www.aksorn.com Aksorn ACT

ราคาน้ี เปน็ ของฉบบั คมู่ อื ครเู ทา่ นน้ั


Click to View FlipBook Version