กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
ครใู หน กั เรยี นยกตวั อยา งกฎหมายตางๆ ๑.๒ ความสำาคญั ของกฎหมาย
แลวบอกวา กฎหมายทยี่ กตวั อยา งมานัน้
มคี วามสาํ คัญตอ นักเรยี นและสงั คมอยา งไร ธรรมชาตขิ องมนษุ ยน์ นั้ ตอ้ งอยรู่ วมกนั เปน็ สงั คม ไมอ่ ยโู่ ดดเดย่ี วตามลา� พงั การมาอยรู่ วมกนั
(แนวตอบ กฎหมายทเ่ี กยี่ วขอ งกับชวี ติ ประจําวนั เป็นสังคมนี้ ถา้ แต่ละคนท�าตามอ�าเภอใจของตน ย่อมจะกระทบกระเทอื นผอู้ นื่ ได้
ของคนไทย เชน กฎหมายรฐั ธรรมนญู เปน ดังน้ัน จึงจ�าเป็นต้องมีกติกาเป็นการควบคุม
กฎหมายสงู สดุ ท่ใี ชใ นการปกครองประเทศ หรือจัดระเบียบทางสังคม โดยวางแนวทางส�าหรับ
และเปน เครือ่ งมือจาํ กดั อาํ นาจของรัฐและ การอยู่ร่วมกันไว้ เพื่อก�าหนดบทบาทของแต่ละคน
ผปู กครองใหอ ยภู ายในขอบเขต ชวยจัดระเบยี บ ให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเรียบร้อยไม่กระทบกระท่ัง
ความสัมพันธร ะหวา งสถาบนั ทางการเมอื ง หรือเอารัดเอาเปรียบกันจนเกิดการวิวาท อันท�าให้
การปกครอง กาํ หนดบทบาทในการตรวจสอบ สังคมปราศจากความเป็นปึกแผ่น ขาดความสงบสุข
ถวงดลุ กัน และสง เสริมสทิ ธิเสรีภาพของ และแตกสลายไปในทสี่ ดุ
ประชาชน กฎหมายแพง และกฎหมายอาญา กติกาท�านองน้ีแม้แต่ในสังคมขนาดเล็ก เช่น
กฎหมายแพงเปน กฎหมายท่ีเก่ียวกับบุคคล กฎหมายเป็นกติกาทางสังคมอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ ครอบครัว ชัน้ เรียน หรอื สมาคม กต็ ้องมีเช่นกัน เช่น
ครอบครัว และมรดก สวนกฎหมายอาญา สงั คมเกดิ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย การปฏบิ ตั ติ าม ครอบครวั พอ่ แมผ่ เู้ ปน็ หวั หนา้ ครอบครวั จะวางกฎกตกิ า
เปน กฎหมายที่รฐั บัญญตั ิขึ้น เพื่อกาํ หนด กฎหมายจงึ เปน็ หนา้ ท่สี ำาคญั ของทุกคน
ลักษณะของการกระทําท่ถี ือวาเปนความผดิ
และกําหนดบทลงโทษทางอาญาสาํ หรบั ใหค้ นในครอบครวั ปฏิบตั ติ าม รวมทั้งแบง่ หน้าที่ของแตล่ ะคนในครอบครวั ดว้ ย เปน็ ตน้
ความผดิ นั้น ซึ่งท้ังกฎหมายแพงและกฎหมาย ศลี ธรรกมตกิศาาซส่งึนเาป็นจบารรรีตทปดัรฐะเาพนณสา�ี 1หหรรบั อื กกาฎรหอมย่ราู ว่ยมซกนังึ่ สในังคสมังคกมารมปอี กยค่หู รลอางยขอนยา่าดงใดห้วญยก่อนันั ไไดม้แว่ กา่ ร่จฐั ะหเปรน็อื
อาญา จะชวยคุม ครองชีวิตและทรพั ยส นิ ของ ประเทศนั้น จ�าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องน�ากติกาต่างๆ เหล่าน้ีมาใช้ในสังคม เพ่ือให้สังคมมีแต่
บคุ คลใหป ลอดภัย ปอ งกันการถกู ละเมิดสทิ ธิ ความสนั ติสขุ
เสรภี าพ และชว ยจดั ระเบยี บสงั คมใหม ีความ
เรยี บรอย สงบสขุ และปลอดภยั ) อ�านาจของกฎหมายจึงแตกต่างไปจากบรรทัดฐานอย่างอนื่ ในสังคม คอื ศีลธรรม ศาสนา
และจารตี ประเพณี เพราะศีลธรรมและศาสนานั้นผใู้ ดจะเคารพเชอ่ื ฟังหรือไม่ ขึ้นกับความเลอ่ื มใส
ศรัทธาในหลักทางศีลธรรมหรือในค�าส่ังสอนทางศาสนานั้นว่าท�าให้คนเป็นคนดีอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้
ส่วนจารีตประเพณีน้ันผู้ใดจะรับมาปฏิบัติย่อมเกิดจากการเลียนแบบจนเคยชิน หรือเห็นว่า
จารตี ประเพณดี งั กล่าวก่อใหเ้ กดิ ความสะดวกแกต่ นในการอยรู่ ่วมกบั ผูอ้ นื่ ในสังคม
เกรด็ นา่ รู้ ผู้มีจิตใจหยาบกระด้างอาจบ�าเพ็ญตนเป็นคน
ไม่มีศีลธรรมหรือศาสนาโดยไม่กลัวบาปบุญคุณโทษ
กฎหมายเป็นบรรทัดฐานทางสังคม หรืออาจท�าตนเป็นคนนอกรีตนอกรอยผิดประเพณีได้
ท่ีมีการกำาหนดขึ้นมาอย่างมีแบบแผน
และเป็นระบบ คือมีบทบัญญัติท่ีเก่ียวกับ
แนวทางประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ขอ้ หา้ ม รวมถึงบท โดยไม่กลัวค�าติฉินของผู้อื่น แต่ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง
ลงโทษต่อผทู้ ีฝ่ ่าฝืนอย่างชดั เจน กฎหมายแล้ว เจ้าหน้าท่ีของรัฐย่อมด�าเนินการบังคับ
ให้เขาไดร้ บั โทษหรือผลร้ายได้อยา่ งจรงิ จังและแนน่ อน
142
นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
กฎหมายในขอ ใดตอ ไปน้เี ปน กฎหมายทจี่ ัดทาํ โดยองคก ร
1 จารีตประเพณี หรือกฎศลี ธรรม หมายถงึ สง่ิ ซึ่งสังคมใดสงั คมหน่ึงยึดถอื ฝา ยนิตบิ ัญญตั ิ
และปฏิบัติสบื กนั มาอยา งตอเนื่องและมน่ั คง เปน เร่อื งของความผดิ ถกู ทม่ี เี รือ่ ง 1. รฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. 2550
ของศลี ธรรมเขามารว มดว ย ดังนัน้ สมาชิกในสงั คมน้ันๆ จึงตองทาํ ตาม หากผใู ด 2. พระราชบัญญตั ิกองทุนสงเคราะหเ กษตรกร พ.ศ. 2554
ฝาฝน ถือวาเปนคนผิดบาป และจะถกู ตําหนิหรอื ไดรับการลงโทษจากคนใน 3. เทศบญั ญัติเทศบาลเมืองพังงา เรื่องแนวเขตวงเวียนน้ําพุ
สงั คมนนั้ เชน ลูกหลานตอ งเลย้ี งดูพอแมเ มื่อทานแกเฒา ถาใครไมเลีย้ งดถู อื วาเปน พ.ศ. 2550
คนเนรคุณหรอื ลกู อกตัญู หา มมิใหพอกบั ลกู สาวหรอื พช่ี ายกับนอ งสาว รวมทัง้ 4. พระราชกฤษฎกี าวาดว ยการบรหิ ารงานจงั หวดั
บคุ คลทมี่ ีความสัมพันธก ันทางสายโลหติ แตงงานหรืออยกู ินเปน สามภี รรยากัน และกลุมจงั หวดั แบบบูรณาการ พ.ศ. 2551
เปน ตน วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะพระราชบญั ญตั เิ ปน กฎหมาย
ทจี่ ดั ทาํ โดยองคก รฝา ยนติ บิ ญั ญตั ิ
จารีตประเพณขี องแตละสังคมนั้นยอ มไมเ หมือนกนั เพราะมคี า นิยม
ทีย่ ึดถอื ตางกัน การนาํ เอาจารีตประเพณขี องตนไปเปรียบเทยี บกับของคนอน่ื แลว
ตดั สินวา ดหี รือเลวกวาของตนยอ มเปนสงิ่ ท่ีไมถกู ตอง เพราะสภาพสังคม
ส่ิงแวดลอม ตลอดจนความเชือ่ ของแตละสงั คมยอมแตกตางกันไป
142 ค่มู อื ครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู
๑.๓ กฎหมายกบั สทิ ธ ิ เสรีภาพ และหน้าท่ีของประชาชน 1. ครใู หนกั เรยี นยกตัวอยา งการปฏบิ ตั ติ นตาม
กฎหมายทีเ่ กีย่ วกับ สทิ ธิ เสรภี าพ และหนา ที่
กฎหมายมิได้เพียงแต่ก�าหนดหน้าที่ให้ประชาชนประพฤติตามเท่านั้น แต่ยังช่วยคุ้มครอง ของชนชาวไทย คนละ 1 ตัวอยา ง และบอก
ผลดที เ่ี กดิ ขึน้ จากการปฏิบตั ิ
ประโยชน์ต่างๆ ของประชาชน ด้วยการรับรองสิทธิ (แนวตอบ ยกตัวอยาง เชน การเสยี ภาษีเงนิ ได
บุคคลตามกําหนดเวลา ซงึ่ เปนการปฏิบัติตาม
และเสรีภาพของคนในสังคมด้วย โดยกฎหมายสูงสุด กฎหมายภาษอี ากร และถือเปนหนา ทสี่ ําคญั
อยา งหนึง่ ของประชาชนชาวไทย เพราะเงนิ
ทเ่ี ปน็ หลกั ประกนั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของปวงชนชาวไทย ภาษที ่รี ฐั จดั เก็บนี้ จะนาํ ไปใชด ําเนินการพัฒนา
สาธารณปู โภคตา งๆ เชน สรางถนนหนทาง
โดยกฎหมายอน่ื จะขดั หรือแยง้ มิได้ ไดแ้ ก่ รัฐธรรมนญู พัฒนาระบบขนสงมวลชน พฒั นาดา นการ
แพทยและสขุ อนามยั เปน ตน สงผลดที าํ ให
ซึ่งได้ให้ความคุ้มครอง และช่วยส่งเสริมสิทธิเสรีภาพ สมาชกิ ในสังคมมคี ณุ ภาพชีวติ ทด่ี ขี ึน้ )
ของประชาชนในด้านต่างๆ ไวอ้ ยา่ งชดั เจน รวมทงั้ ได้ 2. ครูตงั้ ประเดน็ คาํ ถาม
• หากคนในสงั คมไมเคารพสทิ ธิเสรีภาพ
จา� แนกเนอื้ หาออกเป็นสว่ นตา่ งๆ เพอ่ื ใหเ้ ข้าใจได้งา่ ย ของผูอนื่ จะสง ผลกระทบตอ การอยูรวมกัน
อยา งไร
มากยงิ่ ขนึ้ โดยมที ง้ั สว่ นทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั ความเสมอภาค กฎหมายได้ให้ความคุ้มครองสิทธิของบุคคล เช่น (แนวตอบ สงผลกระทบตอ การอยรู วมกนั
หรือความเท่าเทียมกันระหว่างชนชาวไทย รวมท้ัง บคุ คลยอ่ มมสี ทิ ธใิ นการไดร้ บั การรกั ษาพยาบาลจาก เชน สงั คมเกิดความวุนวายเนอ่ื งจากการไม
เสช่ว่นนทส่ีเกิที่ยธวิใขน้อชงีวกิตับแสลิทะรธ่าิแงลกะาเสยร1ีภสาิทพธขิในอกงบระุคบควลนดก้วายรยุติธสรถารนมพยาสบิาทลธขอิใงนรฐัททรไ่ี ดัพม้ ายต์สรฐินาน เสรีภาพใน เคารพสทิ ธิเสรภี าพของผอู ่นื ผทู ่อี อนแอก็จะ
เสยี เปรียบทาํ ใหไ มป ลอดภัยในชีวติ เกิด
การแสดงความคิดเห็น สทิ ธแิ ละเสรีภาพในการศกึ ษา เกสารีภรไาดพ้รใับนบกราิกราชรมุ สนามุธาแรลณะกสาุขรแสลมะาสควมัสด2สกิ ทิ าธริ ความหวาดระแวงตอกนั เปน ตน )
จากรัฐ สิทธกิ ารไดร้ ับข้อมูลขา่ วสารและการรอ้ งเรยี น
พิทักษ์รฐั ธรรมนญู เป็นต้น
นอกจากน้ี รฐั ธรรมนูญยังไดบ้ ญั ญตั เิ กี่ยวกบั หน้าทีข่ องชนชาวไทยไว้ด้วย อนั ได้แก่ หน้าท่ี
ในการพิทักษ์รักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา-
กษัตริย์ทรงเป็นประมุข หน้าที่ในการป้องกันประเทศ
และรักษาผลประโยชน์ของชาติ หน้าที่ในการปฏิบัติ
ตามกฎหมาย หน้าท่ีในการไปใช้สิทธิเลือกต้ัง รับ
ราชการทหาร ช่วยเหลือราชการ ช่วยป้องกันภัย
สาธารณะ ตลอดจนเขา้ รบั การศกึ ษาและอบรม เปน็ ตน้
สิทธิและหน้าที่ต่างๆ เหล่าน้ี จะต้องได้รับการ
เคารพและคุม้ ครองจากรฐั ดังนนั้ หากผใู้ ดถูกละเมดิ การเข้ารบั ราชการทหารเม่อื อายถุ ึงเกณฑเ์ ปน็ หน้าท่ี
อย่างหนึง่ ของชายไทยตามท่กี ฎหมายบัญญัตไิ ว้
สทิ ธติ ามรฐั ธรรมนญู ผนู้ นั้ กส็ ามารถใชส้ ทิ ธใิ นทางศาล
เพอ่ื บังคับผูท้ า� การละเมดิ ได้
143
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู
การกระทําในขอ ใดท่ขี ดั ตอกฎหมายในเรือ่ งสิทธิ เสรภี าพ 1 สิทธใิ นชีวติ และรางกาย ประชาชนชาวไทยมีสทิ ธิในชวี ติ และรางกายตามท่ี
และหนา ทีข่ องประชาชน รัฐธรรมนญู แหง ราชอาณาจักรไทยบัญญัติไวหลายประการ เชน การทรมาน
ทารณุ กรรม หรอื การลงโทษดวยวธิ ีการโหดรายหรอื ไรม นษุ ยธรรม จะกระทํามไิ ด
1. ติดตามขาวสารทางการเมอื งจากส่ือตางๆ การจับและการคมุ ขงั บคุ คล จะกระทํามิได เวนแตม คี ําส่งั หรอื หมายของศาล
2. การรวมกลมุ กันเพ่ืออนรุ กั ษภูมิปญ ญาทอ งถิน่ หรอื มีเหตอุ ยางอื่นตามทก่ี ฎหมายบญั ญัติ เปนตน
3. รว มกันปรับภมู ทิ ัศนภายในชุมชนใหสวยงาม 2 เสรีภาพในการชมุ นุมและการสมาคม รัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย
4. ลงโทษผทู มี่ คี วามคิดเหน็ แตกตางจากตนเอง มีบทบัญญตั ิท่ีเกี่ยวกับเสรภี าพในการชมุ นุมและการสมาคม เชน
วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะการตัดสินหรือลงโทษบคุ คล 1. บคุ คลยอมมเี สรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ
2. บคุ คลยอ มมีเสรีภาพในการรวมกนั เปนสมาคม สหภาพ สหพันธ
ตา งๆ เปน หนาที่ของศาลและเจาพนักงานทเี่ ก่ียวของซ่งึ ตอ งดาํ เนิน สหกรณกลมุ เกษตรกร องคก ารเอกชน องคการพัฒนาเอกชน หรอื หมคู ณะอ่นื
ตามกระบวนการยุติธรรม อกี ทงั้ บุคคลยอ มมสี ทิ ธิเสรีภาพทาง 3. บคุ คลยอมมีเสรภี าพในการรวมกนั จัดต้ังพรรคการเมืองเพ่อื สรา งเจตนารมณ
ความคดิ ซึง่ การทคี่ นในสงั คมมีความคดิ ท่ีแตกตา งกันยอมเปน เร่ือง ทางการเมอื งของประชาชนและเพ่ือดําเนนิ กจิ กรรมในทางการเมืองใหเปนไปตาม
ปกติมไิ ดถือวาเปน ความผดิ แตอ ยา งใด เจตนารมณน ้ันตามวถิ ที างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ
ทรงเปนประมุขตามทบ่ี ญั ญัตไิ วในรฐั ธรรมนูญ
คูม อื ครู 143
กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain
อธบิ ายความรู้ Explain
1. ครูนําสนทนาถงึ กฎหมายแพงเกีย่ วกบั ตนเอง ๒. กฎหมายแพง่ เกี่ยวกบั ตนเองและครอบครวั
และครอบครวั จากน้นั ครูสมุ ใหนักเรียน
ยกตัวอยางกฎหมายแพงเก่ียวกบั ตนเองและ กฎหมายแพ่งเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับเอกชนหรือคนแต่ละคน ท้ังเม่ืออยู่ตามล�าพัง และ
ครอบครวั ทน่ี กั เรียนรูจกั
เมอ่ื ตดิ ตอ่ กบั ผอู้ น่ื ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากเนอ้ื หาของกฎหมายแพง่ ซงึ่ มรี วบรวมไวใ้ นประมวลกฎหมายแพง่
2. ครูตง้ั ประเด็นคําถามใหนกั เรยี นชวยกนั ตอบ
เพ่ือฝก ทกั ษะการคิด เชน และพาณิชย์ว่ามีบทบัญญัติเกี่ยวกับเร่ืองของบุคคล
• หากนักเรยี นตองการแลกเปลีย่ นทรพั ยส ิน
หรอื ทาํ กจิ การตางๆ กับผูอ นื่ จะตอ งศึกษา ครอบครวั ทรพั ยส์ นิ นติ กิ รรม และสญั ญา ซงึ่ เปน็ เรอื่ ง
กฎหมายแพง เรื่องใด
(แนวตอบ กฎหมายแพงเรอ่ื งนิติกรรมและ ท่เี ก่ยี วข้องกบั ชีวิตของทุกคน
สัญญา)
• คดีความทางแพงสามารถยอมความกันได เมื่อเราเกิดมาเป็นคนแล้วย่อมจะต้องเก่ียวข้อง
หรอื ไม
(แนวตอบ คดีความทางแพง สามารถยอมความ กับกฎหมายแพ่งทั้งสิ้น อย่างน้อยก็จะต้องอาศัย
กนั ได ซง่ึ จะขึน้ อยูกับการตกลงของคูกรณี
หากคกู รณตี กลงยอมความกันได ก็ถอื วา กฎหมายแพง่ รบั รองใหเ้ รามีฐานะเป็นบุคคล ใชใ้ นการ
คดีความนนั้ สนิ้ สดุ ลง)
หาทรัพยส์ ินอนั เป็นปจั จยั ในการด�ารงชพี
คนเราเม่ือเกิดมาย่อมจะต้องเก่ียวข้องกับกฎหมาย ต่างๆ หากจะแลกเปลี่ยนทรัพย์สินหรือท�ากิจการ 1
โดยเฉพาะกฎหมายแพ่งเก่ียวกับตนเองและ กับผ้อู น่ื ก็ต้องอาศยั กฎหมายแพง่ เรือ่ งนิติกรรม
ครอบครวั
และสัญญา เพื่อสร้างความผูกพันให้เป็นเจ้าหนี้และ
ลูกหนร้ี ะหว่างกัน
หากได้รับความเสียหายจากการกระท�าของผู้อ่ืน ก็ต้องใช้กฎหมายแพ่งในบทท่ีว่าด้วย
การละเมิด เพื่อช่วยให้เราได้รับชดเชยความเสียหายนั้นเมื่อจะมีครอบครัวก็ต้องอาศัยกฎหมาย
แใชพ้กง่ ฎทห่ีวา่มดาว้ยยแคพร่งอทบ่ีวค่ารดัว้วใยนเรกื่อารงกม่อรดตง้ักแ2ลกะ�ากห�านหดนวด่าคทวราัพมยส์สมั ินพทนั ี่หธ์ภามายาไในดค้ระรหอบว่าคงรมวั ีชจีวนิตเอมยอ่ื ู่นต้ันายกจ็อะใาหจ้
ตกเป็นมรดกแก่ทายาทได้อย่างไรบ้างอีกด้วย ดังน้ัน กฎหมายแพ่งจึงมีความส�าคัญและมีความ
จา� เปน็ ต่อการด�าเนินชีวิตในสังคมของเราอยา่ งย่ิง
เกรด็ น่ารู้ กฎหมายที่เก่ียวกับบุคคล ได้แก่ กฎหมายท่ี
ลั ก ษ ณ ะ ที่ สำ า คั ญ ข อ ง ก ฎ ห ม า ย แ พ ่ ง รับรองให้เรามีสภาพบุคคล คือ ให้เราเป็นผู้สามารถ
ประการหน่ึง คือ ในคดีความทางแพ่งน้ัน มีและสามารถใช้สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบ
สามารถยอมความกันได้ ข้ึนอยู่กับการ ต่างๆ ตามกฎหมายได้ สภาพบุคคลเร่ิมตั้งแต่
ตกลงของคกู่ รณี หากคกู่ รณตี กลงยอมความ เมื่อคลอดจากครรภ์มารดาแล้วอยู่รอดเป็นทารกและ
กนั ได้ กถ็ อื วา่ คดคี วามนน้ั สนิ้ สดุ ซงึ่ แตกตา่ ง สิ้นสุดลงเม่ือตาย ทารกท่ีอยู่ในครรภ์มารดายังไม่มี
กับกฎหมายอาญาท่ีไม่สามารถยอมความ ฐานะเป็นบุคคล แต่กฎหมายจะคุ้มครองเป็นพิเศษ
กันได้ แมผ้ ู้เสยี หายไมต่ ิดใจเอาความกต็ าม ผูใ้ ดทา� ลายยอ่ มมคี วามผิดฐานทา� ให้แทง้ ลกู
ผกู้ ระทาำ ผดิ กย็ งั คงตอ้ งรบั โทษตามกฎหมาย
144
นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
ขอ ใดมีความเก่ยี วขอ งกบั กฎหมายแพง
1 นติ กิ รรม ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา 149 บัญญัติวา นติ ิกรรม 1. ลักทรพั ย
หมายความวา การใดๆ อนั ทําลงโดยชอบดว ยกฎหมายและดวยใจสมัคร 2. ชิงทรัพย
มุงโดยตรงตอ การผูกนิติสมั พนั ธข ้ึนระหวา งบคุ คล เพ่ือจะกอ เปล่ียนแปลง โอน 3. ประหารชวี ติ
สงวน หรอื ระงบั ซึ่งสทิ ธิ ซง่ึ หากพิจารณาตามบทบัญญตั ิ จะพบวาการเคลื่อนไหว 4. นติ ิกรรมและสญั ญา
ในสทิ ธิหรอื การเคลื่อนไหวแหง สิทธทิ ีเ่ กิดข้ึนโดยนติ ิกรรม จะตองเปน การเคล่ือนไหว วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะนิติกรรมและสญั ญา คือ
ไปทางดานใดดานหน่งึ ใน 5 ประการ คอื ตอ งเปน การกอ เปล่ยี นแปลง โอน สงวน การทบี่ คุ คลแสดงเจตนากระทําไปโดยประสงคใหม ผี ลผกู พนั
หรอื ระงับซ่ึงสิทธิประการใดประการหน่ึง จงึ จะถอื วาเปน นติ กิ รรม ใชบังคับไดตามกฎหมาย เปนส่งิ ทเี่ กย่ี วขอ งกบั กฎหมายแพง
2 มรดก คือ ทรพั ยส นิ ทุกชนดิ ของผตู าย ตลอดจนสทิ ธิ หนา ที่ และ และพาณิชย สว นขออ่ืนๆ เก่ียวของกบั กฎหมายอาญาท้ังสนิ้
ความรับผดิ ตางๆ เวน แตต ามทีก่ ฎหมายกําหนด หรอื โดยสภาพแลว เปน การ
เฉพาะตวั ผูต ายโดยแท อยางไรก็ดี ความรบั ผดิ ของทายาทจะมีขอบเขตจํากดั
คอื กฎหมายกําหนดวา ทายาทไมต องรับผดิ เกินกวา ทรัพยม รดกทต่ี กทอดไดแ กต น
144 คู่มือครู
กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
กฎหมายจ�าแนกบุคคลเป็น ๒ ประเภท คือ บุคคลธรรมดา อีกประเภทหนึ่งเป็นกิจการ 1. ครูสมุ นักเรยี น 2-3 คนใหอธิบายสรุปเกีย่ วกับ
ประเภทของบคุ คล พรอ มทั้งเปรียบเทยี บความ
ท่ีจัดตั้งข้ึนและกฎหมายยอมให้มีสิทธิ หน้าท่ี และความรับผิดชอบบางอย่างในนามของกิจการ แตกตา งระหวา งบุคคลธรรมดาและนติ ิบคุ คล
น้ันเองได้ เช่น กระทรวง กรม องค์การมหาชน 2. ครูใหน กั เรียนยกตัวอยา งนิติบุคคลในชุมชน
ของตนเอง พรอมท้งั อธบิ ายวา เพราะเหตใุ ด
บริษัท สมาคม สหกรณ์ 1กลุ่มเกษตรกร มูลนิธิ ตัวอยางที่ยกมาน้นั จึงจดั เปนนิตบิ คุ คล
เป็นตน้ ซึง่ เรยี กวา่ นิติบคุ คล (แนวตอบ นักเรียนสามารถยกตวั อยา งหา งรา น
บรษิ ทั หนว ยงานราชการ อาคารชดุ หรอื
บคุ คลธรรมดา ได้แก่ มนุษย์ทค่ี ลอดจากครรภ์ กิจการตา งๆ โดยใหเหตุผลวา ตัวอยาง
ทย่ี กมานน้ั เปน กจิ การทจ่ี ดั ตง้ั ขนึ้ และกฎหมาย
มารดาแล้วอยู่รอดเป็นทารก โดยจะต้องมีการแจ้ง ยอมใหส ิทธิ หนาท่ี และความรับผิดชอบ
บางอยางในกิจการน้ันเองได หรอื อาจให
จดทะเบียนการเกิดตามพระราชบัญญัติการทะเบียน เหตผุ ลวา เปนบุคคลที่กฎหมายบญั ญตั ิ
รองรับใหมสี ภาพเปน บคุ คลได)
ราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่งึ ก�าหนดว่า ถา้ เด็กเกดิ ในบ้าน
ให้เจ้าบ้านตามที่ปรากฏในทะเบียนบ้านหรือบิดา
หรือมารดา ต้องแจ้งต่อนายทะเบียนผู้รับแจ้งแห่ง
ท้องท่ีภายในสิบห้าวันตั้งแต่เกิด และสภาพบุคคล คนเราเกดิ มาทกุ คนยอ่ มมสี ภาพบคุ คลตามกฎหมาย
ตดิ ตัวมาด้วยและจะอยู่คเู่ ราไปตลอดชีวติ
จะสิน้ สดุ ลงเมอื่ ตาย
นิติบุคคล กไรดม้แกอ่ งบคุค์กคารลมทห่ีกาฎชหนมา2บยรบิษัญัทญัตสมิรับาครอมงใสหห้มกีสรภณาพ์ กเปล็นุ่มบเกุคษคตลรไกดร้ แม้ไม่ใช่บุคคล 3
เช่น กระทรวง กองทรัพย์สิน
เชน่ มลู นธิ ิ เป็นตน้
สหกรณ์ มลี ักษณะที่เปน็ หน่วยงานหรือองค์กรอย่างหน่งึ ซึ่งมสี ภาพเป็นนติ ิบุคคลตามท่ีกฎหมายบัญญัติรับรองไว้
145
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรียนควรรู
ขอใดกลา วถกู ตองเกีย่ วกับนติ ิบคุ คล 1 นติ ิบคุ คล หมายถึง กลมุ บุคคล องคกร หรอื ทรพั ยสินที่จดั สรรไวเ ปน กองทนุ
1. บุคคลทคี่ ลอดจากครรภมารดาแลว อยูรอดเปน ทารก เพ่ือดําเนนิ การอันใดอนั หนง่ึ ซง่ึ กฎหมายบัญญัตใิ หเ ปน บคุ คลอกี ประเภทหน่งึ ทีม่ ใิ ช
2. บคุ คลทถี่ กู แจง ชือ่ ตอนายทะเบียนภายใน 15 วนั หลงั จากกาํ เนดิ บุคคลธรรมดา นิตบิ คุ คลจะมขี ึ้นไดก็แตดวยอาศัยอาํ นาจแหงประมวลกฎหมายแพง
3. กจิ การท่จี ัดตัง้ ข้นึ และกฎหมายยอมใหมสี ิทธิ หนา ท่ี และ และพาณชิ ยหรือกฎหมายอ่นื นติ ิบุคคลท่พี บเหน็ ไดทัว่ ไป เชน สมาคม มลู นธิ ิ
บรษิ ัทจํากดั เปนตน
ความรบั ผดิ ชอบบางอยางในกจิ การน้นั 2 องคก ารมหาชน เปนองคก รของรัฐประเภทหน่ึงที่กาํ หนดขึ้นเพ่อื บริการ
4. กิจการทร่ี ฐั จดั ตงั้ ข้นึ และนาํ ไปประกาศลงในประมวลกฎหมาย สาธารณะทีก่ ฎหมายกําหนดใหเ ปน หนาทขี่ องรฐั ทตี่ อ งการประสิทธิภาพสูง
โดยมไิ ดค า กําไรจากการบรกิ าร มีวัฒนธรรมองคกรเหมือนภาคธรุ กจิ ท่ีสามารถ
แพงและพาณชิ ยว าดวยนติ บิ คุ คล ใชประโยชนจากทรัพยากรใหมีประสิทธิภาพสงู สดุ
3 กองทรพั ยสนิ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา 81 หมายถงึ
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. นิติบุคคลเปน บุคคลท่ีกฎหมาย ทรัพยสนิ อนั จัดสรรไว เพ่ือบําเพญ็ ทานการศาสนา วทิ ยาศาสตร วรรณคดี
หรอื เพอื่ สาธารณประโยชนอนื่ ๆ โดยไมไดค ากําไร
บัญญตั ริ ับรองใหมสี ภาพเปน บคุ คลได และยอมใหม ีสทิ ธิ หนา ท่ี
และความรบั ผิดชอบบางอยางในนามของกจิ การนน้ั เองได เชน
กระทรวง กรม องคก ารมหาชน บรษิ ทั สมาคม สหกรณ เปน ตน
คู่มือครู 145
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครใู หนกั เรียนเลอื กอธิบายกฎหมายแพง ๒.๑ กฎหมายท่ีเกีย่ วกบั ตนเอง
ทีเ่ กยี่ วกบั ตนเอง คนละ 1 กฎหมาย โดยให
บอกถึงสาระสาํ คัญของกฎหมายดงั กลาว กฎหมายทีเ่ กีย่ วข้องกับตนเองทสี่ �าคญั มีดังน้ี
(แนวตอบ กฎหมายแพงที่เกย่ี วกบั ตนเอง เชน ๑) กฎหมายเร่อื งบุคคล ทส่ี า� คญั ได้แก่
กฎหมายเรอื่ งบคุ คล ทีว่ า ดวยเร่ืองของ ๑.๑) การกา� หนดตวั บุคคล เนอื่ งจากบคุ คลในรัฐมจี �านวนมาก กฎหมายจงึ มี
ชอื่ บคุ คล ภมู ลิ าํ เนา สถานะ ความสามารถ วิธีก�าหนดตัวบุคคลเพ่ือให้ชัดเจนว่าใครเป็นใคร และมีบทบาททางกฎหมายในสังคมได้เพียงใด
ซึ่งมหี ลักเกณฑต า งๆ ทบ่ี ุคคลจะตอง ซึ่งสง่ิ ทก่ี ฎหมายใช้ก�าหนดตัวบุคคล ไดแ้ ก่ ชอื่ บคุ คล ภูมิลา� เนา สถานะ และความสามารถ
ดําเนนิ การ เชน เรื่องชื่อบุคคล กฎหมายกาํ หนด 1ค(อื๑) ชอ่ืชปื่อรบะุคจค�าลตนตแาลมะพชรอ่ื ะสรกาชุลบคัญอื ญชัต่อื ิชป่ือรบะจุค�าควลงศพส์ ก.ศลุ . ๒๕๐๕ ก�าหนดให้
ใหบ คุ คลธรรมดาตองมชี อื่ ประจาํ ตวั บุคคลธรรมดามชี ่อื ตวั ชอ่ื ตัวจะตอ้ งแจง้ ต่อ
และชอ่ื สกุล ซง่ึ จะตองแจง ตอนายทะเบียน หนาายกททะ้อเงบทยี ี่อนยทู่นอ้ องทก่ีเขซตง่ึ เปทกศตบิจาะลปรโะดจย�าอแยจทู่้งพท่ี ่ีวร่า้อกมากรับอกา� เาภรอแหจร้งอืเกเขิดตในสหูตรือิบแัตจรง้ 2แกกาก่ ร�าขนอันเปลผ่ียใู้ หนญแ่บป้าลนง
ทองที่ หรือกํานัน ผใู หญบ าน ท้งั นีก้ ารขอ ชื่อตัวและการขอเปลีย่ นช่ือสกุลกจ็ ะตอ้ งแจง้ ตอ่ นายทะเบียนท้องท่ีเช่นกนั
เปลี่ยนแปลงชื่อตัวและชอื่ สกลุ ก็จะตองแจง ชื่อบุคคลจะได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย หากมีผู้อื่นโต้แย้งหรือมาใช้
ตอ นายทะเบยี นทอ งทเ่ี ชน กนั ) ช่ือบุคคลเดียวกัน บุคคลเจ้าของชื่อสามารถบอกให้ผู้อ่ืนน้ันหยุดโต้แย้งหรือหยุดใช้ช่ือนั้นได้ ถ้า
ไมเ่ ชือ่ ฟงั ก็ขอใหศ้ าลสั่งห้ามได้
2. ครใู หนักเรยี นยกตัวอยา งสิ่งที่จําเปนตองดําเนนิ (๒) ภูมิล�าเนา ได้แก่ สถานที่ที่อยู่ประจ�าและแน่นอนของบุคคล เช่น
การเกย่ี วกับเรื่องของบคุ คลตามทก่ี ฎหมายเร่ือง บา้ นทเ่ี ขาพกั ประจา� มใิ ชท่ อี่ ยชู่ วั่ ครง้ั ชวั่ คราว เชน่ บา้ นพกั ตากอากาศ หรอื โรงแรมทเี่ ขาพกั ระหวา่ ง
บคุ คลไดกําหนดไว เดินทาง ภูมิลา� เนาทา� ให้สามารถตดิ ตอ่ กับบุคคลได้ เช่น ในการสง่ เอกสารทางราชการใหแ้ ก่ผู้นัน้
(แนวตอบ ยกตัวอยา ง เชน เมือ่ ตอ งการยาย เป็นตน้
ทีอ่ ยูอาศัย กฎหมายกําหนดใหเ จาบา น
ตอ งดําเนินการตางๆ เชน
การยายออก เมือ่ ผอู ยใู นบานยา ยออก
จากบา น ใหเ จาบา นแจงการยายออกตอ
นายทะเบยี นผรู ับแจง ภายใน 15 วนั นับแต
วนั ทีผ่ นู ้ันยายออกไป โดยไมเสยี คา ธรรมเนยี ม
การยายเขา เม่อื มผี ูย า ยที่อยเู ขา มาอยู
ในบาน ใหเ จา บา นแจง การยา ยเขาตอ
นายทะเบยี นผรู ับแจง ภายใน 15 วัน นบั แต
วันท่ีผูนัน้ ยา ยเขามาอยูใ นบาน ท้งั นีใ้ หนาํ
หลกั ฐานการยายออกไปแสดงตอ นายทะเบยี น
โดยไมเสยี คา ธรรมเนียม เปน ตน )
บา้ นที่เราอาศัยอยโู่ ดยทม่ี ชี อ่ื ปรากฏอย่ใู นทะเบียนบ้าน ถือเป็นภูมิลำาเนาตามกฎหมายท่แี สดงการอาศยั อย่างเป็นหลกั แหลง่
146
นักเรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
ขอ ใดเปน สง่ิ ทีก่ ฎหมายใชกาํ หนดตัวบุคคล
1 ช่อื ตัว การตัง้ ช่อื ตัวมีหลักเกณฑสําคญั ดังน้ี 1. บารมี
1) ตอ งไมพ องหรือมุงหมายใหคลา ยกับพระปรมาภไิ ธย หรือพระนามของ 2. ทรพั ยส ิน
พระราชนิ ี หรอื ราชทนิ นาม 3. นามสกุล
2) ตอ งมีความหมาย 4. ชนช้นั ทางสงั คม
3) ตอ งไมเปน คําหยาบหรือมคี วามหมายหยาบคาย วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะส่งิ ทีก่ ฎหมายใชกาํ หนด
4) ตอ งไมมีเจตนาในทางทุจริต ตัวบุคคล ไดแ ก ชื่อบุคคล ภูมิลาํ เนา สถานะ และความสามารถ
5) ผูไดรบั หรอื เคยไดร บั พระราชทานบรรดาศักด์ิ โดยมไิ ดถ กู ถอด จะใช ของบุคคล
ราชทนิ นามตามบรรดาศักดิ์เปนชอ่ื ตัวจริง ช่ือรองก็ได
2 สูติบตั ร ถอื เปน เอกสารสําคัญฉบบั แรกท่ที างราชการออกใหแ กบุคคลทเี่ กดิ ใน
ประเทศไทย เพอื่ ใชเ ปนหลักฐานแสดงถึงถนิ่ ที่เกิด และแสดงความสัมพนั ธข อง
บคุ คล ทจ่ี ะทําใหทราบวา ใครเปนบิดามารดา นอกจากนีย้ ังมผี ลใหบุคคลไดรบั
สทิ ธิประโยชนตางๆ ตามที่กฎหมายกําหนด
146 คมู่ ือครู
กระตุน้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
ภูมิล�าเนาย่อมปรากฏในทะเบียนบ้านและเปล่ียนแปลงได้ โดยการแจ้ง 1. ครูใหนกั เรยี นชวยกันอธบิ ายวา ตามกฎหมาย
ย้ายออกจากทะเบียนบ้านหนึ่งและย้ายเข้าในอีกทะเบียนบ้านหน่ึง ตามพระราชบัญญัติ เรอื่ งของบคุ คล สถานะของบคุ คลแบงออกเปน
การทะเบียนราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ ท้ังนี้เพ่ือให้ ก่ีประเภท พรอ มยกตัวอยางประกอบ
มีหลักฐานแน่นอน และสามารถติดต่อกับผู้น้ัน (แนวตอบ กฎหมายไดแบงสถานะของบคุ คล
ในภูมลิ า� เนาใหม่ได้ ออกเปน 2 ประเภท ดงั น้ี
1. สถานะทางการเมือง หมายถึง การเปน
(๓) สถานะ ได้แก่ ความเปน็ บคุ คลสญั ชาตไิ ทย กบั การเปน บคุ คลตา งดา ว
ไปหรือความเป็นอยู่ของบุคคลทุกคน ซึ่งจะต้องแจ้ง ซึ่งบคุ คลทีม่ สี ัญชาตไิ ทย ยอมมีสทิ ธิเสรีภาพ
ต่อนายทะเบียนและบันทึกไวเ้ ป็นหลักฐาน เช่น ตาม ตามท่รี ัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจกั รไทย
พระราชบัญญัตกิ ารทะเบยี นราษฎร พ.ศ. ๒๕๓๔ และ บัญญตั ไิ ว เชน สทิ ธใิ นการเลือกตั้ง สิทธใิ น
พระราชบัญญัติจดทะเบียนครอบครัว พุทธศักราช การตง้ั พรรคการเมอื ง สทิ ธใิ นการรบั ราชการ
๒๔๗๘ เป็นต้น การรสู้ ถานะจะทา� ใหท้ ราบได้ว่าแตล่ ะ เปน ตน
คนมีบทบาทเพียงใดในทางกฎหมาย ซึ่งสถานะบคุ คล สมาชิกครอบครัว มีสถานะที่แตกต่างกัน เช่น พ่อ 2. สถานะทางสว นตัวและครอบครวั เชน
ได้แก่ แม่ ลกู ทาำ ใหม้ บี ทบาทตามกฎหมายทแี่ ตกตา่ งกนั ไป การเปน สามี ภรรยา บิดา มารดา บุตร
การเปนคนไรค วามสามารถ เปนตน)
๑. สถานะทางการเมอื ง ได้แก่ การเป็นบุคคลสัญชาตไิ ทย กบั การ
เป็นคนต่างด้าว ผู้มีสัญชาติไทยมีสิทธิเสรีภาพตลอดจนหน้าท่ีของชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ 2. ครใู หน กั เรียนสํารวจตนเอง แลว วิเคราะหวา
ไซมึ่งถ่รวกู มเนทร้ังเสทิทศธ1แิเลลือะกหตนั้งา้ แทล่ีระับสรมาชัคกรราับรทเลหือากรต้ัง สิทธิตั้งพรรคการเมือง สิทธิรับราชการ สิทธิท่ีจะ ตนเองมสี ถานะทางกฎหมายอยา งไรบาง
แลว นํามาอธบิ ายใหค รฟู งพอสงั เขป
ส�าหรับคนต่างด้าว คือ ผู้ท่ีไม่มีสัญชาติไทยย่อมไม่มีสิทธิ เสรีภาพ (แนวตอบ เมอื่ สํารวจตนเองแลว พบวามีสถานะ
และหนา้ ทเี่ ชน่ ผมู้ สี ญั ชาตไิ ทย เวน้ แตโ่ ดยอาศยั สนธสิ ญั ญาทร่ี ฐั ของคนตา่ งดา้ วทา� ไวก้ บั ประเทศไทย ทางกฎหมาย ดงั นี้
มารดา บุตร การเปน็ ผเู้ ยาว์ ๒ก.ารสเถปา็นนคะนทไารงค้ สวว่ านมตสวัาแมลาะรคถรหอรบอื คครนวั เสไมดอื้แนกไ่ รกค้ าวราสมมสราสมการาถรเ2ปเป็นน็บตดิ ้นา สถานะทางการเมอื ง มีสถานะเปน คน
ซึ่งท�าให้บทบาททางกฎหมายของบุคคลเปล่ียนแปลงไป เช่น การสมรส เพราะการท�านิติกรรม สญั ชาติไทย เชื้อชาติไทย จึงถือวาเปน
สัญญาเกี่ยวกับสินสมรสจะท�าไปตามล�าพังไมไ่ ด้ เป็นต้น พลเมืองไทยซง่ึ มสี ทิ ธติ างๆ ตามทร่ี ฐั ธรรมนูญ
แหง ราชอาณาจักรไทยบัญญตั ไิ ว เชน มสี ิทธิ
(๔) ความสามารถ หมายถึง สภาพของบุคคลที่จะมีหรือใช้สิทธิหน้าที่ ทางการศกึ ษา สทิ ธิการเขา ถึงบริการทางการ
ตลอดจนความรับผิดชอบทางกฎหมายได้เพียงใด โดยทั่วไปบุคคลย่อมมีสิทธิ หน้าที่ และ แพทยทไ่ี ดมาตรฐาน เปนตน
ความรบั ผดิ ชอบตา่ งๆ ตามกฎหมาย แตอ่ าจถกู จา� กดั โดยกฎหมายไดเ้ นอื่ งจากความเปน็ เดก็ หรอื สถานะสว นตวั และครอบครัว มสี ถานะเปน
ความบกพรอ่ งทางสติปัญญา เชน่ ผู้เยาว์ และคนไร้ความสามารถ บุตรของบิดามารดา และเปน ผเู ยาวเ พราะอายุ
ยงั ไมครบ 20 ปบ ริบูรณ)
14๗
กจิ กรรมสรา งเสรมิ นักเรยี นควรรู
ใหนักเรยี นอธิบายความสามารถทางกฎหมายของนักเรยี น 1 เนรเทศ หมายถึง การขบั ไลห รอื สงบุคคลหรอื กลุมบคุ คล ท่กี ระทาํ ความผดิ
โดยใหนกั เรียนพจิ ารณาจากสถานะของนกั เรียนวา นกั เรยี นอยใู น ใหอ อกจากเขตแดน อาณาจักร ประเทศ โดยหามกลบั เขา มายงั อาณาเขตนน้ั ๆ
สถานะใด และมสี ทิ ธหิ รอื หนาท่อี ยางไรตามกฎหมายบา ง เปนอันขาด เพ่อื มใิ หยอ นกลบั เขา มากระทําความผิดซ้าํ ไดอ ีก
ใหน ักเรียนเขยี นอธิบายสรปุ แลวนาํ สงครูผสู อน 2 คนเสมือนไรความสามารถ ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย ไดบ ญั ญัติ
เก่ียวกบั คนเสมือนไรค วามสามารถ ไวว า บุคคลใดมกี ายพิการหรือมีจติ ฟนเฟอ น
กจิ กรรมทาทาย ไมส มประกอบ หรือประพฤติสรุ ุย สรุ ายเสเพลเปนอาจิณ หรือตดิ สุรายาเมา
หรอื มเี หตอุ ่นื ใดทํานองเดียวกันนนั้ จนไมส ามารถจะจดั ทาํ การงานโดยตนเองได
ใหนกั เรียนพิจารณาวา เมื่อนกั เรยี นเตบิ โตข้นึ เปน ผูใหญ หรอื จดั กจิ การไปในทางทีอ่ าจจะเสือ่ มเสียแกทรพั ยส นิ ของ ตนเองหรอื ครอบครวั
นักเรียนจะมสี ถานะทางกฎหมายท่ีเปลย่ี นไปหรอื ไม และจะมี เมื่อบคุ คลตามทร่ี ะบุไวใ น มาตรา 28 รองขอตอ ศาล ศาลจะส่งั ใหบ ุคคลนน้ั
ความสามารถ รวมถึงสิทธิหนาทต่ี ามกฎหมายอยา งไร จากนั้น เปนคนเสมือนไรค วามสามารถกไ็ ด
นาํ มาอธบิ ายสรุปใหครูฟง
คู่มือครู 147
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครใู หนักเรียนสงั เกตบตั รประจําตวั ประชาชน ๑. ผเู้ ยาว์ คอื บคุ คลซงึ่ ยงั ไมบ่ รรลนุ ติ ภิ าวะ บคุ คลจะบรรลนุ ติ ภิ าวะเมอ่ื อายคุ รบ ๒๐ ปี
ของตนเอง แลวครตู ้งั คาํ ถาม บรบิ รู ณ์ หรอื เมอื่ ทา� การสมรสโดยมอี ายุ ๑๗ ปบี รบิ รู ณ์
• บัตรประจาํ ตวั ประชาชนมีความสาํ คญั หรอื โดยอายตุ า่� กวา่ นนั้ แตม่ เี หตอุ นั สมควรทศี่ าลอนญุ าต
อยางไร ให้สมรสได้
(แนวตอบ บัตรประจาํ ตวั ประชาชน
เปน เอกสารราชการสําคญั ใชเ ปนหลกั ฐาน ๒. คนไรค้ วามสามารถ คอื บคุ คลวกิ ลจรติ
พิสูจนตนเองเมอื่ ตองติดตอ กับราชการ
และหนวยงานตางๆ) เซรึ่งียศกาวล่าสผั่งใู้อหน้เปุบ็นาลคใน1หไ้ร้คเพวาื่อมทส�าานมิตาิกรถรแรมละตต่าั้งงผๆู้ดูแแลทซน่ึง
• ในบตั รประจําตัวประชาชน มกี ารระบขุ อมลู
ของผูถอื บัตรอะไรบาง เน่ืองจากผู้วิกลจริตย่อมขาดสติไม่อาจเข้าใจความ
(แนวตอบ ในบตั รประจําตัวประชาชน
มีขอ มูลยนื ยันสถานะของผถู อื บัตร ไดแ ก เลข สา� คญั ของสงิ่ ใดๆ ทต่ี นทา� ลงไปได้ จงึ ถอื วา่ หยอ่ นความ
ประจําตัวประชาชน ชือ่ นามสกุล
วนั เดือน ปเ กดิ ทอี่ ยู วนั ทอี่ อกบตั ร ผู้เยาว์ คือ บุคคลที่ยงั ไมบ่ รรลุนิติภาวะ สามารถในการทา� นิติกรรมและสญั ญา
วันท่บี ัตรหมดอายุ และรูปถายของผถู ือบตั ร) ๑.๒) หลักฐานแสดงตัวบคุ คล
2. ครใู หนกั เรียนชว ยกนั ยกตวั อยา งหลกั เกณฑ บัตรประจ�าตัวประชาชนเป็นเอกสารส�าคัญท่ีใช้เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคล ภูมิล�าเนา และสถานะ
หรอื ขอ กําหนดตามกฎหมายที่เกีย่ วกบั บัตร
ประจาํ ตวั ประชาชนท่นี า สนใจอยา งนอย คนละ บางอย่างของบุคคลได้ เพราะบัตรประจ�าตัวประชาชนออกโดยทางราชการ ระบุช่ือ วัน เดือน
1 ตัวอยา ง
(แนวตอบ หลักเกณฑใ นการทาํ บตั รประจําตวั ปีเกิด ท่ีอยู่ และรูปถ่ายเจ้าของบัตร จึงสามารถใช้เป็นหลักฐานท�าการพิสูจน์ตนเอง อายุ และ
ประชาชน เชน กฎหมายกาํ หนดใหเ ด็กไทย
ทมี่ อี ายุต้งั แต 7 ป บรบิ ูรณ ตองยน่ื ขอมี ภมู ิล�าเนาได้ เมอ่ื ตอ้ งติดตอ่ กบั ทางราชการและบุคคลอ่ืนๆ
บัตรประจาํ ตัวประชาชนภายใน 1 ป หากไมย ืน่ ตามพระราชบัญญัติบัตรประจ�าตัว
ขอมบี ัตรประจาํ ตวั ประชาชนภายในเวลา
ท่ีกําหนด ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ 100 บาท ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓)
เปนตน)
พ.ศ. ๒๕๕๔ ก�าหนดให้บุคคลสัญชาติไทยท่ี
มีอายุตั้งแต่ ๗ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป แต่ไม่เกิน ๗๐
ปีบริบูรณ์ ต้องมีบัตรประจ�าตัวประชาชน เว้นแต่จะ
ได้รับการยกเวน้ จากทางราชการ เช่น ภกิ ษุ สามเณร
เป็นต้น
เมื่อเจ้าพนักงานที่มียศต้ังแต่ร้อย
กฎหมายกาำ หนดใหม้ ผี ทู้ ม่ี สี ญั ชาตไิ ทยอายุ ๗ - ๗0 ปี ต�ารวจตรขี ้นึ ไปขอตรวจบตั รประจา� ตัวประชาชน หาก
จะตอ้ งมบี ัตรประจำาตัวประชาชน เพื่อใชเ้ ป็นเอกสาร บคุ คลใดไมม่ บี ตั รประจา� ตวั ประชาชนแสดงกจ็ ะมคี วาม
ในการพสิ ูจนต์ วั บคุ คล ผิดต้องระวางโทษปรับไมเ่ กิน ๒๐๐ บาท
148
นักเรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอมลู ใดตอไปน้ีท่ี ไม ปรากฏอยูในบตั รประจาํ ตัวประชาชน
1 ผอู นุบาล คือ ผูทมี่ ีหนา ทีด่ ูแลคนไรความสามารถ รวมทั้งจัดการดูแลทรัพยสิน 1. วันเกดิ
และหนา ทตี่ า งๆ แทนคนไรค วามความสามารถ ซงึ่ ข้ันตอนการรอ งขอเปน ผอู นบุ าล 2. ชื่อเลน
สามารถสรุปได ดังนี้ 3. ชอื่ สกลุ
4. รปู ภาพ
ข้นั ตอนท่ี 1 ผูร องจะตองยนื่ คํารอ งขอเปน ผูอ นุบาล และขอใหศ าลมคี าํ สั่ง วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะช่ือเลน ไมถ อื เปน ชื่ออยาง
ใหบ คุ คลเปน ผไู รค วามสามารถ เมอ่ื ศาลมคี าํ สงั่ แลว ผรู อ งตอ งขอใหเ จา พนกั งานศาล เปนทางการตามกฎหมาย จึงไมปรากฏอยูใ นบตั รประจาํ ตวั
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา 28 วรรคทายแหง ประมวลกฎหมายแพง ประชาชน สว นในขอ อนื่ ๆ ถอื เปน ขอ มลู ของบคุ คลทมี่ คี วามสาํ คญั
และพาณิชย ในการยนื ยนั ตวั บุคคล จึงมีปรากฎอยูใ นบตั รประจาํ ตัวประชาชน
ข้ันตอนท่ี 2 หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา พน กาํ หนด 30 วันแลว
หากผอู นุบาลมีความจาํ เปน ทจี่ ะตอ งใชอาํ นาจหนาทข่ี องผูอ นุบาลตามประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชย ในการทํานติ กิ รรมอันเกีย่ วกบั ทรพั ยสินของผไู รความ
สามารถโดยอนโุ ลม เชน ขาย แลกเปลีย่ น ขายฝาก ใหเ ชา ผอู นบุ าลตองยน่ื คํารอ ง
ขออนญุ าตตอศาล ขอทาํ นติ ิกรรมแทนผูไ รค วามสามารถตามความจาํ เปน
ซง่ึ ผูอ นุบาลจะจัดการทกุ อยา งเชน เดียวกับผูจดั การ
148 ค่มู อื ครู
กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
๒) กฎหมายเรื่องทรพั ยส์ ิน ไดแ้ ก่ กฎหมายทก่ี า� หนดวา่ ส่งิ ใดเปน็ วัตถุ ซงึ่ บคุ คล 1. ครใู หนักเรยี นยกตวั อยา งกฎหมายทีเ่ กี่ยวขอ ง
กับทรัพยสนิ ทางปญญา
สามารถยดึ ถอื เปน็ ของตนได้ กา� หนดวธิ ไี ด้มา ตลอดจนรับรองสิทธติ า่ งๆ ในส่งิ นนั้ เพราะบุคคล (แนวตอบ เชน พระราชบญั ญตั สิ ทิ ธบิ ัตร
พระราชบัญญัติเครอื่ งหมายการคา
โดยเฉพาะบุคคลธรรมดาย่อมต้องอาศัยส่ิงต่างๆ ที่จ�าเป็นส�าหรับการด�ารงชีวิต ได้แก่ อาหาร พระราชบญั ญตั ิลิขสทิ ธ์ิ พระราชบญั ญตั ิ
การผลติ ภณั ฑซดี ี เปนตน)
เครอื่ งน่งุ หม่ ทอี่ ยอู่ าศยั และยารักษาโรค
2. ครใู หน กั เรยี นอธบิ ายความแตกตา งของคาํ วา
แตใ่ นปจั จบุ นั ความเจรญิ กา้ วหนา้ ของสงั คม ทา� ใหก้ ฎหมายใหค้ วามคมุ้ ครองไมเ่ ฉพาะ “ทรัพย” กับ “ทรพั ยสิน”
(แนวตอบ ทรัพย คือ ส่ิงทมี่ รี ูปรางจับตองได
สิ่งท่ีมีรูปร่างเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งที่ไม่มีรูปร่าง เช่น ความคิดสร้างสรรค์จากสมองของมนุษย์ และตองมีราคาถอื เอาประโยชนไ ด
สวนทรัพยส นิ มคี วามหมายกวา งกวาทรพั ย
ท่ีคดิ คน้ ประดษิ ฐ์ส่งิ ใหมๆ่ ข้นึ เรยี กวา่ “ทรัพยส์ นิ ทางปัญญา” อีกดว้ ย เพราะมีความหมายรวมถึงทรพั ยและวัตถุ
ทไี่ มม รี ปู รา ง ไดแ ก สทิ ธติ า งๆ เชน กรรมสทิ ธิ์
๒.๑) ความหมายของทรพั ยส์ นิ ทรพั ยต์ ามกฎหมาย คอื วตั ถทุ มี่ รี ปู รา่ งสามารถ สิทธิในการเปนเจา ของลขิ สทิ ธิ์ สิทธิ์ใน
งานประพันธ เปนตน )
มองเห็นได้ สัมผัสได้ และบุคคลสามารถถือเอาเป็น เกร็ดน่ารู้
ประโยชน์ได้ เชน่ รถยนต์ เป็นต้น
ในทางกฎหมาย ทรพั ยจ์ ะตอ้ งมีรูปร่าง
ส�าหรับทรัพย์สินมีความหมายกว้าง สามารจับต้องได้ และตอ้ งมีราคา ถอื เอา
ประโยชน์ได้ หากขาดสิ่งใดส่ิงหนึ่งไป
กว่าทรัพย์ เพราะหมายความรวมถึงทรัพย์ 1และ จะไมถ่ อื เปน็ ทรพั ย์ เชน่ มนษุ ยท์ ยี่ งั มชี วี ติ อยู่
วตั ถทุ ไ่ี มม่ รี ปู รา่ ง ไดแ้ ก่ สทิ 2ธติ า่ งๆ เชน่ กรรมสทิ ธิ์ สทิ ธิ ไม่จัดว่าเป็นทรัพย์ เพราะมนุษย์ไม่ใช่
ในการเปน็ เจา้ ของลขิ สทิ ธิ์ สทิ ธใิ นงานประพนั ธ์ เปน็ ตน้ วตั ถสุ ง่ิ ของ ไม่สามารถซ้ือขายกนั ได้
ผลงานเพลงเป็นงานอันมีลิขสิทธ์ิ เกดิ จากการสร้างสรรคข์ องศิลปน ยอ่ มไดร้ บั ความคุ้มครองตามกฎหมาย
149
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู
ขอ ใดจดั เปน ทรัพยส นิ ทางปญญา 1 กรรมสิทธ์ิ คือ สิทธแิ สดงความเปน เจาของในทรัพยส นิ มสี ทิ ธิใชส อย จําหนา ย
1. ทีน่ า ไดด อกผล ติดตามเอาคืนมาจากผูไมมสี ทิ ธยิ ึดถอื ไว และขดั ขวางมิใหผูใ ดมาเกีย่ วขอ ง
2. ของปา กบั ทรพั ยสนิ น้ันโดยมิชอบดว ยกฎหมาย กรรมสิทธิ์เปน สทิ ธิทีถ่ าวร ใชไดทุกเมื่อโดย
3. ชายหาด ไมม กี าํ หนดเวลา ยกตัวอยา ง เชน นายสชุ าตซิ ื้อรถยนต 1 คนั รถยนตค นั น้ันถอื เปน
4. ยาตา นไวรัสอีโบลา กรรมสทิ ธ์ิของนายสชุ าติ ซง่ึ นายสุชาติ มสี ทิ ธ์ิท่จี ะใชรถ ขายรถ หรอื ใหผ อู น่ื ยมื
ใชรถได ตามความตองการ
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. ยารกั ษาโรคเปน ส่งิ ทส่ี รางสรรคข ึ้น 2 ลขิ สทิ ธิ์ หมายถงึ สทิ ธแิ ตเพียงผูเ ดยี วท่ีจะกระทาํ การใดๆ เก่ียวกับงานที่
ผูสรา งสรรคไดริเริ่มโดยการใชสติปญญาความรู ความสามารถ และความวริ ยิ ะ
จากสมองของมนษุ ย โดยผา นการคน ควา ทดลองเพอื่ ใหไ ดย ารกั ษาโรค อตุ สาหะของตนเองในการสรา งสรรค โดยไมล อกเลียนงานของผอู นื่ โดยงานท่ี
ชนิดใหม ยาตานไวรสั อีโบลาจงึ จดั เปน ทรพั ยสนิ ทางปญญา สรา งสรรคต อ งเปนงานตามประเภททก่ี ฎหมายลขิ สทิ ธ์ใิ หคมุ ครอง โดยผูสรา งสรรคจ ะ
ไดร บั ความคุมครองทนั ทที ส่ี รางสรรคโ ดยไมต องจดทะเบยี น ซงึ่ กฎหมายลิขสิทธิไ์ ดให
ความคมุ ครองแกน งานสรา งสรรค 9 ประเภท ไดแก งานวรรณกรรม งานนาฎกรรม
งานดนตรกี รรม งานสิง่ บนั ทึกเสยี ง งานโสตทศั นวสั ดุ งานภาพยนตร งานแพรเ สยี ง
แพรภ าพ งานอนื่ ใดในแผนกวรรณคดี วทิ ยาศาสตร หรือศลิ ปะ
คู่มือครู 149
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครใู หน ักเรียนชวยกันอธิบายความแตกตาง ๒.๒) ประเภทของทรัพย์สิน กฎหมายแบ่งทรัพย์สินแ1ละประโยชน์เก่ียวกับ
ระหวางอสังหารมิ ทรัพยและสังหาริมทรพั ย
พรอ มทง้ั ยกตวั อยา งทรัพยสินประเภทตา งๆ ทรัพย์สินออกเป็นหลายประเภท แต่ที่ส�าคัญ ได้แก่ อสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ โดย
ใหครบถว น
(แนวตอบ กฎหมายแพงและพาณชิ ยไดแบง กฎหมายให้ความส�าคัญกับอสังหาริมทรัพย์มากกว่า
ทรัพยส ินออกเปน 2 ประเภท ซงึ่ มคี วาม
แตกตา งกัน ดงั นี้ เช่น ต้องแสดงสิทธิทางทะเบียนและนิติกรรมท่ี
อสังหารมิ ทรพั ย คือ ท่ดี นิ และทรัพยอนั ติด
อยกู บั ทด่ี นิ ทมี่ ลี กั ษณะเปน การถาวรหรอื ประกอบ เกี่ยวข้องต้องท�าเป็นลายลักษณ์อักษร ต่างกับ
เปน อนั เดยี วกันกับกับทดี่ ินนนั้ และรวมถงึ ทรพั ย
อันเก่ียวกบั ทด่ี ิน หรือทรัพยอ นั ตดิ อยกู ับที่ดิน สังหาริมทรัพย์ ซึ่งโดยท่ัวไปกฎหมายจะไม่เข้มงวด
หรือประกอบเปนอันเดียวกนั กบั กับทด่ี ินนั้น
เชน บานเรอื น อาคาร ไมยืนตน เปนตน มากนกั
สังหารมิ ทรพั ย คอื ทรพั ยส ินอืน่ นอกเหนอื จาก
อสังหารมิ ทรพั ย เปนทรัพยท่ีสามารถเคล่อื นท่ีได ในทางกฎหมาย อสังหารมิ ทรัพย์ ได้แก่
เชน รถยนต เรอื คอมพวิ เตอร โทรทศั น เปน ตน )
ทรัพย์สนิ ซง่ึ เคล่อื นที่ไม่ได้ ดงั น้ี
2. ครูใหนักเรียนอธิบายวาในทางกฎหมาย
มที รัพยส ินใดท่สี ามารถซือ้ ขายกันได ๑. ทด่ี นิ และทรพั ยซ์ ง่ึ ตดิ อยกู่ บั ทด่ี นิ
และทรพั ยส นิ ใดท่ไี มส ามารถซื้อขายกันได
ตามกฎหมาย อาคารสูงเปน็ สิ่งปลูกสร้างถาวร ซงึ่ ในทางกฎหมาย จะโดยธรรมชาติ เชน่ ไมย้ ืนตน้ ต่างๆ หรือโดยมีบุคคล
(แนวตอบ ทรัพยส ินโดยทั่วไปทง้ั ท่ีเปน ถอื เปน็ อสงั หาริมทรัพย์
อสงั หาริมทรพั ย และสงั หาริมทรัพย สามารถ นา� มาติดในลกั ษณะตรึงไว้ถาวรกบั ที่ดนิ เช่น ตกึ บา้ น
ทาํ การซอื้ ขายกนั ได แตก ม็ ที รพั ยส นิ บางประเภท
ทีก่ ฎหมายแพง และพาณิชย กําหนดไวว า เป็นตน้
ไมสามารถซื้อขายกันได ทรัพยส ินทีซ่ ้อื ขายกนั
ไมได มดี ังน้ี ๒. ทรัพย์ซึ่งประกอบเปน็ อันเดียวกบั ทด่ี ิน เชน่ กรวด ทราย แรธ่ าตุต่างๆ
1. สาธารณสมบัตขิ องแผนดิน เชน ปาสงวน
ไฟสองทางสาธารณะ ทช่ี ายตลง่ิ เปนตน ในท่ดี ิน เปน็ ต้น ๓. สิทธิอันเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เช่น สิทธิครอบครองท2ี่ดิน สิทธิ
2. สิทธซิ ึ่งกฎหมายหา มโอน เชน สิทธทิ ่ีจะไดรบั จา� นอง 3สทิ ธอิ าศยั เป็นต้น
มรดกของเจา มรดกทีย่ ังมีชวี ติ อยู สิทธทิ จ่ี ะ
ไดรบั คาอปุ การะเลย้ี งดู สา� หรบั สังหาริมทรัพย์ ในทางกฎหมาย ไดแ้ ก่
3. ทรัพยส ินที่ผิดกฎหมาย เชน ยาเสพติด
อาวุธเถือ่ น เปนตน ๑. ทรัพย์ซึ่งเคล่ือนที่จากแห่งหนึ่ง
4. ที่วดั และทธ่ี รณีสงฆ
5. สิทธิทจี่ ะไดรบั บาํ เหนจ็ บํานาญ จากทาง ไปยังอีกแห่งหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเคล่ือนด้วยแรงเดินของ
ราชการ
6. ทรัพยส นิ ทไี่ ดม าโดยขอกําหนดหามโอน) ตัวทรพั ยเ์ อง หรือเคลื่อนด้วยก�าลงั ภายนอก เช่น ชา้ ง
นกั เรยี นควรรู โตะ เก้าอี้ ดินทข่ี ดุ จากพืน้ ดินเปน็ ตน้
๒. ก�าลังแรงของธรรมชาติที่อาจมี
ราคาและถือเอาได้ เชน่ กระแสไฟฟ้า พลังน้า� ตก พลัง
ไอนา้� เป็นต้น
๓. สิทธิท้ังหลายเก่ียวกับสังหา-
รถยนตเ์ ปน็ สงั หาริมทรัพยช์ นิดหนึง่ ซ่ึงบคุ คลท่วั ไป ริมทรัพย์ เช่น กรรมสิทธใ์ิ นสังหารมิ ทรัพย์ สทิ ธิจ�านา�
สามารถถอื ครองไดต้ ามกฎหมาย และลขิ สิทธิ์ เปน็ ตน้ สา� หรับไม้ล้มลกุ และพืชประเภท
150
ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
ทรัพยส นิ ในขอ ใดถือเปนอสงั หาริมทรัพย
1 ทรัพยสนิ หมายถงึ วตั ถุท้ังที่มีรูปรางและไมมรี ปู ราง ซง่ึ อาจมรี าคาและอาจถือ 1. เรอื
เอาได เชน บา น ท่ดี ิน เปนวัตถมุ รี ปู ราง ลิขสิทธิ์ สทิ ธิบตั ร เปน วัตถุไมม ีรูปราง 2. หนงั สอื
2 สิทธคิ รอบครอง หมายถึง สทิ ธิเหนอื ทรพั ยส นิ ซง่ึ ผทู รงสทิ ธิมีสิทธยิ ึดถือ 3. อาคารพาณิชย
ทรพั ยส นิ นน้ั เพ่อื ตน อนั เปนผลใหมสี ทิ ธติ างๆ เหนอื ทรพั ยส นิ น้นั 4. เคร่ืองคอมพวิ เตอร
3 จาํ นอง หมายถึง สญั ญาซึ่งบคุ คลหน่ึงเรียกวา “ผูจาํ นอง” เอาทรัพยสนิ วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะอาคารพาณิชยเปนทรัพยสิน
ตราไวแกบุคคลอีกคนหน่ึง เรียกวา “ผรู ับจาํ นอง” เปนประกันการชําระหน้ี
โดยไมสงมอบทรัพยส นิ น้นั ใหผ รู ับจาํ นอง ที่มีลักษณะตดิ อยกู บั ทด่ี นิ เปน การถาวร ไมสามารถเคลอื่ นยา ยได
ซ่ึงตามกฎหมายแพง และพาณชิ ยถือเปน อสังหาริมทรัพย
สว นทรัพยส นิ ในขอ อน่ื ๆ ถือเปน สงั หาริมทรัพยท งั้ หมด
150 คู่มือครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู
เกบ็ เกยี่ วรวงผลไดค้ ราวหนงึ่ หรอื หลายคราวตอ่ ไป เชน่ ขา้ ว กฎหมายกา� หนดใหเ้ ปน็ สงั หารมิ ทรพั ย์ ครตู ้งั ประเด็นคําถามเกี่ยวกบั สิทธใิ นทรพั ยส นิ
ใหน ักเรยี นชว ยกันตอบ เชน
ด้วยเชน่ เดียวกัน • กรรมสทิ ธใ์ิ นทรัพยสินหมายถงึ อะไร
๒.๓) สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ คอื ประโยชน์ (แนวตอบ สิทธิในการเปนเจา ของ ผูมี
กรรมสทิ ธ์ิในทรัพยส ินยอมมสี ิทธคิ รอบครอง
ท่ีบุคคลมีอยู่ในทรัพย์สิน ซึ่งสิทธิในทรัพย์สินท่ีส�าคัญ ใชสอย จาํ หนาย จายโอน ทําลาย ทรัพยสนิ
และมสี ทิ ธิไดด อกผลจากทรัพยสนิ นน้ั )
ได้แก่ กรรมสิทธิ์ หมายถึง สิทธิในการเป็นเจ้าของ • ทรพั ยสินอะไรบางท่จี ะไดม าโดยวธิ ีอ่ืนไมได
นอกจากมีกฎหมายโอนใหเทา น้นั
ผมู้ กี รรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ ยอ่ มมสี ทิ ธคิ รอบครอง ใชส้ อย (แนวตอบ สาธารณสมบตั ขิ องแผน ดิน
ทธี่ รณสี งฆ เปนตน)
จา� หนา่ ย จา่ ยโอน ทา� ลายทรพั ยส์ นิ และมสี ทิ ธไิ ดด้ อกผล • ทรัพยสนิ ใดบางทีไ่ มส ามารถทําการ
ซอื้ ขายได
จากทรัพย์สินน้ัน เช่น ได้ผลไม้จากต้นไม้ของตน (แนวตอบ พื้นท่ีปาสงวน สาธารณสมบัติ
ได้ดอกเบ้ียจากเงินของตนที่ให้ผู้อ่ืนกู้ มีสิทธิติดตาม อาวธุ เถ่อื น เปนตน)
และเรียกเอาทรัพย์สินของตนคืนจากผู้ไม่มีสิทธิจะ บุคคลมีสิทธิในการครอบครองทรัพย์สินที่ตนหามา
และสามารถใช้สอย หรือจำาหน่ายให้บุคคลอ่ืนได้
ยดึ ถอื ไว้ ตลอดจนมสี ทิ ธขิ ดั ขวางมใิ หผ้ อู้ นื่ เขา้ เกย่ี วขอ้ ง ตามกฎหมาย เชน่ รถยนต์ รถจกั รยานยนต์ เปน็ ตน้
กับทรัพย์สนิ น้นั โดยมชิ อบด้วยกฎหมาย
อย่างไรก็ตามกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินต้องอยู่ใต้เง่ือนไขท่ีกฎหมายก�าหนดไว้
เชน่ เจ้าของปนื จะนา� ปนื ของตนมายงิ เล่นตามใจชอบในทสี่ าธารณะไม่ได้ เจา้ ของบ้านจะเผาบ้าน
ของตนเล่นจนนา่ จะเป็นอนั ตรายแก่ผูอ้ ่นื หรอื ทรัพย์สินของผูอ้ น่ื ไม่ได้ เปน็ ต้น
บุคคลจะมีสทิ ธิในทรัพยส์ ินไดโ้ ดยเหตสุ า� คัญ ๒ ประการ ดงั นี้
๑. ได้มาตามบทบัญญัติของกฎหมาย เช่น ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ิ
พ.ศ. ๒๕๓๗ ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรมจะได้ลิขสิทธ์ิในผลงานที่ตนแต่งข้ึนและเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิ
ทา� ซา�้ หรือดัดแปลงงานนัน้ ได้ เป็นต้น
เท่านัน้ เช่น สาธารณสมทบรัตัพิขยอ์สงินแบผา่นงดอินย่า1ทงว่ี ัดจะทไดีธ่ ้มรณาโสีดงยฆว์ิธ2เีอป่ืน็นไตมน้ ่ได้ นอกจากมีกฎหมายโอนให้
๒. ได้มาโดยผลของนิติกรรม
และสัญญา เช่น ทายาทของผู้ตายได้รับทรัพย์สิน เกรด็ น่ารู้
เปน็ มรดกตามพนิ ยั กรรม ผซู้ อื้ ไดก้ รรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ นิ
กฎหมายแพ่งได้กำาหนดให้ทรัพย์สิน
บางอยา่ งไมส่ ามารถทาำ การซอื้ ขายได้ เชน่
ตามสญั ญาซอื้ ขาย ผเู้ ชา่ ไดส้ ทิ ธใิ ชแ้ ละรบั ผลประโยชน์ พน้ื ทป่ี า่ สงวน สาธารณสมบัติ อาวธุ เถอื่ น
จากทรัพย์สินท่ีเช่าภายในระยะเวลาที่ก�าหนดตาม สิทธิในการรับบำาเหน็จ บำานาญจากทาง
สัญญาเช่าทรัพย์ เปน็ ต้น ราชการ เป็นต้น ผู้ใดท่ีกระทำาการฝ่าฝืน
ย่อมมีโทษตามกฎหมาย
151
ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู
หากคณะกรรมการวดั ตอ งการแบง ทด่ี ินของวดั บางสว นไปขาย 1 สาธารณสมบตั ิของแผนดนิ ทรัพยสินทุกชนดิ ของแผน ดิน ซึ่งใชเพื่อสาธารณ
ใหนายทุน สามารถกระทาํ ไดห รือไม เพราะเหตใุ ด ประโยชน หรือสงวนไวเ พื่อประโยชนรวมกัน เชน ทรพั ยสนิ สาํ หรับพลเมอื งใชร ว มกนั
แนวตอบ ไมสามารถกระทําไดเ พราะวดั และธรณสี งฆ เปนตน วา ชายตลงิ่ ทางน้ํา ทางหลวง ทะเลสาบ ทรพั ยสนิ ใชเพื่อประโยชนข อง
เปน ทรพั ยสินท่ซี ื้อขายกันไมได นอกจากมกี ฎหมายโอนให แผน ดินโดยเฉพาะ เปนตนวา ปอมและโรงพยาบาล สํานักราชการบานเมือง อาวุธ
เทา นัน้ ยุทธภัณฑ
2 ทีธ่ รณสี งฆ คอื ทดี่ ินซึ่งพทุ ธศาสนิกชนผูมคี วามศรัทธายกใหเปน ของวดั ถือเปน
สมบัติและเปนกรรมสทิ ธิข์ องวัด โดยวดั จะไดร บั ผลประโยชนจากทีด่ ินน้นั ผูใดจะเขา
ยดึ ครองหรือโอนกรรมสิทธใิ์ หผ อู น่ื ไมไ ด นอกจากจะมีการออกพระราชบญั ญตั เิ วนคืน
คมู ือครู 151
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูใหนกั เรียนแบง กลมุ ออกเปน 5 กลมุ ๓) กฎหมายเรื่องละเมิด ละเมิด เป็นช่ือเฉพาะในกฎหมาย ส�าหรับเรียกการ
แลว ใหน กั เรยี นชว ยกนั อธบิ ายสทิ ธใิ นกรรมสทิ ธ์ิ กระทา� ใหบ้ คุ คลอนื่ ไดร้ บั ความเสยี หายโดยผดิ กฎหมาย ซงึ่ วางห1ลกั การทวั่ ไปไวใ้ นประมวลกฎหมาย
ทรพั ยส นิ และขอบเขตของสทิ ธ์ใิ นทรพั ยส นิ แพ่งและพาณิชย์ว่า ผู้ใดกระท�าต่อบุคคลอ่ืนโดย
ตามทกี่ ฎหมายแพง และพาณิชยกําหนดไว
โดยใหน กั เรยี นยกตวั อยา งทรพั ยส นิ ทอี่ ยใู กลต วั ผิดกฎหมายให้เขาได้รับความเสียหายไม่ว่าแก่ชีวิต
จากนั้นสงตัวแทนออกมารายงานหนาชั้น
ร่างกาย อนามัย เสรีภาพ ทรัพยส์ นิ หรอื สทิ ธอิ ย่างใด
2. ครูใหนักเรียนยกตัวอยางกฎหมายเรอ่ื ง
การละเมดิ คนละ 1 กฎหมาย โดยใหเ ขยี น ผอยนู้ า่ัน้ งไหดน้ช่ึงือ่ วจ่าะทโา�ดลยะจเงมใดิจหจระือตโ้อดงยใชป้คระ่ามสาินทไหเลมนิ ท2เลด่อแกทต็นาใมห้
กฎหมายลงในสมุดบันทกึ แลว นาํ ออกมา
แลกเปลย่ี นเรียนรภู ายในชนั้ แก่ฝา่ ยท่ีไดร้ ับความเสียหาย
(แนวตอบ ยกตัวอยาง เชน ประมวลกฎหมาย
แพง และพาณิชย มาตรา 437 บัญญตั ิไววา สาระส�าคัญของกฎหมายเรื่องละเมิด
บคุ คลใดครอบครองหรอื ควบคุมดแู ล
ยานพาหนะอยางใดๆ อันเดินดวยกําลังเคร่อื ง มนษุ ยย์ อ่ มมสี ทิ ธเิ สรภี าพในดา้ นตา่ งๆ ตามกฎหมาย จึงเป็นการท่ีกฎหมายก�าหนดหน้าที่ให้บุคคลเคารพ
จักรกล บคุ คลน้ันจะตอ งรับผิดชอบเพอื่ การ เช่น การทำากิจกรรมภายในครอบครัว ซ่ึงผู้ใดจะ สิทธิเสรีภาพต่างๆ ของผู้อื่นโดยท่ัวไป ด้วยการไม่
เสียหายอันเกดิ แตยานพาหนะนั้น เวน แตจ ะ ทำาการละเมดิ มไิ ด้ ก่อความเสียหายแก่สิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น ไม่ว่า
พิสจู นไ ดวาการเสียหายนน้ั เกดิ แตเหตุสุดวสิ ยั
หรือเกดิ เพราะความผิดของผตู องเสยี หาย จะโดยจงใจหรือโดยประมาทเลินเล่อก็จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการท�า
นั้นเอง ความขอนใ้ี หใชบงั คับไดต ลอดถงึ ผูมไี ว
ในครอบครองของตน ซ่ึงทรัพยอนั เปน ของเกิด ละเมิดของตน
อันตรายไดโ ดยสภาพ หรอื โดยความมุงหมาย
ท่จี ะใช หรือโดยอาการกลไกของทรพั ยน้ันดวย) การละเมิดบางกรณีอาจเป็นความผิดทางอาญาด้วย เช่น ท�าให้ทรัพย์สินของผู้อ่ืน
เสียหายโดยเจตนา ผู้เสียหายย่อมมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายได้ฐานถูกละเมิด และอาจฟ้อง
ให้ผ้กู ระทา� น้ันไดร้ ับโทษทางอาญาฐานท�าให้เสยี ทรัพย์ได้ด้วย เปน็ ต้น
การกระทำาท่ีก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของผู้อื่น เช่น การพ่นสีสเปรย์บนกำาแพงด้วยความคึกคะนอง ถือเป็นความผิด
ฐานละเมิดในลกั ษณะหน่ึง ผูท้ ก่ี ระทาำ จะต้องชดใช้ความเสียหายแก่ผเู้ ปน็ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ
152
นักเรยี นควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การกระทําขอใดถือเปน การละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน และเปนความผิด
1 ประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย หมายถึง กฎหมายทร่ี วมเอาบทบญั ญตั ิที่ ทางอาญา
เกีย่ วกบั เรอ่ื งในทางแพง และพาณิชนม าไวด วยกนั เปน หมวดหมู จดั ระเบียบใหเขากัน 1. แมค า ทอนเงินใหล กู คาไมค รบจํานวน
โดยการจัดทาํ กฎหมายแพงและพาณชิ ยของไทยเรม่ิ มขี ึ้นตง้ั แตสมยั รชั กาลที่ 5 และ 2. ตํารวจเขาจับกุมวยั รนุ ท่กี าํ ลังมว่ั สุมยาเสพติด
มแี กไขเพ่มิ เตมิ มาจนกระท่ังถงึ ปจจบุ ัน 3. นายจา งทบุ ตลี กู จางจนไดรบั บาดเจบ็ เพ่อื ลงโทษทท่ี าํ งานไมเ สร็จ
2 คาสินไหม ไดแก การคืนทรพั ยสนิ ที่ผูเสียหายตอ งเสยี ไปจากการละเมิด หรือใช 4. ผูอํานวยการโรงเรียนใหครฝู กสอนออกจากงานเนื่องจากขาดงาน
ราคาทรัพยส ินนน้ั รวมท้งั คาเสียหายอนั จะพึงบงั คับใหใชเ พอื่ ความเสยี หายใดๆ บอ ยครงั้
อันไดกอขึน้ น้นั ดว ย ขอ บัญญัติเกีย่ วกับคาสนิ ไหมทดแทนตามกฎหมายกาํ หนดไววา วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. การทํารา ยรา งกายผอู ื่นโดยเจตนา
เปนอาํ นาจของศาลจะใชด ุลพินจิ วา คาสินไหมทดแทนควรเปนเทาไร แตต อง ถอื เปน การละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน และมคี วามผิดทางอาญา
ไมเกินกวา คําฟอ งรองของโจทก ฐานทํารายรางกาย
152 ค่มู ือครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
นานาสาระ 1. ครูยกตัวอยา งสถานการณแ ลวใหน ักเรยี น
ชว ยกนั ตอบวา เปน การละเมดิ ลขิ สทิ ธทิ์ ห่ี รอื ไม
การละเมิดลขิ สิทธิ์ เพราะเหตใุ ด เชน
• การดหู นังผานออนไลน
การละเมิดลิขสิทธิ์สินค้า งานบริการ และทรัพย์สินทางปัญญา ถือเป็นปัญหาสำาคัญของสังคมไทยในปัจจุบัน • การสัง่ ซ้อื ซีรียเกาหลผี านอนิ เทอรเ นต็
การมคี วามรู้ในเร่ืองลิขสิทธิจ์ ึงมีประโยชนต์ ่อการทำากจิ กรรมตา่ งๆ ทเ่ี กีย่ วข้องกับลิขสิทธท์ิ ัง้ ตอ่ ผผู้ ลิตและผูบ้ รโิ ภค • การซือ้ เสื้อผา มอื สอง
พระราชบญั ญัติลิขสทิ ธิ์ พ.ศ. 253๗ ได้บัญญัติสาระสำาคญั เก่ียวกับลขิ สทิ ธไ์ิ ว้ ดงั นี้ 2. ครูใหน กั เรียนรวมกันแสดงความคดิ เห็น
ความหมาย ลิขสิทธิ์ หมายถึง สิทธแิ ตเ่ พยี งผเู้ ดียวทจี่ ะกระทาำ การใดๆ เก่ยี วกบั งานทีผ่ ้สู รา้ งสรรคไ์ ดท้ าำ ขึน้ เกี่ยวกับสถานการณก ารละเมดิ ลิขสิทธ์ขิ อง
งานสรางสรรคอันมีลขิ สิทธ์ิ แบง่ ออกเปน็ 9 ประเภท ได้แก่ ประเทศไทยในปจ จบุ นั พรอมบอกผลกระทบ
และรวมกันเสนอแนวทางการแกปญ หา
1. วรรณกรรม 6. โสตทัศนวัสดุ
2. โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ๗. ภาพยนตร์
3. นาฏกรรม 8. สง่ิ บันทกึ เสียง
4. ศลิ ปกรรม 9. งานแพร่เสยี งแพร่ภาพ
5. ดนตรีกรรม
ลกั ษณะการละเมิดลิขสิทธ์ิ แบ่งออกเป็นลักษณะตา่ งๆ ดงั น้ี
1. ทำาซำ้าหรือดัดแปลง เช่น คัดลอก เลียนแบบ ทำาสำาเนา ทำาซ้ำาของเดิมโดยเปลี่ยนรูปแบบใหม่ จำาลองงาน
ตน้ ฉบับในส่วนอันเปน็ สาระสำาคญั โดยไมม่ ีลักษณะเปน็ การจัดทาำ งานขึ้นใหม่ เป็นต้น
2. เผยแพร่ต่อสาธารณชน ได้แก่ การทำาให้ปรากฏต่อสาธารณชนโดยการแสดง การบรรยาย การสวด
การบรรเลง การทาำ ให้ปรากฏด้วยเสียงหรอื ภาพ การกอ่ สรา้ ง การจำาหน่าย
3. ให้เช่าต้นฉบับหรือสำาเนางาน ได้แก่ การนำาสำาเนาจำาลองของงานท่ีผู้สร้างสรรค์ทำาขึ้นออกเช่า จำาหน่าย
โดยสำาเนาจาำ ลองนนั้ ปรากฏตอ่ สาธารณชนเปน็ จาำ นวนมากพอสมควร
ตัวอยา งบทลงโทษ
ผู้ทท่ี ำาซาำ้ ดดั แปลง เผยแพรต่ อ่ สาธารณชน ให้เช่าตน้ ฉบบั หรอื สาำ เนางานสรา้ งสรรคอ์ ันมลี ขิ สทิ ธิ์
ตอ้ งระวางโทษปรับตงั้ แต่ 100,000 - 800,000 บาท และหากเปน็ การกระทำาเพื่อการค้าตอ้ งระวางโทษจาำ คุก
ตั้งแต่ 6 เดือน - 4 ปี หรอื ปรบั ตง้ั แต่ 100,000 - 800,000 บาท หรือทั้งจาำ ท้งั ปรบั
ขอสอบ O-NET 153
ขอ สอบป ’51 ออกเกย่ี วกับการละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ เกรด็ แนะครู
ขอ ใดกลา ว ไม ถูกตอ งเก่ียวกบั การละเมดิ ลขิ สิทธิ์
1. เปน ความผดิ อนั ยอมความได ครูยกตวั อยา งส่งิ ทไ่ี มถ ือวาเปนงานอันมีลขิ สทิ ธิ์ เชน
2. ผเู สยี หายจะฟองรอ งไดต อเมือ่ จดทะเบยี นลขิ สทิ ธแิ์ ลว - ขาวประจาํ วัน และขอเทจ็ จรงิ ตา งๆ ทีม่ ีลกั ษณะเปนเพียงขาวสาร
3. หากกระทาํ เพือ่ การคา อาจตองระวางโทษท้ังจาํ ทง้ั ปรับ
4. ผเู สียหายสามารถฟอ งคดีตอศาลไดท ้งั ทางแพงและอาญา อันมใิ ชง านในแผนกวรรณคดี แผนกวทิ ยาศาสตร หรือแผนกศิลปะ
- รฐั ธรรมนูญ และกฎหมาย
วเิ คราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 2. เพราะกฎหมายลขิ สทิ ธิ์ ใหก าร - ประกาศ คําสัง่ ระเบียบ คาํ ชแ้ี จง ของหนวยงานรฐั หรือทองถิ่น
- คาํ พพิ ากษา คาํ ส่งั คําวนิ จิ ฉยั และรายงานของทางราชการ
คุมครองผลงานสรางสรรคท นั ที โดยท่ีผสู รา งสรรคไมตอ ง - คาํ แปล และการรวบรวมส่ิงตา งๆ ขา งตน ท่ีหนวยงานของรฐั หรือทอ งถิน่
จดทะเบยี น ท้งั นผ้ี ลงานสรา งสรรคนัน้ จะตอ งอยูในกลุมผลงาน
9 ประเภท ท่ีกฎหมายกาํ หนดไวดว ย จงึ จะไดรับการคมุ ครอง จดั ทาํ ข้นึ
คู่มอื ครู 153
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูใหนักเรยี นยกตัวอยางการหมนั้ โดยการ ๒.๒ กฎหมายเกย่ี วกบั ครอบครวั และมรดก
สรา งสถานการณจ าํ ลอง ทมี่ ตี วั ละครทง้ั ฝา ยชาย
และหญงิ แลว อธบิ ายถงึ หลักเกณฑในการหม้นั ๑) กฎหมายครอบครัว บัญญัติข้อก�าหนดเก่ียวกับความสัมพันธ์ทางครอบครัว
วาฝา ยชายและหญิงมบี ทบาทและสิทธิในการ
หม้นั อยางไรตามท่ีกฎหมายบัญญตั ิไว จากนน้ั ต้ังแต่การหมั้นไปจนถึงการสมรส ความสัมพันธ์ในครอบครัวและการขาดจากความสัมพันธ์
ครสู ุมผลงานใหนักเรียนออกมาสรุป ในครอบครัว ได้แก่
2. ครูสมุ นักเรียนใหบ อกเง่ือนไขตางๆ เก่ยี วกับ การหมั้นเป็นการทำาสัญญาระหว่างชายกับหญิงว่า ๑.๑) การหมั้น เป็นการท�าสัญญา
การสมรส ตามทีก่ ฎหมายบญั ญตั ไิ ว ตอ่ ไปจะสมรสกนั แตผ่ ้ทู ำาการหม้นั ต้องมอี ายุ 1๗ ปี ระหว่างชายกับหญิงว่าต่อไปจะสมรสกัน ซึ่งจะท�าได้
(แนวตอบ เงอ่ื นไขการสมรสตามกฎหมาย เชน บรบิ รู ณ์ขึน้ ไป หต่อรือเมห่ือญชิงายยังแเลปะ็นหผญู้เยิงมาวอี ์จ1าะยตุ ้อ๑ง๗ไดป้รับีบครบิวารู มณย์ ินแยตอ่ถมา้ จชาากย
- หญงิ ทีเ่ คยสมรสแลวแตสามตี าย หรือการ บิดามารดาหรอื ผูป้ กครองเสยี ก่อน
สมรสครั้งกอนส้นิ สดุ ลงโดยเหตอุ ื่น เชน
การหยา จะสมรสใหมไ ดก ต็ อ เมอ่ื การสมรส ในการหม้นั ฝา่ ยชายจะใหข้ องหมัน้
ครั้งกอ นสนิ้ สดุ ลงไปแลว ไมน อยกวา 310 วนั แก่ฝ่ายหญิง เพื่อเป็นหลักฐานและประกันว่าจะสมรส
เวนแตจะสมรสกบั คสู มรสเดิม คลอดบุตร กับหญิงด้วยของหม้ันน้ี เม่ือหมั้นแล้วของหมั้นจะตก
ระหวางนนั้ มใี บรบั รองแพทยวา มิไดมีการ เปน็ ของฝา่ ยหญงิ แตถ่ า้ ไมม่ กี ารสมรสอนั เนอ่ื งมาจาก
ต้ังครรภ หรอื มคี ําสัง่ ของศาลใหสมรสกนั ได ความผิดของฝ่ายหญิง ฝ่ายหญิงต้องคืนของหมั้น
- การสมรสจะตองจดทะเบยี น โดยมนี ายอาํ เภอ ใหแ้ กฝ่ ่ายชาย
หรือปลัดอําเภอผเู ปน หวั หนากิ่งอาํ เภอ
เปน นายทะเบยี น เปน ตน การผดิ สญั ญาหมนั้ ฝา่ ยทเี่ สยี หายสามารถเรยี กคา่ ทดแทนได้ แตจ่ ะใหศ้ าลบงั คบั
- ชายหญิงจะตองแสดงความยนิ ยอมเปน สามี ให้มกี ารสมรสไม่ได้ เพราะวา่ การสมรสน้นั ขนึ้ กับความสมคั รใจของผจู้ ะสมรสเท่านนั้
ภริยากนั โดยเปดเผยตอหนานายทะเบยี น
และนายทะเบยี นตอ งบันทึกความยนิ ยอมน้นั ๑.๒) การสมรส เป็นการท�าสัญญาตกลงเป็นสามีภริยากันระหว่างชายกับหญิง
ไวด ว ย) กฎหมายก�าหนดเงอ่ื นไขของการสมรสไว้ ดังนี้
๑. การสมรสจะท�าได้ ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุ ๑๗ ปีบริบูรณ์แล้ว
หากมีอายตุ �่ากว่าน้ตี ้องใ๒ห.้ศาชลาอยนหุญรอื าหตญซงิ ท่งึ จเ่ี ปะตน็ ้อบงคุ มคเี ลหวตกิ ุผลลจอรันติ หส1มรอืคศวารลสงั่ ใหเ้ ปน็ คนไรค้ วามสามารถ
จะทา� การสมรสไม่ได้
๓. ชายหรือหญิงซึ่งเป็นญาติสืบสายโลหิตกัน เช่น พ่อหรือแม่กับลูก
พีน่ อ้ งร่วมบดิ ามารดากนั หรอื เปน็ พี่นอ้ งรว่ มแต่เพยี งบิดาหรือมารดากันจะสมรสกันไม่ได้
๔. ผ้รู บั บุตรบญุ ธรรมและบุตรบญุ ธรรมจะสมรสกนั ไมไ่ ด้
๕. ชายหรอื หญงิ จะทา� การสมรสในขณะที่ตนมีคสู่ มรสอยู่แลว้ ไม่ได้
๖. หญงิ ทเ่ี คยสมรสแลว้ แตส่ ามตี าย หรือการสมรสครั้งกอ่ นสน้ิ สุดลงโดย
เหตอุ น่ื เชน่ การหยา่ จะสมรสใหมไ่ ดก้ ต็ อ่ เมอื่ การสมรสครง้ั กอ่ นสนิ้ สดุ ไปแลว้ ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓๑๐ วนั
เวน้ แตจ่ ะสมรสกบั คสู่ มรสเดมิ คลอดบตุ รระหวา่ งนนั้ มใี บรบั รองแพทยว์ า่ มไิ ดต้ งั้ ครรภ์ หรอื มคี า� สงั่
ของศาลใหส้ มรสได้
154
นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอความใดตอไปนเ้ี ก่ียวขอ งกับกฎหมายครอบครัว
1 ผเู ยาว คือ เด็กหรอื บุคคลท่ียังไมบ รรลนุ ติ ิภาวะ ซงึ่ บคุ คลจะพนจากสภาพความ 1. ดาวกเู งินจากธนาคารเพ่ือซื้อบาน
เปน ผูเยาวได 2 กรณี ไดแ ก เมื่ออายุครบ 20 ปบริบรู ณ และจากการสมรสท่ไี ดรบั การ 2. ดาํ ไปจดทะเบียนสมรสกับแดง ทีอ่ ําเภอ
ยินยอมจากผปู กครอง 3. แอด ทําพินัยกรรมยกทรัพยส ินทงั้ หมดใหลูกชาย
2 วิกลจรติ (Psychosis) ในทางการแพทย คอื ภาวะผิดปกตทิ างจติ ที่มคี วามผิด 4. โอมเปน ลูกของนายแสง นายโอมจงึ ถือเปน ทายาทโดยธรรม
ปกติของความคิด อารมณ พฤตกิ รรมอยา งมาก จนไมอยใู นโลกของความเปนจริง วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเปน เรื่องเกีย่ วกบั การสมรส
ลกั ษณะของอาการท่ีเขา ขายวิกลจริต เชน มีความคิดหลงผดิ ประสาทหลอน ท่ีตอ งดําเนนิ การตามกฎหมายครอบครวั สวนขอ 1. เกย่ี วกบั
มพี ฤติกรรมแปลกผดิ ประหลาดจากปกติ พูดจาผดิ ปกติ เฉอื่ ยชา ไมสนใจสงั คม กฎหมายทรัพยสนิ ขอ 3. และ ขอ 4. เก่ยี วขอ งกับกฎหมายมรดก
ไมด ูแลตนเอง ดเู หมือนคนข้เี กียจ เปนตน
154 คมู่ ือครู
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
๗. ถ้าชายหรือหญิงฝ่ายใดมีอายุยังไม่ครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ฝ่ายนั้นต้อง 1. ครใู หน กั เรยี นออกแบบแผนผงั ทแี่ สดงถงึ เงอื่ นไข
ไดร้ ับความยนิ ยอมจากบิดามารดาหรือผู้ปกครองเสยี ก่อน ของการสมรสตามท่กี ฎหมายบญั ญตั ไิ ว
๘. การสมรสจะตอ้ งจดทะเบยี น 2. ครใู หน กั เรียนอธิบายลักษณะความสัมพันธ
๙. ชายหญิงจะต้องแสดงความยินยอมเป็นสามีภริยากัน โดยเปิดเผย ระหวา งสามภี รรยาอันไดแก ความสัมพันธ
ต่อหน้านายทะเบียนและนายทะเบียนตอ้ งบนั ทกึ ความยนิ ยอมนน้ั ไว้ดว้ ย ทางครอบครวั และความสมั พันธท างทรพั ยส ิน
การสมรสที่ถูกต้องตามเงื่อนไขของกฎหมายก่อให้เกิดความสัมพันธ์ โดยใหยกกรณตี ัวอยา งในการอธิบาย
ระหวา่ งสามภี รยิ า ๒ ประการ ดังน้ี (แนวตอบ การสมรสทีถ่ ูกตอ งตามกฎหมาย
(๑) ความสมั พนั ธท์ างครอบครวั กฎหมายกา� หนดใหส้ ามภี รยิ าตอ้ งอยกู่ นิ ยอ มกอ ใหเกดิ ความสัมพันธระหวา งสามีภรรยา
ร่วมกนั ฉันสามีภริยา ตอ้ งชว่ ยเหลืออุปการะเลีย้ งดกู ันตามความสามารถและฐานะของตน และใน 2 ลกั ษณะ ดงั นี้
กย่อรณมไที ดศ่ี เ้ าปล็นสผง่ั ู้อใหนส้บุ าามลหีหรรอืือภผรู้พยิ ทิ าักเปษน็์ 1แคลนะไตรค้้อวงใาหมก้สาารมอาปุ รกถาหรระอื เเลส้ยี มงอืดนอู ไกี รฝค้ ่าวยาหมนส่ึงาตมาามรถสมสคาวมรหี รอื ภรยิ า ความสัมพันธท างครอบครวั เชน นายสมพร
(๒) ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สิน กฎหมายแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามี แตงงานกับนางนงนชุ นายสมพรและนางนงนุช
ภรยิ าเป็นสินส่วนตัวและสนิ สมรส ตองมีการอยกู ินรว มกนั ฉนั สามีภรรยา มีการ
ชว ยเหลอื และอปุ การะเลี้ยงดซู ึง่ กันและกัน
๑. สินส่วนตวั ไดแ้ ก่ ทรัพยส์ ินทส่ี ามีหรือภรยิ ามีอยู่กอ่ นสมรส เป็น ความสัมพนั ธท างทรัพยส นิ เชน ภายหลงั
เครื่องใชส้ อยสว่ นตัว หรอื เปน็ ทรพั ยส์ ินทไี่ ดม้ าระหวา่ งสมรส โดยการให้โดยเสน่หาหรอื รบั มรดก จากท่นี ายสมพรแตง งานกบั นางนงนุชแลว
ส�าหรับภริยาของหม้ันจะถือเป็นสินส่วนตัวของภริยา ท้ังน้ีสินส่วนตัวของคู่สมรสฝ่ายใด ฝ่ายน้ัน ทัง้ สองไดชว ยกันทํามาหากินจนมเี งินเกบ็
ย่อมเป็นผู้มีอา� นาจจัดการ จึงไดซ ือ้ บานพรอมทีด่ ินพรอ มดว ยเครื่องเรือน
จํานวนมาก ซ่ึงตามกฎหมาย ถอื วา บานและ
ท่ดี นิ นั้นเปน สนิ สมรส เพราะเปนทรพั ยสนิ
ทีไ่ ดมาระหวางการสมรส)
การสมรสกันตามกฎหมาย เป็นการยืนยันสถานภาพและบทบาทของคู่สมรส และเม่ือมีบุตรกฎหมายก็มีการรับรองความสัมพันธ์ 155
ทางครอบครวั ระหวา่ งผเู้ ป็น พ่อ แม่ และลกู
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู
ความสัมพันธระหวางสามภี รรยาในขอใดทถ่ี ือเปน ความสมั พนั ธ 1 ผูพ ทิ กั ษ คอื ผทู มี่ ีหนาทด่ี ูแลคนเสมือนไรค วามสามารถ ซึ่งหากปรากฏวาตอ มา
ทางครอบครวั ตามทกี่ ฎหมายกําหนด คนเสมอื นไรค วามสามารถนั้นวกิ ลจรติ ก็สามารถยื่นคาํ รองขอใหศ าลส่ังใหคนดงั กลาว
เปนคนไรความสามารถได และผูพิทกั ษจ ะกลายเปน ผูอนุบาลตามกฎหมาย
1. สามีทํางานหาเงนิ เลี้ยงดูภรรยาซึ่งเปนแมบ าน
2. สามีและภรรยาทําการจดทะเบยี นหยาและตกลงแบง มุม IT
สนิ สมรสกัน ศึกษาคน ควา ขอมูลเพมิ่ เตมิ เก่ยี วกบั กฎหมายครอบครวั ไดท่ี
3. สามแี ละภรรยารวมกนั ซ้อื บา นโดยชว ยกันผอ นสงธนาคาร http://www.kodmhai.com/m2/m2-4/m4-1435-1447-2.html
จนครบถวน คมู่ อื ครู 155
4. ฝายชายมอบของหม้นั ใหแ กฝา ยหญงิ ของหมัน้ จึงถือเปน
ทรัพยส ินสว นตัวของฝายหญิง
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะกฎหมายไดก าํ หนดความ
สมั พันธท างครอบครวั ไวว า สามีภรรยาตอ งอยูก นิ รวมกันฉันสามี
ภรรยา และจะตอ งชว ยเหลอื อปุ การะเล้ยี งดูกันตามความสามารถ
และฐานะของตน สวนขอ 2. ขอ 3. และขอ 4. เปนลกั ษณะความ
สัมพันธทางทรัพยส ินระหวา งสามภี รรยา
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
ครใู หนกั เรียนยกตัวอยางเหตแุ หงการฟอ งหยา ๒. สนิ สมรส ไดแ้ ก่ ทรพั ยส์ นิ ทค่ี สู่ มรสไดม้ าระหวา่ งสมรสหรอื ฝา่ ยใด
ตามทกี่ ฎหมายบัญญัติไว อยางนอ ยคนละ 3 ฝ่ายหนง่ึ ไดม้ าโดยการยกใหห้ รอื โดยพินยั กรรม ซึง่ ระบุใหเ้ ป็นสนิ สมรส รวมทัง้ ดอกผลทเี่ กิดจาก
ตวั อยา ง สินส่วนตัวด้วย สามีภริยาเป็นผู้จัดการสินสมรสร่วมกันโดยการจัดการจะต้องได้รับความยินยอม
ร่วมกัน เว้นแต่จะตกลงไว้เป็นอย่างอื่นโดยสัญญาก่อนสมรส หรือศาลสั่งให้สามีหรือภริยาเป็นผู้
(แนวตอบ ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย จดั การแตฝ่ ่ายเดียว
มาตรา 1516 ไดม ีการบัญญตั ิเหตุแหง การฟองหยา เมอื่ การสมรสสนิ้ สดุ ลงจะตอ้ งมกี ารแบง่ สนิ สมรสระหวา่ งชายกบั หญงิ
ไวม ากมาย เชน โดยน�าสินสมรสมาแบ่งเท่าๆ กัน แต่ถ้าฝ่ายใดจ�าหน่ายสินสมรสไปโดยไม่ได้รับความยินยอม
จากอีกฝ่ายหนึ่ง ตอ้ งนา� สินส่วนตัวของตนเองมาชดใชส้ นิ สมรสที่ตนจา� หน่ายไป
- สามีหรือภรยิ าทํารายรา งกาย หรอื ทรมาน ๑ใน.ทศาางลกพฎพิหามกาษยากวาา่ กรสามรสรมสจรสะสเปนิ้ น็ สโุดมลฆงะดว้ห1ยรปอื ัจโมจัยฆทยี ่ีสะา� หครญั อื ใดหงัเ้ พนกิ้ี ถอน
รา งกาย หรอื จติ ใจหรือหมิน่ ประมาท หรอื การสมรสเพราะท�าการสมรสโดยผิดเงื่อนไข
เหยยี ดหยามอกี ฝา ยหนงึ่ หรอื บพุ การขี องอกี ฝา ยหนงึ่ ๒. คสู่ มรสฝ่ายใดฝ่ายหนงึ่ ตาย
ทงั้ นีถ้ า เปนการรายแรง อกี ฝา ยหนงึ่ นนั้ ฟองหยา ได ๓. การหย่า ได้แก่ การหย่าโดยความยินยอมของทั้ง ๒ ฝ่าย ซึ่ง
ต้องท�าเป็นหนังสือและมีพยานลงลายมือชื่อรับรองอย่างน้อย ๒ คน โดยต้องมีการจดทะเบียน
- สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งรา งอีกฝา ยหน่ึงไป การหยา่ และการหยา่ โดยคา� พพิ ากษาของศาล ไดแ้ ก่ คสู่ มรสไมอ่ าจตกลงหยา่ กนั โดยความยนิ ยอม
เกนิ หนึง่ ป อีกฝา ยหนึง่ ฟองหยา ได ได้ ฝ่ายท่ีต้องการหย่าจึงฟ้องต่อศาลให้ศาลพิพากษาให้หย่าโดยต้องอ้างเหตุหย่า ซึ่งกฎหมาย
ก�าหนดไว้หลายประการด้วยกัน เช่น สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่ เพราะเหตุท่ีไม่อาจอยู่
- สามีหรือภรยิ าวิกลจริตตลอดมาเกนิ สามป ร่วมกันฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกิน ๓ ปี หรือแยกกันอยู่ตามค�าสั่งศาลเป็นเวลา
และความวิกลจรติ นนั้ มลี กั ษณะยากจะหายได เกนิ ๓ ปี เปน็ ตน้
กบั ทั้งความวกิ ลจรติ ถึงขนาดท่ีจะทนอยรู วมกนั ๑.๓) ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งบิดามารดากับบตุ ร สามารถแบ่งออกได้ ดังน้ี
ฉนั สามภี ริยาตอ ไปไมไ ด อกี ฝายหนึง่ ฟอ งหยาได
- สามีหรอื ภริยาเปนโรคตดิ ตอ อยา งรายแรง
อนั อาจเปน ภยั แกอกี ฝา ยหนง่ึ และโรคมีลกั ษณะ
เรื้อรงั ไมมที างท่ีจะหายได อกี ฝา ยหน่ึงสามารถ
ฟอ งหยา ได)
๑. การเปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมายและการรับรองบตุ ร เดก็ ท่เี กดิ จากบิดา
มารดาซึง่ จดทะเบยี นสมรสกันแมจ้ ะมกี ารเพกิ ถอนภายหลังก็ตาม หรอื เกดิ ภายใน ๓๑๐ วนั นบั
แตว่ นั ท่กี ารสมรสสิน้ สุดลง กฎหมายสนั นษิ ฐานวา่ เปน็ บุตรท่ชี อบด้วยกฎหมายของชายผเู้ คยเปน็
สามี เวน้ แต่จะมกี ารฟ้องคดีไมร่ ับเด็กนน้ั เป็นบตุ รภายในหนึ่งปีนบั แต่วันรถู้ ึงการเกดิ ของเด็กหรอื
ฟอ้ งเสียภายในสบิ ปนี บั แต่วนั เกิดของเด็ก
เดก็ ซง่ึ เกดิ จากบดิ ามารดาทมี่ ไิ ดส้ มรสกนั ยอ่ มเปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมาย
ของมารดาฝ่ายเดียวเท่านั้น จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาด้วยต่อเม่ือบิดามารดา
ไดส้ มรสกนั ภายหลัง โดยมีผลนบั ต้งั แต่วันสมรส หรอื เมื่อบิดาจดทะเบยี นรับเป็นบตุ ร โดยจะต้อง
ไดร้ บั ความยินยอมจากเด็กและมารดาของเด็กและจะมีผลต้ังแต่วันจดทะเบยี น
ในกรณที เ่ี ดก็ หรอื มารดาไมใ่ หค้ วามยนิ ยอมหรอื คดั คา้ นวา่ ผทู้ ขี่ อจดทะเบยี น
รบั รองบตุ รไ2มใ่ ชบ่ ดิ า หรอื ในกรณที ต่ี อ้ งมกี ารฟอ้ งชายเพอ่ื ขอใหร้ บั เดก็ เปน็ บตุ ร หากศาลพพิ ากษา
156
นักเรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
นายสมบรู ณแตงงานอยูกนิ กับนางสาวสมศรี โดยทที่ ้ังสองมิได
1 โมฆะ หมายถึง วา งเปลา ไมม ปี ระโยชน ไมม ผี ล ซงึ่ ในทางกฎหมาย จดทะเบยี นสมรสกัน ตอมาทงั้ สองไดใ หก าํ เนดิ บุตรขึน้ มา
จะหมายถงึ นติ กิ รรมทเ่ี สียเปลา ไมม ีผลบงั คบั หรอื ผูกพนั ตามกฎหมาย ไมอ าจให ในกรณนี ้ี บุตรทเี่ กดิ ขึ้นมาถอื เปน บตุ รโดยชอบดว ยกฎหมายของใคร
สัตยาบนั แกกนั ได และผูมีสวนไดสว นเสยี คนหนึง่ คนใดจะยกความเสียเปลาขนึ้ 1. เปนบุตรโดยชอบดวยกฎหมายของนายสมบูรณ
กลาวอางก็ได 2. เปนบตุ รโดยชอบดว ยกฎหมายของนางสาวสมศรี
2 จดทะเบียนรับรองบุตร เปนวธิ ีการหนงึ่ ในการทาํ ใหบ ตุ รนอกสมรสกลายเปนบุตร 3. เปนบุตรโดยชอบดว ยกฎหมายของนายสมบรู ณ
โดยชอบดว ยกฎหมายของบดิ า โดยท่ีบดิ าไมต อ งจดทะเบยี นสมรสกบั มารดาของบุตร และนางสาวสมศรี
ซึ่งเอกสารท่ตี อ งใชใ นการจดทะเบียนรบั รองบตุ ร มีดังนี้ 4. ไมถอื เปนบตุ รโดยชอบดวยกฎหมายของของนายสมบรู ณ
และนางสาวสมศรี
1. บัตรประจําตัวประชาชนของผรู อ ง วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. เพราะในกรณที ่ฝี ายชายและ
2. ทะเบยี นบานของผรู อ ง มารดา และผเู ยาว ฝา ยหญงิ ใหก ําเนดิ บุตรโดยทไ่ี มไ ดจดทะเบียนสมรสนั้น กฎหมาย
3. สตู ิบตั รของผเู ยาว หรอื บตุ ร กาํ หนดใหบ ตุ ร เปน บตุ รโดยชอบตามกฎหมายของมารดาฝา ยเดยี ว
4. ใบมรณบัตรของมารดาผูเยาว (กรณมี ารดาผูเยาวเ สียชีวติ ) เทา นนั้ ซง่ึ ถา หากตอ งการใหบ ตุ รกลายเปน บตุ รโดยชอบตามกฎหมาย
5. ใบเปลย่ี นช่ือตัว / ชือ่ สกุล ของผูร อ ง ผูเ ยาว และมารดาของบตุ ร ของบดิ าดว ยนั้น บดิ าและมารดาจะตอ งจดทะเบยี นสมรสกนั
6. หนังสือใหค วามยินยอมของมารดาผเู ยาวและสาํ เนาบัตรประจําตัวประชาชน หรือบดิ าจะขอจดทะเบยี นรบั รองบุตร กส็ ามารถทําได
156 คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
วา่ เปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมาย การเปน็ บตุ รชอบดว้ ยกฎหมายยอ่ มมผี ลนบั แตว่ นั ทศี่ าลพพิ ากษาถงึ ครใู หน ักเรียนยกตวั อยางเงือ่ นไขพ้นื ฐานตา งๆ
ทสี่ ดุ ซง่ึ จะทา� ใหผ้ ทู้ เ่ี ปน็ บตุ รนนั้ มสี ทิ ธิ เชน่ ใชช้ อื่ สกลุ ของบดิ า รบั มรดกในฐานะทายาทโดยธรรมได้ เพ่ือการรับบุตรบุญธรรมตามทกี่ ฎหมายกําหนด
เปน็ ตน้ ส่วนผู้รบั รองบตุ รก็สามารถใชอ้ า� นาจปกครอง รวมทง้ั ตอ้ งอุปการะเลยี้ งดบู ตุ รนั้นต่อไป โดยใหนกั เรียนรวมกนั อภิปรายและยกตวั อยาง
บทบัญญัติทีเ่ กี่ยวของมาแลกเปลย่ี นเรยี นรู
๒. การรบั บตุ รบญุ ธรรม หมายถงึ การจดทะเบยี นรบั บตุ รของผอู้ นื่ มาเลยี้ งดู ภายในชัน้
เป็นบุตรของตนเอง โดยด�าเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซ่ึงก�าหนดเง่ือนไข
พนื้ ฐานรวมทัง้ ความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างผ้รู ับบุตรบญุ ธรรมกบั บุตรบุญธรรมไว้ ประกอบ (แนวตอบ เงอ่ื นไขพื้นฐานเพือ่ การรับบุตร
กับพระราชบัญญัติการรับบุตรบุญธรรม พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งก�าหนดรายละเอียดเพ่ิมเติม เพื่อ บุญธรรมตามที่กฎหมายกําหนด เชน
ผคุ้้ทูมม่ีครใิ ชอเ่งคสรวือัสญดาิภตากิพบั ขเอดง็กเจดะ็กมทกี ่ีจาะรเทปด็นลบอุตงรเบล้ียุญงธดรู 1รมมกี ยา่ิงรขต้ึนรวจเชส่นอบใคนุณกสรมณบีทัตี่ขแิ อลระับขบ้อุตเทรบจ็ จุญรธิงรเกรมยี่ วขกอับง
สภาพความเป็นอยู่และความเหมาะสมของผู้ขอรบั เด็กเป็นบตุ รบุญธรรม เป็นตน้ มาตรา 1598/21 การรบั ผเู ยาวเ ปน
บตุ รบญุ ธรรมจะกระทาํ ได ตอ เมอื่ ไดร บั ความยนิ ยอม
เงอื่ นไขพนื้ ฐานของการรบั บตุ รบญุ ธรรม ประกอบดว้ ย อายแุ ละความยนิ ยอม ของบิดาและมารดาของผจู ะเปนบุตรบุญธรรม
คอื บคุ คลทจี่ ะรบั ผอู้ นื่ เปน็ บตุ รบญุ ธรรมไดต้ อ้ งมอี ายไุ มต่ า�่ กวา่ ๒๕ ปบี รบิ รู ณ์ และตอ้ งแกก่ วา่ ผทู้ ต่ี น ในกรณที ่ีบิดาหรือมารดาคนใดคนหนึ่งตาย
จะรับเป็นบตุ รบญุ ธรรมอยา่ งนอ้ ย ๑๕ ปี และถ้าผู้ท่ีจะเปน็ บุตรบญุ ธรรมเป็นผู้เยาว์ การรับบตุ ร หรือถกู ถอนอํานาจปกครอง ตองไดร ับความ
บญุ ธรรมตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมจากบดิ ามารดาโดยกา� เนดิ ของผทู้ จ่ี ะเปน็ บตุ รบญุ ธรรม และหากผรู้ บั ยนิ ยอมของมารดาหรอื บิดา ซงึ่ ยังมีอํานาจปกครอง
บตุ รบญุ ธรรมหรอื ผ้ทู ่เี ปน็ บตุ รบญุ ธรรมมีคสู่ มรสต้องได้รับความยนิ ยอมจากคู่สมรสกอ่ นด้วย
มาตรา 1598/26 ผเู ยาวท ่เี ปนบุตรบุญธรรมของ
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมมีผลให้บุตรบุญธรรมมีฐานะเสมือนบุตร บุคคลใดอยู จะเปน บุตรบุญธรรมของบุคคลอืน่ อีก
ท่ีชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรม เช่น มีสิทธิใช้ชื่อสกุล มีสิทธิรับมรดกของผู้รับบุตร ในขณะเดียวกันไมไ ด เวน แตเ ปน บตุ รบญุ ธรรมของ
บุญธรรม คูส มรสของผรู ับบุตรบุญธรรม
ผูร้ บั บตุ รบญุ ธรรมมีอ�านาจปกครองและมีหนา้ ที่ให้การอปุ การะเล้ยี งดู แต่ มาตรา 1598/27 การรบั บุตรบญุ ธรรม
ไม่มีสิทธิรับมรดกในส่วนของบุตรบุญธรรม และจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้ ส่วนบิดามารดา จะสมบูรณตอ เมอื่ ไดจ ดทะเบยี นตามกฎหมาย
โดยกา� เนดิ เป็นอนั หมดอา� นาจปกครอง แตถ าผูจะเปน บตุ รบญุ ธรรมน้นั เปน ผูเยาว
ตองปฏิบตั ติ ามกฎหมายวา ดวยการรับเด็ก
อย่างไรก็ตาม บุตรบุญธรรม เปนบตุ รบุญธรรมกอ น)
ไมส่ ญู เสยี สิทธิและหน้าที่ในครอบครัวทีก่ �าเนดิ มา เชน่
มีสิทธิรับมรดกของบิดามารดาโดยก�าเนิด การรบั บุตร
บุญธรรมมีทางเลิกได้โดยการจดทะเบียนเลิก ตาม
ความยินยอมของบุตรบุญธรรมท่ีบรรลุนิติภาวะแล้ว
กบั ผรู้ บั บตุ รบญุ ธรรม หรอื เมอ่ื มกี ารสมรสระหวา่ งบตุ ร
บุญธรรมกับผรู้ ับบตุ รบญุ ธรรม
๑.๔) สทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องบดิ ามารดา
บิดามารดามีหน้าท่ีอุปการะเล้ียงดู และให้การศึกษา บตุ รมหี นา้ ที่ตอบแทนบญุ คณุ ของบิดามารดาที่ได้
ตามสมควรแก่บุตรระหว่างที่บุตรยังเป็นผู้เยาว์ หรือ ใหก้ ารอุปการะเลยี้ งดมู าต้งั แต่วยั เยาว์
15๗
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู
นายอดุ มจดทะเบยี นรบั เดก็ ชายเอกเปน บตุ รบญุ ธรรมตามกฎหมาย 1 การทดลองเลย้ี งดู พระราชบญั ญัตกิ ารรับเด็กเปน บุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522
ขอ ใดตอไปนก้ี ลาวถูกตอ ง ไดก าํ หนดใหม กี ารทดลองเล้ยี งบุตรบุญธรรมในบทบัญญัตติ างๆ เชน
1. นายอุดมมสี ิทธใิ นมรดกของเดก็ ชายเอก มาตรา 23 เมอ่ื อธิบดหี รอื ผวู าราชการจงั หวดั มคี ําสัง่ ใหทดลองเล้ียงดูเด็กแลว
2. เด็กชายเอกไมม ีสิทธิใชนามสกลุ ของนายอดุ ม ใหผขู อรับเด็กทจี่ ะรบั เปนบุตรบญุ ธรรมไปทดลองเลย้ี งดูได การทดลองเลีย้ งดตู องมี
3. ผใู หก าํ เนดิ เดก็ ชายเอกยังคงมีอํานาจปกครองเด็กชายเอก ระยะเวลาไมนอยกวา 6 เดอื น หลักเกณฑ วธิ ีการและเง่ือนไขในการทดลองเลย้ี งดู
4. เด็กชายเอกมีสิทธิในมรดกของนายอุดมและมรดกของผใู ห ใหเ ปนไปตามท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง
กาํ เนดิ มาตรา 24 ในระหวางการทดลองเลย้ี งดู ถา ผขู อรับเด็กเปนบุตรบุญธรรมถอน
คําขอรบั เด็กเปน บุตรบุญธรรม ใหผ ขู อรบั เด็กเปน บตุ รบญุ ธรรมมอบเด็กคืนแกบ คุ คล
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะภายหลังจากจดทะเบยี น ผูม อี าํ นาจใหค วามยนิ ยอมในการรบั เดก็ เปนบุตรบญุ ธรรม หรอื พนกั งานเจา หนา ท่ี
รับบุตรบุญทําแลว ยอมสงผลใหบตุ รบญุ ธรรมมีฐานะเหมือนกบั บุตร มาตรา 27 เมือ่ ไดม ีการทดลองเล้ียงดคู รบกําหนดแลว ปรากฏวา ผูข อรบั เดก็ เปน
ทีช่ อบดวยกฎหมาย ซึ่งบตุ รมีสิทธใิ ชน ามสกุลและรับมรดกของผรู ับ บตุ รบุญธรรม เหมาะสมท่ีจะรับเดก็ เปนบุตรบุญธรรม และคณะกรรมการสั่งอนุมตั ิ
บตุ รบญุ ธรรม นอกจากนี้บตุ รยังมีสิทธใิ นการรับมรดกของผใู ห ใหรบั เด็กเปน บุตรบญุ ธรรม ใหด าํ เนนิ การขอจดทะเบยี นรบั เด็กเปน บตุ รบญุ ธรรมได
กําเนิดดวย ตามกฎหมายวา ดว ยการนน้ั
คมู่ อื ครู 157
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate
Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูใหนกั เรยี นเขยี นกรณตี ัวอยางที่นําเสนอถงึ แมบ้ ตุ รจะบรรลนุ ติ ภิ าวะแลว้ แตเ่ ปน็ ผทู้ พุ พลภาพและหาเลย้ี งตนเองไมไ่ ด้ บดิ ามารดากย็ งั มหี นา้ ท่ี
การรบั มรดกตามกฎหมาย โดยใหสมมติ ตอ้ งอปุ การะเล้ยี งดูต่อไป ระหวา่ งท่ีบตุ รเป็นผู้เยาว์
ตัวบุคคลท่เี ปน เจาของมรดก ลกั ษณะของ
มรดกท่มี ีอยู และผทู รี่ ับมรดก โดยใหอธบิ าย บิดามารดาเป็นผู้ใช้อ�านาจปกครองบุตร โดยมีสิทธิก�าหนดท่ีอยู่ของบุตร
ประกอบวาจากกรณดี ังกลา ว ผูท่ไี ดรบั มรดก แทล�าโะทฐาษนบาุตนรุรตูปาม1มสีสมิทคธวิเรรียหกรบือุตวร่าคกืนลจ่าาวกสผั่งู้อสื่อนนซใึ่งหก้บักุตบรุตทร�ไาวก้โาดรยงมานิชตอาบมดส้วมยคกวฎรหแมกา่คยวาเมปส็นาผมู้แาทรถน
เปนทายาทประเภทใดตามกฎหมาย พรอ มให โดยชอบธรรมของบตุ รในการฟอ้ งคดี และมสี ิทธิจดั การทรพั ย์สินของบตุ รด้วย
เหตผุ ลอธบิ ายประกอบ
ถ้าบุตรมีเงินได้ บิดามารดามีสิทธิน�ามาใช้เป็นค่าอุปการะเลี้ยงดูและการศึกษา
2. ครใู หน ักเรียนอธิบายเปรยี บเทียบความแตกตาง ของบุตร ส่วนทเี่ หลือต้องเก็บรักษาไว้เพอื่ มอบแก่บุตรภายหลงั เว้นแต่บิดามารดาจะยากจนไม่มี
ระหวา งทายาทโดยธรรมและทายาทตาม เงินไดพ้ อแกก่ ารครองชีพ จงึ อาจน�าเงนิ นนั้ มาใช้ได้
พินยั กรรม
กรณีท่ีบิดามารดาตายหรือถูกศาลสั่งถอนอ�านาจปกครองเพราะวิกลจริตหรือ
ขยายความเขา้ ใจ Expand ประพฤติไม่เหมาะสม ศาลมีอ�านาจตั้งผู้ปกครองให้บุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์ เพ่ืออุปการะเลี้ยงดูและให้
ความคมุ้ ครองแก่ผเู้ ยาว์น้ันแทนบิดามารดาได้
ครใู หน ักเรียนเลือกหัวขอระหวา งกฎหมาย
ที่เก่ยี วกับตนเอง และกฎหมายทเี่ กย่ี วกับครอบครัว ๑.๕) สิทธิและหน้าที่ของบุตร บุตรมีสิทธิใช้ชื่อสกุลของบิดา เว้นแต่ไม่ปรากฏ
และมรดก จากนัน้ จดั ทําแผน พบั เพ่อื ใหความรู บิดาให้ใช้ชื่อสกุลของมารดา บุตรมีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดูและได้รับการศึกษาตามสมควร
เกยี่ วกับกฎหมายตามหัวขอ ท่นี ักเรียนเลอื ก จากบิดามารดา แตบ่ ตุ รมีหนา้ ทีต่ ้องดแู ลบดิ ามารดาของตนเปน็ การตอบแทนบุญคุณ
แลวนาํ สงครูผสู อน ไมไ่ ด้ ต้องขอใหพ้ บนุตกั รงจาะนฟอ้ัยอกงบาริดย2ากมคาดรขี ดึ้นาว่ารกวลม่าทว้ังใหบุ้พการีอ่ืนของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา
ตรวจสอบผล Evaluate ๒) กฎหมายเรอ่ื งมรดก มเี นอื้ หาเกยี่ วกบั ลกั ษณะของมรดกและผทู้ มี่ สี ทิ ธริ บั มรดก
ครตู รวจสอบความถกู ตอ งของแผน พบั ใหค วามรู หรือทายาท มรดกหรือกองมรดก ได้แก่ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าท่ี และความรับผิดชอบต่างๆ
เรอื่ งกฎหมายท่ีเก่ยี วกับตนเอง และกฎหมายที่ ของผู้ตายหรือเจ้าของมรดก ซ่ึงเม่ือผู้ใดถึงแก่ความตาย มรดกของเขาย่อมตกทอดแก่ทายาท
เกี่ยวกบั ครอบครัวและมรดก ทันที เว้นแต่สิ่งท่ีกฎหมายหรือตามสภาพแล้วถือเป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้ ย่อมไม่
ตกทอดเป็นมรดก เช่น สทิ ธริ บั ราชการ เป็นตน้
กรณที บี่ คุ คลใดหายไปจากทอี่ ยโู่ ดยไมไ่ ดข้ า่ วคราวเปน็ เวลานาน ศาลอาจสง่ั ใหบ้ คุ คล
น้ันเป็นคนสาบสญู ซึง่ กฎหมายถือเสมอื นวา่ ถึงแก่ความตาย และมรดกของผูส้ าบสญู ย่อมตกทอด
แกท่ ายาทเหมือนกรณตี ายจรงิ ๆ
ทายาท คือ ผูม้ ีสิทธไิ ด้รับมรดกในทางกฎหมาย แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท ดงั นี้
๑. ทายาทโดยธรรม เป็นทายาทท่ีมีสิทธิตามกฎหมาย ได้แก่ ญาติ คู่สมรส
และทายาททเี่ ปน็ ญาติ แบ่งเปน็ ๖ ล�าดับ คือ ผสู้ ืบสนั ดาน บิดามารดา พนี่ อ้ งร่วมมารดาเดียวกนั
158
นกั เรียนควรรู ขอสอบ O-NET
ขอ สอบป ’51 ออกเก่ยี วกับกฎหมายเร่อื งมรดก
1 ฐานานรุ ูป หมายถงึ สมควรแกฐานะ เชน ในทางกฎหมายบิดามารดาเปน ตามกฎหมายวา ดว ยมรดก ใครคือทายาทโดยธรรมลําดบั แรก
ผใู ชอ าํ นาจปกครองบตุ ร โดยมสี ทิ ธกิ าํ หนดทีอ่ ยขู องบตุ ร ทาํ โทษบตุ รตามสมควร 1. คสู มรส
หรือวากลาวสัง่ สอนใหบ ุตรทาํ การงานตามสมควรแกความสามารถและฐานานรุ ปู 2. บิดามารดา
หมายความวา พอ แมมสี ิทธิทาํ โทษเดก็ เพอ่ื เปน การส่งั สอนไดต ามความเหมาะสม 3. ผูสืบสนั ดาน
แตตอ งไมใชว ธิ ที โี่ หดเหย้ี ม หรือทรมานเด็ก 4. ผรู บั พินยั กรรม
2 พนกั งานอยั การ คือ ขาราชการในสาํ นกั งานอยั การสงู สดุ มบี ทบาทหนาท่ี เชน วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะทายาทโดยธรรมตาม
กฎหมาย แบง ออกเปน 6 ลาํ ดบั และทายาทลาํ ดบั แรก คอื ผสู บื สนั ดาน
- ดา นการอํานวยความยุติธรรม ในคดอี าญา เมื่อเจา พนกั งานตํารวจจับกุม ซงึ่ การเรยี งลาํ ดับทายาทโดยธรรม มีดงั นี้
ผกู ระทําความผิดและรวบรวมพยานหลกั ฐานตางๆ สรุปเปน สํานวนทาํ ความเห็นนํา 1. ผูสบื สันดาน
เสนอพนกั งานอยั การพรอ มกับตวั ผูต องหา พนกั งานอยั การจะพจิ ารณาสงฟองหรือไม 2. บดิ ามารดา
ฟองผูต อ งหาตอ ไป 3. พนี่ องรว มบิดามารดาเดยี วกนั
4. พ่นี องรวมบดิ าหรอื รวมมารดาเดยี วกัน
- ดา นการรกั ษาผลประโยชนข องรฐั โดยใหค ําปรกึ ษาดา นกฎหมายแกสว น 5. ปู ยา ตา ยาย
ราชการ และหนวยงานของรัฐ เชน ตรวจรา งสัญญา ตอบขอหารือใหกบั หนว ยงาน 6. ลุง ปา นา อา
ของรฐั ทีม่ ปี ญ หาในการปฏบิ ัติตามสญั ญา เปน ตน
158 ค่มู อื ครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
Engage
กระตนุ้ ความสนใจ
พนี่ ้องร่วมบิดาหรอื ร่วมมารดาเดียวกัน ปู่ ยา่ ตา ยาย และลงุ ปา้ น้า อา ซง่ึ สทิ ธิได้รับมรดกและ 1. ครูใหนกั เรียนชว ยกนั ยกตวั อยา งกรณที ีต่ อ งมี
ส่วนแบ่งที่จะได้รับจะลดลงตามล�าดับความห่างของญาตินั้นๆ เช่น ถ้าคู่สมรส บุตร และบิดา การทาํ นิตกิ รรมหรอื สญั ญา จากนั้นครอู ธบิ าย
มารดาของผูต้ ายยงั อยู่ ยอ่ มมสี ิทธิได้รับมรดกของผู้ตายโดยเทา่ เทียมกัน โดยคู่สมรสมสี ิทธไิ ดร้ ับ เพิ่มเตมิ จากคาํ ตอบของนักเรยี น
หนึ่งส่วน บุตรแต่ละคนมีสิทธิได้รับคนละส่วน และบิดามารดาของผู้ตายมีสิทธิได้รับคนละ
หน่ึงส่วน กล่าวคือบิดาหน่ึงส่วนและมารดาหน่ึงส่วน ในกรณีเช่นน้ีญาติอ่ืนไม่มีสิทธิได้รับมรดก 2. ครนู ําตวั อยา งหนงั สือสญั ญาตางๆ เชน
ของผู้ตายอีก เพร๒าะ. ไทดา้ถยูกาตทัดตโดายมญพาินตัยสิ กนรทิรมกว่าไดขอ้แงกเ่จผา้ ขู้มอีสงิทมธริไดดก้รแับลม้วรดกตามที่พินัยกรรม1ซ่ึงเป็น สญั ญาเงินกู สัญญาซือ้ ขายทดี่ ิน สัญญาซ้ือ
หนังสือแสดงความประสงค์ส่ังการเผ่ือตายของผู้ตายระบุไว้ โดยทายาทพวกน้ีอาจเป็นญาติของ ขายรถยนต สญั ญาจาํ นํา มาใหน ักเรียนดู
ผตู้ ายหรอื ไมก่ ็ได้ แล้วแต่ผู้ตายจะตง้ั ใจยกมรดกของตนใหแ้ กผ่ ู้ใดบ้าง เพือ่ ใหนักเรยี นสังเกตรูปแบบของสญั ญา
และรายละเอียดสําคญั ทปี่ รากฏในสัญญา
ในกรณีท่ีผู้ตายท�าพินัยกรรมยกมรดกของตนให้ทายาทตามพินัยกรรมท้ังหมด จากนัน้ ครูเปดโอกาสใหน ักเรยี นซักถาม
ทายาทโดยธรรมยอ่ มไมม่ สี ทิ ธไิ ดร้ บั มรดกเลย แตบ่ คุ คลจะทา� พนิ ยั กรรมยกมรดกไดเ้ ฉพาะทรพั ยส์ นิ
ของตนเท่าน้ัน ในกรณีที่ตนมีคู่สมรสก็จะต้องแบ่งทรัพย์สินระหว่างสามีภริยาก่อน ส่วนของตน สา� รวจคน้ หา Explore
จงึ เปน็ มรดกตกทอดตอ่ ไปได้ แตถ่ า้ ในกรณที ผี่ ตู้ ายไมไ่ ดท้ า� พนิ ยั กรรมไวแ้ ละไมม่ ที ายาท มรดกผตู้ าย
ก็จะตกไดแ้ กแ่ ผ่นดนิ คอื ตกเปน็ ของรัฐไป 1. ครใู หนักเรียนสืบคน ขอ มูลเรอ่ื งกฎหมายแพง
เกยี่ วกับนติ กิ รรมและสัญญา จากแหลง
๓. กฎหมายแพ่งเกยี่ วกับนิติกรรมและสญั ญา การเรียนรูตา งๆ เชน หอ งสมุด หนงั สือเรยี น
อนิ เทอรเ นต็ สอบถามจากผทู มี่ คี วามเชย่ี วชาญ
การมเี พยี งกฎหมายรบั รองสภาพบคุ คล ซง่ึ บญั ญตั เิ กยี่ วกบั สทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ และในครอบครวั ดานกฎหมาย เปน ตน แลวรวบรวมขอ มูลท่ีได
ของบุคคลถือว่ายังไม่ครบถ้วน เพราะยังขาดเคร่ืองมือที่จะท�าให้บุคคลท�าการเปลี่ยนแปลงสิทธิ นาํ มาวเิ คราะหเพ่ืออภปิ รายตอไป
ของตน หรอื ท�าใหท้ รพั ย์สินหมนุ เวียนเปลยี่ นมอื กันได้
2. ครใู หน ักเรียนสังเกตจากการดาํ เนินชีวติ
กฎหมายจึงต้องก�าหนดนิติกรรมและสัญญาขึ้น เพ่ือให้บุคคลใช้เปลี่ยนแปลงสิทธิของตน ประจําวันของนักเรียนวา มีสงิ่ ใดบาง
ได้ด้วยความตัง้ ใจ ซง่ึ ในการดา� รงชวี ติ ประจ�าวันของบุคคลจะมกี ารติดตอ่ กบั ผูอ้ ืน่ เสมอ จึงจ�าต้อง ทเ่ี กี่ยวของกบั การทาํ นิตกิ รรมและสัญญา
อาศยั นติ กิ รรมและสญั ญาอยา่ งหลกี เลยี่ งไมไ่ ด้ เชน่ การซอ้ื อาหารกลางวนั และของใชต้ า่ งๆ เปน็ ตน้ ตามกฎหมาย
นิติกรรม ได้แก่ การแสดงเจตนาของบุคคลโดยชอบด้วยกฎหมาย มุ่งโดยตรงต่อการผูก
ความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างบุคคล เพื่อท่ีจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือ
ระงับซ่งึ สิทธิ เช่น การแสดงเจตนาท�าพินัยกรรม การท�าค�าเสนอไปยังบุคคลอ่ืน เพื่อชักชวนให้
ท�าสัญญาดว้ ย การทา� ค�าสนองตอบรบั ค�าเสนอ การบอกเลกิ สัญญา เปน็ ตน้
นิติกรรมต้องเป็นการแสดงเจตนาหรือความต้ังใจออกมาภายนอก เช่น โดยวาจาหรือ
โดยการเขียนหนงั สือ การนง่ิ อาจถอื วา่ เป็นการแสดงเจตนายอมรับไดใ้ นบางครง้ั
159
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นกั เรียนควรรู
ขอใดกลา วถกู ตอ งเก่ียวกับนิติกรรม 1 พินัยกรรม คําสง่ั ยกทรัพยสนิ หรอื แบงทรัพยสิน หรือวางขอ กําหนดใดๆ
1. พินยั กรรมไมถ อื เปนนิตกิ รรม เก่ียวกบั ทรัพยส นิ ของตนเมื่อตายแลว หรอื ในการอื่นๆ ทีก่ ฎหมายรบั รอง ซึง่ มผี ล
2. ผูเยาวส ามารถทาํ นติ ิกรรมทุกอยางไดด วยตนเอง เม่ือตายแลว
3. การทําสญั ญาซ้อื ขายทีด่ ินถอื เปนนติ ิกรรมประเภทหนึง่
4. การแสดงเจตนาทาํ นติ กิ รรมตองเปน ลายลักษณอักษรเทา นน้ั มมุ IT
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 3. เพราะสัญญาถือเปนนติ ิกรรม ศึกษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เตมิ เกยี่ วกับการทาํ นติ ิกรรม ไดท่ี
http://www.mcupt.com/index_mcupt/Weerasak/Contract.pdf
ประเภทหน่งึ ที่เกิดจากการตกลงกอความผูกพนั ในทางกฎหมาย
ระหวางบคุ คลตงั้ แต 2 ฝา ยขน้ึ ไป ซง่ึ ในกรณกี ารทําสัญญาซื้อขาย
ท่ดี ินนน้ั กฎหมายกําหนดใหต อ งทาํ เปน หนงั สอื และจดทะเบยี น
ตอ พนักงานเจาหนาท่ี
คู่มอื ครู 159
กระตุน้ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
ครใู หนกั เรียนรวมกันอภิปรายในประเดน็
คาํ ถามตอไปน้ี
• นติ กิ รรมจะตองมีลกั ษณะสําคญั ตาม อนงึ่ นิตกิ รรมต้องท�าโดยใจสมัคร คอื ไมเ่ กิดจากความเขา้ ใจผิด หรอื ถูกขู่เข็ญบังคบั หรอื
ทก่ี ฎหมายกําหนดไวอยางไรบาง ขาดสติสัมปชัญญะ นิติกรรมซึ่งท�าโดยผู้ท่ีความสามารถถูกจ�ากัด เช่น ผู้เยาว์ อาจถูกบอกล้าง
(แนวตอบ นิติกรรมจะตองเปน การแสดงเจตนา ด้วยผู้แทนโดยชอบธรรมได้ ในกรณีที่ท�าให้ผู้เยาว์เสียเปรียบเน่ืองจากนิติกรรมที่ท�าไปโดยความ
หรอื ความตงั้ ใจออกมาภายนอก เชน โดยวาจา สามารถถกู จา� กดั น้ัน
หรอื การเขยี นเปนหนงั สอื การทาํ นิตกิ รรม
จะตองเกดิ จากความสมัครใจ โดยไมเกิด สญั ญา คอื นิติกรรมชนิดหนงึ่ แตเ่ ป็นนิตกิ รรมท่ีมีบคุ คล ๒ ฝ่าย หรอื มากกว่านัน้ มาตกลง
ความเขาใจผิด การถูกบังคบั ขม ขู หรอื ขาด กนั โดยแสดงเจตนาเสนอและสนองตรงกัน กอ่ ให้เกิดสญั ญาขน้ึ
สติสมั ปชัญญะ นิติกรรมทที่ าํ โดยผหู ยอ น สญั ญายอ่ มกอ่ ใหเ้ กดิ หนี้ คอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความผกู พนั ระหวา่ งบคุ คลทเ่ี รยี กวา่ เจา้ หน้ี กบั บคุ คล
สมรรถภาพ เชน ผูเยาว อาจถกู บอกลางได
ในกรณีทผี่ เู ยาวเสียเปรียบเนื่องจากหยอ น ท่ีเรียกว่า ลูกหนี้ ซึ่งท�าให้เจ้าหน้ีมีสิทธิเรียกร้องให้ลูกหนี้ช�าระหน้ีได้ตามแต่ลักษณะของหน้ีนั้น
ความสามารถนนั้ ) สญั ญาหลายชนดิ จ�าเปน็ และมีประโยชน์ตอ่ การดา� เนนิ ชวี ติ ประจ�าวนั
• บคุ คลประเภทใดที่กฎหมายจาํ กดั
ความสามารถในการทํานติ ิกรรม และใคร โดยหลักท่ัวไปบุคคลย่อมมีความสามารถในการท�านิติกรรมสัญญา แต่มีข้อยกเว้นในเรื่อง
จะเปน ผทู ํานิติกรรมแทนบุคคลเหลา นัน้ คถวูกาจม�าสกาัดมาเรชถ่นคอผื ู้เบยคุาวค์ลคบนางไปร้คระวเาภมทสใานมทาารงถกฎคหนมเาสยมถืออื นวไา่ รค้คววาามมสสาามมาารรถถในกบาุครคทลา� ลน้มติ ลกิ ะรลรมายสญั1โญดยา
(แนวตอบ บุคคลตอ ไปน้ีทางกฎหมายถอื วา กฎหมายได้ก�าหนดความสามารถในการท�านติ ิกรรมสญั ญาของบคุ คลเหล่านี้ไว้ ดงั น้ี
หยอนความสามารถในการทํานติ กิ รรม ไดแ ก
ผู้เยาว์จะท�านิติกรรมได้ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม เว้นแต่นิติกรรม
ผูเยาว การทาํ นติ ิกรรมใดๆ ตองไดร ับ ทีไ่ ด้มาซงึ่ สทิ ธโิ ดยสิ้นเชงิ หรอื เพ่อื ใหห้ ลุดพ้นหน้าท่ี หรอื การท่ตี ้องท�าเองเฉพาะตวั หรอื กิจกรรม
ความยินยอมจากผแู ทนโดยชอบธรรม ท่สี มแกฐ่ านานรุ ูปและจ�าเปน็ ในการเล้ียงชพี ผ้เู ยาวส์ ามารถทา� ดว้ ยตนเองได้
เวน แตนิติกรรมที่ไดมาซงึ่ สิทธิโดยส้นิ เชงิ
หรอื เพ่ือใหห ลดุ พน หนา ท่ีหรอื การทต่ี อ ง คนไรค้ วามสามารถต้องอยู่ในความอนบุ าล กจิ การใดๆ ของคนไร้ความสามารถ ผอู้ นุบาล
ทําเองเฉพาะตวั หรือทาํ เพือ่ เลีย้ งชพี และ ซเวง่ึ ้นแแตต่ง่กติจั้งโกดรยรศมาบลาตง้อองยเ่าปง็นจ2ผะทู้ท�า�าเไอดง้ตท้อง้ั งสไิน้ด้รสับ่วคนวคานมเยสินมยืออนมไรจค้ าวกาผมู้พสิทามักษาร์ ถเทช�า่นกิจสกัญารญเอาซงไ้ือดขท้ ากุยอทยี่ด่าินง
สมแกฐานะของผเู ยาว หรือทําพินัยกรรม เปน็ ตน้
เม่ืออายุครบ 15 ปบริบูรณแลว
บุคคลล้มละลายจะท�านิติกรรมใดๆ ไม่ได้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามค�าสั่งศาลจะเป็น
คนไรค วามสามารถ คือ คนวกิ ลจรติ ท่ี ผูม้ ีอา� นาจจดั การแทน
ศาลสั่งใหเปน คนไรค วามสามารถ ผอู นุบาล
ซ่งึ แตงต้ังโดยศาลจะเปน ผกู ระทาํ นิติกรรม ดังนั้น นิติกรรมและสัญญาที่กระท�าข้ึนโดยบุคคลข้างต้น โดยปราศจากความยินยอมจาก
ทัง้ หมด บุคคลท่ีกฎหมายก�าหนดไวจ้ ะกลายเป็นโมฆียะ ซงึ่ อาจถกู บอกล้างได้
คนเสมอื นไรความสามารถ เชน คนติด ทง้ั น้ีในการท�านิติกรรมสัญญาใดๆ น้นั จะตอ้ งไม่มวี ัตถุประสงคเ์ ป็นการต้องหา้ มชัดแจง้ โดย
สุราอยางหนัก คนทปี่ ระพฤติสรุ ยุ สุรา ย กฎหมาย ไมเ่ ปน็ การพน้ วสิ ยั และตอ้ งไมข่ ดั ตอ่ ความสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน
เสเพลเปนอาจิณ และศาลมีคําสงั่ ใหเ ปน เพราะถ้าหากฝ่าฝืนหลักการดังกล่าว นิติกรรมสัญญาน้ันก็จะถือเป็นโมฆะ หรือใช้ไม่ได้ ไร้ผล
คนเสมือนไรความสามารถ ซงึ่ สามารถทํา
บังคบั โดยส้นิ เชิง
160
นติ ิกรรมไดเอง เวนแตนติ ิกรรมบางประเภท
ที่ตองไดรับความยนิ ยอมจากผพู ิทกั ษ)
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
นกั เรียนควรรู
1 บุคคลลมละลาย หมายถงึ บคุ คลท่ีมีภาระหนส้ี นิ ลน พนตัว เกนิ กวาจะสามารถ การทํานิติกรรมสัญญาในขอ ใดที่ถอื เปน โมฆะ
จัดการแกไขชําระหนีไ้ ด ซึง่ ตามกฎหมายบุคคลลมละลายไมส ามารถทํานติ ิกรรม 1. สัญญากูยมื เงนิ
สัญญาใดๆ ได แตส ามารถขอกลบั คืนสสู ภาพเดิมได หากชําระหน้หี มดหรอื ผา นพน 2. สญั ญาเชาหองพกั
ระยะเวลา 3 ป ตามทกี่ ฎหมายกาํ หนด 3. สญั ญาซอ้ื ขายรถยนต
2 กจิ กรรมบางอยา ง กฎหมายแพง และพาณชิ ยไ ดกําหนดไวว า คนเสมอื น 4. สญั ญาซือ้ ขายปนท่ไี มไดจดทะเบยี น
ไรค วามสามารถนั้น ตองไดรบั ความยินยอมจากผูพิทกั ษกอ นจึงจะทาํ กิจกรรม
บางอยางได เชน วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 4. เพราะอาวุธปน ทไี่ มไดจ ดทะเบยี น
- นําทรัพยสินไปลงทุน เปนทรพั ยส นิ ท่ีกฎหมายหามมีไวในครอบครอง จึงไมส ามารถ
- รับคืนทรพั ยส นิ ทไี่ ปลงทนุ ตนเงินหรอื ทุนอยางอ่ืน ซ้ือขายกนั ได และในทางกลับกนั ยังถือเปนความผดิ ฐานครอบครอง
- กยู ืมหรอื ใหก ูยืมเงนิ ยืมหรอื ใหยืมสงั หาริมทรพั ยอนั มีคา อาวธุ ปน เถอื่ นอกี ดว ย
- รบั ประกนั โดยประการใด ๆ อันมผี ลใหต นตอ งถูกบงั คบั ชําระหน้ี
- รับการใหโ ดยเสนห าที่มเี งือ่ นไขหรือคาภาระติดพัน หรอื ไมรบั การใหโ ดยเสนห า
- ทาํ การอยา งหนึ่งอยางใด เพื่อจะไดมาหรือปลอยไปซง่ึ สิทธิในอสังหาริมทรัพย
หรือในสังหารมิ ทรัพยอ ันมีคา เปนตน
160 คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
นิตกิ รรมสญั ญาสามารถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ ๒ ประเภท ไดแ้ ก่ 1. ครูสมุ ใหน ักเรียนยกตวั อยา งการทํานติ กิ รรม
๑. นิติกรรมฝ่ายเดียว ได้แก่ นิติกรรมซ่ึงเกิดขึ้นโดยการแสดงเจตนาของบุคคล สัญญาในรูปแบบตา งๆ คนละ 1 ตวั อยาง
ฝ่ายหน่ึงฝ่ายเดียวและมีผลตามกฎหมาย ซ่ึงบางกรณีก็ท�าให้ผู้ท�านิติกรรมเสียสิทธิได้ เช่น พรอมทงั้ อธิบายวา เปน การนติ ิกรรมสัญญา
การก่อตั้งมูลนิธิ การรับสภาพหน้ี การผ่อนเวลาช�าระหนี้ให้ลูกหนี้ ค�าม่ันจะซ้ือจะขาย การท�า ประเภทใด เพราะเหตุใด
พนิ ยั กรรม การบอกกล่าวบังคบั จา� นอง เปน็ ตน้
๒. นิตกิ รรมสองฝา่ ย (หรือนติ กิ รรมหลายฝ่าย) ไดแ้ ก่ นิติกรรมซ่งึ เกิดข้ึนโดยการ 2. ครใู หนกั เรียนแบง กลุม ออกเปน 7 กลุม
แสดงเจตนาของบุคคลตั้งแต่สองฝ่ายขึ้นไปและทุกฝ่ายต่างตกลงยินยอมระหว่างกัน กล่าวคือ แลวสง ตวั แทนออกมาจับฉลากหัวขอ ตา งๆ
ฝ่ายหนึ่งแสดงเจตนาทา� เปน็ คา� เสนอ แล้วอกี ฝา่ ยหน่ึงแสดงเจตนาเป็นคา� สนอง เม่อื คา� เสนอและ ดงั น้ี
คา� สนองถกู ตอ้ งตรงกนั จงึ เกดิ มนี ติ กิ รรมสองฝา่ ยขน้ึ หรอื เรยี กกนั วา่ “สญั ญา” เชน่ สญั ญาซอ้ื ขาย • สัญญาซื้อขาย
สัญญากยู้ มื สัญญาแลกเปลย่ี น สญั ญาขายฝาก สญั ญาจา� นอง สัญญาจ�าน�า เปน็ ตน้ • สัญญาขายฝาก
นิติกรรมสัญญาจะพบบ่อยและมีความส�าคัญต่อชีวิตประจ�าวันของบุคคล เนื่องจาก • สัญญาเชาทรัพย
ท�าให้เราหาสิ่งท่ีต้องการมาใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นส่ิงของ หรือหลักประกันความม่ันคงใน • สญั ญาเชา ซอื้
การติดตอ่ ระหวา่ งเรากบั ผ้อู ืน่ • สัญญากูยืม
• สัญญาจาํ นํา
๓.๑ สัญญาซื้อขาย เรียกว่า “ผ“ผู้ขู้ซา้ือย””21 โอนกรรมสิทธิ์หรือ • สัญญาจํานอง
เรียกว่า โดยผู้ซ้ือตกลงจะใช้ จากน้ันใหแตล ะกลุมนําหวั ขอ ทต่ี วั เองจบั
สัญญาซื้อขาย ได้แก่ สัญญาซึ่งบุคคลฝ่ายหน่ึง ฉลากได มารว มกนั อภปิ รายถงึ หลักการสาํ คญั
ความเป็นเจ้าของเหนือทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีกฝ่ายหน่ึง ของการทาํ สญั ญา รวมถงึ ยกตวั อยา งบทบญั ญตั ิ
ราคาทรัพย์สินนั้นแก่ผู้ขาย (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๕๓) สัญญาซ้ือขาย ของกฎหมายทีเ่ ก่ียวของกบั การทําสัญญา
มีอย่ดู ว้ ยกัน ๒ ชนิด คอื เหลา นั้น แลว ใหน ักเรียนทาํ การสรุปผล
การอภิปรายโดยจัดทาํ เปน PowerPoint
๑. สัญญาซื้อขายส�าเร็จบริบูรณ์หรือ เพ่ือนําเสนอหนา ช้ัน
เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสัญญาซ้ือขายเสร็จเด็ดขาด คือ
สัญญาท่ีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินโอนไปยังผู้ซื้อทันที สัญญาซ้ือขาย เป็นการทำาสัญญาร่วมกันระหว่าง
อย่างเด็ดขาด เมื่อการซ้ือขายสา� เร็จบริบรู ณ์ ผู้ขายและผู้ซื้อ โดยเป็นการตกลงท่ีจะนำาทรัพย์สิน
มาแลกเปล่ียนกับเงิน
๒. สัญญาจะซื้อจะขาย คือ สัญญาท่ี
กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินยังไม่ได้โอนไปให้แก่ผู้ซื้อ ใน
ขณะที่ท�าสัญญาซ้ือขายกัน แต่เป็นสัญญาซึ่งจะโอน
กรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินจากผู้ขายไปยังผู้ซื้อในเวลา
ภายหนา้ เปน็ การแลกเปลี่ยนกบั เงนิ อนั เปน็ ราคาของ
ทรพั ยส์ นิ มผี ลผกู พนั ใหแ้ กค่ สู่ ญั ญาตอ้ งทา� การซอ้ื ขาย
ใหส้ า� เร็จตลอดไป
161
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู
นายประชาตกลงจะขายท่ดี นิ จํานวน 1 ไร ใหแ กนายเอนก 1 ผูข าย มหี นา ทแี่ ละความรบั ผิดชอบ ดงั นี้
เปน เงิน 5 ลา นบาท โดยนายเอนกชําระเงินใหน ายประชาครบถวน - สง มอบทรพั ยส นิ ทีข่ ายใหแกผซู ้ือตามขอ ตกลงในสญั ญา
ในวนั ทาํ สัญญา ซึ่งนายประชาสญั ญาวาจะดําเนินการจดทะเบยี น - ถาทรัพยสินที่ซื้อขายชาํ รดุ บกพรอ งอยา งหนงึ่ อยางใด มผี ลทําใหท รพั ยสนิ
การโอนทด่ี ินตอ เจา พนักงานท่ดี ิน ภายใน 10 วนั เสื่อมราคา หรือเสอื่ มประโยชนใ นการใชส อย ผขู ายจะตอ งรับผิดชอบ
จากกรณดี ังกลา วถือเปน การทาํ สญั ญาประเภทใด
แนวตอบ จากรณดี งั กลา ว ถือเปนการทาํ สญั ญาจะซอ้ื จะขาย 2 ผูซ ้อื มหี นา ทแี่ ละความรับผิดชอบ ดงั น้ี
ซึ่งกรรมสิทธิใ์ นทรพั ยส นิ ยงั ไมโอนไปยงั ผซู อื้ ในขณะทีท่ าํ สัญญา - ผซู อ้ื จะตอ งรบั มอบทรพั ยสินท่ีตนไดซือ้ และใชร าคาตามสญั ญาซอ้ื ขาย
ซ้อื ขายกัน แตจ ะโอนกรรมสิทธใิ์ นทรัพยสินในเวลาตอมา - ถา ผูซ้อื เหน็ ความชํารดุ บกพรองในทรัพยส นิ ซง่ึ ตนไดซ้อื ผูซ อื้ มีสทิ ธิทีจ่ ะ
เพ่ือเปน การแลกเปลย่ี นกบั เงนิ ตามราคาของทรัพยส ินน้ัน ยงั ไมช าํ ระราคา เวน แตผ ูขายจะหาประกันทีส่ มควรมาให
คมู่ อื ครู 161
กระตุน้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครใู หน ักเรียนกลุม ที่ 1 ซง่ึ จับฉลากไดหัวขอ ตัวอย่างเช่น ปองศักด์ิตกลงจะขายบ้านและท่ีดินให้แก่นพดล เป็นเงิน ๑ แสนบาท
สญั ญาซอื้ ขาย ออกมารายงานผลการอภปิ ราย โดยนพดลได้ช�าระเงินให้แก่ปองศักดิ์จนครบถ้วนในวันท�าสัญญา ซ่ึงปองศักด์ิสัญญาว่าจะไป
หนา ชน้ั โดยใชโปรแกรม PowerPoint ชว ยใน จดทะเบียนการโอนท่ีดินต่อเจ้าพนักงานท่ีดินภายใน ๗ วัน ดังน้ี กรรมสิทธ์ิในท่ีดินยังไม่โอน
การนําเสนอ ไปยังนพดล แต่มีผลผูกพันปองศักดิ์ท่ีจะต้องไปจดทะเบียนการโอนท่ีดินและบ้านให้แก่นพดล
ภายในเวลาดงั กลา่ ว สญั ญาเช่นนี้ เรยี กว่า “สัญญาจะซื้อจะขาย”
2. หลังจากนกั เรยี นกลมุ ท่ี 1 นาํ เสนอเรอ่ื งสัญญา
ซอื้ ขายเสรจ็ ส้ินแลว ครูตัง้ คาํ ถามเพ่อื ทบทวน โดยปกติสัญญาซื้อขายท�าได้โดยผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกัน โดยผู้ซ้ือช�าระราคาทรัพย์สิน
ความรูความเขาใจของนักเรียน ดงั นี้ แก่ผู้ขายและผู้ขายส่งมอบทรัพย์สินท่ีซื้อขายให้แก่ผู้ซ้ือ ทรัพย์สินบางอย่างมีความส�าคัญหรือ
• สัญญาซ้อื ขายแบง ออกเปนก่ีประเภท ราคาสงู มากในทางกฎหมาย ไดแ้ ก่ อสงั หารมิ ทรพั ย์ เชน่ ทดี่ นิ อาคาร สวนผลไม้ หรอื การซอื้ ขาย
อะไรบาง สสััตงหว์พาราิมหทนระัพซย์่ึปงมรีกะเาภรทจดเรทือะทเบี่มียีรนะวหารงือตต้ัง๋ัวแรตูป่หพ้ารตรันณข1้ึนทไี่เปรียกแกพันทว่ีใ่าช้อ“ยสู่อังหาศารัยิมหทรืรอัพเรยือ์ชนนแิดพพิเแศลษะ”2
(แนวตอบ สญั ญาซอ้ื ขายแบง ไดเ ปน 2 ประเภท รวมทงั้ สงั หารมิ ทรพั ยท์ ม่ี รี าคา ๒๐,๐๐๐ บาทหรอื กวา่ นั้นขึน้ ไป กฎหมายบงั คบั ใหต้ อ้ งตกลงกนั
ไดแ ก เปน็ ลายลักษณอ์ กั ษร หรอื มกี ารวางมัดจ�า หรอื มีการช�าระหนบี้ างส่วนไว้ลว่ งหนา้ จงึ จะฟ้องร้อง
สญั ญาซือ้ ขายสําเร็จบรบิ ูรณห รือสญั ญา ให้ท�าตามสญั ญากนั ได้
ซ้ือขายเสรจ็ เด็ดขาด เปนสัญญาท่กี รรมสิทธิ์
ในทรพั ยสนิ โอนไปยงั ผซู ้ือทนั ที เมื่อการ นอกจากนี้ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ประเภทท่ีมีการจดทะเบียน
ซอื้ ขายสําเรจ็ ครบถวน หรือท่ีเรียกว่าสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ ยังต้องไปจดทะเบียนการซื้อขายกับเจ้าหน้าที่ด้วย
สญั ญาจะซื้อจะขาย เปน สัญญาท่ี มิฉะนั้น สัญญาจะเป็นโมฆะคือเสียเปล่าไม่มีผลทางกฎหมาย ถ้าคู่สัญญาไม่ได้ตกลงกันไว้
กรรมสทิ ธ์ิในทรพั ยส ินของผขู ายจะยังไมโอน เปน็ อยา่ งอน่ื ปกตกิ รรมสทิ ธใ์ิ นทรพั ยส์ นิ ทซ่ี อื้ ขายกนั ยอ่ มโอนจากผขู้ ายไปยงั ผซู้ อื้ เมอ่ื ทา� สญั ญากนั
ไปยังผซู ้ือในขณะท่ที ําสัญญากนั แตจะโอน ดังน้ัน หากผู้ขายยังไม่พร้อมที่จะโอนหรือกลับกันถ้าผู้ซ้ือยังไม่พร้อมจะรับโอน อาจตกลงกัน
ไปยังภายภาคหนาเพือ่ แลกเปล่ียนกบั เงิน เป็นสัญญาจะซื้อจะขาย ซ่ึงมีผลให้ต้องท�าการซ้ือขายเสร็จสิ้นในอนาคตก็ได้ หรือผู้ขายโอน
อนั เปน ราคาของทรัพยส ิน เชน สัญญาจะซอ้ื กรรมสทิ ธ์ิใหผ้ ซู้ อื้ ไดแ้ ลว้ แต่ หากผซู้ อ้ื ไมพ่ รอ้ มจะชา� ระราคาทรพั ยส์ นิ เตม็ จ�านวนอาจทา� เปน็ สญั ญา
จะขายบาน ซ่ึงผูซื้อและผขู ายมกั ทาํ สัญญา ซ้ือขายเงินผ่อน โดยตกลงจะช�าระราคาทรัพย์สินเป็นงวดจนกว่าจะครบหรือท�าสัญญาซื้อขาย
กันไวกอน แลวจึงคอ ยไปจดทะเบียนการโอน เงินเชอ่ื เพือ่ ชา� ระราคาภายหลงั กไ็ ด้
ที่กรมที่ดนิ ภายในระยะเวลาท่ีตกลงกัน)
• ทรพั ยส ินประเภทใดท่ีกฎหมายกําหนดให สาระส�าคัญของสัญญาซื้อขาย คือ การตกลงโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินระหว่างบุคคล
ตองมกี ารทาํ สัญญาเปนลายลกั ษณอกั ษร เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงิน ผู้ขายจึงจ�าเป็นต้องเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ซ้ือขายกัน เพื่อจะโอนให้แก่
หรือมีการวางมัดจาํ บางสว นไว จงึ จะสามารถ ผู้ซื้อได้ ทรัพย์สินที่โอนต้องไม่มีผู้อื่นมาอ้างได้ว่ามีสิทธิดีกว่ากับผู้ซ้ือได้ และผู้ซื้อก็มีหน้าท่ี
ฟองรองกนั ไดห ากมีปญหาใดๆ เกิดขนึ้ ต้องชา� ระราคาทรพั ยส์ นิ ให้แก่ผ้ขู ายตามทีต่ กลงกนั ไว้
(แนวตอบ กฎหมายกาํ หนดวา อสงั หาริมทรพั ย
เชน บา น ทด่ี ิน เปน ตน และสงั หารมิ ทรัพย หากผู้ขายหรือผู้ซ้ือไม่ปฏิบัติตามสัญญา อีกฝ่ายหนึ่งย่อมฟ้องร้องให้ปฏิบัติตามสัญญา
ชนดิ พิเศษ เชน เรือที่มรี ะวางต้งั แตห า ตัน รวมทัง้ เรยี กคา่ เสยี หายจากฝา่ ยท่ผี ิดสญั ญาได้
ขนึ้ ไป สตั วพ าหนะ เปนตน รวมทงั้
สงั หารมิ ทรัพยท ม่ี รี าคา 20,000 บาทข้นึ ไป 162
ตองทาํ สัญญาเปนลายลักษณอักษรหรอื มกี าร
วางมดั จาํ บางสว นไว จึงจะสามารถฟองรอง
กนั ไดห ากมีปญหาใดๆ เกิดข้ึน)
นกั เรียนควรรู ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
การซ้อื ขายทรัพยส ินใดตอไปนที้ ก่ี ฎหมายกาํ หนดใหต องทาํ เปน
1 ต๋วั รปู พรรณ คอื เอกสารแสดงตาํ หนิรูปพรรณสัตวพ าหนะ ซงึ่ พระราชบญั ญัติ หนังสือสญั ญาและจดทะเบยี นตอพนักงานเจาหนา ที่
สตั วพ าหนะ พ.ศ. 2482 กาํ หนดใหเจาของ หรือตวั แทนพรอ มดวยผใู หญบา น 1. มา แขง
หรอื พยาน นาํ สตั วไ ปขอจดทะเบยี นทําตวั๋ รูปพรรณจากนายทะเบยี นทองทท่ี ่สี ตั วนน้ั อยู 2. ทธ่ี รณีสงฆ
ภายในกําหนด สัตวพาหนะท่ีจะตอ งขอจดทะเบยี นตว๋ั รปู พรรณ ไดแก 3. ปา ยจราจร
4. ทีด่ นิ ปา สงวน
- ชา งมอี ายุยางเขา ปที่แปด วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เพราะมาแขง ถอื เปนทรพั ยส ิน
- สตั วอ ่ืนนอกจากโคตวั เมยี มีอายยุ า งเขา ปท่หี ก ชนดิ พเิ ศษ ซ่ึงกฎหมายกาํ หนดใหตอ งทาํ เปนหนังสือสญั ญา
- สัตวใ ดไดใ ชข ับขีล่ ากเขน็ หรอื ใชง านแลว และจดทะเบียนตอพนกั งานเจาหนาที่ เมือ่ จะทําการซอ้ื ขายกนั
- สตั วใ ดทมี่ ีอายยุ างเขา ปท ่ีส่ี เม่อื จะนําออกนอกราชอาณาจักร สวนขอ 2. ขอ 3. และขอ 4. เปนทรัพยส ินท่ซี ือ้ ขายกนั ไมไ ด
- โคตัวเมยี มอี ายยุ างเขา ปท่ีหก เมอื่ จะทําการโอนกรรมสิทธิ์
2 สังหารมิ ทรพั ยชนดิ พเิ ศษ ไดแ ก เรือกําปน หรือเรือทม่ี รี ะวางตงั้ แต 6 ตนั ขน้ึ ไป
เรือกลไฟหรือเรอื ยนตท่มี ีระวางต้งั แต 5 ตันข้นึ ไป แพที่อยูอาศัย และสัตวพาหนะ
162 คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
๓.๒ สญั ญาขายฝาก 1. ครใู หน ักเรียนกลุมที่ 2 ซึง่ จบั ฉลากไดห วั ขอ
สัญญาขายฝาก ออกมารายงานผลการ
สัญญาขายฝาก ได้แก่ สัญญาซ้ือขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้ซ้ือ โดยที่มี อภิปรายหนาชนั้ โดยใชโ ปรแกรม
PowerPoint ชวยในการนาํ เสนอ
ข้อตกลงขณะซ้ือขายกันว่า ผู้ขายอาจไถ่หรือซ้ือ
2. หลังจากนักเรียนกลุมที่ 2 นําเสนอเรือ่ งสัญญา
ทรัพย์สินน้ันกลับคืนได้ภายในระยะเวลาที่ตกลงกัน ขายฝากเสรจ็ สิน้ แลว ครตู งั้ คาํ ถามเพอื่ ทบทวน
ความรูความเขา ใจของนักเรยี น
(ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๔๙๑) • สัญญาขายฝากมีลกั ษณะเปนอยางไร
(แนวตอบ สญั ญาขายฝากเปนสญั ญาซ้ือขายท่ี
ถ้าเป็นการขายฝากอสังหาริมทรัพย์ต้องก�าหนดเวลา “ผูขายฝาก” ตองการไดเงินจาํ นวนหน่งึ จาก
“ผูซ้ือฝาก” จงึ โอนกรรมสิทธทิ์ รัพยสนิ
ใชส้ ทิ ธไิ ถค่ นื ไวไ้ ม่เกิน ๑๐ ปี หากเป็นสังหารมิ ทรพั ย์ ของตนมาใหผูซอื้ ฝาก ซง่ึ ผขู ายฝากมีสทิ ธิขอ
ไถคืนทรัพยส ินกลับไดภายในเวลาทีต่ กลงกัน
ไมเ่ กนิ ๓ ปี นบั แต่วันทมี่ กี ารซือ้ ขายฝากกัน หากครบกําหนดเวลาไถแ ลว ผูขายฝากยัง
ไมมาขอไถค นื ทรพั ยสิน ผขู ายฝากยอ มหมด
หากเรม่ิ ตน้ คสู่ ญั ญาตกลงไวต้ า�่ กวา่ กา� หนดเวลา สทิ ธใิ นการไถค นื ทรัพยสินน้นั แตกรรมสทิ ธิ์
ของทรพั ยสินที่ทาํ การขายฝากกนั นนั้
สูงสุด อาจตกลงกันภายหลังเพ่ือขยายเวลาใช้สิทธิ ยอ มตกเปนของผูซือ้ ฝากตั้งแตแรกทําสัญญา
เมอ่ื ผูขายฝากไมมาไถค นื ทรพั ยสนิ ผซู อ้ื ฝาก
ไถค่ นื ไดอ้ กี แตร่ วมทงั้ สนิ้ ตอ้ งไมเ่ กนิ กา� หนดเวลาสงู สดุ เรือ ถือเป็นสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ โดยเม่ือ ยอ มไดก รรมสิทธใิ์ นทรัพยส นิ น้นั ไปโดย
ตอ้ งการทาำ สญั ญาขายฝากจะตอ้ งทำาเปน็ หนงั สอื และ เดด็ ขาด โดยทีผ่ ูซ้อื ฝากไมต อ งฟอ งรอง
ส�าหรับสัญญาขายฝากอสังหาริมทรัพย์และ จดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางนำ้าและพาณชิ ยนาวี ตอศาลแตอยา งใด โดยการขายฝาก
อสังหารมิ ทรัพยก าํ หนดเวลาไถคืนสงู สุด
สังหาริมทรพั ยช์ นิดพิเศษ ได้แก่ เรอื แพ สัตวพ์ าหนะ ไมเ กนิ 10 ป สว นการขายฝากสงั หารมิ ทรพั ย
กาํ หนดเวลาไถคืนสูงสดุ ไมเ กิน 3 ป
ทต้อดี่ งนิ ทส�าาเขปาน็ หสน�าหงั สรบัือแเรลือะจจดดททะะเเบบียียนนทตี่กอ่ รพมนเจกั า้งทาน่าเ1จเปา้ ห็นนต้น้าทม่ี ณิฉะสนา� น้ันจกั ะงถาือนเทป่ดี น็ ินโมจงัฆหะวดัคอืหรไอื มส่มา� ผีนลกั ตงาามน นับตงั้ แตว นั ท่ีการซื้อขายฝากกนั )
กฎหมาย
การขายฝากสังหาริมทรัพย์อย่างอ่ืนต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หรือมีการวางมัดจ�า หรือ
มีการช�าระหน้ีบางส่วน จึงจะฟ้องร้องกันได้ เช่นเดียวกับกรณีการซื้อขายท่ีกล่าวมาแล้ว โดยที่
กรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินตกเป็นของผู้ซ้ือฝาก ซึ่งอาจน�าไปขายให้ผู้อ่ืนได้ หากไม่ต้องการให้
ผู้ซ้ือฝากท�าเช่นนี้ต้องตกลงห้ามกันไว้ เม่ือตกลงกันแล้วหากผู้ซ้ือฝากน�าไปขายให้แก่ผู้อื่นท�าให้
ผู้ขายฝากเสยี หาย จะต้องรบั ผดิ ชอบต่อผู้ขายฝาก
การทา� สญั ญาขายฝากเปน็ วธิ กี ารใหห้ ลกั ประกนั อยา่ งหนงึ่ แกผ่ ซู้ อ้ื ฝาก ซง่ึ ผขู้ ายฝากเอาเงนิ
ของผู้ซื้อฝากไปใช้ โดยผู้ขายฝากได้ทรัพย์สินที่ขายฝากไว้เป็นหลักประกัน และเม่ือผู้ขายฝาก
ใช้สทิ ธิไถก่ ็จะไดป้ ระโยชนโ์ ดยก�าหนดสินไถ่ไวใ้ นอตั ราที่สงู พอเป็นการตอบแทน
กฎหมายระบุว่าให้ก�าหนดสินไถ่ได้สูงสุดไม่เกินราคาที่ขายฝากรวมกับประโยชน์ตอบแทน
ไม่เกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี เพื่อมิให้ผู้ซ้ือฝากก�าหนดสินไถ่สูงจนเป็นการเอาเปรียบผู้ขายฝาก
เกนิ ไป และถา้ ตกลงกนั ไวเ้ กนิ กวา่ นน้ั ผขู้ ายฝากสามารถใชส้ ทิ ธไิ ถไ่ ดใ้ นอตั ราไมเ่ กนิ รอ้ ยละ ๑๕ ตอ่ ปี
หากไม่ไดก้ า� หนดวา่ สนิ ไถม่ ีอัตราเท่าใดให้ผขู้ ายฝากไถ่ไดต้ ามราคาทีข่ ายฝากไว้
163
กจิ กรรมสรา งเสรมิ นกั เรยี นควรรู
ใหน กั เรยี นหาตวั อยา งหนงั สอื ทเี่ ปน สญั ญาขายฝาก โดยให 1 กรมเจาทา เปนหนว ยงานในสังกดั กระทรวงคมนาคม มอี าํ นาจหนาที่ ดงั น้ี
นกั เรยี นนาํ ตวั อยา งสญั ญานนั้ มาตดิ ลงในกระดาษ A4 แลว เขยี น - ดําเนนิ การตามกฎหมายวาดวยการเดนิ เรือในนา นน้าํ ไทย กฎหมายวา ดว ย
อธบิ ายวา เปน สญั ญาขายฝากทรพั ยส นิ อะไร และมสี าระสาํ คญั
ของขอ ตกลงในสญั ญาอยา งไร เรือไทย กฎหมายวาดว ยการปองกนั เรือโดนกนั กฎหมายวา ดว ยการสง เสริมการ
พาณิชยน าวี กฎหมายวา ดว ยการขนสงตอเน่ืองหลายรปู แบบ และกฎหมายอืน่
กจิ กรรมทาทาย ท่เี กี่ยวขอ ง
ใหนกั เรยี นเขยี นเหตกุ ารณส มมตทิ ี่อธบิ ายถงึ การทําสญั ญา - ศกึ ษาและวิเคราะหเ พอื่ พฒั นาโครงสรา งพน้ื ฐานการขนสง ทางนา้ํ
ขายฝาก โดยสมมติใหมีผซู อ้ื ผูขาย และบอกรายละเอียดของ - สงเสริมและพฒั นาเครือขา ยระบบการขนสง ทางนํา้ และการพาณิชยน าวี
ขอตกลงในสัญญา รวมถงึ ข้ันตอนในการดําเนินการทาํ สญั ญา - ดาํ เนินการจดั ระเบยี บการขนสงทางนํา้ และกิจการพาณชิ ยนาวี
เพ่ือใหมีผลตามกฎหมาย - รวมมือและประสานงานกับองคการและหนวยงานทเ่ี กยี่ วขอ งทงั้ ในประเทศ
และตา งประเทศในดา นการขนสงทางนา้ํ การพาณิชยนาวี และในสว นทีเ่ กี่ยวกบั
อนุสัญญาและความตกลงระหวางประเทศ
- ปฏิบัตกิ ารอนื่ ใดตามท่กี ฎหมายกําหนดใหเ ปนอาํ นาจหนา ทข่ี องกรม
หรอื ตามท่รี ฐั มนตรี หรือคณะรัฐมนตรมี อบหมาย
คูม่ ือครู 163
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครใู หนกั เรียนกลมุ ที่ 3 ซึง่ จบั ฉลากไดห วั ขอ หากผู้ซื้อฝากไม่ยอมให้ผู้ขายฝากใช้สิทธิไถ่ ผู้ขายฝากสามารถน�าเงินสินไถ่ไปวาง
สัญญาเชาทรัพย ออกมารายงานผลการ ต่อส�านักงานวางทรัพย์ เช่น ส�านักงานวางทรัพย์กลาง สังกัดกรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม
อภิปรายหนาชนั้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint ซึ่งกฎหมายถอื วา่ ท�าให้กรรมสทิ ธใ์ิ นทรัพย์สนิ กลบั คืนมาเป็นของผ้ขู ายฝากทนั ที
ชว ยในการนําเสนอ
แม้ผู้ซื้อฝากจะเป็นเจ้าของทรัพย์สินตามสัญญาขายฝาก แต่หากระหว่างการขายฝากน้ัน
2. หลังจากนกั เรยี นกลมุ ท่ี 3 นาํ เสนอเร่ืองสญั ญา ทรัพย์สินเกิดดอกผลขึ้น เช่น ต้นไม้มีผลระหว่างอายุสัญญาหรือสัตว์ที่ซ้ือฝากออกลูก ดอกผล
เชาทรัพยเ สรจ็ สิน้ แลว ครตู ้งั คาํ ถามเพือ่ ทบทวน นั้นจะตกเป็นของผู้ซ้ือฝาก แต่เมื่อผู้ขายฝากใช้สิทธิไถ่ทรัพย์สินแล้ว ผู้ซื้อฝากก็ต้องส่งมอบ
ความรูค วามเขาใจของนกั เรยี น ดังนี้ ทรพั ย์สินท่ขี ายฝากกลบั คืนใหแ้ กผ่ ูข้ ายฝากในสภาพทเี่ ป็นอยู่
• สัญญาเชา ทรัพยมลี ักษณะเปนอยา งไร
(แนวตอบ สญั ญาเชา ทรัพยเ ปนสัญญา ขณะท่ีมีการไถ่ หากทรัพย์สินนั้นถูกท�าลายหรือเสื่อมเสียไป เพราะความผิดของผู้ซ้ือฝาก
ซึง่ “ผูใ หเ ชา ” ตกลงให “ผเู ชา” ไดใ ชห รอื ผู้ซ้อื ฝากจะต้องรับผิดชอบชดใช้คา่ เสียหายให้แกผ่ ู้ขายฝาก
ไดร ับประโยชนจากทรพั ยสินในชวงระยะเวลา
หนึ่งอนั มจี ํากดั และผูเชา ตกลงจะใหค า เชา ๓.๓ สญั ญาเชา่ ทรพั ย์
เพอื่ การน้ัน)
• กฎหมายไดกําหนดหลักเกณฑก ารเชา ทรัพย สญั ญาเชา่ ทรัพย์ ไดแ้ ก่ สญั ญาซึง่ บุคคลหนง่ึ เรยี กว่า “ผใู้ หเ้ ชา่ ” ตกลงใหบ้ คุ คลอกี คนหนง่ึ
ไวอยางไร เรียกว่า “ผู้เช่า” ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งช่ัวระยะเวลาอันจ�ากัด
(แนวตอบ การเชา สงั หารมิ ทรพั ยแ มจ ะเปน โดยผ้เู ช่าตกลงจะให้คา่ เช่าเพอ่ื การน้นั (ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา ๕๓๗)
สงั หาริมทรพั ยช นิดพเิ ศษกไ็ มต อ งทาํ หลกั ฐาน
เปน หนังสือ แตการเชา อสงั หาริมทรพั ยตอ งมี การเช่าทรัพย์ต่างกับการซ้ือขาย คือ มิได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และมีก�าหนด
หลกั ฐานเปนหนงั สือ และถาเชานานเกนิ กวา เพยี งช่วั ระยะเวลาหนึง่ เท่าน้นั เช่น ถ้าเปน็ อสังหารมิ ทรัพยใ์ หเ้ ช่าได้ไมเ่ กนิ ๓๐ ปี แตจ่ ะทา� สัญญา
3 ป หรอื มกี าํ หนดตลอดอายขุ องผเู ชาหรือ เชา่ กา� หนดระยะเวลาเชา่ ตลอดอายผุ เู้ ชา่ หรอื ผู้ใหเ้ ชา่ ได้ ดงั นน้ั ผใู้ หเ้ ชา่ ไมจ่ า� ตอ้ งเปน็ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ
ผใู หเชา ตอ งนําไปจดทะเบยี นตอ พนกั งาน เพยี งแต่มสี ิทธิครอบครองใช้ประโยชนใ์ นทรพั ยส์ นิ นัน้ ก็น�าไปใหเ้ ช่าได้ แตผ่ ู้เชา่ ทรพั ย์สนิ จากผอู้ นื่
เจา หนาท่ี) ไวจ้ ะน�าไปใหเ้ ชา่ ต่อ ซ่ึงเรียกว่าใหเ้ ช่าช่วงไม่ได้ เวน้ แต่วา่ จะมขี ้อตกลงในสญั ญาเช่าอนุญาตไว้
• ผูใ หเ ชาและผเู ชาทรพั ยส นิ มีภาระหนา ที่
ผกู พนั กันอยา งไร การเช่าอสังหาริมทรัพย์ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อของฝ่ายท่ีจะต้องรับผิด
(แนวตอบ ผใู หเชาตอ งสงมอบทรพั ยส นิ ใหแ ก ตามสัญญา (ซ่ึงไม่จ�าเป็นต้องเขียนเป็นรูปแบบสัญญา เพียงมีข้อความแสดงว่ามีการตกลงกัน
ผูเชาในสภาพทส่ี มบรู ณ สว นผเู ชา ตองชําระ หรอื ยอมให้ใช้ หรือรบั ประโยชนใ์ นทรัพย์สินตอบแทนกบั ค่าเชา่ กพ็ อแลว้ ) มฉิ ะนนั้ จะฟ้องเรียกให้
คาเชา ตามทีต่ กลงกันไว ตองรักษาทรัพยส ินที่ ปฏบิ ัตติ ามสัญญาไมไ่ ด้
ใหเชาใหอ ยูในสภาพดี รวมทง้ั ตอ งยอมใหผูให
เชาตรวจตราทรพั ยสินไดต ามสมควร) สญั ญาเชา่ อสงั หารมิ ทรพั ยน์ านเกนิ กวา่ ๓ ปี หรอื มกี า� หนดตลอดอายขุ องผเู้ ชา่ หรอื ผใู้ หเ้ ชา่
ต้องน�าไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ี เช่น เช่าที่ดินต้องจดทะเบียน ณ ส�านักงานท่ีดิน
เช่าบ้านต้องจดทะเบียน ณ ท่ีว่าการอ�าเภอหรือเขตที่ที่ดินหรือบ้านนั้นตั้งอยู่ เป็นต้น มิฉะนั้น
จะฟอ้ งร้องบังคับคดีได้เพยี ง ๓ ปี
ผู้ให้เช่ามีหน้าท่ีต้องส่งมอบทรัพย์สินท่ีเช่าให้แก่ผู้เช่าในสภาพอันซ่อมแซมดีแล้ว ต้อง
ซ่อมแซมทรัพย์สินท่ีให้เช่า รวมทั้งชดใช้ค่าใช้จ่ายท่ีผู้เช่าต้องใช้ไปเพื่อรักษาทรัพย์สิน เว้นแต่ที่
ตอ้ งท�าเพื่อบา� รุงรกั ษาตามปกติหรอื ซอ่ มแซมเพียงเล็กนอ้ ย ถ้าผู้ให้เชา่ ส่งมอบทรัพย์สินในสภาพ
164 ที่ไม่เหมาะส�าหรบั ผเู้ ชา่ ใชป้ ระโยชน์ตามสญั ญา ผูเ้ ชา่ มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาเช่าได้
เกร็ดแนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
ผปู ระกอบอาชีพใดตอ ไปนีต้ อ งเก่ียวขอ งกับการทําหนังสอื
ครูอาจใหน กั เรียนทํากิจกรรมโดยการแสดงบทบาทสมมติ เกี่ยวกบั การดําเนิน สญั ญาเชาทรพั ยม ากท่สี ดุ
การทําสัญญาเชาทรพั ยตามกฎหมาย โดยใหนกั เรียนคิดบทบาทใหม ีผูใ หเ ชา 1. มคั คเุ ทศก
และผเู ชา ทาํ ขอตกลงเพอื่ เชา ทรัพยส ินอยา งใดอยางหน่งึ โดยอาจทําเปน หลักฐาน 2. บรรณารักษ
หรอื หนังสอื สัญญาตา งๆ หลงั จากน้นั ครูอธบิ ายความรเู พ่มิ เติม และเปด โอกาส 3. เจาของหอพักหญงิ
ใหน กั เรียนสนทนา ซักถาม และแลกเปลยี่ นความรกู ันภายในชั้น 4. นกั จดั รายการวิทยุ
วิเคราะหค าํ ตอบ ตอบขอ 3. เพราะผูป ระกอบธุรกิจหอพัก
มุม IT จะตองเก่ยี วขอ งกบั การใหบริการหองเชา ซ่ึงเมอ่ื มบี ุคคลท่ัวไป
มาเชาหองพกั เพอื่ อยูอาศัย ก็จะตอ งมีการทําหนงั สอื หรอื สัญญา
ศกึ ษาคนควาขอมลู เพ่ิมเตมิ เกยี่ วกับการเชาอสงั หาริมทรพั ย ไดท ี่ เพือ่ เปน หลกั ฐานใหข อตกลงตางๆ มีผลตามกฎหมาย
http://www.fpmconsultant.com
164 คมู่ อื ครู
กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
ผู้เช่ามีหน้าท่ีต้องใช้ทรัพย์สินที่เช่าตามท่ีตกลงในสัญญา หรือตามประเพณีนิยมปกติ 1. ครใู หนักเรยี นกลมุ ที่ 4 ซ่ึงจับฉลากไดห ัวขอ
ต้องช�าระค่าเช่าตามท่ีตกลงกันไว้ ต้องสงวนทรัพย์สินท่ีเช่าเหมือนเช่นที่บุคคลท่ัวไปจะท�ากับ สัญญาเชาซ้อื ออกมารายงานผลการอภปิ ราย
ทรัพย์สินของตนเอง ต้องยอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนตรวจตราทรัพย์สินท่ีเช่าได้ตามสมควร หนาชนั้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint
เป็นคร้ังคราว ไม่ดัดแปลงหรือต่อเติมทรัพย์สินท่ีเช่า เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้ให้เช่าก่อน ชว ยในการนาํ เสนอ
ต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลาย ซ่ึงเกิดกับทรัพย์สินท่ีเช่าเน่ืองจากความผิดของผู้เช่า
หรือบริวารของผู้เช่า รวมท้ังต้องส่งคืนทรัพย์สินที่เช่า ในสภาพท่ีซ่อมแซมดีแล้วแก่ผู้ให้เช่าเม่ือ 2. หลังจากนักเรยี นกลมุ ท่ี 4 นําเสนอเร่ืองสญั ญา
สัญญาเช่าน้ันสิ้นสุดลง เชา ซื้อเสร็จสนิ้ แลว ครตู ้งั คาํ ถามเพื่อทบทวน
สัญญาเช่าระงับลงเม่ือถึงก�าหนดตามที่ตกลงกันไว้ หรือเมื่อมีการบอกเลิกสัญญา ความรูความเขาใจของนกั เรยี น ดังนี้
ล่วงหน้าก่อนก�าหนดช�าระค่าเช่าที่ตกลงกันระยะหน่ึงเป็นอย่างน้อย เช่น ถ้าก�าหนดค่าเช่าเป็น • สญั ญาเชา ซือ้ มีลกั ษณะเปน อยา งไร
รายเดือนก็บอกเลิกล่วงหน้าเดือนหนึ่งเป็นอย่างน้อย แต่ไม่จ�าเป็นต้องบอกเลิกล่วงหน้า (แนวตอบ สัญญาเชา ซ้อื เปนสัญญาที่ “ผูให
เกนิ กวา่ ๒ เดอื นไม่วา่ กรณีใด นอกจากน้ี สัญญาเชา่ ยังระงบั ไปเม่อื ทรัพยส์ ินท่เี ชา่ นน้ั สูญหายไป เชา ซอ้ื ” นาํ เอาทรพั ยสนิ ออกใหเ ชา และให
ท้งั หมดดว้ ย คําม่ันวาจะขายทรพั ยส ินน้ัน หรอื วาจะให
ทรพั ยน้นั ตกเปนกรรมสทิ ธ์ิของ “ผูเ ชาซือ้ ”
๓.๔ สญั ญาเชา่ ซ้อื 1 เมอื่ ผเู ชา ซ้ือชาํ ระคา เชาซ้อื เปน งวดจนครบ
ตามท่ีตกลงกันไว)
สัญญาเช่าซ้ือ คือ สัญญาซ่ึงเจ้าของน�าเอาทรัพย์สินออกให้เช่าและให้ค�าม่ันว่าจะขาย • สญั ญาเชาซอื้ และสัญญาซอื้ ขายผอนสง
ทรพั ยส์ ินนั้น หรอื ว่าจะให้ทรัพย์สนิ นัน้ ตกเป็นสิทธขิ องผ้เู ช่า โดยมเี ง่ือนไขวา่ ผูเ้ ช่าได้ใช้หรือชา� ระ มคี วามแตกตางกันอยา งไร
เงนิ เปน็ จา� นวนคร้ังตามทีต่ กลงกัน (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๗๒) (แนวตอบ สญั ญาเชา ซ้ือ ผใู หเชา ซ้ือยงั คงมี
จะเห็นได้ว่าสัญญาเช่าซื้อมีลักษณะของสัญญาเช่ากับสัญญาซ้ือขายผสมกัน โดยผู้ให้เช่า กรรมสทิ ธิ์ในทรพั ยสินนนั้ อยู จนกวา ผูเ ชาซอื้
ซื้อต้องเป็นเจ้าของหรือมีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินท่ีน�าออกให้เช่า และตกลงให้ผู้เช่าซ้ือน�าไปใช้ จะชาํ ระคา เชาซ้อื ครบถว น แตส ัญญาซอื้ ขาย
ประโยชน์ พร้อมกับผู้ให้เช่าซื้อต้องให้ค�ามั่นว่าจะยอมให้ทรัพย์สินน้ันตกเป็นของผู้เช่าซื้อในท่ีสุด ผอ นสง ผซู ือ้ จะไดก รรมสทิ ธใ์ิ นทรัพยสินนั้น
เมื่อผูเ้ ชา่ ซ้ือช�าระคา่ เช่าซอ้ื เป็นคราวหรอื เปน็ งวดจนครบตามท่ีตกลงกนั ทันท)ี
สัญญาเช่าซ้ือท�าให้ผู้ที่ไม่สามารถซ้ือสินค้าท่ีมีราคาสูงได้ทันทีสามารถท�าสัญญาน้ีเพื่อ • กฎหมายไดก ําหนดหลกั เกณฑก ารเชาซอื้ ไว
ให้ได้ทรัพย์สินมาใช้ก่อนและค่อยๆ ช�าระราคาเป็นงวดไปได้จนครบ ซ่ึงผู้ให้เช่าซื้อจะคิดราคาไว้ อยางไร
สูงกว่าราคาในการซื้อขายด้วยการช�าระเงินรวดเดียวตามปกติ โดยค�านวณดอกเบ้ียรวมเข้าเป็น (แนวตอบ สญั ญาเชา ซ้อื ตอ งทําเปน หนงั สือ
ผลประขโยณชะนเด์ทีย่ผี วใู้ กหันเ้ ชก่าาซร้ือเชจ่าะซได้ือ้รกบั ็ตด่าว้งยกับสัญญาซื้อขายผ่อนส่ง2เพราะกรรมสิทธ์ิในทรัพย์สินยังอยู่ หรอื ทําเปนลายลกั ษณอักษร ลงลายมอื
กบั ผใู้ ห้เช่าซอ้ื ผเู้ ชา่ ซือ้ เพยี งแต่ได้ครอบครอง และใช้ประโยชนท์ รัพยส์ ินเท่าน้ัน ชื่อคูสัญญาทั้งสองฝา ย สาํ หรบั การเชา ซ้ือ
สัญญาเช่าซื้อต้องท�าเป็นหนังสือหรือท�าเป็นลายลักษณ์อักษร ลงลายมือชื่อคู่สัญญา อสงั หารมิ ทรัพย นอกจากทําหนังสอื
ทั้งสองฝ่าย มิฉะนั้น จะตกเป็นโมฆะไม่มีผลผูกพันคู่กรณี ส�าหรับการเช่าซ้ืออสังหาริมทรัพย์ สญั ญาแลว หากผูเชา ซอ้ื ชําระคาเชาซอื้
นอกจากท�าสัญญาเป็นหนังสือแล้ว แม้ผู้เช่าซ้ือได้ช�าระค่าเช่าซื้อจนครบตามสัญญาก็จะต้อง ครบถว น จะตอ งไปจดทะเบียนการไดมา
ซ่งึ อสังหารมิ ทรพั ยน น้ั ตอพนกั งาน
เจา หนาที่ดว ย)
165
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT นักเรยี นควรรู
สญั ญาเชา ซอื้ มปี ระโยชนก บั ผตู อ งการซอ้ื ทรพั ยส นิ ประเภทใดมากทสี่ ดุ 1 คาํ ม่ัน เปนการแสดงเจตนาอยา งหน่งึ โดยมีผรู ับรู จัดเปน นติ กิ รรมฝา ยเดียว
1. ผูท่ีมีรายไดสูง ที่เกดิ จากการแสดงเจตนาวาจะทําสัญญา หรอื ใหร างวลั แกผกู ระทําการอยา งใด
2. ผทู ี่มเี งนิ ออมมาก อยา งหนง่ึ ซง่ึ จะมีผลทางกฎหมายผูกพันผใู หคาํ ม่ันได
3. ผูที่มีทรัพยส ินมรดกมาก 2 สญั ญาซ้ือขายผอนสง สัญญาการซ้อื ขายที่มกี ารสงมอบทรัพยสินใหก บั ผูซอ้ื แลว
4. ผูท ี่ไมส ามารถซื้อสนิ คา ราคาสูงไดในทันที แตผ ซู ้อื ยังไมไ ดชาํ ระราคา อาจตกลงผอ นชาํ ระเปนงวดๆ
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะสญั ญาเชา ซอื้ จะชว ยให มมุ IT
ผูทไ่ี มส ามารถซือ้ สินคาราคาสงู ไดใ นทันที สามารถทําสัญญาน้ี ศึกษาคนควา ขอมลู เพมิ่ เติมเกย่ี วกับสัญญาเชาซอื้ ไดที่
เพือ่ ใหไดทรัพยส ินมาใชกอ น แลว คอ ยผอนชําระเปน งวดตาม www.thethailaw.com/law14/lawpdf/law25512560/6.doc
ทต่ี กลงกนั ไวจนครบถวน
คูม่ อื ครู 165
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูใหน กั เรียนกลมุ ท่ี 5 ซ่งึ จบั ฉลากไดห วั ขอ จดทะเบียนการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์น้ันต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีด้วย มิฉะน้ัน การได้มาจะไม่
สัญญากยู ืม ออกมารายงานผลการอภิปราย สมบูรณ์ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ มาตรา ๑๒๙๙)
หนาชั้น โดยใชโปรแกรม PowerPoint
ชว ยในการนาํ เสนอ ผ้ใู หเ้ ช่าซ้อื มสี ทิ ธบิ อกเลกิ สญั ญาได้ เมื่อผเู้ ช่าซื้อผิดนัดไมช่ า� ระคา่ เช่าซือ้ สองงวดตดิ ต่อกนั
และสามารถกลับเขา้ ครอบครองทรพั ยส์ ิน รวมทัง้ รบิ เงินซ่งึ ผเู้ ชา่ ซื้อชา� ระมาแล้วได้ แตถ่ า้ ผูเ้ ชา่ ซ้ือ
2. หลงั จากนกั เรยี นกลุม ท่ี 5 นําเสนอเรอ่ื งสญั ญา
กูย ืมเสรจ็ สิน้ แลว ครูตัง้ คําถามเพอื่ ทบทวน
ความรคู วามเขา ใจของนกั เรียน ดงั นี้ ท�าผิดสญั ญาโดยไม่ช�าระเงินงวดสุดทา้ ย ผู้ให้เชา่ ซื้อจะยดึ ทรพั ยส์ นิ กลับคืนและรบิ เงินท่ีช�าระแล้ว
• สญั ญาเงินกมู ีลกั ษณะอยา งไร ไดต้ อ่ เม่ือเวลาผ่านไปอกี งวดหน่ึงแลว้
(แนวตอบ สญั ญาเงินกเู ปนสัญญาที่ “ผูก”ู อน่ึง ถ้าผู้เช่าซ้ือท�าผิดสัญญาในข้อท่ีส�าคัญ เช่น ใช้ทรัพย์สินนั้นไม่ถูกต้องตามเง่ือนไข
ไดขอยมื เงนิ จาํ นวนหนึง่ ตามท่ตี กลงกันไว ผใู้ ห้เช่าซือ้ ก็บอกเลิกสญั ญาได้ โดยยดึ ทรัพยส์ ินกลับคนื และริบค่าเชา่ ซอื้ ท่ีชา� ระไวแ้ ล้วไดเ้ ชน่ กนั
จาก “ผใู หก ”ู และผูกตู กลงจะคืนเงินจํานวน
ดังกลา วตามเวลาทก่ี าํ หนดไว โดยผกู เู สีย ผู้เช่าซ้ือมีหน้าท่ีช�าระค่าเช่าซื้อและมีสิทธิท่ีจะบอกเลิกสัญญาเมื่อใดก็ได้ โดยส่งมอบ
ดอกเบ้ียแกผ ูใหก ูในอัตราท่ตี กลงกันตาม ทรัพย์สินกลับคืนและให้ค่าเช่าซ้ือเฉพาะที่ยังค้างช�าระในงวดช�าระเงินท่ีผ่านมาแก่ผู้ให้เช่าซ้ือ
กฎหมาย) ผเู้ ชา่ ซอื้ ตอ้ งสงวนและบา� รงุ รกั ษาทรพั ยส์ นิ ระหวา่ งทตี่ นเชา่ ซอ้ื รวมทงั้ ยงั ตอ้ งบา� รงุ รกั ษาทรพั ยส์ นิ
• กฎหมายไดกาํ หนดหลักเกณฑการกูยืมเงนิ ไว ดว้ ยค่าใชจ้ ่ายของตนเอง
อยา งไร
(แนวตอบ การกูยืมเงินเกินกวา 2,000 บาท ในที่สุดหลังจากได้ช�าระค่าเช่าซ้ือตามสัญญาครบถ้วนแล้ว ผู้เช่าซื้อมีสิทธิเรียกร้องต่อ
ขนึ้ ไป จะตอ งทําหลักฐานเปนหนังสอื ผู้ให้เช่าซื้อให้เปล่ียนแปลงทะเบียนสิทธิในทรัพย์สิน เช่น ให้ไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิให้แก่
พรอ มลงลายมือช่ือชือ่ ผูกู หรอื อาจใชก าร ผูเ้ ช่าซื้อต่อพนักงานเจ้าหนา้ ที่ เป็นตน้
พมิ พลายนิว้ มอื และมพี ยานรับรองอยา งนอย
2 คน ก็ได) ๓.๕ สญั ญากยู้ มื
• ผใู หก ูม ีสทิ ธเ์ิ รียกเก็บดอกเบีย้ จากผกู ใู นอตั รา
เทา ใด จึงจะไมผ ิดกฎหมาย สญั ญากยู้ มื หมายถงึ สัญญาซ่งึ ผ้ทู ตี่ อ้ งการเงิน เรยี กว่า “ผู้กู้” ตกลงยมื เงนิ จา� นวนหนง่ึ จาก
(แนวตอบ หากผูใหกูและผกู มู ิไดต กลงอตั รา
ดอกเบ้ียกนั ไว ผูใหก ูมสี ิทธเิ์ รยี กเก็บดอกเบย้ี ผ“ผกู้ ใู้ ใู้หห้กด้ ู้”อกเพเบ่อื ยี้นแ1า� กไปผ่ ใใู้ ชห้ตก้ าเู้ ปมน็คควาา่ มตอตบอ้ แงกทานร และตกลงว่าจะคนื เงินตามกา� หนดเวลาทต่ี กลงกนั ไวโ้ ดย
จากผูก ูไดในอตั รารอยละ 7 ตอ ป แตถ าผใู หกู สญั ญากยู้ มื เงนิ จงึ ตา่ งกบั สญั ญายมื โดยทว่ั ไป ซงึ่ เปน็ กรณี
จะกําหนดอตั ราดอกเบยี้ กส็ ามารถกาํ หนดได
ไมเ กินรอ ยละ 15 ตอป ยกเวน การกูเงินจาก ท่ผี ้ใู ห้ยมื ยอมใหผ้ ู้ยมื ใชป้ ระโยชนจ์ ากทรพั ย์สนิ ได้โดยไม่เรยี กค่าตอบแทน
สถาบนั การเงินบางประเภท ซง่ึ สามารถเรียก
เก็บอัตราดอกเบ้ยี เกินรอยละ 15 ได) การกู้ยืมเงินจะมีผลต่อเมื่อมีการส่งมอบเงินให้แก่ผู้กู้และกฎหมายบังคับว่าการกู้ยืม
3. ครูใหน กั เรยี นจับคูกนั เพื่อแสดงบทบาท
เงินเกินกวา่ ๒,๐๐๐ บาทขน้ึ ไป จะตอ้ งมหี ลกั ฐานเป็นหนังสอื แสดงวา่ มกี ารก้เู งินกนั จรงิ ซึง่ ขอให้
เป็นเพียงหนังสือแสดงว่ามีการรับเงินยืมไปจริง ลงลายมือช่ือผู้กู้ หรือในกรณีท่ีไม่สามารถลง
ลายมือช่ือได้ ต้องมีลายพิมพ์น้ิวมือของผู้กู้ประทับในหนังสือดังกล่าว โดยมีพยานลงลายมือช่ือ
รับรองลายพิมพ์น้ิวมือนั้นอย่างน้อยสองคน หลักฐานดังกล่าวน้ีอาจท�าขึ้นภายหลังการมอบเงิน
ใหแ้ ก่กนั เชน่ เปน็ หนงั สือขอผัดผ่อนการช�าระเงินได้
สมมติในการทาํ สญั ญากูย ืม โดยใหช วยกนั ราง 166
สัญญากยู มื ขึ้น โดยใหม ีขอ ตกลงที่เปน ไปตาม
กฎหมาย จากนั้นครูสุม เลือกคนู ักเรยี น ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
ใหออกมานําเสนอการทําสญั ญากูยมื หนา ช้นั
เกร็ดแนะครู
ครูควรอธิบายเนน ในเร่ืองการกาํ หนดอตั ราดอกเบี้ยในการกยู ืม แลว ใหน กั เรียน นางสาวกอ ย ทําสัญญากูย ืมเงนิ นางสาวแกว เปนจาํ นวนเงนิ
ทํากจิ กรรมเพื่อฝก การคาํ นวณอัตราดอกเบ้ียท่ถี ูกตอง โดยครูแนะนาํ วธิ กี ารคาํ นวณ 50,000 บาท โดยกาํ หนดชาํ ระเงินพรอมดอกเบีย้ ในวันท่ี 30 ธันวาคม
โดยใชหลักคณิตศาสตร จากน้ันครูตงั้ โจทยซึ่งเปนกรณตี ัวอยางของการกูยืม แลว ให พ.ศ. 2556 คิดดอกเบ้ียอัตรารอยละ 17 ตอป การทาํ สัญญากยู มื
นักเรียนฝกคํานวณ จากนัน้ ครตู รวจสอบผลการคํานวณของนกั เรียนแตละคน ครั้งนีถ้ กู ตอ งตามหลักกฎหมายหรอื ไม อยา งไร
และใหค ําแนะนาํ เพิ่มเติม แนวตอบ ไมถกู ตอ ง เพราะกฎหมายกาํ หนดไววา ในกรณีที่
ตกลงกนั วาใหเรยี กดอกเบย้ี แตม ไิ ดร ะบุอัตราไว ผใู หกูมสี ทิ ธิได
ดอกเบ้ยี อัตรารอยละเจ็ดครง่ึ ตอป แตถ า หากมกี ารกําหนดอัตรา
นกั เรยี นควรรู ดอกเบย้ี ไว ผใู หก จู ะเรยี กดอกเบยี้ จากผกู ไู ดไ มเ กนิ รอ ยละสบิ หา ตอ ป
1 ดอกเบี้ย ในการกยู ืม หากมีการกาํ หนดอตั ราดอกเบี้ยไว ผูใ หก ูจะเรียกดอกเบย้ี หากผูก เู รียกอตั ราดอกเบยี้ สูงกวาทก่ี ฎหมายกาํ หนด สัญญานัน้ จะ
จากผูกสู งู สุดไดไมเ กนิ รอยละ 15 ตอ ป ยกเวน การกูยมื เงินจากสถาบนั การเงิน เชน ไมมผี ลตามกฎหมาย และผใู หก ยู งั มคี วามผิดตามพระราชบญั ญตั ิ
ธนาคาร หรอื สถาบันเงินทุนหลักทรัพยทก่ี ฎหมายกําหนดใหสามารถเรยี กดอกเบย้ี หา มเรยี กดอกเบยี้ เกินอตั รา พทุ ธศักราช 2475
สงู กวา รอ ยละ 15 ตอป ได
166 คู่มอื ครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
ในกรณีที่ตกลงกันว่าให้เรียกดอกเบี้ยได้แต่มิได้ระบุอัตราไว้ ผู้ให้กู้มีสิทธิได้ดอกเบ้ีย 1. ครใู หน ักเรียนกลมุ ท่ี 6 ซงึ่ จบั ฉลากไดหวั ขอ
ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗) ถ้ามีการก�าหนด สัญญาจาํ นํา ออกมารายงานผลการอภิปราย
อัตราดอกเบี้ยไว้ ผู้ให้กู้จะเรียกดอกเบี้ยจากผู้กู้ได้สูงสุดไม่เกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี ถ้าผู้ให้กู้เรียก หนาชัน้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint
ดอกเบ้ียสูงกว่าน้ีแม้ผู้กู้จะยินยอมก็ไม่มีผล หมายความว่า การเรียกดอกเบ้ียเป็นอันใช้ไม่ได้ ชวยในการนาํ เสนอ
ทง้ั หมด และผใู้ หก้ มู้ คี วามผดิ ตามพระราชบญั ญตั หิ า้ มเรยี กดอกเบยี้ เกนิ อตั รา พทุ ธศกั ราช ๒๔๗๕ 1
2. หลงั จากนกั เรยี นกลมุ ที่ 6 นาํ เสนอเร่ืองสัญญา
ยกเวน้ การกยู้ มื เงนิ จากสถาบนั การเงนิ เชน่ ธนาคารหรอื บรษิ ทั เงนิ ทนุ หรอื บรษิ ทั หลกั ทรพั ย์ จํานาํ เสรจ็ สิน้ แลว ครตู ั้งคาํ ถามเพื่อทบทวน
ซ่งึ มกี ฎหมาย คอื พระราชบัญญัติดอกเบย้ี เงินให้กูย้ ืมของสถาบันการเงิน พ.ศ. ๒๕๒๓ ยอมให้ ความรคู วามเขา ใจของนกั เรียน ดังนี้
เรยี กดอกเบีย้ สงู กว่ารอ้ ยละ ๑๕ ตอ่ ปีได้ • สัญญาจํานาํ มลี ักษณะอยา งไร
(แนวตอบ สัญญาจํานาํ เปนสญั ญาท่ี “ผูจํานาํ ”
ในการช�าระหนี้เงินกู้แต่ละคร้ัง ผู้กู้มีสิทธิเรียกให้ผู้ให้กู้ออกหลักฐานการใช้เงินให้ เช่น นาํ สังหารมิ ทรัพยไปมอบใหแก “ผูรับจํานํา”
ออกใบรับเงินและเม่ือช�าระหนี้หมดแล้ว มีสิทธิเรียกสัญญากู้ยืมเงินที่ท�ากันไว้กลับคืนมา หรือ เพ่อื เปนการประกนั การชําระหนี้ทผี่ ูจ าํ นาํ
ให้ระบุในสัญญาว่าได้มีการช�าระเงินกู้และดอกเบ้ียครบถ้วนแล้วด้วย แต่ถ้าผู้กู้บิดพลิ้วไม่ปฏิบัติ เปน หน้ีผรู บั จํานํา)
ตามสัญญา ผู้ให้กู้มีสิทธิฟ้องเรียกเงินคืนพร้อมท้ังดอกเบ้ียท่ียังค้างช�าระได้ตามสัญญา โดย • กฎหมายไดกาํ หนดหลกั เกณฑในการบงั คบั
กฎหมายกา� หนดอายคุ วามไว้ให้ต้องฟ้องภายใน ๑๐ ปี นบั แต่วนั ถงึ ก�าหนดชา� ระเงินคนื จํานําไวอยางไร
(แนวตอบ กฎหมายไดก ําหนดหลกั เกณฑ
๓.๖ สัญญาจาำ นำา การบังคบั จาํ นาํ ไว ดังน้ี
1. เมื่อลกู หนีผ้ ดิ นัดชําระหน้ี ผรู ับจํานําตอ ง
สญั ญาจา� นา� ไดแ้ ก่ สัญญาซึ่งผจู้ �าน�าสง่ มอบการครอบครองสงั หารมิ ทรพั ย์ คือ ทรพั ย์สนิ ทําหนงั สอื บอกกลา วใหล กู หนี้มาชาํ ระหน้ี
ภายในกาํ หนดระยะเวลาอันสมควร
ท่ีสามารถเคลื่อนที่ได้ให้แก่ผู้รับจ�าน�าเพื่อประกันการช�าระหนี้ (ประมวลกฎหมายแพ่งและ 2. หากลกู หนี้ไมชําระหนี้ตามกําหนด ผูรับ
จาํ นํามีสิทธินําทรัพยส นิ ของลูกหนี้ออก
พาณิชย์ มาตรา ล๗ูก๔ห๗น)อี้ าซจึ่งนหา� มนาายฬคิกวาาขมอวง่าตสนัญจา�ญนาา� นไ2ี้เวกก้ ิดับขเจึ้น้าเหพน่ือี้ใหเป้เน็จ้าตห้นนี้มีหลักประกันการช�าระ ขายทอดตลาดได แตตอ งทําหนงั สอื
หนี้ยดึ ถอื ไว้ เช่น แจง ใหล กู หน้ที ราบวนั เวลา และสถานที่
ท่ีจะขายทอดตลาด เวน แตผ ูจํานําคา ง
การจ�าน�าไม่ต้องมีหลักฐานหรือท�าตามแบบ ชาํ ระหนเ้ี กินกวา 1 เดอื น และไมสามารถ
บอกกลาวกอนได ผูรบั จาํ นําสามารถนาํ
แต่อย่างใด เม่ือมอบทรัพย์สินท่ีจ�าน�าแก่ผู้รับจ�าน�า ทรัพยส นิ นั้นขายทอดตลาดไดเลย
โดยไมต อ งบอกกลาวกอ น
แล้ว เขาก็มีสิทธิยึดทรัพย์สินนั้นไว้ จนกว่าจะได้รับ 3. เมอื่ นาํ ทรพั ยส นิ ไปขายทอดตลาด
แลว ไดเ งนิ มาเทาใด ผูรบั จาํ นาํ มสี ิทธหิ ัก
การช�าระหนี้ครบถ้วน ซ่ึงรวมท้ังเงินต้น ดอกเบ้ีย มาใชหน้ีไดจนครบถว น ถาเงนิ ยงั เหลือ
ผรู ับจํานําตองคืนแกผ ูจ ํานํา แตถ าเงนิ
ค่าเสียหายจากการไม่ช�าระหน้ี ค่าธรรมเนียมในการ ขาดหายไป ผจู ํานาํ ตองใชค ืนใหแ กผรู บั
จาํ นําจนครบตามจํานวน)
บงั คับจ�าน�า ค่าใช้จ่ายเพ่ือรกั ษาทรพั ย์สินทจ่ี า� นา� รวม
ท้ังค่าทดแทนความเสียหาย ซึ่งเกิดจากความช�ารุด
บกพรอ่ งของทรพั ยส์ นิ ทจี่ า� นา� ซง่ึ ผรู้ บั จา� นา� มองไมเ่ หน็ การประกอบอาชีพรับจำานำาทรัพย์สินจากลูกค้า
เมอื่ รับจ�าน�าไว้ ตอ้ งได้รบั ใบอนญุ าตและปฏบิ ัติตามพระราชบัญญตั ิ
โรงรบั จำานาำ พ.ศ. 2505
16๗
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู
ทรัพยสนิ ในขอใดทสี่ ามารถนาํ ไปจํานําได 1 บริษัทหลักทรพั ย คอื บรษิ ทั จาํ กัดท่ไี ดร ับอนญุ าตจากรฐั มนตรีวาการกระทรวง
1. ท่นี า การคลงั ใหป ระกอบธรุ กจิ หลักทรพั ยประเภทใดประเภทหนึง่ หรอื หลายประเภท
2. บา นเด่ยี ว ดงั ตอไปน้ี
3. โทรศพั ทมือถือ
4. หองชดุ ในคอนโดมเิ นยี ม - กจิ การนายหนาซือ้ ขายแลกเปลย่ี นหลกั ทรพั ย
- กิจการคาหลักทรัพย
วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. เพราะกฎหมายกาํ หนดไววา - กจิ การท่ีปรกึ ษาการลงทนุ
- กิจการจดั จาํ หนา ยหลกั ทรัพย
สัญญาจํานาํ ไดแกส ญั ญาซงึ่ ผูจ าํ นาํ สง มอบการครอบครอง - กจิ การจดั การลงทนุ
สังหารมิ ทรพั ย คอื ทรพั ยสนิ ที่สามารถเคล่ือนทีไ่ ด แกผ รู บั จาํ นาํ
เพ่อื ประกนั การชาํ ระหน้ี ดังนั้นการจาํ นาํ จงึ ทําไดกับทรัพยสิน 2 จาํ นาํ ในประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มบี ทบญั ญตั ทิ ่ีเก่ียวกบั สญั ญาจํานํา
ที่เปน สังหารมิ ทรัพยเทา นัน้ ซ่งึ ในขอ 1. ขอ 2. และ ขอ 3. ทนี่ า สนใจหลายมาตรา เชน
เปน อสงั หารมิ ทรพั ยท ง้ั สิ้น ไมสามารถทําการจาํ นาํ ได มาตรา 749 คูสัญญาจํานําจะตกลงกนั ใหบุคคลภายนอกเปน ผูเ ก็บรักษา
ทรพั ยสนิ จํานําไวก ไ็ ด
มาตรา 750 ถา ทรพั ยสนิ ทจี่ ํานาํ เปน สิทธิซึ่งมีตราสาร และมิไดส งมอบ
ตราสารน้ันใหแ กผ ูรับจาํ นาํ ท้ังมไิ ดบ อกกลาวเปนหนงั สือแจงการจาํ นาํ แกลกู หนี้
แหงสิทธนิ ้นั ดว ยไซร ทา นวาการจํานาํ ยอมเปนโมฆะ
คมู่ ือครู 167
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูใหนักเรียนกลุม ท่ี 7 ซ่ึงจบั ฉลากไดหวั ขอ ผู้รับจ�าน�ามีหน้าที่ต้องเก็บรักษาและสงวนทรัพย์สินที่จ�าน�าให้ปลอดภัยไม่สูญเสีย หรือ
สัญญาจํานอง ออกมารายงานผลการอภิปราย เสียหายไป หากผู้รับจ�าน�าใช้สอย หรือให้ผู้อ่ืนใช้สอย หรือเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นและเกิดความ
หนาชนั้ โดยใชโปรแกรม PowerPoint เสียหายข้ึน จะต้องรับผิดชอบ แต่ถ้าผู้รับจ�าน�าต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบ�ารุงรักษาทรัพย์สินที่
ชวยในการนาํ เสนอ จา� น�านัน้ ไปตามปกติ ผู้รบั จา� น�ามีสทิ ธิเรยี กจากผูจ้ �าน�าได้
2. หลงั จากนักเรียนกลมุ ที่ 7 นําเสนอเร่ืองสัญญา เนื่องจากสัญญาจ�าน�าท�าขึ้น เพ่ือใช้ประกันการช�าระหน้ี ดังน้ัน เมื่อหนี้ถึงก�าหนดช�าระ
จํานองเสรจ็ สนิ้ แลว ครตู ง้ั คาํ ถามเพื่อทบทวน แล้วลูกหน้ี (ผู้จ�าน�า) ผิดนัดไม่ช�าระหน้ี ผู้รับจ�าน�าย่อมมีสิทธิบังคับจ�าน�า โดยต้องบอกกล่าว
ความรูความเขาใจของนักเรียน ดงั น้ี เป็นหนังสือแก่ลูกหนี้ให้ช�าระหน้ีรวมท้ังดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายต่างๆ (ถ้ามี) ภายในก�าหนดเวลา
• สญั ญาจาํ นองมลี กั ษณะอยา งไร อนั สมควร หลงั จากนัน้ หากลกู หน้ีไมช่ �าระหนี้ ผู้รบั จา� น�ามสี ิทธิเอาทรัพย์สินท่จี า� น�าออกขายทอด
(แนวตอบ สญั ญาจํานองเปน สัญญาท่ี สตหู้รลนาางั คดสาอื ก1คบันืออกผกกู้ใาลดรา่ ใขวหาใ้รหยาทล้ คกูราัพหสนยูงส์ส้ีทุดินรแาทบล่ีทะก�าผา�โู้ทดหยอนเดดปตเิดวลเลาผาดยแตแลกกะลส่บงถุคราคับนลเทปท่ีซ็น่ัวึ่งไผปจู้ซะดื้อข้วทายยรวัพทิธอีเยปด์สิดินตโลนอาั้นกดา2ดสโ้วดใหยย้ผจู้ปะตร้อะสงแงคจ์จ้งะเปซ็นื้อ
“ผจู ํานอง” นําอสงั หารมิ ทรัพยไปจดทะเบียน
ไวก ับ “ผูรับจํานอง” เพื่อเปน การประกัน อยา่ งไรกต็ ามหากผจู้ า� นา� คา้ งชา� ระหนเี้ กนิ กวา่ หนงึ่ เดอื น และไมส่ ามารถจะบอกกลา่ วกอ่ นได้
การชาํ ระหน้ี แตไ มตองสง มอบทรัพยส ิน ผู้รับจ�าน�าก็น�าทรัพย์สินนั้นออกขายทอดตลาดได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน การบังคับจ�าน�า
ท่ีจํานองนน้ั ใหแกผูรบั จํานอง) ต้องท�าโดยการขายทอดตลาดเท่าน้ัน ผู้รับจ�าน�าจะทึกทักว่าทรัพย์สินที่จ�าน�าหลุดเป็นของตน
• ทรัพยสินที่จาํ นองได ไดแ กอะไรบาง โดยพลการไมไ่ ด้ ถึงแม้จะตกลงกนั ไว้ล่วงหนา้ ยกเว้นการบงั คบั จ�านา� ข้อตกลงนัน้ ก็ใชไ้ มไ่ ด้
(แนวตอบ อสังหารมิ ทรพั ย เชน ทดี่ นิ บา น
เปนตน และสังหาริมทรพั ยช นดิ พิเศษ เชน เมื่อขายทอดตลาดทรัพย์สินที่จ�าน�าแล้วได้เงินสุทธิเท่าใด ผู้รับจ�าน�ามีสิทธิหักมาใช้หนี้ได้
เรอื ท่ีมรี ะวางตง้ั แต 6 ตันขนึ้ ไป แพ สตั ว จนครบ หากยังมีเงินเหลือต้องคืนให้แก่ผู้จ�าน�า แต่เมื่อขายทอดตลาดแล้วเงินยังขาดอยู่เท่าใด
พาหนะ เปน ตน รวมทงั้ สังหารมิ ทรัพยอ่ืน ผูจ้ �าน�ายังต้องใช้คนื จนครบ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๗๖๗)
ทกี่ ฎหมายบัญญตั ิใหจํานองได เชน
เครื่องจักรขนาดใหญ เปนตน ) การบงั คบั จ�าน�าจะทา� ไดต้ ่อเมอื่ ยังมที รัพยส์ นิ ทีจ่ �าน�าอย่กู ับผู้รับจ�านา� ดงั นั้น หากผ้รู ับจา� น�า
คืนทรพั ยส์ นิ นัน้ ใหผ้ ้จู �านา� ไปแลว้ การจา� นา� เปน็ อนั ระงับไป ผรู้ ับจา� น�าไม่มีทางบังคับกบั ทรพั ย์สิน
น้ันอีก คงท�าได้เพียงฟ้องบังคับให้ลูกหน้ีช�าระหนี้ที่ค้าง ดังเช่น การเรียกให้ช�าระหนี้ที่ไม่มี
หลักประกันอย่างปกตเิ ท่าน้ัน
๓.๗ สญั ญาจาำ นอง
สัญญาจ�านอง คือ สัญญาซึ่งผู้จ�านองเอาอสังหาริมทรัพย์ เช่น ท่ีดิน อาคารบ้านเรือน
เป็นต้น หรือสังหาริมทรัพย์ที่กฎหมายอนุญาตให้จ�านองได้ของตนเองไปตราไว้แก่ผู้รับจ�านอง
โดยไม่ต้องส่งมอบทรัพย์สินท่ีจ�านองน้ันให้ เพื่อเป็นประกันการช�าระหน้ีของลูกหนี้ ซ่ึงอาจเป็น
ตัวผู้จ�านองเองหรือบุคคลอ่ืนก็ได้ (ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ มาตรา ๗๐๒)
168
นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ขอ ใดเปน หนาท่ขี องผรู บั จํานาํ
1 สูราคา การเสนอราคาเพอ่ื การซ้ือหรือขาย โดยมกี ารแขงขัน เรยี กอกี อยางหนึง่ 1. นําทรัพยสินจํานาํ ออกขาย
วา “การประมลู ราคา” 2. เปด ใหเ ชาทรพั ยสินจาํ นํา
2 ขายทอดตลาด คือ การขายทรพั ยท ่จี ะตองกระทําโดยเปด เผย โดยวธิ ีโฆษณา 3. เปดประมลู ทรพั ยส ินจํานํา
ใหบ ุคคลทวั่ ไปมโี อกาสทราบ และในการซ้อื จะกระทําโดยวิธสี รู าคาระหวา งผูซื้อ 4. รักษาทรพั ยสินจํานําใหป ลอดภยั
ดวยกนั การซื้อขายเชนน้ถี อื วาสําเร็จบรบิ ูรณ เมื่อผูขายทอดตลาดแสดงความตกลง วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะตามกฎหมายกาํ หนดใหผูรบั
ดวยการเคาะไม หรือดว ยกิรยิ าอยา งอน่ื ตามจารตี ประเพณใี นการขายทอดตลาด จาํ นํามหี นาที่ตองเกบ็ รักษาทรพั ยสินท่จี ํานาํ ใหอ ยูในความปลอดภัย
ไมเ กิดความสญู เสีย ซ่งึ ถาหากทรพั ยส ินนน้ั เกิดความเสียหาย
มุม IT ผรู บั จาํ นําจะตอ งรับผิดชอบ
ศึกษาคนควา ขอ มูลเพิม่ เติมเกี่ยวกบั กฎหมายสัญญาจาํ นาํ ไดท ่ี
http://www.kodmhai.com/m2/m2-4/m4-747-757.html
168 ค่มู อื ครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain
อธบิ ายความรู้ Explain
การน�าทรัพย์สินไปตราไว้ในท่ีนี้ หมายถึง การเอาทรัพย์สินนั้นไปท�าหนังสือจดทะเบียน ครใู หนกั เรียนรว มกนั อภปิ รายสรปุ ความรูเ รอื่ ง
ตอ่ พนักงานเจา้ หนา้ ที่ เช่น น�าทด่ี นิ ไปจดทะเบยี นจ�านอง ณ ส�านกั งานท่ดี ิน เป็นต้น การจํานอง โดยครตู ้งั คําถาม
ส�าหรับสังหาริมทรัพย์ท่ีจ�านองได้ ได้แก่ ส่ิงที่จดทะเบียนได้ เช่น เรือ แพ สัตว์พาหนะ • กฎหมายไดก าํ หนดหลกั เกณฑใ นการบังคบั
หรือท่ีเรียกกันว่าสังหาริมทรัพย์ชนิดพิเศษ รวมท้ังสังหาริมทรัพย์อื่นท่ีกฎหมายให้จดทะเบียน จาํ นองไวอยางไร
จ�านองได้ เชน่ เคร่ืองจักรขนาดใหญ่ เปน็ ตน้ (แนวตอบ การบังคับจาํ นองทําโดยผูร ับจํานอง
ทําหนังสือแจง ใหลูกหนี้มาชําระหนี้ภายใน
แม้จ�านองสังหาริมทรัพย์แล้ว เจ้าของก็ยังครอบครองต่อไปได้อีกไม่ต้องส่งมอบแก่เจ้าหนี้ ระยะเวลาอนั สมควร หากลกู หนย้ี ังไมมา
เหมอื นกบั การจา� นา� เนอ่ื งจากการจา� นองมหี ลกั ฐานปรากฏอยใู่ นทะเบยี นหรอื หนงั สอื สา� คญั สา� หรบั ชาํ ระหนี้ ผูรับจํานองตอ งฟอ งผจู าํ นอง
ทรพั ย์สินน้นั ใหผ้ ู้อน่ื สามารถตรวจพบไดน้ ่นั1เอง ตอ ศาล โดยขอตอ ศาลวาหากลูกหน้ียังไม
ชําระหน้ี ใหศ าลสง่ั ใหทรพั ยส ินจาํ นองนัน้
อนึ่ง การเพียงแต่มอบโฉนดท่ีดินหรือหนังสือส�าคัญส�าหรับทรัพย์สินให้เจ้าหน้ียึดถือไว้ หลดุ เปน กรรมสทิ ธ์ิของผรู ับจํานอง หรอื ใหม ี
ยังไมใ่ ชก่ ารจ�านอง เพราะการจา� นองจะเกดิ ขึน้ โดยการจดทะเบยี น การขายทอดตลาดทรัพยสินนัน้ ตอ ไป
แลวนําเงินมาชําระหน้ีของตน โดยหาก
การช�าระหน้ีจ�านองไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม การส้ินสุดหรือเปล่ียนแปลงแก้ไข ไดเ งนิ มานอยกวา จํานวนหนท้ี ค่ี างชําระอยู
ข้อความในการจ�านองก็ตาม ต้องไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีด้วย มิฉะน้ันจะน�าไปใช้ ลกู หน้ีไมตอ งรับผิดชอบใดๆ ในเงินสว นนน้ั
อ้างกับบคุ คลภายนอกไมไ่ ด้ เวนแตไ ดมีการตกลงกันไววา ลูกหน้ตี อง
รับผิดชอบ ซง่ึ ลูกหนกี้ ต็ อ งทาํ ตาม
การจ�านองมีผลเป็นหลักประกันการช�าระหน้ี ทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย ค่าเสียหายจากการ ขอ ตกลงน้นั )
ไมช่ �าระหน้ี เช่น คา่ ใชจ้ ่ายในการติดตามทวงถาม รวมทัง้ คา่ ธรรมเนยี มในการบงั คบั จา� นอง ทา� ให้
ผู้รับจ�านองมีสิทธิได้รับช�าระหน้ีจากทรัพย์สินท่ีจ�านองก่อนเจ้าหนี้สามัญ แม้มีการโอนทรัพย์สิน ขยายความเขา้ ใจ Expand
จ�านองใหแ้ ก่บุคคลภายนอกแลว้ ผู้รบั จ�านองกย็ งั บังคับจา� นองจากทรพั ย์สนิ นน้ั ได้
ครใู หนกั เรยี นทัง้ 7 กลุม ชวยกันจัดปายนิเทศ
การบังคับจ�านองท�าโดยผู้รับจ�านองมีหนังสือแจ้งลูกหนี้ให้ช�าระหนี้ภายในเวลาอันสมควร เพื่อสรปุ ความรูข องการทาํ สญั ญาในลกั ษณะตางๆ
มิฉะน้ันจะใช้สิทธิบังคับจ�านองต่อไป หากลูกหนี้ยังไม่ช�าระหนี้ ผู้รับจ�านองต้องฟ้องผู้จ�านอง ตามทก่ี ลุมตนเองจบั ฉลากได
ต่อศาล โดยขอต่อศาลว่าหากลูกหนี้ยังไม่ช�าระหน้ี ให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินจ�านองน้ันหลุดเป็น
กรรมสทิ ธิข์ องผ้รู ับจา� นอง หรอื ใหม้ กี ารขายทอดตลาดทรพั ยส์ นิ นัน้ ต่อไป ตรวจสอบผล Evaluate
อย่างไรก็ตามเมื่อลูกหนี้ขาดส่งดอกเบ้ียมาแล้วเป็นเวลาถึง ๕ ปี และผู้จ�านองแสดงต่อ ครูตรวจสอบความสวยงามและความถกู ตอ ง
ศาลไม่ได้ว่าราคาทรัพย์สินน้ันท่วมจ�านวนเงินท่ีค้างช�าระ รวมท้ังทรัพย์สินน้ันไม่ได้จดทะเบียน ของปา ยนิเทศเรอื่ งการทําสัญญาของท้งั 7 กลุม
การจ�านองรายอื่นหรือบุริมสิทธ์ิ (คือ สิทธิได้รับช�าระหนี้ก่อนเจ้าหนี้อื่น) ไว้ ผู้รับจ�านองขอต่อ
ศาลให้ทรัพย์สนิ นั้นหลุดเปน็ สทิ ธิได้โดยไมต่ ้องมกี ารขายทอดตลาด
การนา� เอาทรพั ยส์ นิ ซงึ่ จา� นองขายทอดตลาดไดเ้ งนิ เปน็ จา� นวนสทุ ธเิ ทา่ ใด ใหน้ า� เงนิ นน้ั มาใช้
แก่ผรู้ ับจ�านองตามลา� ดับ และถ้ายงั มเี งินเหลอื อยู่ ให้ส่งมอบเงนิ น้ันแกผ่ ู้จา� นอง หรอื ในกรณีที่นา�
169
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู
ทรพั ยส ินในขอ ใดตอ ไปนีส้ ามารนาํ มาจํานองไดตามกฎหมาย ครอู าจใหนกั เรียนรวมกันทาํ กจิ กรรมเพือ่ เสริมความรูเกย่ี วกับการทําสัญญา
1. รถยนต จํานอง โดยใหนักเรยี นชวยกันหาภาพทรัพยสนิ ทส่ี ามารถนํามาจํานองไดต าม
2. เรอื นแพ กฎหมาย แลวรวมกันสมมติการดาํ เนินขัน้ ตอนการทาํ สัญญาจํานองทรพั ยสนิ
3. คอมพิวเตอร ทน่ี กั เรยี นหามา จากนั้นใหน ักเรยี นชวยกนั สรปุ ความรทู ่ไี ดแ ละสาระสําคัญ
4. เคร่อื งปรับอากาศ ของการทําสญั ญาจาํ นอง
วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เพราะเรอื นแพ ถอื เปน สงั หารมิ ทรพั ย นักเรยี นควรรู
ชนดิ พิเศษ ซึง่ กฎหมายกําหนดใหส ามารถจํานองได สว นขอ 1. 1 โฉนดทดี่ ิน ประมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ. 2497 มาตรา 1 ไดใ หค วามหมายของ
ขอ 3. และขอ 4. ถอื เปนสงั หาริมทรพั ยท ่ัวไป ไมสามารถนํามา โฉนดท่ดี นิ ไวว า เปน หนงั สือสาํ คัญแสดงกรรมสิทธิ์ ผมู ชี อ่ื ในหนังสอื สาํ คญั น้ีสามารถ
จาํ นองได ใชความเปนเจา ของกรรมสิทธิใ์ นทด่ี นิ น้ัน ยืนยนั แกบุคคลทว่ั ไปได นอกจากนี้ ผูมีช่อื
ในโฉนดที่ดินยงั สามารถทาํ นิตกิ รรมใดๆ กไ็ ด เวนแตจะมีกรณีทกี่ ฎหมายทดี่ นิ บาง
มาตราหา มไวโดยเฉพาะ
คมู่ อื ครู 169
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
กระตนุ้ ความสนใจ Engage
ครูนําขาวอาชญากรรมจากหนงั สอื พิมพร ายวัน ทรัพย์สินซ่ึงจ�านองออกขายทอดตลอด แต่ได้จ�านวนเงินสุทธิน้อยกว่าจ�านวนหน้ีท่ีค้างช�าระ
มาใหน กั เรยี นอภิปรายถึงเหตุการณท เ่ี กิดข้ึน ตามหลักลกู หน้ีไม่ตอ้ งรับผดิ ชอบในเงินทย่ี งั ขาดอยู่ตอ่ เจา้ หนี้
วิเคราะหถ งึ สาเหตุ ผลท่เี กดิ ข้ึนจากเหตกุ ารณ
ตอ ผถู ูกกระทาํ และผูทีก่ ระทํา รวมถงึ ผลกระทบ ๔. กฎหมายอาญา
ตอ สังคม แลวครูถามคําถาม เชน
กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่เก่ียวกับความผิดและโทษ โดยก�าหนดว่าการกระท�าใดบ้าง
• ผกู อเหตุการณด ังกลาวมคี วามผดิ อยางไร เปน็ ความผดิ ซ่งึ ผ้กู ระทา� จะได้รบั ผล คอื โทษติดตามมา กฎหมายอาญามีความมุ่งหมายโดยตรง
และไดร บั บทลงโทษตามกฎหมายอยา งไร ท่ีจะคุ้มครองผลประโยชน์ของส่วนรวม โดยควบคุมมิให้บุคคลกระท�าการอันเป็นภัยต่อผู้อ่ืนหรือ
เตงอ่ ินสตงั รคาม1เปเพ็นื่อตร้นกั ษาความสงบเรยี บร้อยในสงั คม เชน่ ควบคุมมใิ หท้ �าร้ายผอู้ ่ืน ควบคมุ มิใหป้ ลอม
สา� รวจคน้ หา Explore
การท�าร้ายผู้อ่ืนย่อมท�าให้ผู้ถูกท�าร้ายคิดแก้แค้นเอากับผู้ท�าร้าย เป็นชนวนให้ใช้ก�าลัง
1. นกั เรียนศกึ ษาความรูเกย่ี วกับกฎหมายอาญา ขม่ เหงกนั และเกิดความว่นุ วายข้ึนในสังคม ส่วนการปลอมเงนิ ตราย่อมท�าให้เศรษฐกจิ ของสังคม
ในประเด็น ความผิดและโทษ ความรับผิดทาง ปัน่ ปว่ นได้ ผกู้ ระทา� การเหล่านี้จึงต้องได้รบั โทษเพ่อื ให้ร้สู �านกึ ผิด และเพ่อื ปรับปรุงใหเ้ ขาเปน็ คนดี
อาญา ความผิดทางอาญา จากหนังสือเรยี น ตอ่ ไป
หนา 170-174 และจากแหลง การเรียนรอู ่ืนๆ
กฎหมายอาญาจึงมีความส�าคัญต่อชีวิตประจ�าวันของเรา เพราะนอกจากจะช่วยให้เรา
2. นกั เรียนศึกษากรณตี วั อยางเกย่ี วกับคดีอาญา ด�ารงชีวิตอยู่ในสังคมได้โดยปกติสุขแล้ว ยังจะช่วยให้เราไม่กระท�าการอันเป็นภัยต่อสังคม ซ่ึงจะ
ทีไ่ ดมีการพจิ ารณาตดั สินความผดิ แลว เพอื่ เปน ท�าให้เราต้องรับโทษอกี ดว้ ย
ขอ มูลในการศกึ ษาความผิดทางอาญา
และศกึ ษาคน ควาเก่ยี วกับคดีทางอาญา ความมุ่งหมายของกฎหมายอาญาต่างกับกฎหมายแพ่ง เพราะกฎหมายแพ่งมุ่งคุ้มครอง
ทีเ่ ปนคดดี ํา ยงั ไมมกี ารตดั สนิ ความผิด ผลประโยชน์ของเอกชน การกระท�าซ่ึงผิดท้ังกฎหมายอาญาและกฎหมายแพ่ง เช่น การท�าร้าย
เพือ่ นํามาอภิปรายความผดิ รา่ งกายผอู้ นื่ แตจ่ ะมผี ลตา่ งกนั โดยโทษตามกฎหมายอาญา อาจเปน็ โทษจา� คกุ หรอื เสยี คา่ ปรบั ใหร้ ฐั
แต่ถ้าโทษตามกฎหมายแพ่ง ผู้ท�าร้ายจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ถูกท�าร้าย เช่น ค่ารักษา
3. ครูใหนักเรยี นแบง กลุม เพื่อศกึ ษาความผิด พยาบาลและคา่ เสยี หายทผ่ี ถู้ กู ทา� รา้ ยควรจะไดร้ บั เนอื่ งจากการทา� งานไมไ่ ดร้ ะหวา่ งบาดเจบ็ เปน็ ตน้
ทางอาญา กลมุ ละ 1 กรณีศกึ ษา เพอ่ื นํามา
อภปิ รายความผิดทางอาญา ๔คว.า๑ม ผคดิ 1วแลาะมโทผษดิ เปแ็นลสาะรโะทสา�ษคญั ของกฎหมายอาญา หมายถึง การกระทา� ใดท่ีกฎหมายได้
ระบุว่าเป็นการกระท�าท่ีเป็นความผิด ซ่ึงผู้กระท�าจะต้องได้รับโทษเป็นผลตามมา บุคคลจะมี
ความผิดและจะต้องได้รับโทษส�าหรับการกระท�าอย่างใดนั้น ต้องมีบัญญัติไว้ในกฎหมายเป็น
ลายลักษณ์อักษรในเวลาขณะที่เขากระท�า ดังนั้น จะจัดท�ากฎหมายให้มีผลย้อนหลังเพื่อ
ใหก้ ารกระท�าของบคุ คลซ่ึงขณะกระทา� ไมเ่ ป็นความผดิ และไมม่ ีโทษ กลบั กลายเปน็ มีความผดิ และ
โทษขึน้ มาไม่ได้
1๗0
นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
กฎหมายอาญามีลักษณะสําคญั อยา งไร
1 ปลอมเงนิ ตรา ตามประมวลกฎหมายอาญาไดกําหนดโทษของการปลอมเงินตรา แนวตอบ กฎหมายอาญาเปนกฎหมายท่รี วมเอาลักษณะความผดิ
ไวใ น มาตรา 240 วา ผูใดทาํ ปลอมขน้ึ ซ่ึงเงนิ ตรา ไมว า จะปลอมขึ้นเพอ่ื ใหเปนเหรยี ญ ตา งๆ และกาํ หนดบทลงโทษมาบญั ญตั ขิ ้นึ มีจุดประสงค
กษาปณ ธนบตั รหรอื สง่ิ อ่นื ใด ซงึ่ รฐั บาลออกใชห รอื ใหอ ํานาจใหออกใช หรือทํา เพ่อื คมุ ครองผลประโยชนสว นรวม รกั ษาความสงบเรียบรอ ยภายใน
ปลอมขึ้น ซ่ึงพันธบัตรรฐั บาลหรือใบสาํ คัญสาํ หรับรับดอกเบ้ียพันธบัตรน้ันๆ ผนู ้ัน สังคม เพอ่ื ควบคุมไมใหมกี ารกระทาํ ทีม่ ผี ลกระทบกระเทอื น
กระทาํ ความผดิ ฐานปลอมเงินตรา ตองระวางโทษจาํ คกุ ตลอดชวี ติ หรือจําคุกตงั้ แต ตอ สงั คม หรอื คนสว นใหญข องประเทศ เชน ควบคมุ เพอื่ ไมใ หม กี าร
สิบป ถึงย่ีสบิ ป และปรับต้งั แตส องหมนื่ บาท ถงึ สี่หมืน่ บาท ทํารายรา งกายผูอืน่ ไมใหมกี ารประทษุ รา ยรางการและทรัพยส นิ
2 ความผดิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 64 มสี าระสาํ คัญวา “ความไมร จู ัก ของผอู นื่ หากผใู ดมกี ารกระทาํ ความผดิ ดงั กลา วจะไดร บั การลงโทษ
กฎหมาย ไมเ ปน ขอแกตวั ” ซงึ่ ถามกี ารกระทาํ ความผดิ ตามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิไว ตามท่กี ฎหมายกาํ หนด เปน ตน
ผนู น้ั ตอ งไดรบั โทษ จะอางวาไมร กู ฎหมายมไิ ด เพราะจะทําใหท กุ คนใชเ หตผุ ลนี้
เปนขอ อา ง เพื่อใหต นพน ผิด การบงั คบั ใชกฎหมายกจ็ ะไมเปนผล
170 ค่มู ือครู
กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
๔.๒ การกระทาำ และสภาพจติ ใจ 1. ครแู ละนกั เรยี นอภปิ รายถึงความสาํ คัญของ
กฎหมายอาญา และสภาพสงั คมหากไมมี
การกระท�าและสภาพจิตใจเป็นสาระส�าคัญของความผิดทางอาญา เพราะการมีความผิด กฎหมายอาญาควบคมุ และวิเคราะหค วาม
เกิดข้ึน อันเป็นเหตุให้บุคคลต้องรับโทษน้ัน จะต้องมีการกระท�าตามท่ีกฎหมายบัญญัติไว้ ความแตกตา งระหวางกฎหมายอาญากบั
ประกอบกับสภาพจิตใจตามที่กฎหมายต้องการ กฎหมายแพง และอภปิ รายถึงการกระทาํ
ที่มีลักษณะของความผดิ ทางอาญา
๑) การกระทา� ได้แก่ การเคลือ่ นไหวอวยั วะต่างๆ ของรา่ งกายตามความต้องการ พรอมยกตวั อยางประกอบการอภิปราย
ของจิตใจและปรากฏออกมาภายนอก การคิดอยู่ในใจไม่วา่ จะชว่ั รา้ ยเพียงใดกต็ ามหรือแม้แต่การ 2. ครูและนักเรียนอภิปรายถงึ ความผดิ ทางอาญา
เคลื่อนไหวร่างกายซึ่งจิตใจบังคับไม่ได้ เช่น ระหว่างละเมอหรือเป็นลมบ้าหมู หรือเคล่ือนไหว พรอมทัง้ ยกตัวอยา งประกอบ
เพราะมผี ้อู ่ืนทา� ให้เคล่อื นไหวจนขัดขนื ไมไ่ ด้กไ็ ม่นับวา่ เป็นการกระท�า (แนวตอบ ความผดิ ทางอาญา เปนการกระทาํ
ทีม่ ผี ลกระทบตอสังคมหรอื คนสว นใหญ
นอกจากน้ี การกระท�ายังรวมถึงการให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้น โดยงดเว้น ในสงั คม ผูท กี่ ระทาํ ความผดิ จะตองไดร ับโทษ
การที่ต้องกระท�าเพื่อป้องกันผลนั้นด้วย เช่น บิดามารดามีหน้าท่ีตามกฎหมายต้องเลี้ยงดูบุตร ตามกฎหมายมากนอยเพยี งใดน้นั ข้ึนอยกู ับ
ซง่ึ ยงั เลก็ อยู่ ถา้ งดเวน้ เสยี ไมเ่ ลย้ี งดบู ตุ รโดยไม่ใหอ้ าหารเพอ่ื ใหบ้ ตุ รตาย หากบตุ รตาย บดิ ามารดา ความรายแรงของการกระทําความผิดนั้น
ย่อมมคี วามผดิ ฐานฆ่าบุตร เป็นต้น กรณตี วั อยา ง เชน นายขาวทะเลาะกบั นายดํา
นายขาวบันดาลโทสะใชไ มต ศี ีรษะนายดําแตก
๒) สภาพจิตใจ ปกติบุคคลผู้กระท�าการซ่ึงกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด นายดําไปแจง ความตอ เจาหนาที่ตํารวจให
ดาํ เนนิ คดกี ับนายขาวในขอหาทาํ รา ยรา งกาย)
จะต้องกระท�าโดยเจตนาให้เกิดผลจึงจะเกิดความผิดข้ึน ผู้กระท�ามีเจตนาที่จะกระท�าหรือไม่น้ัน
จะทราบได้โดยดูจากลักษณะการกระท�าของเขาเอง เช่น ใช้ปืนซึ่งเป็นอาวุธร้ายแรงยิงคนตรง
อวยั วะส�าคัญ ถอื ว่ามเี จตนาฆ่า เปน็ ต้น
ส�าหรับความผิดบางอย่างซ่ึงเกิดจากการท่ีกฎหมายต้องการให้บุคคลใช้ความ
ระมัดระวังเพ่ือไม่ให้เกิดผลร้ายขึ้น กฎหมายจะก�าหนดว่าเป็นความผิดถ้ากระท�าโดยประมาท
นอกจากนี้ ยังมีความผิดบางอย่างท่ีกฎหมายถือว่าผิด แม้เพียงแต่มีการกระท�าในลักษณะที่
กฎหมายระบุไว้เท่าน้ันก็จะต้องรับผิด โดยไม่ค�านึงว่าจะกระท�าโดยเจตนาหรือไม่ เช่น ความผิด
ท่ีมีโทษเบาหรือความผดิ ลหโุ ทษ เป็นตน้
๔.๓ ความรบั ผิดทางอาญา
บุคคลจะต้องรับผิดทางอาญา ต่อเมื่อได้กระท�าการซ่ึงกฎหมายที่ใช้ในขณะกระท�าน้ัน
บัญญัติเป็นความผิดและก�าหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่ผู้กระท�าความผิดจะต้องเป็นโทษ
ทบี่ ัญญตั ิไว้ในกฎหมาย หลักการน้มี ีอยู่ทั้งในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒ ซง่ึ ท�าใหไ้ มอ่ าจ
ออกกฎหมายเพอ่ื เอาผดิ และลงโทษทางอาญาย้อนหลังได้เพราะเปน็ โทษแก่บุคคล
แต่ถ้ามีกฎหมายออกมาภายหลัง อันเป็นคุณแก่ผู้กระท�ามากกว่า เช่น ยกเลิกความผิด
หรือกา� หนดโทษเบากวา่ สา� หรับความผิดนัน้ สามารถน�ามาใชย้ อ้ นหลังได้
1๗1
ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู
การกระทาํ ในขอ ใดถอื เปน ความผิดทางอาญา ครูอธิบายความรเู พ่มิ เติมเก่ยี วกับความผดิ ทางอาญาซึ่ง เปน ความผดิ ที่เกดิ จาก
1. ไมช าํ ระหนีบ้ ัตรเครดิตตามกาํ หนด การกระทําท่มี ีผลกระทบกระเทอื นตอสังคมหรอื คนสว นใหญข องประเทศ ผูก ระทาํ
2. พลัง้ มือทาํ กระถางตน ไมของเพ่ือนบานแตก ความผิด จะตองไดรับโทษตามกฎหมาย ขึน้ อยกู บั ความรา ยแรงของการกระทํา
3. เตะฟตุ บอลไปโดนรถยนตจ นเกดิ รองรอยเสียหาย ความผดิ ความผดิ อาญาแบง ออกเปน 2 ลกั ษณะ คอื
4. แอบหยิบขนมออกจากรา นสะดวกซอื้ เพราะไมอ ยากเสยี เงนิ
ความผิดตอแผน ดนิ หมายถงึ ความผดิ ในทางอาญา ซ่ึงนอกจากการกระทาํ น้ัน
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. เพราะถือเปน การลกั ทรัพย จะมผี ลตอตวั ผถู กู กระทาํ แลว ยงั มีผลกระทบทีเ่ สียหายตอ สังคมอกี ดว ย และรฐั ตอ ง
ปอ งกนั สงั คมเอาไวดว ยการเขา มาเปนผูเสยี หายเอง ดังนน้ั แมผูรบั ผลรายจากการ
ซงึ่ มคี วามผิดตามกฎหมายอาญา และถงึ แมว าเจาของทรพั ยจ ะไม กระทาํ โดยตรงจะไมติดใจเอาความ แตก ็ยังตองเขา ไปดาํ เนนิ คดีฟองรอ งเอาตวั
ตดิ ใจเอาความก็ยงั คงมคี วามผดิ อยู สวนในขอ อื่นๆ เปน ลักษณะ ผกู ระทาํ ผดิ มาลงโทษใหได
ความผิดทางแพง ทั้งหมด
ความผดิ อนั ยอมความกนั ได หมายถงึ ความผิดในทางอาญาซงึ่ ไมม ผี ลราย
กระทบตอ สังคมโดยตรง หากตวั ผรู บั ผลรายไมตดิ ใจเอาความแลว รัฐกไ็ มอาจ
ยนื่ มือเขา ไปดําเนนิ คดกี บั ผูกระทาํ ความผดิ ได และถึงแมจ ะดาํ เนินคดีไปแลว
เมื่อตัวผเู สยี หายพอใจยตุ คิ ดีเพียงใดกย็ อมทาํ ไดดวยการถอนคํารอ งทกุ ข ถอนฟอ ง
หรือยอมความ เชน ความผดิ ฐานหมน่ิ ประมาท ความผิดเกยี่ วกับเสรีภาพ เปน ตน
คู่มือครู 171
กระต้นุ ความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
ครูใหนกั เรียนชว ยกันบอกโทษทางอาญา วา มี ประมวลกฎหมายอาญาภาคหนง่ึ เปน็ บทบญั ญตั ทิ ว่ั ไปและสามารถนา� ไปใชก้ บั กฎหมายอาญา
กี่ระดบั และโทษในแตล ะระดบั มลี กั ษณะอยางไร
ฉบบั อน่ื ได้ เวน้ แตก่ ฎหมายนนั้ จะกา� หนดไวเ้ ปน็ อยา่ งอน่ื โดยได1ก้ า� หนดวา่ โทษทางอาญามี ๕ อยา่ ง
(แนวตอบ โทษทางอาญา มี 5 อยาง เรยี งลาํ ดบั ไดแ้ ก่ ประหารชวี ติ จา� คกุ กกั ขงั ปรบั และรบิ ทรพั ยส์ นิ
จากโทษระดับหนักท่ีสดุ ไปถงึ โทษระดบั เบาทส่ี ดุ
ไดแ ก เรยี งตามล�าดับต้งั แต่โทษหนักทส่ี ดุ ลงมา กฎหมายใด
1. ประหารชีวติ ที่ก�าหนดว่าผู้กระท�ามีความรับผิดเป็นโทษอย่างใด
2. จาํ คกุ คือ นําตัวไปขงั ไวท ่เี รือนจาํ
3. กกั ขัง คือนําตวั ไปขงั ไว ณ ทีอ่ ่ืน ท่ไี มใ ช อย่างหนง่ึ ๕ ประการนี้ ย่อมเป็นกฎหมายทางอาญา
เรือนจาํ เชน นาํ ไปขังไวที่สถานตี าํ รวจ การกระท�าความผิดในบางกรณี แม้จะกระท�า
4. ปรับ คือ นําคา ปรบั ซง่ึ เปนเงินไปชาํ ระใหแ ก
นอกดินแดนไทยก็ถือเป็นความผิดต่อราชอาณาจักร
เจาพนกั งาน
5. รบิ ทรพั ยสนิ คือ รบิ เอาทรพั ยส ินน้ันเปน ไทย เชน่ ท�าในเรือไทย อากาศยานไทย เปน็ ตน้
ของหลวง เชน ริบทรัพยสนิ ของผูค า เจ้าหน้าท่ีตำารวจมีหน้าที่จับกุมผู้ท่ีกระทำาผิด บคุ คลตอ้ งรบั ผดิ ทางอาญาแมก้ ระทา� ไมค่ รบถว้ น
ยาเสพติด เปน ตน) กฎหมาย และสามารถยึดของกลางไว้เป็นหลักฐาน ตามเจตนา เรียกว่า “พยายามกระท�าความผิด” ซ่งึ จะ
ได้ ตามประมวลกฎหมายอาญา ได้รับโทษในสัดส่วนท่ีน้อยกว่ากระท�าความผิดส�าเร็จ
ตามเจตนา ผ้รู ว่ มกระท�าความผิด หากรว่ มมือร่วมใจในการกระท�าโดยการเปน็ “ตัวการ” จะตอ้ ง
ได้รับโทษเช่นเดียวกับตัวการอื่น แต่ถ้าเป็นเพียง “ผู้สนับสนุน” คือ เพียงแต่ให้ความช่วยเหลือ
หรอื อ�านวยความสะดวกในการกระทา� ความผดิ ก่อนหรือขณะกระท�าจะได้รับโทษในอัตราที่ลดลง
ทัง้ นีผ้ ูม้ สี ่วนกอ่ ให้ผอู้ ื่นท�าความผิดจะได้รับโทษตามทีก่ ฎหมายก�าหนด บางครั้งการกระท�า
อาจไม่เป็นความผิด เช่น การกระท�าเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือของผู้อื่นให้พ้นจาก
ภัยอันตราย ซ่ึงเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภัยอันตรายท่ีใกล้จะถึง
โดยกระท�าพอสมควรแก่เหตุ การกระท�าน้ันเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้กระท�า
ไม่มีความผิดหรือได้รับยกเว้นโทษ เช่น กระท�าความผิดด้วยความจ�าเป็น เพราะอยู่ในที่บังคับ
หรือภายใต้อ�านาจอันไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือเพราะเพ่ือให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจาก
ภัยอันตรายทใี่ กล้จะถงึ และไมส่ ามารถหลกี เลีย่ งใหพ้ น้ โดยวิธอี ืน่ ใดได้ เม่ือภยั อนั ตรายนั้นตนมไิ ด้
ก่อใหเ้ กดิ ข้ึนเพราะความผิดของตน
๔.๔ ความผิดทางอาญา
ความผิดทางอาญาทีค่ วรรู้ ไดแ้ ก่
๑) ความผดิ ตอ่ ชวี ติ และตอ่ รา่ งกาย ใหค้ วามคมุ้ ครองตอ่ สทิ ธใิ นรา่ งกายของบคุ คล
หน่ึงๆ ไม่ให้ถูกประทุษร้ายโดยผู้อ่ืน และขณะเดียวกันผู้นั้นต้องไม่ประทุษร้ายผู้อื่นด้วย ฉะนั้น
จึงจดั ใหเ้ ป็นกฎหมายเกย่ี วกบั ตนเอง
1๗2
เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การกระทาํ อยางไรเปน ความผดิ ทางอาญาที่มีโทษเบา จาํ คกุ
ครเู พ่มิ เตมิ วา บคุ คลจะตองไดร บั โทษทางอาญาตอ เมอ่ื ไมเ กนิ 1 เดือน หรอื ปรบั ไมเ กิน 1,000 บาท หรือท้ังจาํ ทง้ั ปรบั
1. การกระทําอนั กฎหมายทใี่ ชใ นขณะกระทํานนั้ บัญญัตเิ ปน ความผิด 1. ชิงทรพั ย
2. กฎหมายทใี่ ชใ นขณะนนั้ ตองกาํ หนดโทษไวด วย การลงโทษตอ งเปน โทษ 2. ฆาคนตาย
3. ดหู มิน่ ซึ่งหนา
ทีก่ ําหนดไวใ นกฎหมาย เชน กฎหมายกาํ หนดโทษปรับ ศาลจะตดั สนิ ลงโทษ 4. หม่ินประมาท
จําคกุ ไมไ ด หรือแมศาลจะลงโทษปรบั ศาลก็ลงโทษปรับเกนิ อัตราขั้นสูง วิเคราะหค ําตอบ ตอบขอ 3. ความผดิ ทางอาญาทมี่ โี ทษเบา
ที่กฎหมายกาํ หนดไวไมได หรอื ความผดิ ลหุโทษ เชน การดหู มิน่ ซง่ึ หนา การสง เสยี งดงั รบกวน
ผอู ื่น ทาํ ใหผอู ่ืนขดั ยอกหรอื ฟกชํา้ สวนความผิดฐานฆา คนตาย
นักเรยี นควรรู ชิงทรัพย เปน ความผิดตอ รางกาย เปนอาญาแผนดนิ ซึ่งถือเปน
ความผดิ ทย่ี อมความกันไมได
1 ประหารชวี ติ ปจจบุ นั กระทรวงยตุ ิธรรมไดป รับเปล่ียนการประหารชวี ิตนกั โทษ
จากการยงิ เปา มาเปน การฉีดยาหรอื ฉดี สารพษิ เขาสรู างกายใหเสียชีวติ แทน
ตามแบบอยางในหลายประเทศ โดยใชน บั ตั้งแต พ.ศ. 2546 เปน ตนมา
172 คมู่ ือครู
กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
๑.๑) ความผิดต่อชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ 1เรียกว่า 1. ครนู ําสนทนาเกีย่ วกับความผิดทางอาญา
พรอมยกตัวอยางกรณีศึกษาความผิด
ความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือบางทีก็เรียกว่า ความผิดฐานฆ่าผู้อ่ืน คือ การท�าให้ผู้อื่น ทางอาญา จากนนั้ ครูถามคําถาม
• บคุ คลจะตอ งรบั ผดิ ทางอาญาเมอื่ ใด
ซ่งึ มีสภาพเปน็ บุคคลแลว้ ถึงแกค่ วามตายโดยเจตนานั่นเอง (แนวตอบ บุคคลจะตอ งรบั ผิดทางอาญาและ
ไดรับการลงโทษเมื่อเปนการกระทํา ดังนี้
การฆ่าจะกระท�าโดยวิธีใดไม่ส�าคัญ ความผิดน้ีเกิดข้ึนเม่ือผู้ถูกกระท�าถึงแก่ - เปนการกระทาํ โดยเจตนา
- การกระทาํ ทไ่ี มเจตนา แตต องเปน ไปตาม
ความตาย ถา้ ลงมือฆา่ แลว้ เขาไม่ตาย กเ็ ปน็ เพียงการพยายามฆา่ เทา่ นัน้ ซ่ึงมโี ทษเบากวา่ ท่กี ฎหมายบญั ญัติ โดยแจง ชัดใหร บั ผิด
แมก ระทําโดยไมเ จตนา
การฆ่าผู้อื่นในบางกรณีกฎหมายถือว่าร้ายแรงเป็นพิเศษและก�าหนดให้ผู้กระท�า - กระทําโดยประมาท แตต องเปน กรณี
ทีก่ ฎหมายบัญญัติใหตองรับผิดเมอ่ื ได
ต้องระวางโทษประหารชีวิตอย่างเดียวเท่าน้ัน เช่น ฆ่าบิดาหรือมารดาของตน ฆ่าเจ้าพนักงาน กระทาํ โดยประมาท การกระทํา
โดยประมาท คือ การกระทําความผิด
ในขณะกระท�าตามหน้าท่ี เป็นต้น แต่การฆ่าผู้อื่นที่กฎหมายให้ท�าได้ เช่น การประหารชีวิต มใิ ชโ ดยเจตนา แตก ระทําโดยปราศจาก
ความระมัดระวัง ซึ่งบุคคลในภาวะเชนนนั้
การฆ่าข้าศึกของประเทศในการรบยอ่ มไม่เป็นความผิด เปน็ ต้น จะตองมตี ามวสิ ยั และพฤติการณ
และผูกระทาํ อาจใชค วามระมัดระวัง
การไม่ใช้ความระมัดระวังให้เพียงพอหรือประมาทจนเป็นเหตุให้บุคคลถึงแก่ เชนวานไ้ี ด แตห าไดใ ชใหเ พียงพอไม)
ความตายก็เป็นความผิดเช่นกัน แสดงว่ากฎหมายคุ้มครองชีวิตของบุคคลไม่เฉพาะแต่จากการ 2. ครยู กกรณีศึกษาเก่ยี วกับการกระทําตางๆ
ใหนกั เรยี นชว ยกันบอกวา การกระทาํ ดังกลา ว
กระท�าโดยตงั้ ใจของผ้อู ่นื เท่านน้ั หากรวมถงึ การกระทา� โดยไม่ใชค้ วามระมดั ระวังให้เพียงพอดว้ ย ผิดกฎหมายอาญาหรอื ไม และเปน การกระทํา
โดยเจตนา การกระทําโดยไมเ จตนา หรือเปน
๑.๒) ความผิดต่อรา่ งกาย ประมวลกฎหมายอาญาให้ความคุ้มครองตอ่ ร่างกาย การกระทําโดยประมาท ยกตัวอยา ง เชน
นอยหนาทะเลาะกับลําไย นอยหนา พดู เถียงสู
ของบุคคล โดยบัญญัติให้การท�าร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายเป็นความผิดฐานท�าร้าย ลําไยไมไ ด จึงตบหนาลาํ ไย 1 ที นอ ยหนา
มคี วามผดิ ทางอาญา ฐานทาํ รา ยรางกาย
ร่างกาย การทา� ร้ายอาจเปน็ การท�าใหร้ ่างกายเปน็ อนั ตราย เช่น บาดเจ็บ แตกหัก บบุ สลาย หรือ โดยเจตนา
ท�าให้จิตใจเป็นอันตราย หมายถึง การกระท�าท่ีมีผลกระทบต่อการส่ังการของสมอง เช่น
ใสย่ ากดประสาทในเครือ่ งดื่มให้ผอู้ ืน่ กินจนท�าใหห้ มดสติ หรือเสยี สติกไ็ ด้
การท�าร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ เช่น
ท�าให้ขัดยอกหรือฟกช�้า เป็นเพียงความผิดลหุโทษ แต่ถ้าการท�าร้ายร่างกายนั้นเป็นเหตุให้ผู้อ่ืน
ได้รับอันตรายสาหัส เช่น เป็นเหตุให้บุคคลตาบอด หูหนวก เสียแขน ขา มือ เท้า นิ้ว หรือ
เสยี ความสามารถในการสบื พนั ธ์ุ ผกู้ ระทา� จะตอ้ งไดร้ บั โทษหนกั กวา่ การกระทา� ความผดิ ฐานทา� รา้ ย
รา่ งกายธรรมดา หรือถา้ เป็นเหตุให้บุคคลนนั้ ตาย ผ้กู ระท�าก็ต้องรับโทษหนกั ขนึ้
๒) ความผิดต่อทรัพย์สิน กฎหมายอาญาให้ความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินของ
บุคคลไว้หลายกรณี โดยการเอาผิดและลงโทษการกระท�าที่เป็นการรบกวนสิทธิในทรัพย์สินของ
เขาโดยมชิ อบท่สี า� คญั ไดแ้ ก่ 2ประมวลกฎหมายอาญาเอาผิดกับผู้ซึ่งเอาทรัพย์
๒.๑) ความผิดฐานลักทรัพย์
ของผ้อู ่ืนหรือท่ผี ้อู ่ืนเปน็ เจ้าของรวมอยู่ดว้ ยไปโดยทุจริต ซง่ึ กระท�าได้แตก่ บั สงั หาริมทรพั ย์เท่าน้นั
เชน่ ขดุ ดินในทขี่ องผอู้ ืน่ โดยไม่ไดร้ ับอนุญาตแล้วขนดนิ นัน้ ไปขายเสีย เอากระแสไฟฟ้าของผู้อ่ืน
ไปใช้โดยทจุ ริต เปน็ ต้น
1๗3
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นักเรยี นควรรู
นายมงั คุดมอี าชีพเปน ชา งตัดเย็บเส้อื ผา มอื ถือกรรไกรตัดผา 1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ผูใดฆาผูอ ื่น ตอ งระวางโทษประหารชวี ิต
หยอกลอ กบั นางลําไยซ่ึงเปนภรรยาดวยความรัก กรรไกรเกิดหลุดมอื จาํ คุกตลอดชีวติ หรือจําคุกต้งั แตสบิ หาป ถึงยสี่ ิบป
กระเด็นไปโดนประตูแลวสะทอ นมาโดนขอ เทา ของนางลําไย 2 ลกั ทรพั ย คือ การเอาทรัพยของผูอื่นไป โดยท่ีเจา ของไมยนิ ยอมแมตอ มาเจา ของ
ถูกเสน เลือดใหญขาด เลอื ดไหลไมหยดุ ทําใหน างลาํ ไยถึงแก จะสงสารไมต ิดใจเอาความ ก็ยังคงเปน ความผดิ ฐานลกั ทรพั ยเพราะเปน ความผดิ
ความตาย ทางอาญาทไี่ มสามารถยอมความกันได
กรณดี งั กลา ว นายมงั คุดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
หรอื ไม เพราะเหตุใด มุม IT
แนวตอบ นายมงั คุดมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐาน
กระทาํ ใหค นตายโดยประมาท เนอื่ งจากการกระทาํ ของนายมังคดุ ศกึ ษาคน ควา ขอ มลู เพม่ิ เติมเกี่ยวกบั ประมวลกฎหมายอาญา ไดท ่ี
เปนการกระทําโดยปราศจากความระมดั ระวงั http://web.krisdika.go.th/data/law/law4
คูม่ ือครู 173
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore
Explain Explain Expand Evaluate
อธบิ ายความรู้
ครูยกตัวอยางกรณศี ึกษาความผิดทางอาญา
ทเี่ ปนความผิดตอ ทรัพยสิน ใหน ักเรียนรว มกัน
อภปิ รายความผดิ เกีย่ วกับทรัพย ๒.๒) ความผิดอย่างอ่ืนซึ่งเก่ียวเน่ืองกับความผิดฐานลักทรัพย์ ประมวล
กฎหมายอาญาบญั ญตั คิ วามผดิ ตอ่ ทรพั ยห์ ลายฐาน ซงึ่ เกดิ จากการลกั ทรพั ยโ์ ดยมเี งอ่ื นไขอยา่ งอนื่
(แนวตอบ ตัวอยางความผิดทางอาญาทเี่ ปน เพมิ่ ข้นึ ไดแ้ ก่
ความผิดตอ ทรัพยส นิ เชน
๑. ว่งิ ราวทรพั ย์ คือ การลกั ทรัพยโ์ ดยการฉกฉวยเอาทรัพยน์ ั้นไปซ่งึ หน้า
การลกั ทรัพย ซงึ่ การลักทรพั ย คอื การเอา ของเจา้ ของทรัพย์ ซึ่งถือว่าเปน็ การกระท�าท่อี กุ อาจกวา่ ลักทรัพย์ตามธรรมดา
ทรพั ยข องผูอืน่ หรือทผ่ี อู ื่นเปนเจาของรวมอยูด วย
ไปโดยตองการจะครอบครองทรัพยน้นั ไว เพ่ือตนเอง ๒. ชงิ ทรพั ย์ คอื การลกั ทรพั ยโ์ ดยใชก้ า� ลงั ประทษุ รา้ ยหรอื ขเู่ ขญ็ วา่ ในทนั ใด
เอาไปขายหรอื ใหกับบุคคลอน่ื ก็ตามแต ผทู ่กี ระทาํ โดยการใชก้ �าลังประทุษร้ายเพ่อื ใหไ้ ด้ทรพั ย์ไป หรือเพื่อปกปดิ การลกั ทรัพยน์ ั้น หรือเพอ่ื ใหพ้ ้นจาก
ความผิดฐานลกั ทรพั ยจะตองถูกระวางโทษไมเ กิน การจับกุมซึ่งถือว่าเปน็ การกระท�าที่รนุ แรงกวา่ ลักทรัพยต์ ามธรรมดา
3 ป และปรับไมเ กนิ 6 พันบาท
๓. ปล้นทรพั ย์ คือ การชงิ ทรัพย์โดยร่วมกนั กระท�าความผิดด้วยกัน ตัง้ แต่
การยกั ยอกทรพั ย คือ การท่ีทรพั ยนน้ั ไดต กมา ๓ คนขน้ึ ไป ซึง่ ถือว่ารุนแรงกว่าการชงิ ทรพั ยข์ ้นึ ไปอีก
อยูใ นความครอบครองของบุคคลหนงึ่ แลวบุคคลนนั้
ไดยดึ ไวเ พ่ือเปน ประโยชนกบั ตนเอง ซงึ่ ทําใหเจา ของ ๒.๓) ความผดิ ฐานยกั ยอก ความผดิ ฐานยกั ยอกตา่ งจากความผดิ ฐานลกั ทรพั ย์
ทรัพยไ ดร ับความเสียหาย เชน เพราะความผิดฐานลักทรัพย์เป็นการเอาทรัพย์ไปจากการครอบครองของผู้อ่ืน แต่ความผิดฐาน
นายดาํ ยืมคอมพิวเตอรโ นตบกุ ของนายเขยี วไวใช ยกั ยอกเปน็ การเบยี ดบงั ทรพั ยข์ องผอู้ น่ื หรอื ทผ่ี อู้ น่ื เปน็ เจา้ ของรวมอยดู่ ว้ ย ซงึ่ อยใู่ นความครอบครอง
แตเหน็ วา ใชง านไดดีจงึ ไมค นื ในกรณเี ชน นี้ นายดาํ ของผู้กระท�าผิดเอง เช่น มีผู้ฝากหนังสือของเขาไว้กับผู้กระท�าความผิด แล้วผู้กระท�าความผิด
มีความผิดฐานยักยอกทรพั ย ซง่ึ จะตองถกู ระวาง
โทษไมเ กิน 3 ป หรอื ปรับไมเ กนิ 2 พันบาท เอาไปขายใหผ้ อู้ ่นื เพื่อเอาเงินคา่ หนังสอื นนั้ เสีย เปน็ ตน้
หรือทงั้ จําท้งั ปรบั ) ๒.๔) ความผิดอ่ืนที่เก่ียวกับทรัพย์สิน นอกจากความผิดที่ส�าคัญดังกล่าว
มาแลว้ ประมวลกฎหมายอาญายังไดบ้ ญั ญตั คิ วามผดิ ต่อทรัพยส์ ินไว้อกี หลายอย่าง เชน่ ความผดิ
ฐานฉ้อโกงเป็นการหลอกลวงเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป ความผิดฐานท�าให้เสียทรัพย์เป็นการท�าลาย
ขยายความเขา้ ใจ Expand ทรัพย์ของผู้อ่ืนหรือท�าให้ทรัพย์ของผู้อ่ืนเสียหาย ความผิดฐานบุกรุกเป็นการเข้าไปเพื่อถือ
รกบัารขคอรงอโจบรคเ1รปอน็ งกหารรชอื รว่ บยรกบัวนทกรพัารยคท์ รไ่ีอดบม้ คารจอางกอกสางั รหการระมิททา� ครพัวายมข์ ผอดิงผเกอู้ ยี่ น่ื วโกดบัยทปรกพัตยสิ ข์ขุ อแงลผะอู้ คน่ื วไาวม้ เผปดิ น็ ฐตาน้น
ครูใหนักเรยี นจบั คยู กตัวอยางกรณีศกึ ษา
เก่ียวกับความผิดทางอาญา คูละ 2 กรณศี ึกษา ๕. กฎหมายอื่นที่ควรรู้
ใหว ิเคราะหความผิดและผลกระทบตอสังคมวา
หากเกิดเหตกุ ารณด งั กลา วในสงั คมแลวไมมกี าร นอกจากกฎหมายแพ่งและกฎหมายที่เก่ียวข้องกับสภาพบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องท่ีใกล้ตัว
ลงโทษผกู ระทาํ ความผดิ จะกอใหเกดิ ผลอยา งไร เราเอง และกฎหมายอาญาซ่ึงเก่ียวกับการกระท�าอันเป็นความผิดและเป็นผลให้ผู้กระท�าจะต้อง
บนั ทึกสาระสาํ คัญ พรอมท้งั ใหนักเรียนในช้ัน ได้รับโทษ เน่ืองจากกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยของส่วนรวม รวมทั้งกฎหมาย
ชวยกันอภปิ รายแสดงความคิดเหน็ แพ่งเก่ียวกับเร่ืองสัญญาซ่ึงมีเนื้อหาว่าด้วยการผูกความสัมพันธ์ทางกฎหมายระหว่างบุคคลแล้ว
ยังมีกฎหมายอื่นที่สมควรรู้ เพ่ือให้สามารถพัฒนาตนเองและสามารถสร้างความม่ันคงให้แก่
ตรวจสอบผล Evaluate ตนเองและสว่ นรวมได้ ดงั น้ี
ครตู รวจสอบความถกู ตอ งจากบันทึก 1๗4
การวเิ คราะหความผิดทางอาญา และประเมิน
การนาํ เสนอผลงานหนาช้ันเรยี น ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
นกั เรียนควรรู
1 รบั ของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 ไดก าํ หนดลักษณะการ ความผิดฐานยักยอกทรัพยม ีลักษณะอยางไร
กระทําผดิ และโทษจากการกระทําผิดวา ผูใดชวยซอ นเรน ชว ยจาํ หนาย ชว ยพาเอา 1. ลกั ทรพั ยโดยฉกฉวยซ่ึงหนา
ไปเสีย ซ้อื รบั จาํ นาํ หรือรับไวโ ดยประการใดซ่ึงทรัพยอ ันไดม าโดยการกระทาํ 2. รว มกนั ชิงทรัพยตั้งแต 3 คน ขึน้ ไป
ความผิด ถาความผดิ น้ันเขา ลกั ษณะลกั ทรัพย ว่ิงราวทรัพย กรรโชก รดี เอาทรัพย 3. เอาอสังหาริมทรัพยข องผูอ่นื ไปโดยทุจรติ
ชงิ ทรัพย ปลน ทรัพย ฉอ โกง ยกั ยอก หรอื เจาพนกั งานยักยอกทรพั ย ผนู ั้นกระทาํ 4. เบยี ดบังเอาทรพั ยข องผอู ืน่ ทีฝ่ ากไวไปขายเพ่ือเอาเงิน
ความผิดฐานรับของโจร ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเกินหาป หรือปรับไมเ กนิ
หนงึ่ หม่ืนบาท หรือทง้ั จําทง้ั ปรับ มาเปน ของตนเอง
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. การยกั ยอกทรพั ย หมายถงึ
การทท่ี รัพยน น้ั ไดต กมาอยูใ นความครอบครองของบุคคลหนึ่ง
แลว บคุ คลนน้ั ไดยึดเพ่ือไวเปน ประโยชนกับตนเอง ซ่ึงทาํ ให
เจา ของทรัพยไ ดรบั ความเสยี หาย ซง่ึ ตรงกับตัวเลอื กที่ 4.
โดยความผิดดงั กลา วจะตอ งถกู ระวางโทษไมเ กนิ 3 ป หรอื ปรบั
ไมเ กนิ 2 พนั บาท หรอื ทง้ั จาํ ทั้งปรบั
174 คมู่ ือครู
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Evaluate
Explain Expand Engage
กระตนุ้ ความสนใจ
ครูนาํ ขา วคราวเก่ียวกบั การเกณฑท หาร
มาสนทนากบั นักเรยี น ครถู ามคาํ ถาม
๕.๑ กฎหมายเกย่ี วกบั การรบั ราชการทหาร • ทําไมชายไทยตอ งเขา รับการเกณฑท หาร
หากไมเขา เกณฑท หารจะไดร บั โทษ
การรับราชการทหารเป็นหน้าที่ส�าคัญประการหน่ึงของประชาชนชาวไทย พระราชบัญญัติ อยา งไร
รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗ ก�าหนดให้ชายผู้มี (แนวตอบ การเขารับการเกณฑทหารถอื เปน
จสัญะตช้อางตไิไปทขยม้ึนีหบนัญ้าชทีที่รับหราารชกกอางรเทกหินาเ1รมดื่อ้วอยตาัยวเุ อ๑ง๘โดปยี หนา ทขี่ องชายไทย ท่มี อี ายยุ า งเขา 21 ป
ยกเว้นสามเณรที่สอบเปรียญได้แล้วและผู้ซ่ึงอยู่ใน บรบิ รู ณ ท่ีตองเขารบั การเกณฑทหารเพื่อ
ระหว่างควบคุมหรือคุมขังของเจ้าพนักงาน ท่ีได้รับ เปนการปกปอ งประเทศชาติ ผูท่ไี มเ ขา รับ
ยกเวน้ ไมต่ อ้ งไปแสดงตวั เพอ่ื ลงบญั ชีทหารกองเกิน การเกณฑท หารมคี วามผิด ตอ งระวางโทษ
จาํ คกุ หรือปรบั หรือทัง้ จําท้ังปรับ)
ทั้งน้ีเมื่อทหารกองเกินมีอายุย่างเข้า ๒๑ ปี
ก็จะต้องไปแสดงตนเพื่อรับหมายเรียกจากนายอ�าเภอ ชายไทยเมื่อมีอายุ 18 ปี จะต้องไปขึ้นบัญชีทหาร สา� รวจคน้ หา Explore
กองเกิน และเมื่ออายุย่างเข้า 21 ปี มีหน้าท่ีจะ
ท้องท่ี และต้องไปให้คณะกรรมการท�าการตรวจเลือก ต้องไปแสดงตนเพื่อรับการตรวจเลือกทหารกอง 1. นกั เรยี นศึกษากฎหมายเก่ียวกับการรบั ราชการ
ว่าจะให้เป็นทหารกองประจ�าการหรือไม่ ในเดือน ประจาำ การ ทหาร กฎหมายเก่ยี วกับภาษี กฎหมายวา ดวย
เมษายนของทกุ ปี การคมุ ครองผูบริโภค จากหนังสือเรยี น
หนา 175-179
ผู้ที่ข้ึนบัญชีทหารกองเกินถ้าได้รับการตรวจเลือกให้เป็นทหารกองประจ�าการจะต้อง
2. ครแู บง นักเรียนออกเปน 3 กลมุ เพ่อื ศึกษา
รับราชการเป็นทหารมีก�าหนด ๒ ปี เว้นแต่จะอยู่ในข่ายได้รับผ่อนผัน เนื่องจากมีคุณวุฒิพิเศษ กฎหมายตอ ไปน้ี แลว สรปุ ความรู นาํ เสนอ
ในชนั้ เรียน
หรอื มีเหตผุ ลพเิ ศษตามทก่ี ฎหมายก�าหนดไว้ เชน่ บคุ คลซึ่งส�าเรจ็ การฝกึ วิชาทหารตามหลกั สูตร กลมุ ที่ 1 กฎหมายเกยี่ วกบั การรบั ราชการทหาร
กลมุ ที่ 2 กฎหมายเกีย่ วกับภาษี
ทตข้ึนาี่กมรทะทะทเ่ีกบร�าวียหงนกนกลดอาใงโนหปกมรฎะกจก�า�ารหกะนาทดรรแวตลงา้วมปจกละฎใดหหเป้รมับ็นารทยาวหช่าาดกร้วากยรอทกงาหหรานสรุน่งกเป3สอรรงะิมปเกภราะทรจฝ�า๑ึกกวาิชโรดาน2ยก้อไายมรกท่ตวห้อ่างาสเรขอแ้าลงรปะับมี รีลหาักชรษือกณใาหระ้ กลมุ ที่ 3 กฎหมายเกี่ยวกับการคุม ครอง
ผบู รโิ ภค
ทหารกองประจ�าการกไ็ ด้
การรับราชการทหารท�าให้บุคคลได้ปฏิบัติหน้าท่ีส�าคัญต่อประเทศชาติ คือ ช่วยปกป้อง
เอกราชของชาติไว้ นบั เปน็ การรบั ใชถ้ ิ่นกา� เนิดทน่ี ่าภมู ิใจยิ่งของชาวไทย ดงั นัน้ หากผู้ใดฝ่าฝืน
ไม่ไปรับหมายเรียกจะมีความผิดถูกจ�าคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามร้อยบาท หรือ อธบิ ายความรู้ Explain
ทั้งจ�าท้ังปรับ แต่ถ้าบุคคลน้ันส�านึกในความผิดไปรายงานตัวเพื่อรับหมายเรียกก่อนที่เจ้าหน้าที่ ครูใหน กั เรียนกลมุ ที่ 1 นาํ เสนอผลงานการ
จะยกเรื่องขึ้นพจิ ารณา ก็จะถูกลงโทษจา� คกุ ไม่เกนิ หน่ึงเดอื น หรือปรับไม่เกินหนง่ึ ร้อยบาท หรอื ศึกษาคน ควา กฎหมายการเกณฑทหารในประเดน็
ทง้ั จา� ทัง้ ปรบั
• ความหมาย สาระสําคญั ของกฎหมาย
1๗5 เกีย่ วกบั การรับราชการทหาร
• คณุ สมบัติของชายไทยเพ่อื การตรวจเลือก
เขาเปนทหาร
• การยกเวนการตรวจเลอื กเขา เปนทหาร
• โทษของผหู ลบเลยี่ งตรวจเลือกเขาเปน ทหาร
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
นกั เรยี นควรรู
เมือ่ ชายไทยมอี ายคุ รบ 18 ปบรบิ ูรณ จะตองปฏิบตั ติ ามกฎหมาย 1 ทหารกองเกนิ คอื ชายซึง่ มีอายุต้ังแต 18 ปบรบิ ูรณและยังไมถ ึง 30 ปบริบรู ณ
เก่ยี วกบั การรบั ราชการทหารอยางไร ซ่งึ ไดล งบญั ชีทหารกองเกินแลว
2 ทหารกองประจําการ คือ ชายซ่งึ ขน้ึ ทะเบียนกองประจําการและไดเ ขารบั
1. ตองไปขึน้ ทะเบยี นทหารกองเกิน ราชการทหารในกองประจาํ การจนกวา จะไดปลด บคุ คลทีอ่ ยใู นกําหนดออกหมาย
2. ตอ งไปสมคั รเปนทหารกองหนุน เรียกมาตรวจเลอื กเขาเปนทหารกองประจาํ การน้ัน คือ ผูทเ่ี ปนทหารกองเกนิ
3. ตอ งไปรับราชการเปนทหารกองประจําการ ประเภท 1 ในเดอื นตุลาคมทุกป นายอําเภอจะประกาศใหทหารกองเกนิ ทม่ี อี ายยุ า ง
4. ตองไปรับการตรวจเลอื กทหารประจาํ การ เขา 21 ป ใน พ.ศ. นัน้ ไปแสดงตนเพ่ือรับหมายเรยี กทอ่ี ําเภอ
3 ทหารกองหนุน คอื ทหารซึง่ รับราชการในกองประจําการครบกําหนดตาม
วเิ คราะหคําตอบ ตอบขอ 1. เนือ่ งจากพระราชบญั ญตั ิรบั กฎหมาย หรือทหารกองเกนิ ซง่ึ มีอายุครบ 29 ปบรบิ รู ณ หรอื ทหารซง่ึ ปลดจากกอง
ประจําการโดยตอ งจาํ ขัง หรือจําคกุ มีกาํ หนดวันท่จี ะตอ งทณั ฑหรือตอ งโทษรวมได
ราชการทหาร พ.ศ. 2497 กาํ หนดใหผ มู สี ญั ชาติไทยมีหนา ท่ีตอ ง ไมนอยกวา 1 ป หรือกระทาํ ความเสอ่ื มเสยี ใหแ กราชการทหารแลว ถกู ปลดเปน
เขา รับราชการทหารดวยตนเอง โดยตอ งไปขึน้ บญั ชีทหารกองเกนิ
เม่อื อายุ 18 ป และเม่ืออายุยางเขา 21 ป มีหนา ท่ตี อ งไปแสดงตน
เพ่อื เขา รับการตรวจเลอื กทหารกองประจาํ การตอไป
ทหารกองหนุน
ค่มู ือครู 175
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูนําสนทนาถึงทีม่ าของรายไดเ พ่อื นํามาใชใ น
การพัฒนาประเทศจากการเก็บภาษีประเภท
ตางๆ แลว นํามาจดั ทาํ เปนงบประมาณ ๕.๒ กฎหมายเกีย่ วกับภาษี
เพ่ือจัดสรรรายไดใ หกับกระทรวงตา งๆ ภาษี คือ เงินท่ีรัฐรวมทั้งท้องถิ่นท่ีได้รับมอบหมายอ�านาจรัฐเรียกเก็บจากบุคคล เพื่อ
เพ่ือนํามาใชใ นการพฒั นาประเทศ การจัดใหมี
สาธารณูปโภคพ้นื ฐานตางๆ เพื่ออาํ นวยความ ใช้จ่ายในการบริหารประเทศหรือท้องถิ่น การเสียภาษีให้รัฐจึงเป็นหน้าท่ีส�าคัญของพลเมือง
สะดวกใหก บั ประชาชน การจัดใหมสี วสั ดกิ าร เพราะเป็นการมอบรายได้หรือทรัพย์สินส่วนหน่ึงของตนให้แก่รัฐหรือท้องถ่ิน เพ่ือน�าไปใช้
ตางๆ เพ่อื การมคี ณุ ภาพชวี ิตท่ดี ี จากนั้นให ท�าประโยชนแ์ ก่ชุมชนเปน็ สว่ นรวมตอ่ ไป ซึง่ ภาษีท่ีนักเรยี นควรรู้ มีดงั นี้
๑) ภาษีเงินได้ คือ ภาษีท่ีจัดเก็บจากบุคคลทั่วไปหรือจากหน่วยภาษีท่ีมีลักษณะ
นักเรียนชว ยกนั ประเมนิ วา ในแตละป รฐั บาล พิเศษตามท่ีกฎหมายก�าหนดและมีรายได้เกิดขึ้นตามเกณฑ์ท่ีก�าหนด โดยปกติจัดเก็บเป็นรายปี
สามารถจัดเกบ็ ภาษีไดต ามเปาหมายที่กําหนด
หรอื ไม เพราะเหตุใด ครูถามคําถาม รายได้ท่ีเกิดข้ึนในปีใดๆ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องน�าไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดง
• รฐั บาลควรมีมาตรการอยา งไรเพื่อใหส ามารถ รายการภาษีท่ีก�าหนด ภายในเดือนมกราคมถึงมีนาคมของปีถัดไป ผู้มีหน้าท่ีเสียภาษีเงินได้
บุคคลธรรมดา ไดแ้ ก่ ผู้ทมี่ ีเงนิ ไดเ้ กดิ ขนึ้ ระหวา่ งปที ีผ่ า่ นมา โดยมีสถานะอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใด ดังนี้
จัดเกบ็ ภาษีไดต ามเปาหมายที่กําหนด
(แนวตอบ รัฐบาลควรมมี าตรการกระตุน ๑. บุคคลธรรมดา
สง เสริม สรา งจิตสาํ นกึ ใหประชาชนผูมี ๒. ห้างหนุ้ ส่วนสามญั หรอื คณะบุคคลท่ีมใิ ช่นติ ิบุคคล
หนาทตี่ อ งเสยี ภาษีเห็นความสาํ คญั มคี วาม ๓. ผถู้ ึงแก่ความตายระหวา่ งปภี าษี
ตระหนกั และลงโทษผูทีห่ ลบเล่ยี งไมเ สยี ภาษ)ี ๔. กองมรดกที่ยังไมไ่ ดแ้ บง่
2. นักเรียนกลุมท่ี 2 นําเสนอผลการสืบคนขอมูล โดยอัตราภาษีเงินได้สุทธิส�าหรับผู้มีรายได้สุทธิจากค่าจ้างหรือเงินเดือนจะคิดเป็น
กฎหมายเก่ียวกับภาษีเงินได ภาษีเงนิ ได ดงั นี้ ๑ - ๑๕๐,๐๐๐ บาท ไดร้ ับการยกเว้นภาษี ตง้ั แต่ ๑๕๐,๐๐๑ - ๓๐๐,๐๐๐ บาท เสียภาษี
นติ ิบคุ คล ภาษมี ูลคาเพมิ่ ภาษบี ํารุงทอ งท่ี อตั รารอ้ ยละ ๕ ตง้ั แต่ ๓๐๐,๐๐๑ - ๕๐๐,๐๐๐ บาท เสยี ภาษีอตั รารอ้ ยละ ๑๐ ตัง้ แต่ ๕๐๐,๐๐๑ -
ภาษีโรงเรือนและท่ดี นิ ๗๕๐,๐๐๐ บาท เสียภาษีอัตรารอ้ ยละ ๑๕ ตงั้ แต่ ๗๕๐,๐๐๑ - ๑,๐๐๐,๐๐๐ เสยี ภาษอี ัตรารอ้ ยละ
3. ครูและนักเรยี นรวมกันอภิปรายความรูเพ่มิ เตมิ ๒๐ ต้งั แต่ ๑,๐๐๐,๐๐๑ - ๒,๐๐๐,๐๐๐ เสยี อัตราภาษรี อ้ ยละ ๒๕ เป็นตน้
เร่ืองภาษีเงินได เกย่ี วกบั ผูมหี นา ท่ีตองเสีย อน่ึง เงินได้สุทธิ คือ เงินได้ภายหลังจากหักค่าใช้จ่าย และหักค่าลดหย่อนตามท่ี
ภาษเี งนิ ได อัตราการเสยี ภาษีเงนิ ได วธิ ีการคิด กฎหมายกา� หนด โดยมีอตั ราภาษเี งินไดแ้ บบอตั รากา้ วหนา้ ตัง้ แตร่ อ้ ยละ ๕ ถึงร้อยละ ๓๗ ของ
อัตราการเสยี ภาษีเงนิ ได เงินไดส้ ทุ ธิ
(แนวตอบ ผูม ีหนา ท่ีตอ งเสียภาษเี งินได ไดแก ทั้งนี้หากผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ช�าระภาษีภายในก�าหนดเวลา จะต้องเสียเงินเพ่ิม
ผูมีหนา ท่ีเสยี ภาษีเงนิ ไดบุคคลธรรมดา ไดแ ก ร้อยละ ๑.๕ ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีท่ีต้องช�าระน้ัน นับแต่วันพ้นก�าหนดเวลา
ผทู ี่มเี งินไดเ กดิ ขนึ้ ระหวา งปท ผ่ี านมา โดยมี การยื่นรายการจนถึงวันช�าระภาษี เว้นแต่กรณีที่ได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้ขยาย
สถานะอยางหน่ึงอยา งใด ดงั น้ี บุคคลธรรมดา ก�าหนดเวลาชา� ระภาษไี ด้
๒) ภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นภาษีประเภทหน่ึงที่บัญญัติไว้ในประมวลรัษฎากร
หางหนุ สวนสามัญหรอื คณะบุคคลทม่ี ใิ ช
นิตบิ คุ คล ผถู งึ แกความตายระหวางปภาษี จัดเก็บจากเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่ง
กองมรดกทยี่ ังไมไดแ บง วสิ าหกจิ ชุมชน ตาม
กฎหมายวา ดว ยการสงเสริมวิสาหกิจชุมชน 1๗6 และพาณิชย์ และไม่ได้จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เช่น บริษัทจ�ากัด
เฉพาะทเี่ ปนหางหนุ สวนสามญั หรอื คณะบคุ คล
ท่ีมใิ ชน ติ ิบคุ คล)
บรู ณาการเชื่อมสาระ
เกรด็ แนะครู ครสู ามารถบูรณาการความรูเชอื่ มสาระในหวั ขอ กฎหมายเกีย่ วกับ
ครูนําขอ มูลเกี่ยวกับเงนิ ไดที่ตองเสยี ภาษเี งนิ ไดบคุ คลธรรมดา ซง่ึ เรียกวา ภาษกี ับวชิ าเศรษฐศาสตร เก่ยี วกับบทบาทของภาครฐั ในการจดั เกบ็
“เงนิ ไดพงึ ประเมนิ ” หมายถึง เงินไดของบุคคลท่เี กิดขึ้นระหวา งวนั ที่ 1 มกราคม รายได เพือ่ นาํ รายไดเหลานัน้ มาพฒั นาประเทศ ซึง่ รายไดหลกั
ถงึ 31 ธันวาคม ของปใ ดๆ หรือเงนิ ได ทีเ่ กิดขน้ึ ในปภาษี ไดแ ก ของรฐั คือ ภาษี โดยครูอธบิ ายใหนกั เรียนเห็นถึงความสําคญั ของ
การเสียภาษี และผลท่เี กิดขน้ึ หากประชาชนหลบเลย่ี งไมเสยี ภาษี
1. เงิน อนั ทาํ ใหร ฐั เก็บภาษไี ดไ มต ามเปา และอธบิ ายถึง นโยบายการคลงั
2. ทรัพยส ินซง่ึ อาจคดิ คาํ นวณไดเปน เงิน ทีไ่ ดร ับจริง ซง่ึ หมายถงึ นโยบายการหารายไดและการวางแผนการใชจา ยของ
3. ประโยชนซ งึ่ อาจคดิ คาํ นวณไดเ ปนเงนิ รฐั บาล ซ่งึ คาใชจ า ยเหลาน้นั มาจากการเกบ็ ภาษีประเภทตางๆ
4. เงนิ คา ภาษอี ากรที่ผจู ายเงนิ หรือผอู ่นื ออกแทนให
5. เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกําหนด โดยนโยบายการคลัง เปนเครอ่ื งมอื ในการดาํ รงไวซ ึ่งเสถียรภาพของ
รายไดใ นประเทศ เพราะผลจากการดําเนินนโยบายการคลงั ของ
รัฐบาลจะสง ผลกระทบตอ สภาวะทางเศรษฐกจิ ของประเทศ
มุม IT
ศึกษาความรเู พ่ิมเติมเกี่ยวกับการเสยี ภาษีเงนิ ไดเ พิม่ เติม ไดท ี่
http://www.rd.go.th/publish/550.0.html กรมสรรพากร
176 คมู่ อื ครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครแู ละนกั เรียนอภปิ รายเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั
ภาษเี งนิ ไดน ิตบิ ุคคล ในประเด็น คุณสมบัติ
บริษัทมหาชนจ�ากัด ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ กิจการร่วมค้า และหลกั เกณฑข องนติ บิ คุ คลทีต่ อ งเสีย
(joint venture) มูลนิธิหรือสมาคมท่ีประกอบกิจการซ่ึงมีรายได้ แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิหรือ ภาษีเงนิ ไดนติ ิบคุ คล
สมาคมที่รัฐมนตรีประกาศก�าหนดให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ตลอดจนนิติบุคคล (แนวตอบ ผูมีหนาทีเ่ สยี ภาษีเงินไดน ติ ิบุคคล
ท่ีอธบิ ดกี �าหนดโดยอนุมตั ิรัฐมนตรแี ละประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาให้เปน็ บรษิ ัทหรือห้างห้นุ ส่วน ไดแ ก บริษทั หรือหางหุน สวนนติ บิ ุคคล
นิติบคุ คลตามประมวลรษั ฎากร ทจ่ี ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง และ
อัตราภาษีเงินได้ส�าหรับนิติบุคคล ค�านวณจากก�าไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วน พาณิชย และหมายความรวมถงึ นิติบคุ คลอ่นื ๆ
ตนาิตมิบปุครคะลกรา้อศยขลอะงก๓ร๐ะทรแวลงะกจาารกคกล�าังไรเสรุทื่อธงิเกฉาพรปาะรกะกรอณบีทก่ีไิจดก้จาารกวกิเทารศปธรนะกกิจอข1บอกงิจธกนาารควาิเรทพศาธณนิชกิยจ์ ทไี่ มไดจ ดทะเบยี นตามประมวลกฎหมายแพง
และพาณชิ ยด วย เชน
ลงวนั ท่ี ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๓๕ รอ้ ยละ ๑๐ 1. บรษิ ทั หรอื หา งหุนสว นนิตบิ คุ คลท่ตี ้ังขึน้
ตามกฎหมายไทย เชน บริษทั จาํ กดั
ท้ังนี้นิติบุคคลในเขตกรุงเทพมหานครสามารถย่ืนเสียภาษีได้ ณ ส�านักงาน บริษัทมหาชนจาํ กดั หางหุนสวนจํากดั
สรรพากรพื้นท่ีสาขาในท้องที่ที่ส�านักงานใหญ่ต้ังอยู่ และธนาคารพาณิชย์ไทยและสาขาในเขต หางหนุ สวนสามัญจดทะเบยี น
พื้นท่ีกรุงเทพมหานคร ส่วนในเขตจังหวัดอ่ืนสามารถย่ืนได้ ณ ที่ว่าการอ�าเภอหรือกิ่งอ�าเภอ 2. บรษิ ัทหรือหางหนุ สวนนิตบิ คุ คลทตี่ ั้งขึน้
ท้องทีท่ สี่ า� นกั งานใหญ่ตง้ั อยู่ ตามกฎหมายตางประเทศ ซึ่งมีหนาท่ี
๓) ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นภาษีทางอ้อมท่ีเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือรับบริการ
โดยค�านวณเก็บจากมูลค่าส่วนท่ีเพ่ิมข้ึนในแต่ละขั้นตอนของการผลิตและการจ�าหน่าย หรือ เสยี ภาษีเงินไดนิติบุคคลในประเทศไทย
เชน บริษัทหรือหา งหนุ สว นนติ ิบุคคล
การใหบ้ รกิ าร เชน่ ซอ้ื วสั ดอุ ปุ กรณม์ าราคา ๑๐๐ บาท เมอ่ื ผลติ เปน็ สนิ คา้ แลว้ ขายราคา ๑๕๐ บาท ตางประเทศนัน้ เขามากระทาํ กิจการ
จะตอ้ งเสยี ภาษีมลู คา่ เพิม่ เฉพาะสว่ นท่ีเพมิ่ ขึ้น ๕๐ บาท เปน็ ตน้ แตส่ ินค้าบางอย่างไดร้ บั ยกเวน้ ในประเทศไทย
3. กจิ การรวมคา ไดแก กจิ การที่ดําเนนิ การ
จากการเรียกเผกู้ท็บมี่ ภหี านษ้าีมทูล่ีเคสา่ยี เภพาิม่ ษมีเชลู น่ ค่าหเพนิ่มังส2อืไดเ้แปกน็ ่ ตผ้นู้ประกอบการที่ขายสนิ คา้ หรือให้บริการไม่ว่า
จะประกอบกิจการในรูปของบุคคลธรรมดา คณะบุคคล หรือห้างหุ้นส่วนสามัญท่ีมิใช่นิติบุคคล รว มกันทางคาหรือหากาํ ไร ระหวา งบุคคล
หรือนิติบุคคลใดๆ หากมีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเกินกว่า ๑.๘ ล้านบาทต่อปี ดังเชน บรษิ ัทกบั หา งหุนสวนนติ ิบคุ คล
มหี นา้ ทต่ี อ้ งยนื่ คา� ขอจดทะเบยี นภาษมี ลู คา่ เพมิ่ เพอ่ื เปน็ ผปู้ ระกอบการจดทะเบยี น โดยคา� นวณภาษี 2. ครูนําสนทนาเก่ียวกับภาษีมลู คาเพ่ิม
ทตี่ อ้ งเสยี จากภาษขี ายหกั ดว้ ยภาษซี อ้ื และใหย้ นื่ แบบแสดงรายการภาษภี ายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดอื น และผมู ีหนาทต่ี องเสียภาษมี ลู คาเพิ่ม
ถดั ไป ณ ส�านกั งานสรรพากรพ้นื ที่สาขาในทอ้ งทท่ี ่ีสถานประกอบการตง้ั อยู่ (แนวตอบ ผปู ระกอบการทีข่ ายสนิ คา หรอื ให
บรกิ ารในทางธรุ กจิ หรือวชิ าชีพเปนปกติธรุ ะ
ในกรณีท่ีผู้ประกอบการไม่ได้น�าส่งภาษีมูลค่าเพ่ิมให้กับทางกรมสรรพากรก็จะมีโทษ ไมวา จะประกอบกิจการในรปู ของบุคคล
ท้ังทางแพ่งและอาญาตามประมวลรัษฎากร ได้แก่ การเสียเบ้ียปรับ เสียดอกเบ้ีย หรืออาจต้อง ธรรมดา คณะบคุ คลหรอื หางหนุ สว นสามญั ท่ี
ระวางโทษจ�าคกุ ปรบั หรอื ทง้ั จา� ทัง้ ปรับในกรณไี ม่ทา� รายงานภาษีขาย ภาษีซอ้ื และรายงานสินคา้ มิใชนติ ิบุคคล หรือนิตบิ คุ คลใดๆ หากมรี ายรบั
และวัตถุดบิ ตอ่ กรมสรรพากร จากการขายสนิ คา หรือใหบริการเกนิ กวา 1.8
1๗๗ ลา นบาทตอป มีหนา ทีต่ องยนื่ คาํ ขอจด
ทะเบยี นภาษีมลู คาเพม่ิ เพ่ือเปน ผูประกอบการ
จดทะเบียน โดยคาํ นวณภาษีท่ตี องเสยี จาก
ภาษขี ายหกั ดวยภาษซี ื้อ)
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
นักเรียนควรรู
บคุ คลใดตอไปนี้ ไม ตอ งเสยี ภาษีเงินไดบ คุ คลธรรมดา 1 การประกอบกจิ การวเิ ทศธนกจิ หมายถึง การใหบรกิ ารทางการเงินในรูป
1. องคมนตรี 2. สมาชิกวฒุ สิ ภา ของเงนิ ฝาก เงินใหกยู ืม และบรกิ ารทางการเงินอน่ื ๆ โดยมีขอบเขตการดําเนนิ งาน
3. คณะรฐั มนตรี 4. บุคคลในคณะทูต ไดแ ก การใหก ูยืมในตา งประเทศ การใหก ูยมื ในประเทศ การซือ้ ขายปริวรรต
เงินตราตา งประเทศทม่ี ใิ ชเงนิ บาท การรบั รองหรอื การคา้ํ ประกันหนี้ใดๆ ท่เี ปน
วเิ คราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 4. ผูมีเงนิ ไดท ไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษเี งนิ ได เงนิ ตราตางประเทศ
2 ภาษมี ลู คา เพม่ิ (Value Added Tax) เรยี กอกี อยางหนงึ่ วา “แวต” (VAT)
บคุ คลธรรมดา หมายถึง บุคคลรวมทง้ั กองมรดกของผตู ายที่ยัง ทป่ี ระเทศไทยเร่ิมเกบ็ เปนครั้งแรก เมื่อวนั ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2535 การนํา
มไิ ดแ บง และหา งหุนสว นสามัญหรอื คณะบุคคลทมี่ ิใชนิตบิ ุคคล ภาษีมลู คา เพม่ิ มาใชเ ปน เหตผุ ลในดา นเศรษฐกจิ เปน สาํ คัญ ซง่ึ ในปจ จบุ นั
ทไี่ ดรบั เงินไดพึงประเมินประเภททก่ี ฎหมายกาํ หนดยกเวนให จะเรยี กเก็บในอตั รา 7 %
ไมตองนาํ เงินไดพึงประเมินนั้นมารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงนิ ได
บุคคลธรรมดา เชน บคุ คลตามขอ ผูกพันทปี่ ระเทศมีอยูตามสญั ญา คู่มอื ครู 177
วา ดว ยความรวมมือทางเศรษฐกิจ หรือทางเทคนิคระหวา งรฐั บาล
ไทยกบั รัฐบาลตา งประเทศ เจาหนาท่ี หรอื ผเู ช่ยี วชาญ ขององคการ
สหประชาชาติ หรอื ทบวงการชาํ นัญพิเศษของสหประชาชาติ
ซงึ่ ปฏิบตั หิ นาทีอ่ ยใู นประเทศไทย บคุ คลในคณะทตู บุคคลใน
คณะกงสลุ และบคุ คลทถ่ี อื วา อยใู นคณะทตู ตามความตกลง เปน ตน
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
ครนู ําอภิปรายเกี่ยวกบั ภาษีบํารงุ ทอ งที่ ๔) ภาษีบ�ารุงท้องท่ี เป็นภาษีท่ีจัดเก็บจากเจ้าของที่ดินตามราคาปานกลางที่ดิน
ในประเดน็ นยิ ามของภาษีบาํ รุงทอ งท่ี หลักเกณฑ
การเสียภาษบี ํารงุ ทองท่ี เปน ตน และตามบัญชีอัตราภาษีบ�ารุงท้องที่ โดยท่ีดินท่ีต้องเสียภาษีบ�ารุงท้องที่ ได้แก่ ท่ีดินท่ีเป็นของ
บุคคลหรือคณะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซ่ึงมีกรรมสิทธ์ิในท่ีดิน หรือสิทธิ
(แนวตอบ ภาษบี ํารงุ ทองที่หรอื ท่ีเรียกกัน ครอบครองอยู่ในท่ีดนิ ท่ไี ม่เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน
โดยท่ัวไปวา ภาษีดอกหญา เปน ภาษที จ่ี ดั เกบ็ จาก
เจา ของทด่ี นิ ไมวาจะเปน บคุ คลธรรมดาหรือ ส�าหรับที่ดินท่ีเจ้าของท่ีดินไม่ต้องเสียภาษีบ�ารุงท้องที่ เช่น ท่ีดินที่เป็นท่ีต้ัง
นิติบุคคลซึ่งมกี รรมสทิ ธใิ์ นทีด่ นิ ผทู ีม่ หี นาท่ีเสยี ภาษี พระราชวัง อันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินหรือที่ดิน
บํารุงทอ งท่ี คือ ผูเ ปน เจาของท่ดี นิ ซ่งึ มีหลกั เกณฑ ของรัฐท่ใี ช้ในกจิ การของรัฐหรอื สาธารณะโดยมไิ ด้หาผลประโยชน์ เป็นตน้
ตา งๆ ท่ีสาํ คัญ ดังนี้
ผมู้ ีหนา้ ท่เี สยี ภาษบี �ารุงท้องที่ คือ ผู้รับประเมนิ หรือผู้ท่เี ป็นเจา้ ของที่ดิน ซง่ึ มหี นา้ ที่
อัตราภาษี เสียภาษีบ�ารุงท้องท่ีส�าหรับปีนั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในท้องท่ี ซึ่งทรัพย์สินนั้นต้ังอยู่ ภายใน
- จะตองเสยี ตามราคาปานกลางของทีด่ ิน เดือนกมุ ภาพนั ธข์ องทกุ ปี
ซ่ึงมหี ลายอัตรา ทั้งนี้หากผู้ที่มีหน้าท่ีเสียภาษี แต่ไม่ยอมช�าระภาษีบ�ารุงท้องท่ีภายในเวลาที่ก�าหนด
- ท่ีดินวา งเปลา หรอื ไมไดท าํ ประโยชนจาํ ตอง จะต้องเสียเงินเพ่ิมอีกร้อยละ ๒๔ ต่อปีของจ�านวนเงินที่ต้องเสียภาษีบ�ารุงท้องที่ตามพระราช-
บัญญัติภาษีบ�ารุงท้องที่ พ.ศ. ๒๕๐๘ และฉบับแก้ไขเพ่ิมเติม และหากหลีกเลี่ยงหรือพยายาม
เสียภาษีเปน 2 เทา ของอัตราปกติ หลกี เลยี่ งการเสยี ภาษบี า� รงุ ท้องท่ี ตอ้ งระวางโทษจา� คุกไม่เกนิ ๖ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
การยืน่ แบบแสดงรายการเพ่อื เสียภาษบี าํ รงุ หรอื ท้ังจา� ทง้ั ปรับ
ทอ งท่ี
- ใหเจาของที่ดนิ ทอี่ ยใู นเขตเทศบาล ไปยน่ื ๕) ภาษีโรงเรือนและท่ีดิน เป็นภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างอย่าง
แบบแสดงรายการทดี่ ิน (แบบ ภ.บ.ท. 5) อ่ืนๆ กับท่ีดินที่ใช้ประโยชน์ต่อเน่ืองไปกับโรงเรือนหรือส่ิงปลูกสร้างน้ัน โดยทรัพย์สินท่ีต้องเสีย
ที่งานจัดเก็บรายไดเ ทศบาลและชาํ ระภาษี ภาษีโรงเรือนและท่ีดิน ได้แก่ โรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง และท่ีดินซึ่งใช้ต่อเน่ืองกับโรงเรือนและ
ภายในเดอื น มกราคม - เมษายน ของทุกป สง่ิ ปลกู สร้างนั้น
- กรณเี ปน เจาของท่ดี ินใหม หรอื มกี าร
เปลยี่ นแปลงจาํ นวนที่ดิน เจา ของท่ดี นิ จะตอ ง สา� หรบั ทรพั ยส์ นิ ทไ่ี ดร้ บั ยกเวน้ ภาษไี มต่ อ้ งเสยี ภาษโี รงเรอื นและทดี่ นิ เชน่ พระราชวงั
ยื่นแบบแสดงรายการภายใน 30 วัน อันเป็นส่วนของแผ่นดิน ทรัพย์สินของโรงพยาบาลสาธารณะ และโรงเรียนสาธารณะซึ่งกระท�า
บทกาํ หนดโทษ กิจการที่ไม่ใช่เพื่อเป็นผลก�าไรส่วนบุคคล และใช้เฉพาะในการรักษาพยาบาลและในการศึกษา
- ผูใดจงใจไมมายนื่ แบบแสดงรายการทดี่ นิ เปน็ ตน้
(ภ.บ.ท.5) หรอื ไมยอมชแ้ี จงหรือไมยอมแจง
จาํ นวนเนื้อทด่ี ิน ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กิน โดยผมู้ หี นา้ ทเี่ สยี ภาษโี รงเรอื นและทด่ี นิ ไดแ้ ก่ เจา้ ของทรพั ยส์ นิ เจา้ ของโรงเรอื นหรอื
1 เดือน หรือปรบั ไมเกนิ 1,000 บาท หรอื สงิ่ ปลกู สรา้ งโดยตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการเพอื่ เสยี ภาษโี รงเรอื นและทดี่ นิ ณ สา� นกั งานขององคก์ ร
ทง้ั จาํ ท้ังปรบั ปกครองสว่ นทอ้ งถิ่นทโี่ รงเรอื นหรือสงิ่ ปลูกสรา้ งนั้นต้งั อยู่ ภายในเดอื นกุมภาพันธ์ของทุกปี
- ผใู ดโดยรหู รอื จงใจแจง ขอความอนั เปนเทจ็
มาแสดงเพอื่ หลกี เล่ยี ง หรือพยายามหลกี เลี่ยง ๕.๓ กฎหมายวา่ ด้วยการค้มุ ครองผบู้ ริโภค
การเสียภาษบี าํ รุงทอ งที่ ตอ งระวางโทษจําคกุ
ไมเ กนิ 6 เดือนหรอื ทั้งจําทง้ั ปรบั ไมเกนิ 2,000 รัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่า สิทธิของบุคคลซึ่งเป็นผู้บริโภคย่อมได้รับความคุ้มครองในการ
บาทหรือทัง้ จําท้งั ปรบั -ผใู ดไมช ําระภาษีบํารุง ได้รับข้อมูลท่ีเป็นความจริงและมีสิทธิร้องเรียน เพ่ือให้ได้รับการแก้ไขเยียวยาความเสียหาย
ทอ งที่ภายในกําหนด ใหเ สยี เงนิ เพิม่ รอ ยละ รวมทัง้ มีสิทธิรวมตวั กนั เพื่อพิทักษ์สิทธขิ องผ้บู รโิ ภค
24 ตอ ป ของจาํ นวนเงนิ ทต่ี องเสียภาษบี าํ รุง
ทอ งท)ี่ 1๗8
เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
ครเู พิ่มเติมเกยี่ วกับทด่ี นิ ทไ่ี มตองเสียภาษีบาํ รงุ ทองท่ี เชน บคุ คลใดมหี นา ทต่ี อ งเสยี ภาษบี ํารงุ ทองที่
1. ทีด่ นิ ทเี่ ปน ที่ต้งั พระราชวังอันเปนสว นสาธารณสมบัติของแผน ดิน แนวตอบ บุคคลหรอื คณะบุคคลไมวา จะเปนบคุ คลธรรมดา
2. ทด่ี นิ ทเ่ี ปน สาธารณะสมบัติของแผนดินหรอื ที่ดินของรฐั ท่ีใชในกิจการของรัฐ หรือนติ บิ ุคคลซงึ่ มกี รรมสิทธิใ์ นทด่ี นิ มหี นาที่เสยี ภาษีบํารุงทอ งท่ี
หรอื สาธารณะ โดยมไิ ดห าผลประโยชน ดังนนั้ จงึ กลาวไดว า ภาษบี าํ รงุ ทองท่ี คือ ที่ดนิ ทุกประเภทไมวา จะมี
3. ทด่ี ินของราชการสวนทองถ่นิ ทใี่ ชในกจิ การของราชการสว นทองถน่ิ หรือ เอกสารสทิ ธ์ิ หรือไมมเี อกสารสิทธิ์ ทวี่ างเปลา หรอื มสี ิ่งปลกู สรา ง
สาธารณะโดยมไิ ดห าผลประโยชน อยูหรือไม และไมวา จะใชเ พาะปลูก เลี้ยงสัตว หรอื อยอู าศยั
4. ทด่ี ินที่ใชเ ฉพาะการพยาบาลสาธารณะ การศึกษา หรือการกศุ ลสาธารณะ ใหผ ูอ่นื เชา หรอื ใชป ระโยชนเองก็ตาม ท่ดี นิ ท่ตี องเสียภาษีบํารุง
5. ทด่ี ินทใ่ี ชเฉพาะศาสนกิจศาสนาใดศาสนาหน่ึง ที่ดนิ ทเ่ี ปนกรรมสทิ ธ์ิของวัด ทอ งท่ีนั้น นอกจากพน้ื ทที่ ่ดี ินท่ัวๆ ไปแลว ยังหมายความรวมถงึ
ไมวาจะใชป ระกอบศาสนกิจศาสนาใดศาสนาหน่ึงหรอื ไม หรอื ทศ่ี าลเจาโดยมไิ ด พื้นที่ที่เปน ภูเขาและแมน ํ้าดวย
หาผลประโยชน
6. ที่ดินท่ีใชเ ปนสุสานและฌาปนสถานสาธารณะ โดยมไิ ดร ับประโยชน
ตอบแทน เปน ตน
178 คูม่ อื ครู
กระต้นุ ความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain
อธบิ ายความรู้ Explain
ดังนัน้ พระราชบัญญตั คิ ุ้มครองผ้บู ริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ ซงึ่ แกไ้ ขเพิม่ เตมิ โดย (ฉบับท่ี ๒) 1. ครูนํากรณศี ึกษาเก่ยี วกับการรองเรียน
ผพู้ป.ศร.ะก๒อ๕บธ๔ุร๑กิจซ่ึงแเลปะ็นจัดกใฎหห้มมีอางยคท์กร่ีมเ1ีสพาื่อรคะุ้มสค�ารคอัญงผในลกปารระกโย�าชหนน์ขดอสงิทผธู้บิขริโอภงคผู้บโรดิโยภไคด้มีกหานร้าบทัญ่ีขญอัตงิ การฟองรอ ง ของหนวยงานคุมครองผบู ริโภค
สิทธิของผบู้ รโิ ภคทจี่ ะได้รับความค้มุ ครองตามกฎหมายไว้ ๕ ประการ ดังน้ี หรอื กรณที ผี่ ูบ รโิ ภคยนื่ ฟองหนวยงาน องคกร
๑. สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ขา่ วสาร รวมทงั้ คา� พรรณนาคณุ ภาพทถี่ กู ตอ้ งและเพยี งพอเกย่ี วกบั สถานประกอบการ ผูป ระกอบการ ในกรณี
สินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริงและ ทไี่ มไ ดรับความเปนธรรมจากการบริโภค
ปราศจากพษิ ภยั แกผ่ บู้ รโิ ภค รวมตลอดถงึ สทิ ธทิ จี่ ะไดร้ บั ทราบขอ้ มลู เกยี่ วกบั สนิ คา้ หรอื บรกิ ารอยา่ ง แลวใหนกั เรียนอภปิ รายแสดงความคดิ เหน็
ถูกต้องและเพียงพอท่ีจะไมห่ ลงผิดซ้ือสนิ ค้าหรอื รบั บริการโดยไม่เปน็ ธรรม เกย่ี วกบั กรณีศึกษาดงั กลา ว
๒. สิทธิทีจ่ ะมีอิสระในการเลือกหาสนิ คา้ หรอื บริการ ไดแ้ ก่ สิทธทิ ี่จะเลอื กซอ้ื สินคา้
หรอื รับบรกิ ารโดยความสมัครใจของผ้บู รโิ ภค และปราศจากการชกั จูงใจอนั ไมเ่ ป็นธรรม 2. ตัวแทนนักเรียนกลมุ ท่ี 3 นําเสนอผลการ
๓. สิทธทิ ่ีจะไดร้ ับความปลอดภัยจากการใชส้ นิ คา้ หรอื บริการ ไดแ้ ก่ สิทธทิ ีจ่ ะได้รบั ศกึ ษาคนควา เกี่ยวกับกฎหมายคุมครอง
สินค้าหรือบริการที่ปลอดภัย มีสภาพและคุณภาพได้มาตรฐานเหมาะสมแก่การใช้ ไม่ก่อให้เกิด ผูบรโิ ภค ในประเดน็ ความสําคัญของ
กฎหมายดงั กลา ว สิทธผิ บู ริโภค หนวยงาน
คุมครองผูบริโภค บทลงโทษสําหรบั ผลู ะเมดิ
สิทธผิ ูบรโิ ภค
อันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ในกรณีใช้ตามค�าแนะน�าหรือระมัดระวังตามสภาพ ขยายความเขา้ ใจ Expand
ของสินค้าหรือบริการน้นั แลว้
๔. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการท�าสัญญา ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับข้อสัญญา ครใู หนกั เรียนท้ัง 3 กลุม จัดทาํ แผนพบั
โดยไมถ่ ูกเอารดั เอาเปรยี บจากผูป้ ระกอบธรุ กิจ หรือเอกสารเผยแพรความรเู กย่ี วกับกฎหมาย
๕. สิทธิท่ีจะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย ได้แก่ สิทธิที่จะได้รับ ท่กี ลมุ ตนเองสบื คนความรู แลว นาํ ไปเผยแพร
การคมุ้ ครองและชดใชค้ ่าเสียหาย เมอื่ มีการละเมดิ สิทธขิ องผ้บู รโิ ภค ความรูใ หกับนกั เรยี นในโรงเรียน
ดังนั้น ในฐานะผู้บริโภคจึงมีหน้าท่ีในการใช้ความระมัดระวังตามสมควรในการซ้ือสินค้า ตรวจสอบผล Evaluate
หรือบริการ และให้ความส�าคัญกับฉลากของสินค้า
และการโฆษณาสินค้าหรือบริการอย่างละเอียด โดย
ผู้บริโภคตอ้ งตรวจดูฉลากของสินคา้ เพ่อื ใชเ้ ป็นข้อมลู ครตู รวจผลงานการจัดทําเอกสารเพื่อเผยแพร
ในการเปรียบเทียบสินค้าแต่ละยี่ห้อก่อนการตัดสินใจ ความรูเกย่ี วกับกฎหมาย โดยพิจารณาจากความ
เลือกซ้ือสินค้า ซึ่งฉลากสินค้าที่ดีต้องระบุข้อความ ถูกตอ งของขอ มลู ความคดิ สรา งสรรคใ นการ
เชน่ ชอ่ื ประเภทหรอื ชนดิ ของสนิ คา้ ช่อื ประเทศทผี่ ลติ ออกแบบผลงาน
สถานที่ตั้งของผู้ผลิตเพ่ือขาย วิธีใช้ ส่วนประกอบ
วันเดือนปีท่ีผลิต หรือวันเดือนปีท่ีหมดอายุไว้อย่าง
ชดั เจน เป็นต้น ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับทราบข้อมูลเก่ียวกับสินค้า
อยา่ งถกู ต้องและเพยี งพอทีจ่ ะได้ไม่หลงผดิ ซอื้ สินคา้
ทีไ่ ม่ไดค้ ุณภาพ
1๗9
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT นกั เรยี นควรรู
ผบู รโิ ภคจะไดรับการคมุ ครองสทิ ธติ ามพระราชบญั ญัตคิ ุม ครอง 1 องคกร (organization) หมายถึง บุคคลกลมุ หน่งึ ทีม่ ารวมตัวกัน มวี ตั ถุประสงค
ผูบริโภค พ.ศ. 2522 แกไขเพม่ิ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 และดาํ เนนิ กิจกรรมบางอยางรว มกัน เชน สํานกั งานสงเสริมคมุ ครองผูบริโภค หรือ
อยางไรบาง สคบ. เปน องคก รทมี่ หี นา ทดี่ แู ลและใหค วามคมุ ครองผลประโยชนข องผบู รโิ ภค เปน ตน
แนวตอบ สทิ ธผิ ูบ ริโภคทไี่ ดร ับการคุมครองตามพระราชบัญญัติ
คมุ ครองผูบรโิ ภค พ.ศ. 2522 แกไขเพ่มิ เตมิ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 บูรณาการอาเซียน
ไดแ ก สิทธทิ จี่ ะไดร ับขาวสารรวมทงั้ คาํ พรรณนาคณุ ภาพทถ่ี กู ตอง
และเพยี งพอเกี่ยวกับสนิ คาหรือบริการ สิทธทิ จ่ี ะมีอสิ ระในการเลอื ก อาเซยี นไดม กี ารจดั ต้งั คณะกรรมการอาเซียนดานการคมุ ครองผบู ริโภค (ASEAN
หาสนิ คาหรอื บริการ สิทธิที่จะไดร ับความปลอดภยั จากการใชส ินคา Committee Consumer Protection หรอื ACCP) ขึน้ เมือ่ พ.ศ. 2551 โดยมี
หรือบริการ สิทธิท่จี ะไดรบั ความเปนธรรมในการทาํ สัญญา นโยบายท่ีจะดาํ เนินการในเร่อื งตอไปน้ี
สทิ ธิท่จี ะไดร บั การพิจารณาและชดเชยความเสียหาย
1. การพัฒนากลไกการแจง และแลกเปลยี่ นขอมูลระหวางประเทศสมาชกิ
2. การพัฒนากลไก การเยย่ี วยาผบู รโิ ภคขา มแดน
3. การจัดทําแผนพับเกี่ยวกบั การเรียกรอ งของผูบรโิ ภคในอาเซียน
ค่มู อื ครู 179
กระตนุ้ ความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Elaborate Evaluate
กระตนุ้ ความสนใจ Engage
1. ครูสมุ ใหน กั เรียนออกมาเขยี นกฎหมายระหวาง นอกจากนี้ กฎหมายยังได้บัญญัติให้มีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคท�าหน้าท่ี พิจารณา
ประเทศทรี่ จู กั บนกระดานหนา ชัน้ คนละ 1 เร่ืองราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหาย เน่ืองมาจากการกระท�าของ
กฎหมาย จากนน้ั ครูเลือกกฎหมายทนี่ ักเรียน ผู้ประกอบธุรกิจ ด�าเนินการเก่ียวกับสินค้าท่ีอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภคหรือโฆษณาข่าวสาร
เขียน มาอธบิ ายเพิม่ เติมความรู เกย่ี วกบั สนิ คา้ หรอื บริการที่อาจก่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายหรอื เส่ือมเสยี แกส่ ิทธขิ องผู้บรโิ ภคไวด้ ว้ ย
2. ครกู ระตนุ ความสนใจของนกั เรยี นโดยการนาํ ขา ว ๖. กฎหมายระหวา่ งประเทศที่ควรรู้
ท่ีมีเนอ้ื หาเกี่ยวกบั กฎหมายระหวา งประเทศ
3-5 ขา ว มาสรปุ ใหน กั เรยี นฟง พอสงั เขป แลว ให ในปัจจุบันความเจริญของโลกท�าให้คนสามารถเดินทางติดต่อส่ือสารกันได้โดยง่ายและ
นักเรียนชว ยกนั ตอบวา จากเนอ้ื หาขาวน้ัน เปน็ ประจา� ทา� ใหร้ ฐั ตอ้ งตดิ ตามไปควบคมุ และคมุ้ ครองพลเมอื ง ซงึ่ ไดแ้ ก่ ผมู้ สี ญั ชาตขิ องรฐั เมอื่ อยู่
มคี วามเกย่ี วของกบั กฎหมายระหวางประเทศ ในต่างแดน เป็นผลให้รัฐต่างๆต้องเริ่มติดต่อกัน โดยการติดต่อได้ขยายขอบเขตไปถึงเศรษฐกิจ
อะไรบาง วฒั นธรรม และสังคม จึงทา� ให้สาระของการตดิ ต่อครอบคลุมมากมายหลากหลายเร่ืองขน้ึ
สา� รวจคน้ หา Explore นอกจากนี้ รฐั ยงั ได้รว่ มมือกันท�ากจิ การตา่ งๆ ทไี่ มอ่ าจทา� ได้ตามล�าพงั ท�าให้เกดิ สมาคม
หรือองค์การระหว่างประเทศข้ึนและมีบทบาทส�าคัญในการช่วยรักษาความสงบเรียบร้อย รวมท้ัง
1. ครูใหน ักเรยี นศึกษาคน ควา ขอมูลทเี่ ก่ยี วกบั พัฒนาและส่งเสริมความก้าวหน้าแก่ภูมิภาคต่างๆ ในโลกเป็นอย่างมาก ดังนั้น รัฐและองค์การ
กฎหมายระหวา งประเทศ จากแหลงการเรียนรู ท่ีจัดต้ังขึ้นจึงต้องตั้งกติกาเพ่ือเป็นแนวทางในการติดต่อสัมพันธ์กันข้ึนมา ซึ่งได้แก่ กฎหมาย
ตางๆ เชน หอ งสมดุ หนงั สอื เรยี น อินเทอรเ นต็ ระหวา่ งประเทศ
เปนตน โดยเนนการศกึ ษาทคี่ รอบคลุมกฎหมาย
ตา งๆ ดงั น้ี กฎหมายระหว่างประเทศเกิดจากการตกลงกันหรือจากยอมรับปฏิบัติกันโดยรัฐ และ
• กฎหมายมนษุ ยธรรมระหวา งประเทศ พัฒนาตอ่ มาโดยองคก์ ารระหว่างประเทศทง้ั หลาย
• กฎหมายเกี่ยวกับการคามนุษย
• กฎหมายวาดว ยผูลภี้ ยั ปัจจุบันกฎหมายระหว่างประเทศได้เข้ามามีบทบาทส�าคัญต่อสังคมโลกเป็นอย่างมาก ซ่ึง
• กฎหมายการสง ผรู ายขามแดน กฎหมายระหว่างประเทศในบางเรื่องส่งผลต่อประเทศไทยด้วย ดังนั้น ในฐานะพลเมืองท่ีดีของ
• กฎหมายการใหความคุมครองแกค นชาติ ประเทศชาติและสังคมโลก เราจึงจา� เป็นต้องมีความร้เู กี่ยวกบั กฎหมายระหวา่ งประเทศในสาขาท่ี
• กฎหมายสิง่ แวดลอมระหวา งประเทศ มีความส�าคัญไว้บ้าง เพื่อใช้เป็นแนวทางในการด�าเนินชีวิตให้สอดคล้องกับมาตรฐานระหว่าง
ประเทศดังกล่าว โดยกฎหมายระหวา่ งประเทศท่คี วรรู้ มีดงั นี้
2. ครใู หน กั เรยี นตดิ ตามขา วสารจากส่ือตางๆ
เชน หนงั สือพิมพ วทิ ยุ โทรทศั น ท่มี ีเน้ือหาขา ว ประเทศจากเ๑ด)ิม เกรียฎกหกมันาวย่าม“นกุษฎยหธมรารยมรระหะหว่วาง่าปงประรเะทเศทยศามเสปง็นคสราาขมาหหนร่ึงือขอกงฎกฎหหมมายายสรงะคหรวา่ามง1”
เกี่ยวกับกฎหมายระหวา งประเทศ แลว ทาํ การ
วเิ คราะหข าว กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศมีจุดประสงค์ท่ีจะมุ่งส่งเสริมคุณค่า อันเกี่ยวกับความเป็น
มนษุ ยเ์ ชน่ เดียวกบั กฎหมายสิทธมิ นษุ ยชน
180
นักเรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
กฎหมายมนุษยธรรมระหวา งประเทศมวี ตั ถปุ ระสงคอยางไร
1 กฎหมายสงคราม เปน กฎหมายทม่ี ลี กั ษณะเปนขอตกลงรว มกนั ระหวางประเทศ 1. เพื่อแสวงหาประโยชนจ ากเพอ่ื นมนษุ ยดวยกนั
ในภาวะสงคราม ซงึ่ มีการกาํ หนดแนวทางการปฏิบัติและขอ หา มตางๆ เพ่ือปกปอ ง 2. เพือ่ คุมครองประโยชนแ ละความปลอดภยั ของมนุษย
คมุ ครอง และรกั ษาสทิ ธมิ นุษยชนของบคุ คลในภาวะสงคราม กฎหมายสงคราม 3. เพอื่ ลงโทษผูกระทาํ ความผิดจากการลว งละเมิดทางเพศ
ทีส่ ําคัญ เชน อนสุ ัญญาเจนีวา ทมี่ ีการกําหนดขอ หา มตา งๆ เชน 4. เพ่อื เชอ่ื มโยงกับเครอื ขา ยการคา มนุษยท ง้ั ในประเทศ
และตา งประเทศ
- หา มการปฏิบัตอิ ยา งไรม นุษยธรรม การจบั ตวั เปน ประกัน การประหารชีวิต วิเคราะหคําตอบ ตอบขอ 2. กฎหมายมนุษยธรรมระหวา ง
โดยไมมกี ารไตส วน ประเทศมีวตั ถุประสงคส าํ คัญเพือ่ มุงสงเสรมิ คุณคา อนั เกยี่ วกับ
- หา มใชแ รงงานจากเชลยศกึ ในเขตทมี่ กี ารรบ หรือใชง านที่มีอนั ตราย ความเปน มนุษย เชน เดียวกบั กฎหมายมนุษยชน ทคี่ ุมครอง
- หามใชประชาชนพลเมืองในการกาํ บังตนหรือบงั คับใหท ํางานเกิน ประโยชนแ ละความปลอดภยั ของมนษุ ยจ ากการกระทาํ ของมนุษย
ความสามารถ ดว ยกันเอง และเพือ่ ความเปนธรรมและความเทาเทยี มกนั ของ
- หามบบี บังคับเพือ่ ใหเชลยศกึ แจง ขอ มูลขาวสารที่ตนตอ งการ การถามท่ใี ห ความเปนมนุษย
กระทาํ ไดม เี พยี ง ชือ่ สกุล ยศ วนั เกิด และเลขประจําตวั เปนตน
180 คูม่ ือครู
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเร่ิมต้นจากความพยายามของนายอังรีดูนังต์ 1. ครูใหน ักเรยี นอธิบายวา กฎหมายมนุษยธรรม
และคณะที่จะหาทางลดภาวะทุกข์ทรมานอันน่าสะพรึงกลัวท่ีเกิดกับทหารและพลเรือน จากการ ระหวา งประเทศ มคี วามสาํ คญั และมปี ระโยชน
สู้รบระหว่างคู่สงคราม พวกเขาได้รณรงค์เป็นเวลานานจนรัฐต่างๆ เห็นความส�าคัญของปัญหา ตอความสมั พนั ธระหวางประเทศอยางไร
ท�าให้สาระส�าคัญของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศจึงเก่ียวข้องกับเรื่องของการปกป้อง (แนวตอบ กฎหมายมนษุ ยธรรมระหวางประเทศ
คุ้มครอง และดูแลพลเรือนของประเทศคสู่ งคราม เชน่ ห้ามการใช้อาวธุ และวธิ กี ารท�าการสรู้ บซึ่ง เปน กฎหมายท่สี ง เสรมิ ในเรื่องสทิ ธมิ นุษยชน
มลี กั ษณะการทา� ลายลา้ งอยา่ งมหาศาล กอ่ ใหเ้ กดิ ความสญู เสยี โดยไมจ่ า� เปน็ หรอื ความทกุ ขท์ รมาน โดยเฉพาะอยางยงิ่ ในสภาวะสงคราม ที่ผคู น
เกินไป เช่น การใช้อาวุธเคมี การใช้อาวุธชีวภาพ อาวุธนิวเคลียร์ ห้ามกระท�าการรุนแรงหรือ ตอ งไดร บั ความทุกขทรมาน มีการบาดเจบ็
คกุ คามว่าจะทา� การรนุ แรงเพ่ือใหป้ ระชาชนหวาดกลัว เป็นตน้ ลม ตายจํานวนมาก กฎหมายมนุษยธรรม
ระหวา งประเทศ จึงชวยปกปอ ง คมุ ครอง และ
กล่าวได้ว่ากฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเป็นตัวอย่างของกฎหมายท่ีเกิด ดแู ลพลเรอื นของประเทศคสู งคราม โดยมกี าร
จากการตกลงร่วมกันของมนุษย์ เพื่อคุ้มครองประโยชน์และความปลอดภัยของมนุษย์จาก กาํ หนดขอบังคบั ตา งๆ เชน หามใชอาวธุ ท่ีมี
เงื้อมมือของมนุษย์ด้วยกนั อย่างแท้จรงิ การทําลายลา งมหาศาล ไมวาจะเปน อาวธุ
เคมี อาวธุ ชวี ภาพ ระเบิดปรมาณู เปนตน )
กฎหมายน้ีมีความมุ่งหมาย คือ การเคารพศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ โดย
พัฒนาการของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศมีผลท�าให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐ 2. ครูใหน กั เรียนยกตัวอยางกฎหมายไทยทม่ี ี
กับภาคเอกชนของนานาประเทศ ในการสอดส่องดูแลเพ่ือให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายเรื่องน้ี ความสอดคลองกบั กฎหมายมนษุ ยธรรม
ส�าหรับประเทศไทยเคยมีกฎหมายท่ีสอดคล้องกับกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เช่น ระหวางประเทศ คนละ 1 ตัวอยาง แลว นํามา
พระราชบัญญัติอาชญากรสงคราม พุทธศักราช ๒๔๘๘ พระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติ อธบิ ายในชั้น
อาชญากรสงคราม พุทธศักราช ๒๔๘๘ พ.ศ. ๒๕๑๐ ประมวลกฎหมายอาญาทหาร มาตรา ๔๘ (แนวตอบ กฎหมายไทยท่มี คี วามสอดคลอ งกับ
เป็นตน้ กฎหมายมนษุ ยธรรมระหวา งประเทศ เชน
ประมวลกฎหมายอาญาทหาร
๒) กฎหมายเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการค้า มาตรา 48 ในเวลาสงคราม ถา ผูใดกระทาํ การ
ปราศจากความเมตตาแกคนท่ีถูกอาวธุ
ผู้หญิงและเด็ก ได้รับการตระหนักจากประชาคมโลกว่าเป็นอาชญากรรมที่เป็นการละเมิดสิทธิ- บาดเจ็บ หรอื แกค นทปี่ ว ยเจบ็ ในกองทพั
มนุษยชนอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการแสวงหาประโยชน์จากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดยผู้เสียหาย ฝา ยหน่งึ ฝายใดกด็ ี หรอื กระทาํ การปลน ทรพั ย
ไม่ได้สมัครใจ และได้กระท�ากันอย่างกว้างขวางจนกลายเป็นขบวนการเชื่อมโยงท้ังในประเทศ แยงทรัพยอ ยางใดๆ ที่ทานบัญญตั ไิ วใน
และต่างประเทศ ซง่ึ ถือเปน็ ภยั ตอ่ ความสงบสขุ ของโลกอย่างมาก มาตรา 249 ถึงมาตรา 259 และมาตรา 288
ถึงมาตรา 303 แหง ประมวลกฎหมายลักษณะ
ในอดีตประเทศไทยเคยมีกฎหมายเพ่ือเอาผิดและลงโทษการกระท�าซ่ึงเก่ียวข้อง อาญาน้ัน ทานใหเ พิม่ โทษผูกระทาํ ผดิ
กับการล่วงละเมิดทางเพศแก่ผู้หญิงและเด็กในลักษณะที่เป็นการค้า เช่น กฎหมายป้องกันและ ตอ งระวางโทษตามทที่ า นบญั ญตั ไิ วส ําหรับ
ปราบปรามการค้าประเวณี กฎหมายวา่ ด้วยการค้าหญงิ และเด็กหญงิ กฎหมายสถานบรกิ าร แต่ ความเชน น้ันขน้ึ ดวยอีกกึง่ หนึ่ง เปน ตน )
ยังมขี อบเขตจา� กัด
181
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT บูรณาการอาเซยี น
เพราะเหตใุ ดอาเซียนจงึ ใหความสําคัญกับการปอ งกนั ครูเพิม่ เตมิ ความรเู ก่ยี วประชาคมสงั คมและวฒั นธรรมอาเซียน มเี ปา หมาย
และแกป ญหาการคา มนษุ ยร ะหวา งประเทศสมาชิก เพื่อใหอาเซยี นเปนสังคมเอกภาพ เออื้ อาทรตอ กนั มคี วามเปนอยทู ี่ดี มกี ารพัฒนา
แนวตอบ เพราะการคา มนุษย ถอื เปน อาชญากรรมขา มชาติ ทกุ ดาน และมคี วามม่ันคงทางสังคม โดย
ท่รี ุนแรง และถอื เปนการละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชนอยา งมาก อกี ทง้ั
ยังกอใหเกิดปญ หาในดานตา งๆ เชน ปญหาโรคระบาด ปญ หา - การพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย โดยการบรู ณาการสรางสังคมความรู พัฒนา
ยาเสพตดิ เปน ตน ประชาคมอาเซยี น จงึ ใหค วามสาํ คญั ทจ่ี ะปอ งกนั ทรพั ยากรมนษุ ย สงเสรมิ การจางงานทเ่ี หมาะสม สงเสรมิ ICT การเขา ถงึ
และลดปญ หาการคา มนษุ ย เพอื่ ใหป ระชาคมอาเซยี นมคี วามเขม แขง็ วิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี
และสามารถพฒั นาตอ ไปได ซง่ึ เมอื่ วันที่ 5 กนั ยายน พ.ศ. 2555
ประเทศไทยไดเปนเจาภาพจดั การประชมุ อาเซยี น วาดว ยความ - การคมุ ครองและสวัสดิการสงั คม ขจัดความยากจน สรางเครือขา ยความ
รวมมอื ดา นการขา วหนว ยตรวจคนเขา เมือง ครง้ั ท่ี 8 ซ่ึงเปนการ ปลอดภัยทางสังคม สงเสรมิ ความมนั่ คงและความปลอดภยั ดา นอาหาร การควบคมุ
ประชุมหารือประเดน็ ตางๆ เชน การประสานขอมูลดา นการขาว โรคตดิ ตอ
ในกลมุ ประเทศสมาชกิ การรว มมอื ดา นการตอตานการคา มนุษย
และอาชญากรรมขา มชาติ เปนตน - ใหความยุตธิ รรมและสิทธิ คุม ครองสิทธผิ ูดอยโอกาส แรงงานยายถนิ่ ฐาน
สงเสรมิ ความรบั ผดิ ชอบตอ สงั คมขององคกรธรุ กิจ ดงั นัน้ ทําใหประเทศอาเซยี น
มีการเตรียมความพรอมโดยการเสริมสรา งขดี ความสามารถของอาเซยี นในการเผชญิ
กับภัยคุกคามความมั่นคง บนพ้นื ฐานความม่นั คงของมนษุ ย ตลอดจนประสาน
การจดั ทาํ ขอ มลู กลางในเร่อื งอาชญากรรมขา มชาติในอาเซียน
คู่มือครู 181
กระตุ้นความสนใจ ส�ารวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู้
1. ครูใหนกั เรียนรว มกันอภิปรายถงึ ความสาํ คัญ ต่อมาประเทศไทยได้ร่วมลงนามอนุสัญญาสหประชาชาติเพ่ือต่อต้านอาชญากรรม
และผลดจี ากการมกี ฎหมายท่เี กยี่ วกบั
การคามนุษย พรอมทง้ั ยกตัวอยา งกฎหมาย ข้ามชาติที่จัดตั้งในลักษณะองค์กร พ.ศ. ๒๕๔๓ และพิธีสารเพ่ือป้องกันปราบปรามและลงโทษ
ทเ่ี กี่ยวกับการคามนุษยท่ีสาํ คญั 2-3 ตัวอยา ง
จากน้ันสรปุ ผลการอภปิ ราย นําสงครูผูส อน การค้ามนุษย์ โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๓ เพิ่มเติมอนุสัญญาสหประชาชาติเพื่อ
2. ครใู หน กั เรยี นเปรยี บเทยี บการลภี้ ยั ทงั้ 2 ลกั ษณะ ตอ่ ตา้ นอาชญากรรมขา้ มชาตทิ จี่ ดั ตงั้ ในลกั ษณะองคก์ ร และไดต้ รากฎหมายพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั
วามคี วามแตกตางอยา งไร ใหน ักเรยี นอธิบาย
โดยการวาดผังความคดิ พรอ มคําอธบิ าย และปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ขน้ึ ต่อมาตามลา� ดับ
ประกอบ
(แนวตอบ การล้ภี ยั แบง ออกไดเ ปน 2 ลักษณะ นอกจากนี้ ประเทศไทยยังได้ก�าหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม
ดังนี้
การล้ภี ยั ทางดินแดน เปนการขอล้ีภยั การคา้ มนุษยข์ ึ้น เพอ่ื ท�าหนา้ ที่ก�ากับดแู ลการด�าเนินการตามพนั ธกรณรี ะหว่างประเทศ ตลอดจน
เพ่ือเขาไปในดินแดนของรฐั ผูใหลภี้ ยั
ซง่ึ ขนึ้ อยกู ับการตัดสินใจของรัฐดนิ แดนวา การให้ความร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศเก่ียวกับการป้องกันและปราบปรามการค้า
จะใหลภี้ ัยหรอื ไม
การลี้ภัยทางทตู หมายถงึ การทีผ่ ลู ้ภี ยั มนุษย์ และก�าหนดให้มีคณะกรรมการประสานและก�ากับการด�าเนินงานป้องกันและปราบปราม
ขอลีภ้ ยั เขาไปอยใู นสถานทตู ของรัฐผูใหล ภ้ี ัย
ซึ่งตัง้ อยูในดนิ แดนของรัฐท่ีตองการตัว การค้ามนุษย์ มีหน้าท่ีติดตามและจัดท�ารายงานเกี่ยวกับการด�าเนินการตามพันธกรณีระหว่าง
ผูขอลภี้ ยั เอง)
ประเทศและให้ความร่วมมือและประสานงานกับต่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปราม
การคา้ มนุษย์ เพือ่ ให้การบงั คับใชก้ ฎหมายเกดิ ประสิทธิภาพสูงสดุ และสอดคลอ้ งกบั กฎหมายอ่นื
ที่เกีย่ วข้องและพันธกรณีระหวา่ งประเทศ ปัญหาผู้ลภ้ี ัยเ1ป็นประเด็นทางมนษุ ยธรรมทม่ี ีกฎหมาย
๓) กฎหมายว่าดว้ ยผู้ล้ภี ัย
ระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถึงแม้จะมีการรับรองว่าสิทธิแสวงหาที่ลี้ภัยเป็นสิทธิ
มนุษยชน แตร่ ัฐต่างๆ กย็ ังลา� บากใจเม่อื ต้องกลายเปน็ รฐั ผใู้ ห้ลีภ้ ัย โดยการลี้ภัยสามารถแบง่ ออก
ไดเ้ ปน็ ๒ ลักษณะ คอื
๑. การลีภ้ ยั ทางดนิ แดน (territorial asylum) หมายถึง การขอลีภ้ ัยเพื่อเขา้ ไป
อยู่ในดินแดนของรัฐผู้ให้ลี้ภัย ซึ่งขึ้นกับการตัดสินใจของรัฐดินแดนว่าจะให้ลี้ภัยหรือไม่ โดย
พิจารณาจากพันธกรณใี นข้อตกลงระหวา่ งประเทศและกฎหมายภายในของรฐั นน้ั
๒. การลภ้ี ัยทางทตู (diplomatic asylum) หมายถึง การลี้ภัยท่ีผูข้ อลีภ้ ยั เขา้ ไป
อยใู่ นสถานทตู ของรฐั ผใู้ หล้ ภ้ี ยั ซ่งึ ตง้ั อย่ใู นดนิ แดนของรัฐท่ีตอ้ งการตัวผ้ขู อล้ีภยั เอง
แหง่ สหประชาปชัจาจตุบขิ2ันนึ้ สเมพัชอ่ื คชมุ้าใคหรญอง่สแหลปะแรกะป้ชญัาชหาาตขิไอดง้มผีลู้กภี้ารยั จทัดวั่ ตโล้ังกส�ารนวมักทงางั้ ปนกขป้าอ้หงลสวทิ งธใขิหน้ัญพ่ผน้ื ู้ลฐ้ีภานัย
ของผู้ล้ีภัย โดยเฉพาะสิทธิที่จะอาศัยอยู่อย่างปลอดภัยในประเทศอื่น เพื่อเตรียมพร้อมท่ีจะ
สง่ กลับประเทศตน้ ทางตามที่ผู้ลภ้ี ัยต้องการ หรือเพือ่ ท่ีจะส่งไปยังประเทศที่สาม
182
นกั เรยี นควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การลี้ภยั ทางดนิ แดน และการลี้ภัยทางการทูตมีความแตกตางกัน
1 ผูลภ้ี ัย อนสุ ัญญาวาดวยสถานภาพผูลภ้ี ัย พ.ศ. 2494 ใหค าํ นยิ าม อยา งไร
และความหมายของสถานภาพผูลภี้ ัยวา หมายถงึ บุคคลทีจ่ ําเปนตอ งทงิ้ ประเทศบาน แนวตอบ มีความแตกตางกนั คอื การลภี้ ัยทางดินแดน
เกดิ ของตนเอง เนื่องจากความหวาดกลวั การถกู ประหตั ประหาร หรือไดร บั การคุกคาม ผขู อลภี้ ยั มคี วามตอ งการทจี่ ะเขา ไปอยใู นดนิ แดนหรอื ประเทศตา งๆ
ตอ ชีวิตเนื่องจากสาเหตุขอ หน่ึงขอ ใด เชน เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ สมาชิกภาพ ตามที่รอ งขอ ซง่ึ ขนึ้ อยูกับการตดั สนิ ใจของดินแดนเหลา นน้ั วา
ในกลมุ ทางสังคม สมาชิกภาพในกลุมความคดิ ทางการเมอื ง เปนตน จะใหล ้ีภัยหรือไม สว นการลภ้ี ยั ทางทตู คอื การท่ผี ูขอลภี้ ยั ยงั อยู
2 สาํ นักงานขา หลวงใหญผ ลู ีภ้ ัยแหง สหประชาชาติ (United Nations High ภายในประเทศทีต่ องการลภี้ ัย แตท ําเรื่องขอลภ้ี ยั เขา ไปอยูใน
Commissioner for Refugees : UNHCR) กอต้ังเมอ่ื วันที่ 9 มิถนุ ายน พ.ศ. 2489 สถานทูตของรฐั ผใู หล ภ้ี ยั
โดยนายแฟรงกลิน ดี.รสุ เวลต ประธานาธบิ ดคี นที่ 32 ของสหรัฐอเมรกิ า
มสี าํ นักงานใหญอ ยทู ่กี รุงเจนวี า ประเทศสวติ เซอรแ ลนด
182 คู่มือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจคน้ หา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Evaluate
Explain Expand Explain
อธบิ ายความรู้
ในส่วนของประเทศไทยน้ัน ได้ให้ความสนับสนุนช่วยเหลือและอ�านวยความสะดวก ครใู หน ักเรยี นยกตัวอยางกฎหมายการสง ผูราย
เกี่ยวกับผู้อพยพหนีภัยเข้ามาในดินแดนประเทศไทยอย่างต่อเน่ือง ตามหลักมนุษยธรรมด้วยดี ขา มแดน คนละ 1 กฎหมาย โดยอธบิ ายวา
โดยใหค้ วามคมุ้ ครองตอ่ ผ้อู พยพ และพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตในดา้ นต่างๆ อาทิ การฝกึ ทกั ษะอาชพี เปนกฎหมายอะไรและมสี าระสาํ คญั อยา งไร
และกา รศกึ ษา๔เพ) ื่อกเขฎาหจมะสาายมการาถรดสา�่งเผนูนิ้ร้าชยีวิตขร้าะมหแวา่ดงนอยใู่วนิธพีก้ืนาทรสพ่ี ่งักผพู้ริง้าชย่วั ขค้ารมาวแอดยน่าเ1งปป็นลวอิธดีกภาัยรที่รัฐ (แนวตอบ ตัวอยา งกฎหมายการสงผรู า ย
ขามแดน เชน พระราชบัญญตั ิสง ผูรา ยขา มแดน
ต่างๆ ได้ยึดถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ และนับว่าเป็นการแสดงความร่วมมือระหว่างรัฐ พ.ศ. 2551
ในการจัดการกับผู้กระท�าความผิดที่พยายามหลบหนีให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมวิธีหนึ่ง
นอกเหนือไปจากการให้ความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การช่วยจัดหา และจัดส่งพยานบุคคล มาตรา 8 การสงผรู ายขามแดนใหเ ร่มิ ตน
พยานเอกสาร หรือพยานวตั ถรุ ะหวา่ งกนั การส่งผู้รา้ ยข้ามแดนนน้ั โดยปกตจิ ะกระทา� ในลักษณะ ดวยการมคี าํ รอ งขอใหส งผรู า ยขา มแดนจาก
ของข้อตกลงทวิภาคี ซ่ึงจะมีสาระสา� คัญเก่ยี วกับความผิดท่สี ามารถส่งตัวผกู้ ระทา� ขา้ มแดนได้นนั้ ประเทศผรู อง ขอคํารองขอใหส งผูรา ยขา มแดนของ
จะต้องรา้ ยแรงถงึ ระดบั หน่ึง และจะตอ้ งไม่ใชค่ วามผิดทางการเมอื ง หรอื การทหาร ประเทศผรู องขอท่ีมสี นธิสญั ญาสง ผรู า ยขามแดน
กบั ประเทศไทย ใหจ ัดสงไปยงั ผูประสานงานกลาง
ตัวอย่างของสนธิสัญญาหรือข้อตกลงท่ีเกิดข้ึน คือ สนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลแห่ง ในกรณีท่ปี ระเทศผูรองขอมิไดมสี นธสิ ัญญาสงผูร าย
ราชอาณาจกั รไทยกบั รฐั บาลแหง่ สหรฐั อเมรกิ าวา่ ดว้ ยการสง่ ผรู้ า้ ยขา้ มแดน พ.ศ. ๒๕๓๓ สนธสิ ญั ญา ขา มแดนกับประเทศไทย ใหจดั สงคํารอ งขอ
ระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนว่าด้วยการส่งผู้ร้าย ดังกลา วโดยผา นวิถที างการทูต
ขา้ มแดน พ.ศ. ๒๕๔๑
มาตรา 27 เม่ือจับบุคคลซึง่ ถูกรอ งขอใหส ง
นานาสาระ ขา มแดนไดแ ลว ไมวาจะไดม ีคํารอ งขอตาม
พระราชบญั ญตั นิ ห้ี รือไม ใหเจา หนาทผี่ ูมีอํานาจ
อาชญากรรมสงคราม ซ่งึ จับกมุ บุคคลดงั กลาวสอบถามบุคคลนนั้ วา
จะยินยอมใหสงขามแดนหรือไม)
อาชญากรรมสงคราม (War Crime) คือ การละเมิดฝ่าฝืนจารีตประเพณี หรือกฎในการทำาสงคราม เช่น
การฆ่าคนหรือเชลยศึกจำานวนมาก การสังหารตัวประกันโดยขาดความยับยั้งชั่งใจ จนทำาให้เกิดความเสียหาย
อยา่ งรุนแรงต่อมวลมนุษยชาติ เป็นตน้
โดยปัจจุบันอาชญากรรมสงครามเป็นอำานาจหน้าท่ีของศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่จะดำาเนินการ
ด้านกระบวนการยตุ ธิ รรม
ตัวอย่างการกระทำาที่ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ได้แก่ การสั่งสังหารชาวยิวนับล้านคนของบรรดาผู้นำา
นาซเี ยอรมัน ในชว่ งสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 การสงั หารชาวบอสเนยี นับหมืน่ คนของอดีตผนู้ าำ เซอร์เบยี ในสมัยสงคราม
บอสเนยี ชว่ ง ปี ค.ศ. 1992 - 1995 (พ.ศ. 2535 - 2538) เป็นตน้
183
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT เกรด็ แนะครู
ผกู ระทาํ ความผดิ ประเภทใด ไม สามารถสง ตวั ผกู ระทาํ การขา มแดนได ครคู วรใหน กั เรียนรว มกนั อภปิ รายในประเดน็ ความสาํ คญั ของกฎหมายการสง
1. ความผดิ ทางสงั คม ผรู ายขา มแดน รวมถงึ วิเคราะหถ ึงประโยชนทเี่ กิดจากการมีกฎหมายการสง ผรู า ย
2. ความผิดทางการเมอื ง ขามแดน โดยท่ีครคู วรมสี วนรวมในการอภปิ รายของนกั เรยี น ทงั้ การต้งั คําถาม
3. ความผิดทางเศรษฐกจิ ตงั้ ขอสงั เกต เพอื่ กระตุนใหน กั เรียนไดใชทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห
4. ความผิดทางจารีตประเพณี
นักเรยี นควรรู
วเิ คราะหค ําตอบ ตอบขอ 2. เน่อื งจากการสงตวั ผรู า ย
1 การสง ผูรายขา มแดน คอื การสงมอบตัวผูต องหาหรือผซู ่ึงตองคาํ พพิ ากษา
ขามแดนนั้นโดยปกติจะกระทาํ ในลกั ษณะของขอตกลงทวิภาคี ใหล งโทษแลว ไปยังรฐั ซ่ึงผนู นั้ ตองหาวา ไดกระทําผิดทางอาญา หรอื ถกู พิพากษา
ซึ่งมีสาระสาํ คญั เก่ยี วกับความผดิ ที่สามารถสงตัวผกู ระทาํ ขามแดน ใหล งโทษทางอาญาแลวในดนิ แดนของรัฐที่ขอใหสง ตัวโดยรฐั ซึง่ บคุ คลนน้ั
ไดน ้ัน จะตอ งรายแรงถึงระดับหนง่ึ และไมใ ชความผิดทางการเมือง ไปปรากฏตวั อยู
หรือการทหาร
คูม่ ือครู 183
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครูใหนกั เรียนยกตัวอยางกฎหมายที่เกี่ยวกับ ๕) กฎหมายการให้ความคุ้มครองแก่คนชาติ กฎหมายระหว่างประเทศในส่วน
การคมุ ครองแกค นชาติ คนละ 1 กฎหมาย
แลว นาํ มารวมกนั วเิ คราะหและอภปิ ราย ทเี่ กยี่ วกบั การใหค้ วามคมุ้ ครองตอ่ ผมู้ สี ญั ชาตขิ องรฐั เปน็ กฎหมายทใ่ี ชค้ วบคมุ และคมุ้ ครองคนชาติ
สาระสาํ คญั รวมถงึ ประโยชนของกฎหมาย หโดรยอื รผัฐทู้ ส่มี ัญสี ชญั าชตาิขตอิขงอคงนรัฐต่าทงง้ัดท้าีเ่วปนน็ ้ันบอคุ าคจลดธ�ารเรนมินดกาาแรลใะหน้ ิต“บิคุควคามลคเุม้มื่อคตรออ้ งงไทปาองยก่ใูานรดทินูตแ1ด(นdiขpอloงmรัฐaอti่ืนc
ดังกลา ว protection)” แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นคนชาติของตน ด้วยการน�าเรื่องขึ้นเรียกร้องกับรัฐท้องถ่ิน
เรม่ิ ตน้ จากการเจรจาตามวถิ ที างการทตู ไปจนถงึ อาจมกี ารเรยี กรอ้ งในระดบั อนญุ าโตตลุ าการหรอื
2. ครูใหน กั เรียนหาขา วจากส่ือตางๆท่ีมีประเด็น ศาลระหวา่ งประเทศต่อไป
เกยี่ วกบั ปญหาแรงงานระหวา งประเทศ
แลว นาํ มาวิเคราะหว า จากเน้ือหาในขา วน้ัน กฎหมายเก่ียวกับการให้ความคุ้มครองแก่คนชาติมีความส�าคัญและพัฒนามาเป็น
มคี วามเกีย่ วขอ งกับกฎหมายระหวา งประเทศ เวลานาน และมีบทบาทในการก�าหนดหน้าท่ีและความรับผิดชอบพ้ืนฐานซ่ึงรัฐมีระหว่างกันใน
ใดบาง โดยใหนกั เรียนนาํ ขาวมาติดลงใน ระดบั ระหว่างประเทศ ว่าการกอ่ ความเสียหายแกค่ นชาติของรฐั หน่งึ หากไมแ่ ก้ไข เม่อื ถึงจุดหนึง่
กระดาษ A4 แลว เขยี นคาํ อธบิ ายประกอบ อาจเป็นผลให้เกิดความรับผิดชอบระหว่างประเทศต่อรัฐสัญชาติของเขาได้ รวมทั้งยังเชื่อมโยง
ไปถึงวิธีการเพ่ือใช้สิทธิในการเรียกร้อง และระงับกรณีขัดแย้งระหว่างรัฐ เช่น โดยการเจรจา
3. ครูใหน กั เรียนจดั ทําผังความคดิ ท่ีแสดงถงึ ผลดี การอนญุ าโตตุลาการ หรอื ทางศาล เปน็ ต้น
ท่ีเกดิ ข้ึนจากการมีกฎหมายแรงงานระหวา ง
ประเทศ แลว นาํ ผลงานมาแสดงภายในชั้น ๖) กฎหมายแรงงานระหว่างประเทศ กฎหมายแรงงานเป็นกฎหมายที่พัฒนา
เพ่ือทําการแลกเปลย่ี นเรยี นรู
ขึ้นในสังคม ต้ังแต่เป็นเพียงกฎหมายเก่ียวกับสัญญาจ้างแรงงาน ซ่ึงยอมให้คู่กรณีตกลงเง่ือนไข
ของสัญญากันได้เองตามสมัครใจ มาจนปัจจุบันมีกฎหมายควบคุมเพ่ิมขึ้นเพื่อให้ความคุ้มครอง
ฝา่ ยท่ีมกั เสียเปรยี บในการทา� สัญญา รวมท้ังเพ่อื รักษาคุณภาพของผูใ้ ชแ้ รงงาน และป้องกันมใิ ห้
สงั คมตอ้ งรับภาระเนอื่ งจากผปู้ ระสบเคราะหก์ รรมจากการทา� งาน
กฎหมายแรงงาน ในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับการจ้างแรงงาน ค่าจ้างและประโยชน์
ตอบแทนตา่ งๆ ในการทา� งาน และหลกั ประกนั เมอื่ มกี ารประสบภยั จากการทา� งานหรอื เมอ่ื วา่ งงาน
ตลอดจนเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกจ้างกับนายจ้าง รวมท้ังระงับข้อขัดแย้งระหว่าง
ลูกจา้ งกับนายจ้าง
ประเด็นปัญหาด้านแรงงานถือเป็นปัญหาที่มิได้จ�ากัดอยู่แต่เฉพาะภายในแต่ละ
อปงรคะเ์กทาศรเแทร่างนงา้ันนรพะิจหาวร่าณงปาไรดะเ้จทาศกขก2้ึนารทเพ่ีป่ือระใเหท้แศรตง่างงาๆนจท�า่ัวนโลวนกมีม๑๘าต๓รฐปารนะคเวทาศมเไปด็น้รอ่วยมู่ทก่ีดันียจิ่งัดขต้ึน้ัง
มสี ภาพการท�างานที่เกื้อกลู ต่อผู้ใช้แรงงาน มีโอกาสท�างาน และมีความม่นั คงทางเศรษฐกจิ โดย
การสร้างกฎเกณฑ์วางมาตรฐานการใช้แรงงานระหว่างประเทศในรูปแบบของอนุสัญญา เช่น
การใหล้ ูกจ้างมอี ิสระทจ่ี ะเลอื กเปน็ สมาชกิ สมาคมสหภาพแรงงาน การห้ามใชแ้ รงงานเด็ก เปน็ ตน้
184
นักเรียนควรรู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
องคการแรงงานระหวางประเทศมีความสําคัญอยางไร
1 ความคุมครองทางการทูต จําแนกได 3 ประเภท คือ แนวตอบ องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ หรือ ไอ แอล โอ
ความคุม กนั เก่ียวกบั ตัวบคุ คล หมายถึง ความละเมิดมไิ ดใ นตวั แทนทางการทูต (International Labour Organization : ILO) เปน หนว ยงานท่ีมี
บทบาทหนา ทใ่ี หค วามชวยเหลือใหผูใ ชแรงงานทั่วโลก ไดมชี ีวติ
ปลอดจากการจับกมุ หรอื กกั ขัง และสภาพการทาํ งานทดี่ ขี นึ้ คมุ ครองผใู ชแ รงงานใหไ ดร บั สทิ ธติ า งๆ
ความคุมกันเกีย่ วกบั สถานที่ หมายถึง ความละเมิดมิไดในสถานทท่ี าํ การของ ตามแนวทางสิทธิมนุษยชน เชน มีความปลอดภัยในการทํางาน
รอดพน จากการใชง านอยางทารุณ เปน ตน ถือเปน หนว ยงาน
ผูแทนทางการทตู และท่อี ยูสวนตวั ของผแู ทนทางการทตู ทสี่ ง เสริมและปกปองดา นสทิ ธิมนษุ ยชนอยา งแทจรงิ
ความคุม กนั ทางศาล หมายถงึ การหลดุ พน จากอาํ นาจศาลในรัฐผูรับ
ความคุมกนั นีม้ ไี ดท ง้ั ทางคดอี าญา คดแี พง และคดีปกครอง
2 องคก ารแรงงานระหวา งประเทศ (International Labors Organization : ILO)
เปนองคก ารชาํ นาญพเิ ศษของสหประชาชาติ มีภารกจิ หลัก คอื การชวยเหลือผูใช
แรงงานทว่ั โลกใหไ ดรับความยุติธรรมจากสงั คม ใหม ชี วี ติ และสภาพการทํางานทดี่ ีข้ึน
184 คูมือครู
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Expand Evaluate
Explain
อธบิ ายความรู้ Explain
ปัจจุบันประเทศไทยได้ร่วมให้สัตยาบันอนุสัญญาท่ีเก่ียวข้องกับกฎหมายแรงงาน ครูใหนกั เรียนอธิบายจดุ มงุ หมายสาํ คญั
ระหว่างประเทศไปแล้วหลายฉบับ และได้พยายามด�าเนินการให้เป็นไปตามอนุสัญญา ไม่ว่าจะ ของการมีกฎหมายสงิ่ แวดลอมระหวา งประเทศ
เป็นการหยุดพักผ่อนประจา� สัปดาห์ในงานอุตสาหกรรม การจัดตั้งบริการจัดหางาน การก�าหนด พรอ มบอกผลดีของการมกี ฎหมายสง่ิ แวดลอ ม
อายุข้ันต�า่ ที่อนุญาตใหจ้ า้ งงานได้ การฟ้นื ฟสู มรรถภาพทางอาชพี การจา้ งงานคนพิการ เปน็ ตน้ ระหวา งประเทศ
๗) กฎหมายสิ่งแวดล้อมระหว่างประเทศ เป็นสาขาหนึ่งของกฎหมายระหว่าง (แนวตอบ จดุ มุงหมายสาํ คญั ของการมีกฎหมาย
ส่ิงแวดลอ มระหวา งประเทศ มาจากแนวคดิ ท่ีวา
ประเทศท่ีใช้ควบคุมการด�าเนินกิจกรรมของรัฐ และปัจเจกบุคคลท่ีอยู่ภายใต้อ�านาจรัฐ ซ่ึง สง่ิ แวดลอ ม ถอื เปน สมบตั สิ ว นรวมของมนษุ ยชาติ
มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครอง อนุรักษ์ และพัฒนาส่ิงแวดล้อมอย่างย่ังยืน เกิดขึ้นเนื่องจาก ทจี่ ะตอ งรว มกนั รักษา และตอ งรว มมอื แกไ ขปญหา
ความกังวลของนานาประเทศเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และได้มีพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง สง่ิ แวดลอ มทเี่ กดิ ขนึ้ ตามความสามารถและศกั ยภาพ
ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ของแตละประเทศ สาระสําคัญของกฎหมาย
สิง่ แวดลอ มเกดิ ขึน้ จาก การทาํ ขอ ตกลงกนั ระหวา ง
สาระส�าคัญของกฎหมายฉบับนี้ เกิดข้ึนจากการท�าข้อตกลงกันระหว่างรัฐต่างๆ รฐั ซง่ึ มีประเด็นที่ครอบคลุมในเรอื่ งการรกั ษา
กจึงาทรล�าดใหล้มงขีรอายงโลอะโเซอนียดกเปาร็นเจป�าลนีย่ วนนแมปาลกงแสลภะาคพรภอูมบิอคาลกุมาใศนขเอร่ืองโงลตก่าง1เๆปน็ เตชน้ ่น เรื่องมลพิษทางอากาศ สิ่งแวดลอม เชน การควบคมุ มลพิษทางอากาศ
การลดการทําลายช้ันโอโซน การแกไขปญหาภาวะ
แต่หลักการส�าคัญของกฎหมายส่ิงแวดล้อมระหว่างประเทศน้ัน คือ ส่ิงแวดล้อม โลกรอน เปนตน)
ถือเปน็ สมบัตสิ ว่ นรวมของมนุษยชาติ ท่ีต้องรว่ มกนั ปกปอ้ งและรกั ษา รวมทงั้ ต้องให้ความร่วมมือ
ในการแกไ้ ขปัญหาสิ่งแวดลอ้ มตามกา� ลงั ความสามารถของแตล่ ะรฐั ขยายความเขา้ ใจ Expand
กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกฎหมายท่ีใช้ในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐในเบื้องต้น ครูใหนกั เรยี นจดั ทาํ ส่อื เพื่อการเรยี นรู
ปจั จบุ นั ไดพ้ ฒั นาอยา่ งรวดเรว็ โดยเพม่ิ รายละเอยี ดของเนอื้ หามากขนึ้ เรอ่ื ยๆ จนกลายเปน็ กฎหมาย ท่เี กีย่ วกบั กฎหมายระหวา งประเทศทสี่ ําคัญ โดย
เก่ียวกับการร่วมกันท�ากิจกรรมระหว่างรัฐ ผ่านทางองค์การหรือสมาคมระหว่างรัฐต่างๆ ดังนั้น ใหน กั เรยี นจดั ทาํ ในรูปแบบตา งๆ ตามทน่ี กั เรยี น
ในฐานะพลเมืองที่ดีของประเทศและพลโลกจึงต้องศึกษาและเรียนรู้ เพื่อท�าความเข้าใจกฎหมาย ถนัด เชน แผน พับ สมดุ ภาพ PowerPoint เปนตน
ต่างๆ เหล่านี้ เพ่ือน�ามาใช้เป็นแนวทางในการด�าเนินชีวิตและแนวทางการพัฒนาประเทศให้ แลว นําสง ครูผูส อน
สอดคลอ้ งกบั มาตรฐานของโลกตอ่ ไป
ตรวจสอบผล Evaluate
กลา่ วโดยสรปุ ไดว้ า่ กฎหมาย คอื กฎกตกิ าทส่ี งั คมตงั้ ขนึ้ มาเพอื่ ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ควบคมุ
หรือจัดระเบียบทางสังคม โดยกฎหมายได้วางแนวทางสำาหรับการอยู่ร่วมกันและได้กำาหนด ครตู รวจสอบความถูกตอ งของการจัดทําสื่อ
บทบาท สิทธิ และหน้าที่ของแต่ละคนในสังคมไว้ ต้ังแต่เกิดจนตาย ซ่ึงในฐานะสมาชิกของ เพ่อื การเรยี นรูเ รือ่ งกฎหมายระหวา งประเทศ
สังคมจึงมีความจำาเป็นท่ีจะต้องศึกษาและทำาความเข้าใจกฎหมาย ยิ่งโดยเฉพาะกฎหมายที่ ทส่ี าํ คัญ
เกี่ยวข้องกับตนเองและครอบครัว กฎหมายแพ่งเก่ียวกับนิติกรรมสัญญา กฎหมายอาญา
ตลอดจนกฎหมายอ่นื ๆ ทเี่ กยี่ วข้องและมีผลกระทบตอ่ ส่วนรวมที่ควรรู้ เช่น กฎหมายเกยี่ วกับ
การรับราชการทหาร กฎหมายเกี่ยวกับภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค
กฎหมายระหว่างประเทศในเร่ืองต่างๆ เป็นต้น เพราะการศึกษากฎหมายดังกล่าวจะเป็น
ประโยชน์ทง้ั ต่อตนเอง สังคม ชุมชน และสังคมโลก
185
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นักเรยี นควรรู
ขอใดตอ ไปนเ้ี ก่ยี วกับขอ งกฎหมายระหวางประเทศ 1 การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก เปนประเดน็ ปญ หาทป่ี ระเทศสากล
1. การลภ้ี ัย ท่ัวโลกใหความสนใจ โดยเฉพาะอยา งยิ่ง ภาวะโลกรอน (Global Warming) ซ่งึ มี
2. การจาํ นอง สาเหตุมาจากการทํากิจกรรมตา งๆ ของมนษุ ยท ี่ทาํ ลายชัน้ บรรยากาศ เชน
3. การละเมดิ การเผาไหมเ ชื้อเพลงิ คารบ อน การปลอ ยแกส เรอื นกระจก การตัดไมท ําลายปา
4. การขายทอดตลาด เปนตน จากปญ หาดงั กลา ว จงึ ไดมคี วามพยายามในการสรางกฎหมายส่งิ แวดลอม
ระหวา งประเทศขึ้น เชน พิธสี ารเกียวโต (Kyoto Protocol) ทเ่ี ปน สนธิสัญญาเพ่ือ
วิเคราะหคาํ ตอบ ตอบขอ 1. เพราะการลี้ภยั เปน เร่ืองของการ มุงลดควบคมุ ปรมิ าณการปลอยแกส เรือนกระจก โดยเฉพาะอยางย่ิงในกลมุ ประเทศ
อุตสาหกรรม
ทีบ่ คุ คลรอ งขอตอ ดนิ แดนหรือประเทศตางๆ เพือ่ หลกี หนีภัย
อันตรายตา งๆ ภายในประเทศของตน สว นในขอ อืน่ ๆ เปนเรอ่ื ง มมุ IT
ที่เก่ียวกับกฎหมายแพง และพาณิชยท งั้ สิ้น
ศกึ ษาคนควาขอ มูลเพ่ิมเติมเก่ยี วกับกฎหมายสงิ่ แวดลอมระหวา งประเทศ ไดท ี่
www.onep.go.th/download/soe42/21.doc
คูม่ อื ครู 185
กระตุ้นความสนใจ สา� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเขา้ ใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand
Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล
ครูตรวจสอบความถกู ตอ งจากการตอบคําถาม คาปถระาจÓมหนว่ ยการเรียนรู้
ประจาํ หนวยการเรียนรู
๑. กฎหมายมคี วามสา� คญั ต่อตวั เราและสังคมไทยอยา่ งไร จงอธิบาย
หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู ๒. กฎหมายแพ่งเก่ียวกบั ตนเองและครอบครัวทส่ี �าคัญมีอะไรบ้าง ให้สรุปมาพอสงั เขป
๓. กฎหมายอาญาเป็นกฎหมายที่เก่ียวข้องกับเร่ืองใด และมีความส�าคัญต่อการอยู่ร่วมกัน
1. ปายนเิ ทศเพอื่ ใหค วามรูท เี่ ก่ยี วกบั การทาํ สญั ญา
ตามกฎหมาย ในสังคมอย่างไร
๔. เพราะเหตใุ ดเราจึงจา� เป็นต้องใหค้ วามสา� คญั กบั กฎหมายระหวา่ งประเทศ
2. บันทกึ ผลการวเิ คราะหค วามผดิ ทางอาญา ๕. นักเรียนเห็นด้วยหรือไม่ว่าการเรียนรู้ท�าความเข้าใจกฎหมายแต่ละประเภทเป็นวิธีที่ดีท่ีสุด
และผลกระทบท่มี ีตอสังคม
ท่จี ะท�าให้เราสามารถปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายได้อย่างถกู ต้อง จงวิเคราะหแ์ ละให้เหตุผล
3. สือ่ เพ่อื การเรียนรทู ีเ่ กยี่ วกับกฎหมายระหวา ง
ประเทศทีส่ าํ คญั
กิจสรก้ารงรสมรรค์พัฒนาการการเรยี นรู้
กิจกรรมท่ี เชญิ วทิ ยากรในทอ้ งถิ่นมาบรรยายให้ความรเู้ กย่ี วกับกฎหมายในชีวิตประจา� วัน
ทีน่ ักเรียนควรรู้ และแนวทางการปฏบิ ตั ิตนตามกฎหมาย
๑ ให้นักเรียนน�าภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวันคนละ ๑ ข่าว แล้วน�ามา
อภปิ รายรว่ มกนั ในชั้นเรยี นวา่ ภาพหรอื ขา่ วดงั กลา่ วนั้นเก่ยี วข้องกบั กฎหมาย
กิจกรรมที่ อะไรและเพราะเหตใุ ดจึงไดส้ รุปเช่นน้นั
ให้นักเรียนจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้ความรู้และเชิญชวนให้สมาชิกในโรงเรียน
๒ ปฏบิ ัติตามกฎหมายในชีวติ ประจ�าวันที่ได้เรียนมา
กิจกรรมท่ี
๓
186
แนวตอบ คาํ ถามประจาํ หนวยการเรยี นรู
1. กฎหมายเปนสิ่งทกี่ ําหนดสถานะและบทบาทหนาทขี่ องเรา อีกทงั้ เปนหลักในการปฏบิ ตั ิตนเพือ่ ใหเ กดิ ความเปนระเบยี บ
เรียบรอยภายในสงั คม ซึง่ หากทุกคนปฏบิ ตั ิตามกฎหมายอยา งเครง ครัด ยอมสง ผลใหส ังคมมีความสงบสขุ และปลอดภัย
2. โดยทวั่ ไปการแบงประเภทของกฎหมายจะพิจารณาโดยใชหลักเกณฑ 3 ประการ ไดแ ก
- การจัดแบง กฎหมายโดยอาศัยองคกรท่อี อกกฎหมายเปนเกณฑ
- การแบง ประเภทตามลักษณะความสมั พันธของคกู รณีทเ่ี ก่ยี วขอ งกบั กฎหมาย
- การแบง ประเภทตามบทบาทของกฎหมาย
3. กฎหมายแพง ทเ่ี ก่ียวของกบั ตนเองและครอบครวั เชน กฎหมายเรอื่ งบุคคล กฎหมายเรอ่ื งละเมดิ กฎหมายเรือ่ งมรดก เปนตน
4. เพราะเราจะตองมกี ารตดิ ตอ สื่อสารกนั ระหวางประเทศ จงึ จาํ เปนตอ งมกี ฎหมายระหวางประเทศเพอ่ื เปน ขอกาํ หนดใหเกิด
การปฏิบัติรว มกนั และเพอ่ื ชว ยรักษาความสัมพนั ธระหวางประเทศ
5. เห็นดวย เพราะการศึกษากฎหมายจะชวยใหเ ราเขาใจในบทบญั ญัตขิ องกฎหมายตางๆ แลวสามารถนํามาปฏบิ ัตใิ นชวี ติ
ประจาํ วันไดอ ยางถูกตอง
186 คู่มอื ครู
กระตนุ้ ความสนใจ ส�ำรวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Expand Evaluate
บรรณานกุ รม
กัญญา ลีลาสัย. ประวัติศาสตรช์ นชาติไทย. กรุงเทพมหานคร : สถาบันวิถที รรศน,์ ๒๕๔๔.
ข้อมลู มตชิ น, ศูนย์. มติชนบันทึกประเทศไทย ปี ๒๕๕๑. กรุงเทพมหานคร : มติชน, ๒๕๕๒.
คณะกรรมการพเิ ศษเพอ่ื ประสานงานโครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ร,ิ สา� นกั งาน. การประกวดผลงาน
ตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง. กรงุ เทพมหานคร : อรุณการพมิ พ์, ๒๕๕๑.
คณะกรรมการวฒั นธรรมแหง่ ชาต,ิ สา� นกั งาน.แนวทางการสบื คน้ วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ไทย. กรงุ เทพมหานคร:
โรงพมิ พค์ รุ สุ ภาลาดพรา้ ว, ๒๕๔๔.
บรหิ ารวชิ าบรู ณาการ, โครงการ. มนษุ ย์กับสังคม. กรงุ เทพมหานคร: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร,์ ๒๕๔๒.
เฉลียว ฤกษ์รุจิพมิ ล. “การจดั ระเบยี บสงั คม” ใน สงั คมวทิ ยา. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัย
เกษตรศาสตร,์ ๒๕๔๓.
ชนดิ า ชติ บณั ฑติ ย.์ โครงการอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดา� ริ: การสถาปนาพระราชอา� นาจนา� ในพระบาทสมเดจ็
พระเจา้ อยหู่ วั . กรงุ เทพมหานคร: มลู นธิ โิ ครงการตา� ราสงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร,์ ๒๕๕๐.
ชาญชยั แสวงศกั ด.ิ์ คมู่ ือประชาชนเรือ่ งความรเู้ ก่ยี วกบั สิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของประชาชน.
กรงุ เทพมหานคร : สา� นกั งานศาลปกครอง, ๒๕๔๕.
ด�ารงค์ ฐานด.ี มานษุ ยวิทยาเบอ้ื งต้น. กรุงเทพมหานคร : โอเดยี นสโตร,์ ๒๕๔๔.
ธรี ยุทธ บญุ ม.ี ชาตนิ ยิ มและหลังชาตินยิ ม. กรงุ เทพมหานคร : สายธาร, ๒๕๔๖.
พระธรรมนญู ศาลยตุ ธิ รรม พ.ศ. ๒๕๔๓. กรงุ เทพมหานคร : วทิ ยพฒั น์, ๒๕๔๔.
พระราชบัญญตั ริ ับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๙๗. กรงุ เทพมหานคร : สตู รไพศาล, ๒๕๔๗.
มานษุ ยวทิ ยาสริ นิ ธร, ศนู ย.์ สงั คมและวฒั นธรรมไทย. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พเ์ รอื นแกว้ การพมิ พ,์ ๒๕๔๒.
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรมศัพท์กฎหมายไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน. (พิมพ์คร้งั ท่ี ๒).
กรงุ เทพมหานคร : อมรนิ ทรก์ ารพมิ พ,์ ๒๕๔๓.
วลยั ลกั ษณ์ ทรงศริ .ิ พพิ ธิ ภณั ฑข์ องคนธรรมดา. กรงุ เทพมหานคร: มลู นธิ เิ ลก็ - ประไพ วริ ยิ ะพนั ธ,์ุ ๒๕๕๑.
วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา สา� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, สา� นกั .
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง กลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย, ๒๕๕๑.
ศาลรฐั ธรรมนญู , สา� นกั งาน. รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐. กรงุ เทพมหานคร:
คณะรฐั มนตรีและราชกิจจานเุ บกษา, ๒๕๕๑.
ศาลรฐั ธรรมนญู , สา� นกั งาน. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั ศาลรฐั ธรรมนญู . กรงุ เทพมหานคร: พ.ี เพรส., ๒๕๔๖.
ศรศี กั ร วลั ลโิ ภดม. พพิ ธิ ภณั ฑแ์ ละประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถน่ิ กระบวนการเรยี นรรู้ ว่ มกนั . กรงุ เทพมหานคร:
มลู นิธิเล็ก - ประไพ วิรยิ ะพนั ธ,์ุ ๒๕๕๑.
ศึกษาธิการ, กระทรวง. ส�านักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. การศึกษารูปแบบและ
ปัจจัยท่ีชุมชนประสบความส�าเร็จในการใช้วัฒนธรรมเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ครุ สุ ภาลาดพรา้ ว, ๒๕๔๕.
18๗
คู่มือครู 187
กระตุ้นความสนใจ สำ� รวจคน้ หา อธิบายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engaae Expore Explain Elaborate Evaluate
สภาทนายความ. กฎหมายเบอ้ื งตน้ สา� หรบั ประชาชน. กรงุ เทพมหานคร: ประยรู วงศพ์ รน้ิ ตง้ิ , ๒๕๔๐.
สีดา สอนศรี และคณะ. เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : การเมือง เศรษฐกจิ และการต่างประเทศหลงั
วกิ ฤตเิ ศรษฐกจิ (พ.ศ. ๒๕๔๐ - ๒๕๕๐). กรงุ เทพมหานคร : คณะรฐั ศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั
ธรรมศาสตร,์ ๒๕๕๒.
สทุ ธิ ภบิ าลแทน และคณะ. จา้ วแผน่ ดนิ ไทย ราชนั แหง่ โลก. กรงุ เทพมหานคร: อกั ษรเจรญิ ทศั น,์ ๒๕๕๑.
เสนห่ ์ จามรกิ . การเมืองไทยกับพัฒนาการรัฐธรรมนูญ. กรงุ เทพมหานคร : มลู นธิ ิโครงการตา� รา
สังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์, ๒๕๔๙.
__________สทิ ธมิ นษุ ยชน : เกณฑค์ ณุ คา่ และฐานความคดิ . กรงุ เทพมหานคร : มลู นธิ โิ ครงการ
ต�าราสงั คมศาสตร์และมนุษยศาสตร์, ๒๕๔๔.
__________ สิทธิมนุษยชนในสงั คมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มูลนธิ โิ ครงการตา� ราสงั คมศาสตร์
และมนุษยศาสตร์, ๒๕๔๕.
__________ สทิ ธมิ นุษยชน : เส้นทางสู่สนั ติประชาธรรม. กรงุ เทพมหานคร : มลู นิธิโครงการ
ต�าราสงั คมศาสตร์และมนุษยศาสตร,์ ๒๕๔๓.
ผู้ตรวจราชการแผ่นดินและส�านักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน,
สา� นักงาน. รวมกฎหมายท่ปี ระชาชนควรรู.้ กรงุ เทพมหานคร : ม.ป.ท, ม.ป.ป.
หยดุ แสงอทุ ยั . กฎหมายอาญาภาคทว่ั ไป. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร,์ ๒๕๔๕.
อคนิ รพพี ฒั น.์ วฒั นธรรมคอื ความหมาย. กรงุ เทพมหานคร : ศนู ยม์ านษุ ยวทิ ยาสริ นิ ธร, ๒๕๕๑.
อนกุ รรมการดา� เนนิ งานและประสานงานวนั อนรุ กั ษม์ รดกไทย, คณะ. แผนแมบ่ ทวนั อนรุ กั ษม์ รดกไทย.
กรุงเทพมหานคร : ประชาชน, ม.ป.ป.
อมร รกั ษาสตั ย์ และคณะ. ประชาธปิ ไตย : อดุ มการณ ์ หลกั การ และแบบอยา่ งการปกครองของ
หลายประเทศ. กรงุ เทพมหานคร : จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , ๒๕๔๓.
Kavaljit Singh. Questioning Globalization. London : Zed books Ltd, 2005.
Parker,John ; Mars,Leonard ; Ransome,Paul and Stanworth,Hilary. Social Theory:
A Basic Tool Kit. New York : Palvarge Macmillan, 2003.
Trade and Human Development. Asia - Pacific Human Development Report 2006.
Colombo : UNDP Regional Centre, 2006.
กรมสรรพากร. ความรเู้ รอ่ื งภาษ.ี (ออนไลน)์ . สบื คน้ เมอ่ื ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๒, มาจาก http://www.rd.go.
th/publish/286.0.html
กระทรวงการตา่ งประเทศ. ๖๐ ป ี ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน. (ออนไลน)์ . สบื คน้ เมอ่ื ๒๑ กรกฎาคม
๒๕๕๒, มาจาก http://www.mfa.go.th/humanrights/
คณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต.ิ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาต ิ ฉบบั ท ่ี ๑๑
(พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙). (ออนไลน)์ . สบื คน้ เมอ่ื ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๗, มาจากhttp://www.nesdb.go.th
188
188 คมู่ อื ครู
สรา้ งอนาคตเดก็ ไทย
ดว้ ยนวตั กรรมการเรยี นรรู้ ะดบั โลก
>> ราคาเลม่ นกั เรยี นโปรดดจู ากใบสง่ั ซอ้ื ของ อจท.
คมู่ อื คคมู่ รอื ู บคร.ู บหรน.า้ หทนพ่ี า้ ลทเพ่ี มลอื เงมฯอื มง.ฯ4-ม6.4-6
บรษิ ทั อกั ษรเจรญิ ทศั น์ อจท. จำกดั
142 ถนนตะนาว เขตพระนคร กรงุ เทพมหานคร 10200
โทร./แฟกซ.์ 02 6222 999 (อตั โนมตั ิ 20 คสู่ าย) 353050.- .-8 88 5885684694 91 2122827827 2
www.aksorn.com Aksorn ACT
ราคาน้ี เปน็ ของฉบบั คมู่ อื ครเู ทา่ นน้ั