The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รพินทร์ ไพรวัลย์, 2020-07-18 09:21:08

เศรษฐศาสตร์ ppt

เศรษฐศาสตร์ ppt

หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ เศรษฐศาสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖

กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๖

๑_หลกั สตู รวิชาเศรษฐศาสตร์
๒_แผนการจัดการเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_ใบงาน_เฉลย
๕_ข้อสอบประจาหน่วย_เฉลย
๖_การวัดและประเมินผล
๗_เสรมิ สาระ
๘_สอ่ื เสรมิ การเรียนรู้

บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

๑หนว่ ยการเรียนรู้ที่

เศรษฐศาสตรเ์ บ้ืองตน้

ความหมาย ความสาคญั ของวิชาเศรษฐศาสตร์

ความหมายของวชิ าเศรษฐศาสตร์

กำรเลอื กใชท้ รัพยำกร

ศกึ ษำพฤตกิ รรมของ กำรตัดสนิ ใจซือ้ สินค้ำไปบรโิ ภค
มนุษย์ในดำ้ นตำ่ งๆ

กำรเลือกทจี่ ะประกอบอำชพี

กำรปฏบิ ตั ิตอ่ บคุ คลตำ่ งๆ ทอี่ ยใู่ นสงั คม

เปน็ วชิ ำหน่ึงของสังคมศำสตร์

ศึกษำปญั หำต่ำงๆ ในส่วนทเ่ี กย่ี วข้องและ กำรท่ีประชำกรจำนวนมำก
ทีเ่ กดิ ข้ึนในสังคม เขำ้ มำอำศัยรวมกนั ในสังคม

ผลจาก

มกี ำรทำกิจกรรมตำ่ งๆ
ทำงเศรษฐกิจรว่ มกนั

ทรพั ยากรในสงั คมไทย

โรงงำน
ท่ีดนิ เคร่อื งจกั รและอปุ กรณ์

แรงงำนท่ีจำกดั

ความสาคัญของวชิ าเศรษฐศาสตร์

เป็นวชิ ำท่เี กีย่ วขอ้ งกับกำรตดั สนิ ใจในชวี ิตประจำวันของทกุ คน

ผผู้ ลิต ผ้บู ริโภค

คนในสังคมจะมกี ำรตดิ ต่อสมั พนั ธก์ ันในเรอ่ื ง ในระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ซ้อื ขำยสินค้ำกนั อย่ำงไรจึงจะเกิดควำมเปน็ ธรรม จะทำอยำ่ งไรใหเ้ ศรษฐกจิ ของประเทศมกี ำรขยำยตวั

ขอบขา่ ย เป้าหมาย ของการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์

ขอบขา่ ยของการศึกษาวชิ าเศรษฐศาสตร์

จาแนกตามเนอ้ื หาของวิชาเศรษฐศาสตร์

เศรษฐศำสตรจ์ ุลภำค ศกึ ษำถงึ พฤตกิ รรมทำงเศรษฐกิจในส่วนยอ่ ย
ซง่ึ เปน็ ส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกจิ ท้งั ระบบ
เก่ยี วกับกำรบริโภค

เศรษฐศำสตร์มหภำค กำรศกึ ษำถึงพฤติกรรมทำงเศรษฐกิจสว่ นรวม
เกีย่ วกบั เร่อื งรำยได้และรำยจ่ำยประชำชำติ
เปน็ กำรศกึ ษำปญั หำต่ำงๆ ทกี่ ว้ำงกว่ำเศรษฐกจิ
จลุ ภำค

จาแนกตามการวเิ คราะห์ปัญหา กำรมุ่งอธบิ ำยเรอื่ งท่ีเกดิ ข้นึ เรือ่ งทเี่ ป็นอยู่ และเรือ่ ง
ที่จะเกดิ ขึน้ ว่ำเปน็ อยำ่ งไร จำกที่บคุ คลหรอื สังคม
เศรษฐศำสตร์ตำมควำม ตัดสินใจเลือกกำรกระทำอย่ำงใดอย่ำงหนง่ึ ลงไป
เป็นจรงิ หรือเศรษฐศำสตร์
พรรณนำ กำรมุ่งกลำ่ วถึงสิง่ ทค่ี วรจะมหี รอื ควรจะเปน็
โดยอำจจะเกดิ ขนึ้ หรอื ไม่เปน็ ไปตำมทค่ี ำดหวงั ไว้กไ็ ด้
เศรษฐศำสตรท์ ีค่ วร
จะเปน็ หรือเศรษฐศำสตร์
นโยบำย

เปา้ หมายของวชิ าเศรษฐศาสตร์ รู้จกั กำรตดั สินใจเลอื กใช้ทรัพยำกรท่มี อี ยู่
อยำ่ งจำกดั ในกำรบริโภคและใช้ในทำงท่ีดี
ผบู้ ริโภค ที่สุด

ผปู้ ระกอบการผลิต ชว่ ยให้มคี วำมรู้ควำมสำมำรถในกำร
วำงแผนกำรผลติ กำรพยำกรณก์ ำรผลิต
ผู้บริหารในองค์กรของรฐั เพ่อื สนองควำมตอ้ งกำรของผู้บริโภค
ไดอ้ ย่ำงถูกต้อง

ชว่ ยให้มีควำมรคู้ วำมเข้ำใจในเร่อื งกำร
จดั สรรทรัพยำกรอย่ำงเหมำะสม มคี วำม
สำมำรถในกำรวำงแผนนโยบำยเพอื่ สร้ำง
ควำมเจรญิ เติบโตทำงเศรษฐกิจ และแก้
ปัญหำทำงเศรษฐกจิ

ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์

What? - จะผลิตสินค้ำอะไร
How? - เนอ่ื งจำกทรัพยำกรมีจำกดั
For whom? - ทำให้ไม่สำมำรถผลิตสนิ คำ้ และบริกำรไดท้ ุกชนดิ

- จะผลิตอย่ำงไร
- จะผลติ วิธใี ด
- ต้องใช้ปัจจัยกำรผลติ อะไรบำ้ งจงึ จะทำใหต้ น้ ทุนกำรผลิตตำ่ และมปี ระสิทธภิ ำพมำกที่สดุ

- จะผลิตเพื่อใคร
- ใครจะเปน็ ผูใ้ ชแ้ ละจะจำแนกจ่ำยสนิ ค้ำไปยงั ผใู้ ชอ้ ยำ่ งไร

ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์

https://www.youtube.com/watch?v=eMc_tpRm-V8

ทรพั ยากรการผลติ กจิ กรรมทางด้านเศรษฐศาสตร์

ทีด่ นิ และทรพั ยากรธรรมชาติ แรงงาน

เปน็ ทรัพยำกรทีเ่ กดิ ขึ้นเองตำมธรรมชำติ เปน็ ประชำกรในวยั ทำงำน เป็นผู้ใชแ้ รงงำน
ประเทศทีม่ ีดินและทรพั ยำกรอุดมสมบูรณ์ และกำลังควำมคดิ ซง่ึ ไดร้ ับค่ำตอบแทน
จะไดเ้ ปรยี บ
ผู้ประกอบการ
ทุน
เปน็ ผรู้ วบรวมปัจจัยกำรผลติ เพือ่ ทำกำร
เปน็ สินค้ำทุน ซง่ึ ผลตอบแทนจำกำรใชท้ ุน ผลติ ใหไ้ ดผ้ ลผลติ ตำมวัตถุประสงค์ ซงึ่
คอื ดอกเบ้ีย ผลตอบแทนทไี่ ดร้ บั คือ กำไร

การบรโิ ภค

กำรใชป้ ระโยชน์จำกสงิ่ ของและบริกำรเพ่อื สนองควำมตอ้ งกำรของมนุษย์

กำรกิน หำทันตแพทย์เพือ่ ถอนฟัน
กำรบริโภคเป็นกิจกรรมทำงเศรษฐศำสตร์ทผ่ี ้บู รโิ ภคจะตอ้ งคำนึงถึงควำมจำเปน็ และประโยชน์ใชส้ อย เปน็ หลักสำคญั

พระราชบญั ญัตคิ ้มุ ครองผบู้ รโิ ภค

พ.ศ. ๒๕๒๒ แกไ้ ขเมเติม พ.ศ. ๒๕๔๑ เพือ่ คุม้ ครองผู้บริโภคใหไ้ ด้รบั ควำมเป็นธรรมจำกำรบรโิ ภคสนิ ค้ำ

๑ สิทธิท่จี ะไดร้ บั ฟังขำ่ วสำร รวมทัง้ คำพรรณนำคณุ ภำพทถ่ี ูกตอ้ งและเพยี งพอเกยี่ วกับสินค้ำและบริกำร
เพอ่ื มิใหห้ ลงผิดในกำรซอื้ โดยไมเ่ ป็นธรรม

๒ สทิ ธจิ ะเลอื กซื้อสินคำ้ หรือบรกิ ำรโดยควำมสมคั รใจและปรำศจำกกำรชกั จงู อันไมเ่ ปน็ ธรรม
๓ สทิ ธทิ ่จี ะได้รบั ควำมปลอดภัยจำกกำรใช้สนิ คำ้ หรอื บรกิ ำน ไมก่ อ่ ให้เกดิ อันตรำยต่อชีวติ และทรพั ย์สิน
๔ สิทธทิ จี่ ะไดร้ บั ควำมเปน็ ธรรมในกำรทำสญั ญำ โดยไมถ่ ูกเอำรดั เอำเปรยี บจำกผู้ประกอบกำร
๕ สิทธิที่จะได้รบั กำรพจิ ำรณำและชดเชยควำมเสยี หำย เมื่อเกิดกำรละเมิดสิทธขิ องผูบ้ รโิ ภค

การกระจายรายได้

กำรกระจำยรำยไดร้ ะหว่ำงเจ้ำของปัจจยั กำรผลิตทุกประเภทอันได้แก่ ที่ดิน แรงงำน ทุน และผปู้ ระกอบกำร ซ่งึ ทำงำน
รว่ มกนั ในกำรผลติ สนิ คำ้ และบรกิ ำรโดยเจำ้ ของปัจจยั กำรผลติ เหลำ่ นน้ั จะไดร้ บั รำยไดเ้ ป็นค่ำเชำ่ ค่ำจำ้ ง ดอกเบยี้ และ
กำไร กำรกระจำยรำยไดด้ งั กลำ่ ว เรยี กวำ่ กำรกระจำยรำยไดต้ ำมหนำ้ ท่ีในกำรผลติ

กำรกระจำยรำยไดต้ ำมขนำด เป็นกำรกระจำยควำมถ่ที ำงสถติ ิของจำนวนผู้มีรำยได้ในกลุ่มรำยได้ตำ่ งๆ กำรกระจำยรำยได้
ประเภทน้แี สดงใหเ้ หน็ ควำมเหล่ือมลำ้ ของฐำนะทำงเศรษฐกจิ และสงั คมของประชำกร ซ่ึงรัฐสำมำรถนำไปใช้เป็นมำตรกำรในกำร
แกป้ ัญหำกำรกระจำยรำยไดท้ ่แี ตกตำ่ งกันได้

การแลกเปลี่ยน

กระบวนกำรท่เี กดิ จำกบคุ คลทั้งสองฝำ่ ยมคี วำมสมคั รใจรว่ มกันในกำรดำเนนิ กิจกรรมทำงเศรษฐกจิ ระหว่ำงกนั

หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ เศรษฐศาสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖

กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๖

๑_หลกั สตู รวิชาเศรษฐศาสตร์
๒_แผนการจัดการเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_ใบงาน_เฉลย
๕_ข้อสอบประจาหน่วย_เฉลย
๖_การวัดและประเมินผล
๗_เสรมิ สาระ
๘_สอ่ื เสรมิ การเรียนรู้

บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

๒หน่วยการเรียนรู้ท่ี

ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จบุ ัน

จุดประสงค์การเรียนรู้
• อภปิ รำยกำรกำหนดรำคำและคำ่ จ้ำงในระบบเศรษฐกิจได้

ประเภทของหน่วยเศรษฐกจิ หน่วยเศรษฐกิจ

ครวั เรอื น เป็นหนว่ ยเศรษฐกิจที่อำจเป็นบคุ คลเพียงคนเดยี วหรือหลำยคน
ธรุ กจิ รว่ มกนั ตดั สินใจเพอ่ื ใชท้ รัพยำกรไม่วำ่ จะเป็นเงนิ ทรัพย์สนิ และ
องคก์ รรฐั บาล แรงงำนใหเ้ กดิ ประโยชน์มำกท่สี ุด

เป็นบคุ คลหรือกลุ่มบคุ คลทท่ี ำหน้ำทใี่ นกำรนำเอำปัจจยั กำรผลติ
ตำ่ งๆ แล้วนำไปจำหนำ่ ยให้แก้ผบู้ ริโภค หน่วยธุรกิจนป้ี ระกอบดว้ ย
ผู้ผลติ ผู้ขำย จดุ ม่งุ หมำยเพอ่ื แสวงหำกำไร

เป็นหน่วยงำนของรัฐหรือส่วนรำชกำร มหี นำ้ ที่และควำมสมั พนั ธ์
กับหน่วยงำนอืน่ ๆ ในระบบเศรษฐกิจ

ความสมั พันธข์ องหน่วยเศรษฐกจิ

ต้นทุน ตลาดปจั จัย รำยได้
ปัจจัยกำรผลติ การผลิต สนิ ค้ำและบริกำร

ธุรกิจ ครวั เรอื น

สินคำ้ และบริกำร ตลาดสนิ คา้ สนิ ค้ำและบรกิ ำร
รำยรับ และบริการ ค่ำใช้จำ่ ยในกำรซ้ือสนิ คำ้ และบริกำร

จำกภำพแสดงกระแสหมุนเวียนของกิจกรรมทำงเศรษฐกิจระหวำ่ งหน่วยเศรษฐกิจ

ตน้ ทุน ตลาดปจั จยั รำยได้
ปจั จัยกำรผลิต การผลติ สนิ คำ้ และบรกิ ำร

รำยจ่ำย ปัจจัยกำรผลติ

สนิ คำ้ และบริกำร รัฐบาล สินค้ำและบรกิ ำร ครัวเรอื น
ภำษี
ธรุ กิจ ภำษี

รำยจ่ำย สนิ คำ้ และบริกำร

สนิ คำ้ และบริกำร ตลาดสินค้า สินค้ำและบริกำร
รำยรับ และบรกิ าร ค่ำใชจ้ ำ่ ยในกำรซอ้ื สนิ คำ้ และบริกำร

จำกภำพแสดงบทบำทของรฐั บำลที่มีควำมสมั พันธ์กับหน่วยเศรษฐกจิ อื่นๆ

ระบบเศรษฐกจิ

ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ ม

ระบบเศรษฐกจิ แบบสังคมนิยม ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม

ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นิยม

ระบบเศรษฐกิจทีเ่ อกชนมีกรรมสทิ ธใิ์ นทรพั ยส์ นิ มเี สรภี ำพในกำรตัดสนิ ใจว่ำจะผลติ อะไร
ผลติ อยำ่ งไร และผลิตเพ่ือใคร

ลักษณะเดน่

กรรมสิทธ์ิ การดาเนนิ การผลิต การดาเนนิ กจิ กรรม การแขง่ ขนั
เป็นไปในรูปแบบเอกชน ทางด้านเศรษฐกิจ
เอกชนสำมำรถจะเลอื กใช้ เปน็ ปจั จยั สำคัญในกำร
ทรพั ยส์ นิ ทำกำรผลิตในสิ่งที่ เอกชนมีเสรีภำพในกำร ดำเนนิ กำรโดยอำ่ นกลไก ทจ่ี ะป้องกนั กำรแสวงหำ
ตนถนดั ท่ีสุด และไดผ้ ลกำไร ตดั สนิ ใจทำกำรผลิต รำคำ โดยถำ้ ผบู้ ริโภค กำไรเกินควร
มำกทสี่ ุด กำรจำหนำ่ ย และกำร ตอ้ งกำรสินค้ำหรือบรกิ ำร
ดำเนนิ งำนทกุ อยำ่ ง ชนดิ ใด เขำก็เต็มใจจ่ำย
รัฐบำลไม่เขำ้ ไปเกย่ี วขอ้ ง เงิน

ข้อดี ขอ้ เสีย

๑. เกดิ แรงจงู ใจในกำรผลติ และกำรทำงำน ๑. กำรกระจำยรำยไดข้ องประชำกรไมเ่ ท่ำเทยี มกนั

๒. มกี ำรปรับปรุงเทคนคิ กำรผลิตอยเู่ สมอ ๒. อำจไม่เหมำะสมทจ่ี ะใช้ในทุกสถำนกำรณ์

๓. บุคคลในระบบเศรษฐกิจมีอสิ รเสรีในกำร ๓. หำกมผี ผู้ ลิตสินคำ้ และบรกิ ำรน้อยรำย โอกำสท่ี
ใช้ทรัพยำกร ผผู้ ลิตจะรวมตัวกันผูกขำดกำรผลติ สินคำ้ และ
บริกำรยอ่ มเป็นไปไดง้ ่ำย
๔. ผบู้ รโิ ภคมโี อกำสบรโิ ภคสินคำ้ และบรกิ ำรต่ำงๆ

ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนยิ ม

ระบบเศรษฐกจิ ทีร่ ฐั บำลเขำ้ ไปเป็นผคู้ วบคมุ ดำเนนิ กำรผลติ กำรประกอบอำหำร โดยเน้นดำ้ น
สวสั ดกิ ำรของประชำชนในประเทศเปน็ สำคัญ

ลกั ษณะเด่น

รฐั จะเข้ำควบคุม รฐั จะเข้ำไปควบคุม รฐั จะเข้ำไปควบคมุ รฐั จะเข้ำไปจดั สวัสดิกำร รฐั เปดิ โอกำสให้เอกชน
และโอนกิจกำร อตุ สำหกรรมขั้นพืน้ ฐำน กจิ กำรสำธำรณปู โภค ใหก้ บั ประชำชน มีกรรมสิทธิ์ในท่ีอยู่อำศยั
ธนำคำรทัง้ หมด และอุตสำหกรรมหลัก มอี สิ ระในกำรประกอบ
มำเป็นของรฐั ต่ำงๆ ไว้ อำชีพ

ขอ้ ดีของระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนยิ ม

๑. ประชำชนได้รบั กำรดแู ลเก่ียวกบั สวัสดิกำรจำกรัฐค่อนข้ำงดี
๒. รัฐบำลเขำ้ ไปควบคุมกจิ กำรบำงอย่ำงทำใหม้ ีกำรจดั สรรทรพั ยำกรและมีกำรกระจำยรำยได้ท่ีดี
๓. กำรที่รัฐเข้ำไปดำเนินกจิ กรรมขนำดใหญ่ ทำให้ เศรษฐกิจไมค่ ่อยผันแปรขึ้นลงมำกนัก

ข้อเสยี ของระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม

๑. กำรวำงแผนจำกส่วนกลำงและกำรดำเนินกิจกำรขนำดใหญ่โดยรฐั หำกผู้ วำงแผนและนโยบำยไม่ดกี ็อำจทำใหก้ ำร
ตัดสินใจและกำรจัดสรรทรัพยำกรไมเ่ ปน็ ไปตำมหลักท่ี จะก่อให้เกิดประโยชนส์ ูงสดุ

๒. ประชำชนไม่มเี สรภี ำพอยำ่ งเต็มที่ในกำรทำธุรกิจท่ีตนเองมคี วำมรคู้ วำม สำมำรถหรือต้องกำรทำ
๓. ขำดแรงจงู ใจทจี่ ะกระตุ้น ใหท้ ำกำรผลติ หรอื คดิ ค้นใหม่

ระบบเศรษฐกิจแบบผสม ระบบเศรษฐกจิ แบบสังคมนยิ ม

ระบบเศรษฐกิจแบบเสรนี ยิ ม

ระบบเศรษฐกิจแบบผสม

รฐั บำลและเอกชนจะรับผิดชอบรว่ มกนั ในกำรตัดสินปัญหำวำ่
จะผลติ อะไร ผลิตอย่ำงไร และผลิตเพ่ือใคร

ข้อดี ขอ้ เสยี

๑. มคี วำมคล่องตัวในกำรดำเนินกำร ๑. กำลังใจหรอื แรงจงู ใจสำหรบั เอกชน
มีไมม่ ำกพอ
๒. รำยไดถ้ กู นำมำเฉลยี่ ใหผ้ ทู้ ำงำนตำม
กำลงั และควำมสำมำรถทก่ี ระทำได้ มใิ ช่ ๒. รฐั ไดเ้ ข้ำมำวำงแผนเพยี งบำงสว่ น
ตำมควำมจำเปน็ เท่ำน้ันจงึ อำจไม่มปี ระสทิ ธิภำพเพียงพอ
ในกรณีทตี่ อ้ งกำรเร่งรดั พัฒนำ
๓. เอกชนมีบทบเำอททกำดงเศชรษฐกจิ มีกำร
๓. กำรประสำนประโยชน์ระหว่ำงรฐั
แข่งขันกนั ผลิตสนิ คำ้ สนิ ค้ำจึงมคี ุณภำพ กบั เอกชนปฏิบัติได้ยำก

๔. เอกชนสำมำรถ เข้ำถงึ บรกิ ำรของรฐั ๔. กำรบริหำรงำนของรฐั ในกจิ กำร
อตุ สำหกรรมของประเทศยงขำด
ประสทิ ธิภำพ

ตลาดในระบบเศรษฐกจิ

ความสาคญั ของตลาดในระบบเศรษฐกิจ
๑ ช่วยใหผ้ ผู้ ลิตทำกำรผลติ สินคำ้ และบรกิ ำรได้ตรงกบั ควำมตอ้ งกำรของผู้บรโิ ภค

๒ ช่วยใหผ้ บู้ ริโภคมีมำตรฐำนครองชพี สงู ขึ้น เพรำะสำมำรถบริโภคสินค้ำทผี่ ลติ เองไม่ได้ ท้ังสนิ ค้ำอุปโภคบริโภค
และสินค้ำอำนวยควำมสะดวกต่ำงๆ

๓ ชว่ ยให้เศรษฐกิจของประเทศขยำยตวั สงู ขน้ึ

ขนาดของตลาด

๑ การคมนาคมและการสอ่ื สาร

ถำ้ ระบบกำรตดิ ต่อส่ือสำรมีกำรพฒั นำและขยำยตวั ไดก้ ว้ำงขวำงเพียงใด ตลำดกจ็ ะมอี ำณำเขตกวำ้ งขวำงมำกขน้ึ

๒ ลักษณะของสนิ ค้า

สินค้ำประเภทใดทเ่ี นำ่ เสียง่ำย มีน้ำหนกั มำก กำรเคลื่อนยำ้ ยสนิ คำ้ ทำได้ยำก ตลำดจะมีอำณำเขตแคบ แต่ถ้ำ
สินค้ำมีนำ้ หนักเบำ มขี นำดเลก็ เน่ำเสยี ไดย้ ำกกำรเคล่ือนย้ำยสินคำ้ ทำได้ง่ำย ตลำดจะมอี ำณำเขตกวำ้ งขวำง

๓ นโยบายของรัฐ

ประเทศใดที่มกี ำรเปิดประเทศมำก มกี ำรใชน้ โยบำยกำรค้ำเสรีกับประเทศตำ่ งๆ กจ็ ะช่วยทำให้ตลำดสนิ คำ้ ของ
ประเทศเหล่ำนีก้ วำ้ งขวำง

คนกลางในตลาด

กำรซื้อขำยสินค้ำในตลำดมที ัง้ กำรซอื้ ขำยสินคำ้ โดยตรงระหวำ่ งผผู้ ลติ กับผู้บรโิ ภค กบั กำรซื้อขำยผำ่ นพ่อคำ้ คนกลำง
ซงึ่ พอ่ คำ้ คนกลำงอำจมีหลำยระดับ

ตวั อยา่ ง

เกษตรกรผปู้ ลกู ข้ำวโพด

พอ่ คำ้ คนกลำงในทอ้ งท่ี

พ่อคำ้ คนกลำงในทอ้ งถ่นิ

พ่อค้ำคนกลำงในตลำดปลำยทำง

ส่งออกตำ่ งประเทศ สง่ โรงงำนผลิตอำหำรสัตว์

ประเภทของตลาด

๑) การแบง่ ตลาดตามชนิดของสินค้า

ตลำดสินค้ำอุปโภคบรโิ ภค
ตลำดปจั จัยกำรผลติ
ตลำดเงินและตลำดทนุ

๒) การแบง่ ตลาดตามการดาเนนิ การของผขู้ าย

ตลำดขำยสง่
ตลำดขำยปลีก

๓) การแบ่งตลาดตามกลุ่มของผู้ซ้อื

ตลำดผู้บริโภค
ตลำดผูผ้ ลิต
ตลำดผข้ ู ำยต่อ
ตลำดรฐั บำล
ตลำดระหว่ำงประเทศ

๔) การแบง่ ตลาดตามลักษณะของการแขง่ ขัน

ตลำดท่ีมกี ำรแขง่ ขนั อยำ่ งสมบูรณ์
ตลำดที่มกี ำรแขง่ ขันอยำ่ งไม่สมบูรณ์

การกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ

การกาหนดราคาตามอปุ สงค์และอปุ ทาน

ความหมายของอปุ สงค์และอปุ ทาน

อปุ สงค์

ผู้ซ้อื ผู้ขำย

ควำมเต็มใจและควำมสำมำรถของผซู้ ้ือในกำรจ่ำยเงินซอ้ื สินค้ำในปริมำณตำ่ งๆ กัน ของสินค้ำชนิดน้ันในช่วงเวลำใดเวลำหนง่ึ

อุปสงคใ์ นสินคา้ และบริการ

อปุ สงคแ์ ต่ละบคุ คล กำรศกึ ษำพฤติกรรมในกำรซอ้ื สนิ ค้ำและบรกิ ำรของบคุ คลใดบุคคลหนึ่งในช่วงเวลำใดเวลำหน่ึง

อปุ สงคร์ วมหรอื อุปสงคต์ ลำด กำรศึกษำพฤติกรรมในกำรซื้อสินค้ำและบริกำรของทุกคนในตลำดรว่ มกันในชว่ ง
เวลำใดเวลำหน่งึ

กฎของอปุ สงค์

แตล่ ะคนมีอปุ สงค์ในกำรซ้อื สินคำ้ เฉพำะของตนเอง กำรซ้ือสินคำ้ และบรกิ ำรของประชำชนในระยะเวลำหนึ่ง
จะข้ึนอยกู่ ับรำคำสนิ ค้ำและบรกิ ำรนัน้ ๆ โดยมขี อ้ สมมตวิ ่ำปจั จยั อ่นื ๆ ยังอย่คู งท่เี หมือนเดิม

ควำมต้องกำรของบุคล ควำมตอ้ งกำรของทกุ คน ควำมต้องกำรของตลำด

ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การกาหนดอปุ สงค์

ปจั จัยตำ่ งๆ ทมี่ อี ิทธพิ ลต่อจำนวนหรือปรมิ ำณสินค้ำท่ตี ้องกำรซื้อ มอี ิทธพิ ลต่อปริมำณซือ้ มำกนอ้ ยไม่เทำ่ กนั ขน้ึ อย่กู บั
พฤติกรรมของผ้บู ริโภคแตล่ ะคนและเวลำ

ปัจจยั มีหลายประการ

รำคำสินคำ้ ท่ซี ้ือ กำรเปลย่ี นแปลง
ของฤดูกำล

จำนวนและส่วน กำรเปล่ยี นแปลง
ประกอบของประชำชน ของรำคำสินคำ้
ชนดิ อนื่ ท่ีเก่ยี วขอ้ ง

รำยได้เฉล่ยี ต่อ ปจั จัยอื่นๆ
ครัวเรือน

อุปทาน

ปริมำณสนิ คำ้ และบรกิ ำรทผ่ี ผู้ ลติ หรือผขู้ ำย ภำยในระยะเวลำที่กำหนด กำรท่ีผู้ผลิตหรอื ผู้ขำยจะนำสินค้ำออกมำวำงขำย
ปรมิ ำณเทำ่ ใดนน้ั ขน้ึ อยกู่ บั รำคำเปน็ สำคัญ

10,000 $ 1,000 $

รำคำสูงขำยสินคำ้ มำก รำคำต่ำขำยสนิ ค้ำน้อย

กฎของอุปทาน

กำรผลติ สินค้ำและบรกิ ำรของผู้ผลิตในระยะเวลำหน่งึ จะขึน้ อย่กู ับรำคำสนิ คำ้ และบรกิ ำรนั้นๆ
ปจั จยั ทีม่ ผี ลตอ่ การกาหนดอุปทาน

รำคำสนิ คำ้ ทผี่ ลิต เปำ้ หมำยของผู้ผลิตหรือธรุ กจิ
กำรเปลยี่ นแปลงของเทคนิคกำรผลติ รำคำปจั จยั กำรผลติ
ขึ้นอยู่กบั ปัจจัยอ่นื ๆ
จำนวนผ้ผู ลิตหรือผู้ขำย

การกาหนดราคาในเชงิ กลยทุ ธทิ์ ี่มใี นสงั คมไทย

กำรกำหนดรำคำของธุรกจิ อำจขึ้นอย่กู ับวัตถุประสงคอ์ ยำ่ งใดอยำ่ งหน่ึงหรอื หลำยอยำ่ ง

เพอ่ื สรำ้ งกำไร กำรให้รำคำเปน็ ตัวชค้ี ณุ ภำพ

เพ่ือสร้ำงยอดขำยและขยำยตลำด กำรรกั ษำสภำพสินค้ำ

การคานึงถึงปัจจัยภายในและภายนอกธรุ กิจ

๑ สภาวะทางเศรษฐกจิ

ช่วงเศรษฐกิจรุง่ เรอื ง ผู้ผลิตกำหนดรำคำสินคำ้ ใหส้ งู ขน้ึ
ชว่ ยภำวะเศรษฐกจิ ตกตำ่ รำคำสินคำ้ อำจตกต่ำลงกว่ำปกติ

๒ สภาวะการแขง่ ขันในตลาด

ผูผ้ ลิตมคี วำมจำเป็นต้องกำหนดรำคำเดียวกนั หรใิ กลเ้ คยี งกนั กับธุรกจิ อ่ืน

๓ ตน้ ทุนการผลติ และการจาหนา่ ย

กำรจะบวกเพม่ิ จำกตน้ ทนุ เทำ่ ไรนน้ั ก็ขน้ึ อยกู่ ับลกั ษณะของสนิ คำ้ สภำวะเศรษฐกจิ และกำรแข่งขันในตลำด

๔ กลุ่มเปา้ หมายและลักษณะของสินค้า

ผผู้ ลิตหรอื ธุรกิจจะตอ้ งคำนึงถงึ ว่ำจะจำหน่ำยให้กบั ลูกคำ้ กลุ่มใด

หลกั เกณฑ์ในการกาหนดราคาสนิ ค้าของธรุ กิจ

หลกั เกณฑ์ในกำร
กำหนดรำคำสนิ ค้ำ

กำหนดวัตถุประสงคใ์ ห้ ประมำณควำมตอ้ งกำร
ชดั เจน ว่ำต้องกำรอะไร ซอ้ื สินคำ้ วำ่ มมี ำกน้อย
เพียงใด

เลือกใช้หลกั เกณฑ์ในกำร วเิ ครำะหค์ ูแ่ ข่งวำ่ มีจำนวน วเิ ครำะหต์ น้ ทนุ กำรผลติ
กำหนดรำคำวำ่ จะใช้ มำกนอ้ ยเทำ่ ไร ใช้กลยทุ ธ์ ต่อหน่วยวำ่ มตี ้นทนุ เท่ำไร
กลยทุ ธใ์ ด จึงจะเหมำะสม กำรแขง่ ขันอยำ่ งไร

หลกั การในการกาหนด

ราคาสนิ คา้ ในเชงิ กลยทุ ธิ์
กำรกำหนดรำคำโดยบวกเพิ่มเข้ำไปกับต้นทุน
กำรกำหนดรำคำสนิ ค้ำที่ขำยให้แตกต่ำงกนั ตำมปริมำณสนิ คำ้ ท่ซี ้อื
กำรกำหนดรำคำขำยให้แตกตำ่ งกันตำมลกั ษณะของผู้ซื้อ
กำรกำหนดรำคำสนิ คำ้ ตำมชว่ งเวลำที่ตำ่ งกัน

บทบาทของรัฐในการแทรกแซงราคาและการควบคุมราคา

บทบาทในการใหก้ ารส่งเสรมิ ของรัฐ

กำรสรำ้ งโครงสร้ำงพนื้ ฐำนทำงเศรษฐกจิ เพ่ือเป็นกำรจูงใจให้ธุรกจิ เขำ้ มำดำเนินกำรผลติ สินคำ้ และนโยบำยมำกข้นึ

ถนน ไฟฟ้ำ ประปำ กำรส่ือสำร

บทบาททางด้านการจดั การและควบคุม

กำรควบคุมของภำครฐั กเ็ พื่อใหส้ งั คมอยู่ร่วมกันอยำ่ งมคี วำมสขุ
การเขา้ ไปแทรกแซงทางด้านราคาของรฐั

กำรประกนั รำคำและกำรพยุงรำคำ
กำรรับจำนำสินค้ำกำรเกษตร

กำรใหก้ ำรอดุ หนุนด้ำนปจั จยั กำรผลิต
กำรควบคมุ รำคำสินค้ำอุปโภคไมใ่ หส้ ูงเกนิ ไป

การกาหนดค่าจ้าง อตั ราค่าจา้ งแรงงานในสงั คมไทยและกฎหมายทเี่ กี่ยวข้อง

อานาจหน้าทข่ี องคณะกรรมการคา่ จ้าง

เสนอควำมเหน็ ต่อคณะรฐั มนตรีเกี่ยวกบั คำ่ จ้ำง
เสนอควำมเห็นตอ่ คณะรัฐมนตรเี พื่อใหข้ ้อ แนะนำภำคเอกชนเกีย่ วกับกำรกำรกำหนดค่ำจ้ำงและปรับค่ำจำ้ งประจำปี
กำหนดอตั รำค่ำจ้ำงขนั้ ต่ำพน้ื ฐำน
กำหนดอัตรำค่ำจ้ำงข้นั ตำ่ ที่ลกู จ้ำงควรไดร้ บั ตำมควำมเหมำะสมแก่สภำพเศรษฐกจิ และสงั คม
เสนอควำมเห็นต่อคณะรัฐมนตรเี พื่อพฒั นำ ระบบค่ำจำ้ ง

หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ เศรษฐศาสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖

กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๖

๑_หลกั สตู รวิชาเศรษฐศาสตร์
๒_แผนการจัดการเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_ใบงาน_เฉลย
๕_ข้อสอบประจาหน่วย_เฉลย
๖_การวัดและประเมินผล
๗_เสรมิ สาระ
๘_สอ่ื เสรมิ การเรียนรู้

บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

๓หน่วยการเรียนรู้ท่ี

เศรษฐกจิ พอเพยี ง

กับการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
• ตระหนกั ถงึ ควำมสำคัญของปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี งที่มตี ่อเศรษฐกจิ สังคมของประเทศได้

โครงสร้างเศรษฐกิจไทย

โครงสรา้ งเศรษฐกจิ ไทยกอ่ นการใช้แผนพัฒนาเศรษฐกจิ

สนธสิ ัญญาเบาวร์ ิงมผี ลกระทบต่อเศรษฐกจิ ไทย
มกี ำรเปลย่ี นแปลงโครงสร้ำงกำรผลติ และกำรค้ำระหวำ่ งประเทศ
ข้ำวไดก้ ลำยเปน็ สนิ ค้ำสง่ ออกสำคญั ท่ีสดุ และเปน็ ผสู้ ง่ ออกรำยใหญ่ของโลก
ปจั จัยสำคญั ท่ีทำให้กำรส่งออกขยำยตวั อย่ำงรวดเรว็ ได้แก่ กำรพฒั นำระบบขนสง่ ภำยในประเทศ
และระหว่ำงประเทศ กำรเพมิ่ ข้นึ ของประชำกรของประเทศต่ำงๆ ทว่ั โลกและกำรยกเลกิ ระบบไพร่
และทำส

ส่งผลกระทบตอ่ เศรษฐกจิ ไทยในกำรแบ่งงำนกนั ทำ ระหวำ่ งกลุ่มหรือชำตแิ ละเกิดชนชัน้ นำยทุนและ
กรรมกร

โครงสรา้ งเศรษฐกจิ ไทยตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ

ประเทศไทยไดพ้ ัฒนำเศรษฐกจิ และสงั คมตำมแผนพฒั นำเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชำติ
เป็นแนวทำงในกำรพฒั นำประเทศแลว้ ๑๐ แผน

ปจั จุบนั อยู่ในช่วงของแผนพัฒนำฯ ฉบับท่ี ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕-๒๕๕๗)
แผนพัฒนำแต่ละฉบับมีแนวคดิ วตั ถุประสงคแ์ ละแนวทำงในกำรพฒั นำแตกต่ำงกนั

เพรำะปจั จยั ในกำรทำแผนพัฒนำแตล่ ะยคุ สมยั เปลย่ี นแปลงไป

การพัฒนาเศรษฐกจิ ของไทย

สง่ ผลให้

เศรษฐกิจในประเทศดขี ึน้
มีกำรจำ้ งงำนเพิ่มมำกขึ้น
มีธรุ กิจใหมๆ่
ประชำชนมรี ำยได้มำกขนึ้
วถิ ีกำรดำเนนิ ชีวิตมกี ำรเปลี่ยนแปลงจำกเดมิ


Click to View FlipBook Version