ความสาคญั ของการพัฒนาเศรษฐกิจ
ประชำกรมคี วำมเปน็ อยแู่ ละมสี วัสดิกำรทำงเศรษฐกิจดขี ้ึน
สำมำรถควบคุมสภำวะแวดล้อมได้มำกย่งิ ขนึ้
ทำใหป้ ระเทศสำมำรถช่วยเหลอื บคุ คลผู้ดอ้ ยโอกำสได้มำกขน้ึ
ทำให้ประชำกรมีอสิ ระในกำรเลือกวิถกี ำรดำรงชวี ิตได้มำกขึ้น
ทำให้เปน็ ประเทศมหำอำนำจ
ปัจจยั สาคัญของการพฒั นาเศรษฐกิจ
ปัจจัยที่ไม่เก่ียวขอ้ งกบั เศรษฐกจิ
ทด่ี นิ ทนุ แรงงาน
ความกา้ วหนา้ ทางวิทยาการ ตลาด
ปจั จัยท่ไี มเ่ ก่ียวข้องกบั เศรษฐกจิ
สถาบันครอบครวั โครงสร้างทางสังคม ระบบการเมือง การปกครอง
และกฎหมาย
เครอ่ื งชี้วดั การเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ
ความเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกิจ
กำรพัฒนำเศรษฐกิจมีเป้ำหมำยเพอื่ ใหเ้ ศรษฐกิจมคี วำมเจริญเตบิ โตอยำ่ งตอ่ เน่ือง มีกำรปรับปรงุ โครงสร้ำงทำงสงั คมอยำ่ ง
เหมำะสม เพือ่ ยกระดบั ควำมอยู่ดีกินดขี องประชำชน ดงั น้นั เคร่ืองชวี้ ัดกำรเจริญเตบิ โตทำงเศรษฐกิจจงึ ต้องใชก้ ำรวดั ระดบั
ควำมเจรญิ เตบิ โตทำงเศรษฐกิจ และวดั ควำมอยู่ดกี นิ ดปี ระกอบกัน
แผนพฒั นาสงั คมและเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ
ความสาคญั ของแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ
แผนพัฒนำเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชำติ เป็นเคร่อื งมือสำคัญที่จะชว่ ยพัฒนำประเทศไปสู่ควำมทนั สมยั ได้อยำ่ งรวดเรว็ และเปน็ ระบบ
ประเทศไทยเรมิ่ มกี ำรใช้แผนพฒั นำเศรษฐกจิ แห่งชำตฉิ บับที่ ๑ เม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๔ ในปจั จบุ นั ประเทศไทยกำลงั อยใู่ นกำรใช้แผนพฒั นำ
เศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชำติฉบับที่ ๑๑
แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคม ฉบบั ท่ี ๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๙)
นโยบายสาคญั
• สนบั สนนุ การเพ่ิมปรมิ าณการผลติ ภายในประเทศ
• สง่ เสริมการผลติ ด้านการเกษตรทั้งปรมิ าณและคณุ ภาพ
• สง่ เสรมิ การออมทรัพยแ์ ละลงทุนในอตุ สาหกรรมของ
เอกชน
• พฒั นากาลังคน
• ส่งเสรมิ สมรรถภาพของการทางานและมาตรฐานของงาน
• พัฒนาสาธารณูปโภคพืน้ ฐาน
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๑๐ - ๒๕๑๔)
นโยบายสาคัญ
• เพิม่ กาลงั การผลติ ของประเทศและรายไดป้ ระชาชาติ
• พัฒนากาลงั คน
• สนับสนุนความก้าวหน้าทางด้านวทิ ยาศาสตร์
• รักษาเสถยี รภาพการเงินการคลงั
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๑๕ - ๒๕๑๙)
นโยบายสาคัญ
• เรง่ แกไ้ ขปญั หาดา้ นเศรษฐกิจ
• แกป้ ญั หาดลุ การชาระเงิน
• ยกระดบั รายได้ของประชากร
• ลดอัตราการเพิม่ ของประชากร
• ยกระดบั การมงี านทา
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๔ (พ.ศ. ๒๕๒๐ - ๒๕๒๔)
นโยบายสาคัญ
• เร่งฟ้ืนฟเู ศรษฐกิจของประเทศ
• ลดช่องวา่ งทางเศรษฐกจิ และสงั คมให้นอ้ ยลง
• ลดอตั ราการเพิม่ ประชากร
• ปรบั ปรุงการบริหารทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อมของชาติ
• สนบั สนนุ ขดี ความสามารถในการปอ้ งกันประเทศ
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๒๕ - ๒๕๒๙)
นโยบายสาคัญ
• ฟนื้ ฟภู าวะเศรษฐกจิ และการเงนิ ของประเทศ
• ปรับโครงสรา้ ง เพม่ิ ประสทิ ธิภาพทางเศรษฐกิจ
• พัฒนาและกระจายบรกิ ารทางสังคม
• แกป้ ญั หาความยากจนในชนบท
แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๓๐ - ๒๕๓๔)
นโยบายสาคญั
• พัฒนาสหกรณใ์ ห้มีความเข้มแข็ง
• ปรบั ปรงุ การผลติ และการตลาดของสหกรณ์
• ส่งเสรมิ สหกรณใ์ ห้มอี งคก์ รชนั้ สูง
• ส่งเสรมิ การจัดต้งั สหกรณใ์ หม่
แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๓๕ - ๒๕๓๙)
นโยบายสาคัญ
• รักษาอตั ราขยายตวั ทางเศรษฐกิจ
• การกระจายรายได้สู่ชนบท
• พฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี ๘ (พ.ศ. ๒๕๔๐ - ๒๕๔๔)
นโยบายสาคญั
• เสริมสร้างศกั ยภาพของคน
• พัฒนาสิ่งแวดลอ้ มของสงั คม
• พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีเสถียรภาพ
• ปรบั ระบบบริหารจัดการ
แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๙ (พ.ศ. ๒๕๔๕ - ๒๕๔๙)
นโยบายสาคญั
• สร้างความเขม้ แขง็ ของชุมชน
• พัฒนาเมอื งน่าอยู่ ชมุ ชนน่าอยู่
• พฒั นาความเช่ือมโยงชนบทและเมอื งอยา่ งเก้อื กลู
แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๕๐ - ๒๕๕๔)
นโยบายสาคญั
• พัฒนาคนให้มีคุณภาพ คุณธรรม
• เสริมสร้างเศรษฐกิจให้มเี สถยี รภาพและเป็นธรรม
• สร้างความม่นั คงทางทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อม
• พฒั นาระบบบริหารจัดการประเทศใหเ้ กดิ ธรรมาภบิ าล
แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๑ (พ.ศ. ๒๕๕๕ - ๒๕๕๙)
นโยบายสาคัญ
• พฒั นาคนสสู่ ังคมแห่งการเรียนรตู้ ลอดชีวิตอย่างย่งั ยนื
• สร้างความเขม้ แข็งภาคเกษตร รวมถงึ ความมนั่ คง
ของอาหารและพลังงาน
• ปรับโครงสรา้ งเศรษฐกจิ ใหเ้ ตบิ โตอย่างมคี ุณภาพและ
ย่ังยืน
• สร้างความเช่อื มโยงกบั ประเทศในภมู ิภาคเพื่อความ
ม่นั คงทางเศรษฐกจิ และสงั คม
การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แผนพฒั นาฉบับที่ ๑๑ ได้ยดึ หลกั ปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยกำหนดวิสยั ทศั นว์ ำ่
“สงั คมอย่รู ่วมกนั อยำ่ งมคี วำมสุข ด้วยควำมเสมอภำค เปน็ ธรรม และมีภูมิคมุ้ กัน ต่อกำรเปลย่ี นแปลง”
ซงึ่ แนวทางหลกั ในการสรา้ งภูมคิ ุ้มกัน ประกอบด้วย
๑ กำรพฒั นำคนและสงั คมไทยสูส่ งั คมคณุ ภำพ
๒ กำรปรับโครงสรำ้ งทำงเศรษฐกจิ สทู่ ศิ ทำงกำรเติบโตอย่ำงมีคุณภำพและยงั่ ยนื
๓ กำรจัดกำรทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มอย่ำงย่ังยืน
ความสาคัญของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่มตี อ่ สงั คมและเศรษฐกจิ ของไทย
การพัฒนาคนและสังคมไทยสู่สังคมคุณภาพ
การสร้างภูมคิ มุ้ กนั
ระดับสังคม ระดบั ชุมชน ระดบั สังคม ประเทศชำติ
สำมำรถจดั กำรกับควำมเสย่ี งและปรบั ตัวเข้ำกับกำรเปลย่ี นแปลง ในขณะเดียวกนั กส็ ่งเสริมกำรมสี ว่ นรว่ มในกำรพัฒนำ
เศรษฐกจิ สังคม และกำรเมอื งของประเทศอยำ่ งมีประสิทธิภำพ และมงุ่ พฒั นำทรพั ยำกรบคุ คล อันมีแนวทำงสำคญั ได้แก่
กำรสรำ้ งควำมเปน็ ธรรมในสงั คม
กำรพัฒนำคนสูส่ งั คมแห่งกำรเรียนร้ตู ลอดชวี ิต
การปรบั โครงสร้างทางเศรษฐกจิ สทู่ ศิ ทางการเตบิ โตอย่างมีคณุ ภาพและยงั่ ยืน
เนน้ กำรพัฒนำเศรษฐกิจใหเ้ ขม้ แข็ง
ลดกำรพ่ึงพำปัจจยั ภำยนอก
แนวทำงกำรปรับโครงสรำ้ งทำงเศรษฐกจิ เพ่ือกำรเตบิ โตอยำ่ งมีคุณภำพและยง่ั ยืน
๑ กำรสร้ำงควำมเข้มแขง็ ภำคเกษตร
๒ กำรปรบั โครงสรำ้ งเศรษฐกจิ
๓ กำรสร้ำงควำมเชื่อมโยงกับประเทศในภูมภิ ำค
การจัดการทรพั ยากรธรรมชาติ และสง่ิ แวดลอ้ มอย่างย่งั ยืน
มุ่งรักษำสมดุลของ ระบบนเิ วศ กำรมสี ว่ นรว่ มของชุมชน กำรพัฒนำเศรษฐกจิ และสงั คม
ที่เป็นมิตรกับสงิ่ แวดล้อม
กำรสร้ำงภมู ิคุม้ กนั ดำ้ นกำรค้ำ เพ่ิมบทบำทของ ประเทศไทย
จำกเง่ือนไขด้ำนสิ่งแวดลอ้ ม ใหเ้ ปน็ ท่ียอมรับในเวที
ประชำคมโลก
ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งกับการประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาวัน
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
๑ เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรบั ประชาชนท่ัวไป
๑. ยดึ หลกั ควำมประหยดั ตดั ทอนค่ำใชจ้ ่ำยในทุกด้ำนและลดควำมฟมุ่ เฟอื ยในกำรดำรงชีพอยำ่ งจริงจงั
๒. ประกอบอำชพี ด้วยควำมสจุ รติ และควำมถูกต้อง แมจ้ ะเผชิญกับภำวะขำดแคลนในกำรดำรงชีพกต็ ำม
๓. ลดละกำรแก่งแยง่ ผลประโยชนแ์ ละกำรแข่งขนั ทำงกำรค้ำขำย ตลอดจนกำรประกอบอำชพี ท่มี ีกำรแขง่ ขัน
อยำ่ งรุนแรง
๔. มคี วำมขยนั ใฝ่หำควำมร้เู พอื่ เพิ่มพนู ประสบกำรณ์และนำมำพัฒนำงำนหรอื ประกอบอำชีพเสรมิ เพ่อื ให้มีรำยได้
เพมิ่ ข้นึ จนถึงข้ันพอเพยี งในกำรดำรงชีวิตเป็นเป้ำหมำยสำคญั
๒ เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรับเกษตรกร
ต้งั อยูบ่ นพืน้ ฐำนหลกั กำรทฤษฎีใหม่ ๓ ขัน้ ดงั นี้
ข้นั ท่ีหน่งึ
ผลติ อำหำรเพ่อื บรโิ ภค ท่ีเหลือจึงเอำไวข้ ำย
ขนั้ ที่สอง
รวมตวั กันในรูปของกลม่ ุ หรอื สหกรณเ์ พ่อื กำรผลิต จำหน่ำย ให้ควำมรู้ ส่งเสริมสวสั ดิกำรเงนิ กู้ กำรดูแลสุขภำพ
รปู แบบของกำรรวมกลมุ่
ขั้นทสี่ าม
ควำมร่วมมือของกลมุ่ หรอื สหกรณใ์ นชมุ ชนกับองคก์ รหรอื ภำคเอกชนภำยนอก โดยให้กลมุ่ หรอื สหกรณ์ ในชมุ ชน
ตดิ ต่อประสำนงำนกบั องค์กรหรือภำคเอกชนหรอื แหล่งเงิน
เกษตรทฤษฎใี หม่
https://www.youtube.com/watch?v=rJedTtbt4Uo
๓ เศรษฐกิจพอเพียงสาหรับภาคอตุ สาหกรรม การค้าและบรกิ าร ๔. พัฒนำศกั ยภำพองคก์ ร
ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในภาคอตุ สาหกรรม
๑. เปน็ ผูม้ องกำรณไ์ กล
๒. ทำกำไรอย่ำงเหมำะสม ๕. ทำธุรกิจตำมกำลงั
๓. ติดตำมขำ่ วสำร ๖. ยึดหลักคณุ ธรรม
หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ เศรษฐศาสตร์
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๖
๑_หลกั สตู รวิชาเศรษฐศาสตร์
๒_แผนการจัดการเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_ใบงาน_เฉลย
๕_ข้อสอบประจาหน่วย_เฉลย
๖_การวัดและประเมินผล
๗_เสรมิ สาระ
๘_สอ่ื เสรมิ การเรียนรู้
บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com
๔หน่วยการเรียนรู้ท่ี
สหกรณแ์ ละการรวมกลุ่ม
เพือ่ การพัฒนาชมุ ชนของไทย
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. ตระหนกั ถงึ ควำมสำคญั ของระบบสหกรณ์ในกำรพฒั นำเศรษฐกจิ ในระดับชุมชนและประเทศ ได้
๒. วิเครำะหป์ ัญหำทำงเศรษฐกจิ ในชมุ ชนและแนวทำงแก้ไขได้
สหกรณ์กบั การพัฒนาเศรษฐกจิ ไทย
ความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกบั สหกรณ์
สหกรณ์ กำรรวมตวั กนั ของกลมุ่ บุคคลทีม่ จี ดุ มุ่งหมำยอยำ่ งเดียวกนั ด้วยควำมสมัครใจ รว่ มกัน
รบั ผิดชอบโดยยดึ หลกั ประชำธปิ ไตย มกี ำรแบง่ ปันผลประโยชน์อย่ำงยตุ ิธรรม
ลกั ษณะสาคญั ของสหกรณ์
เป็นธรุ กิจรูปแบบหน่ึง
เกิดข้นึ จำกกำรรวมคนและรวมทุนดว้ ยควำมสมคั รใจ
มีวตั ถุประสงคใ์ นกำรดำเนนิ ธรุ กจิ ทีแ่ นน่ อน
มีกำรจดทะเบยี นถูกตอ้ งตำมกฎหมำย โดยมฐี ำนะเป็นนิติบคุ คล
สมำชกิ ทุกคนมสี ิทธเิ สมอภำคเทำ่ เทยี มกนั
สมำชิกทกุ คนมีสิทธเิ สมอภำคเทำ่ เทียมกัน
ประวตั คิ วามเปน็ มาของสหกรณ์
• คริสตศ์ ตวรรษท่ี ๑๘ - ๑๙ มีกำรปฏิวัติอุตสำหกรรม โดยนำเคร่อื งจักรมำใชแ้ ทนแรงงำนคน สง่ ผลให้เกิดปัญหำภำวกำรณว์ ่ำงงำนและ
เศรษฐกิจตกตำ่ ในประเทศองั กฤษ
• โรเบริ ์ต โอเวน ซงึ่ ภำยหลงั ไดร้ ับกำรยกย่องให้เปน็ บิดำแหง่ กำรสหกรณ์ของโลก ไดเ้ สนอแนวคดิ ให้จดั ต้งั ชมรมสหกรณ์ขน้ึ
• พ.ศ. ๒๓๗๐ นำยแพทย์วลิ เลียมคิง นำแนวคดิ สหกรณ์ของโอเวนไปจัดตงั้ สมำคมกำรค้ำ เพอื่ กำรจำหนำ่ ยสินคำ้ ซึง่ ถือเปน็ ตน้ แบบของ
สหกรณร์ ้ำนค้ำในเวลำต่อมำ
• พ.ศ. ๒๓๙๓ นำยเฮอรม์ ัน ชลู ส์ ได้จดั ตงั้ สหกรณห์ ำทนุ ขน้ึ ในหมู่ชำ่ งฝีมอื และพ่อค้ำ
• พ.ศ. ๒๔๐๕ นำยฟรดิ กิ วลิ เอล์ม ไดจ้ ัดตงั้ สหกรณห์ ำทุนขึ้นในหม่เู กษตรกรชนบท เพอื่ จดั หำทุนใหส้ มำชกิ กยู้ มื
โรเบริ ต์ โอเวน (Robert Owen)
ผ้นู ำแนวคดิ มำปฏบิ ัตเิ ป็นรปู ธรรมอยำ่ งจรงิ จัง ภำยหลังไดร้ ับกำรยกยอ่ ง
เป็นบดิ ำแห่งสหกรณ์ของโลก
หลกั การสาคญั ของสหกรณ์
• เปดิ รับสมำชิกทวั่ ไป
• สมำชกิ คนหน่งึ ออกเสยี งลงคะแนนได้เสยี งเดียว
• มกี ำรจ่ำยเงนิ ปันผลตำมสว่ นแบ่งกำรซือ้ ของสมำชกิ
• มกี ำรจ่ำยดอกเบยี้ ตำมห้นุ ในอัตรำจำกัด
• เป็นกลำงในลทั ธิ ศำสนำ และกำรเมอื ง
• ขำยสนิ คำ้ ตำมรำคำตลำด และขำยดว้ ยเงินสด
• ส่งเสริมกำรศึกษำอบรมทำงสหกรณ์
วิวฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย
พระรำชวรวงศ์เธอกรมหมน่ื พทิ ยำลงกรณ์ พระบดิ ำแห่งกำรสหกรณไ์ ทย
• พ.ศ. ๒๔๕๗ ประเทศไทยเรม่ิ ศกึ ษำวิธกี ำรสหกรณ์
• พ.ศ. ๒๔๕๙ มีกำรจดั ตั้งสหกรณข์ น้ึ เป็นแหง่ แรกของประเทศไทย
• พ.ศ. ๒๔๗๑ รัฐบำลได้ประกำศใช้ พ.ร.บ. สหกรณ์ ซ่ึงถอื เป็นกฎหมำยสหกรณ์ฉบบั แรกของไทย
• พ.ศ. ๒๔๗๘ มีกำรจดั ตัง้ สหกรณป์ ระเภทตำ่ งๆ เพิม่ เช่น สหกรณ์เชำ่ ซ้อื ทด่ี นิ สหกรณ์คำ้ ขำย สหกรณ์นคิ มฝ้ำย
เปน็ ตน้ มกี ำรจัดต้ังสันนิบำตสหกรณแ์ หง่ ประเทศไทย
• พ.ศ. ๒๕๑๑
ประเภทของสหกรณ์ในประเทศไทย
สหกรณก์ ารเกษตร
เปน็ สหกรณท์ ่ีผู้ประกอบอำชีพทำงกำรเกษตรรวมตัวจดั ตง้ั ข้นึ มจี ดุ มุง่ หมำยเพ่อื ให้
สมำชกิ ดำเนนิ กิจกำรรว่ มกนั และชว่ ยเหลือซึ่งกนั และกัน
สหกรณป์ ระมง
เปน็ สหกรณท์ ี่จัดต้ังข้ึนในหมู่ชำวประมง เพอื่ แกไ้ ขปัญหำและ อุปสรรค
ในกำรประกอบอำชพี บทบำทหนำ้ ทีข่ องสหกรณ์ประมง
สหกรณน์ ิคม
เป็นสหกรณท์ ี่มีกำรดำเนินกำรจดั สรรที่ดินทำกินใหร้ ำษฎรกำร จดั สรำ้ ง
ปัจจัยพน้ื ฐำนและสิง่ อำนวยควำมสะดวกให้ผูท้ ่อี ยอู่ ำศัยควบคไู่ ปกับกำร
ดำเนินกำรจดั หำ สินเช่ือ ปจั จยั กำรผลิต และส่ิงของท่จี ำเป็น
สหกรณร์ า้ นคา้
เป็นสหกรณ์สำหรับผู้บรโิ ภคท่ัวไป มวี ตั ถุประสงคเ์ พอื่ ลดค่ำใชจ้ ำ่ ยใน
ครอบครวั
สหกรณ์ออมทรพั ย์
เปน็ สหกรณ์สำหรบั ผู้ทีม่ รี ำยได้ประจำโดยทว่ั ไปทต่ี อ้ งกำรพ่งึ ตนเอง
ด้วยกำรออมทรัพย์เป็นประจำและชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกันด้วยกำรให้
ก้ยู ืมเมอ่ื เกิดควำมจำเปน็
สหกรณก์ ารบริการ
เป็นสหกรณท์ ่จี ัดต้ังข้ึนสำหรับผู้ที่ตอ้ งกำรแกไ้ ขปญั หำกำร ประกอบอำชพี
สหกรณ์เครดติ ยูเนี่ยน
เป็นสหกรณ์ท่จี ดั ตงั้ ขนึ้ ไดใ้ นกล่มุ ประชำกรทกุ อำชพี ซึง่ มภี ูมิลำเนำหรือ
มีกำรประกอบอำชีพหลักท่ีมีควำมสมั พันธก์ ันและอยู่ในเขตพืน้ ทด่ี ำเนนิ กำร
ของ สหกรณ์ทจี่ ัดตัง้ ขึน้
การดาเนนิ การของสหกรณ์
กาหนดวตั ถปุ ระสงค์และนโยบาย
วางแผนการดาเนนิ งาน
จดั ตั้งและแบง่ สว่ นงานของสหกรณ์
รวบรวมทรพั ยากร
อานวยความสะดวกแก่ผู้ปฏบิ ตั งิ าน
ตรวจตราดูแล
ปจั จยั ท่ที าใหส้ หกรณ์ประสบผลสาเรจ็
๑ สมำชิกเป็นผทู้ ม่ี คี วำมรคู้ วำมเขำ้ ใจในระบบสหกรณ์
๒ คณะกรรมกำรดำเนินกำรจะตอ้ งปฏบิ ตั ิงำนด้วยควำมซื่อสัตยส์ ุจริต
๓ ผู้จดั กำรและเจ้ำหนำ้ ท่ตี อ้ งเป็นผทู้ มี่ คี วำมรู้ควำมสำมำรถ
๔ กำรสนับสนนุ จำกภำครัฐ
ความสาคญั ของสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกจิ
ร ะ บ บ ส ห ก ร ณ์ ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย มี ค ว ำ ม ส ำ คั ญ
ในกำรพัฒนำเศรษฐกิจของประเทศโดยเฉพำะ
ต่อ ประชำชน เพรำะสหกรณ์เป็นสถำบันทำง
เศรษฐกิจและสังคมท่ีช่วยแก้ไขปัญหำในกำร
ประกอบอำชีพและช่วยยกระดับควำมเป็นอยู่
ของประชำชนใหด้ ยี ่ิงขน้ึ
เศรษฐกจิ ในชุมชนของไทย
ที่มำภำพ : http://www.thansettakij.com/2015/10/08/13174
ลักษณะท่ัวไปของชมุ ชนไทย สังคมเมอื ง
สงั คมชนบท
ประชำกรส่วนใหญป่ ระกอบอำชีพเกษตรกรรม มีประชำกรอำศยั อยู่หนำแน่น สว่ นใหญป่ ระกอบ
มวี ิถชี วี ิตเรียบง่ำย อำชพี ค้ำขำย อตุ สำหกรรม บรกิ ำร มีวถิ กี ำรดำเนนิ
ชีวิตรบี เร่ง แข่งกับเวลำ
ปญั หาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน
ปญั หาความยากจนและการเหล่ือมลา้ ทางรายได้
• ชมุ ชนไทยส่วนใหญ่ประกอบอำชพี เกษตรกรรม ซง่ึ มขี อ้ จำกัดใน
กำรประกอบอำชีพ
• เกษตรกรมกั พึ่งพำสำรเคมใี นกำรเพำะปลกู ซง่ึ ต้องลงทุนสงู
กอ่ ใหเ้ กดิ กำรสร้ำงหนีส้ ิน
• ในภำคอุตสำหกรรม มีกำรจ้ำงงำนและมรี ำยไดด้ ีกวำ่ ทำให้เกดิ
ควำมเหลือ่ มลำ้ ทำงฐำนะ
• มกี ำรอพยพเดินทำงเขำ้ มำทำงำนในสงั คมเมอื ง
สงั คมชนบทจึงขำดแคลนแรงงำน
ปัญหาการบรหิ ารจดั การชมุ ชนยงั ไมเ่ ข้มแข็ง
• องคก์ รในชมุ ชน ขำดทกั ษะในกำรดำเนนิ งำนและกำรบรหิ ำรจดั กำรเงิน
• หนว่ ยธุรกิจในชุมชนไมส่ ำมำรถรบั มอื กบั ควำมผันผวนทำงธุรกจิ ได้
• ในบำงชุมชนไม่มกี ำรจัดระบบองคค์ วำมรู้เพือ่ นำมำใชป้ ระโยชน์
• มกี ำรพงึ่ พำปจั จยั ภำยนอกมำก ท้ังดำ้ นทนุ พลงั งำน และเทคโนโลยี
• ชุมชนจำนวนมำกขำดทกั ษะในกำรบริหำรทุนและกำรจดั กำรเศรษฐกจิ ชมุ ชน
• ชมุ ชนจำนวนมำกไม่สำมำรถพึ่งพำตนเองได้และไมม่ คี วำมเขม้ แข็งพอ
ปญั หาการการขาดแคลนวทิ ยาการสมยั ใหม่
• มีกำรประกอบอำชีพแบบด้ังเดมิ คือใช้แรงงำนคนและพ่ึงพำ
ธรรมชำติเปน็ หลัก
• เกษตรกรขำดแคลนควำมรูแ้ ละอุปกรณ์เคร่ืองมอื ต่ำงๆ ท่เี ปน็
เทคโนโลยีสมัยใหม่
• เกษตรกรไมส่ ำมำรถเข้ำถึงเทคโนโลยไี ด้ เพรำะมรี ำคำสูง
ปัญหาการทางการศกึ ษา
• คนส่วนใหญ่มฐี ำนะยำกจน ขำดโอกำสทำงกำรศกึ ษำ
• ขำดควำมรทู้ ่ีจะนำมำใช้พัฒนำอำชีพของตน
• คนบำงกลุ่มไม่ได้นำควำมรู้เหล่ำนัน้ กลับมำพฒั นำชมุ ชนของตน
• ขำดแคลนแรงงำนและบคุ ลำกรทมี่ คี วำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรพฒั นำท้องถนิ่
แนวทางการพัฒนาเศรษฐกจิ ของชมุ ชน
๑ นำหลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ในกำรดำเนนิ ชวี ติ
๒ กำรรว่ มมอื จำกทกุ ภำคส่วนในชมุ ชน
๓ บูรณำกำรกำรทำงำนรว่ มกนั ระหว่ำงทอ้ งถิน่ กับชุมชน
๔ รวมกล่มุ สร้ำงงำน สร้ำงอำชพี
หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒ หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๔ เศรษฐศาสตร์
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖
กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ่ี ๖
๑_หลกั สตู รวิชาเศรษฐศาสตร์
๒_แผนการจัดการเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_ใบงาน_เฉลย
๕_ข้อสอบประจาหน่วย_เฉลย
๖_การวัดและประเมินผล
๗_เสรมิ สาระ
๘_สอ่ื เสรมิ การเรียนรู้
บริษทั อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com
๕หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี
นโยบายการเงนิ การคลงั
กบั การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
• อธิบำยบทบำทของรฐั บำลทเ่ี กี่ยวกบั นโยบำยกำรเงนิ กำรคลงั ในกำรพัฒนำเศรษฐกจิ ของประเทศได้
นโยบายการเงินในการพฒั นาเศรษฐกจิ
ท่มี ำภำพจำก : http://win.mobile-installs.top
หนา้ ที่ของเงนิ เป็นเครื่องเกบ็ รกั ษำมลู คำ่
เป็นสือ่ กลำงในกำรแลกเปลี่ยน
เปน็ มำตรฐำนกำรวัดค่ำ เปน็ มำตรฐำนในกำรชำระหนี้ในอนำคต
ประเภทของเงินและความสาคญั ของเงิน และปรมิ าณเงินในระบบเศรษฐกจิ
• เงินท้งั หมดท่ีใชห้ มุนเวยี นอยใู่ นระบบเศรษฐกิจขณะใดขณะหน่ึง
• ปริมาณเงินมีผลต่อระดบั รายไดแ้ ละผลิตโดยรวมของประเทศ
• ปริมาณเงินมีผลต่อระดบั ราคาและการจา้ งงานในระบบเศรษฐกิจ
• หน่วยงานที่ทาหนา้ ที่ควบคุมปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ ธนาคารกลาง
• รัฐบาลจะควบคุมปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจโดยใชน้ โยบายการเงิน
สถาบันการเงิน ธนาคารท่มี กี ฎหมาย ธนาคารกลาง
จัดต้งั เป็นการเฉพาะ
ธนาคารพาณิชย์
มีบทบำทสำคัญในกำรเพม่ิ หรอื ทำหนำ้ ที่ช่วยเหลือดำ้ นกำรเงินหรอื มีวตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ดำรงไว้ซึ่ง
ลดปรมิ ำณเงินในระบบเศรษฐกิจ สง่ เสรมิ กำรดำเนนิ งำนเฉพำะด้ำนตำม เสถียรภำพทำงกำรเงนิ
นโยบำยของรฐั บำล เสถียรภำพของระบบสถำบัน
กำรเงนิ และระบบกำรชำระเงนิ
นโยบายการเงิน
๑ ประเภทของนโยบายการเงิน
๑) นโยบายการเงินแบบเขม้ งวด
มักใชใ้ นกรณที ่ีระบบเศรษฐกจิ เกดิ ปญั หำภำวะรำคำสินคำ้ สูงข้นึ หรือเกดิ ปัญหำเงนิ เฟ้อ
๒) นโยบายการเงนิ แบบผอ่ นคลาย
มักใช้ในกรณที เ่ี กิดภำวะเศรษฐกจิ ซบเซำหรอื เกดิ ปัญหำเงนิ ฝืด
๒ เคร่ืองมอื ของนโยบายการเงนิ
๑) การดารงสินทรพั ย์สภาพคลอ่ ง
ไดแ้ ก่ เงนิ สดในมือธนำคำรพำณชิ ย์ เงินฝำกกระแสรำยวนั ที่ธนำคำรแห่งประเทศไทย และหลกั ทรพั ยท์ ่ปี รำศจำกภำระผกู พนั
๒) การดาเนินการผา่ นตลาดการเงิน
เป็นเครื่องมอื สำคญั ในกำรรักษำระดบั อัตรำดอกเบี้ยนโยบำยและดูแลสภำพคล่องในระบบเศรษฐกจิ
๓) หนา้ ตา่ งตง้ั รับ
สถำบนั กำรเงนิ ท่ขี ำดสภำพคล่องสำมำรถเข้ำมำกยู้ ืมโดยมพี ันธบตั รเปน็ หลกั ประกัน หรือกรณที ่ีมีสภำพคล่องสว่ นเกินก็เขำ้
มำลงทนุ กบั ธนำคำรแหง่ ประเทศไทยได้