The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รพินทร์ ไพรวัลย์, 2020-07-22 08:52:36

ppt พระพทุธ

ppt พระพทุธ

ศาสนธรรม

คำสอน ซงึ่ เป็นหลกั ควำมเช่ือเพ่อื เป็นแนวทำงให้ผูน้ บั ถือได้ปฏิบตั ติ ำม

พระพุทธศาสนา ศาสนาอสิ ลาม ศาสนาครสิ ต์

พระไตรปฎิ ก คมั ภีรอ์ ัลกรุ อำน คมั ภรี ์ไบเบิล

ศาสนวัตถุ

สัญลกั ษณ์หรือเป็นเครื่องหมำยของศำสนำ

เสมาธรรมจกั ร ไมก้ างเขน

สัญลกั ษณข์ องพระพุทธศำสนำ สญั ลกั ษณ์ของศำสนำครสิ ต์

ศาสนบุคคล

ผูส้ บื ทอดศำสนำ ทุกศำสนำจะมีผสู้ บื ทอดศำสนำในกำรสัง่ สอนศำสนกิ ชน

พระพุทธศาสนามพี ระภกิ ษสุ งฆ์ ศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดมู ีพราหมณ์

ศาสนพิธี

ศำสนำย่อมมพี ธิ ีกรรมซึ่งเม่ือศำสนกิ ชนได้ปฏบิ ัตติ ำม ยอ่ มจะไดร้ ับควำมสงบสขุ ควำมเจริญ

การอุปสมบท การรบั ศีลล้างบาป การทาละหมาด

ตำมคติของพระพุทธศำสนำ ตำมคติของศำสนำครสิ ต์ ตำมคตขิ องศำสนำอิสลำม

ศาสนสถาน

เพอ่ื กำรประกอบพิธีกรรมหรือกำรเผยแผ่คำสอนทำงศำสนำ

พระพุทธศาสนา วัด ศาสนาคริสต์ โบสถ์ ศาสนาอสิ ลาม มสั ยดิ

ประเภทของศาสนา

แบ่งออกได้เป็น ๒ ประเภท

เทวนิยม อเทวนิยม

ศำสนำทีเ่ ชื่อวำ่ มพี ระเป็นเจ้ำเป็นผู้สร้ำงโลกและควบคมุ ดแู ล ศำสนำที่ไม่เช่ือวำ่ พระเปน็ เจ้ำสร้ำงโลกและใหค้ ณุ ใหโ้ ทษ แต่เชือ่
สง่ิ ต่ำงๆ ศำสนำประเภทนม้ี ที ัง้ ทเี่ ชอ่ื ในพระเป็นเจำ้ องค์เดียว ว่ำสิ่งต่ำงๆ ลว้ นเกิดขึน้ และเปลย่ี นแปลงไปเองตำมกระบวนกำร
และหลำยองค์ ทำงธรรมชำติ ศำสนำประเภทนี้ เชน่

• ศำสนำทีเ่ ช่ือในพระเปน็ เจำ้ องคเ์ ดยี ว

ศำสนำคริสต์ ศำสนำอสิ ลำม

• ศำสนำทเ่ี ชื่อในพระเจ้ำหลำยองค์ พระพุทธศำสนำ

ศำสนำพรำหมณ-์ ฮินดู

ความสาคญั และประโยชน์ของศาสนา

๑ ศำสนำเป็นทพ่ี ่ึงและเครอ่ื งยดึ เหนีย่ วทำงใจของมนษุ ย์
๒ ศำสนำช่วยยกระดบั จิตใจ ทำให้เป็นศำสนิกชนคนดี
๓ ศำสนำชว่ ยสรำ้ งระเบยี บควำมประพฤติของสมำชกิ ในสงั คมให้ปฏบิ ตั ไิ ปในแนวทำงเดยี วกนั
๔ ศำสนำชว่ ยสร้ำงจิตสำนกึ ในคุณคำ่ ของควำมเปน็ มนษุ ย์
๕ ศำสนำเป็นบอ่ เกิดของศิลปวฒั นธรรมของประเทศ
๖ ศำสนำเป็นแหลง่ ผลติ ทรัพยำกรมนุษยท์ ม่ี คี ณุ คำ่ ใหแ้ ก่สงั คม
๗ ศำสนำเป็นมรดกล้ำคำ่ เป็นควำมหวงั และวิถีทำงแหง่ ควำมอยูร่ อดของมนุษยชำติ
๘ ศำสนำเปน็ พลงั ใจให้สำมำรถเผชิญชวี ติ ดว้ ยควำมกลำ้ หำญ ไมห่ วัน่ ไวต่อโลก
๙ ศำสนำเป็นแหล่งกำเนดิ จรยิ ธรรม เพรำะมหี ลกั ธรรมที่สอนใหค้ นประพฤติในแนวทำงท่ถี ูกต้อง
๑๐ ศำสนำช่วยให้มนุษย์มคี วำมสมั พันธ์อนั ดตี อ่ กนั

ศาสนามีประโยชน์ตอ่ สังคมมนษุ ยใ์ นลักษณะต่างๆ

๑ ศำสนำสนองควำมต้องกำรทำงจติ ใจของมนษุ ย์ เช่น สอนใหท้ ำควำมดี ละเว้นควำมช่ัว
๒ สอนใหเ้ ป็นคนอสิ ระจำกำรครอบงำของกเิ ลำตัณหำ โดยใชส้ ติปัญญำเป็นเครอื่ งชีน้ ำทำงท่ีถกู ตอ้ ง
๓ ทำให้มนุษย์ปกครองตนเองได้ในทุกสถำนทีแ่ ละทุกเวลำ
๔ ช่อยใหม้ นษุ ย์มีจติ ใจทส่ี ะอำด ไม่กล้ำทำควำมชัว่ ทงั้ ในท่ีลบั ท่แี จ้ง
๕ ทำใหม้ นุษย์ทป่ี ระพฤติปฏบิ ตั ิตำมย่อมละพน้ จำกควำมทกุ ข์ ควำมเดือดรอ้ น
๖ ช่วยใหม้ นุษย์อยู่รว่ มกนั เป็นหมูค่ ณะ มีควำมสำมคั คี ชว่ ยเหลือเกือ้ กลู กนั
๗ ช่วยสง่ เสริมและสร้ำงสรรคใ์ ห้เกดิ ผลงำนอนั ทรงคณุ คำ่ ในด้ำนศิลปะและวฒั นธรรม

การปฏบิ ตั ิตนอย่างเหมาะสมเพือ่ ขจดั ความขัดแยง้
และเพอ่ื การอยรู่ ว่ มกนั อย่างสันติสขุ

๑ ทำควำมเข้ำใจถงึ หลักกำรทีแ่ ต่ละศำสนำกำหนดไว้

๒ หลักธรรมและควำมเช่อื ของศำสนำแต่ละศำสนำนน้ั แตกตำ่ งกัน จงึ ควรยอมรบั และเคำรพในแนวทำงตำ่ งๆ ที่แตล่ ะ
ศำสนำบญั ญตั ไิ ว้

๓ เมอ่ื อยใู่ นศำสนสถำนของศำสนำต่ำงๆ ควรปฏิบัติตำมกฎระเบียบท่ศี ำสนสถำนกำหนดไว้

๔ เม่อื มโี อกำสไดเ้ ขำ้ รว่ มในศำสนพิธีของศำสนำต่ำงๆ ควรแต่งกำยและปฏบิ ัติตนให้ถูกตอ้ งตำมหลักของศำสนำ
น้นั ๆ

๕ ไมค่ วรวิจำรณห์ รือเอย่ นำมศำสดำ ของแต่ละศำสนำเพรำะอำจทำใหเ้ กิดควำมเขำ้ ใจผิด

๖ ขณะสนทนำกับศำสนิกชนหรือบุคคลในศำสนำต่ำงๆ ควรใช้ถอ้ ยคำสภุ ำพ

๗ ไมค่ วรนำรูปภำพ สญั ลักษณ์ หรือรูปเคำรพของทกุ ศำสนำไปใช้ในสถำนที่ท่ีไมเ่ หมำะสม

หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ี่ ๑ หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๒ หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๓ พระพุทธศาสนา
หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี ๖ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๗ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๘
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๔-๖

กลุ่มสาระการเรียนร้สู งั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๔ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๕
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ท่ี ๙ หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๑o

๑_หลักสตู รวิชาพระพทุ ธศาสนา
๒_แผนการจัดการเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_Clip
๕_ใบงาน_เฉลย
๖_ขอ้ สอบประจาหน่วย_เฉลย
๗_การวดั และประเมนิ ผล
๘_เสรมิ สาระ
๙_ส่ือเสรมิ การเรยี นรู้

บรษิ ัท อักษรเจริญทศั น์ อจท. จำกัด : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรงุ เทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศพั ท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

๑oหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี

ศาสนาสาคญั ในประเทศไทย

ศาสนาอิสลาม

ศาสดา คัมภีร์

• มฮุ ัมมัด ศำสดำของศำสนำอสิ ลำม ศำสนำอสิ ลำมแยกเปน็ ๒ คมั ภีร์
• ประสตู ิวนั จันทร์ท่ี ๒o เมษำยน พ.ศ. ๑๑๑๓ ทนี่ ครมักกะฮ์ (เมกกะ) • คัมภรี ์อัลกรุ อาน เปน็ บทบญั ญัติว่ำด้วยภำคทฤษฎีและภำคปฏิบตั ติ ำม

ประเทศซำอุดอี ำระเบีย หลักศำสนำ
• ศำสดำมฮุ ัมมดั ใช้วธิ ีกำรเผยแผศ่ ำสนำอย่ำงคอ่ ยๆ ทำโดยทรงเร่มิ ต้น • คมั ภรี ห์ ะดษี หรือที่เรียกวำ่ ซนุ นะฮ์ เป็นบันทกึ โอวำท คำสง่ั สอน

ทญี่ ำติมติ รและบุคคลใกลช้ ิดก่อน จำกน้ันจงึ เผยแผ่หลักคำสอนทำง คำแนะนำและแบบอย่ำงกำรดำเนนิ ชีวิตของศำสดำมุฮัมมดั
ศำสนำให้แพร่หลำยไปยงั ชำวนครมกั กะฮ์
• มฮุ ัมมัด สิ้นพระชนม์ เมื่อวันท่ี ๗ มถิ ุนำยน พ.ศ. ๑๑๗๕ คมั ภรี อ์ ัลกุรอาน

หลักธรรมพืน้ ฐานของศาสนาอสิ ลาม นิกาย

• หลักศรัทธา ๖ ประการ • นกิ ายซนุ นี เปน็ นิกำยท่นี ับถอื และปฏิบตั ิตำมแนวทำงของศำสดำ
ไดแ้ ก่ ศรัทธาในเอกภำพของอลั ลอฮ์ พระเป็นเจ้ำเพียง มฮุ มั มัด และตำมคมั ภีรอ์ ัลกุรอำนอยำ่ งเคร่งครดั
องค์เดียว ศรัทธาในเทวทตู ของอัลลอฮ์ ศรัทธาในคมั ภรี ์อัลกรุ อำน
ศรทั ธาต่อศำสนทูต ศรทั ธาต่อวันปรโลกและศรทั ธาในกำรกำหนด • นิกายชอี ะฮ์ เป็นกลมุ่ มสุ ลิมท่ีแยกตวั ออกมา เพราะปัญหาความ
สภำวะของอัลลอฮ์ ขดั แยง้ ในหมผู่ นู้ ามสุ ลิม ใชห้ มวกสีแดงเป็นสญั ลกั ษณ์

• หลกั ปฏบิ ตั ิ ๕ ประการ • นกิ ายวาฮาบี ยึดถอื คัมภรี ์อัลกุรอำนและคำสอนของศำสดำมุฮัมมัด
ได้แก่ กำรปฏิญำณตน กำรละหมำด กำรถอื ศีลอด กำรบริจำคทรัพย์ เท่ำนัน้
ตำมศำสนบญั ญัติ (ซะกำต) และกำรประกอบพิธีฮัจญ์
• นกิ ายซูฟี เนน้ สอนเรอ่ื งกำรชำระวิญญำณให้บรสิ ุทธิ์ สละควำมฟุ้งเฟ้อ
และบำเพ็ญพรต

หลกั ธรรมเพ่ือการอยรู่ ่วมกนั อย่างสันตสิ ขุ ของศาสนาอิสลาม พิธกี รรมสาคัญในศาสนาอิสลาม

• ความยตุ ิธรรม เปน็ คณุ ธรรมท่สี ำคญั มำก ถ้ำจะตดั สินเรอื่ งอะไร • การประกอบพิธีฮจั ญ์ เปน็ พธิ ีกรรมท่ีเกำ่ แกข่ องศำสนำอิสลำม

ให้ตดั สนิ อยำ่ งยตุ ธิ รรม กำรเดินทำงไปประกอบศำสนกจิ ของมุสลมิ ทน่ี ครมกั กะฮ์ ประเทศ

• ความเสมอภาค ศำสนำอสิ ลำมสอนว่ำ คนทกุ คนท่เี กิดมำมีควำม ซำอดุ ิอำระเบีย ชาวมสุ ลมิ ถือวา่ ผใู้ ดเดนิ ทางไปประกอบพธิ ีฮจั ญ์

ทัดเทียมกัน ดว้ ยเจตนาท่ีแนว่ แนแ่ ละปฏิบตั คิ รบถว้ นตามพิธีทกุ ประการ ผนู้ นั้ ถือ
วา่ เป็นผบู้ รสิ ทุ ธิ์ดจุ ทารกแรกเกิด
• เสรภี าพในการนบั ถอื ศาสนา พระเปน็ เจ้ำประทำนเสรภี ำพแกม่ นุษย์

ทีจ่ ะเลือกนบั ถอื อะไรกไ็ ด้ แตส่ ดุ ท้ำยต้องรับผลจำกกำรตัดสนิ ใจเลอื ก • การละหมาด หรอื นมำซ หมำยถงึ กำรขอพรตอ่ พระอัลลอฮ์ ถอื เปน็
ของตนเอง
กำรปฏบิ ัติตำมศำสดำมฮุ มั มดั จดุ มงุ่ หมำยสำคญั คอื เพอ่ื ชำระจิตใจ

• การประนปี ระนอม ศำสนำอสิ ลำมสอนใหท้ กุ คนปรองดองกัน ตนเองใหบ้ รสิ ุทธ์ิ มุสลมิ ทบ่ี รรลุนติ ภิ ำวะทำงกำยหรอื ย่ำงเขำ้ สู่วยั หนมุ่

• ไมล่ ะเมิดผ้อู น่ื ศำสนำอสิ ลำมถือวำ่ กำรละเมดิ และขม่ เหงผู้อ่ืนเป็น สำวจะต้องทำละหมำดทกุ วนั วันละ ๕ เวลำ คอื เวลำรุ่งอรุณ
บำปหนกั เวลำบำ่ ย เวลำเยน็ เวลำพลบคำ่ และเวลำกลำงคืน

กำรละหมำด

ศาสนาคริสต์

เป็นศำสนำท่มี ผี ูน้ ับถอื มำกที่สดุ ในโลก ถอื กำเนดิ ในดินแดนปำเลสไตน์ เปน็ ศำสนำประเภทเอกเทวนยิ มนบั ถือพระเปน็ เจำ้ องค์เดยี ว
คอื พระยำห์เวห์ เปน็ พระเปน็ เจ้ำสูงสุด มพี ระเยซูคริสต์เปน็ ศำสดำ

ศาสดา

• พระเยซคู รสิ ต์ ศำสดำของศำสนำคริสต์ ประสูติท่ีเมอื งนำซำเร็ธ อำณำจักรกำลิลี เมือ่ พ.ศ. ๕๔๓

• เมอ่ื พระเยซูครสิ ต์มีพระชนมำยุ ๓๐ พรรษำ ได้ทรงเข้ำสมัครเปน็ สำวกและได้ทรงรบั ศีลลำ้ งบำปหรือศลี จุม่ จำกจอห์น
ซึ่งเป็นนกั บุญผูม้ ชี ื่อเสยี งในศำสนำยูดำหใ์ นแมน่ ำ้ จอรแ์ ดน

• หลังจำกน้ันพระเยซูคริสตไ์ ด้เสดจ็ ไปประทับอยใู่ นสถำนท่ีอันสงบในทะเลทรำย ทรงอดอำหำร บำเพญ็ ศลี ภำวนำเจริญ
สมำธิ ส่งกระแสจติ ระลึกถงึ พระยำหเ์ วห์ พระเปน็ เจ้ำ และตริตรองธรรมะเป็นเวลำ ๔๐ วนั แล้วทรงจำรกิ เผยแผ่ขำ่ วดี
หรือพระวรสำร อันเปน็ หนทำงทจี่ ะนำไปสู่ควำมหลุดพน้ และมสี นั ตสิ ุขทแี่ ท้จรงิ

• คำสอนหลำยเรื่องของพระเยซคู ริสต์แตกตำ่ งไปจำกคำสอนดง้ั เดมิ ของศำสนำยดู ำหซ์ ่งึ ชำวยิวในสมยั น้ันนบั ถอื อยู่ ทำให้
ชำวยวิ ไม่พอใจ ฟอ้ งศำลวำ่ พระเยซูครสิ ต์มีควำมผิดฐำนอำ้ งตนเปน็ บตุ รของพระเป็นเจำ้

• แม้ศำลจะพิจำรณำหลกั ฐำนแลว้ เหน็ วำ่ พระเยซูครสิ ตไ์ ม่มีควำมผิดตำมขอ้ กล่ำวหำแต่เน่ืองจำกเสียงเรยี กรอ้ งของ
ประชำชนรุนแรงมำก ศำลจงึ จำต้องตัดสนิ ประหำรชีวติ พระเยซูคริสต์ดว้ ยกำรตรงึ บนไม้กำงเขน ณ ภูเขำโคล (โกลโกรำ)
ทำงทิศเหนือของนครเยรซู ำเล็ม

• พระเยซคู ริสตจ์ งึ สิ้นพระชนม์เมือ่ มพี ระชนมำยุได้ ๓๓ พรรษำ

คมั ภรี ์

คัมภรี ์ของศำสนำครสิ ต์ เรียกวำ่ ไบเบิล

คมั ภรี ภ์ าค คมั ภีร์ไบเบลิ คัมภีรภ์ าค
พันธสัญญาเดิม พันธสญั ญาใหม่
แบง่ ออกเปน็ ๒ ภำค

จำนวน ๔๖ เลม่ เนอื้ หำกลำ่ วถงึ ควำมเป็นมำ จำนวน ๒๗ เล่ม เปน็ คัมภรี ์ของศำสนำคริสต์โดย
ของจกั รวำล มนษุ ยชำติ ประวตั ิชนชำติยิว แท้ โดยเป็นขอ้ เขยี นในลกั ษณะของจดหมำย
ศำสนพิธี ข้อห้ำมสำหรับชำวยวิ กล่ำวถงึ ประวัตศิ ำสตร์ คำสอนของพระเยซคู ริสต์

นกิ าย นกิ ายท่ีสาคัญ แบ่งออกเปน็ ๓ นิกาย นกิ ายโปรเตสแตนต์

นิกายโรมนั คาทอลิก นกิ ายออร์ทอดอกซ์

นกิ ำยท่ียดึ ม่นั ในหลักคำสอนของพระเยซู นกิ ำยทีแ่ ยกออกมำจำกนกิ ำยโรมันคำทอลกิ เป็นนิกำยทถี่ ือว่ำศรัทธำของแตล่ ะคนท่ีมตี ่อ
ครสิ ต์ เชือ่ ในบรรดำนักบญุ ต่ำงๆ ด้วยเหตผุ ลทำงกำรเมอื งและวฒั นธรรม พระเปน็ เจำ้ สำคัญกวำ่ พิธกี รรม ไม่มีนกั บวช
มีเพยี งไมก้ ำงเขนเป็นเครอ่ื งหมำย

วัดคำทอลกิ จนั ทบรุ หี รอื ชื่ออย่ำงเปน็ ทำงกำรว่ำอำสนวหิ ำรพระนำงมำรอี ำปฏสิ นธินิรมล เป็นศำสนสถำน
ในศำสนำครสิ ตน์ ิกำยโรมนั คำทอลิก

หลกั ธรรมพื้นฐานของศาสนาคริสต์

หลกั คาสอนที่สาคัญ แบ่งออกเป็น ๓ ประเดน็

หลักตรเี อกภาพ หลกั ความรกั อาณาจักรพระเป็นเจ้า

ศำสนำคริสตเ์ ช่ือวำ่ มพี ระเปน็ เจ้ำเพียงองค์เดยี ว หลกั คำสอนท่วี ำ่ ดว้ ยควำมรกั ควำมเมตตำ จุดมุ่งหมำยสงู สุดของชำวคริสต์ คือ กำรเขำ้ ไปสู่
แตม่ ี ๓ สถำนภำพ กรณุ ำ ควำมเสยี สละ และกำรให้อภยั อำณำจกั รพระเป็นเจำ้ ดว้ ยกำรมีศรทั ธำในพระเป็นเจ้ำ
และพระเยซูครสิ ต์
• พระบิดา เปน็ พระผู้ทรงสร้ำงโลกมนุษย์
และสรรพสิ่งท้งั ปวง

• พระบตุ ร หรอื พระเยซคู ริสต์ เป็นพระ
ผู้ทรงเกดิ มำเป็นมนุษย์เพอ่ื ไถม่ นุษย์
จำกบำป

• พระจติ เปน็ พระเปน็ เจำ้ ทป่ี รำกฏในจิต
วิญญำณของมนษุ ย์เพ่อื เก้ือหนนุ ให้
มนุษยม์ คี ุณธรรม

หลกั ธรรมเพื่อการอยู่ร่วมกนั อย่างสนั ตสิ ขุ ของศาสนาคริสต์

• ควำมรกั เพือ่ นมนษุ ย์
• ควำมประหยดั และควำมซอ่ื สตั ย์
• กำรใหอ้ ภัย
• กำรมใี จเมตตำกรณุ ำ อ่อนน้อมถ่อมตน และมีควำมอดทน
• กำรแบ่งปนั
• ควำมยตุ ิธรรม
• ควำมเสมอภำค
• ควำมสำมัคคี

พธิ ีกรรม

พิธกี รรมสาคญั ของศาสนาคริสต์ เรียกวา่ พิธศี ีลศักด์ิสิทธ์ิ มี ๗ ศลี ดงั ต่อไปน้ี

ศีลล้ำงบำป
ศลี กำลงั
ศีลอภัยบำป
ศลี มหำสนทิ
ศีลเจิมคนไข้
ศีลสมรส
ศีลอนุกรม

ศาสนาพราหมณ-์ ฮนิ ดู

ศาสดา

• เดมิ ทีมลี กั ษณะเป็นศำสนำประเภทเทวนยิ ม คอื นับถอื เทพเจ้ำ ต่อมำไดพ้ ฒั นำมำเป็นเอกเทวนยิ ม คือ นบั ถอื เทพเจ้ำ
องคเ์ ดียว เรียกวำ่ พรหมนั (Brahman) จำกน้นั จึงวิวัฒนำกำรเปน็ พหเุ ทวนยิ ม คือ นับถือเทพเจำ้ หลำยองค์

• ศำสนำพรำหมณน์ ้นั เดิมเรยี กว่ำ สนาตนธรรม หมำยถึง ธรรมหรือศำสนำอนั เปน็ ของเกำ่ หรือนริ ันดร์ เป็นศำสนำดงั้ เดิม
ของชนเผ่ำอำรยนั ซึ่งตั้งถ่นิ ฐำนอยู่ในเอเชียกลำง ประมำณ ๖,๐๐๐ ปกี ่อนครสิ ตกำล

• ชนเผำ่ อำรยนั กล่มุ หนึง่ ไดอ้ พยพเข้ำสูอ่ นิ เดียและได้นำควำมเชอ่ื ของพวกตนมำผสมผสำนกบั วัฒนธรรมของพวกทรำวิฑ
(Dravida) ซง่ึ เป็นชำวพื้นเมืองเดมิ แล้วตง้ั เปน็ ศำสนำประจำชำติของพวกตน เรยี กวำ่ ศำสนำพรำหมณ์

• ตอ่ มำศำสนำพรำหมณม์ ีกำรปฏิรปู คำใหม่ เรียกวำ่ ฮินดูธรรมแปลวำ่ ธรรมทีส่ อนลัทธอิ หิงสำ จงึ มชี อ่ื เรยี กศำสนำน้ี
ในภำยหลงั ว่ำ ศำสนำฮินดู

คมั ภรี ์

มีคัมภีร์ใหญๆ่ อยู่ดว้ ยกัน ๔ หมวด

หมวดสัมหิตา หมวดพราหมณะ หมวดอารัณยกะ หมวดอปุ นิษทั

แบ่งออกเป็น ๔ พระเวทหรอื ๔ คมั ภรี ์ • เปน็ บทรอ้ ยแก้วอธิบำย • เป็นบทร้อยแก้วใชเ้ ป็นตำรำ • หมวดทมี่ แี นวคิดปรชั ญำ
• คมั ภรี ฤ์ คเวท กำรประกอบพธิ กี รรมต่ำงๆ คมู่ ือกำรปฏิบัตขิ องพรำหมณ์
• คมั ภรี ์ยชรุ เวท อยำ่ งลึกซ้งึ
• คมั ภีร์สำมเวท
• คมั ภรี ์อำถรรพเวท

นกิ าย นกิ ายทส่ี าคัญมี ๓ นิกาย นกิ ายไศวะ

นกิ ายพรหม นิกายไวษณพ

เคำรพนับถือพระพรหมเป็นใหญ่กวำ่ เทพเจำ้ อ่นื ๆ นับถอื พระวิษณุหรือพระนารายณ์เปน็ เทพเจำ้ สูงสุด นับถอื พระศิวะหรอื พระอิศวรเปน็ เทพเจ้ำสงู สดุ

พระพรหม พระนารายณ์ พระศวิ ะ

เทพเจ้ำผทู้ รงสร้ำงโลกมีพระสุรัสวดีเปน็ พระชำยำ เทพเจำ้ ผู้พิทกั ษ์คุ้มครองโลกมีพระลกั ษมีเปน็ พระชำยำ เทพเจ้ำผู้ทำลำยโลกมพี ระอมุ ำเทวีเป็นพระชำยำ

หลกั คาสอน

หลกั อาศรม ๔ หลักปรุ ุษารถะ

กำรดำเนินชีวิตของชำวฮินดตู ำมคัมภรี ม์ นูศำสตร์ เฉพำะ เปน็ จุดหมำยปลำยทำงสงู สุดของชวี ติ มนุษย์ ๔ ประกำร
ชนชั้นวรรณะกษัตรยิ ์ วรรณะพรำหมณ์ และวรรณะแพศย์
เทำ่ น้ัน แบ่งชว่ งของกำรใช้ชีวติ ไว้ ๔ ตอน ตอนละ ๒๕ ปี • อรรถะ คอื กำรสร้ำงฐำนะในทำงเศรษฐกิจ
ช่วงชีวติ แต่ละช่วง เรยี กว่ำ อาศรม มี ๔ ข้ัน ตำมวยั ของผู้
ปฏิบตั ดิ งั ตอ่ ไปนี้ • กามะ คือ กำรแสวงหำควำมสขุ ทำงโลกตำมสมควร
แก่ภำวะและแนวทำงของธรรมะ
• พรหมจรรยะ เรม่ิ ตงั้ แตอ่ ำยปุ ระมำณ ๘-๒๕ ปี ผเู้ ขำ้
สูอ่ ำศรมนี้ เรียกว่ำ พรหมจารี • ธรรมะ คอื ระเบียบควำมประพฤติของบคุ คลในสังคม
หรอื หลักศีลธรรม
• คฤหัสถยะ เริม่ ตง้ั แต่อำยุ ๒๖-๕๐ ปี ผเู้ ข้ำสู่อำศรมนี้
เรยี กว่ำ คฤหัสถ์ • โมกษะ คือ อสิ รภำพทำงวิญญำณ เปน็ อดุ มคติและ
คณุ คำ่ สงู สดุ ในชีวติ เปน็ ระดบั ทข่ี ำ้ มพน้ สงั สำรวัฏ
• วานปรสั ถยะ เริ่มตั้งแต่อำยุ ๕๑-๗๕ ปี ผู้เข้ำสอู่ ำศรม
น้ี เรียกวำ่ วานปรัสถ์

• สันนยาสะ เริม่ ตง้ั แตอ่ ำยุ ๗๖ ปีขึ้นไป ผเู้ ขำ้ สูอ่ ำศรมน้ี
เรียกว่ำ สันนยาสี

หลกั ธรรมเพ่อื การอย่รู ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ขุ ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู

• ไม่พึงทำร้ำยผอู้ ่ืน
• มคี วำมกรุณำ
• ตอ้ นรบั ผู้อื่นด้วยควำมเตม็ ใจ
• กำรมสี ัจจะ
• ไม่ลกั ทรพั ย์
• กำรทำตำมหน้ำที่

พธิ ีกรรม

พิธีกรรมท่สี าคัญและควรกลา่ วถงึ แบง่ ออกเปน็ ๔ หมวด

๑ กฎปฏบิ ัตเิ กย่ี วกบั วรรณะ

• กำรกำหนดอำชพี อำหำรกำรกิน ท่อี ยูอ่ ำศัย และกำรแต่งงำนสำหรบั บคุ คลในวรรณะต่ำงๆ หำ้ มปะปนกัน

๒ พิธสี มั สกำร

• หรือสงั สกำร เปน็ พิธกี รรมประจำบำ้ นท่ีขำดไม่ได้

- ชำตกรรม - สมำวรรตนะ

- นำมกรณะ - ววิ ำหะ

- อันนปรำศนะ - เปรตกรรม

- อุปนยนะ

๓ พิธีศรำทธ์

• เป็นพธิ ีทำบุญอุทศิ ให้แกม่ ำรดำหรอื บรรพบรุ ุษทล่ี ว่ งลับไปแลว้

๔ พธิ บี ชู ำเทพเจำ้

• เช่น สวดมนตภ์ ำวนำเปน็ ประจำทกุ เช้ำ ถอื ศลี และไปนมสั กำรบำเพญ็ กศุ ล ณ เทวสถำน มีท้งั ทีป่ ฏิบตั ิประจำ
และเปน็ ครั้งครำว เพือ่ แสดงควำมเคำรพเทพเจำ้ ที่ตนนับถือ

กำรประกอบพธิ บี ูชำเทพเจ้ำและเทวใี นศำสนำพรำหมณ-์ ฮินดู เนอ่ื งในงำนประจำปขี อง
วัดพระศรมี หำอมุ ำเทวี (วัดแขก สีลม) กรุงเทพฯ

ศาสนาสิข

ศาสดา

• ศำสดำองค์แรกของศำสนำสิข มนี ำมเดิมวำ่ นำนกั (Nanak)
• เกดิ ทนี่ คิ มตลั วันทิ อยทู่ ำงทศิ ตะวันตกเฉยี งใตข้ องเมอื งลำฮอร์ รัฐปญั จำบ (ปัจจุบนั อยใู่ นประเทศปำกีสถำน)
• นำนกั เปน็ ผู้สนใจกำรศกึ ษำและมคี วำมเมตตำตอ่ คนอน่ื มีควำมรักเพือ่ นมนษุ ย์ ชอบชว่ ยเหลอื เพื่อนมนษุ ยผ์ ู้ตกทุกขไ์ ดย้ ำก
• ตอ่ มำวันหนงึ่ นำนกั ได้เดนิ ทำงเขำ้ ป่ำตำมท่ีเคยกระทำมำเปน็ ปกติ โดยนั่งหลบั ตำบำเพญ็ สมำธิ หำควำมสขุ ทำงใจ

แลว้ ได้เกิดปรำกฏกำรณ์ทำใหม้ องเห็นพระเปน็ เจำ้ มีกำยทิพยม์ ำปรำกฏองค์ตอ่ หนำ้ นำนกั และทรงกลำ่ วแกน่ ำนกั ว่ำ
“ท่ำนจงอยู่กับคุรุ จงยดึ ถือนำมของคุรุ อย่ำยดึ ถอื อยูก่ ับโลก จงให้ทำนและชำระกำยและใจ จงบูชำพระเปน็ เจ้ำ
ผเู้ ปน็ ปฐมพรหม และตัวท่ำนน้ันแลจงเปน็ ทพิ ยคุร”ุ
• เมื่อนำนกั ได้ดวงตำทิพยแ์ ลว้ กป็ รำกฏนำมใหมว่ ำ่ ครุ นุ ำนัก
• ท่ำนได้พำนักอยใู่ นปำ่ นนั้ เป็นเวลำ ๓ วัน แลว้ ไดเ้ ดนิ ทำงกลับบ้ำนของตน สละทำน และมอบทรัพย์สมบัติแกค่ นยำกจน
แล้วถือเพศเปน็ นกั บวช เดินทำงท่องเที่ยวเพือ่ ประกำศหลกั คำสอนใหม่ ในนำมแห่ง อกำลปุรุษะ พระเป็นเจำ้ องคเ์ ดยี ว
• คุรนุ ำนักไดป้ ระกำศหลักคำสอนกระทง่ั วำระสุดท้ำยแหง่ ชีวติ กไ็ ดล้ ะสังขำรของตนไปเมอื่ พ.ศ. ๒๐๘๒

คมั ภรี ์

คัมภรี ์ของศำสนำสขิ ชอื่ วำ่ ครนั ถสาหพิ แปลว่ำ คัมภีร์ศักด์ิสทิ ธิ์
บรรจคุ ำสวดมนต์สรรเสริญพระเป็นเจำ้

อาทคิ รนั ถ์ คัมภีร์ครนั ถสาหพิ ทสมครนั ถ์

แบง่ ออกเปน็ ๒ เล่ม

แปลว่ำ คมั ภรี ์แรก คุรุอรชนุ ศำสดำองค์ที่ ๖ แปลวำ่ คัมภรี ์ของศำสดำองคท์ ี่ ๑๐ เป็นชมุ นมุ
เป็นผูร้ วบรวมข้ึนใน พ.ศ. ๒๑๔๗ บทนิพนธ์ของศำสดำองค์ที่ ๑๐ คือ ครุ โุ ควนิ ทสงิ ห์
รวบรวมไว้

นิกาย

นิกายขาลสา ศาสนาสิข นกิ ายสหัชธรี

หรือนิกำยสิงห์ คือนกิ ำยทถ่ี อื กำรไวผ้ มและ มี ๒ นิกายใหญ่ หรือนกิ ำยนำนำปันถี คอื นกิ ำยท่โี กนหนวด
ไวห้ นวดยำว เกล้ียงเกลำ

หลักพ้ืนฐานของศาสนาสิข

• ศำสนำสขิ สอนว่ำโลกเป็นสัจจะ ส่ิงท่ีพระเป็นเจ้ำสร้ำงขึน้ คำสอนทำงจรยิ ธรรมทีท่ ำให้ชำวสิขปฏิบตั เิ ป็น
กิจประจำวัน ได้แก่

๑. ลุกขน้ึ แตเ่ ชำ้ ตรู่ ๗. อยำ่ กินหรอื นอนมำกเกนิ ไป
๒. จงทำจิตให้เป็นไปดว้ ยควำมรักในพระเป็นเจำ้ ๘. จงใช้เฉพำะส่วนทท่ี ่ำนหำมำได้ด้วยมือของทำ่ นเอง
๓. จงใหท้ ำนเสมอ ๙. จงพยำยำมอยู่กับคนดีทั้งกลำงวนั และกลำงคืน
๔. จงพดู คำสภุ ำพอ่อนโยน ๑o. จงรว่ มกบั คนดีสวดบทสรรเสริญของครุ ุ
๕. จงถอ่ มนตน ๑๑. ละเวน้ กำรพนัน สิ่งเสพตดิ และกำรประพฤติผิดในกำม
๖. จงทำดตี ่อคนอน่ื

หลักธรรมเพือ่ การอยรู่ ว่ มกนั อย่างสันติสขุ ของศาสนาสิข

ศาสนาสิขมีหลกั ธรรมเพอ่ื การอยู่ร่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ุข เปน็ หลักสาหรบั การปฏบิ ตั ติ ่อกันเป็นกจิ วตั ร
ประจาวนั คอื

• จงทำจติ ของทำ่ นใหเ้ ต็มไปด้วยควำมรกั
• จงให้ทำนเสมอ
• จงพูดจำดว้ ยถอ้ ยคำสภุ ำพต่อกัน
• จงอ่อนนอ้ มถม่ ตน
• จงทำดีต่อผอู้ ่ืน
• จงพยำยำมอยกู่ ับคนดที ั้งกลำงวันและกลำงคนื
• จงละเว้นกำรพนัน สิ่งเสพติดทกุ ชนดิ และไม่ประพฤติผดิ ในกำม

พธิ กี รรม

พิธีกรรมท่ีชำวสิขทกุ คนพงึ ทำ คือ พธิ ปี ำหลุ หรือพธิ ีลำ้ งบำป เมื่อเสรจ็ พธิ แี ลว้ ก็รบั เอำ “ก” ท้งั ๕ ประการ

เกศ กำรไมต่ ดั ผมหรือกำรไวผ้ มยำว
กังฆา หวไี มข้ นำดเล็ก ซึ่งเสียบไวใ้ นผม
กฉา กำงเกงขำสัน้
กรา กำไลมือทำดว้ ยเหล็ก
กิรปาน ดำบ ใช้เปน็ สญั ลักษณ์ของควำมกล้ำหำญและกำรผจญภัย

ผูใ้ ดทำพธิ ปี ำหลุ แล้ว กไ็ ด้นำมวำ่ “สิงห”์ ตอ่ ท้ำยช่ือเหมอื นกนั ทกุ คน เพรำะถือว่ำได้ผำ่ นควำมเป็นสมบัติของพระเป็นเจำ้ แล้ว และใช้
คำว่ำ “กอร”์ ตอ่ ทำ้ ยชอื่ ท่ีเป็นหญิง

ความเข้าใจอนั ดีระหวา่ งศาสนา

• ทกุ ศำสนำตอ้ งมีจริยธรรมขนั้ พ้นื ฐำน เพรำะวำ่ จริยธรรมเป็นส่ิงจำเป็นต่อกำรอยู่รอดของสงั คมมนุษย์

พระพทุ ธศาสนา ตัวอยา่ งของหลกั การพัฒนาตนเองของศาสนาทัง้ ๕
ศาสนาอิสลาม
สอนขอ้ ปฏิบัติขั้นตน้ สำหรับผคู้ รองเรอื น
• อฏุ ฐานสัมปทา ขยันหมัน่ เพียรในกำรประกอบอำชพี
• อารักขสัมปทา รูจ้ กั เก็บออมทรัพยส์ นิ
• กัลยาณมิตตตา คบเพ่ือนทีด่ ีมศี ลี ธรรม
• สมชวี ติ า ครองชพี โดยควำมเหมำะสมพอเพียง

• สอนให้มคี วำมมำนะพยำยำม รักกำรทำงำน หม่ันศึกษำแสวงหำควำมรู้เสมอ

ศาสนาครสิ ต์

• สอนให้มนษุ ยม์ ีควำมบำกบนั่ อดทน มีควำมรัก ควำมเพยี ร และกำรทนทุกข์ยำกจำกเหตกุ ำรณต์ ำ่ งๆ เพอื่
ให้มอี ปุ นิสัยดี และให้เกิดควำมหวงั

ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู สอนเน้นหลกั อาศรมชวี ิต ๔ ขน้ั
ศาสนาสขิ
(๑) พรหมจารี วัยศึกษำหำควำมรู้
(๒) คฤหสั ถ์ วัยครองเรือน
(๓) วานปรสั ถ์ วัยท่ีออกบวช เป็นกำรเขำ้ ปำ่ หำควำมสงบ
(๔) สันนยาสี เปน็ ปริพำชก หรือฤำษี

• สอนเน้นกำรใช้ชวี ติ ร่วมกนั เช่น กำรทำงำนร่วมกัน กำรรบั ประทำนอำหำรร่วมกนั และสอนให้รับผิดชอบ
ทำงสงั คมและปรับตนเองใหเ้ ขำ้ กบั เสรภี ำพในสงั คมใหม่


Click to View FlipBook Version