๑๔๓
หน่วยที่ 11
กำรเขียน
เรยี งควำม
๑๔๔
กำรเขยี นเรียงควำม
เรียงควำม คือ การเอาคามาประกอบแต่งเป็นเร่ือง หรือการเรียบเรียงถ้อยคาให้เป็น
เร่ืองราว โดยใช้สานวนภาษาถูกต้องและสละสลวย กล่าวอีกนัยหนึ่ง เรียงความเป็นการแต่ง
หนงั สือในลักษณะทใี่ ชพ้ ดู หรือเขยี นกันเปน็ สามญั แตกตา่ งจากลกั ษณะทแี่ ตง่ เป็นร้อยกรอง หรือ
คาประพันธ์
ส่วนประกอบของเรียงควำม
1. คานา คือ ส่วนทีน่ าไปสูเ่ นอ้ื เรอ่ื ง เป็นตอนทดี่ ีเดน่ ชวนติดตาม
2. เนอื้ เรื่อง คือ สว่ นสาคญั ใหร้ ายละเอยี ดของเร่อื ง
3. สรุป คือ ส่ิงที่รวบรวมความคิดเห็นของผู้เขียนท่ีกล่าวมาท้ังหมด ให้จบลงใน
ตอนทา้ ยของเรอ่ื ง
หลักกำรเขยี นเรยี งควำม
1. เขยี นชอื่ เรือ่ งไว้ทก่ี ึง่ กลางหนา้ กระดาษ
2. ลายมอื เขยี นให้ชัดเจน อา่ นง่าย ถูกต้อง
3. เว้นว่างหน้ากระดาษทั้งด้านซ้ายและขวาพองาม ไม่เขียนชิดริมกระดาษหรือเขียนตก
ขอบกระดาษ รวมทัง้ ไม่เขียนฉกี คา
4. ก่อนลงมือเขียนต้องวางโครงเร่ืองก่อน เพื่อลาดับเรื่องราวให้เป็นไปตามลาดับกอ่ น –
หลงั ไมส่ บั สนวกวน
5. เรยี งความต้องมคี านา เน้อื เรอ่ื ง และสรุป
๑๔๕
6. การย่อหน้าไม่ควรเขยี นเรยี งความย่อหนา้ เดียว อย่างน้อยจะตอ้ งมยี อ่ หน้าคานา เนือ้
เรื่อง และสรปุ ในเนอ้ื เร่อื งอาจมีหลายยอ่ หนา้ ไดแ้ ลว้ แต่เนอื้ เร่อื ง การย่อหน้าแต่ละครงั้ ควรตรงกนั
7. เนอื้ เร่อื งและช่อื เรอื่ งตอ้ งมคี วามสัมพันธ์กัน จงึ จะเรียกว่าเขียนไดต้ รงตามจุดประสงค์
มเี อกภาพ สารัตถภาพ และสมั พันธภาพ
ลักษณะและรูปแบบกำรเขียนเรียงควำม
๑. กำรตัง้ ชื่อเรอื่ ง
เรอื่ งที่แตง่ ต้องมีเนอื้ ความตรงตามชอ่ื เร่ือง การตัง้ ช่ือเรอ่ื งมคี วามสาคญั มาก ควรใช้คาท่ี
ดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน หากผู้เขียนต้องตั้งช่ือเรื่องเอง ผู้เขียนต้องหาจุดเด่นของเร่ืองมาต้ังช่ือ
เลอื กสรรคาท่มี ีความหมายครอบคลมุ ประเดน็ ท่เี สนอทงั้ หมด เชน่ เรอ่ื งเท่ียวกรงุ เทพฯ เรอื่ งประวัติ
บุคคล เรือ่ งความกตัญญกู ตเวที เปน็ ตน้
๒. กำรตั้งจุดมุง่ หมำย
ประกอบด้วยจุดมุ่งหมายหลักและจุดมุ่งหมายรอง ผู้เขียนต้องตั้งจุดมุ่งหมายให้ชัดเจน
เพราะจุดมุ่งหมายจะสัมพันธ์กับการดาเนินเรื่อง ภาษาท่ีใช้ต้องไม่เกินจริงและควรสอดคล้องกับ
ระดับวัย เพศของผู้อา่ น เชน่ เขยี นใหเ้ ด็กอ่าน อาจะใช้ภาษาไม่เป็นทางการนัก เชน่ เพ่อื ให้เห็น
ความสาคัญของความกตัญญกู ตเวที เป็นต้น
3. กำรกำหนดขอบขำ่ ยเนอื้ หำสำระ
เม่ือได้จุดมุ่งหมายในการเขียนแล้ว ผู้เขียนควรกาหนดขอบข่ายของเรื่องที่เหมาะสม
โดยพิจารณาจากจุดมุ่งหมายของเร่ือง และความยาวของเรื่องท่ีต้องการ แล้วรวบรวมเร่ืองราว
ข้อมลู ที่อยใู่ นขอบขา่ ย และสมั พันธ์กับเร่ืองที่จะเขียนน้ัน
๑๔๖
4. ลกั ษณะทดี่ ขี องหัวข้อในแตล่ ะยอ่ หน้ำ
ลักษณะที่ดีของทุกหัวข้อ ทั้งหัวข้อสาคัญและหัวข้อย่อยในแต่ละย่อหน้าน้ัน เมื่อเรียบ
เรียงต่อกันไปตามลาดบั แลว้ ตอ้ งมีลักษณะเป็นเอกภาพ สารตั ถภาพ และสัมพนั ธภาพ
เอกภาพ คอื ความเป็นอนั หนง่ึ อันเดียวกัน หัวขอ้ ย่อยทใ่ี ชข้ ยายต้องมีใจความเป็นเร่ือง
เดียวกับหัวข้อสาคัญ มีจานวนพอที่จะขยายหัวข้อสาคัญได้สมบูรณ์พอเหมาะพอดี ไม่ขาดไม่เกิน
ตอ้ งมีทศิ ทางการนาเสนอไปในแนวทางเดียวกนั
สัมพันธภาพ คือ ความผูกพัน ความเกี่ยวข้อง การเรียงลาดับใจความเป็นประโยค
ทุกประโยคในแต่ละย่อหน้า มีความต่อเน่ืองสัมพันธ์กัน และทุกย่อหน้าตลอดเรื่องก็ต้องต่อเนื่อง
สัมพนั ธ์กัน และทุกย่อหนา้ ตลอดเร่อื งก็ต้องต่อเน่ืองเป็นลกู โซ่ ซ่งึ การสร้างสมั พันธภาพสามารถทา
ได้หลายวธิ ี ดังนี้
1. การลาดบั ความอย่างมรี ะเบยี บ
2. ใช้คาหรือกลุม่ คาเชอื่ มเพอื่ แสดงการลาดับความ
3. ใชค้ าซ้า โดยเลือกคาทเี่ ป็นแกน่ สารของเรือ่ ง
4. ใช้แบบสร้างของประโยคทานองเดยี วกัน
สารัตถภาพ หมายถึง การเน้นเน้ือหา เน้นใจความ เน้นแก่นสาร ช่วยให้อ่านเข้าใจ
ประเดน็ สาคัญของเรื่องได้ชดั เจนขึ้น การเนน้ โดยวิธงี ่ายๆ อาจทาได้ด้วยการซ้าคา ซ้ากลุ่มคา ซา้
ประโยคท่ีเป็นเนื้อหา เช่น เร่ืองการไหว้พระสวดมนต์ ถ้าเขียนเกี่ยวกับเรื่องศาสนา หรือพุทธ
ประวัติเสีย ๒๕ บรรทัด แล้วเขียนเรื่องเก่ียวกับการไหว้พระสวดมนต์เพียง ๑๐ บรรทัด เรียกได้ว่า
ขาดสารตั ถภาพ เพราะเขียนในหัวข้อเร่อื งน้อยไป
๕. กำรวำงโครงเรอื่ ง
การวางโครงเร่ือง หมายถึง การรู้จักตั้งปัญหาถามตนเองให้ตอบทีละข้อตามลาดับของ
เค้าเรื่องท่ีกาหนดขึ้น เพ่ือให้สามารถเข้าใจเร่ืองน้ันแจ่มแจ้ง ปัญหาที่ถามเหล่าน้ันคือหัวข้อเรื่อง
หรือหัวข้อสาคัญของแต่ละย่อหน้า และหัวข้อประกอบหรือหัวข้อย่อย คาตอบท่ีให้ความกระจ่าง
แจง้ ของหวั ขอ้ ทง้ั หมดนัน้ คอื เรยี งความ น้ันเอง
การวางโครงเรื่อง ผูเ้ ขียนต้องจัดลาดบั ความคดิ โดยอาศัยจุดมุ่งหมายหลกั จดุ มุง่ หมาย
รอง และข้อมูลเนอ้ื หาท่รี วบรวมได้มาเป็นแนวในการเขียน สามารถจัดตามเวลา เหตุการณก์ ่อน–
หลงั จัดตามเหตุผล จัดตามความสาคัญ
๑๔๗
๖. กำรเขียนคำนำ
คานา คือ การกล่าวเริ่มต้นให้นาไปสู่ชื่อเรื่อง เป็นการเกริ่นคาทักทายสนใจให้อยาก
อ่าน เพื่อนาผู้อ่านเขา้ สู่ประเด็นสาคญั ของเร่ือง คานาเป็นตอนทีส่ าคัญมาก เพราะมีอทิ ธิพลทาให้
อยากอา่ นตอ่ ไป ตัวอย่างการเขยี นคานาแบบต่างๆ ดงั นี้
1. การใชบ้ ทกวหี รือสภุ าษิตเป็นคานา อาจนาบทกวี สานวนท่ีสัมพันธ์เป็นเอกภาพกับเนอ้ื เร่ืองมา
เปน็ คานา เชน่ เรอื่ งความสามัคคี
“บคุ คลหมู่มากแมน้ เมอื งใด ก็ดี
ตา่ งร่วมสามัคคใี จ ต่อตอ้ ง
จักปราศจากอรภิ ัย พวก อืน่ แฮ
เจรญิ สขุ เพราะเสพซ้อง ส่ิงข้อสามคั ค”ี
(โคลงในพระราชนพิ นธส์ ภุ าษิต ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัว)
2. การใช้คาถามเป็นคานา ใช้คาวา่ “ทาไม, อย่างไร, เพราะเหตุใด, ฯลฯ ในการต้ังคาถามไปสู่
เนอื้ เรอ่ื งในเร่ืองต่างๆ เชน่ เร่อื ง “มาชนะธรรมชาตใิ นหญิงกันเถอะ”
“ทาไมผู้หญิงจึงถูกกาหนดให้เป็น “ช้างเท้าหลัง” มาต้ังแต่โบราณ ทาไมผู้หญิงในบาง
ประเทศจึงถูกกาหนดให้เป็นเพียงสมบัติส่วนตัวของสามี อยู่แต่ในบ้านบริการสามีและครอบครัว
เท่านั้น ทาไมผู้หญิงในประเทศเสรีจึงพยายามเรียกร้องเพื่อเพิ่มพูนสิทธิของสตรีอยู่เรื่อยๆ เหล่านี้
เพราะความออ่ นแอแต่กาเนิดของผู้หญงิ นนั่ เอง ทาไมผู้ชายไม่ยอมใหค้ วามสาคญั และเห็นความสามารถ
ของผู้หญิง, ทาไมเล่าธรรมชาติจึงสร้างให้ผู้หญิงอ่อนแอเช่นนี้ เราไม่มีทางที่จะชนะความอ่อนแอ
เหลา่ นล้ี ะหรอื ”
(มาชนะธรรมชาตใิ นหญงิ กันเถอะ ของศรนี วล เจอื จนั ทรพ์ งษ)์
๓. การใช้ประสบการณ์และการค้นคว้ามาเขียนเป็นคานา เช่น เร่ือง “ประโยชน์ท่ีเราได้จาก
หอ้ งสมุด”
“ในยามท่ีข้าพเจ้าอยู่ในห้องสมุด รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้วิเศษ อยากจะคุยกับใครก็ได้ดังใจ
อยากจะเรียกพลาโต้ให้มาคุยด้วยก็เพียงกระดิกนิ้วเดียว อยากให้สุนทรภู่มานั่งเล่านิทานให้ฟังกท็ า
ได้ ไม่มกี ารขัดขนื และถ้าเกดิ ความเบื่อขึ้นมาก็เพยี งกระดิกนิ้วนดิ เดียว ท่านเหลา่ นั้นก็หายไป” นีค่ อื
คาพดู ของผทู้ รงคุณวุฒิทา่ นหนงึ่ ซง่ึ ทาให้เรารปู้ ระสบการณ์ แนวความคดิ ของแต่ละคนในด้านนัน้ ๆ
๑๔๘
๔. การใช้ข่าวหรือเหตุการณ์สาคัญๆ ท่ีเกิดข้ึนเป็นคานา เช่น เรื่อง “แรงต้านทานของผู้เสีย
ประโยชน์จากปา่ ”
“หลังจากท่รี ัฐบาลประกาศปดิ ป่า ถอนสัมปทานการทาป่าท่ัวประเทศ และคณะรฐั มนตรี
มีมติเห็นให้ปิดป่า จานวน ๓๖๐ ป่า บนพื้นท่ีประมาณ ๙๐ ล้านไร่ ได้ทาให้เกิดปฏิกิริยาสะท้อน
โตต้ อบกลับมาทงั้ ด้านบวก และดา้ นลบเป็นอเนกประการ”
(จาก เดลินิวส์ ฉบับที่ ๑๔,๓๕๑ : ๒๖ มกราคม ๒๕๓๒)
7. กำรเขียนเนือ้ เร่อื ง
เนื้อเรือ่ งของเรียงความประกอบด้วยข้อความหลายยอ่ หน้า แตล่ ะยอ่ หนา้ จะประกอบดว้ ย
ประโยคใจความสาคัญ ๑ ประโยค (หวั ขอ้ สาคญั ) และประโยคประกอบ อาจมีประโยคประกอบย่อย
หรือขอ้ ความอืน่ ๆ ขยายไดอ้ กี (หวั ข้อหลายหัวขอ้ )
การแบ่งยอ่ หนา้ คอื การจัดลาดบั เรอ่ื งราวหรือความคดิ ในการเรียงความ การแบ่งย่อหน้า
มีความจาเป็น เพราะทาให้เร่ืองราวชัดเจนแจ่มแจ้งข้ึน เน่ืองด้วยข้อความย่อหน้ามีลักษณะเป็น
เอกภาพ คอื มใี จความเป็นอันหน่งึ อนั เดยี วกันตลดิ ทง้ั ยอ่ หนา้ โดยจัดเรยี บเรียงประโยคไวต้ ามลาดบั
หลกั การเรยี บเรยี งประโยค มดี ังต่อไปน้ี
1. เขยี นประโยคใหส้ มบรู ณ์ถกู ตามหลักภาษา
2. อย่าผกู ประโยคยืดยาว มีประโยคเล็กๆ ซอ้ นกนั หลายๆ ประโยค
3. ไม่ควรใช้คาบุพบทและสนั ธานโดยไมจ่ าเป็น
4. อย่าใช้สานวนต่างประเทศ
5. อยา่ จบประโยคโดยใช้คาหว้ นๆ
๑๔๙
8. กำรเขยี นสรปุ
การสรุปของเรียงความ หมายถึง การเขียนว่าจะจบเร่ืองลงโดยวิธีใด เป็นการกล่าวปิด
เรื่องไม่ได้ หมายความว่าเป็นใจความย่อของเนื้อเรื่อง การสรุปมีความสาคัญยิ่งอีกตอนหน่ึงของ
เรียงความ การสรุปที่ดีจะมีเสน่ห์ประทับใจ เห็นคุณค่า น่าเชื่อถือ น่าปฏิบัติตาม เกิดศรัทธาใน
ความคิดของผู้เขยี น มีหลกั การสรุป ดังน้ี
1. หลีกเลี่ยงใช้คาว่า “สรุป, สรุปแล้วได้ความว่า, รวมความว่า, ที่กล่าวมาข้างต้นน้ัน
สรุปแล้วคือ, ฉะน้ัน จึงสรุปได้ว่า ใจความสาคัญของเร่ืองคือ, กล่าวโดยสรุป” และคาอื่นๆ ที่มี
ความหมายเชน่ น้ี
2. ความยาวของสรุปนี้ ควรให้ใกล้เคียงกับความยาวของคานา หรือใกล้เคียงกับความ
ยาวของยอ่ หนา้ อน่ื ๆ
3. ใชข้ อ้ ความซ่งึ มนี า้ เสยี งแสดงใหผ้ ูอ้ ่านทราบว่า เร่อื งได้จบลงแลว้
4. ใจความของสรุปตอ้ งไมใ่ หร้ ายละเอียดทซ่ี า้ กบั เน้อื เรอ่ื งเป็นอันขาด
5. ใช้โคลง กลอน สภุ าษิต หรือคาคม ท่ีเกยี่ วข้องโดยตรงกบั สาระของเร่อื งกไ็ ด้
6. ใชว้ ธิ ีทง้ิ ทา้ ยไวด้ ว้ ยแนวความคดิ อนั คมคายอยา่ งใดอย่างหน่ึง
ตัวอยำ่ งกำรสรุปเรือ่ ง
๑. เรยี งความเร่ืองประวัติบคุ คล อาจลงทา้ ยเรอ่ื งวา่
ทา่ นล่วงลับไปแลว้ แต่ความดีทท่ี ่านไดก้ ระทาไว้ เมอื่ ครัง้ มชี ีวิตอยู่
ยังเป็นเคร่ืองเตือนใจให้คนทั่วไปนึกถึงคุณความดี อันเป็นอาภรณ์ประดับให้ท่าน
งดงามอยู่ในความรู้สึกของอนุชนต่อไป มีคุณค่าล้าค่ายิ่งกว่าอาภรณ์อ่ืนใดในโลก
ประดุจดังคาฉันท์กฤษณาสอนน้อง ในตอนหนงึ่ ท่วี ่า
“นรชาตวิ างวาย มลายสน้ิ ท้ังอนิ ทรีย์
สถติ ท่ัวแต่ชว่ั ดี ประดบั ไว้ในโลกา”
2. เรยี งความเรอื่ งไทยต้องซอื้ สินค้า อาจลงทา้ ยว่า
...ถ้าท่านไม่ช่วยประเทศของเราแล้ว จะหวังใหใ้ ครผู้ใดเล่ามาชว่ ย โปรดอย่าลืมว่า
ถา้ ไทยทา ไทยซือ้ ไทยใชแ้ ล้ว ไทยกจ็ ะเจริญอยา่ งแนน่ อน
๑๕๐
แบบฝึกทักษะท่ี ๑
คำชแ้ี จง เขียนเรื่องเกย่ี วกับครอบครัวของนกั เรยี น พรอ้ มกบั ตัง้ ชอ่ื เร่ือง
คาถามเพ่ือเปน็ แนวทางในการเขียน
- บอกช่ือตัวเองวา่ ชอ่ื อะไร
- บา้ นตัง้ อย่ทู ีไ่ หน
- สมาชกิ ในครอบครวั มใี ครบ้าง
- บรรยายลกั ษณะความเป็นอยูข่ องครอบครวั
- เลา่ เหตุการณ์ทป่ี ระทบั ใจ
- เสนอแนวคิดในการอยูร่ ว่ มกนั และการเปน็ สมาชกิ ทดี่ ีต่อครอบครัว
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๑๕๑
แบบฝกึ ทกั ษะที่ 2
คำชแ้ี จง เขยี นเรื่องเกย่ี วกบั เพ่ือนที่นักเรียนรกั พรอ้ มกบั ตั้งช่อื เร่อื ง
คาถามเพอ่ื เป็นแนวทางในการเขยี น
- เพอื่ นที่นกั เรยี นรกั เปน็ ใคร ชอื่ อะไร
- อยทู่ ไ่ี หน มีนิสยั อย่างไร
- ลักษณะท่าทางรปู ร่างเปน็ อย่างไร
- ความสัมพันธ์ระหวา่ งนักเรียนกับเพอ่ื นเป็นอย่างไร
- มคี วามประทับใจเกย่ี วกบั เรอื่ งอะไร
- เสนอแนวคดิ มีเพ่อื นดีอยา่ งไร และการเปน็ เพื่อนทดี่ ีควรทาอย่างไร
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๑๕๒
แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 3
คำช้ีแจง เขียนเรื่องเก่ยี วกบั ครูที่นกั เรยี นรกั พรอ้ มกับตง้ั ชือ่ เร่ือง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๑๕๓
แบบฝกึ ทกั ษะที่ 4
คำชี้แจง เขยี นเรื่องเกยี่ วกบั สตั ว์เล้ียงท่นี กั เรียนรกั พร้อมกบั ตงั้ ชือ่ เร่ือง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๑๕๔
แบบทดสอบประจำหน่วยท่ี ๑๑
กำรเขยี นเรียงควำม
คำชแ้ี จง เขยี นเร่ืองเก่ยี วกับกีฬาทช่ี อบมากทีส่ ุดพรอ้ มกบั ตัง้ ชือ่ เร่อื ง
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
๑๕๕
แนวคำตอบ : ขึน้ อยูก่ บั ดุลพนิ ิจของครผู ้สู อน โดยมเี กณฑก์ ารให้คะแนน ดังน้ี
เกณฑก์ ำรให้คะแนนกำรเขียนเรียงควำม
ประเด็น เกณฑ์กำรใหค้ ะแนน นำ้ หนัก
กำรประเมนิ จดุ เน้น
๑. รปู แบบ ๔ ๓ ๒๑
๒
๒. กำร 1. เขยี นคานา 1. เขียนคานา 1. เขยี นไม่ 1. เขียนได้
นำเสนอ เนื้อหา สรุป ๓
เนอ้ื หำ ครบถว้ นและ เนอ้ื หา สรุป ครบถ้วน สว่ นใด
สอดคล้องกนั
ครบถว้ น ขาดสว่ นใด ส่วนหนึง่
1. เขยี นลาดบั
ความคดิ ได้ สว่ นหนึ่ง
อยา่ งเหมาะสม
ไมว่ กวน 1. เขียนลาดับ 1. เขยี นลาดับ 1. เขยี นลาดับ
2. จาแนกประเดน็ ความคดิ ได้ ความคิดได้ ความคิด
ได้
อยา่ งเหมาะสม เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
3. เขียนสรุป
ประเดน็ ของ 2. จาแนกประเดน็ 2. จาแนก วกวน
เร่อื งได้อยา่ ง
ชดั เจน ได้ ประเด็นได้ 2. จาแนก
4. เขยี นแสดง 3. เขยี นสรปุ บางส่วน ประเด็น
ความคดิ เหน็
ตรงกับประเด็น ประเดน็ ของ 3. เขียนสรุป ไม่ได้
ครบถ้วน
เร่อื งได้ ประเด็น 3. เขียนสรปุ
4. เขียนแสดง ของเรอ่ื ง ประเด็น
ความคดิ เหน็ ได้บางส่วน ของเร่อื ง
ตรงประเดน็ 4. เขยี นแสดง ไม่ได้
ความคดิ เห็น ๔. เขียนแสดง
ตรงกบั ความคิดเหน็
ประเด็น ไมต่ รง
บางส่วน ประเดน็
๑๕๖
ประเด็น เกณฑก์ ำรให้คะแนน นำ้ หนกั
กำรประเมิน จุดเน้น
๓. กำรใช้ ๔ ๓๒ ๑
๑. ใช้ถอ้ ยคา ๓
ภำษำ 1. ใช้ถ้อยคา ๑. ใช้ถ้อยคา ๑. ใช้ถอ้ ยคา
สานวน ๒
๔. มำรยำท สานวนถูกต้อง สานวนถกู ตอ้ ง สานวนถูกต้อง ไมเ่ หมาะสม
ในกำร ๒. เขยี นสอื่
เขยี น เหมาะสม เหมาะสม บางสว่ น ความหมาย
ไมช่ ดั เจน
2. เขยี นสือ่ ๒. เขยี นสือ่ ๒. เขยี นสอื่ ๓. ใช้ภาษา
ไม่ถกู ตอ้ ง
ความหมายได้ ความหมายได้ ความหมายได้ ๔. ใช้ภาษา
ส่ือสาร
ชัดเจน ชัดเจน บางสว่ น ไมต่ รง
จดุ ประสงค์
3. ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง ๓. ใช้ภาษา ๓. ใช้ภาษา
๑. เขยี นไม่
ตามอักขรวิธี ถูกต้องตาม ถูกตอ้ ง ตรงตาม
ขอ้ เท็จจริง
4. ใช้ภาษาสอ่ื สาร อกั ขรวธิ ี บางส่วน
๒. ไมม่ ีการ
ตรงจดุ ๔. ใช้ภาษา ๔. ใช้ภาษา อ้างองิ ทีม่ า
ประสงค์ สอื่ สารตรง สอื่ สารตรง ๓. ใช้ภาษา
ไมส่ ภุ าพ
ครบถว้ น จุดประสงค์ จดุ ประสงค์
๔. เขยี นด้วย
บางส่วน ลายมอื ที่
อา่ นไม่ออก
๑. เขยี นตาม ๑. เขียนตาม ๑. เขียนตาม
ขอ้ เท็จจรงิ ข้อเท็จจรงิ ขอ้ เท็จจริง
ท้งั หมด ๒. มกี ารอา้ งองิ บางส่วน
๒. มีการอ้างอิง ที่มา ๒. มีการอา้ งองิ
ท่ีมาครบถว้ น ๓. ใช้ภาษาสภุ าพ ที่มาบางสว่ น
๓. ใช้ภาษาสภุ าพ 4. เขยี นดว้ ย ๓. ใชภ้ าษาสภุ าพ
ชัดเจน ลายมอื ที่ บางส่วน
๔. เขียนด้วย อา่ นงา่ ย ๔. เขยี นด้วย
ลายมอื ท่ี ลายมอื ที่อ่าน
สวยงามอ่านง่าย ออกบ้าง
กำรกำหนดน้ำหนกั กำรประเมนิ คะแนน 34 – 40 คะแนน หมายถงึ ดีมาก
๑. การเขียนลาดบั เหตุการณ์ น้าหนัก ๒ คะแนน 26 – 33 คะแนน หมายถึง ดี
๒. การนาเสนอเนือ้ หา น้าหนัก ๓ คะแนน 18 – 25 คะแนน หมายถึง พอใช้
๓. การใช้ภาษา นา้ หนกั ๓ คะแนน 0 – 17 คะแนน หมายถึง ตอ้ งปรับปรงุ
๔. มารยาทในการเขียน น้าหนกั ๒
๑๕๗
เอกสำรอ้ำงองิ
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช 2551.
กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พ์ชุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จากดั .
กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2557). ภำษำพำท.ี พิมพค์ ร้งั ที่ 5. กรงุ เทพฯ : สกสค.ลาดพรา้ ว.
กาชัย ทองหลอ่ . (2556). หลกั ภำษำไทย. พิมพ์ครัง้ ท่ี 54. กรงุ เทพฯ : รวมสาส์นจากดั .
ขนิษฐา ขันขวา. (2536). กำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญจำกข่ำว โรงเรียนหนองหัวช้ำงวิทยำ
อำเภอพรเจรญิ จังหวัดบงึ กำฬ.
จีรพรรณ สุราษฎร์มณี. (2563). กำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย
โรงเรยี นรำชประชำนุเครำะห์ ๒๓ จงั หวดั พษิ ณโุ ลก สำนกั บริหำรงำนกำรศึกษำพิเศษ
กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร.
ณัฐณิ า โตประเสรฐิ พงศ.์ (2558). เกง่ หลกั ภำษำไทย ป. 5–6. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทไฮเอ็ดพบั ลซิ ซิ่ง.
นพดล จนั ทร์เพญ็ . (2539). กำรใชภ้ ำษำไทย. พมิ พ์ครัง้ ที่ 3. กรงุ เทพฯ : ตน้ อ้อแกรมม่ี จากัด.
รัตนา สถิตานนท์. (2537). แบบฝึกหัดหลักและกำรใช้ภำษำไทย ชั้นประถมศึกษำปีที่ 5.
กรุงเทพฯ : ตน้ ออ้ .
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (๒๕๖๑). ลักษณะเฉพำะของ
แบบทดสอบ (Test Specification) สำหรับกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดับชำติ
ขั้นพ้ืนฐำน (Ordinary National Educational Test : O–NET) กลุ่มสำระกำรเรียน
รูภำษำไทย ช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ ๖.
สถาบันภาษาไทย สวก. สพฐ. (2559). คู่มือกำรสอนอ่ำนเขียนโดยกำรแจกลูกสะกดคำ.
กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จากดั .
สาลี รักสุทธี. (2557). สอนอย่ำงไรให้เด็กอ่ำนออก อ่ำนได้ อ่ำนคล่อง อ่ำนเป็น เขียนได้
เขยี นคล่อง และเขยี นเป็น. กรุงเทพมหานคร : บริษทั ธนธชั การพมิ พ์ จากดั .
อิทธิพัทธ์ สวุ ทันพรกลู . (มปป.). คมู่ อื เสรมิ ทกั ษะภำษำไทย ช้ันประถมศึกษำปีท่ี 4-6. กรงุ เทพฯ :
สานกั พมิ พ์ พีบีซี จากดั .
KHPHOOMBOONNAK. แบบฝกึ กำรอ่ำนจบั ใจควำมจำกกลอน. แหล่งทมี่ า :
https://khphoomboonnak.wordpress.com
๑๕๘
คณะทำงำน
ทปี่ รกึ ษำ ผอู้ านวยการสานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาประจวบครี ขี นั ธ์ เขต 1
1. นายมงั กรแกว้ ดรณุ ศลิ ป์ รองผอู้ านวยการสานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1
รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1
2. นางสาววรลกั ษณ์ จันทรผ์ า รองผอู้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรขี ันธ์ เขต 1
3. นายภิญโญ พูลสวสั ด์ิ ผอู้ านวยการกลุ่มนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศกึ ษา
4. นายประจบ ดีพรม
5. นายขจรเกียรติ เครอื ประดับ ศึกษานเิ ทศก์
6. นางหรณิ ญา รงุ่ แจ้ง
ศึกษานเิ ทศก์
7. นางสาวกรวิกา พงศาปาน ศกึ ษานเิ ทศก์
8. นางสาวมิตรสินยี ์ สมบูรณ์ ศกึ ษานเิ ทศก์
9. นางสาวพัทร์สติ า ภูมพิ ฤก ศกึ ษานเิ ทศก์
10. นางสุประวณี ์ เอกมณีโรจน์ ศกึ ษานิเทศก์
11. นายจุมพลภัทร์ ไชยสตั ย์
คณะจดั ทำและบรรณำธกิ ำรกิจ ศึกษานเิ ทศก์
1. นางหรณิ ญา รงุ่ แจ้ง ครูโรงเรยี นอนุบาลบางสะพานน้อย
2. นายโกวิท ทองมาก ครูโรงเรยี นวดั เขาราษฏรบ์ ารงุ
3. นายสิรวิชญ์ นกทอง ครูโรงเรยี นธนาคารออมสิน
4. นางสาวจงรัก ภคั ประจวบพร ครูโรงเรียนบา้ นยุบพริก
5. นางโสภี สงู ยง่ิ ครูโรงเรยี นบ้านคลองชายธง
6. นางสาวชลธชิ า เปรมปาน ครูโรงเรียนอนุบาลบางสะพาน
7. นางชลธิชา จันทร์แกว้
8. นางสาวสดุ ใจ มงุ่ ดี ครูโรงเรียนบ้านคัน่ กะได
9. นางวาสนา โตแก้ว ครโู รงเรียนบางสะพาน
10. นางสาวเปรมจติ ร บวั เผื่อน ครโู รงเรียนอนุบาลประจวบครี ขี ันธ์
11. นางสาวภัทรธดิ า ทองไทยจรูญ ครโู รงเรียนบ้านหนองเสอื
12. นางสาวจรรยพร เอกอรณุ ครูโรงเรยี นบ้านช้างเผอื ก
13. นางสาวรวิ เต็มวนาวรรณ ครูโรงเรียนมลู นิธศิ ึกษา
ผอู้ อกแบบปก เจ้าหนา้ ทธ่ี ุรการ สพป.ประจวบคีรขี นั ธ์ เขต 1
นายณดลพฒั น์ วริ ะมขุ
ผู้จดั รูปเลม่ เจ้าพนกั งานธุรการ สพป.ประจวบคี
นางดารณี ธรรมรงรตั น์
๑๕๙