ความนา
หลกั สูตรสถานศึกษา
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 1)
หลักสูตรสถานศกึ ษา
โรงเรียนอนบุ าลสระบุรี พุทธศกั ราช 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน
พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาสระบุรี เขต 1
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 2)
ประกาศโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี
เรอื่ ง ใหใ้ ช้หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี พทุ ธศักราช 2563
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
……………………………….
ตามท่ีโรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได๎ประกาศใช๎หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี พุทธศักราช
2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
โดยใชห๎ ลักสูตรกับนักเรยี นจนครบชั้นในปีการศึกษา 2563 จึงได๎ประเมินผลหลักสูตรแล๎วนาผลท่ีได๎มา
ปรับปรุงและพัฒนา ตามข๎อเสนอแนะผ๎ูท่ีมีสํวนเก่ียวข๎อง เพื่อจัดทาหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี
พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) โดยได๎เปลี่ยนชื่อกลํุมสาระการเรียนรู๎วิทยาศาสตร์เป็นกลุํมสาระการเรียนร๎ูวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี และได๎เปล่ียนชื่อกลํุมสาระการเรียนร๎ูการงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุํมสาระการ
เรียนรู๎การงานอาชีพ เพื่อให๎ผู๎เรียนพัฒนาทักษะกระบวนการ คิดวิเคราะห์ มีเวลาในการทากิจกรรม
เพื่อพัฒนาการเต็มตามศักยภาพของผ๎ูเรียน มีคุณภาพ และมีทักษะการเรียนรู๎ ตามแนวทางโรงเรียน
มาตรฐานสากล เพ่ือให๎สอดคล๎องกับนโยบายและเปูาหมายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน
พื้นฐาน จึงได๎ดาเนินการจัดทาหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามคาส่ังโรงเรียน
อนุบาลสระบรุ ี ท่ี 51/๒๕๖3 ลงวันที่ 23 มนี าคม 2563 เปน็ ท่ีเรยี บร๎อยแลว๎
ท้ังนี้ หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได๎รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา
ข้ันพ้ืนฐาน เม่ือวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 จึงประกาศให๎ใช๎หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี
ตัง้ แตํบดั นเี้ ป็นต๎นไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี 7 เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖3
ลงชอ่ื ลงชื่อ
(นางแสงระวี วาจาวทุ ธ) (นายอทิ ธริ งค์ ปานะถึก)
ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ผอ๎ู านวยการโรงเรยี นอนบุ าลสระบุรี
โรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 3)
-ก-
คานา
กระทรวงศึกษาธิการได๎ประกาศใช๎มาตรฐานการเรียนร๎ูและตัวช้ีวัด กลํุมสาระการเรียนร๎ู
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และสาระภูมิศาสตร์ ในกลํุมสาระการเรียนร๎ูสังคมศึกษา ศาสนาและ
วฒั นธรรม (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
ตามคาสงั่ กระทรวงศึกษาธกิ ารท่ี สพฐ. 1239/2560 ลงวันท่ี 7 สิงหาคม 2560 และคาสั่งสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ท่ี 30/2561 ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 ให๎เปลี่ยนแปลงมาตรฐาน
การเรียนรู๎และตัวช้ีวัด กลุํมสาระการเรียนรู๎คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
โดยมีคาสั่งให๎โรงเรียนดาเนินการใช๎หลักสูตรในปีการศึกษา 2561 โดยให๎ใช๎ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1
และ 4 เร่ิมใช๎หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี ในปีการศึกษา 2561 จนครบช้ันในปีการศึกษา 2563
จึงได๎ประเมินผลหลักสูตรแล๎วนาผลที่ได๎มาปรับปรุงและพัฒนาตามข๎อเสนอแนะผ๎ูที่มีสํวนเก่ียวข๎อง โดย
ไดเ๎ ปลี่ยนช่ือกลุํมสาระการเรียนรู๎วิทยาศาสตร์เป็นกลุํมสาระการเรียนร๎ูวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และ
ไดเ๎ ปลี่ยนชื่อกลมุํ สาระการเรียนร๎ูการงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลุํมสาระการเรียนร๎ูการงานอาชีพ จึง
ไดก๎ าหนดจุดหมายและมาตรฐานการเรยี นร๎ู เป็นเปูาหมายและกรอบทิศทางในการพัฒนาคุณภาพผ๎ูเรียน
เพือ่ พฒั นาการเต็มตามศกั ยภาพ มคี ณุ ภาพและมที กั ษะการเรียนรูใ๎ นศตวรรษท่ี 21 เพ่ือให๎สอดคล๎องกับ
นโยบายและเปูาหมายของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน
ดังนั้น การจัดทาหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี จะประสบความสาเร็จตามเปูาหมายที่
คาดหวงั ได๎ ตามขอ๎ เสนอแนะผู๎มีสํวนเกี่ยวข๎อง ทั้งระดับชาติ ท๎องถิ่น ชุมชน ครอบครัวและบุคลากร
ในองคก์ ร ต๎องรํวมรับผิดชอบรํวมกันทางานอยํางเป็นระบบและตํอเน่ือง เพื่อพัฒนาเยาวชนบนพื้นฐาน
ของความเป็นไทย ไปสคูํ ณุ ภาพตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล
(นายอิทธริ งค์ ปานะถกึ )
ผอู๎ านวยการโรงเรียนอนุบาลสระบรุ ี
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 4)
-ข-
สารบญั
เรื่อง หน้า
ประกาศหลกั สูตรโรงเรยี นอนบุ าลสระบุรี ก
คานา ข
สารบัญ ค
สารบญั (ต่อเน่อื ง) 1
ความนา 2
ข้อมูลท่ัวไป 2
2
วสิ ยั ทัศนห์ ลักสตู รแกนกลาง 2
ทิศทางการจดั การศึกษาโรงเรยี น 3
วสิ ยั ทัศนโ์ รงเรยี นอนุบาลสระบุรี 3
พนั ธกิจ 4
เปาู หมาย 4
วัฒนธรรมขององค์กร 4
จุดหมาย 4
กลยุทธ์ 5
เปูาหมายจดุ เนน๎ ของโรงเรยี น ปีการศึกษา 2563 – ปจั จบุ นั 5
สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน 6
จุดเน๎นสาคญั ของโรงเรียนอนบุ าลสระบุรี 7
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 9
การจัดการเรียนการสอนโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ตี ามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล 10
หลักการจดั การเรียนการสอนตามกระบวนการทักษะในศตวรรษที่ 21 (3R8C) 11
ผลการดาเนินงานโรงเรยี นมาตรฐานสากล 14
การบริหารจดั การศกึ ษาของโรงเรียนอนุบาลสระบุรฯี 20
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ 21
โครงสร้างเวลาเรยี นหลักสูตรโรงเรียนอนบุ าลสระบรุ ี (ภาคปกต)ิ
โครงสร้างเวลาเรียนหอ้ งเรยี นพิเศษวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ (SMP) 22
โครงสร้างเวลาเรียนการจัดการเรียนการสอนตามหลกั สูตรกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 23
เปน็ ภาษาองั กฤษ (EP) 29
โครงสร้างเวลาเรยี น 30
คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐานและรายวิชา (เพิ่มเตมิ ) 39
คาอธิบายรายวิชากลุํมสาระการเรยี นรู๎ภาษาไทย
คาอธิบายรายวิชากลมุํ สาระการเรียนรู๎คณิตศาสตร์
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 5)
-ค- หน้า
สารบญั (ตอ่ เนอื่ ง) 52
62
เรอื่ ง 90
98
คาอธบิ ายรายวิชากลุํมสาระการเรยี นรู๎วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 107
คาอธบิ ายรายวชิ ากลุํมสาระการเรยี นรส๎ู ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 114
คาอธบิ ายรายวชิ ากลุมํ สาระการเรียนรูส๎ ุขศึกษาและพลศึกษา 138
คาอธบิ ายรายวิชากลมํุ สาระการเรียนรูศ๎ ิลปะ 145
คาอธบิ ายรายวิชากลมุํ สาระการเรียนร๎ูการงานอาชพี 146
คาอธบิ ายรายวชิ ากลุํมสาระการเรียนรภ๎ู าษาตาํ งประเทศ 147
คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติมตามจดุ เน๎นแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล 164
รายวชิ ากิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น 171
โครงสรา๎ งกจิ กรรมพฒั นาผู๎เรยี น 173
คาอธิบายรายวชิ ากจิ กรรมพัฒนาผ๎เู รยี น 175
วธิ ีดาเนนิ การจัดกจิ กรรม 177
เกณฑ์การจบการศึกษา 178
สอ่ื การเรยี น
เกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรียน
การเทียบโอนผลการเรียน
ภาคผนวก
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 6)
ความนา
กระทรวงศึกษาธิการได๎ประกาศใช๎มาตรฐานการเรียนรู๎และตัวช้ีวัด กลุํมสาระการเรียนร๎ู
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และสาระภมู ศิ าสตร์ ในกลํุมสาระการเรียนรู๎สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตาม
คาส่ังกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. 1239/2560 ลงวันท่ี 7 สิงหาคม 2560 และคาสั่งสานักงาน
คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน ท่ี 30/2561 ลงวันที่ 5 มกราคม 2561 ให๎เปล่ียนแปลงมาตรฐาน
การเรียนรู๎และตัวชี้วัด กลํุมสาระการเรียนร๎ูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
โดยมีคาสั่งให๎โรงเรียนดาเนินการใช๎หลักสูตรในปีการศึกษา 2561 โดยให๎ใช๎ในช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1
และ 4 เริ่มใช๎หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี ในปีการศึกษา 2561 จนครบช้ันในปีการศึกษา 2563
และไดป๎ ระเมนิ ผลหลกั สูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี แล๎วนาผลที่ได๎มาพัฒนาและปรับปรุง ในปีการศึกษา
2563 โดยได๎เปล่ียนชื่อกลํุมสาระการเรียนร๎ูวิทยาศาสตร์เป็นกลุํมสาระการเรียนร๎ูวิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี และได๎เปลี่ยนช่ือกลุํมสาระการเรียนร๎ูการงานอาชีพและเทคโนโลยีเป็นกลํุมสาระการเรียนร๎ู
การงานอาชีพ จึงได๎กาหนดจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู๎เป็นเปูาหมายและกรอบทิศทางในการ
พัฒนาคุณภาพผู๎เรียน เพื่อพัฒนาการเต็มตามศักยภาพ มีคุณภาพและมีทักษะการเรียนรู๎ในศตวรรษ
ที่ 21 เพอื่ ให๎สอดคล๎องกบั นโยบายและเปูาหมายของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
ทั้งน้ี โรงเรียนอนุบาลสระบุรี จึงได๎ทาการปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี
พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ. 2560) เพื่อนาไปใช๎ประโยชน์และเป็นกรอบในการวางแผนและพัฒนาหลักสูตรและจัดการเรียน
การสอน โดยมีเปาู หมายในการพัฒนาคณุ ภาพผ๎ูเรียน ให๎มีกระบวนการนาหลักสูตรไปสํูการปฏิบัติ โดย
มีการกาหนดวิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะสาคัญของผู๎เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐาน
การเรียนร๎ูและตัวช้ีวัด โครงสร๎างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวัดประเมินผลให๎มีความสอดคล๎องกับ
มาตรฐานการเรียนร๎ู อีกทั้งยังชํวยให๎เกิดความชัดเจนเร่ืองการวัดและประเมินผลการเรียนรู๎และชํวย
แก๎ปัญหาการเทียบโอนระหวํางสถานศึกษา เปิดโอกาสให๎โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจัดทา
หลักสตู รการเรยี นการสอน ในแตํละระดับตามความพรอ๎ มและจุดเน๎น มีความพร๎อมใน การก๎าวสูํสังคม
คุณภาพ มคี วามรู๎อยาํ งแท๎จริงชวํ ยทาให๎หนํวยงานท่ีเก่ียวข๎อง ในทุกระดับเห็นผล การเรียนร๎ูท่ีต๎องการ
ในการพัฒนาการเรียนรู๎ของผ๎ูเรียนที่ชัดเจนตลอดแนว ซ่ึงจะสามารถชํวยให๎หนํวยงานท่ีเกี่ยวข๎องใน
ระดับท๎องถิ่นและสถานศึกษารํวมกันพัฒนาหลักสูตรได๎อยํางมั่นใจ ทาให๎การจัดทาหลักสูตรในระดับ
สถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็นเอกภาพย่ิงขึ้น และมีทักษะการเรียนร๎ูใน ศตวรรษท่ี 21 โดยมี
กรอบแกนกลางเปน็ แนวทางทช่ี ัดเจน เพื่อตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อพัฒนาเยาวชนของชาติ
ไปสคํู ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู๎ทก่ี าหนดไว๎ ตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 7)
ขอ้ มูลทวั่ ไป
คาขวญั ของโรงเรยี น : เรียนดแี ลว๎ ต๎องประพฤติดดี ว๎ ย
อัตลักษณข์ องโรงเรยี น : เรยี นดี ประพฤตดิ ี
เอกลักษณข์ องโรงเรียน : ความรูค๎ ูคํ ุณธรรม
สปี ระจาโรงเรยี น : สฟี ูา – ขาว
ปรัชญาของโรงเรียน : สุวชิ าโน ภว โหติ
สัญลกั ษณ์ของโรงเรยี น :
ทต่ี ง้ั ของโรงเรียน : โรงเรยี นอนุบาลสระบุรี ที่ต้งั 657 ถนน พหลโยธนิ
ตาบลปากเพรยี ว อาเภอเมือง จงั หวดั สระบรุ ี
รหัสไปรษณีย์ 18000
เบอร์โทรตดิ ตอ่ : โทรศัพท์ 036 - 211867 โทรสาร 036 - 221276
สอ่ื สารอิเลก็ ทรอนกิ ส์ : E-mail. anbs_saraburi@hotmail.com.
website : http://anubansaraburi.ac.th
สังกดั : สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาสระบุรี เขต 1
เปิดสอน : ระดบั ช้นั อนุบาลปีที่ 2-3 ถึงระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1-6
วิสยั ทศั น์หลกั สูตรแกนกลาง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน มุํงพัฒนาผู๎เรียนทุกคน ซึ่งเป็นกาลังของชาติให๎เป็น
มนุษย์ที่มีความสมดุลทั้งด๎านรํางกาย ความรู๎ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและเป็นพลโลก
ยึดมั่นใน การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีความรู๎และทักษะ
พื้นฐานรวมทั้งเจตคติ ที่จาเป็นตํอการศึกษาตํอการประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมํุงเน๎น
ผู๎เรยี นเปน็ สาคัญ บนพ้นื ฐานความเช่ือวาํ ทุกคนสามารถเรียนรูแ๎ ละพัฒนาตนเองได๎เตม็ ตามศักยภาพ
ทศิ ทางการจัดการศึกษาของโรงเรียน
โรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได๎จัดวางทิศทางของสถานศึกษา โดยกาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ
เปาู หมายวฒั นธรรมขององคก์ ร จดุ หมาย กลยุทธ์ จดุ เน๎นของโรงเรยี นและสมรรถนะท่ีสาคญั ไว๎ ดังนี้
วสิ ัยทศั น์โรงเรียนอนบุ าลสระบุรี
โรงเรียนอนุบาลสระบุรี มํุงพัฒนานักเรียนตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล บนพ้ืนฐาน
ความเปน็ ไทย ใฝเุ รยี นรู๎ คคํู ณุ ธรรม นอ๎ มนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 8)
พนั ธกจิ
โรงเรียนอนุบาลสระบุรีจัดทาพันธกิจ เพื่อให๎บรรลุวิสัยทัศน์ท่ีกาหนดตามสภาพบริบทของ
โรงเรยี นไว๎ ดงั นี้
1. สถานศึกษามีการสํงเสริมและพัฒนาครูจัดกระบวนการเรียนการสอน โดยเน๎นผ๎ูเรียน
เป็นสาคญั (Active Learning)
2. พัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษาใหม๎ คี วามหลากหลาย ก๎าวทนั ตํอการเปลย่ี นแปลง
เนน๎ ผู๎เรยี นศกึ ษาคน๎ คว๎าดว๎ ยตนเอง มีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล
3. พฒั นาอาคารสถานท่ีและสิ่งแวดล๎อมในสถานศึกษา ให๎สะอาด สวยงาม รํมร่ืนปลอดภัย
และเปน็ แหลํงเรียนรู๎ทเี่ ออ้ื ตํอการเรียนการสอน
4. สํงเสริมและสนับสนุนการจัดหาวัสดุ ครุภัณฑ์และสิ่งอานวยความสะดวกท่ีชํวยสํงเสริม
การจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ให๎มีคุณภาพและเกดิ ประโยชนส์ งู สุด
5. จัดกจิ กรรมสํงเสริมใหผ๎ ู๎เรยี น มีความร๎ู ความเข๎าใจและตระหนกั ถึงความเป็นไทย
6. สงํ เสรมิ ใหผ๎ มู๎ สี วํ นเกีย่ วข๎องทุกฝาุ ยมสี ํวนรํวมในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
7. จัดกิจกรรมสํงเสริมให๎ผู๎เรียนร๎ูจักการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง และสํวนรวมอยําง
สมา่ เสมอ
8. สํงเสริมและพัฒนาให๎สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมบูรณาการ คุณธรรม จริยธรรม
คาํ นยิ มพ้ืนฐานและสง่ิ แวดลอ๎ ม ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
เปา้ หมาย
โรงเรียนอนุบาลสระบุรีจัดทาเปูาหมาย เพื่อให๎บรรลุวิสัยทัศน์ที่กาหนดตามสภาพบริบทของ
โรงเรียนไว๎ ดงั น้ี
1. ครจู ดั กระบวนการเรียนการสอน โดยเน๎นผเ๎ู รียนเป็นสาคญั (Active Learning)
2. หลักสูตรสถานศึกษามีความหลากหลาย ก๎าวทันตํอการเปล่ียนแปลง โดยเน๎นผ๎ูเรียน
ศกึ ษาค๎นคว๎าดว๎ ยตนเอง มีคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล
3. อาคารสถานท่ีและส่ิงแวดล๎อมในสถานศึกษาได๎รับการพัฒนา ให๎สะอาด สวยงาม รํมร่ืน
ปลอดภัยและเปน็ แหลงํ เรยี นรูท๎ ี่เอื้อตํอการเรยี นการสอน
4. ครูได๎รับการสํงเสริมและพัฒนาการใช๎วัสดุ ครุภัณฑ์และสิ่งอานวยความสะดวกท่ีชํวย
สงํ เสรมิ สนับสนุนการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ใหม๎ คี ณุ ภาพและเกิดประโยชน์สูงสดุ
5. ครูจัดกิจกรรมสํงเสริมให๎ผู๎เรียนมีความตระหนัก มีความร๎ู ความเข๎าใจเอกลักษณ์ความ
เปน็ ไทย
5. จดั กิจกรรมสํงเสรมิ ใหผ๎ ๎เู รียนมีความร๎ู ความเข๎าใจ และตระหนกั ถึงความเปน็ ไทย
6. ครูและบคุ ลากรทกุ ฝาุ ยมีสวํ นรํวมในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
7. จัดกิจกรรมสํงเสริมให๎ผู๎เรียนรู๎จักการดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง และสํวนรวมอยําง
สม่าเสมอ
8. จดั กจิ กรรมบรู ณาการ คุณธรรม จรยิ ธรรม คาํ นิยมพื้นฐานและสงิ่ แวดล๎อม ตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 9)
วฒั นธรรมขององคก์ ร
นาองค์กรอยาํ งมีวสิ ยั ทัศน์ ยึดหลักธรรมาภิบาล พัฒนานวัตกรรม ให๎ความสาคัญกับบุคลากร
มํุงเนน๎ ผ๎ูเรยี นสูมํ าตรฐานสากล
จุดหมาย
หลักสูตรโรงเรียนอนุบาลสระบุรี มํุงพัฒนาผ๎ูเรียนให๎เป็นคนดี มีความรู๎คํูคุณธรรมน๎อมนาหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง จงึ กาหนดจดุ หมาย เพ่ือให๎เกิดกบั ผ๎เู รยี น เมื่อจบการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน
กลยทุ ธ์
โรงเรยี นอนุบาลสระบุรีจัดทาแผนกลยทุ ธ์ เพ่ือให๎บรรลุเปาู หมายท่กี าหนดไว๎ ดงั นี้
กลยุทธท์ ี่ 1 การจดั การศกึ ษาเพื่อความม่ันคง
กลยุทธ์ท่ี 2 การพัฒนาคุณภาพผเ๎ู รียนและสํงเสรมิ การจัดการศึกษาใหม๎ ีขดี ความสามารถในการแขํงขนั
กลยทุ ธ์ท่ี 3 การสงํ เสรมิ สนับสนุนการพฒั นาครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา
กลยทุ ธท์ ่ี 4 การสร๎างและเพมิ่ โอกาสเขา๎ ถึงบรกิ ารทางการศึกษาและการเรยี นรู๎อยํางมีคณุ ภาพ
กลยุทธ์ท่ี 5 การจดั การศกึ ษาเพื่อเสรมิ สร๎างคณุ ภาพชีวติ ท่เี ปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดล๎อม
กลยุทธ์ท่ี 6 การพัฒนารปู แบบการบริหารจดั การ การนิเทศ การกากบั ติดตามและสงํ เสริม
การมสี ํวนรํวม
เป้าหมายจดุ เน้นของโรงเรยี น
1. นักเรยี นมีผลการทดสอบระดับชาติ NT, O-net สงู กวาํ ระดับประเทศและเพิ่มข้นึ รอ๎ ยละ 3
2. นักเรียนช้ันปฐมวัยทุกคนได๎รับการเตรียมความพร๎อมด๎านรํางกาย อารมณ์ สังคมและ
สติปญั ญาตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั อยํางมีคณุ ภาพ
3. นักเรยี นไดร๎ บั การสงํ เสรมิ ใหม๎ คี วามเป็นเลิศในแตลํ ะกลํมุ สาระการเรยี นรู๎
4. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในแตํละกลุํมสาระการเรียนรู๎ ตามเกณฑ์ที่สถานศึกษา
กาหนด
5. เม่ือจบช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 นักเรียนทุกคนต๎องอํานออก เขียนได๎ คิดเลขเป็น และเมื่อ
จบชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 นักเรียนทุกคนต๎อง อํานคลํอง เขียนคลํอง คิดเลขคลํอง และมีทักษะการคิด
พื้นฐาน
6. นกั เรยี นทุกคนมคี วามสานึกในความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
7. นักเรียนสามารถใช๎เทคโนโลยี ก๎าวทันตํอการเปลี่ยนแปลง ผ๎ูเรียนศึกษาค๎นคว๎าด๎วยตนเอง
มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ มีความรอู๎ ยํางหลากหลายตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล
8. นักเรยี นมคี ุณธรรมและจรยิ ธรรม ตระหนักถึงสภาพแวดลอ๎ ม มีจติ สานึกรักษาสภาพแวดล๎อมและ
อนุรักษ์วฒั นธรรมไทย
9. นักเรยี นในแตลํ ะหอ๎ งเรยี นมที กั ษะกระบวนการ ในการจดั กิจกรรม 1 หอ๎ งเรียน 1 โครงงานอาชพี
เพ่อื เน๎นกจิ กรรมตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใชใ๎ นชีวิตประจาวนั ไดเ๎ หมาะสม
10. ครจู ัดทาแผนการเรียนรูท๎ ่ีเน๎นผู๎เรยี นเปน็ สาคัญและใช๎การวดั ผลทีห่ ลากหลาย
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 10)
สมรรถนะที่สาคญั
สมรรถนะหลกั ของโรงเรียน คือ การบริหารและการจัดการเรียนการสอนท่ีมีศักยภาพ
ทาให๎พนั ธกจิ ของโรงเรยี นมีการขบั เคลือ่ นไปสํูความสาเรจ็
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน คือ คุณภาพผู๎เรียนด๎านสมรรถนะสาคัญของผู๎เรียน 5 ข๎อ
ได๎ยึดตามกรอบหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ดังน้ี
1. ความสามารถในการสื่อสาร หมายถึง ใช๎ภาษาถํายทอดความคิด ความร๎ู ความเข๎าใจ
ความร๎ูสึกและทัศนะของตนเอง เพื่อเปล่ียนข๎อมูลขําวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ตํอการ
พัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาตํอรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความขัดแย๎งตํางๆ การเลือกรับ
หรือไมํรับข๎อมูลขําวสารด๎วยหลักเหตุผลและความถูกต๎อง ตลอดจนการเลือกใช๎วิธีการสื่อสารท่ีมี
ประสิทธภิ าพโดยคานึงถงึ ผลกระทบท่มี ตี ํอตนเองและสังคม
2. ความสามารถในการคิด หมายถึง ร๎ูจักคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดอยํางสร๎างสรรค์
คิดอยํางมีวิจารณญาณและคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสํูการสร๎างองค์ความรู๎หรือสารสนเทศ เพื่อการ
ตัดสนิ ใจเกี่ยวกบั ตนเองและสังคมได๎อยํางเหมาะสม
3. ความสามารถในการแก๎ปัญหา หมายถึง เข๎าใจความสัมพันธ์และการเปล่ียนแปลงของ
เหตุการณ์ตําง ๆ ในสังคมแสวงหาความร๎ู ประยุกต์ความร๎ูมาใช๎ในการปูองกันและแก๎ไขปัญหาได๎อยําง
ถูกต๎องเหมาะสม บนพ้ืนฐานของหลักเหตุผลคุณธรรมและข๎อมูลสารสนเทศ รวมทั้งตัดสินใจท่ีมี
ประสิทธิภาพ โดยคานงึ ถงึ ผลกระทบท่ีเกดิ ขึ้นตอํ ตนเอง สงั คมและสิง่ แวดลอ๎ ม
4. ความสามารถในการใช๎ทักษะชีวิต หมายถึง ใช๎กระบวนการตํางๆ ในการดาเนิน
ชวี ิตประจาวนั เรยี นรู๎ด๎วยตนเองตํอเนื่อง ทางานและอยูํรํวมกันในสังคมด๎วยการสร๎างเสริมความสัมพันธ์
อันดีระหวํางบุคคล จัดการปัญหาและความขัดแย๎งตํางๆ อยํางเหมาะสม ร๎ูจักปรับตัวให๎ทันกับการ
เปลี่ยนแปลงของสังคม สภาพแวดล๎อมและหลีกเล่ียงพฤติกรรมไมํพึงประสงค์ ท่ีสํงผลกระทบตํอตนเอง
และผู๎อื่น
5. ความสามารถในการใช๎เทคโนโลยี หมายถึง รู๎จักเลือกและใช๎เทคโนโลยีด๎านตําง ๆ
ทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด๎านการเรียนร๎ู การส่ือสาร
การทางาน การแก๎ปญั หาอยํางสรา๎ งสรรค์ ถกู ต๎องเหมาะสมและมีคุณธรรม
จุดเนน้ สาคญั ของโรงเรยี นอนุบาลสระบุรี
จุดเน้นสาคัญของโรงเรียนอนุบาลสระบุรี คือ การดาเนินงานอยํางมีสํวนรํวมของผู๎มีสํวน
เก่ียวข๎องทุกฝุายท้ังชุมชน เครือขํายผู๎ปกครองและบุคลากร ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เน๎นการ
กระจายอานาจในการบริหารโรงเรยี น
จุดเน้นสาคัญของนักเรียน คือ นักเรียนปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดี มีความรับผิดชอบตํอ
หน๎าท่ี ในการเข๎ารํวมทากิจกรรมแสดงออกถึงความเป็นไทย รักชาติ ยึดมั่นในศาสนา เทิดทูนสถาบัน
พระมหากษัตริย์ ที่มีวิถีชีวิตและมีสํวนรํวมในการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อยูํรํวมกัน
ในสังคมอยาํ งปรองดอง สมานฉนั ท์ พรอ๎ มด๎วยคุณลักษณะความมีวินัยในตนเอง ดังนั้น การจัดกิจกรรม
การเรียนการสอนแบบบูรณาการเป็นรายวิชาเพ่ิมเติมหน๎าท่ีพลเมือง จึงเน๎นท่ีการปฏิบัติลงมือทา
(Action) เพื่อให๎เป็นนักเรียนมีประสิทธิภาพ ทาให๎เกิดประโยชน์ที่แท๎จริงแกํนักเรียนและสังคมโดยรวม
ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดงั น้ี
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 11)
หลักแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาในการดาเนินชีวิตท่ีต้ังอยูํบนพ้ืนฐานของทางสาย
กลางและความไมปํ ระมาท โดยคานงึ ถงึ ลกั ษณะ 3 ประการ ดังนี้
1. พอประมาณ คอื ความพอดี ไมนํ อ๎ ยเกินไป ไมํมากเกนิ ไป หรือไมสํ ดุ โตํงไปข๎างใดข๎าง
หน่งึ และต๎องไมเํ บียดเบยี นตนเองและผ๎อู ื่น
2. มีเหตุผล คือ การตัดสินใจ การกระทา การลงทุนทุกอยํางต๎องเป็นไปอยํางมีเหตุผล
คานงึ ถึงเหตปุ ัจจัยทีเ่ กีย่ วข๎องและผลทค่ี าดวาํ จะเกิดขึน้ อยาํ งรอบคอบ
3. มภี ูมคิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี คือ การเตรยี มตวั ให๎พรอ๎ มท่ีจะเผชญิ ผลกระทบและ
การเปลี่ยนแปลงดา๎ นตํางๆ ท่ีอาจเกดิ ขึ้นจากทัง้ ภายในและภายนอก
เง่อื นไข 2 ประการ ดงั น้ี
1. เงือ่ นไขความรู้ คือ มีความรอบร๎ู รอบคอบ และระมัดระวังในการนาความรู๎
วทิ ยาการเทคโนโลยตี ํางๆ มาใช๎
2. เงอื่ นไขคณุ ธรรม คอื มีความตระหนัก มีความซ่ือสัตย์สจุ รติ มีความอดทน
มีความเพียรและใช๎สตปิ ัญญาในการดาเนินชีวิต
นาไปสํู 4 มิติ ดังนี้ เศรษฐกิจ สังคม ส่ิงแวดล๎อม วัฒนธรรม สมดุล/พร๎อมรับตํอ
การเปล่ียนแปลงโดยยึดแนวปฏิบัติในการปรับพฤติกรรม ตามคํานิยมหลักของคนไทย ๑๒ ประการ
เพอ่ื ใหน๎ ักเรยี นมีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ดงั น้ี
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
หลักสตู รโรงเรียนอนบุ าลสระบุรี มํุงพัฒนาผ๎เู รียนให๎มีคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคแ์ ละเปน็ ท่ี
ต๎องการของสงั คม ในด๎านคุณธรรม จริยธรรม คํานิยม จิตสาธารณะ สามารถอยูํรํวมกับผู๎อ่ืนในสังคมได๎
อยาํ งมีความสขุ ทง้ั ในฐานะพลเมืองและพลโลก ซึ่งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช
2551 กาหนดไว๎ 8 ประการ และสถานศึกษาได๎กาหนดเพ่ิมเติมเป็น 9 ประการ เพ่ือให๎สอดคล๎อง
กับโรงเรยี นมาตรฐานสากล ดงั น้ี
1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
2. ซอื่ สตั ย์สุจริต
3. มีวนิ ัย
4. ใฝเุ รียนรู๎
5. อยํูอยํางพอเพยี ง
6. มงํุ ม่นั ในการทางาน
7. รักความเป็นไทย
8. มจี ิตสาธารณะ
9. มศี กั ยภาพเป็นพลโลก
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 12)
การจดั การเรียนการสอนโรงเรยี นอนุบาลสระบุรีตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล
1. ด้านคณุ ภาพวิชาการ
1.1 โรงเรยี นมีการจัดการเรียนการสอนห๎องเรยี นพิเศษทีเ่ ทียบเคยี งหลักสูตรมาตรฐานสากล ได๎แกํ
หอ๎ งเรยี น English Program (EP) และหอ๎ งเรียนวิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์ Science Mathematics
Program (SMP)
1.2 โรงเรียนสงํ เสรมิ ความเป็นเลิศตอบสนองตํอความถนัดและศกั ยภาพของผเู๎ รยี น
1.3 โรงเรยี นจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาตาํ งประเทศเพิม่ เติม ได๎แกํ วชิ าภาษาอังกฤษ
และภาษาจนี เพ่อื ส่อื สารใหไ๎ ด๎ 2 ภาษา
1.4 ปรบั ลดเน้อื หาเพม่ิ ความเขม๎ ขน๎ ของสาระการเรยี นรู๎
1.4.1 เน้ือหาหรอื กจิ กรรมสูมํ าตรฐานสากล มาจากทฤษฎอี งคค์ วามร๎ู (Theory of
Knowledge) การเขียนความเรียงข้นั สูง (Extended Essay) โลกศึกษา (Global Education)
การสรา๎ งโครงงาน (Create Project Work) โดยจัดรายวิชาเพม่ิ เติมการศกึ ษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง (IS)
1.4.2 เนื้อหากิจกรรมสสํู าระการเรยี นร๎ู ที่จะสํงเสรมิ สํคู วามเป็นเลิศดา๎ นคณติ ศาสตร์
วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ตามความถนดั ของผเ๎ู รียน
1.5 กิจกรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลาเรียนรู๎ ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 – 6 ให๎นกั เรียน
ในแตํละห๎องเรียนมีทักษะกระบวนการ ในการจัดกิจกรรม 1 ห๎องเรียน 1 โครงงานอาชีพ เพ่ือเน๎น
กจิ กรรมตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งนาไปใช๎ในชวี ิตประจาวนั ได๎อยํางเหมาะสม
1.6 โรงเรียนใชห๎ นังสอื ตาราเรียน สือ่ ท่ีมคี ณุ ภาพตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล
1.7 โรงเรยี นจดั การเรียนการสอน โดยพัฒนาใช๎ระบบหอ๎ งเรียนคณุ ภาพ (Quality
Classroom System) และมกี ารจัดกจิ กรรมแหลงํ เรียนร๎ูเพ่ิมเติม โดยการจัดกิจกรรมศึกษาดูงานภายใน
และนอกสถานศึกษา
1.8 โรงเรียนพัฒนาส่ืออิเล็กทรอนิคส์ นวัตกรรม เทคโนโลยี สํงเสริมการเรียนร๎ู
จัดสะเต็มศึกษา (STEM Education) เพื่อเผยแพรํผลงานเกี่ยวกับสะเต็มศึกษาของครูและนักเรียน
การศึกษาดูงาน ณ สถานท่ีปฏิบัติงานที่เก่ียวข๎องกับสะเต็ม ตามแนวทางการศึกษาท่ีได๎บูรณาการ
ความรู๎ระหวํางศาสตร์วิชาตํางๆ ตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง
1.9 โรงเรยี นใชร๎ ะบบการวดั และประเมินผลแบบมาตรฐานสากล โดยประเมินจากการ
สอบข๎อเขียน สอบปากเปลํา สอบสัมภาษณ์และสามารถเทียบโอนผลการเรียนกับสถานศึกษาระดับ
ตํางๆ ทัง้ ในและตํางประเทศ
2. ด้านคุณภาพของครู
2.1 ครผู ๎ูสอนมีความร๎ู ความสามารถและความเชี่ยวชาญเฉพาะดา๎ น
2.2 ครูผสู๎ อนมคี วามรู๎ ความสามารถและความเชยี่ วชาญด๎านอาชพี
2.3 ครสู ามารถใช๎ภาษาอังกฤษในการสอ่ื สารได๎
2.4 ครใู ชส๎ ื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (ICT) ในการจดั การเรียนการสอน การวดั และประเมินผล
มกี ารเผยแพรํผลงาน ทั้งระบบออนไลน์ (online) และออฟไลน์ (offline)
2.6 ครมู คี วามสามารถในการแลกเปล่ยี นเรียนรู๎ประสบการณก์ ารจัดการเรยี นการสอนท้ัง
ภายในและภายนอกสถานศกึ ษา
2.7 ครูใชก๎ ารวิจยั เพอ่ื พัฒนาผเู๎ รียนอยํางตํอเนอ่ื ง
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 13)
3. ด้านการวจิ ัยและพฒั นา
3.1 โรงเรียนดาเนินการจัดทาวิจยั และพฒั นาการจัดการศกึ ษาด๎านตํางๆ อยาํ งตํอเนื่อง
และใช๎ผลการวจิ ยั เพื่อยกระดบั คณุ ภาพการศกึ ษาเทียบเคียงมาตรฐานสากล
บริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ (Quality System Management)
1. ดา้ นคณุ ภาพของผู้บริหารโรงเรยี น
1.1 ผบ๎ู ริหารมวี ิสัยทศั นแ์ ละสามารถนาโรงเรียนสกํู ารเปน็ โรงเรียนมาตรฐานสากล
1.2 ผู๎บริหารบริหารจดั การดว๎ ยระบบคุณภาพ
1.3 ผู๎บริหารมีความเป็นผู๎นาทางวิชาการ (Academic Leadership) ที่มีผลงานปรากฏ
เปน็ ทย่ี อมรบั
1.4 ผูบ๎ รหิ ารมีความสามารถในการใชเ๎ ทคโนโลยใี นการสือ่ สารและการบริหารจดั การ
1.5 ผู๎บริหารสามารถใช๎ภาษาตํางประเทศในการสือ่ สาร
1.6 ผบ๎ู รหิ ารมปี ระสบการณ์ ศกึ ษาดูงาน แลกเปลีย่ นเรียนร๎ใู นการจัดการศึกษาระดบั
นานาชาติ
2. ด้านระบบการบรหิ ารจัดการ
2.1 โรงเรียนบริหารจดั การดว๎ ยระบบคณุ ภาพ
2.2 โรงเรียนมรี ะบบการจดั การความร๎ู (KM) และเผยแพรํนวัตกรรม
2.3 โรงเรยี นนาวธิ ีปฏบิ ตั ทิ ่ีเปน็ เลิศ (Best Practices) มาใช๎ในการบริหารจัดการ
ครอบคลมุ ภารกิจทกุ ดา๎ นของโรงเรยี น
2.4 โรงเรยี นมกี ารแลกเปล่ียนเรียนร๎ู การบรหิ ารจัดการ
2.5 โรงเรียนมีการสงํ เสรมิ และพฒั นาการบรหิ ารดา๎ นบุคลากรอยาํ งมีอสิ ระและคลอํ งตวั
โดยสามารถกาหนดอัตรากาลงั สรรหา บรรจุแตํงตง้ั และจัดจ๎าง
2.6 โรงเรียนสามารถแสวงหา ระดมทรัพยากรดา๎ นตาํ งๆ เพอื่ พัฒนาความเป็นเลิศในการ
จดั การศึกษา โดยสามารถบรหิ ารจัดการได๎อยํางคลอํ งตัวตามสภาพความตอ๎ งการและความจาเป็น
3. ดา้ นปัจจัยพนื้ ฐาน
3.1 โรงเรยี นมีห๎องเรียนเพยี งพอตอํ การจดั ชนั้ เรียน และมจี านวนครูทีม่ ีความรตู๎ รง
สาขาวชิ าที่สอน
3.2 ภาระงานการสอนของครู มีความเหมาะสมไมํเกนิ 20 ชั่วโมงตอํ สปั ดาห์
3.3 โรงเรียนจัดใหม๎ หี นังสือ/ตาราเรียนทีม่ คี ณุ ภาพระดับมาตรฐานสากล เพอื่ ใหน๎ ักเรียน
ได๎ใชเ๎ รยี นอยาํ งเพยี งพอ
3.4 โรงเรยี นมหี อ๎ งเรียนคอมพวิ เตอร์ เครือขาํ ยอินเทอร์เนต็ แบบความเรว็ สงู เชือ่ มโยง
ครอบคลุมพ้ืนที่ของโรงเรียน ใช๎อิเล็กทรอนิกส์มัลติมีเดีย (Electronic Multi-Media Classroom)
หอ๎ งทดลอง หอ๎ งปฏิบัติการและมีอปุ กรณ์เทคโนโลยีทที่ ันสมยั เนน๎ ความเปน็ เลิศของนักเรยี นตามกลํุม
สาระอยาํ งพอเพียงและสามารถเช่อื มโยงเครอื ขาํ ย เพ่ือการเรยี นรูแ๎ ละสืบค๎นข๎อมูลไดร๎ วดเรว็
3.5 โรงเรยี นมแี หลงํ เรยี นร๎ูภายใน มีสภาพแวดล๎อมและบรรยากาศท่เี อ้ือตํอการเรียนร๎ู
เหมาะสาหรบั จัดกิจกรรมท่สี ํงเสริมการค๎นควา๎ อยาํ งหลากหลาย
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 14)
4. ดา้ นเครอื ขา่ ยรว่ มพัฒนา
4.1 โรงเรียนมีสถานศึกษาทจ่ี ัดการศกึ ษาในระดับเดียวกนั เปน็ เครือขํายรํวมพัฒนาทง้ั ใน
ระดับทอ๎ งถ่ินระดับภูมภิ าคและระดับประเทศ
4.2 โรงเรียนจดั กิจกรรมการเรียนรู๎แลกเปลยี่ นประสบการณแ์ ละทรัพยากรระหวาํ ง
เครือขํายโรงเรียนรวํ มพัฒนา
4.3 โรงเรียนมเี ครือขาํ ยสนับสนนุ จากสถาบนั อุดมศกึ ษาและองค์กรอ่ืนๆ ท่ีเกย่ี วข๎องทัง้
ภาครฐั และเอกชน
4.4 นักเรียนและครูมีเครอื ขํายแลกเปล่ียนเรยี นร๎ู ท้ังภายใน และภายนอกโรงเรียน
หลกั การจัดการเรยี นการสอนตามกระบวนการทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ (3R8C)
การจัดกิจกรรมการเรียนร๎ูคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เน๎นการเชื่อมโยงความร๎ูกับ
กระบวนการทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ (3R8C)
R1. Reading - อาํ นออก
R2. (W) Riting - เขยี นได๎
R3. (A) Rithmatic - มที ักษะในการคานวณ
C1. Critical Thinking and Problem Solving : มีทักษะในการคิดวิเคราะห์
การคิดอยาํ งมวี ิจารณญาณ และแกไ๎ ขปญั หาได๎
C2. Creativity and Innovation : คดิ อยาํ งสร๎างสรรค์ คดิ เชิงนวัตกรรม
C3. Collaboration Teamwork and Leadership : ความรํวมมือ การทางานเป็นทีมและ
ภาวะผนู๎ า
C4. Communication Information and Media Literacy : ทักษะในการส่ือสาร
และการรู๎เทาํ ทันสอ่ื
C5. Cross-cultural Understanding : ความเข๎าใจความแตกตํางทางวัฒนธรรม
กระบวนการคิดขา๎ มวัฒนธรรม
C6. Computing and ICT Literacy : ทักษะการใช๎คอมพิวเตอร์ และการร๎ูเทําทัน
เทคโนโลยี ซึ่งเยาวชนในยุคปัจจุบันมีความสามารถด๎านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีอยํางมากหรือเป็น
Native Digital สํวนคนรํุนเกําหรือผ๎ูสูงอายุเปรียบเสมือนเป็น Immigrant Digital แตํเราต๎องไมํอายที่จะ
เรยี นรแู๎ ม๎วําจะสูงอายุแล๎วก็ตาม
C7. Career and Learning Skills : ทกั ษะทางอาชพี และการเรยี นรู๎
C8. Compassion : มีคุณธรรม มี เมตตา กรุณา มีระเบียบวินัย ซ่ึงเป็นคุณลักษณะ
พน้ื ฐานสาคญั ของทักษะข้นั ตน๎ ทั้งหมดและเป็นคณุ ลกั ษณะท่เี ด็กไทย จาเป็นต๎องมีทักษะการค๎นคว๎าและ
สร๎างองค์ความรู๎ ทักษะการเสาะแสวงหาความรู๎การแก๎ปัญหา
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 15)
ผลการดาเนนิ งานโรงเรียนตามมาตรฐานสากล
โรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได๎จัดเป็นโรงเรียนมาตรฐานสากล (World-Class Standard
School) เกิดจากการระดมสมองรวํ มคดิ รวํ มหารอื จงึ สามารถวางแผนงานได๎วํา โรงเรียนมีหลักสูตรเดํน
ทเ่ี นน๎ มาตรฐาน ซ่ึงหลักสูตรน้นั จะตอ๎ งประกอบสาระการเรียนร๎ู ผนวกกับความเป็นสากลท่ีประกอบด๎วย
ทฤษฎีองค์ความรู๎ ชักนาเด็กสูํการคิดโครงงานและสามารถเสนอผลงานได๎อยํางชัดเจน ผ๎ูนาการบริหาร
ล้าเลิศความคิดครอบคลุมภารกิจทุกด๎าน สามารถสร๎างเครือขํายและพัฒนาปัจจัยพ้ืนฐานครบถ๎วน จึง
กาหนดให๎มกี ารบรหิ ารจัดการดว๎ ยระบบคณุ ภาพเป็น 3 ระดับ คือ
1. ระดับที่ 1 การบริหารจัดการระบบคุณภาพ ระดับโรงเรียน (School Quality Award :
SCQA)
2. ระดบั ท่ี 2 การบรหิ ารจัดการระบบคณุ ภาพ ระดบั สานกั งานคณะกรรมการการศึกษา
ข้ันพ้ืนฐาน (Office of the Basic Basic Education Commission Quality Award : OBECQA)
3. ระดับท่ี 3 การบรหิ ารจัดการระบบคณุ ภาพ ระดับชาติ (Thailand Quality Award :
TQA)
ท้ังนี้ โรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได๎ผํานการประเมินการบริหารจัดการระบบคุณภาพ ระดับที่ 2
(Office of the Basic Basic Education Commission Quality Award : OBECQA) รางวลั คุณภาพ ใน
ปีการศึกษา 2562
การบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได้ปรับปรุงหลักสูตรโรงเรียน
อนุบาลสระบุรี พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560)
การจัดรายวิชาของระดับประถมศึกษา สถานศึกษาจัดรายวิชาพื้นฐาน กลุํมสาระการ
เรียนร๎ูคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์กับการงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระภูมิศาสตร์ ในกลํุมสาระการ
เรยี นร๎ูสงั คม ศาสนาและวฒั นธรรม ซ่ึงสถานศึกษามีแนวทางการดาเนินกิจกรรม ดงั น้ี
1. กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์
สาระที่ ๑ จานวนและพชี คณิต
สาระท่ี ๒ การวัดและ เรขาคณิต
สาระที่ ๓ สถิติและความนาํ จะเป็น
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
สาระท่ี ๒ วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
สาระที่ ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
สาระที่ ๔ เทคโนโลยี
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 16)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เช่ือมโยง เน๎นความร๎ูกับกระบวนการ ทักษะการเรียนร๎ูใน
ศตวรรษ ที่ 21 เนน๎ บูรณาการจดั กิจกรรมการเรยี นรู๎ภายในกลุมํ สาระวทิ ยาศาสตร์ โดยนามาตรฐานการ
เรียนร๎ูและตัวช้ีวัดสาระที่ ๔ เทคโนโลยี ของกลํุมสาระการงานและเทคโนโลยี มาบูรณาการจัดกิจกรรม
การเรียนรูท๎ สี่ อดคลอ๎ งและนาผลการประเมนิ ใชป๎ ระกอบการตัดสนิ ของกลํมุ สาระการเรยี นร๎ู
3. กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คม ศาสนาและวฒั นธรรม
จัดสาระภูมิศาสตร์ ให๎มีการตั้งคาถามเชิงภูมิศาสตร์ การรวบรวมข๎อมูล การจัดการข๎อมูล
การวิเคราะห์ข๎อมูล การสรุป เพ่ือตอบคาถาม Geo-literacy or Geographic literacy เป็นความร๎ู
พื้นฐานของผ๎ูเรียนในศตวรรษท่ี ๒๑ ในการแสวงหาความรู๎และตอบ คาถามท่ีเก่ียวข๎องกับทาเล ที่ตั้ง
หรือความสัมพันธ์ของสิ่งตํางๆ บนพ้ืนผิวโลก ผ๎ูสอนควรจะสอดแทรกการรู๎เรื่องภูมิศาสตร์ ในระหวําง
การจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน เพ่ือการพัฒนาการเรยี นร๎ูของผเ๎ู รียน การรู๎เร่ืองภูมิศาสตร์เป็นลักษณะ
ท่ีแสดงความสามารถในการใช๎ความเข๎าใจเชิงภูมิศาสตร์ (ability to use geographic understanding)
และการให๎เหตุผลทาง ภูมิศาสตร์ (geographic reasoning) เพ่ือการตัดสินใจเชิงภูมิศาสตร์อยํางเป็น
ระบบ (systematic geographic decision) ในการแก๎ไขปัญหาและวางแผนในอนาคต (problem
solving and future planning)
การบริหารจัดการศึกษาของโรงเรียนอนุบาลสระบุรี ได้ปรับปรุงหลักสูตร
โรงเรยี นอนุบาลสระบุรี พุทธศักราช 2563 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
การจัดระดับการศึกษา จัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน แบํงเป็น 2 ระดับ
ดงั นี้
1. ระดับก่อนประถมศึกษา (ชั้นอนุบาลปีท่ี 2 – 3) เน๎นพัฒนาเตรียมความพร๎อมทางด๎าน
ราํ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ สงั คมและวฒั นธรรม ใหเ๎ กิดคุณภาพชีวิตอยาํ งสมบูรณแ์ ละสมดุล โดยเน๎น
จดั การเรียนรแู๎ บบบูรณาการ
2. ระดับประถมศึกษา (ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6) การศึกษาระดับนี้เป็นชํวงแรกของ
การศึกษา ภาคบังคับ มุํงเน๎นทักษะพ้ืนฐานด๎านการอําน การเขียน การคิดคานวณ ทักษะการคิด
พนื้ ฐาน การตดิ ตํอส่ือสาร กระบวนการเรียนรู๎ทางสังคมและพ้ืนฐานความเป็นมนุษย์ การพัฒนาคุณภาพ
ชวี ติ อยํางสมบรู ณแ์ ละสมดุลท้ังในด๎านราํ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณ์ สังคมและวัฒนธรรม โดยเน๎นจัดการ
เรยี นรู๎แบบบูรณาการ
การจดั เวลาเรียน
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได๎กาหนดกรอบโครงสร๎างเวลาเรียนขั้นต่าสาหรับกลํุม
สาระการเรยี นรู๎ 8 กลุํม และกจิ กรรมพฒั นาผ๎เู รยี น ซ่ึงสถานศึกษาสามารถเพิ่มเติมได๎ตามความพร๎อมและ
จดุ เนน๎ โดยสามารถปรบั ใหเ๎ หมาะสมตามบรบิ ทของสถานศึกษาและสภาพของผเู๎ รียน ดงั น้ี
1. ระดับก่อนประถมศึกษา (ช้ันอนุบาลปีที่ 2 – 3) จัดเวลาเรียนตามหลักสูตร
สถานศึกษาปฐมวัย ปีการศึกษา 2563 ตามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศักราช 2560
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 17)
2. ระดับช้นั ประถมศึกษา (ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 6) จัดเวลาเรยี นเป็นรายปี ดังนี้
2.1 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 1 - 6 โดยมีเวลาเรียนวนั ละ ไมเํ กนิ 6 ชว่ั โมง
2.2 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 ห๎องเรยี นพเิ ศษ EP/SP โดยมีเวลาเรยี นวนั ละ
ไมเํ กิน 7 ช่วั โมง
2. รายวิชา / กิจกรรมท่ีสถานศกึ ษาจัดเพมิ่ เตมิ
โรงเรียนอนุบาลสระบุรี จัดการศึกษาเพ่ิมเติมเพื่อพัฒนาผู๎เรียนให๎มีคุณภาพตามมาตรฐาน
การศึกษาบนพ้ืนฐานความเป็นไทยและมีศักยภาพในระดับสากล เป็นที่ยอมรับของชุมชนและสังคม ได๎
จัดรายวิชาเพ่ิมเติม ได๎แกํ ภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสาร ภาษาจีน การศึกษาค๎นคว๎าด๎วยตนเอง
และหน๎าท่ีพลเมือง ในห๎องเรยี นปกติ รายวิชาวิทยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ในห๎องเรียนพิเศษ
3. กิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น
กิจกรรมพัฒนาผ๎ูเรียน มุํงให๎ผู๎เรียนได๎พัฒนาตนเองตามศักยภาพและครบทุกด๎าน เพ่ือ
ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ ทั้งรํางกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม เสริมสร๎างให๎เป็นผ๎ูมีศีลธรรม
จริยธรรม มีระเบียบวินัย ปลูกฝังและสร๎างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพื่อสังคม สามารถจัดการ
ตนเองได๎และอยรูํ ํวมกับผ๎อู ่ืนอยํางมคี วามสุข
3.1 การจัดกจิ กรรม ดงั น้ี
3.1.1 กจิ กรรมแนะแนว
เป็นกิจกรรมที่สํงเสริมและพัฒนาผู๎เรียนให๎ร๎ูจักตนเอง ร๎ูรักษ์ส่ิงแวดล๎อม สามารถคิด
ตัดสินใจ คิดแก๎ปัญหา กาหนดเปูาหมาย วางแผนชีวิตทั้งด๎านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได๎
อยํางเหมาะสม นอกจากน้ียังชํวยให๎ครูร๎ูจักและเข๎าใจผ๎ูเรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมท่ีชํวยเหลือและให๎
คาปรกึ ษาแกผํ ู๎ปกครองในการมีสวํ นรํวมพัฒนาผ๎ูเรียน
3.1.2 กิจกรรมนักเรยี น
เป็นกิจกรรมท่ีมุํงพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู๎นาผู๎ตามที่ดี ความรับผิดชอบ
การทางานรํวมกัน การรู๎จักแก๎ปัญหา การตัดสินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การชํวยเหลือแบํงปัน เอ้ือ
อาทรและสมานฉันท์ โดยจัดให๎สอดคล๎องกับความสามารถ ความถนัด และความสนใจของผ๎ูเรียน ให๎ได๎
ปฏิบัติด๎วยตนเองในทุกข้ันตอน ได๎แกํ การศึกษาวิเคราะห์ วางแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมิน และ
ปรับปรุงการทางาน เน๎นการทางานรํวมกันเป็นกลํุม ตามความเหมาะสม และสอดคล๎องกับวุฒิภาวะของ
ผูเ๎ รียน บริบทของสถานศกึ ษาและท๎องถ่ิน กิจกรรมนกั เรยี นประกอบดว๎ ย
- กิจกรรมชมุ นุม
- กจิ กรรมลูกเสอื /ยวุ กาชาด
- กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณประโยชน์
เปน็ กจิ กรรมทีส่ งํ เสริมให๎ผู๎เรียนบาเพ็ญตนให๎เป็นประโยชน์ตํอสังคม ชุมชนและท๎องถิ่น
ตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละตํอสังคม
และการมีจติ สาธารณะ เชํน กจิ กรรมอาสาพัฒนาตาํ ง ๆ กจิ กรรมสร๎างสรรค์สังคม
4. กจิ กรรมตามจดุ เน้นและตามความสนใจ กจิ กรรม “ลดเวลาเรียน เพมิ่ เวลารู้”
การลดเวลาเรียนภาควิชาการและการลดเวลาของการจัดกิจกรรม การเรียนร๎ูท่ีผู๎เรียนเป็น
ผู๎รับความรู๎ เชํน การบรรยาย การสาธิต การศึกษาใบความรู๎ ให๎น๎อยลง การเพ่ิมเวลาและโอกาสให๎
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 18)
ผู๎เรียนได๎ลงมือปฏิบัติจริง มีประสบการณ์ตรง คิดวิเคราะห์ ทางานเป็นทีมและเรียนรู๎ด๎วยตนเอง โดย
จัดให๎นักเรียนแตํละห๎องเรียนมีทักษะกระบวนการ ในการจัดกิจกรรม 1 ห๎องเรียน 1 โครงงานอาชีพ
เพื่อเน๎นกิจกรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช๎ในชีวิตประจาวันได๎เหมาะสม การจัด
กจิ กรรมการเรียนรตู๎ อ๎ งมีความสอดคลอ๎ งกับ 4H
- กจิ กรรมพฒั นาผูเ๎ รียน HEAD เสริมสร๎างสมรรถนะและการเรียนรู๎
- กิจกรรมพัฒนาผ๎ูเรียน HEART เสริมสร๎างคณุ ลักษณะและคํานิยม
- กิจกรรมพฒั นาผเ๎ู รียน HAND เสริมสร๎างทักษะการทางาน
- กจิ กรรมพัฒนาผเ๎ู รียน HEALTH เสริมสร๎างทักษะชีวิต
ดังน้ัน โรงเรียนอนุบาลสระบุรีได๎มีการจัดกิจกรรมตามจุดเน๎นและตามความสนใจ กิจกรรม
“ลดเวลาเรียน เพ่มิ เวลาร๎ู” เปน็ การจดั กจิ กรรม 1 หอ๎ งเรียน 1 โครงงานอาชีพ ดังน้ี
- ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 – ๖ จานวน ๑ ชัว่ โมง/สัปดาห์
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 19)
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐานกาหนดมาตรฐานการเรียนรู๎ใน 8 กลํุมสาระการเรียนรู๎และ
ตามมาตรฐาน ดงั น้ี
ภาษาไทย
สาระท่ี 1 การอา่ น
มาตรฐาน ท 1.1 ใชก๎ ระบวนการอาํ นสรา๎ งความรแู๎ ละความคดิ เพื่อนาไปใช๎ตัดสินใจ แก๎ปญั หา
ในการดาเนินชวี ิตและมนี สิ ัยรักการอาํ น
สาระที่ 2 การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช๎กระบวนการเขียน เขยี นสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ยอํ ความ และเขยี น
เรือ่ งราวในรูปแบบตาํ งๆ เขยี นรายงานข๎อมลู สารสนเทศและรายงาน
การศกึ ษาค๎นควา๎ อยาํ งมปี ระสทิ ธิภาพ
สาระที่ 3 การฟัง การดู และการพดู
มาตรฐาน ท 3.1 สามารถเลือกฟังและดอู ยํางมวี จิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู๎ ความคิด
ความร๎ูสึกในโอกาสตาํ งๆ อยํางมวี จิ ารณญาณ และสรา๎ งสรรค์
สาระที่ 4 หลกั การใชภ้ าษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เขา๎ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไวเ๎ ปน็ สมบตั ิของชาติ
สาระท่ี 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
มาตรฐาน ท 5.1 เข๎าใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดี และวรรณกรรมไทยอยําง
เหน็ คุณคาํ และนามาประยุกตใ์ ช๎ในชวี ิตจรงิ
คณิตศาสตร์
สาระท่ี 1 จานวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา๎ ใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ
ของจานวนผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดาเนนิ การและนาไปใช๎
มาตรฐาน ค ๑.๒ เขา๎ ใจและวเิ คราะหแ์ บบรูป ความสมั พันธ์ ฟงั กช์ น่ั ลาดบั และอนุกรมและ
นาไปใช๎
มาตรฐาน ค ๑.๓ ใช๎นพิ จน์ สมการ อสมการ และเมทรกิ ซ์ แทนสถานการณ์ตําง ๆ อธบิ าย
ความสัมพันธ์หรอื ชวํ ยแก๎ปัญหาท่ีกาหนดให๎
หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๑.๓ สาหรับผเู๎ รยี นในระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑-๖
สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณติ
มาตรฐาน ค ๒.๑ เข๎าใจพืน้ ฐานเก่ียวกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ท่ีต๎องการวัดและ
นาไปใช๎
มาตรฐาน ค ๒.๒ เขา๎ ใจและวิเคราะหร์ ปู เรขาคณติ สมบตั ขิ องรปู เรขาคณิต ความสัมพันธ์
ระหวํางรปู เรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนาไปใช๎
มาตรฐาน ค ๒.๓ เขา๎ ใจเรขาคณติ วเิ คราะห์ และนาไปใช๎
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 20)
มาตรฐาน ค ๒.๔ เข๎าใจเวกเตอร์ การดาเนนิ การของเวกเตอร์ และนาไปใช๎
หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๒.๑ และ ๒.๒ สาหรบั ผเ๎ู รยี นในระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ -
มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๓
มาตรฐาน ค ๒.๓ และ ๒.๔ สาหรับผเ๎ู รยี นในระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔-๖
ทีเ่ น๎นวทิ ยาศาสตร์
สาระท่ี 3 สถิติและความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค ๓.๑ เข๎าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช๎ความรู๎ทางสถิตใิ นการแก๎ปญั หา
มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา๎ ใจหลักการนบั เบือ้ งต๎น ความนําจะเปน็ และนาไปใช๎
หมายเหตุ : มาตรฐาน ค ๓.๒ สาหรับผูเ๎ รยี นในระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๑ ถงึ
ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖
วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข๎าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหวํางส่ิงไมํมีชีวิตกับ
ส่ิงมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหวํางส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมีชีวิตตําง ๆ ในระบบนิเวศ
การถํายทอดพลังงานการเปล่ียนแปลงแทนท่ีในระบบนิเวศ ความหมายของ
ประชากร ปัญหาและผลกระทบท่ีมีตํอทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม
แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก๎ไขปัญหาสิ่งแวดล๎อม
มาตรฐาน ว ๑.๒ รวมทง้ั นาความร๎ูไปใชป๎ ระโยชน์
เข๎าใจสมบตั ิของสง่ิ มชี วี ิต หนวํ ยพนื้ ฐานของสงิ่ มชี ีวิต การลาเลียงสารเข๎าและ
ออกจากเซลล์ ความสมั พนั ธข์ องโครงสรา๎ ง และหน๎าทข่ี องระบบตาํ ง ๆ ของ
มาตรฐาน ว ๑.๓ สตั วแ์ ละมนุษยท์ ที่ างานสมั พันธ์กนั ความสมั พนั ธข์ องโครงสร๎างและหนา๎ ท่ี
ของอวยั วะตาํ งๆ ของพืชทที่ างานสัมพนั ธ์กัน รวมทงั้ นาความร๎ูไปใชป๎ ระโยชน์
เข๎าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถาํ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม
สารพันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลตํอส่ิงมีชีวิต ความ
หลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต รวมทั้งนาความรู๎ไปใช๎
ประโยชน์
หมายเหตุ : มาตรฐาน ว ๑.๑ – ว ๑.๓ สาหรับผูเ๎ รยี นในระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ถงึ
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ และผู๎เรียนในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ – ๖ ที่
ไมเํ นน๎ วทิ ยาศาสตร์
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เข๎าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหวํางสมบัติ
ของสสารกับโครงสร๎างและแรงยึดเหนี่ยวระหวํางอนุภาค หลักและธรรมชาติ
ของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลายและการ
เกดิ ปฏิกิริยาเคมี
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 21)
มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา๎ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจาวนั ผลของแรงท่ีกระทาตํอวัตถุ ลักษณะ
การเคลอ่ื นที่แบบตํางๆ ของวัตถุ รวมทั้งนาความรไู๎ ปใชป๎ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข๎าใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการถํายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหวํางสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติ
ของคล่ืน ปรากฏการณ์ท่ีเก่ียวข๎องกับเสียง แสงและคลื่นแมํเหล็กไฟฟูา
รวมทงั้ นาความรไ๎ู ปใช๎ประโยชน์
หมายเหตุ : มาตรฐาน ว ๒.๑ – ว ๒.๓ สาหรับผเ๎ู รียนในระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถงึ
ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ และผเู๎ รยี นในระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ – ๖ ที่
ไมํเน๎นวิทยาศาสตร์
สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข๎าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้ังปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะท่ี
สงํ ผลตํอสง่ิ มีชวี ิตและการประยกุ ตใ์ ชเ๎ ทคโนโลยีอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข๎าใจองคป์ ระกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปล่ียนแปลง
ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟูา
อากาศและภูมอิ ากาศโลกรวมทั้งผลตํอ สิ่งมีชีวติ และสิ่งแวดล๎อม
หมายเหตุ : มาตรฐาน ว ๓.๑ – ว ๓.๒ สาหรับผ๎ูเรยี นทกุ คนในระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี
๑ ถงึ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ และผเ๎ู รียนในระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔– ๖
ท่ไี มเํ นน๎ วทิ ยาศาสตร์
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา๎ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่ือการดารงชีวิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลง
อยํางรวดเร็วใช๎ความร๎ูและทักษะทางด๎านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ
ศาสตร์อื่น ๆ เพ่ือแก๎ปัญหา หรือพัฒนางานอยํางมีความคิดสร๎างสรรค์ด๎วย
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช๎เทคโนโลยี อยํางเหมาะสมโดย
คานงึ ถงึ ผลกระทบตอํ ชวี ิต สังคม และสิ่งแวดลอ๎ ม
มาตรฐาน ว ๔.๒ เข๎าใจและใช๎แนวคิดเชิงคานวณในการแก๎ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอยํางเป็น
ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช๎เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู๎
การทางาน และการแก๎ปัญหาได๎อยํางมี ประสิทธิภาพ ร๎ูเทําทัน และมี
จรยิ ธรรม
หมายเหตุ : มาตรฐาน ว ๔.๑ สาหรับผู๎เรยี นในระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ – ๖
สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สาระท่ี 1 ศาสนา ศีลธรรม จรยิ ธรรม
มาตรฐาน ส 1.1 ร๎ูและเข๎าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ
ศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต๎อง ยึดมั่น และปฏิบัติตาม
หลักธรรม เพอ่ื อยํูรํวมกนั อยํางสนั ตสิ ุข
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 22)
มาตรฐาน ส 1.2 เข๎าใจ ตระหนักและปฏิบัติตน เป็นศาสนิกชนท่ีดีและธารงรักษาพระพุทธ
ศาสนาหรอื ศาสนาทตี่ นนับถอื
สาระท่ี 2 หนา้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชวี ิตในสงั คม
มาตรฐาน ส 2.1 เขา๎ ใจและปฏิบตั ติ นตามหนา๎ ท่ขี องการเปน็ พลเมืองดี มคี ํานิยมทด่ี ีงาม และ
ธารงรักษาประเพณีและวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยรํู วํ มกันในสังคมไทยและ
สงั คมโลกอยาํ งสนั ตสิ ขุ
มาตรฐาน ส 2.2 เข๎าใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบัน ยึดม่ัน ศรัทธา และธารง
รักษาไว๎ซ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น
ประมุข
สาระท่ี 3 เศรษฐศาสตร์
มาตรฐาน ส 3.1 เข๎าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช๎
ทรัพยากร ทมี่ อี ยูํจากดั ได๎อยาํ งมีประสิทธภิ าพและค๎ุมคาํ รวมทั้งเข๎าใจหลักการ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื การดารงชวี ติ อยาํ งมีดลุ ยภาพ
มาตรฐาน ส 3.2 เข๎าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจตํางๆ ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและ
ความจาเป็นของการรํวมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก
สาระท่ี 4 ประวัตศิ าสตร์
มาตรฐาน ส 4.1 เข๎าใจความหมาย ความสาคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
สามารถใช๎วิธีการทางประวัติศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ตํางๆ อยํางเป็น
ระบบ
มาตรฐาน ส 4.2 เข๎าใจพัฒนาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ในด๎านความสัมพันธ์
และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์อยํางตํอเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญและ
สามารถวเิ คราะห์ผลกระทบที่เกิดข้ึน
มาตรฐาน ส 4.3 เข๎าใจความเป็นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย มีความรัก ความ
ภมู ิใจและธารงความเป็นไทย
สาระท่ี 5 ภูมิศาสตร์
มาตรฐาน ส 5.1 เข๎าใจลักษณะของโลกทางกายภาพและความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผล ตํอ
กันและกนั ในระบบของธรรมชาติ ใช๎แผนทีแ่ ละเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการ
คน๎ หา วิเคราะห์ สรุป และใช๎ขอ๎ มูลภูมิสารสนเทศอยํางมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐาน ส 5.2 เข๎าใจปฏิสัมพันธ์ระหวํางมนุษย์กับสภาพแวดล๎อมทางกายภาพ ที่กํอให๎เกิด
การสร๎างสรรค์วัฒนธรรม มีจิตสานึก และมีสํวนรํวมในการอนุรักษ์ทรัพยากร
และสงิ่ แวดลอ๎ ม เพื่อการพัฒนาทย่ี งั่ ยนื
สุขศึกษาและพลศึกษา
สาระที่ 1 การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ 1.1 เข๎าใจธรรมชาตขิ องการเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของมนษุ ย์
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 23)
สาระที่ 2 ชวี ิตและครอบครวั
มาตรฐาน พ 2.1 เข๎าใจและเห็นคุณคําตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดาเนิน
ชวี ติ
สาระท่ี 3 การเคลอ่ื นไหว การออกกาลังกาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกีฬาสากล
มาตรฐาน พ 3.1 เขา๎ ใจ มที ักษะในการเคลือ่ นไหว กิจกรรมทางกาย การเลํนเกม และกีฬา
มาตรฐาน พ 3.2 รักการออกกาลังกาย การเลํนเกม และการเลํนกีฬา ปฏิบัติเป็นประจาอยําง
สม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณใน การ
แขํงขนั และชืน่ ชมในสุนทรยี ภาพของการกฬี า
สาระที่ 4 การสร้างเสริมสขุ ภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค
มาตรฐาน พ 4.1 เห็นคุณคําและมีทักษะในการสร๎างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การปูองกัน
โรคและการสร๎างเสรมิ สมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ
สาระที่ 5 ความปลอดภยั ในชีวิต
มาตรฐาน พ 5.1 ปอู งกนั และหลกี เลย่ี งปจั จยั เสยี่ ง พฤตกิ รรมเสยี่ งตํอสุขภาพ อบุ ตั ิเหตุ การใช๎
ยาสารเสพตดิ และความรนุ แรง
ศิลปะ สร๎างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร๎างสรรค์ วิเคราะห์
วพิ ากษ์ วิจารณ์คุณคํางานทัศนศิลป์ ถํายทอดความรู๎สึก ความคิดตํองานศิลปะ
สาระท่ี 1 ทัศนศิลป์ อยาํ งอสิ ระ ช่นื ชม และประยุกตใ์ ช๎ในชีวิตประจาวนั
มาตรฐาน ศ 1.1 เข๎าใจความสัมพนั ธร์ ะหวํางทัศนศิลป์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณคํา
งานทัศนศิลป์ท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท๎องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและ
มาตรฐาน ศ 1.2 สากล
สาระท่ี 2 ดนตรี เข๎าใจและแสดงออกทางดนตรีอยํางสร๎างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์คุณคํา
มาตรฐาน ศ 2.1 ดนตรี ถํายทอดความรู๎สึก ความคิดตํอดนตรีอยํางอิสระ ช่ืนชมและประยุกต์
ใชใ๎ นชวี ติ ประจาวนั
มาตรฐาน ศ 2.2 เข๎าใจความสัมพันธ์ระหวํางดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณคํา
ของดนตรีท่ีเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท๎องถ่ิน ภูมิปัญญาไทยและ
สากล
สาระท่ี 3 นาฏศลิ ป์ เข๎าใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์อยํางสร๎างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์
มาตรฐาน ศ 3.1 คุณคํานาฏศิลป์ ถํายทอดความร๎ูสึก ความคิดอยํางอิสระ ชื่นชม และ
ประยุกต์ใชใ๎ นชีวิตประจาวัน
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 24)
มาตรฐาน ศ 3.2 เขา๎ ใจความสัมพนั ธร์ ะหวํางนาฏศลิ ป์ ประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม เหน็ คุณคํา ของ
นาฏศิลปท์ เ่ี ป็นมรดกทางวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท๎องถนิ่ ภมู ิปญั ญาไทยและสากล
การงานอาชพี
สาระที่ 1 การดารงชีวิตและครอบครัว
มาตรฐาน ง 1.1 เข๎าใจการทางาน มีความคิดสร๎างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะ
การจดั การ ทกั ษะกระบวนการแก๎ปญั หา ทกั ษะการทางานรํวมกันและทักษะ
การแสวงหาความร๎ู มคี ุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึก
ในการใช๎พลังงาน ทรัพยากร และส่งิ แวดล๎อม เพอื่ การดารงชีวิตและครอบครวั
สาระท่ี 2 การอาชีพ
มาตรฐาน ง 2.1 เข๎าใจ มีทักษะท่ีจาเป็น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช๎เทคโนโลยี
เพ่อื พฒั นาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจตคติที่ดีตํออาชีพ
ภาษาต่างประเทศ
สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการส่อื สาร
มาตรฐาน ต 1.1 เขา๎ ใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอํานจากส่ือประเภทตํางๆ และแสดงความคิดเห็น
อยาํ งมีเหตผุ ล
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษา ในการแลกเปลี่ยนข๎อมูลขําวสาร แสดง
ความรู๎สึกและความคิดเหน็ อยํางมปี ระสิทธิภาพ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข๎อมูลขําวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตํางๆ
โดยการพดู และการเขยี น
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข๎าใจความสัมพันธ์ระหวํางภาษากับวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา และนาไปใช๎
ไดอ๎ ยาํ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ
มาตรฐาน ต 2.2 เข๎าใจความเหมือนและความแตกตํางระหวําง ภาษาและวฒั นธรรมของเจา๎
ของภาษากบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใชอ๎ ยาํ งถูกตอ๎ งและเหมาะสม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพันธก์ ับกล่มุ สาระการเรยี นรอู้ ืน่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช๎ภาษาตํางประเทศในการเช่ือมโยงความรู๎กับกลุํมสาระการเรียนรู๎อื่น และเป็น
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู๎ และเปิดโลกทัศนข์ องตน
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ๎ าษาตาํ งประเทศในสถานการณ์ตํางๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม
มาตรฐาน ต 4.2 ใช๎ภาษาตํางประเทศเป็นเครื่องมือพ้ืนฐานในการศึกษาตํอ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลีย่ นเรยี นร๎กู ับสงั คมโลก
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 25)
โครงสรา้ งเวลาเรียนหลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี (ภาคปกติ)
ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 ดังน้ี
กลุ่มสาระการเรยี นรู้/ กจิ กรรม ป. 1 ระดับประถมศึกษา ป. 6
ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5
รายวิชาพ้นื ฐาน 200 160
ภาษาไทย 200 รายช่ัวโมง/ปี 160
คณติ ศาสตร์ 80 120
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 200 200 160 160 80
สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 200 200 160 160 40
ประวตั ศิ าสตร์ 40 80 80 120 120 80
80 80 80 80 80 80
สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 40 40 40 40 40
ศิลปะ 80 40 40 80 80 80
การงานอาชพี 840 80 80 80 80 840
ภาษาตาํ งประเทศ 40 40 40 40
รวม (รายวิชาพื้นฐาน) 120 80 80 80 80 80
40 840 840 840 840 40
รายวิชา/กิจกรรมท่สี ถานศึกษาจัดเพมิ่ เตมิ 40 40
40 120 120 80 80 40
ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร (ครไู ทยและครูตาํ งชาต)ิ 240 40 40 40 40 200
40 40 40 40
ภาษาจนี 40 40 40 40 40 40
240 240 200 200
การศึกษาค๎นคว๎าด๎วยตนเอง 40 40
๓๐ 40 40 40 40 ๓๐
หนา๎ ทพี่ ลเมอื ง (จดั กจิ กรรมแบบบูรณาการ) ๑๐ ๑๐
40 40 40 40
รวม (รายวชิ าเพ่ิมเติม) ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐
๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐
กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
กิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรียน
- ชุมนมุ
- ลูกเสือ/ยวุ กาชาด
- กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์
รวม (กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน) ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
รวมเวลาเรยี นทัง้ หมด 1,200 1,160
หมายเหตุ
การจดั กิจกรรม“ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลาร๎ู”ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4–6 จานวน 1 ช่วั โมง/สัปดาห์
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 26)
โครงสรา้ งเวลาเรียนห้องเรยี นพิเศษวทิ ยาศาสตร์และคณติ ศาสตร์ (SMP)
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 1 – 6 ดงั นี้ เง
กลุม่ สาระการเรยี นรู/้ กิจกรรม ป. 1 ระดบั ประถมศกึ ษา
ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6
รายวิชาพ้นื ฐาน 200
ภาษาไทย 200 รายช่วั โมง/ปี
คณติ ศาสตร์ 80
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80 200 200 160 160 160
สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 40 200 200 160 160 160
ประวตั ศิ าสตร์ 40 80 80 120 120 120
8o 80 80 80 80 80
สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา 40 40 40 40 40 40
ศิลปะ 80 40 40 80 80 80
การงานอาชพี 840 80 80 80 80 80
ภาษาตาํ งประเทศ 40 40 40 40 40
รวม (รายวชิ าพืน้ ฐาน) 80 80 80 80 80 80
80 840 840 840 840 840
รายวชิ า / กิจกรรมทสี่ ถานศกึ ษาจัดเพิ่มเติม 80
ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร (ครไู ทยและครูตาํ งชาต)ิ 40 80 80 80 80 80
40 80 80 80 80 80
Science (ครูไทยและครตู ํางชาต)ิ 40 80 80 80 80 80
360 40 40 40 40 40
Mathematics (ครไู ทยและครตู ํางชาต)ิ 40 40 40 40 40
40 40 40 40 40 40
ภาษาจีน 360 360 360 360 360
40
การศกึ ษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง 30 40 40 40 40 40
10
หน๎าท่พี ลเมอื ง (จัดกจิ กรรมแบบบรู ณาการ) 120 40 40 40 40 40
30 30 30 30 30
รวม (รายวิชาเพ่ิมเติม) 10 10 10 10 10
120 120 120 120 120
กจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น
1,320
กิจกรรมแนะแนว
กิจกรรมนักเรยี น
- ชุมนุม
- ลกู เสอื /ยวุ กาชาด
- กจิ กรรมเพอื่ สังคมและสาธารณประโยชน์
รวม (กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน)
รวมเวลาเรยี นท้ังหมด
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 27)
โครงสร้างเวลาเรียนการจัดการเรียนการสอน
ตามหลกั สูตรกระทรวงศึกษาธกิ ารเปน็ ภาษาองั กฤษ (EP)
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 ดังนี้
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษา
กลุ่มสาระการเรียนรู้/ กิจกรรม ป. 1 ป. 2 ป. 3 ป. 4 ป. 5 ป. 6
รายช่วั โมง/ปี
รายวิชาพื้นฐาน
ภาษาไทย 200 200 200 160 160 160
คณติ ศาสตร์ 200* 200* 200* 160* 160* 160*
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 80* 80* 80* 120* 120* 120*
สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 80 80 80 80 80 80
ประวตั ศิ าสตร์ 40 40 40 40 40 40
สุขศกึ ษาและพลศึกษา 40* 40* 40* 80* 80* 80*
ศิลปะ 80* 80* 80* 80 80 80
การงานอาชพี 40 40 40 40 40 40
ภาษาตาํ งประเทศ 80* 80* 80* 80* 80* 80*
รวม (รายวชิ าพน้ื ฐาน) 840 840 840 840 840 840
รายวิชา / กิจกรรมที่สถานศึกษาจดั เพ่มิ เติม
ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่อื สาร 200* 200* 200* 160* 160* 160*
Science 80* 80* 80* 80* 80* 80*
Mathematics - - 40 80 80 80
ภาษาจนี 40 40 40 40 40 40
การศึกษาค๎นควา๎ ดว๎ ยตนเอง 40 40 40 40 40 40
หน๎าท่ีพลเมือง (จัดกจิ กรรมแบบบูรณาการ) 40 40 40 40 40 40
รวม (รายวชิ าเพิ่มเตมิ ) 360 360 440 440 440 440
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน
กิจกรรมแนะแนว 40 40 40 40 40 40
กจิ กรรมนักเรียน
40 40 40 40* 40* 40*
- ชมุ นมุ 30 30 30 30 30 30
- ลกู เสอื /ยุวกาชาด 10 10 10 10 10 10
- กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ 120 120 120 120 120 120
รวม (กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน)
รวมเวลาเรียนท้ังหมด 1,360 1,360 1,400 1,400 1,400 1,400
หมายเหตุ * = รายวชิ าครูตํางชาตสิ อน
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 28)
โครงสรา้ งเวลาเรียน
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๑
รหสั วิชา กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ กจิ กรรม เวลาเรียน
(ชม./ปี)
รายวิชาพ้นื ฐาน (๘๔๐)
ท๑๑๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๑๑๐๑ คณิตศาสตร์ 200
ว๑๑๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 200
ส๑๑๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 80
ส๑๑๑๐๒ ประวตั ิศาสตร์ 80
พ๑๑๑๐๑ สุขศึกษาและพลศกึ ษา 40
ศ๑๑๑๐๑ ศิลปะ
ง๑๑๑๐๑ การงานอาชพี 40
อ๑๑๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 80
รายวชิ าเพม่ิ เตมิ 40
อ๑๑๒๐๑ ภาษาองั กฤษเพอื่ การสอ่ื สาร 80
จ11201 ภาษาจนี
I๑12๐1 การศกึ ษาคน๎ ควา๎ ด๎วยตนเอง (240)
ส11231 หน๎าท่พี ลเมอื ง 12๐
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 40
40
กจิ กรรมแนะแนว 40
กิจกรรมนักเรียน (๑๒๐)
๔๐
- ชุมนมุ
- ลกู เสอื /ยวุ กาชาด ๔๐
- กิจกรรมเพอ่ื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๓๐
๑๐
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 29)
ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๒
รหัสวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม เวลาเรยี น
(ชม./ป)ี
รายวิชาพ้ืนฐาน (๘๔๐)
ท๑๒๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๒๑๐๑ คณิตศาสตร์ 200
ว๑๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 200
ส๑๒๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 80
ส๑๒๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ 80
พ๑๒๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 40
ศ๑๒๑๐๑ ศิลปะ
ง๑๒๑๐๑ การงานอาชพี 40
อ๑๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 80
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ 40
อ๑๒๒๐1 ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 80
จ12201 ภาษาจีน
I๑22๐1 การศกึ ษาค๎นควา๎ ด๎วยตนเอง (240)
ส12232 หนา๎ ท่พี ลเมอื ง 120
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 40
40
กิจกรรมแนะแนว 40
กิจกรรมนกั เรยี น (๑๒๐)
๔๐
- ชมุ นมุ
- ลกู เสอื /ยวุ กาชาด ๔๐
- กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๓๐
๑๐
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 30)
ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3
รหัสวิชา กลุ่มสาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม เวลาเรยี น
(ชม./ป)ี
รายวิชาพ้ืนฐาน (๘๔๐)
ท๑๓๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๓๑๐๑ คณิตศาสตร์ 200
ว๑๓๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 200
ส๑๓๑๐๑ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม 80
ส๑๓๑๐๒ ประวตั ศิ าสตร์ 80
พ๑๓๑๐๑ สุขศึกษาและพลศึกษา 40
ศ๑๓๑๐๑ ศิลปะ
ง๑๓๑๐๑ การงานอาชพี 40
อ๑๓๑๐๓ ภาษาองั กฤษ 80
รายวชิ าเพ่มิ เตมิ 40
อ๑๓๒๐1 ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่ือสาร 80
จ๑๓๒๐1 ภาษาจีน
I๑32๐1 การศกึ ษาค๎นควา๎ ด๎วยตนเอง (240)
ส13234 หนา๎ ท่พี ลเมอื ง 12๐
กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน 40
40
กิจกรรมแนะแนว 40
กิจกรรมนกั เรยี น (๑๒๐)
๔๐
- ชมุ นมุ
- ลกู เสอื /ยวุ กาชาด ๔๐
- กจิ กรรมเพือ่ สังคมและสาธารณะประโยชน์ ๓๐
๑๐
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 31)
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4
รหัสวิชา กลมุ่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น
(ชม./ป)ี
รายวิชาพื้นฐาน (๘๔๐)
ท๑๔๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๔๑๐๑ คณติ ศาสตร์ 160
ว๑๔๑๐๑ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 160
ส๑๔๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 120
ส๑๔๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ 80
พ๑๔๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา 40
ศ๑๔๑๐๑ ศลิ ปะ
ง๑๔๑๐๑ การงานอาชีพ 80
อ๑๔๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 80
รายวิชาเพมิ่ เตมิ 40
อ๑๔2๐1 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร 80
จ๑๔2๐1 ภาษาจีน
I๑42๐1 การศึกษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง (200)
ส14234 หนา๎ ทพ่ี ลเมือง 8๐
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน 40
40
กิจกรรมแนะแนว 40
กิจกรรมนักเรียน (๑๒๐)
๔๐
- ชุมนุม
- ลกู เสอื /ยวุ กาชาด ๔๐
- กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๓๐
๑๐
หมายเหตุ
การจดั กิจกรรม“ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร๎ู”ระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จานวน 1 ชวั่ โมง/สัปดาห์
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 32)
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
รหัสวชิ า กลุม่ สาระการเรยี นรู้/กิจกรรม เวลาเรยี น
(ชม./ปี)
รายวิชาพ้ืนฐาน (๘๔๐)
ท๑๕๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๕๑๐๑ คณติ ศาสตร์ 160
ว๑๕๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี 160
ส๑๕๑๐๑ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 120
ส๑๕๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ 80
พ๑๕๑๐๑ สขุ ศึกษาและพลศึกษา 40
ศ๑๕๑๐๑ ศิลปะ
ง๑๕๑๐๑ การงานอาชีพ 80
อ๑๕๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 80
รายวชิ าเพมิ่ เติม 40
อ๑52๐1 ภาษาอังกฤษเพอื่ การส่อื สาร 80
จ๑52๐1 ภาษาจนี
I๑52๐1 การศึกษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง (200)
ส15235 หนา๎ ทพี่ ลเมือง 8๐
กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 40
40
กจิ กรรมแนะแนว 40
กิจกรรมนกั เรยี น (๑๒๐)
๔๐
- ชมุ นมุ
- ลูกเสือ/ยุวกาชาด ๔๐
- กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณะประโยชน์ ๓๐
๑๐
หมายเหตุ
การจดั กิจกรรม“ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร๎ู”ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 จานวน ๑ ชั่วโมง/สปั ดาห์
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 33)
ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6
รหัสวิชา กลมุ่ สาระการเรียนร/ู้ กิจกรรม เวลาเรยี น
(ชม./ป)ี
รายวิชาพื้นฐาน (๘๔๐)
ท๑๖๑๐๑ ภาษาไทย
ค๑๖๑๐๑ คณติ ศาสตร์ 160
ว๑๖๑๐๑ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 160
ส๑๖๑๐๑ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม 120
ส๑๖๑๐๒ ประวัตศิ าสตร์ 80
พ๑๖๑๐๑ สุขศกึ ษาและพลศึกษา 40
ศ๑๖๑๐๑ ศลิ ปะ
ง๑๖๑๐๑ การงานอาชีพ 80
อ๑๖๑๐๑ ภาษาองั กฤษ 80
รายวิชาเพมิ่ เตมิ 40
อ๑62๐1 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การส่ือสาร 80
จ๑62๐1 ภาษาจีน
I๑62๐1 การศึกษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง (200)
ส16236 หนา๎ ทพ่ี ลเมือง 8๐
กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน 40
40
กิจกรรมแนะแนว 40
กิจกรรมนักเรียน (๑๒๐)
๔๐
- ชุมนุม
- ลกู เสอื /ยวุ กาชาด ๔๐
- กิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๓๐
๑๐
หมายเหตุ
การจดั กิจกรรม“ลดเวลาเรยี น เพม่ิ เวลาร๎ู”ระดับช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จานวน ๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 34)
คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
และรายวชิ า (เพิม่ เตมิ )
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 35)
คาอธิบายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย
รายวชิ าพนื้ ฐาน
ช้ัน ท11101 รายวชิ า จานวนชว่ั โมง/ปี
ป. 1 ท12101 ภาษาไทย จานวน 200 ชวั่ โมง/ปี
ป. 2 ท13101 ภาษาไทย จานวน 200 ชว่ั โมง/ปี
ป. 3 ท14101 ภาษาไทย จานวน 200 ชว่ั โมง/ปี
ป. 4 ท15101 ภาษาไทย จานวน 160 ชวั่ โมง/ปี
ป. 5 ท16101 ภาษาไทย จานวน 160 ชั่วโมง/ปี
ป. 6 ภาษาไทย จานวน 160 ชว่ั โมง/ปี
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 36)
คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท11101
ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 เวลา 200 ชัว่ โมง/ปี
ศึกษาเรียนรู๎ อํานออกเสียงคาและบอกความหมายของคา คาคล๎องจอง ข๎อความท่ีประกอบด๎วย
คาพ้นื ฐานทใ่ี ช๎ในชีวิตประจาวันไมนํ อ๎ ยกวาํ ๖๐๐ คา รวมทั้งคาท่ีใชเ๎ รียนรู๎ในกลมํุ สาระอื่น อํานจับใจความ
จากสือ่ ตาํ งๆ จากหนังสือตามความสนใจเหมาะสมกับวยั และหนังสือที่ครูกับนักเรียนกาหนดรํวมกัน อําน
เคร่อื งหมายสัญลักษณต์ ํางๆเคร่อื งหมายแสดงความปลอดภยั และแสดงอนั ตราย
ศกึ ษาเรียนร๎ู คัดลายมือด๎วยตัวบรรจงเตม็ บรรทัดตามรปู แบบตัวอักษรไทย เขียนสื่อสารด๎วยคาที่
ใชใ๎ นชวี ติ ประจาวัน คาพ้นื ฐานในบทเรยี น คาคล๎องจอง และประโยคงาํ ยๆ
ศึกษาเรียนรู๎ ฟังและปฏิบัติตามคาแนะนา คาสั่งงํายๆ จับใจความและพูดแสดงความคิดเห็น
ความร๎ูสึก จากเรื่องท่ีฟังและดู ท้ังที่เป็นความร๎ูและความบันเทิง พูดส่ือสารในชีวิตประจาวัน แนะนา
ตนเอง ขอความชวํ ยเหลอื กลําวคาขอบคุณ กลําวคาขอโทษ
ศึกษาเรียนรู๎ ใช๎พยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ เลขไทย สะกดคาและบอกความหมายของคา
แจกลูก และอํานเปน็ คา มาตราตัวสะกดทตี่ รงตามมาตรา และไมํตรงตามมาตรา ผันคา แตํงประโยค และ
ตอํ คาคล๎องจอง
ศึกษาเรียนร๎ู บอกข๎อคิดจากวรรณกรรมร๎อยแก๎ว และร๎อยกรองสาหรับเด็ก บทอาขยานตามที่
กาหนดและบทร๎อยกรองตามความสนใจ โดยใช๎กระบวนการอําน กระบวนการเขียน กระบวนการ
แสวงหาความร๎ู กระบวนการกลํุม กระบวนกาคิด ฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก ต้ังคาถาม ตอบคาถาม ใช๎
ทกั ษะการฟงั ดู และพูด พูดแสดงความคิดเหน็ กระบวนการสรา๎ งความคิดรวบยอดตามมาตรฐานสากล
เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ ส่ือสารได๎ถูกต๎อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณคําของ
การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย นาความร๎ูไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์โดยน๎อมนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี งและนาไปประยุกตใ์ ชก๎ ับชวี ิตประจาวนั ได๎อยํางถูกต๎องเหมาะสม
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๑, ป.๑/๕, ป.๑/๖, ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓
ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔, ป.๑/๕
ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ช้ีวดั
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 37)
รายวิชา ภาษาไทย คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
รหสั วิชา ท12101
เวลา 200 ชั่วโมง/ปี
อํานออกเสียงคา และความหมายของคา คาคล๎องจอง ข๎อความ บทร๎อยกรองงํายๆ ท่ี
ประกอบด๎วย คาพ้นื ฐานเพิ่มจากชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ไมํน๎อยกวํา ๘๐๐ คา รวมทั้งคาท่ีใช๎ในกลํุมสาระ
การเรียนร๎ูอ่ืนๆ อํานจับใจความจากส่ือตํางๆ นิทาน เรื่องสั้น หนังสือตามความสนใจ หนังสือท่ีครูและ
นักเรียนกาหนดรํวมกัน การอํานข๎อเขียนเชิงอธิบาย และมีมารยาทในการอํานพร๎อมทั้ง ปฏิบัติตามคาส่ัง
หรอื ขอ๎ แนะนา
คัดลายมือด๎วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย เขียนเรื่องสั้นๆ เก่ียวกับ
ประสบการณ์ ตามจนิ ตนาการ และมีมารยาทในการเขียน
ฟังและปฏิบัติตามคาแนะนา คาส่ังท่ีซับซ๎อน และปฏิบัติตาม จับใจความ และพูดแสดงความ
คิดเห็น ความร๎ูสึก จากเรื่องท่ีฟังและดู ทั้งท่ีเป็นความรู๎ และความบันเทิง พร๎อมทั้งบอกสาระสาคัญของ
เร่อื งท่ีฟังและดู พดู ส่อื สารในชีวติ ประจาวนั
บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขียนแจกลูกสะกดคา อํานเป็นคา และ
บอกความหมายของคา มาตราตวั สะกดที่ตรงตามมาตรา และไมตํ รงตามมาตรา การผันอักษรกลาง อักษร
สงู และอักษรต่า คาทีม่ ตี วั การันต์ คาทีม่ ีพยัญชนะควบกล้า คาที่มีอักษรนา คาที่มีความหมายตรงข๎าม คา
ทม่ี ี รร คาทีม่ พี ยญั ชนะ และสระท่ีไมํออกเสียง เรียบเรียงคาเป็นประโยคได๎ตรงตามเจตนาของการส่ือสาร
บอกลักษณะของคาคลอ๎ งจอง เลอื กใชภ๎ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิน่ ได๎เหมาะสมกบั กาลเทศะ
จับใจความสาคัญจากเรื่องท่ีอําน ระบุข๎อคิดที่ได๎จากการอํานหรือการฟังวรรณกรรมสาหรับเด็ก
เพ่ือนาไปใช๎ในชีวิตประจาวัน ร๎องบทร๎องเลํนสาหรับเด็กในท๎องถิ่น ทํองจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและ
บทร๎อยกรองท่ีมีคุณคําตามความสนใจ โดยใช๎กระบวนการอําน กระบวนการเขียน กระบวนการแสวงหา
ความรู๎ กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแก๎ปัญหา ฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก
ตั้งคาถาม ตอบคาถาม ใช๎ทักษะการฟัง ดูและพูด และมีมารยาทในการฟัง ดู และพูด เพ่ือให๎เกิดความรู๎
ความคิด ความเข๎าใจ ส่ือสารได๎ชัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ รักภาษาไทย เห็นคุณคําของการอนุรักษ์
ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความร๎ูไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์ โดยน๎อมนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช๎กบั ชวี ติ ประจาวนั ได๎อยาํ งถูกต๎องเหมาะสม
มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗
ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
รวม ๕ มาตรฐาน ๒๗ ตวั ชี้วัด
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 38)
รายวชิ า ภาษาไทย คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
รหัสวิชา ท13101
เวลา 200 ชว่ั โมง/ปี
ศึกษาเรยี นรู๎ อาํ นออกเสียงคา และความหมายของคา คาคล๎องจอง ข๎อความ บทร๎อยกรองงํายๆ
ที่ประกอบด๎วยคาพื้นฐาน เพิ่มจากช้ันประถมศึกษาปีที่ ๒ ไมํน๎อยกวํา ๑๒๐๐ คา รวมทั้งคาท่ีใช๎ในกลุํม
สาระการเรียนรู๎อื่นๆ อํานจับใจความจากส่ือตํางๆ อํานหนังสือตามความสนใจ หนังสือที่ครูและนักเรียน
กาหนดรํวมกนั อํานขอ๎ เขียนเชิงอธบิ าย และปฏิบัตติ ามคาสั่งหรอื ขอ๎ แนะนา อาํ นข๎อมูลจากแผนภาพ แผน
ท่ีและแผนภูมิ ต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลเก่ียวกับเร่ืองที่อําน ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเน
เหตุการณ์จากเร่ืองที่อําน สรุปเร่ืองท่ีอําน และข๎อคิดจากเร่ืองที่อําน อธิบายข๎อมูล แผนภาพ แผนที่
แผนภูมิ และมีมารยาทในการอําน คัดลายมือด๎วยตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียนอักษรไทย
เขียนบรรยายเกี่ยวกับลักษณะของคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ เขียนบันทึกประจาวัน จดหมายลาครู
เขียนเร่ืองตามจินตนาการ จับใจความสาคัญ มารยาทในการเขียน พูดแสดงความคิดเห็น เลําเร่ือง เลํา
รายละเอียดกับเรื่องท่ีฟัง พูดแสดงความคิดเห็น สื่อสาร มีมารยาทในการฟัง ทั้งท่ีเป็นความรู๎และการ
บนั เทิง
ศกึ ษาเรยี นร๎ู เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคาการแจกลูก อํานเป็นคา มาตราตัวสะกดที่
ตรงตามมาตรา และไมํตรงตามมาตรา การผันอักษรกลาง อักษรสูง และอักษรต่า คาท่ีมีพยัญชนะควบ
กลา้ คาที่มอี กั ษรนา คาท่ปี ระวิสรรชนยี ์ และไมํประวิสรรชนยี ์ คาท่มี ี ฤ ฤๅ คาทใ่ี ช๎ บัน บรร คาที่ใช๎ รร คา
ทมี่ ตี วั การันย์ การระบุชนิดและหน๎าที่ของคาในประโยค ใช๎พจนานุกรมค๎นหาความหมายของคา และแตํง
ประโยคเพ่ือการสือ่ สาร แตํงคาคล๎องจอง คาขวัญ เลอื กใชภ๎ าษาไทยมาตรฐาน และภาษาถิ่น
ระบุข๎อคิดจากการอํานวรรณกรรม รจ๎ู กั เพลงพ้ืนบ๎านและเพลงกลํอมเด็ก แสดงความคิดเห็น และ
ทํองจาบทอาขยาน และบทร๎อยกรองตามท่ีกาหนด และสนใจได๎ โดยใช๎กระบวนการอําน กระบวนการ
เขียน การฟัง การดู และการพูดอยํางมีวิจารณญาณ และสร๎างสรรค์ บอก ระบุ เขียน สะกดคา แจกลูก
ผันอักษร แตํงประโยค แตํงคาคล๎องจองและคาขวัญ และแผนภูมิ และมีมารยาทในการอําน เลือกใช๎
แสดงความคิดเห็น ศึกษา เรียนร๎ูปฏิบัติ และทํองจา เพ่ือให๎มีความร๎ู ความเข๎าใจ เกี่ยวกับการอําน การ
เขียน การฟงั การดูและการพดู หลักการใช๎ภาษา วรรณคดีและวรรณกรรม นาความร๎ู ข๎อคิดจากการอําน
ไปประยุกต์ใช๎ในชีวิตประจาวัน กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการส่ือความ กระบวนการแก๎ปัญหา
การฝึกปฏิบัติ อธิบาย บันทึก การต้ังคาถาม ตอบคาถาม ใช๎ทักษะการฟัง การดูและการพูด พูดแสดง
ความคิดเห็น กระบวนการสร๎างความคิดรวบยอดตามมาตรฐานสากล เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความ
เข๎าใจ ส่ือสารได๎ถูกต๎อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณคําของการอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย
สามารถนาความร๎ูไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์ โดยน๎อมนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถ
นาไปประยกุ ต์ใชก๎ บั ชีวิตประจาวันได๎อยาํ งถูกต๎องเหมาะสม
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 39)
มาตรฐาน/ตวั ชี้วัด
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖, ป.๓/๗, ป.๓/๘, ป.๓/๙
ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔, ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๑ ตวั ชวี้ ัด
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 40)
คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน
กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
รายวชิ า ภาษาไทย รหสั วชิ า ท14101
ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เวลา 160 ชว่ั โมง/ปี
กลมุํ สาระการเรยี นรภู๎ าษาไทยประกอบดว๎ ยสาระการเรียนร๎ู ๕ สาระ คือ การอําน การเขียน การ
ฟัง การดู และการพดู หลักการใช๎ภาษาไทย วรรณคดแี ละวรรณกรรม ในด๎านสาระตํางๆ นามาบูรณาการ
และจัดหนํวยการเรียนร๎ูให๎สอดคล๎องสัมพันธ์กันภายในกลํุมสาระ กับกลุํมสาระการเรียนรู๎อ่ืนๆ โดยแตํละ
สาระไดจ๎ ดั ให๎มีความรู๎ ดังน้ี
การอํานออกเสยี งและบอกความหมายของบทร๎อยแก๎วและบทร๎อยกรองที่ประกอบด๎วย คาที่มี ร
ล เป็นพยัญชนะต๎น คาท่ีมีพยัญชนะควบกล้า คาที่มีอักษรนา คาประสม อักษรยํอและเคร่ืองหมายวรรค
ตอน ประโยคที่มีสานวนเป็นคาพังเพย สุภาษิต ปริศนาคาทาย และเครื่องหมายวรรคตอน การอํานบท
ร๎อยกรองเป็นทานองเสนาะ การอํานจับใจความจากส่ือตํางๆ เชํน เรื่องส้ันๆ เรื่องเลําจากประสบการณ์
นิทานชาดก บทความ บทโฆษณา งานเขยี นประเภทโน๎มน๎าวใจ ขําวและเหตุการณ์ประจาวัน สารคดีและ
บันเทงิ คดี การอาํ นหนังสือท่มี ีคุณคาํ ตามความสนใจ และมีมารยาทในการอําน
การคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัดตามรูปแบบการเขียนตัวอักษรไทย การเขียน
ส่ือสาร เชํน คาขวัญ คาแนะนา การนาแผนภาพโครงเรื่องและแผนภาพความคิดไปพัฒนางานเขียน
การเขียนยอํ ความจากส่ือตาํ งๆ เชนํ นิทาน ความเรียงประเภทตาํ งๆ ประกาศ จดหมาย คาสอน การเขียน
จดหมายถึงเพื่อนและบิดามารดา การเขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค๎นคว๎า การเขียนเรื่อง
ตามจนิ ตนาการและมมี ารยาทในการเขยี น
การจาแนกข๎อเท็จจริงและข๎อคิดเห็นจากเรื่องท่ีฟังและดูในชีวิตประจาวัน การจับใจความและ
การพูดแสดงความรู๎ ความคิดในเรื่องที่ฟังแลดูจากสื่อตํางๆ เชํน เร่ืองเลํา บทความส้ันๆ ขําวและ
เหตุการณ์ โฆษณา ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่องราวจากบทเรียนในกลุํมสาระการเรียนรู๎ภาษาไทยและกลุํม
สาระการเรียนรู๎อ่ืน การรายงาน เชํน การพูดลาดับขั้นตอนการปฏิบัติงาน การพูดลาดับเหตุการณ์ และมี
มารยาทในการฟัง การดู และการพดู
การสะกดคาและการบอกความหมายของคาในแมํ ก กา มาตราตัวสะกด การผันอักษร คาเป็นคา
ตาย คาพ๎อง การระบุและหน๎าท่ีของคาในประโยค ชนิดของคา ได๎แกํ คานาม คาสรรพนาม คากริยา คา
วิเศษณ์ การใช๎พจนานุกรมค๎นหาความหมายของคา การแตํงประโยคถูกต๎องตามหลักภาษา ประโยค
สามัญ ได๎แกํ สํวนประกอบของประโยค ประโยค ๒ สํวน และประโยค ๓ สํวน การแตํงบทร๎อยกรอง
ประเภทกลอนสี่และคาขวัญ การบอกความหมายของสานวนท่เี ป็นคาพงั เพยและสุภาษิต การเปรียบเทียบ
ภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิน่
การระบุและอธบิ ายขอ๎ คดิ จากการอาํ นวรรณคดีและวรรณกรรมทส่ี ามารถนาไปใช๎ในชีวิตจริง เชํน
นิทานพื้นบ๎าน นิทานคติธรรม เพลงพื้นบ๎าน วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียนและตามความสนใจ
การร๎องเพลงพนื้ บ๎าน ทํองจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร๎อยกรองทม่ี คี ณุ คําตามความสนใจ
การพัฒนาทักษะการฟัง การดู การพูด การอําน และการเขียน ผํานการฝึกทักษะการวิเคราะห์
การคิด การสังเกต แยกแยะข๎อเท็จจริง ข๎อคิดเห็น และข๎อมูลท่ีได๎รับ โดยใช๎กระบวนการกลํุม
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 41)
กระบวนการในการสืบค๎น กระบวนการเขียน กระบวนการดู และการใช๎ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถ
นาไปใช๎เป็นแนวทางในการพัฒนาตน โดยน๎อมนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีความคิด
สรา๎ งสรรคร์ วมทั้งมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ท่ีสามารถนาไปใช๎ในชีวิตประจาวัน
ได๎อยํางมีความสขุ
มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท 3.1 ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท 4.1 ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท 5.1 ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตัวช้วี ัด
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 42)
รายวชิ า ภาษาไทย คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
รหสั วิชา ท15101
เวลา 160 ชัว่ โมง/ปี
อํานออกเสียงบทร๎อยแก๎ว บทร๎อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยค ข๎อความท่ีเป็น
การบรรยาย การพรรณนา และความหมายโดยนัย แยกข๎อเท็จจริงและข๎อคิดเห็น วิเคราะห์และแสดง
ความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองท่ีอําน อํานงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง ข๎อแนะนาและปฏิบัติตาม โดยเลือก
อํานหนงั สือที่มคี ณุ คํา ตามความสนใจอยาํ งมีมารยาทการอาํ น
คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั และคร่งึ บรรทัด เขยี นสอื่ สารโดยใชค๎ าได๎ถูกต๎องเหมาะสม เขียน
แผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิดเพ่ือใช๎พัฒนางานเขียน เขียนยํอความ เขียนจดหมาย เขียน
แสดงความรูส๎ กึ และความคดิ เหน็ เขยี นเรื่องตามจินตนาการ กรอกแบบรายการตํางๆได๎อยํางถูกต๎องและ
มีมารยาทในการเขยี น
พดู แสดงความร๎ู ความคิดเหน็ แสดงความรู๎สึก ต้ังคาถาม ตอบคาถามเชิงเหตุผล พูดรายงาน
จากการศึกษาค๎นคว๎า วเิ คราะหค์ วามนาํ เชือ่ ถอื จากเร่อื งทฟ่ี งั และดอู ยํางมีมารยาทจากการศึกษาค๎นคว๎า
ระบุชนิดและหน๎าท่ีของคา จาแนกสํวนประกอบของประโยค เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐาน
กบั ภาษาถ่ิน ใช๎คาราชาศัพท์ ใช๎สานวนที่เป็นคาพังเพยและสุภาษิต บอกคาที่มาจากภาษาตํางประเทศ
แตํงบทร๎อยกรองกาพย์ยานี ๑๑ ทอํ งจาบทอาขยานตามทก่ี าหนดและบทรอ๎ ยกรองท่ีมีคุณคํา และอธิบาย
คณุ คําจากวรรณคดีหรอื วรรณกรรม นิทานคตธิ รรม และประเพณีตกั บาตรดอกไม๎
โดยใช๎กระบวนการอําน เขียน ฟัง ดู และพูดอยํางมีวิจารณญาณและสร๎างสรรค์ บอก สรุป
ระบุ อธิบาย เขียน สะกดคา แตํงประโยค แตงํ บทรอ๎ ยกรอง จาแนก วเิ คราะห์ เปรียบเทียบ ศึกษา
เรียนรู๎ ปฏิบัติ และทํองจา เพื่อให๎มีความร๎ู ความเข๎าใจ เกี่ยวกับการอําน การเขียน การฟัง การดู
และการพูด หลักการใช๎ภาษา วรรณคดีหรือวรรณกรรม นาความรู๎ข๎อคิดจากการอํานไปใช๎ใน
ชีวิตประจาวัน
เพอ่ื ให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ สื่อสารได๎ถูกต๎อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณคํา
ของการอนรุ ักษภ์ าษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู๎ไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์โดยน๎อมนาตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใชก๎ ับชีวติ ประจาวันได๎อยาํ งถูกต๎องเหมาะสม
มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด
ท ๑.๑ ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘
ท 2.1 ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗ ป.๕/๘ ป.๕/๙
ท 3.1 ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕
ท 4.1 ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔ ป.๕/๕ ป.๕/๖ ป.๕/๗
ท 5.1 ป.๕/๑ ป.๕/๒ ป.๕/๓ ป.๕/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๓ ตวั ช้ีวดั
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 43)
รายวิชา ภาษาไทย คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย
รหสั วิชา ท16101
เวลา 160 ช่วั โมง/ปี
ศึกษาเรียนรู๎ อํานออกเสียงและอธิบายความหมายของบทร๎อยแก๎วและร๎อยกรอง อํานบทร๎อย
กรองเป็นทานองเสนาะ อํานจับใจความจากส่ือตํางๆ แยกข๎อเท็จจริงและข๎อคิดเห็นจากเรื่องที่อําน นา
ความรู๎ความคิดจากเร่ืองท่ีอํานไปตัดสินใจแก๎ปัญหา อํานเร็ว อํานงานเขียนเชิงอธิบาย คาสั่ง ข๎อแนะนา
และปฏิบัติตาม อํานข๎อมูลจากแผนผัง แผนที่ แผนภูมิ และกราฟ อํานหนังสือตามความสนใจ หนังสือ
อํานที่ครูและนักเรียนกาหนดรํวมกัน คัดลายมือด๎วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด และคร่ึงบรรทัด ตามรูปแบบ
การเขียนตัวอักษรไทย เขียนสื่อสาร เขียนแผนผังโครงเรื่อง แผนภาพความคิด เขียนเรียงความ เขียนยํอ
ความจากเร่ืองท่ีอําน เขียนจดหมายสํวนตัว กรอกแบบรายการตํางๆ เขียนเรื่องตามจินตนาการและ
สรา๎ งสรรค์มีมารยาทในการเขยี น
ศึกษาเรียนรู๎ พูดแสดงความร๎ู ความเข๎าใจในจุดประสงค์ของเร่ืองที่ฟังและดูจากส่ือตํางๆ
วเิ คราะหค์ วามนาํ เชือ่ ถือจากการฟงั และดูส่ือโฆษณา พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ศึกษาค๎นคว๎าจากการ
ฟัง การดู และการสนทนา พูดโน๎มน๎าวในสถานการณต์ ํางๆ
ศึกษาเรียนร๎ู วิเคราะห์ชนิดและหน๎าท่ีของคานาม คาสรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ คาบุพบท
คาเชื่อม ในประโยค ใช๎คาราชาศัพท์ ระดับภาษา ภาษาถ่ิน ความหมายของคา ภาษาตํางประเทศท่ีใช๎ใน
ภาษาไทย วิเคราะห์เปรียบเทียบสานวนท่ีเป็นคาพังเพยและสุภาษิต จาแนกลักษณะของประโยคสามัญ
ประโยครวม ประโยคซ๎อน กลํุมคาหรือวลี แตํงกลอนสุภาพ แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีและ
วรรณกรรม เลาํ นิทานพนื้ บา๎ นทอ๎ งถิน่ ของตนเอง ทํองบทอาขยานและบทรอ๎ ยกรอง ท่ีมีคุณคาํ
โดยใช๎กระบวนการอําน กระบวนการเขียน การฟัง การดู และการพูดอยํางมีวิจารณญาณและ
สร๎างสรรค์ บอกสรุป ระบุ อธิบาย เขียน สะกดคา แจกลูก แตํงประโยค แตํงบทร๎อยกรองและคาขวัญ
จาแนก วิเคราะห์ เปรยี บเทียบ แสดงความคดิ เห็น ศกึ ษา เรียนร๎ู ปฏบิ ตั ิและทํองจา เพื่อให๎มีความร๎ู ความ
เข๎าใจ เกี่ยวกับการอําน การเขียน การฟัง การดูและการพูด หลักการใช๎ภาษา วรรณคดีและวรรณกรรม
นาเอาความรู๎ ข๎อคิดจากการอําน ไปตดั สินใจแก๎ปัญหาในการดาเนินชีวติ ประจา
เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ สื่อสารได๎ถูกต๎อง รักการเรียนภาษาไทย เห็นคุณคําของ
การอนุรักษ์ภาษาไทย และตัวเลขไทย สามารถนาความรู๎ไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์โดยน๎อมนาตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและสามารถนาไปประยุกต์ใช๎กบั ชวี ิตประจาวันได๎อยํางถูกต๎องเหมาะสม
มาตรฐาน/ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท 2.1 ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท 3.1 ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท 4.1 ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท 5.1 ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔
รวม ๕ มาตรฐาน ๓๔ ตวั ชวี้ ดั
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 44)
คาอธิบายรายวชิ ากล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
รายวชิ าพ้ืนฐาน
ชั้น ค11101 รายวชิ า จานวนชวั่ โมง/ปี
ป. 1 ค12101 คณิตศาสตร์ จานวน 200 ชว่ั โมง/ปี
ป. 2 ค13101 คณติ ศาสตร์ จานวน 200 ชว่ั โมง/ปี
ป. 3 ค14101 คณิตศาสตร์ จานวน 200 ชว่ั โมง/ปี
ป. 4 ค15101 คณิตศาสตร์ จานวน 160 ชั่วโมง/ปี
ป. 5 ค16101 คณติ ศาสตร์ จานวน 160 ชัว่ โมง/ปี
ป. 6 คณิตศาสตร์ จานวน 160 ชั่วโมง/ปี
หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 45)
รายวิชา คณติ ศาสตร์ คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
รหสั วิชา ค๑๑๑๐๑
เวลา ๒๐๐ ช่ัวโมง/ปี
บอก จานวนของสิ่งตํางๆ และแสดงส่งิ ตํางๆ ตามจานวนนับไมํเกิน ๑๐๐ และ ๐ ความหมายของ
การบวก ความหมายของการลบ การบอกตาแหนํงและอันดบั ท่ี
อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย แสดงจานวนนับไมํเกิน ๑๐๐ และ ๐
ความสมั พนั ธ์ของจานวนนับไมํเกิน ๒๐ แบบสํวนยํอย–สํวนรวม (part – whole relationship) หลักคํา
ของเลขโดดในแตํละหลัก การเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย การอํานแผนภูมิรูปภาพ การอําน
นา้ หนกั เปน็ ขดี เปน็ กิโลกรัมเปน็ ขดี การเขียนรูปเรขาคณิตสองมิตโิ ดยใช๎แบบของรูปและโดยใช๎ส่ิงของเป็น
แบบ
เปรียบเทียบ จานวนนับไมํเกิน ๑.๐๐๐ และ ๐ โดยใช๎เคร่ืองหมาย = ≠ > < ความยาวโดยใช๎
หนํวยที่ไมํใชํหนํวยมาตรฐาน และความยาวเป็นเซนติเมตรเป็นเมตร น้าหนักโดยใช๎หนํวยที่ไมํใชํหนํวย
มาตรฐาน และนา้ หนักเปน็ กิโลกรัมเป็นขดี
เรยี งลาดับ จานวนนับไมํเกนิ ๑๐๐ และ ๐ ตั้งแตํ ๓ ถึง ๕ จานวน
วัด ความยาวโดยใช๎หนํวยที่ไมํใชํหนํวยมาตรฐาน ความยาวเป็นเซนติเมตรเป็นเมตร การ
คาดคะเนความยาวเปน็ เซนตเิ มตร นา้ หนักโดยใช๎หนวํ ยทไ่ี มใํ ชหํ นํวยมาตรฐาน น้าหนกั เป็นกโิ ลกรัมเป็นขีด
การคาดคะเนนาหนักเป็นกโิ ลกรัม
หาค่าของตัวไม่ทราบค่า ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก และประโยคสัญลักษณ์แสดงการ
ลบของจานวนนับไมํเกิน ๑๐๐ และ ๐ การหาผลบวก การหาผลลบ ความสัมพันธ์ของการบวกและการ
ลบ
แสดงวธิ หี าคาตอบ ของโจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหาการลบ การสร๎างโจทย์ปัญหาจานวน
นับไมํเกิน ๑๐๐ และ ๐ และการสร๎างโจทย์ปัญหาพร๎อมท้ังหาคาตอบ โจทย์ปัญหาการบวก การลบ
เกี่ยวกับความยาว ท่ีมีหนํวยเป็นเซนติเมตรเป็นเมตร โจทย์ปัญหาการบวก การลบเก่ียวกับน้าหนัก ท่ีมี
หนํวยเปน็ กโิ ลกรัมเปน็ ขีด
ระบุ จานวนท่หี ายไปในแบบรูปของจานวนทีเ่ พม่ิ ขึน้ หรอื ลดลงทลี ะ ๑ และทีละ ๑๐ และแบบรูป
ท่หี ายไปในแบบรปู ซา้ ของรูปเรขาคณิตและรูปอ่ืนๆ ท่สี มาชิกในแตลํ ะชดุ ที่ซ้ามี ๒ รปู
วัด ความยาวโดยใช๎หนํวยท่ีไมํใชํหนํวยมาตรฐาน และหนํวยเป็นเซนติเมตร เป็นเมตร น้าหนัก
โดยใช๎หนวํ ยทีไ่ มใํ ชํหนวํ ยมาตรฐาน และหนวํ ยเป็นกโิ ลกรัม เป็นขดี
จาแนก ลักษณะรูปสามเหลี่ยม รูปส่ีเหล่ียม วงกลมและวงรี และทรงส่ีเหล่ียมมุมฉาก ทรงกลม
ทรงกระบอก และกรวย
ใช้ข๎อมูลจากแผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบของโจทย์ปัญหา เม่ือกาหนดรูป ๑ รูปแทน ๑
หนวํ ย
โดยใชว๎ ธิ ีการท่หี ลากหลาย ใช๎ความร๎ู ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในการแก๎ปัญหา
ในสถานการณ์ตํางๆ การให๎เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได๎อยํางเหมาะสม การใช๎ภาษาและ
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 46)
สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมายและการนาเสนอ การเชื่อมโยงความร๎ูตํางๆ ใน
คณติ ศาสตร์กับศาสตร์อนื่ ๆ และมคี วามคิดรเิ ร่มิ สร๎างสรรค์
เพอื่ ให๎มีความรค๎ู วามเข๎าใจ และนาประสบการณ์ดา๎ นความรู๎ ความคดิ ทักษะกระบวนการไปใช๎ใน
พฒั นาการเรยี นร๎ูสํมู าตรฐานสากล และน๎อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช๎ในชีวิตประจาวัน
อยํางสร๎างสรรค์ มํุงพัฒนาให๎มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ที่สังคมต๎องการในด๎านคุณธรรม จริยธรรม
คาํ นยิ ม จิตสานึก สามารถอยํูรวํ มกับผ๎อู น่ื ในสงั คมได๎อยํางมีความสุข รวมท้ังเห็นคุณคําและมีเจตคติที่ดีตํอ
คณิตศาสตร์
มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั
ค ๑.๑ ป.๑/๑ ป.๑/๒ ป.๑/๓ ป.๑/๔ ป.๑/๕
ค ๑.๒ ป.๑/๑
ค ๒.๑ ป.๑/๑ ป ๑/๒
ค ๒.๒ ป.๑/๑
ค ๓.๑ ป.๑/๑
รวม 5 มาตรฐาน ๑๐ ตัวชีว้ ดั
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 47)
รายวิชา คณติ ศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์
รหสั วชิ า ค๑2๑๐๑
เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง/ปี
บอก จานวนของสง่ิ ตํางๆ แสดงส่ิงตํางๆ ตามจานวนท่ีกาหนดไมํเกิน ๑.๐๐๐ การบอกเวลาเป็น
นาฬิกาและนาที (ชํวง ๕ นาที) การบอกระยะเวลาเป็นชั่วโมงเป็นนาที การบอกลักษณะของรูปหลาย
เหลยี่ ม วงกลม และวงรี
อ่านและเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือ จานวนนับไมํเกิน ๑.๐๐๐ และ๐ การ
นบั ทีละ ๒ ทีละ ๕ ทีละ ๑๐ และทีละ ๑๐๐ จานวนคํู จานวนค่ี หลกั และคาํ ของตวั เลขโดดในแตํละหลัก
การเขยี นตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย การเขียนรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช๎แบบของรูป แบบรูปของ
จานวนท่ีเพิ่มขึ้นและลดลง ทีละ ๒ ทีละ ๕ และทีละ ๑๐๐ และแบบรูปซ้าของรูปเรขาคณิตและรูปอื่นๆ
ความหมายของการคณู ความหมายของการหาร
ใช้แผนภูมิรูปภาพในการหาคาตอบ เม่ือกาหนดรูป ๑ รูป แทน ๒ หนํวย ๕ หนํวย หรือ ๑๐
หนวํ ย
เปรียบเทียบ จานวนนับไมํเกิน ๑.๐๐๐ และ ๐ โดยใช๎เคร่ืองหมาย = ≠ > < ระยะเวลาเป็น
ชั่วโมง เป็นนาที ความยาวโดยใช๎ความสัมพันธ์ระหวํางเมตรกับเซนติเมตร น้าหนักโดยใช๎ความสัมพันธ์
ระหวาํ งกโิ ลกรัมกับกรัม กิโลกรัมกับขดี ปรมิ าตรและความจุเปน็ ช๎อนชา ช๎อนโต๏ะ ถ๎วยตวง ลติ ร
เรียงลาดบั จานวนนบั ไมํเกิน ๑.๐๐๐ และ ๐ ตั้งแตํ ๓ ถงึ ๕ จานวนจากสถานการณ์ตํางๆ
หาค่าของตัวไม่ทราบค่า ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวก ประโยคสัญลักษณ์แสดงการลบ
ของจานวนนบั ไมเํ กนิ ๑.๐๐๐ และ ๐ และประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวน
ไมเํ กนิ ๒ หลัก ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารท่ีมีตัวตัง้ ไมํเกิน ๒ หลัก ตัวหาร ๑ หลัก โดยท่ีผลหารมี ๑
หลกั ทง้ั หารลงตวั และหารไมลํ งตัว
หาผลลัพธ์ การบวก การลบ การบวกจานวนสามจานวน การลบจานวนสามจานวน การหาผล
คณู การหาผลหารและเศษ และความสมั พันธ์ของการคณู และการหาร การบวก ลบ คูณ หารระคน
แสดงวิธีหาคาตอบ การแก๎โจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหาการลบ ๒ ข้ันตอน การสร๎างโจทย์
ปัญหาจานวนนับไมํเกิน ๑๐๐ และ ๐ โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาที่มีหนํวยเดี่ยวและเป็นหนํวยเดียวกัน
โจทย์ปัญหาการบวก การลบเกี่ยวกับความยาวที่มีหนํวยเป็นเซนติเมตรเป็นเมตร โจทย์ปัญหาการบวก
การลบเกยี่ วกับนา้ หนกั ทม่ี หี นวํ ยเปน็ กิโลกรมั และกรัม กิโลกรัมและขีด โจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและ
ความจุท่ีมหี นวํ ยเปน็ ชอ๎ นชา ชอ๎ นโต๏ะ ถ๎วยตวง ลิตร โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ การหาร
๒ ข้นั ตอน
วดั ความยาวเปน็ เมตรและเซนติเมตร คาดคะเนความยาวเปน็ เมตร น้าหนกั เปน็ กิโลกรัมและกรัม
กโิ ลกรมั และขดี คาดคะเนนา้ หนกั เป็นกิโลกรัม ปริมาตรและความจุเปน็ ชอ๎ นชา ช๎อนโต๏ะ ถ๎วยตวง ลติ ร
จาแนก ลกั ษณะของรปู หลายเหลย่ี ม วงกลม และวงรี
โดยใชว๎ ธิ กี ารทห่ี ลากหลาย ใชค๎ วามรู๎ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ในการแก๎ปัญหาใน
สถานการณ์ตํางๆ การให๎เหตุผลประกอบการตัดสินใจ และสรุปผลได๎อยํางเหมาะสม การใช๎ภาษาและ
หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 48)
สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร ส่ือความหมายและการนาเสนอ การเช่ือมโยงความร๎ูตํางๆ ใน
คณติ ศาสตรก์ บั ศาสตรอ์ ่ืนๆ และมคี วามคดิ ริเรม่ิ สร๎างสรรค์
เพื่อให๎มคี วามรูค๎ วามเข๎าใจ และนาประสบการณ์ดา๎ นความร๎ู ความคดิ ทักษะกระบวนการไปใช๎ใน
พฒั นาการเรยี นรูส๎ มูํ าตรฐานสากล และน๎อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช๎ในชีวิตประจาวัน
อยํางสร๎างสรรค์ มํุงพัฒนาให๎มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ท่ีสังคมต๎องการในด๎านคุณธรรม จริยธรรม
คํานิยม จติ สานึก สามารถอยูํรวํ มกับผ๎ูอ่นื ในสงั คมได๎อยํางมีความสุข รวมท้ังเห็นคุณคําและมีเจตคติที่ดีตํอ
คณิตศาสตร์
มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
ค ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖, ป.๒/๗, ป.๒/๘
ค ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔, ป.๒/๕, ป.๒/๖
ค ๒.๒ ป.๒/๑
ค ๓.๑ ป.๒/๑
รวม 4 มาตรฐาน ๑๖ ตัวชี้วดั
หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 49)
รายวชิ า คณิตศาสตร์ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์
รหสั วชิ า ค๑3๑๐๑
เวลา ๒๐๐ ชว่ั โมง/ปี
บอก อ่านและการเขียน ตัวเลขฮินดูอารบิก ตัวเลขไทย ตัวหนังสือแสดงจานวนนับไมํเกิน
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ หลัก คําของเลขโดดในแตํละหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจานวนในรูปกระจาย
เศษสํวนท่ีตัวเศษน๎อยกวําหรือเทํากับตัวสํวน การอํานและเขียนแผนภูมิรูปภาพ การอํานเขียนและใช๎
ข๎อมูลตารางทางเดียว (One-Way Table) การบอกและเขียน จานวนเงินแสดงจานวนเงินแบบใช๎จุด
และการอํานและการเขียนบันทึกรายรับ รายจําย การบอกเวลาเป็นนาฬิกาและนาที การเขียนบอกและ
การอาํ น เวลาโดยใช๎มหัพภาค (.)หรือทวภิ าค (:) การบอกระยะเวลาเปน็ ช่ัวโมงและนาที การอํานและการ
เขียนบันทึกกิจกรรมท่ีระบุเวลา บอกความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร เมตรและเซนติเมตร
กิโลเมตรและเมตร การบอกนา้ หนักเป็นกโิ ลกรัมและขดี กโิ ลกรัมและกรัม
เปรยี บเทยี บ และเรยี งลาดับ จานวนนบั ไมเํ กิน ๑๐๐,๐๐๐ เศษสํวนท่ีตัวเศษเทํากันโดยที่ตัวเศษ
น๎อยกวําหรือเทํากับตัวสํวน การเปรียบเทียบจานวนเงินและการแลกเงิน การเปรียบเทียบระยะเวลาโดย
ใชค๎ วามสมั พันธร์ ะหวาํ งชวั่ โมงกบั นาที การเปรียบเทียบความยาวโดยใช๎ความสัมพันธ์ระหวํางหนํวยความ
ยาว ระหวํางเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร การเปรียบเทียบน้าหนักโดย
ใชค๎ วามสมั พนั ธ์ระหวาํ งกโิ ลกรมั กับกรมั เมตรกิ ตนั กับกิโลกรมั การเปรยี บเทยี บปริมาตรและความจุโดยใช๎
ความสัมพนั ธ์ระหวาํ งลติ รกับมิลลลิ ิตร ช๎อนชา ชอ๎ นโต๏ะ ถ๎วยตวงกบั มลิ ลลิ ิตร
หาค่าของตัวไมํทราบคําในประโยคสัญลักษณ์แสดงการบวกและการลบจานวนนับไมํเกิน
๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ ประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจานวน ๑ หลักกับจานวนไมํเกิน ๔ หลัก และ
จานวน ๒ หลักกบั จานวน ๒ หลกั ประโยคสัญลกั ษณ์แสดงการหารยาวและหารส้นั ท่ีตัวตง้ั ไมํเกิน ๔ หลัก
ตวั หาร ๑ หลัก
การหาผลลัพธ์ การบวก ลบ คูณ หารระคน จานวนนับไมํเกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ การบวก
เศษสํวนทม่ี ตี วั สวํ นเทาํ กนั และผลบวกไมเํ กิน ๑ การลบเศษสวํ นที่มตี วั สวํ นเทํากัน
แสดงวิธีหาคาตอบ ของโจทย์ปัญหา ๒ ข้ันตอน ของจานวนนับไมํเกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ และ
การสร๎างโจทย์ปัญหาการบวก การลบจานวนท่ีมีตัวต้ังไมํเกิน ๑๐๐,๐๐๐ และ ๐ พร๎อมท้ังหาคาตอบ
โจทย์ปัญหาการบวกเศษสํวนที่มีตัวสํวนเทํากันและผลบวกไมํเกิน ๑ และโจทย์ปัญหาการลบเศษสํวนที่มี
ตัวสํวนเทํากัน โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเวลาและระยะเวลา โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ
ความยาวท่ีมีหนํวยเซนติเมตรกับมิลลิเมตร เมตรกับเซนติเมตร กิโลเมตรกับเมตร โจทย์ปัญหาเก่ียวกับ
น้าหนักที่มหี นวํ ยเปน็ กโิ ลกรัมกับกรัม เมตริกตันกับกิโลกรัม โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มี
หนวํ ยเปน็ ลิตรและมิลลลิ ิตร
ระบุ จานวนทห่ี ายไปในแบบรปู ทเ่ี พม่ิ ขึน้ และลดลงทลี ะเทําๆกัน และระบุรูปเรขาคณิตสองมิติท่ีมี
แกนสมมาตรและจานวนแกนสมมาตร
เลือกใช้ เครื่องมือวัดความยาวท่ีเหมาะสม และการวัดความยาวเป็นเซนติเมตรและมิลลิเมตร
เมตรและเซนตเิ มตร กิโลเมตรและเมตร การเลือกใช๎เครอ่ื งชัง่ ทเี่ หมาะสม และการวัดน้าหนักเป็นกิโลกรัม
หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 50)