The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลสระบุรี พ.ศ.2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Anuban Saraburi School, 2021-09-14 11:55:13

หลักสูตรสถานศึกษา พ.ศ.2564

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนอนุบาลสระบุรี พ.ศ.2563

คาอธิบายรายวชิ าพื้นฐาน
กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา

รายวชิ า สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา รหสั วิชา พ๑5๑๐๑
ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เวลา 8๐ ช่วั โมง/ปี

ศกึ ษา เรยี นร๎ู ความสาคญั ของระบบยอํ ยอาหารและระบบขับถํายท่ีมีผลตํอสุขภาพ การ
เจริญเติบโตและพัฒนาการ การดูแลรักษาระบบยํอยอาหารและระบบขับถํายให๎ทางานปกติ การ
เปล่ียนแปลงทางเพศ การปฏิบัติตนท่ีเหมาะสมกับเพศและลักษณะของครอบครัวท่ีอบอํุน ตาม
วัฒนธรรมไทย พฤติกรรมที่พึงประสงค์และไมํพึงประสงค์ในการแก๎ไขปัญหาความขัดแย๎งในครอบครัว
และกลํุมเพื่อน ความสาคัญของการปฏิบัติตนตามสุขบัญญัติแหํงชาติ แหลํงและวิธีการค๎นหาข๎อมูล
ขําวสารทางสุขภาพ วิเคราะห์สื่อโฆษณาในการตัดสินใจเลือกซื้ออาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ การ
ปฏิบัติตนในการปูองกันโรคท่ีพบบํอยในชีวิตประจาวัน ปัจจัยท่ีมีอิทธิพลตํอการใช๎สารเสพติด และ
ผลกระทบของการใช๎สารเสพติดท่ีมตี ํอรํางกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญา

ศึกษา เรียนร๎ู การจัดรูปแบบการเคลื่อนไหวรํางกายแบบผสมผสานและปฏิบัติกิจกรรมทาง
กายท้งั แบบอยํูกับที่ การเคลื่อนท่ี และใช๎อุปกรณ์ประกอบ การเลํนเกมท่ีนาไปสูํกีฬาและกิจกรรมแบบ
ผลัด การเคลื่อนไหวในเร่ืองการรับแรง การใช๎แรง และความสมดุล ทักษะกลไกท่ีสํงผลตํอการปฏิบัติ
กจิ กรรมทางกายและเลํนกฬี า การเลนํ ตะกร๎อวง การเลนํ ฟตุ บอล

โดยใช๎ทักษะการดาเนินชีวิต ทักษะในการเสริมสร๎างสุขภาพ ลงมือปฏิบัติ วิเคราะห์ตัดสินใจ
อภิปราย สรุป ทักษะการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลํนเกม และกีฬา เพ่ือให๎เกิดทักษะ
ความรู๎ ความเขา๎ ใจ ส่ือสารส่ิงทเ่ี รียนรู๎เพือ่ นอ๎ มนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงและเปน็ พลโลก

เห็นคุณคํา ของตนเอง ครอบครัว เพ่ือน การปฏิบัติตนตามสุขบัญญัติแหํงชาติ การสร๎าง
เสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพที่ดี มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการ
แขํงขัน และช่ืนชมสุนทรียภาพของการกฬี า

สาระทอ้ งถ่ิน
การเลือกซ้ือผลติ ภัณฑอ์ าหารและผลติ ภณั ฑส์ ุขภาพในท๎องถน่ิ โรคทพี่ บบํอยในชมุ ชน ลักษณะ

ครอบครวั ทีอ่ บอํุนตามวัฒนธรรมของท๎องถ่ิน การเลนํ ม๎ากา๎ นกลว๎ ย การเลํนปนื ก๎านกล๎วย

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั
พ ๑.๑ ป.๕/๑, ป. ๕/๒
พ ๒.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓
พ ๓.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕, ป. ๕/๖
พ ๓.๒ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔
พ ๔.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕
พ ๕.๑ ป. ๕/๑, ป. ๕/๒, ป. ๕/๓, ป. ๕/๔, ป. ๕/๕

รวม ๖ มาตรฐาน ๒๕ ตวั ชว้ี ดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 101)

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
กลุ่มสาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

รายวิชา สขุ ศึกษาและพลศึกษา รหัสวิชา พ๑6๑๐๑
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 8๐ ชว่ั โมง/ปี

ศึกษา เรียนร๎ู ความสาคัญ ของระบบสืบพันธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจท่ีมีผล
ตอํ สุขภาพ การเจรญิ เติบโต และพัฒนาการ การดูแลรักษาระบบระบบสืบพันธ์ุ ระบบไหลเวียนโลหิต
และระบบหายใจให๎ทางานปกติ ความสาคัญของการสร๎างและรักษาสัมพันธภาพกับผ๎ูอ่ืน พฤติกรรม
เสี่ยงที่นาไปสํูการมีเพศสัมพันธ์ การติดเช้ือเอดส์ การต้ังครรภ์กํอนวัยอันควร การปูองกันและแก๎ไข
ปัญหาสิ่งแวดล๎อมที่มีผลตํอสุขภาพ ผลกระทบที่เกิดจากการระบาดของโรค การปูองกันโรคติดตํอที่
สาคัญในประเทศไทย พฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรับผิดชอบตํอสุขภาพของสํวนรวม ผลกระทบจาก
ความรุนแรงของภัยธรรมชาติที่มีตํอรํางกาย จิตใจ และสังคม การปฏิบัติตนเพ่ือความปลอดภัยจากภัย
ธรรมชาติ สาเหตุของการติดสารเสพติด การสือ่ สารให๎ผ๎อู ืน่ หลีกเล่ยี งสารเสพติด

ศึกษา เรียนรู๎ การเคล่ือนไหวกับผู๎อื่นในลักษณะแบบผลัดและแบบผสมผสาน ท้ังแบบอยํู
กับที่ การเคลื่อนที่ และการใช๎อุปกรณ์ประกอบ การเคลื่อนไหวประกอบเพลง การเคลื่อนไหวในเรื่อง
การรับแรง การใช๎แรง และความสมดุลกับการพัฒนาทักษะการเคล่ือนไหวในการเลํนและกีฬา การเลํน
ว่ิงชักธง วิ่งเป้ียว กรีฑา และวอลเลย์บอล การใช๎ทักษะกลไกเพื่อปรับปรุง เพิ่มพูนความสามารถของ
ตนและผู๎อื่นในการเลํนกฬี า การนาความร๎ูและหลักการของกิจกรรมนันทนาการ ไปใช๎เป็นฐานการศึกษา
หาความรู๎ ประโยชน์และหลักการออกกาลังกายเพ่ือสุขภาพ การเลํนเกมที่ใช๎ทักษะการวางแผนและ
เพ่ิมพนู ทักษะการออกกาลังกายและการเคล่ือนไหวอยํางเป็นระบบ การเลํนกฬี าประเภทบุคคล ประเภท
ทีมทชี่ ื่นชอบ และสามารถประเมินทกั ษะการเลํนกฬี าของตน วิธีการรุก การปูองกันในการเลํนกีฬา กฎ
กติกา ในการเลํนกีฬาไทย กีฬาสากล การเลํนเกมและกีฬาด๎วยความสามัคคี มีน้าใจนักกีฬา ทดสอบ
สมรรถภาพทางกาย ปรับปรงุ สมรรถภาพ ทางกายและเสริมสร๎างสมรรถภาพตามผลการทดสอบ

โดยใช๎ทักษะการดาเนินชีวิต ทักษะในการเสริมสร๎างสุขภาพ ลงมือปฏิบัติ วิเคราะห์ตัดสินใจ
อภิปราย สรุป ทักษะการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเลํนเกม และกีฬา เพื่อให๎เกิดทักษะ
ความร๎ู ความเข๎าใจ สื่อสารสิง่ ท่เี รียนรเ๎ู พอ่ื นอ๎ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและเป็นพลโลก

เห็นคุณคํา ของตนเอง ครอบครัว เพื่อน การปฏิบัติตนตามสุขบัญญัติแหํงชาติ การสร๎าง
เสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพที่ดี ความรับผิดชอบตํอสุขภาพของสํวนรวม มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ
กตกิ า มีนา้ ใจนกั กีฬา มีจติ วิญญาณในการแขงํ ขัน และชืน่ ชมสุนทรียภาพของการกฬี า

สาระท้องถน่ิ
ปัญหาสง่ิ แวดลอ๎ มในชุมชนที่ผลกระทบตํอสุขภาพ โรคตดิ ตํอในชมุ ชน การเลนํ ม๎าก๎านกลว๎ ย

การเลนํ ปืนกา๎ นกลว๎ ย

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 102)

มาตรฐาน/ตัวชวี้ ดั ป. ๖/๑, ป. ๖/๒
พ ๑.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒
พ ๒.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป.๖/๔, ป. ๖/๕
พ ๓.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป. ๖/๔, ป. ๖/๕, ป. ๖/๖
พ ๓.๒ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓, ป.๖/๔
พ ๔.๑ ป. ๖/๑, ป. ๖/๒, ป. ๖/๓
พ ๕.๑

รวม ๖ มาตรฐาน ๒๒ ตวั ช้ีวดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 103)

คาอธบิ ายรายวชิ ากลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

รายวิชาพน้ื ฐาน

ชน้ั ศ11101 รายวชิ า จานวนชั่วโมง/ปี
ป. 1 ศ12101 ศิลปะ จานวน 80 ชว่ั โมง/ปี
ป. 2 ศ13101 ศิลปะ จานวน 80 ชวั่ โมง/ปี
ป. 3 ศ14101 ศิลปะ จานวน 80 ช่ัวโมง/ปี
ป. 4 ศ15101 ศิลปะ จานวน 80 ชั่วโมง/ปี
ป. 5 ศ16101 ศลิ ปะ จานวน 80 ชัว่ โมง/ปี
ป. 6 ศิลปะ จานวน 80 ชว่ั โมง/ปี

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 104)

คาอธบิ ายรายวชิ าพื้นฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ

รายวชิ า ศลิ ปะ รหสั วิชา ศ๑1๑๐๑
ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 เวลา 8๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษาและฝึกปฏิบัติเพื่อให๎มีความร๎ูความสามารถเกี่ยวกับรูปรํางลักษณะและขนาดของส่ิงตําง ๆ
รอบตวั ในธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร๎างขึ้น บอกความร๎ูสึกท่ีมีตํอธรรมชาติ และส่ิงแวดล๎อมรอบตัวเรา มี
ทักษะพื้นฐานในการใช๎วัสดุ อุปกรณ์สร๎างสรรค์งานทัศนศิลป์ การทดลองใช๎สีด๎วยเทคนิคงําย ๆ วาดภาพ
ระบายสตี ามธรรมชาตติ ามความรูส๎ กึ ของตนเอง

ศึกษาสิ่งตําง ๆ สามารถกํอกาเนิดเสียงท่ีแตกตํางกัน เสียงดัง-เบา ช๎า-เร็ว บทกลอน ร๎องเพลง
เพลงในท๎องถิ่น ดนตรีในทอ๎ งถน่ิ บทบาทหนา๎ ที่ ความหมาย ความสาคัญของบทเพลงใกล๎ตวั ทีไ่ ดย๎ ิน

ศึกษาเพ่ือให๎มีความร๎ูพื้นฐานนาฏศิลป์เบ้ืองต๎นเกี่ยวกับการเคลื่อนไหว แสดงทําทางงําย ๆ เพื่อ
สือ่ ความหมายแทนคาพดู การละเลํนของไทย การแสดงนาฏศิลป์ มีมารยาทในการชมการแสดง ร๎ูหน๎าท่ี
ของผช๎ู มทด่ี ี รู๎จกั การละเลํนของเด็กไทยและบอกสง่ิ ท่ตี นเองชอบในการแสดงนาฏศิลป์

โดยการใช๎กระบวนการฝึกปฏิบัติจริง เน๎นให๎ผู๎เรียนได๎เรียนร๎ูด๎วยตนเอง เกิดความภาคภูมิใจ ช่ืน
ชม ซาบซ้ึงในผลงานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ มีเจตคติและคํานิยมที่ดีตํอภูมิปัญญาไทย น๎อมนาตาม
หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัด ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ศ ๑.๑ ป.๑/๑
ศ ๑.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓ , ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ศ ๒.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ศ ๒.๒ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ศ ๓.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒
ศ ๓.๒

รวม ๖ มาตรฐาน 18 ตวั ชี้วัด

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 105)

คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้ศลิ ปะ

รายวชิ า ศลิ ปะ รหสั วิชา ศ๑2๑๐๑
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 8๐ ชว่ั โมง/ปี

ศกึ ษาเก่ยี วกับรูปรําง รูปทรง เส๎น ในธรรมชาติและสิ่งแวดล๎อม ระบุทัศนธาตุที่อยูํในสิ่งแวดล๎อม
และงานทัศนศิลป์ โดยเน๎นเรื่องเส๎น สี รูปรํางและรูปทรง สร๎างงานทัศนศิลป์ตําง ๆ โดยใช๎ทัศนธาตุ เส๎น
รปู รําง รูปทรง มีทักษะพ้ืนฐานในการใช๎วัสดุอุปกรณ์สร๎างงานทัศนศิลป์ 3 มิติ สร๎างงานปะติดโดยการตัด
หรือฉีกกระดาษ วาดภาพเพ่ือถํายทอดเรื่องราวเก่ียวกับครอบครัวตนเองและเพื่อนบ๎าน เลือกงาน
ทัศนศิลป์และบรรยายถึงสิ่งท่ีมองเห็นรวมถึงเน้ือหาเร่ืองราว สร๎างสรรค์งานศิลป์ เชํน รูปรําง รูปทรง
โครงสรา๎ งเคล่อื นไหว สามารถแสดงเหตุผลและวิธกี ารในการปรับปรงุ งานของตนเอง

ศึกษาแหลํงกาเนิดของเสียงที่ได๎ยิน จาแนกเสียงสูง-ต่า ดัง-เบา ยาว-สั้น เพลงท๎องถิ่น ดนตรี
ท๎องถ่ิน การละเลํนพ้นื บ๎าน สามารถทํองบทกลอน ร๎องเพลง เคาะจังหวะ เคล่ือนไหวรํางกายให๎สอดคล๎อง
กับบทเพลง รูแ๎ ละเขา๎ ใจเอกลกั ษณ์ของดนตรีในท๎องถ่ิน

ศึกษาเก่ียวกับการเคล่ือนไหว แสดงทําทางสะท๎อนอารมณ์ สื่อความหมายแทนคาพูด แสดง
ทําทางประกอบจังหวะอยํางสร๎างสรรค์ โดยการปฏิบัติจริง การเรียนรู๎ของตนเอง เพื่อให๎เห็นคุณคําจาก
การดหู รือรํวมแสดง รักและช่ืนชมในการละเลํนพน้ื บา๎ น มมี ารยาทในการชมการแสดง รู๎หน๎าที่ของผู๎แสดง
และผ๎ูชม สามารถเช่ือมโยงส่ิงท่ีพบเห็นในการละเลํนพื้นบ๎านกับการดารงชีวิตของคนไทย บอกลักษณะ
เดนํ และเอกลกั ษณข์ องนาฏศิลปไ์ ทยตลอดจนความสาคัญของการแสดงนาฏศิลป์ไทยได๎

โดยการใช๎กระบวนการฝึกปฏิบัติจริง เน๎นให๎ผู๎เรียนได๎เรียนร๎ูด๎วยตนเอง เกิดความภาคภูมิใจ
ซาบซึ้งในงานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ มีสํวนรํวมในกิจกรรมอยํางสร๎างสรรค์ สนุกสนาน มีจิตสานึก
และคาํ นยิ มท่ีดีตอํ ภมู ปิ ัญญาไทย นอ๎ มนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ศ ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕ , ป.๒/6 , ป.๒/7 , ป.๒/8
ศ ๑.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ศ ๒.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕
ศ ๒.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒
ศ ๓.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔ , ป.๒/๕
ศ ๓.๒ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓

รวม ๖ มาตรฐาน 25 ตัวชว้ี ดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 106)

คาอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ศิลปะ

รายวชิ า ศิลปะ รหัสวชิ า ศ๑3๑๐๑
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 เวลา 8๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษาและฝกึ ปฏิบัติเพื่อใหม๎ ีความร๎ูเก่ียวกับการสร๎างรูปรําง รูปทรงในธรรมชาติ ส่ิงแวดล๎อม
และงานทัศนศิลป์ ระบุวัสดุอุปกรณ์ที่ใช๎สร๎างผลงานทัศนศิลป์ จาแนกทัศนธาตุของส่ิงตําง ๆ ใน
ธรรมชาติส่ิงแวดล๎อมและงานทัศนศิลป์โดยเน๎นเรื่อง สี เส๎น รูปรําง รูปทรงและพื้นผิว มีทักษะพ้ืนฐาน
ในการใช๎วัสดุ อุปกรณ์สร๎างสรรค์งานปั้น วาดภาพถํายทอดความคิดความร๎ูสึกจากเหตุการณ์ชีวิตจริง
โดยใช๎เส๎น รูปรําง รูปทรง สีและพื้นผิว บรรยายเหตุผล วิธีการในการสร๎างงานทัศนศิลป์โดยเน๎นถึง
เทคนิคและวัสดุอุปกรณ์ ระบุชื่อ ช่ืนชมและส่ิงที่ควรปรับปรุงในงานทัศนศิลป์ของตนเอง ระบุและจัด
กลุํมของงานตามทศั นธาตุท่เี น๎นในงานทัศนศิลป์ บรรยายลกั ษณะรปู รําง รปู ทรงในการออกแบบส่ิงตํางๆ
ทมี่ ใี นบ๎านและโรงเรียน รแู๎ ละเข๎าใจที่มาของงานทัศนศิลป์ในท๎องถิ่น ตลอดจนการใช๎วัสดุ อุปกรณ์และ
วิธกี ารสรา๎ งงานทศั นศลิ ปใ์ นทอ๎ งถน่ิ

ศึกษาค๎นคว๎าเก่ียวกับแหลํงกาเนิดเสียง คุณสมบัติของเสียง บทบาทหน๎าที่ ความหมาย
ความสาคัญของบทเพลงใกล๎ตัวที่ได๎ยิน รูปรํางลักษณะของเครื่องดนตรี สัญลักษณ์ แทนเสียง จังหวะ
บทบาทหน๎าที่ของเพลง ขับร๎อง บรรเลงดนตรี เอกลักษณ์ของดนตรีในท๎องถิ่น แสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับดนตรี เสียงขับร๎องของตนเอง มีสํวนรํวมกับกิจกรรมดนตรีในชีวิตประจาวัน รู๎และเข๎าใจ
เอกลักษณ์ของดนตรีในท๎องถิ่น มีความชื่นชอบร๎ูความสาคัญและประโยชน์ของดนตรีตํอการดาเนินชีวิต
ของคนในท๎องถนิ่

ศึกษาการเคล่ือนไหวในรูปแบบตํางๆ สามารถแสดงทําทางประกอบจังหวะเพลงตามรูปแบบ
นาฏศิลป์ มีมารยาทในการชมการแสดง ร๎ูหน๎าท่ีของผู๎แสดงและผู๎ชม ร๎ูประโยชน์ ของการแสดง
นาฏศิลป์ในชีวิตประจาวัน เข๎ารํวมกิจกรรมการแสดงที่เหมาะสมกับวัย ร๎ูและเข๎าใจการละเลํนของ
เด็กไทยและนาฏศลิ ปท์ ๎องถ่นิ ชน่ื ชอบและภาคภูมใิ จในการละเลํนพ้ืนบ๎าน สามารถเชื่อมโยงส่ิงที่พบเห็น
ในการละเลํนพ้ืนบ๎านกับการดารงชีวิตของคนไทย บอกลักษณะเดํนและเอกลักษณ์ของนาฏศิลป์ไทย
ตลอดจนความสาคัญของการแสดงนาฏศิลป์ไทยได๎

โดยการใช๎กระบวนการฝึกปฏิบัติจริง เน๎นให๎ผู๎เรียนได๎เรียนร๎ูด๎วยตนเอง เกิดความภาคภูมิใจ
เพื่อให๎เห็นคุณคํา ซาบซ้ึงในงานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ มีสํวนรํวมในกิจกรรมอยํางสร๎างสรรค์
สนกุ สนาน มีจิตสานึกและคํานิยมที่ดี ช่ืนชมในเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาไทยน๎อมนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 107)

มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
ศ ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗ , ป.๓/8 , ป.๓/9 ป.๓/๑๐
ศ ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ศ ๒.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕ , ป.๓/๖ , ป.๓/๗
ศ ๒.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ศ ๓.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕
ศ ๓.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓

รวม ๖ มาตรฐาน ๒๙ ตวั ชวี้ ัด

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 108)

คาอธบิ ายรายวิชาพ้ืนฐาน
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

รายวิชา ศิลปะ รหสั วชิ า ศ๑4๑๐๑
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 8๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษาและฝึกปฏิบัติเพื่อให๎มีความรู๎และความสามารถเกี่ยวกับรูปลักษณะของรูปรําง รูปทรง
พนื้ ผิว สี แสงเงาในธรรมชาติ สิ่งแวดล๎อมและงานทศั นศลิ ป์ มีทักษะในการใช๎วัสดุ อุปกรณ์สร๎างสรรค์งาน
วาดภาพระบายสีและงานพิมพ์ภาพ ถํายทอดความคิด อารมณ์ ความรู๎สึก สามารถใช๎หลักการจัดขนาด
สัดสํวน ความสมดุล น้าหนัก แสงเงา มีความร๎ู ความเข๎าใจถึงอิทธิพลของสี การจัดระยะและแสงเงาใน
การสร๎างงานทัศนศิลป์ สามารถเปรียบเทียบความแตกตํางระหวํางงานทัศนศิลป์ที่สร๎างสรรค์ ด๎วยวัสดุ
อปุ กรณ์และวธิ ีการที่แตกตาํ งกัน ระบุ อภิปรายและบรรยายเก่ียวกับเหตุการณ์ ประเพณีและวัฒนธรรมท่ี
เกีย่ วกบั งานทัศนศิลป์ ร๎ูและเข๎าใจคุณคาํ ของงานทศั นศลิ ปท์ ่ีมีผลตํอชวี ติ ของคนในสังคม

ศึกษาโครงสร๎างของบทเพลง ความหมายการแบํงประโยคเพลง เสียงและประเภทของเครื่อง
ดนตรี การเคลื่อนที่ขึ้น-ลงของทานอง รูปแบบจังหวะความช๎า-เร็วของจังหวะ เครื่องหมาย สัญลักษณ์
ทางดนตรี โครงสรา๎ งโน๎ตเพลงไทย การขบั ร๎องความหมายของเนอ้ื หาในบทเพลงในบันไดเสียงที่เหมาะสม
กับตนเอง ความสัมพันธ์ของวิถีชีวิตกับผลงานดนตรี การอนุรักษ์วัฒนธรรมทางดนตรี เรื่องราวดนตรีใน
ประวัติศาสตร์ อิทธิพลของวัฒนธรรมตํอดนตรี ร๎ูคุณคําดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมตํางกัน ตลอดจนรู๎
ความสาคญั ในการอนุรกั ษ์

ศึกษาหลักและวิธีการปฏิบัตินาฏศิลป์ การฝึกภาษาทํา การฝึกนาฏยศัพท์ การใช๎ภาษาทําและ
นาฏยศัพท์ประกอบเพลงปลุกใจ และเพลงพระราชนิพนธ์ การใช๎ศัพท์ทางการละครในการถํายทอด
เรอ่ื งราว การประดษิ ฐ์ทําทางหรอื ทําราประกอบเพลงพน้ื เมือง การแสดงประเภทคํูหรือหมํู ราวงมาตรฐาน
ระบุเลําเรือ่ งท่ีชื่นชอบในการแสดง โดยเน๎นจุดสาคัญของเร่ืองและลักษณะเดํนของตัวละคร ประวัติความ
เป็นมาและคุณคําของนาฏศิลป์ เปรียบเทียบการแสดงนาฏศิลป์ ประเภทตําง ๆ กับการแสดงที่มาจาก
วัฒนธรรม ร๎ูและเข๎าใจความสัมพันธ์และประโยชน์ของนาฏศิลป์และการละคร สามารถเปรียบเทียบการ
แสดงประเภทตาํ ง ๆ ของไทยในแตํละท๎องถ่นิ ตลอดจนรู๎คณุ คําการรกั ษาและสืบทอดการแสดงนาฏศลิ ป์

โดยการใช๎กระบวนการฝึกปฏิบัติจริง เน๎นให๎ผ๎ูเรียนได๎เรียนรู๎ด๎วยตนเอง เกิดความภาคภูมิใจ
เพื่อให๎เห็นคุณคํา ซาบซ้ึงในงานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ มีสํวนรํวมในกิจกรรมอยํางสร๎างสรรค์
สนุกสนาน มีจิตสานึกและคาํ นยิ มทดี่ ี ชืน่ ชมในเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาไทย น๎อมนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพียง

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั
ศ ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗ , ป.๔/๘ , ป.๔/๙
ศ ๑.๒ ป.4/๑ , ป.4/๒
ศ ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕ , ป.๔/๖ , ป.๔/๗
ศ ๒.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ศ ๓.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕
ศ ๓.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔

รวม ๖ มาตรฐาน ๒9 ตวั ชีว้ ดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 109)

คาอธบิ ายรายวิชาพ้นื ฐาน
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ศลิ ปะ

รายวิชา ศิลปะ รหัสวิชา ศ๑5๑๐๑
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เวลา 8๐ ชว่ั โมง/ปี

บอก อธบิ าย สรา๎ งสรรค์ งานทัศนศลิ ป์ ส่งิ ของตาํ งๆทีป่ รากฏในสิง่ แวดลอ๎ ม และงานทัศนศิลป์
เปรยี บเทียบความแตกตํางระหวํางงานศิลป์ที่สร๎างสรรค์ ด๎วยวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการท่ีตํางกัน วาดภาพ
โดยใช๎เทคนิค ของแสง เงา น้าหนัก และวรรณสี สร๎างสรรค์งานป้ันจากดินน้ามัน หรือดินเหนียวโดยเน๎น
การถํายทอดจินตนาการ สร๎างสรรค์ งาน พิมพ์ภาพ โดยเน๎นการจัดวางตาแหนํงของส่ิงตํางๆในภาพ ระบุ
ปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์และการส่ือความหมาย ในงานทัศนศิลป์ของตนเอง และบอกวิธีการ
ปรับปรุงงานใหด๎ ีข้นึ บรรยายประโยชน์ และคุณคําของงานทัศนศิลป์ ในแหลํงเรียนร๎ู หรือนิทัศการศิลปะ
รวมท้งั อภิปรายเก่ียวกับงานทศั นศิลป์ที่สะท๎อนวัฒนธรรมและภูมิปญั ญาในทอ๎ งถ่นิ

อธิบาย จังหวะ ทานอง องค์ประกอบดนตรีในเพลงที่ใช๎ในการส่ืออารมณ์ แสดงการจาแนก
ลักษณะของเสียงขับร๎องและเครื่องดนตรีประเภทตํางๆ การอําน เขียน โน๎ตดนตรีไทย ดนตรีสากล ๕
ระดบั สยี ง รอ๎ งเพลงไทยหรือเพลงสากลหรือเพลงไทยสากลท่ีเหมาะสมกับวัย ด๎นสดงํายๆ โดยใช๎ประโยค
เพลงแบบถามตอบ ใช๎เครื่องดนตรีบรรเลงจังหวะและทานอง รํวมกิจกรรมในการแสดงออกตาม
จินตนาการ ฝกึ ปฏิบัติ การแสดงออกตามจินตนาการเพ่ือสื่อความคิดจินตนาการความรู๎สึกประทับใจและ
เห็นคุณคํา อธิบายความสัมพันธ์ระหวํางดนตรีกับประเพณีในวัฒนธรรมตํางๆ ให๎สัมพันธ์กัน เพื่อนาไป
สร๎างสรรค์ระหวํางดนตรีกับประเพณีในวัฒนธรรมท๎องถิ่น เห็นคุณคําของดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมท่ี
ตํางกนั มสี วํ นรวํ มในกิจกรรมดนตรีอยํางสนุกสนาน

อธิบายและแสดง ความร๎ูพื้นฐานทางนาฏศิลป์ การบรรยายองค์ประกอบของนาฏศิลป์ การ
ประดิษฐ์ทําทางประกอบเพลงหรือเรื่องราวความคิด องค์ประกอบของละคร บอกที่มาของการแสดง
นาฏศลิ ปป์ ระโยชนท์ ่ไี ด๎รับจากการชมการแสดง

โดยการใช๎กระบวนการฝึกปฏิบัติจริง เน๎นให๎ผู๎เรียนได๎เรียนรู๎ด๎วยตนเอง เกิดความภาคภูมิใจ
เพ่ือให๎เห็นคุณคํา ซาบซ้ึงในงานทัศนศิลป์ ดนตรี นาฏศิลป์ มีสํวนรํวมในกิจกรรมอยํางสร๎างสรรค์
สนุกสนาน มีจิตสานกึ และคํานิยมทดี่ ี ชื่นชมในเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาไทย น๎อมนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง

มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด
ศ ๑.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗
ศ ๑.๒ ป.5/๑ , ป.5/๒
ศ ๒.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖ , ป.๕/๗
ศ ๒.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒
ศ ๓.๑ ป.๕/๑ , ป.๕/๒ , ป.๕/ ๓ , ป.๕/๔ , ป.๕/๕ , ป.๕/๖
ศ ๓.๒ ป.๕/๑ , ป.๕/๒

รวม ๖ มาตรฐาน ๒๖ ตัวช้ีวดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 110)

คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
กลมุ่ สาระการเรยี นรูศ้ ลิ ปะ

รายวชิ า ศิลปะ รหัสวิชา ศ๑6๑๐๑
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 6 เวลา 8๐ ชั่วโมง/ปี

บอก อธิบาย สร๎างสรรค์ งานทัศนศิลป์ ระบุสีคูํตรงข๎ามในการ ถํายทอดความคิดเห็น และ
อารมณ์ อธิบายหลักการจัดขนาด สัดสํวน ความสมดุลในการสร๎างงานทัศนศิลป์ ปฏิบัติสร๎างงาน
ทัศนศิลป์จากรูปแบบ ๒ มิติ โดยใช๎หลักการของรูปและพื้นที่วําง สร๎างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยใช๎สีคูํ
ตรงข๎าม หลักการจัดขนาด สัดสํวน และความสมดุล สร๎างงานทัศนศิลป์ เป็นแผนภาพแผนผัง และ
ภาพประกอบ เพ่ือถํายทอดความคิดหรือเร่ืองราวเกี่ยวกับเหตุการณ์ตํางๆ บรรยายบทบาทของงาน
ทัศนศิลป์ ท่ีสะท๎อนชีวิตและสังคม อภิปรายเก่ียวกับอิทธิพลของความเช่ือ ความศรัทธาในศาสนาท่ีมีผล
ตอํ งานทศั นศิลป์ในทอ๎ งถ่นิ รวมทัง้ ระบแุ ละบรรยายอิทธพิ ลทางวัฒนธรรมในท๎อถิ่นท่ีมีผลตํอการสร๎างงาน
ทัศนศลิ ปข์ องบุคคล

อธิบาย วิเคราะห์องค์ประกอบดนตรี เพลงท่ีฟังและศัพท์สังคีต จาแนกประเภทเคร่ืองดนตรี ใช๎
เคร่ืองดนตรีและเครื่องดนตรีท่ีมาจากวัฒนธรรมตํางๆ แสดงการอํานเขียนโน๎ต ไทยและสากล ร๎องเพลง
ด๎นสด สร๎างสรรค์รูปแบบจังหวะและทานองด๎วยเครื่องดนตรีไทยหรือเคร่ืองดนตรีท่ีมาจากเคร่ืองดนตรี
ท๎องถ่ิน บรรยายความรู๎สกึ และแสดงความคดิ เห็นท่ีมตี อํ บทเพลง ความไพเราะของเสยี งดนตรี

โดยใช๎กระบวนการคิดวิเคราะห์ กระบวนการกลํุม เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความเข๎าใจ ตลอดจนนา
ความรู๎และหลักการทางดนตรีมาประยุกต์ให๎เกิดประโยชน์และคุณคําในการสร๎างสรรค์นาความร๎ูไปใช๎ใน
ชวี ิตประจาวันนอ๎ มนาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

อธิบายและแสดง ความรู๎ความเข๎าใจ นาฏศิลป์เบ้ืองต๎น แสดงออกอยํางอิสระในการประดิษฐ์
ทําทางประกอบเพลงปลุกใจหรือเพลงพื้นเมืองหรือท๎องถิ่น การแสดงนาฏศิลป์และละครสร๎างสรรค์ การ
ใช๎เร่ืองแตํง จินตนาการ ประสบการณ์ ละครสร๎างสรรค์ ระบา ฟูอน ราวงมาตรฐาน การอธิบาย
ความสัมพันธ์ระหวํางนาฏศิลป์และการละครกับสิ่งท่ีสระสบในชีวิตประจาวันใช๎หลักสุนทรีทางนาฏศิลป์
การบอกความหมาย ความเป็นมา ความสาคัญพร๎อมท้ังระบุประโยชน์ที่ได๎รับจากการแสดงหรือการชม
การแสดงนาฏศิลป์ สร๎างสรรค์การเคลื่อนไหวและการถํายทอดลีลา อารมณ์ ส่ิงที่มีความสาคัญตํอการ
แสดงนาฏศิลป์และละคร ระบปุ ระโยชนท์ ไ่ี ดร๎ บั จากการแสดงหรอื การชมการแสดงนาฏศิลป์และละคร

โดยใช๎กระบวนการคิดวิเคราะห์ อภิปราย กระบวนการกลุํม เพ่ือให๎เกิดความรู๎ ความเข๎าใจและ
เห็นคุณคําของการนาความร๎ูไปใช๎ให๎เกิดประโยชน์ในการดาเนินชีวิตประจาวัน และน๎อมนาตามหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 111)

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖ , ป.๖/7
ศ ๑.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ศ ๑.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖
ศ ๒.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓
ศ ๒.๒ ป.๖/๑ , ป.๖/๒ , ป.๖/๓ , ป.๖/๔ , ป.๖/๕ , ป.๖/๖
ศ ๓.๑ ป.๖/๑ , ป.๖/๒
ศ ๓.๒

รวม ๖ มาตรฐาน ๒7 ตวั ชี้วัด

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 112)

คาอธิบายรายวิชากลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ

รายวชิ าพื้นฐาน

ชนั้ ง11101 รายวชิ า จานวนชว่ั โมง/ปี
ป. 1 ง12101 การงานอาชีพ จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 2 ง13101 การงานอาชพี จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
ป. 3 ง14101 การงานอาชีพ จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
ป. 4 ง15101 การงานอาชีพ จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 5 ง16101 การงานอาชีพ จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 6 การงานอาชีพ จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 113)

รายวชิ า การงานอาชพี คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี

รหัสวิชา ง๑1๑๐๑
เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษากระบวนการทางาน เพ่ือชํวยเหลอื ตนเอง ในการแตํงกาย การเก็บของใช๎ การหยิบ จบั
และใชข๎ องสวํ นตัว การจดั โตะ๏ ต๎ู ช้ัน การใช๎วสั ดุอปุ กรณ์ เครอ่ื งมืองาํ ยๆ ในการทางานอยาํ งปลอดภยั
การทาความค๎นุ เคยกบั การใช๎เคร่ืองมือ การรดน้าตน๎ ไม๎ การถอนและเก็บวัชพชื การพับกระดาษเป็น
ของเลนํ

ทางานอยาํ งกระตือรือรน๎ และตรงเวลา เพ่อื ให๎เกิดทกั ษะการทางาน การชํวยเหลอื ตนเอง การ
ใชอ๎ ปุ กรณ์ เครื่องมือการทางาน

เห็นคุณคําของการนาความร๎ูไปใช๎ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน อยํางมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล
มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย ใฝุเรียนร๎ู อยํูอยํางพอเพียง มํุงม่ันการทางาน รักความเป็นไทย มีจิ ต
สาธารณะ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด
ง ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๑ , ป.๑/๓

รวม 1 มาตรฐาน 3 ตวั ช้วี ดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 114)

รายวชิ า การงานอาชพี คาอธิบายรายวิชาพื้นฐาน
ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชีพ

รหสั วชิ า ง๑2๑๐๑
เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษาวิธีการทางาน และประโยชน์ของการทางาน เพ่ือชํวยเหลือตนเองและครอบครัว การ
ใช๎บทบาทสมาชิกในครอบครัว การจัดวาง การเก็บเส้ือผ๎า รองเท๎า การชํวยเหลือครอบครัวประกอบ
อาหาร การกวาดบา๎ น การล๎างจาน

การใช๎วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือให๎เหมาะสมกับงาน เพื่อให๎ประหยัดและปลอดภัย
การเพาะเมล็ดพืชตํางๆ การดูแลแปลงเพาะกล๎า การทาของเลํน การประดิษฐ์ของใช๎สํวนตัว
เพอื่ ให๎เกิดทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะกระบวนการแกป๎ ัญหา ทักษะการทางาน
รํวมกนั และทักษะการแสวงหาความร๎ู
เห็นคุณคํา การเรียนร๎ู การสื่อสาร การแก๎ปัญหา การทางาน อยํางมีประสิทธิภาพ มี
ความคิดสร๎างสรรค์ มีคุณธรรมจริยธรรม มีวินัย ใฝุเรียนร๎ู อยํูอยํางพอเพียง มํุงมั่นในการทางาน รัก
ความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด
ง ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓

รวม 1 มาตรฐาน 3 ตวั ชว้ี ัด

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 115)

รายวิชา การงานอาชพี คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ

รหสั วชิ า ง๑3๑๐๑
เวลา 4๐ ชัว่ โมง/ปี

ศกึ ษาวิเคราะหว์ ิธกี าร ประโยชน์การทางาน เพื่อชํวยเหลือตนเอง ครอบครัวและสํวนรวมใช๎
วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่ืองมือ ตรงกับลักษณะงานอยํางเป็นข้ันตอนตามกระบวนการทางานด๎วยความ
สะอาด ความรอบคอบ และอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ๎ ม

การเลือกใช๎เสื้อผ๎า การจัดเตรียมอุปกรณ์การเรียน การทาความสะอาดรองเท๎า กระเป๋า
นักเรยี น การปัดกวาด เชด็ ถบู ๎านเรอื น การทาความสะอาดห๎องเรยี น

การปลูกผักสวนครัว การบารุงรักษาของเลํน การซํอมแซมของใช๎สํวนตัว การประดิษฐ์ของ
ใช๎ในโอกาสตาํ งๆโดยใช๎วสั ดุในทอ๎ งถิ่น

เหน็ คณุ คาํ ในการนาความร๎ู ทักษะ ไปใช๎ในชีวติ ประจาวันตามกระบวนการอยํางเป็นข้ันตอน
มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มวี ินยั ใฝุเรียนรู๎ อยูํอยํางพอเพียง มํุงม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิต
สาธารณะ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด
ง ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓

รวม 1 มาตรฐาน 3 ตวั ช้ีวดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 116)

รายวิชา การงานอาชีพ คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ

รหสั วชิ า ง๑4๑๐๑
เวลา 4๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษากระบวนการทางานอยํางมีข้ันตอนให๎บรรลุเปูาหมายที่วางไว๎ มารยาทในการทางาน
การใชพ๎ ลงั งานและทรพั ยากรอยํางประหยดั และค๎ุมคํา ความหมายของอาชพี และความสาคญั ของอาชีพ

การดแู ลรกั ษาของใชส๎ วํ นตวั การจดั ตเ๎ู สื้อผา๎ โต๏ะเขยี นหนังสือและกระเป๋านักเรียน
การปลูกไม๎ดอกไมป๎ ระดับ การซอํ มแซมอปุ กรณ์ เคร่ืองมอื และเคร่ืองใช๎ การประดิษฐข์ องใช๎
ของตกแตงํ จากใบตองและกระดาษ การจัดเก็บเอกสารสํวนตัว
มารยาทในการปฏิบตั ติ น การต๎อนรบั บิดามารดาหรือผ๎ปู กครองในโอกาสตํางๆ การรับประทาน
อาหาร การใช๎ห๎องนา้ และห๎องส๎วม การใช๎พลังงานอยํางประหยดั และคุม๎ คํา
เหน็ คุณคําในการนาความร๎ู ทักษะ ไปใชใ๎ นชีวิตประจาวนั ตามกระบวนการอยาํ งเป็นขนั้ ตอน
มีคุณธรรม จริยธรรม มีวนิ ัย ใฝุเรียนรู๎ อยูํอยํางพอเพียง มุํงม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิต
สาธารณะ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ัด
ง ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔
ง 2.๑ ป.๔/๑

รวม 2 มาตรฐาน 5 ตวั ช้ีวดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 117)

คาอธบิ ายรายวิชาพนื้ ฐาน
กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี

รายวิชา การงานอาชพี รหสั วชิ า ง๑5๑๐๑
ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เวลา 4๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษากระบวนการทางานอยาํ งมีข้นั ตอน ตามลาดบั ท่วี างไว๎ ทักษะการจัดการและทักษะการ
ทางานรวํ มกัน การทางานอยํางเป็นระบบและมีความคดิ สร๎างสรรค์ มารยาทในการทางานกบั ครอบครัว
การใช๎พลงั งานและทรัพยากรอยาํ งประหยดั และคม๎ุ คํา

การซํอมแซม ซัก ตาก เก็บ รีด พับ เสื้อผ๎า การปลูกพืช การทาบัญชีครัวเรือน ทักษะ
การจัดการ การจัดระบบงาน และระบบคน เพื่อเปูาหมายอยํางมีประสิทธิภาพ การจัดโต๏ะอาหาร ตู๎เย็น
และหอ๎ งครวั การทาความสะอาดห๎องน้าและส๎วม การซํอมแซมอุปกรณ์ของใช๎ในบ๎าน การประดิษฐ์ของใช๎
ของตกแตํงจากวสั ดุเหลอื ใช๎ที่มใี นท๎องถ่นิ การจดั เก็บเอกสารสาคญั การดแู ลรกั ษาและใช๎สมบตั ิสวํ นตัว

เห็นคุณคําในการนาความรู๎ ทักษะ ไปใช๎ในชีวิตประจาวันมีความคิดสร๎างสรรค์ ความ
ประณีต ตามกระบวนการอยํางเป็นข้ันตอน มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย ใฝุเรียนรู๎ อยํูอยํางพอเพียง
มงํุ มัน่ ในการทางาน รกั ความเปน็ ไทย มจี ิตสาธารณะ ตามแนวทางของหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ดั ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
ง ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒,
ง ๒.๑

รวม 2 มาตรฐาน ๖ ตัวช้ีวดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 118)

รายวชิ า การงานอาชีพ คาอธิบายรายวิชาพนื้ ฐาน
ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ

รหสั วชิ า ง๑6๑๐๑
เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษากระบวนการทางานอยํางมีข้ันตอน ตามลาดับท่ีวางไว๎ ทักษะการจัดการ ทักษะการ
ทางานรวํ มกนั การทางานอยํางเป็นระบบและมคี วามคิดสร๎างสรรค์ มารยาทในการทางานกับครอบครัว
การใช๎พลงั งานและทรัพยากรอยํางประหยัดและค๎มุ คาํ

การซํอมแซม ซัก ตาก เก็บ รีด พับ เสื้อผ๎า การปลูกพืช การทาบัญชีครัวเรือน ทักษะการ
จดั การ การจัดระบบงาน และระบบคน เพื่อเปูาหมายอยํางมีประสิทธิภาพ การจัดโต๏ะอาหาร ต๎ูเย็น และ
หอ๎ งครัวการทาความสะอาดห๎องนา้ และสว๎ ม การซํอมแซมอุปกรณ์ของใช๎ในบ๎าน การประดิษฐ์ของใช๎ ของ
ตกแตงํ จากวัสดเุ หลอื ใช๎ที่มีในท๎องถ่ิน การจัดเก็บเอกสารสาคญั การดแู ลรักษาและใช๎สมบัตสิ วํ นตัว

เห็นคุณคําในการนาความร๎ู ทักษะ ไปใช๎ในชีวิตประจาวันมีความคิดสร๎างสรรค์ ความ
ประณีต ตามกระบวนการอยํางเป็นขั้นตอน มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย ใฝุเรียนร๎ู อยํูอยํางพอเพียง
มงํุ ม่ันในการทางาน รักความเป็นไทย มจี ติ สาธารณะ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ดั
ง ๑.๑ ป.6/๑ , ป.6/๒ , ป.6/๓
ง ๒.๑ ป.6/๑ , ป.6/๒

รวม 2 มาตรฐาน 5 ตวั ชี้วดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 119)

คาอธบิ ายรายวชิ ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

รายวิชาพืน้ ฐาน รายวิชา จานวนชัว่ โมง/ปี
ภาษาองั กฤษ จานวน 80 ชั่วโมง/ปี
ช้นั ภาษาองั กฤษ จานวน 80 ชว่ั โมง/ปี
ป. 1 อ11101 ภาษาอังกฤษ จานวน 80 ช่วั โมง/ปี
ป. 2 อ12101 ภาษาอังกฤษ จานวน 80 ชวั่ โมง/ปี
ป. 3 อ13101 ภาษาองั กฤษ จานวน 80 ชัว่ โมง/ปี
ป. 4 อ14101 ภาษาองั กฤษ จานวน 80 ชั่วโมง/ปี
ป. 5 อ15101
ป. 6 อ16101 จานวนชว่ั โมง/ปี
จานวน 120 ชวั่ โมง/ปี
รายวชิ าเพม่ิ เติม จานวน 120 ชั่วโมง/ปี
จานวน 120 ชว่ั โมง/ปี
ชั้น รายวชิ า จานวน 80 ชว่ั โมง/ปี
ป. 1 อ11201 ภาษาองั กฤษเพอ่ื การสอ่ื สาร จานวน 80 ชว่ั โมง/ปี
ป. 2 อ12201 ภาษาอังกฤษเพอื่ การสอ่ื สาร จานวน 80 ชั่วโมง/ปี
ป. 3 อ13201 ภาษาอังกฤษเพื่อการส่อื สาร จานวน 40 ชวั่ โมง/ปี
ป. 4 อ14201 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร จานวน 40 ชวั่ โมง/ปี
ป. 5 อ15201 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสื่อสาร จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
ป. 6 อ16201 ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสอื่ สาร จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 1 จ11201 ภาษาจนี จานวน 40 ชวั่ โมง/ปี
ป. 2 จ12201 ภาษาจีน จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
ป. 3 จ13201 ภาษาจนี
ป. 4 จ14201 ภาษาจนี
ป. 5 จ15201 ภาษาจนี
ป. 6 จ16201 ภาษาจีน

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 120)

รายวชิ า ภาษาอังกฤษ คาอธิบายรายวชิ าพ้ืนฐาน
ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

รหัสวิชา อ๑1๑๐๑
เวลา 8๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษา เรยี นรู๎ คาส่งั ท่ีใช๎ในหอ๎ งเรยี น ตวั อักษร เสยี งตัวอกั ษร และสระ ของภาษาตํางประเทศ
และภาษาไทย การสะกดคาและหลักการออกเสียง คา กลํุมคา และความหมาย เก่ียวกับตนเอง
ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล๎อมใกล๎ตัว อาหาร เคร่ืองด่ืม และนันทนาการ ภายในวงคาศัพท์
ประมาณ 150-200 คา บทอาํ นเกี่ยวกับเรื่องใกล๎ตัว หรือนิทานท่ีมีภาพประกอบ บทสนทนาที่ใช๎ใน
การทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ คาศัพท์ สานวนภาษา ประโยคที่ใช๎บอกความต๎องการ การ
แนะนาตนเอง ประโยคที่ใช๎ขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง บุคคลและเร่ืองใกล๎ตัว วัฒนธรรมของ
เจ๎าของภาษา คาศัพท์เกี่ยวกับเทศกาลสาคัญ ของเจ๎าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมที่
เหมาะสมกับวัย คาศัพท์ที่เกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนร๎ูอ่ืน การใช๎ภาษาในการฟัง การพูดใน
สถานการณง์ ําย ๆ ท่ีเกดิ ขึ้นในหอ๎ งเรยี น การใช๎ภาษาตาํ งประเทศในการรวบรวมคาศัพท์ที่เกี่ยวข๎องใกล๎
ตวั

โดยใช๎ทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบ
และเข๎ารํวมกิจกรรม เพื่อให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล บน
พน้ื ฐานความเปน็ ไทย ใฝเุ รยี นรู๎ คคํู ุณธรรม และนอ๎ มนาหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

สาระท้องถิน่
วฒั นธรรมทางภาษาท่ีใชใ๎ นการสอ่ื สาร เชํน การทกั ทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ

มาตรฐาน/ตวั ช้ีวัด ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๑ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓, ป.๑/๔
ต ๑.๒ ป.๑/๑
ต ๑.๓ ป.๑/๑ , ป.๑/๒ , ป.๑/๓
ต ๒.๑ ป.๑/๑
ต ๒.๒ ป.๑/๑
ต ๓.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๑ ป.๑/๑
ต ๔.๒

รวม ๘ มาตรฐาน ๑๖ ตัวชวี้ ดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 121)

รายวชิ า ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

รหสั วิชา อ๑2๑๐๑
เวลา 8๐ ช่ัวโมง/ปี

ศึกษา เรียนร๎ู คาสั่งและคาของร๎องท่ีใช๎ในห๎องเรียน ตัวอักษร เสียงตัวอักษร และสระ ของ
ภาษา ตํางประเทศและภาษาไทย การสะกดคา ความหมายของคา ประโยค หลักการอํานออกเสียง
คา กลุํมคา ประโยคท่ีเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล๎อมใกล๎ตัว อาการ เครื่องด่ืม
และนันทนาการ เป็นวงคาศัพท์สะสมประมาณ 250-300 คา ประโยค บทสนทนา หรือนิทานท่ีมี
ภาพประกอบ บทสนทนา ทใี่ ชใ๎ นการทกั ทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ คาศัพท์ ประโยค ข๎อความ
และสานวนภาษา ที่ใช๎ในการ แนะนาตนเอง บอกความต๎องการ การให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเอง บุคคล
และเรอ่ื งใกล๎ตวั วฒั นธรรมของเจ๎าของภาษา คาศพั ท์เกี่ยวกับเทศกาลสาคัญของเจ๎าของภาษา กิจกรรม
ทางภาษาและวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับวัย คาศัพท์ที่เก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนรู๎อ่ืน การใช๎ภาษา
ในการฟัง การพูด ในสถานการณ์งําย ๆ ที่เกิดข้ึนในห๎องเรียน การใช๎ภาษาตํางประเทศ เพ่ือรวบรวม
คาศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวข๎องใกล๎ตัว

โดยใช๎ทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบ
และเข๎ารํวมกิจกรรม เพ่ือให๎สามารถเรียนร๎ูและพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล บน
พน้ื ฐานความเป็นไทย ใฝเุ รยี นร๎ู คคํู ณุ ธรรม และนอ๎ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

สาระทอ้ งถิ่น
วัฒนธรรมทางภาษาท่ีใชใ๎ นการสอ่ื สาร เชนํ การทักทาย กลําวลา ขอบคณุ ขอโทษ

มาตรฐาน/ตัวชี้วัด ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ต ๑.๑ ป.๒/๑ , ป.๒/๒ , ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ต ๑.๒ ป.๒/๑
ต ๑.๓ ป.๒/๑, ป.๒/๒ , ป.๒/๓
ต ๒.๑ ป.๒/๑
ต ๒.๒ ป.๒/๑
ต ๓.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๑ ป.๒/๑
ต ๔.๒

รวม ๘ มาตรฐาน ๑๖ ตวั ชี้วดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 122)

รายวชิ า ภาษาองั กฤษ คาอธิบายรายวชิ าพืน้ ฐาน
ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

รหัสวชิ า อ๑3๑๐๑
เวลา 8๐ ชว่ั โมง/ปี

ศึกษา เรียนร๎ู คาสั่งและคาขอร๎องท่ีใช๎ในห๎องเรียน คา กลุํมคา ประโยคเดี่ยว บทพูดเข๎า
จังหวะ การสะกดคา การใช๎พจนานุกรม หลักการอํานออกเสียง สัญลักษณ์และความหมายเกี่ยวกับ
ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล๎อมใกล๎ตัว อาหาร เคร่ืองด่ืมและนันทนาการ เป็นวงคาศัพท์
สะสมประมาณ 350-450 คา ประโยค บทสนทนา หรือนิทานที่มีภาพประกอบ บทสนทนาที่ใช๎ใน
การทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยค ข๎อความและสานวนภาษาท่ีใช๎ในการแนะนาตนเอง
บอกความต๎องการ การให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง แสดงความรู๎สึก กลํุมคาท่ีมีความหมายเกี่ยวกับบุคคล
สัตว์ ส่ิงของ มารยาทสังคม วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา คาศัพท์ท่ีเก่ียวกับเทศกาล วันสาคัญ งาน
ฉลองและชีวติ ความเป็นอยูํของเจ๎าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะสมกับวัย ความ
แตกตาํ งของเสยี งตวั อกั ษร กลมํุ คาและประโยคของภาษาตํางประเทศและภาษาไทย คาศัพท์ที่เกี่ยวข๎อง
กบั กลมํุ สาระการเรียนรู๎อ่นื การใช๎ภาษาในการฟัง การพดู ในสถานการณ์งํายๆ ที่เกิดขึ้นในห๎องเรียน การ
ใชภ๎ าษาตาํ งประเทศ ในการรวบรวมคาศัพทท์ ีเ่ กี่ยวข๎องใกลต๎ ัว

โดยใช๎ทักษะการส่ือสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบ
และเข๎ารํวมกิจกรรม เพ่ือให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล บน
พน้ื ฐานความเปน็ ไทย ใฝเุ รยี นร๎ู คูคํ ณุ ธรรม และนอ๎ มนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

สาระทอ้ งถ่ิน
วัฒนธรรมทางภาษาท่ีใช๎ในการส่ือสาร เชํน การทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ การ

แนะนาตนเอง การถามและตอบเพื่อให๎ข๎อมลู เก่ียวกบั ตนเองและเรื่องใกล๎ตัว

มาตรฐาน/ตัวชว้ี ดั ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔
ต ๑.๑ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓ , ป.๓/๔ , ป.๓/๕
ต ๑.๒ ป.๓/๑ , ป.๓/๒
ต ๑.๓ ป.๓/๑ , ป.๓/๒ , ป.๓/๓
ต ๒.๑ ป.๓/๑
ต ๒.๒ ป.๓/๑
ต ๓.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๑ ป.๓/๑
ต ๔.๒

รวม ๘ มาตรฐาน ๑๘ ตัวชว้ี ัด

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 123)

รายวิชา ภาษาอังกฤษ คาอธิบายรายวิชาพ้นื ฐาน
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

รหัสวิชา อ๑4๑๐๑
เวลา 8๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษา เรียนร๎ู คาส่ัง คาขอร๎อง คาขออนุญาต ท่ีใช๎ในห๎องเรียน คาแนะนาตําง ๆ คา
กลํุมคา ประโยคเดี่ยว ข๎อความ บทพูดเข๎าจังหวะ การสะกดคา การใช๎พจนานุกรม หลักการอําน
ออกเสียง สัญลักษณ์ เครื่องหมายและความหมายเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล๎อม
อาหาร เครือ่ งด่ืม เวลาวํางและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซื้อขาย ลมฟูาอากาศ เป็นวง
คาศัพท์สะสมประมาณ 550 - 700 คา ประโยค บทสนทนา นิทานที่มีภาพประกอบ คาถาม
เก่ียวกับการจับใจความของเรื่อง บทสนทนาที่ใช๎ในการทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ คาศัพท์
สานวนภาษา ประโยค ขอ๎ ความทีใ่ ชแ๎ สดงความต๎องการของตนเอง การให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเอง การ
แนะนาตนเอง เพอื่ น บุคคลใกล๎ตัว การขอความชํวยเหลือในสถานการณ์ตําง ๆ การแสดงความร๎ูสึก
ความคิดเห็นเก่ียวกับเรื่องตําง ๆ ใกล๎ตัว มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา คาศัพท์และ
ข๎อมูลเกี่ยวกับเทศกาล วันสาคัญ งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยํูของเจ๎าของภาษา กิจกรรมทาง
ภาษาและวฒั นธรรมที่เหมาะสมกบั วัย ความแตกตํางของเสียงตัวอักษร คา กลํุมคา และประโยคของ
ภาษาตํางประเทศและภาษาไทย ความเหมือน ความแตกตําง ระหวํางเทศกาลและงานฉลองตาม
วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษากับของไทย การค๎นคว๎า รวบรวม และการนาเสนอคาศัพท์ท่ีเก่ียวข๎องกับ
กลมํุ สาระการเรยี นรอู๎ นื่ การใช๎ภาษาในการ พูด การอาํ น
ในสถานการณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ทง้ั ในห๎องเรียนและสถานศึกษา

โดยใช๎ทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม ทาทําทางประกอบ เข๎ารํวม
กิจกรรม ศึกษาค๎นคว๎า รวบรวม นาเสนอ และสืบค๎นข๎อมูล เพื่อให๎สามารถเรียนร๎ูและพัฒนาตนเอง
ได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล บนพ้ืนฐานความเป็นไทย ใฝุเรียนร๎ู คูํคุณธรรม และน๎อมนาหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

สาระทอ้ งถ่นิ
วฒั นธรรมการแตงํ กาย เชนํ ชดุ ไทย ชดุ พืน้ เมือง ประเพณที ๎องถ่นิ เชนํ ประเพณีลอยกระทง

ประเพณสี งกรานต์

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 124)

มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔
ต ๑.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓ , ป.๔/๔ , ป.๔/๕
ต ๑.๒ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ต ๑.๓ ป.๔/๑ , ป.๔/๒ , ป.๔/๓
ต ๒.๑ ป.๔/๑ , ป.๔/๒
ต ๒.๒ ป.๔/๑
ต ๓.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๑ ป.๔/๑
ต ๔.๒

รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชีว้ ดั

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 125)

รายวิชา ภาษาองั กฤษ คาอธบิ ายรายวชิ าพน้ื ฐาน
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

รหัสวชิ า อ๑5๑๐๑
เวลา 8๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษา เรียนร๎ู คาส่ัง คาขอร๎อง ที่ใช๎ในห๎องเรียน ภาษาทําทาง คาแนะนางําย ๆ ประโยค
ข๎อความ บทกลอน การใช๎พจนานุกรม หลักการอํานออกเสียง กลุํมคา ประโยคผสม ข๎อความ
สัญลักษณ์ เครื่องหมายและความหมายเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล๎อม อาหาร
เคร่ืองด่ืม เวลาวํางและนันทนาการ สุขภาพและสวัสดิการ การซ้ือขาย ลมฟูาอากาศ และเป็นวง
คาศัพท์สะสมประมาณ 750-950 คา ประโยค บทสนทนา นิทาน หรือเรื่องสั้น ๆ คาถามเกี่ยวกับ
ใจความสาคัญของเรื่อง บทสนทนาที่ใช๎ในการทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพูด
แทรกอยํางสุภาพ คาสั่ง คาขอร๎อง คาขออนุญาต คาแนะนาที่มี 1-2 ข้ันตอน คาศัพท์ ประโยค
ข๎อความ สานวนภาษา ที่ใช๎ขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง แนะนาตนเอง เพ่ือน บุคคลใกล๎ตัว บอก
ความต๎องการ ขอความชํวยเหลือ ตอบรับ ปฏิเสธการให๎ความชํวยเหลือ พูดแสดงความร๎ูสึก แสดง
ความคิดเห็นและการให๎เหตุผลประกอบ เคร่ืองหมายวรรคตอน ภาพ แผนผัง แผนภูมิแสดงข๎อมูลตําง
ๆ การใช๎ถ๎อยคา น้าเสียง และกิริยาทําทางตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรม ข๎อมูลและความสาคัญของ
เทศกาล วันสาคัญ งานฉลองและชีวิตความเป็นอยํูของเจ๎าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
ความเหมือน ความแตกตําง ระหวํางการออกเสียง ประโยคชนิดตําง ๆ การใช๎เครื่องหมายวรรคตอน
และ การลาดบั คาตามโครงสรา๎ งประโยค ของภาษาตํางประเทศและภาษาไทย เทศกาลและงานฉลอง
ของเจ๎าของภาษากับของไทย การค๎นคว๎า การรวบรวม และการนาเสนอคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข๎องกับกลํุม
สาระการเรยี นรู๎อ่ืน การใช๎ภาษาในการฟัง พูด อาํ น เขียน ในสถานการณ์ตําง ๆ ที่เกิดขึ้นในห๎องเรียน
และสถานศกึ ษา การใช๎ ภาษาตาํ งประเทศในการสืบค๎นและรวบรวมข๎อมลู ตาํ ง ๆ

โดยใช๎ทักษะการส่ือสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม ทาทําทางประกอบ เข๎ารํวม
กิจกรรม ศึกษาค๎นคว๎า รวบรวม นาเสนอ และสืบค๎นข๎อมูล เพ่ือให๎สามารถเรียนร๎ูและพัฒนาตนเอง
ได๎อยํางเต็มที่ตามมาตรฐานสากล บนพ้ืนฐานความเป็นไทย ใฝุเรียนรู๎ คํูคุณธรรม และน๎อมนาหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

สาระท้องถ่นิ
วัฒนธรรมการแตํงกาย เชํน ชุดไทย ชุดพ้ืนเมอื ง วัฒนธรรมการกนิ เชํน อาหารพื้นเมือง

ประเพณที อ๎ งถ่ิน เชํน ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 126)

มาตรฐาน/ตัวชวี้ ัด ป๕/๑, ป๕/๒ , ป๕/๓ , ป๕/๔
ต ๑.๑ ป๕/๑, ป๕/๒ , ป๕/๓ , ป๕/๔ , ป๕/๕
ต ๑.๒ ป๕/๑, ป๕/๒ , ป๕/๓,
ต ๑.๓ ป๕/๑ , ป๕/๒ , ป๕/๓
ต ๒.๑ ป๕/๑ ป๕/๒
ต ๒.๒ ป๕/๑
ต ๓.๑ ป๕/๑
ต ๔.๑ ป๕/๑
ต ๔.๒

รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชีว้ ัด

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 127)

รายวชิ า ภาษาอังกฤษ คาอธบิ ายรายวิชาพน้ื ฐาน
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ

รหัสวชิ า อ๑6๑๐๑
เวลา 8๐ ชั่วโมง/ปี

ศึกษา เรียนรู๎ ภาษาทําทาง คาแนะนา ข๎อความ นิทาน บทกลอน การใช๎พจนานุกรม
หลักการอํานออกเสียง ประโยคหรือข๎อความ สัญลักษณ์ เคร่ืองหมายและความหมายเกี่ยวกับตนเอง
ครอบครัว โรงเรียน สง่ิ แวดล๎อม อาหารเครอ่ื งด่ืม เวลาวาํ งและนนั ทนาการ สุขภาพและสวัสดกิ าร การซื้อ
ขาย ลมฟูาอากาศ และเป็นวงคาศัพท์สะสมประมาณ 1,050-1,200 คา ประโยค บทสนทนา นิทาน
หรือเร่ืองเลํา คาถามเกี่ยวกับใจความสาคัญของเรื่อง บทสนทนาที่ใช๎ในการกลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ
ชมเชย การพูดแทรกอยํางสุภาพ คาส่ัง คาขอร๎อง คาขออนุญาตและคาแนะนาที่มี 2-3 ขั้นตอน
คาศัพท์ ประโยค ข๎อความ สานวนภาษา ที่ใช๎ขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง แนะนาตนเอง เพื่อน
บุคคลใกล๎ตัว บอกความต๎องการ ขอความชํวยเหลือ ตอบรับ ปฏิเสธการให๎ความชํวยเหลือ การพูด
แสดงความรู๎สึก แสดงความคิดเห็นและการให๎เหตุผลประกอบ คา กลํุมคา และประโยคที่มีความหมาย
สัมพันธ์กับภาพ แผนผัง แผนภูมิและตาราง การใช๎ถ๎อยคา น้าเสียงและกิริยาทําทางอยํางสุภาพ
เหมาะสม ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจ๎าของภาษา ข๎อมูล และความสาคัญของเทศกาล วัน
สาคัญ งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยํูของเจ๎าของภาษา กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม ความ
เหมอื น ความแตกตําง ระหวํางการออกเสียงประโยคชนิดตําง ๆ การใช๎เครื่องหมายวรรคตอนและการ
ลาดบั ตามโครงสรา๎ งประโยค ของภาษา ตํางประเทศและภาษาไทย เทศกาล งานฉลอง ประเพณี ของ
เจ๎าของภาษากับของไทย การค๎นคว๎า การรวบรวม และการนาเสนอคาศัพท์ ท่ีเก่ียวข๎องกับกลํุมสาระ
การเรียนรู๎อ่ืน การใช๎ภาษาส่ือสาร ในสถานการณ์ตําง ๆ ที่เกิดขึ้นในห๎องเรียนและสถานศึกษา การใช๎
ภาษาตาํ งประเทศในการสบื ค๎นและรวบรวมคาศพั ท์ทเี่ กย่ี วข๎องใกล๎ตวั

โดยใช๎ทักษะการส่ือสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม ทาทําทางประกอบ เข๎ารํวม
กิจกรรม ศึกษาค๎นคว๎า รวบรวม นาเสนอ และสืบค๎นข๎อมูล เพื่อให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเอง
ได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล บนพ้ืนฐานความเป็นไทย ใฝุเรียนรู๎ คํูคุณธรรม และน๎อมนาหลัก
ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

สาระทอ้ งถ่ิน
วัฒนธรรมทางอาหารและเคร่ืองดื่มพ้ืนบ๎าน วัฒนธรรมประเพณี สถานที่สาคัญและแหลํง

ทํองเที่ยว ในทอ๎ งถ่นิ การละเลํนพื้นบา๎ น และสินคา๎ ในทอ๎ งถ่นิ

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 128)

มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ป๖/๑ , ป๖/๒ , ป๖/๓ , ป๖/๔
ต ๑.๑ ป๖/๑ , ป๖/๒ , ป๖/๓ , ป๖/๔ , ป๖/๕
ต ๑.๒ ป๖/๑ , ป๖/๒ , ป๖/๓
ต ๑.๓ ป๖/๑ , ป๖/๒ , ป๖/๓
ต ๒.๑ ป๖/๑ , ป๖/๒
ต ๒.๒ ป๖/๑
ต ๓.๑ ป๖/๑
ต ๔.๑ ป๖/๑
ต ๔.๒

รวม ๘ มาตรฐาน ๒๐ ตัวชี้วดั

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 129)

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสาร รหสั วิชา อ๑12๐1
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 1 เวลา 12๐ ชั่วโมง/ปี

เข๎าใจคาส่ัง และใช๎คาส่ังในห๎องเรียน คาขอร๎อง ตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคา การ
อําน ออกเสียง คา กลมุํ คา ประโยคท่ีมีความหมายสัมพันธ์กับสิ่งตํางๆใกล๎ตัว อาหาร เครื่องดื่ม บทอําน
บท สนทนาด๎วยภาษางํายๆ ประโยค นิทานงํายๆ ที่มีภาพประกอบ การเลํานิทานประกอบทําทาง ให๎
ขอ๎ มลู และความต๎องการเก่ียวกับตนเองส้นั ๆ เชํน การพูดแนะนาตนเอง ขอบคุณ ขอโทษ เรียน ร๎ูคาศัพท์
เกี่ยวกับ เทศกาล ขนบธรรมเนียม ประเพณีเทศกาล งานฉลอง เห็นประโยชน์ในการเรียนร๎ูภาษาอังกฤษ
โดยสนใจ เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม และแสวงหาความร๎ูความเพลิดเพลินจาก
ภาษาอังกฤษ การ ร๎องเพลง เพ่ือให๎เกิดความรู๎ความเข๎าใจ สามารถส่ือสารส่ิงท่ีเรียนรู๎และนาความร๎ูไปใช๎
ประโยชน์ ในชีวิตประจาวัน เพื่อให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล
บนพ้นื ฐานความเปน็ ไทย ใฝเุ รียนร๎ู คํคู ณุ ธรรม และน๎อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. นกั เรียนสามารถใชค๎ าทักทาย คาอาลา และใช๎ทําทางประกอบได๎อยํางถูกต๎อง
๒. นกั เรียนเขา๎ ใจ และปฏบิ ัตติ ามคาสงั่ งาํ ยๆ ได๎
๓. นกั เรียนสามารถใหข๎ อ๎ มลู เกย่ี วกับตนเอง และขอ๎ มลู ของผูอ๎ น่ื ได๎
๔. นกั เรียนสามารถเขยี นและอาํ นออกเสยี งคาศัพท์ที่กาหนดให๎ได๎
๕. นักเรยี นสามารถสะกดคาศัพท์ไดถ๎ กู ต๎อง
๖. นักเรียนสามารถถาม-ตอบประโยคคาถามงาํ ยๆ ได๎

รวมทัง้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 130)

คาอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ

รายวชิ า ภาษาอังกฤษเพอ่ื การสือ่ สาร รหัสวิชา อ๑22๐1
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 12๐ ชว่ั โมง/ปี

ใช๎คาส่ังที่ใช๎ในห๎องเรียน ตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคา การอํานออกเสียงคา
กลํุมคา บทอําน บทสนทนา ประโยค ให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองคา ประโยคบทอําน บทสนทนา ประโยค
ให๎ข๎อมูล เกี่ยวกับตนเอง ข๎อความท่ีใช๎ในการพูดให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง และเร่ืองใกล๎ตัว คา ที่มี
ความหมายสัมพนั ธก์ ับ สิง่ ตํางๆ ใกล๎ตัว อาหาร เคร่อื งดม่ื วฒั นธรรมเจ๎าของภาษาแสดงกิริยา การขอบคุณ
ขอโทษ การพูดแนะนาตนเอง กิจกรรมทางภาษาการร๎องเพลง การใช๎ภาษาในการฟัง พูด อํานใน
สถานการณ์ท่ีเกิดข้ึนในห๎องเรียน สนใจ เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม และแสวงหาความร๎ู
ความเพลิดเพลินจากภาษาอังกฤษ เพื่อให๎เกิดความร๎ูความเข๎าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนรู๎และ นา
ความร๎ูไปใช๎ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน เพื่อให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตาม
มาตรฐานสากล บนพื้นฐานความเป็นไทย ใฝุเรียนร๎ู คํูคุณธรรม และน๎อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. นกั เรยี นสามารถใชค๎ าทักทาย คาอาลา และใช๎ทาํ ทางประกอบได๎อยํางถูกต๎อง
๒. นกั เรียนเข๎าใจ และปฏบิ ตั ิตามคาส่งั งํายๆ ได๎
๓. นกั เรียนสามารถใหข๎ ๎อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง และขอ๎ มลู ของผ๎ูอื่นได๎
๔. นกั เรยี นสามารถเขยี นและอํานออกเสยี งคาศัพท์ที่กาหนดให๎ได๎
๕. นกั เรียนสามารถสะกดคาศัพทไ์ ดถ๎ กู ต๎อง
๖. นกั เรียนสามารถถาม-ตอบประโยคคาถามงํายๆ ได๎

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 131)

คาอธบิ ายรายวชิ าเพิ่มเติม
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพือ่ การสือ่ สาร รหัสวชิ า อ๑32๐1
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 12๐ ชั่วโมง/ปี

ปฏิบัติตามคาส่ัง คาขอร๎อง ฟังและอํานตัวอักษร เสียงตัวอักษร สระ การสะกดคา การอําน
ออก เสียงคา กลุํมคา บทอาํ น บทสนทนา ประโยค ใหข๎ ๎อมูลเก่ียวกับตนเอง คา ประโยค บทอําน บท
สนทนา ประโยค ให๎ข๎อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง ข๎อความที่ใช๎ในการพูดให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเอง และเร่ืองใกล๎ตัว
คาท่ีมี ความหมายสัมพันธ์กับส่ิงตํางๆ ใกล๎ตัว เวลา สถานท่ี อาหาร เครื่องด่ืม วัฒนธรรมเจ๎าของภาษา
แสดงกิริยา การขอบคุณ ขอโทษ การพูดแนะนาตนเอง กิจกรรมทางภาษา การร๎องเพลง การใช๎ภาษาใน
การฟัง พูด อําน ในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในห๎องเรียน โดยใช๎กระบวนการสืบเสาะหาความร๎ูการสืบค๎น
ข๎อมลู และมที กั ษะ ทางสงั คม มีวิถีของระบอบประชาธิปไตย ซื่อสัตย์ ใฝุเรียนรู๎แสดงออกถึงความเป็นไทย
เพื่อให๎เกิดความรู๎ ความเข๎าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนร๎ูและนาความรู๎ไปใช๎ประโยชน์ในชีวิตประจาวัน
เพื่อให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มที่ตามมาตรฐานสากล บนพ้ืนฐานความเป็นไทย ใฝุ
เรยี นรู๎ คํูคุณธรรม และน๎อมนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นสามารถใชค๎ าทักทาย คาอาลา และใช๎ทําทางประกอบไดอ๎ ยาํ งถูกต๎อง
๒. นักเรียนเข๎าใจ และปฏิบตั ติ ามคาสง่ั งํายๆ ได๎
๓. นกั เรยี นสามารถใหข๎ อ๎ มลู เกย่ี วกับตนเอง และขอ๎ มูลของผอ๎ู ่ืนได๎
๔. นักเรยี นสามารถเขียนและอาํ นออกเสียงคาศัพท์ท่ีกาหนดให๎ได๎
๕. นกั เรยี นสามารถสะกดคาศพั ท์ได๎ถกู ต๎อง
๖. นกั เรียนสามารถถาม-ตอบประโยคคาถามงํายๆ ได๎

รวมทงั้ หมด ๖ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 132)

คาอธิบายรายวิชาเพมิ่ เตมิ
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ

รายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่ือการส่อื สาร รหัสวิชา อ๑42๐1
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 8๐ ชั่วโมง/ปี

เขา๎ ใจคาส่ัง คาขอร๎อง รูปประโยคและโครงสร๎างประโยค คา กลํุมคาและประโยค การ
ถํายโอนเป็น ภาพ สัญลักษณ์เรื่องราว บทอําน สนทนา เร่ืองส้ัน เรื่องเลํา นิทาน บทกลอนส้ันๆ การใช๎
ถ๎อยคา สานวนท่ีใช๎ ในเทศกาลในเร่ืองเสียงสระ พยัญชนะ คา วลี ประโยคและข๎อความท่ีซับซ๎อน
ประโยคเดี่ยวและประโยคผสม อํานออกเสียงคา กลํุมคา ประโยคข๎อความ บทอํานได๎ถูกต๎องตาม
หลักการออกเสียงและการใช๎ถ๎อยคา น้าเสียง การพูดเขียน โต๎ตอบในการส่ือสารระหวํางบุคคลใช๎คาสั่ง
คาขอร๎อง และให๎คาแนะนา แสดงความต๎องการแสดง ความร๎ูสึกแสดงความชํวยเหลือ ตอบรับและ
ปฏิเสธ ในสถานการณ์งํายๆ พูดเขียนเพ่ือขอและให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับ ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกล๎
ตัว ซึ่งอยูํในท๎องถิ่นของตน มีทักษะการใช๎ภาษาตํางประเทศ(เน๎นการฟัง พูด อําน เขียน) สนุกสนานและ
เพลิดเพลินจากกิจกรรมภาษาตํางประเทศ เห็นประโยชน์การเรียนภาษาตํางประเทศ ในการแสวงหา
ความร๎ูความบันเทิง และสนใจเข๎ารํวมกิจกรรม ทางภาษาและวัฒนธรรมมีความขยัน ซื่อสัตย์ อดทน
เสียสละและมีสมั มาคารวะ เพอื่ ใหส๎ ามารถเรียนร๎ูและพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล บน
พืน้ ฐานความเปน็ ไทย ใฝเุ รยี นร๎ู คคูํ ณุ ธรรม และนอ๎ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. นักเรยี นสามารถเขยี นและอํานออกเสยี งคาศัพท์ท่ีกาหนดให๎ได๎
๒. นักเรียนสามารถใหข๎ ๎อมลู เกยี่ วกบั ตนเอง และข๎อมูลของผูอ๎ นื่ ได๎
๓. นกั เรยี นเข๎าใจและปฏบิ ัตติ ามคาสั่งงํายๆ
๔. นกั เรียนสามารถสะกดคาศัพทไ์ ดถ๎ ูกต๎อง
๕. นักเรียนสามารถถาม-ตอบประโยคงาํ ยๆได๎
๖. นกั เรยี นเขา๎ ใจ คาส่ัง คาขอร๎อง ภาษาทาํ ทาง และคาแนะนาในสถานศึกษา
๗. นกั เรียนเข๎าใจบทสนทนาและบทความสัน้ ๆได๎
๘. นกั เรียนสามารถใช๎และเข๎าใจไวยากรณภ์ าษาองั กฤษพ้ืนฐานได๎

รวมทงั้ หมด ๘ ผลการเรียนรู้

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 133)

คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เตมิ
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ

รายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่อื การส่ือสาร รหัสวิชา อ๑52๐1
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เวลา 8๐ ชว่ั โมง/ปี

เข๎าใจคาส่ัง คาขอร๎อง รูปประโยคและโครงสร๎างประโยค คา กลํุมคา และ ประโยค การ
ถํายโอนเป็น ภาพ สัญลักษณ์ เร่ืองราว บทอําน บทสนทนา เรื่องสั้น เร่ืองเลํา นิทาน บทกลอนส้ันๆ การ
ใช๎ประโยคเด่ียว และ ประโยคผสม อํานออกเสียงคา กลุํมคา ประโยค ข๎อความ บทอํานได๎ถูกต๎องตาม
หลักการออกเสยี ง และการใช๎ ถ๎อยคา นา้ เสยี ง การพูด เขยี น โต๎ตอบในการสื่อสารระหวํางบุคคล ใช๎คาส่ัง
คาขอร๎อง และให๎คาแนะนา แสดงความต๎องการ แสดงความร๎ูสึก ขอความชํวยเหลือ ตอบรับ และ
ปฏเิ สธ ในสถานการณ์งํายๆ พูด เขียน เพื่อ ขอ และ ให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเรื่อง
ใกลต๎ วั ซ่ึงอยํูในทอ๎ งถ่ินของตน มีทักษะการใช๎ ภาษาตํางประเทศ (เน๎นการฟัง พูด อําน เขียน) สนุกสนาน
และ เพลิดเพลินจากกิจกรรมทางภาษาตํางประเทศ เห็นประโยชน์ของการเรียนร๎ูภาษา ตํางประเทศ ใน
การแสวงหาความรู๎ความบันเทิง และสนใจเข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรม มีความ ขยัน
ซ่ือสัตย์อดทน เสียสละ และมีสัมมาคารวะ เพื่อให๎สามารถเรียนร๎ูและพัฒนาตนเองได๎อยํางเต็มท่ีตาม
มาตรฐานสากล บนพ้ืนฐานความเป็นไทย ใฝุเรียนร๎ู คํูคุณธรรม และน๎อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ตั ิตามคาส่งั คาขอร๎องท่ฟี ัง
๒. อํานออกเสียงตัวอักษร คา กลุํมคา ประโยคงํายๆ และ บทพูดเข๎าจังหวะงํายๆ ถูกต๎องตาม

หลกั การอาํ น
๓. บอกความหมายของคาและกลํุมคาที่ฟังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรืออําน

ประโยค บทสนทนาหรอื นิทานงํายๆ
๔. พูดโตต๎ อบดว๎ ยคาส้นั ๆ งาํ ยๆ ในการสือ่ สารระหวํางบุคคลตามแบบท่ีฟัง ใชค๎ าสง่ั และคาขอร๎อง

งาํ ยๆ บอกความต๎องการงํายๆ ของตนเอง
๕. พดู ขอและให๎ข๎อมูลเกย่ี วกับตนเองและเพื่อน
๖. บอกความร๎สู กึ ของตนเองเก่ียวกับสิง่ ตาํ งๆ ใกล๎ตัวหรอื กิจกรรมตาํ งๆ ตามแบบที่ฟัง
๗. พูดให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องใกล๎ตัว จัดหมวดหมูํคาตามประเภทของบุคคล สัตว์และ

สงิ่ ของตามทีฟ่ ังหรืออําน
๘. พดู และทาทําประกอบ ตามมารยาทสังคม/วฒั นธรรมของเจา๎ ของภาษา
๙. บอกช่ือและคาศัพท์งํายๆ เก่ียวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยํูของ

เจ๎าของภาษา เขา๎ รํวมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมทีเ่ หมาะกับวยั
๑๐.บอกความแตกตํางของเสียงตัวอักษร คา กลํุมคา และประโยคงํายๆ ของภาษาอังกฤษและ

ภาษาไทย
๑๑. ฟงั /พูดในสถานการณง์ าํ ยๆ ที่เกดิ ขนึ้ ในห๎องเรยี น

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 134)

๑๒. ใชภ๎ าษาอังกฤษเพื่อรวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวข๎องใกลต๎ ัว
๑๓. มที ักษะการใช๎ภาษาอังกฤษ (เน๎นการฟัง-พดู ) สือ่ สารตามหัวเร่อื งเก่ยี วกับตนเองครอบครัว
โรงเรียน ส่ิงแวดล๎อมใกล๎ตัว อาหาร เคร่ืองด่ืมและเวลาวํางและนันทนาการ ภายในวงคาศัพท์ประมาณ
๓๐๐-๔๕๐ คา (คาศพั ทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรม)
๑๔. ใช๎ประโยคคาเดียว (One Word Sentence) ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ในการ
สนทนาโต๎ตอบ ตามสถานการณ์ในชีวติ ประจาวนั
รวมทั้งหมด ๑๔ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 135)

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่มิ เติม
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

รายวิชา ภาษาอังกฤษเพ่อื การสือ่ สาร รหสั วชิ า อ๑62๐1
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 6 เวลา 8๐ ชวั่ โมง/ปี

เข๎าใจคาสงั่ คาขอรอ๎ ง รูปประโยคและโครงสรา๎ งประโยค คา กลํมุ คา และประโยค การถํายโอน
เป็น ภาพ สญั ลักษณเ์ รอื่ งราว บทอําน บทสนทนา เรื่องสั้น เร่ืองเลํา นิทาน บทกลอนสั้นๆ การใช๎ถ๎อยคา
สานวน ท่ใี ช๎ในเทศกาล ในเร่ืองเสยี ง สระ พยญั ชนะ คา วลีประโยค และ ข๎อความท่ีซับซ๎อนประโยคเดี่ยว
และ ประโยคผสม อํานออกเสียงคา กลํุมคา ประโยค ข๎อความ บทอํานได๎ถูกต๎องตามหลักการออกเสียง
และการใช๎ถ๎อยคา น้าเสียง การพูด เขียน โต๎ตอบในการส่ือสารระหวํางบุคคล ใช๎คาส่ัง คาขอร๎อง และให๎
คาแนะนา แสดงความต๎องการ แสดงความรู๎สึก ขอความชํวยเหลือ ตอบรับ และ ปฏิเสธ ในสถานการณ์
งํายๆ พูด เขียน เพ่ือขอ และ ให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัว และเร่ืองใกล๎ตัวซึ่งอยํูในท๎องถิ่น
ของตน มีทักษะ การใช๎ภาษาตํางประเทศ (เน๎นการฟัง พูด อําน เขียน) สนุกสนาน และ เพลิดเพลินจาก
กิจกรรมทางภาษาตํางประเทศ เห็นประโยชน์ของการเรียนร๎ูภาษา ตํางประเทศ ในการแสวงหาความรู๎
ความบันเทิง และสนใจเข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษา และวัฒนธรรม มีความ ขยัน ซื่อสัตย์อดทน เสียสละ
และมีสัมมาคารวะ เพ่ือให๎สามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเอง ได๎อยํางเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล
บนพืน้ ฐานความเป็นไทย ใฝุเรยี นรู๎ คคํู ณุ ธรรม และนอ๎ มนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบัตติ ามคาส่ัง คาขอรอ๎ งทฟี่ งั
๒. อํานออกเสียงตัวอักษร คา กลุํมคา ประโยคงํายๆ และ บทพูดเข๎าจังหวะงํายๆ ถูกต๎องตาม

หลกั การอําน
๓. บอกความหมายของคาและกลํุมคาท่ีฟังตรงตามความหมาย ตอบคาถามจากการฟังหรืออําน

ประโยค บทสนทนาหรือนิทานงาํ ยๆ
๔. พดู โต๎ตอบดว๎ ยคาส้ันๆ งํายๆ ในการสอ่ื สารระหวาํ งบคุ คลตามแบบทีฟ่ ัง ใชค๎ าส่ังและคาขอร๎อง

งํายๆ บอกความต๎องการงาํ ยๆ ของตนเอง
๕. พูดขอและให๎ข๎อมลู เกี่ยวกับตนเองและเพื่อน
๖. บอกความรส๎ู กึ ของตนเองเก่ียวกับสิง่ ตาํ งๆ ใกลต๎ ัวหรือกิจกรรมตาํ งๆ ตามแบบที่ฟงั
๗. พูดให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองและเรื่องใกล๎ตัว จัดหมวดหมํูคาตามประเภทของบุคคล สัตว์และ

ส่งิ ของตามทฟี่ งั หรืออาํ น
๘. พูดและทาทําประกอบ ตามมารยาทสงั คม/วัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา
๙. บอกช่ือและคาศัพท์งํายๆ เกี่ยวกับเทศกาล/วันสาคัญ/งานฉลอง และชีวิตความเป็นอยํูของ

เจ๎าของภาษา เขา๎ รวํ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท่ีเหมาะกับวัย
๑๐.บอกความแตกตํางของเสียงตัวอักษร คา กลํุมคา และประโยคงํายๆ ของภาษาอังกฤษและ

ภาษาไทย
๑๑. ฟัง/พดู ในสถานการณง์ าํ ยๆ ทเ่ี กิดข้นึ ในห๎องเรยี น

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 136)

๑๒. ใชภ๎ าษาอังกฤษเพื่อรวบรวมคาศพั ทท์ ี่เก่ียวข๎องใกลต๎ ัว
๑๓. มที ักษะการใช๎ภาษาอังกฤษ (เน๎นการฟัง-พดู ) สือ่ สารตามหัวเร่อื งเก่ียวกบั ตนเองครอบครัว
โรงเรียน ส่ิงแวดล๎อมใกล๎ตัว อาหาร เคร่ืองด่ืมและเวลาวํางและนันทนาการ ภายในวงคาศัพท์ประมาณ
๓๐๐-๔๕๐ คา (คาศพั ทท์ เี่ ปน็ รปู ธรรม)
๑๔. ใช๎ประโยคคาเดียว (One Word Sentence) ประโยคเดี่ยว (Simple Sentence) ในการ
สนทนาโต๎ตอบ ตามสถานการณ์ในชีวติ ประจาวนั
รวมทั้งหมด ๑๔ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 137)

รายวิชา ภาษาจนี คาอธิบายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

รหสั วิชา จ๑12๐1
เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี

ศึกษาเรียนร๎ู คาส่ังในห๎องเรียน หลักการออกเสียง พยัญชนะ สระเด่ียวและวรรณยุกต์ การ
ประสมเสียง การสะกดคา กลํุมคาและประโยคที่มีความหมายเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน
สงิ่ แวดล๎อมใกล๎ตวั อาหารและเคร่อื งดม่ื ภายในคาศัพทป์ ระมาณ ๕๐-๑๐๐ คา ประโยคบทสนทนาและ
นิทานท่มี ภี าพประกอบ บทสนทนาท่ีใช๎ในการทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยคหรือข๎อความท่ี
ใช๎แนะนาตนเอง คาศัพท์ กลุมํ คาและประโยคทใี่ ช๎ในการพูดให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องใกล๎ตัว เชํน
บอกชื่อ อายุ สิ่งตํางๆ ตัวเลข สี ขนาด เวลา ตาแหนํงของส่ิงของ การทักทายอยํางสุภาพ บอกช่ือและ
คาศัพท์เก่ียวกับเทศกาลสาคัญของจีน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีน บอกความแตกตําง
ระหวํางตัวอักษรจีน สัทอักษรพินอินกับตัวอักษรไทย ความเหมือนและความแตกตํางระหวํางวัฒนธรรม
การทักทายของจีนและของไทย บอกคาศัพท์เกี่ยวข๎องกับกลุํมสาระอื่น ฟังหรือพูดในสถานการณ์งํายๆ
ทีเ่ กิดขึน้ ในหอ๎ งเรียนและมาประยุกต์ใช๎ในสถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลอง การใช๎ภาษาจีนในการ
รวบรวมคาศัพท์ท่เี กย่ี วขอ๎ งกบั สงิ่ ใกล๎ตัวจากส่อื ตํางๆ

โดยใช๎ทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบและเข๎า
รํวมกจิ กรรม เพือ่ ให๎เกิดความร๎ู ความคดิ ความเขา๎ ใจ สามารถนาเสนอส่ือสารสิ่งท่เี รียนรู๎

ใฝุร๎ู ใฝุเรียน มีเจตคติที่ดีตํอการใช๎ภาษาตํางประเทศ มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ
เจา๎ ของภาษา เพ่อื ใหส๎ ามารถเรียนรแ๎ู ละพฒั นาตนเอง ไดอ๎ ยาํ งเต็มทต่ี ามมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
๑. เข๎าใจภาษาทําทาง และปฏิบตั ิตาม คาสงั่ งาํ ยๆทฟี่ ังได๎
๒. มีความเข๎าใจสามารถบอกความหมายของคา กลํมุ คา และประโยค ได๎
๓. เข๎าใจความแตกตํางระหวํางภาษาจีนกับภาษาไทย ในเร่ือง เสียง สระ พยัญชนะ คา วลีและ

ประโยคและนาไปใช๎ในสถานการณต์ ํางๆได๎อยํางเหมาะสม
๔. พดู ทักทาย แนะนาตนเอง กลาํ วลา กลําวขอบคุณ และขอโทษไดเ๎ หมาะสม
๕. ตอบคาถามจากการฟงั บทสนทนา หรอื นทิ านงาํ ยๆที่มภี าพประกอบได๎
๖. สามารถพดู ใหข๎ อ๎ มลู เกย่ี วกับตนเองและเรอ่ื งใกลต๎ ัวได๎
๗. สนใจรวํ มกจิ กรรมวนั สาคัญตํางๆ ทางประเพณวี ฒั นธรรมของเจา๎ ของภาษา

รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรียนรู้

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 138)

รายวิชา ภาษาจีน คาอธิบายรายวชิ าเพ่มิ เตมิ
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 2 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ

รหสั วิชา จ๑22๐1
เวลา 4๐ ชัว่ โมง/ปี

ศึกษาเรียนรู๎ คาสั่งและคาขอร๎องท่ีใช๎ในห๎องเรียน หลักการออกเสียง การประสมเสียง
พยัญชนะสระเด่ียว สระประสมและวรรณยุกต์ ตัวอักษรจีน คาศัพท์และประโยคงํายๆ คา กลุํมคา
ประโยคความเดียวท่ีมีความหมายเก่ียวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล๎อมใกล๎ตัว อาหารและ
เครอ่ื งด่มื คาศพั ท์สะสม ๑๕๐-๒๐๐ คา ตอบคาถามจากการฟังหรอื อํานประโยค บทสนทนาหรือนิทานที่
มภี าพประกอบ พูดโต๎ตอบด๎วยคาส้ันๆ บทสนทนาที่ใช๎ในการทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยค
หรือข๎อความท่ีใช๎แนะนาตนเอง บอกความต๎องการโดยใช๎คาศัพท์ กลุํมคางํายๆ ใช๎คา กลํุมคาและ
ประโยคท่ใี ช๎ขอและให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเอง บุคคลใกล๎ตัวและเรื่องใกล๎ตัว การทักทาย การแนะนาตนเอง
อยํางสุภาพ บอกช่ือและคาศัพท์เก่ียวกับเทศกาลสาคัญของจีน กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีน
ระบตุ วั อักษรจีน คา ความหมาย สัทอักษรพินอินและการออกเสียง คาศัพท์ท่ีเก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการ
เรียนรู๎อื่น นาคา กลํุมคา ประโยคและบทสนทนาที่ได๎เรียนรู๎มาประยุกต์ใช๎ในสถานการณ์จริงหรือ
สถานการณ์จาลอง การใช๎ภาษาจนี ในการรวบรวมคาศัพท์ที่เกยี่ วข๎องกบั สงิ่ ใกลต๎ ัวจากส่ือตาํ งๆ

โดยใช๎ทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบและ
เข๎ารวํ มกิจกรรม เพ่ือให๎เกิดความร๎ู ความคิด ความเขา๎ ใจ สามารถนาเสนอสอ่ื สารส่ิงท่ีเรยี นร๎ู

ใฝุร๎ู ใฝุเรียน มีเจตคติท่ีดีตํอการใช๎ภาษาตํางประเทศ มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ
เจา๎ ของภาษา เพ่อื ใหส๎ ามารถเรียนรแ๎ู ละพัฒนาตนเอง ได๎อยาํ งเต็มท่ีตามมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
๑. เข๎าใจภาษาทาํ ทาง และปฏบิ ัตติ าม คาสัง่ งาํ ยๆทีฟ่ ังได๎
๒. มีความเข๎าใจสามารถบอกความหมายของคา กลํมุ คา และประโยค ได๎
๓. เข๎าใจความแตกตํางระหวํางภาษาจีนกับภาษาไทย ในเรื่อง เสียง สระ พยัญชนะ คา วลีและ

ประโยคและนาไปใชใ๎ นสถานการณ์ตาํ งๆไดอ๎ ยํางเหมาะสม
๔. พดู ทักทาย แนะนาตนเอง กลาํ วลา กลาํ วขอบคณุ และขอโทษไดเ๎ หมาะสม
๕. ตอบคาถามจากการฟังบทสนทนา หรือนิทานงาํ ยๆที่มีภาพประกอบได๎
๖. สามารถพดู ใหข๎ ๎อมูลเกยี่ วกบั ตนเองและเรอื่ งใกลต๎ วั ได๎
๗. สนใจรํวมกิจกรรมวันสาคญั ตํางๆ ทางประเพณีวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา

รวมท้ังหมด ๗ ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 139)

รายวิชา ภาษาจนี คาอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

รหสั วิชา จ๑32๐1
เวลา 4๐ ชวั่ โมง/ปี

ศกึ ษาเรียนร๎คู าส่งั คาขอร๎องทีใ่ ช๎ในหอ๎ งเรยี น หลักการออกเสียงพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และ
พยางค์ เสียงเน๎นหนัก – เบาในคา กลุํมคาตามระดับเสียงสูงต่า ระบุภาพตรงตามความหมายของคา
กลํุมคา ประโยคความเดียว สัญลักษณ์ท่ีมีความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน สิ่งแวดล๎อม
ใกลต๎ วั อาหาร เคร่ืองด่ืม เสื้อผ๎าและนันทนาการ คาศัพท์สะสม ๒๕๐-๓๐๐ คา ตอบคาถามจากการฟัง
หรืออํานประโยค บทสนทนาหรือนิทานท่ีมีภาพประกอบ พูดโต๎ตอบด๎วยคาส้ันๆ ตามบทสนทนาท่ีใช๎ใน
การทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยคหรือข๎อความท่ีใช๎ในการแนะนาตนเอง บอกความ
ตอ๎ งการงาํ ยๆ บอกความรู๎สึกของตนเองโดยใช๎คา กลํุมคาหรือประโยคท่ีแสดงความต๎องการ พูดให๎ข๎อมูล
เกย่ี วกับตนเองหรอื เรอื่ งใกล๎ตัว จดั หมวดหมคูํ าท่มี ีความหมายเกีย่ วกับบุคคล สตั ว์ สิง่ ของและอื่นๆ ตามที่
ได๎เรยี นมา บอกช่ือและคาศพั ทเ์ กี่ยวกับเทศกาลสาคัญของจีน เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
ของจีน ระบุตัวอักษรจีน คา กลุํมคา และความหมาย สัทอักษรพินอินและการออกเสียง คาศัพท์ที่
เก่ียวข๎องกับกลุํมสาระการเรียนรู๎อื่น นาคา กลุํมคา ประโยคและบทสนทนาที่ได๎เรียนร๎ูมาประยุกต์ใช๎ใน
สถานการณ์จริงหรือสถานการณ์จาลอง การใช๎ภาษาจีนในการรวบรวมคาศัพท์ที่เก่ียวข๎องกับส่ิงใกล๎ตัว
จากสอ่ื ตาํ งๆ

โดยใช๎ทักษะการส่ือสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบและเข๎า
รํวมกิจกรรม เพ่ือใหเ๎ กดิ ความรู๎ ความคดิ ความเขา๎ ใจ สามารถนาเสนอสอื่ สารส่ิงทเ่ี รยี นร๎ู

ใฝุรู๎ ใฝุเรียน มีเจตคติที่ดีตํอการใช๎ภาษาตํางประเทศ มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ
เจา๎ ของภาษา เพื่อให๎สามารถเรียนร๎แู ละพฒั นาตนเอง ได๎อยํางเตม็ ท่ตี ามมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
๑. เขา๎ ใจภาษาทําทางปฏบิ ัติตามคาส่งั และคาขอร๎องที่ฟังได๎
๒. มีความเข๎าใจสามารถอาํ นออกเสยี งคา กลุํมคา ประโยค บทฝึกออกเสยี งงํายๆตามหลักการ

ออกเสียง
๓. เข๎าใจความแตกตาํ งระหวาํ งภาษาจีนกับภาษาไทย ในเร่อื ง เสยี ง สระ พยญั ชนะ คา วลีและ

ประโย และนาไปใชใ๎ นสถานการณต์ ํางๆไดอ๎ ยํางเหมาะสม
๔. พดู ทกั ทาย แนะนาตนเอง กลาํ วลา กลําวขอบคุณ และขอโทษไดเ๎ หมาะสม
๕. ตอบคาถามจากการฟงั บทสนทนา หรือนิทานงํายๆทมี่ ภี าพประกอบได๎
๖. สามารถพดู โต๎ตอบ ด๎วยคาสนั้ ๆ งาํ ยๆ ได๎
๗. สามารถบอกความต๎องการงาํ ยๆ ของตนเองได๎
๘. สนใจรวํ มกิจกรรมวันสาคญั ตํางๆ ทางประเพณวี ัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา

รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 140)

รายวชิ า ภาษาจนี คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเตมิ
ชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

รหสั วิชา จ๑42๐1
เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี

ศึกษา เรียนรู๎คาส่ัง คาขอร๎อง และคาแนะนาท่ีใช๎ในห๎องเรียน หลักการประสมเสียง อํานออก
เสียงคา กลุํมคา ประโยค ข๎อความและบทฝึกออกเสียง ระบุภาพตรงตามความหมายของคา กลุํมคา
ประโยคความเดียว สัญลักษณ์ เครื่องเหมายท่ีมีความหมายเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร
ส่งิ แวดลอ๎ มใกล๎ตัว เคร่ืองดื่ม งานอดเิ รก นันทนาการ คาศพั ทส์ ะสม ๓๐๐-๔๐๐ คา ตอบคาถามจากการ
ฟงั และอาํ นประโยค บทสนทนา นทิ าน ทม่ี ภี าพประกอบ คาถามเกยี่ วกับใจความสาคัญของเรื่อง พูดหรือ
เขียนโตต๎ อบในการส่อื สาร บทสนทนาท่ีใช๎ในการทกั ทาย กลําวลา ขอบคณุ ขอโทษ ประโยคข๎อความท่ีใช๎
แนะนาตนเอง เพ่ือนและบุคคลใกล๎ตัว พูดหรือเขียนแสดงความต๎องการ เพ่ือขอและให๎ข๎อมูลเก่ียวกับ
ตนเอง เพื่อน ครอบครัวและสิ่งใกล๎ตัว พูดหรือแสดงความร๎ูสึกของตนเอง โดยใช๎ประโยคและสานวน
ภาษาที่ใช๎แสดงความต๎องการ การให๎ข๎อมูลและการแสดงความร๎ูสึกของตนเอง วาดภาพแสดง
ความสัมพันธ์ของส่ิงตํางๆ ใกล๎ตัวที่ฟังหรืออําน การทักทายการแสดงออกอยํางสุภาพตามมารยาทสังคม
บอกคาศัพท์และข๎อมูลเกี่ยวกับเทศกาล วันสาคัญ กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมของจีน บอกความ
เหมือนและความแตกตาํ งของเสียงตัวอักษร คา กลํุมคา ประโยค และข๎อความของภาษาจีนกับภาษาไทย
ความแตกตํางระหวํางเทศกาลและงานฉลองตามวัฒนธรรมของจีนกับของไทย บอกคาศัพท์ท่ีเก่ียวข๎องกับ
กลมํุ สาระการเรียนรอ๎ู ่ืน การใช๎ภาษาจีนในการรวบรวมคาศพั ท์ทเี่ ก่ยี วขอ๎ งกับสง่ิ ใกล๎ตัวจากสือ่ ตํางๆ

โดยใช๎ทักษะการส่ือสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบและเข๎า
รวํ มกิจกรรม เพือ่ ใหเ๎ กิดความรู๎ ความคดิ ความเขา๎ ใจ สามารถนาเสนอสื่อสารส่ิงทเี่ รยี นรู๎

ใฝุร๎ู ใฝุเรียน มีเจตคติที่ดีตํอการใช๎ภาษาตํางประเทศ มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ
เจ๎าของภาษา เพอ่ื ใหส๎ ามารถเรียนรู๎และพัฒนาตนเอง ไดอ๎ ยํางเตม็ ทต่ี ามมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
๑. เข๎าใจภาษาทําทาง ปฏิบัติตามคาส่ัง และคาขอร๎องที่ฟังได๎
๒. มคี วามเขา๎ ใจสามารถอาํ นออกเสียงคา กลมํุ คา ประโยค บทฝึกออกเสยี งงํายๆตามหลักการ

ออกเสียง
๓. เข๎าใจความแตกตํางระหวํางภาษาจนี กบั ภาษาไทย ในเร่อื ง เสียง สระ พยญั ชนะ คา วลีและ

ประโยคและนาไปใชใ๎ นสถานการณต์ าํ งๆได๎อยํางเหมาะสม
๔. พูดทกั ทาย แนะนาตนเอง กลาํ วลา กลาํ วขอบคุณ และขอโทษได๎เหมาะสม
๕. ตอบคาถามจากการฟงั บทสนทนา หรือนทิ านงาํ ยๆท่ีมีภาพประกอบได๎
๖. สามารถพดู โต๎ตอบ ด๎วยคาสนั้ ๆ งํายๆ ได๎
๗. สามารถบอกความต๎องการงํายๆ ของตนเองได๎
๘. สนใจรํวมกิจกรรมวันสาคญั ตํางๆ ทางประเพณีวัฒนธรรมของเจ๎าของภาษา

รวมทั้งหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 141)

รายวิชา ภาษาจีน คาอธบิ ายรายวิชาเพิม่ เติม
ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ

รหสั วชิ า จ๑52๐1
เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี

ศึกษา เรียนรค๎ู าสง่ั คาขอร๎องและคาแนะนาทีใ่ ช๎ในห๎องเรียน อํานออกเสียงประโยค ข๎อความ
และบทกลอนสนั้ ๆ ระบภุ าพตรงตามความหมายของกลํุมคา ประโยค ข๎อความ สัญลักษณ์ เครื่องหมายท่ี
มีความเก่ียวข๎องกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน ส่ิงแวดล๎อม อาหาร เครื่องดื่ม งานอดิเรก สุขภาพ
นันทนาการ การซื้อขาย คาศัพท์สะสม ๔๐๐-๕๐๐ คา บอกใจความสาคัญและตอบคาถามจากการฟัง
และอํานประโยค บทสนทนา นิทานงํายๆ หรอื เรอื่ งส้นั ๆ พูดหรอื เขียนโต๎ตอบในการสื่อสาร บทสนทนาท่ี
ใช๎ในการทักทาย กลําวลา ขอบคุณ ขอโทษ ประโยคหรือข๎อความท่ีใช๎แนะนาตนเอง เพ่ือนและบุคคลใกล๎
ตัว พูดหรือเขียนแสดงความต๎องการ ขอความชํวยเหลือ ให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพ่ือน ครอบครัว
เขียนแสดงความรส๎ู ึกของตนเองเก่ยี วกับเร่ืองใกล๎ตัวและกิจกรรมตํางๆ โดยใช๎ประโยคและสานวนภาษาที่
ใช๎แสดงความต๎องการ แสดงความร๎ูสึก การให๎ข๎อมูลเกี่ยวกับตนเองและเร่ืองใกล๎ตัว ระบุภาพ กลุํมคา
ประโยคท่ีแสดงข๎อมูลของเรื่องตํางๆ ท่ีมีความหมายสัมพันธ์กับภาพ พูดแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ
กิจกรรมหรือเรื่องใกล๎ตัว ใช๎ถ๎อยคา น้าเสียงและกิริยาทําทางตามมารยาทสังคม บอกข๎อมูลและ
ความสาคัญของเทศกาล วันสาคญั งานฉลองและชวี ิตความเป็นอยูํของจีน เขา๎ รํวมกิจกรรมทางภาษาและ
วัฒนธรรมจีน บอกคาศัพท์ท่ีเกี่ยวข๎องกับกลํุมสาระการเรียนร๎ูอื่น นาคาศัพท์ ประโยคและบทสนทนาท่ี
ได๎ร๎ูเรียนมาประยุกต์ใชต๎ ามสถานการณ์จริง การใช๎ภาษาจีนในการสืบค๎นและรวบรวมคาศัพท์ที่เก่ียวข๎อง
กบั ส่ิงใกลต๎ วั จากส่ือตาํ งๆ

โดยใช๎ทักษะการส่ือสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบและเข๎า
รํวมกิจกรรม เพอ่ื ให๎เกดิ ความร๎ู ความคดิ ความเขา๎ ใจ สามารถนาเสนอสือ่ สารส่งิ ท่ีเรยี นรู๎

ใฝุรู๎ ใฝุเรียน มีเจตคติท่ีดีตํอการใช๎ภาษาตํางประเทศ มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ
เจา๎ ของภาษา

ผลการเรยี นรู้
๑. ปฏบิ ัติตามคาส่ัง คาขอร๎อง และคาแนะนางํายๆ ท่ีฟังและอาํ น ได๎
๒. อํานออกเสยี งประโยค ขอ๎ ความ และบทกลอนส้ันๆ ตามหลักการออกเสียงได๎
๓. เข๎าใจความแตกตํางระหวํางภาษาจนี กับภาษาไทย ในเร่ือง เสยี ง สระ พยญั ชนะ คา วลีและ

ประโยคและนาไปใชใ๎ นสถานการณต์ าํ งๆได๎อยาํ งเหมาะสม
๔. ตอบคาถามจากการฟงั และอํานบทนทนา นิทานงํายๆ หรอื เรอ่ื งสนั้ ๆได๎
๕. พดู หรอื เขยี นเพื่อขอ และให๎ขอ๎ มลู เกีย่ วกับตนเอง เพื่อน ครอบครวั และเร่อื งใกลต๎ ัวได๎
๖. พดู แสดงความรส๎ู ึกของตนเองเก่ียวกับเร่อื งใกลต๎ ัวและกิจกรรมตาํ งๆได๎
๗. สนใจรํวมกิจกรรมวนั สาคัญตํางๆ ทางประเพณีวฒั นธรรมของเจา๎ ของภาษา
๘. บอกความเหมือนและความแตกตํางของเทศกาล งานฉลองตามวัฒนธรรมของจนี และไทยได๎

รวมท้ังหมด ๘ ผลการเรยี นรู้

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 142)

รายวิชา ภาษาจนี คาอธิบายรายวิชาเพม่ิ เติม
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ

รหัสวิชา จ๑62๐1
เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี

ศึกษา เรียนรู๎คาสั่ง คาขอร๎องและคาแนะนาท่ีใช๎ในห๎องเรียน อํานออกเสียงข๎อความ นิทาน
และบทกลอน ระบุประโยค ข๎อความ สัญลักษณ์ เคร่ืองหมายที่มีความเก่ียวข๎องกับตนเอง ครอบครัว
โรงเรียน สิ่งแวดล๎อม อาหาร เคร่ืองดื่ม งานอดิเรก นันทนาการ สุขภาพ สวัสดิการ การซื้อ - ขาย และ
ลม ฟูา อากาศ คาศัพท์สะสม ๕๐๐-๖๐๐ คา บอกใจความสาคัญและอบคาถามจากการฟังประโยค บท
สนทนา นิทาน เร่ืองเลํา พูดหรือเขียนโต๎ตอบในการสื่อสารในบทสนทนาท่ีใช๎ในการทักทาย กลําวลา
ขอบคุณ ขอโทษ ประโยคทใี่ ช๎แนะนาตนเอง เพอ่ื นและบุคคลใกล๎ตัว พูดหรือเขียนแสดงความต๎องการขอ
ความชํวยเหลือ ให๎ข๎อมูลเก่ียวกับตนเอง เพื่อน ครอบครัวและเรื่องใกล๎ตัว แสดงความร๎ูสึกของตนเอง
เกย่ี วกบั เร่ืองใกล๎ตัว โดยใช๎ประโยคและสานวนภาษาท่ีใช๎แสดงความต๎องการ การขอความชํวยเหลือและ
การแสดงความรู๎สึก ใช๎ถ๎อยคา น้าเสียงและกิริยาทําทางตามมารยาทสังคม บอกข๎อมูลและความสาคัญ
ของเทศกาล วนั สาคัญ งานฉลองและชีวิตความเป็นอยูํของจีน เข๎ารํวมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม
จนี บอกความเหมอื นและความแตกตาํ งระหวาํ งการออกเสยี งประโยคชนดิ ตํางๆ การใช๎เคร่ืองหมายวรรค
ตอน การลาดับคาตามโครงสร๎างของภาษาจีนกับภาษาไทย บอกคาศัพท์ที่เก่ียวข๎องกับกลํุมสาระการ
เรียนร๎ูอื่น นาคาศัพท์ ประโยคและบทสนทนาท่ีได๎ร๎ูเรียนมาประยุกต์ใช๎ตามสถานการณ์จริง การใช๎
ภาษาจีนในการสบื ค๎นและรวบรวมคาศพั ท์ที่เก่ยี วข๎องกับสิ่งใกล๎ตัวจากสือ่ ตาํ งๆ

โดยใช๎ทักษะการสื่อสาร ฝึกปฏิบัติ เลือก ระบุ ตอบคาถาม รวบรวม ทาทําทางประกอบและเข๎า
รํวมกจิ กรรม เพอื่ ให๎เกิดความรู๎ ความคิด ความเข๎าใจ สามารถนาเสนอส่อื สารสง่ิ ทเี่ รียนร๎ู

ใฝุร๎ู ใฝุเรียน มีเจตคติที่ดีตํอการใช๎ภาษาตํางประเทศ มารยาททางสังคมและวัฒนธรรมของ
เจ๎าของภาษา

ผลการเรียนรู้
๑. ปฏิบตั ติ ามคาส่ัง คาขอรอ๎ ง และคาแนะนางาํ ยๆ ทฟ่ี งั และอําน ได๎
๒. อาํ นออกเสยี งประโยค ขอ๎ ความ และบทกลอนสนั้ ๆ ตามหลกั การออกเสยี งได๎
๓. เข๎าใจความแตกตํางระหวํางภาษาจีนกับภาษาไทย ในเรื่อง เสียง สระ พยัญชนะ คา วลีและ

ประโยคและนาไปใช๎ในสถานการณต์ ํางๆไดอ๎ ยํางเหมาะสม
๔. ตอบคาถามจากการฟงั และอํานบทนทนา นทิ านงาํ ยๆ หรอื เรื่องสนั้ ๆได๎
๕. พูดหรือเขยี นเพอื่ ขอ และใหข๎ ๎อมูลเกี่ยวกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และเรอ่ื งใกล๎ตัวได๎
๖. พูดแสดงความร๎สู กึ ของตนเองเกย่ี วกับเรือ่ งใกล๎ตวั และกจิ กรรมตํางๆได๎
๗. สนใจรํวมกจิ กรรมวันสาคญั ตํางๆ ทางประเพณวี ัฒนธรรมของเจา๎ ของภาษา
๘. บอกความเหมือนและความแตกตํางของเทศกาล งานฉลองตามวัฒนธรรมของจนี และไทยได๎

รวมทง้ั หมด ๘ ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 143)

คาอธิบายรายวชิ าเพม่ิ เติมตามจุดเนน้ แนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

รายวชิ าเพม่ิ เตมิ

ช้ัน I11201 รายวิชา จานวนชว่ั โมง/ปี
ป. 1 I12201 การศกึ ษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 2 I13201 การศกึ ษาค๎นควา๎ ด๎วยตนเอง จานวน 40 ชั่วโมง/ปี
ป. 3 I14201 การศึกษาค๎นควา๎ ด๎วยตนเอง จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 4 I15201 การศกึ ษาค๎นควา๎ ดว๎ ยตนเอง จานวน 40 ชว่ั โมง/ปี
ป. 5 I16201 การศกึ ษาคน๎ ควา๎ ดว๎ ยตนเอง จานวน 40 ชวั่ โมง/ปี
ป. 6 การศึกษาค๎นคว๎าดว๎ ยตนเอง จานวน 40 ชั่วโมง/ปี

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 144)

คาอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม
ตามจุดเนน้ แนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

รายวิชา การศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง รหสั วิชา I๑12๐1
ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลา 4๐ ช่ัวโมง/ปี

ฝึกทักษะการสังเกต การรับรู๎ สภาพแวดล๎อมและปัญหาเกี่ยวกับเรื่องราวงํายๆ สิ่งแวดล๎อม
และบุคคลใกล๎ตัวท่ีกาหนดให๎ (Knowledge Issue) การคิดวิเคราะห์ การค๎นคว๎าและแสวงหาความรู๎
ตั้งประเด็นความรู๎/คาถาม กาหนดขอบเขต ตั้งสมมติฐาน แสวงหาข๎อมูล คาตอบ ตามจินตนากร
ตามความรูแ๎ ละประสบการณข์ องตนหรือแหลํงศกึ ษาคน๎ คว๎าใกล๎ตัว ออกแบบวางแผนรวบรวม วิเคราะห์
ข๎อมูลจากการสืบค๎น จัดกระทาข๎อมูลอยํางงํายและสรุปประเด็นความรู๎จากข๎อคิดสาคัญ โดยใช๎
กระบวนการคิด การต้ังคาถามหรือการสอบถาม สืบค๎นคว๎า สืบค๎นข๎อมูลคาตอบ กระบวนการปฏิบัติ
เพอื่ ให๎เกิดทักษะในการค๎นคว๎า แสวงหาความรู๎ มที ักษะในการคิด

เขียนและสื่อสารข๎อมูลท่ีเรียนร๎ูในรูปแบบกลุํมหรือรายบุคคล มีลาดับขั้นตอนในการนาเสนอ
เข๎าใจงําย โดยใช๎ส่ือที่เหมาะสมกับวัย อ๎างอิงความรู๎ที่ศึกษาค๎นคว๎าและแหลํงความร๎ูที่เชื่อถือได๎ มี
ความคิดสร๎างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ สามารถเช่ือมโยงความร๎ูสํูการปฏิบัติในสถานการณ์งํายๆ ใกล๎
ตัวท่ีเป็นประโยชน์ตํอสิ่งแวดล๎อมหรือบุคคลใกล๎ตัว เห็นคุณคําและประโยชน์ของการศึกษาเรียนร๎ูด๎วย
ตนเอง ทักษะการสื่อความหมายและการนาเสนอ เห็นคุณคําและประโยชน์ของการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง
เพื่อพัฒนาตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. ตัง้ ประเดน็ ความร๎ู คาถาม ขอ๎ สงสยั ในส่ิงท่สี นใจเก่ียวกบั สง่ิ แวดล๎อมหรือบคุ คลใกล๎ตวั
2. วางแผน กาหนดขอบเขต ในการรวบรวมและลาดบั ขั้นตอนการเก็บข๎อมูล คน๎ ควา๎

แสวงหาข๎อมลู คาตอบ จากแหลํงคน๎ ควา๎ ใกล๎ตัว
3. แสวงหาข๎อมูลและอา๎ งอิงแหลํงเรียนรทู๎ เี่ ชือ่ ถือได๎
4. อภปิ รายและวเิ คราะห์ข๎อมูลการสบื คน๎
5. พูด เขยี น เพื่อสรปุ ประเดน็ ความรจ๎ู ากข๎อคิดสาคญั ที่ไดศ๎ กึ ษาค๎นคว๎า
6. ส่อื สารและนาเสนอเปน็ ลาดับ ขน้ั ตอน เข๎าใจงําย ในรูปแบบกลํุมหรือรายบุคคล
7. ใชส๎ อื่ ในการนาเสนอทีเ่ หมาะสมกับวยั

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 145)

คาอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เติม
ตามจุดเน้นแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

รายวิชา การศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง รหัสวิชา I๑22๐1
ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 4๐ ชัว่ โมง/ปี

ฝึกทักษะการสังเกต การรับรู๎ สภาพแวดล๎อมและปัญหาเกี่ยวกับเร่ืองราวงํายๆ ส่ิงแวดล๎อม
และบุคคลใกล๎ตัวท่ีกาหนดให๎ (Knowledge Issue) การคิดวิเคราะห์ การค๎นคว๎าและแสวงหาความรู๎
ตั้งประเด็นความรู๎/คาถาม กาหนดขอบเขต ตั้งสมมติฐาน แสวงหาข๎อมูล คาตอบ ตามจินตนากร
ตามความรู๎และประสบการณข์ องตนหรอื แหลงํ ศึกษาค๎นควา๎ ใกล๎ตัว ออกแบบวางแผนรวบรวม วิเคราะห์
ข๎อมูลจากการสืบค๎น จัดกระทาข๎อมูลอยํางงํายและสรุปประเด็นความรู๎จากข๎อคิดสาคัญ โดยใช๎
กระบวนการคิด การตั้งคาถามหรือการสอบถาม สืบค๎นคว๎า สืบค๎นข๎อมูลคาตอบ กระบวนการปฏิบัติ
เพ่อื ใหเ๎ กิดทกั ษะในการคน๎ คว๎า แสวงหาความรู๎ มที ักษะในการคิด

เขียนและสื่อสารข๎อมูลท่ีเรียนรู๎ในรูปแบบกลุํมหรือรายบุคคล มีลาดับข้ันตอนในการนาเสนอ
เข๎าใจงําย โดยใช๎ส่ือที่เหมาะสมกับวัย อ๎างอิงความร๎ูท่ีศึกษาค๎นคว๎าและแหลํงความรู๎ท่ีเชื่อถือได๎ มี
ความคิดสร๎างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ สามารถเชื่อมโยงความรู๎สูํการปฏิบัติในสถานการณ์งํายๆ ใกล๎
ตัวท่ีเป็นประโยชน์ตํอส่ิงแวดล๎อมหรือบุคคลใกล๎ตัว เห็นคุณคําและประโยชน์ของการศึกษาเรียนร๎ูด๎วย
ตนเอง ทักษะการส่ือความหมายและการนาเสนอ เห็นคุณคําและประโยชน์ของการเรียนร๎ูด๎วยตนเอง
เพอ่ื พัฒนาตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. ตงั้ ประเด็นความรู๎ คาถาม ขอ๎ สงสยั ในสิง่ ทส่ี นใจเกย่ี วกับสงิ่ แวดล๎อมหรือบคุ คลใกล๎ตัว
2. วางแผน กาหนดขอบเขต ในการรวบรวมและลาดบั ขั้นตอนการเก็บข๎อมลู ค๎นคว๎า

แสวงหาข๎อมลู คาตอบ จากแหลงํ คน๎ ควา๎ ใกลต๎ วั
3. แสวงหาขอ๎ มลู และอ๎างอิงแหลงํ เรยี นรู๎ทเ่ี ช่อื ถือได๎
4. อภปิ รายและวิเคราะห์ขอ๎ มลู การสืบคน๎
5. พดู เขยี น เพ่ือสรปุ ประเดน็ ความร๎ูจากขอ๎ คิดสาคัญทไี่ ด๎ศึกษาค๎นควา๎
6. สอ่ื สารและนาเสนอเป็นลาดับ ขัน้ ตอน เข๎าใจงําย ในรูปแบบกลุมํ หรือรายบุคคล
7. ใชส๎ ือ่ ในการนาเสนอท่เี หมาะสมกับวัย

รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนบุ าลสระบรุ ี ( 146)

คาอธิบายรายวชิ าเพิ่มเติม
ตามจดุ เนน้ แนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

รายวิชา การศึกษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง รหสั วชิ า I๑32๐1
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เวลา 4๐ ชว่ั โมง/ปี

ฝึกทักษะการสังเกต การรับรู๎ สภาพแวดล๎อมและปัญหาเกี่ยวกับเรื่องราวงํายๆ ส่ิงแวดล๎อม
และบุคคลใกล๎ตัวที่กาหนดให๎ (Knowledge Issue) การคิดวิเคราะห์ การค๎นคว๎าและแสวงหาความรู๎
ต้ังประเด็นความรู๎/คาถาม กาหนดขอบเขต ตั้งสมมติฐาน แสวงหาข๎อมูล คาตอบ ตามจินตนากร
ตามความรูแ๎ ละประสบการณข์ องตนหรือแหลํงศึกษาคน๎ คว๎าใกลต๎ วั ออกแบบวางแผนรวบรวม วิเคราะห์
ข๎อมูลจากการสืบค๎น จัดกระทาข๎อมูลอยํางงํายและสรุปประเด็นความรู๎จากข๎อคิดสาคัญ โดยใช๎
กระบวนการคิด การต้ังคาถามหรือการสอบถาม สืบค๎นคว๎า สืบค๎นข๎อมูลคาตอบ กระบวนการปฏิบัติ
เพ่อื ใหเ๎ กิดทักษะในการคน๎ คว๎า แสวงหาความรู๎ มที ักษะในการคดิ

เขียนและส่ือสารข๎อมูลท่ีเรียนรู๎ในรูปแบบกลํุมหรือรายบุคคล มีลาดับข้ันตอนในการนาเสนอ
เข๎าใจงําย โดยใช๎ส่ือที่เหมาะสมกับวัย อ๎างอิงความรู๎ท่ีศึกษาค๎นคว๎าและแหลํงความร๎ูที่เช่ือถือได๎ มี
ความคิดสร๎างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ สามารถเชื่อมโยงความร๎ูสูํการปฏิบัติในสถานการณ์งํายๆ ใกล๎
ตัวท่ีเป็นประโยชน์ตํอส่ิงแวดล๎อมหรือบุคคลใกล๎ตัว เห็นคุณคําและประโยชน์ของการศึกษาเรียนรู๎ด๎วย
ตนเอง ทักษะการส่ือความหมายและการนาเสนอ เห็นคุณคําและประโยชน์ของการเรียนร๎ูด๎วยตนเอง
เพอ่ื พัฒนาตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. ต้ังประเดน็ ความรู๎ คาถาม ขอ๎ สงสัย ในสิ่งท่ีสนใจเก่ยี วกับสง่ิ แวดล๎อมหรือบคุ คลใกล๎ตวั
2. วางแผน กาหนดขอบเขต ในการรวบรวมและลาดับข้ันตอนการเก็บข๎อมูล ค๎นควา๎

แสวงหาข๎อมูล คาตอบ จากแหลํงคน๎ ควา๎ ใกล๎ตวั
3. แสวงหาข๎อมลู และอ๎างองิ แหลํงเรยี นรทู๎ ีเ่ ช่ือถือได๎
4. อภปิ รายและวิเคราะห์ข๎อมูลการสืบค๎น
5. พูด เขยี น เพ่ือสรุปประเดน็ ความรจ๎ู ากขอ๎ คิดสาคญั ท่ไี ดศ๎ กึ ษาค๎นควา๎
6. สื่อสารและนาเสนอเปน็ ลาดบั ขน้ั ตอน เข๎าใจงาํ ย ในรูปแบบกลมํุ หรือรายบุคคล
7. ใช๎ส่ือในการนาเสนอทเี่ หมาะสมกบั วัย

รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 147)

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ตามจดุ เนน้ แนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รายวิชา การศกึ ษาค้นคว้าด้วยตนเอง รหัสวชิ า I๑42๐1
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลา 4๐ ช่วั โมง/ปี

ฝึกทักษะการสังเกต การรับร๎ู สภาพแวดล๎อมและปัญหาเกี่ยวกับเร่ืองราวงํายๆ สิ่งแวดล๎อม
และบุคคลใกล๎ตัวที่กาหนดให๎ (Knowledge Issue) การคิดวิเคราะห์ การค๎นคว๎าและแสวงหาความรู๎
ต้ังประเด็นความร๎ู/คาถาม กาหนดขอบเขต ต้ังสมมติฐาน แสวงหาข๎อมูล คาตอบ ตามจินตนากร
ตามความรู๎และประสบการณข์ องตนหรอื แหลงํ ศึกษาค๎นคว๎าใกล๎ตัว ออกแบบวางแผนรวบรวม วิเคราะห์
ข๎อมูลจากการสืบค๎น จัดกระทาข๎อมูลอยํางงํายและสรุปประเด็นความรู๎จากข๎อคิดสาคัญ โดยใช๎
กระบวนการคิด การตั้งคาถามหรือการสอบถาม สืบค๎นคว๎า สืบค๎นข๎อมูลคาตอบ กระบวนการปฏิบัติ
เพ่ือใหเ๎ กิดทกั ษะในการคน๎ ควา๎ แสวงหาความรู๎ มที กั ษะในการคดิ

เขียนและสื่อสารข๎อมูลท่ีเรียนร๎ูในรูปแบบกลํุมหรือรายบุคคล มีลาดับขั้นตอนในการนาเสนอ
เข๎าใจงําย โดยใช๎ส่ือท่ีเหมาะสมกับวัย อ๎างอิงความร๎ูที่ศึกษาค๎นคว๎าและแหลํงความร๎ูที่เชื่อถือได๎ มี
ความคิดสร๎างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ สามารถเชื่อมโยงความรู๎สํูการปฏิบัติในสถานการณ์งํายๆ ใกล๎
ตัวท่ีเป็นประโยชน์ตํอสิ่งแวดล๎อมหรือบุคคลใกล๎ตัว เห็นคุณคําและประโยชน์ของการศึกษาเรียนร๎ูด๎วย
ตนเอง ทักษะการส่ือความหมายและการนาเสนอ เห็นคุณคําและประโยชน์ของการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง
เพอ่ื พฒั นาตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. ต้งั ประเด็นความรู๎ คาถาม ข๎อสงสัย ในสง่ิ ทีส่ นใจเกี่ยวกบั ส่ิงแวดลอ๎ มหรือบุคคลใกล๎ตัว
2. วางแผน กาหนดขอบเขต ในการรวบรวมและลาดับข้ันตอนการเกบ็ ข๎อมูล คน๎ ควา๎

แสวงหาขอ๎ มูล คาตอบ จากแหลํงค๎นควา๎ ใกลต๎ วั
3. แสวงหาข๎อมูลและอ๎างอิงแหลงํ เรยี นรท๎ู เี่ ชื่อถือได๎
4. อภิปรายและวเิ คราะห์ข๎อมูลการสบื คน๎
5. พดู เขียน เพ่ือสรปุ ประเดน็ ความรจู๎ ากข๎อคดิ สาคัญท่ีได๎ศกึ ษาค๎นคว๎า
6. สือ่ สารและนาเสนอเปน็ ลาดับ ข้นั ตอน เขา๎ ใจงําย ในรูปแบบกลมุํ หรือรายบคุ คล
7. ใชส๎ ือ่ ในการนาเสนอทีเ่ หมาะสมกับวยั

รวมท้ังหมด 7 ผลการเรียนรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 148)

คาอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเตมิ
ตามจุดเนน้ แนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล

รายวชิ า การศกึ ษาค้นควา้ ดว้ ยตนเอง รหสั วชิ า I๑52๐1
ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เวลา 4๐ ชั่วโมง/ปี

ฝึกทักษะการสังเกต การรับร๎ู สภาพแวดล๎อมและปัญหาเกี่ยวกับเร่ืองราวงํายๆ ส่ิงแวดล๎อม
และบุคคลใกล๎ตัวที่กาหนดให๎ (Knowledge Issue) การคิดวิเคราะห์ การค๎นคว๎าและแสวงหาความร๎ู
ตั้งประเด็นความร๎ู/คาถาม กาหนดขอบเขต ตั้งสมมติฐาน แสวงหาข๎อมูล คาตอบ ตามจินตนากร
ตามความรู๎และประสบการณข์ องตนหรอื แหลํงศึกษาค๎นควา๎ ใกล๎ตวั ออกแบบวางแผนรวบรวม วิเคราะห์
ข๎อมูลจากการสืบค๎น จัดกระทาข๎อมูลอยํางงํายและสรุปประเด็นความร๎ูจากข๎อคิดสาคัญ โดยใช๎
กระบวนการคิด การตั้งคาถามหรือการสอบถาม สืบค๎นคว๎า สืบค๎นข๎อมูลคาตอบ กระบวนการปฏิบัติ
เพอื่ ให๎เกดิ ทกั ษะในการคน๎ คว๎า แสวงหาความร๎ู มีทกั ษะในการคิด

เขียนและสื่อสารข๎อมูลที่เรียนรู๎ในรูปแบบกลํุมหรือรายบุคคล มีลาดับข้ันตอนในการนาเสนอ
เข๎าใจงําย โดยใช๎ส่ือท่ีเหมาะสมกับวัย อ๎างอิงความรู๎ท่ีศึกษาค๎นคว๎าและแหลํงความรู๎ท่ีเชื่อถือได๎ มี
ความคิดสร๎างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ สามารถเช่ือมโยงความร๎ูสูํการปฏิบัติในสถานการณ์งํายๆ ใกล๎
ตัวที่เป็นประโยชน์ตํอสิ่งแวดล๎อมหรือบุคคลใกล๎ตัว เห็นคุณคําและประโยชน์ของการศึกษาเรียนร๎ูด๎วย
ตนเอง ทักษะการสื่อความหมายและการนาเสนอ เห็นคุณคําและประโยชน์ของการเรียนร๎ูด๎วยตนเอง
เพือ่ พัฒนาตามแนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

ผลการเรยี นรู้
1. ต้ังประเด็นความร๎ู คาถาม ขอ๎ สงสัย ในสง่ิ ที่สนใจเก่ียวกับสิ่งแวดล๎อมหรือบคุ คลใกล๎ตัว
2. วางแผน กาหนดขอบเขต ในการรวบรวมและลาดับขั้นตอนการเก็บข๎อมลู ค๎นคว๎า

แสวงหาขอ๎ มูล คาตอบ จากแหลํงคน๎ คว๎าใกล๎ตัว
3. แสวงหาขอ๎ มลู และอา๎ งอิงแหลํงเรียนร๎ูทเี่ ช่ือถือได๎
4. อภิปรายและวเิ คราะห์ขอ๎ มูลการสืบค๎น
5. พดู เขียน เพื่อสรุปประเดน็ ความร๎จู ากข๎อคดิ สาคัญทไี่ ดศ๎ กึ ษาคน๎ ควา๎
6. สอ่ื สารและนาเสนอเปน็ ลาดบั ขั้นตอน เข๎าใจงาํ ย ในรูปแบบกลุํมหรือรายบุคคล
7. ใช๎สือ่ ในการนาเสนอทเี่ หมาะสมกบั วยั

รวมทั้งหมด 7 ผลการเรียนรู้

หลักสตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 149)

คาอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ
ตามจดุ เนน้ แนวทางโรงเรียนมาตรฐานสากล

รายวชิ า การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง รหัสวชิ า I๑62๐1
ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 เวลา 4๐ ชว่ั โมง/ปี

ฝึกทักษะการสังเกต การรับรู๎ สภาพแวดล๎อมและปัญหาเก่ียวกับเรื่องราวงํายๆ ส่ิงแวดล๎อม
และบุคคลใกล๎ตัวท่ีกาหนดให๎ (Knowledge Issue) การคิดวิเคราะห์ การค๎นคว๎าและแสวงหาความรู๎
ต้ังประเด็นความร๎ู/คาถาม กาหนดขอบเขต ต้ังสมมติฐาน แสวงหาข๎อมูล คาตอบ ตามจินตนากร
ตามความรูแ๎ ละประสบการณข์ องตนหรือแหลํงศึกษาค๎นควา๎ ใกลต๎ วั ออกแบบวางแผนรวบรวม วิเคราะห์
ข๎อมูลจากการสืบค๎น จัดกระทาข๎อมูลอยํางงํายและสรุปประเด็นความร๎ูจากข๎อคิดสาคัญ โดยใช๎
กระบวนการคิด การต้ังคาถามหรือการสอบถาม สืบค๎นคว๎า สืบค๎นข๎อมูลคาตอบ กระบวนการปฏิบัติ
เพือ่ ใหเ๎ กิดทกั ษะในการคน๎ คว๎า แสวงหาความร๎ู มีทักษะในการคิด

เขียนและสื่อสารข๎อมูลที่เรียนรู๎ในรูปแบบกลํุมหรือรายบุคคล มีลาดับข้ันตอนในการนาเสนอ
เข๎าใจงําย โดยใช๎ส่ือท่ีเหมาะสมกับวัย อ๎างอิงความร๎ูที่ศึกษาค๎นคว๎าและแหลํงความร๎ูที่เช่ือถือได๎ มี
ความคิดสร๎างสรรค์และการคิดวิเคราะห์ สามารถเช่ือมโยงความร๎ูสูํการปฏิบัติในสถานการณ์งํายๆ ใกล๎
ตัวท่ีเป็นประโยชน์ตํอส่ิงแวดล๎อมหรือบุคคลใกล๎ตัว เห็นคุณคําและประโยชน์ของการศึกษาเรียนร๎ูด๎วย
ตนเอง ทักษะการส่ือความหมายและการนาเสนอ เห็นคุณคําและประโยชน์ของการเรียนรู๎ด๎วยตนเอง
เพ่ือพัฒนาตามแนวทางโรงเรยี นมาตรฐานสากล

ผลการเรียนรู้
1. ต้ังประเด็นความร๎ู คาถาม ข๎อสงสัย ในส่ิงท่ีสนใจเกี่ยวกับส่ิงแวดลอ๎ มหรอื บุคคลใกล๎ตวั
2. วางแผน กาหนดขอบเขต ในการรวบรวมและลาดับขั้นตอนการเก็บข๎อมูล ค๎นคว๎า

แสวงหาขอ๎ มูล คาตอบ จากแหลํงค๎นควา๎ ใกล๎ตัว
3. แสวงหาข๎อมลู และอ๎างอิงแหลงํ เรยี นรทู๎ ีเ่ ชื่อถือได๎
4. อภิปรายและวิเคราะห์ขอ๎ มูลการสบื ค๎น
5. พูด เขียน เพื่อสรปุ ประเด็นความรจู๎ ากขอ๎ คิดสาคญั ทไ่ี ด๎ศึกษาค๎นควา๎
6. สือ่ สารและนาเสนอเป็นลาดับ ข้ันตอน เขา๎ ใจงาํ ย ในรปู แบบกลํมุ หรอื รายบุคคล
7. ใชส๎ อ่ื ในการนาเสนอท่ีเหมาะสมกบั วยั

รวมทั้งหมด 7 ผลการเรยี นรู้

หลกั สตู รโรงเรยี นอนุบาลสระบรุ ี ( 150)


Click to View FlipBook Version